ผับต่างจังหวัดแตกต่างจากในเมืองที่เราเคยสังสรรค์ ที่นี่มีคนต่างชาติเยอะ มากกว่าคนไทยในเขตพื้นที่ เป็นผับในโรงแรรมที่ถูกแบ่งโซนให้คนด้านนอกเข้ามาใช้บริการได้ ค้นหาจากในกลูเกิ้ลเอาครับ อยากจะทำอะไร มันช่วยได้ทุกอย่าง แต่งตัวออกมาจากบ้านพัก รถคันใหม่ของเรามีแค่เราสองคนที่นั่งมาด้วยกัน
ไอ้ฮิมดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษมันผิวปากเป็นเพลง ตามจังหวะดนตรีของเฟลชไดร์ฟที่เซฟใส่เพลงมา เป็นเพลงร๊อคต่างชาติ หรือเพลงอาร์แอนด์บีผสมๆกันไป ไม่มีเพลงไทยครับ ไม่ต้องหา ผมกดเลื่อนเพลงไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีอะไรถูกใจ
“ กูจะได้ฟังไหมว่ะ มึงจะเลื่อนไปไหน "
“ ก็กูไม่ชอบฟัง " บอกไปก็เอื้อมมือไปกดเปลี่ยนอีก คราวนี้มันเอามือมาจับมือผมเอาไว้ เอามาวางไว้บนตัก เขินครับแต่ไม่แสดงออก ทำไมรอบตัวกูวันนี้มันสีชมพูช๊อคกี้พิงค์แบบนี้ครับ ไอ้คนข้างๆหน้าแดงไปหมดยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ผิวปากตามเพลง
Well you done done me and you bet I felt it
I tried to be chill but you’re so hot that I melted
I fell right through the cracks
and now I’m trying to get back
“ พอๆ กูปวกขี้ " ก็พูดไปครับ ใครมันจะมาปวด กูเขินไส้บิดขนาดนี้ มองหน้ามันที่ยังคงยิ้ม รถติดแบบนี้เราจับมือกัน มันยังคงผิวปากก่อนจะร้องออกมาเป็นเพลง
Well open up your mind and see like me
Open up your plans and damn you’re free
Look into your heart and you’ll find love love love
Listen to the music of the moment maybe sing with me
Ah la peaceful melody
It’s your God-forsaken right to be loved love loved love loved
So I won’t hesitate no more, no more
It cannot wait I’m sure
There’s no need to complicate
Our time is short
This is our fate, I’m yours
อยากจะแปลไม่ออกแล้วก็พูดไม่ได้ไปเลยในตอนนี้ แต่คำว่า รัก กลับก้องอยู่ในหัว พอท่อนที่ร้องว่า lovelovelove มันหันมามองหน้าผม ท่อนประโยคสุดท้ายที่ผมแปลออกนั่นอีก .. ผมเป็นของคุณ กูถามจริง อะไรเข้าสิงมึงถึงมาหวานกับกูแบบนี้ มันหัวเราะลั่นรถ ก่อนจะขยี้หัวผม
“ เจ็บขี้จนหน้าแดงแล้วเหรอว่ะ "
“ เออ! ” ย้ำใส่หน้าเอียงหัวให้มือมันหล่นออก " ประสาทปะว่ะ กูขนลุก "
“ วันนี้วันแรก ที่กูขับรถให้มึงนั่ง แถมวันนี้ยังครบรอบที่เราเป็นแฟนกัน ".. ผมมองหน้ามัน อีกแล้วเหรอว่ะ มึงครบหลายวันจังเว้ย เมื่อวานก็ครบ วันนี้ก็ครบอีก มากไปละ
“ ตกลงวันไหนกันแน่สัด "
“ ฮ่าๆๆ ทุกวัน เพราะกูรักมึงทุกวันว่ะ หยุ่น "
“ เหี้ยยยย " หันออกนอกหน้าต่าง กูเขินเว้ยไอ้เชี้ยยยยยยยยย หยอดกูถี่ไปแล้วมึง หัวใจเต้นแรงไม่ต่างอะไรกับน้องชะนีวัยใสตอนที่รักแรกครับ
