ตอนที่ 36ในขณะที่คุณกำลังหลับตา ถ้าคนที่คุณกำลังคิดถึงมาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้าคุณทันทีที่คุณลืมตา นั่นก็หมายความว่า...เขากำลังคิดถึงคุณเช่นกัน
มันก็แค่...ความคิดของคนเขียนบทความคนหนึ่งที่ผมอ่านเจอ แต่ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่เชื่อนะ ^^
“ว้า...นึกว่าใคร คิดถึงกูอยู่เหรอ ^^” ผมถามคนที่ในมือถือหนังสือเล่มหนาและกำลังมองหน้าผมอย่างสงสัย
“อาการกำเริบเหรอ กูบอกแล้วให้กินยาๆ ก็ไม่เชื่อ -_-“ ดูปากมันนะ น่าถีบจริงๆ
“ไอ้ห่าเมล”
“ฮ่าๆๆๆ ก็จริงอ่ะ คุยกันอยู่ดีๆ แม่งหลับตาเฉย พอลืมตาขึ้นมาก็ตั้งคำถามแปลกๆ”
“มึงไม่เข้าใจหรอกว่ะ มึงไม่ใช่สไตล์เดียวกับกู”
“ครับๆ กูดีใจครับที่ไม่ใช่สไตล์เดียวกับมึง แล้วนี่เอาแสตมป์เยอะแยะนี่มาจากไหน”
“กูไปไถไอ้แม็คกับไอ้ฟิวมา”
“เพื่อ?”
“อยากได้ของอ่ะ”
เมลทำหน้าเอือมๆ ก่อนจะกวาดตามองสมุดสะสมแสตมป์ที่ผมหยิบของไอ้ฟิวกับไอ้แม็คมาแบบไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของ เอาจริงๆ คือพวกมันไม่รู้หรอกว่าแสตมป์เซเว่นที่พวกมันสะสมหายไป
“มึงนี่ อยู่เฉยๆ ไม่ไปแกล้งพวกมันจะได้มั้ยเนี่ย”
“ไม่ได้อ่ะ กูไม่มีอะไรทำ”
“เออนะ เจริญจริงๆ เดี๋ยวฟิวกับไอ้แม็คได้มาโวยวายใส่กูอีก ไหน ของอะไรที่อยากได้”
“กล่องนี่กับโต๊ะนี่อ่ะ”
“เอาแบบนี้ป่ะ เดี๋ยวกูซื้อให้ แต่ต้องเอาแสตมป์ไปคืนพวกมัน”
“มันไม่เหมือนกันอ่ะเมล มึงเข้าใจฟิลลิ่งการสะสมแสตมป์แล้วไปแลกเป็นของป่ะ มันแบบ ไม่เหมือนของที่ซื้ออ่ะ”
“แต่นี่มึงก็ไม่ได้สะสมเองนะ ยังไงก็ไม่ได้ฟิลอะไรอยู่แล้ว เอาไปคืนเถอะน่า”
“ไม่”
“-_- คนที่ซวยอ่ะกู ถ้ารักกู อย่าทำกูลำบาก”
“มึงก็เว่อไปนะเมล เดี๋ยวกูมา ไปเซเว่นแป๊บ”
“ดูนะ ดื้อไม่ฟังกูเลย แม่สอนมาว่าไงห้ะ”
ทั้งแม่ผมและคุณแม่เจนฟังความข้างเดียวจากเมลประจำอ่ะ ความจริงผมก็ไม่ได้ดื้ออะไรเลยนะ โตแล้ว คิดได้ ใช้ชีวิตเป็น -_-
“ไม่ฟังไม่สน เก็ทมั้ย”
“เออๆ งั้นซื้อกาแฟมาให้กูด้วยละกัน”
“โอเค ไปละ”
ผมเดินอ้อมโซฟาไปหาเมล ก้มลงจูบหน้าผากมันหนึ่งทีแล้วเดินออกจากห้องมา
ครืดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดดดด
โอ๊ะ ไอ้ฟิวโทรมา รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างมาตามสายเลยแฮะ
(เหี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยเท็นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน)
“โอ้ สวัสดีตอนเช้ามายเฟรนด์”
(มึงงงงไอ้เลวววววววว แสตมป์เซเว่นกูหายไปไหน!!!! สมุดสะสมสิบห้าเล่มของกูหายไปจากเซฟ!! มึงใช่มั้ยที่เอาไป ห้ะ! ไอ้โจรชั่ว!)
“ใส่ร้ายกูอ่ะ”
(มีแต่มึงกับกูที่รู้รหัสเซฟ อย่ามาเนียนไอ้เท็น ไอ้กัสบอกว่าเห็นมึงมาที่บ้านเมื่อคืน เอามาคืนกูเลยนะ ไอ้ห่า กูเก็บมาหลายเดือน เอาคืนมาาาาาาาาาา!!)
“กูไม่ได้ขโมยนะ มันอยู่ในตู้เซฟกูก็เป็นของกูสิ ใครใช้ให้มึงเอามาใส่ไว้ล่ะ หือออออ”
(กูแค่ฝากไว้เฉยๆ เว้ยยยยย!! เอาของกูคืนมานะ)
“อยากได้คืนจริงง่ะ?”
(มึงไม่ต้องมาทำเสียงแอ๊บแบ๊วกวนตีน มันไม่เข้ากับหน้ามึงไอ้เท็น)
“งั้น...กูทิ้ง”
(เดี๋ยวๆๆๆ โอเคๆๆ มึงต้องการอะไร กรุณาอธิบายและเอาของของกูมาคืนด้วย!)
“ก็ไม่อะไรมาก แค่ไปดูตัวแทนกูหน่อย แค่นั้นแหละ”
(ห้ะ! มึงว่าไงนะ!)
“ก็อย่างที่บอกไป ป๋ากูแม่งเริ่มวุ่นวายละ เรื่องนี้แม่ไม่รู้ด้วย เอาเป็นว่าดูตัววันเสาร์หน้ามึงไปแทนกูละกัน คงไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากได้ผัวน่ารักกว่าตัวเองหรอก หึหึ”
ผมจะไม่สนใจเรื่องนี้ก็ได้ แต่ผมยังหวังผลประโยชน์ระยะยาวกับป๋าอยู่ล่ะนะ ขัดใจป๋าคงไม่ใช่เรื่องดีตอนนี้
(ไม่ๆๆๆๆๆๆๆ กูไม่ไปเด็ดขาด)
“มึงไม่เสียดายแสตมป์ที่สู้อุตส่าห์เก็บสะสมมาหลายเดือนจริงอ่ะ? ไม่เอาจริงๆ น่ะเหรอ? หืมมมม”
(มึงนี่มัน...)
“เอาน่ะ แค่ไปบอกปฏิเสธฝ่ายหญิงให้กูแค่นั้น แล้วมึงจะได้สมุดของมึงคืนไปครึ่งหนึ่ง”
(เฮ้ย! ทั้งหมดสิวะ)
“ไม่ได้ กูก็อยากได้ของเหมือนกันนะ”
(แล้วทำไมมึงไม่เก็บเองเล่า!)
“ก็ไม่รู้สิ”
(กวนตีนมากเหี้ยเท็น มึงเอาของกูคืนมาให้หมดเลยนะ แล้วกูจะไปไถของไอ้เต๋อมาให้ โอเคมั้ย)
“ยังไงก็ได้ ให้กูได้กล่องครบสิบกล่องเป็นพอ แค่ของไอ้แม็คที่กูได้มาก็ได้แค่สามกล่อง”
(นี่ไอ้แม็คก็โดน? โหยยย ไอ้ชั่ววววววว!!)
ผมตัดสายหลังจากปล่อยให้ไอ้ฟิวด่าว่าไอ้ชั่วอยู่หลายนาที ความจริงผมก็ไม่อยากได้อะไรมากหรอก เห็นไอ้แม็คกับไอ้ฟิวมันซึมๆ เลยอยากเพิ่มสีสันให้ชีวิตพวกมันแค่นั้น จริงๆ นะ เชื่อเถอะ ^^
หลังจากเดินสำรวจของในเซเว่นแล้วหยิบขนมใส่ตระกร้าได้สักพักใหญ่ผมก็จ่ายเงินและเดินไปร้านประจำใต้คอนโดเพื่อซื้อกาแฟให้เมล แต่ใครๆ ก็รู้ว่าโลกนี้มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ผมเลยซื้อนมปั่นสองแก้วกับเค้กอีกสองชิ้นแทน
“ดีจริงแฟนกู สั่งกาแฟแต่ไม่เคยได้กาแฟ -_-“
“แล้วจะให้ทิ้งมั้ย”
“เสียดายของน่า แล้วนี่ทำไมไปนาน ไม่ใช่ไปขายขนมจีบให้ลูกป้าเจ็งอีกล่ะ”
ป้าเจ็งคือป้าเจ้าของร้านซักรีดใต้คอนโดนี่เอง แล้วลูกสาวป้าก็เป็นเด็กมัธยมตัวเล็กน่ารัก ตอนแรกผมก็ไม่รู้จักหรอก แต่เมื่อเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมาน้องหมวยเอากล่องดนตรีมาให้ผมด้วยท่าทางเขินจัดโดยมีเมลจ้องเขม็งตาไม่กระพริบ นั่นล่ะถึงเป็นจุดที่ทำให้เมลคิดว่าผมไปขายขนมจีบให้น้องหมวย -_-
ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ผมน่ะ อยู่เฉยๆ ก็มีผู้หญิงมาแอบชอบ ไม่เห็นต้องไปจีบให้เสียเวลาเลยนี่หว่า
“เมลอ่า กูเบื่อ ขอไปเที่ยวสักอาทิตย์หนึ่งได้ป่ะ”
ผมคิดมาได้สักพักแล้วว่าอยากออกไปตามหาความฝันของตัวเอง ผมคิดจริงๆ นะว่าถ้ายังล่องลอยอยู่แบบนี้ ผมจะตายไปแบบไร้ค่ามาก ตายไปทั้งๆ อย่างนี้คงไม่มีใครจดจำผมได้แน่ เฮ้อ
“จะไปไหนล่ะ แล้วงานสอนที่รับปากแม่ไว้ จะทำยังไง”
“ก็นั่นแหละปัญหา กูไม่น่าเอาเชือกมาผูกตัวเองเลยเนี่ย”
“หึหึ มานี่มา ปล่อยให้อยู่เงียบๆ คนเดียวทีไร แม่งฟุ้งซ่านทุกที”
ผมเดินไปตามมือที่กวักเรียก ก่อนจะนั่งลงบนตักของเมล มันวางหนังสือที่กำลังอ่านอยู่แล้วโอบรอบเอวผมไว้
“เมื่อกี้ฟิวกับไอ้แม็คโทรมาถามเรื่องสมุดสะสมแสตมป์ คงอยากแน่ใจว่าอยู่ที่มึงนั่นแหละ กูเลยบอกว่าให้โทรถามมึงเอง”
“อือ ไอ้ฟิวโทรมาแล้ว แต่ไอ้แม็คยัง”
“คงกำลังคิดหาคำด่าเจ๋งๆ อยู่มั้ง”
ผมยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ ไอ้พวกนี้อ่ะแปลก เวลาโดนผมแกล้ง เมลเป็นคนแรกที่พวกมันจะโจมตี แต่พอแน่ใจว่ายังไงเมลก็ไม่จัดการผมนั่นแหละ พวกมันถึงจะกล้ามาคุกคาม ฮ่าๆๆๆ แต่ผมก็ไม่ได้อะไรนะ พวกมันกลัวกันไปเองมากกว่า บางทีผมก็คิดเหมือนกันว่าถ้าไม่มีผม เพื่อนๆ คงสนุกมากกว่านี้
“เมล เปลี่ยนน้ำหอมเหรอวะ หอมอ่ะ” ผมฝังจมูกลงบนซอกคอขาวๆ ของเมล กลิ่นนี้ดีกว่ากลิ่นที่มันเคยใช้ประจำแฮะ
“ได้ผลแฮะ แม่มึงส่งมาให้ บอกว่ามึงชอบกลิ่นแบบนี้”
“ดีจริงเลยคุณแม่ที่รัก ลูกชายตัวเองไม่ส่งให้ ”
“เอ้า ทำหน้าบึ้ง ฮ่าๆๆๆ ว่าแต่กู แล้วเสื้อที่ใส่นี่คืออะไร หือออ แม่กูไม่ได้ซื้อจากฝรั่งเศสมาให้มึงรึไง กูยังได้แค่บ๊อกเซอร์เลยนะ”
“ช่วยไม่ได้”
เมลดีดแก้มผมเบาๆ ก่อนจะแกล้งเอาจมูกโด่งๆ ของมันมาไซ้ที่แก้มผม ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ จั๊กจี้อ่ะ
“เขินเหรอ แก้มแดงเลย”
“เพราะมึงอ่ะ เอาผิวหยาบๆ มาถูแก้มกู”
“ไหนๆ มาทดสอบอีกทีดิ๊”
“ม่ายยยยยยยยยยยยยยยย อย่านะ!!”
“หึหึหึ”
ผมไม่ได้ตัวเล็กแรงน้อยเหมือนไอ้ฟิวนะ แต่สู้กับเมลนี่ขอยอมแพ้จริงๆ ถ้าโดนมันกดแขนกดขาไว้แล้วก็ดิ้นไม่หลุดอ่ะ เลยจำต้องโดนมันทรมานอยู่นาน หัวเราะจนปวดท้องเลยนะคิดดู แล้วมันก็ไม่สงสารผมเลย นี่ถ้าผมหัวเราะจนขาดใจตายไปจะเป็นผีมาหักคอมัน -*-
“น้องเท็นเป็นอะไรครับ นั่งแก้มแดงปากแดงเลยเนี่ย ฮ่าๆๆ”
“ตลกมากกกกกก เดี๋ยวๆ มึงเจอ”
“เจออะไรเหรอครับ ^^”
“ไม่รู้เว้ย ยังคิดไม่ออก แต่มึงเจอแน่ ไม่ต้องมากอดเลย จะกลับบ้านแล้ว คิดถึงไอ้เจค”
“ลุงชิดพามันไปออกกำลังกายไม่ใช่ไง มึงบอกเองว่าให้มันลดน้ำหนัก ป่านนี้แดกไอ้เจมไปแล้วมั้งน่ะ”
“ปากเสีย สักวันไอ้เป๊บมึงได้โดนแดกเหมือนกันนั่นล่ะ”
“-_- มึงนี่ไม่ถูกกับไอ้เป๊บจริงๆ นะ เกลียดมันเหรอ”
“เปล่า แค่หมั่นไส้ มันก็ไม่ชอบหน้ากูอ่ะ เจอทีไรจะข่วนกูทุกที”
“คิดไปเอง ไอ้เป๊บมันรักมึงนะ มันเลยอยากเล่นด้วย”
เวลาพูดถึงไอ้เป๊บทีไรเมลจะทำหน้าอ่อนโยนทุกที นั่นล่ะ...ผมถึงหมั่นไส้มัน -*-
“ไม่เห็นเป็นอย่างที่มึงว่า”
“จะไม่เป็นอย่างนั้นได้ไง ก็กูรักมึงนี่...ไอ้เป๊บก็ต้องรักด้วย”
เหมือนโดนหมัดอัปเปอร์คัทเข้าที่คางอย่างจัง ผมก้มหน้าหลบสายตาเลี่ยนๆ ที่มองมา ก่อนจะทุบอกเมลเบาๆ
“อ..อะไรของมึง”
“เขินตลอดเลย ว่าแต่แมวหิมาลายันของคุณย่าที่ท่านบอกว่าจะฝากไว้ก่อนบินไปรัซเซียอ่ะ เอาไง”
“ก็ต้องดูแลให้อยู่แล้ว ระหว่างนั้นเราก็ไปอยู่ที่บ้านละกัน ที่นี่เลี้ยงไม่ได้”
“อือ กูยังไงก็ได้อยู่แล้ว ถ้ามึงโอเคก็ไม่มีปัญหา”
ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อใจเมล และไม่ใช่ว่าผมไม่ไว้ใจไอ้ฟิว แต่ถ้าเป็นไปได้ผมก็ไม่อยากพาเมลไปค้างที่บ้านนักหรอก ผมก็แค่...สงสารไอ้มายด์
“ว่าแต่แมวของคุณย่าชื่ออะไรนะ”
“เบลล่า”
ดูชื่อ -_- กูหวังว่าไอ้เจคจะไม่จับแมวทำเมียนะ
.
.
.
“มึงมันน่าตีจริงๆ เป็นเด็กรึไงถึงได้เที่ยวแกล้งคนนั้นคนนี้ ไอ้แม็ค มึงก็พูดอะไรบ้างสิ เดี๋ยวไอ้เท็นมันก็ได้ใจกันพอดี”
พอไปรับเบลล่ามาจากคุณย่าของเมลแล้ว ผมกับมันก็ตรงมาที่บ้าน แต่ก็พบว่าตอนนี้แม่งวุ่นวายอย่างกะตลาดสด หาใช่บ้านที่เคยสงบสุขของผมไม่
ก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งแหละเวลาไอ้พวกเวรนี่บุกบ้าน -_-
“เอาน่าไอ้ฟิว แสตมป์ก็มีเยอะแยะ แบ่งๆ กันน่า” ไอ้แม็คว่าก่อนจะหันมายิ้มแฉ่งให้ผม “เหี้ยเท็น ดูนี่ ตากูเพ้นให้ เป็นลายกล้วยไม้ที่ได้รับรางวัล ตาฝากมาให้มึงด้วยหนึ่งตัวววว แท่นแท้นนนนน สวยใช่มั้ยล่ะ!!!”
ไอ้แม็คโชว์เสื้อยืดสีดำที่มีดอกกล้วยไม้สีสวยอยู่บนเสื้อ ผมตาลุกวาวแล้วรีบคว้าเสื้อมาจากมือไอ้แม็คทันที อะห้า!!! นี่แหละ! นี่แหละ!!
“สวยยยยยว่ะ! ไอ้แม็คคค กูขอด้วยยยยย” ไอ้เต๋อเสือกหน้าเข้ามาทันที
“มันเป็นของทำเองเว้ยยย อยากได้ต้องรอตากูมีอารมณ์ศิลป์อีกครั้งงง ครั้งนี้ให้ไอ้เท็นก่อน”
ไอ้แม็คนี่เป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ ผมเลยคืนสมุดสะสมแสตมป์ให้มัน ก่อนจะรับเสื้อมาชื่นชม เมลผลักหัวผมเบาๆ ก่อนจะเดินขึ้นชั้นสองไป
“เมล ไม่ต้องจัดเสื้อผ้าเข้าตู้นะ เดี๋ยวกูไปทำให้” ผมตะโกนตามหลังไป ก่อนจะหันมาพิจารณาลายของกล้วยไม้ต่อ
เอาจริงๆ คือมันน่าทึ่งมาก ชีวิตผมมีอยู่สองอย่างที่ทำไม่ได้ ก็ไม่เชิงว่าไม่ได้ แต่ทำแล้วมันห่วยแบบไม่น่าเชื่อ และหนึ่งในนั้นคืองานศิลป์
“มึงชอบล่ะสิ อิอิ”
“ชอบ สวยว่ะมึง แต้งกิ้ววววว”
“ไอ้แม็คคคค กูอยากได้บ้างงงง” ไอ้เต๋อยังไม่เลิกความพยายาม
“หุบปากไปเลยเหี้ยเต๋อ แล้วนี่ ตากูฝากมาให้ด้วย ตาชอบมึงมากนะเนี่ย ตั้งแต่ที่มึงไปดูโรงเพาะกล้วยไม้คราวนั้น ตากูก็พูดถึงมึงไม่หยุด” (มีสักตอนนี่แหละที่เท็นไป ฮ่าๆ)
“ตามึงเป็นคนดีจริงๆ ว่ะ ไม่เหมือนมึง ฮ่าๆๆ”
“เหี้ยเท็น ฟัคคคคค!”
ผมหอบเสื้อกับกระถางกล้วยไม้ขึ้นชั้นสองโดยมีเสียงด่าของไอ้แม็คไล่หลังและเสียงบ่นของไอ้ฟิวที่คร่ำครวญถึงแสตมป์ของมันไม่หยุด
“อ่านหนังสืออีกละ มึงกลายเป็นหนอนหนังสือไปตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” เข้ามาในห้องก็เห็นเมลตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสืออยู่ก่อนแล้ว
“ใกล้สอบกลางภาคแล้ว”
“อีกตั้งนาน -*- เพื่อนอยู่กันเต็มบ้าน ลงไปข้างล่างดีกว่าน่า”
“อือ ก็รอมึงจัดเสื้อผ้าเข้าตู้นี่ไง เดี๋ยวลงไปพร้อมกัน”
“ไม่อ่ะ กูจะนอน”
“-_- มึงนี่”
เมลลุกออกจากห้องไปเลยครับ ไม่รู้ว่าโมโหอะไรของมัน ขว้างหมอนมาโดนหัวผมด้วยอ่ะ นิสัยไม่ดีจริงๆ -*-
ผมเอาเสื้อที่ไอ้แม็คเพิ่งให้มาไปแขวน ก่อนจะยืนพิจารณาลายบนเสื้ออยู่สักพัก ตาของไอ้แม็คแม่งเทพจริง ลงสีได้โคตรสวยแถมภาพยังมีมิติ ผมต้องไปปวารณาตนเป็นศิษย์ของคุณตาแล้วล่ะ เผื่อสกิลทางด้านนี้จะกระเตื้องขึ้นมาบ้าง
ความจริงนี่เป็นจุดอ่อนเพียงไม่กี่อย่างในชีวิตผม และมีแค่สี่คนเท่านั้นที่รู้ ป๋าเป็นหนึ่งในนั้นและวันเกิดของป๋าทุกปี ป๋าจะรีเควสมาเลยว่าอยากได้อะไร และของที่ป๋าอยากได้ก็คือรูปที่ผมวาด จะเป็นรูปอะไรก็ได้ แต่ขอแค่ผมวาดให้ ป๋าก็พอใจทั้งนั้น
เป็นสิ่งที่ผมทำออกมาได้ไม่ดี...แต่ป๋ากลับชอบมัน ตอนอายุสี่ขวบผมอดถามป๋าไม่ได้ว่า ทำไมถึงพอใจกับของขวัญห่วยๆ ของผม และเพราะคำตอบในตอนนั้น ผมก็ไม่คิดจะถามอีกเลย
‘ป๋าไม่ได้คิดว่ามันไม่ดีที่เท็นเป็นคนเก่งแบบนี้ แต่การที่ชีวิตของคนเราไม่มีความผิดพลาดเลยก็เป็นเรื่องที่น่าหนักใจอยู่เหมือนกัน ป๋าไม่ได้ต้องการของที่สมบูรณ์แบบ แต่ต้องการของที่เท็นพยายามทำมันให้ดีที่สุดเพื่อป๋า เพราะมันไม่สวย ป๋าถึงดีใจและพอใจกับของขวัญที่เท็นให้’
นั่นเป็นคำตอบของป๋า ...พ่อที่ไม่เคยพูดชมผมเลยเวลาที่ผมได้รับรางวัลหรือเป็นที่หนึ่งในทุกๆ เรื่อง กลับแค่ดีใจกับรูปวาดห่วยๆ ของผม
‘ไม่มีใครพิเศษไปกว่าใคร ไม่ว่าลูกจะเก่งแค่ไหน แต่ลูกก็ยังเป็นมนุษย์ ป๋าไม่อยากให้เท็นลืมว่าสิ่งสำคัญของตัวเองคืออะไร ไม่อยากให้หลงระเริงไปกับคำพูดเยินยอของคนอื่น’
ผมไม่มีวันมีปีกงอกขึ้นมาจากหลังได้ และสุดท้ายแล้ว ผมก็ต้องตายเหมือนกับมนุษย์คนอื่นๆ ...
“เท็น ลุงชิดพาไอ้เจคมาแล้วนะ มึงมาช่วยกูดูไอ้เป๊บกับเบลล่าที รอจนกว่าไอ้เจคจะเข้าห้องก่อนค่อยปล่อยแมว”
เพราะเมลอุ้มแมวทั้งสองตัวเข้ามาในห้องผมนั่นล่ะ ผมถึงได้หลุดจากภวังค์
“เร็วๆ ด้วย ลุงชิดจะพาไอ้เจมไปบ่อนอีก กูว่าสิ้นเดือนมึงควรจะให้โบนัสลุงแกด้วยนะ นอกจากเป็นหัวหน้าคนสวนแล้วยังต้องมาเลี้ยงไก่เลี้ยงหมาให้มึงอีกเนี่ย”
“บ่นจริงเลย แล้วก็รีบๆ พาแมวออกไป ก็รู้ว่ากูไม่ชอบให้เอาสัตว์เข้าห้อง”
“มึงยังเลี้ยงปลาหมอสีไว้ในห้องเลยนะ”
“ไอ้ห่าเมลมึงปัญญาอ่อนป่ะเนี่ย กูหมายถึงสัตว์มีขน”
“กูก็มีขน”
“เออ ไอ้สัตว์ เป็นคนไม่ชอบอยากเป็นสัตว์ดีนัก ไปไกลๆ ตีนกูเลย เอาเบลล่ามานี่”
เบลล่าตัวสีขาวน่ารักกว่าไอ้เป๊บเยอะ มันชอบมาพันแข้งพันขาผมเวลาผมไปหาคุณย่าของเมล นี่ก็เรื่องจริงสินะที่ผมมีเสน่ห์กับเพศตรงข้าม หึหึ
“มึงไม่เปิดสวนสัตว์ไปเลยอ่ะไอ้เท็น แม่งงง กี่ตัววะเนี่ย” ไอ้เต๋อแกว่งปากขึ้นคนแรกหลังจากที่เห็นผมเดินลงบันไดมาพร้อมเมล
“รวมมึงด้วยก็ห้าตัว เบลล่า ไอ้เป๊บ ไอ้เจค มินนี่ แล้วก็มึงไง หึหึ”
“!$!@%@$^#&^%@#$%”
“พูดอะไรไม่รู้เรื่อง ติดต่อยานแม่เหรอ”
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จริงของไอ้เท็นว่ะ หน้ามึงแม่งงงง ต่างดาวชัดๆ” ไอ้แต้มละความสนใจจากเกมที่กำลังดวลอยู่กับไอ้มายด์มาสนับสนุนผมอีกคน
“ไอ้เมลลลลล มึงดูมันนนนนนนนน”
“แฟนกูไม่ใช่พ่อทุกสถาบันนะ ถึงมีอะไรก็ต้องฟ้องมันเนี่ย เดี๊ยะๆ หลังแหวน”
ไอ้เต๋อรีบกระโดดออกจากโซฟาไปหลบอยู่หลังเมล อ่า...แผนชิงที่นั่งสำเร็จ ฮ่าๆๆๆ
“ตัวก็ไม่ใช่เล็ก แล้วมาหลบหลังกู -_- อ่ะ ฝากอุ้มไอ้เป๊บแป๊บนะ ไปหาข้าวให้เท็นกินก่อน”
ไอ้เต๋อหน้าเหวอนิดๆ แต่ก็ท้วงอะไรไม่ทันเพราะเมลเดินลิ่วเข้าห้องครัวไปแล้ว ผมหัวเราะก๊ากใส่มัน ก่อนจะเปิดสงครามขว้างหมอนอิงใส่หัวกันจนโดนไอ้ฟิวด่าไปหลายรอบ เพราะไปรบกวนการถักเสื้อไหมพรมของมันเข้า
“ว่าแต่ไอ้เต้ไปไหนวะ” ผมถามถึงบุคคลที่ไม่ปรากฎตัว ณ ที่นี้ แต่ไอ้เต๋อรีบทำท่าจุ๊ปากใส่ซะก่อน แล้วก็เหลือบไปมองหน้าไอ้แม็คนิดๆ
“พาน้องอิงไปสวนสนุก นี่บอกเลย ปัญญาอ่อนชิบหาย มึงว่าป่ะ” ไอ้เต๋อก้มลงมากระซิบกระซาบกับผม
“เออว่ะ ความเห็นตรงกัน สงสัยแม่งยังไม่เลิกโง่”
“เขางอกเต็มหัวแล้วมัน กูว่าจะหาแฟนให้ไอ้แม็คสักคน จะได้ชัดเจนกันไปเลยว่าพวกมันจะเอายังไง”
“มึงอย่าไปยุ่งเรื่องคนอื่นเลยน่า”
“ไม่ได้เว้ย เห็นแล้วอดเสือกไม่ได้ กูเบื่อพวกซึนชิบหาย ดูอย่างกูนี่”
“ดูอย่างมึง? เออว่ะ ชัดเจนจนโดนจับแต่งงานนี่ดีสินะ เรียนก็ยังไม่จบ”
“แหมะ สวนมาทีเล่นเอากูจุกเลยนะมึง”
“ไอ้ห่าเต้ก็แค่หมาในรางหญ้า แดกไม่ได้แต่เสือกไม่ให้คนอื่นแดก อนิจจาคงเป็นเวรกรรมของไอ้แม็ค”
“กูว่าก่อนจะโทษเวรกรรมต้องโทษสันดานไอ้เต้ก่อนว่ะ”
“ถูกของมึง พูดได้ใจว่ะเหี้ยเต๋อ ไปจัดเบียร์มาสักสามขวดซิ ออกตังค์ก่อนนะ ไว้ไปเอาที่เมล”
“จัดไปครับท่าน”
แต่พอเหลือบไปเห็นสีหน้าของไอ้แม็คแล้ว คิดว่าสามขวดคงไม่พอ เลยตะโกนไล่หลังไอ้เต๋อที่ลากไอ้แต้มออกไปเป็นเพื่อนด้วยว่า
“เหี้ยเต๋อ ไปยกมาจากร้านพี่เจ๋งสักสองลังละกัน เห็นหน้าตาสมาชิกบางคนแล้วคงไม่จบแค่สามขวด”
......................................................To be continue............................................
ตอนนี้เหมือนไม่มีอะไร แต่...มันมีนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จะเป็นยังไงต่อไป รอติดตาม 
มาดึกเลย 
อยากให้เรื่อยๆ อย่างนี้ต่อไป เนื้อเรื่องจะได้ไม่วกวน แต่อีกไม่นานคงจบแล้ว ฮาาาาาาาาาาาา


ยินดี ยินดี ยินดี