ตอนที่ 5หวางหลี่ผิง “นายน้อยต้องการให้ปรับปรุงส่วนไหนเพิ่มเติมรึเปล่าครับ”
ผมกวาดตามองห้องตัวอย่างที่เพิ่งตกแต่งภายในเสร็จ เพื่อเตรียมพร้อมเปิดตัวโรงแรมใหม่ในเครือหวางหย่งกัง พร้อมเดินรอบห้องสำรวจรายละเอียดต่างๆ โดยมีฝูหรงเตรียมจดรายละเอียดที่ผมต้องการแก้ไข แต่สภาพห้องโดยรวมเป็นที่น่าพอใจ เพราะมันถูกตกแต่งตามแบบที่ผมได้เลือกไว้แล้ว และมันยิ่งน่าพอใจขึ้นไปอีก
เมื่อม่านผืนใหญ่ถูกรูดเปิดจากฝีมือเลขาที่รู้ใจ ทำให้ห้องที่ทาสีฟ้าพาสเทลสว่างสดใสขึ้นทันตา จนผมอดนึกถึงใบหน้าใครบางคนขึ้นมาไม่ได้ คนที่ชอบสีฟ้าเป็นชีวิตจิตใจและเป็นคนเดียวกับที่ทำให้ผมเลือกโทนสีฟ้า ในการตกแต่งโรงแรมใหม่แห่งนี้นั่นเอง แถมด้วยสระว่ายน้ำส่วนตัวท่ามกลางท้องฟ้าสีสดเบื้องหน้า ยิ่งทำให้ผมอยากให้น้องธันว์ยืนอยู่ด้วยกันตรงนี้นักเชียว เพราะน้องคงยิ้มกว้างตาปิดและรบเร้าขอผมลงแหวกว่ายในสระอย่างแน่นอน
ผมคงอยู่ในภวังค์คิดถึงแฟนตัวเล็กที่น่ารักลึกไปหน่อย ทำให้ฝูหรงที่ยืนรอรับคำสั่งต้องออกเสียงเรียกผมอยู่หลายที ก่อนที่ผมจะรู้สึกตัวและหันมามองคนเรียกทั้งๆที่ยิ้มเต็มหน้า จนคนที่ได้เห็นอึ้งค้างก่อนใบหน้าขาวใสจะขึ้นสีคาตา และอ้าปากเหวอน้อยๆพร้อมแว่นที่เอียงกระเท่เร่หลุดจากดั้งจมูก หมดมาดเลขาผู้เอางานเอาการแบบเคย ทำให้ผมรู้สึกตัวว่าเผลอปล่อยตัวตน ยามที่อยู่กับน้องธันว์ให้เลขาคนสนิทได้เห็นแบบไม่ตั้งใจซะแล้ว ผมกระแอมนิดหน่อยก่อนกอดอกเก๊กหน้านิ่งเพื่อพูดกับฝูหรง และพยายามปัดใบหน้าสดใสของคนรักทิ้ง
‘คนอะไรทั้งๆที่ตัวไม่อยู่ แต่กลับทำให้ผมคิดถึงได้ตลอดเวลา’
“อะแฮ่ม....เท่าที่ดูทุกอย่างใช้ได้ แต่คงต้องเน้นให้คุมโทนสีนี้ไว้อย่าให้เพี้ยน และรายละเอียดต่างๆเก็บให้ดีแล้วกัน ฝูหรง...ฝูหรง! นายเป็นอะไร”
“ปะ เปล่าครับ คุมโทนสีกับเก็บรายละเอียด ผมจะให้ทางนี้ทำตามที่นายน้อยต้องการ” ผมเลิกสนใจเลขาส่วนตัวเพื่อหันมามองรอบห้องอีกครั้ง หลังจากฝูหรงรับคำก่อนปรับสีหน้าให้เรียบสนิทดังเดิม และก้มหน้าจดสิ่งที่ผมต้องการบนสมุดในมือแล้ว
