“ ไปกันพี่ไฟ " มันหันมาดึงแขนผม หลังจากซื้อบ๊อปคอร์นกับน้ำเสร็จ
“ มึงซื้อรชชีสมารึเปล่าว่ะ " ผมมองไปที่ถังบ๊อปคอร์น ไอ้เซฟพยักหน้ามันยื่นแก้วน้ำมาให้ก่อนจะป้อนไอ้สิ่งที่ผมกำลังสงสัยอยู่ให้
“ นี่ไง อร่อยมั๊ย "
“ แอบป้อนกูเหรอ "
“ ผมจงใจนะ อย่ารู้ตัวดิ " แอบหัวเราะท่าทางกวนๆของมัน ไอ้เซฟป้อนผมอีกคำนึงก่อนจะถึงเวลาดูหนังพอดี
หนังบู้เลือดสาดที่ไอ้เซฟทำให้เป็นหนังตลกได้ในทุกครั้งที่ผมเผลอสะดุ้ง มันเอาแต่วิจารณ์เรื่องนมนางเอกที่เด้งไปมาตอนกำลังวิ่ง ก็ใช่ว่ากูจะชอบมากมาย ไอ้เทมเคยดูครั้งนึง ตอนนั้นมันต้องมัดผมให้ดูอยู่ด้วยกันกับมัน ไม่งั้นคงวิ่งหนี ไม่ได้กลัวนะแต่กูไม่ชอบมึงจะยิงเหี้ยอะไรนักหนากูปวดหัว หนังยิงกันนะกูชอบ แต่ชอบแบบมีสาระมีแกร่นเรื่อง ไม่ใช่เอะอะแม่งยิงกันสนั่นจอ
ุ
เทม คือคนที่ผมจะทำอะไรก็ได้ อิสระเสรี อยากจะแสดความรู้สึกอะไรออกไปก็ได้ ไม่เคยเก็บ แตกต่างจากเซฟที่บางทีผมเองก็เกรงใจมัน
“ มึงแม่งพูดมากจริงไอ้เซฟเงียบๆไป " ผมยัดบ๊อปคอร์นในกำมือใส่ปากให้มันกิน มีอันที่หล่นลงมาบนตัก ผมหยิบขึ้นใส่ปากมันอีก
“ พี่ป้อนผมเหรอ "
“ กูกำลังยัด "
“ งั้นก็ป้อนดีๆดิ " มันอ้าปากรอ ส่งสายตากระพริบถี่ๆให้ผม " อั้มๆ "
“ เอาไป " ยัดไปใส่ปากก่อนจะลุกขึ้น หนังจบแล้วครับ ได้เวลากลับบ้าน " กลับเถอะ กูง่วงแล้วเนี้ย "
“ เอาจริงดิ ทำไมง่วงเร็วว่ะ "
“ เพลียมั้ง " เกาหัวงงๆ ไม่รู้เหมือนกันแค่อยากกลับบ้านไปอาบน้ำนอน ขาโรยแรงของผมเดินถึงรถ ไอ้เซฟเปิดล๊อครถผมก็เข้าไปนั่ง ปรับเบาะเอนตัวเตรียมนอน คงสักพักกว่าจะถึงคอนโด
“ ง่วงขนาดนั้นเลย " มันว่าก่อนความอุ่นจะถูกห่มให้ผม ลืมตามองมันเป็นเสื้อหนาวของมัน
“ งั้นก็นอนไปก่อนพี่ พอถึงคอนโดเดี๋ยวผมปลุก " มือมันเขี่ยผมตรงหน้าผากให้ กำลังรำคาญอยู่พอดี
รถที่เคลื่อนตัวออกจากลานจอดช้าๆ ไม่ได้รีบเร่ง มันนานจนผมเองยังเผลอหลับไปในช่วงเวลาสั้นๆ รู้สึกตัวเองอีกที รถก็จอดที่ใต้ตึกของคอนโดแล้ว
“ ขอบใจมาก เอาไป " ยื่นเสื้อหนาวให้ไอ้เซฟก็รับไป มันคว้ามือของผมไว้
“ พี่ไฟ " ไม่ได้เรียกเปล่า แต่เซฟยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจของเรา รดปลายจมูกของกันและกัน ริมฝีปากที่เผยอขึ้นนิดหน่อยผมถอยหลังกลับ
“ กูมีแฟนแล้วเซฟ "
“ พี่อ้างแต่คำนี้ ทั้งๆที่เรา ..” มันเงียบลง ผมรู้ว่ามันหมายถึงอะไร ก็ทั้งๆที่เราสนิทกันจนแทบจะเรียกว่าแฟนอยู่แล้ว แต่ผมก็เอาแต่อ้างกับมันว่าผมมีแฟนแล้วตลอด ตอนที่มันจะทำอะไรกับผมเกินเลยไปมากๆ อย่างเช่น จูบ
“ เพราะกูยังคบกับเทมอยู่ กูไม่อยากจูบกับมึงทั้งๆที่ยังไม่ได้เลิกกับเทม "
“ งั้นก็เลิกกับเค้าซะสิ " มันง่ายขนาดนั้นเหรอ
“ กู "
“ พี่ไม่เบื่อเหรอว่ะถามจริง ต้องกลับบ้านตรงเวลา อยู่กับคนที่เป็นผู้ใหญ่มีเหตุผล ชอบวางอำนาจสั่งนู้นสั่งนี่ เวลาไปกินข้าวก็ต้องสั่งผักมากิน เค้าเคยไปดูวันพีชกับพี่รึเปล่า แล้วเค้าเคยรู้มั๊ยว่าพี่ชอบกินซูชิหน้าอะไร เค้าใส่ใจพี่ได้เท่าที่ผม ใส่ใจรึเปล่า ผมเห็นพี่เอาแต่ทะเลาะกับแฟน ผมรู้ว่าพี่ไม่มีความสุข แล้วถามหน่อยเถอะ พี่จะทนไปทำไมว่ะ "
“ กูไม่รู้ว่ะ " เพราะไม่รู้จริงๆเลยพูดออกไปแบบนั้น
เทมบ้าอำนาจเหรอว่ะ ไม่นะ มันเอาใจผมจะตายไป กลับกัน ผมสิที่ชอบบ้าอำนาจใส่มัน ให้มันยอมอยู่เรื่อย แต่แค่เทมไม่ใช่คนที่ทำตามใจผมทุกอย่าง ไม่ใช่คนที่ชอบสั่ง แต่ผมสิที่ชอบสั่งมันแล้วก็บางทีก็สั่งแบบกวนตีนด้วยซ้ำ เรื่องกินข้าวมันก็ปกติรึเปล่าว่ะก็กินแบบนี้มาจนชิน วันพีชมันไม่ชอบก็จริงแต่ถ้าผมดูอยู่มันก็ยอมดูด้วย ดูทั้งๆที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครเป็นใคร ซูชิผมว่าเทมรู้อยู่แล้วว่าผมชอบกินอะไร ส่วนเรื่องของความใส่ใจ ไม่รู้เหมือนกันว่ามีเท่าไหร่ รู้แค่ว่า มันมี
“ เลิกเถอะ แล้วมาคบกับผม "
“ เซฟ คนรักกัน ไม่มีหรอกนะ ที่จะไม่ทะเลาะกัน "
“ แต่พี่ไฟ "
“ มึงไม่ต้องบีบกูหรอก ถ้ากูตัดสินใจจะทำอะไร ผลเป็นไง เดี๋ยวมึงก็รู้เอง สำหรับกู ความพยายามไม่มีในความรักหรอก เพราะความรัก ไม่เคยต้องใช้ความพยายาม เอามาแค่ใจ ทำ ในสิ่งที่มึงอยากจะทำเถอะ "
“ จุ๊ฟ. “ รวดเร็วจนแทบจะตั้งตัวไม่ติด จมูกโด่งที่แนบสนิทลงบนแก้มของผม " นี่ไงสิ่งที่ผมอยากจะทำ "
“ แต่ก็ช่วยดูด้วยนะ ว่ากูพอใจรึเปล่า " ผมลงจากรถปิดประตูแรงจนเจ้าของยังสะดุ้ง ไอ้เซฟเปิดประตูออกมาจะเดินตามผม แต่มันช้าไปครับ
ถอนหายใจกับเงาตัวเองตรงพื้นลิฟท์ มือของผมจับแก้มอุ่นๆของตัวเอง ผมไม่ได้หวงตัวอะไรขนาดนั้น แต่ถ้าว่าไปตามเรื่องผมก็ยังเป็นแฟนไอ้เทมอยู่ สิทธิการแตะต้องร่างกาย จูบหอมแก้ม ก็มีแค่ไอ้เทมไม่ใช่เหรอว่ะ ที่จะทำได้
