ตอนที่ 30
สิ้นเสียงของหมอผีอารัญย์มิวส์ก็ยกมือขึ้นมาปิดใบหูพร้อมกับเบือนหน้าหนีจากร่างของอดีตคนรักเพราะไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น
“พาผมกลับ" มิวส์สั่ง แต่หมอผีอารัญย์ตีหน้าซื่อไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นแถมยังพูดยั่วยวนให้มิวส์สนใจกับเหตุการณ์เบื้องหน้าอีก
“เอ๊ะ! ดูนั่นดิ มีผู้หญิงคนนึงวิ่งเข้ามาหา ชายหนุ่มคนนั้นด้วย เธอร้องไห้ด้วยนะ" เสียงแว่ว ๆ ที่เล็ดลอดผ่านฝ่ามือที่ปิดหูขึ้นมาทำให้มิวส์ชักจะสนใจขึ้นมาบ้าง แต่ทว่าเขาก็ขอเล่นตัวต่ออีกสักหน่อยเถอะ...
เมื่อเห็นว่ามิวส์ยังคงใจแข็ง เขาก็เลยใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงมือข้างหนึ่งของมิวส์ออกจากหู เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงของหญิงสาวผู้นั้นเล็ดลอดเข้ามาว่า...
“ก้อง... ก้องต้องช่วยเรานะ เราท้อง... เราท้องกับไอ้สารเลวนั่น ไอ้สารเลวนั่นมันไม่รับผิดชอบเรา" จบประโยคของหญิงสาว มิวส์ก็เบิกตาโพลงพร้อมกับหันไปมองด้วยความสนใจทันที เนื่องจากนี่เป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตที่หมอผีอารัญย์ใช้ความสามารถพิเศษทำให้เกิดขึ้น ก้องกับหญิงสาวผู้นั้นจึงไม่รับรู้ว่ากำลังโดนจับจ้องอยู่
“สาจะให้เราช่วยยังไง" ก้องเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของก้องดูหนักใจเหลือเกิน
หญิงสาวไม่ได้ตอบในทันที เธอคุกเข่าลงตรงหน้าก้องเพราะรู้ดีว่าสิ่งที่เธอกำลังจะพูดออกไปเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ แต่มันก็เป็นเพียงทางเดียวที่จะทำให้เธอรอดพ้นจากคำตราหน้าของสังคมรวมถึงพ่อกับแม่ของเธอว่าเป็นคนสำส่อนท้องไม่มีพ่อ
“ไอ้สารเลวนั่นมันบอกให้เราไปทำแท้ง และมันยังขู่เราอีกว่าถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครว่ามันเป็นพ่อของเด็ก มันจะฆ่าเรา" หญิงสาวพูดออกมาทั้งน้ำตา "แต่เราไม่อยากทำแท้ง... แล้วถ้าพ่อกับแม่รู้ว่าเราท้องโดยไม่มีใครรับผิดชอบ พ่อกับแม่จะต้องโกรธเกลียดและด่าเราแน่ ๆ เราก็เลยอยากมาขอร้อง...”
หญิงสาวเว้นวรรคชั่วครู่ เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเก่าเพราะรู้ตัวดีว่าตนเองกำลังจะทำให้ผู้ชายที่ดีที่สุดอย่างก้องหมดอนาคต
“ช่วยแต่งงานกับเรา ช่วยบอกกับทุกคนว่าเป็นพ่อของเด็ก และช่วยรับผิดชอบเราที เรารู้ว่าถ้าเป็นก้อง... ก้องจะต้องช่วยเราแน่ ๆ"
สิ้นเสียงของสาวิตรี... โลกทั้งโลกก็เหมือนตกอยู่ในความเงียบงัน ไม่เพียงแค่ก้องเท่านั้นที่รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มิวส์เองก็เช่นกัน... เขารู้สึกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ในลำคอ จะกลืนก็ไม่เข้า จะคายทิ้งก็ไม่ยอมออก มิวส์ยืนแน่นิ่งไม่ไหวติงเช่นเดียวกับก้อง
สาวิตรีที่เห็นก้องนิ่งเงียบก็เอื้อมมือไปเกาะขาพร้อมกับขอร้องอ้อนวอนต่อ...
ส่วนหมอผีอารัญย์ที่พอเห็นมิวส์นิ่งเงียบก็เลยยืดแขนไปกอดคอของร่างนั้นเพื่อเรียกสติ แม้จะไม่รู้ว่าความรักที่มิวส์กับชายหนุ่มคนนั้นยิ่งใหญ่และลึกซึ้งขนาดไหน แต่จากเหตุการณ์ที่เห็นก็พอจะเดาได้ว่าหมอนี่คงกำลังจะเสียใจและเข้าใจผิดในสิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด
“แล้ว... แล้วก้องต้องทำยังไงบ้าง" ก้องพูดกับสาวิตรี สมองของเขาในตอนนี้ด้านชาไปชั่วขณะ
“สาจะไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้กับพ่อและแม่ของสาฟังเอง ก้องก็แค่แกล้งยอมรับ และอาจจะต้องแต่งงานกับสา" สาวิตรีเอ่ยขึ้น เธอชะงักชั่วครู่เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มคงจะตกตะลึงในสิ่งที่เธอขอร้อง "สาขอโทษ สาขอโทษจริง ๆ"
“แค่นั้นใช่ไหม" ก้องถามเสียงสั่น
“ค่ะ" สาวิตรีตอบออกมา
“ก้องจะช่วยสานะ สาอย่าคิดมากเลย" พูดจบ หญิงสาวก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา
การกระทำของเธอทำให้เธอรอดพ้นจากความผิดและข้อหาที่อาจจะโดนสังคมตราหน้าว่าสำส่อนก็จริง แต่เธอคงไม่รู้หรอกว่าเพราะการกระทำนี้แหละที่เป็นต้นเหตุทำก้องและมิวส์ต้องทุกข์ระทมใจ และเป็นสาเหตุที่ทำให้มิวส์สิ้นลมหายใจในเวลาต่อมา
ทว่ายังไม่ทันที่มิวส์จะได้รับรู้เรื่องราวอะไรต่อ... ภาพเหตุการณ์ในอดีตที่แจ่มแจ้งในตอนแรกก็ค่อย ๆ พร่ามัวและเลือนหายไปในที่สุด จากนั้นหมอกควันสีขาวก็กลับมาปกคลุมอีกครั้งจนเวลาผ่านไปสักระยะภาพรอบข้างก็กลับกลายมาเป็นผืนป่าที่มืดมิดดังเดิม
ความอัดอั้นทั้งหมดส่งผลให้มิวส์ต้องระบายออกมาด้วยหยาดน้ำตา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยร้องไห้ออกมาได้สำเร็จเลยสักครั้งแต่ในครั้งนี้มันไม่ใช่
“มิวส์...” หมอผีอารัญย์เอ่ยชื่อวิญญาณที่กำลังร้องไห้ด้วยความห่วงใย มีไม่กี่ครั้งหรอกนะที่วิญญาณสามารถร้องไห้ออกมาได้น่ะ หากมันไม่ใช่เรื่องที่ส่งผลต่อความรู้สึกในจิตใจโดยตรง
“พี่หมอ...” มิวส์ตอบกลับ ท่ามกลางผืนป่าที่มืดมิดแบบนี้มีเพียงหมอผีอารัญย์ตนเดียวที่เป็นที่พึ่งให้เขาได้ในยามนี้ มิวส์ไม่ลังเลใจเลยสักนิดที่จะถ่ายทอดความอ่อนแอทั้งหมดไปกับอ้อมกอดที่มอบให้กับหมอผีอารัญย์
มิวส์รู้ดีว่าตนเองไม่ใช่วิญญาณที่เข้มแข็ง แม้จะเคยสิ้นลมหายใจมาแล้วแต่หากเจอเรื่องที่หนักหนาสาหัสมันก็ทำให้เขาอ่อนแอถึงขีดสุดได้เหมือนกัน
เสียงสะอื้นไห้ของวิญญาณชายหนุ่มที่เคยหน้าตาน่ารักสดใส ทำให้หมอผีหนุ่มอดเวทนาและสงสารขึ้นมาจับใจไม่ได้ เขาตัดสินใจกอดตอบด้วยความบริสุทธิ์ใจก่อนที่จะยกมือขึ้นมาลูบคลำศีรษะ
“ผมผิดใช่ไหม ผิดที่เข้าใจก้องผิดมาตลอด ผิดที่พูดจาทำร้ายจิตใจเขา และผิดที่ไม่เชื่อใจ" มิวส์พูดทั้งที่ยังสะอื้นไห้
“ไม่หรอก" หมอผีอารัญย์เอ่ยเบา ๆ "คุณก็แค่ไม่รู้"
“แล้วทำไม... ทำไมก้องถึงไม่บอกผมตรง ๆ ทำไมก้องถึงต้องพูดจาทำร้ายผมแบบนั้นด้วย" มิวส์บ่นออกไปเรื่อยเปื่อยตามประสาวิญญาณที่กำลังรู้สึกเสียใจ
“ถ้าไม่เด็ดขาด ก็อาจจะตัดไม่ขาดก็ได้ล่ะมั้ง" หมอผีอารัญย์ตอบออกมา "คุณเองก็หยุดร้องไห้ได้แล้ว รีบกลับไปยังที่พักของคุณกันเถอะ"
“อืม... ครับ" มิวส์พยักหน้าตอบตกลงพลางยกมือขึ้นมาปาดหยดน้ำตาที่ไม่รู้ว่ามันไหลลงมาได้อย่างไร หลังจากนั้นหมอผีอารัญย์ก็เดินนำหน้ามิวส์ต่อไป
จบตอน T^T แหะๆ เป็นตอนสั้น ๆ ต่อจากตอนที่แล้วที่กระผมแอบตัดจบเนื่องจากอย่างแกล้งคนอ่านที่น่ารักยิ่งเบาๆครับ... อิอิ
สำหรับก้องกับสาวิตรี T^T สองคนนี้อย่างที่บอกเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ครับ และเพราะนิสัยของก้อง เลยทำให้สาวิตรีถึงกับกล้าพูดออกมาว่า
"ถ้าเป็นก้อง เราเชื่อว่าก้องจะต้องช่วยเหลือเราแน่ๆ" ไม่ต้องมีคำพูดหรือคำอธิบายอะไรมากมาย...
สุดท้ายก้องนี่แหละพระเอกของผมตัวจริง
เชื่อว่าพออ่านมาเรื่อยๆ หลายๆคนน่าจะพอเริ่มเดาเรื่องนี้ออก
แต่มันยังไม่จบอยู่แค่นี้นะ เดี๋ยวมีอะไรมาให้หักมุมเล่นๆ อีกตอนท้าย แฮ่ๆ ติดตามกันต่อนะครับ