ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ผมคือ...นางเอก : บทส่งท้ายสุดท้าย (แถม) 9 ก.ย. 59 (P.153)  (อ่าน 1270342 ครั้ง)

ออฟไลน์ Biwty...

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
สามต่อ!!!! ปลื้มฝุดๆ ^{}^
เอาคู่เจ้ใหญ่ก่อน อารมณ์บลูตอนนี้ประมาณว่า เพิ่งเห็นว่าสำคัญก็ตอนที่กำลังจะเสียเขาไป
แบบว่าอึนอ่ะ รอนะ ลุ้นให้ทั้งคู่สมหวังกันอยู่นะ
ส่วนคู่ดาร์ค สะใจมากกกกกก แอบแค้นแทนน้องยุมากเลย จับเอาดนัยมาปราบเกรียนแบบนี้มันส์เลย
แต่อยากรู้มากเลย เหมือนดินทร์เป็นเด็กเก็บกดเลยอ่ะ อยากรู้เบื้องลึกจริงว่าเป็นไงมาไงถึงทำให้กลายมาเป็นคนแบบนี้
คู่โลลิ ลุงหื่นกับเด็กยั่ว หวานน้ำตาลขึ้นเหมือนเดิมไม่มีเกรงใจคู่อื่นๆเขาเลย คู่อื่นเขาซดมาม่ากันคู่ตัวเองนี่นั่งป้อนไข่หวาน
แต่ชอบนะหลังผ่านมรสุมแล้วต้องเจอฟ้าใสสิเนอะ
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ

ออฟไลน์ ตีสี่

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-5
    • 61'
ชูป้ายเชียร์เจ้บลูเนี่ยละ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
บลูจ๊ะรีบค้นหาความจริงได้แล้ว
ส่วนบดินเหมือนมีความลับซ่อนไว้ แต่ดูท่าดนัยจะปราบอยู่
พี่เมธกับน้องยุ สุดฟินนนนนนนนน อยากจะให้หวานอย่างนี้ตลอดแต่ดูท่าว่าจะไม่เป็นงั้นอ่ะ
ในเมื่อมาม่ามันยังไม่จบเลย  :ling1:

ออฟไลน์ sugarcandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
มารออ่านนุ้งพอร์ชกับนุ้งรุจ รอคู่นี้มานานแว้ว

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
คู่ดนัยบดินทร์ต้องแซ่บเวอร์ เพราะมาแนวแก้แค้นให้สาสม อิอิ

ตอนนี้น้องยุกับลุงแก่จอมหื่น หวานกันจังน้าาาา  หวานไม่แคร์สื่อ (เพราะในห้องไม่มีสื่อ 5555)

อยากให้ได้เปิดตัวกันเร็วๆจัง  เดี๋ยวสาววายอย่างเราๆจะไปช่วยถือป้ายไฟเองนะ  :hao7:

ออฟไลน์ kongxinya

  • Skt KS
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
คู่น้องยุกะลุงหื่นหวานเว่อร์ หุหุ  :hao7:

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
บดิน กะ ดนัย โผล่มาแบบเอาเรางง ฮา ฮา
สรุปเรื่องนี้ ห้า คู่ ขุ่นพระ!!! :katai2-1:

ออฟไลน์ ultra_bang

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 114
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1

ออฟไลน์ sugarcandy

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
คนเขียนเอย เธอว์จงมาต่อไวๆ  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ aukuzt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
หลายวันแล้วน่า จะขาดใจแล้ว วอนคนเขียนเห็นใจมาต่อไวไวนะ :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ผมคือ...นางเอก
ซีนที่ 36 เสียงที่เปลี่ยน




“คัทททททท เยี่ยม ดีมาก”

สิ้นเสียงคัทของอ๊อด เหล่าทีมงานที่ตั้งสมาธิเขม็งอยู่กับงานเมื่อครู่ก็ผ่อนลมหายใจคลายความตึงเครียด สองนักแสดงยืนอึนกันอยู่ครู่หนึ่งเพื่อปรับอารมณ์ 

จบไปอีกหนึ่งซีนของหมอธเนศและซอ พอดีเที่ยงครึ่งแล้ว จึงพักทานข้าวกล่องกัน เพื่อจะรอถ่ายทำต่อในช่วงต่อไปในส่วนของซีนสุดท้ายของวัน ของพอร์ชและรุจน์

“จะกินอะไรรุจน์?”

"มีไรบ้างอ่ะ"

"หลายอย่าง"

"งั้นเอากะเพราะหมูไข่ดาว"

"หมด มีแต่กะเพราะไก่"

"เชี่ย ไม่เอาไม่กินไก่ เดี๋ยวเป็นเก๊า งั้นเอาข้าวผัดหมูก็ได้"

"ไม่มี มีแต่ข้าวผัดกุนเชียง"

"บร๊ะ! ไหนว่ามีหลายอย่างไง! เออๆ เอาข้าวผัดกุนเชียงก็ได้!"

รุจน์โวยวายอย่างหัวเสียเล็กน้อย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาท่องบทต่อ

"อ่ะ กะเพราะหมูไข่ดาว"

"...? อ้าว ไหนว่าไม่มี?"

"...กูล้อเล่น"

"เชี่ยยยยยยย!" รุจน์ถึงกับสบถสรรเสริญพร้อมถลึงตาจ้องพอร์ชจนตาเขียวทันทีที่รู้ว่าโดนแกล้ง  เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนในกองถ่ายเคยชินกันเป็นอย่างดี ถึงความสัมพัธ์แน่นแฟ้นของสองเพื่อนรัก ที่ทะเลาะกันได้ทุกวี่วันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องที่รุจน์โดนพอร์ชแกล้งแทบจะทุกอิริยาบทนั่นเอง

ภายนอกที่ทุกคนเห็น พอร์ช รุจน์ ยังคงหยอกล้อเล่นกันฉันท์เพื่อนเหมือนเดิม ทว่า...

ทั้งสองคนต่างรู้อยู่แก่ใจดีว่า แม้จะหยอกเย้ากันเช่นเดิม แต่มันกลับไม่มีกระแสแห่งความชื่นมื่นเหมือนดังเช่น ที่เกิดขึ้น ณ มัลดีฟส์

ณ ที่นั่นที่พวกเขาได้ผูกพัน

ที่แห่งนั้นคือดินแดนแห่งความฝันที่เขาทั้งคู่สามารถจับมือกันก้าวข้ามทุกสิ่ง...แต่

ที่นี่คือความจริงที่ทั้งคู่ต้องยอมรับ

แม้ว่าตอนกลับมากระแส ‘จิ้น’ ระหว่างพอร์ชและรุจน์จะยิ่งหนาหูขึ้น เนื่องจากมีข่าวว่าได้แสดงหนังอินดี้เรื่องนี้คู่กัน  แต่การเป็น "คู่จิ้น" ไม่ได้หมายความว่าหากเกิดจะรักกันจริงๆแล้วจะได้รับการยอมรับเสียหน่อย โดยเฉพาะกับเขาทั้งคู่ ที่ตอนนี้ยังเป็นเพียงนักแสดงหน้าใหม่ อนาคตจะรุ่งจะร่วงก็อยู่ที่การวางตัว อนาคตในวงการของพวกเขายังอีกยาวไกล บันไดดาวก็ยังสูงขึ้นไปอีกหลายขั้น ซึ่งนั่นหมายความว่า....

สิ่งที่ทั้งพอร์ชและรุจน์ทำได้ คือการทำตามหน้าที่ ไม่ใช่การทำตามหัวใจ...

ดังนั้นนี่จึงเป็นสิ่งที่ทั้งคู่รู้อยู่แก่ใจ และตัดใจทิ้งมัลดีฟส์ไว้เบื้องหลัง...ให้เหลือไว้ เพียงแค่ความทรงจำ...

*
*
*
*
*


"ไง คู่จิ้น"

"พี่ยุ พี่เมธ! หวัดดีครับ"

บ่ายโมงตรงกฤตเมธและสดายุก็เดินทางมาถึงกองถ่าย ซึ่งขณะนั้นทั้งพอร์และรุจน์กำลังจะเริ่มถ่ายซีนสุดท้ายกันอยู่พอดี

รุจน์ดีใจจนแทบจะถลาเข้าไปกอดสดายุทันทีที่ได้เจอหน้า ด้วยความคิดถึงมหาศาล เพราะตั้งแต่ที่กลับจากมัลดีฟส์มาก่อนร่วมสองเดือนแล้วที่ไม่ได้เจอกันเลย

ฉากถ่ายทำในเมืองไทยในช่วงแรกนั้นเป็นของกฤตเมธ แตงกวา และสดายุแทบทั้งหมด เพิ่งจะมาแบ่งเป็นของพอร์กับรุจน์ก็ตอนที่สดายุไม่สบาย หลังจากนี้ไปคิวการถ่ายทำก็จะสับหว่างไปมาระหว่างทั้งสองคู่ แถมกำหนดการจากนี้ไปจะเป็นการลุยถ่ายแบบหามรุ่งหามค่ำ ข่าวว่าต้นสังกัดเร่งรัดเวลาถ่ายทำจาก 9 เดือนเป็น 7 เดือน เล่นเอาหืด ไม่รู้ทางผู้จัดคิดอะไรกันขึ้นมาเลยมาเร่งปิดกล้องเพื่อจะลงโรงให้ทันปลายปี ดังนั้นหลังจากนี้ไปคิวถ่ายทำจะเข้มข้นขนาดที่ว่าบางวันอาจเกิน 25 ชั่วโมง!

“ไง ไอ้หนู ยังเล่นผิดเล่นถูกอยู่หรือเปล่า?” สดายุถามขึ้นด้วยความเอ็นดู พลางลูบผมฟูนุ่มของรุจน์ไปพลาง

“โห พี่ยุอ่ะ รุจน์เก่งขึ้นแล้วครับพี่ ไม่ผิดเลยสักไดอะล็อค...” ฝ่ายรุจน์เองก็โม้ออกไปเต็มที่ จมูกยื่นจมูกยาว แต่ยังไม่ทันไร...

“แต่เทคไม่นับยับเยินครับ” รุจน์ก็โดนพอร์ชเบรคอยู่ข้างหลังจนหน้าแทบทิ่ม

“ชิ! ไอ้พอร์ช ไอ้เวร!” ทำให้รุจน์ต้องหันไปค้อนปะหลับปะเหลือกเลยทีเดียว

ทั้งสองคนยังคงเป็นน้องที่น่ารัก สดายุยิ้มพราวพร้อมขำออกมาเล็กๆ แต่เพียงแค่นั้นก็มีเสน่ห์จนพอร์ชและรุจน์เผลอจ้องจนเคลิ้ม ‘เฮ้อ...พี่ยุเรานี่ หล่อโพดๆ’

เคลิ้มกันอยู่ได้เพียงนิด ทั้งพอร์ชและรุจน์ก็ถูกอ๊อดเรียกเข้าฉาก หลังเลยเวลาพักมาร่วมสิบห้านาทีแล้ว สองหนุ่มกระตือรือล้น เข้าฉากทันที พลังหนุ่มเหลือเฟือจนสดายุนึกอิจฉา แต่ก็ทำได้แค่ยิ้มน้อยๆและมองตามทั้งคู่ที่กำลังคุยคิวกับอ๊อดอยู่อย่างนึกเอ็นดู

และเพียงอึดใจต่อมา การถ่ายทำก็เริ่มขึ้น ได้ยินว่าเป็นการต่อบทที่ยาวพอสมควร สดายุและกฤตเมธจึงยืนเฝ้าดูไม่ห่าง เพราะการต่อบทยาวขนาดนี้ถือเป็นการท้าทายความสามารถของนักแสดงรุ่นใหม่อยู่ไม่น้อย นักแสดงรุ่นพี่อย่างสดายุและกฤตเมธจึงอยากเห็นเหลือเกินว่าเลือดใหม่ไฟแรงอย่างพอร์ชและรุจน์จะสามารถทำออกมาได้ดีแค่ไหน




แอ็คคคคคค.....ชั่น!!
"คบกับฉันได้มั้ย?"   ทันทีที่สิ้นคำสั่งเดินกล้อง พอร์ชก็เริ่มไดอะล็อกแรกขึ้นมาทันที สีหน้าท่าทางและอารมณ์ที่สื่อออกมาทำได้ดีจนสดายุและกฤตเมธยังต้องอมยิ้มพึงใจ คนหน้ากล้องนั้นไม่ใช่พอร์ชที่พวกเขารู้จักอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นคุณหมอธเนศผู้แสนจะจริงจังต่างหาก

"อ...พูด...พูดอะไรออกมาน่ะ!!? บะ บ้ารึ..ง....อื้อ!!?"  ร่างบางกว่าชะงักเล็กน้อยเมื่อถูกคว้าหลังคอรั้งเข้าไปบดจูบโดยแรง ใบหน้าผู้กระทำเคร่งเครียด ใบหน้าของผู้ถูกกระทำก็ร้อนรนปนตื่นตระหนก ทั้งพอร์ชและรุจน์สื่อมันออกมาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะรุจน์ที่แข็งขืนฝืนเกร็งอยู่ในอ้อมกอดของพอร์ชได้อย่างแนบเนียนประหนึ่งถูกซอลงประทับร่าง

"อ๊ะ...อื้อ...ปล่อยนะ!!...อื้อ...อึก..." ทันทีที่รุจน์ผลักไส มือปลาหมึกของพอร์ชก็คว้าเขาไปกอดแล้วรุกรานริมฝีปากบวมเจ่อนั่นอีกคำรบ บดขยี้จนคนในอ้อมแขนมือไม้อ่อน ถึงจะยอมคลายแรงกอดรัด หากริมฝีปากยังคงอ้อยอิ่ง ราวกับเสียดายเหลือเกินที่จะผละจาก

จากนั้นก็มีทั้งการตบหน้า กับผลักดันตรึงกันเอาไว้ที่บานประตู ไดอะล็อกยาวยืด ถูกต่อบทกันออกมาอย่างลงตัว อารมณ์ที่ส่งออกมาแม่นยำ แม้ว่าทางรุจน์จะแอบหลุดเล็กน้อย แต่ก็มีการแสดงของพอร์ชคอยด้นสดอุดช่องโหว่เอาไว้ให้ได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งสดายุและกฤตเมธถึงกับต้องกระซิบกระซาบชื่นชมไม่ขาดปาก ไอ้เด็กเลือดใหม่ไฟแรงพวกนี้ ทั้งที่เพิ่งเพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน เผลอแป๊บเดียว ความสามารถทางการแสดงจะเทียบทันรุ่นเก๋าอย่างพวกเขาเสียแล้ว...อันตรายจริงๆ (หัวเราะ)

การแสดงของรุจน์และพอร์ช ลื่นไหลตรึงสายตาของนักแสดงรุ่นพี่เอาไว้ได้ถึงขนาดว่าลืมเวลากันเลยทีเดียว  เสียงสั่งคัทดังขึ้นหลังจากนั้น เป็นการจบซีนของหมอธเนศและซอ อย่างงดงาม รุ่นใหญ่ยอมรับจากใจเลยว่ารุ่นใหม่อย่างพอร์รุจน์นั้นเตรียมตัวมาดีจริงๆ มีถ่ายแก้แค่ช่วงหลังไม่กี่เทคเท่านั้น ทั้งที่ตอนเริ่มแสดงแรกๆ ยังเทคยับไม่ต้องนับรอบอยู่เลยแท้ๆ

"พอร์ชกับรุจน์แสดงกันดีขึ้นนะว่ามั้ย?" สดายุเปรยขึ้นกับกฤตเมธเบาๆ ขณะกำลังเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย

"คงเพราะไม่เขินกันเหมือนช่วงแรกแล้วมั้ง แล้วช่วงซีนหลังๆเนื่ยก็ไม่มีเลิฟซีนแรงๆแล้วด้วย คงเล่นง่ายขึ้น" 

"อืมมม...นั่นสินะ แต่ผมว่า...มันยังมีอะไรขาดๆระหว่างสองคนนั้นอยู่นิดหน่อยนะ แต่ไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร..."

"ความสด...ละมั้ง"

"หืม? อะไรของคุณอ่ะเมธ ความสด?"

"ก็อารมณ์ที่แสดงออกมาสดๆไงล่ะ ซีนแรกๆที่มัลดีฟส์สองคนนั้นยังใหม่อยู่ เลิฟซีนที่ออกมาจึงล้วนมาจากอารมณ์คงามรู้สึกในส่วนลึก มากกว่าการปั้นแต่งอย่างเช่นตอนนี้ไงล่ะ นั่นแหละที่เรียกว่าความสดล่ะ"

"อืม...จริงด้วย สองคนนั้นเก่งขึ้นก็จริง แต่มองแล้วไม่รู้สึกจั๊กกะจี้เหมือนเมื่อก่อน"

สดายุสรุปความตามที่กฤตเมธอธิบาย ความจริงสดายุเองก็พอจะรับรู้ได้นิดหน่อยถึงความเปลี่ยนไปของเด็กใหม่ทั้งคู่ แต่ว่าความจริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองคนนั้นเขาเองก็ยากจะหยั่งรู้
*
*
*
*
*
"เออ ยุ เมธ มานี่มา ก่อนเข้าฉากพี่ขอคุยอะไรด้วยหน่อย" อ๊อดเอ่ยเรียกทันทีที่เห็นว่าสดายุ กับกฤตเมธ เตรียมตัวเข้าฉากเรียบร้อยแล้ว
 
"ครับ พี่อ๊อด" สดายุยืนอยู่ใกล้กว่ากฤตเมธ เลยเดินเข้ามาก่อน เพราะทางพระเอกของเขายังคงเติมแป้งไม่เสร็จ

อ๊อดถอนหายใจพรูยาว โอบไหล่สดายุให้นั่งลงข้างกัน ใบหน้าเคร่งเคียดพอสมควร

"มีอะไรรึเปล่าครับพี่? ไหงหน้าเครียดอย่างนั้นล่ะ ผมใจไม่ดีน๊า"

"ยุ...พี่ถามหน่อย เอ็งไปมีเรื่องอะไรกับท่านประธานวะ?" ไม่มีอ้อมค้อมตามสไตล์คนตรงไปตรงมาอย่างผู้กำกับอ๊อด สดายุที่ยิ้มหน้าเป็นอยู่เมื่อครู่ถึงกับหน้าตึงขึ้นทันทีที่ได้ยินคำถาม

"พี่...รู้แล้วเหรอครับ?" เสียงที่แหบเป็นทุนของสดายุ พร่าขึ้นเล็กน้อย

"เฮ้อ...ยุเอ้ย จะไม่ให้พี่รู้ได้ยังไงล่ะ เจ้าแม่เธอโทรมาคุยกับพี่เองตั้งแต่เช้าตรู่ บอกว่าให้พี่รีบปิดกล้องหนังเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะฉากถ่ายทำของเอ็งกับไอ้เมธ นางยื่นคำขาดว่าให้เวลาอีกแค่เดือนครึ่งเท่านั้น...พร้อมตบท้ายด้วยว่า เรื่องนี้จะเป็นเรื่องสุดท้ายของสดายุและกฤตเมธ ทำให้ดี!..........โดนขนาดนี้ ให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้แล้ว นอกจากเอ็งทั้งสองคนไปทำเรื่องระคายใจนางเข้าน่ะ" พี่อ๊อดร่ายยาว จังหวะที่กฤตเมธเดินมาสมทบพอดี สดายุหน้าตึงพูดอะไรต่อไม่ออก เงียบงันอยู่อย่างนั้นจนกฤตเมธต้องโอบไหล่ไว้เบาๆเพื่อเป็นการปลอบโยน

"...ขอโทษนะครับพี่อ๊อด...ที่พวกเราทำให้พี่ต้องลำบาก" กฤตเมธเปรยขึ้นโดย แต่นั่นไม่ใช่คำตอบที่อ๊อดอยากรู้

"เดี๋ยวเมธ ก่อนจะขอโทษน่ะ พี่ขอรู้เหตุผลก่อนได้มั้ย? ตกลงเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่?" ผู้กำกับวัยกลางคนถอนให้ใจเฮือกใหญ่ พร้อมกอดอกตั้งท่าขู่เข็ญ (ทั้งที่จริงๆแล้วที่คาดคั้นอยู่อย่างนี้ก็เพราะความเป็นห่วงเป็นใยล้วนๆ)

กฤตเมธและสดายุหันมองตากันเป็นเชิงปรึกษา ก่อนที่กฤตเมธจะเป็นฝ่ายเปิดปากอธิบาย

"เราสองคนไปคุยกับคุณเสน่ห์จันทร์แล้วว่า...เราคบกันอยู่"

"ห๊ะ!!?" สิ่งที่ได้ยินทำเอาอ๊อดถึงกับอุทานเสียงหลง

"และพร้อมออกจากวงการทันทีที่เรื่องมันแดงขึ้น"

*
*
*
*
*
"เฮ้ย พอร์ช พี่ๆเขาคุยอะไรกันวะ เครียดเชียว"  รุจน์ที่เปลี่ยนเครื่องแต่งกายเรียบร้อยแล้วเอ่ย ถามเพื่อนรักด้วยความกังวล ปนความอยากรู้อยากเห็น

"เรื่องคิว เรื่องบท หรือไม่ก็เรื่องเวลาที่กระชั้นขึ้นละมั้ง"  ทว่าคำตอบที่รุจน์ได้จากพอร์ชนั้น ดูเหมือนจะไม่ค่อยถูกจริตเท่าที่ควร

"พอร์ช มึงนี่สนใจโลกมั่งป่ะวะ"

"สนใจแค่พอดีดีกว่านะรุจน์ มากไปจะกลายเป็นสอดนะ"   

".....เชี่ยยยยยย...มึงด่ากูอีกแล้วนะไอพอร์ช ไอ้เพื่อนเฮงซวย"

สุดท้ายก็ไม่ได้สาระอะไรเลย เพระก่อนที่จะคุยกันรู้เรื่องทั้งพอร์ชและรุจน์ก็ทะเลาะกันไปไกลเสียแล้ว (แต่ดูเหมือนจะมีแค่รุจน์ที่ทะเลาะอยู่ฝ่ายเดียวเสียมากกว่า)

เมื่อทำอะไรไม่ได้ รุจน์จึงได้แต่นั่งจดจ้องอ๊อด กฤตเมธ และสดายุอยู่อย่างนั้น เผื่อกระแสจิตหยั่งรู้ จะกระจายสายตรงไปถึงตรงนั้นให้เขาพอได้รับรู้ข่าวคราว....โอยยยยย...ไอ้รุจน์ อยากเผือกกกกกกก!!!!!

*
*
*
*
*
"โอย...ปวดหัวจี๊ดเลยว่ะ นี่...คิดดีกันแล้วใช่มั้ยที่ทำแบบนั้นลงไปน่ะ" อ๊อดถึงกับกุมขมับ เมื่อฟังคำปราศรัยของกฤตมธจบ ก่อนจะเกาคางที่เต็มไปด้วยหนวดเคราพร้อมตั้งคำถาม

"มันจวนตัวแล้วนี่ครับพี่ จะให้ผมทำยังไง" กฤตเมธพยายามอธิบาย

"...แล้วยุล่ะคิดดีแล้วใช่มั้ย? ที่ว่าจะใช้หนังเรื่องนี้เบิกทางกลับเข้าวงการน่ะ ล้มเลิกซะแล้วเหรอ?" อ๊อดถามสดายุที่ยังคงยืนนิ่งเงียบออกไป เรื่องนี้สำหรับกฤตเมธอ๊อดไม่ห่วง เพราะถึงยังไงกฤตเมธก็ตั้งใจจะออกจากวงการไปอยู่เบื้องหลังในไม่ช้านี้อยู่แล้ว แต่สำหรับสดายุที่ยังต้องอยู่ในวงการนี้ไปอีกนาน มันคงไม่ใช่ทางเลือกที่คู่ควร

"...ผม...ขอโทษครับพี่อ๊อด" เสียงแหบพร่าเอ่ยขอขมาต่อผู้กำกับที่ตนเคารพโดยไม่มีคำอธิบายเพิ่ม

"เฮ้อออออ....พอเลยพอ จะมาขอโทษพี่ไปทำไม พี่เองต่างหากที่วุ่นวาย แต่ขอเถอะ ขอพี่รู้หน่อย ว่ายุคิดยังไง ทำไมถึงวู่วามกันขนาดนี้ ไม่ได้อยากอยู่ในวงการอย่างที่เคยตั้งใจอีกแล้วจริงๆเหรอ?"  อ๊อดได้แต่ถามเสียงเครียด เพราะเขากังวลกับอนาคตของสดายุมากจริง

"คงเป็นเพราะ...ผมเหนื่อยเกินไปมั้งครับพี่อ๊อด วงการนี้ คงไม่ใช่ที่ของผมอีกแล้ว...ที่สำคัญ พี่อ๊อดก็รู้ว่าผมเบี่ยงเบนไปซะแล้ว อย่างที่พี่เคยเห็น นักข่าวไม่มีวันปล่อยให้พวกผมลอยนวลได้นานอยู่แล้ว โดยเฉพาะเมื่อไม่มีคุณเสน่ห์จันทร์คุ้มหัวเมธอีก"

"เฮ้อ...ทำไมเรื่องมันเลยเถิดไปไกลได้ขนาดนี้วะ?" ฟังความจบอ๊อดก็ได้แต่ถอนหายใจ สับสนวุ่นวายจนปวดหัว เบื้องบนก็คาดคั้น เบื้องล่างก็หยิ่งทะนง คนตรงกลางอย่างเขาเลยได้แต่ถอนหายใจเฮือกๆอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้

"เออๆๆ เอาเหอะ อนาคตก็ส่วนอนาคตละกัน ไม่มีใครหยั่งรู้หรอกทำตอนนี้ให้ดีก่อนก็พอ เอาล่ะ ไปเตรียมตัวถ่ายทำได้แล้ว อ่านคิวที่พี่ให้ไปแล้วใช่มั้ย?"

ท้ายสุดอ๊อดก็ได้แต่ปล่อยวางเรื่องหน้าปวดหัวระหว่างนายเหนือกับนักแสดงมือหนึ่งทั้งสองคนไปก่อน แม้ในใจจะยังหน่วงหนัก แต่ในฐานะผู้กำกับอย่างเขาย่อมทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการทำหนังเรื่องตัวเองรับผิดชอบอยู่ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และทำทุกวิถีทางเพื่อให้บทของตัวเอกทั้งคู่โดดเด่นน่าสนใจ และน่าจดจำที่สุด



การถ่ายทำดำเนินไปอย่างเข้มข้น ตั้งแต่บ่ายสองโมงยาวจนกระทั่งเกือบห้าทุ่ม เอาเป็นว่า อ๊อดตั้งใจจะให้จบซีนของกฤตเละสดายุที่ต้องถ่ายกันในโลเกชั่นนี้ให้ได้ภายในคืนนี้ หรืออย่างช้าคือวันพรุ่งนี้ แต่จนแล้วจนรอด สุดท้ายก็ต้องเลื่อนไปเป็นวันรุ่งขึ้นอยู่ดี เพราะโลเกชั่นที่ถ่ายทำกันอยู่นี้เป็นฉากของบ้าน ‘ตากล้องนคินทร์’ ที่หอบเอาคนรักอย่าง ‘ภุมรา’ มาอยู่ด้วย ทั้งเนื้อหาที่แน่นด้วยท้ายๆของเรื่องส่วนใหญ่จะใช้ฉากที่บ้านนี้ทั้งหมด ยังลำบากตรงเป็นฉากจบของเรื่อง โดยเฉพาะซีนสุดท้ายที่เป็นฉาก ‘แต่งงาน’ ด้วย ถึงแม้ว่าจะถ่ายทำกันมาจนเกือบจะแล้วเสร็จแล้ว แต่ตรงฉากแต่งงานนั้นซึ่งเป็นฉากจบนั้น ก็ยังต้องใช้เวลามากโขอยู่เช่นกัน

“คัทททททททททททททท”

เสียงสั่งคัทซีนสุดท้ายดังกังวาล ช่างหวานหูเพราะนี่คือเสียงที่ทุกคนรอคอย

“ดีมากๆ ทุกคนเยี่ยมมาก เอาล่ะ เดี๋ยวเก็บของให้เรียบร้อยแล้วแยกย้ายกันกลับได้เลย เฮ้ยไอ้ยุ มานี่หน่อย!” เสียงอ๊อดยังคงโหวกเหวก แม้ทุกคนจะแทบไม่ได้ฟังเพราะกำลังง่วนกับการเก็บของ และบางส่วนยังวุ่นอยู่กับการเตรียมฉากของวันรุ่งขึ้น ที่สำคัญ อ๊อดเรียกสดายุไม่ได้เรียกพวกตน

“เฮ้ยไอ้ยุ ได้ยินมั้ยเนี่ย โทรศัพท์เอ็งดังนานแล้วนะ!” เห็นว่าสดายุยังคงเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่สนใจ อนุมานว่าคงไม่ได้ยิน อ๊อดเลยตะโกนเรียกอีกครั้ง

“ครับๆ มาแล้วคร๊าบบบ อย่าเพิ่งกริ้วครับพี่อ๊อด” เสียงตวาดในตอนท้ายเล่นเอาสดายุสะดุ้ง แทบจะวิ่งมาแทบไม่ทัน พอมาถึงก็ทันรับสายพอดี ผู้ที่โทรมาก็ไม่ใช่ใคร ‘บลูม่า’ นั่นเอง

“ครับเจ๊” สดายุกรอกเสียงใส่มือถือทันทีที่เห็นว่าผู้โทรมาคือใคร
 
‘วู้ยยยย คุณน้องคะกว่าจะรับสายพี่ได้ พี่โทรจนสายจะไหม้แล้วเนี่ย ’ พอรับสายปั๊บเสียงแปร่งแหลมปรี๊ดก็ลั่นมาตามสาย จนสดายุถึงกับปวดแก้วหูจี๊ด ก่อนจะต่อบทสนทนาเสียงอ่อนเสียงหวาน
 
“โธ่ ก็ยุเพิ่งถ่ายเสร็จอ่ะ เจ๊อย่าเหวี่ยงสิครับ”
 
‘อุ้ยตาย! เพิ่งเลิกกองเองเหรอคะเนี่ย จะเที่ยงคืนแล้วเนี่ยนะ หู้ววว...ช่วงนี้คงถ่ายหนักเลยสินะคะน้องยุ’
 
“วันนี้ยังเบาะๆครับ พรุ่งนี้ต่างหากของจริง”
 
‘โอ้....ยังไงก็พยายามหาเวลาพักผ่อนบ้างนะยุ’
 
“ครับเจ๊…ว่าแต่เจ๊มีอะไรกับผมหรือเปล่า?”
 
‘อุ๊ยพี่เกือบลืมแน่ะ คือพี่จะโทรมาแจ้งน้องยุเกี่ยวกับตัว teaser ที่จะออกสัปดาห์หน้า และการออกสัมภาษณ์สื่อเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ครั้งแรกน่ะค่ะ’
 
“อ้าวตัว teaser จะออกอาทิตย์หน้าแล้วเหรอครับ ไม่เห็นพี่อ๊อดจะบอกอะไรผมเลย?”
 
‘ก็คงเพิ่งรู้เหมือนกันนี่แหละค่ะ’
 
“แล้วเรื่องสัมภาษณ์ผมต้องไปวันไหนครับ? มีใครต้องไปบ้าง?”
 
‘ต้นสัปดาห์หน้าพอตัว teaser ออก วันเสาร์ก็นัดสัมภาษณ์เลยค่ะ’
 
“เหรอ…รายการอะไรอ่ะเจ๊?”
 
‘นี่แหละค่ะปัญหาที่พี่ต้องเร่งโทรหาคุณน้องยิกๆๆนี่ไง’
 
“ทำไมครับ?.......อย่าบอกนะว่า…..”
 
‘รายการ Star talk ของไอ้บดินท์ค่ะ!’



ต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-10-2014 09:06:04 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ต่อค่ะ


“ทานอะไรหน่อยมั้ยครับยุ? เมื่อตอนเย็นคุณทานไปนิดเดียวเอง”
 
“ไม่ล่ะครับ ผมขออาบน้ำเลยแล้วกัน ผมเหนื่อย พรุ่งนี้ยังต้องตื่นแต่เช้า คุณทานคนเดียวไปก่อนแล้วกัน”
 
เที่ยงคืนสี่สิบนาทีโดยประมาณ สดายุและกฤตเมธก็กลับมาถึงคอนโดด้วยความเหนื่อยล้า  โดยเฉพาะสดายุที่ละเหี่ยทั้งกาย เหนื่อยล้าทั้งใจ เพราะการต้องเผชิญหน้ากับบดินทร์ออกสื่ออีกครั้งนั้นทำให้เขากังวล

“งั้นผมไม่ทานด้วยดีกว่า อยากอาบน้ำนอนแล้วเหมือนกัน”
 
“อ้าว? แล้วไม่หิวเหรอ?”
 
“เมื่อหัวค่ำผมทานขนมกับพวกทีมงานไปเยอะแล้ว ไม่หิวหรอก ป่ะอาบน้ำกัน”
 
“ฝันเหอะ! อาบคนเดียวข้างนอกไปเลย!”

อาการเครียดเกร็งของสดายุสื่อออกมาชัดเจน จนกฤตเมธรู้สึกได้ ก่อนกลับจากกองถ่าย กฤตเมธเพิ่งจะทราบเรื่องของการออก Teaser ในสัปดาห์หน้า และการออกสัมภาษณ์รายการทีวี Star Talk ของบดินทร์เป็นรายการแรก จากปากของอ๊อด ที่เลขาของเสน่ห์จันทร์โทรมาฝากเรื่องเอาไว้ พอดีกับที่บลูม่าโทรแจ้งกับสดายุ ตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา สดายุก็เครียดเคร่งมาตลอด จนกฤตเมธอดห่วงไม่ได้ พอกลับถึงคอนโดได้ จึงรีบชวนคุย แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีเท่าไหร่นัก ซ้ำยังโดนเอ็ดกลับมาอีกด้วย
*
*
*

สายลมเย็นฉ่ำพัดผ่านบาดผิวกายให้สดายุต้องสะท้านขึ้นเล็กน้อย  ตีหนึ่งครึ่งเข้าไปแล้วทำให้เสียงเครื่องยนต์จากท้องถนน และเสียงอื่นๆของค่อนข้างจะเบาบาง ฟ้าหม่นไร้แสงดาว เพราะแสงสว่างของตึกรางบ้านช่องที่เปิดสว่าเกือบทั้งคืนสะท้องกับตะกอนละอองฝุ่นควันที่ยังคงแขวนลอยอยู่ในอากาศนั้น มันบดบังแสงสวยของดวงดาวเป็นล้านดวงเสียสิ้นแล้ว ชั้นยี่สิบสามของคอนโดรับลมได้ดีไม่น้อย  แม้ไม่ได้รุนแรงมาก แต่ก็พอให้หนาวเสียดเนื้อได้อย่างดี  ถึงบรรยากาศจะไม่ได้ดีมาก แต่การได้นั่งมองดวงไฟหลากหลายเฉดสีของเมืองหลวงที่ไกลออกไปแบบนี้ก็ได้บรรยากาศที่ผ่อนคลายพอที่จะรั้งร่างบางให้นั่งพิงขอบระเบียงมองเหม่ออยู่อย่างนั้นเงียบๆ ไม่ยอมขยับกาย

พอได้นั่งนิ่งๆ สมองโล่งๆ ก็ทำให้เริ่มนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ตั้งแต่แรกเริ่มที่ได้ถูกทาบทามเข้าวงการ ได้เป็นพระเอกชั้นแนวหน้าในเวลาไม่ถึงครึ่งปี  เบื้องหน้าที่สุกสกาว แต่เบื้องหลังช่างเลวร้าย พระเอกดังอย่างเขา ที่ทั้งเกเร และเหลวไหล ดื่มเหล้าเมาหยำเป เสเพลนอนกับใครต่อใครไม่เลือก ผู้หญิงคนไหนชอบเล่นกับไฟ หากสะดุดตาเขาเข้าหน่อย เขาก็ร่วมหลับนอนได้ด้วยทั้งนั้น...’รักสนุกแต่ไม่ผูกพัน’ คงเป็นคำนิยามของผู้ชายที่ชื่อสดายุในช่วงนั้น 

ใช่จะไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิด เขารู้ตัวอยู่ตลอดเวลา ทั้งความเลวร้ายที่เกิดจากความเอาแต่ใจ ทั้งปัญหาร้อยแปดที่เกิดจากการไม่ยอมลดทิฐิ หลับหูหลับตาเข้าข้างตัวเองโดยไม่มองเห็นหัวใครที่ไหน  อ้างว่าเพราะพื้นฐานทางครอบครัวที่เลวร้าย เลยประชดโลกด้วยการทำตัวน่ารังเกียจ ไม่สนใจว่าใครจะเดือดร้อน ตอนที่ถูกเรื่องที่ตัวเองสร้างขึ้นโจมตี ก็ยังไม่รู้สึกรู้สา อาศัยแค่คำว่ายังมีฝีมือ ยังเป็นที่ยอมรับ ยังเด็ก ผ่านพ้นมาได้แทบทุกครั้ง กระทั่งวันที่ถูกเรื่องที่ไม่ได้เป็นคนทำรังควาญชีวิต และกลับมีผลขนาดทำเขาตกสวรรค์ได้เพียงชั่วข้ามคืน อยากโต้เถียงก็ทำไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะพยายามแก้ตัวไป ในสายตาของคนทั้งโลกที่ยังจับภาพพระเอกเหลวแหลกของเขาติดตา ก็ไม่มีวันเชื่อคำพูดเขา ไม่มีวันให้อภัยเขา

นั่นอาจเป็นครั้งแรก...ที่คนอย่างเขา ได้มองเห็นตัวเอง...คิดได้ดังนั้น สดายุก็ถอนหายใจออกมายาวเหยียด ระบายทุกความรู้สึกให้มันล่องลอยหายไปในอากาศผ่านลมหายใจของตน

แล้วพอคิดถึงเรื่องเก่าๆทีไร บุคคลที่ขาดไม่ได้ ย่อมต้องเป็นบดินทร์

อดีตเพื่อนรักที่เขาเคยให้ความไว้เนื้อเชื่อใจอย่างที่สุด เพื่อนในวงการเพียงคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างไม่ว่าเขาจะโดนสังคมโจมตีมากแค่ไหน แต่พอถึงสุดท้ายของปลายทาง เพื่อนคนเดียวคนนี้กลับ...

“ไหนว่าจะนอนไงครับยุ? มานั่งทำอะไรอยู่มืดๆเนี่ย ตรงระเบียงลมมันแรงนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก”

สดายุยิ้มน้อยๆ ให้กับคนรักที่เดินตามมาสบทบหลังจากอาบน้ำเสร็จ แม้จะบ่นว่าลมแรงเกรงว่าสดายุจะไม่สบาย แต่สุดท้ายกฤตเมธก็หย่อนตัวเลงนั่งข้างๆสดายุเพื่อใช้ความอุ่นจากผิวกายตน กำจัดความหนาวเหน็บแก่อีกฝ่าย ระเบียงห้องกว้างขวางพอที่จะให้สองหนุ่มได้นอนเอกเขนกชมแสงสีแห่งเมืองหลวงได้อย่างสบาย กฤตเมธเอื้อมวงแขนไปโอบกายสดายุมาไว้ในอ้อมกอดเพื่อบรรเทาความหนาวให้อีกฝ่าย

“ตัวเย็นเชียว”

กฤตเมธบ่นพึมพำพร้อมโอบรัดคนในอ้อมแขนแน่นขึ้น

“อย่าบ่นสิครับคุณเมธ ลมเย็นดีจะตายไป นานๆทีเราดื่มด่ำกับมันหน่อยไม่ดีเหรอ?”
สดายุเริ่มชักจูงชายคนรักให้นั่งเพลินๆตรงระเบียงคอนชั้นยี่สิบสามนี้ด้วยกันก่อน กฤตเมธเองถึงจะไม่เห็นด้วยเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้ลุกหนีไปไหน ร่างสูงยังคงโอบกอดสดายุอยู่อย่างนั้น  นั่นเพราะลึกๆแล้วกฤตเมธรู้ดีถึงสาเหตุที่ทำให้สดายุต้องมานั่งเงียบๆอยู่ตรงระเบียง

“ยุ...คุณเครียดเรื่องให้สัมภาษณ์เหรอ?”

 “ครับ...ผม….ไม่อยากไปให้สัมภาษณ์ในรายการของบดินทร์”  เมื่อถูกถามไถ่อย่างไม่อ้อมค้อม สดายุก็ตอบอย่างตรงไปตรงมา สำหรับสดายุ ตอนนี้กฤตเมธคืออีกคนที่เขาไว้วางใจ
 
“ผมเข้าใจ ยุคงยังทำใจฝืนพูดคุย แสร้งปั้นหน้ายิ้มแย้มกับมันไม่ไหวสินะ” กฤตเมธกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นแทนการปลอบใจ และแอบดีใจเล็กๆที่ในที่สุด สดายุก็เห็นเขาเป็นคนสำคัญ คนที่น่าไว้ใจขึ้นมาบ้าง
 
“…ก็ส่วนหนึ่งครับ ผมเกลียดหมอนั่นจริงๆ เกลียดจนแทบไม่อยากมองหน้า…”
 
“……” กฤตเมธนิ่งฟัง เขาอยากจะเป็นทีที่สดายุสามารถระบายความอัดอั้นภายในใจได้อย่างไม่ต้องรู้สึกตะขิดตะขวง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม หากมันมาจากความอั้นอั้นของสดายุ เขาก็พร้อมจะรับฟังย่างไม่อิดออด
 
“แต่ในความเกลียด…มันกลับแฝงไปด้วยความสับสน….ผมสับสนในตัวตนของหมอนั่นมาก ผมไม่รู้ ว่าหมอนั่นยังคงเป็นบดินทร์ที่ผมเคยรู้จักมั้ย ตลอดเวลาที่อยู่ในวงการมันคือเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ผมมี เป็นเพื่อนคนเดียวที่ผมรู้สึกว่า ‘มันไม่เคยหลอกผม’ ผมเชื่ออย่างนั้นมาตลอดจนกระทั่ง…เกิดเรื่องข่าวนั่นขึ้น”
 
“ในตอนนั้นสิ่งที่ผมคิดมีเพียงความโกรธเกลียดชิงชัง…และแน่นอน…คือความน้อยใจ ว่าทำไมเพื่อนที่ผมรักที่สุด ที่ดีกับผม เคียงข้างผมมาจนถึงเมื่อวาน ถึงได้หักหลังผมได้อย่างเลือดเย็นขนาดนี้…ตั้งแต่วันนั้นมันก็ผมก็อยู่คนละโลก โลกที่ผมคิดว่าจะไม่มีทางได้มาบรรจบกันได้อีก หึหึ ที่ไหนได้ เจอถี่ชะมัด”
 
“ไอ้บดินทร์มันเลวซะขนาดนี้ แล้วทำไมคุณถึงยังสับสนอีกล่ะยุ? ทุกครั้งที่เจอกัน มันก็เสียมารยาทกับคุณตลอด?” ตั้งใจจะฟังอย่างไม่อิดออด แต่ยิ่งฟังก็ยิ่งขัดใจ เพราะแทนที่สดายุจะมีเพียงความรู้สึกในแง่ลบก็คนที่หักหลังตนอย่างไม่ไว้หน้า และยังทำตัวเลวเสียมารยาทมากมายกับสดายุไว้อีก (ย่างเช่นรอยน่าโมโหที่ซอกคอ) ถึงขนาดนั้นแล้ว ทำไมกันนะสดายุถึงยังสับสน คนในอ้อมแขนที่ยังคุยจ้อยๆตอนนี้คงไม่รู้หรอกว่า ใบหน้าของเทพบุตรในวงการอย่างเขา กำลังบิดเบี้ยวด้วยความไม่พอใจ (และความหึงหวง)
 
“จริงอยู่ว่าทุกครั้งที่ผมกับหมอนั่นเจอกัน ผมต้องโดนมันแกล้งแบบเจ็บๆแสบๆทุกที…แต่ว่า”
 
“แต่ว่า?...” (น้ำเสียงของกฤตเมธเริ่มกร้าวขึ้นเล็กๆ แต่ก็แค่นิดเดียว สดายุที่ยังคงเหม่อลอยเลยไม่ทันได้สังเกต)
 
“…แม้หมอนั้นจะทำท่าทางโกนโอ้ย แต่สายตาที่มันมองผมกลับมีอะไรบางอย่างที่ผมคุ้นเคย…มันเหมือนกับว่า…เพื่อนผมยังอยู่ในนั้น…….แต่ผมก็ปฏิเสธมันทุกครั้งล่ะนะ ถึงผมจะสงสัย แต่คงไม่มีทางไปยุ่งกับหมอนั่นอีกแล้วล่ะ”
 
“ยุ…” กฤตเมธกำลังจะถามย้ำว่า ‘แน่นะ’ แต่สดายุพูดนำขึ้นมาเสียก่อน
 
“เพราะอย่างน้อย ผมก็เป็นคนเจ็บแล้วจำ…จำจนตายซะด้วย”
 
“เฮ้อ….เด็กน้อยผู้น่าสงสาร” ได้ยินอย่างนั้น กฤตเมธก็ลอบยิ้มพอใจ ตอนแรกกฤตเมธก็รับตัวเองไม่ค่อยได้ที่กลายเป็นคนขี้หึงขนาดนี้ เพราเมื่แก่อนเขาไม่เคยรู้สึกหวงใครมาก่อน แต่สดายุ ทำให้ผู้ชายอย่างเขารู้สึกหึงหวงราวกับเด็กๆ เฮ้อ...รักแท้ที่มาเจอตอนแก่นี่… ‘รับมือยากจริงๆ!’
 
“ช่าย…น่าสงสาร ลุงกล่อมนอนหน่อยสิ จะร้องไห้แล้วเนี่ย ผมอ่อนแอนะ” พอได้ระบายออกไป สดายุก็เริ่มอารมณ์ดีขึ้นหน่อย อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด บดินทร์ก็แค่อดีตที่ไม่ได้มีผลอะไรกับชีวิตเขาอีกแล้ว สดายุก็ไม่รู้ว่าจะยังต้องไปแคร์ทำไมอีก สู้เลิกกังวลแล้วทำงานของตัวเองให้ดีที่สุดน่าจะดีกว่า ว่าแล้วก็แกล้งอ้อนคนรักออกไปเล็กน้อย...
 
“หยุด! ห้ามร้องไห้ให้ผู้ชายคนอื่นเชียว ผมหึงนะ”  แต่ต้องผิดคาดจนถึงกับอึ้ง เพราะแทนที่กฤตเมธจะรับมุก ดันตวาดใส่เขาเฉย ‘วัยทองเหรอ?’
 
“………..บ้า ผมร้องไห้ให้ความรันทดของตัวเองต่างหาก ไม่ใช่ร้องเพราะไอ้บดินทร์ซะหน่อย คิดมาก”

 “ก็ดีแล้ว ผมจะได้สบายใจ…หึงรู้มั้ยครับตัวแสบ ถ้านอกใจกันล่ะน่าดู”  คาดโทษไปพลางยีหัวสดายุด้วยความรักใคร่เอ็นดู

‘อ๋อ...หึง’  พอได้รู้ความหมายของอารมณ์ขึ้นลงของคนรัก สดายุก็หลุดขำออกมาเบาๆ ก่อนจะช้อนสายตาออดอ้อนขึ้นมองกฤตเมธหวานฉ่ำ แล้วยกตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อจุมพิตที่ริมฝีปากอุ่นชื้นเป็นของปลอบขวัญคนแก่ใจน้อย

“ผมจะนอกใจไปมีใครได้ไง ในเมื่อคุณขโมยหัวใจผมไปหมดแล้ว” สดายุประจบพร้อมวาดปลายนิ้วชี้เป็นวงกลมตรงกลางอกของกฤตเมธ พอถูกอ้อนหนักเข้า กฤตเมธก็ยิ้มกริ่มพออกพอใจ ร่างหนาจึงโอบร่างคนรักไว้แน่นขึ้นพร้อมโยกกายคล้ายกล่อมคนในอ้อมแขนแผ่วเบา

“ผมรักคุณนะยุ ผมไม่ต้องการยกคุณให้ใคร”

“…หึหึ มาหึงหน้ามืดอะไรตอนนี้กันลุง ทีเมื่อก่อนไม่เคยเห็นจะตามคุมแจแบบนี้เลย”

“ก็เมื่อก่อนไม่มีใครยุ่งกับคุณนี่”

“ทำอย่างกับตอนนี้มีงั้นแหละ”

“เพียบเหอะ”

“อะไรเพียบ?”

“หนุ่มๆเพียบ รอบตัวเชียว”

“ฮ่าฮ่า…อะไรของคุณกัน อย่าหึงจนหน้ามืดน่า หึหึ…มองความจริงหน่อย อย่างน้อยๆผมผู้ชายนะ ใครเขาจะคิดลึกกับผมเหมือนคุณกัน ฮะฮะ”

“คนอื่นน่ะโดนผมสกัดหมดแล้ว เหลือก็แต่ไอ้เจ้าดนัย กับไอ้บดินทร์เนี่ยแหละ!”

“ดนัย? ใครน่ะ แล้วชื่อบดินทร์เนี่ยมันโผล่มาในสาระบบนี้ได้ยังไงไม่ทราบครับ?”

“ก็ที่มัน….ทำแบบนั้นกับคุณ…”

“มันแค่ต้องการแกล้งผม เหยียดหยันผม ไม่มีอะไรมากกว่านั้นหรอก”

“…….แต่”

“เมธ คุณรู้มั้ยว่าผมกับบดินทร์สนิทกันได้ยังไง…”

“…..”

“เพราะผมกับมันเหมือนกันยังไงล่ะ ทั้งทางด้านครอบครัว ที่…เข้ากับคนเป็นพ่อไม่ได้ เข้าบ้านไม่ได้ ทั้งลักษณะความคิด การวางตัว การเข้าหาคนอื่น เราสองคนคล้ายกันแทบทั้งหมด ผมถึงยอมเปิดใจให้มัน และสนิทกัน….ถึงตอนนี้จะเกลียดมากก็เถอะ แต่อย่างน้อยๆผมก็พอจะรู้ว่ามันไม่มีทางชอบผมไปในเชิงนั้นได้อย่างเด็ดขาด” สดายุอธิบายยาวเหยียดขณะที่ยังนอนเอนกายพิงอกอุ่นของกฤตเมธอยู่

“แน่ใจ?”

“อืม”

“ได้ ผมเชื่อคุณ แต่ระวังไว้หน่อยดีกว่า”

“หึหึ…เอาไว้ถ่ายหนังจบ แล้วผมฟิตหุ่นกลับมาหล่อล่ำ ตอนนั้นแหละค่อยระวังจะดีกว่านะ รับรองสาวเพียบ”

“…ร้ายนักนะ ไอ้ตัวแสบ”

กฤตเมธงับปลายจมูกโด่งรั้นของสดายุด้วยความหมั่นเขี้ยว พร้อมกับเสียงหัวเราคิกคักชอบใจของคนในอ้อมแขน สองร่างยังคงหยอกเย้ากันอยู่ที่ตรงระเบียงห้องครู่ใหญ่ก่อนจะกลับเข้าไปพักผ่อนในห้อง เพื่อเตรียมตื่นเต็มตาทำงานเต็มวันในเชาวันใหม่ที่รอต้อนรับพวกเขาด้วยความโหดหิน
 
*
*
*
*
*

ต่อด้านล่าง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-08-2014 18:09:50 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ อนาคี99

  • อยากให้ชีวิตมีปุ่ม SKIP
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +460/-3
    • อนาคี99เพจ
ต่อค่ะ


เวลาผ่านไปเร็วราวกับโกหก... ขณะที่กฤตเมธและสดายุยังวุ่นวายตาลายหัวหมุนอยู่กับการถ่ายทำแบบข้ามวันข้ามคืนอยู่นั้น Teaser ตัวแรกของภาพยนตร์เรื่อง ‘สุดปลายทางของหัวใจ’ ก็ออกสู่สารธารณะในที่สุด แม้จะมีกระแสข่าวมาพักใหญ่ๆเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ทางโลกโซเชียล แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผู้ชมหรือผู้ที่สนใจจะได้เห็นเนื้อหาบางส่วนอย่างชัดเจน และถึงใน Teaser จะไม่ได้บ่งบอกเกี่ยวกับเนื้อเรื่องส่วนใหญ่ แต่กระแสหนังชายรักชายที่นำพระเอกที่ถือว่าระดับตัวพ่อสองคนมาประกบคู่กันเองแบบนี้ ก็ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนาๆ ทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น ไม่ว่าใครจะพูดกันไปแบบไหน ไม่ว่ายังไงภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ต้องออกฉาย และที่สำคัญ ยังมีผู้ชมอีกเป็นส่วนใหญ่ที่ยังอยากจะดู

‘สวัสดีคร๊าบบบท่านผู้ชมที่น่ารักของผททุกท่าน ขอต้อนรับเข้าสู่รายการ Star Talk! รายการแห่งความบันเทิงที่จะทำให้คุณได้ใกล้ชิดกับดาราที่คุณรัก’

กรี๊ดดดดดดดดดด อร๊ายยยยยย

‘ทุกวันอาทิตย์เรามีนัดกันสี่ทุ่มยี่สิบนาที ตั้งหน้าตั้งตารอผมกันหรือเปล่าเอ่ย’

รออออออออออออ

‘ชื่นใจมากครับ…แล้ว…วันนี้เป็นวันสำคัญอะไรกันเนี่ย ผู้ชมล้นห้องส่งกันเลยทีเดียว มีป้ายไฟด้วย อ่านว่าอะไรน๊า Porch & Roojn นั่น Meth โอ้วSdayuht ก็มี โหวววว...แฟนคลับตามมาให้กำลังใจกันล้นหลามมาก ชื่นใจแทนเลยนะครับเนี่ย’

‘งั้น...’

‘เราไปพบกับพวกเขาเหล่านั้นได้เลยครับ! ’

กรี๊ดดดดดด

‘พวกเขาคือ…เหล่านักแสดงนำของภาพยนตร์ที่สร้างกระแสแหวกตลาดมากที่สุดในตอนนี้ …ขอเชิญพวกท่านพบกับ…’

‘กฤตเมธ สดายุ รุจน์ และ พอร์ช ครับ!! ’

กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ในที่สุด วันที่ต้องให้สัมภาษณ์ก็มาถึง แฟนคลับแน่นห้องส่ง เสียงกรีดร้องต้อนรับดังสนั่นทันทีที่พิธีกรอย่างบดินทร์เอ่ยเชิญทั้งสี่คนออกสู่หน้าเวที ที่ตรงนั้นแสงไฟสาดส่องสว่าง เบื้องหน้าคือผู้ชม แฟนคลับมากมายที่มารอชมการสัมภาษณ์ในคืนนี้อย่างล้นหลาม ทั้งสี่หนุ่มเดินยิ้มแย้มทักทายผู้ชมออกมาด้านหน้าเวทีด้วยความมั่นใจในชุดทันสมัยที่ใส่แล้วดูดีอย่างที่สุด

เสียงกรี๊ดต้อนรับเล่นเอาหูอื้อ แต่ก็เป็นการหูอื้อที่น่ายินดี โดยเฉพาะกับสดายุที่แม้ภายนอกจะปกติดี แต่แท้จริงในหัวใจนั้นกลับเต้นรัวและแกว่งเป็นลูกตุ้ม  เขาออกจากวงการนี้ไปนาน…นานมากจนแทบจะลืมไปแล้วว่าการมีแฟนคลับรอต้อนรับนั้นเป็นอย่างไร แต่ที่ยิ่งกว่าความรู้สึกนั้น เขากลัวมาก สดายุกลัวเหลือเกินว่าที่หน้าเวทีนี้จะไม่มีใครคอยต้อนรับเขาอยู่ เสียงกรีดร้องมากมายที่ได้ยินนี้บางทีกลับไม่ใช่ของเขา แต่เป็นของสามคนที่ออกมาพร้อมกัน กลัวเหลือเกินว่าแท้จริงแล้ว…เขายังเป็นคนที่เลวร้าย และยังไม่มีใครต้องการ

กรี๊ดดดดด สดายุ

สดายุ….อร๊ายยยย
เสียง….เรียกชื่อเราเหรอ?

อร๊ายยย สดายุ เราคิดถึงคุณ!!

คิดถึง….เราเหรอ?

น้ำตา…แทบกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ เมื่อในที่สุดสดายุก็ได้เห็นกลุ่มแฟนคลับของตน ที่ชูป้ายไฟที่เขาพลางตะโกนต้องรับด้วยความคิดถึง แม้จะไม่ได้เยอะเหมือนเด็กใหม่ที่เพิ่งชนะออกจากบ้านอย่างรุจน์และพอร์ชที่มีแฟนคลับของตัวเองล้นหลาม หรือไม่ได้เท่ากฤตเมธที่มีแม่ยกเพียบ แต่แค่นี้สดายุก็ยิ้มได้ สดายุก็พอใจแล้ว

อย่างน้อย…ในที่แห่งนี้ก็ยังมีคนสนใจเขาอยู่

(บดินทร์)
สวัสดีครับ คุณกฤตเมธ คุณสดายุ น้องพอร์ช น้องรุจน์
ผมรู้สึกเป็นเกียรติ์และดีใจมากเลยนะครับ ที่ได้สิทธิ์สัมภาษณ์พวกคุณก่อนใครในวันนี้

(สี่หนุ่ม)
สวัสดีครับคุณบดินทร์

(บดินทร์)
คุณสดายุนี่หายหน้าหายตาจากวงการไปนาน แต่ยังหล่อเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะครับ
 ที่เห็นว่าผอมลงขนาดนี้ ข่าวว่าเพราะบทที่ต้องเล่นเป็นคนป่วยในเรื่องใช่มั้ยครับ?

(สดายุ)
  ขอบคุณครับ(ยิ้มหวาน) คือในเรื่องผมต้องป่วยหนักและเข้าผ่าตัดจึงต้องผอมมากๆ
แล้วทางพี่อ๊อดผู้กำกับก็ต้องการให้ภาพออกมาสมจริงที่สุดเลย
จัดการสั่งรีดน้ำหนักผมเป็นการใหญ่เลยล่ะครับ (ยิ้ม)

อย่างที่คิด เปิดประเด็นปุ๊บ บดินทร์ก็ยิงคำถามสดายุก่อนเป็นคนแรก ทุกคนสังเกตได้ เพราะเห็นคุณพิธีกรท่านนี้เล็งจะถามแต่สดายุมาตั้งแต่เตรียมคิวที่ห้องแต่งตัวแล้ว

(บดินทร์)
โห…ผู้กำกับเคี่ยวมากเลยนะครับ ผอมบางมาเชียว (หัวเราะกันทั้งห้าคน)
เอาล่ะ งั้นผมขอเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ
คิดยังไงคะถึงได้ตอบตกลงเล่นภาพยนตร์เรื่อง ‘สุดปลายทางของหัวใจ’
ที่เป็นหนังเกย์100%
 
(กฤตเมธ)
คือผมถือว่ามันเป็นความท้าทายนะครับ ผมอยู่ในวงการมานาน
เล่นมาแทบจะทุกบทแล้ว ดังนั้นนี่ก็ถือเป็นความท้าทายครับ
แล้วพอได้ลงมือแสดงจริงๆก็ถือว่าสนุกมากครับ
ถือว่าตัดสินใจไม่ผิด (ยิ้มแล้วชำเลืองมองทางสดายุ)

(บดินทร์)
หือ...สมกับเป็นคำตอบของเทพบุตรแห่งวงการจริงๆครับ
งานสำคัญที่สุด แล้วส่วนคุณยุล่ะครับ หลังจากหายหน้าหายตาไปนาน
กลับมาคราวนี้รับบทคู่คุณกฤตเมธเลยรู้สึกยังไงบ้างครับ

(สดายุ)   อย่างที่รู้กันนะครับ ผมหายไปจากวงการพักใหญ่
พอมีโอกาสเข้ามาผมก็ต้องรีบคว้าไว้แหละครับ

(บดินทร์)   แล้วตอนที่ได้รู้ว่าต้องเล่นคู่กันนี่
รู้สึกยังไงกันบ้างคะ จั๊กจี้กันบ้างมั้ยเนี่ย

(กฤตเมธ)
ดีใจครับที่ได้ยินว่าจะต้องคู่กับน้องยุ เพราะเราเคยเล่นละครด้วยกันมาก่อน
เลยยังพออุ่นใจครับ จะได้ไม่ต้องปรับตัวเยอะ

(สดายุ)    พอรู้ว่าต้องมาเล่นคู่กับพี่เมธ
ตอนแรกก็ตกใจนะครับไม่คิดว่าพี่เขาจะมาแนวนี้ (หัวเราะ) แต่ก็ดีใจมากครับ
เพราะโดยส่วนตัวก็ชื่นชมพี่เขาอยู่แล้ว
 แล้วก็ยิ่งรู้สึกหายห่วงด้วยครับ
เพราะตอนแรกก็กังวลอยู่กลัวทำไม่ได้ แต่พี่เขาเก่งครับผมเลยมั่นใจ

(บดินทร์)
แล้วพอได้มาเล่นเข้าพระเข้านางกันจริงๆ มีฉากไหนที่รู้สึกว่ายาก
หรือเขินจนเล่นไม่ได้บ้างมั้ยครับ

(กฤตเมธ)
ตอนเข้าพระเข้านางก็โอเคครับ แรกๆยังเขินๆกันบ้าง แต่ตอนนี้เริ่มชินครับ
ขำๆกันซะมากกว่า

(สดายุ)   ครับ ช่วงแรกผมเป็นนางเอกร้อยเทคได้
มันเขินน่ะครับ ไม่เคยด้วย ทำอารมณ์ไม่ถูกเลยจริงๆครับ ต้องคอยท่องไว้
เราเป็นนางเอก เราเป็นนางเอก (หัวเราะ)

(กฤตเมธ)
แต่น้องยุเก่งมากครับ เข้าถึงอารมณ์ได้ดี พอเข้าที่เข้าทาง
ก็ไหลพลิ้วจนผมอายเลยครับ เล่นเก่งมาก

(บดินทร์)
ได้ข่าวว่าเรื่องนี้ฉากเลิฟซีนแรงมาก ทั้งสองคู่จริงหรือเปล่าครับ
 
(กฤตเมธ)
ก็...ครับ ค่อนข้างครับ ต้องไปดูเอาเอง

(บดินทร์)
แล้วหนังที่แรงขนาดนี้ ถ้าเล่นดีไม่กลัวผู้ชมจะติดภาพเหรอครับ
มันจะเป็นการยากที่จะไปรับบทอื่นๆในอนาคตหรือเปล่า
เคยคิดกันบ้างมั้ยครับ?

เหมือนกับถามทั่วไป แต่สายตาจับจ้องแน่วแน่มาที่สดายุ ตั้งใจจะให้เป็นผู้ตอบคำถามเพียงผู้เดียว

(สดายุ)
ผมไม่ซีเรียสครับ คือมันเป็นงาน และผมก็มั่นใจว่าผู้ชมคงเข้าใจ
ดีเสียอีกครับ ถ้าเราจะแสดงได้ดีจนทุกคนเชื่อ (หัวเราะ)

(บดินทร์)
งั้นมาทางน้องใหม่กันบ้าง
รู้สึกเป็นไงบ้างครับกับการเล่นหนังครั้งแรก
แล้วต้องมาเจอบทสยิวกิ้วแบบนี้ (ฮา)
ข่าวว่าทั้งคู่เป็นคู่จิ้นกันตั้งแต่อยู่ในบ้านด้วย
เจอบทแรงขนาดนี้ทำใจนานมั้ยครับ
น้องรุจน์ก่อนแล้วกัน ดูเหมือนจะเป็นฝ่ายรับบทหนัก

(รุจน์)
ตอนแรกก็ยังไม่ทราบอ่ะครับ
พอต้นสังกัดเสนองานมาบอกว่าเล่นกับพอร์ชด้วยผมก็รับเลย

(บดินทร์)
ไม่ได้ถามเขาก่อนเลยเหรอครับว่าเป็นบทอะไร?

(รุจน์)
ไม่ครับ รู้อีกทีก็ตอนฟิตติ้งเลย (ฮา)

(บดินทร์)
แล้วน้องพอร์ชล่ะครับ รู้สึกยังไงบ้าง หรือว่ารับเลยเหมือนน้องรุจน์ครับ?

(พอร์ช)
อ๋อ ผมพอจะรู้อยู่บ้างแล้วครับ แล้วผมก็รับเลยเหมือนกัน
เพื่อนผมเล่นได้ ผมก็อยากจะเล่นด้วย (ยิ้มหันมองรุจน์ รุจน์ยิ้มตอบทันทีแต่เพียงครู่พอร์ชก็หันไปมองทางอื่น)

(บดินทร์)
แล้วอย่างนี้จะไม่ให้แฟนๆคุณจิ้นได้ยังไงล่ะครับ

(รุจน์)
ฮ่าฮ่า เพื่อนกันเฉยๆครับ เพื่อนเฉยๆ
(หัวเราะกอดคอพอร์ช มองปฏิกิริยาเพื่อนรักไม่วางตา)

(พอร์ช)
ครับเพื่อนผมครับ
(พอร์ชหน้านิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะโอบคอรุจน์กลับแล้วทำหัวชิดกันเพื่อจะได้ไม่ต้องหันมองตาเผชิญหน้า และตอกย้ำคำว่าเพื่อน เน้นๆ)

กรี๊ดดดดดดดด (แฟนคลับถูกใจที่ทั้งคู่กอดคอหัวชิดกัน)

‘เพื่อนผม’ คำที่สะเทือนในหัวใจของรุจน์ที่สุด คำที่พอร์ชฝืนใจในการเอ่ยมันออกมาที่สุด คำที่ทั้งคู่พยายามยึดไว้ภายในใจไม่ให้ไขว้เขวหลุดไปเป็นอย่างอื่นได้อีก

‘ถ้ารุจน์ต้องการอย่างนั้น…พอร์ชก็จะยอมเป็นแค่เพื่อนของรุจน์เท่านั้น’

‘พอร์ช…ถ้ามึงไม่ได้คิดจะจริงจัง เรากลับไปเป็นแค่เพื่อนกันเถอะ’

(บดินทร์)
เอ้า คู่เล็กเคลียร์นะครับ จิ้นในจอได้ แต่นอกจอแค่เพื่อนรักธรรมดา ยืนยัน
เหลือคู่พี่ใหญ่ ข่าวว่าช่วงหลังเป็นคู่หูไปไหนไปกันไม่ห่าง หรือว่าจะมีจิ้นนอกจอกันบ้างครับ

คำถามเหมือนทีเล่นทีจริง แต่กฤตเมธและสดายุรู้ดีว่า บดินทร์เอาจริง และแน่นอนว่าคำถามนี้ไม่ได้มีอยู่ในสคริป

(กฤตเมธ)
(คว้าตัวสดายุเข้ามาโอบคอไว้พลางหัวเราะร่า) แบบนี้ต้องไปลุ้นกันเลยแล้วล่ะครับ (ทิ้งท้ายด้วยการชูนิ้วโป้งแบบยอดเยี่ยม)

กรี๊ดดดดดดดดดด ฮ่าๆๆๆๆๆ

คำตอบรุ่นใหญ่เรียกเสียงกรี๊ดและเสียงหัวเราะพอใจของผู้ชมในห้องส่งพอสมควร บดินทร์หัวเราะเอิ๊กอ๊ากไปตามน้ำ เหลืออีกไม่ถึงห้านาทีจะจบเบรคแรก และอีกสองเบรกต่อไปจะเป็นกิจกรรมให้ดารารับเชิญและผู้ชมในห้องส่งได้เข้าร่วม ดังนั้นนี่จะเป็นคำถามสุดท้ายของเบรกแรก

(บดินทร์)
คุณสดายุครับ คุณเป็นข่าวอยู่ช่วงหนึ่งก่อนจะหายไปจากวงการ
แล้วการกลับมาครั้งนี้ คุณคาดหวังอะไรไว้ครับ
เช่น การกลับไปเป็นพระเอกชั้นแนวหน้าอย่างเมื่อก่อน…

คำถามสุดท้ายที่ทำให้ทั้งทั้งห้องส่งเงียบกริบ พอร์ชและรุจน์หน้าเจื่อนไปทันทีที่ได้ยินคำถาม ถึงกฤตเมธจะยังมีสีหน้าปกติ แต่ลึกๆในใจชายหนุ่มรู้สึกเดือดไม่น้อยทีเดียว ‘มันเล่นจนได้นะไอ้บดินทร์!!’

(สดายุ)
ผมแค่คาดหวัง ว่าจะทำงานออกมาให้ดีที่สุดครับ

สดายุตอบคำถามเพียงแค่นั้น พร้อมกับรอยยิ้มสดใสอย่างที่ใครเห็นเป็นต้องหลงรัก บดินทร์จบการสัมภาษณ์ในเบรคแรกเพียงแค่นั้น ก่อนจะกล่าวตัดเข้าโฆษณา

ช่วงระหว่างพักเบรก ต่างคนก็ต่างอยู่ ระหว่างที่บดินทร์กำลังเตรียมคิว เหล่าดารารับเชิญอย่างสดายุ กฤตเมธ และพอร์ชรุจน์ก็ทักทายเหล่าแฟนคลับของตัวเองอย่างเป็นกันเอง และเมื่อครบสิบห้านาที สำหรับการเปลี่ยนฉาก และเซ็ตกล้อง เซ็ตไฟ การสัมภาษณ์เบรกต่อไปก็เริ่มขึ้น ซึ่งการสัมภาษณ์ในช่วงหลังพักเบรคเป็นไปด้วยความสนุกสนาน คำถามและกิจกรรมในช่วงต่อมาเป็นแบบเอาใจแฟนคลับมากกว่าเจาะลึกเรื่องภาพยนตร์ เพราะทางต้นสังกัดไม่ต้องการให้มีการปล่อยสปอลย์มากจนเกินควร

(บดินทร์)
วันนี้ก็ต้องแน่นอนนะครับ ต้องขอขอบคุณทั้งสี่ท่านที่อุตส่าห์มาเล่าความสนุกในกองถ่ายและความสนุกของภาพยนตร์ให้เราฟังกันนะครับ โดยเฉพาะเรื่องเนื้อหาภาพยนตร์ต้องเข้มข้นถูกใจแน่นอนเลยครับ ‘สุดปลายทางของหัวใจ’ เข้มข้นสนุกจุใจแน่นอนครับ (ปรบมือ)

(บดินทร์)
และก่อนที่พวกเรานะครับจะส่งท่านผู้ชมเข้านอน เรามาฟังเพลงเพราะๆจากน้องรุจน์กันอีกว่านะครับ ชื่อเพลงอะไรครับน้องรุจน์

(รุจน์)
‘เสียงที่เปลี่ยน’ ครับ (ของคุณเบล นันทิตา)

(บดินทร์)
เพลงนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เลยใช่มั้ยครับ

(รุจน์)
ครับ เป็นเรื่องราวของตัวเอกที่เคยเป็นเพื่อนรักกันมา ประมาณรักกันมาแล้วต้องเปลี่ยนไปเพราะไปชอบอีกคนนึงแทนน่ะครับ

(บดินทร์)
ท่านผู้ชมครับวันนี้เราลากันด้วยเพลงจากน้องรุจน์ครับ ‘เสียงที่เปลี่ยน’ นะครับ
วันนี้เวลาหมดลงแล้วนะครับ พบกันใหม่อาทิตย์หน้าสี่ทุ่มยี่สิบ ทางช่อง JNN แห่งนี้ คืนนี้ราตรีสวัสดิ์ครับ

การสัมภาษณ์สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี กิจกรรมท้ายรายการคือการร้องเพลงส่งคนดูของรุจน์

ท่าทีเปลี่ยนไป ปิดยังไง เก็บยังไง
ซ่อนเร้นในจิตใจฉันดูออก
ทำเหมือนไม่เป็นเหมือนเมื่อก่อน

เสียงที่แผ่วเบา มันช่างเบา ช่างเบา
สะท้อนคำว่าเรานั้นใกล้จบ
และพบปลายทางของสองเรา

นี้คือสิ่งที่ฟ้องในใจ ปิดอย่างไรก็คงไม่อยู่
วันนี้ยิ่งฟังยิ่งรับรู้ อาการมันยิ่งดูยิ่งแน่ใจ

เสียงที่เปลี่ยน คือเสียงตรงมาจากหัวใจ
ยิ่งเสียงแผ่วเบาสักเท่าไร
ความรักคงแผ่วลงเท่านั้น

เสียงมันเปลี่ยน ตอนนี้รอจะฟังคำนั้น
บอกฉันมาเลยก็แล้วกัน
ประโยคที่บอกเลิกกัน เธอคงพูดชัดเจน
**ขอบคุณ คุณเบล นันทิตา

เพลงที่กินใจผู้ชมโดยไม่รู้เหตุผล เพราะรุจน์ร้องเพลงนี้ออกไปด้วยหัวใจที่เจ็บปวดเล็กๆของตน ช่างบังเอิญนักที่เนื้อเพลงมันช่างคล้องจองกับชีวิตความสัมพันธ์ของเขากับพอร์ชตอนนี้เหลือเกิน

เหมือนจะรับได้กับการกลับไปเป็นแค่เพื่อน แต่ความจริงแล้ว….มันไม่มีทางรับได้

เพราะเขามัวแต่เล่นตัวเหรอ?

หรือพอร์ชนั่นแหละที่เป็นฝ่ายเปลี่ยน

หรือว่าที่จริง ที่มัลดีฟส์พอร์ชอาจจะแค่เผลอ…

หรือว่า…เขาแค่รู้สึกไปเอง…
เสียงที่เปลี่ยน คือเสียงตรงมาจากหัวใจ
ยิ่งเสียงแผ่วเบาสักเท่าไร
ความรักคงแผ่วลงเท่านั้น

เสียงมันเปลี่ยน ตอนนี้รอจะฟังคำนั้น
บอกฉันมาเลยก็แล้วกัน
ประโยคที่บอกเลิกกัน เธอคงพูดชัดเจน

พอร์ช…ทำไมมึงเปลี่ยนไป

*
*
*
*
*

หลังจบรายการเหล่าดารารับเชิญยังกลับไม่ได้ เพราะต้องอยู่แจกลายเซ็นและถ่ายรูปกับเหล่าแฟนคลับก่อน โดยเฉพาะพอร์ชกับรุจน์ที่แทบจะกลืนหายเข้าไปในดงแฟนๆ ฝ่ายกฤตเมธและสดายุเองก็กำลังพูดคุยอยู่กับเหล่าแฟนหนังแฟนละครของตนอยู่เช่นกัน

และในขณะนั้นเอง หญิงสาวในชุดเดรสสีแดงสวยสดขับผิวขาวให้ยิ่งน่ามอง ก็เดินเข้ามาพร้อมช่อกุหลาบสีแดงสดไม่ต่างกับสีชุดช่อใหญ่ตรงเข้ามาหากฤตเมธ

ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดเอ่ยทักทายทันทีที่ถึงตัวเป้าหมาย

“ชิดยินดีด้วยนะคะพี่เมธ”

***********************************************************************
ชิดจันทร์ Returned!!
อยากรู้ชิมิ อิเจ๊ชิดจิกลับมาทำซากอะไรอีก!
นึกว่าโดนอิแม่ เสน่ห์จันทร์จับขังไว้ในบ้านแล้วแท้ๆเชียว!

EP.36 ยังเรื่อยเปื่อยอยู่ค่ะ แต่ว่าตั้งแต่ EP.37 เป็นต้นไป
จะเข้าเนื้อหาเข้มข้นแล้วนะคะ โปรดจิบน้ำขณะอ่าน เดี๋ยวเลือดข้น ความดันขึ้นค่ะ
เรื่อง ผมคือ…นางเอกนี้ คนเขียนวางพล็อตคร่าวๆเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
มันจะเป็นนิยายเรื่องแรกที่ข้าพเจ้าเขียนได้ยาวที่สุด นั่นคือ 52 ตอน แบบไม่รวมตอนพิเศษค่ะ!!
คุณพร๊ะ!! จะใดยาวเพียงนี้น่อ…
 :hao5:
ขออภัยอย่างสูงที่มาช้าค่ะ
อนาคี99

ช่วงที่สอง(จากทั้งหมดสามช่วง) บรรทัดที่4กับ10 มีคนชื่อวาโยโผล่มาค่ะ
จิงๆต้องเปยสดายุรึป่าวคะ

รออ่านต่อเด้อออ ยันชิดโผล่มาละ

ขอบคุณที่แจ้งค๊าบ...อิอิ เก๊าเผลอเอาเจ้าแฝดกับสดายุมาปนกันซะแว้ว
ใครเจอวาโยโผล่ตรงไหนอีกบ้างน่อ...
 :katai1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-08-2014 18:11:59 โดย อนาคี99 »

ออฟไลน์ mana_ai

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ช่วงที่สอง(จากทั้งหมดสามช่วง) บรรทัดที่4กับ10 มีคนชื่อวาโยโผล่มาค่ะ
จิงๆต้องเปยสดายุรึป่าวคะ

รออ่านต่อเด้อออ ยันชิดโผล่มาละ

ออฟไลน์ GETIIZ

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +90/-4
ชิดจันทร์หล่อนจะคัมแบคสเตจกลับมาทำไมย๊ะะะะ ดรวกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
ตอนนี้พอร์ชรุจน์หน่วงงงงงงงงงงงงงงงงเว่อ  :sad4: :sad4:

ส่วนบดินทร์กับยุ นี่ถ้าเกิดเรื่องในอดีตมันมีบางอย่างที่ซ่อนอยู่ จริงๆแล่วบดินทร์ไม่ได้จะทำร้ายยุ
ก็อยากให้กลับมาปรับความเข้าใจกันได้ในที่สุดนะ อย่างน้อยก็เคยเป็นเพื่อนรักกัน

ออฟไลน์ Fellina

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 413
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-1
บดินทร์>< ไม่รู้ทำไมกัน จู่ๆถึงอยากเมนหนุ่มคนนี้ขึ้นมา

ออฟไลน์ kosmos

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
พอร์ชรุจน์ เมื่อไหร่เขาจะโอเคกันนะ เมื่อไหร่จะคุยกันดีๆ เชียร์อยู่นะ ลุ้นอยู่นะ

ออฟไลน์ kinjikung

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2940
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-8
ยาวจุใจ แอบสงสาร พอร์ชกับรุจน์ อยู่ในวงการต้องทำใจไม่งั้นอนาคตจะดับไดั เฮ้อ บดินทร์ จ้องแต่จะแกล้งน้องยุนะ แกนี่ใจร้ายจริง ๆ
เจ๊ชิดมาทำไมหล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ rmlab

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1679
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-2
ชอบมากประโยคที่พี่เมธพูดว่า "หึงรู้มั้ยครับตัวแสบ ถ้านอกใจกันล่ะน่าดู"
ถึงหายไปนานแต่ก็รอติดตามจ้า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ jinjin283

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 934
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-1
ตัวร้านออกโรงแล้วว นางเอกอย่างน้องยุจะรับมือยังไงคะเนี่ยย
ปล ยาวๆอะเราชอบมากกเลยคะ

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
ยัยชิด นึกว่าไปเกิดใหม่แล้ว กลับมาทำม้ายยยย :katai1:

พอชรุจ คิดอย่างพูดอย่าง แล้วเมื่อไหร่จะเข้าใจตรงกัน


ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
กลับมาทำมายยยยยยยย  :katai1:

ปล่อยยุกับเมธเค้าไปเถอะ

 :a5: อะไรนะ เนื้อเรื่องจะเข้มข้นขึ้นเหรอ มาม่าจะเยอะหรือเปล่านะ ชักกังวลแล้วซิ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
ชิดจันทร์...หล่อนจะมาฆ่าใครหริอเปล่าเนี่ย?

sunshinesunrise

  • บุคคลทั่วไป
นางคงจะเอาจนได้อ่ะ แบบสู้ตาย ผู้ชายคนนี้อยากได้มากๆ

ออฟไลน์ tomybsl

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 587
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-4
เกือบลืมแล้วนะเนี่ยว่ามีคนชื่อซิดอยู่ :laugh: กำลังดีๆอยู่เลยกลับมาป่วนแล้วหรอเนี่ย :เฮ้อ:
คิดถึงเจ้บลูกับซออ่ะ :hao7:

ออฟไลน์ double9JH

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1809
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-7
ชิดจันทร์โผล่มาได้ยังไงงงงง  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
อัลไลกันหนักหนาเนี่ยยยยยยยย

ออฟไลน์ PoPuAr

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1422
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-2
ดีใจกับน้องยุ ที่ยังคงมีแฟนคลับหลงเหลืออยู่บ้าง ถึงไม่มากเท่าเด็กใหม่ แต่เท่านี้ก็ชื่นใจแล้ว

ชิดจันทร์นางมาเพื่อแย่งซีนสินะ หึหึ 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด