ตอนที่ 39ปึก!!!
แผ่นหลังของผมชนเข้ากับผนังห้องเต็มแรง อยากร้องบอกว่าเจ็บ แต่เห็นดวงตาที่เต็มไปด้วยโทสะของคนตรงหน้าแล้ว คิดว่าคงไม่ฟัง
“มึงคิดจะบอกกูเมื่อไหร่!”
“....”
“ตอบ!!!”
ผมไม่ได้อยากกวนตีนเมล แต่กำลังอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก เพราะนานมากแล้วที่ไม่ได้เห็นมันโกรธขนาดนี้ เคยแต่ทำหน้าอ่อนโยน ริมฝีปากคลี่ยิ้ม ไม่ว่าอะไรก็ตามใจผมเสมอ
แต่วันนี้...หลังจากที่มันเจอเอกสารพักการเรียนในกระเป๋าของผม ผมก็นึกภาพไม่ออกเลยว่า...มันจะเข้าใจผมได้ยังไง
“ทำอะไรคิดถึงใจกูบ้างมั้ยวะ”
“โอเค กูขอโทษ ก็คิดว่าจะบอก แต่มึงเสือกมาเจอก่อนไง”
“กูผิดใช่ไหม”
ผมพลาดเพราะปากผมเองเลยโดนมันกดไหล่แทบหักอย่างนี้ เพราะเมลอ่อนโยนตลอด จนผมลืมนึกไปว่ามันเป็นผู้ชายที่ตัวใหญ่กว่าผม แรงเยอะกว่าผม และเวลาโกรธก็น่ากลัวมากด้วย
“กูคิดว่าทำเรื่องเสร็จก็จะบอก ให้มึงรับรู้ไว้เท่านั้น เพราะไม่ว่ายังไงเรื่องนี้กูก็ไม่ต้องขอความเห็นจากมึงนี่ ปล่อยได้แล้วเมล กูเจ็บ”
เมลมองผมอย่างไม่เชื่อสายตา ความผิดหวังฉายชัดอยู่บนใบหน้าของมัน มือที่ยึดไหล่ผมไว้ ตกลงข้างตัวราวกับคนหมดแรง
“กูเป็นใครวะเท็น...สำหรับมึง กูเป็นตัวอะไรกันแน่วะ”
“....”
“กูไม่สำคัญอะไรเลยเหรอ”
ผมยื่นมือไปจับมือเมลไว้แต่ก็ถูกมันสะบัดออก ผมเลยเปลี่ยนเป็นการกอดตัวมันไว้แทน มันพยายามผลักออกเหมือนกัน แต่ไม่หลุดหรอก ผมกอดไว้แน่น
“สำคัญ มึงสำคัญมากนะ”
“แล้วทำไมทำแบบนี้ สำคัญแต่ไม่มีสิทธิ์ออกความเห็นอะไรในเรื่องของมึงเลยใช่ไหม”
“....”
“ถ้าอย่างนั้นเท็นจะทำอะไรก็ทำเถอะ”
“....”
“ปล่อยได้มั้ย อยากอยู่คนเดียว”
“ไม่โกรธใช่ไหม...”
“อืม”
“กูอาจไม่ได้กลับมาสักพักนะ...”
“อืม”
“เมล...หันหน้ามาหน่อยได้ไหม”
แต่คำขอของผมก็ไม่ได้รับการตอบสนอง โอเค...เมลคงกำลังโกรธ ไม่เป็นไร...ไว้มันอารมณ์ดีกว่านี้ เราค่อยมาคุยกัน
.
.
.
แต่ผ่านไปหลายวัน...อารมณ์ของเมลก็ดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น ระหว่างเรากลับมาแย่อีกครั้งเมื่อไม่ได้มองหน้าและยิ้มให้กันเหมือนเดิม อยู่ห้องเดียวกัน นอนเตียงเดียวกัน แต่ทำราวกับเป็นคนแปลกหน้า ผมพยายามเข้าใจว่าที่เมลเป็นแบบนี้ ต้นเหตุก็มาจากผมเอง
ผมไม่ได้คิดหรอกนะว่าถ้าบอกเร็วกว่านี้เมลมันจะไม่โกรธ เพราะต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ผมก็ยังคงจะทำอย่างนั้นอยู่ดี ผมไม่ใช่คนที่จะเสียใจกับการกระทำของตัวเองเมื่อเกิดเรื่องแย่ๆ ขึ้น ความคิดผมเมื่อเวลาเปลี่ยนแล้วก็ไม่ได้จะเปลี่ยนตาม ผมยังคงฝังหัวกับสิ่งที่ผมเชื่อ และต้องการ
มันถึงลำบากสำหรับเราสองคนในตอนนี้...
ผมไม่อาจบอกได้ว่าผมเป็นคนเดียวในโลกที่จะทำให้เมลมีความสุข ความรักของผมไม่ได้ยิ่งใหญ่ถึงขนาดที่จะทำให้ใครรู้สึกว่าเขาต่างจากคนอื่นได้
แต่ผมก็อยากให้เมลเชื่อในความรักในแบบของผม อยากให้เมลเข้าใจว่าผมพยายามปรับแล้ว แต่ผมเข้าไปใกล้มากกว่านี้ไม่ได้ แต่ถ้าหากเมลทนต่อไปไม่ไหว...ผมก็พร้อม...จะปล่อยมือ
ไม่ใช่ว่าผมไม่รัก...มันไม่ใช่แบบนั้นเลย
“อยู่ที่นี่เถอะ เดี๋ยวกูไปเอง” ผมบอกเมลที่กำลังเก็บเสื้อผ้า มันไม่ได้บอกว่าจะไปไหน เพราะหลังจากที่สอบเสร็จเราก็กลับห้องมาพร้อมกัน ระหว่างอยู่ในรถก็ต่างฝ่ายต่างเงียบ เราไม่ได้คุยกันถึงข้อสอบที่ทำไปวันนี้เหมือนอย่างทุกที มันขับรถไปเงียบๆ ส่วนผมก็นั่งฟังเพลงที่เปิดตามวิทยุไป
ผมยังเหลืออีกสามวิชาสำหรับไฟนอล เมลก็ไม่ต่างกัน มันไม่เป็นปัญหาสำหรับผมหรอกในเรื่องสอบ แต่ผมไม่รู้ว่ามันจะมีสมาธิสอบไหม
“มึงจะไปไหน”
“กลับบ้าน มึงตั้งใจอ่านหนังสือไปเถอะ แล้วเจอกัน”
“อืม”
ผมมองแผ่นหลังของเมลแล้วก็ไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกตัวเองยังไง... มันอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ...ถ้าเราดับเครื่องชนใส่กันไปซะ คงไม่ต้องมารู้สึกอิหลักอิเหลื่อกันอยู่แบบนี้ แต่ที่มันเงียบ และผมก็เงียบ มันเลยทำให้...ไม่รู้จะพูดอะไรกันดี
“เมล...ถ้าเจอใครที่ให้มึงได้มากกว่ากู...ก็อย่าลังเลที่จะทำความรู้จักเขานะ”
“พูดแบบนี้มึงหมายความว่าไง!”
“....” ผมมองหน้าเมลที่ขึ้นสีนิดๆ เสียงตวาดของมันเมื่อกี้ทำเอาผมพูดไม่ออกไปเลยทีเดียว
“มึงพูดอะไรไม่คิดถึงใจคนฟังบ้างวะ!! อยากให้กูไปจากมึงมากใช่ไหม! ต้องการอย่างนั้นใช่ไหม! แล้วมึงจะได้ทำอะไรก็ได้โดยไม่ต้องมีกูคอยเกะกะอีก ถ้าจะเอาอย่างนั้นก็ได้! กูจะทำให้! จะได้จบๆ กันไปสักที! กูก็เหนื่อยมามากแล้วเหมือนกัน”
ผมทำได้แค่เงียบ เพราะสมองอยู่ๆ ก็คิดอะไรไม่ออก ความรักสำหรับผมแล้วเป็นอะไรที่เข้าใจยากและซับซ้อน แต่คนรักนั้น...มันซับซ้อนมากยิ่งกว่า
“ไปเถอะเท็น...ปล่อยกูไว้แบบนี้เถอะ กูไม่เป็นไร”
ผมสวมกอดเมลจากข้างหลัง มันทำแค่ยืนนิ่งๆ ปล่อยให้ผมซบหน้าลงกับแผ่นหลังของมันอยู่อย่างนั้น ความเงียบไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวเลยสำหรับผม แต่ตัวที่สั่นเทาของเมลต่างหาก...ที่ทำให้ผมกลัว
“ถ้ามันจะดีกับเราทั้งสองคน...เอาอย่างนั้นก็ได้”
ผมคลายแขนออกจากตัวของเมล ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องมา แต่คำพูดของเมลที่ดังตามมา มันทำให้ใจผมเต้นผิดจังหวะไปเหมือนกัน
“มันไม่ดีกับกูเลยเท็น มันดีกับมึงคนเดียวต่างหาก”
...ผมกำลังแลกความต้องการของตัวเองกับความรู้สึกของคนรักของผมใช่ไหม...
.
.
.
ผมกลับมาที่บ้าน เจอไอ้กัสนั่งป้อนปลาแห้งให้ไอ้เป๊บอยู่แต่ก็ไม่ได้ทักมัน ไอ้ฟิวที่เพิ่งออกจากครัวมาพร้อมกับแพนเค้กจานใหญ่ๆ กำลังอ้าปากจะพูดกับผมแต่ก็ชะงักไป
ผมเดินขึ้นห้องมา เจอเตียงก็ล้มตัวลงนอนแผ่หรา ดวงตาจ้องมองเพดานห้อง รู้สึกตอนนี้ไม่อยากแม้แต่จะกระดิกตัว
แค่สมองกำลังคิด...ผมก็เหนื่อยมากแล้ว
เมลไม่เห็นด้วยที่ผมจะพักการเรียน...อันนั้นผมรู้ดีอยู่เต็มอก แม้เรื่องนี้จะมีทางออกให้เลือกอีกมากมาย แต่สุดท้ายมันก็หลีกเลี่ยงความจริงไม่ได้เลยว่า ความต้องการของเราไม่ตรงกันตั้งแต่แรก
จากที่คิดว่าดีหากจะพักการเรียนไปทำสิ่งที่ตัวเองต้องการ ตอนนี้มันกลับดูไร้สาระมากเมื่อพบว่าผมต้องแลกกับอะไรบ้างสำหรับความต้องการในครั้งนี้ แย่ว่ะ...แย่มากด้วย ในสมองผมมีแต่คำนี้ลอยวนอยู่เต็มไปหมด
ปล่อยมือจากเมลน่ะเป็นความคิดง่ายๆ แต่ทำจริงๆ ไม่ว่าผมจะเก่งแค่ไหนก็ทำไม่ได้อยู่ดี ความผูกพันธ์ ความรัก และความทรงจำระหว่างผมกับเมลมีมากเกินไป มากจนมันสามารถทำให้ผมทุรนทุรายได้ถ้าหากต้องพบว่าหันมองไปทางไหนก็ไม่เจอมัน
“เท็น กูเข้าไปได้ไหม” ไอ้กัสยืนอยู่หน้าประตูห้องที่ก็ไม่รู้ว่ามันเปิดอ้ากว้างอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมคงจมอยู่กับความคิดของตัวเองมากเกินไปจนไม่ได้ยินเสียงประตูเปิดเข้ามา
“มีอะไร?”
“เป็นไรไปวะ”
“เปล่า”
ไอ้กัสเดินเข้ามานั่งลงข้างๆ มันหันมามองก่อนจะล้มตัวลงนอนหนุนแขนผม
“อ้อนอะไรของมึง” ผมถามพลางลูบหัวมันเบาๆ ถึงจะดูห่ามๆ มากแค่ไหน ยังไงมันก็เป็นผู้หญิง
“เห็นมึงทำท่าจะไม่ไหว เลยอยากกอด”
“น้ำเน่า”
“ทะเลาะกับไอ้เมลมาเหรอวะ”
“เปล่า”
“โกหก”
“ถามมากอีกกูจะไล่ออกห้อง”
ไอ้กัสกัดแขนผม ผมเลยผลักมันออกจนมันกลิ้งแทบตกเตียง
“ไปๆ เป็นสาวเป็นนาง เข้าห้องผู้ชายได้ไง ออกไปได้ละ”
“เหี้ยเท็นแม่ง -*-”
“หึหึ บอกไอ้ฟิวทำผัดไทยกุ้งสดให้กูด้วย”
“เออๆ กลับมาไม่ทันไรก็ใช้กูเลยนะมึง”
“ฝึกไว้ไง เผื่อป๋ากูยังไม่ถอดใจจับมึงมาเป็นเมียกู จะได้ใช้งานคล่องหน่อย”
“ถุยยยยย ชาติหน้ากูก็ไม่ยอมมึงหรอก”
ผมหัวเราะไล่หลังไอ้กัสที่ยกนิ้วกลางมาให้ แต่หลังจากที่ประตูปิดลง ความเงียบก็เข้ามาครอบงำผมตามเดิม
เอาไงดีวะ ไอ้เหี้ยเอ้ย! กูแม่งเก่งแต่เรื่องอื่น พอมาเรื่องเมลนี่โง่ตลอด แต่ก็อยากไปพะเยาอ่ะ จัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว จะไม่ได้ไปเหรอวะ?
อยากกรีดร้องจริงๆ ไอ้เป๊บอยู่ไหน มาให้ผมเตะระบายอารมณ์สักทีเถอะ
...........................To be continue........................................
เท็น 
อารมณ์ประมาณ เข้าใจแต่ทำไม่ได้ รักเราไม่เท่ากัน บลาๆๆๆ