◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ◑﹏◐ Dead Lover ♂ วิญญาณป่วนกวนรัก [จบ] ประกาศตีพิมพ์ (หน้า 16)  (อ่าน 121005 ครั้ง)

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
ตอนที่ 17




 
        “ก้อง...” มิวส์เอ่ยเรียกชื่อของคนตรงหน้าด้วยความตกใจ

   ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้ก็คือความคิดถึง พอร่างนั้นเขยิบเข้ามากใกล้ ๆ ก็อยากจะโผเข้ากอด... แต่แล้วชั่วครู่ สมองก็ย้อนไปนึกถึงอดีตในวันที่ก้องบอกเลิก และก่อนที่ความอาฆาตแค้นจะปะทุออกมา เสียงที่ดังขึ้นพร้อมกับร่างใหม่ที่ปรากฏก็ทำให้มิวส์รู้สึกตกตะลึงเข้าไปใหญ่

   “ก้องคะ..." ร่างของหญิงสาวผิวคล้ำหน้าตาสะสวยแต่งกายทะมัดทะแมงเอ่ยขึ้น มิวส์จำได้ว่าในคืนที่มามหาวิทยาลัยตอนดึกกับไม้ เธอคนนี้แหละที่เป็นคนเฝ้าห้องพักครูและเปิดประตูออกมาต้อนรับเจ้านายของเขา "...รีบไปเก็บของแล้วกลับกันเถอะค่ะ ลูกโทรมาบ่นใหญ่แล้วว่าหิวข้าว"

   'ลูก?' มิวส์ทวนคำในใจอย่างประหลาดใจ ถ้าสิ่งที่ได้ฟังไม่ผิดเพี้ยนอะไรอย่างนั้นก็แสดงว่าในคืนนั้น... ก้องตั้งใจจะบอกเลิกเขาจริง ๆ

   “อืม...” ก้องเอ่ยขึ้น "คุณไปรอข้างล่างก่อนนะ เดี๋ยวผมขอไปเก็บของแป๊บนึงแล้วจะตามลงไป"

   “ค่ะ" พูดจบหญิงสาวก็ก้าวเท้าฉับ ๆ ลงบันไดไปแต่โดยดี

   ทันทีที่ในรัศมีไม่มีร่างของมนุษย์อื่นใดปรากฏอยู่ ก้องก็สาวเท้าเข้าไปใกล้ ๆ กับร่างของดวงวิญญาณ

   “มิวส์...” น้ำเสียงที่สั่นเครือเอ่ยขึ้น ก้องเข้าใจมาเสมอว่าตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมามิวส์คงจะไปชดใช้กรรมในสวรรค์และมีโอกาสได้ไปผุดไปเกิดใหม่แล้ว แต่ทว่าความจริงที่ปรากฏในตอนนี้กลับเป็นสิ่งที่เขาคิดผิดถนัด "เรื่องคืนนั้นก้อง...” ไม่ได้ตั้งจะ...

   “หยุดพูดได้แล้ว!” มิวส์ยกมือขึ้นปิดหู เขารู้ว่าถ้อยคำที่จะถูกเอื้อนเอ่ยออกจากปากของผู้ชายตรงหน้าล้วนมีแต่คำแก้ตัวทั้งสิ้น

   “มันไม่ใช่อย่างที่มิวส์กำลังเข้าใจนะ" ก้องพยายามจะอธิบาย

   “ไม่ใช่! หึ...” มิวส์ทวนคำก่อนจะพ่นลมหายใจ(ซึ่งไม่มี)ออกมาอย่างแรง "แล้วผู้หญิงคนเมื่อกี้เป็นใคร แล้วไหนจะเรื่องลูกอีกล่ะ มีอะไรที่มิวส์เข้าใจผิดเพี้ยนไปอย่างนั้นเหรอ...”

   ยิ่งพูด... ความเจ็บปวดก็ยิ่งตอกย้ำให้จิตใจร้าวระบม

   “กลับไปซะ...” มิวส์เอ่ยขึ้น เพราะถ้าก้องยังอยู่ที่นี่เขาอาจจะควบคุมสติตนเองไม่ได้จนอาละวาดขึ้นมาเหมือนเมื่อคราวก่อนก็เป็นได้ โชคดีที่การเห็นรูปภาพของก้องเมื่อคราวก่อน เป็นบททดสอบที่ทำให้จิตใจของมิวส์เข้มแข็งขึ้น เลยทำให้เขาสามารถควบคุมสติตัวเองได้ดียิ่งขึ้น

   “ไม่" ก้องปฏิเสธทันควัน "ถ้าก้องไม่ได้อธิบายให้มิวส์เข้าใจก้องก็จะไม่ไปไหนทั้งนั้น"

   “ไม่ยักรู้ว่านายเป็นคนหัวรั้นตั้งแต่เมื่อไหร่... ทีเมื่อก่อนขอให้อธิบายเรื่องที่เข้าใจผิดให้ฟังทีไรก็ไม่เคยอธิบายสักที เอาแต่นิ่งเงียบ... เอาแต่เย็นชา แล้วนี่อะไร เพิ่งจะมาสำนึกได้เหรอว่าควรทำตัวยังไงกับคนรัก ไม่สิ... ก้องไม่เคยรักมิวส์ ทุกอย่างมันก็แค่เรื่องโกหกหลอกลวงเท่านั้น...” ยิ่งพูดน้ำเสียงก็ยิ่งสั่นเครือขึ้นเรื่อย ๆ

   “ก้องไม่ได้หลอกลวง... ก้องรักมิวส์... แต่ที่...” ก่อนที่ก้องจะได้แก้ตัวไปมากกว่านี้ มิวส์จึงต้องรีบเอ่ยขัดขึ้นมาเพราะไม่อยากฟังคำอธิบายของคนที่น่ารังเกียจคนนี้
   
        “ได้! ถ้าก้องไม่ไป งั้นมิวส์ไปเอง...” พูดจบก็ตัดสินใจกระโดดลงจากระเบียงชั้นสี่ทันที แม้จะรู้สึกกลัว แม้จะรู้สึกหวาดเสียว แต่วิญญาณอย่างเขาถึงอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะตายซ้ำสองได้หรอกน่า อย่างมากในช่วงเวลาที่กระโดดลงไปมันก็แค่เป็นช่วงเวลาที่รู้สึกวาบหวิวและทรมานในจิตใจก็เท่านั้น
   
        เหตุที่มิวส์ไม่สามารถหายตัวลงไปได้ก็เพราะ กฎของวิญญาณอาฆาตจะสามารถหายตัวได้เฉพาะในบริเวณที่ตัวเองเสียชีวิตก็เท่านั้น หากจะหายตัวนอกสถานที่ต้องมีการฝึกฝนอย่างหนัก ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องที่จะทำกันได้ง่าย ๆ

   ทันทีที่กระโดดไปถึงชั้นล่าง มิวส์ก็พยายามยั้งกายอย่างสุดทนก่อนจะวิ่งทะลุกำแพงฝ่าดงนักศึกษาออกไปให้ไวที่สุด เขาจะต้องไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีก้อง... เขาจะต้องไม่เอาเรื่องของก้องมาหลอกหลอนตัวเองจนขาดสติอีกครั้งเป็นอันเด็ดขาด

   “มิวส์... มิวส์! มิวส์!!” ก้องได้แต่ตะโกนเรียกจากดาดฟ้าก่อนจะมองตามจนร่างที่เรียกนั้นหายไปในกำแพง...

   “อาจารย์ก้องภพ...” ไม้เอ่ยชื่อของชายหนุ่มที่ปกติจะรักษาบุคลิกภาพให้ดูดีมาโดยตลอด แต่ในยามนี้กลับกำลังแสดงอาการร้อนรนพร้อมกับตะโกนชื่อของวิญญาณที่เขารู้จักเป็นอย่างดี

   ...ทำไมไม้ถึงไม่เคยเอะใจสักนิดนะว่าก้องที่มิวส์หมายถึงจะคืออาจารย์ของเขา...

   ก่อนที่อาจารย์ก้องภพจะวิ่งลงบันได ไม้รีบวิ่งตามไปพร้อมกับตะโกนให้หลังว่า...

   “อาจารย์ก้องภพ เดี๋ยวก่อน...” เหมือนว่าคำพูดของไม้จะเป็นเพียงลมเบา ๆ ที่ผ่านหูเท่านั้น เมื่อเห็นว่าอาจารย์ของเขาไม่สนใจ ประโยคถัดไปที่เอ่ยขึ้นจึงทำให้อาจารย์ของเขาชะงักกึก "อาจารย์ไม่ต้องตามมิวส์ไปหรอก... มิวส์ไม่พร้อมจะรับฟังอะไรกับอาจารย์ทั้งนั้น"

   “คุณรู้จักกับมิวส์ คุณมองเห็นมิวส์อย่างนั้นหรือ...” ก้องหันหน้าไปคุยกับลูกศิษย์ด้วยความฉับไว... เป็นปกติที่ก้องภพจะใช้สรรพนามเรียกตัวนักศึกษาว่า 'คุณ' และเรียกแทนตัวเองว่า 'ผม'

   ไม้แสยะยิ้มออกมาก่อนจะมองเรือนร่างของอาจารย์ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าด้วยความสมเพช... นี่น่ะหรือคืออาจารย์ที่เขาเคารพนับถืิอมาตลอดระยะเวลาที่ศึกษาอยู่ที่นี่ แท้จริงแล้วอาจารย์ท่านนี้ก็เป็นเพียงคนที่ไม่รักษาคำพูดกับคนรัก จนกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่กับครอบครัวของมิวส์

   “อาจารย์กลับไปเถอะ เดี๋ยวผมจะจัดการเรื่องของมิวส์ให้เอง...” ไม้เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ท่าทางที่เคยเคารพก็พลันหดหายไป เพราะในใจของไม้ในตอนนี้กำลังก่นด่าคนตรงหน้าด้วยความรังเกียจสุดฤทธิ์

   ก้องมองดูนาฬิกา พอเห็นว่าเย็นมากแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ "งั้นผมฝากคุณก่อนนะ ไว้คราวหลังถ้ามีโอกาสผมจะกลับมาคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว"

   หลังจากที่เห็นไม้พยักหน้ารับ ก้องภพก็เดินจากไป ทัั้ง ๆ ที่เขาอยากจะอยู่ที่นี่แต่เพราะภาระทางบ้านจึงทำให้เขาตัดสินใจจากไป... เพราะหลังจากที่เสียมิวส์ไป ก้องก็ได้ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองว่าจะดูแลภรรยาและลูกให้ดีที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์เดียวกับมิวส์ซ้ำสอง


   
   หลังจากที่อาจารย์ 'ก้องภพ' หรือ 'ก้อง' กลับไป ไม้ก็ตัดสินใจจะเดินตามหามิวส์ทั่วทั้งมหาวิทยาลัย แต่ยังเดินไปได้ไม่ถึงไหน เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็ทำให้ไม้ต้องกดรับเสียก่อน

   “มึงอยู่ไหน...” ทันทีที่กดรับ ผู้ที่โทรมาก็เอ่ยถามทันที เมื่อครู่ไม้บอกจะไปเข้าห้องน้ำแป๊บเดียวแต่นี่เล่นหายไปเป็นครึ่งชั่วโมงแล้วทิ้งให้แม็กกี้อยู่กับอาจารย์ตามลำพังในห้องพักอาจารย์

   “กู... เอ่อ... กู...” ไม้ตอบตะกุกตะกัก เพราะลืมไปเลยว่าต้องกลับไปหาแม็กกี้ และพอโทรมาแบบนี้ก็เลยหาเหตุผลมาแก้ตัวไม่ทัน "กูหิวข้าวน่ะ ก็เลยลงมาหาอะไรทาน จะซื้อขึ้นไปเผื่อมึงด้วย รออยู่นั่นแหละ...”

   “เออ" พูดจบก็วางสายทันที แต่ไหนแต่ไรมาไม้ไม่เคยเป็นแบบนี้สักครั้ง ไม้ไม่เคยทิ้งเขาไว้แบบนี้แล้วแอบไปซื้อกับข้าวโดยที่ไม่บอก หรือถ้าหิวมาก ๆ ไม้ก็จะบอกตรง ๆ แต่นี่อะไร จู่ ๆ เล่นหายตัวไปแบบนี้ หรือว่า...

   'มันแอบไปเจอใคร' คิดดังนั้น แม็กกี้ก็รีบลงจากอาคารเรียนก่อนจะตรงไปยังโรงอาหารทันที

   แต่ทว่าไม่ว่าจะมองหาที่ซอกไหนมุมไหนภายในโรงอาหารก็ไม่พบกับร่างของไม้เลยสักนิด ...แล้วถ้าหากสิ่งที่เขาคิดเป็นความจริงขึ้นมาคือไม้แอบไปหาใครจริง ๆ เขาก็ควรที่จะยอมรับความจริงใช่ไหม เพราะเงื่อนไขตอนที่ตกลงคบกันเป็นแฟนของไม้มันก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าถ้าหากไม้เจอคนที่รู้สึกดีด้วยจากใจจริง ...ไม้ก็จะจากไป

   พอคิดดังนั้น แม็กกี้ก็รู้สึกหวาบหวิวในใจแปลก ๆ แต่ก็พยายามข่มใจแล้วเดินต่อไปเรื่อย ๆ ตามโรงอาหารจนกระทั่งตามมุมต่าง ๆ ภายในมหาวิทยาลัย เมื่อไม่พบร่างของคนที่ตามหา เขาก็ตัดสินใจเดินกลับไปรอบนตึกคณะเงียบ ๆ

   เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมง นักศึกษาที่มารับน้องทั้งปีหนึ่งและปีสองทยอยกลับไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าไม้จะกลับมาแต่อย่างใด

   แม็กกี้หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก่อนจะกดเบอร์ที่เขาคุ้นเคยลงไป ...แต่เขาจะโทรไปหาไม่ทำไมล่ะ ก็ในเมื่อไม้บอกเองไม่ใช่เหรอว่าจะซื้อกับข้าวมาให้ คิดดังนั้น ก็ลบหมายเลขโทรศัพท์ทิ้งแล้วนั่งรออยู่เงียบ ๆ ต่อไป

   แม้จะไม่รู้ว่าสิ่งที่ไม้กำลังทำมันคืออะไรกันแน่ แต่การพยายามโกหกปลอบใจตัวเองเป็นเพียงวิธีเดียวที่ทำให้แม็กกี้พอที่จะยิ้มออก

   ...บางที ไม้อาจจะบินไปซื้อราเม็งที่ญี่ปุ่น บินไปซื้อพิซซ่าที่อิตาลี หรือบินไปซื้อน้ำหอมจากฝรั่งเศสแล้วกลับมาเซอร์ไพรซ์ก็ได้...

   แม็กกี้ยังคงนั่งรอต่ิไปเรื่อย ๆ แม้ในตอนนี้ว่าที่นักศึกษาชั้นปีที่ 1 จะกลับที่พักกันหมดแล้ว เหลือเพียงนักศึกษาชั้นปีที่ 2 บางส่วน รวมทั้งอาจารย์ที่เป็นเวรเฝ้ามหาวิทยาลัยที่ยังอยู่ในสถาบันแห่งนี้เท่านั้น จึงทำให้แม็กกี้ยังรู้สึกว่ายังมีคนอยู่เคียงข้าง... แม้ในใจจะกำลังรู้สึกว่าอ้างว้างและเหมือนจะโดนทอดทิ้งก็ตาม
   
   ทางด้านของไม้หลังจากที่มิวส์หายตัวไป เขาก็ออกตามหาทุกหนทุกแห่งภายในมหาวิทยาลัย เมื่อไม่พบ เขาก็ตัดสินใจกลับไปดูที่หอพัก โชคดีที่แบ่งกุญแจรถมอเตอร์ไซค์กับแม็กกี้เอาไว้คนละอัน เลยทำให้เขาแอบเอามอเตอร์ไซค์ไปขับได้ แต่ทว่าพอไปถึงหอพัก สอบถามกับท่านเจ้าที่ ก็ไม่ปรากฏว่ามิวส์จะกลับมาที่นี่แต่อย่างใด

