พิมพ์หน้านี้ - ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-07-2013 16:25:33

หัวข้อ: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-07-2013 16:25:33
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.เมื่อนิยายจบแล้วให้แก้ไขหัวกระทู้ต่อท้ายว่าจบแล้ว


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



:pig2: = = = = = =  :mew3: = = = = = =  :pig2:


ยินดีต้อนรับเข้าสู่โลกแห่งจินตนาการของ กุ๊กกู๋ นะครับ
Dead Lover วิญญาณป่วนกวนรัก นั้น เป็นนิยายระหว่างวิญญาณน่ารัก? กับคนสุดโหด
ที่จะมาสร้างความฮา ขำ ป่วน และดราม่าให้กับนักอ่านทุกท่านนะครับ
แน่นอนว่าตัวละครหลักของเรื่องนี้มีสามตัว คือ ไม้ แม็กกี้ และ มิวส์
สามคนนี้ ใครจะอยู่ ใครจะไป ต้องติดตามกันเอาเองนะครับ ^^

ขออนุญาติฝาก FanPage ด้วยนะครับ จิ้มที่รูปมัสคอต Mr.กุ๊กกู๋ ติ๊งต๊องด้านล่างเลย

(http://i159.photobucket.com/albums/t128/kukzabb/Screenshot2013-07-15at41757PM_zpsb2bcb8a7.png) (https://www.facebook.com/asamar.writer)


สารบัญ
- Image ตัวละคร - จิ้ม - (http://my.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=981499&chapter=1)
- บทนำ - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.0.msg2433537#msg2433537)
- ตอนที่ 1 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.0.msg2433538#msg2433538)
- ตอนที่ 2 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.0.msg2433539#msg2433539)
- ตอนที่ 3 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.0.msg2433649#msg2433649)
- ตอนที่ 4 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.0.msg2433957#msg2433957)
- ตอนที่ 5 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.0.msg2434342#msg2434342)
- ตอนที่ 6 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.0.msg2434985#msg2434985)
- ตอนที่ 7 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.30.msg2435430#msg2435430)
- ตอนที่ 8 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.30.msg2436309#msg2436309)
- ตอนที่ 9 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.30.msg2437072#msg2437072)
- ตอนที่ 10 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.60.msg2437934#msg2437934)
- ตอนที่ 11 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.60.msg2439654#msg2439654)
- ตอนที่ 12 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.90.msg2441379#msg2441379)
- ตอนที่ 13 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.90.msg2442112#msg2442112)
- ตอนที่ 14 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.90.msg2446150#msg2446150)
- ตอนที่ 15 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.120.msg2450045#msg2450045)
- ตอนที่ 16 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.120.msg2451697#msg2451697)
- ตอนที่ 17 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.150.msg2455518#msg2455518)
- ตอนที่ 18 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.150.msg2457958#msg2457958)
- ตอนที่ 19 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.180.msg2461152#msg2461152)
- ตอนที่ 20 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.180.msg2468714#msg2468714)
- ตอนที่ 21 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.210.msg2470698#msg2470698)
- ตอนที่ 22 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.210.msg2473403#msg2473403)
- ตอนที่ 23 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.240.msg2476194#msg2476194)
- ตอนที่ 24 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.240.msg2477746#msg2477746)
- ตอนที่ 25 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.270.msg2478765#msg2478765)
- ตอนที่ 26 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.270.msg2483569#msg2483569)
- ตอนที่ 27 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.270.msg2488726#msg2488726)
- ตอนที่ 28 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.300.msg2494437#msg2494437)
- ตอนที่ 29 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.300.msg2498855#msg2498855)
- ตอนที่ 30 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.330.msg2502850#msg2502850)
- ตอนที่ 31 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.360.msg2503815#msg2503815)
- ตอนที่ 32 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.360.msg2506104#msg2506104)
- ตอนที่ 33 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.390.msg2512943#msg2512943)
- ตอนที่ 34 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.390.msg2527949#msg2527949)
- ตอนที่ 35 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.420.msg2534113#msg2534113)
- ตอนที่ 36 - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.420.msg2548394#msg2548394)
- บทส่งท้าย - คลิก - (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=38551.450.msg2560066#msg2560066)


ผลงานเก่าของ Mr.กุ๊กกู๋   

- Heart never forget หัวใจไม่เคยลืมนาย - (http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=823590)
- Sketch Lover ร่างกายชายรัก - (http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=967971)

**หมายเหตุ**
[[ไม่แน่ใจว่าลงได้ไหมเนื่องจากเมื่อก่อนไม่รู้จักเล้าเป็ดเลยขออนุญาตแทรงลิ้งค์ไปอีกเว็บ
ถ้าผิดกฎรบกวนผู้รู้ PM มาแจ้งนะครับ จะได้ลบลิ้งค์ที่เชื่อมโยงออกจ้า T^T แต่ก็อยากฝากผลงานเก่าๆ ง่ะ]]

 
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน... By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-07-2013 16:27:05
บทนำ


   ในคืนที่ฟ้าฝนไม่เป็นใจ... ฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักตอกย้ำให้มิวส์ซึ่งอยู่ในอารมณ์อ่อนแอต้องท้อแท้มากขึ้นไปอีก ทั้ง ๆ ที่วันนี้เป็นวันเกิดของมิวส์ และเขาก็ได้ไปซื้อของเตรียมจัดงานเลี้ยงกับก้องแฟนหนุ่มสุดหล่อแล้วแท้ ๆ แต่ทว่าในขณะที่มิวส์กำลังถือของพะรุงพะรังเพื่อที่จะกลับห้องพักอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์์ที่ดังขึ้นก็ทำให้เขาต้องกดรับสาย


   “ว่าไงก้อง มิวส์กำลังกลับห้อง ฝนตกหนักเลย เดี๋ยวมิวส์โทรกลับนะ" พูดจบก็ทำท่าจะวางสาย หากแต่เสียงจากปลายสายที่ดังขึ้นทำให้มิวส์ต้องหยุดชะงัก


   “เดี๋ยวมิวส์ ก้องมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย" ก้องเอ่ยขึ้นอย่างรีบร้อน ก่อนที่จะพูดต่อเพราะกลัวจะโดนตัดสาย "เราเลิกกันเถอะ"


   เสียงจากปลายสายที่ดังมาทำให้มิวส์อึกอักชะงักไปชั่วขณะ


   “ทำไม" มิวส์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ก่อนจะหาเหตุผลที่เข้าท่ามาปลอบใจตัวเอง "ก้องล้อมิวส์เล่นใช่ไหม วันนี้เป็นวันเกิดมิวส์ จะแกล้งให้มิวส์ตกใจ แล้วมาเซอร์ไพรซ์ทีหลังใช่ไหม รู้น่า"


   “ก้องพูดจริง ๆ ที่บ้านคงรับไม่ได้ที่ก้องคบกับมิวส์... มิวส์ฟังนะ มิวส์กับก้องเป็นผู้ชาย แล้วนี่เราก็กำลังจะเรียนจบแล้ว ถ้าก้องยังคบกับมิวส์ต่อไปอนาคตก้องต้องจบเห่แน่ ๆ ชีวิตของก้องต้องแต่งงานกับผู้หญิงเท่านั้น และก้องก็มีผู้หญิงที่กำลังคบหาดูใจอยู่แล้ว ตัดใจจากก้องเถอะมิวส์ ก้องขอโทษ เราอย่าเจอกันอีกเลย แค่นี้นะ...”


   หลังจากที่ปลายสายพูดประโยคที่ยืดยาวออกมาจนจบ เขาก็กดตัดสายทิ้งทันที ไม่รอฟังคำขอร้องของมิวส์สักนิด


   ถ้ารู้อยู่แล้วว่าเรื่องทุกอย่างจะลงเอยแบบนี้ แล้วก้องจะตัดสินใจคบกับมิวส์ตั้งแต่ทีแรกทำไม ความสัมพันธ์ที่ร่วมกันสร้างมาตลอดสองปี คำสัญญาที่บอกว่าจะอยู่ด้วยกันตลอดไป มันไม่มีความหมายเลยใช่ไหม


   ประโยคบอกเลิกของก้องยังคงดังซ้ำ ๆ อยู่ในโสตประสาทของมิวส์ ถุงของต่าง ๆ นานาที่ตั้งใจซื้อมาเพื่อฉลองในงานวันเกิดด้วยกันสองคน ไหลหลุดออกจากนิ้วมือเพราะคำพูดของก้อง แม้แต่เรี่ยวแรงที่ถือร่มก็ยังไม่มี


   มิวส์เดินฝ่ากลางสายฝนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งกลับไปถึงหอพัก... หอพักที่เคยอยู่ด้วยกันกับก้องตั้งแต่ที่ตัดสินใจคบกัน แต่บัดนี้... ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำร่วมกันมามันจบลงแล้ว


   ...หลังจากที่ก้าวขาผ่านธรณีประตูเข้าไป มิวส์จะรู้ไหมว่านี่อาจจะเป็นลมหายใจคืนสุดท้ายของเขา...


   ความอ่อนแอที่เกิดขึ้นส่งผลให้ร่างเร้นลับที่แฝงกายอยู่ในห้องหอห้องนี้มาหลายปีแสยะยิ้มออกมา ร่างของมันเน่าเฟะและบิดเบี้ยวราวกับตกจากที่สูงแล้วกระแทกกับพื้นด้วยความรุนแรง


   “ฮิ ๆ ๆ ๆ" แล้วเสียงหัวเราะอันแหลมสูงของมันก็ดังขึ้น หากแต่เจ้าของห้องไม่ได้ยินเสียงนั้นแต่อย่างใดจนกระทั้งมันได้ใช้พลังงานบางอย่างในตัวช่วยให้รูปลักษณ์ของมันกลับมาเหมือนกับในตอนแรกก่อนที่มันจะเสียชีวิตก่อนจะเดินผ่านทะลุกำแพงไปอยู่หน้าห้อง


   ก๊อก ก๊อก ก๊อก...


   เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นเรียกสติของมิวส์ให้กลับคืนมา เพราะยังเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยทำให้มิวส์ไม่ได้ส่องเลนส์ประตูดูว่าใครเป็นคนเคาะ เขาตัดสินใจเปิดประตูต้อนรับแขกผู้มาเยือนทันที


   หลังประตูบานนั้น ปรากฏร่างของชายหนุ่มหน้าตาดีแถมจมูกโด่งดวงตาเรียวได้รูปอีกต่างหาก เขาดูดีกว่าก้องทุกประการหากแต่ผิวที่ซีดเผือดของเขาทำให้เสน่ห์ของร่างนั้นหดหายไป


   “นายเป็นใคร" มิวส์เอ่ยถาม


   “ฉันคือผู้ที่จะมาช่วยให้นายหลุดพ้นจากความเสียใจ" ร่างนั้นตอบออกมา น้ำเสียงของมันไร้โทนสูงต่ำ


   “ช่วยยังไง" มิวส์เอ่ยถามอีกครั้ง แม้จะสงสัยว่าหมอนี่เป็นใครแต่หากมีวิธีที่ทำให้เขาดีขึ้นเขาก็พร้อมที่จะยอมรับและทำตามคำแนะนำทุกอย่าง


   “นายอยากให้ฉันช่วยหรือเปล่า" ร่างซีดเผือดนั้นถามออกมา เมื่อเห็นว่ามิวส์พยักหน้ามันก็เดินเข้าไปในห้องทันที


   ห้องที่เคยสว่างไสวด้วยดวงไฟกลับมืดมิดทันทีที่ร่างนั้นเดินเข้ามา ไฟทุกดวงภายในห้องดับลง ลมที่บางเบาในตอนแรกก็หนักหน่วงขึ้นจนมิวส์รู้สึกผวา


   “นาย... นายยังอยู่หรือเปล่า" มิวส์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะความมืดมิดเลยทำให้เขามองไม่เห็นอะไร และใจหนึ่งก็กลัวว่าแขกที่มาใหม่รายนี้จะเป็นพวกมิชฉาชีพหรือเปล่า ...แต่เขาก็คิดผิด...


   “อยู่" ร่างนั้นตอบออกมา เสียงของมันดังเบา ๆ อยู่ที่หลังใบหูซึ่งมิวส์เองก็ไม่รู้ว่าร่างนั้นได้มาอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่


   พอรู้ตัวอีกที ร่างซีดเผือดนั้นก็โอบกอดมิวส์เอาไว้แน่น มันดันจมูกถู ๆ ไถ ๆ บริเวณใบหน้าอันขาวใสของมิวส์ ...หากแต่ว่าการกระทำนั้นไม่ได้ทำให้มิวส์เคลิบเคลิ้มแต่อย่างใด


   “ปล่อยฉัน" มิวส์ว่า ในใจทั้งรู้สึกกลัวและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หมอนี่ไม่ใช่โจรมิชฉาชีพ แต่มันเป็นโรคจิตที่กำลังจะทำมิดีมิร้ายกับเขาต่างหาก


   “ก้องมันทิ้งนายไป... และฉันก็เฝ้ามองดูนายมาตั้งนานแล้ว" ร่างแปลกหน้ายังคงกอดมิวส์เอาไว้อย่างแนบแน่น "ให้คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่นายจะต้องเสียใจเรื่องมัน ให้ฉันคนนี้ได้เป็นคนปลดปล่อยนายออกจากความทุกข์นี้เถอะนะ"


   แทนที่มิวส์จะปฏิเสธ แต่ความเสียใจกับคำพูดที่เห็นแก่ตัวของก้องนั้นทำให้มิวส์รู้สึกสับสน และความเสียใจก็ทำให้เขาตัดสินใจตอบสนองกับคำพูดของชายแปลกหน้า


   “อื้อ" ทันทีที่มิวส์ตอบรับ ฉากเร่าร้อนในรสรักก็เริ่มขึ้น ชายแปลกหน้าปฏิบัติการจู่โจมต่าง ๆ นานาตามแบบฉบับคนรักที่ชอบทำกัน ทั้งกอด จูบ ลูบ คลำหากแต่ไม่มีอะไรเกินเลยมากไปกว่านั้น


   สัมผัสที่อบอุ่นทำให้มิวส์รู้สึกเคลิบเคลิ้มไปด้วย คำบอกเลิกที่เห็นแก่ตัวที่ยังดังก้องอยู่ในหัวตลอดเวลาทำให้มิวส์รู้สึกว่าตัวเองไร้คุณค่า เพราะฉะนั้นในเมื่อก้องไม่เคยเห็นความสำคัญ แล้วเขาจะต้องทำตัวให้มีคุณค่าอีกทำไม


   “ไปอยู่กับฉันนะ" เสียงที่บางเบาแต่เร่าร้อนถูกเอื้อนเอ่ยออกมา ก่อนที่จะแสยะยิ้มออกมาด้วยความพอใจ '...ในปรโลก หึหึ'


   มิวส์ที่โดนความเสียใจเข้าครอบงำทำให้สติขาดไปดันพยักหน้ารับ ร่างของคนทั้งสองยังคงคลอเคลียกันอยู่อย่างใกล้ชิด แล้วจากความอบอุ่นที่เคยเกิดขึ้นมันก็เปลี่ยนเป็นความหนาวเย็นจนมิวส์ไม่เคยรู้สึกสัมผัส


   และเมื่อรู้สึกว่าอากาศรอบกายหนาวเหน็บยิ่งขึ้น... สติที่เคยโดนความเสียใจเข้าครอบงำก็กลับมาทำงานอีกครั้ง


   “ว๊ากกกก..." แล้วเสียงร้องโหวกเหวกก็ดังขึ้นเมื่อรู้ว่าร่างของตัวเองกำลังตกจากระเบียงหอพักชั้นสูงสุด


   'ตุบ' ทันทีที่ร่างของมิวส์ตกลงสู่พื้นเบื้องล่าง ชายหนุ่มแปลกหน้าผู้เป็นตัวการก็แสยะยิ้มออกมาและมองร่างนั้นด้วยความสมเพช ดวงตาของมันลุกวาวราวกับกำลังได้ของเล่นชิ้นถูกใจ แล้วร่างที่เคยปรากฎราง ๆ เป็นวิญญาณติดที่มาหลายปีก็พลันสลายหายไป มันพร้อมไปชดใช้กรรมในนรกต่อไป เพราะมันได้หายตัวตายตัวแทนรายใหม่ได้แล้ว...


   ส่วนมิวส์ หลังจากที่ลมหายใจดับสิ้นลง วิญญาณของตนก็ออกจากร่าง หากแต่เพราะความเป็นจริงยังไม่สิ้นอายุขัย เลยทำให้มิวส์ยังไม่ต้องไปชดใช้กรรมในนรกหรือสวรรค์


   มิวส์ต้องกลายเป็นวิญญาณรายต่อไป และเขาต้องเฝ้ามองและหาเหยื่อที่เสียใจในเรื่องความรักรายใหม่... หากเขาต้องการจะไปชดใช้กรรมให้ไวที่สุดเขาก็ต้องหาเหยื่อมาแทนที่ให้ได้ แต่หากหาไม่ได้ วิญญาณของเขาก็จะติดอยู่ที่ห้องพักแห่งนี้ตลอดไป ไม่ได้ไปผุดไม่ได้ไปเกิด ...แล้วความอาฆาตแค้นจากคนที่ตายโดยไม่รู้ตัวก็เริ่มขึ้น...



-----------
จบบทนำ
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน... By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-07-2013 16:32:24
ตอนที่ 1



   หลังจากที่มีข่าวว่านักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งกระโดดตึกฆ่าตัวตายเพราะเสียใจในเรื่องของความรัก หอแห่งนั้นก็ปิดห้องพักชัั้นบนสุด(ชั้นเกิดเหตุ) เพราะไม่อยากให้ผู้ที่มาพักใหม่ต้องหวาดผวา จนกระทั่งเวลาผ่านไป 10 ปี เศรษฐกิจการเงินที่เริ่มฝืดเคืองทำให้เจ้าของหอตัดสินใจเปิดห้องพักชั้นนั้นอีกครั้ง ...โดยที่ไม่ได้ทำบุญหรือนิมนต์พระมาปัดเป่าดวงวิญญาณร้ายที่ยังแฝงกายอยู่ภายในหอพักแห่งนี้


   วิญญาณของมิวส์ที่ยังคงรูปลักษณ์หน้าตาเหมือนก่อนจะสิ้นใจทุกประการพลันแสยะยิ้มออกมาทันทีที่รู้ข่าว มันมองเหล่าแม่บ้านที่ช่วยกันทำความสะอาดห้องพักด้วยความรู้สึกดีใจ เพราะในที่สุดความหวังของมิวส์ที่เฝ้ารอใครสักคนจะมาเป็นตัวตายตัวแทนนานนับ 10 ปีก็ใกล้จะเป็นจริง


   หลังจากที่ห้องพักชั้นบนสุดของหอพักแห่งหนึ่งซึ่งถูกปิดตายมานานนับสิบปีถูกป่าวประกาศให้กลับมาเช่าได้อีกครั้ง เหล่านักศึกษาหลายคนที่ไม่อยากเดินทางไกลก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นี่ และการจองห้องพักก็ถูกแย่งกันจองอย่างว่องไวจนกระทั่งเหลือห้องพักห้องสุดท้าย... ห้องของชายหนุ่มคนหนึ่งที่เคยกระโดดตึกฆ่าตัวตายเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่ยังไม่มีใครกล้าจองเข้าพัก


   ...แล้วในที่สุดก็มีคนกล้าดีเดินเข้ามาจองห้องพักจนได้...


   “เฮ้ย ไอ้ไม้มึงจะพักหอนี้จริงเหรอวะ" แม็กกี้ คู่หูของไม้เอ่ยทักขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นผวา แม้จะไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ แต่ข่าวลือเรื่องการกระโดดตึกตายของชายหนุ่มคนหนึ่งในหอพักแห่งนี้ก็ยังมีให้ได้ยินอยู่เรื่อย ๆ


   “เออสิวะ... มันใกล้มหาลัยดีออก” ไม้ ชายหนุ่มหน้าตาดีนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของมหาลัยแห่งหนึ่งเอ่ยขึ้นกับเพื่อน(รัก)คู่หู ...ใช่ สำหรับคนภายนอกอาจจะเข้าใจว่าไม้กับแม็กกี้มีความสัมพันธ์กันฉันท์เพื่อนเท่านั้น เพราะทั้งคู่สนิทกันมาตั้งแต่ชั้นมัธยมปลายแล้ว แต่ทว่าสำหรับพวกเขามันไม่ใช่... คำว่าเพื่อนมันก็แค่อดีต เพราะตอนนี้มันได้พัฒนากลายมาเป็นคนสำคัญของกันและกันไปแล้วล่ะ เพราะความใกล้ชิดนั่นแหละเลยทำให้ทั้งสองลงเอยกันด้วยดี


   “แต่ว่ามันมีข่าวลือเรื่องคนกระโดดตึกนะ" แม็กกี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นผวา ไม่รู้ว่าเขามโนไปเองหรือเปล่าเพราะจู่ ๆ กลิ่นเทียน กลิ่นธูปที่ไหนไม่รู้ก็ลอยเข้ามาในจมูกทำให้เขาต้องรีบกระโดดไปเกาะแขนของไม้ด้วยความฉับไว "หยึย...ไปหาหออื่นดีกว่า"


   “อย่าป๊อดได้ไหมไอ้แม็กกี่้ที่รัก มีกูอยู่ทั้งคนยังจะกลัวอะไร ถ้าผีมาหลอก มึงก็แค่กอดกูไว้เท่านั้นก็จบโอเคเปล่า..." พูดจบก็ใช้มือขยี้ศีรษะคู่หัวแรง ๆ ก่อนจะลากให้เข้าไปติดต่อกับเจ้าพนักงานที่ดูแลหอพัก


   หลังจากที่คุยกับพนักงานที่ดูแลหอพัก ปรากฏว่าห้องพักเหลืออยู่เพียงห้องเดียวเท่านั้นซึ่งก็คือห้องที่มีประวัติเมื่อ 10 ปีก่อน พนักงานไม่ได้โกหกชายหนุ่มที่มาติดต่อขอเช่าห้องแต่อย่างใด เธอเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นให้ฟังทุกประการหากแต่ว่าเขาไม่ได้กลัวสิ่งเร้นลับที่มองไม่เห็นเลยสักนิด


   “เอาห้องนี้ครับ" ไม้ยืนยันกับพนักงานโดยไม่สนใจคนที่กำลังยืนหน้าบึ้งงอนเป็นตูดเป็นอยู่ข้าง ๆ เลยสักนิด


   “อย่าเพิ่งตัดสินใจเลย ขึ้นไปดูห้องก่อนดีกว่าไหม" แม้ชายหนุ่มหน้าหล่อที่มาติดต่อขอพักห้องจะยืนยันหนักแน่น แต่เพื่อยืนยันคำมั่นใจอีกรอบเลยขอให้ชายหนุ่มไปเห็นห้องกับตาก่อนดีกว่า


   หลังจากที่ประตูห้องถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างผู้มาเยือนสามคน กลิ่นอับที่ไม่รู้ว่ามาแต่ไหนก็ได้ลอยเข้ามาปะทะจมูกกับร่างทั้งสาม


   “ไม้... กูว่าไปดูหออื่นดีกว่า" แม็กกี้กระตุกแขนไม้พลางยกมือปิดจมูก "แค่เดินเข้ามากลิ่นก็แรงขนาดนี้แล้ว อยู่ไปไม่รู้จะเจออะไรบ้าง"


   “ไม่! กูชอบที่นี่" ไม้ตอบออกมาพลางพยายามหาต้นตอของกลิ่นอับ เขาเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า ดูข้าวของและรื้อห้องอย่างไม่เกรงใจใครสักนิด จนในที่สุดเขาก็พบสาเหตุของกลิ่นอับ


   ไม้ส่งยิ้มให้แม็กกี้พร้อมกับจูงมือไปยังหลังตู้เสื้อผ้า "เห็นไหม มันไม่มีอะไรหรอก ก็แค่หนูตาย"


   แม็กกี้มองดูร่างของสัตว์ที่แห้งกรัง แถมยังมีหนอนสีขาวตัวเล็ก ๆ ชอนไชอยู่บนหนูตัวนั้นด้วยความขยะแขยงก่อนที่จะเดินไปที่ระเบียงดาดฟ้าห้องพักเพื่อสูดเอาอากาศที่บริสุทธิ์ ส่วนไม้ได้ไปทำการเจรจาต่อรองกับพนักงานเรื่องห้องพัก


   “ผมยังยืนยันจะอยู่ที่นี่ครับ แต่ว่าเดี๋ยวรบกวนทำความสะอาดห้องให้ใหม่ด้วยนะครับ เพราะหลังตู้มีซากหนูตายหนึ่งตัว" สิ้นเสียงของไม้ ร่างลึกลับที่แฝงกายดักฟังมานานก็แสยะยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ ...มิวส์ วิญญาณหนุ่มที่ต้องตายเพราะโดนเล่ห์กลของวิญญาณร้ายตนก่อนหน้าหลอกให้ตกตึกได้เฝ้ารอเวลานี้มานานแสนนาน... เวลาที่จะมีเหยื่อรายใหม่มาพักในห้องพักห้องนี้


   'ถึงเวลาที่จะเป็นอิสระแล้ว แต่จะเอาใครมาเป็นตัวแทนดีนะ หึหึหึ...!'




   หลังจากที่ไปดูห้องพักใหม่เสร็จ ไม้กับแม็กกี้ก็กลับมาที่ห้องพักห้องพักห้องเดิม เหลือเวลาอีกหนึ่งสัปดาห์กว่าจะถึงวันย้ายหอ ไม้เฝ้ารอให้ถึงวันนั้นอย่างใจจดใจจ่อผิดกับแม็กกี้ที่ไม่อยากให้วันนั้นมาถึงเลยสักนิด


   “เป็นไรว๊า งอนกูเหรอที่รัก" ไม้ที่เห็นแม็กกี้นั่งขมวดคิ้วเป็นปมมาหลายชั่วโมงอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น พร้อมกับเข้าไปนั่งกระแซะออดอ้อนอยู่ข้าง ๆ


   “กูไม่ชอบหอนั้นนี่หว่า น่ากลัว วังเวงจะตายไป" แม็กกี้ตอบออกมา พอนึกถึงหอพัก 10 ชั้นที่สภาพเก่า ๆ โทรม ๆ หากแต่เพราะสีที่โดนทาทับใหม่นั้นทำให้หอที่ถูกสร้างมานานหลายปีดูใหม่ขึ้น แต่มันก็ยังเก่าในสายตาของแม็กกี้อยู่ดี มิหนำซ้ำข่าวลือเรื่องคนกระโดดตึกตายเมื่อสิบปีก่อนยังช่วยตอกย้ำให้ความกลัวในจิตใจของแม็กกี้มีเพิ่มมากขึ้นไปอีก "มึงก็รู้ไม่ใช่เหรอว่ากูกลัวผี"


   “อืม" ไม้ตอบออกมา เขารู้มาเสมอว่าคู่หูคนนี้กลัวผีเป็นชีวิตจิตใจ แต่ก็นั่นแหละนะ... ผีมีจริงในโลกที่ไหน มันไม่เคยอยู่ในความคิดของไม้เลยสักนิด และถ้าแม็กกี้ยังคงกลัวผีอยู่อย่างนี้ เขาก็จะได้หลอกให้แม็กกี้นอนกอดและทำอะไร ๆ ได้ง่ายขึ้น ...การย้ายไปอยู่หอพักหอนั้นนอกจากจะอยู่ใกล้มหาลัยแล้ว มันยังเป็นแผนของไม้ที่จะทำให้แม็กกี้กับเขาได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นอีกด้วย


   “มึงรู้แล้วมึงยังจะไปหอนั้นอีกทำไม" แม็กกี้ต่อว่า


   “ก็มันใกล้มหาลัย" มันเป็นเหตุผลเดียวที่น่าฟังที่สุดของไม้เลยล่ะ "ถ้ามึงกลัวก็บอกแล้วไงให้กอดกูเอาไว้ กูไม่ถึงมึงไปไหนหรอกเข้าใจไหม"


   พูดจบก็เอื้อมมือไปกอดกับร่างขาว ๆ เนื้อแน่นสมส่วนที่นั่งงอนอยู่ข้าง ๆ พอจะซุกจมูกไปที่ใบหน้า ร่างที่โดนกอดก็หันหน้ามาปะทะทันทีทำให้ริมฝีปากของคนทั้งคู่เกือบจะชนกัน


   “มึงอ่ะ ก็เป็นงี้ประจำ เอาแต่ใจไม่ฟังอะไรกูสักครั้ง" แม็กกี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อก่อนที่ริมฝีปากจะชนกันเขาได้ดันร่างที่กำยำกว่าออกไปเบา ๆ


   “โถ่ที่รัก... มึงก็เข้าใจกูหน่อยดิวะ ปีสี่แล้วงานมันเยอะนี่นา อยู่ใกล้มหาลัยสะดวกที่สุด" พูดจบก็ลุกขึ้นไปกอดหวังจะออดอ้อน และเมื่อเห็นว่ายังไม่ได้ผล ไม้ก็เลยต้องคิดหาวิธีที่จะทำให้คู่หูของเขาสบายใจได้ที่สุด "งั้นก่อนย้ายหอไปทำบุญกันดีไหม"


   “อืม... ก็ได้" หลังจากที่แม็กกี้ตอบตกลง รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นมาบนใบหน้า




   ก่อนวันย้ายหอ... ไม้กับแม็กกี้ได้ไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้ สังฆทานที่ถูกหิ้วมามากมายจากในมือของแม็กกี้ทำให้ไม้บ่นอุบอิบตลอดทาง


   “ย้ายหอแค่นี้ถวายสังฆทานทำไมเยอะแยะจังวะ" ที่ไม้ต้องบ่นก็เพราะถังสังฆทานที่เตรียมมาไม่ใช่แค่ถังสองถัง แต่มันเต็มรถแท็กซี่ที่นั่งมา รวมถึงช่องว่างภายในกระโปรงหลังรถแท็กซี่อีกด้วย กว่าจะขนเข้าอุโบสถเพื่อถวายพระสงฆ์ได้ก็เล่นเอาไม้เหนื่อยจนร่างแทบจะสลาย ...ก็เพราะทั้งคู่ได้ตกลงกันเอาไว้ ว่าถ้าไม้ไม่ขน แม็กกี้ก็จะไม่ย้ายไปอยู่หอพักกับไม้ด้วยน่ะสิ


   “ก็... ไม่รู้แหละ หอพักไม่น่าไว้ใจ ต้องทำบุญเยอะ ๆ ไว้ก่อน วิญญาณเร่ร่อนจะได้ของกันครบ และพวกนั้นจะได้ไม่มาหลอกหลอนเรา" แม็กกี้ว่า


   หลังจากที่เถียงกันสักพัก เจ้าอาวาสก็เดินมาแล้วการทำพิธีถวายสังฆทานก็เริ่มขึ้น...


   “หลวงพ่อครับพวกผมสองคนกำลังจะย้ายหอพัก... พอดีเพื่อนผมไม่สบายใจก็เลยอยากจะมาถวายสังฆทานให้กับเจ้าที่เจ้าทางและวิญญาณเร่ร่อนที่หอพักใหม่น่ะครับ" ไม้เอ่ยขึ้น


   “พนมมือซะ" เจ้าอาวาสบอก จากนั้นเสียงสวดมนต์ก็ดังขึ้น ไม้กับแม็กกี้นั่งพนมมือพลางอธิษฐานให้เจอแต่สิ่งดี ๆ ไม่มีอะไรมาเบียดเบียน จนกระทั่งบทสวดจบลง...


   “คิดดีทำดีนะโยม หอใหม่ของพวกโยมเจ้าที่แรง... ถ้าจิตไม่อ่อนก็คงไม่มีอะไรร้าย ๆ เกิดขึ้น"


   “ได้ยินไหม อย่าจิตอ่อน" ไม้แอบกระซิบที่ข้างหูของแม็กกี้ จนคนที่โดนตอกย้ำว่าอย่าจิตอ่อนต้องเอาศอกกระทุ้งที่สีข้างของคนพูดเบา ๆ


   “มานี่มา" เจ้าอาวาสกวักมือเรียกทั้งคู่เข้าไปหา ก่อนจะหยิบสายสิญจน์ผูกข้อมือมาสองเส้น แล้วก็ผูกให้กับชายหนุ่มทั้งคู่
“มีอะไรไม่ชอบมาพากลก็มาปรึกษาหลวงพ่อได้เสมอนะโยม"


   หลังจากที่ผูกสายสิญจน์เสร็จ ทั้งคู่ก็ลากลับเพื่อเตรียมไปขนของย้ายหอ... เจ้าอาวาสมองร่างของสองหนุ่มที่เดินจากไปด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน สำหรับชายหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาวเหลือง จมูกโด่ง หน้าตาคมสัน แต่รูปร่างสูงกำยำกว่านั้นท่านไม่ได้นึกห่วงอะไร แต่ชายหนุ่มอีกคนที่มีผิวคล้ำกว่าและรูปร่างที่เล็กกว่าเล็กน้อยท่านรู้สึกเป็นห่วง และมีลางสังหรณ์ว่าชะตาของเขาอยู่ในเกณฑ์ดวงตกและมีสิทธิ์ที่จะถึงฆาต... แต่มันก็ไม่แน่เสมอไป ทุกอย่างขึ้นอยู่กับจิตใจของชายหนุ่มทั้งคู่เท่านั้น


   พอกลับมาถึงหอพัก ภารกิจเก็บของเตรียมย้ายหอก็เริ่มขึ้น ห้องที่เคยสะอาดสะอ้านและเป็นระเบียบค่อย ๆ เละเทะด้วยเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายเรี่ยราดก่อนจะถูกยัดลงกระเป๋า และในระหว่างที่กำลังเก็บของอยู่นั่น การทะเลาะวิวาทของคู่หูหน้าหล่อก็เริ่มขึ้น


   “ไอ้แม็กกี้... นี่อะไร" ไม้แย้มรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความประชดสุดฤทธิ์ ในมือก็ถือแผ่นกระดาษสีชมพูอ่อนขนาด A5 เอาไว้ จากนั้นไม้ก็อ่านข้อความในกระดาษด้วยน้ำเสียงที่ดัดจริิตที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้จนผู้หญิงยังอาย


   "น้องแม็กกี้ครับ พี่ชอบน้องแม็กกี้นะครับ ถ้าเมื่อไหร่ที่น้องแม็กกี้ไม่มีใครให้จำเอาไว้ว่ายังมีพี่ที่จะยืนอยู่ข้าง ๆ หัวใจของน้องแม็กกี้เสมอนะครับ... พี่จะรอวันที่น้องแม็กกี้เปิดใจให้พี่นะครับ... พี่นัยย์" สิ้นเสียง...  ไม้ก็ขยำกระดาษทิ้ง "ถุย... กูจะอ้วก"


   แต่แทนที่แม็กกี้จะตอบโต้ เขากลับแสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะหยิบกล่องซีดีเอ็กซ์ขึ้นมาแล้วเหล่ตามองไม้ด้วยสายตาจับผิด


   กระดาษที่ซ่อนอยู่ในกล่องซีดีถูกหยิบขึ้นมาบ้าง และในขณะที่แม็กกี้กำลังจะอ่าน ไม้ก็พยายามจะแย่งกลับคืนมา


   “อย่าอ่าน เอามา...” ไม้โวยวายลั่น หากแต่แผ่นกระดาษยังคงอยู่ในมือแม็กกี้ "ขอร้องที่รัก...”


   พูดจบก็คุกเข่าส่งสายตาอ้อนวอนราวกับลูกหมาตัวน้อยที่กำลังจ้องเจ้านายเพื่อขอขนมหวานที่สุดแสนอร่อย แต่ทว่าเจ้านายผู้โหดร้ายกลับดันศีรษะของเจ้าลูกหมาบึกบึนตัวนั้นออกไปแล้วก็คลี่แผ่นกระดาษออกมาอ่านแล้วแสร้งทำเสียงดัดจริตขึ้นมาบ้าง


   “ดูเสร็จแล้ว ถ้าไม่มีใครช่วย... ก็โทรมาเรียกปั๊มได้เสมอนะครับ พี่ไม้สุดหล่อ" สิ้นเสียง แม็กกี้ก็หันไปมองหน้าไม้ด้วยความฉับไว "หึหึ... ถุย ไอ้เชี่ยไม้ มึงบอกมาเลยนะว่านี่หมายความว่ายังไง"


   “โอย... ที่รัก มันไม่มีอะไรจริง ๆ" ไม้ทำเสียงออดอ้อน


   “ไม่มีอะไร! หึหึ" แม็กกี้แสร้งทำเสียงไม่เชื่อใจก่อนที่ความหมั่นไส้ที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้เขาเคาะกบาลคนที่ตัวโตกว่าหนึ่งที "มึงกล้ามากนะ... ที่ดูซีดีโป๊แล้วไม่ชวนกู!”


   “อ้าว! มึงไม่ได้โกรธเรื่องจดหมายหรอกเหรอ" ได้ยินคำพูดของแม็กกี้ ไม้ก็ต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย


   “ไม่! กูรู้ว่ามึงรักกูหัวปรักหัวปรำ มึงไม่ทำอะไรอย่างงั้นหรอก" แม็กกี้ว่า... “แต่กูโกรธมึง... ที่มึงไม่ชวนกูดู โอ๊ย... ไอ้เชี่ยเอ้ย เปิดดูเดี๋ยวนี้เลย"


   “เหอะ ๆ" ไม้หัวเราะในลำคอ ไม่รู้ว่าคนอดดูซีดีโป๊กำลังคิดอะไรอยู่... “เอาไว้ไปดูที่หอใหม่ละกัน"


   หลังจากที่เคลียร์ปัญหากันได้ ไม้กับแม็กกี้ก็รีบเก็บของให้เสร็จสรรพ เพราะเดี๋ยวรถที่จ้างขนของจะมารับเย็นนี้แล้ว... พอเก็บของเสร็จ ทั้งคู่ก็ทิ้งร่างที่เหนื่อยสายตัวแทบขาดไปบนเตียงนอนที่ไร้ผ้าคลุม


   “เหนื่อยชะมัด ของมึงนี่เยอะกว่าที่คิดอีกนะไอ้แม็ก" ไม้บ่น...


   “อย่ามาโบ๊ยที่เยอะน่ะมันหนังโป๊ นิยายเกย์กับการ์ตูนอีโรติกมึงต่างหาก" แม็กกี้เถียงกลับ


   “เถียงกูเหรอ" พูดจบก็เหยียดแขนไปล็อกคอของคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ


   “เชี่ยไม้ เหงื่อมึงเยอะ กูเหม็นนะโว้ย" คนที่โดนล็อกคอจนจมูกจ่ออยู่บริเวณรักแร้บ่นอุบอิบ


   “อ้าว! ก็มึงชอบไม่ใช่เหรอกลิ่นตัวกู ดมซะ สมน้ำหน้าขี้บ่นดีนัก" ไม้เถียงกลับ พลางหัวเราะชอบใจที่ได้กลั่นแกล้งคนพิเศษ "ว่าแต่มึงยังคิดมากเรื่องหอใหม่อยู่หรือเปล่าวะ"


   “คิด" แม็กกี้ตอบสั้น ๆ โดยที่ยังโดนล็อกคอและนอนอยู่ในท่าเดิม


   “มึงยังกลัวอยู่เหรอ" ไม้ถามอีกครั้ง


   “เออ!" แม็กกี้ตอบด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ พลางพยายามดันร่างให้ออกจากการโดนล็อกคอแต่ก็ไม่สำเร็จ "ถ้ากูโดนผีหลอกแล้วเป็นอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบวะ"


   “กูบอกแล้วมันไม่มีอะไรหรอก ถ้ามึงกลัว... มึงก็แค่หลับตาแล้วกอดกูแน่น ๆ ก็พอ ก็สัญญา... ว่ากูจะไม่ทิ้งมึงไปไหน"


   สิ้นเสียงของไม้ เขาก็เอาแขนที่ล็อกคอของแม็กกี้ออกก่อนที่จะเปลี่ยนไปกอดคนที่นอนอยู่ข้าง ๆ ด้วยความเอ็นดู... “มึงก็รู้นี่ว่ากูไม่มีวันที่จะทิ้งมึง...”


   “แล้วถ้ามึงมีธุระ มึงไปเรียน กูจะอยู่ยังไง"


   จบประโยคคำถามของแม็กกี้ ไม้ก็ยิ้มออกมา เพราะนี่ก็เป็นอีกแผนหนึ่งที่เขาต้องการย้ายไปอยู่หอนั้น "หึ ๆ ถ้ามึงไม่กล้าอยู่ห้อง มึงก็ต้องไปกับกูทุก ๆ ที่เข้าใจไหม ...แต่มันไม่มีไรหรอกน่า เชื่อกูเถอะ"


   “เออ...” พูดจบก็กอดรักฟัดเหวี่ยงกัน... เป็นปกติที่คู่รักคู่นี้จะชอบหยอกล้อกันรุนแรง ๆ เพราะไม้ค่อนข้างที่จะชอบความซาดิสม์ แต่มันก็เป็นการซาดิสม์ที่อยู่ในขอบเขต ไม่ได้ทำให้คนรักเจ็บตัวมากมาย และที่แม็กกี้ยอมก็เพราะหลังจากที่คบเป็นเพื่อนสนิทกับไม้มาหลายปีจนกระทั่งความสัมพันธ์พัฒนาขึ้น เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองชอบที่ไม้กลั่นแกล้งแรง ๆ พูดง่าย ๆ ก็คือ... เขาเป็นมาโซคิสม์นั่นเอง!


-------------------
จบตอนที่ 1
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน... By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-07-2013 16:33:08
          ตอนที่ 2


          รถขนของที่นัดไว้กันไว้ตั้งแต่บ่ายสี่โมงเย็นมาช้ากว่าเวลานัดหนึ่งชั่วโมง และกว่าจะขนของขึ้นรถเสร็จก็ปาไปหกโมงเย็นแล้ว... เนื่องจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่ใช่มหาวิทยาลัยในเมืองใหญ่ เลยทำให้ตึกรามบ้านช่องข้างทางเงียบเหงากว่าปกติ แค่พระอาทิตย์ตกฟาก ก็เหมือนกับว่าโลกที่เคยวุ่นวายต้องแปรเปลี่ยนไปอีกโลกที่ไม่ต่างจากป่าช้าสักเท่าไหร่...


   แต่นั่นก็ยังไม่น่ากลัวเท่ากับว่า... ทำไมมหาวิทยาลัยแห่งนี้ถึงได้มาสร้างอยู่ไกลจากตัวเมืองนักนะตั้ง 10 กว่ากิโลเมตรแหนะ หอพักที่ผุดขึ้นใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยก็มีไม่กี่แห่งเท่านั้น รอบข้างส่วนใหญ่ก็มีแต่ป่าไม้และทิวเขาเท่านั้น เลยทำให้บรรยากาศในยามพลบค่ำแบบนี้น่าวังเวงมากขึ้นไปอีก


   ทันทีที่รถขนของขับเคลื่อนไปถึงหอพัก บรรยากาศที่รอบข้างมีแต่ความมืดมิดและเสียงนกที่ไม่อาจทราบสายพันธุ์ที่ร้องโหวกเหวกขึ้นก็ได้ทำให้คนที่กลัวผีจับจิตขนลุกขึ้นมาในบันดล


   “ไอ้ไม้... นี่ขนาดยังไม่สองทุ่มเลยนะ" แม็กกี้กระตุกแขนไม้เบา ๆ "มึงฟังเสียงนั่นดิ"


   “ก็แค่เสียงนก อยู่กับป่ากับธรรมชาติดีออก" ไม้ปลอบใจ "อย่ามัวพูดมากอยู่เลย ช่วยกันยกของดีกว่า"


   พูดจบ... ก็ช่วยกันขนของขึ้นห้อง รวมทั้งคนขับรถ จนกระทั่งสองทุ่มกว่า การขนของขึ้นห้องก็สำเร็จเสร็จสิ้น หลังจากที่จ่ายค่ารถขนของเรียบร้อยแล้ว ไม้กับแม็กกี้ก็ขึ้นไปนอนพักอยู่บนห้อง


   “ไง... กลิ่นอับไม่มีแล้ว" ไม้ประชดประชันพอเห็นร่างที่กลัวผีจับจิตยังคงนั่งผวา เขาก็เลยไปนั่งข้าง ๆ ก่อนที่จะกอดหมับที่ร่างนั้นด้วยความเอ็นดู "ดูหนังโป๊กันไหมเบบี๋"


   “หยุดเลยไอ้ไม้ กูเหนื่อยอยู่นะ เกิดดูตอนนี้ก็เสียอารมณ์เปล่า ๆ" แม็กกี้ตอบกลับก่อนที่จะแกะอ้อมกอดของไม้ออกแล้วทำท่าว่าจะลุกไปย้ายข้าวของให้เข้าที่ แต่ทว่ามือของไม้ที่คว้าเอาไว้ก็ทำให้แม็กกี้ต้องชะงักเสียก่อน


   “เดี๋ยวสิ! วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ค่อยจัดห้องพรุ่งนี้ก็ได้น่า" ไม้พูดพลางพยักหน้าหงึก ๆ เพื่อให้คนฟังเห็นด้วย "มาเล่นจ้ำจี้ให้หายเหนื่อยก่อนดีกว่า... นะที่รัก"


   “ไอ้เชี่ย มึงก็คิดแต่เรื่องแบบนี้แหละ" แม็กกี้ต่อว่า แต่ทว่าในประโยคต่อมา ทำไมความคิดของเขาช่างตรงข้ามกับคำต่อว่าในครั้งแรกจังเลยนะ "เอาให้ถึงที่สุดเลยละกัน เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ได้ปลดปล่อยบ้างก็ดี"


   สิ้นเสียงของแม็กกี้ รอยยิ้มสุดแสนเจ้าเล่ห์ของไม้ก็แสยะออกมา จากนั้นเขาก็เดินไปหยิบโซ่ในกระเป๋าใบหนึ่งออกมาพร้อมกับแม่กุญเจ


   “ไปนอนอยู่บนเตียง" ไม้สั่ง ส่วนแม็กกี้ก็ปฏิบัติตาม "ตั้งท่าให้พร้อม"


   แขนและขาทั้งสองข้างของแม็กกี้ถูกกางออก จากนั้นคนซาดิสม์ก็ค่อย ๆ บรรจงใช้โซ่พันธนาการแขนและขาของร่างที่นอนอยู่เอาไว้ เมื่อเห็นว่ามันแน่นหนาแล้ว ปฏิบัติการคลายความเหน็ดเหนื่อยก็เริ่มขึ้น ...โดยที่พวกเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าในขณะที่กำลังล่ามโซ่แม็กกี้อยู่นั้น สายสิญจน์ที่ถูกผูกอยู่ที่ข้อมือของแม็กกี้ได้ขาดสะบั้น


   ไม้ใช้นิ้วมือไต่ไปตามร่างกายของแม็กกี้ ตั้งแต่ปลายเท้าขึ้นไปยันศีรษะ แล้วก็วนกลับลงมาอีกรอบ พอเห็นว่าร่างที่นอนอยู่ขนลุกขนพองด้วยความจั๊กจี๋ ไม้ก็เปลี่ยนมาใช้มือนวดที่ต้นขาให้เบา ๆ


   “ปวดตรงไหนบอกได้นะ" คนที่กำลังนวดบอก


   “แล้วแต่มึงเลย อยากทำไรให้กูก็ทำไปเหอะ" คนที่โดนพันธนาการอยู่ตอบกลับมา


   ในขณะที่แม็กี้กำลังเคลิ้มสบายจนเกือบจะหลับอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์ของห้องพักก็ดังขึ้น


   “ใครโทรมาวะ" ไม้บ่นอุบอิบเพราะมันทำให้เขาเสียอารมณ์กับการเล่นสนุก ๆ กับคู่หู แต่ก็ไม่วายที่จะเดินไปรับสาย "สวัสดีครับ"


   “สวัสดีค่ะ" เสียงของผู้หญิงวัยกลางคน เอ่ยออกมา ถ้าจำไม่ผิดไม้จำได้ว่าเสียงนี้น่าจะเป็นเสียงของพนักงานที่เคยมาเปิดห้องให้ดูในวันที่มาดูหอ "พอดีจะโทรมาแจ้งให้ลงมาทำสัญญาให้เรียบร้อย และมารับคีย์การ์ดเข้าหอพักด้วยค่ะ"


   “อ๋อ... ตอนนี้เลยเหรอครับ" ไม้เอ่ยถาม


   “ใช่ค่ะ"


   “ครับ"


   จากนั้นก็วางสาย แทนที่ไม้จะอธิบายอะไรให้แม็กกี้ฟังบ้าง เขากลับวิ่งหน้าตั้งออกจากประตูห้องไปในทันที


   “เฮ้ย ไอ้ไม้มึงจะไปไหนวะ" แม้จะมีเสียงตะโกนถามให้หลังของแม็กกี้ แต่ทว่าไม้ก็ไม่สนใจสักนิด ไม้รู้ว่าแม็กกี้คงกำลังกลัว และการแกล้งให้แม็กกี้ติดอยู่กับเตียงนอนลุกไปไหนไม่ได้บนห้องที่หมอนั่นเชื่อว่ามีประวัติ... มันคงน่าสนุกไม่น้อย


   “มึงกลับมาก่อน เชี่ยละ ทิ้งกูไว้อย่างงี้เนี่ยนะ" แม็กกี้ยังคงบ่นอุบอิบต่อไป และทันทีที่เสียงฝีเท้าของไม้ที่ดังอยู่ภายนอกห้องจางหายไป ไม่รู้ว่าเขาอุปทานไปเองหรือเปล่า อากาศรอบข้างที่เคยร้อนก็เย็นลงจนกระทั่งเขารู้สึกหนาว ...ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ยังร้อนจับจิตอยู่เลย


   ร่างวิญญาณที่เฝ้ามองทุกการกระทำของไม้กับแม็กกี้ตั้งแต่เข้าห้องมาแสยะยิ้มทันที พอเห็นเหยื่อที่ไปไหนไม่ได้ไม่ต่างจากหนูที่กำลังติดจั่นมันก็ต้องหาวิธีต้อนรับสักหน่อย


   ...แล้วไฟในห้องที่เคยสว่างไสวก็ดับลง...


   คนที่เคยโวยวายลั่นพลันเงียบเสียงลง แม็กกี้สอดส่ายสายตาไปทางซ้ายขวาด้วยความรู้สึกกลัวจับใจ ปากที่พยายามจะท่องบทสวดต่าง ๆ นานาเท่าที่นึกได้ก็ดันแข็งขึ้นมาจนพูดอะไรไม่ออกเพราะความกลัว


   'ยินดีต้อนรับสู่ห้องใหม่นะ' เสียงของมิวส์ที่เอ่ยออกมาข้าง ๆ ใบหูของแม็กกี้ทำให้แม็กกี้ขนลุกขึ้นมาฉับพลัน แม้เขาจะไม่ได้ยินเสียงนั่น แต่ทว่าลมเบา ๆ ที่ปะทะใบหูของเขาก็ทำให้เขารู้ว่า มันต้องมีอะไรบางอย่างแฝงกายอยู่ในห้องนี้แน่นอน


   แล้วความรู้สึกที่เหมือนปูไต่ตามร่างกายก็เริ่มขึ้น ...มันเป็นความรู้สึกเดียวกับที่ไม้ใช้นิ้วมือไต่ไปตามตัวของแม็กกี้ แต่ทว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในห้อง แล้วเขารู้สึกถึงสัมผัสแบบนั้นได้อย่างไร


   “ออกไป อย่ามายุ่งกับกู" แม็กกี้พยายามเค้นเสียงออกมาสุดฤทธิ์ ภาพที่เห็นรอบข้างมีเพียงความมืดมิดแต่สัมผัสที่ได้รับมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่


   'ปูไต่ ปูไต่ หึหึ' พอเห็นความกลัวของคนที่นอนอยู่ มิวส์ก็ยิ่งรู้สึกสนุก เขาต้องทนอยู่กับความเดียวดายบนหอพักแห่งนี้มานานนับสิบปีไม่ได้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันที่ไหน เพราะหลังจากที่เขาสิ้นลมหายใจ หอพักชั้นนี้ก็ถูกปิดทันที และมีการนำผ้ายันต์ต่าง ๆ นานามาแปะไว้ตามห้องต่าง ๆ แต่พอห้องพักเหล่านี้ถูกเปิดให้เช่าอีกครั้ง แม่บ้านที่ทำความสะอาดก็แกะผ้ายันต์ออกทั้งหมดทำให้เขากลับมามีชีวิตที่ไร้ลมหายใจอย่างอิสระอีกครั้ง


   'เอ๋... ว่าแต่ถ้าแกล้งให้กลัว มันจะไม่รีบเผ่นหนีออกจากหอพักก่อนเหรอเนี่ย' คิดได้ดังนั้น นิ้วมือที่เคยเพ่นพ่านอยู่ตามร่างกายก็ต้องหยุดชะงัก ห้องที่เคยมืดมิดก็กลับมาสว่างไสวอีกครั้งเพราะวิญญาณของมิวส์ได้ไปกดสวิชต์ให้


   แล้วความสับสนก็แล่นเข้ามาในหัวของวิญญาณ(เกือบ)ร้าย เขาจำเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนสิ้นลมหายใจได้ ตั้งแต่เรื่องที่ก้องแฟนหนุ่มของเขาบอกเลิก จนกระทั่งมาถึงร่างปริศนาที่มาปรากฏอยู่หน้าห้อง มันหลอกให้เขาตายใจจนสุดท้ายมันก็ใช้ช่วงเวลานั้นผลักให้เขาตกจากตึก


   ความอาฆาตเกิดขึ้นในจิตใจของมิวส์ทันที หากแต่มันเป็นการอาฆาตวิญญาณชั่วร้ายตนนั้น ในเมื่อเขาไม่ได้มีพันธะผูกแค้นกับมนุษย์แต่อย่างใด แล้วทำไมเขาต้องหลอกให้คนเหล่านี้กลัวด้วยนะ


   ...หรือว่าเขาควรจะทำดีกับคนเหล่านี้ เพื่อที่จะได้มีเพื่อนคุยให้หายเหงา ถึงวันที่มีใครสังคนผิดหวังในเรื่องของความรักเมื่อไหร่ ค่อยหลอกให้มันตกตึกเพื่อที่จะมาเป็นผีติดที่แทนเขาก็ได้นี่นา


   ใช่... มิวส์ควารจะทำแบบนั้น การหลอกคนไม่ใช่เรื่องที่น่ายินดีนัก แต่การแกล้งปรากฏตัวให้เห็นแล้วตีสนิทมันน่าสนุกกว่าเยอะเลย แถมยังได้เพื่อนอีกต่างหาก แต่ทว่า... แล้วการปรากฏตัวให้มนุษย์เห็นมันทำยังไงกันนะ


   ในขณะที่มิวส์กำลังคิดอยู่นั้น ร่างที่ออกจากห้องไปนานก็วิ่งกลับมา พอไม้เห็นว่าแม็กกี้สลบไสลไปอยู่บนเตียงพร้อมกับเส้นผมที่ฟูฟ่องก็เข้าใจได้ทันทีว่าหมอนี่ต้องโดนสิ่งที่มองไม่เห็นหลอกหลอนแน่นอน ...แต่ถึงแม้แม็กกี้จะมองไม่เห็น แต่กับไม้มันไม่ใช่อย่างนั้น


   “มึงทำอะไรแม็กกี้" ไม้เดินไปที่บริเวณตู้เสื้อผ้า หากเป็นคนธรรมดาคงไม่เห็นร่างวิญญาณที่แฝงกายอยู่ในห้องแต่ทว่าเขามองเห็นมันชัดเจนเลยล่ะ เห็นตั้งแต่วันที่มาดูห้องครั้งแรกแล้ว และที่เขาอยากมาอยู่ที่นี่อีกเหตุผลหนึ่งก็คือ เขาอยากรู้สาเหตุของอาถรรพ์ห้องพักที่เกิดขึ้น


   มิวส์ที่ยืนอยู่ตรงบริเวณหน้าตู้เสื้อผ้า หันซ้ายหันขวาเพื่อมองดูว่ามีใครอยู่ในละแวกนี้หรือเปล่า ก่อนจะชี้เข้าหาตัวเอง


   “มึงนั่นแหละ" แม็กกี้ตวาดเสียงดังลั่น พลางจะคว้ามือไปจับกับวิญญาณตรงหน้า แต่ทว่าร่างที่ไร้เนื้อกายก็ไม่ต่างอะไรกับอากาศธาตุที่เขาไม่สามารถสัมผัสได้


   “นายมองเห็น...” มิวส์ยังคงงุนงงเมื่อไม่แน่ใจว่าตัวเองฝันไปหรือเปล่าเขาก็ยกมือขึ้นมาตบที่ใบหน้าของตัวเองอย่างแรง "โอ๊ยยย... ไม่ได้ฝันนี่หว่า"


   “มึงจะบอกได้ยังว่ามึงแกล้งอะไรไอ้แม็กกี้" ไม้เอ่ยถามอีกครั้ง พอเห็นการกระทำของดวงวิญญาณเขาก็ต้องพ่นลมหายใจออกมาด้วยความเอือมระอา 'วิญญาณปัญญาอ่อนนี่หว่า'


   “ก็แค่ทำไฟดับแล้วแกล้งปูไต่ แล้วตานั่นมันก็สลบไป" มิวส์ตอบออกมาตามความจริงทุกประการ ใครที่บอกว่าผีชอบหลอกเห็นจะไม่จริงซะแล้วล่ะ เพราะมิวส์ไม่ได้หลอกอะไรไม้สักนิด


   “ปูไต่?” ไม้ทวนคำก่อนจะทำสีหน้างุนงง "มึงหมายความว่ายังไง"


   พูดจบก็ทำหน้าถมึงทึงที่บ่งบอกถึงความหึงหวงสุดฤทธิ์ หากแต่ดวงวิญญาณที่ทำผิดกลับยิ้มเหยเกออกมาพร้อมกับพนมมือไหว้เพื่อเป็นการไถ่โทษอย่างหวาดกลัว


   “ขอโทษ... ฉันจะไม่ทำอีกแล้ว" มิวส์พูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นผวาสุดฤทธิ์ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นวิญญาณแท้ ๆ แทนที่จะทำให้คนกลัว แต่เขากลับกลัวคนเสียนี่ เสียชื่อผีชะมัด!!!


   “เออ! ดี ถ้ามึงแกล้งอะไรไอ้แม็กกี้อีก อย่าหาว่ากูไม่เตือน" ไม้พูดด้วยน้ำเสียงที่เชียบขาด สีหน้าและหน้าตาที่คมเข้มหล่อเหลาของเขาในยามที่อยู่ในมาดโหดแบบนี้ช่างดูดีเหลือเกิน ขนาดมิวส์ก็ยังอดชื่นชมไม่ได้ "ว่าแต่มึงชื่ออะไร"


   “มะ... มิวส์ครับ" ดวงวิญญาณตอบออกมา ที่ต้องมีหางเสียงเพราะคิดว่าการทำตัวเชื่อง ๆ กับหมอนี่น่าจะเป็นผลดีกว่า ...คนอะไรดุชะมัด...


   “ชื่อแปลกว่ะ... มะมิวส์" ไม้ทำสีน่าประหลาดใจ


   “มะ.. ไม่ใช่ครับ มิวส์เฉย ๆ ครับ" มิวส์ลอบถอนหายใจออกมา ...คนอะไรน่ากลัวชะมัด จะให้เขาไม่พูดตะกุกตะกักได้ไงเล่า


   "เออ... ก็ว่าอยู่คน...เอ้ยผีอะไรชื่อมะมิวส์ กูชื่อไม้ ส่วนนั่นแม็กกี้" ไม้แนะนำตัวบ้าง ฉับพลันมือก็ยืดไปพิงกับประตูตู้เสื้อผ้าจนเกิดเสียงดัง ' ปั้ง' จากนั้นก็โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ กับใบหน้าของดวงวิญญาณ "มึงนี่ก็หน้าตาดีนะ ว่าแต่มึงตายได้ยังไงเนี่ย"


   ที่ต้องชมก็เพราะมิวส์เป็นชายหนุ่มที่หน้าหวานเกินชาย ผิวก็ขาวใสผุดผ่องหากแต่เพราะตอนนี้เป็นดวงวิญญาณเลยทำให้ไม่อาจระบุสีผิวที่แท้จริงได้ชัด ส่วนดวงตาที่กลมโตและสดใสก็เข้ากับใบหน้าหากแต่ภายในดวงตาคู่นั้นกลับแฝงไปด้วยความเศร้าจนไม้สัมผัสได้


   “ตกตึกตาย ฮือ ๆ ๆ" พูดจบก็มีเสียงสะอื้น


   “ทำไมถึงโดด" ไม้เอ่ยถามเพราะอยากรู้ว่าทำไมหมอนี่ถึงคิดสั้นได้ขนาดนี้


   “ฮือ... ก็ไม่ได้อยากโดดหรอก แค่โดนผีตัวก่อนมันหลอก พอรู้ตัวอีกทีก็กลายมาเป็นวิญญาณซะแล้ว" มิวส์ตอบทั้งที่น้ำเสียงยังคงสะอื้น เขาจำเรื่องราววันนั้นได้เป็นอย่างดี ทันทีที่มีข่าวว่าเขาคิดสั้นกระโดดตึกตาย พ่อกับแม่ก็มารับศพเขา ภาพของพ่อแม่ที่ร้องไห้ออกมาทำให้หัวอกคนเป็นลูกต้องหัวใจแทบสลาย คำก่นด่าต่าง ๆ นานาที่หาว่าเขาโง่เอาชีวิตมาทิ้งเพราะเสียใจเรื่องความรักยังคงตอกย้ำอยู่ในหัวของเขามาตลอดระยะเวลา 10 ปี


   คนพวกนั้นจะรู้ไหมว่าความจริงเขาไม่ได้ต้องการจะฆ่าตัวตายเลยสักนิด แต่เรื่องราวมันเกิดขึ้นทั้งหมดก็เพราะไอ้ผีบ้าตนก่อนหน้ามันทำให้เขาเป็นอย่างงี้...


   “แล้วมึงจะทำยังไงต่อไป" ไม้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบก่อนจะคิดอะไรบางอย่างแล้วทำหน้าถมึงทึงออกมา ตาก็โตจนแทบจะถลนออกมาอยู่แล้ว "หรือว่ามึงคิดจะหาใครมาตายแทนมึง"


   “เปล่าคร้าบ" มิวส์ยกมือปิดตาเพราะภาพของคนหน้าหล่อที่กำลังทำหน้าเกรี้ยวโกรธมันน่ากลัวยิ่งกว่าวิญญาณอย่างเขาซะอีก "ฉันก็แค่เหงา อยากมีเพื่อนก็เท่านั้น"


   ท้ายที่สุดมิวส์ก็จำต้องโกหกออกไปแบบนั้น เพราะไม่อยากให้หมอนี่สงสัยอะไร และหากหมอนี่รู้ความจริงว่าเขากำลังรอให้ใครบางคนเสียใจเรื่องความรักจนจิตตกแล้วอยู่ในสภาพที่อ่อนแอที่สุด จากนั้นเขาก็จะหลอกให้คน ๆ นั้นกระโดดตึกตายแล้วสุดท้ายกลายมาเป็นวิญญาณติดที่แทน ...มีหวังเขาโดนหมอนี่จับลงหม้อถ่วงน้ำก่อนที่จะได้ลงมือทำอะไรแน่นอน


   “แต่กูไม่ให้มึงเป็นเพื่อน เพราะมึงเป็นผี" คำพูดที่เสียดแทงใจมิวส์ถูกเอ่ยมาจากปากของไม้ พอเห็นว่าดวงวิญญาณมีท่าทีที่เศร้าสลดลง เขาก็เลยต้องเอ่ยอะไรออกไป "แต่ถ้ามึงอยากคุยกับกู... มึงต้องเป็นลูกน้องกู เชื่อฟังคำสั่งกู ห้ามเป็นผีเถลไถล ห้ามแกล้งใคร ถ้ากูไม่ได้สั่ง เข้าใจไหม!!!”


   เสียงประกาศิตที่ดังลั่นทำให้วิญญาณติดที่อย่างมิวส์ต้องเผลอเอ่ยปากตอบรับโดยอัตโนมัติ


   “ครับ ๆ ฉันจะทำตามที่นายสั่งทุกประการ"



---------------------
 :hao6:

จบตอนที่ 2

 
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่2] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 15-07-2013 16:47:39
ตอนแรกนึกว่าน่ากลัว ที่ไหนฮามิวส์อ่ะ

มิวส์จริง ๆ แล้วเป็นพี่ไม้นะ ขู่ได้ขู่เอาแม้กระทั่งผี 555

หาเพื่อนผีหล่อ ๆ มาเป็นน้องมิวส์สักตนสิ
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่2] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 15-07-2013 16:58:26
มาต่อๆๆๆๆ

ชอบแนวนี้ น่ารักทั้งสามคนเลยแอร๊ยยยยยยย

ว่าแต่แฟนเก่าผีมิวส์นี่จะรู้สึกว่าตัวเองผิดบ้างมั้ยอ่ะ ฮึ้ยยย หมั่นไส้มัน
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่2] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 15-07-2013 17:13:49
อ่านตอนแรกคือหลอน

ตอนต่อมาคือฮา  มิวส์ดันเป็นผีที่กลัวคนซะงั้น ดูต๊องๆ น่ารักๆ
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่2] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pockypocky ที่ 15-07-2013 17:25:44
กำลังจะน่ากลัวเลย ฮาซะงั้น 55555555

แล้วมาต่อไวๆนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่3] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-07-2013 19:46:05
ตอนที่ 3  :mew1:


         หลังจากที่คุยกับไอ้วิญญาณปัญญาอ่อนเสร็จ ไม้ก็กลับมาดูแลแม็กกี้ที่ยังคงนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียง เขาแกะโซ่ที่พันธนาการร่างของแม็กกี้ออก ก่อนจะใช้มือลูบไปที่ศีรษะเพื่อให้เส้นผมที่ฟูฟ่องกลับเข้าที่ จากนั้นก็ห่มผ้าห่มให้

   “มึงจะยืนดูกูอีกนานไหม" ไม้เอ่ยขึ้น "จะไปทำไรก็ไป ๆ ให้กูมีเวลาส่วนตัวบ้างเถอะ"

   “ก็... อยากจะไปอยู่หรอกนะ" มิวส์ถามด้วยน้ำเสียงที่ตะกุกตะกัก พอเห็นสายตาที่เขียวปั๊ดของไม้หันมามอง ความกลัวก็กำเริบทันที แต่ปากก็ไม่วายจะพูดอะไรออกไปตามจริง "...แต่นี่มันห้องของฉัน แล้วจะให้ฉันไปอยู่ที่ไหน"

   “วอนซะแล้วไอ้นี่" ไม้ลุกขึ้นมาจากเตียง ทำท่าจะเข้าไปคว้าคอเสื้อของวิญญาณมา แต่ทว่าเขาก็สัมผัสไม่ได้ "รอดตัวไปนะมึง"

   สิ้นเสียง ร่างที่สั่นผวาของวิญญาณก็กลับมาเป็นปกติ นี่เขาไม่อยากจะคิดเลย ถ้าเกิดหมอนี่จับร่างของเขาได้ เขาจะโดนทารุณกรรมเช่นไรบ้าง

   “มึงออกไปอยู่ตรงระเบียงก็ได้นี่" พูดจบก็ชี้นิ้วไปทางระเบียงทันที "เออ... จริง ๆ มึงก็ไปอยู่ด้านล่างหอก็ได้นี่วะ ไม่เห็นต้องอยู่แต่ในห้องเลย"

   “เรื่องนั้น..." มิวส์ก้มหน้าพลางคิดถึงเหตุการณ์วันแรกที่แม่บ้านได้มาจัดการกับห้องพักจนเขาเป็นอิสระ




   วันนั้นเป็นวันที่มิวส์รู้สึกดีใจที่สุดในชีวิต เพราะเขาเฝ้ารอเวลานี้มานาน เวลาที่จะไม่ต้องติดอยู่ในห้องปิดตายที่เต็มไปด้วยผ้ายันต์ทำให้เขาออกไปไหนไม่ได้

   แต่ทว่าทันทีที่ลงไปถึงหอพักชั้นล่างและพอจะก้าวออกจากเขตรั้วของหอพัก ชายชราที่นุ่งชุดขาวก็ปรากฏกายขึ้นตรงหน้าและดักไม่ให้เขาออกจากหอแห่งนี้ไปได้

   “จะไปไหนไอ้หนู" ชายชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ท่าทางที่ไร้เรี่ยวแรงนั่นไม่ได้ทำให้มิวส์รู้สึกกลัวแต่อย่างใด

   “อย่ายุ่งน่ะลุง" พูดจบก็ก้าวขา แต่ยังไม่ทันที่จะพ้นเขตรั้วของหอพักพลังอะไรบางอย่างก็ทำให้วิญญาณหนุ่มรู้สึกปวดแสบปวดร้อนไปทั่วร่าง จนกระทั่งเขาต้องชักขากลับคืนมา อาการนั้นจึงหายไป

   “เจ้าเป็นวิญญาณที่ติดอยู่ในหอแห่งนี้ ไม่มีสิทธิ์ออกไปเร่ร่อนที่ไหนทั้งนั้น" ชายชราคนดังกล่าวตอบด้วยน้ำเสียงดุ แต่ถึงกระนั้นในความโหดเหี้ยมก็ยังแฝงไปด้วยความใจดีช่วยบอกวิธีที่จะทำให้เขาสามารถออกไปเที่ยวเตร่ภายนอกได้ "ถ้าเจ้าอยากไปข้างนอก ต้องให้ใครสักคนในหออนุญาตพาเจ้าออกไปไม่เช่นนั้นเจ้าก็ไม่มีวันที่จะออกไปจากที่นี่ได้"

   “ทำไมมันยุ่งยากจังเลยลุง" มิวส์เอ่ยถาม การที่เขาเป็นอิสระจากห้องพักชั้นสิบมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด เพราะถ้าออกไปข้างนอกเขตหอไม่ได้ มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่เคยเป็นมาอยู่ดี

   “มันเป็นหน้าที่ของเจ้าที่อย่างข้าน่ะ" ชายชราตอบออกมา "แต่ข้าว่าอยู่ในนี้แหละดีแล้ว ไปข้างนอกก็มีแต่อันตราย ไหนจะเจอวิญญาณตัวอื่น ไหนจะเจอยมบาลที่ตามไล่ล่า เชื่อข้าเถอะอยู่นี่ดีที่สุด"

   สิ้นเสียงของลุงเจ้าที่ มิวส์ก็พยักหน้ารับก่อนจะหายตัววับกลับเข้าไปในห้อง




   “กูก็ไม่ได้บอกให้มึงไปอยู่นอกเขตหอนี่วะ แค่ไปนั่งเล่นข้างล่างคงไม่เป็นไรมั้ง" หลังจากที่ได้ฟังเรื่องของมิวส์จบ ไม้ก็เอ่ยขึ้น "ไปทำความรู้จักสนิทสนมกับลุงเจ้าที่ด้วยไง จะได้ไม่เหงา... และจะได้เรียนรู้การเป็นผีที่ดี"

   “ไม่เอาอะ ลุงเจ้าที่น่ากลัวจะตาย" พอนึกถึงหน้าตาโหด ๆ ดุ ๆ ก็ไม่อยากลงไปแล้ว แต่ทว่าพอคิดอะไรดี ๆ ออกมันก็ชักทำให้มิวส์สนใจที่จะทำตามคำพูดของไม้แล้วสิ หากแต่มันต้องมีข้อเสนอสักหน่อย... "แต่ถ้านายสัญญาว่าจะพาฉันออกไปเที่ยวข้างนอก ฉันจะลงไปอยู่ข้างล่างให้นายกับแฟนได้จู๋จี๋กันตามสบายก็ได้นะ ว่าไง..."

   “เออ!” ไม้กระแทกเสียง ก่อนจะทำสีหน้าถมึงทึง "มึงรีบลงไปเลยไป"

   หลังจากที่วิญญาณใจเสาะหายวับไป ไม้ก็เริ่มเทคแคร์ดูแลกับร่างที่นอนสลบไสลอยู่บนเตียงทันที มือแข็งแกร่งที่มักซุกซนจับนู่นนี่นั่นบนร่างกายก็ดันสงบลงกว่าทุกครั้ง เขาลูบคลำบริเวณหน้าผากในใจก็นึกรู้สึกผิดที่ปล่อยให้หมอนี่อยู่บนห้องคนเดียว

   “กูขอโทษ" สิ้นเสียงสำนึกผิด คนที่นอนหลับมาตลอดก็พลันลืมตาตื่นขึ้นมา

   แม็กกี้มองซ้ายทีขวาทีด้วยความหวาดผวา เมื่อไม่พบอะไรผิดปกติเขาก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

   “เฮ้อ... ฝันไปเหรอเนี่ย" แม็กกี้เอ่ยเบา ๆ ส่วนไม้ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย

   “ฝันอะไร" ไม้เอ่ยถาม

   “ก็ฝันว่าผีหลอกน่ะสิ แถมมันยังไม่เล่นปูไต่ด้วย" ในขณะที่เล่า จู่ ๆ เขาก็ขนลุกขนพอง "หยึย... คิดแล้วน่ากลัวชะมัด ผีไรวะทะลึ่งจริง ๆ เหมือนมึงเปี๊ยบเลย"

   พอได้ยินคำตอบของแม็กกี้ ไม้ก็ต้องหลุดขำออกมา หมอนี่เข้าใจว่าสิ่งที่เจอเป็นเพียงความฝันสินะ

   “โอ๋ ขวัญเอ๊ยขวัญมา ก็แค่ฝัน ไม่มีอะไรหรอกน่า" พูดจบก็ทำท่าจะกอดปลอบ หากแต่คนที่จะโดนกอดกลับยกมือขึ้นมาดันเอาไว้ได้ทันเสียก่อน "โถ่... ที่รัก เป็นไรของมึงอีกเนี่ย"

   “หมดอารมณ์แล้ว ฝันร้ายตั้งแต่คืนแรกเลยเว้ย เฮ้อ... ไปอาบน้ำดีกว่า"

   หลังจากที่ประตูห้องน้ำถูกปิดลง ไม้ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตอนแรกเขาคิดว่าแม็กกี้จะตื่นขึ้นมาโวยวายและย้ายหอ แต่พอหมอนี่คิดว่าสิ่งที่เจอเป็นเพียงแค่ฝัน เขาก็เลยไม่ต้องเสียเวลาทะเลาะเรื่องหอกับหมอนี่

   “มึงอยู่คนเดียวได้ไหมวะ" ไม้ตะโกนถามในขณะที่แม็กกี้กำลังอาบน้ำ

   “ไม่ได้" แม็กกี้บอก "มึงจะไปไหน"

   “ไปซื้ออะไรข้างล่างมาตุนไว้ มาให้มึงกินนั่นแหละ" ไม้ตอบออกไป ข้ออ้างเรื่องการซื้อของกินน่าจะเป็นวิธีเดียวที่เขาขอปลีกตัวได้อย่างง่ายที่สุด แต่ทว่า...

   “รอกูอาบน้ำเสร็จก่อนไม่ได้เหรอ" แม็กกี้ตะโกนกลับมา พอคิดถึงความฝันมันก็ทำให้เขายังรู้สึกกลัวอยู่เลย

   “ไม่อ่ะ กูหิว แป๊บเดียวเดี๋ยวกูมา" พูดจบก็ไม่รอฟังเสียงโวยวายของคนที่กำลังอาบน้ำอยู่ ชายหนุ่มร่างสูงหยิบคีย์การ์ดและกุญแจห้องแล้ววิ่งออกจากห้องไปในทันที

   โชคดีที่ชั้นล่างของหอพักมีร้านสะดวกซื้อเปิดจนถึงสี่ทุ่ม ไม้เข้าไปเลือกซื้อของใช้ที่จำเป็นรวมถึงของกินที่แม็กกี้ชอบ... หลังจากที่ชำระเงินเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินไปยังศาลพระภูมิที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บริเวณทางเข้าออกเขตรั้วของหอพัก

   ธูปที่เพิ่งซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อถูกจุดขึ้นมาก่อนที่ร่างสูงกำยำจะนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าศาล

   “ช่วยคุ้มครองลูกกับเพื่อนของลูกจากสิ่งชั่วร้ายด้วยนะครับ" ไม้เอ่ยขึ้นจากนั้นก็นำธูปปักลงที่กระถางสำหรับปักธูปตรงหน้าศาลพระภูมิ จากนั้นเขาก็หยิบไส้กรอกที่เพิ่งให้ทางร้านสะดวกซื้ออุ่นให้ออกมาเป็นของถวาย "กินให้อร่อย ๆ นะครับ"

   หลังจากที่ถวายเสร็จ ลมเย็นยะเยือกที่จู่ ๆ ก็พัดขึ้นมาทางด้านหลังทำให้ไม้ต้องหันไปดูแล้วก็พบกับร่างวิญญาณเจี๋ยมเจี้ยมกำลังทำหน้าแหย ๆ พลางคลำหน้าท้องของตัวเอง

   “หิวเหรอ" ไม้เอ่ยถาม พอเห็นว่ามิวส์พยักหน้าเขาก็แบ่งไส้กรอกอีกถุงออกมาแล้วถวายหน้าศาลพระภูมิพร้อมกับอธิฐาน ชั่วครู่ไส้กรอกถุงนั้นก็ไปอยู่ในมือของมิวส์

   “โห...เจ๋ง” มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอัศจรรย์ใจ ก่อนจะหยิบไม้เสียบที่ติดมาด้วยจิ้มไส้กรอกแล้วยัดเข้าไปในปาก

   สัมผัสที่นุ่มลิ้น รสชาติที่เอร็ดอร่อยแบบนี้ เขาไม่ได้สัมผัสมานานนับ 10 ปีแล้ว แม้วิญญาณอย่างเขาจะไม่ได้รู้สึกหิวกระหายอาหารเหมือนยามที่เป็นมนุษย์ แต่ทว่าพอได้กินไส้กรอกที่รสชาติแสนธรรมดาอีกครั้งมันกลับทำให้เขารู้สึกว่านี่แหละคือสิ่งวิเศษที่สุดในชีวิต

   ในขณะที่มิวส์กำลังกินไส้กรอกอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น ร่างอีกร่างที่นั่งอยู่ในศาลพระภูมิมานานก็พลันปรากฏกายออกมาตรงหน้าชายหนุ่มผู้ที่นำของอร่อย ๆ มาให้กิน

   “เฮ้ย...” ไม้โพล่งขึ้นด้วยความตกใจดวงตาก็โบกโพลงเมื่อเห็นชายชราที่สวมชุดขาวทั้งร่างปรากฏกายขึ้น เขาแต่งกายชุดไทยไม่ต่างกับพวกทวยเทพเทวดาในละครจักร ๆ วงศ์ ๆ ที่เคยเห็นในโทรทัศน์สักเท่าไหร่

   “ไม่ต้องตกใจ ข้าแค่จะมาขอบคุณที่เจ้าเอาของอร่อย ๆ มาให้ข้ากิน ไอ้พวกเด็กหอนี้ก็แปลก มากราบไหว้ขอพรทีไร ก็เอาแต่ดอกไม้กับพวงมาลัยมาถวาย ไม่ค่อยถวายของกินให้สักเท่าไหร่" พูดไปก็บ่นไป "เออ... ว่าแต่เจ้ามองเห็นไอ้วิญญาณหน่อมแน้มนั่นด้วยเรอะ"

   พอมองไปตามนิ้วมือที่ชี้ไป ก็เห็นมิวส์กำลังกินไส้กรอกด้วยความตะกละ

   “เห็นครับ" ไม้ตอบออกไป จะว่าไปแม้เขาจะเป็นคนจิตแข็ง(มาก) ไม่กลัวผี ทว่าตั้งแต่เกิดมาเขาก็ไม่เคยมองเห็นผีหรือดวงวิญญาณเลยสักครั้งนี่นา แล้วทำไมเขาถึงมองเห็นหมอนี่ได้นะ "นั่นสิ... ทำไมผมถึงมองเห็นมันได้นะ แล้วยังมองเห็นลุงอีกด้วย"

   “อืม...ตามที่ข้าเคยศึกษามา ถ้าไม่ใช่พวกที่มีสัมผัสพิเศษมาแต่เกิด ผู้ที่จะเห็นดวงวิญญาณได้นั้นก็คือผู้ที่อยู่ในช่วงจิตตกขั้นรุนแรงที่สุด แต่เจ้าไม่น่าจะใช่คนจำพวกนั้น" ท่านเจ้าที่ตอบออกมา พลางทำสีหน้าเคร่งเครียดเพื่อที่จะนึกหาเหตุผลที่เป็นไปได้ "อีกเหตุผลหนึ่งก็คือเจ้ากับไอ้หน่อมแน้มนั่นมีกรรมในชาติก่อนที่เคยร่วมทำกันมา พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นคู่บุญคู่กรรมกัน แม้จะอยู่ในคนละโลกแต่ก็สามารถมองเห็นกันได้ หรือไม่เช่นนั้นก็เจ้ากับไอ้หน่อมแน้มนั่นมีจิตหรืออะไรบางอย่างที่ตรงกันทำให้สามารถสื่อถึงกันได้"

   “คู่บุญคู่กรรม" ไม้ทวนคำก่อนที่จะชี้นิ้วไปที่ร่างของวิญญาณหน่อมแน้ม "กับไอ้นั่นเนี่ยนะ ...”

   “ข้าก็ไม่แน่ใจ แต่มันก็น่าจะใช่ หรือถ้าไม่... จิตของเจ้าหรือพลังงานบางอย่างในตัวก็คงสื่อถึงไอ้หน่อมแน้มนั่นได้ เลยทำให้เจ้ามองเห็น" เจ้าที่ตอบพลางลูบครางทำสีหน้าครุ่นคิด "ส่วนที่เจ้ามองเห็นข้าก็เพราะข้าสามารถปรากฏตัวให้ใครเห็นก็ได้ และข้าเห็นว่าเจ้ามองเห็นไอ้หน่อมแน้มนั่น ข้าก็เลยคิดว่า... ข้ากับเจ้าน่าจะทำความรู้จักกันไว้หน่อย เพราะคงมีเรื่องแปลก ๆ เกิดขึ้นกับเจ้าและเพื่อนของเจ้าอีกเยอะเลย"

   “ลุงหมายความว่าไง" ไม้ยังคงงุนงงกับสิ่งที่เจ้าที่พูด "เพื่อนผมเกี่ยวอะไรด้วย"

   “ข้าก็ไม่รู้... มันเป็นเรื่องของอนาคต" เจ้าที่เอ่ยขึ้นก่อนที่จะทำมือป้องปากแล้วกระซิบที่ข้างหูของชายหนุ่มเบา ๆ "ระวังไอ้หน่อมแน้มนั่นไว้หน่อยก็ดี ถึงยังไงมันก็เป็นวิญญาณอาฆาต"

   “ครับ งั้นผมไปก่อนนะลุง ไว้เดี๋ยวว่าง ๆ มาคุยด้วยใหม่ อ่อ... ฝากไอ้หน่อมแน้มไว้ด้วยนะลุง ผมไม่อยากให้มันไปยุ่งบนห้องพัก" ไม้กล่าว พอเห็นสีหน้าที่ทำท่าจะปฏิเสธของเจ้าที่จึงหาข้อแลกเปลี่ยนที่ทำให้เจ้าที่ต้องรีบพยักหน้าตอบตกลงทันที "ถ้าลุงช่วยดูแลไม่ให้มันไปยุ่งกับผมในเวลาส่วนตัวได้ล่ะก็ ผมจะเอาของอร่อย ๆ มาถวายลุงทุกอาทิตย์เลย"

   พอไม้เดินจากไป การสนทนาของสองตัวประหลาด? หนึ่งวิญญาณ หนึ่งเจ้าที่ก็เริ่มขึ้น

   “เจ้าคิดจะทำอะไรกับสองคนนั้นหรือไม่" น้ำเสียงที่เฉียบขาดถูกเปล่องออกมาจากปากของท่านเจ้าที่

   “ข้าไม่ทำหรอกน่า คนอะไรน่ากลัวชะมัดเกิดทำอะไรไม่ดี ๆ ออกไปมีหวังโดนจับถ่วงน้ำแน่ ๆ" มิวส์ตอบออกมาโดยไม่ต้องเสียแรงใช้เศษเสี้ยวของสมองส่วนไหนคิดเลย เพราะแค่นึกถึงใบหน้าสุดโหดยามโกรธของไอ้หนุ่มหน้าหล่อนั่น ตัวของเขาก็สั่นระริกแล้ว "มีแต่ไอ้หนุ่มนั่นแหละที่จะทำผม ท่านลุงต้องช่วยผมนะ หาพระกันคน หรือของขลังที่ทำให้คนไม่กล้ายุ่งให้ข้าที"

   “ไร้สาระน่า พระกันคนมีที่ไหน ไอ้นี่! เป็นวิญญาณแต่ทำตัวหน่อมแน้ม เสียชาติวิญญาณหมด!!!" ลุงเจ้าที่บ่นอุบอิบ "ว่าแต่เจ้าทำอะไรได้บ้าง"

   “ทำอะไร?” มิลส์ทวนคำด้วยความฉงน พอเห็นสีหน้าที่งุนงงของวิญญาณหน่อมแน้มลุงเจ้าที่ก็ต้องยกมือกุมขมับก่อนที่จะขยายประโยคคำถามให้มันเข้าใจ

   “ข้าหมายความว่าเจ้าน่ะทำอะไรอย่างที่วิญญาณทำกันได้บ้าง อย่างเช่นหายตัว เดินทะลุกำแพงอะไรอย่างงี้"

   “อ๋อ...” มิวส์พยักหน้าเข้าใจก่อนที่จะทำสีหน้าครุ่นคิด "ก็...หายตัวได้ภายในหอได้ เดินทะลุกำแพงได้ จับสิ่งของบางอย่างได้ ก็น่าจะแค่นี้มั้งครับ"

   “อ๋อ งั้นแค่นี้ก็คงพอแล้วล่ะ ไอ้หนุ่มนั่นไม่อยากให้เจ้าขึ้นไปก่อกวน งั้นก็มานอนกับข้าก็ได้" พูดจบท่านเจ้าที่ก็เดินไปยังบริเวณทางเข้าศาลพระภูมิ แล้วร่างก็หดเล็กลงก่อนจะปรากฏเป็นร่างราง ๆ ในศาลพระภูมินั่น พอเห็นไอ้วิญญาณหน่อมแน้มทำหน้างงท่านก็ดุเข้าให้ "เอ้า! รีบมาสิวะ ข้าอุตส่าห์ชวนแล้วนะ"

   “เอ่อ... แล้วจะหดร่างเข้าไปในนั้นยังไงล่ะนั่น" ก็มิวส์เป็นวิญญาณติดที่นี่นา แถมเพิ่งมีโอกาสออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันได้ไม่กี่วันเท่านั้น จึงไม่แปลกที่ความรู้และประสบการณ์ในการเป็นวิญญาณจะเท่าหางอึ่ง

   “เดินมาที่หน้าศาลเลย พลังของศาลจะทำให้เจ้าตัวเล็กลงและเข้ามาอยู่ในนี้เอง"

   สิ้นเสียงของท่านเจ้าที่ มิวส์ก็ปฏิบัติตามแต่โดยดี




จบตอนที่ 3 :bye2:
------------------
ตอบคอมเม้นท์ครับผม ^^

คุณ iamnan ::: ขอบคุณนะครับสำหรับเม้นท์แรกที่หลงเข้ามาอ่าน ฮ่า ๆ ตอนแรกก็คิดงั้นครับว่าจะให้หลอน ๆ แต่เอาฮาดีกว่า จะได้ไม่กลัวกัน คิคิ

คุณ Fujoshi ::: ขอบคุณครับ มาต่อแล้วน๊า ^^

คุณ aloney ::: ^^ ขอบคุณครับ กังวลตั้งนานว่าเรื่องนี้จะออกมาฮาไหม แต่พอได้อ่านคอมเม้นท์บอกว่าฮากันชักจะดีใจแล้วสิครับ ได้กำลังใจมาเพียบเลย

คุณ pockypocky ::: มาต่อแล้วครับ ขอบคุณที่แวะมาอ่าน + เม้นท์นะครับ ดีใจจัง ฮาอีกคนแล้ว ^^
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่3] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 15-07-2013 21:13:21
วิญญาณหน่อมแน้ม 555
มิวส์อย่าทำอะไรให้แม็คกี้กลัวนะ เดี๋ยวไม้จะมาเล่นงานมิวส์เอา
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่3] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 15-07-2013 21:39:44
ฮาดี ตอนแรกนึกว่าจะขนหัวลุกซะแล้ว
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่3] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 16-07-2013 01:18:58
ตอนที่ 4



         ทางด้านของแม็กกี้ หลังจากที่อาบน้ำเสร็จเขาก็นั่งรอเจ้าของห้องอีกคนอยู่บนเตียง แต่ทว่าเวลาผ่านไปหลายนาทีก็ไม่มีวี่แววว่าหมอนั่นจะโผล่กลับมาที่ห้องเลยสักนิด จนกระทั่ง...

   “กูจะให้เวลามึงอีกสองนาที ถ้ามึงไม่กลับขึ้นมา พรุ่งนี้กูจะกลับบ้านจริง ๆ ด้วย" แม็กกี้บ่นอุบอิบ พลางจับเวลาทันที

   นาฬิกาค่อย ๆ เดินไปอย่างช้า ๆ จนกระทั่งผ่านไปหนึ่งนาทีร่างที่เขารอคอยก็ยังไม่กลับมาที่ห้อง ผ่านไปสองนาทีก็ไม่กลับมา

   “หึ ๆ เจอกันอีกทีตอนเปิดเทอมละกันนะไอ้ไม้" พูดจบก็เดินไปเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าเพื่อเตรียมจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัดในวันพรุ่งนี้

   จนกระทั่งรูดซิปกระเป๋าเสร็จปุ๊บ เสียงล็อกของลูกบิดที่หน้าประตูก็ดังขึ้นปั๊บ แล้วร่างที่รอคอยก็ปรากฏออกมา

   “ทำอะไรน่ะ" พูดจบก็เดินไปหาและถือวิสาสะรูดซิปกระเป๋าเปิดออกมาทันที

   “เอาคืนมา" แม็กกี้เอ่ยเถียง "พรุ่งนี้กูจะกลับบ้าน"

   “กลับทำไม" ได้ยินคำพูดของคู่หู ไม้ก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยทันที

   “ก่อนมาอยู่ที่นี่มึงเคยบอกว่าอะไร" แม็กกี้เอ่ยถาม ไม้ทำสีหน้าครุ่นคิดไม่รู้ว่าหมอนี่กำลังพูดถึงเรื่องอะไร

   “ไม่รู้"

   “หึ...” แม็กกี้หัวเราะในลำคอ "มึงบอกว่าจะไม่ทิ้งให้กูอยู่ห้องคนเดียว แต่มึงไม่รักษาคำพูด"

   “กูขอโทษ" ไม้เอ่ยด้วยน้ำเสียงสำนึกผิด แล้วเขยิบเข้าไปใกล้ ๆ กับคนที่กำลังงอนก่อนจะใช้มือโอบกอดจากด้านหลังจนคางเกยอยู่ที่หัวไหล่ "ยกโทษให้กูนะ มึงจะทิ้งให้กูอยู่หอพักที่มีประวัติคนเดียวจริง ๆ เหรอ มึงไม่รัก มึงไม่สงสารกูเหรอ"

   ไม้พยายามใช้ลูกอ้อนต่าง ๆ นานาเพื่อไม่ให้แม็กกี้ไปจากที่นี่ แต่ทว่าความโกรธที่เกิดขึ้นจากการที่โดนทิ้งให้อยู่ห้องคนเดียวมันทำให้แม็กกี้ไม่มีวันให้อภัยเขาง่าย ๆ หรอก รู้ทั้งรู้ว่าเขากลัวผีมากแค่ไหนก็ยังกล้าทิ้งเขาเอาไว้แบบนี้

   “ไว้เปิดเทอมเดี๋ยวกูกลับมา"



   เช้าวันรุ่งขึ้น... แม็กกี้ก็ตัดสินใจออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ แต่ก่อนจะไปเขาไม่ลืมที่จะไหว้เจ้าที่และขอพรให้คนที่ยังนอนหลบอยู่บนห้องอยู่รอดปลอดภัยด้วยความสงบสุข

   'คุ้มครองไอ้ไม้ด้วยนะครับ' แม็กกี้เอ่ยในใจก่อนจะปักธูปไว้ที่กระถางด้านหน้าศาล 'ขี้เซาฉิบหาย จะเซอร์ไพรซ์ตื่นมาส่งกูหน่อยไม่ได้ เปิดเทอมค่อยเจอกันละกัน'

   หลังจากที่ขอพรเสร็จ แม็กกี้ก็เดินออกจากหอและเตรียมหารถกลับเข้าเมืองทันที

   ท่านเจ้าที่กับมิวส์ที่อยู่ในศาลมองดูร่างนั้นเดินจากไปแล้วความสงสัยก็เกิดขึ้น

   “เอ๋... นั่นมันแฟนท่านไม้สุดโหดนี่นา" มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยความฉงน "หรือว่าเมื่อคืนจะแกล้งหนักไปหน่อยนะ"

   “ฮ่า ๆ ๆ เจ้าไปแกล้งอะไรวะ หน่อมแน้มแบบนี้แกล้งคนเป็นด้วยเรอะ" ท่านเจ้าที่หัวเราะขำขัน

   “จะลองดูไหมล่ะท่านลุง" พูดจบก็ทำปูไต่ที่ต้นแขนของชายชราไปจนถึงต้นคอ และพอจะขึ้นไปบนใบหน้าชายชราก็หันมาตวาดพร้อมกับเขกกบาลวิญญาณโรคจิตแรง ๆ หนึ่งที

   “ไอ้วิญญาณทะลึ่ง!!!"

   “โอ๊ยยย... เจ็บนะท่านลุง" มิวส์ยกมือกุมศีรษะตรงจุดที่โดนเขก พอคิดอะไรดี ๆ ออกตาก็ลุกวาวขึ้นมาด้วยความดีใจ "เอ๊ะ! ถ้าตานั่นไม่อยู่ ห้องก็เหลือเพียงท่านไม้สุดโหดคนเดียวสิ เราก็ขึ้นไปอยู่ด้วยได้ใช่ไหมนี่"

   “เฮ้ย ๆ ๆ น้อย ๆ หน่อย เจ้าจะไปอยู่กับไอ้หน้าหล่อทำไม อยู่กับข้าก็ได้" เหตุผลที่ต้องขัดเพราะกลัวจะไม่ได้ของกินอร่อย ๆ จากชายหนุ่มหน้าหล่อ

   “ไม่รู้ล่ะ เดี๋ยวมานะท่านลุง" พูดจบก็วิ่งออกจากประตูศาลพระภูมิแล้วหายตัวขึ้นไปบนห้องนอน(เก่า)ของตัวเองทันที

   ร่างสูงใหญ่กำยำกำลังนอนตะแคงกอดหมอนข้างอยู่บนเตียงนอน แม้จะอยู่ในช่วงที่กำลังหลับไหล แต่หมอนี่ก็หน้าตาหล่อเหลาทีเดียวเชียวล่ะ ยิ่งการที่ไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแล้วเผยให้เห็นร่องกล้ามนั้น ยิ่งทำให้เสน่ห์ของหมอนี่ล้นหลามมากขึ้นไปอีก นี่มิวส์ไม่รู้เลยว่าถ้าเขายังเป็นมนุษย์และมีลมหายใจอยู่ เลือดกำเดาจะไหลไปสักกี่ลิตรแล้ว

   “น่ากินจริง ๆ" สายตาที่ลุกวาวมองดูร่างที่นอนอยู่ด้วยความหิวกระหาย การที่ไม่ได้พบปะผู้คนมานานนับสิบปีทำให้ผีติดที่อย่างเขามีนิสัยจากหน้ามือกลายเป็นหลังมือไปได้ขนาดนี้เลยหรือนี่ เพราะตอนที่มีชีวิตอยู่ เขาไม่เคยแสดงอาการหื่นกามประเจิดประเจ้อขนาดนี้ แต่พอมาเป็นวิญญาณเท่านั้นแหละ ยางอายที่เคยมีกลับหายไปหมด

   “ขอนอนกอดหน่อยละกันไอ้โหดรูปหล่อ" พูดจบก็ค่อย ๆ เดินไปนอนบนเตียงแล้วนอนลงตรงที่ว่างข้าง ๆ ก่อนที่จะกอดหมับไปที่ร่างกำยำร่างนั้นด้วยความสุขใจ

   แล้วกลิ่นกายอ่อน ๆ ของคนรูปหล่อก็ลอยเข้าจมูก "เฮ้ย... วิญญาณได้กลิ่นตัวมนุษย์ด้วยเหรอเนี่ย"

   บ่นจบก็สูดหายใจแรง ๆ อีกครั้ง ...นี่ถ้าสูดร่างของไม้เข้าไปในจมูกได้ มิวส์คงไม่ลังเลที่จะรีบทำเลยล่ะ คนอะไรตัวหอมชะมัด

   ไม่รู้ว่าเพราะลมหายใจที่สูดเข้าไปแรงเกินไปหรือเปล่า เลยทำให้คนที่กำลังกอดอยู่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

   “ไม่เอาน่าแม็กกี้ ยังง่วงอยู่เลย" ไม้พูดด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย เขารู้สึกถึงสัมผัสที่อบอุ่นจากด้านหลัง... พอตั้งสติได้ เขาก็นึกได้ว่าเช้านี้แม็กกี้จะกลับบ้านนี่หว่า แล้วนี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย และพอหันหลังไปจะลุกจากเตียงเขาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างหน้าตาใส ๆ ดวงตากลมโตกำลังนอนอยู่ข้าง ๆ จากนั้นพลังซัดจากหน้าแข้งที่ไม่ต้องใช้สมองคิดก็พุ่งเข้าไปยังวิญญาณร่างนั้นทันที

   “โอ๊ยยย...” มิวส์ร้องด้วยน้ำเสียงที่โอดครวญก่อนจะตกเตียงทันทีที่โดนแรงเตะ ...นี่เขาเป็นวิญญาณนะ แล้วเขาโดนมนุษย์อย่างไม้สัมผัสได้ยังไงล่ะเนี่ย แถมแรงเตะของหมอนี่ยังทำให้เขาจุกไปหลายนาทีเลยล่ะ ...ใครว่าวิญญาณไร้ความรู้สึกก็คิดใหม่ซะนะ เพราะวิญญาณน่ะก็เจ็บเป็นเหมือนกัน

   “มึงคิดจะทำอะไรกู" ไม้พูดด้วยเสียงฉุนเฉียว พอสายตาเหลือบไปหากระเป๋าของแม็กกี้แต่ไม่พบ ความโกรธก็ยิ่งทวีคูณมากขึ้นไปอีก "แล้วไอ้แม็กกี้มันหายไปไหน"

   “ผม...ไม่ได้จะทำอะไรลูกพี่นะ" ความน่ากลัวของมนุษย์ซาดิสม์จอมโหดรายผู้นี้ทำให้มิวส์ต้องเปลี่ยนสรรพนามของตัวเองให้ดูสุภาพขึ้นทันที และต้องเทิดทูนหมอนี่เอาไว้เหนือศีรษะ

   “โกหก... ก็มึงนอนกอดกู" ไม้ต่อว่า

   “ก็ลูกพี่หล่อ... เอ๊ย... ก็...” พอคิดหาคำแก้ตัวไม่ได้ วิญญาณหน่อมแน้มก็ต้องรีบหาเรื่องใหม่มาคุยทันที "เอ้อ... ผมจะมาบอกลูกพี่ว่า ตาแม็กกี้อะไรนั่นออกจากหอพักไปแล้ว เห็นสะพายกระเป๋าเป้ใบเล็ก ๆ ไปด้วย แถมท่านเจ้าที่ยังบอกว่าหมอนั่นอธิษฐานให้ท่านเจ้าที่คุ้มครองลูกพี่ แล้วบอกว่าจะกลับมาอีกทีตอนเปิดเทอม"

   พูดจบก็ตั้งการ์ดเพื่อป้องกันการประทุษร้ายจากชายหนุ่มจอมโหดทันที ตัวก็สั่นงก ๆ

   “เออ! ขอบใจที่มาบอก" ไม้พ่นลมหายใจออกมา เขาไม่ได้โกรธที่แม็กกี้ตัดสินใจจะไปจากหอนี้จนกว่าจะเปิดเทอมเลยสักนิด แต่เขารู้สึกหงุดหงิดที่ตัวเองไม่ยอมตื่นเพื่อที่จะได้ไปส่ง ไม่รู้ป่านนี้หมอนั่นจะเป็นยังไงบ้างนะ แต่ก็ช่างเถอะ เดี๋ยวเปิดเทอมเมื่อไหร่ก็กลับมาเองนั่นแหละ เพราะไม่ว่าจะโกรธกันสักแค่ไหน อย่างน้อยหมอนั่นก็ไม่เคยผิดคำพูดของตัวเองสักครั้ง

   “แล้วลูกพี่จะทำไง" มิวส์เอ่ยถาม มือก็พยายามตั้งท่าป้องกันตัวเอาไว้ตลอดเวลา

   “ก็ไม่ทำไง เดี๋ยวเปิดเทอมหมอนั่นก็กลับมาเองนั่นแหละ" ไม้ตอบแบบปัด ๆ แม้ว่าน้ำเสียงจะฟังดูโผงผางและไม่เสียใจ แต่ในใจลึก ๆ น่ะ ไม้ก็มีความรู้สึกเหมือนคนปกติทั่วไปนั่นล่ะ เพียงแค่เขาเลือกที่จะแสดงออกในด้านโหดให้คนทั่วไปได้เห็นมากกว่า

   “ครับ! แล้วผมล่ะ ผม ผม" มิวส์ชี้นิ้วเข้าหาตัวเองก่อนจะยิ้มกรุ้มกริ่ม "ผมกลับมาอยู่บนห้องกับเจ้านายได้ไหม"

   “มึงกล้าเหรอ" ไม้แกล้งทำน้ำเสียงข่มขู่ "กูโหดสัด ๆ เลยนะ ถ้าไม่ใช่ที่รักของกู ก็อย่าหวังว่ากูจะยอมอ่อนโยนด้วย"

   “เอ่อ...” สีหน้าของมิวส์อ้ำอึ้งขึ้นมา แล้วความสับสนก็เกิดขึ้น

   ไปอยู่กับลุงเจ้าที่ก็น่าเบื่อ ห้องก็เล็กแคบ นอนก็ไม่สบาย แถมตาลุงนั่นยังกรนเสียงดังอีก ทำอะไรผิดมารยาทนิดหน่อยก็โดนด่าจนหูแฉะ แต่ถ้าอยู่กับหมอนี่ก็ต้องเจอกับอะไร ๆ ที่ซาดิสม์ แถมยังอาจจะโดนทุบตีบ่อย ๆ พอลองชั่งน้ำหนักดู ก็ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนน่าอยู่กว่ากันนะ ...ฮือ ชีวิตวิญญาณทำไมมันน่าสงสารเยี่ยงนี้เนี่ย

   “โอเค ๆ ไม่ต้องเลือกละ มึงก็เหงา กูก็อยู่คนเดียว งั้นเราก็อยู่ด้วยกันนี่แหละ ตกลงป่ะ" พูดจบก็เอื้อมมือไปกอดคอ... แต่ทว่าร่างที่เคยโดนลูกเตะพลังหน้าแข้งอย่างรุนแรงกลับไม่สามารถจับต้องได้อีกครั้ง "อ้าวเฮ้ย! เมื่อกี้ยังเตะได้อยู่เลย แล้วไหงตอนนี้จับไม่ได้วะ!!! มึงเล่นตลกอะไรกับกูอีกหรือเปล่า"

   “เปล่าครับเปล่า" มิวส์ที่พอเห็นสีหน้าเดือดดาลของคนซาดิสม์ต้องรีบปฏิเสธออกมา พร้อมกับยกมือขึ้นมาทำท่า 'บ๊ายบาย' เพื่อช่วยยืนยันว่าเขาไม่รู้เรื่องจริง ๆ "ผมก็ไม่รู้... โถ่เจ้านาย เชื่อผมเถอะ"

   “เออ...” ไม้ตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด "นับตั้งแต่วันนี้จนกระทั่งเปิดเทอมกูจะให้อิสระกับมึง มึงอยากทำอะไรในห้องนี้มึงก็ทำไป แต่ถ้าแม็กกี้กลับมาเมื่อไหร่มึงจะต้องกลับไปอยู่กับลุงเจ้าที่เข้าใจไหม!”

   “ครับ ๆ" มิวส์ผงกหัวรับ

   ท่าทีของวิญญาณหน่อมแน้มตนนี้ทำให้ไม้แอบขำอยู่ในใจ มิวส์จะรู้ไหมหนอว่าที่เขาแกล้งทำเสียงดุและท่าทางโหด ๆ ก็เพราะต้องการแกล้งเพื่อความสนุกเท่านั้น หน้าตาน่ารักแบบมิวส์น่ะ ถ้ายังคงสภาพเป็นมนุษย์ล่ะก็เขาคงทำอะไรรุนแรง ๆ แบบนี้ไม่ลงหรอก แต่ถ้าเป็นวิญญาณมันก็น่ากลั่นแกล้งไม่น้อยเลยล่ะ

   'โถ... ไอ้เด็กน้อย เชื่อฟังอย่างงี้จะให้กูไล่มึงไปอยู่กับท่านเจ้าที่ได้ไงล่ะ' สิ้นเสียงความคิดในใจ เขาก็หันไปยิ้มให้กับมิวส์ มันเป็นรอยยิ้มที่ทั้งจริงใจและเอ็นดูมาก ๆ เลยล่ะ และนับตั้งแต่จำความได้ นอกจากแม็กกี้... เขาก็ไม่เคยคิดจะยิ้มแบบนี้ให้กับใครสักคน...

   ...และนับจากวันนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างดวงวิญญาณติดที่กับมนุษย์จอมโหดก็เริ่มขึ้น แล้วเหตุนี้ความสัมพันธ์ของสองชีวิตที่อยู่ในโลกซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง มันจะลงเอยเช่นใดกันนะ


จบตอนที่ 4
---------------

ตอบเม้นท์คนอ่านที่น่ารัก

คุณ iamnan ::: ฮ่า ๆ ๆ โหดขนาดนี้ไม่กล้าจะทำอะไรแล้วมั้งครับ (แต่ก็ไม่แน่ หึหึหึ) ..ขอบคุณที่ติดตามนะครับ

คุณ uknowvry ::: ^^ ขอบคุณคร้าบ... สงสัยเรื่องนี้จะเป็นแนวผีคอมมาดี้ไปแล้ว ^^ ...ขอบคุณที่หลงเข้ามาอ่านและเม้นท์ให้ด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่3] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 16-07-2013 09:48:53
น่ารักอ่ะมิวส์ ความรักของคน(ไม้) กับวิญญาณ (มิวส์) จะเป็นยังไงต่อไปน้อ o18


หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่3] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 16-07-2013 11:05:01
โอ๊ยยยยย
อ่านแล้วยิ้มตลอดเลย เขียนเรื่องได้น่ารักมากค่ะ o13
ว่าแต่แม็กกี้กลับไปคราวนี้จะเป็นอะไรรึเปล่าเนี่ย

บางทีก็แอบเชียร์ 3P นะ เพราะชอบทั้งสามคนเลยเลือกไม่ถูก

แต่ก็แล้วแต่คนเขียนเนอะ
จะติดตามเรื่อยๆจ้า มาอัพบ่อยๆนะ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆ :กอด1: :L2:
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่3] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: puppyluv ที่ 16-07-2013 13:09:14
เรื่องน่ารักจริงๆ
ตัวละครสนุก สดใสดี
อ่านแล้วติดหนึบเลย ชอบ
บวกและเป็ดขอบคุณ :mc4:
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่3] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 16-07-2013 14:09:57
ตกลงแล้วใครจะคู่กับใครเนี่ยยยยย!!
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่3] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 16-07-2013 15:34:09
มารอวิญญาณหื่นด้วยคนนน  :hao3:
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่3] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-07-2013 16:06:33
แม็กกี้หนีกลับไปแล้ว ไม้จะไม่ตามเหรอปล่อยมิวส์อยู่กับไม้ 2 ต่อ 2 สงสารมิวส์อ่ะ 555
หัวข้อ: Re: Dead Lover ตัวตายตัวแทน...[ตอนที่3] By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 16-07-2013 16:34:59
 ตอนที่ 5  :mc4:




      หลังจากที่มิวส์ได้รับอนุญาติจากเจ้าของห้องสุดโหดให้เหาะเหินเดินอากาศได้ตามสะดวกสบายภายในห้องพัก เขาก็เอาแต่นั่งอยู่บนเตียงนิ่ง ๆ แล้วจ้องมองเจ้านายสุดโหดว่าวัน ๆ หนึ่งจะทำอะไรบ้าง

   แล้วช่วงเวลาที่มิวส์รอคอยก็มาถึง เมื่อเจ้านายสุดโหดของเขาเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวทำท่าจะเข้าไปในห้องน้ำ

   “เจ้านาย... จะทำอะไร" มิวส์เอ่ยขัดขึ้นก่อนที่ไม้จะเดินเข้าห้องน้ำ รู้ทั้งรู้ว่าเจ้านายจะอาบน้ำแต่ก็ขอถามเพื่อความแน่ใจหน่อยละกัน

   “อาบน้ำ" ไม้ตอบออกไป "ทำไม... จะมาดูกูอาบน้ำเหรอ"

   ได้ยินคำเอ่ยชวนจากน้ำเสียงที่ยั่วยวนของเจ้าชายสุดหล่อ เลือดกำเดาของวิญญาณติดที่อย่างมิวส์ก็แทบพุ่ง หากแต่ว่ามันไม่มีออกมาให้พุ่งน่ะสิ

   มิวส์แสยะยิ้มออกมา แต่ทว่าก่อนที่จะได้ตอบอะไรออกไป ไม้ก็ดันเอ่ยขัดขึ้นเสียก่อน

   “ตอบช้าจริง กูไม่รอละ" พูดจบก็เดินเข้าไปในห้องน้ำ แล้วเสียงที่ตะโกนจากภายในห้องน้ำอีกครั้งทำให้มิวส์ต้องรู้สึกห่อเหี่ยวขึ้นมาฉับพลัน "มึงอย่าเข้ามาในหองน้ำนะ ถ้าเข้ามา กูเอามึงตายรอบสองนี้"

   “คร้าบ...” มิวส์ตอบด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อย พอสายตามองไปเห็นช่องระบายอากาศเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านบนของผนังห้องน้ำ รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ผุดขึ้นมาทันที แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรอย่างที่คิด น้ำเสียงของเจ้านายสุดโหดก็ทำให้เขาต้องจ๋อยไปอีกรอบ

   “แล้วก็อย่าริอาจลอยมาส่องดูกูที่รูระบายอากาศล่ะ แต่ถ้าอยากตายมึงก็มา"

   “โด่... ดุชะมัด" มิวส์เอ่ยเบา ๆ ก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมา แล้ววิญญาณหน่อมแน้มก็ตัดสินใจไปนั่งกอดเฝ้ารอเจ้านายที่หน้าห้องน้ำ... ไม่รู้ทำไมถึงต้องทำแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่จะนั่งรออยู่บนเตียงก็ได้ แต่ทว่ากับเจ้านายคนนี้เหมือนมีพลังพิเศษอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาอยากประจบประแจงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

   มิวส์นั่งรออยู่หน้าประตูห้องน้ำไม่นานมากนัก เสียงลูกบิดก็ดังขึ้น เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคนที่กำลังอาบน้ำเพิ่งเสร็จกำลังจะเดินออกมา และในจังหวะนั่นเอง ไม้ที่ไม่ได้สังเกตว่าไอ้ผีหน่อมแน้มมันนั่งอยู่หน้าประตู ก็ได้เดินฝ่าทะลุออกไปทันที

   ใบหน้าของมิวส์จมวับไปกับง่ามขาอันแข็งแกร่งของเจ้านายสุดหล่อในบันดล และดูเหมือนว่าไม้จะเพิ่งรู้สึกตัวว่าเหมือนมีลมปะทะที่บริเวณง่ามขา พอหันหลังกลับไปดูก็พบกับร่างของวิญญาณหน่อมแน้มที่กำลังนั่งตัวแข็งอยู่ในหน้าห้องน้ำ

   “อ้าวเฮ้ย!!! มึงมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" ไม้พูดด้วยน้ำเสียงอันดังก้อง

   หลังจากที่สติกลับคืนมา วิญญาณติดที่อย่างมิวส์ก็รู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้า นี่ถ้าสามารถเปลี่ยนผิวจากซีดเผือดเป็นผิวปกติของมนุษย์ได้ล่ะก็ ป่านนี้แก้มของเขาคงแดงเปล่งปลั่งเป็นมะเขือเทศไปแล้ว

   “กลิ่นเมื่อกี้นี้มันอะไร หอมชะมัด" มิวส์เอ่ยขึ้น ...เขาหมายถึงกลิ่นตอนที่ไม้เดินฝ่าร่างเขาออกไปพอดีน่ะนะ

   “กลิ่น?” ได้ยินดังนั้นไม้ก็ทวนคำด้วยความฉงน "กลิ่นเชี่ยไรวะ"

   “อ่อ... เปล่า เปล่าครับเจ้านาย" มิวส์เอ่ยขึ้น "เจ้านายรีบแต่งตัวดีกว่า ผมอยากไปเที่ยวข้างนอกแล้ว... น๊า นะนะนะ"

   “เออ ๆ" ไม้ตอบรับ พอเห็นสีหน้าที่ออดอ้อน ดวงตาที่กลมโตลุกวาวราวกับเด็กอนุบาลที่กำลังจะได้ของเล่นชิ้นถูกใจ ไม้ก็ต้องหลุดขำออกมา ...จะว่าไป เขาชักรู้สึกว่าไอ้ผีหน่อมแน้มตนนี้มันน่ารักน่าเอ็นดูเสียแล้วสิ ถึงจะติ๊งต๊องและปอดแหกไปหน่อยก็เถอะ แต่ทำตัวน่ารัก ๆ อยู่ในโอวาทแบบนี้ก็ไม่รู้ทำไม เขาชักถูกใจอยากได้หมอนี่มาดูแลแล้วสิ

   “มึงหยิบจับสิ่งของได้หรือเปล่าวะ" ไม้เอ่ยถาม เพราะชักนึกอะไรสนุก ๆ ออก

   “ถ้าไม่หนักมากก็ได้ครับ" มิวส์ตอบด้วยน้ำเสียงที่สุภาพ

   “งั้น... ไปหยิบเสื้อกับกางเกงที่อยากให้กูใส่พามึงไปเที่ยวมาให้ชุดหนึ่งดิ"

   สิ้นเสียงคำสั่ง มิวส์ก็ปฏิบัติตามทันที ถ้าเป็นหมอนี่ต่อให้สั่งอะไรมาเขาก็ยินดีทำทุกอย่างนั่นแหละ ดีกว่าต้องไปโดนพลังเตะหรือเจออะไรแผลง ๆ ที่หมอนี่จะสรรหาวิธีมากลั่นแกล้ง

   หลังจากที่เลือกชุดอยู่สักพัก มิวส์ก็ต้องชะงักไปชั่วครู่ เพราะไม่รู้ว่าเจ้านายสุดโหดคนนี้จะไปไหนบ้าง จึงไม่รู้จะเลือกชุดประมาณไหนดี

   “ว่าแต่เจ้านายจะออกไปที่ไหนบ้างครับ" มิวส์เอ่ยถาม

   “เอ้า! มึงอยากไปเที่ยวไม่ใช่เหรอ กูก็จะพามึงไปเที่ยวไง" ไม้ตอบกลับด้วยความฉับไว

   “เที่ยว? ที่ไหนบ้างครับ"

   “ก็พาไปเที่ยวห้าง พาไปดูหนัง พอเย็นก็ไปเดินกินบรรยากาศที่สวนสาธารณะกันดีไหม"

   “ดีครับ ดี ๆ" มิวส์ตอบกลับ พอรู้ว่าจะได้ไปเดินเที่ยวสวนสาธารณะด้วย ใส่เสื้อยืด กางเกงสามส่วนธรรมดา ๆ ก็ได้มั้ง

   พอเจอชุดที่ถูกใจ มิวส์ก็หยิบมันไปให้กับเจ้านายสุดโหดของเขาทันที

   ไม้เหลือบมองดูเสื้อยีดส์สีขาว มีลายอาร์ต ๆ สีดำตรงกลางเสื้อ กับกางเกงผ้ายีนส์สามส่อนที่หยิบมา แล้วรอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่ใบหน้า เขาไม่ลังเลยสักนิดที่จะรีบหยิบมันมาสวมใส่

   “ทำไมถึงเลือกชุดนี้" ไม้เอ่ยถาม เพราะการที่มิวส์เลือกชุดนี้ มันทำให้ไม้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อสามเดือนก่อน... วันนั้นไม้ให้แม็กกี้เลือกชุดที่จะใส่ไปเดินเที่ยวสวนสาธารณะด้วยกันให้ ซึ่งแม็กกี้ก็หยิบเสื้อยืดกับกางเกงขาสวามส่วนตัวนี้มาเหมือนกัน

   “ก็... มันเหมาะที่จะใส่ไปเดินสวนสาธารณะ ผมชอบให้เจ้านายใส่เสื้อสีขาวอ่ะ ใส่แล้วดูเท่ดี" เพราะสายตาผมจะได้แทะโลมเจ้านายด้วย ก็เสื้อสีนี้มันมองเห็นเนื้อแน่น ๆ ของเจ้านายง่ายดี...

   “อืม...” ไม้ตอบรับ หลังจากที่เขาแต่งตัวเสร็จ เขาก็อธิบายเรื่องราวคล้าย ๆ กันที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสามเดือนก่อนให้มิวส์ฟัง "ตอนนั้น... แม็กกี้ก็เลือกชุดนี้ให้กู ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม พอเห็นมึงเลือก กูก็เลยอยากรู้เนี่ยแหละ"

   เหมือนว่าเรื่องที่ไม้เล่าจะซึ้ง แต่ทว่ามันไม่ได้ทำให้วิญญาณอย่างมิวส์รู้สึกซึ้งไปด้วยเลยสักนิด 'กะจะแทะโลมเจ้านายเหมือนกันล่ะสิ'

   มิวส์ทำได้แค่คิด ก่อนที่จะตอบด้วยเหตุผลที่น่าฟัง "ก็มันใส่สบาย ๆ อ่ะ เจ้านายใส่เสื้อตัวไหนก็เท่อยู่แล้วล่ะ"

   “มึงนี่ก็ปากหวานดีเนอะ" คนที่ได้ชื่อว่าเป็น 'เจ้านาย' เอ่ยชมก่อนที่ประโยคถัดไปจะทำให้ลูกน้องซึ่งเป็นวิญญาณผีหน่อมแน้มถึงกับร้อนวูบวาบที่ใบหน้า "กูชักจะชอบมึงแล้วสิ"

   ทำไมนะ... มิวส์เองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าหมอนี่มีดีอะไร นอกจากใช้กำลังข่มขู่และชอบทำตัววางก้าม ก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีพอที่จะทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวเลย หากเขายังเป็นมนุษย์ นิสัยโผงผางแบบนี้คงไม่ได้แอ้มเขาหรอก ...หรืออาจเป็นเพราะว่าการที่ไม้เป็นคนรุนแรงแต่ตรงไปตรงมาแบบนี้ มันทำให้เขาคิดว่านี่แหละคือความจริงใจ ไม่ใช่การเสแสร้ง...

   ใช่... พอเอ่ยถึงคำว่า 'เสแสร้ง' ภาพของชายหนุ่มผิวขาว ตาตี่ ส่วนสูงพอ ๆ กันก็ลอยเข้ามาในหัวของมิวส์ทันที ก้องเป็นคนที่มีบุคลิกลักษณะนิสัยภาพนอกดูดีทุกประการ อีกทั้งนิสัยที่ให้เกียรติมิวส์เสมอทำให้ไม่แปลกเลยที่มิวส์จะตกหลุมรักเขาเอาง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่ในตอนนั้น เขาเองก็มีผู้ชายที่หน้าตาดีกว่ามาจีบตั้งเยอะแยะ แต่เขาก็ดันไปเลือกไอ้ตี๋นั่น เพียงเพราะนิสัยใจคอภายนอกที่เห็น จนท้ายที่สุด 'ก้อง' ก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องสิ้นลมหายใจ

   “เป็นอะไร" เสียงที่ดังขึ้นทำให้สติของมิวส์กลับคืนมา ไม้เห็นว่าจู่ ๆ ไอ้วิญญาณหน่อมแน้มนั่นก็นิ่งเงียบไปก็รู้สึกใจไม่ดี

   “เปล่าครับ" มิวส์ปฏิเสธออกไป พอคิดถึงเรื่องก้องทีไรเขาก็ต้องอยู่อย่างไม่สงบใจทุกครั้ง

   “เปล่าก็ดี ไปข้างนอกกันเถอะ กูหิวข้าวแล้ว"



   กว่าที่จะออกจากหอพักได้ พิธีการที่วุ่นวายสำหรับการเชิญชวนให้วิญญาณติดที่อย่างมิวส์ได้ออกไปเที่ยวเตร่ข้างนอกก็เล่นเอาเสียเวลาไปหลายนาทีเหมือนกัน เพราะไหนจะต้องเตรียมธูปเทียนและดอกไม้ให้ครบตามที่ท่านเจ้าที่สั่ง ยังต้องเสียเวลาไปซื้อหมูหันมาถวายท่านเจ้าที่อีก

   “ท่านเจ้าที่... ถ้าผมจะพาไอ้มิวส์ต้องออกไปข้างนอกเนี่ยผมต้องไปซื้อหมูหันมาถวายทุกครั้งเลยป่ะ" หลังจากที่ของทุกอย่างครบ มิวส์ก็เอ่ยปากถามกับชายชราชุดขาวที่ยืนอยู่บริเวณหน้าศาลพระภูมิ

   “ก็เออสิวะ... จริง ๆ ไม่ต้องเป็นหมูหันก็ได้ ของกินอร่อย ๆ อะไรก็เอามาเถอะ เพียงแต่ครั้งแรกมันต้องถวายหนัก ๆ เท่านั้น" ท่านเจ้าที่ตอบออกมาโดยที่พยายามเก็บอาการขำไว้ในใจสุดฤทธิ์ ...ไอ้หนุ่มนี่ก็ซื่อเหมือนกันแฮะ หลอกง่ายดี

   ความจริงแล้วการที่จะขอให้พาวิญญาณออกนอกสถานที่ที่เจ้าที่ดูแลนั้น เพียงแค่จุดธูปไหว้แล้วเอ่ยปากเชิญชวนก็ได้แล้ว แต่ที่ท่านเจ้าที่ต้องสั่งให้ไปซื้อหมูหันมาถวายก็เพราะว่า ความละโมภโลภมากบวกกับความตะกละของตัวเองก็เท่านั้นแหละ

   “งั้นผมไปก่อนล่ะนะ" หลังจากที่ได้ฟังคำอธิบายไม้ก็เอ่ยลาทันที "ป่ะ ไอ้มิวส์ไปกันได้แล้ว"

   ในขณะที่ไม้เดินออกจากเขตรั้วหอพักด้วยความสบายใจ มิวส์ที่นึกถึงความเจ็บปวดทรมานในวันที่เขาเคยคิดจะออกจากที่นี่แล้วมีพลังบางอย่างมาทำให้ร่างกายปวดแสบปวดร้อนหลังจากที่ก้าวขาออกไป ก็เลยทำให้เขากล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะออก จะก้าวขาออกไปก็กลัวจะเกิดอาการแบบครั้งนั้น

   การกระทำของมิวส์ทำให้ท่านเจ้าที่หัวเราะชอบใจอยู่เบื้องหลัง เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มหน้าหล่อเดินไปไกลแล้ว ท่านเจ้าที่จึงช่วยสงเคราะห์ให้ไอ้วิญญาณหน่อมแน้มกล้าที่จะออกจากหอพักด้วยการถีบก้นแรง ๆ หนึ่งที

   "โอ๊ยยย...." ร่างของมิวส์กลิ้งหลุน ๆ ไปตามแรงถีบ ปากก็โห่ร้องราวกับกำลังปวดแสบปวดร้อนไปทั่วร่างกาย แต่ทว่าพอตั้งสติได้ มิวส์ก็ต้องฉีกยิ้มออกมาจนแก้มแทบปริ "ไม่เจ็บนี่หว่า... ขอบคุณนะท่านลุง"

   พูดจบก็รีบวิ่งตามไปยังร่างของเจ้านายสุดโหดทันที




   รถประจำทางที่กำลังวิ่งบนท้องถนนที่เงียบสงบ บัดนี้ไม่มีใครรู้เลยว่านอกจากพวกเขาแล้วยังมีวิญญาณอีกหนึ่งตนกำลังนั่งโดยสารไปด้วย เว้นก็แต่ไม้เท่านั้น

   มิวส์ทอดสายตามองสองข้างทางที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงชันแล้วความรู้สึกสดชื่นที่เขาไม่เคยสัมผัสมากว่า 10 ปีก็ทำให้ใบหน้าของเขาในยามนี้อยู่ในอารมณ์ที่เคลิบเคลิ้มที่สุด... ผิดกับไม้ที่กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด เขาไม่เข้าใจว่าไอ้วิญญาณหน่อมแน้มนี่จะมานั่งตักเขาทำไม แม้ที่นั่งจะเต็มพอดีก็เถอะ แต่มันก็ยืนได้นี่นา

   “มานั่งตักกูทำไม" ไม้ทำปากขมุบขมิบ พูดด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุด เพราะไม่อยากให้คนที่โดยสารบนรถจับพิรุทธิ์และสงสัยว่าเขากำลังคุยกับใคร

   “ก็ที่นั่งมันเต็มนี่ครับ" มิวส์ตอบออกมา ...อีกอย่างตักเจ้านายก็อุ่นจะตายไป

   ได้ยินคำตอบของวิญญาณหน่อมแน้ม ไม้ก็ได้แต่พ่นลมหายใจออกมาเท่านั้น แล้วทนให้มันนั่งตักไปจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง

   ไม้เดินเข้าไปในห้างและสถานที่แรกที่เขาตัดสินใจไปก็คือโรงหนัง

   “เรื่องนี้นะคะ" พนักงานขายบัตรถามย้ำเมื่อเห็นว่าไม้เลือกเรื่องที่จะดูได้แล้ว... ไม้พยักหน้าเป็นคำตอบ จากนั้นพนักงานก็ถามต่อ "กี่ที่ดีคะ"

   “สองที่ครับ ตรงนี้ครับ" พูดจบก็จิ้มที่หน้าจอที่เป็นสัญลักษณ์ที่นั่ง ซึ่งเขาเลือกที่นั่งประจำเวลาที่มาดูหนังกับแม็กกี้

   ใช่! แต่นี่เขาไม่ได้มาดูหนังกับแม็กกี้นี่นา แล้วเขาซื้อตั๋วมาสองใบทำไม กว่าจะรู้ตัว ก็ต้องเสียตังค์ฟรี ๆ ให้กับค่าตั๋วหนังตั้งใบหนึ่ง

   พอถึงเวลาหนังฉาย ไม้กับมิวส์ก็ตรงเข้าไปยังโรงหนังทันที ซึ่งหนังที่เขาเลือกดูมันเป็นหนังผีด้วยล่ะ

   ไม้กับมิวส์นั่งเก้าอี้ติดกัน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงบ่าย คนจึงยังไม่เยอะมากนัก และที่นั่งข้าง ๆ คนพวกเขาก็ว่างเสียด้วย

   ทั้งสองนั่งดูหนังไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหนังเกือบจบ เสียงสะอื้นที่ดังอยู่ข้าง ๆ เลยทำให้ไม้ต้องหันไปเอ่ยถาม

   “เป็นไรวะ"

   “หนังมันซึ้งครับ" มิวส์ตอบกลับ แม้วิญญาณจะไม่มีหยาดน้ำตา แต่ถ้ารู้สึกซึ้งเมื่อไหร่ก็สามารถส่งเสียงสะอื้นได้ไม่ต่างจากมนุษย์ "เจ้านายดูสิครับ น่าสงสารผีในเรื่อง ที่เธอไม่ไปไหนก็เพราะยังมีห่วง... และรอการกลับมาของใครบางคน แต่ทว่าท้ายที่สุดการรอคอยของเธอก็ว่างเปล่า และจบลงโดยที่เธอต้องอยู่โดดเดี่ยวในปรโลกต่อไป มันคล้าย ๆ กับผมเลย...”

   ดวงตาที่กลมโตและบวมเป่งในยามนี้ช่างดูน่าเอ็นดูเหลือเกิน... เกิดมาเขาก็เพิ่งเคยเห็นวิญญาณสะอื้นไห้ คิดแล้วก็อดขำไม่ได้ ท้ายที่สุดไม้ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาลั่นโรงหนัง ทั้ง ๆ ที่ฉากในหนังกำลังเป็นฉากซึ้ง

   แม้จะไม่มีเสียงตำหนิหลุดออกมา แต่ทว่าเสียงพ่นลมหายใจและรังสีอำมหิตที่สัมผัสได้ก็ทำให้ไม้รู้ว่าเสียงหัวเราะของเขาเมื่อครู่ ได้ทำให้คนที่มาชมหนังในรอบนี้กำลังอาฆาตเขา และทันทีที่หนังจบ ชายหนุ่มผู้หัวเราะขำขันกับฉากหนังที่กำลังเศร้าก็รีบวิ่งออกจากโรงเป็นคนแรกทันทีก่อนที่จะโดนรุมประชาทัณฑ์






จบตอน

ปล. ขออนุญาตเปลี่ยนชื่อเรื่องจาก 'ตัวตายตัวแทน' เป็น 'วิญญาณป่วนกวนรัก' นะครับคิดว่าน่าจะเข้ากับบทเนื้อเรื่องที่เป็นแนวฮา ๆ มากกว่า
-----------------------

คุยกับคนอ่านที่น่ารัก

คุณ naruxiah :: ^^ ขอบคุณคร้าบ อัพแล้วนะครับอยากรู้ว่าเป็นไงต่อติดตามได้เลยครับ

คุณ Fujoshi :: ชอบคุณคร้าบ ^^ ดีใจจังตอนแต่งกังวลมากๆว่ามันจะออกมาฮาไหม อ่านแล้วยิ้มหรือเปล่า อ่านเม้นท์นี้นี่ยิ้มแก้มปริแล้วครับ อิอิ

คุณ puppyluv :: ขอบคุณคร้าบ ^^ พอดียังเป็นสมาชิกใหม่ของบอร์ดนี้บวกเป็ดคืออะไร งง ๆ ตอนนี้เข้าใจแล้ว ต้องบวกเป็นให้คนเม้ท์ทุกคนเลยดีกว่า >.< จากใจ

คุณ sang som :: ใครคู่ใครต้องติดตามกันต่อไปครับ ^^

คุณ nunnan :: อ๊ะ... วิญญาณหื่นมาแล้วนะครับ

คุณ iamnan :: ฮ่าๆๆ บางทีมันอาจจะไม่มีอะไรร้ายแรงอย่างที่คิดก็ได้คร้าบ เอิ้กๆ มิวส์อาจจะชอบ *0*
หัวข้อ: Re: Dead Lover วิญญาณป่วนกวนรัก...[ตอนที่5] By Mr.กุ๊กกู๋ [เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก ตัวตายตัวแทน]
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 16-07-2013 16:52:02
เดี่ยวไม้ก้ต้องหลงมิวส์ใช่ม่ะ เพราะความน่ารักกก  :mew3:
หัวข้อ: Re: Dead Lover วิญญาณป่วนกวนรัก...[ตอนที่5] By Mr.กุ๊กกู๋ [เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก ตัวตายตัวแทน]
เริ่มหัวข้อโดย: uknowvry ที่ 16-07-2013 18:13:06
เอ๊ย!!!... เดทกันซะแล้ว 555+
หัวข้อ: Re: Dead Lover วิญญาณป่วนกวนรัก...[ตอนที่5] By Mr.กุ๊กกู๋ [เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก ตัวตายตัวแทน]
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 16-07-2013 19:27:15
ผีนู๋มิวส์น่ารักอ่ะ มันต้องมีสักวันที่เราจะได้ลวนลามคน สู้ ๆ นะมิวส์ 555
หัวข้อ: Re: Dead Lover วิญญาณป่วนกวนรัก...[ตอนที่5] By Mr.กุ๊กกู๋ [เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก ตัวตายตัวแทน]
เริ่มหัวข้อโดย: nOsTrAdamUsz ที่ 16-07-2013 20:54:20
เนื้องเรื่องน่ารักดีนะคะ ชอบเรื่องนี้มากๆเลยค่ะ คาแรคเตอร์แต่ละตัวก็น่ารักดี
เป็นกำลังใจให้คนเขียนตลอดนะคะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆที่อัพให้
พวกเราทุกคนในเล้าได้อ่านกันนะคะ ^++++^
หัวข้อ: Re: Dead Lover วิญญาณป่วนกวนรัก...[ตอนที่5] By Mr.กุ๊กกู๋ [เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก ตัวตายตัวแทน]
เริ่มหัวข้อโดย: เทมปุระกุ้ง ที่ 16-07-2013 21:31:46
เป็นกำลังใจให้ครับ
หัวข้อ: Re: Dead Lover วิญญาณป่วนกวนรัก...[ตอนที่5] By Mr.กุ๊กกู๋ [เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก ตัวตายตัวแทน]
เริ่มหัวข้อโดย: oumpatta ที่ 16-07-2013 21:39:43
อยากให้ไม้คู่กับแม้กกี้ตลอดอ่ะ ไม่ยากเปลี่ยนให้ไปชอบมิวส์เลย คิดไปไกลเนาะเรา แต่คนเขียนอย่าแต่งแบบนี้เลยนะTT
หัวข้อ: Re: Dead Lover วิญญาณป่วนกวนรัก...[ตอนที่5] By Mr.กุ๊กกู๋ [เปลี่ยนชื่อเรื่องจาก ตัวตายตัวแทน]
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 17-07-2013 15:07:37
          ตอนที่ 6




         อาจเป็นเพราะความเคยชินที่เขามักจูงมือแม็กกี้เสมอเวลามาดูหนัง เลยทำให้เขาเผลอเอื้อมมือไปจับที่แขนของมิวส์ให้วิ่งออกไปด้วย และผลที่ได้ก็คือ ไม้สามารถสัมผัสร่างของวิญญาณร่างนี้ได้ด้วย


   เสียงหอบหายใจแฮก ๆ ดังขึ้นทันทีที่ไม้มั่นใจว่าตัวเองปลอดภัย แล้วสายตาอาฆาตแค้นก็หันไปมองร่างที่ตัวเองลากออกมาทันที
   

        “มึงทำให้กูขำ กลับห้องเมื่อไหร่ก็เอามึงตายแน่!” ไม้ข่มขู่


   “เอ้า... ผมทำอะไรเจ้านาย" วิญญาณหน่อมแน้มที่โดนกล่าวหาพยายามเถียง เขาก็ดูหนังเงียบ ๆ นี่นา ไม่ได้ทำอะไรให้หมอนี่ต้องขำเลยสักนิด


   “ก็มึงทำหน้าตาให้กูขำอะ ยังไงมึงก็ต้องโดนลงโทษ" ไม้ยังต่อว่าอย่างเอาแต่ใจ... จนกระทั่งเพิ่งสังเกตเห็นว่าตัวเองกำลังจับแขนของมิวส์อยู่ "ว่าแต่... นี่กูจับมึงได้ด้วยเหรอเนี่ย"


   “นั่นสิครับ... ผมเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน" มิวส์เอ่ยขึ้นบ้าง เพราะเขาเองก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมเขาถึงโดนเจ้านายสุดโหดจับได้ในบางเวลา และในขณะนั้น... เนื้อวิญญาณที่เคยสัมผัสได้เมื่อครู่ก็กลายเป็นอากาศธาตุจนไม้ไม่สามารถสัมผัสมันได้อีกต่อไป


   “อีกแล้ว!” ไม้บ่น "ช่างเถอะ... ว่าแต่มึงอยากกินไรเป็นพิเศษหรือเปล่า"


   จู่ ๆ เขาก็รู้สึกอยากเอาอกเอาใจหมอนี่ขึ้นมา หลังจากที่ดูหนังจบไม้ก็คิดได้ว่าการที่มิวส์เป็นผีติดที่มาสิบกว่าปีคงจะอด ๆ อยาก ๆ และการที่ออกไปไหนไม่ได้และไม่มีใครมองเห็นก็คงจะเหงามาก ถ้าเขาพอจะทำอะไรให้วิญญาณนี่รู้สึกมีความสุขได้ เขาก็ยินดีที่จะทำเลยล่ะ ...เพียงแต่ต้องแลกกับการที่หมอนี่จงรักภักดีกับเขาตลอดไป


   “ไม่หิวครับ" มิวส์ตอบด้วยความใสซื่อบริสุทธิ์


   “กูรู้ว่ามึงไม่หิว แต่ถ้ามึงได้กินของอร่อย ๆ มันก็รู้สึกดีไม่ใช่เหรอไง เอ้า... ว่ามา อยากกินอะไร"


   สิ้นเสียงของไม้ มิวส์ก็แทบจะร้องไห้ออกมา แม้เจ้านายจะโหดร้ายป่าเถื่อนแค่ไหน แต่จิตใจลึก ๆ ของเจ้านายคนนี้ก็ถือว่าเป็นคนดีเชียวล่ะ พอนำไปเปรียบเทียบกับก้อง นอกจากคำพูดที่สวยหรู... ก็ไม่เห็นว่าหมอนั่นจะสนใจอะไรเกี่ยวกับเขาเลยสักนิด


   “เจ้านาย...” มิวส์ทำน้ำเสียงซาบซึ้ง ตาก็ลุกวาวราวกับว่าบุญคุณของเจ้านายสุดโหดครั้งนี้มีท่วมท้นจนเขามิอาจทดแทนได้หมดสิ้น

   “ว่าไง... ไอ้ลูกน้อง" ไม้ถามกลับ ปากก็ฉีกยิ้มออกมา ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกชอบที่หมอนี่เรียกเขาว่า 'เจ้านาย'


   “เจ้านายไม่ต้องซื้ออะไรให้ผมหรอก" มิวส์ตอบออกไป ไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้อยากกินอะไรนะ แต่ทว่า... “แต่... ให้ผมกินเจ้านายก็พอแล้ว"


   “กินกู?” ไม้ขมวดคิ้ว "มึงหมายความว่ายังไง นี่มึงกล้าดีถึงขนาดจะกินกูเลยเรอะ!!"


   ใบหน้าที่ถมึงทึงขึ้นมาทันตาทำให้มิวส์ต้องรีบก้มหน้าและตั้งการ์ดป้องกัน "ไม่ใช่! ผมไม่ได้หมายความอย่างงั้น"


   “แล้วมึงหมายความว่าไง" น้ำเสียงของไม้ยังคงความโหดไว้ไม่เปลี่ยนแปลง


   “กะ... ก็...” มิวส์ทำเสียงตะกุกตะกัก มือทั้งสองข้างยกขึ้นมาปิดตาเพราะไม่อยากจะรอดูว่าหลังคำพูดประโยคถัดไปของเขา จะเกิดอะไรร้าย ๆ ขึ้นกับเขาบ้าง "ขอแค่สัมผัสเนื้อ นม ไข่ เจ้านาย... เบา ๆ ก็พอ"


   “ไอ้ผีหื่น!!!” ไม้ต่อว่า ยิ่งสีหน้าที่เคลิบเคลิ้มราวกับว่ากำลังจินตนาการฉากวาบหวิวยิ่งทำให้ไม้อดหมั่นไส้ไม่ได้ "ถึงกูจะเป็นอย่างงี้ แต่กูก็รักแฟนกูคนเดียวนะว้อย อย่าริอาจคิดอะไรเกินเลยเชียวนะ"


   “โถ่... เจ้านาย" มิวส์ถอนหายใจด้วยความเสียดาย แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่คลายความหวัง "เจ้านายก็ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่ ผมเป็นวิญญาณนะ แฟนเจ้านายไม่รู้หรอกว่าผมทำอะไรกับเจ้านายบ้าง นะ ๆ ถือซะว่าเมตตาวิญญาณตัวน้อย ๆ หน่อยนะ"


   “หึ" ไม้พ่นลมหายใจออกมา "ถ้ามึงกล้าขอ... กูก็กล้าให้"


   ไม้ยอมรับว่าแม็กกี้เป็นผู้ชายที่ตอบสนองความต้องการของเขาได้ในทุก ๆ เรื่อง ทั้งหน้าตาและความชอบส่วนตัวที่เหมือน ๆ กัน และนั่นทำให้ไม้บอกกับตัวเองเอาไว้ว่าจะไม่มีวันหักหลังแม็กกี้เด็ดขาด แม้ว่าเขาอาจจะดูเป็นคนไม่น่าเชื่อใจก็เถอะนะ แต่เขาก็ไม่เคยทำร้ายความไว้ใจของแม็กกี้เลยสักครั้ง และในครั้งนี้... เขาก็ยังยืนยันว่าเขาไม่ได้ทำอะไรผิด เพราะมิวส์เป็นวิญญาณ มันคงไม่มีอะไรเสียหาย และเขาก็ไม่ได้คิดจะละลาบละล่วงไอ้ผีหน่อมแน้มนั่นด้วย


   “เย่... เจ้านายใจดีที่สุด" มิวส์คลี่ยิ้มออกมา พอเห็นเจ้านายไม่สนใจแถมยังเดินนำลิ่ว ๆ ไปข้างหน้า เขาก็รีบเดินตามด้วยความเชื่องทันที



   
   หลังจากที่เดินเล่นภายในห้างเสร็จ สถานที่ต่อไปที่ไม้จะไปก็คือสวนสาธารณะ ซึ่งตั้งอยู่ชานเมือง รอบ ๆ สวนสาธารณะมีต้นไม้และดอกไม้ที่ถูกจัดตกแต่งประดับประดาไว้อย่างสวยงาม


   มิวส์กวาดสายตามองไปรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้ยังคงงดงามเสมอ แม้ช่วงนี้ต้นพญาเสือโคร่งจะหมดฤดูออกดอกไปแล้ว แต่ทว่าความทรงจำเก่า ๆ เมื่อครั้งที่เขาเคยมาเดินเล่นกับก้องก็ทำให้มิวส์สัมผัสได้ถึงความสวยงามของดอกพญาเสือโคร่งและวันวานที่เขาเคยมาเดินเล่นที่นี่


         แม้ว่าจะโกรธเกลียดเครียดแค้นคนที่ทำให้เขาต้องเสียใจและกลายมาเป็นวิญญาณมากสักแค่ไหน แต่จิตใต้สำนึกลึก ๆ ของมิวส์ คนเคยรักยังไงมันก็ยังรักอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ ต่อให้สามารถกระชากลมหายใจของก้องแล้วเอาชีวิตของเขาคืนมาได้ เขาก็ไม่ทำหรอก เพราะเขาคงลงมือทำร้ายคนที่เคยรักมากที่สุดในชีวิตไม่ได้


   “เจ้านายชอบมาเดินเล่นที่นี่เหรอครับ" มิวส์เอ่ยถามในขณะที่เขากับไม้กำลังเดินอยู่บนถนนเส้นหนึ่งภายในสวนสาธารณะ นอกจากข้างทางที่มีต้นพญาเสือโคร่งสวยงามตลอดทางแล้ว ยังมีน้ำพุถูกประดับประดาเป็นจุด ๆ


   “มันก็ร่มรื่นดีนะ" ไม้ตอบออกมา "เมื่อก่อนตอนที่อยู่ในเมืองมาวิ่งออกกำลังกายกับแม็กกี้ที่นี่ทุกวัน"


   “เจ้านายกับแม็กกี้ดูรักกันดีจังเลยนะครับ" ไม้เอ่ยแซวขึ้นบ้าง เพราะไม่ว่าจะทำอะไรที่ไหน ไม้ก็จะนึกถึงแม็กกี้เสมอ ๆ "น่าอิจฉาจัง"


   “เฮ้ย! อิจฉาไรวะ คนเป็นแฟนกันก็ต้องรักกันดิ" ไม้ตอบตรง ๆ


   “นั่นสินะครับ" มิวส์เอ่ยยิ้ม ๆ หากแต่ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มกลับแฝงความเศร้าเอาไว้เมื่อคิดถึงเรื่องราวในอดีต


   “เล่าเรื่องของมึงให้ฟังหน่อยได้ไหม" ไม้เอ่ยขึ้น ก่อนที่จะไปนั่งอยู่ม้านั่งใต้ร่มไม้ ลมที่พัดมาตลอดเวลาทำให้ยามเย็นของวันนี้มีอากาศที่สดชื่นเหมาะแก่การเดินเล่นในสวนสาธารณะในขณะที่พระอาทิตย์ยังทอแสงรำไรเป็นที่สุด "มึงเคยบอกว่าโดนผีตนก่อนหน้าหลอก ก็เลยกระโดดตึกตาย มันหลอกมึงยังไงวะ"


   “เอ่อ...” มิวส์มีสีหน้าสลดลงเล็กน้อย พลางเดินไปนั่งข้าง ๆ กับเจ้านายสุดโหด "เจ้านายสัญญานะว่าผมเล่าแล้วเจ้านายจะไม่หัวเราะและดูถูกผม"


   ที่ต้องถามแบบนั้นก็เพราะหลังจากที่วิญญาณหลุดออกจากร่าง คำดูถูกต่าง ๆ นานาที่มิวส์ได้ฟังจากคนที่อยู่ภายในหอทำให้เขารู้สึกกลัว... กลัวว่าเจ้านายก็จะตัดสินมิวส์จากสิ่งที่เห็นเท่านั้น ซึ่งมันก็ไม่แปลกหรอก ถ้าไม่เจอกับตัวก็คงไม่มีใครเชื่อว่าผีมีจริงในโลก


   และนับจากวันนั้น หลังจากที่พ่อและแม่มารับศพและติดต่อการยกเลิกเรื่องหอพัก มิวส์ก็ไม่มีโอกาสได้พบหน้าพ่อและแม่อีกเลย มิหนำซ้ำ เจ้าตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องเป็นแบบนี้อย่าง 'ก้อง' นับตั้งแต่วันที่สิ้นลมหายใจ หมอนั่นก็ไม่เคยโผล่มาที่นี่อีกสักครั้ง ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นตายร้ายดียังไง


   “เรื่องแบบนี้ใครเขามาหัวเราะกันวะ" ไม้ทำสีหน้าเคร่งเครียด ไม่ใช่เพราะโกรธที่มิวส์พูดออกมาแบบนี้ แต่โกรธที่... “มีใครหัวเราะกับการจากไปของมึงงั้นเหรอวะ ทำไมถึงได้กลัวว่ากูจะหัวเราะนัก"


   สำหรับไม้แล้ว แม้เขาจะเป็นคนโผงผางหรือขวานผ่าซากแค่ไหน แต่สำหรับคนที่รู้จักและสนิทสนมกันจริง ๆ จะรู้ว่าเขาเป็นคนที่จริงใจมาก ๆ คนหนึ่งเลยทีเดียว และเขาก็เกลียดนักพวกที่ชอบดูถูกคนอื่น อีกทั้งจำพวกที่มักเสแสร้งใส่หน้ากากทำดีเข้าหาแล้วสุดท้ายก็ไปตลบหลังทำร้ายไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือการกระทำก็ตาม


   “ก็... ไม่หรอกครับ พวกเขาคงไม่รู้เหตุผลที่ผมกระโดดตึกก็เลยคิดว่าผมโง่ที่ฆ่าตัวตาย" มิวส์เอ่ยขึ้น "แต่จริง ๆ ผมน่ะไม่ได้ฆ่าตัวตายและไม่เคยคิดจะฆ่าเลยนะครับ... เฮ้อ...”


   “เริ่มเลยนะครับ...” จบประโยคนี้ มิวส์ก็ตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้ไม้ฟัง อีกทั้งยังเล่าย้อนไปกระทั่งความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนรัก...


   ก้องกับมิวส์เป็นเพื่อนร่วมคณะกันหากแต่เรียนคนละสาขาวิชา มิวส์เป็นนักศึกษาที่ถือว่าป๊อบปูล่าสำหรับเหล่าผู้ชายเพศรุก? เพราะผิวที่ขาวเนียนของเขา อีกทั้งดวงตาที่กลมโตกอปรกับหน้าตาจิ้มลิ้มเลยทำให้เขากลายเป็นรับ? ที่น่ารักน่าเอ็นดูในสายตาผู้ล่าเพศรุกเหล่านั้นไปโดยปริยาย ยิ่งเวลาที่มิวส์ยิ้มทีนะ ไม่ว่าชายแท้ หญิงเทียมหรือเพศไหน ๆ ก็มีสิทธิ์ใจละลายได้เหมือนกันทั้งนั้น


   แม้ว่ามิวส์จะเปิดโอกาสให้ทุกคนที่เข้าได้ทำความรู้จักสนิทสนมด้วย แต่มิวส์ก็ไม่เคยมีอะไรเกินเลยกับคนเหล่านั้นเลยสักครั้งจนกระทั่งในวันหนึ่ง ก้อง...ชายหนุ่มหน้าตาสุขุมที่มีบุคลิกนิ่งเงียบก็ได้เข้ามากระชากใจของมิวส์ไป ก้องมีความแตกต่างจากคนอื่น คือทุกครั้งที่พูดคุยด้วยเขาจะพูดจาด้วยถ้อยคำที่สุภาพเสมอ ไม่เคยมีสักครั้งที่คำลงท้ายของก้องจะไร้คำว่า 'ครับ'


   แต่ก็นั่นแหละ วาจาหวานเหล่านั้นกลับถูกฉาบไปด้วยพิษร้ายที่ไม่มีใครมองเห็น หลังจากที่ก้องกับมิวส์คบกันจนกระทั่งปี 4 ในวันเกิดของมิวส์และอีกไม่กี่เดือนคนทั้งคู่ก็จะเรียนจบระดับปริญญาตรีแล้ว ก้อง... ก็ได้ทำให้ความผูกพันธ์ที่เคยสร้างขึ้นร่วมกันกับมิวส์แหลกสลายเป็นผุยผง


   ก้องตัดสินใจบอกเลิกมิวส์เพราะเอาเรื่องครอบครัวมาอ้าง และในคืนนั้นหลังจากที่มิวส์กลับห้องพัก ความเสียใจที่ถูกระบายออกมาทางน้ำตาและสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ทำให้วิญญาณร้ายที่รอคอยเวลานี้มานานปรากฏตัวให้มิวส์เห็น


   วิญญาณร้ายตนนั้นถือได้ว่าเป็นชายหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลากว่าก้องทุกประการ จิตใจที่ย่ำแย่ทำให้มิวส์เปิดประตูต้อนรับร่างของมันให้ย่างกรายเข้ามาในห้องอย่างง่าย ๆ วาจาหวานที่พูดราวกับห่วงใยความรู้สึกของมิวส์ทำให้มิวส์ที่กำลังจิตตกถึงขีดสุดเผลอไผลไปกับอารมณ์ชั่ววูบ และท้ายที่สุดในระหว่างที่กำลังเคลิบเคลิ้มนั้น วิญญาณร้ายมันก็หลอกให้มิวส์ที่ยังพร่ำเพ้อไปยืนอยู่ที่บริเวณริมระเบียงและท้ายที่สุดมันก็ผลักมิวส์ให้ตกจากระเบียงห้อง...


   “เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นแบบนี้ล่ะครับเจ้านาย...” มิวส์เอ่ยขึ้น แม้ว่าท่าทีจะซึมเศร้าแต่น้ำเสียงกลับไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้นด้วย อาจเป็นเพราะเรื่องก็เกิดขึ้นมานานสิบปีแล้ว และเขาก็พอจะทำใจได้กับสภาพวิญญาณแบบนี้ ยิ่งพอได้มีโอกาสรู้จักกับไม้ วิญญาณที่ไร้เพื่อนอย่างเขาก็กลับมามีความสุขขึ้นอีกครั้ง มันเป็นความสุขที่เขาไม่ได้สัมผัสมาตั้ง 10 ปีแหนะ


   “แล้วมึงรู้สึกยังไงกับก้อง" ทันทีที่ฟังเรื่องราวในอดีตของวิญญาณติดที่เสร็จ ไม้ก็เอ่ยถาม... เขารู้สึกตงิดใจแปลก ๆ ว่าคบกันมาตั้งหลายปีแล้วจะมาบอกเลยโดยอ้างเรื่องทางบ้านแค่นั้นจริง ๆ น่ะหรือ


   “ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง...” มิวส์ทำน่าครุ่นคิดและเว้นจังหวะชั่วครู่ก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาแล้วตอบด้วยน้ำเสียงที่นิ่งเงียบ "รักมากแค่ไหนก็เกลียดมากแค่นั้นครับ ก็ถือว่าเจ๊าไปละกัน"


   “เหรอ... แล้วมึงไม่คิดเหรอว่าก้องอาจจะแกล้งมึงก็ได้ บางทีก้องอาจจะมาเซอร์ไพรซ์ในวันเกิดมึงทีหลังก็ได้" ไม้เอ่ยถามด้วยความสงสัย


   “ไม่หรอกครับ... ผมถามก้องแล้ว ถ้าก้องเซอร์ไพรซ์จริง อย่างน้อยในคืนที่ผมตกตึก ก้องก็น่าจะมาหาผมที่ห้องบ้างใช่ไหม แต่ว่าผมไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลย"


   “แต่มึงก็ไม่เห็นก้องเลยไม่ใช่เหรอ บางทีก้องอาจจะอยู่ที่งานศพมึง อาจจะช่วยเตรียมงานจนไม่ได้กลับมาที่หอพักก็ได้ เพราะพ่อกับแม่ของมึงก็เคลียร์เรื่องหอพักให้ไม่ใช่เหรอ" ไม้ยังคงพยายามที่จะเสนอความคิดเห็น เพราะเขาไม่เชื่อหรอกว่าก้องจะเลิกกับมิวส์ได้ง่าย ๆ แบบนั้น ถ้าการเลิกกันมันง่ายขนาดนั้น แล้วความสัมพันธ์ที่ร่วมสร้างกันมาน่ะมันก็คงไม่มีค่าเลยใช่ไหม เพราะฉะนั้น...


   “กูจะพามึงไปที่บ้าน... ทั้งบ้านก้องแล้วก็บ้านพ่อแม่ของมึง... เพื่อสืบหาความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น”


   “จริงเหรอครับเจ้านาย...” ดวงตาที่กำลังอยู่ในโหมดเศร้าสร้อยกลับลุกวาวขึ้นมาอย่างฉับพลัน พอรู้ว่าสามารถออกจากหอพักได้ มิวส์ก็ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย


   “จริงสิ!” พูดจบก็ยิ้มให้กับร่างที่เป็นวิญญาณ มันเป็นรอยยิ้มของคนสุดโหดแต่กลับดูดีที่สุดในโลก "กูเองก็อยากจะรู้ความจริงเรื่องนี้เหมือนกัน...”


   “ครับ" มิวส์ยิ้มรับ เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมไม้ถึงต้องจะมายุ่งวุ่นวายกับชีวิตเขา ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรเกี่ยวเนื่องกันเลยสักนิด อีกอย่างเขาก็เป็นแค่วิญญาณ คบไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา... คิดดังนั้นมิวส์ก็ชักจะรู้สึกหลงไหลในความจริงใจของเจ้านายคนนี้เสียแล้วสิ คนอะไรนอกจากหล่อแล้วยังจริงใจอีกต่างหากน่าอิจฉาแฟนของเจ้านายชะมัด ...หรือเราจะทำให้เจ้านายกับแฟนเจ้านายแตกแยกกันดีนะ






จบตอนที่ 6


ปล 1 สำหรับใครที่ชอบ Dead Lover วิญญาณป่วนกวนรัก อยากลองอ่านผลงานอีกเรื่องของกระผมลองไปอ่านได้เลยครับ
>>> จิ้มตรงนี้ เรื่อง Sketch Lover ร่างกายชายรัก (http://my.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=967971) <<< พอดีเขียนใกล้จบแล้ว แต่ไม่ได้ลงที่นี่ T^T เพิ่งรู้จักเล้าเป็ด(ไปอยู่โลกไหนมาฮะ)
เรื่องนั้นเป็นเรื่องแนวขาสั้น มัธยมนะครับ... จะออกแนวใส ๆ มากกว่าเรื่องนี้ แต่ไม่ฮาเท่า... คนละแบบอ่าครับ

ปล. 2 เห็นเรื่องอื่น ตอนที่ 5-6 อยู่หน้าไกลลิบ ๆ ของเรายังอยู่หน้าแรกอยู่เลย ฮ่าๆ สู้ๆ(ให้กำลังใจตัวเอง) ^^  :pig2:

--------------------------


คุยกับคนอ่านที่น่ารัก

คุณ nunnan :: ^^ ต้องติดตามกันต่อไปครับ แต่คนเขียนหลงมิวส์เองแล้วครับตอนนี้ ฮ่าๆๆ

คุณ uknowvry :: ตอนหน้าไปบ้านมิวส์ด้วย *0*

คุณ iamnan :: ฮ่า ๆ ตอนนี้ลวนลามเจ้านายสุดโหดไปก่อนละกันเน้อ

คุณ nOsTrAdamUsz :: ขอบคุณครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ น่ารักจัง แวะไปทักทายที่เพจด้วย ^^ <3 เอาใจไปโล้ด อิอิ

คุณ เทมปุระกุ้ง :: ขอบคุณครับผม ^^

คุณ oumpatta :: มันเป็นรักที่ซับซ้อนครับ ฮ่าๆ ต้องติดตามกันต่อไป ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่6]-17/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 17-07-2013 16:32:28
ตอนหน้าจะได้รู้เรื่องก้องแล้วใช่ม่ะะะะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่6]-17/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 17-07-2013 16:58:21
แอร๊ยยยยยยยย

ตอนหน้าน่าอ่านอ่ะ รอนะคะ
อยากรู้เหมือนกันว่า จริงๆแล้วก้องอยากเลิกกับมิวส์หรือเปล่า

ว่าแต่อัพบ่อยนะคะเนี่ย ขยันมากเลยค่ะ o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่6]-17/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: GoodNice ที่ 17-07-2013 17:45:48

มิวส์น่ารักอ่ะ แถมทะลึ่งอีกด้วย 5555   :impress2:


ตอนหน้าจะเป็นไงนะ    :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่6]-17/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Candy CAT ที่ 17-07-2013 18:23:27
ไอ้ก้อ งงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!!! แกมันน่านัก!!!! :angry2:

ตอนต่อไปจะรู้เรื่องก้องแล้วใช่ไหมเนี้ยยยยย :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่6]-17/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 17-07-2013 18:47:32
นายไม้ใจดีนะเนี่ย


คนเขียนอย่าได้น้อยใจไปค่ะ เรายังตามอ่านแน่นอน ติดผีหน่อมแน้มงอมแงมขนาดนี้
ขอบคุณที่ขยันอัพนะคะ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่6]-17/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 17-07-2013 20:00:56
เห  จริงอะ  อยากรู้เบื้องหลังเรื่องก้องบ้างแล้วสิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่6]-17/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pockypocky ที่ 17-07-2013 21:14:59
ฮาทุกตอนเลยค่ะ! แต่ลุ้นตอนต่อไปมากๆเลย ตกลงตอนนั้นเรื่องมันเป็นไงกันแน่ :ruready

มารอตอนต่อไปนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่6]-17/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 17-07-2013 21:16:58
เอิ่ม. เบื้องหลังก้องอาจจะดีก็ได้นะนี้

มิวส์จะทำให้คนรักเขาแตกกันเรอะ ไม่ดีม้างงงง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่6]-17/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 18-07-2013 01:15:50
ตอนที่ 7



        วันต่อมา... เสียงนาฬิกาปลุกที่ดังลั่นไม่ได้ทำให้คนที่นอนอยู่บนเตียงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแต่อย่างใด แต่มันทำให้วิญญาณติดที่อย่างมิวส์ที่นอนอยู่ข้าง ๆ กับเจ้านายสุดโหดนั้นรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน

   ตามทฤษฎี... วิญญาณทั่วไปจะไม่มีอาการรู้สึกเหนื่อย ง่วง หรืออ่อนเพลียแต่อย่างใดแต่มันไม่ใช่กับวิญญาณที่ยังไม่สิ้นอายุขัยอย่างมิวส์ เพราะเมื่อถึงเวลากลางคืน มิวส์ก็จะมีอาการง่วงนอนไม่ต่างจากคนเลยสักนิด และผลจากการกลับห้องมาหลังจากที่ไปเที่ยวกับไม้มาเมื่อวาน ทำให้เขาได้มีโอกาสนอนอยู่บนเตียงนิ่ม ๆ กับเจ้านายสุดหล่ออีกด้วย

   “เจ้านายครับตื่นได้แล้ว... เช้าแล้วนะครับ" มิวส์เขย่าร่างของเจ้านายสุดหล่อที่นอนอยู่ข้าง ๆ มือทั้งสองข้างที่รองศีรษะเอาไว้ของไม้้ทำให้มิวส์รู้สึกหวั่นไหวกับภาพตรงหน้าแปลก ๆ กล้ามแขนที่ปูดขึ้นมาเล็กน้อยกับขนรักแร้ที่โชว์หราทำไมมันถึงได้ยั่วยวนมิวส์นักนะ

   “อือ... อย่าเพิ่งดิวะ ยังง่วงอยู่เลย" ไม้ตอบกลับด้วยความงัวเงีย "ไปปิดนาฬิกาปลุกแล้วกลับมานอนกอดกูเร็ว ๆ"

   ตอนแรกมิวส์กะจะปฏิเสธและปลุกให้ไม้ตื่นแล้วแต่พอได้ยินประโยคหลังที่ว่า 'มานอนกอดกูมา' เท่านั้นแหละ มิวส์เลยปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้านายสุดโหดอย่างว่าง่าย

   หลังจากที่เดินไปปิดนาฬิกาปลุก มิวส์ก็ทิ้งตัวลงนอนที่เดิมแล้วเอาศีรษะซบที่บริเวณหัวไหล่ของเจ้านายก่อนจะกอดหมับแรง ๆ เข้าที่ร่างนั้น ...แม้ไม่สามารถสัมผัสได้โดยตรง แต่มันก็ทำให้มิวส์รู้สึกเนื้อเต้นจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยล่ะ

   “แม็กกี้...”ขณะที่รู้สึกว่ากำลังโดนกอดจนแน่น ไม้ก็ยิ้มออกมา แม้จะเป็นเพียงความรู้สึกเหมือนลมที่วาบหวิวผ่านบริเวณหน้าท้องแต่มันก็ทำให้เขารู้สึกถึงความเร่าร้อนของอ้อมกอดนี้ "กูรักมึงนะ... แต่มึงชักจะกอดกูแรงเกินไปแล้ว"

   ได้ยินดังนั้น ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มก็มีอันต้องหุบลงกะทันหัน

   “ผมไม่ใช่แม็กกี้" พูดจบก็ผละออกมาจากร่างนั้น แม้จะยังอยากกอดต่อแต่ทำไมมันถึงรู้สึกน้อยใจที่ไม้พูดถึงชื่อหมอนั่นด้วยนะ "ผมมิวส์! เจ้านายได้ยินไหม ผมมิวส์!!!"

   มิวส์ตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่ดังก้องจนไม้ต้องยกมือขึ้นมาปิดหูพร้อมกับเบิกตาโพลง... ไม้ลืมไปว่าแม็กกี้ไม่ได้อยู่ที่หอพักแล้ว แต่ผู้ที่นอนอยู่ข้าง ๆ เป็นวิญญาณหน่อมแน้มต่างหาก... ก็มันเป็นความเคยชินนี่นา ปกติตอนเช้าก็มีแต่แม็กกี้เท่านั้นแหละที่มีโอกาสได้กอดเขา

   “เบา ๆ ก็ได้มึงจะตะโกนทำไมวะ" พูดจบก็โบกมือไปที่ศีรษะของมิวส์อย่างไวหากแต่มือของไม้กลับทะลุร่างนั้น

   “ก็ผมไม่ใช่แม็กกี้นี่ ทำไมเจ้านายต้องพูดถึงมัน... เอ่อ แม็กกี้ด้วยล่ะ" มิวส์บ่นด้วยน้ำเสียงน้อยใจ ก็จะไม่ให้น้อยใจได้ไงล่ะ นอนอยู่กับเขาแท้ ๆ แต่ดันเพ้อละเมอถึงตานั่นได้

   “ก็มันเคยชินนี่นา ปกติก็...” มีแต่ไอ้แม็กกี้กอด... พอเห็นคิ้วที่ขมวดเป็นปมแถมแก้มก็ป่องเป็นบอลลูน ไม้เลยเก็บประโยคหลังไว้ในใจ เพราะขืนพูดอะไรออกไปอีกเดี๋ยวแก้มของไอ้ผีหน่อมแน้มนี่มีหวังแตกพอดี "เออ ๆ ช่างมันเหอะ กูขอโทษมึงละกัน"

   “ไม่หาย" มิวส์ว่ากอดจะกอดอกเก๊กท่าที่ทำให้รู้ว่างอนหนัก ๆ

   “เออ!” ไม้ตอบด้วยน้ำเสียงที่ชักจะหมดความอดทน "ไม่หายก็ไม่ต้องมากอดกูอีกนะ"

   “เฮ้ย! ได้ไงครับ” ได้ยินดังนั้นมิวส์ถึงกับต้องรีบร้องประท้วงด้วยความฉับไว "งั้นผมหายงอนแล้วก็ได้...”

   “แต่กูไม่หาย" คราวนี้กลายเป็นเจ้านายสุดโหดที่เป็นฝ่ายกำความได้เปรียบเอาไว้ในมือบ้าง

   “โถ่... เจ้านาย ผมขอโทษ" พูดจบก็เขยิบเข้าไปใกล้ ๆ แต่เจ้านายสุดโหดก็ดันกอดอกทำหน้าขรึมไม่ตอบอะไร "นะ ๆ ผมจะไม่ทำตัวงี่เง่าแล้ว"

   ไม้ไม่โต้ตอบอะไร เขาเพียงลุกขึ้นไปหยิบผ้าเช็ดตัวก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ

   “เฮ้อ...” มิวส์พ่นลมหายใจออกมา ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้แคร์ความรู้สึกของมนุษย์สุดโหดคนนี้นักนะ ...จะว่าไปตอนที่เขายังมีชีวิต ต่อให้ก้องจะโกรธหรืองอนอะไรเขาแค่ไหน เขาก็ไม่เคยรู้สึกกระวนกระวายใจแล้วอยากจะง้อให้หายไว ๆ แบบที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้เลยสักครั้ง

   “เจ้านายคร้าบ... มิวส์ขอโทษครับ" มิวส์เอ่ยขึ้นเป็นครั้งที่ 20 พอดี ในขณะที่เขากำลังนั่งรออยู่หน้าห้องน้ำ ถ้าวันนี้ทั้งวันเจ้านายสุดหล่อของเขาไม่พูดอะไรสักคำมีหวังเขาต้องอกแตกตายแน่ ๆ

   “เจ้านายคร้าบ... ให้อภัยมิวส์ด้วยนะครับ" และเหมือนว่าครั้งนี้จะได้ผล เมื่อจู่ ๆ คนที่กำลังอาบน้ำก็ตะโกนกลับมาด้วยน้ำเสียงอันดังก้อง

   “เออ! ต่อไปก็อย่าแกล้งงอนกูอีกละกัน กูล่ะเกลียดนักพวกขี้งอนไร้เหตุผล..." ไม้แกล้งทำเสียงขรึมทั้ง ๆ ที่ในใจเขากำลังเก็บอารมณ์ขำขันไว้สุดฤทธิ์ ก็ท่าทางที่งอนตุ๊บป่องของไอ้ผีหน่อมแน้มนั่นทำให้เขาชอบใจมากกว่าจะรำคาญเสียอีก ...ก็มันน่ารักซะไม่มีนี่นา แถมพอเปรียบเทียบกับแม็กกี้แล้วคิดถึงภาพตอนที่แม็กกี้งอน... หมอนั่นงอนโหดกว่านี้หลายร้อยเท่าแถมยังงี่เง่าไร้เหตุผลง้อเท่าไหร่ก็ไม่หาย ต้องรอให้เวลาผ่านไปสักพัก พอคิดได้ก็จะหายเองนั่นแหละ

   “ครับเจ้านาย...” มิวส์คลี่ยิ้มออกมา หลังจากที่ได้ยินเสียงของไม้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เขาลุกจากเตียง

   ในระหว่างที่ไม้กำลังอาบน้ำอยู่นั้น มิวส์ก็ใช้เวลาว่างเลือกชุดให้ไม้ ซึ่งชุดที่เขาเลือกในวันนี้เป็นเสื้อยืดสีขาว(อีกแล้ว)กับกางเกงขาสามส่วนสีครีม

   หลังจากที่เลือกเสร็จก็เอาชุดไปวางไว้บนเตียงนอน แล้วคลี่ยิ้มออกมาด้วยความชอบใจ เพราะเสื้อสีขาวบาง ๆ นั่นทำให้มิวส์สามารถมองเห็นก้อนเนื้อบนเนินอกได้อย่างชัดเจน ส่วนกางเกงขาสวมส่วนก็ทำให้มองเห็นขาที่เนียนสวยมิหนำซ้ำยังมีมัดกล้ามเล็ก ๆ ที่น่ากัดกินอีกด้วย ...แบบนี้ก็มีแต่ได้กับได้เห็น ๆ

   ทันทีที่ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกมา ไม้ก็ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยกับเสื้อผ้าอาภรณ์ที่มิวส์เตรียมไว้ให้บนที่นอน

   “อะไรของมึง" ไม้เอ่ยถาม "กูไม่ได้สั่ง"

   “ก็ ๆ ใส่เหอะน่าเจ้านาย ผมเป็นลูกน้องถ้าทำอะไรเพื่อเจ้านายได้ผมก็อยากจะทำ" มิวส์ตอบออกมาสายตาก็ช่างออดอ้อนเหลือเกิน

   “ประจบจริงนะมึง...” พูดจบก็เดินเข้าไปขยี้ศีรษะ แม้จะเป็นเหมือนการขยี้อากาศที่ว่างเปล่าแต่มันก็ทำให้มิวส์รู้สึกถึงความอบอุ่นได้มากทีเดียวเลยล่ะ




   ณ สถานีขนส่งจังหวัด ไม้กับมิวส์กำลังนั่งรอรถบัสมาจอดเทียบท่าเพื่อที่จะได้เดินทางไปยังอำเภอบ้านเกิดของมิวส์   บ้านของมิวส์อยู่ติดกับชายแดนของประเทศหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางทางตอนเหนือของประเทศไทย และอำเภอที่มิวส์อาศัยอยู่นั้นถือได้ว่าเป็นอำเภอที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย และในระหว่างที่กำลังนั่งรออยู่นั้น ไม้ก็เอ่ยถามข้อมูลเกี่ยวกับทางบ้านของมิวส์

   “นอกจากพ่อแม่แล้ว ยังมีใครอยู่ที่บ้านอีกไหม"

   “ก็น่าจะน้องชาย แต่ป่านนี้มันคงไปทำงานที่ต่างจังหวัดแล้วมั้งครับ" มิวส์ตอบออกมา นอกจากพ่อของมิวส์จะรับราชการเป็นคุณครูที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งแล้ว แม่ของมิวส์ก็ยังเปิดร้านขายข้าวแกงที่บ้านของตัวเองอีกด้วย ส่วนน้องชายที่อายุห่างกันถึง 8 ปี หากนับจากอายุจริงของมิวส์ในตอนนี้ซึ่งเท่ากับ 31 ปี (แต่หน้าตายังคงความอ่อนเยาว์หยุดไว้เท่าตอนที่สิ้นลมหายใจ) น้องของเขาก็เพิ่งจะอายุ 23 ปีเท่านั้น

   “ไม่ยักรู้ว่ามีน้องชายด้วย" ไม้ขมวดคิ้วก่อนจะหันไปมองวิญญาณตนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ "น่าสงสารแฮะที่น้องชายมีพี่ชายที่หน่อมแน้มและหื่นขนาดนี้"

   “เจ้านาย!!!” ได้ยินดังนั้นมิวส์ก็หันไปเถียงเสียงดัง ว่าเขาหน่อมแน้มยังไม่รู้สึกโกรธสักเท่าไหร่ แต่มาว่าเขาหื่นนี่สิเขารับไม่ได้ "ผมไม่ได้หื่นนะ ตอนมีชีวิตอยู่ผมโคตรจะเรียบร้อยเลยล่ะ ตอนป.6 ถูกอาจารย์ประจำชั้นจับไปประกวดมารยาทไทยได้ที่หนึ่งด้วย พอขึ้นม.3 ก็ได้ถือพานไหว้ครู ขึ้นม.6 ก็ได้ประกวดมารยาทอีกครั้งแถมยังได้ที่สองของระดับจังหวัดด้วย"

   คนที่โดนหาว่าหื่นร่ายความดีความชอบที่เคยทำมาซะยืดยาวแต่ทว่า... คนฟังกลับไม่ได้สนใจสักนิด

   “เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ" หลังจากที่เล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือเสร็จ ไม้ก็หันไปถาม "พอดีกูไม่ได้ฟัง มึงบอกว่ามึงหื่นสุด ๆ เลยงั้นเหรอ ยิ่งเจอหน้ากูอารมณ์หื่นก็ยิ่งพุ่งพล่านใช่ไหม"

   “เจ้านาย!!!” มิวส์ตวาดด้วยน้ำเสียงขัดใจอีกรอบก่อนที่จะยื่นหน้าไปข้าง ๆ ใบหูแล้วตะคอกด้วยน้ำเสียงอันดักก้อง "ผมไม่ได้หื่น ผมไม่ได้หื่น... เจ้านายเชื่อผมสิ พูดงี้ผมเสียหายนะ"

   “ไอ้ผีเชี่ย แล้วมึงจะตะโกนทำไมวะ" ไม้บ่นอุบอิบก่อนจะเหล่ตามองวิญญาณที่กำลังหน้าบูดบึ้งแล้วแอบขำอยู่ในใจ "อยากกินเนื้อนมไข่กูก็กินเหอะ เดี๋ยวคืนนี้กลับหอมึงจัดการเลยนะ"

   “จริงเหรอครับ" คราวนี้สีหน้าที่บูดบึ้งแปรเปลี่ยนเป็นลุกวาวด้วยความสนใจ

   “นั่นไง! ไหนว่าไม่หื่นวะ ไอ้วิญญาณทะลึ่ง หึหึ...” พูดจบก็ส่งเสียงหัวเราะอย่างมีเลศนัยก่อนจะเดินไปยังรสบัสที่เพิ่งขับเข้ามาจอดเทียบท่าชานชาลาที่เขากำลังรออยู่

   มิวส์เดินตามขึ้นไปอย่างช้า ๆ สีหน้าก็ยังแสดงออกถึงความไม่พอใจเรื่องที่คุยกันเมื่อครู่

   เบาะนั่งของไม้อยู่แถวที่ 7 ติดกระจกอยู่ฝั่งเดียวกับฝั่งคนขับรถ ....มิวส์นั่งลงข้าง ๆ กับไม้และกะว่าจะบ่นเจ้านายให้หูแฉะเรื่องที่มาใส่ร้ายว่าเขาหื่น แต่ทว่ายังไม่ทันที่จะได้พูดอะไร หญิงสาวคนหนึ่งที่เพิ่งเดินขึ้นมาบนรถก็มาหยุดอยู่บริเวณหน้าเบาะที่ไม้กำลังนั่งอยู่

   รูปร่างของเธออ้วนท้วมสมบูรณ์ น้ำหนักไม่น่าจะต่ำกว่า 100 กิโลกรัม ผิวของเธอคล้ำ ใบหน้าก็มีสิวขึ้นเป็นจุด ๆ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มิวส์อยากที่จะปากเสียต่อว่าเธอได้เท่ากับการที่เธอรูปร่างหน้าตาเป็นแบบนี้แล้ว การแต่งกายของเธอยังขัดกับบุคลิกจนน่ากลัวพิลึก

   เธอแต่งกายด้วยชุดสายเดี่ยวสีชมพูแปร๋น แม้จะมีเสื้อคลุมบาง ๆ สีขาว แต่มันก็ไม่ได้ปกปิดพุงของเธอที่ปลิ้นออกมาจนแทบจะทะลักใส่หน้ามิวส์ที่กำลังนั่งอยู่เบาะตรงหน้าเธออยู่แล้ว มิหนำซ้ำท่อนล่างของเธอยังสวมด้วยกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีเหลืองอ๋อย ซึ่งมันทำให้มองเห็นก้อนเนื้อและไขมันอันมหาศาลที่สะสมอยู่ภายใต้เรียวขาขนาดมหึมาของเธอได้อย่างชัดเจน

   ก่อนที่เธอจะนั่ง เธอได้หยิบตั๋วโดยสารขึ้นมามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าที่ของเธอคือเบาะที่ติดกับชายหนุ่มรูปหล่อที่สวมเสื้อสีขาว กางเกงขาสามส่วนแถมยังใส่แว่นตาดำทำให้ดูเท่ชนิดที่ว่าดาราฮอลลีวูดยังอาย

   พอเห็นว่าไม่ผิดแน่ ๆ เธอก็คลี่ยิ้มออกมาจนเห็นฟันที่หลอไปซี่หนึ่งได้อย่างชัดเจน และหลังจากที่เธอขยับเข้ามาภายในเบาะนั่ง มิวส์เลยต้องกุลีกุจอลุกไปนั่งตักของไม้พร้อมกับกอดคอแถมยังซุกหน้าเข้าที่ต้นคอของเจ้านายสุดโหดด้วยความรวดเร็วก่อนที่จะโดนทับ?

   “อี๋... น่ากลัวชะมัด" มิวส์บ่นพึมพำก่อนจะทำสีหน้าโล่งอกสุดฤทธิ์ "รอดตายแล้ว เกือบจะโดนทับแล้วไหมล่ะ"

   ไม้มองการกระทำของมิวส์แล้วก็ได้แต่เก็บความขำไว้ในใจ เขาอยากจะพูด(นินทา)อะไรบางอย่างกับมิวส์เหลือเกินแต่ทว่าหญิงสาวร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เลยทำให้เขาต้องวางมาดนั่งนิ่ง ๆ ไม่สามารถนินทาระยะเผาขนได้

   “เจ้านายระวังเธอนะ ผมเห็นเธอเหล่ตามองเจ้านายด้วยสายตาที่น่าหวาดระแวงที่สุดเลยล่ะ" มิวส์ยังคงบ่นอย่างต่อเนื่อง สายตาของเขาจับจ้องที่หญิงสาวร่างใหญ่ตลอดเวลา โดยที่เปลี่ยนจากท่ากอดคอมานั่งในตักในท่าเกือบจะปกติ ที่ไม่ปกติก็เพราะมิวส์ดันเอาใบหน้าไปซุกที่ต้นคอของเจ้านายสุดหล่อ

   “หอมจัง...” แทนที่จะนั่งนิ่ง ๆ ไอ้ผีหน่อมแน้มกลับพูดมากตลอดทาง ส่วนไม้ก็ได้แต่อัดอั้นวางมาดขรึมข่มอารมณ์หมั่นไส้เอาไว้เพราะไม่อยากให้ใครสงสัย



จบตอนที่ 7  :mew2:

ปล. ตอนนี้มีใครรู้สึกเหมือนกระผมบ้างว่าหนูมิวส์ชักจะน่ารำคาญไปนิดนึงละ ทั้งพูดมาก ขี้บ่น แถมยังจอมอ่านกินเจ้านายอีกต่างหาก 555 แต่ก็น่ารักของมิวส์นั่นแหละเนอะ
--------------------------


คุยกับคนอ่านที่น่ารัก ^^

คุณ nunnan :: คิดว่าน่าจะยังไม่รู้เรื่องก้องครับ ฮิๆๆ กระผมไม่ให้รู้เรื่องง่าย ๆ หรอก

คุณ  Fujoshi  :: ขอบคุณครับ ^^ พอดีตอนนี้ไม่มีอะไรทำ เลยนั่งแต่งนิยายทั้งวันเลย

คุณ GoodNice ::  ^^ ขอบคุณที่แวะมาอ่านและเม้นท์ให้นะครับ ...

คุณ Candy CAT :: ยังครับยัง ไปบ้านมิวส์ก่อนนะ

คุณ iamnan :: ขอบคุณครับ ^^ ไม่น้อยใจจ้า ปล.มีคนเห็นความน่ารักของไม้ด้วย (ดีใจๆ) นึกว่าจะมองเห็นแต่ความโหดกัน เอิ้กๆ

คุณ darkeyes1 :: สวัสดีคร้าบ ^^ ขอบคุณที่แวะมาอ่านและเม้นท์นะครับ

คุณ pockypocky :: ^^ ขอบคุณครับ ดีใจจริงๆ ที่อ่านแล้วฮากัน ปล.รู้สึกจะลุ้นตอนหน้ากันเยอะ T^T แต่ยังไม่ให้รู้หรอกเรื่องก้อง

คุณ sang som :: เย่ ^^ ในที่สุดก็มีคนเห็นต่างแล้ว ใช่ๆ ก้องอาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่หลายๆคนคิดก็ได้ เอ๊ะ!? หรือเป็นหว่า ปล่อยให้ลุ้นกันต่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่7]-18/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 18-07-2013 11:03:33
อ่าน 5 ตอนรวด~~~

เปลี่ยนชื่อเรื่องเลยไม่คุ้น

====================

มิวส์เป็นผีที่ต๊องและโมเอ้มากกก   

จากตอน6 ที่ไม้เดาเรื่องก้องกับมิวส์  คือถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก้องต้องเสียใจมากๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่7]-18/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: irksome ที่ 18-07-2013 11:25:48
รู้สึกสงสารแมกกี้ไงไม่รู้แฮะ  o22
แบบ ให้กอดให้ซบ จะให้ชิมเนื้อนมไข่(55) แล้วยังเอาไปเปรียบเทียบอีก  :z6:
แม้จะกับวิญญาณก็เห่อะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่7]-18/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 18-07-2013 11:28:24
ผีหน่อมแน้มไม่น่ารำคาญนะ แต่มันหื่นเกิ๊น 555 เห็นงุ้งงิ้ง ๆ กับนายไม้แล้วเห็นใจนายไม้อยู่นะ เพราะต้องอดทนกลั้นยิ้มตลอดการเดินทางหล่ะน๊าาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่7]-18/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 18-07-2013 11:33:42
อ่านตอนนี้แล้วสงสารแม็กกี้อ่ะ
รู้สึกว่ามิวส์เริ่มอะไรๆกับไม้เยอะขึ้น
แล้วแม็กกี้ล่ะ :mew2:

ปล.ชอบที่คุณคนเขียนตอบเม้นจังค่ะ
รู้สึกว่าคุณให้ความสำคัญกับคนอ่าน และสนุกกับการเขียนเรื่องดี
ทำแบบนี้ต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่7]-18/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 18-07-2013 12:36:00
แตกต่างกับตอนเป็นคนเลยแนะ

ผีหน่อมแน้มเนี่ย แต่ก็น่ารักดีน้า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่7]-18/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kai_kaka ที่ 18-07-2013 14:20:44
น้องไม้จ๊ะ  ความสงสารเป็นบ่อเกิดของความรักนะ  แม็กกี้กลับบ้านไปนานเดี่ยวน้องไม้ก็เปลี่ยนใจเหรอ     o4
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่7]-18/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 18-07-2013 14:34:48
นิดๆหน่อยๆก็เอาน่ะไอ้พี่หื่นนนนน   :hao4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่7]-18/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 18-07-2013 15:40:46
น้องมิวส์น่ารักจังเลยอ่ะ เป็นความรักของคนกับผีได้มั๊ย แม๊กกี้ เก็บไว้ก่อนอย่าพึ่งโผล่มาเลย กำลังหวานอ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่7]-18/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 18-07-2013 21:15:17
พึ่งเข้ามาอ่านค่ะ  มิวส์น่ารักจังเลยยยยยยย  :m4: :m4: :m4:



ยอมรับเลยตอนอ่านบทแรกๆกลัว ว่าจะไม่อ่านต่อ

พออ่านตอนต่อมา เท่านั้นแหละ สนุกมาก ชอบเลย  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่7]-18/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 18-07-2013 23:13:31
อึม  สาวงามขวัญผวา  อยากรู้จังว่าเธอจะมีบทบาทกี่ตอน  หรือแค่ตัวละครใช้แล้วทิ้ง
อ่าฮะ  อีกอย่างคือพอเห็นมิวตอนนี้แล้ว  นึกภาพที่เรียบร้อยไม่ออกเลยแฮะ

แล้วที่สงสัยอีกอย่าง  ฟังจากความรู้สึกของมิวแล้ว  มิวรักก้องจริงเปล่าหว่า
หรือว่าก้องสัมผัสอะไรจากมิวได้  เลยขอเลิก  อึม  ยิ่งสังเกตเรื่อง
ยิ่งไม่แน่ใจความสัมพันของตัวละครเข้าไปทุกที  ก็ได้แต่อยากหวังให้เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเศร้าจนเกินไป
แต่ความสัมพันแบบนี้  น่าจะเศร้าอะนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่7]-18/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 19-07-2013 11:56:10
ตอนที่ 8

        หลังจากที่รถเริ่มเคลื่อนที่ ตั๋วโดยสารในมือของหญิงสาวร่างใหญ่ก็ถูกจงใจปล่อยให้ตกลงมาที่บริเวณรองเท้าของไม้

   “คงจะหวังให้เจ้านายก้มเก็บให้ล่ะสิ" มิวส์เอ่ยอย่างรู้ดี และก่อนที่ไม้จะก้มลงไปเก็บ เขาก็ได้ใช้เท้าของเขาเขี่ยตั๋วใบนั้นให้ปลิวกลับไปยังบริเวณใต้เบาะของเธอ ...เนื่องจากว่าร่างของมิวส์ไม่มีใครมองเห็น(ยกเว้นไม้)เลยทำให้หญิงสาวมองเห็นภาพตั๋วที่โดนเขี่ยกลับมาคล้าย ๆ กับลมที่พัดปลิว

   มิวส์สังเกตเห็นเธอถอนหายใจและขมวดคิ้วออกมาอย่างเสียดายสุดฤทธิ์ และในขณะที่เธอกำลังก้มลงไปเก็บ สายตาอันหื่นกามของมิวส์ก็ดันไปปะทะกับร่องอกภายในเสื้อสีชมพูแปร๋นของเธอ และก้อนเนื้อที่เห็นนั้นก็ทำให้มิวส์ถึงกับตะลึงอ้าปากค้างแถมรีบหันไปฟ้องเจ้านายสุดหล่อทันที

   “เจ้านาย! เธอไม่ใช่่หญิง หน้าอกอันสะบึ้มนั่นถูกยัดเอาไว้ด้วยฟองน้ำ มิวส์บ่น... การที่เขารู้ความจริงข้อนี้ก็ยิ่งทำให้เขาหวาดกลัวคนที่นั่งอยู่เบาะข้าง ๆ มากขึ้นไปอีก "ผมไม่ยุ่งแล้วดีกว่า"

   พูดจบก็พลิกตัวหันไปมองฝั่งกระจกก่อนจะซุกใบหน้าเข้าไปที่ต้นคอของเจ้านายอย่างเดิม

   “มองวิวข้างทางยังรู้สึกดีกว่ามองยัยนั่นเป็นไหน ๆ"




   เวลาผ่านไปเพียงชั่วโมงเศษ ๆ รถบัสก็มาถึงยังจุดหมายปลายทาง โชคดีที่ไม่มีเหตุการณ์อุจาดตาอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นกับเจ้านายสุดหล่อของมิวส์ ...ถ้าจะมีไม่ใช่เพราะผู้หญิงประเภทสองคนนั้นหรอกแต่มันเพราะนายต่างหากล่ะมิวส์!!!

   หลังจากที่ชายหนุ่มในคราบหญิงสาวร่างใหญ่เดินลงจากรถ มิวส์ก็ถอนหายใจด้วยความโลกอกสุดฤทธิ์ราวกับว่าเป็นตัวของเขาเองที่กำลังโดนความน่ากลัวของมนุษย์ร่างนั้นหมายปอง ส่วนไม้ก็เดินลงจากรถอย่างเงียบเชียบปล่อยให้ไอ้ผีหน่อมแน้มขี้บ่นนั่นบ่นต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งผู้โดยสารที่ลงรถแยกย้ายกันไปหมด ไม้ก็เปิดปากขึ้น

   “ไอ้มิวส์!!! มึงจะบ่นไรนักหนาวะตอนที่อยู่บนรถ" ไม้เอ่ยขึ้น สายตาที่เคยสุขุมเยือกเย็นไร้ความรู้สึกใด ๆ แสดงออกมาถึงความโมโหสุดฤทธิ์ในยามนี้ "กลับหอเมื่อไหร่มึงตายแน่!”

   “ก็ผมเป็นห่วงเจ้านายนี่" มิวส์เถียง "ยัยนั่นน่ะทั้งอ้วน ทั้งดำ แถมสายตายังอ่านกินเจ้านายตลอดเวลา เห็นแล้วมันก็อดห่วงไม่ได้นี่นา"

   “แน่ใจนะว่าห่วง" ไม้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะยักคิ้วให้ไอ้ผีหื่นหนึ่งที "ไม่ใช่หวง"

   “เจ้านาย!!!” มิวส์ตะโกนก้อง แต่ก่อนที่จะได้แก้ตัวอะไร เจ้านายสุดโหดของเขาก็พูดขัดขึ้นมาเสียก่อน

   “มึงก็อย่าไปว่าแต่คนอื่นเลย กูว่ามึงนั่นแหละที่อ่านกินกู แทะโลมกูไม่หยุด" สิ้นเสียงของไม้ วิญญาณหน่อมแน้มก็ถึงกับสะอึกขึ้นมาทันที เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนรถนั้นมีแต่เขาเท่านั้นแหละที่ได้แนบชิดตัวติดกันกับไม้ แถมยังได้นั่งตักตลอดทาง มิหนำซ้ำยังไม่ยอมนั่งนิ่ง ๆ ต้องเอาหน้าผากมาซุกที่ต้นคอ แถมยังสูดกลิ่นตัวบริเวณอ้อมอกของไม้แรง ๆ อีกตั้งหลายครั้ง

   “ผมเปล่านะ" มิวส์ยกไม้ยกมือขึ้นมาทำท่าทางปฏิเสธสุดฤทธิ์ "แต่ที่ผมต้องนั่งตักเจ้านายก็เพราะผมกลัวยัยนั่นนี่นา"

   “เออ ช่างมันเหอะ" ไม้ชักจะขี้เกียจเถียง "แล้วบ้านมึงต้องไปยังไงต้องนั่งรถหรือเดินไปทางไหนต่อ"

   “เดินไปทางนั้นอีกประมาณห้าร้อยเมตรก็ถึงแล้วครับ" มิวส์ชี้มือไปทางแยกทางหนึ่ง ซึ่งข้างทางเต็มไปด้วยบ้านไม้สองชั้น มีอาคารพาณิชย์ที่เป็นแท่งสี่เหลี่ยมสูงผุดขึ้นมาเป็นบางจุด

   แม้ว่านี่จะเป็นต่างอำเภอ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศไทย แต่ชายแดนแห่งนี้กลับเจริญเทียบเท่ากับเมืองหลังของหลาย ๆ เมืองเลยด้วยซ้ำ อาจเป็นเพราะมีการค้าชายแดนตลอดเวลาเลยทำให้อำเภอแห่งนี้ไม่เคยเงียบเหงา

   ไม้กับมิวส์เดินไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเขาไปหยุดอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งบ้านหลังนั้นเป็นบ้านปูนสองชั้นขนาดปานกลาง รั้วหน้าบ้านเป็นสีเขียวเข้ม

   “หลังนี้แหละครับเจ้านาย" มิวส์เอ่ยขึ้น ก่อนจะกวาดสายตามองบ้านหลังนี้ด้วยความคิดถึง แม้ว่าเวลาจะผ่านไปหลายปี แต่บ้านหลังนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด มีเพียงสีบ้านที่ซีดลงเล็กน้อย อาจเป็นเพราะไม่ได้ทาสีทับใหม่มาหลายปี แล้วความทรงจำเก่า ๆ ก็ผุดขึ้นมาในสมอง

   ภาพแรกเป็นภาพที่มิวส์อายุได้เพียง 4 ขวบเท่านั้น เขากำลังหัดปั่นจักรยานโดยมีพ่อกับแม่ยืนลุ้นอยู่ข้าง ๆ แม้ว่าจะเป็นจักรยาน 4 ล้อ แต่เด็กน้อยที่อายุ 4 ขวบย่องมีความกังวลเป็นธรรมดา แต่ทว่าพอมิวส์ได้ลองปั่นและสามารถปั่นได้อย่างคล่องแคล่ว เขาก็กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจก่อนที่พ่อกับแม่จะอุ้มเขาขึ้นไปหอมแก้มแล้มก็ชมว่าเก่งมาก ๆ

   ภาพต่อมาเป็นภาพตอนที่เขาอายุได้ 12 ขวบ กำลังวิ่งเล่นกับน้องชายตัวน้อยที่ตอนนั้นอายุได้เพียง 4 ขวบเท่านั้นอย่างสนุกสนาน และในขณะที่วิ่งนั้นเอง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อน้องชายของเขาดันสะดุดล้มเข่าถลอกและร้องงอแงใหญ่เลย ในตอนนั้นพ่อกับแม่ไม่อยู่บ้าน มิวส์เลยแบกน้องชายเข้าบ้านพร้อมกับทำแผลให้น้องชายจนเสร็จสรรพ ...ขอบคุณครับพี่มิวส์... ใบหน้าที่ยิ้มแย้มและน้ำเสียงของน้องชายยังตราตรึงใจของพี่ชายที่ไม่เอาไหนอย่างมิวส์เสมอ

   และในขณะที่มิวส์กำลังคิดถึงความทรงจำเก่า ๆ นั่นเอง ชายหนุ่มคนหนึ่งที่เดินมาหยุดอยู่บริเวณรั้วหน้าบ้านก็เอ่ยถามด้วยความสังสัย และเสียงนี้นี่แหละที่ทำให้สติของมิวส์กลับคืนมา

   “คุณเป็นใครครับ มีธุระอะไรที่นี่หรือเปล่า"

   สิ้นเสียงของชายหนุ่ม มิวส์ก็แทบอยากจะร้องไห้ออกมา หากแต่เขาไม่มีน้ำตาก็เท่านั้น แม้ว่าจะผ่านมาหลายปีแต่มิวส์จำเด็กคนนี้ได้เสมอ เด็กผิวขาวหน้าตาจิ้มลิ้มในอดีตบัดนี้ได้โตเป็นหนุ่มหน้าตาดีไม่ต่างจากเขาสักเท่าไรนัก

   “ฟิวส์..." น้ำเสียงที่สั่นคลอของมิวส์ทำให้ไม้รู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มคนนี้ชื่อฟิวส์ และถ้าหากความคิดของเขาไม่ผิดพลาด ชายหนุ่มคนนี้นี่แหละที่เป็นน้องชายของมิวส์

   “พ่อกับแม่ของคุณอยู่หรือเปล่าครับ" ไม้เอ่ยถามอย่างสุภาพ

   “ไม่อยู่ครับ มีอะไรฝากผมได้นะครับเดี๋ยวผมไปบอกแม่ให้" ชายหนุ่มตอบกลับมาอย่างสุภาพ และความสงสัยก็ผุดขึ้นมาในสมองทันที ...หมอนี่เป็นใครกัน แล้วจะมาถามถึงพ่อกับแม่ทำไมนะ เขาไม่รู้เหรอว่าพ่อน่ะไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้มานานแล้วปีแล้ว...

   “ผมมีเรื่องอย่างจากคุยด้วย...” ไม้เข้าประเด็นทันที "คุณเป็นน้องชายของมิวส์ใช่ไหมครับ"

   “ครับ" ชายหนุ่มตอบพร้อมกับก้มหน้า พอได้ยินชื่อของพี่ชายอาการคิดถึงมันก็ถามหา ภาพความทรงจำระหว่างเขากับพี่ชายต่าง ๆ นานามันก็กลับมาตอกย้ำ... และพอนึกถึงช่วงเวลาที่พี่ชายจากไป บาดแผลในจิตใจมันก็ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวด

   “ครับ ผมไม้นะ" ไม้แนะนำตัวอย่างเป็นการเองก่อนที่จะเข้าประเด็นทันที "ผมอยากทราบเรื่องราวเกี่ยวกับงานศพพี่ชายของคุณเมื่อสิบปีที่แล้ว"

   ได้ยินคำพูดของไม้ ฟิวส์ก็ชะงักทันที ...ชายหนุ่มหน้าหล่อคนนี้เป็นใคร และเขารู้เรื่องของครอบครัวได้อย่างไร

   “คุณรู้เรื่องพี่มิวส์ได้ยังไง" น้ำเสียงของฟิวส์จากที่เป็นมิตรแปรเปลี่ยนเป็นหวาดระแวง

   หลังจากที่ได้ยินคำถาม ไม้ก็หันไปมองหน้ามิวส์ พวกเขาทั้งคู่รู้อยู่แล้วว่าหากจะพูดเรื่องวิญญาณของมิวส์ออกไปโดยที่ไม่มีหลักฐานมายืนยันก็คงจะไม่มีใครเชื่อ มิวส์เลยตัดสินใจเล่าวีรกรรมตอนเด็ก ๆ ของน้องชายให้ไม้ฟัง จากนั้นไม้ก็พูดตาม

   “ตอนอยู่ ป.1 นายเคยโดนคุณครูตีก้นเพราะโดนเพื่อนใส่ร้ายเรื่องขโมยรองเท้า" คำพูดของไม้ทำให้ฟิวส์มีสีหน้าตกตะลึงไปเล็กน้อย เพราะน้อยจากเพื่อนที่โรงเรียนและครอบครัวแล้วก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้อีกเลย

   “ตอน ป.6 มีคืนหนึ่งที่นายนอนละเมอไปกอดกับมิวส์ พอตื่นขึ้นมาแล้วเห็นว่าตัวเองกำลังกอดพี่ชายก็เลยเผลอถีบพี่ชายจนตกเตียง" เหตุการณ์นี้นอกจากมิวส์แล้วก็ไม่มีใครรู้เลยแม้แต่พ่อและแม่ นั่นทำให้ฟิวส์ชักสงสัยแล้วสิว่าไม้รู้เรื่องพวกนี้ได้อย่างไร

   “คุณ!” ฟิวส์เอ่ยขึ้น แต่พอจะพูดอะไรต่อ ก็ดันโดนไม้ขัดขึ้นเสียก่อน

   “คุณอาจจะไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูด แต่วิญญาณพี่ชายของคุณในตอนนี้กำลังยืนอยู่ข้าง ๆ ผม เขาไม่ได้ไปผุดไปเกิด เขาไม่ได้กระโดดตึกตายเพราะเสียใจในเรื่องความรักอย่างที่ทุกคนกล่าวหา แต่เขาโดนวิญญาณร้ายอีกตนมาครอบงำจิตใจแล้วหลอกให้กระโดดตึก...”

   “หยุด!!!” ฟิวส์ยกมือขึ้นมาอุดหู เขาไม่อยากจะฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นอีกแล้ว ...พี่ชายของเขาถูกตั้งเป็นความหวังของครอบครัวมาโดยตลอด แต่ท้ายที่สุดก็ดันมาพบจุดจบก่อนที่จะเรียนจบ และนับจากเหตุการณ์นั้น ครอบครัวของเขาที่เคยมั่นคงในทุก ๆ เรื่องก็ต้องมีอันระส่ำระสายเละเทะจนกลายเป็นครอบครัวที่หาความสุขไม่ได้

   “ผมไม่รู้ว่าคุณมีจุดประสงค์อะไร แต่คุณออกไปจากบ้านผมซะ ตอนนี้ครอบครัวของเราก็แย่มากพออยู่แล้ว" น้ำเสียงของฟิวส์เริ่มสั่นไหวเหมือนกับว่าคำพูดเมื่อครู่ของไม้คือหนามแหลมที่กำลังกรีดแทงหัวใจของเขา

   “ครอบครัวของคุณแย่" ไม้ทวนคำด้วยความฉงน และผู้ที่ดูจะฉงนยิ่งกว่าเห็นจะเป็นร่างล่องหนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

   “เจ้านาย... เจ้านายต้องถามฟิวส์ให้ได้นะว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับพ่อและแม่ แล้วพ่อกับแม่ตอนนี้อยู่ที่ไหน...” มิวส์หันมาพูดกับไม้ ส่วนคนเป็นเจ้านายก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับ

   “คุณพอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม" ไม้เอ่ยถามด้วยความสนใจ

   “คุณกลับไปซะ อย่ามายุ่งกับครอบครัวของเราดีกว่า" พูดจบก็เดินหันหลังทำท่าจะเข้าบ้านและทิ้งให้แขกแปลกหน้าอยู่ที่หน้ารั้วโดยที่ไม่คิดจะเปิดต้อนรับ หากแต่ในประโยคถัดมาของไม้ ทำให้ฟิวส์ต้องชะงักและรีบกลับมาเปิดรั้วบ้านตอนรับทันที

   “จำคำพูดนี้ได้ไหม 'ต่อให้พี่จะชอบผู้ชาย ต่อให้สังคมจะประณามพี่ยังไง ผมก็จะอยู่เคียงข้างพี่เพราะพี่เป็นพี่ชายของผม สุขสันต์วันเกิดนะพี่มิวส์' มันเป็นคำพูดที่นายเคยพูดกับมิวส์ในวันเกิดก่อนที่เขาจะจากไป ซึ่งเรื่องนี้ นอกจากนายและมิวส์ก็ไม่น่าจะมีใครรู้ใช่ไหม"

   “พี่มิวส์...” ฟิวส์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอหลังจากที่ได้ยินประโยคนั้น เขาจำคำพูดนี้ได้เสมอ เพราะหลังจากที่พูดคำนี้ทางโทรศัพท์ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็ทราบข่าวเรื่องการกระโดดตึกของพี่ชาย "คำพูดนี้... นอกจากพี่มิวส์แล้วก็ไม่มีใครที่รู้"

   “ตอนนี้พี่ชายของคุณอยากรู้เรื่องราวหลังวันที่เกิดเหตุ และอยากรู้ว่าในงานศพ มีผู้ชายที่ชื่อว่าก้องมาร่วมงานหรือเปล่า"

   สิ้นเสียงของไม้ ฟิวส์ก็รีบเปิดรั้วต้อนรับทันที แม้มันจะเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ แต่คำพูดเมื่อครู่เขามั่นใจว่าไม่เคยมีใครได้ฟัง และมันเป็นคำพูดที่ตอกย้ำให้เขาคิดถึงพี่ชายเสมอ

   ก่อนจะเดินเข้าบ้าน ไม้ได้เอ่ยขออนุญาติกับศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่หน้าบ้านว่าให้ดวงวิญญาณที่ชื่อ 'มิวส์' เข้าไปในบ้านด้วย นั่นจึงทำให้มิวส์สามารถเดินเข้าไปภายในบ้านของตัวเองที่ไม่ได้กลับมานานนับ 10 ปีได้อย่างไม่มีปัญหา

   ต้นไม้รอบบ้านที่เคยเล็กกระจิริดบัดนี้ได้เติบโตจนเป็นร่มเงาที่สูงใหญ่ ...สนามหญ้าหน้าบ้านที่เคยเขียวชอุ่มกลับแห้งเหี่ยวไรชีวิตชีวา มิวส์มองไปรอบ ๆ บริเวณบ้านแล้วได้แต่ถอนหายใจออกมา ภาพความทรงจำเก่า ๆ ที่ย้อนมาให้เห็นทำให้เขาอยากจะย้อนวันวานกลับไปในอดีต แต่เขาก็ทำได้เพียงแค่คิดเท่านั้น

   ภายในบ้านมีการจัดแตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างไปจากเดิมพอสมควร คงเป็นเพราะกาลเวลาที่เปลี่ยนไปอาจทำให้ข้าวของเครื่องใช้เก่า ๆ ผุพังจึงไม่แปลกที่เจ้าของบ้านจะเปลี่ยนของชิ้นใหม่ แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มิวส์ประหลาดใจเท่ากับการที่เขามองไปบนหลังตู้โชว์ใบหนึ่งแล้วมีกรอบรูปภาพขาวดำของเขาตั้งเด่นเป็นสง่า ซึ่งภายในภาพมีวันที่บอกถึงการชาตะและมรณะ และที่ข้าง ๆ รูปของเขานั้นก็มีรูปของผู้ชายอีกคนซึ่งเขาคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี มีข้อความที่เขียนถึงวันชาตะและมรณะเหมือนกับของเขาเปี๊ยบเลย

   “พ่อ!!!” ทันทีที่เห็นรูปนั้น มิวส์ก็เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ อาจเป็นเพราะน้ำเสียงที่แหลมสูงจนเกินไปเลยทำให้ไม้ที่เดินตามฟิวส์เข้าไปที่ห้องรับแขกห้องหนึ่งเงียบ ๆ ต้องหันไปมองตามต้นเสียงนั้น และกรอบรูปบนตู้โชว์ที่มิวส์กำลังเพ่งมอง

   “มิวส์" น้ำเสียงแหบพร่าที่ดังขึ้นทางด้านหลังทำให้มิวส์หันกลับไปมอง ร่างของชายวัยกลางคนที่ใกล้จะล่วงเลยเข้าสู่วัยทองที่ปรากฏทำให้มิวส์ถึงกับอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

   วิญญาณของพ่อยังคงสิงสถิตอยู่ที่บ้านหลังนี้ไม่ได้ไปไหน และเมื่อมองย้อนไปยังปีที่มรณะก็รู้ว่าพ่อของเขาได้สิ้นลมหายใจช้ากว่าเขาเพียงสามสัปดาห์เท่านั้น นั่นแสดงว่าพ่อได้จากน้องชายกับแม่ไปนานนับสิบปีแล้วเช่นกัน

   “พ่อ!!!” มิวส์เรียกสถานะของวิญญาณอีกดวงด้วยความตกใจมากยิ่งขึ้น เขาไม่คิดว่าพ่อจะต้องมาอยู่ในสภาพไม่ต่างจากเขา และถ้าพ่อจากไปตั้งสิบปี ...แล้วตอนนี้แม่อยู่ที่ไหน!?



จบตอน

ตอนนี้ไม่เน้นฮาครับ (ฮาแค่ช่วงแรกต่อจากตอนก่อนก็พอเนาะ....)
------------------------

คุยกับคนอ่านที่น่ารัก

คุณ aloney :: T^T ขอโทษอภัยนะครับที่เปลี่ยนชื่อเรื่อง... คิดว่าชื่อเก่าน่ากลัวเกินไปไม่เหมาะกับบรรยากาศของเรื่องที่ฮาผสมเครียดสักเท่าไหร่

คุณ irksome :: ฮ่าๆ เป็นธรรมดาชีวิตมนุษย์ครับ ชอบเปรียบเทียบในใจ เอิ้กๆ

คุณ iamnan :: จ้า... ^^ ไม้น่าสงสารจริงๆ 555 พออ่านแล้วผมยังลองคิดดูถ้าผมเป็นไม้ - - ผมจะทนได้ไหมนั่น

คุณ Fujoshi :: ^^ ขอบคุณครับ คนอ่านสนุกกับการได้อ่านเรื่อง คนเขียนก็สนุกและมีกำลังใจกับการที่ได้อ่านเม้นท์เหมือนกัน พออ่านเม้นท์แล้วปล่อยผ่านไปมันก็กระไรอยู่ เลยอยากมีปฏิสัมพันธ์ด้วยเล็กๆน้อยๆก็ยังดีครับ ^^ ส่วนแม็กกี้ เดี๋ยวก็มีโผล่มาให้หายคิดถึงครับ

คุณ myd3ar :: ใช่แล้วครับต่างมาก 555 งี้แหละ ไม่มีโอกาสมีชีวิตแล้ว นิสัยด้านมืด? ก็เลยปลดปล่อยออกมาจนหมด 55555

คุณ  kai_kaka  :: ต้องรอลุ้นครับ ว่าไม้จะอะไรยังไง ^^

คุณ nunnan :: มันเป็นความอัดอั้นของคนเขียนเล็กๆครับ 555 เพราะชีวิตจริงจะหื่นกับใครมันยาก T^T เลยเอาไปลงกับมิวส์ละกัน

คุณ naruxiah :: แฮ่... ขอตอบเรื่องแม็กกี้ว่าไม่ได้ !!!  ยังไงก็ต้องมีโผล่มาแย่งซีนบ้างครับ แต่ยังไม่ใช่นาทีนี้ ให้มิวส์แจ้งเกิดก่อน ^^ คิคิ

คุณ mindmaru :: *0* หรือว่าจะเป็นเพราะบทแรก ๆ น่ากลัวเกินเลยทำให้เม้นท์น้อยกว่าที่ควรเอิ้กๆ(ไม่น่า - -") ขอบคุณที่อ่านต่อนะครับ เพื่อตอบแทนที่หลงเข้ามาอ่านแล้วสนุก กระผมจะพยายามอัพตอนต่อ ๆ ไปให้ไวที่สุดนะครับ

คุณ darkeyes1 :: ^^ แน่นอนครับ เรื่องมันลึกลับซับซ้อน สำหรับความสัมพันธ์และความรู้สึก ขอบคุณสำหรับแสดงความคิดเห็นนะครับ เพราะมีบางจุดที่มองข้ามไป พอได้อ่านคอมเม้นท์แล้วสามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขในตอนต่อ ๆ ไปให้ดีกว่าเดิม ปล.สาวงามขวัญผวาน่าจะเป็นแค่ตัวประกอบฉากครับ ^^" แต่ก็ไม่แน่ ^^"
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่8]-19/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 19-07-2013 12:32:24
อ้าว พ่อก็ตายแล้วหรอเนี่ย

ปล.ตอนนี้อยากให้มิวส์เป็นนายเอกแทนแม็กกี้อ่ะ 555น่ารักโมเอะมากมาย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่8]-19/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-07-2013 12:51:05
เฮ้ยยยย ผิดคาดเลยที่พ่อของผีหน่อมแน้มตายแล้ว แล้วแม่หล่ะ

อ่านตอนนี้แล้วเข้าใจความรู้สึกฟิวส์ รับรู้ได้ถึงการคิดถึงของฟิวส์ที่มีต่อมิวส์ไม่ว่าฝ่ายที่จากไปจะเป็นพี่หรือน้องคนที่อยู่มันก็ทรมาณทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่8]-19/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 19-07-2013 19:55:43
อะไรกัน รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่8]-19/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 19-07-2013 20:28:44
แม่ไปไหนนนน  :heaven :heaven
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่8]-19/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 19-07-2013 20:47:16
พ่อตายแล้ว แล้วแม่ล่ะตอนนี้เป็นยังไง?
นี่มันเกิดอะไรกับครอบครัวมิวส์กัน
เพียงแค่ผู้ชายที่ชื่อก้องเพียงคนเดียว สามารถทำให้ครอบครัวครอบครัวหนึ่งทุกข์ทรมานได้ขนาดนี้เลยเหรอ
ไม่ว่าจะหาเหตุผลใดมาหักล้างความผิดนี้ยังไงคนที่ผิดก็คือแฟนเก่ามิวส์อยู่ดี
ไม่ว่าเรื่องที่ก้องจะพูดจริงหรือโกหกมันก็ไม่สามารเรียกคืนชีวิตใดชีวิตหนึ่งกลับคืนมาได้อยู่ดี

ปล.เราเม้นดราม่าไปไหมเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่8]-19/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: เทมปุระกุ้ง ที่ 19-07-2013 20:51:39
ก้องคือตัวปัญหางั้นหรือ? ฮึ่มมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม  :fire:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่8]-19/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 19-07-2013 21:09:56
เข้ามาฝากตัวด้วยคนนะ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


โอ๊ะ อยากรู้แล้วอ่า ว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของมิวส์
ทำไม พ่อมิวส์ถึงได้ตาย แล้วเรื่องของก้องนั้นอีก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่8]-19/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 19-07-2013 21:42:34
เธอออ~~~~~

เราสงสารครอบครัวนี้จังเลย มีน้ำตาคลอ T^T  พ่อก็ตายตั้งนาน แถมเป็นวิญญาณที่ยอมไปผุดไปเกิด คือครอบครัวนี้ทำกรรมอะไรไว้กันเหรอ เชื่อว่าหลังจากที่มิวส์และพ่อตายไป แม่กับฟิวส์ไม่เคยมีความสุขแน่ ๆ  #ดูเราซีเรียสเนาะ #คือเราอินมาก #รอฟังคำเฉลยทุกเรื่องราวของมิวส์
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่8]-19/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 19-07-2013 23:55:42
สงสารมิวส์อ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่8]-19/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pockypocky ที่ 20-07-2013 00:05:39
สงสารมิววววววววว  :o12:

แต่ไม่ค่อยอยากให้มิวคู่กับไม้เลย สงสารแมกกี้อ่ะ

แล้วมาต่อไวๆนะคะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่8]-19/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 20-07-2013 11:37:44
ตอนที่ 9  :katai4:  [[ไม่อยากให้ค้างงาน ^^ รีบมาต่อให้เลยครับ อิอิ]]




   หลังจากที่มิวส์เสียชีวิต อาการเครียดก็ทำให้พ่อทรุดหนักจนต้องเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในช่วงแรก ๆ นั้นอาการยังไม่ไม่น่าเป็นห่วงสักเท่าไหร่ แต่พอเริ่มมีเพื่อนฝูงและวงศาคณาญาติมาเยี่ยมแล้วเอาแต่พูดเรื่องลูกชายคนโตในทางเสีย ๆ หาย ๆ แทนที่จะให้กำลังใจ อาการของพ่อก็ยิ่งทรุดหนักลงไปเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดพ่อก็จากไปด้วยอาการเส้นเลือดในสมองแตก และคำพูดสุดท้ายที่พ่อได้พูดกับฟิวส์ก็คือ

   ...ถ้าพ่อไม่ได้เจอมิวส์ ไม่ได้สอบถามความเป็นจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับมิวส์ เพราะคงนอนตายตาไม่หลับ ส่วนฟิวส์... ดูแลแม่ด้วยนะลูก...

   คำพูดของพ่อในวันนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของฟิวส์เสมอ

   ในขณะที่ฟิวส์กับไม้กำลังคุยกัน ทางด้านของมิวส์กับพ่อก็กำลังอยู่พูดคุยกันเช่นกัน แต่ดูเหมือนว่าทางฝั่งของวิญญาณทั้งสองต้นจะเครียดมากกว่า

   “พ่อ... พ่อเป็นยังไงบ้าง" มิวส์เอ่ยถามด้วยความห่วงใยหลังจากที่เห็นร่างอันซีดเผือดไม่ต่างจากเขากำลังยืนอยู่ตรงหน้า

   “พ่อเครียด...” ผู้เป็นพ่อตอบออกมาตรง ๆ ใบหน้าในตอนแรกนั้นแสดงออกถึงความเครียดชัดเจนแต่พอเขาได้พบกับลูกชายเท่านั้นแหละ ความเศร้าที่เคยปรากฏอยู่บนใบหน้าก็หายไปและกลายเป็นความสุขที่เข้ามาแทนที "พ่อเครียดมาตลอดที่ได้ยินคำดูถูกเรื่องของลูก พ่อไม่เชื่อว่าลูกจะตัดสินใจคิดสั้นแล้วทิ้งพ่อแม่แล้วก็น้องไปง่าย ๆ แบบนี้"

   “เรื่องไหน" ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่ามีอยู่เรื่องเดียว แต่ความสับสนงุนงงที่เกิดขึ้นทำให้สมองของมิวส์ด้านชาไปหมด ...ไม่แปลกหรอกที่เขาจะเป็นแบบนี้ เพราะเขาคิดมาเสมอว่าพ่อกับแม่และน้องชายจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสามคนและเป็นครอบครัวที่อบอุ่น แต่หลังจากที่ได้กลับมาที่บ้านอีกครั้ง ถึงได้รู้ว่าสิ่งที่คิดมันผิดเพี้ยนไปหมด

   “ก็เรื่องที่ลูกตัดสินใจกกระโดดตึก... เพราะ...” ผู้เป็นพ่อชะงักไปเล็กน้อย เขาก้มหน้าลงก่อนที่จะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ "เพราะผู้ชาย..."

   “พ่อ..." น้ำเสียงของมิวส์สั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด เขาไม่รู้ว่าพ่อรู้เรื่องที่เขาคบกับผู้ชายได้อย่างไร มันเป็นความลับที่เขาพยายามปกปิดมาตลอดตั้งแต่ที่ตัดสินใจคบกับก้อง แต่ก็นั่นแหละความลับไม่มีในโลก หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง วันหนึ่งความลับก็ต้องรั่วไหลอยู่ดี เมื่อตั้งสติได้ มิวส์จึงอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตให้ผู้เป็นพ่อฟังทั้งหมด

   “ผมขอโทษ แต่ผมไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายนะพ่อ คืนที่เกิดเรื่องน่ะ... ผมโดนบอกเลิกจริง ๆ แต่ว่าที่ผมตกระเบียงห้องพักก็เพราะผมโดนไอ้วิญญาณร้ายมันครอบงำจิตใจ พอผมรู้ตัวอีกทีก็พบกับสภาพตัวเองที่เป็นวิญญาณแล้วพ่อ พ่อต้องเชื่อผมนะ ผมไม่เคยคิดจะฆ่าตัวตายจริง ๆ ต่อให้เสียใจแค่ไหน ผมก็คิดถึงพ่อแม่และน้องเสมอ ผมไม่มีวันเอาชีวิตไปทิ้งให้กับคนที่มันไม่รักผมหรอก"

   น้ำเสียงของมิวส์สั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด เขากลัวว่าพ่อจะไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด

   “มิวส์ว่ายังไงนะ...” ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาใกล้ ๆ น่าแปลกที่พ่อของเขาร้องไห้ออกมาได้ด้วย สังเกตได้จากหยดน้ำตาที่ไหลลงมาจากดวงตากลมโตคู่นั้น "มิวส์บอกว่ามิวส์ไม่เคยคิดจะเอาชีวิตไปทิ้งกับคนที่มันไม่ได้รักใช่ไหม ช่วยย้ำให้พ่อฟังอีกทีได้ไหม...”

   ยิ่งพูดน้ำตาของผู้เป็นพ่อก็ยิ่งไหลทะลักออกมาอย่างหนัก

   “ครับ... ผมไม่เคยคิดแบบนั้นเลยจริง ๆ" ทันทีที่พูดจบ มิวส์ก็คุกเข่าต่อหน้าร่างวิญญาณของพ่อ แล้งเขาก็ทำในสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาตลอดระยะเวลา 31 ปี สองมือพนมก้มกราบเท้าของผู้ที่ให้กำเนิด ...แม้ว่าจะไม่ได้ทำในตอนที่ทั้งตัวเองและพ่อยังมีลมหายใจ แต่มันก็เป็นสิ่งที่เขารอคอยที่จะทำมาเสมอ

   ย้อนกลับไปก่อนที่มิวส์จะสิ้นลมหายใจ มิวส์เคยให้คำสัญญากับตัวเองไว้ว่าหลังจากที่เรียนจบ เขาจะหาโอกาสบวชทดแทนบุญคุณพ่อกับแม่ แต่ความคิดนั้นก็ต้องมีอันต้องดับสลาย เพราะเขาดันต้องมาโดนมัจจุราชกระชากลมหายใจไปเสียก่อน และพอวันนี้มีโอกาสอีกครั้ง อย่างน้อยก็ขอให้เขาได้ทำหน้าที่ลูกที่สำนึกในบุญคุณของผู้ให้กำเนิดหน่อยเถอะ

   “ผมขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมรักพ่อนะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจะทิ้งพ่อแม่แล้วก็น้องไป แต่ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุ ให้อภัยผมด้วยนะครับ" พูดไปทั้งที่ยังก้มกราบ ส่วนผู้เป็นพ่อที่ยืนมาตลอดก็ค่อย ๆ ย่อตัวนั่งลงก่อนจะเอื้อมมือไปลูบศีรษะของลูกชายเบา ๆ โดยที่น้ำตาก็ไหลออกมาไม่ขาดสาย

   มิวส์ที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่บริเวณศีรษะเงยหน้าขึ้นมา พอเห็นดวงตาของผู้เป็นพ่อแดงก่ำเขาก็โผเข้ากอดพ่อด้วยความแนบแน่นทันที

   ในตอนนี้วิญญาณสองร่างพ่อกับลูกกำลังกอดกันอย่างแนบแน่น วิญญาณผู้เป็นพ่อนั้นได้รับรู้เรื่องที่เกิดขึ้นจากปากของลูกชายทั้งหมดแล้ว นั่นจึงทำให้เขาไม่มีอะไรติดค้างคาใจอีกต่อไป ก่อนที่น้ำตาหยาดสุดท้ายจะล่วงลงสู่พื้น ร่างของชายวัยกลางคนก็ค่อย ๆ จางลง เกิดแสงสีทองประหลาดรอบกายและในที่สุดดวงวิญญาณในร่างคนก็กลายเป็นควันกลม ๆ สีขาวก่อนที่จะลอยขึ้นสู่เบื้องบน
   มิวส์มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความประหลาดใจ และเสียงสุดท้ายที่ดังขึ้นก็ทำให้เขาเข้าใจทุกอย่าง

   “พ่อไม่มีอะไรต้องห่วงอีกแล้ว ถึงเวลาของพ่อที่จะต้องไปชดใช้กรรมแล้วล่ะ ดูแลตัวเองดี ๆ นะมิวส์ พ่อรักมิวส์นะ" สิ้นเสียงนั้น มิวส์ก็อยากจะร้องไห้ แต่ทำยังไงน้ำตาของเขาก็ไม่มีทางไหลได้เหมือนพ่อ

   สาเหตุที่น้ำตาของดวงวิญญาณวัยกลางคนไหลได้เพราะเขาได้รับรู้ในเรื่องที่เป็นปัญหาติดค้างคาใจมานานหลายปี คำก่นด่าของวงศาคณาญาติต่าง ๆ นานาที่ด่าลูกชายไม่ใช่เรื่องจริงเลยสักนิด และในเมื่อไม่มีอะไรให้กงวลใจอีกต่อไป ความอัดอั้นตันใจที่ถูกเก็บเอาไว้มานานก็เลยถูกระบายออกมาอย่างที่เห็น นั่นทำให้ดวงวิญญาณของชายวัยกลางคนแตกสลายและพร้อมที่จะไปชดใช้กรรมในนรกหรือสวรรค์เป็นลำดับต่อไป



   ทางด้านของไม้ที่กำลังนั่งคุยกับฟิวส์ก็มีอันต้องหยุดชะงัก เพราะไม้ได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของมิวส์ดังขึ้นไม่ขาดสาย ไม้ตัดสินใจเดินไปที่ห้อง ๆ หนึ่งซึ่งอยู่ติดกับห้องรับแขก มันเป็นห้องที่มิวส์กับพ่อของเขาเพิ่งคุยกันจบ

   “ไอ้มิวส์...” ไม้เอ่ยขึ้นเพราะแปลงใจกับภาพของวิญญาณตรงหน้าที่กำลังนั่งกอดเข่าก้มหน้าแล้วก็สะอื้นไห้ออกมา "เป็นอะไรวะ"

   เพราะไม้ไม่สามารถมองเห็นดวงวิญญาณดวงอื่นได้ จึงทำให้ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ยังมีดวงวิญญาณอีกดวงอยู่ในบ้านหลังนี้
   
“เจ้านาย...” มิวส์ที่พอได้ยินเสียงของไม้ก็เงยหน้าขึ้นมามอง ดวงตาของเขาในยามนี้แสดงออกถึงความซาบซึ้งตรึงใจในอะไรบางอย่างอย่างเห็นได้ชัด

   “มึงเป็นอะไรของมึง" พอเห็นดวงตาที่แดงก่ำก็รู้สึกตกใจขึ้นมา ถ้ามิวส์สามารถร้องไห้ออกมาป่านนี้ก็ไม่แน่ว่าน้ำอาจจะท่วมบ้านแล้วก็เป็นได้

   แต่ทว่าไม่มีคำพูดใด ๆ ตอบกลับออกมาจากปากของวิญญาณตนนั้น

   มิวส์ตัดสินใจลุกขึ้นก่อนที่จะวิ่งมากอดกับเจ้านายอย่างไม่คิดหวาดกลัวอะไรสักนิด ไม่กลัวว่าจะโดนถีบ โดนโบก หรือโดนด่าหาว่าหื่น เพราะตอนนี้เขากำลังเศร้าและก็สุขในเรื่องที่เกิดขึ้นไปพร้อม ๆ กัน

   มิวส์เป็นเพียงดวงวิญญาณดวงหนึ่งที่ไม่มีใครสนใจ มีเพียงเจ้านายของเขาคนเดียวเท่านั้นที่สามารถมองเห็นทุกการกระทำและเจ้านายคนนี้แหละที่เป็นที่พึ่งเดียวในยามนี้ของมิวส์

   อ้อมกอดของมิวส์ในครั้งนี้ทำให้ไม้รู้สึกราวกับว่ากำลังมีร่างของคนที่โอบกอดจริง ๆ ไม่ใช่เพียงความรู้สึกที่เหมือนมวลอากาศกำลังโอบรัด และพอเขาลองยกมือขึ้นมากอดตอบก็ปรากฏว่าสามารถสัมผัสกับร่างของดวงวิญญาณนั้นได้เหมือนกัน

   “มึงเป็นอะไร" ไม้เอ่ยถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่บางเบา ไม่รู้ทำไม... พอเขาเห็นหมอนี่อยู่ในอารมณ์เสียใจทีไรเขาถึงรู้สึกประหลาด ๆ ในจิตใจจนอยากปลอบให้หายจากอาการแบบนี้ทุกที

   แต่ไม่ว่าจะถามสักกี่ครั้ง มิวส์ก็ยังคงนิ่งเงียบไม่ยอมตอบอะไร มีเพียงเสียงสะอื้นเท่านั้นที่ดังเป็นคำตอบ

   “ไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไร" ไม้เอ่ยเบา ๆ พลางยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบศีรษะของมิวส์

   การกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นทำให้ฟิวส์ที่มองดูเหตุการณ์จากทางด้านหลังมาตลอดรู้สึกงุนงง

   “คุณทำอะไรของคุณ" น้ำเสียงที่เอ่ยขึ้นทำให้คนกับวิญญาณอีกตนต้องชะงักและต้องรีบผละอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นออกจากกันทันที "คุณกำลังกอดกับพี่มิวส์งั้นเหรอ"

   “เอ่อ... เปล่า...” ไม้ตอบตะกุกตะกัก เขาอยากจะพูดความจริงทั้งหมด แต่ถ้าบอกออกไปว่ากำลังกอดกับมิวส์ที่เป็นวิญญาณ ภาพลักษณ์ก็ต้องเสียหายแน่ ๆ "กลับไปคุยที่ห้องเดิมกันเถอะ"

   พูดจบก็เดินนำไปยังห้องรับแขกราวกับเป็นเจ้าของบ้าน โชคดีที่ฟิวส์ไม่ใช่คนขี้สงสัยพยายามจะคาดคั้นเอาคำตอบอะไร เขาเพียงเดินตามมาเงียบ ๆ เท่านั้น และทันทีที่กลับมายังห้องรับแขก การสนทนาที่ค้างไว้ก็เริ่มขึ้น

   “เมื่อกี้คุณบอกว่าผู้ชายที่ชื่อก้องมาที่งานศพของมิวส์” ไม้เปิดประเด็นทันที เมื่อกี้กำลังจะได้รู้ในสิ่งที่สงสัยอยู่แล้วเชียวแต่ดันได้ยินเสียงสะอื้นของไอ้วิญญาณหน่อมแน้มก่อนก็เลยอดเป็นห่วงวิ่งไปดูไม่ได้

   “ใช่... มันสารภาพทุกอย่างกับผม" น้ำเสียงของฟิวส์เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จากที่เคยเรียบเย็นเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่ราวกับข่มกลั้นความโกรธเอาไว้สุดฤทธิ์

   “สารภาพ?” ไม้ทวนคำอย่างไม่เข้าใจ ส่วนมิวส์ที่แม้จะยังเสียใจกับเรื่องของพ่อพอได้ยินเรื่องของก้องก็หันมาให้ความสนใจทันที ในตอนนี้มิวส์กำลังนั่งอยู่ข้าง ๆ กับร่างของน้อยชาย

   “มันบอกว่ามันทำอะไรกับพี่มิวส์เอาไว้" ฟิวส์เอ่ยขึ้น ทุกครั้งที่เอ่ยชื่อก้องจะต้องกัดริมฝีปากตนเองเสมอ "และมันก็ไถ่โทษความผิดทั้งหมดโดยการบวชหน้าไฟให้พี่มิวส์"

   “บวช?” ไม้ทวนคำอีกแล้ว

   “ใช่... มันบวชเพราะต้องการจะชดใช้ความผิด แต่ผมไม่ให้อภัยมันหรอก ไม่ว่ามันจะทำยังไงก็ไม่มีวันที่พี่มิวส์จะกลับมาได้เหมือนเดิม พ่อก็ด้วย... ที่พ่อต้องตายไปก็เพราะมัน" ฟิวส์เริ่มใส่อารมณ์ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเห็นว่าสถานการณ์เริ่มตรึงเครียด ไม้จึงเปลี่ยนเรื่อง

   “แล้วตอนนี้แม่ของนายอยู่ไหน" ไม้ไม่รู้เลยสักนิดว่าคำถามนี้ยิ่งทำให้ฟิวส์ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่

   “แม่...” น้ำเสียงของฟิวส์สั่นคลอมากยิ่งขึ้น ราวกับว่ามีความกดดันอะไรบางอย่างจุกอยู่ในลำคอ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก "คุณกลับไปก่อนดีกว่า ผมยังไม่พร้อมจะอธิบายอะไรให้คุณฟังทั้งนั้น แค่นี้ครอบครัวของผมก็แย่มากพอแล้ว"

   สิ้นเสียงของฟิวส์ ไม้ก็พยักหน้ารับ อย่างน้อยการมาบ้านของมิวส์ในวันนี้ก็ให้เขาได้รู้อะไรหลาย ๆ อย่าง

   “งั้นเดี๋ยววันหลัง ผมจะมาใหม่นะ" ไม้เอ่ยขึ้นก่อนจะเดินกลับออกไปที่ประตูหน้าบ้านทันที ยังไม่ทันที่จะได้ก้าวขาออกจากรั้ว เสียงสั่น ๆ ของฟิวส์ก็ทำให้ไม้ต้องชะงัก

   “เดี๋ยว...” ฟิวส์เดินตามออกมา ก่อนที่จะพยายมสะกดกั้นอารมณ์อ่อนแอเอาไว้ภายใต้เบื้องลึกของจิตใจแล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติที่สุดว่า "ฝากบอกพี่มิวส์ด้วยนะว่าไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะดูแลแม่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้"

   “อืม" ไม้รับคำก่อนจะกระตุกยิ้มนิด ๆ ทว่าก่อนที่เขาจะเดินออกจากประตูรั้ว เสียงที่ดังขึ้นก็ทำให้ไม้ต้องชะงักอีกรอบ

   “เดี๋ยวครับเจ้านาย" มิวส์วิ่งมาตัดหน้า "ผมอยากรู้ว่าแม่เป็นอะไรแล้วตอนนี้แม่อยู่ไหน ฟังไอ้ฟิวส์พูดแล้วรู้สึกแปลก ๆ ผมอยากเจอแม่"

   สิ้นเสียงของมิวส์ ไม้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยเท่านั้น เขาเดินทะลุร่างที่ยืนบังออกไปนอกรั้วอย่างไม่สนใจใยดีสักนิด

   “ก็ได้ยินเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ว่าเขายังไม่พร้อมจะพูด"

   “โถ่... เจ้านาย" มิวส์เอ่ยด้วยน้ำเสียงเสียดายก่อนจะเดินคอตกตามหลังเจ้านายออกไป




จบตอนที่ 9

------------------------------------
คุยกับคนอ่านครับ ^^

คุณ sang som :: เชื่อว่ามีหลายคนอยากให้มิวส์เป็นนายเอก แต่ยังไงทั้งมิวส์ ไม้ แม็กกี้ ก็เป็นตัวหลักของเรื่องครับ ^^ อิอิ

คณ iamnan :: ใช่แล้วครับ พ่อหน่อมแหน้มเสียแล้ว เหตุผลก็อย่างในบทที่ 9 เลย T^T ส่วนแม่ เก็บไว้เป็นปมต่อไปก่อนดีกว่า ^^" แฮ่ๆ

คุณ hello_lovestory :: ^^ ลงตอนที่ 9 แล้วนะครับ (กว่าจะมาอ่านเห็นตรงนี้ก็คงจะอ่านบทที่ 9 จบแล้ว) ไม่ปล่อยให้รอนาน ^^

คุณ nunnan :: ถามว่าแม่ไปไหน ถ้าจะบอกว่ายังไม่อยากบอกจะเป็นไรไหมครับ T^T (ยกการ์ดป้องกันกลัวโดนต่อย ฮ่าๆ)

คุณ Chichi Yuki :: เม้นท์ดราม่าแบบนี้ผมชอบเลยครับ มีการแสดงความคิดเห็นความรู้สึกต่อตัวละครด้วย ถ้าคนอ่านอ่านนิยายแล้วเพลิน คนเขียนพอได้อ่านคอมเม้นท์ก็เพลินและดีใจเหมือนกันครับ ^^

คุณ เทมปุระกุ้ง :: ก้องคือตัวปัญหางั้นเหรอ ??? ไม่บอกก ติดตามตอนต่อๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆไปจนจบ แล้วจะรู้เรื่องราวทั้งหมดครับ อิอิ ขอบคุณที่แวะมาอ่านและเม้นท์นะครับ ^^

คุณ มยอนฮวา :: ยินดีต้อนรับ ยินดีที่ได้รู้จักครับ อ่านจนตอน 9 คงหายคาใจเรื่องพ่อแล้ว แต่เรื่องก้องกับแม่ยังเก็บเอาไว้ก่อนดีกว่า ^^

คุณ  aloney :: TT___TT ง่าาา เห็นคนอ่านอินแล้วรู้สึกดีใจยังไงไม่รู้ T^T ขอบคุณนะครับ ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะครับ มาอ่านบ่อยๆ นะ

คุณ ชะรอยน้อย :: ช่วงนี้มิวส์น่าสงสารจริง ๆ ครับ T^T ขอบคุณที่เม้นท์นะงับ

คุณ pockypocky :: มาต่อแล้วคร้าบ (ตอน9อ่ะนะ) สำหรับตอนหน้า... ขอเอาใจคนที่คิดถึงแม็กกี้แล้วครับ (รอก่อนนะครับ) ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่9]- 20/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 20-07-2013 12:33:24
อย่าบอกนะว่าแม่ตามไปฆ่าก้อง ตอนนี้ติดคุกอยู่  :z6
แม่ไปอยู่ไหนแล้ว  :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่9]- 20/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 20-07-2013 13:11:54
แม่ไปอยู่ไหนล่ะ อ่านตอนนี้เเล้วสงสารมิวส์จัง

เย้ จะได้เจอแม็กกี้แล้ว คงไม่กลับมาพร้อมแฟนใหม่นะ :katai5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่9]- 20/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: aloney ที่ 20-07-2013 13:52:38
แม่คงไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหม??

รออ่านๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่9]- 20/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 20-07-2013 21:30:02
 :m11: เย้ อ่านทันแล้ว แรก ๆ ยังอ่านไปขำไปอยู่เลย พอตอนหลังนี่แบบ  :hao5: มิวส์น่าสงสารมาก ๆ เลยอะ
สนุก น่าติดตามมาก ๆ มีปริศนาหลายอย่างเลย ไหนจะอดีตของมิวส์ทั้งครอบครัว ทั้งเรื่องก้องที่สำนึกผิดจริงรึเปล่า
แล้วเรื่องที่มิวส์ชอบกลิ่นตัวของไม้เนี่ย เกี่ยวกับที่ไม้มองเห็นมิวส์ได้ด้วยรึเปล่า
ถ้าเรื่องผ่านมาซัก 20 กว่าปี คงคิดว่าไม้เป็นก้องกลับมาเกิดล่ะ
ส่วนแม็กกี้ก็หายไปเลย ปล่อยให้มิวส์แทะโลมไม้อยู่คนเดียว
ดีนะไม้ดูรักเดียวใจเดียว (รึเปล่า) ถึงจะดูผูกพันกะมิวส์แต่คงไม่หันมาชอบมิวส์หรอกมั่ง
เพราะถึงมิวส์จะน่าสงสารแต่ก็ไม่อยากให้มาแย่งไม้ไปจากแม็กกี้อะ
กดบวก แปะเป็ด เป็นกำลังใจให้ผู้เขียนจ้า :L2: แล้วมาต่อไว ๆ น๊า  :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่9]- 20/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 20-07-2013 21:31:19
แม่เป็นอะไรไปอ่า

น่าสงสารฟิิวส์นะ และ มิวส์นะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่9]- 20/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 20-07-2013 21:55:24
ผีหน่อมแน้มน่าสงสาร หวังว่าฟิวส์คงไม่ได้ทำอะไรก้องนะ ผู้ชายเลว ๆ คนนั้นไม่คู่ควรกับน้องชายที่น่ารักของมิวส์

ส่วนคุณแม่ .... เป็นปริศนาต่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่9]- 20/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 21-07-2013 13:50:20
ตอนที่ 10




          กว่าจะใช้เวลาเดินทางกลับถึงห้องก็ปาไปบ่ายโมงกว่าแล้ว... อากาศในฤดูร้อนก่อนจะย่างเข้าฤดูฝนนี่มันช่างร้อนอบอ้าวเสียจริง และนั่นทำให้ไม้ต้องถอดเสื้อออกทันทีที่มาถึงห้อง

   “เจ้านาย...” มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกระเส่า พอเห็นร่องกล้ามและเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นอยู่บนร่างบึกบึนนั้นอาการหื่นกามมันก็กำเริบขึ้นมาทันที

   “อะไร" ไม้ขานรับอย่างไม่สนใจเท่าไรนัก เพราะสิ่งที่เขาสนใจมากยิ่งกว่าตอนนี้คือเทปบันทึกภาพฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษคู่ระหว่างทีมโปรดของเขาเชลซีกำลังปะทะกับทีมที่มีขวัญใจทั่วโลกอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้จะรู้ผลแล้วว่าเสมอกันไปสองประตูต่อสอง แต่เลือดเชลซีมันอยู่ใจนี่นายังไงก็ขอดูย้อนหลังหน่อยละกัน

   “ผมขอทวงสัญญา...” มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

   “สัญญาอะไร" ไม้เอ่ยขึ้นเรียบ ๆ พอหันไปพบกับสายตาที่เร่าร้อนของดวงวิญญาณเขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเจ้านี่มันกำลังหมายถึงเรื่องอะไร “เออ! มึงอยากทำไรกับกูก็ทำไปเถอะ ขออย่างเดียว เงียบ ๆ อย่าพูดอะไรขึ้นมาอีกจนกว่าฟุตบอลจะจบ"

   สิ้นเสียงของไม้ สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่จอโทรทัศน์ ผิดกับมิวส์ที่คลี่ยิ้มสุดหื่นออกมา แล้วปฏิบัติการลูบไล้อวัยวะต่าง ๆ ของเจ้านายสุดหล่อก็พร้อมที่จะเริ่มขึ้น

   แต่ทว่าก่อนที่จะทำอะไร เสียงของโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็ขัดจังหวะของวิญญาณสุดหื่นเอาซะก่อน

   “ว่าไงที่รัก" ไม้ทักทายด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ส่วนมิวส์ได้แต่นั่งหน้าบึ้งอยู่ข้าง ๆ ไม่รู้ว่ามารผจญจะโทรมาขัดจังหวะทำไม

   “อยู่ไหน" ปลายสายเอ่ยถาม

   “ห้อง" ไม้ตอบกลับ

   “มาหาหน่อยได้ไหม" ปลายสายเอ่ยถามอีกครั้ง

   “ที่ไหน" ไม้ถามกลับ หลังจากที่ได้ยินคำตอบของแม็กกี้เสร็จสรรพเขาก็ตอยตกลงทันที "ได้ ๆ เดี๋ยวกูจะรีบไป"

   หลังจากที่วางโทรศัพท์ ไม้ก็หยิบเสื้อตัวที่เพิ่งถอดมาใส่อีกครั้งก่อนจะปิดทีวีทันที

   “เจ้านายจะไปไหน" มิวส์เอ่ยถามอย่างขัดใจ ก็ไหนเมื่อกี้บอกให้ไม่ต้องพูดมากจะได้มีสมาธิดูบอล แต่พอแม็กกี้โทรมาเท่านั้นแหละ ทำไมถึงได้รีบร้อนออกไปข้างนอกขนาดนี้

   “ไปข้างนอก" ไม้ตอบปัด ๆ

   “ไปทำอะไร" มิวส์เอ่ยถามอีกรอบ แต่คราวนี้ไม้ไม่ได้ตอบเขาเพียงเดินจ้ำอ้าวลงลิฟท์และตัดสินใจก้าวออกจากรั้วประตูหอพักทันทีโดยที่ไม่สนใจคำถามต่าง ๆ นานาที่มิวส์พยายามถามอีกเลย อย่างเช่น ไปทำอะไร ที่ไหน กับใคร จะกลับกี่โมง ฯลฯ

   เจ้านายสุดโหดของเขาเพียงตะโกนให้หลังว่า "อยู่ที่หอก็เป็นเด็กดีล่ะ อย่าไปเที่ยวหลอกหลอนใคร"

   “ตอบไม่ตรงคำถามสักนิด" มิวส์ทำแก้มป่องอย่างขัดใจก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมา

   หลังจากที่ร่างของเจ้านายสุดโหดลับสายตา ท่านเจ้าที่ที่เฝ้ามองดูเหตุการณ์ความเป็นไปบริเวณศาลพระภูมิมนานก็ปรากฏตัวขึ้นมาตรงหน้าของมิวส์

   “เจ้านี่ชักจะยังไงแล้วนะ พ่อหนุ่มนั่นจะไปที่ไหนแล้วมันธุระกงการอะไรที่เจ้าต้องถามฮะ" ท่านเจ้าที่เอ่ยขึ้น

   “ก็... เขาเป็นเจ้านายผมนี่ท่านลุง" มิวส์ตอบ

   “แน่ใจนะว่าเป็นแค่เจ้านาย... ไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น" ชายชราในชุดขาวเลิกคิ้วด้วยความสงสัย เพราะเขาไม่เข้าใจว่าลูกน้องประสาอะไรทำไมต้องถามจู้จี้จุกจิกกับเจ้านายของตัวเองมากมายขนาดนี้ อีกอย่างหอพักแห่งนี้มีคู่รักชาย ๆ หรือหญิง ๆ เดินเข้า ๆ ออก ๆ บ่อยเลยทำให้ท่านเจ้าที่เห็นจนชินแล้วล่ะกับรสนิยมของเด็กสมัยนี้

   “คิดอะไรล่ะท่านลุง ไม่ได้คิดหรอกน่า" มิวส์ตอบปัด ๆ ทำไมนะ... พอท่านเจ้าที่ถามคำถามนี้ขึ้นมามิวส์ถึงได้รู้สึกแปลก ๆ ถ้าจะถามว่าคิดอะไรไหม ถ้าตอบตรง ๆ เขาก็คงชอบกับความป่าเถื่อนและความจริงใจของเจ้านายอยู่ไม่น้อย เพียงแต่ว่า...

   “ก็ดีแล้ว เจ้าน่ะเป็นอะไร ส่วนพ่อหนุ่มนั่นน่ะเป็นอะไร ข้าหวังว่าเจ้าคงจะรู้สถานภาพตัวเองดี" พูดจบท่านเจ้าที่ก็หายวับกลับเข้าไปอยู่ในศาลพระภูมิตามเดิม

   “ครัับ" มิวส์ยืนตอบบริเวณหน้าศาลด้วยเสียงเอื่อย ๆ

   สำหรับเรื่องสถานภาพน่ะมิวส์รู้ดีเสมอว่าตัวเองเป็นแค่วิญญาณติดที่ แต่ความโดดเดี่ยวที่ไม่มีโอกาสได้พูดได้คุยกับใครมานานนับ 10 ปี จนกระทั่งวันหนึ่งมีใครบางคนยื่นมือเข้ามาแล้วทำให้เขาหลุดพ้นจกาความเหงา มันจะผิดไหมถ้าเขาจะรู้สึกดีกับคน ๆ นั้น

   มิวส์ได้แต่ย้ำกับตัวเองหลังจากที่ได้ยินคำเตือนของท่านเจ้าที่ ...ใช่! เขาเป็นเพียงแค่วิญญาณ จะไปคิดอะไรเกินเลยกับสิ่งมีชีวิตที่มีลมหายใจอยู่ได้ยังไง มันไม่เหมาะสมกันสักนิด เมื่อคิดได้ดังนั้น มิวส์ก็หายตัววับไปนั่งหลบมุมอยู่บนห้อง




   ทางด้านของไม้... หลังจากที่นั่งรถประจำทางเข้าสู่ตัวเมืองจนกระทั่งไปถึงสถานีขนส่ง พอเดินไปที่จุดนัดพบก็ไม่เห็นแม้แต่เงาหัวของคนที่นัดเขามาที่นี่

   ...ไหนบอกว่ารออยู่ที่นี่วะ... ไม้กดเบอร์โทรศัพท์ของคนที่นัดเขาออกมาที่นี่ทันที

   “แม็กกี้ มึงอยู่ไหน" ไม้เอ่ยขึ้นทันที "กูมาถึงแล้วนะ"

   เสียงลมพัดจากปากสายที่ดังขึ้นทำให้ไม้รู้สึกหงุดหงิดนิด ๆ สงสัยว่าหมอนั่นคงกำลังจะนั่งรถสามล้อเครื่องมาจากที่ไหนสักแห่งสินะ ความจริงไม้น่าจะเอะใจตั้งแต่แรกแล้ว เพราะแต่ไหนแต่ไรมาก็โดนแม็กกี้หลอกประจำเรื่องเวลานัด ทำไมถึงไม่จำสักทีนะว่าชอบหลอกให้มาก่อนเวลาเสมอ คอยดูนะถ้ามาถึงจะจับทำโทษเสียให้เข็ด

   ในขณะที่ไม้กำลังยืนหันหลังใหักับถนนตรงจุดพักรอญาติมารับสำหรับผู้โดยสารอยู่นั้น เสียงเรียกที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงมอเตอร์ไซค์ก็ทำให้ไม้ต้องหันหลังกลับไปมองทันที

   “ไอ้ไม้ทางนี้" แม็กกี้โบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณ เขาสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสามส่วนเหมือนกับไม้เป๊ะ ๆ

   ไม้ที่เห็นร่างที่เล็กกว่ากำลังส่งยิ้มแพรวพราวกพร้อมกับโบกไม้โบกมืออยู่บนรถมอเตอร์ไซค์ก็รีบวิ่งเข้าไปหา รอยยิ้มแห่งความประหลายใจผุดขึ้นบนใบหน้าทันที

   “เอารถใครมาขับ" ไม้เอ่ยถาม พอคิดไปถึงเหตุผลต่าง ๆ นานาใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่ก็มีอันต้องถมึงทึงทันที "เฮ้ย! ไปหลอกเสี่ยที่ไหนมาหรือเปล่าวะ"

   ไม่ว่าเปล่าคนสุดโหดยังเอื้อมมือไปกระชากคอเสื้อของคนที่ตัวเองเรียกว่า 'ที่รัก' นี่ถ้าไม่ใช่ที่รักมีหวังแม็กกี้คงโดนต่อยไปแล้วล่ะ

   “จะบ้าเรอะ" แม็กกี้ตวาดกลับ "รถกูเนี่ยแหละ ตอนก่อนปิดเทอมกูบ่นให้แม่ฟังว่าหออยู่ไกลจากมหาลัยอยากได้มอเตอร์ไซค์ กูแค่พูดเล่น ๆ นะเว้ยแต่พอกลับไปถึงบ้านแม่กูดันเอาจริงซะงั้น"

   “เออ! กูดีใจด้วย" ไม้เอ่ย มือที่เคยกระชากคอเสื้อก็ต้องชักกลับมา "แล้วมึงกลับมาที่นี่อีกทำไม ไหนว่าจะมาตอนเปิดเทอมวะ เอามอเตอร์ไซค์มาอวดกูว่างั้น"

   พูดจบก็พ่นลมหายใจใส่ ตั้งแต่รู้จักกันมา 6 ปี ไม่ยักรู้ว่าหมอนี่เป็นคนขี้อวดตั้งแต่เมื่อไหร่

   “ไอ้เชี่ย มึงมองกูติดลบขนาดนั้นเลยเหรอวะ" แม็กกี้พูดก่อนจะยักคิ้วกวน ๆ หนึ่งทีแล้วประโยคถัดไปก็ทำเสียงอ้อนเสียจนคนฟังอยากจะโผกอดเข้าให้ "แม่กูโอนตังค์เข้าบัญชีแล้วให้กูมาซื้อรถที่นี่ กูก็เลยกลับมาซื้อและกะจะทิ้งไว้ให้มึงขับเล่นรอเปิดเทอมนั่นแหละ"

   “เฮ้ย! จริงเหรอ" พูดจบก็ตาลุกวาว การมียานพาหนะเป็นของตัวเองเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ สำหรับเด็กมหาลัยที่มาเรียนไกลบ้าน

   “จริงสิครับ" พูดจบก็ยิ้มให้ นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นที่สาธารณะไม้คงให้รางวัลหนัก ๆ ไปหนึ่งยกแล้ว "ซ้อนท้ายเร็วเข้า"

   “ครับผม" ไม้ตอบรับด้วยน้ำเสียงออดอ้อน ...ก็แหมคนจะได้มอเตอร์ไซค์ขับเล่นทั้งทีก็ต้องดีใจเป็นธรรมดา เอาอกเอาใจเจ้าของมอเตอร์ไซค์หน่อยจะเป็นไรไป

   ทันทีที่มือบิดคันเร่ง มือแกร่งทั้งสองข้างก็จับเข้าที่สีข้างของคนขับทันที จากนั้นไม้ก็เลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ ๆ กับใบหูก่อนจะกระซิบเบา ๆ ว่า... “มึงนี่น่ารักเสมอไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ มีไรมาเซอร์ไพรซ์กูตลอด"

   “ก็กูรักมึงไง" แม็กกี้ตอบกลับ

   หากจะเอ่ยถึงความสัมพันธ์ของไม้กับแม็กกี้ คนภายนอกคงไม่มีใครดูออกจริง ๆ ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันในฐานะแฟน เพราะการแสดงออกต่าง ๆ รวมทั้งการพูดจาที่ป่าเถื่อนของคนสองคนทำให้ใครต่อใครต่างคิดว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ๆ ก็เท่านั้น ซึ่งนั่นมันก็จริงสำหรับตอนที่ไม้กับแม็กกี้กำลังเรียนอยู่ในชั้นมัธยมปลาย




   ...ย้อนกลับไปในสมัยมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในวันปิจฉิมนิเทศ... ในขณะที่นักเรียนหลายคนกำลังเริงร่าอยู่ในหอประชุมเพื่อรับฟังคำอวยพรสอนสั่งต่าง ๆ นานาของเหล่าอาจารย์ แต่ก็มีเด็กส่วนหนึ่งที่ตัดสินใจไม่เข้าร่วมงานแล้วมานั่งรอเพื่อน ๆ ตามมุมต่าง ๆ ในโรงเรียน ซึ่งไม้กับแม็กกี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น

   “ไอ้ไม้" แม็กกี้เอ่ยขึ้นในขณะที่พวกเขากำลังนั่งรอเพื่อน ๆ อยู่ที่ห้องโฮมรูม

   “อะไร" ไม้ตอบรับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ซึ่งเป็นปกติของหมอนี่ที่ไม่ค่อยจะแสดงอารมณ์ออกทางน้ำเสียงสักเท่าไหร่ยกเว้นเวลาไม่พอใจ

   “คือกูไม่รู้นะว่าเราจะสอบติดมหาลัยไหนกัน... กูกลัวไม่มีโอกาสได้เจอกับมึงอีกแล้วว่ะ" แม็กกี้เอ่ย... ตลอดเวลาที่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายก็มีแต่ไม้นี่แหละที่เป็นเพื่อนสนิทเขา ไม่ว่าเขาจะไปไหน ทำอะไร หรือมีงานอะไร ไม้ก็จะช่วยเสมอ ส่วนหมอนั่นน่ะเหรอ... ไม่ต้องเป็นห่วงมันหรอก หน้าตาหล่อ ๆ นิสัยแบดบอยของมันแถมยังเล่นฟุตบอลเก่งอีกต่างหาก ใคร ๆ ต่างก็อยากคบมันเป็นเพื่อนกันทั้งนั้นแหละ

   “แล้วไง" ไม้พูดโดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรสักนิด

   “ก็... มึงไม่กลัวที่จะต้องแยกกับกูบ้างเหรอวะ ไม่รู้สึกแปลก ๆ บางเหรอถ้าเราจะไม่ได้เรียนด้วยกัน" แม็กกี้เอ่ยถามตรง ๆ

   “กลัวสิ" คราวนี้น้ำเสียงของไม้แผ่วเบาลง ไม่รู้ว่าแม็กกี้คิดไปเองหรือเปล่าว่าสีหน้าที่แข็งเป็นหินราวกับถูกฉาบด้วยปูนสิบชั้นของหมอนี่กำลังแสดงออกถึงความกังวลอะไรบางอย่าง

   “แล้วถ้าเราสอบติดคนละที่ เราจะยังเป็นเพื่อนกันอยู่ไหมวะ เราจะยังสนิทกันอยู่หรือเปล่า แล้วมึงจะยังคอยโทรมาปลุกกูทุกเช้าเหมือนเดิมหรือเปล่า แล้วตกดึงมึงจะโทรมาถามกูว่ามีการบ้านอะไรที่ค้างอยู่เหมือนเดิมไหมวะ" พอคิดถึงระยะเวลาสามปีที่เรียนอยู่ด้วยกัน มันก็ทำให้แม็กกี้รู้สึกหวิวแปลก ๆ พอจะต้องแยกจากกันกับเพื่อนสนิท

   “อืม" ไม้รับคำ "กูก็ไม่รู้ว่ะว่าจะเป็นเหมือนเดิมไหม แต่ยังไงมึงก็เป็นเพื่อนกู"

   “เฮ้ย... ได้ไงวะ มึงต้องรู้อะไรบ้างดิ" ได้ยินคำตอบที่เหมือนไม่มีความรู้สึกพิเศษอะไร แม็กกี้ก็เลยรีบประท้วงออกมาด้วยความฉับไว "มึงไม่รู้... แต่กูนี่สิจะลงแดงตายอยู่แล้ว"

   “ก็กูไม่รู้จริง ๆ นี่หว่ามันเป็นเรื่องของอนาคต" ไม้ตอบออกมาตรง ๆ เขาเป็นพวกใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่ค่อยคิดถึงอนาคตสักเท่าไหร่หรอก
   “งั้นเอางี้...” แม็กกี้เอ่ยขึ้นก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ "มึงมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักคนยังวะ"

   “ยัง!” ไม้ตอบออกมา "มึงก็รู้เรื่องกูดีที่สุดไม่ใช่เหรอว่ากูไม่เคยสนใจจะคบกับใครจริง ๆ จัง ๆ หรอก มันน่ารำคาญจะตายไปที่ต้องโดนตามจู้จี้จุกจิกถามว่าอยู่ไหนทำอะไรตลอดเวลา กูยังไม่พร้อมจะเป็นแบบนั้น"

   “เหรอ" แม็กกี้พูด คราวนี้น้ำเสียงของเขาเริ่มแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด "แล้วถ้าเป็นกูล่ะ... มึงคบกับกูได้ไหม"

   “เฮ้ย! ไอ้เชี่ย มึงพูดไรของมึงเนี่ย" พูดจบก็ทำท่าถอยห่างราวกับเพื่อนที่คบกันมาสามปีเป็นตัวอะไรที่น่ารังเกียจที่สุดในชีวิต

   “ไอ่ห่า... กูก็ถามมึงว่าคบกับกูได้ไหมไง" แม้การแสดงออกจะเป็นปกติ แต่ความรู้สึกข้างในลึก ๆ กำลังวิตกกังวลสุดฤทธิ์ ไม่รู้ว่าหมอนั่นจะคิดอย่างไรกับสิ่งที่เขาพูด "กูไม่รู้ว่ากูรู้สึกยังไงกับมึงกันแน่ แต่ถ้ากูได้คบกับมึงในฐานะแฟน มันจะทำให้กูมั่นใจได้ว่า... ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มึงจะไม่ทิ้งกูแน่นอน"

   “แต่มึงกับกูเป็นผู้ชายเหมือนกันนะโว้ย" ไม้ยังคงพยายามเลี่ยงคำตกลงต่อไป

   “แล้วไงวะ" แม็กกี้ตบโต๊ะเสียงดัง 'ปั้ง' เพื่อแก้อาการขัดเขิน "สมัยนี้ผู้ชายคบกันมีถมเถไป"

   “แต่มันต้องไม่ใช่มึงกับกู" ไม้ยังคงปฏิเสธ

   “งั้นมาทดสอบกันไหม" มิวส์เอ่ยถาม

   “ยังไง" ไม้ถามกลับอย่างรวดเร็วเช่นกัน

   “กอด" เป็นคำตอบสั้น ๆ ที่เล่นเอาทั้งคนฟังและคนพูดต่างต้องชะงักขึ้นมากะทันหัน

   “เออ" แล้วคนที่พยายามปฏิเสธการขอคบมาตลอดก็ดันตอบตกลงเสียด้วย

   จากนั้นทั้งไม้กับแม็กกี้ก็ลุกจากเก้าอี้แล้วหมุนตัวหันหน้าเข้าหากัน สายตาที่จับจ้องกันอย่างไม่กะพริบทำให้ทั้งคู่รู้สึกแปลก ๆ แล้วน้ำลายของคนทั้งคู่ก็ถูกกลืนลงคออึกใหญ่สังเกตได้จากเสียงที่ดัง 'อึก ๆ' ไม่ขาดสาย

   แทนที่จะเป็นคนขอคบอย่างแม็กกี้ที่เป็นฝ่ายจู่โจมโอบกอดกลับเป็นไม้ที่ยกมือขึ้นมาแล้วสวมกอดคนที่อยู่ตรงหน้าก่อน

   “ไอ้หมาน้อย กอดแบบนี้ใช่ไหมวะ" ขณะกอด ไม้ก็พูดอะไรขึ้นมาเพื่อปิดบังอาการเขิน

   “เออ" หลังจากที่ตอบรับ แม็กกี้ก็ยกมือขึ้นมากอดตอบบ้าง

   และอ้อมกอดหลวม ๆ ในทีแรกก็ชักจะแน่นขึ้น ๆ จนกระทั่ง...

   “ไอ้เชี่ย มึงกะจะรัดกูให้ตายเลยรึไงวะ" ได้ยินคำบ่นของแม็กกี้ไม้ก็ผ่อนแรงลงทันที ไม้รู้ตัวเองดีว่าเป็นพวกชอบความรุนแรงมาตั้งแต่เด็ก ๆ ถ้าได้กอดหรือได้โจมตีใครเขาจะเผลอออกแรงเต็มที่จนลืมยั้งมือเลยล่ะ

   “ขอโทษ" ไม้กระซิบเบา ๆ ที่ข้างหู "มึงรู้สึกยังไงล่ะที่กอดกับกู"

   “กูชอบว่ะ... มั้ง... ก็คงจะอย่างงั้น" แม็กกี้ตอบเบา ๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยคิดว่าเขาจะชอบผู้ชายได้สักนิด แต่ในระหว่างที่อยู่โรงเรียนแห่งนี้... การที่มีหมอนี่มาวุ่นวายและคอยช่วยเหลือกันและกันในหลาย ๆ เรื่องจนกลายเป็นเพื่อนสนิท มันก็ทำให้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนไป และพอวันหนึ่ง วันที่ต้องแยกจากกันเพื่อไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ความกลัวว่าจะไม่เจอหน้า ไม่มีไอ้หมอนี่วุ่นวายอยู่ใกล้ ๆ มันทำให้แม็กกี้ต้องหาวิธีทำอะไรสักอย่าง เพื่อให้วคามสัมพันธ์ระหว่างเขากับไม้ยังคงดำเนินต่อไป

   “แล้วมึงล่ะรู้สึกยังไง" แม็กกี้เอ่ยถามขึ้นบ้าง

   “เฉย ๆ" คำตอบของไม้แทบจะทำให้คนฟังใจสลาย และเพราะคำตอบนี้แหละที่ทำให้แม็กกี้ผละอ้อมกอดของไม้ออกไปแรง ๆ ทันที

   “กูขอโทษละกันที่คุยเรื่องนี้กับมึง" แม็กกี้ก้มหน้าก้มตาตอบ ในเมื่อเขาสารภาพความจริงทุกอย่างให้ไม้ฟัง แต่คำตอบของการกระทำที่ได้กลับมากลับไม่เป็นอย่างที่คิด จะให้เขากล้าสู้หน้ากับหมอนี่อีกได้อย่างไร

   “เชี่ย... ว่าที่แฟนกูขี้งอนเป็นบ้า" คำพูดของไม้ทำให้คนฟังดวงตาเบิกโพลง หน้าตาที่เคยเศร้าสร้อยกับมามีความหวังอีกครั้ง

   “มึงว่าไงนะ" แม็กกี้เอ่ยถาม ใจของเขาตอนนี้กำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ ราวกับว่าคำพูดตรงหน้าคือคำพิพากษาอนาคตของเขาว่าจะอยู่หรือตายอย่างไรอย่างนั้น

   “กูพูดยังไม่จบ เมื่อกี้กูจะบอกว่า ถ้ากูเฉย ๆ กูก็คงผลักมึงออกจากอ้อมกอดนานแล้วล่ะ" พูดจบก็ยกมือขึ้นมาขยี้ศีรษะของคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าแรง ๆ "เข้าใจไหมไอ้หมาน้อย กูยินดีจะคบกับมึงนะ.. แต่..."

   “แต่อะไร" แม็กกี้คาดคั้น แค่ได้ยินไม้ตอบตกลงมันก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดแล้วล่ะ

   “แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดกูมีคนที่กูรู้สึกดีจริง ๆ กูอาจจะเลิกคบกับมึงในฐานะแฟนนะ... เพราะถึงยังไงตอนนี้กูก็ยังไม่มีใคร และมึงก็เป็นเพื่อนที่ดีของกูเสมอมา แต่ถ้ามึงทำให้กูรักมึงตลอดไปได้ กูก็อาจจะคบกับมึงตลอดไปได้เหมือนกัน...”

   “เออ...” แม็กกี้ตอบ อนาคตความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไม้จะเป็นอย่างไรก็ช่างเถอะ แค่ตอนนี้ได้ความมั่นใจว่าไม้จะยังไม่หายไปจากชีวิตมันก็เป็นเรื่องที่วิเศษที่สุดแล้ว





   หลังจากที่แวะทานข้าวเสร็จ แม็กกี้ก็ขับรถมอเตอร์ไซค์กลับไปยังสถานีขนส่งจังหวัด

   “อีกครึ่งชั่วโมงกูต้องกลับบ้านแล้วนะ" แม็กกี้บอก แม้ว่าเขาจะอยากอยู่ที่นี่ต่อแต่ทว่าเขาเป็นคนพูดเองนี่นาว่าจะกลับไปที่หอนั่นอีกครั้งตอนเปิดเทอม ถ้าเขากลับมาก่อนเดี๋ยวไม้ก็จะได้ใจและไม่กลัวคำขู่อะไรอีกต่อไป เขาเลยต้องทำแบบนี้

   “ใจร้ายว่ะ" ไม้ต่อว่า และในวินาทีต่อมามือทั้งสองข้างที่จับแค่สีข้างของคนขับรถก็เปลี่ยนเป็นโอบกอดอย่างแนบแน่น โดยไม่อายสายตาผู้คนที่อยู่ข้างถนนสักนิด "กูขอโทษนะที่คืนนั้นทิ้งมึงไว้บนห้องคนเดียว"

   “อืม ไม่เป็นไร" กำลังจะง้อให้กูอยู่ต่อล่ะสิ หึหึ ...แม็กกี้รับคำพลางแสยะยิ้มออกมา เขากำลังคิดว่าถ้าหมอนี่ขอร้องให้เขาอยู่ที่นี่ต่อเขาจกยกเลิกการเดินทางกลับบ้านและกลับไปที่หอพักกับหมอนี่ทันที แต่ทว่า... เขาก็คิดผิด

   “กลับมาอีกทีก็ซื้อขนมมาฝากกูเยอะ ๆ ด้วยนะ เข้าใจไหม" สิ้นเสียงของไม้ ใบหน้าของคนที่เพิ่งแสยะยิ้มก็มีอันต้องเปลี่ยนเป็นขมวดมุ่นอย่างขัดใจ

   ...ทำไมหมอนี่ถึงไม่ง้อเขาสักนิด ถ้าเป็นเมื่อก่อนแม้จะรู้ว่าคำตอบสุดท้ายว่าถึงอย่างไรก็จะต้องปฏิเสธอยู่ดี แต่ไม้ก็จะพยายามพูดเกลี้ยกล่อมและขอโทษจนวินาทีสุดท้ายที่เขาสามารถทำได้เลยล่ะ แต่ในครั้งนี้มันไม่ใช่

   “ไอ้สัส ไอ้เชี่ย ไอ้ซื่อบื้อ ว้อยยยย....” คำต่อว่าที่ตะโกนก้องออกมาจากปากของแม็กกี้ทำให้ไม้ตกตะลึงและรีบผละอ้อมกอดออกจากร่างของหมอนั่นทันที

   “มึงเป็นอะไรของมึงวะที่รัก...” ไม้เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่หวาดระแวงสุดทน ไม่รู้เขาไปทำอะไรผิดใจอีกหรือเปล่า แม้ว่าไม้จะโหดร้ายป่าเถื่อนกับคนอื่น ๆ แค่ไหน แต่ก็มีคนหนึ่งที่เขาต้องยอมศิโรราบให้ซึ่งนั่นก็คือแม็กกี้คู่หูสุดที่รักของเขานั่นเอง

   “หึ...” แม็กกี้พ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนที่จะขับรถไปเงียบ ๆ ตลอดทางจนกระทั่งถึงจุดหมาย

   และนี่... ก็เป็นการจากลาที่ไม่สวยงามของแม็กกี้อีกครั้ง แต่ทว่ากับไม้ มันคือการจากลาที่สวยงามเลยล่ะ ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าแม็กกี้เป็นอะไร แต่การที่ได้มอเตอร์ไซค์มาขับมันทำให้เขาเดินทางสะดวกขึ้นเยอะเลย








จบตอน มีตัวเอก 3 คน มันก็ต้องมีคนที่เจ็บนั่นแหละ แต่จะเป็นใคร... หรือจะให้สุขทั้งสามดีน๊อ... ดูกระแสก่อน ไม้ถูกจิ้นกับใครมากกว่า >.<
-------------------


คุยกับนักอ่านที่น่ารักครับ

คุณ ชะรอยน้อย ::  :hao6: ความคิดเห็นน่าสนใจนะครับ แม่ตามไปฆ่าก้อง *0*

คุณ Fujoshi :: ไม่กลับมาจ้า แม็กกี้รักไม้จะตาย... อิอิ ส่วนเรื่องแม่เป็นปริศนาต่อไป

คุณ aloney :: เรื่องของแม่ยังถูกเก็บเอาไว่ต่อไปครับ T^T

คุณ Lily teddy :: ^^ ขอบคุณนะครับที่หลงกดเข้ามาอ่าน ดีใจมากๆเลยที่อ่านตามทันและเม้นท์ให้ด้วย (ขอบคุณครับ) มีการวิเคราะห์ที่น่าสนใจเลยที่เดียวครับ แต่เรื่องกลิ่นตัว คิดว่าน่าจะเป็นความหื่น ความชอบของมิวส์เฉยๆมากกว่าครับ เอิ้กๆๆ แล้วก็เรื่องความสัมพันธ์ ^^ เป็นการวิเคราะห์ที่่น่าสนใจเลยทีเดียวครับ คิคิ โปรดติดตามตอนต่อไปด้วยนะครับ

คุณ​ มยอนฮวา :: นั่นสิครับ แม่เป็นอะไร T^T ตอนล่าสุดก็ไม่กล่าวถึงเลย T^T

คุณ  iamnan :: >.< ครับผม ได้แต่หวังว่าฟิวส์จะไม่ทำอะไร พ่อก็ไม่อยู่แล้ว T^T เฮ้ออ ครอบครัวพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่9]- 20/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 21-07-2013 15:03:44
งั้นไม้ก็มีสิทธิ์เลิกกับแม็กกี้อะดิ เยสสสสสสสส~

(ออกตัวเชียร์มิวส์สุดฤทธิ์ 555 เอ๊ะ!! หรือจะ 3p ดี)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่10]- 21/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 21-07-2013 16:54:21
อ้าวตัดกลับมาที่ห้องซะละ แล้วฟิวส์ว่าไงต่อล่ะเนี่ยเรื่องแม่ เรื่องก้อง
ตอนนี้มาย้อนจุดเริ่มต้นความรักของไม้กะแม็กกี้
เหมือนเป็นการคบกันแบบมีเงื่อนไขด้วย
อย่างนี้มิวส์ก็มีสิทธิ์เป็นคนที่ใช่ของไม้อะดิ
ถึงไม้จะเห็นแม็กกี้สำคัญ แต่กว่าจะเปิดเทอมไม้จะเปลี่ยนใจไหม
ยังไงก็สงสารแม็กกี้อะถึงมิวส์จะน่าสงสารด้วยแต่ยังไงก็มาทีหลังนะ
ถ้ามีความสุขได้ทั้ง 2คนกะ1ตนก็ดีอะดิ รอติดตามค๊า :mew1:

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่10]- 21/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 21-07-2013 17:01:27
ไม่รู้จะเชียร์ใครดี ขอเชียร์แมกกี้แล้วกันเพราะมิวส์มาทีหลัง ขอให้มิวเจอคนดีๆคนอื่นเถอะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่10]- 21/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 21-07-2013 17:05:22
เชียร์ มิวส์ กับ ไม้

ผีติ๊กต๋อง+หื่น อย่างมิวส์ ต้อง เจอ กับเจ้านายหน้าโหดๆ อย่างไม้ อิอิ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่10]- 21/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 21-07-2013 17:55:04
ถ้าไม้จะคู่มิวส์ จะคู่กันยังไงหว่า ?
แต่เราเชียร์นะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่10]- 21/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 22-07-2013 16:21:02
จากการสันนิฐานขั้นต้น คาดว่า ไม้กับมิว น่าจะคู่กัน จิตถึงเชื่อมกันได้ แต่ปัญหาคือ คนกับผี เฮ้อออ

แม็กกี้เองก็น่าสงสารอ่ะนะ แต่จากตรงนี้เหมือนสองคนนี้คบกันไม่ได้เริ่มมาจากรักอ่ะ ถ้าจบด้วยการหาคู่ให้แม็กกี้ก็คงดี

สงสัยวิญญาณโคนันเข้าสิงเราซะล่ะ คิคิ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่10]- 21/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 22-07-2013 21:29:14
อ่านแล้วชอบมากกกก
คือมิวส์เป็นผีขี้เหงาที่หื่นไปนะ555
น่าเอ็นดูแต่ก็น่ากระทืบ
ส่วนคุณลูกพี่ไม้ทำดีอยู่แล้ว(?).
.ขอให้ทำดีต่อไปนะคะ
สุดท้ายคือแม็กกี้ 55 เอาไว้มีบทกว่านี้จะรักละกัน :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่10]- 21/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 23-07-2013 14:06:23
อยากให้ไม้คู่กับมิวส์


แต่มิวส์เป็นวิญญาณไปแล้วนี่สิ  :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่10]- 21/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 23-07-2013 14:54:50
ตามอ่านทันจนได้ หุหุ
อยากรุ้ว่าแม่ของมิวส์เป็นอะไรง่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่10]- 21/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 23-07-2013 17:09:39
ตอนที่  11  :ling2:


         กว่าที่ไม้จะกลับไปถึงหอพัก พระอาทิตย์ก็ใกล้จะลับขอบฟ้าเต็มทน

   ก่อนที่จะขึ้นไปบนห้องพัก ไม้ไม่ลืมที่จะทักทายกับท่านเจ้าที่ เพราะถึงอย่างไรท่านเจ้าที่ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ลึกลับเหนือธรรมชาติ อย่างน้อยทำตัวสนิทสนมเอาไว้ก็น่าจะเป็นผลดีมากกว่า

   “ท่านเจ้าที่ อยู่ไหมครับ" ไม้เอ่ยทักที่หน้าศาลพระภูมิ และเพียงชั่วครู่ร่างของชายชราชุดขาวก็ปรากฏตรงหน้า

   “อยู่... ว่าไง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า" ท่านเจ้าที่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ท่าทีสะลึมสะลือแบบนี้สงสัยเพิ่งจะตื่นจากการนอนกลางวัน
   “ไก่นึ่งกับหมูอบท่านเจ้าที่จะกินอะไรครับ" ไม้เอ่ยถามพลางยกถุงของให้ท่านเจ้าที่ดู

   “ทั้งสองเลยไม่ได้เรอะ" เห็นถุงที่หิ้วมาท่านเจ้าที่ก็ตาลุกวาว แต่คนที่ดูจะตาลุกวาวยิ่งกว่าเห็นจะเป็นร่างของวิญญาณอีกตนที่มาปรากฏอยู่ด้านหลังของไม้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แถมมันยังเอาจมูกดมกลิ่นถุงหิ้วที่ไม้ซื้อมาราวกับเป็นน้องหมาที่มีสัมผัสพิเศษทางการดมดีเลิศอีกด้วย นี่ถ้ามีน้ำลายสงสัยน้ำลายของมิวส์คงจะเยิ้มเป็นกะละมังแล้วมั้ง

   ไม้ที่เพิ่งสังเกตเห็นมิวส์ว่ายืนอยู่ด้านหลังเลยฉีกยิ้มทักทายออกไป มันเป็นรอยยิ้มที่แสดงว่าในตอนนี้เขากำลังอารมณ์ดีสุด ๆ เลยล่ะ แต่ทว่าพอมิวส์คิดถึงเรื่องที่ไม้ทิ้งให้อยู่หอพักคนเดียว ทิฐิของวิญญาณก็ดันพุ่งพล่านออกมา

   “ซื้อมาฝากเหรอ ไม่กินหรอก" พูดจบก็หายวับไปทันทีปล่อยให้เจ้านายสุดโหดกับท่านเจ้าที่คุยกันกระหนุงกระหนิงสองต่อสองต่อไป

   “เป็นไรของมันเนี่ย" ไม้บ่นอุบอิบ ก่อนจะหันมาให้ความสนใจกับท่านเจ้าที่ต่อ "ช่างมันเถอะ ว่าแต่ท่านเจ้าที่อยากกินอะไร เลือกได้ยังครับ"

   “ข้าชอบกินหมูว่ะ แต่ก็อยากลองกินไก่เหมือนกัน เอาอย่างละครึ่ง ๆ ไม่ได้เหรอพ่อหนุ่ม" สิ้นเสียงของท่านเจ้าที่ไม้ก็ผงกหัวรับทันที

   “งั้นเดี๋ยวไปเอาใส่จานมาถวายให้ รอแป๊บนึงนะครับ"
   ไม่นานมากนัก ไม้ก็เอาหมูอบกับไก่นึ่งที่จัดใส่จานมาสองชุดมาถวายที่ศาลพระภูมิ โดยจานหนึ่งเป็นของท่านเจ้าที่ อีกจานหนึ่งเป็นของไอ้วิญญาณหน่อมแน้ม

   “ขอบใจมากนะพ่อหนุ่ม" ท่านเจ้าที่เอ่ยหลังจากที่ได้รับอาหารสุดอร่อย

   “ไว้วันหลังถ้าได้ออกไปตลาดจะหาของอร่อย ๆ มาให้กินอีกนะครับ" พูดจบก็วิ่งขึ้นหอพักทันที เพราะอยากเห็นว่าสีหน้าที่งอนเป็นผีซังกะตายของไอ้วิญญาณหน่อมแน้มหลังจากที่ได้กินของอร่อย ๆ ว่ามันจะเป็นอย่างไร แต่ทว่าทันทีที่เปิดห้องเข้าไป ไม้ก็ต้องเบิกตาโพลงด้วยความตกตะลึงกับภาพที่เห็น...

   มิวส์เลียริมฝีปากด้วยความเอร็ดอร่อย จานที่ถืออยู่ในมือก็ไม่มีหมูอบหรือไก่นึ่งให้เห็น เหลือเพียงแต่เศษกระดูกเท่านั้น พอเห็นเจ้านายกำลังยืนหน้าเหวอ ผีขี้งอนก็ยิ้มแหย ๆ ให้

   “อร่อยจังเลยเจ้านาย" มิวส์เอ่ยแก้เขิน

   “อร่อยก็ดี" ไม้ว่าก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงนอนแล้วเหยียดแข้งขาด้วยความเหน็ดเหนื่อย "กูงีบแป๊บ อย่าทำเสียงดังอะไรรบกวนกูนะ"

   “ครับ" มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยความสุภาพ ทั้งที่เมื่อครู่ยังโกรธอยู่เลยแท้ ๆ ที่เจ้านายออกไปข้างนอกไม่บอกไม่กล่าวสักคำ แต่ก่อนที่ไม้จะหลับ ขอถามให้รู้เรื่องก่อนละกัน "วันนี้เจ้านายออกไปไหนมา"

   ทันทีที่ได้ยินคำถาม คนที่นอนอยู่ก็ลุกพรวดขึ้นมาอยู่ในท่านั่งจนมิวส์ที่กลัวว่าจะโดนประทุษร้ายต้องรีบวิ่งไปซ่อนหลังตู้เสื้อผ้า “ทำไม กูจะไปไหนเกี่ยวไรกับมึง มีปัญหารึไงวะ"

   “ปะ... เปล่าครับ ใครจะกล้ามีปัญหากับเจ้านายล่ะ" มิวส์ตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นระริก พอเห็นร่างหล่อ ๆ ของเจ้านายสุดโหดล้มตัวลงไปกับที่นอนอีกครั้งก็ต้องถอนหายใจออกมาด้วยสีหน้าโล่งอกสุดฤทธิ์ ...แม้จะไม่มีลมหายใจก็เถอะ แต่มันก็รู้สึกอย่างนั้นนี่นา

   “ไว้เดี๋ยวสามทุ่มปลุกกูด้วยละกัน" ไม้สั่ง พอหันไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะก็ปรากฏว่าขณะนี้เป็นเวลา 18.25 น. “จะพาไปเที่ยว"
   “เที่ยว?" มิวส์ทวนคำพลางทำสีหน้าฉงน ...จากนั้นก็ตบศีรษะตัวเองแรง ๆ หนึ่งที "โอ๊ย... ไม่ได้ฝันนี่หว่า"

   “ก็เออสิวะ กูจะพามึงไปขับรถเล่น อย่ากวนกูล่ะ จะนอนละ" พูดจบก็หลับตาลงทันที ปล่อยให้วิญญาณหน่อมแน้มนั่งมอง ยืนมองตามแต่สะดวกต่อไป

   มิวส์นอนรออยู่ในห้องอย่างเงียบเชียบที่สุด ...ใช่แล้ว ที่ต้องบอกว่านอนรอก็เพราะเขากำลังนอนอยู่ข้าง ๆ เจ้านายสุดหล่อ แถมยังเอาศีรษะไปหนุนหัวไหล่ของคนที่กำลังหลับไหลอยู่ด้วย โชคดีที่ไม้ไม่รู้สึกตัว ไม่เช่นนั้นมิวส์อาจจะโดนฆาตกรรมจนกลายเป็นวิญญาณที่ตายซ้ำสองก็ได้

   เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมง มันเป็นหนึ่งชั่วโมงที่นานแสนนานสำหรับวิญญาณที่รอคอยการได้ออกไปเที่ยวข้างนอกกับเจ้านายสุดหล่อเลยล่ะ

   มิวส์เปลี่ยนมาอยู่ในท่านั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด เพราะไม่รู้จะทำอะไรดี ง่วงก็ไม่ง่วง ขืนรออย่างนี้ต่อไปมีหวังลงแดงตายก่อนแน่ ๆ ...ก็ตายไปแล้วนี่หว่า

   มิวส์หันไปมองนาฬิกาอีกรอบ ตอนนี้ที่หน้าปัดนาฬิปรากฏเวลา 19.30 น. พอคิดอะไรดี ๆ ออกเขาก็แสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะเดินไปหยิบนาฬิกาแล้วปรับเวลาให้เป็นเวลา 21.00 น. ซึ่งก็คือเวลาที่ไม้สั่งให้ปลุกนั่นเอง เท่านั้นยังไม่พอ นาฬิกาข้อมือ นาฬิกาโทรศัพท์มือถือ มิวส์ก็จัดการแก้ไขให้เป็นเวลาเดียวกันหมด จากนั้นก็...

   “เจ้านาย... ตื่นได้แล้วครับ" มิวส์ตะโกนด้วยน้ำเสียงกระดี๊กระด๊าเกินเหตุ พอเห็นว่าไม้ยังไม่ลุกเขาก็ถือวิสาสะเอานิ้วจิ้มที่หัวไหล่เบา ๆ ราวกับกลัวว่าจะโดนลูกเตะพิฆาตเหมือนครั้งก่อน แม้จะสัมผัสไม่โดนโดยตรงแต่แรงลมที่ปะทะก็น่าจะทำให้รู้สึกตัวบ้างล่ะนะ แต่ทว่าไม่ว่าจะจิ้ม จะสัมผัสอย่างไรก็ไม่ยอมตื่นสักที ท้ายที่สุดมิวส์ก็เลยตัดสินใจอ้าปากแล้วขบลงไปที่หัวไหล่อย่างแรง คิดว่าจะขบเล่น ๆ ให้กระปรี้กระเปร่่าหัวใจเฉย ๆ นะ แต่ทำไมถึงได้...

   “โอ๊ยยย...” ไม่รู้ว่าพระเจ้าเล่นตลกหรืออย่างไร การขบเมื่อครู่ของมิวส์ดันสัมผัสโดนหัวไหล่เข้าจริง ๆ จนคนที่นอนอยู่ต้องสะดุ้งตื่นพร้อมกับร้องโวยวายเสียงดังลั่น และไม่ต้องคิดอะไร ไม้ก็ลุกขึ้นมาเตะไอ้วิญญาณกล้าดีแรง ๆ หนึ่งทีเท่านั้นไม่พอยังกระทุ้งศอกเข้าที่แก้มอีกครั้งให้หายแค้นอีกด้วย

   “เจ้านาย... โอ๊ยยย... ผมขอโทษครับ ผมไม่ได้ตั้งใจ" พอจะโดนทำร้ายแรง ๆ ทีไรร่างกายก็ดันโดนสัมผัสได้ทุกที และก่อนที่จะโดนต่อยเข้าไปที่ใบหน้าอีกรอบ ไอ้วิญญาณกลัวตายก็รีบก้มหัวลงแทบเท้าของเจ้านายสุดหล่อทันที "ผมเจ็บแล้วครับ ฮือ... อย่าทำผมอีกเลยนะ"

   แต่่ทว่าอย่าคิดนะว่าคนอย่างไม้จะใจอ่อน เมื่อก้มหัวอยู่แบบนี้ รัศมีที่ใกล้เคียงกับเท้า เขาก็เลยซัดลูกเตะไปที่หน้าท้องจนไอ้วิญญาณหน่อมแน้มกระเด็นไปติดกับผนังห้องอีกรอบเพื่อเป็นการแก้แค้นที่มันบังอาจมาขบหัวไหล่ของเขา

   “คราวหลังปลุกกูดี ๆ ก็ได้ เข้าใจไหม" ไม้ว่าด้วยน้ำเสียงดุก่อนจะมองดูนาฬิกาแล้วหยิบเสื้อผ้ามาใส่ พอเห็นวิญญาณที่เพิ่งโดนทารุณกรรมกำลังนั่งตัวสั่นงก ๆ อยู่ใกล้ ๆ กับตู้เสื้อผ้าไม้ก็จ้องเขม็งก่อนที่จะตวาดเสียงดังลั่น "กูถามไม่ได้ยินหรือไง เข้าใจไหม!!!”

   “ขะ... เข้า เข้าใจคะ... ครับ" แล้วความหวาดผวาก็ทำให้วิญญาณหน่อมแน้มกลายเป็นวิญญาณติดอ่างไปซะอย่างนั้น

   “เออ... เข้าใจก็รีบตามกูลงมา" พูดจบก็ปิดประตูเสียงดังปั้ง จนวิญญาณติดที่อย่างมิวส์ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเกิดความลับเรื่องเวลาแตกขึ้นมาเขาจะต้องตกอยู่ในสภาพไหน เพราะขนาดแค่เผลอขบที่หัวไหล่แค่นี้เขายังโดนไม้จัดการจนน่วมแบบนี้




   ก่อนจะออกจากหอพัก ไม้ไม่ลืมที่จะไปแวะทักท่านเจ้าที่ที่ศาลพระภูมิก่อน

   “ท่านเจ้าที่ครับ" เสียงเรียกของไม้ทำให้ท่านเจ้าที่ปรากฏตัวออกมาให้ไม้เห็น

   “ว่าไง...” พูดจบก็เรอออกมา สงสัยอาหารที่ถวายมาให้จะเยอะเกินไปท่านเจ้าที่เลยท้องป่องกลายเป็นบอลลูนไปแล้ว    มิวส์ที่ยืนอยู่ด้านหลังของไม้ได้แต่แอบด่าในใจว่า 'เจ้าที่อะไรตะกละเป็นบ้า' อย่าให้มีสอบคัดเลือกเป็นเจ้าที่มาจัดที่หอนี้นะ ไม่งั้นเขาจะเข้าสอบคัดเลือกและโค่นบัลลันก์ท่านลุงแน่ ๆ ...ว่าแต่เป็นเจ้าที่เขามีสอบด้วยเหรอเนี่ย!?...

   “ผมจะขออนุญาตพามิวส์ไปข้างนอกครับ" ไม้ตอบ

   “อืม ไปเถอะ... แต่อย่ากลับเกินเที่ยงคืนล่ะ เพราะเที่ยงคืนถึงตีสี่เป็นเวลาที่พวกวิญญาณเร่ร่อนออกอาละวาด อาจจะเกิดอันตรายกับไอ้หน่อมแน้มนั่นได้” สิ้นเสียง ท่านเจ้าที่ก็ทำท่าว่าจะกลับเข้าไปในศาลพระภูมิ

   “อันตราย?” ไม้ทวนครับก่อนที่จะร้องเรียกท่านเจ้าที่ "อย่าเพิ่งครับ หมายความว่ายังไง อันตราย...”

   ได้ยินคำถามของไม้ ท่านเจ้าที่ก็หันหน้ากลับมาอธิบายข้อสงสัยให้คนหน้าหล่อฟังอีกครั้ง "ก็เวลาเที่ยงคืนน่ะมันเป็นเวลาที่ประตูปรโลกเปิด พวกวิญญาณเร่ร่อนที่ยังไม่โดนยมบาลจับไปทำโทษจะออกอาละวาดตามสถานที่ต่าง ๆ ที่พวกมันตาย ถ้าเจอวิญญาณดีก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเจอวิญญาณร้ายล่ะก็ ไอ้หน่อมแน้มอาจจะโดนพวกนั้นจับตัวและนำร่างไปยังอีกโลกที่เจ้าอาจจะไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับไอ้หน่อมแน้มนั่นได้อีกตลอดชีวิต"

   “หยึย... เจ้านาย ผมไม่ไปแล้วดีกว่า" ได้ยินที่ท่านเจ้าที่ขู่มิวส์ก็ชักจะรู้สึกกลัว ถ้าให้เขาเลือก เขาขอเลือกจะอยู่ในหอแล้วทำอะไรต่อมิอะไรกับเจ้านายในห้องพักต่อไปดีกว่าจะต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงแบบนั้น

   “แล้วพอจะมีวิธีแก้ไม่ให้วิญญาณพวกนั้นกล้าที่จะมาจับตัวของไอ้มิวส์ไหมครับ" ไม้คุยกับท่านเจ้าที่โดยที่ไม่สนใจคำเรียกร้องของมิวส์เลยสักนิด

   “เจ้ากับไอ้หน่อมแน้มต้องอยู่ใกล้ ๆ กันตลอดเวลา ถ้าไอ้หน่อมแน้มเจอวิญญาณตัวอื่นก็ต้องให้มันกอดกับเจ้า พลังความอบอุ่นและความห่วงใยในร่างกายของมนุษย์จะทำให้เจ้านั่นปลอดภัย และยิ่งห่วงใยมากแค่ไหน พลังก็จะยิ่งแรงมากขึ้นจนพวกวิญญาณไม่กล้าเข้ามายุ่งเลยล่ะ"

   สิ้นเสียงของท่านเจ้าที่วิญญาณที่เพิ่งประท้วงว่าอยากอยู่หอพักต่อหยก ๆ ก็ยิ้มตาแป๋ว

   “งั้นก็รีบไปกันเถอะเจ้านาย" แถมยังกระตุกแขนเสื้ออีกต่างหาก

   “งั้นผมไม่ไปดีกว่าครับ" ผิดกับไม้ที่พอได้ยินวิธีป้องกันพวกวิญญาณร้ายจากท่านเจ้าที่ทำให้เขาไม่อยากจะออกไปไหนทั้งนั้น ให้หมอนี่ลวนลามในห้องยังรู้สึกดีกว่าไปกอดกับมันท่ามกลางสายตาประชาผี

   “เจ้านาย!!! เจ้านายจะไม่รักษาคำพูดเหรอ” มิวส์ตะโกนด้วยความขัดใจทันที พอเห็นสายตาออดอ้อนคล้ายกับจะร้องไห้ของไอ้ผีตอแหลไม้ก็พ่นลมหายใจแรง ๆ หนึ่งทีก่อนจะขยี้ศีรษะตัวเองด้วยความเอือมระอา

   “เออ! ก็ได้" สุดท้ายไม้ก็ต้องยอมจำนน แม้ว่าจะไม่อยากไปแต่เขาก็ไม่ยอมให้ผีมาด่าว่าไม่รักษาคำพูดหรอกนะ

   “งั้นข้าไปงีบก่อนนะ" หลังจากที่ฟังหนึ่งคนกับอีกหนึ่งวิญญาณเถียงกันจบ ท่านเจ้าที่ก็เอ่ยขึ้นมาบ้าง แต่ทว่า...

   “เดี๋ยวครับ!” ไม้เอ่ยขัด "ผมต้องถวายธูปเทียนดอกไม้และอาหารให้ท่านเจ้าที่อีกใช่ไหมครับ เพราะผมจะพาเจ้านี่ไปข้างนอก"

   ที่ต้องเอ่ยถามเพราะทุกครั้งที่พามิวส์ออกไปข้างนอกท่านเจ้าที่จะสั่งให้หาของอร่อย ๆ มาให้ทุกที แต่ในครั้งนี้กลับไม่ใช่

   “เอาแค่ธูปเทียนมาขอก็ไปได้แล้วล่ะพ่อหนุ่ม ข้าไปล่ะนะ" พูดจบก็หายวับเข้าไปในศาลพระภูมิ

   “หมายความว่ายังไง" ไม้บ่นอุบอิบ พอนึกอะไรขึ้นได้เขาก็ตะโกนถามท่านเจ้าที่ "งั้นต่อไปถ้าจะออกไปไหนผมก็ไม่ต้องเอาอาหารมาถวายก็ได้ใช่ไหม แค่เอาธูปเทียนมายกมือไหว้หน้าศาลแล้วขออธิษฐานก็พอใช่ไหม ท่านเจ้าที่หลอกผมมาตลอดใช่ไหมเนี่ย!!!"

   ได้ยินดังนั้น ท่านเจ้าที่ก็เหงื่อท่วมตัวไม่กล้าหันไปสู้หน้าจึงหาเหตุผลที่เข้าท่าแล้วตะโกนตอบออกไปว่า... "ไม่ใช่นะ! ก็ตอนเจ้ากลับมาเมื่อเย็นเจ้าเอาอาหารมาถวายข้าตั้งเยอะแล้วไง ถ้าเกิดยังถามมากข้าจะไม่ให้ไอ้หน่อมแน้มนั่นออกไปข้างนอกจริง ๆ ด้วย"

   สิ้นเสียงของท่านเจ้าที่ผู้ที่รู้ตัวว่าเป็นเจ้าของฉายา 'หน่อมแน้ม' ก็สะกิดแขนเจ้านายของเขาเบา ๆ "ไปกันเถอะเจ้านาย ท่านเจ้าที่จะได้พักผ่อน"

   “มึงกล้าสั่งกูเหรอ!" เสียงตวาดของไม้ทำให้มิวส์รีบวิ่งถอยหลังไปหลับอยู่หลังต้นไม้ต้นใหญ่ที่ขึ้นอยู่ใกล้ ๆ กับศาลพระภูมิเพราะกลัวจะโดนทารุณกรรมอีกรอบ

   “ไม่กล้าครับ... ฮือ...” มิวส์ว่าพลางนึกน้อยใจในโชคชะตา ทั้ง ๆ ที่กะจะหาคนมาตายแทนที่ทั้งทีแต่ทำไมต้องเป็นเจ้านายสุดหล่อและโหดของเขาที่มาพักอยู่ห้องที่เขาเคยอยู่ด้วยนะ เพราะความโหดของไม้เลยทำให้มิวส์ไม่กล้าแหยมอะไรเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

   พอเห็นเจ้านายเดินกลับเข้าไปที่หลังหอมิวส์ที่แอบมองตามก็คอตกพลางคิดว่าจะไม่ได้ออกไปเที่ยวข้างนอกแล้ว แต่ทว่าไม่นานมากนักเสียงรถมอเตอร์ไซค์ที่ดังขึ้นกับร่างหล่อ ๆ ของเจ้านายที่ขับออกมาก็ทำให้มิวส์เบิกตาโพลง

   “มัวยืนจ้องอยู่นั่นแหละ ขึ้นมาสิวะ" ไม้สั่ง

   “ครับ" มิวส์ผงกหัวรับก่อนพลางก้าวขาออกจากหลังต้นไม้ด้วยความกลัวก่อนจะก้าวขาขึ้นรถมอเตอร์ไซค์เพื่อซ้อนท้ายในทันที







จบตอน
------------------------

คุยกับนักอ่านที่น่าฮักครับ ^^

คุณ sang som :: ก็มีสิทธิ์ครับ แต่จะเลิกหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง คิคิ
คุณ Lily teddy :: ขอบคุณครับ ^^ มีสิทธิ์ทั้งสองครับ
คุณ ชะรอยน้อย :: เย่!! มีคนเชียร์แม็กกี้แล้ว ^^
คุณ มยอนฮวา :: อันนี้เข้า่ทาดีนะครับ ผีติ๊งต๊อง+หื่น กับ เจ้านายโหด ๆ 555
คุณ iamnan :: เชียร์หนูมิวส์อีกคนแล้ว ^^ ถ้าจะคู่กันมันก็ต้องมีวิธีน่า แต่ถ้าไม่คู่กันก็... ฝากติดตามตอนต่อด้วยนะครับ
คุณ oumpatta :: 555++  ครับผม ยังไม่เฉลย แต่เป็นไปได้ทั้งสองทางเลยครับ ต้องรอดูว่าดำเนินเรื่องไปเรื่อย ๆ แล้วจะเป็นอย่างไรต่อไป ^^ (นึกว่าจะมีแต่คนเชียร์มิวส์ เริ่มมีเชียร์แม็กกี้แล้ว) เย่ๆ
คุณ BBChin JungBB :: 555++ วิญญาณโคนัน ^^ ขอบคุณที่อ่านและเม้นท์นะครับ
คุณ mukmaoY :: ขอบคุณที่ตามอ่านจนทันนะครับ แถมยังชอบด้วย ดีใจมากๆ ครับ ^^ ฝากติดตามตอนต่อๆไปด้วยนะครับ
คุณ mindmaru :: นั่นสิครับ เป็นวิญญาณไปแล้ว ถ้าจะมาคู่กันจะมีวิธีไหนหนอ T^T
คุณ mentholss :: ^^ ขอบคุณและยินดีมากๆครับที่เข้ามาอ่านจนทัน แถมยังเม้นท์ให้ด้วย เรื่องแม่ของมิวส์... ยังเป็นปริศนาต่อไปครับผม ^^ แหะๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 23-07-2013 17:39:49
กอดดด เข้าทางหน่อมแหน่ม เชียยววว  :กอด1: :กอด1: ไอ้ผีหื่นนน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 23-07-2013 17:51:25
สงสารมิวส์อ่ะ :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 23-07-2013 17:59:47
มิวส์นี่น๊า นอกจากจะหื่นและยังเจ้าเล่ห์ด้วยอะโกงเวลาแบบนี้ถ้าไม้รู้ล่ะก้อ   :sad3:
แล้วมิวส์กลายเป็นซินเดอเรล่าไปซะแล้วต้องกลับก่อนเที่ยงคืนด้วย
แต่พอดีคราวนี้ไปกะเจ้าชายไม้อะนะ  อยากรู้จังวิธีแก้ของท่านเจ้าที่เนี่ยเรื่องจริงรึเปล่า
หรือรู้เห็นเป็นใจให้มิวส์ลวนลามไม้ง่ายขึ้นน๊า  :m18:
สงสารแม็กกี้ ให้รถไม้ไว้ใช้ก็พากิ๊กผี(มิวส์) ไปเที่ยวซะงั้น
หรือจะให้มิวส์เจอผีหล่อ ๆ ซะตนนึงดี ไม้จะได้คู่แม็กกี้ต่อไป
ถึงมิวส์น่ารัก น่าสงสาร แต่ก็สงสารแม็กกี้มากกว่านะเพราะไม่รู้อิโหน่อิเหน่
ยังคงอยากให้มีความสุขทุกฝ่ายทั้ง 2คน กะ 1 ตน จ้า
 :pig4: รอติดตามค๊า  :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 23-07-2013 19:23:50
แม่เป็นอะไรอ่ะ
ทำไมฟิวส์ไม่บอกไป
หรือว่าแม่บวชชี! (โดนตบ 555+)
แล้วก้องมาสารภาพว่าอะไร ว่าเรื่องที่ตัวเองก่อเป็นเรื่องจริงหรือแค่เพียงล้อเล่น
งานนี่กลัวดราม่า พอเห็นพ่อของมิวส์ไปสู่สุขติแล้วก็หันมาดูมิว คิดว่าสักวันมิวก็ต้องไป แต่ว่ามันก็ขึ้นอยู่ที่จะมีใครมาแทนที่มิว คงจะไม่ใช่ไม้หรือแม็กกี้หรอกนะ
เฮ่อ~ แค่คิดก็หนักใจ ไม่อยากจะเดาว่าตอนจบจะเป็นยังไง แต่ก็จะติดตามตอนต่อไปค่าาา

ปล.เค้าจิ้นฟิวส์กับก้อง (กับพระกับเจ้าหล่อนก็ยังไม่เว้น//โดนตบ) 555+ เอาจริงนะ! คิดจริงๆ นะคะคนเขียน~
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 23-07-2013 19:37:24
ทำไมพระเอกรุนแรงจังเลย  :mew2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Satanza321 ที่ 23-07-2013 19:37:49
มิวส์ทำไมนายเป็นผีที่หื่นที่สุดในโลกเลยอะ(เท่าที่อ่านมานะ 555)แถมเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก :laugh:
อ่านแล้วสงสารนะ ไม่รู้ว่าจะสงสารใครดีตนนึงก็ผีอีก อีกคนก็เป็นแฟนที่ไม้รักมาก :hao5:
แต่สุดท้ายก็คิดว่ายังไงผีก็ต้องอยู่ส่วนผีอะนะ :o12:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 23-07-2013 19:43:42
ไอ้คุณไม้กล้าดีมาทำร้ายร่างกาย?นู๋มิวส์ได้ไงฟ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 23-07-2013 19:49:12
แอบคิดลึกเบาๆนะ ตอนที่สัมผัสตัวกันได้ถ้าใส่แรงเยอะๆน่ะ  :hao6: :hao6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 23-07-2013 19:57:38
แหมๆ มิวส์นี่ไม่ค่อยจะหื่นเลยนะ
ได้โอกาศทะโลม เข้าหน่อยนะ
 o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: เกเร ที่ 23-07-2013 20:28:24
บทมิวกับไม้มันเยอะกว่า แม๊กกี้ก็จริงอยู่
แต่ มิวตายไปแล้วนะครับ ซึ่งถ้าคู่กันจริงๆ ไม้ต้องตายด้วยสิถึงจะได้อยู่ด้วยกัน แค่คิดก็ :mew5: ให้คู่กับแม๊กกี้เหอะแฮปปี้สุดๆละ
ผีไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับคนปกติได้นะครับตามหลักอะ   เว้นพี่มากพระโขนงละกันเห็นพาแม่นาคไปซ่อมหลังคาโบถส์ อยู่นิฮ่าๆ

แต่ยังไงก็ ไม้ต้องคู่กับแม๊กกี้อยู่แล้วละ(มั้ง)ถ้าคนเขียนไม่เล่นตลก ถึงไม้มันจะเกินเลยกับผีติ้งต๋องไปซึ่งมันจะมีบทนั้นหรือเปล่าขึ้นอยู่กับคนเขียนนั่นแหละ ฮ่าๆ   มาไวๆสิเค้าจะได้อ่านต่อ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: shabushabu4 ที่ 23-07-2013 20:57:05
ทำไมอ่านตอนที่ แม็กกี้มาหาไม้ แล้วมันจี๊ดๆล่ะเนี่ย พอนึกถึงว่าต้องมีคนเจ็บ แล้วมันจี๊ดๆเลย

คนเขียนขอ 3p ดีกว่า  o18
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 24-07-2013 09:42:03
เอามอไซค์แฟนมาพาผีออกเที่ยว เอ๊ะยังไง ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 24-07-2013 12:11:22
ไม่ต้องเลือกให้มันวุ่นวาย 3P. ไปเลยค่ะ
ยังไงมิวส์ก็เคยเล่นปูไต่แม็กกี้มาแล้วนี่คะ :katai2-1:

ว่าแต่ เรื่องคุณแม่ล่ะ มันค้างนะคะเนี่ย :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 24-07-2013 13:41:40
ตาย ตาย ตาย กว่ามิวส์จะได้ตัวตายตัวแทน
สงสัยจะตายรอบสองก่อนจริงๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 25-07-2013 00:37:14
เหอๆ  ไม่รู้จะบรรยายอะไรให้เรื่องนี้  เพราะตอนนี้ความสนใจอยู่ที่ทางบ้านมิวมากกว่า
ก็นะ  ถ้าให้บรรยายนิสัยตัวละครที่อยากพูดถึงตอนนี้  ก็เริ่มสงสัยว่า  เอ...  นายไม้นี่  ถึงจะดูห่วงมิว  แล้วก็ดูเอาใจแฟน
แต่รู้สึกหมอนี่เป็นพวกคิดถึงตัวเองเป็นหลักแฮะ  ไม่สิ  น่าจะเรียกว่าเอาแต่ใจนิดๆมากกว่ามั้ง  อึมก็ยังไม่ใช่
เป้นตัวละครที่การกระทำขัดกันหลายอย่าง  เดาทางไม่ถูกเลยแฮะ

ส่วนมิว  นับวันยิ่งเอาแต่ใจ  คิดอยากให้โดนอะไรซะบ้าง  แต่พอโดนไม้ทำร้ายเข้าจริงๆ  ก้รู้สึก
น่าสงสารเหมือนกันแฮะ

ส่วนคนสุดท้าย...  เฮ้อ...  จะรักแฟนคนนี้ได้ดีแค่ไหนนะ  รู้สึกเรื่องนี้ยังมีความทุกข์ตามมาอีกมาก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่11]- 23/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 25-07-2013 13:40:13
ตอนที่ 12  :z6:




          บนท้องถนนในยามนี้ หากเป็นมหานครที่ไม่เคยหลับไหลอย่างเช่นเมืองหลวงของประเทศไทยคงมีรถราแล่นให้เห็นอยู่เต็มไปหมด แต่มันไม่ใช่กับที่นี่มหาวิทยาลัยที่อยู่ใกล้เทือกเขาแถมยังอยู่ห่างจากตัวเมืองอีกด้วย ทำให้สองข้างทางเต็มไปด้วยป่าไม้มีเพียงแสงไฟริบหรี่ที่สาดส่องลงมาให้เห็นสลัว ๆ เท่านั้น

   “มึงทำอะไรของมึง" เมื่อรู้สึกว่าร่างของวิญญาณที่ซ้อนท้ายชักจะกอดแน่นขึ้น ไม้จึงต้องบ่นออกมา

   “ซ้อมไงเจ้านาย... เผื่อเจอไอ้พวกวิญญาณดุร้ายจะมาเอาผมไปอยู่ด้วยจะได้ฝึกให้ชิน ๆ" พูดไปก็ยิ้มไปแถมยังซุกหน้าเข้าที่แผ่นหลังอันแข็งแกร่งของเจ้านายสุดหล่ออีกด้วย มิหนำซ้ำแขนทั้งสองข้างตั้งแต่ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์มาก็ยังไม่ปล่อยออกจากเอวของคนขับรถเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว

   “แต่กูว่าถ้าขืนรัดกูแน่นกว่านี้ มีหวังกูได้ตายเป็นผีแล้วไปอยู่กับมึงแน่ ๆ" ไม้ต่อว่า เพราะอ้อมกอดของมิวส์ชักแน่นจนเขาหายใจจะไม่ออกอยู่แล้ว อีกอย่างเกิดมีรถขับปาดหน้าหรือเจอทางคดเคี้ยว ไม้อาจจะหักรถหลบไม่ทันก็เป็นได้ "จะกอดก็กอดเบา ๆ ไม่ต้องกอดจนเว่อร์ได้ปะไอ้ผีหื่น"

   “โถ่เจ้านาย...” มิวส์พูดด้วยน้ำเสียงตัดพ้อก่อนที่จะคลายอ้อมกอดให้หลวมขึ้น "ผมไม่ใช่ผีนะ ผมเป็นวิญญาณ"

   “มันก็เหมือนกันนั่นแหละ" ไม้เถียง ...มิวส์ที่กำลังอ้าปากพะงาบ ๆ จะเถียงกลับก็มีอันต้องหยุดชะงักเพราะประโยคถัดมาของเจ้านายช่างน่ากลัวเหลือเกินสำหรับวิญญาณหน่อมแน้มอย่างเขา

   “หุบปากซะ!!! ถ้ามึงไม่อยากโดนไอ้พวกวิญญาณข้างทางจับตัวไป" สิ้นเสียงของไม้ ความเงียบก็เข้าปกคลุมในการเดินทาง มีเพียงเสียงมอเตอร์ไซค์ที่ดังเป็นสัญญาณให้รู้ว่ายังมีคนอยู่ในละแวกนั้น

   ไม่นานมากนักไม้ก็ขับรถมาถึงจุดหมาย... เขาทอดสายตาไปยังตึกสูงใหญ่ภายในรั้วมหาวิทยาลัยด้วยความรู้สึกประหลาด ๆ เพราะเหลืออีกเพียงปีเดียวเท่านั้น เขาก็จะเรียนจบปริญญาตรีจากรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้ว แต่ที่ดูเหมือนจะเศร้ายิ่งกว่าเห็นจะเป็นมิวส์ที่บัดนี้กำลังนึกถึงเรื่องราวเมื่อสิบปีก่อนที่เขาเคยศึกษาอยู่ที่นี่

   “เจ้านายมาที่นี่ทำไม" มิวส์เอ่ยถามหลังจากที่ปล่อยให้ความเงียบเข้าปกคลุมสักพัก

   “ก็... มึงอาจจะคิดถึงก็ได้...” ไม้ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ "ขนาดกูแค่คิดว่าเหลือเวลาที่จะเรียนอยู่ที่นี่อีกเพียงปีเดียว กูยังใจหายเลยว่ะ...”

   “ครับ" มิวส์เอ่ยตอบ พอได้ยินคำพูดของไม้ความรู้สึกประหลาด ๆ ก็รุมเร้าในจิตใจของมิวส์ขึ้นมาทันที

   ใช่! เหลือเวลาอีกเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นที่มิวส์จะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับเจ้านายสุดหล่อและโหดคนนี้ และถ้าวันที่ต้องจากกันมาถึง เขาก็ต้องอยู่ในห้องพักตามลำพัง รอเจ้าของห้องพักรายใหม่ที่จะเข้ามาอาศัยอย่างนั้นน่ะหรือ คิดแล้วมันก็เศร้าใจชะมัด หรือเขาควรจะหาตัวตายตัวแทนมาแทนที่เขาเพื่อที่เขาจะได้ไปชดใช้กรรมสักทีและจะได้ไม่ต้องทนเหงาอีกต่อไป

   ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็มีแต่เสียกับเสียทั้งนั้น แม้ว่าในตอนแรกหมายมั่นปั้นมือว่าจะทำให้ไม้หรือไม่ก็แม็กกี้กลายมาเป็นวิญญาณติดที่แทน แต่ทว่าความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นกับไม้เพียงไม่กี่วันกลับทำให้มิวส์รู้สึกหวั่นไหวแปลก ๆ จนล้มเลิกความคิดที่อกุศลเช่นนั้น

   “เป็นอะไรมึง" ไม้เอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าจู่ ๆ สีหน้าที่เคยยิ้มแย้มตลอดเวลากลับเศร้าสลดลง แถมยังเงียบลงไปเสียดื้อ ๆ

   “เปล่าครับ" มิวส์ตอบออกไป ทั้ง ๆ ที่เขาอยากจะระบายความอัดอั้นตันใจให้ไม้ฟังเหลือเกิน แต่ก็กลัวว่าถ้าพูดอะไรออกไปแล้วมันจะทำให้เจ้านายของเขาลำบากใจ และไม่แน่ว่าเขาอาจจะโดนประทุษร้ายร่างกายอีกก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นไม่พูดน่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่า

   “อืม... ไปใต้ตึกกันเถอะ" ไม้เอ่ยชวน เพราะตั้งแต่ที่เข้ามายังรั้วมหาวิทยาลัยพวกเขาก็ยังไม่ได้เดินไปที่ไหนเลยนอกจากหน้าตึกหนึ่งซึ่งเป็นจุดที่ไม้จอดรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้

   ตามทางเดินเข้าไปยังตัวตึกมีแสงไฟสาดส่องพอให้เห็นสลัว ๆ แต่พอเข้าไปใต้ตึกยังจุดนั่งพักสำหรับนักศึกษาไฟก็สว่างวาบจนมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน

   เป็นปกติสำหรับมหาวิทยาลัยแห่งนี้ที่จะเปิดไฟให้นักศึกษาและคณาจารย์ทำงานกันจนดึก ๆ ดื่น ๆ ทุกวันไม่เว้นแม้แต่ช่วงปิดเทอม เพราะมีนักศึกษาหลายคนที่ลงเรียนภาคฤดูร้อน ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้ตัวเองเรียนจบไวขึ้น และอีกส่วนก็เพราะต้องตามมาเรียนทีหลังเนื่องจากเรียนไม่ทันหรือไม่ผ่านในภาคปกติ

   พอเหลือบมองนาฬิกาข้อมือก็พบว่าขณะนี้เป็นเวลา 21.30 น. เนื่องจากหอพักแห่งนี้อยู่ใกล้ ๆ กับมหาวิทยาลัยจึงทำให้ไม่เสียเวลาเดินทางมากนัก ขับมอเตอร์ไซค์แค่ 5 นาทีก็มาถึง แต่ที่มาช้าก็เพราะมัวแต่คุยกับท่านเจ้าที่ต่างหาก

   “น่าแปลก" ไม้เอ่ยขึ้นหลังจากที่พลิกนาฬิกาข้อมือดูอีกรอบ นอกจากบนตัวอาคารจะมีแสงไฟสว่างวาบแล้ว ใต้ตึกบางตึกยังมีการจัดซุ้ม จัดป้ายต่าง ๆ เพื่อเตรียมงานรับนอกอีกด้วย ทำให้มหาวิทยาลัยในช่วงนี้ดูจะคึกคักมากเป็นพิเศษ

   “อะไรแปลกเหรอครับเจ้านาย" มิวส์เอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “สามทุ่มครึ่งแล้วทำไมคนยังเยอะอยู่เลย" ไม้ตอบโดยที่ไม่ว่านาฬิกาของเขานั้นโดนไอ้วิญญาณหน่อมแน้มแกล้งปรับเวลาให้มันเดินเร็วกว่าเวลาปกติชั่วโมงครึ่ง

   “กะ... ก็... ก็...” พอเห็นเจ้านายสงสัย วิญญาณผู้มีความผิดติดตัวก็ติดอ่างขึ้นมาเลยทีเดียว "ก็ใกล้ช่วงรับน้องแล้วมั้งครับ ดูสิ เห็นทำป้าย ทำซุ้มต่าง ๆ กันเยอะเลย"

   “เออ... ก็คงจะจริง เด็กปีนี้มันขยันแฮะ เดินไปตึกคณะบ้างดีกว่า" พูดจบก็เดินลัดเลาะตามอาคารไปโดยมีมิวส์เดินตามเงียบ ๆ จนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่หน้าตึกหลังหนึ่ง

   ตึกหลังนี้เป็นอาคารสูง 4 ชั้น หน้าตึกมีตัวอักษรแปะเอาไว้ว่า ...คณะศิลปศาสตร์...  ตัวอาคารมีลักษณะเป็นรูปตัว U โดยพื้นที่ใต้ตึกที่อยู่ในจุดกึ่งกลางของตัว U นั้นจะถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับรับน้องในวันแรกก่อนที่จะแยกไปรับตามสาขาวิชา

   “เจ้านายเรียนสาขาอะไรครับ" ตึกที่คุ้นตาแต่ทว่าในยามนี้กลับถูกทาสีใหม่ให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น มิวส์ยังจดจำสถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะมันเป็นสถานที่แห่งความทรงจำระหว่างเขากับก้อง

   “ภาษาอังกฤษ" คำตอบของไม้ตอกย้ำให้มิวส์ยิ่งคิดถึงความทรงจำในอดีตเข้าไปใหญ่ เพราะก้องก็เรียนสาขาวิชาภาษาอังกฤษเหมือนกัน "แล้วมึงล่ะ"

   “ตี๋ตาโตแบบนี้ก็ต้องภาษาจีนสิครับ" มิวส์ตอบทีเล่นทีจริง ภายใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มกลับรู้สึกเจ็บปวดแปลก ๆ ...ก็แหงล่ะ สถานที่เก่า ๆ มันย้ำเตือนให้นึกถึงคนรักเก่าที่เคยทำร้ายให้เขาต้องกลายมาเป็นวิญญาณติดที่แบบนี้

   “พี่ไม้คะ พี่ไม้ใช่ไหมคะ สวัสดีค่ะ" ในขณะที่ไม้กำลังพูดคุยกับมิวส์ เสียงทักทายเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากใต้ตึกคณะบริเวณที่กำลังจัดซุ้มรับน้อง

   “น้อง...” ไม้ขมวดคิ้ว เขาจำได้ว่าหญิงสาวผิวขาวหน้าตาสะสวยผมยาวถึงกลางหลังผู้นี้เป็นรุ่นน้องที่คณะ แต่ทว่าหากนับรวมรุ่นน้องชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่สามแล้วก็มีไม่ต่ำกว่าร้อยคนเขาคงจำชื่อได้ไม่หมดหรอก

   “หนิงค่ะขึ้นชั้นปีที่สอง" เธอตอบออกมา ก่อนที่จะหันไปตะโกนเรียกเพื่อน ๆ อีกหกคนที่กำลังสาละวนกับการจัดซุ้ม "พวกเรา ๆ พี่ไม้ชั้นปีสี่มาให้กำลังใจพวกเราจัดซุ้มด้วย"

   สิ้นเสียงของหนิง ชายหนุ่มหญิงสาวอีกหกคนก็หันมาทักทายและสวัสดีกับรุ่นปีที่สี่ "สวัสดีครับ/ค่ะ"

   “สวัสดีครับ" ไม้ตอบกลับด้วยความสุภาพ เขารู้สึกตงิดใจแปลก ๆ ที่โดนหาว่ามาให้กำลังใจทั้ง ๆ ที่เขาแค่กะจะมาเดินเล่นเฉย ๆ แต่รุ่นน้องกลุ่มนี้กลับคิดเองเออเองไปได้...

   “แล้วนี่จะจัดซุ้มกันถึงเมื่อไหร่เนี่ย" ไม้เอ่ยถาม

   “สามทุ่มเดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะพี่ไม้" คำตอบของหนิงทำให้ไม้ขมวดคิ้วด้วยความฉงน ส่วนไอ้วิญญาณตัวดีที่รู้ชะตากรรมตัวเองกำลังยิ้มแห้ง ๆ อยู่ด้านหลัง นี่ถ้าไม่กลัวว่าจะไม่ได้กลับหอกับเจ้านายเขาคงวิ่งไปหลบอยู่ในถังขยะแล้วล่ะ

   “สามทุ่ม?” ไม้ทวนคำพลางมองดูนาฬิกาข้อมือตัวเอง ...ตอนนี้มันสามทุ่มสี่สิบแล้วนี่นา... พอเริ่มจับพิรุทธิ์ได้เขาก็หันหลังกลับไปมองมิวส์ที่กำลังตัวสั่นงก ๆ ด้วยตาขวางสุดฤทธิ์ "ว่าแต่ตอนนี้กี่โมงแล้วครับ พอดีนาฬิกาพี่มันตายน่ะ"

   ไม่รู้ว่ามิวส์คิดไปเองหรือเปล่าถึงได้รู้สึกว่าสายตาของไม้ในยามนี้ไม่ต่างอะไรกับอสุรกายเลยสักนิด

   “สองทุ่มสิบนาทีค่ะ" ได้ยินคำตอบของหนิง ไม้ก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ

   “อีกห้าสิบนาที... แล้วนี่ทานข้าวกันยัง" ไม้เอ่ยถามอีกครั้งเพราะดูสีหน้าน้อง ๆ แต่ละคนอิดโรยเกินกว่าเหตุ และถ้ารุ่นน้องเหล่านี้บอกว่ายัง เขาก็จะอาสาออกไปซื้อของกินมาเลี้ยงน้อง ๆ ...เหนือสิ่งอื่นใด ที่ไม้อยากปลีกตัวออกไปจากที่นี่ให้ไวที่สุดก็เพราะถ้าเขาไม่ได้อาละวาดไอ้วิญญาณเจ้าเล่ห์ให้ไวที่สุด เพราะถ้าเขาไม่ได้ทำโทษมันมีหวังต้องอกแตกตายแน่ ๆ

   “ยังค่ะ" และคำปราถนาของไม้ก็เป็นผล ทันทีที่ได้ยินคำตอบของหนิงไม้ก็เอ่ยต่อว่า...

   “งั้นรออยู่นี่นะ เดี๋ยวพี่ไปซื้ออะไรมาให้ทาน...” พูดจบก็กลับหลังหันและก้าวขาเพื่อที่จะไปยังจุดจอดมอเตอร์ไซค์ทันที และไม่ลืมที่จะตะโกนบอกเหล่ารุ่นน้องให้หลังว่า "อย่าปฏิเสธนะ รอพี่อยู่นี่แหละ แป๊บเดียว...”

   “ค่า... คร้าบ...” เหล่ารุ่นน้องต่างส่งเสียงตะโกนตอบกลับด้วยความดีใจ ...ไม่ใช่เพราะแค่เพียงได้กินของฟรีหรอก แต่พี่ไม้คนนี้น่ะเป็นรุ่นพี่ที่พวกเขาแอบปลื้มมานานแล้ว เพราะผู้ชายหน้าตาหล่อ ๆ นิสัยเถื่อน ๆ โดนใจวัยโจ๋แบบนี้มีน้อยนักที่จะตัดสินใจมาเรียนคณะศิลปศาสตร์สาขาวิชาภาษาอังกฤษ ส่วนใหญ่ก็มีแต่พวกหน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู และถ้าเป็นเกย์ 99.99% ก็จะเป็นเกย์เพศรับทั้งหมด




   ตลอดทางที่เดินไปยังหน้าตึกที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ ไม้ไม่พูดไม่จาอะไรสักคำ มีเพียงหน้าตาที่ถมึงทึง คิ้วที่ขมวดมุ่น ดวงตาที่ราวกับมัจจุราชและเสียงพ่นลมหายใจแรง ๆ ที่บ่งบอกถึงอารมณ์ของเขาในยามนี้

   ส่วนมิวส์ก็ได้แต่เดินคอตกตามไปเงียบ ๆ นี่ถ้าเขามีหางเหมือนสุนัข ป่านนี้หางคงจะหดจนไม่รู้จะหดยังไงแล้ว เพราะรู้ชะตากรรมของตัวเองในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

   และลางสังหรณ์ของมิวส์ก็ไม่มีอะไรผิดเพี้ยน เพราะทันทีที่ไปถึงจุดจอดรถ ไม้ที่พอหันซ้ายแลขวาแล้วไม่พบใครอยู่ในละแวกนั้นก็ตวาดออกมาด้วยน้ำเสียงอันดังก้อง

   “ไอ้ผีนรก!!!”

   พอได้ยินพลังเสียงอันน่ากลัวและทรงพลังที่สุดตั้งแต่ที่เกิดมาลืมตาดูโลก มิวส์ก็ตั้งการ์ดขึ้นมาป้องกันตัวรอไว้ทันที “อย่านะเจ้านะ ผมขอโทษ ก็อยู่ห้องมันน่าเบื่อ"

   “หันหลัง" เห็นท่าทางน่าสมเพชของวิญญาณหน่อมแน้มก็ยิ่งทำให้ไม้โมโหเข้าไปใหญ่

   “หันหลัง?” มิวส์ทวนคำด้วยความสงสัย ในใจก็หวาดกลัวสุดฤทธิ์ "เจ้านายจะทำอะไร... กลางที่สาธารณะเลยนะครับ"

   ได้ยินดังนั้น ไม้ก็ได้แต่ขยี้ศีรษะตัวเองด้วยความขัดใจ ไม่รู้จะด่าจะว่าไอ้ผีหน่อมแน้มนี่ยังไงแล้ว คดีเก่ายังไม่จบมันก็ก่อคดีใหม่ด้วยการคิดอะไรที่อกุศลไปได้

   “กูบอกให้หันหลัง" ไม้เอ่ยด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น... สำหรับคนปกติจะรู้สึกว่าพวกที่อยู่ในอารมณ์กรุ่นโกรธแล้วพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแบบนี้น่ากลัวกว่าพวกที่โกรธแล้วตะคอกเสียอีก แต่ทว่าเหมือนจะไม่ใช่กับมิวส์ ...ก็มิวส์ไม่ใช่คนปกตินี่นา

   “คะ... ครับ" มิวส์ตอบตะกุกตะกักพลางรู้สึกสับสนไม่คิดว่าบทลงโทษจะเป็นอะไรที่เขาปราถนารอคอยมานานแบบนี้ ถ้ารู้ว่าทำผิดแล้วโดนเข้าข้างหลังแบบนี้ ต่อไปเขาจะทำผิดให้บ่อย ๆ เลยล่ะ

   หลังจากที่กลับหลังหันตามคำสั่ง มิวส์ก็ฉีกยิ้มออกมาก่อนที่จะยกมือขึ้นมายืนกอดอก ตัวก็ยืนเกร็งด้วยความตื่นเต้นเพื่อรอการจู่โจมอันดุเด็ดเผ็ดร้อนของเจ้านายสุดโหด แต่ทว่ายังไม่ทันจะได้จินตนาการถึงฉากที่ปราถนา แรงกระแทกที่บั้นท้ายจากปลายเท้าของไม้ที่วิ่งมาแต่ไกลก็ทำให้สติของมิวส์กลับมาสู่ความเป็นจริงพร้อมกับร่างที่ลอยละลิ่วปลิวไปตามลมจนอัดกระแทกกับต้นไม้ ...นี่แหละหนาโทษของการไม่มีร่างกายทำให้ปลิวไปตามลมได้ง่าย ๆ

   “โอยยย... เจ้านายทำอะไร" วิญญาณสุดหื่นร้อนด้วยน้ำเสียงอดครวญก่อนที่ร่างจะค่อย ๆ ไหลลงไปตามลำต้นของต้นไม้จนนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ...เกิดดวงดาวระยิบระยับหลายดวงผลัดกันเปล่งแสงอยู่บริเวณขมับของมิวส์ทันที ทั้ง ๆ ที่วันนี้ฟ้าปิดนี่นา ไม่รู้ว่าดาวพวกนี้ลอยไปลอยมาอยู่ใกล้ ๆ กับใบหน้าของเขาได้อย่างไร

   “หึ...” ไม้พ่นลมหายใจใส่หลังจากที่เดินไปดูร่างไอ้วิญญาณทะลึ่งที่นอนหงายหน้าจะตายมีตายแหล่อยู่ใต้ต้นไม้ "คราวหลังอย่าริอาจมาทำนิสัยเจ้าเล่ห์กับกูอีกเพราะกูไม่ใช่เพื่อนเล่นเข้าใจไหม....”

   เหมือนว่าสติสตังค์ของวิญญาณที่โดนทำโทษจะยังไม่กลับมา เพราะไม่มีเสียงตอบรับใด ๆ ไม้เลยขมวดคิ้วอย่างขัดใจก่อนที่จะตะคอกออกมาเสียงดังอีกหนึ่งที "กูถามว่าเข้าใจไหม!!!”

   “ขะ... เข้าใจครับ" มิวส์ขยับปากตอบรับด้วยความยากลำบากโดยที่ไม่รู้ว่าเมื่อครู่เจ้านายพูดอะไรออกมาบ้าง แต่ที่ต้องรีบตอบรับเพราะไม่อยากจะโดนลงโทษแบบนี้อีกแล้ว

   'โอยยย... เจ้านายใจร้ายที่สุด' มิวส์บ่นในใจ และความเจ็บในคืนนี้จะทำให้มิวส์พึงระลึกจดจำไปอีกนานว่าเขาจะไม่ปรับนาฬิกาให้เจ้านายมั่วซั่วอีกแล้ว...





จบตอน
----------------
คุยกับนักอ่านที่น่ารัก

คุณ nunnan :: แน่นอนครับ กอดกันจะได้จิ้นกันง่าย ๆ ฮ่าๆ เข้าทางมิวส์เลย
คุณ mukmaoY :: ตอนที่แล้วว่าน่าสงสารแล้ว ตอนนี้น่าสงสารกว่าอีก T^T แต่กระผมฮา แหะๆ
คุณ Lily teddy :: เห็นด้วยครับว่าแม็กกี้น่าสงสารมากกว่า T^T
คุณ Chichi Yuki :: มีจิ้นฟิวส์กับก้องด้วยเหรอเนี่ย งั้นตอนหลัง ๆ ให้ฟิวส์กับก้องโผล่มาคู่กันบ้างดีกว่า สักนิดก็ยังดี แฮ่ๆ
คุณ ชะรอยน้อย :: T^T เพราะคนเขียนชอบความรุนแรงครับ ...เอ้ยย ไม่ใช่ละครับ ล้อเล่นเน่อ ฮ่าๆ
คุณ Satanza321 :: ประโยคสุดท้าย 'ผีก็ต้องอยู่ส่วนผี' เจ็บจี๊ดๆมากเลยครับ T^T
คุณ iamnan :: ตอนนี้ก็ทำร้ายอีกแล้วครับ T^T ไม้จะโดนแบนไหมน๊อ
คุณ mindmaru :: ง่า คิดลึกๆ ยังไงครับเนี่ย 55555
คุณ มยอนฮวา :: โอกาสมา ก็ต้องใช้ให้คุ้มค่า คิคิ
คุณ เกเร :: ขอบคุณครับที่แวะมาอ่านแถมยังเม้นท์ให้ด้วย ^^ ดีใจที่สุดเลย ส่วนบทสรุปจะเป็นยังไงต้องติดตามกันต่อ ๆ ไปนะครับ
คุณ shabushabu4 :: 3p คืออะไรหนอ T^T เข้าใจว่ามีตัวเอง 3 คน เป็นรักสามเส้าเหรอครับ หรือว่าสุขสมหวังทั้ง 3 คน
คุณ naruxiah :: 555 นั่นสิ ยังไง ๆ แม็กกี้รู้คงเสียใจแย่เลย T^T
คุณ Fujoshi ::  3p คืออะไรหนอ T^T เรื่องคุณแม่ยังเป็นปริศนาต่อไปครับ
คุณ mentholss :: 2 รอบอาจจะไม่พอ อาจจะตายอีกสัก 3-4-5-6 รอบได้เลยครับถ้ายังอยู่กับไม้ 555
คุณ darkeyes1 :: ใช่เลยครับ ไม้เป็นพวก ร้าย โหด เถื่อน การแสดงออกรุนแรง แต่ในใจเดายากครับว่าคิดยังไง


หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่12]- 25/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 25-07-2013 15:02:56
นานมิวส์หื่นดีนักโดนทำโทษซะแล้วววว 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่12]- 25/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 25-07-2013 15:30:12
อิไม้ แกถีบผีหน่อมแน้มได้ไงฟ่ะ มิวส์เจ็บเลยเห็นมั้ย  :m16:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่12]- 25/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 25-07-2013 18:59:18
รุนแรงมากไม้  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่12]- 25/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 25-07-2013 19:16:10
มีหนึ่งคำถามอยากถามนู๋มิวโดยตรงว่า
ตอนนี้นู๋มิวกำลังคิดว่าตัวเองเป็นวิญญาณหรือกระสอบทราย ฮ่าๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่12]- 25/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-07-2013 20:17:59
มิวส์ไปทำบุญเหอะ อาภัพอับเฉาจริงๆ :z10:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่12]- 25/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: เกเร ที่ 25-07-2013 21:37:10
คนถีบผี :z6:  ตกลงมิวมันจะได้กินเนื้อ นม ไข่ เจ้านายมันไหมเนี้ยะฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่12]- 25/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 25-07-2013 22:01:43
มิวส์เป็นผีที่มีเคราะห์กรรมเยอะจริงๆ
ตามความคิดของเรา (ซึ่งเป็นคนอ่าน) คิดว่า มิวส์อาจจะเป็นนายเอกหรือไม่เป็นก็ได้ 
แต่ถ้าหากมิวส์เป็นนายเอกกลัวมิวส์จะใช้ร่างของแม็กกี้ในการดำรงชีวิต แต่ว่ามันก็ติดตรงที่คำสาปของหอพัก แต่ถ้าหากมิวส์ไม่ใช่นายเอกก็ต้องเป็นแม็กกี้ที่เป็นนายเอกส่วนเหตุผลที่มิวส์โผล่มาก็คงเพราะเพื่อทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ลึกซึ้งกันยิ่งกว่าเดิม (ถึงตอนนี้จะมากแล้วก็เถอะ)
เฮ่อ~ คิดมากๆ ตอนสุดท้ายจะเป็นยังไงค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้คงเอาแค่ จะทำยังไงให้ไม้หวั่นไหวกับมิวส์ก่อน~

ปล.เม้นเยอะ เปลืองพื้นที่ไปไหมคะเนี่ย//โดนตบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่12]- 25/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 26-07-2013 13:08:14
ตอนที่ 13   Lucky Number :mew1:






         หลังจากที่กลับมาจากข้างนอกพร้อมกับของกินต่าง ๆ นานาที่ซื้อมาฝากน้อง ๆ ไม้ก็มุ่งตรงไปยังใต้ตึกคณะของตัวเองทันที

   “พี่ไม้มาแล้ว...” เสียงแจ๋น ๆ ของหนิงดังขึ้นเมื่อหางตาของเธอเหลือบไปเห็นรุ่นพี่สุดหล่อที่กำลังเดินมา

   “เฮ...” ทันใดนั้น เสียงเฮลั่นของรุ่นน้องนักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษชั้นปีที่ 2 จำนวนน้อยนิดก็ดังสมทบ ทำให้นักศึกษาสาขาวิชาอื่น ๆ ที่จัดซุ้มอยู่ใกล้ ๆ กันต่างต้องหันมามองด้วยความหมั่นไส้นิด ๆ ก็เพราะสาขาของพวกเขานั้นไม่เห็นจะมีรุ่นพี่หล่อ ๆ มาให้กำลังใจแบบนี้เลยนี่นา

   ไม้เดินไปนั่งที่ม้านั่งมุมที่ใกล้กับบริเวณที่น้อง ๆ จัดซุ้มมากที่สุด ...เพียงไม่กี่วินาที รุ่นน้องชั้นปีที่สองก็มาพร้อมหน้ากันที่ม้านั่งตัวเดียวกับที่เขานั่งอยู่

   รุ่นน้องในตอนนี้มีทั้งหมด 7 คน เป็นหญิง 5 คน เป็นชายอีก 2 คนซึ่งไม่มีใครมั่นใจว่าทั้งสองคนนี้เป็นชายแท้หรือไม่ เพราะถึงแม้จะไม่แสดงออกถึงชัดเจนว่ามีรสนิยมแบบไหน แต่บุคลิกของทั้งคู่ก็สุภาพเกินชายแถมยังถูกจับเป็นคู่จิ้นของสาว ๆ ทั้งคณะอีกด้วย

   เมื่อรุ่นน้องอยู่กันพร้อมหน้า ปาร์ตี้ย่อม ๆ ยามค่ำคืนก็ถูกเปิดฉากขึ้น ทันทีที่กล่องพิซซ่าถาดใหญ่สองกล่องถูกเปิดออกมา กลิ่นหอมตลบอบอวลก็เล่นเอาคนที่อยู่ในละแวกนั้นพากันกลืนน้ำลายด้วยความหิว แต่ก่อนที่จะลงมือรับประทาน หนิงก็ไม่ลืมที่จะกล่าวขอบคุณ

   “ขอบคุณนะคะพี่ไม้" เธอเอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มจนแก้มแทบปริ ไม่รู้ว่ามิวส์คิดไปเองหรือเปล่าแต่เขารู้สึกว่ารุ่นน้องคนนี้มีท่าทีกระดี๊กระด๊าเกินเหตุเมื่อได้พูดคุยกับไม้ มิหนำซ้ำสายตาของเธออย่างอ่านกินเจ้านายแบบแปลก ๆ อีกด้วย

   “ขอบคุณค่ะ/ครับ" สิ้นเสียงของหนิง เสียงของรุ่นน้องคนอื่น ๆ ก็ดังสมทบตามมาอย่างพร้อมเพรียง

   “เออน่า...กิน ๆ ไปเหอะ ไม่ต้องพิธีรีตรองขนาดนี้ก็ได้" แล้วความเป็นกันเองของไม้ก็ถูกเอ่ยออกมาหลังจากที่วางมาดสุภาพซึ่งขัดกับนิสัยของเขาอย่างสิ้นเชิงมานาน

   จานกระดาษในมือถูกส่งไปให้น้อง ๆ พร้อมกับพิซซ่าที่ไม้แบ่งออกมาให้ หลังจากที่ทยอย ๆ ส่งจานกระดาษให้ทีละคนมิวส์ที่สังเกตพฤติกรรมของรุ่นน้องเหล่านี้อย่างใกล้ชิดราวกับสายสืบก็ต้องรู้สึกขัดใจเมื่อถึงคิวของหนิงกับรุ่นน้องผู้ชายอีกสองคน

   “เจ้านาย...” มิวส์ที่ชักจะทนไม่ไหวเลยขอเอ่ยกระซิบที่ข้างหูหน่อยเถอะ "ยัยน้องหนิงมันแอบแต๊ะอั๋งเจ้านายด้วย ตอนเจ้านายส่งจานกระดาษไปให้เธอแกล้งยื่นมือมาสัมผัสกับมือของเจ้านายอ่ะ ผมไม่ยอมนะ! แถมตารุ่นน้องผู้ชายสองคนก็หลบตาทำท่าขัดเขินเห็นแล้วขัดลูกกะตาชะมัด"

   ไม้ได้แต่นั่งฟังนิ่ง ๆ ไม่แสดงอาการอะไรออกมาให้รุ่นน้องสงสัยในใจก็ต่อว่าไอ้วิญญาณหน่อมแน้มต่าง ๆ นานา ทั้ง ๆ ที่เคยบอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นไม่ต้องพูดมากก็ได้

   “เจ้านาย นั่น ๆ ยัยหนิงแอบเหล่ตามองเจ้านายอีกแล้ว...” บ่นเฉย ๆ ก็ว่าน่ารำคาญแล้วแถมยังเล่นนั่งตักไม้แบบนี้แล้วจะไม่ให้เขาหมดความอดทนได้อย่างไร จนท้ายที่สุดไม้ก็ต้องเผลอพ่นลมหายใจออกมาสุดแรง

   “พี่ไม้...” หนิงเอ่ยขึ้นหลังจากที่ได้ยินเสียงถอนหายใจ ส่วนน้อง ๆ คนอื่นก็นั่งตัวเกร็งไม่รู้ว่าพวกเขาไปทำอะไรให้รุ่นพี่คนนี้ไม่พอใจหรือเปล่า "เป็นอะไรหรือเปล่าคะ"

   “เปล่า ๆ พอดีเผลอกัดพิซซ่าทั้ง ๆ ที่มันยังร้อน ๆ ก็เลยต้องพ่นลมออกมาน่ะ" ไม้แก้ตัวออกมา ก่อนจะหาเรื่องอื่นมาคุยเพื่อไม่ให้น้อง ๆ เครียดกันมากไปกว่านี้ "ว่าแต่รับน้องเมื่อไหร่กันเนี่ย"

   “ถ้ารับรวมที่คณะก็อีกห้าวันที่จะถึงนี้ค่ะ" หนิงตอบออกมา "ส่วนรับแบบแยกสาขาก็อีกสามวันหลังจากนั้น... ส่วนถ้ารับรวมกับพี่ปีสามและปีสี่ก็สัปดาห์สุดท้ายก่อนเปิดเทอมค่ะ”

   “อืม" ไม้ตอบรับ "แล้วปีนี้รุ่นน้องเป็นไงบ้าง เยอะไหม... ได้ข่าวว่ามหาลัยของเรากำลังเป็นที่สนใจของคนทั้งประเทศ"

   ที่ต้องพูดแบบนั้นก็เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเทือกเขา แถมบรรยากาศในช่วงฤดูหนาวก็หนาวจับจิตซึ่งเป็นบรรยากาศที่เมืองร้อนอย่างประเทศไทยไม่อาจหาช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเหน็บแบบนี้สัมผัสได้ง่าย ๆ นอกจากนี้รอบ ๆ มหาวิทยาลัยที่อุดมไปด้วยธรรมชาติทำให้ทัศนียภาพทางธรรมชาติทุกอย่างที่นี่ล้วนลงตัวไปหมด

   “ก็เยอะกว่าเดิมนิดนึงค่ะ แต่อาจารย์บอกว่าคะแนนเด็กที่สอบเข้าในปีนี้สูงขึ้นกว่าปีที่แล้วเยอะมากเลยค่ะ" หนิงตอบออกมาอย่างรู้ดี "เอ้อ... พี่ไม้คะ ถ้าพี่ไม้ว่างก็มารับน้องสาขาด้วยกันนะคะ"

   “มันจะดีเหรอ" ได้ยินคำชวนของรุ่นน้องก็ทำเอาไม้ที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับหาคำมาปฏิเสธไม่ถูก ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากมานะ แต่การรับน้องแยกสาขามันเป็นการที่ให้รุ่นน้องชั้นปีที่สองเพียงชั้นปีเดียวที่มีโอกาสได้จัดกิจกรรมกับน้อง ๆ แบบใกล้ชิด ส่วนรับรวมกับพี่ปีสามและปีสี่ก็มีแยกทีหลังอยู่แล้ว

   “ดีสิคะ... แต่ถ้าไม่ว่างก็ไม่เป็นไร" หนิงตอบออกมา

   “งั้นเดี๋ยววันรับน้องรวมคณะพี่จะมาบอกอีกทีนะว่าว่างหรือเปล่า" ไม้ตอบ... ตอนแรกเขากะจะปฏิเสธอยู่แล้วเชียวแต่คำพูดของไอ้วิญญาณปากมากที่พูดแทรกตลอดเวลาทำให้ไม้รู้สึกหมั่นไส้และไม่อยากทำตามที่มันต้องการ

   ...เจ้านายผมไม่ให้มานะ เจ้านายยัยหนิงมันต้องคิดไม่ซื่อกับเจ้านายแน่ ๆ เลย... นี่เป็นเพียงตัวอย่างคำพูดที่น่ารำคาญของมิวส์เท่านั้น ถ้าให้เอาคำพูดของมิวส์มาเขียน ต่อให้เขียนไปเป็นร้อยหน้ากระดาษก็ไม่จบแน่ ๆ เพราะหลังจากที่ได้ยินหนิงเอ่ยชวน มิวส์ก็บ่นไม่หยุด

   หลังจากที่พิซซ่าในกล่องทั้งสองกล่องถูกจัดการจนหมดก็ถึงเวลาที่น้อง ๆ จะต้องแยกย้ายกลับบ้านเพราะนี่ก็เลยสามทุ่มมาได้สักพักแล้ว

   “ขอบคุณนะคะพี่ไม้" หนิงเอ่ยขึ้น ไม้พยักหน้ารับ จากนั้นรุ่นน้องที่น่าเอ็นดูเหล่านั้นก็เดินไปยังนอกตึกเพื่อเตรียมตัวกลับหอพักพร้อม ๆ กับนักศึกษาสาขาอื่น ๆ ที่ทยอยกลับจนในตอนนี้มีเพียงไม้กับมิวส์และเหล่านักศึกษาอีกเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่ยังอยู่ภายในตึกคณะแห่งนี้

   “เจ้านาย... แล้วเราจะกลับเลยไหมครับ" มิวส์เอ่ยถาม เพราะพอมองรอบนอกตัวอาคารแล้วชักจะรู้สึกวังเวงแปลก ๆ แม้ว่าในยามนี้จะเป็นฤดูร้อน แต่ใกล้เขาใกล้ดอยแบบนี้ก็มักจะมีลมเย็น ๆ พัดมาให้รู้สึกขนลุกตลอดได้ทั้งคืน

   เสียงลมที่พัดผ่านทิวเขาและแมกไม้ส่งเสียงหวีดหวิวคล้ายกับเสียงโหยหวนของอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นยิ่งทำให้วิญญาณอย่างมิวส์รู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก

   “อีกสักพักได้ไหมวะ" ไม้ตอบ "ไหน ๆ มาแล้วกูขอแวะไปหาอาจารย์แป๊บนึง ไม่รู้ว่าคืนนี้อาจารย์ท่านไหนอยู่เวร"

   พูดจบก็เดินตรงไปยังบันได... เป็นเรื่องปกติสำหรับมหาวิทยาลัยแห่งนี้ที่ห้องพักอาจารย์ในแต่ละสาขาวิชาจะมีอาจารย์ที่เฝ้าเวรประจำจนดึกถึง 4 ทุ่มเพื่อดูความละเอียดเรียบร้อบของตึกคณะและไม่ให้เหล่านักศึกษาอยู่มหาลัยจนดึก ๆ ดื่น ๆ จึงต้องมีมาตรการแบบนี้ เพราะลำพังแค่ยามเพียงไม่กี่คนเด็ก ๆ ก็ไม่ค่อยจะกลัวสักเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ยามที่เฝ้ามหาลัยจะมีไว้ขู่พวกมิจฉาชีพมากกว่า

   สำหรับห้องพักอาจารย์สาขาวิชาภาษาอังกฤษนั้นอยู่ชั้น 4 ซึ่งเป็นชั้นที่สูงที่สุดของตึกแห่งนี้และอยู่ในมุมปลายด้านขวาของตัว U (หากมองจากด้านนอกเข้ามาตัวตึก)

   ไฟในห้องที่สว่างไสวทำให้ไม้คลี่ยิ้มออกมาก่อนที่จะรีบก้าวขาฉับ ๆ เดินไปเคาะประตู นอกจากไม้แล้ว อีกคนที่ดูจะตื่นเต้นไม่แพ้กันเห็นจะเป็นมิวส์ที่แม้จะไม่ได้เป็นนักศึกษาสาขานี้โดยตรงแต่ทว่าเขาก็จำเป็นต้องเรียนภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษาสากลอยู่ดี  ...เลยอยากรู้ว่าอาจารย์หลาย ๆ ท่านที่คุ้นหน้าคุ้นตาจะยังสอนอยู่ที่นี่หรือเปล่า

   หลังจากที่เคาะประตูไม่นานมากนัก อาจารย์สาวมาดเท่ท่านหนึ่งก็เปิดประตูออกมาต้อนรับ เธอมีผิวคล้ำแต่ดูทะมัดทะแมงเนื่องจากร่างที่เพรียวบางกับการแต่งกายที่เรียบง่ายทำให้เธอค่อนข้างกระฉับกระเฉงและน่าจะเป็นผู้หญิงเก่งอยู่พอสมควร

   “อ้าวไม้... มาทำอะไรที่นี่ดึก ๆ ดื่น ๆ จ๊ะ เข้ามาในห้องก่อนสิ" เธอเอ่ยทักทันทีที่เห็นลูกศิษย์หน้าตาหล่อเหลายืนอยู่หน้าห้อง
   “ไม่เป็นไรครับอาจารย์ พอดีผมแวะมาดูน้อง ๆ จัดซุ้มรับน้องน่ะครับ ก็เลยขึ้นมาทักทายอาจารย์เฉย ๆ ครับ" ไม้ตอบออกไป ก่อนจะยื่นกล่องโดนัทกล่องหนึ่งไปให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า "ผมซื้อมาฝากครับอาจารย์"

   “ขอบใจจ๊ะ" อาจารย์สาวยื่นมือไปรับ...

   ในขณะที่ไม้กำลังพูดคุยกับอาจารย์สาวอยู่นั้นกลับมีร่างหนึ่งที่กำลังยืนจ้องบอร์ดรายชื่อหน้าห้องพักอาจารย์ตาเขม็ง เพราะนอกจากอาจารย์เก่า ๆ หลายท่านที่คุ้นหน้าคุ้นตาแล้วกลับมีอาจารย์ท่านหนึ่งที่แม้จะไม่ได้สอนมิวส์ในยามที่มิวส์เป็นนักศึกษาแต่ทว่าเขากลับจดจำอาจารย์ท่านนี้ได้ดีกว่าใครเลยล่ะ

   “ก้องภพ เกียรติขจร" มิวส์เอ่ยชื่อของอาจารย์หนุ่มที่อดีตเคยเป็นคนรักเก่าด้วยความตกใจ ...ทำไมก้องถึงมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้ ทั้ง ๆ ที่เคยบอกเสมอว่าไม่อยากเป็นอาจารย์ ต่อให้ใครบังคับให้ตายยังไงก็ไม่มีวันจะทำอาชีพนี้แน่นอน ขนาดมิวส์ที่เห็นความสามารถในด้านการเรียนและการอธิบายงานให้เพื่อน ๆ ฟังยังยุยงให้เป็นอาจารย์ตั้งหลายครั้ง แต่ก้องก็ปฏิเสธทุกครั้งไป

   10 ปีที่ผ่านมาก้องอยู่ไม่ไกลจากเขาเลยสักนิด ทั้ง ๆ ที่อยู่ใกล้แค่นี้แต่ทำไมหมอนี่ถึงไม่เคยโผล่หน้าไปให้เห็นที่หอพักเลยสักครั้ง ...ทำไมกันนะ








จบตอน
----------------------

คุยกับคนอ่านที่น่ารักครับ

คุณ มยอนฮวา :: ^^" เป็นการทำโทษที่สะใจกระผมมากๆ เลยครับ ได้แกล้งมิวส์ เอิ้กๆ
คุณ iamnan :: 555++ มิวส์เจ็บ (เจ็บแล้วต้องจำได้นะมิวส์คราวหลังอย่าทำอีก) T^T
คุณ mindmaru :: ถอดแบบมาจากคนเขียนเป๊ะ ๆ เลยครับความรุนแรง (ไม่ใช่ละ)
คุณ mentholss :: 555+++ กระสอบทรายน่าจะเหมาะกว่าครับ
คุณ mukmaoY :: 555+++ เดี๋ยวให้ไม้ทำแทนนะครับ T^T
คุณ  เกเร :: หุหุ มิวส์ฝากมาบอกว่า แอบกินตอนเจ้านายหลับทุกคืน (อะจึ๋ย ใช่มะหนูมิวส์)
คุณ Chichi Yuki :: เม้นท์ยาว ๆ ชอบเลยครับ เต็มที่เลยเน้อ ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 26-07-2013 15:18:54
รอตอนหน้าอย่างใจจดใจจ่อ อยากรู้อ่ะว่ามิวเจอก้องจะเป็นยังไง

บางทีมิวอาจจะรอก้องอยู่ก็ได้ เหมือนติดค้างอยู่ที่ก้อง รอจ้ารอ :katai4:

ปล. ยิ่งอ่านเค๊าก็ยิ่งรู้สึกสั้นอ่ะ อ่านจบไวมาก ติดจริงๆเรื่องนี้ :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 26-07-2013 15:25:44
ก้องโผล่มาซักที นึกว่าตายไปแล้วนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 26-07-2013 16:00:36
อยากรู้ๆ
ก้องภพเป็นยังไงบ้าง?
มีเมียหรือยัง?
ยังรักมิวส์อยู่ไหม?
อั๊ยๆ คำถามมากมายเลยนะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: เกเร ที่ 26-07-2013 16:17:14
แง่มๆ กินทุกคืนแล้วทำไมไม่เล่าสู่กันฟังบ้างละอ๊ากกก
ก้อง กลายมาเป้นอาจารย์ เพราะว่ามิง หรือป่าว ไอ้คนนี้ปริษณามันเยอะจริง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 26-07-2013 16:33:26
ง่าาา มีปมโผล่มาอีกแล้ววว
รอๆๆๆๆ
จิ้มเป็ดให้จ้า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 26-07-2013 16:40:25
ได้อ่านทีเดียว 2ตอนเลย สุดท้ายมิวส์ก็โดนไม้จับได้เรื่องปรับเวลา
ดีนะอยู่นอกสถานที่ เลยโดนทำโทษนิดหน่อยแค่พอให้มิวส์ได้เสียว  เจ็บก้นสมใจไหมจ๊ะมิวส์
ทีเดียวกระเด็นเลยขนาดเป็นวิญญานนะเนี่ย 5555
แล้วช่างบังเอิญจริ๊งไม้ก็ดันเรียนคณะเดียวกับก้องพอดี
มันต้องมีเงื่อนงำ ความเกี่ยวโยงกันบางอย่างระหว่างก้องกะไม้แน่นอน (เดาเอา 555 )
รอติดตามจ้า อยากรู้ว่าที่ผ่านมาก้องเป็นยังไงบ้าง มาเป็นอาจารย์ได้ยังไงแถมยังอยู่ใกล้ ๆ มิวส์แค่นี้ด้วย
ก้องอาจจะเสียใจ และรู้สึกผิดกับเรื่องของมิวส์อยู่ก็ได้น๊า สงสารมิวส์จัง  :monkeysad:


หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 26-07-2013 19:30:40
จะเจอก้องภพ แล้วววววว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 26-07-2013 20:47:36
ถ้าก้องกลับมาดี มิวส์ก็จะได้ไม่น่างสารสักที 555555 (หัวเราะทำไม) :z2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 26-07-2013 22:05:35
สมน้ำหน้ามิวส์  เจ้าเล่ห์ดีนัก  ไม้คงไม่ได้คู่กะมิวส์หรอก  อยู่กะแม็กกี้มาตั้งหลายปี  มันย่อมเกิดเป็นความรักสองคนที่ผูกพันธ์กันแน่นอน  แม่กะก้องภพมีอะไรในกอไผ่รึเปล่า  ผมเชียร์ให้เจ้าผีมีคู่ที่ไม่ใช่ไม้  คนแต่งบอกแล้วว่าเรื่องนี้ตัวละครเอกมีมิวส์  แม็กกี้  ไม้  แสดงว่ามันต้องไม่มีคู่ให้ใครคนใดคนหนึ่งอ่ะสิ  Thank ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 26-07-2013 22:33:33
ก้องภพ? อาจจะไม่ได้เลวอย่างที่คิดรึเปล่า?
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 27-07-2013 13:55:50
ไปเจออาจารย์ของไม้เหรอ
อะไรๆคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 27-07-2013 19:50:49
ไม้โหดไปไหม????? แต่หน่อมแหน่มก็หาเรื่องใส่ตัวจริงๆแหละ 555
ว่าแต่อยากรู้เรื่องของก้องมากกกกก เกิดอะไรยังไงหลังจากที่หน่อมแน้มตาย
หรือว่าก้องกลับใจแล้วมาคู่กับมิวส์ตามเดิม อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 28-07-2013 14:33:36
รอตอนต่อไปค่ะ
เจอก้องภพแล้วจะเป็นยังไงบ้างล่ะเนี่ย

ตอบค่ะ 3P. คือสุขสันต์อยู่กันแบบสามคนค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 28-07-2013 22:13:13
เรื่องของก้องนี่ชักแปลกๆละ ความจริงคืออะไรรรรรรรรร   :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 30-07-2013 21:46:57
ชักจะน่าสนุกขึ้นมาอีกแล้วสิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่13]- 26/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 31-07-2013 16:49:34
ตอนที่ 14....  :-[


        “ก้อง...” มิวส์เรียกชื่อของคนรักเก่าอีกครั้ง... ภาพของผู้ชายที่มีผมยาวประมาณติ่งหูแต่ตัดให้เข้าทรงของก้องในตอนนี้ดูดีกว่าเมื่อก่อนมาก หน้าตาที่สุขุมบุคลิกที่เงียบขรึมแบบในอดีตช่างขัดกับภาพที่เห็นในยามนี้เหลือเกิน เพราะหากพิจารณาจากภาพถ่าย แววตาอันหวานคมที่ถูกแต่งแต้มบนใบหน้าที่ขาวเนียนแต่กลับให้ความรู้สึกคมเข้ม? มันทำให้ก้องในยามนี้มีเสน่ห์กว่าเมื่อก่อนหลายร้อยเท่า

   ยิ่งคิด... ความเจ็บปวดในจิตใจก็ยิ่งรุมเร้า เหตุการณ์ในอดีตที่เคยมีความสุขด้วยกันและความหวังที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่คู่กันไปเรื่อย ๆ มันยิ่งตอกย้ำบาดแผลที่ระบมมานานนับสิบปี แม้จะเป็นวิญญาณติดที่ แม้จะพยายามไม่นึกถึงเรื่องเก่า ๆ แต่พอได้เห็นรูปของเขาที่แปะอยู่หน้าบอร์ดรายชื่ออาจารย์ประจำสาขาเท่านั่นแหละ ความรู้สึกเสียใจที่สุดในชีวิตในวันที่โดนบอกเลิกก็หวนกลับมาทำร้ายมิวส์อีกครั้ง

   'เราเลิกกันเถอะ' แล้วประโยคที่เป็นสาเหตุทำให้มิวส์ต้องมาตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชแบบนี้เมื่อสิบปีก่อนก็ดังขึ้นมาในโสตประสาท มันดังถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จนมิวส์เริ่มควบคุมตัวเองไม่ไหว ท้ายที่สุดสติสตังค์ของวิญญาณหน่อมแน้มก็หายไป ดวงตาที่เคยใสซื่อบริสุทธิ์ไม่ต่างจากมนุษย์กลับกลายเป็นสีแดงฉานราวกับวิญญาณอาฆาตจนน่ากลัว

   “ไม่!!!” น้ำเสียงที่ตะคอกขึ้นมาของวิญาณที่กำลังเพ่งมองบอร์ดรายชื่ออาจารย์อยู่ด้านนอกทำให้ไม้ต้องหันไปมองด้วยความตกใจ พอเห็นสภาพที่เปลี่ยนไปของมิวส์เขาก็ต้องตกตะลึงทันที

   “มีอะไรเหรอไม้" อาจารย์สาวที่จู่ ๆ ก็เห็นลูกศิษย์หันหน้าไปมองด้านข้างอย่างกะทันหันเอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “อ๋อ... เปล่าครับ งั้นเดี๋ยวผมขอตัวกลับก่อนนะครับ สวัสดีครับ" พูดจบก็ยกมือไหว้

   “จ๊ะ ๆ กลับบ้านดี ๆ นะ" อาจารย์สาวตอบรับก่อนที่จะปิดประตูห้องแล้วล็อกกลอนอย่างแน่นหนา

   “มึงเป็นอะไร" ไม้เอ่ยถามร่างของวิญญาณหน่อมแน้ม แม้น้ำเสียงจะฟังดูกระโชกโฮกฮากแต่ในใจของเขาในยามนี้กำลังเป็นห่วงหมอนี่ที่สุด

   “ไม่!!!” มิวส์ตวาดขึ้นอีกครั้งราวกับวิญญาณบ้าคลั่ง พอหันมามองร่างสูง ๆ กำยำที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ความเสียใจก็ยิ่งถาโถมหนักขึ้นไปอีก เพราะใบหน้าที่มองเห็นในยามนี้ของไม้กลับกลายเป็นใบหน้าของก้อง "กูไม่อยากเลิกกับมึง เข้าใจไหมว่ากูไม่อยากเลิกกับมึง”

   สิ้นเสียง... ดวงตาสีแดงของดวงวิญญาณก็เหลือกถลนจนดูน่ากลัว มือที่ไม่เคยทำร้ายใครกลับเอื้อมไปจับที่คอของไม้และออกแรงบีบจนแน่น

   ร่างของคนที่โดนทำร้ายหายใจติดขัดขึ้นมาทันที โชคดีที่ไม้แข็งแรงพอที่จะออกแรงกระชากมือของวิญญาณร้ายให้ออกจากลำคอได้

   “มึง! ตั้งสติให้ดีดิวะ ไอ้มิวส์! ไอ้มิวส์!! มึงได้ยินไหมวะ" ไม้เอ่ยขึ้น ...ความจริงแล้วเขาจะวิ่งหนีแล้วทิ้งหมอนี่ไว้ตรงนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวเองก็ได้ แต่ทว่าสำหรับมิวส์ ไม้กลับทำอย่างนั้นไม่ได้จริง ๆ และแม้จะยังงุนงงสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่เขาก็ตั้งปณิธานในใจแล้วว่าจะต้องช่วยหมอนี่ให้ได้ จนท้ายที่สุดไม้ก็ตัดสินใจเอื้อมมือไปคว้าแขนของวิญญาณบ้าคลั่งแล้ววิ่งนำเข้าไปในห้องเรียนห้องหนึ่งก่อนจะปิดประตูให้เสียงเบาที่สุดเพื่อไม่ให้อาจารย์ที่อยู่ในห้องพักได้ยิน

   แม้ว่าห้องจะมืดมิดไร้แสงไฟมองไปทางใดก็น่ากลัวว่าจะมีสิ่นเร้นลับซ่อนอยู่ แต่ทว่ามันไม่ได้ทำให้คนจิตแข็งอย่างไม้หวาดหวั่นเลยสักนิด เพราะตอนนี้สิ่งที่เขาสนใจมีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นซึ่งนั่นก็คือ 'มิวส์'

   มิวส์ยังคงตาแดงก่ำเพราะควบคุมสติตัวเองไม่ได้แต่ ความอาฆาตแค้นที่สะสมไว้ในจิตใจได้ปะทุออกมาจนทำให้เขาต้องกลายเป็นแบบนี้ โชคดีที่ตอนนี้เขาไม่ได้ลงมือทำร้ายไม้แต่อย่างใดหากแต่ร่างกายที่สั่นเทิ้มราวกับเจ้าเข้าและมือที่กุมขมับของตัวเองราวกับกำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดอะไรบางอย่างอาจจะด้านร่างกายหรือจิตใจที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ไม้ได้แต่มองดูด้วยความรู้สึกสงสาร ...และไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือได้อย่างไร

   เกิดเสียงร้องโอดโอยราวกับได้รับความเจ็บปวดหนักที่สุดในชีวิตสลับกับคำหยาบที่พ่นออกมาด่าทออดีตคนรักเก่าไม่ขาดสาย

   “โอ๊ยยยย....” มิวส์ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงแหลมสูงเพราะตอนนี้เขากำลังรู้สึงถึงความเจ็บปวดไปทั่วร่างไม่ต่างจากวันที่ตกจากระเบียงห้องพัก ...หากเป็นคนปกติตกจากที่สูงแบบนั้นคงหมดลมหายใจแล้วไร้ซึ่งความทรมาน แต่กับวิญญาณที่ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิดอย่างมิวส์แล้วมันไม่ใช่

   ความเจ็บปวดบนใบหน้าตลอดจนแขนและขาที่ราวกับว่ากระดูกกำลังหัก รวมถึงระบบภายในช่องท้องที่ปั่นป่วนทำให้มิวส์ทรมานสุดใจขาดดิ้น

   “เพราะมึง...” แล้วความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ส่งผลทำให้มิวส์นึกถึงใบหน้าของผู้ที่เป็นต้นเหตุทันที

   ท่ามกลางความสับสนงุนงงที่เกิดขึ้น แม้จะไม่เข้าใจว่ามิวส์กำลังเป็นอะไร แต่ความห่วงใยที่ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ส่งผลให้ไม้ต้องโผเข้าไปกอดร่างของวิญญาณที่กำลังดิ้นทุรนทุรายด้วยความทรมานทันที

   สัมผัสที่อบอุ่นจากชายหนุ่มผู้ที่มีแต่ความจริงใจทำให้มิวส์ที่ปล่อยให้ความแค้นเข้าครอบงำเริ่มกลับมาควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีกครั้ง

   พอเห็นว่าร่างที่เคยสั่นผวาทุรนทุรายแน่นิ่ง ชายหนุ่มร่างสูงก็ยิ่งออกแรงกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก มันเป็นอ้อมกอดที่เขาไม่สามารถอธิบายได้ว่ากำลังรู้สึกอย่างไร มันไม่ใช่ความรักแบบที่เขามีให้กับแม็กกี้แต่มันน่าจะเป็นแห่งความห่วงใยที่ไม่อยากให้วิญญาณตนนี้้เจ็บปวดอีกต่อไป

   “เจ้านาย...” วิญญาณที่เคยดุร้ายเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว

   “มึงไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหม" ไม้กระซิบกลับที่ข้างใบหูทั้งที่กำลังกอดร่างของวิญญาณด้วยความแนบแน่น ชั่วครู่มือข้างหนึ่งก็ถูกยกขึ้นไปสัมผัสกับศีรษะของวิญญาณในอ้อมกอดเบา ๆ "รู้ไหม... เมื่อกี้กูโคตรกลัวเลย...”

   “ผมขอโทษ" มิวส์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นไหว แม้ว่าจะไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปบ้างแต่ก็พอจำได้ราง ๆ ว่าเมื่อครู่ตนเองกำลังขาดสติจนทำอะไรไม่ดี ๆ ออกไป "ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ้านายกลัว...”

   สิ้นเสียง... ถ้าหากมิวส์มีน้ำตามันก็คงจะไหลลงมาท่วมใบหน้าไปแล้ว เพราะเขาไม่เคยคาดคิดว่าจะได้ยินเจ้านายสุดโหดที่ไม่เคยกลัวอะไรต้องเอ่ยคำว่า 'กลัว' ออกมา แต่ทว่า...

   “กูไม่ได้กลัวว่ามึงจะทำอะไรกู แต่กูกลัวว่ามึงจะเป็นอะไรไปแล้วไม่ได้กลับไปที่ห้องพักกับกู" สิ้นเสียงของไม้... มิวส์ก็แทบจะยั้งร่างกายให้ยืนต่อไปไม่ไหว ความจริงใจของเจ้านายทำให้มิวส์รู้สึกซาบซึ้งอย่างไม่เคยเป็น อาจเป็นเพราะอดีตที่โหดร้ายมันยังคงฝังใจเลยทำให้พอได้มีโอกาสเจอใครสักคนที่มีแต่ความจริงใจเลยทำให้จิตใจของมิวส์กำลังสับสน

   ...มันเป็นเพียงแค่ความทราบซึ้งในสิ่งที่แสดงออกมาหรือว่าความรักกันแน่นะ...

   ไม่รู้ว่าเพราะบรรยากาศเป็นใจหรืออย่างไรเลยทำให้ไม้ตัดสินใจทำในสิ่งที่ผิดมหันต์ เพราะสิ่งที่เขากำลังจะทำมันเป็นการหักหลังความไว้เนื้อเชื่อใจที่แม็กกี้มีต่อเขามาตลอดตั้งแต่ที่ตัดสินใจคบกัน

   ไม้คลายอ้อมกอดด้วยความละมุนละไมก่อนที่จะเอื้อมมือไปเชยค้างของวิญญาณหน่อมแน้มให้เงยขึ้น ดวงตาสองคู่ที่จับจ้องกันทำให้จิตใจของพวกเขากำลังหวั่นไหว แม้ไม่รู้ว่าตอนนี้มิวส์จะรู้สึกอย่างไรแต่ความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นทำให้ไม้ตัดสินใจบรรจงก้มหน้าลงไปหากับใบหน้าของร่างที่เล็กกว่าจนท้ายที่สุดริมฝีปากของหนึ่งคนกับอีกหนึ่งวิญญาณก็สัมผัสกัน

   ภายในห้องที่มืดมิด ร่างสองร่างกำลังถ่ายความรู้สึกทั้งหมดผ่านทางริมฝีปากของกันและกันจนกระทั่งผ่านไปได้สักพัก ไม้ก็ตัดสินใจผละริมฝีปากออกมาก่อนที่จะหันหลงแล้วเดินไปที่บริเวณประตู

   “กูขอโทษ" ไม้เอ่ยขึ้น... เพราะอารมณ์ชั่ววูบและบรรยากาศที่เพิ่งผ่านเรื่องร้าย ๆ มาเลยทำให้เขาลืมตัวจนกระทั่งเผลอทำอะไรที่น่าอับอายออกไป

   “ไม่เป็นไรครับ" มิวส์ตอบกลับด้วยความสัตย์จริง เขาไม่ได้โกรธหรือเกลียดไม้เลยสักนิดที่ทำอะไรแบบนี้ กลับกันเขายังรู้สึกชอบและอยากให้ทำให้นานกว่านี้อีก แต่ทว่าคำพูดประโยคถัดมาของไม้ก็ทำให้วิญญาณอย่างมิวส์ถึงกับสะอึก

   “ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ซะ...” เสียงราบเรียบไร้ความรู้สึกของไม้ทำให้มิวส์เจ็บปวดขึ้นมาดื้อ ๆ รู้ทั้งรู้ว่าไม่ได้เป็นอะไรกัน รู้ทั้งรู้ว่าตนเองเป็นแค่วิญญาณ แต่ทำไมถึงไม่ยอมข่มใจแล้วระงับความรู้สึกที่มีทั้งหมดเอาไว้ไม่ให้มันเกินเลยนะ

   “ครับ" มิวส์ฝืนตอบออกไป จะให้เขาลืมความรู้สึกที่แสนวิเศษที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ได้ง่าย ๆ อย่างไรกันล่ะ

   “กลับกันเถอะ" ไม้เอ่ยอีกครั้งก่อนจะเปิดประตูแล้วเดินนำจากไป โดยไม่หันมามองข้างหลังอีกสักนิด ไม่หันมามองใบหน้าของวิญญาณที่จิตใจกำลังอ่อนแอ

   มิวส์เดินก้มหน้าคอตกตามร่างของเจ้านายไปอย่างเชื่องช้าแล้วได้แต่โทษโชคชะตาที่เล่นตลกกับเขาทำให้เขาต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้

   ท่ามกลางความมิืดมิดบนท้องนภายามราตรียังมีแสงไฟสลัว ๆ ที่ส่องผ่านตามทางเดินจากตัวตึกไปยังจุดจอดรถมอเตอร์ไซค์ทำให้มองเห็นตลอดทาง

   ไม่มีเสียงพูดคุยใด ๆ เกิดขึ้นในขณะที่ร่างของพวกเขากำลังย่างเท้าเดินไป มิวส์จะรู้ไหมว่าไม้เองก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างจากเขาสักเท่าไรนัก

   ที่ต้องทำเป็นนิ่งเงียบ เคร่งขรึม ก็เพราะว่าเขาไม่อยากที่จะกระทำผิดกับแม็กกี้ ส่วนที่ก่อนหน้านี้เคยอนุญาตให้ทำอะไรกับร่างกายได้นั้นก็เพราะว่าเป็นฝ่ายของมิวส์ที่กระทำเพียงฝ่ายเดียวเขาเลยยังไม่รู้สึกผิดสักเท่าไหร่ แต่การสัมผัสริมฝีปากของกันและกันเมื่อครู่ ผู้ที่จู่โจมก็คือเขา... แล้วเหตุนี้จะให้ไม้ทำตัวปกติได้อย่างไร

   “เจ้านาย...” หลังจากที่เงียบกันมานานมิวส์ก็เป็นฝ่ายที่เอ่ยขึ้นก่อน

   “มีอะไร" ไม้ตอบรับด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมมากกว่าปกติ

   “ไม่มีอะไรครับ...” ทั้ง ๆ ที่กะจะบอกให้เจ้านายไม่คิดอะไรมากและยินดีที่จะลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้ แต่ทว่าพอได้ยินเสียงของไม้เท่านั้นแหละ... ปากที่เคยพูดไม่หยุดกลับเกร็งจนไม่กล้าขยับ ด้วยกลัวว่าถ้าพูดออกไปแบบนั้นอาจจะทำให้ไม้ตัดสินใจที่จะเว้นระยะห่างกับตนเองมากขึ้น เพราะฉะนั้นให้มันเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

   ...มันเป็นความรู้สึกดี ๆ จากคนจริงใจที่วิญญาณยังไม่สิ้นอายุขัยอย่างมิวส์อยากเก็บเอาไว้ก็แค่นั้น อย่างน้อยนับตั้งแต่วันที่เขาสิ้นลมหายใจ เขาก็ยังได้รู้ว่ามีใครคนหนึ่งที่ห่วงใยเขามากจนเขาเองก็ไม่เคยคาดคิดว่าจะมีใครมาทำอะไรเพื่อเขามากมายขนาดนี้

   “ไอ้มิวส์...” คราวนี้เป็นเสียงของไม้ที่เอ่ยขึ้นบ้าง

   “ครับเจ้านาย...” มิวส์ตอบรับด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว ใจก็ลุ้นระทึกว่าเจ้านายของเขาจะพูดอะไรต่อไป

   “มึงรู้สึกยังไง..." ตอนที่มึง... ยังไม่ทันที่ไม้จะพูดจบ เสียงของมิวส์ก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อน

   “ชอบครับ" มิวส์ก้มหน้าตอบ ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ที่เขาจะต้องเล่นตัวหรือโกหกออกไปเพราะความขวยเขิน ก็ตอนนั้นเข้ารู้สึกชอบจริง ๆ แถมยังชอบมากด้วยที่โดนเจ้านายของเขาจูบ ...แต่ทว่า

   “ไอ้เชี่ย!” ไม้ตวาดเสียงดังก้อง "มึงคิดว่ากูจะถามอะไร"

   “อ้าว...” มิวส์ขมวดคิ้วด้วยความฉงน ถ้าเจ้านายไม่ได้หมายถึงตอนที่จูบแล้วเขาจะหมายถึงเรื่องอะไรกันล่ะ "เจ้านายไม่ได้หมายถึงตอนนั้นหรอกเหรอครับ"

   พูดจบก็ก้มหน้าหลบสายตาด้วยความเขินอาย... มันไม่ใช่การกระทำที่เกิดจากความรู้สึกจริง ๆ ของมิวส์หรอก เขาก็แค่อยากแกล้งดัจริตทำตัวให้ดูน่ารักก็เท่านั้น

   “ก็เออสิวะ...” เห็นท่าทางของมิวส์ก็พอจะเดาได้ว่าไอ้วิญญาณสุดหื่นกำลังนึกถึงเหตุการณ์ไหน

   “แล้วเจ้านายหมายถึงเรื่องอะไรล่ะ" มิวส์เอ่ยถามด้วยความอยากรู้

   “ช่างมันเถอะ...” ไม้ตอบก่อนที่จะลอบยิ้มออกมา... ความจริงแล้วเขาคิดจะถามถึงความรู้สึกตอนที่มิวส์ควบคุมสติตัวเองไม่อยู่จนตาเหลือกถลนและจ้องจะทำร้ายร่างกายเขาต่างหาก แล้วก็อยากจะรู้ว่าที่เป็นแบบนั้นเพราะสาเหตุอะไร แต่ทว่าพอได้ฟังคำตอบที่เข้าใจผิดของมิวส์มันก็ทำให้ไม้รู้สึกดีแปลก ๆ จนไม่อยากจะคิดถึงเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ บางทีมิวส์อาจจะแค่คิดถึงอดีตของเขากับคนรักเก่าที่เคยเรียนด้วยกันที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้เลยทำให้เขาขาดสติไปชั่ววูบก็เป็นได้

   ...แต่ไม่ว่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะมีสาเหตุมาจากอะไร ไม้ก็ได้แต่สัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะต้องดูแลปกป้องหมอนี่ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม้ยอมรับว่าหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากปากของมิวส์ เขาก็รู้สึกสงสาร เพราะหมอนี่ไม่มีที่พึ่งอื่นแล้ว และอย่างน้อยการที่ได้พูดคุยแล้วแกล้งทำเสียงโหด ๆ กิริยาเถื่อน ๆ ใส่ มันก็น่าจะช่วยคลายเหงาให้ไอ้วิญญาณตนนี้ได้บ้าง ดีกว่าปล่อยให้มันอยู่ตามลำพังแล้วเก็บความอาฆาตไปอาละวาดกับคนอื่น ๆ

   “เจ้านายยิ้มอะไร...” สงสัยจะคิดอะไรเพลิน ๆ นานไปหน่อย ปากที่เคยลอบยิ้มก็เลยเผลอยิ้มออกมาซะจนแก้มแทบปริจนไอ้วิญญาณหน่อมแน้มสังเกตเห็น

   “ยิ้ม?” ไม้ทวนคำ เขาเพิ่งตั้งสติได้หลังจากที่ได้ยินเสียงของมิวส์ "ยิ้มอะไร เปล่านี่ ตาฝาดไปมั้ง"

   “ไม่ฝาด" มิวส์เดินเข้าไปใกล้ ๆ พลางจ้องใบหน้าของไม้ตาเขม็งราวกับจะจับผิดและหาคำตอบให้ได้ว่าทำไมจู่ ๆ เจ้านายของเขาก็ยิ้มออกมา "ตกลงเจ้านายยิ้มอะไร แล้วตกลงเรื่องที่ถามผมว่ารู้สึกยังไงมันคืออะไรกันแน่"

   “กลับกันเถอะ" ไม้เบือนหน้าหนีจากการโดนจับจ้องก่อนจะคลี่ยิ้มแล้วรอบขำออกมาพร้อมกับเดินตรงไปให้ถึงที่หมายซึ่งก็คือจุดที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ให้ไวที่สุด โดยไม่สนใจเสียงโวยวายของไอ้วิญญาณนหน่อมแน้มที่เดินตามหลังมาติด ๆ สักนิด

   “เจ้านาย!!! โอยยย ตกลงเจ้านายยิ้มอะไร แล้วเจ้านายจะถามอะไรผม มันคาใจ รู้ไหม รู้ไหม... มันแน่นอกไปหมดแล้ว”

   แล้วค่ำคืนแห่งความวุ่นวายก็จบลง... โดยที่ความสัมพันธ์ของหนึ่งคนกับอีกหนึ่งดวงวิญญาณกำลังก่อตัวเพิ่มขึ้นทีละนิด โดยที่พวกเขาเองก็ไม่รู้ตัว ถ้าคืนนี้ไม้ไม่ตัดสินใจที่จะพูดอะไรกับมิวส์ ก็ไม่แน่ว่าพวกเขาทั้งสองอาจจะเดินทางกลับหอพักด้วยความอึดอัดเพราะมัวแต่คิดมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นได้

   'ให้มันเป็นอย่างนี้ต่อไปเถอะนะไอ้มิวส์'







จบตอน
-----------------------

คุยกับนักเขียนครับ >.<

คุณ naruxiah :: ^^ แหะๆ พอดี สับบทนึงแบ่งมาลงเป้นสองตอนอ่าครับ ถ้าลงตอนเดียวเต็มอาจจะรอนานเกิน T^T มันเลยดูสั้นๆ ไปนิด
คุณ ชะรอยน้อย :: ก้องยังไม่ตายครับ 555+++ แต่ตอนนี้มาแค่รูปเน่อ เดี๋ยว รส กลิ่น เสียงและร่างกายคงจะตามมา
คุณ Chichi Yuki :: ท่านได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้ แต่ต้องรอเฉลยที่ละอย่างๆ ในตอนต่อๆไปนะครับ คิๆ
คุณ เกเร :: 555 ไม่เล่าหร๊อก เดี๋ยวมิวส์เขิน
คุณ mentholss :: ขอบคุณคร้าบ >.<
คุณ Lily teddy :: 555 เรื่องปรับเวลานี่เจ็บก้นสมใจมิวส์แล้วครับ แต่เอ๊ะ!? มันเจ็บคนละแบบหรือเปล่าหนอ >.<
คุณ sang som :: ยังครับ ยังไม่เจอ อดใจรออีกนิด
คุณ mukmaoY :: หึๆๆๆๆ หัวเราะอย่างมีเลศนัย
คุณ @Lucifer_Prince@ :: ท่านผู้นี้มาโหด 555 สมน้ำหน้ามิวส์เลย กรั๊กๆๆ สมด้วย เจ้าเล่ห์ดีนัก!!!
คุณ iamnan :: ก้องภพอาจจะไม่ได้เลวอย่างที่คิดหรือเปล่า ? อันนี้ต้องติดตามต่อไปครับผม
คุณ มยอนฮวา :: 'บังเอิญ' T^T แต่เดี๋ยวต้องมีสักฉากที่บังเอิญเจอกันงับ
คุณ Nus@nT@R@ :: เรื่องของก้อง... โปรดติตดามตอนต่อๆ ไปข้า ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ะครับ ^^
คุณ Fujoshi :: ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ T^T ตอนแรก 3P ก็นึกว่า 3 เศร้า มีหนึ่งคนต้องเศร้า... ว๊า สุขสันต์ 3 คนเหรอครับ คิดหนักเลย หึหึ
คุณ mindmaru :: ความจริง...ของเงื่อนงำ โปรดติดตามตอนต่อไปครับ ^^ คิคิ
คุณ hello_lovestory :: ^^ ขอบคุณที่แวะมาเม้นท์ให้นะครับ ฝากติดตามนิยายเรื่องนี้ด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 31-07-2013 17:13:48
เป็นไปได้ไหมที่เจ้านายจะเริ่มหวั่นไหว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 31-07-2013 18:07:44
อยากอ่านพาร์ทก้อง อยากรู้ว่ามีเบื้องหลังอะไรมั้ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 31-07-2013 19:28:26
มิวส์น่ากลัวอ่ะ
แต่ตอนนี้แอบหวานหน่อยๆเนอะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 31-07-2013 19:29:16
ใช่ๆเห็นด้วยกะ  ชะรอยน้อย  คัฟ  อยากอ่านพาร์ทก้องบ้าง  อยากรู้เบื้องลึกเบื้องหลัง  แต่ไม้อ่ะไม่ดีนะไปจูบมิวส์  แต่มิวส์อ่ะอย่าไปทำให้เค้าเลิกกันนะ  สงสารแม็กกี้  อยู่กันมาตั้ง4ปีอย่างน้อยมันต้องมีแน่ความผูกพันธ์ถึงไม้จะเคยพูดแบบนั้นก็เถอะ  หาคู่ให้มิวส์ด้วยนะคนเขียน  เรื่องจะได้ไม่เศร้า  ขอบคุณคัฟ  รอตอนต่อไป ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 31-07-2013 20:23:24
เฮ้ยยไม้  นี่เผลอไผลหัวใจให้ผีหน่อมแน้มแล้วก็นึกถึงความจริงบ้าง

ความจริงที่แสนเจ็บปวด :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: เกเร ที่ 31-07-2013 20:30:37
หวัดใจกับไม้แล้วละสิเฮ่อ :เฮ้อ:  แต่มิวเป็นผีนะ!!!!!`  :ling3:   ลุ้นต่อไปจบไม่สวยมีเฮ นะจ๊ะ
ชอบมิวในอิมเมจนิชคุณฮ่าๆเพิ่มความฟินได้อีกหลายเท่าตัว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 31-07-2013 20:46:28
คือตอนนี้รอ มิวส์จะได้เจอก้องมากๆเลย ยิ่งอ่านตอนนี้แล้ว ยิ่งอยากให้มันเจอกัน

ไม้ก็เผลอใจทีละนิด ทีละนิดจังเลยนะ ยิ่งอ่านยิ่งรู้สึกว่า มิวส์เป็นวิญญาณที่น่าสงสารมากอ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: shabushabu4 ที่ 31-07-2013 21:13:49
ไม่อยากให้มีคนเจ็บเลยอะ :sad4:

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 31-07-2013 22:10:49
ไม้เอ้ย มิวส์เอ้ย เรื่องนี้ดราม่าแน่ๆ ทำใจไว้ก่อน ฮึก !!!
ผู้เขียนครับขอความกรุณาด้วยนะคะ
ช่วยใส่หน้าที่ลงเอาไว้ให้ด้วยนะคะ
คือแบบว่ายากนิดนุง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 01-08-2013 11:01:26
แง  :serius2:  มันเกิดขึ้นจนได้ไอ้อาการเผลอตัวของไม้เพราะดันจุ๊ฟมิวส์ไปซะแล้ว
อย่างงี้แหละไอ้อาการเผลอใจ ต้องตามมาแน่ ๆ แม๊กกี้จ๋ากลับมาตอนนี้ยังทันไหมไม่รู้
เรื่องแบบนี้มีครั้งที่ 1 มันต้องมีครั้งที่ 2 แน่ ๆ งั้นฝากความหวังไว้ที่ก้องล่ะกันแต่จะได้ผลไหมน๊า
เพราะขนาดเห็นแค่ชื่อมิวส์ยังเป็นวิณญาณคลั่งไปซะแล้ว ถ้าได้เจอก้องตัวเป็น ๆไม่บุกฆ่าเลยเหรอ
 :เฮ้อ: แล้วนึกว่าจะได้รู้อะไรเกี่ยวกับก้องมากขึ้น สุดท้ายก้องก็ยังเป็นปริศนาต่อไป
รอติดตามจ้า แอบนึกถึงตอนจบไว้แล้วล่ะ เพราะเดาเอาเองว่าผู้เขียนต้องตั้งใจบอกใบ้ไว้ละมั่ง
แต่ไม่บอกหรอกเดี๋ยวผู้เขียนเปลี่ยน อิอิ (แต่จริง ๆ ผู้เขียนคงงงว่ายังไม่ได้บอกใบ้อะไรเล้ย มันเอาจากไหนมาหว่า 555 )  :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 01-08-2013 18:28:49
^ จิ้มๆLily  Teddy  เค้าก็คิดตอนจบไว้แล้วแต่ไม่รู้แบบเดียวกันรึป่าว  แต่เคยจับจุดได้บ้างอยู่  รอดูต่อไปว่าตอนจบจะเป็นแบบที่คิดป่าว  จบไงก็ช่าง  จบสวยๆเป็นพอ  รอตอนต่อไปจ้า^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-08-2013 14:54:31
คุยกับนักอ่านครับ  :katai2-1:

คุณ mentholss :: เป็นไปได้ครับ
คุณ ชะรอยน้อย :: ก้อง อีกแป๊บนึงก้องก็จะโผล่มาแล้วครับ
คุณ Nus@nT@R@ :: อ่ะน่า อย่ากลัวมิวส์เลยน๊า T^T
คุณ @Lucifer_Prince@ :: ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ แหะๆ ^^ ยังไงรอลุ้นตอนก้องและอื่นๆต่อไปด้วยนะครับ
คุณ mukmaoY :: ความจริงที่แสนเจ็บปวด... อ่านประโยคนี้เข้าไปจุกเลย  :katai1:
คุณ เกเร :: T^T มีเฮยังไงเอ่ย T^T  :hao4:
คุณ naruxiah :: ใกล้เจอกันแล้วครับ อีกแป๊บนึงอีกแป๊บจริงๆ คิคิ ^^
คุณ shabushabu4 :: ไม่อยากให้มีคนเจ็บ งั้นให้ผีเจ็บงับได้ครับ เอ๊ยย!!! ไม่ใช่แล้วล้อเล่นน๊า
คุณ มยอนฮวา :: ใส่หน้าที่ลงเอาไว้ยังไงอ่าครับ T^T ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ถ้าจะหาตอนใหม่คลิกได้ที่สารบัญหน้ากระทู้หน้าแรกเลยครับ
คุณ Lily teddy :: เอ๋!!?? บอกไบ้ อาราย ยังไงน๊อ แต่มีครั้งที่1ต้องมีครั้งที่สองแน่นอน *0* อันนี้รู้ใจกระผมจริงๆเลยครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-08-2013 14:55:26
ตอนที่ 15  :really2:





         ความปั่นป่วนชวนปวดหัวของวิญญาณติดที่กับความโหดร้ายของเจ้านายป่าเถื่อนทำให้ทั้งคู่ต้องมีปากเสียงกันทุกวัน ไม่ว่าจะทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เมื่อไหร่... มิวส์ก็จะต้องวุ่นวายกับไม้เสมอจนกระทั่งถึงวันรับน้องคณะ...

   มิวส์เหลือบมองไปดูนาฬิกาก็เห็นว่า 8 โมงเช้าแล้ว ซึ่งเป็นเวลาที่ไม้สั่งให้ปลุกแต่ทว่าเขายังไม่อยากลุกจากเตียงเลย... กอดเจ้านายบนเตียงนอนแบบนี้กำลังมีความสุขจะให้ปลุกเพื่อให้เจ้านายไปหาน้องหนิงอะไรนั่นน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ...

   แต่เหมือนว่าความปราถนาของมิวส์จะไม่เป็นผล เมื่อจู่ ๆ เจ้านายของเขาก็ดันพลิกตัวก่อนจะค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา

   “กี่โมงแล้ววะ" ไม้ติดนิสัยเอ่ยถามเวลาจากมิวส์ไปเสียแล้ว ทั้ง ๆ ที่จะหันไปมองนาฬิกาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะก็ได้แต่เขาก็ไม่ทำ

   “หกโมงครับ" แล้วไอ้วิญญาณไม่กลัวตายก็แกล้งโกหกอีกครั้ง "เจ้านายนอนต่อเถอะ ผมยังง่วง ๆ อยู่เลย นะนะ"

   “อืม...” พูดจบก็ทำท่าจะนอนต่อ แต่พอนึกได้ว่าวันนี้มีนัดต้องไปบอกรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยเรื่องรับน้องสาขาไม้ก็สะดุ้งขึ้นมาก่อนจะลุกไปดูนาฬิกาด้วยตนเอง

   “ไอ้มิวส์!!!” แล้วน้ำเสียงแห่งความเหลืออดก็ถูกตะคอกออกมา ไม่รู้ว่านี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่เขาโดนไอ้ผีเจ้าเล่ห์ตนนี้โกหกเรื่องเวลา

   “คร้าบ...” มิวส์ตอบด้วยเสียงเอื่อยเฉื่อยอย่างรู้ชะตากรรมล่วงหน้าว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เขานอนพลิกตัวก่อนจะหันหลังนิ่ง ๆ เพื่อรับรับการลงโทษ จะโซ่ แซ่ กุญแจมือ เทียนไข หรือไม้เรียวอะไรก็มาเถอะ เขาชินแล้วล่ะ

   “หึ!” ไม้พ่นลมหายใจออกมา "มึงคงจะชินแล้วสินะ"

   พูดจบก็เดินไปเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวจะไปมหาวิทยาลัย ส่วนมิวส์ที่นอนหันหลังรอรับการลงโทษได้แต่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าวันนี้เจ้านายกินอะไรผิดสำแดงหรือเปล่า ...ทำไมวันนี้ถึงยอมไม่ลงไม้ลงมือกับเขานะ

   หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ไม้ก็เดินไปหยิบเสื้อเชิ้ตแขนยาวกางเกงยีนส์ขายาวทรงเดฟที่มิวส์วางเอาไว้ให้บนเตียงมาสวมใส่

   “ทำไมวันนี้ถึงเป็นชุดนี้วะ" ไม้ถามด้วยความสงสัย เพราะร้อยวันพันปีหมอนี่ไม่เคยจะหยิบชุดที่ดูมิดชิดขนาดนี้มาให้เขาใส่เลยสักนิด

   “ก็เจ้านายจะไปมหาลัยไม่ใช่เหรอ ก็ต้องแต่งตัวมิดชิดหน่อย" มิวส์ตอบออกมา เขาก็แค่กลัวว่าเด็ก ๆ ที่มางานรับน้องจะอ่านกินเจ้านายของเขาเท่านั้นเอง

   “ไร้สาระ" ไม้พ่นลมหายใจก่อนที่จะพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นมาจนถึงข้อศอก เพราะร้อน ๆ แบบนี้ให้ใส่แขนยาวคงไม่ไหว

   “ไม่พับไม่ได้เหรอ" มิวส์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ แค่แขนของเจ้านายเขาก็ไม่อยากให้ใครเห็นแล้ว ยิ่งพอพับแขนเสื้อ มันยิ่งทำให้เห็นกล้ามแขนที่ต้นแขนชันเจนขึ้นไปอีก

   “ทำไม" ไม้เอ่ยถาม...

   “ก็...” มิวส์ตะกุกตะกัก จะพูดออกไปตรง ๆ ก็กลัวจะโดนหาว่าไร้สาระจึงได้แต่เหล่ตามองที่ต้นแขนแล้วขยับใบหน้าให้ชี้ไปทางนั้น แต่ผลมันก็ไม่ต่างกันนั่นแหละ เพราะไม่ว่าจะบอกด้วยวิธีไหนมันก็ไร้สาระอยู่ดี

   “ไร้สาระ!” แล้วไม้ก็บ่นออกมาจริง ๆ เสียด้วย แต่น่าแปลกที่เขากลับยอมเอาแขนเสื้อลงตามความต้องการของมิวส์ก่อนที่เดินออกจากประตูห้องไป

   “เย่... เจ้านายน่ารักที่สุดเลย" มิวส์ส่งเสียงร้องด้วยความดีใจพลางวิ่งตามไปติด ๆ จนกระทั่งไปถึงชั้นล่างลางสังหรณ์แปลก ๆ ก็ก่อเกิดขึ้นมาในจิตใจทันที

   “เจ้านายไม่แวะซื้อพวงมาลัยเหรอ แล้วธูปล่ะธูป ธูปที่จะเอามาขออนุญาตท่านเจ้าที่...” มิวส์เอ่ยถาม ...หวังว่ามันคงไม่ใช่อย่างที่เขาคิดนะ

   “กูบอกตอนไหนว่าจะให้มึงไปด้วย" คำตอบของไม้ทำเอาวิญญาณที่เพิ่งยิ้มแก้มปริตอนที่อยู่บนห้องมีอันต้องสลดลงทันที

   “เจ้านาย!!! เจ้านายทำแบบนี้ได้ไง ไม่ได้นะ ผมจะไปด้วย" มิวส์เอ่ยประท้วง พร้อมกับพยายามวิ่งดักหน้าเพื่อไม่ให้เจ้านายของเขาเดินไปยังจุดจอดรถมอเตอร์ไซค์ แต่ทว่าไม้ก็ไม่สนใจสักนิดแถมยังเดินทะลุร่างของมิวส์อีกต่างหาก

   ทันทีที่เสียงมอเตอร์ไซค์ดังขึ้นมิวส์ก็วิ่งไปจับท้ายมอเตอร์ไซค์ แต่ทว่าไม้ก็ไม่สน เขาบิดคันเร่งออกไปทันทีจนไอ้วิญญาณที่เกาะมอเตอร์อยู่นั้นต้องลอยตามไป

   กระทั่งไปถึงหน้ารั้วหอพัก... หลังจากที่มอเตอร์ไซค์ของไม้ผ่านพ้นรัศมีเขตรั้วออกไป ร่างของวิญญาณที่เกาะมอเตอร์ไซค์มาตลอดก็มีอันต้องกระเด็นหลุดออกไป เนื่องจากมีพลังงานบางอย่างบริเวณหน้ารั้วที่สะท้อนร่างของมิวส์ทำให้มิวส์ไม่สามารถออกจากหอพักไปพร้อม ๆ กับเจ้านายได้

   “เจ้านายใจร้ายที่สุด!!!” มิวส์ตะโกนให้หลังด้วยน้ำเสียงอันดังก้อง ไม้เพียงหันหน้ากลับไปดูพร้อมกับทำสีหน้าอารมณ์ประมาณว่า 'กูไม่รู้เรื่องนะ' ทั้งยักคิ้วทั้งเบ้ปากใส่ก่อนจะบิดคันเร่งออกไปไม่สนใจคำประท้วงใด ๆ ทั้งนั้น



   ภายในรั้วมหาวิทยาลัย วันนี้ถือได้ว่าเป็นวันแรกในช่วงปิดเทอมที่คึกคักที่สุด เสียงอึกทึกคึกโครมของเหล่ารุ่นพี่และว่าที่นักศึกษาใหม่ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วมหาวิทยาลัยสลับกับเสียงเครื่องดนตรี

   กว่าจะเดินไปถึงตึกคณะไม้ก็ต้องฝ่าสายตาอันเร่าร้อนของฝูงชนตลอดสองข้างทางไปจนเหนื่อน เขาไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าพาไอ้วิญญาณหน่อมแน้มมาด้วย แล้วจะต้องพบเจอกับอะไรบ้าง แต่ที่แน่ ๆ ต้องทนฟังมันบ่นจนหูแฉะไปทั้งวันเพราะสายตาที่แทะโลมมองมาไม่ขาดสายจากข้างทางเหล่านั้น

   ทันทีที่ไปถึงตึกคณะไม้ก็ตรงไปยังซุ้มรับน้องของสาขาที่ตัวเองเรียน ก่อนที่หนิงจะยิ้มให้พร้อมกับยกมือไหว้หนึ่งทีแล้วสั่งให้น้อง ๆ หันหลัง

   “น้อง ๆ คะ นี่พี่ไม้ชั้นปีที่สี่ค่ะ" หนิงเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอยังแจ๋นเสมอไม่เคยเปลี่ยน

   “สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ" น้อง ๆ ทุกคนเอ่ยขึ้นพร้อมกับยกมือไหว้ทันที จากนั้นพิธีการรับน้องก็ดำเนินต่อไป ส่วนหนิงได้ปลีกตัวจากเพื่อน ๆ มาคุยธุระกับไม้

   “ยังไม่ถึงเวลารวมคณะเหรอ" ไม้เอ่ยถามด้วยความสงสัยทันที เพราะนี่ก็ใกล้จะ 9 โมงเต็มทน เนื่องจากปีก่อน ๆ 9 โมงตรงก็รวมคณะกันแล้ว

   “ยังค่ะ ปีนี้รวมคณะเก้าโมงครึ่ง" หนิงตอบออกมา "ว่าแต่วันรับน้องแยกสาขาพี่ไม้ว่าไงคะ"

   “พี่จะมากับไอ้แม็กกี้นะ" ทันทีที่ได้ยินคำตอบของไม้ สายตาของรุ่นน้องสาวสวยก็ลุกวาวขึ้นมาทันที

   “จริงเหรอคะ" เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นสุดฤทธิ์ นอกจากรุ่นพี่สุดหล่อคนนี้แล้ว ยังมีรุ่นพี่อีกคนที่หล่อไม่แพ้กันแถมรายนั้นยังเป็นถึงเดือนคณะเมื่อตอนที่เรียนอยู่ชั้นปีที่ 1 อีกด้วย ...ถ้าได้รุ่นพี่สองคนนี้มาร่วมกิจกรรมด้วย มันคงทำให้โลกที่มืดมนกลยเป็นสีม่วง... เอ๊ย! สีชมพูแน่ ๆ เพราะเพื่อนร่วมชั้นของเธอไม่มีคนหน้าตาหล่อเหลาเข้าตาสักคน

   “จริงครับ" ไม้ตอบออกมา "ว่าแต่จะให้พวกพี่ช่วยอะไรหรือเปล่า"

   ที่ต้องถามก็เพราะวันรับน้องแยกสาขาคล้าย ๆ กับการเข้าค่ายลูกเสือสมัยที่เรียนอยู่ชั้นมัธยม เพราะนอกจากรุ่นพี่แต่ละสาขาวิชาจะแยกกันรับน้องแล้ว ในคืนนั้นเด็ก ๆ ทุกคนจะต้องนอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยพร้อมกับร่วมสนุกกับกิจกรรมที่พวกรุ่นพี่เตรียมไว้ให้ ส่วนใครที่ทางบ้านไม่อนุญาต จะไม่มาร่วมก็ไม่เป็นไร แต่ส่วนใหญ่ก็เห็นมากันเพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้ไม่มีเคยมีข่าวเสีย ๆ หาย ๆ เรื่องการรับน้อง แถมเวลาพูดคุยกับน้องก็พูดคุยดี ๆ มากกว่าที่จะตะคอกแกล้งให้น้อง ๆ กลัว

   “ตอนก่อนนอนคิดว่าจะจับกิจกรรมอะไรสนุก ๆ ค่ะ ไว้ถ้ามีอะไรให้ช่วยเดี๋ยวหนิงจะแจ้งอีกทีนะคะ" รุ่นน้องสาวสวยตอบออกมา พอเห็นรุ่นพี่หนุ่มหล่อกระตุกยิ้มทีเธอก็แทบอยากจะกรีดร้องออกมาดัง ๆ เพราะผู้ชายอะไรช่างหล่อและสุภาพชะมัด แต่เธอก็ไม่เคยคิดจะเอื้อมหรอกนะ แค่อยากดูจ้องมองให้ชื่นใจก็พอ "เอ้อ... พี่ไม้คะ หนิงรบกวนขอเบอร์โทรศัพท์พี่ไม้ด้วยนะคะ เผื่อมีอะไรต้องแจ้ง"

   “ได้ ๆ" พูดจบก็บอกเบอร์โทรศัพท์ให้หนิงทันที

   “แล้ววันนี้พี่ไม้มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ" หนิงเอ่ยถาม เพราะไหน ๆ รุ่นพี่สุดหล่อก็มาที่นี่แล้ว ถ้าจะให้กลับไปเลยก็คงจะดูเป็นการเสียมารยาท

   “เดี๋ยวพี่ต้องไปรับไอ้แม็กกี้ในเมืองต่อน่ะ" ไม้ตอบออกมา ที่ต้องรีบมามหาลัยแต่เช้าเพราะวันนี้แม็กกี้จะเดินทางมาที่ตัวเมืองเพื่อที่จะมาร่วมกิจกรรมรับน้องกับไม้





   เมื่อ 5 วันก่อนเรื่องมันมีอยู่ว่า...

   หลังจากที่ไม้ออกมาจากหอพักโดยไร้วิญญาณติดตามไปด้วย... ที่ต้องบอกว่าไร้วิญญาณติดตามเพราะมิวส์งอแงจะขอออกไปข้างนอกด้วย แต่ทว่าพอไม้เอาเรื่องของกินมาอ้าง ...ว่าหากไปด้วยจะไม่ซื้อของอร่อย ๆ ให้กิน มิวส์ก็เลยยอมที่จะรออยู่ที่นี่เพราะถึงอย่างไรของอร่อย ๆ มันก็ไม่ได้หากินง่าย ๆ ส่วนเจ้านายอย่างไม้จะกินเมื่อไหร่ก็ได้นอนอยู่ห้องเดียวกันมีเวลาถมเถไป

   และพอขับมอเตอร์ไซค์ออกมาจากหอพักได้สักระยะ ไม้ก็โทรศัพท์ไปหาแม็กกี้ทันที

   “มึง... วันเสาร์นี้ว่างไหม" ไม้เอ่ยขึ้นทันทีที่ปลายสายกดรับ

   “ว่าง มีอะไรหรือเปล่า" แม็กกี้ตอบกลับมา "คิดถึงกูเหรอไง"

   “เออ... กูคิดถึงมึงมาก ๆ วันเสาร์หน้ารุ่นน้องชวนไปรับน้องที่มหาลัย กูไม่อยากไปคนเดียวเลยอยากชวนมึงไปด้วย" ไม้เอ่ยถาม ความจริงแล้วเขาจะปฏิเสธรุ่นน้องไปก็ได้ แต่ที่ยังไม่เอ่ยปากปฏิเสธก็เพราะแม็กกี้เป็นคนที่ชอบเข้าสังคมและสนิทสนมกับรุ่นน้องรุ่นพี่ บางทีการเอาเรื่องรับน้องมาอ้างอาจจะทำให้ไม้ได้มีโอกาสเจอหน้าแม็กกี้ให้หายคิดถึงก็เป็นได้

   “ไม่ไป!” เหมือนว่าความหวังของไม้จะไม่เป็นผลเมื่อแม็กกี้ปฏิเสธด้วยความฉับไว ...ทีตอนที่อยากให้ง้อให้อยู่ด้วยไม่คิดจะง้อ แล้วจะมาขอให้ไปหาตอนนี้เพื่ออะไร ให้เขาต้องนั่งรถบัสกลับไปมาระหว่างจังหวัดมันน่าเบื่อจะตาย

   “จริงอ่ะ... งั้นมึงอย่าว่ากูนะ เห็นว่ามีรุ่นน้องน่ารัก ๆ เพียบเลย ไม่ไปก็ดีมึงจะได้ไม่ต้องมางอนกูทีหลังเพราะอย่างน้อยกูก็โทรมาชวนมึงแล้ว งั้นแค่นี้นะ...” ไม้แกล้งพูดซะยืดยาวอย่างแนบเนียน ...ที่ต้องเอาเรื่องรุ่นน้องน่ารัก ๆ มาอ้างก็เพราะว่าอยากจะแกล้งยั่วให้แม็กกี้หึงแล้วรีบเปลี่ยนใจกลับมาที่หอต่างหาก และเหมือนว่าความพยายามของไม้จะส่งผลเสียด้วยเพราะ...

   “เดี๋ยว!!!” แม็กกี้รีบเอ่ยขึ้นด้วยความฉับไว

   “อะไร... แค่นี้แหละกูหิวข้าวแล้ว" ไม้แกล้งขู่ไปอย่างนั้นเพราะรู้อยู่แล้วว่าหากใช้วิธีนี้แม็กกี้ต้องไม่กล้าปฏิเสธเขาแน่ ๆ

   “เดี๋ยวกูไป วันเสาร์สิบโมงมารับกูด้วย ห้ามให้กูไปถึงแล้วต้องนั่งรอมึงที่สถานีขนส่ง มึงต้องเป็นคนมารอกูเข้าใจไหม" แม็กกี้เอ่ยขึ้น ...เรื่องอะไรเขาจะยอมให้ไม้ไปหว่านเสน่ห์กับรุ่นน้องล่ะ หมอนี่ยิ่งหน้าตายั่วยวนเหล่าเกย์เพศรับอยู่ด้วย

   “คร้าบผม" ไม้ตอบด้วยน้ำเสียงเริงร่า เป็นอันว่าภารกิจในวันนี้จบลงไปอย่างสวยงาม





   หลังจากที่ปลีกตัวมาจากรุ่นน้องสุดสวยอย่างหนิง ไม้ก็รีบขับรถมอเตอร์ไซค์ไปรอแม็กกี้ที่สถานีขนสั่งจังหวัดในตัวเมืองทันที

   พอไปถึงก็เหลือบมองดูนาฬิกาปรากฏว่าเหลือเวลาอีกกว่า 20 นาทีกว่าที่แม็กกี้จะมาถึง ไม้เลยตัดสินใจโทรหาแม็กกี้

   “ใกล้ถึงยังครับ" ไม้เอ่ยขึ้นทันทีที่ปลายสายกดรับ

   “ใกล้แล้ว ทำไม มาถึงแล้วเหรอ" แม็กกี้เอ่ยถาม

   “ครับผม" ไม้ตอบ... ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้รู้สึกอยากเอาอกเอาใจแม็กกี้มากเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะเรื่องรถมอเตอร์ไซค์แล้วก็เรื่องของมิวส์อีกกระมัง

   ไม้เพียงรู้สึกว่าหลายวันมานี้เขาชักจะสนิทสนมกับมิวส์มากเกินไป ยิ่งพอนึกถึงเรื่องเหตุการณ์กลางดึกบนตึกคณะในคืนนั้น ยิ่งทำให้ไม้รู้สึกผิดในจิตใจจนอยากทำอะไรให้แม็กกี้เพื่อเป็นการไถ่โทษ ...แม้ว่าหมอนี่จะไม่รู้เรื่องก็เถอะ

   “รออีกแป๊บนึงสิ ใกล้ถึงแล้ว" แม็กกี้เอ่ยขึ้น ...ไม้จะรู้ไหมนะว่าเขากำลังอมยิ้มอย่างชอบใจ นี่ถ้าไม่ติดว่ามีคนนั่งอยู่เบาะข้าง ๆ ด้วยแม็กกี้คงจะบิดตัวเป็นเกลียวไปแล้ว ก็เวลาที่ไม้ทำน้ำเสียงออดอ้อนแล้วพูดจาสุภาพน่ะ มันเป็นอะไรที่น่ารักมากที่สุดในสามโลกเลยล่ะ มิหนำซ้ำการที่จะทำให้คนอย่างไม้แสดงกิริยาแบบนี้ได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย

   “ครับผม" ไม้ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเอาใจอีกครั้ง "ว่าแต่กินไรมายัง อยากกินไรรองท้องไหม เดี๋ยวหาซื้อไรแถวนี้เอาไว้ให้"
   “ยังไม่กิน" แม็กกี้ตอบ "แต่ไม่ต้องซื้อหรอก ไว้เดี๋ยวไปกินที่ร้านอาหารพร้อมกันเลยดีกว่า"

   “ได้คร้าบ...” พูดจบก็วางสายโดยที่ต่างฝ่ายต่างก็รู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ ในการที่จะได้พบเจอกันในครั้งนี้

   ไม่รู้เพราะอะไร... ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้พวกเขาต่างก็คุยกันโผงผาง ไม่เคยแสดงความหวานต่อกันสักนิด อยู่ไกลกันแล้วกลับมาเจอกันอีกครั้งก็ใช่ว่าจะไม่เคย แต่สำหรับในวันนี้มันเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้คนทั้งคู่ต่างรู้สึกว่ามันพิเศษกว่าครั้งอื่น ๆ

   ไม้นั่งรออยู่ที่ม้านั่งตรงชานชาลาประจำที่รถประจำจังหวัดของแม็กกี้มักมาจอดเทียบท่า และไม่นานมากนักรถที่แม็กกี้นั่งมาก็มาถึง

   ทันทีที่เห็นร่างที่คุ้นเคยเดินลงมาจากรถ รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของคนที่กำลังนั่งรออยู่ทันที เขาไม่รอช้ารีบเดินเข้าไปหาด้วยความคิดถึง ไม่รู้ทำไม... ห่างกันแค่ไม่กี่วันแต่ในครั้งนี้ไม้กลับคิดถึงแม็กกี้มาก ๆ นี่ถ้าไม่แคร์สายตาผู้คนเขาคงตัดสินใจกอดแม็กกี้ไปแล้ว เพราะแคร์หรอกนะก็เลยแค่เอื้อมแขนไปพาดคอก่อนที่จะเดินไปยังรถมอเตอร์ไซค์ที่จอดเอาไว้ด้านหน้าสถานีขนส่ง

   “มึง" แม็กกี้เอ่ยขึ้นในขณะที่ไม้เพิ่งจะขับมอเตอร์ไซค์ออกจากสถานีขนส่ง

   “ว่าไง" ไม้ตอบกลับ

   “มึงเป็นอะไรหรือเปล่า" แม็กกี้เอ่ยถาม

   “ทำไมเหรอ" ไม้เอ่ยกลับ เขาไม่เข้าใจว่าแม็กกี้กำลังหมายถึงเรื่องอะไรเพราะหลายวันที่ผ่านมานี้ก็มีความสุขดีไม่ได้มีอะไรผิดปกตินี่นา...

   ใช่! ไม้อาจจะมองไม่ออก แต่ท่าทีที่แปลกไปของไม้ แม็กกี้สัมผัสเห็นมันได้ชัดเจนเลยล่ะ คำพูดคำจาที่สุภาพอ่อนหวานและช่างอ้อนเกินไป มันไม่มีเหตุผลอะไรที่ไม้จะมาทำกิริยาแบบนี่นอกเสียจากว่า...

   “ก็มึงดูแปลก ๆ ไป แอบเอาใครมาซุกไว้ในห้องนอนเปล่าเนี่ย...” แม็กกี้เอ่ยถามทีเล่นทีจริง เขารู้อยู่แล้วล่ะว่าหมอนี่แม้จะป่าเถื่อนโหดร้ายและชอบเล่นอะไร ๆ ซาดิสม์แค่ไหนแต่ก็ไม่ใช่คนหลายใจที่จะยอมให้ใครเข้ามายุ่งในชีวิตง่าย ๆ ที่สำคัญไม่ว่าอินเตอร์เนตเว็บไซต์ไหน ๆ หรือโทรศัพท์มือถือหมอนี่ก็ไม่มีอะไรปิดบังเลยสักนิด

   “ก็เปล่านี่...” ทั้ง ๆ ที่แม็กกี้ถามไม่ได้คิดอะไรแต่คนฟังกลับสะอึกจนตอบออกมาไม่ถูกก็เพราะแม้เขาไม่เคยพาใครมาซุกไว้ในห้องแต่ก็มีวิญญาณขี้บ่นตนหนึ่งที่ซุกอยู่ในห้องก่อนหน้าที่พวกเขาจะย้ายเข้าหอเสียอีก แถมวิญญาณตนนั้นยังเจ้าเล่ห์และหื่นอีกต่างหาก "กูดูแปลกไปยังไงเหรอ"

   “ช่างมันเถอะ" แม็กกี้ตอบ "เป็นแบบนี้ก็ดี"

   
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่14]- 31/07/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-08-2013 14:55:45
ตอนที่ 15 (ต่อ)

พูดจบก็แอบยิ้มจนแก้มแทบแตกอยู่ด้านหลัง โดยที่ไม้ไม่รู้เลยว่าหมอนี่กำลังชมเขาในเรื่องวันนี้ที่ดูจะสุภาพและพูดจาช่างอ้อนเกินมาตรฐานกว่าปกติไปหลายพันเท่า

   ไม่นานมากนักไม้ก็ขับรถไปหยุดอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าห้างหนึ่งซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่มีขนาดใหญ่โตโอ่อ่าที่สุดและเป็นเพียงไม่กี่จังหวัดในภูมิภาคที่เจ้าของห้างแห่งนี้ตัดสินใจมาสร้างที่นี่

   เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดเลยทำให้นักท่องเที่ยวและชาวเมืองต่างกันมารวมตัวกันปลดปล่อยชีวิตที่เป็นอิสระในห้างแห่งนี้ เพราะไม่ว่าจะช็อปปิ้ง ทานอาหาร ดูหนัง ฟังเพลง โยนโบว์ลิ่ง หรือกิจกรรมต่าง ๆ นานาภายในห้างแห่งนี้ก็มีให้เลือกสรรมากมาย

   ไม้กับแม็กกี้ตัดสินใจเดินเข้าไปยังร้านอาหารร้านหนึ่ง ซึ่งเจ้าของเป็นคนไทย ลักษณะของอาหารร้านนี้จะเป็นการสั่งวัตถุดิบที่ต้องการมาต้มลงในหม้อและมีน้ำจิ้มสุกี้ที่อร่อยที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

   “แค่นี้นะคะ" พนักงานถามหลังจากที่ไม้กับแม็กกี้สั่งอาหารเสร็จ

   “ครับ" ไม้ตอบออกมา จากนั้นพนักงานก็เดินจากไป

   แม็กกี้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามได้แต่จ้องคนตรงหน้าเขม็ง ปากก็ยิ้มไม่หยุด พอยิ้มแบบนี้ทีไรตาที่โตราวกับลูกมะนาวก็มันอันต้องเล็กตี่ลงทุกที ...เขาก็แค่รู้สึกดีมากเป็นพิเศษเวลาที่หมอนี่ทำตัวน่ารัก

   “ยิ้มเชี่ยไร" ไม้ถาม เขาชักรู้สึกว่าวันนี้คนรักของเขาชักจะเอาแต่ยิ้มไม่หยุด นี่ถ้าไม่รู้จักกันต้องคิดว่าเป็นคนบ้าแน่ ๆ ...มีที่ไหน ยิ้มตั้งแต่ที่สถานีขนส่งจนกระทั่งมาถึงห้างก็ยังไม่ยอมหุบ

   “มึงเป็นแบบนี้ให้ตลอดเลยได้ป่ะ" แม็กกี้ตอบออกมา "กูเพิ่งรู้ว่ากูชอบมาก ๆ เวลาที่มึงทำตัวน่ารัก ๆ แบบนี้"

   อาจเป็นเพราะตลอดเวลาตั้งแต่ที่รู้จักกันมา แม็กกี้ไม่เคยสัมผัสได้ถึงความน่ารักของคน ๆ นี้เลยสักครั้ง

   “แสดงว่าตลอดเวลาที่ผ่านมามึงไม่ชอบกูอย่างงั้นเหรอ" ไม้ถามพลางทำสีหน้าขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจ

   “เปล่า" แม็กกี้รีบปฏิเสธทันควันพลางโยกไม้โยกมือไปมาช่วยเป็นแรงสนับสนุนในคำตอบ "มึงจะทำตัวแบบไหนกูก็รู้สึกกับมึงเหมือนเดิมนั่นแหละ...”

   “เออ...” ไม้ตอบรับ น้ำเสียงของเขาเริ่มจะกลับมากระโชกโฮกฮากอีกครั้ง

   ไม่นานมากนักวัตถุดิบ(อาหาร)ที่สั่งก็ถูกนำมาเสิร์ฟ มีทั้งเนื้อสัตว์นานาชนิดและสารพัดผักเพื่อสุขภาพ และเมนูสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือเป็ดย่างจานใหญ่สุดอร่อย

   ไม้และแม็กกี้ช่วยกันจัดแจงวัตถุดิบแต่ละอย่างลงหม้ออย่างชำนาญ

   เวลาผ่านไปไม่ถึงหนึ่งนาที น้ำที่เดือดปุด ๆ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าบัดนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ใส่ลงไปในหม้อต้มสามารถตักมารับประทานได้แล้ว... แล้วไม้ก็หยิบถ้วยของแม็กกี้มา ก่อนจะตักเนื้อกุ้งและหมูสไลด์รวมทั้งลูกชิ้นปลาที่หมอนั่นชอบขึ้นมาใส่ถ้วย

   “ขอบใจนะ" แม็กกี้เอ่ยขึ้นในขณะที่ไม้กำลังตัก... ไม่รู้ว่าวันนี้ไม้ไปกินอะไรผิดสำแดงมาหรือเปล่าเพราะร้อยวันพันปีหมอนี่ไม่เคยทำอะไรแบบนี้ให้เขาเลยสักครั้ง

   “อะไร" ไม้แกล้งยักคิ้วด้วยความสงสัย ก่อนจะยื่นชามเปล่าซึ่งเป็นของตัวเองแต่แรกที่วางอยู่ตรงหน้าไปให้ "ถ้วยกูมันเปื้อนฝุ่นน่ะ กูเลยเอาถ้วยมึงมาใช้"

   ได้ยินดังนั้นแม็กกี้ก็ถึงกับสะอึก รู้สึกว่าหน้าชาไปชั่วขณะ ...ก็ว่าอยู่แล้วเชียวคนอย่างไม้เนี่ยนะจะมาทำอะไรแบบนี้

   “ไอ้เชี่ย..." แม็กกี้ต่อว่าก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรงด้วยความขัดใจ... ทั้ง ๆ ที่เขาอุตส่าห์มองโลกในแง่ดีแล้วแท้ ๆ แต่ท้ายที่สุดโลกของหมอนี่ก็ไม่มีอะไรดี ๆ ให้มองจริง ๆ เลยสินะ

   “เอ้า... ด่ากูไมเนี่ย" ไม้แสร้งทำสีหน้างุนงงสงสัย มินำซ้ำพ่นลมหายใจราวกับว่าไม่พอใจที่โดนต่อว่า

   ความจริงแล้วไม้กะจะเอาถ้วยของแม็กกี้มาตักอาหารให้อย่างที่แม็กกี้เขาใจนั่นแหละถูกแล้ว แต่พอเห็นใบหน้าที่ยิ้มไม่หยุดจนแก้มแทบแตก แถมยังพูดขอบคุณอีกต่างหาก ก็เลยอดรู้สึกหมั่นไส้ไม่ได้เลยต้องเอาถ้วยเปล่าของตัวเองส่งให้ซะ

   “กูเกลียดมึง!!!” แม็กกี้ว่า แม้มันจะฟังดูเป็นคนพูดที่ดูรุนแรงแต่สำหรับพวกเขาทั้งสองมันเป็นคำต่อว่าที่ชินปากชินหูไปแล้วล่ะ ก็แค่ด่ากันขำ ๆ ไม่ได้คิดอะไรมาก

   “แต่กูรักมึง" ไม้ว่า ...และตอนนี้แม็กกี้กำลังสงสัยว่าคนรักกันเขาทำกันอย่างนี้เหรอ!!!

   ไม้ที่เห็นแม็กกี้อยู่ในท่าทีที่ขัดใจก็พยายามสะกดกลั้นความขำเอาไว้ในใจเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่เขาอยากหัวเราะออกมาให้เสียงดัง ๆ ใจแทบขาด

   หลังจากที่อาหารในหม้อต้มถูกจัดแจ้งจนเกลี้ยง ไม่เหลือแม้แต่เศษผักเศษหมูชิ้นเล็ก ๆ ไม้ก็เรียกพนักงานมาเก็บตังค์

   “ทั้งหมดหกร้อยหกสิบบาทค่ะ" เสียงของพนักงานทำให้ไม้หันไปมองหน้าแม็กกี้ทันที

   เห็นดังนั้นแม็กกี้ก็ได้แต่พ่นลมหายใจออกมาพร้อมกับตะโกนด่าไอ้คนเจ้าเล่ห์ในใจไม่ขาดสาย ชวนมากินอะไรแพง ๆ แล้วยังไม่ยอมเลี้ยงอีก อย่างน้อยช่วนกันออกตังค์สักนิดก็ยังดี แต่ก็ช่างเถอะเลี้ยงอาหารคนรักในราคาแพง ๆ แบบนี้นาน ๆ ครั้งไม่เห็นจะเป็นไรเลย

   หลังจากที่จัดการเรื่องค่าใช้จ่ายเสร็จ แม็กกี้ก็เดินนำลิ่ว ๆ ออกไปนอกร้าน โดยไม่หันมามองคนเจ้าเล่ห์ที่เดินตามอย่างไม้เลยสักนิด จนกระทั่งไปหยุดอยู่ที่หน้าร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมร้านหนึ่ง

   “ไอ้แม็กกี้!” ไม้ร้องเรียก "รีบไปไหนวะ"

   “ไม่รู้เหมือนกัน" แม็กกี้ตอบตามคำสัตย์จริง เพราะตั้งแต่เดินออกจากร้านอาหารมาก็ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนต่อ เนื่องจากอารมณ์ขัดใจที่ยังคุกรุ่นอยู่ในใจเลยทำให้เขาก้าวขาฉับ ๆ ต่อไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องคิดอะไร

   “ไปดูหนังกัน" ไม้บอก

   “ไม่ดู" แม็กกี้ปฏิเสธทันควัน... เพราะยังเคืองเรื่องค่าอาหารนิด ๆ

   “กูเลี้ยง" เท่านั้นแหละ... แม็กกี้ก็พยักหน้าหงึก ๆ ก่อนจะเดินนำไปยังชั้นโรงหนังทันที

   “อยากดูเรื่องไรกูให้มึงเลือกเลย...” ไม้เอ่ยขึ้น พอเหลือบดูโปรแกรมก็เห็นว่าหนังผีที่มาดูกับมิวส์เมื่อคราวก่อนยังฉาย และไม้ก็มั่นใจว่าแม็กกี้จะไม่ดูเรื่องนี้แน่นอนเพราะแต่ไหนแต่ไรมาหมอนี่มันไม่ชอบสิ่งที่มองไม่เห็นและจะปฏิเสธทุกอย่างที่เกี่ยวกับผี หนังผีสักเรื่องก็ยังไม่เคยดู แต่เหมือนว่าในครั้งนี้มันจะไม่เป็นอย่างที่เข้าคิดเสียแล้วเพราะ...

   “เอาเรื่องนี้" แม็กกี้ชี้ไปที่หน้าจอโปรแกรมฉาย พอหันไปมองตามนิ้วมือก็พบว่ามันคือหนังผีที่เขาดูไปแล้ว

   “เรื่องอื่นไม่ได้เหรอ" ไม้ปฏิเสธ... เขาไม่อยากไปดูหนังเรื่องเดิมที่เคยดูมาแล้วหรอกนะ

   “ก็กูอยากดูเรื่องนี้น่ะ ทำไม ไหนบอกว่าให้กูเลือก" แม็กกี้หันไปเถียง

   “ก็ปกติมึงกลัวผี หนังสักเรื่องที่มีผีก็ไม่เคยดู แล้วทำไมวันนี้เสือกอยากจะดูวะ" ไม้เองก็ไม่ยอมแพ้ เขาหันไปเถียงกลับ แม้ว่าตังค์ในแต่ละเดือนจะเหลือใช้แต่เขาก็ไม่อยากเอามาทิ้งไปหลายร้อยบาทกับการดูหนังเรื่องเดิมสองรอบหรอกนะ

   “ก็กูอยากดู เห็นตัวอย่างมันไม่ค่อยน่ากลัว ผีมันออกแนวน่าสงสารมากกว่าไง" แม็กกี้ต่อว่า นอกจากเหตุผลที่ว่ามาแล้วอีกประการหนึ่งเขาเพียงต้องการฝึกให้คุ้นชินกับสิ่งที่มองไม่เห็น แม้ไม่รู้ว่าผีหรือวิญญาณจะมีตัวตนจริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยศึกษาจากหนังเอาไว้บ้างก็คงจะดี หอใหม่ที่เพิ่งย้ายไปอยู่ยิ่งมีอะไรไม่ชอบมาพากลอยู่ด้วย

   “แต่กูอยากดูเรื่องนี้" ไม้เถียงกับแล้วชี้ไปยังหนังแฟนตาซีล้างโลกที่มีมนุษย์ต่างดาวมาบุก

   “งั้นก็ตามใจมึงละกัน" แม็กกี้กระแทกเสียงก่อนที่จะพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ "ทีหลังถ้าอยากจะดูเรื่องไรก็เลือกเลยไม่ต้องมาถามกู... มันเสียความรู้สึก"

   ได้ยินดังนั้นไม้ก็สะอึกไปชั่วขณะ... ปกติที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีปากมีเสียงกันบ่อยครั้งแต่ทุกก็ไม่เคยมีสักครั้งที่แม็กกี้จะพูดจากระแทกจิตใจแบบนี้ แถมที่หมอนั่นบอกว่า 'เสียความรู้สึก' มันยิ่งทำให้ไม้รู้สึกผิดเข้าไปใหญ่

   “งั้นดูหนังผีก็ได้" ไม้เอ่ยกลับด้วยน้ำเสียงเอื่อย ๆ

   “ไปซื้อตั๋วเถอะ อยากดูเรื่องไหนก็แล้วแต่มึงละกัน" แม็กกี้ตอบ... ความจริงแล้วเขาไม่ได้โกรธไม้มากมายหรอกนะ แต่ที่ต้องพูดออกไปแบบนั้นก็เพราะว่าไม้น่ะถูกตามใจจนเคยตัว และถ้ายังยอมอะไรต่อไปเรื่อย ๆ หมอนี่ก็จะได้ใจและท้ายที่สุดไม้ก็จะไม่ฟังอะไรอีกเลย

   ผลจากการเถียงกันเป็นอันว่าท้ายที่สุดไม้ก็ตัดสินใจซื้อตั๋วหนังเรื่องที่แม็กกี้อยากดู

   “หายงอนนะ" ไม้ไม่ลืมที่จะง้อก่อนจะเข้าโรงหนัง พอเห็นว่าแม็กกี้ยังนิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไรเขายกนิ้วก้อยขึ้นมาตรงหน้าพร้อมกับกระดิกไปมาเพื่อแสดงความต้องการขอคืนดี "น่า... ดีกัน ๆ ทำตัวขี้งอนเป็นเด็ก ๆ ไปได้"
   “มึงลองมาเป็นกูดิ แล้วมึงจะเข้าใจว่าสมควรรู้สึกยังไง...” พูดจบก็ยื่นนิ้วก้อยไปประสานกัน ทั้ง ๆ ที่ยังแอบน้อยใจนิด ๆ แต่ทว่าถึงอย่างไรไม้ก็คือผู้ชายที่แม็กกี้รัก และอย่างน้อยหมอนี่ก็พูดจาดี ๆ แถมยังขอโทษเขาแล้วด้วย จะให้ทำตัวงี่เง่าไร้เหตุผลจนเกินไปมันก็คงจะไม่ดี เกิดหมอนี่ไม่ทนขึ้นมา ท้ายที่สุดก็ต้องเป็นเขาที่เป็นฝ่ายเจ็บปวดอยู่ดี เพราะฉะนั้นรีบ ๆ ดีกันให้มันจบ ๆ เรื่องดีกว่า

   หลังจากที่หนังจบทั้งสองก็ขับรถกลับหอพัก ความชำนาญในเส้นทางและการขับขี่ที่คล่องกว่าทำให้ไม้ได้กลายเป็นคนขับรถมอเตอร์ไซค์ประจำตัวแม็กกี้ไปเสียแล้ว

   ตลอดการเดินทางมีการพูดคุยต่าง ๆ นานาไม่ขาดสายจนกระทั่งขึ้นไปถึงหอพัก ไม้ที่พูดไม่หยุดตลอดทางก็มีอันต้องสงบเสงี่ยมลงเพราะว่ามิวส์ที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดรออยู่บนห้องทำให้เขาไม่อยากที่จะพูดอะไรออกไป

   ทางด้านของมิวส์พอเห็นเจ้านายกลับมาในตอนแรกเขาก็ได้ใจจนเนื้อเต้น แต่พอเห็นว่าไม่ได้กลับมาคนเดียวมีก้างขวางคอชิ้นสำคัญกลับมาด้วยความดีใจก็กลับตาลปัตรเป็นความขัดใจทันที

   “หน็อย... ที่เมื่อเช้าไม่อยากให้ไปด้วยก็เพราะไปหาแม็กกี้นี่เอง" มิวส์ตั้งใจบ่นเสียงดังเพื่อให้ไม้ได้ยิน ไม้ไม่ได้โต้ตอบอะไรเขาเพียงชายหางตาไปมองก่อนจะกลับมาให้ความสนใจกับแม็กกี้

   “ที่รัก...” ไม้เอ่ยขึ้นกับแม็กกี้ทันทีที่นั่งลงข้าง ๆ เตียงนอน

   “อะไร...” แม็กกี้ตอบกลับ

   “คิดถึง ขอกอดมึงหน่อยเดะ...” พูดจบก็จู่โจมตามคำพูดทันที และในขณะนี้ภาพของคนทั้งคู่ที่กำลังกอดกันกลมทำให้วิญญาณที่ยังคงสิงสถิตอยู่ภายในห้องได้แต่มองด้วยความขัดใจ

   “ปล่อย...” แม็กกี้ว่า "ไปอาบน้ำดีก่อนดีกว่า เหนียวตัวชะมัด"

   “คร้าบ... รีบอาบนะที่รัก" ไม้ทำน้ำเสียงออดอ้อน

   “ทำเสียงแบบนี้อีกแล้ว" แม็กกี้บ่นอุบอิบ "มึงเป็นไรมากป่ะเนี่ย"

   “เปล่านี่ ก็แค่คิดถึงเฉย ๆ" ในขณะที่ไม้พูด เขาก็ชำเลืองตาไปมองไอ้วิญญาณหน่อมแน้มที่กำลังขมวดคิ้วขัดใจตลอดเวลา

   ความจริงแล้วมิวส์รู้ตัวดีว่าไม่มีสิทธิ์โกรธ เกลียด หรือจะแทรกเป็นมือที่สามของคนทั้งคู่ แต่ที่เขาไม่พอใจก็คือ... ถ้าเจ้านายจะไปรับแม็กกี้ก็บอกกันดี ๆ ก็ได้ไม่เห็นต้องแอบไปเลย มิหนำซ้ำพอพากลับมาที่ห้อง ยังตั้งใจออดอ้อนแม็กกี้เพื่อยั่วยวนเขาอีก แล้วความไม่พอใจก็ส่งผลให้มิวส์ตัดสินใจออกไปจากห้อง

   “ผมจำได้น่าว่าเจ้านายเคยบอกว่าถ้าแม็กกี้กลับมาห้องให้ผมกลับไปอยู่กับท่านเจ้าที่... ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ" มิวส์เอ่ยขึ้น ไม้ไม่ได้ตอบอะไรเขาเพียงพยักหน้ารับรู้เท่านั้นเพราะเกรงว่าหากพูดอะไรออกไปกับสิ่งที่มองไม่เห็นเดี๋ยวแม็กกี้จะสงสัยเอา

   แต่ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ออกไปจากห้อง เสียงของแม็กกี้ที่ตะโกนกลับมาก็ทำให้มิวส์ชะงัก

   “เออมึง... หนังที่ดูวันนี้สนุกดีนะ เป็นผีเป็นวิญญาณก็น่าสงสารเหมือนกันฮะ... ผีไม่ได้เลวร้ายเสมอไป"

   “ไม่หรอก...” ไม้ตะโกนกลับไป "มันก็แค่หนัง บางทีผีอาจจะเลวร้ายและหื่นกว่าที่มึงคืนก็ได้"

   “เจ้านาย!!!” มิวส์เอ่ยขัดด้วยความขัดใจ

   “ฮะ... ว่าไงนะ ผีหื่น มีด้วยเหรอวะ ฮ่า ๆ" พูดไปก็ขำไป แม็กกี้ไม่รู้ว่าไม้จะมีมุกตลก ๆ แบบนี้ด้วย

   “มี ไม่มี ไม่รู้เหมือนกัน...” ไม้ตอบแม็กกี้ด้วยน้ำเสียงปกติก่อนที่จะหันไปคุยกับมิวส์ด้วยน้ำเสียงที่เบาราวกับกระซิบ "แต่ที่แน่ ๆ วิญญาณอย่างมึงน่ะโคตรหื่น"

   “หน็อย...” มิวส์เชิดหน้าใส่พร้อมกับขบกรามด้วยความเจ็บใจก่อนจะยอมแพ้แล้วออกจากห้องไปอยู่กับท่านเจ้าที่ในที่สุด

   'อย่าให้ถึงเวลาของผมแก้แค้นบ้างละกันนะเจ้านาย จะเอาให้แตกหักกับแม็กกี้จนมองหน้ากันไม่ติดเลย!!!' ว่าแล้วก่อนจะออกจากห้อง ในขณะที่ไม้กำลังเผลอไปสูดอากาศที่บริเวณระเบียง  มิวส์ก็ขอเอาคืนหน่อยเหอะ!

   มิวส์เอบหยิบตั๋วโรงหนังที่ไม้ไปดูมาครั้งก่อนกับเขาไปวางไว้ที่บริเวณโต๊ะเครื่องแป้งเพราะคาดว่าหลังจากที่แม็กกี้อาบน้ำเสร็จ แม็กกี้จะต้องเดินมาแต่งตัวที่นี่และเจอกับตั๋วโรงหนังสองใบพอดี แล้วคราวนี้แหละทั้งไม้และแม็กกี้ก็จะต้องมีปากมีเสียงกันแน่นอน



จบตอน
-----------------
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 05-08-2013 16:16:51
จิ้มเป็ดให้สำหรับความยาวของตอนนี้

 “หายงอนนะ" ไม้ไม่ลืมที่จะง้อก่อนจะเข้าโรงหนัง พอเห็นว่า "มิวส์" ยังนิ่งเงียบไม่ได้ตอบอะไรเขายกนิ้วก้อยขึ้น
ต้องเป็นแม็กกี้ไม่ใช่หรอจ๊ะ

คำผิดยังมีอีกนะจ้ะ

ว่าแต่นู๋มิวส์คิดดีแล้วหรอที่ทำแบบนั้น มีหวังได้ตายรอบ2สมใจแน่
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 05-08-2013 16:47:23
อ้างถึง
คุณ มยอนฮวา :: ใส่หน้าที่ลงเอาไว้ยังไงอ่าครับ T^T ไม่ค่อยเข้าใจ แต่ถ้าจะหาตอนใหม่คลิกได้ที่สารบัญหน้ากระทู้หน้าแรกเลยครับ

อยากเช่น  ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 หน้า 5  By Mr.กุ๊กกู๋   อะไรแบบนี้อ่าคะ เวลาที่เข้ามาอ่านมันไม่ใช่วันที่เอาลง มันหายากอ่าคะ



===============================

มิวส์เจ้าเล่ห์ไปนะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 05-08-2013 17:47:07
บางทีก็แอบหมั่นไส้มิวส์ไงไม่รู้แฮะ :m16:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 05-08-2013 18:07:06
มิวส์ทำตัวไม่น่ารักนะ อย่าทำให้เจ้านายลำบากใจสิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 05-08-2013 19:18:58
ฮ่าๆๆ ร้ายนะมิวส์
ระหองระแหงกันทุกฝ่ายเลยแฮะตอนนี้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 05-08-2013 19:48:37
ทำไมทำอย่างนั้นคะ มิวส์  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 05-08-2013 21:04:22
ยังสงสัยเรื่องของก้องไม่หาย
อยากรู้ว่าตอนนี้เป็นยังไง
แต่อยากที่สุดคงอยากให้มิวส์คู่กับก้องมากกว่า
เพราะไม้มีพันธะคือแม็กกี้ ถ้าหากมิวส์แย่งไม้จากไปแม็กกี้มันก็คงดูไม่ดี
เฮ่อ...หน่วงค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 05-08-2013 23:04:24
มิวส์อย่าทำให้เค้าทะลาะกันสิมันบาปนาาาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 06-08-2013 20:45:38
เฮ้อ!!ยังไงมิวส์ก็คือผีที่อาฆาตแค้นสินะ  อยากให้ปมมันคลายไวๆ  หน่วงๆอ่ะ  แม็กกี้กะไม้ยังจำคำพูดที่เคยพูดกันก่อนคบป่าว  มิวส์ลืมแล้วหรอว่าไม้คือผู้มีพระคุณ  ไม่อยากให้จบแบบที่คิดเล้ยย  ขอบคุณคัฟ  รอตอนต่อไปคัฟ ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 06-08-2013 23:39:30
อ่านตอนนี้แล้วไม่รู้จะดีใจดีไหมที่แม็กกี้กลับมา เพราะยิ่งรู้สึกสงสารแม็กกี้มากกว่าเก่าอีก  :monkeysad:
ถึงไม้จะรู้สึกคิดถึงแม็กกี้จริง ๆ แต่ทั้งการกระทำ คำพูดที่ดูน่ารัก ออดอ้อน ของไม้มันเหมือนคนมีชนักติดหลัง
ที่ต้องทำความดีเพื่อปกปิดความผิดบางอย่างเอาไว้ จนแม็กกี้ยังรู้สึกได้ แต่เพราะความรัก ความไว้ใจอะนะ
ทำให้แม็กกี้รู้สึกดีกับสิ่งที่ไม้ทำให้ แล้วไม้จะรู้สึกอะไรบ้างไหมน๊า
ส่วนมิวส์ถึงจะดูน่าสงสารอยู่บ้างแต่สุดท้ายก็ยังแอบวางแผนแกล้งเพื่อจะทำให้ไม้กะแม็กกี้ทะเลาะกัน
ทำให้ความน่าสงสารเป็นศุนย์ไปเลย (ไม่อยากให้ติดลบ เพราะยังแอบเห็นใจมิวส์อยู่บ้างเล็กน้อย)
ก็ขอให้ความรักของแม็กกี้เอาชนะความรู้สึกที่อาจจะกำลังเปลี่ยนไปของไม้ด้วยเถอะ  :m5:
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้จ้า  :mew1:
ปล.ยังทำใจไม่ได้กับครั้งที่2 ที่ 3 ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างมิวส์กะไม้ โดยเฉพาะในตอนนี้ที่แม็กกี้กลับมาแล้วอะคะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 07-08-2013 06:49:53
ง่า...  ไม้ไม่ได้หลายใจ  แต่น่ากลัวจริงๆว่า  ไม้จะเป็นต้นเหตุให้มีวิญญาณอาฆาตเกิดขึ้นเพราะมิวอยู่ดี
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่15]- 5/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 07-08-2013 18:21:23
ตอนที่ 16  :mew5:





          สายน้ำจากฝักบัวที่หลั่งออกมาราวกับเม็ดฝนที่ตกปรอย ๆ ในรัศมีพื้นที่จำกัด มันค่อย ๆ ชะล้างคราบความสกปรกบนเรือนร่างของชายหนุ่มคนหนึ่ง... วันนี้เป็นวันที่เขามีความสุขมากที่สุดอีกวันหนึ่ง เพราะนานทีปีหนกว่าที่คนรักของเขาจะยอมแสดงอาการขี้อ้อนพร้อมทั้งประจบเอาใจออกมา

   หลังจากที่อาบน้ำเสร็จแม็กกี้ก็คิดว่าจะชวนไม้ไปที่มหาลัย อย่างน้อยก็ไปซุ่มดูรุ่นน้องว่าที่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ในปีนี้หน่อยว่ามีสีหน้าค่าตาเป็นอย่างไรบ้าง และหลังจากที่กลับจากมหาวิทยาลัย ก็ให้รางวัลไม้สักยกก็คงจะดี... รางวัลที่พวกเขาต่างก็ไม่ได้กระทำมากันตั้งนานหลายเดือนแล้ว เพราะช่วงที่ผ่านมาต่างคนก็ต่างมัวแต่ยุ่งกับการเรียน อีกทั้งไม่ค่อยจะมีอารมณ์ร่วมสักเท่าไหร่

   หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ... ความคิดต่าง ๆ นานาของแม็กกี้ก็พลันต้องสลาย เมื่อเขาเห็นตั๋วหนังสองใบวางอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ซึ่งในทีแรกก็คิดว่าเป็นตั๋วหนังที่เพิ่งไปดูกันมาด้วยกัน เพราะชื่อเรื่องก็ปรากฏเด่นหราแล้วว่าเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ทว่าพอมองวันที่และเวลาแล้ว เขาก็ถึงกับชะงัก ...มันไม่ใช่ของวันนี้ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าก่อนหน้านี้ ไม้ต้องแอบไปดูหนังมากับใครก่อนแน่ ๆ

   และในระหว่างนั้นเอง เสียงประตูระเบียงที่ถูกเลื่อนเปิดออกมาก็ทำให้แม็กกี้รีบเขี่ยตั๋วหนังสองใบนั้นไปยังใต้กระป๋องแป้ง

   “จะให้กูแต่งตัวให้เหรอ" พูดจบก็สวมกอดร่างที่เล็กกว่าจากทางด้านหลัง... เนื้อตัวที่สะอาดสะอ้านหลังอาบน้ำของแม็กกี้เป็นอะไรที่จี้จุดหื่นของไม้มาก ๆ เลยล่ะ

   “ไม่ใช่" แม็กกี้ตอบออกมา เขาพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด...  ทั้งที่ในใจมันรู้สึกปั่นป่วนแปลก ๆ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม้ไม่เคยมีความลับหรือโกหกเขาสักครั้ง ...นี่สินะ เหตุผลที่หมอนี่ไม่อยากดูหนังเรื่องนี้ เพราะเขาไปดูกับคนอื่นมาแล้ว

   “คร้าบ...” ไม้ที่ไม่รู้เรื่องอะไรยังคงตอบออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อนอย่างสนุกสนาน "ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าก็ดี มาให้กอดหน่อย คิดถึง ๆ ไปนอนบนเตียงกันเถอะ ป่ะ ๆ"

   พูดจบก็ออกแรงลากร่างที่อยู่ในอ้อมกอดไปยังเตียง ซึ่งแม็กกี้ก็ไม่ได้ปฏิเสธอะไรจนกระทั่งทั้งสองล้มตัวลงไปนอนอยู่บนเตียงและไม้ก็ยังคงกอดแม็กกี้จากด้านหลังทั้งอย่างนั้น

   “ไม้...” แม็กกี้ไม่แน่ใจว่านานแค่ไหนแล้วที่เขาเรียกชื่อ 'ไม้' โดนที่ไม่มีคำว่า 'ไอ้' นำหน้า หรือคำว่า 'มึง' ต่อจากชื่อที่เขาเรียก "ถ้าวันหนึ่งไม้เจอคนที่ใช่สำหรับไม้... ไม้จะยัง...”

   “อะไร...” ไม้ไม่ปล่อยให้แม็กกี้พูดจบ เขาใช้มือข้างหนึ่งที่กอดอยู่เลื่อนขึ้นไปปิดปาก... เขายังคงจำเรื่องราวความสัมพันธ์เมื่อครั้งวันที่ขอคบกันได้เสมอว่าเคยพูดอะไรออกไปบ้าง "มึงไงคนที่ใช่...”

   “อืม... ก็ถ้าวันหนึ่งเจอคนที่ใช่มากกว่า" แม็กกี้พูดทั้งที่ยังโดนปิดปาก น้ำเสียงที่ออกมาจึงก้องแปลก ๆ

   สำหรับแม็กกี้แล้ว... เขาไม่เคยกลัวเลยว่าไม้จะนอกใจไปมีคนอื่น เพราะระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าพวกเขาไปกันได้ดีแค่ไหน แต่ในวันนี้มันไม่ใช่ ตั๋วหนังใบนั้นคืออะไร มันมีคำถามมากมายที่ผุดขึ้นมาในสมองหลังจากที่เห็นตั๋วใบนั้น ...ใช่ ไม้อาจะไปดูกับเพื่อน กับญาติ หรือใคร ๆ ที่เขารู้จักก็ได้ แต่ทว่าทำไมไม้ถึงไม่ยอมบอกสักคำ เพราะใช่ว่าเขาจะไม่มีเหตุผลในเรื่องอะไรแบบนี้ ถึงจะขี้งอนไปหน่อยก็เถอะ

   “มึงเป็นอะไร ทำไมถามแปลก ๆ" ไม้เอ่ยขึ้นบ้าง เขาชักไม่แน่ใจแล้วสิว่าตกลงหมอนี่เป็นอะไรกันแน่

   “ช่างมันเถอะ...” แม็กกี้ตอบออกไป บางทีการที่เขาไม่ต้องรับรู้รับฟังอะไรก็น่าจะดีกว่าการที่รู้อะไรมากไปแล้วต้องมานั่งทนเจ็บ ดีไม่ดี...เกิดรู้ไปแล้วมีหวังแม็กกี้ตัดสินใจบอกลาเขาขึ้นมา คนที่จะเจ็บที่สุดก็คือเขานั่นแหละ

   ถ้าในตอนนี้เขายังมีความสุข เขาก็ควรเลือกที่จะเก็บความสุขให้ได้นานที่สุดใช่ไหม... แต่การเก็บสิ่งที่สงสัยไว้ในใจแบบนี้ มันจะมีความสุขแน่เหรอ

   “อยู่ด้วยกันมาตั้งหลายปี... ถ้าจะมีอะไรมาทำลายความสัมพันธ์ของเราได้ก็คงจะเป็นความหวั่นไหวและคิดไปเองนั่นแหละ" ไม้เอ่ยออกมา แม้ไม่รู้ว่าแม็กกี้เป็นอะไรแต่จากปฏิกิริยาที่แสดงออกมานั้นทำให้ไม้มั่นใจได้ว่าต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลแน่

   “ไปมหาลัยกันดีกว่า" แล้วในที่สุดแม็กกี้ก็ต้องเปิดปากชวน... เพราะไม่อยากพูดอะไรไปมากกว่านี้ และถ้าเลือกได้ก็ขอเลือกที่จะทำอะไรเพื่อให้ลืมความสงสัยที่เกิดขึ้นคงจะดีกว่า

   “ไปสิ" ไม้ตอบรับ... ก่อนจะแต่งตัวแล้วเดินออกจากประตูห้องทันที

   ด้านล่างของหอพัก... มิวส์ที่นั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าศาลพระภูมิด้วยความเบื่อหน่าย พอเห็นเจ้านายสุดหล่อเดินลงมาก็รีบหายตัววับไปปรากฏดักหน้าของไม้ทันที

   “เฮ้ย!” ผลจากการปรากฏตัวแบบกะทันหันทำให้ไม้ร้องด้วยความตะใจพร้อมกับชะงักกึก

   “อะไรมึง" แม็กกี้ที่เดินตามหลังมาเอ่ยถาม "ทำท่าอย่างกับเห็นผีงั้นแหละ"

   “เออ... เปล่า ๆ ไปกันเหอะ" พูดจบก็เดินทะลุร่างไอ้วิญญาณสุดหื่นทันที

   เห็นดังนั้นมิวส์ก็ขมวดคิ้วด้วยความขัดใจสุดฤทธิ์ที่เจ้านายกล้าดีที่เลือกไม่สนใจเขา

   “เจ้านาย! จะไปไหน ผมไปด้วย...” มิวส์บ่นตามหลังไม้ เมื่อเห็นว่าไม้ยังไม่มีท่าทีว่าจะสนใจเขาก็เลยต้องงัดไม้เด็ดออกมาใช้ "ถ้าเจ้านายไม่ให้ผมไปด้วย ผมจะแกล้งแม็กกี้ ทำให้แม็กกี้กลัว ทำให้แม็กกี้กับเจ้านายผิดใจกัน และอื่น ๆ ที่ทำให้เจ้านายไม่มีความสุข!!!”

   'ไอ้ผีนรก...' ไม้ได้แต่ก่นด่าในใจเพราะเขาไม่สามารถเปล่งเสียงใด ๆ ออกมาได้นอกจากอาการกัดริมฝีปากกับตาเหลือกเขม็งเท่านั้น เพราะแม็กกี้ที่เดินตามหลังไม่มีทางเห็นแน่นอนว่าสีหน้าของเขากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน

   “รอกูแป๊บนึง" ไม้หันไปบอกแม็กกี้ก่อนที่จะเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อที่อยู่ใต้หอ

   หลังจากที่เดินกลับออกมา ช่อดอกกล้วยไม้ที่แช่อยู่ในช่องเย็นซึ่งถูกถือออกมาด้วยคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีสางนางไม้ก็ทำให้แม็กกี้ถึงกับขมวดคิ้วมองด้วยความไม่เข้าใจ

   “ซื้อมาทำไม" แม็กกี้เอ่ยถาม

   “เอามาไหว้ผีนรก" ไม้เผลอตอบออกไปเพราะอารมณ์กรุ่นโกรธที่คุอยู่ในใจ ซึ่งคำตอบนั้นทำเอาหนึ่งคนกับอีกหนึ่งตนที่ได้ยินถึงกับแสดงสีหน้าออกมาในอารมณ์ที่ต่างกันสุดฤทธิ์

   “เฮ้ย... ผีนรก นี่กูฝันไปเปล่าเนี่ย ปกติมึงไม่เคยเชื่อเรื่องผีไม่ใช่เหรอ ฮ่า ๆ เข้าใจอำกูนะมึง" แม็กกี้พูดไปขำไป

   “เจ้านาย!!!” ส่วนมิวส์ได้แต่ร้องประท้วงด้วยความขัดใจที่เจ้านายสุดที่รักของเขาบังอาจว่าเขาเป็น 'ผีนรก' "ผมไม่ใช่ผีนรก เจ้านาย เดี๋ยวเหอะ... ผีนรกอย่างผมจะพาเจ้านายขึ้นสวรรค์ให้ดู"

   “เออ กูอำมึงเล่น... ก็มึงจะมาอยู่หลายวันก็เลยคิดว่าน่าจะไหว้เจ้าที่ให้คุ้มครองสักหน่อย... ไม่ต้องมองกูด้วยความสงสัยเลย ทำแล้วสบายใจก็ไม่เสียหายนี่ กูเป็นห่วงมึงนะ” ไม้เอ่ยกับแม็กกี้ก่อนที่จะเดินไปศาลพระภูมิแล้วอธิษฐานในใจว่า 'ท่านเจ้าที่ครับ ขอพาไอ้ผีนรกมิวส์ออกไปข้างนอกด้วยครับ'

   หลังจากทำพิธีเสร็จก็เดินไปยังจุดจอดรถมอเตอร์ไซค์ทันทีโดยมีไอ้วิญญาณหน่อมแน้มเดินตามพร้อมกับการทำแก้มป่อง ก็เจ้านายเขาดันมาเรียกเขาว่า 'ไอ้ผีนรก' นี่นา จะให้เขายิ้มแป้นแล้นมีความสุขอยู่ได้อย่างไรเล่า

   “มึงขับนะ" ไม้พูดขึ้นทันทีที่หยุดอยู่หน้ารถ ถ้าให้เขาต้องขับโดยที่มีไอ้วิญญาณหน่อมแน้มคอยป่วนไปตลอดทางเขาคงไม่มีสมาธิและไม่แน่อาจจะเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันตอนขับก็ได้

   “อือ" พูดจบก็สตาร์ทรถทันที ก่อนที่ไม้จะก้าวขาขึ้น มิวส์ก็ตัดสินใจขึ้นไปนั่งคั่นกลางเสียก่อน ไม้ได้แต่มองด้วยความหงุดหงิด จะด่าจะว่าหรือขู่อะไรมันก็ไม่ได้

   “มึงเกลียดกูหรอ นั่งห่างซะอย่างกับว่ากูเป็นโรคติดต่อทางผิวหนังอย่างงั้นแหละ" แม็กกี้เอ่ยถาม

   “หยุดนะเจ้านาย นั่งตรงนั้นแหละ" ก่อนที่ไม้จะเอ่ยตอบ มิวส์ก็พูดขึ้นขัดเสียก่อน แต่ทว่าไม้ไม่สนใจ

   “เปล่า... กูกำลังจะเขยิบนี่ไง" พูดจบก็เขยิบทับร่างล่องหนของมิวส์เสียเลย

   มิวส์เกือบจะทำหน้าหื่นอยู่แล้วเชียวในทีแรก เพราะเจ้านายเล่นเขยิบเข้ามาทับเขาจากด้านหลัง แต่พอเห็นไม้เอื้อมมือไปเกาะเอวของคนขับรถเท่านั้นแหละ พิษหึงที่ไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิ์ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ถาโถมเข้ามาทันที

   “เอามือออก" มิวส์สั่งอย่างกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองอยู่ในสถานะไหน แต่ทำไมนะ... ปากและการกระทำมันถึงได้แสดงออกมาแบบนี้

   ไม้ไม่ได้สนใจสิ่งที่มิวส์พูดสักนิด เพราะถึงอย่างไรหมอนี่ก็เป็นแค่วิญญาณ นอกจากเขาแล้ว ก็คงไม่มีใครเห็นหรอก



   แม็กกี้ใช้เวลาขับรถไม่นานมากนักก็พาทั้งสองร่างมาถึงยังมหาวิทยาลัย เสียงร้องเพลงดังกระหึ่มไปทั่วสถานศึกษา แม้ว่ายามนี้จะเป็นยามบ่ายจวนเย็นอยู่แล้วแต่ทว่าทุกคนก็ยังคึกคักไม่มีความเหน็ดเหนื่อยเลยสักนิด

   หลังจากที่เดินทะลุฝูงคนไปยังใต้ตึกคณะ ร่างของรุ่นพี่สุดหล่อสองคนที่ปรากฏขึ้นก็ทำให้รุ่นน้องปีสองยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หากแต่ไม้กับแม็กกี้เพียงยิ้มรับเท่านั้น ก่อนจะกระซิบฝากรุ่นน้องคนหนึ่งให้ไปบอกน้องหนิงที่กำลังทำหน้าที่เป็นพี่ตัวแม่ในการคุมรับน้องว่า...

   “พี่แค่มาดูเฉย ๆ เชียร์กันไปเลยนะ เดี๋ยวพี่จะไปเดินเล่นรอบ ๆ มหาลัย"

   ที่ต้องสั่งไปแบบนั้นก็เพราะเกรงว่าน้องหนิงจะสั่งให้ไปร่วมทำกิจกรรมด้วย

   แม็กกี้ใช้สายตากวาดมองรุ่นน้องปีหนึ่งที่กำลังนั่งหน้าจิ้มลิ้มอยู่ตรงหน้า ...เป็นเด็กใหม่นี่มันสดใสอย่างนี้นี่เอง... ก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาพลางนึกถึงอดีตที่เขากับไม้เคยมาร่วมรับกิจกรรมรับน้องในฐานะเด็กใหม่ของสถาบันแห่งนี้

   ในตอนนั้นแม็กกี้กับไม้ถือได้ว่าเป็นผู้ชายที่โดนรุ่นพี่ทั้งนอกและในสาขากรี๊ดกร๊าดเป็นเวลาเล่น(ตอนนี้ก็ยังโดน) เพราะหน้าตาอันหล่อเหลาของหนุ่ม ๆ ที่ไม่ค่อยหาได้ในคณะนี้สักเท่าไหร่ หรือถ้ามีก็มีจำนวนน้อยใช้สอยแต่พอเพียง เลยทำให้ทั้งคู่ดูโดดเด่นขึ้นมาทันตา

   “คิดถึงตอนรับน้องจังเลยว่ะ" ไม้บ่นอุบอิบ

   “อ้าวเฮ้ย! ไหนตอนรับน้องมึงบอกว่าไม่ชอบ น่าเบื่อ เหนื่อย ต้องทำอะไรก็ไม่รู้ไร้สาระทั้งนั้น แล้วไหงมาคิดถึงได้วะ" แม็กกี้แซวเข้าให้ เพราะเมื่อครั้งที่พวกเข้ารับน้อง ไม่เคยมีวันไหนที่ไม้จะมาด้วยความเต็มใจสักครั้ง ทั้งหน้าหงิกหน้างอ ผิดกับแม็กกี้ที่หลังจากเข้ามหาวิทยาลัย เขาก็กลายเป็นคนที่เข้ากับเพื่อน ๆ และสนิทกับรุ่นพี่มากกว่าไม้เสียอีก

   “ก็มันน่าเบื่อจริง ๆ แต่มันก็สนุกดี สงสัยจะแก่แล้วมั้ง" ไม้ว่าพลางนึกถึงอนาคตข้างหน้า

   อีกเพียงปีเดียวเท่านั้นพวกเขาก็จะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้... ไม่รู้ว่าอนาคตจะต้องรับผิดชอบตัวเองมากแค่ไหน  แล้วหากจะต้องทำงาน เพื่อนร่วมงานจะเข้ากันได้เหมือนดีกับสมัยเรียนหรือเปล่าก็ไม่รู้ คิดแล้วก็ไม่อยากจะให้วันเวลาเหล่านั้นมาถึงเลยสักนิด ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนเคยบ่นกับตัวเองเสมอว่าอยากเรียนจบเร็ว ๆ จะได้ทำงานเก็บตังค์

   “ไปนั่งคุยกันบนตึกดีกว่า อยู่ตรงนี้เสียงดัง" แม็กกี้ออกความเห็น ซึ่งไม้ก็พยักหน้ารับแต่โดยดี

   บนอาคารในยามนี้ไม่ค่อยมีผู้คนเดินผ่านไปมาให้เห็น แม้เสียงสะท้อนจากชั้นล่างจะดังก้องแต่ทว่ามันก็ไม่สามารถลบความเงียบเหงาในใจของคนทั้งคู่ได้ มิหนำซ้ำวิญญาณอีกตนที่ตามติดไม้มาด้วยก็รู้สึกไม่ต่างกัน

   แม้มิวส์จะพยายามแสดงอาการออกมาด้วยท่าทีที่กระปรี้กระเปร่า แต่เบื้องลึกในใจจิตกำลังต่อสู้กับความอาฆาตแค้นอย่างแสนสาหัส ทุกครั้งที่กลับมามหาวิทยาลัยมิวส์จะคิดถึงอดีตดี ๆ ที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ แต่หลังจากคืนนั้นที่ได้รู้ว่าก้องยังคงทำงานอยู่ที่นี่ มันเลยยิ่งทำให้ทั้งความรัก ความคิดถึง ความสุข และความอาฆาตแค้นปะทุออกมาพร้อม ๆ กันจนไม่รู้ว่าตอนนี้ตนเองกำลังรู้สึกอย่างไรกันแน่

   “เจ้านาย... ถ้าเจ้านายจะไปห้องพักอาจาร์ผมขอรออยู่ตรงนี้นะ" มิวส์เอ่ยขึ้นหลังจากที่พวกเขาก้าวขาขึ้นมาถึงชั้นที่ 4

   ไม้เพียงผงกศีรษะเล็ก ๆ เพื่อเป็นการรับรู้ แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมแต่มันก็ดีเหมือนกันเพราะจะได้ไม่ต้องมีวิญญาณมาคอยจุ้นจ้าน

   ทว่าหลังจากที่ไม้เดินลับสายตาไป เสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังก็ทำให้มิวส์ต้องชะงัก... มันเป็นน้ำเสียงที่คุ้นเคยและตอกย้ำอยู่เสมอว่าอยากได้ยินมันเหลือเกิน

   “มิวส์...” สิ้นเสียง มิวส์ก็ค่อย ๆ หันไปทางด้านหลัง และภาพที่ปรากฏก็ทำให้เขาถึงกับตกตะลึง

   ก้องกำลังยืนอยู่ทางด้านหลัง มันไม่สำคัญว่าร่างนั้นจะขึ้นบันไดตามมาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ที่มิวส์ไม่เข้าใจเลยก็คือ นอกจากไม้... ก้องก็ยังมองเห็นเขาด้วยอย่างนั้นน่ะหรือ

   ก้องเองก็ตกใจไม่น้อยกับสิ่งที่ตัวเองเห็น เพราะเขาสามารถมองร่างอันซีดเผือดที่เกือบจะล่องหนของมิวส์ได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ




คำเตือน!!! ห้ามค้างนะครับ   :hao5:


จบตอน


----------------
คุยกับคนอ่านครับ ^^

คุณ mentholss :: ขอบคุณครับ T^T ยิ่งตอนหลังๆคิดว่าน่าจะมีคำผิดเยอะเลยครับ เพราะช่วงนี้แอบยุ่งๆ นิดนึงเลยไม่ได้รวจทานก่อนนำมาโพสต์สักเท่าไหร่ ขออภัยด้วยนะครับ เดี๋ยวจะแก้ไขในตอนที่รีไรท์ครับ แหะๆ ปล.ช่วยตรวจคำผิดและแจ้งได้นะครับว่าผิดตรงไหน โดยเฉพาะชื่อคน  :3123:
คุณ มยอนฮวา :: อ๋อ โอเคคร้าบ ^^
คุณ Fujoshi :: ทั้งรักทั้งน่าหมั่นไส้ T^T เชื่อว่าหลายคนคิดอย่างงี้ อิอิ
คุณ Nus@nT@R@ :: T^T ยิ่งตอนล่าสุดยิ่งทำให้เจ้านายลำบากใจ ฮือๆๆ
คุณ mukmaoY :: ระหองระแหงเพราะมิวส์เลย T^T  :m31: ตอนล่าสุดเลยให้ก้องมาจัดการซะ ฮ่าๆ
คุณ oumpatta :: 555 มีๆ ครับคนเชื่อว่าไม่ใช่คนเดียวที่ไม่ชอบมิวส์
คุณ mindmaru :: น้องมิวส์ทำงั้น คนเขียนไม่รู้ คนเขียนไม่ผิดนะงับ วิ่งไปหลบอยู่ใต้เตียง T^T
คุณ Chichi Yuki :: ก้องโผล่มาแล้วครับ แต่โผล่มาแบบตัดจบ - -" แง่ววว สำหรับเรื่องของก้อง รออีกนิดนะครับ T^T
คุณ iamnan :: เวลาที่มิวส์โดนว่าบาปแต่ละที รู้สึกผิดยังไงไม่รู้เหมือนทำให้มิวส์กลายเป็นวิญญาณบาปหนัก T^T  เอิ๊กๆ
คุณ @Lucifer_Prince@ :: ง่า... ถ้าปมคลายไวเดี๋ยวจบไวจิครับ แฮ่ๆ รอก่อนน๊า...
คุณ Lily teddy :: ชอบการวิเคราะห์ของคุณ Lily teddy มากๆครับ ^^ อ่านทีไรกำลังใจในการเขียนมาเต็มเลย  :L1:
คุณ darkeyes1 :: ครับผม T^T ไม้ไม่ได้หลายใจหรอก แค่หวั่นไหวเล็กน้อยเท่านั้นเองครับ (เอ๊ะ? หรือนั่นเรียกว่าหลายใจหรือเปล่าหว่า) แหะๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 07-08-2013 22:15:34
ไม่ค้างไม่ได้แล้วคาฟฟ  ก้องเห็นก้องต้องคุยกะมิวส์ให้รู้เรื่องนะ  มิวส์อย่าอาฆาตนะเค้ามั่ยชั่ยคนที่ฆ่าเรา  ไม้คุณน่าจะบอกแม็กกี้ให้จริงจังได้แล้วนะ  มันผ่านมาหลายปีแล้ว  ฉันเชื่อใจคุณอยู่นะ[ถึงอาจจะลดลงแล้วบ้าง]  ว่าสามารถทำให้แม็กกี้มั่นใจในตัวคุณได้  แม็กกี้คือคู่ชีวิตไม่ใช่แค่คนรักของคุณอย่างเดียวแล้ว  ส่วนมิวส์คุณจงคิดบ้างนะว่าเขาไม่ใช่ของเรา  Thank^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 07-08-2013 22:37:48
คงห้ามไม่ได้แล้วละคะ มันค้างไปแล้ว
ก้องสามารถเห็นมิ้วส์ได้เหรอ
ทำไมละ แล้วมิวส์จะทำอย่างไรกับก้องต่อไป รักหรือ อย่าจะทำลายละ
ยิ่งรู้ว่าก้องเห็นมิวส์ ตอนนี้อยากให้มิวส์เคลียกับก้องแล้วไปเกิดและ
เพราะยิ่งอยู่สร้างความร้าวฉานให้ แมกกี้ กับ ไม้ ยิ่งทำให้มิวส์มีปาปติดตัวอ่า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ชะรอยน้อย ที่ 07-08-2013 22:45:12
ค้างฝุดๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 08-08-2013 07:05:13
มันค้างมากเลยอ่ะคนเขียน   :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 08-08-2013 12:12:18
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด! ไม่ค้าง ไม่ค้างเลยค่ะ//กัดฟันกรอดๆ
ก้องเจอกับมิวส์จริงๆ ด้วย สมใจเลย
แต่มาแค่นี้ มาต่อด่วนเลยค่าาา!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 08-08-2013 21:29:14
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด ต่อด่วนค่าาาาาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 08-08-2013 23:19:13
มิวส์ออกอาการมากไปป่าวเนี่ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 09-08-2013 17:27:54
ก้องงงงงงงงงงงงงง
!!
 :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 09-08-2013 22:01:14
แม็กกี้จ๋า ทำไมไม่พูดให้เคลียร์กันไปเลย ในเมื่อไม่เคยกลัวว่าไม้จะนอกใจแล้วจะเก็บความสงสัยไว้ทำไมเนี่ย
แต่ก็นะถ้าการได้รู้ความจริงแล้วอาจจะต้องเสียไม้ไป แม็กกี้คงต้องยอมแกล้งโง่ต่อไปละนะ
 :เฮ้อ: รักเค้ามากก็อย่างงี้แหละ น่าสงสารแม็กกี้จัง  :hao5:
ส่วนไม้นี่ก็เซ้นดีจริงขนาดไม่รู้ว่าแม็กกี้เป็นอะไรยังพูดได้โดนใจมากอะ เพราะงั้นไม้ก็คงจะไม่ไปหวั่นไหวกะใคร
จนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างไม้กะแม็กกี้หรอกนะ
แล้วตอนนี้ทำไมมิวส์ถึงเปลี่ยนไปอย่างมากมายขนาดนี้ ทั้งกล้าหึง กล้าขู่สารพัด แถมไม้ยังต้องยอมอ่อนให้ด้วยอะ
แบบนี้มิวส์ก็ยิ่งได้ใจอะดิ อย่างงี้ไม้จะปกป้องแม็กกี้จากมิวส์ได้ไหมเนี่ย ถ้ามิวส์คิดจะทำร้ายแม็กกี้จริง ๆ 
สุดท้ายก้องกะมิวส์ก็ได้เจอกันจนได้ ทั้งเซอร์ไพรส์ทั้งดีใจเลยอะที่ก้องก็มองเห็นมิวส์ด้วย
แสดงว่ามิวส์กะก้องยังมีความผูกพันในใจกันแน่ ๆ (ป่าวพยามยัดเยียดมิวส์คืนก้องนะ)
แต่หลังจากที่มิวส์หายงงว่าก้องเห็นมิวส์ได้ไง มิวส์คงไม่อาละวาดจนเดือดร้อนไม้ ต้องพากันไปสงบสติอารมณ์
จนเกิดการเผลอตัวรอบ 2 หรอกน๊า รอติดตามและเป็นกำลังใจให้กันเหมือนเดิมค๊า  :L2:  :mew1:
ปล. การที่ก้องมองเห็นมิวส์มันต้องมีประโยชน์อะไรกะแม็กกี้บ้างแหละหน่านะ  :impress:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 09-08-2013 22:51:47
เอ๊ะยังไงก้องมองเห็นมิวด้วย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 12-08-2013 15:08:16
ตอนที่ 17




 
        “ก้อง...” มิวส์เอ่ยเรียกชื่อของคนตรงหน้าด้วยความตกใจ

   ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้ก็คือความคิดถึง พอร่างนั้นเขยิบเข้ามากใกล้ ๆ ก็อยากจะโผเข้ากอด... แต่แล้วชั่วครู่ สมองก็ย้อนไปนึกถึงอดีตในวันที่ก้องบอกเลิก และก่อนที่ความอาฆาตแค้นจะปะทุออกมา เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างใหม่ที่ปรากฏก็ทำให้มิวส์รู้สึกตกตะลึงเข้าไปใหญ่

   “ก้องคะ..." ร่างของหญิงสาวผิวคล้ำหน้าตาสะสวยแต่งกายทะมัดทะแมงเอ่ยขึ้น มิวส์จำได้ว่าในคืนที่มามหาวิทยาลัยตอนดึกกับไม้ เธอคนนี้แหละที่เป็นคนเฝ้าห้องพักครูและเปิดประตูออกมาต้อนรับเจ้านายของเขา "...รีบไปเก็บของแล้วกลับกันเถอะค่ะ ลูกโทรมาบ่นใหญ่แล้วว่าหิวข้าว"

   'ลูก?' มิวส์ทวนคำในใจอย่างประหลาดใจ ถ้าสิ่งที่ได้ฟังไม่ผิดเพี้ยนอะไรอย่างนั้นก็แสดงว่าในคืนนั้น... ก้องตั้งใจจะบอกเลิกเขาจริง ๆ

   “อืม...” ก้องเอ่ยขึ้น "คุณไปรอข้างล่างก่อนนะ เดี๋ยวผมขอไปเก็บของแป๊บนึงแล้วจะตามลงไป"

   “ค่ะ" พูดจบหญิงสาวก็ก้าวเท้าฉับ ๆ ลงบันไดไปแต่โดยดี

   ทันทีที่ในรัศมีไม่มีร่างของมนุษย์อื่นใดปรากฏอยู่ ก้องก็สาวเท้าเข้าไปใกล้ ๆ กับร่างของดวงวิญญาณ

   “มิวส์...” น้ำเสียงที่สั่นเครือเอ่ยขึ้น ก้องเข้าใจมาเสมอว่าตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมามิวส์คงจะไปชดใช้กรรมในสวรรค์และมีโอกาสได้ไปผุดไปเกิดใหม่แล้ว แต่ทว่าความจริงที่ปรากฏในตอนนี้กลับเป็นสิ่งที่เขาคิดผิดถนัด "เรื่องคืนนั้นก้อง...” ไม่ได้ตั้งจะ...

   “หยุดพูดได้แล้ว!” มิวส์ยกมือขึ้นปิดหู เขารู้ว่าถ้อยคำที่จะถูกเอื้อนเอ่ยออกจากปากของผู้ชายตรงหน้าล้วนมีแต่คำแก้ตัวทั้งสิ้น

   “มันไม่ใช่อย่างที่มิวส์กำลังเข้าใจนะ" ก้องพยายามจะอธิบาย

   “ไม่ใช่! หึ...” มิวส์ทวนคำก่อนจะพ่นลมหายใจ(ซึ่งไม่มี)ออกมาอย่างแรง "แล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นใคร แล้วไหนจะเรื่องลูกอีกล่ะ มีอะไรที่มิวส์เข้าใจผิดเพี้ยนไปอย่างนั้นเหรอ...”

   ยิ่งพูด... ความเจ็บปวดก็ยิ่งตอกย้ำให้จิตใจร้าวระบม

   “กลับไปซะ...” มิวส์เอ่ยขึ้น เพราะถ้าก้องยังอยู่ที่นี่เขาอาจจะควบคุมสติตนเองไม่ได้จนอาละวาดขึ้นมาเหมือนเมื่อคราวก่อนก็เป็นได้ โชคดีที่การเห็นรูปภาพของก้องเมื่อคราวก่อน เป็นบททดสอบที่ทำให้จิตใจของมิวส์เข้มแข็งขึ้น เลยทำให้เขาสามารถควบคุมสติตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

   “ไม่" ก้องปฏิเสธทันควัน "ถ้าก้องไม่ได้อธิบายให้มิวส์เข้าใจก้องก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น"

   “ไม่ยักรู้ว่านายเป็นคนหัวรั้นตั้งแต่เมื่อไหร่... ทีเมื่อก่อนขอให้อธิบายเรื่องที่เข้าใจผิดให้ฟังทีไรก็ไม่เคยอธิบายสักที เอาแต่นิ่งเงียบ... เอาแต่เย็นชา แล้วนี่อะไร เพิ่งจะมาสำนึกได้เหรอว่าควรทำตัวยังไงกับคนรัก ไม่สิ... ก้องไม่เคยรักมิวส์ ทุกอย่างมันก็แค่เรื่องโกหกหลอกลวงเท่านั้น...” ยิ่งพูดน้ำเสียงก็ยิ่งสั่นเครือขึ้นเรื่อย ๆ

   “ก้องไม่ได้หลอกลวง... ก้องรักมิวส์... แต่ที่...” ก่อนที่ก้องจะได้แก้ตัวไปมากกว่านี้ มิวส์จึงต้องรีบเอ่ยขัดขึ้นมาเพราะไม่อยากฟังคำอธิบายของคนที่น่ารังเกียจคนนี้
   
        “ได้! ถ้าก้องไม่ไป งั้นมิวส์ไปเอง...” พูดจบก็ตัดสินใจกระโดดลงจากระเบียงชั้นสี่ทันที แม้จะรู้สึกกลัว แม้จะรู้สึกหวาดเสียว แต่วิญญาณอย่างเขาถึงอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะตายซ้ำสองได้หรอกน่า อย่างมากในช่วงเวลาที่กระโดดลงไปมันก็แค่เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกวาบหวิวและทรมานในจิตใจก็เท่านั้น
   
        เหตุที่มิวส์ไม่สามารถหายตัวลงไปได้ก็เพราะ กฎของวิญญาณอาฆาตจะสามารถหายตัวได้เฉพาะในบริเวณที่ตัวเองเสียชีวิตก็เท่านั้น หากจะหายตัวนอกสถานที่ต้องมีการฝึกฝนอย่างหนัก ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่าย ๆ

   ทันทีที่กระโดดไปถึงชั้นล่าง มิวส์ก็พยายามยั้งกายอย่างสุดทนก่อนจะวิ่งทะลุกำแพงฝ่าดงนักศึกษาออกไปให้ไวที่สุด เขาจะต้องไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีก้อง... เขาจะต้องไม่เอาเรื่องของก้องมาหลอกหลอนตัวเองจนขาดสติอีกครั้งเป็นอันเด็ดขาด

   “มิวส์... มิวส์! มิวส์!!” ก้องได้แต่ตะโกนเรียกจากดาดฟ้าก่อนจะมองตามจนร่างที่เรียกนั้นหายไปในกำแพง...

   “อาจารย์ก้องภพ...” ไม้เอ่ยชื่อของชายหนุ่มที่ปกติจะรักษาบุคลิกภาพให้ดูดีมาโดยตลอด แต่ในยามนี้กลับกำลังแสดงอาการร้อนรนพร้อมกับตะโกนชื่อของวิญญาณที่เขารู้จักเป็นอย่างดี

   ...ทำไมไม้ถึงไม่เคยเอะใจสักนิดนะว่าก้องที่มิวส์หมายถึงจะคืออาจารย์ของเขา...

   ก่อนที่อาจารย์ก้องภพจะวิ่งลงบันได ไม้รีบวิ่งตามไปพร้อมกับตะโกนให้หลังว่า...

   “อาจารย์ก้องภพ เดี๋ยวก่อน...” เหมือนว่าคำพูดของไม้จะเป็นเพียงลมเบา ๆ ที่ผ่านหูเท่านั้น เมื่อเห็นว่าอาจารย์ของเขาไม่สนใจ ประโยคถัดไปที่เอ่ยขึ้นจึงทำให้อาจารย์ของเขาชะงักกึก "อาจารย์ไม่ต้องตามมิวส์ไปหรอก... มิวส์ไม่พร้อมจะรับฟังอะไรกับอาจารย์ทั้งนั้น"

   “คุณรู้จักกับมิวส์ คุณมองเห็นมิวส์อย่างนั้นหรือ...” ก้องหันหน้าไปคุยกับลูกศิษย์ด้วยความฉับไว... เป็นปกติที่ก้องภพจะใช้สรรพนามเรียกตัวนักศึกษาว่า 'คุณ' และเรียกแทนตัวเองว่า 'ผม'

   ไม้แสยะยิ้มออกมาก่อนจะมองเรือนร่างของอาจารย์ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยความสมเพช... นี่น่ะหรือคืออาจารย์ที่เขาเคารพนับถืิอมาตลอดระยะเวลาที่ศึกษาอยู่ที่นี่ แท้จริงแล้วอาจารย์ท่านนี้ก็เป็นเพียงคนที่ไม่รักษาคำพูดกับคนรัก จนกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่กับครอบครัวของมิวส์

   “อาจารย์กลับไปเถอะ เดี๋ยวผมจะจัดการเรื่องของมิวส์ให้เอง...” ไม้เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ท่าทางที่เคยเคารพก็พลันหดหายไป เพราะในใจของไม้ในตอนนี้กำลังก่นด่าคนตรงหน้าด้วยความรังเกียจสุดฤทธิ์

   ก้องมองดูนาฬิกา พอเห็นว่าเย็นมากแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ "งั้นผมฝากคุณก่อนนะ ไว้คราวหลังถ้ามีโอกาสผมจะกลับมาคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว"

   หลังจากที่เห็นไม้พยักหน้ารับ ก้องภพก็เดินจากไป ทัั้ง ๆ ที่เขาอยากจะอยู่ที่นี่แต่เพราะภาระทางบ้านจึงทำให้เขาตัดสินใจจากไป... เพราะหลังจากที่เสียมิวส์ไป ก้องก็ได้ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะดูแลภรรยาและลูกให้ดีที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เดียวกับมิวส์ซ้ำสอง


   
   หลังจากที่อาจารย์ 'ก้องภพ' หรือ 'ก้อง' กลับไป ไม้ก็ตัดสินใจจะเดินตามหามิวส์ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย แต่ยังเดินไปได้ไม่ถึงไหน เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็ทำให้ไม้ต้องกดรับเสียก่อน

   “มึงอยู่ไหน...” ทันทีที่กดรับ ผู้ที่โทรมาก็เอ่ยถามทันที เมื่อครู่ไม้บอกจะไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียวแต่นี่เล่นหายไปเป็นครึ่งชั่วโมงแล้วทิ้งให้แม็กกี้อยู่กับอาจารย์ตามลำพังในห้องพักอาจารย์

   “กู... เอ่อ... กู...” ไม้ตอบตะกุกตะกัก เพราะลืมไปเลยว่าต้องกลับไปหาแม็กกี้ และพอโทรมาแบบนี้ก็เลยหาเหตุผลมาแก้ตัวไม่ทัน "กูหิวข้าวน่ะ ก็เลยลงมาหาอะไรทาน จะซื้อขึ้นไปเผื่อมึงด้วย รออยู่นั่นแหละ...”

   “เออ" พูดจบก็วางสายทันที แต่ไหนแต่ไรมาไม้ไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้ง ไม้ไม่เคยทิ้งเขาไว้แบบนี้แล้วแอบไปซื้อกับข้าวโดยที่ไม่บอก หรือถ้าหิวมาก ๆ ไม้ก็จะบอกตรง ๆ แต่นี่อะไร จู่ ๆ เล่นหายตัวไปแบบนี้ หรือว่า...

   'มันแอบไปเจอใคร' คิดดังนั้น แม็กกี้ก็รีบลงจากอาคารเรียนก่อนจะตรงไปยังโรงอาหารทันที

   แต่ทว่าไม่ว่าจะมองหาที่ซอกไหนมุมไหนภายในโรงอาหารก็ไม่พบกับร่างของไม้เลยสักนิด ...แล้วถ้าหากสิ่งที่เขาคิดเป็นความจริงขึ้นมาคือไม้แอบไปหาใครจริง ๆ เขาก็ควรที่จะยอมรับความจริงใช่ไหม เพราะเงื่อนไขตอนที่ตกลงคบกันเป็นแฟนของไม้มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าถ้าหากไม้เจอคนที่รู้สึกดีด้วยจากใจจริง ...ไม้ก็จะจากไป

   พอคิดดังนั้น แม็กกี้ก็รู้สึกหวาบหวิวในใจแปลก ๆ แต่ก็พยายามข่มใจแล้วเดินต่อไปเรื่อย ๆ ตามโรงอาหารจนกระทั่งตามมุมต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย เมื่อไม่พบร่างของคนที่ตามหา เขาก็ตัดสินใจเดินกลับไปรอบนตึกคณะเงียบ ๆ

   เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมง นักศึกษาที่มารับน้องทั้งปีหนึ่งและปีสองทยอยกลับไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าไม้จะกลับมาแต่อย่างใด

   แม็กกี้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะกดเบอร์ที่เขาคุ้นเคยลงไป ...แต่เขาจะโทรไปหาไม่ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อไม้บอกเองไม่ใช่เหรอว่าจะซื้อกับข้าวมาให้ คิดดังนั้น ก็ลบหมายเลขโทรศัพท์ทิ้งแล้วนั่งรออยู่เงียบ ๆ ต่อไป

   แม้จะไม่รู้ว่าสิ่งที่ไม้กำลังทำมันคืออะไรกันแน่ แต่การพยายามโกหกปลอบใจตัวเองเป็นเพียงวิธีเดียวที่ทำให้แม็กกี้พอที่จะยิ้มออก

   ...บางที ไม้อาจจะบินไปซื้อราเม็งที่ญี่ปุ่น บินไปซื้อพิซซ่าที่อิตาลี หรือบินไปซื้อน้ำหอมจากฝรั่งเศสแล้วกลับมาเซอร์ไพรซ์ก็ได้...

   แม็กกี้ยังคงนั่งรอต่ิไปเรื่อย ๆ แม้ในตอนนี้ว่าที่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 จะกลับที่พักกันหมดแล้ว เหลือเพียงนักศึกษาชั้นปีที่ 2 บางส่วน รวมทั้งอาจารย์ที่เป็นเวรเฝ้ามหาวิทยาลัยที่ยังอยู่ในสถาบันแห่งนี้เท่านั้น จึงทำให้แม็กกี้ยังรู้สึกว่ายังมีคนอยู่เคียงข้าง... แม้ในใจจะกำลังรู้สึกว่าอ้างว้างและเหมือนจะโดนทอดทิ้งก็ตาม
   
   ทางด้านของไม้หลังจากที่มิวส์หายตัวไป เขาก็ออกตามหาทุกหนทุกแห่งภายในมหาวิทยาลัย เมื่อไม่พบ เขาก็ตัดสินใจกลับไปดูที่หอพัก โชคดีที่แบ่งกุญแจรถมอเตอร์ไซค์กับแม็กกี้เอาไว้คนละอัน เลยทำให้เขาแอบเอามอเตอร์ไซค์ไปขับได้ แต่ทว่าพอไปถึงหอพัก สอบถามกับท่านเจ้าที่ ก็ไม่ปรากฏว่ามิวส์จะกลับมาที่นี่แต่อย่างใด

   ไม้กลับไปที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง ไม่รู้ว่าตอนนี้หมอนั่นอยู่ที่ไหน ทั้งเดินทั้งวิ่งหาไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัยแล้วก็ไม่พบสักที ในใจก็นึกเป็นห่วงกลัวว่ามิวส์จะได้รับอันตราย จนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้วเวลาเลยผ่านไปจนถึงสองทุ่มกว่า เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็ทำให้ไม้หยิบมันขึ้นมาดู ก็ปรากฏว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย แม้ว่าจะไม่มั่นใจว่าเป็นใครแต่ในใจก็คิดถึงมิวส์เพียงคนเดียวเท่านั้น เขาจึงรีบกดรับสายทันที

   “สวัสดีครับ" ไม้เอ่ยขึ้นอย่างสุภาพเพื่อลองเชิงว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ของใคร

   “ผมอาจารย์ก้องภพนะ... คุณ ไม้ อัยยวัฒน์ ใช่ไหม" ปลายสายเอ่ยขึ้น

   “อ่อ... ใช่ครับ อาจารย์จะโทรมาถามเรื่องมิวส์ใช่ไหม ตอนนี้ผมยังหาเขาไม่เจอเลย แค่นี้นะครับ...” ไม้พูดขึ้น แต่่ก่อนที่จะได้กดตัดสาย เสียงที่ดังขึ้นจากปลายสายก็ทำให้เขาชะงัก

   “เดี๋ยว... ผมคิดว่าผมรู้ว่ามิวส์อยู่ที่ไหน"

   “อาจารย์รู้!?”

   “ใช่... ทุกครั้งที่ทะเลาะกันหรือมีปัญหาอะไรภายในมหาลัย ที่เดียวที่มิวส์มักจะหนีไปเก็บตัวก็คือชั้นใต้ดินของห้องสมุด"

   “แต่ห้องสมุดมันปิดนะอาจารย์! ผมจะเข้าไปได้ยังไง"

   “รอผมก่อนนะ เดี๋ยวผมกลับไปที่มหาลัย ถ้าถึงแล้วจะโทรไป"

   “ครับ"

   สิ้นเสียงก็กดตัดสาย พอจ้องมองดูเวลาที่นาฬิกาบนหน้าจอมือถือไม้ก็ต้องตกใจ อีกไม่กี่นาทีก็จะสามทุ่มแล้ว และที่สำคัญเขามัวแต่ตามหามิวส์จนลืมนึกไปเลยว่ายังมีคนสำคัญอีกคนที่รอเขาอยู่

   ไม้ตัดสินใจเดินกลับไปที่ตึกคณะและเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสี่ทันที โดยหวังว่าจะพบกับร่างของใครบางคนที่ยังนั่งอยู่ที่นั่น และเหมือนว่าความปราถนาของเขาจะเป็นผล เมื่อร่างน่ารัก ๆ ที่เขาคุ้นเคยยังคงนั่งอยู่บริเวณริมระเบียงหน้าห้องเรียนห้องหนึ่ง

   “แม็กกี้...” เสียงที่เอ่ยขึ้นทำให้เจ้าของชื่อหันหลังกลับมา

   แม็กกี้ไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงยิ้มให้ไม้ก่อนที่จะลุกแล้วเดินเข้าไปหา

   “มึง... กู...” ขอโทษ... ยังไม่ทันที่ไม้จะได้พูดอะไร อ้อมกอดที่โผเข้ามาก็ทำให้เขาต้องชะงัก แม็กกี้เกยหน้าไปที่หัวไหล่ของไม้ เขากำลังพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ไม่แสดงความกังวลจนกลายเป็นความอ่อนแอให้ไม้เห็น แต่เหมือนว่ายิ่งเขาพยายามจะห้ามความรู้สึกเหล่านั้น มันก็กลับยิ่งแสดงออกมาในทางตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง

   แม็กกี้กอดไม้โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังทั้งสั่นทั้งสะอึกสะอื้น เขาไม่ได้ต่อว่าไม้แต่อย่างใด เขายอมที่จะเก็บความสงสัยทุกอย่างไว้ในใจไม่พูดอะไรออกไปให้ไม้รำคาญ

   “กลับห้องกันเถอะ...” แม็กกี้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ

   “คือกู...” แม้จะรู้สึกผิดต่อแม็กกี้มากแค่ไหน แต่เขาก็ทิ้งไอ้วิญญาณตัวยุ่งเอาไว้ที่นี่ไม่ได้หรอก "พอดีกูมีธุระกับอาจารย์ก้องภพ มึงกลับไปก่อนได้ไหม"

   “มึงกินไรยัง" แม็กกี้ไม่ได้ตอบรับ แต่เขาเลือกที่จะถามอีกคำถามออกไป

   “ยัง...” ไม้ส่ายหน้าเป็นคำตอบ "แล้วมึงล่ะ"

   ทั้ง ๆ ที่จำได้ว่าเป็นคนพูดเองแท้ ๆ ว่าจะซื้ออะไรมาฝาก แต่ทว่าเขาก็กลับมามือเปล่า

   “กินแล้ว" แม็กกี้ยิ้มให้ โดยที่ไม้หารู้ไม่ว่ามันไม่เป็นความจริงเลยสักนิด แต่ที่ต้องพูดออกไปแบบนั้นเพราะไม่อยากให้ไม้ไม่สบายใจ ถึงเมื่อก่อนจะเคยเอาแต่ใจอย่างไรแต่ในยามนี้แม็กกี้กลับไม่กล้าทำอะไรขัดใจไม้เลยสักนิด ...เพราะความกลัวว่าจะโดนทิ้ง เลยทำให้เขาเลือกที่จะเก็บความอัดอั้นทุกอย่างไว้แต่เพียงผู้เดียว

   “กูขอโทษ" ไม้เอ่ยขึ้น... ในใจของเขาในยามนี้รู้สึกสับสนมึนงงไปหมด ไม้รู้ความรู้สึกของตัวเองดีว่าเป็นห่วงมิวส์มากแค่ไหนที่มันหายตัวไปแบบนี้ และไม้ก็รู้สึกผิดที่ต้องปิดบังเรื่องราวทุกอย่างไม่ให้แม็กกี้รับรู้ "มึงกลับไปรอที่ห้องก่อนนะ ถ้าเสร็จธุระ เดี๋ยวกูจะรีบกลับไป นะ... ที่รัก...”

   “อือ...” แม็กกี้พยักหน้าตอบตกลงก่อนที่จะผละอ้อมกอดออก "อย่าลืมหาไรกินด้วยล่ะ"

   พูดจบก็เดินจากไปปล่อยให้คนที่ยังยืนอยู่มองตามหลังเท่านั้น... แต่ก่อนที่แม็กกี้จะลับสายตาไป สมองที่เพิ่งคิดได้ว่า 'ควรจะไปส่ง' ก็ทำให้ไม้ต้องเดินตามหลังก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า...

   “แม็กกี้ เดี๋ยวกูไปส่ง...”

   “ไม่เป็นไร... มึงอยู่ที่นี่รออาจารย์ก้องภพเถอะ เสร็จแล้วก็รีบกลับห้องล่ะ ถ้าไม่รู้ว่าจะกลับยังไงก็โทรเรียกให้กูออกมารับก็ได้นะ กูกลับเลยละกัน...”

   “แม็กกี้...” ไม้เอ่ยเรียกชื่อที่เดินจากไปเบา ๆ แม้จะอยากเดินตามร่างนั้นแล้วกลับไปที่ห้องด้วยกัน แต่เขาก็ทำไม่ได้จริง ๆ เพราะยังมีสิ่งที่สำคัญที่รอให้เขาตามหาอยู่ที่นี่



   หลังจากที่แม็กกี้กลับหอ ไม้ก็รออาจารย์ก้องภพอยู่ประมาณ 40 นาที ก่อนที่เบอร์โทรศัพท์ของคนที่เขารอจะโทรเข้ามา

   “ผมมาถึงแล้ว คุณเดินมาที่ห้องสมุดเลยนะ"

    “ครับ"

   พูดจบก็เดินไปที่ห้องสมุดทันที ไม่นานมากนักก็ไปถึง และก็ได้พบร่างของอาจารย์ก้องภพที่ยืนรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว    

   ก้องภพกำลังพยายามที่จะไขกุญแจเข้าห้องสมุด แต่ไขกี่รอบ ๆ กุญแจก็ไม่ยอมปลดล็อกสักที

   “เปิดไม่ได้" ก้องเอ่ยกับลูกศิษย์ และในขณะนั้นเสียงโทรศัพท์ของก้องก็ดังขึ้น

   “เดี๋ยวผมเปิดเอง"

   ก้องยื่นกุญแจให้ไม้ก่อนที่เขาจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย

   ไม้พยายามไล่กุญแจทุกดอกที่อยู่บนพวงกุญแจ แต่ไม่ว่าจะกี่ดอก ๆ ก็ไม่มีท่าทีที่กุญแจจะปลดล็อกสักที จนกระทั่งก้องคุยโทรศัพท์เสร็จ

   “ไม้... เราต้องกลับไปที่บ้านของคุณปริม คุณปริมหยิบพวงกุญแจให้ผิดดอก" ก้องเอ่ยขึ้น... คุณปริมที่ก้องภพเอ่ยขึ้นมา เธอเป็นหัวหน้าบรรณารักษ์ที่ดูแลห้องสมุดแห่งนี้ ซึ่งในช่วงรับน้องแบบนี้ ห้องสมุดจะปิดเพื่อไม่ให้นักศึกษาแอบไปใช้งาน และเธอก็ใช้เวลาว่างช่วงนี้กลับไปพักผ่อนที่บ้านในทุก ๆ ปี ซึ่งบ้านของเธออยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยกว่า 40 กิโลเมตร กว่าจะเดินทางไปกลับก็คงไม่ต่ำกว่า หนึ่งชั่วโมงแน่ ๆ

   “งั้นก็รีบไปกันเถอะอาจารย์" ไม้รีบเร่ง สีหน้าของเขาแสดงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าหากเลยเวลาเที่ยงคืนไปแล้วยังช่วยมิวส์ออกมาไม่ได้ มิวส์จะได้พบกับพวกวิญญาณชั่วร้ายตามที่ท่านเจ้าที่เคยขู่เอาไว้

   จากนั้นทั้งคู่ ก็ตัดสินใจเดินทางไปอย่างบ้านของคุณปริมด้วยความฉับไวด้วยรถเก๋งส่วนตัวของก้อง





จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่16 หน้า5]- 07/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 12-08-2013 15:10:05
คุยกับคนอ่านครับผม ^^  :3123:

คุณ @Lucifer_Prince@ :: ^^ น่ารักจัง ความเชื่อมั่น เชื่อใจกันนี่แหละครับ ชนะทุกสิ่ง แต่ความหวาดระแวงก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวเหลือเกินว่าจะทำให้ความรักไปกันไม่รอด
คุณ มยอนฮวา :: ^^ มิวส์กับก้องจะเป็นไงกันต่อไปต้องตามดูเรื่อยๆครับ แหะๆ
คุณ ชะรอยน้อย :: หายค้างได้แล้วน๊า ผมลงตอนใหม่แล้ว เย่ๆ ^^
คุณ mindmaru :: แฮ่ๆ เอาบทล่่าสุดมาเสิร์ฟให้หายค้างแล้วครับ
คุณ Chichi Yuki :: มาต่อแล้วครับ คิคิ ^^
คุณ EARTHYSS :) :: ต่อแล้วครับ ^^ แฮะๆๆ
คุณ iamnan :: มากๆเลยครับ 555 ออกมากจนน่าหมั่นไส้ T^T
คุณ mukmaoY :: ก้องงงง *0* มาแล้วไปแล้ว แล้วก็กลับมาอีกแล้ว
คุณ Lily teddy :: ช่วงนี้แม็กกี้น่าสงสารยิ่งตอนล่าสุดต้องแสร้งทำเป็นเงียบ ไม่รับรู้อะไรเลยครับ T^T แกล้งไม่รับรู้ ปิดตา ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ถาม ทั้งๆที่ในใจมันอัดอั้น มันเป็นอาการที่ทรมานมากๆเลยเนอะครับ T^T
คุณ hello_lovestory :: ใช่ครับ มองเห็นได้ จะได้สนุกๆ ^^ คิคิ


แล้วเม้นท์ตอนใหม่ๆ ให้ด้วยนะครับทุกคน ^^ ขอบคุณคร้าบ  :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 12-08-2013 16:23:51
สับสนตัวเอง ในใจก็อยากให้ไม้คู่มิว แต่อีกใจก็สงสารแม็กกี้ อารมณ์แม็กกี้แบบนี้ เสียวแทน มันคล้ายๆกับมิววันที่ตายเลย อยากรู้เหตุผลของก้องด้วย แต่คาดว่าคนแต่งคงยังไม่บอกเร็วๆนี้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 12-08-2013 16:51:57
เฮ้ยยยยนู๋มิวส์กลับห้องเถอะ มันอันตราย
หัวข้อ: Dead lover
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 12-08-2013 17:44:46
หน่วงจังอ่ะคัฟ  สงสารแม็กกี้ก็สงสารนะ  แต่เเม็กกี้น่าจะบอกไม้บ้างว่าตัวเองรู้สึกยังไง  ถ้าคิดว่าตังเองสามารถที่จะเก็บความรู้สึกพวกนี้ได้  ก็อย่าให้มันระเบิดเหอะ  ระเบิดมาล่ะซวย  ไอ่คุณไม้ล่ะก็  บอกเรื่องมิวส์ให้แม็กกี้ฟังไม่ได้หรอ  กลัวอะไร  อยากรู้จังว่าก้องมีเหตุผลอะไรถึงเลิก  ค่อยๆเผยความลับออกทีละช่วงนะคัฟ  จะรอ  ขอบคุณคัฟคนเขียน ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 12-08-2013 18:04:55
สงสารมิวส์ แต่ก็เนอะ ก้องคงมีเหตุผลแหละ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 12-08-2013 18:25:13
อ่านตอนนี้แล้วเศร้าจัง ไม่รู้จะสงสารใครดีเพราะพอได้เจอกันอีกที มิวส์กับได้รู้ความจริงที่น่าเจ็บปวดยิ่งกว่า
จะโทษก้องทั้งหมดก็ไม่ได้เพราะเวลาตั้ง 10 ปี ยังไงก้องก็คงต้องเปลี่ยนไป
แต่ตอนที่รู้ว่าก้องมีลูกแล้วเนี่ย คนอ่านล่ะอึ้งเลยถึงจริง ๆ มันจะไม่ใช่เรื่องแปลกก็เถอะ
ส่วนแม็กกี้ก็น่าสงสารเก็บความคิดความกลัวไว้คนเดียวเพราะกลัวว่าจะต้องเสียไม้ไป
แต่แม็กกี้จะทนได้นานแค่ไหน ถ้าไม้ยังต้องสับสน วุ่นวายกับการช่วยวิณญาณของมิวส์ต่อไปแบบนี้
ถึงไม้จะทำไปเพราะความสงสาร หรืออะไรก็แล้วแต่ ยังไงมันก็ทำให้แม็กกี้เจ็บปวดโดยที่ไม้ยังไม่รู้ตัวเลยมั่งนั่น
ก็ขอให้ไม้อย่าเป็นเหมือนก้องที่เป็นคนไม่รักษาคำพูดกับคนรักจนทำให้แม็กกี้ต้องเป็นเหมือนมิวส์ล่ะกัน
แต่เท่าที่อ่านตอนนี้เหมือนไม้ก็กำลังทำแบบนั้นกับแม็กกี้แล้วล่ะ ฮือ :monkeysad: อ่านตอนนี้แล้วมันจิ๊ดได้ทั้งตอนเลยอะ
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้กันเหมือนเดิมค่ะ  :mew1:
ปล. ชอบกฎของวิญญาณอาฆาตจังค่ะ ที่ว่าสามารถหายตัวได้เฉพาะในบริเวณที่ตัวเองเสียชีวิต
ไม่งั้นก็ต้องมีการฝึกฝนอย่างหนักเนี่ย อันนี้ผู้เขียนคิดเองหรือมีข้อมูลจากไหนเหรอคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 12-08-2013 19:25:19
สงสารแม็กกี้
มิวส์รีบกลับห้องเถอะ เดี๋ยวจะเป็นอันตรายเอานะ
มันหน่วง สงสารแล้วก็สงสัย
อยากให้ตอนจบไม้กับแม็กกี้คู่กันเหมือนเดิม ส่วนก้องในเมื่อมีครอบครัวแล้วก็ปล่อยไป สุดท้ายมิวส์ก็อยากให้ไปสู่สุขติ
อยากให้ไม้กับแม็กกี้หาทางล้างคำสาปของที่ที่กังขังมิวส์ไว้เพื่อให้มิวส์ไปสู่สุขติ

ปล.อยากให้เรื่องนี้แต่งจนจบจัง ขอร้องคนแต่งอย่าดองนะคะ TT^TT
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 12-08-2013 20:17:11
ก้องมีลูกมีเมียแล้วอ่ะ :mew6:

เอาใจช่วยผีขี้งอนนะจ๊ะ5555(หัวเราะทำไม) :mew5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 12-08-2013 20:22:34
เหตุผลของก้องคืออะไรนะ...ทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้ ความโกรธคงไม่น้อยลงแต่อาจทำให้เข้าใจมากขึ้น
อยากให้มิวส์ได้ไปเกิดซักที จะมีวิธีไหนที่ไม่ต้องใช้ตัวตายตัวแทนมั้ยนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 12-08-2013 23:02:53
; สงสารมิวส์สุดใจเลย :o12: :o12: :o12:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 12-08-2013 23:26:35
สงสัยว่าตอนมิวตาย  ครอบครัวมิวไม่มาเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านเลยหรอคะ  ปกติเขามักจะมีพิธีอะไรแบบนี้กันนะคะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 13-08-2013 00:04:37
โธ่ พี่มิวส์ของเค้า จะเป็นไรไหมนะ หวังว่าคงไม่โดนพวกผีเจ้าถิ่นกร่างใส่น๊า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 14-08-2013 13:42:03
อ๊ากกกกกกก สงสารนู๋มิวส์
อิตาก้องน่าโดนโบกยิ่งนัก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 14-08-2013 14:04:55
ณ ตอนนี้สงสารแม็กกี้จัง รอคนที่ลืมเราไปแล้ว TT TT
ส่วนมิวส์อยู่ไหน จะเป็นอันตรายหรือเปล่าเนี่ย
ตกลงตูจะอยู่ข้างใครดีเนี๊ย ผี หรือ คน งง ตัวเอง ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-08-2013 16:30:37
ตอนที่ 18   :ling2:



           บนท้องถนนยามค่ำคืน พอผ่านพ้นเขตเมืองไป สองข้างทางก็มีแต่ความมืดกับป่าเขาลำเนาไพร นอกจากไฟที่ส่องสว่างจากตัวรถที่วิ่งสวนมา ก็ไม่มีแสงไฟจากแหล่งอื่นอีกเลย

   “คุณรู้จักกับมิวส์ได้ยังไง" ในขณะที่อยู่บนรถ ก้องก็เอ่ยถามเพื่อทำลายความเงียบ

   “มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ" คำตอบของไม้ทำให้คนฟังแทบสะอึก

   “แล้วคุณรู้เรื่องผมกับมิวส์... แล้วใช่ไหม” คำถามที่ถูกเอ่ยออกไปเป็นสิ่งที่คนถามกลัวที่จะได้รับฟังคำตอบมากที่สุด เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะมองมุมไหนเขาก็ผิดเต็ม ๆ และถ้าลูกศิษย์คนนี้รู้ ก็เท่ากับว่าไม้รู้ความลับของเขาทั้งหมด และเขาก็จะต้องกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของลูกศิษย์คนนี้แน่นอน

   “อาจารย์ขับรถต่อไปเถอะ อย่าถามอะไรมากเลย" ไม้ตอบด้วยน้ำเสียงที่ไร้เยื้อใย แม้ทั้งสองจะมีความรู้สึกเดียวกันคือเป็นห่วงมิวส์ แต่ทว่าความเป็นห่วงนั้นไม่ได้ทำให้พวกเขาสามัคคีกันเลยสักนิด

   “สีหน้าคุณดูกังวลไปนะ มีอะไรหรือเปล่า" ก้องเอ่ยถาม เพราะถ้าไม้กับมิวส์เป็นแค่เพื่อนกันธรรมดา ไม่น่าจะมีเหตุผลใด ๆ ที่ไม้จะดูเป็นห่วงมิวส์ขนาดนี้ "บอกผมเถอะ...”

   ตอนแรกไม้กะจะไม่บอกเรื่องประตูปรโลกจะเปิดตอนเวลาเที่ยงคืน แต่ทางที่ดีบอกไว้ก็ไม่เสียหาย ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับเขาหรือมิวส์ อย่างน้อยอาจารย์คนนี้ก็น่าจะช่วยเหลือมิวส์ได้บ้าง

   “หากถึงเวลาเที่ยงคืนประตูปรโลกจะเปิด และเหล่าภูตผีวิญญาณที่ออกมาจากประตูนั้นจะทำร้ายมิวส์" ไม้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น เมื่อเห็นว่าอาจารย์ของเขากำลังจะถามอะไรต่อ เขาจึงรีบเอ่ยขัด "อาจารย์อย่าถามอะไรมากเลย รีบขับรถไปที่บ้านคุณปริมเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันการ"

   “ครับ" ก้องตอบอย่างสุภาพ "แต่ผมขอเล่าประวัติเกี่ยวกับห้องสมุดให้คุณฟังก่อนนะ เรื่องมันมีอยู่ว่า...”





   เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ตอนที่มหาวิทยาลัยได้สร้างห้องสมุดหลังใหม่ ในตอนนั้นตรงกับช่วงรับน้องของมหาวิทยาลัยพอดี มีกลุ่มเพื่อนสนิทกลุ่มหนึ่งจำนวน 4 คนซึ่งในตอนนั้นเป็นรุ่นพี่ชั้นปีที่ 2 ได้แอบเข้าไปในห้องสมุดทั้ง ๆ ที่มีป้าย 'ห้ามเข้า' โชว์หราอยู่หน้าประตู เนื่องจากว่าห้องสมุดยังตกแต่งภายในไม่เสร็จสมบูรณ์

   “เฮ้ยพวกแก... แยกกันสำรวจดีไหมว่าหนังสือภาษาศาสตร์อยู่ชั้นไหน...” นักเรียนหญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เพราะพวกเขาทั้งสี่ติด F ในวิชาภาษาศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาพื้นฐานของการเรียนภาษาไทยแบบเจาะลึก จึงต้องลงเรียนแก้ F ในช่วงฤดูร้อน และพวกเขาก็ได้ขออนุญาตเพื่อน ๆ แยกจากการรับน้องเพื่อจะมาหาหนังสือเตรียมทำรายงานส่งอาจารย์แล้ว

   “เออ... ก็ดีเหมือนกัน" หญิงสาวอีกคนเห็นด้วย "อีกประมาณครึ่งชั่วโมงค่อยกลับมาเจอกันที่หน้าประตูนะ ตกลงไหม"

   สิ้นเสียงของเธอ เพื่อนสาวทุกคนก็พยักหน้ารับ หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปตามชั้นที่ตกลงนัดแนะไว้...

   เริ่มจากชั้นใต้ดิน... ชั้นนี้เป็นชั้นที่ไม่มีหน้าต่าง ความอับชื้นจากการที่เพิ่งทาสีเสร็จใหม่ ๆ และกลิ่นอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เพิ่งจัดวางทำให้ชั้นหนังสือชั้นนี้มีบรรยากาศที่หน้าสะเอียดสะเอียนที่สุด

   เธอกวาดสายตามองหาหนังสือตามชั้นต่าง ๆ แต่ก็ไม่พบ ไฟที่สว่างไสวก็เริ่มติด ๆ ดับ ๆ จนเธอรู้สึกว่าบรรยากาศชักจะทะแม่ง ๆ จึงตัดสินใจที่จะเดินขึ้นไปยังชั้นหนึ่ง แต่ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะก้าวขาออกจากช่องตู้หนังสือ สายลมอ่อน ๆ ที่พัดหวิวมากระทบกับร่างของเธอก็ทำให้เธอตัวแข็งทื่อเพราะไม่รู้ว่ามันพัดมาจากทิศทางไหน เนื่องจากชั้นนี้เป็นชั้นปิดตาย อากาศที่หายใจถ้าไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว

   เธอตัดสินใจจะก้าวขาเดินต่อไป แต่ก็เหมือนกับว่ามีอะไรจับร่างของเธอเอาไว้ทำให้เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้สักที ดังนั้นเธอจึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ หันไปมองด้านหลังว่ามีอะไรจับร่างของเธอไว้หรือเปล่า

   ไม่มีใครรู้ว่าเธอเห็นอะไรกันแน่ แต่เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นทำให้เธอเป็นลมหมดสติไปในที่สุด...

   เสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่อยู่ชั้นใต้ดินที่ดังขึ้น ไปกระทบกับโสตประสาทของหญิงสาวที่กำลังหาหนังสืออยู่ที่ชั้นหนึ่ง นั่นจึงทำให้เธอรีบวิ่งลงบันไดไปดูเพื่อนของเธอด้วยความเป็นห่วงทันที

   แต่ทว่าความไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรองเท้าส้นสูงที่เธอสวมใส่ดันทำร้ายเธอทำให้เธอขาพลิกและดิ่งลงบันไดผิดท่าตั้งแต่ที่อยู่ชั้นบนสุด แรงกระแทกในแต่ละชั้นจนกระทั่งไปถึงชั้นล่างสุดส่งผลให้เธอคอหักและสิ้นลมหายใจในทันที มิหนำซ้ำดวงตาของเธอยังเบิกโพลงเห็นตาขาวชัดเจนราวกับว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะมาตายที่นี่

   เสียงขลุกขลิก ๆ เหมือนกับของตกทำให้เพื่อนที่อยู่ชั้นสองวิ่งลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เธอตะโกนเรียกชื่อของเพื่อนสาวที่อยู่ชั้นหนึ่งแต่พอไม่ได้ยินเสียงตอบรับก็เลยตัดสินใจลงไปตามหาเพื่อนอีกคนที่ชั้นใต้ดิน และภาพที่ปรากฏก็ทำให้เธอถึงกับอ้าปากตะลึงอึ้งค้าง

   ภาพของหญิงสาวเพื่อนสนิทที่นอนตาเหลือกโพลงอยู่บันไดชั้นล่าง กับภาพของหญิงสาวอีกคนที่นอนตาเหลือกไม่ต่างกันกำลังดิ้นขยุกขยิกอยู่บริเวณชั้นหนังสือกลางห้องใต้ดินทำให้เธอสติแทบแตก

   “อย่า... เพิ่งไป มะ... มาช่วยฉันด้วย" หญิงสาวที่เป็นลมหมดสติไปในตอนแรกเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอแสดงถึงความหวาดผวาอะไรบางอย่างได้อย่างชัดเจน เมื่อเห็นเพื่อนสาวที่วิ่งลงมา เธอก็พยายามส่งเสียงร้องเรียก แต่เสียงนั้นกลับทำให้เพื่อนสาวเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเสียงของวิญญาณร้าย เธอจึงตัดสินใจจะวิ่งกลับขึ้นไปด้านบน แต่ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นซ้ำสอง...

   ราวกับว่ามีมัจจุราชที่ยืนรออยู่บันไดชั้นบนสุด เมื่อเธอวิ่งไปถึงขั้นบนสุด ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างผลักให้เธอหงายหลังตกบันได ไม่มีใครรู้ว่าเธอโดนผลักได้อย่างไร เพราะหลังจากที่ร่างของเธอตกลงไป ชะตากรรมของเธอก็ไม่ต่างจากเพื่อนอีกคนที่สิ้นลมหายใจก่อนหน้านี้...

   เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง พวกเพื่อน ๆ ที่ทำการรับน้องเห็นว่าเพื่อนของพวกเขาทั้งสี่คนยังไม่กลับมาสักที โทรตามก็ไม่มีใครรับสาย จึงมีบางส่วนที่ตัดสินใจไปตามหาในห้องสมุด และทันทีที่กลุ่มเพื่อนผู้หวังดีเดินเข้าไปภายในห้องสมุด ภาพที่พวกเขาได้เห็นทั้งหมดก็ทำให้ทุกคนต่างก็รู้สึกสลดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

   หญิงสาวคนแรกที่ถูกพบอยู่บนชั้น 3 เธอโดนชั้นหนังสือล้มเรียงเป็นโดมิโน่และทับจนร่างติดแหง็ก สันของชั้นวางหนังสือที่มีความสูงกว่าสามเมตรพร้อมกับหนังสือหลายพันเล่มกระแทกเข้าที่บริเวณต้นคอของเธอ ไม่มีใครรู้ว่าเธอหมดสิ้นลมหายใจเพราะอะไรกันแน่ เพราะดูเหมือนว่าการที่ชั้นหนังสือทับร่างของเธอจะยังไม่หนำใจมัจจุราช เมื่อแท่งเหล็กบางอย่างซึ่งผู้พบเห็นสันนิษฐานเอาว่าน่าจะหลนลงมาจากบนชั้นหนังสือ ได้ตกลงมาเสียบเข้าที่เบ้าตาของเธอจนเกือบทะลุ นั่นเป็นภาพที่ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกสะเอียดสะเอียนที่สุด

   ส่วนหญิงสาวอีกสามรายถูกพบที่ชั้นใต้ดิน มีสองรายที่ตกบันไดคอหักจนเสียชีวิต และอีกหนึ่งรายที่รอดพ้นจากความตาย แต่ทว่าสภาพของเธอก็ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น เพราะการเสียชีวิตของเพื่อนสองคนตรงหน้าเธอทำให้เธอขาดสติจนฟั่นเฟือง มิหนำซ้ำยังเป็นไบ้ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ

   และหลังจากนั้น ตำนานอาถรรพ์ภายในห้องสมุดก็เกิดขึ้นเรื่อยมา เพราะมีนักศึกษาที่อยู่ในห้องสมุดหลัง 5 โมงเย็นเพียงคนเดียวในชั้นใต้ดินและชั้นสามมักเจอเรื่องราวประหลาด ๆ เป็นประจำ...





   สิ่งที่อาจารย์ก้องภพเล่ามาทั้งหมดนั้นไม่ได้ทำให้ไม้รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด แต่มันเป็นความสะเทือนใจมากกว่า... และถ้าหากสามคนเสียชีวิตอีกหนึ่งคนเป็นบ้า แล้วใครจะเป็นคนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ล่ะ นั่นคือความสงสัยของไม้ เพราะทุกคนต่างก็เห็นสภาพของพวกเขาหลังจากที่เกิดเรื่องทั้งนั้น

   “อะไรคือหลักฐานยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง" ไม้เอ่ยถาม

   “กล้องวงจรปิด ปกติกล้องวงจรปิดจะเปิดใช้การแค่เวลาทำการห้องสมุดเท่านั้น แต่ในช่วงนั้นทางมหาลัยได้เปิดกล้องวงจรปิดเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อเป็นการทดสอบระบบ" คำตอบของก้องทำให้ไม้ถึงกับสะอึกทันที ถ้ามีหลักฐานเป็นภาพเคลื่อนไหวขนาดนี้ก็คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธความจริงของอาถรรพ์เหล่านี้หรอก "แม้สมัยก่อนภาพจะยังไม่คมชัดแถมยังเป็นภาพขาวดำ แต่ภาพของหญิงสาวที่โดนชั้นหนังสือทับและแท่งเหล็กเสียบเข้าที่เบ้าตากับหญิงสาวที่ตกบันได รวมถึงหญิงสาวที่มีท่าทางราวกับว่าเจออะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น มันถูกบันทึกไว้ในกล้องวงจรปิดทั้งหมด"

   “แล้วหลังจากนั้นนอกจากเหตุการณ์ประหลาด ๆ ที่เกิดขึ้นกับนักศึกษาที่เข้าห้องสมุดในชั้นที่เกิดเรื่องหลังห้าโมงเย็นเพียงคนเดียว ยังมีเหตุการณ์อะไรอีกไหมครับ"

   “มีนักศึกษาเสียชีวิตปีเว้นปีในห้องสมุดที่ชั้นใต้ดิน หรือไม่ก็ชั้นสามสลับกันไป" ก้องตอบออกมา "อ้อ... อีกย่าง นักศึกษาที่ตกบันไดตายคนแรกเจ้าหน้าที่มาสืบทราบทีหลังว่าเธอกำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ ด้วย"

   “ตายทั้งกลม!?” ไม้ทวนคำด้วยความตกใจ เพราะจากที่โบร่ำโบราณเล่ามา การตายทั้งกลมมันเป็นการตายที่อาถรรพ์มาก ๆ

   “ก็ไม่รู้จะเรียกว่ากลมหรือเปล่านะครับ เพราะเธอเพิ่งตั้งครรภ์อ่อน ๆ" ก้องเอ่ยขัด “แล้วถ้าสิ่งที่คุณบอกผม คือประตูปรโลกจะเปิดหลังเที่ยงคืนจริง แล้วถ้าเราไปไม่ทัน อน่างนั้นก็แสดงว่า...”

   “มิวส์!!!” ทั้งคู่เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ เพราะไม่รู้ว่าวิญญาณติดที่ที่ยังคุมสติได้อย่างมิวส์จะต้องเจอกับอะไรบ้าง

   ก้องที่ขับรถด้วยความเร็วที่ประคองความปลอดภัยได้มาตลอดทางเริ่มออกแรงเหยียบคันเร่งให้แรงขึ้น มันพุ่งเร็วจนหากมีอะไรตัดหน้าหรือมีจักรยานที่ถีบโซซัดโซซาเข้ามากลางถนนอาจทำให้ก้องไม่สามารถหลบได้ทันเลยล่ะ

   โชคดีที่ตลอดเส้นทางไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรจึงทำให้การเดินทางไปบ้านคุณปริมซึ่งอยู่ห่างไกลจากมหาวิทยาลัยถึง 40 กิโลเมตรไม่มีปัญหาอะไร และท้ายที่สุดก็ได้กุญแจห้องสมุดมา

   ก้องขับรถกลับไปยังมหาวิทยาลัยด้วยความไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะตอนนี้ก็เป็นเวลา 22.10 น. แล้ว อ้างอิงจากนาฬิกาบนรถ ซึ่งเพียง 40 กิโลเมตรยังไงก็ทันเที่ยงคืนแน่นอน แต่ทว่าที่จะไปไม่ทันก็เพราะดันมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างทางเสียก่อน

   รถเก๋งที่ก้องขับมาด้วยดีตลอดเริ่มมีอาการส่ายไปส่ายมา พอเห็นว่าท่าไม่ดีก้องเลยตัดสินใจจอดลงไปดูก็พบว่าล้อรถด้านหน้าฝั่งขวาที่ไม่รู้ไปเหยียบอะไรมากำลังแฟบลงเรื่อย ๆ ถ้าจะให้ฝืนสังขารขับต่อไปก็ดูว่าท่าจะไม่ดีแน่นอน

   “อีกประมาณสองกิโลเมตร เดินไหวไหมครับ" ก้องเอ่ยถามลูกศิษย์ที่เดินลงมาดูสภาพของล้อรถตามเขา

   “ไม่" ไม้ส่ายหน้าเป็นคำตอบ "วิ่งเลยดีกว่า ให้เดินผมคงรอไม่ไหวหรอก"

   “ป่ะ" ก้องเอ่ยขึ้นพลางพยักหน้ารับให้กับความเห็นที่เข้าท่า จากนั้นคนทั้งคู่ก็วิ่งตรงไปยังมหาวิทยาลัยทันทีโดยที่ไม่สนรถเก๋งที่จอดทิ้งไว้ข้างถนนเลยสักนิด เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าตอนนี้ก็คือร่างวิญญาณของมิวส์

   เนื่องจากเวลานี้ก็ดึกมากแล้ว การเดินทางโดยเท้าจากริมถนนไปยังมหาวิทยาลัยจึงค่อนข้างทุลักทุเลอยู่พอสมควร ทั้งไม้และก้องต่างพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูหลายต่อหลายครั้งด้วยความรีบร้อน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลา 5 ทุ่มแล้ว เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นก็จะถึงเวลาที่ประตูปรโลกจะเปิดตามที่ท่านเจ้าที่สั่ง

   พอไปถึงหน้ามหาวิทยาลัย ยามที่เฝ้าประตูก็ดันดักทางไม่ให้ร่างของคนทั้งคู่เข้าไปข้างในได้

   “ผมมีธุระ ต้องรีบเข้าไปข้างใน" พูดจบ ก็ยกกระเป๋าซึ่งเป็นบัตรยืนยันว่าเขาเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ "ผมอาจารย์ก้องภพ เกียรติขจร อาจารย์คณะศิลปศาสตร์สาขาวิชาภาษาอังกฤษ"

   “เชิญครับ" เมื่อยามเห็นว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นอาจารย์ ยามก็เปิดทางให้ แต่ทว่าเหมือนว่าเขาจะยอมให้ก้องเข้าไปเพียงคนเดียวเท่านั้น

   “นั่นลูกศิษย์ผม" ก้องเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่ายามกำลังทำตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด "ให้เขาเข้ามาเถอะ"

   พูดจบยามจึงยอมเปิดทางให้โดยที่ไม้ได้แต่มองยามหนุ่มนายนั้นด้วยสายตาที่เชือดเฉือน เนื่องจากเขาไม่เคยมามหาวิทยาลัยตอน 5 ทุ่มเลยสักครั้งจึงทำให้เขาไม่สนิทกับยามที่เฝ้าเวรในกะนี้

   หลังจากที่ฝ่าด่านของยามมาได้ ทั้งไม้และก้องต่างก็วิ่งตรงไปยังห้องสมุดด้วยความเร่งรีบ บัดนี้สีหน้าของคนทั้งคู่แสดงอาการเหนื่อยหอบอย่างเห็นได้ชัด แม้นี่จะเป็นเวลากลางคืน แต่เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาท่วมตัวก็ทำให้รู้ว่าพวกเขาต่างก็เหนื่อยกับการวิ่งระยะไกลแค่ไหน








จบตอน
         
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่17 หน้า6]- 12/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-08-2013 16:40:03
คุยกับคนอ่าน

คุณ BBChin JungBB :: ครับ T^T ยังไม่บอก อุบไว้ก่อน แฮ่ๆ
คุณ iamnan :: T^T ยังหามิวส์ไม่เจอเลยคร้าบ เอาใจช่วยด้วยเด้อ
คุณ @Lucifer_Prince@ :: ^^ ขอบคุณครับ รอต่อไปเรื่อยๆเด้อ ^^ ส่วนเรื่องแม็กกี้นั่น 555 เหมือนคนเขียนอ่ะครับ ชอบเก็บๆไว้เยอะๆ - - ไว้ระเบิดตูมเดียว ซึ่งนิสัยแบบนี้น่ากลัวมากๆ T^T
คุณ sang som :: ครับ ก้องมีเหตุผลแน่นอน แต่เหตุผลอะไรหนอ ดีไม่ดียังไงลุ้นๆกันครับ
คุณ Lily teddy :: ครับ ไอ้เรื่องกฏนี่ คิดเองครับ 555 ไม่รู้ว่าที่อื่นเป็นไง แต่ถ้าให้หายตัวไปไหนมาไหนก็ได้หลังจากที่ออกมาจากพื้นที่ได้ ถ้าให้หายตัวได้รู้สึกมันจะเป็นอิสระเกินไป เลยจำกัดไว้ดีก่า ^^
คุณ Chichi Yuki :: ^^ ขอบคุณนะครับ เรื่องนี้แต่งจบแน่นอน แต่จะเมื่อไหร่นั่นก็ฝากติดตามเรื่อยๆนะครับ
คุณ mukmaoY :: 555 เอาใจช่วยคนเขียนด้วยน๊า  :mew1:
คุณ SuSaya :: มีวิธีไหน อันนี้ต้องติดตามต่อไปเรื่อยๆจ้าว่ามีหรือไม่มี และตอนจบจะเป็นยังไง ^^ ขอบคุณนะครับที่แวะมาอ่านและเม้นท์ให้เค้า
คุณ NJnobu ::  :mew2: เป็นกำลังใจใจให้มิวส์ด้วยน๊า
คุณ indy❣zaka :: เรื่องเชิญดวงวิญญาณ อะไรยังไงนั่น ตอบด้วยความสัตย์จริงเลยครับว่าตอนแต่งไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ แต่ในเมื่อไม่ได้เอ่ยถึงแล้ว และมิวส์เป็นวิญญาณอาฆาตติดที่ก็น่าจะทำให้คิดได้ว่า ต่อให้เชิญยังไง แต่การตายของมิวส์ก็ไม่น่าทำให้หลุดพ้นจากกรรมที่ต้องติดอยู่ตรงนั้น น่าจะได้อยู่เนอะครับ หรือมีความคิดเห็นว่าไง ลองส่งข้อความลับมาแนะนำได้นะครับ
คุณ hello_lovestory :: โดนกร่างไม่กร่าง ต้องอ่านตอนล่าสุดครับ ตำนานอาถรรพ์ห้องสมุด ว่าที่มีของอาถรรพ์น่ากลัวหรือเปล่า แฮ่ๆๆๆๆ
คุณ mentholss :: โบกเลยๆๆ ผมเชียร์อยู่
คุณ มยอนฮวา :: 555ไม่แปลกครับทั้งสงสารแม็กกี้และห่วงมิวส์ T^T



หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 15-08-2013 17:40:04
แหม ก้องยังรักมิวส์อยู่ล่ะซิ ส่วนไม้หรือจะรักแต่ยังไม่รู้ตัวซินะ อะไรก็มิวส์ตลอด ดีให้แม็กกี้ตกกระป๋องไปเลยยยย

(เอ่อ ฉันดูโหดร้ายไปป่าวเนี่ย ขออภัยแม่ยกแม็กกี้ทุกคนนะคะ)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 15-08-2013 17:45:15
รอต่อไปเรื่อยๆอยู่แล้วคนเขียน  เฮ้ย!!!  มิวส์จะเป็นอะไรมั๊ยนั่น  ก้องคิดอะไรของก้องอยู่ยังรักมิวส์อยู่หรือว่าต้องการจะแก้ตัวในความผิดของตัวเองกัน  ยังอยากรู้ความในใจของก้องนะ  ไม้ก็คิดอะไรของไม้อยู่เหมือนกัน  หวังว่าคนเขียนจะทำให้ตอนจบของเรื่องแฮปปี้นะ  ไม่งั้นจะทิ้งระเบิดลงบ้านคนเขียน[ฮิฮิ  ล้อเล่นนะ]  ขอบคุณคนเขียนคัฟ  ^^ 
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 15-08-2013 21:04:01
ลุ้นอ่ะ ๆ ต่อเถอะ ค้างฮะ

มิวส์!!!

จ๊วฟฟฟฟ คนแต่งฮะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 16-08-2013 00:58:32
; เชียร์ มิวส์ กับ ไม้ นะ  :hao3: :hao3:

แต่เค้าก็สงสารแม็กกี้ อ่ะ :mew2: :mew2:  ( เอ๊ะ ยังงัยเนี่ยเรา ! )

ค้าง ๆ ๆ มาต่อเร็วๆน้า

+ ให้กำลังใจคนเขียนคราบผม  :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: vk_iupk ที่ 16-08-2013 10:03:42
สงสารแม๊กกี้มากอ่ะ ถ้าไม้ไม่รักแม๊กกี้ ก็บอกเลิกไปเลยเหอะ น่าสงสารมาก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: SuSaya ที่ 16-08-2013 10:44:36
น่าจะออกมาไม่ทัน...ไหนจะตามหา(มิวไม่ยอมโผล่มาเจอง่ายๆแน่)
ไหนจะทะเลาะกันต่อ(หรือจะเคลียร์กับก้อง) น่าเป็นห่วงจริงๆ :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: hello_lovestory ที่ 16-08-2013 13:35:52
ขอให้ทันๆ พี่มิวส์ของเค้าอย่าเพิ่งเป็นไรนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 16-08-2013 19:47:51
จะเปนไงต่อเนี่ย ทันไม๊
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 16-08-2013 20:39:31
ตามจริงในเมื่อมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองคนแล้ว ไม้น่าจะลองคุยกะก้องไปเลยว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นยังไง
หรือเกิดเรื่องอะไรต่าง ๆ ขึ้นบ้างในช่วงที่มิวส์เป็นวิญญาณติดที่ไปแล้ว เผื่อไม้กะก้องจะได้เข้าใจกันมากขึ้น
ดีกว่าให้ไม้คิดเองเออเอง แล้วก็พาลโกรธและก็เกิดอคติขึ้นกับอาจารย์ของตัวเองแบบนี้
น่าเห็นใจก้องเหมือนกันทั้งมิวส์ทั้งไม้ไม่ให้โอกาสก้องได้อธิบายอะไรบ้างเลย (จริง ๆ คือผู้เขียนยังไม่ยอมบอกสินะ)
ตอนนี้ 2 หนุ่มก็ยังไม่ได้เจอมิวส์ แล้วหนทางในการเปิดห้องสมุดก็ดูมีแต่ปัญหาจริง ๆ
นี่ถ้าเปิดมาแล้วมิวส์ไม่ได้อยู่ในห้องสมุดคงฮาเลย  :laugh: แต่คิดว่าผู้เขียนคงให้อยู่แหละ
เพราะไม้กับก้องทุ่มเทกะการหากุญแจห้องสมุดซะขนาดนั้น 555
แล้วประวัติของห้องสมุดทำไมมันน่ากลัวจัง ถ้าเป็นเราไม่กล้าเหยียบเข้าไปเลยแหละ
ก็ขอให้สามารถช่วยมิวส์ออกมาจากห้องสมุดได้โดยปลอดภัย เพราะไม้ยังมีแม็กกี้ที่ยังรอไม้อยู่อีกคนนะ
ยังคงเชียร์ให้แม็กกี้คู่กะไม้ต่อไป เพราะแม็กกี้ไม่ได้ทำผิดอะไรซะหน่อยไม่สมควรที่จะเป็นคนที่ต้องผิดหวังนะ
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้กันเหมือนเดิมค๊า   :pig4: :mew1:
ปล.ผู้เขียน เขียนเรื่องได้น่ากลัวมากเลย ตั้งแต่ตอนมิวส์หลอกแม็กกี้ในคืนแรกที่เข้าหอล่ะ
อ่านไปขนลุกไปเลยอะ แล้วเรื่องเด็กผู้หญิงที่ตายในห้องสมุดอีก น่ากลัวจัง  o13 (หรือคนอ่านกลัวผีมากด้วยก็ไม่รู้)  :pigha2:

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 17-08-2013 16:32:31
ย๊ากกกกค้างงงงงง
คนแต่งใจร้ายยยย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 17-08-2013 19:51:56
ทำไมรู้สึกหมั่นไส้มิวส์กับไม้นะ :m16:

แม็กกี้ ไปหาแฟนใหม่เลยนะ ทิ้งไม้ไปเหอะ
โอ๊ยยยย อ่านแล้วโกรธแทนแม็กกี้จริงๆ :m31:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: arthit170530 ที่ 18-08-2013 00:12:06
โอ้ยๆ ค้างอ่ะ
มาต่อเร็วนะครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ArMee ที่ 18-08-2013 15:51:07
ขออย่าให้แม็กกี้ต้องเป็นคนเสียใจเลย คนเขียนได้โปรด..... :mew2: :mew2: :o12:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: KhunToOk ที่ 19-08-2013 12:27:08
อ่านๆดูแล้วทำไมเราไม่สงสารมิวเลยอ่ะ งงกะตัวเอง หรือชั้นใจดำกันนะ !?

เรากลับสงสารแม็กกี้มาก เพราะยังไม่เห็นว่าแม็กทำผิดอะไร พยายามเก็บความรู้สึก ผยุงความรักของตนกับไม้ ทั้งๆที่ในใจเริ่มคิดมาก  เราหวังว่าเรื่องนี้ จุดจบแม็กกี้คงไม่กลายเป็นวิญญาณเหมือนมิวนะ

 :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 19-08-2013 13:27:12
ตอนที่ 19






        ทางด้านของมิวส์ ตั้งแต่ที่พบกับก้องเขาก็เผลอวิ่งเข้ามาที่ห้องสมุดชั้นใต้ดินโดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ตัว ทุกครั้งที่มีปัญหาไม่ว่าเรื่องอะไร ห้องสมุดชั้นใต้ดินคือที่ที่เขาจะมาหลบตัวอยู่ที่ครั้งไป

   มิวส์นั่งอยู่ในห้องตามลำพังท่ามกลางความมืดมิด ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาคงกลัวสถานที่แห่งนี้มาก แต่ทว่าหลังจากที่เขาได้ลิ้มรสชาติของความตายมานานนับสิบปี เขาก็ไม่เคยกลัวกับความมืดมิดอีกเลย

   ความสับสนในจิตใจจากการที่ได้พบกับคนรักเก่าทำให้มิวส์ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป เพราะเรื่องของก้องกำลังตีกันอยู่ในความคิดอย่างไม่หยุดหย่อน

   มิวส์ใช้ความพยายามอย่างสูงเพื่อที่จะสกัดกั้นความอาฆาตที่มีต่อชายหนุ่มคนนั้น ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว พอตั้งสติได้ เขาก็ตัดสินใจจะออกจากห้องสมุดชั้นใต้ดินเพื่อที่จะกลับไปหาเจ้านาย

   ใช่... เขาลืมไปเลยว่านอกจากจะหนีก้องแล้ว ในยามนี้เขายังหนีหายไปจากเจ้านายของเขาด้วย

   ทว่ายังไม่ทันที่จะได้ย่างก้าวไปไหน ร่างซีดเผือดของหญิงสาวที่มีเส้นผมปกปิกใบหน้าต่างก็มายืนสกัดกั้นเอาไว้

   “เธอ!?” มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ ตั้งแต่ที่กลายเป็นผีติดที่ นอกจากไอ้วิญญาณร้ายที่ทำร้ายเขา เขาก็ไม่เคยเห็นวิญญาณตนไหนอีกเลยสักครั้ง เป็นเพราะมิวส์ไม่เคยมีโอกาสได้ไปเถลไถลนอกหอพักสักครั้ง

   “จะรีบไปไหน" หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยฟังดูเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง "อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนสิ"

   “ฉันจะกลับหอ" มิวส์ตอบตรง ๆ เพราะไม่รู้ว่าวิญญาณตรงหน้าต้องการอะไรจากเขากันแน่

   “นะ... อยู่เป็นเพื่อนกันก่อน ฉันไม่อยากอยู่คนเดียว เดี๋ยวเที่ยงคืนเพื่อนฉันอีกสองคนก็จะมาแล้ว" หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงงอนง้อ พอเห็นสีหน้าที่เศร้าสลดของวิญญาณร่างนั้น มิวส์ก็อดใจอ่อนไม่ได้

   “ก็ได้...” พูดจบก็ไปเดินไปนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องสมุด ส่วนหญิงสาวร่างซีดเผือดก็เดินไปหยิบหนังสือเล่มหนึ่ง หน้าปกของมันมีสำดำสนิทลวดลายบนปกดูออกจะหลอนจนพิลึก หากมิวส์เดาไม่ผิดหนังสือเรื่องนี้คงเป็นหนังสือสยองขวัญแน่นอน

   “อ่านสิ นิยายเรื่องนี้สนุกนะ" เธอแนะนำด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ไม่รู้ว่าเพราะเธอไม่เคยเห็นวิญญาณหนุ่มที่หน้าตาน่ารักแบบนี้มานานหรือเปล่าเลยทำให้โลกที่มืดมนของเธอสดใสขึ้นมาอีกครั้ง

   “อืม..." มิวส์ตอบรับ ก่อนที่จะเอ่ยถามด้วยความสงสัย "ว่าแต่เธอเป็นวิญญาณที่ติดอยู่ในห้องสมุดงั้นเหรอ เป็นมานานแค่ไหนแล้วล่ะ"
   เนื่องจากว่าในตอนที่มิวส์ยังมีชีวิต มิวส์จะชอบมานั่งเล่นที่ชั้นใต้ดินในห้องสมุดเป็นประจำ แต่ทว่าเขาก็ไม่เคยสัมผัสถึงสิ่งที่มองไม่เห็นเลยสักครั้ง และในยามนี้เมื่อมีร่างของหญิงสาวที่ไร้ลมหายใจมานั่งอยู่ข้าง ๆ เลยทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะสงสัยถึงความเป็นมาของเธอ ว่าจะน่าสงสารเหมือนเขาหรือเปล่า

   “ยี่สิบกว่าปีแล้วล่ะ ตั้งแต่ห้องสมุดสร้างใหม่ ๆ" เธอตอบออกมา "ความจริงฉันไม่ได้อยู่ที่ชั้นใต้ดินหรอก ฉันเป็นวิญญาณที่ติดอยู่บนชั้นสาม แต่ทว่าเพื่อนอีกสองคนอยู่ชั้นใต้ดิน ฉันเหงา... ก็เลยลงมาเล่นด้วย"

   “อืม...” มิวส์พยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาคิดว่าตัวเขาเป็นวิญญาณติดที่มานานและไม่เคยคาดคิดว่าจะมีวิญญาณตนไหนที่จะอยู่ติดที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิดมากถึง 20 ปี... ไม่แน่ว่าในโลกนี้อาจจะมีวิญญาณที่สิงสถิตอยู่ที่ไหนสักแห่งมาเป็นร้อย ๆ ปีแล้วก็ได้

   “อ่านนิยายสิ ฉันอยากให้นายอ่านนิยายเรื่องนี้มาก ๆ" เธอบอกก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา มิวส์พยักหน้ารับ

   หลังจากที่เริ่มอ่านได้ไม่กี่หน้า มิวส์ก็สรุปได้ว่านิยายเรื่องนี้เป็นนิยายสยองขวัญแน่นอน มิวส์ตัดสินใจอ่านมันไปเรื่อย ๆ แม้ว่าจะหลอน จะน่ากลัวแต่เขาก็เป็นวิญญาณเหมือนกัน เลยทำให้มิวส์พอที่จะทำใจอ่านหนังสือเล่มนี้ได้ แต่แล้วมิวส์ก็รู้สึกสะดุดกับข้อความในหน้าหนึ่ง ข้อความในหน้านั้นมันมีประโยคที่ทำให้มิวส์ถึงกับชะงักและตัวแข็งขึ้นมาทันที เพราะมันเขียนว่า...

   ...หากเธออยากรู้ว่าครั้งแรกที่ฉันโดนผีหลอกความรู้สึกมันเป็นยังไง เธอจะได้รับรู้เดี๋ยวนี้แหละ ในขณะที่เธอกำลังอ่านนิยายเรื่องนี้เพียงลำพังในความมืดมิด ไม่มีเสียงใด ๆ รบกวนยกเว้นเสียงลมหายใจของเธอ ให้เธอลองหันหน้าไปด้านซ้ายและด้านขวาอย่างช้า ๆ แล้วกวาดสายตาให้ทั่วห้อง  ใช่...เธออาจจะไม่พบอะไรผิดปกติ เพราะว่าวิญญาณร้ายมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่เพราะว่ามันกำลังอยู่ด้านหลังของเธอ และมันกำลังนั่งคร่อมคอของเธออยู่

   และในขณะที่เธออ่านข้อความนี้ เธออาจจะไม่รู้ตัวว่ากำลังมีอะไรบางอย่างผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่ที่บริเวณขาของเธอ หากเธอคิดจะเลิกอ่านแล้วหนีไปนอนคลุมโปง เธอแน่ใจเหรอว่าไม่มีอะไรดักอยู่ในผ้าห่มนั่น หากเธอจะกรีดร้องเสียงดังลั่นเพื่อเรียกให้คนที่อยู่ข้าง ๆ เข้ามาหาเพื่อที่จะอยู่เป็นเพื่อน เธอแน่ใจเหรอว่าคนเหล่านั้นจะเข้าใจเธอ และเพราะวิญญาณประสาทสัมผัสไวกว่าคน ไม่แน่ว่าเสียงกรีดร้องของเธออาจจะทำให้เธอได้พบกับวิญญาณร้ายอีกมากมายก็ได้

   เพราะฉะนั้นทางที่ดี เธอต้องนั่งตัวเกร็งเงียบ ๆ แล้วปล่อยให้ค่ำคืนนี้ผ่านพ้นไป และฉันขอเตือนเอาไว้ว่าอย่าพยายามกระดุกกระดิกตัวไปไหน เพราะเดี๋ยววิญญาณร้ายเหล่านั้นจะรู้ตัวว่าเหยื่อของมันยังมีลมหายใจ หึหึหึ...

   “เฮ้ย! นี่มันอะไรวะ" พูดจบก็ปาหนังสือทิ้ง แล้ววิญญาณหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็แสยะยิ้มออกมา ดวงตาของมันเหลือกถลนมีเลือดสีแดงข้นไหลทะลักไหลออกมาไม่ขาดสาย กลิ่นอับฉุนที่เกิดขึ้นทำให้วิญญาณอ่อนต่อปรโลกอย่างมิวส์แทบจะอาเจียนออกมาทันที

   พอทำท่าจะวิ่งหนี มือของมันที่เอื้อมมาจับที่หัวไหล่ก็สะกดให้มิวส์ต้องอยู่นิ่ง ๆ แรงของมันมหาศาลเหลือเกิน พอมันออกแรงบีบ เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น มิวส์ก็รู้สึกปวดสะท้านไปทั่วร่าง

   “จะหนีไปไหน หึหึ" วิญญาณสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น

   “ใครก็ได้ช่วยด้วย... เจ้านาย เจ้านาย ช่วยผมด้วย!!!” มิวส์ตะโกนด้วยน้ำเสียงที่ดังก้อง แม้ว่าเขาจะเป็นวิญญาณเหมือนกันแต่ทว่าวิญญาณหญิงสาวตนนี้กลับน่ากลัวกว่าเขาถึงร้อยเท่าพันเท่า มันน่ากลัวเสียจนทำให้มิวส์สามารถปัสสาวะราดได้เลยหากแต่ทว่าวิญญาณอย่างมิวส์ไม่สามารถทำอย่างนั้นได้





   ทางด้านของไม้กับก้องที่กำลังวิ่งไปยังห้องสมุด ในระหว่างทาง จู่ ๆ ไม้ก็เกิดอาการชะงัก หัวใจของเขาเต้นแรงผิดปกติราวกับว่ามันกำลังจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ มิหนำซ้ำน้ำเสียงของมิวส์ยังตะโกนก้องอยู่ในโสตประสาทซ้ำไปซ้ำมาจนไม้รู้สึกเวียนศีรษะ

   “มิวส์” ไม้เอ่ยชื่อเจ้าของเสียงที่ดังอยู่ในหัวด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว

   “อ้าวไม้...” ก้องที่วิ่งนำไปไกลพอหันหลังกลับมาแล้วเห็นลูกศิษย์กำลังนั่งคุกเข่าราวกับว่ากำลังเจ็บปวดไปทั่วร่างก็ตัดสินใจวิ่งกลับมาหา "คุณเป็นอะไรไปครับ"

   “อาจารย์... อาจารย์ไปช่วยมิวส์ก่อนเถอะ" ไม้บอก เพราะขืนชักช้าไปกว่านี้ไม่แน่ว่ามิวส์อาจจะตกอยู่ในอันตรายก็เป็นได้

   “แต่คุณกำลังไม่สบาย" แม้จะเป็นห่วงมิวส์มากแค่ไหน แต่ลูกศิษย์คนนี้ก็ยังมีลมหายใจถ้าให้เลือก ก้องก็ต้องเลือกที่จะช่วยคนที่ยังมีลมหายใจอยู่่เป็นอันดับแรก

   “ผมไม่เป็นไร อาจารย์ไปเถอะ ไปสิ ผมบอกให้ไป!!!” ไม้ตวาดเสียงดังลั่น

   “คุณไม่เป็นอะไรแน่นะ" ก้องเอ่ยถามอีกครั้งด้วยความเป็นห่วง พอเห็นไม้พยักหน้า ก้องก็พูดว่า "ถ้าคิดว่าไม่ไหวให้รีบโทรหาผมเลยนะ"
   
         จากนั้นก้องรีบวิ่งไปยังห้องสมุดทันที...

   ก้องใช้เวลาไม่นานมากนักก็มาถึงยังห้องสมุด กุญแจหลายดอกที่รวมอยู่ในพวงกุญแจถูกนำมาไขกลอนประตูทีละดอก ๆ แต่ผ่านไปกว่า 20 ดอก ก็ไม่มีทีท่าว่าประตูจะถูกเปิดออกสักที

   “เปิดสักทีสิวะ" ก้องบ่นพึมพำในขณะที่กุญแจก็ถูกไขต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งในที่สุดเสียงกลอนประตูที่เดาะออกมาก็เรียกรอยยิ้มจากใบหน้าของก้องได้ แต่เหมือนว่ามันจะมีิีปัญหามันยังไม่จบอยู่แค่นั้น

   ไม่ว่าก้องจะพยายามผลักประตูอย่างไร ประตูก็ไม่ยอมเปิดออกไปสักที ทั้งดันทั้งถีบก็แล้วแต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิมราวกับว่ามีอะไรบางอย่างที่ยืนอยู่หลังประตูบานนั้นและดันมันเอาไว้เพื่อไม่ให้ก้องสามารถเปิดเข้ามาได้

   เวลาผ่านไปราว 20 นาที เหงื่อที่ท่วมตัว เสื้อผ้าที่เปียกโชกเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าบัดนี้พละกำลังของอาจารย์หนุ่มกำลังจะหมดลง

   แม้จะรู้สึกเหน็ดเหนื่อย แต่ก้องก็ยังพยายามที่จะผลักและถีบประตูสุดความสามารถเท่าที่เขาจะทำได้ เพราะอดีตคนรักของเขาซึ่งเป็นวิญญาณกำลังติดอยู่ภายในนั้น และจากคำพูดของไม้ที่บอกว่าจะมีวิญญาณร้ายออกมาเพ่นพ่านหลังเที่ยงคืน นั่นทำให้ก้องต้องพยายามทำทุกวิธีทางเพื่อให้ประตูบานนี้เปิดให้ได้

   “บ้าจริง" เมื่อเห็นว่าหมดหนทาง ก้องก็ทำได้เพียงใช้กำปั้นทุบประตูแรง ๆ เพื่อเป็นการระบายอารมณ์

   พลางความผิดท่วมท้นที่เคยกระกับมิวส์ก็โหมกระหน่ำมาในหัวสมองของเขา ...กี่ครั้งแล้วนะที่เขาไม่เคยทำให้มิวส์มีความสุข กี่ครั้งแล้วนะที่เวลามีปัญหาอะไรเขาไม่เคยช่วยมิวส์ได้เลย

   น้ำตาของมิวส์ที่ไหลออกมาไม่ว่ากี่ครั้ง ๆ เขาก็ไม่เคยที่จะเช็ดให้มันหายดีสักครั้ง กลับกันตัวต้นเหตุที่ทำให้น้ำตาของคนน่ารัก ๆ อย่างมิวส์ไหลออกมาก็มีแต่เขานั่นแหละ

   ในขณะที่จิตใจของเขากำลังจะยอมแพ้... ยอมแพ้ให้กับพวกวิญญาณร้ายที่ทำให้เขาไม่สามารถเปิดประตูได้ เสียงที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังก็ทำให้ก้องกลับมามีความหวังอีกครั้ง

   “น้ำตามันไม่ได้ช่วยให้พี่มิวส์ปลอดภัยหรอกนะ" ร่างของชายหนุ่มที่มีหน้าตาบางส่วนละม้ายคล้ายคลึงกับมิวส์เอ่ยขึ้น เขาเดินมาพร้อมกับประคองอีกร่างที่เดินกะโผลกกะเผลกจะล้มมิล้มแหล่

   “ฟิวส์...” ก้องเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่บางเบา สิ่งที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของมิวส์เป็นสิ่งที่ก้องไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาด

   “ทำไมอาจารย์ไม่ยอมเข้าไปช่วยมิวส์" คราวนี้เป็นไม้ที่เอ่ยขึ้น คิ้วของเขาขมวดมุ่นด้วยความสงสัย

   “ประตูปลดล็อกแล้ว แต่มันเปิดไม่ได้"

   สิ้นเสียงของอาจารย์ ฟิวส์ก็เดินไปยังประตูทันที ปล่อยให้ไม้ยืนพยุงช่วยตัวเองต่อไป

   ฟิวส์บิดลูดบิดไปจนสุดก่อนที่จะออกแรงดันสุดฤทธิ์ แต่ทว่ามันก็เปิดไม่ออกอย่างที่ก้องว่าจริง ๆ

   ฟิวส์ลองทำซ้ำไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ไม่มีวี่แววว่าจะเปิดออกสักที... คราวนี้ก้องที่นั่งอยู่หน้าประตูลุกขึ้นมาช่วยดึงบ้าง พอดึงไม่ออกทั้งสองก็ตัดสินใจจะพังประตูโดยการร่วมด้วยช่วยถีบ แต่จนแล้วจนรอดก็ประตูก็เปิดไม่ออกสักที

   คราวนี้... ไม้เดินไปยังประตูบ้าง ร่างกายของเขาเริ่มมีอาการดีขึ้นมากแล้ว ทันทีที่ปลายนิ้วมือของไม้สัมผัสที่ลูกบิด ไม่รู้ว่ามีปาฏิหาริย์อันใดเกิดขึ้น เพราะพอออกแรงผลัก ประตูก็ถูกเปิดออกได้อย่างง่ายดาย

   ก้องกับฟิวส์มองหน้ากันด้วยความงุนงง ทีเมื่อครู่พวกเขาช่วยกันแทบตายก็ไม่มีวี่แววว่าจะเปิดออก แล้วหมอนี่มีดีอะไร เพียงแค่ออกแรงผลักเบา ๆ แค่นั้น ประตูก็เปิดออกแล้ว

   'หรือว่าหมอนี่จะเป็นผู้วิเศษกันนะ' ฟิวส์คิด

   'สงสัยแรงศรัทธา พลังแห่งธรรมะจะสูงส่ง' ก้องคิด

   แต่ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะคิดหาเหตุผลที่เป็นไปได้ไปมากกว่านั้น ไม้ก็คลี่ยิ้มออกมาก่อนจะเรียกสติของคนทั้งคู่ให้กลับคืนมา

   “ไปตามหามิวส์กันเถอะ"

   ทั้งคู่พยักหน้ารับก่อนที่จะช่วยกันพยุงไม้ให้เดินเข้าไปด้านใน





   ทางด้านของมิวส์ที่กำลังโดนร่างของวิญญาณสาวผู้มีเส้นผมปกปิดใบหน้าจับตัวเอาไว้ จะดิ้นไปไหนก็ไม่ได้ กำลังหวาดกลัวสุดฤทธิ์ แล้วคำพูดของท่านเจ้าที่ที่เคยบอกเอาไว้ว่าประตูปรโลกจะเปิดตอนเที่ยงคืนก็ผุดขึ้นมาในหัวสมอง และพอคิดถึงคำพูดของวิญญาณตนนี้ที่บอกว่าให้นั่งรอเพื่อนของเธอจนกว่าจะถึงเวลาเที่ยงคืนนั้น นั่นเท่ากับว่าเพื่อนของเธอเป็นวิญญาณร้ายที่ต้องรอเวลาที่ประตูปรโลกจะเปิดแล้วค่อยออกอาลาวาดได้อย่างนั้นน่ะหรือ

   แล้วถ้าใช่... ทำไมเธอถึงไม่ได้ไปใช้ชิวีตหลังความตายอยู่หลังประตูปรโลกกับเพื่อน ๆ ของเธอกันล่ะ ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าเธอยังมีโอกาสที่จะไปผุดไปเกิดหรือไปชดใช้กรรมสินะ

   “เธอ...” มิวส์เอ่ยขึ้น "เธอทำอย่างนี้เพื่ออะไร ทำไปก็มีแต่จะสร้างตราบาปให้ตัวเองเปล่า ๆ ปล่อยวางแล้วไปผุดไปเกิดเถอะนะ"

   “หึ ๆ อย่ามาเป่าหูฉันเลย ฉันมีความสุขที่เป็นแบบนี้ ฉันมีความสุขที่ได้อยู่กับเพื่อน ๆ ของฉัน" เธอเอ่ยขึ้นโดยที่มือทั้งสองข้างก็จับที่หัวไหล่ของมิวส์เอาไว้อย่างแนบแน่น

   “เธอแน่ใจเหรอว่าเธอมีความสุข เธอมีโอกาสที่จะได้ไปชดใช้กรรม เธอมีโอกาสจะได้ไปผุดไปเกิด แต่ทำไมเธอถึงเลือกที่จะอยู่กับเพื่อน" มิวส์เอ่ยถาม เพราะถ้ารู้สาเหตุของวิญญาณสาวตนนี้ที่ไม่ยอมไปผุดไปเกิดสักที

   “พวกเราตายพร้อมกัน... เพราะฉะนั้นเพื่อนจะทิ้งเพื่อนได้ยังไงล่ะ" เธอตอบออกมา ก่อนที่จะก้มหน้าแล้วเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้เพื่อนของเธอต้องไปติดอยู่ในประตูปรโลก

   "...แต่เพราะเพื่อนฉันอีกสองคนตายไปเพราะความแค้นแสนสาหัส ในวันที่เกิดเหตุสองคนนั่นเป็นห่วงไอ้จิ๋วเพราะได้ยินเสียงของไอ้จิ๋วกรีดร้อง แต่พอรีบวิ่งลงบันไดมา ทั้งสองก็ดันสะดุดบันไดและสิ้นลมหายใจทันที ในขณะที่ตัวต้นเหตุอย่างไอ้จิ๋ว มันยังมีลมหายใจและมันก็ไม่เคยมาเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่าหรือทำบุญมาให้พวกเราเลย พวกนั้นก็เลยอาฆาตไอ้จิ๋วมากจนกลายเป็นวิญญาณร้าย...”

   “แต่เธอไม่ได้อาฆาต...” มิวส์เอ่ยขึ้น

   “ใช่! ฉันไม่ได้อาฆาต แต่เพราะความรักความจริงใจที่มีต่อเพื่อน ฉันไม่มีวันทิ้งสองคนนั่นอย่างที่ไอ้จิ๋วทำแน่นอน... หึ ๆ" เธอตอบออกมา และในขณะนั้นเวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงเวลาท่ี่ประตูปรโลกถูกเปิดออกมา

   เกิดเสียงหวีดหวิวดังระงมไปทั่วห้องสมุด แรงลมที่เพิ่มขึ้นไม่รู้ว่ามาจากที่ไหนทำให้มิวส์หันซ้ายแลขวาด้วยความหวาดผวา และพอห้องสมุดค่อย ๆ กลับสภาพมาเป็นปกติ ร่างอีกสองร่างที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้มิวส์ถึงกับอ้าปากค้างและมองมันด้วยความหวาดผวาทันที เพราะมันไม่ใช่วิญญาณที่มีสภาพปกติแบบเขา แต่มันทั้งน่าเกลียดและน่ากลัวเกินกว่าที่มิวส์จะควบคุมสติได้

   ภาพของวิญญาณสองตนที่ศีรษะเอียงกระเท่เร่จะหักมิหักแหล่ ร่างที่เน่าเปื่อยมีน้ำหนองไหลเยิ้ม ดวงตาที่เหลือกถลนแถมยังมีหนอนชอนไชยั้วเยี้ยกำลังแสยะยิ้มจนริมฝีปากแทบจะฉีกถึงใบหูเมื่อมันเห็นเหยื่ออันโอชะที่หน้าตาน่ารัก ๆ อยู่ตรงหน้า

   “ฮือ...” มิวส์แทบจะร้องไห้ออกมาในทันทีที่เห็น ก่อนที่จะพยายามขัดขืนร่างพร้อมกับออกแรงดิ้นสุดฤทธิ์เพื่อหวังจะให้หลุดจากพันธนาการของวิญญาณสาวตนแรก พร้อมกับตะโกนเรียกคนที่คิดว่าจะปกป้องเขาได้ด้วยน้ำเสียงอันดังก้อง

   “เจ้านาย!!! ช่วยผมด้วย!!! เจ้านาย... เจ้านาย!!!”





จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่18 หน้า6]- 15/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 19-08-2013 13:34:37
คุยกับนักอ่านครับป๋ม

คุณ sang som :: ^^ ไม่โหดร้ายหรอกครับ ความเห็นมีหลายฝ่ายสนุกดีครับ อิอิ
คุณ @Lucifer_Prince@ :: เรื่องตอนจบจะเป็นไงอันนี้ติดตามได้เลยครับ ฮ่าๆๆ แต่อย่าเอาระเบิดมาลงเลยนะ T^T เดี๋ยวไม่มีบ้านอยู่ จะไปอยู่ด้วยเลย
คุณ ice_spok :: จ๊วฟฟฟ ไอ่หมาน้อย
คุณ NJnobu :: ขอบคุณครับ ^^ ได้รับกำลังใจแล้ว เย่ๆ
คุณ vk_iupk :: T^T แม็กกี้น่าสงสารจริงๆ ครับ เห้อ เข้าใจอารมณ์คนไม่กล้าพูดไม่กล้าถามอะไรเพราะกลัวเสียของรัก สภาวะจำยอม
คุณ SuSaya :: จนป่านนี้ก็ยังไม่เจอเลยครับ T^T
คุณ hello_lovestory :: อิอิ ไม่เป็นไรก็ไม่สนุกสิครับ >.<
คุณ Nus@nT@R@ :: นั่นสิครับ จะทันไหมน๊อ จนป่านนี้ยังไม่ได้พบกันเลย
คุณ Lily teddy :: 555 ใช่ครับ ตามหากุญแจซะขนาดนั้น ความมั่นใจของก้องด้วย ไม่อยู่ในห้องสมุดนี่เงิบเลย >.< ดีใจนะครับ ที่ตอนฉากน่ากลัวแล้วรู้สึกกลัวหรือสยองนิดๆ
คุณ mentholss :: ง่าไม่ใจร้าย เค้ามาต่อแล้วครับ อิอิ
คุณ Fujoshi :: 555 บางทีคู่นี้ก็น่าหมั่นไส้นิดนึงจริงๆครับ
คุณ arthit170530 :: มาต่อแล้วครับผม ^^
คุณ ArMee :: แหะๆ T^T โปรดติดตามตอนต่อไปจนถึงตอนจบครับ
คุณ KhunToOk :: ไม่หรอกครับ ความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชอบมิวส์ ชอบแม็กกี้ ยังไงก็ต้องลุ้นและเชียร์กันต่อไปครับ ^^ ปล.คนเขียนใจดำมากกว่า ที่ทำกะแม็กกี้ได้ลง เอิ้กๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: chocolate_ness ที่ 19-08-2013 14:11:42
โอยย ค้าง ไม้รีบมาช่วยมิวเร็วๆน้าา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-08-2013 16:46:19
ใครจะเจอมิวส์ก่อนนะ สงสารมิวส์จัง
เจอวิญญาณรุม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 19-08-2013 17:19:44
พระเอกเรามีเลือดหมอผี มีของดีหรือบุญบารมีสูงส่งป่าว ทำไมดูเหมือนจะทำอะไรก็ง่ายไปหมดเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 19-08-2013 18:15:02
ไม้รีบมาช่วยมิว เร็วววววววว!
แล้วจะเป็นยังไงต่อล่ะทีนี้
หวังว่าพวกผีๆ คงไม่ทำร้ายมิวหนักนะ
ว่าแต่...ผีสาวที่ไม่แค้นเพื่อนใช่คนที่ถูกชั้นหนังสือทับตายหรือเปล่าหว่า?
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 19-08-2013 18:17:54
จะโดนวิญญาณร้ายงาบไม๊
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 19-08-2013 20:16:36
อะไรเนี่ยไอ้ผีพวกนั้นบ้าจริงๆเลย  มันจะอาฆาตแค้นบ้าบออะไรห๊ะ เพื่อนยังมีลมหายใจก็ใช่ว่าเพื่อนจะช่วยได้อะไรได้  มัวแต่หลับตาอาฆาตอยู่นั่นแหละ  เพื่อนพวกแกเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่แล้ว คงช่วยได้หรอกนะ  สงสัยอีกว่า  หลังจากพวกนี้ตายก็มีคนตายอีกเยอะ  ทำไมยัยบ้าชั้นสามมันไม่ไปใช้กรรมว่ะ  ทั้งๆที่เพื่อนมันก็ไป  ไม้อาจจะมีบุญกรรมร่วมกับมิวส์มาก่อนนะบางที  Thanks^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 19-08-2013 22:20:10
อ่าน ๆ ไปกำลังได้ฟีลเล้ยยย!!!!

แอบหลอนตามนะ ตอนนี้ 5555

มันค้างนะครับคุณพี่ชายยยย .... ม๊วฟฟฟ!!!! ให้กำลังเผื่อจะมาต่อในเร็ววัน ฮ่ะ ๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 19-08-2013 22:45:20
ค้างงงง จะมาช่วยผีหน่อมแน้มทันมั้ยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 19-08-2013 22:48:02
ไม่มีความเห็นว่าไงค่า  เพราะเค้าไม่รู้เรื่องนี้  สงสัยต้องเชิญคุณริวแว้ว  555+
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 19-08-2013 22:55:48
ชอบเรื่องนี้มาก ก่อนหน้าอ่านในเด็กดี เพิ่งรู้ว่าลงในเล้าด้วย เดี่ยวจะตามเม้นทั้ง 2 เว็บเลย

รอคอยตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 20-08-2013 08:55:45
ค้าง ค้าง ค้าง คนเขียนรีบมาเลย...  :z3:

+ ให้ทุกตอนคราบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 20-08-2013 19:25:16
อึม..  สองคนนั้นจะใช่ผีที่อยู่อย่างมีความสัมพันธ์ลึกซึ้นหรือไม่
ผีสาวนั้นจะใช้มือที่สามที่ทำให้ผีสองตนนั้นไม่ได้ครองรักกันอย่างสงบสุขหรือเปล่า
(ว่าเข้าไปนั่น  เขาก็บอกแล้วว่าวิญญาณร้าย)

แต่จะว่าไปก็คิดเหมือนกันนะว่า  อย่าว่าแต่นายไม้เลย
ผีนายเอกเองก็เป็นพวกหลายใจเหมือนกัน  เก่าไม่ลืม  ใหม่ก็จะหวง
นิสัยยังเสียนิดๆอีก  น่าเห็นใจแค่คนเดียว  เฮ้อ...
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 20-08-2013 21:10:22
จ๊าก :sad5: อ่านตอนนี้แล้วยิ่งสยองเข้าไปอีก บรรยายได้น่ากลัวดีแท้ ทำไมวิญญาณอื่นมันดูน่ากลัวจัง
วิญญาณของมิวส์ดูน่ารักขึ้นเยอะเลย หรือมิวส์จะเป็นวิญญาณอาฆาตที่ยังไปผุดไปเกิดได้ถึงไม่ต้องมีสภาพสยอง ๆ
แต่มิวส์นี่ก็นะไม่น่าประมาทเล้ย มัวใจดีกับสุภาพสตรี เลยได้เจอกับวิญญาณที่ออกมาจากประตูปรโลกหลังเที่ยงคืนจนได้
แต่ขนาดไม่ใช่วิญญาณอาฆาตตนเดียว มิวส์ยังหนีไปด้วยตัวเองไม่ได้ สงสัยพลังน้อยเพราะอยู่นอกสถานที่อีกละมั่ง 555
แล้วจะมีแค่วิญญาณของ3 สาวแค่นี้รึเปล่า มันน่าจะมีวิญญาณที่น่ากลัวกว่าสามสาวอยู่ด้วยสิ
แบบวิญญาณร้ายที่ทำให้ 3 สาวต้องตายในห้องสมุดอะ แต่ก็นะเจอแค่ 3 สาวนี่ก็ยังไม่รู้พวกไม้จะช่วยมิวส์ได้ยังไงเลย
ถึงดูแล้วไม้จะเหมือนพวกมีพลังพิเศษบางอย่าง ที่ 3 สาวอาจจะทำร้ายไม่ได้ แต่ถ้าจะขนาดช่วยวิญญาณมิวส์ออกมา
แล้วทำให้ทั้ง 3 สาวไปเกิดได้คงต้องเอาเพื่อนสาวชื่อจิ๋วมาปลดปล่อยละมั่ง (เดาไปนั่น)
หรือมิวส์จะลองทำตามหนังสือที่มิวส์อ่านแนะนำไว้ แล้วฟิวส์พี่ของมิวส์มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เพื่ออะไร
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 21-08-2013 13:41:18
ลุ้นๆๆๆว่าจะเป็นไงต่อไป
ว่าแต่ไม้มีดีอะไรซ่อนอยู่หว่า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 21-08-2013 22:39:30
ลุ้นอ่ะ กรี๊ดๆ  :m3: :m3: :m3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 22-08-2013 19:56:48
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว กำลังหลอน และลุ้นได้ที่เลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 22-08-2013 20:48:49
คำเดียวสั้นๆนะคะ "ค้าง" :m31:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 25-08-2013 20:49:36
ฮือๆๆๆ  :o12: :o12:
ค้างไม่เท่าไหร่
แต่อ่านตอนดึกๆนี่มัน....... :heaven
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 29-08-2013 15:22:28
ไม้ๆรีบมาช่วยเนมเร็วมิวส์แย่แล้วว
แง่มๆๆ จะช่วยมิวส์ทันไหม?อ่า
ไม้เร็วๆหน่อยๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 29-08-2013 15:35:00
ตอนที่ 20




          ร่างของชายหนุ่มสามคนที่ยังมีลมหายใจต่างเร่งฝีเท้าก้าวฉับ ๆ ให้ไปถึงที่หมายก่อนที่ประตูปรโลกจะเปิดออกมา แม้ว่าในยามนี้จะยังไม่ถึงเวลาเที่ยงคืน แต่ไม่มีใครู้เลยว่าในวันที่พระจันทร์เต็มดวงนั้นจะทำให้ประตูปรโลกเปิดออกมาเร็วกว่าปกติ และในเวลานี้พวกวิญญาณอาฆาตก็ได้ล้อมรอบร่างของมิวส์เอาไว้หมดแล้ว

   “มิวส์" ทันทีที่เดินลงไปถึงห้องสมุด ก้องกับไม้ที่เห็นร่างที่คุ้นเคยก็เอ่ยชื่อของร่างนั้นขึ้นมาพร้อมกัน มีเพียงฟิวส์เท่านั้นที่มองไม่เห็นอะไร

   แต่แทนที่ไม้จะเดินเขาไปหา เขากลับหยุดชะงักเพราะสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ ดวงตาที่แดงก่ำ ใบหน้าที่ซีดเผือดอย่างที่มิวส์เป็นอยู่ในยามนี้ เขาเคยเห็นมันมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อตอนที่พามิวส์มาที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้

   “มีอะไรเหรอครับ" ฟิวส์เอ่ยถามด้วยความสุภาพ

   “มิวส์กำลังขาดสติ" ไม้ตอบออกมา "และถ้าเป็นแบบนี้ต้องแย่แน่ ๆ"

   “แล้วเราควรจะทำยังไง" ฟิวส์เอ่ยถาม หากแต่ในระหว่างที่เขากำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ก้องกลับไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งสิ้น เขาก้าวขาลงบันไดไปเรื่อย ๆ ไม้พยายามตะโกนร้องห้ามแต่ก้องก็ไม่ฟัง

   พอจะก้าวขาตามลงไปก็มีอะไรบางอย่างมาพันธนาการร่างเอาไว้ทำให้ทั้งไม้และฟิวส์ขยับเขยื้อนไม่ได้

   “อย่าไปนะอาจารย์!!!” เมื่อขยับไม่ได้การพยายามตะโกนร้องห้ามจึงเป็นหนทางเดียวที่ไม้คิดว่าพอที่จะช่วยได้

   แต่ทว่าไม่ว่าจะตะโกนห้ามอย่างไร ก้องก็ไม่สามารถรับรู้อะไรได้ทั้งสิ้น จนกระทั่งท้ายที่สุดเขาก็เดินลงบันไดไปสุดขั้นและค่อย ๆ สาวเท้าเข้าไปหาอดีตคนรักเก่า

   “ก้อง" มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอ ในตอนนี้จิตของมิวส์กำลังโดนความอาฆาตแค้นครอบงำเนื่องจากวิญญาณร้ายสามตนที่จับเขาเอาไว้ก่อนหน้านี้ได้พูดยั่วประสาทจนทำให้เขาขาดสติ

   “มิวส์" ก้องเอ่ยขึ้นบ้างเมื่อเห็นใบหน้าของคนรักเก่าชัดเจน แม้ในยามนี้ร่างของมิวส์จะเป็นวิญญาณตาแดงก่ำ แต่ภาพที่ก้องเห็นกลับเป็นภาพที่มิวส์ใส่ชุดนักศึกษาและมีเนื้อหนังมังสาเหมือนมนุษย์ปกติไม่มีผิดเพี้ยน

   ใช่แล้ว!... ก้องกำลังตกอยู่ในการควบคุมของวิญญาณอาฆาต ก้องกำลังขาดสติ ไม่รับรู้และไม่สามารถสัมผัสได้ถึงโลกแห่งความเป็นจริง

   แล้วภาพอดีตระหว่างก้องกับมิวส์ก็หวนกลับมา มันเป็นความทรงจำครั้งหนึ่งในตอนที่พวกเขาตัดสินใจคบกันเป็นแฟนใหม่ ๆ



   ภายในห้องสมุดตอนสาย ๆ ก้องกับมิวส์ที่เรียนคาบเช้าเสร็จแล้วต้องรอเรียนคาบบ่ายต่างนัดเจอกันที่ห้องสมุด มิวส์จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่สองหลังจากที่พวกเขาตกลงคบกันเป็นแฟน...

   “ก้อง...” ในขณะที่ก้องกำลังหาหนังสือมาอ่าน มิวส์ก็เอ่ยเรียกชื่อของคนรัก

   “ครับ” ก้องตอบด้วยความสุภาพ... ความสุภาพนี้แหละที่ทำให้มิวส์ตกหลุมรักชายหนุ่มคนนี้เข้าเต็มเปา จะเรียกว่าทั้งรักทั้งหลงก็คงไม่ผิด

   “ก้องรู้ตัวเองเมื่อไหร่ว่ารู้สึกดีกับมิวส์" มิวส์เอ่ยถาม... สำหรับมิวส์แล้ว หากอยู่ในมหาวิทยาลัยเขาไม่ใช่คนที่ปกปิดรสนิยมของตัวเอง แต่ก็ไม่ได้เปิดเผย หน้าตาที่หวานละมุน ผิวที่ขาวเนียนใสแบบมิวส์น่ะ ต่อให้ชายหนุ่มคนไหนได้เห็นต่างก็มีสิทธิ์ใจหวั่นไหวได้ทั้งนั้น แม้กระทั่งชายแท้ก็ยังอดที่จะมองตามไม่ได้

   “ก้องก็คิดว่ามิวส์น่ารักดีตั้งแต่ที่เห็นหน้ามิวส์ครั้งแรกแล้วครับ" ก้องตอบออกมา มือก็พยายามแง้มหาหนังสือบนชั้นต่อไป "แล้วก้องก็รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้คุยกับมิวส์"

   “แล้วไม่อายเหรอที่มาคบกับมิวส์" มิวส์ยังคงถามต่อไปเรื่อย ๆ เพราะก้องไม่ใช่ชายหนุ่มที่เปิดเผยในรสนิยมตัวเอง แม้เขาไม่ยอมรับกับคนทั่วไปว่าเป็นอะไรกับมิวส์ แต่การที่มาทำตัวสนิทสนมกับมิวส์นั้นย่อมทำให้คนทั้งคณะสงสัยในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมิวส์แน่นอน

   “อายครับ...” แทนที่จะแกล้งตอบให้รู้สึกดี แต่ก้องกับพูดตรง ๆ แท้จริงแล้วก้องก็ไม่เคยคิดว่าครั้งหนึ่งในชีวิต เขาจะต้องมาลงเอยความสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน แต่เมื่อความรู้สึกในใจมันดันเกินเลยกับผู้ชายน่ารัก ๆ อย่างมิวส์ไปแล้ว เขาก็คงไม่กลับไปแก้ไขอะไร "แต่มันก็รักนี่ครับ ไม่รู้จะโกหกใจตัวเองไปเพื่ออะไร"

   คำตอบของก้องแทบจะทำให้มิวส์ลอยขึ้นไปบนสวรรค์ เพราะใครจะไปคิดล่ะว่า ชายหนุ่มหน้าตี๋ตาตี่มีบุคลิกเงียบขรึมแถมยังสุภาพแบบก้องจะพูดอะไรออกมาแบบนี้ และพอยิ่งถามอะไรต่อ ๆ ไป คำตอบของก้องก็ทำให้มิวส์ยิ่งตกอยู่ในภวังค์รักมากขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าในตอนนี้ มิวส์กำลังหลงก้องหัวปรักหัวปรำเลยล่ะ

   หลังจากที่หยิบหนังสือได้ ก้องก็เดินนำไปที่โต๊ะว่างเพื่อนั่งอ่านหนังสือ ในขณะที่กำลังเดินไปที่โต๊ะนั้น ก็มีสายตาของชายหนุ่มหญิงสาวหลายคู่จับจ้องมองที่พวกเขาไม่ขาดสาย นอกจากมิวส์จะเป็นบุคคลที่มีเสน่ห์กับเหล่าผู้ชายเพศรุกแล้ว ก้องก็ถือได้ว่ามีเสน่ห์ไม่แพ้กันโดยเฉพาะกับสาว ๆ ที่ชอบผู้ชายเงียบขรึมแต่กลับเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุภาพ

   คนทั้งคณะต่างคิดว่าก้องกับมิวส์เป็นคู่ที่ลงตัวมาก ซึ่งมิวส์ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน

   “ก้องว่าผู้ชายสองคนจะรักกันไปได้นานแค่ไหนอ่ะ" ที่มิวส์เอ่ยถามก็เพราะอยากได้ความมั่นใจ้ท่านั้น
   ก้องยิ้มอย่างเอ็นดูให้กับคำถามที่ฟังดูออดอ้อนของมิวส์ก่อนที่จะเอ่ยคำตอบที่ตอกย้ำให้โลกของมิวส์มีแต่ผู้ชายที่ชื่อก้องเท่านั้น "ตลอดไปก็ยังได้เลยครับ...”

   จุดเริ่มต้นของความหวานใครจะไปคิดล่ะว่าวันหนึ่งมันจะจบลงด้วยความขม และเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิด ความแค้นที่ถูกปะทุออกมาอย่างหนักของวิญญาณอาฆาตอย่างมิวส์ส่งผลให้มิวส์สร้างภาพมายาทำให้ก้องตกอยู่ในภวังค์ของอดีตที่เคยเกิดขึ้น

   “มิวส์ครับ... ก้องไม่อยากเชื่อเลยว่ามิวส์จะยังอยู่กับก้องไม่ได้ทิ้งก้องไปไหน" ก้องเอ่ยกับร่างที่ใส่ชุดนักศึกษา

   “หึ ๆ มิวส์ก็รอก้องอยู่เสมอแหละ รอมาตลอดระยะเวลาสิบปีตั้งแต่ที่มิวส์สิ้นลมหายใจ" มิวส์ตอบออกมาพร้อมทั้งแสยะยิ้มแล้วมองร่างที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสมเพช

   “ก้องจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่มิวส์ให้อภัยก้องได้ไหมครับ" เนื่องจากว่าตอนนี้สติของก้องกำลังพร่าเลือนเลยทำให้เขาจะอะไรไม่ได้ มีเพียงจิตใต้สำนึกลึก ๆ ที่มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่าเขาได้กระทำการอะไรบางอย่างร้ายแรงกับชายหนุ่มคนนี้

   “มิวส์ให้อภัยก้องได้นะ...” มิวส์กล่าวออกมา "...แต่มีข้อแม้"

   “ข้อแม้อะไรครับ" ก้องเอ่ยถามด้วยความฉับไว ถ้ามีวิธีไหนที่ทำให้ความรู้สึกผิดในจิตใต้สำนึกหายไปได้สักที เขาก็ไม่มีข้อแม้ที่จะทำมันเลยล่ะ

   “ก้องต้องไปอยู่กับมิวส์" น้ำเสียงของมิวส์ในครานี้ทั้งเยือกเย็นและหนักแน่น

   “ครับ" ก้องไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะพยักหน้าตอบตกลง จากนั้นปฏิบัติการทำให้ก้องมาร่วมเป็นสมาชิกใหม่ในปรโลกก็เริ่มขึ้น

   “งั้นตามมิวส์มา"

   มิวส์เอื้อมมือไปสัมผัสกับก้อง ความอบอุ่นที่แฝนอยู่ในมือคู่นั่นทำให้ใจของมิวส์สั่นไหวขึ้นมาแว๊บหนึ่ง แต่มันก็เป็นพียงแค่แว็บเดียวเท่านั้น หลังจากที่มือทั้งสองประสานกันแน่น มิวส์ก็เดินนำหน้าและก้าวขาขึ้นไปยังบันไดโดยมีเป้าหมายคือชั้นสูงสุดของห้องสมุด

   “มิวส์! มึงจะทำอะไร เรียกสติของมึงกลับมาให้ได้สิวะ" ไม้ตวาดเสียงดังในขณะที่มิวส์กำลังย่างเท้าก้าวขึ้นบันได จนกระทั่งเดินผ่านหน้าเขาไป แต่ทว่าก็ไม่มีการตอบสนองใด ๆ เกิดขึ้นราวกับว่าสติของมิวส์ได้ถูกความอาฆาตครอบงำและไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้อีก

   แล้วอะไรบางอย่างที่พันธนาการร่างของไม้กับฟิวส์เอาไว้มานาน ก็เริ่มดันไหล่มันรุนแรงจนทำให้ทั้งคู่ต้องก้าวขาตามก้องกับมิวส์ขึ้นไปชั้นบนสุด

   “คุณ! นี่มันอะไรกัน" ฟิวส์ที่ไม่เคยพบเห็นวิญญาณได้แต่เอ่ยปากถามด้วยความหวาดระแวง นี่ถ้าไม่มีไม้อยู่ข้าง ๆ เขาคงจิตตกและอาจทำอะไรแผลง ๆ ไปแล้ว

   “ผมก็ไม่รู้ คงจะมีอะไรบางอย่างที่บังคับให้เราทำแบบนี้" ไม้เอ่ยขึ้น "ตามอาจารย์กับพี่ชายของคุณขึ้นไปด้านบนกันดีกว่า"

   “อืม" ฟิวส์พยักหน้า แม้จะสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ถามตอนนี้ก็คงจะไม่ได้คำตอบ

   ระหว่างทางขึ้นไปยังชั้น 5 ซึ่งเป็นชั้นบนสุดของห้องสมุด มีกลิ่นอับฉุนราวกับซากสัตว์ใหญ่ที่ตายมาแล้วหลายวันลอยมาให้ผู้ที่ยังมีลมหายใจได้สูดกลิ่นเหม็นอยู่เป็นระยะ ๆ มิหนำซ้ำความมืดมิดตลอดทางยังช่วยเพิ่มบรรยากาศที่น่าวังเวงให้น่ากลัวมากขึ้นไปอีกด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องมีอะไรบางอย่างที่มนุษย์ปกติมองไม่เห็นแฝงตัวอยู่ตามความมืดมิดในห้องสมุดแห่งนี้เต็มไปหมด

   และทันทีที่ไปถึงชั้น 5 หน้าต่างบานใหญ่ที่ถูกปิดมาตลอดก็ถูกเปิดออกมาโดยสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างฉับพลัน สายลมหวิว ๆ ที่พัดลอดเข้ามาช่วยสร้างบรรยากาศให้น่าหวาดผวายิ่งขึ้น

   “ก้อง" มิวส์เอ่ยเบา ๆ ในขณะที่ยังเดินจับมือกับก้องแล้วเดินตรงไปยังหน้าต่าง

   “ครับ" ก้องก็ยังคงตอบรับด้วยความสุภาพเช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยน

   “อีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเราก็จะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ในโลกหน้าด้วยกันแล้ว... ก้องดีใจไหม" มิวส์เอ่ยถาม

   “ที่สุดเลยครับ" สิ้นเสียงของก้อง มิวส์ก็แสยะยิ้มออกมา แต่แทนที่มิวส์จะหลอกล่อให้ก้องปีนช่องหน้าต่างแล้วกระโดดลงไป มิวส์ดันเดินกลับมาหาไม้แล้วฟิวส์ แล้วก็ทำสิ่งที่ไม่มีใครคาดฝันขึ้น

   มิวส์อ้าแขนแล้วโอบกอดกับเจ้านายด้วยความกลัว... มันเป็นความกลัวว่าเขาจะโดนเหล่าวิญญาณร้ายสามตนมาดึงทึ้งและกัดกินร่างของเขา รวมทั้งกลัวว่าเขาจะโดนฉุดให้ไปอยู่ภายในประตูปรโลกกับพวกมัน

   ไม้ที่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ก็ยกมือขึ้นมากอดตอบ แล้วความจริงใจที่ถูกส่งผ่านอ้อมกอดนี้ก็ทำให้เหล่าวิญญาณอาฆาตต่างกรีดร้องด้วยน้ำเสียงทุรนทุรายเพราะพวกมันไม่เคยได้รับความจริงใจแบบนี้จากมนุษย์หน้าไหนตั้งแต่ที่พวกมันสิ้นลมหายใจ

   “เจ้านาย ผมจำได้ว่าเมื่อสิบปีก่อนชั้นนี้มีห้องพระ เจ้านายรีบเข้าไปในห้องพระแล้วเอาพระพุทธรูปหรืออะไรก็ได้ออกมานะครับ ไอ้พวกวิญญาณร้ายที่มันปั่นหัวผมจะได้หวาดกลัว"

   มิวส์เอ่ยออกมา น้ำเสียงของเขาสั่นผวาอย่างเห็นได้ชัด...

   ใช่แล้ว! ในทีแรกมิวส์โดนวิญญาณร้ายสามตนปั่นหัวจนทำให้มิวส์ไม่สามารถควบคุมสติได้ แต่สัมผัสจากฝ่ามือของก้องที่ถูกส่งผ่านมาไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้สติของมิวส์กลับคืนมา และเมื่อให้มันเป็นไปตามแผนการที่พวกวิญญาณร้ายต้องการ มิวส์ก็เลยต้องแกล้งให้ตัวเองยังตกอยู่ในความอาฆาตและหวังจะฆ่าก้อง จึงพาก้องขึ้นมาบนชั้น 5 อย่างไม่ขัดขืน

   และทางเดียวที่น่าจะทำให้ทั้งเขา ก้อง เจ้านาย และน้องชายรอดพ้นจากอันตรายในคืนนี้ได้ ก็คือพระพุทธรูปที่อยู่ในห้องพระชั้น 5 หากเจ้านายของเขานำพระพุทธรูปออกมา บางทีอาจจะทำให้วิญญาณร้ายหวาดกลัวและไม่กล้าเข้าใกล้ก็เป็นได้

   “ถ้าอย่างนั้นระหว่างที่กูไปนำพระพุทธรูปออกมา มึงก็ดูก้องกับฟิวส์ด้วยล่ะ อย่าให้วิญญาณร้ายทำอะไรพวกเขาได้" ไม้เอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่ามิวส์พยักหน้าเขาก็พังประตูห้องพระโดยการกระแทกร่างไปยังประตูกระจกทันที

   ฟิวส์มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความประหลาดใจแต่ชั่วอึกใจเขาก็ต้องส่งเสียงกรีดร้องออกมาด้วยความทรมาน

   “เฮ้ย... โอยยยย" มีอะไรบางอย่างที่มองไม่เห็นกำลังจิกเส้นผมของเขา และมันออกแรงดึงสุดแรงจนทำให้ใบหน้าของเขาแหงนมองขึ้นด้านบน

   แต่แล้วชั่วครู่แรงดึงนั้นก็หายไป เพราะมิวส์กำลังต่อสู้กับวิญญาณร้ายสามตนเพื่อไม่ให้มันมาทำร้ายน้องชายของเขา

   หลังจากที่ฟิวส์หลุดพ้นจากการดึงทึ้งที่ศีรษะ เขาที่ไม่รู้อะไรก็รีบวิ่งตามไม้เข้าไปในห้องพระทันที

   “รออยู่ตรงนี้นะ ห้ามออกไปไหน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วทุกคนจะปลอดภัย" ไม้สั่งเมื่อเห็นฟิวสวิ่งเข้ามาในห้องพระ ส่วนเขากำลังถือพระพุทธรูปสององค์ขนาดความสูงประมาณ 30 เซนติเมตรออกไปยังนอกห้องซึ่งกำลังมีเหตุการณ์วุ่นวาย

   และทันทีที่พระพุทธรูปถูกยกออกไป เสียงกรีดร้องโหยหวนของเหล่าวิญญาณร้ายต่างก็ดังขึ้นด้วยความกลัว รวมทั้งมิวส์ด้วย

   “โอยยย...” มิวส์เอ่ยร้องด้วยความทรมาน ไม้ที่ไม่รู้ว่าพระพุทธรูปจะทำร้ายมิวส์ด้วย พอเห็นร่างของมิวส์ทรุดลงเขาก็รีบวิ่งเข้าไปหาก่อนจะโอบกอดร่างนั้นเอาไว้อย่างแนบแน่น

   “เจ้านาย...” มิวส์เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาโดยที่ร่างของเขารู้สึกปวดแสบปวดร้อน นี่ถ้าไม่ได้อ้อมกอดของเจ้านายมากอดไว้ก็ไม่แน่ว่าความปวดแสบปวดร้อนที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้ร่างของเขานั้นแหละสลายกลายเป็นผุยผง

   “มิวส์ มึงไหวไหม" ไม้กระซิบที่ข้างหู อ้อมกอดที่หลวมในตอนแรกถูกกระชับให้แน่นขึ้น ใบหน้าที่บิดเบี้ยวไปมาทำให้ไม้ต้องกดให้ศีรษะของดวงวิญญาณมาซุกที่อ้อมอก

   “ไหวครับเจ้านาย" มิวส์แสร้งตอบออกไปเพราะไม่อยากให้เจ้านายเป็นห่วงทั้ง ๆ ที่ความจริงเขาแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว

   “มึงไม่ต้องมาหลอกกู" ไม้บ่น พอเห็นว่าร่างของมิวส์เริ่มมีสีจางลงราวกับว่ากำลังจะหายไปจากโลกนี้ ความกลัวก็ถาโถมเข้ามาในจิตใจ "มึงอย่าทิ้งกูไปไหนนะ มึงต้องอยู่กับกู ต้องเป็นลูกน้องกูต่อไป"

   พูดจบก็ตัดสินใจโน้มใบหน้าเข้าไปจูบกับร่างของดวงวิญญาณ มันเป็นรอยจูบแห่งความรักความห่วงใหญ่และเต็มไปด้วยความกลัว... กลัวว่าจะไม่มีโอกาสได้ทำแบบนี้อีกแล้ว

   หลังจากที่ริมฝีปากของหนึ่งคนกับอีกหนึ่งตนประกบกัน ความรู้สึกดีที่เกิดขึ้นอย่างน่าประหลาดก็ทำให้ร่างของมิวส์ค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติ และหายปวดแสบปวดร้อน ตาที่หลับพริ้มด้วยความกลัวในตอนแรกก็ค่อย ๆ ลืมขึ้นมา เมื่อเห็นว่าเจ้านายของเขากำลังทำอะไร แทนที่จะผละออกด้วยความตกใจ มิวส์กลับปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินต่อไป โดยที่ไม่สนใจว่าจะมีใครบางคนที่เพิ่งได้สติกำลังยืนมองอยู่ด้วยใจที่เจ็บปวดเกินจะทน

   “อ่า... เจ้านาย" ทันทีที่ไม้ผละริมฝีปากออกมา มิวส์ก็เอ่ยประโยคที่ทำให้คนฟังอีกคนที่ยืนอยู่ทนฟังด้วยความเจ็บปวดทันที "ขอบคุณเจ้านายนะครับ ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้ว่ายังมีคนที่ห่วงใย ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้จักกับความจริงใจ...ที่ไม่เคยได้รับจากใครในโลกใบนี้นอกจากครอบครัวของผม"

   “พวกมันไปหรือยัง" ไม้เอ่ยถาม เพราะนอกจากมิวส์ ไม้ก็ไม่สามารถมองเห็นวิญญาณตนอื่นได้

   “ไปแล้วครับ พลังของพระพุทธรูปทำให้พวกมันบาดเจ็บอย่างหนัก" มิวส์ตอบออกมา

   “งั้นเรารีบหนีกันเถอะ" พูดจบก็ยืนขึ้นพร้อมประคับประคองมิวส์ให้ยืนขึ้นด้วย

   ทางด้านของก้องได้แต่มองการกระทำของคนทั้งคู่ด้วยความเจ็บปวด... ทำไมนะ ทั้ง ๆ ที่เขาเองก็มีครอบครับ มีภรรยาและลูกแล้ว ชีวิตของเขาควรจะมีความสุข แต่พอได้เห็นภาพของอดีตคนรักจูบกับผู้ชายอีกคน แล้วทำไมเขาต้องรู้สึกปวดระบมไปทั่วร่างราวกับมีหนามแหลมนับพันนับหมื่นเล่มกำลังทิ่มแทงเนื้อหนังของเขา

   ...นี่ใช่ไหมที่เขาเรียกว่ากรรมตามสนอง...

   ในเมื่อทุกอย่างมันกำลังดำเนินไปด้วยด้วยดีแบบนี้ ถ้าอย่างนั้นความจริงบางอย่างที่มิวส์ควรรู้ ก้องก็ไม่จำเป็นต้องอธิบายให้เขาฟังแล้วสินะ เพราะในตอนนี้ดูเหมือนว่ามิวส์จะมีความสุขอยู่กับลูกศิษย์ของเขา และหากเขาพูดความจริงอะไรออกไป อาจจะทำให้ความสุขของมิวส์หดหายและกลายเป็นว่าเขาเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้มิวส์ต้องทุกข์ระทมอีกครั้ง

   “ไปกันเถอะอาจารย์" ไม้เอ่ยขึ้น ไม่รู้ทำไมเขาถึงรู้สึกว่ามองหน้ากับอาจารย์คนนี้ไม่ติด ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนอาจารย์ก้องภพถือเป็นอาจารย์ที่ไม้ค่อนข้างสนิทสนมคนหนึ่ง

   “ครับ" ก้องพยักหน้า จากนั้นไม้ก็เดินไปเรียกชายหนุ่มอีกคนที่กำลังนั่งอยู่ในห้องพระ

   “ไปกันเถอะฟิวส์ เรื่องคืนนี้มันจบแล้วล่ะ" ไม้เอ่ยขึ้น พอเห็นฟิวส์กำลังนั่งตัวสั่นงก ๆ เพราะหวาดผวากับสิ่งที่มองไม้เห็นไม้ก็ได้แต่แอบขำในใจพร้อมกับคิดว่า ...พี่น้องช่างมีนิสัยเหมือนกันจริง ๆ...






จบตอน.......
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่19 หน้า7]- 19/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 29-08-2013 15:44:33
คุยกับคนอ่านครับ ^^

คุณ chocolate_ness :: อัพตอนใหม่แล้วครับ เจ้านายมาแล้วว ^^ อิอิ
คุณ maemix :: คิคิ,, ถ้าได้อ่านตอนล่าสุดน่าจะได้คำตอบแล้วครับ ^^
คุณ sang som :: 555 พระเอกมีเลือด Sm ครับ กร๊ากๆ ก็เลยง่ายไปหมด เหอๆ ไม่เกี่ยวเลยเรา - -"
คุณ Chichi Yuki :: ใช่ๆ แล้วครับ ผีสาวที่ตายบนห้องสมุดชั้นสาม
คุณ Nus@nT@R@ :: ไม่โดนจ้า...
คุณ @Lucifer_Prince@ :: 555++ ยังๆครับ ที่ไม่ไปใช้กรรมเพราะนอกจากจะอาฆาตแล้ว มันยังอาฆาตเพื่อนด้วยครับ... ความอาฆาตนี้เลยไม่ส่งผลให้ไปสู่สุขติได้สักที
คุณ ice_spok :: ขอให้โดนผีหลอก เพี้ยง!!!
คุณ iamnan :: ทันครับผม
คุณ indy❣zaka :: 555 คุณริวบอกว่า นิยายเรื่องนี้ ริวจะไม่ยุ่ง T^T
คุณ loveaaa_somsak :: ขอบคุณครับผม ^^ ตามทั้งสองเว็บเลย น่ารักที่สุดครับ ^^
คุณ NJnobu :: ขอบคุณครับ มาลงต่อแล้วนะครับ ^^
คุณ darkeyes1 :: 555 ใช่ครับ หลายใจทั้งคู่เลย !!!!
คุณ Lily teddy :: T^T ยกมาแค่วิญญาณ 3 อ่าคร้าบ เปรียบเสมือนวิญญาณ 3 สาวเป็นบอสใหญ่ของห้องสมุด ฮ่าๆๆ
คุณ mentholss :: 555 ไม้มีความหล่อซ่อนอยู่ครับ (ไม่ต้องซ่อนแล้วมั้ง) แป่วๆ
คุณ mindmaru :: ^^ คิคิ มาอัพต่อแล้วนะครับ
คุณ Fujoshi :: ^^ แหะๆ มาต่อให้หายค้างแล้วคร้าบบ ^^
คุณ mukmaoY :: อ่านตอนดึกๆนี่ 555 สบายใจใช่ไหมน๊อ
คุณ มยอนฮวา :: ไม้มาแล้วกั๊บ ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: nunnan ที่ 29-08-2013 16:41:32
ยังอยากรู้อ่ะ ว่าไม ก้องทิ้งมิวส์
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: BBChin JungBB ที่ 29-08-2013 17:15:57
แม่มิวส์เป็นคนบอกให้ก้องเลิกกับมิวส์รึป่าว พอมิวส์ตายแม่มิวส์เลยโทษตัวเองอยู่ รพ.บ้า ฮ่าๆๆๆ เพ้อไปไกล
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 29-08-2013 19:10:39
 อ่านตอนดึกแล้วมีความสุขสุดๆๆไปเลยล่ะ55555
 :m16:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 29-08-2013 19:47:27
555  ในที่สุดนายไม้ก็เลือกแล้ว..  ไม่สิยังไม่เลือกนี่หว่า
มิวก็อีกตนรู้สึกว่าเลือกแล้วละมั้งนะ  แต่ดูท่าจะเป็นมือที่สามจนน่ากลัวเหมือนกัน

ส่วนก้อง...  นายมีความลับอะไรกันแน่เนี้ย  มัวแต่อมพะนำจนน่าลำคาญจริงๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 29-08-2013 19:51:26
ก้องจะบอกอะไรมิวส์

อยากรู้จังเลยยย

กระโดดกอดคนเขียนแน่น ๆ ให้บอกความจริงมาซะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 29-08-2013 19:58:13
รอความจริงของก้องว่าทำไมต้องเลิกกะมิว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 29-08-2013 20:04:25
เจ้านายเอาความจริงใจช่วยมิวส์ให้พ้นวิญญาณร้าย
แต่ก็ทำให้ใครบางคนเจ็บปวด และใครอีกคนที่อยู่หอพัก เฮ้อ......

ยังอยากรู้เหตุผลของก้องที่ต้องบอกเลิกมิวส์ เลือกวันดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 29-08-2013 20:49:40
อยากรู้สาเหตุที่ก้องบอกเลิกมิวส์
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 30-08-2013 01:22:09
นายกำลังจะบอกอะไรก้อง ทำไมไม่รีบบอก :serius2: :serius2:

ถึงก้องจะเลิกกับมิวส์ แต่ มิวส์...ก็ยังมีไม้นะ 555  :hao3: :hao3: :hao6: :hao6:

วิ่งหลบแฟนคลับแม็กกี้  :z6:  :z6:



+ ให้คนเขียนคราบ

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 30-08-2013 12:53:17
โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร
แต่ก็อยากรู้เรื่องที่ก้องจะบอกมิวส์
และก็เรื่องแม่ของมิวส์
และก็ฟิวส์มาโผล่ที่นี่ได้ยังไง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Nus@nT@R@ ที่ 30-08-2013 19:14:09
อยากให้ก้องเคลียร์กับมิวส์
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 31-08-2013 09:07:48
ดีแล้วนะที่ไม้มาช่วยมิวส์ทันไม่งั้นแแย่ๆแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 31-08-2013 17:51:53
 :monkeysad: แง เศร้าจัง มันไม่มีวิธีช่วยแบบอื่นที่จะทำแล้วเหรอค่ะ ทำไมต้องให้ไม้จูบมิวส์ด้วยล่ะ
ยิ่งจูบก็ยิ่งผูกพัน แล้วอย่างงี้วิญญาณของมิวส์ก็ยิ่งไปจากไม้ไม่ได้อะดิ
ทั้งที่จริง ๆ คนที่ทำให้มิวส์มีสติก่อนคือความอบอุ่นจากมือของก้องไม่ใช่เหรอ
สงสารก้องจัง ทั้งที่ก็ตั้งใจช่วยมิวส์เต็มที่แต่กลายเป็นเหมือนไม่ได้อยู่ในสายตามิวส์เลยอะ
แล้วถึงจะมีครอบครัวแล้วแต่ในใจก้องก็คงยังรักและผูกพันกะมิวส์อยู่แน่ ๆ ไม่งั้นคงมองไม่เห็นมิวส์หรอก
ดูจากอดีตก้องดูรักมิวส์มากเลย เพราะงั้นมันก็คงมีเหตุผลอะไรซะอย่าง
ที่ทำให้ก้องต้องเลือกที่จะเลิกกะมิวส์ล่ะมั่ง แล้วความลับอะไรนะที่ก้องเลือกที่จะไม่บอกมิวส์
เพราะกลัวมิวส์เสียใจ แต่จริง ๆ ถ้าได้รู้วิญญาณของมิวส์อาจจะได้รับการปลดปล่อยก็ได้นะ
แอบอยากให้มิวส์ไปเกิดจริง ๆอะ เพราะยังไงก็ขอให้ไม้คู่กะแม็กกี้เถอะนะค่ะ  :impress:
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมคะ   :pig4:  :กอด1:
 :mew2: เอ่อ อยากรู้ว่าตอนนี้มีฟิวส์ไปเพื่ออะไรคะหรือฟิวส์จะเด่นในตอนหน้าเอย  o17
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 31-08-2013 19:13:30
ไม้เท่ที่สุดอ่ะ ชอบบบบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 01-09-2013 00:02:32
ตอนที่ 21





   ทันทีที่ประตูห้องสมุดถูกปิดลง คนที่ยังมีลมหายใจต่างก็พากันถอนลมหายใจด้วยความโล่งอก โดยเฉพาะไม้ที่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นมากที่สุด

   ในขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินจากไปแต่เพราะมีเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นจากทางด้านหลังเลยทำให้มิวส์ชะงัก

   “พี่ชาย... พาผมออกไปด้วยนะครับ...” มิวส์หันไปมองทางต้นเสียงก็พบกับร่างของเด็กชายฟิวขาวหน้าตาจิ้มลิ้ม หากพิจารณาจากส่วนสูงและความอ่อนเยาว์ของใบหน้าก็น่าจะอายุประมาณ 6-7 ขวบได้

   “พี่ครับ อย่าทิ้งผมให้อยู่ที่นี่นะ ผมไม่อยากโดนพี่สาวสามคนนั้นทำร้ายอีกแล้ว กลับมาช่วยผมด้วย... นะครับ” เด็กชายพูดไป ใบหน้าก็เหยเกราวกับจะร้องไห้

   มิวส์เห็นดังนั้นก็พยักหน้ารับทันที แม้ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร แต่จากคำพูดที่บอกว่า 'ไม่อยากโดนพี่สาวสามคนทำร้ายอีกแล้ว' นั่นทำให้มิวส์เข้าใจถึงความรู้สึกของเด็กคนนี้ทันที

   “เจ้านายครับ" เสียงของมิวส์ทำให้ไม้และก้องชะงัก

   “ว่าไง" ไม้หันไปถาม

   “ช่วยวิญญาณอีกตนให้ออกมาจากห้องสมุดและไปอยู่ที่หอกับเราได้ไหมครับ" มิวส์พูดด้วยน้ำเสียงบางเบาเพราะกลัวว่าเจ้านายของเขาจะโกรธเอา แค่อยู่กับเขาตนเดียวก็วุ่นวายมากพออยู่แล้วถ้าให้มีวิญญาณเพิ่มอีกตนมีหวังเจ้านายของเขาอยู่ไม่เป็นสุขแน่ ๆ

   “มึงว่าไงนะ" ไม้เอ่ยทวน มันเป็นการเอ่ยทวนที่ไม่ได้ต้องการคำตอบแต่อย่างใด "จะให้กูเอาวิญญาณกลับหอไปด้วยอีกตนหนึ่งเนี่ยนะ!”

   “คะ...ครับ" มิวส์ตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นระริก "เป็นวิญญาณเด็ก หน้าตาน่าสงสารมาก ๆ เลยครับเจ้านาย น้องบอกว่าถ้าติดอยู่ที่นี่จะโดนวิญญาณหญิงสาวอีกสามตนทำร้ายแน่ ๆ เจ้านาย ได้โปรด... ช่วยน้องด้วย"

   “อืม...” ไม้พยักหน้ารับ "แต่มึงต้องสัญญานะว่าจะดูแลวิญญาณตนนี้ ไม่ให้มายุ่งวุ่นวายกับกู เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่มันมายุ่งกับกู กูจะลงโทษมึงทันที...”

   “ครับ" มิวส์ตอบรับอย่างว่าง่าย จากนั้นไม้ก็เดินไปที่ประตูห้องสมุดทันที

   “วิญญาณตนนี้ชื่ออะไรล่ะ" ไม้เอ่ยถามกับมิวส์ และวิญญาณเด็กที่ได้ยินคำถามก็ตอบออกมาทันที

   “เปอร์ครับ" สิ้นเสียงของวิญญาณเด็ก มิวส์ก็พยักหน้ารับก่อนที่จะตอบให้เจ้านายได้รับฟังทันที

   “น้องชื่อเปอร์ครับ"

   จากนั้นไม้ก็พนมมือขึ้นมาพร้อมกับอธิษฐานอะไรบางอย่าง ชั่วครู่ก็เกิดแสงประหลาดระยิบ ๆ จาง ๆ รอบร่างของวิญญาณเด็ก

   “เอาล่ะ บอกน้องเปอร์ออกมาได้แล้ว" ไม้ตอบออกมา ไม่ต้องรอให้มิวส์บอกเพราะวิญญาณเด็กชายได้ยินทุกคำพูดของไม้เป็นอย่างดี

   หลังจากที่ไม้พูดจบ น้องเปอร์ก็เดินทะลุออกมาทันที และพอพ้นรัศมีธรณีประตู น้องเปอร์ก็โห่ร้องด้วยความดีใจ เพราะเด็กชายพยายามจะหนีออกจากห้องสมุดมาหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งที่พยายามจะทะลุประตูออกมา พลังบางอย่างก็ทำให้ร่างของเด็กน้อยผู้นี้ปวดแสบปวดร้อนจนต้องถอนใจและกลายเป็นวิญญาณที่ติดอยู่ในห้องสมุดต่อไป

   “ไม่เจ็บแล้ว!” น้องเปอร์เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจก่อนจะคลี่ยิ้มและวิ่งไปกอดเอาร่างของวิญญาณชายหนุ่มที่ช่วยให้เขาออกมา "ขอบคุณนะครับพี่ชาย"

   “ไม่เป็นไร ไปกันเถอะ" พูดจบ... ทั้งสามคนก็เดินออกไปจากทางด้านหน้าประตูมหาวิทยาลัยทันที

   ป้อมยามด้านหน้าบัดนี้มีร่างของยามในชุดสีฟ้าเข้มกำลังนอนหลับไหล นั่นทำให้ฟิวส์สามารถย่องเข้ามาในมหาวิทยาลัยได้อย่างง่ายดาย และพอเดินไปไม่ไกลมากนักก็พบกับรถมอเตอร์ไซค์ของฟิวส์กำลังจอดอยู่

   ก้องจำได้ดีว่ารถมอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นรถที่ก้องซื้อให้ฟิวส์ แต่ฟิวส์ก็ปฏิเสธไม่รับมาโดยตลอล แต่ท้ายที่สุดก้องก็ทิ้งรถคันนี้เอาไว้ที่บ้านของฟิวส์อยู่ดี จะใช้หรือไม่ใช้ก็อีกเรื่องหนึ่ง

   “ไม่ต้องถามมาก พอดีผมฝันเห็นว่าพี่มิวส์กำลังตกอยู่ในอันตรายตั้งแต่เมื่อช่วงหัวค่ำ ก็เลยตัดสินใจขับรถมาดู พอเห็นรถคุณจอดเสียอยู่ ผมก็เลยคิดว่าคุณอาจจะอยู่ที่ไหนสักแห่งภายในมหาลัยแห่งนี้แน่ ๆ พอพบกับไม้... ผมก็เลยทราบเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด" ฟิวส์ตอบออกมา หากแต่คำตอบที่ดูเหมือนจะไร้เยื่อใยกับก้องนั้นกลับทำให้ก้องคลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ เพราะอย่างน้อยมอเตอร์ไซค์ของเขาก็ทำให้ฟิวส์ได้ใช้ให้เกิดประโยชน์ไปแล้ว

   “ครับ... แต่คืนนี้จะกลับยังไง มันดึกแล้ว ไปนอนบ้านผมก่อนดีกว่าไหม" ก้องเอ่ยชวน "เพราะเดี๋ยวสาวิตรีก็จะมารับแล้ว"

   สาวิตรีที่ก้องเอ่ย หมายถึงภรรยาของเขาซึ่งเป็นอาจารย์สาขาวิชาภาษาอังกฤษ หญิงสาวผิวคล้ำผู้ที่ดูทะมัดทะแมงและสนิทสนมกับไม้นั่นแหละ

   “ไม่!” หากแต่ฟิวส์ก็ปฏิเสธทันควันเช่นกัน จะให้เขาต้องไปนอนบ้านของผู้ชายที่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องพังทลายได้อย่างไร

   “แต่นายไม่มี...” ก้องชะงักชั่วครู่ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลง "...เพื่อน ...ไปนอนบ้านผมก่อนน่าจะดีกว่า"

   “ไม่เป็นไร ผมกลับได้" ฟิวส์เถียง

   ไม้ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่นานเมื่อเห็นท่าไม่ดี จึงเสนอความคิดเห็นขึ้นบ้าง

   “เดี๋ยวฟิวส์ไปนอนกับผมก็ได้ครับ อาจาย์กลับไปเถอะ" พูดจบก็หันไปสบตากับฟิวส์ ซึ่งฟิวส์เองก็พยักหน้าตอบรับเช่นกัน

   “ครับ" ก้องตอบรับ "แต่ผมขอคุยอะไรกับมิวส์ก่อนได้ไหม"

   สิ้นเสียง ก้องก็หันไปมองหน้าของผู้ที่เขาเอ่ยถึง ส่วนมิวส์ที่โดนก้องจับจ้องก็หันไปสบตากับเจ้านายเพื่อหวังจะขอความช่วยเหลือ... ในตอนนี้มิวส์ไม่พร้อมจะคุยอะไรกับก้องทั้งนั้น

   “แล้วแต่มึงละกันนะมิวส์" พูดจบก็เดินไปหลบมุมอยู่บริเวณมอเตอร์ไซค์ของฟิวส์ โดยที่มีร่างของฟิวส์เดินตามมาติด ๆ

   ทางด้านของก้อง... เมื่อภายในรัศมีสองเมตรไม่มีใครกวนใจ เขาก็มองมิวส์ด้วยสายตาสำนึกผิด ใช่! ความผิดที่เขาได้กระทำต่อมิวส์นั้นมันเป็นความผิดที่เขาไม่มีวันให้อภัยตัวเองได้อย่างแน่นอน

   “ก้องขอโทษนะมิวส์" ก้องก้มหน้าก้มตาพูด ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีสักครั้งที่ก้องไม่รักและไม่คิดถึงมิวส์ แต่มันจะสำคัญอะไรหากก้องพูดความจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นออกไปแล้วทำให้มิวส์ทุกข์ใจยิ่งกว่าเก่า บางที... การที่ก้องยอมเป็นคนผิดและไม่แก้ตัวอะไรออกไป มันน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

   “แค่นี้ใช่ไหมที่จะพูด" น้ำเสียงของมิวส์สื่อออกมาชัดเจนว่าไม่อยากจะฟัง ไม่อยากจะพูดคุยอะไรมากกว่านี้แล้ว...

   “ครับ...” ก้องตอบออกมา พอเห็นว่ามิวส์จะก้าวขาเดินไปหาไม้ ก้องก็เอ่ยต่อ "...แต่ ทำไม มิวส์ถึงยังไม่ไปไหน ทั้ง ๆ ที่เวลาก็ผ่านมานานกว่าสิบปีแล้ว"

   “มิวส์เป็นทั้งวิญญาณอาฆาตและวิญญาณติดที่น่ะ มิวส์ไปไหนไม่ได้หรอก พอใจกับคำตอบที่ได้ฟังหรือยังก้อง...” มิวส์พูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็น ทั้ง ๆ ที่ในใจของเขากำลังสั่นไหวจนอยากจะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว แต่เขาก็ต้องเข้มแข็งและปั้นหน้าให้เย็นชาที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่อยากให้หมอนี่มาแสดงความสงสารและเห็นใจในสภาพที่น่าสมเพชของเขา

   “มิวส์...” ก้องเอ่ยเรียกชื่อชองคนรักเก่าด้วยน้ำเสียงที่บางเบา คำตอบของมิวส์ยิ่งตอกย้ำให้ก้องรู้สึกผิดเข้าไปใหญ่

   “ไปแล้วนะก้อง โชคดี" มิวส์ไม่อยากจะฟังอะไรทั้งนั้น เขาอยากจะหนีไปจากที่นี่ให้ไวที่สุด เขาไม่อยากจะเห็นหน้า ไม่อยากจะพูดจะคุยให้ต่างฝ่ายต่างต้องเจ็บและมีบ่วงกรรมต่อกันอีกแล้ว

   “ไปกันเถอะครับเจ้านาย" สิ้นเสียงของมิวส์ ไม้ก็บอกให้ฟิวส์ขับรถไปที่หอทันที โดยที่มีวิญญาณอีกสองร่างตามติดไปด้วย

   ก้องทำได้เพียงยืนมองสองคนกับอีกหนึ่งตนขับรถมอเตอร์ไซค์จากไป... ทั้ง ๆ ที่เขามีโอกาสที่จะได้อธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นให้มิวส์เข้าใจแล้วแท้ ๆ แต่เพราะความสุขที่มิวส์แสดงออกมาเวลาที่อยู่กับไม้นั้นมันมากล้นและไร้ซึ่งความเสแสร้งใด ๆ เลยทำให้ก้องตัดสินใจที่จะเก็บทุกอย่างไว้ในใจและไม่พูดอะไรออกไปจะดีกว่า

   'ก้องรักมิวส์นะ ไปสู่สุขติเร็ว ๆ นะมิวส์' ก้องได้แต่ภาวนาในใจเพราะเขาคงทนเห็นสภาพอดีตคนรักเก่าในสภาพวิญญาณอาฆาตไม่ได้หรอก แม้มันจะทำให้หายคิดถึง แต่ทว่าการเป็นวิญญาณมันคงทุกข์ทนทรมานและเหงาไม่มีที่สิ้นสุดแน่ ๆ

   มิวส์จะรู้ไหมว่าความผิดที่ก้องได้รับมันทำให้ก้องรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น ก้องไม่เคยมีความสุขเลยสักนิดตั้งแต่วันที่มิวส์สิ้นลมหายใจ ก้องอยากจะขอโทษมิวส์ อยากจะให้มิวส์ให้อภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ที่ก้องต้องทำร้ายมิวส์แบบนั้นก็เพราะ 'ความจำเป็น' ที่ก้องไม่สามารถปฏิเสธมันได้จริง ๆ





จบตอน ^^ ตอนนี้สั้นจิ๊ดนึงนะครับ แหะๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่20 หน้า7]- 29/08/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 01-09-2013 00:02:49
คุยกับคนอ่านที่น่ารักครับผม ^^
 
คุณ nunnan :: เรื่องนี้เฉลยแน่นอนครับ T^T แต่รอก่อนน๊า รอให้ถึงเวลาที่สมควรก่อน แหะๆ
คุณ BBChin JungBB :: พล็อตนี้น่าสนครับ ฮ่าๆๆๆๆ ไว้ติดตามกันต่อไปเน่อ
คุณ mukmaoY :: แหะๆ ตอนน่ากลัวหมดไปแล้วครับ... แต่เดี๋ยวสัญญาว่าจะหาฉากน่ากลัวๆมาให้อ่านอีกแน่นอนครับ
คุณ darkeyes1 :: T^T อย่าเพิ่งรำคาญก้องเลย(คนเขียนด้วย) ฮ่าๆๆ รอติดตามก่อนนะครับ เดี๋ยวพอถึงเวลาแล้วจะเฉลยทุกอย่างครับ T^T ฮือๆๆ
คุณ ice_spok :: อยากรู้หรอ เดี๋ยวกระซิบบอกหลังไมค์ดีไหม ฮ่าๆ ไม่ดีกว่า : P แบร่
คุณ iamnan :: ครับผม รอๆๆ ก่อนนะครับ (แต่น่าจะอีกหลายตอนเลยเชียว แหะๆ)
คุณ maemix :: T^T แม็กกี้จะน่าสงสารขึ้นเรื่อยๆ ครับ T^T
คุณ loveaaa_somsak :: สาเหตุ เดี๋ยวรอก่อนนะครับ สัญญาว่าเรื่องนี้แต่งจบแน่นอนครับผม ^^
คุณ NJnobu :: ขอบคุณสำหรับ + คร้าบ 5555++ เดี๋ยวจะทำให้เข้าข้างแม็กกี้ให้ได้ (มั้ง)
คุณ mentholss :: ทุกอย่างจะค่อยๆ คลี่คลายออกมาครับ คิคิ... ^^
คุณ Nus@nT@R@ :: *0* ... เดี๋ยวคนเขียนเคลียร์ให้นะครับ แหะๆ
คุณ มยอนฮวา :: เดี๋ยวคราวหลังให้ช่วยไม่ทันมั่งดีกว่า... อยากเห็นมิวส์โดนความกลัวครอบงำ (เอ้ยย ไม่ใช่แล้ว ล้อเล่นคร้าบ)
คุณ Lily teddy :: ใช่แล้วครับ เพราะสัมผัสของมือก้องทำให้สติมิวส์กลับมาก่อนใคร แน่นอนว่าก้องต้องยังรู้สึกกับมิวส์แน่นอน คิคิ ส่วนมิวส์รู้สึกยังไงกับก้องก็ติดตามกันต่อนะคร้าบ
คุณ sang som :: อันแน่... มีแฟนแบบไม้อ่าสิเนี่ย คิคิ แซววว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: saruttaya ที่ 01-09-2013 00:08:30
อยากรู้ว่า"ความจำเป็น"ของก้องมันคืออะำไร

ถึงทำให้ต้องทำร้ายมิวส์ เสียใจจนตาย  :m16:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 01-09-2013 00:19:40
สั้นอ่ะ !!!!

ยังไม่ฟินเลยยครับบพี่ชาย 555

คิดถึงผีน้อย ไม้ มากกกกกกก

คิดถึงพี่ชายคนแต่งมากกว่า เอิ๊ก ๆ จ๊วฟฟฟฟ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 01-09-2013 06:12:42
ความจำเป็นของก้อง มีส่วนให้มิวส์ต้องตาย ครอบครัวของมิวส์แตกสลาย ก้องรับผิดชอบอะไรแล้วหรือไม่
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 01-09-2013 06:18:36
ความจำเป็นอารายยยยย?อยากรู้มากกก
มิวส์ไม่เหงาแล้วดิมีน้องเปอร์มาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 01-09-2013 09:32:03
คิคิ ชอบเรื่องนี้ที่สุดแหละ ฟิน~
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 01-09-2013 10:35:02
สนุกกกกกก ชอบไม้มิวส์ เอาอีกๆๆๆๆ อยากรู้ความจริงจากก้อง  :mew4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 01-09-2013 10:36:52
มิวส์หันไปมองทางต้นเสียงก็พบกับร่างของเด็กชายฟิวขาวหน้าตา
ฟิว = ผิว

 “อืม...” มิวส์พยักหน้ารับ
มิวส์ = ไม้

คำผิดยังมีอีกนะจ้ะ

ค้างคามากกับเรื่องของก้อง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 01-09-2013 11:00:50
ความลับเยอะจริง นายก้อง !!!

กอด หอม ฟัด ให้กำลังใจคนเขียน... :กอด1:

+ ด้วย  o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 01-09-2013 11:13:45
อยากรู้ความจำเป็นที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ของก้องจัง แล้วยังความลับที่ก้องไม่อยากบอกมิวส์อีก
ทำให้ก้องที่ดูผิดที่สุด สงสัยจะกลายเป็นคนที่น่าสงสารเกือบที่สุดล่ะมั่ง
เพราะตอนนี้แม็กกี้น่าสงสารที่สุดอยู่ แถมคนเขียนบอกจะน่าสงสารมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ท้อใจจัง  :monkeysad:
แล้วตอนที่มิวส์สัมผัสมือก้อง อาจทำให้มิวส์ได้รู้ว่ายังรักก้องอยู่ แล้วก้องก็ยังรักมิวส์อยู่
แต่มิวส์ก็คงไม่อยากทำลายครอบครัวของก้องรึเปล่า มิวส์ก็เลยเลือกที่จะพูดให้ก้องเสียใจ แล้วตัดใจจากมิวส์ซะ (เดาอีกแล้ว)
แล้วยิ่งอ่านไม้นี่เหมือนพวกเล่นของเลยอะ พาวิญญาณของน้องเปอร์ออกจากห้องสมุดได้ง่าย ๆ เลย
แล้วน้องเปอรนี่เป็นใคร มาจากไหน ทำไมไปติดในห้องสมุดได้ล่ะ
ที่สำคัญจะเข้ามามีบทบาทอะไรต่อความสัมพันธ์ของไม้กะมิวส์ หรือไม้กะแม็กกี้บ้างไหมน๊า
ส่วนฟิวส์ก็ฝันแม่นแหะ รู้ว่ามิวส์กำลังลำบากด้วย แล้วไม้พาฟิวส์ไปค้างที่ห้องแบบนี้คงไม่ทำให้แม็กกี้งง
แล้วคิดว่าไม้พาแฟนใหม่เข้าห้องแล้วหรอกนะ 555 เอ๊ แล้วทำไมก้องต้องซื้อมอไซค์ให้ฟิวส์ด้วยอะ (สงสัยอีกแล้ว)  :m28:
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4: :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Satang_P ที่ 01-09-2013 11:30:28
  :o12: เศร้าอ้ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 02-09-2013 09:31:13
อยากรู้ความจริงของก้องอ่ะ  :mew2:
เหตุผลที่ทำผิดมันคืออะไร  :mew6:
ที่โทรบอกนั่นความจริงหรือโกหก  :mew4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 02-09-2013 12:05:02
ก้องไม่ได้นิสัยไม่ดี เราก็ยินดีแล้วหละ เอาแค่นี้พอ :mew2:


............

แต่งมาเลยค่ะ...หึๆ ฉากน่ากลัวๆเนี่ย
เดี๋ยวจะอ่านให้คนแต่งเจอเองเลย :hao3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: naruxiah ที่ 02-09-2013 14:49:44
อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าความจำเป็นของก้องหรอ? ต่อให้มันเจ็บแค่ไหน :ling2:

 เราว่ามิวส์อาจจะอยากฟัง  :sad4: อยากรับรู้แม้จะเจ็บแค่ไหนก็ตาม อาจเป็นได้นะ :mew6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: darkeyes1 ที่ 02-09-2013 21:37:33
เหอๆ  เริ่มไม่รำคาญก้องแล้ว  แต่จะสาปส่งก้องเลย  เหอๆ  เจ็บเจียนตาย  แต่อีกฝ่ายตายจริงเลยนะเฟ้ย!!
ตอนนี้เริ่มสนใจผีเด็ก  เอ..  หนุ่มน้อยคนนี้จะมีบทอย่างไรต่อไป  สงสัยว่าตายเมื่อไหร่  เป็นอะไรตาย
แล้วก็แน่ใจเหรอให้มิวเลี้ยง  ไม่ใช่พากันลงเหวนะ  ไม่สิ  อาจจะแก่กว่ามิวก็ได้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 02-09-2013 21:56:23
ก้องพูดมาขนาดนี้เรื่องมันคงหนักมาก
มากขนาดที่ทำให้ก้องบอกเลิกมิวส์ทั้งที่ยังรัก

แอบเดาน่าจะเกี่ยวกับครอบครัวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
อุปสรรคที่ใหญ่มาก

รอคนแต่งมาเล่าต่อดีกว่า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 04-09-2013 00:50:32
ตอนที่ 22






        หลังจากที่ฟิวส์ขับรถมาถึงหอพัก ฟิวส์ก็ตัดสินใจปฏิเสธที่จะขึ้นไปนอนพักบนหอกับไม้และมิวส์ เนื่องด้วยความเกรงใจ แต่ทว่ามิวส์ก็พยายามงอแงอ้อนวอนขอร้องให้เจ้านายของเขาช่วยคุยกับฟิวส์ จนท้ายที่สุดฟิวส์ก็ยอมที่จะขึ้นไปพักบนห้องด้วย แต่ก่อนที่จะไปพักบนห้อง ไม้เลือกชวนฟิวส์นั่งที่ม้านั่งด้านล่างเพื่อสอบถามอะไรบางอย่างก่อน

   “ตอนนี้แม่นายอยู่ที่ไหน" คำถามที่เกี่ยวกับแม่ล้วนเป็นคำถามที่มิวส์ฝากถามทั้งนั้น พอเห็นว่าฟิวส์เงียบ ไม้ก็เลยต้องใช้ไม้เด็ด "พอดีพี่ชายของนายข้องใจมาก ๆ ถ้าไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวกับแม่ มีหวังพี่ชายของนายไม่หมดห่วง"

   “แต่ผมว่าพี่มิวส์อย่ารู้เลยดีกว่า... ถ้ารู้แล้วพี่มิวส์อาจจะยิ่งมีห่วงหนักเข้าไปอีกก็ได้" ฟิวส์ตอบออกมา "ถ้าคุณยังถามอะไรเกี่ยวกับแม่ ผมจะกลับเดี๋ยวนี้ล่ะ"

   “ได้ยินแล้วใช่ไหมไอ้มิวส์" ไม้เอ่ยขึ้น

   “ครับ" มิวส์ผงกหัวรับ ใบหน้าจ๋อยลงทันทีเมื่อได้ยินน้องชายตอบกลับมาเช่นนั้น

   ในระหว่างที่กำลังคุยกันอยู่นั้น ท่านเจ้าที่ที่มองออกไปด้านนอกของรั้วหอพักแล้วเห็นวิญญาณเด็กตนหนึ่งกำลังงอแงอยู่ตรงนั้น ท่านเจ้าที่ก็เลยเดินเข้ามาร่วมวงสนทนากับไม้และมิวส์ด้วย

   “เฮ้ย... มีวิญญาณเด็กตามพวกเจ้ามาด้วย" เสียงของท่านเจ้าที่ทำให้มิวส์และไม้ที่เพิ่งนึกได้ว่าพาวิญญาณเด็กกลับมาด้วยอีกตนหันขวับไปมองที่นอกรั้วด้วยความฉับไว

   ทันใดนั้นไม้ก็อธิษฐานกับท่านเจ้าที่และขอพรให้วิญญาณเด็กเข้ามาภายในหอพักทันที

   วิญญาณเด็กเดินเข้ามาก็ทำตาโตแก้มป่องใส่มิวส์ด้วยความไม่พอใจที่มิวส์ไม่รู้เลยว่าเจ้าตัวเล็กน่ะกระเด็นตกจากมอเตอร์ไซค์ตอนที่มอเตอร์ไซค์ขับเข้ามาภายในเขตรั้วหอพัก

   “พี่ทิ้งผม" ทันทีที่มาถึงวงสนทนาเปอร์ก็เปิดฉากต่อว่าทันที

   “ปะ... เปล่านะ พี่ไม่ได้ทิ้ง" มิวส์พยายามปฏิเสธพลางนึกหาข้อแก้ตัวที่เข้าท่า "ก็เจ้านายของพี่น่ะสิ รู้ทั้งรู้ว่าพาเปอร์มาด้วยแต่ดันไม่ยอมขออนุญาตท่านเจ้าที่แต่แรก"

   “ไอ้มิวส์!!!” ได้ยินคำแก้ตัวของมิวส์ไม้ก็หันไปจ้องมันจนเลือดขึ้นหน้า "กูจะจำได้ไหมล่ะก็กูมองไม่เห็นวิญญาณเด็กนี่หว่า"

   “เอ้า!!! พ่อหนุ่มมองไม่เห็นวิญญาณเด็กหรอกเหรอเนี่ย" ท่านเจ้าที่เอ่ยแทรก

   “ครับ" ไม้พยักหน้ารับ

   “งั้นเดี๋ยวข้าจะให้พร" พูดจบท่านเจ้าที่หลับตาก่อนจะพนมมือพร้อมกับท่องบทสวดอะไรบางอย่าง จากนั้นก็ยื่นมือออกไปหมุนรอบศีรษะของไม้

   ไม่นานมากนัก ร่างของวิญญาณเด็กผิวขาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มมีความสูงประมาณเอวก็กำลังยิ้มแป้นแล้นมองมาทางร่างของไม้ ไม้เบิกตาโพลงด้วยความตกใจชั่วครู่ก่อนที่จะขยี้ตาแล้วเพ่งมองวิญญาณเด็กชัด ๆ

   นอกจากสีผิวและหน้าตาที่น่ารักแล้ว เสื้อลายสก็อตที่ถูกทับด้วยเอี๊ยมยีนส์พร้อมกับรองเท้าผ้าใบยังช่วยทำให้วิญญาณเด็กตนนี้ดูเป็นลูกของคนมีเงินอีกด้วย

   “ไอ้หนู...” ไม้เรียกวิญญาณเด็กเบา ๆ พอจินตนาการไปนึกถึงฉากที่วิญญาณเด็กตนนี้สิ้นลมหายใจเขาก็ทำใจไม่ได้ เป็นเด็กเป็นเล็กหน้าตาน่ารักไม่น่าจะด่วนจากโลกนี้ไปเลย

   “ครับ" น้องเปอร์ขานรับ ไม่รู้ทำไมเปอร์ถึงรู้สึกดีและถูกชะตากับพี่ชายหน้าหล่อคนนี้เหลือเกิน

   “ขึ้นห้องกันเถอะ" ไม้เอ่ยชวน ความจริงเขาอยากจะถามเรื่องราวก่อนที่จะสิ้นลมหายใจกับน้องเปอร์เหลือเกิน แต่ทว่านี่มันก็ดึกมาแล้วแถมยังมีแขกที่มาพักค้างคืนที่ห้องอีกคนด้วย ไว้รอโอกาสหน้าค่อยหาเวลาถามก็ได้

   “ครับ" น้องเปอร์ตอบพร้อมกับอมยิ้มออกมา เวลาที่วิญญาณตัวเล็กตนนี้ยิ้มทีไร จะเกิดรอยบุ๋มเป็นลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้างเสมอ




   บนห้องพัก... แม็กกี้ยังคงนอนไม่หลับเพราะอดเป็นห่วงไม้ไม่ได้ ไม่รู้ว่าไม้ไปทำอะไรที่ไหน ปกติไม้ไม่เคยกลับห้องพักดึกขนาดนี้ หรือถ้าคืนไหนกลับดึก ไม้ก็จะโทรมาบอกก่อนเสมอว่ากำลังทำอะไรและจะกลับประมาณกี่โมง แม็กกี้นอนพลิกตัวไปมาอยู่หลายครั้งจนกระทั่งในที่สุดเสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น

   แม็กกี้คลี่ยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น ก่อนที่จะพยายามปั้นใบหน้าให้อยู่ในท่วงท่าที่สดใสเพราะไม่อยากให้ไม้เป็นกังวล

   แต่ทว่าหลังจากที่บานประตูถูกเปิดออก ร่างของผู้ที่มาใหม่อีกคนก็ทำให้แม็กกี้มองด้วยความฉงนและตีความไปต่าง ๆ นานาว่าไม้กับชายหนุ่มแปลกหน้าไปทำอะไรด้วยกันมา

   “สวัสดีครับ" ฟิวส์เอ่ยขึ้นพร้อมกับโค้งศีรษะเป็นการทักทายเล็กน้อยก่อนที่แม็กกี้จะโค้งศีรษะตอบ

   “เอ่อ... นี่ฟิวส์... เป็นญาติห่าง ๆ ของอาจารย์ก้องภพ พอดีฟิวส์จะมาหาหออยู่แถวนี้ก็เลยจะมาขอพักด้วยคืนนึง" ก่อนที่แม็กกี้จะเข้าใจผิด ไม้ต้องรีบหาเหตุผลมาอธิบายให้ฟัง

   “อ่ะ...อ๋อ เออ ๆ เข้ามาสิ นี่ก็ดึกมากแล้วคงจะง่วง ๆ กัน ตามสบายเลยนะ" แม็กกี้ยิ้มให้อย่างมิตรภาพโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าภายใต้รอยยิ้มนั้นมันแฝงความสับสนฉงนใจเอาไว้อย่างมากมาย

   ก็จะไม่ให้สับสนได้อย่างไร... จู่ ๆ คนรักของเขาก็หายตัวไป แถมยังทิ้งเขาให้รอทานข้าวตั้งแต่เมื่อช่วงหัวค่ำ พอเจอกันก็บอกให้กลับมาที่ห้องก่อน และพอกลับมาก็ดันพาผู้ชายที่ไหนไม่รู้กลับมาด้วย แต่แม้จะสับสนและกังวลใจอย่างไร แม็กกี้ก็พยายามคิดในแง่ดีว่า ถ้าไม้กับชายหนุ่มคนนี้มีอะไรเกินเลยจริง ๆ ไม้คงไม่กล้าพากลับมาที่ห้องด้วยหรอก

   “กูง่วงแล้วอ่ะ นอนเลยนะ" แม็กกี้หันไปบอกไม้พลางแสร้งอ้าปากหาวอย่างแนบเนียนก่อนจะทิ้งร่างลงไปบนเตียงนอน

   “อืม...” ไม้ตอบออกมาก่อนจะเดินไปหาฟิวส์ที่ยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่ในห้องเพราะทำอะไรไม่ถูก "อะนี่ผ้าเช็ดตัว ส่วนชุดนอนจะใส่ชุดไหนก็เลือกในตู้นี้ได้เลย"

   ฟิวส์พยักหน้ารับก่อนจะรับผ้าขนหนูแล้วเข้าไปในห้องน้ำทันที

   เมื่อไม่มีใครอยู่เป็นก้าง (ยกเว้นวิญญาณสองตน) ไม้ก็ตัดสินใจทิ้งร่างของตนไปบนเตียงนอนข้าง ๆ กับร่างของแม็กกี้ก่อนที่จะสวมกอดร่างนั้นแล้วกระซิบที่ข้างหูว่า

   “มึงกำลังคิดมากใช่ไหม มันไม่มีอะไรจริง ๆ เชื่อใจกูนะ"

   “กูไม่รู้" แม็กกี้ตอบออกมา น้ำเสียงของเขากำลังสั่นเครืออย่างฟังได้ชัด ในยามนี้ความรู้สึกของเขามันไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูfได้

   ถ้าถามว่าเชื่อใจไม้ไหม... แม็กกี้ก็คงจะตอบว่าเชื่อใจ แต่ทว่าการกระทำหลาย ๆ อย่างที่แสดงออกมามันขัดกับความรู้สึกของเขาเหลือเกิน

   “น่า... เชื่อใจกูนะ ถ้ากูคิดไม่ซื่อ กูคงไม่พาเขาขึ้นห้องโดยที่มีมึงนอนรออยู่หรอก" พูดจบก็ลูบศีรษะเพื่อที่จะให้ร่างที่เล็กกว่านั้นสบายใจ แม้จะอยากหอมแก้มสักแค่ไหนก็ต้องอดใจเอาไว้ เพราะไม่อยากทำอะไรแบบนั้นต่อหน้าเด็ก? ...เด็กที่ถึงแม้จะเป็นวิญญาณก็เถอะ

   “อืม... กูเชื่อใจมึง" แม็กกี้ผงกศีรษะเบา ๆ

   “ไหน... ถ้าเชื่อใจ... ก็หันหน้ามามองกู มากอดกูหน่อยสิ" ไม้เอ่ยด้วยน้ำเสียงทีเล่นทีจริง

   “เออ" แม็กกี้ตอบรับก่อนที่จะหันกลับมาแล้วสวมกอดกับร่างที่ใหญ่กว่าอย่างเต็มแรง

   กลิ่นกายอ่อน ๆ ที่เล็ดลอดผ่านรูจมูกทำให้แม็กกี้รู้สึกเร่าร้อนมากกว่าปกติ หัวใจที่เต้นอย่างเชื่องช้าราวกับคนกำลังใจขาดใจเมื่อครู่ก็กลับมาเต้นรัวเร็วด้วยความปราถนาบางอย่าง... มันเร็วเสียจนราวกับว่านี่คืออ้อมกอดแรก...และอ้อมกอดสุดท้ายที่เขาจะได้มีโอกาสได้กอดผู้ชายคนนี้อย่างไรอย่างนั้น

   ในขณะที่ทั้งคู่กอดกัน เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ ๆ คนที่กำลังจะอาบน้ำก็เปิดประตูออกมาแล้วสายตาของเขาก็หันไปปะทะกับสายตาของแม็กกี้ที่กำลังกอดกับไม้ ฟิวส์จึงรีบหันหลังกลับไปทางประตูห้องน้ำทันที

   “ขอโทษครับ...” ฟิวส์เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่ร้อนรุ่มก่อนจะรีบกลับเข้าไปในห้องน้ำแล้วปิดประตูในบันดล

   ไม้กับแม็กกี้หันมาสบตากันก่อนจะยิ้มและหลุดขำออกมาในทันที... จะว่าอายก็อาย แต่มันก็รู้สึกตลกดีที่จู่ ๆ ก็มีคนเปิดประตูมาเห็นพวกเขากำลังนอนกอดกันกลม

   “มึงอ่ะ... รีบไปแก้ตัวเลย" แม็กกี้ต่อว่า มือก็แสร้งผลักไม้ให้ออกจากอ้อมกอด

   “แก้ตัวอะไร" ไม้แสร้งถามด้วยความสงสัย "ไม่เห็นมีอะไรต้องแก้ตัวเลย"

   “เออ" แม็กกี้ตอบกลับ "งั้นก็ไปถามดิว่าเขาจะเอาอะไรหรือเปล่า เออใช่... เหมือนว่าสบู่จะหมด ยังไม่ได้เอาขวดใหม่ไปเปลี่ยนในห้องน้ำเลย"

   “ช่างมันเถอะ... เขาคงไม่กล้าสู้หน้าเราสองคนแน่ ๆ" ไม้ตอบออกมา "มึงอ่ะนอนได้แล้ว ให้ไวเลย คราวนี้เชื่อยังว่ามันไม่มีอะไรอย่างที่มึงคิดจริง ๆ"

   “คร้าบ...” แม็กกี้ตอบเสียงหวานก่อนจะหันตะแคงข้างแล้วพยายามข่มตาให้หลับทันที



   เช้าวันรุ่งขึ้น... ทันทีที่รู้สึกว่ามีแสงแดดอ่อน ๆ ลอดผ่านผ้าม่านมากระทบกับเปลือกตา แม็กกี้ก็ขยี้ตาก่อนจะยันตัวให้นั่งแล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง

   ที่ด้านข้างมีร่างสูงใหญ่ที่แสนคุ้นเคยกำลังนอนหลับใหลอยู่ แต่พอมองไปรอบ ๆ แม็กกี้ก็ต้องรู้สึกฉงนทันทีเพราะแขกแปลกหน้าที่ไม้พามาดันหายตัวไปจากห้อง

   “ไม้ ๆ" แม็กกี้เอื้อมมือไปเขย่าร่างของคนรักเพื่อหวังจะให้เขาตื่นสักที

   “หือ... ว่าไง" ไม้ตอบด้วยน้ำเสียงงัวเงียหากแต่ดวงตายังคงปิดสนิท

   “เจ้านายสองมาตรฐาน! ทีเวลาผมปลุกทีไรต้องทำรุนแรงใส่ผมทุกครั้ง" มิวส์ที่นั่งอยู่ปลายเตียงมองการกระทำทุกอย่างแล้วเอ่ยขึ้นเบา ๆ ที่ตักของเขามีร่างของน้องเปอร์นั่งอยู่ด้วย

   “เพื่อนนายคนเมื่อคืนไม่อยู่แล้ว" แม็กกี้ตอบออกไป

   “อืม... ช่างเหอะ คงจะกลับแล้วมั้ง นอนต่อเถอะที่รัก" ไม้ตอบกลับ เหตุผลที่ยังไม่อยากตื่นก็เพราะเมื่อคืนเขาต้องใช้พลังงานอย่างหนักหน่วงในการช่วยเหลือไอ้วิญญาณหน่อมแน้ม เขาจึงยังไม่อยากลุกออกจากเตียงหรอก ขนาดวันไหนที่นอนตั้งแต่หัวค่ำกว่าที่เขาจะตื่นก็ยังสายจนตะวันโด่ง

   “มึงนี่ตลอดเลย...” แม็กกี้บ่นพึมพำก่อนจะลุกขึ้นจากเตียง "มึงนอนต่อเถอะ เดี๋ยวกูอาบน้ำไปซื้อไรมาให้มึงทานละกัน"

   “คร้าบ...” ไม้ตอบด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อนก่อนจะกลับเข้าสู่ห้วงภวังค์ฝันด้วยความไวเหนือแสง

    หลังจากที่แม็กกี้อาบน้ำและแต่งตัวจนเสร็จสรรพ เขาก็หยิบกุญแจรถมอเตอร์ไซค์แล้วออกจากห้องไปทันที โดยไม่หันมาถามผู้ที่กำลังนอนหลับอยู่สักคำว่าอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม เพราะแม็กกี้รู้ดีว่าเวลาที่หมอนี่นอนหลับ หากใครเผลอไปปลุกบ่อย ๆ จนหมอนี่รำคาญอาจจะโดนดีโดยที่ไม่รู้ตัวก็ได้

   ทันทีที่แม็กกี้ออกไปจากห้อง ตัวป่วนสองตนก็พร้อมที่จะรับการ 'โดนดี' โดยการปลุกไม้ทันที

   “เจ้านาย...” มิวส์เขยิบเข้าไปใกล้ ๆ กับร่างที่กำลังนอนหลับใหลพร้อมกับใช้นิ้วชี้จิ้วเข้าที่หัวไหล่เพื่อเป็นการหยั่งเชิง

   พอเห็นว่าเจ้านายของเขาหลับสนิท มิวส์ก็พยักหน้าให้กับน้องเปอร์เพื่อเริ่มปฏิบัติการบางอย่างที่ทั้งสองตนได้ตกลงกันเอาไว้ตั้งแต่เมื่อคืนทันที

   “ปะป๊า ปะป๊า...” น้องเปอร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไร้เดียงสาพลางเดินไปที่ขอบเตียงพร้อมกับจับร่างของไม้แล้วเขย่าเบา ๆ "ปะป๊า... เปอร์หิวข้าวครับ"

   “หือ...” ไม้ขยี้ตาด้วยความงัวเงียอีกครั้ง พอเห็นว่าคราวนี้ผู้ที่ปลุกเขาเป็นวิญญาณเด็ก ไม้ก็ยิ้มให้อย่างเอ็นดูก่อนจะลูบศีรษะเบา ๆ แม้จะสัมผัสไม่โดนก็เถอะ "มีอะไรครับ"

   “เปอร์หิวข้าวครับปะป๊า" พูดจบก็หันไปสบตากับมิวส์ทันที

   “หิวก็ให้แม่พาไปหาอะไรกินสิครับ ปะป๊ายังง่วงอยู่เลยครับ" ไม้ตอบด้วยความเอ็นดู แถมยังยอมรับและเรียกตัวเองว่า 'ปะป๊า' อีกด้วย

   “แม่?” น้องเปอร์ทวนคำด้วยความฉงนพลางเลิกคิ้วอย่างสงสัย

   “ครับผม" ไม้ตอบพลางอมยิ้มให้กับเด็กน้อย "แม่มิวส์ไงครับ"

   สิ้นเสียงของไม้ โลกทั้งโลกก็เงียบกริบไปชั่วขณะ เสียงรบกวนทุกสรรพสิ่งที่เคยดังขึ้นไม่มีผลต่อระบบโสตประสาทของมิวส์แต่อย่างใดเพราะคำว่า 'แม่มิวส์' ที่ไม้เอ่ยขึ้นทำให้มิวส์รู้สึกแปลก ๆ ในจิตใจว่าผู้ชายอย่างเขาจะเป็นแม่ได้อย่างไร

   เมื่อตั้งสติได้ มิวส์ก็หันไปมองไม้ตาขวางก่อนจะอ้าปากประท้วงด้วยเสียงอันดังก้อง

   “เจ้านาย!!! ผมไม่ใช่แม่...!!!”

   ทันทีที่เสียงร้องที่ดังจนเยื่อแก้วหูของไม้แทบแตกถูกตะโกนออกมา อวัยวะในร่างกายท่อนล่างของไม้ก็ทำงานโดยอัตโนมัติ ขาที่ยกขึ้นฟ้าถูกงอลงมาจนเข่าเกือบชนกับหน้าท้องก่อนที่หลังจากนั้นเขาจะออกแรงถีบสุดแรงไปยังร่างตรงหน้า...

   แรงถีบนั้นส่งผลให้ร่างของมิวส์ที่ดันไปยืนประท้วงอยู่บริเวณปลายขาของไม้ถูกถีบเข้าที่หน้าท้องจัง ๆ จนกระเด็นไปติดกับผนังห้อง

   “โอยยย... ทำไมเวลาจะโดนทำร้ายถึงโดนเจ้านายสัมผัสร่างกายได้ตลอดเลยเนี่ย" พูดจบก็กุมหน้าท้องด้วยความเจ็บปวด ส่วนน้องเปอร์ที่งุนงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพอเห็นว่ามิวส์โดนแรงถีบแล้วลอยละลิ่วปลิวไปติดกับกำแพงก็หัวเราะชอบใจไม่หยุด แถมยังพูดอย่างชอบใจว่า...

   “เอาอีก ๆ ปะป๊า ถีบแม่มิวส์อีกรอบสิครับ ฮ่า ๆ สนุก ๆ" ที่พูดแบบนั้นเพราะไม่รู้เลยว่าการโดนถีบอย่างแรงแม้จะเป็นวิญญาณมันก็รู้สึกทั้งเจ็บและจุกมหันต์

   “โถ่น้องเปอร์ ขืนโดนอีกรอบพี่มิวส์ก็ตายสิครับ ฮือ..." มิวส์ร้องตอบ "อีกอย่างพี่ไม่ใช่แม่ อย่ามาเรียกพี่แบบนั้น มันไม่ได้อยู่ในข้อตกลงของเรานะ"

   “อ๋อ... ครับ ๆ" น้องเปอร์พยักหน้าด้วยความเข้าใจ "ข้อตกลงที่ว่าให้ปลุกปะป๊าแล้วอ้อนให้ปะป๊าพาไปเที่ยวแล้วพี่มิวส์จะแบ่งของกินที่ปะป๊าซื้อให้มาให้เปอร์กินใช่ไหมครับ"

   “อะไรนะเปอร์...” คนขี้เซาพอได้ยินคำพูดของเด็กน้อยก็รีบลุกพรวดขึ้นมาด้วยความฉับไว "มิวส์มันสั่งเปอร์แบบนั้นเหรอครับ"

   “ครับปะป๊า" เปอร์พยักหน้ารับ

   “ไอ้มิวส์!” ได้ยินเสียงตอบรับของเด็กน้อย ไม้ก็หันขวับไปมองร่างของวิญญาณเจ้าเล่ห์อย่างกะทันหัน

   “ครับเจ้านาย...” มิวส์ขานรับ ...ร่างที่สั่นงก ๆ ของเขานั้นทำให้น้องเปอร์ที่มองดูอยู่หัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ

   “มึงไม่ต้องใช้เด็กทำอย่างนี้อีกนะ มีอะไรอยากไปไหนก็บอกกูตรง ๆ เข้าใจไหม" ไม้เอ่ยขึ้น

   “เอ๋? ทำไมล่ะครับ" มิวส์ถามด้วยความฉงน เพราะแทนที่เจ้านายของเขาจะโกรธ แต่จากคำพูดที่พูดออกมามันฟังดูเหมือนกับว่าถ้าเขาบอกตรง ๆ แล้วเจ้านายจะพาไปเที่ยวอย่างนั้นแหละ

   “กูไม่ชอบพวกที่ใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือให้ทำอะไรต่าง ๆ เพื่อตัวเอง" ไม้ตอบตรง ๆ เขาล่ะเกลียดนักพวกที่มีนิสัยแบบนี้ "อีกอย่างถ้ากูว่าง กูจะพามึงไปไหนก็ได้ทั้งนั้น แต่ตอนนี้แม็กกี้อยู่ด้วย... กูขอเถอะ มึงอย่าวุ่นวายอะไรกับกูให้มากนักเลย"

   “เข้าใจแล้วครับเจ้านาย...” มิวส์ตอบด้วยน้ำเสียงที่เบาลง ภายใต้รอยยิ้มที่เปื้อนอยู่บนใบหน้ากลับซุกซ่อนความรู้สึกเจ็บปวดแปลก ๆ เอาไว้ "ไปเล่นกับท่านเจ้าที่กันเถอะเปอร์ ให้ปะป๊าพักผ่อนอยู่กับ... เพื่อนของปะป๊าเป็นการส่วนตัวบ้างละกัน"

   “แต่ว่า...” ได้ยินดังนั้น น้องเปอร์ที่ยังอยากอยู่บนห้องก็พยายามอ่อนวอนร้องขอ "เปอร์อยากอยู่กับปะป๊า"

   “ไม่เอาน่า ไปเถอะ... ปะป๊าจะพักไม่ได้ยินเหรอไงครับ” พูดจบก็เดินไปจับแขนของวิญญาณเด็กก่อนที่จะหายตัวลงไปอยู่ที่หน้าศาลพระภูมิทันที ปล่อยให้ไม้ที่กำลังจะร้องห้ามได้แต่ถอนหายใจด้วยความขัดใจ เพราะเกรงว่า

   'มึงจะโกรธกูไหมหรือเปล่าวะไอ้มิวส์ แต่เอาเถอะ ผีก็อยู่ส่วนผี คนก็อยู่ส่วนคน แค่นี้ก็ยุ่งวุ่นวายกันมากเกินไปแล้ว'




จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่21 หน้า8]- 01/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 04-09-2013 01:02:19
คุยกับนักอ่านครับป๋ม....

คุณ saruttaya :: อดใจรอก่อนนะครับ T^T ใกล้ได้รู้แล้วครับ (ก็ไม่ใกล้เท่าไหร่แฮะ) แหะๆๆๆ
คุณ ice_spok :: ตอนใหม่ยาวแล้วนะไอ้น้อง 555
คุณ loveaaa_somsak :: T^T อดใจรออีกนิดหน่อยนะครับ จะได้รู้แล้วว่าความจำเป็นของก้องมันคืออะไร แหะๆ T^T
คุณ iamnan :: ฮ่าๆๆ ดูท่า มิวส์เปอร์จะแสบกำลังสอง แต่เปอร์คงจะอยู่ข้างไม้มากกว่ามิวส์ เอิ๊กๆ
คุณ sang som :: ขอบคุณคร้าบ ^^ น่ารักที่สุดเลย ชอบเรื่องนี้ต้องติดตามให้จบเลยนะครับ ฮ่าๆ บังคับขู่เข็ญ เลยทีเดียว
คุณ Biwty... :: ขอบคุณครับ ^^ ชอบไม้เพราะอะไรหว่า ป่าเถื่อนแต่ใจดีใช่ไหม คิคิ
คุณ mentholss :: ขอบคุณครับ T^T ตอนหลังๆมานี่ก่อนลงไม่ค่อยได้ตรวจละเอียดเท่าไหร่อ่านทวนแบบผ่านๆแหะๆ เลยอาจมีหลุดเยอะ เพราะรวบยอดไปรีไรท์หนักๆทีเดียว ยังไงถ้าเจอคำผิดอีก รบกวนเม้นท์บอกด้วยนะครับ T^T โดยเฉพาะชื่อตัวละคร
คุณ NJnobu :: กอดหอมฟัดคืน 10 เท่า ฮ่าๆ ขอบคุณครับ ^^
คุณ Lily teddy :: เรื่องมอเตอร์ไซค์หรืออะไรต่างๆนานาที่ก้องให้ฟิวส์นั่น เป็นการช่วยเหลือเพราะคิดถึงความผิดที่ตนเองทำกับมิวส์จนทำให้ครอบครัวของมิวส์ย่ำแย่ครับ T^T ฮือๆๆ
คุณ Satang_P :: ^^ ตอนล่าสุดไม่เศร้าแล้วจ้า เปลี่ยนอารมณ์กันบ้างเนอะ ฮ่าๆ
คุณ Chichi Yuki :: เดี๋ยวอดใจรออีกสักนิด(ไม่นิดมั้ง)นะครับ เดี๋ยวจะได้รู้ความจริงแล้ว T^T 
คุณ mukmaoY :: ร้ายยย ให้ผมเจอเองได้ไง T^T ไม่เป็นไร แค่หน้าตาผมผีเห็นก็เผ่นแล้ว 555 (ว่าไปนั่น) คิคิ
คุณ naruxiah :: T^T ความจำเป็น เฮ้อออ... ดูท่าจะจำเป็นจริงๆสำหรับก้องครับ แต่ไม่ยอมบอกสักที เอิ๊กๆๆT^T 
คุณ darkeyes1 :: 555+ พากันลงเหวเหมาะที่สุดครับ กรั๊กๆๆ เอามาป่วนไม้กำลังสองเลยผีเด็กเนี่ย แต่ดูท่าผีเด็กจะอยู่ข้างไม้มากกว่ามิวส์ แหะๆ (ปล.ดีนะสาปส่งก้องไม่สาปส่งผม รอดตัวไป ^^)
คุณ maemix ::  :hao3: คิคิ ปล่อยให้เดาต่อไป ^^ ยังไงฝากติดตามเรื่อยๆ ด้วยนะครับ... ขอบคุณครับผม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 04-09-2013 08:10:53
 :hao5:
สงสารแม็กกี้อ่ะ
แม็กกี้จะเป็นไรมั้ยอ่ะ
ประโยคนี้ "เร็วเสียจนราวกับว่านี่คืออ้อมกอดแรก...และอ้อมกอดสุดท้ายที่เขาจะได้มีโอกาสได้กอดผู้ชายคนนี้อย่างไรอย่างนั้น"
มันจี๊ดๆชอบกลอ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 04-09-2013 11:27:31
ใจรัายไดัอีกอิไม้
มาทำให้เขินอาย
แล้วประเคนด้วยฝ่าทีน แง่งๆ
ว่าแต่นู๋เปอร์น่ารักดีเน๊อะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-09-2013 11:49:30
ไม้นี่รุนแรงกับมิวส์ตลอด คำพูดสร้างความเจ็บปวดให้ผู้ฟังได้โดยไม่ต้องทำอะไรเลย
แม็กซ์สัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงไปของไม้โดยที่ไม้ไม่รู้ตัว
แล้วฟิวส์หายไปไหนแต่เช้า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 04-09-2013 12:31:18
ตลอดเลยนะนายไม้ ทำร้ายมิวส์ได้ตลอด  :m16: :hao4: :hao3:

มาถึงตอนนี้ ชักจะสงสารแม็กกี้แล้วอ่ะ...  :mew2: :mew2: :mew2:

แถม+, แถมกอด, แถมหอม, แถมฟัด, แถม กำลังใจให้คนเขียน ครับป๋ม

 :กอด1:  o13  :hao3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 04-09-2013 12:49:48
มันหนึบแทนนู๋มิวส์นิ ๆ นะ แต่อย่างว่าความเป็นจริงคือไม้เป็นแฟนกับแม็กกี้อยู่และเป็นมนุษย์ด้วย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 04-09-2013 17:28:39
ร่างมิวเผาไปแล้วไม่ใช่หรอ?? งั้นแสดงว่ามิวก็กลับมาเป็นคนไม่ได้อีกแล้ว
ถ้างั้นตอนจบมิวก็ต้องตาย แล้วใครคู่ไม้หรือว่าแม็กกี้ ??
อ่านแล้วงงก้องก็ยังไม่แต่งงานใช่ป่ะ หรือว่าแต่งไปแล้ว ไหนจะฟิวส์อีก
ไหนจะเปอร์ยังไงมันก็ต้องมีคู่ใช่ปะ หรือไม่ใช่ งงจุงเบยยยย TT'
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 04-09-2013 17:33:39
แม็กกี้จะเป็นเช่นไร

เรื่องราวจะเป็นอย่างไร

เดาทางไม่ถูกเลยครับ

อิอิ

จ๊วฟฟฟฟฟฟฟ พี่ชาย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 04-09-2013 17:42:49
สงสารมิวส์

เปอร์น่ารัก

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 04-09-2013 18:04:41
โอ๊ยยยน่ารักจังน้องเปอร์  ใสซื่อไปนะ
มิวส์มันจะปวดหัวขึ้นมั้ยเนี่ย- -"
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sang som ที่ 04-09-2013 19:45:12
ใจหนึ่งก็สงสารแม็กกี้นะแต่อีกใจหนึ่งก็เชียร์ให้แม็กกี้ได้กับฟิวส์555 แล้วไม้ก็ได้กับมิวส์อ่ะ อิอิ เพ้อล่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 05-09-2013 01:57:30
ตอนนี้พอเพิ่มน้องเปอร์เข้ามาแล้วทำให้เรื่องดูเครียดน้อยลงนะ มิวส์ก็ได้มีเพื่อนด้วย
แต่ก็ยังแอบกลัวว่าน้องเปอร์จะสร้างปัญหาอะไรรึเปล่า เพราะยังไม่รู้ว่าเป็นใคร มาจากไหน
ส่วนเรื่องแม่ของมิวส์ก็ยังเป็นปริศนาต่อไป ฟิวส์นี่มาแล้วก็ไปเงียบ ๆเลยแฮะไม่มีร่ำลาบ้างเลยเหรอ
แล้วฟิวส์จะกลับมาอีกตอนไหนเนี่ย สงสัยต้องรอตอนมิวส์ลำบากแล้วไปเข้าฝันอีกรอบมั่ง 555
แล้วตอนที่บอกว่านี่คืออ้อมกอดแรก และอ้อมกอดสุดท้ายที่เขาจะได้กอดผู้ชายคนนี้ รู้สึกมันน่ากลัวจัง
มันจะแฝงความนัยอะไรรึเปล่าอะค่ะ  รู้สึกเป็นห่วงแม็กกี้เลยอะ แม็กกี้คงไม่เป็นอะไรหรอกนะ
แค่นี้แม็กกี้ก็น่าสงสารมากแล้วถึงจะบอกว่าจะน่าสงสารมากขึ้น แต่คงไม่ขนาดให้กลายเป็นวิญญาณแบบมิวส์หรอกนะ(เดาอีกแล้ว)
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 05-09-2013 13:11:44
ต่อเส่ะะะะะะะะะะะะะะะะะ ฮืออฮืออออออออออออ ติดเรื่องนี้อะะะะะ หนุกมากกกกกกก ชอบมิวส์ที่สวดดดดดดดดดดดดดดดดด ตอนจบจะเป็นไงอะะะะะะะะะะ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 05-09-2013 18:41:15
อยากให้มิวส์ละทิ้งความแค้นแล้วไปเกิดซะ จะได้อยู่เป็นคู่กับไม้
แล้วให้แมกคู่ฟิวส์ซะ ฮ่าๆ จะได้ไม่ต้องกินมาม่า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: SiLent_GRean ที่ 05-09-2013 20:12:10
น้องเปอร์น่ารัก ตอนนี้ไม้ก็น่ารักเพราะไม้เป็นป่ะป๊า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 07-09-2013 15:23:38
ตอนที่ 23  :katai4:





          หลังจากที่แม็กกี้กลับมา ถุงของที่ถูกหิ้วมาพะรุงพะรังก็ถูกจัดวางไว้เป็นสัดส่วน อาหารคาวบางส่วนแม็กกี้นำมันไปเก็บไว้ในตู้เย็น ส่วนพวกขนมหรืออาหารแห้งก็จะเอาวางไว้บนโต๊ะไม้

   ไม้ที่ได้ยินเสียงตะกุกตะกักจึงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่เผลองีบไปอีกรอบ พอหันไปมองดูขนมและของกินที่แม็กกี้หิ้วกลับมา เขาก็ต้องประหลาดใจ เพราะส่วนใหญ่มีตัวของโปรดของเขาทั้งนั้น ที่ต้องบอกว่าแปลกเพราะของโปรดของไม้กลับเป็นของที่แม็กกี้ไม่ชอบเลยสักนิด

   “มึงซื้อทุเรียนมาทำไม" ไม้เอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะทุเรียนถือเป็นผลไม้ที่แม็กกี้ไม้ชอบเอามาก ๆ

   “ก็เห็นมึงชอบกิน... แต่ไม่เคยได้กินสักทีเวลาที่อยู่กับกู" แม็กกี้ตอบออกมาก่อนจะหยิบถุงทีเรียนที่มัดปากถุงอย่างมิดชิดเก็บเอาไว้ในตู้เย็น

   “แต่มึงเกลียดทุเรียน" ไม้แย้ง

   “เออ... กูเกลียด ซื้อมาแล้วจะให้เอาไปทิ้งไหมล่ะ ถามมากเดี๋ยวก็ไม่ต้องกินซะเลย" แม็กกี้บ่น ...ที่เขาซื้อทุเรียนมาก็แค่ต้องการจะเอาใจไม้ก็เท่านั้น ถ้ามีอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เขาพอจะทำได้ เขาก็ควรที่จะทำในตอนนี้ ก่อนที่มันจะถึงวันที่สายเกินไป

   “เอ้า! บ่นอีก" ไม้แสร้งทำน้ำเสียงงอนก่อนจะเดินเข้าไปหาแล้วโอบกอดร่างของคู่หูจากทางด้านหลัง "ขอบใจนะ"




   ทางด้านของมิวส์กับน้องเปอร์ หลังจากที่มาปรากฏตัวที่หน้าศาลพระภูมิก็ตัดสินใจเดินเข้าไปในศาลทันที เพราะไม่รู้จะไปมุดหัวอยู่ที่ไหน จะอยู่บนห้องก็ไม่ได้ จะอยู่ตามซอกตามหลืบของหอมันก็ไม่น่าอยู่สักเท่าไหร่ สู้ทนฟังคนแก่อย่างลุงเจ้าที่บ่นนู่นบ่นนี่แต่ได้อยู่ในที่สบาย ๆ มีลมโชยมาตลอดดีกว่าไปอยู่ในที่ทึมทึบตั้งหลายเท่า

   “เอ้า! พวกเจ้ามีธุระอะไรกันรึ" พอเห็นร่างของวิญญาณกลัวคนกับวิญญาณเด็กเดินเข้ามาท่านเจ้าที่ก็เอ่ยถามทันที

   “ห้องไม่ว่างน่ะท่านลุง พอดีเพื่อนของเจ้านายกลับมาอยู่ที่หอ" พูดจบก็ถอนหายใจออกมาทันที

   “พี่มิวส์เป็นอะไรครับ" น้องเปอร์ที่เห็นผู้ที่มีบุญคุณช่วยให้ตนเองหลุดพ้นจากห้องสมุดถอนหายใจพร้อมกับมีสีหน้าที่ห่อเหี่ยวก็อดเป็นห่วงไม่ได้

   “เปล่าครับ" มิวส์ตอบออกมา

   “เออ... วันนี้พวกเจ้าว่างก็ดีแล้ว ข้าคิดว่าบางทีการที่พวกเจ้ามีวิชาวิญญาณติดตัวไว้บ้างก็น่าจะดีเหมือนกัน" ลุงเจ้าที่เอ่ยแทรกขึ้น ในขณะที่วิญญาณสองตนกำลังปลอบโยนกันราวกับน้องชายที่เป็นห่วงพี่ชายสุดขั้วหัวใจ

   “ท่านลุงหมายความว่าไง" มิวส์เอ่ยถามเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านเจ้าที่พูด ...วิชาวิญญาณมันคืออะไร มันจะเหมือนพวกวิชาคณิตศาสตร์ วิชาสังคมศึกษา หรือวิชาพละศึกษาต่าง ๆ นานาที่เขาเคยเรียนตอนสมัยมัธยมหรือเปล่านะ ถ้าต้องไปเรียนอะไรแบบนั้นขอแกล้งหลับก่อนดีกว่า

   “โอ๊ย!” ยังแกล้งหลับไม่ทันไรมิวส์ก็ต้องเอ่ยร้องเสียงดังลั่น เพราะไม้เท้าของท่านเจ้าที่ที่เคาะกบาลของวิญญาณที่แกล้งหลับอย่างเขา ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดและเหมือนกับว่าจะมีมะกรูดลูกโตนูนขึ้นมาจาะบริเวณที่โดนเคาะด้วย

   “ท่านลุงคิดจะทำอะไรผม!!!" พอลูบศีรษะตรงที่นูนเป็นลูกกรูดเสร็จก็หันไปร้องปะท้วงทันที

   “ก็ข้าจะสอนวิชาที่ทำให้เจ้ากับมนุษย์สามารถสัมผัสตัวกันได้ไงเล่า" ลุงเจ้าที่เอ่ยออกมา "เพราะเจ้าเคยบ่นว่าสามารถหยิบจับสิ่งของได้บางอย่างเท่านั้น และกับมนุษย์ก็สามารถสัมผัสได้เป็นบางเวลา ข้าคิดว่าถ้าเจ้าจับอะไรได้เยอะกว่านี้มันก็น่าจะมีประโยชน์กับพ่อหนุ่มนั่น"
   “เอ๋? ท่านลุงรู้เหรอว่าต้องทำยังไง" มิวส์เอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “รู้สิ! และข้าก็รู้ด้วยว่าที่เอ็งเคยบ่นเวลาที่โดนไอ้หนุ่มหน้าหล่อนั่นทำร้ายบ่อย ๆ ทำไมไอ้หนุ่มนั่นถึงสัมผัสตัวเจ้าได้" ท่านเจ้าที่พูดไปพลางลูบเคราที่ยาวรุงรังไปด้วย

   “ท่านลุงรู้ มันเพราะอะไร แล้วทำไมท่านลุงถึงไม่เคยบอกผม" คราวหน้ามิวส์เอ่ยด้วยความสนใจ

   “ก็เพราะเวลาที่มนุษย์มีจิตโกรธแค้น ความโกรธจะส่งผลทำให้พลังธาตุในตัวสามารถสัมผัสกับสิ่งที่มองไม่เห็นได้ เช่นเดียวกันหากมนุษย์มีจิตที่อ่อนไหวขั้นรุนแรง มนุษย์ก็จะสามารถสัมผัสกับวิญญาณได้เหมือนกัน มันก็เหมือนกับที่พวกมนุษย์จิตตกสามารถมองเห็นวิญญาณนั่นแหละ"

   “อย่างงี้นี่เอง" มิวส์พยักหน้าอย่างหงึก ๆ อย่าเข้าใจ

   มิวส์ไม่สงสัยแล้วว่าทำไมทุกครั้งที่เจ้านายโกรธถึงได้โดนเจ้านายทารุณกรรมทุกครั้ง และจากที่ท่านเจ้าที่บอกจะสอนให้เขาสามารถสัมผัสตัวมนุษย์ได้ คราวนี้มิวส์ก็มีโอกาสจะได้แก้แค้นเจ้านายสุดหล่ออย่างสบายใจแล้วใช่ไหม "งั้นรีบฝึกกันเถอะท่านลุง ข้าต้องทำยังไงบ้าง"

   “บ๊ะ! ไอ้นี่ ใจร้อนเป็นวัยรุ่นไปได้ ทีเมื่อกี้ยังแกล้งหลับอยู่เลย นี่เจ้ากำลังคิดจะใช้วิชาความรู้ที่ข้าตั้งใจจะสอนไปทำอะไรชั่ว ๆ หรือเปล่า" ท่านเจ้าที่ยักคิ้วด้วยความสงสัย

   “เปล่านี่ครับ" มิวส์รีบโบกไม้โบกมือเป็นสัญญาณการปฏิเสธเต็มที่ "ก็เผื่อเจ้านายมีไรให้ช่วย ผมก็จะได้ช่วยเต็มที่ไง"

   “ดี... งั้นก็รีบเข้าไปในห้องรับแขกกันเลย" ท่านเจ้าที่เอ่ยกับมิวส์ก่อนจะหันไปมองวิญญาณเด็ก "เจ้าก็ด้วยนะไอ้ตัวเล็ก"

   “ครับ" น้องเปอร์ตอบออกมาก่อนจะเดินตามวิญญาณผู้พี่เข้าไปในศาลพระภูมิ

   ก่อนจะเริ่มการฝึก ท่านเจ้าที่ได้สั่งให้วิญญาณสองตนนั่งสมาธิและห้ามวอกแวก ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรต้องห้ามลืมตา ห้ามเอ่ยปากถาม และห้ามกระดุกกระดิก และในระหว่างนั้นท่านเจ้าที่จะเตรียมของที่ใช้ในการฝึก ทว่าพอได้ยินเสียงฝีเท้าของท่านเจ้าที่ที่เดินไปเดินมาพร้อมกับถืออะไรบางอย่างที่มีกลิ่นหอมหวรรัญจวนใจ มันก็ทำให้มิวส์อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมาดู และผลก็คือ...

   “โอ๊ย...” มิวส์เอ่ยร้องด้วยความเจ็บปวดเมื่อไม้เท้าในมือของท่านเจ้าที่ถูกฟาดไปที่กลางหลัง

   “ข้าบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามลืมตา" ท่านเจ้าที่บ่นก่อนจะเดินหันหลังจากไป แถมยังพูดทิ้งท้ายขู่ให้วิญญาณหน่อมแน้มอย่างมิวส์รู้สึกหวาดผวาด้วย "ถ้าเจ้ายังขืนลืมตาหรือกระดุกกระดิกอีก ข้าจะออกแรงฟาดให้แรงกว่าเมื่อครู่นี้ร้อยเท่า"

   หลังจากนั้นก็ไม่มีเหตุการณ์อะไรที่ทำให้ท่านเจ้าที่ต้องอารมณ์เสียอีกเลย เมื่อลูกศิษย์ผู้อยู่ในโอวาททั้งสองต่างทำใจนั่งสมาธิและอยู่ในความสงบ จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายชั่วโมง เมื่อท่านเจ้าที่เห็นว่าน่าจะหยุดทำสมาธิได้แล้ว ท่านเจ้าที่ก็เลยปลุกลูกศิษย์ทั้งสอง

   “เอ้า... ลืมตาได้แล้ว"

   สิ้นเสียงของท่านเจ้าที่ วิญญาณเด็กก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาผิดกลับวิญญาณอีกตนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ที่ดวงตายังคงปิดสนิทไม่มีการตอบสนองใด ๆ

   “เจ้ามิวส์ ข้าบอกให้ลืมตาได้แล้ว" ท่านเจ้าที่เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่ามิวส์ยังคงอยู่ในสมาธิ แต่เหมือนว่าท่านเจ้าที่จะเข้าใจผิด เพราะพอเอาไม้เท้าไปแหย่ที่หัวไหล่ ล่างของมิวส์ก็เอนลงก่อนจะล้มฟุบไปกับพื้นตามแรงดันของไม้เท้าท่านเจ้าที่

   “หน็อย!!! เจ้ากล้าหลับเรอะ" ท่านเจ้าที่ตวาดเสียงดังลั่น ก่อนจะยกไม้เท้าขึ้นสูงแล้วฟาดมันลงไปที่กลางหลังของมิวส์อย่างแรง และผลจากการฟาดก็

   “โอ๊ยยย!!!” วิญญาณที่เผลอหลับร้องเสียงดังลั่นก่อนจะลืมตาตื่นขึ้นมาแล้ววิ่งหนีหัวซุกหัวซุนไปตามมุมต่าง ๆ เพราะภาพใบหน้ายามโกรธของท่านเจ้าที่ช่างน่ากลัวกว่ามนุษย์หน้าไหนที่เขาเคยเจอเสียจริง ...แต่ขอเว้นเจ้านายไว้คนหนึ่งนะ เพราะหมอนั่นเวลาโกรธน่ากลัวกว่าท่านเจ้าที่ร้อยเท่าพันเท่าเชียวล่ะ

   “ออกมานี่ มานั่งที่เดิม" ท่านเจ้าที่ทำเสียงดุเมื่อเห็นมิวส์หลบอยู่หลังประตูห้อง จากนั้นผู้ที่โดนดุก็ค่อย ๆ เดินคอตกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ โดยที่มีน้องเปอร์มองตามด้วยความชอบใจ

   “เอาล่ะ ต่อไปข้าจะให้พวกเจ้าลองจับไม้กวาด" ท่านเจ้าที่เอ่ยขึ้น

   “โถ่... แค่ไม้กวาดเอง ของเบา ๆ ไร้น้ำหนักแบบนี้วิญญาณตนไหนก็จับได้" มิวส์เอ่ยขึ้น เพราะตั้งแต่ที่เขาสิ้นลมหายใจแล้วกลายเป็นวิญญาณติดที่ ของใช้ที่อยู่ในห้องเขาก็แอบลองหยิบจับทุกวัน ถ้าน้ำหนักไม่เกิน 3 กิโลกรัม ส่วนใหญ่เขาก็จะสัมผัสมันได้ทั้งนั้น

   ส่วนถ้าของใหญ่หน่อย อย่างตู้เสื้อผ้าหรือเตียงนอน แม้จะไม่สามารถอุ้มได้ แต่ก็สามารถทำให้ร่างกายสามารถไปนอนหนุนหรือนั่งพิงได้สบาย ๆ อยู่แล้ว

   “เออ... ยังไงก็ต้องฝึกทีละขั้นตอน จะได้รู้ด้วยว่าไอ้หนูนั่นด้วยว่าจับอะไรได้บ้าง" ท่านเจ้าที่ว่า พอหันไปมองวิญญาณเด็กที่จับไม้กวาดสำเร็จก็เอ่ยปากชม ก่อนจะสั่งให้มิวส์จับบ้างจากนั้นก็... “พวกเจ้าคงเคยจับของ แต่ไม่เคยจับอะไรนาน ๆ ใช่ไหมล่ะ เพราะฉะนั้น การฝึกขั้นต่อไป พวกเจ้าต้องจับไม้กวาดนี่และกวาดเศษฝุ่นภายในศาลพระภูมินี้ให้สะอาดที่สุด"

   “กวาด?” มิวส์ทวนคำ ก่อนจะหันไปมองท่านเจ้าที่ด้วยสายตาที่มีเลศนัย "จะหลอกใช้ข้ากับเด็กเหรอท่านลุง"

   “หึ! ถ้าเจ้าสามารถทำสำเร็จ ข้าจะให้กินนั่น" ท่านเจ้าที่คลี่ยิ้มออกมา เพราะรู้อยู่แล้วว่าไอ้หน่อมแน้มมันต้องสงสัยในการฝึกแน่ ๆ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีของรางวัลจากการฝึกเสร็จสักหน่อย ซึ่งนั่นก็คือพิซซ่าในกล่องที่มีเด็กในหอพักนำมาถวายเมื่อเช้านี้

   พอเห็นของรางวัลมิวส์ก็ผงกหัวรับก่อนที่จะทำตามคำสั่งของท่านเจ้าที่อย่างว่าง่าย

   มิวส์กับน้องเปอร์แบ่งกันกวาดศาลพระภูมิคนละชั้น เนื่องจากศาลพระภูมิหลังนี้เป็นศาลพระภูมิหลังใหญ่ที่มีจำนวนห้องหลายห้องแถมยังมีตั้งสองชั้น มิวส์เลยอาสารับกวาดชั้นล่างที่มีพื้นที่บริเวณกว้างกว่าและสกปรกมากกว่าเนื่องจากมีการเดินเข้าเดินออกบ่อยกว่า

   เวลาผ่านไป 5 นาทีแรก การกวาดบ้านไม่มีปัญหาอะไร แต่ทว่าพอใกล้จะกวาดเสร็จ มือที่เคยจับไม้กวาดอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรกลับค่อย ๆ อ่อนแรงและเหมือนกับว่าจะจับมันต่อไปไม่ไหว

   มิวส์พยายามเกร็งนิ้วมือเพื่อจับมัน แต่ท้ายที่สุด ไม้กวาดก็หลุดออกจากมือและตกไปกระทบกับพื้นจนเกิดเสียงดังทำให้ท่านเจ้าที่ต้องหันมามอง

   “มันเกิดอะไรขึ้น" มิวส์บ่นอุบอิบ

   “หึ ๆ" ท่านเจ้าที่หัวเราะอย่างมีเลศนัยก่อนจะสาวเท้าเข้ามาหา "จิตวิญญาณของเจ้ายังไม่เข้มแข็งพอที่จะสัมผัสอะไรได้นาน ๆ ยังไงล่ะ"

   “แล้วผมต้องทำยังไงบ้างครับ" สิ้นเสียงของมิวส์ เสียงวิ่งกุกกัก ๆ ที่ดังมาจากบันไดปรากฏร่างของวิญญาณเด็กที่กำลังวิ่งลงมาด้วยความตกใจ

   “ท่านปู่... ผมจับไม้กวาดไม่ได้แล้วครับ" น้องเปอร์เอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะในทีแรกเขาสามารถจับไม้กวาดได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร แต่ทว่าพอเวลาผ่านไปสักพัก ไม้กวาดก็กลับหลุดมือไปเสียดื้อ ๆ แถมพยายามจะจับใหม่ตั้งนานก็จับไม่ได้สักที

   “อืม... เจ้าลงมาก็ดีแล้ว ข้าจะบอกวิธีที่ทำให้พวกเจ้าทั้งสองมีจิตที่แข็งแกร่งขึ้นจนสามารถจับต้องอะไรได้ตามใจชอบนานแค่ไหนก็ได้เดี๋ยวนี้แหละ" ท่านเจ้าที่เอ่ยขึ้นก่อนจะหันไปมองลูกศิษย์ทั้งสอง "พวกเจ้าต้องการที่จะรับการฝึกหรือไม่"

   “ครับ" น้องเปอร์ตอบอย่างเต็มใจ ในขณะที่มิวส์กำลังลังเลใจว่าจะตอบรับดีหรือไม่ เพราะการฝึกกับท่านเจ้าที่เกิดทำอะไรผิดพลาดขึ้นมาแล้วต้องโดนไม้เท้าตีมันก็น่ากลัวอยู่ไม่น้อย แต่ถ้าไม่ฝึกก็จะกลั่นแกล้งเจ้านายไม่ได้เหมือน

   พอคิดถึงเหตุผลข้อหลัง มิวส์ก็ตัดสินใจตอบรับแต่โดยดี "ครับ"

   “ดีมาก เอาล่ะ เริ่มแรกพวกเจ้าก็ต้องทำสมาธิ... แล้วเพ่งเล็งจิตทั้งหมดไปกับสิ่งของที่ต้องการจะจับ เริ่มแรกอาจจะต้องทำสมาธิมากหน่อย... แต่หลังจากที่พวกเจ้าฝึกบ่อย ๆ ความเคยชินจะทำให้เจ้าทั้งสองคนสามารถจับต้องอะไรได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องออกแรงเพ่งสมาธิเลย"

   สิ้นเสียงของท่านเจ้าที่ วันนั้นทั้งวันมิวส์กับน้องเปอร์ก็หมดตัวอยู่แต่ในศาลพระภูมิเพื่อฝึกจับสิ่งของ โดยไม่ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันที่ด้านนอกศาลพระภูมิเลยสักนิด เพราะมิวส์ต้องการฝึกจับต้องสิ่งของให้ได้ไวที่สุดก่อนที่เจ้านายของเขาจะต้องไปรับน้อง

   เหมือนว่าการฝึกหนักของมิวส์จะได้ผล เพราะคืนก่อนวันรับน้อง มิวส์สามารถจับต้องสิ่งของได้ตามใจชอบ แถมพอไปลองแต๊ะอั๋งที่ขาอ่อนเจ้านายในตอนที่เจ้านายหลับเขาก็สามารถจับต้องได้อย่างง่ายดาย ด้วยเหตุนี้ทำให้มิวส์คลี่ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจกับผลของการฝึกหนักและเขาก็หวังว่าความสามารถนี้จะทำให้เขามีประโยชน์ต่อเจ้านายมากยิ่งขึ้น และในขณะที่มิวส์กำลังจับขาอ่อนเจ้านายอยู่นั้นอาจเป็นเพราะมือที่ซุกซนเกินไปเลยทำให้เจ้านายขี้เซาอย่างไม้ดันตื่นขึ้นมากลางดึก

   “ไอ้มิวส์" ไม้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุดแต่มันก็ดังพอที่จะทำให้วิญญาณอย่างมิวส์ได้ยิน

   “ครับ" มิวส์ตอบออกมาพลางขมวดคิ้วสงสัยว่าเพราะออะไรไม้ถึงต้องรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เพราะปกติปลุกให้ตายอย่างไรก็ไม่เคยตื่นง่าย ๆ สักที พอแอบแต๊ะอั๋งนิดเดียวดันตื่นขึ้นมาเสียอย่างนั้น

   “มึงทำอะไร"

   “ผม เอ่อ...” มิวส์ตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก จะบอกว่าแต๊ะอั๋งเจ้านายมันก็ประเจิดประเจ้อเกินไป "อ๋อ ผมจะมาขอให้เจ้านายพาผมไปรับน้องด้วยพรุ่งนี้"

   พูดจบก็ทำสายตาบ้องแบ๊วแถมยังกะพริบปริบ ๆ เป็นจังหวะเพื่อออดอ้อนเจ้านายสุดหล่อ "นะครับเจ้านาย"

   เห็นดังนั้นไม้ก็ได้แต่ถอนหายใจด้วยความเอือมระอา จะเถียงกลับก็ไม่ได้เสียด้วยเพราะเดี๋ยวแม็กกี้จะตื่น ท้ายที่สุดไม้ก็เลยต้องจำใจตอบตกลงออกไป...

   “เออ" ไม้พยักหน้ารับ "แต่ตอนนี้มึงลงไปที่ศาลพระภูมิเลยไป"

   “เจ้านายก็...ไม่เห็นต้องไล่เลย รู้น่าว่าเจ้านายอยากทำอะไรสนุก ๆ กับแม็กกี้ งั้นพรุ่งนี้เช้าผมจะรออยู่ข้างล่างเลยนะครับ" พูดจบก็ยิ้มแก้มปริแถมยังรีบหายตัวลงไปในศาลพระภูมิทันทีเพราะไม่อยากให้เจ้านายมีโอกาสเปิดปากด่าได้ทัน

   'ไอ้วิญญาณเจ้าเล่ห์เอ๊ย' ไม้ได้แต่บ่นในใจพลางถอนหายใจด้วยความขัดใจที่ไอ้วิญญาณนั่นมันคิดแต่เรื่องอย่างว่า






จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่22 หน้า8]- 04/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 07-09-2013 15:24:10
คุยกับคนอ่านครับผม ^^

คุณ Fujoshi :: แหะๆๆ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ครับ หรือมี คิคิ
คุณ mentholss :: ฮ่าๆๆ ประเคนด้วยฝ่าทีน คนเขียนชอบ กรั๊กๆๆ
คุณ maemix :: ฟิวส์ตื่นแต่เช้าแล้วก็แอบออกไปก่อนแล้วครับ หุหุ
คุณ NJnobu :: ขอบคุณคร้าบบ ขอกำลังใจเยอะๆ น๊า
คุณ iamnan :: หนูมิวส์ไม่คิดมากแล้วครับ ฮ่าๆๆ ตอนล่าสุดยังคิดจะทำมิดีมิร้ายกับเจ้านาย - -" เหอๆ
คุณ EARTHYSS :) :: บทเฉลยของทุกอย่างจะอยู่ตอนท้ายๆ ครับ แหะๆ ^^
คุณ ice_spok :: ไม่จ๊วฟฟฟ T^T 555++ ตอนจบเดี๋ยวก็เดาถูกครับ คิคิ
คุณ loveaaa_somsak :: 555++ ตอนล่าสุดมิวส์ก็ใช่ย่่อยครับ คิคิ
คุณ mukmaoY :: 555 มิวส์ไม่ปวดหัวหรอกครับ คิคิ เพราะมิวส์มากกว่าที่ทำให้ทุกคนปวดหัว 555
คุณ sang som :: อิอิ อันนี้มาแปลก เชียร์ฟิวส์ได้กะแม็กกี้ *0* น่าสนงับน่าสน
คุณ Lily teddy :: T^T เรื่องคำพูดแฝงหรือเปล่าไม่รู้ครับ คิคิ รอติดตามต่อไปน๊า ขอบคุณคร้าบ
คุณ Biwty... :: ต่อแล้วคร้าบ  555 ตอนจบ ไม่แฮปปี้ ก็ ดราม่าครับ *0* ให้เดาสองทางเลย
คุณ มยอนฮวา :: *0* แม็กกี้คู่กับฟิวส์ น่าสนๆ คิคิ ให้ฟิวส์มาดามใจแม็กกี้เนอะ
คุณ mindmaru :: 555 ปะป๊า กะ ลูกเข้ากันป็นพี่เป็นขลุยเลยงับ แม่นี่ไม่มีใครเข้าข้าง 55



ฝาก ครับ ^^ ใครชอบเรื่องนี้ ฝากอีกผลงานจองผมด้วยน๊า ดินต่างฟ้า เป็นเรื่องของเด็กปั๊มกับคุณชายผู้สูงศักดิ์ครับ คิคิ
ลิ้งค์นี้เลยครับ >> http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=39136.0
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่23 หน้า9]- 07/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 07-09-2013 16:07:54
มิวส์นี่เผลอไม่ได้เลยนะ
แอบจับนู่น จับนี่ไม้ตยอด
หากำไรนะเนี่ย อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่23 หน้า9]- 07/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 07-09-2013 16:30:37
เอ๊ ตกลงไม้ไล่มิวส์ออกจากห้องไปทำไมล่ะค่ะ อยากรู้ อิอิ  :hao6:
แล้วตั้งแต่จบจากเรื่องห้องสมุด ไม้กะมิวส์ก็ดูจะไม่มีอาการอะไรต่อกันเลย
นอกจากการแอบลวนลามเจ้านายเล็ก ๆ น้อย ๆ ของมิวส์ อย่างงี้จะสบายใจ
เรื่องความสัมพันธ์ของไม้กะมิวส์ได้บ้างไหมน๊า แต่ตอนนี้ก็ไปกังวลกะความคิด
ที่อาจจะแฝงลางอะไรบางอย่างของแม๊กกี้แทนละ หรือจะเพราะความกลัวที่แม็กกี้
คิดว่าไม้เจอคนที่ใช่แล้ว ทำให้แม๊กกี้อยากทำและเก็บสิ่งดี ๆ ระหว่างไม้ไว้
ก่อนจะถึงวันที่ต้องเลิกกันจริง ๆ ล่ะมั่ง (พยายามคิดในแง่ดีไม่มีลางร้าย) ขออย่าให้มีวันนั้นเลยนะคะ คิดเองกลัวเอง
แล้วตอนนี้มิวส์กะน้องเปอร์ก็ได้ฝึกวิทยายุทธ เอ๊ย วิชาวิญญาณจากท่านเจ้าที่ด้วย 555
มันจะเอาไปใช้ประโยชน์อะไรในอนาคตบ้างไหมน๊า หรือจะทำให้ป่วนกว่าเดิมก็ไม่รู้
แล้วดูเหมือนน้องเปอร์จะตั้งใจฝึกกว่ามิวส์อีกนะนั่น รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่23 หน้า9]- 07/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 07-09-2013 16:47:27
ยิ่งไม้และนู๋มิวส์สนิทกันยิ่งสงสารแม็คกี้
น้องเปอร์น่ารักอ่ะ เป็นห่วงมิวส์ด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่23 หน้า9]- 07/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 07-09-2013 18:28:30
สำเร็จไปอีก1ขั้นแล้วซินะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่23 หน้า9]- 07/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 07-09-2013 20:47:44
; หาเศษหาเลย ตลอดเลยนะมิวส์  :hao3: :hao3:

ไม่อยากจะคิดเลยว่าต่อไปแม็กฯอาจจะเลิกกับไม้ คิดแล้วสงสารแม็กฯอ่ะ  :mew2: :mew2:

+ + +    o13   :กอด1:   :bye2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่23 หน้า9]- 07/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 07-09-2013 21:09:03
โดนใช้กวาดศาลซะงั้น 555

ตอนนี้ไม่ค่อยหนุงหนิงเท่าไหร่ ว้าาา

จ๊วฟฟฟฟคนแต่งน่ารัก อิอิ

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่23 หน้า9]- 07/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 08-09-2013 15:16:57
โฮย  ไม่ได้เข้านาน  อ่านช้ามาซะหลายตอน  แต่ตอนล่าสุดนี่  ผีมิวส์  มันแอบแต๊ะอั๋งเจ้านายด้วยมันน่าตีจริงๆ  อยากให้ไม้หาผีหนุ่มหล่อมาให้มิวส์จริงๆ  จะได้ไม่ต้องไปกวนคู่อื่นเค้า  และสุดท้ายก็ยังรอนะที่จะฟังไม้พูดให้ความจริงจัง  หลังจากผ่านมาตั้งหลายปีซะที  ขอบคุณคัฟคนแต่ง  รอตอนต่อไปนะ(คิดว่ามิวส์ต้องแกล้งน้องนักศึกษาแน่ๆ) ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่23 หน้า9]- 07/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 08-09-2013 17:24:05
สงสารมิวส์ กับเปอร์ ที่ไม้ไม่ค่อยสนใจเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่23 หน้า9]- 07/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 09-09-2013 04:56:39
ตอนที่ 24



   เช้าวันรุ่งขึ้น... การเดินทางไปยังมหาลัยไม่มีอะไรติดขัดแต่อย่างใด ไม้ที่ตั้งใจตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้ารีบนำอาหารมาถวายท่านเจ้าที่และไม่ลืมที่จะขออนุญาตท่านเจ้าที่เพื่อพามิวส์ออกไปรับน้องด้วย

   “แล้วผมล่ะปะป๊า" หลังจากที่อธิษฐานเสร็จ น้องเปอร์ก็รีบเสนอหน้าเข้ามาเอ่ยถามชายหนุ่มหน้าหล่อทันที

   “น้องเปอร์อยู่กับท่านเจ้าที่นะครับ ไปข้างนอกมันอันตราย" ไม้เอ่ยขึ้นก่อนที่จะหันไปเหล่ตามองมิวส์เล็กน้อยแล้วพูดต่อ "มีแต่ไอ้พวกวิญญาณอวดดี วิญญาณดื้อด้าน วิญญาณหัวรั้น วิญญาณนิสัยเสียเท่านั้นล่ะครับที่อยากออกไปข้างนอก"

   “ครับ" น้องเปอร์ยิ้มรับอย่างว่าง่าย ส่วนมิวส์ที่ยืนฟังอยู่ทางด้านหลังก็รีบร้องประท้วง

   “เจ้านาย!!! เจ้านายหลอกด่าผม" มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ขัดใจ

   “ถ้าอยากลบคำสบประมาทจะไม่ไปก็ได้นะ" ไม้เอ่ยขึ้นแถมยังยิ้มยียวนใส่วิญญาณที่ถูกหลอกด่าอีกด้วย

   “หน็อย...” มิวส์ได้แต่เอ่ยด้วยความเจ็บใจเพราะเขายอมโดนด่าเพื่อแลกกับการได้ออกไปดูแลเจ้านายและเป็นไม้กันหมาไม่ให้หมาที่ไหนคิดจะทำมิดีมิร้ายกับเจ้านายดีกว่า "ผมจะไป"

   “เออ" พูดจบก็ตัดสินใจเดินขึ้นไปบนห้องทันทีเพื่อที่จะเตรียมตัวไปยังมหาวิทยาลัย

   ในขณะที่ไม้กับแม็กกี้กำลังเตรียมตัวอยู่นั้น เสียงโทรศัพท์มือถือของไม้ที่ดังขึ้นก็ทำให้เจ้าของเครื่องต้องเดินเข้าไปกดรับสาย

   “ว่าไงน้องหนิง" ไม้เอ่ยทันทีที่กดรับ

   “พี่ไม้คะ พอดีเมื่อคืนก่อนเพิ่งตกลงกับเพื่อน ๆ ว่าจะพารุ่นน้องไปรับน้องบนดอย และจะค้างคืนที่นั่นสองคืน หนิงลืมโทรบอกพี่ไม้ให้เตรียมเสื้อผ้ามาค้างคืนด้วย ต้องขอโทษจริง ๆ นะคะ" หนิงพูดด้วยน้ำเสียงกระสับส่าย ความจริงเธอจำได้เสมอว่าต้องโทรบอกรุ่นพี่หนุ่มผู้นี้ว่าปีนี้การรับน้องสาขาจะไปทำกิจกรรมบนดอยใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย เพียงแต่เธอกลัวว่าหากแจ้งไปก่อนรุ่นพี่หนุ่มผู้นี้อาจจะปฏิเสธได้ ทางที่ดีลองเสี่ยงโทรบอกช่วงเช้าของวันรับน้องน่าจะดีกว่า เพราะอย่างน้อยรุ่นพี่ของเธอน่าจะเกรงใจและไม่กล้าปฏิเสธ

   “หือ!? รับบนดอย ค้างสองคืน แล้วอย่างงี้พี่ต้องไป...” ด้วยเหรอครับ ยังไม่ทันที่ไม้จะได้เอ่ยถามแล้วหาทางปฏิเสธ รุ่นน้องก็ขัดขึ้น

   “ไปค่ะไป หนิงเตรียมห้องพักและที่นั่งบนรถทัวร์สำหรับพี่ไม้กับพี่แม็กกี้แล้วค่ะ รีบมามหาลัยก่อนเก้าโมงนะคะ"

   “เอ่อ...” ได้ยินคำพูดของหนิงจะให้ไม้ปฏิเสธก็เกรงใจ "ครับ ๆ พี่จะรีบไป"

   “ค่า... แล้วเจอกันค่ะพี่ไม้ สวัสดีค่ะ" พูดจบก็กดวางสายทันที

   “มีอะไรเหรอ" แม็กกี้ที่เห็นสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกของไม้ก็ต้องเอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “คือน้องหนิงโทรมาบอกว่าต้องไปรับน้องนอกสถานที่ ให้เตรียมเสื้อผ้าไปด้วย เพราะจะไปค้างบนดอยสองคืน"  ไม้ตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก

   “เฮ้ย... จริงเหรอ ก็ดีนี่ ถือซะว่าได้ไปเที่ยวด้วย" แม็กกี้เอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ การรับน้องนอกสถานที่เป็นอะไรที่ตื่นเต้นและสนุกสุด ๆ มิหนำซ้ำยังทำให้ความสัมพันธ์จองรุ่นพี่รุ่นน้องแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นไปอีก

   แต่ยังดีใจได้ไม่ทันไร พอเห็นสีหน้าที่เหมือนมีอะไรในใจของไม้ก็ทำให้แม็กกี้ต้องเอ่ยถามด้วยความฉงนอีกครั้ง

   “มึงไม่อยากไปเหรอ"

   “ปะ... เปล่า" ไม้ปฏิเสธ ความจริงแล้วถ้าไปกับแม็กกี้น่ะ ต่อให้ไกลแค่ไหนเขาก็ไปได้ทุกที่นั่นแหละ แต่ที่เขาคิดมากก็เพราะเขาดันไปรับปากไอ้วิญญาณหน่อมแน้มแถมยังขอท่านเจ้าที่ให้พาหมอนั่นออกไปรับน้องด้วยแล้วน่ะสิ แล้วจู่ ๆ มาเปลี่ยนเป็นการรับน้องนอกสถานที่แบบนี้ ไม้เลยกลัวว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับมิวส์อีกน่ะสิ

   “เปล่า แล้วจะมัวยืนอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ อยู่ทำไม รีบเก็บของแล้วไปกันเถอะ"

   “เออ ๆ มึงเก็บให้กูด้วยนะ เดี๋ยวกูไปซื้อของใช้ที่จำเป็นข้างล่างแป๊บนึง" พูดจบก็วิ่งออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้คนที่อยู่ในห้องสงสัยว่าทำไมจะต้องรีบลงไปซื้อด้วย เพราะเดี๋ยวเก็บของเสร็จก็ต้องลงไปข้างล่างอยู่แล้ว

   'สงสัยจะตื่นเต้น'

   ทันทีที่ลงไปถึงชั้นหนึ่ง ไม้ก็รีบวิ่งตรงไปยังศาลพระภูมิทันทีและกระซิบเรียกชื่อของผู้ที่เขาต้องการพบเบา ๆ

   “มิวส์ มิวส ไอ้มิวส์"

   ผู้ที่ถูกเรียกไม่ปล่อยให้คนเรียกรอนานมากนัก เพราะไม่กี่วินาทีถัดมาเขาก็ปรากฏตัวออกมาให้เจ้านายสุดหล่อเห็น

   “ว่าไงครับเจ้านาย" มิวส์ถามพร้อมกับยิ้มแก้มปริ "นี่เจ้านายคิดถึงผมมากขนาดต้องรีบลงมาหาเลยเหรอ"

   “ไอ้เชี่ย!” ไม้ด่าไปก่อนหนึ่งทีก่อนที่จะเข้าเรื่อง "เรื่องรับน้องน่ะ คือกูต้องไปรับน้องนอกสถานที่ ต้องไปค้างบนดอยใกล้ ๆ มหาลัยสองคืน มึงจะไปกับกูแน่เหรอ"

   ได้ยินคำพูดของไม้ดวงตาของมิวส์ก็เบิกโพลงขึ้นมาทันที ถ้าเป็นอย่างที่เจ้านายของเขาพูดจริงนั่นก็แสดงว่าเขากำลังจะได้ไปเที่ยว

   “จริงเหรอเจ้านาย ไปสิครับ ไป ๆ" มิวส์รีบพยักหน้าตกลงอย่างฉับไวโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องร้าย ๆ ที่จะตามมาเลยสักนิด

   “แล้วมึงไม่กลัวเหรอว่าหลังเที่ยงคืนจะต้องเจอกับอะไรแปลก ๆ อีกบ้าง" ไม้เอ่ยถามเพราะในตอนนี้ เขาทั้งกลัวทั้งกังวลว่าหมอนี่อาจจะต้องเจอกับวิญญาณร้ายที่สิงสถิตย์ตามที่ต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่ประตูปรโลกเปิด

   “เจอวิญญาณร้าย?” มิวส์ทวนคำ ไม่ได้รู้สึกรูสาอะไรสักนิด "ถ้าเจอก็แค่กอดกับเจ้านายก็ไม่เป็นไรแล้วนี่"

   “เออเนอะ" ไม้พยักหน้าเห็นด้วย เขาลืมไปสนิทใจว่ามันมีทางแก้อยู่ แต่ทว่า... “เฮ้ย... มึงมากอดกู กูก็ทำอะไร ๆ ได้ไม่สะดวกสิวะ"

   “เฮ้ย ๆ บ้าน่าเจ้านาย บนเขา บนดอย เจ้านายยังคิดจะทำอะไรสนุก ๆ กับแม็กกี้อยู่เหรอ" มิวส์ยิ้มแหย ๆ พลางยักคิ้วไปด้วยพร้อมกับเหล่สายตาไปมองเจ้านายราวกับว่าทำไมเจ้านายถึงคิดอะไรที่อกุศลเช่นนี้

   “ไอ้มิวส์! กูไม่ได้คิดไรแบบนั้น กูหมายถึงถ้ามีกิจกรรมรับน้อง หรือเวลานอนอะไรอย่างเงี้ย ถ้าต้องมีมึงเกาะตัวกูอยู่ตลอดเวลากูคงทำไรไม่สะดวก" ไม้หันไปเถียง

   “หรือเจ้านายอยากให้ผมโดนวิญญาณร้ายจับตัวไปล่ะ" พูดจบก็แสร้งทำคอตกแถมยังทำสายตาเศร้าสร้อยอีกต่างหาก

   “เออ! จะทำไรก็ตามใจมึงละกัน กูไปเตรียมตัวก่อนละ" สิ้นเสียงของไม้ มิวส์ก็ยิ้มแก้มปริพร้อมกับมองดูร่างของเจ้านายสุดหล่อที่ย่างเท้าขึ้นหอพักด้วยท่าทางหัวเสีย นับได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำให้เจ้านายรู้สึกหงุดหงิดแถมยังไม่โดนทารุณกรรมกลับมาได้เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย คิดแล้วก็ชักจะภูมิใจในความเก่งกาจของตัวเองจริง ๆ




   ไม้กับแม็กกี้ใช้เวลาเดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยก่อนเวลารถทัวร์จะออกประมาณครึ่งชั่วโมง ทันทีที่ไปถึง ทั้งคู่ก็มุ่งตรงไปยังตึกคณะทันที และเหมือนว่าหนิงจะสั่งให้รุ่นน้องชั้นปีที่หนึ่งไปขึ้นรถทัวร์แล้ว เพราะบริเวณใต้ตึกไม่มีเด็กหน้าใหม่ปรากฏให้เห็นสักคน มีเพียงรุ่นน้องชายหนุ่มสองคนที่ไม้คุ้นหน้าคุ้นตาในวันที่มามหาวิทยาลัยกลางดึกเท่านั้น

   “ทางนี้เลยครับ" ทันทีที่ไปถึง รุ่นน้องคนที่ตัวเล็กกว่าก็เอ่ยขึ้น ท่าทีที่สุภาพและดูเจียมเนื้อเจียมตัวทำให้ทั้งไม้และแม็กกี้ต่างรู้สึกเอ็นดูรุ่นน้องสองคนนี้ ผิดกับมิวส์ที่ได้แต่ลอบบ่นในใจด้วยความขัดใจเพราะท่าทางของไอ้เจ้าสองคนนั่นมันคล้าย ๆ กับเขาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่เลย

   เดินไปไม่ไกลนัก ตรงลานกว้างหลังมหาวิทยาลัยก็พบกับรถบัสที่จอดเรียงราย 4 คัน ในหนึ่งคันมี 30 ที่นั่ง รวม 4 คันก็ 120 ที่เท่ากับจำนวนรุ่นพี่รุ่นน้องที่จะเดินทางพอดีเป๊ะ

   “พี่ไม้กับพี่แม็กกี้นั่งคันนี้เลยครับ" รุ่นน้องที่เดินนำทางเอ่ยขึ้นพลางชี้ไปยังรถบัสคันสุดท้ายที่จอดอยู่

   “ส่วนผมกับภพนั่งคันแรกครับ เดี๋ยวพี่ไม้ขึ้นไปบนรถได้เลยนะครับหนิงรออยู่บนนั้น"

   “ได้ ๆ ว่าแต่เราชื่ออะไรล่ะ ขอบใจนะ" ไม้เอ่ยขึ้น

   “จั๊มพ์ครับ" ชายหนุ่มตอบอย่างสุภาพแถมยังยิ้มให้อย่างเขินอายอีกต่างหาก "เดี๋ยวผมไปก่อนนะพี่ เพราะพวกผมต้องรีบไปเตรียมสถานที่ ไว้เจอกันครับ"

   พูดจบก็รีบก้าวขาฉับ ๆ ขึ้นไปยังรถบัสคันหน้าสุดทันที

   “เออ... ไอ้จัมพ์กับไอ้ภพน่ารักดีเนอะ" แม็กกี้เอ่ยชม เนื่องจากชื่นชอบในนิสัยที่ดูจะอ่อนน้อมถ่อมตน แถมหน้าตาของทั้งคู่ก็ยังดูสุภาพ ๆ เหมือนเป็นลูกคุณหนูที่ถูกอบรมกิริยามารยาทมาเป็นอย่างดี

   “อืม... ไปกันเถอะ" ไม้เอ่ยเร่ง เพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นตัวถ่วงในการเดินทางครั้งนี้หรือเปล่า

   สำหรับรถคันที่ไม้กับแม็กกี้ต้องโดยสารนั้น มีรุ่นน้องปีสองอยู่ 4 คน ที่เหลือก็เป็นน้องใหม่หมดเลย เพราะปีสองส่วนใหญ่ได้โดยสารไปกับรถคันแรกเพื่อล่วงหน้าไปเตรียมสถานที่ก่อนใคร

   ทันทีที่ไม้กับแม็กกี้ก้าวขาขึ้นรถ เสียงกรี๊ดกร๊าดของรุ่นน้องที่เป็นสาวประเภอสองก็ดังขึ้นมาด้วยความชอบใจเพราะรุ่นพี่ที่มาใหม่หน้าตาโดนใจพวกหล่อนเป็นอย่างยิ่ง

   แต่พวกเธอทั้งหมดก็ส่งเสียงกรีดร้องถูกอกถูกใจได้ไม่นานมากนัก เมื่อหนิงได้สั่งให้รุ่นน้องทั้งหมดเงียบเสียงลง และได้แจกใบรายละเอียดกิจกรรมที่จะจัดขึ้นภายในระยะเวลา 3 วัน 2 คืนให้กับน้อง ๆ รวมทั้งไม้กับแม็กกี้ด้วย

   หลังจากที่แจกใบรายละเอียดกิจกรรมพร้อมทั้งอธิบายแต่ละกิจกรรมอย่างคร่าว ๆ เสร็จ รถบัสก็เริ่มเคลื่อนที่ทันที โดยที่ไม้กับแม็กกี้นั่งเบาะหน้าสุดหลังคนขับ โดยมีหนิงนั่งอยู่ที่เบาะด้านหลัง และในระหว่างนั้น หนิงก็อธิบายกิจกรรมพร้อมทั้งขอความร่วมมือกับรุ่นพี่ทั้งสอง

   “พี่ไม้พี่แม็กกี้คะ สำหรับคืนแรกกิจกรรมไม่มีอะไรมาก กลางคืนจะให้น้อง ๆ กับรุ่นพี่แบ่งกลุ่มกันมาแสดงความสามารถสนุก ๆ ยังไงถ้าพี่ไม้กับพี่แม็กกี้ไม่รังเกียจมาร่วมสนุกด้วยกันนะคะ"

   “ได้สิ" แม็กกี้ตอบรับ เรื่องกิจกรรมอะไรแบบนี้เขาล่ะถนัดนัก

   “ส่วนในคืนที่สอง จะมีกิจกรรมทดสอบความกล้า เล่นกันขำ ๆ ค่ะ เดี๋ยวเพื่อน ๆ จะทำเส้นทางให้น้อง ๆ เดินลัดเลาะป่าเขาบนดอยในตอนกลางคืน กิจกรรมนี้จะขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลที่พักด้วยค่ะ ไม่หลงแน่นอน เลยอยากจะขอรบกวนพี่ไม้กับพี่แม็กกี้ช่วยตรวจตราอยู่ที่ด่านตรงทางออกได้ไหมคะ"

   “ได้ ๆ แต่กิจกรรมนี้อย่าแกล้งกันแรงนะ ถามน้องด้วยว่าใครเป็นโรคหัวใจแล้วอย่าให้เล่นกิจกรรมนี้" คราวนี้ไม้เป็นคนเสนอความคิดเห็นบ้าง โดยที่มีไอ้วิญญาณหน่อมแน้มที่กำลังนั่งอยู่บนตักพยักหน้าหงึก ๆ อย่างชอบใจกับกิจกรรมนี้

   “ได้ค่ะ" หนิงตอบรับ

   “ว่าแต่ไอ้กิจกรรมคืนแรกเนี่ย จะมีการแบ่งกลุมอะไรยังไงอ่ะ" แม็กกี้ที่สนใจในกิจกรรมคืนแรกมากกว่าเอ่ยถามรายละเอียด

   “ก็รุ่นน้องรุ่นนี้มีทั้งหมด 60 คนเลยคิดว่าจะแบ่งกลุ่มรุ่นน้องออกเป็น 4  กลุ่มกลุ่มละ 15 คน แล้วให้รุ่นพี่ไปร่วมกลุ่มเพื่อช่วยเหลือน้อง ๆ กลุ่มละ 5 คน ส่วนพวกปี 2 ที่เหลือกับอาจารย์ที่จะตามไปในภายหลังจะไปเป็นกรรมการตัดสินค่ะ งานนี้มีรางวัลให้กลุ่มที่ชนะเลิศด้วยนะคะ"

   “น่าสนใจดีแฮะ พี่กับไอ้ไม้อยู่กลุ่มเดียวกันได้ไหม" แม็กกี้เอ่ยถาม

   “ไม่ได้ค่ะ เรื่องนี้ต้องอยู่ที่ดวงของพี่แล้วล่ะว่าจะจับฉลากได้อยู่กลุ่มเดียวกันหรือเปล่า"

   “ว๊า...” แม็กกี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงตัดพ้อ ส่วนหนิงที่มองดูได้แต่อมยิ้มให้กับความน่ารักของรุ่นพี่ผู้นี้






จบตอน.......  ((หึหึหึ สนุกกับการรับน้องให้พอนะตัวละครที่น่ารักทุกคน หึหึหึ))
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่23 หน้า9]- 07/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 09-09-2013 05:06:40
คุยกับคนอ่านที่น่ารักที่สุกครับ ^^

คุณ Chichi Yuki :: 555 อาการหื่นแตกครับ คนเขียนเป็นบ่อยๆ *0* เอ้ยยย ไม่ใช่ละ
คุณ Lily teddy :: วิชาใช้ประโยชน์ได้แน่นอนครับ คิคิ แต่เป็นตอนท้ายๆน๊า ^^" แต่เป็นวิชาอย่างอื่นที่ไม่ได้กล่าวถึงคิคิ
คุณ iamnan :: T^T แม็กกี้น่าสงสารจริงๆ ครับ  :hao5:
คุณ mentholss :: *0* สำเร็จอะไรครับ 555555 วิชาใช่ไหม คิคิ
คุณ NJnobu :: บางทีอาจจะไม่มีอะไรแบบนั้นก็ได้น๊า ฝากติดตามต่อด้วยนะครับ ^^
คุณ ice_spok :: รอให้จบช่วงรับน้องคืนแรกไปก่อน หนุงหนิงแน่ครับ​(หึหึ) หัวเราะอย่างมีเลศนัยแอบแฝงชัดเจน กร๊ากๆ
คุณ @Lucifer_Prince@ :: ความจริงรอก่อนนะครับ T^T (กลัวจะรอจนคนอ่านเบื่อก่อนจัง เหอๆ)
คุณ loveaaa_somsak :: T^T .... ไม้บอกว่าแม้ไม่สนใจ แต่อีกสองตนนั้นก็สนใจไม้อยู่แล้วคร้าบบ คิคิ (ไม่ใช่ละ ตอบแบบนี้ไม้น่าหมั่นไส้มาก) ฮ่าๆ ฝากติดตามต่อด้วยนะครับ ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่24 หน้า9]- 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 09-09-2013 07:32:24
น้องหนิงจัดเป็นปวะเภทบุคคลที่น่ารำคาญ อยากให้ไปถึงขนาดต้องหลอกกันแบบนี้แย่นะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่24 หน้า9]- 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 09-09-2013 09:35:31
จะเกิดอะไรขึ้นบนโดย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่24 หน้า9]- 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 09-09-2013 16:07:56
ต้องมีซัมติงสักอย่างแน่แท้หละบนดอยขนาดนี้

หึหึ

จ๊วฟฟฟคนแต่งอีกทีค้าบบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่24 หน้า9]- 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 09-09-2013 18:27:42
เราว่ามิวส์มีแผนเด็ดแน่ๆกับรุ่นน้องพวกนี้55555555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่24 หน้า9]- 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 09-09-2013 19:30:50
ไม้ไม่น่ายอมตามใจมิวส์ง่าย ๆเลย แค่คืนเดียวในห้องสมุดนี่ยังวุ่นวายไม่พอรึไง
แล้วนี่นอกสถานที่ตั้ง  3 วัน 2 คืน ต้องมีวิญญาณน่ากลัว น่ากลัวออกมาแน่
ถึงจะมีวิธีแก้ แต่คนตั้งเยอะตั้งแยะไม้จะว่างมาคอยตามช่วยมิวส์ได้ตลอดเหรอ
ยิ่งตอนจบ เสียงหัวเราะของผู้เขียนนี่น่ากลัวจัง หึหึหึ เนี่ยจะมีเรื่องร้ายเกิดขึ้นไหมอะ
ยังไงก็ขอให้แม็กกี้ปลอดภัยล่ะกันน๊า (แบบห่วงอยู่คนเดียวนี่แหละค่ะ)
รอติดตาม และเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนนะค่ะ  :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่24 หน้า9]- 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 10-09-2013 07:00:04
อ่า หวังว่าคงไม่มีเรื่องยุ่งๆ ตามมานะ
ไอ้ตอนเกมส์ทดสอบความกล้าอ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่24 หน้า9]- 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 10-09-2013 14:02:25
จบแบบไหนก็ได้แต่ขอให้ไม้คู่กับมิวส์ก็พอ  :ling1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่24 หน้า9]- 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 10-09-2013 16:09:00
ตอนที่ 25



         ทันทีที่รถบัสถูกขับเคลื่อนไปถึงจุดหมาย หนิงก็สั่งให้รุ่นน้องปี 1 แยกย้ายไปเลือกเต็นท์นอนตามใจชอบ ซึ่งในหนึ่งเต็นท์สามารถนอนสามคน ส่วนรุ่นพี่ปีสองบางคนและไม้กับแม็กกี้ได้อภิสิทธิ์พิเศษในการนอนพักที่ห้องเช่าบนดอย


   หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันเก็บกระเป๋าเข้าที่พักเรียบร้อย เมื่อถึงเวลารวมตัว ทุกคนก็ไปรวมตัวที่ลานกว้างหลังห้องเช่าเพื่อทำกิจกรรมในลำดับต่อไป

   “เอาล่ะค่ะ ก่อนที่จะเริ่มกิจกรรมสนุก ๆ พี่จะแบ่งกลุ่มให้น้อง ๆ ก่อนนะคะ" พูดจบ หนิงก็เดินไปที่หัวแถวแถวแรกซึ่งเป็นหญิงสาวตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักเชียวล่ะ "พี่จะให้หัวแถวนับหนึ่ง และคนต่อ ๆ ไปก็นับสอง สาม สี่ จากนั้นก็ให้วนนับหนึ่งอีกรอบนะคะเริ่มได้ค่ะ"

   สิ้นเสียงของหนิงการนับตัวเลขของเหล่ารุ่นน้องปีหนึ่งก็เริ่มขึ้น เมื่อครบ 60 คน หนิงก็ให้รุ่นน้องแบ่งไปรวมกันเป็นกลุ่ม ๆ จากนั้นก็ให้รุ่นพี่ปีสองอีก 18 คน รวมทั้งไม้และแม็กกี้มาจับฉลากด้วยว่าจะได้ไปรวมกลุ่มไหน

   ไม้กับแม็กกี้ถือเป็นพี่ใหญ่ของสาขา หนิงจึงให้เกียรติรุ่นพี่ทั้งสองจับฉลากก่อนใครเพื่อน

   “ไม้ มึงได้เบอร์ไรวะ" ทันทีที่จับฉลากเสร็จ แม็กกี้ก็ชะเง้อมองดูม้วนกระดาษในมือของไม้ที่กำลังถูกคลี่ออกมา

   “สี่ว่ะ" ไม้ตอบออกไปทันทีที่คลี่กระดาษแล้วเห็นหมายเลขในนั้น สีหน้าที่ห่อเหี่ยวของแม็กกี้บ่งบอกให้รู้ว่าเขาจับได้คนละหมายเลขกับไม้แน่นอน "แล้วมึงล่ะได้เบอร์อะไร"

   “สาม"
   สิ้นเสียงของแม็กกี้ หนิงก็สั่งให้รุ่นพี่ไปรวมกลุ่มกับรุ่นน้องตามหมายเลขที่จับฉลากได้ ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีของกลุ่มสี่หรือเปล่าเพราะรุ่นพี่ 5 คนของกลุ่มสี่ดันเป็นผู้ชายทั้งหมด

   ไม้คลี่ยิ้มให้กับจั๊มพ์และภพที่อยู่กลุ่มเดียวกันพร้อมกับรุ่นน้องปีสองอีกสองคน

   หนิงให้เวลา 10 นาทีในการทำความรู้จักรุ่นพี่รุ่นน้องในกลุ่มให้ครบ ซึ่งทันทีที่แนะนำตัวกันเสร็จ กิจกรรมต่อ ๆ ไปก็เป็นหน้าที่ของรุ่นพี่ปีสองที่จะดำเนินการต่อไป ส่วนไม้กับแม็กกี้จะแยกตัวหรืออยู่ร่วมดูกิจกรรมด้วยก็ได้ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาททั้งคู่เลือกที่จะอยู่ดูรุ่นน้องทำกิจกรรม

   “ไม้... กลุ่มมึงจะแสดงอะไรวะ" แม็กกี้เอ่ยถามในขณะที่เหล่ารุ่นน้องกำลังทำกิจกรรมอย่างสนุกสนานครื้นเครง

   “ไม่รู้ว่ะ เห็นน้องภพบอกว่าจะให้แสดงท่าทางประกอบเพลง อาจมีบทพูดเสริมนิดหน่อยแต่ก็อาจจะเปลี่ยนแปลงได้ ว่าแต่กลุ่มมึงอ่ะจะแสดงอะไร" ไม้ตอบพร้อมกับย้อนถามบ้าง

   “ยังไม่ได้คิดเลย น้อง ๆ จะคิดมาเหมือนกัน"

   “อืม...”

   ในระหว่างที่ทำกิจกรรมนั้น หนิงก็ขอให้ไม้กับแม็กกี้ออกไปร่วมสนุกกับน้อง ๆ เป็นระยะ ๆ เพื่อสร้างสีสันจนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงบ่าย 3 โมงเย็นก็ถึงเวลาที่ต้องแยกกลุ่มกันเพื่อเตรียมตัวซ้อมการแสดง

   “ไว้เจอกันนะมึง ตั้งใจซ้อมนะกูจะรอดูมึง" ไม้เอ่ยกับแม็กกี้ก่อนที่ทั้งคู่จะต้องแยกจากกันไปรวมกลุ่ม

   กลุ่มของไม้ซึ่งส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายทำให้ภพค่อนข้างลำบากใจในเรื่องของการแสดงนิดหน่อย เพราะน้องผู้หญิงที่หน้าตาน่ารัก ๆ ส่วนใหญ่ก็ไปอยู่กลุ่มอื่น ๆ เสียหมด ทำให้กลุ่มนี้มีแต่ผู้ชายเท่านั้นที่หน้าตาดี แถมยังหน้าตาดีหลายคนเสียด้วย

   “เอาล่ะ... พี่คิดมาแล้วว่าจะแสดงอะไร จากนี้ไปก็ขอความร่วมมือน้อง ๆ ด้วยนะครับ" หลังจากที่พูดจบ ก็ถึงเวลาที่ภพจะอธิบายรายละเอียดการแสดง

   ภพจะทำการแต่งเพลงขึ้นมาหนึ่งเพลง เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับพี่ชายและน้องชาย เพราะฉะนั้นตัวแสดงหลักจึงต้องเป็นชายหนุ่ม และพี่ชายคนโตก็เป็นใครไปไม่ได้น้องจากไม้ ส่วนคนกลางก็ต้องเป็นจั๊มพ์ซึ่งเป็นรุ่นพี่ชั้นปีที่สอง และเพื่อให้รุ่นน้องปีหนึ่งมีส่วนร่วม รุ่นน้องชายที่หน้าตาดีที่สุดจึงต้องมารับบทน้องคนเล็กไปโดยปริยาย

   “ซีร์เป็นน้องเล็กให้พี่หน่อยนะ" ภพเอ่ยกับรุ่นน้องชั้นปีที่หนึ่งที่มีรูปร่างเล็กไม่ต่างจากจั๊มพ์เพื่อนสนิทของเขาสักเท่าไหร่ แถมบุคลิกท่าทางสีผิวที่ขาวเนียนทำให้ทั้งคู่ดูมีลักษณะคล้ายกับคุณหนูที่ถูกเลี้ยงดูมาในตระกูลผู้ดี จะต่างกันก็ตรงแค่จั๊มพ์ไม่ได้สวมแว่นตาเหมือนซีร์ก็เท่านั้น
   “ได้ครับ" รุ่นน้องที่ถูกทักท้วงเอ่ยอย่างสุภาพ

   จากนั้นบทตัวประกอบคร่าว ๆ ก็ถูกแจกแจงให้กับรุ่นน้องทุกคน บางคนไม่ได้ทำอะไรก็อาจจะให้ช่วยหาของหรืออุปกรณ์ที่จำเป็นเท่านั้น
   หลังจากที่แบ่งหน้าที่การแสดงเสร็จสิ้น คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนที่ภพจะต้องแต่งเพลงขึ้นมาเพื่อใช้ประกอบการแสดง แต่ก่อนที่จะเริ่มแต่ง ภพได้ถามความเห็นของพี่ชายคนโตว่า...

   “พี่ไม้ครับ ถ้าพี่ไม้มีน้องชาย แล้วน้องชายของพี่ไม้สองคนก็เป็นคนดีมาก ๆ แถมยังรักพี่ไม้ทั้งคู่ พี่ไม้จะรู้สึกยังไงครับ และมีวิธีอะไรที่ทำให้น้องชายทั้งสองคิดว่าได้รับความรักจากพี่ชายเท่าเทียมกัน"

   “เอ่อ...” ได้ฟังคำถามไม้ก็อึ้งเล็กน้อยเพราะเขาเป็นลูกคนเดียว แถมยังไม่เคยสัมผัสถึงความรู้สึกที่ต้องเป็นพี่ชายเลยสักครั้ง เพราะฉะนั้นคำตอบของเขาจึงเดาส่งเดชไปมั่ว ๆ

   “ถ้าน้องชายน่ารักขนาดนั้นพี่ก็คงรักมาก ๆ ล่ะมั้ง ถ้าน้องมันทำอะไรดี ๆ หรือในโอกาสพิเศษก็คงหารางวัลมาให้ และถ้าจะแบ่งความรักให้เท่าเทียมกัน ก็คง... เวลาจะไปไหนก็คงชวนทั้งสองไปด้วยพร้อม ๆ กัน ถ้าใครโกรธใครงอนก็คงกอดมันทั้งคู่แน่น ๆ แล้วก็บอกให้เลิกงอนซะ ไม่งั้นพี่จะไม่รัก ก็คงจะแบบนี้ล่ะมั้ง ฮ่า ๆ ๆ"

   คำตอบที่ดูเหมือนไม่จริงจังกลับทำให้ว่าที่น้องชายในบทแสดงทั้งสองถึงกับหน้าแดงออกมาโดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ตัว ผิดกับมิวส์ที่พอได้ยินคำตอบก็ถึงกับสายตาร้อนผ่าวที่เจ้านายของเขาพูดอะไรออกไปแบบนั้น ...ก็มันหวงนี่นา

   “แล้วมึงล่ะจั๊มพ์ ในฐานะที่เป็นคนกลาง มึงคิดว่ามึงจะทำตัวยังไงต่อพี่ชายและน้องชาย" ภพเอ่ยไปถามจั๊มพ์บ้าง... ไม้ได้แต่มองดูรุ่นน้องเหล่านี้ด้วยความชื่นชม เห็นปกติภพดูเป็นคนขี้อาย แต่พอถึงเวลาเอาการเอางานก็จริงจังไม่เบา

   “กูเหรอ... เออ มึงนี่ก็เข้าใจเลือกบทให้กูนะ" จั๊มพ์หันไปว่าเพื่อน

   “ก็กูรู้ว่ามึงเป็นลูกคนกลาง... กูอยากรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของมึง ช่วยเล่าให้กูฟังหน่อยได้ไหมวะ" ภพถาม

   “เออ!” จั๊มพ์ตอบด้วยน้ำเสียงกระโชกโฮกฮากก่อนจะทำสีหน้าจริงจังแล้วตอบออกมา "ก็คงจะเหมือนกับทั่ว ๆ ไปมั้งที่ลูกคนกลางมักจะถูกลืม พ่อก็รักพีี่คนโต ส่วนแม่ก็ตามใจน้องคนเล็ก กูก็เลยไม่มีใครเอาใจ ได้แต่เงียบ ๆ เอาไว้ แต่โชคดีที่พี่ชายกูไม่ได้เลวร้ายอะไร เห็นกูเครียดทีไรก็มานั่งให้คำปรึกษาตลอด ผิดกับน้องที่ชอบเรียกร้องความสนใจ โดยเฉพาะกับพี่คนโต... พี่คนโตก็เลยดูเหมือนจะเอ็นดูน้องคนเล็กที่นิสัยเป็นเด็ก ๆ ตลอดเวลามากกว่ามั้ง เฮ้อ...”

   พูดจบก็ถอนหายใจออกมา พอคิดถึงเรื่องทางบ้านทีไรมันก็ทำให้จั๊มพ์รู้สึกเหงาแปลก ๆ มีพ่อแม่พี่น้อง แต่พออยู่พร้อมหน้าทีไรก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นส่วนเกินตลอด

   “แล้วซีร์ล่ะ ถ้าเกิดต้องเป็นน้องคนเล็กคิดว่าจะรู้สึกยังไงกับพี่ชายคนกลางและคนโต" ภพหันไปถามรุ่นน้องปีหนึ่งบ้าง

   “ผมมีพี่ชายสองคน" ซีร์ตอบออกมา ช่างเป็นความบังเอิญเสียจริงกับบทที่ได้รับ "ผมรักพี่คนโตมากกว่า เพราะพี่ดูเป็นผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่ว่าไม่รักพี่คนกลางนะ แต่รายนั้นออกจะเงียบ ๆ และโลกส่วนตัวสูงครับ ผมก็เลยชอบเข้าหาพี่คนโตมากกว่า"

   คำตอบของซีร์เปรียบเสมือนหนามแหลมที่ทิ่มแทงความรู้สึกของจั๊มพ์ เพราะมันไม่ต่างจากครอบครัวของเขาสักนิด ทำไมนะ... ทำไมน้องคนเล็กจะต้องรู้สึกรักพี่คนกลางน้อยกว่า แต่มันก็คงไม่ผิดหรอก เพราะถึงจะไม่ได้แสดงออกว่ารักกันมากมายแต่ถึงอย่างไรก็เป็นสายเลือดเดียวกันนี่นา

   หลังจากที่ได้รับคำตอบของว่าที่นักแสดงทั้งสาม ภพก็คลี่ยิ้มออกมาก่อนจะปลีกตัวไปเขียนบทพร้อมกับเนื้อเพลงทันที โดยที่มีรุ่นน้องชายหนุ่มหญิงสาวอีกสองคนตามไปด้วย เพื่อไปช่วยแกะเนื้อร้องและทำนองส่วนอีกคนก็เตรียมฝึกร้องเพลงประกอบ

   การแสดงของกลุ่มแรกจะเริ่มตอน 4 ทุ่ม เพราะฉะนั้นภพจึงสั่งให้รุ่นน้องในกลุ่มแยกย้ายกันไปพัก และให้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งในสองชั่วโมงข้างหน้า เพื่อทำการฝึกซ้อมอย่างหนัก ยกเว้นก็แต่ไม้ จั๊มพ์ และซีร์ที่ต้องมารับบทไปซ้อมก่อนคนอื่น ๆ

   ในระหว่างที่พัก... ไม้เลือกที่จะกลับเข้าไปในห้องเพื่อทำการงีบเอาแรงให้ได้มากที่สุด แต่ยังไม่ทันที่หัวจะถึงหมอน เสียงของสิ่งเร้นลับที่ไม่มีใครมองเห็นก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเขาเสียก่อน

   “เจ้านาย! จะทำอะไรน่ะ" มิวส์เอ่ยถามเมื่อเห็นไม้ทำท่าเหมือนจะนอน

   “ก็งีบเอาแรงไง" ไม้ตอบออกไปตรง ๆ

   “เดี๋ยวก็ไม่ตื่นหรอก" มิวส์ออกความเห็น มิหนำซ้ำยังบ่นอุบอิบอีกต่างหาก "ยิ่งขี้เซาอยู่ด้วย ผมไม่ปลุกเจ้านายนะ"

   “เออ! กูก็ไม่หวังให้มึงมาปลุกหรอกน่า งีบแป๊บเดียวเอง"

   “เจ้านาย... คืนนี้ถ้าการแสดงมันเลยเวลาเที่ยงคืนล่ะ" มิวส์เอ่ยถาม เพราะภาพเหตุการณ์ในวันที่เขาติดอยู่ในห้องสมุดมันยังหลอกหลอนไม่ไปไหน

   “มึงก็รู้วิธีที่ทำให้มึงปลอดภัยไม่ใช่เหรอ" ไม้ตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย

   “เจ้านายไม่ว่าอะไรใช่ไหม" มิวส์แสร้งถามออกไป ไม่ว่าคำตอบจะเป็นอย่างไรเขาก็จะทำตามที่ท่านลุงแนะนำเพื่อให้ตัวเองปลอดภัยอยู่ดีนั่นแหละ ...เขาไม่ได้คิดอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้นจริง ๆ

   “กูว่าอะไรมึงได้หรือเปล่าล่ะ แล้วก็เลิกเซ้าซี้ได้แล้ว กูจะนอนแล้ว...”

   “แต่ว่า...” มิวส์ไม่อยากให้ไม้นอนเลยสักนิด เพราะตั้งแต่มาถึงที่นี่ เขากับเจ้านายคุยกันแทบนับคำได้

   “ไม่ต้องแต่... ถ้าไม่รู้จะทำอะไรมึงก็มานอนข้าง ๆ กูก็ได้มาแต่ต้องปิดปากให้สนิทนะเพราะกูจะนอน" ไม้เอ่ยขึ้น เขารู้ดีว่ามิวส์คงจะรู้สึกเหงาและคงอยากที่จะหาเพื่อนคุยมากกว่า แต่ในตอนนี้ถ้าเลือกได้ ไม้ก็ขอเลือกที่จะงีบเก็บแรงไว้ก่อนละกัน เพราะไม่รู้ว่าคืนนี้จะได้นอนเมื่อไหร่

   “ครับ" มิวส์ตอบด้วยน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยแต่ในใจกลับกำลังดีใจจนเนื้อเต้น






   ทางด้านของแม็กกี้ เขาอยู่รวมกลุ่มกับรุ่นน้องปีสองอีกสี่คนซึ่งทั้งสี่เป็นผู้หญิงหมดเลย ส่วนรุ่นน้องชั้นปีหนึ่งที่เหลือก็มีผู้ชาย(ไม่แท้)อีกสองคน ส่วนนอกนั้นก็เป็นผู้หญิงหมด

   “มีใครจะเสนออะไรเกี่ยวกับการแสดงไหม" รุ่นพี่ชั้นปีสองคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เธอมีรูปร่างอ้วนท้วมแต่บุคลิกของเธอไม่ได้อืดอาดยืดยาดเหมือนกับรูปลักษณ์แต่อย่างใด เพราะไม่ว่าจะหยิบจับหรือพูดอะไรก็ดูคล่องแคล่วไปหมด

   “เต้นปอมปอมเชียร์ดีไหมครับ" รุ่นน้องผู้ชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

   “น่าสนุกดีแต่พี่ว่าเต้นอย่างเดียวมันคงไม่พอ" หญิงสาวร่างอ้วนเอ่ย เธอหันไปมองหน้ารุ่นพี่ปีสี่แล้วยิ้มออกมาก่อนจะถามความคิดเห็น "ใช่ไหมคะพี่แม็กกี้"

   “อะ... เอ่อ... ใช่ ๆ พี่ว่าการเต้นปอมปอมเชียร์มันก็ดีแต่ใช้เป็นการเปิดหรือปิดการแสดงจะดีกว่า" แม็กกี้เอ่ยตอบด้วยความตะกุกตะกัก
   “แล้วถ้าการแสดงหลักเป็นละครเวที พี่แม็กกี้คิดว่าไงคะ" หญิงสาวร่างอ้วนเอ่ยถามรุ่นพี่สุดหล่ออีกครั้ง

   “ดีเลย... แต่พี่ว่าถ้าแสดงที่นี่ น่าจะเรียกว่าละครดอยมากกว่านะ เพราะมันไม่มีเวที"

   สิ้นเสียงของแม็กกี้ เสียงหัวเราะของรุ่นน้องทั้งหลายก็ตามมาด้วยความดังระงมจนสมาชิกกลุ่มที่เหลือต้องหันมามอง ก็ใครจะไปคิดล่ะว่าชายหนุ่มหน้าตาน่าเอ็นดูอย่างรุ่นพี่ของพวกเขาจะมีมุกตลก ๆ แบบนี้ด้วย

   “ละครดอย เข้าท่าดีนะคะ" หญิงสาวร่างอ้วนหันไปแซว "แต่พระเอกต้องเป็นพี่แม็กกี้เท่านั้นนะคะ"

   “หา!!!?” แม็กกี้เอ่ยทวนด้วยความตกใจ ถ้าเล่นกับเพื่อนหรือรุ่นพี่รุ่นน้องที่สนิทกันก็คงไม่มีปัญหา แต่นี่เขาไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัวสักคน
   “นะคะ นะนะ" ยังไม่ทันจะตอบตกลงเสียงสนับสนุนของเหล่ารุ่นน้องทั้งหลายก็พร้อมใจกันเอ่ยขึ้น

   “เอางั้นก็ได้" แม็กกี้ตอบออกมา "ว่าแต่จะแสดงอะไรกันดีล่ะ"

   “เอาเป็นเรื่องซินเดอเรลล่าดีไหมคะ พอดีที่บ้านหนูมีชุดกับบทเก็บไว้อยู่เพราะเพิ่งแสดงมาเมื่อตอนงานเลี้ยงส่งที่โรงเรียนเก่า ชุดของเจ้าชายพี่แม็กกี้น่าจะใส่ได้พอดีค่ะ" รุ่นน้องชั้นปีหนึ่งคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เธอเป็นคนที่สวยโดดเด่นที่สุดของกลุ่ม แถมยังมีจมูกโด่งและดวงตาที่กลมตัว ส่วนสูงก็อยู่ในเกณฑ์ที่จัดว่าสามารถแต่งเป็นเจ้าหญิงได้สบาย ๆ

   “ก็น่าสนใจนะ แต่ว่าจะให้ใครเอาชุดมาส่ง แล้วมันจะทันเหรอ" รุ่นพี่สาวร่างอ้วนเอ่ยถาม

   “เดี๋ยวให้คนงานที่บ้านขับรถมาส่งก็ได้ค่ะ ไม่น่าจะเกิน 4 ชั่วโมง คิดว่ายังไงก็น่าจะทัน 2 ทุ่มค่ะ"

   “งั้นรบกวนเธอด้วยนะพิ้งค์"

   “ค่ะ"

   “แต่พี่ว่าถ้าแสดงซินเดอเรลล่าเฉย ๆ มันอาจจะไม่ตื่นเต้น คิดว่าน่าจะมีการปรับบทสักเล็กน้อยดีไหม" สาวร่างอ้วนเสนอแนะ ซึึ่งสิ่งที่เธอพูดมา แม็กกี้ที่ฟังอยู่เห็นด้วยทุกประการ

   “ดีค่ะ" รุ่นน้องในกลุ่มต่างตอบรับกันอย่างพร้อมเพรียง

   จากนั้นพิ้งค์รุ่นน้องสาวสวยชั้นปีหนึ่งที่เปรียบเสมือนผู้นำทีมในการแสดงก็จัดการทุกอย่างให้เสร็จสรรพ ทั้งโทรไปบอกให้ที่บ้านนำเสื้อผ้ามาส่ง และจัดการแก้ไขดัดแปลงบทการดำเนินเรื่องจนเรียบร้อย











   พระอาทิตย์ที่เคลื่อนต่ำลงเรื่อง ๆ สาดแสงผ่านผ้าม่านมากระทบกับเปลือกตาของร่างที่นอนหลับไหลอยู่บนเตียง นั่นทำให้ไม้ที่งีบอยู่รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา พอเห็นว่าขณะนี้ได้เวลาที่น้องภพนัดไปรับบทสำหรับการแสดง เขาก็ตัดสินใจเดินออกจากห้องและตรงไปยังจุดที่เพิ่งประชุมกันเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา แต่ทว่าไม้ก็พบแต่ความว่างเปล่า

   “ทางนี้ครับพี่ไม้ ทางนี้" จั๊มพ์ที่เหลือบสายตามองมาเห็นรุ่นพี่ก็เอ่ยตะโกนขึ้น พร้อมกับโบกไม้โบกมือจนไม้ที่ได้ยินเสียงต้องหันไปมองตามก่อนจะเดินเข้าไปหา

   “อันนี้บทพูดของพี่ไม้ครับไอ้ภพฝากไว้ให้ พอดีมันจะไปหามุมสงบ ๆ แต่งเพลงต่อ" จั๊มพ์อธิบาย

   “อืม... แล้วนี่จั๊มพ์จะไปซ้อมบทที่ไหน" ไม้เอ่ยถามโดยที่ยังไม่ได้พลิกดูบทบาทการแสดงของตัวเองสักนิดว่าต้องพบต้องเจอกับอะไรบ้าง
   “คงเป็นในเต็นท์น่ะครับ" จั๊มพ์ตอบ

   “เฮ้ย! จะดีเหรอ มันเสียงดัง ไปซ้อมที่ห้องพี่ก็ได้" คำเอ่ยชวนของไม้ทำให้จั๊มพ์รู้สึกประหม่าเล็กน้อย

   “ครับ" จั๊มพ์ตัดสินใจตอบตกลง เพราะอย่างน้อยซ้อมบทด้วยกันมันน่าจะเป็นการดีกว่า จะได้ซ้อมบทที่ต้องแสดงร่วมกันด้วย

   “เออ... ว่าแต่ไอ้น้องซีร์อยู่ไหนล่ะ" ไม้เอ่ยถามก่อนที่จะชะเง้อมองหา "จะได้ชวนไปซ้อมบทด้วยกันด้วย"

   “เห็นไอ้ภพบอกว่ามารับบทไปก่อนหน้านี้แล้วครับ" จั๊มพ์ตอบออกมาพลางช่วยรุ่นพี่ชะเง้อมองหา และในขณะนั้นเอง เพื่อนที่ดูสนิทสนมกับซีร์ก็เดินผ่านมาพอดี จั๊มพ์จึงเรียกเข้ามาถาม

   “เห็นซีร์ไหม"

   “อยู่ในเต็นท์ 3 ครับพี่"

   “ขอบใจ ๆ"

   หลังจากที่สอบถามเสร็จสรรพ ทั้งคู่ก็ตัดสินใจเดินไปตามรุ่นน้องภายในเต็นท์ทันที ระหว่างทางมีสายตาของเหล่ารุ่นน้องมองมาเป็นระยะ ๆ พอเห็นว่ารุ่นพี่ทั้งสองไปหยุดอยู่ที่หน้าเต็นท์ของซีร์ ก็เกิดเสียงซุบซิบนินทารอบข้างกันยกใหญ่

   “ซีร์ อยู่ไหม" จั๊มพ์เอ่ยเรียก

   “อยู่ครับ" ซีร์ตอบออกมาก่อนจะรีบมาเปิดเต็นท์เพื่อต้อนรับแขก พอเห็นจั๊มพ์ไม่ได้มาคนเดียว ซีร์ก็เกิดอาการประหม่าเล็กน้อยเพราะรู้สึกเกร็ง ๆ ที่ต้องเจอรุ่นพี่ปี 4

   “ไปซ้อมบทที่ห้องพี่ไม้ด้วยกันป่ะ" จั๊มพ์เข้าประเด็นทันทีโดยมีไม้ที่นั่งยองย่อพยักหน้าสมทบอยู่ด้านหลัง

   “ครับ" ซีร์พยักหน้ารับก่อนจะหันไปหยิบบทของตัวเองแล้วมุดออกมาจากเต็นท์

   การกระทำของทั้งสามคนตกอยู่ในสายตาของไอ้วิญญาณหน่อมแน้มรวมถึงนักศึกษาในละแวกนั้นตลอด

   สำหรับพวกนักศึกษาคงไม่มีปัญหาอะไรนอกจากแอบส่งสายตาอิจฉามาให้ซีร์ที่ได้ใกล้ชิดกับรุ่นพี่สุดหล่ออย่างไม้ และรุ่นพี่สุดแสนน่ารักอย่างจั๊มพ์ ผิดกับมิวส์ที่รู้สึกขัดใจที่นอกจากแม็กกี้แล้วยังมีคนอื่นที่ได้อภิสิทธิ์พิเศษในการเข้าไปในห้องพักของเจ้านาย

   หลังจากที่ทั้งสามเข้าไปในห้อง พวกเขาต่างก็แยกกันอ่านบทของตัวเองตามมุมต่าง ๆ ซึ่งพออ่านจบต่างคนต่างก็มีสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกไม่ต่างกัน เพราะ...

   “ฉากกอดกันเยอะจัง" ซีร์เอ่ยขึ้น ภายใต้น้ำเสียงที่นิ่งเรียบนั่นซ่อนความขวยเขินไว้เยอะทีเดียวเชียวล่ะ

   “มีฉากอุ้มด้วย" คราวนี้จั๊มพ์เอ่ยขึ้นมาบ้าง

   ส่วนไม้ที่แม้จะไม่พูดอะไรแต่คิ้วที่กระตุกกับรอยยิ้มที่เหยเกก็แสดงออกชัดเจนว่าบทของเขาก็ไม่ต่างจากรุ่นน้องทั้งสองคน เพราะนอกจากจะต้องกอดกับซีร์หลายต่อหลายครั้งแล้ว ยังมีฉากที่ต้องอุ้มจั๊มพ์และให้จั๊มพ์ขี่หลังด้วย เท่านั้นไม่พอ ตอนจบของเรื่อง ไม้ยังได้บทพิเศษเพิ่มเติมอีกด้วย เพราะภพได้เน้นเครื่องหมายดอกจันไว้ใต้บทจบว่า...

   ***ฉากจบพี่ไม้ต้องห้ามบอกซีร์กับจั๊มพ์นะครับ เพราะเดี๋ยวสองคนนั้นอาจจะอายจนไม่ยอมแสดงก็ได้***

   มิวส์ที่พอได้ยินซีร์กับจั๊มพ์เอ่ยขึ้นถึงฉากที่ชวนให้หึงก็ขมวดคิ้วออกมา ทำไมนะ... ทำไมต้องให้เจ้านายของเขาไปกอดไปอุ้มกับรุ่นน้องด้วย แล้วบทของเจ้านายจะมีอะไรบ้าง...

   คิดดังนั้นมิวส์ก็ถือวิสาสะไปลอบอ่านบทการแสดงของไม้ และพออ่านจบจับใจความได้คร่าว ๆ เสียงร้องประท้วงของมิวส์ก็ดังขึ้นทันที

   “ไม่ได้นะเจ้านาย!”

   สิ้นเสียงของมิวส์ ไม้ก็ชะงักเล็กน้อย จะโต้ตอบอะไรออกไปก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวจั๊มพ์กับซีร์จะสงสัย

   “ห้ามทำอะไรแบบนี้กับสองคนนั้นเด็ดขาด" น้ำเสียงของมิวส์แสดงออกถึงความหึงหวงชัดเจน แต่มิวส์ก็ฉลาดพอที่จะเลือกหาเหตุผลที่เข้าท่ามาพูดในประโยคถัดมา "เพราะเดี๋ยว... เอ่อ... เดี๋ยวแม็กกี้จะคิดมาก"

   สิ้นเสียงของมิวส์ ไม้ก็ลุกขึ้นจากขอบเตียงที่นั่งอยู่และตัดสินใจจะเดินออกจากห้อง

   “เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึง อ่านบท ซ้อมบทกันไปก่อนเลยนะ" พูดจบก็ก้าวขาออกจากห้องทันทีโดยมีมิวส์เดินตามไปติด ๆ

   “เจ้านาย... เจ้านาย... จบก็ให้มันจบแค่นั้น ไม่ต้องไปทำอะไรแบบนั้นได้ไหม" มิวส์บ่นตลอดทาง เพราะหลังจากที่ได้อ่านฉากจบของเรื่องแล้ว มิวส์รู้สึกรับไม่ได้กับสิ่งที่ไม้ต้องแสดง "ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมไอ้รุ่นน้องนั้นต้องทำแบบนี้ หรือว่ามันคิดจะวางแผนให้เจ้านายหวั่นไหวกับเพื่อนของมัน"

   หลังจากที่เดินไปได้สักพักและละแวกนั้นก็ไม่มีใคร ไม้จึงเอ่ยปากพูดออกมาบ้าง

   “เออ... กูไม่ทำหรอกน่า ที่กูเดินออกมาก็กะจะบอกให้มึงวางใจได้เลย จะได้เลิกบ่นแล้วก็นั่งดูเงียบ ๆ สักที"

   “จริงนะเจ้านาย" ทันทีที่ได้ยินคำตอบของเจ้านายสุดหล่อ มิวส์ก็ยิ้มออกมาด้วยความถูกอกถูกใจ "เป็นห่วงความรู้สึกผมอ่ะดิ๊"

   “มึงนี่หลงตัวเองจริง เดี๋ยวกูถีบให้!!!" ไม้ต่อว่าเพราะอดหมั่นไส้กับไอ้วิญญาณหลงตัวเองไม่ได้ "ขืนมึงยังพูดมากกูจะทำตามบทที่ได้รับมา ถ้าไม่อยากให้ทำ มึงก็อยู่เงียบ ๆ เข้าใจไหม"

   “คร้าบ ๆ" มิวส์ตอบรับ






จบตอน......
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่24 หน้า9]- 09/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 10-09-2013 16:13:18
คุยกับคนอ่านครับ ^^

คุณ iamnan :: 555++ ครับ ถ้าเราเป็นรุ่นน้องนี่คงไม่ชอบหนิงแน่ๆ
คุณ loveaaa_somsak :: ฉาก Nc.... เอ๊ยย ไม่ใช่ครับ ล้อเล่น ไม่มี๊ไม่มี ^^
คุณ ice_spok :: ไม่มีเด็ดขาด!! 555
คุณ mukmaoY :: คิคิ... มิวส์อาจจะไม่กล้าก็ได้คร้าบ เพราะกลัวไม้จัดการ
คุณ Lily teddy :: T^T แม็กกี้...  นั่นสิครับไม้ใจอ่อนเกิ๊น เดี๋ยวนี้มิวส์มันกล้าหือกล้าอือแล้ว T^T เกิดเรื่องไม่ดีแน่ๆเลย ครับ T^T
คุณ Chichi Yuki :: คิคิ... หัวเราะอย่างมีเลศนัย (ไม่มีคร้าบ)
คุณ Biwty... :: ต้องติดตามดูตอนจบครับ คิคิ อยากสปอยมากๆ T^T แต่เดี๋ยวเสียอรรถรส เลยรีบอัพรีบลง ให้ไวที่สุดครับ แหะๆๆ

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ApoStrOfhYs ที่ 10-09-2013 17:11:53
จิ้มมมมมม  :hao7:
ความจริงอยากให้มันจบแฮปปี้ๆอาาาา -3- มีสามทางคือ หนึ่ง :: แม๊กกี้ไปไกลๆส่วนไม้กับมิวส์ก็รักกัน 
สอง :: มิวส์ไม่มีจิตแค้นแล้วเลยได้รับพรไปเกิดใหม่ เกิดมาแล้วถูกนำมาให้ไม้เลี้ยง แม๊กกี้เลิกกับไม้ -..-
สาม :: พลิกล็อคอย่างรุนแรง ตายโครมทั้งสองคน มิวส์ได้ไปเกิดใหม่ ไม้กับมิวส์ได้รักกันอีกชาติ ส่วนแม๊กกี้มีคนที่จริงใจของอีกชาติคบหากันอยู่
จบคะ 5555555555  :laugh:  :laugh:
ยังไงก็...อยากให้ไม่ใช่รักสามเศร้า  :hao5: ให้มีความสุขทั้งสามคน
รอคอยตอนเวลาหลังเที่ยงคืน  :z2: ชาลาล๊าาา  :impress2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 10-09-2013 17:35:43
อยากให้ 3P + บวกลูกน้องเปอร์ ครอบครัวสุขสันต์ เหมือนพี่มากพระโขนงเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 10-09-2013 17:50:37
บทอะไรเนี่ย อยากรู้เด้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 10-09-2013 21:57:54
อะไรน้าาาาา

อยากอ่านตอนต่อไปจังเลยยย

ลุ้นตูดโก่งแย้วววว

จ๊วฟฟฟฟฟฟพี่ชายคนแต่งงง อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 10-09-2013 22:27:08
คืนนี้มิวส์ได้กำไรจากการกอดแน่ ๆ เหอะ ๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 10-09-2013 22:33:30
; บทอะไรอ่ะ... ลุ้น ๆ ๆ  :hao3: :hao3: :hao3:

+  o13  :กอด1:  :bye2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 11-09-2013 11:52:28
เอ่อ นี่มันแค่การแสดงละครของกิจกรรมรับน้องใช่ใหม่เนี่ย
ทำไมดูมันจริงจัง อย่างกะละครเวทีจริง ๆเลยอะ
พอดีไม่มีประสบการณ์กะกิจกรรมรับน้องซะด้วย แล้วบทพี่ชายคนโตของไม้
จะต้องมีฉากล่อแหลมอะไรมากกว่ากอดกะอุ้มน้อง ๆอีกเหรอ
ขนาดมิวส์เห็นยังโวยวายขนาดนี้ ถึงปกติก็โวยวายหวงไม้อยู่แล้วก็เถอะ
แต่คราวนี้อาจทำให้แม็กกี้เข้าใจผิดหรือน้อยใจด้วยรึเปล่าอะ ห่วงความรู้สึกของแม็กกี้อะ
ส่วนของกลุ่มแม๊กกี้นี่ก็ยังไม่รู้จะออกมาเป็นยังไง ก็ขอให้ราบรื่นละกันน๊า นี่แค่คืนแรกนะ
แต่รู้สึกต้องพยายามทำใจกะโชคชะตาที่น่าเศร้าของแม็กกี้ไว้บ้างล่ะ T^T
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4:  :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 11-09-2013 16:15:39
ไม้มิวส์ อิสเรียล!!!  :fire:


เอฟซีไม้มิวส์ !!!!  :m31: :fire: :angry2: :katai4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 11-09-2013 17:29:39
นี่คนเขียนกะจะให้มิวส์คู่กับไม้จริงๆ เหรอคะเนี่ย
น่าสงสารแม็กกี้จังเลยอ่ะ
ถ้าให้เลือกก็อยากเลือกไม่สองก็สามอ่ะค่ะ
หาที่แม็กกี้เจ็บน้อยที่สุด
สงสารแม็กกี้ แง! T^T
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 11-09-2013 18:20:53
อยากเไ็นการแสดงเร็วๆแล้วววววว

ว่าแต่ออกนอกสถานที่แบบนี้คงจะ
ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับมิวส์หรอกนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 12-09-2013 23:00:50
อ่าน 3 ตอนที่เดียวบรรเจิดเลย
ยิ่งอ่าน ยิ่งรักมิวส์ๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 16-09-2013 01:08:58
ตอนที่ 26



         อีกด้านหนึ่ง กลุ่มที่จะแสดงละครดอยเรื่องซิลเดอเรลล่ากำลังขะมักเขม้นเรื่องการซ้อมบทแสดงอย่างหนัก เพราะมีการดัดแปลงเนื้อเรื่องออกจากต้นฉบับค่อนข้างเยอะ แต่ยังคงรักษาพล็อตของรองเท้าแก้วและเวลาเที่ยงคืนเอาไว้

   หลังจากที่ทุกคนอ่านบทบาทที่ได้รับจบ พิ้งค์ผู้เป็นผู้นำในการแสดงก็เอ่ยถามขึ้น

   “ทุกคนคิดว่าเป็นยังไงบ้างคะ"

   “เก่งมาก ๆ เลยพิ้งค์" ผู้ที่ตอบเป็นหญิงสาวร่างอ้วนชั้นปีที่ 2 “พี่ไม่คิดว่าพี่จะมีโอกาสได้เป็นนางเอก ถึงจะเป็นนางเอกคู่กันก็เถอะ"

   “ขอบคุณค่ะพี่พู่" พิ้งค์ตอบรับก่อนจะคลี่ยิ้มออกมา สีหน้าของเธอดูมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อได้รับคำชมจากรุ่นพี่

   “พี่ก็ว่าโอเคแล้วนะ ยังรักษาพล็อตเรื่องไว้เหมือนเดิม แต่มีการปรับเปลี่ยนบทให้ดูฮามากกว่าเก่า" คราวนี้เป็นแม็กกี้ที่เอ่ยขึ้นบ้าง

   “ใช่จ๊ะพิ้งค์ แบบนี้โอเคที่สุดแล้ว จากนี้ก็มาลอง ๆ ซ้อมบทเป็นการฆ่าเวลารอชุดที่จะมาส่งกันดีกว่า" คราวนี้เป็นเพื่อนชั้นปีที่ 1 เอ่ยขึ้นบ้าง

   จากนั้นการจำลองการแสดงของสมาชิกในกลุ่มก็เริ่มขึ้น ในช่วงแรก ๆ ยังมีติด ๆ ขัด ๆ นิดหน่อย เพราะต่างคนต่างก็อย่างเกร็ง ๆ ไม่สนิทกันเลยทำให้การแสดงดูจะเก้ ๆ กัง ๆ แต่พอเวลาผ่านไป การแสดงก็เริ่มที่จะลื่นไหลและเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะบทบาทเจ้าชายของรุ่นพี่แม็กกี้ที่แสดงออกมาได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง

   บุคลิกที่ดูสง่า หน้าตาที่ดึงดูดทำให้ทุกคนในกลุ่มไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าเจ้าชายของเขาต้องสวมชุดเจ้าชายจริง ๆ นั่นมันจะน่าหลงใหลสักแค่ไหน เพราะขนาดสวมแค่ชุดไปรเวท การแสดงแต่ละครั้งก็ยังทำให้เหล่ารุ่นน้องต้องส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดในลำคอออกมาด้วยความขวยเขิน โดยเฉพาะฉากที่ต้องเข้าคู่กับพิ้งค์และพู่

   “เอาล่ะ... นี่ก็ได้เวลาทานข้าวเย็นแล้ว ที่ลานกว้างหน้าห้องพักจะมีรุ่นพี่ปีสองคอยบริการแจกอาหารกล่อง น้อง ๆ ไปรับกันได้เลย และหนึ่งทุ่มขอให้น้อง ๆ ในกลุ่มทุกคนกลับมารวมตัวกันที่นี่" พู่เอ่ยขึ้นด้วบใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เพราะเธอรู้สึกสนุกกับการแสดงและมีความสุขกับการที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับรุ่นน้อง เพื่อนและรุ่นพี่

   หลังจากที่ทุกคนภายในกลุ่มแยกย้าย แม็กกี้ก็เดินกลับไปที่ห้อง แต่ทว่ารองเท้าหน้าห้องที่ถอดทิ้งไว้สามคู่ก็ทำให้แม็กกี้ต้องขมวดคิ้วด้วยความฉงนก่อนจะเคาะประตูเป็นจังหวะสามครั้ง

   “ไอ้ไม้กูเอง... แม็กกี้" พอเคาะเสร็จก็ตัดสินใจตะโกนบอกเพื่อให้รู้ว่าเป็นใคร

   ไม่นานมากนักไม้ก็มาเปิดประตูพร้อมกับรุ่นน้องอีกสองคน

   “จั๊มพ์กับซีร์มาซ้อมการแสดงที่ห้องน่ะ" ไม้เอ่ยขึ้นทันทีที่เปิดประตูไปต้อนรับคู่หู แม็กกี้เพียงพยักหน้าเล็กน้อยด้วยความเข้าใจก่อนจะเอ่ยว่า...

   “กินข้าวกันหรือยัง ไปรับข้าวกล่องมาทานกันก่อนเถอะ" แม็กกี้เอ่ยขึ้น พอเห็นสีหน้าที่ดูเหนื่อย ๆ ของรุ่นน้องทั้งสองคน แม็กกี้ก็เลยอาสาที่จะไปเอาข้าวกล่องมาให้ "เออ ๆ ไม่เป็นไร มึงรอกับน้อง ๆ อยู่นี่แหละ เดี๋ยวกูเอาข้าวกล่องมาให้"

   พูดจบก็เดินหันหลังทำหน้าที่รุ่นพี่และแฟนผู้แสนดีทันที ไม่รู้ว่ากลุ่มของไม้จะแสดงอะไร แต่มันก็ทำให้แม็กกี้รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยเพราะกลุ่มของไม้มีแต่รุ่นน้องผู้ชายที่หน้าตาน่าเอ็นดู

   “อ้าว... พี่แม็กกี้มารับข้าวเหรอคะ" น้องหนิงที่กำลังจะเดินไปยังจุดรับข้าวพอเห็นแม็กกี้กำลังเดินมาก็รีบวิ่งเข้ามาทักทันที

   “ใช่ ๆ พอดีจะมาเอาให้ไอ้ไม้กับน้องจั๊มพ์น้องซีร์ด้วย" แม็กกี้ตอบออกมา

   “อ่อค่ะ งั้นตามหนิงมา" พูดจบก็เดินน้ำไปทางที่แจกข้าวกล่องก่อนที่หนิงจะหยิบออกมาสี่กล่องพร้อมกับน้ำขวดเย็น ๆ ให้กับแม็กกี้

   “ขอบใจนะหนิง" แม็กกี้เอ่ยขึ้น

   “ไม่เป็นไรค่า ว่าแต่กลุ่มของพี่แม็กกี้เป็นยังไงบ้างคะ" รุ่นน้องเอ่ยถามด้วยความสนใจ เพราะหากจะมองภาพรวมของกลุ่มที่แม็กกี้อยู่แล้ว ถือว่าเป็นกลุ่มที่ค่อนข้างลงตัวเพราะแม้จะมีแม็กกี้ที่เป็นผู้ชายที่หน้าตาดีเพียงคนเดียว ที่เหลือก็เป็นชายไม่แท้ แต่ในกลุ่มก็ยังมีรุ่นน้องที่หน้าตาสะสวยและเพื่อนของหนิงที่มีภาวะการเป็นผู้นำค่อนข้างสูง จึงเป็นกลุ่มที่น่าจับตามองทีเดียว

   “ก็ราบรื่นดีครับ" แม็กกี้ตอบเพียงเท่านั้นเพราะไม่อยากให้ความลับเรื่องการแสดงแพร่งพรายออกไป "ว่าแต่หนิงล่ะ เหนื่อยไหมที่ต้องดูแลกิจกรรมรับน้อง"

   “จะว่าเหนื่อยมันก็เหนื่อยค่ะพี่ แต่มันก็สนุกและรู้สึกคุ้มค่าที่เห็นทุกคนสนุกไปกับมัน แถมยังเห็นความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้องที่มีมากขึ้น" หนิงตอบออกไปด้วยความสัตย์จริง จากการที่รุ่นพี่ของพวกเธอปลูกฝังการรับน้องด้วยกิจกรรมที่สนุก ๆ แถมยังให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่าง ๆ ไม่เน้นการว้ากที่รุนแรงหรือทำให้รุ่นน้องเกรงกลัว มันเลยทำให้กิจกรรมรับน้องสำหรับสาขาวิชานี้มีแต่ความสนุกสนานไร้ความเบื่อหน่ายแถมยังทำให้เกิดความรักความสามัคคีโดยที่ไม่ต้องแกล้งทำเป็นดุด่าหรือต่อว่าให้เสียความรู้สึกเลยสักนิด

   “ดีแล้ว... ไงพี่ก็ต้องขอบคุณหนิงนะที่ให้พี่กับไอ้ไม้มาร่วมรับน้องด้วย" แม็กกี้เอ่ยขึ้น เพราะปกติแล้วการรับน้องนอกสถานที่แบบแยกสาขาจะไม่มีการเชิญรุ่นพี่ปี 4 มา จะมีการมาพบปะกับรุ่นพี่ภายหลัง

   “ไม่เป็นไรค่า...” หนิงตอบเพียงยิ้ม ๆ เท่านั้น "เดี๋ยวหนิงไปช่วยเพื่อนแจกอาหารก่อนนะคะ"

   “เอ้อ... ได้ ๆ" แม็กกี้พูดก่อนจะยิ้มตอบ จากนั้น ต่างคนต่างก็แยกไปทำหน้าที่ของตัวเอง

   หลังจากที่กลับไปถึงห้อง แม็กกี้ก็ต้องฉงนเพราะไม่พบใครนอกจากไม้

   “น้องอีกสองคนล่ะ" แม็กกี้เอ่ยถามพลางมองกล่องอาหารในมือที่เอามาเผื่อ

   “ไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวก็กลับมา" ไม้ตอบ ก่อนที่จะตบเบาะนอนข้าง ๆ แล้วเอ่ยว่า "มานั่งนี่ดิ"

   แม็กกี้ปฏิบัติตามอย่างว่าง่ายแล้วไม้ก็หันไปสบตากับไอ้วิญญาณหน่อมแน้มที่ยืนจ้องอยู่เป็นเชิงไล่

   “เฮอะ! ไปก็ได้" มิวส์กระแทกเสียงออกมาก่อนจะเดินทะลุผนังออกจากห้องทันทีเพราะไม่อยากทนดูภาพที่บาดตาบาดใจต่อไป

   “เป็นไงบ้าง" แล้วปฏิบัติการนัวเนียตามแบบฉบับของคนรักกันก็เริ่มขึ้น ไม้เอ่ยถามก่อนจะค่อย ๆ กางมือโอบกอดจากทางด้านหลัง "เหนื่อยไหม แล้วกลุ่มของมึงแสดงอะไรอะ"

   “เหนื่อยมันก็เหนื่อยอยู่หรอก แต่มันก็สนุกดี" แม็กกี้ตอบก่อนจะทิ้งร่างให้ไปซบกับอ้อมอกของคนที่ตัวโตกว่าจนศีรษะของเขามุดลอดไปอยู่ใต้คางของไม้ "แล้วมึงอะ เป็นไงบ้าง"

   “เครียด" ไม้ตอบตรง ๆ เพราะการแสดงของเขามันเป็นอะไรที่ค่อนข้างขัดกับความรู้สึก แม้จะรู้ว่าเป็นการแสดง ทว่าฉากแต่ละฉากที่ได้รับมาราวกับว่าเขาโดนบังคับให้เล่นเพื่อให้สมใจใครบางคนเท่านั้น

   “ทำไม" แม็กกี้เอ่ยถาม

   “ไว้มึงเห็นตอนที่กูแสดงเดี๋ยวมึงก็รู้" ไม้ตอบเพียงเท่านั้น

   แม็กกี้ที่อยากจะถามต่อก็มีอันต้องเงียบลง เพราะถ้าไม้ไม่อยากพูด ต่อให้เอามีดมาเจาะปากยังไงไม้ก็ไม่มีวันที่จะพูดออกมาเด็ดขาด

   “เออ... ไงก็เต็มที่ละกัน" แม็กกี้ให้กำลังใจก่อนจะหมุนศีรษะเล่นให้มันเสียดสีกับปลายคางของไม้

   “มึงก็เหมือนกันนะ" ไม้พูดขึ้นบ้าง มือที่รัดร่างที่นอนซบหลวม ๆ ก็พลันออกแรงให้แน่นขึ้น

   ก่อนที่ทั้งคู่จะได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นก็ทำให้ไม้กับแม็กกี้ต้องผละร่างออกจากกัน จากนั้นทั้งสี่ก็รับประทานอาหารด้วยกันจนกระทั่งอาหารหมดกล่อง พอเห็นว่าได้เวลานัด แม็กกี้ก็แยกตัวออกไปรวมกลุ่มของตัวเองทันที






   รถตู้คันหรูที่แล่นมาจอดบนดอยไม่ได้เป็นจุดสนใจของเหล่านักศึกษาที่มาทำกิจกรรมรับน้องในตอนแรกแต่อย่างใด แต่พอเห็นพิ้งค์กับเพื่อน ๆ ในกลุ่มเดินมาหยิบชุดต่าง ๆ นานาที่ราวกับว่าจะเอาไปแสดงละครเวทีเท่านั้นแหละ ก็ทำให้ทุกคนต่างหันมาจับจ้องที่รถตู้คันนี้ด้วยความสนใจ

   “ลงทุนไม่เบาแฮะ" หนิงเอ่ยขึ้นกับเพื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

   “เออนั่นดิ... แต่มันก็ดีแล้ว การแสดงจะได้ครึกครื้นยิ่งขึ้น" เพื่อนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กันเสนอความคิดเห็น

   “อืม... งั้นเราก็ไปเตรียมงานของเราต่อกันเถอะ" พอเห็นรุ่นน้องที่ให้ความสำคัญกับการแสดงมากมายขนาดนี้ หนิงก็ชักจะอยู่เฉยไม่ได้ ในฐานะรุ่นพี่ เธอจะต้องเตรียมความพร้อมของสถานที่ในการแสดงและทำทุกอย่างออกมาให้ดีที่สุด

   ทางด้านของพิ้งค์... หลังจากที่เธอและเพื่อน ๆ ขนชุดที่จะใช้ในการแสดงสำหรับคืนนี้ลงมาจากรถตู้เสร็จสรรพ ลำดับต่อไป พิ้งค์ก็ให้นักแสดงมาลองชุดที่สวมใส่ อาจมีหลวมบ้าง คับบ้างแต่ก็พอจะใส่ได้ทุกคน ที่ดูจะลงตัวที่สุด ก็เห็นจะเป็นชุดของเจ้าชายอย่างแม็กกี้ที่พอสวมชุดที่นำมา บุคลิกที่สง่าอยู่แล้วก็ยิ่งถูกผลักดันให้โดดเด่นยิ่งขึ้นไปอีก

   “เจ้าชายของฉัน" พู่...รุ่นพี่ปีสองที่มองแม็กกี้ตาแป๋วถึงกับพร่ำเพ้อออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว

   “หล่อมากเลยค่ะพี่แม็กกี้" พิ้งค์เอ่ยชมบ้าง "พี่แม็กกี้ต้องเป็นเจ้าชายที่หล่อที่สุดแน่ ๆ"

   “ไม่ขนาดนั้นหรอกน่า" แม็กกี้เอ่ยแก้เขินพลางเบือนหน้าหนีไปทางอื่นเพราะไม่ค่อยจะมีใครกล้าเดินเข้ามาชมเขาตรง ๆ แบบนี้หรอก ส่วนใหญ่พวกที่หลงใหลในเสน่ห์ของเขามักจะแอบชื่นชมอยู่ห่าง ๆ มากกว่าเพราะไม่มีใครกล้ามาตีสนิท

   “แล้วพิ้งค์ไม่ลองบ้างเหรอ" แม็กกี้เอ่ยถามขึ้นบ้าง เพราะเห็นว่ารุ่นน้องในกลุ่มต่างก็ลองชุดต่าง ๆ นานาจนเสร็จสรรพจะเหลือก็แต่พิ้งค์เท่านั้นแหละที่ไม่ได้ลองสวมใส่

   “ไม่ค่ะ หุ่นพิ้งค์เท่าเดิม ยังไง ๆ ก็ใส่ได้ค่ะ" พิ้งค์ตอบออกมา จากนั้นทุกคนต่างก็ฝึกซ้อมการแสดงจริงอีกรอบก่อนที่จะถึงเวลารวมตัว








   เสาไฟสปอร์ตไลท์ขนาดสูงใหญ่จำนวนสองต้นที่สาดแสงสีขาวลงมายังลานกว้างบริเวณที่จะใช้จัดกิจกรรมในรอบดึกนั้นกระทบเรือนร่างของเหล่านักศึกษาจำนวนหลายคน ทำให้บริเวณนั้นสว่างไสวไม่มีความน่ากลัวแต่อย่างใดแม้จะอยู่บนดอยก็ตาม

   เมื่อทุกคนมากันพร้อมหน้า และอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาการแสดง หนิงก็สั่งให้เพื่อน ๆ เช็คชื่อของเหล่ารุ่นน้องที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่ามากันครบแล้วหรือยัง

   เมื่อเห็นว่าไม่มีใครขาดหาย รวมทั้งอาจารย์ประจำสาชาวิชาภาษาอังกฤษที่สะดวกมาร่วมกิจกรรมในคืนนี้จำนวน 5 ท่านก็ได้เดินทางมาถึงและมาร่วมเป็นกรรมการตัดสินครบทุกท่าน การแสดงก็เริ่มขึ้นทันที

   “เจ้านาย" มิวส์ที่นั่งหลบอยู่หลังไม้เอ่ยขึ้นเบา ๆ "ก้องก็มาด้วย"

   “เออ... เห็นแล้ว" ไม้ที่นั่งอยู่แถวหลังสุดหันไปคุยกับมิวส์เบา ๆ "แต่อาจารย์ยังไม่เห็นมึง ถ้าไม่อยากเจอ มึงก็อยู่นิ่ง ๆ เงียบ ๆ ละกัน"

   “ครับ" มิวส์ตอบรับอย่างว่าง่ายเพราะเขาเองก็ไม่มีอะไรจะต้องพูดคุยกับผู้ชายขี้โกหกหลอกลวงจนเป็นต้นเหตุให้เขาต้องสิ้นลมหายใจอีกแล้ว

   ก่อนที่จะเริ่มการแสดง หนิงได้ให้อาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิงที่อยู่อยู่ในวัยใกล้เกษียณเต็มทนจับฉลากว่ากลุ่มไหนจะได้แสดงก่อน ซึ่งกลุ่มที่โชคดีที่ไดแสดงก่อนเพื่อนก็คือกลุ่มที่สอง

   การแสดงของกลุ่มที่สองไม่มีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะสมาชิกในกลุ่มรวมทั้งรุ่นพี่ที่ร่วมกลุ่มด้วยไม่มีใครเป็นผู้นำมากพอ การแสดงจึงเป็นไปอย่างเรียบง่ายและไม่มีอะไรให้ตื่นเต้น

   ทันทีที่แสดงจบ กลุ่มต่อมาที่ได้แสดงก็คือกลุ่มที่หนึ่ง ซึ่งกลุ่มนี้มีอะไรที่น่าชื่นใจขึ้นมาหน่อยเพราะมีการร้องเพลงสากลประสานเสียงที่ไพเราะเพราะพริ้ง ไปสามเพลงโดยมีทั้งเพลงช้า เพลงเร็ว และเพลงที่ต้องเต้นประกอบจังหวะ ซึ่งจุดที่เรียกเสียงกรี๊ดจากเหล่าผู้ชมได้ก็คือตอนจบของเพลงช้า นักร้องนำชายหญิงได้แสดงอารมณ์ออกมาบีบคั้นผู้ชมจนผู้ชมที่ซาบซึ้งและเข้าใจในความหมายของบทเพลงถึงกับน้ำตาไหลออกมาโดยที่ไม่รู้ตัว

   พอการแสดงจบ... เสียงปรบมือเกรียวกราวก็ดังขึ้นเป็นกำลังใจลำดับต่อไปก็เป็นการหยิบฉลากขึ้นมาเพื่อให้กลุ่มถัดไปออกมาแสดง

   “หมายเลขสี่ค่ะ" สิ้นเสียงของอาจารย์วัยใกล้เกษียณ เสียงปรบมือก็ดังขึ้นเพื่อให้กำลังใจสำหรับกลุ่มต่อไป








   การแสดงของกลุ่มสี่เริ่มต้นด้วยการร้องเพลงช้าที่มีความหมายเกี่ยวกับพี่ชายน้องชาย ซึ่งเนื้อร้องและทำนองถูกแต่งขึ้นมาใหม่โดยสมาชิกในกลุ่ม หลังจากที่การร้องเพลงเปิดจบไปการแสดงก็เริ่มขึ้นทันที ซึ่งมีฉากและอุปกรณ์เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่หาได้จากห้องพักก็ถูกนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ให้คล้ายกับละครเวที

   ทันทีที่การแสดงเริ่ม เหล่าผู้ชมทุกคนต่างก็ให้ความสนใจกับการแสดงชุดนี้ จนกระทั่งไปถึงจุดไคลแม็กซ์ เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ

   “เป็นอะไรไปจั๊มพ์ มานั่งอยู่ในห้องเงียบ ๆ คนเดียวทำไม" หลังจากที่ไม้เดินไปส่งน้องชายคนเล็กที่หน้าบ้านไม้ก็เดินกลับมาคุยกับน้องชายคนกลาง

   เนื่องจากวันนี้เป็นวันที่ซีร์น้องคนเล็กต้องไปรายงานตัวเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ทุกคนใฝ่ฝันว่าจะเข้าไปเรียนให้ได้ และซีร์ก็ทำมันสำเร็จ... ผลจากความพยายามในครั้งนี้ทำให้ทันทีที่รู้ข่าว ซีร์ก็รีบวิ่งหน้าตั้งมาบอกไม้ซึ่งเป็นพี่ชายคนโตทันที หากแต่เขาไม่ได้สนใจจั๊มพ์ ซึ่งก็คือพี่ชายคนรองเลยสักนิด

   “ผมไม่ได้เป็นอะไร" จั๊มพ์ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่เรียบเย็น ตั้งแต่ที่พ่อกับแม่จากไป ก็มีแต่ไม้นี่แหละที่ดูแลน้อง ๆ จนเติบใหญ่ แต่การแสดงความรักที่แตกต่างกันจนเกินไปนั้น ทำให้จั๊มพ์เข้าใจผิดคิดไปว่าพี่ชายคนโตไม่รักตัวเอง

   “ไม่ได้เป็นจริงเหรอ แต่พี่เห็นเราสีหน้าไม่ดีเลยนะวันนี้" คำพูดของไม้มันไม่ได้ทำให้จั๊มพ์รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด กลับกันมันยิ่งทำให้คนฟังรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่ เพราะว่าตั้งแต่ที่พ่อกับแม่จากไป เขาก็เหมือนอยู่ตัวคนเดียวทั้ง ๆ ที่มีพี่และน้องชายอยู่เคียงข้าง แต่พี่ชายเพิ่งจะมาสังเกตเห็นความผิดปกติก็วันนี้

   “นั่นอะไร" ไม้ชี้ไปยังใต้หมอนซึ่งมีสันของสมุดวาดรูปปกแข็งสีดำยื่นออกมา

   “ไม่มีอะไร" จั๊มพ์รีบเถียง ก่อนที่จะรีบใช้มือสอดมันให้กลับเข้าไปเก็บในที่เดิม

   ในทีแรก ไม้ไม่ได้คิดจะละลาบละล้วงความเป็นส่วนตัวของจั๊มพ์เลยสีกนิด แต่ท่าทีที่มีพิรุธอย่างเห็นได้ชัดทำให้ไม้ต้องแสร้งไม่สนใจสมุดนั่นก่อนจะไปนั่งลงข้าง ๆ กับร่างของน้องชายที่ขอบเตียงแล้วแอบใช้มือข้างหนึ่งหยิบสมุดเล่มนั้นออกมา และกว่าที่จั๊มพ์จะรู้ตัวสมุดเล่มนั้นก็อยู่ในมือของไม้เสียแล้ว

   และมันกำลังจะถูกเปิดออกมาดู...

   “เอาคืนมานะ" จั๊มพ์ตะโกนก้อง แต่เหมือนว่ามันจะไม่เป็นผล เพราะไม้ไม่สนใจเลยสักนิดเพราะในตอนนี้เขาสนใจกับสิ่งที่อยู่ในมือมากกว่า

   ไม้พลิกดูไปทีละหน้า ๆ แต่ละหน้าจะเป็นภาพวาดตัวการ์ตูนสามตัว ซึ่งน่าจะเป็นพี่น้องกัน เพราะมีการเขียนกำกับไว้ในแต่ละภาพถึงเรื่องราวที่สอดคล้องกับความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว

   “พี่ชายของฉัน" ไม้อ่านออกเสียงในขณะที่ก้มมองภาพวาดตัวการ์ตูนผู้ชายที่กำลังอยู่ในท่วงท่าจูงมือน้องชายคนเล็ก ก่อนที่เขาจะอ่านคำบรรยายประโยคถัดไป "เป็นพี่ชายที่น่ารัก แต่ว่า... น้องที่เขารักก็คือน้องชายคนเล็กซึ่งไม่ใช่ฉัน"

   พอพลิกไปหน้าต่อไปก็เป็นรูปของเด็กผู้ชายอีกคนซึ่งน่าจะเป็นตัวแทนของจั๊มพ์กำลังนั่งก้มหน้ากอดเข่าพิงกำแพงอยู่

   “ฉันอยากให้พี่ชายของฉันกอดฉัน อุ้มฉัน จูงมือฉันเหมือนน้องชายคนเล็กบ้างจัง ฉันทำได้เพียงแค่มองดูพวกเขาอยู่ห่าง ๆ เพราะบางทีฉันก็คิดว่า... ฉันเป็นส่วนเกินที่พวกเขาไม่ต้องการ" หลังจากที่อ่านข้อความประโยคนี้จบไม้ก็พบสมุดวาดภาพเก็บทันทีแล้วหันไปมองจั๊มพ์ซึ่ง ๆ หน้า

   “จั๊มพ์... ทำไม...” ไม้เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว

   “พี่ไม่ต้องพูดอะไรหรอก ออกไปจากห้องฉันได้แล้ว" จั๊มพ์เอ่ยขึ้นเพราะการที่พี่ชายที่เขารักมาเห็นอะไรที่น่าอับอายในสมุดนั่นมันก็ทำให้เขาไม่รู้จะเอาน่าไปมุดหลบไว้ที่ไหน

   “พี่ไม่ออกไป...” ไม้เถียง

   “พี่จะว่าฉันใช่ไหม เออ... ฉันมันก็แค่คนขี้อิจฉา ฉันอิจฉาน้อง ฉันมันน่ารังเกียจใช่ไหมล่ะ พี่ไม่ต้องมาย้ำให้ฉันฟังหรอก" จั๊มพ์เถียงกลับ ไม่รู้ว่าเพาะความอายในสิ่งที่เกิดขึ้นหรือความน้อยใจที่สะสมมานานหลายปีมันปะทุออกมากันแน่ หยาดน้ำใส ๆ เลยไหลลงมาจากดวงตาของจั๊มพ์

   ไม้ไม่ได้เถียงอะไร ทันทีที่เห็นน้ำตาไม้ก็โผเข้ากอดจั๊มพ์ทันที "แล้วทำไม... ตลอดเวลาที่ผ่านมาถึงไม่เคยบอกพี่เลยสักนิดว่ารู้สึกยังไง ว่าอยากให้พี่ทำอะไร หรืออยากไปไหนกับพี่"

   พูดจบไม้ก็ผละร่างที่กำลังสวมกอดออกมาเล็กน้อยก่อนจะค่อย ๆ เอื้อมมือขึ้นมาปาดน้ำตาแล้วก็สบตากับจั๊มพ์ตรง ๆ
   “พี่รักจั๊มพ์นะ รักไม่น้อยไปกว่าซีร์เลย" พูดจบไม้ก็โผเข้ากอดกับจั๊มพ์อีกครั้ง หากแต่ในครั้งนี้มีร่างอีกร่างที่เผลอขึ้นมาเห็นอยู่ที่หน้าประตูถึงกับชะงักแล้วเดินตรงดิ่งเข้ามาหาคนทั้งคู่ทันที

   “พี่ไม้พี่จั๊มพ์ทำอะไรกันน่ะครับ" ซีร์เอ่ยขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเข้าใจมาเสมอว่าพี่ชายคนกลางมีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยสุงสิงและชอบให้ใครมายุ่ง เขาเลยไม่กล้าที่จะเข้าหา แต่นี่อะไร... ทำไมในตอนนี้พี่ชายของเขาทั้งสองคนถึงได้กอดกันกลมแบบนี้

   “พี่... เอ่อ... พี่...” จั๊มพ์เอ่ยด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักก่อนจะตอบด้วยเหตุผลที่น่าฟังออกไป "พี่แค่ให้พี่ไม้มาช่วยซ้อมบทละครให้พี่น่ะ พอดีช่วงรับน้องพี่ต้องแสดงละครกับเพื่อน ๆ" ที่ต้องโกหกก็เพราะจั๊มพ์กลัวว่าน้องชายคนเล็กจะไม่ชอบใจในการกระทำของพวกเขา ทว่า... ไม้กลับไม่สนับสนุนคำพูดของจั๊มพ์มิหนำซ้ำเขายังพูดความจริงออกมาทุกประการ

   “จะโกหกน้องทำไม... จั๊มพ์ไม่ได้แสดงละครหรอกซีร์ แต่ที่พี่กอดจั๊มพ์ก็เพราะพี่รักจั๊มพ์ พี่เพิ่งรู้ว่าจั๊มพ์เองก็อยากให้พี่ทำอะไร ๆ เหมือนที่พี่ทำให้กับซีร์ก็เท่านั้น ทั้งจั๊มพ์ทั้งซีร์ก็เป็นน้องพี่ ทำไม... พี่จะทำอะไรให้น้องทั้งสองคนเหมือน ๆ กันไม่ได้ล่ะ"

   “จริงเหรอพี่ไม้" ซีร์พูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเพราะเขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่ชายคนกลางจะอยากอ้อนให้พี่ชายคนโตทำอะไรแบบนั้น

   “จริงดิ...” ไม้เอ่ยขึ้น "ดูดิซีร์ จั๊มพ์มันหน้าแดงหมดแล้ว ฮ่า ๆ ๆ"

   พูดจบก็ส่งเสียงหัวเราะกันเกรียวกราว แล้วความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องทั้งสามก็เหมือนจะเปิดกว้างมากขึ้น

   หลังจากที่จบฉากนั้น ไฟสปอร์ตไลท์ก็ดับลงเหมือนเป็นการปิดฉากการแสดง แล้วเสียงของคนที่พากย์บทละครก็เอ่ยขึ้น

   “การปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองมันไม่มีอะไรดีหรอกครับ ...จั๊มพ์คือตัวแทนของคนที่พยายามปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองมาโดยตลอด ความจริงแล้วพวกเขาทั้งสามไม่ได้เป็นพี่น้องร่วมสายเลือดกัน หากแต่พ่อกับแม่ของเขาไม่สามารถมีลูกด้วยกันได้ เลยทำให้พ่อกับแม่รับพวกเขาทั้งสามมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม และหลังจากที่พ่อกับแม่เสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุ ในขณะที่จั๊มพ์กับซีร์อายุยังไม่ถึง 10 ขวบ ไม้ก็กลายเป็นคนที่ต้องดูแลน้อง ๆ ทั้งสองไปโดยยปริยาย โชคดีที่พินัยกรรมของพ่อกับแม่ได้เขียนเอาไว้ว่ายกมรดกทุกอย่างให้ลูกชายคนโตเป็นคนดูแล และแบ่งเงินในบัญชีบางส่วนให้กับลูกชายคนกลางกับลูกชายคนเล็ก เลยทำให้พวกเขาไม่ต้องตกระกำลำบาก...

   การดูแลและความเอาใจใส่ที่พี่ชายคนโตมีให้น้อง ๆ มาตลอดระยะเวลาหลายปี ทำให้เกิดความผูกพันดี ๆ จนกลายเป็นความรักที่มากกว่าคำว่าพี่น้อง...

   ใช่ครับ... ความรักมันไม่มีกฎเกณฑ์ เพศ อายุ ฐานะ หน้าตาไม่ใช่เรื่องสำคัญ และหากว่าพวกเขารักกัน... พวกคุณจะยอมรับในความรักของพวกเขาได้หรือไม่"

   หลังจากที่คนพากย์พูดจบ ไฟสปอร์ตไลท์ก็ส่องสว่างขึ้นอีกครั้ง และภาพที่ปรากฏตรงกลางลานแสดงก็ทำให้นักศึกษาทุกคนถึงกับตกตะลึงเพราะภาพที่พวกเขาเห็นคือ...

   ไม้กำลังกอดกับจั๊มพ์โดยที่มีซีย์ยืนคั่นอยู่ตรงกลาง หากนั่นเป็นการกอดกันธรรมดามันคงไม่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้น แต่เพราะริมฝีปากของไม้กับแก้มของจั๊มพ์ดันไปสัมผัสกัน มันเลยทำให้ความคิดเห็นแบ่งเป็นสองฝ่าย

   “ไม่ว่าใครจะยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขาได้หรือไม่มันไม่สำคัญ แต่ถ้าพวกเขายอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นและไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน นั่นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด... ขอบคุณครับ”

   สิ้นเสียงของคนพากษ์ เสียงปรบมือก็ดังขึ้น เพราะในปัจจุบันแม้ความรักร่วมเพศจะมีการเปิดเผยมากขึ้น แต่สังคมส่วนใหญ่ก็ยังยอมรับไม่ได้อยู่ดี และมันจะดีหรือที่หากมีคนบางกลุ่มกีดกันและตั้งท่ารังเกียจ แล้วทำให้ผู้ที่ไม่กล้ายอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ต้องใช้ชีวิตแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ หรือหลอกตัวเองว่าเป็นชายแท้หญิงแท้ แล้วก็แต่งงานมีลูกกับเพศตรงข้ามโดยที่ก้นเบื้องลึกของหัวใจพวกเขาไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนั้นเลยสักนิด

   แต่เพราะกฏเกณฑ์ของสังคมและคำกดดันของครอบครัวเครือญาติหรือเพื่อนฝูง เลยทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจทำในสิ่งที่ขัดกับความรู้สึกของตนเอง

   การแสดงที่สะท้อนถึงเพศที่สามของกลุ่มไม้ ทำให้ทุกคนตกตะลึงเล็กน้อยกับภาพตอนจบ แต่ผู้ที่ดูท่าว่าจะออกอาการมากกว่าใครอื่นเห็นจะเป็นแม็กกี้กับมิวส์

   “เจ้านาย!!! ไหนเจ้านายบอกว่าจะไม่แสดงตอนจบไง" มิวส์ที่ความอดทนขาดผึงเมื่อเห็นไม้ทำในสิ่งที่ไม่คาดคิดเผลอลุกขึ้นจากที่นั่งแล้ววิ่งไปบ่นกับคนทำความผิดอยู่ที่กลางลานแสดง นั่นทำให้ก้องมองเห็นมิวส์ได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ

   ไม้ไม่ได้โต้เถียงอะไร จนกระทั่งกลับไปนั่งที่ค่อยหันไปบ่นกับมิวส์เบา ๆ

   “มึงออกไปตรงนั้นทำไม... คราวนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับมึง กูช่วยไม่ได้แล้วนะ" ไม้ต่อว่า แต่เหมือนว่ามิวส์จะยังไม่รู้ตัวเพราะ...

   “เจ้านายไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง เจ้านายทำแบบนี้ทำไม เจ้านายหอมแก้มไอ้เด็กจั๊มพ์ทำไม!!!”

   “มันจำเป็น" ไม้ตอบสั้น ๆ ก่อนจะเอ่ยคำที่ทำให้ไอ้ผีขี้วีนสงบปาก "ถ้ามึงยังขืนพูดมาก คืนนี้ถ้าเกิดอะไรขึ้น กูจะไม่ช่วยเหลืออะไรมึงทั้งนั้น"

   “เจ้านาย...” มิวส์ถึงกับพูดไม่ออก ไม่ใช่เพราะว่ายังโกรธหรือไม่พอใจในคำตอบที่ได้รับจากการกระทำของเจ้านาย แต่เพราะเจ้านายบอกว่าจะไม่ช่วยเขาต่างหากล่ะมันเลยทำให้เขาอดน้อยใจไม่ได้

   ทั้ง ๆ ที่เจ้านายของเขารู้ดีว่าสถานที่บนป่าบนเขาแบบนี้มันอันตรายมากขนาดไหน แถมเขาเองก็เป็นแค่วิญญาณอาฆาตติดที่ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองจากวิญญาณร้ายตนอื่นได้ แล้วจะไม่ให้เขารู้สึกเสียใจกับคำพูดที่ไร้เยื่อใยแบบนั้นได้อย่างไรกันล่ะ

   “ได้... งั้นผมจะพิสูจน์ให้เจ้านายดูว่าคืนนี้ผมจะเอาตัวรอดให้ได้โดยไม่ต้องพึ่งเจ้านาย" พูดจบก็ลุกขึ้นวิ่งหายวับออกไปนอกลานแสดงทันที

   ไม้ที่ยังอยู่ในอารมณ์หงุดหงิดเพียงชายตามองดูร่างนั้นวิ่งจากไปก็เท่านั้นก่อนจะพ่นลมหายใจออกมาเพื่อเป็นการระบายอารมณ์

   'มึงอยากจะทำอะไรก็เรื่องของมึง'





จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่25 หน้า10]- 10/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 16-09-2013 01:16:34
คุยกับคนอ่านครับผม ^^

คุณ ApoStrOfhYs :: อ่ะนะ คิคิ สามทางนี้ไม้กับมิวส์สมหวังกันทั้งนั้นเลยน๊า 555 แม็กกี้หลีกไป คิคิ ต้องติดตามครับว่าจะจบยังไง ^^
คุณ loveaaa_somsak :: พี่มากพระโขนงจบยังไงหว่า T^T เวรกรรมจริงๆ ไปดูมาแล้วแต่ลืม จำได้แต่ฉากงานวัด ซึ้งดีครับ T^T
คุณ mukmaoY :: บท T^T แค่นี้เอง แค่นี้จริงจริ๊ง ... แต่ถ้าเป็นคนรักกัน ต้องมีแนวหึงๆอยู่แล้วล่ะ และตอนหน้า อย่าพลาดนะครับ คิคิคิ
คุณ ice_spok :: ทำไมต้องตูดโก่ง ทะลึ่งตลอดไอ้น้องไอซ์ โก่งนักเดี๋ยวเตะก้นเลยนี่
คุณ iamnan :: T^T  วิ่งหนีไปแล้วครับ เหมือนจะไม่ได้กำไรแล้วเน่อ ฮือ T^T
คุณ NJnobu :: T^T ลุ้นต่อไปนะครับ คิคิ ว่ามิวส์มานวิ่งหนีไปแล้วจะเจอกับอะไร ฮือๆๆ T^T
คุณ Lily teddy :: คุณ Lily teddy วิเคราะห์ได้โดนตลอดเลยครับ สปอยเลยงับ มิวส์น้อยใจ ตอนหน้าไม้กับแม็กกี้ก็ .... กันอีก T^T ฮือๆ
คุณ Biwty... :: 555 ไม้กับมิวส์งอนกันแล้วคร้าบบ  :3123:
คุณ Chichi Yuki :: T^T  แต่ผมดั๊นอยากให้แม็กกี้เจ็บให้มากที่สุด แต่งไปแล้วสะใจดี (ซะงั้น) ล้อเล่นเด้อ แหะๆๆ
คุณ mentholss :: >.< ท่าจะไม่รอดแล้วครับ มิวส์วิ่งจู๊ดๆ ไปแล้ว
คุณ มยอนฮวา :: T^T ยิ่งอ่านยิ่งรักมิวส์ และอ่านๆไปจะเกลียดไม้ ใช่ไหมงับ T^T
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 16-09-2013 11:39:40
 :เฮ้อ: เครียด ทั้งที่มันเป็นการแสดงละครของกิจกรรมรับน้องธรรมดาเองนะเนี่ย
ถึงในการแสดงจะมีฉากที่ปากของไม้สัมผัสกับแก้มของจั๊มพ์ แต่มันก็ไม่ได้แสดงออกมาแบบดูน่าเกลียด
ยั่วยวนหรือออกท่าออกทางอะไรเลยนี่ เหมือนกลุ่มของไม้แค่พยายามสะท้อนความรักความรู้สึก
ของเพศที่สามเฉย ๆไม่ใช่เหรอ แต่มันก็คงทำให้คนดูรวมทั้งมิวส์กะแม็กกี้ต้องอึ้งกันไปบ้างแหละ
แต่คิดว่าแม็กกี้น่าจะเข้าใจและไม่โวยวายกับเรื่องนี้มากมายแบบมิวส์นะ เพียงแต่เพราะเรื่องนี้ดัน
ทำให้มิวส์เกิดน้อยใจกับคำพูดไม้จนหนีเตลิดไปไหนไม่รู้ แล้วด้วยนิสัยอย่างไม้เดี๋ยวยังไงก็ต้องกังวล
แล้วออกไปตามช่วยมิวส์อีกแน่ แล้วไอ่ตอนที่ไม้ไปตามช่วยมิวส์นี่แหละมั่งจะทำให้ไม้กะแม็กกี้ก็ ... T^T อีกแล้ว
เพราะเดี๋ยวก็ต้องเป็นการแสดงของกลุ่มแม็กกี้แล้วด้วย น่าสงสารแม็กกี้จัง
แล้วที่ให้ก้องมองเห็นมิวส์ตอนนี้มันจะมีผลดีผลเสียยังไงบ้างไหมเนี่ย
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4:  :mew1:
ปล.จะทำร้ายอะไรแม็กกี้ก็สงสารคนอ่านบ้างนะค่ะ  :ling3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 16-09-2013 12:10:12
ไม้มันมีดีอะไรนักหนา ทำไมทั้งคนทั้งวิญญาณถึงพากันรักพากันหลง

เห็นแก่ตัว เอาแต่ใจ ไม่อ่อนโยนก็เท่านั้น เดี๋ยวก็เชียร์ให้แม็กกี้คู่กับมิวส์ซะหรอก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 16-09-2013 14:24:19
; แค่หอมแก้มเอง มิวส์ก็ คิดมากน่า...  :hao3: :hao3: :hao3:

มิวส์วิ่งออกไปเจออะไร.... รอ คน เขียน

+  :กอด1:  o13  :bye2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 16-09-2013 14:35:18
ไม้ปากบอกไม่สนใจมิวส์ เดี๋ยวตัวเองก็ต้องมากังวลเรื่องมิวส์อยู่ดี
คนที่เห็นความกังวลนั้นชัดก็น่าจะเป็นแม็กกี้  แล้วอ.ก้องมาทำอะไร
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 16-09-2013 16:58:54
คงตัองบอกว่า ขิงก็รา ข่าก็แรง ซินะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 16-09-2013 18:05:23
เป็นเรา เราก็สะอึกเลยนะไม้พูดแบบนั้นอ่ะ

คนฟังมันคิดได้แปดพันอย่าง :katai4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 16-09-2013 19:48:38
พี่ชาย ฉันรักเขาาาา

ฮืออออออ

อยากกอดคนเขียนนนน จุ้บบบ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 16-09-2013 20:55:53
ไม้ทำกับมิวส์ได้ :z6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 17-09-2013 00:03:43
ไม้ อย่าอยู่เลย  :z6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Yukio4869 ที่ 18-09-2013 02:52:01
ตามมาอ่านรวดเดียวเลยครับ ชื่อเรื่องน่าสนใจดี สนุกมากๆเลยครับ มิวก็น่ารักเเต่เเอบหื่นไปนิส 555 ไม้ก็โหดตลอดๆ 55 เรื่องนี้เราเชียร์ ไม้มิวส์ ส่วนเเม็กกี้ก็ขอจบเเบบไม่ทุกข์หาคู่ให้เลยเเล้ว เรื่องเเนวนี้มันน่าลุ้นตอนจบว่าจะจบเเบบไหน คริคริ  เเต่ 3p อย่านะ 555  ลุ้นว่าจะมีไรเกิดขึ้นใหม น่าติดตาม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 22-09-2013 00:54:12
ตอนที่ 27






         แสงไฟสปอร์ตไลท์ที่ทอดผ่านลงมายังลานกว้างในตอนนี้ เผยให้เห็นร่างของชายหนุ่ม หญิงสาวที่น่าจะบอกได้ว่า หล่อและสวยที่สุดในคืนนี้ กำลังยืนอยู่ท่ามกลางสายตาของเหล่านักศึกษานับร้อยคู่ด้วยความสง่า

   “เจ้าชาย... ข้าต้องไปแล้ว" ซินเดอเรลล่าเอ่ยขึ้นก่อนที่จะสะบัดข้อมือออกจากการกอบกุมของฝ่ามือเจ้าชายที่หล่อเหลา

   “เดี๋ยวก่อน...” เจ้าชายเอ่ยขึ้นพลางพยายามจะเอื้อมมือไปจับแขนของหญิงสาวที่กำลังจะวิ่งหนี พอพยายามที่จะวิ่งตามแสงไฟที่มืดมัวกอปรกับไม่รู้ว่าหญิงสาววิ่งไปทางไหนเลยทำให้ในที่สุดเจ้าชายก็ถอนหายใจแล้วเดินคอตกกลับไปยังงานเลี้ยง

   ทว่าไม่รู้เพราะพรหมลิขิตหรืออย่างใด รองเท้าคีบฟองน้ำที่หญิงสาวใส่มาซึ่งขัดกับชุดไหมที่สวมใส่ดันหลุดหลุดทิ้งไว้ข้างหนึ่ง

   เจ้าชายค่อย ๆ ก้มลงไปหยิบมันขึ้นมาดู พลางพินิจพิจารณาอย่างถี่ถ้วย นอกจากหญิงสาวผู้เลอโฉมแล้ว ก็ไม่มีใครที่กล้าจะใส่รองเท้าลักษณะแบบนี้มาร่วมงาน

   “มันต้องเป็นของนางแน่ ๆ" เจ้าชายเอ่ยขึ้นด้วยความมั่นใจ

   หลังจากงานเลี้ยงในคืนนั้นสิ้นสุดลง เจ้าชายก็สั่งให้เหล่าทหาร องครักษ์ ออกตามหาหญิงสาวผู้เป็นเจ้าของรองเท้าคีบข้างนี้ ทว่าไม่ว่าจะให้หญิงสาวนางใดสวมใส่ เท้าของเธอก็จะแบะออกเกินความเล็กเรียวของรองเท้าคู่นั้นเสมอ ...แม้แต่เจ้าของรองเท้าข้างนั้นด้วยเช่นกัน เธอถูกแม่มดใจร้ายสาปให้กลายเป็นหญิงสาวอ้วนท้วมด้วย เว้นก็แต่ในคืนที่ไปร่วมงานฉลองเมื่อคืนที่มีนางฟ้าใจดีมาช่วยปลดคำสาปให้ แต่ก็เป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ

   ซิลเดอร์เรลล่ารู้สึกเสียใจเหลือเกินท่ี่บทประพันธ์ในครั้งนี้ไม่ได้จบลงแบบสวยหรูเหมือนการแสดงในทุก ๆ ครั้ง เพราะเธอดันเป็นหญิงสาวร่างอ้วนพุงโย้ที่โดนคำสาปของแม่มดใจร้ายจากคำขอร้องอ้อนวอนของเหล่าพี่สาวและแม่เลี้ยงใจโหดที่อิจฉาในหน้าตาอันงดงามสดใสของเธอ

   หนทางเดียวที่จะแก้คำสาปในครั้งนี้ได้ก็คือเธอจะต้องได้รับอ้อมกอดที่อบอุ่นของชายหนุ่มผู้งดงามซึ่งจะเป็นใครก็ได้แต่มีข้อแม้ว่าซิลเดอเรลล่าต้องห้ามบอกความลับข้อนี้ให้เจ้าชายรู้ไม่เช่นนั้นเธอจะไม่มีโอกาสถอนคำสาปได้อีกเลย เพราะฉะนั้น เธอจะต้องเอาชนะใจชายหนุ่มรูปงามด้วยนิสัยใจคอมิใช่หน้าตา

   ซิลเดอเรลล่าร้องไห้กระซิก ๆ ตามลำพังหลังจากที่เห็นใบปิดข่าวตามหาเจ้าของรองเท้าคู่นั้นของเจ้าชาย และทันใดนั้นประตูบ้านของเธอก็ถูกเคาะด้วยเสียงอันดังก้อง

   “ขอโทษครับ บ้านของคุณมีหญิงสาวรูปร่างผอมสูง ผิวขาว ผมยาวสลวยหน้าตางดงามหรือเปล่าครับ" องครักษ์นายหนึ่งพูดโดยที่มีเจ้าชายยืนรออยู่ด้านหลัง

   ซิลเดอเรลล่ามองสบดวงตาคู่นั้นหัวใจของเธอเต้นตูมตามแต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้

   “ไม่มีค่ะ" ที่ต้องตอบออกไปแบบนั้นเพราะตอนนี้พี่สาวของเธอทั้งสองกับแม่เลี้ยงออกไปทำธุระนอกบ้าน จึงไม่มีใครที่มีลักษณะเช่นนั้น

   “ไปกันเถอะ" พอได้ยินคำตอบของนางที่ดังเล็ดลอดมาหลังบานประตู องครักษ์คนที่เคาะประตูก็ตัดสินใจล่าถอย แต่ทว่า...

   “เดี๋ยวก่อน เสียงของเจ้า!” เจ้าชายเอ่ยขึ้น

   แม้จะอยู่คนละเรือนร่าง แต่ทว่าน้ำเสียงของหญิงสาวร่างอ้วนช่างคล้ายคลึงกับหญิงสาวในคืนนั้นยิ่งนัก

   “เจ้า...” เจ้าชายแง้มบานประตูออกก่อนจะเดินเข้าไปหาหญิงสาวร่างอ้วน

   “เพคะ" หญิงสาวตอบด้วยความฉงน เพราะไม่มีวันที่ชายหนุ่มรูปงามอย่างเจ้าชายจะคิดว่าเธอเป็นหญิงสาวในคืนนั้นได้หรอก

   “ถ้าเจ้ามีโอกาสได้เกิดใหม่ เจ้าจะเกิดเป็นอะไร ระหว่างนกพิราบกับฟักทอง" เจ้าชายเอ่ยถาม เพราะในค่ำคืนที่เขาได้พบกับหญิงสาวผู้เลอโฉม นางได้กล่าวเอาไว้ว่าถ้าได้เกิดใหม่ในชาติหน้า นางจะเลือกเกิดเป็นฟักทองและไม่อยากเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตใด ๆ ทั้งสิ้น

   “ฟักทองเพคะ" หญิงสาวตอบออกมา

   “เพราะอะไร" เจ้าชายเอ่ยถาม น้ำเสียงของเขาแสดงออกถึงความตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัด

   “เพราะปัจจุบันสัตว์โลกก็มีมากแล้ว ถ้าเลือกเกิดได้ข้าขอเลือกเกิดเป็นฟักทองผลโต ๆ ให้สิ่งมีชีวิตได้กัดกินยังจะดีเสียกว่า" สิ้นเสียงของนาง เจ้าชายก็ทำในสิ่งที่ทุกคนไม่คาดฝัน

   เหล่าองครักษ์ทั้งหลายต่างมองภาพที่เจ้าชายผู้มีหน้าตาหล่อเหลาของเขากอดกับหญิงสาวร่างอ้วนผู้ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิดด้วยความตกตะลึง และในขณะนั้นพี่สาวทั้งสองกับแม่เลี้ยงของนางก็เดินทางกลับมาบ้านแล้วได้พบกับภาพอันบาดตาบาดใจเข้าพอดี

   “กรี๊ดดดด!!!” พี่สาวทั้งสองต่างกรีดร้องด้วยความริษยา นอกจากจะริษยาที่ซิลเดอเรลล่าถูกเจ้าชายโอบกอดแล้ว อีกความคิดหนึ่ง พวกเธอกำลัวรู้สึกกลัวว่าคำสาปที่แม่มดได้สาปเอาไว้จะคลายผล

   และในขณะนั้นแสงไฟสปอร์ตไลท์ก็ดับลง... ผู้ชมทุกคนต่างตกตะลึงและกำลังลุ้นผลที่จะตามมา

   ทันทีที่แสงไฟสว่างขึ้นอีกครั้ง ซิลเดอเรลล่าก็กลับกลายเป็นหญิงสาวผู้เลอโฉม คำสาปของแม่มดถูกคลายลง และเจ้าชายกับซิลเดอเรลล่าก็ตกลงปลงใจจะแต่งงานกันในที่สุด

   “ทำไมท่านถึงคิดว่าหญิงสาวร่างอ้วนคนนั้นคือข้า" ซิลเดอเรลล่าเอ่ยถามในขณะที่กำลังอยู่ในอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของเจ้าชายรูปงาม

   “เพราะน้ำเสียงและคำตอบของเจ้า... ข้าคิดว่าน้อยคนนักที่จะอยากเกิดเป็นฟักทอง เจ้าคือผู้หญิงที่สวยงามทั้งภายนอกและภายในจริง ๆ ...ซิลเดอเรลล่า ข้ารักเจ้านะ”

   สิ้นเสียง เจ้าชายก็ค่อย ๆ เอื้อมหน้าลงไปมอบจุมพิตให้กับหญิงสาวที่ตัวเล็กกว่า

   เกิดเสียงฮือฮาและเสียงปรบมือดังขึ้นกันเกรียวกราวหลังจากที่เจ้าชายผู้เลอโฉมอย่างแม็กกี้ได้มอบจุมพิตให้กับหญิงสาวผู้งดงามอย่างพิ้งค์...

   ความจริงแล้วพิ้งค์ได้เขียนบทเอาไว้ให้จบเพียงแค่ฉากที่อยู่ในอ้อมกอดก็แค่นั้น แต่เพราะแม็กกี้ได้เห็นการแสดงของกลุ่มก่อนหน้า มันเลยทำให้เขาอดที่จะน้อยใจและทำการแสดงออกมาในแบบนี้เพื่อประชดประชันไม้ไม่ได้

   ไม้มองดูการแสดงตรงหน้าด้วยความรู้สึกสับสน น่าแปลกที่เขาไม่ได้หึงหวงแต่อย่างใด ทั้ง ๆ ที่เขาควรจะรู้สึกแบบนั้น...หรือเพราะว่าพิ้งค์เป็นผู้หญิง ไม้เลยไม่รู้สึกอะไร

   หลังจากที่การแสดงของกลุ่มนี้เสร็จสิ้น ก็ถึงคราวประกาศผลรางวัล ซึ่งลำดับที่ 1 ได้แก่กลุ่มที่แสดงเรื่องซิลเดอเรลล่ากับรองเท้าคีบ เพราะบทที่ถูกดัดแปลงจนเรียกเสียงหัวเราะได้หลายฉากนั้นทำให้ทุกคนต่างอดเทใจให้คะแนนเรื่องนี้เต็มร้อยไม่ได้ ไหนจะเสื้อผ้าที่จัดเต็ม และพระเอกนางเอกที่หน้าตาหล่อสวยเลยทำให้กรรมการส่วนใหญ่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าเรื่องนี้ควรได้รับรางวัลชนะเลิศ

   “ค่ะ... คราวนี้ก็มาถึงรางวัลสำหรับกลุ่มที่ชนะนะคะ พรุ่งนี้เช้าเวลา 7 โมงครึ่ง ให้ไปรวมตัวกันที่ลานกว้างหน้าหอพัก น้อง ๆ และรุ่นพี่ในกลุ่มทุกคน จะได้ไปรับประทานอาหารบุฟเฟต์ของโรงแรมห้าดาวในตัวเมืองค่า...” สิ้นเสียงของหนิง เสียงร้องดีใจของกลุ่มที่ได้รับรางวัลก็เฮลั่น ผิดกับกลุ่มที่แพ้ที่อดเสียดายกับอาหารเช้าที่สุดแสนจะวิเศษไม่ได้




   
   อีกด้านหนึ่ง... หลังจากที่มิวส์ปลีกตัวออกมาจากเจ้านายและเหล่านักศึกษา ระยะทางที่ไกลออกไปเรื่อย ๆ นั้นทำให้ความสว่างของหนทางเริ่มน้อยลง สายตาของวิญญาณที่คุ้นชินในที่มืดอยู่แล้วเลยทำให้เป็นอุปสรรคสำหรับมิวส์ ผิดกับอีกคนที่พยายามสะกดรอยตามมา กว่าเขาจะปรับสภาพสายตาให้ชินได้ ก็เห็นเพียงร่างมิวส์ที่อยู่ไกลลิบ ๆ ออกไป

   มิวส์เดินบุกป่าฝ่าดงไปหยุดอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งซึ่งมีกิ่งก้านสาขาแผ่ออกมามากมาย ต้นของมันสูงไม่เกิน 3 เมตรแต่ความกว้างของกิ่งก้านและความแน่นหนาของใบไม้นี่สิ ดูสวยงามและให้ความร่มรื่นได้เป็นอย่างดียิ่งนัก

   ลมที่พัดมาหวิว ๆ ไม่ได้ทำให้มิวส์รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด มิวส์ทิ้งตัวเอนนอนลงกับต้นไม้ใหญ่พลางนึกถึงอดีตที่ผ่านมา

   กี่ปีแล้วนะ... ที่เขาไม่มีโอกาสได้ออกมาเที่ยวป่าเที่ยวเขาแบบนี้ มิวส์ยังจำได้ดีเมื่อตอนที่ยังเป็นนักศึกษา ก้องจะชอบออกไปเที่ยวป่าเที่ยวเขาและรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ ของเขาจัดกิจกรรมมาทำให้เด็ก ๆ บนดอยมีความสุขเสมอ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสนามเด็กเล่น การสอนพิเศษภาษาอังกฤษ หรือแม้แต่การเชิญวิทยากรมาให้ความรู้กับชาวบ้านในเรื่องการทำเกษตร

   ทุกครั้งที่จัดกิจกรรม มิวส์จะรู้สึกเบื่อหน่ายและไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไปทำอะไรแบบนั้นด้วย แต่ตอนนี้มิวส์เข้าใจแล้วว่า... ว่ากิจกรรมต่าง ๆ ที่ก้องและเหล่าเพื่อน ๆ เคยจัดนั้นมันส่งผลดีในระยะยาวต่อชาวดอยเพียงใด

   นอกจากชาวดอยจะมีความรู้เพิ่มมากขึ้น เศรษฐกิจการเงินของพวกเขาก็ยังไม่ฝืดเคืองเหมือนเมื่อก่อนอีกด้วย สังเกตได้จากหมู่บ้านต่าง ๆ ตลอดทางที่นั่งรถมา สองข้างทางล้วนเจริญขึ้นผิดหูผิดตาผิดกับอดีต

   “มาหลบอยู่ที่นี่เอง" แล้วเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นก็ทำให้มิวส์หลุดจากภวังค์ความคิด

   “ก้อง!?” มิวส์หันไปมองพร้อมกับเอ่ยเรียกชื่อของร่างนั้นด้วยความตกใจ "ตามมาทำไม"

   “ก้องเป็นห่วงมิวส์" น้ำเสียงของก้องไร้ซึ่งความจริต เพราะเขารู้สึกอย่างที่พูดจริง ๆ "ใกล้เที่ยงคืนแล้วกลับกันเถอะ มันอันตราย"

   “ไม่! มิวส์ไม่กลับ" มิวส์เถียงออกไป เพราะคนที่ต้องมาง้อให้กลับต้องเป็นไม้เท่านั้นไม่ใช่ก้อง

   “ยังดื้อเหมือนเดิมเลยนะครับ" ก้องเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นท่าทีหัวรั้นของมิวส์ ก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ กับร่างของวิญญาณตนนั้น

   หัวไหล่และแขนฝั่งขวาที่แนบชิดทำให้มิวส์ต้องแกล้งเขยิบออกมาเล็กน้อยเพราะเขาไม่อยากสัมผัสร่างกายกับผู้ชายคนนี้

   “ก้องกลับไปเถอะ... อย่ามายุ่งกับมิวส์อีกเลย" ทำไมนะ... พอได้อยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายคนนี้ ความโกรธที่สั่งสมมานานมันถึงสลายและกลายเป็นความอ่อนแอที่เข้ามาครอบคลุมจิตใจ ยิ่งหมอนี่ทำดีมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกเสียใจกับเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นมากขึ้นเท่านั้น

   “ก้องรู้ว่าก้องผิด... แต่ก้อง...” ก้องพยายามอธิบาย แต่ทว่า

   “ก้องไม่ต้องอธิบายอะไรทั้งนั้น" มิวส์ขัดเอาเสียดื้อ ๆ "ถ้ายังจะนั่งอยู่ตรงนี้ก็อย่าคุยถึงเรื่องที่ผ่านมาเลย เพราะถ้ามิวส์โกรธ มิวส์ควบคุมสติไม่ได้ ก้องอาจจะเป็นอันตรายก็ได้นะ"

   “ก็เอาดิ... ถ้ามิวส์ทำร้ายก้องได้ลงคอ ก้องก็พร้อมที่จะให้มิวส์ทำ ไม่ต่อสู้ ไม่ขัดขืน อะไรทั้งนั้นนั่น" ก้องเอ่ยขึ้น "ก้องถามอะไรมิวส์อย่างได้ไหมครับ"

   “อะไร" มิวส์เอ่ยกลับด้วยความฉับไว

   “มิวส์คิดยังไงกับไม้"

   คำถามของก้องทำให้มิวส์กระอักอระอ่วนในจิตใจทันที... จริงอยู่ว่าไม้เป็นมนุษย์ที่แสนดีและน่ารักแถมยังให้ความช่วยเหลือเขาในทุก ๆ เรื่อง แต่มิวส์ก็ยังไม่รู้จริง ๆ ว่าความรู้สึกที่แท้จริงกับไม้มันคืออะไรกันแน่ จะว่ารักก็คงไม่ผิด แต่มันไม่ใช่รักแบบชู้หนุ่มชู้สาว ทว่ามิวส์ก็รู้สึกหึงหวงทุกครั้งที่ไม้ต้องใกล้ชิดกับมนุษย์ผู้ชายคนอื่น

   “ก้องถามทำไม" มิวส์ย้อนถาม

   “ก้องอยากรู้... เพราะถ้ารู้คำตอบที่แท้จริงจากปากของมิวส์ มันอาจจะทำให้ก้องพูดความอะไรบางอย่างออกไปเพื่อให้มิวส์เข้าใจก็ได้" ก้องตอบ...

   “ความจริงอะไร" มิวส์ย้อนถามอีกครั้งด้วยความสงสัย "ก้องมีอะไรปกปิดมิวส์งั้นเหรอ"

   “มิวส์ตอบมาก่อนสิครับ" ก้องย้อนคืน เพราะถ้ามิวส์ตอบว่า 'รัก' ผู้ชายคนนั้น ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่ก้องจะต้องอธิบายเรื่องราวในอดีตให้มิวส์ฟังอีกแล้ว เพราะเขาคงไม่ทำให้มิวส์เกิดความรู้สึกสับสนแน่นอน

   “มิวส์ก็ไม่รู้เหมือนกัน...” มิวส์ตอบด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว เขาก้มหน้าลงซุกเข่าด้วยความรู้สึกที่สับสน "มิวส์รู้สึกดีกับไม้มาก ๆ จะเรียกว่ารักก็คงไม่ผิด แต่มันไม่ใช่... แบบเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับก้อง"

   “มิวส์ว่าไงนะ" ได้ยินคำตอบของมิวส์ ก้องก็ยิ้มออกมา

   “มิวส์รู้สึกดีกับไม้ แต่มันไม่เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับก้อง"

   สิ้นเสียงของมิวส์ ก้องก็ถือวิสาสะโผเข้ากอดมิวส์ทันที ตลอดเวลาตั้งแต่เกิดเรื่องก้องไม่เคยนอกใจมิวส์เลยสักครั้ง ก้องยังรักและรู้สึกดีกับมิวส์เสมอ แม้แต่สาวิตรีกับลูก ความรักที่เขามีให้ก็ไม่มีวันเทียบเท่ากับความรักที่เขามอบให้มิวส์ได้อย่างแน่นอน

   “ก้อง... ก้อง... ปล่อยมิวส์" มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นระริก เขากำลังสับสนในความรู้สึก ทั้งอยากรักอยากโอบกอดผู้ชายคนนี้กลับ แต่เพราะเหตุการณ์ในอดีตที่หนักหนาสาหัส มิวส์เลยพยายามข่มใจไม่ให้ตนเองกลับไปเป็นทาสของความรักกับผู้ชายคนนี้อีกครั้งเป็นอันเด็ดขาด

   “ก้องมีลูก ก้องมีเมียแล้วนะ" เมื่อก้องไม่ยอมปล่อย มิวส์ก็ต้องเอ่ยออกมาตรง ๆ "จะมาทำให้มิวส์หวั่นไหวอีกทำไม แค่นี้ยังไม่สะใจก้องอีกเหรอ"

   “ไม่นะมิวส์ ก้องไม่ได้รักสาวิตรี ก้องรักมิวส์ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดน่ะก้องไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นอย่างนั้น แต่เพราะสาวิตรีท้องกับ...” ยังไม่ทันที่ก้องจะพูดจบร่างที่จู่ ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาตรงหน้าก็ทำให้มิวส์สะดุ้งและออกแรงดันสุดเฮือกทำให้มิวส์หลุดจากอ้อมกอดของก้องและวิ่งไปหลบอยู่ที่หลังต้นไม้ทันที

   แม้ว่าอ้อมกอดที่อบอุ่นจะทำให้วิญญาณไม่สามารถทำร้ายมิวส์ได้ แต่เพราะมิวส์ลืมตัวและคิดว่าต้องเป็นไม้คนเดียวเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเขาได้ เลยทำให้มิวส์ตกใจกับสิ่งที่เห็นจนต้องเผลอวิ่งหลบไปทันที

   “เป็นอะไรมิวส์" ก้องเอ่ยถาม พอเห็นสีหน้าที่หวาดผวาของมิวส์เขาก็พลิกข้อมือขึ้นมาดูเวลา เมื่อเห็นว่าเลยเที่ยงคืนแล้ว ก้องก็เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นกับมิวส์ได้ทันที

   “หรือว่า...”

   “จ๊าก...” ยังไม่ทันที่จะได้รับคำตอบ มิวส์ก็ส่งเสียงร้องด้วยความตกใจก่อนจะวิ่งหนีไปยังทางที่มีป่าไม้สูงใหญ่ทึบทึมทันที

   ก้องพยายามจะวิ่งตาม แต่วิญญาณที่ไร้ซึ่งน้ำหนักของกายเนื้ออย่างมิวส์กลับวิ่งไวกว่าปกติ ทำให้ในที่สุดก้องไม่สามารถตามมิวส์ได้ทัน

   “มิวส์! มิวส์!!" ถึงกระนั้นก้องก็ไม่ยอมที่จะปล่อยให้วิญญาณรักต้องตกอยู่ในอันตรายเพียงลำพัง แม้ทางข้างหน้าจะมืดมิดและน่าหวาดกลัวเพียงใด แต่เขาก็จะต้องช่วยมิวส์ออกมาให้ได้




จบตอน >.<
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอนที่26 หน้า10]- 16/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 22-09-2013 01:00:15
คุยกับคนอ่านครับผม ^^

คุณ Lily teddy :: ได้รับกำลังใจเปี่ยมล้นเลยครับ ^^ อิอิ ก้องมองเห็นมิวส์จะมีผลอย่างไร ติดตามได้เลยครับ ถึงช่วงเข้าป่าแล้ว ^^ วุ่นวายแน่ๆครับ  :hao7:
คุณ kasarus :: 555 นั่นสิไม้มีดีอะไรหนอ >.< สงสัยจะชอบความซาดิสม์และป่าเถื่อนของไม้กัน
คุณ NJnobu :: วิ่งออกไปเจอก้องตามไปครับ แต่หลังจากนี้จะเจออะไรบ้าง รอติดตามนะครับ อิอิ
คุณ maemix :: ใช้แล้ว ไม้ปากอย่างใจอย่าง ฮ่าๆ อ.ก้องมาร่วมให้คะแนนตัดสิน เป็นอาจารย์รับเชิญครับ 555
คุณ mentholss :: *0* ได้เจอดีเลยครับ ขิงก็ราข่าก็แรงแบบนี้
คุณ mukmaoY :: เนอะบางทีคนพูดมันก็รักศักดิ์ศรีของตัวเอง ไม่นึกถึงความรู้สึกคนอื่นเกินไป เลว!! (โดนมาเยอะ เอ๊ยย!!! ไม่ใช่แล้ว ฮ่าๆๆๆ)
คุณ ice_spok ::  ตั้งใจทำงานนะ ไอ้ม๋าน้อย
คุณ loveaaa_somsak :: 555 ถีบไม้เลย เดี๋ยวพระเอกก็ต้องตามง้อน่า มั้ง.. เอ๊ะ หรือให้ก้องตามดีน๊อ >.< คิคิ
คุณ pannixz :: T^T แล้วจะให้ไม้อยู่ไหนคร้าบบ ฮือๆๆ
คุณ Yukio4869 :: ขอบคุณครับ น่ารักจังเลย ตามอ่านจนทันด้วย ^^ ดีใจ มีกำลังใจเพิ่มอีกแล้ว ขอบคุณอีกครั้งนะคร้าบ... ชอบเรื่องนี้ ติดตามนิยายอีกเรื่องของผมได้นะ โฆษณาแฝงซะเลย ฮ่าๆ เรื่อง ดินต่างฟ้า ครับ ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 22-09-2013 01:18:45
มัวแต่หลงไปอ่านในเด็กดี ไม่รู้เอามาลงที่นี่ด้วยยยยย  ฉันไปอยู่ที่ไหนมาาาาา :katai1: :katai1: :katai1:
Me///สะบัดบ๊อบกลับมาอ่านที่นี่ดีกว่า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 22-09-2013 02:35:46
แง ค้างมาก ๆ มิวส์วิ่งหนีอะไรไม่รู้เข้าป่าไปแล้ว ก้องจะตามทันได้ไงล่ะเนี่ย
แล้วถ้าอ้อมกอดของก้องก็ช่วยมิวส์ได้ งั้นก็ไม่ต้องให้ไม้เข้ามายุ่งหรอกค่ะ
ปล่อยให้ไม้นั่งสับสนอยู่อย่างนั้นแหละ ชิชิ  o12 เพราะถ้าไม้ตามมาไม้ก็เป็นฮีโร่อีกแหง่
คราวนี้เผื่อฟลุคก้องช่วยมิวส์สำเร็จก็อาจมีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกะมิวส์ได้มั่ง
เพราะก้องกำลังจะบอกความลับสำคัญบางอย่างแล้ว ถึงจะคิดว่ามันจะช่วยอะไรได้
ในเมื่อมิวส์เป็นแบบนี้ไปแล้วก็เถอะ แต่ก็อยากให้มิวส์ได้รู้ความจริงนั้นซะที
แล้วตกลงความรู้สึกของมิวส์ที่มีต่อก้องและไม้ถึงจะบอกว่าไม่เหมือนกัน แต่ของคนไหนเรียกว่ารักมากกว่ากันล่ะ
ในเมื่อมิวส์ก็รู้สึกหวงแล้วก็หึงไม้ด้วยอะ เหมือนตอนนี้ไม้รู้สึกยังไงกะแม็กกี้กันแน่ มันก็อาจจะจริงว่าเพราะพิ้งค์เป็นผู้หญิง
แต่พอบอกว่าไม้ไม่รู้สึกหึงหวงแม็กกี้เลยนี่มันเศร้าจัง แล้วถ้าไม้เห็นมิวส์กอดกะก้อง ไม้จะรู้สึกอะไรมั่งไหม อยากรู้
รอติดตาม และเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4:   :3123:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 22-09-2013 07:57:04
ไอ้ผีหน่อมแน้ม แกจะนั่งฟังก้องนิ่ง ๆ บ้างไม่ได้รึไงฟ่ะ เมื่อไหร่จะได้รู้ความจริงสักทีเนี่ยโอ้ยยหงุดหงิด
อยากรู้ว่าไอ้ที่เราเคยด่าก้องไปเนี่ยจะเงิบแค่ไหน 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 22-09-2013 09:22:03
นั่นปะไร งานเข้าจนได้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 22-09-2013 09:40:54
ดีแล้วที่มิวส์ไม่คิดกับไม้ในเชิงคู่รัก อยากให้มิวส์พ้นจากเคราะห์กรรมครั้นี้สักที หวังว่าทั้ไม้และก้องจะช่วยได้
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 22-09-2013 09:59:26
สาวิตรีท้องกับคนอื่่น แต่ก้องต้องมารับเป็นพ่อแทนงั้นเหรอ งั้นก้องก็ไม่ผิดสิ

ถ้าเป็นแบบนี้จริงก็จะขอเชียร์ก้องละนะ เพราะก้องยังรักและห่วงใยมิวส์อยู่เสมอ

ไม่เหมือนไอไม้ ไม่เห็นจะห่วงใยมิวส์ตรงไหนเลย ชอบทำร้ายทั้งร่างกาย(ที่ไม่มีอยุ่แล้ว)และจิตใจมิวส์อีกตะหาก
หัวข้อ: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 22-09-2013 10:02:04
; แหม่... ชักจะหมั่นใส้มิวส์แล้วละ  :m16: ฟังเหตุผลบ้างเส้... ไอ้วิญญาณหน่อมแน้ม  :m31:

กำลังจะรู้เหตุผลแล้วเชียว... คนเขียนนี่ก็ทำให้ลุ้นตลอดเลย :a5: :a5:

+  :กอด1:  o13 ...คนเขียน...

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 23-09-2013 10:48:47
ก้องยังไม่จบเลย ค้างงงงงงงงง
มิวส์วิ่งเตลิดหนีเข้าป่าไปแล้ว  จะเกิดอะไรขึ้นกับมิวส์
แค่นี้ยังยุ่งไม่พอมั้ง นายไม้ต้องออกโรงเองแล้ว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 24-09-2013 11:29:32
เอฟซีไม้มิวส์!! :fire:



ก้องน่ารักจัง :กอด1:



นั่น แล้วมิวส์จะวิ่งหนีหาอะไรวะ  :m31: :angry2: :serius2: :katai4: :ling3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 24-09-2013 15:46:11
มิวส์เจออะไร!!!!! :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 26-09-2013 12:32:52
เฮ้ย !!! มิวส์วิ่งไปแบบนั้นไม่ดีนะลูก
ถ้ามิวส์เป็นอะไรไปฉันจะไปฆ่า ผู้เขียนค่อยดู ฮึมๆ (http://www.thaiboyslove.com/webboard/Smileys/Smilies/kapook-16517-5311.gif)

ส่วนก้อง ทำไมถึงไปรับผิดแทนคนอื่น มันหน้านัก แต่ถ้าก้องไม่แต่งกับสาวิตรี
มิวส์ก็ไม่ตาย ไม้ก็ไม่ได้เจอไอ้ผีหื่นนะสิ เอ๊ะยังไง เมนต์เองงงเอง (ช่างเเถอะ )
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 27-09-2013 13:46:26
ตอนแรกเชียร์ไม้กะมิวส์นะ แบบว่าไม่ชอบก้อง
แต่พอได้รู้จักก้องจริงๆก็ถ้ามิวส์คู่ก้องก็ไม่เกี่ยงหรอกนะ 555 (ซะงั้น..เขามีลูกเมียแล้ว)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 27-09-2013 16:57:47
เป็นผีที่กลัวผี โถ่มิวเอ๊ยยยย
จัดผีพี่สาวซักตนมาสอนความเป็นผีให้มิวหน่อยสิค่ะ
เผื่อมิวมันจะน่ากลัวขึ้นมาบ้าง   :hao7:

มาต่อไวนะคะ  :z13:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 27-09-2013 18:32:34
ตอน 28





          กลับมาที่ลานแสดง... หลังจากที่การแสดงเสร็จสิ้น อาจารย์แต่ละท่านก็ให้คำติชมกับการแสดงของแต่ละกลุ่มชั่วครู่ หลังจากนั้น รุ่นพี่ปีสองก็ปล่อยให้น้อง ๆ แยกย้ายกันไปนอนรวมทั้งไม้กับแม็กกี้ก็ด้วย

   ไม้กับแม็กกี้เดินกลับไปที่ห้องพัก ตลอดทางพวกเขาต่างคุยถึงเรื่องการแสดงที่สนุกสนาน แต่ไม่มีฝ่ายใดเอ่ยถึงเรื่องที่อีกฝ่ายต่างก็แสดงเลยบทบาทหน้าที่ของตัวเองด้วยกลัวว่าจะผิดใจกัน จนกระทั่งไปถึงห้อง

   “ไม้... มึงรู้สึกยังไง" แม็กกี้เลือกที่จะลองเชิงโดยการถามอ้อม ๆ เพราะไม่กล้าที่จะเปิดประเด็นตรง ๆ เพราะกลัวว่าไม้จะรำคาญ

   “กูไม่ได้รู้สึกอะไร ที่กูทำไปก็เพราะมันเป็นการแสดง" ไม้ตอบออกมาตรง ๆ อย่างรู้ความหมายของคำถาม ซึ่งแม็กกี้ก็พยักหน้ายอมรับในคำตอบแต่โดยดีและไม่ได้คิดจะว่าหรือถามอะไรต่อ แต่ทว่า... “มึงอย่าหึงไม่เข้าเรื่องได้ไหม"

   ไม่ว่าเปล่า ไม้ยังมองตาขวางด้วยความหงุดหงิด... ใช่! หากเป็นปกติไม้คงไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำถามแค่นี้ของแม็กกี้ แต่เพราะตอนนี้เขากำลังหงุดหงิดที่ไม่เห็นร่างของไอ้วิญญาณจอมเจ้าเล่ห์อย่างมิวส์ในห้องพัก มันเลยทำให้เขาไม่สบอารมณ์ที่จะตอบคำถามที่เหมือนกับจับผิดอะไรทั้งนั้น แม้ว่านัั่นจะเป็นคำถามของคนที่เขาเรียกว่า 'แฟน' ก็ตาม

   “กูก็แค่ถาม...” แม็กกี้มีสีหน้าเคร่งเครียด เขาไม่เข้าใจเลยว่าหากเขาจะหึงแล้วมันจะผิดมากนักหรืออย่างไร ทำไมไม้ต้องแสดงอาการไม่พอใจมากขนาดนี้ด้วย

   “ถาม! ถามเรื่องไม่เป็นเรื่องเนี่ยนะ แทนที่มึงจะถามว่ากูเหนื่อยไหม ถามว่ากูสนุกหรือเปล่า แต่มึงกลับมาถามว่ากูรู้สึกยังไง แล้วมึงจะให้กูคิดยังไงล่ะ คนยิ่งเหนื่อย ๆ อยู่"

   สิ้นเสียงของไม้ สีหน้าที่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออกของแม็กกี้ก็เรียกสติให้อารมณ์ของไม้กลับมาเป็นปกติ

   “กูขอโทษ" ไม้เอ่ยขึ้น

   “ไม่เป็นไร" แม็กกี้เอ่ย แม้ใบหน้าจะพยายามปั้นรอยยิ้ม ทว่าแววตามันฟ้องชัดเจนว่าเขาไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูดเลยสักนิด "กูผิดเองแหละที่ถามเรื่องไม่เป็นเรื่อง"

   พูดจบก็หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำทันที

   “เดี๋ยว...” ไม้พยายามร้องเรียก แต่ไม่ทันเสียแล้ว แม็กกี้ปิดประตูล็อกกลอนเรียบร้อย "กูขอโทษ ไอ้แม็กกี้กูขอโทษ"

   “เออ... กูไม่ได้เป็นไรช่างมันเถอะ" แม็กกี้เอ่ยขึ้น ภายใต้น้ำเสียงที่ราบเรียบไม้คงไม่รู้หรอกว่าแม็กกี้ต้องฝืนพูดสักแค่ไหน จริงอยู่ว่าปากจะบอกไม่เป็นไร แต่การกระทำของไม้ที่หงุดหงิดใส่เขามันไม่ได้ทำให้แม็กกี้สามารถรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ไหวหรอกนะ

   สายน้ำที่หลั่งไหลลงมาจากฝักบัวกระทบกับหยดน้ำจากหางตาที่หลั่งออกมาไม่ขาดสาย สิ่งที่แม็กกี้เฝ้ากลัวมาตลอดกำลังจะเกิดขึ้นแล้วจริง ๆ ใช่ไหม พักหลังมานี้ไม้ดูมีลับลมคมในมากขึ้น มิหนำซ้ำยังชอบหงุดหงิดใส่เขาอีก

   แม็กกี้ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าการที่ถามคำถามว่า 'รู้สึกยังไง' กับการแสดงเพียงเท่านี้มันผิดนักหรือ เขากับไม้ไม่ใช่แฟนกันหรืออย่างไร และที่สำคัญน้ำเสียงที่เขาเอ่ยถามก็ไม่ได้กระโชกโฮกฮากหรือแสดงความไม่พอใจจนไร้เหตุผล

   'กูควรจะเดินต่อไปหรือควรจะยื้อมึงเอาไว้กันนะ' แม็กกี้บ่นกับตัวเองในใจ เขารู้สึกสับสนในสิ่งที่เกิดขึ้นเหลือเกิน สมองของเขามันสั่งให้เดินไปจากไม้ให้ไกลซะ เพราะถึงอย่างไรวันหนึ่งความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไม้ก็ต้องมีจุดจบที่ไม่สวยหรูแน่นอน คำพูดเมื่อตอนตัดสินใจคบกันของไม้มันยังดังก้องอยู่ในหัวของแม็กกี้เสมอ

   ทว่า... หัวใจของแม็กกี้กลับไม่ได้ต้องการเช่นนั้น มันสั่งให้เขาต้องยื้อเอาไว้ ต้องรั้งผู้ชายคนนี้เอาไว้ เพราะถึงอย่างไรเขาก็รักไม้เพียงคนเดียวเท่านั้น

   หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ แม็กกี้ก็หยิบผ้าขนหนูมาลูบไล้เส้นผมที่เปียกปอนรวมทั้งร่างกายก่อนที่จะใส่บ็อกเซอร์แล้วเดินออกจากห้องน้ำ

   หลังจากที่ประตูเปิดออก ไม้ที่ดักรออยู่หน้าห้องน้ำก็โผเข้ามากอดทันที ไม้กอดร่างที่เล็กกว่าตัวเองไม่มากนักไว้อย่างแนบแน่น ก่อนจะเลื่อนปลายคางลงไปซบที่หัวไหล่โดยที่แม็กกี้ไม่ได้ขัดขืนอะไร

   “กูขอโทษ มึงอย่าโกรธกูนะ" ไม้พยายามง้อเพราะรู้สึกตัวแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ตนเองผิดเต็มเปา

   “กูบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร" แม็กกี้เอ่ย เขาต้องแสร้งทำเป็นนายเอกที่แสนดีเพราะไม่อยากมีปัญหาทั้ง ๆ ที่ในใจกำลังก่นด่าว่าเมื่อครู่จะพูดอะไรออกมาทำไมไม่รู้จักคิด

   “ง่วงยัง" ไม้ถาม แม็กกี้พยักหน้าตอบ

   “เหนื่อยไหม" ไม้ถามอีกครั้งแต่คราวนี้แม็กกี้ส่ายหน้าเป็นคำตอบ

   “ถ้าอย่างนั้นมึงนอนไปเลยนะ เดี๋ยวกูนวดให้" พูดจบก็ดันร่างของแม็กกี้ไปที่เตียงนอน และหวังจะนวดตัวให้เป็นการไถ่โทษ ทว่ายังไม่ทันที่ไม้จะได้ลงมือ เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นรุนแรงหลายครั้งก็ทำให้ทั้งไม้ชะงักจนต้องรีบเดินออกไปเปิดประตู

   “อ้าว อาจารย์ มีอะไรครับ" ผู้ที่เคาะประตูคืออาจารย์ก้องภพ สีหน้าของเขาในยามนี้แสดงออกถึงความวิตกกังวลชัดเจน เหงื่อก็โซมกายราวกับเพิ่งวิ่งแข่งโอลิมปิกมาอย่างไรอย่างนั้น

   “ไม้... คุณต้องไปช่วยมิวส์นะ" ก้องภพเอ่ยขึ้น พอได้ยินอาจารย์เอ่ยถึงไอ้ผีหน่อมแน้มคิ้วของไม้ก็ขมวดมุ่นขึ้นมาทันใดพลางสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น "เมื่อกี้นี้จู่ ๆ มิวส์ก็ร้อง สงสัยจะเจอผีอาละวาด แล้วก็วิ่งหนีหายไปในป่า ผมพยายามตามหาแล้วแต่หาไม่พบ"

   “ไอ้มิวส์!” ไม้ไม่รอช้า หลังจากที่ได้ยินคำพูดของอาจารย์ก้องภพเขาก็รีบวิ่งออกจากห้องไปทันที โดยไม่สนใจคนในห้องสักนิด ไม่แม้แต่จะหันมาบอกว่าไปไหน

   แม็กกี้ที่สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นก็รีบไปหยิบเสื้อกล้ามมาใส่แล้ววิ่งตามออกไปทันที




   ทางด้านของมิวส์...

   ป่าไม้ที่สูงใหญ่ภายใต้ท้องฟ้าที่มืดสนิททำให้มิวส์ไม่รู้เลยว่าในตอนนี้ตนเองวิ่งเป็นระยะทางไกลแค่ไหนแล้ว เพราะในระหว่างที่กำลังนั่งคุยอยู่กับก้องนั้น วิญญาณร้าย... ไม่สิ... มันไม่ใช่วิญญาณ ร่างที่สูงใหญ่ แขนขาที่ยืดยาวราวกับต้นตาลทำให้มิวส์รู้ว่าร่างที่ปรากฏนั่นคือผีเปรต แถมลอบข้างยังมีสารพัดวิญญาณและผีที่หน้าตาน่ากลัวจนทำให้มิวส์ไม่สามารถนั่งอยู่เฉย ๆ ได้ไหว และเพราะเสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของมิวส์ เลยทำให้พวกวิญญาณและผีร้ายรู้ว่าในละแวกนี้มีผีหรือวิญญาณตนอื่นที่ไม่ใช่พวกของมันกำลังเร่ร่อนอยู่ พวกมันจึงออกตามล่าเจ้าวิญญาณตนนั้นทันที

   มิวส์วิ่งต่อไปเรื่อย ๆ โดยที่พยายามหันไปมองด้านหลังอยู่เป็นระยะ เปรตตัวสูงใหญ่ก็จริงหากแต่ข้อเสียของมันคือเคลื่อนที่เชื่องช้ามาก ส่วนวิญญาณและผีตนอื่น ๆ พวกมันต่างก็พยายามวิ่งตามมาห่าง ๆ

   “ฮือ...” น้ำตาของมิวส์เริ่มไหลออกมา... มันเป็นน้ำตาแห่งความกลัว เพราะดูเหมือนว่าในครั้งนี้สถานการณ์ของมิวส์จะย่ำแย่กว่าครั้งที่ผ่านมาเสียอีก นอกจากสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย รอบข้างก็มีแต่ป่าเขาลำเนาไพรแล้ว พวกวิญญาณและผีร้ายต่างก็มีมากมายหลายตนเกินกว่าจะรับมือ และที่สำคัญ... การวิ่งหนีผีพวกนั้นในผืนป่าที่กว้างใหญ่แบบนี้เจ้านายของเขาไม่มีวันมาช่วยเขาได้แน่ แต่ถึงกระนั้นมิวส์ก็ยังไม่ยอมแพ้

   “เจ้านาย!! เจ้านาย!! ช่วยผมด้วย!!!” มิวส์ตะโดนตลอดทางด้วยหวังว่าไม้จะได้ยินและตามมาช่วยเขาได้สำเร็จ แม้ว่าความหวังมันจะริบหรี่ก็ตามแต่มิวส์ก็ยังเชื่ออย่างนั้น

   มิวส์ได้แต่นึกโทษตัวเองที่น้อยใจเจ้านายไม่เข้าเรื่องแล้ววิ่งหนีออกมาแบบนี้ ถึงจะนึกได้ตอนนี้มันก็สายไปเสียแล้วล่ะ

   “ฮือ... ทางนู้นก็ผีเปรต ทางนั้นก็ผีหัวขาด นู่นก็วิญญาณไร้ขา ส่วนทางนั้นก็วิญญาณนักกล้าม...” มิวส์วิ่งไปบ่นไปเพราะตั้งแต่สิ้นลมหายใจมาเขาไม่เคยคิดเลยว่าตนเองจะต้องมาวิ่งหนีผีแบบนี้

   ในระหว่างที่มิวส์กำลังวิ่งอยู่นั้น ก่อนที่จะวิ่งผ่านต้นยางใหญ่ต้นหนึ่ง ก็มีมือปริศนาของอะไรบางอย่างที่ดักรออยู่ก่อนแล้วเอื้อมไปคว้าร่างของมิวส์ก่อนที่มิวส์จะวิ่งผ่านต้นยางใหญ่ต้นนั้นไป ร่างปริศนาล็อกคอมิวส์เอาไว้แน่นก่อนที่จะถอยหลังทะลุเข้ากับลำต้นของต้นยางใหญ่ต้นนั้น

   มิวส์แทบจะฉี่ราดออกมาเพราะนึกว่าโดนผีร้ายจับตัวได้ ทว่าเสียงที่กระซิบขึ้นของร่างนั้นก็ทำให้มิวส์รู้ว่าเขาไม่ได้ทำร้ายแต่เขามาช่วยต่างหาก
   “ชู่ววว!!! เงียบ ๆ สิครับ เดี๋ยวก็โดนพวกมันหาเจอหรอก" ร่างนั้นกระซิบเบา ๆ เขายังคงล็อกคอของมิวส์เอาไว้อย่างแนบแน่นจากทางด้านหลัง
   “คะ...ครับ" มิวส์ที่ไม่รู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้เป็นใครก็ได้แต่พยักหน้าตอบตกลงแล้วเงียบเสียงลงทันที

   มิวส์กวาดสายตามองรอบด้านในยามนี้ก็เห็นภาพของผืนป่าด้านนอกตามปกติ แต่ที่ไม่ปกติเพราะภาพที่ควรจะชัดเจนกลับลางเลือนราวกับมีอะไรบางอย่างใส ๆ มาบดบังร่างของเขาเอาไว้ทำให้เขาไม่สามารถมองทะลุออกไปข้างนอกได้อย่างชัดเจน

   พวกวิญญาณร้ายที่ต่างวิ่งไล่มิวส์ในทีแรกได้วิ่งเลยผ่านไปโดยพวกมันไม่สงสัยสักนิดว่ามิวส์ได้ซ่อนตัวอยู่ภายในลำต้นของต้นยางใหญ่

   หลังจากที่พวกมันวิ่งไปจนกระทั่งลับสายตา บุรุษปริศนาที่มาช่วยมิวส์เอาไว้ก็ค่อย ๆ คลายวงแขนออกจากคอของมิวส์

   “ปล่อยภัยแล้วล่ะ" เสียงที่เอ่ยขึ้นมันทุ่มต่ำชวนฟังยิ่งนัก

   “ครับ" มิวส์ขานรับเบา ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ หันหน้าไปมองด้วยอยากรู้ว่าผู้ที่มาช่วยมีหน้าตาอย่างไร และทันทีที่หันไป ใบหน้าของชายหนุ่มผู้นั้นก็ทำให้มิวส์ถึงกับตกตะลึงอ้าปากค้าง...

   เขาเป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลา มีหนวดเคราสั้น ๆ ขึ้นเป็นกระจุกพอให้รับรู้สึกถึงความเท่ หากพิจารณาจากใบหน้าเขาน่าจะมีอายุประมาณ 35 ปี โดยประมาณทว่าใบหน้าที่ดูมีอายุมากกว่ามิวส์นั้นกลับไร้ซึ่งรอยเหี่ยวย่น มันทำให้วิญญาณที่ไม่เคยปราถนาในเรือนร่างของผู้หญิงอย่างมิวส์แทบจะเข่าอ่อนทันทีให้กับความหล่อเข้มแบบผู้ใหญ่กับชายหนุ่มตรงหน้าเลยล่ะ

   “เป็นอะไร" เมื่อเห็นมิวส์อ้าปากค้างพร้อมกับทำท่าเหมือนจะยืนต่อไปไม่ไหว ชายผู้นั้นก็เอ่ยถามขึ้น

   “ป่ะ... เปล่าครับ" มิวส์ตอบออกมา พอตั้งสติได้เขาก็โค้งคำนับขอบคุณชายหนุ่มผู้นั้นหลายครั้งก่อนจะถามว่า "คุณคือ...”

   “ผม... หมอผีอารัญย์ ขลังศาสตร์ เป็นวิญญาณจิตอาสาที่อาสาดูแลวิญญาณและคนบริสุทธิ์บนผืนป่าแห่งนี้ครับ" ชายหนุ่มผู้นั้นตอบออกมา มิวส์ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ เพราะตอนแนะนำตัวก็บอกว่าเป็นหมอผี แต่ร่างของเขาก็เป็นวิญญาณเหมือนกับมิวส์

   “ตกลงคุณเป็นหมอผีหรือวิญญาณครับ" มิวส์เอ่ยถามตรง ๆ

   “คุณ!!!” อารัญย์เอ่ยขึ้น เพราะคำถามนี้มันเป็นคำถามที่ฝังใจและไม่อยากได้ยินที่สุด "ผมเป็นหมอผีที่กลายมาเป็นวิญญาณ"

   “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่า คุณตายไปแล้วน่ะสิ"

   “ใช่!!! เรื่องมันฝังใจ ฮือ...” พูดจบก็ทำท่าแสร้งปราดน้ำตาทั้ง ๆ ที่ไม่มีหยดน้ำตาสักนิด บุคลิกที่มาดเท่ห์ในตอนแรกก็กลับดูตลกขบขันจนมิวส์รู้สึกประหลาด ๆ กับชายหนุ่มผู้นี้ "ก็เมื่อ 6 ปีที่แล้ว มีคนจ้างผมมาปราบผีที่นี่ หลังจากที่ผมทำงานเสร็จ... ผมก็ดันพลาดท่าขับรถมอเตอร์ไซค์ตกเขาเสียก่อน เพราะมีไอ้เต่าบ้าที่ไหนไม่รู้ดันมาเดินขวางทางถนนและผมที่ไม่ได้สังเกตเห็นมันแต่แรก เพราะตอนนั้นก็มืดมาก ก็หักรถหลบกะทันหันและผลก็คือ ฮือ... ชีวิตหมอผีที่หล่อ เท่ห์ เก่ง และรวยที่สุดของผมต้องจบสิ้นในคืนนั้นน่ะสิ"

   “แล้วคุณไม่ไปเกิดใหม่หรือชดใช้กรรมในนรกหรือสวรรค์เหรอครับ" มิวส์เอ่ยถามด้วยความสงสัย เพราะเขาเองก็ไม่แน่ใจว่าชีวิตหลังความตายมันควรจะต้องดำเนินต่อไปอย่างไรกันแน่ ทำไมบางคนที่ตายไปแล้วก็ได้ไปชดใช้กรรม แต่ทำไมบางคนก็กลายเป็นวิญญาณร้ายที่ตามอาฆาตหลอกหลอนคนอื่น ๆ ไปทั่ว หรืออย่างเขาที่ต้องเป็นผีติดที่ไปไหนมาไหนตามลำพังไม่ได้หากไม่มีคนพาออกไปด้วย

   “ไม่หรอก... ผมคุยกับวิญญาณเจ้าที่ที่ปกปักรักษาผืนป่าแห่งนี้เอาไว้เองแหละ ว่าผมจะช่วยดูแลผืนป่าที่นี่ ไม่ให้พวกผีร้ายออกอาละวาดหลอกหลอนใคร" อารัญย์ตอบออกมา "ปกติผมจะช่วยคนหลงป่า ก็เพิ่งมีคืนนี้นี่แหละที่มีวิญญาณหลงป่าอย่างคุณมาร้องตะโกนโหวกเหวกเสียชาติตะกูลวิญญาณให้ผมช่วย"

   “โหย... พี่ชาย ก็ไอ้วิญญาณพวกนั้นมันน่ากลัวจะตายไป" มิวส์บ่น เพราะวิญญาณพวกนั้นนอกจากจะมีหน้าตาที่อัปลักษณ์แล้วมันยังเป็นพวกวิญญาณร้ายวิญญาณอาฆาตไม่ใช่วิญญาณที่น่ารัก ๆ อย่างเขาเสียหน่อย "จะให้ไม่กลัวได้ยังไงเล่า"

   “เออ ๆ ช่างเถอะ แล้วนี่นายจะทำยังไงต่อไป" อารัญย์เอ่ยถามเพราะผืนป่านี้มันกว้างใหญ่ยิ่งนัก การสิ้นลมหายใจมา 6 ปีมันช่วยให้เขาคุ้นเคยกับที่นี่ก็จริง แต่เขาก็มีแค่ร่างเดียวไม่ได้มีตาวิเศษที่มองเห็นความเป็นไปได้ทั่วผืนป่าจึงไม่รู้ว่าไอ้ผีหน่อมแน้มตนนี้มันหลงเข้ามาในที่นี่ได้อย่างไร

   “ผม... เอ่อ... ผมหลงป่า ท่านหมอผีต้องช่วยผมนะ ผมจะกลับขึ้นไปบนดอยที่มีบ้านพัก มีเด็กมาจัดกิจกรรมรับน้องน่ะครับ" มิวส์เอ่ยขึ้น

   “หลงป่า!!! ผีบ้าอะไรวะหลงป่า" อารัญย์บ่น มิวส์ได้แต่ขบกรามด้วยความเจ็บใจเพราะโกรธที่หมอผีนายนี้บังอาจกล้าดีมาเรียกเขาว่าผีบ้า แต่มิวส์ก็ไม่สามารถทำอะไรไปได้มากกว่านั้น เพราะในบรรดาผีหรือวิญญาณทั้งหลาย มิวส์คิดว่าตนเองเป็นวิญญาณที่อ่อนต่อโลกที่สุดแล้ว

   “ก็โดนไอ้พวกผีร้ายวิญญาณร้ายพวกนั้นหลอกนี่ครับ... ก็เลยวิ่งหนีจนจำทางกลับไม่ได้แล้ว" มิวส์เอ่ยขึ้น พอเห็นสีหน้าของหมอผีอารัญย์ขมวดมุ่นด้วยความยุ่งยากใจ มิวส์ก็ใช้ไม้เด็ดทันที มิวส์เดินเข้าไปใกล้ ๆ ก่อนที่จะทำสีหน้าบ้องแบ๊วและแววตาออดอ้อนกับหมอผีแล้วเอ่ยว่า "น๊า... นะ พี่หมอผีสุดหล่อ ช่วยพาผมกลับหน่อยนะครับ นะ"

   เจอไม้นี้เข้าไปหมอผีอารัญย์ก็ถึงกับขนลุกซู่ขึ้นมาทันที   

   “ออกไป... ผมจะไม่พาคุณกลับก็เพราะมาทำตัวน่าขยะแขยงแบบนี้นี่แหละ"

   “คร้าบ ๆ" มิวส์ขานรับ ทว่าในใจของเขากลับรู้สึกแค้นยิ่งนัก เกิดมาก็เพิ่งมีไอ้หมอนี่นี่แหละที่บังอาจกล้าดีปากเสียมาต่อว่าว่าเขาทำตัวน่าขยะแขยงทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่เขาพยายามทำหน้าตาให้น่าเอ็นดูน่าสงสารที่สุดในชีวิต

   “ผมจะช่วยคุณ แต่ผมมีข้อแลกเปลี่ยน" หมอผีเอ่ยออกมา

   “ข้อแลกเปลี่ยนอะไรครับ" มิวส์เอ่ยถามด้วยความสนใจ หากชายหนุ่มสามารถช่วยมิวส์ให้กลับไปหาเจ้านายได้ ไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไรเขาก็ยอมแน่นอน

   “ผมมองเห็นความอาฆาตในจิตใจของคุณ เพราะฉะนั้นผมอยากจะได้ความอาฆาตของคุณมาเก็บไว้ แล้วเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมคุณก็จงไปผุดไปเกิดสักที" หมอผีตอบออกมา

   “ความอาฆาต!? แล้วผมจะเอาให้ได้ยังไง" มิวส์ขมวดคิ้วด้วยความฉงน

   “ระหว่างทางกลับคุณต้องเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนสิ้นลมหายใจของคุณให้ผมฟัง แล้วผมจะช่วยปลดปล่อยความอาฆาตให้ออกมาจากตัวคุณเอง"
   “แล้วมันจะมีผลอะไร ถ้าหากความอาฆาตของผมถูกปลดปล่อยออกไป"

   “คุณอาจจะหายไปจากโลกนี้เพื่อไปชดใช้กรรมทันที หรือถ้าคุณยังมีห่วง... คุณก็ต้องไปสะสางเรื่องทั้งหมดให้จบภายในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ เพราะหากความอาฆาตแค้นหายไปจากดวงวิญญาณแต่หากวิญญาณยังไม่ยอมไปผุดไปเกิดในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ คุณอาจจะต้องเป็นวิญญาณตลอดไป และเป็นวิญญาณที่ต้องทำอะไรเพื่อสังคมวิญญาณแบบเดียวกับผมตามแต่ที่ท่านเจ้าที่ที่ดูแลพื้นที่ที่คุณเสียชีวิตจะสั่งการ"

   คำพูดของหมอผีอารัญย์ทำให้มิวส์นึกใจหายขึ้นมาในทันที หากความอาฆาตแค้นของเขาถูกปลดปล่อย แล้วเขาต้องไปชดใช้กรรมต่อไป นั่นก็เท่ากับว่าเขาจะไม่มีโอกาสได้เจอไม้กับก้องอีกแล้ว แต่อีกประการหนึ่งหากเขาเลือกที่จะมีห่วงและกลายเป็นวิญญาณตลอดไป เขาก็จะไม่มีโอกาสได้ไปผุดไปเกิดอีกเลย ไม่ว่าจะเลือกทางไหน มิวส์ก็ไม่ต้องการทั้งนั้นแต่เขาก็ต้องยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นให้ได้ เพราะฉะนั้น...

   “ตกลงครับ ผมจะเล่าทุกอย่างให้คุณฟัง" มิวส์เอ่ยออกมา ก่อนที่ประโยคถัดมาจะถูกพับเก็บไว้ในใจ 'และผมก็ตกลงที่จะไปชดใช้กรรม เพราะมันควรจะเป็นแบบนั้นมาตั้งนานแล้ว'






จบตอน >.< หมอผีที่เป็นผีเหมือนกัน 555++ เท่ซะไม่มี -*- เวณกรรม แต่งเองชมเอง เอิ๊กๆ ตอนแต่งหลงรักหมอผีไงไม่รู้ กร๊ากๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 27-09-2013 18:40:16
คุยกับคนอ่านครับผม ^^

คุณ fonny1987 :: ง่า อ่านในเด็กดีก็ได้น๊า 555 ที่นั่นเงี๊ยบเงียบ T^T วังเวงมากๆครับ คิคิ
คุณ Lily teddy :: ถ้าถามว่าตกลงมิวส์รักใครมากกว่า >.< ผมตอบไม่ได้ครับ แต่ผมบอกได้เลยว่ารอฟังคำตอบจากมิวส์ได้เลยครับ เอิ๊กๆๆ ^^
คุณ iamnan :: 555 ฮาตรงว่าที่เคยด่าก้องไปจะเงิบแค่ไหน เหอๆ ต้องรอดูครับ บางทีอาจจะไม่เงิบก็ได้เด้อ คิคิ หรืออาจจะเงิบก็ได้ แป่วว
คุณ mentholss ::^^" เมื่อมีงานเข้า ก็ต้องมีใครสักคนมาช่วย แต่คราวนี้เป็นใครสักตนมาช่วยซะงั้นครับ เอิ๊ํกๆ
คุณ loveaaa_somsak :: >.< ฮ่าๆๆ บางทีไม้กับมิวส์อาจจะคิดมากกว่าเชิงคู่รักก็ได้ครับ แป่วว - -"
คุณ kasarus :: *0* วิเคราะห์ได้เจ๋งมากๆครับ รอติดตามเฉลยได้เลยครับ
คุณ NJnobu :: T^T เป็นเรื่องแรกที่แต่งแบบให้รอลุ้นเลยครับ อาจจะไม่ถึงขีดสุดแต่ก็จะพยายามพัฒนาไปเรื่อยๆนะครับ ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับผม  :mew1:
คุณ maemix :: ติดตามได้เลยครับว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฮ่าๆ เชื่อว่าน่าจะถูกใจคนอ่านเพราะมีตัวละครลับเพิ่มมาอีกตัว (ตัวประกอบเยอะจริงเรื่องนี้ 555)
คุณ Biwty... :: อันแน่ ตกหลุมรักก้องแล้วล่ะซี๊ คอยดูนะจะทำให้ตกหลุมรักมากกว่านี้อีก
คุณ mukmaoY :: เจอผีงับ  :mew5:
คุณ มยอนฮวา :: ง้ะ ฆ่าคนเขียน เดี๋ยวคนเขียนจะตามมาอาฆาตเหมือนมิวส์เลยนะ คอยดู เอิ๊กๆๆ
คุณ cheyp :: อิอิ ดีใจจัง คะแนนก้องเริ่มมาแล้ว อ่านตอนล่าสุดเชื่อว่าหลายคนจะหมั่นไส้ไม้ให้คะแนนไม้ติดลบเข้าไปใหญ่แน่ๆๆเลยมั้ง T^T
คุณ pannixz :: *0* ฮ่าๆๆ เอาผีหนุ่มกล้ามบึ๊กดีกว่า คิคิ จัดแล้วนะครับ ไม่ใช่ผีสาว 555 แต่เป็นผีหมอผี *0*  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน27 P.10]- 22/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 27-09-2013 18:41:48
เวงกรรม - -" เม้นท์นี้ไม่มีอะไร เม้นท์ผิดปล่อยไก่ ปล่อยผ่านไปเด้อ หวังว่าจะไม่มีใครเห็น  :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 27-09-2013 19:12:59
สงสารแม็กกี้เจอไม้เหวี่ยง ค้างมาจากเรื่องมิวส์
พอเป็นเรื่องมิวส์ รีบวิ่งออกไปตามเลยนะไม้
แล้วผีคุณหมอผีจะทำอะไรมิวส์หรือป่าว

รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 27-09-2013 19:19:00
อร๊ายยย จัดมาไวจังเลยนะคะ
โดนใจมากอีกด้วย อิอิ
แต่เป็นผีหมอผี หนุ่มหล่อ กล้ามล่ำ
งี้ก็ครบคู่พอดีสิ มิวจะมีหวั่นไหวมั้ยน้า
แล้วผีหมอผีเนี้ย จะได้มีบทเยอะมั้ยค่ะ
เพราะเป็นผีเฝ้าป่านี่ จะกลับไปกับมิวก็ไม่ได้
อยากให้มีบทเยอะๆจัง

 o13
เยี่ยม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 27-09-2013 20:43:19
หมอผีที่เป็นผีแหม่เกือบงง 555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 27-09-2013 21:26:21
โอ๊ยเท่ห์จริง
มีผีหมอผีที่จะมาปราบผีแถมยังช่วยเหลือผี555555
ชอบคนแก่จัง :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 27-09-2013 22:45:37
สงสารแม็กกี้ โดนไม้เหวี่ยง พอกำลังจะง้อก็มีเรื่องซะอีก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 27-09-2013 22:59:23
อ่าวจะทิ้งกันไปสะแล้ว

อย่าเพิ่งไปเลย กำลัีงสนุกๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 28-09-2013 01:29:28
สงสารแม็กกี้สุดหัวใจ  :o12:
นายไม้จะอารมณ์ร้อนไปไหน  :angry2:
ส่วนมิวส์หน่อมแน้ม จะมีหวั่นไหวกับหมอผี(ที่เป็นผี)สุดล่ำป่าวน้า... :hao3:

+  :กอด1:  o13 คนเขียนเสมอครับผม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 28-09-2013 08:06:36
ผู้เขียนรอดตัวไปไม่ได้กลายเป็นผีเหมือนมิ้วส์
ถ้าตายไปเดี๋ยวจะไปจีบกับ ผีหมอผีอีก ไม่ดีๆ เอิ๊กๆ
แต่ถ้าผู้เขียน ให้กินมาม่าละก็ หึหึ (http://image.dek-d.com/23/2313012/104191556)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: indy❣zaka ที่ 28-09-2013 11:33:36
ตามมาอ่านต่อ  ติดอนิเมะจนหายไปนาน เลยลืมว่าอ่านถึงไหนเลย 55  :laugh:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 28-09-2013 15:12:00
เปลี่ยนใจมาเชียร์ คุณหมอผีจิตอาสา เป็นพระเอกแทนได้มั้ยเนี้ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 28-09-2013 22:48:01
เปลี่ยนใจมาเชียร์ คุณหมอผีจิตอาสา เป็นพระเอกแทนได้มั้ยเนี้ย

เห็นด้วยกับรีนี้ที่สุดเลย ต่างก็เป็นผีเหมือนกัน ฮ่าๆ  :laugh:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 29-09-2013 16:20:52
อ่า
มิวส์อยากไปชดใช้กรรมซะแล้ววววว
แล้วคนที่เหลือจะทำไงเนี่ย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: sinyou ที่ 29-09-2013 23:47:30
อ้าว ถ้ามิวจะไปชดใช้กรรม แล้วไม้ล่ะ?? ตกลงมิวคู่กับใครกันแน่อ่า?? ใกล้จบแล้วหรอค่ะ หรือยัง ถ้ามิวไป เรื่องมันจะจบเลยรึป่าวค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Feuy_qty ที่ 30-09-2013 10:36:16
อย่าว่างั้นงี้เลยนะ มิวส์ไปเกิดใหม่เถอะ
ที่จริงก็อยากให้อยู่กะไม้นะ อยู่ด้วยกันแล้วน่ารักดี
แต่แมกกี้เองก็ไม่ได้ทำไรผิดซะหน่อยนิ จะมา 3P ก็ไม่ไหวนะ
อีกอย่างคนกะผี ยังไงมันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
ไปเกิดใหม่ แล้วไปเจอคนใหม่ดีกว่า
ถึงตอนนั้นอาจจะเป็นไม้ที่ตายไปในชาตินี้ แล้วเกิดใหม่มาเจอกัน
หรืออาจเป็นอิตาหมอผี ที่เจ้าที่ตรงนั้นเค้าเซ็งขี้หน้าไล่ให้ไปเกิดก็ได้  :laugh:



หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 02-10-2013 01:57:54
ตอนที่ 29



       “คืนนั้น... เป็นวันเกิดผม ผมกับแฟนนัดกันว่าจะมาฉลองวันเกิดด้วยกันที่ห้อง แต่ว่า... ในระหว่างที่ผมซื้อข้าวของและกำลังจะกลับห้องพักนั้น แฟนผมก็โทรมาบอกเลิก" ในระหว่างทางเดิน มิวส์ได้เล่าเรื่องในอดีตซึ่งเป็นคืนที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเขาให้กับหมอผีอารัญย์ฟัง "ผมน่ะ... เสียใจมากและคงจะจิตตกสุด ๆ ก็เลยโดนวิญญาณอาฆาตที่สิงสถิตอยู่ในหอพักรุกรานและทำให้ผมกลายเป็นตัวตายตัวแทนของมัน"

   สิ้นเสียง... ความเสียใจก็ถาโถมเข้ามาในความรู้สึกของมิวส์ทันที แม้จะพยายามทำใจให้ชิน แต่พอเล่าหรือนึกถึงเรื่องคืนนั้นทีไรก็อยากจะร้องไห้ออกมาทุกที เว้นเสียแต่ว่ามันไม่มีหยาดน้ำตาให้ไหลลงมานี่แหละ

   “คุณ...” หมอผีอารัญย์เอ่ยขึ้นด้วยความห่วงใย "ผมขอโทษ... แต่ช่วยเล่าให้ผมฟังอีกได้ไหม ผมอยากรู้ว่าเหตุผลที่เขาบอกเลิกคุณคืออะไร"

   “เหตุผลน่ะเหรอ" มิวส์ทวนคำถามขณะที่หันไปมองใบหน้าของหมอผีหนุ่ม เขาถอนหายใจเบา ๆ หนึ่งทีเพราะไม่รู้ว่าหมอผีจะตกใจกับเรื่องที่ได้ฟังหรือเปล่าก่อนที่จะพูดออกมา "แฟนผมบอกว่าชีวิตเขาต้องแต่งงานกับผู้หญิง ถ้ายังคบกับผมชีวิตเขาต้องจบเห่แน่ ๆ"

   “คุณ...” หมอผีอารัญย์ตะลึงชั่วขณะ แม้วิญญาณหนุ่มตนนี้จะดูน่ารักใสซื่อแต่เขาก็ไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นวิญญาณที่ชอบเพศเดียวกันกับตนเอง "แฟนคุณชื่ออะไร เกิดวัน เดือน ปีอะไร"

   “คุณจะถามไปทำไม เรื่องแบบนั้นใครจะไปอยากจำกันเล่า" แม้ปากจะพูดออกไปแบบนั้น แต่มิวส์ก็จำมันได้ดีเลยล่ะ มิวส์ไม่เคยลืมวันเดือนปีเกิดของก้อง หรือแม้แต่วันแรกที่เขาตัดสินใจคบกับก้อน มิวส์ยังคงจดจำทุกอย่างได้ดีเสมอ

   “ผมจะช่วยสืบหาความจริงยังไงล่ะ ว่าทำไมแฟนคุณถึงต้องตัดสินใจทำแบบนั้นกับคุณ" หมอผีอารัญย์เอ่ยออกมา

   “ถ้าผมบอกไปแล้วคุณจะทำอะไรได้ คุณเองก็เป็นแค่วิญญาณเหมือนกับผมไม่ใช่เหรอไง" มิวส์เอ่ยออกมา

   “แต่ผมเป็นหมอผี ผมมีความสามารถพิเศษที่คนหรือวิญญาณทั่วไปไม่มี" หมอผีอารัญย์ตอบออกมา "คุณไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมเขาถึงต้องพูดกับคุณแบบนั้น"

   “ไม่! ผมไม่อยากรู้" มิวส์ตอบเสียงแข็ง ใครจะไปอยากรับรู้เรื่องราวที่เลวร้ายแบบนั้นกันล่ะ รู้ไปแล้วมันจะช่วยให้อะไรดีขึ้น ...มันจะทำให้เขากลับไปมีชีวิตอีกครั้งอย่างนั้นหรืออย่างไร เรื่องราวเหล่านั้นมีแต่จะตอกย้ำความเจ็บปวดในจิตใจของเขาต่างหาก

   “คุณไม่คิดว่าทุกอย่างมันง่ายเกินไปหน่อยเหรอไง อยู่ ๆ มาบอกเลิกกันแบบนั้น" หมอผีอารัญย์พยายามพูดกล่อมหู

   “ไม่เลย เขาไม่ได้รักผมเลยสักนิด เขาก็แค่หลอก หลอกให้ผมตายใจ หลอกให้ผมหลงรัก ...ก็เท่านั้น เท่านั้นจริง ๆ" มิวส์เถียงออกไป แม้เวลาที่ได้อยู่ใกล้ ๆ มันจะทำให้เขารู้สึกถึงความรัก ความอบอุ่นและความห่วงใยที่ก้องมอบให้ แต่มิวส์ก็คิดมาตลอดว่าที่ก้องทำดีกับเขาคงเป็นเพราะต้องการอยากจะชดใช้ความผิด ซึ่งมันไม่มีวันเรียกกลับคืนมาให้เป็นปกติเหมือนเดิมได้

   “เอ้า ๆ ก็ตามใจ ไม่อยากรู้ก็ไม่เป็นไร แต่ช่วยบอกวัน เดือน ปีเกิดของแฟนคุณให้ผมรู้หน่อยได้ไหม แล้วก็ของคุณด้วย" หมอผีอารัญย์เอ่ยขึ้น

   “คุณนี่เซ้าซี้จริง..." มิวส์ต่อว่า แต่ท้ายที่สุดตัวเองก็เผลอหลุดปากตอบคำถามในสิ่งที่หมอผีอยากรู้ออกไปอยู่ดี

   ทันทีที่หมอผีอารัญย์รู้เรื่อง เขาก็หยุดเดินแล้วเอื้อมมือไปจับที่มือข้างหนึ่งของมิวส์ มิวส์ชะงักเล็กน้อยด้วยความตกใจแต่ยังไม่ทันที่มิวส์จะพูดอะไร หมอผีอารัญย์ก็โอบกอดร่างของเขาเอาไว้อย่างแนบแน่น

   มิวส์รู้สึกตกใจมากเพราะไม่คิดว่าหมอผีสุดหล่อจะกระทำการจู่โจมกลางป่าเช่นนี้ แม้จะพยายามดิ้นก็คงจะไม่หลุดง่่าย ๆ สุดท้ายเขาก็เลยอยู่นิ่ง ๆ ให้หมอผีได้กระทำชำเราตามใจชอบ แต่อย่างน้อยเขาก็ขอพูดอะไรสักหน่อยเพื่อให้หมอผีรู้ว่าเขาไม่ใช่วิญญาณที่ยอมอะไรง่าย ๆ นะ

   “คุณจะทำอะไรน่ะ ปล่อยน่ะ" พูดไปก็แสร้งสะบัดตัวไป หากเป็นผู้หญิงหมอผีหรือใครที่เห็นมิวส์ทำเช่นนี้ก็คงจะต่อว่าว่าเขาสะบัดสะบิ้งสุด ๆ เลยล่ะ

   “อยู่นิ่ง ๆ เถอะน่า ผมไม่ได้ทำอะไรอย่างที่คุณคิดหรอก" หมอผีอารัญย์พูดเพียงเท่านั้น ไม่นานมากนักภาพผืนป่ารอบข้างที่มีแต่ความมืดสนิทก็ถูกแสงสีขาวนวลเนียนราวกับหมอกควันเข้ามาปกคลุมราวกับว่ากำลังจะถูกวาร์ปหรือหายตัวไปที่ไหนสักแห่ง





   ผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ใต้แสงจันทราและความมืดมิดที่ปกคลุม กำลังมีร่างสามร่างที่วิ่งลึกเข้าไปเรื่อย ๆ โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าได้วิ่งมาไกลแค่ไหนแล้ว แต่เพราะความเป็นห่วงที่ไม้มีให้กับมิวส์ เลยทำให้เขาไม่สนใจสักนิดว่าตัวเองจะหลงทางหรือได้พบอันตรายอะไรบ้างกับหนทางข้างหน้า ขอเพียงแค่ให้ได้พบกับวิญญาณที่เขาตามหาให้เร็วที่สุดเท่านั้นก็เพียงพอ

   จนกระทั่งเสียงเรียกของคนที่วิ่งตามมาทางด้านหลังดังขึ้น สติของไม้ถึงได้กลับคืนมา

   “ไม้... ไม้... มึงจะไปไหน กูไม่ไหวแล้วนะโว้ย" เสียงที่ดังของเป็นเสียงของแม็กกี้ซึ่งวิ่งตามมาอยู่ห่าง ๆ ส่วนอาจารย์ก้องภพที่คงจะดูแลร่างกายของตัวเองมาอย่างดิบดีสามารถวิ่งตามไม้ไปได้ติด ๆ

   “ไอ้แม็กกี้!!!” ไม้รีบวิ่งกลับไปหาร่างของคนรักอย่างไวเมื่อเห็นร่างนั้นทรุดลงกับพื้น

   เสียงหายใจหอบแฮก ๆ ของแม็กกี้ที่ดังถี่ทำให้ไม้รู้สึกกังวลใจยิ่งนัก ไม้รู้ดีว่าแม็กกี้เป็นโรคหอบไม่สามารถออกกำลังกายหนัก ๆ หรือไม่สามารถวิ่งในระยะทางที่ไกลจนเกินไปได้ เพราะมันจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจของเขาโดยตรง

   “มึง... ไหวไหม" ไม้เอ่ยถามพลางพยายามตบหน้าแม็กกี้เบา ๆ เพื่อเรียกสติ

   “กูคงไปต่อไม่ไหวแล้ว ว่าแต่มึงวิ่งมาทำอะไรในป่าวะ" แม็กกี้เอ่ยถาม เสียงหายใจของแม็กกี้ช่างอิดโรยราวกับคนกำลังจะสิ้นลมหายใจอย่างไรอย่างนั้น

   “กู... กูขอโทษ ไว้กลับไปที่ห้องเมื่อไหร่กูสัญญาว่ากูจะเล่าทุกอย่างให้มึงฟัง" ไม้เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด เขามัวแต่ห่วงวิญญาณที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานจนลืมนึกถึงความรู้สึกของแม็กกี้ "มึงอย่าเป็นอะไรนะ กูจะพามึงกลับเดี๋ยวนี้แหละ"

   สิ้นเสียงไม้ก็นั่งยองยอเป็นสัญญาณสั่งแม็กกี้ว่าให้แม็กกี้ใช้แรงเฮือกสุดท้ายลุกมาขี่หลังเขา

   “กูจะไม่เป็นอะไรทั้งนั้น" แม็กกี้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิวพลางพยายามลุกขึ้นและเดินไปทิ้งร่างบนแผ่นหลังอันแข็งแกร่งของไม้จนสำเร็จ

   “อาจารย์ก้องภพ ผมคงไปช่วยอาจารย์ตามหามิวส์ไม่ได้แล้ว" ไม้เอ่ยขึ้น

   “ไม่เป็นไรครับ" ก้องภพพยักหน้าตอบรับ

   “ผมเชื่อว่ามิวส์ยังรู้สึกดีกับอาจารย์ อาจารย์ต้องช่วยมิวส์ออกมาให้ได้นะครับ" ไม้เอ่ยขึ้น

   “ครับ" พูดจบอาจารย์ก้องภพก็ออกวิ่งตามหาอดีตคนรักของตนเองต่อทันที

   ส่วนไม้แม้จะรู้สึกหนัก... กับร่างที่กำลังแบกอยู่ด้านหลัง แต่เพราะความห่วงใยเลยทำให้เขากัดฟันก้าวขาเดินต่อไปเรื่อย ๆ แม้ไม่รู้ว่าทางออกอยู่ตรงไหนก็ตาม

   “มิวส์คือใครวะ" แม็กกี้ที่แม้จะไร้เรี่ยวแรงแต่เขาก็ได้ยินในสิ่งที่ไม้กับอาจารย์ก้องภพคุยกันจึงอดสงสัยไม่ได้

   “วิญญาณ" ไม้ตอบออกมา

   “มึงนี่ก็นะ น่าสิ่วน่าขวานแบบนี้ยังมีอารมณ์ขันอีก" แม็กกี้หัวเราะชอบใจพลางคิดไปว่าไม้เล่นมุกเพราะไม่อยากทำให้เขาเครียด แต่ทว่า...

   “กูไม่ได้มีอารมณ์ขัน กูพูดเรื่องจริง" ไม้ตอบเสียงหนักแน่นจนแม็กกี้ต้องหยุดหัวเราะทันที "มิวส์เป็นวิญญาณอาฆาตที่อาศัยอยู่ในหอพักของเรามานานนับสิบปี และเป็นอดีตคนรักเก่าของอาจารย์ก้องภพ"

   “วิญญาณอาฆาต" แม็กกี้ทวนคำด้วยความหวาดกลัว ปกติเขาเป็นคนจิตอ่อนที่หวาดกลัวต่อสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่แล้ว ยิ่งพอรู้ว่าในหอพักของตนมีวิญญาณอีกตนสิงสถิตอยู่มันก็ทำให้เขาไม่อยากที่จะกลับไปที่นั่น และคิดต่อไปว่าขนาดห้องพักที่มีคนอยู่เยอะแยะยังมีวิญญาณอาฆาต แล้วในผืนป่าที่น่าวังเวงเช่นนี้ล่ะ จะมีอะไรซ่อนอยู่บ้าง

   “เออ แต่มึงไม่ต้องกลัวหรอก" ไม้เอ่ยขึ้น "มันไม่ทำอะไรมึงหรอก"

   แม็กกี้ไม่ได้ตอบอะไรออกไป ผืนป่าที่มืดมิดกอรปกับเรื่องที่เพิ่งรับรู้ทำให้เขาต้องตัดสินใจหลับตาแล้วซบหน้าลงไปที่แผ่นหลังของไม้เพราะไม่อยากมองเห็นสิ่งรอบข้าง

   ความรู้สึกที่เหมือนกับมีอะไรซบลงมาที่แผ่นหลังทำให้ไม้ที่แม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่ก็สามารถยิ้มออกมาได้

   'กูขอโทษนะ ขอโทษจริง ๆ' ไม้ตะโกนก้องในจิตใจ มันเป็นความรู้สึกที่เขาต้องการให้แม็กกี้รับทราบและอภัยให้กับความผิดพลาดทุกสิ่งที่เคยเกิดขึ้น





   ทางด้านของมิวส์กับหมอผีอารัญย์ หลังจากที่ผืนป่ารอบข้างมีหมอกควันสีขาวครอบคลุม สักพักหมอกควันเหล่านั้นก็จากลงและแปรเปลี่ยนเป็นสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมิวส์พอจะจำได้ราง ๆ ว่าที่นี่คือสวนสาธารณะเล็ก ๆ ภายในตัวเมือง

   “คุณพาผมหายตัวมาที่นี่ได้ยังไง" มิวส์เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจโดยที่ไม่รู้เลยว่าหมออารัญย์เลิกกอดเขาตั้งแต่เมื่อไหร่

   “ด้วยความสามารถของหมอผีที่กลายมาเป็นวิญญาณสุดหล่อยังไงล่ะ" หมอผีอารัญย์เอ่ยขึ้นพร้อมกับเก๊กหน้าหล่อเหลาจนมิวส์รู้สึกหมั่นไส้อยากจะถีบก้นแรง ๆ สักป๊าบแต่ก็ทำไม่ได้ เพราะอย่างน้อยไอ้หมอผีรุ่นพี่คนนี้ก็มีหน้าตาหล่อเหลาอย่างที่ขี้โม้เอาไว้จริง ๆ

   “แต่ผมไม่ได้ต้องการจะมาที่นี่ ผมจะกลับไปบ้านพักบนดอย" มิวส์เอยขึ้นโดยที่ตนเองไม่รู้เลยว่าหมอผีอารัญย์ได้พาเขาย้อนมาดูภาพเรื่องราวในอดีตที่เคยเกิดขึ้นกับก้องในคืนก่อนที่มิวส์จะสิ้นลมหายใจ จนกระทั่งร่างของชายหนุ่มที่มิวส์คุ้นเคยปรากฏอยู่ตรงหน้าสวนสาธารณะนั่นแหละ มิวส์ถึงเริ่มเอะใจ

   “ก้อง!!!” มิวส์เอ่ยขึ้น ...ใช่! เขาจำได้ว่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าสวนสาธารณะคือก้อง แต่รูปร่างหน้าตาแบบนี้มันไม่ใช่ก้องในปัจจุบันแต่มันเป็นก้องในอดีตเมื่อ 10 ปีก่อน

   มิวส์หันไปมองหมอผีอารัญย์ด้วยความฉงน หมอผีอารัญย์ระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะตอบออกมาว่า...

   “ผมพาคุณย้อนมาดูอดีตไงล่ะ... คุณจะได้รู้ให้แน่ชัดสักทีว่าทำไมแฟนของคุณถึงตัดสินใจบอกเลิกคุณ"




ตัดจบตอน T___T ...  :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน28 P.11]- 27/09/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 02-10-2013 02:09:21
คุยกับคนอ่านครับ ^^  :กอด1:

คุณ maemix :: T^T ใช่ครับ เรื่องนี้แม็กกี้น่าสงสารมากๆ น่าสงสารที่สุดเลยครับ ส่วนพี่หมอผีตอนล่าสุดกำลังจะพามิวส์ปลดปล่อยความอาฆาตแล้วครับ
คุณ pannixz :: อิอิ ช่วงที่อยู่ในป่านี่มีบทเยอะพอดูครับ พี่หมอผีถือเป็นพระเอกของช่วงนี้เลย  :-[
คุณ iamnan ::  :o8: ผมรอดตัวไปที่ไม่งง แหะๆ
คุณ mukmaoY :: *0* มีหมอผีมาช่วยปราบผีแถมยังช่วยเหลือผี 555 เหมือนจะงงแต่ฟังแล้วเท่เนอะ งั้นเดี๋ยวช่วงนี้ต้องจัดพี่หมอผีให้เยอะๆ คิคิ
คุณ kasarus :: แม็กกี้ซวยสุดๆครับ T^T ถ้ายังจำได้พระท่านได้กล่าวถึงแม็กกี้เอาไว้ว่าดวงกำลังตก แถมยังดวงตกสุดๆอีกด้วย หึหึหึ
คุณ pharm ::  :hao5: นั่นซีครับ ไม่อยากให้มิวส์ไปเลย 555++ จบเรื่องนี้ต่อภาคใหม่ให้ไม้เป็นวิญญาณรอมิวส์มาเกิดบ้างดีไหมเนี่ย คงแปลกพิลึก อิอิ
คุณ NJnobu :: ขอบคุณคร้าบ ^^ มิวส์คงไม่หวั่นไหวแล้วครับเพราะพี่หมอผีกำลังจะพาไปพบกับอดีตต้นตอของเรื่อง  :ling1:
คุณ มยอนฮวา :: ง่า มองไม่เห็นรูปครับ เป็นโลโก้เด็กดี(งก)ให้ใช้เฉพาะในเว็บเด็กดีเท่านั้น T^T กะจะจัดมาม่าให้หลายๆ ซองซะหน่อย ชักกลัวแล้วจิ เหอๆๆ :heaven
คุณ indy❣zaka :: ขอบคุณคร้าบ ฮ่าๆ ตามทันรึยังครับ ^^ ฝากด้วยนะครับ  :pig2:
คุณ mentholss :: อิอิ หมอผีมาแรงจริงๆตอนนี้ เปลี่ยนใจได้ครับ ขนาดผมยังหลงเลย กรั๊กๆๆๆ
คุณ cheyp :: คนที่เหลือก็... ต้องเข้มแข็งและสู้ชีวิตต่อไปครับ *0* 
คุณ sinyou :: จริงๆก็ใกล้จบแล้วครับ น่าจะอีกประมาณซัก 10 ตอนได้มั้งครับ ไม่แน่ใจ - -" เรื่องบทสรุปติดตามได้ตอนต่อๆไปเลยครับ อิอิ ยังไงถ้าจบเรื่องนี้ฝากเรื่องใหม่ด้วยนะครับเรื่อง ดินต่างฟ้า (ตอนนี้ลงไปบ้างแล้วครับในเล้านี่ล่ะ แหะๆ) 
คุณ Feuy_qty :: 555+++ ฮาเม้นท์นี้มากๆครับ มีเหตุผลมั๊กมาก กรั๊กๆๆ ขำตรงประโยคทีี่ว่า "หรืออาจเป็นอิตาหมอผี ที่เจ้าที่ตรงนั้นเค้าเซ็งขี้หน้าไล่ให้ไปเกิดก็ได้" 555 อาจจะเป็นก็ได้ครับ  :laugh:



หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ApoStrOfhYs ที่ 02-10-2013 02:20:36
ม่ายยยยยยยยย ค้างเกินไปแล้ววว  :hao5:
แปลว่า พอมิวส์รู้ความจริงแล้วกลับไปในป่าเจอก้อง คุยกันแล้วเข้าใจแล้วก็ไปเกิด?
ส่วนแม็กกี้กับไม้ก็รักกันเหมือนเดิม? ก็ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ขอให้แต่งภาคมิวส์เกิดใหม่แล้วหน่อยนะคะ
สงสารอะ ไม่มีคู่  :heaven
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Yukio4869 ที่ 02-10-2013 07:13:47
ค้างงงงง 555 เเต่ยังไงเราก็อยากให้ ไม้คู่กับมิว ภาคนี้อยากให้จบไม่เศร้านะ  ประมานว่าภาคต่อทั้งสองคนมาเกิดเเล้วตามหารักกันประมานนั้นอ่ะ เพราะเราเชียร์ไม้มิวมาตั้งเเต่ต้นเรื่อง 55 เอาเเม็กกี้คู่กับน้องชายมิวก็ได้นะ //โดนกระทืบตายย 55
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 02-10-2013 09:27:26
ตัดจบได้ค้างมาก มิวส์จะได้รู้ความจริงสักที(หรือว่าเรากันแน่หว่า)
เริ่มเซ็งไม้ยังไงไม่รู้ เซ็ง เซ็ง เซ็ง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 02-10-2013 11:35:25
มาต่อไวไวนะ ค้างคาที่สุด  :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Feuy_qty ที่ 02-10-2013 11:48:53
น่านนนน อิตาหมอผีมีว๊งมีวาร์ป แฟนตาซีสุดอ่ะ 55555
มิวส์จะได้รู้ความจริงแล้ว จะได้ไปที่ชอบที่ชอบ(?) ซะทีเนาะ 

ตอนมิวส์ไปเกิดเราต้องน้ำตาแตกแหงมๆ
คือค่อนข้างเป็นคนเซนซิทีฟกับการพลัดพรากน่ะ *ไปเหมาทิชชูรอ*  :mew4:

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 02-10-2013 13:18:12
ตัดฉับได้ใจร้ายมาก  :o12:

กำลังตามติดชีวิต(ที่ไม่มีชีวิต)ของวิญญาณแบบเพลินๆ อยู่เลย

ทีนี้ก็จะได้รู้กันละว่าก้องภพสมควรจะโดน  :beat: หรือ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 02-10-2013 14:11:35
ตัดฉับได้โหดร้ายจัง  :ling1:

เรื่องนี้ดำเนินมาเกินครึ่งรึยังคะ
เพราะดูอะไรก็ลงตัวหมดแล้ว
แมกกี้รู้เรื่องมิวแล้ว
มิวก็ใกล้จะรู้สาเหตุที่ก้องเลิก
ดูปมทุกอย่างจะคลีคลายแล้ว
ไม้จะได้คู่กับมิวหรือแมกกี้ต่อนะ??
สับสน  :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 02-10-2013 14:58:34
^
^
^
เห็นด้วยเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 02-10-2013 15:17:54
เกิดอาการ ค้างงง... :a5: ถ้ามิวส์รู้อดีตแล้วจะเป็นงัยต่อ o22 แล้วไม้ละจะได้คู่กะมิวส์ป่าว :hao4: แม็กกี้จะต้องเลิกกับไม้มั้ย :o12: ก้องอีกคนล่ะ อะไรเนี่ย...! นี่เราคิดไปไกลขนาดไหนเนี่ย :beat:

+  :กอด1: จุ๊บ ฟัด คนเขียน  o13 :bye2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 02-10-2013 20:01:53
ดักตีหัวคนเขียนดีมั้ยจบแบบนี้ ใจร้ายมาก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 02-10-2013 23:37:22
ไม่เม้นอะไรนะตอนนี้

ต่อยคนแต่งลูกเดียว !!! ตัดกันง่าย ๆ นะครับพี่ชายย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -Otto- ที่ 03-10-2013 09:39:47
 :z3: :z3: ค้างอย่างแรง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 03-10-2013 11:22:16
ค้างงงงงงงง

จิ้มเป็ดให้จ้า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 03-10-2013 18:28:00
เอฟซีไม้มิวส์ :katai1: :z6:





อยากรู้อดีตแล่ววว  :ling1: :katai4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 04-10-2013 14:48:26
ใกล้จะจบแล้วเหรอ แง่วๆ ไม่มีคำพูด อันที่จริงไม่รู้จะเมนต์อะไร
งั้นของฝากชื่อไว้แล้วกันเนอะ เอิ๊กๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: arthit170530 ที่ 04-10-2013 20:21:06
ค้างอ่ะ รอๆครับผม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: EARTHYSS :) ที่ 04-10-2013 22:31:53
หมอผีนี่ดีใช่ป่ะไม่ได้แกล้งทำดีเพื่อหลอกเอามิวไปทำไรน่ะ?
ส่วนไม้สรุปจะเอายังไงบางทีก็สงสารมิวส์ บางทีก็แม๊กกี้
คือไม่เลือกสักคนหรือว่าพอมิวไปเกิดแล้วจะมาเป็นคนในครอบครัว?
บางทีมิวส์ไปเกิดได้ก็ดี อาจจะไม่ได้รักกันแต่ก็ดีกว่าเป็นผีเร่ร่อน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 05-10-2013 23:47:04
ตัดจบได้ทรมานคนอ่านมากเลย
ถ้าหมดห่วง หมดอาฆาตแล้ว น้องมิวส์ก็ต้องไปเกิดแล้วนะสิ
อ่านรวดเดียว มันส์มาก ชอบน้องเปอร์
รอ ติดตามตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 06-10-2013 00:24:25
ตอนที่ 30



        สิ้นเสียงของหมอผีอารัญย์มิวส์ก็ยกมือขึ้นมาปิดใบหูพร้อมกับเบือนหน้าหนีจากร่างของอดีตคนรักเพราะไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น

   “พาผมกลับ" มิวส์สั่ง แต่หมอผีอารัญย์ตีหน้าซื่อไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้นแถมยังพูดยั่วยวนให้มิวส์สนใจกับเหตุการณ์เบื้องหน้าอีก

   “เอ๊ะ! ดูนั่นดิ มีผู้หญิงคนนึงวิ่งเข้ามาหา ชายหนุ่มคนนั้นด้วย เธอร้องไห้ด้วยนะ" เสียงแว่ว ๆ ที่เล็ดลอดผ่านฝ่ามือที่ปิดหูขึ้นมาทำให้มิวส์ชักจะสนใจขึ้นมาบ้าง แต่ทว่าเขาก็ขอเล่นตัวต่ออีกสักหน่อยเถอะ...

   เมื่อเห็นว่ามิวส์ยังคงใจแข็ง เขาก็เลยใช้แรงทั้งหมดที่มีดึงมือข้างหนึ่งของมิวส์ออกจากหู เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงของหญิงสาวผู้นั้นเล็ดลอดเข้ามาว่า...

   “ก้อง... ก้องต้องช่วยเรานะ เราท้อง... เราท้องกับไอ้สารเลวนั่น ไอ้สารเลวนั่นมันไม่รับผิดชอบเรา" จบประโยคของหญิงสาว มิวส์ก็เบิกตาโพลงพร้อมกับหันไปมองด้วยความสนใจทันที เนื่องจากนี่เป็นภาพเหตุการณ์ในอดีตที่หมอผีอารัญย์ใช้ความสามารถพิเศษทำให้เกิดขึ้น ก้องกับหญิงสาวผู้นั้นจึงไม่รับรู้ว่ากำลังโดนจับจ้องอยู่

   “สาจะให้เราช่วยยังไง" ก้องเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของก้องดูหนักใจเหลือเกิน

   หญิงสาวไม่ได้ตอบในทันที เธอคุกเข่าลงตรงหน้าก้องเพราะรู้ดีว่าสิ่งที่เธอกำลังจะพูดออกไปเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ แต่มันก็เป็นเพียงทางเดียวที่จะทำให้เธอรอดพ้นจากคำตราหน้าของสังคมรวมถึงพ่อกับแม่ของเธอว่าเป็นคนสำส่อนท้องไม่มีพ่อ

   “ไอ้สารเลวนั่นมันบอกให้เราไปทำแท้ง และมันยังขู่เราอีกว่าถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครว่ามันเป็นพ่อของเด็ก มันจะฆ่าเรา" หญิงสาวพูดออกมาทั้งน้ำตา "แต่เราไม่อยากทำแท้ง... แล้วถ้าพ่อกับแม่รู้ว่าเราท้องโดยไม่มีใครรับผิดชอบ พ่อกับแม่จะต้องโกรธเกลียดและด่าเราแน่ ๆ เราก็เลยอยากมาขอร้อง...”

   หญิงสาวเว้นวรรคชั่วครู่ เธอร้องไห้สะอึกสะอื้นหนักกว่าเก่าเพราะรู้ตัวดีว่าตนเองกำลังจะทำให้ผู้ชายที่ดีที่สุดอย่างก้องหมดอนาคต

   “ช่วยแต่งงานกับเรา ช่วยบอกกับทุกคนว่าเป็นพ่อของเด็ก และช่วยรับผิดชอบเราที เรารู้ว่าถ้าเป็นก้อง... ก้องจะต้องช่วยเราแน่ ๆ"

   สิ้นเสียงของสาวิตรี... โลกทั้งโลกก็เหมือนตกอยู่ในความเงียบงัน ไม่เพียงแค่ก้องเท่านั้นที่รู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มิวส์เองก็เช่นกัน... เขารู้สึกเหมือนมีอะไรจุกอยู่ในลำคอ จะกลืนก็ไม่เข้า จะคายทิ้งก็ไม่ยอมออก มิวส์ยืนแน่นิ่งไม่ไหวติงเช่นเดียวกับก้อง

   สาวิตรีที่เห็นก้องนิ่งเงียบก็เอื้อมมือไปเกาะขาพร้อมกับขอร้องอ้อนวอนต่อ...

   ส่วนหมอผีอารัญย์ที่พอเห็นมิวส์นิ่งเงียบก็เลยยืดแขนไปกอดคอของร่างนั้นเพื่อเรียกสติ แม้จะไม่รู้ว่าความรักที่มิวส์กับชายหนุ่มคนนั้นยิ่งใหญ่และลึกซึ้งขนาดไหน แต่จากเหตุการณ์ที่เห็นก็พอจะเดาได้ว่าหมอนี่คงกำลังจะเสียใจและเข้าใจผิดในสิ่งที่เกิดขึ้นมาโดยตลอด

   “แล้ว... แล้วก้องต้องทำยังไงบ้าง" ก้องพูดกับสาวิตรี สมองของเขาในตอนนี้ด้านชาไปชั่วขณะ

   “สาจะไปเล่าเรื่องทุกอย่างให้กับพ่อและแม่ของสาฟังเอง ก้องก็แค่แกล้งยอมรับ และอาจจะต้องแต่งงานกับสา" สาวิตรีเอ่ยขึ้น เธอชะงักชั่วครู่เพราะรู้ดีว่าชายหนุ่มคงจะตกตะลึงในสิ่งที่เธอขอร้อง "สาขอโทษ สาขอโทษจริง ๆ"

   “แค่นั้นใช่ไหม" ก้องถามเสียงสั่น

   “ค่ะ" สาวิตรีตอบออกมา

   “ก้องจะช่วยสานะ สาอย่าคิดมากเลย" พูดจบ หญิงสาวก็ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา

   การกระทำของเธอทำให้เธอรอดพ้นจากความผิดและข้อหาที่อาจจะโดนสังคมตราหน้าว่าสำส่อนก็จริง แต่เธอคงไม่รู้หรอกว่าเพราะการกระทำนี้แหละที่เป็นต้นเหตุทำก้องและมิวส์ต้องทุกข์ระทมใจ และเป็นสาเหตุที่ทำให้มิวส์สิ้นลมหายใจในเวลาต่อมา

   ทว่ายังไม่ทันที่มิวส์จะได้รับรู้เรื่องราวอะไรต่อ... ภาพเหตุการณ์ในอดีตที่แจ่มแจ้งในตอนแรกก็ค่อย ๆ พร่ามัวและเลือนหายไปในที่สุด จากนั้นหมอกควันสีขาวก็กลับมาปกคลุมอีกครั้งจนเวลาผ่านไปสักระยะภาพรอบข้างก็กลับกลายมาเป็นผืนป่าที่มืดมิดดังเดิม

   ความอัดอั้นทั้งหมดส่งผลให้มิวส์ต้องระบายออกมาด้วยหยาดน้ำตา ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยร้องไห้ออกมาได้สำเร็จเลยสักครั้งแต่ในครั้งนี้มันไม่ใช่

   “มิวส์...” หมอผีอารัญย์เอ่ยชื่อวิญญาณที่กำลังร้องไห้ด้วยความห่วงใย มีไม่กี่ครั้งหรอกนะที่วิญญาณสามารถร้องไห้ออกมาได้น่ะ หากมันไม่ใช่เรื่องที่ส่งผลต่อความรู้สึกในจิตใจโดยตรง

   “พี่หมอ...” มิวส์ตอบกลับ ท่ามกลางผืนป่าที่มืดมิดแบบนี้มีเพียงหมอผีอารัญย์ตนเดียวที่เป็นที่พึ่งให้เขาได้ในยามนี้ มิวส์ไม่ลังเลใจเลยสักนิดที่จะถ่ายทอดความอ่อนแอทั้งหมดไปกับอ้อมกอดที่มอบให้กับหมอผีอารัญย์

   มิวส์รู้ดีว่าตนเองไม่ใช่วิญญาณที่เข้มแข็ง แม้จะเคยสิ้นลมหายใจมาแล้วแต่หากเจอเรื่องที่หนักหนาสาหัสมันก็ทำให้เขาอ่อนแอถึงขีดสุดได้เหมือนกัน

   เสียงสะอื้นไห้ของวิญญาณชายหนุ่มที่เคยหน้าตาน่ารักสดใส ทำให้หมอผีหนุ่มอดเวทนาและสงสารขึ้นมาจับใจไม่ได้ เขาตัดสินใจกอดตอบด้วยความบริสุทธิ์ใจก่อนที่จะยกมือขึ้นมาลูบคลำศีรษะ

   “ผมผิดใช่ไหม ผิดที่เข้าใจก้องผิดมาตลอด ผิดที่พูดจาทำร้ายจิตใจเขา และผิดที่ไม่เชื่อใจ" มิวส์พูดทั้งที่ยังสะอื้นไห้

   “ไม่หรอก" หมอผีอารัญย์เอ่ยเบา ๆ "คุณก็แค่ไม่รู้"

   “แล้วทำไม... ทำไมก้องถึงไม่บอกผมตรง ๆ ทำไมก้องถึงต้องพูดจาทำร้ายผมแบบนั้นด้วย" มิวส์บ่นออกไปเรื่อยเปื่อยตามประสาวิญญาณที่กำลังรู้สึกเสียใจ

   “ถ้าไม่เด็ดขาด ก็อาจจะตัดไม่ขาดก็ได้ล่ะมั้ง" หมอผีอารัญย์ตอบออกมา "คุณเองก็หยุดร้องไห้ได้แล้ว รีบกลับไปยังที่พักของคุณกันเถอะ"

   “อืม... ครับ" มิวส์พยักหน้าตอบตกลงพลางยกมือขึ้นมาปาดหยดน้ำตาที่ไม่รู้ว่ามันไหลลงมาได้อย่างไร หลังจากนั้นหมอผีอารัญย์ก็เดินนำหน้ามิวส์ต่อไป





จบตอน T^T แหะๆ เป็นตอนสั้น ๆ ต่อจากตอนที่แล้วที่กระผมแอบตัดจบเนื่องจากอย่างแกล้งคนอ่านที่น่ารักยิ่งเบาๆครับ... อิอิ

สำหรับก้องกับสาวิตรี T^T สองคนนี้อย่างที่บอกเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ครับ และเพราะนิสัยของก้อง เลยทำให้สาวิตรีถึงกับกล้าพูดออกมาว่า
"ถ้าเป็นก้อง เราเชื่อว่าก้องจะต้องช่วยเหลือเราแน่ๆ" ไม่ต้องมีคำพูดหรือคำอธิบายอะไรมากมาย...
สุดท้ายก้องนี่แหละพระเอกของผมตัวจริง  :3123: เชื่อว่าพออ่านมาเรื่อยๆ หลายๆคนน่าจะพอเริ่มเดาเรื่องนี้ออก
แต่มันยังไม่จบอยู่แค่นี้นะ เดี๋ยวมีอะไรมาให้หักมุมเล่นๆ อีกตอนท้าย แฮ่ๆ ติดตามกันต่อนะครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน29 P.11]- 02/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 06-10-2013 00:25:25
คุยกับคนอ่านที่น่ารักครับผม

คุณ ApoStrOfhYs :: คิคิ ตอนจบเดาเล่นๆได้เลยครับ ว่าจะเป็นไง - - อาจจะมีการหักมุมเล่นไปมานิดๆหน่อยๆ หรือจบแบบเรียบๆ ก็ได้จ้า 555++ ส่วนภาคต่อ จริงๆคิดไว้แล้วครับว่าจะทำออกมาแนวไหน แต่ดูก่อนว่าหลังจากแต่งและลงเรื่องนี้ครับแล้ว T^T จะยังมีใครอยากอ่านมิวส์ ไม้ ก้อง แม็กกี้ อีกหรือเปล่าครับ T^T ถ้ามีไม่มากเพราะอิ่มกับตอนจบแล้ว(555อย่าคิดนะว่าจะอิ่ม แอบขู่ คิคิ) :laugh:ก็อาจจะจบลงเท่านี้และเขียนเรื่องอื่นไปเลยครับ (อันนี้ต้องขออภัยจริงๆเน่อ)
คุณ Yukio4869 :: 555 ไม่กล้ากระทืบหรอกคร้าบ >.< แหมๆ สำหรับคนอ่านแล้วผมยกขึ้นหิ้งเสมอคร้าบ 555 ส่วนจบเศร้าหรือไม่เศร้านั้น T^T เดี๋ยวพอแต่งและลงถึงตอนจบช่วยตัดสินด้วยนะครับ แฮ่ๆ
คุณ maemix :: 555 ตอนช่วงนี้ตั้งใจทำให้เซ็งๆไม้กันครับเพราะเทคะแนนมาทางก้องกับหมอผีตัวละครรับเชิญครับ T^T
คุณ loveaaa_somsak :: มาแล้วจ้า... T^T จบตอนนี้ไม่ค้างแล้วเน่อ  :-[
คุณ Feuy_qty :: 555 เพราะมีหมอผีครับ เลยทำให้ดูแฟนตาซีนิดๆ 555 ยังมีแอบแฟนตาซีนิดนึงหลังจากนี้ (ใบ้ให้เดี๋ยวจะได้เห็นหมอผีต่อสู้กับผีร้ายด้วยครับ เอิ๊กๆๆ) ปล.T^Tเรื่องทิชชู่ จริงๆชอบบทดราม่านะครับ แต่รู้สึกตัวเองยังแต่งไม่เก่ง ไม่อินเท่าไหร่ (ถ้ามีในเนื้อเรื่องนี้ยังไงลองแนะนำดูนะครับ ว่าจะร้องไห้หรือเปล่า หรือถ้าไม่มีบทนั้นก็แล้วไปจ้า) ^^
คุณ kasarus :: แฮ่ๆ รู้หรือยังว่าก้่องภพสมควรโดน :beat:หรือ :กอด1: *0*
คุณ pannixz :: เรื่องดำเนินมาเกินครึ่งแล้วครับ T^T ไวจริงๆเลย T^T  :hao5:
คุณ mukmaoY ::  :กอด1: จำยูสเซอร์นี้ได้ อิอิ กระโดดกอด น่ารักจริงๆ แม้คิดไม่ออกจะเม้นท์อารายแต่ก็เม้นท์ให้ทุกตอน  :mew1:
คุณ NJnobu :: จุ๊บ  :mew1: ฟัด :beat: กลับครับ 555 เรื่องคู่อะไรยังไงนั่น อยากเฉลยมากๆ ฮ่าๆ แต่รอติดตามกันเองดีกว่า เนอะ จิ้ม ๆ ๆ :z13:
คุณ oumpatta :: ^^ ฮ่าๆ จริงครับ ถ้ามิวส์มาแทรกมิวส์กับไม้ต้องกลายเป็นตัวร้ายและแม็กกี้จะน่าสงสารทันที T^T แต่จริงๆจะเป็นยังไงนั้น ช่วยลุ้นอีกนิดนะครับ ใกล้แล้วๆ  :hao5:
คุณ iamnan :: ใจร้ายย มาตีหัวเค้าได้ไง  :ling3:  :hao5: โป้งงงง.... คิคิ
คุณ ice_spok :: ต่อยกลับ สะใจ 555
คุณ -Otto- :: มาต่อแล้วคร้าบ หายค้างแล้วเนอะๆๆ  :mew1:
คุณ mentholss :: ขอบคุณคร้าบบ >.< หายค้างยังครับ คิคิ
คุณ Biwty... :: แฮ่ๆๆ เผยสาเหตุที่ทำให้ก้องต้องทำแบบนั้นกับมิวส์แล้วนะครับ T^T
คุณ มยอนฮวา :: รักเลยยูสเซอร์นี้ มาฝากชื่อไว้เกือบทุกตอน (หรือทุกตอนหว่า) ฮ่าๆๆ  :3123:
คุณ arthit170530 :: ^^ มาต่อแล้วนะครับ  :mew1:
คุณ EARTHYSS :) :: 555 น่าสนใจตรงไม้ไม่เลือกสักคนครับ ดูหักมุมดี *0* แต่เดี๋ยวลองตามต่ออีกนิดๆนะครับ ใกล้แล้วๆ ^^
คุณ 2pmui :: *0* ขอบคุณครับ ดีใจทุกครั้งเลยครับ ที่พอมีคนตามอ่านรวดเดียวตั้งแต่ต้นจนจบ ยังไงติดตามอีกนิดนะครับ ใกล้จะคลี่คลายแว้วว *0* ปล.น้องเปอร์คนดีใจแน่ๆเลย ในที่สุดก็มี FC กะเค้า  :hao6:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 06-10-2013 00:39:10
ได้รู้ความจริงนิดนึงแล้ว คงจะใจเย็นลงไปได้เยอะนะมิวส์  :hao4:

จะมีแบบหักมุมด้วย โห...! อยากอ่านแล้วอะ 555

เรื่องคู่ คนเขียนอยากเฉลย คนอ่านก็ลุ้นสุดๆ  :hao3:

+  :กอด1:  :mew1: จุ๊บ คนเขียนซะหน่อยก่อนนอน ฝันดีครับผม  :a12:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 06-10-2013 00:53:34
ทำไมก้องต้องบอกเลิกมิวส์ด้วย และไม่บอกเหตุผล คุ้มไหมที่ต้องแลกกับชีวิตและความสูญเสียของครอบครัวของมิวส์


อยากให้มิวส์ไปผุดไปเกิด พ้นจากเคราะห์กรรมครั้งนี้สักที


ปล . ตอนนี้สั้นจัง ไม่หายอยากเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ApoStrOfhYs ที่ 06-10-2013 01:06:09
อืม...ขอทำใจ10วินะค่ะ
.
..
...
 o22  :a5:
ความจริงมันแปลกๆตั้งแต่ที่ไปหาที่บ้านมิวส์แล้วบอกว่าก้องบวชหน้าโลง(รึป่าว ถ้าจำไม่ผิด)มันน่าจะมีเหตุจำเป็นที่เลิกเลยต้องทำขนาดนั้น ส่วนเรื่องไม้กับแม๊กกี้ตอนนี้ไม่เชียร์แล้วจ้า //ยกธงขาว  :sad11: เพราะว่า ชีวิตกลับมาราบรื่น รักกันหวานชื่นกันดี
ตอนนี้อยากให้เน้นก้องกับมิวส์มากกว่า อยากให้คุยกันให้เข้าใจ เห็นบอกว่าจะมีหักมุม ตายละ :z3: มิวส์น้อยของเค้า(?)จะได้ไปเกิดมั้ยน้ออออ  :เฮ้อ: ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กับมิสเตอร์ กุ๊กกู๋น้าาาา เรื่องภาคต่อก็อยากอ่านเสมอจ้าาา หรือจะแต่งเรื่องใหม่ก็คงจะสนุกไม่แพ้เรื่องนี้แน่นอนใช้มั้ยค่ะ  o13 เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 06-10-2013 01:14:30
แฮๆ มันค้างกว่าเดิมหรือปล่าว อันนี้เหมือนจะเดาได้อยู่แล้วตั้งแต่ก้องหลุดพูดมาตอนนั้น
แค่สงสัยว่าทำไมต้องบอกเลิกทำร้ายจิตใจกันขนาดนั้นด้วยอ่า ทำไมก้องไม่บอกความจริง แถมบอกเลิกในวันเกิดอีก ใจร้าย
แล้วอิผีที่ทำให้มิวส์ตายมันเป็นใครเนีย.....  :beat:
ส่วนสาวิตรีก็เห็นแก่ตัวมากนะ ถ้าเป็นเพื่อนสนิทกันจริงนางต้องรู้มาบ้างสิว่า เพื่อนมีคนรักแล้ว  พูดแบบนั้นเท่ากับมัดมือชกชัดๆ  :z6:
น้องเปอร์เป็นลูกใคร? ทำไมมาตายที่มหาลัยได้นะ  .... 
ไม่มีใครจะเหมาะเป็นพระเอกเลย ปล่อยมิวส์กับน้องเปอร์ไปเกิด เผื่อจะเจอหนุ่มแซ่บๆในชาติหน้าดีกว่า  :heaven
ยังมีคำถามมากมายเหมือนเจ้าหนูจำไมเลย ฮ่าๆๆๆ ......ติดตามต่อๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-10-2013 01:38:28
ค้างกว่าเดิมอีกน๊าาาา

ดักตีหัวรอบ 2  :m16:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 06-10-2013 03:53:00
มานิดเดียวเอง......  :ling1:

ยิ่งคลายปมแล้ว
มิวยิ่งหน้าสงสารเข้าไปใหญ่
ตายเพราะคำร้องขอของผู้หญิงเห็นแก่ตัว
สามันไม่รู้หรอไงว่าก้องคบกับมิวอยู่ แล้วยังจะมาทำยังงี้ฮึ้ย  :m31:
ไม่ว่าความจริงมันเป็นยังไงก็ยังรู้สึกว่าก้องนั้นแหละที่ทำให้มิวตาย
โกรธก้องหนักกว่าเดิม  :fire:  :seng2ped:

มาต่อไวๆนะคะ  :call:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 06-10-2013 08:33:00
มิวส์ได้รู้ความจริงแล้ว หมดเรื่องคาใจซะทีสินะ ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า

แต่มิวส์ตายไปแล้วนี่น่า งั้นเปลี่ยนเป็นไปผุดไปเกิดใหม่ ไปหาคนดีๆ เอาชาติหน้าละกัน

ส่วนสองหนุ่มก้องกับไม้ก็ปล่อยให้เค้าอยู่กับคนที่เค้าเลือกแล้วไปเหอะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 06-10-2013 10:46:14
แอบเดาไว้ในใจจากตอนที่แล้ว เออถูกด้วย
แล้วมิวส์จะทำไงต่อไป เมื่อรู้ความจริง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 06-10-2013 11:22:19
ว้ายยย  คนเขียนรู้ด้วยว่าเรานึกไรไม่ออก555
อันที่จริงคนอื่นเขียนหมดแล้วต่างหาก :hao7:

ว่าแต่ตอนนี้สั้นจริ๊ง ประหนึ่งเรียกน้ำย่อยแห่งความดราม่า
รักก้องนะ คนดีจริงๆ
แต่บางทีปัญหามันก็มีหลายทางออก
สงสารมิวส์ :ling1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 06-10-2013 11:39:37
แล้วเรื่องจะเป็นยังไงต่อไปอ่า
ใครเป็นพระเอกหว่า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: -Otto- ที่ 06-10-2013 12:13:30
 :a5:
อยากจะกระโดดงับคอคนเขียน
หายค้างจากตอนที่แล้ว...แล้วก้ค้างต่อทำไมมาสั้นจัง :m15:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Fujoshi ที่ 06-10-2013 16:57:58
คุณคนเขียน ทำไมเรายิ่งอ่านยิ่งหมั่นไส้ไม้อ่ะคะ :m28:

แม็กกี้ เลิกแม่ง!!!! :m31:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 06-10-2013 18:01:48
แค่เนี่ย!!!!

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: myd3ar ที่ 06-10-2013 21:13:11
ชอบตัดจบแบบเนี้ย โป้งๆๆ ค้างตลอดเลยค่า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 06-10-2013 22:08:57
ตอนที่ 31





           ทางด้านของก้อง... ผืนป่าที่กว้างใหญ่ไพศาลภายใต้ท้องฟ้าที่มืดมิดทำให้ก้องไม่รู้เลยว่าตัวเองกำลังวิ่งอยู่บริเวณไหนของผืนป่า แต่ชายหนุ่มก็ไม่ย่อท้อ... เพราะความห่วงใยที่ก้องมีต่อมิวส์ ทำให้ก้องตัดสินใจที่จะเดินหน้าต่อไปโดยไม่เกรงกลัวสักนิดว่าตนเองจะได้รับอันตรายอะไรบ้าง

   “มิวส์... มิวส์... ได้ยินแล้วตอบด้วย" ขณะที่กึ่งเดินกึ่งวิ่ง ก้องก็จะตะโกนเสียงดังตลอดทาง ด้วยหวังว่าเสียงที่ตะโกนออกไปนั้นจะส่งไปถึงมิวส์

   ทว่า... ไม่ว่าจะตะโกนกี่ครั้ง ๆ ก็ไม่มีเสียงใด ๆ ตอบกลับมา จนกระทั่งเขาได้เดินไปถึงจุดที่อันตรายที่สุดของผืนป่ายามค่ำคืน แม้แต่พวกเสือ สิงห์ กระทิง แรด ราชสีห์ทั้งหลายก็ยังไม่กล้าย่างกายเข้าไปยังที่แห่งนั้น

   นอกจากต้นไม้สูงใหญ่ที่พบได้ตามทาง บริเวณนั้นยังมีต้นไทรที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกเป็นบริเวณกว้าง โดยรอบกิ่งก้านของมันมีเถาวัลย์ห้อยระโยงระยางลงมาเต็มไปหมดจนทำให้ดูน่ากลัวกว่าปกติ

   เสียงลมหวีดหวิวที่เล็ดลอดผ่านมายังกลุ่มต้นไทรนั้นทำให้ก้องรู้สึกหวาดกลัว เขากลืนน้ำลายอย่างฝืดคอพลางสับสนในจิตใจว่าควรจะเดินเข้าไปในนั้นดีหรือไม่

   'ไม่... มันน่ากลัวเกินไป' ก้องคิดเช่นนั้น ทว่าในขณะที่เขากำลังจะหันหลังกลับ เสียงตะโกนก้องที่ร้องขอความช่วยเหลือของมิวส์ก็ดังเล็ดลอดออกมาจากบริเวณกลุ่มต้นไทร นั่นทำให้ชายหนุ่มชะงักเท้าและตัดสินใจเดินเข้าไปในดงต้นไทรใหญ่โดยไม่เกรงกลัวสิ่งลี้ลับทันที

   “มิวส์ มิวส์" ก้องยังพยายามตะโกนร้องเรียกตลอดทาง ยิ่งพอก้าวขาเข้าไปลึกมากขึ้น กิ่งก้านที่แผ่ขยายปกคลุมอย่างหนาแน่นหนาได้ทำให้ภายในทางเดินนั้นค่อย ๆ มืดมิดมากขึ้น

   มันมืดมินมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งในที่สุด ก้อง... ไม่สามารถมองเห็นอะไรได้อีกต่อไปนอกจากสีดำที่ว่างเปล่า

   “ฮิ ๆ ๆ ๆ"

   แล้วเสียงหัวเราะอันแหลมคมของสิ่งเร้นลับที่มองไม่เห็นก็ดังขึ้น

   “ใคร" ก้องทำใจดีสู้เสือเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "มิวส์อยู่ที่ไหน"

   “ฮิ ๆ ๆ ๆ"

   ไม่ว่าก้องจะพูดอะไรออกไป ก็มีเพียงเสียงหัวเราะที่น่าขยะแขยงเหล่านั้นตอบกลับมาจนก้องรู้สึกถึงความไม่ปกติ แต่จะวิ่งกลับออกไปยังทางที่เดินเข้ามาก็ไม่ทันเสียแล้ว เพราะในตอนนี้สายตารอบข้างมีเพียงสีดำมืดสนิทจนก้องไม่รู้เลยว่าควรจะเดินไปทางไหนต่อ

   “ช่วยด้วย... ใครก็ได้ ช่วยผมด้วย!!!” และท้ายที่สุด ความหวาดกลัวก็ทำให้ก้องตัดสินใจตะโกนออกไปสุดเสียงด้วยความหวังว่าใครสักคนจะได้ยิน






   “ก้อง!!!”

   มิวส์ที่กำลังเดินตามหมอผีอารัญย์เพื่อที่จะกลับไปบ้านพักพลันสะดุ้ง

   “มีอะไร" หมอผีอารัญย์เอ่ยถาม

   “เมื่อกี้ผมเหมือนได้ยินเสียงของก้องร้องให้ช่วย" มิวส์ตอบออกไปตามความรู้สึกที่เกิดขึ้น

   “ดังมาจากทางไหน" หมอผีอารัญย์เอ่ยถาม สีหน้าที่ไม่เคยรู้สึกทุกข์ร้อนอะไรของเขาเริ่มแสดงความวิตกอะไรบางอย่างออกมา

   “ผมไม่แน่ใจ... แต่คิดว่าน่าจะเป็นทางนั้น" มิวส์ชี้ไปยังทางต้นเสียง แม้จะไม่แน่ใจเพราะผืนป่าช่างกว้างใหญ่เหลือเกินแต่มิวส์ก็คิดว่าน่าจะใช่

   หมอผีอารัญย์ถึงกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจทันที เพราะนิ้วของมิวส์ชี้ไปฝั่งทิศตะวันตก ซึ่งเป็นหนทางที่ทอดยาวไปยังดงไทรอาภรรพ์ สถานที่แห่งนั้นเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณที่ร้ายกาจที่สุดในผืนป่าแห่งนี้ แม้แต่หมอผีอย่างเขาก็ไม่อยากเข้าใกล้

   “คุณแน่ใจนะ" แม้จะหวั่นวิตก แต่หมอผีอารัญย์ก็ยังคงรักษามาดเอาไว้เพราะไม่อยากให้มิวส์ตกใจไปด้วย

   “ครับ" มิวส์ตอบออกไป

   “ถ้าอย่างนั้นคุณรอผมอยู่ที่นี่ เดี๋ยวผมจะรีบกลับมา ถ้ามีวิญญาณหรือผีร้ายเข้าใกล้ คุณก็รีบไปหลบอยู่ในลำต้นของต้นไม้ใหญ่ซะ"

   พูดจบหมอผีอารัญย์ก็ทำท่าจะหายตัวไป หากแต่มือของมิวส์ที่เอื้อมไปจับแขนของหมอผีเอาไว้ได้ทันทำให้มิวส์หายตัวไปพร้อม ๆ กับหมอผีอารัญย์

   สถานที่แห่งใหม่ที่มาปรากฏ หากมองดูรอบข้างแล้วมันไม่ได้ต่างกับผืนป่าทั่วไปเลยสักนิด ทว่าเบื้องหน้ากลับมีต้นไทรสูงใหญ่จำนวนหลายต้นซึ่งแผ่กิ่งก้านเป็นวงกว้างจนดูน่าวังเวงกว่าปกติ ...แม้แต่วิญญาณอ่อนต่อโลกอย่างมิวส์ ก็ยังรับรู้ได้ถึงแรงอาถรรพ์ของดงไทรเบื้องหน้า

   “ก้อง!!!” มิวส์ตัดสินใจตะโกนเสียงดังทันที ด้วยหวังว่าจะได้ยินเสียงตอบกลับของชายหนุ่มที่เขาเอ่ยเรียก

   หมอผีอารัญย์ที่เพิ่งรู้ตัวว่ามีวิญญาณที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้อย่างมิวส์ตามมาด้วยก็หันมามองผู้ที่ตะโกนด้วยความตกใจ

   “เฮ้ย!!! คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" หมอผีเอ่ยถามด้วยความตกใจ

   “ตอนที่คุณกำลังจะหายตัว ผมรีบจับแแขนของคุณเอาไว้ได้ทันน่ะครับ"

   ได้ยินคำตอบของมิวส์ หมอผีอารัญย์ก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาด้วยความหนักใจ ถ้าหากมิวส์เป็นวิญญาณที่มีวิชากล้าแกร่งเหมือนเขาก็คงจะไม่เป็นอะไร แต่เพราะมิวส์เป็นวิญญาณที่ไร้น้ำยา ตามมาด้วยก็มีแต่จะเป็นตัวถ่วงเปล่า ๆ




จบตอนครับ T^T รีบมาลงเลยนะกลัวทุกคนค้างง่า หวังว่าไม่ค้างแล้วเน่อ T^T
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน30 P.12]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 06-10-2013 22:09:23
คุยกับคนอ่านครับ ^^  :mew1:

คุณ NJnobu :: แฮ่ได้รับจุ๊บละครับ จุ๊บกลับ ขอบคุณคร้าบ 555 จริงๆ ถ้าอ่านไปทีละตอนๆ แบบนี้ก็จะพอเดาๆออกเรื่อยอ่าครับ ไม่หักมุมอารายมาก
คุณ loveaaa_somsak :: T^T มาต่อแล้วนะครับ ตอนล่าสุดสั้นอีกเหมือนกัน แฮ่ๆๆ
คุณ ApoStrOfhYs :: >.< ขอบคุณคร้าบ ได้อ่านคอมเม้นท์แล้วมีกำลังใจเพียบเลย อิอิ จริงๆ อะไรที่คิดว่าราบรื่นอาจจะไม่ราบรื่นก็ได้ 555 ลองสังเกตลายเส้น(ใต้คอมเม้นท์ผมสิ) 555555  :hao6:
คุณ 2pmui :: ผีที่ทำให้มิวส์ตายคือวิญญาณอาฆาตตนก่อนครับ T^T ไม่มีรายละเอียดมากกว่านั้นจ้า แต่ก็เป็นประมาณว่าต้องหาคนอื่นมาตายแทนที่ครับ... ส่วนเรื่องน้องเปอร์ ยังเป็นปริศนาครับ แหะๆ ปล. T^T แอบไปเห็นในกระทู้โหวต ขอบคุณมากๆเลยนะครับ เป็นคนแรกเลยที่โหวตให้เรื่องนี้  :hao5: มีกำลังใจขึ้นมาหลายเฮือกเลย ขอบคุณครับ  :mew1:
คุณ iamnan :: ง่า อ่านจบตอนล่าสุดจะโดนดักตีหัวรอบ 3 ไหมเนี่ย *0*  ไม่น๊า
คุณ pannixz :: มาต่อแล้วคร้าบ T^T แต่ว่าสั้นๆ อีกแล้วง่า T^T ตอนต่อไปไม่น่าจะสั้นเท่านี้แล้วครับ แฮ่ๆ
คุณ kasarus :: *0* ต้องรอดูว่าก้องกับไม้จะเลือกใคร แฮ่ๆ ส่วนมิวส์ T^T จะยอมไปเกิดไหม ต้องรอดูครับ
คุณ maemix :: 555 ตามง้อครับ แต่จะง้อขอโทษครับทันหรือไม่ต้องรอดูครับ
คุณ mukmaoY :: 555++ จ้า เป็นน้ำย่อยจริงๆครับ ตอนล่าสุดก็เป็นน้ำย่อย เหอๆๆๆ ก้องมันบื้อครับ มันดีเกินไปจนเรียกว่า 'โง่' T^T (ถอดแบบมาจากนิสัยผมเอง กร๊ากกก) เหรอ???? - -"
คุณ มยอนฮวา :: 555 สรุปคนเขียนเป็นพระเอกจบ *0* ไม่ใช่ละ เรื่องนี้ต้องแล้วแต่ใครจะพิจารณาจ้าว่าชอบใครมากกว่ากัน เพราะเชื่อว่าตอนจบ ความรู้สึกที่มีให้แต่ละคนมันไม่เหมือนกันแล้วต้องเปลี่ยนไปจากตอนแรกที่อ่านแน่ๆ
คุณ -Otto- :: มางับคอเค้า เค้างับกลับเด้อ !!! T^T สั้นแต่รีบมาต่อให้แล้วนะครับ (แต่สั้นอยู่ดี แฮ่ๆ)
คุณ Fujoshi :: 555  เป็นธรรมดาครับเพราะช่วงหลังๆมานี่ตั้งใจแอบให้หมั่นไส้ไม้กันไปเบาๆ T^T เขียนเองยังหมั่นไส้เลยครับ 555++ ชอบทำร้ายจิตใจแม็กกี้กะมิวส์!!!
คุณ ice_spok :: ง่าาาา  :hao5:
คุณ myd3ar :: ง่าาา เกี่ยวก้อยๆๆ ดีกันเน่อ T^T  :hao5:


หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน31 P.13]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 06-10-2013 22:14:45
หนูมิวส์อาจจะ อาจจะ อาจจะไม่เป็นตัวถ่วงก็ได้มั้งงงง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน31 P.13]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 06-10-2013 22:30:40
ยกให้คุณหมอผีเป็นพระเอกเลยดีกว่า คุณผีหมอผีสุดเท่!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน31 P.13]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 06-10-2013 22:34:08
แสดงว่าก้องต้องเจอกับวิญญาณร้ายแน่ๆ  :sad3:

ทำไมว่าน้องมิวส์ของเค้าไม่มีน้ำยาอะ...  :angry2:

+  :กอด1:  :mew1: คนเขียนก่อนนอน  :a12:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน31 P.13]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ApoStrOfhYs ที่ 06-10-2013 22:57:17
เอาแล้ววววว-----ถึงฉากหมอผีรูปหล่อโชว์พลัง  :hao6:
ส่วนเรื่องข้างใต้เส้น มองขึ้นไป โอ้ววว 'น้ำตาคือยากระตุ้น'  :a5:
เป็นกำลังใจให้ทั้งก้องให้ใจแข็งอีกนิดอย่าให้ผีมันทำอะไรได้ / ให้มิวส์มีความรอบคอบมากกว่านี้ / ให้หมอผีรูปหล่อชนะมาร เย้ :mc4: หวังว่ามาม่า(ดราม่า)คงมาแค่ถ้วยสองถ้วยนะคะ ไม่เอาเกินกว่านั้น เดี๋ยวอืด  :hao7:
ไม่ต้องน้อยใจ เป็นกำลังใจให้คนเขียนเหมือนกันจ้าาา  :-[  :L2:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน31 P.13]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 06-10-2013 23:18:21
ให้มันได้หยั่งงี้สิ ไอ้วิญญาณหน่อมแน้มตามมาหาที่เองแท้ๆ  จะมาช่วยหรือมาเป็นภาระกันแน่
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน31 P.13]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pharm ที่ 07-10-2013 01:42:05
 :a5: ทำไมสั้นงี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน31 P.13]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 07-10-2013 17:17:31
ค้างงงงงงงงงงงงงงงงงง :ling1:
มาแบบสั้นๆอีกแล้วง่า.....



ตอนต่อไปเอายาวๆนะ o18
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน31 P.13]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 07-10-2013 20:45:59
มิวส์ไม่ไร้น้ำยาหรอก
แค่ช่วยไม่ค่อยได้555
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน31 P.13]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 07-10-2013 21:29:38
ไม่ได้เข้าเล้าสิบกว่าวัน ผู้เขียนมาต่อตั้ง 4 ตอนแน่ะ อ่าน 4 ตอนนี้แล้วก็ปลื้มใจ เพราะถึงไม้จะพูดทำร้ายจิตใจแม็กกี้
แต่ไม้ก็ยังแคร์และเลือกที่จะดูแลแม็กกี้ก่อนจะไปตามหามิวส์  (หรือจะมีหักมุมแบบไม้แอบหนีแม็กกี้ไปหามิวส์อีกป่าวไม่รู้)
แต่ไม่รู้ไม้ทำไปเพราะความรัก หรือเพราะหน้าที่ของคำว่าแฟนอะจิ
ส่วนมิวส์ก็ได้รู้ความจริงที่ก้องปิดบังไว้ซะที แต่น่าจะมีเรื่องราวอะไรอย่างอื่นอีกรึเปล่าที่อาจต้องรอก้องมาเล่าเอง
แล้วตอนนี้ก้องก็ดันถูกวิญญาณร้ายจับไว้ซะอีก แล้วมิวส์กะคุณหมอผีสุดหล่อจะช่วยก้องยังไงล่ะเนี่ย
ก้องจะได้มาอธิบายความจริงทั้งหมดให้มิวส์รู้ซะที แล้วก้องก็นะถึงจะสงสารเพื่อนแต่ก็เป็นคนดีเกินไปรึเปล่า
ยอมเสียสละความสุขทั้งชีวิตของตัวเองเลยอะ ความจริงน่าจะอธิบายให้มิวส์เข้าใจมากกว่าบอกเลิกให้มิวส์เสียใจนะ
เพราะถึงมิวส์ไม่ต้องกลายเป็นวิญญาณก็ต้องอยู่อย่างทรมานอยู่ดี แล้วไหนจะเรื่องแม่ของมิวส์อีกที่ยังดูเป็นปริศนา แต่ไม่รู้จะเกี่ยวกับก้องรึเปล่า 
ตอนนี้มิวส์มีตัวช่วยเป็นหมอผีสุดหล่อเข้ามาช่วยแทนไม้แล้ว ก็ขอให้คุณหมอผีช่วยให้มิวส์ได้ไปเกิดจริง ๆ ซะที
ส่วนก้องก็น่าจะให้เลิกกะสาวิตรีไปเลย เพราะสาวิตรีเห็นแก่ตัวมากเกินอะ เฮ้อ แต่คงไม่ได้หรอกเนอะสงสารลูกของสาวิตรีอีก
แล้วถึงเลิกตอนนี้ก้องกับมิวส์ก็กลับมาอยู่ด้วยกันไม่ได้อยู่ดีนี่เนอะ นอกจากให้ก้องตายอีกคนแล้วไปเกิดคู่กะมิวส์ซะเลย 555 โหดไปไหมอะ
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนต่อไปจ้า หวังว่าคงไม่หักมุมแบบเศร้า ๆ นะค่ะ  :pig4:  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน31 P.13]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 08-10-2013 23:02:07
ตอนที่ 32




      ทางด้านของไม้... เขากำลังตั้งหน้าตั้งตาพาแม็กกี้กลับหอพักด้วยเส้นทางที่สับสน ไม้รู้สึกว่าตนเดินมาหลายชั่วโมงแล้วแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะถึงห้องพักสักที

   “ไอ้แม็กกี้... มึงหลับยังวะ" ไม้เอ่ยขึ้นขณะที่เขากำลังรู้สึกว่าตนเองเริ่มจะหมดแรงและเดินต่อไปไม่ไหว

   “อือ...” แม็กกี้ตอบด้วยน้ำเสียงงัวเงีย ความจริงเขาหลับไปตั้งนานแล้วแต่เพราะได้ยินเสียงเรียกแว่ว ๆ เลยทำให้เขาครางออกมา

   “กูไม่ไหวแล้วนะ" ไม้เอ่ยขึ้น

   “อือ...” แม็กกี้ครางอีกครั้ง

   เมื่อแม็กกี้ไม่ได้ว่าอะไรไม้ก็ตัดสินใจหามุมนั่งพักทันที ชายหนุ่มค่อย ๆ ก้าวขาไปยังต้นไม้ต้นหนึ่งที่อยู่ใกล้ที่สุดด้วยความเชื่องช้าก่อนจะค่อย ๆ วางร่างที่ไร้สติลงอย่างทะนุถนอม

   “หลับหรอกเหรอเนี่ย" ไม้เอ่ยขึ้นขณะพิจารณามองดูใบหน้าของคนรักใกล้ ๆ

   เมื่อเห็นว่าร่างที่เล็กกว่ากำลังหลับใหล ไม้ก็เอื้อมมือไปคลำที่หน้าผากก่อนจะถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ เพราะหน้าผากของแม็กกี้มีอุณหภูมิปกติไม่ได้ร้อนหรือเย็นจนเกินไป จากนั้นไม้ก็ตัดสินใจที่จะพักผ่อนบ้าง

   ไม้เอนตัวพิงกับต้นไม้ใหญ่ก่อนที่จะยกแขนพาดคอกับแม็กกี้แล้วดันให้ศีรษะของร่างนั้นมาพิงที่อ้อมอกของตนแล้วยกมืออีกข้างขึ้นมาโอบกอด

   “ฝันดีนะ" ไม้เอ่ยขึ้นกับร่างที่หลับใหล แม้การกระทำของเขาในตอนนี้จะดูห่วงใยแม็กกี้แต่ทว่าภายในจิตใจกลับคิดถึงแต่ไอ้วิญญาณหน่อมแน้มที่ตอนนี้ไม่รู้มันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน
   



   อีกฟากหนึ่งทางทิศตะวันตกของผืนป่า... หมอผีอารัญย์กำลังหนักใจที่มีมนุษย์หลงเข้าไปในดงไทร ซึ่งมีวิญญาณร้ายสิงสถิตอยู่ แต่ที่ทำให้หนักใจมากขึ้นไปอีกเพราะมีวิญญาณที่ไม่ได้รับเชิญอย่างมิวส์ตามมาด้วย

   “ไม่ได้... บอกว่าเข้าไปไม่ได้ก็ไม่ได้ยังไงล่ะ" หมอผีอารัญย์ปฏิเสธมิวส์เป็นครั้งที่ 10 หมอนั่นเอาแต่โวยวายจะขอเข้าไปในป่าดงไทรด้วย

   “พี่หมอผีอ่ะ... ก้องกำลังตกอยู่ในอันตรายนะ" มิวส์พยายามเถียง "ผมอยากไปช่วยก้อง ให้ผมเข้าไปด้วยนะ นะครับ... นะ"

   “ในนั้นมันอันตรายมากนะ... ถ้านายเข้าไป นายอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับออกมาข้างนอกอีกเลยนะ" หมอผีอารัญย์ข่มขู่ ตามสถิติที่เคยเกิดขึ้น เขารู้เพียงว่าไม่มีมุนษย์หน้าไหนที่หลงเข้าไปในดงไทรยามวิกาลจะสามารถเล็ดลอดออกมาได้สักคน

   “แล้วถ้าคุณเข้าไป... คุณจะช่วยก้องออกมาได้เหรอครับ คนเดียวหัวหายสองคนเพื่อนตายนะคุณ" มิวส์กล่าวแถมยังเล่นลิ้นเป็นเจ้าสำบัดสำนวนอีกต่างหาก

   “เออ... ได้ตายด้วยกันทั้งคู่แน่ ๆ" หมอผีอารัญย์ทำเสียงดุ "บอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ ขืนคุณยังเซ้าซี้จะตามผมเข้าไปผมก็ยิ่งจะเสียเวลาและผมอาจจะช่วยเขาไม่ทันก็ได้นะ"

   “ก็ได้ ๆ" เมื่อหมอผีปฏิเสธท่าเดียว ท้ายที่สุดมิวส์ก็ต้องจำยอม

   “ผมจะเข้าไปในนั้นและจะพยายามกลับออกมาให้ไวที่สุด" หมอผีอารัญย์หันมาพูดกับมิวส์ด้วยน้ำเสียงจริงจัง "คุณต้องเชื่อมผมนะ ...อย่าเข้าแอบเข้าไปข้างในเด็ดขาด ขอให้เชื่อในความสามารถของผมแล้วทุกอย่างจะดีเอง"

   น้ำเสียงของหมอผีอารัญย์จริงจังมากจนมิวส์ที่ิคิดจะแอบตามเข้าไปถึงกับต้องกลืนน้ำลายเสียงดังเอื๊อก...

   “ครับ" มิวส์ตอบออกมา... เขาล่ะอยากจะรู้นักว่าข้างในนั้นมันมีอะไรกันแน่ 'แต่ถ้าคุณไม่กลับออกมาภายในเวลาครึ่งชั่วโมงผมจะแอบตามเข้าไปแน่ ๆ'

   “ดีมาก... และถ้าผมไม่กลับออกมาก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ให้ทำใจไว้เลยว่าผมกับคุณก้องอาจจะต้องติดอยู่ในนั้นตลอดไป" หมอผีอารัญย์เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังอีกครั้ง

   “พี่หมอผีสุดหล่อ... ผมเชื่อว่าคุณจะต้องกลับออกมา" มิวส์เอ่ยขึ้นก่อนที่จะเอื้อมมือไปตบบ่าหมอผีอารัญย์เพื่อเป็นการให้กำลังใจและการแสดงถึงความไว้เนื้อเชื่อใจ

   “อย่าลืมที่ผมเตือนนะ ผมจะเข้าไปแล้ว"

   “ครับ"

   สิ้นเสียงของมิวส์หมอผีอารัญย์ก็หายตัวไปยังเบื้องหน้าต้นไทรต้นใหญ่ต้นแรกที่ตั้งเด่นเป็นสง่าซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นแห่งหนทางหายนะ

   หมอผีอารัญย์หันมายิ้มให้กับมิวส์หนึ่งทีพลางยกนิ้วโป้งขึ้นมาก่อนที่จะวิ่งเข้าไปในดงไทรอย่างไม่กลัวตาย

   ...หนทางในช่วงต้นยังไม่มีอะไรน่ากลัวมากนัก แต่พอเดินเข้าไปเรื่อย ๆ แสงรำไรที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาผ่านช่องของกิ่งก้านใบไม้ก็ค่อย ๆ หดหายและดับลงจนมืดสนิท รอบข้างไม่เหลืออะไรนอกจากความมืดมิดของสีดำราวกับกำลังเดินอยู่ในห้วงอวกาศที่ไร้สิ่งของมีเพียงท้องฟ้าสีดำกว้างใหญ่ไม่มีจุดจบ

   หมอผีอารัญย์หยุดนิ่งก่อนที่จะตั้งจิตให้สงบแล้วรวบรวมสมาธิอย่างแน่วแน่พลางพยายามนึกภาพของดงไทรว่าตอนนี้เขากำลังยืนอยู่ตำแหน่งไหนและควรจะเดินไปทิศทางไหนต่อ ...เนื่องจากหมอผีอารัญย์เคยมาสำรวจพื้นที่รอบ ๆ ดงไทรบ่อยครั้งเมื่อตอนที่มีแสงของพระอาทิตย์ จึงทำให้เขาจดจำทุกรายละเอียดได้เป็นอย่างดี

   “อย่าพยายามเลย หึหึ" ในขณะที่หมอผีอารัญย์กำลังตั้งสมาธิอยู่นั้น เสียงของวิญญาณสาวก็เอ่ยดังขึ้น แม้จะไม่รู้ว่ามันดังมาจากทิศทางไหนแต่เขาก็พยายามไม่สนใจและรวบรวมสมาธิต่อไป

   “ฮ่า ๆ ๆ ๆ ไม่มีประโยชน์หรอก" วิญญาณสาวหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงแหลมสูงพร้อมกับพยายามพูดก่อกวนต่อไปเพื่อไม่ให้หมอผีรวบรวมสมาธิได้สำเร็จ "ท่านหมอผีก็หล่อดีนะ แต่ไม่น่ามาทิ้งร่างของวิญญาณไว้ในดงไทรของข้าเลย ข้าจะให้โอกาสท่านหมอผีนะถ้าหันหลังแล้วเดินกลับไป ท่านหมอผีจะปลอดภัย แต่ถ้ายังอยู่ต่อท่านก็จงเตรียมรับชะตากรรมของท่านเอาไว้ได้เลย"

   “หึ...” หมอผีอารัญย์แสยะยิ้มออกมาไม่ได้โต้ตอบอะไร คำพูดต่าง ๆ นานาของวิญญาณสาวไม่สามารถก่อกวนของผู้ที่มีสมาธิสูงส่งอย่างเขาได้หรอก

   “หน็อย...” วิญญาณสาวชักจะเหลืออด เมื่อพูดก่อกวนไม่ได้ผล เธอก็ต้องใช้ไม่เด็ดด้วยการเค้นพลังเสียงร้องเพลงเพื่อทำลายสมาธิ และเพลงที่เธอเลือกที่จะร้องก็คือ "มันแน่นอก... ก็ยกออก... ให้แบกเอาไว้นานไปเดี๋ยวใจถลอก ออก ออก ออก ออก"

   สิ้นเสียงของวิญญาณสาวหมอผีอารัญก็ตะโกนออกมา

   “โว๊ยยย!!” ความพยายามของวิญญาณสาวได้ผล ร้องเพลงเฉย ๆ ไม่เท่าไหร่ แต่ดันมีลูกเอื้อนเหนือชั้นพอได้ฟังก็อดที่จะขำจนสมาธิหลุดไม่ได้ "หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้นะ"

   หมอผีอารัญย์ร้องสั่ง ทว่าวิญญาณสาวไม่สนใจในคำขอร้องของหมอผีอารัญย์ เธอร้องเพลงต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเพลงจบเธอก็ส่งเสียงหัวเราะอันแหลมสูงออกมา

   “หน็อย... ร้ายมากนักใช่ไหม" เมื่อวิญญาณสาวยังพยายามจะรบกวนสมาธิ หมอผีอารัญย์ก็หยิบสำลีในกระเป๋าย่ามที่สะพายเอาไว้ตลอดเวลาออกมาอุดหู แม้จะยังมีเสียงเล็ดลอดเข้ามาแต่มันก็ช่วยทำให้เสียงของวิญญาณสาวเบาลงเยอะไปพอสมควร

   ขณะที่หมอผีอารัญย์กำลังหลับตาทำสมาธิอยู่นั้น จากภาพในห้วงแห่งความคิดที่เคยมืดดำสนิทก็ค่อย ๆ มีแสงสว่างปรากฏออกมา จนท้ายที่สุดเขาก็สามารถเห็นภาพของอาณาบริเวณภายในดงไทรได้อย่างชัดเจนแม้จะหลับตาอยู่ก็ตาม

   หมอผีแสยะยิ้มออกมาอย่างชอบใจก่อนที่จะเดินไปในเส้นทางที่ทอดยาวจนกระทั่งสุดทางซึ่งมีถ้ำหินขนาดใหญ่ตั้งตะหง่านอยู่ตรงหน้า... ซึ่งถ้ำแห่งนี้นี่เองเป็นถ้ำที่ร่างของวิญญาณสาวอาฆาตถูกฆาตกรรม และเป็นถ้ำที่วิญญาณอาฆาตตนนี้ใช้ปิดชีพของคนกล้าดีที่หลงเข้ามาในดงไทรยามวิกาล





   ...ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปี ก่อน...

   หลังจากที่หมอผีอารัญย์ขับรถตกเขาประมาณ 2 เดือน ก็เกิดเหตุฆาตรกรรมข่มขืนหญิงสาวขึ้นในผืนป่าแห่งนี้และบริเวณที่เกิดเหตุก็คือหน้าถ้ำใหญ่หลังดงไทร

   “พวกแกจะทำอะไร" หญิงสาวหน้าตาสะสวยเอ่ยขึ้น เธอมีผิวที่ขาวเนียนและเส้นผมที่ตรงยาวถึงกลางหลัง... ก่อนหน้านี้เธอจำได้ว่าเธอกำลังต่อสู้กับชายหนุ่มแปลกหน้าสองคนที่บนยอดเขาทว่าด้วยความที่เป็นผู้หญิงร่างกายอ่อนแอกว่า เธอจึงโดนหมัดหนัก ๆ ของไอ้คนร้ายร่างใหญ่ซัดเข้าที่หน้าท้องและผลก็คือ เธอสลบลงทันที

   “หุบปาก" ไอ้คนร้ายที่เดินนำหน้าเอ่ยขึ้นพลางหันหลังไปตบบั้นท้ายของหญิงสาวที่ถูกแบกพาดไหลเป็นการสั่งสอนแรง ๆ หนึ่งที

   “โอ๊ยยย...” หญิงสาวส่งเสียงร้องโอดครวญเมื่อโดนทำร้าย เจ็บไม่เท่าไหร่แต่รู้สึกโดนหยามและไม่ให้เกียรติเลยสักนิดนี่สิมันแค้นยิ่งกว่า เกิดมาลืมตาดูโลก 21 ปี พ่อกับแม่ของเธอยังไม่เคยทำร้ายเธอแบบนี้เลยสักครั้ง

   เมื่อเริ่มรู้สึกแค้น... ความหวาดกลัวที่มีในตอนแรกก็หายไป เธออ้าปากให้กว้างที่สุดเท่าที่จะกว้างได้ก่อนที่ในเวลาต่อมาจะงับลงเข้าที่แผ่นหลังของไอ้ผู้ชายที่มันแบกเธอพาดไหล่จนใบหน้าและลำตัวของเธอส่วนบนถูกพับครึ่งไปทางด้านหลัง

   “โอ๊ยยย...” ผลจากการงับส่งผลให้ไอ้คนร้ายที่แบกเธอเอาไว้ร้องเสียงหลงและทรุดลงกับพื้นทันที เธอใช้จังหวะนี้วิ่งหนีด้วยความรวดเร็ว แม้จะเป็นผู้หญิงแต่เธอก็คล่องแคล่วพอที่จะวิ่งซอกซอนตามต้นไม้เพื่อหนีคนร้ายร่างสูงใหญ่สองคนที่กำลังตามมา

   เธอวิ่งผ่านต้นไม้สูงใหญ่จนกระทั่งไปถึงดงไทร... แล้วโชคชะตาก็ดันเล่นตลกกับเธอ เมื่อสุดปลายทางของดงไทรเป็นถ้ำหินสูงใหญ่แถมด้านซ้ายและขวาก็ถูกขนาบไปด้วยแม่น้ำกว้างใหญ่ที่ไม่รู้ว่ามีความลึกเท่าไหร่และมีสัตว์อันตรายอยู่ในนั้นหรือไม่

   ...น่าแปลกเพราะก่อนหน้านี้ที่เธอวิ่งมาไม่มีวี่แววของแม่น้ำ ลำธารเลยสักนิด แต่พอหลุดออกมาจากดงไทรเท่านั้นแหละ ก็เหมือนกับว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นที่ลึกลับที่ถูกซ่อนเอาไว้ในผืนป่าที่ไม่มีใครเคยพบเคยเห็น

   “หึ ๆ ยัยงูพิษ" คนร้ายคนที่เป็นลูกพี่เอ่ยขึ้นก่อนที่จะวิ่งไปจับตัวหญิงสาว

   หญิงสาวพยายามจะวิ่งหนีแต่ก็โดนคนร้ายอีกคนวิ่งดักเอาไว้ และท้ายที่สุดเธอก็ถูกจับตัวได้สำเร็จ และปฏิบัติการชั่วร้ายของคนร้ายทั้งสองก็เริ่มขึ้น...

   กว่าปฏิบัติการของทั้งสองคนจะเสร็จสิ้นก็กินเวลาตั้งแต่บ่าย 4 โมงเย็นจนกระทั่งเที่ยงคืน โดยที่หญิงสาวไม่สามารถขัดขืนอะไรได้เลยสักนิด และก่อนที่จะออกจากป่า คนร้ายได้ยกก้อนหินก้อนใหญ่ขึ้นมาฟาดศีรษะของหญิงสาวเพื่อเป็นการปิดชีพของเธอ

   ใบหน้าที่เละจนไม่อาจรับรู้ได้ถึงเค้าโครงที่แท้จริง เลือดที่ไหลอาบใบหน้าและกระเด็นเป็นวงกว้าง กระโหลกหน้าผากที่บุบเป็นหลุมตามแรงทุบนั่นทำให้เธอสิ้นลมหายใจไปในทันที

   ทว่า... ความอาฆาตแค้นที่เกิดขึ้น ส่งผลให้วิญญาณของเธอไม่ยอมไปผุดไปเกิด เธอกลายเป็นวิญญาณติดที่ที่ทำร้ายผู้ชายทุกคนที่หลงเข้ามาในดงไทรยามค่ำคืน นับตั้งแต่นั้นมา... อาถรรพ์ดงไทรก็เริ่มขึ้น



จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน31 P.13]- 06/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 08-10-2013 23:07:40
คุยกับคนอ่านครับ ^^

คุณ iamnan :: แหะๆ เป็นหรือไม่ต้องติดตามจ้า
คุณ 2pmui :: นั่นสิครับ โผล่มาตอนหลังแต่เท่สุด 555 เหมือนพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยทุกคนเลย
คุณ NJnobu :: 555 เจอแน่นอนครับ  :mew1:
คุณ ApoStrOfhYs :: *0* ขอบคุณสำหรับกำลังใจครับ ^^ 555 หมอผีรูปหล่อจะชนะหรือไม่ หึหึ คิดตามได้เลยครับ(ตอนหน้า)
คุณ kasarus :: เป็นภาระ แน่นอน *0* (คนเขียนบังคับ กรั๊กๆๆ)
คุณ pharm :: T^T ขออภัยครับ แฮะๆ จะไม่สั้นขนาดนี้อีกแล้วงับ อิอิ
คุณ pannixz :: ยาวขึ้นแล้วจ้า T^T แต่ก็ยังสั้นอยู่ล่ะมั้งเน้อ
คุณ mukmaoY :: 555 เป็นผีที่กลัวทั้งคนทั้งผี ไร้น้ำยาแน่น๊อนน!!! อิอิ
คุณ Lily teddy :: ขอบคุณคร้าบ ก็ว่าคิดถึ๊งคิดถึง หายไปนานเลย อิอิ อ่านเม้นท์แล้วชื่นใจ ส่วนตอนจบ  :hao5: ต้องรอติดตามนะครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 09-10-2013 01:05:50
"ปิดชีพ" คำนี้เขียนผิดนะจ๊ะ ต้องใช้ว่า "ปลิดชีพ" ถึงจะถูกนะ

ปล่อยให้คู่โน้นเค้าแอบสวีทไปพลางๆ ทางนี้ก็มาบู้กันหน่อย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 09-10-2013 17:43:19
ไม่ชอบผีผู้หญิงเลยอ่ะ :z13:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 09-10-2013 20:16:01
เซงไม้ต่อไป ตัวอยู่แม็กกี้ใจกังวลห่วงมิวส์ (ใจของไม้รักใคร คนหรือผี)

ตอนนี้ผีหมอผีอารัญย์พระเอกมาก ช่วยให้ได้นะ  (ไม้ตกกระป๋อง)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Feuy_qty ที่ 09-10-2013 21:23:00
เดี๋ยวนะะะะ แน่นอกนี่มายังง๊ายยยยย
คืออ่านชีวิตแม่ผีสาวก็สงสารอยู่นะ แต่อดขำแน่นอกไม่ได้จริงๆ  :m20:
นี่ถ้านางไม่คิดแค้นจนเป็นวิญญาณติดที่ ก้ได้ไปผุดไปเกิดแล้ว
ทีนี้ล่ะ ที่จะไม่ได้เกิดคงจะเป็นใบเตย  :laugh:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 09-10-2013 21:33:43
ชักจะเซ็งไม่แร้ว นะ  :m16: ตกลงจะเลือกใคร อะไร ยังงัย รีบๆเคลียร์ดิ  :beat:

ช่วงนี้หมอผีอารัญย์ คงเป็นพระเองละมั้ง  :hao3:  :hao3:

+  :กอด1:  :mew1: 
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 09-10-2013 23:29:46
กรึ๊ย  :sad5: น่ากลัวจัง สงสารผีสาวด้วยอะต้องตายอย่างทรมาน เศร้าเลย แต่ไอ่ตอนร้องเพลงทำลายสมาธิหมอผีสุดหล่อนี่สิ
แบบว่าคิดได้ไง ขนาดตายไปแล้ว 6 ปี ยังอินเทรนตามกระแสวัยรุ่นยุคนี้อยู่เลย ใครหนอช่างเปิดเพลงนี้ให้ผีสาวได้ฟัง  555
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ ถึงไม้จะดูแลแม็กกี้แต่ใจกลับพะวงถึงมิวส์อะ หรือเพราะเห็นแม็กกี้ปลอดภัยแล้วก็เลยนึกห่วงมิวส์เฉย ๆ
คงไม่มีอะไรพิเศษหรอกมั่ง (ปลอบใจตัวเอง) แล้วคุณหมอผีนี่จะช่วยก้องได้สำเร็จไหมนั่น ผีสาวท่าทางมีความแค้นมาก
ต้องฤทธิ์เยอะแน่เลย ถึงคุณหมอผีจะดูเก่งอยู่แต่กลัวมิวส์จะแอบตามเข้าไปจนเสียแผนซะก่อนอะจิ
ยังไงก็ขอให้ทุกคน ทุกตน ปลอดภัยละกันนะค่ะ รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4:  :L2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 10-10-2013 11:43:24
ช่างเป็นผีสาวที่แนวมาก ร้องแน่นอกไดัเฉย หุหุ

ว่าแต่ที่คนแต่งบอกว่าอาจมีหักมุม นั่นหมายความว่าหมอผีสุดหล่อ
ของเราเป็นพระเอกใช่ม่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 10-10-2013 18:56:54
ฮ่าไอ้ตรงที่ผีสาวร้องเพลงแน่นอกนะสิ เอิ๊กๆ

แต่พระเอกเป็นผู้เขียนเหรอ 0  0 ไม่จริงๆๆ

สงสารไอ้ผีน่าๆของเขา รับไม่ดาย ย ย ยย~
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ice_spok ที่ 12-10-2013 20:33:47
เข้ามาสาวแตกใส่คนแต่ง

กรี๊ดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 12-10-2013 20:39:17
อยากกอดคนแต่งอ่ะกอดหน่อยนะ :กอด1: :กอด1:  คือเราอ่านมา9ตอนตั้งแต่ตอนที่24  เพราะอ่านไปถึงตอนที่24แล้วเริ่มทำใจไม่ได้กับเรื่องแม็กกี้  สงสารแม็กกี้  เลยว่าจะหยุดสักพักแล้วค่อยมาดูใหม่ว่าตกลงแม็กกี้คู่กับไม้เหมือนเดิมป่าว  พออ่านมาถึงตอนหมอผี  แทบร้องไห้  เพราะเรารักเรื่องนี้นะ  แต่อยากให้จบแบบแฮปปี้ทุกฝ่าย  สรุปเรื่องมาแบบที่ไม่คาดคิดเลยมาอ่านต่อ ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 12-10-2013 20:46:28
ขอโทษนะคัฟที่ต้องมาต่อรีเพราะผมอ่านในมือถือแล้วมันพิมพ์ได้แค่นั้นจริงๆ  เข้าเรื่องต่อเลย  พี่หมอเนี่ยเราอยากให้พี่หมอคู่กะแม่ผีสาวคนนั้นจริงๆ  รู้สึกชอบยังไงไม่รู้  มันน่ารักดีอ่ะ  ฮ่าฮ่า  ดูเธอคิดสิคิดไงเต้นเพลงแน่นอก  ฮามากอ่ะ  เธอกล้ามากอ่ะ  ฮ่าฮ่า  ตอนนี้ทุกคู่ก็เกือบจะลงเอยกันดีแล้วเนอะ  แต่ยังอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับแม่,ครอบครัวมิวส์บ้าง [เอาแต่ใจเนอะ]^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MildMate ที่ 13-10-2013 13:25:43
4 ชั่วโมงนี้ เรายกให้กับการอ่านเรื่องของคุณคนเขียนทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันเลย
รู้สึกแบบว่า ไม่สามารถลุกออกไปไหนได้(ยกเว้นไปเข้าห้องน้ำ ... อันนั้นทนไม่ไหวจริงๆ)
มันมีปมให้ชวนติดตามทุกตอน และบางตอนแอบค้าง โดยเฉพาะถึงตอนปัจจุบัน
(ซึ่งเป็นอะไรที่แบบ.... ค้างจริงๆจังๆ)
แบบอยากรู้ในประเด็นที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่า
 - มิวส์จะตามเข้าไปมั๊ย?
 - เกิดอะไรขึ้นกับแม่ของมิวส์?
 - หมอจะช่วยก้องออกมาได้มั๊ย?
 - ตกลงไม้ได้คู่กับใคร?
 - อยากจะรู้ว่ามิวส์จะได้เคลียร์กับก้องหรือปล่าว?
 - และถ้าเคลียร์แล้ว จะเกิดอะไรขึ้นกับมิวส์?
 - แล้วมิวส์เป็นวิญญาณ อาจจะได้คู่กับใคร หรือ จะไปสู่สุขคติ(มันก็ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ ชิมิ?)
 - แล้วตกลงแม็กกี้จะสมหวังหรือปล่าว?

อืม...ประเด็นที่เราอยากรู้มีอีกเยอะแต่นึกไม่ออกแล้ว สงสารแม็กกี้ สงสารมิวส์ งงกับไม้ ส่วนก้องก็.....(บรรยายไม่ถูก) 
ปลื้มหมอเป็นวิญญาณขี่ม้าขาว ผีสาวท่าจะโหด ฮ่าๆๆๆๆ
เอาเป็นว่าจะรอตอนต่อไป และติดตามตอนต่อไปค่ะ
แต่อยากบอกแบบจริงๆจังๆว่า ค้างง่ะ.....!!!

ขอบคุณสำหรับนิยายน่าอ่าน น่ารักๆ ปนอาการหื่นๆของมิวส์ค่ะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Biwty... ที่ 13-10-2013 18:07:03
สั้นแท้  :z3:



เอฟซีไม้มิวส์เหมือนเดิมค่ะ!!!! :fire:



อ่าว จะเป็นไงต่อล่ะนี่ :ling2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-10-2013 03:50:04
ตอนที่ 33



   หมอผีอารัญย์สามารถเดินผ่านเส้นทางที่มืดมิดได้อย่างชำนาญด้วยภาพเส้นทางที่ผุดขึ้นมาในหัวสมอง จนกระทั่งในที่สุดเขาก็สามารถเดินไปถึงปลายทางที่รอบข้างขนาบด้วยแม่น้ำกว้างใหญ่ซึ่งเบื้องหน้ามีถ้ำหินสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ แต่ทว่าประตูถ้ำกลับถูกปิด...

   “คานทอง... ส่งผู้ชายคนนั้นออกมาซะ เขาไม่ได้ทำอะไรให้คุณเลยนะ" หมอผีอารัญย์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูสนิทสนม เพราะเขาเป็นผู้ที่เสนอหน้าเข้ามาหาเธอตนแรกหลังจากที่วิญญาณของเธอหลุดออกจากร่าง

   “ฉันบอกกี่ครั้งแล้วว่าฉันไม่ได้ชื่อคานทอง ฉันชื่อคฑาทอง!!!” วิญญาณสาวพูดด้วยน้ำเสียงเหลืออด การที่หมอผีอารัญย์เรียกเธอแบบนั้นมันเหมือนกับเป็นการตอกย้ำสถานะที่ตั้งแต่เกิดจนตาย เธอไม่เคยมีคนรักเลยสักคน

   “เออ ๆ นั่นแหละ ๆ มันออกเสียงคล้าย ๆ กัน" หมอผีอารัญย์แสร้งสำนึกผิด "ส่งตัวของผู้ชายคนนั้นออกมาให้ผมเถอะ"

   “ไม่!!!” วิญญาณสาวตอบออกมาด้วยความฉับไว แม้จะมองไม่เห็นว่าร่างของเธออยู่ตรงไหน แต่น้ำเสียงของเธอก็ดังชัดเจนทีเดียว

   “ทำไม เขาไม่ได้ทำอะไรให้คุณเลยสักนิด แล้วคุณจะไปอาฆาตเขาทำไม" หมอผีอารัญย์พยายามเกลี้ยกล่อม

   “แล้วฉันล่ะ... ฉันเคยไปทำอะไรให้ไอ้พวกคนชั่วนั่น มันถึงได้มาทำแบบนี้กับฉัน!!!” คฑาทองตอบกลับด้วยน้ำเสียงแหลมสูงพลางนึกถึงเหตุการณ์ในวันที่เธอต้องสิ้นลมหายใจ

   พอภาพเหตุการณ์ในตอนนั้นผุดเข้ามาในหัวสมอง ความอาฆาตแค้นของเธอก็ส่งผลให้เธอเดือดดาลถึงขีดสุดจนไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้

   “ทั้ง ๆ ที่ฉันไม่เคยทำอะไรให้มันเลยสักนิด" วิญญาณสาวจิกเสียงพูดออกมา ยิ่งพอใบหน้าที่หื่นกระหายของไอ้คนร้ายลอยเข้ามาในหัวสมองของเธอ มันก็ทำให้เธอแทบสติแตก

   ความมืดสนิททึบทึมถูกทำลายด้วยแรงอาฆาต หมอผีอารัญย์ลืมตาขึ้นมาแม้ไม่ต้องเพ่งสมาธิแต่ตอนนี้ก็สามารถมองเห็นสิ่งรอบข้างได้อย่างชัดเจน

   แรงลมที่ไม่รู้พัดมาจากทิศทางไหน จู่ ๆ ก็กระโชกแรงขึ้นมา เกิดเสียงหวีดหวิวดังระงมไปทั่วผืนป่า

   “คุณ... คุณก้อง" หมอผีอารัญย์เอ่ยเรียก เมื่อเห็นชายแปลกหน้ายืนอยู่หน้าถ้ำหิน

   ก้องภพหันหน้ามองรอบข้างด้วยความหวาดกลัว เขากำลังประหลาดใจกับภาพที่เห็น เพราะเมื่อครู่มีแต่ความมิดสนิท ทว่าจู่ ๆ ความมืดก็หายไปแปรเปลี่ยนเป็นภาพที่สายตาสามารถมองเห็นสิ่งรอบข้างได้อย่างราง ๆ

   “มิวส์ มิวส์อยู่ที่ไหนไหม" แม้จะหวาดกลัว แต่ด้วยความห่วงใยก็ทำให้ชายหนุ่มยังคงทำหน้าที่ของตนเองต่อไปโดยที่ไม่รับรู้เลยว่าในตอนนี้ที่แผ่นหลังของตัวเองกำลังมีวิญญาณสาวเกาะอยู่อย่างแนบชิด

   “คฑาทอง อย่านะ" หมอผีอารัญย์ร้องห้ามเมื่อมองเห็นร่างของวิญญาณสาวที่กำลังเกาะอยู่ที่ด้านหลังของชายหนุ่มผู้ที่ยังมีลมหายใจ มือของคฑาทองข้างหนึ่งเอื้อมไปจับที่ปลายคางแบบหลวม ๆ และข้างหนึ่งจับศีรษะเอาไว้ เพื่อรอเวลาปลิดชีพของมนุษย์ผู้นี้

   ถ้ามีใครเผลอพูดไม่เข้าหูเธอ หรือภาพในอดีตทำให้เธอสติแตก มือของเธอก็พร้อมที่จะขยับบิดใบหน้าเพื่อให้ลำคอของชายหนุ่มหักในทันที

   เมื่อเห็นท่าไม่ดีหมอผีจึงหลับตาลงก่อนที่จะค่อย ๆ ท่องบทสวดเพื่อระงับการเคลื่อนไหวของวิญญาณร้าย

   “คานทอง" เมื่อท่องบทสวดเสร็จ หมอผีก็ลองเรียกชื่อของวิญญาณสาวผิด ๆ เพื่อยั่วโมโห พอเห็นว่าวิญญาณสาวหยุดแน่นิ่งไม่มีการเคลื่อนไหว หมอผีอารัญย์ก็รีบหายตัวไปหยุดอยู่ตรงหน้าของก้องภพทันทีเพื่อที่จะทำการสิงร่าง

   ทว่าก่อนที่จะหมอผีอารัญย์จะได้กระทำการดังกล่าว วิญญาณสาวที่เกาะอยู่บนหลังของก้องภพก็แสยะยิ้มออกมาและส่งเสียงหัวเราะแหลมสูง

   “ฮิ ๆ ๆ ๆ" เธอเอื้อมมือที่ตั้งท่าจะหักคอก้องภพไปบีบคอของอารัญย์ในจังหวะที่อารัญย์เผลอ

   “นี่เธอ...” หมอผีอารัญย์เอ่ยขึ้นด้วยความแปลกใจที่บทสวดของเขาใช้ไม่ได้ผล

   “อย่ามาใช้ลูกไม้ตื้น ๆ แบบนี้กับฉันนะท่านหมอผี" เธอจิกเสียงแหลมพูดออกมาก่อนที่จะออกแรงกดที่ปลายนิ้วเพื่อให้เล็บของเธอจิกเข้าไปในลำคอ

   ทว่ายังไม่ทันที่จะหนำใจ มือที่สัมผัสคอและเล็บที่เกือบจิกทะลุผิวหนังเมื่อครู่ก็ถูกหมอผีอารัญย์เล่นตลกด้วยการทำให้ร่างของตนเองล่องหน แม้จะเป็นวิญญาณเหมือนกันแต่คฑาทองก็ไม่สามารถสัมผัสร่างของวิญญาณหมอผีผู้เก่งกล้าได้

   “ขึ้นชื่อว่าเป็นหมอผี เรื่องปราบผีปราบวิญญาณคงไม่มีผีหรือวิญญาณตนไหนสู้ผมได้หรอก หึ!” หมอผีอารัญย์ทำเสียงเข้ม

   ก่อนที่คฑาทองจะได้แผลงฤทธิ์หมอผีอารัญย์รีบง้างมือออกไปทางด้านหลังก่อนจะออกแรงฟาดเข้าที่ศีรษะของวิญญาณสาวสุดแรง ส่งผลให้วิญญาณสาวที่ยังไม่ทันตั้งตัวโดนฝ่ามือพิฆาตนั่นเข้าจัง ๆ

   และเพราะฝ่ามือของอารัญย์ไม่ใช่ฝ่ามือธรรมดา ๆ พลังจากฝ่ามือของเขาสามารถสะกดจิตของวิญญาณร้ายได้หลังจากที่ได้ทำการตบศีรษะของวิญญาณอย่างสุดแรง นั่นทำให้วิญญาณร้ายหมดสติทันทีที่โดนตบกบาล

   ทว่ามันก็มีผลเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้น... หมอผีอารัญย์รีบใช้จังหวะนี้สิงร่างของก้องภพและทำการวิ่งออกไปจากป่าให้ไวที่สุด

   ด้วยระยะทางที่ไกลสมควร ทว่าวิญญาณอย่างเขาก็สามารถเร่งฝีเท้าให้ไวจนสามารถที่จะออกจากดงไทรภายในเวลา 5 นาทีก่อนที่สติที่โดนสะกดของคฑาทองจะกลับมาเป็นปกติ

   ทันทีที่ร่างของก้องที่หมอผีอารัญย์สิงอยู่ก้าวเท้าออกมาจากเขตของดงไทร เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งใจก่อนที่จะตะโกนร้องเรียกหาวิญญาณที่สั่งให้รออยู่ด้านนอก

   “มิวส์ มิวส์ มิวส์" หมอผีอารัญย์ตะโกนทั้งที่อยู่ในร่างของก้องภพ ทว่าไม่ว่าจะตะโกนกี่ที ๆ ก็ไม่มีเสียงตอบกลับมา แถมยังพอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ก็มองไม่เห็นร่างของมิวส์อีก

   “หรือว่า!!!” หมอผีอารัญย์เอ่ยอย่างหวาดกลัวก่อนที่จะออกมาจากร่างของก้องภพ ร่างที่โดนสิงหมดสติล้มลงทันทีเพราะผลจากการโดนวิญญาณสิงร่างจะทำให้เจ้าของร่างไม่ได้สติไปชั่วขณะ

   หมอผีอารัญย์รีบเพ่งสติตามหากลิ่นอายของมิวส์ เนื่องจากเขาเป็นหมอผีจึงทำให้แม้จะสิ้นลมหายใจไปแล้วแต่เขาก็มีวิชาพิเศษติดตัวมากมายและหนึ่งในนั้นก็คือการตามหาวิญญาณร้ายด้วยการดมกลิ่น

   “ซวยแล้วสิ" หมอผีเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้ายุ่งยาก "จะเข้าไปในดงไทรทำไมวะ เตือนแล้วไม่รู้จักฟัง ไอ้วิญญาณดื้อด้านเอ๊ย... คอยดูเถอะกลับออกมาได้เมื่อไหร่จะสั่งสอนให้หลาบจำเลยไอ้มิวส์!!!”

   สิ้นเสียงบ่น หมอผีอารัญย์ก็กลับเข้าไปสิงร่างก้องก่อนที่จะวิ่งเข้าไปในดงไทรอีกรอบทันที






   ทางด้านของมิวส์...

   หลังจากที่หมอผีอารัญย์เข้าไปในดงไทร มิวส์ก็กวะวนกวะวายใจอยู่ไม่สุขด้วยกลัวว่าหมอผีอารัญย์จะช่วยก้องไม่สำเร็จ เลยทำให้ท้ายที่สุด มิวส์ตัดสินใจฝ่าฝืนคำสั่งและวิ่งเข้าไปในป่าดงไทรทันที

   ในช่วงก้าวแรก ๆ ที่วิ่งเข้าไปนั้น ดงไทรไม่ได้น่ากลัวอย่างที่มิวส์จินตนาการเอาไว้เลยสักนิด

   “ไหนว่าจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร" มิวส์เอ่ยขึ้นเมื่อเขาเดินไปได้สักระยะ "ขู่กันนี่หว่าท่านหมอผี คอยดูนะเจอตัวเมื่อไหร่โดนดีแน่"

   เหตุที่ผืนป่ารอบข้างไม่ได้มืดมิดดังที่หมอผีขู่เอาไว้นั้นก็เพราะในขณะนั้นเป็นเวลาเดียวกับที่สติของวิญญาณสาวถูกสะกดอยู่นั่นเอง

   ทว่าหลังจากที่เวลาผ่านไป 5 นาที ความอาหาตและอำนาจของวิญญาณร้ายได้ทำให้มันกลับมาแผลงฤทธิ์อีกครั้ง

   ความสว่างไสวที่พอมองเห็นได้ราง ๆ กลับกลายเป็นสีดำมืดสนิท และในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจิตอาฆาตจะรุนแรงมากกว่าเก่าเสียด้วยเพราะวิญญาณสาวกำลังอยู่ในอารมณ์เดือดดาลถึงขีดสุด

   “ใครที่มันบังอาจย่างก้าวเข้ามาในเขตแดนของข้า มันต้องตาย!!!” เสียงปริศนาดังขึ้นในความมืดมิด มันดังเสียจนมิวส์ต้องยกมือขึ้นมาอุดหูด้วยความหวาดกลัว

   'นี่สินะ ความน่ากลัวที่หมอผีได้เคยบอกเอาไว้' มิวส์คิดในใจ พอจะหันหลังกลับออกไปในทางเดิมมันก็สายไปเสียแล้ว และพอจะก้าวขาก็เหมือนกับว่ามีมือปริศนาหรืออะไรบางอย่างมาจับที่ข้อเท้าเอาไว้ มันจับเอาไว้อย่างแนบแน่นก่อนจะออกแรงบีบจนสุดแรงจนมิวส์รู้สึกเจ็บสะท้านไปทั่วร่าง

   “โอ๊ยยยย!!! เจ้านาย เจ้านาย ช่วยผมด้วย" และท้ายที่สุด มิวส์ก็ต้องเปิดปากตะโกนร้องออกไปด้วยความหวาดกลัวสุดฤทธิ์




จบตอนจ้า... มันอาจจะน่ากลัว(รึเปล่าหว่า) แต่พยายามแทรกอะไรๆที่มันหลุดโลกหรือฮาๆ มาให้ด้วย ถ้าไม่สมจริงก็ขออภัยนะคร้าบ T^T อย่างเช่นวิชาตบกบาลจนวิญญาณสลบ ??? มันไม่น่าจะมีอยู่ในตำราหมอผีตำราไหน T^T มีแค่ในเรื่องนี้ก็พอ  :ling3:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน32 P.13]- 08/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 15-10-2013 04:01:58
คุยกับคนอ่านที่น่าฮักครับป๋ม ^^

คุณ 2pmui :: T^T แฮ่ๆ ขอบคุณสำหรับคำผิดคร้าบ ถ้าเจอในตอนหลังๆตอนไหนแจ้งได้ตลอดเลยนะครับ ^^
คุณ mukmaoY :: ง่า... ที่ไม่เขียนให้มีผีผู้ชายเพราะ กลัวไอ้เจ้ามิวส์มันจะไปทำหื่นใส่ (แค่หมอผีก็พอแว้ว อิอิ)
คุณ mukmaoY :: 555 ไม้เป็นตัวอย่างของคนที่จิตใจโลเลครับ T^T กลัวจะรู้ความจริงว่าคิดยังไงกับใครกันแน่มันก็สายไปแล้ว 555
คุณ Feuy_qty :: 555+++  :laugh: ผมแค่ไม่อยากให้เครียดจนเกินไปง๊าบบ เลยใส่แน่นอกเข้าไป ฮะๆๆ  :katai2-1:
คุณ NJnobu :: โผล่มาหลังๆ ให้พี่หมอผีเขาเป็นพระเอกก่อนครับช่วงนี้ คิคิ
คุณ Lily teddy :: 555 ผีสาวอินเทรนด์ ครับ คิคิ เลยเพิ่มเพลงเข้ามาแบบไม่มีเหตุผลซะงั้น T^T ส่วนไม้ก็ ปล่อยให้สับสน ลังเลต่อไปค่อยให้เจอบทเรียนทีหลังครับ  *0*
คุณ mentholss :: 555 ต้องลุ้นครับว่าจะหักยังไง T^T จริงๆ ถ้าอ่านไปเรื่อยๆจนจบเลย(รวดเดียว)น่าจะเรียกว่าหักมุมได้ แต่ถ้าตามอ่านทีละตอนแบบนี้ มันก็จะค่อยๆเผยปม เผยอะไรออกมาทำให้เดาออกเป็นตอนๆไปครับ อาจจะไม่เรียกว่าหักก็ได้แหะๆ
คุณ มยอนฮวา :: ใจร้ายยย 555 ไม่ให้คนเขียนเป็นพระเอก งอนนน กรั๊กๆๆๆ พ่นไฟใส่เลย  :m31:
คุณ ice_spok :: ง่ะ สาวแตกทำไม 555 กลัวผีไง
คุณ @Lucifer_Prince@ :: ^^ ขอบคุณครับผม ถ้าจบเรื่องแบบดราม่า จะมีงอนกันไหมหนอ  :hao6: แต่ยังไงก็ติดตามต่อไปครับ ฮ่าๆ ว่าจะแฮปปี้ หรือ ดราม่า เอิ๊กๆๆ ส่วนหมอผีกับวิญญาณสาว มันดูเหมือนเป็นคู่ปรับที่แปลกๆพิลึกจริงๆครับ ตอนเขียนเองยังรู้สึกเลย 5555 และเดี๋ยวตอนหน้าจะทำให้หมอผีเป็นพระเอกกว่านี้อีก *0*
คุณ MildMate :: *0* ขอบคุณมากๆเลยครับ ^^ ดีใจนะครับ ที่แวะมาอ่านเรื่องนี้แถมยังคอมเม้นท์ให้ยาวเลย ข้อสงสัยต่างๆ ใกล้จะค่อยๆ คลี่คลายออกมาแล้วครับ แหะๆ T^T
คุณ Biwty... :: ง่าาา.... มาต่อให้แล้วน๊าครับ คิคิ คุณ FC มิวส์ไม้ (คอยดูเค้าจะทำให้ผิดหวังไม่จับให้คู่นี้คู่กัน (ขู่ๆ)) กรั๊กๆๆๆ *0*  :mew4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 15-10-2013 06:28:25
เอ๊ยไอ้มิวส์ทำไมมันถึงดื้อแบบนี้นะ  ซวยแล้วอิผีบ้านั่น  มันจับเอาไว้แล้วน่ะ  คุณอารัญย์รีบไปช่วยมิวส์มันเร็ว  มิวส์มันถ่วงนะเนี่ย  ถ้าไม่ดื้อเข้าไปก็คงไม่ใช่มิวส์  ฮ่าฮ่าฮ่า  รอตอนต่อไปนะคัฟคนแต่ง  ขอบคุณคัฟ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 15-10-2013 07:15:41
ตอนนี้คนที่น่ารำคาญคือมิวส์ ดื้อ อวดดี ไม่รู้จักประมาณตน สมน้ำหน้าโดนดีซะบ้าง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: kasarus ที่ 15-10-2013 08:46:12
ขัดใจมิวส์มาก ทั้งดื้อด้าน ไม่เชื่อฟัง แล้วตอนท้ายไปเรียกชื่อไอ้ไม้ให้มาช่วยทำไม ต้องเรียกพี่หมอ(ผี)สิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 15-10-2013 10:09:06
มิวส์ดื้อมากดื้อจริงๆ ลำบากคุณหมอผีต้องไปช่วยอีก วุ่นวายจริงๆ
มิวส์สำนึกสุดท้ายก็ร้องหาไม้ทุกที ไม้มันจะรู้เรื่องไหม
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 15-10-2013 10:40:24
ตกลง จะสงสาร หรือ สมน้ำหน้าดีเนี่ย...!!! ดื้อจริงเชียว มิวส์นี่  :angry2: :angry2: :angry2:

คงไม่จบแบบดราม่าใช่ม้า..... :hao3:

+  :กอด1:  :mew1:  o13  :bye2: คนเขียน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 15-10-2013 11:00:14
 :z3: โอ้ยยยยย มิวส์แม่งงง จะโง่ไปไหน

คืดถ้ามึงอยู่เฉยๆก็ไม่มีใครว่าหรอก (อินจัด - -)

ดูซิเนี่ย เดือดร้อนคนอื่นอีกจนได้

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า นายเอกแม่งหาเรื่องใส่ตัวได้ตลอดสก จบค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 15-10-2013 11:46:56
งานงอกเพราะอินู๋มิวส์อีกแว้วววววว
มันน่าให้ท่านหมอจับกดลงโทษจริงจริ๊ง

ว่าแต่ นังผีบ้าชื่อ คานทอง ก็เหมาะดีนะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 15-10-2013 11:55:00
เกิดคำถามมากมายในใจ...

ช่วงนี้ไม้หายเข้ากลีบเมฆไปเลย
ปล่อยให้ผีคุณหมอผีเป็นพระเอกไปก่อนเลย

มาต่อไวๆนะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 15-10-2013 15:48:08
อะไรนี่มันเริ่มหลอนทุกขณะ
ผู้เขียนอย่ามาพ่นไส่ใส่นะ
เดี๋ยวจับไปอยู่กับวิญญาณที่อยู่กับต้นไทรซะเลลย หึหึ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MildMate ที่ 15-10-2013 18:21:43
 :sad4: และแล้วเจ้าจอมดื้อมิวส์ก็ตามเข้าไปจนได้ เป็นเหตุให้พระเอก?อย่างหมออารัญต้องตามไปช่วยอีกแล้ว
ช่วยก้องคนเดียวก็หวาดเสียวพอแล้ว ต้องตามไปช่วยเจ้าวิญญาณจอมดื้ออีกตน อ่ะนะ  สงสารหมอ คงเหนื่อยจริงๆจังๆ

เอ่อ....คฑาทอง....หมอก็เรียกแบบย่อๆกลายเป็น "คานทอง" อืม.... ฮาาาาาาา  เหมาะสมดีนะ

เอาใจช่วยหมอ และคุณคนแต่งจ้า   o13

ปล.  มาสั๊นสั้นง่ะ  :katai5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 15-10-2013 18:59:03
โอ๊ยยยย ไอ้มิวส์จะเป็นถ่วงเค้าทำไมเนี่ย
อยากถ่วงนักใช่ไหม
เดี๋ยวจะให้หมอจับใส่สงหม้อ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: arthit170530 ที่ 16-10-2013 10:22:39
รอครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Feuy_qty ที่ 16-10-2013 20:07:39
ซีนคุณน้องผีคานทองเกาะหลังก้องเตรียมจะหักคอนี่ บอกเลยน่ากลัว  :sad4:
ขนาดอ่านตอนทุ่มกว่าๆ ยังรู้สึกได้ว่าหลอน แอบเย็นหลังวาบๆ อยู่เหมือนกัน

แล้วนี่มิวส์จะตามไปทำไมไม่ทราบคร๊าาาา 
นี่พี่หมอผีต้องมาตามช่วยมิวส์อีก โอ่ย ลุ้นนน !!  :serius2:

   

 

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ApoStrOfhYs ที่ 17-10-2013 17:23:53
ทักทายคนเขียนคะ  :L2: หายไปนานกลับมามี2ตอน *0*
เริ่มจากตอนที่32 :: ทางด้านนี้รักกันดี ระหว่างที่หลับก็อย่าให้มีวิญญาณมารบกวนเลยเถอะ จากที่บอกเดินไปไม่เจอค่ายสักที
เป็นกังวลเลยงี้  :mew5: ไม้แกก็อย่าลังเลมาก มันจะทำให้แกไม่เหลือใคร!! ฮึ่ยยย อ่านแล้วเซงไอไม้  :katai1:
มาตอนที่33 :: หมอผีรูปหล่อของเค้า(?)สุดยอดดดดดดดดไปเลย>< ฝ่ามืออรหันต์ =w= ตบเพี๊ยะมีผลห้านาที รู้งี้นะพี่หมอ น่าจะตบๆๆๆๆ ให้มันสักชม. :laugh: อีกด้านก็มิวส์ ลูกจะตามเข้าไปทำม๊ายยยยย :z3:
ปล.แอบจิ้น >>> หมอผี/ก้อง  :m20: :m20: ไม่รู้คิดได้ไง  :laugh:
ปลล.เป็นกำลังใจให้คนเขียนเหมือนเดิมจ๊ะ  o13
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 19-10-2013 03:21:47
หาเรื่องได้ตลอดเลยเจ้ามิว มันน่าตบให้กบาลแยก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 19-10-2013 14:02:34
 :pigha2: ชอบจังค่ะวิชาตบกบาลจนวิญญาณสลบ ถ้าไม่บอกว่ามีในเฉพาะเรื่องนี้คงต้องหาตำรามาเรียนมั่งละ
แล้วมีเรื่องฮา ๆ ก็ดีนะคะ ตอนที่แล้วตอนคานทอง เอ้ย คฑาทองตายน่ากลัวมาก ๆ ตอนนี้ก็ลุ้นกลัวคุณหมอผีสุดหล่อจะพาดซะแล้ว
เพราะความแค้นเยอะ ฤทธิ์ก็ต้องเยอะแน่ ๆ แต่แล้วคฑาทองก็สู้คุณหมอผีของเราไม่ได้ อิอิ ทั้งหล่อทั้งเก่งดีกว่าไม้อีก 
 :เฮ้อ: แต่สุดท้ายคุณหมอผีก็ต้องมาเจอมิวส์ที่ร้ายกว่าบอกอะไรไม่เคยฟังจริง ๆ ดื้อตลอด อิทธิฤทธิ์อะไรก็ไม่มี
แล้วตอนนี้ยังมีการเรียกหาเจ้านายให้ช่วยด้วย อย่าเรียกได้มั้ยเดี๋ยวไม้ได้ยินก็ทิ้งแม็กกี้มาจนได้
ถึงตอนนี้ก้องจะพึ่งพาไม่ได้แต่ก็เป็นห่วงและรักมิวส์จริง ๆ ยังไงก็ขอให้ก้องได้เป็นฮีโร่ในสายตามิวส์บ้างนะค่ะ
แบบเอาตัวเข้าปกป้องมิวส์ จนมิวส์ซาบซึ้งแล้วลืม ๆ ไม้ไปซะอะค่ะ 555 สรุปคุณหมอผีจะตามไปช่วยมิวส์ได้ก่อนไม้รึเปล่า
ก็รอติดตาม และเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนต่อไปนะค๊ะ  :pig4:  :L2:
 
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 27-10-2013 02:11:16
นี่บอกเลยว่านั่งอ่านตั้งแต่จนตอนสุดท้ายเพิ่งจบ สนุกมาก อ่านแล้วไม่เบื่อเลยคะ อ่านๆไปก็สงสารแม็กกี้
แอบหมั่นไส้มิวส์เล็ก แต่ก็ชอบนะคะ จริงก็เชียร์ไม้มิวส์ แต่ก็อยากให้คู่กับก้องด้วยอะ
มิวส์ก็สร้างเรื่องได้ตลอดจริงๆ พี่หมอสุดหล่อ ช่วยออกมาได้จัดเต็มเลยนะคะ
จะรอตอนต่อไปนะคะ  ^_^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 29-10-2013 13:01:37
ตอนที่ 34




        “ไอ้มิวส์!!!" ไม้ที่กำลังนอนหลับใหลอยู่พลันสะดุ้งเฮือกพร้อมกับตะโกนชื่อของวิญญาณลูกน้องออกมาเสียงดังลั่น

   เหงื่อที่ไหลโซมกายทำให้ไม้รู้สึกถึงความประหลาด ๆ ...เมื่อครู่เขารู้สึกเหมือนได้ยินเสียงร้องของมิวส์ตะโกนขอความช่วยเหลือ

   “แม็กกี้ ๆ" ไม้ยกมือขึ้นมาตบใบหน้าของคนที่นอนพิงไหล่เบา ๆ เพื่อเรียกสติ

   “หือออ... มีอะไร” ผู้ที่ถูกตบหน้าตอบออกมาด้วยน้ำเสียงที่งัวเงีย

   “เราต้องไปแล้ว" ไม้เอ่ย

   “ไปไหน" แม็กกี้ถามด้วยความสงสัย "กลับห้องเหรอ อือ ไปดิ"

   “เปล่า" คำตอบของไม้ทำให้แม็กกี้ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย "ไปช่วยไอ้มิวส์กัน"

   “ช่วย? ช่วยอะไร ที่ไหน" แม็กกี้เอ่ยถามด้วยความสงสัย

   “กูก็ไม่รู้ แต่เราต้องไป" ไม้พูดก่อนจะยั้งกายให้ลุกขึ้น เขาประคองร่างของแม็กกี้ให้ลุกขึ้นตามด้วย "มึงไหวไหม"

   "ไหว" แม็กกี้พยักหน้า

   “ดี... งั้นตามกูมา" พูดจบไม้ก็เอื้อมมือไปจับกับมือข้างหนึ่งของแม็กกี้ก่อนที่จะออกเดินนำไปทันที แม้ไม่รู้ว่ามิวส์กำลังอยู่ที่ไหน แต่มีลางสังหรณ์บางอย่างที่ทำให้ไม้ต้องเดินไปทางทิศตะวันตก ...เพื่อที่จะไปช่วยมิวส์

   เมื่อไม้ดื้อดึงที่จะไป แม็กกี้ก็ไม่ถามอะไรอีกสักคำ ...แม้จะสับสน กังวล และหวาดกลัวกับอะไรบางอย่าง แต่แค่มีมือของคนรักที่จับประคองอยู่ข้างหน้า มันก็ไม่มีอะไรที่ทำให้เขารู้สึกว่าจะต้องปลอดภัยอย่างแน่นอน
   







   หมอผีอารัญย์พยายามหลับตาเพ่งสมาธิเพื่อสัมผัสให้เห็นว่ามิวส์อยู่บริเวณไหน... ไม่นานมากนักภาพของมิวส์ก็ปรากฏเข้ามาในหัว มิวส์กำลังยืนอยู่หน้าถ้ำหินจุดเดียวกับที่เขาเพิ่งไปช่วยก้องภพออกมาเมื่อครู่

   “ซวยแล้วไหมล่ะ" หมอผีอารัญย์เอ่ยก่อนที่จะรีบวิ่งไปยังจุดนั้นทันที

   ทันทีที่ไปถึง... หมอผีอารัญย์ก็พบกับภาพที่วิญญาณสาวกำลังทำการสลายวิญญาณของมิวส์ ฝ่ามือของเธอถูกแบออกและเหยียดไปตรงใบหน้าของมิวส์

   “หยุดนะคฑาทอง" หมอผีอารัญย์เอ่ยขึ้น เขาไม่รอช้ารีบวิ่งเขาไปสกัดกั้นเพื่อทำลายพิธีของคฑาทองทันที

   แม้จะสิงอยู่ในร่างของคนแต่ความสามารถทุกอย่างของหมอผีอารัญย์ก็ยังมีเหมือนเดิม ที่ไม่สามารถทำได้ตามปกติก็เห็นจะมีเพียงเรื่องการหายตัวและความคล่องแคล่วที่ลดลงเท่านั้น

   หมอผีอารัญย์ตั้งท่าว่าจะตบกบาลเพื่อหยุดการเคลื่อนไหวของคฑาทองอีกรอบ แต่คราวนี้คฑาทองไหวตัวทันเลยสามารถเหวี่ยงตัวหลบได้อย่างชำนาญและหวังจะใช้วิชาเดียวกับหมอผีเพื่อสั่งสอนหมอผีบ้าง

   ทว่าหมอผีก็สามารถเหวี่ยงตัวหลบจากฝ่ามือของคฑาทองได้อย่างชำนาญเช่นกัน

   มิวส์ที่หลุดพ้นจากการถูกสลายดวงวิญญาณพลันหมดสติฟุบล้มไปกับพื้นทันที

   “ไอ้หมอผีบ้า แกจะมายุ่งอะไรกับฉันนักหนา" คฑาทองเอ่ยด้วยน้ำเสียงขัดใจ

   “ก็ไม่ได้อยากยุ่งหรอก แต่เธอกำลังสร้างบาปให้ตัวเองนะคฑาทอง" หมอผีอารัญย์เอ่ย ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมาเขาไม่เคยมายุ่งกับคฑาทองสักครั้ง เพราะเธอเป็นวิญญาณที่มีแรงอาฆาตรุนแรงจนยากที่จะต่อกร ทว่าในครั้งนี้หากไม่ใช่เพราะไอ้วิญญาณหน่อมแน้มอย่างมิวส์ขอร้องให้ช่วย เขาก็คงไม่เข้ามายุ่งหรอก

   “แล้วไง ฉันจะสร้างบาปมันก็เรื่องของฉัน หมอผีไม่เกี่ยว ทุกทีก็ไม่เคยเห็นจะมายุ่งวุ่นวายกับฉันสักครั้งไม่ใช่เหรอไง" วิญญาณสาวเอ่ยออกมา "แต่ครั้งนี้จะมาแส่หาเรื่องทำไม!!!”

   “ก็ไม่ได้อยากแส่หรอก แต่ฉันทนเห็นเธอทำร้ายมนุษย์และวิญญาณที่บริสุทธิ์ไม่ได้อีกแล้ว" หมอผีอารัญย์ตอบออกมา "มิวส์มีอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนวิญญาณตนอื่น ๆ เพราะเขาเป็นวิญญาณที่สิ้นชีวิตก่อนอายุขัย ถ้าเธอทำร้ายวิญญาณตนนี้ โทษของเธอจะสาหัสและเธอจะไม่มีวันได้ไปผุดได้ไปเกิดอีกเลยนะ"

   หมอผีอารัญย์อธิบายอย่างรู้ลึก เขาศึกษาเรื่องบาปบุญคุณโทษมาตลอดชีวิตเขาย่อมรู้ดีว่าการจัดการกับมนุษย์หรือวิญญาณประเภทไหน จะได้รับบาปบุญคุณโทษอย่างไรบ้าง

   “หึ! อย่ามาหลอกให้ฉันกลัวหน่อยเลย ถ้าฉันบาปหนักป่านนี้ยมบาลคงจะมาเอาตัวฉันไปลงโทษนานแล้ว ฮ่า ๆ ๆ" คฑาทองเถียงกลับพลางส่งเสียงหัวเราะดังลั่นเพราะไม่เชื่อในคำหลอกเด็กของหมอผีอารัญย์

   “เธอก็รู้ว่าทำไมยมบาลถึงยังไม่มารับตัวเธอ" หมอผีอารัญย์เอ่ยเสียงขรึม

   “ใช่! เพราะมันยังไม่ถึงอายุขัยของฉัน เพราะไอ้พวกสารเลวสองตัวนั่นมันทำให้ฉันต้องเป็นแบบนี้" หญิงสาวจิกเสียงพูดออกมา ทุกครั้งที่พูดถึงเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่เธอมีลมหายใจ จะทำให้เธอสติแทบแตกกระเจิงทันที

   “รู้แบบนี้แล้วเธอยังจะทำร้ายคนดี ๆ ไปเพื่ออะไร"

   “ฉันไม่สน ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายมันก็เลวเหมือนกันหมดนั่นแหละ"

   “รวมถึงฉันด้วยหรือเปล่า"

   สิ้นเสียงของหมอผีอารัญย์ วิญญาณสาวก็ชะงักไปชั่วขณะ สำหรับหมอผีอารัญย์ เธอต้องยกเว้นไว้หนึ่งตน เพราะการทำหน้าที่ดูแลปกป้องผืนป่ารวมทั้งที่อยู่อาศัยของเธอที่ผ่านมา ทุกการกระทำล้วนแต่ตอกย้ำว่าผู้ชายคนนี้เป็นวิญญาณที่ดีที่สุดเท่าที่เธอเคยรู้จักมา

   “ไม่" เธอส่ายหน้าปฏิเสธ น้ำเสียงของเธออ่อนโยนลงอย่างเห็นได้ชัด

   หมอผีอารัญย์แสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะใช้โอกาสนี้จัดการกับคฑาทองทันที หมอผีลอยออกมาจากร่างของก้องภพก่อนที่จะหายตัวไปหยุดอยู่ที่ด้านหลังแล้วล็อกคอของคฑาทองเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว

   “นายจะทำอะไร" วิญญาณสาวเอ่ยขึ้นด้วยความหวาดกลัว

   “ทำให้เธอหยุดอาฆาตไงล่ะ" หมอผีกระซิบที่ข้างใบหูของวิญญาณสาว ก่อนที่จะใช้มือข้างหนึ่งล้วงเข้าไปในย่ามวิเศษที่มีของปราบผีและวิญญาณมากมายซุกซ่อนอยู่ในนั้น

   สิ่งที่หมอผีอารัญย์หยิบออกมาคือเข็มหมุดหัวกลมสีเงินเล็ก ๆ คฑาทองที่โดนล็อกคอเอาไว้เหล่สายตามาดูก็รู้ชะตากรรมของตนเองทันทีว่าจะเป็นเช่นไรต่อไป

   “อย่านะ...” เธอเอ่ยขึ้นด้วยความหวาดกลัว ทั้ง ๆ ที่เมื่อครู่ยังอวดเก่งจะทำร้ายมิวส์กับก้องภพอยู่เลย

   “ฉันให้โอกาสเธอมามากพอแล้ว" พูดจบหมอผีก็ปักเข็มหมุดเข้าที่หน้าอกข้างซ้ายของคฑาทองทันที

   วิญญาณสาวส่งเสียงกรีดร้องโหยหวยด้วยความเจ็บปวด เข็มหมุดเงินที่ปักกลางทรวงอกของเธอมันเหมือนกับเข็มพิษที่ส่งผลทำให้ร่างกายของเธอปวดแสบปวดร้อนและพร้อมที่จะสลายหายไปได้ทุกขณะ

   “นายทำอย่างนี้ทำไม...” วิญญาณสาวเอ่ยขึ้นขณะที่กำลังทรุดตัวลงกับพื้น เธอเงยหน้าขึ้นไปมองหมอผีด้วยความเจ็บปวดทรมานที่สุดในชีวิต มันเจ็บยิ่งกว่าตอนที่เธอถูกคนร้ายฆาตกรรมเสียอีก

   “เธอสร้างบาปมามากเกินไปแล้ว" หมอผีอารัญย์ตอบเพียงแค่นั้น

   “นายก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าถ้าทำแบบนี้ นายก็จะต้อง... โอ๊ยยย...” ความทรมานส่งผลให้วิญญาณสาวกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นก่อนที่จะพูดจบ จากนั้นเสียงของเธอก็ค่อย ๆ สั่นไหวราวกับคนกำลังจะสิ้นลมหายใจ "จะต้องรับกรรมที่ฉันก่อทั้งหมดแทนฉัน"

   หมอผีอารัญย์แสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะค่อย ๆ เอื้อมมือไปลูบศีรษะของวิญญาณสาว เพราะอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้าวิญญาณตนนี้ก็จะแตกสลายหายไปและไปชดใช้กรรมต่อไป

   ก่อนที่ร่างของเธอจะแตกสลาย น้ำตาของเธอได้ไหลลงลงมาเป็นสายเพราะเธอรู้ดีว่ากรรมที่เธอก่อในขณะที่เป็นวิญญาณมันมากมายแค่ไหน แต่หมอผีอารัญย์ก็เลือกที่จะใช้เข็มหมุดเงินจัดการกับเธอและพร้อมที่จะรับกรรมทั้งหมดไปแทนเธอ

   “นาย... นายทำอย่างนี้ทำไม!!!” คฑาทองเปล่งเสียงร้องออกมาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่ร่างกายของเธอจะแตกสลายหายไป

   หมอผีอารัญย์ไม่ได้ตอบอะไร เขารู้เพียงว่าวิธีนี้เป็นวิธีเดียวที่จะกำจัดวิญญาณร้ายอย่างคฑาทองได้ แม้สิ่งที่ต้องแลกกับมันก็คือเวรกรรมที่วิญญาณร้ายตนนั้นได้ก่อเอาไว้รวมถึงต้องแลกกับร่างกายของผู้ใช้อย่างเขาด้วยก็ตาม

   มิวส์ที่นอนสลบไสลไม่ได้สติอยู่นานพลันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา พอหันไปมองข้าง ๆ ก็พบกับก้องที่กำลังนอนฟุบอยู่กับผืนป่าที่รอบข้างเต็มไปด้วยต้นไทรต้นใหญ่หลายต้น เนื่องจากตอนนี้วิญญาณสาวถูกจัดการไปเรียบร้อยแล้วเลยทำให้ความอาถรรพ์ได้ถูกกำจัดออกไปด้วย

   “ก้อง... ก้อง... ปลอดภัยดีใช่ไหมก้อง” ทันทีที่เห็นร่างของก้อง มิวส์ก็รีบโผตัวลงกอดกับร่างนั้นทันที เพราะความจริงที่มิวส์เพิ่งรับรู้ได้ทำให้ความอาฆาต ความโกรธเกลียดที่มิวส์มีต่อก้องหายไปจนหมดสิ้น "หมอผีช่วยนายเอาไว้ได้จริง ๆ ด้วย"

   พอพูดถึงหมอผี... มิวส์ก็ผละออกจากตัวของก้องแล้วมองหาร่างของหมอผีอารัญย์ทันที ทว่าสิ่งที่มิวส์เห็นก็แทบจะทำให้มิวส์ตะโกนกรีดร้องออกมาเสียงดังลั่นด้วยความตกใจเพราะไม่อยากเชื่อสายตา

   ร่างของหมอผีอารัญย์ค่อย ๆ จางลงราวกับกำลังจะแตกสลาย มิวส์วิ่งเข้าไปหาร่างนั้นด้วยความห่วงใยทันที

   “คุณหมอผี คุณเป็นอะไร" มิวส์พยายามเอื้อมมือไปจับที่ร่างนั้น หากแต่ก็ไม่สามารถจับต้องได้ราวกับร่างนั้นเป็นสิ่งร่องหนไร้ค่า

   “ถึงเวลาที่ผมต้องไปชดใช้กรรมแล้ว คุณอย่าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับผมนะ เพราะผมช่วยปลดปล่อยความอาฆาตออกจากจิตใจของคุณแล้ว" หมอผีอารัญย์ยิ้มให้มิวส์เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ท้ายที่สุดร่างของเขาจะสลายหายไป

   “ไม่... ไม่จริงใช่ไหม" มิวส์เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แม้จะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นแต่เขาก็จำได้ว่าตนเองฝ่าฝืนคำสั่งของหมอผีอารัญย์แล้วเข้าไปในดงไทรเพื่อที่จะไปตามหาก้อง

   ความจำครั้งสุดท้าย มิวส์จำได้ว่าเขากำลังหลงทางอยู่ในความมืดมิดหลังจากนั้นก็มีอะไรบางอย่างควบคุมร่างของเขา พอตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบกับ...

   “ไม่... ม่าย!!!!!!” มิวส์ตะโกนเสียงดังก้องทันทีที่ร่างของหมอผีอารัญย์หายไป แม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นแต่มิวส์ก็มั่นใจว่าหมอผีอารัญย์เป็นคนช่วยเขาให้รอดพ้นจากความตายรอบสอง แต่ทว่า... ทำไมหมอผีอารัญย์ถึงต้องหายไปแบบนั้น

   “คุณหมอผี ผมขอโทษ" มิวส์กำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ ความไม่เชื่อใจส่งผลทำให้เขาเผลอทำร้ายวิญญาณดี ๆ ไปอีกหนึ่งตน

   คิดดังนั้นมิวส์ก็ได้แต่ลงโทษตัวเองด้วยการกำหมัดขึ้นมาแล้วอัดมันเข้าที่ใบหน้าของตัวเองอย่างแรง

   “หมัดนี้สำหรับที่ผมไม่เชื่อใจคุณ" มิวส์เอ่ยขึ้นหลังจากที่อัดหมัดเข้าที่ใบหน้าของตัวเองสุดแรง แม้จะเจ็บปวดมากแค่ไหนแต่มันก็คงไม่เท่ากับความเจ็บปวดที่หมอผีอารัญย์ต้องเผชิญ ทว่าแทนที่มิวส์จะหยุดเพียงเท่านั้น มิวส์กลับอัดเข้าที่ใบหน้าของตัวเองอีกหลายต่อหลายครั้งแล้วก็เอาแต่ด่าว่าตัวเองโง่... งี่เง่า...  ที่ไม่เคยเชื่อใจใครสักที รวมถึงตลอดเวลาก็มีแต่สร้างปัญหาให้กับคนใกล้ตัวเสมอ ๆ

   ไม้ที่เพิ่งเดินมาถึงพอเห็นมิวส์ทำร้ายตัวเองเขาก็รีบสะบัดมือออกจากการกอบกุมกับมือของแม็กกี้ก่อนที่จะวิ่งเข้าไปกอดแล้วห้ามเอาไว้

   “ไอ้มิวส์!!!” ไม้จับมือข้างที่มิวส์กำหมัดไว้แน่นก่อนจะใช้มืออีกข้างรัดตัวโอบกอด "มึงทำอะไรของมึง"

   แม็กกี้ได้แต่ยืนมองด้วยความงุนงงเพราะเขาไม่สามารถมองเห็นสิ่งลี้ลับได้เช่นเดียวกับไม้ ทว่าท่วงท่าของไม้มันก็ปรากฏให้เห็นเด่นชัดว่าเขากำลังโอบกอดอยู่กับอะไรบางอย่าง...

   “เจ้านาย...” มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นไหวพลางคลายกำหมัดลงแล้วหันไปโอบกอดกับเจ้านายบ้าง ดวงตาของเขาในยามนี้แดงก่ำเพราะความเสียใจที่สำคัญน้ำตายังไหลลงมาอาบท่วมใบหน้าอีกด้วย "ผม... ฮือ... ผมมันเลวใช่ไหมเจ้านาย ผมมันไม่เคยเชื่อใจใคร ผมสร้างปัญหาให้เจ้านาย สร้างปัญหาให้ก้อง แล้วยังทำร้ายหมอผีอารัญย์ ฮือ...”

   “เดี๋ยวนะมิวส์... มึงตั้งสติก่อน มึงไปทำอะไร ทำใคร...” ไม้เอ่ยขึ้นเพราะอารมณ์เสียใจของมิวส์ในยามนี้ทำให้มิวส์พูดไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่

   “หมอผีอารัญย์ต้องร่างสลายไปเพราะผม เพราะผมไม่เชื่อใจเขา เขาเลยต้องตายรอบสองแทนผม" มิวส์ตอบออกมา "ส่วนก้อง... เหตุผลที่ก้องต้องเลิกกับผมก็เพราะก้องต้องช่วยเหลือสาวิตรี สาวิตรีมาขอร้องให้ก้องแต่งงานด้วยและรับผิดชอบเด็กในท้องของเธอ"

   “มึงว่าไงนะ" ไม้แทบไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขาเข้าใจมาเสมอว่าอาจารย์ก้องภพกับอาจารย์สาวิตรีเป็นคู่สามีภรรยาที่รักกันด้วยความเต็มใจ และลูกของพวกเขาก็เกิดขึ้นมาด้วยความรักของพวกเขาทั้งสองคน

   “ใช่! เจ้านายเข้าใจไม่ผิดหรอก สาวิตรีท้องกับคนอื่น แต่มาขอร้องให้ก้องช่วยเป็นพ่อเด็ก" ยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกผิด มือที่โอบกอดกับไม้ก็ถูกคลายออกมาตบเข้าที่ใบหน้าของตัวเองอย่างแรงอีกครั้ง

   ไม้เห็นดังนั้นก็พยายามที่จะห้าม

   “มึงอย่าทำแบบนี้กับตัวเองสิวะ มึงไม่ผิดเพราะมึงไม่รู้ แต่ถ้ามึงรู้แล้วว่าเข้าใจผิด สึกที่มึงควรจะทำหลังจากนี้ก็คือยอมรับความจริงและขอโทษซะ" ไม้เอ่ยออกมา

   “ครับ...” มิวส์ตอบรับ "แล้วก้องจะให้อภัยผมไหม"

   “ให้อภัยสิ" ไม้ตอบออกมาอย่างไม่ต้องเสียเวลาคิด เพราะแววตาที่ก้องมองมิวส์นั้น ไม้สังเกตได้ถึงความรักความห่วงใยที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง

   “ทำไมเจ้านายคิดแบบนั้นล่ะ" ทั้ง ๆ ที่รู้อยู่แล้วก็ยังจะถาม เพียงเพราะความอ่อนแอที่เกิดขึ้นเลยทำให้มิวส์อยากฟังอะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเองสบายใจ เขาต้องทนอยู่กับความอาฆาต ผิดหวัง และเข้าใจผิดมาตลอดระยะเวลา 10 ปี จึงไม่แปลกที่เมื่อความจริงปรากฏ มันจะทำให้เขาต้องทรมานภายในจิตใจเช่นนี้

   “เพราะรักยังไงล่ะ" ไม้ตอบออกมา มิวส์พยักหน้ารับ ...ทว่าสิ่งที่ไม้พูด แม็กกี้ที่ยืนอยู่ด้านหลังได้ยินมันชัดเจนทุกคำทุกประโยคจนทำให้เขาตีความผิดคิดไปว่าไม้กำลังบอกรักกับสิ่งที่มองไม่เห็น

   ในขณะที่ฉากแห่งความหวานซึ้งและโรแมนติกระหว่างหนึ่งคนกับหนึ่งดวงวิญญาณกำลังดำเนินไป แม็กกี้ที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงอะไรสักนิดพอได้ยินคำว่า 'รัก' ก็ค่อย ๆ เดินถอยหลังออกห่างจากบริเวณนั้น

   เขาก้าวเท้าด้วยความระมัดระวังเพื่อไม่ให้ไม้รู้ตัว น้ำตาที่มันพร้อมจะไหลอออกมาก็ถูกกักเก็บเอาไว้ รอให้ถึงที่ที่ไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ ค่อยปล่อยให้มันไหลรินลงมาจนหนำใจก็ยังไม่สาย

   ...นี่สินะคือเหตุผลที่ทำให้ไม้เปลี่ยนไป ความรักของไม้มันยิ่งใหญ่ยิ่งนัก ยิ่งใหญ่จนแม็กกี้ไม่อาจสัมผัสถึง เพราะไม่คิดว่าคนที่จะมาแย่งความรักของเขาไปคือสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น...

   ทันทีที่แม็กกี้เดินถอยหลังออกมาได้ไกลพอสมควร เขาก็ตัดสินใจวิ่ง... วิ่งไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะไกลได้ ไปให้พ้น ๆ จากชีวิตของไม้ และถ้าเป็นไปได้เขาก็หวังว่าชาตินี้อย่าได้กลับมาพบมาเจอกันอีกเลย

   ความเสียใจส่งผลทำให้จิตของเขาอ่อนไหวถึงขีดสุด น้ำตาที่ถูกกักไว้มานานก็ทะลักล้นออกมาราวกับห่าฝน ...แม้จะรู้อยู่แล้วว่าต้องมีสักวันที่จะต้องเลิกลากันกับไม้ แม้จะพยายามทำใจมาโดยตลอด แต่พอเอาเข้าจริงเขาไม่สามารถเข้มแข็งได้อย่างที่ใจเคยคิดเลยสักนิด

   และในขณะนั้นวิญญาณร้ายตนหนึ่งที่รอเวลาเล่นงานมนุษย์จิตตกก็แสยะยิ้มออกมา มันเฝ้าเดินตามแม็กกี้ตั้งแต่ที่แม็กกี้แอบย่างกายออกมาเพียงลำพัง และเมื่อเห็นว่าตอนนี้คือช่วงที่เหมาะสมที่สุด มันก็ลงมือจู่โจมเหยื่อผู้อ่อนแอทันที








   ทางด้านของไม้...

   หลังจากที่ไม้ปลอบมิวส์ได้สักพักจนมิวส์รู้สึกดีขึ้น ไม้ก็หันไปทางด้านหลังเพื่อที่จะอธิบายทุกอย่างให้แม็กกี้เข้าใจ แต่ทว่าสิ่งที่เขาพบกลับมีเพียงร่างของก้องที่ยังนอนสลบไสลและผืนป่ากว้างใหญ่เท่านั้น ...แล้วแม็กกี้ล่ะหายไปไหน

   “แม็กกี้ ไอ้แม็กกี้!!!” ไม้ตะโกนเสียงดังลั่น พอไม่มีวี่แววของคนที่เขาตะโกนเรียก ความเครียดที่เกิดขึ้นก็แสดงออกมาทางใบหน้าอย่างชัดเจน

   “เจ้านาย...” มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บางเบา

   “แม็กกี้หาย กูต้องตามหา" ไม้หันมาบอก แต่ก่อนที่ไม้จะวิ่งไป เสียงของมิวส์ก็ทำให้ไม้ชะงักเสียก่อน

   “เดี๋ยวเจ้านาย รอผมด้วย" พูดจบมิวส์ก็รวบรวมสมาธิก่อนที่จะเพ่งจิตไปที่ร่างของก้องที่ยังนอนหมดสติอยู่ ไม่นานมากนักสิ่งที่เขาร่ำเรียนมากับท่านเจ้าที่ก็สำเร็จผล

   นอกจากการฝึกจับสิ่งของแล้ว ท่านเจ้าที่ยังบอกเคล็ดลับในการสิงร่างของคนอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะสิงได้ยากง่ายแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความสามารถส่วนตัวและความผูกพันระหว่างวิญญาณกับร่างของคนที่ต้องการสิง ...กล่าวคือถ้าหากไม่มีความสามารถส่วนตัวอย่างหมอผีอารัญย์ก็จะทำให้การสิงร่างคนอื่นเป็นเรื่องยาก แต่ถ้ามีความผูกพันหรือกรรมร่วมกันกับคนที่ต้องการสิง ก็จะทำให้สามารถสิงร่างของคน ๆ นั้นได้อย่างง่ายดาย

   ร่างของก้องที่นอนหมดสติค่อย ๆ ลุกขึ้นมา ไม้ที่เห็นทุกการกระทำของมิวส์ก็ได้แต่เลิกคิ้วด้วยความฉงนเพราะว่าภาพที่เห็นเมื่อครู่คือภาพของร่างมิวส์ที่ค่อย ๆ หดเล็กลงและลอยเข้าไปยังร่างของก้อง

   “เจ้านาย" มิวส์ซึ่งอยู่ในร่างของก้องโบกไม้โบกมือต่อหน้าไม้ "ผมเอง มิวส์เองครับ"

   “มึงทำได้ยังไง" ไม้ถาม

   “ลุงเจ้าที่สอนมา" มิวส์ตอบเพียงแค่นั้น "ไปกันเถอะเจ้านาย รีบตามหาแม็กกี้เถอะ"

   “เออ"

   แม้จะยังมีข้อสงสัยมากมาย แต่ไม้ก็ยอมแต่โดยดีเพราะหน้าที่ที่สำคัญกว่าในตอนนี้คือการตามหาแม็กกี้ให้พบ

   ในขณะที่วิ่งตามหาอยู่นั้น... มิวส์ก็พยายามเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ไม้ฟัง จนกระทั่งถึงตอนสำคัญ

   “เจ้านาย... หลังจากที่กลับไปหอพัก ผมอาจจะไม่ได้อยู่กับเจ้านายแล้วนะ" อาจเป็นเพราะไม้มัวแต่ห่วงแม็กกี้และวิ่งนำหน้าด้วยความฉับไวเลยทำให้ไม้จับใจความที่มิวส์พูดได้ไม่หมด

   “เออ ๆ" ไม้ตอบแบบไม่ใส่ใจเท่าไรนัก ได้ยินเสียงของมิวส์ก็จริงแต่มันไม่ได้เขาไปในสมองแล้วผ่านกระบวนการคิดและตีความถึงคำพูดเหล่านั้นเลยสักนิด

   “เจ้านาย...” มิวส์เอ่ยเสียงสั่นเมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนยังคงวิ่งต่อไปและไม่หันมาสนใจในสิ่งที่ได้พูดออกไปเลยสักนิด มิวส์คิดว่าบางที... 'ปัญหาทุกอย่างมันคงใกล้จะจบลงเต็มทนแล้วล่ะ'





จบตอน ^^ ไม่ได้ลงนาน แฮ่ๆ ขอลงเต็มๆหน่อยนะครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน33 P.14]- 15/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 29-10-2013 13:14:02
คุยกับคนอ่านครับ

คุณ @Lucifer_Prince@ :: มาแล้วนะคร้าบ T^T ขออภัยที่ให้รอนาน หมอผีไปช่วยแล้วเน้อ แต่ก็ต้องแลกกับ......  :hao5:
คุณ iamnan :: เอิ๊กๆ มาเต็มเลย T^T แต่ทำไมหมอผีต้องทำถึงขนาดนี้เพื่อมิวส์ก็ไม่รู้  :mew6:
คุณ kasarus :: 555 ที่ต้องเรียกไม้เพราะ ไม้จะได้มาช่วยครับ T^T และต่อบทได้ กรั๊กๆๆๆ
คุณ maemix :: T^T ไม้ดันรู้เรื่องสะด้วยครับ (ไม้สัมผัสได้ ) เอิ๊กๆ
คุณ NJnobu :: ดื้อด้านจนเป็นเรื่องเลย T^T สรุปพระเอก นายเอกเรื่องนี้หลังๆมาคะแนนตกฮวบๆ เพราะความเอาแต่ใจของตัวเอง  :z3:
คุณ jamlovenami ::  :hao4: แสดงความคิดเห็นแบบอินๆแบบนี้เค้าชอบ เหอๆๆ (ชอบให้ตัวละครโดนด่า) เวณกรรม  :ling1:
คุณ mentholss :: T^T ท่านหมอผีไม่อยู่ให้จับลงหม้อแล้วจ้า  :hao5:
คุณ pannixz :: ไม้กลับมาแล้วน๊าาา
คุณ มยอนฮวา :: ไปอยู่กะวิญญาณด้วยกัน มามา คิคิ
คุณ MildMate :: ช่วยก้องคนเดียว ยัยคฑาทองยังไม่ทันตั้งตัว พอเข้าไปอีกรอบ หึหึ ยัยนั่นตั้งตัวได้แล้ว T^T เสร็จเลยคุณหมอผี ตอนใหม่มายาวๆแล้วน๊า (คิดว่าน่าจะยาว แหะๆ)
คุณ mukmaoY :: T^T คุณหมอผีอารัญย์ไม่อยู่จับมิวส์ถ่วงแล้วอ่าจิครับ
คุณ rthit170530 :: มาแล้วครับผม ^^
คุณ Feuy_qty :: เย่!!! มีคนหลอนฉากนี้ด้วย T^T นึกว่าจะไม่มีใครนึกภาพออกตามซะแล้ว คิคิ
คุณ ApoStrOfhYs :: อุ๊บบส์ โดน!!! ไม้อย่าลังเลมากเพราะจะทำให้ไม่เหลือใคร  :laugh: คำนี้บอกใบ้อะไรบางอย่าง
คุณ 2pmui :: โหดดดด!!! ตบนายเอกให้กบาลแยก โหดมาก ฮ่าๆๆๆ แต่พอไปอ่านดูอีกรอบ - - มันน่าตบจริงๆครับ กร๊ากๆ
คุณ Lily teddy :: ตอนนี้ฮีโร่คือคุณหมอผีครับ T^T ก้องแทบไม่มีบทบาทเลย  และคุณหมอผีจะเป็นฮีโร่ในความทรงจำเราตลอดไป T^T  :hao5:
คุณ  knightprince :: อ่าา ขอบคุณคร้าบ ^^ ดีใจที่มีคนมาตามอ่านเพิ่ม คิคิ ใกล้จบแล้วเหลืออีกนิดเดียวยังไงช่วยติดตามต่อด้วยนะครับ แฮะๆ  สรุปใครจะคู่ใคร และแม่มิวส์อยู่ไหน ตอนจบเรื่องเฉลยทุกอย่างครับ


ปล.ขอให้ทุกๆท่านสนุกกับการอ่านนะครับ  :z13:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 29-10-2013 13:35:51
ใกล้จบ หรือปัญหาใหม่มันงอกมาอีกเพียบละนี่  :เฮ้อ:
สงสารคุณหมอผี
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 29-10-2013 13:40:36
ถามปุ๊บก็กลับมาปั๊บ
ไม้ท่าจะตายยาก
แต่แม็คกี้ไม่แน่แฮะ
ใกล้จบแล้วใช่ม้ายยยยย??
มาต่อไวๆนะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 29-10-2013 14:54:27
กรี๊ดดดดด พระเอกของช้านนนนน
สลายร่างไปซะแล้ววววว

เฮ้อออ และแล้วงานใหม่ก็งอกออกมาอีก
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Feuy_qty ที่ 29-10-2013 14:56:29
แอบคิดว่าอิตาหมอผีก็น้องผีคานทองมีซัมติงกันนะ
ไม่งั้นอิตาหมอผี คงไม่ลงทุนเอาตัวเข้าแลก(?)
พี่แกแมนมากๆ อ่ะบอกเลย แอบปลื้มนิดนึง
แล้วนี่ยังต้องลุ้นไปช่วยแมกกี้อีก *เตรียมเกาะเมาส์แน่นๆ  :katai1:
 

ง่าาาาาา ใกล้ถึงเวลาที่มิวส์จะต้องไปแล้วสินะ
ระหว่างมิวส์กะไม้ ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความผูกพันธ์กันมากกว่า
แต่จะยังไงการลาจากมันก็เจ็บปวดอยู่ดีอ่ะเนอะะ *เตรียมตะเกียบรอมาม่า  :sad2:

(นี่ก็หลายเตรียมมาก 555)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 29-10-2013 15:14:58
สงสารแม็กกี้ ฟังไม่จบความ น้อยใจไม้ไปเลย
จะโดนวิญญาณร้ายทำไรมั้ง น่ากลัวจริง

ไม้เจอมิวส์ลืมแม็กกี้  ห่วงมิวส์ลืมแฟน โบกสักที
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: MildMate ที่ 29-10-2013 18:40:06
 :hao5: ขนลุกง่ะ เมื่ออ่านถึงช่วงที่หมอปักเข็มลงบนหน้าอกคฑาทอง
แล้วขนลุกระรอกสองเมื่อรู้ว่าหมอยอมรับกรรมทั้งหมดแทนนาง

รู้สึกเศร้า  หดหู่จัง พ่อพระเอกชั่วคราว(หมอ)ก็หายไปแล้ว

ส่วนมิวส์รู้ความจริงแล้ว ก็เศร้าอีกเพราะไม่นานมิวส์ก็ต้องไปแล้วเหมือนกันใช่มั๊ย?
สงสารแม็กกี้ ฮีเอ่อ เข้าใจผิดไปแล้วหล่ะ  แต่ก็พอจะเข้าใจแกนะ เพราะแกได้แต่ฟังที่ไม้พูดอย่างเดียว ไม่ได้ยินที่มิวส์พูด
และสุดท้ายน้อยใจแทนมิวส์  ไม่ฟังกันบ้างเลยนะไม้  :katai1:

ตอนนี้หลากหลายอารมณ์ด้านลบ  ฮ่าๆๆ  สนุกและอินตามมากอ่ะ

ขอบคุณจ้า  รอที่จะได้อ่านบทสรุปน๊า

ปล. เอาอีกแล้ว มันเอาอีกแล้ว เมื่อไหร่ที่จิตใจอ่อนแอ มันมาทุกที  ฮ่าๆๆๆ
 
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: jamlovenami ที่ 29-10-2013 19:32:36
อร๊ายยย ทำไมยิ่งอยู่มันยิ่งเศร้า(วะ)คะ  :katai1:

ไม่รู้เรื่องนี้ใครน่าสงสารที่สุด เอาเป็นว่าให้(ใจ)ทุกคนน่าสงสารหมดเลยละกัน  :katai5:

มาอัพต่อนะค๊ะ ไรต์ รักฝุดๆ น่ารักอ๊างงงง :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 29-10-2013 21:18:37
คนเขยนหายไปไหนมาหนอนี่

หตุการณ์มันช่างวุนวาย ทุกคนเหนื่อยกันหมด ทั้งกายทั้งใจ
แม็กกี้ก็น่าสงสาร จริงๆรอฟังสักหน่อย
แต่คงเพราะจับพิรุธ ใจแกว่งมานาน เลยช็อคไปหน่อย

ไม่รู้ตอนจบเรื่องนี้เลย ไม่อยากคิดอ่ะ
เพราะรักทุกคน :m31:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 29-10-2013 21:43:27
ค้างอ่าคนแต่ง  #ซาบซึ้งในความเสียสละของหมอผีอารัญย์จริงๆ  ส่วนแม็กกี้ก็  ไม้กะมิวส์ไปช่วยให้ทันน้า  เดี๋ยวแม็กกี้ตายแล้วยุ่งอีก  รอตอนต่อไปนะคัฟคนแต่ง  ขอบคุณคัฟ^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 29-10-2013 22:11:48
 :katai1: :katai1: :katai1: 
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: ไป๋ไป๋ ที่ 30-10-2013 00:03:58
 :hao7:ลุ้นจริงๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: paiwit ที่ 31-10-2013 18:25:23
สุดท้ายยังไงมิวก็ต้องไปเกิดอยู่ดี
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 01-11-2013 21:56:20
พี่หมออออออออ ไม่น้าาา คนดีๆไปซะละ 
แม็กกี้อย่าตายเลยนะ สงสารไม้ ขอให้ไปช่วยทันทีเถอะ
ไม่อยากให้ต้องเป็นแบบมิวส์อะ อย่าตายน้าาาาาา
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 01-11-2013 22:28:17
T T ไม่อยากจะคิดเลยค่ะ ว่าตอนจบจะเป็นอย่างที่เคยคิดไว้ตอนต้น ๆ เรื่องรึเปล่า
แต่ยิ่งอ่านมันยิ่งเข้าเค้ามาก ๆ กลัวเป็นแบบที่คิดไว้จัง (แอบเดาเงียบ ๆ อย่างเศร้า ๆ T T)
ถ้าไม่ใช่ก็จะดีใจมาก ๆ เลยอะคะ ^ ^ (คนเขียนคงงงมันเดามั่ว ๆ อะไรอยู่หว่า คิดฟุ้งซ่านไปได้คนเดียว)
แต่ตอนนี้ที่เศร้าแน่ ๆ คือชะตาชีวิตของคุณหมอผีฮีโร่นี่แหละค่ะ  แค่ได้เจอกับมิวส์แป็บเดียวเองนะ(เปล่าหลอกว่าอะไรมิวส์นะ)
ยอมเสี่ยงชีวิตช่วยมิวส์กะก้องไว้ไม่พอ  ขนาดตอนนี้จะกำจัดวิญญาณผีสาวยังยอมรับกรรมแทนเค้าซะอีก
ช่างดีผิดผีผิดวิญญาณจริง ๆ แบบนี้พอวิญญาณคุณหมอผีสูญสลายไป  ก็ต้องไปรับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อเนี่ยนะ
อย่างงี้ผลบุญจากการทำความดีมาตลอดไม่ช่วยอะไรคุณหมอผีบ้างเลยเหรอค่ะ
 :เฮ้อ: แล้วไม่รู้จะเรียกว่าไม้สองใจหรือเป็นคนดีเกินไปกันแน่ พอเห็นมิวส์ลำบากก็รีบไปช่วยมิวส์ไม่สนใจความรู้สึกแม็กกี้
แต่พอคิดว่าแม็กกี้อาจตกอยู่ในอันตรายก็รีบไปช่วยแม็กกี้ไม่สนใจคำพูดของมิวส์อีก
แล้วไม้จะไปช่วยแม็กกี้จากวิญญาณร้ายทันไหมอะ  ตอนนี้แม็กกี้ก็กำลังเสียใจเพราะความเข้าใจผิดจากคำพูดของไม้ซะด้วย
จริง ๆ มันก็คล้าย ๆ ตอนก้องกะมิวส์นะ เพียงแต่ก้องตั้งใจแกล้งพูดให้มิวส์ตัดใจ
แต่ไม้ไม่ได้ตั้งใจพูดแท้ ๆ แต่เป็นใครได้ยินก็คงต้องเข้าใจผิดเหมือนแม็กกี้แหละ
ในเมื่อตอนนี้แม็กกี้ก็กำลังสับสนและระแวงในความรักของไม้อยู่แล้วด้วย 
ยังไงก็อยากให้ไม้คู่แม็กกี้จังคะ  :impress: แบบไม่มีมิวส์แฝงด้วยอะ ปล่อยให้มิวส์ไปชดใช้กรรมเถอะนะคะ
ถึงมิวส์จะเป็นวิญญาณที่ยังไม่สิ้นอายุขัยก็เถอะ  (ทั้งอ้อนทั้งขอร้อง แต่จริง ๆก็แล้วแต่ผู้เขียนนะค่ะ ^^) 
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมค๊า  :pig4: :กอด1:
ปล. พิมพ์ซะยาวเกิ้นอีกแล้ว คงไม่งงหรอกนะคะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: paiwit ที่ 03-11-2013 10:16:39
แต่จากที่อ่านมา ต้นเรื่อง มิว จะเป็นตัวเอกป่าวครับ เพราะ เปิดเรื่องมาก็กล่าวถึง มิว กับก้อง เอ๊ะหรือเดาไปเอง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-11-2013 02:41:43
ตอนที่ 35



         สายลมเบาหวิวยามดึกในป่าที่เงียบสงัด ช่วยพัดพาเอาความหนาวเหน็บและสิ่งเร้นลับให้โลดแล่นไปทั่วผืนป่าจนกระทั่งถึงเวลาตี 4 ประตูปรโลกก็เปิดขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้มันไม่ได้เปิดให้พวกผีป่า ผีอาถรรพ์ ผีไร้บุญหรือผีกรรมหนักได้ออกมาล่องลอยเที่ยวเตร่บนโลกมนุษย์ แต่มันเปิดเพื่อต้อนรับการกลับไปยังที่ที่มีแต่ความมืดมิดว่างเปล่าเพราะหมดเวลาของการเล่นสนุกบนโลกมนุษย์แล้ว

   “บ้าจริง...” วิญญาณชายหนุ่มบ่น และก่อนที่ร่างของมันจะถูกดูดเข้าไปยังหลังประตูปรโลก มันได้ลองเอานิ้วมือยื่นมาที่บริเวณปลายจมูก เมื่อเห็นว่ามนุษย์โชคร้ายผู้นั้นไม่มีลมหายใจแล้ว มันก็แสยะยิ้มออกมาก่อนที่จะส่งเสียงหัวเราะดังลั่นจนกระทั่งร่างของมันหายวับไป

   ...เสียงหัวเราะของวิญญาณตนนั้นดังเข้ามาในระบบโสตประสาทของมิวส์ ทำให้มิวส์สามารถวิ่งไปตามต้นเสียงได้อย่างคล่องแคล่ว

   ไม้ที่ไม่ได้ยินอะไรพอเห็นมิวส์ซึ่งยังคงสิงอยู่ในร่างของก้องวิ่งนำไปข้างหน้าก่อนที่จะเลี้ยวไปทางขวา เขาก็วิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว

   “ไอ้มิวส์... มีอะไรวะ" ไม้ตะโกนถามเสียงดัง

   “ผมได้ยินเสียง... มันเหมือนกับเสียงหัวเราะ...” มิวส์ตอบเพียงแค่นั้น แม้ไม่รู้ว่าเป็นเสียงหัวเราะของใคร แต่จากน้ำเสียงที่ได้ยินมันทำให้เขามีลางสังหรณ์ในด้านร้ายมากกว่าด้านดี

   แม้ว่าเสียงหัวเราะจะหายไปแล้ว แต่ในที่สุดมิวส์ก็วิ่งไปถึงจุดนั้น... จุดที่มีใครบางคนนอนกองอยู่กับพื้น

   “แม็กกี้" ไม้ไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปหาร่างนั้นทันที เขาคุกเข่าลงข้าง ๆ พร้อมกับเขย่าร่างเพื่อที่จะให้แม็กกี้ตื่นจากการหลับใหล "แม็กกี้ แม็กกี้ มึงเป็นอะไร ตื่นสิวะ"

   ไม้ตะโกนต่อไปเรื่อย ๆ ทว่าก็ไม่มีวี่แววว่าแม็กกี้จะตื่นขึ้นมาสักที

   ไม้เปลี่ยนท่านั่งให้ก้นติดกับพื้นแล้วเขยิบไปที่ด้านหลังของร่างที่นอนหลับใหลแล้วช้อนร่างนั้นขึ้นมานอนแนบอก

   “มึงเป็นอะไร" ไม้ยังพยายามพูดต่อไป เมื่อเห็นว่าคนรักของตนไม่ตื่นสักทีก็เลยลองเลื่อนนิ้วมือไปที่ปลายจมูกเพื่อจะพิสูจน์อะไรบางอย่าง
   ...ไม่มีลมหายใจ ไม่มีอากาศที่ถูกพ่นออกมาจากรูจมูกนั่น...

   “ไอ้แม็กกี้" ไม้ตะโกนเสียงดังก้อง "มึงเป็นอะไรของมึงกันแน่วะ ตื่นขึ้นมาสิ ตื่นขึ้นมาคุยกับกู ตื่นขึ้นมาเป็นคนรักของกู ตื่นขึ้นมาด่ากู ตื่นขึ้นมากอดกู จะตื่นขึ้นมาทำอะไรกับกูก็ตื่นขึ้นมาสักทีสิวะ"

   คราวนี้ไม้เขย่าร่างนั้นแรงขึ้นเพื่อหวังที่จะให้เกิดปาฏิหาริย์กับคนที่สิ้นลมหายใจ

   มิวส์ยืนมองการกระทำของไม้ด้วยความรู้สึกที่ปวดใจไม่ต่างกัน... แม้เขาไม่ได้สนิทสนมกับแม็กกี้แถมยังเคยคิดจะใช้แม็กกี้มาเป็นตัวตายตัวแทน ทว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับไม้ และความจริงที่ปรากฏเรื่องของก้อง ได้ทำให้มิวส์สำนึกผิดในทุก ๆ สิ่ง

   “เจ้านาย...” มิวส์อยากจะเข้าไปปลอบเหลือเกิน เจ้านายผู้ป่าเถื่อนและใจแข็งในทุก ๆ เรื่องกำลังร้องไห้และเสียน้ำตาอย่างหนักให้กับคนรักที่ได้สิ้นใจไปแล้ว ทว่ามิวส์ก็ไม่คิดที่จะเข้าไปห้าม ปล่อยให้เจ้านายของเขาแสดงความเสียใจออกมาให้หมด

   ภาพที่ไม้ร้องไห้เจ็บปวดราวกับจะตายตามร่างที่นอนแน่นิ่งไปอีกคนนั้น ทำให้มิวส์อดนึกย้อนไปถึงในวันที่เขาสิ้นใจไม่ได้ว่าก้องจะเป็นอย่างไรบ้าง

   นึกแล้วก็อดสงสารก้องขึ้นมาไม่ได้เหมือนกัน การกระทำทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันบีบบังคับให้ก้องต้องทำในสิ่งที่ทรมานใจที่สุด มิหนำซ้ำในคืนวันที่ก้องพูดจาทำร้ายจิตใจ ยังเป็นคืนสุดท้ายที่มิวส์มีลมหายใจอยู่บนโลกใบนี้ ก้องคงจะเครียดและเอาแต่โทษตัวเองมาตลอดระยะเวลา 10 ปี

   “ไอ้แม็กกี้... ตื่นขึ้นมาก่อน มึงจะทิ้งกูไปแบบนี้ไม่ได้นะ มึงต้องให้กูเป็นฝ่ายทิ้งมึงสิวะ... ฮือ..." ความเสียใจส่งผลให้ไม้กำลังเสียสติและบ้าคลั่ง ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่ที่ตัดสินใจคบกัน ไม้ยังไม่มีโอกาสได้ทำอะไรตอบแทนความรักที่แม็กกี้มีให้อย่างจริง ๆ จัง ๆ สักเท่าไหร่
   แล้วความผิดต่าง ๆ ที่ไม้เคยกระทำต่อแม็กกี้ก็ถาโถมเข้ามาในความคิด

   “กูขอโทษที่กูชอบตวาดมึง กูขอโทษที่กูไม่สนใจมึง... กูขอโทษที่ปิดบังมึงเรื่องไอ้มิวส์..." เกิดมาไม่ว่าจะเจอปัญหาหนักหนาสาหัสแค่ไหน ไม้ไม่เคยรู้สึกถึงความผิดหวังหรือเสียใจเลยสักนิด แต่ในครั้งนี้มันไม่ใช่...

   แม็กกี้สอนให้ไม้ได้รู้แล้วล่ะว่า 'ความเสียใจ' มันเป็นอย่างไร น้ำตามันมีคุณค่ามากแค่ไหนเมื่อมันต้องไหลรินลงมาเพื่อใครบางคนที่เขารัก

   “กูรู้ว่ากูย้อนเวลากลับไปเพื่อแก้ไขอดีตที่ผิดพลาดไม่ได้" จู่ ๆ ไม้ก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สะอึกสะอื้น ความบ้าคลั่งจากการร่ำไห้เมื่อครู่ก็หายไป เขาค่อย ๆ ยกมือขึ้นมาปาดหยาดน้ำตาและค่อย ๆ วางร่างของแม็กกี้ลงกับพื้นดินในท่าที่นอนแน่นิ่ง "แต่ขอให้กูได้รับไออุ่นจากคนที่กูรักแล้วก็รักกูเป็นครั้งสุดท้ายหน่อยเถอะนะ"

   สิ้นเสียง... ไม้ก็ค่อย ๆ ก้มหน้าไปยังใบหน้าของร่างที่ไร้ลมหายใจ น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ไม่ให้ไหลพอได้จ้องมองกับคนรักใกล้ ๆ ก็กับไหลรินลงมาอีกครั้ง ก่อนที่ท้ายที่สุดริมฝีปากของไม้จะไปประกบกับริมฝีปากของแม็กกี้ ...มิวส์ที่ก่อนหน้านี้ยืนมองการกระทำของเจ้านายมาโดยตลอดก็ต้องเบือนหน้าหนีก่อนที่จะเดินหลบมุมเพื่อให้เจ้านายได้ร่ำลาคนรักเป็นครั้งสุดท้ายตามลำพัง

   ไม้ใช้เวลาร่ำลาแม็กกี้อยู่นาน นานจนกระทั่งน้ำตาที่รินไหลลงมาอาบใบหน้าเหือดแห้ง

   “ไปสู่สุคตินะแม็กกี้"

   การร่ำลาครั้งสุดท้าย ไม้คงไม่รู้หรอกว่าร่างวิญญาณของผู้ที่สิ้นลมหายใจได้แอบมองการกระทำของเขาทุกอย่างอยู่ที่หลังต้นไม้ต้นหนึ่ง
   แม็กกี้รู้สึกอ่อนแอจนอย่างจะร้องไห้ตั้งแต่ตอนที่เห็นหน้าไม้วิ่งเข้ามาด้วยความตกใจแล้ว แต่ทว่าเขาก็ไม่มีน้ำตาให้ไหลลงมา... เขาไม่อยากเห็นหน้าของคนรักยามที่ร้องไห้ เพราะการฟูมฟายของไม้ทำให้หัวใจของเขาแทบแตกสลาย

   แม็กกี้อยากจะเดินเข้าไปหา อยากจะเข้าไปกอดกับร่างนั้นเป็นครั้งสุดท้ายเหลือเกิน แต่เขาก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้เพราะกลัวว่าไม้จะมองเห็นและทุกข์ทรมานใจยิ่งกว่าเก่า

   จนกระทั่งฉากสุดท้าย... การร่ำลาของไม้ที่มอบจูบให้กับศพของเขาอย่างไม่มีท่าทีรังเกียจ รวมถึงน้ำเสียงที่อ่อนนุ่มที่บอกให้เขาไปสู่สุคตินั้นมันสะเทือนใจจนทำให้น้ำตาที่อยากจะไหลออกมาตั้งนานได้ไหลออกมาสมใจสักที

   หลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ก็เกิดแสงสีขาวสว่างวาบรอบ ๆ แม็กกี้รู้สึกถึงความสุขที่สุดในชีวิตและความทุกข์ที่ได้ถูกปลดปล่อยหลังจากที่ได้ยินคำพูดและเห็นการกระทำของไม้ ...และเพราะสิ่งเหล่านั้นแหละที่ทำให้เขาพร้อมที่จะทิ้งความรู้สึกทุกอย่างเพื่อที่จะไปชดใช้กรรมในนรกหรือสวรรค์ต่อไป

   'ขอบคุณสำหรับทุก ๆ สิ่งนะไอ้ไม้'

   ในขณะที่ไม้กำลังจะอุ้มร่างของแม็กกี้เพื่อที่จะพาร่างนั่นกลับไปยังหอพัก ...สายลมเบา ๆ ก็พัดมาปะทะกับร่างของเขาจากทางด้านหลัง

   ไม้หันหลังไปมองแต่ก็ไม่พบอะไร มีเพียงผืนป่าและต้นไม้สูงใหญ่เท่านั่น ทว่ากลิ่นกายอ่อน ๆ ของคนสำคัญที่พัดมากับสายลม ก็ทำให้ไม้รับรู้ว่า... แม็กกี้ต้องการจะบอกอะไรกับเขาเป็นครั้งสุดท้าย

   'ขอบคุณนะไอ้แม็กกี้ ขอบคุณจริง ๆ ที่ยกโทษให้กู'

   หลังจากนั้นไม้กับมิวส์ที่อยู่ในร่างของก้องก็หาหนทางเดินออกจากป่าทันที แม้จะไม่รู้ว่าทิศทางไหนคือทางที่ถูกต้อง แต่ทั้งคู่ก็เดินไปด้วยใจที่หวังว่าจะเจอกับทางออก

   ตลอดทางไม้กับมิวส์ไม่คุยอะไรกันสักคำ มิวส์รู้ว่าไม้ยังคงเสียใจเรื่องของคนรักที่จากไปโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงไม่อยากที่จะรบกวน

   ไม่รู้ว่าเพราะมีปาฏิหาริย์หรือมีสิ่งเล้นลับนำทางมาหรืออย่างไร เพราะในขณะที่พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น พวกเขาก็มองเห็นหอพักอยู่บนยอดดอยซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าผืนป่าไม่มากนักรำไร

   “ไอ้มิวส์ มึงเห็นนั่นไหม" ไม้คลี่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นจุดหมาย คืนนี้เป็นคืนที่เขาเหนื่อยจนสายตัวแทบขาด เพราะนอกจากจะผจญภัยในป่าทึบทั้งคืนแล้ว เขายังต้องคอยแบกร่างที่ไร้ลมหายใจของคนรักกลับมายังที่พักอีกด้วย

   “เห็นครับ" มิวส์ตอบออกมา โดยที่ไม่ได้รู้สึกยินดีเลยสักนิดเพราะหลังจากที่ถึงห้องพัก หลักจากที่หมดห่วงก็ถึงเวลาของเขาที่จะต้องไปชดใช้กรรมบ้างแล้วเหมือนกัน ...ถึงเวลาที่เขาต้องทิ้งไม้ตามแม็กกี้ไปอีกคน และถึงเวลาที่เขาต้องจากก้องไปยังที่ที่ไกลแสนไกลไม่มีโอกาสได้พบได้เจอกันอีกเลย


ปล.แนะนำครับ อ่านจบต้องอ่านเพลงนี้ TT___TT เข้ากับอารมณ์และบรรยากาศสุดๆ >> http://www.youtube.com/watch?v=8ijjrKPAkCY#t=164


จบตอน TT___TT สำหรับเรื่องแม็กกี้ยังไม่มีใครรู้นะครับว่าจากไปเพราะเหตุใด... เหมือนมันยังเศร้าไม่สุดแฮะ...
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน34 P.14]- 29/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 05-11-2013 02:52:35
คุยกับคนอ่านครับผม  :m15:

คุณ 2pmui :: ใกล้แล้วจริงๆครับ  :hao5:
คุณ pannixz :: แม็กกี้ไม่แน่ครับ ไปแว้วว  :hao5:
คุณ mentholss :: งานใหม่งอกมา แล้วก็จบลงด้วยดีแล้วครับ  :hao5:
คุณ Feuy_qty :: บทแม็กกี้ไม่ต้องลุ้นอะไรมากมายครับ... เจอปุ๊บก็ไปแล้ว  :ling1: เค้าขอโทษ  :hao5:
คุณ maemix :: โบกนายไม้ได้ตามสบายเลยครับ  :hao5: ฝากโบกหลายๆรอบเผื่อผมด้วยน๊า
คุณ MildMate :: ^^ ดีใจนะครับที่อินตาม... แต่เรื่องของหมอผีนี่เฮ้อ... เพราะคฑาทองแท้ๆ ว่าแต่เมื่อไหร่ที่อ่อนแอ มันมาทุกทีคืออะไรครับ คงไม่ใช่....น๊า :hao5:
คุณ jamlovenami :: ผมว่าไม้น่าสงสารสุด คิคิ ไว้อ่านจบตอนมาถกกันอีกทีครับว่าใครน่าสงสารสุด
คุณ mukmaoY :: แฮ่ๆ หายไปทำธุระนิดหน่อยจ้า... กลับมา ทีก็วุ่นวายเลยเชียว แค่สองตอนล่าสุดก็หายไปหลายคน+ตน แว้วว :hao5:
คุณ @Lucifer_Prince@ :: ตอนใหม่มาแล้วน๊า T___T ทำไมผมเศร้าๆกับตอนใหม่ก็ไม่รู้ เฮ้อออ
คุณ fonny1987 :: ยิ้มไว้ สู้ๆครับ  :sad11:
คุณ ไป๋ไป๋ ::  :o12: ลงตอนล่าสุดปุ๊บรู้สึกท้อๆไงไม่รู้ - -" ใจร้ายกับแม็กกี้เกินไป
คุณ paiwit :: อาจจะตามนั้นนนะครับ  :heaven แต่ที่แน่ๆมีคนไปก่อนมิวส์แว้ว แหะๆ ปล.ส่วนเรื่องตัวเอกก็สำหรับผม ไม้ มิวส์ แม็กกี้ ก้องภพเป็นตัวเอกหมดเลยครับ ก้องภพมีความสำคัญในตอนจบครับ ส่วนไม้กะมิวส์เป็นตัวดำเนินเรื่องหลัก ส่วนแม็กกี้เป็นตัวแทนของ... คนรักที่ไม่ถูกเอาใจใส่เท่าที่ควร ส่วนไม้ก็เป็นตัวแทนของพวกที่มีอารมณ์เผลอไผลกับสิ่งใหม่ๆ ครับ
คุณ knightprince :: ขออภัยด้วยครับที่คำขอร้องไม่เป็นผล แง....  :m15: ไปถึงก็สายไปแล้ว
คุณ Lily teddy :: อิอิ ในทีแรกคิดตอนจบไว้ยังไงน๊อครับ เดาถูกแน่ๆเลย  :hao5: ขอบคณสำหรับคอมเม้นท์นะครับ อ่านเพลินทุกครั้งเลยครับ แหะๆ

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 05-11-2013 05:45:57
อ๊ากกกกผมจะไปบอมท์บ้านคนแต่งงงงง  สงสารอิแม็กอ่ะ  อิแม็กไม่น่าจะตายเลยเนอะ  อิไม้ก็ขอตบสักทีเหอะ'ผั๊วะ..ผั๊วะ'อิโง่แกโง่มากแกไม่สมควรที่จะมีคนรักเลย  มิวส์ก็ไปสู่สุคตินะมิวส์นะ  อ.ก้องก็น่าสงสารเหมือนกันแฮะแต่ก็มันทำอะไรไม่คิดผลก็เลยโยงใยไปมั่วแบบนี้  ขอบคุณคัฟคนแต่ง^^
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 05-11-2013 06:26:40
อ้าววว ไปซะแล้ว
แหม ทิ้งร่างไว้ให้อย่างนี้คนแต่ก็เดาทางได้สิคะ
ใช่มั้ยเนี้ยๆๆๆๆ  :hao7:

สงสารไม้
ตอนนี้คนแต่งเป็นไรไปอ่า อ่านแล้วไม่อินเท่าไหร่เลย.
มันดูห้วนๆ ไปนะ

 o13 สู้ๆ

เออ...  :hao3: คนแต่งใส่เดือนผิดละ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 05-11-2013 09:19:16
สงสารแม็กกี้ :monkeysad:
แม็กกี้ก็จากไปแล้ว มิวส์ก็กำลังไปใช้กรรม
ไม้จะเหลือใคร จะทำยังไงกับตัวเองต่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 05-11-2013 09:46:06
แม็กกี้จากไปเกี่ยวกับวิญญาณปริศนาตนนั้นรึป่าวหนอ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: capool ที่ 05-11-2013 09:58:19
ไม่เคยคิดสงสารไอ้ก้องเลย มันเห็นคนอื่นสำคัญกว่าคนรักทำเป็นสุภาพบุรุษไม่ยอมให้ผู้หญิงเสียหายอับอายแต่ยอมให้คนรักตายแล้วยังไงขนาดมันคิดว่ามิวส์ฆ่าตัวตายเพราะมัน มันยังไม่สนใจยังแต่งกับอีสาวิตรีอีก จริงๆแล้วมันก็อยากแต่งงานมีครอบครัวนั่นแหละ ทุเรศ! ส่วนอีสาวิตรีมันก็สารเลวหน้าด้านมาขอให้เขาแต่งงานด้วย สารเลวสนใจแต่ตัวเอง ถ้าลูกมันฆ่าตัวตายเพราะอกหักมันจะสำนึกมั่งไหม เกลียดแม่งทั้งคู่แหละ ควาย+แรด
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: knightprince ที่ 05-11-2013 11:00:16
คนแต่งไหงทำกับแม็กงี้อะ น่าสงสารอะ ตอนแรกก็ลุ้นว่าจะตายจริงอะป่าว
นึกว่าพอไม้จูบละจะฟื้น แต่นี่ตายจริงอ่าาาาา
ต่อไปก็มิวส์สินะ คือไม่อยากจะคิดว่ามิวส์จะไปสิงร่างแม็กแล้วใช้ชีวิตต่ออะ มันดูไม่ใช่
ถ้าจบแบบนั้นเซ็งเลย แต่จะติดตามจนจบนะคะ เป็นกำลังใจให้ สู้ๆคะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/10/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 05-11-2013 13:04:36
เศร้า !!!
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 05-11-2013 21:15:13
 :monkeysad: แง เตรียมใจไว้แล้วแท้ ๆ แต่มันเร็วเกินไปอะ ไม่มีปี่มีขลุ่ยมาถึงแม็กกี้ก็ตายซะแล้ว ถึงทุกอย่างคงมีเหตุผล
แต่มันเศร้ามากเลย ไม้ก็คร่ำครวญซะน่าสงสารเลย แต่ก็ยังทำใจให้อภัยไม้ไม่ได้เต็มที่อะค่ะ
ยิ่งบอกวิญญาณแม็กกี้แอบยืนร้องไห้ด้วยเนี่ย  :o12: ฮือ ~ ตอนแรกก็คิดไว้แหละว่ายังไงแม็กกี้ก็ไม่รอดแน่
เพราะเหมือนพระจะทักว่าดวงถึงฆาต (ใช่ป่าวหว่า) ส่วนมิวส์ตายก่อนสิ้นอายุขัยแสดงว่ามีสิทธิ์อยู่ต่อ
แต่ก็ต้องอาศัยในร่างของแม็กกี้ แบบแม็กกี้อาจยอมเสียสละให้มิวส์ใช้ร่างตัวเองได้ แล้วมิวส์กะไม้ก็คู่กัน
(คิดไว้ประมาณนี้อะค่ะ ง่าย ๆแต่อธิบายซะงงไหม 555) แต่ตอนนี้ถ้าให้มิวส์คู่กะไม้เนี่ยมันคงรู้สึกรับไม่ได้เลยอะ
เพราะที่ทุกคนต้องวุ่นวายจนแม็กกี้กะหมอผีอารัญย์ต้องตายในป่าแบบนี้ ก็เพราะมิวส์กะไม้ทั้งนั้น
เพราะงั้นไม้กะมิวส์ก็ไม่ควรจะได้คู่กันแบบแฮปปี้เอนดิ้งนะ ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด ๆ แถมยังมีก้องที่ยังรักมิวส์อยู่อีก
ถึงก้องจะช่วยอะไรไม่ได้แต่ก็ยังเสี่ยงชีวิตเข้าไปช่วยมิวส์ในป่า แล้วตอนจบก้องจะมีความสำคัญแบบไหนไม่รู้
แล้วนอกจากปมที่ว่าแม็กกี้ตายได้ไง ก็ยังมีเรื่องแม่ของมิวส์อีกทีจะเกี่ยวอะไรกะเรื่องทั้งหมดรึเปล่า
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมจ้า  :pig4:  :กอด1:
ปล.จะไม่มีปฏิหารย์ที่แม็กกี้จะฟื้นมาคู่กะไม้บ้างเหรอค่ะ ถึงไม่สมเหตุสมผลยังไงก็รับได้น๊า (ยังไม่เลิกอ้อนวอน 555)
     แต่ดูจากการร่ำลาของไม้กะแม็กกี้แล้ว แม็กกี้คงไปแล้วไปลับไม่กลับมาแน่เลย  :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 05-11-2013 23:59:22
ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
นี่มันแฮร์รี่ พอตเตอร์ รึเปล่าเนี่ย
หายไปทีละคนสองคน
ทำไมทำกันแบบนี้

สงสารกันบ้าง :ling2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: rainiefonnie ที่ 06-11-2013 00:14:15
 :o12: :o12: :o12: :o12:  แม๊กกี้ฮืออออออออออออ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 07-11-2013 11:01:35
ติดงาน ไม่ได้เข้ามาอ่านตั้งเกือบเดือน  :mew2: แต่จะพยายามหาเวลาว่างม่าอ่านบ่อยๆน้า

ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน +  :กอด1:  :mew1: คนเขียนซักหน่อย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: paiwit ที่ 16-11-2013 19:23:36
ต่อๆ :mew2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 20-11-2013 02:48:24
ตอนที่ 36



          หลังจากที่นักศึกษาที่มาร่วมรับน้องทราบข่าวการเสียชีวิตของแม็กกี้ การรับน้องในครั้งนี้ก็ถูกยกเลิกกะทันหันเพราะทุกคนต่างสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

   ก้องรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่มิวส์ออกจากร่าง มิวส์ตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้ฟังอย่างรวบรัดที่สุดยกเว้นก็แต่เรื่องที่เขารู้ความจริงถึงเหตุผลที่ก้องต้องบอกเลิกเท่านั้นที่มิวส์ยังไม่ได้เล่า

   หลังจากที่ทราบเรื่อง ก้องก็อาสาขับรถพาไม้รวมถึงร่างที่ไร้วิญญาณของแม็กกี้กลับเข้าสู่ตัวเมือง และเป็นคนช่วยจัดการเรื่องค่าใช้จ่ายในเบื้องต้นทั้งหมด ส่วนสาวิตรีหลังจากที่ก้องขับรถไปจอดในโรงพยาบาลเธอได้ขอแยกตัวกลับบ้านไปก่อน

   “คุณ... ผมเสียใจด้วยครับ" ก้องเอ่ยขึ้นในขณะที่กำลังนั่งรอคุณหมอที่หน้าห้องชันสูตรศพ เขาเองรู้ดีว่าการที่ต้องสูญเสียคนรักไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่เข้าใจกันนั้นมันเจ็บปวดมากแค่ไหน

   “ขอบคุณครับอาจารย์" ไม้เอ่ยขึ้น "ผมเองก็ขอโทษอาจารย์ด้วยนะครับ ที่เข้าใจผิดมาตลอดว่า...”

   “เจ้านาย!!!” มิวส์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ขัดขึ้นเสียงดังก่อนที่จะกระซิบที่ข้างหูกับไม้บอกว่า "อย่าเพิ่งบอกก้องนะครับ เดี๋ยวผมคุยกับก้องเอง"

   ไม้พยักหน้ารับ ส่วนก้องทำหน้างุนงงเพราะไม่รู้ว่าอดีตคนรักกับลูกศิษย์ของตนกำลังคุยอะไรกัน

   “อาจารย์ครับ มิวส์บอกว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับอาจารย์" สิ้นเสียง มิวส์ก็หันหน้ามามองไม้ด้วยความขัดใจทันที "คุย ๆ ไปเถอะน่าจะได้เข้าใจกันสักที"

   “มีอะไรเหรอมิวส์" ก้องเอ่ยขึ้นทันทีที่เห็นสีหน้ากลัดกลุ้มของมิวส์

   “อ่ะเอ่อ... ไปคุยกันข้างนอกดีกว่า" มิวส์เอ่ย แต่ก่อนที่ก้องจะตอบตกลงเขาได้หันมามองไม้ด้วยสีหน้างุนงงราวกับต้องการจะถามว่ามีอะไรกันแน่

   ไม้ไม่ได้ตอบอะไรออกไป เขายิ้มให้อาจารย์ก้องภพหนึ่งทีก่อนที่จะตอบออกไปว่า "ไปเถอะครับอาจารย์...”

   “ครับ" ก้องพยักหน้ารับก่อนที่จะเดินตามิวส์ออกไปทันที

   ไม้นั่งรออยู่ที่หน้าห้องชันสูตรศพอยู่สักระยะ ไม่นานมากนักหมอที่ทำการผ่าตัดก็เดินออกมาก่อนจะเรียกเขาเข้าไปคุยที่ห้องทำงานส่วนตัว

   “คุณทราบมาก่อนไหมครับว่าคุณกรกฏมีโรคประจำตัวอะไรบ้าง" หมอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ ท่าทางของหมอดูภูมิฐานแม้จะมีอายุทว่าใบหน้ากลับไม่มีร่องรอยความเหี่ยวย่นให้เห็น

   “ผมรู้แค่ว่าเพื่อนของผมเป็นโรคหอบครับ" ไม้ตอบออกไป เพราะเขารู้เพียงเท่านั้นจริง ๆ

   “อืม...” หมอพยักหน้าก่อนจะหยิบแผ่นกระดาษที่มีรูปอวัยวะภายในของมนุษย์ขึ้นมาพร้อมกับอธิบายให้ไม้ฟังอย่างชำนาญ "นอกจากหอบแล้วเนี่ย คุณกรกฏยังมีอาการของโรคลิ้นหัวใจรั่วขั้นรุนแรง ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการเหนื่อยหอบและอ่อนเพลียง่ายมากกว่าคนปกติ ไม่ควรออกแรงหรือทำอะไรเกินกำลัง เพราะจะทำให้การทำงานของหัวใจผิดปกติ สำหรับผู้ที่มีอาการขั้นรุนแรงก็อาจจะทำให้เสียชีวิตได้ทันทีเนื่องจากระบบการทำงานของหัวใจล้มเหลว"

   “หมอกำลังจะบอกว่าที่แม็กกี้เสียชีวิตเพราะโรคลิ้นหัวใจรั่วเหรอครับ" ไม้เอ่ยถามออกมา คิ้วของเขาขมวดมุ่นเพราะไม่เข้าใจว่าเหตุใดแม็กกี้ต้องปกปิดเรื่องนี้กับเขา หรือบางที... แม็กกี้ก็อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว

   “หมอคิดว่าไม่น่าจะใช่" หมอส่ายหน้า... คำพูดของหมอยิ่งทำให้ไม้งุนงงเข้าไปใหญ่ ถ้าหากไม่ใช่แล้วแม็กกี้เสียชีวิตเพราะเหตุใดกันแน่ "เพราะอาการลิ้นหัวใจรั้วของคุณกรกฏยังไม่ถึงขั้นรุนแรงมากนัก แต่ผลจากการชันสูตรศพมันเหมือนกับว่าระบบการทำงานของอวัยวะภายในร่างการหยุดทำงานไปเสียดื้อ ๆ เหมือนกับตกใจช็อกกับอะไรบางอย่าง"

   “หมอหมายความว่าไง" ไม้เร่งถาม

   “มันเป็นไปได้สองกรณีคือหนึ่งช็อกเพราะเสียใจผิดหวังกับเรื่องบางอย่างถึงขีดสุด หรือสองช็อกเพราะตกใจกับอะไรบางอย่าง ประกอบกับโรคที่เป็นอยู่เลยทำให้คุณกรกฏต้องจบชีวิตลง"

   “หรือว่า...” สิ้นเสียงของหมอ ไม้ก็นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ช่วงคืนที่ผ่านมา

   แม็กกี้เป็นคนที่กลัวสิ่งเร้นลับมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงไม่แปลกที่การเดินเข้าไปในป่ายามค่ำคืนจะทำให้แม็กกี้รู้สึกหวาดกลัวจนถึงขีดสุด แต่ถึงกระนั่นมันก็ไม่น่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้แม็กกี้ต้องช็อกจนเสียชีวิต และพอนึกย้อนไปช่วงที่ไม้กำลังกอดกับมิวส์และได้พูดอะไรออกไปบ้าง... ถึงทำให้ไม้เข้าใจว่าทำไม จู่ ๆ แม็กกี้ถึงได้หายตัวไปแบบกะทันหัน

   แล้วความรู้สึกผิดก็ประเดประดังเข้ามาในจิตใจของไม้ทันที... ที่แม็กกี้ต้องเป็นแบบนี้เพราะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับมิวส์

   จริงอยู่ว่าความผูกพันที่เกิดขึ้นทำให้ไม้เอ็นดูและห่วงใยมิวส์เป็นอย่างมาก แต่ก็ใช่ว่าเขาจะหมดรักไปจากแม็กกี้เสียเมื่อไหร่ สำหรับเขาแล้วไม่ว่าจะแสดงออกว่าห่วงใยกับใครบ้าง แต่ถึงอย่างไร 'แม็กกี้' ก็เป็นเพียงผู้ชายคนเดียวที่เขารัก ...รักที่มาจากใจจริง รักที่เริ่มต้นมาจากความผูกพันระหว่างเพื่อน ไม่ใช่รักเพราะหลงใหลในอารมณ์ชั่ววูบ แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่คบกันมา ถ้าไม้ไม่รัก... ไม่ก็คงไม่ยื้อแม็กกี้ไว้ให้คนที่ถูกยื้อต้องทรมานใจเล่น ๆ หรอก เพราะเขาไม่ใช่คนแบบนั้น และเขาก็ไม่ชอบคนแบบนั้นด้วย แต่ข้อเสียของไม้ก็คือ การแสดงออกนี่แหละที่บ่อยครั้งเขาทำให้คนรักไม่มั่นใจในความสัมพันธ์...

   ไม้ได้แต่นึกโทษตัวเอง ที่แท้ฆาตกรที่กระชากลมหายใจของแม็กกี้ไปก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเขาเอง... เขาทำร้ายคนที่เขารักมากที่สุด แม้ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แต่จิตใจของแม็กกี้ก็ต้องป่นปี้ไปเพราะการแสดงออกของเขา

   “คุณ คุณครับ" เสียงของหมอช่วยเรียกสติของไม้ให้กลับคืนมาอีกครั้ง "คุณไม่เป็นไรนะครับ เดี๋ยวหมอขอตัวก่อนนะครับ"

   “ครับ ๆ" ไม้พยักหน้าหงึก ๆ สมองของเขาในตอนนี้ไม่พร้อมที่จะรับรู้อะไรทั้งสิ้น












   ทางด้านของมิวส์...

   มิวส์ได้เดินนำก้องไปยังส่วนหย่อมเล็ก ๆ ภายในโรงพยาบาลซึ่งมีต้นไม้สูงใหญ่และไม้ดอกไม้ประดับที่ประดับอยู่ในพื้นที่ที่จำกัด ที่มันก็กว้างพอที่จะทำให้พวกเขาสามารถคุยกันได้อย่างสะดวก

   มิวส์เดินไปนั่งที่ม้านั่งตัวหนึ่งซึ่งอยู่ด้านในและห่างไกลจากผู้คนมากที่สุด ก้องเดินตามมิวส์ไปโดยที่ไม่เอ่ยถามอะไรสักคำ
   ก่อนที่มิวส์จะเริ่มเปิดปากพูดอะไร เขาได้หันไปมองใบหน้าของอดีตคนรักที่ปัจจุบันเขาก็ยังรักอยู่ แต่เพราะทิฐิและความอาฆาตจากความเข้าใจผิด เลยทำให้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา เขาพยายามที่จะปิดกั้นความรู้สึกนั้นเอาไว้แล้วแสดงออกเพียงความเกลียดชังเท่านั้น

   สายตาของก้องยังคงอบอุ่นเสมอ ทว่ามันเป็นความอบอุ่นที่แฝงไปด้วยความเจ็บปวด ...ผู้ชายคนนี้ยอมรับความผิดทุกอย่างไว้กับตนเพียงผู้เดียวเพื่อไม่ให้ใครอื่นเดือดร้อน และก้องไม่เคยที่จะปริปากบ่นหรือพูดจาให้ร้ายใครเลยสักครั้ง

   “ก้อง...” มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นไหว ก่อนที่มืออันซีดเผือดจะยื่นไปจับกับมือที่อบอุ่นของก้อง

   “ครับ" ก้องไม่เข้าใจว่ามิวส์เป็นอะไร ทว่าเขาก็ยิ้มรับและตอบด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลที่สุดเหมือนกับทุก ๆ ครั้งที่แสดงออกเสมอ

   ก้องไม่เคยผิดคำพูดที่ให้ไว้กับมิวส์ ...ผู้ชายอย่างก้องยังรักผู้ชายอย่างมิวส์เสมอไม่เคยเปลี่ยน และมันจะเป็นรักที่ถูกเก็บไว้ในหัวใจตลอดมา

   “ทำไมก้องถึงไม่เคยบอกมิวส์เรื่องสาวิตรี...” มิวส์เอ่ยขึ้น น้ำเสียงของมิวส์ไม่คงที่เอาเสียเลยราวกับว่าจิตใจของเขากำลังเจ็บปวดจนไม่สามารถควบคุมโทนเสียงได้

   “เรื่องสาวิตรี" ก้องทวนคำก่อนที่จะหันไปสบตาที่กำลังแสดงออกถึงความเจ็บปวดของมิวส์ "มิวส์รู้แล้ว"

   “ใช่" มิวส์พยักหน้ารับ "มิวส์ขอโทษ มิวส์ขอโทษจริง ๆ ที่ไม่เชื่อใจก้อง มิวส์ขอโทษที่ทำไม่ดีกับก้อง มิวส์ขอโทษที่มิวส์พูดจาทำร้ายจิตใจก้อง"

   พูดจบก็น้ำตาไหล ไม่ใช่เพราะรู้สึกผิดจนต้องระบายออกมาเพราะหากเทียบกับก้องแล้ว ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นของเขาไม่ได้เสี้ยวหนึ่งของก้องเลยสักนิด

   ก้องยิ้มออกมาก่อนจะเอื้อมมือไปปาดน้ำตาให้กับมิวส์ด้วยความเอ็นดู... นี่เป็นอีกครั้งที่น้ำตาของมิวส์ไหลริน การที่วิญญาณสามารถร้องไห้ออกมาได้นั่นหมายความว่าเรื่องที่ค้างคาในจิตใจของวิญญาณตนนั้นได้ถูกระบายออกไปแล้ว

   “มิวส์ครับ" ก้องเอ่ยด้วยความสุภาพมือที่กอบกุมหลวม ๆ ก็ถูกบีบให้แน่นขึ้นพร้อมกับส่งผ่านความรู้สึกทั้งหมดที่มีผ่านฝ่ามือนั้น "ก้องเองก็อยากจะบอกมิวส์นะครับ แต่เพราะก้องรู้ไงว่าถ้าบอกมิวส์ไปแล้ว มิวส์จะต้องเป็นแบบนี้ จะต้องเจ็บ จะต้องรู้สึกผิด สู้ให้ก้องเก็บความเจ็บปวดทั้งหมดไว้กับตัวเองดีกว่าให้คนที่ก้องรักมากที่สุดต้องมารับความรู้สึกนั้นไม่ดีกว่าเหรอครับ"

   คำพูดของก้องมันไม่ได้ทำให้มิวส์รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด กลับกันมันยิ่งทำให้มิวส์รู้สึกเหมือนกำลังถูกหนามแหลมที่อาบยาพิษนับหมื่นเล่นกำลังทิ่มแทงจิตใจแล้วทำให้เขาทุรนทุรายตายอย่างทรมาน ...เพราะคำพูดของก้องยิ่งทำให้มิวส์รู้สึกผิดเข้าไปใหญ่ เพราะความไม่เชื่อใจแท้ ๆ เลยทำให้ทุกอย่างมันย่อยยับไปหมด

   “ก้องเองก็ผิดเหมือนกันที่คืนนั้นก้องพูดจาทำร้ายจิตใจมิวส์ จนเป็นสาเหตุให้...” ก่อนที่ก้องจะได้เอ่ยอะไรต่อ มิวส์ก็รีบยกมือมาปิดปากของก้องเอาไว้

   “มันไม่ใช่นะก้อง...” มิวส์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสะอื้น "ที่มิวส์ต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะที่ห้องพักมันมีอาถรรพ์ แต่ตอนนี้อาถรรพ์มันจบลงแล้วล่ะก้อง ก้องอย่าโทษตัวเองอีกเลยนะ"

   “มิวส์หมายความว่าไง" ก้องเอ่ย น้ำเสียงของเขาเริ่มร้อนรนเพราะกำลังกังวลอะไรบางอย่าง

   “มิวส์ไม่มีความอาฆาตแล้ว มิวส์เข้าใจก้องแล้ว มิวส์คิดว่าคงถึงเวลาของมิวส์แล้วล่ะ" มิวส์ยกมือขึ้นมาปาดหยาดน้ำตาหยาดสุดท้ายก่อนที่จะโผเข้ากอดกับผู้ชายที่เขารักมากที่สุดในชีวิต "มิวส์ไปก่อนนะก้อง"

   “มิวส์...” ก้องเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิวเพราะเข้าใจแล้วว่ามิวส์ต้องการจะสื่ออะไร "ไปสู่สุคตินะครับ"

   มิวส์พยักหน้ารับจากนั้นเขาก็ค่อย ๆ หลับตาลงพร้อมกับเก็บความสุขที่เกิดขึ้นทั้งหมดมาไว้ในจิตใจ ...สิ่งไหนที่เคยทำผิดไปเขาได้ทิ้งมันออกไปจากใจหมดแล้ว

   ทว่า... เวลาผ่านไปหลายนาที ไม่ว่าจะทำอย่างไรร่างของมิวส์ก็ไม่สลายสักที

   “มันเกิดอะไรขึ้น ทำไม...” มิวส์ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไปชดใช้กรรมในขั้นต่อไปไม่ได้ ในเมื่อหมอผีอารัญย์ได้ทำให้ความอาฆาตแค้นของเขาหายไปเป็นที่เรียบร้อย และเขากับก้องก็เข้าใจกันดีทุกอย่างแล้วด้วย

   “มิวส์ยังมีห่วงอยู่หรือเปล่า... แล้วมิวส์ได้บอกลาไม้แล้วหรือยัง" ก้องพยายามหาเหตุผลที่น่าจะเป็นไปได้

   “ห่วง...” มิวส์ทวนคำ "ไม้?”

   ใช่... มิวส์ยอมรับว่าในตอนนี้เขาเป็นห่วงความรู้สึกของไม้เป็นอย่างยิ่ง เพราะไม้เพิ่งสูญเสียคนรักไป แต่เขาก็ต้องการจะไปโดนไม่บอกลาไม้เพราะไม่อยากให้ไม้ที่กำลังทุกข์ระทมต้องอ่อนแอมากขึ้นไปอีก

   “ไปเถอะมิวส์ ไปลาไม้ ไปพูดกับไม้ให้เข้าใจ" ก้องยิ้มให้ มิวส์พยักหน้ารับก่อนที่จะเดินจากไป











   โรงพยาบาลในยามนี้แม้รอบข้างจะมีเสียงดังของผู้คนที่มาใช้บริการมากมาย แต่ไม้กลับรู้สึกถึงความเหงา ความโดดเดี่ยวอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต เขาเดินไปเรื่อย ๆ อย่างไร้จุดหมาย ผู้คนหรือสรรพเสียงข้างกายมากมายนั้นเป็นเหมือนกับอากาศธาตุที่เขาไม่สามารถสัมผัสได้

   เหตุที่ไม้ต้องเป็นแบบนี้ก็เพราะ... ไม้ไม่สามารถทำใจยอมรับกับเหตุผลที่แท้จริงที่แม็กกี้จากไปได้

   มิวส์ที่กำลังจะเดินสวนผ่านพอเห็นร่างที่ราวกับไร้จิตวิญญาณของไม้เขาก็อดที่จะตกใจกับสภาพนั้นไม่ได้

   “เจ้านาย...” ทันทีที่วิ่งเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้า มิวส์ก็เอ่ยขึ้น ทว่าเสียงของเขาเป็นเหมือนสายลมเบา ๆ ที่พัดไปกระทบใบหูของไม้เท่านั้น ไม่ได้มีความหมายอะไรทั้งสิ้น

   “เจ้านาย!!!” เมื่อเห็นว่าเจ้านายไม่โต้ตอบ มิวส์ก็เพ่งสมาธิก่อนจะเอื้อมมือไปจับหัวไหล่ของไม้

   ได้ผล... ไม้ชะงักก่อนจพหันกลับไปมองด้านหลัง

   “ไอ้มิวส์...” เสียงของไม้สั่นไหว มันเป็นความเสียใจที่ไม่ได้บ้าคลั่งเหมือนตอนที่อยู่ในป่า ทว่าความเสียใจแบบนี้แหละ ที่เป็นความเสียใจที่เจ็บปวดมากยิ่งกว่า เพราะมันไม่สามารถระบายออกมาได้อย่างหนัก แต่มันเป็นความเจ็บที่ฝังลึกเกินกว่าที่จะหยิบออกมาจากใจได้

   “เจ้านายเป็นอะไร" มิวส์เอ่ยถามด้วยน้ำด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความห่วงใย

   ไม้ไม่ได้ตอบอะไร เขาจ้องมองดูดวงตาที่กลมโตสดใสก่อนที่จะโผเข้ากอดกับร่างนั้นอย่างไม่อายใคร ผู้คนที่มองมาก็ได้แต่ทำหน้างุนงงและสงสัยว่าไม้กอดกับใคร เพราะไม่มีใครมองเห็นร่างของมิวส์ จนคนที่เดินผ่านต้องพยายามถอยออกห่างเพราะนึกว่าไม้เป็นคนเสียสติ

   “เจ้านาย...” มิวส์เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เพราะไม้ไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลยสักนิด เขาเอาแต่ร้องไห้กระซิกส่งเสียงสะอึกสะอื้นไม่หยุด

   เมื่อรู้สึกว่าผู้คนในละแวกนั้นเริ่มมองมาที่ไม้ด้วยสายตาที่ราวกับว่าไม้เป็นตัวประหลาด มิวส์ก็ค่อย ๆ แกะอ้อมกอดออกก่อนที่จะจูงมือของเจ้านายไปยังด้านนอกแล้วตรงไปยังสวนหย่อม

   มิวส์จูงมือไม้ไปนั่งลงตรงม้านั่งด้านในสุด ตัวเดียวกับที่ก้องนั่งอยู่... ก้องยังไม่จากไปไหน พอเห็นท่าทีที่แปลกไปของไม้ ก้องก็สบตามิวส์ราวกับต้องการจะถามว่าไม้เป็นอะไร แต่มิวส์ก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบ

   เห็นดังนั้น... ก้องที่อดสงสารไม่ได้ก็เลยต้องหาอะไรมาพูดเพื่อปลอบใจ เพราะเขาเองก็เคยผ่านประสบการณ์ที่เจ็บปวดเจียนตายทั้งที่ยังมีลมหายใจมาแล้ว

   “คุณรู้ไหม... ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมาน่ะ ผมต้องอยู่กับความเจ็บปวดมาตลอดเพราะเข้าใจว่าผมเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนรักของผมต้องสิ้นลมหายใจ" ได้ผล... คำพูดของก้องทำให้ไม้หยุดส่งเสียงสะอึกสะอื้น และนั่งนิ่งเพื่อรอฟังว่าอาจารย์ของเขาจะพูดอะไรต่อ

   “แต่ผมก็ต้องทำหน้าที่พ่อและสามีที่ดีเพื่อไม่ให้ภรรยาของผมต้องคิดมากหรือเสียใจ... ผมคิดมาเสมอว่าชีวิตเราไม่ได้จบแค่เมื่อวาน วันนี้ หรือพรุ่งนี้ แต่ชีวิตเรามันต้องเดินต่อไปเรื่อย ๆ มีอะไรให้ผมต้องรับผิดชอบมากมาย และเพราะผมรู้ใจตัวเองมาตลอดว่าผมไม่เคยผิดคำพูดหรือนอกใจคนที่ผมรักเลยสักนิด มันเลยทำให้ผมมีกำลังใจที่จะเดินต่อไป... แม้ว่าในสายตาของคนอื่นจะมองว่าผมผิด แต่เพราะผมมั่นคงในความรู้สึก มันเลยทำให้ผมยิ้มสู้มาจนถึงทุกวันนี้...”

   คำพูดของก้องไม่ใช่แค่ไม้เท่านั้นที่รู้สึกดีขึ้น แต่มิวส์ที่ได้ฟังก็รู้สึกซึ้งจนน้ำตาแทบจะไหลลงมาอีกครั้ง

   “อาจารย์...” ไม้เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นไหว ความรู้สึกผิดที่ได้เคยคิดไม่ได้กับก้องทำให้เขาต้องยกมือไหว้และกล่าวขอโทษทันที

   ก้องยิ้มให้ไม้ด้วยความเอ็นดูก่อนจะเอื้อมมือไปลูบศีรษะเบา ๆ "ไม่เป็นไรครับ"







จบตอน
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 05/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 20-11-2013 02:57:38
คุยกับคนอ่านครับ ^^

คุณ @Lucifer_Prince@ :: ง่าจะมาบอมบ์บ้านผมทำไม T^T ถ้ามาบอมเดี๋ยวได้แต่งไม่จบน๊า แหะๆ
คุณ pannixz :: 555 ขอบคุณนะครับ เรื่องเดือน T^T อายมาก เอิ๊กๆ แต่ก็แก้อย่างไวตั้งแต่เห็นข้อความแล้วครับ ขอบคุณมากๆ บทซึ้งๆ แต่งได้ไม่อินครับ  T^T  สงสัยยัดเยียดเกินไปเลยกลายเป็นไม่ซึ้ง แฮ่ๆ
คุณ maemix :: แฮ่ๆ อาจารย์ก้องคงเป็นคนเดียวที่จะช่วยสอนลูกศิษย์ให้หลุดพ้นจากความทุกข์ครับ T^T
คุณ mentholss :: ลองเดาๆ ดูเน่อ ขนาดหมอยังสรุปแน่ชัดไม่ได้ แหะๆ T^T
คุณ capool :: *0* แรงมากครับท่าน ควาย+แรด 555 จะว่าไป มันก็ถูกครับ เพราะความเห็นแก่ตัวของสาวิตรีคนเดียว ส่วนก้องก็เป็นคนโง่ที่มองโลกในแง่ดีและยอมง่ายเกินไป เฮ้อ... คนอื่นก็เลยต้องรับกรรมแทน
คุณ knightprince :: แหะๆ ความทุกข์ของแม็กกี้ มิวส์ ไม้ และก้องนั้น เป็นผลมาจากการกระทำของพวกเขาในอดีตขาติครับ ซึ่งอดีตชาติจะมีเป็นตอนสั้น ๆ ที่กล่าวไว้ในตอนพิเศษ
คุณ มยอนฮวา :: ^^ ยิ้มๆๆ หายเศร้านะเบบี๋ แหะๆ
คุณ Lily teddy :: โป๊ะเชะ *0* เป็นนักอ่านที่จำเรื่องราวได้ดีมาก เพราะพระทักด้วยครับ เลยให้มาจบในตอนนี้ T^T ส่วนเรื่องแม่ของมิวส์โผล่มาตอนสุดท้ายจริงๆครับ 555 เก็บไว้ตอนสุดท้าย T^T
คุณ mukmaoY :: โอ้ววว T^T กระผมมิได้อ่านแฮรี่พอตเตอร์ครับ อาศัยดู ฮ่าๆๆ แต่ได้ยินมาว่ายังไงในหนังสือก็ละเอียดกว่าและดีกว่า T^T จริงๆอยากให้หายๆไปให้หมดเลย *0* (สงสัยต่อไปต้องแต่งแนวโรคจิตแว้วว)
คุณ fonny1987 :: ง่าๆๆ มามาเค้าซับน้ำตาให้ :sad11:
คุณ NJnobu :: ขอบคุณคร้าบ ^^ หายไปนานแต่ก็โผล่มาให้หายคิดถึงบ่อยๆนะครับ คิคิ
คุณ paiwit :: มาแล้วจ้า T^T ขออภัยหายไปนานนิดนึง แหะๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 20/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: 2pmui ที่ 20-11-2013 03:59:12
พรุ่งนี้เดี๋ยวมาอ่าน ตาจะปิดแล้ว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 20/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 20-11-2013 04:06:05
ครั้งนี้ไม่มีไรจะเม้น
แค่จะบอกว่า
มาต่อไวๆ :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 20/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 20-11-2013 06:47:56
เฮ้อออออออ พอไม้เป็นแบบนี้ก็น่าสงสาร
พูดไม่ออกเลยแหะ


รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 20/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 20-11-2013 10:33:15
บทสรุปจะเป็นอย่างไร เดาไม่ถูกเลย
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 20/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 20-11-2013 19:02:57
ไปสู่สุคติเถอะไป๊  #เศร้าจัง
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 20/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: paiwit ที่ 20-11-2013 19:42:05
ตัดจบดื้อๆอะ ครับ  :katai1: ไว้มาต่อใหม่นะครับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 20/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: YounIn ที่ 20-11-2013 23:32:21
สนุก ฮา และเศร้า ไหงแม็กกี้ตายซะงั้นอ่าาา
คลายปมจนจะหมดแล้วนี่

ต่อๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 20/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 21-11-2013 11:01:09
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกโดน "มาม่าแอทแทค" เข้าอย่างจัง เศร้า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 20/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 23-11-2013 18:31:46
เกิด แก่ เจ็บ ตาย ล้วนเป็นอนิจจัง ยังไงแม็กกี้ตายไปแล้วคงฟื้นกลับมาไม่ได้
แต่อย่างน้อยแม็กกี้ก็ยังโชคดีที่ได้เข้าใจความรู้สึกจริง ๆ ของไม้และให้อภัยไม้ก่อนไปชดใช้กรรม
ถือว่าโชคดีกว่ามิวส์เยอะที่กว่าจะได้รู้ความจริงถึงความรัก ความซื่อสัตย์ที่ก้องมีให้ก็ต้องรอเวลาเป็น 10 ปี 
แล้วที่ว่าก้องจะสำคัญตอนท้ายคือเป็นคนปลอบใจไม้เหรอค่ะ เพราะก้องกะไม้ก็หัวอกเดียวกันนี่นะ
ที่เหมือนเป็นสาเหตุให้คนรักต้องตาย ทั้งที่ยังไม่เข้าใจกัน แล้วตัวเองก็ต้องมานึกเสียใจและโทษตัวเอง
แต่อย่างที่ว่าสิ่งที่ผ่านไปแล้วเราคงกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ยังไงคนที่อยู่ก็ต้องใช้ชีวิตต่อไป
สิ่งสำคัญขอแค่เรารู้อยู่แก่ใจว่าเราไม่เคยทรยศต่อคนที่รักก็พอ และถ้าเรื่องของแม็กกี้ผ่านไป
ไม้กะก้องคงต้องช่วยกันหาสาเหตุที่ทำให้มิวส์ยังไปชดใช้กรรมไม่ได้ จะเพราะมิวส์ตายก่อนหมดอายุขัยเหรอ
หรือความเป็นห่วงไม้ แต่ถ้าไม้ดีขึ้นมิวส์ก็น่าจะบอกลาและหมดห่วงได้แล้วสิ  หรือไม่ก็เป็นเรื่องแม่ของมิวส์
ที่ว่าจะโผล่มาตอนสุดท้ายอะคะ แบบแม่ของมิวส์อาจจะยังไม่ตายและเฝ้ารอมิวส์อยู่ที่ไหนซักที่
ทำให้วิญญาณของมิวส์ไม่สามารถไปชดใช้กรรมได้ ถ้าใช่ก็คงต้องรอพี่ฟิวส์มาช่วยแล้วล่ะ (เดาไว้หลายทางเลย)
แต่คิดว่าโอกาสที่มิวส์จะคู่กะไม้คงตัดไปได้แล้วล่ะ (มั่ง) รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมค่ะ  :pig4: :L2:
ปล. 1. รอตอนสั้น ๆ ที่เป็นอดีตชาติของทุกคนด้วยค่ะ ว่าทำอะไรกันมาน้อ ปัจจุบันถึงวุ่นวายและเศร้าแบบนี้
      2. พล่ามยาวอีกตามเคย แฮะ แฮะ  :bye2:
 
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[ตอน35 P.15]- 20/11/56 By Mr.กุ๊กกู๋
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 04-12-2013 00:32:05
บทส่งท้าย...


          หลังจากที่ครอบครัวของแม็กกี้ทราบข่าว พ่อและแม่ของแม็กกี้ก็รีบมานำร่างที่ไร้วิญญาณของลูกชายกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาทันที โดยมีไม้ตามไปช่วย

   ศพของแม็กกี้ถูกตั้งสวดอภิธรรมบำเพ็ญกุศลอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งในเย็นของวันที่ 3 เป็นวันเผา ไม้ตัดสินใจบวชหน้าไฟให้กับแม็กกี้ด้วย เพราะการบวช... ถือเป็นสิ่งสุดท้ายที่ไม้สามารถทำให้แม็กกี้ได้ ก่อนที่ร่างของแม็กกี้จะถูกไฟแผดเผา

   ครอบครัวของแม็กกี้รู้ดีว่าไม้คือเพื่อนที่แม็กกี้สนิทที่สุด จึงไม่มีใครปฏิเสธการตัดสินใจของไม้ในครั้งนี้ และไม้ยังโชคดีที่ไม่มีใครกล่าวโทษเขาสักนิดเกี่ยวกับการจากไปของแม็กกี้ แม้ว่าทุกคนในครอบครัวจะเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากก็ตาม

   ทันทีที่ฝาโรงศพที่ตั้งอยู่บนเมรุถูกเปิดออก ร่างที่ซีดเผือดกับใบหน้าที่ซีดเซียวของแม็กกี้ก็ทำให้ไม้แทบน้ำตาเล็ดเมื่อต้องขึ้นไปรดน้ำศพ

   มันเป็นภาพที่ทรมานใจเหลือเกิน... ไม้ยืนอยู่นานเพื่อจดจำภาพสุดท้ายที่เขาได้มีโอกาสมองคนรักก่อนที่จะโดนเปลวเพลิงเผาไหม้จนกลายเป็นอัฐิ









   วันต่อมา... ไม้กลับไปที่หอพักเพื่อที่จะเตรียมตัวเริ่มต้นชีวิตใหม่... ชีวิตที่โดดเดี่ยวไร้คนข้างกาย ชีวิตต้องมีอะไรผิดแปลกไปจากเดิมเนื่องจากคนที่คุ้นเคยไม่ได้อยู่ข้างกายเขาอีกแล้ว

   ไม้เดินเข้าไปในห้องพักด้วยความรู้สึกที่โดดเดี่ยว เขาหันหน้าไปมองกรอบรูปเล็ก ๆ ของแม็กกี้ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ พลางถอนหายใจออกมา...  คิดแล้วก็อดที่จะใจหายไม่ได้

   ไม้เดินไปหยิบกรอบรูปกรอบนั้นก่อนที่จะกอดมันเอาไว้แน่นแล้วถ่ายทอดความเศร้าที่มีทั้งหมดออกไป และในไม่กี่วินาทีถัดมา รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของคนที่ซึมเศร้ามาตลอดหลายวัน แม้จะเสียใจ แต่ทุกอย่างก็ต้องดำเนินต่อไป และไม้พร้อมที่จะกลับไปเป็นเขาคนเดิมแล้ว

   คิดดังนั้น ไม้ก็ลงไปหาท่านเจ้าที่ทันที

   “ท่านเจ้าที่... ท่านเจ้าที่อยู่ไหมครับ” ไม้ตะโกนเรียกหน้าศาล ทว่าผู้ที่ออกมาต้อนรับกลับเป็นน้องเปอร์

   “ท่านเจ้าที่หลับอยู่ครับ ปะป๊ามีธุระอะไรฝากบอกเปอร์ได้นะครับ" เด็กน้อยตัวเล็กเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงสดใส

   “น้องเปอร์เห็นแม่มิวส์ไหมครับ" ไม้เอ่ยถาม เพราะตลอดระยะเวลาสามวัน ไม้ไปนอนค้างที่บ้านของก้องไม่ได้กลับมาที่หอพักสักวันจึงทำให้เขาสงสัยว่าไอ้วิญญาณตัวป่วนของเขาหายไปไหน

   “แม่มิวส์ออกไปข้างนอกก่อนที่ปะป๊าจะกลับมาที่นี่ประมาณครึ่งชั่วโมงเองครับ ออกไปกับอาผู้ชายคนนึง เห็นแม่มิวส์เรียกชื่อของอาคนนั้นว่าก้องครับ" เปอร์ตอบออกมาเท่าที่รู้

   “อ่อขอบใจนะเปอร์" ไม้เอ่ย

   “ครับ" วิญญาณเด็กขานรับ จากนั้นไม้ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดเบอร์หาอาจารย์ก้องภพทันที

   ไม่นานมากนัก... ก้องก็กดรับสาย

   “อาจารย์ มิวส์อยู่ไหนครับ...” ไม้เอ่ยถามด้วยความสุภาพ เขานิ่งเงียบเพื่อฟังปลายสายพูดอยู่นานก่อนที่ท้ายที่สุดเขาจะกดวางสายแล้วรีบตรงไปยังจุดจอดรถใต้หอแล้วขับมอเตอร์ไซค์ออกไปข้างนอกทันที












   ทางด้านของมิวส์... ในช่วงที่ไม้ไปช่วยงานศพของแม็กกี้ มิวส์ก็นั่งคิดนอนคิดมาตลอดว่าเพราะอะไรเขาถึงยังไม่สามารถไปชดใช้กรรมได้สักที จนกระทั่งในเช้าวันนี้ เปอร์ได้เรียกเขาว่า 'แม่' มันเลยทำให้เขานึกออกว่า ห่วงสุดท้ายที่เหลืออยู่คืออะไร

   ไม่รู้ว่าด้วยความบังเอิญหรืออย่างไร เพราะก้องได้เดินทางมายังหอพักในเช้าวันนั้นพอดี...

   ในทีแรกก้องคิดว่าจะมาดูอาการของไม้ ทว่าพอมาถึงที่หอพัก มิวส์ก็เร่งเร้าเซ้าซี้เอาแต่ถามเรื่องราวของแม่จนท้ายที่สุดก้องก็ยอมบอกออกไปว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของเขากันแน่ และนั่นทำให้มิวส์อ้อนวอนขอร้องให้ก้องพาไปหาแม่ทันที

   “ขับเร็วกว่านี้ได้ไหมก้อง" มิวส์เร่งเร้าเพราะอยากจะพบแม่ไวไว

   “มันอันตรายครับ" ก้องตอบโดยที่ขับรถต่อไปและพยายามควบคุมความเร็วไม่ให้เกิน 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

   “ก้องอ่ะ บอกไม้ทำไม... ขับช้าเพราะอยากให้ไม้ตามมาทันใช่ไหม" มิวส์บ่นอุบอิบ เพราะเมื่อกี้ที่ไม้โทรหาก้องตัดสินใจเล่าเรื่องทุกอย่างให้ไม้ฟัง และบอกด้วยว่ากำลังจะพามิวส์ไปที่ไหน

   “ทำไมมิวส์ต้องกลัวที่จะเจอไม้ด้วย" ก้องเอ่ยถามออกไป เพราะความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างมิวส์กับไม้มันเป็นความสัมพันธ์ที่น่าจะมากกว่าคำว่าเพื่อน สังเกตได้จากความห่วงใยที่สองคนนี้มักมีต่อกันเวลาที่อีกฝ่ายต้องตกอยู่ในอันตราย

   “มิวส์ไม่อยากเห็นหน้าไม้ มิวส์กลัวมิวส์ทำใจไม่ได้" มิวส์เอ่ยออกมา

   “มิวส์รักไม้ใช่ไหม" คำถามของก้องที่ตรงจนเกินไปทำให้มิวส์ถึงกับไม่กล้าตอบออกมา ...มิวส์เคยบอกกับก้องแล้วว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับไม้มันไม่เหมือนกับก้อง เพราะก้องคือรักมิวส์จริงจังที่สุด แต่ความสัมพันธ์กับไม้สำหรับมิวส์แล้วถ้าหากจะบอกว่า 'รัก' ก็คงจะไม่ผิดเหมือนกัน แต่มิวส์ก็ไม่สามารถรู้ได้ว่ารักที่มีต่อไม้มันเป็นรักแบบไหนกันแน่

   “ก้องจะถามทำไม"

   “หึงมั้ง"

   “ไม่ยักรู้ว่าก้องหึงมิวส์เป็นด้วย ฮ่า ๆ" มิวส์หัวเราะออกมากับท่าทีและน้ำเสียงที่ก้องแสดงออก เพราะตั้งแต่ที่รู้จักกันมาไม่เคยมีครั้งไหนที่ก้องแสดงออกถึงอาการหึงหวงเลยสักครั้ง

   “มิวส์...” ก้องเอ่ยเสียงเบา

   “ไม้เป็นคนที่ดูแล ช่วยเหลือและห่วงใยมิวส์มาตลอดตั้งแต่ที่เรารู้จักกัน... ความจริงใจของไม้ทำให้มิวส์หวั่นไหว...” มิวส์เว้นจังหวะชั่วครู่เพื่อดูท่าทีของคนที่กำลังขับรถ เมื่อเห็นว่าสีหน้าของก้องยังคงนิ่งเรียบไม่แสดงอาการอะไร มิวส์จึงพูดต่อ "ก้องจะว่ามิวส์หลายใจก็ได้นะ แต่มิวส์ก็ไม่อยากโกหกความรู้สึกตัวเองเหมือนกัน มิวส์รักก้องด้วยใจจริง แต่กับไม้มิวส์รักเพราะความผูกพันและความจริงใจที่มีให้กันและกัน"

   “ก้องเข้าใจ" ก้องเอ่ยเสียงเบา... ทว่าแม้จะเข้าใจทุกอย่างดี แต่ถ้าได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนรัก มันก็ย่อมรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ขึ้นมาในจิตใจบ้างแหละน่า

   ก้องขับรถต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งในที่สุดก็ไปถึงจุดหมาย...

   สถานที่แห่งนี้คือโรงพยาบาลสำหรับคนที่สติไม่สมประกอบ... มีตั้งแต่ขั้นอ่อน ๆ จนกระทั่งไปถึงขั้นรุนแรงที่คิดว่าตัวเองเป็นนางฟ้านางสวรรค์แล้วมักแต่หน้าหนา ๆ มาฟ้อนรำโชว์คนอื่น ๆ

   เหตุที่แม่ของมิวส์ต้องมาพักอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้เพราะหลังจากที่เสียลูกชายไปเธอก็มีอาการซึมเศร้าอย่างหนักและพอสามีของเธอได้จากเธอไปอีก ความเครียด ความเศร้าก็ถาโถมให้เธอต้องกลายเป็นคนเสียสติ... อาจเป็นเพราะความรักที่เธอมีต่อลูกชายคนโตและสามีนั้นมีมากเกินไปเลยทำให้เธอทรมานใจเกินกว่าที่จะรับได้

   ฟิวส์ไม่สามารถดูแลแม่ได้เนื่องจากตอนที่มิวส์และพ่อจากไป ฟิวส์เพิ่งอายุ 12 ปีเท่านั้น และก้องก็เป็นคนจัดการค่าใช้จ่ายและดูแลความเป็นไปทุกอย่างให้กับแม่และฟิวส์ แม้ฟิวส์จะรังเกียจก้อง แต่เงินที่ก้องมอบให้ในแต่ละเดือนก็เป็นช่องทางเดียวที่ทำให้ฟิวส์สามารถดำเนินชีวิตอยู่ต่อไปได้

   ...ก้องเดินนำไปยังเคาน์เตอร์ที่ให้บริการสำหรับแขกที่ต้องการมาเยี่ยมญาติ

   “คุณอารีญาอยู่ไหนครับ" ก้องเอ่ยด้วยความสุภาพ เขามาเยี่ยมแม่ของมิวส์เกือบทุกวันที่ว่างจึงทำให้พยาบาลเกือบทั้งโรงพยาบาลรู้จักเขา

   “คุณอารีญากำลังอยู่ที่สวนสุขภาพทางด้านหลังค่ะคุณก้อง" พยาบาลสาวที่ตัวเล็กเท่าหัวไหล่ของก้องตอบออกมาอย่างเป็นกันเอง เธอยิ้มให้ก้องอย่างมิตรภาพราวกับสนิทกันมาแต่ชาติปางไหน

   ไม่ใช่แค่เธอคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าก้องจะเดินไปทางไหน หากมีพยาบาลเดินผ่านสวนมา ทุกคนก็จะหยุดทักทายก้องอย่างคุ้นเคยก่อนที่จะเดินผ่านไป

   “ก้อง... พยาบาลที่นี่น่ารักดีเนอะ รู้จักก้องทุกคนเลย สงสัยคงจะใส่ใจกับญาติ ๆ ของผู้ป่วย" มิวส์เอ่ยขึ้นหลังจากที่เดินผ่านพยาบาลคนที่ 6 ซึ่งก่อนหน้านี้ทุกคนต่างก็หยุดทักทายก้อง

   “ไม่หรอกมิวส์...” ก้องตอบ

   “ไม่? ทำไม แล้วเขารู้จักก้องได้ไง" มิวส์เอ่ยถามด้วยความสงสัย

   ก้องไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงยิ้มให้มิวส์เท่านั้นก่อนที่จะชี้นิ้วไปทางสวนสุขภาพข้างหน้า "คุณน้าอยู่นั่นไง"

   หญิงวัยกลางคนที่เคยมีผิวขาวผ่องหน้าตาสะสวยในยามนี้กลับดูโทรมลงอย่างเห็นได้ชัด ผมที่ยาวดำสลวยก็เริ่มมีสีขาวแซมมาให้เห็น ใต้ตาก็คล้ำเหมือนคนไม่ได้พักผ่อน เหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่ทำให้มิวส์เสียใจที่สุดก็เห็นจะเป็นดวงตาที่ล่องลอยราวกับคนที่ไร้สติสัมปชัญญะ

   “แม่... แม่...” มิวส์ตะโกนเสียงดังก้องพร้อมกับรีบวิ่งไปหาร่างนั้นทันที

   แม่ของมิวส์หันมาตามต้นเสียงราวกับได้ยินเสียงนั้นจนมิวส์ต้องหยุดชะงัก

   “มิวส์... มิวส์ลูกแม่" น้ำเสียงของเธอสั่นไหว สายตาของเธอกำลังจับจ้องมองไปที่ร่างของมิวส์จนมิวส์ตกใจว่าแม่มองเห็นเขาด้วยหรืออย่างไร

   แขนที่อ้าออกแล้วโบกไปมาราวกับต้องการจะโอบกอดทำให้มิวส์หัวใจเต้นแรงกว่าปกติ ก่อนที่แม่ของมิวส์จะเดินมาถึง มิวส์ได้อ้าแขนออกมาบ้างแล้วไม่รอช้ารีบวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นแม่ทันที

   ทว่า... ร่างที่โปร่งใสกลับถูกร่างของหญิงสาวเดินทะลุไป และเธอยังเดินต่อไปเรื่อย ๆ เพื่อหวังจะไปหาผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าซึ่งก็คือก้อง

   “มิวส์... มิวส์กลับมาหาแม่แล้ว แม่คิดถึงมิวส์เหลือเกิน" หญิงวัยกลางคนโอบกอดกับร่างของก้องเพราะเข้าใจผิดคิดไปว่านั่นคือลูกชายสุดที่รักของเธอ

   “แม่...” มิวส์หันไปมองแล้วเอ่ยด้วยเสียงสั่น

   “คุณน้าครับ ผมก้องครับ ไม่ใช่มิวส์" ก้องเอ่ยอย่างสุภาพ

   “ก้อง ก้อง... อ่อ ก้องเหรอ" หญิงสาวพยักหน้าถี่ยิบทำตาโตด้วยความเข้าใจว่าตนเข้าใจผิด "ก้อง ก้อง... กล้องถ่ายรูป แชะ แชะ”

   “มิวส์อยู่ทางนู้นครับ" พูดจบ ก้องก็ชี้ไปยังร่างของมิวส์ หญิงวัยกลางคนหันไปมองตามกลับไม่เห็นอะไรนอกจากความว่างเปล่า

   “ไหน มิวส์อยู่ไหน มิวส์ มิวส์... ไม่มี"

   “มิวส์อยู่ตรงนั้นจริง ๆ ครับ คุณน้ามีอะไรอยากพูดกับมิวส์รีบพูดได้เลยนะครับ" ก้องเอ่ยขึ้น

   “จริงเหรอ" หญิงวัยกลางคนเอ่ยถาม ก้องพยักหน้า เธอยิ้มออกมาก่อนที่จะเดินไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วเหม่อมองท้องฟ้าด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า...

   “มิวส์กลับมาเยี่ยมแม่เหรอลูก...” เธอเอ่ยขึ้น ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเมื่อครู่เริ่มเศร้าลง ดวงตาที่กลมโตก็ค่อย ๆ สั่นไหวเพราะคิดถึงลูกชายคนโตจับใจ "มิวส์ไม่ต้องเป็นห่วงแม่นะ แม่สบายดี ก้องกับฟิวส์แวะมาเล่นกับแม่เกือบทุกวัน... แม่คิดถึงมิวส์ แม่อยากกอดมิวส์เหลือเกิน แต่มิวส์ไม่อยู่แล้ว ใช่... มิวส์ไม่อยู่แล้ว มิวส์จากแม่ไปแล้ว ก้องโกหกแม่ว่ามิวส์อยู่นี่... แต่... แต่ช่างเถอะ ยังไงมิวส์ก็จะอยู่ในใจแม่ตลอดไปนะ...”

   แค่ได้ยินแม่พูดว่าอยากกอด มิวส์ก็ใช้พลังทั้งหมดที่มีเพ่งสมาธิไปที่ร่างของแม่ก่อนที่จะโผเข้าไปกอดทันที

   “แม่...” มิวส์เอ่ยเสียงสะอื้น "มิวส์ก็คิดถึงแม่เหมือนกัน"

   “มิวส์...” หญิงวัยกลางคนเอ่ยด้วยความประหลาดใจเมื่อมีสัมผัสประหลาดมาโอบกอดเธอ เธอมองซ้ายมองขวาแต่ก็ไม่พบอะไร “มิวส์เหรอลูก...”

   พูดจบเธอก็ยกมือขึ้นมากอดตอบ... อ้อมกอดที่อบอุ่นที่สุดของเธอได้ถูกส่งผ่านไปยังสิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็น แม้ในยามนี้มิวส์จะกำลังร่ำไห้ทว่าในหัวใจของเขากลับมีความสุขเปี่ยมล้น น้ำตาแห่งความอัดอั้นค่อย ๆ ไหลลงมาจนทั่วใบหน้า และในที่สุดร่างของเขาก็ค่อย ๆ จางลงก่อนที่เรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดกำลังจะกลายเป็นแค่ความทรงจำ

   ก้องมองดูร่างของมิวส์ที่กำลังพร่าเลือน หัวใจที่เข้มแข็งมาตลอดกลับอ่อนไหว ก้องไม่เคยร้องไห้ให้กับเรื่องใด ๆ แม้เรื่องราวที่ผ่านมาจะหนักหนาสาหัสเกินทน แต่ในยามนี้... หัวใจที่เข้มแข็งกลับร้าวระบมเพราะร่างวิญญาณของผู้ที่เขารักมากที่สุดกำลังจะสลายหายไป

   และนับจากนาทีนี้... ปาฏิหาริย์ที่จะทำให้เขากับมิวส์ได้กลับมาพบกันอีกครั้งมันคงไม่มีอีกแล้ว

   'ก้องรักมิวส์นะ ไปสู่สุคตินะมิวส์ เดี๋ยวก้องจะดูแลแม่กับฟิวส์ให้เอง'

   น่าแปลกที่เสียงในความคิดของก้องถูกส่งผ่านไปถึงมิวส์

   'ขอบคุณนะก้อง' มิวส์ส่งความคิดผ่านกลับไป แม้จะไม่รู้ว่าก้องรับรู้หรือไม่แต่มิวส์ก็อยากจะบอก 'ขอบคุณสำหรับทุก ๆ สิ่ง ก้องคือผู้ชายที่แสนดีที่สุดของมิวส์'

   และในขณะที่ร่างของมิวส์กำลังจะสลายหายไป ร่างของใครคนหนึ่งที่กำลังวิ่งมาแต่ไกล ๆ พร้อมกับเสียงตะโกนที่ดังลั่นว่า 'ไอ้มิวส์ ไอ้มิวส์' ก็ทำให้มิวส์ยิ้มออกมาทั้งน้ำตา

   'ไม้เป็นเจ้านายที่แสนดีที่สุดของมิวส์เหมือนกัน มิวส์เองก็... รักไม้เหมือนกันนะ' ทันทีที่เสียงในห้วงแห่งความคิดเสียงสุดท้ายของมิวส์จบลง ร่างนั้นก็สลายหายไปกลายเป็นวงกลมวงเล็ก ๆ ก่อนที่จะลอยขึ้นไปยังท้องฟ้าเบื้องบนทันที

   'ไอ้มิวส์!!! ไอ้เชี่ย มึงไม่รอกูเลย' ไม้ได้ยินเสียงในความคิดของมิวส์ทุกถ้อยคำ 'ไปสู่สุคตินะมึง ไอ้วิญญาณสุดป่วนของกู จะจากกูไปทั้งทีไม่มาลากูเลยนะ คอยดูเถอะชาติหน้ากูจะตามไปตบกบาลมึง...'

   และนับตั้งแต่วันนั้น... เรื่องราวสุดปั่นป่วนระหว่างวิญญาณอาฆาตกับมนุษย์ที่มองเห็นวิญญาณตนนั้นเพราะมีกรรมร่วมกันมาก็มีอันต้องจบลง

   ไม้ต้องสูญเสียผู้ที่ตนรักไปพร้อม ๆ กัน ชีวิตที่เคยวุ่นวายในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ก็มีอันต้องกลับมาเงียบสงบ แม้จะเศร้าสร้อยเพียงใดแต่ทุกอย่างก็อย่างก็ต้องดำเนินต่อไป และไม่ว่าเวลาจะหมุนผ่านไปอีกสักกี่วัน แม็กกี้กับมิวส์ก็จะถูกเก็บไว้ในความทรงจำตลอดไป...




จบ....


อ่านจบแล้วรู้สึกสงสารใครมากที่สุดอ่าครับ (อันนี้อยากรู้จรงๆ รบกวนโหวตให้ด้วยนะครับ)

- โหวต โหวต โหวต โหวต โหวต คลิกที่นี่ - (http://my.dek-d.com/gugdczine/poll/view.php?id=149753)



>.< แฮะ ๆ จบแล้ว ขอบคุณทุกคนที่ติดตามอ่านนะครับ อาจจะเรื่อยๆ เฉื่อยๆ หรือน่าเบื่อบ้าง แต่ก็ดีใจมากๆที่หลายคนตามอ่านจนจบ
ขอบคุณครับ กราบ _/\_
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/05/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 04-12-2013 00:57:59
แงงงงงงงงงงงงงงงง ม่ายยยยยยยยยยยยยย

ทำร้ายฉันทำไม
ซึ้งอ่ะ
มันจบแบบนี้เราต้องทำใจยอมรับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/05/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: NJnobu ที่ 04-12-2013 01:03:37
จบซะแล้ว... :a5: จบแบบบเศร้าๆด้วย  :sad4:  เสียดายยังไม่อยากให้จบเลย  :o12:

แต่ก็สนุกมากๆ ขอบคุณคนเขียนนะคราบ ที่ได้แต่งให้ได้อ่าน จะติดตามตลอดไป

+ ให้กับตอนสุดท้าย  :กอด1:  :mew1: ฟัด 100% อิอิ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/05/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-12-2013 09:16:00
จบแบบนี้ดีแล้ว ชีวิตต้องดำเนินต่อไป
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/05/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: `ลoงสิจ๊ะ™ ที่ 04-12-2013 09:49:57
ทำไมๆๆๆๆ จบแบบนี้อะ ไม่ยอมๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/05/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: loveaaa_somsak ที่ 04-12-2013 16:38:26
จบได้เศร้ามากกว่าที่คิด อยากให้จบแบบหนังพี่มาก 4 p ไปเลย ก็เป็นไปไม่ได้

เรื่องคุณชายขอแบบว่า สุขสันต์สุดๆนะ ชดเชยเรื่องนี้ ได้โปรด


 :pig4: ขอบคุณครับที่แต่งจนจบ รอติดตามผลงานเรื่องที่เหลือและต่อๆ ไปครับ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/05/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: pannixz ที่ 04-12-2013 22:04:27
 o13 o13
แล้วจะไปติดตามเรื่องใหม่ๆนะคะ
ดีไม่พลิกล๊อกเอาไม้มาคู่กับก้อง 555555555.
 :bye2: :bye2:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/05/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Lily teddy ที่ 05-12-2013 20:17:51
เฮ้อ จบไปซะแล้วคิดว่าจะมีอีกซักตอนสองตอนนะคะ พอนิยายที่อ่านอยู่จบแล้วมันก็ใจหายนิด ๆนะ
ยิ่งเรื่องนี้จบแบบเหงา ๆ เศร้า ๆ ด้วย แต่ก็จบแบบที่ควรจะเป็นอะเนอะ
แค่รู้สึกเหมือนอดติดตามชีวิตใครไปอะคะ(ฟังดูแปลก ๆ ไหม) ดีนะผู้เขียนบอกว่าจะมีตอนพิเศษเมื่อชาติก่อน
แต่จริง ๆ น่าจะมีตอนพิเศษชาติหน้าด้วยนะคะ เพราะไม้บอกว่าจะตามไปตบกบาลมิวส์อยู่เลยนี่หน่า
อีกอย่างเพราะกรรมจากชาติก่อนทำให้ชาตินี้ทุกคนต้องวุ่นวายกับชีวิตรักกันไปหมด แถมบทสรุปยังไม่มีใครสมหวัง
แต่ชาตินี้ทั้งแม็กกี้และมิวส์ต่างก็ให้อภัยและหมดห่วงกันไปแล้ว (ตอนของแม่น้ำตาจะไหล)
ฉะนั้นถ้าชาติหน้ามีจริงชีวิตทุกคนอาจไม่วุ่นวาย และได้สมหวังกับคนที่รักก็ได้ 
ถ้าแม๊กกี้จะรีบมาเกิดซะหน่อยยังไงคงทันคู่ไม้อะคะห่างกันแค่ยี่สิบกว่า ๆ เอง
ส่วนมิวส์ก็ให้เกิดมาคู่กะลูกชายของก้องก็ได้  แบบยังไงก็ยังต้องเกี่ยวพันกัน แล้วไม้ก็อาจจะมาเป็นครูเหมือนก้อง 
แม็กกี้กะมิวส์ก็มาเป็นลูกศิษย์ไม้อีกทีประมาณนี้อะคะ หรือจะให้ไปเกิดใหม่กันหมดทั้ง 4 คนเลยก็ได้
แบบเอาชาติหน้าเป็นภาคสองเลยก็ดีนะคะ อิอิ  แต่ผู้เขียนคงบอกให้แต่งเองคิดเองไปก่อนมากกว่า 555
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมนะคะ ทั้งเรื่องเก่า เรื่องใหม่ และตอนพิเศษด้วยค่ะ
 :pig4:  :L2: :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: @Lucifer_Prince@ ที่ 07-12-2013 22:48:47
เศร้าอีกแล้วอ่ะเศร้าจริงรัยจริงไม่เป็นไรหรอก  มิวส์ แม็กกี้ไปสู่สุคตินะเเกนะ  รีบๆเกิดมาคู่กันอีก  รอตอนพิเศษนะคัฟ  ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆคัฟ  ร้องไห้น้ำตาพรากกับความเศร้า
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 08-12-2013 03:36:35
 :mew4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: ApoStrOfhYs ที่ 10-12-2013 18:18:44
เข้าเล้ามา เปิดเรื่องนี้ก่อนเลย แต่พอเลื่อนๆดูสารบัญ...



บทส่งท้าย!!!!!!!!!!!!  :z3:

มองด้วยดวงตาโตเท่าไข่ห่าน คิดไว้ว่าจะมีมาให้อ่านหลายๆตอนเพราะว่าไม่ได้เข้าเล้านาน T^T แต่ก็จบได้ซึ้งดีคะ เป็นดั่งคำปรามาส...ไม่เหลือใครสักคน...มันก็สมควรจะเป็นอย่างนั้นล่ะเนอะ ต่างคนต่างมีกรรม พอมาเจอกันยังไงซะมันก็ไม่มีทางสมหวังหรอกเนอะ ที่ให้โหวตก็โหวตให้แล้วนะจ๊ะ สงสารที่สุดตอนนี้ดูท่าจะเป็นแม็กกี้ เพราะได้รับความรักน้อยเหลือเกิน ถึงแม้จะได้จากไม้ก็จริง แต่ไม้ก็เพิ่งมาสำนึกได้ตอนที่ตนจากไปแล้ว มันน่าเศร้านะเนี่ย แต่ยังไงก็ยังให้อภัยเพราะว่า...รัก

เอาเถอะ อ่านไปน้ำตาจะไหล ด้านของคุณแม่ก็น่าเศร้ากว่าใคร ทั้งลูกทั้งสามี แต่ยังไงคุณแม่ก็ยังเหลือฟิวนะ ^^ หายเร็วๆแล้วไปอยู่กับฟิวดีกว่าเนอะ เดี๋ยวฟิวจะเหงาแล้วพลอยเป็นไปอีกคน เรื่องจิตใจมันเป็นอะไรที่อ่อนไหวง่ายที่สุด และอ่อนแอที่สุดด้วย โดนสกิดนิดเดียวก็อาจจะกลายเป็นแบบแม่น้องมิวส์ได้ คุณหมอผีก็ช่างน่าสลด(สรุกคือเศร้าสลดทุกตัว- -'')รู้สึกจะดูหล่อที่สุดในเรื่อง  :laugh:

ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กับกุ๊กกู๋ที่รักนะคะ :) เอาภาคหน้ามาให้เก๊าเร็วๆนะ 5555 //โดนตบ ตอนพิเศษจะเป็นยังไงน้าาา
จะติดตามต่อไปคะ
 :กอด1: :L2: :L1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: dr_tylenol ที่ 10-12-2013 19:02:33
ทำซะน้ำตาไหล   :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: kungfoopungpon ที่ 11-12-2013 02:19:22
สงสารแม็กกี้ที่สุด รักมิวที่สุด อยากให้ไม้คู่กะมิวที่สุด และอยากให้ก้องคู้กะน้องฟิว อยากให้แม็กกี้คู่กับ?
อยากให้มีภาคต่องะ และหาคู่ให้แม็กกี้ด้วย จุ๊บๆ


 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 12-12-2013 09:34:46
คนเขียนใจร้ายยยยยย
ทำร้ายแม็กกี้ได้ลงคอ
ไม่มีใครสมหวัง แต่ก็มีความสุขกันทุกคน ห่วงที่ผูกใจของแต่ละคนก็ไม่มีแล้ว
สนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ เรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณมากเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: mentholss ที่ 12-12-2013 10:08:55
กรี๊ดดดดดดด จบแบบนี้จริงหรือนี่
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: ton_2529_21 ที่ 12-12-2013 20:53:03
ขอบคุณมากๆนะคะ  สำหรับเรื่องราวดีๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: IsDeer ที่ 25-02-2014 01:59:19
 :hao5: ยังรู้สึกค้างอยู่เลย
อยากได้ตอนพิเศษอ่ะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: yuyie ที่ 26-02-2014 00:35:25
สุดท้ายก็ตายเกือบหมด  :ling1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: akeins ที่ 14-03-2014 21:36:44
ในที่สุดไม้ก็ต้องอยู่คนเดียว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 04-05-2014 00:35:56
จบเหมือนยังคลายปมเรื่องไม่หมด อย่างเช่นสาเหตุการตายของแม็กกี้ จริงๆ แล้วมีวิญญาณตนอื่นมาเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ใช่หรือ
แล้วทำไมไม้ถึงสามารถเห็นมิวส์ได้ แล้วน้องเปอร์เข้ามาเกี่ยวข้องได้ยังไง ฟิวส์ก็หายไปเฉยๆ ด้วย
นิยายมีตอนฮาเยอะดี น่ารัก แต่ขณะเดียวกันก็มีตอนน่ากลัวอยู่ไม่น้อย (ไม่น่าอ่านตอนกลางคืนเลย)
ขอบคุณสำหรับนิยายนะคับ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: buathongfin ที่ 04-05-2014 10:03:02
ไม่แต่งสเปตอนสวรรค์บ้างอ่ะ มันโหวงๆไงไม่รู้  :hao5:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: คุณหนูไฉไล ที่ 04-05-2014 12:47:57
เข้าใจว่าจะแต่งเอาฮา ซึ่งก็ฮาจริง ๆ

ข้อสังเกตุเกี่ยวกับเรื่องนี้คือ
1. ที่ไม้สามารถมองเห็นมิวส์ได้ เข้าใจว่าเพราะมีบุญหรือกรรมร่วมกันมา และคงเป็นกรรมที่ทำให้ไม้ต้องมาช่วยมิวส์ให้พ้นทุกข์ อาจจะตั้งแต่ชาติปางไหนก็ได้
2. เรื่องของแม็กกี้ เข้าใจว่าหมดอายุขัย เพราะไปได้ง่าย ๆ ไม่มีจิตอาฆาต สบายใจแล้วก็ไป ไม่ติดกับบ่วงอะไร
3. เรื่องก้องภพ ส่วนตัวคิดว่าสาวิตตรีเป็นผู้หญิงที่เห็นแก่ตัวมาก เอาเพื่อนตัวเองมาตกนรกทั้งเป็น การอยู่กับคนที่ไม่ได้รักไม่มีความสุขหรอก
4. เรื่องน้องเปอร์ น่าจะมีอะไรพิเศษมากกว่านี้ เพราะลำพังวิญญาณแปลกหน้าอย่างนั้นเจ้าที่ไม่ให้เข้าแน่นอนถ้าไม่มีอะไรเกี่ยวพันกับผู้อยู่อาศัย ไม่น่าจะเอามาได้ง่าย ๆ
5. ไม้ก็ชอบมิวส์เหมือนกันนั่นแหละ น่ารักล่ะสิ
6. เหมือนเรื่องนี้ยังขาดอะไรไป ที่จริงการที่ทั้งคนและวิญญาณได้มาเจอะเจอกันได้นั้น มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก ถ้าไม่เป็นเรื่องเวรกรรม ก็ต้องมีวาสนาต่อกัน ถ้าจะจิ้นต่อไป ก็คงจะไม้แต่งงาน ได้ลูกชาย 3 คน มิวส์เป็นคนโต แม็กกี้เป็นคนกลาง น้องเปอร์เป็นคนเล็ก คนโตบอบบาง ง๊องแง๊ง แต่ก็มีความเป็นผู้นำในหมู่พี่น้อง คนกลางหล่อ เข้ม เงียบขรึม น้องคนเล็กเตาะแตะน่ารัก ท่าจะฟินน่าดู

ขอบคุณสำหรับนิยาย อ่านรวดเดียวจบเลย รีบเม้นต์ตอนความรู้สึกยังคุกกรุ่น

ถ้าแต่งตอนพิเศษต่อ อย่าลืมเอาที่พล็อตไปพิจารณาด้วยนะ อิอิอิ ~
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Maytbb ที่ 04-05-2014 23:31:26
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะ อ่านรวดเดียวจบเลย แต่อารมณ์เหมือนยังไม่จบ    :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: first117 ที่ 05-05-2014 00:45:58
อ่านรวดเดียวจบ ขอบคุณผู้แต่งนะครับวางโครงเรื่องได้ดี แต่ผมเศร้าพิลึก เศร้าให้กับทุกคน นึกถึงถ้าเป็นตัวเรา เทียบกับทุกตัวละคร ปวดใจจริงๆ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: loveview ที่ 06-05-2014 22:53:08
เข้ามาอ่านรวดเดียวเลยค่ะขอบอกเรื่องนี้มีตัวละครที่น่าสงสาร ที่คิดไว้คือพี่หมอผีสุดหล่อค่ะ พีทม่านได้ใจมากมาย สุภาพบุรุษในใจก็ว่าได้ แต่ทว่าตัวร้ายกาจที่สุดต้องยกให้ยัยสาวิตรีค่ะ อะไรด้วยประการทั้งปวงไม่เหมาะสมและเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ ถ้าหสกมีภาคพิเศษก็อยากให้ยัยสาวิตรีต้องสูญเสียต้องเจ็บปวดดูบ้างหรือไม่ก็ให้ก้องภพไปมีคนอื่นที่ดีซะ เอายัยนี่ไปไม่มีประโยชน์ว่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: AMINOKOONG ที่ 17-05-2014 03:48:43
ทำไมเรามองต่างจากคนอื่นอ่ะ แทนที่รู้ความจริงจะหายโกรธและรู้สึกผิดกับก้อง
แต่กลับยิ่งเกลียดและโกรธก้องมากยิ่งกว่าเดิมที่เห็นยัยสาวิตรีเห็นแก่ตัวนั่นดีกว่ามิวส์
ถึงขนาดบอกเลิกและทำร้ายคนรักของตัวเองซึ่งเราว่ามันเกินไปว่ะ มีวิธีแก้ไขอื่นอีกมากมาย
อีนั่นมันเอาอะไรทำหัวใจถึงขนาดหน้าด้านมาขอให้ก้องรับผิดชอบลูกของตัวเอง แต่นั่นไม่เท่ากับก้องยอมตกลง
เราผิดหวังกับก้องมากจริงๆเหมือนจะเป็นพระเอกแสนดีแต่ที่จริงแล้วมันเทพบุษในคราบซาตานดีๆนี่เองซึ่งสำหรับเราๆมองว่าเห็นผลมันไม่เพียงพอที่ทำให้ก้องต้องทำแบบนี้ ถ้าเป็นครอบครัวไม่ยอมรับ กีดกัน หรือทำมันท้อง
อันนี้ยังเรายังพอทำใจยอมรับได้บ้าง แต่นี่คือแบบ?????  :katai1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก[บทส่งท้าย P.16]- 04/12/56 [จบ]
เริ่มหัวข้อโดย: Mr.กุ๊กกู๋ ที่ 17-05-2017 21:01:48
ประกาศ... จาก สนพ. Hermit Books เรื่องนี้ได้รับการตีพิมพ์แล้วค้าบ

................................


ประชาสัมพันธ์นิยายใหม่วางขายในงาน Gen Y กันค่า เรื่องสุดท้ายนะจ๊ะ
รายละเอียดงาน : https://www.facebook.com/GYTradeA/?fref=ts
---- --- -- -- --------------- -- ------ --- ---
เรื่อง: วิญญาณป่วนกวนรัก
ผู้เเต่ง : Mr.กุ๊กกุ๋
ปก : bachi
รอบพิมพ์ครั้งเเรก : ที่คั่น เเละโปสการ์ด
ของเเถมพิเศษรอบงาน Gen Y ( ทั้งหน้างานเเละรอบไปรษณีย์) : ที่คั่นจิบิไดคัท 2 ชิ้น
ราคา 300 บาท
---- --- -- -- --------------- -- ------ --- ---
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อวิญญาณร้ายต้องหาตัวตายตัวเเทน
เพื่อที่จะปลดปล่อยดวงวิญญาณของตัวเองให้เป็นอิสระ
หลังจากที่เฝ้ารอมาสิบปีก็มีเหยื่อมาให้เลือกถึงที่ทั้งสองคน ทว่าหนึ่ง
ในนั้นกลับมองเห็นเขา เเถมยังไม่มีท่าทีหวาดผวา
มิหนำซ้ำยัง โหด ดุ ป่าเถื่อน
จนทำให้วิญญาณร้ายอย่างเขาต้องสมยอม


(https://www.mx7.com/i/be7/4REtob.jpg) (https://www.mx7.com/view2/zRSxcT7NL7sgTzc8)
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 18-05-2017 15:14:38
ขอบคุณมากค่ะ

ถ้าถามว่าใครน่าสงสารคงเป็นแม็กกี้ อยู่ดีๆก็ตาย  กับหมอผี ที่ทำดีมาตลอด ตายสองรอบแบบดื้อๆ

อาภพเกินไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)
เริ่มหัวข้อโดย: Ice_Iris ที่ 18-05-2017 18:10:50


ห๋า............

จบแล้ว

มันไม่มีต่อแล้ว

โอย......

เศร้าจัง

ขอบคุณที่แบ่งปันขอรับ

หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)
เริ่มหัวข้อโดย: เป็ดอนุบาล ที่ 19-05-2017 08:46:46
ขอบคุณนะค่ะที่เขียดนิยายได้ซึ้งกินใจมากๆขนาดนี้ทั้งความรักในรูปแบบเพื่อน ครอบครัว คนรัก เราชอบความรักในนิยายเล่มนี้มาก
ใจหายกับตอนจบมากเศร้าจนน้ำตาไหลแต่เข้าใจว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นและจบแบบนี้ถือว่าดีแล้วล่ะค่ะ
จริงๆๆทำต่อภาคสองจะดีมากตอนนี้เค้ากลับมาเกิดใหม่และได้รักกัน......ขอบคุณ
มิวส์  ไม้ แม็คกี้ ก้อง เจ้าที่ น้องเปอร์ รักทุกตัวละคร :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)
เริ่มหัวข้อโดย: gongiotherin ที่ 20-05-2017 07:25:34
ถามว่าสงสารตัวละครไหนสุด ก็คงต้องตอบว่าทุกตัวเลยจ้า

แหม่...เล่นผิดหวังกันทุกตัวเลย

แต่เข้าถึงอารมณ์ของคนเป็นแม่ได้ดีเลยนะ ตอนที่กลับมาหาแม่ในช่วงก่อนจะหายไป

นั้นแหละคนเป็นแม่ที่ลูกได้จากไป เจ็บ จุก ปวดร้าว แต่ก็ต้องอดทน เหมือนมีอะไรมาบิดเร่าๆอยู่ในอก สัมผัสสุดท้ายคือการบอกลาที่ดี

จบแต่ยังไม่สุดอย่างที่ใครหลายคนบอก

น่าจะใส่เรื่องราวเล็กน้อย อย่างมีการเกิดใหม่แล้วให้คนอ่านไปจิ้นเอา แบบนั้นคงจะดี

แต่จบแล้วก็คือจบ ชอบความฮาของเรื่องนี้ ขอบคุณที่นำมาให้ได้อ่านค่ะ
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)
เริ่มหัวข้อโดย: tn ที่ 08-06-2017 14:33:22
จบงี้เลยเหรอ ทำไมมันไม่มีคนสมหวังเลยล่ะนั้น  :hao7:
หัวข้อ: Re: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)
เริ่มหัวข้อโดย: TonyPat ที่ 14-06-2017 17:30:42
 :pig4: