มาแล้วคร่า
แม่ะ เตรียมเกาะขื่อเกาะคานส่องห้องเอมมิกากันใหญ่เลยสิ
______________
พิเศ๊ษพิเศษ ส่องห้องเอมมิกา
“โอ้ยยยย”ผมยันตัวลุกขึ้นมาจากเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน... รู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวไปหมดเลยดิ “เหี้ย!! มึนชิบหาย”ผมบ่นอุบอิบก่อนจะบิดตัวเพื่อไล่ความเมื่อล้า
ผมไปทำไรมาวะเมื่อยฉิบ จำได้คร่าวๆว่าเมื่อคืนไปกินเหล้ากับพวกพี่ต้น(ลุงรหัสผมเอง) จากนั้นไอ้ปินก็ไปเข้าห้องน้ำ ส่วนไอ้เหี้ยเฟาก็นอนเกยนอนเลื้อยนมใครก็ไม่รู้ ด้วยความริษยาผมก็เลยลากตัวมันกลับมาคอนโด(ซึ่งทางสะดวกพี่สาวผมไปนอนบ้าน) ผมชวนมันแด๊กเหล้าต่อ แล้วก็เถียงอะไรกันนิดหน่อย จากนั้นผมก็จำอะไรไม่ได้แล้ว เหมือนมีคนโทรมาด้วยมั้ง
สรุป กูไปทำอันหยังมาน่อ
เลื่อนมือไปหยิบไอโฟนขึ้นมาดู ก็ค้นพบว่าไอ้เหี้ยบลูคือคนสุดท้ายที่ผมคุยด้วย ผมกดโทรหามันทันที เพื่อเช็คว่ากูแพ่งพรายความลับอะไรไปบ้าง....ความรับกูยิ่งเยอะๆอยู่
/ “ว่าไงไอ้ขี้งก”/ไอ้ห่าบลูกรอกเสียงที่แฝงด้วยจริตจกร้านของมันมาตามสาย
”เมื่อคืนโทรมา มีอะไร”ผมถามเสียงนิ่ง เพื่อไม่ให้ดูมีพิรุธ ”แล้วไอ้ปินกลับบ้านยัง เมื่อคืนกูลืมมันไว้ที่ร้าน”เพิ่งนึกได้ครับว่าผมลืมมันไว้ที่ร้าน
/“ไอ้เชี่ยเอมมิกา!!เพราะมึงทิ้งมันไว้แหละ ลูกมึงถึงมีรอยดูดเต็มตัว”/แหม...ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต
”แล้วนี่มึงอยู่ไหน ทำไมรู้เรื่องชาวบ้านเขาดีจัง”ผมแย๊บถามไป แต่จริงๆก็พอรู้แล้วแหละว่ามันอยู่ไหน
/“.....”/มันเงียบครับ
”แน่ะๆ กิ้วๆ เมื่อคืนเป็นไงบ้างจ๊ะหนุ่มน้อย ประสบการณ์ได้ผัวคนแรก”ได้ทีก็แซวแม่งหน่อย
/“ยัง โว้ย!! มึงเป็นโรคหรือไงชอบยุให้กูเป็นเมียมันอยู่นั่นแหละ แล้วเมียมึงแม่งเป็นใครมาจากไหนวะ ไม่เคยคิดจะแนะนำให้เมียหลวงอย่างกูได้รู้จักเลยใช่ไหม ใช่เซ่ กูมันเก่าแล้วนี่”/เมื่อคืนกูแพ่งพรายอะไรไปวะเนี่ย
ใน ขณะที่ผมกำลังทึ้งหัวครุ่นคิดอยู่นั้น เหง้าหน้าและเบ้าตาผมก็เผลอไปสบกับอีกฝากเตียง ที่ทำใครผมเริ่มค้นพบคำตอบสำหรับเรื่องนี้... ไอ้ตัวขาวๆที่ซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มนั่นมัน อาร้ายยยย!!!
นี่ กูไม่ได้นอนคนเดียว แล้วสภาพนี่มันอะไรกัน แก้ผ้าล่อนจ้อนทั้งตัว แถมยังมีคราบอะไรบางอย่างที่ผมค่อนข้างจะคุ้นเคยแห้งกรังอยู่ตรงหน้าท้องอีก
อึก!!!
ผมกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ เมื่อไปเจอหลักฐานชั้นดีอย่างคอนดอมที่ใช้แล้วตกอยู่บนพื้น...กูกัดลิ้นตัวเองตาย ตอนนี้ยังทันปะวะ
นี่ ถ้ากลายเป็นผู้หญิงที่ผมไม่เคยรู้จักผมจะทำไง แล้วถ้าโดนบังคับให้รับผิดชอบล่ะ... แล้วนี่ถ้าเรื่องนี้มันถึงหูป๊าล่ะ กูจะทำยังไงวะดีเนี่ย... โดนกระทืบตายแหงแซะ โอ้ยยย ปวดหัว
ใน ขณะที่ผมกำลังสติแตกนั้น ไอ้บุคคลปริศนาที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นเมียผม ก็พลิกตัวหันมาอวดใบหน้าเนียนผ่อง... เมื่อเห็นหน้าคนตรงหน้า ผมก็ขอสรุปได้เลยว่า ที่ผมคิดไปเมื่อวรรคก่อนนั้นผิดหมดเลย เพราะผมมั่นใจว่าคนๆนี้จะไม่เรียกร้องให้ผมรับผิดชอบ แล้วก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกลที่ผมไม่รู้จัก และที่สำคัญที่สุด...
