ตอนพิเศษ
ทายสิว่าผมเป็นใคร คนหล่อ เรียนดี กีฬาไม่เป็น เต้นก็ห่วย แต่รวยเสน่ห์ ถูกครับผมคือ เจมส์จิ โอ๊ย! เขวี้ยงรองเท้าใส่หน้าผมทำไม T^T ทำร้ายคนหน้าตาดีโดนจับแล้วปรับสองเท่านะครับนะ อ่ะๆบอกก็ได้ กระผมนายแพะ สุดหล่อของคณะวิศวกรรมศาสตร์
วันนี้ผมพาตัวเองโบยบินมาไกลถึงเขาใหญ่ ขับรถมาเองไม่นานมาก แต่ถามว่าทำไม แล้วมากับใคร ตอบแมนๆว่ามาคนเดียว ส่วนเรื่องมาทำไม ออกจะกระดากปากไปสักนิดที่จะตอบ คึ แต่เห็นแก่ทุกคนผมบอกก็ได้
วันนี้ผมขับรถมาไกลเพื่อมาสะกดรอยตามน้องคนหนึ่ง เขาอยู่ปีหนึ่งคณะบัญชี หน้าตาผิวพรรณดูราวกับลูกคุณหนู ใบหน้าใสติดไปทางสวยราวกับผู้หญิง ผิวขาวเหมือนนมถั่วเหลือง ปากแดงๆเหมือนลูกเชอร์รี่ ตัวบางๆเหมือนแผ่นขนมปัง ผมนุ่มสลวยเหมือนสายไหม ฮึ่ยๆ ยิ่งคิดก็ยิ่งหิวคนอะไรวะน่ากินไปทั้งตัว ตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
ครับ ถูกแล้ว น้องเขาเป็นคนที่ผมแอบชอบ ชื่อว่าน้ำแข็ง กรี๊ดๆๆ เรื่องมันเกิดจากวันหนึ่งในช่วงเปิดเทอมรับน้อง ผมผ่านไปทางคณะบัญชีเพื่อจะมุ่งหน้าไปหาเพื่อนผมที่อยู่คณะนิเทศ ระหว่างทางก็ได้เจอกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังถูกรุ่นพี่รุมปะแป้ง
ที่จริงมันก็ไม่ได้มีอะไรน่าสนใจหรอก แต่พอดีว่าผมดันมองไปพอดีกับที่น้องเขาหันหน้ามาทางผมแล้วดันส่งยิ้มหวานมาให้ โหย จะบอกให้ว่าตอนนั้นเข่าผมแทบทรุด ไม่เคยเจอใครยิ้มหวานเท่าน้องน้ำแข็งมาก่อน ขนาดว่าหน้าเปื้อนแป้ง ความน่ารักยังทะลุมากระแทกใจผมเต็มๆ แล้วหลังจากนั้นผมก็มักจะหาเรื่องไปหาเพื่อนที่คณะนิเทศบ่อยๆ แต่เชื่อไหมว่าเหมือนฟ้าเล่นตลก ตั้งแต่วันนั้นผ่านมาจนเข้าเทอมสองผมไม่เคยได้เจอน้องเขาอีกเลย
แต่ด้วยบุญเก่าที่ทำมาแต่ชาติปางก่อน หรือด้วยกรรมดีที่มีบ้างประปรายในชาตินี้ทำให้ผมบังเอิญเจอน้องเขาอีกครั้งในบ่ายวันหนึ่ง ผมนี่ตกใจจนแทบจะตกเก้าอี้ตอนที่หันมาด้านหลังแล้วเห็นน้องเขานั่งอยู่กับเพื่อน ผมได้ยินเขาคุยกันว่าวันเสาร์นี้จะไปเที่ยวเขาใหญ่กันประจวบเหมาะกับเสาร์อาทิตย์นี้ผมว่างไม่มีเรียนผมก็เลยคิดได้ว่าจะทำตัวเป็นนักสืบสะกดรอยตามน้องเขามาเขาใหญ่ด้วย
เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ไอ้ห่าเหนือก็เพิ่งโทรมาหาผม ทำน้ำเสียงตอแหลอยากจะรู้ว่าคนที่ผมตามมาคือใคร เหอะๆเรื่องไรผมจะบอกล่ะ เอาไว้ผมพาไปเปิดตัวทีเดียวเลยดีกว่า คึคึ
“กินไรกันดี”ผมสะดุ้งตกใจเมื่อเสียงใสๆดังขึ้นทางด้านหลัง ผมนี่ต้องแกล้งทำเนียนว่าซื้อของอยู่ในร้านเสื้อร้านหนึ่ง ไม่งั้นน้องเขาจะหาว่าผมเป็นพวกโรคจิต
“น้ำแข็งอยากกินไร”น้องผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งผมจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าชื่อแตงโมเป็นคนถามว่าที่แฟนผม
“ได้หมดเลย”ยิ้มน่ารักมาก!!! ผมนี่อึ้งแล้วอึ้งอีก โอยยไม่ไหวจะทนนะยิ้มแบบนี้พี่แพะหัวใจสั่นไหว
“อาหารเวียดนามดีมะ”เพื่อนอีกคนถามขึ้น เป็นผู้ชายน่ารักเหมือนกันแต่น้องคนนี้จะออกสาวกว่าน้องน้ำแข็งของผมเยอะ ส่วนชื่อนี่ผมไม่รู้อ่ะจำไม่ได้
“งั้นก็ไปกัน”น้องผู้หญิงอีกคนของกลุ่มพูดขึ้น แล้วทั้งสี่ก็จูงมือกันตรงไปยังร้านอาหารเวียดนาม
ผมมองตามน้องสี่คนไปโดยที่เหลือแต่ร่างกับวิญญาณ น้องน้ำแข็งเขาเอาหัวใจผมไปแล้ว ผมบอกตามตรงผมไม่เคยคิดว่าตัวเองจะเป็นเกย์หรือชอบผู้ชายเลย แต่เล็กจนโตก็มองนมกับส่องใต้กระโปรงเพื่อนผู้หญิงมาโดยตลอด แต่พอมาเจอเธอคนนี้บอกได้คำเดียวว่ามันใช่!
แต่ก็นั่นแหละ รักเขาให้ตาย ชอบเขาให้ตาย ผมว่าน้องเขาก็คงไม่สนใจมองมาที่ผมหรอก คนอย่างไอ้แพะเก้านิ้วคนนี้จะมีอะไรน่าสนใจ จนก็จน หล่อกว่าเจมส์จินิดเดียว ความเสี่ยวเท่ากับศูนย์ แล้วผมจะเอาอะไรไปจีบเขากัน
น้องน้ำแข็งนั้นเป็นถึงลูกชายของบริษัทส่งออกสุขภัณฑ์ของประเทศ เรียนดี หน้าตาดี ชาติตระกูลดี จะว่าไปผมก็ไม่ต่างอะไรกับหมาวัดที่เฝ้ามองดอกฟ้าเลย เฮ้อคิดแล้วก็เซ็งว่ะ
“อ้าว เผลอแปปเดียวเดินไปไหนแล้ววะเนี่ย”ผมมองซ้ายมองขวาหาเป้าหมายไม่เจอ เมื่อกี้เผลอมองผู้หญิงใส่เดรสสั้นเสมอหูแค่แวบเดียวเอง หันกลับมาอีกทีหายไปซะละ
“อ๊ะ”
ผมเหยียบเบรกเอี๊ยด เมื่อเดินพ้นมุมร้านของฝากมาก็ปะเข้ากับแก๊งนางฟ้าทั้งสี่กำลังยืนดูเมนูอาหารเวียดนามกันข้างหน้าร้านก่อนจะพากันทยอยเดินเข้าไปข้างใน
ผมรอเวลาสักพักแล้วค่อยเดินตามเข้าไป ไม่อย่างนั้นน้องๆเขาอาจจะเริ่มสังเกตุเห็นก็เป็นได้ คิดๆแล้วก็ขำเนอะ นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย มาสะกดรอยตามเหมือนพวกโรคจิตเพียงแค่ว่าอยากจะได้เห็นหน้าเขา อยากจะเห็นว่าตอนเขาอยู่กับเพื่อนจะเป็นยังไง แล้วก็ไม่ผิดจากที่คิดไว้ น้องเป็นคนร่าเริงยิ้มง่าย ผมก็มักจะยิ้มตามน้องเขาเสมอๆ
ผมเลือกนั่งที่โต๊ะสำหรับสองคนนั่ง ดีหน่อยที่โต๊ะนี้ค่อนข้างอยู่ในหลืบแต่ผมก็ยังสามารถมองเห็นน้องน้ำแข็งได้ โชคดีที่น้องหันหน้ามาทางผมพอดี ผมสั่งก๋วยจั๊บญวนมาหนึ่งชาม กินไม่เป็นหรอกครับแต่มันถูกที่สุดก็เลยสั่งมา จะมานั่งกินแต่น้ำเปล่าก็กะไรอยู่
น้องๆเขาได้อาหารกันครบหมดแล้ว น่าจะกินไปได้สักหน่อยแล้วด้วย ดูแล้วน้องแก๊งค์นี้เขาก็อารมณ์ดีนะยิ้มหัวเราะเฮฮากันได้ทั้งวัน แต่ยังไงออร่าความสดใสก็เปร่งประกายจากน้องน้ำแข็งเยอะที่สุดอยู่ดี
หลังจากทานอาหารกันเสร็จใช้เวลาเกือบๆชั่วโมงเห็นจะได้ ทั้งหมดก็ลุกเดินออกจากร้านไป สเต็ปเดิมครับผมกะเวลาสักพักแล้วค่อยเดินตามออกไปด้านนอก เวรอีกละ
หายไปไหนกันวะ!
ผมมองนาฬิกาก็เกือบจะเย็นแล้ว ผมถอนหายใจกลับที่พักก่อนก็ได้ อย่างน้อยก็พักรีสอร์ทเดียวกัน พรุ่งนี้ค่อยมาสะกดรอยตามใหม่ ไม่แน่ว่าทั้งสี่อาจจะกลับที่พักกันไปแล้วก็ได้ใครจะไปรู้
@เขาใหญ่ มาตามหารักแท้
ผมอัพเดทชีวิตสักหน่อย ผมไม่ใช่คนดรแมนติกนะดูได้จากภาษาของผม คึคึ ไม่นานก็มีเพื่อนๆมารุมคอมเม้นกันเต็ม! อะไรวะ แค่กูมาตามหาว่าที่เมียในอนาคตทำไมพวกมันต้องตกใจกันขนาดนี้ด้วย
แต่ละคนนี่มาแบบ
คนอย่างมึงจะหารักแท้เจอเหรอวะ555
เฮ้ย! หาเผื่อกูด้วย
ไอ้ห่าแพะ ไอ้ควาย (อะไรของแม่ง)
เนื้อคู่หรือเนื้องอกวะมึง
และอีกแสนแปดประโยคเห็นจะได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลไรซึ่งวี่แววเม้นจากเพื่อนเลิฟทั้งสามคนของผม วิสกี้นี่คงนอนกกผัว ไอ้เหนือนี่คงวิ่งไล่จับกับพี่เขียนอยู่แน่ๆ ส่วนไอ้ห่าดินไม่รู้ไปตายห่าที่ไหน ช่างพวกมันเถอะ
ผมนักที่เก้าอี้ตัวหนึ่ง กะว่าวันนี้คงพอแค่นี้ไม่ตามละค่อยเริ่มพรุ่งนี้ใหม่ แต่ก็ยังรู้สึกขี้เกียจกลับรีสอร์ทนะมันน่าเบื่อ นั่งเล่นเฟสดูคนด่ากันขำๆก็ฮาดี ตอนนี้ข่าวอะไรก็ไม่รู้เยอะแยะ ข่าวมันควรจะเครียดนะแต่ก็มีคนเอามาทำฮา ทำเอาคนไร้สาระอย่างผมขำจนท้องแข็ง
นั่งไปสักพัก ก็รู้สึกว่ามีเงาของอะไรบางอย่างมาทาบทับผ่านตรงหน้า ทำเอามือผมที่กดโทรศัพท์อยู่ต้องหยุดชะงัก
ผมค่อยๆเงยหน้าขึ้นมองว่าใครที่มาหยุดยืนตรงหน้าผม หยีตาหน่อยๆเพื่อปรับแสง ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อคนที่ยืนตรงหน้าผมตอนนี้ไม่ได้มีแค่หนึ่งแต่กลับมีถึงสอง แถมหน้าก็ยังดูคุ๊นนนนคุ้น
“พี่ พวกผมขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ”
หนึ่งในสองคนนั้นบอกกับผมเสียงเรียบ ใจเต้นตึกตักๆ โคตรตื่นเต้นแต่ ณ จุดนี้ คำตอบเดียวที่ผมจะตอบไปคือ
“ได้ครับน้อง”
T^T
NEXT70%
นักเขียนขอเม้าาาา
ขอโทษฮับหายไปนานนนนน
ตอนนี้ขอคั่นด้วยคู่แพะและน้องน้ำแข็ง
เป็นไงก็บอกกันได้น้าาาาาา