[แนว Incest] Coming Back Home (เรื่องสั้น) แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.10
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [แนว Incest] Coming Back Home (เรื่องสั้น) แจ้งรวมเล่ม Home The Series P.10  (อ่าน 174338 ครั้ง)

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
มาทำให้ค้างอีกแล้วนะครับ พี่ต้น o22 รีบมาต่อด่วนเลยครับ

ออฟไลน์ ่patsaporn

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-6
เค้าจะถามจะเล่าอะไรกัน อยากรู้แกว้กๆ  :katai1:

เสียดายเวลาตั้งหลายปีที่สองคนพี่น้องเข้าใจผิดกันไปเยอะ ไม่ได้คุยกันเลย ต่างคนก็คิดไปคนละทาง
ถัาคุยกันชีวิตจะมีความสุขมากกว่านี้เนอะ แต่ก็นะ ประสบการณ์สอนคน พอกลับมาเจอกันก็เข้าใจกันมากขึ้น
แอร์บัสโตขึ้น แต่พี่กัปตันเหมือนเด็กไงไม่รู้ความรู้สึกเรา ชอบที่สองคนพูดกันตรง ๆ ในการเจอกันครั้งแรกนะ
มันไม่อมพะนำดี ชอบตอนแอร์บัสส่งหลานเข้านอนด้วย อบอุ่นจัง ไม่อยากกลับ ตปท. แล้ว งั้นก็อยู่นี่เหอะ

ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ phakajira

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-0
ชอบบบบบบ

ice_spok

  • บุคคลทั่วไป
ตันรักจัมโบ้

บัสก็รักจัมโบ้

แล้วทำไมบัสจะรักตันไปตลอดไม่ได้หละครับ ^^

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
คุณต้นแต่งเรืองไหนมาก็ชอบหมดแหละ อ่ารได้ทุกแนว เน้นคนแต่งมากกว่า ก่อนอ่านจะดูก่อนเลยใครแต่งแล้สถึงเข้าไปอ้าน นานๆที จะอ่านนักเขียนคนอื่นที่ไม่อยู่ในใจบ้าง

ออฟไลน์ Mookkun

  • magKapleVE
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 637
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-0
    • Consensual free relationships
 :hao7:  :hao7:  :hao7:

 ช่วงเปิดอกคุยยยยยส์
มาต่อเร็วๆนะก๊าบบบ

:pig4:

ออฟไลน์ Ryoooo

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3146
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +288/-2
จะถามว่าอะไร
อ๊ากกก อยากรู้มากกกก :katai1:

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
กรี๊ดดดดดดดดค้างงงงง  :katai1:
มาต่อโดยด่วน ตันจะถามอะไรบัสสสสส
คิดว่าน่าจะใจตรงกันอยู่ เพราะถ้าตันไม่ได้รักออย
ที่เป็นแม่ของลูกเลย ช่วงเวลาที่ห่างกันไป
น่าจะเป็นช่วงที่ตันพยายามจะอยู่ห่างกับบัสเอง
เพราะว่ากลัวเกินเลยในความเป็นพี่น้อง

ยิ่งบัสตัดสินใจไปเรียนต่อเมืองนอก ก็ยิ่งทำให้
ต้องตัดใจไม่อยากเหนี่ยวรั้งอะไร อะไร ๆ ในชีวิต
พอผิดพลาดไปซะหมดแล้วก็เหมือนล้มเหลว
แต่มีน้องจัมโบ้เป็นหนึ่งเดียวในชีวิตที่เหนี่ยวรั้งเอาไว้

ชอบ Incest เวอร์ชั่นนี้นะคะ ดูดราม่าในระดับที่รับได้
คือมีความเป็นจริงซ้อนอยู่ในเรื่อง ไม่ได้เพ้อฝันอะไรมาก
มีความเป็นไปได้ที่จะเป็น อ่านแล้วสงสารบัสในตอนแรก
พอมาอ่านตอนหลังก็สงสารตัน อะไร ๆ ในชีวิตก็ดูจะไม่เป็น
อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ถ้าตันรักบัสจริง มีเฮแน่นอน !!
  :mew3:

ออฟไลน์ HoMoSiS

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 80
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
ตอนที่สามก็เงิบ นึกว่าเปลี่ยนนายเอกเป็นน้องจัมโบ้ 555
ติดตามค่ะ  :katai5:

winnie_the_far

  • บุคคลทั่วไป
เพราะการไม่พูดกัน อละการคิดเอาเอง ทุกอย่างจึงเกิด สิ่งพลาดไปหลายๆอย่าง

บอกความใจไป แอร์บัสกับกัปตันคงมี หัวใจตรงกัน

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ loverken

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 504
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +34/-0
 :katai2-1:
โดนใจมากกกก ชอบแนวนี้

ออฟไลน์ gneuhp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ค้าง!!!!

ชอบเรื่องนี้ค่ะ ติดตามๆๆ ^^

thesilkmai

  • บุคคลทั่วไป
ชอบอะไรแนวนี้มากเลยค่า รีบมาต่อนะคะ  :katai1:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ตอนที่ 5


“เมื่อก่อนนี้บัสเคยรักตันมากกว่าพี่น้องรึเปล่า... รักแบบคนรักน่ะ”

ผมมองหน้าเขา พยายามมองหาดูว่าอะไรที่ทำให้เขาถามผมแบบนั้น แต่สิ่งที่ผมเห็นก็มีแต่ดวงตาเป็นประกายที่รอคอยคำตอบจากผมอยู่เท่านั้นเอง

ผมส่ายหน้า “ไม่ใช่แบบนั้นหรอก... พี่ตันเข้าใจผิดแล้ว”

“หมายความว่า...” เขาหน้าเสียลงเล็กน้อย

“เพราะตอนนี้บัสก็ยังรักครับ...” ผมเว้นช่วงสั้นๆ สูดลมหายใจเข้าปอดก่อนจะพูดต่อ “บัสรู้ว่ามันผิด บัสรู้ว่าแม่งป่วยนะ ความคิดแบบนี้น่ะ แต่บัสรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ตอนเรายังเด็กบัสรักและเคารพพี่ตันมาก แม่งงง ที่จริงต้องใช้คำว่าเทิดทูนด้วยซ้ำ และบัสก็ไม่เคยรู้สึกแบบนั้นกับคนอื่นอีกเลย บัสพยายามที่จะเลิกคิดกับพี่ตันแบบนั้นแล้วนะ แต่บัสก็ทำไม่ได้จริงๆ บัสไม่เคยเลิกรักพี่ตันได้เลยตลอดเวลา 10 ปีที่ผ่านมา...”

ในขณะที่พูดอยู่นั้น ผมไม่รู้ตัวเลยว่าน้ำตาของผมมันไหลออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ในที่สุดผมก็ได้พูดความจริงที่ถูกเก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกของใจมานานแล้วออกไป ทั้งๆ ที่ผมไว้ใจเขา แต่ลึกๆ แล้วผมก็ยังอดกลัวปฏิกิริยาของเขาไม่ได้

สิ่งถัดมาที่ผมรู้สึกก็คือมือของกัปตันที่วางลงบนแก้มของผม เขาใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตาออก จากนั้นก็ชะโงกหน้าเข้ามาจูบลงบนริมฝีปากผมเบาๆ ด้วยความตกใจ ในตอนแรกผมจึงเม้มปากแน่น แต่อีกไม่กี่วินาทีถัดมาผมก็ผ่อนคลายลง แล้วค่อยๆ เผยอริมฝีปากออก เขาจึงสอดลิ้นเข้ามาในปากของผมพร้อมกับโหมตัวเข้ามาจนล้มทับผมลงไปบนโซฟา เราสองคนจูบปากกันอย่างดูดดื่ม มันคือจูบที่ดีที่สุดที่ผมเคยจูบกับใครมาทั้งหมดในชีวิต และมันก็เป็นจูบที่ผมรอคอยมานานที่สุดในชีวิตด้วยเช่นกัน

“ตันนึกว่าจะเสียบัสไปตลอดกาลซะแล้ว...” เขาพูดขึ้นหลังจากเป็นฝ่ายถอนริมฝีปากออก

“ด... เดี๋ยวนะ พี่ตัน นี่หมายความว่าพี่...” ผมพูดตะกุกตะกัก สมองยังคงประมวลผลไม่ถูกต้อง

กัปตันชันตัวขึ้นนั่งอีกครั้ง เขาดึงตัวผมให้ลุกขึ้นไปนอนเอนลงบนตักของเขา จากนั้นเขาก็ลูบหัวผมเบาๆ “ก่อนหน้านี้ตันคิดว่าพอบัสรู้ว่าตันแต่งงานแล้ว บัสจะไม่อยากเจอ ไม่อยากยุ่งกับตันอีก และไปมีคนรักมีชีวิตของตัวเองที่นู่นไปเลย แล้วบัสก็ไม่ต้องตอบคำถามเรื่องแฟนหรืออะไรจากพ่อกับแม่ด้วย”

“พี่ตัน... พี่ตันก็รักบัสเหมือนกันเหรอ” ผมถามเขา

“รักสิ รักมากและรักมาตลอดด้วย” เขาจับมือของผมขึ้นไปจุ๊บเบาๆ “โดยเฉพาะหลังจากที่เราจูบกันครั้งแรกตอนนั้น ตันก็ยิ่งรู้แน่ชัดแล้วว่า...”

“ว่าอะไร”

“ว่าตันหลงรักน้องชายสุดหล่อของตันไปซะแล้ว” เขายิ้มกว้าง

“ถ้าแบบนั้นแล้วพี่ตันไปแต่งงานกับออยทำไม ไม่สิ พี่ตันไปทำเค้าท้องทำไม”

เขาถอนหายใจ “ตันบอกแล้วไงว่าตันอยากมีลูก แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าตันอยากมีลูก ณ เดี๋ยวนั้นเลยหรอกนะ คราวนี้พอออยมันรู้ว่าตันอยากมีลูกมาก มันก็เลยจงใจหยุดกินยาคุมโดยไม่บอกตัน เพราะมันอยากแต่งงานกับนักกีฬา และอยากมีคนเลี้ยงดู ก็แค่นั้นเอง”

“เฮ้ยยย!”

“ใช่ ตันไม่ได้รักออยขนาดนั้นหรอก ก็แค่ผู้หญิงที่คบด้วยในช่วงนั้นเฉยๆ และที่น่าเจ็บใจคือออยเองก็ไม่ได้รักจัมโบ้เลยแม้แต่นิดเดียว หลังจากคลอดจัมโบ้แล้ว ออยก็ไม่เคยแสดงส่วนร่วมอะไรที่เกี่ยวกับการดูแลลูกเลย แถมช่วงสองปีหลังมานี้มันยังแทบไม่ค่อยได้นอนที่บ้านด้วยนะ มันบอกมันไปนอนคอนโดเพื่อนเพราะใกล้ที่ทำงาน แต่ตันรู้ว่ามันไปมีอะไรกับคนอื่นและเอาแต่เที่ยวกลางคืน... ตันก็ไม่รู้ว่าบัสรู้รึเปล่านะ แต่ออยมันอายุน้อยกว่าบัสอีก”

“เฮ้ย แบบนั้นมันเกินไปรึเปล่า แล้วทำไมพี่ตันไม่หย่าหรืออะไรไปล่ะ”

“ตันทำไม่ได้หรอก คนอื่นไม่มีใครรู้เลยว่าตันมีปัญหาแบบนี้กับออย ต่อหน้าผู้ใหญ่ออยมันดีมาก พ่อกับแม่ก็คิดว่าตันมีความสุขดี แต่พอเงินรางวัลที่ตันเก็บสะสมมาเริ่มร่อยหรอ ออยมันก็ยิ่งออกลายเข้าไปใหญ่ มันจี้ให้ตันหาเงินให้เยอะขึ้น ตันยังโชคดีที่ได้สอนยูโดที่โรงเรียนของเพื่อน ซึ่งที่นั่นก็เงินดีอยู่พอสมควร ทำให้ตันสามารถดูแลลูกได้ไม่ลำบากมาก ถึงจะเหนื่อย แต่ถ้าทำเพื่อลูกตันก็ยอมได้ แต่ยังไงก็ตาม สิ่งที่ตันรับไม่ได้เลยคืออีเหี้ยนั่นมันเอาเงินของตันไปผลาญยังกับเป็นเงินที่มันหาเอง!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงขมขื่น

“แล้วปกติยัยนั่นเค้าทำงานอะไรน่ะ”

“เป็นพนักงานบริษัทธรรมดานี่แหละ เงินเดือนแค่หมื่นหก แต่ใช้เงินเดือนนึงยังกับคนได้เงินเดือนสามหมื่น”

“แต่ถ้ามันแย่ขนาดนั้น พี่ตันก็น่าจะหย่าไปนะ เพราะถ้าปล่อยไว้ระยะยาว พี่ตันก็จะยิ่งมีแต่เป็นทุกข์และเงินก็จะหมดลงๆ ไหนจะลูกที่โตมากับแม่แบบนั้นอีก และถ้ายัยนั่นมันไม่ได้อยากจะดูแลลูกอยู่แล้ว มันก็ไม่น่าจะมีปัญหากับการหย่านี่”

“ใครว่าล่ะ มันขู่ตันว่าถ้าหากตันขอหย่า มันจะจ้างทนายและเอาลูกไปเลี้ยง น่าตลกมั้ยล่ะ มันไม่ได้รักลูกหรอก แต่มันแค่ใช้ลูกเป็นเครื่องมือในการผูกคอตันเอาไว้กับมัน เพื่อที่จะได้คอยหาเงินให้มันใช้แค่นั้นเอง ตันเลยไม่อยากเสี่ยงกับการเสียจัมโบ้ไปแม้แต่นิดเดียว”

ผมถอนหายใจ ไม่อยากเชื่อว่าพี่ชายของตัวเองต้องเผชิญกับเรื่องแบบนี้มาตั้งหลายปี “พี่ตันทนมาตั้งนานขนาดนั้นได้ไงวะเนี่ย”

“ก็ตันบอกแล้วว่าตันทำเพื่อลูก”

“ไม่ใช่แค่นั้นดิครับ แต่การที่รู้ว่าเมียตัวเองไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นแบบนั้นน่ะ พี่ตันยอมทนอยู่ได้ยังไง... ว่าแต่พี่ตันแน่ใจเรื่องนั้นเหรอ พี่ตันรู้ได้ไงอะ”

“แน่สิ เรื่องแบบนี้แค่เช็คเอาจากบัตรเครดิตก็รู้แล้ว และมันก็ไม่ได้ดูจงใจปิดบังอะไรจากตันเหมือนกัน อีกอย่างตันไม่จำเป็นต้องทนกับการกระทำแบบนั้นของมันหรอก เพราะแม่งไม่ได้มีความหมายอะไรสำหรับตันอยู่แล้ว อย่าลืมว่าตันก็ไม่ได้รักแม่งเลยนะเว้ย มันจะไปเอากับใครก็เรื่องของมันดิ อีกอย่างตันก็ไม่ได้มีอะไรกับมันมาสี่ปีแล้วด้วย”

“สี่ปี!!”

“ใช่ สี่ปี แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ตันไม่อยากมีอะไรกับคนที่ตันไม่รักอยู่แล้ว ยิ่งเป็นมันตันยิ่งทำไม่ลงว่ะ บอกตรงๆ ว่าแค่คิดขึ้นมาก็รู้สึกขยะแขยงแล้วด้วยซ้ำไป” เขานิ่วหน้าพลางพ่นลมหายใจออกมาจมูกอย่างหงุดหงิด

“แต่ก่อนนี้พี่ตันก็มีอะไรกับออยมาตลอด”

“ก็ไม่เชิงหรอก เพราะก่อนหน้าที่มันจะบอกว่ามันท้อง ตันก็กำลังจะบอกเลิกมันพอดี เราไม่ได้มีอะไรกันบ่อยขนาดนั้น เพราะไม่ว่าจะก่อนหน้านั้นหรือตอนไหน คนที่ตันอยากมีอะไรด้วยคือผู้ชายต่างหาก...”

“แปลว่าพี่ตันไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนเลยเหรอ”

“เคย... แต่ก็ไม่รู้จะเรียกว่าเซ็กส์ได้เต็มปากเต็มคอรึเปล่านะ เพราะมันก็แค่แบบที่เราเคยๆ ทำกันนั่นแหละ” ในขณะที่เขาพูด มือของเขาก็ยังคงลูบหัวผมไปด้วยตลอด

“ว่าแล้วล่ะ บัสเองก็สงสัยอยู่ว่ามันไม่น่าจะเป็นครั้งแรกของพี่ตัน”

“อือ แต่ตันอยากให้บัสรู้ไว้นะว่าตอนที่ตันบอกว่าตันอยากเลิกกับออยน่ะ มันเป็นตอนที่ตันรู้สึกตัวแล้วว่าตันคิดถึงและต้องการผู้ชายคนนึงมาก... และผู้ชายคนนั้นก็คือคนๆ เดียวที่ตันคิดถึงและอยากมีอะไรด้วยมากที่สุดมาตลอด”

“ซึ่งคนๆ นั้นคือ...”

“จะใครซะอีกล่ะวะ” เขาหยิกจมูกผมเบาๆ ก่อนจะก้มลงมาจุ๊บลงบนปลายจมูก “แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ไง เพราะบัสไม่ได้อยู่ที่ไทย และตอนนั้นตันก็คิดว่าบัสคงไม่อยากเจอตันอีกแล้ว อย่างที่บอกนั่นแหละ”

“เดี๋ยวก่อนนะ พี่ตัน ถ้าหากว่าพี่ตันไม่ได้รักออยเลย แล้วทำไมพี่ตันถึงได้เสียใจขนาดนี้”

เขานิ่งไปครู่หนึ่ง “มันคงเป็นความรู้สึกผิดด้วยล่ะมั้ง... ก็ใช่ ตันไม่ได้รักออย และตันก็รู้ด้วยว่าสักวันนึง วันที่ออยจะจบชีวิตตัวเองลงแบบนั้นคงต้องมาถึง แต่พอมันเกิดขึ้นจริงๆ แล้วตันก็รู้สึก...”

“เดี๋ยวๆ พี่ตัน ที่บอกว่ารู้ว่ามันจะเกิดขึ้นน่ะ หมายความว่ายังไง”

“ก็อย่างที่บอกนั่นแหละว่าออยมันเที่ยวเยอะ กินเหล้าเก่ง และสาเหตุที่มันตายก็เป็นเพราะเพื่อนมันกินเหล้าเมาแล้วขับนั่นแหละ มันให้เพื่อนมันขับรถที่ตันเพิ่งซื้อให้ แต่ไอ้คนขับก็ดันเมาพอๆ กัน แล้วสุดท้ายก็เลยจบลงแบบนั้น... เพราะงั้นถ้าถามว่าตอนที่ตันรู้ข่าว ตันแปลกใจมั้ย ก็ไม่เลย” เขาถอนหายใจเบาๆ “แต่ตันรู้สึกผิดว่ะ และแน่นอนว่าตันก็เสียใจด้วยเหมือนกัน ถึงมันจะเป็นเมียและแม่ที่แย่แค่ไหน แต่ตันก็ไม่เคยคิดถึงขนาดให้มันตายไปจริงๆ แบบนั้น และสาเหตุที่ตันเสียใจยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด คือการที่ตันรู้สึกว่าตัวเองกำลังโกหกคนทั้งโลกอยู่มากกว่า ตันรู้สึกว่าตัวเองโกหกพ่อกับแม่กระทั่งเรื่องการตายของเมีย และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือการที่ตันคิดว่าตันจะต้องใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังกับลูกแค่สองคนแบบนั้นไปตลอดชีวิต โดยไม่ได้เจอหน้าคนที่ตันรักอีกแล้ว การที่ตันคิดว่าตันจะต้องเก็บความจริงเหล่านี้ไว้ตัวคนเดียวไปจนตาย การที่ตันต้องทนกับความคิดที่ว่าบัสต้องเข้าใจตันผิดไปตลอด... มันหลายอย่างว่ะ บัส มันเป็นทั้งความเครียด ความเศร้า ความสับสน และความขัดแย้งในใจที่ตันก็ไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไง แต่เมื่อตอนกลางวัน วินาทีที่ตันรู้ว่าผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าบ้านของตันคือบัส ความกลัวที่เคยมีก็หายไปจนเกือบหมดเลย และยิ่งเมื่อรู้ว่าบัสเองก็ยังรักตันเหมือนเดิม ชีวิตของตันก็มีความหวังขึ้นอีกเยอะแล้ว”

ผมจับมือของเขามาถูที่แก้มของตัวเองเบาๆ “บัสอยากเป็นกำลังใจให้พี่ตันนะครับ”

เขายิ้มและพยักหน้าเบาๆ “แค่การที่ตันได้คุยกับบัสอีกครั้งวันนี้ ตันก็รู้สึกว่าตัวเองมีความสุขที่สุดในรอบหลายปีแล้ว”

“ตั้งแต่ไหนแต่ไร บัสจะเห็นพี่ตันเป็นพี่ชายที่เข้มแข็งและสามารถฟันฝาอุปสรรคทุกอย่างไปได้เสมอๆ  และในตอนนี้บัสก็ยังเชื่อแบบนั้นนะ”

“เวลาผ่านไป อะไรหลายๆ อย่างมันก็ทำให้คนที่เคยเข้มแข็งอ่อนแอลงได้... แต่ในทางกลับกัน คนที่คิดว่าตัวเองอ่อนแอแต่กลับเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เข้มแข็งและยืนหยัดอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียวมันก็มีเหมือนกัน...” เขาลูบแก้มผมเบาๆ “ตันอาจจะเป็นนักกีฬาและแลดูเข้มแข็งในสายตาของใครหลายๆ คน แต่จริงๆ แล้วคนที่ตันคิดว่าเข้มแข็งยิ่งกว่าตันซะอีกคือบัสนะเว้ย”

“บัสเหรอ” ผมเลิกคิ้วขึ้น “บัสเนี่ยนะ”

“ใช่สิ บัสไม่รู้หรอกว่าตันชื่นชมบัสที่หัวดีแล้วยังมีความพยายามมากแบบนั้นขนาดไหน โดยเฉพาะเมื่อตอนที่บัสตัดสินใจอยากไปเรียนต่อที่นู่น บัสก็ตัดสินใจด้วยตัวเอง ไปตัวคนเดียว ตันไม่อยากให้บัสไปหรอก แต่ตันก็ไม่กล้าที่จะพูด และไม่กล้าที่จะขัดขวางความแน่วแน่ของบัสด้วย”

ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าพี่ชายคนที่ผมชื่นชมมาตลอดกลับมีความคิดแบบนี้ต่อผม ผมรู้สึกอยากจะแย้งเขากลับไปว่าที่จริงแล้วการที่ผมตัดสินใจไปเรียนที่ออสเตรเลียนั้น มันเป็นเพราะความอ่อนแอ และผมต้องการจะหนีความเป็นจริงไปต่างหาก แต่ผมก็ไม่สามารถพูดออกไปได้

“เฮ้อออ... แค่การที่มีบัสอยู่ข้างๆ ตันแบบนี้อีกครั้ง มันก็ทำให้ตันรู้สึกเข้มแข็งขึ้นและเชื่อว่าทุกอย่างมันจะต้องดีขึ้นเรื่อยๆ ได้แล้วว่ะ” เขาพูดต่อ

“แต่บัสแค่กลับมาเยี่ยมพี่ตันแค่ไม่กี่วันเองนะ”

“งั้นถ้าหากว่าตันขอให้บัสอยู่กับตันล่ะ อยู่ด้วยกันกับตันและจัมโบ้ไปตลอดชีวิต บัสจะทำให้ตันได้มั้ย...”

“มันจะต้องมีหนทางที่จะเป็นแบบนั้นครับ ไม่สิ บัสจะต้องพยายามหาหนทางที่จะทำให้สิ่งๆ นั้นเกิดขึ้นจริงให้ได้”

“แต่มันไม่ใช่แค่นั้น...”

“หือ อะไรไม่ใช่แค่นั้น” ผมเลิกคิ้วขึ้น

“ก่อนอื่นบัสต้องเข้าใจนะว่าตันยอมรับการที่ออยมันนอกใจตันได้ เพราะตันไม่ได้รักมัน แต่ตันทำใจยอมรับให้มันเกิดขึ้นกับบัสไม่ได้เด็ดขาด ที่จริงแค่ความคิดที่ว่าบัสเคยไปรักใครหรือมีอะไรกับคนอื่น ตันก็ไม่อยากคิดถึงมันแล้ว”

“พี่ตัน บัสคงโกหกพี่ตันว่าบัสไม่เคยมีอะไรกับใครเลยไม่ได้หรอกนะ พี่ตันต้องยอมรับว่าบัสเคยผ่านผู้ชายมาบ้าง ก็เหมือนที่พี่ตันผ่านผู้หญิงมาบ้างนั่นแหละ แต่บัสพูดได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า บัสไม่เคยรักใครเท่าพี่ตัน และจะไม่มีทางรักใครมากไปกว่าพี่ตันด้วยเหมือนกัน หลังจากนี้ที่บัสรู้แล้วว่าพี่ตันรู้สึกยังไง บัสก็จะไม่มีทางนอกใจพี่ตันไปมีอะไรกับคนอื่นอีกเด็ดขาด”

“สัญญารึเปล่า”

“สัญญาสิ”

“แต่ตอนนี้ตันมีลูกแล้วนะ มันไม่ใช่แค่ตันคนเดียวอีกแล้ว บัสจะโอเคเหรอวะ ถ้าหากต้องมารักพ่อม่ายลูกติดอย่างตันเนี่ย”

“ตลกแล้ว! พี่ตันเอาอะไรมาคิดว่าบัสจะไม่รักเจ้าตัวเล็กนั่นวะเฮ้ย! ก็บัสเพิ่งบอกไปไงว่าบัสหลงรักมันไปแล้วเรียบร้อย และถ้าหากว่าบัสอยากจะใช้ชีวิตกับพี่ตันจริงๆ มันก็จะต้องมีเจ้าตัวเล็กนั่นอยู่ด้วยแน่นอน เผลอๆ บัสอาจจะรักมันยิ่งกว่าพี่ตันอีกด้วยซ้ำไปนะเนี่ย!” ผมหัวเราะ

“เฮ้ย พอได้ยินแบบนี้แล้วจะดีใจหรือเสียใจดีวะเนี่ย” เขาก้มลงจุ๊บลงบนริมฝีปากของผมเบาๆ “ตันว่าตอนนี้บัสคงรู้แล้วมั้งว่าชื่อของจัมโบ้น่ะ มันมาจากใคร...”

ผมพยักหน้า “ครับ ก็รู้แล้วล่ะ”

“ตันไม่รู้ว่าบัสจะรู้ตัวรึเปล่านะ แต่จัมโบ้มันหน้าคล้ายบัสตอนเด็กๆ มากเลยนะเว้ย”

ผมหัวเราะออกมาทันที “พูดเป็นเล่นเหอะ! ตอนบัสเห็นหน้าจัมโบ้ครั้งแรก บัสก็คิดว่ามันหน้าเหมือนพี่ตันตอนเด็กๆ เหมือนกัน!”

“ก็คงเพราะแบบนี้ล่ะมั้ง เมื่อก่อนใครๆ ถึงได้ชอบคิดว่าเราเป็นฝาแฝดกันน่ะ” เขาหัวเราะ

ผมที่ยังคงนอนหนุนอยู่บนตักของเขาอ้าปากหาววอด

“ง่วงแล้วเหรอ เดินทางเยอะๆ คงจะเหนื่อยสินะ”

ผมพยักหน้า “นิดหน่อยน่ะครับ”

เขาลูบหัวผมเบาๆ “ถ้างั้นเราขึ้นห้องไปนอนกันเถอะ”


ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ตอนที่ 6


ห้องนอนของกัปตันระเกะระกะไปด้วยเสื้อผ้าที่ใส่แล้วทั้งบนเตียง บนพื้น และบนเก้าอี้ เขาโกยพวกมันขึ้นและโยนมันลงไปกองที่มุมห้อง

“เอ่ออ... ห้องรกหน่อยนะ”

“ไม่เป็นไร บัสไม่ถือหรอกน่า”

เขาเดินเข้ามาดึงตัวของผมเข้าไปกอดและจูบผมอย่างดูดดื่ม ผมรู้สึกถึงไอ้น้องชายของเขาที่ค่อยๆ แข็งตัวขึ้นและถูเข้ากับต้นขาของผมอย่างชัดเจน หัวใจของผมเต้นแรงและสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงที่ไอ้บัสน้อยจนมันขยายตัวขึ้นจนสุดภายในเวลาแค่ไม่กี่วินาที
มือของเราป่ายไปบนร่างกายของกันและกันอย่างโหยหา และลมหายใจที่หนักหน่วงของเราก็สอดประสานจนเป็นจังหวะเดียวกัน หลังจากที่เราจูบกันอย่างยาวนาน ในที่สุดเขาก็ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออก

“บัสไม่มีเสื้อผ้ามาเปลี่ยนแบบนี้ก็คงต้องนอนแก้ผ้าซะแล้วล่ะมั้ง” เขายิ้มกว้าง

“อย่างกับเป็นเรื่องแปลกนักนี่” ผมจุ๊บลงบนต้นคอของเขา “อยู่เฉยๆ นะ บัสอยากเป็นคนถอดเสื้อให้พี่ตันมานานแล้ว”

ผมจัดการปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของเขาออก เผยให้เห็นถึงกล้ามอกที่เป็นลูกและกล้ามท้องที่เป็นลอน นี่ถ้าเขาไม่อยากเป็นโค้ชสอนกีฬาหรือยูโดแล้วล่ะก็ ผมว่าเขาสอบผ่านการเป็นนายแบบได้อย่างสบายๆ เลย

ผมคุกเข่าลง จัดการปลดตะขอกางเกงยีนส์และรูดซิปลง กางเกงในสีขาวของเขาถูกไอ้น้องชายที่แข็งเกร็งดันออกมาจนตุง ผมที่ทนรอไม่ไหวรีบดึงกางเกงในลงพร้อมกับกางเกงยีนส์ทีเดียวเพื่อปลดปล่อยให้มันเป็นอิสระ ผมจำไม่ได้เลยว่าน้องชายของเขามันใหญ่ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่

“โห แม่งโตขึ้นเยอะเลยนะเนี่ย” ผมพูดพลางหัวเราะเบาๆ

“ตันว่าไม่ใช่ตันคนเดียวหรอก” เขายิ้มอย่างมีเลศนัย

“ก็ไม่รู้สิ” ผมกำไอ้ท่อนลำที่แข็งชี้อยู่ตรงหน้าแล้วเริ่มขยับข้อมือเบาๆ “น่าอิจฉาบรรดาสาวๆ ที่เคยโดนพี่ชายของบัสเอาจริงๆ เลยเว้ย”

“ไม่ต้องไปอิจฉาพวกนั้นหรอก เพราะหลังจากนี้มันจะเป็นของบัสคนเดียวแล้ว”

ผมยิ้มมุมปากเล็กน้อย ก่อนจะตวัดลิ้นลงที่ปลายหัวเห็ดของเขา ทำเอาเขาสะดุ้งเฮือก จากนั้นผมก็ค่อยๆ ใช้ลิ้นเลียไล่ไปตามความยาวของมันพร้อมกับสาวมือเบาๆ ไปด้วย

“ซี้ดดด..ด...ส์ เสียวว่ะ บัส แม่งงง..ง...!!” เขาครางเบาๆ

ผมตั้งใจจะแหย่เขาให้นานที่สุด จึงใช้ลิ้นตวัดไปตามท่อนเอ็นของเขาบ้าง เลียที่ถุงไข่แฝดทั้งสองข้างของเขาบ้าง สลับกับการเลียบริเวณซอกขาของเขาบ้าง ทำเอาเขาขาสั่นจนแทบยืนไม่อยู่ทีเดียว

“ทนไม่ไหวแล้วเว้ย! มานี่เลย ไอ้ตัวเล็ก!” เขาก้มลงช้อนตัวผมขึ้นจากพื้นและเหวี่ยงผมลงไปบนเตียง ถึงเขาจะพูดแบบนั้น แต่ด้วยส่วนสูง 177 เซนติเมตรและน้ำหนักกว่า 80 กิโลกรัม ผมว่าผมก็ไม่ได้ตัวเล็กขนาดนั้นนะ

เขาที่คร่อมร่างกายของผมเอาไว้ ซุกและไซร้ต้นคอของผมพร้อมกับเลิกชายเสื้อของผมขึ้น ผมช่วยเขาถอดเสื้อยืดออกด้วยตัวเองในขณะที่เขากำลังง่วนอยู่กับกางเกงยีนส์ของผม และเมื่อเขาจัดการปลมกระดุมทุกเม็ดออกหมดแล้ว เขาก็จัดการดึงมันและกางเกงในลงไปกองอยู่ที่ตาตุ่มของผมพร้อมกันทีเดียวทันที

“เราเองก็โตขึ้นเยอะเหมือนกันนี่ ไปทำอะไรมาถึงได้มีหุ่นแบบนี้”

“ก็ออกกำลังกาย เข้ายิม วิ่ง แค่นั้นแหละ เวลาเครียดๆ เหงาๆ ไม่มีอะไรทำ บัสก็ทำแบบนั้นจนติดเป็นนิสัยน่ะ”

“ตันชอบนะ...” เขาจุ๊บลงบนหน้าท้องของผมเบาๆ จากนั้นก็เลื่อนมือมาจับไอ้น้องชายของผมให้ตั้งขึ้น “ครั้งล่าสุดที่เห็นยังเพิ่งมีขนขึ้นหรอมแหร็มอยู่เลย” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ

“แล้วชอบแบบไหนมากกว่าล่ะ” ผมถาม

“แบบไหนก็ชอบทั้งนั้นแหละ ก็เป็นของคนรักนี่หว่า” เมื่อพูดจบ เขาก็ครอบริมฝีปากลงบนไอ้น้องชายของผมทันที

ผมแอ่นอกขึ้นพลางร้องครางออกมาด้วยความเสียว ความจริงที่ว่าคนที่กำลังทำแบบนี้ให้ผมอยู่คือพี่ชายคนที่ผมรักมานานแล้วก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกมีความสุขมากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ เขาพยายามอมไอ้น้องชายของผมเข้าไปทั้งลำ ก่อนที่จะถอนปากออก จับมันตั้งขึ้น แล้วค่อยๆ ใช้ลิ้นเลียไล่ตั้งแต่โคนขึ้นไปจนถึงปลายยอด แล้วเลื่อนกลับลงมาเลียที่ถุงไข่ทั้งสองข้างของผม ผมถึงกับต้องจิกหมอกเอาไว้ด้วยความเสียวซ่าน

“พ... พอแล้ว พี่ตัน พอก่อน...” ผมบอกให้เขาหยุด

“ทำไมล่ะ”

“มาให้บัสทำบ้าง” ผมพลิกตัวจนเราสองคนอยู่ในท่าหกเก้า จากนั้นก็จับไอ้น้องชายของเขาเข้าปาก

“อื้อออ!!” เขาที่กำลังผมให้ผมอยู่ร้องครางอยู่ในลำคอ

เราสองคนใช้ปากให้กันและกันในท่านั้นอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งผมรู้สึกว่าเขาเริ่มใกล้ถึงจุดสุดยอดมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ผมจึงใช้ปากครอบไว้แค่บริเวณส่วนหัวและใช้มือชักให้เขาแทน และอีกไม่กี่วินาทีถัดมา เขาก็ร้องเตือนผมว่าเขาจะแตกแล้ว แต่ผมไม่หยุด จนเมื่อสิ้นเสียงของเขา ไอ้น้องชายตัวเขื่องของเขาก็ฉีดน้ำรักเข้าสู่ปากและคอของผม ผมพยายามกลืนมันลงไปให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่ปริมาณของมันก็มหาศาลจนผมไม่สามารถกลืนมันได้หมด

ร่างกายของกัปตันกระตุกอีกหลายที แต่มือของเขาก็ยังคงทำหน้าที่ชักให้ผมไปด้วย จนสุดท้ายผมก็หลั่งออกมาโดยไม่ทันได้ร้องเตือนเขา ทำให้น้ำรักของผมพุ่งขึ้นไปโดนหน้าเขาเต็มๆ แต่เขากลับไม่มีท่าทีรังเกียจเลยแม้แต่น้อย ที่จริงผมว่าเขาดูเหมือนจะชอบด้วยซ้ำ เพราะเขาใช้นิ้วปาดน้ำที่เลอะบริเวณแก้มออกและเลียทำความสะอาดมันจนเกลี้ยง

หลังจากที่เราสองคนต่างก็หลั่งออกมาและพักหอบหายใจจนหายเหนื่อยแล้ว เขาก็ดึงตัวผมขึ้นไปนอนข้างๆ เขาดีๆ

“ขอโทษทีว่ะ ตันไม่ได้เอาน้ำออกมานานแล้ว เลยแตกไวไปหน่อย”

“ไม่เป็นไรหรอก เรายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกหลายวัน” ผมหอมแก้มเขา “ครั้งหน้าพี่ตันเอาบัสมั้ย”

“ได้เหรอ” เขาถามด้วยดวงตาเป็นประกาย

“แหงดิ มันไม่ใช่ครั้งแรกของบัสหรอก ไม่ต้องห่วง”

เขานอนนิ่งไปครู่หนึ่ง “แล้ว... บัสอยากเอาตันปะ”

ผมตาโต “เฮ้ย จะดีเหรอ! พี่ตันเคยโดนเอามาก่อนรึเปล่า”

“ไม่เคย ก็บอกแล้วไงว่าตันเคยแค่ใช้มือกับใช้ปากกับเพื่อนเฉยๆ แต่ไม่เคยเอาผู้ชายมาก่อนเลย เพราะงั้นเรื่องโดนเอายิ่งเป็นไปไม่ได้ใหญ่”

“แล้วพี่ตันแน่ใจเหรอว่าอยากให้บัสเอาพี่ตันจริงๆ น่ะ”

เขาพยักหน้า “ตันอยากให้บัสเป็นคนแรกที่เอาตันว่ะ ตันอยากลองกับบัส”

“ถ้างั้นบัสจะปฏิเสธได้ยังไงล่ะเนี่ย” ผมหัวเราะในลำคอเบาๆ แค่ผมคิดว่าผมจะได้เอาพี่ชายของผมเป็นครั้งแรกก็เริ่มทำให้น้องชายของผมมันแข็งขึ้นอีกครั้งแล้ว

เขาที่เหมือนจะรู้ตัวว่าผมเริ่มกลับมาแข็งสู้อีกครั้งเลื่อนมือลงไปกำมันเอาไว้แล้วบีบเบาๆ “อะไรวะ ยังแข็งได้อีกเหรอ”

“ไม่ต้องมาทำยิ้ม ของตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ” ผมรูดไอ้น้องชายของเขาที่แข็งเป็นลำขึ้นลงเบาๆ “แต่เก็บแรงไว้พรุ่งนี้ดีกว่ามั้ง”

“โอเคๆ “ เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ พลางเอื้อมมือไปหยิบทิชชู่ที่หัวเตียงมาเช็ดคราบน้ำของผมที่เลอะอยู่บนตัวของเขาออก “เสียดาย น่าจะแตกใส่ปาก จะได้กินซะให้หมด”

ผมเลิกคิ้วขึ้นด้วยความแปลกใจ “เคยรึไง”

“ถ้าแค่นั้นน่ะเคย แต่ไม่บ่อยหรอก”

“อะไรวะ เคยไปกินน้ำของคนอื่น แต่กลับไม่เคยกินของน้องชายตัวเอง”

“ก็ตอนนั้นมันไม่กล้านี่หว่า แต่ตอนนี้อยากมากกกกก!” เขายิ้มกว้าง

“ฮ่าๆ เอาไว้พรุ่งนี้แล้วกันงั้น ห้ามให้เหลือสักหยดนะเว้ย”

“โอเค แต่ดูเหมือนว่าพรุ่งนี้เรามีอะไรต้องทำกันหลายอย่างเลยนะ จำได้หมดมั้ยเนี่ย”

“อยากจะขีดฆ่ารายการไหนออกไปก่อนมั่งมั้ยล่ะ” ผมถาม

“ไม่มีทาง” เขาลูบหัวผมเบาๆ “ถ้างั้นคืนนี้นอนกันก่อนแล้วกันนะ ตันดูออกว่าบัสคงเหนื่อยแล้ว อีกอย่างพรุ่งนี้รับรองได้ว่าเราสองคนคงจะโดนกวนตั้งแต่เช้าแน่นอน”

“เออ นั่นดิ! แล้วถ้าเกิดไอ้ตัวเล็กเปิดประตูห้องเข้ามาเห็นพอกับลุงนอนแก้ผ้าบนเตียงเดียวกันแบบนี้จะเป็นอะไรมั้ยเนี่ย”

“ไม่เป็นไรหรอก มันเคยเห็นตันนอนแก้ผ้าไม่รู้ตั้งเท่าไหร่แล้ว และตันก็เคยนอนแก้ผ้ากับมันบ่อยไป”

“โอเค... ฮะ.. ฮ้าววว...” ผมอ้าปากหาววอด “ถ้างั้นก็ฝันดีนะครับ พี่ตันน...”

“ฝันดีครับ แอร์บัส”

เราสองคนจุ๊บปากกันเบาๆ อีกครั้งก่อนที่ผมจะผล็อยหลับไปในอ้อมกอดของเขาอย่างรวดเร็ว

เช้าวันถัดมา ผมตื่นขึ้นเพราะรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังถูกใครจ้องมองดูอยู่ เมื่อผมลืมตาขึ้นก็เห็นจัมโบ้กำลังยืนเกาะขอบเตียงมองหน้าผมอยู่พอดี แสงแดดอ่อนๆ ที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาทำให้ผมเห็นดวงตากลมโตของเขาเป็นกระกาย ใบหน้าของเขาดูไร้เดียงสาและบริสุทธิ์เช่นเคย

“ว่าไงครับ จัมโบ้ ตื่นแล้วเหรอครับ” ผมกระซิบเบาๆ ไม่อยากปลุกพ่อของเขาที่นอนกอดผมอยู่ทางด้านหลังให้ตื่นขึ้น

“จัมโบ้ขอนอนกับอาบั๊ดแล้วก็ปะป๊าด้วยคนได้มั้ยคับ”

“ได้สิครับ คนเก่ง ขึ้นมาเลย”

เมื่อเขาปีนขึ้นมาบนเตียงแล้วเห็นว่าพ่อของเขากำลังนอนกอดผมอยู่ เขาก็หยุดนิ่งและคิดอยู่ครู่หนึ่ง ตอนแรกผมคิดว่าเขาคงจะอยากนอนคั่นกลางระหว่างเราสองคนหรือนอนกอดพ่อของเขา แต่แล้วเขาก็ต้องทำให้ผมแปลกใจเมื่อเขาล้มตัวลงนอนตรงหน้าของผม ผมยกแขนขึ้นกอดเขาเอาไว้ เขาจึงตะแคงตัวเป็นหันหลังให้ผม ผมจุ๊บลงบนกระหม่อมของเขาเบาๆ แล้วจึงหลับลงไปอีกครั้ง

ผมก็ไม่รู้ว่าผมหลับไปอีกนานเท่าไหร่ แต่สิ่งถัดมาที่ทำให้ผมรู้สึกตัวคือมือของกัปตันที่ลูบไล้อยู่บนหน้าท้องของผมและริมฝีปากของเขาที่จุ๊บลงบนต้นคอของผมเบาๆ เขาเลื่อนมือขึ้นลงอย่างช้าๆ จนกระทั่งไปสะดุดเข้ากับร่างกายของจัมโบ้ที่ผมกำลังนอนกอดอยู่ เขาจึงยกแขนออกแล้วผงกหัวขึ้นดู

“เฮ้ย ลูกมานอนที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย” เขากระซิบถามผม

“สักพักแล้วล่ะ ตอนพระอาทิตย์เพิ่งขึ้นน่ะ เค้าบอกเค้าอยากขอนอนด้วยคน แล้วก็เลยปีนขึ้นมานอนท่านี้นี่แหละ”

“แต่ปกติมันจะต้องปลุกตันนะ ทำไมหนนี้มันไม่ปลุกวะ”

“จะไปรู้เหรอ เด็กมันคงอยากนอนมากกว่าล่ะมั้ง”

กัปตันเงยหน้าขึ้นมองดูนาฬิกาบนผนังห้อง “แต่ยังไงตอนนี้คงต้องปลุกมันได้แล้วล่ะ อีกเดี๋ยวรถจะมารับแล้ว”

“ลูกต้องไปเนอร์สเซอรี่ทุกวันเลยเหรอ พี่ตัน อย่างวันนี้มันจำเป็นด้วยเหรอวะ ในเมื่อเราสองคนก็อยู่บ้านแบบนี้น่ะ”

“ถ้าไม่ใช่เสาร์อาทิตย์ ตันก็อยากจะให้ลูกไปเจอเด็กวัยเดียวกันทุกวันว่ะ อยากทำกิจวัตรของมันให้เป็นปกติ ยิ่งแม่มันไม่อยู่แบบนี้ด้วยแล้วตันยิ่งไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรในช่วงนี้ ถึงตอนนี้มันจะยังเด็กและไม่ถามอะไรมากมายก็เถอะ”

“โอเค งั้นพี่ตันจัดการเรื่องลูกไปแล้วกัน เดี๋ยวบัสไปชงกาแฟและจัดการเรื่องอาหารเช้าให้” ผมลุกออกจากเตียงและเดินไปใส่กางเกงที่กองอยู่บนพื้น

“ยังไม่อยากให้รีบแต่งตัวเลย...” กัปตันเปรยขึ้นเบาๆ

ผมหัวเราะ “อย่ามาทะลึ่งตอนนี้ เดี๋ยวลูกชายตัวเองก็ได้ยินหรอก”

“ลูกของเราต่างหาก”

ผมมองหน้าเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้เขาเบาๆ แล้วเดินออกจากห้องไป ผมเดินลงไปยังห้องครัวและใช้เวลาในการหาของต่างๆ อยู่ครู่หนึ่ง แต่อีกไม่นานถัดมาผมก็ชงกาแฟได้สองถ้วยและจัดการปิ้งขนมปังกับไข่ดาวเป็นอาหารเช้าให้สำหรับเจ้าตัวเล็ก หลังจากที่ผมวางจานและถ้วยกาแฟลงบนโต๊ะกินข้าวเสร็จแล้ว กัปตันก็เดินอุ้มจัมโบ้ลงมาจากชั้นสองพอดี

“โอ้โห ดูสิครับ คนเก่ง อาบัสทำไข่ดาวให้หนูด้วยนะ ขอบคุณอาบัสซิครับ”

“ขอบคุณคับอาบัด” จัมโบ้พนมมือขึ้นและผงกหัวเบาๆ

“ไม่เป็นไรครับ ตัวเล็ก” ผมยิ้มและลูบหัวเขาเบาๆ “ให้อาบัสป้อนมั้ยครับ”

“ไม่เป็นไรคับ จัมโบ้กินเองได้! จัมโบ้เก่ง!” เขาชูแขนทั้งสองข้างขึ้น

ผมปล่อยให้เขาพ่อลูกนั่งกันอยู่ตามลำพังในขณะที่ตัวเองไปล้างหน้าแปรงฟัน และเมื่อลงมาที่ชั้นล่างอีกครั้ง ผมก็เห็นว่ากัปตันกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ท่าทางซีเรียส ผมจึงอุ้มเจ้าตัวเล็กที่กินข้าวเสร็จแล้วมานั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่นแทน หลังจากนั้นไม่นานกัปตันที่คุยธุระเสร็จแล้วก็เดินตามเข้ามาในห้องนั่งเล่น พร้อมกับที่เสียงแตรรถที่ดังขึ้นหน้าบ้านพอดี จัมโบ้กระโดดลงจากโซฟาและเดินตรงไปยังหน้าระเบียงบ้านพร้อมกับพ่อของเขา พี่ชายของผมนั่งยองๆ และหอมแก้มลูกชายเบาๆ ผมเห็นจัมโบ้กระซิบอะไรบางอย่างที่หูของเขา ก่อนที่กัปตันจะหันมากวักมือเรียกให้ผมเดินเข้าไปหาทั้งคู่

“จัมโบ้บอกว่าอยากให้อาบัสมาบอกลาก่อนไปเรียนด้วยน่ะ”

ผมนั่งยองๆ ลงตรงหน้าของเขา “โอเคครับ คนเก่ง ไปเล่นให้สนุกแล้วเดี๋ยวเจอกันตอนเย็นนะครับ”

จัมโบ้ทำให้ผมตกใจด้วยการชะโงกหน้าเข้ามาจุ๊บปากผมเบาๆ ก่อนที่จะหันแก้มให้ผม ผมจึงหอมแก้มเขากลับ แล้วจากนั้นเขาก็วิ่งออกจากบ้านไป เราสองคนยืนมองจนกระทั่งรถตู้เคลื่อนตัวออกไปจนลับสายตา

“พี่ตันโชคดีมากนะที่มีลูกน่ารักแบบนี้น่ะ”

“นั่นน่ะสิ...” เขายิ้ม “ตันดีใจนะที่บัสเองก็ชอบจัมโบ้น่ะ”

“ชอบเหรอ ล้อเล่นรึเปล่า บัสรักมันเลยแหละ!”

เขาฉีกยิ้มกว้าง “ตันเองก็อยากมีคนช่วยดูแลลูกเหมือนกันนะเว้ย”

“บัสว่าเราคงต้องคุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจังได้แล้วล่ะมั้ง” ผมเดินนำเขาไปที่โซฟา

“เรื่องอะไร”

“เรื่องของเรานี่แหละ”

เขานั่งลงข้างๆ ผม “ที่พูดแบบนี้นี่แปลว่ามีความคิดอะไรเอาไว้อยู่แล้วใช่มั้ย”

ผมพยักหน้า “บัสรักพี่ตันครับ อันนี้มันของตายอยู่แล้ว บัสดีใจที่ในที่สุดเราก็คุยกันและเข้าใจตรงกันสักที แต่มันไม่ใช่เรื่องที่คนอื่นนอกจากเราสองคนจะเข้าใจนะ”

“แล้วทำไมคนอื่นต้องมารับรู้และเข้าใจด้วย” เขานิ่วหน้า ท่าทางไม่ค่อยพอใจ “เอาเถอะ ก่อนที่เราจะคุยกันเรื่องพวกนั้น ตันขอเล่าให้ฟังก่อนว่าเมื่อกี้ตันได้รับโทรศัพท์จากบริษัทประกัน มันโทรมาคอนเฟิร์มเรื่องจำนวนเงินที่ตันจะได้รับว่ะ”

“เงินเหรอ” ผมเลิกคิ้วขึ้น

“ใช่ ค่าสินไหมทดแทนจากกรณีอุบัติเหตุน่ะ ออยกับตันเคยทำประกันไว้หลายตัว เพื่อที่ว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้น อีกฝ่ายจะได้ดูแลจัมโบ้ได้ แต่ถ้าพูดให้ถูกก็คือตันนี่แหละที่เป็นคนคอยชำระเบี้ยประกันทุกตัวทุกเดือนๆ นอกจากนั้นก่อนนี้ก็ยังมีเรื่องบ้านหลังนี้และที่ดินที่ยังไงๆ ก็เป็นของตันอยู่แล้ว ตันสามารถจะทำอะไรกับมันก็ได้ แล้วยังประกันรถยนต์ที่เพิ่งซื้อคันนั้นอีก ถ้าให้รวมตัวเลขทั้งหมดแล้วล่ะก็...” เขาล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นเศษกระดาษแผ่นหนึ่งให้ผมดู “ทั้งหมดก็ประมาณนี้น่ะ”

“เฮ้ยยย!! เยอะเหมือนกันนะเนี่ย!”

“แล้วถ้าเราขายบ้านหลังนี้อีกก็คงได้อย่างต่ำสัก 2 ล้านล่ะมั้ง ยังใหม่อยู่เลย แถมตบแต่งเสร็จมีครบหมดทุกอย่าง จะขายทีก็ขายให้หมดทั้งเฟอร์นิเจอร์ ทีวี ตู้เย็น เตียงนอน... ช่างแม่ง!”

ผมมองหน้าเขา “เดี๋ยวก่อนนะ แล้วที่พี่ตันพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเนี่ย คือ...”

เขาจับมือผม “ตันไม่อยากอยู่บ้านหลังนี้แล้วว่ะ บัส มันมีแต่ความทรงจำไม่ดีๆ ตันอยากจะทิ้งทุกอย่างแล้วไปเริ่มต้นใหม่ ที่ไหนก็ได้ เราอยู่กันสามคน ใช้ชีวิตของเราไม่ต้องสนใจใคร”

“แล้วพ่อกับแม่ล่ะ”

เขานิ่วหน้า “อะไร เราโตขนาดนี้แล้วนะเว้ย เค้าไม่มาสนใจหรอกว่าเราจะไปอยู่ไหนอะไรยังไงกันน่ะ และอีกอย่าง พี่ชายกับน้องชายอยู่บ้านเดียวกันมันแปลกตรงไหน ยิ่งพี่ชายมีลูกแล้วอีกต่างหาก ไม่มีใครมันจะมาคิดอะไรแบบที่บัสกังวลหรอก”

ที่เขาพูดมันก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นนั่นก็ยังไม่ใช่ปัญหาทั้งหมดที่เราต้องคิด “เดี๋ยวก่อน พี่ตัน จริงๆ บัสก็คิดถึงเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วน่ะนะ ถ้าสมมติว่าบัสอยากให้พี่ตันย้ายไปอยู่กับบัสที่ออสเตรเลีย พี่ตันจะว่ายังไง”

“ตันก็คิดๆ แบบนั้นอยู่เหมือนกัน แต่ตันอยากให้บัสเป็นฝ่ายพูดขึ้นเองมากกว่า” เขายิ้ม แต่ผมดูออกว่าเขายังคงรู้สึกไม่มั่นใจกับความคิดนี้เท่าไหร่นัก

“ไม่ต้องกังวลไปหรอก พี่ตัน เรื่องของเรื่องคือบัสยังติดสัญญาทำงานกับที่บริษัทอีกหนึ่งปี แต่บัสมีสัญชาติของที่นั่นเพราะทำงานกับบริษัทของที่นั่นมาสองปีแล้ว แถมอยู่มาก็ตั้งหกปี เพราะงั้นการขอเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรมันไม่ใช่เรื่องยากหรอก และพี่ตันกับจัมโบ้ก็ไปอยู่ที่นั่นได้ในฐานะญาติของบัส ในช่วงหนึ่งปีหลังจากที่บัสกลับไปหนนี้ เราต่างก็คงต้องใช้เวลาเตรียมตัวอะไรหลายๆ อย่าง แต่เชื่อบัสเหอะว่าไม่น่ามีปัญหาหรอก และจัมโบ้เองก็ยังเด็ก ถ้าหากเริ่มเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ช่วงนี้และไปใช้ชีวิตอยู่ที่นั่น โตขึ้นก็พูดได้คล่องทั้งภาษาไทยและอังกฤษแน่ๆ”

“แล้วตันล่ะ ตันจะไปทำอะไรที่นั่น”

ผมยิ้มและวางมือลงบนแก้มของเขาเบาๆ “ไม่ต้องห่วงหรอกครับ บัสไม่ปล่อยให้พี่ชายที่รักของบัสอดตายหรือไม่มีงานทำหรอกน่า อายุเรายังน้อย หนทางเรายังมีให้เลือกอีกมาก ถ้าพี่ตันกังวลเรื่องภาษาอังกฤษ ก็เริ่มปรับพื้นฐานใหม่ซะตั้งแต่ตอนนี้เลย แล้วไปลงเรียนปริญญาโทที่นั่นสักใบก็ได้ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เริ่มต้นชีวิตใหม่ให้มันดีกว่าเดิมแบบสุดๆ ไปเลยไง ไม่ดีเหรอ”

“ตันไม่ได้หัวดีเหมือนบัสนะเว้ย”

“บัสรู้ว่าพี่ชายบัสไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอก ตอนมัธยมตัวเองก็ใช่ว่าจะเกรดห่วยแตกอะไร และพี่ตันเองก็พอพูดภาษาอังกฤษได้อยู่แล้วด้วยไม่ใช่เหรอ เพราะงั้นอย่ากังวลเลย บัสรู้ว่าพี่ตันทำได้น่า”

เขามองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมาและชะโงกหน้าเข้ามาจูบลงบนริมฝีปากของผมเบาๆ

“แล้วจัมโบ้ล่ะ” เขาพูดขึ้น

“จับโบ้ทำไม”

“มันจะคิดยังไง เวลามันโตขึ้นแล้วรู้ว่าพ่อกับอามันเป็นคนรักกันน่ะ”

“นั่นแหละคือสิ่งที่บัสกำลังคิดอยู่พอดี!” ผมหัวเราะเบาๆ “แต่ถามจริงๆ พี่ตันกังวลเรื่องนั้นจริงๆ รึเปล่า”

เขาพยักหน้า “ก็ประมาณนึงนะ แต่ถึงยังไงตันว่ามันก็คงง่ายกว่าการอธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของมัน และแม่ของมันทำอะไรเอาไว้บ้างเยอะว่ะ ตันคิดว่าคงจะค่อยๆ อธิบายให้มันฟังไปเรื่อยๆ จนกว่ามันจะโตมั้ง ดีกว่าให้มันเปิดประตูมาเห็นตอนเราสองคนมีอะไรกันเยอะ อีกอย่างถ้าหากว่าเป็นบัสล่ะก็ ตันเชื่อว่าบัสคงมีวิธีในการพูดและสอนลูกแน่ๆ”

“อย่าแน่ใจนักเลย บัสบอกแล้วนะว่าบัสไม่เคยใกล้ชิดกับเด็กมาก่อนเลยน่ะ”

“แต่บัสรักจัมโบ้ไม่ใช่เหรอ แค่นั้นก็พอแล้ว”

“เราต่างก็รักจัมโบ้มากด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ” ผมพูด “หวังว่าความรักของเราจะทำให้มันโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและเข้าใจสิ่งที่เรามีให้แก่กันนะ”

“ไม่ต้องห่วงหรอก มันต้องเข้าใจแน่นอน... เผลอๆ มันอาจจะโตขึ้นมาชอบผู้ชายก็ได้ ใครจะไปรู้”

ผมหัวเราะ “เฮ้ย! พี่ตันอยากให้ลูกโตมาเป็นเกย์เหรอ”

“เปล่าเลย เราสองคนต่างก็ผ่านช่วงเวลายากลำบากตอนนั้นมาด้วยกันทั้งคู่ ตันไม่อยากให้ลูกเป็นเกย์หรือเจอเรื่องแบบเดียวกันหรอก แต่ตันอยากให้มันเลือกในสิ่งที่มันอยากจะเป็นด้วยตัวเอง ตันแค่กำลังบอกว่าทั้งพ่อและอาของมันต่างก็เป็นเกย์ด้วยกันทั้งคู่แบบนี้ ถ้ายีนในสายเลือดของเรามันแรงจริง ใครจะไปรู้ว่าอีก 10 รึ 15 ปีหลังจากนี้ ผลจะออกมาเป็นยังไง จริงมั้ยล่ะ”

“แต่ไม่ว่ามันจะเป็นชายแท้รึเป็นเกย์ เราจะต้องเลี้ยงดูให้มันโตขึ้นเป็นคนดีและเป็นที่รักของทุกคนเหมือนพ่อของมันให้ได้ จริงมั้ย”

“และมันจะต้องฉลาดหัวดีเหมือนอาของมันด้วย” เขายิ้มกว้างก่อนจะชะโงกหน้าเข้ามาจูบผมอีกครั้ง

อีกหนึ่งปีถัดมา ผมก็ย้ายออกจากอพาร์ทเมนท์ที่เคยอยู่และไปซื้อบ้านหลังเล็กๆ อยู่แถวชานเมือง ที่จริงมันก็ไม่ได้ไกลจากบ้านเก่าของผมเท่าไหร่นัก แต่ที่ผมตัดสินใจย้ายออกก็เพราะผมมีสมาชิกในครอบครัวเพิ่มขึ้นอีกสองคนแล้ว กัปตันใช้เวลาเรียนภาษา เรียนหนังสือรื้อฟื้นความรู้เก่าๆ และปรับตัวอยู่สองปี ก่อนที่จะสมัครเรียนปริญญาโทในสาขาที่เขาสนใจพร้อมทั้งทำงานเป็นผู้ช่วยครูสอนยูโดที่ยิมในมหาวิทยาลัยไปด้วย ส่วนผมก็ได้เซ็นสัญญากลายเป็นพนักงานประจำของบริษัท และได้เลื่อนขั้นพร้อมกับเงินเดือนที่เพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย จัมโบ้โตมาเป็นเด็กที่ร่าเริงและเป็นที่รักของทุกๆ คน เขามีโครงหน้าละม้ายคล้ายกับพ่อของเขาเมื่อตอนเด็กยิ่งกว่าที่ผมเคยคิดเอาไว้เสียอีก แถมยังเล่นกีฬาเก่งและมีแววเป็นนักกีฬาตามรอยพ่อของเขาอีกด้วย ส่วนเรื่องที่ว่าเขาโตมาแล้วชอบผู้หญิงหรือผู้ชายนั้น... ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราคงยังไม่จำเป็นต้องพูดถึงกันตรงนี้


จบ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ทิ้งท้าย

เนื่องจากเรื่องนี้เป็นแนว incest เรื่องแรกที่แต่ง เลยรู้สึกว่าน่าจะเล่าอะไรฝากไว้สักหน่อย ส่วนตัวสำหรับผมแล้ว แนว incest เป็นอะไรที่ค่อนข้างแรงพอสมควร สมัยก่อนก็เคยอ่านพวก sex story แนวๆ นี้เหมือนกันครับ จำพวก พ่อกับลูกสาว พี่ชายกับน้องสาว อากับหลาน อะไรแบบนี้ แต่ส่วนมากมันจะเป็นสิ่งที่ base มาจากอารมณ์ทางเพศล้วนๆ แม้แต่เรื่องราว incest ระหว่างชายกับชายที่เคยอ่านๆ ผ่านมาก็เช่นกัน (เคยอ่านแต่ของฝรั่ง ไม่เคยอ่านของไทย) และบอกตรงๆ ว่าแม่ง ในฐานะของพี่ชายที่มีน้องสาวสองคนเงี้ย กูทำแบบนั้นไม่ลงจริงๆ ว่ะ ขนลุก!

แต่สำหรับความรักของพี่น้องสองคนนี้ แอร์บัสพัฒนาความรักที่มีต่อพี่ชายของตัวเองมาจากความสนิทสนมและความชื่นชมที่มีต่อเขาครับ พูดง่ายๆ คือ บัสมองเห็นกัปตันเป็นเหมือนกับ role model ที่น่าเอาอย่าง และในที่สุดมันก็พัฒนาลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ ผ่านทางความใกล้ชิดทางกายที่พวกเขามีต่อกัน ถึงแม้บัสจะพูดว่ากัปตันไม่ได้มีส่วนอะไรกับการตัดสินใจของเขาเลย แต่ลึกๆ แล้วมันไม่ใช่หรอก การที่กัปตันทำแบบนั้นกับเขานั่นแหละ มีส่วนทำให้เขากลายเป็นแบบนี้ แต่บัสไม่เคยรู้ตัวเลย จากความรักความเทิดทูนก็เริ่มกลายเป็นความอยากครอบครอง แน่นอนว่าด้วยนิสัยของบัส ที่ไม่ชอบแสดงออก ไม่อยากทำให้คนอื่นต้องลำบากใจ บัสจึงไม่ได้อยากได้แค่กัปตันคนเดียวเท่านั้นเป็นแฟน เพราะเขาบอกตัวเองอยู่ตลอดว่ามันเป็นไปไม่ได้ เขาจึงอยากได้ผู้ชายในอุดมคติที่คล้ายกับพี่ชายของตัวเองมากที่สุด แต่ตอนมัธยมเขาก็ยังไม่ได้เปิดเผยตัวเองกับใคร และมันคงเป็นไปไม่ได้ที่คนสองคนจะเหมือนกันไปซะทุกอย่าง แม้แต่ที่ออสเตรเลียเขาก็ไม่เคยเจอใครแบบกัปตัน ใครสักคนที่ทำให้เขารู้สึกชื่นชมและนับถือได้แบบนั้น นั่นจึงเป็นประเด็นหลักในใจของบัสที่ทำให้ไม่เคยตัดใจจากตันได้เลย

ส่วนตัวของกัปตันเอง ตั้งแต่เด็กแล้ว เขามักมีความเป็นผู้นำที่อ่อนโยนอยู่เสมอ มันอาจจะเป็น charisma ที่ติดตัวมาพร้อมกับพรสวรรค์ด้านกีฬาของเขาล่ะมั้ง เขาจึงเข้ากับผู้คนได้ง่าย มีเพื่อนเยอะ และมีคนชื่นชมหรือแม้แต่ตกหลุมรักอยู่บ่อยๆ แต่ด้วยการเลี้ยงดูและอุปนิสัยพื้นฐานของเขา จึงทำให้เขารักและเอ็นดูน้องชายของตัวเองมากกว่าเด็กวัยเดียวกันอื่นๆ เนื่องจากทั้งสองคนโตมากับแม่โดยไม่มีพ่อและไม่ได้มีฐานะที่ดีอะไร ดังนั้นตันจึงต้องการจะทำหน้าที่แทนส่วนของพ่อให้กับน้องชายของตัวเองด้วย และเขาเองก็รู้ว่าน้องชายของเขามองดูเขาด้วยสายตาชื่นชมอยู่ตลอดเวลา เขาจึงยิ่งอยากจะทำตัวเองให้เป็นพี่ชายที่ดีที่สุด เพื่อเป็นการตอบสนองต่อความเชื่อใจนั้น จนกระทั่งเกิดเรื่องในคืนนั้นขึ้น เขาจึงได้เข้าใจตัวเองว่า ความรักที่เขามีให้แก่น้องชาย มันเริ่มจะลึกซึ้งเกินไปเสียแล้ว ส่วนเรื่องที่ว่าเขาชอบผู้ชายหรือไม่นั้น คำตอบคือ เขาเองก็รู้ตัวเองมาตั้งแต่อายุราว 13-14 แล้วเหมือนกัน และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เขากลัวว่าจะทำให้บัสกลายเป็นแบบเดียวกับตัวเองไปด้วยอย่างที่เขาพูดนั่นแหละ และเพราะการที่เขาเองก็ยังรักบัส ยังคงรู้สึกว่าตัวเองมีบทบาทในฐานะ ‘พ่อ’ หรือผู้นำของครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก และยังต้องการจะคงความรู้สึกของการได้ดูแลใครสักคน (แทนที่น้องชายที่จากไป) แบบนั้นเอาไว้ จึงทำให้เขาอยากมีลูกมากๆ นั่นเองครับ

พูดง่ายๆ คือความรักของสองคนนี้ไม่ได้มีรากฐานมาจากอารมณ์ทางเพศที่ฉาบฉวย แต่เป็นพื้นฐานทางจิตใจที่ค่อยๆ หล่อหลอมก่อตัวขึ้นผ่านกาลเวลาและความใกล้ชิดต่างๆ ซึ่งบางอย่างแม้แต่เจ้าตัวยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร (แต่คือกูเป็นคนแต่งไง กูเลยรู้) และมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ที่บางทีก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงได้เกิดความคิดแบบนั้นแบบนี้หรือทำไมเราถึงเป็นคนอย่างนี้ ผมจึงไม่ได้ใส่ทุกอย่างลงไปในเนื้อเรื่อง เพราะมันเป็นเรื่องสั้นด้วย และถ้าหากถามผมว่า ความรักแบบตันกับบัสจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงได้มั้ย ผมก็คงบอกว่ามันอาจจะเป็นไปได้มั้งครับ ถ้าหากใครสักคนในชีวิตจริงข้างนอกนั่นมีพื้นฐานทางจิตใจและการเลี้ยงดูคล้ายๆ อย่างที่สองคนนี้มี หรือถูกหล่อหลอมมาในภาวะที่เอื้อต่อการหลงรักพี่ชายตัวเองหรือน้องชายตัวเอง แต่ผมว่ามันคงยากว่ะ เพราะงั้นยังไงก็ถือว่า อ่านเรื่องนี้ให้เป็นนิยายสนุกๆ แล้วกันนะครับ อย่าไปจริงจังอะไรกับมันมาก

ใครที่รู้สึกว่าตัวเองชอบสำนวนการแต่งนิยายของผม ก็ไปตามอ่านเรื่องเก่าๆ หรือเรื่องยาวที่กำลังลงอยู่อีกเรื่องตอนนี้ได้ แต่ถ้าใครที่อยากได้แนวนี้อีก ก็เอาไว้เจอกันเรื่องหน้านะครับ (หรือไม่ก็ลองไปอ่านเรื่อง HOME ดู ถึงจะไม่ใช่ incest แต่ในความรู้สึกของผมขณะแต่ง ผมว่ามันคล้ายๆ กันเลย) ถ้ามีโอกาสและเวลา ก็จะแต่งออกมาให้ได้อ่านกันเล่นๆ อีกแน่นอน

ขอบคุณมากๆๆ ครับ

ลป. ไม่ต้องถามหาตอนพิเศษนะครับ ไม่มีแน่นอน ฮาาาา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-04-2013 15:07:44 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ pp_song

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
อยากอ่านตอนพิเศษ จะมีมั้ยนะ

ออฟไลน์ Zalzah_iP

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 875
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
ขอบคุณคนเขียนค่ะ ^^  :pig4:

แล้วจะมีตอนพิเศษไหมคะ ?

ออฟไลน์ gneuhp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-3
ขอบคุณค่ะ สำหรับเรื่องราวดีดี ในอีกรูปแบบนึง
ดีใจไปกับครอบครัวนี้ด้วยค่ะ ในที่สุดก็ได้อยู่ด้วยกัน ^^

ออฟไลน์ Windyne

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 248
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-1
    • Windyne Page on Facebook
จบแล้ว ชอบมากเลยค่า ^^

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ netkung

  • เป็ดกูรู
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
ขอบคุณพี่ต้นครับที่แต่งมาให้อ่าน เป็นเรื่องนึงที่ผมชอบมากในบรรดาเรื่องที่พี่แต่งเลยครับ

เรื่องต่อไปขอยาวๆเลยนะครับพี่ต้น อิอิ


เป็นกำลังใจให้พี่ต้นต่อไป สู้ๆครับ

thesilkmai

  • บุคคลทั่วไป
จบแล้วเหรอ  :hao5:

แต่ชอบเรื่องนี้มากเลยค่ะ อ่านแล้วแบบ เฮ้ย มันจี๊ด มันใช่มาก ตามหาอะไรอย่างนี้อ่านมานานแสนนาน

น้อยคนที่จะเขียนอะไรที่มันค้ำคอร์ แล้วเขียนออกมาได้ดีอย่างนี้ ขอชื่นชมจากใจจริงเลยค่ะ

ว่าแต่.. จะไม่มีตอนพิเศษเหรอคะ ?  :katai5:

ออฟไลน์ ❁INDY_FAMILY❁

  • -ทำไมต้องเดินตามรอยเท้าใคร เราสามารถสร้างรอยเท้าของเราเองได้-
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 608
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-12
อยากอ่านตอนพิเศษอ่ะคะจะมีไหม

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
ชอบมากเลย จริงๆนะ:^

ออฟไลน์ evil_kun

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 228
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
ตามมาจากเฟสบุ๊คค๊าาาา

เป็นเรื่องสั้นเรื่องนึงที่อ่านแล้วอ่านอีกก็ชอบมากๆ
คนแต่งแต่งเกงมากค่ะ มีฉากเลิฟซีนเยอะแต่ไม่ได้รู้สึกล้นหรือยัดเยียดเลย ชอบตรงนี้สุดๆ >_<

buff89

  • บุคคลทั่วไป
ไม่อยากให้จบเลยยย

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ตอนจบในฝัน แฮปปี้เอ็นดิ้ง คนอ่านก็มีความสุขสุดๆเลยค่ะ o13
น้องจัมโบ้โตมาต้องเป็นหนุ่มฮอตเหมือนคุณพ่อแน่เลย ถ้าพี่ต้นไม่บอกว่าไม่มีตอนพิเศษ ก็คงจะขอตอนน้องจัมโบ้โตนี่แหละ :laugh:
เวลา 10 ปีที่ห่างกัน ไม่ได้ทำให้ความรักของบัสตันจืดจางเลยเนอะ น่าอิจฉาจัง :o8:
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆ  :pig4:

ออฟไลน์ Aomampapeln

  • แมวเหมียว เมี๊ยว เมี๊ยว~
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1133
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +60/-1
ขอบคุณค่ะที่แต่งนิยายเรื่องนี้นะค่ะโดยส่วนตัวแล้วก็ชอบนิยายแนวนี้อยู่แล้วอ่ะ

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
 :pig4: ขอบคุณมากค่ะ จบได้สวยมาก แถมลงสม่ำเสมออีกตะหาก :hao5:

ออฟไลน์ iammz

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +292/-6
ขอบคุณมากจริง ๆ ค่ะ ที่แต่งแนวนี้ให้อ่าน
และยังจบแฮปปี้อีกด้วย  :mew1:

แต่ยังไม่อยากให้จบเลยค่ะ แหะ แหะ >.<

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด