Existence : ผู้นำ & ธาม
-----------------
ตอนที่ 14เพื่อนเขาแสนฉลาด แต่ไม่เฉลียวเอาเสียเลย ทั้งที่เขาบอกอะไรตั้งมาก แสดงความห่วงใยธามตลอดเวลา มือโปรก็ยังไม่ฉลาดรู้ว่าควรดูแลธามให้ดีมากกว่าปกติ
เขาถอนหายใจใส่หน้าเพื่อน ด่ามันไปก็เปล่าประโยชน์ สิ่งที่เขาควรเร่งทำในตอนนี้ก็คือ หาตัวธามให้เจอก่อน
เหตุการณ์ก่อนหน้าไม่ผิดคาดนัก เขารอช่างซ่อมรถไม่นานจนต้องรู้สึกหงุดหงิด แต่พอโทรหามือโปรแล้วกลับหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆ จนได้ ไอ้ตัวดีสารภาพกับเขาว่าพอดีมีนัดด่วน เลยปล่อยให้ธามนั่งแท็กซี่เอง มันมีหน้ามาเอาดีเข้าตัวด้วยการบอกว่า ถ่ายรูปทะเบียนรถกับศูนย์แท็กซี่ข้างรถเอาไว้แล้ว
แล้วยังไงล่ะ? แล้วธามก็หายไปอีกรอบไง
ที่น่าเจ็บใจคือที่เกิดเหตุคือหน้าบ้านเขาเอง!
รู้ตัวเร็วก็เพราะว่าป้าจูที่อยู่แถวๆ รั้วพอดี ได้ยินเสียงรถเลยมาดู และเห็นว่าธามถูกอุ้มไป รถที่พาตัวธามไปแกก็อุตส่าห์จำรายละเอียดมาโทรมาบอกเขาให้มากที่สุด
และคำตอบของเรื่องราวก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้วตอนนี้
บ้าน “นิมิตตกานนท์”
ผู้นำมองบ้านใหญ่โตด้วยแววตาขุ่น เขาไม่ใช่คนชอบมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร เป็นไปได้เขาจะหลีกเลี่ยงการขัดแย้งหรือปะทะอารมณ์ พ่อเขาสอนเสมอว่าคนเราจะไม่รู้ภาษาเมื่อมีอารมณ์มาบดบังการทำงานของเหตุผล
แต่ที่โอ่ล้อมตัวเขาตอนนี้ คืออารมณ์ล้วนๆ
นายสุพิสุทธิ์ นิมิตตกานนท์ ทำให้เขาโกรธ มันช่างเก่งจริงๆ
“เอาไงนำ” ที่หนึ่งแตะบ่าเขาเบาๆ ส่วนมือโปรเป็นกองหลัง คอยกันคนอีกคนเอาไว้ไม่ให้มายุ่งกับเรื่องนี้มากนัก
“ก็อย่างที่บอก ถ้าไม่ได้ตัวธามคืนมา ผมก็ไม่กลับ”
“ส่วนคุณ กับมือโปร แล้วก็เจม กลับไปก่อน” เขายืนยันคำตอบแล้วก็รัวนิ้วกดออดจนปลายนิ้วชี้แทบกลายเป็นสีซีดๆ เพราะเลือดเดินทางไม่ถึงปลายหลอด
“ใจเย็นสินำ แผนคืออะไร? เรียกพวกมันออกมาแล้วยังไงต่อ”
“ที่คุณทำอยู่ที่ถูกแจ้งตำรวจจับข้อหาบุกรุกได้เลยนะ”
“บุกรุกบ้าอะไร! มันขโมยน้องผม!”
“ก็น้องชายเขาเหมือนกันไม่ใช่หรอ? เท่าที่คุณบอกกว้างๆ บ้านนี้กับธามก็ญาติกันนี่”
“ญาติหรอ! ญาติบ้าอะไรทำร้ายธามครั้งแล้วครั้งเล่า”
“ธามจะไม่ปกติก็เพราะคนพวกนี้นั่นแหล่ะ”
“พ่อก็กดดันเพื่อมรดกบ้าๆ ลูกชายก็...” เขายั้งปากตัวเองไว้แล้วหันไปสบถใส่อากาศ จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตากดออดอีกหลายๆ ครั้ง จนที่หนึ่งต้องปัดแขน และดันตัวเขาให้ห่างจากหน้าประตู
“ไอ้หนึ่ง!” เขาตวาดเพื่อนและผลักอกที่หนึ่งออก มือโปรคงคิดว่าเขากับที่หนึ่งจะทะเลาะกัน ถึงได้พุ่งออกจากรถมาพร้อมกับเจมแล้วจับเขาแยกจากกัน
“ปล่อย ปล่อยผมให้หมดนั่นแหล่ะ!”
“บอกให้ปล่อยไง!!” เขาตวาดดังกว่าเดิมและได้อิสรภาพคืน ทั้งที่หนึ่งและมือโปรมองหน้าเขานิ่ง มีเพียงเจมเท่านั้นที่กระพริบตาปริบแล้วเดินมาถามใหม่
“พี่นำ ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ ค่อยๆ ช่วยกันคิดว่าจะเข้าไปพบธามได้ยังไง”
“เรากดออดรออยู่หน้าบ้านนี่ร่วมชั่วโมงแล้ว เจมคิดว่าเขาอาจจะไม่อยู่บ้าน”
“.........” เขาไม่ได้ตอบอะไร ผู้นำเพียงแค่ยิ้มชืดให้ และถอนหายใจ เขาจะทำยังไงดีนะ?
“เจมพอจะรู้จักตำรวจอยู่บ้าง ถ้าพี่นำ”
“ไม่เป็นไร จะเดือดร้อนเจมไปด้วยเปล่าๆ พี่จัดการเองได้”
“มึงจะปีนรั้วหรอ”
“เฮ้ยพี่นำ! ไม่ได้นะ”
“สูงอ่ะ แล้วแม่งก็มีแก้วแหลมๆ ปักด้วย เจ็บนะนั่น”
“อีกอย่าง ชัวร์แล้วหรอครับว่าธามอยู่ที่นี่”
นั่นสิ สรุปแล้วที่เขามายืนกดดันหน้ารั้วกัน 4 คนนี่เปล่าประโยชน์สินะ
นายสุพิสุทธิ์อาจจะไม่ได้พาธามกลับบ้านก็ได้
แต่ถ้าไม่กลับบ้าน แล้วจะพาไปไหนล่ะ?
“เฮ้ย! มีคนออกมาแล้ว”
คำบอกกล่าวของที่หนึ่งทำให้ผู้นำตั้งสติทันที พวกเขาถูกแสงจากรั้วทำร้ายทันทีที่มันสว่างจ้าผิดปกติ ครู่เดียวรั้วมหึมาก็เคลื่อนตัวออกจากกัน เบื้องหน้าเขาคือธามที่อยู่ในสภาพปกติดี แต่สีหน้าไม่สู้ดีนัก
คล้อยหลังไปเพียงนิด คือนายสุพิสุทธิ์ และนายพิสุทธิ์ผู้เป็นพ่อ
สีหน้าและแววตาช่างแห้งแล้งจนไม่อยากจะสบมอง
“ธาม!”
“นำ!” น้องเรียกหาเขาแล้วก็วิ่งมาหลบอยู่ด้านหลังเขาทันที ผู้นำสูดลมหายใจเพื่อให้ตัวใหญ่ขึ้นแล้วกร้าวใส่หน้าเจ้าของบ้างอย่างไม่คิดเกรง
“ทำแบบนี้มันเกินไป!”
“ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับธามอีก ผมไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่!”
“แกจะทำอะไร? จะมีปัญญาทำอะไรได้!” คนลูกตวาดเขากลับ และทำท่าเหมือนจะพุ่งหมัดใส่เขา แต่กลับถูกผู้เป็นพ่อรั้งไว้ด้วยการเรียกชื่อเพียงครั้งเดียว
“แซน!”
“ผมยอมพ่อทุกอย่างแล้วไง ขอแค่อย่างเดียวคือธาม”
“ชั้นให้แกได้เท่าที่บอก เด็กนั่นจะทำยังไงกับมันก็เรื่องของแก!”
นี่ตกลงอะไรกัน? แล้วเกี่ยวกับธามด้วยใช่มั้ย?
ผู้นำฟังแล้วคิดระแวง เขาอ้อมมือไปด้านหลังเพื่อให้แน่ใจว่าธามไม่ห่างจากเขาไปไหน เมื่อไม่มีใครพูดอะไรให้กระจ่างซักที ผู้นำก็กระชากเสียงถาม
“หมายความว่ายังไง พวกคุณพูดเรื่องอะไรกัน คิดเอาเปรียบธามอีกแล้วใช่มั้ย?!”
“อย่ามาพูดหมาๆ แล้วก็เลิกแส่ไม่เข้าเรื่องซักที”
“นี่มันเรื่องของครอบครัว แกมันคนนอก”
“ธาม พี่ว่าธามเลือกเป็นนะ คิดดูก็แล้วกันว่าจะอยู่แบบไหน”
“อยู่กับพี่ หรือมัน”
“ธามครับ ธามคิดได้อย่างอิสระเลยนะ ไม่ต้องสนใจใครทั้งนั้น ชีวิตธาม สิทธิ์ของธาม”
“...........”
“เรื่องที่ธามควรรู้ พี่ก็บอกไปแล้ว” หมอนี่ยังพูดต่ออีก ตอนนี้ผู้นำรู้สึกหงุดหงิดจนอยากซัดปากมันให้เบี้ยว จะได้เลิกยัดเรื่องไม่เป็นเรื่องใส่หัวธามเสียที
“หึหึ ธามก็รู้ว่าพี่พูดจริงทำจริง”
“ก็อย่างที่บอก ธามน่าจะเลือกเป็น”
“ธาม เขาขู่อะไรรึเปล่า”
“ธามครับ ธาม” ครั้งนี้เขาหมุนตัวกลับไปถามธามที่ยืนกัดปากตัวเองอยู่นิ่งๆ ผู้นำจับน้องชายที่ตาแข็งจ้องนายสุพิสุทธิ์ไม่กระพริบให้หันมามองเขาแล้วถามเสียงแผ่วเบา
“ธามครับ มีอะไรบอกพี่นำสิ บอกได้ทุกอย่าง พี่นำจะช่วยธามเอง”
“..............”
“ธามครับ”
จู่ๆ มือเรียวบางก็ยกขึ้นมาประกบทับมือเขา ธามค่อยๆ แกะมือเขาออกจนเขารู้สึกได้ว่ามือธามสั่นเบาๆ เป็นอะไรไปนะ
“เป็นอะไรครับ” เขาถามอย่างอ่อนโยน รอบตัวเขาไม่มีใครมายืนกดดันแล้ว พวกนิมิตตกานนท์กลับเข้าบ้านไปแล้ว ประตูรั้วใหญ่ยังเปิดอ้าอยู่ ด้านนอกมีที่หนึ่ง มือโปร และเจมรออยู่หน้ารถ 2 คัน
“นำ” เสียงอู้อี้จังเลย ถูกรังแกอะไรมารึเปล่า ผู้นำเกลี่ยตามองหน้าธามจนทั่ว เขาดึงดันจับหน้าธามไว้ในอุ้งมืออีกหน จากนั้นก็ดึงให้มาซุกที่หน้าอกแล้วลูบหลังปลอบใจ
“นำ”
“ครับ”
“ธามต้องกลับบ้าน”
“ได้ พี่นำจะพากลับเอง”
น้องไม่พูดอะไรต่อ เพียงแค่กอดซุกอยู่ที่อกเขา ถูหน้าไปมา ผู้นำรู้สึกได้ว่าหน้าอกเขาเปียกชื้น ธามคงร้องไห้แต่เขายังไม่ถามว่า ใครทำร้ายเอาจนต้องร้องไห้แบบนี้ ผู้นำเพียงแค่ลูบหัวเบาๆ แล้วเอียงหน้ากระซิบข้างหู
“กลับบ้านกันนะครับ”
เพื่อนคงรู้ว่าเขาไม่ต้องการอธิบายเรื่องราวตอนนี้ และธามเองก็ไม่อยากเจอหน้าใครตอนนี้เหมือนกัน มือโปรแยกไปกับที่หนึ่งและเจมทั้งที่ขามา มันมารถเขา เขาจึงพาธามกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนร่วมทางที่ชื่อว่าเคว้งคว้าง
ระหว่างทาง ธามไม่พูดซักคำ จนถึงบ้านก็ไม่พูด เจอหน้าป้าจูก็ไม่ทักทั้งที่ป้าแกเป็นห่วงจนมายืนชะเง้อรอหน้ารั้ว หมอปุณไม่กลับบ้านอีกแล้ว เขาเลยไม่มีหัวข้อใหม่ชวนธามคุยนัก ทำได้ก็แค่มานอนที่บ้านเล็กเป็นเพื่อนเท่านั้น
“ง่วงรึยังครับ” 5 ทุ่มแล้ว แต่ปกติธามจะนอนราวตี 1 กว่าๆ เขามองหยั่งเชิงน้องชายที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วเดินมาหยุดที่ปลายเตียงมองหน้าเขา
“ง่วงก็นอนเลย โดดมา” ผู้นำชวนเล่น แต่ธามก็ไม่กระโดดขึ้นเตียงตามคำชวน ตัวยุ่งเดินเลาะขอบเตียงมานั่งใกล้ๆ แล้วเอนตัวพิงเขาไว้ แล้วก็เงียบ
“เป็นอะไรไปครับธาม หือ? ไม่สดใสเลย”
“มีอะไรเล่าให้พี่นำฟังรึเปล่า”
“นำ”
“ครับ”
“ธามเป็นคน หรือไม่เป็น”
“เป็นสิ เป็นคนเหมือนพี่นำนี่แหล่ะ อะไรครับเนี่ย?”
“คน ต้องมีพ่อแม่มี ธามไม่ใช่”
“ธามมีพ่อแม่ ท่านเสียไปแล้วก็จริง แต่ธามมีพ่อแม่”
“ลุงบอกว่าธามไม่ใช่”
“พ่อธามก็ไม่ใช่ พ่อธามปัญหา สร้างหนี ธามต้องใช้”
“หนี่มาก แต่จะไม่ติดคุกก็ยอมได้ ถ้าให้เงินป้าวีณา”
“ต่อไป ก็แซนจะดูแล”
“ทำแบบนั้นไม่ได้ครับ”
“ทำไม่ได้”
“พี่จะจัดการเอง จะส่งทนายไปคุยเอง เรื่องนี้มันควรจบไปนานแล้ว เรื่องมรดกของป้าวีณาต้องเป็นของธามตามกฎหมายเพราะธามเป็นลูกบุญธรรม หนังสือรับรองก็มี”
“อย่าไปเชื่อเขา”
“ไม่เชื่อ ไม่สนใจเขา”
“แต่ธามไม่อยากอยู่กับแซน”
“ก็ไม่ต้องอยู่ อยู่กับพี่นำไง อยู่ด้วยกันแบบนี้”
“ธาม.. อยู่ไม่ได้”
“ทำไมครับ”
“นำจะไม่ดีไปด้วย”
“อะไร พูดให้รู้เรื่องครับ”
“นอนเถอะ ง่วง” แล้วก็ปุบปับทิ้งตัวลงนอน ผู้นำหันมองคนที่คลุมโปงแล้วถอนหายใจ เมื่อไม่อยากพูดทั้งหมดเขาก็จะไม่เซ้าซี้ คงต้องหาทางรู้จากทางอืนที่ไม่ใช่จากปากธาม
เขาเอนตัวนอนและปิดไฟ พอได้ที่แล้วก็มีตัวยุ่งพลิกตัวมาหาและก่ายเขาเอาไว้ ธามสอดมือมาเกาะกอดแขนเขา กดหัวมาซุกไหล่และเกยแก้ม
“นำ”
“ครับ”
“ธามเกลียดรักได้มั้ย”“.............”
“ทำไมธามเจ็บจนเท่านี้” แล้วก็ร้องไห้พลางกอดเขาไว้แน่นเหมือนกลัวจะเขาหาย ผู้นำไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาพลิกตัวไปโอบธามไว้แล้วลูบหลังแผ่วเบา เขาฝากความอุ่นติดริมฝีปากไว้ที่หน้าผากมนหลายครั้ง จูบแก้มซับหน้าตาก็หลายครั้ง
แต่เพียงครั้งเดียวที่เขาจูบ และธามหยุดร้องไห้ ก็คือการจุมพิตริมฝีปาก
วินาทีที่ผละห่างจากสัมผัสที่สุดโหยหา หัวใจเขากลัวเหลือเกินว่าธามจะหายไป
-----------------กาลเวลาเดินทางรวดเร็วเสียจนเขาเตรียมตัวเตรียมใจไม่ทัน
วันพรุ่งนี้ ธามก็ต้องไปไต้หวัน เพื่อส่งรายงานและทำเรื่องขอจบการศึกษาแล้ว ตัวยุ่งไม่ค่อยว่างคุยกับเขาเลยตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะต้องรีบเติมเนื้อหารายงาน สัมภาษณ์เนื้อหาเพิ่มซึ่งก็ต้องขอบใจมือโปรมากที่ทำให้ธามทำรายงานได้ง่ายขึ้นมาก
กระเป๋าเสื้อผ้าใบเดิมถูกพูดถึงเมื่อ 2-3 วันก่อน เขาเสนอให้ธามใช้กระเป๋าเดินทางของเขาเพราะใบใหญ่และแข็งแรงกว่า แต่เจ้าตัวก็ยังยึดติดกับกระเป๋าใบเดิมที่มีสติ๊กเกอร์อะไรติดไว้มากมายเขาก็ดูไม่ถ้วนนัก
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ธามจะได้เช็คความเรียบร้อย ทั้งเรื่องรายงาน และข้าวของส่วนตัว
“อันนี้ต้องเอาไปด้วยหรอครับธาม” ผู้นำทักขึ้นระหว่างช่วยเก็บของ แม้ว่าธามจะคอยปัดมือไม่ให้เขาหยิบจับอะไรทั้งสิ้นก็ตาม
“อือ”
“กลัวคิดถึงพี่นำล่ะสิ” เขาแกล้งแซว เพราะสิ่งที่ธามกำลังหยิบโยนใส่กระเป๋าคือรูปถ่ายของเขาและธามคู่กันเมื่อครั้งยังเด็ก ตัวเล็กๆ ขี่หลังเขาแล้วยิ้มอวดรอยบุ๋ม รองเท้าหลุดไป 1 ข้าง ซึ่งก็หลุดมาอยู่ในมือเขานั่นแหล่ะ
“อืม”เขาชะงักไปนิดเมื่อธามยอมรับโดยง่ายว่าคิดถึงเขา พอหันมองเจ้าตัวก็พบว่ายังคงโยนของที่จะเอากลับไปด้วยลงกระเป๋าอย่างไม่คิดกลัวข้าวของจะเสียหาย
“เอาเสื้อผ้าไปหมดเลยหรอครับ”
“.........”
“ทำยังกับจะไม่กลับมาอีก”
“ธามขอน้ำหอมนำได้มั้ย? เอาขวดที่ใช้อยู่ มันหอมดีน่ะ”
“หือ? ได้สิ หยิบไปได้เลยครับ”
“ไม่คืนนะ”
“ได้ ได้ พี่นำไม่งกสักหน่อย เอาไปเถอะ อยากได้อะไรอีกมั้ย?”
“เอานำยัดใส่กระเป๋าได้มั้ย?”
“ฮ่าๆๆ ได้ สิ แต่ต้องเปลี่ยนกระเป๋านะ ใบนี้เล็กไป”
“ไม่เอาดีกว่า ทิ้งตรงที่นี่แหล่ะ”
“แน๊!” เขาแกล้งส่งเสียงแซว แต่ยอมรับเลยว่ารู้สึกโหวงๆ อย่างประหลาด เขากวาดตามองโดยรอบและหยุดที่พาสปอร์ตที่สีปกไม่ใช่พาสปอร์ตของไทย ตั๋วเครื่องบินที่เขาจัดการให้ทั้งเที่ยวไปเที่ยวกลับสอดอยู่ในเล่มพาสปอร์ต เขาดึงมันออกมาดูเพื่อความแน่ใจในเวลา “กลับบ้าน” ของธาม ซึ่งก็เป็นวันและเวลาเดิม
ธามไปไต้หวันแค่เดือนเดียว ทำไมเขาถึงรู้สึกโหวงใจแบบนี้นะ
“ยังขาดอะไรอีกมั้ยครับ”
“ไม่แล้ว”
“งั้นนอนเถอะ ปลุกตี 5 ก็แล้วกัน เครื่องขึ้นเจ็ดโมงสี่สิบห้า ไปถึงซักหกโมงครึ่งก็แล้วกัน”
“นอนเถอะครับ”
“Good night” ธามบอกแล้วทิ้งตัวลงนอน น้องหันมองเขาที่ยืนอยู่กลางห้อง จ้องอยู่นานจึงยอมหลับตาลงในที่สุด
“นำ” คนที่ควรหลับยังพูดต่ออีกนิด ไม่คิดเลยว่าประโยคสั้นๆ ของธาม จะทำให้เขานอนไม่หลับเสียเอง
“I’m gonna miss you” -----------------
เหมือนจะไม่สบายเลย ธามรู้สึกตัวตื่นขึ้นเพราะอาการหนาวจนตัวสั่น เขาคว้าผ้าห่มมาซุกนอน แล้วเอียงหน้ามองพี่นำที่นอนตะแคงหันมาหา
จู่ๆ น้ำตาก็ไหล ทั้งที่ธามไม่ได้อยากร้องไห้เลยแม้แต่นิด
เขาขยับตัวควานหามือพี่นำ เพื่อเจอแล้วก็ดึงมาใช้รองแก้มตัวเอง ช่วยไม่ได้ที่น้ำตาจะหยดใส่มือพี่นำไปหยดสองหยด
“ฮึก....” เขากลั้นเสียงสะอื้นไว้แต่ก็กักมันไว้ไม่หมด ธามรีบเช็ดน้ำตาแล้วเช็ดมือพี่นำ พอแห้งทั้งแก้มตัวและมือพี่ชายแล้ว ธามจึงนอนซุกมือพี่นำอีกครั้ง
มันอบอุ่น จนธามไม่อยากจากไป
แต่ถ้าธามยังอยู่แบบนี้ เรื่องแย่ๆ ก็จะเกิดขึ้นอีกครั้งแล้วครั้งเล่า
เกิดกับธามก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดกับจูอีก เกิดกับเผือก กับลุงหมอ หรือเกิดกับพี่นำ ธามทนไม่ได้
ธามอยู่ไม่ได้ ถ้าการอยู่ของธามต้องแลกด้วยความสุขที่คนอื่นเคยมี และสมควรจะมีต่อไป
“คิดเอาเองก็แล้วกัน แกไม่ได้เด็กอมมือ ที่ของแกไม่ใช่ที่นี่”
“จะเป็นกาฝากบ้านนั้นเขาไปถึงไหน ญาติรึก็ไม่ได้ เขาก็แค่คนที่ป้าแกเคยรัก แต่ป้าแกก็ตายแล้ว ยังจะหน้าด้านนับญาติกับเขาอีกหรอ!”
“หรือแกอยากให้ใครสักคนในบ้านตายให้แกดูก่อน”“พี่บอกแล้วไงว่าแค่ชีวิตธาม พี่ดูแลได้”
“กลับไปไต้หวันซะ ธามจะได้ทุกอย่างที่ควรได้ พ่อกับพี่จะจัดสรรให้เอง”
“รับรองว่าไม่ต้องอดมื้อกินมื้อหรอก แล้วพี่แซนจะไปหาบ่อยๆ”
“เชื่อพี่แซนสิ” ต่อหน้าพ่อตัวเองก็พูดแค่ดูแล แวะไปหา
ลับหลังก็ทำแบบเดิม ทำเรื่องสกปรกเหมือนเดิม!
“ขอพี่เถอะธาม พี่อยู่ไม่ได้ ธามเป็นของพี่เถอะนะ”
“พี่รักเรานะธาม ขอพี่กอด แค่กอดเท่านั้น”
“ธาม ได้โปรด ธาม ธาม”
“พี่รักธามนะ”ธามแน่ใจว่า หากเขาไม่มือไวคว้ามีดพกในห้องแซนเองมาถือขู่ไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องของแซนคงไม่ได้มีแค่การจูบจนผิวแดงเป้นจ้ำ และสัมผัสที่แสนรุนแรงจนเนื้อเขียว
“นำ ธามอยากมีทางเลือก”
“และถ้ามีทางเลือกจริงๆ ธามก็อยากได้เลือก”
“แต่นำรู้ใช่มั้ย เข้าใจสินะ”
“ธามไม่กล้าเลือก”
“จะมีความสุขได้ยังไง ถ้าคนอื่นต้องไม่มีความสุขแทน”
“พวกเขาไม่มีวันเลิกยุ่งกับธาม ไม่มีวันปล่อยธาม”
“ถึงลุงพิสุทธิจะได้เงิน แซนก็ไม่ปล่อยธาม”
“คงต้องตายห่างกันไป”
“ธามตาย กับแซนตาย อะไรง่ายกว่ากันหรอนำ”
พี่นำยังหลับสนิท เสียงลมหายใจแผ่วเบาทำให้ธามเศร้าลงกว่าเดิม
เขาลูบหน้าพี่ชายที่ไม่เคยลืมและไม่กล้าขอให้รออย่างบรรจงที่สุดเท่าที่มือเขาจะทำได้
พี่นำหน้ายาว ตอหนวดไม่ทำให้มือธามเจ็บเลย ตรงกันข้าม เขาอยากเอาหน้าผากถูไปมาเสียด้วยซ้ำ
ปากนำแห้งนิดหน่อย ปลายจมูกสวยจัง
เวลาใส่แว่น ตาพี่นำจะดูมีน้ำ เวลาไม่ใส่จะดีกว่า ธามชอบกว่า เพราะธามเห็นนัยน์ตาสีดำชัดดี
ผมก็นุ่ม พี่นำเพิ่งไปตัดมาเมื่อกี่วันก่อน จิกไม่ถนัดมือเท่าไหร่ จำได้ว่าพี่นำจะให้ธามตัดด้วย แต่ธามไม่ชอบให้ผมสั้นมากก็เลยดื้อไม่ไปด้วย
“นำจะคิดถึงกันสินะ ใช่มั้ย”
“นำ ต้องคิดถึงธามนะ”
“พี่นำ ช่วยคิดถึงธามด้วยนะครับ”ลงท้าย เขาก็นอนร้องไห้อยู่คนเดียวเงียบๆ ธามลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้สดชื่นขึ้น นาฬิกาในห้องบอกเวลาตี 4 กว่าแล้ว อีกไม่นานพี่นำก็คงตื่นขึ้นมา จากนั้นก็จะปลุกธามให้ตื่น เพื่อให้อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าวด้วยล่ะมั้ง แล้วก็พาไปส่งที่สนามบิน
อีกไม่กี่ชั่วโมง เราก็ต้องจากกันแล้วนะครับ พี่นำ
-----------------ตี 5 จนได้
ผู้นำตื่นขึ้นเพราะเสียงมือถือปลุก เขารีบตื่นและกดปิดเสียงมันทันที เพราะไม่ต้องการให้เสียงแหลมๆ นี้รบกวนน้องชายเขา
ตัวยุ่งยังคงหลับ ท่านอนก็ยังขดเหมือนกุ้งอยู่ดี สงสัยเขาจะแก้ความกลัวที่ธามซุกซ่อนไว้ไม่ได้จริงๆ
เขาลูบแก้มธามเบาๆ มือพาลลูบไล้ไปทั่วหน้า และเสยผมที่เจ้าตัวไม่ยอมไปตัดด้วย เพื่อเผยหน้าผากกลมมน ผู้นำโน้มตัวจูบหน้าผากธามพร้อมกับสูดลมหายใจจนลึก เขาทำแบบเดียวกันที่แก้มและขมับ
แต่ครานี้ ผู้นำไม่ได้จูบน้องชาย เขายั้งตัวเองเอาไว้ด้วยไม่รู้ว่าธามจะยินยอมรึเปล่า
“อือออ” เสียงยานคางดังจากคนหลับ ธามคงตื่นแล้ว ผู้นำดันตัวขึ้นนั่งแล้วเอื้อมมือเปิดไฟ แสงสว่างทำให้ธามหยีตาและยอมตื่นในที่สุด
“ตี 5 แล้วครับ ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวพี่นำชงโกโก้ให้”
“อือ” วันนี้เจ้ายุ่งเป็นเด็กดี สงสัยจะอยากกลับไต้หวันมากแน่ๆ ถึงได้ไม่มีอาการอิดออดแบบนี้ คิดแล้วก็อดน้อยใจไม่ได้ จะมีทางไหนบ้างไหมที่ทำให้ธามเลือกจะอยู่ที่นี่ อยู่กับเขาตลอดไป
เสียงน้ำไหลจากฝักบัวแว่วมาให้ได้ยินแล้ว ผู้นำจึงลงไปชั้นล่างเพื่อชงโกโก้ให้น้อง เขาผิวปากอย่างอารมณ์ดีเพราะได้ทำสิ่งที่ทำให้หัวใจเขาพองลม
เพิ่งรู้เหมือนกันว่าการได้ดูแลธามเรื่องเล็กเรื่องน้อย จะทำให้เขามีความสุขได้มากขนาดนี้
เสียงวิ่งตึงตังจากบันได ผู้นำเดินมารอที่ปลายบันไดแล้วก็เหวอไปนิดๆ เพราะธามยังใส่เสื้อกล้ามและกางเกางยีนส์อยู่
“ไม่รีบแต่งตัวล่ะครับ”
“ที่นี่ร้อน ไปถึงที่ไต้หวันค่อยเอาเสื้อกันหนาวออกมาก็ได้ เดี๋ยวใส่แจ็กเก็ตไปสนามบิน”
“แล้วนำทำอะไร”
“ชงโกโก้ให้ไงครับ”
“นำไปอาบน้ำสิ จะต้องไปส่งธามสินะ”
“เดี๋ยวกินเอง จะกินให้หมดแก้ว”
“โอเค โอเค” วันนี้ทำตัวดีจังแฮะ ผู้นำวิ่งส่ายหัวขึ้นห้องอีกครั้ง เขาเข้าไปอาบน้ำตามปกติ แต่ต้องหลุดยิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าธามบีบยาสีฟันใส่แปรงไว้ให้ เตรียมเสื้อผ้าไว้ให้อีกต่างหาก
“น่ารักชะมัดเล้ยยยย”
“ทำยังไงดีครับ พี่นำไม่อยากให้ธามไปเลย” เขาพึมพำพลางถอนหายใจ และบ้วนคำพูดรั้งน้องชายพร้อมกับน้ำกลั้วคอ
ฟ้าสางจนได้ พระอาทิตย์คงสวยเสียจนธามอยากแช่ตามองมันนานๆ น้องแช่หน้าไว้ที่ข้างกระจก ส่วนเขาก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังสนามบินโดยที่ไม่ได้ชวนคุยอะไร ผู้นำรู้ตัวดีว่ามีคำพูดเต็มหัวไปหมด แต่คำพูดทุกคำจะน่าฟังก็ต่อเมื่อคนฟังอยากฟัง และตอนนี้ดูเหมือนธามจะไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้น
คำว่า “ไม่ไปได้มั้ยครับ” จึงไม่มีสิทธิ์หลุดออกมาจากปากเขา
“อ้าว ไปไหน ทางเข้าไปทางนั้นไม่ใช่หรอ? แดทเวย์”
“ไปจอดรถครับ” เขาตอบแล้วเลี้ยวโค้งไปยังอาคารจอดรถ ธามถอนหายใจแล้วก้มหน้านิ่ง จนเมื่อเจอดรถเสร็จแล้ว ตัวดีจึงได้ยื่นมือมาจับมือเขาไว้
“ครับ?”
“อยู่ดีๆ นะ”
“พี่นำต้องเป็นคนพูดต่างหาก ธามดูแลตัวเองด้วยนะครับ”
“แล้วรีบติดต่อพี่นำเลยนะ ตอนที่ถึงแล้วน่ะ”
“นะครับ”
“.............”
“อา ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่นำโทรหา ดีมั้ย?”
“มีเบอร์หรอ”
“มีทุกอย่างแหล่ะครับ นักสืบให้มา ไหนจะเรื่องคดีคุณป้าวีณาอีก ที่อยู่ธามที่นั่นพี่นำก็มี”
“บางที ถ้านำหายตัวได้วุบวุบ ก็คงดีมาก”
“อยากให้ไปหามั้ย?”
พี่จะแวะไปหาบ่อยๆ“..............” ธามไม่ตอบอะไร แต่ส่ายหน้าแทน เขามองหน้าพี่ชายคนนี้นิ่ง
ทำไมเขาถึงได้ไม่อยากปล่อยมือแบบนี้นะ
ไม่ดีเลย ไม่ดีจริงๆ
“นำ”
“หือ? ครับ” เมื่อพี่ชายหันมอง ธามก็ยกตัวไปหา เขาโยกตัวไปคร่อมพี่ชายไว้อย่างหมิ่นเหม่ 2 มือจับหน้าพี่นำไว้เพื่อมองให้ทั่ว
“เล่นอะไรครับเด็กดื้อ”
“ทำแบบนี้ไม่ดีนะ”
“ทำไมไม่ดี ยังไง”
“ธามกำลังทำให้พี่นำไม่อยากปล่อยธามไป”
“นำไม่ปล่อยได้มั้ย ไม่ได้สินะ”
“อยากให้ปล่อย หรือไม่ปล่อยล่ะครับ”
“อยากให้.....” เขากลื่นความต้องการลงคอ และบอกคำตอบในใจให้ริมฝีปากพี่นำได้รับรู้
การจูบคนอื่นต้องทำอะไรบ้างธามไม่รู้หรอก ธามแค่เอาปากไปแตะปากพี่นำเท่านั้น หลังจากนั้น พี่นำก็ทำให้ทุกอย่างอุ่นอวลจนธามไม่อยากถอยห่างไปไหนอีกเลย
“เกิดอะไรขึ้นกับน้องของพี่นำครับ”
“หือ?”
“ธามมีอะไรในใจใช่มั้ย? อยากบอกพี่นำมั้ยครับ” จากที่เป็นฝ่ายจับหน้านำไว้ ก็กลับไปฝ่ายถูกจับแก้มไว้แทน พี่นำมองด้วยสายตาค้นหา แต่ธามตอบอะไรไม่ได้
ธามเลือกแล้ว ธามก็ต้องทำอย่างที่ธามเลือก
ธามเลือกไม่บอก ไม่เล่า ไม่ขอความเห็นใจ ไม่ขอให้ปลอบใจอะไรทั้งนั้น ธามก็ต้องอยู่กับว้าเหว่ที่เลือกเองให้ได้
“ไปกันเถอะ” เขาเอ่ยชวนแล้วพลิกตัวมานั่งที่เบาะตามปกติ เงียบอยู่ไม่นานพี่นำก็ดับเครื่องยนต์และลงไปยกกระเป๋าให้ แรงปิดกระโปรงหลังรถทำเอารถยนต์เขย่า ทำให้หนยดน้ำตาธามหยดลงมาอีกเม็ด
เขาทำเป็นขยี้หน้าตัวเองเพื่อกลบอาการเช็ดน้ำตา จากนั้นก็เดินตามพี่นำที่ลากกระเป๋าให้
ทั้งที่ยังเช้า แต่สนามบินประเทศไหนๆ ก็จอแจ ธามคว้ากระเป๋ามาถือไว้แทน ระหว่างที่พี่นำเอาตั๋วอิเล็กทรอนิคส์ไปที่เคาท์เตอร์เช็คอิน ไม่นานก็หันหน้ามาพยักเรียกเขา ธามจึงเดินเตะกระเป๋าไปหา
“เช็คอินเคาท์เตอร์นี้ครับ ทำเลยมั้ย”
“ยัง นั่งก่อนได้มั้ย นำรีบรึเปล่า”
“ไม่ครับ พี่จะรอส่งธามจนกว่าจะขึ้นเครื่อง”
ธามเดินเตะกระเป๋าที่หาที่นั่ง แม้จะจอแจแต่ก็ไม่มีใครสนใจใครนัก นำถึงได้ยืนแล้วจับหน้าธามกดไว้ที่หน้าท้องแบบนี้ และธามจึงได้เกาะเสื้อพี่นำไว้ไม่ปล่อยแบบนี้
อยู่นิ่งกันราว 10 นาที ธามก็ดันตัวเองและดึงให้พี่นำนั่งลงข้างๆ เขาเอนตัวไปพิงแล้วพูดสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะพูดออกมาเหมือนกัน
“ธามจะดูแลตัวเองดีๆ เลย นำอย่าห่วงนะ”
“ธามทั้งคน ไม่ห่วงได้ไง”
“ไม่ว่าธามจะดูแลตัวเองได้ดีแค่ไหน พี่นำก็ห่วงครับ”
“ให้พี่เป็นห่วงเถอะนะ”
“หน้าที่หรอ? เพราะเป็นพี่ชายหรอ”
“ส่วนเดียวครับ ส่วนนิดเดียวกัน”
“ที่อยากทำ ก็เพราะว่าตรงนี้อยากทำ” พี่นำตบอกตัวเองเบาๆ แล้วก็ยิ้มให้
ไม่อยากไปเลย ธามไม่อยากห่างจากนำเลย
“ได้เวลาแล้วมั้งครับ”
“รีบไปเถอะ เดี๋ยวพี่นำโทรหาตอนธามรอขึ้นเครื่อง”
“อือ”
“ธามครับ”
“อือ”
“สัญญานะ กลับมาหาพี่นำนะครับ สัญญา”
“ได้มั้ย”ที่ไม่อยากจากไป ก็เพราะธามคงไม่ได้กลับมาน่ะสิ
-----------------
“สัญญานะ กลับมาหาพี่นำนะครับ สัญญา”
“ได้มั้ย”
พูดแล้วก็ใจแป้วเพราะธามไม่มีคำสัญญาให้ น้องเพียงแค่ลุกขึ้นไปเช็คอิน เมื่อธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับมาหาเขา เด็กชายธามที่ไม่ว่าวันไหนก็ตัวเล็กกว่าเขาย่อตัวคุกเข่าตรงหว่างเขา จิ้มหน้าผากมาที่อกเขาแล้วก็ร้องไห้
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับธามกันแน่
น้องเขาร้องไห้ทำไม ธามเป็นอะไร
เขาโอบน้องไว้หลวมๆ พลางลูบหลังปลอบใจ แต่แล้วก็ต้องดันตัวออกเพราะธามปลดกระดุมเสื้อเขาแล้วแนบแก้มเย็นกับอกเขา น้ำตาที่เปื้อนแก้มก็เปื้อนอกเขาไปด้วย
“ธามครับ”
“ไม่มีอะไร I just”
“just wanna feel you”ผู้นำยิ้มให้ เขาพาธามลุกขึ้นแล้วจูงมือให้เดินมายังชั้นล่าง ห้องน้ำโล่งๆ ทำให้เขามองหน้าธามได้ถนัดตาขึ้น เมื่อเห็นว่าตาช้ำ หน้าเซียว เขาก็ยิ่งใจหาย แต่เขาก็ไม่ใจร้ายคาดคั้นให้น้องพูดสิ่งที่ไม่สมัครใจ
เมื่อสื่อสารกันด้วยคำพูดไม่ได้ คงต้องใช้ภาษากายแทน เขาดันตัวธามติดกำแพงแล้วช้อนหน้าจูบอย่างดูดดื่ม คำว่าพี่นำห่วง พี่นำคิดถึงแย่เลย พี่อยากไม่อยากให้ไป พี่นำอยากอยู่กับธาม อย่าไปจากพี่นำเลยนะครับ แค่เดือนเดียวพี่นำก็ไม่อยากให้ธามไป เขาไม่ได้พูดเลยสักคำ แต่คิดว่าธามน่าจะรู้ได้ เพราะจูบของเขามันเว้าวอนหัวใจธามเหลือเกิน
“ปากเจ่อหมดเลย พี่นำขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไร”
“ทีนี้ สัญญากันได้รึยัง”
“กลับมาหาพี่นำนะ”
“นำอยู่ดีๆ นะ” เลี่ยงอีกจนได้ แบบนี้ต้องมีอะไรปิดบังเขาอยู่แน่ๆ ผู้นำยิ้มให้น้องมองแล้วก็ดึงมากอดซุกอีกครั้ง หอมแก้มเบาๆ แล้วก็ปล่อยให้จากไป
“แยกกันตรงนี้นะ นำกลับบ้านเถอะ”
“ถึงแล้วธามจะเมลบอก”
“ดูแลจู เผือก แล้วก็ลุงหมอดีมากนะ”
“ดูแลตัวนำดีๆ ด้วย”
“ครับ”
พอเขารับคำ ธามก็จะเดินจากไป แต่ผู้นำรั้งปลายนิ้วไว้เสียก่อน เขาโน้มตัวเอาแก้มไปแนบคนที่หันหลังให้กันได้ลงคอ ฝากคำกระซิบไว้ที่ข้างหู แล้วปล่อยให้ธามเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย
พี่นำรักธามนะครับ.
.
.
.
.
.
พี่นำครับ ทำไมธามถึงได้เจ็บขนาดนี้ Cut
ขอโทษค่ะ สำนึกมากๆ เลยค่ะ ขอโทษที่มาต่อช้ามาก เรางานเยอะมากจริงๆ นี่ตอนต่อไปก็ไม่แน่ใจว่าจะสางงานและรายงานมาต่อฟิคเมื่อไหร่ ฮือออออ ขอโทษจริงๆ นะคะ
