= 2 =
มุมของลูกดิ่ง หลังเป็นอิสระสูดหายใจไม่ทั่วท้องเข้ามาอยู่ในห้องน้ำ ท่านอนประกบด้านหลังยังใจเต้นไม่เป็นส่ำ เช้านี้ดันประกบด้านหน้ามีของแข็งดุนท้องเขาอีกต่างหาก
ยอมรับทั้งอายทั้งเขิน แต่ไม่สามารถโยนความผิดให้ใครได้ ในเมื่อสภาพการนอนบ่งชี้ว่าเขาหลับซุกอกพี่โย่
อย่างยินยอมพร้อมใจ จะอ้างว่าโดนฉวยโอกาสก็ไม่ใช่ ที่มาของสาเหตุที่ทำให้หน้าเห่อร้อนจนไม่กล้าอยู่สู้ด้วย..
ถามว่ากระอักกระอ่วนไหม ที่ตื่นมาในสถานการณ์ล่อแหลมทุกเช้า ยอมรับมีบ้าง
แต่ให้ถึงขั้นตั้งแง่ก็ไม่สมควรอย่างยิ่ง ในเมื่อไม่ได้เกิดการบังคับล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นขณะพวกเขาหลับ
เหตุผลตรงนี้ นำมาเป็นข้ออ้างก่อกำแพงให้เกิดช่องว่างระหว่างเขากับรุ่นพี่ไม่ได้เป็นอันขาด
กลายเป็นเขามากกว่าตื่นตูมไม่เข้าเรื่อง ในเมื่อยังอยู่ดีไม่มีหลักฐานว่าโดนล่วงละเมิดทางเพศ
จะว่าไปพี่โย่เสียอีกที่เป็นฝ่ายเสียหาย..อีกฝ่ายไม่มีเสื้อผ้าสวมสักชิ้น คนที่ควรถูกกล่าวหาว่าถูกลวนลามคือพี่เขามากกว่า
ตัวเขาได้เปรียบสัมผัสผิวเนื้อไร้สิ่งกีดขวางเต็มๆ เมื่อพี่โย่ไม่ต่อว่าต่อขานสักคำ เขาควรทำเป็นเฉยเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..
มุมคิดของลูกดิ่ง หากโยโย่รู้คงขำกลิ้ง ไม่ว่ายังไงลูกดิ่งคิดบวกเสมอ ไม่เคยคิดในทางร้ายทำให้ใครไม่สบายใจ
ความคิดส่งผลถึงจิตใจช่างเป็นคำกล่าวที่ถูกต้อง เพราะลูกดิ่งคิดแบบนี้ดวงตาเรียวสวยจึงสดใสอยู่ตลอด
ถ่ายทอดความคิดและจิตใจที่มองโลกในแง่ดี ออกจากภายในสู่ภายนอกถือเป็นเสน่ห์โดยไม่รู้ตัว
คนหน้าตาดีแต่สวมรอยยิ้มการค้าหรือหน้ากากสังคมมีมากมายนับไม่ถ้วน ล้วนปรุงแต่งเสน่ห์ตัวเองขึ้นทั้งนั้น
ผิดกับลูกดิ่งที่ใครได้พบพูดคุยด้วย อดเอ็นดูหลงรักไม่ได้..น้อยคนที่จะตั้งแง่รังเกียจไม่ชอบหน้า ถ้าไม่อิจฉาล่ะก็
>
>
>
เช้านี้การฝึกซ้อมเป็นไปตามปกติ นักเตะมีความมุ่งมั่นตั้งใจมาก ไม่มีใครบ่นหรือออกอาการขี้เกียจ
ต่างขยันฟิตซ้อมเพื่อเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ กิจกรรมทุกอย่างดำเนินตามโปรแกรม โยโย่กับลูกดิ่งไม่มีความเคอะเขิน
เข้าหน้าไม่ติดอย่างที่กังวล โยโย่แอบดีใจที่ไม่เกิดช่องว่างระหว่างพวกเขา
กระทั่งช่วงเย็นลงซ้อมทีม บรรดาโค้ชเห็นตรงกันให้รุ่นน้องลงเตะหนึ่งทีม
โดยส่งเกรียงมาคุมเกมให้ ปุ้มยืนตำแหน่งศูนย์หน้าเต็มตัว ยุทธยังคงเล่นกองกลางตัวรุก ลูกดิ่งทำหน้าที่นายทวาร
ทีมรุ่นพี่นอกจากโยโย่คนเดียวที่ไม่ได้ลง นอกนั้นรุ่นพี่ตัวสำรองผสมตัวจริงลงเต็มสนาม
ไม่รู้ทำไมวันนี้บรรดาโค้ชถึงแยกรุ่นพี่กับรุ่นน้องอยู่กันคนละทีม ไม่ผสมกันเหมือนที่ผ่านมา
“พวกเราสู้ไหม” เกรียงเรียกรุ่นน้องรวมเป็นวงกอดคอกลางสนาม ปลุกขวัญสร้างกำลังใจ
“สู้ครับ!!!” เสียงตอบรับกระเหี้ยนกระหือรือ ไม่เกรงกลัวศักดิ์ศรีรุ่นพี่ ทำเอาเกรียงยิ้มกริ่ม
“ดี..งั้นลุยกันไอ้น้อง” ทุกคนผละไปประจำตำแหน่ง
ส่วนรุ่นพี่ลงประจำจุดพร้อมแล้ว ให้เกียรติรุ่นน้องเขี่ยบอลเปิดเกมรุกก่อน
ผสุ..มาเป็นแพทย์สนามอีกครั้ง แม้หมู่นี้หนุ่มนักเรียนแพทย์หน้าขาวมาบ่อยกว่าปกติ
แต่ไม่มีใครตั้งข้อสังเกต ความจริงผสุไม่มีคาบเรียนเย็นวันจันทร์ จะมาได้อีกทีวันพฤหัสบดี
ตารางเรียนที่สามารถปลีกเวลาได้ เขายืนกรานขอมาทำหน้าที่แทนหมอผานิตที่หายป่วยอย่างขยันขันแข็ง
วันนี้หนุ่มหน้าขาวสนใจเกมในสนามเป็นพิเศษ ในใจแอบเชียร์ทีมรุ่นน้องที่กระดูกบอลห่างชั้นมืออาชีพมากโข
เขาเชียร์มวยรองแต่ไม่ออกอาการให้เป็นที่ครหาในหมู่นักเตะที่ไม่ได้ลงสนาม หนึ่งในนั้นมีเทพบุตรแข้งทอง
นั่งพาดแขนกับพนักพิงเอนกายดู..สีหน้านิ่งเฉย
สายตาผสุเดิมทีจับอยู่แต่รุ่นน้องหน้าใสหุ่นสูง ซึ่งทำหน้าที่ผู้รักษาประตูขันแข็ง
สายตาเรียวจับจ้องลูกบอลในฝีเท้านักเตะอย่างมุ่งมั่น เล่นไปไม่ทันไร สายตากับไม่อาจละจากใบหน้าคม
ของนักเตะหุ่นล่ำเหงื่อโชกร่าง ไล่จากขมับจนเสื้อที่ใส่เปียกชุ่มไปหมด แต่ใบหน้ากลับยิ้มมีความสุข
ไปกับการวิ่งไล่ลูกฟุตบอลในสนามอย่างมีชีวิตชีวา
ผสุแอบกลืนน้ำลาย เมื่อยุทธถลกชายเสื้อโชว์กล้ามท้องเป็นลอนสวยขึ้นซับเหงื่อ
ไรขนอ่อนตรงสะดือหายลับขอบกางเกง หยาดเหงื่อเกาะพราวทั่วแผ่นท้องจนดูมันขลับ
กระตุ้นความรู้สึกให้คอแห้งผากเสียงั้น
เขาแทบได้กลิ่นเหงื่อเจ้าของร่างแตะอยู่ปลายจมูก ถึงกลับรีบสั่นหัวพรืดสลัดจินตนาการบ้าบอทิ้ง
บ่นในใจ..เป็นบ้าอะไรรสนิยมของเขาไม่เคยคิดอยากกินผิวแทนหุ่นล่ำมาก่อน แต่ท่าทางของยุทธตอนนี้
ดูดิบเถื่อนถึกมีแรงดึงดูดมากเลยทีเดียว ถึงกับเผลอคิดไปได้เสียงั้น
เขารีบถอนสายตามองคนอื่น แน่นอนคนที่ตั้งใจมองและเชียร์เป็นพิเศษคือลูกดิ่ง
ขณะนี้กำลังโดนสอยทำประตูไปแล้ว 1 เห็นแล้วสงสาร ลูกยิงเฉียบคมมุดมุมเสาเต็มๆ ยากเกินป้องกันจริงๆ
พวกรุ่นพี่ไม่ได้ออกอาการดีใจข่มขวัญรุ่นน้องให้เสียกำลังใจมากนัก คนยิงประตูรู้ดีว่า
กองหลังพลาดปล่อยเขาหลุดเข้าไปในเขตอันตรายจนสามารถทำประตูนำก่อน
โค้ชมีการซุบซิบกันตลอดเวลา ส่วนสีหน้าเทพบุตรแข้งทองดาวยิงอันดับต้นของเมืองไทยยังคงเรียบเฉย
ไม่ได้แสดงอาการกับลูกที่เป็นประตูเหมือนนักเตะที่เหลือ มีบ้างปรบมือยิ้มกว้าง บางคนแซวขำๆ ดูไม่จริงจัง
ผิดกับในสนาม คิ้วเข้มของปุ้มแทบชนกัน เริ่มมีอารมณ์ที่สวมบทศูนย์หน้ายังทำประตูรุ่นพี่ไม่ได้
แต่ทีมเขากับโดนทะลวงไปก่อน ส่งสายตาขวางมองลูกดิ่งอย่างโยนความผิดตามเคย
“ไม่ต้องไปสนใจมัน” ยุทธบอกรุ่นน้อง ลูกดิ่งพยักหน้ายิ้มให้รุ่นพี่
เขาเข้าใจดียุทธต้องการให้กำลังใจ..ไม่อยากให้เสียสมาธิ
เกมดุเดือดขึ้นเมื่อรุ่นน้องไม่ยอมแพ้ ฮึดสู้กระทั่งตีเสมอได้เมื่อยุทธผ่านบอลให้ปุ้มอย่างฉลาด
หลอกรุ่นพี่หลงทางเป็นผลสำเร็จ แกล้งตั้งท่าง้างเท้าจะยิงเอง แต่ดันเปิดให้ปุ้มที่มีช่องและโอกาสมากกว่า
อัดเต็มฝีเท้าเข้าประตูตุงตาข่ายสุดแรง กระทั่งพี่เทพยังปัดทิ้งไม่ทัน
“เฮๆๆๆ!!!” เสียงรุ่นน้องเฮลั่น กระโดดกอดปุ้มแสดงอาการดีใจที่ทำประตูคืนสำเร็จ
เริ่มผลัดกันรุกรับจนหมดครึ่งหลัง รุ่นพี่ก็ทำประตูเพิ่มไม่ได้ เกรียงวางเกมให้รุ่นน้องพัวพัน
เสริมกองหลังป้องกันประตูไว้สุดกำลัง พูดง่ายๆ เป็นฝ่ายตั้งรับมากกว่าเปิดเกมบุก อาศัยสวนกลับเร็วเมื่อรุ่นพี่ครองบอลพลาด
แต่จังหวะสุดท้ายปุ้มไม่คมมากพอ ผ่านฝ่ามือกาวของเทพไปไม่ได้เช่นกัน จนหมดเวลาเดินออกสนามมาพักครึ่ง
“เล่นดีนี่” ผสุเอ่ยชม ไม่เจาะจงชมใคร รุ่นน้องยืนเอาน้ำราดศีรษะกระดกขวดกลืนลงคอแก้กระหาย
ลูกกระเดือกเคลื่อนอึกๆ แต่ละคนหันมายิ้มขอบคุณในคำชมของแพทย์สนาม ลูกดิ่งเองก็ยิ้มให้ด้วย
มีเพียงยุทธที่กระดกน้ำจนย้อยริมฝีปาก ผสุลอบกลืนน้ำลายเหนียว เห็นระยะใกล้แบบนี้
กลิ่นเหงื่อคละคลุ้งปนเปไปหมด แต่เหมือนเขาจะได้กลิ่นเด็กเกรียนตัวล่ำเป็นพิเศษติดจมูกเสียงั้น
น่าหมั่นเขี้ยวปนหมั่นไส้เมื่อยุทธดันยักคิ้วข้างเดียวให้ ก่อนยิ้มหล่อโชว์ฟันครบทุกซี่
ผสุรีบเบือนหลบไม่กล้าสบตาด้วย ออกอาการใจเต้นขึ้นเฉย
“หวั่นไหวได้ไงวะ” ก่นด่าตัวเองเบาๆ ไม่มีใครรู้ว่าหมอหน้าขาวบ่นอะไรคนเดียว
“พรึ่บ!..โอ๊ะ!” ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นโป๊ะลงหัวลูกดิ่งจนสะดุ้งเล็กน้อย หยิบผ้าออกมองหาที่มา
เห็นหน้าหล่อดุจเทพบุตรส่งสายตาเหมือนยิ้มได้ แต่สีหน้าเรียบนิ่งจ้องเขาอยู่ ไม่ต้องถามว่าใครโยนมาให้
“ขอบคุณครับ” เขายิ้มกว้าง เอ่ยขอบคุณในขณะที่ตาแทบปิดเพราะรอยยิ้มตัวเอง
ดูน่ารักทีเดียวในสายตาคนมอง ก่อนใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าด้วยความพึงพอใจ
“โห..ของผมไม่เห็นได้” ยุทธทำโอดครวญ แกล้งเอ่ยแซวไม่จริงจัง
“หึ! ขอไอ้เกรียง” โยโย่ตอบหน้านิ่ง ให้ไปทวงกับพี่เลี้ยงเอาเอง
“กูเองยังไม่มี จะเอาที่ไหนให้มึง” เกรียงสวนทันควัน
ยุทธอ้าปากค้างมองพี่แทคส่วนตัว เขาเรียกเกรียนตัวพ่อของจริง
“อ่ะนี่..” คำพูดขัดขึ้น พร้อมผ้าขนหนูแกะใหม่ ผ้าเย็นที่ขายในร้านสะดวกซื้อ ผสุยื่นให้ยุทธทื่อๆ
แค่นี้หนุ่มหน้าเข้มก็ยิ้มทำตาวิ้งค์ๆ รับมาเช็ดหน้าเช็ดตา มีเหล่คนให้สายตากรุ้มกริ่มอีกต่างหาก
ผสุถึงกับใช้นิ้วถูจมูกไปมาแก้เก้อ ไม่รู้อะไรเข้าสิงเขา พอรู้หนุ่มล่ำต้องการผ้าเย็นดันนึกขึ้นได้ว่าในกระเป๋าเขามี
เอาออกมาส่งให้เฉย รู้อีกทีก็ทำไปแล้ว..
“ขอบคุณครับ..ผ้าหอมจัง” ยุทธเนียนเดินเฉียดผสุ กระซิบให้ได้ยินสองคน
ค่อยส่ายอาดๆ เข้าสนามตามเพื่อนไปเล่นครึ่งหลังให้จบเกม
คนฟังรู้สึกหน้าร้อนผ่าว หูแดงหน้าแดงเรียบร้อย คนอื่นอาจไม่ทันสังเกต
ยกเว้นหนุ่มหล่อตัวโตที่ยิ้มมุมปาก แอบชำเลืองดูผสุที่มองตามแผ่นหลังยุทธด้วยอาการวางสีหน้าไม่ค่อยจะถูก
ความสนใจกลับมาอยู่กับเกมแข่งขันในสนามอีกครั้ง ครึ่งหลังดูเอาจริงเอาจังกว่าเดิม
รุ่นพี่ไม่อ่อนข้อเล่นเต็มที่ ทำประตูเพิ่มอีกสองลูก
ผลการแข่งขันรุ่นน้องโดนไป 3 ต่อ 1 บรรดาโค้ชเรียกรวมแนะนำเล็กน้อยกับข้อผิดพลาดในสนามวันนี้
ใช้เวลาเบ็ดเสร็จจวนหกโมงเย็น ค่อยปล่อยนักกีฬาไปพัก เตรียมอาบน้ำกินข้าวมื้อเย็น
หลังเลิกซ้อมทุกคนปลีกตัวขึ้นห้องพัก จังหวะสะดวกปุ้มตรงเข้าชักสีหน้าใส่ลูกดิ่ง
พร้อมวาจาที่คนฟังถึงกับอึ้งหน้าเผือดสี
“มึงมันห่วย โดนไปสามลูก คงไม่ต้องบอกมึงอ่อนขนาดไหน..ไอ้ดิ่ง”
แล้วก็เดินหนีดื้อๆ ลูกดิ่งยืนนิ่งสีหน้าดูไม่ดี
“ไอ้ดิ่ง..ไปกัน” ยุทธไม่ทันสังเกต มัวแต่คุยกับผสุ รอกระทั่งแพทย์สนามกลับนั่นแหละ
ถึงหันมาตะโกนเรียกรุ่นน้อง ส่วนโยโย่ยืนคุยโทรศัพท์ที่มีสายเข้า เกรียงก็พูดกับเพื่อนร่วมทีม ไม่มีใครเห็นสักคน
“พี่ไปก่อนเถอะครับ ผมขอทำธุระสักครู่” คำตอบลูกดิ่ง ยุทธไม่ถามมากความว่ารุ่นน้องติดอะไร
พยักหน้ารับแล้วหันไปชวนเกรียงขึ้นห้องพัก ทุกคนจึงแยกย้ายกลับห้อง
โยโย่ก็ไม่เฉลียวใจ เมื่อไฟสนามดับลง เขาซึ่งคุยโทรศัพท์แค่กวาดตามองไม่เห็นใคร
เดาว่าลูกดิ่งคงขึ้นห้องไปกับยุทธแล้ว วางหูเสร็จจึงเดินไปยังอาคารเหมือนคนอื่น
ท่ามกลางความมืดโรยตัวจนดูสลัวรางเกือบมืดมิด ยังมีหนุ่มร่างสูงอยู่เพียงลำพัง กำลังฝึกพุ่งตัวเปล่า
ด้วยท่าบล็อกลูกบอลอย่างขมักขเม้น ในหัวลูกดิ่งมีคำพูดปุ้มวนเวียนอยู่ ‘มึงมันห่วย โดนไปสามลูก
ไม่ต้องบอกมึงอ่อนขนาดไหน..ไอ้ดิ่ง’ เขาไม่โกรธคนพูด กลับขอบใจที่วิจารณ์ตรงๆ ทำให้รู้ว่าต้องพยายามมากขึ้นเท่าตัว
วันนี้มีโอกาสลงทำหน้าที่เต็มเกม ทุกคนโชว์ฟอร์มสุดความสามารถ มีแต่เขาที่ไม่สามารถป้องกันประตู
รู้แต่แรกว่าอาจแพ้แต่ไม่คิดจะแพ้ 3 ลูก นั่นแสดงให้เห็นว่าเขายังทำได้ไม่ดีพอ
เพราะเหตุนี้ ทำให้ลูกดิ่งตัดสินใจอยู่ซ้อมลำพังด้วยการพุ่งตัวเปล่าจนเหงื่อโทรม ผ่านไปกว่ายี่สิบนาที
ถึงปรากฎร่างสูงใหญ่ใครบางคน ไม่รู้แอบดูนานแค่ไหน เดินหน้านิ่งเข้าไปในสนามด้วยชุดนักบอลเช่นกัน
“พอเถอะ..กลับไปอาบน้ำกินข้าว” เสียงทุ้มนุ่ม เอ่ยขึ้นอย่างเป็นห่วง ลูกดิ่งชะงัก
หอบหายใจตัวโยน เงยหน้าชุ่มเหงื่อจ้องรุ่นพี่นิ่ง ยังไม่มีคำพูดตอบกลับไป แต่สายตาบ่งบอกว่าจะยังไม่หยุด
“วันนี้พอแค่นี้ อย่าหักโหมเกินกำลัง” โยโย่พูดขึ้นอีก
“พะ..ผมเล่น..ไม่ได้..เรื่อง” ลูกดิ่งบอก สีหน้าแสดงชัดว่าเหนื่อยมาก ถึงพูดเว้นช่วงหายใจเป็นระยะ
“ทำดีแล้ว ต้องอาศัยเวลา ของแบบนี้ไม่มีใครก้าวกระโดดวันเดียว”
โยโย่ใช้สายตาอ่อนโยน และน้ำเสียงนุ่มนวลให้กำลังใจรุ่นน้อง
“พี่อย่าแกล้งชมให้ดีใจสิ ผมรู้พี่ใจดี แต่จะทำให้ผมเหลิงสำคัญผิด
ถ้าดีจริงวันนี้คงไม่โดนถล่มถึงสามลูก” ลูกดิ่งยิ้มแหยให้ เหมาว่าโยโย่กำลังทำให้เขาหลงตัวเองอยู่
“หึ!..คิดว่าพี่เป็นคนแบบนั้นเหรอ” รุ่นพี่รูปหล่อตัวสูง หย่อนตูดนั่งบนพื้นหญ้าสบายๆ
ทำให้ลูกดิ่งที่ยืนอยู่ต้องรีบนั่งตามลงไป ไม่อาจยืนค้ำหัวอย่างคนไร้มารยาทเด็ดขาด
“ผมไม่ได้ว่าพี่แบบนั้น พี่ใจดีพยายามให้กำลังใจผม ผมนิสัยไม่ดี
พลอยคิดว่าตัวเองเก่ง ทั้งที่ความจริงห่วย” ลูกดิ่งรีบแก้ความเข้าใจใหม่
“ใครมาพูดอะไร ถึงได้โหมฝึก” โยโย่ถามตามที่ตั้งข้อสงสัย
“ไม่มีครับ ผมรู้ตัวว่าอ่อน ควรฝึกให้คล่องตัวอีก” รุ่นน้องไม่อยากพาดพิงโยนความผิดให้ใคร
จะว่าไปปุ้มคือแรงบันดาลใจให้เขาฮึดมากกว่า ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย
“งั้นเหรอ..ไม่พูดไม่เป็นไร ขออะไรอย่างสิ” โยโย่หันมองหน้ารุ่นน้อง
ระยะห่างเขาสองคนไหล่แทบชนกัน ถึงแม้จะมืดแต่ก็พอมองเห็นหน้ากันได้
“อะไรครับ” ลูกดิ่งถาม พยายามไม่หลบตาพี่ ทั้งที่เริ่มใจเต้นแปลกๆ
กับสายตาที่ทอดมองอย่างมีความหมาย
“ขอให้เชื่อใจกัน ฝืนมากไม่เป็นผลดี พี่บอกเราทำได้ดีแล้ว ก็ขอให้เชื่อ ฟุตบอลต้องเล่นเป็นทีม
ที่เราโดนยิงวันนี้ แต่ละลูกใส่พานให้ ทีมเวิร์คพวกเราอ่อน เหมือนเด็กมัธยมสู้กับมหา’ลัย ถ้านับลูกที่ดิ่งเซฟไว้ได้
ถือว่าใช้ได้แล้ว อย่ามองเฉพาะลูกที่พลาด ถ้าดิ่งไม่มีฝีมือพอ คงไม่ใช่แค่ 3 น่าจะ 6-7 ด้วยซ้ำ
เข้าใจยังว่าไม่ได้แกล้งชม หยุดทรมานตัวเองได้หรือยัง” คำพูดที่ถ่ายทอดด้วยน้ำเสียงจริงใจ
บวกแววตาอ่อนโยนตรงหน้า ทำลูกดิ่งตื้นตันท่วมท้นในอกจนบอกไม่ถูก
“ขอบคุณครับ” ขอบคุณพร้อมรอยยิ้มน่ารักมีเสน่ห์
“เปลี่ยนคำขอบคุณ..เป็นรางวัลแทนความพึงใจได้ไหม”
“อะไรครับ” ลูกดิ่งไม่เข้าใจ
“รับปากก่อน..จะให้” รุ่นพี่ขอคำยืนยัน
“ถ้าทำได้ ผมยินดีให้ครับ” น้องพูดแบบไม่เสียเวลาคิด
“ถ้างั้นหลับตา” รุ่นพี่บอก รุ่นน้องแม้ไม่เข้าใจแต่ก็ยอมทำตาม ปิดเปลือกตาลง รอว่าพี่จะทำอะไร
ไม่ถึงอึดใจสัมผัสความนุ่มบางอย่างตรงริมฝีปาก ค่อยแตะแผ่วเบาเหมือนผีเสื้อกำลังกระพือปีก
ลมหายใจอุ่นร้อน เริ่มเข้าใจว่าสิ่งที่สัมผัสอยู่นี้คือ
‘จูบ’ พี่โย่จูบเขา คิดได้เผลออ้าปาก เปิดโอกาสให้สอดลิ้นอุ่นเข้ามา เพิ่มการประกบแนบสนิท
เสริมลีลากวาดต้อนลิ้นอย่างช่ำชองมากประสบการณ์ ลูกดิ่งตัวแข็งทื่อ ยอมให้พี่จูบนานพอสมควร
ก่อนถอนปากปล่อยเป็นอิสระ ตาเรียวสวยเปิดลืมช้าๆ แววตาฉ่ำแวววาวจ้องหน้าพี่อย่างมึนไปครู่
ถ้าตอนนี้มีแสงไฟสว่าง คงได้เห็นลูกดิ่งหน้าแดงจัด ชนิดว่าแดงเป็นแตงโมผ่าซีกไปแล้วเรียบร้อย
“ขอบคุณ..สำหรับรางวัล” โยโย่กระซิบเสียงแผ่ว จ้องรุ่นน้องสายตาหวานฉ่ำ
ลูกดิ่งเผลอสบถึงกับก้มหน้างุดไม่กล้าสู้ มีคำถามมากมายในหัวตีกันยุ่งไปหมด พี่โย่ทำแบบนี้ทำไม
เป็นเกย์หรือแค่อยากพิสูจน์ ตั้งคำถามวุ่นวายแต่ไม่มีคำตอบ ใจบอกให้ถามแต่ปากดันหนักอึ้งไม่ยอมง้าง
จึงมีเพียงอาการเงียบเกิดขึ้นแทน
“ขึ้นห้องเถอะ อาบน้ำทานข้าว พี่ให้คนจัดไว้แล้ว ไม่ต้องลงแคนทีน ป่านนี้ไม่มีเหลือแล้วครับ”
ลูกดิ่งไม่ตอบยอมลุกยืน ให้พี่กอดคอพาเดินออกสนามตรงไปยังอาคารที่พัก ยังคงไม่กล้ามองหน้าพี่เช่นเดิม
โยโย่เข้าใจดี ต้องให้เวลาน้อง หูแดงคอแดงแก้มแดงออกขนาดนี้ ไม่ต้องเดาว่าลูกดิ่งเขินอายแค่ไหน
ดีที่ไม่โวยชกเปรี้ยงเข้าให้เป็นค่าตอบแทนที่เขาจูบเอาดื้อๆ
จูบนี้เป็นความตั้งใจห้ามไม่ไหว อดใจแค่ไหนที่บอกตัวเองว่าค่อยทำให้น้องเปิดใจยอมรับ
สุดท้ายก็อยากสัมผัสกลีบปากสีสดเห็นแล้วอยากชิมความหวาน ความไร้เดียงสาบอกให้รู้ว่าน้องจูบไม่เป็นหรือไม่เคยจูบ
ทำให้อกซ้ายเขาพองโตจนคับแน่นไปหมด จูบแรกเขาได้ของลูกดิ่ง ถือเป็นความทรงจำที่มีคุณค่า
ก้าวต่อไปอ้อมแขนและอุ้งมือนี้จะปกป้องและพาน้องไปด้วยกัน เคียงข้างกันอย่างนี้
ไม่ต้องใช้คำพูด รับรู้จากการกระทำผ่านหัวใจสองดวง ดวงที่โตกว่าชัดเจนในความรู้สึก
ดวงเล็กยังสับสนไม่แน่ใจและงุนงง แต่กลับไม่มีการต่อต้านปฏิเสธ แสดงให้เห็นว่า
ถึงไม่ชัดเจนกับความรู้สึกแต่ก็ไม่รังเกียจ ที่เหลือต้องรอให้หัวใจรุ่นน้อง เปิดรับเขาไปเป็นครึ่งหนึ่งของชีวิตกันและกัน..
มาแล้วค่ะ..อร๊ากกก!!!..ฟินหรือเปล่า เราเองยังฟินเองเลย..อิอิ
เจอกันอีกทีวันพุธนะคะ ขอบคุณที่ตามติดให้กำลังใจพี่โย่ กับน้องดิ่ง
รู้สึกแม่ยกจะตรึม..ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
