Beautiful hangover เมารัก [ตอนพิเศษ ช้าง : พิกเล็ต] หน้า ๕๐
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Beautiful hangover เมารัก [ตอนพิเศษ ช้าง : พิกเล็ต] หน้า ๕๐  (อ่าน 580863 ครั้ง)

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
อยากอ่านของปืนบ้าง :katai5:

ออฟไลน์ Baruda

  • มีความสุข
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 633
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
จะสงสารโยธินดีมั้ยทำกับเค้าไว้เยอะนี่

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
ตอนพิเศษ ช้าง : พิกเล็ต

First love


         “นี่ๆ นายน่ะ นายนั่นแหละไม่ต้องหันไปมองใครหรอก”

         ดวงหน้าขาวจัดผินกลับทันทีเมื่อโดนห้าม ดวงตากลมใสแจ๋วเหมือนลูกแก้วหลังแว่นกรอบหนาจ้องมองร่างอรชรสมส่วนของคนที่เรียกตัวเองไว้ กลิ่นน้ำหอมราคาแพงโชยเข้าจมูกเขาเกือบจะหลุดจามเพราะไม่ถูกกับกลิ่นของสารเคมีพวกนี้เท่าไรนัก

        “เอานี่ไปให้พี่ช้างหน่อย บอกว่าจากน้องรัญญ่าคณะนิเทศฯ”
        กล่องของขวัญผูกโบกระจิ๋วหริวน่ารักน่าชังยื่นมาตรงหน้า เขาเงยหน้ามองเจ้าของกล่องขวัญอีกรอบก่อนจะรับมันเอาไว้อย่างเสียไม่ได้

         “ห้ามแกะออกก่อนนะ ฉันเล่นงานนายแน่”

        ผู้หญิงคนนั้นขู่อาฆาตทั้งสายตาและคำพูด เขาจำใจต้องพยักหน้ารับปากแล้วรีบหันหลังเดินหนีโดยมีของขวัญถึง ‘พี่ช้าง’ ไปด้วย
   นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาโดนคนแปลกหน้าเรียกหรือทัก บางคนก็มาดีทำทีมาตีสนิทพูดคุยราวกับรู้จักกันมานานทั้งที่เพิ่งจะพบกันครั้งแรก บ้างก็มาแนวขู่กรรโชก ดีหน่อยก็แค่ฝากของแล้ววิ่งหนีไปเฉยๆ แต่ทุกรายล้วนแล้วแต่จะลงท้ายด้วยชื่อของ ‘พี่ช้าง’ เสมอ ถ้าไม่ใช่การฝากความคิดถึงก็เป็นของฝากที่เขามีสิทธิ์ได้แค่ถือเอาไปส่งให้เจ้าตัวเท่านั้น ถ้าวันไหน ‘พี่ช้าง’ ใจดีก็จะส่งพวกขนมมาให้กิน ซึ่งนับว่าเป็นบุญปากของเขามาก

         ริมฝีปากเล็กพรูลมหายใจระบายความอึดอัดในอก เขายกเจ้ากล่องของขวัญน่ารักนั่นขึ้นมาพิจารณาอีกรอบ น้ำหนักไม่มากลองเขย่าเบาๆ ดูแล้ว ไม่น่าจะใช่ของกินแต่อาจจะเป็นพวกน้ำหอมหรือนาฬิกา เขาเดาจากการแต่งตัวและของที่ผู้หญิงคนนั้นใช้ ท่าทางจะรวยไม่เบา

         ‘พี่ช้าง’ เนื้อหอมตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยวันแรก ได้กลายเป็นเดือนคณะด้วยคะแนนโหวตอันท่วมท้น ขวัญใจสาวน้อย สาวใหญ่รวมทั้งพวกอยากจะสาวด้วย ด้วยรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่น ความสามารถด้านกีฬาไม่เป็นรองใครได้เป็นหนึ่งในทีมฟุตบอลของมหาวิทยาลัย แถมการเรียนยังดีเยี่ยมอีกด้วย จึงไม่แปลกอะไรเลยที่ ‘พี่ช้าง’ จะได้รับของขวัญไม่เว้นแต่ละวัน ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไรที่ ‘พี่ช้าง’ เป็นหนุ่มทรงเสน่ห์ได้ถึงขนาดนี้

         ขาสองเท้าลดจังหวะการก้าวให้ช้าลง ความคิดหลุดจากปัจจุบันกลับสู่อดีตพลางนึกตั้งข้อสงสัยว่าเมื่อไรกันที่พี่ชายตัวอ้วนผิวดำกลายเป็นหนุ่มรูปหล่อทรงเสน่ห์ขณะที่เขาเปลี่ยนเป็นเด็กเนิร์ดใส่แว่นหนา หรือเพราะว่าเขามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือเพื่อเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกันมากเกินไปจนลืมสังเกตสิ่งรอบข้าง รู้ตัวอีกทีเขาก็กลายเป็นบุรุษไปรษณีย์ส่งความรักให้พี่ชายไปเสียแล้ว

        ถ้าจะให้นับนิ้วถึงบรรดาสาวเล็กสาวน้อย หรือไม่สาวทั้งหลายที่ใช้เขาเป็นสะพานคงไม่พอแน่ ส่วนเขไอ้แว่นขี้โรคผิวขาวเหมือนกระดาษไม่ต่างจากเหาฉลามที่ได้แต่ป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น    ยิ่งคิดก็ยิ่งสมเพชตัวเอง   พชรดนัยถอนหายใจหนักๆ รู้สึกถึงความพยายามอันสูญเปล่าของตัวเอง สู้อุตส่าห์อ่านหนังสือจนต้องตัดแว่น ได้เรียนในมหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะเดียวกันด้วยซ้ำแต่ความสนิทสนมยังคงไม่คืบหน้าไปไหน มิหนำซ้ำยังทำท่าจะย่ำแย่ลงกว่าเดิม

        “มานั่งทำอะไรตรงนี้ ไม่มีเรียนแล้วหรือไง”

        น้ำเสียงที่เขาจำได้ตั้งแต่วันแรกที่ได้พบกันดังขึ้นเหนือศีรษะ ดวงหน้าเล็กขาวจัดเงยขึ้นมอง หัวคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันน้อยๆ เพ่งมองร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาคมสันมีรอยยิ้มประดับแต่มองไม่ออกว่ามันสื่อไปในทางใด

         “ไม่มี” เขาตอบเรียบๆ พลางเบนสายตาไปยังผู้หญิงอีกคนที่สอดมือรัดท่อนแขนกำยำ เบียดหน้าอกอิ่มชิดติดแสดงความเป็นเจ้าของอย่างไม่คิดจะปิดบัง

        “แล้วทำไมไม่กลับบ้าน”
        “ขี้เกียจ”
        เด็กหนุ่มหลุบตาลงที่เดิม หัวใจเต้นเสียดหน้าอกจนปวดไปหมดผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คนที่เขาเห็นเมื่อสัปดาห์ก่อน และไม่ใช่คนที่ฝากกล่องของขวัญสุดน่ารักนี่มาด้วย
 
        “พี่ถามดีๆ ทำไมต้องกวนกันด้วย”

        “เปล่าสักหน่อย” พชรดนัยแย้งเบาๆ ในคอ อย่างอดไม่ได้ พยายามกระพริบตารัวๆ เพื่อลดอาการร้อนผ่าวที่ขอบตา

         “กลับบ้านได้แล้ว ฝากบอกว่าแม่ด้วยว่าพี่กลับดึก ไปกันเถอะนาซ่า”

        ประโยคหลังเขารู้ว่าพี่ชายหันไปพูดกับคนรักคนใหม่ ก่อนจะทิ้งเขาไปโดยไม่คิดจะถามไถ่อะไรอีก เขาข่มความน้อยใจไว้เต็มกำลัง รู้อยู่เต็มอกว่าเป็นหนุ่มอายุสิบเก้าปีแล้วโตเป็นผู้ใหญ่มากพอที่จะดูแลตัวเองไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องให้ใครเทียวรับเทียวส่ง ทว่าลึกๆ เขายังต้องการให้พี่ชายเอาใจเหมือนเมื่อยังเยาว์วัย แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้สำคัญขนาดนั้นอีกแล้ว…

............................


        อีกไม่กี่นาทีจะสามทุ่มเขาเพิ่งจะกลับถึงบ้าน บ้านหลังใหญ่ของพ่อมะรุมเปิดไฟสว่างโร่ ทันทีที่ประตูรั้วเปิดเจ้าหมาตัวใหญ่ก็เห่ารับกระดิกหางวิ่งมาหาด้วยความดีใจ ก่อนที่ร่างของผู้สูงวัยที่สุดในบ้านจะเดินตามมา

         “ทำไมกลับดึกนักล่ะพิกเล็ต มีกิจกรรมหรือแล้วทำไมไม่รอกลับพร้อมพี่ช้างล่ะ”

        เด็กหนุ่มกระพุ่มมือไหว้คุณตาวรินทร ท่านยิ้มรับยกมือลูบผมเขาเบาๆ “ขอโทษฮะ ผมลงเลยป้ายก็เลยต้องนั่งย้อนกลับมา”

        “อ้าว! เวรกรรม ตาก็ลืมไปว่าเราเพิ่งมาอยู่กรุงเทพฯ”

        พชรดนัยยิ้มแหยะ นึกสมน้ำหน้าในความป้ำๆ เป๋อๆ ของตัวเอง หรืออีกทีคงต้องโทษแม่มะนาวที่ไม่ยอมปล่อยให้เขาไปไหนมาไหนตามลำพังตอนที่มาเที่ยวกรุงเทพฯ แรกๆ ถึงเวลาต้องพึ่งตัวเองจริงๆ ถึงได้หลงทางดีที่ไม่นั่งข้ามไปถึงฝั่งนนทบุรีไม่อย่างนั้นคนอื่นๆ คงได้วุ่นวายเพราะความไม่เอาไหนของเขาแน่ๆ

         คุณตาวรินทรโอบหัวไหล่พาเดินเข้าไปในบ้าน ทุกคนรอคอยเขาอยู่ในห้องโถงแม่มะลิทำหน้าตาตื่นเมื่อเห็นสภาพเหมือนไปรบกลับมา รีบเข้ามาลูบหัวลูบหลังเป็นการใหญ่ร้อนถึงผู้เป็นตาที่ต้องอธิบายแทนเขา

        “ตายแล้ว! ทำไมไอ้ช้างทำแบบนี้ล่ะ ปล่อยให้น้องกลับบ้านเองได้ยังไง”

        “เอ่อ..ไม่เกี่ยวกับพี่เขาหรอกฮะ หนูผิดเองที่มัวแต่เหม่อไม่ทันมอง”

        “ไม่ต้องไปออกรับแทนมันเลย แล้วนี่กินอะไรมาหรือยัง แบตโทรศัพท์หมดด้วยใช่ไหมแม่โทรไปไม่ติดเลย”
        น้องน้อยในบ้านพยักหน้ารับ โทรศัพท์ของเขาแบตหมดหลังจากที่ขึ้นรถเมล์ได้ไม่นาน แม่มะนาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะจูงมือเขาเข้าไปในห้องครัวแล้วจัดการหามื้อเย็นที่ล่วงมาถึงสามทุ่มให้

        “คอยดูนะกลับมาเมื่อไรแม่จะเล่นให้เข็ดเชียว ทิ้งน้องได้ยังไงไอ้ลูกไม่รักดี”

        “อย่านะฮะ หนูขอร้อง”

        “ทำไมต้องขอร้อง แม่รับปากกับพ่อเสือไว้ว่าจะดูแลพิกเล็ตให้ดี” แม่มะนาวทำหน้ามุ่ยฉีกไก่ทอดที่ทอดไว้รอเขาตั้งแต่เย็นส่งให้ถึงปาก “แล้วนี่มันไปไหนทำไมถึงไม่กลับมาพร้อมกัน”

        “พี่เสือบอกว่าจะไปธุระฮะ จะกลับดึกหน่อย”

        “กลับดึก! บ๊ะ! ไอ้ลูกคนนี้ ทิ้งให้น้องกลับคนเดียวไม่พอยังหนีไปเที่ยวอีก”

        “ไม่ได้ไปเที่ยวหรอกฮะ พี่เขาไปทำ…”

        “ไม่ต้องแก้ตัวแทนกันเลย! รีบกินแล้วก็รีบนอนซะ อ้อ! อย่าลืมกินนมด้วยพ่อมะรุมกำชับแม่ทุกวันเลย”

     พชรดนัยหน้าหงอ แม่มะนาวใจดีก็จริงแต่บทจะโหดก็น่ากลัวจนไม่กล้าต่อปากต่อคำ ปากเล็กรีบเคี้ยวไก่ให้หมดปากก่อนที่จะได้เห็นระเบิดจากแม่มะนาวอีกลูก…

.....................................


         ร่างเล็กสะดุ้งโหยงก้าวถอยหลังกลับเข้าห้องแทบไม่ทัน มือบางยกขึ้นวางที่ขอบประตูตากลมหลังแว่นกรอบหนาเหลือบมองร่างใหญ่ตรงหน้าด้วยใจที่ยังเต้นแรงไม่หาย เล่นมาโผล่หลังบานประตูจะไม่ให้ตกใจได้อย่างไร

        “พะ..พี่ช้างมีอะไรหรือฮะ”

       “ได้ข่าวว่าลงรถเมล์ผิดป้ายเหรอ…ทำไมโง่นักล่ะ”

        ปากเล็กสีสดหุบลงเพราะยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรอีกฝ่ายก็ต่อว่ากลับมาเสียแล้ว ใบหน้าขาวสะอาดก้มต่ำลงยอมจำนนโดยไม่คิดจะโต้แย้ง    กลิ่นเมนทอลเย็นๆ โชยเข้าใกล้กว่าเดิม ไออุ่นจากเรือนกายอีกคนเคลื่อนเข้ามาชิดเขารับรู้ได้ว่าพี่ช้างกำลังขยับเข้ามาใกล้โดยไม่ต้องมองด้วยซ้ำ เท้าเล็กก้าวถอยหนีโดยอัตโนมัติ กระทั่งอีกฝ่ายสืบเท้าก้าวผ่านธรณีประตูเข้ามาแล้วใช้ช่วงแขนผลักประตูปิด

        “ทำไมต้องทำวุ่นวายด้วย โตแล้วไม่ใช่หรือไง มาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งหกเดือนแล้วทำไมยังหลงอยู่อีก”

       “หนู เอ่อ… ผมแค่เหม่อไปหน่อย”

       เขาได้ยินเสียงถอนหายใจจากคนตัวใหญ่ พชรดนัยเบี่ยงตัวไปอีกทางเลี่ยงที่จะอยู่ใกล้เพราะสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจจากพี่ชายที่มีมากพอให้หายใจไม่ทั่วท้องได้

        “นายบอกแม่หรือว่าพี่ไปเที่ยว”

        “เปล่านะ หนู เอ๊ย!..ผมไม่ได้บอกแม่มะนาว”

        “แล้วแม่รู้ได้ยังไงว่าพี่ไปเที่ยว”

        “จะไปรู้เหรอ ทำผิดแล้วยังจะมาโทษคนอื่นอีก…อ๊ะ”

        ทันทีที่พูดจบประโยคภาพตรงหน้าก็เต็มไปด้วยสีดำจากเสื้อยืดที่อีกฝ่ายสวมใส่ เจ้าของห้องตกใจผงะหนีแต่ยังไม่ได้ก้าวไปไหนหัวไหล่ก็โดนยึดไว้เสียก่อน

        “อายุสิบเก้าแล้วนะไม่ใช่ห้าขวบ เลิกเป็นเด็กขี้ฟ้องได้แล้ว”

       “ก็บอกว่าไม่ได้ฟ้องไง ปล่อยนะพี่ช้าง ผมเจ็บ”

        ตากลมช้อนมอง หัวคิ้วขมวดเพราะแรงบีบที่ไม่น้อยนั้นมันเค้นไปถึงกระดูกเลยทีเดียว พี่ชายตัวใหญ่สมชื่อคลายมือแล้วปล่อยออก พลางก้าวห่างทิ้งระยะห่างเกือบเมตร

        “นายโตแล้วนะพิกเล็ต จะทำตัวติดพี่แจตลอดไม่ได้หรอกพี่เองก็มีสังคม นายเองก็ต้องมีเพื่อนชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยมันมีอะไรให้ค้นหาอีกเยอะ ลองเปิดมุมมองดูนะเผื่อว่านายจะได้พบอะไรใหม่ๆ บ้าง”

        เขามองบานประตูที่ค่อยๆ ปิดลง เปลือกตาบางปิดทาบทับดวงตาร้อนผ่าวหยดน้ำตาไหลรินผ่านแก้ม พยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้เต็มกำลังเพราะเกรงว่าคนที่เพิ่งออกไปจะรู้ว่าเขากำลังร้องไห้ มือขาวยื่นไปกดล็อกเพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาเป็นภาพที่น่าสมเพชของตัวเอง

        ร่างเล็กล้มตัวลงนอนบนเตียงนุ่มพร้อมหยาดน้ำตา ทั่วทั้งหน้าอกเจ็บปวดไปหมด ทั้งน้อยใจเสียใจไปหมดเพราะคุณค่าของตัวเองถูกลดลง เขาไม่ใช่น้องชายตัวจ้อยช่างอ้อนของพี่ช้างอีกแล้ว ตอนนี้เขาเป็นแค่ตัวภาระที่รังแต่จะสร้างความรำคาญให้เท่านั้น

        รักครั้งแรกมันเจ็บเหลือเกิน…

.............................


        เกือบเดือนแล้วกระมังที่เขาเอาไม่ได้พบหน้าพี่ชายตัวใหญ่ แม้จะอยู่บ้านหลังเดียวกันแต่การออกจากบ้านก่อนหกโมงเช้าและเข้าบ้านก่อนหกโมงเย็นทำให้การพบกันไม่ใช่เรื่องง่าย พอแม่มะนาวถามว่าทำไมเขาถึงต้องออกแต่เช้าแล้วกลับเวลานี้ทุกวันก็ให้เหตุผลไปว่าต้องการฝึกตัวเองให้คุ้นกับสายรถเมล์ ซึ่งมันไม่จริงเลยสักนิดเพราะที่จริงแล้วเขาต้องการหนีหน้าพี่ช้างต่างหาก

        เพราะการอยู่ใกล้มันทำให้พี่ชายรำคาญอึดอัด เลยเลือกที่จะตีตนออกห่างแม้จะเป็นวิธีที่โง่เง่าแต่ก็ดีที่สุด ไม่พบหน้ากันอีกหน่อยก็เหินห่างไปเอง ถึงหัวใจจะเจ็บแค่ไหนแต่อีกหน่อยมันก็ชาชินรักได้ก็เลิกรักได้ เขาคิดอย่างนั้นยากสักหน่อยแต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้

        “วันหยุดไม่ไปเที่ยวไหนหรือลูก เอาแต่นั่งอยู่ในห้องเดี๋ยวก็ซีดตายกันพอดีแค่นี้ก็ขาวยิ่งกว่ากระดาษแล้ว”

        แม่มะนาวยกมือลูบผมเขาเล่น พลางชะเง้อชะแง้อยู่หน้าคอมพิวเตอร์คงแอบสำรวจว่าเขาทำอะไรอยู่แต่นอกจากบทความที่เกี่ยวกับการเรียนและโปรแกรมสนทนาง่ายๆ เขาก็ไม่ได้ใช้งานหน้าเว็บไซต์ใดๆ อีก

        “ไม่เอาหรอกฮะ เดี๋ยวหนูก็หลงอีก”

        “ไม่ลองจะรู้ได้ไง เอาอย่างนี้ให้ไอ้ช้างมันพาไป พิกเล็ตอยากไปเที่ยวที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”

        “ไม่ฮะ” ศีรษะกลมสั่นเบาๆ “หนูชอบอยู่บ้านมากกว่า เบื่อก็ลงไปเล่นกับเปตอง แค่นี้ก็สนุกแล้ว”

        แม่มะนาวทำหน้าเหม็นเบื่อ ก่อนจะหรี่ตาลงแล้วยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ใช้สายตาเจ้าเล่ห์ราวกับจะจับผิดกัน

        “สองพี่น้องทะเลาะกันหรือเปล่า จะว่าไปแม่ไม่เห็นเราอยู่ด้วยกันเลยพอพิกเล็ตออกจากบ้านไอ้ช้างก็เพิ่งตื่น พอคนน้องนอนคนพี่ก็เพิ่งกลับ”

        “เปล่าฮะ หนูแค่ยุ่งๆ”

        “มองแต่แม่เดี๋ยวนี้!” ไม่ใช่แค่พูดเปล่านิ้วของแม่มะนาวยังจับคางบังคับให้สบตา แต่เพราะมันคือการโกหกเขาเลยไม่กล้ามองตาดุๆ ของแม่มะนาว
 
     “นั่นไง! ทะเลาะกันเรื่องอะไร อย่าบอกนะตั้งแต่วันที่พิกเล็ตนั่งรถเมล์เลยน่ะ”

        “มะ ไม่ใช่หรอกฮะ หนูแค่ไม่อยากทำตัวให้เป็นภาระของพี่ช้าง”

        “ภาระ! ใครบอกว่าพิกเล็ตเป็นภาระ”

         “ไม่มีหรอกฮะ” พชรดนัยสั่นหัวไวๆ จนแว่นเลื่อนหลุดมาอยู่ที่ปลายจมูก “หนูโตแล้วจะให้พี่ช้างคอยดูแลตลอดไปได้ยังไง”

        “ไอ้ช้างมันเป็นคนพูดใช่ไหม”

         แทนที่จะเชื่อกันแต่แม่มะนาวกลับสรุปความเองเสร็จสรรพแถมยังตรงเผงราวกับมองเห็นอดีตได้ เด็กหนุ่มก้มหน้างุดเพราะไม่อาจทนต่อสายตาจับผิดแถมรู้ทันได้

         “เฮ้อ! ไอ้ลูกคนนี้นี่นะไม่ได้เรื่องเอาซะเลย ใครจะว่ายังไงก็ช่างแต่สำหรับแม่พิกเล็ตไม่ใช่ตัวภาระ แม่รักหนูเหมือนลูกแท้ๆ อีกคน ลืมไอ้พี่บ้าๆ อย่างนั้นไปเถอะ ออกไปเที่ยวกับแม่ดีกว่า”

        “ห๊ะ! ไม่เอาดีกว่า ว๊าก!”

..................................


        สถานที่เที่ยวของแม่มะนาวไม่ใช่ที่ไหนเลย มันคือสำนักพิมพ์ที่แม่มะนาวทำงานอยู่ แม่มะนาวเป็นบรรณาธิการกองนิตยสารวัยรุ่น นิสัยใจคอถึงได้เปรี้ยวจี๊ดผิดวัยที่ล่วงสี่สิบมาหลายปี เขาถูกแนะนำตัวไปทั่วแผนกแล้วจับให้นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์อีกครั้งระหว่างที่รอให้แม่สะสางงานบนโต๊ะ ลองหยิบนิตยสารที่วางอยู่แถวนั้นมาอ่านเล่นๆ ดูก็พบว่ามันสนใจไม่น้อย ทั้งการนำเสนอเทรนการแต่งตัวต่างๆ หรือแม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ ใหม่ๆ ที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอยู่บนโลกนี้

        “น้องคนนี้ก็ได้นะ ฉันว่าจับแต่งหน้าทำผมสักหน่อยก็โอเคเลยล่ะ”

        “แต่นี่มันลูกฉันนะ ไม่เคยถ่ายแบบมาก่อนด้วย”

       “นั่นยิ่งดีใหญ่เลย ลูกแกคุยง่ายกว่าเดิมอีก”

        เปลือกตาบางปรือขึ้นเพราะเสียงพูดคุยที่ไม่เบานักปลุกให้ตื่นจากความฝัน เขาเผลอหลับไปก่อนที่หนังสือในมือจะหมดเล่มด้วยซ้ำ มือขาวดันแว่นขึ้นไปเหนือหน้าผากขยี้ตาไล่ความง่วงงุนที่ยังเล่นงานอยู่

        “น่าร๊าก!”

        เด็กหนุ่มผงะตกใจเมื่อจู่ๆ ก็เสียงที่ดังปรี๊ดยิ่งกว่านกหวีดดังขึ้นใกล้ๆ แล้วก็ต้องตกใจกว่ากว่าเดิมเมื่อแว่นถูกดึงหลุดไป พร้อมกับฝ่ามือลึกลับที่ประคองใบหน้าขึ้น

        “หน้าใสยิ่งกว่าตูดเด็ก ตากลมสวยเชียว ปากเล็กเหมือนรูปกระจับสีแดงด้วย ผิวก็ขาวจั๊วะ ยัยมะนาว! ฉันจะเอาลูกแก! เอาจริงๆ นะ!”


....................................


        “หวา แม่มะนาวทำไมมันดูโป๊จังล่ะฮะ”

         เด็กหนุ่มเบ้หน้าพร้อมกับเลือดที่พากันวิ่งเห่อมารวมที่แก้มจนร้อนผ่าวไปหมด ภาพที่เห็นในไอแพดให้ความรู้สึกรุนแรงกว่าตอนถ่ายทำจริงยิ่งนัก แม้จะยังไม่ถึงกระบวนการตัดต่อเพิ่มเสริมเติมหรือแต่งอะไรด้วยซ้ำ เขาไม่เคยเห็นตัวเองในลักษณะนี้มาก่อน เสื้อยืดแขนกุดสีขาวตัวบางกับกางเกงยีนส์ซีดขาดเป็นริ้วถึงต้นขามันให้ความรู้วาบหวามอย่างบอกไม่ถูก ไหนจะหน้าตาที่โดนบังคับให้แสดงออกมานั่นอีก

       เหมือนนายเอกหนัง GV ไม่มีผิด

        “อย่าให้อาดาวเอาลงหนังสือ หนูอาย ถ้าพ่อเสือรู้โดนด่าเละแน่เลย”
        “ใครจะกล้าทำอะไรลูกแม่ได้”

        แม่มะนาวทำหน้ามั่นใจ ก่อนจะดึงไอแพดหลุดจากมือใช้นิ้วเลื่อนดูรูปอื่นๆ ที่ไม่ต่างกันเท่าไรนัก หลุดเสียงชื่นชมในความน่ารักปนเซ็กซี่ของลูกชายคนเล็กมาเป็นระยะๆ เล่นเอาคนฟังหน้าร้อนผ่าวเหมือนโดนเตารีดนาบ อดรนทนไม่ไหวต้องไปยื้อแย่งคืนหมายจะลบรูปน่าเกลียดพวกนั้นทิ้ง เขาไม่น่าใจอ่อนยอมทำตามที่ดาวบอกเลย

        “ลบเถอะนะแม่มะนาว น่าเกลียดจะตาย”

        “เรื่องอะไร เดี๋ยวแม่จะส่งไปให้พ่อเสือกับพ่อมะรุมดู จะได้รู้ว่าลูกชายมีเสน่ห์แค่ไหน”

        “ไม่เอานะ!”

        มือเล็กๆ ไล่ตามคว้าไอแพด แต่เพราะส่วนสูงที่หยุดพัฒนาตั้งแต่อายุสิบห้าเลยหนีไม่ห่างจากคนเป็นแม่เท่าไรนักมันไม่อำนวย กระโดดก็แล้วเขย่งก็แล้วแต่ที่ทำได้คือคว้าอากาศที่อยู่ใกล้ๆ ไอแพดเท่านั้นเอง

        “เด็กเตี้ยเอ๊ย! ชาติไหนจะแย่งคืนได้”

        ทันทีที่จบประโยคไอแพดในมือก็ถูกแย่งไป แต่ไม่ใช่จากเด็กตัวเล็กใส่แว่นหนาทว่าเป็นฝีมือจากเด็กตัวใหญ่สูงเฉียดสองเมตรแทน คิ้วหนาเข้มยาวจรดดวงตาคมใหญ่ยกสูงหลุบมองมารดาสลับไปยังร่างเล็กของน้องชายร่างสายเลือด ก่อนจะวกกลับมาที่อุปกรณ์ในมือตัวเอง

        วินาทีที่ไอแพดหลุดไปอยู่ในมือของพี่ชายตัวใหญ่ร่างกายเขาโดนสาปไปชั่วขณะ มือชะงักค้างกลางอากาศไม่สามารถเปล่งเสียงหรือแม้แต่จะหายใจได้ ยิ่งได้เห็นดวงตาคู่นั้นเงยขึ้นมองหลังจากที่สำรวจสิ่งที่อยู่ในนั้นแล้ว มันยิ่งแย่ไปกันใหญ่ สายตาคู่นั้นคล้ายกับจะต่อว่า กรินทร์มองมาที่เขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นแล้วคืนไอแพดให้กับมารดาตัวเอง

        “น่าเกลียด”

        เสียงพึมพำหลุดจากริมฝีปากหนาแต่สวย หัวใจที่หยุดเต้นไปกลับมาสั่นระรัวพร้อมกับความเจ็บปวดที่มีมากจนแทบจะอดกลั้นไม่ไหว

        “ไอ้เด็กตาต่ำ น้องออกจะน่ารักเซ็กซี่ ทำเป็นเล่นตัวไปเถอะประเดี๋ยวน้องโดนคาบไปกินอย่ามาอวดครวญให้ได้ยินนะ”

        ประโยคที่แม่มะนาวพูดมันดังลอดหูซ้ายแล้วผ่านหูขวาออกไปเลย สมองมันมึนงงจนไม่อาจประมวลผลหรือทำงานใดๆ ได้อีก ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าโดนคนเป็นแม่รั้งเข้าไปกอด พชรดนัยหลับตาลงฝืนบังคับให้น้ำตาไหลกลับคืนเข้าไปภายใน พี่ช้างคงเกลียดเขาจริงๆ เสียแล้ว…

..................................

(มีต่อ)

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
     อีกเกือบเดือนหลังจากโดนบังคับให้ไปเป็นนายแบบจำเป็น นิตยสารเล่มนั้นก็วางแผงหน้าปกไม่ใช่เขาแต่เป็นนายแบบวัยรุ่นที่กำลังมาแรง ส่วนเขาได้เป็นพรีเซนเตอร์กางเกงยีนส์อยู่ด้านใน รูปที่ถ่ายไปวันนั้นถูกเลือกรูปที่ดีที่สุดมาลงไม่กี่รูป พชรดนัยรู้สึกแย่ยิ่งกว่าเดิม ภาพที่ได้รับการตกแต่งแล้วมันดูหวือหวากว่าเดิมเสียอีก มีรูปหนึ่งที่เขาได้โชว์หุ่นเกือบจะเต็มที่เพราะชอบกางเกงเลื่อนหลุดไปเกาะที่สะโพก ช่วงบนมีแต่เสื้อยืดตัวบางสั้นเลยสะดือขึ้นมาเกือบฝ่ามือ มองเผินๆ เหมือนเด็กหนุ่มที่กำลังจะเปลื้องผ้าไม่มีผิด สายตาที่โดนสอนให้ทำยิ่งเลวร้ายมากกว่าไม่ว่าใครที่ได้เห็นภาพนี้ต้องคิดว่าเขาเป็นนายเอกหนังGV จริงๆ แน่ แต่น่าแปลกที่ภาพน่าอายพวกนั้นไม่ได้ไปกระตุ้นต่อมโมโหของพ่อเสือกับพ่อมะรุมให้ทำงานขึ้นมาได้ อาจเป็นเพราะแม่มะนาวโทรไปขู่ไว้ก่อนแล้ว

         “เฮ้ยไอ้พิก รูปนี้เด็ดจริงๆ ว่ะ เพิ่งรู้ว่าตอนถอดแว่นโคตรน่ารักเลย”

        รูปที่เขาไม่อยากให้ใครเห็นโผล่หราตรงหน้า นิ้วใหญ่ๆ ของเพื่อนร่วมชั้นเรียนจิ้มไปที่นิตยสารหน้านั้น หน้าขาวร้อนเห่อ เพราะตอนนี้นิตยสารแห่งหายนะเล่มนั้นมันถูกใครต่อใครพากันมารุมดู เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังไม่หยุด ถึงจะไม่มีใครต่อว่าเสียงส่วนใหญ่ออกจะชมด้วยซ้ำแต่มันก็ยังน่าอายมากอยู่ดี

         “นายนี่น่ารักกว่าที่คิดไว้อีกนะ”

        มุมอับหลังห้องไม่อาจเป็นที่ซ่อนได้อีก ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนยืนอยู่เบื้องหน้าเขาจำชื่อเล่นของคนๆ นี้ได้ ‘เบค่อน’ หนุ่มหล่อตัวใหญ่ล่ำผิวขาวสะอาดและมักจะมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้าเสนอ เป็นอีกหนึ่งหนุ่มฮอตของคณะและมีแววว่าจะได้ตำแหน่งเดือนคณะอีกด้วย

        เบค่อนยืนพิงสะโพกกับโต๊ะของเขา ดวงตาเรียวแต่คมทอดมองมาที่เขา พชรดนัยรับรู้ถึงกระแสสายตาร้อนแรงที่จับจ้อง เนื้อตัวเขาร้อนวูบวาบรู้สึกคล้ายกับตอนที่โดนอาดาวพาไปถ่ายแบบไม่มีผิด เขาไม่กล้าเงยหน้ามองเบค่อนได้แต่ปล่อยให้อีกฝ่ายสำรวจเนื้อตัวไปอย่างนั้น

        “เย็นนี้ไปกินไอติมกันไหม ฉันเห็นนายชอบเข้าร้านหน้ามหา’ลัย บ่อยๆ” เด็กหนุ่มช้อนตากลมใสเหมือนลูกแก้วมองหน้าเพื่อนร่วมรุ่นด้วยคิดไม่ถึงว่าเบค่อนจะรู้เรื่องที่เขาชอบกินไอศกรีม “ฉันไปซ้อมวิ่งน่ะ เลยเห็นนายทุกวัน”

        เบค่อนไขข้อสงสัยของเขาด้วยการอธิบายเพิ่มอีกนิด พชรดนัยพยักหน้าเล็กน้อยแต่ยังไม่ตอบรับข้อเสนอ

         “นายชอบกินรสสตอว์เบอร์รี่ ชอบกินแบบตักมากกว่าโคน” เบค่อนระบายยิ้ม “ฉันเห็นนายกินอย่างนั้นทุกวัน ฉันรู้จักนายมากกว่าที่นายคิด”

         หนุ่มแว่นหนากระพริบตารัว บอกไม่ถูกว่าควรจะดีใจหรือตระหนกดีที่จู่ๆ ก็กลายเป็นบุคคลในสายตาของคนอื่นขึ้นมา เขาฝืนยิ้มให้กับเพื่อนตัวใหญ่ไปแต่ก็ยังไม่ได้ตอบรับคำชวนอยู่ดี…

………………….


        “ผมจ่ายเอง แล้วก็เอาอเมริกาโน่อีกแล้วหนึ่งด้วยครับ”

        กระเป๋าในมือถูกเปิดค้างเมื่อค่าไอศกรีมของโปรดโดนแย่งจ่ายตัดหน้า เจ้าของเงินยักคิ้วให้รัวๆ พร้อมรอยยิ้มติดทะเล้น พชรดนัยถอนหายใจเหนื่อยหน่ายก่อนจะเดินมาหลบมุมนั่งกินไอศกรีมของตัวเองเงียบๆ

        “นายนั่งที่เดิมอีกแล้ว”

        “นี่มองเห็นฉันทุกวันเลยหรือไง”

        “ใช่ มันเห็นง่ายน่ะ แล้วฉันก็ไม่ค่อยเห็นผู้ชายกินไอติมเท่าไร” เบค่อนบอกพลางดูดกาแฟของตัวเอง “แล้วนี่กลับบ้านยังไง รถเมล์?”

        “อืม”

        “ไปส่งเอาไหม ฉันมีรถ”

     “ไม่…”

          ภาพชายหญิงที่ตระคองกอดแนบชิดเดินเบียดกันเข้ามาในร้านหยุดประโยคปฏิเสธไว้แค่ในลำคอ ทั้งสองหยุดที่หน้าเคาน์เตอร์เขาได้ยินฝ่ายผู้หญิงสั่งกาแฟส่วนผู้ชายที่เขารู้จักเป็นอย่างดีไม่ได้สั่งอะไรแค่เอามือคล้องเอวคอดกิ่วของผู้หญิงคนนั้นเอาไว้เฉยๆ บางจังหวะลูบเลยลงมาถึงสะโพกกลมมนใต้กระโปรงนักศึกษาสั้นแค่คืบอวดเรียวขาขาว เส้นผมยาวกลางหลังดัดเป็นลอนใหญ่ในส่วนปลายเพิ่มความเซ็กซี่ให้น่ามองยิ่งกว่าเดิม

        มันจะไม่มีอะไรเลยถ้าหากว่าผู้ชายคนนั้นไม่ใช่กรินทร์ พี่ชายคนที่เคยแสนดีของเขา พชรดนัยกลืนก้อนสะอื้นที่วิ่งมาจุกที่กลางคอ ไอศกรีมที่เหลืออยู่เกินครึ่งตรงหน้าหมดความหมายเพราะเพราะคอของเขามันไม่อาจรับสิ่งใดได้อีกนอกจากความเสียใจ หนุ่มแว่นหนาสูดน้ำมูกแรงๆ อย่างลืมตัว

        “เป็นอะไร ป่วยหรือเปล่า เฮ้ย! มีน้ำตาด้วย”

        “ห๊ะ!..”

        แว่นถูกดึงออกจากกรอบหน้า และถูกแทนที่ด้วยปลายนิ้วใหญ่อบอุ่นภาพที่เห็นพร่าเลือนแต่ก็มองออกว่าเป็นนิ้วของเบค่อน

         “ร้องไห้ทำไม ไม่สบาย?”

        เบค่อนยังไม่ผละนิ้วไปไหน อ้อยอิ่งอยู่บนผิวแก้มนุ่มของหนุ่มตัวเล็ก ยิ่งได้เห็นดวงหน้าใสยามไร้แว่นหนายิ่งได้รู้ว่าหมูน้อยสีชมพูตัวนี้น่ารักมากแค่ไหน ดวงตาสวยหวานกลมโตวาววับด้วยหยาดน้ำตาที่คลอเคล้า ปลายจมูกแดงเรื่อเหมือนกวางเรนเดียร์ในฤดูหนาว ริมฝีปากอิ่มสีสดเผยอน้อยๆ ยามเจ้าตัวเผลอไผล ไม่น่าเชื่อว่าแค่แว่นทรงเชยๆ อันเดียวจะบดบังความน่ารักเอาไว้ได้

        “ปะ..เปล่า เราแค่ เอ่อ แพ้อากาศ อ๊ะ!”

         “เฮ้ยพี่!”

        ร่างบางของหมูน้อยสีชมพูถูกดึงด้วยแรงมหาศาลจนลอยหวือหลุดจากเก้าอี้แล้วไปหยุดที่แผงอกหนาของคนที่เพิ่งเห็นว่าอยู่ที่เคาน์เตอร์ มือใหญ่กร้านโอบรอบหัวไหล่เล็กด้วยรูปร่างที่ต่างขนาดกันทำให้ดูเหมือนร่างของพชรดนัยกลืนหายไปในอกแกร่งของคนตัวใหญ่

        “อย่ามาโดนตัวน้องฉัน”

        “อะไรของพี่วะ! แล้วพี่เป็นใคร ปล่อยตัวเพื่อนผมนะ”

        เบค่อนผุดลุกจากเก้าอี้ตั้งท่าจะไปแย่งเอาร่างของเพื่อนตัวเล็กกลับมาทว่าอีกฝ่ายจ้องเขม็งไม่ต่างจากสิงโตหวงเหยื่อก่อนจะตอบกลับมาด้วยเสียงเยือกเย็น

        “ฉันเป็นพี่ชายของพิกเล็ต”

        “หน้าไม่เห็นเหมือนกันเลยโกหกหรือเปล่าวะ อ้าวเฮ้ย! จะเอาเพื่อนผมไปไหน พิกเล็ต!”

         ไม่ใช่แค่เบค่อนเท่านั้นที่ร้องโวยวายแต่ผู้หญิงที่มากับกรินทร์ด้วยเจ้าหล่อนงงเป็นไก่ตาแตกเมื่อจู่ๆ ผู้ชายที่ควงมาวิ่งพรวดไปคว้าเอาผู้ชายตัวเล็กมากอดไว้แถมยังประกาศกร้าวว่าเป็นน้องชายของตัวเอง พอตั้งหลักได้ก็วิ่งตามแต่ดูเหมือนจะช้าเกินไปแม้ว่าจะร้องเรียกจนแสบคอไปหมดแล้วก็ตาม ทว่ารถยนต์ที่ได้นั่งมาก็เคลื่อนหายไปด้วยความเร็วสูงเหลือทิ้งไว้แค่เศษฝุ่นละใบไม้แห้งเท่านั้น…

……………………..


         ถึงแว่นตาจะยังอยู่กับเบค่อนแต่สมรรถภาพของตาที่ยังพอเหลืออยู่ก็ทำให้รู้ว่าภาพทิวทัศน์ที่ผ่านตาไปมันเร็วแค่ไหน มือบางจิกลงบนเบาะรถแน่นตั้งแต่ขึ้นรถมาระดับความเร็วยังไม่ลดลงสักนิด เสียงเครื่องยนต์เสียดสีกับอากาศยิ่งทำให้น่ากลัวมากกว่าเดิม เหงื่อผุดซึมที่แผ่นหลังและขมับ อยากจะเอ่ยขอร้องแต่ก็ปากหนักเกินกว่าจะง้างอ้าได้

         พี่ช้างกำลังโกรธเขาสัมผัสได้สาเหตุคงมาจากเขาแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร

       โกรธหรือว่ารังเกียจ

         ศีรษะกลมสวยคะมำไปด้วยหน้าตามแรงเบรกกะทันหันของสารถีตัวใหญ่ ดีที่ใช้มือยันคอนโทรลหน้าไว้ได้ทันไม่อย่างนั้นหน้าผากของเขาคงกระแทกไปแล้ว พชรดนัยหันหน้ามองพี่ชายที่เคยแสนดีทันทีทั้งที่ยังไม่หายตกใจดี ลมหายใจกระชั้นจังหวะหัวใจรัวเร็วยิ่งกว่ากลองเพล

        “นี่นะหรือวิธีที่ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่ของนาย”

        อีกฝ่ายพูดเสียงเย็นขัดกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจ เด็กหนุ่มตัวเล็กมองพี่ชายค้างอยู่อย่างนั้นสมองมึนงงไม่อาจประมวลผลได้ทัน

        กรินทร์กัดฟันกรอดระงับความกรุ่นโกรธไว้เต็มที่ ตาคมสบกับดวงตากลมสวย ดวงหน้าหวานยิ่งกว่าผู้หญิงผุดผาดมากกว่าเดิมไม่รู้กี่เท่าตัวเมื่อไร้แว่นตากรอบหนา พวงแก้มที่ชอบหยิบจับยามมันเขี้ยวเจ้าตัวระเรื่อขึ้นเล็กน้อย ชายหนุ่มกระแทกลมหายใจรุนแรงเมื่อย้อนคิดไปถึงนิ้วของไอ้เด็กบ้าคนนั้นที่กล้าจับต้องแก้มน้องตัวเล็กของเขา ลำพังแค่รูปบ้าๆ พวกนั้นเขาก็จะคลั่งตายอยู่แล้วนี่ยังมีผู้ชายมาแตะต้องเนื้อตัวอีก

        หมูสีชมพูตัวนี้จะทำให้เขาบ้าไปถึงไหน

(มีต่อ)

ออฟไลน์ libra82

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 285
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +236/-5
        “พี่พูด…อะไร”

        เสียงของพชรดนัยแหบปร่า แต่ก็ยังเพราะน่าฟัง ตาสวยมีแววตัดพ้อน้อยใจแต่เจ้าตัวไม่ปล่อยให้เขาเห็นมันได้นานนัก ใบหน้าเรียวขาวยิ่งกว่าน้ำนมเบือนหนีเลือกที่จะใช้วิธีหลบหน้าเหมือนที่เคยทำมา

        คนเป็นน้องนิ่งไปนาน มีแค่หัวไหล่เล็กๆ เท่านั้นที่สั่นไหวแม้จะไม่มากนักแต่ก็พอให้สังเกตได้

        ความเงียบปรากฏขึ้นอีกครั้ง แม้แต่เสียงเครื่องยนต์ก็หยุดทำงานไปแล้ว เสียงลมหายใจที่ต่างจังหวะสะท้อนถึงอารมณ์ของทั้งคู่ได้ดี คนหนึ่งกำลังหงุดหงิดสุดขีดส่วนอีกคนน้อยใจเต็มกำลัง

        กรินทร์กระแทกลมหายใจเสียงดัง ใช้ความพยายามทั้งหมดในการควบคุมอารมณ์ให้แน่วแน่เหมือนที่เคยทำได้ ทว่าคราวนี้มันยากนัก ภาพที่ไอ้เด็กเปรตนั่นใช้นิ้วเกลี่ยบนแก้มใสของน้องชายมันยิ่งกว่าการราดน้ำมันลงบนกองไฟ เส้นโทสะขาดผึงในวินาทีนั้น ลืมความตั้งใจไปสิ้นลืมไปด้วยซ้ำว่าพาใครมาด้วย รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แล้วแต่กระนั้นความขุ่นเคืองก็ยังไม่หายไปไหน พาลโกรธไปหมด ตั้งแต่ไอ้เด็กบ้าคนนั้น หมูสีชมพูตัวเล็กหรือแม้แต่ตัวเขาเอง

        “ทำไมให้มันโดนตัว”

        นิ้วเรียวปาดอยู่แถวแก้มก่อนจะเบือนหน้ามาเพียงเล็กน้อย เสียงแหบพร่าเอ่ยถาม “อะไร”

     “พี่ถามว่าทำไมถึงให้ไอ้นั่นโดนตัว”

        “ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่ ผมโตแล้ว ผมจะทำอะไรหรือให้ใครทำอะไรก็ได้”

        “พิกเล็ต!” ชายหนุ่มตวาดลั่น แต่อีกคนยังนิ่งเฉย “อย่ามายั่วโมโหพี่นะ”

        “พี่จะเอายังไงกันแน่! ต่างคนต่างอยู่กันแล้วไม่ใช่หรือไง ผมไม่ยุ่งกับพี่ พี่เองก็ไม่ต้องมายุ่งกับผมเหมือนกัน”

        หยาดน้ำใสรินผ่านแก้มขาวซีดอย่างสุดกลั้น พชรดนัยยกมือขึ้นปาดมันลวกๆ แล้วหันหน้าหนี แต่อีกฝ่ายไม่ยอมมือแกร่งดึงหัวไหล่เล็กแล้วบีบมันไว้เต็มแรง

        "พี่ก็ไม่อยากยุ่งกับนาย แต่มันทำไม่ได้” กรินทร์เค้นเสียงรอดไรฟัน “มันยากแค่ไหนรู้ไหมกับการตีตัวออกห่างจากนาย”

        “รังเกียจผมมากงั้นซิ!” ตาหวานช้อนมอง แก้มกลมใสสั่นระริกคลอด้วยหยาดน้ำตาที่มีแต่ความน้อยใจเสียใจ

        ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ความอดทนของเขาจวนเจียนจะหมดเต็มที กระชับมือแน่นกว่าเดิม

        “รักมากเกินไปต่างหาก นายไม่รู้หรอกว่าพี่รักนายแค่ไหน” ริมฝีปากอิ่มเผยอค้างความแปลกใจแทรกเข้ามาและหยดน้ำตาที่ยังไหลริน

        กรินทร์สูดเอาอากาศชื้นในรถไว้ในปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะพรูออกมาเหยียดยาว สิ่งที่เก็บกักมานานหลายไปล้นทะลักยิ่งกว่าน้ำเต็มแก้ว ที่สุดเส้นความอดทนที่พยายามรักษาไว้ก็ขาดลง ที่จริงมันขาดผึงตั้งแต่ตอนที่เห็นไอ้บ้านั่นแตะแก้มใสๆ ของน้องน้อยแล้ว

        “ที่พี่ตีตัวออกห่างเพราะพี่ไม่อยากเอาเปรียบ พี่ไม่รู้ว่าพิกเล็ตคิดเหมือนกับพี่หรือเปล่า พี่กลัวเรารังเกียจพี่ ที่ผ่านมาพี่ทำตัวเป็นพี่ชายมาโดยตลอด แต่พิกเล็ตไม่รู้หรอกว่าพี่มันจิตใจโสมมแค่ไหนเพราะที่จริงแล้วพี่ไม่เคยคิดว่าพิกเล็ตเป็นแค่น้องชายเลย”

        เด็กตัวเล็กช้อนตากลมใสมอง หยดน้ำใสหยุดไหลแล้วแก้วสีน้ำตาลไหวระริกความสงสัยกระจายอยู่ในนั้น

        ชายหนุ่มนิ่งเงียบไปชั่วอึดใจ ที่สุดก็ตัดสินใจ

        “พี่รักพิกเล็ต แต่ไม่ใช่แบบน้องชายมันเป็นฉันท์ชู้สาว”

        “รัก…อย่างนั้นหรือ?”

     ริมปากอิ่มสีสดเอ่ยถามและค้างอยู่อย่างนั้นด้วยความฉงนและไม่แน่ใจในสิ่งที่ได้ยิน

        “พี่กลัวพิกเล็ตจะคิดว่าพี่เป็นพวกลักเพศ วิปริตแต่พี่ห้ามความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ ขณะเดียวกันพี่ก็ยังอยากเป็นพี่ชายของพิกเล็ตอยู่ ไม่อยากให้น้องรังเกียจ พี่เลยต้องออกห่างจากน้อง”

        “ใจร้าย!” น้องน้อยบริภาษเสียงดัง น้ำตาเม็ดใหญ่ไหลอีกรอบแต่คราวนี้มาพร้อมกับกำปั้นที่ทุบลงบนอก “หนูเคยรังเกียจพี่เหรอ หนูเคยทำอย่างนั้นเหรอ”

        “ก็พี่มันน่ารังเกียจ ถ้าน้องเป็นผู้หญิงมันคงไม่แปลก แต่น้องเป็น..ผู้ชาย”

        “ผู้ชายแล้วไง! พ่อเสือกับพ่อมะรุม อาออยกับอาคีย์ยังรักกันได้เลย ฮึก ไอ้พี่ช้างใจร้าย”

        มือใหญ่รั้งหัวไหล่เล็กเข้ามาซุกซบกับอก แรงทุบเมื่อครู่มันเจ็บนิดหน่อยเจ้าหมูสีชมพูตัวน้อยมีแรงเท่ามดตะนอย กรินทร์ถอนหายใจอีกรอบ ความกรุ่นโกรธทุเลาเบาบางลงแต่เขายังไม่แน่ใจนักว่าพชรดนัยจะรับหรือไม่เรื่องความรักที่เขามีให้เจ้าตัว

        ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัยรุ่น เขาเริ่มรู้ตัวแล้วว่าคิดเกินเลยกับเจ้าเด็กตัวเล็กที่วิ่งตามไปเขาไปทุกที่ เคยคิดว่าคงเป็นความสนิทมากเกินไป แต่ความรู้สึกเช่นนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเพื่อนคนไหนแม้แต่เพื่อนที่แก้แพ้เล่นน้ำด้วยกัน มันเป็นแค่พิกเล็ตคนเดียวเท่านั้น แต่เขาก็ขี้ขลาดไม่กล้าเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองให้เจ้าตัวรู้เพราะกลัวว่าน้องจะรังเกียจพี่ชายคนนี้ แต่เรื่องของหัวใจมันยากที่จะหักห้าม แม้เขาจะใช้ผู้หญิงมาบดบังความรู้สึกมันก็ได้เพียงชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ว่าจะคนไหนๆ ก็ไม่มีใครน่ารักเท่ากับหมูสีชมตัวนี้เลย ทุกครั้งที่เขาขึ้นเตียงกับพวกหล่อนภาพใบหน้า ผิวกายขาวราวกับราดด้วยน้ำและเรือนกายบอบบางของน้องน้อยจะเข้ามาแทรกเสมอ อันที่จริงเขาเสร็จสมได้เองโดยแค่ใช้จินตนาการเป็นพิกเล็ตด้วยซ้ำ

        วิธีที่ดีที่สุดคือการตีตัวออกห่างเพราะคิดว่ามันอาจจะเป็นผลดีทั้งกับตัวเขาและพิกเล็ตเอง แต่เขาคิดผิดยิ่งห่างกันเท่าไรหัวใจเขายิ่งทุรนทุราย ไม่ว่าจะผู้หญิงคนไหนก็ไม่มีใครทำให้เขาลืมตากลมใสคู่นี้ได้เลย ตอนที่ได้เห็นภาพอันแสนเย้ายวนในไอแพดนั่นเขาแทบคลั่งตาย ทั้งหึงทั้งหวงหน้ามืดไปหมดและจบท้ายด้วยการปลดปล่อยกับมือตัวเองเกือบสามครั้ง น้องน้อยที่เขาแอบหวงแหนแสนงดงามนัก เรือนร่างบอบบางแต่ไม่ได้ผอมเกร็งมีสัดส่วนน่ามอง เปิดเผยต่อหน้าผู้คนมากมาย นึกโกรธแม่มะนาวที่เอาน้องไปอวดให้คนอื่นมอง

         วันที่พิกเล็ตนั่งรถเมล์เลยป้ายเขาเฝ้าด่าตัวเองเป็นร้อยๆ รอบ แค่คิดจะผลักน้องไปให้ไกลเพราะกลัวตบะจะแตกแต่ดันลืมคิดไปว่าน้องเป็นเด็กต่างจังหวัดแม้จะมากรุงเทพฯ บ่อยๆ แต่ทุกครั้งที่เดินทางจะมีน้ามะรุมหรือคนอื่นคอยขับรถไปส่ง โชคดีที่น้องไม่เป็นอะไรไม่อย่างนั้นเขาจะไม่มีวันยอมให้อภัยตัวเองแน่

        จนวันนี้เขาถึงได้รู้ว่าอย่างแน่ชัดว่า เขาเลือกทางผิด เขาไม่มีทางหนีจากพิกเล็ตได้เลย

    “พี่น่ารังเกียจใช่ไหม”

       หัวใจเขาระทึกหนักรอลุ้นคำตอบด้วยความหวัง เพราะสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่จากปากของน้องมันชวนให้คิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้

        น้องตัวเล็กยังนิ่งอยู่ในอ้อมแขน หัวใจเต้นตุบอยู่แถวสีข้าง เขาสูดเอากลิ่นผลไม้จากเรือนผมสีน้ำตาลพร้อมกับกลิ่นหอมเฉพาะตัวไว้ในปอดค่อนข้างแน่ใจว่าเจ้าตัวเล็กนี่ไม่ได้พึ่งน้ำหอมที่ไหน นานจนหัวใจเต้นเป็นจังหวะปกติน้องน้อยถึงได้ยอมเงยหน้าจากแผงอก

        “หนูไม่เคยเกลียดพี่ช้างเลย ถึงพี่ช้างจะใจร้ายกับหนู”

        “พี่ขอโทษ” ชายหนุ่มบอก ยกมือประคองแก้มนุ่มใสที่หมายจะได้เชยชมมาตลอด

        “รักทำไมไม่บอกกัน”

        “พี่ไม่กล้า พี่กลัว…”

        ปลายนิ้วนุ่มกดทับลงบนกลีบปาก พิกเล็ตขยับกายขึ้นอีกนิดกลายเป็นว่าขึ้นมานั่งบนตักเต็มที่ สะโพกกลมทับบนหน้าขาเบียดกับบางสิ่งที่ตื่นตัวอย่างไม่รู้จักเวล่ำเวลา

       ก็บอกแล้วว่าเข้าใกล้ทีไรมีอันต้องตบะแตกทุกที

         “ไม่เห็นน่ากลัวเลย ดูหนูนะ” หมูสีชมพูเผยอริมฝีปากอิ่มยื่นหน้าเข้ามาชิดเกือบติดใบหู “หนูรักพี่ช้าง รักมากกว่าพี่ชายมาตั้งแต่ ป.หนึ่งแล้ว”

        “ป. หนึ่ง?”

        “ใช่” ศีรษะกลมสวยผงกรับ “พี่ช้างคือรักแรกของหนู”

        กรินทร์คลี่ยิ้มกว้าง โล่งใจยิ่งกว่ายกภูเขาออกจากอกรู้สึกว่าตัวเองโง่ยิ่งกว่าลาทุกตัวในโลกรวมกัน แต่ก็ดีใจเหลือประมาณ น้องรักเขาแถมรู้ใจตัวเองก่อนเขาเสียอีก เขาใช้ความอดทนที่จะเก็บความรู้สึกเอาไว้แต่น้องต้องลำบากมากกว่า ทั้งที่มีหัวใจตรงกันแท้ๆ แต่เลือกที่จะเก็บงำเอาไว้ เขามันโง่สิ้นดีที่มองไม่เห็นดวงตาที่สะท้อนความรู้สึกเดียวกัน หรืออาจเป็นเพราะ…

        ไอ้แว่นอันใหญ่นั่นที่บดบังเอาไว้

        “พิกเล็ตก็คือรักแรกของพี่เหมือนกัน”

        “ไอ้พี่ช้างบ้า!”

        เขาหัวเราะเบาๆ กับคำต่อว่าต่อขานที่แสนน่ารัก ก่อนจะประทับจูบลงบนริมฝีปากสีสวยเย้ายวนตรงหน้า จูบแรกระหว่างพวกเขามันหวานนัก ชายหนุ่มกดคลึงความนุ่มหยุ่นเหมือนเยลลี่นั้นแผ่วเบาๆ แล้วเพิ่มน้ำหนักทีละน้อย เลาะเล็มลิ้มชิมรสหวานจากกลีบปากอิ่มเหมือนกินของโปรด

        กรินทร์ขบดึงปากนุ่มด้วยความมันเขี้ยว ปลายจมูกโด่งกดลงบนแก้มขาวพอดี มือใหญ่สอดรัดเอวบางเข้าประชิดลำตัวมากกว่าเดิม หมูสีชมพูแสนน่ารักวาดขาคร่อมหน้าตักเบียดหน้าขาเสียดสีกับเขาอย่างเร่าร้อน พิกเล็ตตัวหอมเหลือเกินเพราะเส้นความอดทนมันขาดไปแล้ว และยิ่งได้รับการตอบรับด้วยยิ่งทำให้ได้ใจ เขาจะทำตามใจตัวเองเป็นครั้งแรก

        พี่ชายตัวใหญ่สอดลิ้นเข้าไปกวาดไล้ไล่ต้อนอีกลิ้นที่ด้อยประสบการณ์ดูดดึงเป็นบางจังหวะ สอนให้น้องตอบโต้ พิกเล็ตหัวดีจำได้อย่างง่ายดายและทำให้เขาครางเบาๆ ในคอด้วยความพอใจได้ด้วย เขาตระคองกอดเอวเล็กแน่นกว่าเดิม พอได้กอดเต็มที่ถึงได้รู้ว่าน้องตัวเล็กเหลือเกิน เลือดในกายเดือดพล่านเพราะผิวใต้ผ้ามันนุ่มลื่น มือใหญ่สอดหายเข้าไปในชายเสื้อเพื่อสัมผัสผิวกายอย่างแท้จริง

         “อื้อ”

        พิกเล็ตครางเสียงหวานเมื่อปลายนิ้วไล้บนผิวนุ่มเรียบเนียนยิ่งกว่าผ้าแพรผืนไหนๆ เขาไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเขาจึงไม่อาจใช้ผู้หญิงคนไหนทดแทนน้องน้อยได้ เพราะพิกเล็ตสูงค่าและงดงามมากกว่ายิ่งนักทั้งหน้าตาที่น่ารักยิ่งกว่าผู้หญิง รูปร่างบอบบางน่ากอด และผิวสวยชนิดที่ผู้หญิงยังต้องอาย ที่สำคัญเขารักน้องคนนี้ที่สุด นึกดีใจที่น้องไม่ได้รักคนอื่น และไม่มีใครได้เชยชมความงามนี้ด้วยมืออย่างเขา ส่วนพวกที่แทะโลมน้องของเขาผ่านทางนิตยสารถือเสียว่าเป็นการทำทานไปเพราะมันจะมีแค่ครั้งเดียวเท่านั้น

    “พะ..พี่ช้าง อื้อ พอก่อน”

        เปลือกตาบางปรือขึ้น นัยน์ตาวาวหวานฉ่ำด้วยอารมณ์พิศวาสไม่ต่างกับเขา มือขาวนุ่มจับข้อมือเขาไว้ระหว่างที่มันกำลังคลึงอยู่บนแผ่นอกบาง

        “ทำไมล่ะ หืม?” เขาถามเสียงพร่า ความต้องการพุ่งพรวดรวดเร็ว

         “มะ…แม่โทรมา”

        “หืม?” กรินทร์เลิกคิ้วพลางเงยหน้าจากซอกคอนุ่มหอมกรุ่น

        ไอ้เจ้าเครื่องมือทำลายความสุขสั่นครืดคราดอยู่ในกระเป๋ากางเกงของพิกเล็ต ชายหนุ่มจิ๊ปากอย่างอดไม่ได้แต่ก็ยอมลามือจากอกนุ่ม ทว่ายังไม่วายแทะเล็มผิวขาวที่ลำคอเพื่อระงับความหงุดหงิดจากกการโดนรบกวน พิกเล็ตบิดหัวไหล่หนีไปมาระหว่างที่สนทนากับแม่มะนาวจอมก่อกวน

        “พี่จ๋าพอก่อน” น้องปรามเสียงหวาน พยายามงัดหน้าออกจากคอ “แม่บอกว่าถ้าพี่ไม่พาหนูกลับบ้านก่อนหกโมงแม่จะพาหนูไปถ่ายแบบอีก”

        “ไม่เอานะ!” พี่ช้างตบะแตกตวาดลั่น แค่ครั้งเดียวก็จะบ้าแล้วถ้ามีครั้งที่สองเขาต้องตายแน่ๆ

        ก็น้องของเขาน่ารักน่ากินเสียขนาดนี้

         ริมฝีปากจิ้มลิ้มยื่นมาชิดติดแก้มพรมจูบเบาๆ บนแก้มอย่างเอาใจ

        “ยังมีเวลาอีกเยอะ ไว้ค่อยทำต่อเนอะ”

        เจอลูกอ้อนเข้าไปใครจะไปทนไหว กรินทร์ยอมปล่อยร่างน้อยลงจากตักแม้กลางลำตัวจะปวดหนึบอยู่ก็ตาม เอาเถอะ อย่างที่พิกเล็ตว่ายังมีเวลาอีกเยอะแต่ถ้าระเบิดจากคุณนายมะนาวลงเมื่อไรชีวิตเขาได้สั้นลงแน่ๆ…

...............................

 :hao7:
ก๊ากกกก จบมันแบบห้วนๆ อย่างนี้แหล่ะ
คิดอยู่นานว่าจะให้พิกเล็ตกับช้างออกมาเป็นรูปแบบไหนดี
คิดได้เท่านี้เองอ่า  :ling3:
อย่าด่าอย่า่โกรธอย่าว่าที่หายไปนาน
ไปเร่งแต่งเรื่องพิเศษอยู่จ้า
ส่วนเรื่อง "เมารัก" นี้ กำลังอยู่ในช่วงทำปก ซึ่งคนวาดติดคิวย๊าวยาวรอกันอีกนิดนะจ๊ะ
เสร็จเมื่อไรเอามาอวดแน่นอน
ระหว่างนี้ก็อ่านน้องพิกเล็ตตอนโตรอไปก่อนเนอะ
ป.ล. ถ้าขยันจะแต่งอีกนะจ๊ะ ในวงเล็บ (ถ้า)  :katai5:



(ช่วงนี้หลงเด็กแฝดคู่นี้มากค่ะ น่าร๊ากกกกก)

[attachment deleted by admin]

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :-[  พิกเล็ท  มาแล้วๆๆๆ มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้งมากกกกก   :mew1:   แต่อิพี่ช้างมันน่านัก   :z6:  โง่จริงๆ  ความจริงน่าจะให้พิกเล๊ทจัดการให้เข็ดซะก่อน   :m31: 

ปล.รอคี่ ของปืน+โยธิน + หมอ?? อะไรหว่าลืม   :katai5: 

ออฟไลน์ เด็กหญิง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 204
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-0
ชอบมากเลยค่ะ อยากอ่านคู่นี้อีก >_<

ออฟไลน์ PAnppyJunJii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 329
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น่ารักมากเลยค่ะ  เกือบจะ :beat:พี่ช้างแล้วเชียว  ชอตอนพิเศษอีกเยอะๆนะคะ   :call:

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 :z3:หมูชมพู น่าจะแกล้งอิพี่ช้างให้คลั่งไปเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
ทั้งน่ารักทั้งขำ
ชื่อเด็กสมัยนี้นี่มันน่าขย้ำจริงๆ
ทั้งเบค่อน นาซ่า  อาจรวมพิกเล็ตด้วยคน   :hao7:

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1859
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
น่ารักอ้า :-[

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
มันน่าจะมีฉากง้องอนกันซักหน่อยคงสนุกกว่าที่คิด

ออฟไลน์ sin

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 174
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-0
เด็กๆ โตเป็นหนุ่มแล้ว น่ารักน่าชัง

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พิกเลต......น่ารัก

ออฟไลน์ TanyaPuech

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4341
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +531/-23
พิกเลตดูอ่อนหวาน ใส  ตุ๊กตากระเบื้องเคลือบไป  ไม่คิดว่าจะออกมาแบบนี้แหะ

คิดว่าจะออกมาหนุ่มน้อยแสนซน เข้มแข็ง  อิอิ

แต่พี่ช้างตามที่คิดไว้ แต่ไม่คิดว่าจะเพลย์บอยขนาดนี้  คิดว่าจะไปหนุ่มสายนักกีฬาซะอีก

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ saotome

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
น่ารักๆ คิดถึงคีย์ ออย
เอ๊ะๆ มะรุมกับ พี่เสือด้วย  :mew3:

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
 :-[ ชอบน้องหมูชมพูน่ารัก ดีนะอิพี่ช้างมันหมดความอดทนเร็ว

ไม่ง้ัน มคปด แน่ๆ 55555 รอหนังสือนะคะ

อยากให้มีพี่ช้างกับน้องหมูชมพูในตอนพิเศษด้วยจัง

ออฟไลน์ =นีรนาคา=

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2546
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +296/-6
งื้อ น้องน่ารักอ่ะ  :กอด1:
เอาอีกๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
โตแล้วพิกเล็กทำให้พี่ช้างรู้ใจตัวเอง แต่ทำตัวห่างแบบนี้สงสารน้องนะ
ดีแล้วที่ปรับความเข้าใจกันได้

ออฟไลน์ stickyyrice

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +40/-5
คู่นี้ก็ร้อนเเรงไม่เเพ้พ่อเค้าเลย

ออฟไลน์ liptudzii_chi

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 124
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
รอ นายปืนกะคุณโยธิน ใจจะขาดแล้วค่ะ ฮ่าๆ :mew2:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
เด็ก ๆ โตกันแร้ววว~
ดูแลลูกหมูให้ดีน๊าา~ พี่ช้าง >.<

ออฟไลน์ koikoi

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3861
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +311/-13
น่ารักอ่ะขออีกซักสองสามตอนสิคะ :impress2:

ออฟไลน์ dear77

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 249
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
 o13 สองคนดีกว่า

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
หืม มันน่าเบิ๊ดกะโลกนัก เจ้าช้าง

ออฟไลน์ yuyie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2112
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +92/-5
แอบชอบเบค่อน  :mew1:

ออฟไลน์ minenat

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1661
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-3
น่ารักกกกกกกกกกก

ออฟไลน์ poterdow

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 662
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
ฟินเด็กๆๆมากกกกกค่ะ :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
พิกเล็ตกับน้องช้าง อ๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
ป้าเครียดดดดด อยากอ่านต่ออออออ
 :hao5: :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด