
มือบางจับหัวใจตัวเองที่ตอนนี้เหมือนมันกำลังเต้นอ่อนแรงลงทุกที...ความหนาวเย็นจากเครื่องบินชั้นเฟริสคราสคงพอ ๆ กับความรู้สึกน้องบีตอนนี้...ตากลมจ้องท้องฟ้าที่เวิ้งว้าง...เครื่องบินที่นั่งอยู่เหมือนกับลอยนิ่ง ๆ อยู่กลางจักรวาลที่กว้างใหญ่...ในที่สุด พี่ปันปันก็มาช่วยน้องบีไม่ทัน...แต่น้องบีก็ยังจะเชื่อว่าพี่ปันปันต้องไปช่วยน้องบีได้....เพราะถ้าน้องบีไม่ไปพี่เอกับพี่นิชาก็ไม่ถูกปล่อยตัว...เลือกไม่ได้..ไม่มีทางเลือกเลย...
“หนาวไหมครับ”
“....................” ดึงมือเล็กออกจากมือหนาที่เลื่อนมากอบกุม...ก่อนจะหันหน้าหนีคนที่นั่งข้างกัน...รังเกียจและรู้สึกเกลียดผู้ชายคนนี้...
“..................” อีกคนแค่มองเสี้ยวหน้าสวยนั่นก่อนจะยกยิ้ม ...เอาหิวพิงเบาะ หลับตาลงเหมือนเดิม...จะเล่นตัวไปได้ซักแค่ไหนกันเชียว พอถึงที่นั่น ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปอย่างที่เขาคิด...แต่ก็แปลกที่ไม่มีการเคลื่อนไหวจากฝั่งปันณธรเลย...ทั้งที่ให้คนไปสืบแต่ก็ไม่ได้ข่าวอะไรมา...หรือว่าจะทอดทิ้งดอกไม้แสนรักดอกนี้ซะแล้ว...มันก็น่าเสียดายนะ เขาจะเก็บมาดูแลเองละกัน...
เท้าเล็กก้าวลงเหยียบพื้นดินประเทศที่เขาไม่อยากมาที่สุดในช่วงเวลานี้...ความรู้สึกว่างเปล่าซะจนไม่อยากมอง ไม่อยากจดจำอะไรทั้งนั้น ยอมที่จะเดินไปตามแรงเกี่ยวกระชับที่เอวบาง...ขัดขืนไปก็คงจะเท่านั้นเพราะยังไงซะสุดท้ายก็คงต้องทำตามอยู่ดี
“ทำตัวน่ารักขึ้นแล้วนี่”
“.......................” อยากพูดอะไรก็พูดไป...ถึงจะนิ่งแค่ไหนแต่หัวใจกลับกำลังร่ำไห้...ตากลมจ้องมองรถสีดำสุดหรูที่มาจอดเทียบหลังจากที่เดินออกมาจากชานสนามบิน...ผู้คนพลุกพร่านไม่แพ้กรุงเทพ สิ่งปลูกสร้างดูอลังการณ์...คนที่เดินข้างกันดึงปีกหมวกลงปิดหน้าสวมแว่นตาดำ และใช้ผ้าปิดปากไว้...คงจะกลัวใครจำได้ว่าเป็นใคร...แล้วทีไปเปิดเผยใบหน้าร่วมกับพวกชั่วๆ ในสภาวันนั้นไม่เห็นจะอาย..พอจำหน้าได้น้องบีก็เริ่มนึกออกเรื่อย ๆ ว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร เจอกันที่ไหน...
“ยินดีต้อนรับสูประเทศนาเธียร์ครับ..ดอกไม้นำโชค..”
“...ไม่ยินดีซักนิด...คุณสัญญาแล้วว่าจะปล่อยพี่เอกับพี่นิชา..”
“แน่นอน ผมเป็นคนมีสัจจะพอ...กลับถึงบ้าน..ของเรา..เมื่อไหร่แล้วผมจะปล่อยตัวพี่ ๆ คุณทันที..” ก้มเข้ามากระซิบข้างหูเล็กนั่นจนได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ....แทบจะอดใจที่จะสัมผัสไม่ไหว....แต่บ้านเมืองเขาก็มีขนมธรรมเนียมที่ยึดถือ...จะว่าเคร่งครัดมาก็ไม่เชิง...แต่คนใกล้ตัวเตือนว่าทำตามดีกว่า....ห้ามล่วงเกินคนรัก..จนกว่าจะเข้าร่วมพิธีอภิเษกสมรส ...
“........................”
“.......................” ต่างคนต่างเงียบ เพราะพูดอะไรตอนนี้ น้องบีก็คงไม่พูดด้วยเป็นแน่...ตากลมจ้องมองสองข้างทางที่เป็นสิ่งปลูกสร้างแบบตะวันตก...ภูมิประเทศหนาวเย็นกว่าที่เมืองไทย แต่ก็คงไม่ถึงขั้นหิมะตก...ผู้คนที่นี่เท่าที่เห็นรูปร่างหน้าตาก็เหมือนแขกขาวที่เคยเห็น..ความสูงใหญ่ทำให้น้องบีดูตัวเล็กลงไปอีก...
รถยนต์คันหรูเลี้ยวเข้าบ้านหลังใหญ่ทรงตะวันตก มีสวนขนาดใหญ่และบริเวณกว้างขวาง...น้องบีใจเต้นแรงขึ้นเมื่อใจฉุกคิดถึงบ้านหลังใหญ่อีกหลังที่คุ้นเคย...พี่ปันปัน...รีบมาพาน้องบีกลับบ้าน...
“ที่นี่เป็นบ้านพักผมเอง...”
“......................” มือเล็กกำแน่น...ก่อนจะต้องก้าวลงจากรถเพราะอีกคนลงจากรถก่อน...แล้วอ้อมมาเปิดประตูให้...บ้านกว้างขวางคนที่อยู่ในบ้านวิ่งออกมาต้อนรับ หยิบนู่นจับนี่กันยกใหญ่...
“เข้าบ้านกันเถอะ..เป็นเด็กดีแล้วผมจะปล่อยตัว พี่ชายคุณ”
“................” จำต้องเดินตามแรงโอบที่เอวเข้าบ้านหลังใหญ่นั่น คนที่มาต้อนรับไม่มีใครกล้าเงยหน้ามององค์ชายพารัน เพราะรู้กันดีถึงกิตติศัพท์ความเกรี้ยวกราดและโมโหร้าย...
“คุยสิ…พี่คุณอยู่ในสาย...แล้วก็ไม่ต้องบอกว่าอยู่ไหน..แค่รู้ว่าผมทำตามสัญญาก็พอไม่งั้นผมจะให้คนไปยิงพี่ชายคุณทิ้งซะ...”
“พี่เอ!”
/ น้องบี! น้องบีอยู่ไหน! เป็นยังไง บอกพี่สิ!/
“ ฮึก! พี่..เอ..น้องบีไม่เป็นไร..พี่เอปลอดภัยแล้วใช่ไหม..”
/ พวกมันปล่อยตัวพี่กับนิชาแล้ว พี่กำลังจะไปหาไอ้ปัน...บอกพี่สิว่าอยู่ไหน พูดสิน้องบี! /
“พอได้แล้ว”
“พี่เอ! ฮึก ..” ขยับตัวหนีคนที่เข้ามาแย่งโทรศัพท์แต่สุดท้ายก็ถูกแย่งคืนไปจนได้....น้ำตาเม็ดเป้งไหลลงเคลียแก้มใส...คิดถึงเหลือเกิน..ยิ่งได้ยินเสียงยิ่งคิดถึง...แต่ก็ยังดีที่ผู้ชายคนนี้รักษาสัญญา...
“เอาล่ะ ทีนี้ก็เรียบร้อยแล้ว...หวังว่าเราจะอยู่กันอย่างมีความสุขซะที...ที่ประเทศไทยเขาเรียกว่าอะไรนะ...อ้อ...เป็นเมียที่ถูกต้องตามกฎหมาย..”
“ฮึก! ไม่!..”
“อย่าเล่นตัว!..อยู่ที่นี่ให้สงบ ไม่งั้นรู้ใช่ไหมว่าพวกพี่ชายคุณอยู่ในอันตรายแน่ๆ “
“...................” เสียงกดต่ำน่ากลัว พร้อมกับมือหนาที่บีบข้อมือเล็กแน่น อยากจะร้องไห้แต่ความรู้สึกโกรธทำให้น้องบีไม่มีน้ำตา ตากลมจ้องหน้าคนหน้าร้ายนั่นอย่างแค้นในหัวใจ...
“ไม่ต้องมองหรอก...ไอ้ปันณธรไม่มีทางมาช่วยเธอแน่...ถึงมามันก็ไม่มีทางมาถูก...คอยดูละกันว่าใครจะแน่กว่ากัน…วาโยพาขึ้นไปบนห้องไม่ต้องขังแต่ให้ตามดูไว้อย่าให้คลาดสายตา...ห้ามให้ใช้เครื่องมือสื่อสารและห้ามให้ใครมายุ่ง ผมมีธุระในวัง..”
“ครับองค์ชาย…เชิญครับ..”
“.................” ได้แต่มองด้วยแววตาชิงชัง แต่ก็ต้องจำยอมเดินตามผู้ชายที่ดูเหมือนว่าจะเป็นคนไทยขึ้นไปชั้นบน...ก็ยังดีที่ยังมีคนที่คุยกันรู้เรื่อง...
“เชิญครับ นี่ห้องของคุณ”
“.................”
“ผมจะเฝ้าอยู่หน้าห้อง มีอะไรเรียกผมได้”
“อยู่ในห้องได้ไหม”
“ครับ” น้องบีมองคนที่นิ่งและทำตามคำสั่งเหมือนหุ่นยนต์...เป็นผู้ชายสูงแต่รูปร่างผอมบาง...ผมยาวจนถึงกลางหลังรวบไว้หลวม ๆ หน้าตาดูสะอาดตาไม่ถึงกับสวยเหมือนพี่โอ เพราะมีเค้าโครงผู้ชายอยู่ แต่ก็ดูไม่น่ากลัว...
“น้องบีจะเรียกพี่ว่าอะไร”
“เรียกวาโยก็ได้ครับ” คนที่ยังยืนอยู่ตรงประตูตอบ...น้องบีต้องทำความรู้จักไว้ อย่างน้อยน้องบีอยู่นี่ก็จะได้มีเพื่อนแล้วก็อาจจะช่วยอะไรได้บ้าง...
“งั้นน้องบีจะเรียกพี่โย...ทำไมพี่โยมาอยู่นี่...เอ่อ...น้องบีถามได้ไหม...”
“ได้ครับ...ผมมาทำงานที่นี่ได้ห้าปีแล้ว...ตามพ่อมาแต่พ่อเสียชีวิตแล้วองค์ชายพารันรับผมเข้าทำงานเพราะตอนที่ไปเมืองไทย พ่อเคยทำงานให้ท่าน”
“พี่โย...ไม่คิดถึงบ้านเหรอ..”
“ผมไม่มีบ้านหรอกครับ...อยู่ที่เมืองไทยก็เป็นห้องเช่าเท่านั้น..”
“...แต่..น้อง บี คิดถึง...” หน้าเล็กเศร้าลงไปทันทีที่คิดไปถึงคนที่อยู่อีกประเทศนึง...วาโยมองใบหน้าน่ารักอดชมไม่ได้ว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาสวยและน่ารักได้อย่างลงตัว...นี่คงเป็นดอกไม้นำโชค...เขามีหน้าที่แค่คอยดูแลในบ้าน ไม่รู้เรื่องเหตุการณ์ด้านนอก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเด็กผู้ชายคนนี้มาจากไหน...อยู่ไปวันๆ เพราะด้วยสิ่งที่พ่อทำไว้ ไม่มีวันที่องค์ชายพารันจะปล่อยเขากลับประเทศแน่....
“....งั้นก็เก็บความรู้สึกพวกนี้ไว้ แล้วยิ้มกับมันสิครับ...แล้วเราจะไม่ทุกข์....”
“....................” เงยหน้ามองคนที่พูด คนที่ยืนอยู่ยิ้มให้เห็นเป็นครั้งแรก ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่น้องบีคิดจริง ๆ ด้วย....ปากเล็กแยกยิ้มตอบอย่างน่ารัก มือขาวเช็ดน้ำตาที่คลอหน่วยตาออก...ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปกอดคนที่ยืนอยู่...ไม่รู้สิ...แค่คิดว่าพี่โยอาจจะกำลังคิดถึงบางสิ่งบางอย่างที่เมืองไทยอยู่เหมือนน้องบีแน่ ๆ ถึงพูดอย่างนั้น…
“...คุณ......”
“ให้น้องบีกอดหน่อยน้า...อย่างน้อยก็คนไทย...ป่านนี้พี่ปันปันกับคุณป๊า ต้องตามหาน้องบีอยู่แน่ ๆ..”
“..ครับ...ถ้าพวกเขารักคุณ..เขาต้องมาช่วยคุณแน่ ๆ” ใช้มือโอบกอดคนที่กอดเขาอยู่....หัวใจเต้นแรงเพราะไม่มีใครปฏิบัติอย่างนี้กับเขามานานแล้ว...แสดงออกถึงความไว้วางใจที่มีให้กัน....
“...แน่นอน...พี่ปันปัน กับทุกคน ต้องรักน้องบี...ครอบครัวน้องบี..กับครอบครัวบารบีอนันต์จะต้องรักและตามมาช่วยน้องบีแน่ ๆ..”
“คุณว่าครอบครัวใครนะครับ..”
“....หือ...”
“ คุณบีว่าครอบครัวคุณกับครอบครัวใครนะครับ..”
“ ครอบครัวพี่ปันปัน..ปันณธร กับคุณ ป๊า ปัฐพี..บารมีอนันต์..”
“..ปัฐพี..บารมีอนันต์...”
“พี่โยรู้จักเหรอครับ..”
“ ปะ เปล่าครับ..ไม่รู้จัก”
“...................” น้องบีมองคนทีทำท่าแปลก ๆเมื่อได้ยินชื่อที่น้องบีบอก....แต่อีกคนก็ก้มลงยิ้มให้เหมือนเดิม...แต่แววตาที่ทอดมาอ่อนโยนมากกว่าตอนแรกอีก...จนน้องบีรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก...
***************************************************
วาโยมองคนที่นั่งเหม่อมองน้ำพุเล็ก ๆ ที่พุ่งออกจากปากปลาในสวนข้างบ้าน ที่จัดสไตล์ยุโรปมีม้านั่งไม้ตัวยาวทาสีขาววางอยู่...คนตัวเล็กนั่นนั่งมองน้ำพุตั้งนานแล้ว...เขาเดินเข้ามายังไม่รู้สึกตัว...มาอยู่ที่นี่ได้สองวันแล้ว...เหมือนรอคอยอยู่ตลอด...ดีที่องค์ชายพารันเหมือนกำลังทำอะไรอยู่เลยไม่มีเวลามาตอแยเท่าไหร่ แต่ก็จัดคนเฝ้าซะแมลงก็ผ่านเข้ามายาก...มีเพียงเขาที่เข้าหาคนน่ารักนั้นได้....ความน่ารักสดใสที่เห็นในวันแรกเริ่มหม่นลงเรื่อย ๆ
“คุณบีครับ..ทานนมอุ่นๆ ครับ อากาศวันนี้เย็นน่าจะใส่เสื้อคลุมออกมา..”
“น้องบีไม่อยากกิน..”
“ กินหน่อยเถอะครับ…แล้วอย่างนี้จะมีแรงรอคนมาช่วยได้ยังไง..”
“ฮึก ไม่ มี ใครมา...ฮึก ไม่มี ใครมา ช่วย น้องบี “
“.......................” วาโยจำต้องวางนมไว้บนโต๊ะเหมือนเดิม ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ เขาจะช่วยอะไรได้บ้างไหม....ช่วยให้คนที่นั่งอยู่เหมือนวิญญาณออกจากร่างกลับมาสดใสและยิ้มสู้....ไม่งั้นก็จะเหมือนตายทั้งเป็นถ้าต้องอยู่ที่นี่ไปตลอด...
“ น้อง บี เหงา...คิดถึงตอน คุณป๊ากอด..คิดถึงม้าอู๊ด ๆ คิดถึง พี่เอ พี่นิชา...คิดถึงเงินล้าน...”
“...................” ...หรือสิ่งที่เขาคิดจะเป็นสิ่งเดียวที่เขาพอทำได้......อย่างน้อย ๆ เขาก็จะได้ตายตาหลับซักที...
ร่างบางนอนลืมตาในแสงไฟสลัว…นอนไม่หลับ...ทำไมความหวังว่าคิดว่าพี่ปันปันจะมาช่วยมันเลือนรางลงทุกที...จนป่านนี้ยังไม่มีใครมาช่วยเลย...หรือว่าจะลืมน้องบีไปแล้ว....ยิ่งคิดความกลัวก็ยิ่งก่อเกิด ความมั่นใจเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ ยิ่งคิดยิ่งใจหาย...ยิ่งเหมือนตัวคนเดียว ยิ่งเหงา...ยิ่ง...เดียวดาย...
“อึก..พี่ ปันปัน...ฮึก ฮืออ..”
แกร็ก!
“ใคร!”
“ผมเอง...นอนเร็วไปนะ..ไม่รอผมกลับมาหน่อยเหรอ..”
“เข้ามาทำไม!” น้องบีลุกพรวดพราดขึ้น ก่อนจะค่อย ๆ ขยับลุกจากเตียง แค่อยู่ตรงนี้ยังได้กลิ่นของแอลกอฮอล์อย่างชัดเจน...คนที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตเดินดุ่มเข้ามาหา...
“ก็เข้ามาหา...ว่าที่เมียไง...ถึงจะยังเด็กไปหน่อย...แต่แค่เห็นก็รู้แล้วว่าน่าจะหอมและนุ่มไปทั้งตัว..”
“..................”
“มานี่!!”
“อย่านะ! ช่วยด้วย!! อย่าเข้ามา!!”
“ อยากเล่น ไล่ จับเหรอ ได้!! มาสิ เด็กดี คัมมอน มายเบเบ๋..”
“อย่า เข้ามานะ..ฮึก!! ออกไป!!” น้องบีกระโดดขึ้นเตียงเพื่อข้ามไปอีกฝั่ง หนีคนที่เดินอาด ๆ เข้ามาหา หมอนและผ้าห่มถูกขว้างใส่จ้าละหวั่น...ความกลัวเกาะกุมหัวใจมากขึ้นเรื่อย ๆ
“มานี่เซ่!!”
“ไม่!! ฮึก ปล่อย!!”
“...นอนนิ่ง ๆ สิ...”
“.ฮึก ไอ้บ้า!!! ปล่อย!! ฮึก ฮืออ” แขนเล็กทั้งสองข้างถูกตรึงไว้กับที่นอนหลังจากที่หนีคนที่ไล่ต้อนไม่พ้น แขนแข็งแรงเกี่ยวเอวบางเหวี่ยงขึ้นบนเตียงก่อนที่ตัวเองจะขึ้นมาคล่อมร่างบางไว้..
“..เร้าใจเป็นบ้า..”
“ ฮึก ฮืออ ไม่! ออก ฮืออไป.” กลัว...กลัวที่สุด...ไม่เอา..ถ้าไม่ใช่พี่ปันปัน..น้องบีไม่ให้ใครทำอย่างนี้...
“..อย่าร้องสิ...ฟอด!..”
“ไม่ ฮึก ฮืออ พี่ปันปัน! พี่ปันปัน!!! ช่วย ฮืออ น้องบี !!! ฮืออ” หน้าสวยหันหนีคนที่ก้มลงมาหอมแก้ม....กรีดร้องเสียงดังเพราะความกลัว..ไม่มีใครมาช่วย...พี่ปันปันอยู่ไหน...น้องบีกลัว...น้องบีกลัว!...
“..อย่าเรียกชื่อมัน!!..ที่นี่ต้องมีแค่ผมกับคุณ...” มือหนาบีบปากเล็กที่ตะโกนชื่อหนามชีวิตเขา...ตอนแรกอยากจะยึดติดประเพณีอะไรนั่น แต่เขาทนไม่ไหวแล้ว...ฉลองกับคนที่วังมีสาว ๆ ล้อมรอบ แต่ในหัวและความคิดเขามีแต่คนที่นอนรออยู่ที่บ้านพัก...จนทนไม่ไหวต้องกลับมาหา...ไม่เข้าใจเหมือนกัน...แต่มันอยากจะลิ้มลองความหอมหวานพวกนี้จนทนไม่ไหวแล้ว...
ก๊อกๆๆ
“ใคร!!” เสียงทุ้มตลาดขึ้นเสียงดังกับเสียงเคาะประตู แต่ก็ยังไม่ปล่อยมือ..
“ช่วยด้วย!!! ช่วยด้วยย!! อึก ฮืออ!!”
แกร๊กก!
“พี่โย!! ช่วยน้องบีด้วย!!”
“ใครให้คุณเข้ามาวาโย!!”
“คือผม...ได้ยินเสียงร้อง...ผมไม่คิดว่าองค์ชายจะกลับเร็ว..” คนทีเปิดประตูเข้ามาชะงักไป ก่อนจะก้มหน้าลงเมื่อเห็นภาพตรงหน้า...ร่างสูงใหญ่นั่นคล่อมร่างบางของคนที่ยังร้องสะอื้นอยู่หลังจากที่ร้องตะโกนให้เขาช่วย....
“ไม่มีธุระอะไรก็ออกไปได้แล้ว!”
“ไม่นะ!! พี่โย ฮึก ฮือ ช่วยน้องบี ด้วย!!”
“คือองค์ชายครับ...คนที่จะมาเฝ้าน้องบีมาถึงแล้วครับ...เป็นคนของสาขาที่เมืองไทยไว้ใจได้...”
“คุณต้องการอะไรกันแน่วาโย!! คุณต้องการจะขัดขวางผมใช่ไหม!”
“คือผม...มันยังไม่ถึงเวลานะครับองค์ชาย..” คนที่เอาเรื่องงานเข้ามาพูด ก้มหน้าลงอย่างสำนึกผิดแต่ก็ไม่ถอยออกจากประตู...พร้อมกับยกเรื่องประเพณีบ้านเมืองขึ้นมาพูดอีก...
“โธ่เว้ยย!! มีอะไรก็ว่ามา!!”
“.ฮึก ฮืออ..!!..”
“..คือ...ผมจะแค่จะแนะนำคนที่จะมาคอยคุ้มกันน้องบีน่ะครับ...พรุ่งนี้จะได้เริ่มงานได้เลย..” อ้าแขนรับคนที่โดดลงจากเตียงหลังจากที่องค์ชายยอมที่จะปล่อยและคุยกับเขา...ดีแค่ไหนที่เขาเดินผ่านหน้าห้องน้องบีพอดี...แขนเล็กกอดเอวเขาแน่น...จนองค์ชายมองมาเขม็ง..คงเพราะเขาเป็นคนเดียวที่เจ้าตัวไว้ใจในตอนนี้...เลยไว้ใจและต้องการพึ่งพา...เขารู้ดีว่าการที่อยู่ตัวคนเดียวมันเหงาและเดียวดายแค่ไหน...
“พามา!”
“นิลเข้ามาสิ”
“................” สายตาทุกคู่ที่อยู่ตรงนั้นจับจ้องคนที่เดินเข้ามาก่อนจะโค้งหัวให้องค์ชายพารันที่ยืนอยู่...
“ นิลเป็นใบ้ครับ แต่ได้ยิน.. และฝีมือเก่งกาจจนคนที่สาขาไว้ใจและส่งมาให้องค์ชาย..”
“อืม..” พารันพิจารณาผู้ชายร่างสูงใหญ่พอ ๆ กับเขา...ผิวกายที่โผล่พ้นเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนคล้ำซะจนจะดำ...มีหน้าก็คล้ำพอ ๆ กับแขนที่โผล่พ้นเสื้อ...แถมยังหนวดเครารุงรังนั่นอีก...เถื่อนดี สาขาที่ไทยหามาจากไหน เหมือนคนที่พึ่งออกจากคุก...
“ ผมจะให้เฝ้าหน้าห้องน้องบีไว้ ดีไหมครับ”
“ดี..ดูไว้ให้ดี...แล้วก็ไม่ต้องไปหลงเสน่ห์ดอกไม้ของผมล่ะ..ไม่งั้นรู้ใช่ไหมว่าจะเป็นยังไง!”
“.................” การ์ดคนใหม่โค้งตัวรับคำของคนที่เดินผ่านออกไป...ทำเอาวาโยหายใจอย่างโล่งอก...ก่อนจะรีบไปปิดประตู...เขาคงจะช่วยได้แค่นี้ ที่เหลือก็ให้..จัดการกันเอง...
“พี่โย...ฮึก..ให้ น้องบี ไปนอน ด้วย ได้ไหม..” น้องบีพูดแล้วมองคนที่ยืนดำอยู่อย่างไม่ไว้ใจ...แต่ทำไมถึงคุ้น ๆ อย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางที่น้องบีจะรู้จักคนหน้าตาน่ากลัวและทำงานให้คนชั่วแน่ๆ
“นอนนี่แหละครับ..มีคนเฝ้าหน้าห้อง ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น..”
“ ไม่!” มือเล็กดึงเสื้อพี่วาโยไว้...ก่อนจะกอดไว้แน่นไม่ให้ออกไป...น้องบีไม่ไว้ใจใครทั้งนั้น...น้องบีรู้ว่าเมื่อกี้นี้พี่วาโยตั้งใจช่วยน้องบี
“...น้องบี...”
“..ฮะ...ใคร...” หันมองตามเสียงเรียก มองก่อนจะมองหน้าพี่วาโย แต่พี่วาโยกลับส่ายหัว ก่อนจะพยักหน้าไปทางคนตัวดำหน้าดุที่ยืนอยู่..เสียงเรียกเมื่อครู่ทำเอาน้องบีใจเต้นแรง...รอยยิ้มที่ส่งมาทำให้เห็นฟันสีขาวเรียวตัวตัดกับสีผิวของหน้าและหนวดเครานั่น...นายนิลจะเรียกชื่อน้องบีได้ยังไงก็ พี่วาโยบอกว่านายนิลเป็นใบ้
“..ม้าอู๊ดมาหาองค์ชายแล้วครับ..”
**....ต่อแล้วค่ะ ขอบคุณทุกคนนะคะ งานยุ่งพอสมควร...แต่ก็ไม่อยากให้นาน...เลยจัดมาก่อน..ติชมได้นะคะว่าเป็นยังไงบ้างเขียนไม่ดีหรือผิดพลาดยังไงยินดีรับทุกคอมเมนท์ค่ะ ^^