กำปั้นลอยหวือในอากาศหมายจะกระแทกใส่ปากฝั่งตรงข้าม แต่เพราะไม่ถนัดเรื่องเตะต่อยซ้ำสภาพร่างกายที่เสียเปรียบกว่าทำให้มือที่ชูสูงถูกคว้าเอาไว้ก่อนที่ผู้มีกำลังมากกว่าจะกระชากลำตัวโปร่งเข้ามาประชิดตัว
“คิดหรือว่าหวัดง่อยๆ ของคุณจะทำอะไรผมได้” ชายหนุ่มแสยะยิ้ม มือแกร่งบีบข้อมือเล็กแน่นไปถึงกระดูกราวกับจะทำให้มันแตกยับตรงนั้น ยิ่งสะใจขึ้นไปอีกเมื่อได้เห็นสีหน้าเจ็บปวดจากคนอวดเก่งแต่เพียงชั่วประเดี๋ยวความจองหองก็กลับมาอีกหน
“ปล่อยฉันนะ ไอ้สวะ!”
“ปากดีจังนะ ไอ้สวะคนนี้ไม่ใช่หรือไงที่เป็นผัวคนแรกของคุณน่ะ”
“ไอ้เหี้ย! สารเลว”
“ยังน้อยกว่าคุณหลายขุม เพราะผมเลือกที่จะเหี้ยกับคุณคนเดียว”
ร่างเล็กเต้นเร่ายกเท้าขึ้นจงใจจะเหยียบลงมาที่หลังเท้าของเขา แต่ความรวดเร็วมันต่างกันไม่ว่าจะออกอาวุธท่าไหนเขาก็รับได้หมดเรื่องกำลังหรือการต่อสู้โยธินด้อยกว่าเขาหลายเท่าตัว อย่าว่าแต่เรื่องใช้กำลังเลยแม้แต่รูปร่างก็ไม่มีทางเทียบกันได้ เขาคือชายฉกรรจ์ร่างสูงใหญ่ส่วนสูงในบัตรประชาชนมันเกินร้อยแปดสิบมาเล็กน้อย อกผายไหล่ผึ่งอย่างพวกทำงานหนัก ผิวกายดำคร้ามแดด ขณะที่ไอ้คนอวดขนาดตัวไล่เลี่ยกับอาณกร ไม่ต้องถามถึงกล้ามเนื้อไอ้คนที่เอาแต่หมกตัวอยู่แต่ในห้องแอแค่เดินก็เหนื่อยจะเอากล้ามที่ไหนมางัดกับเขา
ฉะนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่วิธีการลงโทษของเขาคือการจองจำอิสรภาพของมันด้วยเซ็กส์ ถ้ามันคิดจะเล่นตุกติกเอาพวกลูกน้องของมันมาเล่นงานเขา ผลงานบนเตียงทั้งหมดจะถูกเผยแพร่ไปให้พ่อและพี่ชายรวมไปถึงทุกคนในโลกนี้รู้ทันที เขาเป็นคนโง่ไม่รู้เรื่องเทคโนโลยี แต่เพราะได้กูรูดีอย่างภาคภูมิที่คอยแนะนำวิธีการบันทึกภาพทั้งเคลื่อนไหวและภาพนิ่งจากโทรศัพท์มือถือ แน่นอนว่าภาพพวกนั้นจะถูกส่งต่อให้ภาคภูมิทันทีโดยไม่มีไว้ในเครื่องให้อีกฝ่ายแอบถ่ายเทไปได้ วิธีง่ายๆ ที่ได้ผลยิ่งกว่าคุ้ม โยธินกลายเป็นหมาที่ได้แต่ขู่ เขี้ยวบิ่นๆ หดกลับเข้าไปเพียงแค่หยิบเรื่องบนเตียงขึ้นมาอ้าง
อ่อนแอจนน่าสมเพช
“ถ้ายังอยากลุกไปทำงาน ก็อย่ามายั่วโมโหผม”
ตาเรียววาววับ ชั่ววูบเขาเห็นหยดน้ำรื้นในดวงตาคู่นั้นแต่แค่ชั่วกระพริบตามันก็เลือนหายไป ใบหน้าขาวซับสีเลือดจนแดงเรื่อ ร่างเล็กหยุดดิ้นเพราะรู้ซึ้งถึงคำขู่ดี ปืนปล่อยมือคืนอิสระจอมปลอมให้ โยธินหมุนกายแล้วรีบเดินหนีห่างไปทันที ตาคมจ้องมองแผ่นหลังเล็กที่ค่อยๆ ถูกความมืดของราตรีกลืนหายไป
ปืนผ่อนลมหายใจบางเบา เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าอีกครั้ง แสงริบหรี่ของดวงดาวไม่ต่างจากความอบอุ่นในหัวใจ ยิ่งนานวันมันยิ่งเหลือน้อยลงทุกที…
……………….
“พี่ช้างว่าหนูจะทาดอกไม้สีอะไรดี”
“สีชมพูซิ”
“สีเหลืองดีกว่า กิ่งแก้วชอบ”
“สีชมพูดีแล้ว”
“สีเหลือง!”
“สีชมพู!”
“หวา อย่าทะเลาะกันซิ เดี๋ยวพิกเล็ตลงทั้งสองสีเลยดีไหม”
เด็กที่นั่งตรงกลางร้องบอกก่อนที่น้ำลายจากเพื่อนและพี่ชายที่นั่งประกบข้างๆ จะทำให้หัวเปียก มือเล็กๆ คว้าเอาดินสอสีชมพูมาลงที่กลีบดอกอันแรกแล้วเอาสีเหลืองระบายในกลีบที่สอง สรุปว่าดอกไม้ดอกเดียวมีถึงสองสีนี่ไม่นับรวมก้านที่เป็นสีเขียวเข้มและมีใบเป็นสีเขียวอ่อน ตามความต้องการของกิ่งแก้วและพี่ช้าง
คุณหมอตัวเล็กละสายตาจากเด็กทั้งสามก่อนจะหย่อนเท้าลงแช่ในสายน้ำเย็น เสียงน้ำตกดังก้องไปทั่วบริเวณแต่กลับไม่น่ารำคาญ ถ้าหากว่าครั้งที่แล้วเขาไม่ซุ่มซ่ามลื่นไถลจนข้อเท้าพลิกคงได้เห็นมันไปแล้ว แต่การมาเยือนน้ำตกส่วนตัวของไร่เคียงฟ้าในครั้งที่สองนี้กลับมีความสุขมากกว่า เพราะคราวนี้ไม่ได้มีแค่เขาหรือพศิน แต่ยังมีเจ้าเด็กตัวแสบที่อิมพอร์ตมาจากกรุงเทพฯ อีกคน ทันทีที่ปิดเทอมเจ้าช้างก็ร่ำร้องให้แม่มาส่งที่ไร่เคียงฟ้าเพราะคิดถึงน้องชายคนใหม่ใจจะขาด
ส่วนแม่มะลิ กับพ่อวรินทร รวมถึงพี่มะนาวอยู่พักผ่อนแค่สองวันเพราะเป็นห่วงบ้านที่กรุงเทพฯ แล้วทิ้งเจ้าเด็กอ้วนดำเอาไว้จนกว่าจะเปิดเทอม วันหยุดแสนยาวสำหรับพิกเล็ตเลยพิเศษกว่าครั้งไหนๆ เพราะได้เพื่อนเล่นเพิ่มมาอีกคน
“แซนด์วิชมาแล้ว เด็กๆ มากินกันเร็ว”
เขาหัวเราะเมื่อเห็นเจ้าหลานตัวใหญ่เกินไววิ่งไปหาของกินก่อนใคร อาณกรและคิมหันต์ช่วยกันหิ้วตะกร้าสานใบใหญ่เข้ามาสมทบ สองหนุ่มต่างไซส์อาสาเป็นคนจัดแจงเรื่องอาหารในวันพักผ่อนที่แสนพิเศษ สถานที่ก็ไม่ใช่ที่ไหนน้ำตกส่วนตัวที่ทั้งสงบและสะอาด
“มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ ทำไมไม่ไปกินกับเด็กๆ”
เสียงทุ้มต่ำติดแหบดังขึ้นเหนือศีรษะ เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มที่ชะโงกอยู่เหนือตัว ปลายจมูกโด่งกดลงบนหน้าผากก่อนที่เจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่ไม่ต่างจากพวกฝรั่งจะย่อกายลงนั่งบนก้อนหินข้างๆ กัน หย่อนเท้าเปลือยลงในสายน้ำเย็นฉ่ำ
“ยังไม่หิว แล้วผมก็อยากกินข้าวยำฝีมือพี่เสือมากกว่า”
“ปากหวานจริง เมียใครวะ!” คางของเขาถูกเขย่าเบาๆ
“พูดอะไรอายเด็กมันบ้างซิ” เขาต่อว่าเสียงเบา เหลือบตามองเด็กๆ ที่ไปเกาะกลุ่มรวมตัวกันอยู่ใต้ต้นไม้ห่างออกไปหลายเมตร แล้วก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นพิกเล็ตเช็ดปากให้ช้างเพราะเจ้าเด็กอ้วนดำสวาปามจนปากเปื้อนไปหมด
“อายทำไม เขารู้กันหมดแล้วว่าเราเป็นอะไรกัน”
คนหน้าหนาอย่างพศินไม่รู้ร้อนรู้หนาว กอดเขาต่อหน้าคนงานทั้งไร่ก็ทำมาแล้ว อย่าว่าแต่กอดทั้งหอมทั้งจูบทำหมด เล่นเอาเขาอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีไม่ต้องพูดถึงการโดนล้อโดนแซว ดินทำเป็นประจำเช้าเย็นจนหลังๆ เขาเริ่มชินเสียแล้ว
“คุณแพรวเป็นยังไงบ้าง”
คิ้วหนาของพศินเลิกสูง “หาแฟนใหม่ได้แล้ว”
“หืม? ทำไมเร็วจังยังไม่สามเดือนเลย”
“ก็พี่บอกแล้ว คนอย่างแพรวไม่ได้รักหรอกนอกจากตัวเอง”
เขาผ่อนลมหายใจเบาๆ ที่ถามถึงคนรักเก่าของพศินเพราะเมื่อวันก่อนเพื่อนของคุณปยุตโทรมารายงานถึงความเป็นอยู่ของปาริน ถึงตอนนี้หัวใจของเขามันเข้มแข็งขึ้นมากแล้วเลิกระแคะระคายในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แม้ไม่มีอะไรเป็นหลักค้ำประกันแต่เขาเชื่อในหัวใจของพศิน เช่นเดียวกับพศินที่เชื่อในความรักของเขา
“แล้วคุณโยล่ะ”
“ยังจะเรียกมันว่าคุณอีก” ตาคมชำเลือง “มันทำกับมะรุมไว้ตั้งเยอะ ไม่ต้องให้เกียรติมันขนาดนั้นหรอก”
วรทย์หัวเราะเบาๆ ระหว่างเขากับโยธินไม่มีความแค้นต่อกัน ถึงจะเกือบโดนข่มขืนแต่ไม่ก็ไม่เคยเก็บมาจำฝังใจ แต่ที่ไม่คิดจะห้ามปรามความคิดศาลเตี้ยของอาณกรเพราะคิดว่าความร้ายกาจที่โยธินก่อไว้กับพศินและพิกเล็ตควรได้รับการลงโทษบ้าง
“ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย ว่าแต่พี่เถอะ ยังคิดว่าเขาเป็นเพื่อนอยู่หรือเปล่า”
พศินนิ่งไปพักใหญ่ ใบหน้านิ่งเรียบจนยากจะคาดเดาคำตอบ “คำว่าเพื่อนมันลบกันไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ ถึงมันจะทำเลวกับพี่แค่ไหน แต่ยังไงมันก็ยังเป็นเพื่อนของพี่ ถึงมันจะไม่เคยคิดว่าพี่เป็นเพื่อนของมันก็ตาม”
ชั่ววูบหนึ่งในดวงตาคมกริบคู่นั้นมันสะท้อนความเจ็บปวดออกมาให้ได้รู้สึก เขายกมือลูบแผ่นหลังหนาแผ่วเบา ความเจ็บปวดจากการโดนคนรักทรยศไม่หนักหนาเท่ากับโดนเพื่อนรักที่สุดหักหลัง แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่อาจตัดสัมพันธ์ได้ลง พศินก็เป็นเช่นนี้ แข็งนอกอ่อนใจ จริงใจและซื่อสัตย์
แล้วจะไม่ให้เขารักได้อย่างไร พศินหันมามองเขาก่อนจะล้มกายเอนศีรษะวางลงบนตัก มือแกร่งดึงมือของเขามากุมไว้ยกขึ้นแล้วพรมจูบ
“อย่านอกใจพี่นะ พี่คงทนไม่ได้ถ้ามะรุมทิ้งพี่ไป”
คุณหมอหนุ่มอมยิ้มใบหน้าขาวระเรื่อด้วยเลือดฝาด ไม่ชินสักทีกับคำหวานๆ ของคนดิบเถื่อน ฟังทีไรจั้กจี้หูทุกที
“ผมไม่ทิ้งพี่ไหนหรอกน่า ว่าแต่พี่เถอะถ้านอกใจผมเมื่อไร พ่อจะตัดให้แม้แต่ตอก็ไม่ให้เหลือ”
คนตัวโตหัวเราะในคอ จูบที่ข้อมือหนักๆ “คนอย่างพี่ไม่เคยทิ้งใคร พี่ให้มะรุมพิสูจน์ทั้งชีวิตเลย”
“ผมจะคอยดู”
แม้ไม่มีสิ่งใดยืนยันได้ว่าความรักครั้งนี้จะยืนยาวไปถึงนิรันดร และไม่มีพรหมลิขิตบทไหนบอกได้ว่าเขากับพศินคือคู่แท้แต่ด้ายสีแดงที่ผูกบนนิ้วก้อยของเขามันเชื่อมโยงไปถึงนิ้วก้อยของอีกคน ด้ายสีแดงที่ไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าหากแต่ต้องใช้หัวใจสองดวงมองถึงจะเห็นมัน วรทย์ลูบมือกับเส้นผมสีดำสนิท เขารักพศินเหลือเกิน รักทุกอย่างที่หล่อหลอมรวมเป็นผู้ชายคนนี้ รักโดยไม่มีข้อแม้และรักไปถึงเด็กชายตัวน้อยด้วย
I do believe all the love you give ผมเชื่อในรักที่คุณมอบให้ “เฮ้ย! ไอ้เด็กอ้วนดำ มึงทำอะไรวะ!”
อารมณ์หวานๆ สะดุดร่วงหาย เมื่อจู่ๆ ศีรษะหนักๆ ก็ยกขึ้น เขามองไปตามนิ้วสีเข้มที่ชี้ไปยังกลุ่มเด็กๆ เห็นเจ้าช้างตัวดีกำลังหอมแก้มพิกเล็ตพอดี วรทย์หัวเราะแข่งกับเสียงฝีเท้าของคุณพ่อจอมหวงที่ตรงรี่ปรี่เข้าไปหมายจะจัดการหมูขโมยตัวใหญ่ แต่เจ้าช้างรู้ทันคว้ามือน้องวิ่งหนีไปก่อนโดยมีกิ่งแก้ววิ่งตามไปติดๆ เด็กทั้งสามส่งเสียงร้องกรี๊ดด้วยความสนุกและตื่นตื่น เลยกลายเป็นว่าผู้ใหญ่ตัวโตกำลังวิ่งเล่นไล่จับอยู่กับเด็กๆ แทน
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังไปทั่วไร่เคียงฟ้า วรทย์มองภาพแห่งความสุขด้วยรอยยิ้ม จนถึงตอนนี้เขาสาบานต่อหน้าแผ่นดินและผืนฟ้าว่าจะไม่มีวันทิ้งพศินและพิกเล็ตไปไหน…
I’ll keep you safe don’t you worry
ผมจะปกป้องคุณเอง คุณอย่ากังวลไปเลย…อวสาน…
………………….
::โฮ จบแล้ว เป็นนิยายที่ใช้เวลาเขียนนานที่สุด (เพราะหล่อนดองนานนั่นเอง)
จบแบบไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไร อย่าถือสาหาความกันเลยนะคะ
แถมดันทิ้งท้ายคู่สามพีไว้เสียอีกพล็อตเรื่องมีแล้วขาดแค่ความขยันเท่านั้น
ตอนพิเศษของคุณออยกับหมอคีย์นั้นมีอยู่ในเล่มนะคะ แต่จะพยายามหาเวลามาแต่งตอนเล็กๆ น้อยๆ ให้ได้อ่านพอให้หายคิดถึง
สำหรับเรื่องใหม่ (ที่ไม่ใช่สามพี) ตอนนี้แต่งได้ยังไม่ถึงครึ่งเพราะเพิ่งรวมเล่มเรื่องนี้เสร็จ ถ้าหากเป็นนักเขียนท่านอื่นคงเสร็จไปนานแล้ว แต่เนื่องจากเป็นอิป้าที่คอยแต่จะวอกแวก ก็เลยช้ากว่าเขา
สุดท้ายนี้ไม่มีอะไรจะมอบให้นักอ่านที่รักทุกท่านนอกจากคำขอบคุณในทุกๆ คอมเมนท์ อ่านทุกข้อความเลยนะคะ รักนักอ่านทุกท่านมากๆ ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆ ก็บอกว่าบ้านนี้เข้าแล้วหาทางออกไม่ได้ มันดีอย่างนี้นี่เอง
รักทุกคนมากๆ นะคะ ป.ล. เรื่องความรักของพี่ปืนนั้นจะมีอยู่ในเรื่องต่อไปค่ะ (ซึ่งยังคิดชื่อเรื่องไม่ได้ ช่วยคิดหน่อยก็ดีนะ) ป.ล.2 ถ้าอยากพูดคุยกับข้าพเจ้าติดต่อได้ที่นี่เลยจ้า https://www.facebook.com/kwang.kornwarinรูปการ์ตูนน่ารักๆ จากฝีมือน้องwanmai ค่ะ [attachment deleted by admin]