ได้โปรด.....ช่วยรักผมที ตอนที่ 19 ไปเที่ยวกันเถอะ 19/03/2015
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ได้โปรด.....ช่วยรักผมที ตอนที่ 19 ไปเที่ยวกันเถอะ 19/03/2015  (อ่าน 37916 ครั้ง)

ออฟไลน์ Love_ewan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
@nune@  : บุญตาร้ายที่สุด  ในความคิดเรานะ   เฮ้อใบข้าวเอ่ย  โดนข่มขืน เศร้าใจจัง
ตอบ  คนเขียนทำใจอยู่นานเลยกว่าจะลงตอนนี้  ขอบคุณที่ติดตามนะ^^

nunnan  : บุญตาทำไมทำแบบนี้
ตอบ   บุญตามีเหตุผลซับซ้อนที่มีต่อคุณกิตติ  ซึ่งจะค่อย ๆ  คลี่คลายไปเรื่อย ๆ  ขอบคุณ คุณnunnan นะที่ติดตามผลงานเรา  คนเขียน เห็นคุณnunnan   และ คุณanuruk97  ก็คิดว่า อ่า ต้องไปต่อเรื่องด้ายแดงแล้วแฮะ

loveaaa_somsak : แค้นแทนใบข้าว ต้องเอาคืนให้สาสม เชียร์ขาดใจ  อ่านแล้วอารมณขึ้น
ตอบ   ใช่เลย   ทุกคนต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำ   ขอบคุณที่ติดตามนะ^^

Mbbyza : อ้าว บุญตา
ตอบ   แบบเป็นจุดเริ่มต้นของความแค้นของใบข้าว    ขอบคุณที่ติดตามจ้า^^ 

Win : สงสารใบข้าว
ตอบ  คนเขียนก็สงสารใบข้าว เหมือนกัน     ขอบคุณที่ติดตามนะ^^

Hooh : ไม่อนุญาตให้คนเขียนหายไปไหน รีบกลับมาต่อด่วน  เจ็บเยอะๆ รอเวลาเอาคืนอย่างสาสม
ตอบ  แหะ ๆ  คนเขียนหายไปนานเลย  กระโดดไปเขียนอีกเรื่อง เดียวจะมาลงให้นะ    ขอบคุณที่ติดตามจ้า^^ 

full69  : ร้ายทั้งหมดอ่ะ สงสารใบข้าว
ตอบ   ใช่จ้า  แต่น้ำฟ้าไม่ได้ร้ายมากนะ  เพราะเป็นอารมณ์โกรธ ความเข้าใจผิด บวกกับคนอื่น ๆ  ค่อยเป่าหู ทำให้ไม่ฟังเหตุผลของใบข้าว    ขอบคุณที่ติดตามนะ^^

pannixz :  อ้าววว บุญตาไหงกลายเป็นแกเนี้ยบุญตาทำแบบนี้ทำไม เราก็นึกว่าจะอยู่ฝั่งใบข้าว  เข้ามาอ่านอีกทีก็ตะหงิดใจอีกที
คุณตา ถึงไม่รักใบข้าวขนาดไหน แต่หลังจากที่ได้เห็นหรือที่ใบข้าวร้องขอ
อย่างน้อยมันก็น่าจะมีความสงสารใบข้าวกันบ้าง
ตาของใบข้าวเนี่ย มีความเป็นคนอยู่รึป่าวนะ?

แล้วที่ตะหงิดใจอีกอย่างคือตอนที่ 11 เนี้ย
รีบบรรยายไปรึป่าวค่ะ รู้สึกจะเขียนไม่ละเอียดเลย
คือมันเกิดอะไรขึ้นยังไง แปบๆ บุญตาหลอกใบข้าว เข้าโรงแรม
ปั๊บๆเสร็จ ใบข้าวพยายามฆ่าตัวตาย บุญตาช่วยทัน
ใบข้าวอ้อนบุญตา บุญตาโทรหาคุณกิตติ คือมันงงอะ
เร็วไป น่าจะใก้ตอนนี้เป็นพาทของใบข้าวบรรยาย
แล้วหลังจากพยายามฆ่าตัวตายเสร็จ ให้เป็นพาทของบุญตาบรรยายบ้าง
มันจะได้ดูไม่รีบร้อน แต่งให้มันเป็นตามพรอตจนเกินไป

ไม่ว่ากันน้าาาา  :monkeysad: หากจะเสนอความเห็นบ้าง
โครงเรื่องดีมากแล้วแท้ อยากให้เข้าถึงอารมณ์ของตัวละครมากกว่านี้
เข้าถึงนิสัยของตัวละคร คาแรกเตอร์มันยังดูไม่ลงตัวเลย ตกลงจะเอานิสัยยังไงกันแน่
ถึงให้ตัวละครมีนิสัยเปลี่ยน ก็น่าจะใส่เหตุการ์ณที่สมเหตุสมผลหน่อยนะคะ
บรรยายเรื่องราวให้ละเอียดกว่านี้หน่อย จะเป็นเรื่องที่เยี่ยมมากเลยค่ะ

ไม่โกรธกันน้าาาาา มันอดเสริมไม่ได้จริงๆ


ตอบ  มันเป็นแผนการณ์ที่บุญตาวางไว้ตั้งแต่มาทำงานที่นี่    และเราไม่โกรธหรอกจ้า  ตอนนี้อาจจะรีบดำเนินเรื่องไปจริง ๆ  แต่ลองมาเป็นใบข้าวบรรยายตัวเองถูกข่มขืนแล้ว .... คนเขียนภูมิต้านทานน้อยทำใจไม่ได้ TOT   อย่างไงก็ขอบคุณ คุณpannixz  ด้วยนะ  เราจะลองนำไปปรับใช้ต่อไปจ้า

 toshika : เลวววววววววววววววววววววอ่ะ ทำกับใบข้าวแบบนี้ได้ยังไง  สงสารน้องงงงงงงง 
ตอบ เหมือนกันจ้า  เฮ้ย กว่าใบข้าวจะเจออิสระ อีกยาวไกล  ขอบคุณที่ติดตามจ้า^^ 

cheyp  : หมดน้ำตาไปเป็นปี๊บ  สงสารใบข้าวงงกะบุญตา ทำไมต้องเสี้ยมให้ใบข้าวเกลียดครอบครัวล่ะเนี่ยยย

ตอบ  มันเป็นแผนการณ์ที่บุญตาวางไว้ และจะไม่หยุดจนกว่า.........  ขอบคุณที่ติดตามจ้า^^ 

Lovecartoon1996  : บุญตาต้องการอะไรรร
ตอบ  บุญตาต้องการแก้แค้นทุกคน

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
รอน่ะ อิอิ
 :mew1:

ออฟไลน์ Love_ewan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตอนที่ 12  กรงที่มองไม่เห็น


[น้ำฟ้า]

หลายวันมานี้ผมไม่เห็นพี่ใบข้าวเลย  ผมกะว่าจะขอโทษพี่ใบข้าวแล้วชวนไปหาตะวันด้วยกัน  แต่ก็ต้องมาคนเดียว  ตอนนี้ผมถึงบ้านของตะวันแล้ว    ผมมองหน้าเด็กหนุ่มที่ยิ้มให้อย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง  เพราะสาวที่เห็นเพื่อนผมคงกริ๊ดสลบแน่ “ไงไอ้น้ำฟ้า  กูหล่อไหม”

“อืม ก็ดี” ^^

“แล้วใบข้าวละ” ผมแทบหุบยิ้มของตัวเองไม่ทันเลย  “อะ เออ พี่เขาไม่อยู่ไม่รู้ไปไหน ฟ้าเลยมาคนเดียว” ตะวันหรี่ตามองผมอย่างจับผิด  “ทะเลาะกันมาใช่ไหม  บอกกูก่อนที่กูจะรู้เอง” ผมจึงเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ...


“จริงอยู่ที่ตอนแรกโมโหเรื่องที่พี่ใบข้าวแย่งแฟนฟ้าไป  แต่พอมาได้ยินว่านัทเจ้าชู้จริง ๆ  ก็แอบโมโหตัวเองไม่ได้ ที่ไม่ยอมฟังพี่ใบข้าว   แต่ตอนนี้ฟ้าอยากขอโทษพี่ใบข้าว” ตะวันมองผมนิ่งกับมือที่กำแน่น

“ตะวัน  นายอย่าทำอะไรพี่ใบข้าวนะ  ฟ้าขอร้อง”

“ทำไมมึงถึงชอบปกป้องมันหนักฮะ” ผมถอนหายใจ มองตะวันกับคำพูดที่ออกมาจากใจของผม “ฟ้ามีพี่ชายคนเดียวคือพี่ใบข้าว  ถึงที่ผ่านมาจะทำให้ฟ้าโกรธจนไม่ฟังตำเตือนจากพี่ใบข้าว  แถมยังพูดทำลายจิตใจ  แต่พี่เขาก็ยังคอยปกป้องฟ้าเสมอ   ฟ้าละอายใจจริง ๆ  ที่หลายอาทิตย์มานี่  ฟ้าทำไม่ดีกับพี่ใบข้าว” มองตะวันที่หันหน้าไปทางอื่นเพื่อไม่ให้เห็นรอยยิ้มเล็ก นั้น  “อืม  ดีแล้วเดียวกูช่วยเอง” 

“จริงเหรอ” ผมยิ้มให้ตะวันที่ยิ้มให้ผมเช่นกัน  เราทั้งสองกลับมาบ้าน บดิทศราลักษณ์  ถามหาพี่ใบข้าวจากลุงหมั่นกับคนอื่นๆ  ก็ไม่พบ จะถามคุณปู่ก็บอกว่าให้ช่วยงานกับพี่บุญตา   ผมจะไปหาพี่ใบข้าวที่คอนโดพี่บุญตาก็ถูกคุณปู่ห้ามไว้   ครั้งหนึ่งเคยลองแวะไปหาก็ถูกการ์ดของคุณปู่ไม่ยอมให้เข้าไป   จนตะวันเดินเข้ามาตบไหล่ผมเบา ๆ   

“อีกอาทิตย์เดียวพวกมึงก็เจอกัน  แล้วค่อยไปขอโทษมันตอนนั้นละกัน”

“อืม”  ^^


หลายวันต่อจากนั้น

เฮ้อ  ผมผิดเหรอที่อยากไปเรียนที่เดียวกับพี่ใบข้าว  ถึงคราวนั้นจะเป็นแผนของเกมส์ก็เถอะ  แต่ผมดันฟรุ๊ตได้ที่ 1 ซะงั้น จะยกเลิกแล้วให้พี่ใบข้าวได้ไป  คุณครูก็ไม่ยอม  บอกว่าทำแบบนั้น ก็ไม่ยุติธรรมกับคนอื่น ๆ   พอพี่ใบข้าวมาคุยกับคุณตาที่ห้องหนังสือ  เกี่ยวเรื่องเรียนต่อ ผมเลยบอกว่าอยากเรียนที่ด้วยกันคุณปู่ท่านก็อนุญาต  ดีใจจัง^^

“ไอ้ฟ้า  มึงจะให้กูติวไหม” ตะวันมองผมกับหนังสือไปมา  “ติวดิ  แต่ฟ้าอยากรู้จัง ว่าทำไมตะวันเข้ามาเรียนมหาลัยก่อน  โดยไม่ได้รอฟ้า”

“คะคือ ก่อนย้ายมาที่นี่ กู จบ ม.ปลายจากที่โน่นพอดี   คุณแม่ เลยให้กูสอบเข้ามหาลัยของเพื่อนที่รู้จักกัน  อะ เออ แล้วใบข้าวเรียนมหาลัย....... ที่เดียวกับกูหรือเปล่า  ตั้งแต่กูมาเรียนที่มอ .....ไม่เคยเห็นมันเลย” ผมหลบสายตาของตะวัน พลางคิดว่าเพราะผมพี่ใบข้าวจึงต้องซ้ำชั้นตามคำสั่งคุณปู่เพื่อมาดูแลผม

“ปะเปล่า  พี่ใบข้าวยังเรียนที่เดียวกับฟ้าอยู่”

“เฮ้ย ไอ้ใบข้าวมันจะโง่ขนาดซ้ำชั้นตั้งสองปีเลยเหรอ  ที่กูรู้  มันเป็นฉลาดเลยไม่ใช่เหรอ ” (ใบข้าวไหนมึงสัญญาว่าจะเรียนที่มหาลัย....... ด้วยกันในปีนี้ไง  มึงผิดสัญญา ) ตะวันหรี่ตามองมายังผมเพื่อหาคำตอบ  แต่ผมคงบอกเรื่องในครอบครัวมากกว่านี้ไม่ได้หรอก  ถ้ารู้ว่าเป็นคำสั่งของคุณปู่คงไม่ดี

“พี่เขาก็แค่ซ้ำชั้นนะ   อะเออ เรามาติวกันต่อเถอะ” ผมหันไปมองหนังสือโดยมีตะวันมองผมนิ่ง  “อืม”



ในเวลาเดียวกันนั้น



[ใบข้าว]

ถามว่าตอนนี้ผมรู้สึกอย่างไงกับเรื่องที่เกิดขึ้น  ผมตอบได้เลยว่าไม่รู้ เพราะในหัวมันว่างเปล่าไปหมด  ถึงจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดตามร่างกาย ตอกย้ำว่าผมยังมีชีวิตอยู่กับกรงที่มองไม่เห็นนั้น  มือที่เกาะบนราวระเบียงกับสายตาสาดส่องไปยังเบื้องล่าง โดยมีผู้คนเดินไปมาอย่างอิสระพร้อมคำถามภายในใจว่าทำไมผมถึงต้องอยู่ที่นี่  ตรงนี้   ทำไม หรือรอไปบำเรอความใคร่จากเฒ่าหัวงูพวกนั้นอีก   ไม่อยาก ไม่อยากเลย    พอคิดได้ดังนั้นผมจึงหยิบเสื้อผ้าอันน้อยนิดใส่ไว้ในกระเป๋า  เขียนจดหมายลาพี่บุญตาว่าไม่ต้องตามหา    เมื่อก้าวเดินไปอย่างช้า ๆ  โดยไร้จุดหมายมองดูเหรียญบาทที่เก็บสะสมไว้  ก็ถอนหายใจอย่างหมดหวัง 

ผมมองผู้คนนับสิบยืนรออะไรบางอย่าง  บ้างก็นั่ง  บ้างก็ยืนมองไปทางขวามือ  จนมีรถคันใหญ่หลายสีวิ่งมาจอด แล้วคนพวกนั้นรีบขึ้นไปอย่างรีบเร่ง  ส่วนผมมองซ้ายมองขวาจึงตัดสินใจขึ้นรถคันนั้นไป    เป็นครั้งแรกที่ผมได้นั่งรถคันอื่นที่ไม่ใช่รถคุณตาและพี่บุญตา ไม่นานก็มีคนมายืนตรงหน้าผม

“ไปไหน”

“อะเออ ยังไมรู้ครับ”

“6.50” ผมยื่นเงินไปให้พี่เขา แล้วเอากระดาษใบเล็ก ๆ มาให้ผมจึงเก็บไว้ในกระเป๋า   พี่คนนั้นก็ไปเก็บค่ารถจากคน อื่น ๆ  ต่อ   

ผมหันไปมองข้างทางด้วยความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับสิ่งแปลกใหม่  ถนนหนทางที่ผมไม่เคยมาตึกละฟ้ากับผู้คนนับร้อยเดินจับจ่ายซื้อของข้างทางอย่างเป็นอิสระ  ดวงไฟตบแต่งเป็นสีสันหลากหลายจนผมอดไม่ได้ที่จะอยากมองมันใกล้ ๆ แต่ก็ไม่สามารถลงจากรถได้ ณ ตรงนั้น  เมื่อประตูเปิดผมจึงรีบลงจากรถแล้วรีบเดินไปยังแสงไฟที่ประดับไว้  มันช่างสวยจริง  ๆ   แต่ตอนนี้ผมคงต้องหาร้านที่เปิดรับพนักงานก่อน  จากนั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมงที่ผมหาร้านอาหารหรือตามประกาศต่าง ๆ  จนมาหยุดตรงร้านตามสั่งร้านหนึ่งที่มีคนมานั่งกินอาหารตามสั่งเยอะ แถวยังมีต่อคิวรอหลายสิบคน 

“พี่ครับ  ผมมาสมัครงาน”

“ไอ้หวาย ไอ้หวาย  มีคนมาสมัครงาน มาสัมภาสมันดิ  กูยุ่งอยู่”

“ครับ ครับ  นายตามเรามานี่”   ผมเดินตามเด็กคนนั้นไปแล้วนั่งรออย่างกล้า ๆ  กลัว จน มีพี่ผู้หญิงเดินออกมา
“ที่นี่ขาดคนล้างจาน   วันละ 250 บาท  ถ้าอยู่ที่นี่  ค่าน้ำค่าไฟจ่ายเอง ส่วนค่ากินและที่นอนพี่  ค่าแรง 200 บาท  จะเอาแบบไหน ” ผมได้ยินก็แทบจะยิ้มออกมาเลยครับ “ผมขอ 200 ครับ  ให้ผมมีที่อยู่และมีงานทำก็พอแล้ว”

“งั้นดีเลย   พี่ชื่อนิดแล้วเธอละ ชื่ออะไรแล้วพ่อแม่เธออยู่ที่ไหนมีใครมาค้ำประกันไหม”  ค้ำประกันเหรอ ทำอย่างไงดี   “ผมชื่อใบข้าวครับ   ส่วนพ่อกับแม่ผมไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน   ผมอยู่กับยายแต่ตอนนี้อยู่ต่างจังหวัด  ส่วนคนค้ำประกัน ผม ผม  พี่นิดครับช่วยเมตตาผมด้วยเถอะครับ  ผมอยากได้ค่าแรงนี้เก็บไว้เรียนต่อ ให้ผมได้ทำงานที่นี่เถอะนะครับ” (หวังว่าเธอคนนี้จะเชื่อผมนะ  ถ้าไม่ผมคงไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนต่อเลย) 

“ก็ได้  แต่เธออย่าขโมยของหรือก่อเรื่องวุ่นวาย  ไม่งั้นเจ้กิมแกด่าพี่แน่ ๆ  ที่รับคนโดยไม่ดูประวัติก่อนรับทำงาน” 

“ครับ   ขอบคุณพี่นิดมากนะครับ”  ผมยกมือไหว้พี่นิด กับใจที่โล่งอกไประดับหนึ่งอย่างน้อยผมก็มีงานทำและที่อยู่   ถามว่าผมหนีออกมาทำไมน่ะเหรอ   ถ้าได้ยินพี่บุญตาคุยกับคุณตาว่าจะประเคนผมให้นักธุรกิจหัวงูในวันรุ่งขึ้นละ  คุณจะอยู่ไหม  ถึงจะรู้ว่าอีกสองเดือนก็จะเรียนจบ  ไม่รอให้จบก่อนไม่ดีกว่าเหรอ  สำหรับผมไม่ต้องการอีกต่อไปแล้ว

“ไอ้หวาย มึงสอนเด็กใหม่ล้างจานด้วย  ถ้าทำแตกใบละ 50 ” ผมมองกองจานขนาดใหญ่ที่กองไว้แทบจะปิดคนที่ชื่อหวายอยู่แล้ว  “นายล้างน้ำดีไปแล้วเอาไปวางในตะกร้า” ผมพยักหน้าตอบแล้วจะหยิบจานมา  “เฮ้ย  ๆ ไปใส่ถุงมือล้างจานก่อน  เดียวมือก็ได้เปื่อยกันพอดี   แล้วอย่าทำจานแตกนะ”

“ครับ”

สองสามชั่วโมงต่อมาพวกเราก็ล้างจานใกล้จะหมดแล้ว  แต่ก็มีพี่พนักงานในร้านยกมาอีกเป็นเท่าตัวจนผมแทบเป็นลม “เฮ้ย  อย่าอู้ซิวะทำเร็ว  เดียวเจ้กิมมาตรวจดูมีหวังถูกหักค่าแรงนะโว้ย” ผมไปมองหวายที่ล้างจานอย่างรวดเร็วด้วยความชำนาญ 

ส่วนผมก็รีบทำและพยายามไม่ให้จานแตก   อีกสองชั่วโมงต่อมาพวกผมก็ล้างจานเสร็จ  จึงไปอาบน้ำแล้วเข้านอน

 “ใบข้าวทำไมนายมาทำงานที่นี่ละ  ค่าแรงออกจะถูก” ผมมองมือตัวเองที่ตอนเหี่ยวและซีด “ก็เหตุผลเดียวกับนายนั้นแหละ” 

“เหรอ  ดีแล้วแหละที่ออกมาจากขุมนรกนั้นได้” ผมหรี่ตามองหวายที่แสดงสีหน้าเศร้าสร้อยจนผมอดลุกขึ้นนั่งดูหยดน้ำตาที่ค่อย ๆ  ไหลรินออก “เรานะ ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่สิบขวบโดยที่แม่ของเราไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย  จนต้องหนีออกมา    ดีที่พี่นิดช่วยให้เราได้มาอยู่และทำงานที่นี่” สิ่งที่ผมได้ยินมันเหมือนภาพสะท้อนอันแสนเจ็บปวด  ถึงผมจะเป็นผู้ชายไม่ได้เสียหายอะไร  แต่จิตใจกับการโดนกระทำนั้นไม่แตกต่างจากมนุษย์คนอื่น ๆ  ที่รับรู้ถึงความเจ็บปวด  หวาดกลัว  ไร้ทางสู้   แววตาหยาบโลดที่มองมานั้น  ช่างน่าสะอิดสะเอียนจนแทบกระอักเลือด “แล้วใบข้าวละ”

“เราไม่อยากเอ่ยถึงมัน  นอนเถอะ”

“อืม”


ในเวลาเดียวกันนั้น

“ผมตรวจสอบจาก GPS ที่ติดไว้กระเป๋าคุณใบข้าวแล้วครับ   ตอนนี้อยู่แถว..... เราไปรับตัวกลับเลยไหมครับ” ชายชุดดำเอ่ยบอกบุญตาที่ขยับแว่นไปมา “ยัง  เดียวค่อยไปรับ”

หลายวันต่อมา

ผมและหวายยังคงล้างจานกองเป็นภูเขานั้นกองแล้วกองเล่าจนเสร็จ   เหนื่อยมากครับแต่ผมก็เริ่มชินกับการล้างจานมากกว่าเมื่อวาน   “ใบข้าวเราจะไปเดินเล่นแถวตลาดนายไปด้วยไหม” ผมพยักหน้าตอบแล้วเดินมาหาหวายที่พาไปยังร้านค้าต่าง ๆ   มีของหลากหลายจนผมอยากลองกินดู แต่ก็ต้องกลืนน้ำลายไว้แล้วเดินกลับมาด้วยความเสียดาย

 “อะ กินไหม” หวายยื่นโรตีสายไหมให้ผมที่อยากลองกินมานานแล้ว  เพราะตั้งแต่เล็กยันโต คุณตาท่านส่งผมไปเรียน โรงเรียนอยู่กับกินพร้อม  พอปิดเทอมท่านไม่ให้ออกไหน เมื่อออกไปข้างนอกก็ต้องไปกับน้ำฟ้า เท่านั้น  โดยไม่ได้รับเงินค่าขนมซักบาท   น้ำตาค่อย ๆ  ไหลออกมาด้วยดีใจ  “ ขะ ขอบใจนะ”

“เฮ้ย  นายร้องไห้ทำไม ....... ใบข้าว  เราไม่รู้หรอกนะว่านายเจออะไรมาในชีวิต  แต่ถ้าพบคนที่เข้าใจและอยู่เคียงข้างเราเสมอ นายจะรู้ว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว” หน้าของหวายแดงไปถึงหู จนผมอดไม่ได้ที่แกล้ง “นายมีแฟนแล้วเหรอ”

“มะ ไม่ใช่แฟนซักหน่อย”

“แต่หน้านายแดงนะ  คิก คิก มีใช่ไหม”

  “ย๊าก หยุดเลยนะ เราอาย ” หวายเอามือปิดหน้าที่แดง ๆ นั้นไว้   (ดี  จังที่ผมได้เจอคนอย่างหวาย  ไม่มีเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง)

จากนั้นพวกเราก็เดินกลับร้านโดยเจ้กิมโดยมีพี่นิดกลับไปแล้ว มีเพียงผมและดินเฝ้าร้านไว้   เมื่อเดินเข้าไป มีชายคนหนึ่งแสยะยิ้มมาให้พวกผม “พ่อมาทำอะไรที่นี่” เสียงอันสั่นเทาของหวายทำให้ผมเริ่มใจไม่ดีไปด้วย

“ก็มาหาเมียสุดรักไง  มึงนะมานี่” เดินตรงมาดึงกึ่งลากหวายให้เดินตามไปในร้าน  ส่วนผมรีบคว้ามือของหวายเอาไว้   ผัวะ  “คนอื่นอย่ามายุ่ง” ไม่พูดเปล่ามันตบหน้าผมแล้วคว้ามีดขึ้นมาขู่   โยนร่างของหวายลงบนเตียง “ฮะ ฮือ  อย่าทำผมเลยนะ   อย่าทำผม ”   

ส่วนผมหันซ้ายหันขวาวิ่งออกมาจากร้านแต่ก็ถูกคนบอดี้การ์ดของคุณตามาล็อคตัวไว้ “คุณใบข้าวครับ  กรุณากลับกับเราเถอะครับ”

“ไม่  ปล่อยกู  ปล่อย ”  เพี๊ยะ  เสียงนั้นไม่ได้มาทางผมแต่เป็นหวายที่กำลังร้องขออย่างเจ็บปวด    (ไม่นะ ไม่นะ ผมทนไม่ได้)   

 “คงไม่อยากให้เพื่อนคุณต้องถูกนายคนนั้นทำร้ายนะครับ”

“ช่วยเพื่อนผมที  แล้วผมจะกลับไปกับพวกพี่” ผมบอกพี่ไผ่ทั้งน้ำตา  อย่างน้อยตอนนี้ต้องช่วยหวายให้ได้ก่อน  แล้วค่อยหาโอกาสหนี  ไม่นานหวายก็วิ่งออกมาแล้วกอดผมแน่นกับนายคนนั้นที่ถูกพี่ไผ่ซ้อมซะนอนกองไปกับพื้น

“นายไม่เป็นอะไรนะ”

“ฮะ ฮือ ฮือ เราปลอดภัย  ขอบคุณนะ” ผมกอดตัวหวานแน่น   จนพี่ไผ่มาจับไหล่ผมไว้    จึงมือค่อย ๆ  ปล่อยจากหวาย    “พี่ช่วยพาไอ้เชี้ยนี่ไปส่งตำรวจให้ด้วยนะครับ  มันจะได้ไม่มาทำอะไรหวายอีก” ผมบอกแล้วตามไปขึ้นรถโดยมีพี่คริสนั่งข้าง  ๆ   

ในเวลาต่อมา 


นี่คงเป็นโอกาสเหมาะแล้วที่ผมจะหาทางหนี  “พี่ไผ่ผมปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำ” พี่ไผ่ยิ้มแล้วเอ่ยบอก“ได้ครับ” ผมแทบหุบไม่ทัน  เพราะรถที่ขับเลี้ยวเข้าไปนั้น  มันคือโรงแรมที่ผมไม่อยากจะมาอีกเป็นครั้งที่สอง  (ไม่ผมกลัว  ผมกลัว)

 พอลงรถได้จึงวิ่งออกมาแต่ก็ต้องติดกุญแจมือ  ที่มีพี่คริสเอามาคล้องไว้อย่างรวดเร็ว  “อย่าคิดหนีเลยครับ  คุณใบข้าว  ทำแบบนี้จะยิ่งเจ็บตัวมากกว่าเดิม  ทำหน้าที่ให้เสร็จ   จะได้กลับไปพักผ่อนตามที่คุณต้องการ” ผมมองพี่คริสนิ่ง   สูดหายใจพยายามยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น  เดินไปห้องเดิมที่ยังคงตอกย้ำจิตใจของผม



แอ๊ด “หึ  หึ  มาแล้วเหรอ” ผมมองชายคนนั้นนิ่ง  พยายามเก็บซ่อนความกลัวนั้นไว้  (ผมจะทำอย่างไงดี  ทางหนีไม่มีเลย)

เพี๊ยะ  “ไงคนไร้ค่า”

ผัวะ“ อย่าคิดว่าจะมีใครมารักหรือมาช่วยคนอย่างมึงนะ  ไอ้สวะ” แรงตบนั้นชาจนไล่ความรู้สึกเจ็บปวดนั้นไป  มือที่ถูกมัดไว้กับสิ่งแปลกปลอมนั้น พยายามรุกล้ำเข้ามา เพี๊ยะ “ยังขัดขืนกูอีกเหรอ งั้นเจอแบบนี้เป็นไง”

“ไม่นะ  อะ อ๊า  อ๊า / อ๊า ดีมากดิ้นอีก  กูชอบ และจำเอาไว้คนอย่างมึงนะไร้ค่า  ไม่มีใครมารักคนอย่างมึงหรอก  ฮะ ฮ่า ฮ่า ร้องไห้ออกมาอีก  ยังงั้นแหละ”

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

“ปัง”

เสียงปิดประตูนั้น  ทิ้งไว้เพียงร่างกายของผมนอนหายใจรวยริน  สะอื้นไห้ด้วยความเจ็บปวด และผมก็ได้รู้ว่า ยิ่งผมพยายาม ก็ไร้ซึ่งหนทางออกกับกรงที่มองไม่เห็น ( คิก คิก  คุณตาถ้านี่คือความรักที่ให้กับผม  ผมก็จะขอจดจำมันไว้   แล้วให้หลานรักอย่างน้ำฟ้าได้ลิ้มลองความเจ็บปวดนั้นดูบ้าง  คิก คิก   คุณตาค่อยดูหลานคนนี้ให้ดีนะครับ)

“กูจะแย่งทุกอย่างที่มึงมี น้ำฟ้า”


To Be Continued


ตอนนี้อาจจะพลิกบทของน้ำฟ้าไปนิดนึง  จริง ๆ แล้ว น้ำฟ้าเป็นคนดีเอาแต่ใจ เป็นคนที่เห็นใจใบข้าว  แต่ก็ไม่สามารถขัดคำสั่งปู่ได้  ยิ่งมาเจอเหตุการณ์นั้น น้ำฟ้าโมโหมาก  ด้วยอารมณ์โกรธ ความเข้าใจผิด บวกกับคนอื่น ๆ  ค่อยเป่าหู จึงทำให้ไม่ฟังเหตุผลของใบข้าวนะจ๊ะ   คนคอมเม้นต์อย่าเพิ่ง   :z6: คนเขียนเลยนะ   :hao6:   คนเขียนไปละ  :o12:

exoplanet

  • บุคคลทั่วไป
เกลียดไอ้เชี่ย :angry2:ตาจริงๆทำงี้กับใบข้าวได้ไง ไม่อยากให้ใบข้าวโดนแบบนี้บ่อยๆเลยสงสาร T^T :m15: :m15:

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
พูดไม่ออกมันหน่วงๆ
รู้สึกว่าชีวิตของใบข้าวมันดิ่งลงเหว
และไม่มีวันได้ก้าวขึ้นมายืนอยู่ในที่ๆคนอื่นอยู่
เพราะหนียังไงใบข้าวก็ไม่มีวันหนีพ้น
คงต้องตายนั่นแหละ ถึงจะพ้นทุกข์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-10-2013 19:31:24 โดย @nune@ »

ออฟไลน์ pornumpai-ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :sad4:

ใบข้าวววววววว

 :mew6: :katai1:

ออฟไลน์ pannixz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
ใบข้าววววววว ฮื่อๆ

ไม่มีอะไรจะคอมเม้น  :z2:

จิ้มคนเขียนให้มาต่อไวๆ :z13:

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ผู้เรื่องนี้นไม่ใช่คน โดยเฉพาะอิคุณตา
ทำอย่างงี้ได้ไงอ่ะใบข้าวทำอะไรผิดเหรอถึงต้องทำร้ายขนาดนี้ฮะ :katai1:

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
ผู้เขียนค่ะ ......ไม่สงสารข้าวบ้างเหรอ...ยิ่งอ่านยิ่งโกรธ... :fire:  ทำไมถึงได้เขียนทำร้ายข้าวอย่างนี้กว่าคนอื่นๆๆๆจะได้รับกรรมตอบสนองใบข้าวไม่ตายก่อนเหรอ แต่พวกเราก็จะรอ

หากนี้คือจุดเริ่มต้นความความแค้น.....ดังนั้นเอาให้ถึงที่สุด...จากความแค้นเล็กๆๆที่สะสมมาช้านานจงเปลี่ยนเป็นเปลวไฟไฟที่ไม่มีใครมาดับได้  ไฟที่พร้อมจะเข้าไปทำลายทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องจากผลพวงที่ใบ้ข้าวได้รับ....พวกเราจะรอวันเอาคืนขอให้บทแห่งการเอาคืนสนอง เน้นแรงทั้งอารมณ์ และเนื้อหา และแรงอย่างฉลาดดึงอารมณ์พวกเราให้ถึงจุดสุดยอดให้ได้นะค่ะ

ตามตลอดๆๆๆๆๆๆ :pig4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-10-2013 14:59:33 โดย anuruk97 »

Win

  • บุคคลทั่วไป
ใบข้าวเข้มแข็งไว้นะ :sad4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Love_ewan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตอนที่ 13  การตัดสินใจ

ร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของผมค่อย  ๆ ยันตัวขึ้น   ยืนมองภายในห้องที่ว่างเปล่าเหมือนว่าเมื่อซักครู่นี้  ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  ผมแอบยิ้มภายใจว่านั้นคือความฝัน ใช่ คิก คิก มันคือความฝัน  ผมแค่มาพักที่นี่    รอคุณตาจัดงานวันเกิดให้ผม   ฮะ ฮ่า ฮ่า     ฮะ  ฮือ ฮือ   ตะ แต่ทำไม   ทำไมร่างกายผมถึงได้เจ็บแบบนี้   ทำไมไอ้รอยบ้า ๆ นี้มันไม่หายไปด้วย   ทำไมกัน!   ฮะ  ฮือ ฮึก ฮือ ฮือ  ฮือ ฮือ     
 
มือผมค่อย ๆ  ลูบลงบนรอยแผลตามตัวอย่างช้า ๆ กับแรงสะอื้นพยายามเก็บไว้ ไม่ให้ใครได้ยินด้านที่อ่อนแอของผม   เท้าที่ก้าวเดินไปยังห้องน้ำอย่างทุลักทุเล  เซไปมาจนจับผักบัวได้แล้วเปิดน้ำให้ไหลจากหัวจรดเท้าชะล้างความอัปยศกับสิ่งที่เกิดขึ้น  ไม่นานผมเดินออกมาจากห้องน้ำ  พยายามแต่งตัวให้เป็นปกติที่สุด    เดินออกมาจากห้องโดยมีพี่ไผ่ผายมือให้เดินตามไป  ส่วนพี่คริสก็ยังคงเดินตามปะกบผมไว้ไม่ให้คาดสายตาจนมาขึ้นรถแล้วขับออกจากโรงแรมนั้นอย่างรวดเร็ว   

บนถนนที่มีรถติดเรียงรายมาเป็นเวลา 15 นาที  แต่เวลานั้นมันช่างยาวนานสำหรับผมเหลือเกิน  ถึงเสียงข้างนอกจะดังซักแค่ไหนก็ไม่อาจทำให้ภายในรถ   ยังคงเงียบสงัดไร้ซึ่งคำพูดของบุคคลที่นั่งอยู่ข้างตัวผม  สายตาทุกคู่มองมาทางผมด้วยความสมเพชเวทนาอย่างเห็นได้ชัด  มันยิ่งทำให้ผมเกลียดสายตาราวนั้นมากกว่าเดิม   เพราะมันเหมือนแววตาของคุณตาที่มองมายังผมเสมอ  เหมือนผมมันไร้ค่าเสียจนไม่น่าเกิดมาอยู่บนโลกนี้   

อยู่ ๆ  พี่คริสก็ยื่นมือมาใกล้ เฮือก  ! “คุณหนูเอาไปเช็คน้ำตาเถอะครับ” พลางแกะมือผมที่กำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อของตัวเองโดยไม่รู้ตัว “ไอ้ด้วงหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาซิ” พี่ด้วงยื่นกล้องยาให้พี่คริสรับมาแล้วค่อย ๆ  ทำแผลให้ผมอย่างเบามือ

เมื่อถึงคอนโดของพี่บุญตา  โดยไร้เงาของเจ้าของห้อง พวกพี่ไผ่พาผมเข้ามาแล้วให้ที่เหลือเฝ้าหน้าประตูไว้   ส่วนพี่คริสเดินเข้าห้องครัวไป  ปล่อยให้นั่งอยู่กับพี่ไผ่ที่มองหน้าผมนิ่ง “พี่ไม่รู้จะพูดอย่างไงดี”

“พี่ไผ่   ผมไม่อยากเจอเรื่องแบบนี้อีกแล้ว  ช่วยปล่อยผมไปจากที่นี่ได้ไหมครับ” ผมยกมือไหว้พี่ไผ่ ที่นิ่งแล้วถอนหายใจ “ถึงพี่ปล่อย คุณหนูไป  คุณท่านก็ให้คนออกตามหาคุณหนูอีก  แถมเพื่อนพวกพี่ทั้งหมดก็จะพลอยถูกลงโทษไปด้วย”  ผมรู้ว่าทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน  แต่ผมทนไม่ไหวจริง ๆ  “พี่ครับ  ผมไหว้ละครับ  ให้ทำอะไรก็ได้   ปล่อยผมไปเถอะนะ  ผมขอร้อง ” ณ เวลานี้  คำว่าศักดิ์ศรีไม่มีสำหรับผมแล้ว  หากมันช่วยให้ผมรอดจากขุมนรกนี้ก็ยอม มือที่กอดขาพี่ไผ่ไว้   ถูกแกะออกแล้วยกตัวผมให้ยืนขึ้น “พอเถอะครับคุณหนู    พี่ทำไม่ได้จริง ๆ”

“พี่จะช่วยคุณหนูเอง ” พี่คริสเดินถือจานข้าวแล้ววางบนโต๊ะ     “ไอ้คริส  มึงหยุดเลยนะ”

“ทำไม ไอ้ไผ่  กูมาเป็นบอดี้การ์ดนะไม่ได้มาเป็น.......” มองพี่คริสที่ยิ้มให้แล้วดึงผมมาไว้ข้างหลัง “ พี่คริส ผะ ผม ”

“พี่จะช่วยถ้าเป็นเรื่องที่พวกพี่ทำได้  แต่ไม่ใช่การปล่อยให้คุณหนูหนีไป โอเคไหมครับ” อยู่ ๆ  น้ำตาผมก็ไหลออกมาอย่างไม่เข้าใจ  แต่มันอบอุ่นเหมือนความรู้สึกที่เคยได้รับจากป้ากลิ่น “ขะ  ขอบ  ฮึก ฮึก  คุณครับ”

“ไม่เป็นไรครับ  งั้นคุณหนูต้องกินข้าว  กินยาแล้วรักษาตัวเองให้หาย เพื่อจะได้มีแรงเอาตัวรอดพ้นจากอุปสรรคที่กำลังจะเกิดขึ้นให้ได้” ผมคิดตามคำพูดของพี่คริสไปชั่วครู่  จึงหยิบช้อนตักข้าวต้มเข้าปากสองสามคำ   รับยามากิน  อาบน้ำแล้วเข้านอนจนผลอยหลับไปด้วยฤทธิ์ยา




หนึ่งอาทิตย์ต่อมา

หลายวันมานี่ผมพยายามหาหนทางเพื่อจะหลุดพ้นจากกรงที่คุณตาสร้างไว้   แต่ก็ไร้ซึ่งทางออก  เพราะยิ่งผมหนี หรือ ขอร้อง  มันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเลย  มันน่ากลัว  เจ็บปวดแทบเจี่ยนตาย  แต่คงมีเพียงหนทางเดียวซินะที่ผมต้องพยายามเผชิญกับมัน 

ณ บ้านบดิทศราลักษณ์   

เมื่อรถขับเคลื่อนมาจอด ณ บ้านบดิทศราลักษณ์    ผมเดินตามพี่ไผ่ไปยังห้องหนังสือกับสายตาที่มองไปยังกลุ่มคนใช้โดยไร้เงาของป้ากลิ่น   ในเวลานี้   แววตาผมร้อนผ่าวจับจ้องมองคนตรงหน้านิ่ง “ทุกคนออกไปก่อน  เธอด้วย บุญตา”พี่บุญตาและคนอื่น ๆ เดินออกจากห้องไป  เหลือเพียงคุณตาที่ยังคงนั่งมองผมอยู่ในความมืดนั้น 

“ฉันขอบใจที่เธอไม่พูดเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครฟัง”ใบหน้าที่ไร้ซึ่งความรู้สึกเสียใจหรือห่วงใยนั้นมันไม่ได้มีไว้ให้หลาน  ไม่สิ  ไม่มีไว้ให้คนอย่างผมถึงจะถูก

“คิก  คิก  คิก  แค่นี้เหรอครับ  ที่คุณตาเรียกผมมา ” สายตาของผมมองคุณตาที่กำลังลุกขึ้นเดินตรงมายังผมกับนิ้วมือที่ค่อย ๆ  ง้างออก    ถ้าเป็นเมื่อก่อนละก็ผมคงกลัวจนตัวสั่นทำอะไรไม่ถูกไปแล้ว  แต่ตอนนี้ผมจะไม่กลัวอีกต่อไป “ตบผมซิ  ครับคุณตา  เอาแส้เฆี่ยนมาตีผมเหมือนทุกครั้ง  เพราะอย่างไงหลานคนนี้มันก็ผิดอยู่ดี”

“แก !!” 

 “ถ้าการที่ผมถูกจัดใส่พานให้ไอ้นักธุรกิจบ้า ๆ พวกนั้นข่มขืนเพื่อแลกกับเศษเงินงี่เง่าของคุณตาละก้อ  งั้นเชิญเลยครับ  ผมจะไม่หลบหรือหนีอีก  ฮึก  ฮึก  อะ ฮือ  ฮือ  ”  มือที่ง้างจะตบนั้น ค่อย ๆ ลดลงแล้วยื่นมาจับไหล่ผมไว้แน่น 

“ ฉันก็ไม่อยากทำแบบนี้กับแกเหมือนกัน  ถ้าจะโทษก็โทษแม่ของแกที่ทิ้งไปโดยไม่เหลียวแลแกเลย (ใช่  มันไปกับชู้ให้กูอับอาย  รวมทั้งแม่ของมันอีก)    ตอนนี้ซิแกน่าจะดีใจไม่ใช่เหรอที่ได้ช่วยตอบแทนบุญคุณฉันและช่วยประคับประครองไม่ให้หลายร้อยครอบครัวต้องตกงาน เพราะบริษัทเราต้องปิดตัวไป” แววตานั้นมันช่างว่างเปล่าไร้ซึ่งความรู้สึกรักหรือเป็นห่วงผมเลยซักนิด  ถ้าคุณตาเกลียดผมนัก  ก็ขอทำลายให้สิ้นไปพร้อมกัน  ผมเจ็บคุณตาก็ต้องเจ็บยิ่งกว่าผม

 “นั้นซินะครับคุณตา  แต่อย่างน้อยคุณตาก็น่าจะให้คำขอเล็ก ๆ น้อย  ๆ ของหลานคนนี้เป็นการตอบแทนได้หรือเปล่าครับ ” คุณตามองผมนิ่ง ไปชั่วครู่แล้วถอนหายใจเอ่ยออกมา “ได้  ฉันให้ได้แค่ 3 ข้อ แต่คำขอนั้นจะไม่ใช่เรื่องธุรกิจของฉันที่ยังฟื้นตัวยังไม่สมบูรณ์ ”
“เมื่อไรละครับ  คุณตาถึงจะเลิกทำกับผมอย่างนี้”ในใจมันเริ่มดิ่งลึกเมื่อได้ยินว่าผมจะต้องเจอเรื่องแบบนี้อีก  “ ฉันจะหยุด  แต่ไม่ใช่ตอนนี้  บอกความต้องการของแกมา” มือที่กำแน่นมองคุณตาที่ไม่มีสีหน้าแสดงอารมณ์ใด ๆ 

“ได้ครับ....  คุณตาต้องเซ็นรับรองเรื่องทุนเรียนต่อของผม” ผมมองคุณตานิ่ง แล้วพูดต่อ  “ทุก  ๆ  อย่างที่น้ำฟ้าได้รับ   ผมก็ต้องได้เหมือนกัน พร้อมทั้งหุ้นและสิทธิ์ที่จะได้เป็นทายาทรับช่วงบริษัทของคุณตาเช่นกัน”

“แก!!! มัน” 

“แค่นี้คุณตาน่าจะทำได้นะครับ  หรือจะให้น้ำฟ้า....” ในใจผมลุ้นอย่างหวั่น ๆ  แต่อีกใจก็คิดว่าไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้วกับการเสนอข้อตกลงนี้

“ได้ซิ  แต่แกห้ามบอกเรื่องนี้กับน้ำฟ้าเป็นอันขาด” หึ หึ  แค่นี้เหรอที่คุณยอมเพื่อแลกกับการไม่ให้น้ำฟ้ารู้

“ได้ครับ ผมจะพยายามถ้าคุณตาไม่ผิดสัญญา  ขอบคุณนะครับคุณตา” ผมสวมกอดคุณตาแน่น  และนี่คือการกอดครั้งแรกและครั้งสุดท้ายที่จะไม่มีอีกต่อไปพร้อมกับหัวใจอันอ่อนโยนของผมเช่นกัน


ในเวลาต่อมาผมเดินออกจากห้องสมุดของคุณตา โดยมีพี่คริสคอยตามติดทุกฝีก้าว ผมรู้ว่าคุณตาท่านไม่ยอมที่จะให้อะไรมาง่าย ๆ  เพราะนี่เป็นสิ่งการันตีได้ว่าผมก็ไม่มีทางออกจากกรงขันอันไร้เงานี้ไปได้เช่นกัน     

ตุบ   ตุบ  ตุบ  “พี่ใบข้าว  พี่ใบข้าว” หึ  หึ มาแล้วเหรอคุณหลานรัก  “ฟะ ฟ้า” ส่งสายตาเศร้าสร้อยให้น้ำฟ้า ที่ตอนนี้แสดงหน้าสีเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด  พอเห็นรอยแผลของผมก็ส่งสายตาที่ผมเกลียดที่สุด   อย่ามองกูด้วยสายตาแบบนั้น  กูไม่ได้เป็นคนน่าสมเพชและไม่อยากได้ความสงสารจากคนอย่างมึง

“ฮะ ฮือ  พี่ใบข้าวเป็นอย่างไงบ้าง  ฮึก  คุณตาบอกว่าพี่ถูกจับไปเรียกค่าไถ่” หึ  โกหกน้ำฟ้าได้เนียนมาก ๆ เลยครับ  คุณตา  งั้นผมขอเล่นตามน้ำเลยละกัน  “ฮะ ฮือ ฮือ พี่กลัว น้ำฟ้า พี่กลัว” ตุบ   

“พี่ใบข้าว  พี่ใบข้าว” ตาผมค่อย ๆ ปิด แล้วแกล้งหลับไป โดยมีพี่คริสอุ้มมายังห้องนอนของผม  ส่วนน้ำฟ้าก็นั่งเฝ้าผมอยู่นานจนผมก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยจริง ๆ  จึงผลอยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

[น้ำฟ้า]


ผมมองตามตัวของพี่ใบข้าวแล้วก็ใจหาย   คุณปู่เล่าให้ฟังว่าพี่ใบข้าวถูกลักพาตัวไปแล้วถูกโจนพวกนั้นทำร้ายร่างกาย  มิน่าละตอนนั้นถึงไม่ยอมอนุญาตให้ผมไปหาพี่ใบข้าว  แต่พอมาเจอพี่เขาในสภาพแบบนี้ ผม ผม ไม่รู้จะพูดอย่างไงดี  จึงได้แต่จับมือที่กำลังสั่นเทานั้นไว้แน่น  พลางเช็คแขนของคนตรงหน้าอย่างเบามือ 

ไม่นานคุณปู่ก็เรียกผมเข้าไปในห้องสมุด   “น้ำฟ้า  ใบข้าวอาการเป็นอย่างไงบ้าง”สีหน้าของคุณปู่ดูเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด “ตอนนี้พี่ใบข้าวหลับไปแล้วครับ  แต่ก็มีอาการสั่นกลัวอยู่”ผมบอกโดยคุณปู่ยื่นมือมาจับไหล่ผมทั้งสองข้าง “น้ำฟ้าอย่าบอกเรื่องนี้กับใครนะ”  ผมเลิกคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ทำไมต้องปิดเรื่องนี้ไว้ด้วย “ทำไมละครับ  ฟ้าว่าเราปิดไปแบบนี้เราจะหาคนร้ายมาลงโทษได้อย่างไง”

“ปู่นะจับตัวคนที่ลักพาตัวใบข้าวได้แล้ว  แต่ปู่ไม่อยากให้ใบข้าวสะเทือนใจไปมากกว่านี้” คุณปู่มองหน้าผมเพื่อรอคำตอบด้วยสายตาเศร้า  ท่านคงเป็นห่วงพี่ใบข้าวมากเลยซินะ  “ดะ ได้ครับ ฟ้าจะไม่บอกใคร  งั้นฟ้าขอตัวกลับห้องก่อนนะครับ” คุณปู่พยักหน้าให้ผมที่เดินออกมาแล้วตรงกลับห้องแเข้านอนกับใจที่ยังเป็นห่วงพี่ใบข้าวอยู่


To Be Continued


 ขอบคุณทุกคอมเม้นต์และคนที่เข้ามาอ่าน   คนเขียนไปละ :o12:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-10-2013 20:44:10 โดย Love_ewan »

ออฟไลน์ pornumpai-ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :hao5:
สงสารใบข้าวอ่ะ

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
โอ้ยตรรกะบ้าบอไรเนี่ยไอคุณตา!!!
แม่มันหนีเลยลงกับลูกเนี่ยนะ กับเด็กที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไรเนี่ยนะ
แทนที่จะเลี้ยงใบข้าวให้ดีๆจะไม่ทำผิดตามแม่ก็ทำร้ายซะจนเป็นไงล่ะ
ใบข้าวได้ร้ายสมใจแน่ อ่านแล้วหงุดหงิด น้ำฟ้าด้วยอีกคนจะใสไปไหนใครพูดอะไรก็เชื่อ
โง่จริงๆทั้น้ำฟ้าทั้งคุณตา แต่คุณตาเลวด้วย :m16:

ออฟไลน์ ifangza!

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
อีคุณปู่ แกโคตรเลวเลยยยย  :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :z6: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat: :beat:

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12

tegomon

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ pannixz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
เพลียกับคุณตา
อยากเห็นใบข้าวจิต

คำถาม ใบข้าวมันเป็นนางเอกใช่มั้ย?

และคำถามสุดท้าย
ใครเป็นพระเอก

 :katai1:

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
มึงไม่อยากทำกับหลานมึงแล้วตอนนี้มึงเอาสนตีนคิดหรือไร...แล้วทำไมมึงไม่ลองเอาหลานสุดที่รักของมึงให้โดนแบบใบข้าวบ้าง
การกระทำของมึงวันนี้ที่ไม่มีแม้แต่ความสงสาร สิ่งที่มึงทำมันเกินกว่าคนแล้วการที่มึงขายหลานกินเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด
แล้ววันนึงมึงต้องเสียใจอย่างที่สุดที่มึงทำในวันนี้ :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire: :fire:


ออฟไลน์ Lovecartoon1996

  • ชอบกินมาม่า
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
    • -
บุญตาทำสำเสร็จ สงสารใบข้าวจัง
คนเขียนสู้ๆจ้า

Win

  • บุคคลทั่วไป
คุณตาเลวและชั่วมาก  อ๊าก :katai1:  รอตอนต่อไป :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
ทำไหม   :mew2:หายไปนานจังเลยครับ  เข้ามานอนรอ

ออฟไลน์ Love_ewan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ตอนที่  14  เจ็บแล้วจำ


สามวันต่อมา

ใบข้าวลืมตาตื่นขึ้นมากระทบกับแสงภายในห้องที่แปลกตา   แต่พอมองไปรอบ ๆ  นั้นคือของใช้ของเขาเอง    จึงค่อย ๆ  ลุกขึ้นนั่งแล้วลงจากเตียงด้วยความเหนื่อยล้ากับบาดแผลยังไม่หายสนิท   พอเปิดประตูออกมาก็ทำให้ได้รู้ว่าห้องนอนของเขานั้นไม่ใช่ห้องเล็ก ๆ  ชั้นล่างอีกต่อไป  แต่มันเป็นห้องที่ใหญ่กว่าและติดกับห้องของน้ำฟ้า  ใบข้าวทิ้งตัวลงนอนบนเตียงยิ้มมุมอย่างชอบใจ  พลางลุกขึ้นแต่งตัวแล้วเดินจากห้องก็เจอน้ำฟ้ายืนรออยู่ก่อนแล้ว

 “พี่ใบข้าวเป็นอย่างไงบ้างครับ”ใบข้าวมองน้ำฟ้านิ่ง   “ดีขึ้นแล้ว  แต่ขอตัวก่อนนะ พี่คง....”  น้ำฟ้าทำสีหน้าเป็นกังวล พร้อมสูดหายใจเข้าลึก ๆ   “พะ พี่ใบข้าว ยังโกรธฟ้าอยู่อีกเหรอ   ฟ้าขอโทษนะ ฟ้าไม่ดีเองที่ไม่ฟังคำเตือนของพี่ ฟ้าขอโทษจริง ๆ ” น้ำฟ้าเข้ามากอดใบข้าวที่แสดงสีหน้านิ่ง  เอามือลูบหัวนั้นอย่างเบามือ  “พี่จะโกรธฟ้าได้อย่างไง  เรามีกันแค่สองคนพี่น้องนิน่า ” (ใช่! กูกับมึง)

“จริงเหรอ  ไม่โกรธฟ้าแล้วใช่ไหม”

“ครับ ไม่โกรธแล้ว  แต่หยุดกอดพี่เถอะนะ  เจ็บ” น้ำฟ้ายิ้มให้ใบข้าวแล้วจูงมือให้เดินตามมาหยุดตรงโต๊ะกินข้าว  แต่ด้วยความเคยชิน   ใบข้าวจึงรีบแกะมือน้ำฟ้าออก แล้วเดินห่างจากโต๊ะกินข้าว "ใบข้าวมานั่งข้าง ๆ  น้ำฟ้าซิ เราจะได้กินข้าวกันซักที”  คุณกิตติวางหนังสือพิมพ์แล้วมองใบข้าวนิ่ง 

ส่วนใบข้าวนั้นแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าสิ่งที่ได้ยินนั้นคือการที่เขาได้มานั่งกินข้าวกับทุกคน  ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาใบข้าวได้แต่รอให้ทุกคนกินกันเสร็จ ถึงเดินเข้าไปกินข้าวหลังครัวกับป้ากลิ่นตลอดมา  "พี่ใบข้าวนั่งซิครับ" ใบข้าวคิดได้ครู่นึงก็ยิ้มแล้วเดินไปนั่งข้าง ๆ  น้ำฟ้า   

ระหว่างกินข้าว ใบข้าวมองคุณกิตติเป็นระยะ ถึงในส่วนลึกเหมือนจะหวังอะไรซักอย่างแต่ก็ต้องข่มความรู้สึกนั้นไว้ให้จมหายไปในส่วนลึกของจิตใจ "พี่ใบข้าว  กินนี่ซิครับ  อร่อยนะ" ใบข้าวมองกับข้าวภายในจาน  แล้วยิ้มที่มุมปาก(จงไว้ใจกูให้เยอะ ๆ นะน้องรัก)   หลังจากทานข้าวเสร็จใบข้าวจึงขอตัวไปพักผ่อนที่ห้องใหม่ของตัวเอง

หลายชั่วโมงต่อมา

“พี่ใบข้าวครับ  ตะวันมาเยี่ยม”เจ้าของชื่อกำลังนั่งริมหน้าต่างอยู่ต้องหยุดชะงักไป  (ทำไมต้องเจอตะวันตอนนี้ด้วยนะ  เขาไม่พร้อมจริง ๆ  ) หันไปแล้วยิ้มให้ตะวันที่ตอนนี้มองใบข้าวด้วยสายตาเศร้าปนสงสาร 

ใบข้าวแมมปากแน่น (ขอร้อง   อย่ามองกูด้วยสายตาแบบนี้) “อะเออ  คุยกันไปก่อนนะ  เดียวฟ้ามานะ” หลังจากฟ้าเดินจากห้องไป  ทั้งสองยังคงเงียบไรซึ่งการสนทนาใด ๆ  มีเพียงสายตาประสานกันด้วยความรู้สึกหลากหลาย 

โดยตะวันค่อย ๆ  เดินไปหาใบข้าว “เจ็บไหม” แล้วจับไหล่คนตรงหน้าที่ปัดมือเขาออกโดยไม่รู้ตัว “อย่า......อะเออ  ไม่เจ็บแล้ว   นายจะกลับอังกฤษตอนไหนเหรอ” ตะวันขมวดคิ้ว  นี่ใบข้าวไม่รู้เหรอว่าเขากลับมาอยู่ที่นี่เพื่อสืบทอดงานที่บ้านและคงไม่กลับไปที่อังกฤษแล้ว

“ยังหรอก  อีกนาน”

“เหรอ”

“มึงไม่อยากรู้เหรอว่ากูทำไมไม่กลับอังกฤษซะที” ตะวันบอกพลางสังเกตุท่าทีของใบข้าว “ไม่อยากรู้หรอก  มันเรื่องของมึงไม่ใช่เหรอ” ใบข้าวพูดออกไปแต่อีกใจก็อยากรู้เช่นกัน  “กูมาหาคนรักนะ  กะว่าจะให้แม่ไปขอ ^^” ภายในใจของใบข้าวเต้นแรงโดยไม่เข้าใจว่าทำไม แต่เขารู้สึกไม่ดีเลยที่ตะวันมีคนพิเศษแล้ว “ระเหรอ” ตะวันยิ้ม เดินเข้าใกล้ใบข้าวอีกนิด  “นี่ไม่รู้จริงใช่ไหม  ก็คน..................”

“ตะวัน  พี่ใบข้าวเราไปซื้อของกันเถอะ วันพรุ่งนี้เราต้องกลับหอแล้วด้วย” น้ำฟ้าเปิดประตูเข้ามายิ้มให้ทั้งอย่างสงสัย

“อะไรอ่ะ  ทั้งสองคนไปกันเถอะ”

 “พี่ขอผ่าน   อยากพักผ่อนมากกว่า  ทั้งสองคนไปกันเถอะ” น้ำฟ้าทำแก้มป่อง อย่างเซ็ง “ถ้าพี่ใบข้าวไม่ไป  ฟ้าก็ไม่ไป   เออ จริงซิ  ตะวันวันนี้นายจะค้างที่นี่ไหม” ตะวันมองหน้าใบข้าวแล้วหันไปหาน้ำฟ้า “นอนซิ  ไม่ได้มาพักที่นี่นานเลย”

“อืม  แต่ฟ้าจะมาอยู่เป็นเพื่อนพี่ใบข้าวนะ  ตะวันนอนไหน” น้ำฟ้าพูดแล้วมองตะวันที่หันไปหาใบข้าวแล้วยิ้ม 

“ฟ้านอนไหนตะวันก็นอนที่นั้นแหละ  แต่เจ้าของห้องจะให้เรานอนหรือเปล่าน่า”  ใบข้าวมองสายเว้าวอนของทั้งสองแล้วรู้สึกหงุดหงิด  ถ้าอยากจะมานอนห้องเขาก็พูดมาตรง ๆ  เลยซิ “พี่ใบข้าวให้ตะวันนอนด้วยนะ นะ นะ พี่ใบข้าว” น้ำฟ้าส่งสายตาวิ้ง ๆ ไปให้ใบข้าวอีก“อืม” 

จากนั้นน้ำฟ้าและตะวันยังคงอยู่ในห้องของใบข้าว  พูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนหันไปหาใบข้าวที่ตอนนี้หลับไปกับเก้าอี้นั้นอย่างเงียบ ๆ  จนตะวันต้องอุ้มใบข้าวมาวางไว้บนเตียง  ส่วนน้ำฟ้าเอาผ้ามาห่มให้แล้วทั้งสองจึงเดินออกจากห้องไป  ระหว่างที่เดินลงไปนั้น   ตะวันถูกคุณกิตติเรียกให้มานั่งคุยในห้องรับแขก  โดยคุณกิตติเป็นคนพูดขึ้นมา

“ฉันไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไงดี   แต่ตะวันช่วยปกป้องน้ำฟ้าจากใบข้าวแทนฉันได้ไหม” คุณกิตติยื่นไปจับมือตะวันแน่นกับสายตาเศร้า “อะ เออ คุณกิตติหมายความอย่างไงครับ  ที่ผมเห็นใบข้าวก็รักน้องชายอย่างน้ำฟ้ามาตลอด” ตะวันบอกมองไปยังคุณกิตติกำลังทำท่าถอนหายใจด้วยความเคร่งเครียด

“ก็ตั้งแต่ใบข้าวถูกจับไป  ก็เอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของฉันแล้วก็พรานไปถึงน้ำฟ้า”ตะวันกำมือแน่นฟส่วนคุณกิตติยิ้มมุมปากแล้วเล่าต่อ

“ฉันก็เข้าใจความรู้สึกของใบข้าวนะที่ต้องเจ็บตัวแทนน้ำฟ้า  แถมยังเจอพวกมัน .....” คุณกิตติเงียบชำเหลืองมองท่าทีของตะวัน “พวกมันทำอะไรครับคุณกิตติ” ตะวันร้อนรนไม่อยากให้สิ่งที่เขาคิดเป็นความจริงเลย “พวกมัน...........”

“บอกผมเถอะครับ”   

“พวกมันข่มขืนใบข้าว” สิ่งที่ได้ยินทำให้ใจของเขาแทบหยุดเต้น  ว่าคนที่เขารักเจอกับอะไรมา  “ตอนนี้จิตใจของใบข้าวไม่เป็นปกติซักเท่าไร  แล้วอาจจะทำร้ายน้ำฟ้าก็ได้   อย่างไงตะวันช่วยดูแลน้ำฟ้าให้ฉันด้วยเถอะ  ถือว่าฉันขอร้อง”

“ได้ครับ  ผมจะดูแลน้ำฟ้าและใบข้าวเอง” คุณกิตติกำมือแน่นถึงจะไม่เป็นไปตามที่คาดอย่างน้อยมันก็เป็นไปตามแผนของเขา
   
หลังจากคุยกับคุณกิตติเสร็จตะวันเดินเข้าไปยังห้องของใบข้าวที่ตอนนี้นอนหายใจสม่ำเสมอบนเตียง  โดยไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนจับมือเขาไว้แน่นกับเสียงกระซิบอันแผ่วเบา “ใบข้าวกูจะดูแลมึงเอง”  ตะวันค่อย ๆ  จูบบนหน้าผากของใบข้าวอย่างนุ่มนวล เอามือลูบหัวอย่างเอ็นดูแล้วหันไปหาน้ำฟ้าที่เดินเข้ามาพอดี “อะ แฮ่ม ตะวันปลุกพี่ใบข้าวไปกินข้าวกัน”  ^^

“อืม  ใบข้าวตื่นได้แล้ว”ตะวันเขย่าตัวใบข้าวค่อย ๆ  ลืมตาขึ้นมาอย่างตกใจ “ยะ อย่า  ปะปล่อยกู” ผลักตะวันให้ออกห่างแล้วรีบลุกขึ้นไปอยู่อีกฝั่งด้วยตัวสั่นเทา แต่พอใบข้าวรู้สึกตัวก็พยายามหยุดไม่ให้ตัวเองสั่น

“อะ เออ น้ำฟ้ากับตะวันลงไปกินข้าวก่อนเถอะ กูไม่หิว” ตะวันเห็นท่าทางสั่นเทาของใบข้าวก็ยิ่งโมโหตัวเองที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ “งั้นเดียวผมเอาข้าวให้นะครับ”น้ำฟ้าบอกพลางจูงมือตะวันออกจากห้องไป ส่วนใบข้าวค่อย ๆ  ทรุดตัวลงกับพื้นอย่างโล่งใจ  มองทั้งสองจูงมือกันออกไป   อย่างไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมเขาถึงความรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นสองคนนี้อยู่ใกล้กัน  เขาไม่ชอบเอาเสียเลย 

 21.00  น.

น้ำฟ้าและตะวัน  เข้ามานอนในห้องของใบข้าวพร้อมขนมกับแผ่นเกมส์มากมายที่ใบข้าวเคยเห็นแต่ไม่เคยได้มีโอกาสได้เล่นซักครั้ง   เพราะสิ่งนั้นมันอยู่ที่ห้องของน้ำฟ้าและคุณตาไม่อนุญาตให้เขาเข้าไป   เขาจึงทำได้เพียงฟังจากเพื่อน ๆ คุยกันหรือถามจากภัทร   พอได้ลองเล่นเกมส์ดูแล้วก็เข้าใจได้เลยว่าทำไมทุกคนถึงอยากเล่นไอ้เกมส์ พะเพอะไรเนี่ยกันจัง  “ อีกสองอาทิตย์ฟ้ากับใบข้าวจะเรียนจบแล้วใช่ไหม” ตะวันเอ่ยขึ้นทำให้ทั้งสองมองหน้ากันแล้วพยักหน้าตอบ 

“แล้วปิดเทอมแค่ไม่กี่อาทิตย์เอง  สองคนมีแผนไปเที่ยวไหนกันหรือยัง” ตะวันบอกแต่สายตามองไปยังใบข้าวนิ่ง “มีซิตะวัน  ฟ้าอยากไปทะเล  พี่ใบข้าวก็อยากไปใช่ไหม” เอามือเขย่าแขนใบข้าวที่ถอนใจเล็ก ๆ แต่ก็พยายามยิ้มให้กับน้ำฟ้า

“อืม”

“งั้นกูไปด้วยละกัน  ช่วงนั้นหยุดพอดี” ตะวันยิ้มแล้วหันไปเล่นเกมส์ต่อ “จริงเหรอดีจังเลย  อะ หาว  ฟ้างัวแล้วไปนอนก่อนนะ” ฟ้าพูดเสร็จค่อยนั่งลงแล้วนอนบนเตียงโดยไม่สนใจทั้งสองที่มองหน้ากันนิ่ง   

เวลาผ่านไปยังคงไร้ซึ่งการสนทนาของทั้งสองเช่นเคยจนใบข้าวทนไม่ไหวจึงลุกขึ้นหมายจะเดินไปนอน  แต่ก็ถูกตะวันรั้งเ อาไว้   “ถ้าเศร้า  ท้อแท้หรืออยากระบาย  มาคุยกับกูได้นะ  ถ้าอายจะคุยกับตัวแทนกูก็ได้”  ตะวันบอกพลางลุกขึ้นยืน  แต่ใบข้าวก้าวถอยหลังออกห่างอย่างระแวง “กูไม่ทำอะไรมึงเหรอ  อยู่เฉย ๆ  ” ตะวันยิ้มแล้วหยิบสร้อยคอรูปกางเขนในกระเป๋าแล้วค่อย ๆ  นำไปคล้องไว้ที่คอของใบข้าว 

“มึงจะทำอะไร” ใบข้าวดิ้นไปมาจนตะวันเริ่มหงุดหงิด  “อยู่เฉย ๆ  ซิวะ”เสียงดุของตะวันทำให้ใบข้าวตัวสั่นนิด ๆ ยืนกำมือแน่นพยายามข่มความกลัวนั้นออกไป  เพราะไม่อยากให้ตะวันเห็นในด้านอ่อนแอของเขา  ปล่อยให้คนตรงหน้าใส่สร้อยคอจนเสร็จ  (จุ๊บ) ริมฝีปากแตะลงบนหน้าผากของใบข้าวอย่างนุ่มนวลแต่คนถูกจูบนั้นมองหน้าตะวันนิ่ง  ไม่เข้าใจกับสิ่งที่ตะวันทำจึงได้แต่เดินถอยออกห่าง   มาเอามือเช็ดหน้าผากตัวเองอย่างร้อนรน “ทำอะไรของมึงเนี่ย”

“สุขสันต์วันเกิดนะใบข้าว  ถึงจะให้ช้าไปหน่อยไม่ว่ากันนะ” ตะวันยิ้มแล้วเดินไปใกล้ ๆ แล้วกระซิบที่ข้างหูของใบข้าว “ตัวแทนกูเชี่ยวนะดูแลให้ดี ๆละ” ใบข้าวหน้าแดงไปถึงหู ทำเอาตะวันอมยิ้มอย่างชอบใจกับปฎิกิริยาของคนที่เขารักมานาน

“มีมึงอยู่ใกล้  ๆ ไม่เอาอ่ะ” หมายจะถอดออกแต่ก็ถูกตะวันจับมือไว้ “ถ้าถอดกูโกรธ  คงรู้นะว่าจะเป็นอย่างไง” ใบข้าวปล่อยสร้อยคอออกแล้วเดินขึ้นเตียงไปนอนข้าง ๆ น้ำฟ้าโดยไม่สนใจตะวันที่ยังคงยิ้มแล้วเดินไปปิดไฟเข้านอน ปล่อยให้ใบข้าวหว้าวุ่นใจกับเรื่องของตะวันในวันนี้   ตะวันต้องการอะไรจากเขากันแน่หรือทำให้ตายใจจะได้กันเขาออกจากน้ำฟ้า  พอไม่ได้คำตอบจึงเลิกคิดแล้วพลอยหลับไป

( “เพียะ !  เป็นไงคนไร้ค่า”

“ฮะ ฮือ ปล่อยกู  อย่าทำกูเลย ฮือ ฮือ”   

“อะ อ่า  ตอดชิบหายเลยวะ  เพียะ!”

“ยะ อย่า  ทะทำ  กะกู  ฮึก ฮือ  ขะขอ  ระร้อง”   

“ได้ซิจ๊ะ”

“ มะ ม้ายยยยยยยยย”)

“เฮือก!  แฮ่ก ๆ  ” ใบข้าวสะดุ้งตื่นจากฝันร้าย  ลุกขึ้นนั่งเอามือเช็ดน้ำตาพลางมองไปยังน้ำฟ้านิ่ง (เพราะมึงน้ำฟ้า   เพราะมึง  กูเกลียดมึงกับปู่ของมึง) ใบข้าวยื่นมือไปยังคอของน้ำฟ้าอย่างเบามือ ค่อย ๆ เน้นหนักขึ้นเรื่อย ๆ  ทำให้น้ำฟ้าดิ้นไปมา  พยายามแกะมือของใบข้าวออก “ฮะ อือ อือ”
 
“เพล้ง”  เสียงแก้วน้ำแตกทำให้ตะวันตื่นขึ้นมาเห็นภาพตรงหน้า  จึงวิ่งไปดึงให้ใบข้าวออกจากห่างน้ำฟ้า “ใบข้าวหยุด  เดียวน้ำฟ้าก็ตายหรอก” 

“กูเกลียดมึง  กูเกลียดพวกมึง” ตะวันคว้าตัวใบข้าวออกห่างจากน้ำฟ้าได้สำเร็จ  ส่วนน้ำฟ้าหายใจอย่างเหนื่อยหอบ “ปล่อยกู”ใบข้าวยังคงดิ้นไม่หยุด   จนตะวันจะรั้งไว้ไม่อยู่ “เพี๊ยะ!   กูบอกให้หยุด” ใบข้าวหยุดการกระทำทุกอย่างแล้วมองตะวันนิ่ง  กับน้ำตาที่ค่อย ๆ ไหลออกมา “กะกูขอโทษ   กูนึกว่าเป็นพวกมัน”

“ไม่ต้องกลัวนะใบข้าวที่นี้ปลดภัยแล้ว” ตะวันดึงใบข้าวมากอดแล้วลูบหัวปลอบใจโดยไม่รู้เลยว่าคนที่ถูกกอดนั้นยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ (รอดไปนะน้ำฟ้า   แต่นี่นะแค่เริ่มต้นเท่านั้น)  “น้ำฟ้าเป็นอย่างไงบ้าง” ตะวันเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงจะเดินไปดูอาการแต่ก็ถูกใบข้าวกอดไว้แน่น

“ไม่เป็นไรหรอกตะวัน  แล้วพี่ใบข้าวละดีขึ้นหรือยัง” ตะวันหันไปมองใบข้าวที่ตอนนี้พลอยหลับลงไปทั้งน้ำตา จึงอุ้มไปวางไว้บนเตียง   หันไปดูอาการของน้ำฟ้าต่อ “ฟ้าสงสารพี่ใบข้าว   ถ้าฟ้าอยู่กับพี่ใบข้าวตลอดก็คงไม่เจอเรื่องแบบนี้” น้ำฟ้าพูดทั้งน้ำตา พลางมองไปยังใบข้าว

“อย่าโทษตัวเองแบบนี้ซิฟ้า  มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ฟ้าต้องเข้มแข็งเผื่อใบข้าวซิ” เอามือตบไหล่ให้กำลังใจน้ำฟ้า พยักหน้าตอบ “อืม  ฟ้าจะปกป้องพี่ใบข้าวเอง” ทั้งสองยิ้มให้กันโดยไม่รู้เลยว่าเจ้าของหัวข้อสนทนานั้น ตื่นอยู่และได้ยินทุกถ้อยคำ ภายในใจเขานั้นพองโตมันอบอุ่น แต่ไฟแค้นนั้นแรงจนทำให้ประโยชน์นั้นผิดเพี๊ยนไปในที่สุด (เรียกน้ำตาจากตะวันได้ดีเลยนะ  แต่กูไม่เชื่อคำของมึงหรอกน้ำฟ้า กูเจ็บแล้วจำและจะไม่หลงกลคนอย่างมึงอีก)

To Be Continued





ออฟไลน์ Moose

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1257
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
ไม่ชอบน้ำฟ้าอยู่ดีอ่ะ ดูตอแหลๆ ยังไงไม่รู้ ถึงคนแต่งจะบอกว่าน้ำฟ้าเป็นคนดีก็เหอะ  :katai1:

ออฟไลน์ pornumpai-ka

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 209
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-0
 :hao5: :hao5: :hao5:


ใบข้าวน่าสงสารน่ะ   ตกลงตะวันเป็นพระเอกใช่ป่ะ

มาต่อเร็วๆ น่ะ

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ถ้าตะวันจะโดนอิคุณตาหลอกแบบนีเราเชียร์พี่ภัทร(ที่ยังไม่มีบท)ได้มั้ย
ใบข้าวน่าสงสารเกินไปแล้วอ่ะ :hao5:

ออฟไลน์ kamikame

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-1
มันส์มากกกก กำลังอินเบยยยย
สนุกมากเลยนะฮ๊าฟฟฟ
อย่าลืมมาต่อน้าาา ^^"

ออฟไลน์ pannixz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 373
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
 :a5:
หายไปนานเชียว
 :m16:

ออฟไลน์ anuruk97

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 476
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-4
 :mew3:  ดีใจฟุดฟุด  ที่มาต่อ   :L1: เอาคืนทุกคนให้เติมที่เลยลูกแม่ ใบข้าวสู้ๆๆๆๆ ต่อไปพวกเราจะเห็นใบข้าวร้ายบ้างแล้วจงพลิกเกมแล้วเอาคืนอย่าสาสม กับพวกมันทุกคนโดยเฉพราะปู่

ออฟไลน์ ekonut

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 350
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-1
เข้าใจใบข้าวนะที่จะเสียใจที่โดนหักหลังแต่ก็ไม่อยากให้แก้แค้นแต่ก็อยากให้คุณตาได้รับบทเรียนเหมือนกัน เหอๆ อธิบายไม่ถูกอ่า
เอาเป็นว่าติดตามตอนต่อไป อัพไวๆนะค่ะ

Win

  • บุคคลทั่วไป
รอการแก้แค้นของใบข้าวต่อไป  มาต่อไว ๆ น่ะ :katai5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด