Kick รีบจัด ยังไม่ได้คิด
เอาท่ามาตรฐานก็ได้ครับ ...ถุย
“....”
“มึงเงียบทำไม ตอบ!! กูบอกให้ตอบ”ตอบไม่ดีมีหวังกูตาย
“เฮียก็มีหลินอยู่แล้วนี่ครับ”ชิงลากเข้าดราม่าเลยกู “แล้วผมก็ไม่ได้มีแฟนด้วย”ตีหน้านิ่งใส่แม่งเลย
“แล้วถ้าสมมุติว่าไม่มีใคร มีแค่มึงกับกูแบบตอนนี้ มึงจะตอบว่าอะไร”มันถามเสียงเรียบ
“ผมว่าเฮียกำลังสับสน”ปล่อยกูไปเหอะ...กูเริ่มอินแล้วเนี่ย
ยังไงไอ้เฮียก็ยังมีหลิน ตราบใดที่มันยังไม่เลิกกัน แสดงว่าหลินมันก็ยังสามารถชูคอเป็นnumber1 ได้อยู่...ดังนั้นไปเลิกกับมันซะนะ แล้วกูจะได้ หักอกมึงสักที
ว่าแต่ผมจะตายไหมวะ ถ้าไปหักอกมันเข้า
“เฮ้ย!!”เสียงดังมาจากด้านนอก “โค้ชเรียกรวม”สวรรค์ช่างมีตาเสียจริงๆ
ผมหมุนตัว มือขวากำลังคว้าลูกบิด แต่ก็ต้องชะงักทันทีเมื่อเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้นข้างหู
“กูจะจีบมึง”ห๊า!!!
“จะบ้ากะละมัง...”ผมหันไปทำหน้าเหวอใส่”เฮียป่วยหรอ”
“ไม่ต้องเสือกตอบ กูไม่ได้ถามความคิดเห็น... แค่บอก”แล้วแม่งก็เดินผ่านผมไปเลยครับ
WTF!!!
คือผมงงว่ะ เฮียปั้นมันชอบผม บอกจะจีบผม แต่ทำไมบรรยากาศมันไม่เหมือนที่ผมคิดไว้เลยวะ ไอ้ที่แบบโลกจะต้องเป็นสีชมพู เขินบิดไปบิดมาอะไรทำนองนี้เปล่าวะ...แล้วเหตุการณ์ที่ผมประสบพบเจอนี่มันคืออะไร
...แต่
กูจะจีบมึง
คำนี้ยังสะท้อนอยู่ในโสตประสาท
แล้วทำไมอยู่ดีๆหน้ากูมันร้อนขึ้นมาวะ แล้วปากเนี่ย จะยิ้มทำไม ทำยังกับว่าเขิน...เอ๊ะ กูเขิน
ตื๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ระบบสมองหยุดทำงานชั่วคราว
หลังจากเรียกรวม พี่โค้ชก็ประกาศกร้าวว่าวันนี้พี่แกใจดี จะปล่อยก่อน จริงๆไม่ใช่อะไรหรอก วันนี้ครบรอบวันแต่งงาน แกจะรีบกลับไปสนอง เอ๊ยฉลอง กับเมีย
ผมกับเฮียปั้นเปลี่ยนชุดแล้วก็เดินออกมาจากยิมเพื่อตรงไปสนามด้วยกัน ตลอดทางเราไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ ไอ้เฮียเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ส่วนผมตอนนี้แค่เดินเฉยๆกูก็เหนื่อยแล้ว อย่าให้ต้องพูดเลย อาจจะเสี่ยงเป็นลมตายห่ากลางทาง...อย่าเต้นแรงนักได้ไหมหัวใจกู(หัวใจ: เดี๋ยวกูปั๊ดหยุดเต้นเฉียบพลัน)
มาถึงสนาม ความรู้สึกแรกที่นึกขึ้นมา...ป่าช้า
ไอ้พวกเชี่ย พวกมึงหายไปไหนกันหมด!!
ผมคว้าบีบีในกระเป๋ากางเกงออกมา ก่อนจะต่อสายหาไอ้เอมอย่างฉับพลัน
“ไอ้หน้าม่อมึงอยู่ไหน”ผมกรอกเสียงลงไปทันทีที่มันรับสาย
/“ปู่รหัสกูเลี้ยงสายว่ะ กูก็เพิ่งรู้ ไงวันนี้ก็กลับกับว่าที่ผัวมึงล่ะกันนะจ๊ะ บอกว่าที่ผัวมึงด้วย ไอ้ปินอยู่กับกู คืนนี้คงไม่กลับ บายสัตว์ วงเหล้ากำลังครื้นเครง”/มันบอกจบก็วางสายไปทันที...ว่าที่ผัว? พ่อมึงเซ่!
ผมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า ก่อนจะหันไปมองคนข้างตัว ที่ตอนนี้ก็มองผมเหมือนกัน
“ไอ้ปินมันไปกินเหล้ากับพวกไอ้เอมนะครับ คืนนี้ไม่กลับ”ไอ้เฮียพยักหน้ารับ “หวัดดีเฮีย ผมกลับแล้ว”ถ้าไอ้ห่าอมไม่จุดประเด็นเรื่องว่าที่ผัวขึ้นมา ผมก็คงอ้อนให้ไอ้เฮียไปส่งแหละครับ
“แล้วจะกลับยังไง”
“พี่วินครับ”ผมตอบเสียงเรียบ
“เดี๋ยวกูไปส่ง”ใจจริงก็อยากให้มันไปส่งนะครับ แต่แบบว่า ไอ้เชี่ยเอมมันจุดประเด็นมาไงครับ...กูกลับด้วยไม่ลง
“ไม่เป็นไรครับเฮีย”ผมฉีกยิ้มให้มัน
“กูไม่ได้ถาม...แค่บอก”ขอบคุณครับ...สัตว์!!
ต่อจากนั้นเป็นเช่นไรไม่อยากจะเล่า เพราะผมเองก็เหมือนจะไม่รุ้ตัวว่าขึ้นมาบนรถมันตั้งแต่ตอนไหน มารู้ตัวอีกที รถแม่งมาจอดหน้าบ้านใครก็ไม่รู้แล้วครับ...มันจะหลอกกูมาฆ่าเปล่าวะ
“เอ่อ เฮีย ผมจะกลับหอ”ไอ้เฮียหันมามองก่อนจะแสยะยิ้มเหมือนพวกตัวร้ายที่หลอกอินางเอกโง่ๆมาข่มขืน
“ขี้เกียจขับรถวนไปวนมา”พูดจบก็กดรีโมท ประตูบ้านก็ค่อยๆเปิดออกด้วยระบบอัตโนมัติ...แอร๊ย ไฮโซ
บ้านกูยังระบบอัตโนมืออยู่เลย
“เดี๋ยวผมกลับเองก็ได้”กูไม่อยู่ให้มึงแทะโลมหรอก...ถึงกูจะหล่อ แต่กูก็ไม่ได้โง่นะ
“อย่าเรื่องมาก กูหิวข้าว แล้วถ้ากลัวกูจะทำอะไร ก็ไปนอนห้องไอ้ปิน”อุ๊ต๊ะ...มึงอ่านใจได้ใช่ไหม
บ้านไอ้เฮียหลังใหญ่พอๆกับบ้านผมเลย อาจจะเล็กกว่าบ้านผมหน่อย คงเพราะไม่ได้เป็นครอบครัวใหญ่แบบบ้านผมด้วยมั้ง บ้านมันสวยมากเลยครับ ตกแต่งด้วยโทนสีน้ำตาลครีมดูอบอุ่นดี เสียอยู่อย่างตรงสวนหน้าบ้านนี่แหละ... มึงปล่อยให้ต้นไม้เหี่ยวตายกันได้สยองมาก
“คุณปั้นคะ ให้ตั้งโต๊ะเลยไหมคะ”พี่ผู้หญิงอายุอานามน่าจะแก่กว่าผมไม่กี่ปีวิ่งเข้ามาถาม...สวยจุง
“ตั้งเลยก็ได้ครับ แล้วป้านิ่มไปไหน”มันถาม
“ป้าแกลากลับไปเยี่ยมแม่น่ะค่ะ”ไอ้เฮียพยักหน้า ก่อนจะลากแขนผมไปในห้องอาหารที่เปิดไฟสีส้มละมุนตาเชียว
เฮียปั้นนั่งตรงหัวโต๊ะ ผมนั่งข้างๆ ไม่นานโต๊ะตัวยาวก็มีอาหารมาวางเรียงอยู่ตรงหน้าผมกับเฮียปั้นประมาณสามสี่อย่าง ผมเคยชอบโต๊ะยาวๆนั่งได้เป็นสิบๆคนแบบนี้มากเลยครับ แต่พอเอ้เข้าจริง พอได้มานั่งอยู่แบบนี้ ผมว่าความยาวของมัน ทำให้ใจเคว้งคว้างยังไงชอบกล
คิดถึงโต๊ะหมุนที่บ้านว่ะ คิดถึงเจ้บลูมกับไอ้บลิสส์ ที่ชอบแกล้งผมโดยการหมุนกับข้าวที่ผมชอบไปอยู่ทางมันตลอด สันดัลกันมากเลย...แต่ผมก็คิดถึง
“วันนี้ตาทำต้มยำกุ้ง ไก่ทอดกระเทียม คะน้าหมูกรอบ แล้วก็ไข่ตุ๋น คุณปั้นลองชิมสิคะ”ผมว่าอิพี่ตานี่แปลกๆ...หรือนางจะเรียนแบบละครไทย
...จับลูกเจ้านาย...
“อืม”ไอ้เฮียยังนิ่ง พี่ตานี่หน้าเสียแล้ว
คนหล่อมักจะเป็นคนดี ไม่อยากเห็นน้ำตาสตรี กินหน่อยก็ได้...จริงๆแล้วกูหิว
ทันทีที่น้ำต้มยำกุ้งเข้าสู้ปาก ความเข้มข้นของเครื่องแกงก็แตกซ่านอยู่บนลิ้น บอกได้แค่ว่า...รสชาติเกินคำบรรยาย
“แค่กๆๆ”ผมไอออกมาหน้าดำหน้าแดง ไอ้เฮียก็ส่งแก้วน้ำมาให้
“รสชาติเป็นไงบ้างคะ”ถามว่ากูยังมีชีวิตอยู่อีกหรอคะน่าจะดีกว่านะ...ตอนทำไม่ได้ชิมรึไง
“คือรสค่อนข้างจัดน่ะครับ”จัดว่าเหี้ยน่ะนะ...ใครจะไปกินลงวะ
นี่คงเป็นนิสัยเสียอีกอย่างของผม...แบบอาม่าอากงผมทำภัตตาคาร ผมเลยกินยาก เรื่องมากอย่างนี้มาตั้งแต่สมัยยังเป็นละอ่อนตัวน้อยๆแล้ว แล้วนี่ไอ้เฮียมันคงรู้ใช่ไหมว่าแม่บ้านบ้านมันทำกับข้าวห่วยแตกมาก...แล้วก็ไม่รีบเตือนกูนะ
“มีอะไรก็ไปทำ ผมไม่ชอบให้ใครจ้องเวลากินข้าว”ไอ้เฮียบอก พี่ตานางพยักหน้ารับแล้วก็มูฟออกไปอย่างอ้อยสร้อย
“แล้วนี่เฮียไม่หิวรึไง”ผมถาม
“หิว แต่ทำไงได้ กูทำกับข้าวไม่เป็น แล้วก็ขี้เกียจออกไปข้างนอก”มันยักไหล่แบบสบายๆ
มึงไม่หิว ไม่กินก็เรื่องของมึง แต่กูหิวเว่ย กูหิววววว
“เฮียชอบกินอาหารจีนไหม”ผมถาม
“....”ไอ้เฮียมองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะแสยะยิ้มหื่น...กูหมายถึงอาหารจีนที่เอาไปผัดๆต้มๆแล้วเอามาแด๊ก ไม่ได้หมายถึงกูที่เป็นลูกคนจีนเว่ย
“อาหารจีน ความหมายตรงตัว ไม่มีนัยแอบแฝง”ผมบอก ไอ้เฮียก็หัวเราะหึๆอย่างเสียจริต
หลังจากที่เปิดดูตู้เย็นในห้องครัวเรียบร้อยแล้วก็ทำให้ผมตัดสินใจว่าจะทำข้าวผัด กับแกงจืดหมูสับ ไอ้เฮียยืนกอดอกมองผม ผมก็เลยจ้องมันกลับ จ้องกันไปจ้องกันมาสักพัก ไอ้เฮียก็เบือนหน้าหนี...อย่าบอกว่ามึงเขิน
ถามว่าผมเขินมันไหม ก็เขินนะ แต่ตอนนี้ผมเริ่มชินแล้วไง...เลยไม่ค่อยแสดงอาการ
ผมรีบตั้งหม้อบนเตาเป็นอย่างแรก ใส่ผงปรุงรส รากผักชีทุบ กับกระเทียมทุบลงไป รอน้ำซุปเดือด ผมก็หันมาสับหมู หั่นผักกับเต้าหู้เตรียมไว้ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ระหว่างรอแกงจืด ก็ทำข้าวผัดเลยแล้วกัน
“ระหว่างหมูกับกุ้งเฮียชอบอะไรมากกว่ากัน”ผมถามมันเพื่อทำลายความเงียบ
“ชอบมึง”จะบ้าเรอะ อันนั้นเอาไว้ตอบตอนเขาถามว่าชอบอะไรที่สุด...ถุย!!
โอ๊ย!! หน้ากูร้อน
“ตกลงหมูนะ”ไม่ใช่อะไรหรอก ขี้เกียจแกะเปลือกกุ้ง
“หน้ามึงแดง”จะมาตาดีอะไรตอนนี้
“อากาศมันร้อน”ผมตอบแล้วก็หั่นหมูเป็นชิ้นๆ
“อ่อหรอ”มันพูดเสียงใส ก่อนจะเดินมายืนข้างๆ “คะน้าภาษาจีนเรียกว่าอะไร”ผมไม่หันไปมอง ยังคงหั่นหมูต่อไป
“เจี่ยหลาน มั้งนะ”คือต่อให้กูเป็นลูกคนจีน แต่ที่บ้านกูก็พูดภาษาไทยกันนะครับ
“เต้าหู้ล่ะ”
“โต่วฝู่ แต่เต้าหู้ไข่ไม่รู้เรียกงี้เปล่านะ”ผมพูดแล้วก็เอาคะน้ากับแครอทไปล้าง
“ไหนบอกว่าทำอาหารจีน ก็แกงจืดธรรมดา”ทำไมมันพูดมากจังวะ
“ผมทำชิงทัง ไม่ได้ทำแกงจืด”ล้างผักเสร็จก็เอามาหั่น หั่นได้สักพักน้ำก็เดือด ผมเลยใส่หมูลงไปในหม้อแล้วหรี่ไฟ เพื่อน้ำซุปจะได้ไม่ขุ่น
“แล้วข้าวผัดเรียกว่าอะไร”
“เฉาฟ่าน”พูดจบผมก็ตั้งกระทะ “เฮีย ไปตักข้าวมาดิ๊”
“เอาเยอะไหม”ทำไมมันว่าง่ายแท้วะ
“5ทัพพีก็พอมั้ง... แล้วแต่เฮียแล้วกัน จะกินเยอะไหมล่ะ”หยอดน้ำมันเจียวกระเทียมจนเหลือง ผมก็ใส่หมู
หันกลับมาดูแกงจืดอีกครั้ง ผมใส่ผักกาดขาวลงไป แล้วก็หันมาผัดข้าวให้เสร็จสิ้น ไม่นานข้าวผัดเทพมังกรฟ้ากระบี่บินก็เสร็จ(ก็แค่ข้าวผัดธรรมดาไม่ใช่หรอวะ) ผมกันมาดูแกงจืดอีกครั้ง ใส่เต้าหู้เป็นอย่างสุดท้าย ไม่รู้คนอื่นทำแบบผมเปล่านะ แต่ผมว่าเต้าหู้แม่งสุกมาแล้วว่ะ ต้มนานไปก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้นมันสมควรใส่เป็นอย่างสุดท้าย
“ข้าวสวยเรียกว่าอะไร”ยังอีก ยังไม่จบอีก
“ไท้ฟ่าน”ผมตอบ ก็รับจานมาจากไอ้เฮีย แล้วตักข้าวแบ่งเป็นสองจาน
“แล้วเนื้อหมูล่ะ”
“จู”
“เนื้อไก่”
“จี”คิดว่าเล่นเกมส์ยี่สอบคำถามกันอยู่รึไง
“น้ำมันหอย”
“เฮ่าโย้ว...เปล่าวะ”
“กระทะ”
“กั๊ว”
“แล้วน่ารักล่ะ”
“เข่ออ้าย”ตอนนี้แกงจืดได้ที่แล้วครับ
“ไม่ใช่”ผมหันมามองมันแบบงงๆ แล้วก็ตักแกงจืดใส่ถ้วยแล้วมาวางบนโต๊ะ “มึงตางหากที่แปลว่าน่ารัก”พอมันพูดจบเท่านั้นแหละครับ...หน้ากูงี้จะระเบิด
“อื๊อออ”ผมครางในลำคอ เมื่อคนตรงหน้าตรงเข้าประกบปาก...
ไอ้ฝั่ด...กูจะแด๊กข้าว!!!!
--------ฉึ่บ!!!!
๐ตัดซะ กร๊ากกกกกกกกกกก
๐อยากบอกว่าอิฉันโง่วจีนกลางมากค่ะได้แต่ศัพท์พื้นบ้าน(จริงๆแม่งโง่ทุกจีนแหละ)
๐โอ้วอิเฮียตอนนี้ช่างจ้อเสียจริงเชียว...เจ้าหนูจำไม แอร๊ยยยยยย
๐เลิฟนะจิบิ วันนี้คุณนายเธอสั่งให้นอนก่อนสามทุ่มอ่ะ ฝันดีด๊วบๆ
๐อยากตอบคอมเม้น แต่จะไม่ทัน3ทุ่มอ่า เดี๋ยวเค้ามาพรุ่งนี้เช้านะ เลิฟๆนะเคอะคุณ