การที่ผมต้องมาดูงานนอกเมืองถึงเมืองกงอินนั้น เพราะเป็นงานแรกที่ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลเต็มตัวหลังจากจบมหาวิทยาลัย ผมจึงออกจะตื่นเต้นและทุ่มเทเต็มที่ให้กับการสร้างโรงแรมแห่งนี้ ในแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนแห่งใหม่ของคนฮ่องกง หลังจากที่ต้องศึกษาถึงต้นทุน วิเคราะห์การตลาด และปัจจัยเสี่ยงต่างๆที่จะส่งผลต่อโครงการนี้ ด้วยผมหวังสร้างโรงแรมที่ครบวงจรตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าที่เข้าพัก
จนกระทั่งวันนี้มันเป็นรูปเป็นร่างด้วยตึกยี่สิบชั้นหันหน้าออกสู่อ่าวฮ่องกง ด้านหลังมีภูเขาตั้งตระหง่านเสริมทัศนียภาพที่ร่มรื่น ประกอบด้วยจำนวนห้องพักไม่มากไม่น้อยสามสิบห้อง ห้องอาหารนานาชาติ ห้องนวดสปาพร้อมเทอราปิสที่เชี่ยวชาญ ห้องฟิตเนสที่มีเครื่องออกกำลังกายหลากหลาย และล้อมรอบด้วยสวนสวยที่ถูกเนรมิตให้เขียวขจีดูสบายตา ส่วนจุดเด่นที่เป็นตัวเรียกลูกค้าคือการมีสระว่ายน้ำลอยฟ้าที่ให้ความเป็นส่วนตัวในทุกห้องพัก
ตอนนี้เหลือก็แต่การตกแต่งภายใน ให้ได้ตามแบบห้องพักตัวอย่างที่ผมยืนอยู่ขณะนี้ และเก็บรายละเอียดต่างๆเท่านั้น ซึ่งผมก็พอใจในผลงานที่ออกมาด้วย และวางแผนไว้ว่าหากที่นี่เสร็จเมื่อไหร่ ผมจะพาน้องธันว์มาฉลองเอาฤกษ์เอาชัย คิดถึงคนน่ารักขึ้นมาแล้วชักอยากจะเห็นหน้าแล้วสิครับ นี่ก็ใกล้เวลาน้องเลิกงานแล้วด้วย ถ้าผมออกจากกงอินตอนนี้คงไปรับน้องธันว์ได้ทัน ผมจึงคิดจะโทรไปบอกน้องให้รู้ แต่แล้วโทรศัพท์ในมือก็ดังขึ้นซะก่อน ส่วนเจ้าของชื่อบนหน้าจอคือหนึ่งในเพื่อนสนิทของผมเอง ‘ไอ้พอล’ หนุ่มลูกครึ่งออสเตรเลียจอมเจ้าชู้
“หลี่ผิง นายอยู่กงอินใช่มั้ย” ทันทีที่ผมกดรับเสียงกระตือรือร้นจากไอ้พอลก็ดังขึ้นทันที และผมชักสังหรณ์ใจขึ้นมาว่ามันต้องอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่นี่แน่ๆ ไม่เช่นนั้นเจ้าพ่ออสังหาที่ยุ่งตลอดเวลาอย่างเพื่อนผมคนนี้ ไม่มีทางโทรมาและระบุพิกัดที่อยู่ของผมได้ถูกต้องแบบนี้หรอก ซึ่งก็จริงอย่างที่ผมคาดไว้ เพราะทันทีที่ผมอือออรับปากมันไป ไอ้พอลก็ตัดบทด้วยการบอกว่ามันรอผมอยู่ชั้นล่างแล้ว
ผมถอนใจเฮือกใหญ่จ้องหน้าจอดำสนิทอย่างเซ็งๆให้กับไอ้เพื่อนสนิทขี้บังคับ จนฝูหรงที่เดินตามผมมายังสะดุ้ง ทำให้ผมต้องรีบโบกไม้โบกมือยิ้มบางๆให้เป็นการปลอบใจ แต่เล่นเอาแก้มใสขึ้นสีระเรื่อคาตา ก่อนฝูหรงจะแก้เก้อด้วยการขยับแว่นและหลบตาผมพัลวัน จนผมต้องแอบถอนใจและเลี่ยงมากดโทรหาน้องธันว์ตามความตั้งใจแต่แรก
ต่อไปผมคงต้องระวังตัวให้มากกว่านี้ ด้วยรู้ว่าเลขาส่วนตัวคนนี้คิดอะไรอยู่ แต่ที่ผมไม่โวยวายหรือหักหน้าฝูหรง เพื่อเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม เหมือนที่ทำกับรายอื่นๆที่มาหลงเสน่ห์ผมนั้น เป็นเพราะผมรู้ว่าฝูหรงแค่ปลื้มและชื่นชอบผมเหมือนดาราคนโปรดเท่านั้น ไม่ได้ต้องการผมไปครอบครองเยี่ยงคนรัก แต่ตอนนี้เจ้าตัวคงยังแยกไม่ออกหรอกครับว่าคิดกับผมแบบไหน คงต้องให้เวลาหรือถ้าเขาได้เจอคนที่ใช่ก็จะรู้ได้เอง ข้อสำคัญที่ผมไม่เปลี่ยนเลขาเป็นเพราะฝูหรงรู้จักวางตัวไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของผม และทำหน้าที่ของเลขาได้อย่างดีเยี่ยมไม่ขาดตกบกพร่องสักนิด
ไม่ว่าใครจะคิดอย่างไรกับเรา ผมว่ามันไม่สำคัญเท่ากับว่าเราคิดอย่างไรกับคนผู้นั้น ขอแค่รู้ตัวว่าเจ้าของหัวใจเรานั้นคือใคร ปัญหายุ่งยากก็จะไม่เกิด เหมือนผมนี่ไงครับที่หนักแน่นและยึดมั่นกับรักแรกไม่เปลี่ยน แต่ตอนนี้ผมอยากเจอเจ้าของหัวใจตัวน้อยๆใจแทบขาดแล้ว
“...ครับ น้องธันว์บอกน้องนลินกับนนท์ได้เลยว่าเย็นนี้เฮียขอเป็นเจ้ามือเอง...ฮึๆ ได้ครับติ่มซำกับเป็ดปักกิ่ง...แล้วเจอกันครับคนเก่งของเฮีย...คิดถึงนะครับ” แค่ได้ฟังเสียงหวานๆกับเสียงหัวเราะใสๆของคนรักยามเจ้าตัวกำลังถูกใจกับสิ่งที่ผมเสนอ ทำเอาหัวใจในอกฟูฟ่องและลืมความตั้งใจที่จะพยายามวางตัวเคร่งขรึมต่อหน้าเลขาคนสนิทไปเลย
ด้วยตอนนี้ผมกำลังอารมณ์ดียิ้มกว้างเกินกว่าจะควบคุมตัวเองได้ เพียงแค่จินตนาการถึงใบหน้าสดใสที่ขึ้นสีของน้องธันว์ หลังจากน้องได้ฟังข้อความคิดถึงของผมเข้า และทำให้ไม่ทันเห็นสีหน้าสลดแววตาหงอยเหงาของคนที่เดินตามผมออกจากลิฟต์
“ไงเพื่อน สบายดีนะ” แรงชกเบาๆที่หัวไหล่และคำทักทายมาพร้อมรอยยิ้มสว่างเต็มหน้า จนผมที่แม้จะไม่ค่อยเต็มใจจะเจอไอ้พอลตอนนี้ ด้วยห่วงอยากเจอหน้าคนรักตัวน้อยมากกว่า ผมยังอดยิ้มตามมันไม่ได้ พร้อมแสดงกิริยาแบบเดียวกันเพื่อทักทาย
“สบายดี แต่ฉันคงไม่ต้องถามว่านายสบายดีมั้ย ดูหน้าก็รู้ ฮึๆ” ระหว่างที่ผมทำใจได้แล้วว่าต้องเจอหน้าน้องธันว์ช้าอีกหน่อย แลกกับการได้คุยถามสารทุกข์สุขดิบกับเพื่อนสนิทนั้น ผมก็แทบหุบยิ้มไม่ทันเมื่อเจอประโยคต่อมาของไอ้พอลเข้า
“ฉันจะสบายกว่านี้ถ้าได้เจอหน้าน้องธันว์ แล้วน้องอยู่ไหนวะ มากับนายด้วยรึเปล่า คิดถึงว่ะไม่เจอกันนาน” ไอ้พอลชะเง้อคอมองไปด้านหลังของผม เพื่อหาคนที่มันบอกว่าคิดถึง ผมจึงใช้โอกาสที่มันไม่ระวังตัวผลักหน้าหล่อๆของมันให้เจ้าของแทบหงายหลัง
ไอ้พอลนะไอ้พอลรู้ทั้งรู้ว่าผมหวง มันก็ยังแหย่ผมเรื่องน้องไม่เปลี่ยน ตั้งแต่มันได้เจอหน้าน้องธันว์ครั้งแรกเมื่อสิบกว่าปีก่อน ไอ้พอลเครซี่เด็กน่ารักของผมยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้น ผมล่ะหมั่นไส้และไม่อยากจะให้น้องธันว์ได้เจอหน้ามันเลย รู้นะครับว่าทั้งน้องธันว์และไอ้พอลไม่ได้คิดอะไรต่อกัน แต่เจ้าของคนน่ารักอย่างผมอดหวงน้องไม่ได้จริงๆ แต่แล้วระหว่างที่ผมแทบจะฉีกร่างไอ้พอลทิ้ง มันกลับไม่สนใจผมแต่ดันจ้องไปยังคนที่ยืนด้านหลังผมอย่างสนใจ ผมดูก็รู้แล้วว่าต่อมเจ้าชู้ของมันเริ่มทำงานซะแล้ว ไอ้นี่น่ะเจ้าชู้ตัวพ่อ ได้หมดขอแค่มันพอใจ ผิดกลับผมที่รักเดียวใจเดียว ฮึๆ
“อะแฮ่ม! เลิกจ้องเลขาฉันได้แล้ว พอล นายมีอะไรรึเปล่า ฉันนัดดินเนอร์น้องธันว์กับเพื่อนไว้” ไอ้พอลเลิกคิ้วใส่ผมและละสายตาระยับพราวจากฝูหรงมาที่ผม อ่านได้ว่ามันกำลังถูกใจเลขาร่างบางของผมเข้าแล้ว ก่อนเราจะกระตุกยิ้มทำหน้าเจ้าเล่ห์ใส่กัน
“อะไร นายหวงเลขาด้วย ดี! ฉันจะฟ้องน้องธันว์ เอาให้นายกับน้องธันว์ผิดใจกันไปเลย ฉันจะได้ขโมยตัวน้องธันว์มาเป็นของตัวเองได้ง่ายๆ ฮ่าๆ....[พลัวะ]...โอ๊ย! อะไรแค่นี้ถึงกับตบตีกันเลย” สมน้ำหน้าแม่งครับ อยากปากดีคิดจะสร้างเรื่องให้ผมผิดใจกับน้องธันว์ โดนผมชกไหล่ไปทีมันยังน้อยไป
“ไร้สาระน่ะ! ถ้านายมาแค่จะกวนกัน งั้นฉันไปล่ะ เสียเวลาเจอหน้าน้องธันว์หมด” ผมที่เดินเลี่ยงจะไปขึ้นรถก็ต้องชะงักกับเสียงโวยวายของไอ้ลูกครึ่งปากมาก
“เฮ้ย! ล้อเล่นแค่เนี้ยทำน้อยใจไปได้ เอาแบบนี้ฉันขอตามไปคุยกับนายด้วยคน และอยากเจอหน้าแฟนสุดที่รักของนายด้วย ไม่เจอกันนานแล้ว....นายอย่าทำหน้าเหมือนอยากจะฆ่ากันสิว้า ฉันกลัวไปหมดแล้วเนี่ย ฮึๆ” ได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆนั่นมั้ยครับ คุณฟังก็รู้กันแล้วใช่มั้ยว่าไอ้พอลมันกวนแค่ไหน แกล้งกลัวผมซะงั้น แบบนี้มันน่าให้ไปนักล่ะ
เฮ้อออ แต่สุดท้ายผมก็ต้องตอบตกลงให้ไอ้พอลไปด้วยอยู่ดี เพราะขืนปฏิเสธผมคงไม่ต้องไปไหน เพราะมันต้องตื๊อจนผมใจอ่อนจนได้นั่นแหละ และผมก็คงเสียเวลาไปเปล่าประโยชน์ ทั้งๆที่จะได้เจอหน้าน้องเร็วกว่านี้ สรุปผมก็ได้มานั่งบนรถโดยมีอาเป๋าคนสนิทเป็นคนขับให้เหมือนขามา และมีไอ้พอลขับตามพร้อมพ่วงฝูหรงที่โดนมันมัดมือชกให้มาร่วมมื้อเย็นของผมนั่งไปด้วย
ทีแรกผมก็คิดจะปฏิเสธมัน แต่พอได้เห็นแววตายินดีของเลขาเข้า ทำให้ใจอ่อนพาลให้ปากแข็งยอมให้ฝูหรงมาด้วยในที่สุด แต่ฝูหรงก็โดนไอ้พอลฉกตัวไปคันเดียวกันมันจนได้ ซึ่งไอ้พอลให้เหตุผลว่ามันไม่รู้จักร้านจึงอยากได้คนนำทาง แรกได้ยินผมเกือบหลุดขำ คนกว้างขวางอย่างไอ้พอลเนี่ยนะ ไม่รู้จักร้านอาหารชื่อดังที่ผมกำลังจะไป แต่แววตาแข็งๆที่จ้องเขม็งสื่อมาให้ผมหุบปาก ผมจึงได้แต่เออออสั่งให้ฝูหรงไปกับมัน และออกจะเห็นใจเลขาร่างเล็กไม่น้อย เพราะผมมองก็รู้แล้วว่าฝูหรงไม่เต็มใจแต่ขัดผมไม่ได้ จึงต้องยอมเดินตามไอ้พอลไปขึ้นรถ
ผมว่าอาหารมื้อนี้คงป่วนไม่น้อยล่ะครับ แรกเริ่มก็หวังจะพาคนน่ารักไปกันแค่สองคน แต่นี่กลับกลายเป็นกลุ่มใหญ่ชวนปวดหัวเข้าแล้ว แต่ผมก็หวังว่ามันอาจจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของความรู้สึกของผู้ร่วมมื้ออาหารมื้อนี้
..........................................
“...สาหร่ายห่อกุ้ง ปอเปี๊ยะปู เสี่ยวหลงเปา อ้อ! เป็ดปักกิ่งด้วย เครื่องดื่มขอเป็นเก๊กฮวยเย็นสอง นนกับนลินอยากทานอะไรสั่งเพิ่มได้เลยนะ ไหนๆมื้อนี้เราก็มีเจ้ามือเลี้ยงทั้งที คิกๆ” เสียงหัวเราะสดใสมาพร้อมรอยยิ้มกวนๆของเด็กข้างตัว ทำเอาผมมันเขี้ยวอยากจะปิดปากฟัดแก้มซะเดี๋ยวนี้
แต่สิ่งที่ผมทำคือโยกหัวคนน่ารักเบาๆและแกล้งส่งสายตาหวานๆให้ ทำเอาน้องธันว์ที่กำลังหัวเราะชะงักยิ้มและแก้มขึ้นสีทันที ก่อนน้องจะแสยะยิ้มแลบลิ้นใส่ผมแก้เขิน และหันไปชี้หน้าเพื่อนสนิททั้งสองที่หัวเราะถูกใจกับท่าทางเขินอายของน้องที่มีต่อผม แต่ดูท่าจะไม่ค่อยได้ผลนัก เพราะทั้งน้องนลินและนายนนยังเปิดปากกว้างหัวเราะลั่นร้านแบบไม่เกรงกลัว ซึ่งก่อนที่คนน่ารักจะโกรธเพื่อนและพาลงอนมาถึงผม ผมจึงรีบตัดบทพร้อมเร่งให้เพื่อนๆน้องได้สั่งอาหาร ก่อนรั้งข้อมือเล็กมากุมไว้และลูบหลังมือเบาๆเป็นการปลอบโยน คนน่ารักเหลือบมองผมด้วยแก้มป่องๆ มีฮึดฮัดนิดหน่อยให้พอน่าเอ็นดู แต่น้องไม่ได้รั้งมือคืน กิริยาแค่นี้ผมก็เบาใจได้แล้วครับว่าคนน่ารักเค้าไม่ได้งอนกันจริง
“ฮุๆ งั้นนลินไม่เกรงใจนะคะเฮีย ขอ....” หลังจากสาวห้าวหน้าหวานเอ่ยปากขอ บรรดาติ่มซำหลากหลายชนิดก็ถูกสั่งเป็นหางว่าว
ผมถึงกลับแอบอมยิ้มให้กับน้องธันว์และนายนนที่อ้าปากหวอ ตกตะลึงกับรายการที่น้องนลินสั่ง งานนี้เห็นทีเจ้ามืออย่างผมคงโดนสปายสาวตั้งใจมาถล่มกะให้กระเป๋าฉีกเข้าแล้วล่ะมั้ง แต่ผมก็ไม่คิดจะขัดเพราะแค่นี้ขนหน้าแข้งผมไม่สะเทือนหรอก เมื่อแลกกับการที่น้องนลินจะคอยกันท่าคนที่เข้าหาน้องธันว์ให้ผม แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ
ว่าแต่เหมือนผมจะลืมใครหรืออะไรบางอย่างไปนะครับ เพราะพอได้อยู่ใกล้คนน่ารักข้างตัวทีไร ความสนใจทั้งหมดที่ผมมีมีอันทุ่มเทให้แค่คนๆนี้คนเดียว ไม่เชื่อก็ดูสิครับ เด็กอะไรไม่รู้ตัวก็หอม แก้มงี้ใสกิ๊ก ยิ้มก็หว้านหวาน แถมพอน้องธันว์หัวเราะที ตาตี่ๆก็ยิบหยีพาโลกทั้งใบสดใสคาตา แต่แล้ววิมานที่ผมสร้างโดยมีคนธันว์เป็นนายเอกก็มีอันล่มไม่เป็นท่า เมื่อมีมือมาร(ผจญ)มาหยิกแก้มกลมที่กำลังอมยิ้มของเด็กน่ารักเข้า
“หวัดดีครับน้องธันว์ ยังน่ารักไม่เปลี่ยนเลยนะ...[เพียะ!]...อูยยย แถมเจ้าของก็หวงไม่เปลี่ยนด้วย ฮ่าๆ” ไอ้อะไรหรือใครที่ผมลืมไปแล้วก็คือมันคนนี้ไงครับ ไอ้พอล!
มิน่าล่ะจิตใต้สำนึกคงสั่งให้ผมลืมมัน แม่ง! เข้าใกล้เด็กของผมทีไร หาเศษหาเลยกับคนของผมตลอด
“หวัดดีครับเฮียพอล”
“ดีครับเฮีย”
“อุ๊ย! เฮียพอลมาด้วยเหรอคะ หวัดดีค่ะเฮีย”
น้องๆบนโต๊ะทักทายไอ้พอลเสียงใส ไม่เว้นแม้แต่น้องธันว์ที่ก็ยกมือไหว้มันและอมยิ้มแก้มตุ่ย ทำไมนะทำไมน้องถึงไม่หวงตัวสักนิด ทั้งๆที่ผมหวงน้องสุดใจ ผมล่ะอยากงอนคนน่ารักชะมัด เฮ้อ!
“ฮึๆ น้องธันว์สนใจเพื่อนเฮียหน่อยเร็ว ดูท่าจะโดนพญามังกรงอนเข้าซะแล้ว” ฟังไอ้พอลพูดครับ รู้แบบนี้ผมไม่ให้มันตามมาด้วยหรอก นึกไว้แล้วเชียวว่ามื้อนี้ต้องป่วนเพราะมัน
“ฮึๆ เฮียหลี่ผิงดื่มน้ำเก๊กฮวยก่อน หน้าบู้หมดหล่อแล้ว” ยิ้มหวานๆพร้อมหลอดดูดมาจ่อปาก แค่นี้ผมก็พร้อมหายงอนแล้วครับ บวกแก้มใสที่ซับสีเลือดทันทีหลังคำแซวของน้องนลิน ทำผมอารมณ์ดีในพริบตา
“หวานนะมึง เกรงใจพวกกูบ้าง นั่นเฮียกูนะโว้ย ฮ่าๆ”
“ของมึงที่ไหน นี่น่ะของกู!...เอ่อ” จะมีใครน่ารักน่าฟัดเท่าแฟนของผมอีกมั้ย ฟังคำพูดคำจาที่น้องธันว์พูดซะก่อน มีแสดงความเป็นเจ้าของผมซะโจ่งแจ้งเชียว ผมเปลี่ยนใจไม่กินแล้วลากน้องกลับบ้านแทนได้มั้ย
“เอ่อ แล้วนี่ใครคะ แฟนเฮียพอลเหรอ เฮ้อออ...ทำไมน้า เดี๋ยวนี้หนุ่มๆหน้าตาดีถึงจับคู่กันเอง แล้วจะเหลือหนุ่มหล่อให้นลินสักคนบ้างมั้ยน้อ” จะว่าสงสารก็สงสารนะครับกับคำพูดของสปายสาวหน้าหวาน แต่แววตาเจ้าเล่ห์ระยิบระยับของนลินนี่สิที่พาให้ขำมากกว่า ด้วยรู้ว่าน้องนลินนั้นแกล้งแซวเล่น เพราะเพื่อนสนิทของน้องตอนนี้ เป็นแฟนกับผู้ชายด้วยกันทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่นายนน
แต่คนที่ไม่รู้เบื้องลึกของนลินอย่างฝูหรง กลับปฏิเสธเสียงสูงให้วุ่นวาย จนผมที่ลืมไปแล้วว่าชวนเลขาคนสนิทมาด้วยต้องหันมามองอย่างสนใจ และพบเข้ากับใบหน้าภายใต้แว่นใสที่แดงก่ำ ดวงตาวาวโรจน์จ้องไอ้พอลอย่างเอาเรื่อง แต่พอหันมาสบตากับผมเข้า กลับมีแววเขินอายปนอ้อนวอนเล็กๆ
“คุณเลขาไม่เห็นต้องปฏิเสธน้องๆให้วุ่นวายเลยนี่ครับ แต่เอ๊! หรือคุณเลขาคิดอะไรกับผมกันแน่ ฮึๆ” ไอ้พอลก็ใช่ย่อยครับ แกล้งเลขาผมซะควันออกหูเลย แต่ก่อนที่ผมจะห้ามศึกลูกครึ่งปากเสียกับเลขาหน้าใสนั้น คนน่ารักข้างตัวก็ชิงตัดหน้าซะก่อนอย่างรู้ใจ
“นลิน นน นี่พี่ฝูหรงเป็นเลขาของเฮียหลี่ผิง พี่ฝูหรงครับนี่เพื่อนสนิทผมเอง นนกับนลิน...อาหารมาพอดีเลย พี่ฝูหรงเฮียพอลอยากได้อะไรเพิ่มสั่งได้เลยนะครับ วันนี้นายน้อยเค้าเลี้ยง เต็มที่เลย” เสียงใสๆบวกใบหน้าทะเล้นที่แนะนำเพื่อนสนิทแก่ฝูหรง และชักชวนให้คู่ชกที่กำลังเปิดศึก มาสนใจอาหารเบื้องหน้าแทนนั้น ทำให้บรรยากาศตึงเครียดระหว่างไอ้พอลกับฝูหรงหายไป
ฝูหรงส่งยิ้มบางเบาเหมือนว่ากำลังรู้สึกผิดให้คนรอบโต๊ะ แต่ไม่มีชำเลืองหรือแม้แต่การปรายตาไปที่ไอ้พอลสักนิด ดูท่าแล้วคงโกรธเพื่อนผมไม่น้อยเลยล่ะ ส่วนไอ้พอลเองก็แค่ยักไหล่อมยิ้มด้วยท่าทางสบายๆ ทำเหมือนไม่สนใจฝูหรงเช่นกัน และมีเอ่ยปากหยอกเย้าน้องๆรอบตัวให้ได้หัวเราะ ตามนิสัยเจ้าพ่ออสังหาปากหวานของมันไป
ถ้าผมไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทไอ้พอล คงคิดไปแล้วว่ามันคงโกรธฝูหรงไม่น้อยที่กล้าเอ่ยปากต่อว่ามัน แต่ผมที่คบมันมามากกว่าสิบปี ดูก็รู้แล้วว่าไอ้พอลมันสนใจฝูหรงไม่น้อยล่ะครับ เพราะการอ้อล้อต่อปากกับฝูหรงแบบที่มันไม่เคยทำกับใครนอกจากคนสนิทอย่างที่ผ่านมาของมันนั้นไม่ธรรมดา ถ้าไอ้พอลไม่สนใจอย่าว่าแต่พูดด้วยเลย แค่หน้ามันคงไม่คิดจะเหลือบแล อย่าให้ถึงกับตอแยด้วยคำพูดที่มันมีให้ฝูหรงเลยครับ เพราะระดับ ‘โจว พอล วอร์เลนโต้ ’ เจ้าพ่อหนุ่มอสังหารุ่นใหม่ไฟแรงไม่จำเป็นต้องง้อใคร เพราะมีแต่คนจ้องเข้าหา
แหนะ! พูดถึงยังไม่ทันขาดคำ ไอ้พอลมีแอบเหลือบมองคนข้างตัวมันด้วย งานนี้ผมว่าฝูหรงคงได้ปวดหัวเพราะไอ้พอลอย่างแน่นอน และคงจะดีถ้าไอ้พอลมันจริงใจกับฝูหรง ไว้ผมต้องลองแย็บถามไอ้พอลดูบ้างแล้วล่ะครับ ว่ามันคิดอะไรกับเลขาของผมรึเปล่า
....................................................
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ตอนนี้พาพอลและฝูหรงมาเปิดตัวให้คุณผู้อ่านได้รู้จักค่ะ
เพราะตั้งใจปั้นคู่นี้เป็นหนึ่งในซีรีย์ชุดนี้จ้า แต่ต้องรอเรื่องนี้จบก่อนน้า

เนื้อหาตอนนี้ไม่มีอะไรมาก ออกจะเรื่อยๆและอาจทำให้บางท่าน
แอบหมั่นไส้หลี่ผิงที่ดูเครซี่น้องธันว์คนน่ารักซะเหลือเกิน

แต่เด็กน้อยของเฮียหลี่ผิงก็น่ารักน่าหลงไม่น้อยเนอะ
ไม่อยากจะสปอยด์เลยอ่ะ แต่ไม่เกริ่นไว้ก็ไม่ได้ เพราะเดี๋ยว
บางท่านจะตกใจ ตอนหน้ามันมาอีกแล้ว ~
ให้ 3 คำ ‘ฟิน หวาน เว่อร์’ (ขออนุญาตยืมคุณ bpyt มาใช้หน่อยนะคะ มันโดนม๊วกกก)
และโปรดเตรียมเลือดสำรองให้พร้อมน้า โฮะๆ
MiSS-U : เมื่ออยู่ๆเด็กน่ารักเค้านึกหวงมาเฟียรูปหล่อของตัวเอง
น้องธันว์จะหาวิธีไหนมามัดตัวมัดใจให้มาเฟียใหญ่ดิ้นไม่หลุดกันน้า
น้องธันว์ : ใช้เชือกสิครับ ธันว์จะมัดหลายๆรอบเอาให้แน่นๆเลย
เหอะ! ทำไมต้องมีคนมาสนใจเฮียหลี่ผิงของธันว์ด้วย
หลี่ผิง : เฮียแถมแส้ โซ่ กุญแจมือ เพิ่มให้เลยครับที่รัก ฮึๆ
+1และเป็ดแทนคำขอบคุณจากใจ
เจอกันวันศุกร์วันสีฟ้าจ้า ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ
ปล.ตอนที่แล้วชื่อตอน “สั่นคลอน” ทำเอาหลายท่านเข้าใจผิดไปไกล
ต้องขออภัยค่า แต่อยากให้ทุกท่านรู้ว่าเท่าที่แต่งนิยายมา
เรื่องนี้หวานเว่อร์กว่าคู่ไหนๆ เน้นอ่านแล้วชุ่มฉ่ำหัวใจและจบด้วยรอยยิ้มค่ะ
แต่บางตอนเท่านั้นที่จบด้วยรอย.....เลือด
