
“พี่เอ พี่นิชา...น้องบีจำได้แล้ว...จำได้ทุกอย่าง ทั้งอดีตและ..ปัจจุบัน..”
“...ดีแล้วคนดี...ฮึก..ดีแล้ว...” ความตื้นตันและดีใจเต็มอกของคนที่อยู่ในห้องนั้น...อย่างนี้สินะที่เขาเรียกว่าฟ้าหลังฝน...ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นหลังฝนที่วิเศษที่สุด...
“..น้องบี...”
“...จำได้หมด..ว่าใครทำอะไร ยังไงกับน้องบีบ้าง...” พูดแล้วหันมองคนที่เดินเข้ามายืนข้างๆ เตียง มือเล็กยื่นขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้กับคนที่โน้มหน้าสวนลงมา...คราบน้ำตาถูกนิ้วเรียวปาดออกอย่างเบามือ ปากเล็กยังแยกยิ้มให้ ยิ่งทำให้คนที่ถูกเช็ดน้ำตายิ่งปล่อยให้น้ำตาพรั่งพรูออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่....
“ขอบ คุณ ฮึก..ขอบคุณ..”
“................” ตากลมโตจ้องมองคนที่จับมือเขาไว้...ปากหนานั่นกดจูบลงกลางฝ่ามือที่เช็ดน้ำตาให้...จำได้ทุกอย่าง จำได้ว่าเคยได้รับอะไรบ้าง...ตอนนั้นอาจจะยังไม่รู้ว่าหมายความว่ายังไง...ตอนนี้รู้แล้ว...แต่ก็ไม่แน่ใจ...ถ้ารู้ว่าเขากลับเป็นเด็กปกติจะกล้าพูดสิ่งทีพร่ำพูดเมื่อก่อนไหมนะ....
“...คุณป๊า...”
“...เป็น..ยังไง บ้างลูก...ทำเอา ป๊า ใจไม่ดีเลย..เจ้าตัวแสบ..” ปัฐพีขานรับคนน่ารักที่หันหน้ามาเรียกเขา...เสียงสั่นเครือไปตามๆ กัน ดีใจจนอะไร ๆ ที่ควรแสดงออกเก็บไว้ไม่อยู่...แม้แต่เจ้าพ่อมาเฟียตัวจริงก็ยังกลั้นไม่อยู่...
“ น้องบี สบายดีครับ...คุณป๊าหายเร็ว ๆ นะ...น้องบีจะได้กอดคุณป๊าแรงๆ เหมือนที่คุยกันไว้...”
“...ได้ลูก..ได้..ป๊าจะรีบ หาย...เราจะได้ กอดกัน...” ส่งยิ้มให้คนที่นอ นยิ้มหวานให้เขา...ดีใจที่น้องบียังน่ารักเหมือนเดิม...ดีใจที่ยังอ้อนเหมือนเดิม...ดีใจ...ที่ยังจำพวกเขาได้....
********************************************
“คุณป๊า..นั่งดี ๆ นะ เดี๋ยวน้องบีไปเอาน้ำมาให้...ยายสร้อยไม่ต้องเลย..”
“ฮ่าๆๆ ไม่ต้องวิ่งลูก” ปัฐพีหัวเราะเสียงดัง พร้อมกับมองป้าสร้อยที่เบะปากใส่อย่างหมั่นไส้ คนที่เอาใจคุณป๊าที่พึ่งออกจากโรงพยาบาลเต็มที่..ร่างเล็กนั่นวิ่งปรู๊ดเข้าไปในครัว แซงหน้ายายสร้อยที่กำลังจะเดินไปเอา...ปันณธรให้คนไปรับป้าสร้อยมาเพือดูแลคุณพ่อกับน้องบีด้วย...
“ป้าคิดว่าจะโตขึ้น แบบไม่ขี้เล่น ไม่ขี้อ้อนเหมือนเดิม...แต่ที่ไหนได้เหมือนเดิมทุกอย่าง”
“อย่างนั้นล่ะค่ะป้าสร้อย เดิมทีแกก็เป็นแบบนี้...อย่างที่หมอเอเคยบอกว่าจะเปลี่ยนก็แค่ความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวันเท่านั้น นิสัยใจคอ แกก็ยังน่ารัก ขี้อ้อน เป็นเด็กจิตใจดี...”
“ค่ะป้าเชื่อ...แกยังบริสุทธิ์มาก ๆ เลย โชคร้ายนะคะที่เจอเรื่องร้ายๆ “
“ ต่อไปก็คงต้องฝากทางนี้ล่ะครับ เพราะพวกผมก็คงต้องกลับไปทำงานซักที” หมอเอพูดและส่งยิ้มให้สองพ่อลูกที่นั่งยิ้มเหมือนกำลังภูมิใจในตัวน้องชายเขาเต็มที่...
“ไม่ต้องห่วงหมอเอ...แล้วถ้าพ่อจะให้น้องบีเรียนต่อจะได้ไหม”
“ผมก็คิดกับนิชาอยู่ครับ แต่ว่าจะรอเคลียร์อะไรให้เรียบร้อยเดือนหน้าว่าจะมาดำเนินการ”
“งันไม่ต้องกังวล เดี๋ยวพ่อให้ปันจัดการให้” อย่างน้อย ๆ ก็จะได้ทำอะไรแบบที่เด็กวัยรุ่นทั่วไปได้ทำกันบ้าง...ถึงจะห่วงเรื่องการเรียนช้า แต่ให้ทบทวนซักหน่อยคนหัวดีแบบน้องบีไม่น่ามีปัญหา....
“ถ้างั้นก็คงต้องรบกวน ส่วนเรื่องค่าเล่าเรียน..”
“ไม่ต้องเลย ให้ผู้ปกครองเขาจัดการแล้วกัน...ลืมหรือไงว่านี่ผู้อำนวยการโรงเรียนนะ...แต่ไม่เคยไปดูโรงเรียนตัวเองก็เท่านั้น จะได้ไปดูกิจการตัวเองทุกวันก็งานนี้แหละ”
“คุณพ่อก็ว่าไป ของคุณพ่อต่างหากไม่ใช่ของผม” ถึงจะปฏิเสธแต่พอนึกว่าจะได้เห็นอีกคนใส่ชุด ม. ปลาย ก็อยากจะพาไปโรงเรียนซะพรุ่งนี้...(ลักษณะเหมือนโคแก่)
“ขอบคุณพวกคุณมาก...ไม่รู้ว่าผมจะตอบแทนยังไง”
“แค่แกยอมให้น้องบีอยู่กับฉัน แค่นั้นฉันก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว” สองเพื่อนซี้ยิ้มให้กัน ก่อนจะมองคนที่ถือน้ำออกมาอย่างเก้ ๆ กังเพราะดันเอาเหยือกน้ำส้มวางพร้อมแก้วหลายใบด้วย...แต่ก็ยังอุตส่าห์เงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้...จนยายสร้อยต้องรีบเข้าไปช่วย...ไม่ประมาณกำลังตัวเองเลย...
“น้องบีเย็นนี้พี่กับพี่นิชาต้องไปทำงานแล้วนะ...”
“.....................”
“เป็นเด็กดีนะรู้ไหม...อย่าทำให้คุณป๊ากับพี่ปันเขาหนักใจ”
“น้องบีไม่ใช่เด็กไม่ดีซักหน่อย...พี่เอกับพี่นิชาดูแลตัวเองนะครับ น้องบีเป็นห่วง” หมอเอลูบหัวคนที่มานั่งแทรกระหว่างขากับนิชา...คำพูดคำจาก็พอรู้ว่าโตขึ้นแล้ว...คงจะหมดห่วงเป็นอีกข้อนึงแล้ว...เพราะเขารู้ว่าน้องเขา ฉลาดอยู่ และฉลาดที่จะทำ...
“พี่รู้...แต่พี่ก็เป็นห่วง...”
“ไม่ต้องห่วง...แค่คิดถึงน้องบีก็พอแล้ว...อยู่ที่นี่น้องบีก็จะคิดถึงพี่เอกับพี่นิชาเหมือนกันครับ...” เสียงพูดงุ้งงิ้งในอ้อมกอดพี่ชาย...ทำเอานิชาน้ำตาคลออีกแล้ว...รักน้องบีก็รัก...ถ้าจะลาออกจากงานมาอยู่ด้วย แต่ก็รักงานที่ทำเหมือนกัน...
ตอนเย็นน้องบีก็มายืนส่งพี่ชายกับพี่สาวสุดที่รักที่หน้าบ้าน...กอดกันจนเต็มอิ่ม ก่อนจะได้ยกมืออำลากันซักที..คนตัวบางยืนมองรถพี่ชายที่กำลังลับขอบรั้ว ก่อนจะหันมองคนที่ยืนข้างกัน...ใบหน้าหล่อคมก้มมองแล้วยิ้มให้...
“อยากร้องไห้รึเปล่า”
“น้องบีไม่ใช่เด็กแล้ว”
“จริงรึเปล่า...” ปันณธรเลิกคิ้วมองคนที่บอกว่าตัวเองไม่ใช่เด็ก แก้มป่องอมลมเข้าอย่างงอน ๆ ที่เขาทักว่าเจ้าตัวจะร้องไห้...
“แต่น้องบีจะขี่ม้า”
“ไหนว่าโตแล้วไง”
“ไม่ขี่ก็ได้...”
“อ๊ะ ๆๆ ขี่ก็ขี่” เปลี่ยนไปนิดนึง ตอนอยากทำอะไรแต่ก่อนจะอ้อนอย่างเดียว เดี๋ยวนี้มีงอนผสมเข้ามาด้วย....คนตัวเล็กหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะมายืนข้างหลังเขา ปันณธรย่อลงอย่างรู้หน้าที่ ก่อนจะเอียงตัวเล็กน้อยเพราะแรงคล่อมด้านหลังของคนที่เหมือนจงใจจะโถมตัวให้หนักขึ้นอีก...หายดีแล้วขี่แกล้งอย่างนี้นี่เอง...
“พี่ปันปัน...พี่เอบอกว่าจะให้น้องบีไปโรงเรียนจริงรึเปล่า..”
“จริงสิ...อยากไปไหม” หันหน้าถามคนที่เกาะคอเขาอยู่...
“อยากครับ...อยากไปเร็ว ๆ น้องบีจะได้เรียนหนังสือ แล้วมาช่วยคุณป๊าทำงาน...น้องบีมาอาศัยอยู่ไม่ทำประโยชน์อะไรเลย”
“ใครบอกว่าน้องบีเป็นคนอาศัย” คำพูดคำจาชักจะติดเกรงใจขึ้นซะงั้น....
“ก็...”
“น้องบีเป็น...เอ่อ...น้องชายพี่ เป็นลูกชายคุณพ่อ ไม่ใช่คนอาศัย” อยากจะพูดอะไรให้รู้กันไปว่าอยากให้อยู่ในฐานะอะไร แต่พูดอะไรไปตอนนี้ น้องบีตกใจแน่ๆ เพราะถึงจะหายดียังไงก็คงยังไม่เข้าใจความรู้สึกเขาแน่ ๆ
“อืม...น้องชายจริงๆ เหรอ...”
“ก็จริง” เอาอีกแล้วหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอีกแล้ว เมื่อคนที่อยู่บนหลังหายใจรดซอกคอเขาอยู่....แกล้งกันรึเปล่าเพราะรู้สึกว่าจะหายใจแรงขึ้นเมื่ออยู่จมูกรั้นนั่นอยู่ใกล้ต้นคอเขา...
“ก็ได้ รักพี่ปันปันจัง ฟอด!”
“..................” แรงสูดดมที่คนตัวเล็กลงทุนยืดตัวยื่นหน้ามาหอมแก้มเขา ทำเอาแทบจะปล่อยมือ...แต่ก็ดีที่กระชับแขนกับเรียวขานั่นได้ทัน...ว่าแต่ก่อนจะตบะแตกเพราะสิ่งที่น้องบีทำแล้ว ตอนนี้ยิ่งกว่าอีก....ทำเอาต้องหยุดเดิน แล้วหันหน้ากรอกตามองคนที่ขโมยหอมแก้มเขาหน้าตาเฉยแล้วเอาแก้มแนบบ่าเขาร้องเพลงอย่างสบายใจ...มันน่าจับโยนลงบ่อปลาจริง ๆ...โตแล้วจริงๆ รึเปล่าเนี่ย...
“กล่องอะไรพี่ปันปัน...ของน้องบีรึเปล่าน้า..”
“รู้ได้ยังไงว่าของตัวเอง”
“ไม่ใช่เหรอ” ทำแก้มป่อง หน้ายุ่ง ชะโงกมามองซีกหน้าเขา ทำเสียงงุ้งงิ้งซะจนอยากจะปล่อยให้ลงเดินตรงนี้....ทำอะไรไม่คิดถึงใจเขาเลย ตะกี้หันไปแก้มเขาก็เกือบจะถูกปากเล็กนั่นอีกแล้ว....
“ใช่ คุณพ่อซื้อให้เป็นของขวัญของคนหายป่วย ไปดูสิ” กล่องใบโตตั้งอยู่กลางบ้าน มีโบว์สีสวยผูกมาด้วย....คนที่ลงจากหลังค่อย ๆ เดินเข้าไปหากล่อง ปากก็ยังยิ้มไม่หุบ...อะไรกันนะ...อยากรู้จัง....
“อิ๋ง อิ๋ง..”
“เสียงหมี!”
“บ้าน่ะสิ” ส่ายหัวให้คนขี้เล่น เมื่อได้ยินเสียงแปลก ๆ ด้านในก็ทำตาโตใส่เขาพร้อมกับบอกว่าเป็นเสียงหมี...
“เสียงอะไรกันนะเนี่ย...อยากรู้แล้วนะ.3...”
“.................” ปันณธรเงยหน้ามองพ่อตัวเองทีเดินลงมาจากข้างบนพอดี....ของที่สั่งไว้มาเร็วกว่าที่คิด...ดูท่าเจ้าของจะกำลังแกะอย่างตื่นเต้นด้วย....
“...น่ารักจัง!!...”
“ ชอบไหม “
“ ชอบมากเลย...คุณป๊า พี่ปันปัน ดูสิครับ!”
“..................” ปัฐพีและปันณธรส่งยิ้มให้กันเมื่อดูเหมือนว่าของขวัญราคาหลายล้านนั่นจะถูกใจคนได้รับ....จะรู้ราคารึเปล่าไม่รู้ แต่มันเป็นสิ่งที่จะคอยปกป้องน้องบีในอีกไม่กี่เดือนที่มันจะเริ่มเจริญเติบโต...ทิเบตัน มาสทิฟฟ์...หมาพันธุ์ที่สามารถสู้ได้แม้กระทั่งสิงโต...ราคาไม่ใช่ปัญหาเมื่อคิดว่ามันจะคอยอยู่กับน้องบีตลอดได้....
“ อืม...น้องบีจะตั้งชื่อมัน...”
“ชื่ออะไรดีล่ะลูก...”
“ พี่ปันปันตั้งชื่อให้ลูกชายน้องบีหน่อย”
“ ไม่ใช่ลูกชายพี่นี่ จะตั้งทำไม” ปันณธรเลิกคิ้วก่อนจะพูดใส่คนที่อุ้มเจ้าลูกหมาสีดำ ขนปุยนั่นมานั่งข้างเขา สถาปณาเป็นลูกชายเลยเชียว..
“ให้เป็นลูกเราสองคนก็ได้”
“........................” อึ้งไปนิดหน่อยกับคำพูดไม่ได้คิดอะไรนั่น คงมีแค่เขาคนเดียวที่คิดไปถึงโลกหน้าแล้ว...ลูกของเราสองคน...แล้วรู้รึเปล่าว่ามันหมายความว่าเราสองคนจะต้องเป็นอะไรกัน....
“..ตั้งชื่อคล้าย ๆ เจ้าโจหวินดีไหม จะได้เป็นเพื่อนกัน “
“ ดี...เจ้าโจหวิน..เจ้าเงินล้านดีไหม..”
“มันคล้องตรงไหนเนี่ย...ทำไมต้องเงินล้านล่ะ” ถามคนที่พยายามจะตั้งชื่อให้คล้ายเจ้าโจหวินอย่างที่เขาบอก แต่ดันออกมาแบบไม่เฉียดกันซักนิด....
“ก็ทิเบตัน ราคาตั้งหลายล้าน น้องบีเคยอ่านเจอ...มันแพงมากไม่ใช่เหรอครับ...ตอนแรกน้องบีว่าจะให้เอาไปคืน แต่คุณป๊าอุตส่าห์ซื้อให้ก็ต้องดูแลมัน”
“.......................” สองพ่อลูกหันหน้ามองกันแบบไม่ได้นัดหมาย...ยังมีอะไรให้แปลกใจอีกไหม...ไอ้สุนัขพันธ์นี้เผื่อพวกเขาจะสรรหาได้ว่ามันดุมันแพง จะต้องถามผู้รู้ตั้งหลายคน แต่น้องบีกลับแค่เคยอ่านเจอก็จำได้แล้วเหรอ....
“เอาอย่างนั้นก็ได้ ว่าแต่อยากไปโรงเรียนรึเปล่า พรุ่งนี้ให้พี่ปันเขาพาไปสมัคร” เป็นช่วงที่กำลังเปิดรับสมัครนักเรียนพอดี...ลองถามเจ้าตัวดูก่อน
“อยากไปสิครับ...พี่ปันปันพาน้องบีไปสมัครเรียนหน่อยน้า...น้องบีจะตั้งใจเรียน...”
“ได้ เดี๋ยวพาไป มานี่สิ” กวักมือเรียกคนที่นั่งลงที่พื้นบนตักมีสุนัขขนปุยกำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่...ก็มาจากเมืองจีนคงจะเพลียน่าดู...น้องบีทำตาโตใส่เขาก่อนจะค่อย ๆ ลุกเดินมา....
“เดี๋ยวจะโดน”
“มาแล้ว... มาแล้ว” พอเขาทำหน้าดุใส่ก็เลิกเล่นหลังจากที่เดินวนโซฟา 2 รอบ ไม่ถึงเขาซักที...มันน่าตีจริงๆ ถ้าหายแล้วจะเจ้าเล่ห์กวนประสาทอย่างนี้ซักวันคงได้ใช้มาตรการไม้เรียวกันแน่ ๆ
“พร้อมเรียนรึเปล่า...จำได้หมดรึเปล่าว่า ตอน ม.3 เรียนอะไรมาบ้าง”
“จำได้สิ...น้องบีอยากเรียน อยากมีงานทำ แล้วดูแลทุกคนที่ดูแลน้องบีมาตลอด....”
“หึ...ดีแล้ว หมอเอให้คนส่งเอกสารเรามาหมดแล้ว...พรุ่งนี้พี่จะพาไป...”
“น้องบีรักพี่ปันปันที่สุดเลย...น้องบีสัญญาว่าจะไม่ดื้อ” วางลูกหมาบนตักคนที่นั่งข้างกันก่อนจะใช้อ้อมแขนที่ว่างกอดเอวคนที่บอกว่าจะพาไปสมัครเรียน ใบหน้าเล็กซบลงในอ้อมกอดอุ่นนั่น...
“ดีแล้วคนดี...ตั้งใจเรียนแล้วกัน..” จมูกโด่งฝังลงกลุ่มผมนุ่มของคนที่กอดเขาอยู่...ไม่เปลี่ยนจริงๆ ความน่ารัก น่าเอ็นดูยังอยู่ครบ...แต่ต่อจากนี้เขาจะทำยังไง...ให้น้องบีรับรู้ว่าเขารู้สึกยังไง...และคนในอ้อมกอดของเขาจะรับได้ไหม...

“เงินล้านทางนี้...มาทางนี้สิ”
“เงินล้านทางนี้ต่างหาก”
“เงินล้านน้องบีอยู่ทางนี้นะ!”
“เงินล้านกินขนมไหนนี่ไง”
“เงินล้าน! ถ้าไปหาพี่ปันน้องบีจะไม่เล่นด้วย...แล้วก็..พี่ปันปัน ถ้าเรียกเงินล้านอีก ไม่ต้องมาคุยกัน!” ชักจะโมโหแล้วนะ ก็แค่เรียกเงินล้านมาเพราะน้องบีจะหวีขนให้ แล้วพี่ปันปันมาจากไหนเรียกเงินล้านไปหาตัวเอง...
“โห๋ ล้อเล่นหรอกน่า อารมณ์เสียไปได้...ไปนู่นเลยไป”
“.....................” เจ้าหมาขนปุยที่เริ่มจะโตขึ้นจากตอนเปิดกล่องได้สองเดือน ...วิ่งกระดิกหางมาหาคนตัวเล็กที่นั่งลงบนสนามหญ้าหน้าบ้าน... ก่อนที่อีกคนจะเดินตามมานั่งข้าง ๆ กัน
“โกรธเหรอ...ขี้งอนจริงๆ “
“เปล่า น้องบีไม่ได้โกรธหรอก”
“แต่หน้าตามันฟ้อง” หันมองคนที่เอาหวีสาง สางขนเจ้าเงินล้านเบาๆ แก้มป่องออก หน้ามุ่ย ปากชิดจมูก...แล้วยังจะบอกว่าไม่งอนอีกนะ
“ ขอโทษครับองค์ชาย...”
“ไม่ต้องมายุ่งกับลูกชายน้องบี” คนตัวเล็กดันมือเขาที่เอาไปลูบขนเจ้าเงินล้าน หน้าหล่อก้มลงมองหน้าคนแสนงอน...ร้ายจริงๆ งอนแล้วง้อยากทุกที แต่ก็ชอบแหย่ให้งอนเพราะหน้าตาคนชอบงอนมันน่ารักน้อยที่ไหน...
“งั้นเหรอ น่าน้อยใจจัง งั้นพรุ่งนี้ให้คนอื่นไปส่งไปโรงเรียนวันแรกก็แล้วกัน...”
“ ไปหาพี่ปันปันได้แล้ว..หวีเสร็จแล้วไปสิเจ้าอ้วน..”
“......................” ปันณธรมองคนที่หยุดหวีขนเจ้าเงินล้าน ก่อนจะผลักให้เจ้าตัวอ้วนนั่นเข้ามาหาเขาที่นั่งข้างกัน แอบอมยิ้มแต่ก็ทำหน้านิ่งๆ ใส่คนที่ดูเหมือนว่ากำลังจะพูดอะไร..
“ก็มันเป็นลูกชายพี่ปันปันด้วยหนิเนอะ”
“...................” ปันณธรสบตากับเจ้าเงินล้าน...หน้าหมากับหน้าเขาก็คงจะงงพอ ๆ กัน....โชคของแกละกันเงินล้านที่มีเจ้านายฉลาดเอาตัวรอดแบบนี้...ตากลมมองเขาเหมือนรอคำพูดใหม่ออกจากปากเขา ปากบางก็แยกยิ้มประจบ...
“พี่ไปส่งก็ด้ายครับองค์ชาย”
“น่ารักจัง ฟอด! จุ๊บ!...ไปเงินล้านไปเตรียมหนังสือกันดีกว่าน้า..”
“..........................” คนที่นั่งนิ่งอยู่หันมองน้องบีที่ลุกขึ้นแล้วเรียกเจ้าเงินล้านให้วิ่งตามตัวเองเข้าบ้าน...มือหนายกขึ้นจับแก้มและปากตัวเองที่ถูกหอมและจุ๊บไปเมื่อครู่....ชักจะเปลืองตัวเข้าไปทุกที...
******************************************
มือเล็กยกขึ้นจับตรงหัวใจ ก่อนจะหันมองโรงเรียนที่มีผู้อำนวยการชื่อ นายปัฐพี บารมีอนันต์ แต่นับจากวันนี้จะเปลี่ยนเป็นนายปันณธร บารมีอนันต์ โรงเรียนชายล้วนระดับประเทศ นักเรียนที่เรียนก็ล้วนแต่ลูกคนใหญ่คนโต...ค่าเทอมแพงแต่ก็คุ้มกับทุก ๆ อย่างที่ทางโรงเรียนมอบให้...ทั้งความรู้และสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง...คงไม่ใช่แค่น้องบีที่ตื่นเต้น แต่วันนี้บรรดาครูอาจารย์และนักเรียนทุกคนต่างก็รอดูและต้อนรับผู้อำนวยการคนใหม่...
“ตื่นเต้นรึเปล่า”
“ครับ พี่ปันปัน น้องบีตื่นเต้น...ดูสิมือสั่นเลย..”
“ไม่ต้องตื่นเต้น...ตั้งใจเรียน..พี่จะอยู่ที่นี่จนถึงตอนบ่ายๆ แล้วต้องกลับไปทำธุระ...ตอนเย็นถึงจะมารับ” ยกมือขึ้นเสยผมนุ่มที่ระใบหน้าน่ารัก...ก่อนจะจับมือเล็กนั่นมาบีบเบา ๆ หลังจากที่จอดรถไว้โซนจอดรถสำหรับฝ่ายบริหารแล้ว...มีคนมารอเปิดประตูแต่ทั้งคู่ก็ยังไม่ลงจากรถ
“ จุ๊บมือน้องบีสิ “
“....................” เลิกคิ้วมองคนที่พูดแล้วยื่นมือขึ้นมาไว้ตรงหน้าเขา...ส่งยิ้มบางๆ ให้ก่อนจะจับมือเล็กนั่นเข้ามาใกล้ ๆ ปาก...
“พี่ปันปันจุ๊บแล้วจะได้หายตื่นเต้น”
“จุ๊บ!...ครับจุ๊บแล้ว...หายตื่นเต้นรึยังคนดี..”
“..หายแล้ว...ตอนเย็นมารับน้องบีด้วยนะ น้องบีจะรอ...”
“ครับผม...ไปรวมตัวกับคนอื่นได้แล้ว..”
“..ครับ...” ส่งยิ้มให้สารถีคนพิเศษก่อนจะหยิบกระเป๋าหนังสีดำ ก้าวลงจากรถ โบกมือให้คนในรถก่อนจะออกเดินเข้าไปในโรงเรียนที่มีนักเรียนนั่งกันอยู่ตามม้าหินอ่อน...
“นั่งกับเรารึเปล่าครับ น้องใหม่”
“ไม่เป็นไรครับ จะไปนั่งตรงนั้น” หันมองเด็กผู้ชาย ม.ปลาย ที่นั่งอยู่จนเต็มม้าหินอ่อน...น้องบีปฏิเสธก่อนจะเดินไปนั่งตรงที่ว่าง..ถึงพี่ปันปันจะจุ๊บมือให้แล้ว แต่น้องบีก็ยังตื่นเต้นอยู่...ปากเล็กพ่นลมออกมาเพื่อระบายความตื่นเต้น....
“เรานั่งด้วยได้ไหม...”
“นั่งสิ..”
“เราชื่อน้ำ แล้วนายชื่ออะไร อยู่ห้องไหนเหรอ”
“ชื่อน้อง.เอ่อ..ชื่อบี...อยู่ห้อง 15 “ น้องบีตอบคำถามคนที่ดูเหมือนจะเป็นนักเรียนที่เรียนรุ่นเดียวกัน แต่ถ้าวัดตามอายุน้องบีก็เป็นพี่รุ่นเดียวกันอยู่สองปี...แต่คุณป๊าบอกว่าไม่มีใครรู้หรอกให้เนียน ๆ ไปเหอะ...
“ห้องเดียวกันเลย...ยินดีที่ได้รู้จักนะ เราเป็นเด็กเก่าที่นี่น่ะ..”
“อืม เหมือนกัน..งั้นมีอะไรก็แนะนำด้วยนะ” คนตัวเล็กส่งยิ้มให้เพื่อนใหม่ ที่สูงกว่าน้องบีนิดเดียว...ตาตี๋ ๆ แก้มป่อง ๆ ผิวขาว..น่ารักดี...ห้อง 15 เป็นห้องที่คะแนนสอบสูงที่สุดในระดับชั้น...ตอนแรกคุณป๊าบอกไม่ต้องสอบ แต่น้องบีจะสอบแล้วก็สอบได้คะแนนต้นๆ ด้วย...อย่างนี้น่าภูมิใจกว่าตั้งเยอะ...
“บีน่ารักจัง...ตอนแรกที่เห็นเรานึกว่ามีผู้หญิงมาเรียนโรงเรียนเราด้วย...”
“น้ำก็น่ารัก...อ่ะ น้อง เอ่อ บีให้”
“ขอบใจ...” น้ำรับขนมปังแซนวิสจากมือเพื่อนใหม่ เขาเห็นตั้งแต่บีเดินเข้ามาแล้ว รุ่นพี่ รุ่นน้องมองกันเต็มเลย แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะชินกับการถูกมองเลยไม่ค่อยรู้สึกอะไร...
“น้องใหม่เหรอ”
“....คะ ครับ.....”
“รู้ไหมว่าที่ตรงนี้พวกพี่นั่งกันประจำ”
“แต่ผมมาก่อน ก็นั่งก่อน”
“เอ่อ บีเราไปนั่งที่อื่นกันเถอะ..”
“ น้องเป็นเด็กเก่าที่นี่หนิ บอกเพื่อนน้องหน่อยนะ ว่าควรจะลุก” หนึ่งในนักเรียน ม.ปลาย 5 คนที่ยืนอยู่พูดกับน้ำ น้องบีสังเกตว่าทำไมต้องทำท่าเหมือนกลัวรุ่นพี่นี่ด้วย....โรงเรียนนี้มีมาเฟียด้วยเหรอ...
“ไม่ลุกหรอก เรามานั่งก่อนนะน้ำ...ถ้าน้ำจะลุกก็ลุกไปสิ บีจะนั่ง”
“บีคือ..”
“เก่งหนิ...รูปร่างหน้าตา เหมือนตุ๊กตาเลย...ปากก็ดี...แต่ระวังตัวไว้ให้ดี..เพราะ..”
“ว่าไงมานนท์ มาทำอะไรกัน ชั้นเธอเขาเรียกรวมทางด้านโน้นไม่ใช่หรือไง” นักเรียน 5 คนที่ตอนนี้กำลังจะแย่งที่นั่งน้องบีต้องชะงัก ก่อนจะออกไปยืนแล้วยกมือไหว้อาจารย์หน้าดุคนนึงที่เดินเข้ามาทัก
“โห่จารย์ หนูชื่อมายด์ค่ะ...บอกแล้วว่าอย่าเรียกชื่อจริง!”
“จะอะไร ช่าง...แต่ไปได้แล้ว...จะโดดตั้งแต่วันแรกหรือไง!” อาจารย์หน้าดุไม่สนใจท่าทางกระเง้ากระงอดนั่น พร้อมกับเอ่ยปากให้นักเรียนทั้ง 5 คนไปรวมตัวกับเพื่อน...เป็นตุ๊ดเป็นกระเทยไม่มีใครว่า แต่อย่ามาโดดเรียน เกเรให้เห็น...ลูกเจ้าใหญ่นายโตไม่มีใครสนเพราะอาจารย์ที่นี่ก็มีแต่ระดับเทพ ๆ ทั้งนั้นเหมือนกัน...
“ค่ะอาจารย์อ่ะ...ฝากไว้ก่อนนะจ๊ะ!” ทำท่าแสนงอนใส่อาจารย์ฝ่ายปกครอง ก่อนจะหันไปพูดคาดโทษกับรุ่นน้องสองคนที่นั่งอยู่ ความจริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้นั่งตรงนี้หรอก...แต่หมั่นไส้มัน...เด่นตั้งแต่ทางเข้าเลยเชียว...
“....................” อาจารย์ฝ่ายปกครองรับไหว้นักเรียนใหม่ ก่อนจะเดินตรวจตราไปเรื่อย ๆ วันแรกต้องมีอะไรให้ปวดหัวแน่ๆ
“บี..เราว่าอย่าไปต่อปากต่อคำกับพวกนั้นเลยนะ”
“ทำไมล่ะ ก็บีไม่ผิด”
“พวกนั้นคือแกงค์ 5 นางฟ้า...เป็นรุ่นพี่ ม.6 ที่น้อง ๆ กลัวกันมาก โดยเฉพาะเด็กหน้าตาดี ๆ ว่ากันว่าพวกพี่แกไม่ต้องการให้ใครเด่นกว่าเลยหาทางกลั่นแกล้งสารพัด เราว่าพวกนั้นต้องหมั่นไส้บีแล้วล่ะ ระวังตัวด้วยนะ”
“ไม่เห็นจะกลัว!..บีไม่ผิด อย่ามายุ่งเชียว...” น้องบีไม่ทำใครก่อน แต่อย่ามายุ่ง ถ้าน้องบีสู้ไม่ได้จะฟ้องให้คุณป๊ามาจัดการให้ดู น้องบีไม่ได้ขี้ฟ้อง...แต่คุณป๊าบอกว่าใครรังแกให้บอกได้เลย...
กริ้งงงงงงงงงงงงงงงง!!
“ไปเข้าแถวเถอะ”
“อืม!”
“ช่วยถือกระเป๋าไหมครับ”
“...พี่เจ้านาย...” น้ำพึมพำเมื่อเห็นผู้ชายตัวสูงรุ่นพี่ ม.6 ที่เข้ามาดักหน้าพวกเขาไว้ แล้วยังมีกลุ่มรุ่นพี่เขาอีก 3 คนที่มายืนอยู่ด้วยกัน พี่เจ้านายเป็นรุ่นพี่ที่เนื้อหอมสุด ๆ และเป็นลูกชายของเจ้าของเหมืองทางใต้...รูปหล่อพ่อรวย..และก็ไม่เคยได้ยินว่ามีแฟน..เป็นตัวเป็นตน..
“...ไม่เป็นไรครับ มันไม่หนัก...ไปเถอะน้ำ..”
“....................” น้ำหันมองพี่เจ้านายก่อนจะเดินไปตามแรงลากของเพื่อนใหม่.....นอกจากจะไม่สนใจคนดังของโรงเรียนแล้ว เพื่อนใหม่ยังติดหงุดหงิดอีก....เรื่องราวมันชักจะวุ่นวายกันใหญ่ เจอตัวเด็ด ๆ ตั้งแต่วันแรกที่เข้าเรียนซะแล้วบี..
“น้องชื่ออะไร ครับ”
“.......................” ยังไม่ลดละ คนที่อาสาจะถือกระเป๋ายังเดินตามน้อง ม.4 สองคนที่กำลังจะเดินไปเข้าแถว ท่ามกลางสายตาหลายคู่ที่จับจ้องอยู่ รวมทั้งแกงค์ 5 นางฟ้าที่เดินมาพร้อมเพื่อนหลังจากที่การเรียกรวมตัวเสร็จสิ้น..
“พี่ชื่อเจ้านายนะครับ..ให้พี่ช่วยถืกระเป๋านะ”
“..อย่า....”
“ว่าไงนะครับ” คนที่เดินดุ่มๆ หันมาเผชิญหน้ากับคนที่เดินตามก่อนจะพูดอะไรออกมาแต่ไม่หมด...
“อย่ามายุ่งได้ไหม!! รำคาญ!!”
“..................”
“...ไปเข้าแถว น้ำ!..”
“...............” น้ำปลิวไปตามแรงลากของเพื่อนใหม่ ที่ทำเอาใครต่อใครอึ้งไปถึงไหนต่อไหน....พวกที่เดินตามมาก็ยืนนิ่งกันไป...ยังไงกัน....ความแรงของเพื่อนใหม่มันจะดีหรือไม่ดีกันแน่...ชักจะปวดหัวตั้งแต่วันแรกซะแล้ว....
*** ขอบคุณทุกคนที่เมนท์ อ่าน ทุกบวก ทุกเป็ดจ้า...หวังว่าจะชอบนะคะ เรื่องราวก็ดำเนินไปเรื่อย ๆ เอาใจช่วยน้องบีให้วีน เอ๊ย ให้รอดจากรุ่นพี่ด้วยน้า...