ช็อตพิเศษ!!!ฟินด้วยภาพจร้าาาาา!!!

โยโย่ : แลบลิ้นทำไม
ลูกดิ่ง : ผมเจ็บปาก..?
โยโย่ : เราทำตัวเอง
ลูกดิ่ง : มันเป็นอุบัติเหตุ ไม่ได้เจตนานี่ครับ


โยโย่ : ว่าแล้วยังจะทำอีก
ลูกดิ่ง : ก็บอกแล้วมันเจ็บปาก พี่รู้ป่ะ! นี่คือการสัมผัสปากกับคนอื่นครั้งแรกของผมเชียวนะ
โยโย่ : [อึ้งไปหลายวิ] ขืนยังไม่หยุดเอาลิ้นออกมาเลียปาก จะไม่ใช่ครั้งแรกแล้วขอเตือน ถ้าไม่อยากโดนหลายๆ ครั้ง
ลูกดิ่ง : [อึ้งตาค้างไปแล้วเรียบร้อย กับคำพูดที่ไม่คิดว่าพี่โย่จะเอ่ยออกมา]


ลูกดิ่ง : [กระพริบตาปริบๆ หลังดึงสติคืนมาได้ ค่อยทบทวนว่าพี่โย่คงพูดเล่น ยิ้มร่าอย่างเบิกบานเมื่อเห็นมุมตลกของคนหน้าตาย]
โยโย่ : หัวเราะอะไร?
ลูกดิ่ง : ผมไม่คิดว่าพี่จะพูดเล่นแบบนี้กับเขาด้วย
โยโย่ : ใครว่าพูดเล่น ยิ่งหัวเราะแบบนี้ อย่าไปทำใส่ใครนอกจากฉันคนเดียว รับปากมา? [ขู่เสียงเครียดทีเดียว]
ลูกดิ่ง : อะไรครับที่ห้าม หัวเราะหรือแลบลิ้น [ถามด้วยความงง?]
โยโย่ : ทั้งสองอย่างนั่นแหละ..จิ๊! [จิ๊ปากด้วยความฉุนที่รุ่นน้องหน้าใสไม่เข้าใจความหมาย แต่ก็เผลอยกยิ้มโชว์ฟันขาวตามสีหน้าที่หัวเราะอารมณ์ดีของรุ่นน้องหน้าใสไม่ได้ ก่อนจะสบถทิ้งท้าย] 'เป็นเสียแบบนี้..มันน่านัก..หืมมมมม!!!'
สนามรัก..นักบอล
Part 9 หลังเหตุการณ์สุดหล่อกองหน้าวาฬเพชฌฆาตโดนเด็กกระตุกหาง โดยฝีมือรุ่นน้องหน้าใส แถมยืนเอาเท้าเหยียบลูกฟุตบอลยักคิ้วยึกๆ ให้รุ่นพี่หน้าเข้มไปสองที สร้างเสียงหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
ให้บรรดาเพื่อนร่วมทีมครื้นเครงแอบสะใจนิดๆ ที่โยโย่เทพบุตรแข้งทองโดนล้วงลูกจากเด็กในความดูแล
ด้วยวิธีชิงบอลอย่างเหนือความคาดหมาย
เล่นเอาพวกขำกันสุดๆ หน้าหล่อเข้มเอ๋อไปพักใหญ่ เลยกลายเป็นที่จดจำของบรรดานักเตะ
ร่วมถึงผองเพื่อนที่มาเข้าค่าย ชื่อลูกดิ่งเกิดทันที จากปรากฎการณ์ช๊อคโลกสดๆ ร้อนๆ
“เทพ..เปลี่ยนให้น้องทำหน้าที่แทน เราสอนเทคนิคอยู่ข้างๆ พี่อยากดูทักษะการบล็อกลูก”
โค้ชอรุณสั่งผู้รักษาประตู เปลี่ยนให้ลูกดิ่งเข้าไปทำหน้าที่นายทวารบ้าง
“ครับโค้ช” พี่เทพรับคำ หันไปพยักหน้าเรียกลูกดิ่ง เจ้าหนูมหัศจรรย์ขวัญใจนักเตะคนล่าสุด ยิ้มสดใสเมื่อมีโอกาส
ทำหน้าที่ตามตำแหน่งเล่น วิ่งไปที่เป้ใบเล็กหยิบถุงมือผู้รักษาประตูส่วนตัว ซึ่งเตรียมมาสวมอย่างไว ก่อนจะวิ่งขาขวิด
เข้ามาเปลี่ยนตำแหน่งนายทวารด้วยท่าทางกระตือรือล้น
บรรดานักเตะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่พากันกระหยิ่มยิ้มย่อง ที่จะได้สอนมวยน้องใหม่ หลังเลี้ยงลูกหลบการสกัดแล้วซัลโวประตู
แต่โอกาสผ่านมือกาวของเทพหืดจับมานับชั่วโมง ผลไม่เป็นที่น่าพอใจเท่าไหร่ นายทวารคนเก๋าอ่านทางบอลพวกเขาออก
จึงปัดทิ้งไปเสียเป็นส่วนใหญ่
ผิดกับน้องใหม่หน้าใสกระชากใจวัยสาว รอยยิ้มซื่อประดับใบหน้าตลอดเวลากลายเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวไปแล้ว
กระดูกบอลยังไม่แข็งแกร่งพอ คงสร้างความบันเทิงให้พวกเขาไม่น้อย ยิ่งรุ่นราวเดียวกันยิ่งคึกคักกันใหญ่
ตั้งแต่ฝึกยิงประตูเป็นร้อย..นับลูกที่ยิงเข้าไม่ถึงสิบ
ถ้าเปลี่ยนเป็นลูกดิ่ง พวกเขาจะได้กู้ชื่อคืนบ้าง โค้ชจะได้ไม่มองไร้น้ำยาพวกเท้าบอด หนึ่งในนั้นคือปุ้ม
กะโชว์ฟอร์มให้สมตำแหน่งกองหน้าตัวรุกและกัปตันทีมที่คว้าแชมป์สี่เส้าหมาดๆ มุมปากกระตุกตาวาวลิงโลด
“เต็มที่ไอ้น้อง” เทพตบบ่าลูกดิ่งสองที ก่อนเดินออกมาเปิดขวดน้ำที่วางเตรียมไว้หลังเสาดื่มแก้กระหายไปหลายอึก
รับหน้าที่พี่เลี้ยงคอยสอนการอ่านท่าร่างนักเตะและทางบอลแต่ละคนให้ด้วย เป็นประสบการณ์และเทคนิคที่ให้ประโยชน์ลูกดิ่ง
อย่างมาก น้องได้รับการถ่ายทอดวิธีจับสังเกตสัญชาตญาณนักเตะ จากท่าวิ่งและทิศทางของร่างกายตั้งแต่กลางสนาม
ว่าจะยิงมุมไหน ไม่ใช่คำนึงโดยอาศัยวัดใจหรือคาดเดาเอาอย่างเดียว
น้อยคนที่จะยิงประตูด้วยท่าฝืนธรรมชาติ ส่วนใหญ่ยิงตามที่ถนัด เน้นความแรงของลูกส่งจากเท้า
และทิศทางแน่นอนเป็นหลัก มีไม่กี่คนที่จะพลิกเพลงด้วยการยิงฝืนท่าร่างธรรมชาติ จัดเป็นความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ
ลอกเลียนกันลำบาก คนที่นำไปใช้หากไม่รู้หลักวิธีอาจได้รับบาดเจ็บกล้ามเนื้อฉีกขาดเอาได้..
หน้าหันไปทางซ้ายแต่กลับซัลโวลูกในทางตรงข้าม คนทำแบบนี้ได้ขั้นเทพ หนึ่งในนั้นคือสุดหล่อเคราดก ‘โยโย่’
เทพบุตรแข้งทอง ถ้าหากเป็นคนนี้ ต้องวัดใจอย่างเดียว..สังเกตท่าร่างอาจโดนหลอกเอาง่ายๆ
ทั้งคนป้องกันประตู กับนักเตะที่คึกคักในการยิงดูตั้งใจขึ้นอีกโขหลังเปลี่ยนนายทวาร การฝึกสนุกเพิ่มเป็นเท่าตัว
ลูกดิ่งฟังเทคติกจากพี่เทพใช้ปฏิภาณไหวพริบของตัวเองอ่านทางบอลทำหน้าที่อย่างแข็งขัน แน่นอนเปอร์เซ็นต์ที่ได้ไม่ดีนัก
พี่ๆ แต่ละคนฝีเท้าใช่ธรรมดา ยิงแรงเข้าขั้นชนิดถ้ารับผิดท่าพาจุกได้เลย ลูกไหนที่เสี่ยงอันตรายอาศัยความสูงเฉพาะตัว
ปัดให้พ้นคานทิ้งออกไปเลย
การทำหน้าที่รักษาประตูของหนุ่มหน้าอ่อนเยาว์ อยู่ในความสังเกตของบรรดาโค้ชทั้งสามคน แต่ละคนยอมรับเด็กคนนี้
มีพรสวรรค์ หัวไวไหวพริบเยี่ยม สำคัญการตอบรับของร่างกายอัตโนมัติถือว่าเข้าขั้น ส่วนที่รับได้มั่งไม่ได้มั่งไม่ใช่เรื่องใหญ่
พวกเขาแค่ต้องการดูพื้นฐานสมาธิและไหวพริบบวกความคล่องตัว หากให้คะแนนในใจลูกดิ่งทำได้ดีเป็นที่น่าพอใจกันเลย
ที่เหลือต้องอาศัยขัดเกลาฝึกปรือ..ของแบบนี้เอามาพัฒนากันได้
“โย่เบาหน่อย.น้องมือหักขึ้นมาจะยุ่ง..ฮะฮ่าๆ” นักเตะรุ่นพี่ที่กล้าหยอกโยโย่โดยอีกฝ่ายไม่ชักสีหน้ามีไม่กี่คน..
ล้วนอายุมากกว่าแค่แซวเล่นสนุกๆ หลังสุดหล่อหน้าเข้มเลี้ยงลูกผ่านผู้สกัดอย่างฉลุย กำลังเตรียมยิงประตู กลายเป็นตลกขบขัน
เมื่อคู่ปรับเก่าวนมาเจอกัน แค่เปลี่ยนหน้าที่ คนหนึ่งเป็นฝ่ายทะลวงประตู อีกคนทำหน้าที่รักษาประตูไม่ให้ถูกทะลวง
“ไม่ต้องเบาครับ..เต็มที่เลยพี่” คนหน้าใสตะโกนขึ้น น้ำเสียงมั่นใจเต็มเปี่ยม ไม่ใช่ลูกดิ่งอวดเก่ง
เขาแค่อยากฝึกฝีมือกับฝีเท้าที่ไม่ออมแรงของพี่เท่านั้น หากออมให้จะมีประโยชน์อะไร สนามจริงไม่มีใครออมแรงให้ใครหรอก
ถึงเวลานั้นเขาไม่อยากพลาดในการทำหน้าที่ของตัวเอง
แววตามุ่งมั่นของลูกดิ่ง พร้อมท่าตั้งรับค้อมตัวต่ำอย่างเตรียมพร้อม หน้าหล่อจ้องโยโย่เขม็ง คิ้วเรียวขมวดปมดูจริงจัง
กองหน้าเพรชฆาตเห็นแบบนั้นนึกชมในใจ..ไม่คิดออมแรงเช่นกัน เท้าขวาข้างถนัดกระชากจังหวะเต็มวงสวิง
ก่อนซัดเปรี้ยงสุดแรงกระทบลูกหนัง พุ่งด้วยความเร็วเต็มกำลังไปยังกรอบประตู แถมลูกยังไซด์โค้งมุดมุมเสาขวา
ทุกสายตามองอย่างชื่นชมในความสามารถวางน้ำหนักและทิศทางบอลได้ดั่งใจ เหมือนใช้มือจับขว้างซะงั้น
ต่างตรงที่น้ำหนักความเร็วและแรงของบอล ห่างคำว่าใช้มือขว้างไกลโข เหนือสิ่งใดรุ่นพี่ผู้มีประสบการณ์แสดงแววตาชื่นชม
ไม่ปิดบัง โดยเฉพาะภาพท่าร่างของนายทวารสูงเพรียว ใบหน้าขึงขัง ซึ่งดีดตัวทะยานขาลอยพ้นพื้นเพื่อปัดบอล
ที่ส่งจากปลายเท้าของโยโย่นั่นต่างหาก
แม้น้องไม่สามารถปัดลูกพ้นจากประตูได้ อย่างน้อยมือก็สัมผัสบอล ปัญหาคือความแรงของบอลมีมากเกินกำลัง
ปลายนิ้วจะปัดทิ้ง ลูกดิ่งเพิ่งรู้ลูกยิงที่รุนแรงหนักหน่วงเป็นแบบนี้เอง มิน่าระดับพี่เทพยังป้องกันพี่โย่ไม่ค่อยได้
ฝีเท้าเกินมาตรฐานนักบอลปกติพอสมควรทีเดียว
“เยี่ยมไอ้หนู” เกรียงหลุดปากชม ในฐานะเขาเป็นกัปตันทีมและยังเป็นเพื่อนซี้ปึ๊กของโยโย่
น้อยคนที่มือถึงบอลที่โยโย่ยิง โดยเฉพาะผู้รักษาประตูรุ่นเยาว์ แต่ลูกดิ่งทำได้ถือว่าเยี่ยมในสายตาเขาแล้ว
หากได้ฝึกปรือสร้างกระดูกเพิ่มพูนประสบการณ์..ไม่นานต้องเคี้ยวไม่ง่ายแน่
ใช่มีแต่เกรียง แม้แต่คนยิงมุมปากยังแอบกระตุก กลั้นยิ้มสุดกำลัง โยโย่นึกชมในใจ
ไม่คิดลูกไซด์โค้งมุดเสาของเขาลูกดิ่งจะถึงบอลได้ พี่เทพผู้รักษาประตูตัวจริงเริ่มเห็นอนาคตลูกดิ่งเช่นกัน
บรรดาโค้ชต่างมองหน้ากันเงียบๆ คนที่ถึงกับยกนิ้วโป้งให้ลูกดิ่งโดยไม่มีเสียงพูด
นอกจากยิ้มกว้างที่น้องมือโดนลูกบอล...คือยุทธ
นายทวารรุ่นเยาว์นิ่วหน้าสะบัดหัวสองสามที นึกฉุนที่ไม่สามารถต้านความแรงของบอล
หยุดไม่ให้มุดเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ สบถเบาๆ กับตัวเอง
“บ้าชะมัด! แรงไปไหน โดนแล้วแต่เอาไม่อยู่” ลูกดิ่งหงุดหงิดอุตส่าห์อ่านใจโยโย่สำเร็จ
มาถูกทางแต่ดันปัดลูกไม่พ้น เจ้าตัวหารู้ไม่ที่ทำไปนั้น เหนือความคาดหมายรุ่นใหญ่หลายคนแล้ว
“หึหึ! ไม่เบาจริงๆ” เพชรถึงกับหัวเราะในคอ พร้อมสายตาชื่นชมส่งให้อย่างมีความหมาย
เขาชักสนใจเด็กหน้าใสเข้าแล้วสิ
“เว้นไว้สักคน” เนตรเพื่อนที่ยืนใกล้ๆ กระซิบเตือนข้างหู
“ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับความพอใจคนสองคน” เพชรอ้างเหตุผล
“กูไม่เถียง..แต่น้องยังเด็กไม่ทันจิ้งจอกหัวงูอย่างมึงหรอกไอ้เพชร” เนตรยังคงกัดต่อ
“เอาน่า ไม่แน่คนนี้อาจเป็นตัวจริงของกู” เพชรยิ้มพราว แถมพูดด้วยความรู้สึกที่เขาก็ไม่รู้ทำไมถึงบอกไปแบบนั้น
ลูกดิ่งน่าสนใจเอามากๆ ทั้งอุปนิสัยและรอยยิ้มที่ได้สัมผัส พอจะทำให้อ่านทะลุถึงจิตใจเจ้าของแล้ว คนใสๆ แบบนี้ หาได้ไม่ง่าย
การสนทนายุติ เมื่อสองหนุ่มถึงคิววนทำประตู นายทวารหน้าหล่อก็ทำหน้าที่สุดกำลัง ปัดได้บ้างไม่ได้บ้าง
แม้เหงื่อจะผุดซึมเต็มหน้าขาวเจ้าตัวก็ไม่สนใจ แววตามุ่งมั่นเอาจริงเอาจังยังคงฉายชัด วนเจอปุ้มกัปตันทีมโรงเรียน
รุ่นพี่ผู้ตั้งแง่หลุดการสกัดเลี้ยงบอลเข้ามาในระยะทำประตู ท่าง้างเท้าเตรียมซัดเต็มๆ ของปุ้ม ไม่ใช่เรื่องยากที่ลูกดิ่งจะอ่าน
ทางบอลคุ้นเคย ร่างเพรียวทะยานเข้าปัดลูกกระเด็นทิ้งได้สำเร็จ ทำให้คนยิงถึงกับกัดกรามด้วยความหงุดหงิด
เพราะไม่สามารถยิงประตูผ่านรุ่นน้องที่นึกชังขี้หน้า
“มึงฟลุ๊ค!” เสียงบ่นเบาๆ ไม่มีแม้กระทั้งรอยยิ้มไมตรี ลูกดิ่งไม่คิดจะตอบโต้อาศัยเงียบแทน
ลูกแล้วลูกเล่าคนแล้วคนเรา จนล้าไปทั้งตัวแทบไม่มีแรงยืน เสียงสวรรค์ของโค้ชก็ดังเหมือนระฆังช่วยชีวิต
เพราะช่วงท้ายๆ ลูกดิ่งแทบปล่อยให้ลูกทะลุร่างไปตุงตาข่ายแล้วเช่นกัน
“หมดเวลาแล้ว เจอกันบ่ายสามสนามใหญ่” นั่นแหละเขาถึงกับทรุดลงไปนอนแผ่สองสลึงอย่างหมดสภาพ
โดยมียุทธวิ่งตักๆ มานั่งเหยียดขาพร้อมยื่นขวดน้ำส่งให้
“หมดท่าเลยมึง วันแรกเจอรับน้องหนัก” ยุทธรู้ดีบรรดารุ่นเดียวกันลูกดิ่งฝึกหนักกว่าใคร
พวกเขาแม้จะฝึกเลี้ยงลูกวนยิงประตูไม่มีพักก็เถอะ แต่ก็ถือว่าได้พักระหว่างที่รอคิว แต่ลูกดิ่งไม่เหมือนกัน
น้องต้องรับลูกยิงลูกแล้วลูกเล่าวนลูปอยู่แบบนั้น จากนักเตะร่วมยี่สิบเจ็ดชีวิต ประสาอะไรไม่หมดแรง
ทะยานร่างไปซ้ายทีขวาทีแบบนี้ ยิงกว่าให้ลุกนั่งพันครั้งด้วยซ้ำ ดังนั้นสภาพนอนหายใจหอบ
หน้าขาวถึงกับซีดเผือดดึงออกซิเจนเข้าปอดอย่างกระหายของลูกดิ่ง ย่อมไม่เหนือความคาดหมาย
รุ่นน้องไม่มีแรงกระทั่งยื่นมือมารับน้ำที่เขายื่นส่งให้ นอกจากเกลือกตาเรียวอ่อนล้ามองแทนการขอบคุณ
จังหวะผ้าชุบน้ำเย็นบิดแล้วเรียบร้อย ร่อนลงโปะพอดีเป๊ะบนหน้าหล่อใส
“พรึ่บ!..” ร่างเพรียวที่นอนหมดแรงไม่รู้ว่าใครโยน ยกเว้นรุ่นพี่คู่ซี้ที่นั่งเหยียดขาใกล้ๆ
แหงนหน้าขึ้นมองคนส่งผ้าลงโปะหน้าลูกดิ่ง
“พี่โย่..พี่เกรียง” สองพี่เลี้ยงต่างยืนถือขวดน้ำเย็นที่ดื่มไปค่อนครึ่ง มองตอบนิ่งๆ ไม่มีใครพูดอะไร
โดยเฉพาะเจ้าของผ้าขนหนูสีขาวที่ชุบน้ำเย็นบิดหมาดเรียบร้อย ยังคงหน้าเข้มไม่เปลี่ยนแปลง
“กลับไปอาบน้ำ อีกครึ่งชั่วโมงได้เวลามื้อเที่ยง” พี่เกรียงเป็นคนพูด หลังเงียบกันพักใหญ่
แน่นอนไม่ได้เจาะจงบอกใครนอกจากรุ่นน้องต่างวัย
“ล้าขนาดนี้ พี่ว่าให้พี่นวดคลายกล้ามเนื้อไหมครับ” เสียงที่ไม่ได้รับเชิญดังขึ้นด้านหลังของเกรียงกับโยโย่
เจ้าของเสียงปรากฏตัวตามมาติดๆ โดยมีน้องแทคชื่อต้อและพี่เนตรกับปุ้มตีคู่มาด้วย
คนหลังแอบเหยียดปากสะใจที่เห็นรุ่นน้องนอนตายหมดแรง
“พี่เพชร” ยุทธขานชื่อ ลูกดิ่งเริ่มหายใจดีขึ้น ขยับลุกนั่งพร้อมหยิบผ้าเย็นเช็ดตามใบหน้าลำคอ
ดึงความสดชื่นให้ร่างกายได้มากทีเดียว หน้าหล่อใสกวาดตามองครบคน เผยยิ้มกว้างตอบคำถามพี่เพชรที่ค้างไว้
“พี่เพชรนวดเป็นหรือครับ” น้องไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แต่เลือกใช้คำถามกลับไปแทน
“อ้าว! ถามแบบนี้อยากรู้ต้องลอง พี่เป็นมือนวดตัวฉมังในทีมเลยนะ เพื่อนหลายคนปวดเมื่อย
ยังให้พี่คล้ายกล้ามเนื้อบ่อยไป สภาพเราเห็นนอนหมดแรง ได้นวดสักชั่วโมงครึ่งชั่วโมงก็วิ่งปร๋อ”
การการันตีฝีมือนวดของตัวไม่ได้พูดเกินจริง เขาชำนาญด้านนี้เป็นที่รู้กันดีในทีม เพียงแต่ไม่เคยเสนอตัวนวดให้ใครก่อนก็เท่านั้น
ที่ผ่านมามีแต่เพื่อนๆ ขอร้อง ซึ่งเขาทำบ้างไม่ทำบ้าง ยกเว้นกรณีนี้เต็มใจเป็นอย่างยิ่ง หากลูกดิ่งจะตอบรับ
“ผมว่าไม่เหมาะเท่าไหร่ ให้รุ่นพี่ช่วยนวดดูไม่สมควรนะครับ” ลูกดิ่งยิ้มละไมอย่างเคยชิน เอ่ยไปตามที่รู้สึก
“เกี่ยวไร นักกีฬาช่วยเหลือกันในทีมเป็นเรื่องปกติ ใครเขาถือสาเรื่องนี้กัน อีกอย่างพี่เป็นคนเสนอช่วยเราเอง”
เพชรยังคงยืนกราน หน้าใสเริ่มลังเลแล้ว ความจริงเขาเมื่อยขบไปทั้งตัว แถมคนที่อยู่ฟังการสนทนาครั้งนี้ไม่มีใครพูดอะไร
กระนั้นก็ต้องขอความเห็นพี่เลี้ยงส่วนตัว ตาเรียวสวยหันไปสบตาคมเข้มตรงๆ เหมือนต้องการถามความเห็น
ได้รับสายตาคมดุมองตอบมา ถึงไม่มีคำพูดแต่แววตาฉายชัดไม่พอใจ หากเขาให้พี่เพชรบริการ
“ผมไม่รบกวนดีกว่า พี่เองก็เหนื่อยน่าจะได้พักผ่อน อีกอย่างผมหิวแล้วด้วย
เขาบอกทานอาหารอิ่มใหม่ นวดไม่ได้ไม่ใช่หรือครับ” ลูกดิ่งฉลาดที่จะเลี่ยงไม่ให้อีกฝ่ายเสียน้ำใจ
“นวดตอนบ่ายสองก็ได้ครับ สามโมงเย็นเราจะได้ลงซ้อมสบายๆ” แต่เพชรยังคงย้ำความปรารถนาดี
“เอาน่า กูว่าน้องแทคของมึงก็เมื่อยเพชร ไม่ถามน้องต้อดูหน่อยวะ อยากให้พี่แทคบริการคล้ายกล้ามเนื้อหรือเปล่า..ไงต้อ”
เกรียงตัดบทดื้อๆ หลังทนดูการเร้าหรือของเพชรผิดปกติ สำคัญเพื่อนร่วมรุ่นคนนี้เป็นไบฯ เนื้อแน่นๆ ขาวๆ ของรุ่นน้องหล่อใส
คงไปสะดุดต่อมเข้าให้ หากไม่ทำอะไรสักอย่าง กลายเป็นยื่นเนื้อเข้าปากเสือ
“แหะๆ ผมไม่กล้าขอพี่เพชรนวดหรอกพี่เกรียง” หนุ่มรุ่นกระทงนามว่าต้อหัวเราะแหะๆ ตอบมาแบบนี้ เข้าทางเกรียงเลย
“แสดงว่าน้องมันเมื่อย ไปดูแลน้องมึงเหอะเพชร ส่วนไอ้ดิ่งมีพี่เลี้ยงเหมือนกัน เมื่อยนักให้พี่เลี้ยงมันจัดการกันเอง”
บทสรุปตัดจบของเกรียงไม่สามารถทำให้เพชรอ้าปากโต้แย้งได้ หันมองต้อน้องแทคดันยิ้มให้เฉย
แอบบ่นในใจ ‘เดี๋ยวกูจะนวดให้ครางเลยห่า’ สุดท้ายเป็นอันแยกย้ายขึ้นห้องพัก ยุติการพูดคุยในสนาม
หลังคนอื่นๆ ทยอยกันกลับขึ้นห้องจวนหมดแล้ว
ตลอดทางเกรียงกับยุทธผูกขาดการคุยส่วนใหญ่ สุดหล่อเคราดกยังคงหุบปากสนิท
ส่วนลูกดิ่งล้าเกินมีใจร่วมคุย ยอมรับการฝึกวันนี้ดึงแรงเขาไปแทบหมดตัว เข้ามาในห้องเรียบร้อย..
“ถอดเสื้อออก” คำพูดลอยๆ จากปากคนตัวโต ไม่ต้องให้บอกสั่งใคร ในเมื่อมีกันอยู่สองคน
ลูกดิ่งทำหน้าฉงนไม่เข้าใจที่พี่สั่ง
“มองอะไร เมื่อยไม่ใช่” เขาพยักหน้ารับหงึกๆ
“ถอดเสื้อ นอนพื้นนั่นแหละ” พูดจบพี่เดินหายเข้าห้องนอน ปล่อยคนรับคำสั่งยืนมึนไม่เข้าใจ
จู่ๆ บอกให้ถอดเสื้อนอนบนพรมเฉย กระนั้นคนที่ไม่เข้าใจก็ยังคงทำตาม แม้จะยังไม่รู้พี่สั่งให้เขาถอดเสื้อแล้วนอนลงทำไม
ความสงสัยหายเป็นปลิดทิ้ง เมื่อพี่กลับออกมาพร้อมน้ำมันคล้ายกล้ามเนื้อในมือ
แต่ปฏิกิริยารุ่นน้องเร็วปานฟ้าแลบ กระเด้งตัวลุกปฏิเสธเสียงหลง หลังรู้จุดประสงค์ของพี่กำลังจะทำอะไร
“หูยยย!! พี่โย่ไม่ต้องครับ” ยอมรับว่าเขาเกรงใจสุดๆ
“หุบปากนอนนิ่งๆ เออ..จะใช้เสียงก็ได้ถ้ารู้สึกดี” พูดโดยไม่มองหน้า ทำเอาลูกดิ่งแอบขำนิดๆ
มุมนี้ของพี่โย่เป็นความอ่อนโยนที่เจ้าตัวสัมผัสได้ พี่คงคาใจว่าเขาล้าเลยอยากนวดให้ผ่อนคลาย
แต่ใครจะกล้าให้พี่บริการ ในเมื่อเขาเป็นรุ่นน้อง แถมพี่ยังเป็นลูกชายเจ้าของสโมสร
“คือผมเกรงใจ พี่ไม่ต้องลำบากเพราะผมหรอก อาบน้ำคงรู้สึกดีขึ้น” ยังคงยืนกรานปฏิเสธท่าเดียว
เขาคิดแบบนี้จริงๆ ไม่ใช่ไม่ชอบนะมีคนช่วยนวดเนี่ยะ ติดตรงที่คนนวดเป็นคนไม่คิดมาก่อนนี่สิ
ใครจะนึกภาพออกพี่โย่บริการนวดให้ ทำให้ประหลาดใจได้อีก
“จะให้พูดซ้ำไหม” เสียงเครียดมาเลยเชียว ตาคมดุเริ่มบอกอารมณ์หงุดหงิดเข้าแล้ว ลูกดิ่งหน้าจ๋อยถนัด
ทรุดตัวนอนคว่ำบนพรมไม่มีคำพูดหลุดจากปาก ท่าทางแบบนี้ไม่กล้าเสี่ยงให้ของขึ้นด้วยหรอก
ฝ่ามือแกร่งที่ชโลมด้วยน้ำมันหอม รู้สึกแผ่นหลังตั้งแต่ลาดไหล่จนถึงบั้นเอวเย็นๆ ร้อนๆ
กำลังคลึงแผ่นหลังด้วยน้ำหนักมือพอดิบพอดี ทำเอาคนนอนถึงกับครางแผ่วอย่างสบายตัว
“อ้าหหหห์!” หารู้ไม่..เสียงครางหวิวของตนทำให้ใครบางคนที่กำลังลงน้ำหนักมือหน้าแดง
ดีที่นอนหลับตาพริ้มไม่ได้รู้เห็น เพราะท่าหลับตาโชว์แผ่นหลังขาวๆ ผิวเรียบลื่นไม่ผอมแห้งเนื้อติดกระดูก
ตรงข้ามตึงแน่นยืดหยุ่นมีสปริงอย่างเนื้อหนุ่มกำลังโต บวกเสียงครางเข้าอีก เล่นเอาคนนวดหน้านิ่งถึงกับไปไม่เป็น
กร่นด่าตัวเองในใจที่ดันเสือกเสนอตัวกึ่งบังคับให้ร่างเพรียวตัวเล็กนวดเสียได้ ไม่ติดเหตุการณ์ต่อเนื่องจากเพชร
แสดงความสนใจแฝงความหวังดีล่ะก็ เขาคงไม่มาทำอะไรบ้าบอแบบนี้หรอกน่า เกิดมาเคยนวดให้ใครที่ไหนกัน
แค่รู้ว่าควรทำยังไงลงน้ำหนักมือแค่ไหน ในเมื่อนวดน้ำมันให้ตัวเองบ่อยๆ อาศัยชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้นให้เท่านั้น
ไม่คิดว่าจะกลายเป็นทรมานตัวเอง.. ‘บ้าฉิบ’
ฝ่ายหนึ่งรู้สึกผ่อนคลายมีความสุขจนเคลิ้มจะหลับ ขณะคนนวดหน่วงปวดหนึบกับอวัยวะบางส่วน
ผ่านไปกว่าสิบนาทีเป็นอันยุติ เพราะคนนวดไม่คิดจะให้ฝ่ายรับบริการนอนหงายมานวดด้านหน้า
แค่ด้านหลังเขาก็ร้อนระอุเกินทนแล้ว ขืนให้นวดด้านหน้าคงหายใจขัดพานดูไม่จืด
“ไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้ารอลงไปกินข้าว” เสียงห้วนเหมือนคนพูดพยายามให้ฟังดูดุ
ปลุกคนกำลังเคลิ้มให้ลืมตาตื่น อันดับแรกที่ลูกดิ่งไม่ลืมทำ คือขยับตัวนั่งยกมือกระพุ่มไหว้
พร้อมรอยยิ้มสดใสน่ารักเฉพาะตัวอย่างใสซื่อ
“ขอบคุณครับพี่ โห! ผมตัวเบาหวิวเลย ไม่รู้มาก่อนว่าพี่นวดเก่งด้วย ขอบคุณอีกครั้งครับ” โยโย่แค่พยักหน้า
รอจนน้องลุกเข้าห้องนอน ถึงทรุดนั่งเหยียดแขนขาถอนหายใจยาว สายตาก้มมองส่วนกลางลำตัวที่ดันพยศ แล้วบ่นอยู่คนเดียว
“นายสบาย..แต่ฉันลำบาก” คนโดนพาดพิงไม่ได้ยินด้วยหรอก ปานนี้กำลังเพลินกับสายน้ำใต้ฝักบัว..
เสียงริงโทนโทรศัพท์วางหน้าทีวีดังขึ้น ดึงคนที่นั่งผ่อนลมหายใจซึ่งอารมณ์พลุกพล่านเริ่มสงบลงแล้ว
หันไปหยิบมาดูเบอร์ค่อยกดรับ
“ว่าไง” โยโย่กรอกเสียงไป
[สิบนาทีเจอกัน กูรอหน้าห้อง] เกรียงตอบกลับมา
“สิบห้านาที” แต่โยโย่ขอเพิ่มเวลา
[ไมวะ..ยังไม่อาบน้ำอีก มัวทำอะไร] ปลายสายถามด้วยความสงสัย ปกติโยโย่ไม่เคยดอง
ถึงห้องอย่างแรกเจ้าตัวลงมืออาบน้ำชำระคราบไคล้ทันทีเลยด้วยซ้ำ สุดจะอนามัยทำไมถึงขอยืดเวลา
“อืม..ขออาบน้ำก่อน” คนฟังถึงกับงงในคำตอบ
[ขึ้นมายี่สิบนาทีทำไมยังไม่อาบ..หรือไอ้ดิ่งอาบช้า] เกรียงเดาเอง
“อืม..แค่นี้นะ” โยโย่รับส่งเดช ใครจะกล้าบอกว่าเขานวดให้เด็กนั่น แถมยังต้องมานั่งทรมานสังขารอีก
[เดี๋ยว! มื้อเช้ากูไม่เห็นมึงกับน้องลงแคนทีน ไปกินกันที่ไหน] เกรียงถามสิ่งที่คาใจ มื้อเช้าเขากับยุทธไม่เห็นทั้งคู่
โทรไปไม่รับสายเหมือนติดต่อไม่ได้อีกต่างหาก ด้วยนิสัยจะให้เคาะห้องเขาไม่เคยทำ เพื่อนคนนี้เขารู้ดี
ส่วนใหญ่มีอะไรเจ้าตัวจะบอกเขาเอง
“กินบนห้อง น้องมันทำอาหารไว้” โยโย่บอกตามจริง
[เอาดิ..ได้กุ๊กส่วนตัวด้วย] เป็นการสนทนาที่ไม่ล้วงลูก ก่อนวางสายไปง่ายๆ
นิสัยแบบนี้ของเกรียงทำให้คบกันเป็นสิบปี เพราะเพื่อนไม่เซ้าซี้ไม่ปากเปราะ เก็บความลับของเขาได้ดีตลอดมา
จังหวะประตูห้องนอนเปิด พร้อมร่างสูงเพรียวส่งยิ้มระรื่นหน้าตาสดใส เดินเช็ดผมหลังผ่านการสระมาหมาดๆ
ส่งสายตาน่าเอ็นดูมาให้ด้วย
“ผมอาบเสร็จแล้ว เชิญพี่ครับ” น้ำเสียงทอดอ่อนเจือความสุภาพ ทำให้โยโย่จ้องหน้าใสนิ่งอยู่ครู่
แอบถามคนเดียวว่าไอ้หนูนี่เคยโกรธไหม เวลาโกรธหรือโมโหจัดๆ มีสีหน้ายังไง ก่อนจะลุกเข้าห้องนอน
โดยไม่หาคำตอบกับคำถามที่ทิ้งไว้ในใจ ปล่อยคนหน้าระรื่นมองตามแผ่นหลังกว้าง ไม่ยอมพูดตอบเขาสักคำ
แต่ลูกดิ่งก็สัมผัสได้..ภายใต้หน้ากากเย็นชานิ่งเฉย ที่จริงเนื้อในกลับอบอุ่นอ่อนโยนเอามากๆ
ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่รู้สึกสบายตัวจากการนวดของรุ่นพี่สุดหล่อแน่ หารู้ไม่ว่าตนสบายตัวกระชุ่มกระชวย
แต่อีกฝ่ายไม่รู้ปานนี้ในห้องน้ำ..แอบทำร้ายร่างกายตัวเองอยู่หรือเปล่า...?
มาลงก่อนนัดให้หนึ่งวัน เพราะรู้สึกตื้นตันใจกับคนอ่านที่คอยทวงถาม
คอมเม้นท์ที่แสดงความคิดเห็นมากมาย มีนักอ่านหน้าเก่าหน้าใหม่เพิ่มกันมาหลายคน
แบบนี้ทำให้คนเขียนเร่งปั่นยิกๆ เพื่อจะได้มาลงให้นักอ่านให้ติดตามกัน
ส่วนเล่าเรื่องด้วยภาพ คือคนเขียนฟิน เพราะคู่จิ้นใช้สองหนุ่มนี่แหละในการสร้างงาน
ใครคิดเห็นกันยังไง บอกกันบ้างนะ เราจะนำภาพมาเล่าเรื่องเท่าที่มีรูปอยู่ 5555
สนองความต้องการล้วนๆ..กร๊ากกกก

Thanks.