มันไม่ใช่ผู้หญิง!!!
ก่อน ที่ผมจะช็อคจนเป็นลมล้มลงไปนอนวิจัยฝุ่นบนพื้นห้อง ไอ้คนที่เพิ่งเป็นเมียผมไปหมาดๆ ก็ค่อยๆปรือตาขึ้น ดวงตาที่ไร้แววใดๆทอดมองมายังผม(ที่ยืนแก้ผ้า) ก่อนที่เจ้าตัวจะค่อยๆยันตัวลุกขึ้นด้วยความยากลำบาก
”ไม่ ต้องแนะนำหรอก มึงก็รู้จัก”ผมกรอกเสียงลงไปเมื่อเห็นหน้าคนที่ลุกขึ้นมานั่งจ้องหน้าผม ”ไอ้บลู แค่นี้ก่อนนะ วันนี้กูมีงานที่ชมรม”ไม่รอให้แม่งพรรณาอะไรยืดยาวผมก็ชิงวางสายทันที
“เฟา คือ... กู.... เอ่อ...แบบ...เอ่อ”ผมไม่รู้จะเริ่มจากอะไร ขอโทษ กูไม่ได้ตั้ง ใจ กูเมา หรือจะสัพเพเหระอะไรที่แม่งตีกันมั่วไปหมดแล้ว
“ขอ ยืมชุดหน่อยดิ ไม่ได้กลับบ้านทั้งคืน ม๊ากูเป็นห่วงแย่ล่ะ”เป็นไอ้เฟาครับที่หยุดความสับสนต่างๆของผม... มึงไม่คิดจะพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนเลยหรอ
ผมมองเสื้อผ้าที่ฉีกขาดยับเยินที่กองอยู่ที่พื้นด้วยความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย
ผม ลุกจากเตียงเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าก่อนจะเอาผ้าเช็ดตัวมานุ่งปกปิดเอมน้อย แล้วค่อยหยิบชุดนอนลายทางสีน้ำเงินสลับขาวออกมาส่งให้ไอ้คนที่ตีหน้านิ่งไม่ แสดงอากัปกิริยาใดๆ
“ใส่ แล้วก็นอนพัก เดี๋ยวกูจะไปหาไรให้กิน”ผมยื่นให้มัน แต่ไอ้ห่านี่ดิยังคงนั่งตีหน้านิ่งเหมือนเดิม...มันคนเดิมที่ร่าเริงหายไป ไหนครับ
“ขอ ชุดที่กูสามารถใส่ออกไปเรียกแท็กซี่ได้”ทำไม ถ้ามึงใส่ชุดนอน แล้วแท็กซี่จะไม่จอดรับมึงรึไง “กูจะกลับบ้าน”ไม่เคยคิดว่าว่าไอ้คนตรงหน้าผมมันจะดื๊อขนาดนี้
“กูบอก ให้นอน มึงก็นอนดิ”ผมยัดชุดนอนใส่มือมันก่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้... แต่การที่ผมเข้าไปใกล้มันนั้นทำให้ผมรู้ว่า เนื้อตัวมันมีแต่ รอยแดงรอยช้ำเต็มไปหมด....แอร๊ยยย กูทำอะไรลงไปเนี่ย!!!
“คนอย่างกูน่ะ ไม่ได้ยอมมึงหรอกนะ”คือมึงจะบอกว่ามึงโดนกูข่มขืนใช่ไหมอ่า โอ้วววม้ายยยย คาแรคเตอร์กูเป็นคนอ่อนโยน? นะเว้ยย
“มึงนอนพักผ่อนเถอะ กูจะไปหายามาทาให้”ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดล่ะ
“ไม่ต้อง กูจะกลับบ้าน”ผมล่ะโคตรเกลียดเลยไอ้พวกพูดไม่รู้ฟังจริงๆเชียว
“นอนไปไอ้สัตว์”ผมตีหน้าโหดใส่แม่งเลย
“มึงเป็นใครถึงมาสั่งกู!!”มันตวาดเสียงดังลั่น... ทำอะไรน่ะตัวเอง เค้าตกใจหมดนะ
“ก็คงเป็นผัวมึงล่ะมั้ง”เต็มปากเต็มครับ เต็มปากเต็มคำ ไม่มีคำว่ายางอายเลยวินาทีนี้
“มึงยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามึงทำอะไรลงไปบ้าง... กู ไม่ ใช่ เมีย มึง”มันเน้นชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“อ่ะ หรอ”ผมพุ่งตัวไปหามัน ก่อนจะตรึงแขนเนียนทั้งสองข้างไว้กับเตียง “อยากให้กูตอกย้ำความเป็นผัวมึงตอนมีสติไหมล่ะ?”ผมแสยะยิ้มให้มัน แล้วจรดริมฝีปากลงบนซอกคอขาว
ไอ้เฟาไม่ขัดขืนหรือพูดอะไร มีเพียงแต่อาการเกร็งจนร่างกายสั่นเทา กับน้ำตาที่ไหลออกมา...ตอกย้ำความชั่วของกูเข้าไปอีกนั่น
เฮ้ย! นี่มันอะไรเนี่ย ไอ้บทหมาป่าขย้ำลูกแกะแบบนี้ตูรับไม่ได้เฟ้ย(แล้วยิ่งเป็นลูกแกะที่ใกล้มี อาการทางจิตแบบนี้ด้วย) ท่านเอมคนนี้คาแรคเตอร์มันเป็นผู้ชายอ่อนโยนชัดๆ ตูเป็นเจนทัลแมนนะโว้ยยย
“คือ กูขอโทษ....”ผมพยุงตัวมันขึ้น แล้วจัดแจงใส่ชุดนอนให้มันเสร็จศัพท์ “ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นน่ะความผิดกูเอง”ไอ้เฟาคลายสีหน้าหวาดกลัวลงก่อนจะ แสยะยิ้มตีสีหน้ากวนส้นตีน = =.... ที่มึงทำเป็นกลัวไปเมื่อกี้ มึงตอแหลใช่ไหม!!!
“ฮึๆ ก้มกราบขอขมากูดิ... แล้วกูอาจจะทำเป็นๆลืมๆเรื่องที่มึงทำเอาไว้นะ”แหม...ไอ้สันขวานบิ่น
“มึงก็ผิดเหมือนกันล่ะไอ้สัตว์ แค่คนเมา แม่งยังไม่ปัญญาสู้”ผมยักคิ้วแล้วยิ้มที่มุมปาก...แบบว่าแข่งกันทำหน้ากวนส้นตีนอยู่น่ะครับ
“โถ ไอ้ควายเอม ถ้าเป็นคนเมาน่ะ ไม่คณาตีนกูหรอก... แต่มึงมันเป็นควายเมา กูก็เลยไม่รู้จะวางแผนรับมือยังไง”ไอ้น้ำเสียงยียวนกวนส้นตีนนี่มันอา ร๊ายยยยย... มึงเพิ่งโดนกูข่มขืนนะเว้ย ไหงยังมีหน้ามามาปากดีอีกล่ะไอ้สลัด!!
“เห๊อะ จะพูดยังไงก็แล้วแต่มึง แต่สรุปแล้วเมื่อคืนมึงก็เป็นเมียกูอยู่ดีอ่ะ”ผมยักไหล่ฉีกยิ้มอย่างคนเหนือกว่า
“มึงไม่รู้อะไรอย่ามาพูดดีกว่า กู ไม่ใช่เมียมึง”ไหงอิคำว่า ไม่ใช่เมียมึง มันแผ่วขนาดนั้นล่ะครับคุณเฟา
“จะ บอกว่าไอ้สภาพยับเยินอย่างมึงเนี่ย เป็นผัวกูงั้นหรอ”ผมยื่นหน้าเข้าไปใกล้มัน ก่อนจะยิ้มกรุ่มกริ่ม...ไหงกูกลายเป็นไอ้พวกทำความผิดแล้วเสือกไม่สำนึกแบบ นี้ล่ะ
“ยิ้มเหี้ยอะไรไอ้สัตว์!!!!”มันตวาดก่อนจะถีบเข้าที่หน้าท้องผม...อุวะ กูจุกนะแม่ง
“ป๊าว!!!”ผมเลิกเสียงสูง แล้วสะกดกั้นความจุก ก่อนจะเดินไปในครัว
หลัง จากที่ไอ้เฟากินโจ๊กมาม่าที่คลาคล่ำไปด้วยหมูกับต้นหอมเสร็จ ผมก็ทาแซมบัคให้ไปเฟา แล้วก็บังคับขู่เข็ญมันต่างๆนาๆ จนในที่สุดมันก็ยอมผมจนได้ เอ๊ย ยอมนอนจนได้
แต่ ผมจะทำไงกับไอ้รอยช้ำที่คอมันดีครับ แล้วเดี๋ยวผมต้องไปช่วยเตรียมค่ายที่ชมรมด้วยดิ จะพาไอเฟาไปด้วยเดี๋ยวก็โดนถามนู้นถามนี่ น่ารำคาญ จะให้ปล่อยมันกลับบ้านเดี๋ยวถ้าอาเตี่ยอาม๊ามันถามขึ้นมา แล้วถ้ามันดันเผลอพูดความจริงออกไปว่าโดนผมกระทำชำเรา ผมไม่แย่หรอครับ
สาบาน เลยว่าถ้าอาเตี่ยมันรู้เรื่อง อีคงไม่วายส่งคนมากระทืบผมจนตับปลิ้น ปอดรั่ว ลิ้นหนวก หูบอดกันเลยทีเดียวเชียว... ผมเสตามองไอ้ไอ้เฟาอีกหนึ่งรอบ ก่อนจะรอบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างเงียบๆ(ไม่อาบน้ำหรอกครับ เดี๋ยวเหี้ยนี่แอบหนีไป แล้วจะยุ่ง)
“เฟา กูไปม.แล้วนะเว้ย”ผมบอกไอ้คนที่นอนตาแป๋วแสยะยิ้ม(ยังไงของมันหว่า)อยู่บนเตียง
“เออ”มันตอบเสียงห้วน
“กูล็อคประตูจากข้างในให้แล้วนะ”มันพยักหน้าอย่างกวนตีน
ในขณะที่ผมกำลังออกไปจากห้อง เสียงมันก็ดังขึ้นรั้งให้ผมกลับไปมองอีกครั้ง “เดี๋ยวไอ้เอม”
“ห๊า!!”
“ไหว้พ่อมึงรึยัง”แล้วพี่แกก็ยักคิ้วลิ่วตาให้ผมอย่างน่าจมตีน
“ไหน อ่ะพ่อ”ผมทำเป็นมองหาไปทั่ว “ไม่เห็นเจอเลย จะเจอก็แต่...เมีย”ทันทีที่พูดจบผมก็ระเบิดหัวเราะออกมา พร้อมๆกับที่ไอ้เฟาเอาหนังสือหนังหาที่อยู่ใกล้ๆมือมันเขวี้ยงมา...ดีนะที่ กูหลบทัน
“กลับไปไถนาซะไปไอ้ควาย!!!”ดูสิครับ เถียงสู้ไม่ได้ก็ชอบใช้กำลังกับคำหยาบ นิสัยไม่ดีๆ
ผมปิดประตูก่อนจะลงแม่กุญแจล็อคจากด้านนอก... เชื่อไหมล่ะครับ ไม่เกิน10นาทีนี้ ไอ้เฟามันต้องโทรหาผมแน่
ก่อกแก่กๆๆๆๆๆ
เสียงลูกบิดที่ถูกบิดไปบิดมาเรียกรอยยิ้มจากผมได้
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก”ผมยกยิ้มอย่างสะใจเมื่อได้ยินเสียงจากในห้อง “ไอ้เหี้ยเอม!!!!”โอ้โห เรียกชื่อจริงกันเลยทีเดียว
ปังๆๆๆๆ
ผมเดินออกมาจากเขตพื้นที่ที่ไอ้เฟามันอาละวาดอย่างอารมณ์ดี พร้อมๆกับที่คนในห้องทุบประตูอย่างบ้าคลั่ง
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
ไม่ต้องดูผมก็รู้ว่ามันเป็นใคร“อาฮะ”ผมกรอกเสียงลงไป
/”มึงกลับมาเปิดประตูให้กูเดี๋ยวนี้!!!”/มันแหวเสียงสูง
“ทำไมกูต้องเปิดให้มึงด้วยล่ะ”ผมพูดเสียงเรียบ
/”ไอ้ เหี้ย กูกลัว เปิดให้กูออกไปเร็วๆเลยสัตว์”/กลัวอะไรวะครับ ห้องกูมีอะไรน่ากลัว แค่มีงูเหลือมสองตัวกับจระเข้อีกตัวเอง(ผมตอแหลครับ ไม่มีหรอก= =) /”กูกลัว... กูกลัวจริงๆ”/เสียงปลายสายที่สั่นเครือ ทำให้ผมรีบวิ่งกลับมาไขประตูห้องทันที
ทันที ที่ประตูเปิดออก ผมก็พบไอ้สลิดดกตัวเดิมยืนฉีกยิ้มหวานกระตุ้นกล้ามเนื้อฝ่าเท้า(ผม)ให้ กระตุกยิกๆด้วยความอยากถีบมัน...อ๊ากกก นี่กูโดนมันหลอกอีกแล้วใช่ไหม
“อ้อร้อ ตอแหลนักนะ”มึงมาเรียนผิดคณะแล้วล่ะ...ถ้าจะแสดงละครเก่งขนาดนี้..มึงไปนิเทศน่าจะรุ่งกว่าไหมไอ้สลัด!!
“กูจะไปม.ด้วย”มันพูดเสียงเรียบ
“กูว่ามึงเก็บตัวอยู่ในนี้จนแผลจะหายดีกว่านะ”ผมตบไหล่มันเบาๆ
“กู ก็ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้พอๆกับมึงนั่นล่ะ... แล้วกูก็แก้ปัญหาของกูได้”มันปัดมือผมออก ก่อนตามมาด้วยถ้อยคำที่เคลือบแฝงไปด้วยโทสะ
“มึง จะไปให้ทรมานตัวเองทำไม มึงคิดว่ากูไม่รู้หรอ ว่าตอนที่กูอยู่ แล้วมึงไม่เดินไปไหนมาไหน ไม่ใช่เพราะมึงไม่อยากเดิน แต่มึงเดินไม่ได้”ผมจับไหล่มันไว้ทั้งสองข้างเพื่อให้มันมองผม แต่ไอ้คนกวนตีนตรงหน้าผมนี่ก็ยังคงเม้มปากแน่นแถมยังเบือนหน้าไปทางอื่น “โทษทีว่ะที่ของกูมันใหญ่เกินไปหน่อย”ผมพูดกลั้วหัวเราะยั่วโมโหมัน
“ตายซะเถอะไอ้เหี้ยเอม!!!”แล้วพวกแม่งก็กระโดดมาบีบคอผมเลยครับ...แอ่กกก(ลิ้นจุกปาก)
หลังจากผมรอดตายมาจากเงื้อมือมารมาได้ ผมก็มานั่งรอดูว่ามันจะแก้ปัญหายังไงของมัน มันหยิบฮีรูดอยขึ้นมาทารอยคิสมาร์คที่คอ ก่อนจะโปะคอนซีเลอร์กับแป้งพัฟอีกรอบ
น่า แปลกใจไหมครับที่ผู้ชายพกของพวกนี้อยู่ในกระเป๋า... น่าแปลกใจสิ(กูยังตกใจแทบแย่) ด้วยความตลึง สะพรึงหรืออะไรสักอย่าง ทำให้ผมโพลงออกไปว่า’มึงเป็นตุ๊ดหรอ’ และแน่นอนคำตอบที่ผมได้รับมีเพียงพยางค์เดียวสั้นๆ’สัตว์’
จาก การอธิบายขยายความของมันนั้นทำให้ผมรู้ว่า ที่มันพกของพวกนี้ไว้ ก็เพราะไอ้ตัวมันเองก็ชอบหาเรื่องให้ได้รอยต่างๆมาบ่อยๆด้วยสิ จะให้ปล่อยไปเรียนก็รำคาญสายตาคนรอบข้าง ก็เลยใช้วิธีอำพรางคดีเอาดีกว่า... กูเริ่มไม่มั่นใจแล้ว ว่ารอยบนตัวมึงนี่กูทำรึเปล่า= =
Fao part.
...ทุกอย่างจะดำเนินไปในทิศทางไหน...
...ตัวเราล้วนเป็นผู้กำหนด...
…ผมเชื่อแบบนั้นเสมอ…
…จนมาเจอกับมัน...
...กูพยายามพลิกขึ้นแทบตาย แต่ทำไมกูถึงสู้แรงมึงไม่ได้วะ ไอ้ควายเอม...
“เฟา ไมวันนี้มึงดูโทรมๆจังวะ ไม่สบายรึเปล่า”ผมมองอิ้งเพื่อนร่วมภาคที่กำลังนั่งแพ็กของอยู่ข้างๆ “หน้ามึงซีดมาก”ผมส่งยิ้มป่วยๆไปให้
“เหมือนกูจะเป็นไข้หวัดใหญ่ว่ะ เจ็บคอ”ผมพูดเสียงแห้งๆ แกล้งตีสีหน้าทรมาน
“พักก่อนไหมมึง เดี๋ยวที่เหลือพวกกูทำเอง”ผมส่ายหัว ก่อนจะนั่งจัดของที่ต้องเอาไปใช้ที่ค่าย
หนังสือ ผ้าห่ม เครื่องใช้ต่างๆที่จะนำไปบริจาคถูกลำเลียงขึ้นรถบัสมหาลัย ที่ต้องเอาเงินคณะไปเช่ากับสโมฯ(ขูดรีดพวกกูจริง) ไอ้เอมหนึ่งในสมาคมจับกังหันมาสบตากับผมในขณะที่มันกำลังแบกลังอะไรสัก อย่างอยู่บนบ่า ผมกับมันสบตากันไม่นาน ผมก็เมินหน้าหนี ไปคุยกับพวกผู้หญิง
ทริ ปนี้ทุกคนต่างครื้นเครง เต้นรำทำเพลงกันบ้าๆบอๆอย่างเช่นเคย ผมนั่งแถวหน้าๆกับพวกผู้หญิง ส่วนไอ้เอมก็นั่งหลังรถกับพวกรุ่นพี่ ผมหันไปมองอิ้ง ครีม เมย์ กุ๊กไก่ สาววัยใสสุดกากที่เต้นไปจิกหัวผมไป(อิพวกนี้เป็นอะไรกะหัวกูห๊า) ผมส่งสายตาจิกกัดไปให้พวกมันที่ทำกำลังทำหน้ากวนตีนผมกันอยู่(ถีบผู้หญิงสัก ที นี่จะผิดไหม)
แต่ ในขณะที่ผมกำลังจะเอ่ยปากด่าอิสองตัวนี่ ก็พลันไปสบเข้ากับสายตาของไอ้เอมที่จ้องมาที่ผมเขม็ง ผมเมินหน้า ก่อนจะกลับหันมานั่งมองไปข้างหน้า
“เมินหรอสัตว์เฟา”แล้วอิครีมก็ตบหัวผม
“อิหญิงกาก!!! หาเรื่องกูจัง”แล้วผมก็ลุกขึ้น วิ่งไล่ หวังจะตบหัวมันคืน แต่ด้วยความไม่เจียมสังขาร ทำให้ผมเข่าอ่อนล้มลงไปกับพื้นทางเดินอย่างน่าเจ็บใจ... เจ็บ!! แต่อายมากกว่า
ผมสัมผัสถึงมือที่ช่วยประครอง “ขอบคุณครับ”ผมเอ่ยก่อนจะหันไปมอง ผมยืนนิ่งมองเชี่ยเอมที่กำลังปัดเนื้อปัดตัวให้ผม
ผมผละตัวกลับไปนั่งที่ แล้วก็หลับไปเลย… นี่ล่ะครับ อาการมองหน้ากันไม่ติด
ตื่น มาอีกที ก็ตอนที่แวะพักที่ปั้มแถวราชบุรี ผมลงจากรถไปชิ้งฉ่อง พอปลดปล่อยเสร็จผมก็เดินออกจากห้องน้ำชาย เดินมาด้วยความสุขกายสบายอารมณ์ แต่ใบหน้าที่ระรื้นเปื้อนยิ้มของผมก็ดูว่าจะต้องหุบลงทันที เมื่อพบกับไอ้เอมที่ผมแทบไม่อยากมองหน้ามัน... มองแล้วอายเรื่องเมื่อคืน
ผม กะเดินผ่านมันไป แต่ก็ถูกไอ้เอมคว้ามือไว้ซะก่อน มันดึงผมเข้ามากอด พวกที่คณะผมต่างส่งเสียงเชียร์ลั่น จนเด็กปั๊ม ลูกค้าคนอื่น หรือแม้แต่พนักงงานเซเว่น ชะเง้อหน้าออกมาดู
“เล่นเหี้ยไรวะไอ้สัตว์”ผมผลักไอ้เอมออก แล้วตบหัวมันตามไปอีกที
“เมียจ๋า ผัวขอโทษ”แล้วมันก็กอดผมอีก ผมยืนหน้าแดงตัวแข็งทื่อ แต่เพราะเสียงแซวเซ็งแซ่ที่ดังขึ้น ทำให้ผมได้สติแล้วตบหัวมันไปอีกที
“ ไอ้เหี้ยยยย ใครเมียมึง เล่นแบบนี้อีก กูตบคว่ำแน่ไอ้สาสสส”ผมหายใจแรงใจเต้นระส่ำ จ้องหน้ามันเขม็ง
“เลิกเมินกูได้แล้วหรอ”มันหยักคิ้ว ผมเบะปาก
“โหย ยยย ยังกะเมียงอนผัว... รีบๆดีกันซะ กูสงสารผัวมึง”อิครีมพูดจบ ทุกคนก็ขำกันครื้นไม่เว้นแม้แต่ไอ้บ้าตรงหน้าผม... ไอ้สัตว์ กูขำไม่ออก
ผมเดินหนีไปด้วยความทนหน้าด้านต่อไม่ไหวจริงๆ คอยดูเถอะครับ เผลอกันเมื่อไหร่ กูจะฆ่าเผาทั้งคันนี่ล่ะ
“อ้าว ไม่รีบตามไปง้อเมียมึงล่ะ”ผมไม่รู้ใครพูด แต่ไอ้เหี้ยเอมนี่สิ เสือกวิ่งตามผมมาจริงๆ... มึงจะตามกูมาทามม้ายยยย
พอ หยุดเหตุการณ์ชุลมุนได้ ผมก็กลับขึ้นรถ แต่เสือกไม่มีใครให้ผมนั่งด้วยเลยนี่สิ ส่งผลให้ผมต้องไปนั่งอยู่หลังรถกับไอ้เอม โดยมีเสียงแซวกันอย่างไม่หยุดปาก จนผมชักอยากจะก่อคดีฆาตรกรรม ที่ทำให้ตายทั้งคณะขึ้นมาแล้วสิ… แล้วกูเป็นเหี้ยไรเนี่ย จะอายอะไรนักหนา
ถึงทองผาภูมิ พวกผมก็แวะปั้มอีกรอบ ไม่รู้จะแวะกันทำไมในเมื่อน้ำมันก็ไม่ได้เติมแถมอีกแค่4กิโล ก็ถึงที่หมายแล้ว ผมนั่งเหม่ออยู่บนรถ มองภาพทิวทัศน์ภายนอก ต้นไม้เขียวขจีขึ้นเต็มสองข้างทาง ช่างเป็นภาพที่หาได้ยากมากครับสำหรับกรุงเทพฯ เมืองหลวงของหมู่เฮา
ผม เหม่ออยู่นานพอควร ก็ต้องถึงกับสะดุ้งสุดตัว เมื่อสำผัสกับถ้วยมาม่าต้มยำกุ้งน้ำข่นเส้นอืดๆที่อังอยู่ข้างแก้ม ผมผละตัวออกจากถ้วยมาม่า มองไอ้บ้าที่เอามา ก่อนจะสบถด่าแทนคำขอบคุณ
“ไอ้เหี้ยเอม นี่มันประเทศไทยตอนเที่ยงกว่าๆ อุณภูมิท้องถิ่นอยู่ที่32องศา แถมในรถก็เย็นตายห่าเลย แม่ง!!! มึงคิดว่านี่เป็นซีรี่ย์เกาหลีรึไงฮะ ฟายยย แก้มกูพองหมด ส้งติงจีจีเลย”ผมบ่นก็ปอดกระแปดพอหอมปากหอมคอ ก่อนจะลูปแก้มตัวเองเบาๆ
“อ่ะงั้นกูขอโทษ เพี้ยง!!!”แล้วมันก็เป่าที่ข้างแก้มผม... ไอ้ชางราย กูอยากจะวิ่งไปกรี๊ด มึงกล้าทำอะไรหน้าด้านแบบนี้ได้ไงห๊า
“ไอ้เหี้ย แปรงฟันบ้าง”ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้เลยครับว่าผมหน้าแดงแค่ไหน
“มึง เป็นไรวะ ไข้ขึ้นหรอ”ผมเบือนหน้าหนีไอ้กระบือที่น่าจะอิมพอตจากหมู่บ้านควายที่อำเภอ ศรีประจันจังหวัดสุพรรณบุรีรหัสไปรษณีย์ เอ่อ กูไม่รู้ครับ “กินมาม่าดิ เดี๋ยวกูไปขอยามาให้”ผมมองเส้นมาม่าที่อืดตายคาถ้วย...นี่พวกมึงบวมน้ำตาย กันหมดแล้วใช่ไหม
“เฮ้ย!! ไม่ต้อง แค่อากาศมันร้อน”แล้วผมก็ก้มหน้าก้มหน้าก้มตากินมาม่าในมือที่อืดแล้วอืดอีกอย่างใจจดใจจ่อ
“แต่กูว่ากินยากันไว้หน่อยเหอะ”แล้วไอ้ตี๋ที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ยื่นหลังมือมาอังหน้าผากผม... คือ กูไม่ชินจริงๆสิไอ้เหี้ย!!
“กูบอกไม่เป็น ก็ ไม่เป็นสิวะ”ผมปัดมือมันออกแล้วก็เบือนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
“เอม มึงอย่าไปเอาใจมันมาก เดี๋ยวเมียมึงจะเหลิง”ผมหันควับมามองต้นเสียง
“ครีม มึงมีปัญหาอะไรกับกูมากใช่ปะ พูดอยู่นั่นล่ะ กูไม่ชอบ!!!”ผมตะโกนลั่น แล้วก็ก้มหน้าแด๊กมาม่าต่อ
“กู ขอโทษ”แทนที่จะเป็นไอ้ครีมที่ยืนหน้าเหวอเกาบ๊อบแกรกๆที่พูดต้องพูดคำนี้ แต่กลับเป็นไอ้ตี๋ใส่แว่นข้างตัวผมที่เป็นคนพูด... มึงอย่าแย่งซีนเพื่อนสิ ยังไม่ถึงคิว “กูผิดเอง”แล้วมันก็ลุกขึ้นท่ามกลางความงง ของผมและอิครีม
“เฮ้ย!! เชี่ยเอม มึงเป็นไร”มันส่ายหัวรัว แล้วก็เดินลงจากรถไป... ไอ้คนไม่ผิดเสือก สำนึก สำเหนียก และ บลาๆๆๆ อ๊ากกก มึงเป็นไรอีกเนี่ย(คุณเขียด:มึงนั่นแหละ เป็นอาร๊ายยย)
“ไม่ตามไปง้อผัวมึงหรอ”ส่วนอิคนที่สมควรสำนึก ก็ไม่ได้มีความสำนึกเลยสักนิด
“ครีมมมม”ผมฉีกยิ้มกว้างเดินเข้าไปประชิดตัวเป้าหมาย ก่อนจะใช้มือลูปหลังบุคคลปากดีที่กำลังฉีกยิ้มคืนมาให้ผมเหมือนกัน
“อะไร...”มันพูดจบผมก็ลงมือปลดตะขอยกทรงมันทันที... เวลาจะต่อกรกับคนชางรายนะครับ เราจะต้องชางรายกว่า “อ๊ากกก อิตุ๊ดเหี้ย!!” มันพยายามถีบผม แต่ไม่ทันหรอกครับ เพราะมันยังต้องจับบราเซียคัพเอตัวน้อยที่ใส่ประครองนม(ที่ไม่ค่อยมี)ของมัน
“ตุ๊ดไม่ตุ๊ด กูก็ทำมึงท้องได้อ่ะ”จังไรไหมครับ จังไรสิฮ่าๆๆๆ
“อิสลัดดอก เดี๋ยวกูยุเอมให้เอามึงจนเดินไม่ตรงเลยแม่ง”มันพูดจบผมแทบทรุด...กูผ่านเหตุการณ์เดินไม่ตรงมาแล้วว่ะ
“ยังไม่สำนึก... ต้องเจอดีดขอบ”ผมทำท่าจะเดินไปดีดขอบกางเกงในมันอีก แต่คราวนี้อิหญิงกากกลับยกมือยอมแพ้ แล้วนั่งสงบๆติดตะขอเสื้อใน
แต่ ไม่รู้ว่าผมตามลงมาช้า หรือไอ้เอมมันกลับขึ้นมาเร็ว... ยังไม่ทันที่ผมจะลงจากรถบัส ไอ้คนที่ผมจะตามไปง้อ ง้อหรอ ทำไมกูต้องง้อด้วยล่ะ ยิ่งคิดยิ่งงง ข้ามๆมันไปเถอะ สรุปง่ายๆ คือ ไอ้เอมมันกำลังก้าวขึ้นมาบนรถ ส่วนผมก็กำลังก้าวลง ตีนขวาของเราสองคนอยู่บันไดขั้นเดียวกัน ผมมองใบหน้าเนียนที่ผมไม่เคยสังเกตมาก่อน ว่าไอ้คนตรงหน้าผมมีลักยิ้ม และตอนนี้ มันก็กำลังยิ้ม... เอาอีกแล้ว หน้ากูร้อนอีกแล้ว อ๊ากกกกก
“ลง ก่อนเปล่า”แล้วมันก็ถอนเท้ากลับไปยืนบนพื้น
“อะ เออๆ”ผมก้าวลงไปอยู่บนพื้นคอนกรีตหยาบๆ ที่น่าเอาเอาหน้าไปขูดๆดับความอายสักที2ที... กูเป็น อาร๊าย เป็นอาร๊าย อาร๊าย (ทำเสียงแอ่คโคเพื่ออรรถรสในการอ่าน) “คะ คือ กู เอ่อ แม่ง ... เออ กูลืมไปแล้ว”ไม่ไหวแล้วจริงๆครับ อยู่ใกล้เหี้ยเอมแล้วผมงง ผมเป็นไรวะ โอ๊ยยย กุรับตัวเองไม่ได้
“กูว่ามึงไม่ไหวแล้วว่ะเฟา”เออ กูเห็นด้วยกับมึง “กินยาเถอะ”แล้วมันก็ยื่นซาร่าให้ผมแผงหนึ่ง
“ฟรีไหม”ผมถามจริงจัง แต่ไอ้เอมเสือกหัวเราะ... มันตลกตรงไหนห๊า
“ของ ใช้หนี้”แล้วมันก็ยื่นน้ำดื่มคริสตัล น้ำดื่มของคนดูดี มาให้ผมอีกหนึ่งขวด “หนี้ เรื่องเมื่อคืน”ฟังแล้วผมแทบจะปาของทิ้งเลยครับ มึงเอาซาร่า กับน้ำ มาแลกกับเรือนร่างกูหรอไอ้เหี้ย
“ไอ้เหี้ยเอม!!”ผมพูดได้แค่นี้แหละครับ พูดอะไรไม่ออก
“มึง อย่าเข้าใจความหมายที่กูสื่อผิดดิ กูหมายถึง... กูจะดูแลมึง”อ่อก สำลักความเลี่ยนตาย มึงพูดอะไรออกมา กลืนกลับไป กูรับไม่ได้ ที่คนเกรียนๆจังไรๆแบบมึงมาพูดอะไรแบบนี้
“กูขอวิ่งไปอ้วก แหวะ!!”
“อะไร กัน ครั้งเดียวท้องเลยหรอวะ กูนี่ไม่เบาเลยจริงๆ”ถ้าผมเป็นผู้หญิง ฟังแล้วคงกรี๊ด แล้ววิ่งหนีไปด้วยความอาย... แต่โทษทีครับ ที่กูเป็นผู้ชาย
ผลั่ก!! ปัง!!
เสียงแรกคือส้งติงผมกระทบตูดมัน ส่วนเสียงที่สองคือเสียงหน้ามันกระทบกับข้างรถ
“ขอบใจว่ะ”ผมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนรถ
บริจาคของให้ทางโรงเรียนเสร็จ ผมก็มานั่งทาสีเก้าอี้ต่อ ส่วน ไอ้เอมหรอครับ ตอนนี้มันปีนเสาไปช่วยพวกรุ่นพี่มุงหลังคานู้น นี่ถ้าไม่ติดว่าร่างกายผมมันถูกลอบประทุษร้าย(ทางเพศ)มาเมื่อคืน ผมคงจะปีนตามไปช่วยอีกแรง แต่ก็อย่างที่รู้กันครับ แค่ขึ้นบันได กูก็ลำบากแล้ว ถ้าต้องให้ปีนหลังคา มีหวังกูได้กลิ้งตกลงมาตายห่าตายโหง เป็นผีเฝ้าโครงการแน่
ใน ขณะที่รอสีแห้ง ผมก็ไปช่วยงานพวกพี่ที่เป็นสวัสดิการ(ขี้ข้า) พวกเจ้ๆแกสั่งให้ผมไปรินน้ำแล้วเอาไปเซิร์ฟ ส่วนพวกเจ้แกนั้นจะเล่นไพ่ต่อ... กูไม่น่ามาเลย= =
ผม รินน้ำเย็นในเหยือกใส่แก้วพลาสติกที่วางเรียงอยู่บนถาด รินเสร็จผมก็ยอกถาดพาดขึ้นบ่า พร้อมสถาปนาตัวเป็นขี้ข้าอันดับหนึ่งของทริปนี้ จะ เอาไปให้ใครก่อนดี ระหว่างพวกง่อยๆที่นั่งรอสีแห้ง กับพวกกรรมกรที่กำลังตีเสาตอกตะปูแบกไม้ที่ทำท่าเหนื่อยแทบขาดใจ... ไอ้พวกกรรมกรล่ะกัน แลเหนื่อยกว่า
ขณะที่ผมกำลังพยายามอย่างสุดชีวิตในการปีนบันไดไม้ไผ่ผุๆอยู่นั้น “เฮ้ย!!! มึงไม่ต้องขึ้นมา”ไอ้เอมตะโกนลั่น จนผมนั้นตกใจแทบทำถาดในมือร่วง “เดี๋ยวกูลงไปเอง”ผมถอยออกมาจากบันไดเล็กน้อย
“แหม ห่วงจริงเมียมึงเนี่ย”พวกกรรมกรด้านบนเริ่มเห่าแซว... อยากเอาช้างดาวไปตบปากแม่ง!!
“ไม่ได้หรอกพี่ เมียผมท้อง ฮ่าๆๆ”หัวเราะหาพ่อมึงหรอไอ้สัตว์
“ทางนู้นเขาให้กูเอาน้ำมาให้”ถ้าผมไม่โวยวาย เดี๋ยวพวกมันก็หยุดกันไปเองล่ะครับ
“เฮ้ย!! อิแจน น้องเฟาบอกพวกมึงให้เอาน้ำมาให้หรอวะ”พี่สักคนที่อยู่ในแกงค์ง่อยเปลี้ยรอสีแห้งตะโกนถามอิเจ้(กระเทย)ที่กำลังสับไพ่
“เออ แต่กูไม่ได้บอกให้เอาไปให้ไอ้เอมก่อน”คือกูอยู่เฉยๆก็โดน ทำงานแทนพวกมึงกูก็โดน นี่มันทริปส้งติงอะร๊ายยยย
“พอๆ พี่ เมียผมมันอายหน้าแดงเถือกหมดแล้วเนี่ย”แล้วไอ้เอมก็หยิบน้ำในถาดไปดื่ม... ฟังๆเหมือนจะช่วยกู แต่ไอ้ตัวการที่ทำให้กูต้องหน้าแดงเถือกนี่ก็มึงไม่ใช่เรอะ ไอ้ฟายยย
“แล้วน้ำหวานไหมวะ”สักทางแหละครับที่แซว(กู)อีกแล้ว
“ไม่นี่พี่”รู้สึกขอบคุณในความโง่ของมึงก็วันนี้แหละ “แต่ถ้าคนยกมา ก็หวานอยู่”ผมฟังแล้วก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรได้อีก นอกจาก...
“พ่อ มึง ตาย!!!” แล้วทุกคนก็หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง ทั้งที่ผมเองนั้นก็ไม่รู้ว่า....เรื่องกูมันตลกตรงไหนห๊า!!!
-------------------------------------------End.
อุ๊ยตาย!! ไม่มีเอ็นซี
กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก
อ่านเพลินๆฉลองวันแม่ล่ะกันเนอะ
เลิฟทุกคนนะจิบิ
ช่วยกันดันด้วยนะจ๊ะ
แอบเห็นมีคนเดาถูกด้วยล่ะ