“ พอๆ กูไม่แกล้งมึงดีกว่า " ดึงแก้มผมเป็นการจบพิธี เอียงหน้ากัดมือมัน มันก็ยกขึ้นเคาะหัวผม เราติดไฟแดงกันอีกครั้ง คราวนี้มันยกโทรศัพท์ขึ้นมาสะกิดให้มองกล้อง แลบลิ้นบิ้นตาทำท่าบ้าๆไปสี่ช็อทก่อนจะอัพ ทำไมมันดูมีความสุขจังว่ะ ผมละสงสัย
“ สุขมากไปนะมึง "
“ ก็ได้มาเที่ยวกับมึง ขับรถพามึงเที่ยว "
“ แค่มีกูว่างั้นเถอะ " จะพูดเหี้ยอะไรให้กูเขินอีก จัดมาเลยมึง มองหน้ามันแบบหาเรื่องเหมือนพูดมาเถอะกูด้าน มันยิ้ม
“ เออ ก็แค่มีมึง กูก็สุขแล้วว่ะ "
โดนแพ้น๊อคในวินาทีสุดท้าย นั่งพิงหลังกับเบาะรถมองไปนอกหน้าต่างก่อนจะยิ้มกว้างออกมา ผมก็มีความสุขครับไม่ต่างอะไรจากมันหรอก แต่ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน เอื้อมมือไปจับชายเสื้อของมันเอาไว้กำเอาไว้แบบนั้น รู้สึกอุ่นเพราะมีมือนึงตรงเข้ามาลูบ
“ มีความสุขเหมือนกันว่ะ "
“ อะไรนะไม่ค่อยได้ยิน " แก่ขึ้นมาเชียวนะมึง ..
“ ช่างมึงสิ " ผมรู้ว่ามันรู้ครับ คงไม่ต้องพูดซ้ำๆ
ถึงผับกับเค้าได้สักที ลงจากรถก็บิดตัวเล็กน้อย ไม่ได้นั่งนานอะไรหรอกครับแต่เขินจนตัวเกร็ง รถคันอื่นถึงกันหมดแล้ว ทุกคนคงนั่งอยู่ในร้าน รถผมช้าสุดไม่ต้องถามว่าเพราะอะไร ไอ้ฮิมเล่นขับวน และฟังเพลงเดิมวนๆ กวนส้นตีนยามเย็น
“ มึงช้าว่ะ ป่านี้ไอ้ไฟเมาไปแล้วมั้ง "
“ มึงจะเมาแล้วอ้อนกูรึไง " เหย้าแหย่เหมือนกูไม่มียางอาย เหล่มองมันแล้วส่ายหน้า เดินเข้าไปในร้านก็เป็นแบบนั้นครับ เค้าซัดไปแล้วครึ่งขวด
“ รีบว่ะ " ผมทักก่อนจะนั่งลงข้างไอ้บอทที่ทำหน้าที่ชงเหล้าส่งมาให้ผมกับไอ้ฮิม บรรยากาศร้านเป็นแนวโต๊ะนั่งวีไอพีกับเค้าเตอร์สูงแบบยืนแดนซ์กันหัวหลุด
“ มึงอะรีบแดก เดี๋ยวเมาไม่ทันไอ้ไฟ " มองไปก็เห็นมันยังคงกินนิ่งๆ ไม่เห็นจะเมาอะไร มันเหล่ไอ้บอทที่ไอ้เหี้ยนี่ก็ยิ้มแห้งๆส่งไป " ครับๆ รีบแดกครับ กระผมจะชงให้ใหม่นะ อะๆ แดกๆ "
“ เชี้ย "
เสียงหัวเราะเคล้าเสียงเพลง ผมกะว่าวันนี้จะไม่เมาครับ ส่ายหน้าไม่กินเหล้าเต็มที่ เปลี่ยนเป็นแป็ปซี่แทน อยู่ด้านนอกผมรู้ว่าตัวเองเมาเป็นยังไง ไอ้ฮิมเป็นยังไง ถ้าผมเมามันห้ามเรื่องแบบนั้นไม่ได้ครับ สติของผมก็คงห้ามไม่ได้ สงสารคนฟังครับเสียงคงลั่นทุ่ง
“ ไม่กินจริงดิ "
“ เออดิว่ะ " หันไปบอกมันก็ยิ้ม
“ นิดนึงไม่เมาหรอก กูไม่ทำอะไรเชื่อกู " พาดไหล่ลงกับเบาะดูเหมือนจะกอดผมเอาไว้ เหอะ กูคงเชื่อโน๊ะ ผมส่ายหน้าอีกที แดกแป็ปซี่เข้าไปอีกแก้ว
“ ปิดเทอมนี้ไปไหนกันดีว่ะ " ไอ้บอทถามทุกคนที่มองหน้ากัน เหมือนไม่รู้ว่าใครจะตอบก่อน
“ กูกลับบ้านว่ะ "
“ กูสองคนเรียนภาษาเหมือนเดิม " เหมือนฝันครับมันไปเรียนซัมเมอร์สั้นๆกับอาเนียตลอดที่อังกฤษ เรียนกันมาตั้งแต่ม.ต้น ไปทุกปีจนมีคอนโดอยู่ที่นู้นแล้วครับ
“ พวกกูติดค่ายต้องทำค่ายวิศวะของมหาลัย " พี่เต๋อบอกผมมองหน้ามัน ลืมไปเลยครับว่ามันต้องทำค่าย ก็จริงๆผมนะ อยากจะพามันไป..
“ ก่อนกูไปจัดค่ายกูจะไปบ้านไอ้หยุ่นก่อน กูลืมบอกมึง "
“ เอ้ยย จัดค่ายนะมึงไม่ใช่เล่นขายของมึงจะไม่มาเตรียมตัวเลยรึไง " พี่เต๋อถามมันที่ยักไหล่ไม่สนใจ
“ ก็กูสัญญากับไอ้หยุ่นไปแล้ว ว่าจะไปบ้านมัน ก่อนค่ายห้าวันเดี๋ยวกูกลับ "
“ แล้วไอ้หยุ่นมันจะได้กลับบ้านกี่วันกันว่ะ "
“ ก็สักอาทิตย์นึงมั้ง " มันมองหน้าผมเหมือนเป็นคำถามที่ค้างอยู่ในแววตา หลากหลายอย่างที่เรามีความสุขกันจนลืมคิด จริงอยู่ที่ว่าครอบครัวไอ้ฮิมมันรับได้ ยกเว้นน้องเฮอร์ แต่ไม่ได้หมายความว่า ครอบครัวผมจะรับได้นะครับ ทุกวันนี้พ่อแม่ผมก็ยังไม่รู้ว่าผมเลิกกับเบลล์แล้ว ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีแฟนใหม่ แถมยังเป็นผู้ชาย
“ งั้นก็พาไปเปิดตัวเลยอะดิ พ่อแม่พี่ฮิมก็รับได้แล้ว คราวนี้ก็พ่อแม่ไอ้หยุ่น มึงบอกพ่อแม่มึงยัง " ทุกคนหันมองหน้าผมที่เหมือนจะกำลังจะพูดลำบาก ผมมองหน้าไอ้ฮิมที่ตอนนี้มันก็มองผม
“ เติมเหล้าให้หน่อย " มันบอกไอ้บอทที่ก็จัดการให้ทันที
“ เต้นกันเถอะว่ะ กูเมื่อยตูดละ นั่งนาน " อาเนียมันจับมือพี่เต๋อให้ลุกขึ้นแต่พี่แกก็ส่ายหน้า อาเนียไม่เซ้าซี้ครับ แค่ย้ายไปจับมือเหมือนฝันกับไอ้ไฟที่ก็พร้อมใจกันลุก ผมมองไอ้ไฟที่ลุกออกไป มันคงเบื่อจริงๆครับเลยก็ไปยื่นนิ่งเป็นเสาให้สองสาวมันรูดขึ้นลง อยู่กลางฟอร์ เห็นมันโยกหัวไปมา ยกมือยกมือมันส์ไปตามเพลง หนุ่มๆหลายคนเดินเข้ามาหา แต่น่าจะเป็นสองสาวมากกว่าครับ ไม่ใช่มันหรอก มั้ง ?
เพลงมันส์ๆที่กำลังเริ่มเปิดแตกต่างจากเพลงนั่งชิวเมื่อครู่ ทุกคนต่างโยกย้ายไปเรื่อยแม้จะนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองดูสาวๆที่ยืนเต้นหัวเปียกก็ฮาครับ มันเป็นอะไรที่ไม่ต่างจากจิ้งเหลนโดนไฟเผาในความคิดผม เหล้าถูกรินหมดไปเรื่อยๆตามจังหวะเพลงและบทสนทนา ตอนนี้ไอ้บอทไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้แล้วครับ มันออกไปดิ้นเหมือนกัน คงไม่รู้จะฟังอะไรจากแก้งค์วิศวะที่ก็คุยกันแต่เรื่องค่าย
ผมยกแป็ปซี่ขึ้นดื่มจนหมดแล้ว เหมือนกำลังนั่งคนเดียวแต่โดนจับจ้อง มองไปรอบๆก็ยากเกินที่จะหาตัว แต่บางทีผมว่าก็ดูไม่ยากครับ ก็ถ้ามึงจะจ้องกูขนาดนี้นะ ฝรั่งหัวดำที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับผมในอีกที่นึงที่โต๊ะสูงกว่า มันเลยมองผมได้ชัด หรือว่ากูคิดไปเองว่ะ
เลิกคิ้วมองมันเหมือนถามว่า มองกูทำไมว่ะ มันก็ยกแก้วเหล้าที่มันดื่มขึ้นมาตรงหน้าเป็นการทักทาย ผมมองซ้ายดูขวา ก็ทักกูนะ ผมเหล่มองมัน ไม่เคยเจอครับแบบนี้ ทำตัวไม่ถูก ก้มหน้าลงกินน้ำตรงหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เห็นครับ ผมไม่เห็น อะไรทั้งนั้น
“ ขอโทษครับ " สิบนาทีที่ภาพเมื่อกี้กำลังถูกลืมไปจากผม เสียงนี้ก็ดังขึ้น บริกรเสริ์ฟยื่นแก้วเหล้าแปลกๆมาตรงหน้าผม มันเป็นเหมือนแก้มสามเหลี่ยมปากกว้างๆครับ " ดราย มาร์ตินี่ ครับ " ทุกคนหันมองหน้าผม แก้วถูกตั้งไว้ตรงหน้า ไอ้ฮิมขมวดคิ้ว
“ มึงสั่งตอนไหน "
“ กูไม่ได้สั่ง ผิดโต๊ะแล้วครับ ผมไม่ได้สั่ง "
“ ถูกแล้วครับ คุณผู้ชายโต๊ะนั่น สั่งมาให้คุณ " ผายมือกว้างไปหาคนใจดี ว่าทำไมกูรู้สึกได้กลิ่นของความซวยมันตีเข้าจมูกจัง ฝรั่งคนเมื่อครู่ ยกแก้วเหล้าอีกครั้ง
“ ขอบคุณนะครับ " ผมตอบก่อนจะจับแก้วนั่น ขึ้นมายกทักทายคนที่อุตส่าห์เลี้ยง ทั้งโต๊ะเงียบกริบ ในนาทีที่ผมกำลังจะกินเข้าปาก ขอบปากที่แตะลงที่แก้ว " เอ้ยยยยยย " ช้าไปหน่อยครับ ไอ้ฮิมมันกินของผมเข้าไปแล้ว ผมอ้างปากค้างมองแก้วที่ว่างเปล่า " เหี้ยยยยยย ของกู "
“ แล้วไง กูจะแดก " มันเอื้อมมือมากอดคอผม ดึงให้เข้ามานั่งใกล้มัน สายตาของมันไม่ได้จ้องมองผม แต่มองไปที่ฝรั่งคนนั้นที่ลุกจากเก้าอี้ดูท่าทางว่าจะเป็นลูกครึ่งมากกว่าครับ ไม่ใช่ฝรั่งแท้หรอก เค้าเดินตรงเข้ามาหาผม ท่าทางของเขาเหมือนกำลังโมโห
ฝรั่งลูกครึ่งตัวโตร่างสูงผมสั้นรองทรงเดินตรงเข้ามาใกล้ ท่าทางของคนที่ไม่ทุกข์ร้อนข้างๆผม แตกต่างจากเพื่อนสนิทสองคนของมันที่ขยับตัวนั่งให้เข้าที่ แต่ผมเรียกว่าเป็นท่าทางที่ลุกง่ายมากกว่า อย่ามาต่อยกันเพราะกูนะครับ กูอาย
“ เฮ้ ทำไมมึงทำแบบนี้วะ กูไม่ซื้อให้มึงนะ กูซื้อให้มัน " ว่าแล้ว เสียงไทยชัดเจน ก็คงจะลูกครึ่งจริงๆ ว่าแต่ชาติไหนว่ะ.. เอาจริงๆผมจะสนทำไมว่ะ
“ แล้วไง ก็มันเป็นแฟนกู พ่อแม่มึงสอนเหรอ ให้ยุ่งกับเมียชาวบ้านนะ " คำสั้นๆที่กวนตีนได้อีกครับ ผมมองหน้ามันสลับกับหน้าของฝรั่งที่ยืนค้ำหัวเรา ไอ้ฮิมเงยหน้าขึ้นมอง ผมรู้ว่ามันไม่กลัว แต่ตอนนี้กำลังลุกขึ้นนั่งให้ตัวมันบังผมเอาไว้ได้มากที่สุด มันเกลียดการที่ใครจะมามองผม มองด้วยสายตาที่มันมอง เพราะมันยึดหลักว่า สายตาแบบนี้มันมองได้คนเดียว ดันผมมาไว้ด้านหลังพิงกับโซฟา ในที่ที่แน่ใจว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นผมจะปลอดภัย
“ แฟนมึงแล้วไง กูพอใจจะซื้อเลี้ยง "
“ อย่ากวนตีนกู ไอ้ฝรั่ง ถ้ามึงไม่อยากเจอตีน " มันลุกขึ้นแล้วครับ ผมรีบลุกตามจับไหล่มันไว้ อยากให้มันใจเย็นกว่านี้ ไอ้ฮิมเป็นคนใจร้อน มันร้อนโดยสันดาน มันดึงไหล่ออกจากมือผม หันมามองหน้า
“ เชี้ยฮิม " ผมส่ายหน้าบอกมันแต่เหมือนมันจะไม่สนใจแล้วครับ มันหันมามองหน้าผมก่อนจะมองหน้าอีกคน พวกมันสูงเท่าๆกัน มีเรื่องกันผมไม่รู้ว่าใครจะแพ้ใครจะชนะ แต่ว่าไม่ว่ายังไงเราก็เสียเปรียบ เราไม่มีคนใหญ่คนโตที่เรารู้จัก เค้าเป็นคนต่างชาติก็น่าจะแขกของโรงแรม แต่เราไม่ใช่ ยังไงลูกค้าของเค้าต้องสำคัญกว่าขาจรอย่างพวกเรา
“ อย่ายุ่งกับของของกู " มันยกเสื้อของผู้ชายคนนั้นเข้ามาใกล้พูดใส่หน้าแบบไม่กลัว ย้ำทีละคำครับ แต่ประโยคที่ตอบกลับมาเป็นการยกยิ้มและดูถูกที่เหลือร้าย
“ คนแบบนี้ มันใครก็ได้ ฟรีๆอยู่แล้ว ก่อนหน้ามึงก็เยอะแล้ว หวงทำไม ไปกับกูแค่คืนเดียว กูเอาไม่กี่รอบหรอก "
“ ไอ้เชี้ยนี่แม่ง! ผลั๊ก!! ” ซัดเข้าเต็มหมัดและผมคิดว่านั่นดีที่สุดแล้ว ยืนมองไอ้ฮิมต่อยมันจนล้ม หมัดต่อหมัดซัดด้วยความโกรธแบบไม่หยั้งแรง เพื่อนของฝรั่งเดินเข้ามาจะช่วยแต่ถูกไอ้บอท ไอ้พี่เต๋อพี่บินห้ามไว้ ไอ้ไฟกันอาเนียกับเหมือนฝันให้ออกห่าง
มันถอนหายใจแรงมือมีแต่เลือดก่อนจะซัดตีนเข้าไปไม่ยั้ง มองดูมันจากตรงนี้ เหมือนในใจของผมร่ำร้องแค่คำที่พูดว่า เอาอีกดิว่ะ ใส่มันอีก กล้ามาว่ากูได้ไง กูรักมึงคนเดียวแท้ๆ พูดเหี้ยอะไรออกมา รู้จักกูดีนักรึไงว่ะ แม่ง
สมองของผมสั่งให้ร่างกายของผมยืนนิ่ง มองดูคนที่กำลังร้องขอชีวิตจากฝ่าเท้าไอ้ฮิม ไม่มีใครห้ามปราม ผมก็เช่นกัน เหมือนล่องลอยแล้วเอาแต่สะใจมองดูคนที่มันว่าผม จุดบอดของผมคงเป็นสิ่งนี้ มองดูความเจ็บปวดของคนอื่นที่ด่าว่าเราด้วยสายตาสมน้ำหน้า มีแต่คำว่าอยากจะให้มันเจ็บมากกว่านี้ทุกวินาทีเพราะมึงทำกูก่อน มึงก็สมควรจะโดน
กว่าจะรู้ตัวอีกทีทั้งร้านก็วุ่นวายไปหมดแล้ว ไอ้ฮิมถูกแยกตัวออกมาจากฝรั่งด้วยมือของเพื่อนมันทั้งสองคนเพราะเพื่อนไอ้ฝรั่งขอร้องให้ช่วย อาเนียเหมือนฝันมายืนอยู่ข้างๆผม ไอ้บอทไอ้ไฟช่วยพยุงฝรั่งคนนั้นที่ผมไม่เรารู้จักแม้ชื่อ ตีนของไอ้ฮิมยังคงส่งออกมา พยายามจะถีบมันอีกครั้งให้ได้ สะบัดจนหลุดออกจากเพื่อนมัน ตรงมากระชากคอฝรั่งคนนั้นที่เลือดกลบปากตัวงอ
“ ของของกู กูรู้ดีว่ามันเป็นยังไง อย่ากร่างมาตัดสินคนของกู แล้วคราวหลังอย่ามายุ่งกับของของคนอื่นอีก ของกู กูรักของกู จำไว้ ไอ้สัด " ผลักร่างของฝรั่งคนนั้นลง ไม่มีใครสนใจแล้ว ผมสังเกตเห็นไทยมุงโดยรอบแต่เหมือนระบบความปลอดภัยของที่นี่จะช้า ยามวิ่งเข้ามาในตอนที่ไอ้ฮิมคว้ามือผมให้ออกเดินออกไปจากร้านแล้ว ทุกคนแยกย้ายกลับไปคนละทางเหมือนไม่ได้มาด้วยกัน เป็นวิธีที่ทำให้จับคนกระทำความผิดยาก แต่ผมคิดว่ายังไงก็ต้องมีกล้อง เรื่องคงเป็นประเด็นหลังจากนี้
“ ไม่ต้องกลัว เนียจะให้ป๊าจัดการให้เองค่ะ " เสียงของอาเนียที่ผมได้ยินมาพร้อมกับฝ่ามือที่จับไหล่ผม ผมกับไอ้ฮิมเดินแยกมาหลังร้าน อาเนียเดินวกกลับไปด้านหน้าร้านกับเหมือนฝันหลังพูดประโยคนั้นจบคงจะเข้าไปคุยกับเจ้าของร้าน ทุกอย่างอยู่ในสภาวะที่เงียบ มือมันที่จับผมไว้แน่นสัมผัสได้ถึงความโกรธ
“ มึง ..” ยังไม่ทันจะพูดได้เต็มประโยค มันพุ่งเข้ามาหาผม บดรูปปากของมันมาแนบปากของผม ลูบมือเข้ามาในเสื้อกอดเอวผมไว้แน่น ลิ้นที่ดันเข้ามาผมตอบรับแม้จะดุเดือดเพราะอารมณ์กรุ่นโกรธแค่ไหน
“ อย่าทำแบบนั้นอีก อย่าให้ใครมายุ่งกับมึง กูไม่ชอบ อย่าทัก อย่าสนใจอีก " ยิ่งพูดก็ยิ่งกอดผมแน่น ปากที่ดูดกันรุนแรงขึ้นจนรู้สึกเจ็บไปทั้งปาก การดูดแรงๆที่ไม่มีแม้เวลาหายใจ " มึงเป็นของของกู อย่ายิ้มให้ใครที่สนใจมึง อย่าทำเป็นว่ามึงสนใจเค้า กูไม่ชอบ "
“ กูไม่ได้ทำ อื้ออ มึง " มันเลื่อนมือขึ้นมาบีบหัวนมของผม แรงจนต้องหดร่าง " เค้าก็แค่ซื้อให้กู กูแค่ทักทายเค้าตามมารยาท "
“ อย่าให้กูต้องทนไม่ไหว กับความใจดีของมึงอีกเป็นครั้งที่สอง " มันละหน้ามามองผม สายตาดุดันจ้องมองมาเป็นความรู้สึกที่ทำได้เพียงแต่ก้มหน้า สายตาจริงจังที่มีแต่ความรู้สึกโกรธปะปนกับความเสียใจ " กูไม่ได้ใจดีขนาดนั้น ไม่ได้ใจดี ถ้ามีใครจะมาสนใจของรักของกู "
“ เออ " ผมพยักหน้า กัดปากตัวเองที่เริ่มหายชาและตอนนี้มันก็เจ็บไปหมด ไอ้ฮิมใช้นิ้วโป้งลูบลงบนปากของผม " เจ็บ มึงแม่ง..”
“ เพราะมึงเป็นทุกอย่างของกูไปแล้ว ต่อไปมึงต้องลำบากกว่านี้แน่ เพราะมึงกลายมาเป็นคนที่กูรักที่สุดไปแล้วหยุ่น "
คนตรงหน้าของผมก้มหน้า ละมืออกจากเอวของผม กำมันไว้แน่น ผมรู้ว่ามันรู้สึกยังไง เหมือนเป็นคำปลอบใจที่เอ่ยออกมาว่า ' กูไม่ใช่คนดี เป็นคนอารมณ์ร้อนที่ใครเข้าใกล้มึงก็ยังไม่ได้ ต่อไปนี้กูอาจจะเป็นมากว่านี้ อาจจะหนักกว่านี้ แต่เพราะกูรักมึง อย่าทิ้งกูไปก่อนนะ ' ประโยคขอร้องที่มาให้รูปแบบที่เราต้องคาดเดา
มันที่ไม่เคยมีอะไรเป็นของสำคัญของตัวเอง ไม่เคยมีของรัก คนที่ต้องเสียสละทุกอย่างตลอดเวลา คนที่ไม่เคยมี และวันนึงได้มี มันยากที่จะทนทำใจว่าต้องเสียไป ผมไม่ต่างจากมันหรอกครับ มันไม่อยากเสียผม ผมเองก็ไม่อยากเสียมัน เพราะวันนี้ผมมีความรักแล้ว และไม่เคยคิดว่าจะเสียมันไป เป็นความเห็นแก่ของมนุษย์ทุกคน ต่างกันแค่ยอมรับได้แค่ไหน
“ ไม่เป็นไร ยังไงกูก็อยู่กับมึง "
ความรักที่กำลังยาวไปต่อไปจากนี้ จะทำให้ผมกับมันเรียนรู้ ของดีและของเสีย ของกันและกันไปทีละอย่าง มันเป็นคนดีที่เอาใจใส่ผมเสมอ แต่วันนี้ข้อเสียของมัน คือการขี้หึงแบบไม่ฟังใคร ไม่รู้สิครับว่านานวันไป ความขี้หึงของมัน จะไม่เป็นไรสำหรับผม รึเปล่า ผมไม่แน่ใจหรอกครับ
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่ว่าใครก็ตอบไม่ได้
..........................................................
เขินเว้ยยยยย เขินนนนนนน

จริงๆกะเก็บไว้ ลงวันศุกร์ เทมไฟจะลง วันอาทิตย์ แต่คิดไปคิดมา
ลงวันนี้ดีกว่า เทมไฟจะได้ลงวันศุกร์ .. ไม่รู้จะโอเครึเปล่า กำลังแต่งอยู่
เอาเป็นว่า อ่านอย่าง เป็นกลางในตอนหน้าดีกว่าโน๊ะ อย่าคาดหวังกับฉันเลย

ฟังเพลง กันเถอะ
http://www.youtube.com/watch?v=cl88QEll-Xcใครมีทวิต หนมฝากแท็ก #BTS #สถานีรัก