ต่อจากข้างบน
v
v
เมื่อวานหลังจากกลับไปถึงห้องพัก เปลวเพลิงแห่งความปรารถนาก็ลุกลามจนไม่อาจหยุดยั้งได้ ความร้อนแผ่ลามไปทั่วร่างเมื่อย่างเท้าเข้าไปในห้องน้ำ เพื่อชำระร่างกายที่เปียกปอนด้วยน้ำทะเล เราต่างสัมผัสลูบไล้เรือนกายกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เสียงหอบสะท้านดื่มด่ำกับความรักที่เพิ่มพูนจนทะลักล้นก้องกังวานจนอื้ออึงไปทั่วหู ราวกับจะทำให้ทั้งผมและไนล์ต่างเมามายยิ่งกว่า ผมโถมรักเข้าใส่เขาครั้งแล้วครั้งเล่า ขณะที่เขาตอบรับผมทุกช่วงจังหวะที่ผมทะยานเข้าฝากฝังไอร้อน บีบรัดเสียจนผมแทบหน้ามืด เหวี่ยงตัวทะลุขึ้นเหนือเมฆละมุน และร่วงหล่นลงมาจนเสียววาบสะท้านไปทั้งกาย
ไฟร้อนแดงฉ่าจบลงที่เตียงนอน ร่างของพวกเราชื้นโชกไปด้วยเหงื่อที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นกายจนต้องอาบน้ำซ้ำอีกรอบ และโทรสั่งอาหารให้รูมเซอร์วิสมาส่งห้อง เพราะไม่อยากจะเสียพลังงานไปกับการเคลื่อนไหวโดยใช่เหตุ
ไนล์อ่อนเปลี้ยไปทั้งร่าง ขณะที่ผมเองก็บอกได้ว่าปวดเมื่อยตัวไม่น้อย
ถึงกระนั้นเขาก็ยังเอ่ยกับผมเสียงแผ่วด้วยสีหน้าจริงจัง
‘พรุ่งนี้เราลงไปที่ทะเลอีกนะ’ผมเข้าใจความคิดของเขาได้ทันที คงเพราะเกรงว่าอาการของผมจะหายเพียงช่วงประเดี๋ยวประด๋าว จึงจำเป็นต้องพิสูจน์ซ้ำอีกครั้งว่าผมสามารถขจัดความกลัวได้อย่างหมดสิ้น
ดังนั้นผมจึงมาเดินเล่นอยู่ริมหาดกับเขาในช่วงเช้าตรู่ มือของเราสอดประสานกันเอาไว้ แกว่งเบาๆ ราวกับในโลกนี้มีอยู่กันเพียงลำพังสองคน ซึ่งมันก็ไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่รู้สึกนัก เพราะเวลานี้ไม่มีใครออกมาเดินเล่นเลยสักคน อาจเพราะพระอาทิตย์ขึ้นไปพักหนึ่งแล้วก็เป็นได้
เสียงคลื่นสาดกระทบชายฝั่งเวลานี้เสนาะหูของคนฟังอย่างผม มันไม่ได้ทำให้ผมขนลุกชัน หัวใจเต้นรัวราวกับจะทะลุออกจากอกเพราะความขยาดเกรง ภาพที่ผมเห็นไม่ได้ดำมืดเหมือนจมอยู่ใต้น้ำที่ไร้หนทางออก แต่กลับเป็นน้ำทะเลสีเขียวครามอย่างที่ใครๆ มองเห็น ท้องฟ้าสว่างสีฟ้า แสงแดดอ่อนๆ ยังไม่ทำร้ายผิวนัก
ผมไม่คิดว่าจะมีวันที่ผมได้เห็นทิวทัศน์แบบนี้อีกครั้ง
แต่ในวันนี้ผมได้สัมผัสมันอีกครั้ง เพราะผมไม่ต้องเกรงกลัวแล้ว ในเมื่อผมมีไนล์อยู่ข้างๆ แบบนี้
“ฉันหายแล้วจริงๆ”
ผมหันไปยิ้มให้ไนล์ เส้นผมและเสื้อผ้าของพวกเราพลิ้วไหวไปตามกระแสลมจนเกือบจะดังพึ่บพั่บ ไนล์ส่งยิ้มกลับคืนมาให้ผม เหมือนว่าเขาเองก็ยินดีเช่นกันที่ผลออกมาเป็นแบบนั้น ก่อนเขาจะดึงมือผมไว้ ทำให้ขาของผมที่กำลังก้าวอยู่ชะงักไป
ผมหันไปมองหน้าเขาอย่างสงสัย ขณะเดียวกันเขาก็จ้องผมอยู่สักพักราวกับมีเรื่องอะไรจะพูด เขากุมมือผมเอาไว้แน่น จนผมรอลุ้นว่าเขาจะพูดอะไรออกมา
“ฉัน...”
เสียงของเขาดังแผ่ว เหมือนยังไม่แน่ใจว่าจะพูดออกมาดีหรือเปล่า พานให้ผมเลิกคิ้วเล็กน้อย เขาจึงเม้มริมฝีปากสีสวยนั่นเบาๆ ก่อนจะเปล่งเสียงขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันเคยมาที่นี่”
ผมไม่เข้าใจ จากที่เลิกคิ้วก็เปลี่ยนเป็นย่นคิ้วเข้าหากันนิดหน่อย คล้ายว่าจะขอคำอธิบาย ไนล์กระชับมือผมเอาไว้แน่นขึ้น
“ฉันอยากสารภาพกับนาย”
“...”
“วันนั้น... วันที่เกิดอุบัติเหตุที่นี่”
เขาเงียบเสียงไปอีก แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลอยให้ผมลุ้นไปด้วย แม้ว่าจะเริ่มรู้สึกถึงเค้าลางของอะไรบางอย่างจากประโยคที่เขาพูดมา ทว่าเมื่อเขาพูดออกมา หัวใจของผมก็หยุดเต้นไปหนึ่งจังหวะ
“ฉันอยู่ที่นี่ด้วย”
ผมมองเขาอย่างไม่เข้าใจ คำพูดของเขาไหลผ่านสมองผม ผมได้ยินชัดเจน แต่ผมกลับรู้สึกว่าผมไม่เข้าใจความหมายนั้น ไนล์จ้องมองเข้าในดวงตาของผมด้วยประกายบางอย่าง ก่อนจะเอื้อนเสียงออกมาอีกรอบ
“มิ้นขอให้ฉันมาที่นี่ด้วย เหตุผลที่พ่อของมิ้นอนุญาตให้มิ้นมาเที่ยวกับพวกนายได้ ก็เพราะว่าฉันมาด้วย มิ้นตั้งใจว่าจะแนะนำให้ฉันรู้จักกับนาย...ในคืนนั้น แต่ว่ามันเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาเสียก่อน ฉันเองก็เป็นเหมือนนาย ฉันช่วยมิ้นไม่ได้ ได้แต่มองนายทุรนทุรายเพราะสูญเสียมิ้นไป ขณะที่ตัวเองได้แต่นิ่งอึ้งเพราะทำอะไรไม่ถูก”
เสียงของเขาสั่นเครือมากขึ้นยามเล่าให้ผมฟัง ดวงตาที่จ้องมองผมอยู่เริ่มรื้นด้วยน้ำใสๆ ผมต้องยกมือขึ้นแตะที่ขอบตาของเขาเบาๆ ให้สิ่งที่เกาะอยู่บนนั้นไหลลงมา แล้วปาดซับมันทิ้งให้อย่างเบามือ
เขาเองก็ปวดร้าว เขาเองก็เปราะบาง...จากการสูญเสียเหมือนกับผม
ผมเข้าใจแล้ว... ไมได้มีผมคนเดียวที่เจ็บปวด
“ขอโทษนะ” ผมเอ่ย
ไม่ใช่ผมคนเดียวที่ต้องเผชิญกับเงาดำมืดของการสูญเสีย
ไนล์เองก็เหมือนกัน
แต่ว่าเขากลับอดทน ฝ่าฟันและผ่านมันมาพร้อมกับฉุดดึงผมขึ้นมาจากก้นทะเลลึก
ตอนนี้ถึงเวลาที่ผมจะฉุดเขาขึ้นมาแล้วใช่ไหม
เป็นผมเองที่ถึงเวลาต้องเข้มแข็งเพื่อเขาบ้างแล้ว
“ฉันไม่เคยรู้ ถึงได้ทำตัวอ่อนแอทั้งที่นายเองก็เสียใจ”
“...”
“แต่ต่อจากนี้ไปมันจะไม่เป็นแบบนั้นแล้ว ผมฉันจะกุมมือของนายไว้ กอดนายเอาไว้ แล้วเข้มแข็งไปพร้อมๆ กัน จะไม่มีใครต้องจมอยู่กับความเสียใจเพียงลำพังอีกแล้ว”
ผมดึงมือของเขาขึ้นมาจูบเบาๆ เหมือนกับจะให้มันเป็นดั่งการปฏิญาณคำมั่น ไนล์เงยหน้าขึ้นมองผม ดวงตาของเขาสั่นไหว แต่ต่างจากเมื่อครู่นี้ ประกายที่สะท้อนออกมาไม่ใช่ความเศร้าสร้อย ทว่าแวววาวด้วยความหวัง
“เราต่างก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว เรามีกันและกัน”
รอยยิ้มระบายน้อยๆ บนหน้าของผม ขณะที่ใบหน้าของเขาก็ผุดยิ้มขึ้นมาจางๆ เราต่างกระชับมือกันโดยไร้คำพูด แต่รู้สึกได้ถึงความเข้าใจกันและกันอย่างลึกซึ้ง ถ่องแท้
เท้าสองคู่ออกก้าวไปข้างหน้าอีกครั้ง ฝากรอยบุ๋มไว้บนผืนทรายเปียกๆ เอาไว้ชั่วครู่ ก่อนมันจะถูกกลบไปด้วยคลื่นน้ำที่สาดเซาะหาดทราย กลายเป็นพื้นเรียบๆ ราวกับไม่เคยมีอะไรมาก่อน ถึงกระนั้นก็จดจำได้ว่ามันเคยมีรอยเท้าของเราฝังไว้ เฉกเช่นเดียวกับเราสองคน ที่แม้จะก้าวเดินต่อไป แต่ก็ไม่ลืมเลือนว่าเคยมีใครสำคัญที่สุดสำหรับพวกเรา
ผมทอดสายตาไปยังเบื้องหน้า มองท้องฟ้ากว้างไกล รับรู้อุณหภูมิจากร่างกายของไนล์ที่ถ่ายทอดผ่านมือมายังร่างกายของผม พร้อมกับพูดกับตัวเองในใจ
เป็นคำขอบคุณ... เป็นคำบอกลา...
ขอบคุณนะ ที่ทำให้กราฟได้มาเจอไนล์
ขอบคุณ... มิ้น ความทรงจำที่ดีที่สุด
-------------------
ตอนหน้าเป็นตอนส่งท้ายแล้วค่ะ
แล้วก็มีตอนพิเศษอีก 1 ตอนนะคะ
ส่วนเรื่องอิมเมจที่มีคนถามไว้
เคยหาอยู่เหมือนกันค่ะ แต่มันยังไม่โดนเลย ก็เลยไม่มีมาให้ดูค่ะ 
Undel2Sky