หลบรัก 02(Sand x Ice)
“เชี่ยไอซ์ เมื่อคืนก่อนไปนอนไหนมาวะ กูตื่นมาไม่เจอมึงแม่งกลัวป๋ามึงยิงกบาลกูจะตายห่า ต้องเนียนไม่รับสายไปวันนึงเต็มๆ”กรุณา หรือไอ้เก้าส่งเสียงมาก่อนตัวจนเป็นกิจวัตร
ผมเงยหน้าขึ้นจากสมุดเลคเชอร์แต่ไม่ตอบมัน ก่อนทำเมินมาอ่านหนังสือต่อ ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจท่าทางไม่สบอารมณ์ของผู้ถาม
“กูรึก็เป็นห่วงไปเถอะ สารภาพมาไปนอนที่ไหน”
“ห้องแซน”
“บ๊ะ ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไร ไม่ใช่ว่าที่มัน สี ๆ มึงในงาน เสร็จแล้วก็ตกลงปลงใจกันเลยนะ เป็นไง ได้เสียเป็นเมียผัวกันหรือเปล่าล่ะ”
ผมยังประหยัดคำพูดไว้เหมือนแรกเริ่มบทสนทนา แต่ไอ้เก้าก็สามารถหัวเราะเอิ๊กอ๊ากมุกตลกร้ายของมันคนเดียวได้ไม่มีฝืด มันคงไม่คิด เหมือนกับที่ผมไม่คิดว่าอย่างแซนจะเป็นไบเซ็กส์ชวล ก่อนหน้านี้ก็เห็นสวีทกับแฟนดี ถ้าไม่อยู่กับพวกเพื่อนผม เจอทีไรก็ตัวติดกันกับเด็กผู้หญิงคนนั้นตลอด
“แล้วเมื่อวานมึงไม่สบายเหรอ เฮียบอกกูมา แล้วนี่เป็นยังไงบ้างวะ ไม่ไหวจริง ๆ นอนพักก็ได้นะ โทรบอกกูทำควิซท้ายคาบให้ก็ได้นะ”
“เปล่า ไม่ได้ป่วย แฮงค์เฉย ๆ วันนี้หายแล้ว”
“เออ ดีแล้ว งั้นเย็นนี้เล่นบาสกัน พวกไอ้ต๊ะมันชวน”
ผมส่ายหน้า อันที่จริงไอ้ต๊ะปี 2 ก็เป็นกลุ่มที่เล่นกีฬามาด้วยกันมาตลอด ผมเล่นไม่บ่อย ไม่ได้เป็นนักกีฬาคณะเหมือนพวกมันแต่ก็พอเล่นได้
“จะสอบอยู่แล้ว เดี๋ยวก็ไม่จบ”
“ปี 4 เทอม 2 แล้วจะแจกเอฟกูว่าก็เกินไป๊”
“พวกปีแก่ยังมีให้มึงเห็นไม่มากพอใช่ไหม?”
ไอ้เก้าหัวเราะคิกอีกรอบเพราะมีพวกปีแก่เดินผ่านพอดี มันนั่งยอง ๆ ลงบนโต๊ะไม้หน้าคณะที่ผมนั่งอยู่ก่อนพลางใช้มือป้องปากกระซิบ “ตาเดียวน่า แล้วไปอ่านหนังสือที่หอกู เดี๋ยวโทรขอป๋าให้”
“กูไม่ไป”
“เฮ้ย อย่าแล้งน้ำใจสิครับพ่อว่าที่เกียรตินิยม ไปอ่านเองด้วย ติวพวกไอ้แซนมันด้วย ไอ้พวกห่านั่นเล่นเกมกันทั้งเทอม วันก่อนเทสย่อยเห็นบ่นว่าทำไม่ได้กันสักคน พี่สโม พี่ว้ากอะไรก็ไม่เคยเป็น ทำตัวเป็นพี่สอนหนังสือน้อง ๆ หน่อยก็ยังดี อีกไม่ถึงเดือนก็จบแล้ว ถือซะว่าทำบุญ”
ผมถอนหายใจยาว วางมือบนประเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้าเตรียมคืนรุ่นน้องเอาไว้พลางชั่งใจ
ยังไม่อยากเจอหน้ามันหรอก แต่หลบไปก็เท่านั้น ยังไงก็ต้องเอาชุดไปคืน
ไปติวให้ก็ได้... แค่วันนี้เท่านั้นแหละเสียงเฮละโลดังออกมาจากทั้งอาคารพร้อมกันเป็นพัก ๆ หอพักของเก้าอยู่คนละชั้นกับแซนแต่ตึกเดียวกัน เสียงที่ดังเป็นระลอกไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคืนนี้มีบอล ความตั้งใจเดิมที่ไอ้เก้าว่าจะให้ผมมาช่วยติวน้อง ๆ เห็นทีจะล่มตั้งแต่ยังไม่เริ่ม เก้าไม่ใช่พวกบ้าบอล จริง ๆ มันไม่รู้เรื่องพวกนี้ด้วยซ้ำผมเลยไม่นึกโทษโกรธมันที่ลากมาหอด้วยจนได้ ถือเสียว่าเปลี่ยนบรรยากาศอ่านหนังสือ
ดังนั้นพอเข้ามาในห้องเลยปิดประตูหน้าต่าง เปิดแอร์อ่านหนังสือของตัวเองเงียบ ๆ แทนที่จะไปร่วมวงกับพวกเด็ก ๆ ที่ชั้นล่าง
“เฮ้ยไอซ์ เดี๋ยวกูลงไปดูพวกไอ้แซนหน่อย ไม่รู้ป่านนี้เป็นยังไงบ้าง เห็นว่าอ่านหนังสือกันตั้งแต่บ่าย มึงอ่านของมึงไปก่อนถ้าบอลจบเดี๋ยวกูโทรเรียก”
ซีเนียร์ดีเด่นแห่งชั้นปีหันมาบอก ผมพยักหน้า เลิกสนใจเจ้าของห้องจนอ่านไปได้หลายบท
พยายามไม่นึกถึงแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าใจยังพะวงถึงไอ้เด็กนั่นอยู่
ยิ่งสร่างเมา ภาพยิ่งชัด คืนนั้นผมกลับมาที่ห้องนี้ แต่เพราะมีเพื่อนหลายคนแย่งกันใช้ห้องน้ำ ไอ้แซนเลยลากผมลงไปที่ห้องของมัน
มันล้างหน้าล้างตา ใช้ทิชชู่เช็ดหน้าให้ผมแล้วสบตานิ่ง
ตาของมันที่ดูดผมให้ไม่กล้าขยับ เวลาที่ใบหน้าหล่อเหลาของมันโน้มลงมาใกล้แซนไม่ใช่จูบแรกของผม เวลาที่ริมฝีปากได้รูปประกบลงมา ผมจึงรู้ว่าควรตอบรับอีกฝ่ายยังไง
—ตบมือข้างเดียวไม่เคยดัง
—โทษมันฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกประตูห้องพักถูกเปิดออกอีกครั้งให้ผมที่นั่งเหม่ออยู่สะดุ้งสุดตัว คนที่กลับมาไม่ใช่คนที่ออกไปเมื่อหลายชั่วโมงก่อนหน้านี้
รุ่นน้องปีหนึ่งที่อยู่ในภวังค์ของผมเมื่อครู่ยืนหน้าแดงตาเยิ้ม สบตาผมนิดเดียวแล้วเบือนหน้าหนีพลางก้าวเข้ามาข้างในโดยไม่ขอคำอนุญาตใด ๆ
“ไอ้เก้าล่ะ”
“กินเบียร์อยู่ข้างล่าง พี่เก้าให้ผมขึ้นมาเอาเพิ่ม”
“ไหนว่าจะอ่านหนังสือกัน”
ผมขมวดคิ้วชนกันมุ่น รุ่นน้องไม่ตอบ รื้อตู้เย็นของรุ่นพี่อย่างเดียว ผมได้กลิ่นแอลกอฮอล์ฉุนจัดลอยออกมาจากตัวมัน และชัดขึ้นเมื่อเดินเข้าไปใกล้ “เก้าไม่เก็บไว้ตรงนั้นหรอก ถอยออกมาเดี๋ยวหาให้”
แซนยอมก้าวออกมาแล้วให้ผมก้ม ๆ เงย ๆ กับตู้เย็นที่อุดมไปด้วยขยะและของหมดอายุของเจ้าของห้อง ด้วยความคุ้นชิน พักเดียวผมก็รื้อเจอเบียร์แบรนด์ไทยสองขวด กำลังจะหันหลังส่งให้แซนแต่กลับถูกรุ่นน้องโถมเข้ากอดจากด้านหลังอย่างไม่ทันตั้งตัว
เสียงหัวใจเต้นดัง ไม่รู้ว่าไจผม หรือใจมัน ที่ลึก ๆ ยังเฝ้าโหยหาสัมผัสแบบนี้จากอีกฝ่ายทั้งที่รู้ว่าไม่ควร
"พี่ไอซ์ทำได้ยังไง""..........."
"ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง"
. . . . .
. . .
“แซน....เมาแล้ว”
"ผมไม่ได้เมา! ผมตั้งใจ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าพี่มีมัน แต่ผมก็ยังทำ"
“........”
"ผมอยากให้พี่เป็นคนของผม"
"...อยากให้เป็น แค่ของผม"
พูดจบรุ่นน้องก็พลิกตัวผมให้หันหน้าหาแล้วก้มหน้าลงขยี้กลีบปากชื้นกับริมฝีปากผมรุนแรง มือสองข้างตรึงไหล่ไม่ให้ขยับไปไหน แล้วแยกปลายขาของผมด้วยหัวเข่า กลิ่นของเหล้าผสมกับกลิ่นเฉพาะตัวในแบบผู้ชายของแซนดูดให้ผมตกลงไปในหลุมดำ พยายามตะเกียกตะกายเท่าไหร่แต่กลายเป็นตัวเองที่แหวกว่ายลงไปลึกกว่าเดิม
ผมดิ้นขัดขืนในทีแรก พยายามส่งเสียงต่อว่าแต่กลับถูกกลืนกินด้วยเรียวลิ้นของอีกฝ่าย พักเดียวเรี่ยวแรงที่มีเหมือนหดหาย ร่างกายตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้อย่างไม่น่าให้อภัยแม้แต่น้อย
ขวดเบียร์ร่วงลงกระทบพื้น มันไม่สูงพอจะทำให้บรรจุภัณฑ์แตกแต่ก็ทำให้โอนเอนจนล้มกลิ้งลงไปหลุน ๆ ผมยกมือขึ้นเกาะบ่าแซนไว้แน่น
“พี่ไอซ์.....”
เสียงทุ้มต่ำกระซิบข้างหู ดวงตาสีดำขลับจับจ้องตั้งแต่ดวงตาลงมายังริมฝีปาก มือใหญ่ไล่ฟอนเฟ้นตามแอ่งชีพจรใต้ร่มผ้าให้ผมต้องผวาตัวตอบรับปฏิกิริยาได้อย่างไม่รู้จักกระดากอาย
“....ผมชอบพี่”
เสียงแหบกระซิบต่ำเครือชิดหู จากนั้นไรหนวดสากก็ไล่ถูไถจากแก้มลงมาต่ำ
ต่ำกว่านั้น
และต่ำลงเรื่อย ๆ
“ผมชอบพี่”
เสียงของน้ำฝักบัวกระทบพื้นหยดดังซู่ซ่า ผมเงยหน้าขึ้นรับน้ำอุ่น ๆ ที่ผ่านเครื่องกรองด้วยหัวใจที่บีบรัด
มันเกิดขึ้นอีกแล้วเซ็กส์ระหว่างผมกับรุ่นน้องที่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน เกิดขึ้นจากความไม่ยับยั้งชั่งใจ ความมักง่ายที่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล
ไม่มีข้ออ้างว่าเมาสำหรับผม เพราะตอนที่ถูกกระทำสติสัมปชัญญะผมครบถ้วนตั้งแต่เริ่มไปจนจบ ต่อด้วยนอนให้ไอ้แซนกอดอีกครึ่งค่อนชั่วโมงถึงค่อยลุกมาจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อยก่อนเจ้าของห้องตัวจริงจะกลับมา
ผมเกลียดตัวเองที่เป็นแบบนี้
เกลียดตัวเองที่ยังทำแบบนี้
เสียงโทรศัพท์ห้องแผดดังลั่น แซนคงลุกขึ้นรับเพราะได้ยินไม่กี่ครั้งก็ตัดไป ผมกลับออกมาอีกทีพร้อมชุดนอนตัวใหญ่ของเก้า เห็นแซนนั่งพูดโทรศัพท์พลางเปิดหนังสือผมผ่าน ๆ เลยเดินผ่านไปเป่าผมหน้ากระจก หันกลับมาอีกทีรุ่นน้องก็วางสายไปแล้วแต่มองผมตาหวานเยิ้มอยู่ปลายเตียง
“พี่เก้าโทรมาบอกว่าจะนอนที่ห้องผม”
ผมพยักหน้า สักพักก็ลุกหาเสื้อผ้าให้แซนใส่ พอยื่นผ้าเช็ดตัวกับชุดฟรีไซส์ให้ รุ่นน้องกลับดึงข้อมือผมให้ล้มลงนั่งบนตัก ใช้คางเกยบ่าพลางไซ้จมูกคมตามพวงแก้มให้ผมผินหน้าออกห่าง
“ไปอาบน้ำ เหม็นเหล้า”
“พี่ไอซ์อย่าโกงผมดิ”
“โกงอะไร”
“ผมบอกชอบพี่ไปแล้วนะ ไม่คิดจะรับผิดชอบจริง ๆ จัง ๆ สักหน่อยเหรอ”
“อย่ามาพูดอะไรเลอะเทอะ”
“พี่มีหัวใจหรือเปล่า ยอมให้ผมกอดถึงสองรอบน่ะไม่รู้สึกอะไรกับผมบ้างเลยหรือไง”
ไอ้แซนกระชับแขนผมแน่นตอนที่พูด ถึงพยายามขืนตัวออกแต่เพราะออกกำลังกายน้อยมากเลยไม่สามารถฝืนกำลังของอีกฝ่ายได้ “หรือพี่ไอซ์ต้องใช้เงิน เดือดร้อนเรื่องอะไรบอกผมสิ ผมช่วยพี่ได้นะ”
ผมพยายามคิดตามคำที่รุ่นน้องว่า แซนคงหมายถึงเรื่องi[]ป๋า[/i]ที่ถูกกุขึ้นเป็นตุเป็นตะ ใจหนึ่งก็อยากเถียง เพียงอีกใจ กลับมองว่าเฮียอาจเป็นตัวช่วยเดียวที่ทำให้ผมหลุดออกจากเรื่องบ้า ๆ ที่เกิดขึ้นเลยได้แต่เงียบไว้ มันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะ ที่ถูกที่ควร ผมยอมให้เกิดเรื่องพรรค์นี้ขึ้นถึงสองครั้งก็เรียกได้ว่ามากเกินพอ
แซนทำท่าไม่พอใจ สังเกตได้จากลมหายใจที่เริ่มถี่ขึ้นเมื่อผมไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ สักพักก็ผละปากออกจากพวงแก้ม มาขบซอกคอแล้วดูดดึงรุนแรง “ไอ้แซน เดี๋ยวเป็นรอย!”
“ก็ให้มันเป็นน่ะสิ จะได้รู้ว่าพี่น่ะของใคร ไปบอกเลิกมันได้แล้วไอ้เสี่ยนั่นน่ะ”
“แล้วแฟนมึงล่ะแซน”
ผมถามกลับทันที ไม่ได้มีเจตนาจะให้มันเลิกกับคนรักเพียงแต่อยากให้ระลึกถึงบ้างผมรู้ตัวว่าผมผิด ผมมาทีหลัง และไม่คิดจะเรียกร้องหรือสานต่อใด ๆ ผมไม่ได้มีเจตนาทำให้ใครเดือดร้อน ถึงแม้ว่าการกระทำจะเผลอไผลไปทั้งตัวทั้งใจแล้วก็ตาม
ผมยอมรับ
ผมเองก็ชอบมัน“หึงผมเหรอ?”
เสี้ยวหนึ่งของความรู้สึก มันก็เป็นแบบนั้น เพียงแต่ว่า ผมไม่มีสิทธิก็เท่านั้นเอง
“พอเถอะแซน”
“หรือพี่ไอซ์จะบอกให้ผมลืมเรื่องวันนี้อีกครั้ง”
คู่สนทนาจับมือผมแน่น ผมไม่ได้หันหน้าไปมองมันแต่ก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังมีสีหน้าเช่นไร
ไอ้แซนมันเด็ก คิดยังไงก็แสดงออกแบบนั้น มันเป็นรุ่นน้องผมถึงสามปี
“ที่ผมชอบพี่ ผมพูดจริง ๆ นะ ชอบตั้งแต่วันรับน้องแล้ว แต่พี่เก้าเล่นประกาศว่าพี่มีเสี่ยเลี้ยง เลยไม่กล้ายุ่งด้วยมาตลอด”
“ก็ถูกแล้ว มึงไม่ควรจะยุ่งกับกูตั้งแต่แรก”
“ผมผิดที่ผมจูบพี่ก่อน แต่ถ้าพี่ไม่จูบผมตอบเหมือนกันผมก็ไม่ทำหรอกนะ ถ้าผมไม่ได้มีสิทธิ์ในตัวพี่เท่า ๆ กับมัน ผมก็ไม่ไฝว้ท์ขนาดนี้หรอก มาก่อนมาหลังแล้วไง พี่ก็เป็นเมียผมเหมือนกัน คืนนั้นพี่ก็ครางชื่อผม กระทั่งเมื่อกี๊ พี่ก็เรียกแต่ชื่อผมแล้วจะให้ผมปล่อยไปง่าย ๆ เหมือนเมื่อก่อนได้ไง”
คนพูดวางคางกับบ่าผมแล้วกอดแน่น “หรือพี่ไม่รู้ตัว ว่าเราแอบมองกันมาตลอด”
ผมชะงักคำที่เตรียมด่ามันไว้ที่หลอดลม แซนพูดถูก ว่าผมกับมันมักมองกันท่ามกลางความโกลาหลรอบตัว ยับยั้งชั่งใจกับตัวเองว่าไม่ควรเอาตัวไปเกี่ยวพันกับคน ๆ นี้
อย่าสนิทกันเสียดีกว่าถ้ารู้ว่าต่างคนต่างชอบ แต่มันเป็นไปไม่ได้
“มันไม่ใช่แค่นั้นนะแซน"
"..........."
"...มึงแค่มองหน้ากู กูมองหน้ามึง มองกันไปมองกันมา อะไรทำให้มึงแน่ใจได้ว่าว่าอยากจะคบกูจริง ๆ เรื่องของกูมึงรู้สักเท่าไหร่ นิสัยกูที่ไม่ได้ออกมาจากปากคนอื่น มึงรู้เหรอว่ากูเป็นคนยังไงแล้วไหนจะเรื่องแฟนมึง..”
“พี่ก็ยอมรับมาสิว่าพี่หึงผมกับเจน”
ให้ตายก็พูดออกมาไม่ได้ ผมตอบมันด้วยความเงียบ ฟังเสียงเข็มนาฬิกาเดินนวยนาดอย่างคนไม่มีถ้อยคำใดใดสรรหามาปั้นแต่งให้ดูดีได้อีก
“หรือถ้าอยากรู้จักกันมากกว่านี้ พี่ก็ให้โอกาสเรามาศึกษากันสิ”
“พี่ไอซ์.. ถ้าผมคิดแค่อยากเอาพี่ ผมไม่มานั่งพูดแบบนี้หรอก”
“อย่าหลบมันเลย ความรู้สึกจริง ๆ ของพี่น่ะ”
ผมรู้สึกหูอื้อไปหมด แขนที่เหมือนเป็นกรงของแซนกำลังรัดเข้าไปถึงหัวใจ ผมไม่ตอบอะไร แต่แซนจะไม่ยอมปล่อยผ่านเหมือนไอ้เก้า เสียงทุ้มพร่ำกระซิบคำเดิม ๆ
“ให้โอกาสผมนะพี่”
"พี่ก็รู้ว่าผมจริงจัง"
"ผมชอบพี่"TBC
กิสสสส แอบมีคนเดาทางเราออก /ซึ่งจริงๆแล้วเดาได้ไม่ยากเลย
มาต่อไวไปมั้ย สองวันมาแล้ว 555+ คือจริง ๆ เรื่องนี้ตั้งใจไว้ว่า 3 ตอนจบ แต่ไม่รู้จะติดลมหรือเปล่า คือภาระเพียบมาก
เตรียมสอบเอย รีไรท์ FBBFเอย แต่งตอนพิเศษรักเร่เอย (แอบโปรโมทนิยายที่เคยเขียนเบา ๆ ) แต่ความจริงคือไม่ได้ทำซักอย่างเลยค่ะ วันๆเอาแต่งตามทวิตเตอร์คนที่แอบชอบ(ซึ่งเขาน่าจะชอบผู้ชาย) กร๊ากกกกก ยังไงเดี๋ยวรอดูอีกทีว่าจากเรื่องขนาดสั้นสามตอนจบ จะมีต่อเป็นซีรีส์จบในตอนแต่ละตอนสั้น ๆ ดีมั้ย คือตื่นเต้นอะ แซนไอซ์ถูกใจคนอ่าน 555+
เริ่มพูดมากอีกแล้ว ตอบคำถามนิดนึง สำหรับรักเร่นะคะ กำลังพยายามเขียนตอนพิเศษอยู่ ตั้งใจว่าจะเขียนลงเล้าเพิ่ม 3 ตอน ลงเล่มอีก 5 ตอน เรื่องรวมเล่มจึงเป็นวาระถัดไปจากเขียนตอนพิเศษจบ ขอบคุณที่ถามเข้ามานะครับ จะพยายามเร่งมือ จบมานานแล้วยังไม่ต่อตอนพิเศษซักที T_T
สุดท้าย ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะฮะ รักมากกก หมั่วะ!!