“ กลับมาแล้วเหรอ " ผมหันไปพยักหน้าตามเสียง ไอ้เทมอาบน้ำแล้ว เหมือนมันแค่เดินออกมาชงอะไรสักอย่างกิน เพราะมือมันถือกระดาษอะไรสักอย่างออกมาคงกำลังอ่านหนังสืออยู่ มันเดินเข้ามาใกล้ผม มือที่กำลังเอื้อมขึ้นมาจับหน้าผากเหมือนวัดไข้เพราะเห็นหน้าผมเพลีย ผมหลบครับ อยากจะอาบน้ำล้างหน้าก่อน
“ อาบน้ำก่อนละ กูง่วง "
“ อื้ม " นับวันก็รู้สึกว่า ระหว่างเรามันช่างน่าเบื่อ ไม่มีอะไรจะพูดเพราะพูดก็เหมือนทะเลาะ เป็นแบบนี้มันเซงๆ เป็นความรู้สึกที่ไม่น่าเกิดขึ้นเลย คือถ้าไม่ทะเลาะกันเสียงดังก็เงียบใส่กันแบบนี้ ไม่ผมเริ่ม มันก็เริ่ม เป็นแบบนี้ตั้งแต่มีไอ้เซฟเข้ามาในชีวิตของเรา
คลิ๊ก คลิ๊ก คลิ๊ก คลิ๊ก คลิ๊ก เสียงไลน์ของโทรศัพท์ที่ผมชาร์ตเอาไว้นอกห้อง ดังมาถึงตรงนี้ คงไม่มีใครหรอก คงมีแค่ไอ้เซฟ ผมลุกออกจากอ่างน้ำ เช็ดตัวก่อนนุ่งผ้าขนหนูคาดที่เอวแล้วออกมา เปิดประตูห้องนอน ก็เจอกับใครบางคนยืนดูโทรศัพท์ผมอยู่ ไอ้เทมอาจรำคาญมันคงจะลุกมาปิดเสียง
“ หมายความว่าไง "
“ อะไรที่ว่า หมายความว่าไง " ผมถาม ไอ้เทมหันมามองหน้า เป็นสายตาที่ตั้งแต่คบกันมา โกรธแค่ไหนก็ไม่เคยได้เห็น สายตาขวางๆที่ทำให้หายใจแทบไม่ออก
“ ไอ้เซฟ หอมแก้มมึงเหรอ " ผมเงียบไปสักพัก มองดูมือถือตัวเองในมือของมัน
“ มึงแอบดูมือถือกูเหรอ "
“ มันโชว์ขึ้นมาเอง " เป็นเหมือนแจ้งเตือนที่บอกให้รู้ เกิดขึ้นเองตามโปรแกรมของโทรศัพท์ " ตอบกูไฟ "
“ มึงอย่ามาเสือกเรื่องส่วนตัวของกูจะได้มั๊ย " ผมเดินเข้าไปจะคว้าเอาโทรศัพท์ ไอ้เทมคว้าแขนผมไว้ มันบีบแน่น
“ กูบอกว่าให้มึงตอบ คำถามของกู "
“ ใช่! แต่มันก็แค่เรื่องเข้าใจผิด "
“ เข้าใจผิดยังไง " มันถอนหายใจออกมาเสียงดัง " กูชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ มึงเป็นแฟนกูอยู่รึเปล่า มึงยังรักกูมั๊ย กูถามหน่อย ที่ตอนนั้นมึงเสียใจเพราะกูมีไอ้หยุ่น ความรู้สึกตอนนั้นนะมึงรักกูรึเปล่า แล้วตอนนี้ทำไม มึงถึงเอาแต่เที่ยวกับไอ้เด็กเหี้ยนั่น มึงเคยมองเห็นความรู้สึกเจ็บของกูบ้างมั๊ย ที่กูเงียบ ไม่ใช่เพราะกูไม่เจ็บ แต่ที่กูเงียบ เพราะกูพยายามคิดอย่างที่มึงบอก มึงกับมันไม่มีอะไร ก็แค่เพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องโรงเรียนเดียวกัน แต่นี่คือเหี้ยอะไร "
“ กูบอกว่า มันแค่เรื่องเข้าใจผิดไง " ผมตวาด พยายามผลักมันที่จับมือผมไว้แน่น
“ ก็บอกมาสิว่าเพราะอะไร ที่มึงให้มันหอมแก้ม มึงให้มันทำแบบนั้นกับมึงที่กูมีเป็นเจ้าของเหรอว่ะ " มันเขย่าตัวผม คราวนี้เทมโยนมือถือผมลงพื้น มันคว้าเอามือของผมทั้งสองข้างขึ้น จับไว้แน่น
“ ร่างกายกูมันเป็นของกู มีเหตุผลหน่อยดิว่ะ กูก็บอกแล้ว ว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด "
“ งั้นก็พูดสิ!! เข้าใจผิด เข้าใจผิดยังไง มึงอธิบายให้กูฟังสิ "
“ ก็ " ก็ตอนนั้นกูเผลอพูดบางอย่างที่เป็นช่องว่างให้มันทำแบบนั้น ผมหลบสายตาของเทมที่จ้องมามอง ไม่ได้ตอบคำถามมัน
“ ที่มึงพูดไม่ออก เพราะมันไม่ใช่เรื่องเข้าใจผิดใช่มั๊ย ทำไมว่ะ กูไม่เข้าใจเลยว่านี่เกิดเหี้ยอะไรขึ้น กูผิดอะไรเหรอไฟ กูรักมึงน้อยลงเหรอ กูไปยุ่งกับเซีย หรือ กูหันสนใจไอ้หยุ่น กูทำอะไรให้มึงคิดแบบนั้นรึเปล่า มึงถึงทำแบบนี้ กูทำอะไรผิดว่ะ มึงถึงไปหามัน มึงอยู่กับมัน มีความสุขกับมัน แล้วกูละ ทุกวันนี้ มึงยิ้มให้กูบ้างมั๊ย ... ไฟ กูถามมึงจริงๆเถอะ เวลามึงอยู่กับไอ้เซฟ เคยคิดถึงกูบ้างมั๊ยว่ะ เคยคิดบ้างมั๊ย ว่าที่มึงทำอยู่ มึงกำลังทำให้กูเจ็บ "
“ มึงเลิกพูดเถอะ พูดไปก็พูดไม่รู้เรื่อง " เถียงกันไปก็รังแต่สร้างปัญหา ถ้าถามว่าอยู่กับไอ้เซฟคิดถึงมึงบ้างมั๊ย ตอบได้เลยว่าทุกช่วงเวลา
“ ไม่ ! พูดออกมาเลย กูไม่รออะไรทั้งนั้นแล้ว "
“ กูไม่รู้!! กูไม่อยากพูดอะไรตอนนี้ “ เสียงของผมดังจนเหมือนตะคอกเป็นความสัจจริงจากหัวใจที่บอกได้ก็คงมีเท่านั้น ผมมีความสุขเวลาอยู่กับไอ้เซฟแต่มันสุขไม่เคยสุดเลยเพราะผมมีเทมอยู่ เพราะหัวใจก็เอาแต่คิดถึงมัน
“ มึง รักมันแล้วใช่มั๊ย " ผมเงยหน้าขึ้นมองเทมที่ก้มหน้าลงไป " แล้วที่อยู่กับกูทุกวันนี้คืออะไรว่ะ ที่ให้กอด ให้กูจูบทุกวันนี้ มันคืออะไรว่ะ สงสารเหรอ .. มึงสงสารคนอย่างกูสินะ "
“ ... “ ผมเงียบทั้งๆที่หัวใจมันบีบแน่น ความอุ่นของหยดน้ำที่ไหลลงกระทบนิ้วเท้าของผม ใครบางคนกำลังร้องไห้
“ ทำไมว่ะ ทำไมไม่พูด ทำไมมึงไม่พูดอะไรเลย "
“ คือกู "
“ มึงรู้มั๊ยทำไมกูถึงทำเป็นไม่เห็น ทำไมกูถึงทำเป็นไม่โกรธ ทำไมทั้งที่หงุดหงิดแต่กับไม่เคยเอาเรื่องมึงเลย มึงอยากรู้มั๊ยว่าทำไม " ผมเงียบในคำถามนี้ของมัน " กูมีเหตุผลเดียว นั่นคือ รัก เพราะกูรักเลยอยากมีมึงใกล้ๆ แล้วมึงละ เคยรู้สึกแบบนั้นกับกูบ้างมั๊ยว่ะ เคยมีความสุขเวลาที่ได้อยู่ใกล้ๆกูเหมือนกับกูที่รู้สึกมีความสุขเวลาได้อยู่ใกล้มึงมั๊ย เคยบ้างมั๊ย "
“ เทม มึงงี่เง่าแล้วว่ะ " ผมดึงแขนตัวเองออกแต่มันจับไว้ หัวใจของกูสั่น มึงอย่าพูดเหี้ยอะไรไปมากกว่านี้เลย พอแล้ว อย่าพูด
“ กูมันงี่เง่า ที่โกรธแฟนอย่างมึง เพราะมึงไปมีคนใหม่ แล้วกูถามหน่อย ถ้ากูไม่รัก แล้วมันจะเป็นแบบนี้รึเปล่า "
“ มึงเลิกพูดสักทีได้มั๊ยว่ะ " มึงเลิกพูดสักทีว่ามึงรักกู มึงเลิกพูดสักที " มึงรักกู รักกูแล้วไงว่ะ มึงเคยรู้รึเปล่าว่ากูชอบดูหนังเรื่องอะไร เคยรู้รึเปล่าว่าสีที่กูชอบคือสีอะไร ชอบกินอะไร มึงเคยรู้อะไรในตัวของกูบ้าง เคยรู้มั๊ยว่าตอนนี้กูรู้สึกยังไง " ไอ้เทมเงียบมันกลืนน้ำลายก่อนจะเงยหน้ามองผม " ถ้าไม่รู้ตัวตนของกู ก็เงียบสักที มึงไม่ต้องพูดอะไรแล้ว "
คนเรา พอมีตัวเลือก ของที่เคยมองว่าดี ก็มักมีข้อเสียขึ้นมาทันที ตอนแรกที่คบไม่ว่าอะไรก็รับได้หมด แต่พอมีตัวเลือกเข้ามาเปรียบเทียบ ข้อเสียที่เคยมองไม่เห็นตอนนี้ก็เห็นอยู่มากมายจนนับแทบไม่หมด มันเป็นความรู้สึกของคนที่กำลังหมดรักรึเปล่า
“ ใช่ กูไม่รู้ กูไม่เคยรู้อะไรเลย " มันกำมือของผมไว้แน่น " มึงชื่อ เตโช ธรรมมาติกรวัฒน์ ชื่อเล่นชื่อไฟ ไฟที่แม่มึงตั้งให้เพราะตอนที่มึงเกิด ตัวมึงเย็นง่าย เค้าเลยตั้งชื่อว่าไฟ มึงจะได้อบอุ่น มึงเกิด วันที่ 27 เป็นน้องคนสุดท้องของตระกูล มึงเรียนไม่เก่ง หัวไม่ไว แต่มึงวาดรูปเก่ง มึงเลยความฝัน มึงอยากจะเป็นนักวาดรูปทำอะนิเมชั่น ออกแบบเกมส์ มึงอยากไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่น มึงอยากทำงานที่นั่น มันเป็นความฝันของมึง มึงไม่ชอบพ่อตัวเองเพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง เค้าไม่เคยสนใจในสิ่งที่มึงชอบ มึงรักแม่มากกว่าพ่อเพราะแม่ใจดีและเข้าข้างมึงตลอด มึงเอาพี่ชายตัวเองเป็นแบบอย่างอยากเป็นแบบนั้นแต่ไม่คยทำได้ มึงชอบดูการ์ตูนเรื่องวันพีช มึงดูได้ทุกวัน ตัวที่มึงชอบมากที่สุดคือช๊อปเปอร์ เพราะมันเหมือนกับมึงที่แตกต่างจากเผ่าพันธุ์เลยโดนไล่ออกจากฝูง มึงชอบกินคิทแคทชาเขียวแต่เกลียดชาเขียว ไม่ชอบกินผัก ชอบกินซูชิตับห่านที่สุด ชอบกินบลูเบอร์รี่ชีสเค้ก แล้วเจ้าที่มึงคิดว่าอร่อยที่สุดคือร้านของแม่มึง มึงชอบสีทึมๆ แต่ชอบที่สุดคือ สีน้ำเงินกับดำ แต่มึงไม่ซื้อรถสีนั้นเพราะ มินิต้องสีสดๆถึงจะสวย มึงขี้น้อยใจ เวลาแบบนั้นมึงจะเงียบแล้วหันไปทางอื่น เวลาที่มึงต้องอยู่ในที่ที่มึงไม่ชอบ มึงจะชอบมองออกไปข้างซ้ายของตัวเอง มึงชอบนาฬิกา ยี่ห้อที่ชอบที่สุดคือ TagHeuer แต่เพราะราคามันแพงมาก มึงเลยต้องขายนาฬิกาเรือนเก่าๆที่มึงชอบไปแบบไม่ค่อยอยากจะขาย มึงเกลียดเพื่อนตอนม.ปลายเพราะมันหวังแต่เงินของมึง เพื่อนสนิทที่มึงรักที่สุดมีสี่คน คือ อาเนีย เหมือนฝัน ไอ้หยุ่น ไอ้บอท เพื่อนคนที่รักที่สุดคือไอ้หยุ่น เพราะมันเป็นคนซื่อๆ เวลามึงมีปัญหามึงชอบปรึกษาเหมือนฝันเพราะมันเป็นคนที่เข้าใจมึงทุกอย่าง กับอาเนียมึงชอบทะเลาะด้วยก็จริงแต่มึงก็ชอบความจริงใจของมันที่ตรงนั้น ส่วนไอ้บอทเป็นคนใจกว้างมันไม่เคยเอาเปรียบมึง ส่วนตัวมึง มึงชอบคนเอาใจ แล้วก็ตามใจ เวลามึงเขิน หูมึงจะแดงก่อนหน้า แล้วเวลาที่มึงไม่อยากจะตอบอะไร มึงมักพูดไปเรื่องอื่น หรือไม่ก็ตัดปัญหาแบบง่ายๆ ถ้ากำลังเขินตาของมึงจะสั่น เขินมากๆจะชอบเอาฟันมากัดปากด้านในของตัวเอง พูดแก้เขินไปแบบ ให้เลิกยุ่ง แต่จริงๆก็ชอบที่จะได้ยิน เป็นคนปากแข็งที่บอกว่าไม่ชอบคำพูดหวานๆ แต่กลับมีความสุขทุกครั้งที่ได้ฟัง "
“ ... “ ผมเงียบไปเพราะพูดอะไรไม่ออกเทมปล่อยข้อมือของผมทั้งสองข้าง
" แล้วเรื่องสุดท้าย คนที่มึงรัก เมื่อก่อนเคยเป็นกู แต่ตอนนี้ ไม่ใช่แล้ว ... " สายตามันที่จ้องหน้าผม ในแววตาที่มีแต่น้ำตาของมันนั้น " อยากจะรู้อะไรอีกมั๊ย "
หัวใจของผมชา และไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ได้แต่ยืนนิ่งๆมองแผ่นหลังนั้นหันหลังจากไปช้าๆ มือที่อยากจะคว้าตัวมันมาอธิบาย หรือแม้แต่ปากที่อยากจะอ้าเถียงอยากจะเรียก อยากจะรั้งมันไว้ ตอนนี้มันใช้การไม่ได้สักอย่าง
“ ถ้ามึงหาเหตุผลดีๆ เพื่อจะบอกเลิกกูไม่ได้ กูขอแนะนำ ให้มึงบอกว่า เพราะมึงไม่ได้รักกูแล้ว นั่นอาจจะเป็นเหตุผลที่ออกมาจากใจมึงที่มากสุด "...............................................................
บอกมาเลยไม่รัก ง่ายกว่ามั๊ย อยู่ๆก็นึกถึงเพลงนี้ขึ้นมา ทันที
เป็นตอนที่โคตรจะเครียด จนไม่สามารถเขียนทอล์คอะไรออกมาได้อีกแล้ว
มันหน่วงสุดจิต แต่งเองยังรู้สึก แบบ เหี้ย เทมมึง แล้วก็กอดพี่เทมไว้ คำถามที่พี่เทมพูดว่า " กูผิดอะไรว่ะไฟ "
คือแบบ เหี้ยยยยย พอแล้ววว #จับหัวใจ #รู้สึกอินสุดๆ

ตอนนี้คิดเห็นยังไงกันบ้าง เม้นท์บอกหนมด้วยนะอยากอ่านความรู้สึกของทุกคน
เพราะมันก่ำกึ่งระหว่างความรู้สึกของเทมกับไฟ
ใครมีทวิตบอกผ่านแท็ก #BTSสถานีรัก ได้จ้า

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์เด้ออ