   ไม้กลับไปที่มหาวิทยาลัยอีกครั้ง ไม่รู้ว่าตอนนี้หมอนั่นอยู่ที่ไหน ทั้งเดินทั้งวิ่งหาไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัยแล้วก็ไม่พบสักที ในใจก็นึกเป็นห่วงกลัวว่ามิวส์จะได้รับอันตราย จนกระทั่งพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าแล้วเวลาเลยผ่านไปจนถึงสองทุ่มกว่า เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นก็ทำให้ไม้หยิบมันขึ้นมาดู ก็ปรากฏว่าเป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย แม้ว่าจะไม่มั่นใจว่าเป็นใครแต่ในใจก็คิดถึงมิวส์เพียงคนเดียวเท่านั้น เขาจึงรีบกดรับสายทันที

   “สวัสดีครับ" ไม้เอ่ยขึ้นอย่างสุภาพเพื่อลองเชิงว่าเบอร์นี้เป็นเบอร์ของใคร

   “ผมอาจารย์ก้องภพนะ... คุณ ไม้ อัยยวัฒน์ ใช่ไหม" ปลายสายเอ่ยขึ้น

   “อ่อ... ใช่ครับ อาจารย์จะโทรมาถามเรื่องมิวส์ใช่ไหม ตอนนี้ผมยังหาเขาไม่เจอเลย แค่นี้นะครับ...” ไม้พูดขึ้น แต่่ก่อนที่จะได้กดตัดสาย เสียงที่ดังขึ้นจากปลายสายก็ทำให้เขาชะงัก

   “เดี๋ยว... ผมคิดว่าผมรู้ว่ามิวส์อยู่ที่ไหน"

   “อาจารย์รู้!?”

   “ใช่... ทุกครั้งที่ทะเลาะกันหรือมีปัญหาอะไรภายในมหาลัย ที่เดียวที่มิวส์มักจะหนีไปเก็บตัวก็คือชั้นใต้ดินของห้องสมุด"

   “แต่ห้องสมุดมันปิดนะอาจารย์! ผมจะเข้าไปได้ยังไง"

   “รอผมก่อนนะ เดี๋ยวผมกลับไปที่มหาลัย ถ้าถึงแล้วจะโทรไป"

   “ครับ"

   สิ้นเสียงก็กดตัดสาย พอจ้องมองดูเวลาที่นาฬิกาบนหน้าจอมือถือไม้ก็ต้องตกใจ อีกไม่กี่นาทีก็จะสามทุ่มแล้ว และที่สำคัญเขามัวแต่ตามหามิวส์จนลืมนึกไปเลยว่ายังมีคนสำคัญอีกคนที่รอเขาอยู่

   ไม้ตัดสินใจเดินกลับไปที่ตึกคณะและเดินขึ้นบันไดไปยังชั้นสี่ทันที โดยหวังว่าจะพบกับร่างของใครบางคนที่ยังนั่งอยู่ที่นั่น และเหมือนว่าความปราถนาของเขาจะเป็นผล เมื่อร่างน่ารัก ๆ ที่เขาคุ้นเคยยังคงนั่งอยู่บริเวณริมระเบียงหน้าห้องเรียนห้องหนึ่ง

   “แม็กกี้...” เสียงที่เอ่ยขึ้นทำให้เจ้าของชื่อหันหลังกลับมา

   แม็กกี้ไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงยิ้มให้ไม้ก่อนที่จะลุกแล้วเดินเข้าไปหา

   “มึง... กู...” ขอโทษ... ยังไม่ทันที่ไม้จะได้พูดอะไร อ้อมกอดที่โผเข้ามาก็ทำให้เขาต้องชะงัก แม็กกี้เกยหน้าไปที่หัวไหล่ของไม้ เขากำลังพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ไม่แสดงความกังวลจนกลายเป็นความอ่อนแอให้ไม้เห็น แต่เหมือนว่ายิ่งเขาพยายามจะห้ามความรู้สึกเหล่านั้น มันก็กลับยิ่งแสดงออกมาในทางตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง

   แม็กกี้กอดไม้โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังทั้งสั่นทั้งสะอึกสะอื้น เขาไม่ได้ต่อว่าไม้แต่อย่างใด เขายอมที่จะเก็บความสงสัยทุกอย่างไว้ในใจไม่พูดอะไรออกไปให้ไม้รำคาญ

   “กลับห้องกันเถอะ...” แม็กกี้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เป็นปกติ

   “คือกู...” แม้จะรู้สึกผิดต่อแม็กกี้มากแค่ไหน แต่เขาก็ทิ้งไอ้วิญญาณตัวยุ่งเอาไว้ที่นี่ไม่ได้หรอก "พอดีกูมีธุระกับอาจารย์ก้องภพ มึงกลับไปก่อนได้ไหม"

   “มึงกินไรยัง" แม็กกี้ไม่ได้ตอบรับ แต่เขาเลือกที่จะถามอีกคำถามออกไป

   “ยัง...” ไม้ส่ายหน้าเป็นคำตอบ "แล้วมึงล่ะ"

   ทั้ง ๆ ที่จำได้ว่าเป็นคนพูดเองแท้ ๆ ว่าจะซื้ออะไรมาฝาก แต่ทว่าเขาก็กลับมามือเปล่า

   “กินแล้ว" แม็กกี้ยิ้มให้ โดยที่ไม้หารู้ไม่ว่ามันไม่เป็นความจริงเลยสักนิด แต่ที่ต้องพูดออกไปแบบนั้นเพราะไม่อยากให้ไม้ไม่สบายใจ ถึงเมื่อก่อนจะเคยเอาแต่ใจอย่างไรแต่ในยามนี้แม็กกี้กลับไม่กล้าทำอะไรขัดใจไม้เลยสักนิด ...เพราะความกลัวว่าจะโดนทิ้ง เลยทำให้เขาเลือกที่จะเก็บความอัดอั้นทุกอย่างไว้แต่เพียงผู้เดียว

   “กูขอโทษ" ไม้เอ่ยขึ้น... ในใจของเขาในยามนี้รู้สึกสับสนมึนงงไปหมด ไม้รู้ความรู้สึกของตัวเองดีว่าเป็นห่วงมิวส์มากแค่ไหนที่มันหายตัวไปแบบนี้ และไม้ก็รู้สึกผิดที่ต้องปิดบังเรื่องราวทุกอย่างไม่ให้แม็กกี้รับรู้ "มึงกลับไปรอที่ห้องก่อนนะ ถ้าเสร็จธุระ เดี๋ยวกูจะรีบกลับไป นะ... ที่รัก...”

   “อือ...” แม็กกี้พยักหน้าตอบตกลงก่อนที่จะผละอ้อมกอดออก "อย่าลืมหาไรกินด้วยล่ะ"

   พูดจบก็เดินจากไปปล่อยให้คนที่ยังยืนอยู่มองตามหลังเท่านั้น... แต่ก่อนที่แม็กกี้จะลับสายตาไป สมองที่เพิ่งคิดได้ว่า 'ควรจะไปส่ง' ก็ทำให้ไม้ต้องเดินตามหลังก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า...

   “แม็กกี้ เดี๋ยวกูไปส่ง...”

   “ไม่เป็นไร... มึงอยู่ที่นี่รออาจารย์ก้องภพเถอะ เสร็จแล้วก็รีบกลับห้องล่ะ ถ้าไม่รู้ว่าจะกลับยังไงก็โทรเรียกให้กูออกมารับก็ได้นะ กูกลับเลยละกัน...”

   “แม็กกี้...” ไม้เอ่ยเรียกชื่อที่เดินจากไปเบา ๆ แม้จะอยากเดินตามร่างนั้นแล้วกลับไปที่ห้องด้วยกัน แต่เขาก็ทำไม่ได้จริง ๆ เพราะยังมีสิ่งที่สำคัญที่รอให้เขาตามหาอยู่ที่นี่



   หลังจากที่แม็กกี้กลับหอ ไม้ก็รออาจารย์ก้องภพอยู่ประมาณ 40 นาที ก่อนที่เบอร์โทรศัพท์ของคนที่เขารอจะโทรเข้ามา

   “ผมมาถึงแล้ว คุณเดินมาที่ห้องสมุดเลยนะ"

    “ครับ"

   พูดจบก็เดินไปที่ห้องสมุดทันที ไม่นานมากนักก็ไปถึง และก็ได้พบร่างของอาจารย์ก้องภพที่ยืนรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว    

   ก้องภพกำลังพยายามที่จะไขกุญแจเข้าห้องสมุด แต่ไขกี่รอบ ๆ กุญแจก็ไม่ยอมปลดล็อกสักที

   “เปิดไม่ได้" ก้องเอ่ยกับลูกศิษย์ และในขณะนั้นเสียงโทรศัพท์ของก้องก็ดังขึ้น

   “เดี๋ยวผมเปิดเอง"

   ก้องยื่นกุญแจให้ไม้ก่อนที่เขาจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย

   ไม้พยายามไล่กุญแจทุกดอกที่อยู่บนพวงกุญแจ แต่ไม่ว่าจะกี่ดอก ๆ ก็ไม่มีท่าทีที่กุญแจจะปลดล็อกสักที จนกระทั่งก้องคุยโทรศัพท์เสร็จ

   “ไม้... เราต้องกลับไปที่บ้านของคุณปริม คุณปริมหยิบพวงกุญแจให้ผิดดอก" ก้องเอ่ยขึ้น... คุณปริมที่ก้องภพเอ่ยขึ้นมา เธอเป็นหัวหน้าบรรณารักษ์ที่ดูแลห้องสมุดแห่งนี้ ซึ่งในช่วงรับน้องแบบนี้ ห้องสมุดจะปิดเพื่อไม่ให้นักศึกษาแอบไปใช้งาน และเธอก็ใช้เวลาว่างช่วงนี้กลับไปพักผ่อนที่บ้านในทุก ๆ ปี ซึ่งบ้านของเธออยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยกว่า 40 กิโลเมตร กว่าจะเดินทางไปกลับก็คงไม่ต่ำกว่า หนึ่งชั่วโมงแน่ ๆ

   “งั้นก็รีบไปกันเถอะอาจารย์" ไม้รีบเร่ง สีหน้าของเขาแสดงความกังวลอย่างเห็นได้ชัด กลัวว่าหากเลยเวลาเที่ยงคืนไปแล้วยังช่วยมิวส์ออกมาไม่ได้ มิวส์จะได้พบกับพวกวิญญาณชั่วร้ายตามที่ท่านเจ้าที่เคยขู่เอาไว้

   จากนั้นทั้งคู่ ก็ตัดสินใจเดินทางไปอย่างบ้านของคุณปริมด้วยความฉับไวด้วยรถเก๋งส่วนตัวของก้อง





จบตอน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-08-2013 15:56:10 โดย gugzabb »

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
คุยกับคนอ่านครับผม ^^  :3123:

คุณ @Lucifer_Prince@ :: ^^ น่ารักจัง ความเชื่อมั่น เชื่อใจกันนี่แหละครับ ชนะทุกสิ่ง แต่ความหวาดระแวงก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวเหลือเกินว่าจะทำให้ความรักไปกันไม่รอด
คุณ มยอนฮวา :: ^^ มิวส์กับก้องจะเป็นไงกันต่อไปต้องตามดูเรื่อยๆครับ แหะๆ
คุณ ชะรอยน้อย :: หายค้างได้แล้วน๊า ผมลงตอนใหม่แล้ว เย่ๆ ^^
คุณ mindmaru :: แฮ่ๆ เอาบทล่่าสุดมาเสิร์ฟให้หายค้างแล้วครับ
คุณ Chichi Yuki :: มาต่อแล้วครับ คิคิ ^^
คุณ EARTHYSS :) :: ต่อแล้วครับ ^^ แฮะๆๆ
คุณ iamnan :: มากๆเลยครับ 555 ออกมากจนน่าหมั่นไส้ T^T
คุณ mukmaoY :: ก้องงงง *0* มาแล้วไปแล้ว แล้วก็กลับมาอีกแล้ว
คุณ Lily teddy :: ช่วงนี้แม็กกี้น่าสงสารยิ่งตอนล่าสุดต้องแสร้งทำเป็นเงียบ ไม่รับรู้อะไรเลยครับ T^T แกล้งไม่รับรู้ ปิดตา ไม่รู้ไม่เห็น ไม่ถาม ทั้งๆที่ในใจมันอัดอั้น มันเป็นอาการที่ทรมานมากๆเลยเนอะครับ T^T
คุณ hello_lovestory :: ใช่ครับ มองเห็นได้ จะได้สนุกๆ ^^ คิคิ


แล้วเม้นท์ตอนใหม่ๆ ให้ด้วยนะครับทุกคน ^^ ขอบคุณคร้าบ  :L2:

ออฟไลน์ BBChin JungBB

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
สับสนตัวเอง ในใจก็อยากให้ไม้คู่มิว แต่อีกใจก็สงสารแม็กกี้ อารมณ์แม็กกี้แบบนี้ เสียวแทน มันคล้ายๆกับมิววันที่ตายเลย อยากรู้เหตุผลของก้องด้วย แต่คาดว่าคนแต่งคงยังไม่บอกเร็วๆนี้

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
เฮ้ยยยยนู๋มิวส์กลับห้องเถอะ มันอันตราย

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
Dead lover
«ตอบ #154 เมื่อ12-08-2013 17:44:46 »

หน่วงจังอ่ะคัฟ  สงสารแม็กกี้ก็สงสารนะ  แต่เเม็กกี้น่าจะบอกไม้บ้างว่าตัวเองรู้สึกยังไง  ถ้าคิดว่าตังเองสามารถที่จะเก็บความรู้สึกพวกนี้ได้  ก็อย่าให้มันระเบิดเหอะ  ระเบิดมาล่ะซวย  ไอ่คุณไม้ล่ะก็  บอกเรื่องมิวส์ให้แม็กกี้ฟังไม่ได้หรอ  กลัวอะไร  อยากรู้จังว่าก้องมีเหตุผลอะไรถึงเลิก  ค่อยๆเผยความลับออกทีละช่วงนะคัฟ  จะรอ  ขอบคุณคัฟคนเขียน ^^

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
สงสารมิวส์ แต่ก็เนอะ ก้องคงมีเหตุผลแหละ

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
อ่านตอนนี้แล้วเศร้าจัง ไม่รู้จะสงสารใครดีเพราะพอได้เจอกันอีกที มิวส์กับได้รู้ความจริงที่น่าเจ็บปวดยิ่งกว่า
จะโทษก้องทั้งหมดก็ไม่ได้เพราะเวลาตั้ง 10 ปี ยังไงก้องก็คงต้องเปลี่ยนไป
แต่ตอนที่รู้ว่าก้องมีลูกแล้วเนี่ย คนอ่านล่ะอึ้งเลยถึงจริง ๆ มันจะไม่ใช่เรื่องแปลกก็เถอะ
ส่วนแม็กกี้ก็น่าสงสารเก็บความคิดความกลัวไว้คนเดียวเพราะกลัวว่าจะต้องเสียไม้ไป
แต่แม็กกี้จะทนได้นานแค่ไหน ถ้าไม้ยังต้องสับสน วุ่นวายกับการช่วยวิณญาณของมิวส์ต่อไปแบบนี้
ถึงไม้จะทำไปเพราะความสงสาร หรืออะไรก็แล้วแต่ ยังไงมันก็ทำให้แม็กกี้เจ็บปวดโดยที่ไม้ยังไม่รู้ตัวเลยมั่งนั่น
ก็ขอให้ไม้อย่าเป็นเหมือนก้องที่เป็นคนไม่รักษาคำพูดกับคนรักจนทำให้แม็กกี้ต้องเป็นเหมือนมิวส์ล่ะกัน
แต่เท่าที่อ่านตอนนี้เหมือนไม้ก็กำลังทำแบบนั้นกับแม็กกี้แล้วล่ะ ฮือ :monkeysad: อ่านตอนนี้แล้วมันจิ๊ดได้ทั้งตอนเลยอะ
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้กันเหมือนเดิมค่ะ  :mew1:
ปล. ชอบกฎของวิญญาณอาฆาตจังค่ะ ที่ว่าสามารถหายตัวได้เฉพาะในบริเวณที่ตัวเองเสียชีวิต
ไม่งั้นก็ต้องมีการฝึกฝนอย่างหนักเนี่ย อันนี้ผู้เขียนคิดเองหรือมีข้อมูลจากไหนเหรอคะ :pig4:

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
สงสารแม็กกี้
มิวส์รีบกลับห้องเถอะ เดี๋ยวจะเป็นอันตรายเอานะ
มันหน่วง สงสารแล้วก็สงสัย
อยากให้ตอนจบไม้กับแม็กกี้คู่กันเหมือนเดิม ส่วนก้องในเมื่อมีครอบครัวแล้วก็ปล่อยไป สุดท้ายมิวส์ก็อยากให้ไปสู่สุขติ
อยากให้ไม้กับแม็กกี้หาทางล้างคำสาปของที่ที่กังขังมิวส์ไว้เพื่อให้มิวส์ไปสู่สุขติ

ปล.อยากให้เรื่องนี้แต่งจนจบจัง ขอร้องคนแต่งอย่าดองนะคะ TT^TT

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ก้องมีลูกมีเมียแล้วอ่ะ :mew6:

เอาใจช่วยผีขี้งอนนะจ๊ะ5555(หัวเราะทำไม) :mew5:

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
เหตุผลของก้องคืออะไรนะ...ทั้งอยากรู้และไม่อยากรู้ ความโกรธคงไม่น้อยลงแต่อาจทำให้เข้าใจมากขึ้น
อยากให้มิวส์ได้ไปเกิดซักที จะมีวิธีไหนที่ไม่ต้องใช้ตัวตายตัวแทนมั้ยนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






NJnobu

  • บุคคลทั่วไป
; สงสารมิวส์สุดใจเลย :o12: :o12: :o12:

ออฟไลน์ indy❣zaka

  • กระซิกๆ เบื่อดราม่า...
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +625/-26
สงสัยว่าตอนมิวตาย  ครอบครัวมิวไม่มาเชิญดวงวิญญาณกลับบ้านเลยหรอคะ  ปกติเขามักจะมีพิธีอะไรแบบนี้กันนะคะ

ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
โธ่ พี่มิวส์ของเค้า จะเป็นไรไหมนะ หวังว่าคงไม่โดนพวกผีเจ้าถิ่นกร่างใส่น๊า

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
อ๊ากกกกกกก สงสารนู๋มิวส์
อิตาก้องน่าโดนโบกยิ่งนัก

ออฟไลน์ `ลoงสิจ๊ะ™

  • รักคือรัก จะให้หักห้ามใจนั้นยาก
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ณ ตอนนี้สงสารแม็กกี้จัง รอคนที่ลืมเราไปแล้ว TT TT
ส่วนมิวส์อยู่ไหน จะเป็นอันตรายหรือเปล่าเนี่ย
ตกลงตูจะอยู่ข้างใครดีเนี๊ย ผี หรือ คน งง ตัวเอง ฮ่าๆ

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
ตอนที่ 18   :ling2:



           บนท้องถนนยามค่ำคืน พอผ่านพ้นเขตเมืองไป สองข้างทางก็มีแต่ความมืดกับป่าเขาลำเนาไพร นอกจากไฟที่ส่องสว่างจากตัวรถที่วิ่งสวนมา ก็ไม่มีแสงไฟจากแหล่งอื่นอีกเลย

   “คุณรู้จักกับมิวส์ได้ยังไง" ในขณะที่อยู่บนรถ ก้องก็เอ่ยถามเพื่อทำลายความเงียบ

   “มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ" คำตอบของไม้ทำให้คนฟังแทบสะอึก

   “แล้วคุณรู้เรื่องผมกับมิวส์... แล้วใช่ไหม” คำถามที่ถูกเอ่ยออกไปเป็นสิ่งที่คนถามกลัวที่จะได้รับฟังคำตอบมากที่สุด เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะมองมุมไหนเขาก็ผิดเต็ม ๆ และถ้าลูกศิษย์คนนี้รู้ ก็เท่ากับว่าไม้รู้ความลับของเขาทั้งหมด และเขาก็จะต้องกลายเป็นผู้ร้ายในสายตาของลูกศิษย์คนนี้แน่นอน

   “อาจารย์ขับรถต่อไปเถอะ อย่าถามอะไรมากเลย" ไม้ตอบด้วยน้ำเสียงที่ไร้เยื้อใย แม้ทั้งสองจะมีความรู้สึกเดียวกันคือเป็นห่วงมิวส์ แต่ทว่าความเป็นห่วงนั้นไม่ได้ทำให้พวกเขาสามัคคีกันเลยสักนิด

   “สีหน้าคุณดูกังวลไปนะ มีอะไรหรือเปล่า" ก้องเอ่ยถาม เพราะถ้าไม้กับมิวส์เป็นแค่เพื่อนกันธรรมดา ไม่น่าจะมีเหตุผลใด ๆ ที่ไม้จะดูเป็นห่วงมิวส์ขนาดนี้ "บอกผมเถอะ...”

   ตอนแรกไม้กะจะไม่บอกเรื่องประตูปรโลกจะเปิดตอนเวลาเที่ยงคืน แต่ทางที่ดีบอกไว้ก็ไม่เสียหาย ถ้าเกิดอะไรไม่ดีขึ้นกับเขาหรือมิวส์ อย่างน้อยอาจารย์คนนี้ก็น่าจะช่วยเหลือมิวส์ได้บ้าง

   “หากถึงเวลาเที่ยงคืนประตูปรโลกจะเปิด และเหล่าภูตผีวิญญาณที่ออกมาจากประตูนั้นจะทำร้ายมิวส์" ไม้เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น เมื่อเห็นว่าอาจารย์ของเขากำลังจะถามอะไรต่อ เขาจึงรีบเอ่ยขัด "อาจารย์อย่าถามอะไรมากเลย รีบขับรถไปที่บ้านคุณปริมเถอะ เดี๋ยวจะไม่ทันการ"

   “ครับ" ก้องตอบอย่างสุภาพ "แต่ผมขอเล่าประวัติเกี่ยวกับห้องสมุดให้คุณฟังก่อนนะ เรื่องมันมีอยู่ว่า...”





   เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ตอนที่มหาวิทยาลัยได้สร้างห้องสมุดหลังใหม่ ในตอนนั้นตรงกับช่วงรับน้องของมหาวิทยาลัยพอดี มีกลุ่มเพื่อนสนิทกลุ่มหนึ่งจำนวน 4 คนซึ่งในตอนนั้นเป็นรุ่นพี่ชั้นปีที่ 2 ได้แอบเข้าไปในห้องสมุดทั้ง ๆ ที่มีป้าย 'ห้ามเข้า' โชว์หราอยู่หน้าประตู เนื่องจากว่าห้องสมุดยังตกแต่งภายในไม่เสร็จสมบูรณ์

   “เฮ้ยพวกแก... แยกกันสำรวจดีไหมว่าหนังสือภาษาศาสตร์อยู่ชั้นไหน...” นักเรียนหญิงคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เพราะพวกเขาทั้งสี่ติด F ในวิชาภาษาศาสตร์ ซึ่งเป็นวิชาพื้นฐานของการเรียนภาษาไทยแบบเจาะลึก จึงต้องลงเรียนแก้ F ในช่วงฤดูร้อน และพวกเขาก็ได้ขออนุญาตเพื่อน ๆ แยกจากการรับน้องเพื่อจะมาหาหนังสือเตรียมทำรายงานส่งอาจารย์แล้ว

   “เออ... ก็ดีเหมือนกัน" หญิงสาวอีกคนเห็นด้วย "อีกประมาณครึ่งชั่วโมงค่อยกลับมาเจอกันที่หน้าประตูนะ ตกลงไหม"

   สิ้นเสียงของเธอ เพื่อนสาวทุกคนก็พยักหน้ารับ หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันไปตามชั้นที่ตกลงนัดแนะไว้...

   เริ่มจากชั้นใต้ดิน... ชั้นนี้เป็นชั้นที่ไม่มีหน้าต่าง ความอับชื้นจากการที่เพิ่งทาสีเสร็จใหม่ ๆ และกลิ่นอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เพิ่งจัดวางทำให้ชั้นหนังสือชั้นนี้มีบรรยากาศที่หน้าสะเอียดสะเอียนที่สุด

   เธอกวาดสายตามองหาหนังสือตามชั้นต่าง ๆ แต่ก็ไม่พบ ไฟที่สว่างไสวก็เริ่มติด ๆ ดับ ๆ จนเธอรู้สึกว่าบรรยากาศชักจะทะแม่ง ๆ จึงตัดสินใจที่จะเดินขึ้นไปยังชั้นหนึ่ง แต่ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะก้าวขาออกจากช่องตู้หนังสือ สายลมอ่อน ๆ ที่พัดหวิวมากระทบกับร่างของเธอก็ทำให้เธอตัวแข็งทื่อเพราะไม่รู้ว่ามันพัดมาจากทิศทางไหน เนื่องจากชั้นนี้เป็นชั้นปิดตาย อากาศที่หายใจถ้าไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว

   เธอตัดสินใจจะก้าวขาเดินต่อไป แต่ก็เหมือนกับว่ามีอะไรจับร่างของเธอเอาไว้ทำให้เธอไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้สักที ดังนั้นเธอจึงสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะค่อย ๆ หันไปมองด้านหลังว่ามีอะไรจับร่างของเธอไว้หรือเปล่า

   ไม่มีใครรู้ว่าเธอเห็นอะไรกันแน่ แต่เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นทำให้เธอเป็นลมหมดสติไปในที่สุด...

   เสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่อยู่ชั้นใต้ดินที่ดังขึ้น ไปกระทบกับโสตประสาทของหญิงสาวที่กำลังหาหนังสืออยู่ที่ชั้นหนึ่ง นั่นจึงทำให้เธอรีบวิ่งลงบันไดไปดูเพื่อนของเธอด้วยความเป็นห่วงทันที

   แต่ทว่าความไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรองเท้าส้นสูงที่เธอสวมใส่ดันทำร้ายเธอทำให้เธอขาพลิกและดิ่งลงบันไดผิดท่าตั้งแต่ที่อยู่ชั้นบนสุด แรงกระแทกในแต่ละชั้นจนกระทั่งไปถึงชั้นล่างสุดส่งผลให้เธอคอหักและสิ้นลมหายใจในทันที มิหนำซ้ำดวงตาของเธอยังเบิกโพลงเห็นตาขาวชัดเจนราวกับว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะมาตายที่นี่

   เสียงขลุกขลิก ๆ เหมือนกับของตกทำให้เพื่อนที่อยู่ชั้นสองวิ่งลงมาดูว่าเกิดอะไรขึ้น เธอตะโกนเรียกชื่อของเพื่อนสาวที่อยู่ชั้นหนึ่งแต่พอไม่ได้ยินเสียงตอบรับก็เลยตัดสินใจลงไปตามหาเพื่อนอีกคนที่ชั้นใต้ดิน และภาพที่ปรากฏก็ทำให้เธอถึงกับอ้าปากตะลึงอึ้งค้าง

   ภาพของหญิงสาวเพื่อนสนิทที่นอนตาเหลือกโพลงอยู่บันไดชั้นล่าง กับภาพของหญิงสาวอีกคนที่นอนตาเหลือกไม่ต่างกันกำลังดิ้นขยุกขยิกอยู่บริเวณชั้นหนังสือกลางห้องใต้ดินทำให้เธอสติแทบแตก

   “อย่า... เพิ่งไป มะ... มาช่วยฉันด้วย" หญิงสาวที่เป็นลมหมดสติไปในตอนแรกเอ่ยขึ้น น้ำเสียงของเธอแสดงถึงความหวาดผวาอะไรบางอย่างได้อย่างชัดเจน เมื่อเห็นเพื่อนสาวที่วิ่งลงมา เธอก็พยายามส่งเสียงร้องเรียก แต่เสียงนั้นกลับทำให้เพื่อนสาวเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเสียงของวิญญาณร้าย เธอจึงตัดสินใจจะวิ่งกลับขึ้นไปด้านบน แต่ทว่าเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นซ้ำสอง...

   ราวกับว่ามีมัจจุราชที่ยืนรออยู่บันไดชั้นบนสุด เมื่อเธอวิ่งไปถึงขั้นบนสุด ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างผลักให้เธอหงายหลังตกบันได ไม่มีใครรู้ว่าเธอโดนผลักได้อย่างไร เพราะหลังจากที่ร่างของเธอตกลงไป ชะตากรรมของเธอก็ไม่ต่างจากเพื่อนอีกคนที่สิ้นลมหายใจก่อนหน้านี้...

   เวลาผ่านไปหลายชั่วโมง พวกเพื่อน ๆ ที่ทำการรับน้องเห็นว่าเพื่อนของพวกเขาทั้งสี่คนยังไม่กลับมาสักที โทรตามก็ไม่มีใครรับสาย จึงมีบางส่วนที่ตัดสินใจไปตามหาในห้องสมุด และทันทีที่กลุ่มเพื่อนผู้หวังดีเดินเข้าไปภายในห้องสมุด ภาพที่พวกเขาได้เห็นทั้งหมดก็ทำให้ทุกคนต่างก็รู้สึกสลดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

   หญิงสาวคนแรกที่ถูกพบอยู่บนชั้น 3 เธอโดนชั้นหนังสือล้มเรียงเป็นโดมิโน่และทับจนร่างติดแหง็ก สันของชั้นวางหนังสือที่มีความสูงกว่าสามเมตรพร้อมกับหนังสือหลายพันเล่มกระแทกเข้าที่บริเวณต้นคอของเธอ ไม่มีใครรู้ว่าเธอหมดสิ้นลมหายใจเพราะอะไรกันแน่ เพราะดูเหมือนว่าการที่ชั้นหนังสือทับร่างของเธอจะยังไม่หนำใจมัจจุราช เมื่อแท่งเหล็กบางอย่างซึ่งผู้พบเห็นสันนิษฐานเอาว่าน่าจะหลนลงมาจากบนชั้นหนังสือ ได้ตกลงมาเสียบเข้าที่เบ้าตาของเธอจนเกือบทะลุ นั่นเป็นภาพที่ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกสะเอียดสะเอียนที่สุด

   ส่วนหญิงสาวอีกสามรายถูกพบที่ชั้นใต้ดิน มีสองรายที่ตกบันไดคอหักจนเสียชีวิต และอีกหนึ่งรายที่รอดพ้นจากความตาย แต่ทว่าสภาพของเธอก็ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น เพราะการเสียชีวิตของเพื่อนสองคนตรงหน้าเธอทำให้เธอขาดสติจนฟั่นเฟือง มิหนำซ้ำยังเป็นไบ้ไม่ยอมพูดอะไรออกมาสักคำ

   และหลังจากนั้น ตำนานอาถรรพ์ภายในห้องสมุดก็เกิดขึ้นเรื่อยมา เพราะมีนักศึกษาที่อยู่ในห้องสมุดหลัง 5 โมงเย็นเพียงคนเดียวในชั้นใต้ดินและชั้นสามมักเจอเรื่องราวประหลาด ๆ เป็นประจำ...





   สิ่งที่อาจารย์ก้องภพเล่ามาทั้งหมดนั้นไม่ได้ทำให้ไม้รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด แต่มันเป็นความสะเทือนใจมากกว่า... และถ้าหากสามคนเสียชีวิตอีกหนึ่งคนเป็นบ้า แล้วใครจะเป็นคนเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ล่ะ นั่นคือความสงสัยของไม้ เพราะทุกคนต่างก็เห็นสภาพของพวกเขาหลังจากที่เกิดเรื่องทั้งนั้น

   “อะไรคือหลักฐานยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง" ไม้เอ่ยถาม

   “กล้องวงจรปิด ปกติกล้องวงจรปิดจะเปิดใช้การแค่เวลาทำการห้องสมุดเท่านั้น แต่ในช่วงนั้นทางมหาลัยได้เปิดกล้องวงจรปิดเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อเป็นการทดสอบระบบ" คำตอบของก้องทำให้ไม้ถึงกับสะอึกทันที ถ้ามีหลักฐานเป็นภาพเคลื่อนไหวขนาดนี้ก็คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธความจริงของอาถรรพ์เหล่านี้หรอก "แม้สมัยก่อนภาพจะยังไม่คมชัดแถมยังเป็นภาพขาวดำ แต่ภาพของหญิงสาวที่โดนชั้นหนังสือทับและแท่งเหล็กเสียบเข้าที่เบ้าตากับหญิงสาวที่ตกบันได รวมถึงหญิงสาวที่มีท่าทางราวกับว่าเจออะไรบางอย่างที่มองไม่เห็น มันถูกบันทึกไว้ในกล้องวงจรปิดทั้งหมด"

   “แล้วหลังจากนั้นนอกจากเหตุการณ์ประหลาด ๆ ที่เกิดขึ้นกับนักศึกษาที่เข้าห้องสมุดในชั้นที่เกิดเรื่องหลังห้าโมงเย็นเพียงคนเดียว ยังมีเหตุการณ์อะไรอีกไหมครับ"

   “มีนักศึกษาเสียชีวิตปีเว้นปีในห้องสมุดที่ชั้นใต้ดิน หรือไม่ก็ชั้นสามสลับกันไป" ก้องตอบออกมา "อ้อ... อีกย่าง นักศึกษาที่ตกบันไดตายคนแรกเจ้าหน้าที่มาสืบทราบทีหลังว่าเธอกำลังตั้งครรภ์อ่อน ๆ ด้วย"

   “ตายทั้งกลม!?” ไม้ทวนคำด้วยความตกใจ เพราะจากที่โบร่ำโบราณเล่ามา การตายทั้งกลมมันเป็นการตายที่อาถรรพ์มาก ๆ

   “ก็ไม่รู้จะเรียกว่ากลมหรือเปล่านะครับ เพราะเธอเพิ่งตั้งครรภ์อ่อน ๆ" ก้องเอ่ยขัด “แล้วถ้าสิ่งที่คุณบอกผม คือประตูปรโลกจะเปิดหลังเที่ยงคืนจริง แล้วถ้าเราไปไม่ทัน อน่างนั้นก็แสดงว่า...”

   “มิวส์!!!” ทั้งคู่เอ่ยขึ้นด้วยความตกใจ เพราะไม่รู้ว่าวิญญาณติดที่ที่ยังคุมสติได้อย่างมิวส์จะต้องเจอกับอะไรบ้าง

   ก้องที่ขับรถด้วยความเร็วที่ประคองความปลอดภัยได้มาตลอดทางเริ่มออกแรงเหยียบคันเร่งให้แรงขึ้น มันพุ่งเร็วจนหากมีอะไรตัดหน้าหรือมีจักรยานที่ถีบโซซัดโซซาเข้ามากลางถนนอาจทำให้ก้องไม่สามารถหลบได้ทันเลยล่ะ

   โชคดีที่ตลอดเส้นทางไม่ค่อยมีผู้คนสัญจรจึงทำให้การเดินทางไปบ้านคุณปริมซึ่งอยู่ห่างไกลจากมหาวิทยาลัยถึง 40 กิโลเมตรไม่มีปัญหาอะไร และท้ายที่สุดก็ได้กุญแจห้องสมุดมา

   ก้องขับรถกลับไปยังมหาวิทยาลัยด้วยความไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะตอนนี้ก็เป็นเวลา 22.10 น. แล้ว อ้างอิงจากนาฬิกาบนรถ ซึ่งเพียง 40 กิโลเมตรยังไงก็ทันเที่ยงคืนแน่นอน แต่ทว่าที่จะไปไม่ทันก็เพราะดันมีปัญหาเกิดขึ้นระหว่างทางเสียก่อน

   รถเก๋งที่ก้องขับมาด้วยดีตลอดเริ่มมีอาการส่ายไปส่ายมา พอเห็นว่าท่าไม่ดีก้องเลยตัดสินใจจอดลงไปดูก็พบว่าล้อรถด้านหน้าฝั่งขวาที่ไม่รู้ไปเหยียบอะไรมากำลังแฟบลงเรื่อย ๆ ถ้าจะให้ฝืนสังขารขับต่อไปก็ดูว่าท่าจะไม่ดีแน่นอน

   “อีกประมาณสองกิโลเมตร เดินไหวไหมครับ" ก้องเอ่ยถามลูกศิษย์ที่เดินลงมาดูสภาพของล้อรถตามเขา

   “ไม่" ไม้ส่ายหน้าเป็นคำตอบ "วิ่งเลยดีกว่า ให้เดินผมคงรอไม่ไหวหรอก"

   “ป่ะ" ก้องเอ่ยขึ้นพลางพยักหน้ารับให้กับความเห็นที่เข้าท่า จากนั้นคนทั้งคู่ก็วิ่งตรงไปยังมหาวิทยาลัยทันทีโดยที่ไม่สนรถเก๋งที่จอดทิ้งไว้ข้างถนนเลยสักนิด เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าตอนนี้ก็คือร่างวิญญาณของมิวส์

   เนื่องจากเวลานี้ก็ดึกมากแล้ว การเดินทางโดยเท้าจากริมถนนไปยังมหาวิทยาลัยจึงค่อนข้างทุลักทุเลอยู่พอสมควร ทั้งไม้และก้องต่างพลิกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูหลายต่อหลายครั้งด้วยความรีบร้อน ซึ่งตอนนี้ก็เป็นเวลา 5 ทุ่มแล้ว เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นก็จะถึงเวลาที่ประตูปรโลกจะเปิดตามที่ท่านเจ้าที่สั่ง

   พอไปถึงหน้ามหาวิทยาลัย ยามที่เฝ้าประตูก็ดันดักทางไม่ให้ร่างของคนทั้งคู่เข้าไปข้างในได้

   “ผมมีธุระ ต้องรีบเข้าไปข้างใน" พูดจบ ก็ยกกระเป๋าซึ่งเป็นบัตรยืนยันว่าเขาเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ "ผมอาจารย์ก้องภพ เกียรติขจร อาจารย์คณะศิลปศาสตร์สาขาวิชาภาษาอังกฤษ"

   “เชิญครับ" เมื่อยามเห็นว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นอาจารย์ ยามก็เปิดทางให้ แต่ทว่าเหมือนว่าเขาจะยอมให้ก้องเข้าไปเพียงคนเดียวเท่านั้น

   “นั่นลูกศิษย์ผม" ก้องเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่ายามกำลังทำตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด "ให้เขาเข้ามาเถอะ"

   พูดจบยามจึงยอมเปิดทางให้โดยที่ไม้ได้แต่มองยามหนุ่มนายนั้นด้วยสายตาที่เชือดเฉือน เนื่องจากเขาไม่เคยมามหาวิทยาลัยตอน 5 ทุ่มเลยสักครั้งจึงทำให้เขาไม่สนิทกับยามที่เฝ้าเวรในกะนี้

   หลังจากที่ฝ่าด่านของยามมาได้ ทั้งไม้และก้องต่างก็วิ่งตรงไปยังห้องสมุดด้วยความเร่งรีบ บัดนี้สีหน้าของคนทั้งคู่แสดงอาการเหนื่อยหอบอย่างเห็นได้ชัด แม้นี่จะเป็นเวลากลางคืน แต่เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาท่วมตัวก็ทำให้รู้ว่าพวกเขาต่างก็เหนื่อยกับการวิ่งระยะไกลแค่ไหน








จบตอน
         
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2013 20:48:43 โดย gugzabb »

ออฟไลน์ Mr.กุ๊กกู๋

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 233
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-0
    • แฟนเพจ
คุยกับคนอ่าน

คุณ BBChin JungBB :: ครับ T^T ยังไม่บอก อุบไว้ก่อน แฮ่ๆ
คุณ iamnan :: T^T ยังหามิวส์ไม่เจอเลยคร้าบ เอาใจช่วยด้วยเด้อ
คุณ @Lucifer_Prince@ :: ^^ ขอบคุณครับ รอต่อไปเรื่อยๆเด้อ ^^ ส่วนเรื่องแม็กกี้นั่น 555 เหมือนคนเขียนอ่ะครับ ชอบเก็บๆไว้เยอะๆ - - ไว้ระเบิดตูมเดียว ซึ่งนิสัยแบบนี้น่ากลัวมากๆ T^T
คุณ sang som :: ครับ ก้องมีเหตุผลแน่นอน แต่เหตุผลอะไรหนอ ดีไม่ดียังไงลุ้นๆกันครับ
คุณ Lily teddy :: ครับ ไอ้เรื่องกฏนี่ คิดเองครับ 555 ไม่รู้ว่าที่อื่นเป็นไง แต่ถ้าให้หายตัวไปไหนมาไหนก็ได้หลังจากที่ออกมาจากพื้นที่ได้ ถ้าให้หายตัวได้รู้สึกมันจะเป็นอิสระเกินไป เลยจำกัดไว้ดีก่า ^^
คุณ Chichi Yuki :: ^^ ขอบคุณนะครับ เรื่องนี้แต่งจบแน่นอน แต่จะเมื่อไหร่นั่นก็ฝากติดตามเรื่อยๆนะครับ
คุณ mukmaoY :: 555 เอาใจช่วยคนเขียนด้วยน๊า  :mew1:
คุณ SuSaya :: มีวิธีไหน อันนี้ต้องติดตามต่อไปเรื่อยๆจ้าว่ามีหรือไม่มี และตอนจบจะเป็นยังไง ^^ ขอบคุณนะครับที่แวะมาอ่านและเม้นท์ให้เค้า
คุณ NJnobu ::  :mew2: เป็นกำลังใจใจให้มิวส์ด้วยน๊า
คุณ indy❣zaka :: เรื่องเชิญดวงวิญญาณ อะไรยังไงนั่น ตอบด้วยความสัตย์จริงเลยครับว่าตอนแต่งไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ แต่ในเมื่อไม่ได้เอ่ยถึงแล้ว และมิวส์เป็นวิญญาณอาฆาตติดที่ก็น่าจะทำให้คิดได้ว่า ต่อให้เชิญยังไง แต่การตายของมิวส์ก็ไม่น่าทำให้หลุดพ้นจากกรรมที่ต้องติดอยู่ตรงนั้น น่าจะได้อยู่เนอะครับ หรือมีความคิดเห็นว่าไง ลองส่งข้อความลับมาแนะนำได้นะครับ
คุณ hello_lovestory :: โดนกร่างไม่กร่าง ต้องอ่านตอนล่าสุดครับ ตำนานอาถรรพ์ห้องสมุด ว่าที่มีของอาถรรพ์น่ากลัวหรือเปล่า แฮ่ๆๆๆๆ
คุณ mentholss :: โบกเลยๆๆ ผมเชียร์อยู่
คุณ มยอนฮวา :: 555ไม่แปลกครับทั้งสงสารแม็กกี้และห่วงมิวส์ T^T




ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
แหม ก้องยังรักมิวส์อยู่ล่ะซิ ส่วนไม้หรือจะรักแต่ยังไม่รู้ตัวซินะ อะไรก็มิวส์ตลอด ดีให้แม็กกี้ตกกระป๋องไปเลยยยย

(เอ่อ ฉันดูโหดร้ายไปป่าวเนี่ย ขออภัยแม่ยกแม็กกี้ทุกคนนะคะ)

@Lucifer_Prince@

  • บุคคลทั่วไป
รอต่อไปเรื่อยๆอยู่แล้วคนเขียน  เฮ้ย!!!  มิวส์จะเป็นอะไรมั๊ยนั่น  ก้องคิดอะไรของก้องอยู่ยังรักมิวส์อยู่หรือว่าต้องการจะแก้ตัวในความผิดของตัวเองกัน  ยังอยากรู้ความในใจของก้องนะ  ไม้ก็คิดอะไรของไม้อยู่เหมือนกัน  หวังว่าคนเขียนจะทำให้ตอนจบของเรื่องแฮปปี้นะ  ไม่งั้นจะทิ้งระเบิดลงบ้านคนเขียน[ฮิฮิ  ล้อเล่นนะ]  ขอบคุณคนเขียนคัฟ  ^^ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-08-2013 17:54:20 โดย @Lucifer_Prince@ »

ice_spok

  • บุคคลทั่วไป
ลุ้นอ่ะ ๆ ต่อเถอะ ค้างฮะ

มิวส์!!!

จ๊วฟฟฟฟ คนแต่งฮะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






NJnobu

  • บุคคลทั่วไป
; เชียร์ มิวส์ กับ ไม้ นะ  :hao3: :hao3:

แต่เค้าก็สงสารแม็กกี้ อ่ะ :mew2: :mew2:  ( เอ๊ะ ยังงัยเนี่ยเรา ! )

ค้าง ๆ ๆ มาต่อเร็วๆน้า

+ ให้กำลังใจคนเขียนคราบผม  :L2: :L2:

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
สงสารแม๊กกี้มากอ่ะ ถ้าไม้ไม่รักแม๊กกี้ ก็บอกเลิกไปเลยเหอะ น่าสงสารมาก

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
น่าจะออกมาไม่ทัน...ไหนจะตามหา(มิวไม่ยอมโผล่มาเจอง่ายๆแน่)
ไหนจะทะเลาะกันต่อ(หรือจะเคลียร์กับก้อง) น่าเป็นห่วงจริงๆ :katai1:

ออฟไลน์ hello_lovestory

  • >>I'm C-Z@<<
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 881
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-0
ขอให้ทันๆ พี่มิวส์ของเค้าอย่าเพิ่งเป็นไรนะ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
จะเปนไงต่อเนี่ย ทันไม๊

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
ตามจริงในเมื่อมีโอกาสได้อยู่ด้วยกันสองคนแล้ว ไม้น่าจะลองคุยกะก้องไปเลยว่าเรื่องทุกอย่างมันเป็นยังไง
หรือเกิดเรื่องอะไรต่าง ๆ ขึ้นบ้างในช่วงที่มิวส์เป็นวิญญาณติดที่ไปแล้ว เผื่อไม้กะก้องจะได้เข้าใจกันมากขึ้น
ดีกว่าให้ไม้คิดเองเออเอง แล้วก็พาลโกรธและก็เกิดอคติขึ้นกับอาจารย์ของตัวเองแบบนี้
น่าเห็นใจก้องเหมือนกันทั้งมิวส์ทั้งไม้ไม่ให้โอกาสก้องได้อธิบายอะไรบ้างเลย (จริง ๆ คือผู้เขียนยังไม่ยอมบอกสินะ)
ตอนนี้ 2 หนุ่มก็ยังไม่ได้เจอมิวส์ แล้วหนทางในการเปิดห้องสมุดก็ดูมีแต่ปัญหาจริง ๆ
นี่ถ้าเปิดมาแล้วมิวส์ไม่ได้อยู่ในห้องสมุดคงฮาเลย  :laugh: แต่คิดว่าผู้เขียนคงให้อยู่แหละ
เพราะไม้กับก้องทุ่มเทกะการหากุญแจห้องสมุดซะขนาดนั้น 555
แล้วประวัติของห้องสมุดทำไมมันน่ากลัวจัง ถ้าเป็นเราไม่กล้าเหยียบเข้าไปเลยแหละ
ก็ขอให้สามารถช่วยมิวส์ออกมาจากห้องสมุดได้โดยปลอดภัย เพราะไม้ยังมีแม็กกี้ที่ยังรอไม้อยู่อีกคนนะ
ยังคงเชียร์ให้แม็กกี้คู่กะไม้ต่อไป เพราะแม็กกี้ไม่ได้ทำผิดอะไรซะหน่อยไม่สมควรที่จะเป็นคนที่ต้องผิดหวังนะ
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้กันเหมือนเดิมค๊า   :pig4: :mew1:
ปล.ผู้เขียน เขียนเรื่องได้น่ากลัวมากเลย ตั้งแต่ตอนมิวส์หลอกแม็กกี้ในคืนแรกที่เข้าหอล่ะ
อ่านไปขนลุกไปเลยอะ แล้วเรื่องเด็กผู้หญิงที่ตายในห้องสมุดอีก น่ากลัวจัง  o13 (หรือคนอ่านกลัวผีมากด้วยก็ไม่รู้)  :pigha2:


ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
ย๊ากกกกค้างงงงงง
คนแต่งใจร้ายยยย

ออฟไลน์ Fujoshi

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-2
ทำไมรู้สึกหมั่นไส้มิวส์กับไม้นะ :m16:

แม็กกี้ ไปหาแฟนใหม่เลยนะ ทิ้งไม้ไปเหอะ
โอ๊ยยยย อ่านแล้วโกรธแทนแม็กกี้จริงๆ :m31:

arthit170530

  • บุคคลทั่วไป
โอ้ยๆ ค้างอ่ะ
มาต่อเร็วนะครับ

ออฟไลน์ ArMee

  • BTU"R
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 32
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ขออย่าให้แม็กกี้ต้องเป็นคนเสียใจเลย คนเขียนได้โปรด..... :mew2: :mew2: :o12:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด