วัยรุ่น วุ่นหัวใจ เทอมที่ 1 คาบเรียนที่ 23 หนี (24-04-14)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: วัยรุ่น วุ่นหัวใจ เทอมที่ 1 คาบเรียนที่ 23 หนี (24-04-14)  (อ่าน 30328 ครั้ง)

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
555 น้องนันท์ตอนนี้น่าสงสารมากอะ ทั้งคิดทั้งสับสนแต่เรื่องของนายแบงค์ไปหมดล่ะ
แต่อย่ามาว่าน้องนันท์ของเค้าหื่นน๊า เป็นใครเจอเหตุการณ์แบบเมื่อคืนมันก็ต้องคิดเยอะกันบ้างล่ะ
ยิ่งถ้าใจตรงกัน มันคงไม่พ้นเรื่องแบบนั้น :m3: กริ๊ด :-[ ไม่เอาไม่คิดไม่อยากหื่นเหมือนน้องนันท์  (อ้าว ?)
แต่ไอ้ตอนที่ยังไม่รู้ หรือแน่ใจในความรู้สึกของแบงค์นี่แหละนะ ทำให้น้องนันท์ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่
เพราะสิ่งที่แบงค์แสดงออก แล้วยังจะคนรอบข้างอีก ทั้งสนับสนุน ส่งเสริม กันดีจริง ๆ (จริง ๆ มายด์คงอยากบอกแทบแย่)
แต่เหมือนคนที่จะทำให้แบงค์ชัดเจนขึ้นก็มาแล้วล่ะนะ อยากรู้จังคราวนี้แบงค์ของเราจะมัวลังเลอยู่อีกรึเปล่าน๊า
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้กันเหมือนเดิมจ้า  :L2: :mew1:
ปล.1 เรื่องเน็ตเน่านี่เรื่องใหญ่เลยนะ ถ้าเกิดที่บ้านคนอ่านคงคลั่งทั้งบ้าน
แต่ถ้าไม่มีจริง ๆ ก็คงต้องอ่านการ์ตูน กับดู DVD เหมือนกันแต่คงไม่ใช่เซลเล่อมูน อะคะ 5555
ปล.2 เรื่องงานก็สู้ ๆ นะค่ะ ถึงงานจะหนักไปบ้างแต่ถ้าได้หัวหน้ากับเพื่อนร่วมงานดี ก็มีชัยไปกว่าครึ่งล่ะ (เกี่ยว ?)
แถมตอนนี้มีน้องน่ารักให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ ถึงจะยังไม่แน่ใจ แต่มันก็ทำให้เรามีความสุขได้นะ
ชอบเวลาผู้เขียนเล่าอะคะ ดูมีความสุขน่าติดตามมากเลย แอบลุ้นให้ใจตรงกันนะค่ะ  :L1:  แล้วอย่าลืมเล่าเรื่อย ๆ น๊า
ขอบคุณสำหรับนิยาย และเรื่องดี ๆ ที่นำมาแบ่งปันคะ   :pig4:
ปล.3 เขียนไปเขียนมายาวเกิ๊น จริง ๆ ปล.1 ยาวมากกก แต่ทนดูไม่ได้เลยตัดออกไปอะคะ อิอิ

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
แหม น้องมายด์ รับเป็นที่ปรึกษาให้ทั้งน้องนันท์ ทั้งแบงค์เลยน้า น่าอิจฉาจัง
น้องแอล แฟนบาส น่ารักดีจัง นิสัยดี มารยาทงาม ดูใส ๆ แต่แอบแรงนะเนี่ย
ชอบที่น้องแอลแนะนำน้องนันท์นะ มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ดีจัง แถมความมั่นใจเกินร้อย
มิน่า ถึงเอาคนแสบ ๆ เถื่อน ๆ อย่างบาสได้ซะอยู่หมัดเลย ยอดมาก
โอ้ะ พลกับตี๋เอ๋อ โผล่มาให้จิ้นอีกแล้ว นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยังดี ชอบ ๆ
แหม ๆ มีแกะห่อขนมให้กันซะด้วย รู้สึกจะเป็นธรรมชาติกันมากไปหน่อยแล้วนะ แต่ก็น่ารักอ่ะ
ความสัมพันธ์ของนันท์ กับ แบงค์ ในสายตาคนอื่น คงไม่เหมือนแค่เพื่อนกันจริง ๆนั่นแหละน้า
มีแต่แค่เจ้าตัวทั้งคู่นั่นแหละ ที่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน พอเริ่มคิดมาก ก็เริ่มสับสนอีกแล้วนะน้องนันท์
เอาแล้วไง ทั้งที่คู่นี้ยังคลุมเครืออยู่แท้ ๆ ป้อ ด้นโผล่มาได้จังหวะซะอีก แล้วชุดนักเรียน
ป้อ ลงทุนย้ายโรงเรียนมาเลยเหรอเนี่ย แต่ตั้งแต่ตอนเข้าค่าย ยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ป้อเลยนะ
จะมาสร้างความปั่นป่วน ให้แบงค์กับนันท์ อีกขนาดไหนกันล่ะเนี่ย
รอตอนต่อไปนะจ้ะ ขอบคุณคนเขียนจ้ะ  :L2: :3123:
ปล. เรื่องเน็ตใช้ไม่ได้นี่เข้าใจเลย มันไม่มีอะไรทำจริง ๆ นะ เคยคิดว่าแล้วเมื่อก่อนใช้ชีวิตยังไงเนี่ย
ก็เลยนึกได้ว่า การ์ตูน กับ นิยายเป็นเล่ม ๆ ที่ซื้อทิ้งไว้ไม่ได้อ่านไง อืม ๆ ก็พอกล้อมแกล้มไปได้หน่อย
ดีใจกับคนเขียนด้วยค่ะ สำหรับการทำงานที่ราบรื่น พร้อมมีน้องน่ารักมาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ
แต่ก็คิดว่าถูกแล้วที่ยังเป็นกลาง ๆ ไว้ ถ้าอะไร ๆ ยังไม่ชัดเจน เพราะยังต้องทำงานร่วมกันไปอีกนาน
ยังไงก็ขอบคุณอีกครั้ง ทั้งสำหรับนิยาย และเรื่องส่วนตัวที่นำมาแบ่งปันนะคะ ขอบคุณค่ะ  :pig4:

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
คาบเรียนที่ 13 : ตัดสินใจ

“พรุ่งนี้เจอกันที่หน้าป้ายรถเมล์นะ นันท์”
“อื้ม โอเค ได้เลย อย่ามาสายล่ะ”

“ครับๆ นันท์เองก็เช่นกันนะ งั้นแค่นี้นะ ฝันดีนะครับ”
“ครับ แบงค์เองก็ฝันดีเช่นเดียวกันนะ”

“คร้าบบบบบบบ”

ตื๊ด
หลังจากที่ผมกับแบงค์ตกลงเรื่องนัดหมายเรื่องซื้อของขวัญวันเกิดให้มายด์ได้เสร็จ
ผมก็กดวางสายลงทันทีแล้วโยนโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงนอน พร้อมกับทิ้งตัวเองลงตามไป

จะว่าไป ช่วงนี้มันก็มีความสุขดีอยู่หรอก แบงค์เองก็ดูจะน่ารักขึ้นมาเยอะเลย
ทั้งๆ ที่ปกติจะดูนิ่งๆ เป็นคนมีเหตุผล ดูเป็นผู้ใหญ่ ออกจะชอบทำเครียดอยู่ตลอด
แต่ทว่า ช่วงนี้กลับกลายเป็นว่าแบงค์ดูร่าเริงมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด

จนแม้แต่ผมเองก็ยังตั้งตัวไม่ทันกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของแบงค์
ซึ่งจริงอยู่ที่ผมเองก็ยังคิดเลยว่าแบงค์ที่เป็นแบบนี้นี่ก็น่ารักไปอีกแบบแฮะ
แต่ด้วยเหตุการณ์ที่ผ่านๆ มาในช่วงนี้
ทำเอาผมเองก็อดไม่ได้ที่จะคิดเข้าข้างตัวเองว่าแบงค์ก็อาจจะรู้สึกแบบนั้นกับผมเช่นกัน

แต่ผมเองก็ยังไม่กล้าฟันธง เดี๋ยวจะหน้าแหกไปเสียเปล่าๆ

เอาเถอะ แค่นี้ก็มีความสุขละ อิอิ ^w^

“............................”
อ๊ะ โทรศัพท์เข้า ใครหว่า

ไอเต้ย มีไรหว่า
“ว่าไงเต้ย”

“ไอนันท์ มึงมีหนังสือเรียนวิชาภาษาไทยใช่มะ”
อ๊ะ ถามแปลก - -
“เออ มันก็ต้องมีอ่ะดิ ถามได้ มึงก็มีไม่ใช่เรอะ”
ผมถามกลับไป
“กูลืมไว้ที่โรงเรียนว่ะ กูยืมหน่อยได้ป่ะ บ้านมึงกับกูอยู่ห่างกันไม่มาก กูไปยืมของมึงง่ายกว่าไปเอาที่โรงเรียนอ่ะ”

ผมดันตัวลุกขึ้นจากเตียงนอนเดินไปที่กระเป๋านักเรียน พร้อมกับเปิดกระเป๋าขึ้นมาดู
“ก็ได้นะ ว่าแต่มึงจะมาเอาตอนไหนน่ะ”
“พรุ่งนี้เที่ยงๆ อ่ะ มึงว่างป่ะ”

“เกรงว่าจะไม่ว่างว่ะ กูมีธุระ แต่ไงกูเอาหนังสือวางไว้ตรงโต๊ะหน้าบ้านละกัน”
“เออๆ ก็ได้ ใจมากเพื่อนๆ ว่าแต่มึงทำไรอยู่น่ะ”
เต้ยถามกลับมา ผมหันมองออกไปนอกระเบียง ก่อนจะเดินไปยังระเบียงห้องเพื่อหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตากไว้เข้ามา
“กำลังจะอาบน้ำน่ะ”

“เชี่ย มึงเลิกเรียนตั้งแต่กี่โมงวะ เพิ่งจะอาบเนี่ย สกปรกว่ะ 555+”
“ช่างกูเหอะ”

“เออๆ กูไม่กวนมึงละ ใจมากเพื่อน แค่นี้นะ บาย”

หลังจากที่วางสายไป ผมก็วางมือถือไว้บนโต๊ะ เพื่อที่จะถอดเสื้อนักเรียนออก

“..........................”
ใครโทรมาอีกเนี่ย
อ้อ ป้อนี่เอง

ตื๊ด!!!!
“ว่าไงป้อ”
ผมทักอีกฝ่ายไปในทันทีที่กดรับโทรศัพท์

“ขอโทษนะครับที่โทรมารบกวนดึกๆ แบบนี้”
อีกฝ่ายออกตัวด้วยการกล่าวขอโทษผมอย่างสุภาพ ซึ่งทำเอาผมถึงกับงงพอสมควร
“หือ ? จะมาขอโทษทำไมน่ะ มีอะไรให้ช่วยหรือป่าว?”
ผมเอ่ยถามกลับไป
“ป่าวหรอกครับ แค่อยากจะโทรมาเฉยๆ น่ะครับ”

“เป็นงั้นไป ฮ่าฮ่าฮ่า”
“ไม่ทราบว่าสะดวกคุยหรือป่าวครับ”
ป้อถามผม ผมหันไปมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงกำแพงห้องที่กำลังบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มนิดๆ
“ก็คุยได้นะ มีอะไรว่ามาเลย”
ผมตอบกลับไปพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อนักเรียนออก โดยเอาโทรศัพท์หนีบไว้ระหว่างบ่ากับกกหู

“แห่ะๆ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่จะถามว่าวันเสาร์ เอ่อ วันพรุ่งนี้น่ะครับ ว่างรึป่าว พอดีผมจะชวนไปดูหนังเป็นเพื่อนหน่อยน่ะครับ”
“อ่า....โทษทีน้า พรุ่งนี้นันท์มีธุระแล้วอ่ะ จะไปซื้อของขวัญวันเกิดให้มายด์ที่ห้าง XXX กับแบงค์เขาแล้วน่ะ”
ผมตอบปฏิเสธกลับไปในทันทีทันใด

ป้อเงียบไปครู่นึง จนผมเองรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่จะให้ทำไงได้ล่ะ ;w;
“อ่าๆ งั้นก็ไม่เป็นไรครับ”
ป้อตอบกลับมา แต่ฟังดูจากน้ำเสียงดูท่าจะผิดหวังพอสมควรนะนั่น เอาไงดี

“ไว้เป็นวันอื่นได้ป่ะ นะนะ”

“ครับ ก็ได้ครับ”
ผมยื่นข้อเสนอกลับไป ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะพึงพอใจ จึงยอมรับข้อเสนอนั้น
“โอเค งั้นเดี๋ยวค่อยตกลงกันทีหลังอีกทีนึงละกันนะ ว่าแต่มาอยู่นี่ได้สองสามวันละนี่ ได้เพื่อนบ้างรึยังน่ะ”
“ก็มีบ้างน่ะครับ”

“ดีแล้วๆ”



หลังจากนั้น ผมกับป้อก็คุยกันไปเรื่อย ส่วนมากก็เรื่องทั่วไป จะเน้นหนักหน่อยก็เรื่องตอนไปค่ายอบรมกัน
จนผมเองก็ลืมเวลาไปเลย
หันกลับมาดูนาฬิกาอีกทีก็พบกว่าห้าทุ่มกว่าๆ แล้ว แว๊กกกกกกกกกกกก พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าด้วยนี่หว่า

“อ๊ะ ห้าทุ่มกว่าแล้วเหรอเนี่ย ป้อเดี๋ยวนันท์ขอตัววางสายก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าน่ะ”
ผมจึงรีบขอตัวตัดบทวางสายเพื่อจะไปอาบน้ำ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2013 04:28:45 โดย จิ๊บคุง »

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
“ครับโทษทีที่ชวนคุยเพลินไปหน่อย งั้นยังไงก็หลับฝันดีนะครับ”

อึก!!!!!!

“...อ่ะ เอ่อ..........ช่ะ...เช่นกันนะ”
ตื๊ด!!!!!!

ทันทีที่วางสายผมก็วางมือถือไว้บนโต๊ะ แล้วจึงเดินเข้าห้องน้ำไป

คือด้วยเหตุผลบางอย่างอะไรนี่ล่ะ ป้อเขาเลยต้องย้ายเข้ามาเรียนที่นี่น่ะครับ
แต่จะด้วยสาเหตุอะไรนั้น ดูเหมือนเจ้าตัวเองจะไม่อยากเปิดเผย ผมก็เลยเลือกที่จะไม่ซักไซร้ถามต่อ เกรงจะเป็นการเสียมารยาท
แถมยังมีการถามผมอีกนะว่า ยังจำผมได้มั้ย
พูดเสียอย่างกับว่าค่ายอบรมมันผ่านมานานเป็นปีๆ งั้นล่ะ =3=

เอาเถอะ สงสัยป้อคงยังหาเพื่อนไม่ค่อยได้ล่ะมั้ง เลยโทรมาหาผม ในฐานะที่เคยเจอกันมาก่อนที่ค่ายอบรม
แต่จะว่าไปป้อก็ดูเป็นคนเฟรนด์ลี่คุยสนุกดีเหมือนกันแฮะ น่าจะหาเพื่อนได้ไม่ยากหรอก


เพียงแต่...........

ก่อนที่จะวางสายเมื่อกี้นั้น คำพูดที่ป้อบอกกับผมว่าหลับฝันดี
ทำไมผมถึงได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจยังไงชอบกลก็ไม่รู้แฮะ
จนทำให้ผมนึกขึ้นมาได้ว่าปกติผมเองก็ไม่ค่อยได้พูดคำนี้กับใครเท่าไหร่เลยนี่

เท่าที่นึกออกจะมีอย่างมากก็แม่ กับมายด์ และก็เพื่อนผู้หญิงคนอื่นๆ บ้างเพราะผมรู้สึกไม่กระดากปากที่จะพูดไป

แต่กับเพื่อนผู้ชายด้วยกันผมกลับไม่เคยพูดคำนี้กับใครเลยนะ
และแน่นอนว่าก็ไม่เคยมีเพื่อนผู้ชายคนไหนพูดคำนี้กับผมด้วย เพราะมันคงแปลกพิลึกที่ผู้ชายด้วยกันจะมาพูดหลับฝันดีใส่กัน
อย่างไอเต้ยเมื่อกี้นั่นก็หนึ่งในข้อพิสูจน์นั่น

จะมีก็ยกเว้นแบงค์ที่เป็นกรณีพิเศษเท่านั้น เพราะแน่นอนล่ะว่าผมเองชอบแบงค์มากเกินกว่าคำว่าเพื่อน
ซึ่งแบงค์เองก็ดูจะไม่รังเกียจที่พูดฝันดีกับผมเช่นเดียวกัน

มันเลยทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ที่ป้อพูดคำนี้กับผม
แต่ช่างเหอะ คิดมากไปละ จะว่าไปมันก็ออกจะเป็นคำพูดส่งท้ายธรรมดาไม่ใช่เหรอ
ผมก็คงแค่ไม่เคยได้รับคำนี้จากผู้ชายด้วยกัน(ยกเว้นแบงค์)เลยอาจจะยังรู้สึกไม่ชินก็ได้ล่ะมั้ง

พูดก็พูดเถอะ พอวกเข้ามาเรื่องเพื่อนเนี่ย จะว่าไปที่ผ่านๆ มาคนรอบข้างเขาจะรู้ป่ะหว่า ว่าผมเป็น.....เอ่อ.......
ที่ผ่านมาผมก็พยายามทำตัวนิ่งๆ ละนะ ก็ไม่เห็นจะมีใครพูดถึงเลย
ส่วนพวกเพื่อนผู้ชายในห้อง ก็ไม่เห็นมีใครทำท่ารังเกียจผมสักคน ก็ยังคุยกันตามปกติ

คงจะไม่รู้กันล่ะมั้ง (สะกดจิตๆๆๆๆๆๆๆๆ)

เพียงแต่พอโดนแอลทักพร้อมกับมายด์ที่ดันเห็นดีเห็นงามไปกับแอลเมื่อวันก่อน
มันก็ทำเอาผมเหวอไปพอสมควรเหมือนกันนะนั่น 5555+

ยิ่งพอมาเจอแบงค์ที่เป็นแบบนี้ บางทีมันก็ทำให้ผมแทบอยากจะเปิดเผยความรู้สึกออกไปให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย
อยากรู้เหมือนกันว่าจะหมู่หรือจ่า !!!!!!!!!!!!!

แต่......ก็ได้แค่คิดอ่ะนะ ยังไม่กล้าทำจริงๆ หรอก

เฮ้อออออออออออ

ฟุ้งซ่านอีกละ พอๆ รีบเข้านอนดีกว่า เดี๋ยวจะตื่นสาย





....................................................

“แบงค์ๆ ใบนี้เป็นไงมั่ง”
ผมหยิบกระเป๋าสะพายหลังใบนึงขึ้นมา เป็นกระเป๋าสีชมพูมีตัวตุ๊กตากระต่ายแปะติดอยู่ที่กระเป๋านั่น
แบงค์พิจารณาอยู่ครู่นึง
“ก็สวยดีนะ แต่มันดูเกลื่อนๆ ยังไงไม่รู้อ่ะ”
แบงค์ออกความเห็น ก่อนจะหยิบอีกใบขึ้นมาให้ผมดู
ซึ่งเป็นกระเป๋าออกโทนสีฟ้าอ่อนๆ เหมือนน้ำทะเลแม้จะไม่มีลวดลายมากนัก หรือตุ๊กตาอะไรแปะอยู่ แต่โทนสีที่ใช้ก็นับว่าสวยงามพอสมควร

“ก็จริงแฮะ จะว่าไปใบนั้นก็สวยดีนะ”
ผมวางกระเป๋าใบที่ผมเลือกลง ก่อนจะหยิบใบที่แบงค์เลือกขึ้นมาดู
“งั้นเอาใบนี้ละกัน”
ผมกับแบงค์ตกลงเลือกกระเป๋าใบสีฟ้านี้เป็นของขวัญวันเกิดให้มายด์
หลังจากที่คิดเงินและห่อกล่องของขวัญเรียบร้อยแล้วนั้น เราทั้งสองก็เดินออกมาจากร้านเพื่อหาอะไรกินกัน

“นันท์จะกินอะไรล่ะ”
เมื่อผมได้ยินคำถามนั้น ผมก็หันมองไปยังรอบข้าง เพื่อพิจารณาหาร้านอาหาร
นั่นสิจะกินอะไรดี ไม่ได้คิดมาก่อนด้วยแฮะ
แบงค์เองก็คงจะสังเกตเห็นได้ว่าผมยังลังเล
“งั้นเดินดูให้ทั่วห้างก่อนมั้ย แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีละกันเนาะ”
แบงค์เสนอความคิดออกมา ผมพยักหน้าตอบรับกับความคิดนั้น

ในระหว่างที่ผมกับแบงค์เดินดูร้านอาหารภายในห้างนั้น ก็มีเสียงห้าวๆ ที่คุ้นเคยร้องทักพวกเราทั้งสองคน
ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ ไอพลนั่นเอง และไม่ได้มาคนเดียวด้วย
แน่นอนว่าเบ๊หมายเลขหนึ่ง ตี๋เอ๋อก็มาด้วย = =”
“โลกกลมจริงนะเนี่ย ที่มาเจอพวกมึง”
พลทักทายเราทั้งสองอย่างสุภาพ (ที่สุดเท่าที่พลมันจะสุภาพได้ - -*)

“พวกกูมาซื้อของขวัญวันเกิดให้มายด์น่ะ มึงกับตี๋เอ๋อเหอะ มาทำไรน่ะ”
แบงค์ถามกลับไปอย่างเซ็งๆ ในขณะที่ตี๋เอ๋อเองก็สะกิดพล ก่อนจะยื่นขวดน้ำดื่มให้พล
“มาดูหนังน่ะ พอดีแม่ไอตี๋เอ๋อได้ตั๋วฟรีมาน่ะ เพิ่งดูจบเมื่อกี้เนี่ย”
พลตอบกลับมาพร้อมกับเปิดขวดน้ำนั่นก่อนที่จะส่งคืนไปให้ตี๋เอ๋อ

“ว่าแต่มึงจะไปไหนต่อป่ะ”
พลถามกลับมาอีกครั้งก่อนที่จะเอามือไปคล้องคอตี๋เอ๋อจนน้ำในขวดกระฉอกออกมานิดนึง
“ก็กะว่าจะหาไรกิน ยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกันเลยว่ะ”
“งั้นก็ดีเลย แม่ตี๋เอ๋อได้คูปองลดราคา 50 เปอร์เซ็นต์ของร้านอาหารญี่ปุ่นชั้นบนมาน่ะ ไปด้วยกันกับกูป่ะ”
พลเอ่ยปากชวน ผมกับแบงค์มองหน้ากัน
จะว่าไปก็ไม่ได้กินอาหารญี่ปุ่นนานแล้วเหมือนกันนะเนี่ย ผมกับแบงค์จึงตอบรับข้อเสนอนั้น
พวกเราทั้งหมดจึงเดินมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารญี่ปุ่นนั้นในทันที

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป

ว่าแต่ว่าแม่ตี๋เอ๋อนี่ขยันได้ตั๋วได้คูปองมาจังเลยนะ = =”

หลังจากที่สั่งรายการอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไม่นานนักอาหารก็ถูกนำมาเสิร์ฟ
ในขณะที่พวกผมกำลังจะใช้ตะเกียบคีบขึ้นมานั้นเอง

“เฮ้ยๆๆๆๆๆๆ เดี๋ยวๆ พวกมึงทั้งสอง ช้าก่อนนนนนนนนน”
อยู่ๆ พลก็รีบร้องห้ามผมกับแบงค์ไว้  มีอะไรกันเหรอน่ะ = =?
“อะไรของมึงวะ ไอพล”

“อ้าว มึงไม่รู้จักธรรมเนียมเลยเหรอวะ”
“ธรรมเนียมเหี้ยไรของมึงวะ กราบไหว้ฟ้าดินเหรอวะ”
“ฟ้าดินพ่องมึงสิ สัส นี่เว้ยๆ”

พลหยิบมือถือของตัวเองขึ้นมา พร้อมกับเปิดแอพฯ กล้องถ่ายรูป แล้วจัดการบรรจงถ่ายรูปอาหารบนโต๊ะอย่างมืออาชีพ (อะไรจะขนาดนั้น)
“เนี่ยนะ ธรรมเนียมของมึง ส้นตีนสุดๆ เลยว่ะ”
แบงค์ด่าพลกลับไป พลเองเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เหลือบสายตาขึ้นมามองยังแบงค์
“มึงอ่ะล่ะ เชยชิบหาย ใครๆ เขาก็ทำเว้ย นี่เลยๆ ถ่ายเสร็จแล้วต้องนี่ อัพลงเฟสบุ๊ค แปบนะ กูแท็กพวกมึงสองคนก่อน”
พลก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับการโพสรูปอาหารทั้งหลายลงเฟสบุ๊ค
“เสร็จยังวะ กูหิวเนี่ย”
แบงค์เองดูท่าจะรำคาญพลอยู่ไม่น้อย จึงหยิบตะเกียบขึ้นมาและทำท่าจะคีบปลาย่างขึ้นมา

แต่...............!!!!!
“เฮ้ยๆๆๆๆๆ เดี๋ยวก่อนๆ ยังไม่ได้เว้ย”
พลรีบยกมือขึ้นมาปรามและร้องทักห้ามแบงค์เอาไว้ จนแบงค์เองทำหน้าตาเซ็งโลกใส่พล
“อะไรของมึงอีกวะ ยังไม่เสร็จธรรมเนียมอีกเรอะ”
“เสร็จแล้ว กูโพสเสร็จเรียบร้อย อย่าลืมตามไปกดไลค์ด้วยนะเว้ย สัส”
พลหันมาพูดกับผมและแบงค์ ผมพยักหน้าตอบรับไปแบบมึนๆ ในขณะที่แบงค์เองกลับชูนิ้วกลางใส่พลประมาณว่า เนี่ยล่ะ ไลค์ของกู อะไรทำนองนั้น

จะว่าไปเวลาแบงค์กับพลเถียงกันมันก็ตลกดีนะ บางทีผมเองยังขำเลย
ปกติสองคนนี้ก็ค่อนข้างจะเถียงกันบ่อยนะ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงเลย เหมือนเถียงเอาสนุกกันมากกว่า


“งั้นกูกินละนะ”
“แปบๆอีกนิดนึง มึงช่วยถ่ายรูปกูหน่อยดิ นันท์”
พลเอ่ยปากขอร้องแบงค์ (หรือจะเรียกว่าขู่บังคับดี??)พร้อมกับยื่นมือถือให้แบงค์
แบงค์รับมือถือนั้นมาด้วยสีหน้าเซ็งๆ
ว่าแต่ เอ่อ ที่ห้อยโทรศัพท์น่ารักไปมั้ยน่ะ หมีลิลาคุมะเนี่ย = =” ไม่ได้เข้ากับหน้าเลยนะ
(ไอคนที่ใส่ชุดนอนมิกกี้เมาส์ยังมีหน้าไปว่าเขาเรอะ ???)

แบงค์ยกมือถือขึ้นเล็งไปยังพล ที่ตอนนี้กำลังชูสองนิ้วพร้อมกับยิ้ม (หรือจะเรียกว่าแสยะดีหว่า ไหงดูสยองๆ ชอบกล - -*)
ก่อนจะกดชัตเตอร์ไปสองสามครั้ง คงเผื่อกันรูปเสียล่ะมั้ง

“ถ่ายกูกับตี๋เอ๋อด้วย”
พลบอกแบงค์พร้อมกับดึงตัวตี๋เอ๋อเข้ามากอดคอไว้อย่างชิดกันมากจนหัวแทบจะติดกันอยู่แล้วนะนั่น - -*
ในขณะที่แบงค์เองตอนนี้ก็กำลังทำหน้าเบื่อโลกประหนึ่งว่า –เมื่อไหร่มึงจะเสร็จ-

แบงค์เล็งกล้องไปที่ทั้งสองคน ที่ตอนนี้กำลังเต๊ะท่ากันอยู่
พลยกนิ้วโป้งขึ้นมาทำท่าเหมือนกดไลค์ ส่วนตี๋เอ๋อ.......เอ่อ อย่าเรียกว่าเต๊ะท่าเลย แค่ยิ้มอย่างเดียวแค่นั้น = =”
เมื่อทั้งสองจัดท่าทางเรียบร้อย แบงค์จึงกดชัตเตอร์เก็บรูปนั้นไว้อีกสองสามรูป ก่อนจะให้ผมช่วยเช็คดู

“ก็โอเคนะ ใช้ได้”

แต่ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือป่าวนะ รอยยิ้มของพลในรูปนี้เมื่อเทียบกับรูปที่แล้วต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยแฮะ
รูปนี้จะว่าไปดูดีมากเลยนะนั่น เมื่อเทียบกับรูปเมื่อกี้ที่...................
เอาเห๊อะ สงสัยรูปเมื่อกี้คงถ่ายเอาสนุกๆ กวนๆ ล่ะมั้ง

ส่วนตี๋เอ๋อ.....................พอดูดีๆ แล้วเวลายิ้มก็ดูดีเหมือนกันนะนั่นน่ะ

หลังจากเช็ครูปเสร็จ ผมก็ส่งมือถือให้แบงค์

“มึงจะถ่ายอีกมั้ย”
แบงค์หันไปถามพลด้วยน้ำเสียงกดดันเล็กๆ (555+) เมื่อเห็นว่าพลส่ายหัว แบงค์จึงกดปิดแอพฯ ถ่ายรูปทันที เพื่อกลับไปยังหน้าจอหลัก

“หือ...................????”
อยู่ๆ แบงค์ก็ส่งเสียงเบาๆ ขึ้นมาในลำคอแบงค์

 “เฮ้ย!!!!!!!!!!!!!!”
เสียงพลร้องหลงขึ้นมาทันทีเมื่อสังเกตเห็นว่าแบงค์กดปิดแอพฯ และรีบคว้าเอามือถือกลับคืนไปอย่างรวดเร็วจนแบงค์เองยังตกใจ

“กูภาพเซฟไว้แล้ว มึงไม่ต้องกลัวหรอก”
แบงค์บอกกับพลที่ดูมีทีท่าวิตกเล็กน้อย ก่อนจะสำรวจมือถือของตัวเอง ซึ่งเป็นภาพที่ผมแทบจะไม่ค่อยได้เห็นเลย
นั่นสิ จะกลัวอะไรกับรูปหายน่ะ ถ่ายใหม่ก็ได้นี่ - -?

“เออๆ งั้นก็ดีละ เอาล่ะๆ ถึงเวลาละ เชิญสวาปามกันได้เต็มที่เลยละกัน”

ทันทีที่พลประกาศเช่นนั้น พวกเราทั้งหมดก็ไม่รอช้าจึงลงมือกันในทันที 55555555+


.......................

“เฮ้อออออ อิ่ม ชิหายเลยว่ะ เอิ่กกกกกกก”
พลเรอออกมาอย่างไม่อายใครหลังจากที่เดินออกมาจากร้านอาหาร
“มึงนี่ซกมกได้อีกนะ”
แบงค์ด่ากลับไป ในขณะที่พลเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยกนิ้วโป้งขึ้นมาประหนึ่งว่านั่นคือคำชม = =”

“เดี๋ยวกูกับตี๋เอ๋อจะกลับกันละ แม่มันบอกให้ไปช่วยเฝ้าร้านน่ะ แล้วมึงสองคนจะไปไหนต่อน่ะ”
พลหันกลับมาถามพวกผมสองคน ผมกับแบงค์หันหน้ามองกัน
“ก็คงเดินๆ เล่นแถวนี้ก่อนล่ะมั้ง”
แบงค์ตอบกลับไป พลกับตี๋เอ๋อเลยแยกตัวออกไป จนเหลือแค่ผมกับแบงค์สองคน

“เอาไงดี จะไปไหนต่อมั้ย”
แบงค์หันมาถามผม ผมเองก็ลังเลนึกไม่ออกเหมือนกันว่าจะไปไหน

“งั้นไปดูหนังกันป่ะ ตอนนี้มีหนังน่าสนใจๆ เข้าหลายเรื่องเหมือนกันนะ”
แบงค์เสนอความคิด ผมเองก็เห็นด้วยจึงพยักหน้ากลับไป
และในขณะที่จะเดินไปยังโรงหนังนั่นเอง

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
“นันท์”
“หือ เฮ้ย!!!”
อยู่แบงค์ก็กอดคอผมดึงเข้าไปใกล้ๆ แล้วยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปคู่โดยไม่ทันให้ผมได้ตั้งตัว

“ทำไรอ๊ะ แบงค์ ยังไม่ทันได้เตรียมตัวเลยเนี่ย ไหนดูรูปหน่อย”
ผมคว้ามือถือของแบงค์มาดูทันที
รอดตัวไป ภาพยังไม่น่าเกลียด แต่รู้สึกเหมือนแก้มจะออกนิดๆ แฮะ = =
“นึกไงถึงถ่ายเนี่ย ปกติไม่ใช่คนชอบถ่ายรูปไม่ใช่เหรอ”
ผมถามกลับไปด้วยความสงสัย เพราะที่ผ่านมาแบงค์เขาไม่ใช่คนที่ชอบถ่ายรูปเท่าไหร่นัก
แบงค์เองเมื่อได้ยินคำถามนั้นของผม ก็หันมองมาทางผมแล้วยิ้ม

“คนเรามันก็ต้องมีเปลี่ยนกันบ้างล่ะน่ะ”

แบงค์ตอบกลับมาสั้นๆ ก่อนจะหันไปมองรูปในมือถือแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว

จะน่ารักไปแล้ววววววววววววววววววววววววว
อ๊ากกกกกกกกกกกก

“เดี๋ยวจะส่งรูปไปให้ในไลน์นะ แล้วตั้งเป็นรูปวอลเปเปอร์ด้วยล่ะ”

!!!!!!!!!!!!?????????????

หือ อะไรนะ ผมหูเพี้ยนไปรึป่าวน่ะ
ผมหันกลับไปมองแบงค์อีกครั้งด้วยความสงสัย ในขณะที่แบงค์เองก็ชูมือถือของตัวเองให้ผมดู


เหวอออออออออ
หน้าจอมือถือของแบงค์ตอนนี้กลายเป็นรูปคู่ของเราที่ถ่ายเมื่อกี้ไปเสียแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!
“เปลี่ยนสิๆ”
ดูๆ ยังจะมาคะยั้นคะยอกันอีก อายนะ แต่ทำไงได้ พอเจอรอยยิ้มนั้นทีไรแล้วใจอ่อนทู้กกกกกกที = =”
หลังจากที่แบงค์ส่งรูปนั้นมา ผมก็กดเปลี่ยนรูปหน้าจอมือถือเป็นรูปนั้นตามทันที แล้วจึงหันมือถือไปให้แบงค์ดู

ทันทีที่แบงค์เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มจนแก้มแทบจะปริออกมาเชียว ในขณะที่ผมเองตอนนี้เขินจนหน้าแดงก่ำแล้วเนี่ย

“ป่ะ ไปดูหนังกัน”
แบงค์พูดตัดบทก่อนจะรีบจับมือผมจูงเดินไปยังชั้นบนด้วยความรวดเร็ว


แบงค์เปลี่ยนไปจริงๆ น่ะล่ะช่วงนี้


จนผมเองก็คงไม่สามารถเก็บซ่อนความรู้สึกนั้นไว้ได้อีกแล้ว
เพราะมันมีแต่จะยิ่งทำให้ผมสับสนในความคลุมเครือนี้


คงถึงเวลาแล้วล่ะที่ผมจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว..................



จบคาบเรียนที่ 13


สวัสดีครับ ^^

ตอนที่ 13 มาแล้วครับบบบบบบบ
วันนี้ขอเข้าเรื่องนิยายก่อนเลยละกัน 555+

รู้สึกช่วงนี้แบงค์จะเริ่มรั่วๆ ยังไงไม่รู้ละ 555+
เล่นเอานันท์ตามไม่ทันเลยทีเดียว

ปมหลายๆ อย่างในเรื่องยังไม่มีการเผยออกมาเลย แต่ปมใหม่ก็มีเข้ามาเรื่อยๆ

ต้องบอกก่อนว่า อย่างที่ทราบกันว่านิยายเรื่องนี้ผมแต่งไว้นานพอสมควรละ
และตอนที่แต่งไว้นั้น เป็นช่วงเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากนี้อีกต่างหาก
และมีเนื้อหาเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น

กล่าวคือ ที่ได้อ่านมาตั้งแต่คาบเรียนที่ 1 จนถึงปัจจุบันตอนนี้ เป็นเนื้อเรื่องที่ผมแต่งขึ้นมาใหม่ทั้งหมด
เพื่อให้เนื้อเรื่องส่วนหลังที่ผมเคยแต่งเอาไว้ก่อนหน้านั้นมีเหตุมีผลมากขึ้น
หรือก็คือ เอานิยายของเก่าที่มีเนื้อหาเพียงนิดเดียวจบ (ตอนนั้นรวมแล้วน่าจะแค่ 20 - 30 หน้าเองมั้ง)
มาเล่าขยายเพิ่มนั่นเอง


เพราะของเก่า เป็นเรื่องจากมุมมองของนันท์คนเดียวเลย ช่วงที่กำลังสับสนกับท่าทีของแบงค์แล้วป้อก็โผล่เข้ามา
ก็ประมาณช่วงๆ นี้นี่ล่ะครับ แต่ของเก่าจะค่อนข้างเป๋ไปเป๋มา เพราะตอนนั้นผมยังไม่ได้จริงจัง แค่แต่งเล่นๆ ให้เพื่อนอ่านน่ะครับ
จำได้ว่าแต่ละตอน สมัยนั้นแค่ 3 หน้าเองมั้ง ถ้าเอามารวมจริงๆ ตอนนี้คงได้แค่ 2-3 ตอนเองมั้ง - -*


(คงคล้ายๆ พวกหนังฮอลลี่วู้ดที่ทำภาค 1 - 2 - 3 มาก่อนแล้วค่อยมาทำภาค 0 เพื่อบอกที่มาที่ไป
แต่ผมเลือกเอาภาค 0 มาใส่ไว้ก่อนเลยอะไรทำนองนั้น)

ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอยมากขึ้นละ ผมจะค่อยๆ ผสมผสานเนื้อเรื่องส่วนใหม่ขยายเข้าไป
กับโครงเรื่องหลักของเก่าทีละนิดๆ หลังจากนี้ละครับ

ถามว่า ผมเอามาบอกเพื่ออะไร? ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้นี่
แห่ะๆ ใช่ครับ มันไม่ใช่สาระสำคัญอะไรหรอก แต่ผมแค่อยากบอก 555+ (///โดนถีบ :z6:)

คือผมแค่อยากแชร์น่ะครับกับนิยายที่ผมรักน่ะ เหมือนเป็นการเล่าหรือบ่นไปเรื่อยเปื่อยน่ะ :mew2:

ส่วนเรื่องของผม
จะเรียกว่ายังไงดีล่ะ จะเรียกอกหักหรือป่าว ก็ไม่รู้สิ
ทั้งๆ ที่น้องเขาก็ยังน่ารักเหมือนเดิมนะ วันนี้ยังมีการเดินเข้ามากอดผมด้วยซ้ำ
แถมยังซื้ออมยิ้มมาให้ผมอันนึงด้วย
ผมทำงานได้แผล น้องเขาก็ยังเข้ามาดูมาถาม ทำแผลให้ด้วย
ตอนกลับก็มีการบอกขี่รถกลับดีๆ นะครับ

มันก็มีความสุขดีนะ


แต่ผมรู้มาว่าน้องเขามีแฟนละ เป็นผู้หญิงด้วย  o22 :a5:
(น้องเขาไม่ได้บอกผมหรอก แต่ผมดันไปรู้เอาเอง)

แต่น้องเขาก็ยังดีกับผม ไม่มีท่าทีรังเกียจผมด้วย
เอาน่ะ เหมือนที่นันท์บอกไว้น่ะล่ะ แค่นี้ก็มีความสุขละ
ถ้าสิ่งที่น้องเขาทำให้ เขาทำให้เพราะเขาเห็นผมเป็นพี่ชายคนนึง ผมก็มีความสุขละ
ยังดีกว่าเขารังเกียจผมในสิ่งที่ผมเป็น ^^


เอ หรือว่าแท้จริงแล้วน้องเขา.......
เอาล่ะสิตตู เริ่มจะสับสนเหมือนที่นันท์สับสนละเฮ้ย  :ling3:
ไอนันท์เอ้ยยยยย ข้าเข้าใจความรู้สึกเอ็งละ :sad4:


ก็นะ............ก็ไม่ได้เสียใจหรือร้องไห้อะไรหรอกนะ
แค่เสียเซลฟ์ไปนิสสสสสนึง 555+ เลยทำให้วันนี้พล่ามมากไปหน่อย หวังว่าคงไม่ว่ากันนะครับ




"แค่ได้รัก ได้อยู่ใกล้ๆ ถึงจะไม่ได้เป็นเจ้าของ
แค่ได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงของคุณ
.
ก็พอแล้วล่ะ................"

เอาน่ะอย่างน้อยก็ถือว่าผมได้ทำมันจนสุดความสามารถละ ^^


ปล. เรื่องเม้นท์ยาว เม้นท์สั้น สำหรับผมไม่มีปัญหาครับ เม้นท์สั้นๆ กระชับ เจาะตรง
หรือจะเม้นท์ยาวก็ดีนะ ผมชอบอ่าน ถือว่าเราได้แชร์เรื่องราวกัน ผมอาจจะได้ไอเดียอะไรไปใช้ด้วยก็ได้ไง 555+

ปล.2 ที่ผมพิมพ์ไปเนี่ย ผมอายเหมือนกันนะ  :-[ :-[
อย่างที่เขาว่า เรื่องของคนอื่นเราทำเป็นรู้ดีไปหมด ให้คำแนะนำได้ แต่พอเจอเข้ากับตัวเอง ไปไม่ถูกเหมือนกัน 555+
บางทีผมเองก็อาจจะต้องการคนแนะนำให้คำปรึกษาเหมือนกันนะเนี่ย :mew4:

ปล.3 เดือนนี้ซื้อการ์ตูนมาเยอะแยะเลย แต่ไม่มีเวลาอ่านเลย ดองไว้จนล้นละ  :sad4: :sad4:


ปล.4 อยากอ่านเรื่องราวจากฝั่งไหนกันครับ ระหว่างแบงค์และนันท์
เอ หรือจะป้อดีล่ะ ??? 5555+
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-08-2013 13:01:44 โดย จิ๊บคุง »

ออฟไลน์ Redz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เรื่องนันท์สับสนก็สมควรอยู่หรอก
เพราะทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน
แล้วนันท์ก็รู้อีกว่าแบงค์เคยรักใครมาก่อน
แค่คิดว่าแบงค์จะทำใจได้แค่ไหนแล้ว
แล้วแบงค์พร้อมจะรักใครใหม่หรือยัง
แล้วแบงค์จะรับความรักจากนันท์ได้หรือไม่
แค่ความคิดเหล่านี้ก็พอจะทำให้นันสับสนได้แล้ว
ว่าจะบอกความรู้สึกของตัวเองให้แบงค์รู้ดีหรือไม่
แต่ต่อไปนี่คงจะทำให้แบงค์แสดงท่าทีอะไรแปลกๆ
ออกมาให้นันท์ได้สับสนอีกแน่ เพราะว่าป้อเองก็รุกหนัก
คนเรานี่นะถ้าไม่รู้ถึงการสูญเสีย ก็ไม่ค่อยจะกล้าเปิดเผยความรู้สึก
ในเรื่องความรักของแบงค์กับนันท์ก็ลุ้นกันต่อไปเนอะ

ส่วนเรื่องนอกนิยาย ก็เศร้าด้วยนะคะ
แต่ก็ดีที่รู้เร็วจะได้ทำใจได้เร็วขึ้นด้วย
เอาน่าถ้าน้องเขาจะใส่ใจดูแลเราในฐานะพี่ชาย
ก็ดีเหมือนกัน เพราะคุณเพิ่งไปอยู่จะได้มีเพื่อนงัย
แล้วสักวัน คุณก็ต้องเจอคนที่ถูกใจอีกแน่นอนค่ะ
เป็นกำลังใจใ ห้ทั้งเรื่องนิยายและเรื่องนอกนิยายนะคะ

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
ตอนนี้นันท์ของเรายังคงสับสนกับความเปลี่ยนแปลงของแบงค์ที่ทำให้นันท์แทบไม่อยากเก็บความลับไว้ในใจซะแล้ว
ก็แบงค์เหมือนแกล้ง รู้ว่านันท์ชอบยังทำให้นันท์หวั่นไหวอยู่นั่นละ
มีการบังคับตั้งรูปคู่เป็นรูปวอลเปเปอร์ซะด้วย อยากรู้จังปกติเพื่อนผู้ชายเค้าจะทำอะไรน่ารัก ๆ แบบนี้ไหมน๊า
ถึงจะรู้ว่าแบงค์คงยังสับสนอยู่เหมือนกัน แล้วยังเรื่องในอดีตที่ยังเป็นปริศนา
แต่อ่านแล้วอยากให้เป็นแบงค์มากกว่าที่เก็บความรักไว้ไม่อยู่แล้วสารภาพกับนันท์ออกมาก่อน 
ยิ่งตอนนี้มีป้อเข้ามา ก็ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้ ถ้าแบงค์เริ่มเห็นว่าป้อเข้ามาใกล้นันท์มากขึ้น
แต่ตอนนี้ป้อกะแบงค์ยังไม่ได้เจอกัน ก็เลยต้องรอลุ้นอาการหึงของแบงค์ต่อไปสินะค่ะ
คู่พลกะตี๋เอ๋อก็น่ารัก ไม่รู้เค้าสื่อสารกันเข้าใจได้ยังไง ตี๋เอ๋อยังไม่เคยพูดซักคำแต่พลก็เข้าใจไปโหม๊ดเลย

เรื่องของการแต่งนิยาย คนอ่านก็พยายามตั้งใจอ่านแล้วก็พยายามเข้าใจลำดับในการเขียนของผู้เขียนอยู่ดี ๆ
แต่พอผู้เขียนบอกว่า ถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้ ไม่ใช่สาระสำคัญอะไรแค่อยากบอก ขำกร๊ากเลยคะ :laugh:
อยากเล่าเรื่อยเปื่อยอะไรก็เล่าได้นะคะ อ่านแล้วสนุกดี

ส่วนเรื่องน้องน่ารัก ก็สู้ ๆ นะค่ะ ถึงน้องเค้าอาจจะมีแฟนแล้วจริง ๆ แต่ถ้าเค้ายังทำตัวน่ารักเหมือนเดิม
อย่างงี้ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไร ก็ทำให้เรามีความสุขได้เนอะ แต่ที่น้องเค้าทำก็นะช่างทำให้เราอดสับสนไม่ได้จริง ๆนั่นละ
แต่ก็ดีนะค่ะ มีอะไรให้ชุ่มชื่นหัวใจเล็ก ๆ น้อย ๆ เวลาทำงานเครียด ๆ

ปล.1 จริง ๆ ที่เม้นท์ยาวก็ไม่ได้มีสาระหรอกคะ แบบมีเนื้อนิดเดียว นอกนั้นน้ำทั้งน๊าน 555
แต่เม้นท์สั้น กระชับ ๆ ไม่ค่อยเป็นอะคะ อาจจะดูเขียนวกวน แต่คงไม่งงมากนะคะ  :mew2:

ปล.2 เป็นเรื่องปกติแหละคะ เหมือนกับเวลาเราบอกให้เค้าสู้ ๆ ไม่ต้องคิดมาก
แต่จริง ๆ ถ้าเป็นเรื่องของเรา ๆอาจจะอาการหนักกว่าเค้าก็ได้ แต่มันก็เหมือนเป็นการให้กำลังใจกันอย่างนึง
ที่คิดว่าคนฟังอาจจะรู้สึกดีขึ้นนิดนึงก็ได้เนอะคะ
 
ปล.3 ตอนนี้เลิกซื้อการ์ตูนแล้วคะ ตอนแรกก็บ้าซื้อแต่พอน้ำท่วมบ้านปี 54 การ์ตูนโดนน้ำไปเยอะมาก ๆ
เสียดายก็เสียดายแต่ต้องมานั่งเก็บการ์ตูนที่สะสมใส่ถุงดำไม่อยากทิ้งก็ต้องทิ้ง เลยตั้งใจไม่ซื้ออีกเลย
ปัจจุบันมาติดนิยายแทนเลยมีอย่างอื่นให้อ่าน แล้วน้องสาวยังบ้าซื้ออยู่เลยไปอ่านของมันแทน ประหยัดดี

ปล.4 จริง ๆ ก็อยากอ่านทั้งของแบงค์ของนันท์อะคะ แบบสลับ ๆ กันมันก็คงเขินกันคนละแบบ
แต่ของป้อนี่ถ้ามีปน ๆ บ้างก็ได้นะคะ แต่ยังไงก็คงเชียร์แบงค์กะนันท์ต่อไปอยู่ดี
ปล.5 เอ่อ ที่เขียนซะยาวเวอร์ขนาดนี้ นี่ก็อายเหมือนกันนะคะ  :-[  ตอนหน้าคงไม่ยาวขนาดนี้อะคะ
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้กันเหมือนเดิมค่ะ  :pig4:  :กอด1:

soteen94

  • บุคคลทั่วไป
คนแต่งเล่นอสุรา ด้วยใช่มั้ยครับ เห็นนิยายอยู่บอร์ดอสุราด้วย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
คนแต่งเล่นอสุรา ด้วยใช่มั้ยครับ เห็นนิยายอยู่บอร์ดอสุราด้วย

แม่นละครับ

เกมส์โปรดเลย
(ตอนนี้เล่นสองเกมส์ มี อสุรา กับ ปังย่า)

ตอนนี้กำลังบ้าทำอาหารในอสุราอยู่  = ="

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
อา...แบงค์ยังไม่ชัดเจน นันท์เลยไม่กล้าฟันธง ป้อก็เริ่มรุกแล้ว แย่แล้ว ๆ
ป้อ ย้ายโรงเรียนมาเพราะอะไรนะ ปิดเป็นความลับอย่างนี้ เพราะตามนันท์มาแน่เลย
เลือกของขวัญ เดินไปเดินมา ก็เจอพลกับตี๋เอ๋อ อีกล่ะ คู่ีนี้ก็ขยันโผล่มาให้จิ้นซะเรื่อย รู้มั้ยว่าเราชอบอ่ะ :impress2:
พล โหด เถื่อนขนาดนั้น มันแค่ภายนอกสินะ ความจริง คิขุโนเนะ น่ารักจริงเลย แหม๊ มีกอดคอถ่ายรูปคู่ตี๋เอ๋อซะด้วย  :m3:
ถ่ายคนเดียว ไม่มีอารมณ์ พอถ่ายกับตี๋เอ๋อ อารมณ์ดีงั้นสิน้า ชอบ ๆ ตี๋เอ๋อยิ้มซะด้วย แต่เมื่อไหร่จะพูดบ้างอ่ะเนี่ย
หน้าจอหลัก มือถือพล รูปอะไรอ่ะ อยากรู้ ๆ รูปคู่กับตี๋เอ๋อ อ๊ะเปล่า  :hao7: เอ๊ะ เหมือนตอนนี้ คู่นี้จะแย่งซีนคู่หลักชอบกลป่ะเนี่ย อิอิ
ท่าทาง แบงค์ จะอิจฉา ใช่มั้ย  รีบมาถ่ายรูปคู่นันท์บ้างเชียว ให้ตั้งเป็นวอลเปเปอร์ซะด้วย กลัวน้อยหน้ารึไงจ้ะ ฮุฮุ
แถมยังยุนันท์ให้ตั้งเหมือนกัน มันแฟนกันชัด ๆ นะนั่น  :m1: แหม อิทธิพลคู่พลกับตี๋เอ๋อ แผ่ซ่านสินะ ดี ๆ ชอบ ๆ
น้องนันท์ ทนไม่ไหวแล้ว จะทำอะไรจ้ะ แต่เอาเถอะ ทำอะไรก็ได้ ให้แบงค์หายคลุมเครือซะทีน่ะเนาะ เอาเลย ๆ

ส่วนเรื่องน้องน่ารัก ของคนเขียน คิดบวก ๆ เนาะ ยังไงก็ได้น้องที่ดีมาเพิ่ม ทำให้มีความสุขได้ก็พอละ
อย่าไปคิดมากสับสัน เหมือน นันท์ กับ แบงค์ เลย ปวดหัวแทนนะนั่น  o18
ดีใจที่คนเขียนชอบอ่านเมนท์ยาว แต่ของเรายาวแบบไม่ค่อยมีสาระซะด้วยสิ ไม่ว่ากันน้า
เรื่องการ์ตูน ทำไมเจอคนเหมือนกันเลยเนี่ย ซื้อไว้ ขอให้ได้ซื้อเหอะ แต่ไม่ได้อ่าน มัวแต่มาอ่านนิยายเนี่ย 
แต่ของเรา การ์ตูนวาย นะจ้ะ วายเท่านั้น รึไม่ก็การ์ตูนผู้ชาย อย่าง one piece อะไรเทือกเนี่ย
ตั้งแต่เข้าสู่ โลกของสาววาย อ่านการ์ตูนชายหญิงไม่ได้เลยอ่ะ ไม่รู้ทำไม อ่านแล้วหงุดหงิด เหมือนกินของผิดสำแดง (เวอร์ละ)
เรื่องคนเล่าเรื่อง เอาจริง ๆ เลย อยากอ่านเรื่องราวจากฝั่ง แบงค์ มากกว่านะ เพราะนันท์ ชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่แล้ว
เหลือแบงค์เนี่ยแหละ เหมือนไม่ออกจากหมอกซะที คลุมเครือเข้าไป อยากรู้ความในใจแบงค์มากกว่าอ่ะ
แต่ที่ำสำคัญ ไม่เอา ป้อ นะ ให้ พระ นาย เค้าเล่ากันก็พอแล้วจ้า
เขียนมากไปแล้ว พอดีกว่า รอตอนต่อไปนะจ้ะ ขอบคุณคนเขียนค่ะ  :กอด1: :L2:

soteen94

  • บุคคลทั่วไป
แม่นละครับ

เกมส์โปรดเลย
(ตอนนี้เล่นสองเกมส์ มี อสุรา กับ ปังย่า)

ตอนนี้กำลังบ้าทำอาหารในอสุราอยู่  = ="
งุมๆ เล่นเซิฟไหนหรอครับ 

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
งุมๆ เล่นเซิฟไหนหรอครับ

สวรรค์ครับ

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
คาบเรียนที่ 14 : รุกคืบ

“สรุปแบงค์จะลงแข่งให้พี่แจ้จริงๆ แน่เหรอ”
ผมหันไปถามแบงค์ที่ตอนนี้กำลังทำหน้าจ๋อย

แบงค์ไม่ตอบอะไรออกมาได้แต่พยักหน้าอย่างเดียว
“แล้วไปทำอีท่าไหนถึงได้จับพลัดจับพลูไปลงให้พี่เขาล่ะ”
ผมย้อนถามซ้ำกลับไปก่อนที่จะใช้ตะเกียบคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปาก

“ก็..........พี่แจ้อ่ะดิ มาคะยั้นคะยอขอให้ช่วยลงแข่งให้เขาหน่อยน่ะ เห็นว่านัดนี้เป็นนัดสำคัญด้วยน่ะสิ”
แบงค์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงเศร้า
“ก็แล้วไปตอบตกลงเขาทำไมล่ะ ในเมื่อไม่ชอบน่ะ”
ผมถามเป็นเชิงบ่นไป ทว่าแบงค์ไม่ตอบอะไรกลับมาทั้งนั้นเอาแต่ใช้ช้อนส้อมจิ้มชิ้นหมูในจานไปมา
แต่ผมเดาได้ไม่ยากหรอกครับ พอจะรู้นิสัยอยู่ว่าแบงค์เป็นพวกปฏิเสธคนอื่นไม่เก่ง

แล้วเป็นไงล่ะ สุดท้ายก็เป็นตัวเองน่ะล่ะที่ต้องมานั่งเครียด
มันน่าบ่นจริงๆ เลย แต่................

“เอาเถอะ ไหนๆ ก็ตอบตกลงรับปากพี่เขาไปแล้ว จะไปกลับคำก็คงไม่ได้แล้วล่ะ
แบงค์ก็คงต้องทุ่มเทให้กับมันแล้วล่ะ ทำให้ดีที่สุดให้สมกับที่พี่เขาคาดหวังไว้”
ผมพูดพร้อมกับเอามือไปวางบนบ่าของแบงค์เบาๆ แบงค์หันมามองผม


“สู้ๆ นะ นันท์จะเอาใจช่วย”
ผมยิ้มให้กับแบงค์ ซึ่งมันเป็นที่ผมพอจะทำให้ได้ในเวลานี้ นั่นคือการให้กำลังใจมากกว่าการซ้ำเติม

แบงค์เองเมื่อได้ยินผมพูดเช่นนั้น ก็เอามือของตัวเองขึ้นมาจับบนมือผมเบาๆ และเริ่มจะยิ้มออกมาได้บ้างแล้ว
“แล้วก็อย่าลืมไปบอกพี่เค้าด้วยล่ะว่า ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้วนะ หรือจะให้นันท์ไปพูดให้”
ผมกำชับด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แบงค์ส่ายหัวก่อนจะหันมายิ้มให้กับผม

“ไม่เป็นไร โบราณเขาว่า เรียนผูกต้องเรียนแก้ แบงค์ไปตอบตกลงเอง แบงค์ก็ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเองดีกว่า”
แบงค์ตอบกลับมาก่อนจะตักข้าวเข้าปากตัวเอง
“จะเบื่อก็แค่ช่วงนี้ตอนพักกลางวันคงไปห้องสมุดกับนันท์ไม่ได้แล้วนี่สิ แถมเสาร์อาทิตย์ก็ต้องมาซ้อมอีก”
แบงค์ถอนหายใจเบาๆ ผมอมยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

“เอาน่ะ แค่เดือนเดียวเองนี่ ไม่เป็นไรหรอก ที่จริงก็อยากจะไปดูแบงค์ซ้อมเหมือนกันนะ แต่เหมือนเขาจะห้ามคนนอกไว้นี่”
ผมถาม แบงค์ก็พยักหน้าเป็นคำตอบ
“ยังไงก็ยังได้กลับพร้อมกันอยู่ดีน่ะล่ะ”
แบงค์ตอบด้วยน้ำเสียงที่ดูสดชื่นขึ้น ก่อนที่จะเอนหัวลงมาซบบนไหล่ของผม

ตึ่กๆ

เอาล่ะสิ ผมเป็นฝ่ายใจเต้นเองอีกแล้ววววววว ><
แล้วนี่มันกลางโรงอาหารด้วยนะ อ๊ากกกกกกกกกกกก

“งั้นแบงค์ไปก่อนนะ ต้องรีบไปซ้อมละ”
ทันทีที่แบงค์พูดจบ แบงค์ก็รีบลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วเดินออกไปทันที แต่ยังไม่วายที่จะเอามือมายีหัวผมเล่น = =”
ผมเหลียวไปมองแบงค์ที่เดินออกไปจนหายลับจากสายตา แล้วจึงหันมาจัดการก๋วยเตี๋ยวที่เหลืออยู่ในชามต่อ


ผมคีบเส้นก๋วยเตี๋ยวเข้าปากไปได้ 2 – 3 คำ ก็หยิบเอามือถือของตัวเองออกมาดู
ผมปลดล๊อคมือถือ เผยให้เห็นภาพหน้าจอที่ผมใช้อยู่ตอนนี้

ภาพหน้าจอตอนนี้จากเมื่อก่อนที่เป็นเพียงรูปทั่วไปไม่ได้สลักสำคัญอะไร
แต่ทว่าตอนนี้มันกลับกลายเป็นรูปคู่ระหว่างผมกับแบงค์ไปเสียแล้ว
ผมนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียวอย่างเขินอายให้กับรูปนั้น ถ้าคนอื่นหันมามองคงจะคิดว่าไอนี่บ้าไปแล้วแน่ๆ

ตอนนี้ความสัมพันธ์ระหว่างผมกับแบงค์จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ
เพื่อนงั้นเหรอ ไม่รู้สิ เหมือนมันมากกว่านั้นไปแล้วนะ
แต่ไอครั้นจะเรียกว่าแฟน มันก็ยังคงไม่ใช่เสียทีเดียว

เพราะทั้งผมและแบงค์เองต่างยังไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้กันเลย ทั้งเรื่องของความสัมพันธ์และสถานะของเราทั้งสองคน

แต่ทว่าผมเองก็ไม่อยากมันเป็นแบบนี้ไปตลอดหรอก
จะว่าผมโลภมากก็คงจะไม่ผิดหรอก
ถ้าเป็นเมื่อก่อน ก่อนที่แบงค์จะเปลี่ยนท่าที สมัยที่ผมยังคงได้แค่แอบชอบ ผมก็คงไม่คิดอะไรหรอก
ได้อยู่แค่นั้น ได้เป็นแค่นั้นมันก็มีความสุขแล้ว

แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แบบนั้นแล้ว ด้วยอะไรหลายๆ ที่ผ่านมาในช่วงเดือนสองเดือนมานี้มันทำให้ผมเป๋ไปพอสมควรกับท่าทีของแบงค์ที่เปลี่ยนไปจนผมเองยังตามไม่ทันเลยจริงๆ
ที่ผ่านมาผมได้แต่นิ่งเงียบเก็บความคิดและความรู้สึกนั้นเอาไว้ตลอด
แต่ผมคงจะทำแบบนั้นต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เพื่อให้สิ่งที่มันคลุมเครืออยู่ในตอนนี้มันกระจ่างเสียที
ถึงเวลาที่ผมต้องเป็นฝ่ายทำอะไรสักอย่างแล้วล่ะ


แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า ไออะไรสักอย่างนั่นล่ะ คืออะไรดี ???

จะให้ถามตรงๆ ก็คงไม่ไหวหรอก มันออกจะประเจิดประเจ้อเกินไป

“แหม สวีทหวานแหววกันจังเลยนะจ๊ะ พ่อหนุ่มน้อย”
เสียงใสๆ เรียกทักผม ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกครับ มายด์น่ะเอง เธอทักทายผมก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งตรงข้ามกับผม

นั่นสิ
หรือจะปรึกษามายด์ดี ???

-เรื่องบางเรื่องน่ะ ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนที่จะรู้หรอกปล่อยให้มันเป็นเรื่องของเวลาดีกว่า-
แต่แล้วอยู่ๆ คำพูดของมายด์ที่เคยพูดไว้ก็ผุดขึ้นมาในหัวของผม

คงจะไม่ดีถ้าจะปรึกษามายด์เรื่องนี้แฮะ

มันก็จริงอยู่หรอกที่ว่าช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม ปล่อยเป็นเรื่องของเวลา
แต่ถ้าเอาแต่รออย่างเดียว แล้วเมื่อไหร่กันล่ะ ที่เวลานั้นมันจะมาถึง ????
ตอนนี้สิ่งที่ผมยังคิดไม่ตกและเป็นปัญหาใหญ่นั่นก็คือ ผมไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหน และจะเริ่มยังไงดี

เฮ้ออออออออออออ

“เป็นอะไรไป ดูทำหน้าเข้าสิ”
มายด์ถามผมพร้อมกับแกะห่อขนมในมือ ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบกลับไป
“ว่าแต่มายด์เถอะ ไม่กินข้าวเหรอ”
“กินแล้วน่ะ อ้อ แล้วก็ของขวัญวันเกิดอ่ะ ขอบคุณมากๆ นะ สวยมากเลยล่ะ”
มายด์เอ่ยขอบคุณผมพร้อมรอยยิ้ม ผมยิ้มตอบกลับไป

ตรึ๊ง!!!!

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
เสียงมือถือของมายด์ดังขึ้น ฟังจากเสียงแล้วน่าจะเป็นไลน์นะ
มายด์หยิบมือถือขึ้นมาทันทีที่ได้ยิน ก่อนจะก้มหน้าก้มตาพิมพ์แชทกับบุคคลอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มที่ดูมีความสุขเสียเหลือเกิน
“คุยกับใครน่ะ ดูยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะ”
ผมแซวกลับไป มายด์ดูมีทีท่าสะดุ้งนิดหน่อยกับคำพูดของผม พร้อมกับหันซ้ายหันขวาก่อนจะหันมือถือของตัวเองให้ผมดู

ผมเพ่งมองดูรูปและชื่อไลน์ของอีกฝ่าย
หือ ตาฝาดป่ะเนี่ย
ผมขยิบตาสองสามครั้งและเพ่งมองอีกครั้งให้แน่ใจ

“เอ๋....!!!! นี่มันพี่สาธิตนี่นา!!!!”
ผมเผลออุทานเสียงดังออกไป จนมายด์ต้องรีบโน้มตัวเอามือมาปิดปากผมไว้
“นี่มายด์ไปได้คุยกับพี่เขาตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะ ทำไมไม่เห็นบอกกันมั่งเลยอ่ะ”
“ก็......วันที่ไปหายัยส้มที่ห้องชมรมดนตรีนั่นไงล่ะ พี่สาธิตเขาก็อยู่ด้วยน่ะ ก็เลย....มีโอกาสได้คุยกันน่ะ แล้วก็...”
มายด์ตอบผมด้วยน้ำเสียง และใบหน้าเขินอายอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะก้มหน้าลงไปพิมพ์ตอบโต้กับพี่สาธิตต่อ

“ว่าแต่ แล้วตกลงมายด์กับพี่เขาคบกันรึยังน่ะ”
“บ้าสิ เพิ่งจะได้คุยกันเฉยๆ เอง คนนะไม่ใช่ปลากัดจะได้ไวอะไรกันปานนั้น”
มันก็จริง = =
แต่เอาเถอะ เฮ้อออออออ น่าอิจฉาจัง อย่างน้อยก็อิจฉาในความกล้า และพยายามของมายด์จังเลย
อยากจะขอแบ่งมาให้ผมมั่งจัง สักนิดก็ยังดี ;w;

หลังจากที่มายด์พิมพ์ไลน์ตอบโต้กับพี่สาธิตได้ไม่นาน ก็ขอตัวแยกออกไป วึ่งเดาดุก็น่าจะไปหาพี่สาธิตน่ะล่ะ
ส่วนผมเอง ทันทีที่กินก๋วยเตี๋ยวจนหมดแล้วนั้น ก็แน่นอนล่ะครับ ผมก็ก็ตรงไปยังห้องสมุดเหมือนทุกๆ วัน
(คงจะเป็นชีวิตที่ไร้สีสันอย่างที่มายด์ก็เป็นได้ - -)
และหลังจากนั้นไม่ต้องบอกก็คงรู้นะครับว่าผมทำอะไรต่อ = =”
เอาล่ะ หลังจากที่ได้หนังสือที่โดนใจสำหรับวันนี้แล้ว
ผมก็ไป...................ถะถะถะถูกต้องน้าคร้าบบบบบบบบบบบบ
ผมก็ไปนั่งยังมุมโปรดของผมเหมือนทุกวัน 5555+
(เล่นมุกเอง ตบมุกเอง ช่างน่าอนาจจิตได้อีก - -*)


กิจวัตรประจำวันของผมก็ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย มีแค่ประมาณนี้นี่ล่ะ
อาจจะดูน่าเบื่อในสายตาคนอื่นนะ แต่มันคือความสุขของผมแล้วล่ะ การได้อยู่ท่ามกลางหมู่มวลหนังสือเนี่ย
ผมเองยังมีความฝันเลยว่าอยากทำงานเกี่ยวกับพวกหนังสืออะไรพวกนี้คงจะมีความสุขดีไม่น้อย ^^

ผมนั่งอ่านไปได้สักพัก ก็เกิดอาการง่วงขึ้นมาซะงั้น สงสัยเพราะเมื่อคืนนอนดึกล่ะมั้ง
ไม่ไหวละ ของีบหลับสักหน่อยละกัน ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ก่อนดีกว่า จะได้ไม่หลับเพลิน
เอาล่ะ ขอโทษคุณหนังสือด้วยนะครับ ที่เอามาหนุนหัวนอนแทนที่จะเอามาอ่าน = =”
คงด้วยเพราะความง่วงนอนล่ะมั้ง เลยทำให้เพียงแค่เวลาไม่นานผมก็ผล็อยหลับไป

ไม่รู้ว่าผมหลับไปนานเท่าไหร่แล้ว แต่ทว่าในความรู้สึกความฝันนั้นเหมือนนานแสนนาน
ผมฝันเห็นเด็กใส่แว่นคนนึงที่กำลังนั่งเล่นอยู่ตรงสนามเด็กเล่น รูปร่างของเขานั้นอ้วนท้วนตุ้ยนุ้ยพอสมควร
เด็กคนนั้นนั่งเล่นอยู่ตรงสนามเด็กเล่นเพียงคนเดียวตามลำพัง

ด้วยความที่เป็นเด็กมาใหม่ ยังคงเข้ากับใครไม่ได้ จึงไม่แปลกที่จะตกเป็นฝ่ายโดนแกล้งของผู้ที่อยู่มาก่อน

ในขณะที่เด็กน้อยคนนั้นกำลังร้องไห้เพราะโดนกลั่นแกล้งอยู่นั่นเอง

-รังแกคนที่อ่อนแอกว่าคิดว่าตัวเองเท่นักเหรอไงน่ะ-
อยู่ๆ เด็กผู้ชายอีกคนก็แสดงความกล้าหาญเข้ามาช่วยเด็กน้อยที่ถูกกลั่นแกล้ง
ถึงแม้ตัวจะเล็ก แต่ทว่าก็ไม่ยอมให้กับผู้ที่มารังแก
เหตุการณ์จบลงด้วยการตะลุมบอนกันก่อนที่ผู้ใหญ่แถวนั้นจะมาห้ามปรามไว้

เด็กหนุ่มผู้กล้าหาญเดินเข้ามาหาเด็กน้อยผู้อ่อนแอก่อนจะเอื้อมมือมาจับไหล่ไว้พร้อมกับส่งยิ้มให้
-ไม่เป็นไรแล้วนะ-
ก่อนที่จะเอื้อมมือนั้นมาสัมผัสตรงหัวเบาๆ

อืม.......................มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน.....

อบอุ่นจนเหมือนไม่ใช่ความฝันเลย

อบอุ่น ????
ไม่ใช่ความฝัน ????
หือ........???

เฮือก!!!!!!!

ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาทันทีที่รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ ว่าสัมผัสนั้นไม่ใช่เพียงแค่ความฝัน
จนบุคคลที่นั่งข้างผมในตอนนี้เองก็ยังสะดุ้งตามไปด้วย


“ป่ะ ป้อ!!!!!!!!”
ผมตกใจพร้อมเอ่ยชื่อนั้นออกไปทันทีทีเห็นว่าบุคคลที่นั่งข้างผมคือใคร
“อ่ะ เอ่อ โทษทีนะครับ ที่ทำให้ตื่น”
ป้อเอ่ยขอโทษผมก่อนที่ดึงมือนั้นกลับไป งั้นแสดงว่าสัมผัสเมื้อกี้นั้นคือ........

“เอ่อ คือผมเข้ามาหาหนังสืออ่านน่ะครับ แล้วเห็นนันท์กำลังหลับอยู่ เอ่อ
แล้วพอดีเห็นว่ามีเศษหยากไย่ติดหัวน่ะครับ ก็เลยเอาออกให้”
ป้ออธิบายก่อนจะยื่นเศษหยากไย่ในมือให้ผมดู

สงสัยจะติดมาตอนเข้าไปหาหนังสือล่ะมั้ง

“เอ่อ ขอบคุณนะ แล้วเข้ามานานรึยังน่ะ”
ผมเอ่ยถามกลับไปก่อนจะจัดกองหนังสือบนโต๊ะให้เข้าที่
“ก็เพิ่งมาน่ะครับ กำลังเดินหาหนังสืออ่านน่ะครับ แล้วนันท์ล่ะครับ มานานรึยัง แต่ผมว่าน่าจะนานแล้วน่ะ เห็นหลับสนิทเชียว”
ป้อตอบกลับมาเป็นเชิงแซว ทำเอาผมอายเลยทีเดียว = =

“ก็.......แห่ะๆ นิดหน่อยน่ะ”
“ไม่ต้องอายหรอกครับ ผมว่าน่ารักดีออก”
ป้อยิ้มให้กับผม มันเป็นยิ้มที่ดูเป็นมิตรมากๆ จนผมเองยังรู้สึกเขินไปกับรอยยิ้มนั้นเลย

“ว่าแต่แบงค์ล่ะครับ ไม่มาด้วยเหรอครับ?”
ป้อถามผมพร้อมกับหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆ ห้องสมุด
“ไปประชุมกับชมรมบาสน่ะ”
“อ่อ แบงค์เขาอยู่ชมรมบาสเหรอครับ”

“ก็ปล่าวหรอก เขาอยู่ชมรมห้องสมุดนี่ล่ะ แต่พอดีมีเหตุนิดหน่อยน่ะ ก็เลยยยยย”
ผมไม่รู้จะอธิบายยังไงดี แต่ดูท่าป้อเองก็ไม่ได้ใส่ใจในรายละเอียดมากนัก จึงได้แต่พยักหน้าเป็นเชิงรับรู้และไม่ถามต่อ
“เอ...ชมรมห้องสมุดงั้นเหรอ ผมเข้าด้วยดีมั้ยเนี่ย?”
ป้อพูดพึมพำเบาๆ กับตัวเอง ก่อนจะหันมามองผม
“ได้สิ แต่กิจกรรมชมรมค่อนข้างน่าเบื่อไปหน่อยนะ ไม่หวือหวา ไม่โดดเด่นเหมือนชมรมอื่นๆ เพราะงั้น...
คนในชมรมก็เลยไม่ค่อยจะเยอะเท่าไหร่น่ะ กลัวว่าป้อเข้ามาแล้วจะเบื่อไปเสียก่อนนี่สิ”
ผมอธิบายรายละเอียดคร่าวๆ ของชมรมให้ป้อฟัง
ทันทีที่ผมอธิบายจบ ป้อก็ยกมือขึ้นมาเท้าไว้กับแก้มตัวเอง

“เป็นไรเหรอ ฟังดูแล้วน่าเบื่อใช่มั้ยล่ะ”
ผมถามกลับไป ป้อนิ่งเงียบไปครู่นึง ก่อนจะยิ้มให้กับผม

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
“ไม่หรอกครับ ผมว่าก็ดูสบายดีออกครับ ไม่วุ่นวาย สงบดี ผมชอบ ยิ่งถ้าได้อยู่ชมรมเดียวกับนันท์ก็น่าจะสนุกดีด้วย
อืม....งั้นผมตัดสินใจเข้าชมรมห้องสมุดละกัน เดี๋ยวมานะครับ”
ทันทีที่ป้อพูดจบก็ลุกขึ้นเดินไปยังด้านหน้าของห้องสมุด
ป้อพูดคุยกับอาจารย์ประจำห้องสมุดอยู่ครู่นึง ก่อนที่อาจารย์จะหยิบกระดาษออกมา ป้อรับมันมาแล้วเขียนอะไรบางอย่างลงบนกระดาษใบนั้น
เมื่อเสร็จแล้วก็ส่งคืนให้อาจารย์พร้อมกับยกมือไหว้ ก่อนจะเดินกลับมา

“เรียบร้อยแล้วครับ เท่านี้ผมก็เป็นสมาชิกชมรมห้องสมุดเต็มตัวแล้ว”
ป้อยิ้มแป้นให้กับผม ส่วนผมนั่นเหรอ อึ้งครับ ไม่คิดว่าป้อจะตัดสินใจอะไรรวดเร็วแบบนี้

“อ่ะ..เอ่อ งั้นก็ยินดีต้อนรับสมาชิกใหม่นะ”
ผมกล่าวต้อนรับป้อที่ซึ่งตอนนี้ได้เป็นสมาชิกใหม่ของชมรมห้องสมุดเรียบร้อยแล้ว
ป้อเองเมื่อได้ยินผมกล่าวต้อนรับเช่นนั้นก็ดูท่าจะดีใจไม่น้อย จึงยิ้มจนมุมปากแทบจะฉีกถึงหูแล้วมั้งนั่น = =”

“แล้วปกตินันท์มาห้องสมุดนี่ทุกวันเลยรึป่าวครับ”
ป้อถามผมพร้อมกับหยิบหนังสือในกองที่ผมเอามาไปเปิดอ่านเล่มนึง
“ก็ทุกวันอ่ะนะ ปกติจะมากับแบงค์เขาน่ะ”
ผมตอบกลับไป ป้อเองเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ดูจะชะงักไปครู่นึง

“แต่ช่วงนี้แบงค์เขาคงไม่ได้มาด้วยหรอก เพราะต้องไปช่วยกิจกรรมชมรมบาสน่ะ”
ผมตอบกลับไปด้วยอารมร์หงุดหงิดเล็กน้อย
ใช่สิ เพราะไอพี่แจ้บ้าบอนั่นคนเดียว กิจกรรมชมรมตัวเองแท้ๆ แต่ทำไมต้องมาเดือดร้อนคนอื่นด้วยเนี่ย

ดูสิทำเอาผมอดได้อยู่กับแบงค์เลย ฮึ่ยยยยยยยย

“งั้น แล้ววันเสาร์นี้นันท์ว่างมั้ยครับ?”
“หือ???”

“ก็ที่สัญญากันไว้น่ะครับ”
ป้อพูดกลับมาเช่นนั้น จนทำเอาผมเองงงเล็กน้อย

สัญญา?????

อ้อออออออออออออออออออออออออออออออออออออออ
“ว่าไงครับ”
ป้อถามกลับมาอีกครั้ง เอาไงล่ะ ดันไปปากพล่อยรับปากเขาไว้

แต่........
เอาเถอะยังไงก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่หว่า
แถมอีกอย่าง แบงค์ก็ต้องไปซ้อมบาสด้วย อยู่บ้านคนเดียวก็คงเซ็งตายแน่

“ก็ได้นะ งั้นวันเสาร์นี้ก็ได้ ส่วนจะดูที่ไหนเรื่องอะไรค่อยว่ากันอีกทีละกันนะ”
“จริงนะครับ งั้นผมจะรอนะครับ”
ป้อออกอาการดีใจทันทีที่ผมตอบตกลงไป อะไรจะขนาดนั้นน่ะ- -*

ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ
เสียงนาฬิกาในมือถือของผมดังขึ้น ผมหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับกดหยุดมัน
“ใกล้จะเข้าเรียนคาบบ่ายละ ไปกันเถอะ”
ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้พร้อมกับหยิบกองหนังสือขึ้นมาเพื่อจะนำมันกลับไปไว้ที่ชั้น

ในขณะที่ผมกำลังจะเก็บหนังสือเข้าชั้น ผมก็เหลือบไปเห็นว่าป้อเองก็เดินตามผมมาที่ชั้นหนังสือเช่นกัน
“หือ มีอะไรเหรอ?”
ผมถามกลับไปด้วยความสงสัย

“ป่าวครับ แค่อยากตามมาเฉยๆ”
ป้อตอบกลับมา พร้อมกับเอาแขนไปเท้าไว้กับชั้นหนังสือก่อนจะส่งยิ้มให้ผม

“อ่ะ อ่าๆ”
ผมรีบหันกลับมาเอาหนังสือเก็บเข้าชั้น

อะไรเนี่ย ตะกี้แว่บนึงดันไปเผลอเขินบ้าอะไรกับรอยยิ้มนั่นเนี่ย = =”
ท่าจะเพี้ยนละเราเนี่ย

หลังจากผมเก็บหนังสือเข้าชั้นเสร็จ ผมกับป้อก็เดินออกจากห้องสมุดโดยไม่ลืมที่จะหันไปไหว้อาจารย์ประจำห้องสมุด

“งั้นนันท์ไปก่อนนะ”
ผมเอ่ยลากับป้อ ป้อเองเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ยกมือขึ้นมาทำท่าเป็นเชิงโบกลาให้กับผม

“ครับ แล้วไว้เจอกันนะครับ อ้อ แล้วก็อย่าลืมนัดของเรานะครับ วันเสาร์นี้นะครับ”
ป้อกำชับถึงเรื่องนัดทิ้งท้ายไว้ก่อนจะหันหลังเดินจากไป

ส่วนผมเองเมื่อเห็นป้อเดินจากไป ก็หันหลังกลับเดินไปยังห้องเรียนตัวเองเช่นกัน


จบคาบเรียนที่ 14


จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ สำหรับคาบเรียนที่ 14

ขอเข้าเรื่องก่อนเลยละกัน

จะว่าไป นันท์ของเรานี่ก็ ซื่อ(บื้อ)พอตัวเลยนะนั่น

ส่วนป้อก็นะ.....................................
ในเวอร์ชั่นแรกที่เขียนไว้ ป้อไม่ใช่แบบนี้นี่ แต่เอาเถอะ แบบนี้ก็ดูดีไปอีกแบบ 5555+  :hao7: (อ้าว)

แต่ส่วนเจตนาของป้อ และเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้ป้อกระทำนั้น ...............อุบไว้ก่อน
(แต่คงเดาได้กันอยู่แล้วล่ะเนาะ :hao3:)

ยังไงก็รบกวนติดตามต่อไปนะครับ ว่าจะเกิดอะไรขึ้น


นอกเรื่อง ช่วงนี้งานเยอะมวากกกกกกกก ลากยาวตลอด บางวันเข้า 11 โมง ออก เที่ยงคืนยังมีเลย :ling1:
เลยทำให้เวลาส่วนตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ขนาดวันหยุดยังตื่นเอาบ่ายสอง บ่ายสามเลย  :hao5:

แต่บ่นไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นโอกาสก้าวหน้า :hao7:


เรื่องน้องกระดิ่งน้อยของผม
ก็ยังน่ารักทุกวันนั้น วันก่อนผมกำลังเคลียร์งานเอกสารน้องเขาก็เข้ามาถาม ผมก็สอนน้องเขาไป น้องเขาก็ตั้งใจฟังนะ
พอฟังจบ บอกว่า ยากเหมือนกันนะพี่ แล้วก็ เอาหัวมาวบไหล่ผมวะงั้น

อ๊ากกกกกกกกก แล้วแบบนี้จะไม่ให้ผมคิดได้ไง  :a5:

อ้อ วันก่อนไปขนของด้วยกัน ผมอ่ะร้อน เลยถอดเสื้อ น้องเขาก็ร้อน เลยถอดเหมือนกัน (แต่เขาถอดเป็นหลังๆ นะ คือไปกันหลายคนน่ะ)
ตอนแรกน้องเขาไม่กล้าถอด บอกว่าอายหุ่น แต่พอถอดเท่านั้นล่ะ
ทำเอาคนอื่นแทบอยากใส่เสื้อเลยย  :ling1:

แถมมีสักกลางหลังด้วย เหวออออออออออออ  o22


ส่วนการ์ตูนก็พยายามทยอยอ่านๆ บ้างละ

จะว่าไป ผมก้ไม่ค่อยอ่านการ์ตูนชายหญิงเท่าไหร่นะ ส่วนมากจะอ่าน Y กับพวกสยองขวัญ ไม่ก็แฟนตาซีมากกว่า
ชายหญิงมีบ้าง แต่ส้วนมากจะกินบุญเก่าอ่านการ์ตูนสมัยก่อนมากกว่า

เพราะรู้สึกว่า การ์ตูนชายหญิงสมัยนี้ไม่น่าอ่านเท่าไหร่นางเอกมันดูแบบ......เปลืองเนื้อเปลืองตัวมากเกินไปน่ะ

ไม่รู้สิ ผมไม่ค่อยชอบอ่านการ์ตูนชายหญิงที่มีฉากอย่างว่าเท่าไหร่ มันทำให้ดูเหมือนผู้หญิงใจง่ายไปน่ะ
(ขนาดการ์ตูน Y ผมยังไม่ชอบเรื่องที่เน้นฉากอย่างว่าเหมือนกัน)


คือถ้าจะอ่านติดเรทแบบนั้น ผมจะไปอ่านฝั่งของการ์ตูนชายดีกว่าแฮะ

เพราะงั้นนิยายผมเลยแทบจะไม่มีฉากติดเรทเซอร์วิสเลย เพราะอยากดำเนินเรื่องแบบใสๆ มากกว่า
มีปมนิดๆ หน่อยให้เครียดเล่นๆ บ้าง 5555+
แต่ไม่รู้ว่าจะชอบกันมั้ย ???

ยังไงวันนี้ก็ขอตัวก่อนนะครับ



ปล. ที่จริงจะอัพตั้งแต่เมื่อคืนละ แต่เน็ตดันเน่าอีกแล้ววววววววว  :ling1: :ling1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-08-2013 13:28:20 โดย จิ๊บคุง »

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
เอ้า น้องนันท์ จะทำอะไรซักอย่าง ไอ้เราก็นึกว่า วางแผนไว้แล้วซะอีกว่าจะทำอะไร
สรุป ยังไม่รู้จะทำอะไรเหรอเนี่ย นันท์เอ้ย  :laugh: น่าจะปรึกษามายด์ก็ได้นินะ
แต่มายด์ เริ่มก้าวหน้าแล้วน้า อย่างน้อยก็ได้เริ่มต้นคุยกับพี่สาธิต มั่น ๆแบบมายด์ เขินก็น่ารักดีนะ
เรื่องจมอยู่แต่ในห้องสมุดนี่ เข้าใจความรู้สึกน้องนันท์นะ อ่านแล้วเหมือนเห็นตัวเองสมัยเรียน
มีเวลาว่างเป็นต้องเข้าแต่ห้องสมุด หามุมสงบ ๆ ไม่ค่อยมีใครมาวุ่นวาย อยู่ได้เป็นชั่วโมง ๆ
เรื่องทำงานกับหนังสือก็เหมือนกันด้วย เมื่อก่อนก็อยากเป็นบรรณารักษ์ แต่ดันเรียนบัญชีซะนี่ :mew5:
แต่ยังมีความฝัน อยากเปิดร้านหนังสืออยู่นะ ตอนนี้ต้องเก็บตังค์ก่อน อุ้ย! นอกเรื่องไปเยอะ ขอโทษค่ะ o1
เอ้า น้องนันท์ หาหนังสือถูกใจได้ ดันเอามาหนุนหัวนอนซะงั้นอ่ะ โถ ๆ สงสารคุณหนังสือจริง
น้องนันท์ ฝันถึงเรื่องในอดีตเหรอเนี่ย แบงค์เป็นฮีโร่ ช่วยน้องนันท์ตั้งแต่เด็ก ๆ เหรอเนี่ย เท่ห์จริง
แล้วป้อ มาได้ไงเนี่ย ตามมาเข้าชมรมห้องสมุดด้วยอ่ะ เดี๋ยวแบงค์รู้ จะไม่พอใจมั้ยเนี่ย
ได้ทีทวงสัญญาเชียวนะ นัดไปดูหนังซะแล้ว แบงค์อยู่หนาย มาด่วน ๆ น้องนันท์จะไปเดทกับคนอื่นแล้วววว
แล้วตกลง ป้อชอบนันท์จริง ๆใช่มั้ยเนี่ย ถึงได้ลงทุนย้ายโรงเรียน แถมตามติดขนาดนี้ น้องนันท์น่าจะดูออกนะ
แบงค์ยังไม่ชัดเจน แล้วดันไม่มีเวลาให้น้องนันท์ ซ้ำยังมีป้อ คอยตามทำคะแนน ต้อย ๆอีก แงงง
แล้วเมื่อไหร่คู่นี้เค้าจะคืบหน้าซะทีน้อ หาคู่ให้ป้อ จะได้เลิกตามน้องนันท์ซะดีมั้ยเนี่ย

อั้ยย่ะ เดี๋ยวนี้มีชื่อเรียก น้องกระดิ่งน้อยของผม ซะด้วย แน่ะ  ๆ ชอบมาถึงเนื้อถึงตัวซะด้วยน้า 
แล้วพอถอดเสื้อ ทำไมเหรอจ้ะ น้องเค้าบึ้กมากเลยเหรอ มีสักกลางหลังซะด้วย โห

เรื่องการ์ตูน จริงด้วยค่ะ การ์ตูนชายหญิงสมัยนี้ ไม่เหมือนที่อ่านสมัยเด็ก ๆ เลยอ่ะ อ่านเจอแล้วตกใจเลย
ขนาดอยู่สำนักพิมพ์ชื่อดังมีลิขสิทธิ์ด้วยนะ แต่เรื่องข้างในนี่สุด ๆ เคยนึกว่า แล้วเด็กนักเรียนมาอ่านเจอ
จะเอาไปทำเลียนแบบนางเอกในเรื่องรึเปล่า น่ากลัวนะ อยากบอกว่า การ์ตูนวายบางเรื่อง ใสกว่าเยอะเลย
แต่กลายเป็นการ์ตูนวาย ขายแบบเปิดเผยไม่ค่อยได้ ต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ถูกเหมาว่าเรื่องล่อแหลม
ทั้งที่บางเรื่อง ต้นจนจบ พระนายแค่จุ๊บ ๆ กันเบา ๆ ยังมีเลย ชิชิ พูดแล้วของขึ้น หึ (เขียนมากไปละเพราะเก็บกด)

เรื่องนี้ เป็นแบบนี้ดีแล้ว เราก็ชอบอ่านเรื่องใส ๆ อย่างนี้แหละ มันสบายใจดี แบบเนี่ยชอบแล้ว
ไม่ต้องมีฉากติดเรทเซอร์วิสก็ดีแล้ว มันดูสมกับวัยของตัวละครในเรื่องดีแล้วจ้ะ สรุปว่าชอบเนอะ
รอตอนต่อไปน้า ขอบคุณค่า  :กอด1: :L2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-08-2013 07:40:55 โดย TIKA_n »

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
คาบเรียนนี้ที่ว่ารุกคืบ คือป้อรุกนันท์ใช่ป่ะ
แถมนันท์ยังมีเขินป้ออีกแน่ะ คราวนี้แบงค์จะทำไงล่ะนี่

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
อ่านชื่อตอนแล้วคิดว่าคราวนี้นันท์ต้องทำอะไรสักอย่างแล้วแน่ ๆ
แต่พอนันท์บอกว่า ไออะไรสักอย่างนั่นล่ะ คืออะไรดี โอ๊ย ฮาเลยอะ  :pigha2:
อย่างงี้เมื่อไหร่ความรู้สึกมันจะชัดเจนสักทีน๊า ลุ้นแทนนันท์เลย
แล้วยิ่งตอนนี้แบงค์ต้องไปซ้อมตลอดไม่ได้อยู่กะนันท์ด้วยสิ กลัวความห่างไกลจัง
ความรักคงไม่เรียกว่าโลภหรอกเนอะเพราะยิ่งรักก็ยิ่งอยากอยู่ใกล้นี่
แล้วท่าทีของแบงค์ที่เปลี่ยนไปก็คงไม่แปลกที่นันท์จะยิ่งมีความหวังมากขึ้นล่ะเนอะ
แต่ไอ่ความฝันและความรู้สึกอบอุ่นจากมือป้อนี่สิมันคืออะไร
ป้อเคยช่วยนันท์ไว้เหมือนในความฝันรึเปล่า อย่างงี้ก็เริ่มมีความผูกพันที่น่ากลัวแล้วสิ
นันท์จะหวั่นไหวกะป้อไหมเนี่ย  ยิ่งแบงค์จะไม่ได้เข้าห้องสมุดอีกตั้งเดือน ป้อก็จะเข้ามาอยู่กะนันท์แทนด้วย
สรุปแบงค์กะป้อก็ไม่ได้เจอกันสักที ขนาดป้อมาเรียนที่นี่แบงค์อาจจะยังไม่รู้เลยนะนั่น
แล้วป้อกะนันท์ยังจะได้ไปดูหนังด้วยกันด้วย โถแล้วแบงค์จะรู้ไหมเนี่ยในเมื่อแบงค์เล่นหายไปเลยแบบนี้ :เฮ้อ:

นอกเรื่อง  เรื่องงานก็สู้ ๆ นะคะ ถึงจะเหนื่อยแต่ถ้ามีโอกาสก้าวหน้าก็ยังมีกำลังใจให้ทำเนอะ
แล้วยังมี น้องกระดิ่งน้อยของผม คอยวนเวียนอยู่ใกล้ ๆให้ใจเต้นตึกตั๊กด้วย คราวนี้มีการถอดเสื้อโชว์ด้วย
ถึงน้องจะไม่ได้ตั้งใจแต่เป็นใคร(ที่แอบชอบ)ก็คงอยากกริ๊ดเลยอะเนอะ แถมมีรอยสักด้วยอยากเห็นบ้างจัง
 :z6: อุ๋ยพูดเล่นนะคะ ไปเรื่องการ์ตูนดีกว่าอยากบอกว่าเลิกอ่านการ์ตูนชายหญิงไปนานนนนหลายปีมาก
ตอนนี้ถ้าจะอ่านก็มีแต่การ์ตูน Y นี่แหละค่ะ แต่ที่ชอบมาก ๆ ก็พวกสืบสวนอย่างคินดะอิจินี่ชอบที่สุดเลย
แต่อย่างที่ว่าไม่ได้ซื้อหนังสือการ์ตูนเองนานแล้วยิ่งน้ำท่วมจมหายเกือบหมดเลยอ่านแต่ที่น้องสาวมันซื้อ
ตอนนี้มันก็ซื้อแต่การ์ตูน Y อย่างเดียวซะด้วยมีเต็มห้องมันเลย ส่วนฉากอย่างว่าก็ถ้ามันมีที่มาที่ไปแบบ
นายเอกกะพระเอกค่อย ๆ รักกันมันก็โอเค แต่บางเล่มเปิดมาไม่มีปี่มีขลุ่ยมีแต่ฉากนั้นตลอดอันนี้ก็ไม่ไหว
น้องมันซื้อยังบ่นเสียดายตังค์เลย จริง ๆ ชอบอ่านแบบน่ารัก ใส ๆ แบบมีอะไรให้ใจเต้นตึกตักมากกว่า
อย่างตอนนันท์ไปค้างกะแบงค์แล้วแบงค์พูดหรือแสดงท่าทีให้นันท์เขิน ๆ หรือหอมแก้มให้นันท์ใจเต้นอะไรแบบนี้
มันดูน่ารักน่าลุ้น จิ้นไปเองดีค่ะ 555 เพราะงั้นผู้เขียนชอบเขียนแบบไหน คนอ่านก็อยากอ่านแบบนี้แหละคะ
รอติดตามและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมนะค่ะ  :pig4:  :mew1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 31-08-2013 20:12:35 โดย Lily teddy »

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
คาบเรียนที่ 15 : เปิดเผย


“เดี๋ยวรอนี่แป๊บนึงนะ พอดีลืมของไว้ที่ห้องชมรมบาสน่ะ”
แบงค์บอกกับผม ในขณะที่เราทั้งสองเดินลงมาถึงชั้นล่างสุดของอาคาร
ผมพยักหน้าตอบรับกับคำพูดนั้น ก่อนที่แบงค์จะเดินออกไป

ตรึ๊ง!!!!!!
เสียงมือถือของผมดังขึ้น ผมจึงหยิบอกมาจากกางเกงขึ้นมาดู
อ๊ะ ไลน์จากป้อนี่เอง

*------------*
ปอป้อซัง
อย่าลืมนัดวันพรุ่งนี้ครับ ยังไงเดี๋ยวผมจะโทรหาอีกทีนะครับ ><
*-----------*

จริงๆ เลยแฮะป้อ คิดว่าผมเป็นคนขี้ลืมขนาดนั้นเลยเรอะ - -*


*-----------*
นันท์ แว่นหนา บ้าพลัง
ครับผม
*-----------*

ตรึ๊ง!!!!!!

*----------*
ปอป้อซัง
^^
*----------*

“อ้าว พี่นันท์ มายืนรอใครเหรอฮะ”
เสียงที่คุ้นหูของน้องแอลทักผม ผมจึงเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะหันไปยิ้มทักทาย
“รอแบงค์เขาน่ะ แบงค์เขาไปเอาของที่ชมรมบาสน่ะ แอลล่ะ กลับคนเดียวเหรอ แล้วบาสล่ะ”
“ยังอยู่ที่ชมรมวิทย์ฯ น่ะฮะ เห็นว่าลุยโปรเจคอะไรสักอย่างนี่ล่ะ แอลเลยกลับก่อน”

เอ๊าะเหรอ ฉลาดทั้งพี่ทั้งน้องเลยสินะ น่าอิจฉาจัง  - -*
“งั้นผมยืนรอพี่แบงค์เป็นเพื่อนพี่นันท์ละกัน ไหนๆ ผมก็ว่าง อิอิ”
แอลว่าอย่างนั้นก่อนจะเดินมายืนข้างผม
ผมชำเลียงมองแอล พิจารณาดู น่ารักมากเลยแฮะ ขาว หน้าใสมากๆ ยิ่งกว่าผู้หญิงหลายคนอีกนะเนี่ย
สู้ไม่ได้เลยวุ้ย - -*

“พี่นันท์ฮะ พี่นันท์ได้บอกรักพี่แบงค์ไปรึยังฮะ”
พรึ่ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
ผมแทบสำลักน้ำลายในลำคอทันทีที่แอลถามมาเช่นนั้น
“อ่ะ เอ่ออออออออออ ยังอ่ะ ท่ะ ทำไมเหรอ”
“แล้วเมื่อไหร่จะบอกอ่ะฮะ มัวรออะไรอยู่ฮะ”

อึ่ก!!!!!!!!!
แอลพูดจี้ใจดำ เล่นเอาผมพูดอะไรเกือบไม่ออกเลย

“เอ่อ.......แล้วบาสกับแอลล่ะ ใครเป็นคนบอกรักก่อนอ่ะ”
ผมเอ่ยถามแอลกลับไป แอลนิ่งไปครู่นึง ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม
“ถ้าผมบอกว่า ผมเป็นฝ่ายบอกรักพี่บาสก่อนล่ะฮะ พี่นันท์จะเชื่อมั้ยฮะ”
!!!!!!!!!!!??????????

ทันทีที่แอลบอกเช่นนั้น ผมก็เกิดอาการอึ้งไปพอสมควร เพราะไม่คิดว่าเด็กหน้าตาน่ารักขนาดนี้จะเป็นฝ่ายบอกรักคนห้าวดูเกเรแบบนั้นก่อนเลย
“โห กล้ามากเลยนะนั่น”
ผมถามกลับไปอีก ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อ

“ไม่รู้สิฮะ คงเพราะผมรู้ตัวมาตั้งแต่เด็กละมั้งฮะ ว่าผมเป็น ผมเลยไม่สับสนที่จะบอกความรู้สึกของผมออกไป”
แอลตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มที่ดูอบอุ่น
“ล่ะ แล้วพ่อแม่ ของแอลไม่ว่าเหรอ”
แอลนิ่งไปครู่นึงเมื่อผมถามเช่นนั้น

“ก็ไม่นะฮะ เหมือนเขาจะรู้มานานละด้วย วันแรกที่ผมพาพี่บาสไปบ้าน พ่อแม่ผมก็เหมือนจะรู้
ก็ไม่เห็นท่านจะว่าอะไร แถมดูแม่จะยังชอบพี่บาสมากเสียด้วยอีก”
ผมตกใจพอสมควรกับสิ่งที่แอลพูดออกมา เพราะน้อยนักที่พ่อแม่จะยอมรับเรื่องแบบนี้ได้
ขนาดผมเอง ผมยังไม่เคยบอกแม่ตัวเองเลย เพราะกลัวว่าแม่จะรับไม่ได้

“ล่ะ ละคิดยังไง ถึงได้กล้าไปสารภาพกับเขาล่ะ”
ผมถามกลับไปอีก เพราะอยากรู้ แอลหันมามองผม
“ก็............ไหนๆ ก็รักไปแล้ว จะมัวเก็บไว้ทำไมล่ะฮะ ถ้าเงียบไว้ คำตอบมันเป็นได้แค่อย่างเดียวคือเสียใจ
แต่ถ้าเรากล้าที่บอกออกไป จริงอยู่ที่อาจจะต้องเสียใจ แต่มันก็ยังมีโอกาสที่ลูกเต๋าจะทอยออกมาเป็นหน้าที่เราต้องการก็ได้นี่ฮะ
และเพราะผมกล้าที่จะพูดไปในวันนั้น มันเลยทำให้ผมมีวันนี้ได้ยังไงล่ะฮะ”
แอลตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มที่ดูมีความสุขมากๆ

“เพราะงั้น ผมก็หวังว่าสักวัน พี่นันท์จะมีความกล้าที่จะบอกออกไปเช่นกันนะฮะ
อย่ามัวแต่รอให้โอกาสเข้าหาเราเลยฮะ แต่เราต้องเป็นฝ่ายเดินเข้าไปหาโอกาสนั้นเอง”

“อ้าว แอล ยังไม่กลับอีกเหรอ แล้วบาสล่ะ”
เสียงของแบงค์ทักมา ทำเอาแอลสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปทางแบงค์
“พี่บาสเขายังอยู่ที่ชมรมน่ะฮะ ผมเองก็กำลังจะกลับน่ะฮะ แต่พอดีเจอพี่นันท์เลยแวะคุยกันนิดหน่อยน่ะฮะ
งั้นผมไปก่อนนะฮะ โชคดีนะครับ ทั้งสองคนเลย”
แอลรีบตัดบท ก่อนจะรีบเดินออกไป โดยไม่ลืมที่โบกมือลาให้กับผม

“คุยไรกันน่ะ”
แบงค์ถามผม ทำเอาผมเหงื่อตกเลยทีเดียว
“ก็......คุย...คุยไปเรื่อยน่ะล่ะ ไม่ได้มีไรมากหรอก ไปเหอะรีบกลับดีกว่า เดี๋ยวจะเย็น”
ผมรีบตัดบท แล้วเดินนำออกมา โดยมีแบงค์เดินตามหลังมา

ตอนนี้ในหัวของผมมีแต่เรื่องที่แอลพูดวนเวียนไปมา
ก็จริงอย่างที่แอลพูด ถ้าผมยังคงนิ่งเงียบ มันจะมีแต่คำตอบเดียวคือ สับสนและเจ็บปวด
แต่ถ้าผมกล้าที่จะพูดออกไป จริงอยู่ว่ามีโอกาสที่จะเจ็บปวด
แต่มันก็มีโอกาสสมหวังอยู่ด้วยนี่

เอาล่ะ มันคงถึงเวลานั้นแล้วก็เป็นได้


..............


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2013 03:33:09 โดย จิ๊บคุง »

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
“วันนี้บาสจะกลับมาบ้านป่ะอ่ะ”
ผมเอ่ยปากขึ้นถามแบงค์ในขณะที่เราทั้งสองกำลังเดินเข้าหมู่บ้าน
“คิดว่าไม่นะ ทำไมเหรอ”
“ก็....วันนี้นันท์ไปนั่งเล่นที่บ้านแบงค์ได้ป่ะอ่ะ”

“ก็ได้นะ แต่อย่าเสียงดังล่ะ จะอ่านหนังสือ”
แบงค์หันมาตอบกลับด้วยคำตอบที่ฟังดูเหมือนจะหลอกด่ายังไงก็ไม่รู้ - -*
ผมหันกลับไปมองค้อนใส่ แบงค์เองก็ได้แต่หัวเราะสนุกกับการแหย่ผมเล่น

ให้ตายสิ - -*

“แล้วนึกไงถึงมาล่ะ”
แบงค์ถามผมกลับบ้าง
“ก็.....ไม่มีไรมากหรอก พอดีแม่ไม่อยู่อ่ะ ขี้เกียจอยู่คนเดียว อีกอย่างช่วงนี้ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกันเท่าไหร่ มันก็เลย.......”
“งั้นก็ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนละกัน แล้วค่อยมา เดี๋ยวจะได้ทำข้าวเย็นให้กินด้วยเลย”
แบงค์ตัดบทของผมขึ้นมาโดยไม่รอให้ผมพูดจบ
“โอ๊ะ ขอบคุณคร้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบ”
ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงดีใจ แบงค์เองเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มหัวเราะออกมาเบาๆ

หลังจากที่ผมเข้าบ้านเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนสื้อผ้าเสร็จ ผมก็รีบตรงดิ่งไปยังบ้านของแบงค์ทันที
ผมเปิดประตูเข้าไปทันที แบงค์ไม่อยู่ข้างล่างแฮะ แต่ได้ยินเสียงน้ำจากห้องน้ำข้างบน
สงสัยกำลังอาบน้ำอยู่ล่ะมั้ง งั้นนั่งรอข้างล่างดีกว่า

แต่เริ่มหิวแล้วอ่ะ ไปดูในตู้เย็นหน่อยดีกว่าเผื่อมีขนม
ผมเดินไปยังห้องครัวก่อนจะเปิดตู้เย็นดูข้างใน ว่ามีอะไรพอจะกินรองท้องได้มั่งมั้ย
อ๊ะ มีเลย์อยู่ห่อนึง ของแบงค์หรือไอบาสหว่า ??

“แบงค์ เลย์ในตู้เย็นนี่กินได้ป่ะอ่ะ”
ผมตะโกนถามขึ้นไป
“ได้ กินสิ”
ทันทีที่ผมได้ยินเช่นนั้นก็ไม่รอช้าหยิบเลย์ห่อนั้นออกมาจากตู้เย็นทันที 555+ ไอตะกละ

ผมเดินกลับมายังโซฟา ก่อนที่จะหย่อนตัวลงพร้อมกับเปิดทีวีขึ้นดู
ไม่นานนักแบงค์ก็เดินลงมา แบงค์ถามผมว่าจะกินข้าวเย็นเลยมั้ย
มีเหรอที่ผมจะปฏิเสธ แห่ะๆ แบงค์ก็เลยทำข้าวเย็นให้ผมกิน
ก็เป็นเมนูง่ายๆ เป็นข้าวผัดธรรมดาน่ะครับ หลังจากที่กินข้าวเสร็จผมก็ช่วยแบงค์เก็บกวาดครัว
ก่อนจะกลับมานั่งลงบนโซฟา ในขณะที่แบงค์ก็เดินขึ้นข้างบนเพื่อไปหยิบหนังสือลงมาอ่านที่โต๊ะข้างๆ ผม

บรรยากาศตอนนี้เงียบสงัด จะมีก็เพียงเสียงโทรทัศน์เท่านั้น
“เป็นไงมั่ง ซ้อมบาสอ่ะ”
ผมเอ่ยถามแบงค์พลางหยิบขนมขึ้นมากิน ในขณะที่แบงค์เองตอนนี้ก็กำลังอ่านหนังสืออยู่
“ก็ดีอ่ะ ไม่มีไรมากหรอก”
แบงค์ตอบกลับมาอย่างเรียบง่าย ก่อนจะเปิดหนังสือหน้าต่อไป


ผมนิ่งเงียบไปครู่นึง ก่อนจะหันมามองแบงค์ ที่ตอนนี้กำลังขะมักขะเม้นกับการอ่านหนังสือ
ดูขยันเสียเหลือเกินนะ มีใส่แว่นด้วย ซึ่งปกติแบงค์เขาไม่ใส่แว่นหรอกครับ
เพราะโดยปกติแล้วแบงค์ไม่ใช่คนสายตาสั้นแบบผม

แต่แบงค์เขาจะใส่เฉพาะตอนอ่านหนังสือเท่านั้น เห็นว่าใส่แล้วทำให้อ่านได้ดีกว่า ไม่ล้าสายตาเร็ว
เจ้าตัวว่ามางั้นะ

ผมนั่งพิจารณาใบหน้าที่ดูเคร่งขรึมของแบงค์ในตอนนี้
มันดูเหมือนแบงค์เมื่อก่อนเลย แบงค์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ

แบงค์ที่ดูเครียดไปเสียทุกเรื่อง

ซึ่งจะว่าไปมันก็พักนึงแล้วนะ ที่ผมไม่ได้เห็นแบงค์ที่ดูเคร่งขรึมแบบนี้
มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

“เป็นอะไรน่ะ เห็นจ้องมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว”
ผมสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อแบงค์หันมาถามผม นี่ผมเผลอจ้องขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย - -*
“ป่ะ ป่าวๆ ป่าวสักหน่อย ก็แค่คิดอะไรเพลินๆ เฉยๆ น่ะ”
ผมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก แบงค์เองเมื่อเห็นอาการนั้นของผม ก็ยิ้มหัวเราะเบาๆ ออกมา ก่อนจะถอดแว่นออก
แล้วเดินมานั่งลงข้างๆ ผมบนโซฟา

“ทำไม มีอะไร”
ผมถามกลับด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเล็กน้อย แบงค์ไม่ตอบอะไรกลับมา ได้แต่ยิ้มเล็กๆ ให้ผม


“เฮ้ย”
ผมตกใจเล็กน้อย เมื่อแบงค์เอนหัวลงมาหนุนบนตักผมอย่างที่ผมไม่ทันได้ตั้งตัว
“ขอพักแปบนึงนะ”
แบงค์บอกเช่นนั้น ก่อนที่จะพลิกตัวหันหน้าเข้ามาหาผมแล้วจึงหลับตาลงนอนนิ่งบนตักผม

ให้ตายสิ แบงค์ที่เป็นแบบนี้ผมรับมือไม่ถูกจริงๆ
ผมจึงได้แต่เอามือของตัวเองลูบลงไปบนหัวแบงค์เบาๆ ดูท่าว่าแบงค์เองก็จะชอบเพราะเห็นมียิ้มที่มุมปากเบาๆ

แบงค์ในเวลาแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบดีแฮะ
นั่นสิ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่แบงค์เริ่มมีท่าทีเปลี่ยนไป
จนผมเองก็เริ่มสับสนและอยู่เฉยไม่ได้กับท่าทีนั้น

เอาล่ะ นี่เป็นโอกาสที่ผมจะต้องถามออกไป
 “แบงค์”
ผมเอ่ยเรียกแบงค์เบาๆ แบงค์ส่งเสียงครางอือในลำคอเบาๆ เป็นเชิงตอบรับ



ผมนิ่งไปครู่นึงเหมือนลังเลว่าควรจะหยุดหรือไปต่อดี


แต่ถ้าผมหยุด ผมก็จะไม่มีวันรู้ และคงต้องอยู่ในความสับสนแบบนี้ต่อไป
“ถ้านันท์จะถามอะไรแบงค์บางอย่าง จะว่ามั้ย”

ผมเอ่ยถามหยั่งเชิงไปก่อนเพื่อดูท่าทีของแบงค์
“ว่ามาสิ”
แบงค์ตอบกลับมาสั้นๆ โดยที่ยังคงหลับตานิ่งสนิท


“ก็ช่วงนี้...............เอ่ออ.................”
ให้ตายสิ ทำไมผมถึงได้รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาซะงั้น ตื่นเต้นจนเริ่มพูดไม่ออกอีกแล้ว

หรือผมจะเฉไปเรื่องอื่นก่อนดี

ไม่ๆ อย่าทำแบบนั้นเป็นอันเด็ดขาด
“ช่วงนี้ ดู....เอ่อ แบงค์แปลกๆ ไป......นะ”
เอาวุ้ย เปิดประเด็นไปแบบนั้นก่อนละกัน


จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
“หือ? แปลกยังไงเหรอ”
แบงค์ลืมตาขึ้นมานิดนึงเมื่อได้ยินผมถามเช่นนั้น แต่ก็ยังคงนิ่งไม่เงยหน้าขึ้นมามองผม

“ก็..................ปกติ แบงค์จะเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ ขรึมๆ จนบางทีออกจะดูเครียดๆ มากเกินไปด้วยซ้ำ”
ผมพยายามจะอธิบาย ทั้งๆ ที่ตอนนี้ใจผมเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว

“แต่หลังๆ มานี้ดูแบงค์.........จะสดชื่น ร่าเริงขึ้นเอ่อ............. ดูเฮฮาขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะมาก”

“ก็แล้วไม่ดีเหรอ ก็นันท์เองไม่ใช่เหรอที่บอกให้แบงค์ปล่อยวางบ้าง”
แบงค์ตอบกลับมาเช่นนั้น ก่อนจะหลับตาลงไปอีกครั้ง คราวนี้เอามือขึ้นมากอดเอวผมเบาๆ ด้วย
เล่นเอาผมไปต่อแทบไม่ถูกเลยทีเดียว

มันก็จริงนะ ที่ผมมักจะเคยบอกแบงค์ให้ผ่อนคลายลงไปบ้าง แต่............

“มันก็ใช่.....แต่........เอ่อ จะว่าไงดีล่ะ”
ตอนนี้ผมเริ่มเรียบเรียบคำพูดไม่ถูกละ ไม่รู้จะว่าไปต่อยังไงดี
“ทำไม มีอะไรเหรอ”
คราวนี้แบงค์เป็นฝ่ายเปิดฉากถามผมกลับมาบ้าง เอาแล้วไง

“ก็..............หลังๆ มานี้  แบงค์เอ่อ................ทำตัว กับ.....นันท์แปลกไป แบบ....”
“แบบไหน”
แบงค์ยังคงถามรุกกลับมา
ซวยละ จะรุกถามเขา แต่ไหงกลายเป็นโดนต้อนกลับซะงั้นเนี่ย

“ก็.......บางทีนันท์เอง ก็แอบคิดอ่ะ.............ไม่รู้สิ เหมือนแบงค์ เอ่อ...............เหมือนความสัมพันธ์มัน...........”
เอาล่ะๆ ในที่สุด ผมก็กล้าพูดคำนั้นออกมาแล้ว

แต่ไม่ทันที่ผมจะได้พูดจบ แบงค์ก็ดันตัวลุกขึ้นนั่ง จนผมเองก็สะดุ้งพอสมควร
ผมไม่ได้พูดอะไรออกไปต่อ ได้แต่นิ่งเงียบ แบงค์หันมามองหน้าผม ที่ตอนนี้มันแดงก่ำและเต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
ใบหน้าของแบงค์ตอนนี้ดูนิ่งมาก นิ่งจนผมเองก็ยังกลัว

แบงค์ยกแขนขวาขึ้นมาโอบคอผมไว้ ในขณะที่สายตาก็ยังคงจ้องมองผม
ก่อนที่จะยกมือซ้ายขึ้นมาจับแก้มผมไว้เบาๆ
นั่นแบงค์จะทำอะไรน่ะ ผมใจเต้นตูมตามไปหมดแล้วตอนนี้
“บ่ะ....แบงค์”
ผมเอ่ยชื่อนั้นออกไป แต่หาได้ทำให้แบงค์หยุดการกระทำนั้นได้เลย

แบงค์ค่อยๆ ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าผมอย่างช้าๆ ด้วยสีหน้าที่ยังคงนิ่งเรียบเหมือนเคย
ส่วนตัวผมเองตอนนี้นั้น ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เกร็งใบหน้าสุดฤทธิ์

นี่ผมกำลังจะโดนจูบงั้นเหรอ ????????????????????


“นันท์...........”
แบงค์เอ่ยชื่อของผมออกมา
“เอ่อ....อะไร”

ทั้งผมและแบงค์ต่างนิ่งเงียบไปครู่นึง ตอนนี้เราทั้งสองต่างจ้องมองตากัน
“แล้วนันท์ชอบแบงค์ที่เป็นแบบไหนล่ะ แบบเครียด หรือแบบที่แบงค์อยู่ทุกวันนี้”

อยู่ๆ แบงค์ก็เปิดประเด็นคำถามใส่ผม

“เอ่อ.........ชอบ เอ่อ ในรูปแบบไหนเหรอ?”

ผมถามย้อนกลับไป เพราะผมไม่รู้ว่าคำว่า “ชอบ” ในคำถามของแบงค์นั้นมันเป็นในแง่ไหน
จะเป็นแค่ ชอบในรูปแบบเพื่อน หรือชอบในรูปแบบของความรักแบบชายหญิงทั่วไป


แบงค์นิ่งเงียบไปครู่นึง แต่ยังไม่ละสายตาไปจากผม

“รูปแบบไหนก็ได้ ตามแต่นันท์จะตีความ”

อึก!!!!!!!!!
พูดแบบนี้หมายความว่าไง มันคือการบอกใบ้ใช่มั้ย
ถ้าใช่ ก็เหลือแค่ผมเท่านั้นล่ะ

จะปล่อยให้โอกาสมันหลุดไปไม่ได้

“..........................”
พูดออกไปสิ พูดออกไป



“เอ่อ..................”
ทำไมถึงพูดออกไปไม่ได้เนี่ย จะมัวกลัวอะไรอยู่ ไอนันท์
“เอ่อ....ชอบทั้งหมดน่ะล่ะ ไม่ว่า.......จะเป็นแบบไหน แต่ถ้า....เอ่อ....นั่นคือ...แบงค์ นันท์ก็....ชอบทั้งนั้นล่ะ”

ตึ่กตั่กๆ


พูดไปแล้ว พูดออกไปได้แล้วววว
ในที่สุดก็พูดออกไปได้สักที ถึงจำไม่ชัดเจนเต็มที่ก็เถอะ

แบงค์ล่ะ ว่าไง ทำไมยังคงนิ่งเงียบล่ะ
ขอร้องช่วยพูดอะไรหน่อยสิ

“ขอบคุณนะครับ”
แบงค์ตอบกลับมาสั้นๆ พร้อมกับยิ้มให้ผมอย่างมีความสุข

ผมไม่ได้คิดไปเองใช่มั้ย

“เอ่อ............แล้วแบงค์ล่ะ คิดยังไงกับนันท์......ชอบหรือเปล่า”
ผมถามกลับไปอีกครั้ง
“ชอบ ในรูปแบบไหนล่ะ”
แบงค์ย้อนถามผมด้วยคำถามเดียวกันกับที่ผมเคยถาม
“ก็........แล้วแต่แบงค์จะคิดอ่ะ”

ทันทีที่แบงค์ได้ยินเช่นนั้น ก็ปล่อยมือซ้ายลงจากแก้มผม ก่อนจะก้มหน้าลง พร้อมกับนิ่งเงียบไปครู่นึง

เกิดอะไรขึ้น ทำไมเงียบไปล่ะ หมายความว่าไง


“บ่ะ แบงค์”
ผมเอ่ยชื่อนั้นออกไปเบาๆ

“นันท์.............นันท์ชอบแบงค์มากกว่าคำว่าเพื่อนใช่มั้ย”
อึก!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
อยู่ๆ แบงค์ก็ถามผมอย่างตรงประเด็นยิ่งกว่าที่ผ่านมา
เล่นเอาผมถึงกับมีความรู้สึกเหมือนกับวูบวาบไปถึงขาเลย


แต่ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้ ผมคงไม่มีอะไรจะเสียแล้วล่ะ

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
ผมคงปิดบังต่อไปไม่ได้อีกแล้วล่ะ

“ใช่ ชอบมากกว่าคำว่าเพื่อน รักมากเลยล่ะ รักที่สุด รักมานานมากแล้วด้วย
มันเหมือนที่ผู้ชายกับผู้หญิงมีให้กัน แต่แค่แบงค์เป็นผู้ชาย และนันท์เองก็เป็นผู้ชาย
มันจะผิดมั้ย ที่นันท์จะคิดแบบนั้น”


ในที่สุดความรู้สึกต่างๆ ที่ผมเคยเก็บเงียบมันมาตลอด ก็พรั่งพรูออกมาพร้อมกับน้ำตาที่อยู่ๆ มันก็ค่อยๆ ไหลออกมา
มันเป็นน้ำตาที่แม้แต่ตัวผมเองก็บอกไม่ได้ว่ามันคือน้ำตาของความรู้สึกไหน

หวาดกลัว
ดีใจ
สับสน
มีความสุข
หรือความทุกข์

ผมเองก็บอกไม่ถูก

“แล้วแบงค์ล่ะ คิดยังไงกับนันท์ ตลอดเวลาที่ผ่านมา แต่ละสิ่งแต่ละอย่างที่แบงค์ทำมา
รู้มั้ยว่ามันทำให้นันท์คิดเข้าข้างตัวเองมาตลอด แต่นันท์ก็ไม่กล้าที่จะถาม
เพราะนันท์กลัวมาตลอดว่าถ้าเกิดมันไม่ใช่อย่างนันท์คิด นันท์จะต้องเจ็บ
และก็กลัวว่าแบงค์จะรังเกียจนันท์ด้วย ที่นันท์เป็นแบบนี้........ฮึ่กๆ”

ผมยังคงพูดออกไปไม่หยุดพร้อมกับเสียงสะอื้น
เหมือนความรู้สึกต่างๆ ที่ผมเคยเก็บกดมันเอาไว้ได้รับการเปิดเผยได้ระบายมันออกมาแล้ว

แล้วแบงค์ล่ะ ทำไมยังคงเงียบอยู่
ขอร้องล่ะ ช่วยตอบอะไรกลับมาหน่อยได้มั้ย


“นันท์......แบงค์ขอบคุณนันท์มากเลยนะที่รักแบงค์มาตลอด”
แบงค์เริ่มออกมาโดยที่ยังก้มหน้าอยู่

“ถามว่ามีความสุขมั้ยเวลาอยู่กับนันท์ ตอบได้เลยว่ามากที่สุด
ถ้าเทียบนันท์กับเพื่อนผู้ชายคนอื่น นันท์ต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง
แต่...............................แบงค์เองต่างหากที่ยังสับสน และลังเลว่าแบงค์เป็นอะไรกันแน่”

คราวนี้เป็นฝ่ายที่แบงค์ระบายความรู้สึกออกมาบ้าง
“ที่จริง แบงค์เองก็สับสนลังเลมาก่อนหน้านี้แล้ว คิดมากต่างๆ นานา
อย่างตอนแบงค์ที่ยังไม่รู้ว่านันท์แอบชอบใครอยู่ แบงค์ก็กระวนกระวาย อยู่ไม่เป็นสุข
เหมือนรู้สึกหึง จนแบงค์เองยังเป็นฝ่ายกลัวเสียอีกว่า ถ้านันท์รู้เข้า จะโดนรังเกียจ
จนกระทั่งวันเข้าค่ายยาเสพย์ติดวันสุดท้าย แบงค์ก็ได้รู้ว่าแท้จริงคนที่นันท์แอบชอบ แอบรักมาตลอด
ก็คือตัวแบงค์เอง.....”

เอ๋.............!!!???
ตั้งแต่เข้าค่ายยาเสพย์ติด ก็ 2 – 3 เดือนได้นะนั่น
นี่ที่ผ่านมา แบงค์รู้มาตลอดเลยเหรอ


รู้ได้ไง.....????
แล้วทำไม......????

“ถามว่าแบงค์ดีใจมั้ย ขอบอกได้เลยว่า แบงค์ก็ไม่รู้ รู้แค่ว่าอย่างน้อยก็ยังดีกว่านันท์ไปชอบคนอื่น
ที่ผ่านมา แบงค์เลยพยายามจะเปลี่ยนตัวเอง พยายามจะเรียนรู้ตัวเองว่ารู้สึกยังไงกันแน่”

“แล้วตอนนี้แบงค์รู้สึกยังไงล่ะ”
ผมพูดตัดบท พร้อมกับใช้มือทั้งสองข้างจับแก้มของแบงค์ให้เงยขึ้นมา
เผยให้เห็นว่าแบงค์เองก็มีท่าทีที่ดูกังวลไปไม่น้อยกว่าผม

แบงค์นิ่งเงียบไป จนผมต้องเป็นฝ่ายถามกลับไปอีกรอบ

“เคยรู้สึกอยากกอดนันท์บ้างมั้ย”
“เคย ถึงได้พยายามเข้าหาแล้วกอดอยู่ตลอดไง”

“เคยรู้สึกอยากหอมแก้มนันท์บ้างมั้ย”
“คืนที่นันท์มานอนค้างกับแบงค์คืนนั้นไง แต่หลังจากนั้นแบงค์ก็เขินและอายเหมือนกันนะ เลยไม่กล้าจะทำต่อ”


ผมนิ่งเงียบไปครู่นึง

“แล้วจูบล่ะ แบงค์เคยคิดอยากจูบนันท์บ้างมั้ย”
“.................................”


คราวนี้ไม่มีคำตอบใดๆ กลับมา ดูท่าว่าแบงค์เองก็จะกังวลพอสมควร
แต่แบงค์ก็พยักหน้าแทนการพูด

ทันทีที่ผมเห็นแบงค์พยักหน้า ผมก็ทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้วกับความรู้สึกที่เคยเก็บซ่อนเอาไว้มาตลอดหลายปี
ผมยื่นหน้าของตัวเองเข้าใกล้ใบหน้าของแบงค์ พร้อมกับค่อยๆ บรรจงประกบริมฝีปากของตัวเองเข้ากับริมฝีปากของแบงค์อย่างแผ่วเบา

แบงค์สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร ทั้งยังยื่นมือของตัวเองมาจับไว้ยังแก้มของผมด้วยกัน



ผมไม่รู้ว่ามันผ่านไปนานแค่ไหน รู้เพียงแค่ว่าริมฝีปากของแบงค์นั้นนุ่มและอ่อนโยนอบอุ่นมาก


ผมไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นเช่นไร......................



แต่อย่างน้อยวันนี้ ผมก็ได้เปิดเผยมันออกไปแล้ว



จบคาบเรียนที่ 15

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-09-2013 03:37:56 โดย จิ๊บคุง »

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีตอนดึกๆ หรือว่าจะเช้าดี ???

เพราะตอนที่ผมโพสตอนนี้ก็ประมาณ ตี 3 แล้ว  o22


ก่อนอื่นก็คงต้องออกตัวเหมือนเช่นทุกครั้งนะครับ ขออภัยที่หายไปนานนะครับ
ลองดูวันที่โพสคาบเรียน 14 แล้ว จนถึงวันนี้ ก็ประมาณ 2 อาทิตย์กว่าๆ ได้  o22

ลืมกันไปรึยังเนี่ย :a5: :a5:

ก็ด้วยเรื่องเดิมๆ ครับ งานล้วนๆ แห่ะๆ คือมีแพลนเนื้อเรื่องในหัวละ
แต่ไม่มีเวลามากพอที่จะกลั่นออกมาเป็นตัวอักษรได้

เพราะโดยมาก เวลาผมพิมพ์นิยาย ผมก็จะนั่งแช่อยู่แบบนั้นเลย
ไม่ได้แบบพิมพ์ไป แล้วพักไว้ แล้ววันหลังมาพิมพ์ต่อ
พอดีวันนี้วันหยุดเลยถือโอกาสเคลียร์งานส่วนตัวไปด้วยเลย อิอิ :-[ :-[

จะเข้าเรื่องไหนก่อนดี
เรื่องทั่วไปก่อนละกันเนาะ จะว่าไป นันท์นี่ ก็อาจจะถอดแบบความคิดมาจากผมก็เป็นได้นะ
ทั้งเรื่องอยากทำงานเกี่ยวกับหนังสือ ผมเองก็มีความฝันอยากทำงานสายนี้เหมือนกัน
ใจจริง อยากเป็นนักเขียนการ์ตูนนะครับ แต่ด้วยอะไรหลายๆ อย่างไม่ลงตัวกับชีวิตเลยจังหวะไม่ได้สักที

แต่ก็พยายามหาเวลาให้มันบ้าง
ตอนนี้ก็กำลังพยายามวาดการ์ตูนสั้นอยู่ครับ ประมาณ 60 หน้าจบ
ตอนนี้ร่างดินสอไปได้ครึ่งนึงละ



คิดว่าสักวันคงเสร็จ 5555+ เดือนหน้าตุลา ก็มีงานคนวาดการ์ตูน ก็ว่าจะลางานไปหาประสบการณ์เสียหน่อย ><

ส่วนเรื่องการ์ตูน ผมเองก็เคยมีประสบการณ์เสียใจเช่นกัน
ตอนนั้นสะสมได้เยอะมากกกกกกกกกกกก
แต่ทำมือถือหาย เป็นรุ่น 3310 ที่ได้มาจากการประกวดออกแบบบัตรเติมเงินของ 1-2-คอล ด้วย
ตอนนั้น 3310 บูมมากกกกกกกกก (ดักแก่เลยนะเนี่ย)

ไม่กล้าบอกพ่อแม่ เลยจำใจต้องเอาการ์ตูนไปขาย เสียใจมากๆ แต่ก็ไม่มีทางเลือก
ทุกวันนี้ก็ยังสะสมอยู่นะ และคงไม่คิดจะขายอีกละ (ยกเว้นเรื่องที่ไม่ใช่แนว)

เลยคิดว่า ถ้าโดนน้ำท่วมไป คงเสียใจมากแน่ๆ ยิ่งบางเรื่องหายากด้วยเนี่ย
บางเรื่องทุกวันนี้ผมไปหาตามร้านมือ 2 ยังไม่เจอเลยด้วย อย่างเรื่องนี้

ขนาดเรื่องนี้ผมอ่านครั้งแรกตอน ป.5 มาตอนนี้ผมกว่าจะตามหามันเจอผมใช้เวลานานมากเลยนะ
เพราะงั้นส่วนมาก ถ้าหนังสือเรื่องไหนออก ผมจะรีบซื้อก่อนเลย ได้อ่านไหนค่อยว่ากัน
เพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตเราจะหามันเจออีกมั้ย
ตอนนี้อยากได้นิยายเรื่อง "วิชาฆ่าภาคบังคับ" หรือ Battle Royale 2 เล่มจบ
กับเวอร์ชั่นการ์ตูน 8 เล่มจบ ผมยังหาไม่ได้เลย  :sad4:
ใครเจอที่ไหนรบกวนบอกทีนะครับ 555555555+

พล่ามมากละ เพลินไปหน่อย - -*
เข้าเรื่องนิยายดีกว่า

ตอนนี้คงทำให้ทุกท่านสมหวังไปบ้างล่ะมั้งนะครับ
เมื่อในที่สุดทั้งคู่ก็ได้เปิดเผยความในใจกันเสียที
หลังจากที่เงียบๆ กันมาเสียนาน
ตอนผมเขียนตอนนี้ ผมเอาความรู้สึกของตัวเองใส่ลงไปด้วยบางส่วน
ประมาณว่าผมอยากมีประสบการณ์แบบนี้บ้างเหมือนกันน่ะ  :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

แต่ในชีวิตก็ยังไม่มีเข้ามาซ้ากกกกกกที  :hao5: :hao5:

ขนาดกับน้องกระดิ่งน้อยก็ยังไม่รู้จะหมู่หรือจ่ากันแน่
บางทีเหมือนไม่ใช่ บางทีเหมือนใช่ พอผมเข้าหา ก็หนีผม แต่พอผมเฉยๆ นิ่งๆ ก็กลับเข้าหาผมซะงั้น เอาไงแน่

เอาเหอะ อย่าไปคาดหวังมาก เดี๋ยวจะเจ็บมาก 55555+

ส่วนนันท์กับแบงค์ คิดว่าน่าจะสมหวัง (ละมั้ง)
ทั้งคู่จะเป็นยังไงต่อไป รบกวนติดตามด้วยนะครับ

ไปละครับ


ปล. วันนี้พล่ามมากเป็นพิเศษเพราะหายไปนาน คงไม่ถือสานะครับ = ="
ปล.2 ช่วงนี้กำลังอิน และจิตตกกับเพลงนี้ ลองฟังดูนะครับ

โปรดเถิดรัก By Cocktail
"ทำไมเมื่อมีรัก ฉันจึงต้องช้ำใจ"



ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
อืมมม สุดท้ายทั้งคู่ก็ได้เปิดเผยความรู้สึกกันสักที
ความรักนี่ไม่จำเป็นว่าใครจะต้องเป็นคนบอกใครก่อน
แค่ใจตรงกันก็มีความสุขแล้ว แต่นันท์นี่จริงจังมากเลยนะ
แถมมีจูบกันด้วยอ่ะ และน้องนันท์ของเราเริ่มก่อนซะด้วย  :o8:

ส่วนเรื่องวาดการ์ตูน วาดสวยจังเลยค่ะ คนอ่านไม่มีพรด้านนี้เลย
อยากวาดรูปเก่ง ๆ แบบนี้บ้าง จะได้ดีไซน์เพื่อหาเงินเข้าเป๋าบ้าง..อิอิ

ออฟไลน์ Lily teddy

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +144/-2
โอ๊ย อยากบอกว่าอ่านแล้วเกร็งตามนันท์ตลอดเลยค่ะ กว่าจะถามออกมาแต่ละประโยค
แบบอ่านไปลุ้นไปเลยว่านันท์จะพูดออกมาแบบไหน ก็แหมมันเป็นความรู้สึกที่เก็บซ่อนไว้มาตั้งนาน
แถมนันท์ก็กลัวคำตอบของแบงค์ด้วยนี่นะ จนสุดท้ายแบงค์เลยต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนสินะ
ถึงขนาดถามว่านันท์ชอบแบงค์มากกว่าเพื่อนรึเปล่า  จ๊าก :a5: คราวนี้มันก็เหมือนคำถามจี้ตรงจุดเลยสิ
ทำเอานันท์ของเราต้องตัดสินใจเด็ดขาดแบบไม่ต้องกลัวเสียอะไรแล้วล่ะ
แล้วนันท์คงอัดอั้นมากอะสารภาพรักไปร้องไห้ไป แบบคงอยากให้แบงค์ได้รู้มานานแล้ว
แล้วก็อยากรู้ความรู้สึกของแบงค์ด้วยสินะ ไม่อย่างงั้นนันท์ก็ต้องเก็บความรู้สึกอย่างงี้ต่อไปถึงเมื่อไหร่ไม่รู้
ตอนนี้ถึงแบงค์จะยังสับสนอยู่มาก แต่ก็ไม่ปฏิเสธแถมตอบรับนันท์ทุกอย่างเลยอะ
จนตอนนี้เหมือนนันท์จะเป็นฝ่ายรุกนะนั่น 555 แล้วในเมื่อตอนนี้ก็ได้จูบกันไปแล้ว
ความสัมพันธ์มันจะชัดเจนขึ้นไหมน๊า แถมพรุ่งนี้นันท์มีนัดกะป้อซะด้วย นันท์จะเคลิ้มจนลืมนัดไหมเนี่ย
ถ้าให้เดาเดี๋ยวป้อต้องโทรมาขัดจังหวะแหง๋เลย แต่ยังไงก็ดีใจที่นันท์ได้พูดความรู้สึกออกไปซักที
แล้วโชคดีที่แบงค์ก็น่าจะใจตรงกัน ก็เหลือแค่ให้แบงค์กล้าที่จะยอมรับความรู้สึกตัวเองเท่านั้นแหละเนอะ
รอติดตามนะคะถึงงานจะยุ่งแต่ก็ยังมาต่อให้อ่านเรื่อย ๆ ยังไงก็รอและเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนเหมือนเดิมค่ะ
ปล. มือถือเครื่องแรกในชีวิตก็ 3310 นี่แหละค่ะ (บ่งบอกอายุเหมือนกัน) แต่โชคดีไม่ได้ทำหายแค่ใช้จนลำโพงเจ๊งกันไปเลย 555
กลัวไม่คุ้มกับเงินที่เสียไปขนาดหุ้นกะน้องคนละครึ่งนะคะซื้อไว้บ้านเพราะตอนนั้นไม่มีโทรศัพท์บ้าน
ส่วนเครื่องที่ใช้พกติดตัวเครื่องแรกนี่ญาติเค้าบริจาคมาอะคะ เพราะถ้าเค้าไม่ให้เราก็ไม่ซื้อหรอก
เพราะตอนนั้นคิดว่ามันไม่จำเป็นเลยไม่เห็นต้องติดต่ออะไรกะใคร แต่มาตอนนี้นี่ไม่ได้เลย
ไม่มีโทรศัพท์นี่เหมือนขาดอะไรไปซักอย่างในชีวิต อย่างน้อยใช้ฟังเพลง หรือนั่งเล่นเกมตอนรถติดก็ยังดี
เอ๊ จากเรื่องการ์ตูนไปเรื่องโทรศัพท์ได้ไงหว่า อ้อ เริ่มจาก 3310 สินะ
แล้วเรื่องวาดการ์ตูนนี่ก็เป็นกำลังใจให้นะคะ ขนาดตั้งใจวาดใส่แฟ้มอย่างดีด้วย ยังไงก็ต้องสำเร็จแน่ ๆค่ะ
ไม่เหมือนคนอ่านวาดแค่ตุ๊กตากิ๊กก๊อกยังวาดไม่ได้เรื่องเลย อีกอย่างหัวไม่สร้างสรรค์คงนึกพล็อตเรื่องมาวาดมาเขียนไม่ได้อยู่ดี
แล้วอยากบอกว่าคนอ่านก็อิมเมจนันท์กะผู้เขียนเป็นคนเดียวกันไปแล้ว 555 คงไม่ว่านะคะ
คิดว่าสิ่งที่นันท์อยากพูดอยากถามแบงค์ก็คงเป็นความรู้สึกของผู้เขียนเหมือนกันละมั่ง
ถึงจะไม่มีอะไรแน่นอนแต่ก็แอบลุ้นให้น้องกระดิ่งน้อยรู้สึกกะผู้เขียนเหมือนที่แบงค์รู้สึกกะนันท์นะคะ
ปล.2 ไม่ได้เข้าร้านการ์ตูนมานานนนนนมาก เลยคงไม่มีโอกาสได้เจอการ์ตูนที่ผู้เขียนอยากได้แน่เลย
แต่ถ้าน้องมันได้เจอก็จะเอามาบอกนะคะ
ปล. 3 ได้ลองฟังเพลงแล้วนะคะ เพราะดีค่ะ แต่ตอนนี้คนอ่านกำลังคลั่งเพลงไม่สนิท ของ นนท์ The Voice อยู่ค่ะ
เป็นแบบแอบรักเพื่อนแต่ไม่กล้าพูดไปเหมือนกัน ไม่ได้ตรงกะชีวิตจริงตอนนี้หรอกค่ะ แต่ฟังแล้วมันจิ๊ดเลย
แบบเคยตรงเมื่อสมัยละอ่อนอยู่อะคะ 555 นี่ก็พล่ามแต่เรื่องตัวเองซะยาว อาจจะอ่านแล้วดูสับสนไปบ้างนะคะ  :pig4: :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2013 13:34:21 โดย Lily teddy »

ออฟไลน์ TIKA_n

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1391
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +308/-4
ชอบน้องแอลจริงเลย โผล่มาแต่ละที ทำน้องนันท์จุกทุกทีสิน่า
น้องแอล เป็นฝ่ายบอกรักบาสก่อนเหรอเนี่ย แต่ก็ไม่ค่อยแปลกใจแฮะ
ดูแล้วเป็นเด็กมั่น ชัดเจนซะขนาดนี้ ไม่งั้นคงเอานายบาสไม่อยู่หรอก
คำพูดของน้องแอล ทำให้น้องนันท์ตัดสินใจจะเสี่ยงได้แล้วสิ
แต่กว่าจะเข้าเรื่องที่อยากจะพูดจริง ๆ ได้ นี่ อ้อมซะไกล
พูดไปพูดมา ใครเป็นฝ่ายถามใครกันแน่ล่ะเนี่ย โดนแบงค์รุกซะ
“นันท์.............นันท์ชอบแบงค์มากกว่าคำว่าเพื่อนใช่มั้ย”
ต้องขอบคุณคำถามนี้ของแบงค์เลย ไม่งั้นมันก็คลุมเครืออยู่นั่น
น้องนันท์ เลยตอบซะ บอกความรู้สึก หมดเปลือกกันไปเลย
น้องนันท์ ชัดเจนแจ่มแจ้งแล้ว แต่แบงค์ ทำไมรู้สึกยังไม่ค่อยชัดเจน
ขนาดจูบ น้องนันท์ยังต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แล้วตกลงความรู้สึกแบงค์คืออะไร
สงสัยแรงกระตุ้น ยังไม่พอสินะ ต้องให้ป้อมาช่วยเสริมแรงกระตุ้นอีกหน่อยล่ะ
.........................................................
วาดการ์ตูนเก่งจัง แล้วการ์ตูนที่วาดนี่ แนว boy's love รึเปล่าคะเนี่ย
เราก็ชอบวาดรูปเหมือนกันนะ เคยวาดการ์ตูนแบบนี้เหมือนกัน
วาดเล่น ๆ แต่ความพยายามไม่พอ แถมยากกว่าที่คิดไว้มาก ๆ เลยเลิก
กลับมานั่งวาดเล่น ๆ สนุก ๆ ไม่เป็นเรื่องเป็นราวไปเรื่อย ๆ แบบฆ่าเวลาเอา

ส่วนเรื่องนิยายที่ตามหา ดูชื่อเรื่องแล้ว แบบว่าไม่ใช่แนวที่อ่าน แหะ ๆ ไม่รู้จะช่วยยังไง
เราชอบอ่านนิยาย Y ถ้าไม่ใช่แนววาย ก็เป็นแนวแฟนตาซีไปเลย

เรื่องน้องกระดิ่งน้อย ก็นะ คิดได้แบบนั้นก็ดีแล้วค่ะ เผื่อใจไว้นั่นแหละดี

ส่วนนันท์กับแบงค์ คิดว่าน่าจะสมหวัง (ละมั้ง) ทำไมต้อง ละมั้ง ด้วย  :ling1: ต้องสมหวังสิค้า
สงสารน้องนันท์นะ พยายามมาขนาดนี้แล้ว อย่าใจร้ายกับน้องนันท์นะคะ  :impress:

เป็นกำลังใจให้ต่อไป ขอบคุณมากค่า  :mew1: :L1: 

จิ๊บคุง

  • บุคคลทั่วไป
คาบเรียนที่ 16 : แอบแฝง


“แล้วแบงค์ซ้อมเสร็จกี่โมงอ่ะ”
“ก็คงราวๆ 3-4 โมงน่ะ ทำไมเหรอ”

“ป่ะ ป่าว.......ก็แค่................คิดถึงแค่นั้นอ่ะ แห่ะๆ”
“ไอเด็กบ๊องเอ้ย ก็เจอหน้ากันแทบทุกวันอยู่แล้วแท้ๆ โอเค งั้นแค่นี้ก่อนนะ จะซ้อมละ”

“ครับๆ แต่เดี๋ยวก่อน แบงค์”

“หือ”


“รักนะครับ................!!!!! พอละ พูดเอง อายเองซะงั้น แค่นี้นะ”
“อะไรเนี่ย มีแบบนี้ด้วย..............................................แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ”

“ครับ แบงค์”

ตื๊ด!!!!!

ผมกดวางสายมือถือลง ก่อนจะเก็บมันเข้าไว้ในกระเป๋ากางเกง พร้อมกับหันมองซ้ายขวาไปมา
แล้วจึงนั่งอมยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า (???)

ก็บทสนทนาเมื่อครู่นั่นล่ะครับ คือตัวการที่ทำเอาผมเขินอายหนาแดงเป็นคนบ้าอยู่เนี่ย

ก็แบบ........แห่ะๆ เมื่อวานน่ะครับ ผมกับแบงค์แบบว่า................
อ๊ากกกก อายที่จะพูด แต่ก็อยากจะพูด (???)
ก็คงจะรู้กันแล้วนะครับ ว่าตอนนี้ ความรู้สึกของผมที่มีต่อแบงค์นั้นได้เปิดเผยออกไปอย่างหมดเปลือกแล้ว

และที่สำคัญ ผมกับแบงค์ ก็ยังได้.................จ่ะ...จูบกันอีกต่างหาก

อ๊ากกกกกกกกกกกก พอคิดแล้ว ก็ยิ่งเขินมากเลยนะเนี่ย
ไม่รู้ว่าทำไปได้ยังไง ใจกล้ามากที่สุดเท่าที่ชีวิตนี้ผมจะเคยทำมาก่อนเลยนะนั่น

เหมือนบรรยากาศมันพาไปมากกว่า
ริมฝีปากที่นุ่ม ลมหายใจที่อุ่น ใบหน้าที่แดงก่ำ มือที่ยังสั่นด้วยความหวาดหวั่น
ทั้งหมดทั้งปวงคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
เหมือนเวลาช่วงนั้นมันยาวนานเสียเหลือเกิน
ยิ่งคิดก็ยิ่งเขินอาย จนหน้าแดงไปหมดละเนี่ย - -


คงสงสัยสินะครับ ว่าหลังจากนั้น ผมกับแบงค์ทำอะไรกันมั่ง
ก็..............................................


บอกตามตรงเลยว่า.......................


จบลงแค่จูบนั้นล่ะครับ ไม่มีอะไรเกินเลยต่อจากนั้น =w=
คงผิดหวังกันล่ะสิ

ขอโทษด้วยนะคร้าบบบบบบบบบบ - -

แหม จะด่วนใจร้อนกันไปไหน ผมกับแบงค์เองก็เพิ่งจะแค่ได้เปิดเผยความในใจกันแค่นั้นเอง
แค่จูบนั้นก็มากเกินพอแล้ว มากจนทำเอาผมเองยังใจเต้นแทบจะระเบิดออกมาแล้วแน่ะ

แต่ถ้าถามว่าแล้วเหตุการณ์หลังจากนั้นเป็นยังไง

ก็.............ไม่มีอะไรมากนะ
ผมร้องไห้น้ำตาไหล จนแบงค์ตกใจถามว่าผมเป็นอะไร
ผมก็บอกออกไปว่าแค่ดีใจจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่แค่นั้นล่ะ
แบงค์เองพอได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่หัวเราะเบาๆ

เราสองคนก็กุมมือกัน ผมก็เอาหัวไปซบบนไหล่ของแบงค์
แบงค์เองก็เอามืออีกข้างมาลูบหัวผมเบาๆ

ผมมีความสุขมากๆ



มากเสียจน...........................



ผล็อยหลับไปซะงั้น!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
อ๊ากกกกกกกก เป็นอะไรที่น่าอายมากกกกกกกก
บรรยากาศกำลังเป็นใจ แต่ดันเผลอหลับไปได้ไงก็ไม่รู้ =[]=
กว่าผมจะตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้ว โดยตัวผมนั้นนอนอยู่บนเตียงของแบงค์
และแบงค์เองนั้นก็นอนอยู่ข้างๆ ผม ใต้ผ้าห่มผืนเดียวกัน!!!!!!!!


แต่ไม่มีอะไรในก่อไผ่ ไม่มีอะไรเกินเลยเกิดขึ้น เพราะเสื้อผ้าของผมและแบงค์ยังคงอยู่ปกติ


ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี (555555+)

แต่ถึงเรื่องราวจะเกิดขึ้นแบบนั้นไปแล้ว
ถ้าจะถามว่า ตอนนี้ผมกับแบงค์เป็นอะไรกัน
ผมเองก็ยังคงตอบไม่ได้ เพราะเอาเข้าจริง เมื่อคืนก็ยังไม่ทันได้คุยเรื่องนี้ เพราะผมดันหลับไปซะงั้น - -*

ตื่นเช้ามา แบงค์ก็รีบไปซ้อมที่โรงเรียน

แต่เอาเถอะ อย่างน้อยก็ถือว่าผมมาได้ไกลกว่าที่ผมคิดละล่ะ
หลังจากนี้ ผมก็คงต้องพยายามเพิ่มขึ้นแล้วล่ะ อิอิ

พล่ามมามากแล้ว คงอยากรู้สินะว่าตอนนี้ผมอยู่ไหน
ตอนนี้ผมกำลังอยู่ที่ห้างน่ะครับ นั่งเอ้อระเหยอยู่ตรงน้ำพุในห้าง แล้วมาทำไมน่ะเหรอ
ก็แบบดันพลั้งไปรับปากป้อเขาไว้น่ะครับ ว่าจะมาดูหนังเป็นเพื่อนเขา
แต่ก็ไม่ได้รังเกียจอะไรหรอกนะ เพราะดูแล้วป้อก็ไม่ใช่คนมีพิษภัยอะไร ออกจะเฟรนด์ลี่มีอัธยาศัยดีออก
ถึงแม้จะมีบางมุมดูแปลกๆ บ้างก็เหอะ - -*

นี่ก็ 10 โมงกว่าแล้ว ยังไม่เห็นป้อเลย นัดกันไว้ตอน 10 โมงแท้ๆ อุตส่าห์รีบมา =w=

“ขอโทษทีที่มาสายครับ นันท์”
อ๊ะ ตายยากเหมือนกันแฮะ พูดถึงก็มาทันที
ผมหันไปยังเสียงนั้น แต่เมื่อผมหันไป ผมก็ถึงกับตกตะลึงกับภาพที่เห็น

คือ ปกติเจอกันแต่ในโรงเรียน ชุดนักเรียน ก็ดูธรรมดาปกตินะ
แต่นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เจอในชุดนอก (ไม่นับตอนเข้าค่าย เพราะนั่นชุดลำลองทั่วไป ไม่ใช่ชุดเที่ยว)
คือ……………… ไม่นึกว่าป้อเองจะหล่อขนาดนี้เลยนะเนี่ย
คือจะว่ายังไงดีล่ะ……….!!!!!
คงเพราะด้วยการแต่งตัวด้วยล่ะมั้ง ดูดีมีรสนิยมมาก การเซ็ตผมที่ไม่มากไปหรือน้อยไป
หน้าก็เนียนใสมาก (แทบจะไม่เคยสังเกตมาก่อน เพราะที่โรงเรียนป้อก็ไม่ได้แต่งอะไรมาก ออกจะดูธรรมดาๆ ด้วยซ้ำ)

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด