ตอนที่ 32หวางหลี่ผิง“เรื่องจ้าวเพ่ยซาน เฮียหลี่ผิงจัดการอย่างไรครับ เล่าให้ธันว์ฟังได้มั้ย”
ท่าทางหลบเลี่ยงไม่ยอมให้ผมได้สูดกลิ่นแก้มหอมๆแต่โดยดีของคนรัก ไม่ทำให้ผมสะดุดลมหายใจได้เท่ากับเสียงหวานๆ ที่ส่งคำถามมาให้ผมของน้อง บวกกับดวงตากลมแป๋วแหววจ้องผมอย่างรอคอย ทำเอาผมเริ่มหนักใจ ด้วยเรื่องที่น้องธันว์อยากรู้นั้น มันเกิดเรื่องเกินกว่าที่เราตั้งใจไว้มากนัก
เมื่อผมเหลือบมองรอบตัว จึงพบว่าทุกสายตาจ้องมาทางเราทั้งคู่อยู่ก่อนแล้ว คงเพราะได้ยินคำถามของน้องธันว์พร้อมกับผม ไม่เว้นปาปาหลี่จวินและไอ้ไรอัน ที่ก่อนหน้ากำลังมีประเด็นร้อนเรื่องเหมยอิงต่อกันอยู่ ซึ่งทั้งคู่หรือแม้แต่ไอ้พอลและไอ้โจเซฟ แสดงความกังวลออกมาทางดวงตาไม่ต่างกัน แต่กลับมามาเฟิงหวง เหมยอิง และเพื่อนๆของคนตัวเล็กบนตักผมนั้น แสดงออกชัดถึงความอยากรู้ไม่ต่างจากน้องธันว์นัก
“ปาปาครับ” ผมเรียกปาปากึ่งขอความเห็นว่าจะเล่าเรื่องที่น้องอยากรู้ดีมั้ย
เมื่อท่านพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต ผมจึงกระชับเอวบางเข้าหาตัว ก่อนลงมือลูบเส้นผมนิ่มๆไปด้วย เมื่อเห็นว่าดวงตาคู่สวยเริ่มฉายแววแห่งความกังวลออกมา
เรื่องทั้งหมดจะไม่น่าหนักใจเท่านี้เลย หากว่าตอนนี้จ้าวเพ่ยซานไม่อยู่ในอาการโคม่า แต่อย่าเพิ่งคิดกันไปไกลว่าแก๊งหวางหย่งกังของเรานั้นโหดเหี้ยม ถึงขั้นคิดบัญชีแค้นด้วยการเข่นฆ่า แม้เมื่อแรกรู้ว่าจ้าวเพ่ยซานลักพาตัวน้องธันว์ไป ผมจะมีความคิดนั้นก็ตาม แต่การที่เธอต้องไปนอนโรงพยาบาลอยู่ขณะนี้ เกิดขึ้นเพราะตัวเธอเอง!?
เมื่อเช้าผมต้องตัดใจทิ้งคนรักตัวน้อยให้นอนอยู่ในห้องตามลำพัง เพื่อเข้าแก๊งพร้อมปาปา ด้วยมีภารกิจที่ต้องสะสาง คือการเคลียร์เรื่องจ้าวเพ่ยซาน คนที่เป็นตัวการของเรื่องวุ่นวายทั้งหมด ทั้งๆที่ผมอยากนอนกอดร่างนุ่มนิ่มของน้องธันว์ต่อใจแทบขาด ด้วยเราเพิ่งผ่านบทรักแสนอ่อนหวานมาด้วยกัน
แต่สิ่งที่ผมทำได้ดีที่สุดคือการฝากน้องไว้กับมามาเฟิงหวง เพราะคาดไว้ว่าเมื่อน้องตื่นขึ้นมา คนเก่งของผมคงรู้สึกผิดแปลกไปไม่มากก็น้อย ด้วยผมไม่เคยปล่อยน้องให้ต้องตื่นเช้าขึ้นมาบนเตียงตามลำพังมาก่อน
เมื่อผมและปาปาถึงแก๊งก็ให้นึกแปลกใจ ด้วยเจอหน้าเพื่อนสนิททั้งสามรออยู่ก่อนแล้ว ซึ่งผมไม่ต้องเอ่ยปากถามสักนิด ไอ้ไรอันก็เป็นฝ่ายบอกว่าพวกมันเป็นห่วงผมและน้องธันว์มาก ในคราแรกที่รู้ว่าผมบุกไปช่วยน้องถึงรังศัตรูด้วยตัวเอง และมีต่อว่าด้วยว่าทำไมมีเรื่องผมถึงไม่บอกพวกมัน เพราะพวกมันเต็มใจให้ความช่วยเหลือผม เป็นทัพเสริมอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ดังนั้นพวกมันจึงรวมตัวกันทันทีที่รู้เรื่อง และชวนกันมาดักรอเพื่อต่อว่าผมถึงแก๊งนั่นเอง
ไอ้ผมก็ดีใจอยู่หรอกว่ามีเพื่อนดีตามมาถามไถ่กันถึงที่ แต่ความสงสัยมันมีมากกว่าว่าพวกมันรู้เรื่องได้อย่างไร ในเมื่อเรื่องที่น้องโดนลักพาตัวไป พวกเราไม่คิดจะบอกใคร ด้วยเป็นห่วงความปลอดภัยของน้องเป็นหลัก กลัวว่าหากแก๊งอื่นรู้เข้า พวกมันจะสร้างสถานการณ์ซ้อนทำให้วุ่นวายมากกว่าเดิม แต่ผมไม่เคยคิดว่าหากพวกเพื่อนๆรู้มันจะบอกต่อหรอกครับ ผมเลือกที่จะไม่บอกเพราะว่าไม่อยากให้พวกมันเดือดร้อนต่างหาก และเชื่อว่าลำพังผมจะจัดการตามแผนได้สำเร็จอยู่แล้ว
ส่วนคำตอบของคำถามที่ผมได้ยินนั้น ทำเอาผมเท้ากระตุกคันยิบๆขึ้นมาเชียว ด้วยคนตอบคำถามคือไอ้ไรอันที่มีท่าทางอ้ำอึ้งนิดหน่อย ก่อนบอกว่ามันรู้เรื่องมาจากเหมยอิง ท่ามกลางรอยยิ้มยียวนของไอ้พอลและไอ้โจเซฟ ที่ส่งตรงมาให้ผมโดยเฉพาะ ซึ่งท่าทางที่ไม่ปกติของผมและไอ้ไรอันคงทำให้ปาปาหลี่จวินติดใจ จนเป็นที่มาของบทสนทนาของท่านที่มีต่อไอ้ไรอันนั่นเอง ซึ่งสถานการณ์นั้นได้สร้างความพอใจให้ผมอยู่ไม่น้อย ไม่ใช่ว่าผมโกรธเกลียดไอ้ไรอัน แต่อยากให้มันสำนึกไว้มากกว่า ว่าเหมยอิงเป็นที่รักของทุกคนในตระกูลหวาง อย่าได้คิดมาล้อเล่นเด็ดขาด
ส่วนจ้าวเพ่ยซานตอนที่พวกเราได้พบเธอนั้น อยู่ในสภาพที่หมดท่าไม่เหลือคราบจิ้งจอกสาวพันปีสักนิด ด้วยนั่งก้มหน้าไม่สนใจสิ่งรอบตัว หัวยุ่งกระเซิง ใบหน้าเลอะไปด้วยคราบเครื่องสำอาง เสื้อผ้ายับย่นหมดราศีหัวหน้าแก๊งจ้าวไปเลย
แม้ผมและปาปาจะเสนอให้เธอได้อาบน้ำทานอาหารก่อน ด้วยเห็นแก่คุณธรรมในเพื่อนมนุษย์ ซึ่งเธอก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง แต่จะให้เราปล่อยตัวไปโดยไม่มีบทลงโทษก็ไม่ได้ เพราะจ้าวเพ่ยซานอาจจะเยาะเย้ยแก๊งหวางหย่งกังทีหลังได้ว่าไม่แน่จริง หรือถึงขั้นไม่เกรงกลัวและกลับมาสร้างสถานการณ์เลวร้ายในภายภาคหน้าได้อีก ปาปาจึงยื่นบทลงโทษต่อจ้าวเพ่ยซาน
‘ในเมื่อแก๊งจ้าวไม่คิดจะเกรงกลัวต่อคำเตือนที่แก๊งหวางหย่งกังของเราได้เตือนไว้ แต่กลับสร้างเรื่องให้ทุกอย่างแย่ลง อย่างการลักพาตัวคนสำคัญของแก๊งหวางไป ดังนั้นต่อไปนี้พื้นที่ที่แก๊งจ้าวเคยดูแลอยู่ ขอให้ถอยออกไปซะ เพราะแก๊งหวางหย่งกังจะเข้าไปดูแลรับผิดชอบเองทั้งหมด ส่วนคุณขอให้อย่ามาสร้างความเดือดร้อนกับแก๊งเราอีก เพราะหากไม่เชื่อฟังกัน ถึงเวลานั้นแม้แต่ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่มี!!...หวังว่าจะเข้าใจ ผมจะให้ลูกน้องไปส่งคุณที่คฤหาสน์ แต่คุณกลับได้แค่คนเดียว คนอื่นๆที่เราจับกลับมาด้วย คงให้กลับไปด้วยไม่ได้’
ผมเห็นด้วยกลับการตัดสินโทษจ้าวเพ่ยซานครั้งนี้ของปาปาอย่างยิ่งครับ อย่างการยึดพื้นที่และการกักตัวคนของแก๊งจ้าวไว้ จุดประสงค์เพื่อตัดอำนาจของจ้าวเพ่ยซานไม่ให้มาก่อความเดือดร้อนให้เราอีก และการไว้ชีวิตเธอก็ถือว่าสมเหตุสมผลแล้ว เพราะไม่มีใครต้องจากไปจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งสิ่งที่จ้าวเพ่ยซานเหลืออยู่คงไม่สามารถกลับมาสร้างความเดือดร้อนให้เราได้อีกแล้ว แต่ก่อนที่ผมและคนอื่นๆจะออกจากห้อง อยู่ๆจ้าวเพ่ยซานก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งขึ้นมา
‘ฮึๆ ฮ่าๆๆๆ นี่เรอะแก๊งหวางหย่งกัง ฮ่าๆๆ ทำได้แค่นี้รึไง วันนี้พวกแกใจอ่อนปล่อยฉันไป แต่คอยดูนะสักวันฉันจะกลับมาแก้แค้น เอาให้เหมือนไอ้ฟุฉินเลย ไอ้เลวนั่นสมควรตายแล้ว ที่ทำกับลูกถิงอินของฉัน ฮ่าๆ แน่จริงก็ฆ่ากันให้ตายไปเลยสิ ไม่งั้นฉันจะฆ่าพวกแกทุกคนเอง!!’
ผมกับปาปาสบตากันชั่วแวบ และมองเจ้าเพ่ยซานด้วยสายตาเวทนาปนสงสาร ด้วยดูเหมือนว่าเธอสติวิปลาสไปแล้ว เพราะถึงขั้นพร่ำเพ้อถึงสามีและลูกที่ตายไปแล้วออกมา ผมคิดว่าเธอคงมีอดีตที่ฝังใจไม่น้อย ทำให้จ้าวเพ่ยซานสติหลุดได้เช่นนี้ จึงยิ่งตอกย้ำว่าต่อจากนี้เธอคงไม่สามารถทำอะไรเราได้อีก ปาปาคงคิดไม่ต่างจากผม ด้วยพยักหน้าส่งสัญญาณให้เราได้กลับบ้าน
แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น เมื่ออยู่ๆจ้าวเพ่ยซานที่มีท่าทางอ่อนแรง หลังตะโกนโวยวายด้วยน้ำตานองหน้านั้น วิ่งพุ่งตัวเข้าหาปาปา เพราะเธอคงตั้งใจผลักท่านให้ตกบันไดที่กำลังก้าวลงไปนั่นเอง แต่ปาปาหลี่จวินที่เหมือนระวังตัวอยู่แล้วพลิกตัวหลบ จึงทำให้จ้าวเพ่ยซานลอยละลิ่วตกลงไปยังที่พักชานบันได และนอนแน่นิ่งไม่ได้สติ ก่อนเธอจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล และอยู่ในห้องไอซียูด้วยอาการโคม่าจนถึงขณะนี้
“โชคดีจังที่ปาปาไม่เป็นอะไร แต่น่าสงสารจ้าวเพ่ยซานเหมือนกันนะครับ”
จบประโยคบอกเล่าของผมเท่านั้น เจ้าของร่างนุ่มนิ่มบนตักของผมก็แสดงสีหน้าโล่งอก พร้อมมองไปทางปาปาและระบายยิ้มอ่อนหวาน ให้ท่านได้ยิ่งเอ็นดูสะใภ้ตัวน้อยยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม ก่อนน้องธันว์จะเอียงหน้ามามองผม ด้วยสีหน้าเศร้าๆยามเอ่ยถึงจ้าวเพ่ยซาน
ท่าทางของคนรักตอนนี้ไม่ผิดไปจากที่ผมคาดการณ์ไว้ จึงสร้างความหนักใจให้ผมแต่แรก และเป็นเหตุผลที่ผมไม่อยากจะเล่าเรื่องนี้ให้น้องฟัง ซึ่งไม่ใช่มีแค่น้องธันว์เท่านั้นที่ดูหงอยลงผิดตา แต่ยังมีน้องสาวคนสวยของผมด้วย เหมยอิงจับมือมามาเฟิงหวงไว้แน่น และยืนหน้าหงอยตาโศกอย่างน่าสงสาร ทำเอาไอ้ไรอันจ้องน้องสาวผมหน้าเครียดไปอีกคน และมันคงลืมตัวว่าอยู่ต่อหน้าปาปา
แต่ยังดีที่ท่านแค่มองมันนิ่งๆ ไม่ถึงขั้นไล่มันออกจากบ้าน ข้อหาทำอะไรไม่เกรงใจคนเป็นพ่อสักนิด ผมว่าคงเป็นเพราะมีมามาเฟิงหวงนั่งอยู่เคียงข้าง คอยส่งยิ้มปลอบใจให้ปาปาอยู่ด้วยเป็นแน่ ท่านถึงยังวางเฉยอยู่ได้ ส่วนคนอื่นๆก็แค่ทำหน้าเครียดมีสีหน้าครุ่นคิดเท่านั้น
ผมจึงหันมาสนใจเด็กขี้สงสารของตัวเอง ด้วยการกอดกระชับเอวบางแน่นขึ้น และวางคางลงบนไหล่น้อง ก่อนโยกตัวเด็กน้อยเบาๆ ซึ่งน้องธันว์เองก็เอียงแก้มซบลงกับศีรษะผม พร้อมวางแขนทับท่อนแขนผมและกอดเข้าหาตัว หากถามผมว่าสงสารจ้าวเพ่ยซานมั้ย คงตอบว่าสงสารครับ แต่ไม่เท่ากับความกังวลในอาการของน้องธันว์ตอนนี้ ด้วยรู้นิสัยเด็กน้อยของตัวเองดีว่า น้องคงใส่ความรู้สึกสงสารไปกับเรื่องของจ้าวเพ่ยซานจนหมดใจเชียวล่ะ ส่วนอาการที่จ้าวเพ่ยซานเป็นก็เกิดจากตัวเองโดยแท้ คิดจะทำร้ายผู้อื่นแต่ผลกรรมนั้นกลับไม่พ้นตัว
“แล้วหมอว่ายังไงบ้างคะ” คำถามของเหมยอิงคงไม่ต้องบอกนะครับ ว่าใครมันเสนอหน้าตอบ
“หมอให้รอดูอาการในห้องไอซียูค่ะ ถ้าเธอฟื้นก็พ้นขีดอันตราย แต่ตามร่างกายมีรอยฟกช้ำ แขนซ้ายเดาะ ข้อเท้าขวาหัก ศีรษะแตกเย็บไปสิบเข็มค่ะ เหมยอิงอย่ากังวลเลยนะคะ ไรอันว่า....”
