ฟิน!!!ด้วยภาพ!
โยโย่ : หนาวอ่ะ! มาอาบด้วยกันไหม มาดิ..จะได้อุ่นหน่อย

ลูกดิ่ง : ไม่เอาอ่า..ให้กำลังใจสู้ๆ ครับพี่ ผมกลัวหนาว..บรื๋ออออ!!

โยโย่ : โห! เล่นทิ้งกันเลยเหรอ ระวังตัวให้ดีเหอะ ไม่ลงมาก็ให้กำลังใจกันหน่อยดิ

ลูกดิ่ง : อ่ะๆ ..เอาไปหนึ่งจุ๊บ! โอเคป่ะ..ฮะฮ่าๆๆ

โยโย่ : มานี่มะ..จุ๊บเหน่งที อืม!!..ค่อยมีกำลังใจว่ายน้ำหน่อย ขอบคุณครับ หอมสุดๆ!

ลูกดิ่ง : บ้าอ่ะพี่! ชอบแกล้งผมเขิน [หน้าแดงก่ำ เขินจริงเขินจัง แต่ก็แอบอมยิ้ม..ชอบนะนั่น]
สนามรัก..นักบอล
Part 14
60%
“ฝันดีครับแม่ ผมรักแม่ครับ” ลูกดิ่งคุยโทรศัพท์กับแม่ หลังคนตัวโตหายเข้าห้องได้พักใหญ่ วางสายไปนานแล้วหน้าหล่อใสยังมีรอยยิ้มของความสุขไม่จางหาย
ลุกจากโซฟาเดินเข้าห้องนอน อีกไม่กี่นาทีสามทุ่มปกตินักกีฬาตื่นเช้านอนไม่เกินสี่ทุ่มครึ่ง
เข้ามาเห็นคนหน้าเข้มนั่งจ้องจอคอมฯ สีหน้าแววตาบ่งบอกกำลังใช้สมาธิกับสิ่งที่ทำ ลูกดิ่งไม่กล้าเสียมารยาท
เข้าไปยืนดูใกล้ๆ มองอยู่ห่างๆ เหมือนตารางหุ้นที่เคยดูในทีวี ได้แต่คาดเดาพี่เขาคงดูหุ้นอยู่ แต่จะดูไปทำไม..ข้อนี้เขาไม่รู้
ค้างคำถามคาใจไว้แค่นั้น เลี่ยงเก็บโทรศัพท์ใส่เป้ ค่อยเข้าห้องน้ำ ไม่ลืมหยิบกางเกงนอนขาสั้นเสื้อกล้ามห่านคู่สีขาว
ตั้งใจอาบน้ำแปรงฟันก่อนนอนอีกรอบ...
“ตอนเย็น..ผสุโทรถามอาการ” กลับออกมาคนตัวโตเอกเขนกอ่านหนังสือบนเตียง เงยหน้ามาพูดด้วย..
“ครับ” ลูกดิ่งได้แต่ขานรับงงๆ
“บอกว่าไม่เป็นอะไรมาก” คนบอกยังคงอธิบายตามหลัง
“ครับ” รุ่นน้องครับอย่างเดียว
“กดโทรมา..089xxxx” รุ่นพี่พูดเน้นชัด
“หา..” รุ่นน้องอ้าปากค้าง ท่าทางยังไม่ค่อยเข้าใจ
“ใช้โทรศัพท์เรา กดเบอร์ที่บอกโทรมา” น้ำเสียงเรียบติดจะเร่งนิดๆ ลูกดิ่งไม่มีเวลาคิดเยอะ
ตรงไปหยิบโทรศัพท์ที่สอดไว้ในเป้..เงยมองรุ่นพี่
“089xxxx” รุ่นน้องกดตามแล้วโทรออก รอไม่ถึงสองวิเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ข้างหมอนก็ดังขึ้น
คนตัวโตหน้านิ่งหยิบขึ้นมาตัดสายทิ้ง ทำอะไรบางอย่าง ก่อนปิดเครื่องหน้าจอไฟดับไปเรียบร้อย
“เออ..พี่เมมเบอร์ผมเหรอครับ” ไม่มีประโยคไหนที่ลูกดิ่งคิดว่าเลือกมาใช้ได้เหมาะกว่านี้แล้ว
แน่ใจว่าที่พี่ทำคือบันทึกเบอร์โทรไว้ แต่ทำไมวิธีการขอเบอร์ชาวบ้าน ถึงเป็นแบบนี้ได้เล่า...?
“ไว้ติดต่อฉุกเฉิน” คำตอบเข้าใจง่าย รุ่นน้องพยักหน้างึกๆ แต่ก็ยังตงิดอยู่นิดๆ
“แล้วเบอร์พี่ล่ะ ไม่ให้ผมเหรอ” ถามพาซื่อ เขาให้เบอร์รุ่นพี่ ทำไมคนตัวโตไม่ให้เบอร์เขาไว้ด้วย
“ให้ไปแล้ว..เบอร์ที่โทรมาไง อย่าให้เบอร์ใครพร่ำเพรื่อถ้าไม่สำคัญ..หรือมีความจำเป็นต้องให้” รุ่นพี่หน้าเข้มเฉลย
พร้อมคำสั่งห้ามตามมาด้วย คนปล่อยไก่ได้แต่เกาหัวแกรกๆ ออกอาการเขินสุดๆ หลุดโง่แบบไม่น่าให้อภัยตัวเอง
โยโย่เห็นลูกดิ่งหูแดงหน้าแดง มุมปากกระตุกกลั้นขำสุดกำลัง เนียนเฉวางหนังสือเล่มหนาลุกไปเข้าห้องน้ำ
ทำธุระส่วนตัวปล่อยลูกดิ่งเขินอยู่ลำพัง เขาไม่กล้ามองรุ่นพี่เลยตอนนี้..ยอมรับอายมาก!
“นอนนะ” โยโย่กลับออกมา ได้กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆ อาบน้ำเรียบร้อย ลูกดิ่งมองแล้วอึ้ง
พี่แกเล่นนุ่งผ้าขนหนูพันเอวผืนเดียวนี่สิ โชว์กล้ามท้องไรขนเซ็กส์ทำคนมองนึกสมเพชตัวเอง
เขามีแค่ขนรักแร้ของลับและหน้าแข้ง จุดอื่นเกลี้ยงเกลา แต่รุ่นพี่กลับมีขนมีเคราดกแมนมากๆ..
“ตกลงเอาไง..นอนเลยนะ” คำถามดึงความคิดลูกดิ่งกลับคืน
“ครับ..ผมนอนบนเตียง” ขานรับ พร้อมชี้นิ้วไปที่เตียง
“อืม..ว่าแต่ไม่ลำบากใจใช่ไหม” คนตัวใหญ่มีการย้ำ
“ไม่ครับ เกรงใจมากกว่า..กลัวพี่อึดอัด ที่จริงผมปูฟูกนอนข้างล่างก็ได้นะครับ” รุ่นน้องยืนยันจากความรู้สึก
“นอนด้วยกันเนี่ยะแหละ” ตัดบทสั้นๆ ก่อนคนตัวโตจะขึ้นเตียงล้มตัวลงดึงผ้าห่มนวมคลี่คลุมปิดหน้าอก
ทำอะไรใต้ผ้ายุกยิกสักครู่ คำตอบตามมาเมื่อผ้าขนหนูสีขาวที่ใช้นุ่ง ค่อยหล่นลงข้างเตียงต่อหน้าต่อตาลูกดิ่ง
ควรเห็นเป็นเรื่องปกติ เพราะทำความเข้าใจมาแล้ว ‘พี่โย่นอนแก้ผ้า’ แต่พอมาเห็นตำตากับหน้าร้อนผ่าว
ไม่อยากขยับไปร่วมเตียงเสียอย่างนั้น
“รออะไร..จะปิดไฟ” เสียงทุ้มเรียบเอ่ยเร่ง รุ่นน้องร่างสูงเพรียวนุ่งกางเกงผ้าฝ้ายขาสั้นกับเสื้อกล้ามห่านคู่
โชว์ผิวขาวใสหน้าขึ้นสีเรื่ออมฝาดเป็นที่เรียบร้อย ค่อยเดินไปยังอีกฝากของเตียง เว้นช่องห่างมากโขล้มตัวนอนดึงผ้าห่มนวม
ตัวเองขึ้นคลุมเรียบร้อย หันหน้ายิ้มแหะๆ ให้รุ่นพี่ที่มองการกระทำรุ่นน้องไม่วางตา ค่อยหันหลังคู้ตัวนอนเหมือนเด็ก
พร้อมอาการประหลาดๆ ที่หาเหตุผลไม่ได้ บอกได้คำเดียว... ‘เขินแทนวุ้ย’
“ปิดไฟนะ” คำถามที่ไม่รอคำตอบ พูดเสร็จไฟในห้องดับพรึ่บ ตกอยู่ในความมืดทันที ไม่มีแสงเล็ดรอดจากแหล่งใด
ให้รำคาญลูกตา ทั้งห้องนอกจากมืดแล้วยังเงียบสนิท แม้แต่เสียงลมหายใจตัวเองยังได้ยิน
กลับมีดาวประหลาดสี่ดวง ยังพอเห็นประกายในความมืด คู่หนึ่งหันไปทางผนัง อีกคู่มองเพดานห้อง
ที่แท้คือลูกตาวาววับสองดวงหาใช่ดวงดาวจากที่ไหน..รุ่นพี่รุ่นน้องจมอยู่ในความคิดตัวเอง ไม่มีใครหลับลง
แม้เสียงลมหายใจจะสม่ำเสมอ แต่เสียงหัวใจคนสองคนกลับเต้นไม่เป็นจังหวะ...เจ้าของล้วนรู้ว่าตัวรู้สึกยังไง
ถึงควบคุมการเต้นหัวใจให้ปกติไม่ได้
เวลาผ่านนานนับชั่วโมง ลูกตาที่หันเข้าหาผนังพริ้มหลับไปในที่สุด ไม่นานนักตาคมที่แหงนมองเพดานปิดตามกันไปติดๆ
สองหนุ่มต่างวัยเข้าสู่ห้วงนิทราแสนสุข ใช้เวลาควบคุมสมาธิปล่อยวางความคิดสำเร็จ
ภายใต้บรรยากาศหลับใหล เข็มนาฬิกาหมุนไปเรื่อยๆ อิริยาบถของคนกำลังหลับเป็นไปอัตโนมัติ
ช่องว่างที่ทิ้งห่างคนละฝั่งเตียง ค่อยหดเล็ก พร้อมการพลิกตัวเปลี่ยนท่าผ่อนคลายความเมื่อยล้า
กระทั่งใกล้รุ่งสาง สภาพคนตัวเล็กนอนหันหลังเข่าคู้ คนตัวโตพอนอนใกล้กันเปรียบเทียบโครงร่าง
เห็นความแตกต่างชัด ซ้อนทับแนบชิดแผ่นหลังคนตัวเล็ก ในท่าเข่าคู้ใบหน้าคมเคราดกซุกอยู่หัวทุยคนตัวเล็ก
แขนแข็งแรงวาดกอดตรงเอว ผ้าห่มนวมจากที่มีคนละผืนกลายเป็นผืนเดียวกันไปเรียบร้อย..ร่นลงเกาะสะโพกสองหนุ่ม
ช่างเป็นภาพอบอุ่นอ่อนโยนในความรู้สึกคนมอง ลมหายใจเป็นจังหวะเดียวกัน อาศัยสังเกตจากแรงกระเพื่อมเบาๆ ตรงหน้าอก
แปลกไม่ว่าจะเป็นคนตัวเล็กหรือตัวโตกลับหลับลึกสีหน้าสงบมีความสุขในการนอนเต็มประดา..อดยิ้มเอ็นดูอย่างมีความสุขตามไม่ได้?
“กริ๊งงๆๆๆ...กริ๊งงๆๆๆ” เสียงนาฬิกาปลุกตีห้าครึ่ง ร่างสูงใหญ่งัวเงีย พร้อมกับร่างเพรียวในอ้อมกอดค่อยๆ
เปิดเปลือกตาลืมขึ้นเช่นกัน ก่อนทั้งคู่จะเห็นความผิดปกติในท่านอนล่อแหลมของตัวเอง
“เฮ้ย!..เฮ้ย!” เสียงเฮ้ยดังไล่กันติดๆ พร้อมการเด้งตัวห่างคนละมุมแบบไม่ต้องนัดหมาย
“เออ..ผมใช้ห้องน้ำก่อนนะครับ” ลูกดิ่งละะล่ำละลักเหมือนคนติดอ่าง ไม่แม้กระทั่งกล้าสบตารุ่นพี่
ที่นั่งเอามือเสยผมมีผ้าห่มนวมร่นหมิ่นเหม่ให้หวาดเสียวตามไปด้วย
“อืม” เสียงทุ้มลึกขานในคอ รุ่นน้องไม่รอช้า เดินเอามือกุมเป้าเข้าห้องน้ำปานเหาะ..เป็นเวลาปกติที่ผู้ชายร่างกายสมบูรณ์
ฮอร์โมนเจริญพันธุ์จะมีอาการแบบนี้ คล้อยหลังรุ่นน้อง รุ่นพี่เปิดผ้าคลุมก้มดูบางอย่างใต้ผ้า สบถกับตัวเองอย่างหัวเสีย
“ชูคอหาพ่อง!” ไม่รู้ด่าใคร เพิ่งได้ยินคำสบถสุดเถื่อนจากปากคนรูปหล่อขั้นเทพเป็นครั้งแรก เกิดหัวเสียอะไรแต่เช้า...?
หลังรุ่นน้องออกจากห้องน้ำ เขาไม่เห็นรุ่นพี่ในห้อง แม้จะโล่งใจนิดๆ ที่ไม่ต้องประจันหน้าให้มีเวลาทำใจเพิ่มสักครู่
ค่อยเปิดประตูออกไปหารุ่นพี่ที่นั่งกระดกกาแฟดูข่าวเงียบๆ ตรงโซฟา
“พี่โย่ครับ ผมเรียบร้อยแล้ว” ลูกดิ่งบอกรุ่นพี่ให้รู้ จะได้เข้าไปทำธุระส่วนตัวเตรียมลงวิ่งและฟิตเนสตามโปรแกรม
ใบหน้าคมเข้มหันมาสำรวจรุ่นน้อง เห็นหน้าใสยิ้มละไมตามแบบฉบับ รุ่นพี่หน้าตึงยืนเต็มความสูง
ด้วยสภาพผ้าขนหนูพันเอวผืนเดียว เดินผ่านรุ่นน้องพร้อมประโยคปริศนา
“ตัวเบาแล้วสิ” หายเข้าในห้องนอน ปล่อยรุ่นน้องยืนเกาหัวแกรกๆ ตามหลังอย่างไม่เข้าใจ
“ตัวเบา..พูดเมื่อไหร่ว่าตัวเบา บอกเรียบร้อยแล้วต่างหาก” ลูกดิ่งทวนคำพูดคนเดียว เขาแน่ใจว่าไม่ได้พูดว่าตัวเบา
สงสัยรุ่นพี่จะหูเฝื่อนฟังผิดไป..อดยิ้มไม่ได้แอบประหลาดใจ บุคคลซึ่งดูเป๊ะอย่างเทพบุตรแข้งทองจะมีมุมหูเฝื่อนกับเข้าด้วย
หน้าใสถึงกับยิ้มกว้างปากฉีกส่ายหัวให้รุ่นพี่ที่ไม่มีโอกาสได้เห็นกิริยารุ่นน้อง...
>
>
>
การซ้อมเป็นปกติ นักเตะแต่ละคนอะดรีนาลีนหลั่งกระจาย ดูกระชุ่มกระชวยคึกคักกันเป็นพิเศษ
สาเหตุเป็นเพราะวันนี้คือวันศุกร์ พรุ่งนี้เสาร์อาทิตย์ซ้อมไม่หนักและได้พักผ่อนกันแล้ว
มากกว่านั้น ทุกคนคาดหวังจะได้ลงเตะกับทีมสโมสรดังของยุโรปที่มาทัวร์อุ่นเครื่องการกุศล
พากันยกหัวข้อนี้มาสนทนาทอล์คออฟทีเดียว โดยเฉพาะนักเตะขวัญใจ ต่างหมายมั่นให้ได้ลายเซ็นกับเสื้อ
ที่คาดหวังจะแลกเอามาให้ได้ พวกรุ่นน้องก็พุ่งเป้าไว้เช่นกัน การฟิตซ้อมจึงกลายเป็นความตื่นตัว
เป็นที่พออกพอใจของบรรดาโค้ชแต่ละท่าน
ช่วงเย็นลงทีม แพทย์สนามวันนี้เป็นเพื่อนหมอผามาทำหน้าที่แทน หมอผายังไม่หายป่วยดี
ผสุมาไม่ได้เพราะติดเรียน แต่มีโทรมาที่เครื่องของโยโย่ขอคุยกับลูกดิ่ง
[พี่โทรถามอาการดิ่งกับพี่โย่ พี่เขาบอกหรือเปล่าครับ] การสนทนาผ่านโทรศัพท์ส่วนตัวรุ่นพี่รูปหล่อ
ที่อนุญาตให้รุ่นน้องคุยได้ โดยที่ตัวเองลงไปซ้อมทีมวิ่งไล่บอลอยู่ในสนาม
“บอกครับ” ลูกดิ่งตอบคนในสาย
[แล้วดิ่งเป็นยังไงบ้างครับ รู้สึกดีขึ้นไหม] น้ำเสียงคนถามเจือความห่วงใยชัด จนลูกดิ่งเองยังรู้สึกได้
“ผมหายดีแล้วครับ ขอบคุณพี่มากที่เป็นห่วง” น้องบอกไปตามจริง ตอนนี้แม้แต่รอยแดงก็จางแทบไม่เหลือ
[ค่อยโล่งอกหน่อย กลัวดิ่งเจ็บจนซ้อมไม่ไหว ถ้างั้นวันอาทิตย์เราได้เจอกันแล้วสิ ให้พี่ไปรับที่สโมสรกี่โมงดีครับ]
ผสุถือโอกาสรวบรัด
“พี่โย่กับพี่ยุทธก็ไปด้วย ยังไงผมคงต้องถามพี่เขาก่อน เรื่องนี้ผมให้พี่โย่เขาตัดสินใจดีกว่า ผมเป็นเด็กในความดูแล
ของพี่เขา เดิมทีรุ่นน้องที่มาเข้าค่ายยังออกไปไหนไม่ได้ในอาทิตย์แรก ยกเว้นรุ่นพี่ที่ดูแลจะพาไปครับ” ลูกดิ่งพูดตามจริง
ถ้าโยโย่ไม่พาพวกเขาออกไป คงออกจากสโมสรไม่ได้
[เอาอย่างนั้นก็ได้ ว่าแต่ดิ่งให้เบอร์โทรพี่ไว้ด้วยสิ มีอะไรพี่ได้ไม่ต้องรบกวนโทรมาเครื่องพี่โย่]
ผสุได้โอกาสขอเบอร์รุ่นน้องตามที่ตั้งใจ คนฟังหลังได้ยินนิ่งไปครู่ใหญ่ เสียงพูดคนตัวโตกำชับเอาไว้
ไม่ให้เบอร์พร่ำเพรื่อดังเข้าหูตามมา
“ผมไม่สะดวกพี่ผสุไม่โกรธใช่ไหม คือถ้าติดต่อระหว่างที่ผมเป็นเด็กสโมสรอยู่ พี่ติดต่อผ่านพี่โย่ในฐานะพี่เลี้ยง
คอยดูแลผมดีกว่าครับ ผมไม่อยากถูกมองไม่ดี เข้าใจผมใช่ไหม?” คำพูดแบบรักษาน้ำใจ ทำเอาปลายสายไม่กล้าตำหนิ
เหตุผลที่รุ่นน้องรูปหล่อหน้าใสให้มาฟังมีน้ำหนัก
[ครับๆ พี่จะโกรธได้ยังไง ที่จริงเมื่อวานพี่นัดพี่โย่ไว้ว่าสามทุ่มจะโทรคุยกับดิ่ง แต่โทรไปไม่ติด เหมือนจะปิดเครื่อง]
ผสุหันหัวเรื่องอย่างฉลาด
“ไม่รู้สิครับ” ลูกดิ่งเลือกใช้คำตอบแบบไม่ให้มีคำถามตามมา
ที่จริงเขาเห็นและแน่ใจว่าพี่โย่หลังเมมเบอร์เรียบร้อย..ก็ปิดเครื่อง...
[แล้วตอนนี้ดิ่งกำลังทำอะไรอยู่] ผสุพยายามหาเรื่องชวนคุย
“ผมคุยโทรศัพท์กับพี่อยู่ครับ” ลูกดิ่งตอบพาซื่อ
[ฮะฮ่าๆๆ..พี่หมายถึงถ้าไม่คุยโทรศัพท์] เสียงหัวเราะแบบกลั้นขำไม่อยู่ของผสุดังจนลูกดิ่งต้องเอาออกห่างหู
เกิดเข้าเส้นจี้อะไรกับคำตอบ เขาคุยโทรศัพท์อยู่ไม่น่าถามว่าทำอะไร
“ผมกำลังซ้อมทีม โค้ชมองแล้วครับ คงเห็นผมคุยโทรศัพท์นานไว้คุยกันวันหลังนะครับพี่ผสุ”
ลูกดิ่งตัดบท โค้ชโจ้มองมาจริงๆ เวลานี้เขาควรสนใจดูเกมการเล่น
[ตกลงครับ ดูแลตัวเองด้วยครับดิ่ง] ผสุทิ้งท้ายติดหยอดนิดๆ แม้จะฟังดูปกติ แต่น้ำเสียงกับเจือความหวานมาด้วย
“ครับ..พี่ผสุก็ตั้งใจเรียนนะครับ” เป็นการสิ้นสุดบทสนทนา รุ่นน้องถือโทรศัพท์ของพี่ไว้ รอคืนเจ้าของตอนพักครึ่ง
“ดิ่งไปวอร์มเดี๋ยวลงเป็นประตู..ทรงลพ..ชินทร..เตรียมวอร์มเปลี่ยนลงครึ่งหลัง” โค้ชอรุณสั่ง
พวกรุ่นน้องที่มีชื่อผุดรอยยิ้มกว้าง ลุกบิดซ้ายขวา เตรียมเดินไปวอร์มข้างสนาม ลูกดิ่งรีบซุกโทรศัพท์เก็บใส่เป้ตัวเอง
ตามไปวอร์มกับเพื่อนๆ สายตาจับจ้องไปยังเกมในสนาม ซึ่งปุ้ม ยุทธ ต้อ วัตร..เพื่อนรุ่นเดียวกันลงไปซ้อมกับพวกพี่ๆ
ตามคำสั่งโค้ช ทุกคนเริ่มรู้แล้วและแน่ใจได้ลงแสดงฝีเท้าทุกคน แต่ใครจะทำได้ดีเข้าตาโค้ชจนมีชื่อติดหรือไม่
ต้องรอดูกันต่อไป...
มาอัพให้ก่อนนะคะ ไว้ประมาณสักสามทุ่มจะมาอัพส่วนที่เหลือให้ค่ะ
คือตอนนี้ยุ่งมากอ่ะคะ ต้องรีบทำงานก่อน สำคัญคืองานประจำตัวนี้เร่งด้วยค่ะ
เกิดมาชนกันวันนี้ ไม่ว่ากันนะคะ ส่วนที่เหลือยังตรวจรีไรท์ไม่เสร็จจร้า น่าจะได้คืนนี้แน่นอนค่ะ
ขอบคุณมากๆ นะคะ ที่รอคอยกัน ก่อนหน้าก็ไข้ขึ้น เส้นยึดระบมไปสองวัน
ฮะฮ่าๆๆ ช่วงนี้สงสัยราหูแทรก ขอบคุณอีกครั้งนะคะ
Thanks. 