“อะแฮ่ม มากไปแล้ว” เสียงกระแอมนี้ไม่ใช่ของผมนะครับ แต่เดาไม่ยากว่าเป็นของใคร
ทันทีที่ปาปาดักคอปุ๊บ ไอ้ไรอันก็ปิดปากฉับ หยุดน้ำเสียงอ่อนโยนพร้อมคำลงท้ายและคำแทนตัวที่แสนอ่อนหวาน ซึ่งทำเอาบรรดาเพื่อนสนิททุกคน รวมถึงน้องๆที่นั่งในห้องอึ้งกันเป็นแถบ เพราะต่างไม่เคยได้ยินมันใช้ถ้อยคำเหล่านี้กับใครมาก่อน
ส่วนเหมยอิงเองมีเพียงรอยยิ้มน้อยๆ ไม่แสดงท่าทีแตกตื่นแปลกใจอะไร บ่งบอกได้ว่ายามสองคนนี้คุยกัน ไอ้ไรอันมันคงใช้ถ้อยคำเหล่านั้นเป็นปกตินั่นเอง คิดได้แบบนี้ผมล่ะหมั่นไส้มันติดหมัด จนอยากจะตั๊นหน้าแม่งให้หายหมั่นไส้ แต่มีคนตัวเล็กเขย่าแขนเบาๆ พร้อมส่ายหน้าน้อยๆ และส่งสายตาออดอ้อนสื่อให้ใจเย็นๆมาให้ ผมจึงได้แต่ข่มใจและกอดร่างนุ่มนิ่มไว้แทน ก่อนขโมยหอมแก้มใสเบาๆเป็นค่าจ้างอีกสักที
เมื่อผมแอบเหลือบตาไปทางปาปาก็ให้นึกขำเล็กๆ เพราะท่านก็มีอาการฮึดฮัดจ้องไอ้ไรอันเขม็งไม่ต่างจากผม และมีมามาคนสวยคอยลูบหลังมืออย่างอ่อนโยน พร้อมส่งยิ้มสยบมังกรให้ท่านได้เย็นลง หลังจากนั้นเหมยอิงจึงเข้ามานั่งแทรกกลางระหว่างผมและปาปา ก่อนคล้องแขนเราทั้งคู่ไว้
“เหมยอิงรักปาปาและเฮียหลี่ผิงนะคะ” เหมยอิงก็เป็นซะแบบนี้ แล้วจะให้ผมกับปาปาใจแข็งโกรธเจ้าตัวที่เปิดใจรับผู้ชายคนอื่นเข้ามาได้อย่างไรกันครับ
คำพูดของเหมยอิงทำให้ผมและปาปาได้แต่นั่งอมยิ้ม แต่พอผมได้เห็นสีหน้าภาคภูมิใจของไอ้ไรอัน ยามมองเหมยอิงแล้ว พาลให้ขุ่นใจยังไงพิกล
“เฮียหลี่ผิงครับ แล้วฟุฉินกับถิงอินเป็นใคร เกี่ยวข้องยังไงกับจ้าวเพ่ยซาน” คำถามของนายนนนั้นเป็นสิ่งที่คาใจผมอยู่เช่นกัน ดูท่าจะสร้างรอยแผลในใจแก่จ้าวเพ่ยซานไม่น้อย เพราะถึงขั้นเพ้อออกมาตอนหน้าสิ่วหน้าขวานเช่นนั้น
“ฟุฉินเป็นสามี ส่วนถิงอินเป็นลูกที่ติดมาจากสามีเก่าของจ้าวเพ่ยซ่าน ทั้งคู่จากโลกนี้ไปแล้วครับ” คนที่ให้คำตอบนายนนคือมามาเฟิงหวงครับ
ยามที่มามาเฟิงหวงเอ่ยปากใบหน้าก็ดูเศร้าหมองขึ้นทันตา จนทำเอาปาปาหลี่จวินต้องเป็นฝ่ายกุมมือคู่ชีวิตไว้แทน ก่อนปาปาจะเป็นคนเล่าอดีตของจ้าวเพ่ยซานให้พวกเราฟัง
ปาปาเล่าว่าก่อนจ้าวเพ่ยซานจะขึ้นมาเป็นหัวหน้าแก๊งจ้าวนั้น เธอได้อยู่กินกับหัวหน้าแก๊งจ้าวคนก่อนซึ่งก็คือจ้าวฟุฉิน โดยขณะนั้นแก๊งจ้าวยังเป็นแค่แก๊งเล็กๆ ไม่ได้ใหญ่โตและมีลูกน้องมากเท่าปัจจุบัน และเธอมีลูกชายที่เป็นลูกของสามีเก่าติดมาด้วยคนหนึ่งชื่อถิงอิน ด้วยจ้าวเพ่ยซานมีหน้าตาที่สะสวยและเป็นผู้หญิงที่มากความสามารถ ทำให้จ้าวฟุฉินยกย่องจ้าวเพ่ยซานให้เป็นนายหญิงของแก๊งจ้าว
จนวันหนึ่งมีข่าวว่าลูกชายวัยสิบหกอย่างถิงอินกินยานอนหลับเกินขนาด และเสียชีวิตไปโดยไม่มีใครรู้เห็น ต่อจากนั้นไม่นานฟุฉินก็เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิตตามไปติดๆ ทำให้จ้าวเพ่ยซานได้ขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งจ้าว ก่อนเธอจะขยายแก๊งและสร้างอิทธิพลขึ้นเรื่อยๆ จนกลายมาเป็นแก๊งจ้าวอย่างในปัจจุบัน
“คนในว่ากันว่าที่ถิงอินฆ่าตัวตาย เป็นเพราะทนความอัปยศที่ถูกพ่อเลี้ยงขืนใจไม่ไหว ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดกับฟุฉินน่าจะมีสาเหตุมาจากจ้าวเพ่ยซานวางแผนขึ้น” สิ้นคำพูดของปาปาแล้ว ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ และผมรู้สึกถึงความหดหู่ที่โรยตัวปกคลุมไปทั่ว
เมื่อก้มมองคนบนตักแล้วก็ให้ใจหาย เพราะน้องธันว์เม้มปากแน่นมีแววตาหม่นหมอง ซึ่งน้องนั้นจ้องผมอยู่ก่อนแล้ว ผมจึงลูบหัวน้องเบาๆเพื่อปลอบใจเด็กน้อยของตัวเอง
“มิน่า จ้าวเพ่ยซานถึงเพ้อออกมาแบบนั้น เฮ้อออ น่าสงสารเธอนะครับ”
น้องธันว์พยักหน้ากับอกผม เพราะเห็นด้วยกับคำพูดของนายนน ก่อนน้องจะหันมามองผมพร้อมกระพริบตาปริบๆ อ่านได้ไม่ยากว่าเจ้าตัวต้องอ้อนขออะไรบางอย่างจากผมอย่างแน่นอน
“เฮียหลี่ผิงครับ พาธันว์ไปเยี่ยมจ้าวเพ่ยซานหน่อยได้มั้ย เพราะตอนที่ธันว์โดนจับตัวไป เธอไม่ได้ทำร้ายธันว์เลย และเหมือนจะเอ็นดูธันว์ด้วยซ้ำ นะครับ พาธันว์ไปเยี่ยมจ้าวเพ่ยซานหน่อยนะ” อาการเขย่าแขนที่มาพร้อมเสียงอ้อนๆของน้อง ทำให้ผมใจละลายจนไม่คิดปฏิเสธเลยครับ แต่อดจะขอความเห็นจากปาปาทางสายตาไม่ได้
เมื่อผมได้สบตาและท่านพยักหน้าให้แล้ว ผมจึงรับปากเด็กขี้อ้อนของตัวเองทันที ทำเอาน้องยิ้มแก้มปริตาหยีด้วยความถูกใจ
หลังจากนั้นพวกเรานั่งคุยเรื่องแก๊งจ้าวอีกนิดหน่อย ซึ่งปาปาลงความเห็นว่าต่อไปหวางหย่งกังคงไม่เดือดร้อนเพราะแก๊งจ้าวอีกแล้ว เพราะเราจะควบรวมอำนาจไว้เอง แต่จะไม่บังคับหากว่าใครไม่เต็มใจจะอยู่แก๊งเรา ส่วนจ้าวเพ่ยซานจะได้รับการรักษาอย่างดีจนปลอดภัย และปาปาจะจัดคนดูแลให้ระหว่างพักฟื้น แต่ต่อจากนั้นเราจะยังคงกักบริเวณจ้าวเพ่ยซานให้อยู่เพียงแค่ในคฤหาสน์จ้าว ป้องกันไว้ก่อนเป็นการดี หากเธอคิดแค้นก็ยังคงอยู่ในสายตาของเรา
“หลี่ผิงโทรรายงานทางธนอรรถย์ด้วย ทางนั้นสมควรรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องธันว์” ระหว่างที่ผมเดินตามน้องเข้าห้องอาหารนั้น ปาปาก็เดินขนาบข้างและพูดประโยคดังกล่าวออกมา
ผมจึงได้แต่รับปากเพราะคิดไว้เหมือนกันว่า ต้องบอกให้ทางครอบครัวน้องรู้ถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แม้จะโดนทางนั้นตำหนิผมก็มีหน้าที่แค่น้อมรับเท่านั้น เพราะน้องอยู่ในความดูแลของผม แต่ผมก็ยังปกป้องน้องไม่ดีพอจนเกิดเรื่องขึ้นมา
เมื่อผมและน้องธันว์ส่งไอ้ไรอันขึ้นรถหน้าคฤหาสน์เป็นคนสุดท้ายแล้ว ผมก็พาน้องเข้าบ้านเพื่อกลับขึ้นห้องของเรา และให้น้องต่อสายถึงครอบครัวที่ไทยให้ ซึ่งไม่ผิดจากที่คาดไว้ว่าน้องธันว์ต้องมีคำถามว่า ผมนึกอย่างไรถึงอยากคุยกับครอบครัวของน้อง ด้วยปกติเราจะโทรกลับไทยทุกวันอาทิตย์เป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งทุกครั้งน้องจะได้คุยกับคนในครอบครัวเกือบครบทุกคน เพราะเป็นวันครอบครัวของธนอรรถย์ที่ทุกคนพร้อมใจกันมารวมตัวเพื่อทานข้าวเย็น ส่วนผมก็จะอาศัยช่วงที่น้องคุยเสร็จแล้ว รับช่วงต่อเพื่อรายงานพฤติกรรมของเด็กน้อยพ่วงไปให้ผู้ใหญ่ทางธนอรรถย์รับทราบ
“เฮียต้องรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นกับน้องธันว์ให้ทางธนอรรถย์ทราบสิครับ” สิ้นคำผมเท่านั้น น้องธันว์ก็ค้านทันทีเพราะกลัวว่าผมจะโดนทางครอบครัวน้องต่อว่า แต่ผมก็ยืนกรานที่จะรายงานอยู่ดีครับ
น้องธันว์ทำหน้ามุ่ยขัดใจทันที แต่ก็ยอมกดโทรออก ก่อนยื่นโทรศัพท์มาให้ ผมจึงได้โอกาสดึงข้อมือน้องให้เจ้าของได้นั่งลงบนตัก เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมไปในตัว
ระหว่างรอทางนั้นรับสาย ผมก็กดจมูกไปที่แก้มใสและซอกคอขาวๆ เพื่อสูดกลิ่นหอมอ่อนๆของน้องไปด้วย หวังสร้างกำลังใจให้แก่ตัวเอง ซึ่งคนเก่งของผมก็ได้แต่ฮึดฮัดใส่อย่างขัดใจ แต่ก็ยอมให้ผมสูดกลิ่นกายหอมๆตามใจชอบ เมื่อน้องเอียงหน้ามามองกัน ผมจึงถือโอกาสแตะปากเข้ากับปากยื่นๆคู่นั้นอีกหนึ่งที ทำเอาคนเก่งเค้าทำแก้มป่องส่งค้อนวงใหญ่ๆให้เชียวล่ะ แต่ก่อนที่ผมจะกัดแก้มกลมๆตามใจคิด ปลายสายก็กดรับซะก่อน จากน้ำเสียงสดใสร่าเริงนี้ผมจำได้แม่นเลยครับว่าเสียงใคร
“น้องธารณ์ครับ เฮียหลี่ผิงเองนะ ขอสายปาป๊าธนิตหน่อยครับ” ผมเหลือบมองพี่ชายของคนปลายสายนิด และอดจะอมยิ้มไม่ได้จริงๆครับ เพราะน้องธันว์จ้องผมตาแป๋วด้วยกำลังลุ้นสุดตัว
น้องคงอยากรู้ล่ะว่าปาป๊าตัวเองจะว่าอย่างไร หากรู้เรื่องที่น้องโดนลักพาตัวเข้า ผมจึงโยกหัวกลมเบาๆก่อนระบายยิ้มให้เด็กบนตักได้สบายใจ ปฏิกิริยาของน้องคือการทำหน้ายู่แลบลิ้นใส่ ก่อนกระแทกหลังเข้าใส่อกผมเบาๆ นี่ถ้าไม่ติดว่ากำลังรอคุยกับผู้ใหญ่อยู่นะ ผมจะจับเด็กบนตักฟัดให้สมกับความน่ารักน่ามันเขี้ยวของน้องเชียวล่ะ
“ว่าไงตาหลี่ผิง ทำไมถึงโทรมาเวลานี้” เมื่อปาป๊าธนิตรับสายด้วยน้ำเสียงแปลกใจแล้ว
ผมอดหวั่นใจขึ้นมาไม่ได้จริงๆ จึงเรียกกำลังใจด้วยการสูดหายใจเฮือกใหญ่ แต่ยามที่สายตาเหลือบเห็นรอยยิ้มอ่อนหวานของคนรัก กำลังใจที่เริ่มหดหายกลับค่อยๆฟื้นคืน และเริ่มฮึกเหิมพร้อมที่จะรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่บุพการีของคนรัก
เพราะผมรู้ว่าไม่ว่าท่านจะต่อว่าผมอย่างไร ผมก็ยังคงมีน้องธันว์เป็นกำลังใจชั้นยอดให้ผมไม่ห่าง ขอแค่ผมยังมีน้องเคียงข้าง อุปสรรคอะไรที่ว่ายากหรือแม้แต่ถ้อยคำต่อว่าจากบุพการีของน้อง ผมก็พร้อมจะฝ่าฟันและสู้เพื่อคำว่า ‘เรา’ เสมอ
แต่ความเป็นจริงไม่มีอะไรหนักหนาอย่างที่ผมแอบคิดไปเอง เพราะปาป๊าธนิตไม่เพียงไม่ต่อว่าผม แต่ท่านกลับให้กำลังใจอย่างผู้ใหญ่ใจดีและเข้าใจโลกว่า เรื่องนี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว และมันก็จบที่น้องธันว์ไม่เป็นอะไร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับปาป๊าธนิต ดังนั้นท่านไม่มีอะไรจะต่อว่าผม
ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมน้องธันว์ถึงกลายเป็นเด็กที่น่ารักอย่างทุกวันนี้ ใครได้รู้จักน้องเป็นต้องรักต้องหลงไปซะทุกราย เพราะน้องมีพ่อที่รักและเข้าใจลูกแบบปาป๊าธนิตเลี้ยงน้องมานี่เอง แต่จะดีกว่านี้หากว่าผมสามารถซ่อนคนน่ารักคนนี้ไม่ให้ใครๆที่ว่านั้นได้รู้จักเด็กน้อยของผม
‘ขอผมเก็บคนน่ารักคนนี้ไว้ชื่นชมคนเดียวเถอะ ผมหวงของผมครับ’
......................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ไม่ว่าใครจะยากดีมีจนมาจากไหนก็หนีไม่พ้นผลกรรม
ซึ่งจ้าวเพ่ยซานได้รับผลของการกระทำแล้วค่ะ อภัยให้นางนะ
ส่วนเด็กน่ารักก็คงได้รับผลกรรมเช่นกัน เพราะไม่รู้คืนนี้
น้องธันว์จะต้องรับผลแห่งการกระทำ(ตัวน่ารักน่าฟัดมากกก)
จากมาเฟียขี้หวงสักกี่ยกกัน ก๊ากกกก
ตอนหน้าเราจะตามคู่หวานไปบ้านตระกูลหยางกันค่ะ
มาดูสิว่าระหว่างมาเฟียรุ่นใหญ่และมาเฟียรุ่นเล็ก
ใครจะจีบเมียตัวเองเก่งกว่ากัน
ส่วนใครที่บ่นคิดถึงตี้หลงและธัชชี่ห้ามพลาดน้า
หลังจากนี้ เราจะเริ่มนับถอยหลังกันค่ะ
เพราะเหลืออีก 10 ตอนคู่หวานก็จะลาจอแล้ว
ฝากมาเป็นกำลังใจให้คู่รักคู่หวานคู่นี้จนจบด้วยนะคะ
+1และเป็ดสำหรับทุกเม้นท์ค่ะ ขอบคุณสำหรับการติดตามน้า
ปล.ทีแรกว่าจะไม่มีของแถมแล้ว 555 เพราะไม่รู้จะแถมอะไร
แต่ปิ๊งไอเดียหนึ่งขึ้นมา จึงออกมาเป็นของแถมด้านล่างค่ะ