พิมพ์หน้านี้ - The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: kajidrid ที่ 17-04-2013 23:35:17

หัวข้อ: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 17-04-2013 23:35:17
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้



1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ  เผ่าพันธุ์  ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ  ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม

5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง  ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ


เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0


=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+=+


สารบัญ


ตอนที่ 1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2350953#msg2350953)
ตอนที่ 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2350953#msg2350953)
ตอนที่ 3 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2361484#msg2361484)
ตอนที่ 4 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2367795#msg2367795)
ตอนที่ 5 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2374999#msg2374999)
ตอนที่6.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2383976#msg2383976)
ตอนที่6.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2389794#msg2389794)
ตอนที่ 7 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2403537#msg2403537)
ตอนที่8.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2410081#msg2410081)
ตอนที่8.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2420610#msg2420610)
ตอนที่ 9.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2438854#msg2438854)
ตอนที่ 9.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2455984#msg2455984)
ตอนที่ 10 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2469833#msg2469833)
ตอนที่ 11  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2488322#msg2488322)
ตอนที่ 12 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2513875#msg2513875)
ตอนที่ 13 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2533748#msg2533748)
ตอนที่ 14 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2566470#msg2566470)
ตอนที่ 15.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2574444#msg2574444)
ตอนที่ 15.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2591065#msg2591065)
ตอนที่ 16 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2623471#msg2623471)
ตอนที่17.1 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2651835#msg2651835)
ตอนที่17.2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2675647#msg2675647)
ตอนที่ 18 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2680383#msg2680383)
ตอนที่ 19 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2704574#msg2704574)
ตอนที่ 20 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2719301#msg2719301)
ตอนที่ 21 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2749032#msg2749032)
ตอนที่ 22  (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2765409#msg2765409)
ตอนที่ 23 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2786964#msg2786964)
ตอนที่ 24 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2805002#msg2805002)
ตอนที่ 25 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg2821093#msg2821093)



The Extension : ผู้นำ & ธาม ( The Existence Ep.2)
intro (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37592.msg3047447#msg3047447)
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 1 (170413)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 18-04-2013 00:01:57
Existence : ผู้นำ & ธาม

หากสิ่งเดียวที่ผมทำได้ คือการรักษาไว้ซึ่งความรู้สึกเปราะบางของเขา…

--------------------


เวลา 7 โมงเช้ามาเยือนอีกครั้ง ผู้นำกดกระดุมแขนเสื้อเม็ดสุดท้ายเข้ารัง เขาขยับปกเสื้อให้รับกับหัวไหล่ตัวเอง เอียงหน้าซ้ายขวานิดหน่อยเพื่อดูความเรียบร้อยของใบหน้าตัวเอง

แว่นสายตายังนอนนิ่ง เพราะวันนี้เขาเลือกใส่คอนแทคเลนส์แทน

"ตื่นเต้นแฮะ" เขาพึมพำเบาๆ และเดินมายังเตียงนอน โพสท์อิทเตือนความจำยับยู่นิดหน่อย แต่เขายังอ่านลายมือตัวเองได้

-รับธาม 19 xx เก้าโมงเช้า-

ธาม…
เขาไม่ได้เจอน้องมาสิบกว่าปีแล้ว เด็กคนนั้นอยู่เมืองไทยถึง 10 ขวบก็ไปอยู่ไต้หวันตามคุณน้าวีณา ภรรยาคนที่ 2 ของพ่อที่เลิกรากันไปแล้ว

ธามเป็นเด็กน่ารัก ลักยิ้มแอ่งใหญ่ที่แก้มซ้ายทำให้เขายิ้มไปด้วยทุกครั้ง

"คงโตเป็นหนุ่ม" ผู้นำสันนิษฐานถึงน้องชายแล้วฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดีพลางเดินออกจากห้องนอน กำลังจะขึ้นรถ ใจกลับเฉไปสนใจบ้านเล็กที่ตั้งเยื้องไปทางด้านหลังเสียก่อน

บ้านคุณน้าวีณาที่พ่อสร้างให้ พอคุณน้าไม่อยู่ก็ดูว้าเหว่ ต้นไม้ใหญ่ไม่ค่อยมี แต่ก็ยังดูร่มรื่นเพราะเขาช่วยดูแลให้ ไม่คิดว่าจากวันนี้ไป มันจะได้รองรับเด็กชายธามอีกครั้ง

"คุณนำ" เขาสะดุ้งแล้วหันมองแม่บ้านที่เอ่ยเรียก

"ครับป้าจู"

"ป้าทำความสะอาดบ้านเล็กให้เรียบร้อยแล้ว คุณหนูธามจะกลับมาอยู่กับเราเลยมั้ยคะ? หรือไปๆ มาๆ"

"น่าจะอยู่ถาวรนะครับ ทางนั้น ธามไม่มีใครแล้ว" เขาบอกเท่าที่จำเป็น เรื่องเศร้าของน้องยังทำให้เขาเศร้าไม่หาย ประสาอะไรกับเจ้าตัว

คุณน้าวีณาเสียแล้ว จากอุบัติเหตุ
ดูเหมือนจะมีตื้นลึกมากกว่านั้น แต่พ่อไม่ได้บอกเขา เขาจึงรู้แค่ว่าน้องไม่เหลือใคร และรู้สึกเห็นใจน้องมากๆ

"เย็นนี้ป้าจูเตรียมอาหารเบาๆ ท้องก็ดีนะครับ ขอผักผลไม้เย็นๆ ด้วย ให้น้องปรับตัวก่อน"

"ค่ะ นี่ป้าคิดจะทำลอดช่องให้ด้วย จำได้ว่าเธอชอบ"

"ครับ ธามคงหอมป้าฟอดใหญ่" เขารำลึกอดีตในช่วงที่เคยมีน้องชาย ผู้นำอมยิ้มแล้วขึ้นรถเพื่อทะยานไปรับคนที่เขาไม่เคยรอ แต่ก็ไม่เคยลืม

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพลุกพล่านเหมือนเดิม เมื่อเดือนก่อนเพิ่งมาส่งที่หนึ่งขึ้นเครื่องไปหาเจม ขนาดวันนั้นมาส่งตอนกลางคืนคนยังเยอะ นี่กลางวันเน้นๆ เขาทำใจไว้แล้วว่าต้องหาตัวธามลำบาก

ที่พ่อบอกก็แค่ไฟลท์ เวลา หน้าตานี่จ้องหาเอาเองสินะ

เขามองบอร์ดเพื่อกวาดตาหาไฟลท์ว่ามีของธามมาถึงรึยัง เจอแล้วก็ใจชื้น เขาไม่อยากให้น้องต้องรออย่างใจเสียอยู่คนเดียวนานๆ เดี๋ยวพาลไม่ชอบเมืองไทยเสียเปล่าๆ

"อีก 10 นาที รอกระเป๋าอีก อืม ซื้อกาแฟยังทันถมถืด" ผู้นำวางแผนกับตัวเองแล้วก็มุ่งไปซื้อกาแฟมาดื่มทันที

ระหว่างรอ เขาเติมเสียงหัวเราะให้ตัวเองด้วยการโทรหาที่หนึ่ง แต่ขอคุยกับเจม
อาการด่ากราดใส่เพื่อนเพราะหึงที่ที่หนึ่งพึ่งเป็นทำให้เขาขำ เจมเองก็ขำเหมือนกัน หัวเราะจนเอมใจแล้วเขาก็มายืนรอธามที่ทางออก

ร่วม 20 นาที ก็มีกลุ่มคนทยอยออกมา ผู้นำแหงนมองบอร์ดแล้วตื่นตัวขึ้นเพราะไฟลท์ของธามขึ้นบอร์ดมาสักพักแล้ว เขาขยับตัวหาที่ยืนที่มองเห็นคนที่เดินออกมาสะดวกหน่อย ซึ่งก็หาไม่ยากนัก ขอบคุณความสูง 183 เซ็นติเมตรเหมือนกัน

แล้วก็พบกับคนที่น่าจะใช่ ด้วยเขาไม่รู้ว่าธามโตขึ้นมาแล้วเป็นอย่างไร แต่เท่าที่กวาดตามอง เด็กคนนี้เข้าเค้าที่สุดแล้ว

ผิวขาว รูปร่างเพรียวผอม อายุราว 23-24 ปี ถ้ายิ้มแล้วมีลักยิ้ม ก็น่าจะใช่

ผู้นำมองตามคนคนนั้น เด็กคนนี้เดินมาแล้วก็หยุดยืนนิ่ง สายตาส่ายไปมาเหมือนมองหาใครอยู่ กำลังจะเดินไปทักถาม เด็กคนนี้ก็เดินตรงไปยังเคาท์เตอร์ค่ายโทรศัพท์

ซิมเน็ทคือสิ่งที่เด็กคนนี้ถามหา ผู้นำเฝ้ามองอยู่ห่างๆ เขาอยากรู้ว่าคนนี้ใช่น้องธามที่เคยติดเขาแจรึเปล่า

ได้โทรศัพท์พร้อมซิมแล้ว เด็กมีลักยิ้มก็เดินไปหาที่นั่ง จากนัั้นก็ก้มลงคุ้ยกระเป๋าแล้วหยิบกระดาษแผ่นเล็กขึ้นมา ผู้นำจับกำมือถือตัวเองทันที

แล้วก็ใช่จริงๆ ด้วย เด็กคนนี้โทรหาเขา

"สวัสดีครับ" เขาตอบรับทางโทรศัพท์โดยที่ยังไม่เปิดเผยตัว ผู้นำลุ้นฟังเสียงอีกฝ่าย เมื่อได้ยินก็ส่งเสียงหัวเราะนิดหน่อย

"นำอยู่ที่ไหน"

"นั่นใครครับ แล้วต้องการพูดกับใครครับ" เขาแกล้งถามย้ำ แลเห็นอีกฝ่ายตีหน้ายุ่งแล้วอารมณ์ดีพิลึก

"May I speak to peenam . I'm his brother from Taiwan"
"นำ นำ" เด็กนี่! จะตะโกนทำไม ผู้นำดึงโทรศัพท์ออกห่างหู เขาตัดสายแล้วมองดูเด็กโวยวายอยู่ครู่เดียวก็ตัดสินใจเดินเข้าไปหา

"ธาม พี่นำเองครับ" เมื่อใกล้ในระยะจับบ่าถึงเขาก็แนะนำตัว อีกฝ่ายสงบร่างกายแล้วเงยหน้านิดๆ เพื่อสบตากัน

ธามหน้าตาน่ารักเหมือนเดิม
แต่กาลเวลาที่หมุนเวียนผ่านไป ทำให้วันนี้น้องธามไม่มีลักยิ้มมาอวดพี่นำเหมือนเคย

------------

หิวมั้ยครับ
ร้อนรึเปล่า
เมารถหรอ
แวะพักมั้ยครับ
เขาถามทุกอย่าง และคาดหวังในคำตอบ แต่ธามกลับมีให้เพียงความเงียบ จนขับรถกลับมาถึงบ้านนั่นแหล่ะ น้องถึงได้เปิดปาก และคำแรกที่พูดก็คือ

"บ้านใคร?"

"หืม? ก็บ้านพี่นำไง บ้านธามด้วย"

"ไม่มีบ้านซักหน่อย!" เด็กนี่แทบตวาดใส่เขา ผู้นำส่ายหน้าไม่ถือสา จากนั้นก็เดินลงไปเปิดประตูรั้วเพื่อขับรถเข้าบ้าน โดยมีลุงเผือกสามีป้าจูวิ่งตึกตักหน้าเลิ่กออกมารับ

เขาเคยดูละครเรื่องบ้านทรายทอง ภาพจำคือผู้หญิงถักเปีย 2 ข้างหิ้วของพะรุงพะรังมายืนหน้ารั้ว มองดูบ้านหลังโตด้วยแววตาสับสน

แต่พจธามวันนี้ไม่ถืออะไรติดตัวสักอย่าง ผู้นำมองกระเป๋าเดินทางใบโตหลังรถ สุดท้ายลุงเผือกก็ต้องเป็นคนแบกกระเป๋าของธามเข้าบ้าน ส่วนเจ้าตัวเดินดุ่ยๆ เข้าบ้านราวกับอยู่ประจำมาเป็นสิบๆ ปี

"ลุงหมอล่ะ" หางเสียงนี่มันสูญพันธ์ไปแล้วหรอ ผู้นำส่ายหน้าปลงกับตัวเอง
"Where do I find him, I've something to talk to."

"พูดไทยไม่ได้หรอ"

"พูดภาษาอังกฤษไม่ได้หรอ" ผู้นำมุ่ยหน้า เขาไม่แน่ใจนักว่าน้องถามกลับแบบต้องการคำตอบหรือกวนอารมณ์เขากันแน่

"เราอยู่เมืองไทย"

"ไม่ค่อยเข้าใจทุกพูด เอาลุงหมอมาให้ก่อน" สำเนียงไทยแปร่งๆ หน่อย แต่ใช้คำตลกดี ผู้นำคร้านจะสู้ด้วย เขาโทรหาพ่อแล้วก็ยื่นมือถือให้อีกฝ่าย

"ลุงหมอ นี่ธามนะ" พูดไทยเท่านี้ จากนั้นก็ฟ้องพ่อเขาเป็นภาษาอังกฤษ ฟ้องว่าอากาศร้อนมาก ตอนนี้หิวมาก พี่นำจะพาไปไหนก็ไม่บอก นั่งงงตั้งนาน อยากนอนมากเลยตอนนี้ และปิดท้ายว่าคิดถึงลุงหมอ

เด็กนี่นิ่!

"ขี้ฟ้อง" เขาแอบว่า แต่น้องก็ได้ยินแล้วหันมองเขาขุ่นๆ

"ธามไม่ใช่" อาฮะ คงจะอยากพูดว่าธามไม่ได้ขี้ฟ้องสักหน่อย

ผู้นำขำนิดๆ เขาดึงด้ามกระเป๋ามาจับไว้แล้วผายมือ

"เดี๋ยวพี่พาไปห้องนอน เราอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หายร้อน แล้วลงมากินกลางวัน"

"เราไม่อาบน้ำกันหรอก อาบน้ำตัวเองได้" อื่ออ เดาว่าน้องคิดว่า -เรา-ที่เขาพูดหมายถึง we และคิดว่าต้องอาบน้ำด้วยกัน ธามนี่เพ้อเจ้อเหมือนเดิมจริงๆ

"ตามใจ อยากทำอะไรก็ทำเถอะ" เขาบอกแล้วเดินนำขึ้นไปยังชั้น 2 ห้องนอนที่เตรียมไว้ให้ธามติดกับห้องเขา ขนาดเล็กกว่านิดหน่อย พ่อบอกว่าตกแต่งบ้านเล็กตามใจเจ้าตัวเสร็จเมื่อไหร่ค่อยให้ย้ายไปอยู่

"ดูแลตัวเองนะ คิดซะว่าที่นี่คือบ้านธาม" ผู้นำบอกส่งท้ายแล้วปิดประตูให้อย่างเบามือ



บ้าน…บ้านเขาจริงๆ หรอ?
ธามหย่อนตัวนั่งที่โซฟาปลายเตียง เครื่องปรับอากาศทำงานอย่างเงียบเชียบ มันค่อยๆ ไล่ความร้อนออกจากห้องนี้ไป และดึงความเย็นเข้ามาแทนที่

เตียงนอนใหญ่โต ผ้าปูที่นอนเข้ากันกับสีม่าน สีหมอน สีผนังห้อง แม้แต่หลอดไฟเองก็ดูมีพรรคมีพวกเมื่อมีโคมไฟยืนประดับอยู่ที่มุมหัวเตียง

สิ่งเดียวที่แปลกแยก ก็คือผู้อาศัยที่ชื่อว่า นายธาม

เด็กหนุ่มถอนหายใจ เขารื้อของในกระเป๋าเพื่อคุ้ยหาเสื้อกล้ามและกางเกงยีนส์ขาดๆ ที่หน้าขา เมื่อหาเจอแล้วก็วิ่งอ้าวเข้าห้องน้ำ ตอนนี้หิวเต็มแก่ รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า รีบกินข้าวดีกว่า เขายังมีเรื่องต้องคิดอีกมาก

แกร่ก
ธามยกเท้าขึ้นจากสิ่งที่ก้าวไม่พ้น กรอบรูปที่นอนแอ้งแม้งใต้ฝ้าเท้าไม่เสียหาย เขารีบก้มลงเก็บมันขึ้นมาปัดๆ ลูบๆ แล้วทอดสายตามองพี่ชายที่เขาไม่เคยลืม แต่ก็ไม่กล้ารอ

พี่นำ
ผู้นำของผู้ตาม


ธามถอนหายใจอีกครั้ง สีหน้าเรียบตึงฉาบหน้าเขาไว้เหมือนเคย เขาโยนกรอบรูปนั้นลงกระเป๋าใบรก จากนั้นก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่ตั้งใจไว้

วิ่งตึงตังลงมาชั้นล่างเพื่อกินข้าว แต่ธามก็ต้องเคว้งเพราะเขาไม่รู้ว่ากินข้าวได้ที่ไหน ห้องชุดที่ไต้หวันนั้นแค่เปิดประตูห้องนอนออกมาก็ห้องรับแขกกว้าง และโต๊ะกินข้าวมันก็ใหญ่จนตาสะดุดด้วย

"เอ่อออ"
"ลั้นช์ ลั้นช์" เขางึมงำแล้วเกาหัวลูบท้อง นี่เขาหิวจริงๆ นะให้ตาย ไหนล่ะคนที่บอกให้รีบอาบน้ำแล้วมากินข้าว เท่านี้ก็ต้องแอบข้าวไว้ด้วย
"นำ อยู่ไหน ลั้นช์ล่ะ"

"เอะอะมะเทิ่ง แปลออกมั้ยครับ" ใครบางคนตอบโต้จากข้างบน ธามเงยหน้ามองบนบันไดกว้างที่เขาเพิ่งใช้เป็นลานวิ่ง คนแอบข้าวยืนกอดอกกดหน้ามองกันอยู่

"ธามไม่ใช่" แปลว่าอะไรไม่รู้หรอกไอ้อะอะมะเท่งอะไรนั่น ต้องเถียงไว้ก่อน ธามกอดอกสู้ และก็ต้องกอดแน่นกว่าเดิมเพื่อสู้มาดกับคนที่สูงกว่าในทุกๆ ด้าน

"หิวแล้วพาลนะธาม ห้องอาหารอยู่ทางนี้"
"ที่นี่เราอยู่กันเงียบๆ มีแค่พี่กับพ่อ ก็ลุงหมอของธามนั่นแหล่ะ อาหารจะมีแม่บ้านเขาทำไว้ เราก็มากินให้มันเป็นเวลา พวกเสื้อผ้า ก็จะมีคนเก็บไปซักรีดให้ แต่ธามก็ต้องดูแลตัวเองด้วย นะครับ"

"นำ หิวมาก" ธามย้ำอาการท้องเบาของตัวเองแล้วนิ่วหน้าให้ดู นายผู้นำจึงยอมเข้าใจแล้วพาเขาไปถึงห้องอาหารเสียที


อาหารไทยเขาเคยกิน เคยเห็น เพราะมันแพร่หลาย ในไต้หวันเองก็มีร้านอาหารไทยเยอะแยะ แต่นี่คืออะไร?

ธามดันจานข้าวที่กินจนเกลี้ยงจานแล้วออกห่าง แล้วดึงถ้วยที่มีก้อนรีๆ ป่องกลางกองกันอยู่
หอมชะมัดเลย อยากกินแล้ว มันกินได้ใช่มั้ย ต้องได้สิ ก็มันอยู่บนโต๊ะอาหาร

"ลอดช่องค่ะคุณธาม" ป้าที่ดูแลตักข้าวให้ตลอดทั้งมื้อบอก ธามทวนชื่อตาม "ลอดช่อง"

"ค่ะ หวานๆ ชื่นใจ ผลไม้ที่ใส่ไว้ด้วยนั่นแตงไทยค่ะ ลองทานสิคะ"

"แตงไทยคงเหมือนแตงโม" เขาชวนคุยและรอคำตอบ แต่ป้าแกกลับอมยิ้มแล้วเดินออกจากห้องอาหารไปเมื่อนายผู้นำพูดขึ้นว่า "ป้าจูไปพักเถอะครับ เดี๋ยวนำสอนน้องเอง" ไม่ใช่น้องแล้ว ธามเถียงในใจ

เมื่ออีกฝ่ายผายมือเชื้อเชิญ เขาก็ลองกินลอดช่องเขียวนี่ทันที และมันก็อร่อยมาก! มากจนเขายิ้มอวดลักยิ้มกับคนรอบตัวอีกครั้ง หลังจากที่ยิ้มไม่ออกมาหลายเดือน



ยิ้มแล้ว
ผู้นำมองลักยิ้มคนตรงหน้า ในหัวเขานึกย้อนไปถึงวัยเด็กของตัวเอง

ชีวิตฉันมีแต่หมาพาไป จะเดินหนใดมีหมานำ… เสียงร้องต้องเหน่อๆ ให้เหมือนต้นฉบับ เขาต้องเป็นหมาเดินนำให้น้องร้องเพลงล้อสนุกปาก

ชีวิตฉันมีแต่หมาตาม ชั้นเดินก้าวนำพาหมาเดิน… พอเขาเปลี่ยนเนื้อร้องล้อน้องบ้าง ธามก็จะโยเยไม่พอใจแล้ววิ่งมาตีเขาแปะๆ แต่สุดท้ายก็ขี่คอให้เขาพาเข้านอนอยู่ดี


"ธาม" ผู้นำเรียกเด็กหนุ่มตรงหน้า เมื่อสบตากันเขาก็ยิ้มให้
"พี่นำดีใใจนะที่ธามกลับมา"


ทว่า… รอยยิ้ม ลักยิ้มน่ารักนั้น หายไปอีกเช่นเคย



Cut


ผุดเรื่องใหม่มาค่ะ ฝากด้วยนะคะ
มีพี่หนึ่งกับเจมโผล่มานิดนึง พามาติ่งค่ะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ  :hao3:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 1 (170413)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 18-04-2013 00:32:30
เพิ่งอ่านพี่หนึ่งกับเจมจบวันนี้ พี่นำกับธามก็มาแล้ว กรี๊ด ดีใจจัง
รออ่านต่อค่า
ทำไมธามถึงเปลี่ยนไปล่ะ

ชอบประโยคที่บอกว่า พี่ชายที่เขาไม่เคยลืม แต่ก็ไม่กล้ารอ แสดงว่ามันต้องมีบางอย่างสินะ

#คิดถึง สิ จัง
555555555555
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 1 (170413)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 18-04-2013 00:51:10
มาตามอ่านพี่นำ :z2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 1 (170413)
เริ่มหัวข้อโดย: Moohwan ที่ 18-04-2013 03:00:44
ติดตามค่ะ :katai5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 1 (170413)
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 18-04-2013 10:03:24
น้องธามมมมมมมมมมมมมมม
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 1 (170413)
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 18-04-2013 10:50:59
ชอบน้องธามที่งงๆ กะภาษา  :mew1: น่ารัก
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 1 (170413)
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 18-04-2013 10:59:11
แลดูดราม่า แต่มีกลิ่นหวาน ๆ นะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 1 (170413)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 18-04-2013 18:02:18
กรี๊ดดด ดีใจ เรื่องใหม่

อีกกรี๊ดยกให้การแต่งตัวของธามเสื้อกล้ามกับยีนส์ขาดๆๆ ชอบบบ

ธามมีมุมเก่าความหลังในใจลึกซึ้งกว่าพี่นำใช่มั้ยนะ
มองรูปแล้วคิดแบบนั้น

ส่วนพี่นำความหลังเป็นความสนุกในวัยเด็ก ดูยังไม่ค่อยลึกซึ้งอะไร ต้องรออ่านต่อ

ป.ล.ทำไมบรรยายธามดูเด็ก ทั้งๆที่23-24แล้วนี่นา

รออ่านต่อนะ แล้วเดี๋ยวจะตามอ่านตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 1 (170413)
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 18-04-2013 18:14:34
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 1 (170413)
เริ่มหัวข้อโดย: drasil ที่ 18-04-2013 20:44:20
จะเป็นยังไงต่อน้อ
ที่ธามยิ้มไม่ได้ต้องมีสาเหตุแน่เลย แต่มันคืออะไรนะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 1 (170413)
เริ่มหัวข้อโดย: Riko ที่ 18-04-2013 21:07:55
ธามเป็นอะไรอ่ะทำไมไม่ยิ้มให้ผู้นำ
โกรธอะไรพี่นำอ่ะ รีบๆ คืนดีกันเถอะนะ  :z3:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 2 (200413)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 20-04-2013 00:00:33
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------



ตอนที่ 2

คืนแรกทึ่ประเทศไทยร้อนสุดๆ
ธามเดินวนรอบบ้านเพื่อหาหนังยางมัดผมเป็นจุกด้านหน้า เขานอนไม่หลับเพราะอากาศร้อนด้วย และไม่ชินสถานที่ก็ด้วย

วันนี้ยังไม่ได้เจอลุงหมอ ขัดใจเหมือนกัน แต่เขาบอกตัวเองไว้ให้อดทน อีกนิดเดียวก็จบเรื่องแล้ว
แล้ววันนี้จะไม่ได้หนังยางด้วยหรอเนี่ย แย่ชะมัด
ควรหาหนังยางจากที่ไหนดี?

"คิทเช่น" เขาให้ทางเลือกตัวเอง คิดได้ก็วิ่งปรู๊ดไปทันที

"ว้าย! ตาเถรหกค่ะคุณธาม"

"หกหก อะไรหก?" เขาถามป้าจูที่เพิ่งเจอกันวันแรก แต่ทำราวกับรู้จักเขามานาน

"วิ่งเร็วจี๋เชียว ระวังหน่อยสิคะ หน้าคะมำไปแย่นะคะ"
"แล้วเข้ามาครัว หิวหรอคะ?"

"อยากได้มัดผม ร้อน"

"โถพ่อคุณ"
"นั่งตรงนี้นะคะ เดี๋ยวป้ามัดให้" ไม่ได้ขอมากเท่านี้ซะหน่อย ธามดื้อยืนตัวแข็งไม่ขยับนั่งดังคำบอก เขามองป้าจูก้มๆ เงยๆ แล้วก็ชูสิ่งที่เขาต้องการขึ้นอวด

"พอได้มั้ยคะ"

"มันมัดผมได้ใช่ไม่ใช่"

"ค่า นั่งเถอะค่ะ เมื่อเล็กก็วิ่งวุ่นวายแบบนี้"

เมื่อเล็ก… ธามพยักหน้าเข้าใจความหมายว่าเมื่อเล็กคือตอนเด็ก
เขายู่ปากแล้วคิดถึงเรื่องตอนเด็ก เขาชอบวิ่งเล่นกับพี่นำ แต่เขาไม่ได้เล่นกับพี่นำทุกวัน ก็เลยต้องเล่นให้คุ้มเวลาเจอกันแต่ละที

พี่นำใจดี ขออะไรก็ให้ ถามอะไรก็ตอบ ไม่โกรธธาม ไม่รำคาญธาม ธามชอบพี่นำเป็นพิเศษ แต่พี่นำคงไม่ได้ชอบธามเป็นพิเศษ ไม่อย่างนั้นคงไม่ทิ้งธามไปเหมือนคนอื่นๆ

"ใครเขาจะต้องการเด็กไม่มีพ่อมีแม่อย่างแก เจ้าธาม" เขาจำความรู้สึกเจ็บจุกในอกตอนได้ยินคำพูดนี้ได้ดี
"ตัวซวย อยู่กับใครก็พากันตายหมด"
"พี่ณาระวังตัวไว้ก็ดี รับมันเป็นลูก เดี๋ยวก็ซวย ตายไม่รู้ตัว"
แล้วป้าณาก็ตายจากไปจริงๆ

คงถูกของผู้ชายคนนั้น ธามเป็นตัวซวย

"เสร็จแล้วค่ะ พอได้มั้ยคะ" ป้าจูลูบหัวเขาเบาๆ แล้วยิ้มให้ แกเงยมองหน้าเขาเมื่อเขาสะดุ้งแล้วลุกขึ้นยืน ธามไม่กล้ายิ้มให้ เขาทำได้แค่ดึงหนังยางออกจากหัวแล้วคืนให้

"รับไม่ดีหรอก ไม่เอาแล้ว" ธามพูดเท่านี้ก็วิ่งกลับห้อง เขารู้สึกเสียใจที่ไม่ได้ฝึกใช้ภาษาไทยจนเข้าใจกว่านี้ จะได้พูดคำที่มันตรงความรู้สึกได้ดีกว่านี้ ป้าจูจะได้ไม่ทำหน้าแบบนั้น



ทั้งที่ในห้องนี้แอร์ก็เปิด แต่มันก็ยังรู้สึกร้อน ธามฮึดฮัดก่อเสียงตึงตังระบายความหงุดหงิด เขาไม่คิดว่ามันจะไปกวนใครเข้า

ปัง ปัง ปัง!
"ธาม! ธาม เปิดประตู"

เสียงเคาะประตูดังลั่นทำให้ธามตกใจและรีบวิ่งไปเปิดประตูตามคำสั่ง คนที่มาเคาะขู่กันก็คือพี่นำหน้าดุ

"เราเป็นอะไร?"

"หือ? เอ่อ บราเธอร์"
"พี่กับน้องกัน"

"พี่หมายถึงธามน่ะ เป็นอะไร ทำไมในห้องเสียงดังโครมคราม มีอะไรรึเปล่า"

"นอทธิง"

"ภาษาไทยครับ"

"ไม่รู้ทุกพูด จะเข้าใจไม่หมดเหมือนกัน"

"แต่พี่ไม่ชอบ"

"ไม่อยากให้คุณชอบด้วยเหมือนกัน!" I don't like you either! อยากจะต่อความตามถนัด แต่สายตาดุกว่าเดิมทำให้ธามทำได้แค่กอดอกยืดตัวสู้เท่านั้น

"ทำไมไม่น่ารักเลย ทั้งที่เคยเป็นเด็กดีของพี่แท้ๆ"

"I've got nothing to say!"
"At all!" ธามทำหน้าบูดใส่แล้วจะปิดประตูห้อง แต่พี่นำกลับกางแขนดันประตูไว้ ธามถอนหายใจใส่หน้าแล้วขบเคี้ยวปากไปมา ยึดหลักในใจว่า ไม่ยอม ไม่ยอม

"เข้าห้องไปนอน"
"เร็ว พี่บอกให้นอนไงครับธาม"
"เราไม่ใช่เด็กแล้วนะ พูดต้องรู้ฟัง"
"หลับซะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน"
"Now!"

ก็ได้! ธามยกนิ้วกลางให้แล้ววิ่งไปกระโดดทุ่มตัวลงเตียง เขานอนหงายแผ่หลาท้าอากาศ แต่แล้วเตียงก็ยวบลงจนเขาสะดุ้ง

"นำ…"

"จนกว่าธามจะหลับ"
"พี่จะดูเอง"



"พี่นำจะนอนรึยัง ธามยังไม่หลับนะ ยังไม่หลับเลย"
"ให้ธามหลับก่อนนะ"
"ป้าณาให้ธามนอนคนเดียว ธามยังไม่อยากเก่ง ไม่อยากนอนคนเดียว"
"พี่นำ พี่นำ ตอบก่อนสิ หลับแล้วหรอ อย่าเพิ่งสิพี่นำ"

"อื้ออออออออ"


ตอนนั้น พี่นำอื้อยาวๆ แล้วกอดธามไว้ทั้งตัว
แล้วตอนนี้ล่ะ?


"มองหน้าพี่นำทำไมครับ" พอโดนทักธามก็หันหน้าหนี เขาลุกขึ้นนั่งบนเตียงพลางกระพือเสื้อกล้าม จากนั้นก็ยอมพูดให้อีกฝ่ายรู้ที่มาที่ไป

"ร้อน นอนไม่ได้ ไปหายางมัดผม ป้าจูทำให้แต่ไม่เอาแล้ว ไม่อยากต้องซวย แล้วนำก็มาสั่ง"

"พี่ไม่ได้สั่ง พี่ได้ยินเสียงโครมคราม คิดว่าเรา หมายถึง คิดว่าธามเป็นอะไร อาจล้มหรืออะไร เลยมาดู"
"แล้วอยู่ที่นี่ เมืองไทย ควรพูดภาษาไทยนะครับ ผิดถูกก็สอนกันใหม่ได้"
"ทีนี้ก็นอนได้แล้ว ห้าทุ่มแล้ว"

"แต่ร้อน"

พอเขายืนยัน พี่นำก็ขมวดคิ้วแล้วเดินไปดูที่แอร์ รีโมทบนผนังถูกหยิบมากดดู และเขาก็ได้คำตอบ พี่นำยิ้มมุมปากแล้วบอกเขาว่า

"ธามครับ มันตั้งไว้ 27 องศา ไม่ร้อนก็ไม่ใช่คนแล้ว"

"ธามไม่ใช่!" เขาหมายถึงธามไม่รู้นี่ ธามหน้าเจื่อนไปนิด แล้วก็ทิ้งตัวลงนอนหลังจากบอกความต้องการว่า " 23 องศา"


เตียงยวบลงอีกครั้ง ครั้งนี้ธามไม่ได้หันมอง เขาผ่อนลมหายใจแล้วหลับตา มืออีกฝ่ายวางลงตรงหน้าผากและหัวเขา นิ้วอีกฝ่ายกดน้ำหนักขึ้น-ลงแผ่วเบา

เสียง ที่จำได้แม้ไม่ได้ยินมานาน บอกเขาว่า "หลับนะเด็กดี พี่นำอยู่นี่แล้วครับ"


---------------


ธามนอนดิ้นกว่าที่หนึ่งเสียอีก
หมอนำบิดเอี้ยวตัวแก้เมื่อย เมื่อคืนเขาผลอยหลับตามธามไป ตีสองกว่าๆ ก็สะดุ้งจากการโดนขาฟาด หมาธามเอ้ย! เขามองคนดิ้นจนนอนขวางเตียงแล้วขำเบาๆ จากนั้นก็ปิดไฟให้แล้วกลับไปนอนห้องตัวเอง

ก่อนออกจากห้อง ผู้นำมองสำรวจห้องที่มีเจ้าของกะทันหัน ทุกอย่างเหมือนเดิม มีแค่กระเป๋าเดินทางใบใหญ่เท่านั้นที่เพิ่มเข้ามา

ธามแทบไม่ได้เอาอะไรออกจากกระเป๋าเลย เด็กขี้เกียจ
หรือบางที ที่ไม่รื้อใช่ว่าขี้เกียจ แต่อาจคิดว่าไม่จำเป็น

ผู้นำยอมรับว่าน้องดูไม่เปลี่ยนไปมาก แต่น้องมีอะไรบางอย่างที่เก็บงำไว้ในใจ
เขาคิดว่าเขาต้องคุยกับพ่อเรื่องธามให้ละเอียดกว่านี้ หากจะให้เขาช่วยดูแลน้อง เขาก็ต้องรู้จักน้องลึกยิ่งขึ้น

7 โมงครึ่ง เวลาอาหารเช้า เวลาเจอพ่อ
ผู้นำเร่งแต่งตัว เขาออกจากห้องแล้วแวะดูธามก่อน รายนี้ยังไม่ตื่น คนบ่นร้อนนอนขดตัวคลุมโปง แต่ปลายเท้าโผล่ออกมาอวดความขาว กระดูกนี่คงเลือกหยิบเบอร์เล็กสุดมาแน่ๆ ผอมจริง

ผู้นำมุ่งตรงมายังห้องอาหาร ท่าทางเขาคงรีบกว่าปกติ ป้าจูถึงได้ทักถามว่า "วันนี้งานด่วนหรอคะ ดูรีบๆ ป้าให้ลุงเผือกเตรียมรถ

"เปล่าครับ มีธุระคุยกับคุณพ่อ" ผู้นำตอบแล้วคลี่ยิ้มให้ เขามีนิสัยชอบทำให้คนรอบตัวสบายใจมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ป้าจูยิ้มตาม แล้วก็เหลียวหน้าแลหลังเลิ่กลั่ก

"คุณธามล่ะคะ"

"ยังไม่ตื่นครับ อืม อีกเดี๋ยวป้าขึ้นไปปลุกที ไม่ต้องรีบก็ได้ ขอผมคุยกับคุณพ่อเสร็จก่อน"

"ค่ะ"

จบเรื่องเขาก็เดินจาก ห้องอาหารคือที่หมาย และยังไม่ทันเจอหน้ากันเต็มตา พ่อเขาก็ลากเข้าเรื่องที่เขากำลังสนใจทันที

"นำ มาแล้วก็ดี เจ้าธามเป็นยังไงบ้าง พ่อล่ะห่วง อาการป่วยมันชัดขึ้นทุกวี่วัน นี่ประวัติรักษา แล้วนี่เรื่องของน้าวีณาเขา พ่อว่ามันเกี่ยวกัน กำลังคุยกับทนายอยู่ จะให้มาอยู่กับเรา ใช้นามสกุลวตคุปต์ของเรา ก็ในเมื่อทางนั้นเขาชัดเจนมาตั้งแต่เจ้าธามเด็กๆ แล้วว่าไม่สนใจใยดี มีแค่น้าวีณาที่รักธาม เสียน้าไป น้องก็ไม่เหลือใครแล้ว"

เขาเบลอๆ ตั้งแต่พ่อพูดว่าน้องป่วยแล้ว ผู้นำขมวดคิ้วแล้วนั่งลงเพื่อพลิกดูแฟ้มบันทึกการบำบัดทางจิต
ธามป่วยหรอเนี่ย มิน่า สิ่งนี้นี่เองที่ทำให้เขารู้สึกได้ว่ามีอะไรมาขวางระหว่างเขากับธาม

อาการป่วยของน้อง เท่าที่เขากวาดตามองเอกสารการรักษา รู้สึกว่าจะไม่หนักหนานัก ยังไม่ถึงขั้นการหลั่งสารที่สร้างภาพหลอนหรือการสร้างกลไกป้องกันทางจิตที่หนาแน่นจนไม่ใช่สามารถใช้ชีวิตขนานกับโลกได้

ที่น้องเป็น ก็แค่อาการซึมเศร้าที่หมอที่นั่นรักษาด้วยการให้ยานอนหลับ เพื่อให้ร่างกายได้พักจากการคิดเคร่งเครียดเกินจำเป็น

“ไม่เห็นบอกสาเหตุนี่ครับ”

“เห็นว่าเจ้าตัวไม่พูด ที่ยอมไปหาหมอนี่ก็เพราะว่าหน้ามืดระหว่างเดินทาง ถึงได้โดนเช็คโดนสอบประวัติ”
“น้าเขาบอกพ่อบ่อยๆ ว่าโตมาแล้วเจ้าธามไม่ค่อยร่าเริง ไม่ค่อยบอกว่ารู้สึกยังไง หรือต้องการอะไร น้าเขาก็เลยใช้วิธีประเคนให้ทุกอย่างที่คิดว่าหลานอยากได้ ก็ไม่รู้ตอบโจทย์รึเปล่า”

“แล้วพ่อคิดจะรับผิดชอบธามจริงจังแค่ไหนครับ”

“พ่อจะรับเจ้าธามเป็นลูกบุญธรรม แต่มันติดที่เขายังเหลือญาติทางพ่อเขา”

“แต่ทางนั้นไม่รักธามนี่ครับ”

“ใช่ พ่อก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าเจ้าธามมันเหลือแต่ตัว แต่นี่มันก็มีสมบัติที่น้าวีณาเขายกให้ ทุกอย่างที่เป็นของเขา เขาก็ให้หลานหมด”

“อืม มิน่า ถึงต้องมีทนาย” ผู้นำพยักหน้าทำความเข้าใจ เขาขมวดคิ้วอีกนิดแล้วถามเพิ่ม
“แล้วธามรู้เงื่อนไขตัวเองมากน้อยแค่ไหนครับ”

“ยังไม่รู้อะไรเลย พ่อไม่ได้บอกเรื่องรับเป็นบุตรบุญธรรม เรื่องสมบัติก็ไม่รู้ เรียนก็ยังไม่จบดี ปีสุดท้ายแล้ว แต่ก็เกิดเรื่องกับน้าวีณาซะก่อน พ่อเลยติดต่อให้กลับมาที่นี่ บอกแค่ว่าพ่อคิดถึง อยากเจอเท่านั้นแหล่ะ”

“แต่ธามก็รู้ใช่มั้ยครับว่าไม่มีน้าวีณา เขาก็ไม่มีใครแล้ว”

“อื้อ รู้” ผู้นำพยักหน้าอีกหน จากนั้นก็หยิบข้อมูลของน้าวีณาขึ้นมาพลิกๆ ดู เขานิ่วหน้าอีกครั้งแล้วเงยหน้ามองพ่อตัวเองอย่างประหลาดใจ

“ฆาตรกรรมหรอครับ?”

“อืม คนที่น่าสงสัยก็ไม่ใช่คนไกลเลย ญาติทางพ่อเจ้าธามนั่นแหล่ะ”


โธ่ ธามเอ้ย
ผู้นำเหนื่อยแทนธามจนหมดคำพูด เขาไม่รู้ว่าจิตใจน้องเข้มแข็งแค่ไหน ไม่รู้ลักษณะนิสัย แต่แค่รู้ว่าป่วยเป็นโรคซึมเศร้า รู้ว่าโตมาแล้วไม่ค่อยร่าเริง เขาก็คิดว่าตัวเองพอจะรับมือกับน้องได้

“นำ”

“ครับพ่อ”

“พ่อฝากน้องได้มั้ย? นำรับน้องไว้เป็นธุระได้รึเปล่า”

“ได้สิครับ” เขาตอบพลางยิ้มให้ แต่พ่อกลับมองหน้าเขาจริงจัง แล้วถามเขาตรงๆ

“นำรู้รึเปล่าว่าการดูแลใครซักคน ต้องใช้อะไรบ้าง”

“ก็...ทั้งหมดที่จำเป็น”

“แล้วให้น้องได้รึเปล่าล่ะ ถ้าต้องใช้ทั้งชีวิต”

“..........” ผู้นำไม่ได้ตอบอะไร เขามองหน้าพ่อนิ่งๆ แล้วยิ้มให้ จากนั้นก็เริ่มต้นกินข้าวเช้าอย่างไม่รีบร้อนนัก ไม่นานธามก็วิ่งตึงตังเข้ามา พอเห็นลุงหมอที่รักเท่านั้นแหล่ะ ธามก็กลายเป็นเด็กชายคนหนึ่งที่กอดพ่อเขาไว้แน่น แล้วก็จ้อภาษาอังกฤษใส่ราวกับเป็นเพื่อนวัยเดียวกัน


ลุงกับหลานเขาผูกใจกันเร็วจนผู้นำไม่มีโอกาสได้พูดแทรกอะไร เขาทำได้แค่นั่งฟังแล้วหัวเราะเรื่องโม้ของธามบ้างบางครั้ง ฟังไปเรื่อยๆ ก็ชักจะสงสัยว่าทำไม เวลาอยู่กับเขาถึงไม่ยิ้มแบบนี้บ้าง

“เอาล่ะ ลุงต้องไปทำงานแล้ว ธามอยู่บ้านทำอะไรดี? หาที่เรียนต่อ หรือยังไง อยากทำอะไร บอกสิ”

“อยากทำหลายอย่าง แต่อยากคุยกับลุงหมอกว่านี้ มีเวลากับธามอีกมั้ย เรื่องจริงจัง”

“หือ?” ผู้นำเองก็สงสัยเหมือนพ่อที่ถึงกับส่งเสียงหือหาออกมานอกลำคอ
“อะไร มีอะไรจริงจัง พูดเลยก็ได้”

“ธาม จะกลับมาอยู่เมืองไทย”
“แบบลำพัง”




ผู้นำหันขวับไปมองหนุ่มน้อยที่เคยเป็นเด็กชายเดินตามเขาต้อยๆ ธามหันมองหน้าเขาครู่เดียวก็กลับไปจ้องพ่อเขาต่อ จากนั้นก็พูดย้ำสิ่งที่เขาไม่คิดจะปล่อยให้ทำตามใจเด็ดขาด


“ธามจะอยู่ด้วยตัวเอง ลุงหมอไม่ต้องเทคแคร์ ธามไม่อยากเป็นภาระใครอีก”



“ไม่ได้” จู่ๆ เขาก็โพล่งสิ่งที่คิดออกไป ผู้นำลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปจับบ่าคนที่เคยเรียกเขาว่าพี่เอาไว้ แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังที่สุด

“จากนี้ไป ธามคือธุระของพี่ ไม่ใช่ภาระ ธุระ”
“ธุระแปลว่า เรื่องที่พี่ต้องดูแล จนกว่าพี่นำจะไม่สามารถดูแลธามได้อีก”



ดวงตาใสแต่แววตาหมองช้อนมองเขา แววตาธามสั่นน้อยๆ คิ้วขมวดเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง ไม่นานก็ปัดมือเขาออก แล้วก็พูดตรงๆ

“ธามไม่ต้องการนำ”



Cut


แฮะๆ เครียดกันมั้ย? เครียดนิดหน่อยเนอะ ไม่เป็นไรหรอก นิดเดียวเอง

 :katai1: :katai1:

หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 2 (200413)
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 20-04-2013 00:58:34
หนีใจตัวเองไม่พ้นหรอกธาม 55555
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 2 (200413)
เริ่มหัวข้อโดย: Moohwan ที่ 20-04-2013 01:12:53
สงสารธาม คงจะฝังใจว่าตัวเองเป็นตัวซวย  :hao4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 2 (200413)
เริ่มหัวข้อโดย: gumrai3 ที่ 21-04-2013 01:02:50
 :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 2 (200413)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 21-04-2013 02:59:13
"แล้วให้น้องได้รึเปล่าล่ะ ถ้าต้องใช้ทั้งชีวิต”
คุณพ่อพูดอย่างนี้ ถูกใจสุดๆเลยค่า555 กรี๊ดมาก

“ธุระแปลว่า เรื่องที่พี่ต้องดูแล จนกว่าพี่นำจะไม่สามารถดูแลธามได้อีก”
พี่นำพูดแบบนี้ราวกับเห็นอนาคตมั้ยนะ ฮี่ๆๆ

ธามคงกลัวว่าตัวเองจะเป็นตัวซวยสินะ น่าสงสารจัง พี่นำเกลี้ยกล่อมดูแลดีๆนะคะ

รออ่ารต่ออยู่น้า ธามน่ารัก!
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 2 (200413)
เริ่มหัวข้อโดย: thesilkmai ที่ 23-04-2013 23:17:37
ธามเทคแคร์พี่นำสุด ๆ  :katai1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 2 (200413)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 24-04-2013 01:56:48
หนุก ๆ เอาอีก ๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 2 (200413)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 24-04-2013 07:25:55
เอาน่า อยู่ระหว่างปรับตัวและปรับความเข้าใจ  :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 2 (200413)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 24-04-2013 08:05:45
น้องธาม น่าสงสารและน่าเอ็นดู  :กอด1:
พี่นำดูแลน้องให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 2 (200413)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 24-04-2013 11:23:31
พี่นำสู้ๆ ช่วยธามให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 2 (200413)
เริ่มหัวข้อโดย: xeruoh ที่ 24-04-2013 11:44:46
โห สงสารธามอ่ะ
อย่าคิดมากเลย
แต่ก็นะ จะให้ไม่คิดก็ไม่ได้
แต่มีอะไรก็พูดออกมาบ้างเถอะ พ่อคุณ

รอติดตามตอนต่อไปค่ะ  :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 3 (260413)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 27-04-2013 00:23:28
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 3



-ธามไม่ต้องการนำ -


แล้วก็ไม่ได้พูดกันให้รู้เรื่อง
ผู้นำคร้านจะตื๊อต่อ ธามก็เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง คิดห่วงไปมาก็พาลหงุดหงิด ผู้นำตัดสินใจไปทำงานแต่ไม่ลืมย้ำคำพูดกับน้องอีกครั้ง ด้วยคำเดิม

"พี่เป็นผู้ปกครองธามนะ" เขาไม่ได้สื่อความผิดไป การที่พ่อขอให้เขารับธามเป็นธุระ ก็คือการขอให้เขาเป็นผู้ปกครองธาม และแม้เขาจะไม่ใช่คนเผด็จการ ไม่ชอบวางอำนาจเหนือใคร ผู้นำก็ไม่คิดว่ามันผิดหลักการไปนักกับการบังคับธาม และรีดเร้นความรี้นออกจากนิสัย นิดหน่อยก็ยังดี

เขาออกจากบ้านไปทำงานในตอนสายหน่อย ก่อนออกมาสั่งความกับป้าจูไว้แล้วว่าให้ดูน้องไว้ อยากได้อะไรให้จัดหาให้ แต่อย่าให้ธามออกไปไหนเด็ดขาด

เขาไม่ได้ระแวงมากไป แต่หนุ่มน้อย 20 ต้นๆ มักเลือดแรง และธามเองก็ไม่ใช่เด็กปกติที่พูดรู้ฟัง ผู้นำหวังว่าตัวเองจะมองน้องในแง่ร้ายไปนิด

----------------

ไม่อยู่หรอก เดี๋ยวจะตายจากกันไปอีก
ถ้าการอยู่กับคนที่รักที่ชื่นชอบ หากการมีความสุขแบบนั้นมันทำให้ฝ่ายที่ธามรักจากไปเสมอ เขาก็เลือกไม่มีความสุขดีกว่า เขาไม่ชอบเป็นตัวซวยของใคร

ลุงหมอก็ด้วย พี่นำก็ด้วย แค่ทั้งคู่ยังอยู่ให้คิดถึง แม้ต้องอยู่ห่างๆ พวกเขาไว้  ไม่ข้องแวะด้วย ธามก็จะยอมทำ

เสียงเงียบไปนานแล้ว พี่นำคงเบื่อจะพูดด้วย ก็ดีเหมือนกัน ธามจะได้เบื่อด้วย
เขาเดินมาแนบหูกับประตู ครู่เดียวก็ค่อยๆ เปิดประตูออก ไร้เงาคนที่ก่อเสียงไว้เมื่อครู่อย่างที่คิดไว้
ธามถอนหายใจ จากนั้นก็วกกลับเข้าห้อง เขาดูกระเป๋าเงินตัวเอง ยังไม่ได้แลกเงินไทย บัตรเครดิตก็ไม่อยากใช้ ไม่อยากยุ่งกับเงินของป้าวีณา ไม่อยากให้ใครมาด่าปาวๆ อีกว่าเป็นปลิงดูดเลือด

ช่างเถอะ มีแค่ไหนก็อยู่แค่นั้น มันต้องมีทางรอดสิ!
เมื่อตัดสินใจเด็ดขาด ธามก็ลากกระเป๋าเสียงดังกึกๆ ออกจากห้องทันที

"จะไปไหนคะคุณธาม คุณนำเธอเป็นห่วงนะคะ บอกป้าหรือลุงเผือกก็ได้ค่ะว่าอยากได้อะไร เดี๋ยวไปหามาให้"

พี่นำอีกแล้ว…ห่วงบ้าอะไร ควบคุมไว้ต่างหาก!
เขามุ่ยหน้าใส่ป้าจู แต่พอเห็นแกหน้าเจื่อนลง ธามก็แตะแขนแล้วพูดด้วย
"ขอกินขนมหน่อยได้ไม่ได้ หวาน ธามชอบ"

"ได้สิคะ ป้าทำน้ำแข็งใสผลไม้ให้ดีกว่า ดับร้อนด้วย อารมณ์ดีแล้วจะได้คุยกับคุณนำดีๆ"

ธามคิดว่าระดับความเบื่อชื่อพี่นำต้องมากกว่าที่พี่นำเบื่อธามแน่ๆ


การอยู่คนเดียวเงียบๆ มีป้าจูมาแวะเวียนถามว่าอยากได้อะไรรึเปล่า และมีพี่นำโทรหาทุกๆ 2 ชั่วโมงทำให้ไม่เหงา อย่างน้อยหูกับปากก็ทำงานมากกว่าวันที่เคยอยู่คนเดียวในอดีต

รอบที่โทรมาเมื่อกี้ พี่นำพูดถึงบ้านเล็กที่ธามเคยอยู่ แม้จะแค่ 3 ปีที่อยู่เป็นน้องชายพี่นำ แต่ธามก็ยังจำช่วงเวลาเหล่านั้นได้ คิดแล้วก็อดอยากเข้าไปสำรวจดูไม่ได้ พอความอยากรู้อยากเห็นเกิดขึ้นมาแล้ว ธามก็ตามหาป้าจูเพื่อบอกว่าจะเข้าไปในบ้านเล็ก “เลิกล็อคประตูให้ที” และธามก็ได้ตามที่ต้องการ

เขาไม่รู้ว่าเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนสีซีดลง ซ้ำไม่รู้ด้วยว่าโต๊ะหน้าทีวีนี้เปลี่ยนไปหรือไม่
แต่บรรยากาศของบ้านนี้ยังเหมือนเดิม แสงจากประตูบ้านส่องส่งธามเล็กน้อยตอนที่ผลักให้มันเปิดอ้ากว้างๆ เขากวาดตามองเพื่อหาสวิตซ์ไฟ พอเจอก็เดินไปเปิด

หลอดไฟขดกลมที่มีกรอบครอบไว้อีกทีกระพริบ 2-3 ทีก็ดับตัวลง ธามมองมันเซ็งๆ แต่ก็ไม่ลดความต้องการเยี่ยมชมบ้านลง เขายิ้มกว้างแล้ววิ่งไปจับรถบังคับมาพลิกไปมา

“นี่ของธาม” เขางึมงำคนเดียวแล้วก็อมยิ้ม แม้จะของเล็กของน้อย แต่เขาก็มีความสุขที่ได้พูดเต็มปากว่าเป็นของเขา เพราะที่ผ่าน เขาไม่มีอะไรเป็นของตัวเองเลย

ทุกอย่างมีแต่ของที่มาแทนที่ คนที่มาแทนที่
ความรักของป้าวีณาที่แทนที่พ่อกับแม่ไม่เคยได้ เงินป้าวีณาที่แทนที่ความรักของป้าก็ไม่เคยได้เหมือนกัน

แค่นี้ก็ดีใจได้แล้ว แค่รถบังคับที่เคยเป็นของเขาก็น่าดีใจมากแล้ว

ธามเดินสำรวจไปเรื่อย อะไรที่พอจะไปแคปชั่นภาพจำของตัวเองเขาก็จะหยิบจะจับขึ้นดู ตอนนี้ที่ถือไว้เต็มมือก็คือของเล่นตอนเด็ก รูป ของใช้ที่เขาขาดมันไม่ได้อย่างหมอนเน่า

“หอบฟางบ้า” คิดว่าน่าจะใช้วลีนี้อธิบายสภาพตัวเองในตอนนี้ ป้าวีณาเคยใช้คำนี้ตอนเห็นแม่บ้านซื้อของเข้าบ้านที่ไต้หวัน ธามคงไม่ได้จำผิด รู้แบบนี้ไม่ดื้อกับป้า และพูดภาษาไทยเยอะๆ กับป้าเสียก็ดี

ห้องต่อไปที่อยากเจออีกก็คือห้องนอนของธาม
เขายิ้มสนุกอวดลักยิ้มแล้ววิ่งรี่ขึ้นไปยังชั้น 2 ทันที

ขึ้นมาจะเจอประตูห้อง 3 ห้อง อวดหน้าเข้าหาบันไดในสัดส่วนครึ่งวงกลม ขึ้นพ้นบันไดมา ด้านขวาจะมีมุมโซฟาชุดเล็ก สำหรับป้าวีณานั่งอ่านหนังสือพิมพ์และจิบกาแฟ รอธามอาบน้ำเสร็จและสะพายกระเป๋าเตรียมไปโรงเรียน

“ตัวยุ่งนี่เสร็จดีรึยัง ไม่ลืมอะไรแน่นะธาม”

ถ้าเป็นไปได้ ธามอยากได้ยินเสียงป้าอีก อยากได้ยินไปนานๆ
จู่ๆ ธามก็น้ำตาคลอ เขาไม่ชอบเป็นคนอ่อนแอ เอะอะก็ร้องไห้ เอะอะก็ว่าคนอื่นว่ามาทำร้าย ตอนเด็กเขาอาจจะปกป้องตัวเองไม่ได้ จึงทำได้แค่ลี้ให้ห่างจากเสียงจากคำพวกนั้น แต่เขาโตแล้ว ตอนนี้ธามโตแล้ว ธามจะไม่หนีและจะไม่อ่อนแอเด็ดขาด

แต่ตอนนี้น้ำตาไหล เช็ดก่อนก็แล้วกัน

ฟึดฟัดอยู่คนเดียวไม่นาน ธามก็เดินเข้าห้องนอนตัวเอง
เขาคงกลายเป็นคนบ้าไปแล้ว เมื่อกี้ยืนน้ำตาคลอ ตอนนี้ยืนยิ้มเหงือกแห้ง
ห้องนี้ยังเหมือนเดิม ผ้าปูที่นอนลายไอ้แมงมุมที่ธามชอบก็ยังอยู่ สีอาจซีดลงตามกาลเวลาบ้าง แต่มันสำคัญที่ว่า ของของธาม ก็ยังเป็นของของธาม แม้ว่าธามจะอยู่บ้านนี้แค่ 3 ปีก็ตาม

ลุงหมอใจดีที่สุด พี่นำก็ใจดีแบบรองลงมา

ชื่นชมความคงสภาพจากสถานที่ที่ไม่คาดหวังว่าจะได้กลับมาอีกเสร็จแล้ว ธามก็กระโดดขึ้นเตียงทันที เขาได้กลิ่นฝุ่นนิดๆ จามด้วย แต่ช่างเถอะ สำหรับธามในตอนนี้ กลิ่นฝุ่นที่สะท้อนถึงกาลเวลาที่ไม่มีวันย้อนกลับนั้น...หอมมาก

เขาซุกหน้าลงหมอน เตะขาดีดผ้าห่มขึ้นคลุมตัวเองเอาไว้ทั้งที่อากาศอบอ้าว ธามหลับตาอมยิ้มแล้วจมตัวเองดิ่งลงห้วงความทรงจำที่เขาไม่เคยลืม แม้จะไม่ได้ตั้งใจจดจำก็ตาม


----------------


ผู้นำเอนหลังพลางหลับตาผ่อนคลาย
หมดนัดคนไข้แล้วประจำแล้ว แผนกเขาก็ไม่ค่อยมีขาจรมาเสียด้วย หรือถึงมีเคสจริง ก็มีหมอประจำคนอื่นอยู่แล้ว เขามองนาฬิกาแล้วเกิดอุปมาว่าหิวทันที ก็นี่มัน 6 โมงเย็นกว่าแล้ว

ถ้าเป็นวันอื่น เขาแวะหาอะไรกินระหว่างทางรองท้องก่อนก็ได้ แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปสถานการณ์มันเปลี่ยนแล้ว เขาไม่ได้ตัวคนเดียวอีกต่อไป

ผู้นำคว้าโทรศัพท์ส่วนตัว โทรศัพท์ทำงานและกุญแจรถและทะยานออกจากห้องทันที

“ป้าจูครับ ผมกำลังกลับครับ แต่ถ้าน้องหิวก็จัดข้าวเย็นให้ก่อนเลยครับ”
“หือ? อะไรนะครับ? ธามหายไป!”

เวรแล้วมั้ยล่ะ!
ทำไมเขาถึงไม่คิดอะไรพลาดไปเสียบ้าง แบบนี้ไปเป็นหมอดูให้หวยน่าจะรุ่ง ผู้นำขับรถอย่างรีบร้อน เขายังไม่ได้โทรบอกพ่อ เพราะไม่อยากให้ต้องกังวลใจ ลำพังเรื่องจัดการเอกสารทางกฎหมายเรื่องเกี่ยวกับธาม เขาก็เชื่อว่าพ่อยุ่งขึ้นเยอะมากแล้ว



อาการหวาดในอกมาเยือนเขาทันทีที่เปิดประตูห้องเข้ามาแล้วพบว่าคำพูดป้าจูไม่ได้ผิดเพี้ยนไปสักนิด ธามไม่ได้อยู่ในห้อง ข้าวของส่วนตัวยังอยู่ แม้แต้กระเป๋าสตางค์ก็แอ้งแม้งอยู่กลางเตียง เขาหันมองป้าจูที่หยุดปลายเท้าไว้ที่ปลายห้อง สีหน้าป้ากังวลจนเขาเย็นใจไม่ได้

"โธ่! คุณธาม จะเป็นตายร้ายดียังไงคะเนี่ย"

"ป้าครับ ธามหายไปตอนไหนครับ เห็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่?" ผู้นำถามเสียงเครียด เขากอดอกครุ่นคิดถึงสถานที่ที่น้องจะไป ซึ่งนอกจากบ้านเดิมของคุณน้าวีณาแล้ว เขาก็คิดถึงที่อื่นไม่ออก

แต่ธามจะไปที่นั่นหรือ? จำได้ว่าน้องไม่ชอบใครสักคนที่นั่น

"คุณธามทานมื้อเที่ยงก่อนค่ะ ลากกระเป๋าลงมา พอป้าทักก็ทานข้าวแล้วเอากระเป๋าไปเก็บบนห้อง"

"แล้วจากนั้นล่ะครับ"

"ค่ะ เธอมาบอกให้ป้าเปิดบ้านเล็ก ป้าก็เปิดแล้วไปทำงาน ตกเย็นก็ไปเรียก แต่เธอก็หายไป ป้าเลยโทรหาคุณนำ"

"บ้านเล็ก" ผู้นำพึมพำ เขากัดปากระหว่างใช้ความคิด จากนั้นก็ผลุนผลันออกจากห้องธามไปทันที


ไม่น่าจะหายไปหรอก แต่ที่ไม่ขานรับคำป้าจู ก็เพราะไม่อยากตอบ หรือไม่ก็ตอบไม่ได้ เขาขอให้เป็นอย่างแรกเถอะ
วิ่งมาไม่ทันเหนื่อย  ผู้นำก็มาหยุดตรงหน้าบ้านเล็กที่อยู่ใกล้ๆ แต่ไม่เคยเข้ามาสัมผัส

เขาเปิดประตู และพบเพียงความมืด เขาไม่นึกหวาดสักนิดเพราะรู้ดีว่าบ้านเล็กไม่ได้ใช้สอยมาร่วมสิบปีแล้ว ผู้นำลองเรียก แต่ก็ได้ยินเพียงเสียงก้องของตัวเอง

"ธาม ธามครับ"
อ้อน"น้องธาม ธาม"

ไม่มีใครตอบกลับ ผู้นำถอนหายใจ เขาล้วงโทรศัพท์ที่ติดตัวจนเป็นนิสัยมากดขอยืมความสว่าง หน้าจอที่จ้าแสงไม่ทำให้บ้านทั้งหลังได้รับแสงเท่าที่ควร แต่เขาก็อาศัยแสงน้อยนิดนี้เดินสำรวจภายในบ้าน ตามมุมที่เขาพอจะจำได้ว่าที่ไหนกว้างพอน้องจะซ่อนตัว

"ธามครับ" ผู้นำเรียกอีกระหว่างเดินหามั่วๆ ในครัวไม่มี หลังบ้านที่เป็นสวนก็ไม่มี ห้องน้ำไม่มี
"ธาม นี่พี่นำนะ ธามครับ ธาม"

ข้างบน…

ผู้นำแหงนหน้าตามความคิดตัวเอง จากนั้นก็เดินก้าวขึ้นบันไดไปอย่างเร่งรีบ
เขาก้าวพลาด สะดุดบันไดอยู่ 2-3 ครั้ง แต่ก็ขึ้นมาหยุดที่หน้าห้องห้องหนึ่งในที่สุด
จำได้ว่าตอนธามอยู่บ้านนี้ น้องนอนห้องนี้ เด็กชายธามไม่ชอบนอนคนเดียว ชอบมาอ้อนให้พี่นำมานอนด้วยก่อน ธามหลับแล้วค่อยไป เพราะธามกลัวมืดๆ
เขาแก้ปัญหาด้วยการเปิดไฟให้ธามนอน หมาธามก็บอกว่ามันน่าตกใจ จนป่านนี้ก็ยังไม่เข้าใจจินตนาการน้องในตอนนั้น

ผู้นำอมยิ้มนิดๆ เขาถอนหายใจใส่ความมืด จากนั้นก็เปิดประตูห้องเพื่อเผชิญกับความมืดที่เด็กชายธามแสนกลัว
แสงจากมือถือช่างน้อยนิด ส่งผลให้ผู้นำต้องขยี้หัวตาตัวเองแล้วเพ่งเพิ่ม เขายังคงเรียกธามไม่ขาดปาก ส่วนขาก็ก้าวเดินไปยังเตียงที่ตั้งอยู่กลางห้อง

"ธาม" เขาเรียกซ้ำ บนเตียงนอนว่างเปล่า แม้แต่หมอนก็ไม่มี ผู้นำคิดหนักเพราะคิดไม่ออกว่าจะไปหาน้องได้อีกที่ไหน กำลังจะออกจากห้อง ลมแผ่วๆ กลับรั้งเขาไว้เสียก่อน

ผู้นำหันมองต้นลม มันมาจากทางระเบียงห้อง เขาขมวดคิ้วแล้วเดินไปลากม่านดู

และผู้นำก็หาธามเจอจนได้…

เด็กคนนี้นอนคุดคู้ซุกตัวยาวๆ กับหมอนใบหนึ่ง ธามยังคงหลับได้ซึ่งแปลกมากสำหรับเขา เพราะเขาเรียกเสียงดัง ถี่กระชั้น ทั้งยังเดินมาถึงตัวขนาดนี้ เขาย่อตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นและจับตัวน้องไว้เพื่อปลุก

"จนได้" อาการธามชัดเจนแล้วว่าน้องเป็นไข้ ค่อนข้างสูงด้วย ผู้นำเขย่าตัวอีกฝ่ายแล้วพยุงให้นั่งซุกซบหน้ากับอกเขาแทน

"ธามครับ"
"ตื่นได้แล้ว"


------------

"ธามครับ ตื่นได้แล้ว" ธามขยับเปลือกตาและพบว่ามันปวดปร่าไปหมด เสียงเรียกที่ชัดเจนข้างหูรอบนี้ทำให้เขาอยากลืมตา แต่มันก็ปวดตุบๆ ขึ้นมาถึงหน้าผากจริงๆ

"ธามนอนแบบนี้ได้ยังไง แล้วหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ฝุ่นทั้งนั้ย อากาศก็ไม่ถ่ายเท แล้วนี่ไม่กลัวความมืดแล้วหรอ ห้องนี้มืดสนิทเลย"

พูดเยอะจังเลยนำ ธามปวดหัวอยู่นะ

"ธาม เดินไหวมั้ย ไม่ไหวขี่หลังพี่ไป เราต้องกินข้าว กินยาด้วย ต้องทำหัวปลอดโปร่ง"

ขี่หลังเหมือนตอนเด็กๆ น่ะหรอ ยังทำแบบนั้นได้หรอ ธามลืมตาช้าๆ แล้วก็รีบหรี่ตายู่หน้าเพื่อบรรเทาอาการปวดทันที เขาพบเสื้อพี่นำเป็นสิ่งแรก อกแบนๆ นี่รองรับหน้าผากเขาอีกครั้ง ตอนเด็กก็มีแค่พี่นำที่คอยตามหาธามจนเจอ

"โอเค ขี่หลังพี่ครับ" พี่นำเลือกให้อีกแล้ว แหงล่ะ ธามมันเด็กพูดยากทำยากนี่ เขายันตัวขึ้นยืนจึงได้รู้ว่าตัวเองไม่มีแรงเลย ธามอดสงสัยไม่ได้ว่านี่มันระเบียงดูดแรงรึเปล่า พอตั้งหลักได้พี่นำก็ดึงตัวให้โน้มลงแนบหลังพี่นำไว้ จากนั้นพี่นำก็พาธาม  -กลับบ้าน- 



cut

สั้นๆ เนอะ
ขอโทษที่ต่อช้า และมาต่อสั้นๆ แต่เราสปีดสุดได้เท่านี้จริงๆ ค่ะ เริ่มเรียนแล้ว ช่วงเวลาแสนโหดมาถึงแล้วค่ะ
รบกวนติดตามความรักของพี่นำกับน้องธามต่อไปนะคะ อย่าเพิ่งเบื้อเราน้า  :hao4: :hao4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 3 (260413)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 27-04-2013 00:47:35
พี่นำใจดีจริงๆ
รอตอนต่อไปจ้า
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 3 (260413)
เริ่มหัวข้อโดย: bozang ที่ 27-04-2013 00:48:10
ธามนี่ เด็กหนอเด็กจริงๆ
น่าร้ากง่ะ ขี่หลังกลับบ้าน
หวังว่าธามจะเปิดใจให้พี่นำนะ พี่นำสู้ๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 3 (260413)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 27-04-2013 03:05:39
พี่นำดูอบอุ่นอ่า ชอบๆ ใจดี เป็นผู้ใหญ่
ธามดูเป็นเด็กเล็กไปเลย ต้องให้พี่นำดูแลนะ
จริงๆธามไม่ได้ดื้อหรอก แต่ปัจจัยรอบๆตัวมันอาจทำให้นิสัยออกมาเป็นแบบนี้
ธามน่ารักออกนะ ชอบน้องธาม งุงิ

รออ่านต่ออยู่ตลอดนะค้า จุ๊บ!
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 3 (260413)
เริ่มหัวข้อโดย: Moohwan ที่ 27-04-2013 16:10:40
พี่นำใจดีจัง :man1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 3 (260413)
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 27-04-2013 16:34:41
พี่นำอบอุ่นจริงๆ ขอให้ธามหายไวๆนะคะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 3 (260413)
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 27-04-2013 18:25:41
รออีกแป๊บ เด๋วน้องก็เปิดใจให้นะพี่นำ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 3 (260413)
เริ่มหัวข้อโดย: Riko ที่ 28-04-2013 01:54:40
ผู้นำน่ารักขนาดนี้ ธามจะใจดำทิ้งนำได้ลงคอหรอ  :z3:
อยู่กับพี่นำน่ะแหละดีแล้วนะลูก เห็นมั้ย ซนจนไม่สบายเลย
มีคนเป็นห่วงแย่
สงสารธามอ่ะ ชีวิตรันทด มีแต่สูญเสีย ก็ไม่แปลกที่จะป่วย
รักษาได้นะ ถ้าหากมีคนดูแลอย่างใกล้ชิด
และเปลี่ยนทัศนคติรวมทั้งสิ่งแวดล้อมรอบข้าง สังคม ให้น้องอยู่อย่างมีความสุข ก็โอเคแล้ว  o13
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 3 (260413)
เริ่มหัวข้อโดย: duaen12 ที่ 01-05-2013 08:11:21
ที่หนึ่งเราขอเก็บคุณใส่กระเป๋าไปนอนกอดที่บ้านได้มั้ยง่ะ # เรารักคุณๆๆๆๆๆๆๆ  # น้องเจมเราอิจฉาคุณ อิจฉาๆๆๆๆๆๆ 
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 3 (260413)
เริ่มหัวข้อโดย: krappom ที่ 01-05-2013 09:44:55
พี่นำน้องธามน่าร้ากกกก
แต่ยังไม่เคยอ่านที่หนึ่ง ไว้ไปอ่านบ้างดีกว่า
จะติดตามนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 3 (260413)
เริ่มหัวข้อโดย: duaen12 ที่ 01-05-2013 16:41:00
ตามมาจากเรื่องโน้นนนนน ค่ะ จะรออ่านนะคะชอบสำนวนการเขียนมาก อย่างลืมมาต่อนะคะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 4 (020513)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 02-05-2013 23:52:45
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 4




หลังจากอาการดีขึ้น ธามก็กลับมาดื้อกับเขาอีกหน ซึ่งผู้นำไม่รู้เหตุผลที่ทำให้น้องมีพฤติกรรมแบบนี้กับเขา กระนั้น เช้าวันนี้ผู้นำก็ยังคงไปปลุกน้องเหมือนทุกๆ วัน และธามก็ยังคงรั้นใส่เหมือนเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา

"ธามตื่นแล้วหรอ" ไม่แม้แต่จะกระพริบตาด้วยซ้ำ ไม่ชอบเขานักรึไง?
"ธามครับ ตื่นได้แล้ว" ไม่หือไม่อือ กระดกหัวยังไม่ทำ
"ตื่นแล้วลงไปทานข้าวเช้าให้เป็นเวลา เมื่อวานป้าจูบอกว่าจะทำต้มเค็มหมูให้ธาม แกบอกว่าคนไต้หวันชอบกินอาหารแบบตุ๋น แกว่านี่ก็ตุ๋นเหมือนกัน ไม่ทานแกจะเสียใจนะครับ" ได้ผลแฮะ ผู้นำอมยิ้มเมื่อเห็นเด็กชายธามขยับตัวออกจากผ้าห่ม เขาขมวดคิ้วใส่เมื่อเห็นเสื้อกล้ามย้วยๆ บางๆ ที่ธามใส่นอน
"ใส่เสื้อบางแบบนี้ได้ยังไง รู้ครับว่าขี้ร้อนแต่ธามเพิ่งหายไข้" เมื่อเขาว่า หมาธามก็โยนผ้าห่มใส่หน้าเขาทันควัน สิ่งที่น้องอยากบอกก็คือ ธามห่มผ้าห่มหนามากสินะ
"โอเค เดี๋ยวพี่แวะห้างซื้อชุดนอนให้ใหม่ เสื้อผ้าเราอีก มีแต่ผ้าบางๆ ประเทศไทยร้อนก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าควรใส่ผ้าเนื้อบางตลอดชีวิตนะครับ"

"………" มองเขานิ่งเชียว ผู้นำอดหวั่นไม่ได้ว่าจะไปสะกิดต่อมดื้อจนแสดงออกรุนแรงของธามเข้า

"แต่ธามชอบแบบนี้" โอเค เสียงไม่แหบแล้ว ท่าทางจะไม่ปวดหัว ไม่แสบคอแล้วด้วย ผู้นำพยักหน้าเข้าใจแล้วตามใจว่า "ครับ งั้นพี่นำจะหาซื้อแบบไม่บางแบบนี้ก็แล้วกัน"

เขาอดขำคนหุบหน้ากะทันหันไม่ได้ ก็มันตลกน่าเอ็นดูน้อยเสียที่ไหนไอ้อาการแบบที่ธามเพิ่งทำ

"ธามครับ ลงมาทานมื้อเช้าด้วยนะ กินยาให้หมดตามคำสั่งหมอด้วย" จะหมอไหน ก็หมอนำคนนี้แหล่ะ เสียงปึงปังมาจากห้องน้ำ วันนี้ฝาชักโครกคงเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลจากธามแน่ๆ



มื้อเช้าของเขาเงียบสงบเหมือนเดิม แม้จะชินมาตั้งแต่เล็กจนโตกับการทานมื้อเช้ากับพ่อบ้าง คนเดียวบ้าง แต่คนเดียวบ่อยกว่าหลายบ้าง แต่การมีธามมาทานมื้อเช้าด้วยกัน ก็ไม่ควรจะแสดงผลลัพธ์ออกมาว่า รอบตัวเขายังเงียบเหมือนเดิม

“อร่อยมั้ยครับ”  ผู้นำถามแล้วพักช้อนรอคำตอบ แต่อีกฝ่ายแค่เงยหน้ามองเขาแล้วก็ก้มหน้าทานมื้อเช้าต่อ มีบางครั้งที่ธามหันมองป้าจูแล้วก็ยิ้มให้ จากนั้นก็ชี้นิ้วที่ต้มเค็มหมูแล้วทำภาษามือบอกว่า เยี่ยม

เขาเชื่อว่าธามเป็นเด็กดี อ่อนโยน แต่ที่ไม่แสดงออกอารมณ์หรือความรู้สึกสุนทรีย์ต่อโลกตามสมควร เขายังไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลใด

“ป้าจูครับ เย็นนี้จะทำอะไรให้คนโปรดของป้าทานครับ”

“ยังไม่รู้เลยค่ะคุณนำ”
“คุณธามอยากทานอะไรเป็นพิเศษคะ” พอถูกถามเข้า ธามก็ทำหน้ายุ่งๆ แล้วยักไหล่ ก่อนจะทานมื้อเช้าต่อไป เขาน่ะแปลความว่า อะไรก็ได้ แต่ไม่รู้ป้าจูจะเก็บไปคิดมากรึเปล่า

“ผมว่า ป้าจูทำตามที่ถนัดดีกว่าครับ”
“อื้อธาม เดี๋ยวออกไปข้างนอกกับพี่นำนะ”

“ทำไมต้องไป”

“จะพาไปซื้อของใช้ส่วนตัว แล้วก็พาไปเลือกของแต่งบ้าน ไม่อยากไปอยู่บ้านธามหรอครับ บ้านเล็กน่ะ”

“อยากให้อยู่ไหนก็อยู่ wherever”

“พี่นำกำลังทำให้ธามชอบที่นี่ มีที่ทางส่วนตัว มีความรู้สึกเป็นเจ้าของ มีส่วนร่วม ไม่ได้ต้องการแบ่งแยกธามออกไปอยู่ที่อื่น”
“เข้าใจมั้ยครับ”

“อือ”

“เข้าใจว่า”

“ก็มันยาว พูดตามไม่ไหว รู้แล้วนั่นแหล่ะ” จี้นิดจี้หน่อยก็เถียง ลูกหมาชัดๆ ผู้นำดื่มน้ำจนฉ่ำท้อง เขารอให้น้องทานอิ่มเสียก่อนจึงลุกจากโต๊ะอาหาร ธามเดินตามเขามาห่างๆ เพื่อรอให้เขาพาไปยังที่ที่เขาบอก จะว่าไป ธามก็ว่าง่ายเหมือนกัน ตอนเด็กก็เชื่อพี่นำทุกอย่างแบบนี้แหล่ะ

“แล้วอยากได้อะไรก็บอกพี่นำเลยนะ นานๆ จะมีเวลาว่างทั้งวันแบบนี้ วันอื่นจะไม่ว่างดูแลธามแล้วนะครับ”

“ไม่ขอ จำได้นะ” อ่อ คงหมายถึงจำได้ว่าไม่เคยขอให้ดูแล โธ่เอ้ย เด็ก!

“ป่วยไปหลายวัน ไปเปิดหูเปิดตาบ้างก็ดี ตั้งแต่มาที่นี่ธามยังไม่ได้ออกไปไหนเลยนี่ครับ”
“แล้วอยากไปไหนเป็นพิเศษรึเปล่า”

“ไม่ใช่” ไม่มีต่างหากครับธาม ผู้นำค้านในใจ เขาอมยิ้มมองน้องชายกอดอกเงยหน้าเชิดๆ มองไปทางอื่นที่ไม่มีหน้าเขาลอยขวาง เห็นแล้วอยากดีดลูกตาจริงๆ

“อ่อ! รอพี่นำแป๊บนึงนะ หรือเราอยากจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปข้างนอกก็ได้ พ่อให้พี่จัดการให้ พี่ก็มัวแต่ทำงาน กลับมาธามก็ไม่พูดด้วย เกือบลืม”

“อะไร เอาใหม่”

“เห็นของเลยดีกว่า” ผู้นำบอกแล้วเดินกลับขึ้นห้องส่วนตัวอีกครั้ง เขามีบัตรเครดิตต้องให้น้องไว้ แม้จะเป็นชื่อเขา แต่ก็อยากให้ธามรับไว้ และแม้จะยังไม่รู้ว่าธามอยู่กรุงเทพได้นานแค่ไหน จะตลอดไปได้รึเปล่า เขาก็อยากดูแล

บัตรเงินก็พอล่ะมั้ง เด็กน้อยตัวเท่านั้นจะอยากได้อะไรนักหนา ท่าทางจะหยิ่งไม่รับอะไรจากใครง่ายๆ ซะด้วย
และก็เป็นดังที่คาด ทันที่ยื่นให้ ธามก็ริบมือตัวเองไปไพล่หลังไว้ทันที ตาดำกลมๆ มองเขาดุ แล้วก็หันหนีไปอีกทาง

“มันจำเป็น อยู่นี่ก็ต้องใช้เงิน”

“มี”

“มีก็เก็บไว้ ธามต้องอยู่อีกนาน ถือว่าพี่ต้อนรับ นะครับ”

“ธามมีเงิน”

“ก็เก็บไว้ไง ใช้ของพี่”

“ไม่”

“ธามครับ พี่นำขอร้อง”

“ธามไม่ดูดเลือดดูดเงินใครหรอก ธามไม่ใช่ นำไม่รู้ นำอย่ายุ่ง อย่าทำแบบนี้” ทำอะไรล่ะ? เขาแค่ดูแลนิดหน่อยเองนะ ผู้นำถอนหายใจแล้วยื้อแขนน้องไว้ จับให้แบมือแล้วยัดบัตรเครดิตอย่างบังคับห้ามคืน

“เก็บไว้ ไม่ใช้ก็ไม่ใช้ แค่ธามเก็บไว้ พี่ก็สบายใจแล้ว นะครับ”
“ทำเพื่อพี่นำได้มั้ยครับ เด็กดี”

“............” กัดปาก ไม่เถียงแต่ก็ไม่หือไม่อือด้วย เขาพยักหน้าพอใจเมื่อธามเก็บบัตรเครดิตใส่กระเป๋าสตางค์ตัวเอง เมื่อจัดการเรื่องนึงได้แล้ว ผู้นำก็จูงมือน้องชายมาหน้าบ้านทันที

“ไม่จับ โตแล้ว”

“ก็เด็กกว่าพี่นำร่วม 10 ปีอยู่ดี” ผู้นำหันไปย้ำจุดยืน เขารอให้ลุงเผือกนำรถมาให้ เมื่อพร้อมแล้วก็ขับรถพาน้องไปเปิดหูเปิดตาทันที


เด็กชายธามไม่ค่อยตื่นสถานที่เท่าไหร่เลย แค่เดินชิดตัวเขาเท่านั้นเอง ความใหญ่โตตั้งแต่ชื่อห้างนี้คงขู่ธามได้ดีทีเดียว ผู้นำหันมองคนที่ก้าวขาไปข้างหน้าตามเขา แต่สายตาเหลียวมองรอบตัวทั่วทิศแล้วก็อดขำเอ็นดูไม่ได้ นี่ธามอายุเท่าไหร่กันแน่ ทำไมท่าทางถึงได้เหมือนเด็กไม่ประสานัก

“นำ หิวน้ำ”

“ไปซื้อสิ พี่นำรอตรงนี้” เขาบอกแล้วปักหลักยืนมองธามที่มองเขาด้วยแววตาขอร้อง คงไม่กล้าเดินไปไหนล่ะสิ คงจะสารพัดกลัว แต่ที่น่าจะกลัวมากๆ ก็คือ กลัวพูดกับคนอื่นไม่รู้เรื่อง

จริงอยู่ที่เคยอยู่เมืองไทย แต่ช่วงวัยที่เรียนรู้โลกรอบตัวเป็นช่วงที่อยู่ไต้หวัน ใช้แต่ภาษาอังกฤษ น้าวีณาเลี้ยงดูมายังไงก็ไม่รู้ แต่เดาๆ ว่าน่าจะทำให้ทุกสิ่งอย่าง เพราะท่าทางธามก็ดูชินกับการที่มีคนอื่นมาบริการ

“ต้องพูดว่าอะไร”

“อยากดื่มน้ำอะไรล่ะครับ” เขาถามเพิ่มพลางเบี่ยงตามองร้านขายน้ำเล็กๆ ที่มาเช่าพื้นที่ห้างอยู่ น้องมองไปทางชานมไข่มุก สงสัยธามจะติดถึงไต้หวัน
“หือ?” พอถามน้ำเข้าหน่อยก็ขมวดคิ้วใส่ เด็กชายธามชี้นิ้วส่งๆ ตอบเขา ผู้นำจึงมองตามแล้วก็ถึงบางอ้อ

“ชาปั่น?  ชาไทยน่ะครับ ไม่ใช่ชานมไข่มุกนะ”

“ไม่เอา เบื่อ เอานั่น”

“พูดดีๆ พูดให้รู้เรื่อง”

“ธามจะกินชาปั่น”

“อ่ะ” ผู้นำหยิบธนบัตรใบแดงให้แล้วก็พยักหน้าสั่ง
“ไปซื้อเองสิครับ”

“นำอ่ะ”
“นำ นำ นามมมม” อ้อนแล้วน่ารักชะมัดเลย ผู้นำหลุดหัวเราะไม่กี่คำก็ยอมเดินพาธามไปซื้อชาปั่นที่น้องอยากลองกินนักหนา พอได้ดั่งใจแล้วธามก็เงียบลง แต่ก็เดินเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น มีคนเดินสวนมาก็ไม่สะดุ้ง ไม่เบียดเขาเหมือนตอนแรกๆ อยากรู้จริงๆ ว่าทำไมถึงได้มีท่าทางผวาคนแปลกหน้าแบบนี้ โดยเฉพาะคนรุ่นพ่อที่รูปร่างท้วมๆ

เขาพาน้องมาดูที่ห้องนอนจำลองก่อน ห้างนี้ดีที่มีอะไรให้เลือกหลากหลาย แต่ติดที่ว่า แต่ละแบบที่จัดวางไว้มันดูเกินความจำเป็น หรือไม่ก็ขาดอะไรไปซักอย่าง แต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ธามชี้นิ้วมั่วๆ ท่าทางจะออกไปมาเป็นป่าดงดิบ เพราะแต่ละสิ่งที่ธามชี้มันไปกันคนละทิศละทางเลย

“แบบนี้ดีมั้ยครับ? ชอบรึเปล่า?” ในเมื่อปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ เขาก็ต้องถามธามก่อนว่าชอบสไตล์ที่เขาต้องตาหรือไม่ ฝ่ายนี้ยืนมองนิ่งๆ แล้วก็พยักหน้าอนุมัติ แต่ก็ยังอุตส่าห์มีข้อแม้

“ไม่เอาผ้าม่านสีนี้ตรงหน้าต่างธามนะ”

“ไม่ชอบสีขาวหรอ?”

“ผีมันผ้าคลุมขาวๆ แบบนี้แหล่ะ ไม่เอา”

“ผีในละครในหนัง ผีอุดมคติ ธามจะกลัวทำไม เขาก็สร้างภาพจำลองขึ้นมาให้ธามจำติดหัวแล้วก็กลัวไม่เข้าเรื่องไปอย่างนั้นแหล่ะ”

“ก็กลัวนี่!”

“เลิกกลัวได้แล้วครับ”

“ธามไม่ใช่” เอะอะก็คำนี้ตลอด ผู้นำจับหัวอีกฝ่ายโคลงไปโคลงมาแต่ก็โดนปัดมือออกทันควัน ธามขยับตัวหนีไปราวก้าวกว่าๆ นี่ก็น่าสงสัย แต่ผู้นำยังไม่ถามอะไรให้มากความ เขาถามทวนว่ามีอะไรในห้องนอนจำลองนี้ที่ธามอยากได้และไม่อยากได้บ้าง จากนั้นก็เดินไปดูโซฟาสำหรับห้องรับแขก ของจำเป็นในห้องครัวนี่ไม่ต้องใส่ใจมากนักก็ได้เพราะยังไงก็มีป้าจูดูแลให้อยู่แล้ว เอาเฉพาะที่รองรับความต้องการของธามก่อนก็พอ พวกเครื่องใช้ไฟฟ้าค่อยไปดูอีกที่หนึ่ง

จัดการบอกที่อยู่สำหรับการจัดส่งเรียบร้อยแล้ว เขาก็ถือโอกาสเลือกร้านอาหารสำหรับมื้อกลางวันที่ค่อนไปทางบ่ายมาก เด็กชายธามทำหน้าเซ็งใส่เขาเมื่อเขาชี้ที่ป้ายชื่อร้านพิซซ่า ผู้นำอดรู้สึกน้อยใจไม่ได้ ก็เขาอุตส่าห์เลือกโดยดูจากพื้นฐานอายุของธาม พิซซ่ากับเด็กผู้ชายเพิ่งพ้นวัยยี่สิบมายังไม่ถึงปี มันก็เข้ากันได้ดีไม่ใช่หรอ?

“แล้วธามอยากกินอะไร นี่ก็ไม่เอา นั่นก็ไม่อยาก”

“ส้มตำ” อ้าปากกว้างกว่านี้อีกนิดก็จะกลายเป็นส้วมตามอยู่แล้ว ผู้นำพรูลมหายใจแล้วหันซ้ายหันขวาหาเป้าหมาย เมื่อเจอก็ลากมือน้องไปทันที รอบนี้ธามไม่สะบัดหนี แต่กลับเร่งฝีเท้าไปที่เป้าหมายเร็วกว่าเขาเสียอีก ท่าทางจะหิวมากจริงๆ

ทั้งที่อยากกินแท้ๆ แต่ธามกลับดันเมนูอาหารมาตรงหน้าเขา ซ้ำยังชี้นิ้วให้พนักงานมารอออเดอร์จากเขาคนเดียวอีกต่างหาก

“ธามอยากทานอะไร”

“เหมือนนำ”

“พี่นำทานเผ็ดนะ”

“เผ็ดเหมือนได้”

“โอเค แล้วอย่าบ่นนะครับ” ผู้นำขู่ทับแล้วก็จัดการสั่งอาหารตามถนัดทันที ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่มีอะไรเผ็ดเกินไปสำหรับเด็กลิ้นอ่อนหัดอย่างเด็กชายธามหรอก

“น้ำเหลือง หวานๆ จะเอานั่น”

“น้ำเหลือง หวานๆ” ผู้นำทวนคำแล้วขมวดคิ้วเพราะงงกับคำสั่งของน้องชาย เขาจำต้องเปิดเมนูอีกรอบเพื่อหาคำตอบ ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเงยหน้าสั่งน้ำเพิ่ม
“เก๊กฮวย 2 แก้วครับ”
“เอาล่ะธาม ระหว่างรออาหาร พี่นำมีเรื่องต้องบังคับธามแล้วนะครับ”

“อะไร?”

“ข้อแรก พี่นำเป็นพี่ ธามต้องเรียกว่าพี่นำ ไม่ใช่นำ”
“ข้อสอง พูดภาษาไทย ถูกผิดก็พูดมา จะได้สอนกันใหม่ได้ถูก ส่วนเรื่องอ่านออกเขียนได้ จะหาคนมาสอนให้เพิ่ม”

“ไม่เอา”

“พี่นำบอกแล้วไงครับ ว่าบังคับ” หน้าเป็นตูดเลย ตลกดีเหมือนกัน ธามกำลังจะอ้าปากเถียงน้ำเหลืองของธามก็มาจ่อตรงหน้าเสียก่อน เขาชิงดูดน้ำแล้วทำเสียงชื่นใจยั่วยวน และเด็กชายธามก็หลงกลพี่นำอีกตามเคย

อาหารที่สั่งทยอยร่อนลงตรงหน้าทีละอย่าง ธามมีท่าทางอยากกินทุกอย่าง แต่ทุกอย่างที่ธามกินจะต้องผ่านการกินจากเขาก่อน เรียกง่ายๆ ว่ากินเลียนแบบเขานั่นแหล่ะ ผู้นำขำนิดๆ เมื่อธามจ้วงส้มตำปูปลราร้าเข้าปากแล้วรีบแลบลิ้นบ้วน

“เค็มปิ๋ว”

“เค็มปี๋ พูดให้ถูก”

“เขียวปี๋ไม่ใช่หรอ ป้าวีณาชอบพูด”

“เขียวอี๋ต่างหาก”

“อี๋ก็ต้องสกปรก เขียวสกปรกหรอ” อาฮะ ปวดหัวกว่าที่คิดแฮะ ผู้นำไม่ถกต่อและดันแก้วน้ำสีเหลืองๆ ให้ธามดื่มล้างปาก เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้วก็บอกข้อมูล

“ที่เพิ่งกินนั่นส้มตำปลาร้า รสชาติจะเค็มหน่อย มันเหมือนเป็นเครื่องปรุงจากปลาหมักน่ะ”
“ไม่ชอบหรอ”

“เค็มปิ๋ว” เอ้า! ปิ๋วก็ปิ๋ว ผู้นำเลือกตักส้มตำไทยแล้วกินให้ดู เด็กชายธามเชื่อเขาอีกหน พอลองกินบ้างก็มีสีหน้าดีขึ้น น่าจะชอบรสหวาน พออาหารถูกปาก ธามก็อารมณ์ดีขึ้นแต่ก็ยังไม่เรียกเขาว่าพี่อยู่ดี กระนั้น ผู้นำก็ไม่รู้สึกโกรธ เพราะเวลาที่ธามเรียกเขาเพียงแค่ “นำ” ปากจะเม้มติดกัน และลักยิ้มก็จะโผล่ออกมา มันเป็นสิ่งที่เขาชอบมองที่สุดตั้งแต่ตอนเด็ก ไม่คิดเหมือนกันว่าโตขึ้นมาแล้วก็ยังชอบมองอยู่

พอท้องอิ่มก็สำแดงฤทธิ์เดช เด็กก็ยังเป็นเด็กอยู่วันยังค่ำ ก่อนหน้าจะเจอกันอีกหน เขาคิดมาตลอดว่าน้องธามของพี่นำอายุราว 23-24 ปี แท้จริงยังไม่ครบ 21 ดีเลย พอรู้ข้อมูลที่แท้จริงจากพ่อแล้ว เขายอมรับว่าคิดไม่ออกว่าจะปรับตัวเข้าหาน้อง หรือทำตัวให้น้องอยากเข้าหาได้ยังไง ก็อายุห่างกันร่วม 10 ปี

“นำ นำ”
“Ice cream” กินอีกแล้ว! เด็กกำลังโตจริงๆ ผู้นำหันมองป้ายหน้าร้านไอศกรีมชื่อดังของประเทศ เขาจำใจพยักหน้าพาธามเลี้ยวเข้าร้านไอศกรีมแต่โดยดี


เย็นแล้วแต่เด็กชายธามยังมีพลังงานเหลือเฟือ แต่ตัวเขาเริ่มรู้สึกเพลียๆ แล้ว หรือว่าจะแก่แล้วเหมือนที่ไอ้มือโปรชอบนิยามแกงค์ตัวเองจริงๆ

เขาดึงตัวเองมาสนใจคนตรงหน้าอีกรอบ ธามกินไอศกรีมด้วยสีหน้าชอบสุดๆ เห็นแล้วผ่อนคลายไปด้วย จากที่อยู่ด้วยกันตั้งแต่เช้ายันเย็นวันนี้ เขาคิดว่าเขาดูแลธามได้ดีไม่แพ้ใคร ถ้าน้องจะเปิดใจให้เขาดูแลล่ะนะ

“ธามครับ”

“อะไร?”

“เวลาพี่นำเรียก ธามควรตอบว่าครับนะ”

“ครับนะ”

“อย่ายียวนพี่นำสิครับ”

“ครับ” เด็กดีแล้วหรอ? จะดีได้กี่นาทีกัน

“โอเค” ผู้นำพูดต่อ เขารอให้ธามเช็ดปาก ดื่มน้ำเรียบร้อยแล้วจึงถามสิ่งที่สงสัย
“ทำไมธามถึงไม่น่ารักกับพี่นำเหมือนเดิม ไม่เป็นเด็กดีกับพี่เลย ธามดื้อกับพี่นำมากนะ”

“...........”

“เพราะอะไรครับ”

“พูดได้หรอ?”

“ได้สิ พี่นำรอฟัง”

“ธามไม่อยากอยากอยู่กับนำ”




ธามไม่อยากอยากอยู่กับนำ
ไม่รู้ว่าพี่นำจะเข้าใจมั้ย แต่ธามบอกได้ตรงที่สุดเท่านี้แหล่ะ
ธามมองสีหน้าพี่นำแล้วก็ก้มหน้าเล็มไอศกรีมที่หมดก้นถ้วนแล้ว รสหวานของมันจางไปมาก แต่ธามก็ยังอยากกินอีก สั่งเองเลยดีมั้ยหรือว่าจะให้พี่นำสั่งให้ดี แต่ธามก็โตแล้ว ควรทำทุกอย่างเองได้แล้ว

“เอ่อ...โทษนะน้อง”
“พี่เอาอีกอันนึง” น่าจะใช่ คุ้นๆ ว่าเวลาป้าวีณาเรียกพนักงานในร้านอาหารไทย ก็เรียกแบบนี้แหล่ะ

“รับอะไรเพิ่มครับ” พนักงานถามเขา ธามจึงยักไหล่แล้วทวนซ้ำ
“พี่เอานี่อีกอัน”

“พี่? ผมว่าผมเป็นพ่อคุณได้เลยนะ”

“เอ่อ!!” จู่ๆ พี่นำก็แทรกขึ้น ซ้ำยังลุกขึ้นยืนแล้วดันตัวพนักงานให้ห่างจากเขาออกไปนิดหน่อย
“คือ...น้องผมพูดไทยไม่คล่องครับ อย่าถือสาเลยนะครับ”
“ขอโทษแทนด้วยจริงๆ”
“ธาม ขอโทษสิครับ”

“หือ?” ขอโทษเรื่องอะไร ธามทำอะไรผิดล่ะ ใครๆ ก็เรียกพนักงานในร้านอาหารว่าน้องกันทั้งนั้น เรียกเพื่อความคุ้นเคยกันไง ธามขมวดคิ้วใส่แล้วเก็บปากเก็บคำเงียบ

“ธามครับ ขอโทษพี่เขาซะ”

“อ้าว พี่หรอ?”
“ก็อยู่ในร้านไม่เป็นน้องก็ได้หรอ?”

“ธามครับ พี่นำบอกให้ขอโทษพี่เขาก่อนไง”

“โอเค โอเค ขอโทษครับ” ธามว่าง่ายก็ได้เหมือนกัน พนักงานเดินหนีหน้าไปแล้ว ธามเองก็หมดอารมณ์กินไอศกรีมอีกอันแล้วเหมือนกัน

พี่นำพาลุกไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ จากนั้นก็บอกแผนต่อไป ซึ่งก็ทำให้ธามอารมณ์ดีขึ้นอีกรอบ

“ไปหาซื้อเสื้อผ้าที่ห้างกัน ค่อยกลับ”

“ครับ” มากับพี่นำนี่สนุกดี ไม่รู้สึกอึดอัดเหมือนไปกับพี่.... ธามถอนหายใจและสลัดคนที่ผุดขึ้นมาในหัวออกไป จากนั้นก็เดินตามเท้าพี่นำไปอย่างอารมณ์ดี



พี่นำชอบบังคับ ตอนเด็กก็บังคับให้กินผัก ดื่มนม เข้านอนให้ตรงเวลา ธามไม่ค่อยวิ่งเล่นหรือออกกำลังกาย ก็ชอบลากไปเล่นบาสเก็ตบอล โตมาก็ยังบังคับอยู่เหมือนเดิม

“ตัวนี้ดีกว่าครับ ผ้าดีกว่านะ ไม่บางเกินไปด้วย”
“กางเกงยีนส์นี่จำเป็นต้องขาดๆ ตรงหน้าขาด้วยหรอธาม หือ?”
“หมวกแบบนี้มันกัดแดดได้ซะที่ไหน ใส่เอาเท่แค่นั้นหรอ? เอาประโยชน์ด้วยสิ”
“รองเท้าหนังมันหนักนะ ผ้าใบเปรียวๆ คู่นี้ดีกว่านะ”
“ยีนส์รัดซะขนาดนี้ ธามแน่ใจนะว่าก้าวขาออก” และอื่นๆ อีกมากมาย ธามถอนหายใจทุกครั้งที่ของในมือถูกริบ และมีของที่ก็ดูดี แต่มันไม่ใข่แนวเขามาแทนที่ พี่นำจะทำเกินไปแล้วนะ

“ตัวนี้ด้วยครับ” แล้วความอดทนของธามก็จบสิ้น เขาผลักของทุกอย่างให้พี่ชายแล้วก็กอดอกขู่

“ไม่เอาอะไรแล้ว นำพูดมาก ไม่เอาสักอย่างที่ธามอยากได้”
“แต่งตัวนำหรอ แต่งตัวธามนะ เงินนำ โอเคใช่ แต่ตัวธามนะ!”
“งุดงิด”

“หงุดหงิดครับธาม”

“ครับ หงุดหงิด” พอได้แสดงอาการไม่พอใจออกมา ธามก็ค่อยรู้สึกดีขึ้นนิดหน่อย เขามองหน้าอีกฝ่ายและคิดไว้แล้วว่าคงถูกโกรธ โลกนี้ไม่มีคนที่แม้จะโดนตวาดหรือตะคอกก็ยังยิ้มได้หรอก

อ้าว แต่ทำไมพี่นำยังยิ้มได้อีก ไม่โกรธธามหรอ?

“แต่พี่ว่ามันเหมาะกับธามนะ โอเคมันไม่ใช่ที่ธามเลือกเอง แต่พี่ก็เลือกให้จากแนวๆ ที่ธามหยิบ เพียงแค่ใส่ความคิดเห็นพี่ลงไปนิดหน่อยเอง”
“เชื่อพี่นำนะ ธามใส่แบบที่พี่เลือกให้น่ะ ดูน่ารักแล้ว”

“หล่อต่างหาก แฮนซั่ม”

“ครับ เวรี่แฮนซั่มเลย” ธามจนใจในที่สุด เขายอมโกยเสื้อผ้าที่พี่นำเลือกให้มาแบกไว้แล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์ และก็เป็นพี่นำที่จ่ายเงิน ไม่รู้ว่าชั่วชีวิตนี้ธามจะหาเงินมาตอบแทนพี่นำได้มั้ย ไม่อยากรับไว้เลยจริงๆ ให้ตายเถอะ!

“อยากได้อะไรอีกมั้ยครับธาม” เขาหันมองหน้าคนที่เดินมาซ้อนไหล่ ธามขยับออกห่างนิดหน่อยแต่ก็ยอมให้พี่นำกอดคอพาเดิน พี่นำสูงมากเมื่อเดินใกล้กันแบบนี้ ธามสูงแก้มพี่นำเอง เมื่อก่อนอยากสูงให้ทันพี่นำ แต่วันนี้รู้แล้วว่าโตแค่ไหนก็ไม่เท่าพี่นำอยู่ดี

“หิวมั้ย ทานมื้อเย็นที่นี่ก็ได้มั้ง เอามั้ย”

“ไม่ ป้าจูคงรอ”
“รอเสียเปล่า ไม่ดี”

“โอเค งั้นกลับบ้านกันนะ” ธามถูกดึงให้เลี้ยวเดินไปอีกทางเพื่อไปยังลานจอดรถ และพวกเขาคงได้กลับบ้านแต่โดยดี หากไม่เจอคนคนนี้เสียก่อน

“ธาม...นั่นธามใช่มั้ย?”
“กลับมาเมื่อไหร่ ทำไมไม่บอก”
“หรือคิดจะหนี”


ถ้าคิดจะหนีจริง ชาตินี้ก็ไม่มีวันหากันเจอหรอก


“แล้วนี่มากับใคร”


“ใครครับธาม” ธามหันมองพี่นำที่โน้มตัวมาถาม ซ้ำยังเอาตัวมาบังธามไว้อีกต่างหาก เขาเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าเกาะกุมมือพี่นำไว้แน่นขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ธามมองหน้าคนที่เจอโดยบังเอิญ แล้วก็บอกพี่นำเสียงแผ่ว

“พี่แซน another brother”
“the one I hate”



And you are the other one that I always…




Cut





 :katai4: :katai4: :katai4: :katai4: นี่ก็ปั่นกันมาสุดๆ แล้ว  :mew6:

ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 4 (020513)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 03-05-2013 00:22:48
And you are the other one that I always…
alwaysอะไร อยากรู้ อิอิอิ

มีตัวละครมาเพิ่มอีกแล้ว มีเค้าลางว่าคงมีเรื่องยุ่งๆอีกแน่นอน เฮ้อ

ธามน่ารักมากอ่ะ อ่านยังไงก็นึกว่าเป็นเด็กตลอดอยู่ดี ทำตัวเป็นเด็กจริงๆ
พี่นำก็ดูใจดี ละวางตัวเป็นคนแก่ซะจริง สามสิบกว่าเองไม่ใช่เหรอ ยังวัยรุ่นอยู่นะ

กลัวธามคิดนู่นนี่ละหนีออกจากบ้านจริงๆ

รออ่านต่ออยู่ตลอดนะ สู้ๆๆ





หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 4 (020513)
เริ่มหัวข้อโดย: duaen12 ที่ 03-05-2013 06:44:48
มาแล้วๆ # น้องธามนี่อดีตเยอะเนอะ # ไอ้ที่โผล่มาใหม่จะสร้างเรื่องมั้ยน้อ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 4 (020513)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 03-05-2013 07:50:45
กำแพงที่สร้างไว้ คงต้องใช้เวลาาาาาาา :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 4 (020513)
เริ่มหัวข้อโดย: Noo_Patchy ที่ 03-05-2013 12:42:58
 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:  ผู้นำปกป้องธามให้ได้นะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 4 (020513)
เริ่มหัวข้อโดย: PandP ที่ 03-05-2013 15:22:07
พี่นำปกป้องน้องให้ได้นะคะ

ปล. And you is the another one that I always...
ขออนุญาตแก้ประโยคนิดนึงนะคะ เราว่าน่าจะเป็น
1.) And you 'are' the 'other' one that I always...
 หรือ
2.) And you 'are' (ไม่มี the) another one that I always...
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 4 (020513)
เริ่มหัวข้อโดย: PoofuGirl ที่ 07-05-2013 15:46:44
มากรีดร้อง อยากอ่านต่อ  :ling1:
น้องธามดื้อมาก ดื้อคนละแบบกับเจม
ดื้อแบบมีปม ถึงอย่างนั้นก็น่ารักกกกกกกกกกก

เรื่องนี้ดูท่าจะมีปมหนักกว่า พี่หนึ่ง*เจม
แต่อ่านแล้วหุบยิ้มไม่ได้ พี่นำดูแล Take care
น้องเขาดีจริง ดีจัง มีโอกาสที่น้องธามจะได้
ไปเจอกับพี่เจมไหม อิอิ =///=
ท่าทางจะเป็นคู่ที่น่ารักเชียว

คนเขียนทิ้งปมก่อนจบตอน
อยากอ่านต่อ  :m31:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 4 (020513)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 07-05-2013 18:43:53
น้องธามน่ารัก พูดผิด ๆ ถูก ๆ นี่แหละเสน่ห์
พี่นำจะว่าบังคับก็ใช่ แต่ก็ตามใจสุด ๆ เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 4 (020513)
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 09-05-2013 17:59:09
ลุ้นมาก  :katai1:

แล้วจะมาติดตามนะคะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 4 (020513)
เริ่มหัวข้อโดย: pooinfinity ที่ 09-05-2013 20:36:00
พี่คนนี้สินะที่น้องธามละชื่อไว้ตอนแรก
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 5 (090513)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 09-05-2013 23:35:02
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 5




แปลก ทั้งที่เจอคนรู้จัก ไม่สิ ญาติกันเสียด้วยซ้ำ แต่ธามกลับมีแต่อาการเงียบให้อีกฝ่ายได้เฝ้ามอง ผู้นำผายมือให้พนักงานในร้านนำน้ำมาเสิร์ฟให้ถูกคน จากนั้นก็ดันแก้วให้อยู่ตรงหน้าธามใกล้ขึ้น

“น้ำครับ”

“ขอบคุณครับ แต่ธามอยากกลับไปหาป้าจูแล้ว”

“จะรีบไปไหน เจอพี่แท้ๆ กลับทำหน้าบึ้ง เรานี่มันดื้อเหมือนเดิมจริงๆ”
“เจอกันเมื่อปลายปี พี่ก็บอกชัดแล้วนี่ว่าพอเรียนจบทางนั้นแล้วจะรับมาอยู่ด้วย นี่จบแล้วหรอ? ถึงได้มาเตร่ ไม่เข้าเรื่องเข้าราว”

“............”

“ธาม ถามก็ตอบ อยากเจอดีรึไง!”

“คุณครับ พูดกันดีๆ ก็ได้ ทำไมต้องขู่ด้วย แล้วถ้าคุณอยากให้น้องธามตอบที่คุณถาม หรือพูดด้วย ก็ช่วยใช้น้ำเสียงหรือถ้อยคำที่สุภาพกว่านี้หน่อยสิครับ”

“แล้วลื้อเป็นใคร! เสือกไม่เข้าเรื่อง”
“ธาม กลับกับพี่”

“ไม่”

“เรามีสิทธิ์เลือกหรอ? บอกแล้วไงว่าชีวิตเราน่ะพี่จะดูแลเอง พี่เลือกให้เองว่าเราควรได้อะไร และไม่ได้อะไรในชีวิตบ้าง”

“ไม่”
“ถ้ายูอยากได้เงินป้าวีณา ยูก็ไปจัดการเอง พอไม่มีเรื่องเงินของป้าวีณามาเกี่ยวแล้ว ยูกับไอก็ไม่เกี่ยวกัน”

“เราจะปากกล้าเกินไปแล้ว พูดแบบนี้เท่ากับด่าว่าพวกพี่กับพ่อหวังฮุบสมบัติน้าวีณาน่ะสิ”

“หรือไอเข้าใจผิด”

“ไอ้ธาม!”

“ธาม เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า ธามอย่าใช้คำพูดไม่ดีกับเขา เพราะธามเองนั่นแหล่ะที่จะเสียใจ”
“ขอโทษเขาซะนะครับ แล้วพี่นำจะพากลับบ้าน ตอนนี้เลย”

“.............”

“เชื่อพี่นำสิ”
“นะครับ”

“ขอโทษ พี่นำ ธามจะกลับบ้าน” ธามลุกขึ้นกะทันหันจนเก้าอี้ส่งเสียงครืดคราดยามขูดกับพื้นร้าน คนอื่นในร้านอาหารหันมองนิดหน่อยแต่ธามไม่สนใจ เขาเดินนำพี่นำออกจากร้านและเดินลิ่วๆ ไปยังที่ที่คิดว่าจะนำไปยังลานจอดรถ เดินมาครู่เดียวก็หยุดและหันกลับไปรอพี่นำ แต่ก็ไม่เจอใครเลย

หลงกันหรอ? ทำไมพี่นำไม่ตามมาเล่า
ธามยืนกระสับกระส่าย ครู่เดียวก็ตัดสินในเดินย้อนกลับไปทางเดิม แต่ก็เจอพี่นำวิ่งลิ่วๆ มาเสียก่อน

“โอยยย คิดจะออกมาเลยก็ไม่ส่งสัญญาณ พี่ต้องจ่ายค่าน้ำเปล่านะครับ”

“ก็ไม่ใช่ไง”

“ไม่รู้ ไม่รู้ครับไม่รู้”

“อือ ธามไม่รู้ เหนื่อยไง”

“เหนื่อยมั้ย”

“เหนื่อยรึไง ถูกมั้ย”

“ถูก แต่ไม่มีใครเขาพูดกันหรอก มันฟังดูเหมือนประชด”

“ฟังดูเหมือน sounds like นำก็รู้ว่าธามหมายถึงจริงๆ ว่าอะไร”

“โอเค โอเค” สุดท้ายนำก็ยกมือยอมแพ้แล้วก็หอบพลางกุมท้อง เขามองอาการนั้นแล้วอมยิ้ม จากนั้นก็ลูบหลังช่วยเบาๆ

“หายเหนื่อยนะ หายรึไง”

“หายมั้ยต่างหาก โอ้ยยย ธามมมม”

“ฮ่าๆๆๆ ล้อเล่น kidding เข้าใจมั้ย” ธามหัวเราะจนตาหยี ลักยิ้มบุ๋ม เขาไม่ได้หัวเราะแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ น่าแปลกดีเหมือนกัน ทั้งที่เพิ่งเจอพี่แซนที่ไม่อยากเจอมากๆ แต่ธามก็ยังยิ้มได้ เพียงเพราะพี่นำพยายามจะทำความเข้าใจกับภาษาไทยไม่รู้เรื่องของธาม



------


ดูเหมือนอาหารฝีมือป้าจูจะถูกปากธามมากๆ
ตั้งแต่ได้กินข้าว ได้เจอป้าจู ธามก็ดูอารมณ์ดีขึ้น เด็กเงียบๆ ที่เจอญาติทั้งทีก็ปั้นหน้าบึ้งหน้างอใส่หายตัวไปแล้ว

“คุณนำไม่ทานหรอคะ มองคุณธามทานอิ่มหรอคะ?”

“หือ? ทานครับทาน ป้าจูพูดอะไรเนี่ย งั้นผมขอน้ำอะไรหวานๆ หน่อยได้มั้ยครับ วันนี้อากาศร้อน เพลียมากเลย”
“ธามเอาด้วยมั้ย”

“น้ำหวานอะไร”

“น้ำหวานๆ ให้ป้าจูทำให้”

“เอาอันนึง”

“แก้วนึงค่ะคุณธาม” ป้าจูเตือนแล้วทำหน้าดุนิดหน่อย แต่ก็เดินกลับเข้าครัวไปหาน้ำอะไรหวานๆ ให้เขาดื่ม ผู้นำมองธามที่ตักกับข้าวจานนั้นจานนี้แล้วก็เคี้ยวตุ้ยๆ

“หิวมากหรอครับ จริงๆ บอกพี่ พี่ก็จะพาแวะทานที่ห้างก่อน จะได้ไม่หิวโซแบบนี้”

“ไม่ไม่ ธามจะทานของป้าจู”
“ป้าจูทำให้แล้ว ต้องกลับมาทาน”

ดูเหมือนจะติดป้าจูแล้วจริงๆ บางที ธามอาจจะเป็นเพียงเด็กธรรมดาที่กำลังจะก้าวขึ้นเป็นผู้ใหญ่ และต้องการใครสักคนที่เป็นตัวแทนของแม่ ต้องการคนที่เป็นเครื่องหมายของความอบอุ่น

“ดีแล้วที่ธามชอบทานข้าวที่บ้าน พี่นำจะได้ไม่ต้องทานข้าวคนเดียว”

“นำก็ทานกับลุงหมอไง ใช่รึไง ใช่มั้ย”

“ก็แค่บางวันน่ะ หมอปันงานยุ่ง” เขาบอกแล้วเลิกคิ้วมองป้าจูที่เดินนำน้ำหวานๆ มาให้ถึงที่

“เร็วจัง น้ำอะไรครับ? เก็กฮวยหรอ”

“ค่ะ ต้มไว้พอดี ว่าจะแช่ให้เป็นเกล็ดน้ำแข็งเอาไว้ให้คุณธามทานเล่นๆ ดับร้อน”

“เอาใจกันมากแบบนี้นี่เอง ธามถึงได้อยากกลับมาทานข้าวฝีมือป้าจู”

“อุ้ย! หรอคะ? ป้าดีใจนะคะคุณธาม”

“ธามไม่ใช่!” กะแล้วว่าต้องพูดคำนี้ ธามนี่ขี้เขินกว่าที่คิดซะอีก ผู้นำมองคนตรงหน้าเขินจนคุ้ยๆ ข้าวไม่เต็มช้อนแล้วก็แอบหัวเราะ น้ำเก็กฮวยนี่ธามก็รู้จัก พอแก้ววางลงตรงหน้าก็คว้าไปดื่มอักๆ แล้วก็ส่งเสียงชื่นใจให้ป้าจูให้ปลื้ม

“ดื่มของพี่นำก็ได้นะ”

“ไม่เอา นำดื่มสิ ป้าจูทำนะ”

“ครับ ครับ” เขารับปากแล้วก็ดื่มน้ำให้ชื่นใจบ้าง ธามยิ้มสมใจแล้วก็หันไปอวดกับป้าจู ราวกับกำลังใช้สายตาที่พราวระยับบอกกับแม่บ้านคนนี้ว่า เห็นมั้ย พี่นำก็ชอบฝีมือป้าจู



อิ่มกันเรียบร้อยแล้วหมอปันก็ยังไม่กลับมาเสียที ผู้นำมองนาฬิกาเหนือโทรทัศน์ เขาดึงเบาะใต้โซฟาออกมาแล้วดันธามลงไปนอนเกลือกกลิ้งแทน เพราะว่าไล่ให้ไปนอนก่อนก็ไม่ยอม บอกว่าจะรอเจอลุงหมอก่อน มีเรื่องต้องคุย แต่สภาพตาของธามดูไม่เอื้อต่อการตื่นเอาซะเลย

“เดี๋ยวพี่นำปลุก หลับไปก่อน พ่อก็กลับดึกแบบนี้ประจำ”

“ไม่โกหกใช่รึไง”

“ครับ” เขารับคำแล้วกดตัวให้น้องนอนลงไปแต่โดยดี ธามทำหน้างอแง เม้มปากใส่เขาซึ่งธามคงไม่รู้ว่าเขาชอบ เพราะเม้มปากทีไร ลักยิ้มโผล่ทุกที ทำอวดเก่งยื้อเปลือกตาไม่นานก็ผล็อยหลับไป ผู้นำมองคนหลับแล้วถอนหายใจเบาๆ แล้วก็นั่งดูข่าว ดูรายการนั่นนี่เรื่อยไป

ล่วงมาจนถึงเที่ยงคืนกว่า หากอยู่คนเดียวเขาก็นอนเลย พ่อไม่ต้องห่วง ไม่กลับบ้านก็แสดงว่าค้างคลีนิคที่พ่อไม่ยอมให้ปิดกิจการ แม้จะต้องดูแลโรงพยาบาลใหญ่โตไปด้วยก็ตาม

ผู้นำโทรหาพ่อเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง อีกฝ่ายรับสายเสียงเนือยไม่แพ้กัน พอเขาบอกว่าน้องธามรอ พ่อก็บอกว่าจะรีบกลับแต่เขาห้ามไว้ซะก่อน เพราะเสียงพ่อบ่งบอกว่าเพลียจริงๆ

“ไม่เป็นไรครับพ่อ เดี๋ยวนำดูแลเอง พ่อเองก็พักผ่อนเถอะ”
“พรุ่งนี้รีบตื่นนิดนึงแล้วมาเจอน้องก็ทันครับ ธามเองก็หลับไปแล้วด้วย นำไม่อยากปลุก”
“ครับ ครับ อ้อ! วันนี้เจอคนที่เป็นญาติกับธามด้วยครับ เห็นว่าชื่อแซน ท่าทางไม่สุภาพกับธามเลย ดูเหมือนธามจะไม่ชอบด้วย”
“ครับ ครับ พ่อก็พักผ่อนนะครับ” วางสายแล้ว พ่อเขาดูสนใจนายแซนอะไรนั่นมากอยู่ คงเพราะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับธาม


ธามยังคงหลับสนิท ผู้นำลองโน้มตัวไปแตะแขนดู ผิวเย็นตามอุณหภูมิ หายใจก็สม่ำเสมอดี ท่าทางจะหลับลึก งั้นคืนนี้คงต้องให้นอนที่นี่แล้ว

เขาเดินไปหยิบผ้าห่มจากห้องธามมากางห่มให้น้องที่เคยติดเขาแจ เมื่อมองจนตัวเองเริ่มย้อนคิดถึงเรื่องวัยเด็ก ผู้นำก็อมยิ้มแล้วลูบผมที่หน้าผากน้องชายเหมือนที่เคยทำ



“พี่นำ กล่อมธามหน่อย ธามไม่ยอมนอนหลับ”

“ก็หลับตาสิ ไม่หลับตาแล้วจะหลับได้ยังไง”

“ก็เดี๋ยวมันจะปิดเอง”

“อย่าดื้อน่า หลับตาก่อนพี่นำถึงจะกล่อม เร็วครับ”

“หลับแล้ว หลับ”
ตัวยุ่งพูดแล้วโก่งก้นเชิดหน้าให้เขาดูว่าหลับแล้วจริงๆ เด็กชายผู้นำดีดแก้มน้องเบาๆ แล้วก็ตะแคงตัวลงนอนข้างๆ พลางวาดมือขึ้นลูบหัวกลมอย่างแผ่วเบา



“หลับซะนะครับ หมาธาม” ผู้นำละปลายนิ้วมือจากแก้มน้องชายแล้วก็เอนตัวลงนอนบนโซฟา ขนานกับน้องชายที่ยังคงหลับลึกอยู่เหมือนเดิม


-----


เช้านี้มีเสียงดังเกินไปจนน่ารำคาญ
ธามยอมตื่นปรือตารับแสงจ้าในช่วงเช้า เขาผุดลุงขึ้นนั่งเมื่อรู้ว่าอยู่ที่ไหน จากนั้นก็กวาดตามองหาใครคนนึงทันที

“นามมม”

“อะไรครับ อะไร? มีอะไร?”

“ทำไมไม่ให้ไปนอนที่ห้อง ปวดหลัง”

“ก็ไม่อยากกวน เห็นหลับลึก”

“แต่นอนแบบนี้ปวดหลัง”

“โอเค พี่นำขอโทษ ขึ้นไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วมาทานข้าวเช้า วันนี้ของที่ไปสั่งซื้อเมื่อวานจะมาส่ง เราต้องจัดบ้านหลังนั้นกัน คิดรึยังว่าจะวางอะไรไว้ตรงไหน”

“ไม่ได้คิด นำจะวางตรงไหนก็วางเถอะ ธามไม่ได้อยู่นาน”

“บ้านธาม ธามก็ต้องคิดเองทำเองสิ”

“ไม่ใช่ ของนำ ไม่ใช่ของธาม”
“นำคิดนะ ธามอยู่แป๊บเดียว ไม่ต้องคิดหรอก”

“ดื้อจริง เอาไงก็เอา พี่นำรอทีโต๊ะอาหารนะครับ”

“อื้อ ลุงหมอล่ะ” เขาถามถึงคนที่อยากเจอ เพื่อจะได้บอกเป้าหมายของตัวเอง เพื่อจะได้ทำตามเป้าหมายของตัวเองเสียที

“ไม่ได้กลับบ้าน ไม่รู้จะแวะมาทานข้าวเช้าก่อนรึเปล่า”

“ลุงหมอยุ่งหรอ? บีซี่อะไร ขอเวลาธามแป๊บนึงได้เถอะนะ”

“พี่จะคอยเตือนว่าธามอยากเจอก็แล้วกันครับ ไปล้างหน้าแปรงฟันได้แล้ว พี่นำหิวข้าว”
“วันนี้พี่นำมีนัดตรวจตอนบ่ายสาม จะอยู่ช่วยธามได้ครึ่งวันเช้านะครับ ที่เหลือธามกับลุงเผือกแล้วก็ป้าจูช่วยกันนะ ของชิ้นใหญ่ พนักงานจัดสั่งน่าจะช่วยยกช่วยแบกได้ จะวางตรงไหนก็บอกเขา”

“พูดมาก จำไม่หมด” ธามว่าตรงๆ แล้วก็วิ่งขึ้นห้องนอน เขาพูดความจริงสุดๆ แล้ว ที่พี่นำพล่ามมานั่น ธามจำได้แค่ว่าให้ไปล้างหน้าเพื่อมาทานข้าวเท่านั้นแหล่ะ


-----------


การจัดบ้าน - เปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่ไม่ใช่เรื่องที่เขาทำบ่อยนัก และผู้ชายแข็งๆ เจ้าเหตุผลอย่างเขาก็ไม่เข้าใจคนมากจินตนาการ แบบทึ่ธามกำลังเป็น

"เมื้อกี้ว่าอะไรนะครับ"

"ธามบอกว่า เอาโซฟาใหม่ไว้ตรงนี้ดีรึไง"

"ดีมั้ย พี่นำปวดหัวกับภาษาไทยธามจริงๆ"

"Then speak English" แบบนั้นมันเลี่ยงปัญหาชัดๆ ผู้นำส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วก็สั่ง

"ธามต้องพูดให้พี่เข้าใจได้ในทันที หัดไว้นะครับ เราต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน"

"ไม่นาน" ตอนเถียงล่ะเสียงชัดแจ๋ว เขายีหัวน้องชายที่ทำหน้าหยีใส่ ลักยิ้มโผล่แล้วค่อยอารมณ์ดีหน่อย ลงโทษตามประสาคนใจดีเสร็จแล้วก็หันหน้ามองความว่างเปล่าตรงมุมติดผนัง

เดิมมุมนี้เป็นพื้นที่ว่างๆ เด็กชายธามมักมานั่งกอดเข่าเล่นอยู่คนเดียวกับของเล่นกองโต เสียงพูดงึมงำสื่อถึงจินตนาการที่เขาเข้าไม่ถึง



"พี่นำมาจากทางนั้น ธามมาจากทางนี้ เดี๋ยวธามจะจอดยานอวกาศรับนะ"
"บรื๋ออออออออ ปี๊นๆๆๆๆๆ ขึ้นมาเร็วๆ จอดไม่ได้ โลกจะตามทัน"
"วี๊หว่อๆๆๆๆๆ โหยยย พี่นำ เอเลี่ยนมาเต็มเลย จะต้องช่วยกันสู้ ปังๆๆๆ อ๊ากกก"
"พี่นำ อ่อก! สัญญานะว่าเจ้าหญิงจะปลอดภัย ธาม ไม่ไหว…แล้ว"
"อ่อก!"




"นำ ยิ้มอะไร"

"หืม? พี่นึกถึงตอนธามเด็กๆ น่ะครับ ธามพูดเก่งกว่าตอนนี้เยอะเลย"
"น่ารักตามประสาเด็ก พูดง่าย

"ธามจำได้"
"จำได้เหมือนกันว่านำมีน้องใหม่ เลยไม่มารับธาม"

"หืม? ตอนไหน"

"just forget it!" เลี่ยงอีกตามเคย ธามเดินเลี่ยงไปอีกทางแล้วก็กะเกณฑ์อะไรคนเดียวเงียบๆ เขาไม่ได้ตามไปเซ้าซี้ต่อ และเลือกจะเดินออกมานอกบ้าน เพื่อรอรถส่งของ

กว่าของจะมาก็ 9 โมงกว่าแล้ว
ผู้นำขอว่าจ้างพนักงานต่อจนถึงเย็น โดยจ่ายค่าแรงตามกฎหมาย บวกกับค่าล่วงเวลาอีกนิดหน่อยถึงจะได้แรงงานจำเป็นมา เขาดูแลการย้ายเข้า-ย้ายออกเฟอร์นิเจอร์อยู่ครึ่งวัน ก็ต้องไปทำงาน แม้จะยังไม่เสร็จดี แต่เฟอร์นิเจอร์เก่าเกินซ่อมแซม พวกหลุดเทรนด์ หมดประโยชน์ก็มากองๆ กันอยู่ตรงถนนไปสู่รั้วใหญ่ ส่วนที่อยู่ในบ้านก็คือของใหม่ที่ธามเลือกเอง หลักๆ ก็ดูไม่ใช่งานหนักนัก ส่วนที่เปลี่ยนมากสุดก็คือห้องนอนของธาม ซึ่งธามก็รู้งานพอจะดูแลเองทั้งหมด

“ผมต้องไปทำงานแล้ว ป้าจีคงต้องทำความสะอาดหนักหน่อย ส่วนที่ไม่ไหว พวกฝาผนัง เพดาน ฝ้า แล้วก็ด้านนอก ผมจะจัดการให้ช่วงวันหยุดนะครับ จะมีก็ส่วนของห้องธามที่ต้องทำความสะอาดเลยทันที เผื่อเจ้าตัวเขาตจะเห่ออยู่เลย”

“ค่ะ”

“แล้วก็เรื่องไฟ ต้องเป็นธุระลุงเผือกแล้วครับ”

“ครับคุณนำ ไม่มีปัญหา ลุงมันจบสารพัดช่าง ทำได้ทุกอย่างอยู่แล้ว”

“ขอบคุณครับ ฝากน้องธามด้วยนะครับ นำจะรีบกลับ”

“ค่ะ ไม่ต้องห่วงค่ะ”


เห็นป้าจูรับปากดิบดีแบบนี้ก็เบาใจ ผู้นำเดินขึ้นไปยังชั้น 2 เพื่อดูธามจัดแต่งห้องนอนของตัวเอง

เขาไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะพอจะเดารสนิยมได้ตั้งแต่ที่เห็นธามเลือกตู้ เลือกเตียงนอนแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่ามันจะประกอบกันออกมาแล้วกลายเป็นห้องที่มิดชิดขนาดนี้

ธามจัดห้องนอนราวกับต้องการให้เป็นหลุมหลบภัย เขามองไม่เห็นเตียงนอนในทันที ต้องเดินผ่านตู้วางของเสียก่อน และเตียงก็มีม่านบังไว้อีกชั้น หมอนชิดกำแพง เตียงขนาดใหญ่ถูกเติมพื้นที่ด้วยของระเกะระกะเดิมๆ ในห้อง

เจ้าตัวอยู่ที่ระเบียงห้อง นั่งบนเก้าอี้เดี่ยวที่ตะแคงออกไปสบตากับต้นไม้ข้างบ้าน

“ธาม จัดเสร็จแล้วหรอครับ”

“ใช่”

“พี่นำว่า ห้องมันทึบๆ ไปนะ มัน...”

“ธามชอบ”
“ก็นำจะให้ธามอยู่ที่นี่ไม่ใช่มั้ยอ? ธามไม่ชอบที่โล่ง”

“ทำไมครับ ห้องโล่งๆ จะได้หัวปลอดโปร่ง”

“ธามกลัว”

“กลัวอะไรครับ”

“คน”

สายตาน้องดูเวิ้งว้าง แม้จะสบมองกันแต่ผู้นำก็รู้ได้ว่าเขาไม่ได้มีตัวตนอยู่ในสายตาธามตอนนี้ ผู้นำเดินเข้าใกล้แล้วดึงน้องมาซบเอวตัวเอง ธามไม่ได้โต้ตอบสิ่งใด ทำแค่นั่งนิ่งๆ ปล่อยให้เขาลูบหัวเท่าที่เขาจะมีเวลา


“รอพี่นำนะครับ ทานมื้อเย็นกัน เดี๋ยวซื้อเป็ดย่างเจ้าอร่อยมาให้ อยากทานมั้ย”

“ยังไงก็รับ” ยังไงก็ได้ต่างหาก เขาขำนิดเดียว จากนั้นก็จับหน้าน้องให้เงยขึ้นมองหน้าเขาแล้วก็ยิ้มให้

“เดี๋ยวพี่นำก็กลับ แล้วเรามาจัดห้องนอนกันใหม่ นะครับ”
“อยู่กับพี่นำ ธามไม่มีอะไรต้องกลัว ไม่ต้องสร้างป้อมปราการพร้อมรบ หรือหลุมหลบภัยอะไรทั้งนั้น นะ”

“แต่ธามชอบ”

“เดี๋ยวธามก็ชอบแบบที่พี่นำช่วยจัด เชื่อเถอะ” เขายิ้มให้อีกครั้งแล้วหนีบแก้มน้องชายตัวสองนิ้ว ธามเม้มปากเขม่นคิ้วทำให้ลักยิ้มโผล่มาอวดตัว ผู้นำหัวเราะอิ่มใจตัวเองแล้วก็ลากตัวเองไปทำงานตามที่มีเวลานัดเสียที



ทั้งที่รีบแสนรีบ มารก็มาผจญจนได้
เขาถอนหายใจใส่หน้าเพื่อนเก่าแก่ ที่หนึ่งและผู้ถูกพามาติดตาม

“คุณมาทำไม”
“หวัดดีครับเจม”

“นี่คุณไม่รู้นัดของเราหรอผู้นำ”

“นัดอะไร?”

“เลี้ยงวันเกิดให้คุณไง”

“หือ?” ผู้นำตกใจจนจนต้องผงะ เขาไม่รู้จริงๆ ว่ามีงานเลี้ยงที่ว่านี่เกิดขึ้นบนโลก เขามองนาฬิกาบนข้อมือแล้วก็ถอนหายใจ จากนั้นก็ตัดสินใจบอกเพื่อน

“ผมไปไม่ได้ ต้องดูน้องน่ะ”

“น้องไหน?”

“น้องน่ะแหล่ะ เอาเป็นว่า ผมไปร่วมไม่ได้จริงๆ ขอโทษคุณด้วยนะ พี่นำขอโทษนะครับเจม”

“เฮ้ยๆ ไม่ได้เลยผู้นำ นี่งานหลวง ต้องไปครับต้องไป ไม่งั้นไอ้โป๊ะหักคอ”

“คุณกลัวโปรรึไง” เขาย้อนถามเพื่อนแล้วยิ้มล้อเลียน เจมยังขำไปด้วยเลยตอนที่เอ่ยถึงมือโปร
“ผมขอโทษจริงๆ ไปไม่ได้ พอดีน้องเพิ่งกลับมาจากไต้หวัน ยังไม่ชิน นี่ก็นัดจัดห้องนอนด้วยกัน”

“ฮ่ะ เฮ้ย! น้องอะไรครับเนี่ย ช่วยกันจัดห้องนอน นี่นัดใส่ชุดนอนขาวแล้วกระโจนขึ้นเตียงฟาดหมอนกันด้วยรึเปล่าเนี่ย”

“ไอ้บ้าหนึ่ง น้องผมนะ!” ผู้นำโวยใส่แล้วชกแขนเพื่อนเป็นการทำโทษ พูดจาแบบนี้ออกมาได้ยังไง น้องธามเป็นน้องชายเขานะ ฟาดหมอนบ้าบออะไร ไอ้ที่หนึ่งเพ้อเจ้อ เขาหันไปสนใจน้องเจมอีกหน รายนี้ยังหัวเราะเขาที่โดนแซว เห็นแล้วอดยิ้มตามไม่ได้

“ตกลงจะไม่ไปจริงหรอ? แบบนี้ก็เก้อสิ เจมเลือกเมนูอาหารให้เลยนะ” เอาแฟนมาหลอกล่อ คงจะยังละเมอว่าเขาชื่นชอบแฟนเพื่อนอยู่ล่ะมั้ง ผู้นำแกล้งทำเป็นตกใจแล้วเดินโอ่แขนไปเตรียมกอดขอบคุณเจม แต่แล้วก็โดนที่หนึ่งยันออกมาจนได้ โธ่เอ้ย! แล้วทำเป็นใช้กลยุทธ์เอาแฟนเข้าล่อ เขาส่ายหน้าระอาพลางยกมือยอมแพ้ไม่สู้ด้วย แล้วก็บอกเหตุผลชัดๆ อีกครั้ง

“ผมไปไม่ได้จริงๆ คุณไม่บอกล่วงหน้าแบบนี้ ผมก็หมดหนทาง ขอโทษจริงๆนะ”

“เฮ้ย! โป๊ะมันตั้งใจจัดงานให้มากๆ นี่ก็รออยู่ที่ร้านแล้ว จองไว้ทั้งระเบียงเลย ร้านอาหารริมเจ้าพระยา ไปเถอะนำ” เอายังไงดีล่ะคราวนี้ ผู้นำไม่อยากให้เพื่อนเสียน้ำใจ แต่เขาก็สัญญาไว้กับธามแล้วว่าจะรีบกลับไปพร้อมเป็ดย่างรสเลิศ

“พี่นำ ไม่สะดวกจริงๆ สินะครับ”
“พี่หนึ่ง อย่าบังคับพี่นำเลย โทรบอกพี่โป๊ะสั่งข้าวผัดกินแล้วกลับบ้านเถอะ”

“โธ่เจม! นานๆ พวกพี่จะได้เจอกันครบๆนะ”
“อยากกินเหล้าก็บอกตรงๆ เถอะครับ ไม่ต้องหาเทศกาลหรอก”
“เฮ้ย! เจม พี่ไม่ได้ติดเหล้านะ”
“งั้นก็ไวน์”
“เออ...มันก็...มันก็นุ่มลิ้นกว่าไงครับ”
“กระดกสปายเอาก็ได้มั้งครับ”
“เจมก็...”

ที่หนึ่งมันน่ารักตอนอยู่กับแฟนจริงๆ นั่นแหล่ะ ผู้นำยืนฟังทั้งคู่เถียงกันไปมา เขายกมือคั่นจังหวะแล้วก็เสนอทางเลือกที่เพิ่งคิดออก

“งั้น ผมขอพาธามไปด้วยนะ”

“ใคร? ธาม”

“ก็น้องชายที่ผมเพิ่งบอกไปไง”

“เอ้าหรอ! เฮ้ย! เอาเลย พามาด้วยสิ มาเลย ไอ้โป๊ะบอกบรรยากาศดีมาก เพลงเพราะ ร้องสด น้องคุณน่าจะชอบ เนอะเจมเนอะ”
“เจมเกี่ยวอะไรกับน้องพี่นำล่ะครับ”
“ก็เจมเป็นได้แค่น้องของผู้นำ ก็เป็นน้องผู้นำไง”
“พี่หนึ่งเพ้อเจ้อนะครับ”


เถียงกันอีกแล้ว เขาส่ายหน้าระอา จากนั้นก็พยักหน้ารับคำชวนของเพื่อนแล้วก็โทรศัพท์ไปที่บ้านทันที


“ป้าจู ผมเองครับ นำ”
“ขอคุยกับธามหน่อยครับ”
“ธาม พี่นำเองนะ หิวมั้ยครับ”
“หรอ? มาทานข้าวข้างนอกกับพี่นำมั้ย ป้าจูทำอาหารรึยัง”
“งั้นก็มาทานข้างนอกกับพี่ พอดีใกล้วันเกิดพี่นำแล้ว เพื่อนเลยจัดงานเลี้ยงให้ ธามมาด้วยนะ พี่อยากให้มา”
“นะครับ”
“แต่งตัวยังไงก็ได้ แต่ไม่เอาเสื้อกล้ามเท่านั้นเป็นพอ”
“เดี๋ยวพี่นำไปรับ รอนะครับ”

“น้องแน่หรอคุณ? ใส่ใจจังเลย”

“หือ?” คำถามจากเพื่อนทำให้เขายกคิ้วอีกคน ผู้นำใช้สายตาปรามเพื่อนเมื่อเริ่มรู้ว่าที่หนึ่งสื่อความนัยว่าอะไร
“น้องผม หลานคุณน้าวีณา ภรรยาคนที่ 2 ของพ่อผมไง จำได้มั้ย”

“อ่อ...อ๋อ ที่ไปทำธุรกิจที่ไต้หวันน่ะหรอ?”

“อื้อ แต่เธอเสียแล้ว พ่อก็เลยรับธามมาอยู่ด้วย กำลังทำเรื่องรับเป็นบุตรบุญธรรม”

“อืมๆ ก็ น่าเห็นใจ เหลือตัวคนเดียว” ที่หนึ่งพูดถูก ธามเป็นเด็กน่าเห็นใจ แต่น้องเขาคงไม่ต้องการให้ใครสงสารนักหรอก
“แล้ว...ดื้อมากมั้ยล่ะ อายุเท่าไหร่”

“ยังไม่ 21 เต็มเลย เรียนอยู่ปี 4 ที่ไต้หวันนั่นแหล่ะ ยังไม่จบ”
“รวมๆ แล้วก็เป็นเด็กดี น่ารัก”

“นำ ใครเขาชมน้องชายว่ารักกันวะ ห๊ะ?”

“ทำไม เจมยังน่ารักได้เลย” ผลั่ก! โดนชกไหล่อีกแล้ว ไอ้ที่หนี่งนี่! ผู้นำเตะเพื่อนคืนไป 1 ที พวกเขาคุยกันเรื่องที่ตั้งของร้าน เวลาที่จะไปเจอกันที่ร้าน จากนั้นก็แยกย้ายกันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้าท่ากว่าชุดสูททางการ



เขาได้กลับบ้านตามที่ตั้งใจ แต่ว่าวันนี้กลับบ้านมาเพื่อจะออกจากบ้านอีกครั้ง
ผู้นำยิ้มก่อนบอกลุงเผือกว่ายังไม่ต้องเก็บรถ จากนั้นก็เดินขยับเนคไทด์เข้าบ้านพร้อมกับกวาดตาหาน้อง

“ธามครับ ธาม”

“เสร็จแล้ว ชุดนี้ได้รึยัง” เสียงดังมาจากชั้นบน เขาเดินวกขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 แม้ว่าจะสามารถเห็นหน้าห้องธามได้เพียงแค่เงยหน้าสมองให้พ้นระเบียงชั้นลอยเท่านั้น


เข้าท่า ความคิดแรกที่วูบเข้ามาหลังจากเห็นธามเดินมาอวดชุดไปกินข้าวนอกบ้าน เสื้อยืดพอดีตัว ลายอะไรซักอย่างดูไม่รู้เรื่องเพราะมีแจ๊กเก็ตหนังเนื้อน่าจะนิ่มสวมทับอีกที กางเกงยีนส์ตัวนี้เพิ่งซื้อให้เมื่อวาน เข้ารูปพอดีแต่ไม่รัดติ้วจนดูน่าอึดอัด

“รองเท้าหนัง” รู้ด้วยว่าเขากำลังมองอะไร ผู้นำยิ้มให้เด็กฉลาดแบบปุบปับแล้วก็เอ่ยชม

“หล่อเชียวน้องพี่นำ”
“แล้วพี่นำใส่ชุดอะไรดีครับ?”

“แบบธาม แต่สีไม่เหมือน”

“พี่นำขี้ร้อน”

“ยังไง!!” อ่านจากสีหน้าตกใจแล้ว ธามคงเข้าใจความหมายตรงตัว และคงไม่เข้าใจว่าขี้ร้อนแบบตรงไปตรงมาจะมาเอี่ยวกับการไม่แต่งตัวเหมือนกันยังไง เขาถอนหายใจแล้วบอกเพิ่ม

“พี่นำเป็นคนร้อนง่าย พี่ไม่ใส่แจ็กเก็ตดีกว่า ไม่ชอบให้เหงื่อออก ใส่สูทก็ร้อนมาทั้งวัน”

“อ๋อ I see” พอรู้เรื่องเพิ่ม ธามก็ยิ้มออกแล้วก็ขมวดคิ้วใหม่

“แล้วนำจะแต่งตัวอะไร”

“ง่ายๆ น่ะครับ รอพี่นำแป๊บนึงนะ”  เขาลูบหัวน้องแล้วก็เดินเข้าห้องส่วนตัวของตัวเอง เพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ถึงชั่วโมงก็ออกมาเจอธามนั่งดูทีวีตากลม ในสภาพเสื้อโปโลคอตั้ง ชายเสื้อยัดใส่กางเกงยีนส์สีเข้มเข้ารูป

“เรียบร้อย ไปกันเถอะครับ” เขาเอ่ยชวนน้องชายที่กระพริบตามองเขาปริบๆ ธามก้มหน้าไปขมุบขมิบปากพูดอะไรที่เขาฟังไม่รู้เรื่อง เขาจึงเกี่ยวคอน้องแล้วพาไปขึ้นรถที่ยังคงจอดรอให้เขาใช้บริการที่หน้าบ้าน




ธามขัดใจยังไงบอกไม่ถูก ทั้งที่คิดว่าชุดนี้มันเท่สุดแล้ว แต่แค่พี่นำแต่งตัวแคสชวล สบายๆ พี่นำก็เท่กว่าธามอยู่ดี แล้วแบบนี้ธามจะโตทันพี่นำเมื่อไหร่กัน

“เป็นอะไรครับ หน้ามุ่ย”

“ธามน่ะ หล่อแล้ว”
“ก็แต่โอเค ก็ได้สินะ”
“ไว้วันหลังเถอะ”

“ธามพูดอะไรครับ พี่ไม่รู้เรื่อง”


ธามไม่บอกหรอก ไว้วันหลังๆ ธามคงหล่อกว่านำเอง
ปล่อยให้นำหล่อไปก่อน เดี๋ยวธามก็ตามทันเองแหล่ะ

“ธาม เป็นอะไร?”

“ให้หล่อไปก่อนก็ได้ โธ่เอ้ย!” ธามทำหน้าเข้มใส่ เขาเม้มปากให้รู้ว่ากำลังอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่ แต่แล้วจู่ๆ พี่นำก็ยื่นมือมาบี้แก้มข้างที่มีลักยิ้มแล้วก็ลูบผิวแก้มเบาๆ


แปลกแฮะ แก้มถูกจับ แต่ทำไมหัวใจมันเต้นดังตึงๆๆๆ แบบนี้ล่ะ?



Cut


หวังว่าจะไม่เบื่อลุง เอ้ย! พี่นำกันนะคะ ^^
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 5 (090513)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 10-05-2013 01:44:56
โอ้ยธามน่ารักเกินไปแล้ววว
ไปเจอกับเพื่อนๆพี่นำหวังว่าจะไม่โดนแกล้งนะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 5 (090513)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 10-05-2013 03:12:40
กรี๊ดดดดดดด ธามใจเต้นดังตึงๆๆตอนถูกพี่นำจับแก้มด้วย งื้วววว
ใครจะรู้ตัวกันก่อนนะว่ารักกันชอบกัน

นี่ยังหลอนแซนอยู่นะ จะโผล่มาเป็นเชื้อไฟให้ธามหนีไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
แต่ก็อยากให้ธามรู้สึกว่าอยู่กับพี่นำปลอดภัย จะหนีก็หนีไปซบอกพี่นำเท่านั้น

การไปกินเลี้ยงวันเกิด ไม่ใช่บังเอิญเจอแซนนะ หวั่นใจชอบกล
เปิดตัวครั้งแรก?กับเพื่อนๆ ไม่อยากให้มีปัญหานะ
กลัวธามจะมีเรื่องให้ไม่ชอบขึ้นมาหรือรู้สึกแย่
เรื่องนี้เชียร์นายเอกสุดๆจริงๆ น่ารักๆ

รออ่านต่อน้า
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 5 (090513)
เริ่มหัวข้อโดย: Moohwan ที่ 10-05-2013 04:03:35
อั๊ยๆ แอบใจเต้นแรง :impress2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 5 (090513)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 10-05-2013 11:19:15
แอบเพียรใจกับภาษาของธาม  อีกนัยหนึ่งก็น่ารักนะ  :mew3:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ
ปล. ไป ๆ มา ๆ น้องเจม   แจ่มไปแล้วอ่ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 5 (090513)
เริ่มหัวข้อโดย: ormn ที่ 10-05-2013 12:12:47
 :laugh: :laugh: :laugh: :laugh:ภาษาน้องธามทำเอาพี่เวลาอ่านยังขำเลย :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 5 (090513)
เริ่มหัวข้อโดย: มะมะมะหมิว ที่ 10-05-2013 12:39:49
น้องธามกับพี่นำน่ารัก  :ling1: :ling1: :ling1:
แอบฮาเวลาธามพูด  :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.1 (180513)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 18-05-2013 23:26:14

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 6.1




เพื่อนพี่นำเป็นคนสนุกสนานกันทุกคนเลย แต่คนที่ร่าเริงที่สุดก็คือพี่นำของธามนี่แหล่ะ ไม่ว่าใครพูดอะไร พี่นำก็จะยิ้ม หัวเราะ พี่นำพยักหน้ารับคำพูดของเพื่อนตลอดเวลา ถามก็ตอบ ยิ้มให้ก็ยิ้มกลับ ชวนให้หัวเราะก็หัวเราะ ถูกตบหัวพี่นำก็ไม่โกรธ

พี่นำของธามเป็นคนดีจริงๆ

“ธามครับ ธามครับธาม”
“ธาม”

“ห๊ะ! หือ? อะไรครับ” ธามสะดุ้งเมื่อถูกโยกหัวไหล่ เขาร่นตัวหนีนิดหน่อยเพราะพี่นำยื่นหน้ามาใกล้ๆ

“ไม่ทานอะไรเลย อร่อยนะครับ ร้านนี้”

“อืม” ธามรับคำแล้วจิ้มก้อนอะไรสักอย่างแล้วเอาเข้าปาก
“หือ?” อร่อยดีแฮะ ธามหันหน้าพี่นำพร้อมทำตาโต จากนั้นก็รีบเคี้ยวรู้สึกได้ว่าแก้มกำลังขยับพุ่ม
“นำ นี่อะไร?” เขาใช้ส้อมจี้จ่อจานก้อนที่เพิ่งจิ้มเข้าปาก

“กุ้งสับชุบแป้งทอด จิ้มกับมายองเนสสิครับ ลองดู อร่อยกว่าเดิมอีก”

“จริงหรอ?”

“จริงสิ พี่นำจะหลอกทำไม ลองสิครับ” พอพี่นำยิ้มให้ ธามก็เชื่อและทดลองจิ้มอีกชิ้นมาแตะมายองเนสแล้วเอาเข้าปาก แล้วมันก็อร่อยจริงๆ ด้วย อร่อยสุดๆ


เจอของอร่อยก็ตาพอง แก้มบุ๋ม
ผู้นำลอบมองคนข้างตัวที่เคี้ยวหมุบๆ แล้วก็อมยิ้มจนลักยิ้มอวดตัว เขาข่มยิ้มแล้วก็เงยหน้ามองเพื่อนที่เงียบเสียงลงจนผิดปกติ

“อะไร มองผมทำไมครับพีช”

“นำ น้องชายคุณก็เกิน 20 แล้วไม่ใช่หรอ? ดูแลยังกะดูเด็ก 5 ขวบ” ฟังคำของพีชแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้ นี่เขาประคบประหงมน้องธามเกินไปหรอ? ไม่นี่ ก็ดูแลปกติ

ผู้นำยิ้มก่อนตอบคำถาม เขาทำแบบนี้เสมอ ไม่รู้เหมือนกันว่าไปติดนิสัยช่างยิ้มมาจากไหน เขามองเพื่อนๆ ที่หันมองเขาเป็นตาเดียว

“ก็น้องธามยังเป็นเด็กสำหรับผมนี่ ดูแลเหมือนเด็กก็ไม่แปลก”
“น้องไม่ได้กร้านโลกเหมือนพวกคุณนี่ จะได้พูดอะไรหยาบๆ ใส่”
“เข้าใจนะครับ เพื่อน”

พีชทำหน้าแหยใส่ ส่วนที่หนึ่งขำคิกคัก เจมกับไอ้ตัวดีมือโปรกำลังแย่งกุ้งตัวสุดท้ายในต้มยำกุ้งกันอยู่ ผู้นำหันมองธามที่เคี้ยวไป มองพวกเขาคุยกันไป รู้สึกสงสารเหมือนกันที่ลากน้องมาอยู่กับหมู่คนที่ไม่รู้จัก แต่ธามเองก็ต้องรู้จักเปิดโลกทัศน์ตัวเองบ้าง เริ่มจากกลุ่มเพื่อนๆ เขานี่ก็แล้วกัน

“ธามครับ พี่พีชเขาบอกว่าพี่นำดูแลธามดีเกินไป ธามว่ายังไง?”

“นั่นสิ ธามไม่อึดอัดหรอ? ไอ้นำดูแลทุกวินาทีแบบนี้ จะกระดิกตัวไปขี้นี่ต้องขออนุญาตพี่หมอนำรึเปล่า หือ?” มือโปร ไอ้ปากเสีย! ผู้นำนึกขุ่นนิดๆ เมื่อเพื่อนกวนน้ำให้ตะกอนตื่น แต่พอหันมองน้องชายแล้วกลับเห็นรอยยิ้มน้อยๆ และอาการส่ายหน้า

“ไม่เบื่อหรอ? โหยยย เป็นเจม เจมหนีออกจากโลกจริงๆ นะ คนเรามันต้องมีเวลาส่วนตัวกันบ้าง” เจมก็มาเสริมกับเขาด้วยหรอเนี่ย นี่เขาดูแลน้องมากเกินไปจริงๆ หรอ?

“ไม่รำคาญนะ นำก็ดูแลธามแบบนี้ตอนเด็ก นำคงติด คิดว่าธามยังเด็ก ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็หล่อทัน” นี่ก็ตอบซะคนเอ็นดู ผู้นำเห็นเพื่อนอมยิ้มกันเป็นแถว ไงล่ะ น้องชายเขาน่าเอ็นดูมากใช่มั้ยล่ะ หึ! ไม่อยากจะอวด

“ธามครับ ถ้าธามจะหล่อให้ทันไอ้นำ พี่โปรว่าไอ้นำคงตายก่อน”
“เราจะไปหล่อทันมันได้ไง น้องธามน่ารักจะตาย ดูดิ ยิ้มทีนี่หน้าหวานเชี๊ยะ!”

“หวานเชี๊ยะคืออะไรนำ” ไอ้มือโปรแม่ง! ผมไม่ใช่ดิคชันนารี่คำแปลกนะเว้ยครับ ผู้นำมองเพื่อนแบบเหวี่ยงนิดๆ แล้วก็ถอนหายใจก่อนหันไปตอบน้องชายให้ได้ยินกัน 2 คน

“แปลว่าหน้าหวานมากๆ ครับ”

“ไม่เอา! ธามไม่ใช่!” แล้วตะโกนทำไม ลูกหมาธามขี้โวยวาย เขาส่ายหน้านิดๆ แล้วก็เฉไฉไปชวนน้องธามกินอาหารอย่างอื่น ปล่อยให้พวกเพื่อนแทะโลมน้องเขาทางสายตา และปล่อยคำพูดหมาๆ ของมือโปรไปกับสายลมริมแม่น้ำเจ้าพระยา


จะว่าอิ่มก็ไม่ใช่ ไม่อิ่มก็ไม่เชิง แต่ตอนนี้อาหารตรงหน้าพร่องไปมากแล้ว ธามได้เพื่อนใหม่ที่วัยน่าจะใกล้กันสุด แต่ก็ถือว่าวัยต่างกันอยู่ดี เจมพาธามไปเดินเล่นที่ริมเขื่อนแม่น้ำ ลมเย็นทำให้ธามไม่ค่อยพูด แต่ก็ดูไม่อึดอัดกับเสียงพูดคุยของเพื่อนเขาซึ่งคุยกันในเรื่องที่ธามตามไม่ค่อยทัน 



-----------


"ธามนี่ไม่เหมือนคนอายุ 21 เลยนะ" คำพูดจากคนเพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรกเรียกให้ธามหันมอง คนที่อาสามาเดินเล่นกับเขาคือพี่เจม พี่เจมเป็นคนน่ารัก ยิ้มแล้วเหมือนเด็ก ถ้าบอกว่าพี่เจมเป็นเพื่อนธาม ธามก็เชื่อ เขานึกทวนคำพูดอีกครั้งแล้วเลิกตาเป็นเชิงถามก่อนเอ่ยปาก

"ทำไม"

"ก็จะทำอะไร กินอะไร คิดอะไร พี่นำก็ต้องคอยบอก คอยถาม คอยมอง"
"ไม่วางตาเลย"

"นำก็ชิน บอกแล้ว ธามโตมากแล้วนะ"

"เวลาพูด ธามดูตลกดี" อะไรกัน? วิจารณ์เยอะเกินไปแล้ว ธามก็แค่ไม่เข้าใจภาษาไทยทั้งหมด ไม่ตลกสักหน่อย! รอบนี้ธามหันไปขมวดคิ้วใส่ ก่อนจะกอดอก ยืนพักขาแล้วพูดคำติดปาก

"ธามไม่ใช่!"

"เฮ้ย! ล้อเล่นไง แบร่ๆ คิดดิ้งนะ" อ้อหรอ? ธามอมลมแล้วหันมองแม่น้ำเส้นดำสนิทสะท้อนแสงไฟต่อ แต่ปากก็ยังไม่หยุดสนทนา

"แล้วไม่เหมือน 21 ไม่ดีมากรึไง"

"ไม่ใช่แบบนั้น"

"แบบไหนงั้น" เขารอคำวิจารณ์เพิ่ม แต่พี่เจมก็เอาแต่ยิ้มแล้วยืนบิดขี้เกียจท่านั้นท่านี้
"แบบไหน?"

"บอกก็ได้ ธามดูเด็กจนอยากดูแลทุกอย่าง พี่นำก็คงคิดงั้น ก็ธามน่าเอ็นดู"
"แล้วไปอยู่ไต้หวันตั้งนาน จำอะไรในเมืองไทยได้บ้าง"

"นำ" ชื่อแรกที่ตอบทำเอาตัวเองใจหาย ธามหันไปจ้องมองแม่น้ำต่อ เขาไม่รู้ว่าพี่เจมทำหน้าแบบไหน เข้าใจคำตอบเขามากแค่ไหน แต่ก็ช่างเถอะ พี่เจมเพิ่งเจอธามครั้งแรก จะไปเข้าใจอะไรได้

"ชอบพี่นำมากสินะ"

"!!!"

"ก็พี่นำดีซะขนาดนี้ หมอนำเขาฮอทนะ ทำใจหน่อย พี่ชายป๊อบปูล่า"
"พี่ก็มีพี่ชาย ฝาแฝดกัน ตอนสาวโทรมาแล้วต้องช่วยมันสลับรางนี่ปวดหัวชิบหาย เนอะ"

"……" ธามไม่ได้ตอบอะไร เพราะจู่ๆ เขาก็รู้สึกถึงความฉุนเฉียวที่เกิดขึ้นกะทันหัน เขาเลิกการเดินเล่นริมเขื่อนแม่น้ำเจ้าพระยากะทันหัน แล้วก็เดินกลับโต๊ะอาหาร



จากอาหารเต็มโต๊ะ กลับกลายเป็นเครื่องดื่มยึดพื้นที่แทน พอเขากลับมาถึงโต๊ะ พี่นำกับเพื่อนก็ละการดื่มกันทันที

“เด็กมา อย่าดื่มให้เยาวชนเอาเยี่ยงอย่างนะเว้ยพวกคุณ”

“ธามไม่ใช่ซะหน่อย” รอบนี้เถียงเสียงเบาหน่อย เพราะคนในร้านหันมองมายังโต๊ะของพวกเขาค่อนข้างถี่ เก้าอี้ข้างพี่นำรองรับตัวธามไว้อีกหน และก็ทันทีเหมือนกัน ธามนั่งปุ๊บ พีนำก็หันมาหาปั๊บ

“ชอบรึเปล่า ไปเดินเล่นถึงไหนกันมา ระเบียงก็ไม่ได้ยาวนี่ครับ”

“ยืนคุย”

“คุยอะไรครับ” พี่นำถามต่ออีก แต่ธามไม่อยากเล่าว่าคุยอะไรกันบ้าง ส่วนหนึ่งมาจากความขี้เกียจ แต่อีกส่วนหนึ่งมาจากอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่าไม่อยากเล่า โดยเฉพาะเรื่องที่พี่เจมบอกว่าธามชอบพี่นำมาก และพี่นำฮอท มันปร่าๆ ในอกแบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“ลืมไปเถอะ” ตอบแบบนี้เข้าใจง่ายรึเปล่านะ ธามตอบส่งๆ แล้วก็ยกแก้วน้ำอัดลมขึ้นดื่ม เขาชำเลืองมองคนอื่นๆ แล้ววกมองตัวเอง ทำไมธามต้องดื่มน้ำอัดลมด้วย

“นำ ของธามล่ะ”

“เด็ก ดื่มน้ำอัดลมก็พอครับ””

“ธามโตแล้ว อยู่ที่นั่นก็ดื่มกับเพื่อน”
“ดื่มเป็น”

“วิ่งเป็นก็ใช่ว่าต้องวิ่ง นอนเป็นก็ใช่ว่าต้องนอน”
“พี่นำไม่ให้ดื่มครับ”

“เฮ้ย! คุณจำกัดสิทธิ์น้องเกินไปรึเปล่า ธามเกิน 20 แล้ว เคยดื่มด้วย ปล่อยๆ บ้างเถอะ” ที่หนึ่งทักท้วงขึ้น แต่การกระทำกลับตรงกันข้าม ตอนนี้เพื่อนตัวดียึดแก้วเหล้าจากมือเจมแล้วสั่งซอฟท์ดริงค์ให้แทน

“แล้วทำไมคุณไม่ให้เจมดื่มล่ะ”

“ใครว่าผมทำแบบนั้น ผมแค่รู้ว่าเจมชอบดื่มอะไรต่างหาก” ไอ้ขี้อ้าง ผู้นำเบนตามองเจมที่ส่ายหน้าฟ้องพวกเขาว่าไอ้ที่หนึ่งปั้นน้ำ ผู้นำไม่ว่าอะไร แต่ก็ไม่ยอมให้ธามดื่มเหล้าเหมือนพวกเขาเหมือนเดิม แต่สุดท้ายมือโปรก็ออกโรงจับน้องธามกรอกเหล้าต่อหน้าต่อตาเขา ไม่สิ ต้องเรียกว่าสาดเหล้าใส่ถึงจะถูก เด็กชายธามได้ดื่มเหล้าสมใจแล้วสินะ

“นำโกรธหรอ?” กลิ่นเหล้ามาก่อนเสียงเสียอีก ผู้นำหันมองคนข้างๆ ที่กลับมาจากล้างแขนล้างหน้าที่มือโปรจงใจทำเหล้าหกใส่ เขาหันมองแต่ยังไม่พูดอะไร ใจนึกอยากรู้ว่าธามจะสนใจความรู้สึกนึกคิดของเขามากน้อยแค่ไหน
“นำ นำโกรธธามหรอ”

“..........”

“พี่นำ” เสียงอ่อยเชียว น่าสงสารจังเลย ผู้นำยิ้มให้พลางจับหัวอีกฝ่ายโคลงไปมา เขาบอกให้ธามพึงใจว่าไม่ได้โกรธ พอเขายิ้ม ธามก็ยิ้มตาม แล้วก็เปิดเผยนิสัยอีกข้อหนึ่งให้เขาได้เห็นชัดตา

“ไม่โกรธก็ดีเลย ธามดื่มอีกนะ” นักดื่มหรอเนี่ย เจ้าน้องชาย ผู้นำหยุดดื่มและปล่อยให้ธามค่อยๆ ดื่มและปล่อยอารมณ์ที่กดไว้ลึกๆ ออกมา


จริงๆ แล้ว ธามเป็นคนสนุกสนาน เข้ากับคนอื่นง่าย แต่ที่ดูเข้าถึงยากนั้น เจ้าตัวน่าจะสร้างกำแพงขึ้นมา เพื่อเหตุผลบางอย่าง หรือเพราะใครบางคน

เจมดูเหมือนจะคุยกับธามได้รู้เรื่องที่สุด ศัพท์แสงที่เขาฟังแล้วขัดหู เจมกลับหัวเราะร่าและย้ำให้ธามมั่นใจว่าพูดได้ไม่ผิด ส่วนที่หนึ่งก็นั่งมองแฟนตัวเองแล้วก็ดื่มเงียบๆ มือโปรน่าจะเป็นอีกคนที่ธามเริ่มไว้ใจ ถึงขั้นหัวเราะแล้วไปทุบแขนมือโปรได้โดยที่ไอ้เพื่อนตัวใหญ่มันไม่สวนกลับเอา ส่วนพีชก็ไปไหนไปกัน เพื่อนว่าดีก็คิดว่าดีเหมือนเดิม

“อื้อนำ คุณไม่จัดงานต้อนรับการกลับมาของน้องธามหรอ”

“หือ?” เขาคิดตามมือโปรไม่ค่อยทัน ก็เมื่อกี้ยังโม้ให้ธามฟังเรื่องวิธีกำราบเด็กที่ออฟฟิศอยู่เลย ทำไมวกมาถามเขาเร็วจริง
“อืม ไม่เคยคิดเรื่องนี้เลย ยุ่งๆ น่ะ ธามอยากได้งานปาร์ตี้มั้ยครับ” เขาหันไปถามน้องที่เริ่มปากแดง คอแดง เจ้าตัวขมวดคิ้วปฏิเสธแล้วก็บอกเขาเสียงใส

“ธามไม่อยากได้อะไรเลย จริงๆ”
“แต่ถ้านำจะต้อนรับ พาไปเที่ยวหน่อยได้สินะ”

“อ่า อยากไปเที่ยวที่ไหนล่ะครับ ถ้าไกลอาจต้องเคลียร์งานนานหน่อย ขอกลับไปดูนัดที่ห้องทำงานก่อนนะ”
“ทะเลประเทศไทยสวยนะ ตอนเด็กธามไม่เคยไปนี่นา จำได้ว่าน้าวีณาวางแผนว่าจะพาไปตอนปิดเทอม แต่ก็ไม่เคยได้พาไปสักที บอกว่าอยากให้ธามว่ายน้ำแข็งก่อน”

“นำนำ นำพูดเยอะ”
“ธามแค่อยากไปวัด”

“หือ?”

“ไปวัดไง ไปวัด”
“ไต้หวันชื่นชอบมาก มาเที่ยววัดของไทยเยอะเลย ไปที่มีเรือ ธามไม่รู้ว่าเรียกยังไง”

โจทย์ยากจริงแฮะ จะเที่ยวทั้งเรือทั้งวัด ผู้นำครุ่นคิดนิดเดียวก็พยักหน้ารับคำ เขายังไม่มั่นใจนัก แต่ถ้าการทำตามความต้องการของธามจะทำให้ได้เห็นรอยยิ้มดีใจขนาดนี้ เขาก็จะทำทุกอย่างให้ได้ตามที่ธามต้องการ

“นำใจดี ขอบใจนะ”

“พี่นำเป็นพี่ ต้องขอบคุณสิครับ”
“อีกที ให้ถูก”

“ขอบคุณครับ พี่นำ” ชื่นใจแฮะ แม้ธามจะพูดง่ายเพราะดื่มเหล้าเข้าไป  แต่ผู้นำก็พอใจในพฤติกรรมการเปิดรับผู้อื่นแบบนี้ เขาจับแก้มน้องชายที่ดูเต่งขึ้นเพราะแสงในร้าน ธามก้มหน้าหลบแล้วก็จิบเหล้าเพิ่มเข้าไปอีก

อื่มมม จะไม่เป็นไรใช่มั้ยนะ? น้องธาม




ที่คิดว่าไม่เป็นไรนั้น ผู้นำคิดผิดอย่างสิ้นเชิง เขาแบกน้องชายขึ้นหลังหลังจากที่ร่ำลาเพื่อนที่ยังมีความสามารถในการนั่งดื่มกันต่อ แม้ว่าเจมจะหน้าง่วงเต็มทีแล้วก็ตาม

พาธามมาถึงรถได้ก็ต้องลำบากยัดแข้งขายาวๆ เข้ารถอีก กว่าจะจัดท่าให้ดูไม่เมื่อยหรือเสี่ยงคอหักก็ทำเอาเขาหอบ

“เฮ้อ! ไหนว่าเคยดื่ม ไม่บอกพี่นำให้หมดล่ะครับว่าเคยดื่มแล้วเมาหลับแบบนี้ จะได้ให้ดื่มในห้องนอน” ประชดคนหลับเสร็จแล้วผู้นำก็ทำหน้าที่สารถีขับรถพาน้องกลับบ้าน



ค่ำคืนนี้ เขาขับรถอยู่บนถนนเส้นเดิมเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน ปกติแล้วเขาจะกลับด้วยความรู้สึกล้า อยากพักเต็มที แต่วันนี้กลับขับรถกลับบ้านพร้อมรอยยิ้ม อาจจะเป็นเพราะมีคนนั่งข้างๆ ก็ได้

ลุงเผือกยังรอเขาอยู่เพราะเขาไม่ได้บอกว่าจะไม่กลับ แกจัดการเปิดรั้วเสร็จแล้วก็รีบวิ่งมาช่วยประคองธาม แต่เขาห้ามไว้แล้วแบกน้องขึ้นหลังอีกรอบ ธามตัวเบาอย่างที่คิด วันนี้แบกง่ายเหมือนวันที่ป่วยเพราะธามไม่ดื้อไม่ดิ้น

เขาเดินผ่านห้องนอนของธามไปยังห้องนอนตัวเองเพราะคิดว่าดูแลน้องได้ดีกว่า อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าของของเขาอยู่ที่ไหนบ้าง ดูแลคนเมาหลับในห้องที่เขาไม่รู้ทุกซอกหลืบมันทำให้เขารู้สึกไม่เป็นมืออาชีพเสียเท่าไหร่

ผู้นำจับน้องถอดเสื้อแล้วเช็ดตัวด้วยน้ำเย็นนิดๆ จากนั้นก็สวมเสื้อตัวใหม่ของเขาให้แทน
กางเกงก็จับถอด แล้วให้ใส่กางเกงนอนของเขาแทน บ๊อกเซอร์ไม่แตะเพราะไม่รู้ว่าธามหวงของแค่ไหน ไม่ก้าวล่วงจะดีกว่า

เขาเปลี่ยนน้ำโดยใช้น้ำอุ่นขึ้นเพื่อใช้เช็ดใบหน้าและลำคอ จากนั้นก็ปลุกธามขึ้นมาดื่มน้ำอึกเล็กๆ แล้วปล่อยให้นอนตามที่อยาก

เด็กชายธามหลับสนิทไปแล้ว วัดจากลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ แต่ผู้นำยังคงนั่งที่เก้าอี้ตรงโต๊ะทำงาน เขาหมุนเก้าอี้เพื่อพาตัวเองให้หันหน้าสู่เตียงใหญ่ที่ใช้สอยประจำ เด็กชายที่อายุย่าง 21 ปีหลับสนิทอยู่บนเตียงนั้น โดยมีพี่ชายคนนั้นนั่งมองเพื่อระวังภัย


ผู้นำคิดเพียงเท่านี้จริงๆ เขาอยากปกป้อง อยากดูแล อยากรักษาตัวตนของธาม ความรู้สึกของธาม ก็เพราะเขาทำได้ และเขาควรทำ

เขาไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่า “รักน้อง”


ชายหนุ่มถอดเสื้อตัวเองออกเพื่อคลายความร้อน แม้ห้องนี้จะเปิดเครื่องปรับอากาศ แต่การแบกธามก็ทำให้ขาเหงื่อออกจนตัวเหนียวไปแล้ว ให้นอนเลยคงไม่ไหว นอนไม่หลับแน่ๆ

เขาเดินวกมาที่เตียง มือที่มักจับปากกาจดอาการคนไข้บรรจงลูบไล้แก้มเต่งเบาๆ พลางเกลี่ยปลายเล็บบนริมฝีปากแดงที่แห้งนิดๆ ก่อนจะละมือจากมา และจุ่มริมฝีปากนาบบนหน้าผากเกลี้ยงอย่างอ่อนโยน


ผู้นำยิ้มให้คนหลับ เขาชักไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เขากำลังรู้สึกตอนนี้ เป็นเพียงแค่ความ “รักน้อง” เท่านั้น


Cut


แง๊  :ling3:
ไม่ได้อ้างเลยนะคะ แต่เวลาไม่เคยพอจริงๆ
ขอบคุณผู้ติดตามอ่านทุกท่านค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.1 (180513)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 19-05-2013 00:49:37
สงสัยจะ 'รักน้อง' มากกกกกนะพี่นำ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.1 (180513)
เริ่มหัวข้อโดย: atblueann ที่ 19-05-2013 09:38:34
ชอบๆๆ น้องธามยังน่ารักเหมือนเดิมเสมอ พี่นำก็ใจดีไม่เปลี่ยน ชอบอ่ะ ชอบมากๆๆ เมื่อไรพี่นำจะรู้เหตุผลที่ธามเป็นแบบนี้อ่ะ จะได้คอยดูแล ปกป้องน้องให้มากๆๆ น้องน่าสงสาร แต่ก็ยังน่ารัก โดยเฉพาะตอนเมาาาา
รอติดตามอยู่เสมอ เห็นมาอัพดีใจมากๆๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.1 (180513)
เริ่มหัวข้อโดย: YOSHIKUNI RUN ที่ 19-05-2013 14:27:39
 อืออ~ รักน้อง ๆ :hao3:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.1 (180513)
เริ่มหัวข้อโดย: PoofuGirl ที่ 19-05-2013 15:18:31
อ่านแล้วได้อารมณ์อิ๊อ๊างมากเลยตอนนี้
ธามน่ารัก น่าเอ็นดู
ผู้นำก็แบบหวงน้อง ดูแลน้อง Take care ดีสุด ๆ

ดีใจที่เจมถามว่าสิ่งที่ธามจำได้ในเมืองไทย
คืออะไร ? นำ จำ นำได้ =///=
อ๊างงงงงงงงงง~~~~~~

ตอนนี้ผู้นำรักแบบน้องไปก่อนนะ
ตอนต่อไปค่อยรักแบบอื่น  :hao6:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.1 (180513)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 19-05-2013 17:39:35
เริ่มรู้สึกอะไรในใจกันขึ้นมาแล้วสินะ
จะเรียกว่ายังไม่รู้สึกตัว แต่แค่แปลกๆรึเปล่า555
คู่นี้น่ารักอ่า ชอบๆๆ ธามน่ารักเสมอ
เจมมองธามออก แล้วคนอื่นจะมองออกด้วยมั้ย
หรือเพื่อนพี่นำก็มองพี่นำออก อิอิอิ

ตอนนี้น่ารัก แต่แค่คิดถึงว่าอาจมีมาม่าเรื่องญาติๆก็เหี่ยวละอ่า

ขอบคุณมากนะที่มีเวลามาอัพเรื่อยๆ แม้จะไม่ค่อยมีเวลาก็ตาม
รออ่านต่ออยู่ตลอดจ้ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.1 (180513)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 22-05-2013 07:10:28
ยังไม่รู้ความรู้สึกหรือยังไม่แน่ใจ ก็ให้เวลาอีกหน่อยแล้วกัน ..... พี่หมอนำ  :mew3:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.1 (180513)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 22-05-2013 22:28:13
พี่นำไม่แน่ใจ แต่คนอ่านมั่นใจว่าคู่นี้ของจริง คิคิ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.1 (180513)
เริ่มหัวข้อโดย: Moohwan ที่ 23-05-2013 04:39:28
พี่นำเริ่มจะรู้ตัว แต่แค่ยังไม่แน่ใจใช่มั้ย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.1 (180513)
เริ่มหัวข้อโดย: e-ga-g ที่ 23-05-2013 10:17:01
น้องธามน่ารัก ชอบที่สุดเลยคนพูดไม่รู้เรื่อง :m20:
พี่นำเริ่มรู้ใจตัวเองแล้ว
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.1 (180513)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 25-05-2013 01:30:04
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 6.2



ร้อนชะมัดเลย
ธามพลิกตัวและตื่นขึ้นในที่สุด เขาแหงนหน้ามองหานาฬิกาข้อมือที่มักวางไว้ใกล้ๆ หมอน เอาไว้ดูเวลา แต่ก็ไม่เจอ

“อะไร? เดี๋ยว อะไรยังไง เดี๋ยว” เขาทบทวนกับตัวเองเพราะเมื่อลืมตาจนสายตาชินกับความมืดแล้วเห็นว่านี่ไม่ใช่ห้องเขา ไม่ว่าจะห้องในบ้านใหญ่หรือบ้านเล็กที่จัดเองกับมือ

“ไหนล่ะเนี่ย นำ นำ”

“ครับ ธามมีอะไรรึเปล่า?” เสียงดังมาใกล้ๆ หู ธามพลิกตัวมองแล้วก็กลิ้งตัวหนีทันที
“เอ้าๆ เดี๋ยวก็ตกเตียงหรอกธาม” คนที่ทำให้เขาตกใจคว้าไหล่เขาไว้และออกแรงรั้งให้กลิ้งกลับมานอนที่เดิม ธามยันตัวออกห่างนิดหน่อยและเงยหน้ามองพี่นำที่พลิกตัวค่ำ กระดกหัวมองเขางงๆ

“ที่ไหน? ห้องนำหรอ?”

“ก็ใช่น่ะสิครับ คิดว่าที่ไหนล่ะ? รู้รึเปล่าว่าเราเมาหลับน่ะ หือ?” ถามแล้วก็เกลี่ยแก้มเขาเบาๆ ธามรีบก้มหน้าแล้วขยับออกห่างอีกนิด แต่พี่นำก็ยังยื่นมือตามมาเกลี่ยหน้าผากต่อ ธามตัดสินใจกลิ้งตัวลงจากเตียงแล้วกระโดดผึงขึ้นยืน และนั่นก็ทำให้เขาเซซบนั่งลงบนเตียงอีกรอบ อายเหมือนกันนะ

“ดีๆ สิธาม มึนหัวรึเปล่าครับ? หืม?”

“ไม่แล้ว แต่ร้อน”

“งั้นไปอาบน้ำ” แนะเสร็จก็ตื่นเป็นเพื่อน พี่นำจูงข้อมือเขามาไว้ที่หน้าห้องน้ำ แล้วก็หยิบผ้าเช็ดตัวและชุดนอนให้ด้วย

“ของพี่เอง ใช้เถอะ อย่าอาบน้ำนานนะครับ จะหนาว”

“รู้น่า”

“ขี้เมาแล้วยังดื้ออีกหรอ? เด็กดีเขาทำแบบนี้กันรึเปล่า? หือ? ตอบพี่นำสิ”

“ไม่” ธามดื้อใส่ต่ออีกนิดแล้วก็คว้าผ้าเช็ดตัวและชุดนอนเข้าห้องน้ำ ปิดประตูอย่างรวดเร็ว

ใจมันเต้นแปลกๆ ตื่นเต้นแปลกๆ ตื่นตัวแบบแปลกๆ
นี่ห้องนอนของพีนำ ห้องนำพี่นำ ของส่วนตัวของพี่นำ ชุดนอนของพี่นำ
เพียงแค่กวาดตามองห้องน้ำที่ข้าวของถูกจัดวางอย่างมีระเบียบ แลดูสะอาด และมองผ้าเช็ดตัวและชุดนอนในมือ ธามก็ยิ้มออกมาแบบไม่รู้ตัว พอรู้ตัวก็ต้องรีบหุบหน้าตัวเอง

เขาถอดเสื้อผ้าแล้วเปิดฝักบัวเพื่ออาบน้ำ พอถูกน้ำเย็นกระแทกผิวธามก็สะดุ้งทันที สงสัยอาการแพ้จะมาเยือนอีกรอบ นี่เป็นสิ่งที่ธามเบื่อตัวเอง เขามันเป็นพวกสารพัดจะแพ้ ผิวบาง ระคายเคืองง่าย เพราะเป็นแบบนี้ป้าวีณาเลยห่วงเขาเป็นพิเศษ ห่วงชนิดที่ว่าธามจะไปไหนก็ต้องไปกับป้า แล้วเขาจะไปรู้อะไรนอกโลกของป้าวีณากันเล่า

ธามไม่ได้นึกโกรธที่ป้าทำให้เขาเป็นคนไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับสังคมเสียเท่าไหร่ เพราะหากไม่มีป้าวีณาสักคน โลกนี้ก็ไม่มีคนที่ไม่มีใครรักใครต้องกันที่ชื่อว่าธามคนนี้หรอก เขาคงตายไปนานแล้ว

หากจะโกรธก็คงโกรธความอ่อนโลกของตัวเอง เพราะแม้จะไม่มีป้าวีณาแล้ว เขาก็ไม่ได้กล้าเผชิญโลกมากขึ้น สิ่งที่คิดเป็น ทำเป็นอยู่อย่างเดียวก็การหนี

หนีไปอยู่ในที่แคบๆ ไม่มีใคร ไม่เจอใคร ไม่เป็นภาระของใคร เขาอยากเจอที่แบบนั้นเร็วๆ เสียจริง


“ธาม” เสียงพี่นำเรียกทำให้เขาสะดุ้งและหยุดคิดฟุ้งซ่าน ธามถูสบู่เหลวสีใส กลิ่นมันอ่อน ไม่ใช่กลิ่นดอกไม้หรือนม เป็นแค่กลิ่นใสๆ เท่านั้น

“ธามครับ”

“ธามอาบน้ำไง นำให้มาอาบเองนะ”

“พี่นำรู้แล้ว แต่เห็นเงียบๆ คิดว่าหลับ”  ใครจะบ้าหลับในห้องน้ำกันเล่า! ธามขมวดคิ้วประท้วงใส่ประตูที่ปิดสนิท เขายู่ปากแล้วถูสบู่ตามจังหวะเพลงแดนซ์ที่บรรเลงเองในหัว จากนั้นก็ล้างตัว เช็ดตัว และสวมเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว เพื่อออกจากห้องน้ำไปพบกับห้องที่สว่างจ้า

“เสร็จแล้วหรอ? ดื่มน้ำก่อนนอนนิดนึงนะครับ ช่วยได้”
“นี่คอแห้งมั้ย? หือ?”

“ไม่” เขาตอบแล้วเดินลิ่วๆ ไปที่เตียงนอน แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมไม่กลับไปนอนที่ห้องตัวเอง แม้เตียงจะใหญ่ แต่ก็เป็นการรบกวนพี่นำอยู่ดี

“ไม่ดื่มก็ไม่ดื่ม งั้นก็หลับซะนะครับ”

“แล้วนำไม่นอนหรอ?” ธามถามเมื่อเห็นพี่นำจะเดินออกจากห้อง เจ้าของห้องจับลูกบิดตาไว้พลางหันมามองกัน

“ธามนอนก่อนเลย พี่นำคิดอะไรได้นิดหน่อย ไปนั่งทำงานแป๊บเดียวครับ”

“ไม่เอา นำมานอน ธามไปเองก็ได้ นำอึดอัดที่ธามมาแย่งเตียงใช่รึไง”

“ไปกันใหญ่แล้วครับ ไม่ใช่ซะหน่อย”
“โอเค โอเค” สุดท้ายพี่นำก็ยอมเดินกลับมาที่เตียง คงเพราะธามขมวดคิ้วดุใส่แล้วตั้งท่าจะเป็นฝ่ายออกไปจากห้องเอง

เขาถูกดึงตัวให้นอนลงอีกรอบ ธามนอนหงายจ้องเพดานที่ไฟยังจ้าแสง แต่พี่นำกลับนอนตะแคงยกหัวมองธามให้ใจเต้นตึงตัง

“หลับสิครับ”

“นำจะได้หนีไปสินะ”

“ไม่ใช่เลย ธามครับ ตอนนี้ตี 2 ธามควรนอนได้แล้ว พี่นำเองก็ควรนอน”
“เราหลับพร้อมกันดีมั้ย”

“ตะล่อนกันสินะ”

“ตะล่อม กับ กะล่อน ความหมายไม่ได้ใกล้เคียงกันเลยครับ”
“จูนสมองหน่อยมั้ย โอเค ไม่ล้อแล้ว ธามหลับตานะ เดี๋ยวพี่นำจะปิดไฟแล้ว”
“หรือไม่ชอบนอนมืดๆ”

“ธามชอบมืดๆ”

“งั้นพี่นำปิดไฟแล้วนะ” บอกจบก็เอื้อมตัวปิดไฟ ตัวพี่นำยาว ยืดนิดเดียวก็ปิดไฟได้ พอมืดทั้งห้องแล้วธามก็ถูกจับให้ตะแคงหันหาอีกคนบนเตียง เขาตกใจแต่ก็ไม่มาก เพราะสิ่งที่พี่นำทำ ทำให้หัวใจของเขาที่เต้นโครามครามอยู่ค่อยๆ กลับเป็นปกติ

“หลับนะครับ คนเก่งของพี่นำ”

“ธามโตแล้วนะ ไม่ต้องกล่อมหรอก”

“โตแค่ไหน ก็เป็นลูกหมาธามที่ชอบอ้อนพี่นำอยู่ดี เป็นเด็กดีของพี่นะครับ”
“หลับได้แล้วครับธาม”

“จะไม่หลับก็เพราะนำเยิ่นยื้อนี่แหล่ะ”

“เยิ่นเย้อ หรือจะยืดเยื้อ ธามต้องเลือกใช้นะครับ”
“โอเค เรานอนกันเถอะ” พี่นำปิดฉากการพูดคุยด้วยการเอาหน้าผากมาแปะแช่ไว้กับหน้าผากเขา แม้ตัวจะมีผ้าห่มคลุม แต่ที่ทับทาบตัวเขาไว้ก็คือกอดของพี่นำ



-----------


น้องนอนร้องไห้ เจ้าตัวคงไม่รู้ เพราะพอตื่นมาก็ดูไม่มีอาการซึมเศร้าตามมาจากการอนนหลับด้วยแม้แต่นิด
จิตใต้สำนีกของธามมีรูปร่างแบบไหนอยู่นะ ทำไมน้องถึงได้ร้องไห้ในตอนที่หลับสนิทแบบนั้น

เขาลืมตามองธามผ่านความมืดแต่ก็ไม่เห็นอะไรอยู่ดี ทั้งความมืดที่ปกคลุมห้องนี้และระยะที่ใกล้เกินจะมองเห็นอะไรได้ชัดเจน

ผู้นำไม่คลายกอด เขาเองก็ไม่รู้ว่าน้องอึดอัดกับการปฏิบัติเหมือนธามเป็นเพียงเด็กเล็กไม่ประสาหรือไม่ แต่เขาไม่คิดรำคาญหน้าที่ดูแลน้องเลยแม้แต่วินาทีเดียว ตรงกันข้ามเสียด้วยซ้ำ

ผิวธามเย็นกว่าผิวเขาเสียอีก น่าจะเป็นเพราะเพิ่งอาบน้ำมาด้วย แต่อีกใจก็คิดห่วงว่าธามอาจจะป่วยเอาเมื่อตื่นขึ้นพรุ่งนี้เช้า เขากอดน้องแน่นขึ้นและเบี่ยงหน้าเพียงนิด ทำให้ปลายจมูกที่เคยเกือบชนกันกับน้อง เคลื่อนไปสัมผัสแก้มน้องไว้แทน

เขากำลังหอมแก้มธาม...อย่างนั้นหรือ?
ไม่ใช่ เขาไม่ได้หอม เจตนาเขาไม่ใช่หอมแก้มน้องชายตัวเองที่อายุเกือบ 21 ปี
เขาเพียงแค่อยากกอดน้องไว้ให้แน่นที่สุด อุ่นที่สุด เท่าที่ใจเขาจะยอมรับว่ามันเป็นระยะที่เขาจะดูแลน้องได้ดีที่สุด... เท่านั้นเอง




ไม่รู้ว่าผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ตื่นขึ้นอีกที ตะวันส่งเส้นแดดเป็นไรเข้ามาทางขอบผ้าม่าน ผู้นำขยับตัวแก้เมื่อย เขาผงกหัวมองคนที่กองอยู่ตรงอก น้องธาม

“น่ารักเกินไปรึเปล่านะ ธาม” เขาบ่นกับตัวเองพลางงัดน้องให้นอนสบายกว่าเดิม ธามนอนหนุนเขาทั้งตัว เรียกว่าตั้งแต่อกถึงข้อเท้าของเราสัมผัสกันหมด ใครทับใครอันนี้ต้องแยกเป็นส่วนๆ

เขาลุกขึ้นนั่งเพื่อบิดขี้เกียจ แล้วก็ลุกไปทำธุระส่วนตัว วันนี้เขามีงานสายๆ เป็นการบรรยายพิเศษกับสมาคมหนึ่งที่จัดเสวนาเรื่องการพัฒนาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ หัวข้อที่เขาได้รับมาเป็นการบ้านก็คือ การรู้จักจิด เพื่อเข้าใจ ไม่ใช่งานยากเย็นอะไร เพียงแค่ต้องมีศิลปะในการพูดเสียหน่อยเท่านั้นเอง

ผู้นำแต่งตัวเรียบร้อยดีแล้วจึงออกจากห้องน้ำ ธามยังคงนอนหลับอยู่ ท่านอนขดเหมือนลูกหมาขี้หนาวไม่ผิด เขายืนมองอย่างเอ็นดู แล้วก็อดไม่ได้ที่จะเดินไปใช้หลังมือตีแก้มน้องเบาๆ แล้วก็รี่ไปยังห้องทำงานเพื่อปรินท์เอกสารที่เขาต้องใช้ประกอบการบรรยายในวันนี้ และไม่ลืมที่จะส่งไฟล์เข้าอีเมลล์ของตัวเอง

“ตื่นแล้วหรอคะคุณนำ”

“ครับ ป้าจู”
“อ่อ จะไปปลุกธามหรอครับ เดี๋ยวผมปลุกให้เอง เมื่อคืนเมา ผมเลยให้นอนที่ห้องน่ะครับ”

“ค่ะ คุณธามเมาหรอคะ แล้วจะเมาค้างมั้ยคะ ป้าไปเตรียมยาให้น้ำผึ้งมะนาวให้ดีกว่า”

“ไม่ค้างหรอกครับ ดื่มไม่มาก คงเป็นอาการของเขาที่เราไม่รู้น่ะครับ ผมไปปลุกธามก่อนนะ” เขาบอกพลางเดินแยกจากป้าจูที่เดินลงไปชั้นล่างแทน


เขาไม่เคาะประตู เพราะนี่มันห้องเขา
สิ่งที่เจอจึงกลายผิวขาวสะอาดของธามที่เพิ่งเดินออกจากห้องน้ำมา

“เฮ้ย!” แล้วธามจะตกใจทำไมเล่า ผู้นำวางสีหน้าปกติ เขายิ้มให้แล้วบอกจุดประสงค์

“พี่นำมาปลุกน่ะครับ ป้าจูทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว”
“อื้อ เมื่อกี้พี่นำมองจากหน้าต่างห้องทำงาน เห็นรถพ่อด้วย เช้านี้ธามคงได้คุยกับลุงหมอปันแล้วนะครับ”

“จริงหรอ!” ดีใจใหญ่เชียว ยิ้มน่ารักด้วย ทำไมน้องชายเขาถึงได้น่ารักไปหมดแบบนี้นะ

“จริงสิครับ” ผู้นำย้ำเรียกลักยิ้ม เขามองธามผลุบเข้าห้องน้ำอีกรอบ แล้วก็เหวอไปนิดๆ เมื่อได้ยินน้องส่งเสียงบอกกันว่า “นำ หยิบเสื้อผ้าธามให้ทีสิ ตอนนี้เลย ตอนนี้ ธามอาบน้ำแป๊บเดียว จะคุยกับลุงหมอ!”

รู้สึกเหมือนเป็นพี่เลี้ยงเด็กเลยแฮะ
เขาส่ายหน้าพลางหัวเราะตัวเอง แต่ก็เดินไปยังห้องของธามและเลือกเสื้อผ้าตามที่คิดว่าใส่สบาย และเขาชอบมอง มาให้ธามสวมใส่


ทั้งที่บอกให้เขาหยิบให้ แต่พอเห็นเสื้อยืดคอปก และกางเกงผ้าขาสั้นเท่าหัวเข่า ธามก็เบ้ปากแล้วร้องหากางเกงยีนส์ที่ชื่นชอบเสียเหลือเกิน แต่เขาไม่ใช่พี่เลี้ยงเด็กที่ใจดี จึงละเลยอาการหน้ามุ่ยแล้วเร่งให้ธามลงไปทานข้าวเช้าและคุยธุระกับพ่อเขาเสียที

อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องจริงจังที่น้องเก็บงำมานาน และตั้งใจจะพูดกับพ่อเขาคนเดียวเท่านั้น คือเรื่องอะไร



-----------



พูดตอนนี้คงไม่ผิดนัก ลุงหมอทานข้าวเช้าแล้ว จิบกาแฟแล้วด้วย ตอนนี้แหล่ะ พูดเลยธาม พูดเลย!
“เอ่อ! ลุงหมอ”

“หือ? ว่าไงเจ้าธาม”

“ธาม..คือธามคิดไว้แล้ว”
“มันคือความตั้งใจมากจริงจัง”

“จริงๆ รึเปล่าเจ้าธาม พูดให้ลุงรู้เรื่องหน่อยสิลูก”

“ธามหมายถึง ธามตั้งใจแล้ว มากๆ ตั้งใจมากๆ”

“อะไรกันล่ะ? หือ?”

“เรื่องไปอยู่คนเดียว”

“ธามครับ พี่นำเคยบอกแล้วไงว่าไม่ได้ ธามเป็นธุระของพี่นะ เลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว เอาเวลาไปคิดดีกว่าจะทำอะไร ยังไงต่อ”

“ธามคิดแล้ว นี่แหล่ะที่คิด”
“ธามจะอยู่คนเดียว ให้ได้”
“เรื่องเรียน ที่ไม่จบเมื่อเทอมที่แล้วก็เพราะว่าป้ามีเรื่อง ธามส่งงานไม่ทัน ธามไม่มีอะไรต้องทำแล้ว จริงๆ”
“แค่ส่งงาน ส่งจากที่เมืองไทยก็ได้ คุยกับโปรเฟสเซอร์แล้วด้วย”
“ลุงหมอครับ ธามไม่อยากให้ใครไม่ดีเพราะธามอีก ไม่อยากมีแบบป้าอีก ธามกลัว ธามไม่อยากเสีย เพราะตอนนี้ธามก็ไม่มีใครแล้ว”

“ธาม”

“จริงจัง ซีเรียส”
“อย่ายุ่งกับธามเลย ปล่อยให้ธามไม่มีใครแหล่ะดีแล้ว”
“ธามไม่อยากเสียใครอีก”

“เราเอาตรรกะไหนมาพูดกับลุง หือ?”
“ไม่อยากเสียใคร ก็เลยไม่มีใครอีก”
“อายุเท่าไหร่ ทำไมคิดได้เท่านี้”
“เจ้าธาม ฟังลุงนะ”
“ลุงกับพี่นำ จะดูแลธามเอง เราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกข์ด้วยกัน สุขด้วยกัน”
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อจากนี้ เราจะเผชิญมันไปด้วยกันในฐานะครอบครัวเดียวกัน”
“เสียก็เสียด้วยกัน เลิกคิดเรื่องไปอยู่คนเดียวได้เลย เมืองไทยไม่ได้ปลอดภัยกับธามขนาดนั้น”

“แต่ว่า...”

“เอาล่ะ ไหนๆ ก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ลุงว่าเราต้องทำความเข้าใจกันนะว่าสถานะของธามในตอนนี้คืออะไร”

“คืออะไร? คืออะไรครับ? ธามคืออะไรหรอ” เขาเริ่มงงนิดๆ เพราะสีหน้าลุงหมอเครียดกว่าเมื่อตอนที่ธามบอกว่าอยากออกไปอยู่คนเดียวมาก

พี่นำก็ด้วย พอลุงหมอพูดยาวเหยียด สีหน้าพี่นำก็จริงจังขึ้นผิดตา

“เราน่ะ ตัวเราน่ะธาม อาจจะเป็นเป้าหมายฆาตรกรรม อีกราย ต่อจากป้าวีณาเขา”
“เข้าใจรึเปล่า ที่ลุงพูด”

“................”

“ธาม”

“ห่ะ? ครับ? ฆาตรกรรม หมายถึง มีคนอยากให้ธามตายหรอ”

“อืม ใช่”

“ใครครับ”

“ลุงกำลังสืบอยู่ว่าใช่คนที่ลุงคิดรึเปล่า”

“ลุงหมอคิดว่าใครหรอครับ แล้วเขาฆ่าป้าวีณาด้วยหรอ? หมายความว่า ป้าวีณาไม่ใช่โชคร้ายหรอ ทำไมล่ะ ใครกันคิดแบบนั้น แย่มาก!”

“............”

“ลุงหมอคิดว่าใครครับ ใครอยากให้ธามตายหรอ?”

“แค่ความคิดลุงเท่านั้น เราอย่าเก็บไปคิดอะไรมากเลย และลุงก็กำลังสืบเพื่อให้ได้ความว่า คนคนนั้นไม่ได้อยากให้ธามตาย ถ้าลุงได้หลักฐานตามนี้เมื่อไหร่ ธามก็จะมีโอกาสได้เลือกว่าจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง แต่ตอนนี้อยู่กับลุง กับพี่นำก่อนนะ”

“เหตุผลก็ได้ เหตุผลอะไรที่เขาคนนั้นอยากให้ธามตาย”

“เงินเท่านั้นธาม มรดกที่ธามได้รับจากป้าเขาเท่านั้น ที่ทำให้จิตใจคนมันเลวร้ายจนถึงขั้นอยากให้ชีวิตบริสุทธิ์ชีวิตหนึ่งหายไปจากโลกนี้”


เงินหรอ?
เงินที่ธามจากป้าวีณาหรอ?
เขาพอจะเดาได้แล้วว่าใครกันที่อยากให้เขาตาย เพียงเพราะต้องการเงินที่เขาได้รับจากการเสียชีวิตของป้าวีณา

จะเป็นใครไปได้ ถ้าไม่ใช่คนคนนั้น

แม้จะรู้มาตลอดว่าเขาคนนั้นเกลียดธามแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าเขาคนเดียวกันนั้น จะฆ่าป้าวีณาได้ลงคอ เพียงเพราะเงิน

น่ารังเกียจเสียจริง น่ารังเกียจเสียจนน้ำตาเขาไหลโดยที่ไม่สามารถห้ามมันได้


“ธาม...เราอย่าเสียน้ำตาให้ความเกลียดชังของคนอื่นเลยลูก”
“ธามเกิดมาจากความรัก ถ้าจะร้องไห้ ก็จงร้องไห้เพราะปลาบปลื้มในความรัก”
“เชื่อลุงเถอะ”


เขาเช็ดน้ำตาแล้วกัดปากแน่น เมื่อเช็ดน้ำตาแล้วก็สู้หน้าพี่นำกับลุงหมออีกครั้ง ธามยิ้มให้ ไม่รู้ว่าพี่นำกับลุงหมอจะดูออกมั้ยว่าหัวใจเขากำลังหดตัวเพื่อหายไปจากโลกใบนี้


“อยู่กับพี่นำนะครับ ธาม”

“.........”

“นะครับ”

“ครับ” เขารับคำแล้วลุกจากโต๊ะอาหาร ไม่รู้ว่า 2 คนนั้นจะพูดอะไรกันต่อ แต่ตอนนี้ธามไม่อยากฟังใคร ไม่อยากพูดกับใคร ธามแค่อยากขดตัวอยู่ที่ไหนสักทีที่ไม่มีใครหาเขาเจออีกเลย


เมื่อแรกก็กลัว แต่เมื่อกลัวจนไม่รู้จะกลัวยังไง ธามก็รู้สึกโกรธขึ้นมาจนควบคุมตัวเองไม่ได้ มือเขากำแน่น ปากเม้มสนิท ตาแข็งแต่ก็ยังมีน้ำเอ่อขึ้นมาอยู่ดี

ยิ่งคิด ธามก็ยิ่งโกรธ!

ใครคนนั้นเกลียดธาม เพราะธามทำให้เขาไม่ได้เงินสินะ
ใครคนนั้นอยากให้ธามตาย เพราะอยากได้เงินที่ธามไม่เคยอยากได้

ถ้าอย่างนั้น ถ้าธามตายซะ เขาคงเลิกอยากฆ่าธาม เลิกอยากให้ธามตาย และเลิกเกลียดธามซักที จริงมั้ย?
ก็ได้!!!

ธามเร่งฝีเท้าจนกลายเป็นวิ่ง เขาวิ่งเท้าเปล่าออกมานอกบ้าน ตรงดิ่งไปยังประตูรั้วที่ลุงเผือกกำลังกวาดใบไม้อยู่ไม่ไกลนัก เสียงเรียก “คุณธาม!” ไม่อาจเรียกรั้งเขาไว้ได้

ธามวิ่งสุดแรง เขาพุ่งออกจากรั้วแล้วหลับหูหลับตาวิ่งไปตามแรงขับเคลื่อนที่เกิดขึ้นภายใน เขาอยากทำอะไรสักอย่างที่มันรุนแรง ที่ดัง ทำอะไรก็ได้ที่มีอำนาจพอจะหยุด หยุดสิ่งที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้น และไม่อยากเผชิญหน้าเสียที

“ธาม!!” เสียงพี่นำ ธามหยุดวิ่งทันที เขาหายใจเหนื่อยหอบและหันมองพี่นำที่กำลังวิ่งมาหา สีหน้าพี่นำดูเป็นห่วงธามมากๆ

แต่อย่าห่วงธาม อย่ามาดูแล อย่าใกล้ เดี่ยวก็เป็นแบบป้าวีณาอีก ธามไม่เอา ธามไม่เอาแล้ว

“ธาม! กลับมา กลับมาธาม”
“ธาม รถเยอะ ธามมาหาพี่นำสิครับ”

รถเยอะหรอ? ธามเพิ่งรู้ตัวว่าอยู่กลางถนนหน้าซอย รถมากคันจริงๆ ด้วย

“ธาม!! พี่นำบอกให้กลับมานี่ไง”

รถเยอะหรอ? ก็ดีสิ!!

เขาหันหนีพี่นำ ธามมองซ้ายขวา รถหลายคันกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ จากทื่ยืนไม่ห่างฟุตบาทนัก ธามก็วิ่งพรวดออกไปกลางถนนทันที

เสียงแตรรถยนต์ปี๊ดดดดดด แว่วดังยาวจนน่าตกใจ เขาหลับตาปี๋ยืนรอชะตากรรม แต่แล้วก็ถูกฉุดจนตัวเซหงายหลังล้มบนฟุตบาทอีกรอบ


“จะบ้ารึไง!!”
“อยากเห็นพี่บ้าตายใช่มั้ยถึงได้คิดทำแบบนี้!”
“พี่นำเกลียดที่สุด ก็คือคนที่รักไม่เป็นกระทั่งชีวิตตัวเอง!!”
“อยากให้พี่เกลียดธามหรอ ตอบสิ!”

ธามหลับตาปี๋อีกครั้งเพราะเห็นพี่นำยกมือเตรียมตี น้ำตาเขาร่วงผลอยๆ โดยที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่ากำลังเสียใจเรื่องอะไรบ้าง

“ธาม ห้าม! พี่นำห้ามธามทำแบบนี้อีก”
“รับปากสิครับ”

“........”

“ธาม”

“ครับ” ในที่สุดเขาก็ต้องยอมรับคำ เสียงพี่นำสั่นเทาไปหมด ทั้งมือที่บีบจับต้นแขนธามไว้ก็สั่น เขาลืมตามองพี่นำอีกครั้งจึงได้เห็นแววตาหวาดหวั่น

มือที่คิดว่ายกขึ้นเตรียมตีกันนั้นกลับโอบตัวเขาไว้ให้ชิดกับอกกว้าง มือที่บีบต้นแขนจนเจ็บกำลังลูบหลังเขาไปมา
เสียงดังที่ดุเขาเมื่อครู่กำลังกระซิบบอกกันข้างหู

“สัญญาแล้วนะครับ ว่าธามจะอยู่กับพี่นำ”
“อย่าทำร้ายตัวเองอีก ไม่ว่ารูปแบบไหนก็ห้ามทำ”

“นำรู้มั้ยว่าใครอยากให้ธามตาย นำรู้มั้ยว่าเขาเกลียดธามมากแค่ไหน รู้มั้ยว่าขาทำอะไรกับธามบ้าง”
“ธามรับไม่ได้ที่เขาฆ่าป้าวีณา ถ้าเขาเลวร้ายได้แบบนั้นเพราะเงินก็ให้ธามตายเถอะ ธามสู้ไม่ไหว ธามกลัว”
“เงินมันคงดีมากใช่มั้ยนำ เงินเคยยกมือไหว้เขารึเปล่า เคยกราบเท้าเขาเพื่อขอโทษที่เลี้ยงหมาไม่ดีจนเดินเหยียบรองเท้าเขารึเปล่า”
“เงินเคยอดกินข้าวเพราะเขาไม่อยากร่วมโต๊ะอาหารมั้ยนำ นำตอบสิ นำตอบ”

“..............”

“ธามรู้ดีว่าเขาเกลียด แต่ไม่คิดว่าเขาจะอยากให้ธามตายด้วย”
“ถ้าธามตาย แล้วเขาเลิกเกลียด ก็ให้ธามตายเถอะนำ ฮึก...ให้ธามตายเถอะ”

“ไม่ พี่ไม่ยอม”
“ใครจะเกลียดธามก็ช่าง พี่นำจะรักธามเอง”
“พี่จะรักธามเอง ต่อให้คนทั้งโลกเกลียดธาม อยากให้ธามเจ็บช้ำแค่ไหน พี่นำจะเป็นคนรักธามเอง พี่จะชดเชยให้ทุกแผลที่ธามเคยเจ็บ”

“.............”

“พี่จะรักธามเอง เชื่อพี่นำนะครับ”



รักหรอ?
คนอย่างธาม...มีใครรักลงด้วยหรอ?

พี่นำจะรักธาม...ได้จริงหรอ


“แต่ธาม....”

“กลับบ้านก่อนนะ แค่มีความสุขทุกวัน อยากทำอะไรก็ทำ แต่ต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อนและไม่ทำร้ายตัวเองอีก พี่นำขอธามแค่นี้ก่อน นะครับ”

“............”

“อยู่ให้พี่นำรัก ไม่ยากหรอกคนเก่ง”
“นะครับ”

“ครับ” เขารับคำอย่างว่าง่ายอีกหน ธามเดินตามพี่นำที่จับจูงมือเขาไว้ไม่ปล่อย พี่นำเดินเท้าเปล่าเพราะถอดร้องเท้าให้ธามใส่ ท่าเดินเขย่งๆ แต่ก็ไม่ยอมพูดสักคำว่าก้อนหินเล็กๆ ทำให้เจ็บเท้า


ชีวิตฉันมีแต่หมาพาไป จะเดินหนใดมีหมานำ…
ชีวิตฉันมีแต่หมาตาม ชั้นเดินก้าวนำพาหมาเดิน…




เขาจำเพลงนี้ได้ดี จำได้เพราะชอบเอามาร้องล้อพี่นำ และพี่นำก็จะล้อกลับ

....ไม่คิดเลยว่าชีวิตธามจะมีแต่พี่นำจริงๆ....


-cut-



ฝากติดตามกันต่อไปด้วยค่ะ
เรื่องเริ่ม(?) เข้มข้นแล้วค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 25-05-2013 01:57:10
ฮื้อ หวานๆ อ่านแล้วจะกรี๊ด น่ารักอ่า พี่นำกอดธามตอนนอน ธามใจเต้น ฮุฮุฮุ
เมื่อไหร่จะรู้ตัวกันว่ารู้สึกพิเศษต่อกันนะ น่ารักมากมาย

คำพูดซึ้งๆของพี่นำที่พี่นำจะรักธาม ให้ธามอยู่เพื่อให้พี่นำรัก งุ้ย
ชอบจังที่มีบรรยากาศหวานๆห่อหุ้มไปทั้งตอนนี้

รออ่านต่อตลอดจ้ะ สู้ๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 25-05-2013 02:17:09
สงสารธาม  :sad4:
แต่เพราะพี่นำทำให้รู้สึกว่าธามโชคดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 25-05-2013 07:48:04
ธานโชคดีมากที่เจอพี่นำ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 25-05-2013 16:28:03
รอตั้งนาน คุณนักเขียน หายไปหลายวันเลยนะคะ กำลังเข้มข้นขึ้นจริงๆ ใครกันนะใจร้ายกับทามได้ขนาดนี้ เลวจริงๆ ดีนะที่ธามมีพี่นำอยู่ ชอบมากๆอ่ะตอนที่บอกว่าถึงแม้ไม่มีใครรักธาม แต่พี่นำก็จะรักธามเอง น่ารักดี ชอบ
อยากให้มาอัพบ่อยๆหน่อยคะ ชอบมากๆ ตามตั้งแต่เรื่องก่อนแล้ว  :hao7:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 25-05-2013 23:04:47
น้องธามน่าสงสาร ไอ้คนพวกนั้นนิสัยไ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 26-05-2013 08:09:31
ความคิด กับความเป็นจริง ความสับสน กับความไม่เข้าใจ ทำให้ ธาม คิดและทำไป แบบคิดง่าย ๆ
+1 ให้กับความพยายามของ พี่นำ ที่จะทำให้  ธาม กับมาเป็น ปกติ และรู้สึกว่าการมีคนรัก ไม่จำเป็น ต้องจากกันไปอีก  :mew3:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 26-05-2013 10:47:56
กรี๊ดดดพี่นำ!!!!!!!!!!!!!
เค้าพึ่งรู้ว่าคนแต่งแต่งเรื่องใหม่ แบบฮิ้ววววอ่านรวดเดียวเลย
ถึงธามจะดื้อแบบน่าขัดใจแต่ก็เข้าใจว่าน้องมีปม ;_;
ชอบพี่นำจังเลยโคตรจุฑาเทพ คลั่งงงง55555555

ฝั่งพ่อธามนี่ก็ร้ายนะ แต่อย่าได้กลัวธามยังมีทั้งพี่นำและลุงหมอไหนจะป้าจู
คือเรื่องนี้อบอุ่นมากถ้ามองข้ามพวกแย่งสมบัติฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 26-05-2013 12:03:03
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ น้องธามน่ารักตรงพูดไม่ค่อยรู้เรื่องนี่แหละ :m20:
แต่พี่นำฮะ พี่หน้าหล่อและใจก็หล่อมากด้วยนะฮะ ใครไม่รักธาม แต่พี่นำจะรักธามเสมอ แอร๊ยยย หวานมาก :o8:
น้องธามอย่าดื้อกับพี่นำมากนะฮะ เป็นห่วงเหมือนกันนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 26-05-2013 13:11:56
 :mew1: :mew1: :mew1:

เรื่องใหม่เป็นของพี่ผู้นำนี่เอง

เพิ่งได้เข้ามาอ่าน ชอบน้องธามมาก ถึงจะพูดกะพี่นำไม่ค่อยรู้เรื่องแต่น้องน่ารักมากๆ

แอบมีพี่หนึ่งกะเจมโผล่มาด้วยคิดถึงคู่นี้จัง

น้องธามจะหวั่นไหวกะพี่ผู้นำเร็วช้าแค่ไหนเค้ารอติดตามจ้า

กอดคนเขียนนะคะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: mm03 ที่ 28-05-2013 12:43:41
อร๊ายย
เพิ่งเห็นเรื่องของพี่นำ >.<
รักพี่นำที่รักน้องธามแล้วอะ
เพ้อ~ เพ้อ~

“อยู่ให้พี่นำรัก ไม่ยากหรอกคนเก่ง”
“นะครับ”

เจอประโยคนี้เข้าไปน้องธามจะใจแข็งได้เหรอคะ

(อีกนิดชอบชื่อเพื่อนๆกลุ่มนี้มากค่ะ ผู้นำ ที่หนึ่ง มือโปร พี่พีชชื่อดูน่ารักไปเลย >_<*)

หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Moohwan ที่ 30-05-2013 04:33:52
“พี่จะรักธามเอง เชื่อพี่นำนะครับ”
ชอบบบบ  แต่อยากถาม ตอนนี้รักแบบไหนอ่ะพี่นำ :katai5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: IamA ที่ 04-06-2013 14:16:54
ตามมาอ่านแล้ว พี่นำขาาาาาา อยากได้  :hao6:
(อยากได้พระเอกทุกคนของคุณนักเขียน หืดหาดดดดดดดดด)

พี่นำดูแลน้องดีเกินมาตรฐานพี่ชายทั่วไปมากๆ แต่อะไรทำให้น้องธามปั้นปึ่งใส่พี่นำนะ ...น้องชายคนใหม่คือใคร? ใช่เจมตอนม.ต้นที่พี่นำต้องเป็นหูเป็นตาให้พ่อรึเปล่า??

อ่านตอนล่าสุดนี้แล้วน้ำตาแอบรื้น ทั้งซึ้งกับคำพูดพี่นำ ทั้งสงสารน้องธาม ..คนบ้านนั้นให้น้องธามกราบเท้าเพียงเพราะหมาเหยียบเท้าหรอ?  :fire: ...แล้วเคยทำอะไรกับน้องธามมากกว่านี้อีกรึเปล่า น้องถึงได้กลัวสังคมขนาดนั้น??

เจมในเรื่องนี้ดูเข้มแข็งขึ้นมาก ดูกล้าเงยหน้ามองโลกมากขึ้นเยอะ แถมยังดูมีความเข้มแข็งแบ่งปันเผื่อคนอื่นด้วยแน่ะ น่ารักกกกก ส่วนพี่โปรก็ทำตัวเป็นคะตะไลส์กระตุ้นปฏิกิริยาอะไรซักอย่างได้ดีเยี่ยมเหมือนเดิม 555 ...นี่อยากรู้เรื่องชีวิตรักของพี่โปรด้วยเลยนะคะเนี่ย

รอตอนต่อไปค่า
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 04-06-2013 16:54:04
ธามน่ารักมากกกกกกกกกกกกกกก

 :katai1:

อยากให้ธามพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ไปนานๆอะ น่ารัก+ตลกมากกกก  :laugh:

(บ้าแล้วววววววว)

แต่ตอนล่าสุดคือแอบน้ำตาซึมนะ  :hao5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 6.2 (25/05/13)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 04-06-2013 20:56:10
พี่นำอบอุ่นมาก น้องธามก็น่ารักและน่าสงสาร
มีอดีตฝังใจ พี่นำดูแลน้องธามดีๆนะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (0906/13)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 09-06-2013 16:02:44
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 7




หากนี่คือธามตอนป่วย ผู้นำกล้าพูดได้เลยว่ารับมือง่ายมาก
เด็ก 21 ที่ไม่เคยโตเลยในสายตาเขานอนกลิ้งหนีมือปลุกอย่างป้าจูจนผ้าปูที่นอนยับเยิน ธามดื้อเอาหมอนปิดหน้า ส่งเสียงอู้อี้ดังได้ความว่า "ธามง่วงงงงง!"

เขาเองก็อยากปล่อยให้นอน หากธามไม่ได้พูดแบบนี้ทุกเช้า เป็นเวลา 1 อาทิตย์เต็มๆ

ป้าจูส่งสีหน้าขอร้องให้เขาช่วยจัดการ หลังจากที่แกรับหน้าที่งัดธามออกจากเตียงมา 7 วัน และล้มเหลวทุกวัน กว่าเจ้าดื้อจะบิดขี้เกียจซ้ายขวา และลุกลงมากินข้าวก็ปาเข้าไปบ่าย 2

ผู้นำไม่เชื่อว่าน้องง่วงจริงๆ ธามนอนตั้งแต่ 4 ทุ่มกว่า เขาเคยแอบฟังเสียงจากหน้าประตูห้องก็ไม่ได้ยินเสียงอะไร แสดงว่าหลับจริงๆ เขาเชื่อแบบนั้น แต่เด็กดื้อที่ไหนจะนอน 16 ชั่วโมงต่อวัน ต่อเนื่องกัน 7 วัน นี่ไม่ใช่รายการแข่งนอนมาราธอนเสียหน่อย

"ธาม ลุกได้แล้ว" ตัวธามขดเป็นลูกหมาหนาวเมื่อได้ยินเสียงเขา นี่กลัวเขางั้นหรือ? พี่นำไม่ได้พูดชัดเจนรึไงว่าจะรักน้องธาม
"ธามครับ"
"ธาม ทำแบบนี้เรียกว่าเกเรนะ ถึงเวลาตื่นก็ต้องตื่น ไม่อย่างนั้นร่างกายจะรู้จักวินัยหรอครับ"
"ธาม ลุกครับ ไปล้างหน้า ทานมื้อเช้า ยืดเส้นสายให้กระเพาะตื่นด้วย ตื่นสายลงพุงนะครับ" ขยับแล้วนิดนึง ผู้นำกระตุกยิ้มนิดๆ เขาหยิบข้อมือน้องขึ้นมาพลางแกว่งไกวไปมา
"หมาธาม วันนี้วันหยุดพี่นำ อยากให้พาไปไหนมั้ย"

"……"

"เงียบคือปฏิเสธ ภาษาสากลนะครับ"

"เงียบคือยอมรับสิ นำไม่ถูกเสมอหรอก" ประโยคอะไรเนี่ย มั่วซั่วไปหมด ผู้นำขำ เจ้าดื้อยืดคออกจากหมอนที่ปิดหน้าไว้ และเจ้าตัวคงรู้แล้วว่าหลงกลเพราะป้าจูขำสร้างพิรุธ หมาธามตั้งท่าจะปิดหน้าตัวเองด้วยหมอนอีกรอบ แต่เขาขโมยมาได้เสียก่อน

“ลุกครับธาม อย่าดื้อ”
“พี่ไม่มีเวลามาก วันนี้อุตส่าห์ว่างแล้ว ไม่อยากไปเที่ยวกับพี่นำหรอ? ธามอยากไปไหนนะ เคยบอกไว้”

“วัด”

“ก็ลุกสิครับ พี่นำทำให้วัดมาอยู่ตรงหน้าธามไม่ได้หรอก ต้องไปหา ลุก”

“ก็ได้ นำบ่นมาก ตาแก่”

เถียงได้เถียงดีจริงๆ ผู้นำเอาหมอนฟาดหลังน้องชายเบาๆ เป็นการทำโทษที่ปากมากว่าเขา พอเห็นธามยอมตื่นดีแล้วก็หันมองป้าจู

“เรียบร้อยแล้วนะครับ เดี๋ยววันนี้ผมดูให้เอง ป้าจูจะได้ไม่กังวล กับข้าวเค็มไป เปรี้ยวไป มันไม่อร่อย” เขาแซวแม่บ้านเก่าแก่แล้วหัวเราะพร้อมกัน และธามคงเป็นโรคระแวงอีกโรคหนึ่ง ถึงได้เปิดประตูผางออกมาถามว่า “กอสซิบอะไรกัน ธามไม่ใช่!”

ร้อนตัวล่ะสิลูกหมาธาม
เขาทำเป็นอมลม วางสีหน้ายียวนจนธามเชื่อจริงๆ ว่าถูกนินทาเอา เจ้าดื้อผลุบเข้าห้องน้ำไปอีกครั้ง เขากับป้าจูถึงได้หันมองหน้ากันแบบสะใจ



เสื้อยืดผ้าบางตัวโคร่ง กางเกงก็ดูใหญ่กว่าขาที่ยาวพ้นกางเกงออกมามากอยู่ รองเท้าผ้าใบคอนเวิร์สห่อข้อเท้าไม่สูงมาก ใส่หมวกเรียบร้อย แว่นกันแดดพาดอยู่ที่คอเสื้อ ข้อมือมีนาฬิกาเรือนเท่คาดอยู่ ก็ถือว่าเป็นสไตล์ที่เข้ากับธามดี และก็เข้ากับเขาในวันนี้ด้วย...ละมั้ง ก็แต่งคล้ายๆ กัน ต่างแค่เสื้อและรองเท้า อ้อ! เขาไม่ชอบใส่หมวก

“นำเสร็จเองแล้วนะ” ถามอะไรเนี่ยลูกหมา ผู้นำส่ายหน้าเอือมๆ เขาไม่ตอบอะไรหลังจากแอบขำเล็กๆ ไปแล้ว เมื่อเห็นว่าเรียบร้อยดีแล้วเขาก็พาน้องออกจากบ้าน โดยพาหนะที่ธามน่าจะไม่เคยใช้บริการ อย่างน้อยๆ ก็ในประเทศไทย

“ไปยังไงหรอนำ ไม่ใช้รถหรอนำ”

“บริการสาธารณะทุกขั้นตอนครับ เดี๋ยวนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปปากซอย นั่งรถไฟใต้ดินไปที่สีลม แล้วก็ขึ้นบีทีเอส”

“นำจะไปไหนหรอ”

“ไปวัดไง”

“ทำไมหลายเปลี่ยนทาง”

“ธาม เมื่อไหร่จะพูดแบบไม่ต้องแปลสักทีครับ หือ?”
“วันนี้พี่นำจะพาไปวัดที่คนไทยต้องไป วัดพระแก้ว ดีมั้ย เคยได้ยินชื่อมั้ยครับ”

“อ๋อออ รู้สิ”
“ธามรู้แหล่ะ” ขี้อวดซะด้วย ผู้นำพยักหน้าเออออเรื่อยเปื่อย เขาเดินมาถึงหน้ารั้วบ้านแล้วรอมอเตอร์ไซค์รับจ้างวินปากซอยที่ลุงเผือกไปเรียกมาให้ล่วงหน้า

“มาแล้ว นั่งเป็นใช่มั้ยครับ”

“ธามรู้แหล่ะ” จริงรึเปล่าเนี่ย? ผู้นำไม่ค่อยไว้ใจคนช่างอวดตัวสักเท่าไหร่ แต่ก็ปล่อยไปก่อน เขาให้น้องขึ้นไปก่อน และไม่ละเลยที่จะสั่งมอเตอร์ไซค์ไว้ว่าให้ไปพร้อมๆ กัน รอคันของเขาก่อน เมื่อมาถึงก็ขึ้นคร่อมและยอมให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ทำหน้าที่

ถึงปากซอยก็พาเดินไปอีกไม่ไกล เพื่อใช้บริการรถไฟใต้ดิน ธามมองนั่นนี่จนเขาปวดคอแทน ท่าทางจะตื่นเต้นที่ได้เห็นว่าประเทศไทยมีบริการสาธารณะแบบนี้ด้วย แม้จะไฮเทคไม่เท่าไต้หวัน ซ้ำยังไม่ค่อยทั่วถึง แต่มันก็ช่วยได้มาก

“นี่ๆ ธามมานี่”
“หัดซื้อตั๋ว แต่ถ้าแถวมันยาวนักก็ซื้อกับพนักงานที่ตรงนั้นได้เลย” เขาชี้นิ้วแนะนำ พอน้องพยักหน้าแล้วเขาก็กลับมาสนใจตู้ซื้อตั๋วตรงหน้าต่อ
“เราจะไปสีลมกันครับ ธามกดสิ ซื้อให้พี่นำด้วยนะ”

“อ่อ ได้ได้ ง่ายนี่ เนอะ”
“ของธามได้แล้ว อันนี้ของนำ”
“อ่ะ! เก่งสินะ รู้เรื่องหมดเลย” เท่านี้ก็เก่งแล้วหรอ? เด็กน้อยจริงๆ

“ทางไหนล่ะนำ งง”

“ก็ดูแผนที่เอา สังเกตประตูทางออกด้วยนะ วันหลังจะได้ไปไหนมาไหนได้ถ้าลุงเผือกไม่ว่างขับรถพาไป”

“อยากให้ธามไปไหนมาไหนหรอ”

“หือ?” เขาสะดุดหูกับคำถาม ผู้นำมองหน้าอีกฝ่ายแล้วเกลี่ยยิ้มใจดีทั่วหน้า
“คิดมากทำไมครับ แบบนี้ไม่น่ารัก”
“ธามต้องรู้สิว่าพี่นำอยากให้ธามไปไหนมาไหน เพื่ออะไร”
“ธามต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ การออกไปทำความรู้จักโลกใบนี้ไม่ใช่เรื่องที่พี่อยากหรือไม่อยากให้ทำ ธามต้องทำให้ได้”

“ยาว ไม่เข้าใจแล้ว งงนะ”

“เอาเป็นว่า....”

“ไปทางไหนล่ะนำ เร็วสิ”

เฮ้ออออ เด็ก! ผู้นำละความตั้งใจเรื่องสอนให้น้องรู้จักใช้ชีวิต เขาล็อคคอตัวยุ่งไว้แล้วก็พาเดินลงบันไดเลื่อน

จากรถไฟใต้ดินก็ขึ้นมาต่อบีทีเอส เขาบอกปลายทางที่จะไป “ไปสะพานตากสินครับธาม” เท่านั้นน้องก็จัดการไปซื้อตั๋วทั้งของตัวเองและของเขามายื่นให้ตรงหน้า พร้อมกับถามว่า “เก่งนะ รู้เรื่องเร็ว” เขาแน่ใจว่านี่คือคำถามของธาม เพราะมันมีเสียง “เนอะ” ปิดท้ายตามมา


เรื่องตื่นเต้นของธามอีกเรื่องคือการนั่งเรือ
น้องมองแม่น้ำตื่นๆ ซ้ำยังชี้นิ้วใส่แม่น้ำแล้วถามเขาว่า “คลองใช่มั้ย? คลองประเทศไทยใหญ่นะ”

“แม่น้ำครับธาม แม่น้ำเจ้าพระยา” ผู้นำอธิบายพลางยิ้มแห้งๆ ให้กับคนที่ยืนใกล้ตัวแล้วได้ยินจนหันมองน้องเขาขำๆ
“เราจะนั่งเรือด่วนไปที่ท่าช้าง แล้วก็เดินเล่นรอบๆ วัดพระแก้วกัน ไหวมั้ย? แดดอาจร้อนนะ ถ้าไม่ไหวก็หาร้านอาหารพักกัน ดีมั้ย”

“ไหวสินะ ธามได้ ไม่ใช่นำนะ ยังไม่ยัง ไม่แก่”

“โอเค งั้นก็ไปกันเถอะ” ผู้นำบอกเมื่อได้ยินเสียงนกหวีดเป่าดังยาวๆ มาแต่ไกล มันเป็นเสียงสัญญาณของเรือ เขาจับแขนธามไว้กันการหลง แม้ว่าจะล่วงมาถึงเก้าโมงกว่าๆ แล้ว นักท่องเที่ยวก็ยังเยอะอยู่เสมอ

เด็กชายธามตื่นเต้นกับทุกสิ่งจริงๆ เขาไม่เคยไปประเทศไต้หวันมาก่อน แต่ผู้นำก็พอจะเดาได้ว่าไม่น่าจะต่างจากประเทศจีนหรือฮ่องกงมากนัก และเขาก็เชื่อว่าหากเขาได้ไปประเทศไต้หวัน เขาก็จะไม่ตื่นเต้นไปเสียหมดแบบที่ธามเป็นอยู่

“นำ คิดว่าจมได้มั้ย”

“หือ?” เขาหันมาสนใจธามที่นั่งด้านใน น้องใส่แว่นกันแดดไว้ แต่เขาก็มั่นใจว่าที่มองอยู่นี่ตรงกับสายตาธามแน่นอน
“อะไรนะครับ”

“นำคิดว่าจะจมได้มั้ย?”

“เรือนี่น่ะหรอ?”
“ก็เสี่ยงนะ แต่เขาก็มีเสื้อชูชีพนี่ นี่ไง ใต้เบาะด้านหน้า” เขาชี้ให้ดู เด็กชายธามขยับแว่นมองแล้วก็นั่งเชิดหน้าหันไปมองแม่น้ำ

“กว้างเนอะนำ”
“กว้างแบบนี้มีเจ้าของมั้ย”

“แม่น้ำหรอครับ”
“ไม่มีหรอก เป็นของประเทศไทย ของคนไทย ของธามด้วย ก็ธามเป็นคนไทยนี่”

“ธามเป็นคนที่ไหนยังไม่รู้เลย ไม่ใช่ที่นี่ก็ได้”

“ธามก็เป็นทุกที่นั่นแหล่ะ” เขาเล่นคำและธามก็คงตามที่คิดไว้ ผู้นำหัวเราะเบาๆ แล้วโยกหัวเด็กชายข้างตัวเล่น เขาลอบมองสีหน้าที่ถูกบดบังอยู่ส่วนหนึ่ง ไม่รู้เหมือนกันว่าธามกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ดูเหม่อๆ

นั่งมาสักพักก็ถึงท่าที่ต้องลง เขากระตุกมือธามแล้วจูงมาเพื่อขึ้นท่าที่ท้ายเรือ ขึ้นจากท่าได้ก็เดินฉับๆ ราวกับรู้ทาง พอนึกได้ก็หันมาหาเขา และเมื่อเห็นเขาเดินตามมาด้วยก็คงเบาใจ ถึงได้ก้าวฉับๆ ต่อไปอีก

“นำ!! นำ นำ”
“นำมานี่!”
“นำมา”
“นำตามธามมาเร็วสิ!”

อะไรของเด็กคนนี้ เขาส่ายหัวนิดๆ แต่ก็ยอมวิ่งเหยาะตามไป เป้าหมายของธามก็คือคณะทัวร์ไต้หวัน เด็กคนนี้ดึงเสื้อเขาให้เดินติดๆ กันไว้ แล้วก็เดินตามคณะทัวร์ เพื่อฟังไกด์อธิบายเรื่องราวของวัดพระแก้วไปตลอดทาง

เจ้าธามขี้โกง!

ตกบ่ายเขาก็เหนื่อยแล้ว ธามเองคงเหนื่อยเหมือนกัน วัดจากการเดินกระพือเสื้อและอาการมองแต่ของกินข้างทาง เขาพาน้องวกกลับมาที่ท่าช้างอีกครั้งและแวะทานมื้อบ่ายๆ กันที่ร้านชื่อดัง เลือกที่มีแอร์หน่อยเพราะทนอากาศร้อนกันไม่ไหวแล้ว

“สนุกนะ นำเหมือนกันมั้ย?”

“ครับ พี่นำก็สนุกเหมือนธาม พอใจมั้ย”

“อื้อ”
“นำกินอะไร บอกบ้าง กินเหมือนกัน”

“อืมมม สปาเก็ตตี้แกงเขียวหวาน ลองมั้ย? เผ็ดนิดเดียว”

“อื้อ” หิวแล้วก็ว่าง่าย ผู้นำส่งอาหารให้ ถ่ายรูปให้ตามที่ธามขอ แต่รูปสุดท้ายนี่เขายอมรับว่าเขาเขินนิดๆ เพราะธามเปลี่ยนมานั่งฝั่งเดียวกันแล้วจิ้มหน้าผากมาที่แก้มเขาแล้วถ่ายรูป

“อีกที อีกที เมื่อกี้ธามไม่ดีเลย ไม่หล่อ ไม่หล่อ”

“เอาเลย ตามใจ จะกี่รูปพี่นำก็หล่ออยู่แล้ว”

“โม้!” แหน่ะ ทีคำประเภทนี้แหล่ะจำได้หลายคำเชียว เขาจับคางน้องเขย่าไปมาเป็นการทำโทษ จากนั้นก็ปล่อยให้เด็กไม่เคยกินสปาเก็ตตี้แกงเขียวหวานตื่นเต้นไปกับอาหารตามใจชอบ

เพิ่งรู้ว่าธามชอบถ่ายรูป ทักษะก็ดีพอสมควร เขาเดินตามคนเดินหน้าถอยหลังอยู่สักพักก็ดึงตัวมาเดินเคียงกัน เพราะการเดินจากท่าช้างไปท่าพระจันทร์อาจทำให้ธามโดนเตะเอาได้ ก็เล่นเดินเกะกะคนอื่นไปเสียหมดแบบนี้

“ดีๆ มองข้างหน้าสิ”

“เดี๋ยวนำหาย”

“ไม่หายหรอกครับ พี่นำเดินตามอยู่ มองธามอยู่ตลอด ทีนี้ธามก็เดินตรงๆ ได้แล้ว ยึกยักมันขวางทางคนอื่น”

“กินนั่นกันได้มั้ย” เฮ้อ! ฟังกันบ้างมั้ยเนี่ย? เจอของกินแล้วก็เขว เขาถอนหายใจแล้วก็พยักหน้ายินยอม เด็กขี้ร้อนเดินเข้าร้านไอศกรีมเจ้าตลาดไปอย่างสบายใจเรียบร้อยแล้ว

พาเดินอีกนิดก็พาเดินกลับมาที่ท่าช้างอีกหน ธามใส่แว่นกันแดดอีกครั้งหลังจากที่ใช้มันเป็นที่คาดผมบนหัวตอนอยู่ในร้านไอศกรีม

รอกันเงียบๆ ไม่นานก็ยินเสียงจอแจ พวกเขาเจอทัวร์อีกแล้ว ธามหันมองแล้วก็ยืนกอดอกหันหลังให้ทันที ยืนนิ่งอยู่ไม่นานน้องก็สะกิดเขาแล้วถาม

“คู่จิ้นคืออะไรหรอนำ”

“ทำไมครับ?” เขาถามกรุยทางก่อน เพราะผู้นำเองก็ไม่รู้คำตอบเหมือนกัน

“ได้ยินตั้งแต่ที่นั่งเรือมา คนไทยพูด ชี้ธามกับนำแล้วก็พูด”
“ที่เดินตามนักท่องเที่ยวในวัด ก็มองธามกับนำแล้วก็พูด”

“หือ? คนไต้หวันมองธามแล้วพูดหรอ พูดอะไรครับ?”

“bromance” อะไรกันล่ะเนี่ย ผู้นำคิดว่าตัวเองต้องอัพเดทกระแสโลกเสียแล้ว เขาส่ายหัวเป็นคำตอบ แต่ธามกลับขมวดคิ้วใส่เหมือนไม่พอใจอะไรบางอย่าง

“บ้าบอ นำช่างมัน”

“มีแต่ธามนั่นแหล่ะที่หงุดหงิด พี่นำไม่เห็นเดือดร้อนอะไรเลย” เขาโค้งตัวไปกระซิบบอก เจ้าแว่นดำถึงกับถอดแว่นแล้วขมวดคิ้วใส่เขาหนักกว่าเดิม

“เราไม่ใช่ซะหน่อย ธามเป็นน้องชายใช่มั้ย นำเป็นพี่”
“brother! Just brother! นำชอบแค่นั้นนี่”

“พี่นำงงกว่าเดิมอีกนะธาม พูดให้เข้าใจหน่อยได้มั้ย?”

“ก็ bromance คิดว่าเรามีสัมพันธ์กัน เราไม่ใช่ เราพี่น้อง”
“คนเขาบ้า แล้วคู่จิ้นคืออะไร”

ผู้นำไม่ตอบความใด เขามองธามแล้วกระตุกยิ้มขำ ก่อนจะโอบไหล่พาให้หันไปมองแม่น้ำ และเลิกสนใจเสียงของใครก็ไม่รู้เสียที

Bromance คู่จิ้น เขาคิดว่าเขาพอจะรู้เลาๆ แล้วว่ามันคืออะไร และอธิบายถึงความสัมพันธ์ประเภทไหนกัน

“แล้วเป็น bromance ไม่ดีตรงไหน พี่นำไม่เห็นเดือดร้อนอะไรเลย”


-----------



bromance ไม่ดีตรงไหน พี่นำไม่เห็นเดือดร้อนอะไรเลย
นำโกหกสินะ นำต้องเดือดร้อนอยู่แล้ว ในเมื่อนำชอบธามแค่น้องชาย ไม่ใช่ชอบความสัมพันธ์อื่น

ธามใส่แว่นกันแดดตามเดิมและจำทนยืนฟังภาษาจีนไต้หวันที่นินทาเขาไม่หยุดหย่อน เดี๋ยวก็ว่าน่ารัก เดี๋ยวก็ว่าหล่อ แต่นั่นไม่ทำให้เขาเต้นเท่ากับที่มองเขากับพี่นำว่าเป็นอะไรกัน หมายถึง...มองว่าเป็นแฟนกัน

ไม่ใช่เสียหน่อย อย่างน้อยๆ พี่นำก็ไม่มีความสัมพันธ์แบบนั้นอยู่ในหัว

พี่นำจะรักธามเอง  คำว่ารักของพี่นำวันนั้น เป็นแบบไหนกันนะ?

“ดูสิ ดู พวกเขาโอบกันด้วย ประเทศไทยเกย์เยอะจนเจอง่ายเลยหรอ ไม่เคยรู้มาก่อน”
“แต่พวกเขาก็น่ารักมากเลยนะ คนที่สูงๆ นั่นหล่อมากเลย คนไทยหล่อ ไม่น่าเชื่อ”
“พระเอกที่พวกเราดูก็คนไทย เธอลืมรึไง คนไทยหล่อ แต่ชั้นชอบคนที่ใส่แว่นกันแดดมากกว่า ท่าทางดื้อซน”
“น้องชายกับพี่ชาย พวกเขาน่ารักจังเลย ตามไปติดๆ นะ แอบดูสิว่าเขาจะทำอะไรกันอีก”

บ้ารึไง จะทำอะไรที่ไหนเล่า แค่มาเที่ยววัดเท่านั้น ธามเถียงในใจ เขาแอบหันไปมองหน้าคนพูดและได้สบตากับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในคนที่พูดถึงธามอยู่ เธอดูตกใจแต่ครู่เดียวก็ฉีกยิ้มให้พร้อมขยิบตา

ไม่เข้าใจแฮะ ธามถอนหายใจดังๆ จนพี่นำสงสัยและโค้งตัวเอี้ยวมามองหน้า เขายังไม่ได้ขยับหนี ก็ได้ยินภาษาจีนไต้หวันแว่วมาอีก ความว่า “ต๊ายยยยยยยยยย น่ารักจัง”

อะไรกันเล่า!

ขากลับคนเยอะ เบียดจนร้อนไปหมด เหงื่อออกจนตัวเหนียว ไม่รู้จะเหม็นเหงื่อแค่ไหน

“นำไม่ต้องโอบ”

“ก็เราจะถลาอยู่ตั้งหลายครั้ง ให้พี่จับไว้แหล่ะดีแล้ว” ก็ธามตัวเหนียวนี่นา ไม่อยากให้นำจับตอนเหนียวๆ นี่! ธามพยายามเบี่ยงตัวหนี แต่ความเบียดเสียดของคนบนเรือก็บังคับให้เขายืนนิ่งๆ โดยมีวงแขนพี่นำเกี่ยวคอไว้กันเซ

“ถึงแล้วครับ หิวมั้ยเนี่ย หน้ายุ่งเชียว” ก็หน้าปกติ นำนั่นแหล่ะที่ชอบบอกว่าธามหน้ายุ่ง เขาส่ายหัว แต่เริ่มคิดถึงอาหารทันทีที่ถูกทักถาม

“ไม่หิวได้ไง เย็นแล้วด้วย อากาศร้อนๆ แบบนี้ธามต้องเสียพลังงานเยอะแน่ๆ ไปเดินห้างกัน”

“ไม่เอาแล้ว เดี๋ยวก็มองกันอีก”

“มองกันไม่เห็นเป็นไร” พี่นำชอบบอกว่าไม่เป็นไร ไม่เดือดร้อน สงสัยนำจะไม่มีความรู้สึกอะไรกับทุกอย่างบนโลกล่ะมั้ง ธามขืนตัวไว้เมื่อมาถึงท้ายเรือ เขาจะก้าวขาขึ้นฝั่ง แต่พี่นำก็ก้าวขึ้นไปก่อนแล้วยื่นมือมารอ เฮ้ย! ธามโตแล้วนะ ไม่ใช่เลดี้ซะหน่อย!

“จับมือ เดี๋ยวล้ม!”
“โป๊ะมันโยกครับธาม เร็วๆ คนอื่นเขาก็รีบ”

“ธามรู้ แต่ธามไม่ใช่!” ขอเถียงหน่อยเถอะ ธามชกมือที่ยื่นมารอตรงหน้า แต่ก็จับมือนั้นไว้ในที่สุด เขาถูงจูงขึ้นมาถึงสถานีรถไฟฟ้านั่นแหล่ะ พี่นำถึงจะปล่อย

“จะซื้อตั๋วเองมั้ย?”

“ซื้อ” ขอทำอีก สนุกดี ให้ยืนรอพี่นำทำนั่นนี่ให้ตลอดมันน่าเบื่อ ธามหยอดเหรียญที่ไปแลกมาแล้วก็หยอดแบบยืดยาด ยินเสียงงึมงำด้านหลังจึงหันไปดู โอ๊ะโอ คนต่อแถวยาวแล้วหรอ โอเค ธามรีบแล้วก็ได้

“แกล้งคนอื่นเขาสนุกนักรึไง” โดนรู้ทันจนได้ พี่นำเขกหัวเขาแล้วถอดหมวกไปยึดไว้แทน ธามจึงต้องขยี้หัวตัวเองให้ผมมันยุ่งๆ แล้วก็เดินตามเข้าสถานีไป

พี่นำพาแวะที่ห้างที่พี่นำบอก “ใกล้บ้านเราสุดแล้ว ธามอยู่บ้านเบื่อก็มาดูหนัง หรือมาซื้อของได้นะ พาป้าจูมาเดินเลน่ก็ได้ ถ้าอยาก”

เอาป้าจูมาได้หรอ? ดีจัง

เขายิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้เหตุผล ธามยอมนั่งตามแรงดึงของพี่นำ แล้วก็ตากแอร์ฉ่ำๆ บนรถไฟฟ้า จากรถไฟฟ้าก็มุดลงรถใต้ดินดังเดิม เขาจำรูปแบบการเดินทางได้แล้ว ดูจากเส้นทางแผนที่บนประตูของทั้ง 2 รถไฟนี่แล้ว ธามคิดว่าธามจะไปที่สยามคนเดียวได้ รู้มาว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยว วันหลังไปเดินเล่นคนเดียวดีกว่า เบื่อนำ ขี้บ่น

ที่ที่พี่นำพาแวะอีกครั้งก่อนกลับเข้าบ้านก็คือ ห้างเซ็นทรัล สะดวกแฮะ พี่นำพากินสเต๊ก อิ่มท้องมากเลย แต่มันก็ไม่ได้จบแค่นั้น เพราะพี่นำพาซื้อเสื้อผ้า ร้องเท้าใหม่ กระเป๋า กระเป๋าสตางค์ แอสเซสซารี่อื่นๆ ที่ธามอยากได้ ขัดใจแค่กางเกงยีนส์นี่แหล่ะ ก็รุ่นขาดๆ ที่หน้าขามันสวยกว่า ทำไมไม่ให้ใส่ ไม่เข้าใจเลย!

“อื่มมม พี่นำลืมไปเลยว่าธามไม่มีโทรศัพท์มือถือ อยากได้รุ่นไหนล่ะ”

“ไม่ต้องมีก็ได้ เดี๋ยวธามหาเงินซื้อเอง”

“เบื่อจังน้าคำนี้ ทุกครั้งก็พูดแบบนี้ พี่นำเคยยอมมั้ย?”
“ตอนนี้พี่นำเป็นผู้ปกครองนะครับ เลือกๆ มาเถอะ เร็วสิ”

“แต่ว่า...”

“นะครับ เลือกเถอะ พี่อยากกลับบ้านแล้ว เพลีย”

“ก็ได้ ก็ได้”
“นำนั่งรอ ธามขอเลือกก่อน” เขาบอกแล้วก็เดินลิ่วๆ เข้าร้านขายโทรศัพท์มือถือ แต่พี่นำกลับเกี่ยวตัวไว้แล้วบอกว่า “ไปที่ศูนย์บริการเครือข่ายเลยแล้วกันครับ ง่ายกว่า เปิดเบอร์ เลือกโปรเลยด้วย ทางนี้ ทางนี้”

สรุปแล้วพี่นำก็เลือกให้ เปิดเบอร์ให้ มีถามความคิดเห็นนิดหน่อยว่า “ไม่ชอบเลขตัวไหนเป็นพิเศษรึเปล่าครับ”

“ไม่เอา 4”

“โอเค งั้นเบอร์ 081-4848-xxx” แบบนี้ เรียกว่ากวนตีนได้รึเปล่านะ? ธามขมวดคิ้วมองแล้วยู่หน้าใส่ พอได้ของครบตามที่พี่นำเห็นว่าครบแล้ว เขาก็เดินทางกลับบ้านกันเสียที


-----------


ขากลับนี่ขอพึ่งบริการแท็กซี่หน่อยเถอะ เขารู้สึกเพลียๆ ตั้งแต่ตอนเบียดกับคนบนเรือแล้ว ผู้นำก็ใช่ว่าจะถูกกับอากาศร้อนนักหนา แล้วไหนจะสายตาคนอื่นที่เริ่มเขากับธามแบบแปลกๆ อีก

เขาไม่ใช่คนตื่นสายตาใครต่อใคร ไม่ประหม่า เคยโดนมองบ่อยๆ เพราะสูงสะดุดตา หน้าตาก็...เทียบกับที่หนึ่งกับมือโปรก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน แต่ถ้าเทียบกับพีชแล้วเขาดูคมกว่ามาก

แต่ที่ถูกมองวันนี้ มันทำให้รู้สึกแปลกจนต้องหันมองเป้าหมายสายตาของคนอื่นตัวจริงบ่อยๆ

ธามเป็นเด็กน่ามอง มองแล้วสบายใจ หน้าเกลี้ยงๆ ดูเหมือนไร้อารมณ์แต่ถ้าสังเกตคิ้วก็จะรู้ได้ทันทีว่าน้องอยู่ในอารมณ์ไหน เขาไม่รู้ว่าคนอื่นมองธามแล้วคิดยังไง แต่เขารู้ว่าเขาจำกัดความน้องว่า “น่ารัก”

“วันนี้เหนื่อยมั้ยครับ?”

“นิดเดียว แต่ชอบนะ สนุกดี นำเหมือนกันสินะ”

“ครับ พี่นำก็สนุก”
“แล้วนี่จะบอกป้าจูยังไงว่าเราทานข้าวเย็นกันมาแล้ว”

“ไม่เป็นไร ถ้าป้าจูทำไว้ให้ ธามก็จะกินอีก”

“ใจดีจังน้า”

“เดี๋ยวป้าจูเสียใจ” ธามน่ารักจริงๆ ใจดีกว่าที่คิด มีน้ำใจมากๆ เป็นเด็กดีขนาดนี้ทำไมถึงได้รับแรงเกลียดชัง จนทนรับไม่ไหวและคิดจะหนีทุกวิถีทาง ทำไมถึงได้โชคร้ายแบบนี้นะ

จากวันที่ธามรู้เงื่อนไขของชีวิตตัวเอง ไม่ว่าจะอยากได้หรือไม่อยากได้ ก็อาทิตย์นึงแล้ว ไม่รู้ว่าน้องจะลืมหรือยัง? ไม่รู้ว่ายังจำได้รึเปล่าว่าเขาพูดไว้แล้วว่าจะรักธามเอง ต่อให้คนทั้งโลกเกลียดธาม พี่นำก็จะรักธามเอง

เขาอยากให้จำได้ และอยากให้พิสูจน์ไปพร้อมๆ กันว่าเขาจะทำตามที่พูดไว้ได้รึเปล่า

“นี่นำ”

“ครับ”

“เลี้ยงธามเปลืองมั้ย ขอโทษนะ ธามหาเงินได้เยอะๆ จะซื้อคืน”

“ไม่เปลืองครับ เลี้ยงได้”
“แค่อย่าดื้อมากก็พอ ดื้อวันหยุดได้ พี่นำยังมีแรง แต่ถ้าดื้อวันที่พี่นำยุ่งกับงานมากๆ พี่นำไม่มีแรงเข้าใจธามนะ”
“ทำได้มั้ย?”

“ไม่ได้ ธามไม่ดื้อเลยสักวัน นำพูดมากไปเอง” เถียงอีกแล้ว เขาหัวเราะขำนิดหน่อยแล้วก็จับคางเล็กๆ แล้วโยกเป็นการทำโทษ เด็กชายธามยู่หน้าแต่ก็ไม่ลี้หนี เขาส่งยิ้มให้ตบท้ายแล้วละมือจากปลายคางมาวางที่หน้าขาน้องแทน

“ถ้าให้ขับรถ จะทำได้มั้ยครับ”

“ขับเป็น แต่ไม่รู้ทาง”

“งั้นพรุ่งนี้ไปทำงานกับพี่นำ นั่งเรียนรู้เส้นทาง ดีมั้ย”

“ได้หรอ ไม่กวนหรอ”

“ได้สิครับ ไม่กวนหรอก แต่อย่าดื้อ ทำได้รึเปล่า”

“โธ่! ธามไม่เคยใช่!”

“ต้องบอกว่าธามไม่เคยดื้อต่างหาก”

“แต่นำก็รู้เรื่องนี่! ขี้บ่น” แยกเขี้ยวใส่เสร็จก็กัดไหล่เขาเป็นการระบายอารมณ์ เด็กหนอเด็ก

เจ็บนะ แม้จะนิดๆ แต่ก็เรียกว่าเจ็บ แต่ใบหน้าเขาที่สะท้อนในกระจกหน้ารถ บอกกับเขาว่า ผู้นำกำลังยิ้มอย่างมีความสุขมากๆ




ทั้งที่เคยได้อ่าน ได้ยินบ่อยๆ ว่าความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้มีประสบการณ์ตรงในวันนี้

บ้านเขามีแขกมา ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นใคร แต่สีหน้าป้าจูที่วิ่งออกมารับเขาเข้าบ้าน และลุงเผือกที่มาถือของให้นั้น บ่งบอกกันว่าผู้มาเยือนคงไม่ได้มาดี

“ใครมาหรอคครับป้า”

“ป้าก็ไม่รู้หรอกค่ะตอนแรก มากัน 2 คนพ่อลูก ให้ตาเผือกไปบอกคุณหมอว่าเป็นเอ่อ...”

“ใครครับ?”

“ลุงกับพี่ชายของคุณธามค่ะ”


ผู้นำหันมองน้องชายที่เขาจับข้อมือไว้ไม่ปล่อย ธามหันมองหน้าเขา สีหน้าเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด แต่จู่ๆ ธามก็ถอนหายใจแล้วดึงข้อมือหนีจากมือเขาไป

“ธามครับ ขึ้นห้องไป เดี๋ยวพี่นำไปดูเองว่าพวกเขามาทำไม”

“เรื่องนี้ของธาม”

“พี่เป็นผู้ปกครอง”

“ไม่ได้ นำอย่ามายุ่ง นำต้องห่างไป ไม่อย่างนั้นจะเป็นเหมือนคนอื่น”
“ธามจะถามเองว่าเขาอยากได้อะไรนักหนา”

“ธาม เชื่อพี่นำสิ”

“เรื่องนี้ไม่ได้”
“นำ ธามเสียอะไรไม่ได้อีกแล้ว นำด้วย ห้ามหายไป”
“ธามต้องเก็บไว้ให้ได้ ทำยังไงก็ยอม แต่ต้องทำกับธามคนเดียว”


“............”


เขาไม่เถียงอะไรอีก ผู้นำปล่อยให้ธามเดินนำไปก่อน เขาถอนหายใจแล้วก้าวฉับๆ ไปเดินเคียงและโอบธามไว้ น้องหันมองเขาอย่างตกใจและพยายามลากตัวเขาไปชั้น 2 แต่ตัวธามเล็กกว่าเขานี่ จะสู้แรงเขาได้อย่างไร เขาประกบแก้มน้องไว้ทั้ง 2 มือแล้วพูดด้วยแววตาแน่วแน่

“พี่นำบอกจะดูแล ก็ต้องดูแลให้ได้ บอกจะรัก ก็คือรัก”
“คนที่ต้องมีคนดูแล คือธาม ไม่ใช่พี่”
“พี่ชื่ออะไร ผู้นำใช่มั้ย? ทำไมไม่ทำแค่ตามพี่นำมาเรื่อยๆ ล่ะครับ”

“............”

“เคยเกิดอะไรกับธามบ้างพี่นำรู้ไม่หมดหรอก แต่เมื่อเป็นน้องของพี่ พี่ก็จะปกป้องให้ถึงที่สุด”
“ไม่ว่าเขาจะอยากได้อะไรจากธาม จะเป็นเงินทอง ความสุข หรือชีวิต มันเป็นสิทธิ์ของธามที่จะหวงแหนสิ่งเหล่านั้นไว้ แล้วพี่จะทำให้ของของธาม อยู่กับธามจนวันตาย”

“............”

“ธามเป็นของพี่ ใครหน้าไหนก็ห้ามมาทำร้ายเด็ดขาด”
“เข้าใจแล้วก็ขึ้นห้องไปครับ หรืออยากดูว่าพี่จะทำยังไง ก็ตามมา แต่ต้องอยู่หลังพี่เท่านั้น โอเคมั้ย”

“อื้อ” ดีว่ารอบนี้ไม่ดื้อ ผู้นำคลายสีหน้าขึงขังแล้วเดินไปยังห้องรับแขก โดยมีธามดึงเสื้อไว้แล้วเดินตามมาติด

หน้าไหนเขาไม่สนหรอก ผู้นำรู้แค่ว่าเขาจะทำทุกทางให้ธามอยู่อย่างมีความสุขให้ได้
มือเขาอาจไม่ใหญ่มากมาย แต่มันโอบอุ้มความรู้สึกของธามไว้ได้แน่ๆ เขามั่นใจ


Cut



อย่าต่อว่ากันเลยค่ะ ไม่ได้เล่นตัวหายหัวแต่อย่างใด ฮือออ
ไม่มีเวลาว่างเลยจริงๆ วันนี้มาลงได้ก็เพราะว่าไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมกับส่วนรวม เลยได้นั่งต่อกแต่กพี่นำกับน้องธามได้

ตอนต่อไป จะพยายามไม่ทิ้งระยะมากนะคะ เดี๋ยวคนอ่านลืมเนอะ ^*^
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: premkoe ที่ 09-06-2013 16:45:52
แอร๊ายยยย  รอตอนต่อไปจะไม่ไหวแล้ววว ผู้นำจัดการเลยยยย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 09-06-2013 17:20:49
ตอนนี้น่ารัก อ่านแล้วยิ้ม คู่จิ้นเหรอ อิอิอิ เจอแบบนี้คงยิ้มจนแก้มจะปริแน่ๆ
แต่ระเบิดที่ใส่ไว้ตอนท้ายทำเอาเหี่ยวเลยอ่ะ ทำงี้ได้ไง งื้อ
พี่นำต้องปกป้องธามไว้ให้ได้นะ ต้องทำให้ได้ ไม่รู้แหละ ไม่ยอม
ธามก็เชื่อฟังและเชื่อใจพี่นำนะ

รออ่านต่อจ้า
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 09-06-2013 19:49:24
คู่จิ้น พี่นำรู้ว่าคือไร แต่น้องเข้าไม่เข้าใจ
ชอบน้องธาม น่ารัก ซื่อ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 09-06-2013 20:38:15
พี่นำ T___________T กรี๊ดเค้าชอบบบบบบบบบบ
แต่อยากให้ชอบกันแระ
พี่นงพี่น้องอะไรเล่า!!!!!
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 09-06-2013 21:18:54
พี่นำเท่มากกกกกกกกกกก

เจาๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 :katai4:
#ผิด

ชอบภาษาไทยมั่วๆของธามจัง  :laugh:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 09-06-2013 21:29:59
พี่นำพูดยาวเหยียด น้องตอบกลับไม่ได้เพราะฟังไม่ทันหรือเปล่า เลยตอบได้แต่ "อื้อ" :m20:
อ่า เครียดๆ พี่กับพ่อธามมาทำไม ไม่รักแล้วมาทำไมมิทราบ พี่นำจัดการให้น้องหน่อยนะ  :m16:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 10-06-2013 21:47:39

สนุกมากกกกกกกกกกกกก  :impress2:
แบบว่าอ่านแล้วยังไม่อยากให้ถึงตอนล่าสุด  อยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ
พี่นำอ่อนโยนมาก เทคแคร์ดูแลธามแบบสุดยอด  อยากได้พี่นำมานำทางซักคน ก๊ากกก555
แต่น้องธามก็น่ารักน่าหยิกดีจังเลอ ฮา
ตอนอ่านที่น้องธามพูดแล้วมันขำ มันไม่ได้ดูน่ารำคาญแต่ดูน่ารักน่าฟัดที่สู๊ดดด
อยากอ่านต่อแล้วอ่าาคนแต่งจ๋า ;_;
มาต่อเร็วๆน้า  รออ่านจ้าาาา
+1 ให้ค้าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: threetanz ที่ 10-06-2013 23:00:40
พี่นำสู้ๆ พี่นำสู้ตาย พี่นำเท่ห์สุดๆ แอร๊ยยยยยย

Bromance จิ้นกระจายค่าาา
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: PoofuGirl ที่ 11-06-2013 01:07:27
พี่นำน่ารัก น้องธามน่ารัก >///<
เถียงพี่นำตลอด ธามไม่ใช่ 555+

ซีนไปวัดเหมือนไปเดทกันเยย
น้องธามแอบขี้โกงนะ เดินตามคณะทัวร์ไต้หวัน
ไม่ต้องให้พี่ธามแปลให้เลยฟังเอง :P

Bromance !!
อ่านแล้วคิดอยู่ว่าน้องธามคิดรักพี่นำแบบไหน
ถึงได้ไม่ชอบใจขนาดนั้น พี่นำยังไม่ว่าอะไรเลยนะจ๊ะ

Cut ด้วยมาม่าหรือเปล่าเนี่ย งี๊ดดดดดด  :katai1:
น้องธามมีพี่นำเป็นผู้นำอยู่แล้วอย่าได้กลัวไป


ดีใจที่เห็นเรื่องนี้อัพค่ะ  :heaven
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 12-06-2013 08:09:02
ความสุขอยู่กับเราไม่นาน และมันก็จากเราไปไม่นานเช่นกัน
เมื่อพี่นำออกหน้า ใครเลยจะขัดขวางได้  :z1:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ เดี๋ยวอะไร ๆ มันลงตัวก็คงมีเวลามากขึ้นเองแหละ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: wan_sugi ที่ 13-06-2013 17:58:28
 o13 พี่นำเยี่ยมมาก
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 14-06-2013 00:31:07
สมเป็นผู้นำจริง ๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 14-06-2013 03:30:29
เฮ้อออ ธามน่ารักมากเลยย สงสารแท้ ;__;//

น่ารักมากๆเล๊ยยยย!!
:pig4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 14-06-2013 14:17:44
ธามเริ่มฟังพี่นำมากขึ้นก็ดี พี่นำสู้ๆ พี่นำระ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 14-06-2013 21:05:16
พี่นำสู้ๆ น้องธามสู้ๆ อย่าไปยอมอิพวกคนใจร้ายพวกนั้น   พี่นำจัดการไปเลย
น่าสงสารน้องธาม.
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 7 (09/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 17-06-2013 00:36:33

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------



ตอนที่ 8.1


นี่คงเป็นลุงของธาม
ผู้นำไม่รู้ว่าใครเป็นใครในครอบครัวธาม แต่พ่อเขาคงรู้ตื้นลึกหนาบางอยู่มาก

ห้องรับแขกเขาตกอยู่ในความเงียบเมื่อเขาและธามก้าวเข้ามา พ่อหันมองเขาแล้วพยักหน้ารับรู้การกลับบ้านของเขาและน้อง ส่วนแขกของบ้านพากันมองเขา ก่อนจะแช่สายตาไว้ที่ธาม

มองกันแบบนี้ ผืนผ้าไร้ชีวิตยังอยากหายไปจากโลกเลย ให้ตาย!
ผู้นำขยับเอาตัวบังน้องไว้ เขาก้าวฉับๆ ไปนั่งที่โซฟาตรงกันข้ามกับแขก ส่วนธามอ้อมไปนั่งใกล้ๆ พ่อเขาแทน

“สวัสดีครับ” หมอจิตเวชเอ่ยเพียงปาก เขาไม่ได้ยกมือไหว้แม้จะรู้ว่าค่อนข้างเสียมารยาท

“อืม” ฝ่ายผู้ใหญ่กว่าเอ่ยรับคำทักเขา แต่ก็ยังมองหน้าธามอยู่
“แล้วแกล่ะ ไม่ได้เอาปากกลับมาจากไต้หวันรึไง คงจะจริงอย่างที่คิด ไม่อย่างนั้นก็ต้องคิดได้แล้วว่ากลับเมืองไทยต้องบอกญาติที่เหลืออยู่บ้าง หรือป้าวีณาเขาไม่สอน หึ!”

“.............” น้องไม่ตอบอะไร ซึ่งผู้นำคิดว่าดีแล้ว ธามยังเด็ก อย่างน้อยก็เด็กกว่าอายุจริงมาก หากธามตอบโต้อาจจะเลยเถิดกันไปใหญ่

“คุณพูดธุระคุณต่อเถอะครับ เจ้าธามก็มาแล้ว มีอะไรก็ทำให้กระจ่างไปเลยดีกว่า”

“ราวกับว่าที่คุณทำมันโปร่งใสเสียเหลือเกิน มีอย่างที่ไหน หลานผมทั้งคนคุณกลับเรียกมาอยู่ด้วยทันทีที่ป้าแกตาย คุณหวังอะไรกันแน่ คุณหมอปานพันธ์” อีกฝ่ายหันไปว่าพ่อเขาแทน ผู้นำขยับตัวบรรเทาอาการอึดอัดและหันมองอีกคนที่จ้องเขาจนเขารู้สึกได้

พี่แซน... ธามเรียกชายคนนี้ด้วยชื่อนั้น เขาจำได้
แม้จะเจอกันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แต่ผู้นำก็รู้สึกไม่ชอบใจบรรยากาศที่อีกฝ่ายสร้างขึ้นด้วยสีหน้าและท่าทาง เขาผ่อนลมหายใจและหันไปสนใจพ่อตัวเองแทน

“ผมเพียงเป็นห่วง เกรงว่าธามจะขวัญผวาหลังจากเสียญาติคนเดียวที่แกมีไป เรียกกลับมาจะได้ดูแลกันได้ แต่ถ้ามันเสียการเรียน หรือเสียการงาน ผมก็ไม่คิดจะทำลายหลานอยู่แล้ว”
“อีกอย่าง ผมก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล อย่างน้อยๆ ผมกับธามก็เลยเป็นลุงเป็นหลานกันเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ถึงผมกับวีณาจะสิ้นความสัมพันธ์กันไป แต่เราก็ยังมีความเป็นเพื่อนต่อกัน และธามกับผม ก็ยังคงเป็นลุงเป็นหลานกันอยู่”

“พ่อพระเสียจริงนะครับ หากผมไม่รู้มาก่อนว่าคุณใจบุญ ชอบแสดงความเมตตาเรี่ยราด ผมคงปักใจเชื่อไปแล้วแหล่ะว่าคุณพาตัวหลานผมมา เพื่อผลประโยชน์ที่แกมีติดตัว”

“ธามไม่!”

“ไม่เป็นไรธาม โตๆ กันแล้ว มีอะไรก็พูดกันออกมาน่ะดีแล้ว” พ่อเขาหันไปปรามธามที่ทำท่าจะพูดอะไรบางอย่าง
“พูดมาตรงๆ ไม่ดีกว่าหรอครับคุณพิสุทธิ์ คุณสงสัยในตัวผม สงสัยความห่วงใยของผม ก็เพราะคุณกังวลว่ามรดกที่ธามได้มันจะลดตัวเลขลงไม่ใช่หรอครับ”

“พูดแบบนี้ก็เท่ากับกล่าวหาว่าพ่อผมอยากได้ใคร่ดีในสมบัติธามน่ะสิ! พ่อ! ผมบอกแล้วว่าให้ผมจัดการเองก็ได้ ไม่เห็นต้องมาให้คนอื่นเขากล่าวหา เงินนั่นก็น้อยนิด ไม่กี่ล้าน”

ไม่กี่ล้านหรอ?
ถ้าไม่กี่ล้านจริงๆ จะลงทุนมาถึงที่นี่ทำไม

“ลุงไม่ได้กล่าวหา” พ่อเขานี่ใจเย็นเสียจริง ผู้นำมองหมอปันไกล่เกลี่ยอารมณ์ยุ่งเหยิงที่กำลงปะทุขึ้นในใจหลายๆ คน เขามองธามและเลิกคิ้วถามทันทีที่เห็นน้องมองอยู่ สีหน้าธามไม่สู้ดีนัก ดูเหมือนจะมองแค่เขาคนเดียว ไม่ยอมเฉสายตามองใครอื่นเลย

เขายิ้มให้เพื่อให้น้องเลิกขมวดคิ้ว แต่ธามก็ยังดูอารมณ์ไม่ดีอยู่ดังเดิม

“ลุงกำลังทำให้ความเข้าใจเราตรงกัน” พ่อเขายังพูดต่อด้วยสีหน้าผ่อนคลาย
“...เพื่อให้เราสามารถเชื่อในเจตนาที่เราๆ ต่างก็กล่าวอ้าง โดยเหตุที่เราอ้าง ล้วนเกี่ยวกับธามทั้งนั้น ถ้าลุงไม่ทำให้เราเข้าใจตรงกัน เราก็พูดกันไม่รู้เรื่องเสียที
“คุณพิสุทธิ์ อย่าห่วงตัวเลขที่เจ้าธามมีติดตัวมาเลยครับ ทุกบาททุกสตางค์ยังอยู่ในเซฟเดิม ธนาคารเดิมที่วีณาใช้บริการ เพียงแค่ความเป็นเจ้าของได้เปลี่ยนเป็นชื่อธามแล้วทั้งหมด อย่างถูกต้องตามกฎหมาย”
“และการที่ผมเรียกธามกลับมา ก็เพราะความรัก ความห่วงใยที่ลุงคนหนึ่งจะมีให้หลานคนหนึ่งได้ ไม่ต่างจากความรักที่พ่อมีต่อลูกหรอกครับ”

“..................”

“ไอ้ผมมันก็แก่แล้ว การได้เห็นลูกหลานใช้ชีวิตอย่างมีความสุข อยู่ในครรลองที่ถูกที่ควร ไม่เบียดเบียนทำร้ายใคร เท่านี้ก็เกินพอแล้ว”
“แต่สำหรับธาม อาจจะเป็นห่วงมากหน่อย เพราะเจ้าธามยังเด็ก วุฒิภาวะยังไม่มากพอจะดูแลตัวเอง โดยเฉพาะหลังจากที่แกได้รับมรดกมากมูลค่ามหาศาลขนาดนั้น อ้อ! ผมก็ไม่รู้ว่าเราตีความคำว่ามหาศาลมากแค่ไหน แต่ลูกชายคุณเพิ่งพูดว่าไม่กี่ล้าน หลักร้อยล้านนี่ก็มากในสายตาผมนะครับ”

“แต่ถ้าจะว่ากันด้วยสายเลือด ตามสิทธิ์ ตามลำดับขั้นความใกล้ชิด คนที่ควรจะดูแลมรดกนั่นคือผม!”

“ครับ ผมก็ไม่ได้แย่งคุณดูแลมรดก ผมแค่อยากดูแลเจ้าธามเท่านั้น”
“ถ้าคุณเป็นห่วงเงินมรดกของหลาน ก็กำชับทางแบงก์ที่ไต้หวันสิครับ ไม่ต้องเสียเวลามากำชับผมหรอก ผมจะดูแลธามให้ดีที่สุดอยู่แล้ว”

“แต่!”

“ผมบอกไปแล้วนี่ครับ ว่าผมไม่ยุ่งกับมรดกของเจ้าธาม แม้ซักบาทก็ไม่คิดแตะ ของหลาน ก็ต้องเป็นของหลาน”
“เราเข้าใจตรงกันรึยังครับ ของธาม ก็คือของธาม”

“ธาม!” จู่ๆ นายพิสุทธิ์ก็หันไปตวาดหลานในไส้ของตัวเอง ผู้นำที่เฝ้าสังเกตอยู่ยังอดรู้สึกชาวาบไปทั้งตัวไม่ได้ ธามเองก็สะดุ้งและมองลุงตัวเองหวาดๆ
“ชั้นเรียก! เป็นบ้ารึไง! เรียกก็ตอบ หรือผีเข้า ถึงได้นั่งตาค้างแบบนั้น!”

“นี่คุณพิสุทธิ์!”

“ผมพูดกับธาม”
“ฟังนะ กลับบ้าน! แกมีที่ที่ควรอยู่ แกก็ควรอยู่ที่นั่น! จะทำให้ชั้นอับอายรึไง มาอาศัยบ้านคนอื่นเขาแบบนี้!”
“เขาไม่รำคาญแกก็แปลก ญาติรึก็ไม่ใช่”
“ในโลกนี้ แกยังคิดว่ามันยังมีที่ให้แกซุกหัวแกได้อยู่อีกหรอ?”
“แกจำได้มั้ยว่าพูดกับชั้น กับเจ้าแซนไว้ว่ายังไง แกอยากได้อิสรภาพ แกอยู่ยืนด้วยขาของแกเอง ไปไหนแล้วล่ะ ความจองหอง ความอวดดีของแกน่ะ ห๊ะ!”
“นี่นะหรอวิธีการของแก ซุกปีกคนที่แกคิดว่าปกป้องแกได้สินะ”
“ยังไง แกกับชั้นก็ไม่มีทางห่างจากกันได้ มันผิดตั้งแต่แกเกิดมาแล้ว”
“ถ้าแกคิดว่าทำไมเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้นกับแก คิดว่าทำไมชั้นไม่เลิกยุ่งกับแกสักที ก็ให้รู้ไว้เลยว่าชั้นก็คิดเหมือนกัน....”
“....ว่าเมื่อไหร่แกจะตายๆ ไปเสียที มันจะได้จบ”
“ชั้นก็เบื่อเด็กขอมาเกิดอย่างแกเต็มทน นี่พ่อแม่แกก็ตายไปแล้ว ป้าวีณาของแกก็ตายแล้ว ชั้นยังต้องมาวุ่นวายกับแกไม่จบไม่สิ้น!”

“งั้นคุณก็เอาไปเลย เอาเงินไปแล้วออกไปจากชีวิตที”
“ถือว่าจ้างก็ได้ ทั้งหมดที่ป้าวีณามี เอาไปเลย เอาไปให้หมด! เฮงซวย!!”

“ธาม...”

“ไม่เอาแล้ว! ธามไม่ฟัง ลุงหมอไม่ต้องช่วย”
“กับคนนี้ ธามไม่อดทนอีกแล้ว”
“เอาไปทับตัวหรอ เอาไปสิ ถ้ามันทำให้คุณหุบปาก แล้วหายไปได้ ก็เอาไปเลย เอาไปสิ!”

“ปากกล้านักไอ้เด็กนี่!” นายพิสุทธิ์ก้าวพรวดมาหาและกระชากคอเสื้อธามจนน้องเสียหลักเกือบล้ม ฝ่ายผู้ใหญ่กว่าจ้องหน้าหลานตัวเองอย่างจงเกลียดจงชังหนักหนา จากนั้นก็ผลักออกให้พ้นตัวแล้วชี้หน้าธามที่ล้มพับลงกับพื้น
“แล้วแกจะได้รู้ ว่าชีวิตมันรสชาติยังไง”

“หมอปานพันธ์ ผมไม่รู้ว่าคุณเอาตัวมายุ่งกับเรื่องนี้ให้เสียชื่อเสียงทำไม ใครๆ เขาก็รู้กันทั่วว่าคุณมายุ่งเรื่องหลานผมทั้งที่ไม่มีใครขอ คิดซะว่าผมหวังดี ก็เลยเตือนก็แล้วกันนะ”
“คนอย่างผม ไม่เคยถอยหลัง และสิ่งที่ขวางหน้าผม ก็มีแต่ต้องแหลกคามือเท่านั้น!” ข่มขู่พ่อเขาเสร็จก็ก้าวฉับๆ จากไป แต่ก็ไม่ลืมทิ้งสายตามองธามที่นั่งเงยหน้ามองคนเป็นลุงตาขวาง

นายสุพิสุทธิ์เดินตามพ่อของเขาไป แต่ก่อนไป เขาย่อตัวลงนั่งโอบธามไว้แต่ธามก็ขืนตัวออกสุดแรงและผลักซ้ำ ผู้นำเห็นธามจ้องหน้าอีกฝ่ายเหมือนจะฆ่าให้ตายต่อหน้า แต่นายสุพิสุทธิ์กลับไม่หลบตา ซ้ำยังใช้กำลังบังคับดึงตัวธามมากอดไว้ จากนั้นก็พูดอะไรบางอย่างแล้วเดินจากไป

น้องของเขานั่งกองกับพื้นด้วยสายตาฉ่ำน้ำ ธามไม่ได้อ่อนแอจนน้ำตาเอ่อ แต่ธามกำลังโกรธสุดๆ อยู่ต่างหาก

“ธามครับ”
“ธาม”

ไม่มีเสียงตอบรับ ผู้นำมองหน้าพ่อ เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าให้เขาเยียวยา เขาก็นั่งลงข้างๆ เพื่อจับบ่าน้องไว้

“ธามครับ”

เจ้าของชื่อมองหน้าเขา สายตาก้าวร้าวค่อยๆ เปลี่ยนอารมณ์ คิ้วที่ขมวดแน่นคลายตัวออก น้ำตาที่เอ่อขึ้นเพราะความโกรธค่อยๆ ไหลลงแก้มอย่างเชื่องช้า

“พูดกับพี่นำหน่อยสิครับ”

“ธามกลัว”
“ธามไม่อยากกลัวแบบนี้อีก”
“นำ ปล่อยธามไปเถอะ ให้ธามไปอยู่ไกลๆ นำเถอะนะ”
“อย่าปกป้องธาม อย่าดีกับธาม ธามไม่มีอะไรให้หรอก”

“...........”

“นำ ให้ธามตายเถอะนะ” ผู้นำปิดปากน้องไว้ทันที เขาเช็ดน้ำตาให้แล้วดึงตัวให้มาเช็ดน้ำตาที่อกเขาแทน ในห้องรับแขกมีเพียงเขาและธามเท่านั้น นอกจากเสียงสะอื้นแล้วเขาไม่ได้ยินเสียงอะไรอีก จะเว้นก็แค่เสียงข้อความไร้เสียงมากมายที่ธามบอกเขาโดยไม่รู้ตัว

ทั้งมือที่กอดขยำเสื้อด้านหลังของเขาเอาไว้ ทั้งแก้มเปื้อนน้ำตาที่ซุกลงที่อกเขา ทั้งลำตัวที่ทาบทับกับตัวเขาโดยไร้ช่องว่าง

ทั้งหมดบอกเขาว่า “นำอย่าปล่อยธามนะ”


เขาตอบด้วยคำพูดที่เงียบเชียบว่า “พี่นำจะไม่ปล่อยมือจากธามเด็ดขาด” ผู้นำกอดน้องชายไว้แน่น เขาทาบแนวคางไว้ข้างขมับอีกฝ่าย มุมริมฝีปากเพียงแตะลงเบาๆที่หน้าผากอุ่น


“ไปอาบน้ำนอนเถอะครับ หรืออยากกินอะไรอีก ขนมมั้ย?”

ส่ายหน้า

“นอนกับพี่นำมั้ย”

พยักหน้า กอดเขาแน่นขึ้นอีกด้วย

“ไปสิครับ”

กอดแน่นกว่าเดิมอีกนิด คงจะไปนอนห้องพี่นำ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ ตอนนี้อยากอยู่แบบนี้ก่อน แปลความหมายแบบนี้ผิดไปรึเปล่า

ผู้นำหัวเราะในลำคออย่างเอ็นดู เขาเองก็กระชับกอดให้แน่นขึ้นเหมือนกัน


-----------


ตัวดีหลับไปแล้ว เขาถึงได้เคาะประตูห้องพ่อเพื่อขอฟังความจริงทั้งหมดที่เกี่ยวกับธาม
ก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าแค่ดูแลน้องไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องมรดกที่น้องได้รับ เพราะไม่ว่าตัวเลขมันจะมากน้อยแค่ไหน ก็ไม่มีผลอะไรกับความรู้สึกหวังดีที่เขามีให้ธามตามประสาพี่ชายน้องชาย

แต่ยิ่งได้รู้เรื่องของน้อง ความรู้สึกหวังดีของเขาก็แผ่พื้นที่ไปทั้งตัว
ทำไมธามถึงต้องเจอเรื่องแบบนี้ด้วย แต่ที่สำคัญกว่าคือ เขาจะทำให้ธามหลุดจากเรื่องยุ่งเหยิงนี่อย่างไร โดยให้ความรู้สึกบอบช้ำเกิดขึ้นน้อยที่สุด ไม่มีทางไกล่เกลี่ยกันหรอ? ไม่มีทางปรับความเข้าใจหรือมุมมองให้ใกล้เคียงกันได้เลยหรอ?

พ่อเขาปักใจว่าทางนั้นมีเจตนาไม่ดีต่อธาม และต้องการตัวธามไปเพื่อดูแลมรดกที่ธามได้รับ
ทนายของพ่อได้เอกสารเกี่ยวกับอาการป่วยทางจิตของธาม สำหรับจิตเวชอย่างเขาแล้ว อาการเท่านี้ถือว่าเล็กน้อยมาก และไม่นับเป็นบุคคลพิเศษ แต่เอกสารการรักษาทางไต้หวันกลับประเมินให้อาการป่วยของเธอน่าเป็นห่วงและต้องมีคนดูแล เพื่อที่จะสวมสิทธิ์ผู้ดูแล ทั้งธาม และสินทรัพย์ที่ธามมี

แยบยลและใจร้ายเกินคบค้าจริงๆ
แบบนี้ ฆ่ากันเสียเลยดีกว่า
เขาไม่ยอมให้ฝ่ายนั้นทำสำเร็จหรอก

“พรุ่งนี้พ่อจะคุยกับเจ้าธาม เรื่องเปลี่ยนมาใช้นามสกุลเรา”

“แต่นั่นมันไม่มากไปหรอครับ ทำแบบนั้นตัวธามเองนั่นแหล่ะที่อันตราย แม้จะเปลี่ยนนามสกุล มาเป็นบุตรบุญธรรมของพ่อ เงินมรดกก็ยังเป็นของธาม พวกเขาจะก็ยิ่งแค้น เพราะห่างไกลจากธามและมรดกมากขึ้นอีก”

“แล้วจะให้พ่อทำยังไง พ่อยังมองไม่เห็นวิธีไหนที่จะปกป้องธามได้ระยะยาวเลย”
“ถ้าไม่มีพ่อหรือนำแบบกะทันหัน น้องจะสู้ยังไง อย่างน้อยๆ การไม่เกี่ยวข้องกันแล้วก็ทำให้เขาไม่มีสิทธิ์มาอ้างการดูแลมรดก”

“แต่เราก็ต้องกลายเป็นจำเลยสังคมแทนนะครับ”
“น้องเอง อาจจะคิดไปว่าเราทำเพื่อมรดก เหมือนที่พวกเขาทำก็ได้”

“พ่อถึงต้องพูดให้เข้าใจตรงกันก่อน ถ้าเจ้าตัวเขาไม่เห็นด้วย พ่อก็ไม่ทำ”

“ให้เวลาน้องปรับใจก่อนเถอะครับ”
“ธามกลายเป็นเด็กปฏิเสธทุกสิ่งไปแล้ว กระทั่งชีวิตตัวเองน้องก็ปฏิเสธเพราะรับรู้มาตลอดว่าการมีอยู่ของตัวเขาเองเป็นปัญหา พ่ออยากให้น้องรังเกียจตัวเองหรอครับ”

“อา...จริงสินะ”
“แล้วเจ้าธามเป็นยังไงบ้างล่ะ เท่าที่นำสังเกต”

“ก็ร่าเริงดีครับ ธามเป็นคนน่ารัก รั้นนิดหน่อย แต่ก็รับฟังเหตุผลคนอื่นได้ดี โลกอุดมคติและโลกจริงไม่ต่างกันมากจนอยู่ไม่ได้ แต่ปัญหาก็คือ ธามพร้อมจะปิดตัวตนตัวเองทันทีที่มีสิ่งเร้ามากระทบ”
“อย่างวันนี้ อาการทางกายก็เริ่มเกิด ที่ล้มไป เท่าที่ดูแล้วคุณพิสุทธิ์ก็ไม่ได้ผลักแรงนัก แต่ธามงอ่อนแรงเองด้วย มันจะไม่น่าเป็นห่วงถ้าเราขจัดสิ่งเร้าได้ แต่เราทำไม่ได้พ่อก็รู้ เราทำได้แค่สร้างภูมิ ซึ่งก็ต้องใช้เวลา และความพร้อมของธามก็ไม่รู้จะมีเมื่อไหร่”
“อาการเก็บกด บางครั้งก็กลายเป็นพลังงานบวก แต่ส่วนมากจะเป็นพลังงานลบ ทำให้หดหู่ลงเรื่อยๆ ต้องคอยกระตุ้น ผมคิดว่าเราต้องให้สังคมน้องมากกว่านี้ มีแค่นำไม่พอหรอกครับ”

“ยังไง?”

“ให้ทำงานครับ”

“ทำงาน? เจ้าธามยังไม่จบดีเลย”

“ก็ฝึกงานได้ครับ พ่อคิดว่าไง ถ้าคิดว่าดี นำก็จะจัดการเลย”
“ธามต้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง ให้เร็วที่สุดด้วย”
“ไม่อย่างนั้น เขามาไล่บี้เอาที อาการก็เกิดที สุดท้ายก็เข้าแผนเขา ธามจะกลายเป็นบุคคลไร้ความสามารถดูแลตัวเอง ต้องมีคนดูแล และพวกเขาก็เป็นครอบครัวเดียวที่ธามเหลืออยู่”

“เราก็ครอบครัว”

“เราห่างกว่านี่ครับ”

“อืมมม ลองวิธีนำก็ได้ พ่อจะเร่งทนายเรื่องคดีน้าวีณาที่ไต้หวัน เห็นว่าหลักฐานไม่พอ เขาจะปิดคดีเป็นอุบัติเหตุ”
“พ่อไม่คิดว่าเราจะพลิกได้ ที่ทำได้ดีที่สุดก็คือช่วยธามให้ถึงที่สุดนั่นแหล่ะ”

“เงินเนี่ย เป็นปัญหาจังนะครับ”

“แต่มันก็สร้างปัญญานะ ถ้ารู้จักใช้มันให้เป็น”
“เอาเถอะ คืนนี้พักก่อน”

“ครับ”  ผู้นำรับคำ เขารอจนพ่อปิดคอมพิวเตอร์และปิดไฟที่โต๊ะทำงานจนเรียบร้อย เพื่อให้แน่ใจว่าพ่อจะพักผ่อนตามที่ปากพูด เขายิ้มให้พ่อที่เลี้ยงเขามาตามลำพัง แต่ก็ไม่เคยขาดความอ่อนโยนเลย หมอปานพันธ์หรือหมอปันยิ้มตอบแล้วเขย่าหัวเขาเบาๆ ทั้งที่เขาสูงกว่าหมอปันตั้งสิบกว่าเซ็น


ผู้นำกลับมายังห้องนอนตัวเอง เด็กชายธามยังนอนอยู่ท่าเดิม ท่าขดตัวนอนตะแคง หน้ามุดหมอน มันชัดเจนแล้วว่าธามมองโลกที่ห่อหุ้มเขาอยู่นี่ว้าเหว่เพียงใด เขาโค้งตัวเพื่อวางมือบนแก้มน้อง ลักยิ้มที่เขาชอบถูกมือเขาบดบังไว้จนมิด

“ธามฝันดีใช่มั้ย หือ?”
“ไม่ฝันเลยก็ดี แต่ถ้าธามฝัน ต้องฝันดีนะครับ”
“ถ้าแค่ทำให้นอนโดยไม่มีอะไรไปรบกวนจิตใจพี่นำยังทำให้ธามไม่ได้ ก็ไม่ได้เรื่องสิ้นดี” เขาพูดคนเดียวแล้วก้มลงจูบหลังมือตัวเองที่ยังทาบแก้มน้องอยู่

ธามขยับตัวนิดหน่อย แต่เปิดหน้ามากขึ้น
ริมฝีปากบางๆ ที่ชอบเถียงเขา ในตอนนี้สงบเสงี่ยมมาก คิ้วที่ขมวดตามสภาพอารมณ์แน่นิ่งอยู่เหนือเปลือกตากลม

ธามน่ารักเสียจริง

โดยไม่ทันได้หยิบเหตุผลมาอธิบายการกระทำตัวเอง ผู้นำคุกเข่าลงข้างเตียงแล้วจูบริมฝีปากน้องชายเบาๆ เขายิ้มส่งท้ายแล้วขึ้นไปนอนเคียงข้าง เขากอดน้องชายไว้โดยมีผ้าห่มกั้นระหว่างเรา เมื่อหน้าอกปะทะแผ่นหลังแคบของธามแล้ว ผู้นำจึงหลับตาอย่างอุ่นใจ




...พี่นำทำอะไร?
เมื่อกี้ พี่นำจูบธามใช่มั้ย
ธามไม่ได้รังเกียจ แต่ธามกลัว

เขาก้มมองเอวตัวเองที่มีแขนพี่ชายพาดกอดไว้ ธามไม่เคยรังเกียจสัมผัสของพี่นำ แต่เวลานี้ เขากลัว

พี่ชาย...ธามกลัว ธามรังเกียจ

พี่นำ.....ธามไม่กลัว
แต่ถ้าพี่นำทำแบบเมื่อกี้เพราะเป็นพี่ชาย ธามก็ไม่รังเกียจ แต่ก็ ไม่ได้เลิกกลัว

พี่นำเข้าใจธามรึเปล่า?




cut!

TBC...8.2



เครียดกันนิดหน่อย ไม่เป็นไรเนอะ
จริงๆ ก็ไม่อยากเล่นมุก .1 .2 แล้วแหล่ะ แต่ว่า....มันจำเป็นค่ะ ขอโทษด้วยที่เนื้อเรื่องไม่คืบหน้าเท่าไหร่ จะพยายามบริหารเวลาให้ดีกว่านี้นะคะ

ขอบคุณค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 17-06-2013 00:50:36
กำลังเคลิ้มกับพี่นำแต่มาเบรคแตกตรงธามกลัว
กลัวอะไรลู๊กกกกกกกกอยู่กับพี่นำอะปลอดภัยสุดแล้ว
พี่นำนี่เทวดามาจุติเลยนะฮือแสนดีเกิน
อยากให้ลุงกับอะไรนะไอ่แซมไรนั้นไม่ได้ไรสักอย่าง
หมอปันสู้ๆนะช่วยปกป้องธาม สงสารธามแระคงเครียดมากกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 17-06-2013 00:53:02
สงสารธามจริง  :hao5:
อย่ามารังแกธามนะ เดี๋ยวให้พี่นำจัดการเลย :angry2:
พี่นำนี่ยังไงๆอยู่นะ ทำแบบนี้ รู้มั้ยน้องคิดมากอ่ะ :hao3:
สวัสดีคะคุณนักเขียน หายไปนานเลยนะ คิดถึงน้องธามจะเเย่แล้ว
มาอัพบ่อยๆนะคะ เรื่องกำลังเข้มข้นเลย :bye2:

หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 17-06-2013 03:41:41
พี่แซนเคยทำไรธามเหรอ ธามถึงคิดแบบนี้
พี่นำจูบธามด้วย งุงิ อินเนอร์เริ่มมาป่าว ฮา
ชอบบรรยากาศระหว่างพี่นำกับธามนะ มันแบบอบอุ่นอ่ะ งุ้ยๆๆๆ

รออ่านต่อนะ สู้ๆเข้า มีเวลาน้อย แต่มาเขียนต่อก็ดีใจแล้วเนี่ย จุ๊บๆๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: IamA ที่ 17-06-2013 11:14:20
พี่นำเท่เว่ออะ ทั้งอบอุ่น ทั้งพึ่งพาได้ หล่ออีกต่างหาก คนไรเหนียะ!

ตอนล่าสุดนี้ถึงมันจะดราม่าแต่มันก็หวานมากเลยค่ะ ฝ่ายโน้นร้ายมาก สร้างข้อมูลเท็จไว้รอแล้ว สงสัยว่าอุบัติเหตุของป้าวีณานี่ก็จะเป็นเรื่องที่สร้างขึ้นเหมือนกัน

ว่าแต่อิตาพี่แซนนั่นทำอะไรน้องธามไว้น้องธามถึงได้กลัวการจูบจากคนเป็นพี่ แล้วแบบนี้น้องธามจะตีตัวออกห่างพี่นำมั๊ยเนี่ย อ๊ากกกกกกกกก อยากอ่านต่อออออ

ช่วงนี้ยุ่งๆกับอะไรอยู่ก็สู้ๆนะคะ ^ ^
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 17-06-2013 12:22:38
สงสารธามมมมมมมม

 :hao5:

พี่นำคนดี อย่าทิ้งน้องนะ  :mew2:

ธามสู้ๆ พี่นำสู้ๆ  :ped149:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 17-06-2013 15:28:39
สงสารธามมม!!

ไอ้แซนด์พูดไรกับน้องหว่า หงอเชียวว
-w-
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: ΩPRESTOΩ ที่ 17-06-2013 17:41:49
คนพวกนั้นช่างน่ารังเกียจ ..  :z6:
ธามน่าสงสาร แต่มีพี่นำอยู่ด้วยทุกอย่างต้องผ่านไปด้วยดีเนอะ

บวกหนึ่ง บวกเป็ด ขอบคุณนักเขียน
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 19-06-2013 20:47:38
น้องธามน่าสงสาร กลัวไปหมด
พี่ผู้นำช่วยน้องธามด้วยนะ

เกลียดอีตาลุงกะอีพี่แซน
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 19-06-2013 21:44:15
พี่นำเข้าใจธามหรือเปล่าไม่รู้ แต่เค้าไม่เข้าใจฮ่ะว่าธามกลัวอะไร :z3:
ไม่ต้องกลัวนะ ผู้นำก็จะนำน้องให้เจอแต่ความสุขแน่ๆ :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 29-06-2013 16:08:01
รอ .2 อยู่น๊าาาา   มาต่อเถอะ   ค้างมากๆๆๆๆๆ.   :katai1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 29-06-2013 21:57:06
คิดถึงเด็กพูดไม่รู้เรื่องกับพี่นำคนดีแล้ววววว

 :hao5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 29-06-2013 23:51:12

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 8.2




มึนหัวแบบนี้มากว่าอาทิตย์แล้ว นำก็เอาแต่บังคับให้ตื่นแต่เช้า ไปยืนดมกลิ่นต้นไม้หน้าบ้าน
ลุงเผือกเหมือนจะอยากเล่นกับธาม ถึงได้รดน้ำต้นไม้โดนหัวธามทุกเช้าเลย ป้าจูน่าจะชอบธามที่สุดแล้ว ถึงได้มาช่วยแล้วก็พาไปอาบน้ำ เพื่อลงมากินข้าว 

ธามเจอกับลุงหมอบ้างบางวัน เจอพี่นำทุกวันในตอนเช้าที่ตื่นนอนและก่อนเข้านอน

ธามออกมาอยู่คนเดียวแล้ว อยู่ในบ้านหลังเก่าของป้า มีนำมากล่อมให้นอนและปลุกให้ตื่น
คืนแรกที่ย้ายมานอนในห้องที่จัดเอง ธามกลับนอนไม่หลับ เดือดร้อนนำต้องมานอนเป็นเพื่อนด้วยเหมือนเดิม แต่พอคืนที่ 2 และ 3 ธามก็เริ่มชินกับบรรยากาศ และนอนคนเดียวได้ นำกลับไม่ชินที่จะนอนคนเดียว สุดท้ายนำก็นอนขลุกอยู่กับธามจนถึงคืนที่ 4 ที่ 5

ตลกดี
ยิ้มดีด้วย


“ธามครับ อาบน้ำหรือทำอาหาร ออกมาได้แล้ว พี่นำสายแล้วนะ”

“ก็ไปสิ”

“ก็ยังไม่ได้ลาเลย”

“เดี๋ยวก็กลับมา เย็นๆ นี่เอง”

“ออกมาลาพี่นำก่อน”
“เร็วสิธาม”

วู้ววว เรื่องมากจังเลย!

ธามเร่งเช็ดตัวแล้วทาแป้งนิดหน่อย เขาเลือกใส่เสื้อยืดบางๆ สีขาวและกางเกงยีนส์แม้จะอยู่บ้านเฉยๆ ทั้งวัน เมื่อแต่งตัวเสร็จก็เดินออกมาให้นำดีดแก้ม

นี่แหล่ะคือการลาไปทำงานของนำ เชยจังเลย!

“เจ็บนะ”

“ขอโทษครับ ทวนสิว่าวันนี้ธามจะทำอะไรบ้าง ห้ามอยู่ว่างๆ เด็ดขาด ห้ามหลับด้วย เดี๋ยวตอนกลางคืนก็หลับไม่ลงอีก”

“อื้อๆ ธามรู้แล้ว”
“วันนี้อยู่กับป้าจู พาป้าจูไปซื้อของ แล้วก็เดี๋ยวป้าจูพาไปเที่ยว”

“เมื่อวานก็เที่ยว”

“เที่ยวคนละที่เที่ยว”

“เถียงตลอด” นำชอบว่าธามแบบนี้ แล้วก็จะดีดแก้มซ้ำก่อนจะขยี้หัวเบาๆ แล้วดึงตัวธามไปซุกอก นำชอบตบหลัง 3 ทีก็ไปทำงาน

นำไม่เปลี่ยนเลย อบอุ่นเหมือนเดิม
นำเป็นพี่ชายที่อบอุ่นกับธามไม่เคยเปลี่ยน

มีแต่ธามล่ะมั้ง ที่เปลี่ยนไป
เรื่องที่เคยชอบพี่ชาย ธามก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

“อื้อธาม พี่นำอยากคุยกับธามเรื่อง..คุณแซน อะไรนั่น”

“คุย? ธามไม่มีอะไรจะพูดถึงเขา”

“งั้นก็คุยในส่วนของธามก็ได้”

“ทำไมต้องคุย นำมีอะไรหรอ”

“พี่นำไม่มีหรอกครับ แต่ธามน่ะมี”
“และมันเป็นปัญหา”

“ปัญหา อะไร?”

“ปัญหาของธาม”

พูดไว้เท่านี้ก็ไปทำงาน ธามยืนงงอยู่ครู่เดียว เขาพยายามคิดและสำรวจตัวเองว่ามีปัญหาตรงไหน ธามไม่เคยมีปัญหาอะไรนะ ธามยอมรับทุกอย่างได้เสมอ ทั้งเรื่องไม่มีพ่อไม่มีแม่ เรื่องเป็นภาระของป้า เรื่องที่ลุงพิสุทธิ์เกลียดธาม ไม่ต้องการธาม อยากให้ธามตาย ธามก็ยอมรับได้ แล้วปัญหาของธามคือะไร

นำบ้ารึเปล่า?


-----------



เฮ้อ...ก็ไม่รู้จะเกิดประโยชน์มากน้อยแค่ไหน
มันไม่ใช่เรื่องง่าย ที่จะทำให้คนคนหนึ่งตระหนักถึงคุณค่าของตัวเอง และรักตัวเอง รักตัวตนของตัวเอง

ผู้นำปิดประตูรถพลางถอนหายใจ
ธามที่ดูปกติดีทุกอย่างทำให้เขาหนักใจชอบกล
ยิ่งเห็นหน้า ก็ยิ่งไม่สบายใจ

อาการนอนตัวสั่นเป็นระยะ บางคืนก็สะดุ้งเสียจนเขาตกใจตื่นนั่นอีก สาเหตุจริงๆ คืออะไรกันแน่
เขาทดลองสะกิดปมดูแล้ว นายสุพิสุทธิ์น่าจะมีผลมากที่สุดสำหรับอารมณ์และการรับรู้ของธาม

แต่ว่า...นายคนนั้นทำอะไรไว้ล่ะ? หรือธามทำอะไรเขาไว้กันแน่?

“ลุงเผือกครับ” เขาลดกระจกแล้วชะโงกหน้าเรียกลุงคนสวนที่กำลังเดินไปเปิดประตูรั้ว ชายแก่รีบวิ่งกลับมาหาเขา

“อะไรครับคุณนำ”

“วันนี้ธามกับป้าจูจะไปไหนกัน ลุงรู้มั้ยครับ”

“อ๋อออ ป้าแกว่าจะพาคุณธามไปเดินที่ตลาดสดน่ะครับ คุณนำไม่อยากให้ไปหรอ คนมันพลุกพล่านสินะครับ งั้นเดี๋ยวผมบอกป้าแกให้ว่าคุณไม่อยากให้คุณธามไป”

“ไม่ครับ ไปกันเถอะ ดีซะอีก ผมแค่อยากรู้เท่านั้น เย็นนี้จะได้ตั้งตัวถูกว่าควรถามเรื่องไร เวลาถามเถียงแล้วผมตามไม่ค่อยทัน ลุงก็น่าจะรู้ว่าเขาพูดเรียงลำดับอะไรเสียที่ไหน”

“น่าเอ็นดูดีออกครับ วันก่อน จู่ๆ ก็เดินมาหาผมแล้วก็พูดว่า ธามไม่เล่นแล้ว เผือกไม่เชื่อ ผมนี่งงไปเลย มารู้ก็ตอนที่ป้าแกมาบอกว่า คุณธามหมายถึงไม่เล่นสาดน้ำ แกคิดว่าผมเล่นด้วย ทั้งที่จริงๆ แล้วผมมองไม่เห็นว่าแกมายืนสูดอากาศตอนเช้า”

“ฮ่าๆๆ นั่นแหล่ะครับ ธาม”
“ผมฝากด้วยนะครับ”

“ครับ ไม่ต้องห่วงครับ” ผู้นำพยักหน้าวางใจ แล้วก็ขับเคลื่อนรถออกไปทำงานเสียที

วันนี้เขามีนัดสำคัญ
บังเอิญหรือโชคช่วยก็ไม่รู้ได้ แต่นักวิชาการที่มาบรรยายงานเสวนาเดียวกับเขาครั้งก่อน ดันเคยรักษาให้กับคนไข้คนหนึ่ง และคนไข้คนนั้นก็เป็นญาติกับป้าวีณา

จะเป็นใครกันนะ?


ผู้นำมาถึงรพ.ก่อนเวลานัดนิดหน่อย เขาได้รับการดูแลจากเลขาด้วยกาแฟหอมๆ ยังไม่ทันจะจิบ คนที่เขาขอให้มาพบก็เดินมาถึงเสียที

เลขาที่ดูแลตั้งแต่งานของพ่อเขา มาถึงงานของเขา เดินนำชายคนหนึ่งเข้ามาในห้องทำงานส่วนตัว เธอไม่ถามเขาก่อนเพราะเขาสั่งไว้แล้วว่าหากอาจารย์หมอมาเมื่อไหร่ให้ต้อนรับทันที

ผู้นำลุกขึ้นยืนพลางยกมือไหว้ อีกฝ่ายยิ้มให้อย่างคนมีภูมิแล้วก็ทักทายเขาด้วยคำพูดที่ทำให้สบายใจจะสนทนา

“เจ้านำ ไม่เจอลุงไม่กี่ปี ต้องมีพิธีรีตองกันขนาดนี้เลยรึ”

“ลุงหมออาจ” เขาเรียกอีกฝ่ายแล้วเดินออกมาสวมกอดอีกฝ่ายไว้อย่างคุ้นเคย ฝ่ายผู้ใหญ่กว่าตบหลังเขาไม่กี่ทีก็คลายสัมผัส จากนั้นก็สำรวจมองหน้าเขาแล้วก็ถามสารทุกข์สุกดิบทั่วไป เขาตอบคำถามตามมารยาทและเพื่อเพิ่มความประทับใจระหว่างกัน และเมื่อเห็นว่าได้จังหวะแล้ว ผู้นำก็ดึงเข้าประเด็นทันที

“ลุงอาจจำเคสที่ผมสนใจได้มั้ยครับ ถ้าไม่รบกวนเกินไป ช่วยเล่าเคสให้ผมฟังได้มั้ยครับ”

“อืมมมมม...”
“มันก็ความลับคนไข้ แต่ว่า มันจบไปแล้ว”
“แต่ลุงคงบอกชื่อไม่ได้หรอกนะ”

“ครับ”

“เคสเด็กคนนึง วัยเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นน่ะ”
“แกเป็นโรคขาดความรัก แล้วเข้าใจว่าการครอบครองสิ่งของ การเป็นเจ้าของอะไรก็ตามแต่ คือการได้ความรัก แล้วก็เป็นการแสดงความรักด้วย”
“จริงๆ แล้วก็ไม่ใช่พฤติกรรมที่ควรวิตกกังวลนัก เพราะวัยเด็กที่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ก็ต้องการสร้างอัตลักษณ์ของตัวเอง บ้างก็สร้างด้วยร่างกายตัวเอง ด้วยคำพูด ด้วยบุคลิก และการแสดงออกอื่นๆ”
“แต่เด็กคนนั้น เขายึดความเชื่อตัวเองเป็นศูนย์กลาง แล้วก็ทำแบบนั้นเรื่อยมา”
“จนวันนึง ญาติพามาพบลุง เพราะว่าเขาลักพาตัวน้องชายตัวเอง”

“ลักพาตัว...พาไปไหนครับ”

“ไปซ่อนไว้”
“มันเป็นการทำผิดที่บริสุทธิ์นะนำ”
“เขาบอกลุงว่า น้องไม่อยากไปจากเขา น้องรักเขา น้องต้องการเขา เขาต้องปกป้องน้อง”
“เด็กเพิ่งขึ้นม.ต้น พาน้องชายไปซ่อนไว้ในพงหญ้าหลังรั้วบ้าน มีผ้าห่มที่น้องเขาติด หุ่นยนต์ ขนม น้ำเปล่า”
“คืนนึงที่น้องหาย เขาบอกว่าเขาไม่ได้นอนเลย เขามองน้องจากหน้าต่างห้อง เขาปกป้องน้องอยู่”
“พอเช้า เขาก็ไปหา แล้วก็กอดไว้ กอดจนแน่นแล้วก็หลับไปด้วยกัน”
“ตอนหาเจอ น้องชายเขาเกือบไม่รอดเพราะเป็นปอดบวม เนื้อตัวเขียวช้ำไปหมด แล้วก็มีอาการตื่นกลัวอยู่ตลอดเวลา คุณวีณาเขาเลยตัดสินใจแยกตัวออกมาจากบ้านใหญ่ ไม่อยากให้เด็กคนน้องมีปัญหาหรือมีอันตรายกว่านี้ ส่วนคนพี่ ลุงก็ดูแลอยู่ไม่นาน พ่อเขาก็บอกว่าลูกเขาไม่ได้ป่วย แล้วก็ไม่มารับการบำบัดอีกเลย”

“ผมรู้ว่ามันเป็นจรรยาบรรณ การเปิดเผยเรื่องส่วนตัวคนไข้โดยที่เจ้าตัวไม่อนุญาตเป็นเรื่องไม่สมควร”
“แต่ว่า ลุงหมอครับ ตอนนี้ เด็กคนน้องอยู่กับนำ แล้วคนพี่ ก็ดูเหมือนจะยังคงมีพฤติกรรมยึดติดกับการครอบครองอยู่ด้วย ถ้าลุงหมอจะเมตตาเด็กคนนึงให้ตื่นจากฝันร้ายซักที ช่วยผมเถอะนะครับ”

“.............”

“บอกตรงๆ ว่าผมก็ไม่แน่ใจนักว่าเคสลุงหมอ กับคนที่ผมสงสัยใช่คนเดียวกันรึเปล่า”
“แต่ธามสำคัญกับครอบครัวผม กับตัวผม กับพ่อผม”
“คุณสุพิสุทธิ์ไม่มีสิทธิ์ริดรอนชีวิตหรือความสุขของคนสำคัญของผมนะครับ”

“เฮ้อออ เมื่อไหร่จะเลิกฉลาดเป็นกรด”
“ลุงก็ว่าเรามาสนใจอะไรเคสเก่านี้ ที่แท้ก็หาเป้าอยู่นี่เอง”
“แล้วจะให้ช่วยยังไง ลุงไม่ได้บำบัดเขานาน ไม่รู้หรอกว่าอาการรุนแรงอะไรแค่ไหน”

“ผมขอแค่ข้อมูลทั้งหมด เอกสารที่เกี่ยวกับเคสนี้ ใบตรวจ ยาที่ใช้ ลักษณะอาการเบื้องต้น”
เรื่องลักพาตัว บ้านเขาคงไม่ได้แจ้งความอะไรใช่มั้ยครับ งั้นผมคงไม่มีหลักฐานเรื่องพฤติกรรมเข้าข่ายใช้ความรุนแรงเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสินะ ไม่เป็นไรครับ แค่เอกสารการป่วยทางจิตของเขาก็ใช้ได้แล้ว”

“เจ้านำ”

“ผมไม่ทำให้ลุงหมอเดือดร้อนแน่ครับ ผมไม่ได้ตั้งเป้าจะทำร้ายใคร แค่อยากสะสมอาวุธให้ธามบ้างเท่านั้นเอง”

“ธาม...ชื่อเด็กคนน้องนั่นนี่นา น่าสงสารนะ ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง ตอนแรกคุณวีณาเขาก็อยากให้ลุงดูอาการ กลัวจะซึมเศร้าหรือเก็บกด แต่แกกลับดีขึ้นหลังจากที่ออกจากบ้านนั้นถาวร เห็นว่าย้ายไปอยู่ไต้หวันนี่ คุณวีณาเขามาลาลุงด้วย”

“ครับ ป้าวีณาพาธามไปอยู่ไต้หวัน เขาพาธามมาอยู่ที่บ้านผมแค่ 2 ปีกว่าๆ เอง”
“ธามยังไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร พูดออกมาไม่เป็นเรื่องเป็นราว ผู้ใหญ่ก็คงไม่ซักถามให้กระจ่าง”

“แล้วนำ เจอกับเด็กคนน้องได้ยังไง”

“คงเป็นโชคชะตามั้งครับ” ฝ่ายผู้ใหญ่กว่าหัวเราะทันที เขารู้ว่าลุงหมออาจไม่เชื่อหรอกว่าเขาคิดว่ามันคือโชคชะตาจริงๆ ผู้นำหัวเราะตามแล้วก็พูดคุยกันเรื่องอื่นต่อ และขออนุญาตเลี้ยงข้าวกลางวันให้หายคิดถึงกัน และแน่นอนว่าฝ่ายผู้ใหญ่กว่าไม่ยอมอยู่แล้ว

แต่ไม่ว่ามื้อนี้ใครจะเป็นคนจ่าย สิ่งที่เขาต้องการ ก็กำลังจะมาอยู่ในมือเขาในไม่ช้า
ไม่คิดเหมือนกันว่าการคลำทางมั่วๆ จะทำให้เขาได้รู้เรื่องสำคัญของนายสุพิสุทธิ์เข้า


-----------



อากาศร้อนมากเลย ประเทศไทยอะไรกันแบบนี้
ธามงึมงำว่าร้อน ร้อน และร้อน แต่ป้าจูกลับไม่บ่นซักคำ เหงื่อไม่ออกด้วย

“เหนื่อยแล้วใช่มั้ยคะ? งั้นคุณธามนั่งรอป้าที่ร้านกาแฟตรงนั้นนะคะ ป้าไปซื้อเอง”

“ซื้ออะไรอีก” เขาถามพลางก้มมองของที่ป้าจูถือเต็มไม่เต็มมือ ซึ่งธามเคยขอช่วยถือแล้ว ป้าจูก็ไม่ยอม

“ยังขาดของสดอีกหลายอย่างค่ะ แล้วก็เครื่องแกง ของแห้งด้วย แล้วก็พวกน้ำยาทำความสะอาด”

“อะไรอีก เยอะจัง”
“เดี๋ยวธามช่วยดีกว่า เสร็จเร็วนะ”

“อย่าเลยค่ะ ในตลาดสดกลิ่นไม่สดชื่น รอป้าในร้านตรงนั้นนะคะ เดี๋ยวป้าก็มาแล้ว”

“โอเค แต่เอานั่นมา ธามเก็บให้”

“อ้อ...ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ มีน้ำใจจริงๆ”
“ไปค่ะ เดี๋ยวป้าเดินเข้าตลาด คุณธามข้ามถนนดีๆ นะคะ”

“ครับ” เขารับคำแล้วก็ฉวยของในมือป้าจูมาถือไว้ แล้วก็ข้ามถนนไปยังร้านกาแฟที่ป้าจูบอก

บรรยากาศในร้านก็โอเคดี แอร์เย็นชื่นใจคือสิ่งสำคัญที่เหนี่ยวรั้งธามไว้ ไม่ให้เชิดหน้าใส่กาแฟรสไม่ถูกปาก
เขาฆ่าเวลาด้วยการแหวกถุงดูของไปเรื่อยเปื่อย ระหว่างที่ป้าจูซื้อก็จะเล่าด้วยว่า ซื้ออะไรไปทำอะไร แต่ละอย่างก็ของกินที่พี่นำกับลุงหมอชอบทั้งนั้น มีของธามด้วย

ดีจัง
ธามรู้สึกอิ่มๆ จนไม่ต้องกินอะไรก็ไม่หิวเลยตอนนี้


นั่งหาวอยู่ราวครึ่งชั่วโมง ธามก็เห็นป้าจูอยู่ที่ถนนอีกฝั่ง เขาเลยจัดการจ่ายเงินค่ากาแฟแล้วหอบของเดินออกจากร้าน

สัญญาณไฟยังเขียวอยู่ ข้ามไม่ได้
ดูเหมือนป้าจูจะไม่อยากให้ธามข้ามาหา แต่เธอจะมาหาธามเอง อ่านจากสัญญาณมือน่าจะเป็นแบบนั้น
ธามเป็นคนดีอยู่แล้ว ป้าจูบอกอะไรธามก็เชื่อ

เขายืนพักขารออยู่ สัญญาณไฟยังเขียว รถบนถนนยังคงวิ่งสวนกันไปมาอย่างรวดเร็ว

อ่ะ เหลืองแล้ว .... แล้วก็แดงสักที

ธามยืนรอป้าจูที่เดินมุ่งหน้ามาหา มีคนมากมายเดินสวนกับป้าจู แล้วก็เดินตามป้าจู วิ่งตามมาก็มี

“ว้าย!!! ช่วยด้วย! ช่วยด้วยค่ะ โจรวิ่งราวสร้อยค่ะ ช่วยด้วย!!!!”


“จู!” ไวเท่าความคิด ธามทิ้งของแล้ววิ่งตามคนที่วิ่งชนป้าจูจนล้มแล้วก็วิ่งหนีไป เขาเกือบคว้าคอมันไว้ได้แล้ว ถ้าไม่ตกใจกับเสียงที่เกิดขึ้นด้านหลังเสียก่อน

ว้ายยยยยยย!!
คุณป้า คุณป้าคะ!
เฮ้ย! คนถูกรถเฉี่ยว เรียกรถพยาบาลที แถวนี้มีตำรวจมั้ย! ตำรวจ! ตำรวจ!!!


รอบตัวเขาเหมือนหยุดนิ่ง กลุ่มคนเบื้องหน้ากำลังเคลื่อนไหวช้าๆ ไปรวมตัวกันที่กลางถนน ผู้คนกำลังมุงดูกันมากมาย

ไม่จริงหรอก ต้องไม่ใช่อย่างที่ธามกำลังกลัว
ต้องไม่ใช่

ธามหายใจหอบถี่ เขาเดินรี่แหวกกลุ่มเข้าไปจนได้เห็น


ป้าจู.....เลือด

“จู....”
“จู!!! จู!!!!”
“จูได้ยินมั้ย จู จู”
“ทำยังไงล่ะ ทำยังไง”
“มองอะไร!! ไปให้พ้นนะ”
“จู! จู”


“ไอ้หนู ใจเย็นๆ นะ พี่วินเขาเรียกรถพยาบาลแล้ว”
“อ้าวนั่น ตำรวจมาแล้ว”
“คุณตำรวจ มีคนโดนรถเฉี่ยวครับ”

เขาถูกดึงตัวออกจากป้าจูที่ยังคงนอนแน่นิ่ง ธามตัวสั่นแม้ว่าจะพยายามบังคับไม่ให้สั่นแล้วก็ตาม เขารีบล้วงโทรศัพท์ที่นำซื้อให้ กดเบอร์โทรออกล่าสุดแล้วแนบหูรอทันที

และเมื่อปลายสายรับ ธามก็พ่นทุกอย่างที่อัดไว้ในร่างกายที่สั่นสะท้าน

“นำ! นำ ธามนะ”
“อีกแล้วนำ อีกแล้ว”
“ป้าจู ป้าจูเป็นแบบนี้เพราะธาม”
“นำ นำมานี่สิ นำมาได้มั้ย นำ นำ!”

พี่นำบอกให้ใจเย็นๆ ค่อยๆ พูด แต่ถ้าทำไม่ได้ให้มองหาคนที่น่าจะบอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นแล้วให้เขามาพูด
ธามก้าวไปคว้าไหล่ชายที่ดึงนำออกมาจากป้าจูแล้วก็ยื่นโทรศัพท์ให้ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่อีกฝ่ายน่าจะเข้าใจได้ เพราะชายคนนั้นรับโทรศัพท์ไปจากธามแล้วก็เอาแนบหู

ไม่นานนักโทรศัพท์ก็ถูกส่งคืนมา ธามอ้าปากค้างมองชายคนนั้น เขาจึงบอกว่าคุยอะไรกับนำบ้าง

“เขาบอกให้รอลุงเผือกที่นี่ พอเจอแล้วให้กลับบ้าน ที่เหลือเขาจะจัดการเอง ให้รอที่บ้านนะ”

ธามพยักหน้ารับคำและหันมองป้าจูที่ถูกพยุงให้ลุกขึ้นครึ่งตัว ป้าจูลืมตามองธามแล้ว เธอยังคงยิ้มให้ ธามจึงรีบไปหาแล้วปัดเนื้อปัดตัวให้ ป้าจูมีแผลถลอกเยอะเลย ข้าวของกระจัดกระจายไปหมด

“ป้าจู ขอโทษนะ”

“ไม่ค่ะ ไม่ต้องขอโทษป้าเลย คุณธามผิดซะที่ไหน แล้วป้าก็เจ็บนิดเดียว”
“เดี๋ยวเดียวก็หาย”

“ธามบอกนำแล้ว นำบอกว่าเดี๋ยวลุงเผือกมา”
“เจ็บมากมั้ย อย่าเจ็บมากนะ”

“ค่ะ นิดเดียว”

เสียงรถฉุกเฉินแว่วมาแต่ไกล ธามรู้สึกเบาใจที่ป้าจูจะมีคนดูแลอย่างถูกต้อง
ยังไม่ทันที่ป้าจูจะถูกเคลื่อนย้าย ลุงเผือกก็มาถึงที่เกิดเหตุด้วยสีหน้าซีดเผือด
คนแรกที่ลุงเผือกพุ่งมาหาคือธาม พอเห็นว่าไม่เป็นอะไรจึงได้ไปดูป้าจู


รอบตัวธามจอแจเหมือนเดิมเมื่อรถฉุกเฉินจากไปพร้อมเสียงดังที่กระทบเข้าไปถึงหัวใจ เขามองท้ายรถไปจนมันลับตา จากนั้นก็เดินตามลุงเผือกมายังรถ เพื่อกลับบ้าน


“เดี๋ยวลุงไปส่งคุณธามที่บ้าน แล้วจะไปดูป้าแกที่โรงพยาบาลนะครับ”

“ครับ”

“อยู่บ้านคนเดียว อยู่ได้นะครับ”

“อยู่ได้ ลุงเผือกไปดูแลป้าจูนะ ธามจะรอนำ แล้วธามจะพานำไปเอง”

“ครับ ครับ” พอคุยกันรู้เรื่องแล้ว รถยนต์ประจำบ้านก็เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง ธามหลับตาพลางถอนหายใจ แต่แล้วก็สะดุ้งเพราะโทรศัพท์ส่งเสียงดัง

เบอร์อะไร ไม่รู้จัก
เขาตัดสายทิ้งตามที่นำเคยบอกไว้ แล้วก็นั่งหลับตาไปตลอดทาง

บ้านหลังใหญ่โตขึ้นมากเวลาที่อยู่คนเดียวแบบนี้
ธามทิ้งตัวลงบนโซฟาแล้วนอนราบลงไป เขายังรู้สึกว่าร่างกายตัวเองสั่นเทาไม่หาย และเขาก็ไม่รู้จะทำยังไงให้มันหยุดสั่นเสียที

Rrrrrrrrrrr
โทรศัพท์ดังอีกแล้ว คงเป็นพี่นำโทรมาล่ะมั้ง

คราวนี้ เขากดรับโดยไม่ดูเบอร์ก่อน

หากรู้ว่าการรับโทรศัพท์ครั้งนี้จะทำให้หวาดกลัวกว่าเดิม ธามจะเขวี้ยงมันทิ้งไปให้รู้แล้วรู้รอด



“ธาม...รู้ใช่มั้ยว่าชีวิตธามเป็นของพี่”
“ยิ้มของธาม พี่แซนต้องเป็นคนกำหนดเท่านั้น จำไว้นะครับ”



เขาตัดสาย ปิดเครื่อง แล้ววิ่งหนีขึ้นไปยังห้องพี่นำ
ธามปิดประตู ล็อคห้อง เอาเก้าอี้มาขวางไว้
เขาปิดหน้าต่าง ปิดม่าน ล็อคประตูระเบียง เมื่อเชื่อว่าปลอดภัยดีแล้วก็นั่งซุกตัวที่ข้างเตียงนอน

เขาไม่ได้ร้องไห้ แต่เขากำลังกลัวจนควบคุมอะไรไม่ได้เลยต่างหาก


“นำ...”
“นำช่วยที นำช่วยธามด้วย”
“พี่นำ ช่วยธามด้วย”




cut


มาแล้วค่ะ
ขอโทษที่ให้รอนาน T^T ทั้งงาน ทั้งรายงาน ทั้งเรียน ทั้งการบ้าน ฮืออออ มันแยะมากๆ เลย YoY
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: IamA ที่ 02-07-2013 09:52:18
น่ารักมากเลย มีต้องเจอกันก่อนไปทำงานทุกเช้าด้วย ไหนจะนอนด้วยกันทุกคืนอีก จริงๆไม่ใช่เพราะตัวเองนอนคนเดียวไม่ได้ แต่เป็นเพราะธามอาการน่าเป็นห่วงสินะคะพี่นำ เท่โพดดดด

อิตาพี่แซนเอาน้องไปซ่อน แล้วทำไมพอหาเจอแล้วธามถึงเนื้อตัวเขียวช้ำได้ล่ะ ระหว่างนั้นแซนเผลอทำอะไรลงไป หรือมีคนมาทำอะไรธาม?? แล้วอุบัติเหตุของป้าจูนี่อิตาแซนทำใช่มั๊ย??

เพราะงี้สินะคะ ธามถึงกังวลว่าคนที่อยู่รอบตัวตัวเองจะต้องมีอันเป็นไป
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 02-07-2013 20:44:59
ธามมาส่งพี่นำไปทำงานด้วย เวลานอนก็นอนด้วยกัน น่ารักดีนะ
ธามติดพี่นำ หรือพี่นำติดธามกันแน่

อีตาพี่แซนอาการโคม่าแล้ว ส่งรักษาด่วน เริ่มมาคุกคามน้องธามอีกแล้ว
พี่นำจัดการให้ไปไกลๆเลย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 02-07-2013 21:01:40
พี่นำรีบมาช่วยน้องเร็ววว

ตกใจใหญ่แล้ววว

 :hao5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 02-07-2013 21:14:52
กอดโอ๋น้องธาม ขวัญหนีดีฝ่อหมดแล้ว พี่แซนเหมือนคนโรคจิตจังเลยอ่า อย่าทำให้น้องกลัวสิ :m16:
พี่นำจะมาช่วยน้องทันไหมนะ :sad4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 03-07-2013 08:55:07
เครสนี้น่ากลัว เพราะเจอกับพวกจิตอย่างแรง พร้อมจะครอบครองทั้งหมด
คนพ่ออยากได้สมบัติ คนลูกอยากได้คน  :เฮ้อ:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 03-07-2013 09:13:18
โอ้ยยยยย
สงสารธามมม~~

เรื่องนี้เราชอบมากๆเลยอ้ะะะะะะ
:pig4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 03-07-2013 09:56:34
พี่นำรีบกลับมาหาธามเร็วๆ  ธามขังตัวเองแล้วนะ  เดี๋ยวธามสร้างปราการแน่นหนากว่านี้แล้วพี่นำจะเข้าไปหาธามยากนะ
 :sad4: :sad4: :sad4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 03-07-2013 10:22:50
แซนนี่ไม่น่าจะหายนะที่ธามเป็นงี้ก็เพราะแซนและทางนู้น
เชื่อว่าพี่นำต้องดูแลอย่างดีชัวร์
โอ้ยพี่นำรีบมาเร็วน้องต้องการพี่นำนะฮือ สงสารธามมากอะ
เดี๋ยวก็ต้องคิดอีกว่ามีคนตายเพราะตัวเองแงง
ชอบพี่นำอีกแล้วแลดูเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องธามนี่ถ้าเค้าปิ๊งกันเมื่อไรคงหวานมากเมื่อนั้นฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 03-07-2013 13:15:35
ชุลมุนมากตอนนี้
ตาย ๆ น้องธามของเราต้องเจออะไรบ้างก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 03-07-2013 19:08:51
กำ ธามอุตส่าห์ดีขึ้นแล้วนะเนี้ย พี่ธามรีบมาเน้อ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 03-07-2013 22:11:08
ธามสู้ๆๆ พี่นำสู้ๆๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 04-07-2013 21:25:08
โง้ย ธามอย่าพึ่งเตลิดไปนะ รอพี่นำนะ
พี่นำก็มาหาน้องเร็วๆสิ
พี่แซนก็โทรมาถูกจังหวะเหลือเกินนะ หึหึ
ลุ้นอ่า ไม่อยากให้ธามอาการแย่ไปมากกว่านี้เลย

ขอโทษที่มาอ่านช้าค่า
รออ่านต่ออยู่นะ จุ๊บๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Kee ที่ 05-07-2013 09:42:43
ธามน่าสงสารจริงๆ  :hao5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 05-07-2013 17:54:05
เพราะอย่างนี้นี่เองธามถึงเป็นแบบนี้ พี่นำดูแลธามให้ดีด้วยนะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 05-07-2013 20:46:30
โถ   น่าสงสารจริงๆ น้องธาม ทำไมชีวิตหนูถึงมีแต่เรื่องร้ายๆนะ
พี่นำรีบกลับมาดูน้องหน่อยเร้วว
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 18-07-2013 02:25:18
เข้ามาดันหน่อยเนาะ

 :katai5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 9.1 (22/07/13)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 22-07-2013 17:13:37
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 9.1



ทั้งที่รีบแล้วแท้ๆ แต่กว่าจะกลับถึงบ้านก็ทุ่มกว่า ไม่รู้ว่าธามจะอยู่จะกินยังไงเมื่อไม่มีป้าจูคอยดูแล ผู้นำเลี้ยวรถเข้าซอยแล้วเริ่มชะลอเครื่องยนต์ ในซอยนี้มีรถเล็กๆ จอแจ และตอนนี้ก็ยังไม่ดึกมาก มอเตอร์ไซค์ทั้งหลายยังคงประกอบสัมมาชีพของตนไป

เขาเลี้ยวอีกครั้งเข้าซอยที่เล็กลงและจอดรถที่หน้าบ้านตัวเอง วันนี้เขาต้องเปิดประตูเอง ไม่มีลุงเผือกมาคอยบริการเพราะพ่อและเขาต่างก็เห็นพ้องกันว่า ลุงเผือกควรดูแลป้าจูอย่างเต็มที่

“มืดเชียว ทำไมธามไม่เปิดไฟ ในบ้านก็ไม่เปิด”
“อะไรกัน” เขางึมงำคนเดียวและขับรถเข้าบ้านเมื่อเปิดประตูรั้วเรียบร้อย ผู้นำยังไม่ดับเครื่องยนต์ เพราะต้องการอาศัยไฟหน้ารถนำทางเขาก่อน

เขาเปิดประตูที่ไม่ได้ล็อคด้วยความเอะใจเพียงนิด แต่ที่ทำให้ใจกระตุกมากๆ ก็คือคนคนหนึ่งที่อยู่บ้านคนเดียว

“ธาม!”
“ธามครับ ธาม!!” เขาเรียกก้องบ้าน จากนั้นก็ผละวิ่งไปที่บ้านเล็กที่เยื้องไปด้านหลัง แต่วิ่งไปได้ครึ่งทางก็วกกลับมาบ้านใหญ่แล้วตะโกนเรียกหาคนคนเดียวเสียงก้องอีกครั้ง
“ธาม ธามครับธาม”
“ธาม ธาม!”

เงียบ...
อะไรกัน... หรือว่าไม่อยู่บ้าน
ถ้าไม่อยู่บ้าน แล้วไปไหน
หรือจะไปหาป้าจู ก็ไม่น่าใช่ ลุงเผือกบอกว่ามาส่งธามที่บ้าน แล้วธามก็บอกว่าจะรอเขาอยู่ที่บ้าน

ผู้นำเป่าปากให้ตัวเองใจเย็นขึ้น เขาเปิดไฟให้แสงสว่างในบ้านและเดินตามหาธามจนทั่วชั้นล่าง สุดท้ายก็ไม่เจอใครเลย จิ้งจกสักตัวก็ไม่ออกมาทักทาย เขาตัดสินใจหาที่ชั้นบน แต่ก็ไม่ลืมออกไปดับเครื่องยนต์และล็อครั้วให้เรียบร้อยก่อน

บ้านเขาเงียบมากยามไม่มีป้าจูออกมาทักทายต้อนรับเขากลับบ้านพร้อมกับคำถามว่ากลับมาแล้วหรอคะ? หรือไม่ก็ ทานอะไรมารึยังคะ?

ยิ่งคิดก็ยิ่งหดหู่ แล้วนี่ธามไปไหนก็ไม่รู้อีก ทำไมวันนี้ถึงได้ยุ่งเหยิงนัก
ผู้นำวิ่งขึ้นไปหาข้างบน เป้าหมายแรกที่เขามุ่งไปก็คือห้องนอนของธาม และก็ได้พบเพียงความมมืดเช่นเคย เขาเปิดไฟและรอให้แสงสว่างวิ่งเล่นทั่วห้อง กวาดตามองครู่เดียวก็มั่นใจว่าห้องนี้ไม่มีใครอยู่ เพราะสภาพมันไม่ต่างจากวันที่ธามย้ายออกไปอยู่บ้านเล็กเลย แม้แต่พรมเช็ดเท้าใกล้ประตูก็ไม่ยับยู่ยี่

“ไปไหนก็ของเขา” ผู้นำพึมพำแล้วก็เดินไปยังห้องตัวเอง ปราการด่านแรกที่ควรคุ้นเคยกับเขาดี กลับปักหลักขวางหน้าเขาเสียได้
“ห้องล็อค ไม่เคยล็อคนี่” เขาปรึกษากับตัวเอง ลองบิดลูกบิดอีกครั้งก็ได้ผลลัพธ์เหมือนเดิม เรื่องนี้คงต้องร้อนถึงป้าจูจนได้ แต่เวลานี้ไม่มีป้าจูที่คอยดูแลบ้านให้ เขาก็คงต้องพึ่งตัวเอง

กุญแจสำรองอยู่หลังตู้เย็น ที่ที่ไม่ค่อยปลอดภัยสักเท่าไหร่ในความคิดเขาแต่ป้าจูกลับทำให้มันกลายเป็นที่ปลอดภัยมาได้หลาย 10 ปี เมื่อได้สิ่งที่ต้องการแล้วเขาก็วกกลับไปยังห้องตัวเองอีกหน

เขาไขกุญแจและบิดลูกบิดเข้าไป แล้วก็ต้องตกใจเพราะข้าวของมากมายมาขวางหน้าอีกชั้น ผู้นำเปิดไฟและรอให้แสงสว่างย้ายสนามวิ่งเล่นมาที่ห้องเขาแทน เมื่อพอจะมองเห็นแล้วก็ขจัดสิ่งที่ขวางหน้าออกไปให้พ้นทาง

แล้วก้อนกลมๆ บนเตียงเขานั่น คืออะไร?
ผู้นำขมวดคิ้วนิดเดียวแล้วก็คลี่ยิ้ม ใจที่เคยหม่นๆ พลันจ้าแสงขึ้นราวกับแสงสว่างไปสร้างสนามวิ่งเล่นในนั้น

“อยู่นี่เอง หมาธาม” เขาทักทายคนที่ขดตัวอยู่บนเตียง ธามหลับด้วยท่าทางที่ดูหวาดกลัวกับอะไรบางอย่าง หากคนอื่นมองก็คงมองว่าน้องชินกับท่านอนแบบนี้ แต่สำหรับผู้นำแล้ว แม้แต่การกระพริบตาหรือเหม่อลอยเพียง 10 วินาที เขาก็เชื่อมั่นต้องเกิดมาจากเหตุใดเหตุหนึ่ง คนอื่นอาจไม่สนใจ และคิดว่าน้องก็มีโลกส่วนตัว แต่เขาเชื่อว่า การที่น้องอยากอยู่ในโลกส่วนตัวมากกว่าโลกความเป็นจริงใบนี้ มันต้องมีสาเหตุแน่นอน

อะไรล่ะ?

คงกังวลเรื่องป้าจู ก็อาจจะใช่ แต่มันไม่มีอะไรมากกว่านั้นจริงหรอ?
หากธามกังวลเรื่องป้าจู ก็ควรพยายามพาตัวเองไปหาความสบายใจ ด้วยการได้เห็นกับตาว่าป้าจูไม่เป็นอะไรมาก ไม่ใช่มาหลบอยู่ในห้องเขา เอาอะไรมาขวางเสียตั้งมาก ไฟก็ไม่เปิด แอร์ไม่เปิด ม่านก็ปิด เปลือกตาก็ยังปิด

ธามเลือกจะปิดทุกโหมดการรับรู้แบบนี้ น่าเป็นห่วงกว่าเดิมรึเปล่านะ?

“ธาม ธามครับ”
“หมาธาม ธาม”
“ตื่นก่อนเร็ว พี่นำกลับมาแล้ว”
“ธาม ธาม”

“อืออออ” เสียงงัวเงียตอบเขามา ธามยืดตัวขึ้นนิดหน่อยแล้วก็พลิกตัวนอนหงาย น้องมองหน้าเขาแล้วนิ่งค้าง แล้วจู่ๆ ก็ผวาลุกขึ้นนั่งแล้วเขย่าตัวเขาจนคอโยก

“นำ! นำ นำ”
“จูน่ะ จู”
“ป้าจู นำไปดูรึยัง”

“ใจเย็นๆ แล้วลุกเร็วแบบนี้หน้ามืดมั้ยครับ? นี่นอนตั้งแต่กี่โมง แล้วรื้อห้องพี่นำทำไม ไม่พอใจเรื่องอะไรจนต้องทำลายข้าวของหรอ”

“ไม่ ไม่ นำ”
“นำไปดูรึยัง จูน่ะ”

“ไปดูอาการมาแล้วครับ ป้าจูไม่เป็นอะไรมาก มีบ่นเสียดายสร้อยคอนิดหน่อย แต่ลุงเผือกแกรับปากว่าจะซื้อให้ใหม่ หมอปันให้นอนพักที่โรงพยาบาลคืนหนึง พรุ่งนี้บ่ายๆ ก็ถึงบ้านแล้ว”

“ไม่เป็นไรแน่นะ แน่ๆ นะ”

“ครับ ไม่เป็นไรแน่นอน” พอฟังเขาย้ำ ธามก็ถอนหายใจโล่งอกและแผ่ตัวลงนอนอีกครั้ง น้องจ้องเขาแล้วนิ่งค้างไป หรือวันนี้หน้าเขามีอะไรแปลก

“นำ”

“ครับ”

“ธามอยู่ที่ไหนได้บ้าง”
“อยู่แบบไม่ต้องมีใครเดือดร้อน”

“อยู่ที่ไหนก็ได้ ธามมีสิทธิทั้งนั้น ตราบใดที่ไม่ได้ไปปล้นบ้านคนอื่นอยู่ หรือไปฆ่าเจ้าของบ้าน แบบนั้นติดคุกหัวโต”

“อยู่ที่นี่ ก็ได้หรอ”

“ได้สิ ถามแปลก”
“อยากอยู่ที่ไหนก็อยู่”

“แล้ว...ถ้าธามอยู่กับนำ แล้วนำอาจหายไป หรือตายไป นำยังคิดว่าธามอยู่ที่นี่ได้รึเปล่า”

“ได้ พี่นำจะตายหรือไม่ตาย ไม่มีใครมากำหนดได้ และก็ไม่มีใครมาทำให้การอยู่ของธาม คือการตายของพี่นำได้หรอก ไม่ว่าใครก็ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ”

“จริงหรอ? ทำไม่ได้จริงหรอ”

“ทำไม่ได้แน่นอน”
“หมาธาม ฟังพี่นำนะ”

“.........”

“มันไม่เกี่ยวกันเลยสักนิด ใครจะหายไป ใครจะยังอยู่”
“พี่นำไม่รู้ว่าธามเอาความคิดนี้มาจากไหน แต่การอยู่ของธาม ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนหรอกครับ”
“หรือถ้าจู่ๆ พี่นำต้องหายไป พี่นำก็หายไปเอง ธามไม่ใช่สาเหตุ”

“แต่....”

“ลุกไปล้างหน้าล้างตานะครับ เดี๋ยวพี่นำทำมื้อเย็นให้กิน”
“แล้วก็ไม่ต้องคิดมากเรื่องป้าจู พี่นำแวะไปเยี่ยมแล้ว ไม่เจ็บอะไรมาก”

“............”

“นะครับ เชื่อพี่นำนะ” น่าจะเชื่ออยู่มาก ไม่อย่างนั้นคนที่นอนจ้องเขาตาแป๋วคงไม่ลุกไปทำตามที่บอกง่ายๆ ผู้นำถอนหายใจแล้วครุ่นคิดถึงสาเหตุที่ธามพูดเรื่องนี้ขึ้นมา

หรือว่าจะมีอะไร?

เสียงเปิดประตูอีกครั้งเรียกให้ผู้นำลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินลงไปข้างล่างเพื่อทำมื้อค่ำให้ธามกิน เขาไม่รู้ว่าน้องได้กินครั้งล่าสุดเมื่อไหร่ แต่เสียงที่แว่วได้ยินเป็นเมนูอาหารทั้งหลาย ทำให้เขาเชือว่าธามหิวมาก



-----------



คืนนี้นอนห้องพี่นำ
ธามก็ไม่ได้เป็นไรอะไร นอนคนเดียวก็ได้ แต่นำคงตกใจกลัวเรื่องป้าจูแน่ๆ ถึงได้ไม่อยากนอนห้องตัวเองคนเดียว

“ห่มผ้าแล้วนะ”

“อื้อ” ธามตอบแล้วกระชับผ้าห่มของตัวเองอีกครั้ง แสงไฟในห้องดับลงเมื่อพี่นำมั่นใจว่าธามตั้งท่านอนเรียบร้อยดีแลว เตียงยุบลงเมื่อพี่นำล้มตัวลงนอน และเขาก็เลื่อนขาไปแตะขาพี่นำทันที พี่นำเองก็เกยแขนมาทับแขนตามทันทีเหมือนกัน

เพียงแค่แตะพี่นำไว้บางส่วน ธามก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาก


“อื้อนำ” ธามถามขึ้นกลางความมืด เขาไม่แน่ใจว่าพี่นำหลับแล้วหรือยัง แต่ธามนึกขึ้นมาได้พอดี

“อะไรครับ”

“พรุ่งนี้ ธามจะไปหาจูนะ ไปรับจูกลับบ้าน”

“ครับ เดี๋ยวพี่นำพาไป”

“แล้วนำไม่ทำงานหรอ”

“ก็พาธามไปทำงานกับพี่นำก่อน เที่ยงๆ ค่อยไปรับป้าจูกัน”
“ดีมั้ย”

“ได้หรอ? ได้ดีก็ตกลง”

“ขอบคุณครับด้วยสิธาม”
“อย่าพูดห้วน”

“ห้วนอะไร”
“ห้วนหมายความอะไร”

“ห้วนคือพูดไม่มีหางเสียง ไม่มีคำต่อท้ายที่แสดงถึงความสุภาพ”
“เหมือนพี่นำพูด พี่นำพูดครับกับธามแทบทุกครั้งเลยนะ สังเกตรึเปล่า”

“.........”

“ไม่พูดห้วนอีกนะครับ”

“อือ ไม่ห้วนได้”
“ครับ”

“เป็นเด็กดีของพี่นำนะครับ”


-----------


เป็นเด็กดีของพี่นะธาม
ถ้าธามเป็นเด็กดีของพี่ ธามจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ


ธามขมวดคิ้วเมื่อจู่ๆ เสี้ยวของความทรงจำหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในความมืด เขาผละตัวออกจากมือพี่นำที่แตะต้นแขนเขาเอาไว้ ธามลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปอาบน้ำ

ธามไม่ชอบ ธามไม่อยากนึกถึง
ธามไม่อยากนึกถึงอีก ธามเกลียด เกลียดมัน!


พี่ให้ธามได้ทุกอย่าง แค่เป็นเด็กดีของพี่เท่านั้นธาม
เป็นเด็กดีของพี่


“ไม่! ไม่เป็น ไม่เป็น!!!”

“ธาม ธามครับ”
“ธาม”
“เป็นอะไร”

พี่นำอีกแล้ว ทำไมทุกครั้งที่ธามรู้สึกหวาดหวั่นคนคนนั้น พี่นำต้องมาถึงตัวธามเป็นแรกเสมอเลย ไม่เหนื่อยรึไง ธามยังเหนื่อยเลย

“ธาม”

“ไม่เป็นไร แค่ร้อน”

“โอเค งั้น...พี่ปรับแอร์ให้แล้วกันนะ” เรื่องมันเล็กน้อย แต่ธามกลับยิ้มออกมาได้ เขาอาบน้ำล้างความคิดเร็วขึ้นแล้วก็ออกมานอนใหม่อีกหน พี่นำยังไม่หลับ ซ้ำยังใส่แว่นและนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ก็แล้วด้วย

“ทำงานหรอ? ธามไปนอนที่อื่นได้นะ ไม่กวน”

“นอนที่นี่แหล่ะครับ ปิดไฟได้เลย พี่นำดูอะไรแป๊บนึง”

“อะไรหรอ?”

“หือ? เคสคนไข้นะ พรุ่งนี้ต้องคุยกันแต่เช้า เลยทวนอาการก่อน”

“นำเป็นหมออะไร ธามไม่เคยรู้เลย”

“จิตแพทย์”


ธามป่วย พี่ถึงต้องดูแลไง
ธามไม่ปกติ



“นำ”

“ครับ”

ถ้าบอกพี่นำ พี่นำจะช่วยได้มั้ย ธามเหนื่อยแล้ว ธามไม่อยากสู้กับสิ่งที่คืออะไรก็ไม่เคยรู้อีกต่อไปแล้ว

“นำช่วยธามได้มั้ย”

“เรื่องอะไรครับ”

“ตอบมาก่อนสิ ธามถามก่อน”

“ก็ถ้าพี่นำไม่รู้ว่าเรื่องอะไร จะประเมินกำลังตัวเองได้ยังไงล่ะครับ”
“บอกมาสิว่าอยากให้พี่ช่วยเรื่องอะไร”

“ช่วยเรื่อง...เอาเสียงออกไปที”

“............”

“ธามไม่อยากได้ยินเสียงแซน ธามเกลียดแซน ธามรังเกียจพี่ชาย”



-----------

แววตาที่บ่งบอกถึงความหวาดหวั่น แต่ก็มาดมั่นในเวลาเดียวกัน
เด็กหนุ่มที่นั่งคุกเข่าบนเตียงจ้องหน้าเขาเขม็ง คิ้วช่างบอกอารมณ์สื่อว่าเจ้าของใบหน้าเคร่งเครียดถึงขีดสุด และกำลังรอเวลาเขาช่วยปลดปล่อยความเครียดที่หนักอึ้งนั้นเสียที

แต่....

“พี่นำช่วยไม่ได้หรอกครับ”
“ขอโทษด้วย”


สีหน้าธามผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด น้องชายที่เพิ่งอ้างว่าร้อนจนถึงกับต้องอาบน้ำอีกครั้งห่อตัวด้วยผ้าห่มแล้วนอนหันหลังให้เขา

ผู้นำถอนใจ เขาได้แต่ภาวนาให้ธามเข้าใจได้เองว่า ถ้าไม่บอกสาเหตุออกมา ไม่ว่าเทวดาหน้าไหนก็ช่วยธามไม่ได้ทั้งนั้น

เขาทำให้เสียงของนายแซนคนนั้นหายไปจากหัวธามได้ แต่ต้องเติมเสียงอื่นเข้าไปแทนที่ ทำให้ธามขจัดความรู้สึกด้านลบออกไปจากใจได้ แต่ต้องเติมความรู้สึกอื่นเข้าไปแทนที่

หากจะช่วย เขาก็ต้องยื่นมือเข้าไปช่วยทุกอย่าง
แล้วถ้าวันหนึ่ง ผู้นำยื่นมือไปไม่ถึง ช่วยธามไม่ได้ ธามจะปกป้องตัวเองด้วยอะไร
หากอยากให้เสียงหาย ก็ต้องขจัดเอง ผู้นำทำได้แค่แนะแนวทางเท่านั้น

นี่แหล่ะ จิตแพทย์รชต

ผู้นำทอดเวลามองคนนอนหันหลังให้อยู่ร่วมชั่วโมงจึงปิดคอมพิวเตอร์ และมานอนข้างๆ
น้องจะรู้รึเปล่าว่าเขาก็ยังห่วงใย และอยากให้ธามพบเจอแต่ความสุขเหมือนเดิม หรือชิงคิดว่าพี่นำไม่รักไปแล้ว

“ฝันดีนะครับธาม”

เขาหอมแก้มเกลี้ยงกลิ่นเบาๆ และกอดน้องชายไว้อย่างเคย


-----------


พี่นำแย่! แย่มาก
ไหนว่าจะรักธาม ไหนว่าจะไม่ให้ใครมาทำร้ายธาม
แค่เสียงแซนก็เอาออกไปจากหัวธามไม่ได้ นำแย่! นำห่วย! 
ธามจัดการเองก็ได้!!!


“จะไปไหนแต่เช้าครับ แล้วไปถูกหรอครับ”

“จะไปเอาเสียงแซนออกไป ไม่อยากได้ยิน!”

เด็กดื้อเอ้ย ไม่เข้าใจจนได้สินะ ผู้นำส่ายหน้านิดๆ และยืนถือแปรงสีฟันคามือ มองธามเดินดุ่มๆ ไปถึงรั้วแล้วก็วิ่งกลับมาหาเขาด้วยใบหน้าเอาเรื่อง

“เปิดประตูสิ จะออกไป”

“จะไปไหนล่ะครับ แล้วไปถูกหรอ”
“ไปกินข้าวเช้าดีกว่า ตื่นก่อนแล้วทำไมไม่ปลุกพี่นำครับ หือ?”
“อาบน้ำตัวหอมเชียว นี่ใช้น้ำหอมพี่นำด้วยใช่มั้ย? เกเร ไม่ได้ขอก่อนซะหน่อย”
“ทำแซนวิชเป็นมั้ยครับ มาช่วยกันทำมา”

“นำ!”
“แย่แล้วอย่ามาขัดใจ!”
“นำแย่สองเรื่องแล้วนะ นำแย่ แย่ๆๆๆๆ”

“นี่โกรธพี่นำเรื่องอะไร? แล้วเสียงของพี่แซนอะไรนั่น พี่นำไม่ได้ได้ยินด้วยนี่ แล้วพี่นำจะช่วยยังไง”
“ธามนั่นแหล่ะ ไม่เคยบอกอะไร แล้วก็มาคาดหวัง ใครผิดครับ”

“พูดเหมือนว่าถ้าธามบอก นำจะช่วยได้”

“ก็บอกมาก่อนสิ”
“พี่นำจะได้รู้ว่าช่วยธามได้หรือไม่ได้”

“เหอะ! บอกไป นำก็ช่วยไม่ได้ นำแย่ นำห่วยแตก นำแย่ๆๆๆ”

“โอเค งั้นก็ไปจัดการเองเลยครับ กุญแจอยู่หลังตู้เย็น”

“...........”

“แต่ว่า กินข้าวเช้าไปก่อนก็ดีนะครับ ระหว่างทางจะหิวเอา”
“แล้วมีเงินค่าแท็กซี่รึเปล่า แน่ใจนะว่าแท็กซี่จะไม่พาหลง หรือพาหลง ธามก็แน่ใจใช่มั้ยว่าจะรู้ตัวว่าหลง หรือถูกหลอก มีกูเกิลแมพสินะ อืม มันก็คงไว้ใจได้...ล่ะมั้ง”

“..........”

“แซนวิชแฮมไข่ดาวนะครับ กัดคำเดียวแล้วเคี้ยวเดินออกไปก็ได้ เนอะ”

“..........” ตัวดียืนอึ้งอยู่นาน จนเขาลองใจ เดินขึ้นห้องไปแปรงฟัน ล้างหน้าอย่างใจเย็นก็แล้ว กลับลงมา ธามก็ยังยืนอยู่ที่เดิม

“มาทำแซนวิชกัน” ผู้นำลองเอ่ยชวน ธามถึงได้ขยับตัว น้องคงอึ้งอยู่ คงไม่คิดว่าคนที่น่าจะเป็นที่พึ่งได้จะไม่ทุกข์ไม่ร้อนไปกับความรู้สึกไม่มั่นใจของตัวเอง

“หั่นขนมปังเป็นสามเหลี่ยมนะครับ”
“แฮมเข้าเวฟไฟอุ่นก่อนนะ เดี๋ยวพี่นำทอดไข่ดาวเอง”
“ผักแซมอยู่ในตู้เย็น ใส่ด้วยเนอะ”

“นำ”

เสียงแผ่วๆ ของธามทำให้เขาใจหาย ผู้นำหมุนตัวจากหน้าเตามายิ้มให้คนที่ยืนนิ่ง ในมือมีถุงขนมปังโฮลวีทคาอยู่

“ครับ?”

“ทำไมไม่ช่วย”

“พี่นำไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ช่วยไม่ได้หรอกครับ”

“ถ้ารู้ จะช่วยใช่มั้ย”

“ถ้าบอกหมด แล้วยอมรับคำแนะนำจากพี่นำ ก็น่าจะช่วยได้”

“โอเค ธามไม่ไหว ถ้าไม่ช่วย ธามก็จะไม่อยู่”

เวรแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะออกมารูปนี้ซะด้วย ผู้นำหน้าเจื่อนนิดหน่อย เขาพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วตะล่อมต่อ

“พี่นำไม่ใช่เทวดา ไม่ใช่ซุปเปอร์แมน แต่พี่นำก็อยากช่วยธามนะ ติดแค่ว่า พี่นำไม่รู้ว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง”
“ถ้าธามจะเล่า....”

“เล่าแล้ว ธามจะป่วยรึเปล่า นำเป็นจิตแพทย์ จะมองว่าธามป่วยมั้ย จะฉีดยาให้ธามหลับไป ทั้งที่ธามไม่ได้คลุ้มคลั่งมั้ย จะทำแบบนั้นมั้ย”

“ไม่ครับ พี่นำจะฟังธามทุกคำ จะเชื่อธามทุกอย่าง เราจะแก้ปัญหาที่มันกวนใจธามไปด้วยกัน”
“ถ้าธามจะเล่า....”

“โอเค ธามเล่า”
“จะไม่พูดถึงอีกเพราะมันน่ารังเกียจ ธามทนไม่ได้ ธามยอมรับไม่ได้ ธามเกลียด”
“นำฟังดีๆ”

“ครับ” ผู้นำปิดเตาแก๊สซึ่งไข่ดาวก็สุกพอดี เขาทิ้งมันเอาไว้ก่อนแล้วเดินมายืนมองธามโดยมีเคาท์เตอร์กั้น คนตรงหน้าเขากัดปากจนสีริมฝีปากแดงแจ๋

“แซนรักธาม นำจำโบรแมนซ์ได้มั้ย แบบนั้นแหล่ะ”
“ตั้งแต่จำความได้ ก็จะมีแซนมาอยู่ด้วยช่วงปิดเทอม ป้าณาให้ธามอยู่โรงเรียนประจำแล้วธามก็ไม่เคยคิดถึงบ้านเลย เพราะไม่อยากกลับมาเจอแซน”
“ธามไม่ชอบถูกกอด ไม่ชอบถูกมอง”
“อาบน้ำด้วยก็ไม่ชอบ พาไปเที่ยวก็ไม่ชอบ แต่แซนบังคับทำทุกอย่าง ถ้าขัดใจ ธามก็เจ็บ”
“ธามไม่พูด คิดว่าหนีๆ ไปก็คงห่างกันไปเอง”
“แต่ทุกครังที่แซนมา มันก็จะมากขึ้น มากจนธามทนไม่ไหว”

“...เขา...ทำอะไรครับ”

“he wanna fuck me”

ผู้นำรู้ตัวเองว่ากำลังวางสีหน้าไม่ถูก เขาถอนใจเบาๆ แล้วถามผลลัพธ์ของเรื่อง

“แล้ว...แล้วธามทำยังไงครับ”

“แทงไป 1 แผล”
“เรื่องเลยถึงป้าณา ป้าเลยพาธามย้ายบ้าน”
“สามเดือนจากนั้น ป้าณาก็เสีย”
“ธามคิดว่าแซนเกี่ยว เพิ่งมาแน่ใจไม่นานนี้ก็ตอนที่พวกเขามาที่นี่ แต่ไม่คิดว่าจะมีเรื่องอยากได้เงินมาเกี่ยวด้วย”
“สำหรับแซน ธามเหมือนโพรดัคส์ที่แซนทำขึ้นมา แซนหวงจนธามอึดอัด”
“ไม่รู้ว่าสำหรับแซนมันคือความรักแน่รึเปล่า แต่แซนก็ชอบพูดแบบนั้น”

“แล้วสำหรับธามล่ะครับ”

“ธามเกลียด”

“เกลียดเพราะเขาเป็นเกย์ หรือเกลียดเพราะเขาเป็นพี่ชายจึงไม่ควรรู้สึกรักน้องตัวเอง หรือเกลียดเพราะ....”

“เกลียดเพราะเป็นแซน ธามเกลียดแซน เกลียดทุกอย่างที่เกี่ยวกับแซน หรือทำให้คิดไปถึงแซน”

“เคยบอกเขามั้ยครับว่าเกลียด”

“ไม่ ไม่มีประโยชน์”
“แซนหน้ามืดตลอด เหมือนคนบ้า”

ฝ่ายนั้น ป่วยรุนแรงขนาดนี้เลยหรอ น่ากลัวเกินไปสำหรับธามสินะ เด็กกว่า เป็นน้องชาย ตัวเล็กกว่า ไม่มีอำนาจอะไรเหนือเลย ธามถึงทำได้แค่หนี แล้วน้าวีณาก็สอนให้หนีเท่านั้น

“แล้ว......”

“จบแล้ว เล่าหมดแล้ว มีเท่านี้”

“ไว้ใจพี่นำมั้ยครับ?” เขาถามหยั่งเชิง เพราะธามเพิ่งพูดว่าเกลียดทุกอย่างที่ทำให้คิดถึงนายสุพิสุทธิ์ การเป็นพี่ชายเหมือนกันของเขาและนายสุพิสุทธิ์ จะกลายมาเป็นเงื่อนไขให้ธามปิดใจใส่เขารึเปล่า เขาก็อยากรู้

“อือ ก็นำบอกจะช่วยถ้าเล่า หรือจะแย่อีก นำ!”

“ใจเย็นๆ ครับ พี่นำต้องช่วยสิ”
“พี่นำแค่อยากแน่ใจว่าธามไม่อึดอัดตอนอยู่กับพี่ เพราะพี่นำก็เป็นพี่ชายเหมือนที่นายสุพิสุทธิ์เป็นนี่ครับ”

“ไม่ ธามไม่เกลียด ไม่รังเกียจนำ”
“ธามน่ะ...”

“ครับ?”

“...........”

“ทำไมไม่พูดต่อครับ หือ?”

“ธามหิว” บอกเขาเท่านี้ก็ก้มหน้า แล้วเริ่มต้นหั่นขนมปังเป็นสามเหลี่ยม ผู้นำมองคนก้มหน้าอยู่ครู่หนึ่งจึงหันไปแซะไข่ดาวมาหั่นให้เข้าทรงกับขนมปัง หั่นแฮม โปะชีส เมื่อเกือบได้แซนวิชมาตรฐานมากินแล้วเขาก็พูดสิ่งที่ทำให้หัวใจเขาเต้นโครมคราม

“พี่นำชอบอยู่กับธามนะครับ อยากอยู่ด้วยกันนานๆ เพราะฉะนั้น อะไรที่พี่นำทำให้อึดอัด ธามต้องบอกนะ”
“พี่นำไม่อยากให้ธามหนีพี่ไป”


“อือ ธามก็ชอบ”

มื้อนี้ไม่แย่ก็เพราะเขาและธามยังยิ้มได้ แม้ว่าเมื่อกัดแซนวิชไปแล้วจึงได้รู้ว่าชีสมันแข็งเป็นเกล็ดน้ำแข็งจนกินแทบกินไม่ได้ แต่เขาทั้งคู่ก็ยังเคี้ยวแซนวิชแก้มตุ่ยกลบอาการยิ้มแก้มแตก



Cut

ขอโทษค่ะ T^T :hao4: หายไปเกือบเดือน ตอนนี้ยาวหน่อย เรื่องคืบหน้า(?)
ขอบคุณสำหรับท่านที่ยังติดตามนะคะ

ค่ะ ทำการบ้าน รายงานต่อค่ะ   :katai4:

หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 22-07-2013 17:30:33
กรี๊ดดด คืบหน้าๆ อยากรู้ว่าจริงๆธามจะพูดว่าอะไรกับพี่นำ
แต่เฉไฉโดยการหั่นขนมปังพร้อมบอกว่าหิวเนี่ย

พี่นำต้องเจอศึกหนักนะ ถ้ารู้ตัวเองแล้วน่ะ
กลัวจะทำให้ธามเกลียดรึเปล่านะ

ลุ้นต่อไป อิอิ

รออ่านต่อตลอดนะ เป็นกำลังใจให้เสมอ
xoxo
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 22-07-2013 18:54:50
กรี้ดดดดดมาแล้วมาแล้ว
คิดถึงธามจังเลย :impress2:
ยังไงนะ ยังไงเนี่ยธาม
แอบคิดอะไรกับพี่นำรึป่าวเนี่ย :hao7:
ไม่ตอบเลย
รอรอนะคะ คุณนักเขียน
อย่าหายไปนานสิ
เค้าคิดถึง อิ อิ :mew1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 9 (22/07/13)
เริ่มหัวข้อโดย: vevi ที่ 10-08-2013 18:06:39
ตามมาจากเรื่อง Hear,me ค่า
พี่หนึ่ง น้องเจมเค้าhappy กันแล้ว
มาลุ้นพี่นำ กับน้องธามต่อจ้า  :pig4:
 
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 9 (22/07/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Ali$a฿eth ที่ 11-08-2013 00:59:45
ปัญหาจะคลี่คลาย ถ้าคน2คนใช้ใจคุยเนาะ

พี่นำสู้ๆ ช่วยน้องให้ได้

ใช้ใจรักษาใจขนะคะ เย่เย่่ :katai3:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 9 (22/07/13)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 11-08-2013 09:18:50
อีพี่แซนแม่งเป็นบ้า จับมันรักษาก่อนใครเพื่อนเลยเหอะ
ธามอยู่กับำพี่นำเนี่ยละ คนบ้าไรโคตรอบอุ่นงื้อออออ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 9.2 (13/08/13)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 13-08-2013 00:22:25
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 9.2




วันสุดท้าย ที่จะได้อยู่ด้วยกันลำพัง
เขาเองก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองนักว่าทำไมถึงได้รู้สึกเสียดาย และยังไม่อยากให้ป้าจูกลับมาดูแลบ้านในเร็ววัน ผู้นำเองไม่ได้อยากให้ป้าจูแกเจ็บตัวนานกว่านี้ และที่ทำไปทุกอย่างตอนนี้ก็เพื่อความสบายใจของคนทั้งบ้าน โดยเฉพาะลุงเผือก แต่ไม่รู้ตัวยุ่งจะเข้าใจเขาบ้างหรือเปล่า

“งอนอะไรพี่นำครับ”

“ธามไม่งอน ไม่ใช่เด็ก”

“รู้หรอว่างอนคืออะไร”

“ธามไม่ใช่ตัวโง่” ตลกจริง ตัวโง่หน้าตาเป็นยังไงนะ? ผู้นำส่ายหน้าน้อยๆ เขาดันแก้วนมสดให้น้องชายที่นั่งกอดอกมองมื้อเช้าที่พร่องไปนิดเดียว

“ดื่มนมสิครับธาม”

“ไม่”

“นี่งอนอะไรพี่นำครับเนี่ย”

“ไม่งอนไง ธามไม่ใช่ตัวโง่” แล้วงอนกับโง่มันเกี่ยวกันตั้งแต่เมื่อไหร่ ผู้นำถอนหายใจพลางยิ้ม เมื่อบอกด้วยปากแล้วไม่ดื่มก็ต้องบอกกันด้วยมือ เขาจับแก้มน้องชายแล้วบีบเบาๆ จากนั้นก็จ่อนมใกล้ปากด้วยใบหน้าท้าทาย

“ดื่มครับ ไม่อย่างนั้นพี่จะเทให้ผิวธามซับนมเข้าร่างกาย ซับครบทุกหยดเมื่อไหร่ เราถึงจะไปรับป้าจูกัน”

“บังคับ!”

“ครับ พี่นำบังคับ ดื่มสิ” เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อย จริงอยู่ที่ธามเป็นเด็กดื้อ แต่ก็ไม่ได้ดื้อจริงจังนัก ให้เหตุผลที่พอรับได้ ธามก็เข้าใจได้ในที่สุด

“อื้อธาม”

“หือ?”

“อยากทำงานมั้ย ดีกว่าอยู่บ้านว่างๆ นอกจากจะไม่เบื่อแล้ว ธามอาจมีเพื่อนเพิ่ม มีสังคม ได้รู้จักคนใหม่ๆ ได้ความรู้ด้วยนะ อ้อ ได้เงินด้วย”

“หือ?” อ่อ...พูดยาวแล้วงงสินะ ผู้นำตั้งท่าสูดลมหายใจเพื่อพูดใหม่ แต่ธามกลับยกมือห้ามไว้เสียก่อน ตัวยุ่งกลืนนมคำโตลงคอแล้วก็บอกสั้นๆ

“ทำ เอาเงิน” ผู้นำพยักหน้ารับรู้ เขาดึงแก้วจากมือน้องชายมาล้างที่อ่างและคว่ำเรียบร้อย จากนั้นก็หันหลังมาคุยต่อ


“เพื่อนพี่นำทำธุรกิจเกี่ยวกับจัดอีเวนท์ ลองไปเป็นผู้ช่วยเขานะ หรือธามสนใจงานประเภทไหนเป็นพิเศษ ธามจบบริหารไม่ใช่หรอครับ”

“อืม”
“แต่ก็ไม่รู้ว่าสนใจพิเศษอะไร”
“นำว่าดีหรอ ธามทำดีหรอ”

“อืม ก็ลองทำดูก่อน ชอบไม่ชอบจะได้ปรับถูก”

“แต่ธามยังไม่จบ เหลืออีก 2 ซับเจค”
“อาจต้องกลับไปสอบ แต่ไม่เช็คแอทเทนแดนซ์ ได้ใช่มั้ย”

“ครับ ถ้าอย่างนั้นเอาคอร์สซิลิบัสให้พี่นำดูหน่อยนะ จะได้ช่วยจำว่าต้องพาธามไปสอบเมื่อไหร่”

“ไม่ ไม่ ไปเอง”

“เดี๋ยวพาไป พี่นำเป็นผู้ปกครองนะ”

“.........”

“อย่าลืมนะครับ เรื่องเรียน ส่วนเรื่องงาน เดี๋ยวพี่นำคุยกับมือโปรก่อนว่ามีอะไรให้ธามทำบ้าง ดีมั้ย”

“ก็คิดไว้แล้วนี่ ถามธามทำไมเล่า”
“ไปกันเถอะ คิดถึงจู”

จบการพูดคุย ตัวยุ่งงอนเขาอีกแล้ว จนป่านนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าธามไม่พอใจอะไรเขานัก แรกๆ ก็พูดคุยดี ถามอะไรก็บอก ออกจะติดเขามากด้วยซ้ำ แต่พอเรื่องนายสุพิสุทธิ์เบาจากความคิด ตัวยุ่งก็กลับร่างเดิม ดื้อเงียบ!




“ธามครับ” นี่เขาเรียกน้องชายเป็นรอบที่ 4 แล้ว ธามยังหันหน้าหนี เอียงหัวพิงหน้าต่าง ไม่ฮัมเพลงตามวิทยุเหมือนวันก่อนๆ เวลาเขาพาไปไหนต่อไหนด้วยกัน
“น้องธาม”
“พี่นำเรียกไม่ได้ยินหรอครับ” ผู้นำอาศัยจังหวะที่ติดไฟแดงงัดหน้าน้องชายให้มันมาหา แก้มใสขูดเข้ากับปลายเล็บเขานิดนึง แต่เท่านี้ก็ทำเอาเขาตกใจอยู่ดี
“อุ่ย! พี่ขอโทษ เจ็บมั้ยครับ”

“ไม่เจ็บหรอก นิดเดียว”

“แล้วธามเป็นอะไร ทำไมวันนี้ไม่พูดกับพี่นำเลย หือ?”

“ธามกลัวแปลก”

“อะไรล่ะครับ ธามไม่เห็นมีอะไรแปลก”

“หรอ? ธามยังไม่อยากให้จูกลับบ้าน ธามแปลกมั้ยนำ”

ถ้าอย่างนั้น พี่นำก็แปลกเหมือนธามนั่นแหล่ะ เขายิ้มให้เพียงนิดแล้วบอกให้น้องยิ้มได้

“ไม่แปลกหรอก ธามอยากออกมาเยี่ยมป้าจู เพราะได้ออกมาเที่ยวใช่มั้ยล่ะครับ”

“อาจจะ แบบนั้น” ธามตอบเขาเสียงแผ่วแล้วก็เอนตัวห่างจากเขาเหมือนเดิม ผู้นำไม่ได้ดึงตัวน้องมาถามเอาความอะไรอีก

เวลานี้ เขาเองก็ขับรถตัวเอียงเข้าหากระจกเหมือนกัน


มันเกิดอะไรขึ้นระหว่างช่องว่างของเขาและธามกันนะ?
ช่องว่างที่เขาไม่เคยรู้สึกถึง จนกระทั่งวันนี้ วันนี้อาจใกล้กันจนละเลยช่องว่างไม่ได้แล้ว


ถึงโรงพยาบาลปุ๊บ ตัวยุ่งก็ทิ้งเขาไว้ที่รถแล้วเดินดุ่ยๆ เข้าตัวอาคารไปทันที เขาเองก็ไม่รู้ว่าธามคิดถึงป้าจูมากน้อยแค่ไหน แต่ที่รับรู้ได้ก็คือ น้องกำลังเพิ่มความห่าง ระหว่างเรา ให้มากขึ้น ซึ่งเขาไม่ต้องการ



-----------


ผู้ปกครอง...คือผู้ควบคุมใช่มั้ย?
นำเป็นผู้ควบคุม แล้วธามเป็นอะไร? นักโทษหรอ?
ไม่ชอบเลยจริงๆ
มันฟุดๆ แปลกๆ

“คุณธามเป็นอะไรครับ ทำหน้าแบบนี้ ไม่พอใจอะไรคุณนำมาใช่มั้ยครับ?” เผือกรู้! เผือกเก่งจริง แต่ธามไม่อยากให้ใครรู้หรอกนะ เขาส่ายหน้าปฏิเสธแต่เดินหนีไปเปิดตู้เย็นหาขนมกิน ป้าจูเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดของป้าจูเองแล้ว หลังจากที่นอนอยู่รพ. มาอาทิตย์กว่า

“เรากลับกันได้รึยังคะคุณธาม ป้าล่ะเบื่อเต็มทน ไม่อยากเลย นอนๆ นั่งๆ อยู่เฉยๆ กลัวจะอัมพาฒ”

“หือ?”

“ป้าหมายถึง กลัวว่านอนนิ่งๆ นานเกินไป จะเดินไม่เป็นเอาน่ะค่ะ”

“อ๋อ”
“ก็ดิ้นๆ บนเตียงสิจู”
“เอ๊กเซอร์ไซส์

“ว้าย ไม่ไหวหรอกค่ะ”
“แก่ๆ แบบป้าต้องไทเก๊ก”

ไทยอะไรนะ?
ธามขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ เพราะพี่นำเปิดประตูเข้ามาพอดี เมื่อหันไปเห็นว่าใครเข้าห้องมา ธามก็เดินมาทิ้งตัวนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ทันที

“นี่อยากกลับขนาดเลยหรอครับป้าจู”
“นำคุยกับหมอแล้ว เรียบร้อยดี”
“กลับเลยมั้ยครับ”

“โถคุณนำขา ป้าก็บอกแล้วว่านอนคืนเดียวก็พอ”
“ดูสิ คุณธามของป้าซูบไปตั้งเยอะ ไม่มีใครทำของชอบให้ทานใช่มั้ยคะ”

“............” ธามไม่ตอบ พี่นำก็ไม่ตอบ แต่คำตอบที่ผุดขึ้นในใจธามก็คือ นำทำอะไรให้กิน ธามก็กินได้หมด

“คุณธามอยากทานอะไรคะเย็นนี้ ป้าทำให้สุดฝีมือเลย อยากทานลอดช่องเย็นมั้ยคะ?”

“จู....เพลาๆ หน่อยเถอะ คุณนำเธอดูแลน้องเธอดีอยู่แล้ว”
“พิรี้พิไร เดี๋ยวก็ไม่ได้กลับกันพอดี”
“ไปกันเถอะครับคุณนำ”

“ครับ ผมจอดรถไว้ที่”

“โอ้ย! ไม่เป็นไรครับ ผมก็เอารถมาทิ้งไว้ที่นี่ทุกวัน คุณนำลืมแล้วหรอครับ จริงๆ ไม่ต้องแวะมาก็ได้นะครับ คุณหมอแกก็ดูแลเรื่องค่ารักษาแล้วด้วย”

“นำอยากมาดูแลครับ ไม่เป็นไร”
“งั้น ลุงเผือกพาป้าจูกลับบ้านเราดีๆ นะครับ”
“นำไปทำงานก่อน”
“เอ่อ....ธาม”

“............” ไม่ตอบ ไม่รู้จะตอบอะไรดี ธามสะดุ้งเมื่อถูกเรียกระหว่างที่กำลังฟังเสียงพี่นำเพลิน เขาหันมองพี่ชายแล้วก็หลบตา กลัวพี่นำรู้ว่าธามอยากยืดเวลาที่จะอยู่กัน 2 คนออกไป ถ้าพี่นำรู้ใจธาม พี่นำต้องว่าธามนิสัยไม่ดีแน่ๆ

“ธามครับ จะไปทำงานกับพี่นำมั้ยวันนี้”
“หรือจะกลับบ้าน”

“............”

“ธามครับ”

“นำ...ไปได้หรอ กับนำ”

“ได้สิครับ”

“งั้นธามไปกับนำนะ”

“ครับ ไปสิ ไปกันได้แล้ว” ธามมองมือที่นำที่แผ่รอ เขาชำเลืองมองป้าจูกับลุงเผือกก่อน จากนั้นก็ค่อยๆ วางมือตัวเองบนมือนำ เขาก้มหน้าเดินตามแรงจูงของพี่ชาย โดยที่มีป้าจูและลุงเผือกเดินตามออกมาไม่ชิดนัก

พี่นำไปส่งป้าจูและลุงเผือกถึงรถ พอเห็นว่ารถเคลื่อนออกไปปลอดภัยดีแล้ว พี่นำก็พาธามมาที่รถคันโอ่อ่าน่านั่ง แล้วก็บอกที่หมาย

“ไปหามือโปรนะ พี่โป๊ะน่ะ จำได้ใช่มั้ยครับ”

“อือ”

“ลองไปทำงานวันนี้เลยนะ”

“อ้าว! นำบอกว่าให้ไปกับนำไง เมื่อไม่นาน”

“ก็พี่นำมีคิวพบคนไข้ทั้งวันเลย ธามจะเบื่อเอานะ ไปอยู่กับมือโปรก่อนนะครับ เย็นๆ พี่นำจะไปรับ แล้วไปทานมือเย็นกัน”

“...............”

“นะครับธาม”

“เมื่ออันนั้นถามว่าจะไปกับนำมั้ย ไม่ได้บอกว่าไปกับธามแล้วจะให้ไปหาพี่โป๊ะ นำแย่”

“โอเค พี่นำขอโทษ แต่พี่ไม่อยากให้ธามนั่งเบื่อ อยู่กับมือโปรน่ะดีแล้ว แล้วพี่นำจะรีบไปรับ นะครับ”

“ก็ได้ เป็นผู้ปกครองใช่สิ!” ธามยอมให้ในที่สุด เขานั่งหน้าบึ้งอยู่บนรถให้นำขับพาไปหาพี่โป๊ะที่ธามยังจำหน้าได้อยู่ ระหว่างทาง พี่นำไม่พูดอะไรสักคำ ทั้งที่ธามมีตั้งหลายคำอยากให้นำได้ยิน ฟุดๆ อีกแล้ว

“จมูกบานแล้วครับ”

“จมูกธาม!”

“นี่เราเป็นอะไร? พี่ไม่เข้าใจธามจริงๆ นะครับ”

“ใจธาม เข้าได้เอง”

“ไปกันใหญ่ พูดไม่รู้เรื่องแล้วทีนี้”
“เฮ้อ...โตแล้วนะครับธาม”

“โตไง”

“รู้ตัวว่าโตก็ต้องพูดให้รู้เรื่องสิครับ”

“............”

“วันนี้พี่นำงานเยอะมาก ไม่มีเวลาเถียงด้วย แต่ไม่อยากให้ธามอยู่คนเดียว”
“ป้าจูกับลุงเผือกเองก็เถอะ คงระวังอะไรให้ธามไม่ได้มาก”
“พี่ถึงอยากให้ธามมากับพี่ แล้วไปอยู่กับโป๊ะก่อน”

“ทำไม ธามอยู่คนเดียวไม่ได้หรอ ทำไม”

“...............”

“ทำไม บอกไม่ได้หรอ”

“อีกแป๊บเดียวก็ถึงบริษัทโป๊ะแล้ว เป็นเด็กดีนะครับ เย็นๆ พี่จะมารับ” นำบอกเท่านี้ แล้วก็ขับรถเงียบๆ อีกตามเคย


อะไรกันเล่า
ทำแบบนี้ธามไม่ชอบ!


-----------


เขาอาจคิดไปเองก็ได้ แต่ยังไงก็ต้องระวังตัวไว้ก่อน
ผู้นำเองก็ไม่ได้อยากใช้ชีวิตแบบระแวงระวังมากนัก เพราะมันหมดซึ่งความสุข แต่เหตุการณ์นี้ เขาไม่ระแวงไม่ได้
วันแรกก็มอเตอร์ไซค์ตาม ที่รพ.มีโทรศัพท์แปลกๆ โทรเข้าสายใน พอไปรับสายก็ไม่พูด
หน้าบ้านก็มีรถมาจอดประกบหลายวัน เปลี่ยนคันไปบ้าง แต่ซอยบ้านเขาก็รู้กันอยู่ว่าช่องทางออกไปได้หลายถนน ไม่เคยมีใครมาจอดรถแนบรั้วบ้านแบบนี้มาก่อน

เขาอดระแวงไม่ได้จริงๆ กลัวว่าเรื่องที่เกิดกับป้าจูจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น

ธามไม่ได้บอกอะไรเขาเพิ่ม หลังจากบอกเล่าเรื่องในอดีตเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของธามและนายสุพิสุทธิ์ที่เขาตีความว่าไม่ควรมีอะไรลึกซึ้งกว่านั้น และต้องไม่มีใครสานต่อความรู้สึก

แต่ข้อมูลคนที่ทำร้ายป้าจู ทำให้เขาคิดว่า ใครคนหนึ่งกำลังจงใจสานต่อความสัมพันธ์กับธาม และเขาไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นเด็ดขาด

“คนที่วิ่งราวสร้อยป้าจุรี กับเจ้าของรถที่เฉี่ยว เป็นคนเดียวกัน แต่คนที่ขับรถมาเฉี่ยววันนั้น ถูกจ้างมาอีกที”
“ส่วนเหยื่อ ไม่ได้บอกล่วงหน้า คนจ้างบอกแค่ว่าให้เตร่รอ พอเห็นลงมือวิ่งราวเมื่อไหร่ ก็ขับมาเฉี่ยวเพื่อเบนความสนใจ นอกจากจะได้ค่าจ้างแล้ว ได้ของกลางไปด้วย”
ข้อมูลจากตำรวจที่อุตส่าหะจนจับคนร้ายมาได้บอกกับเขาแบบนี้

พ่อเขาให้เอาเรื่องตามกฎหมาย แต่ส่วนที่เขาขอให้สืบข้อมูลเพิ่มนั้น เขาไม่ได้บอกใครนอกตำรวจที่รับผิดชอบคดี ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้เรื่องอะไรมากน้อยแค่ไหน

แต่ทุกอย่างที่เขารับรู้ และได้เห็นจากการสังเกตของตัวเองนั้น กำลังบอกกับเขาว่า “อันตราย”

เขาจึงต้องพาธามไปที่นั่นที่นี่ แม้แต่ไปนั่งฟังเขาบรรยายให้นักศึกษาฟัง เขาก็พาไป
เหตุผลหลักคือไม่อยากให้ธามอยู่คนเดียว เกรงจะได้รับอันตราย
เหตุผลรองคือไม่อยากให้ธามห่างตัว...ไม่ใช่เพราะกลัวธามได้รับอันตราย แต่เพื่อความอุ่นใจของตัวเองทั้งนั้น

เหตุผลหลังนี้น่าจะจำกัดความความรู้สึกที่เขามีให้น้องชายได้ตรงที่สุด

อยากดูแลให้ดีที่สุด ก็เพื่อความอุ่นใจของตัวเอง ... น่าจะเป็นแบบนั้น
แต่ว่า... ตัวยุ่งคงไม่เข้าใจอีกตามเคย


“นำ นำ!”

“ห๊ะ! หือ? อะไรครับ?”

“เรียกเยอะก็ไม่รู้ตัว เกิดอะไรขึ้นรึเปล่า”

“เปล่าครับ ไม่มีอะไร” เขาตอบธามและเลี้ยวรถเข้าที่จอดหน้าบริษัทเพื่อนย่านทาวน์อินทาวน์
“วันนี้โป๊ะอยู่ออฟฟิศทั้งวัน พี่บอกไว้แล้วว่าจะพาธามมาลองทำงาน มีอะไรก็ใช้ได้เลย ดีมั้ยครับ”

“ให้พี่โป๊ะใช้งานธามหรอ”
“ก็ทำก็ได้หมด แต่ไม่รู้สิ พี่โป๊ะชอบมั้ย”

“ชอบสิ ถ้าธามเป็นเด็กดี ใครก็ต้องชอบทั้งนั้น”

“แล้วนำชอบมั้ย”

“.........”

“ธามเป็นเด็กดีไปแล้ว นำพูดเอง เมื่อ 2 วันผ่าน”
“ไม่ชอบหรอ ยังไม่เด็กดีพอหรอ”

“ชอบครับ”
“พี่นำชอบธาม”


เสียงเพลงเบาๆ ในรถยังคงแว่วเข้าหู ตัวเลขเวลาในรถก็ยังขยับ แต่ผู้รู้สึกเหมือนหัวใจตัวเองหยุดเต้นไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อรู้สึกตัว เขาก็ปิดวิทยุและดับเครื่องยนต์ จากนั้นก็ก้าวลงจากรถแล้วทำเพียงแค่พยักหน้าเรียกให้ธามลงจากรถตามเขามาเท่านั้น

เขาไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรนักหนา กับคำว่า “ชอบธาม” ที่หลุดออกจากปากตัวเอง


-----------


5 ชั่วโมงกว่าที่อยู่กับพี่โป๊ะก็ไม่น่าเบื่อเท่าไหร่ จริงๆ ก็สนุกดี ผู้ช่วยพี่โป๊ะชอบมาถามอะไรเขาวุ่นวายไปหมด ขอถ่ายรูปด้วย บอกว่าจะเอาไปเป็นเด็กในสังกัด ถามด้วยว่า ไปนั่งในล็อบบี้เป็นตัวเอ็กซ์ตร้า สนใจมั้ย

แต่ว่า อยู่กับนำแค่ 1 ชั่วโมง ยังทำให้ธามรู้สึกดีมากกว่านี้อีก

ที่นี่คนเยอะแยะไปหมด ออฟฟิศพี่โป๊ะมี 4 ชั้นในอาคารแรก แต่มีทางเชื่อมไปยังอาคารที่ 2 ที่สูงเท่าตึกแรก แต่ว่าเป็นที่โล่งเลย พี่โป๊ะบอกว่านั่นคือสตูดิโอหลัก เอาไว้เซตฉากถ่ายงาน แล้วก็เก็บอุปกรณ์ด้วย ถ้าธามอยากเห็น พี่โป๊ะจะพาไปเดินเล่น แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลา เฮ้อออ เหมือนพี่นำเลย ไม่ค่อยมีเวลา จนเวลา น่าสงสารทั้งพี่นำทั้งพี่โป๊ะ

“น้องธาม พี่แนนซื้อซาลาเปามาให้พี่โป๊ะ แบ่งไว้ให้น้องธามด้วย มาทานสิคะ เกือบ 6 โมงแล้ว” คนนี้ชื่อพี่แนน เป็นเลขาพี่โป๊ะ เธอน่ารัก ตัวเล็กมาก แต่สูงขึ้นมาได้เพราะรองเท้า

“ไม่เอาครับ เดี๋ยวนำก็มา นำบอกจะทานมื้อเย็นด้วยกัน”

“หือ? นำ?  พี่หมอนำเพื่อนพี่โป๊ะรึเปล่าคะน้องธาม”
“โอ้ยยยยยยยยยย นี่รู้จักพี่หมอด้วยหรอ? ตายๆๆๆๆ มานี่เลยค่ะ มาเมาท์ให้พี่แนนฟังหน่อย”

“อะไรครับ? งงนะ”

“แหม ก็พี่หมอนำน่ะ น่ารักจะตาย เคยมาหาพี่โป๊ะอยู่บ่อยๆ แต่พักหลังนี่หายไปเลย”
“คนอะไรก็ไม่รู้ หล่อ ฉลาด อบอุ่น เข้าใจโลก นี่ถ้าพี่แนนยังไม่แต่งงานนะคะ รับรอง พี่นำไม่รอดมือแน่”

“พี่แนนจะทำอะไรนำหรอ ไม่รอดมือยังไงหรอ”

“แหมน้องธามขา”
“ไม่รอดมือก็คือ ตกเป็นของพี่แนนไงคะ แบบว่าสวีวี่วีไงคะ เข้าใจมั้ยคะ” ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ไม่รอดมืออะไร สวีวี่อะไรนั่นอีก เหมือนสวีทรึเปล่านะ?

เขาขมวดคิ้วใส่พี่แนน และยิ่งต้องขมวดใส่แน่นกว่าเดิมก็ตอนที่พี่แนนพูดว่า “พี่แนนนะ ชอบพี่หมอนำมากกกกกกกกก มากๆๆ ค่ะน้องธาม อยากได้เป็นแฟนเลยแหล่ะ เป็นสามีก็เอานะ”

“พี่แนนอยากได้นำหรอ”

“ค่ะ!”


“............”


ไม่เอา....ธามไม่ให้
ธามพูดได้มั้ยว่าธามไม่ให้นำกับใคร ไม่ให้แน่นอน!





Cut



มากันแบบเวอร์ชั่น .1 อีกรอบ แฮ่ๆ พอดี เรารู้สึกว่าตอนนี้มันสั้นไป แต่ก็อยากลงก่อน เดี๋ยวงานงอกแล้วเราหายต๋อมไปอีก จะไม่ดีกับใครเลย

ขอบคุณคนที่ยังติดตากันอยู่ค่ะ

 o14
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 9 (22/07/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 13-08-2013 01:57:02
อู้ยยยย น้องธามม
พูดไม่รู้เรื่องก็ยังน่ารักก

ไอ้พวกนั้นนี่ก็ตามราวีไม่เลิกจริงๆๆ
สู้ๆนะพี่นำ

:pig4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 9 (22/07/13)
เริ่มหัวข้อโดย: teatimes ที่ 13-08-2013 12:39:19
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ

อ่านแล้วติดงอมแงม  พอดูวันที่อัพล่าสุด  อ่าว...คนแต่งหาย!!! o22

จุดธูปตามตัวด่วน! :call:

อย่าลืมกลับมาอัพบ้างนะคะ :3123:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 9 (22/07/13)
เริ่มหัวข้อโดย: KilluaZoaldyeck ที่ 13-08-2013 14:01:34
 o13 :o8:

อยากได้ธามมาเลี้ยงที่บ้านจัง
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 9 (22/07/13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 26-08-2013 21:42:18
น้องธามมมม

ไอ้เด็กพูดไม่รู้เรื่องงง
ทำไมน่ารักจัง  :กอด1:

ตอนนี้พี่นำดูเครียดๆเนอะ  :เฮ้อ:

ปล.อย่าลืมเปลี่ยนหัวข้อนะครับ เดี๋ยวคนอ่านไม่รู้ว่าอัพแล้ว ตอนแรกเห็นเป็นชื่อตอนเก่าเลยว่าจะเข้ามาดันเพราะคิดถึงเรื่องนี้ ถึงได้เห็นว่าอัพตอน9.2
ยังไงก็อย่าลืมอีกนะจ๊ะ  :hao7:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 10 (30-08-13)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 30-08-2013 22:59:46

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 10




เตียงว่างเปล่า
ตื่นมาก็เจอแค่ตัวเองนอนก่ายหมอนข้างอยู่เท่านั้น ผู้นำพลิกตัวหวังจะหลับต่อ แต่ก็ยอมฝืนหนังตาเอาไว้และพยายามมองหาใครอีกคนที่น่าจะนอนอยู่ด้วยกัน

“ธาม...”
“ธามครับ”  ไม่มีเสียงตอบ ตัวยุ่งไปไหนแต่เช้านะ

ผู้นำบิดขี้เกียจนิดหน่อยแล้วก็ยอมตื่นเต็มตัว เขาเดินลงมาชั้นล่างของบ้าน พร้อมกับเรียกหาน้องชายด้วยเสียงแหบ

“ธาม”
“ลูกหมาธามครับ ธาม”

“คุณธามไปวิ่งค่ะ”

“วิ่ง?” เขาล่ะแปลกใจกับสิ่งป้าจูบอกเหลือเกิน เด็กชายธาม นายธาม น้องธาม หมาธามนี่น่ะหรอไปวิ่งตอนเช้า และป้าจูคงเห็นสีหน้าเขางงเต็มที จึงได้บอกเพิ่ม

“ค่ะ ไปวิ่ง”
“บอกว่าเมื่อวานเดินทั้งวัน ทำงานต้องแข็งแรง เลยตื่นแต่เช้าแล้วก็ไปวิ่งค่ะ”

“แล้วไปวิ่งที่ไหนครับ แถวนี่ไม่ม่ฟิตเนส ถึงมี ธามก็ไม่รู้จักที่ทาง”

“เธอว่าจะวิ่งจากบ้านไปตลาดหน้าปากซอยน่ะค่ะ”
“ป้าเตือนให้ระวังรถราด้วย เธอก็ว่าเดี๋ยววิ่งขึ้นสะพานข้าม ไม่เจอรถ”

“อ่อ...คงไม่เป็นไรมั้งครับ ลุงเผือกคงดูแลได้”

“ตาเผือกเล็มต้นมะม่วงอยู่ค่ะ คุณหมอว่ามันบังหน้าวิวที่หน้าต่างแล้ว”

“งั้น ธามก็ไปวิ่งคนเดียวหรอครับ?”

“ค่ะ ไปคนเดียว”


ชิบหายมั้ยเนี่ย!
ไปคนเดียว!
ทั้งที่อาจจะมีใครก็ไม่รู้ดักดูใครก็ไม่รู้มาอาทิตย์กว่าเนี่ยนะ!
โธ่เอ้ย! ธาม!

ผู้นำซอยเท้าวิ่งไปหน้าบ้าน คว้ารองเท้าแตะบางเฉียบมาสวยได้ก็โกยอ้าวออกไปจากบ้านไปทันที ยินเสียงป้าจูแว่วพูดอะไรมาซักอย่างแต่เขาไม่ทันได้หันไปฟังแล้ว เขาเป็นห่วงลูกหมาธามมากกว่า

ขอให้ไม่เป็นอะไรทีเถอะ!

7 โมงเช้าแถวนี้ก็เรียกว่าสายแล้ว รถราเริ่มวิ่งกันผลักพล่าน ผู้นำพยายามมองหาคนที่หัวคุ้นตา ใบหน้าคุ้นตา ผิวคุ้นตา แต่ก็ไม่เจอใครคนที่ตามหาอยู่ เขาวิ่งไปร้อนใจไป นึกเป็นห่วงไปสารพัดสิ่งเท่าที่หัวจะนึกได้

วิ่งมาจนเกือบปากซอยแล้วก็ยังไม่เจอ ธามไม่น่าจะวิ่งไปทางที่มันวกวนนัก เคยบ่นบ่อยๆ ว่าถนนของบ้านมันวกเวียนวน ธามจำไม่ได้ซักทีว่าเข้าทางนี้แล้วออกทางไหน

“เอ่อ! พี่ครับ!” เขาขวางมอเตอร์ไซค์รับจ้างเอาไว้แล้วถามนำร่อง
“ขับออกจากทางไหนครับ”

“สุทธิสาร น้องมีไรเนี่ย”

“คือ พี่เห็นเด็กวัยรุ่น แต่ไม่เด็กมากนะครับ”
“มาวิ่งด้วยชุดนอนน่ะครับ เห็นบ้างมั้ย?”

“โอ้ย! ไม่ได้มองหรอก”
“เรียกนี่จะไปรึเปล่า ไปก็ขึ้นมา”

“เอ่อ...ไปครับ ไป”
“ย้อนไปทางสุทธิสารครับ” ผู้นำตัดสินใจเลือกเส้นทางในการหาตัวธามแล้วก็กระโดดคร่อมมอเตอร์ไซค์ทันที คอเขารู้สึกเคล็ดขึ้นทีละเล็ก ทุกครั้งที่ต้องหันไปหันมาเพื่อหาว่าหัวที่คุ้ยเคย แต่ก็ไร้วี่แวว จนเขาโผล่ออกมาทางที่หมายที่ต้องการแล้ว เขาก็ยังหาธามไม่เจอ

“ไปไหนของเขา”
“คงไม่เกิดเรื่องขึ้นหรอกนะ!”

“อ้าวเฮ้ย! คุณ! คุ้นนนนนน!!” เสียงเรียกรั้งทำให้เขาชะงักฝีเท้า เมื่อหันกลับไปมองจึงเห็นมอเตอร์ไซค์คันเดิมตามมาไม่ห่าง

“อะไรครับ”

“ค่ารถล่ะคุณ”

“อ้อ!”
“เอ่อ” ไงดีล่ะ ไม่มีเงินติดตัวสักบาท เขายิ้มแหยแล้วเม้มปากระดมความคิดและก็ได้ทางออกที่คิดว่าคงดีที่สุดแล้ว

“ผมไม่มีเงิน”
“แต่ว่า!” เขารีบพูดต่อเมื่อคนขับถอดหมวกกันน็อคออกด้วยท่าทางขึงขัง
“แต่ว่าต้องกลับไปเอาเงินที่บ้านน่ะครับ ในซอยที่เราเจอกันนั่นแหล่ะ”
“เอางี้ พี่ไปกับผมนะครับ ไปเรื่อยๆ”
“เจอน้องชายเมื่อไหร่ผมจะจ่ายเงิน”

“โหยคุณ เสียเวลาผมนะ”

“งั้นผมเหมาพี่ได้ไหมครับ” ผู้นำพยายามต่อรอง แอบเห็นพลขับใจร้อนครุ่นคิด เขาเลยเสนอต่อ
“เท่าไหร่พี่คิดมาเลยครับ น้องผมก็มาเดินเล่น อีกเดี๋ยวคงเจอ” ดูเหมือนวิธีการของเขาจะได้ผล เพราะเมื่อเขายิ้มให้อีกครั้ง คนขับก็ชูมือชันในอากาศ พร้อมกางนิ้วทั้งห้าโดยเว้นระยะห่างเท่ากันเป๊ะ
“50 บาทหรอครับ” ผู้นำถามหน้าซื่อ แล้วก็โดนหน้ายักษ์โยนใส่ พร้อมเสียงตะโกนใส่ว่า “500 ขาดตัว ต่ออีกมีตบกันเลยนะคุณ”

อูยยยย ใครจะไปคิดว่าค่าโดยสารมอเตอร์ไซค์จะเป็นเลขสามหลัก
เขาพยักหน้าอย่างจนใจ จากนั้นก็คร่อมมอเตอร์ไซค์อีกรอบแล้วบอกให้พาลัดเลาไปซอยนั้นนี่เผื่อว่าจะเจอธามบ้าง จนล่วงมาถึง 9 โมงปริ่ม ผู้นำก้มหน้าที่เพลียแดดเต็มทีมองพื้นปู ความร้อนระอุปลิวตามแรงลมที่โชยยามรถแล่นผ่านหน้าถนนมาปะทะผิวหน้าเขาจนรู้สึกวูบวาบ
ผู้นำทางของเขาบิดเครื่องรอให้เขาคร่อมเบาะและบอกที่หมายปลายทางต่อไป แต่เขานึกไม่ออกแล้วว่าจะไปทางไหนดีเพื่อให้เจอธาม

สุดท้ายก็ตัดสินใจไปตั้งหลักที่บ้าน

“กลับไปวินพี่ครับ”

“อ้าว! นี่คุณนั่งรถเล่นหรอ? ทีหลังขับเองสิคุณ คันไม่กี่ตังค์ แต่เสื้อวินแพง”

“ครับ กลับเถอะครับพี่” เขาบอกเสียงเอือมและขึ้นคร่อมรถอย่างท้อแท้ หน้าเขาคงไม่สบอารมณ์มากๆ พี่คนขับถึงได้ขับนิ่มกว่ารอบที่พามา

ไม่ช้าก็ถึงหน้าบ้าน และกลุ่มคน 2-3 คนหน้าบ้านก็ทำให้เขาแทบกระโจนตกจากมอเตอร์ไซค์

“ธาม!”
“เฮ้ย! ทำอะไรน้องกู!”
เขาวิ่งเร็วจี๋จนเกือบเสียหลักล้ม แต่ก็ยังสามารถพุ่งตัวไปหาธามได้ น้องถูกจับหัวไหล่เอาไว้ ผู้นำตรงเข้ากระชากมือคนคนนั้นออกแล้วผลักตัวเขาคนนั้นให้ห่างจากธาม แล้วถึงธามมาหลบหลังตัวเอง
เขาชี้มือกราดใส่หน้าคนแปลกหน้า 2 คนนี้ ฝั่งนั้นก็มองหน้าเขาตื่นๆ เหมือนกัน แต่ความโหดบนใบหน้ามีมากกว่า

“พวกคุณเป็นใคร! หรือใครส่งมา!”

“คุณนั่นแหล่ะเป็นใคร แล้วทำร้ายเจ้าหน้าที่แบบนี้ รู้กฎหมายบ้างมั้ย”

“.............” ผู้นำตีหน้านิ่ง เขาหันมองธามจึงเห็นว่าสภาพเรียบร้อยดี แม้จะกังขาเหลือเกินกับชุดที่ใส่ออกไปวิ่งตามคำบอกกล่าวของป้าจู แต่ก็นับเป็นสภาพที่ไม่น่าตกใจ จากนั้นผู้นำก็มองคนตรงหน้าอีกรอบ
“เจ้าหน้าที่...หรอครับ?”

“ใช่ พวกผมเป็นตำรวจ”
“ไอ้หนุ่มนี้หลงทาง เลยมาขอให้พากลับบ้าน”
“ให้เหรียญ 10 มา ก็เลยหยอดตู้โทรถามที่อยู่ แล้วก็พามาส่งนี่แหล่ะ”


โธ่! ธาม...
ผู้นำถอนหายใจจนเข่าแทบทรุด เขาหันมองหน้าน้อง เห็นสีหน้าสลดก็ดุไม่ลง เลยต้องหันมายกมือไหว้ขอโทษคนที่บอกว่าตัวเองเป็นตำรวจเสียก่อน และฝ่ายนั้นคงกลัวเขาไม่เชื่อถือ ถึงได้ควักบัตรประจำตัวมาอวดกันชนิดที่แทบชนลูกตา

“ผมขอโทษจริงๆ นะครับ”
“พอดี น้องผมหายไปจากบ้านผมเลยตามหา แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ เลยเป็นห่วงหนักไปหน่อย”
 
“ไม่หนักหน่อยหรอกครับ หนักมาก” ถูกแซวด้วยแฮะ ผู้นำได้แต่คิดในใจและแอบขำ เขายกมือไหว้อีกรอบ แล้วจับให้ธามไว้พร้อมพูดขอบคุณด้วย เมื่อคุณตำรวจขับมอเตอร์ไซค์จากไปแล้ว เขาก็หันมองตัวยุ่ง

“นำ โกรธนะ”

“โกรธนะอะไร! ทำอะไรไปรู้ตัวรึเปล่า”

“รู้สิ รู้ว่าหลงไง ก็เลยให้เขาช่วยพามาที จูนี่เก่งนะ รู้ด้วยว่าธามหลง บอกทางเก่งมาก”

“ก็ป้าจูเขาอยู่ที่นี่สิบกว่าปี ไม่รู้ได้ยังไง เรานั่นแหล่ะ ทำอะไรไม่รู้จักคิด!”

“ธามคิดสิ ธามอยากออกกำลังกาย เดินตามโป๊ะเมื่อยมากนะ”

“พี่นำถามว่า คิดบ้างมั้ยว่าจะอันตรายรึเปล่า?”
“ธามไม่รู้ทาง ไม่เคยไปข้างนอกคนเดียว แล้วไหนจะ...” เขาชะงักปากตัวเองไว้เพื่อกั้นความคิด ผู้นำถอนหายใจอีกหนแล้วก็ผลักประตูรัวบ้าน

“เข้าบ้านเถอะครับ” สิ้นคำ ธามก็เดินจิ้มเท้าเข้าบ้านไป นี่เขายังไม่เข้าใจเลยว่าธามแต่งตัวอะไรไปวิ่งออกกำลังกาย กางเกงยีนส์ขาดๆ เสื้อกล้ามสีน้ำเงินเข้ม หมวกแก๊ป และรองเท้าแตะ!

“เฮ้อออออ” เขาลากเสียงถอนหายใจยาวเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่ได้นับ แต่รู้สึกได้ว่าตัวเหี่ยวลงมาก เขาจะคิดซะว่าเขาเพลียแดด และหิวข้าวมากก็แล้วกัน
กำลังก้าวเท้าขวาเข้าบ้าน ผู้นำก็ถูกกระตุกเสื้ออย่างแรง

“ไอ้น้อง บ้านก็ใหญ่โต ไม่จ่ายค่ารถพี่เรอะ!”

“โอ่ะ!”
“รอตรงนี้แป๊บนึงนะครับ เดี๋ยวผมไปไถแม่มาให้ แม่เป็นแม่บ้านอยู่ที่นี่แหล่ะพี่”

“เออๆ ไถแม่หรอ”
“งั้นพี่เอา 250 สูงอายุลดกึ่งนึง” ใจดีเสียด้วย ผู้นำอมยิ้มนิดๆ แล้วก็วิ่งหน้าเริ่ดเข้าบ้าน ตัวยุ่งยืนรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขกแต่เขาไม่มีอารมณ์ทำความเข้าใจ หรือยอมรับการกระทำของเด็กอย่างธามในตอนนี้ เขาไม่อยากสื่อสารด้วยความโมโห

ว่าแต่ว่า เขาโมโหอะไรนะ?

-----------------

นำมาส่ง แล้วนำก็ไป
ระหว่างทางไม่พูดอะไรสักคำ
ธามทำอะไรผิดหรอ? ที่ไปวิ่งออกกำลังการนี่ผิดมากหรอ? อะไรกัน ไม่เห็นเข้าใจเลย!

“เอ้า! ไอ้ยุ่ง หน้ามุ่ยอะไร มานี่มานี่ ช่วยพี่หน่อย”

“บอกตรงนี้ไม่ได้หรอพี่โป๊ะ”

“ยุ่ง บอกให้มาก็มาดิ เร็ว!” คนแก่นี่ชอบสั่งและไม่ชอบบอกเหตุผลเหมือนกันหมดทุกคนสินะ ธามไม่เข้าใจเลยจริงๆ  ธามเดินตามนายมือโปรเข้าห้องทำงาน พอไปถึงก็หน้าหงายเพราะเจอใครก็ไม่รู้จ่อกล้องเข้าที่หน้าพอดี

“คนนี้หรอ? เด็กตี๋ที่ไหน”
“บอกแล้วไงว่าอยากได้คนเป็น”

“แล้วคณเห็นเด็กนี่เป็นคนตายรึไง โว๊ะ! จับดูดิ หายใจอยู่นะ”
“ธาม ทักพี่โอมสิ”

“ไฮ” ธามพูดสั้นๆ แล้วโบกมือให้ 1 ที คนที่ชื่อพี่โอมขมวดคิ้วใส่แล้วก็เดินออกไปจากห้อง ก่อนเสียงประตูดัง มาคำตอบแทรกมาก่อนว่า “ไม่เอา”

“แม่งเอ้ย! เอาแต่ใจชิบหาย” พี่โป๊ะบ่นๆ ใส่ประตูที่ปิดลงไปแล้ว จากนั้นก็เดินมากอดๆ ธามแล้วปลอบว่า “ไม่เป็นไรนะไอ้ยุ่ง เดี๋ยวพี่โป๊ะหาจ๊อบให้ใหม่”

“จ๊อบ...งาน!”
“ได้เงินมั้ยพี่โป๊ะ ธามทำได้”

“เออ เออ รู้ว่าไม่ได้ง่อย แต่โอมเขาไม่เอาธามนี่”

“เอาทำอะไร”

“ถ่ายภาพนิ่ง พี่โอมเขาทำโปรเจคละครเวทีอยู่”
“จ๊อบเขาเหมือนกัน”
“งานประจำเขาก็อยู่ผับไม่ไกลจากนี่หรอก”
“ไปป่ะ?”

“ธามไปได้หรอ”
“นำไม่เคยบอกว่าได้”

“โอ้ยยยย ปล่อยไอ้นำมันบวชแห้งไปเถอะ”
“อยากไปมั้ยล่ะ พี่โป๊ะพาไปเอง”

“..............” ธามก็อยากเปิดหูเปิดตาเหมือนกัน แต่ไม่รู้พี่นำจะอนุญาตรึเปล่า แต่คิดอีกที ธามก็โตแล้ว แต่คิดอีกทีและอีกที พี่นำก็เพิ่งพูดเองว่านำเป็นผู้ปกครอง

“งั้น พี่โป๊ะขออนุญาตนำให้ธามนะ”

“ดีล! เดี๋ยวพี่โป๊ะจัดการเอง ไอ้ยุ่ง” รับปากแล้วก็โทรหาคนที่ชื่อว่าพี่โอม ธามเห็นว่าพี่โป๊ะหมดธุระแล้วเลยเดินออกมาถามหางานทำจากพี่แนน รายนี้ก็ไม่มีอะไรให้ธามมากนัก นอกจาก...

“น้องธามขา....”
“หมอนำชอบทานอะไรคะ แล้ววันนี้หมอนำมารับน้องธามรึเปล่าคะ มากี่โมงคะเนี่ย”
“แล้ว แล้ว วันนี้หมอนำใส่แว่นหรือคอนเทคเลนส์คะ”
“น้องธาม น้องธามบอกพี่แนนทีสิคะ พี่เครซี่หมอนำมากๆๆๆๆ อยากรู้ท่านอนด้วยค่ะ”

“ธาม ไม่ รู้” ธามเน้นเสียงแล้วพองแก้ม เขากลับไปนั่งโต๊ะหน้าห้องของพี่โป๊ะแล้วก็เปิดคอมพิวเตอร์ เล่นเกมส์ ดูนั่นดู นี่ อ้อ! ธามไปคุยออนไลน์กับเพื่อนที่ไต้หวันด้วย ดูเหมือนทุกๆ คนก็เริ่มทำงานกันแล้ว ระหว่างรอเก็บหน่วยกิตที่เหลือแค่ 2 วิชา มิเชลนี่ทำให้อารมณ์ดีสุด แต่เจอรี่ก็ทำให้ธามอารมณ์เสียตามเคย ด้วยการบอกว่า “ไอชอบมิเชล บอกยูแล้วไง” ธามก็ไม่ได้ชอบมิเชลซักหน่อย เฮอะ!

“ธาม! กินข้าวกัน”
“ก๊วยจั๊บหน้าซอย 8 อรอ่ยมาก”
“แนนจ๋า ไปกินกลางวันกับพี่มั้ย?”

“ไม่ดีกว่าค่ะพี่โป๊ะ แนนจะเก็บความสดสวยของหน้าไว้รอหมอนำตอนเย็น”

“บ้า ผู้ ชาย นะคะ น้องแนน” ฟังคำพี่โป๊ะว่าพี่แนนแล้วธามอดขำไม่ได้ เขาหัวเราะนิดหน่อยแล้วหันมองหน้าพี่แนน ดูเหมือนจะไม่โกรธพี่โป๊ะเอาเสียเลย ดีจังแฮะ

“พี่แนนเอาขนมมั้ย ธามจะซื้อฝาก”

“โถ น้องธามของพี่”
“ขอพายอะไรก็ได้ ไม่มีก็ไม่เอา กับคาปูเย็นชื่นใจ ได้มั้ยคะ”

“ได้” ธามรับคำแล้วยิ้มให้ แต่สุดท้ายก็หน้าหุบเพราะพี่แนนพูดต่อว่า “ธามจ๋า หมอนำชอบดื่มกาแฟแบบไหนจ๊ะ?”

ไม่คุยด้วยแล้ว หวง!

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อพี่โป๊ะให้ธามหาข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์แสงสีเสียงจากประเทศสิงคโปร์ ธามเลยจมอยู่หน้าคอมไปอีกค่อนวันเพราะเจอข้อมูลที่พี่โป๊ะสนใจ เลยสั่งให้หานั่นหานี่เพิ่มจนแทบไม่ได้ลุกไปเข้าห้องน้ำ จนเย็นนั่นแหล่ะ ธามถึงได้รู้ตัว

“ไอ้ยุ่ง วันนี้ขอบคุณมาก ช่วยพี่ได้เยอะเลย”
“คืนนี้เต็มที่เลยนะ”

“คืนนี้...” ธามทำท่านึกจนลักยิ้มโผล่
“อ้อ! นึกออก แต่ยังไม่ได้บอกนำเลย”

“ไม่เป็นไร ไปกับพี่ นำมันให้อยู่แล้ว”
“อ่ะ งานพักไว้ก่อน พรุ่งนี้หาต่อ พี่จะให้ธามติดต่อบริษัทที่นู่นนะ ถามเรื่องราคามาให้ดี แล้วหาเพิ่มที่ไต้หวันด้วย พวกผู้นำตลาดก็มีไม่กี่ราย ช่วยหน่อยนะ”

“อื้อ” สั่งยาวจัง เร็วด้วย รู้แต่ว่าต้องคุยๆ อืม...คงได้แหล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เข้าใจเอง ธามนั่งงึมงำ งึมงำๆ ไม่นานก็ถูกสะกิด พี่แนนมากระพริบตาถี่ๆ ใส่ ซึ่งมันหมายถึงอะไรธามก็ไม่เข้าใจผู้หญิงไทยนัก แต่แล้วเธอก็พูดสิ่งที่ทำให้ธามหน้าตูม

“หมอนำมารับกี่โมงจ๊ะ เด็กน้อย”

“.............”

“แหม แหม หวงพี่ชายหรอจ๊ะ”
“พี่แนนก็เป็นพี่สาวที่น่ารักน้า....อ่ะ! งั้น พรุ่งนี้พี่แนนซื้อขนมที่อร่อยที่สุดใน 3 โลกมาให้กิน”
“แลกกับเรื่องของหมอนำนิดๆ หน่อย”

ไม่ดีลหรอก! ธามซื้อขนมเองได้ บอกจูก็ได้ แล้วโลกก็มีอันเดียวด้วย!
ธามทำท่าปิดปากแล้วก็ก้มหน้า เพื่อบอกให้พี่แนนรู้ว่าธามไม่บอกหรอก พี่แนนเลยจับตัวธามเขย่าๆๆ แล้วก็โอบเบาๆ ทั้งที่ตัวสูงแค่ไหล่ธาม แล้วก็เดินหัวเราะไปกับพี่ๆ หลายคน

รอพี่โป๊ะอยู่แป๊บเดียวก็มีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบคัพมายื่นให้ตรงหน้า อ้อ..พี่โป๊ะนั่นเอง

“รองท้องก่อน ซักทุ่มค่อยออกไปเนอะ”
“หรือว่าหิวหนัก เออ ไอ้นำมันกินข้าวตรงเวลานี่หว่า”
“งั้นกินแบบเลทๆ ซักมื้อนะธาม”
“อ่ะ เอาดิ”
“เดี๋ยวพี่โทรบอกมันก่อนว่าธามจะไปกินเหล้ากับพี่”

เฮ้ย! ธามไม่ได้อยากกินเหล้ากับพี่โป๊ะนะ ธามหน้าเหวอมองพี่โป๊ะกดโทรศัพท์แล้วยกแนบหู ครู่เดียวก็เปิดปากคุย

“นำ กูเอง”
“ครับ ครับ ผมเอง”
“คุณทานข้าวไปเลยนะ ไม่ต้องรอ”
“ผมจะพาธามไปเปิดหูเปิดตา เดี๋ยวไปส่งให้พี่บ้าน ดึกจัดจะให้ค้างกับผม”
“เท่านี้นะ”
“ปิดเครื่องแม่งเลย ห่านี่ขี้บ่น”
“สบายใจรึยังไอ้ยุ่ง”

พี่โป๊ะแหล่ะไอ้ยุ่ง!
ธามรีบคว้าโทรศัพท์ คิดจะโทรหาพี่นำแล้วบอกเรื่องทั้งหมดใหม่จากปากตัวเอง แต่คิดอีกที ก็ช่างเถอะ ถ้าพี่นำจะไม่ให้ไป ก็คงโทรมาห้ามแล้วสั่งให้รออยู่ที่นี่เอง

ธามมองโทรศัพท์ที่หน้าจอดำสนิทอยู่ร่วมครึ่งชั่วโมง เขานอนตัวยาวบนโซฟาที่พี่โป๊ะบอกว่า “นี่ตัวโปรดพี่เลย ไม่รักไม่ให้แตะ ธามนอนรอแป๊บนึง เคลียร์งานก่อน” นอนอยู่ครึ่งชั่วโมง พี่นำก็ไม่โทรหา

พี่นำคงปล่อยธามแล้วมั้ง
แล้วทำไม...
ธามถึงต้องรู้สึกเศร้าแบบนี้

-----------------


ถ้าที่หนึ่งไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย เขาเชื่อว่าเขาคงไม่ได้นั่งงั่งอยู่แบบนี้หรอก
ผู้นำชกไหล่เพื่อนข้ามหัวเจมที่นั่งขวางอยู่อีกที เขาแบมือปาดหน้าเจมไปที่อกที่หนึ่งเพื่อทวงของคืน

“โทรศัพท์ผมล่ะ”

“ใจเย็นรึยังล่ะ” ที่หนึ่งแม่งกวนตีน!

“เคยใจร้อนที่ไหนล่ะ”

“แล้วที่ออกยักษ์เมื่อกี้ล่ะ” ไอ้ที่หนึ่งแม่งกวนส้นตีน!!

“คนเหมือนกันมั้ยล่ะ น้องทั้งคน ไม่ห่วงได้มั้ยล่ะ โป๊ะไว้ใจได้มั้ยล่ะ”

“ไม่ถามตัวเองล่ะ” ไอ้เหี้ยที่หนึ่ง! ผู้นำลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมโซฟายาวมาดึงตัวเพื่อนตัวดีให้มาพูดกันให้รู้เรื่อง แต่เจมก็เอาตัวมาขวางไว้เสียก่อน

“คือ พี่นำครับ”
“พี่หนึ่งก็กวนตีนไปงั้นแหล่ะ จริงๆ คือเป็นห่วงพี่นำนะ”
“แล้วพี่นำเองก็ไม่ได้อยู่ในอารมณ์คุยกับใครดีๆ ได้ไม่ใช่หรอครับ”

“แต่มันกวนตีน มันจี้แบบโคตรหยาบ!”

“ผมแค่พูดตรงๆ คุณรับไม่ได้เลยรู้สึกเหมือนโดยยอกย้อน”
“ผมถามก็เพื่อให้คุณถามตัวเอง มึงไม่เข้าใจหรอวะ”

เฮ้อ...
ทำไมมันฉลาดนักนะไอ้เพื่อนคนนี้ ผู้นำทิ้งตัวนั่งลงกลางโซฟา เจมเลยต้องนั่งห่างจากที่หนึ่ง ซึ่งน่าจะทำให้เจมพอใจมากกว่าเดิม เมื่อกี้เจมอยู่ท่ามกลางอารมณ์ครุของคนที่ตัวโตกว่าตั้ง 2 คน

“คิดตกรึยัง ที่มาถามผมน่ะ” พอโดนถามอีกรอบ ผู้นำก็หวนนึกถึงความสงสัยของตัวเองที่แก้เองไม่ได้ จนต้องแบกหน้ามีแว่นประดับดั้งมาหาที่หนึ่งถึงออฟฟิศ

เขามาถามที่หนึ่งว่า “เวลามึงดูแลเจม ต่างจากที่มึงดูแลไอ้พีชที่มึงรักเหมือนน้องมั้ย ต่างยังไงวะ อธิบายหน่อย”
เขาถามก็เพราะแยกไม่ออกว่า “กูเริ่มไม่รู้แล้วว่ากูห่วงกูหวงธามมากไปรึเปล่า และถ้ามันมากเกินน้องชายกับพี่ชาย แล้วมันคืออะไรวะ?”


พาถูกถามถึงเหตุที่ต้องแบกตัวมาถาม เขาก็เลือกเล่าเหตุการณ์ที่ธามหายไปเมื่อเช้า และความรู้สึกที่ปะทุขึ้นมาตอนเห็นธามยืนอยู่หน้าบ้านกับคนแปลกหน้า ความรู้สึกทั้งห่วง ทั้งดีใจที่เจอ ทั้งโกรธที่ทำให้เป็นห่วง อยากกอดให้แน่นก็อยาก อยากตีให้สำนึกก็อยาก ไม่รู้อะไรนักหนากับความรู้สึกที่แสนซับซ้อนเมื่อเช้านี้

“ยัง” เขาให้เพี่อนได้แค่คำตอบนี้เท่านั้น

“โกโก้มั้ย? คุณชอบนี่ เผื่อดีขึ้น”

“ผมไม่ถึงขั้นต้องบำบัด แค่สับสนนิดหน่อย ถ้าได้แนวคิดหรือไอเดีย หรือเห็นความรู้สึกตัวอย่าง เดี๋ยวผมก็รู้จักตัวเองในมุมนี้เองแหล่ะ”

“ไอ้นำ มึงก็เคร่งครัดกับตัวเองเกินไป”
“ลองผ่อนตัวเองลงบ้างก็ได้นะ”
“ผมไม่รู้ว่าคุณสับสนอะไรนัก น้องก็น้อง ความรู้สึกอื่นที่มากกว่ารักน้อง มันก็มีหลายแบบ”
“จะใช่รัก...แบบคนรักรึเปล่า ไม่มีใครรู้หรอก นอกจากคุณ”
“เบนช์มาร์คผมกับคุณมันคนละอย่าง จะเอามาตรวัดผมไปวัดความรู้สึกคุณน่ะ ไม่ได้หรอก”

“โอเค ผมรู้ ผมรู้”
“งั้น ขอโกโก้ร้อนซักแก้วสิ”

“กราบบบบบขอร้องแฟนผมสิ ผมค่อนข้างยุ่งคุณก็เห็น” มันบอกแล้วมันก็ก้าวฉับๆ กลับไปนั่งหน้าโน้ตบุ้คที่มันหมกมุ่นมองจ้องมากกว่าหน้าแฟนมันเสียอีก

“งั้น...เจมครับ”

“เดี๋ยวเจมชงให้ครับ พี่นำรอนี่นะ”
“พี่หนึ่งเอาอะไร?”

“เอาเจม”

“แมร่งงงงงงงงง” เสียงกัดฟันด่าของเจมทำให้เขาขำออกมาเล็กน้อย ผู้นำผ่อนลมหายใจแล้วมองหน้าเพื่อนที่เป็นสีฟ้าจางๆ ตามแสงหน้าจอโน้ตบุ้ค จากนั้นก็มองประตูห้องทำงานที่แง้มอยู่นิดๆ

ที่หนึ่งกับเจม น่ารักดีจริงๆ
ธามเอง...ก็น่ารักไม่แพ้เจมหรอก
เด็กดื้อไม่รู้เรื่องรู้ราวคนนั้น

หรือว่าความรู้สึกที่มันซ้อนทับถมบนใจเขาอยู่ตอนนี้ กำลังกดความรู้สึก....รัก

Cut


ขอโทษค่ะ  :mew2:

มาต่อช้ามากเลย ขอบคุณสำหรับผู้อ่านที่ยังติดตามอยู่นะคะ ขอบคุณมากๆ
เราจะกระชับเนื้อเรื่องแล้วค่ะ รู้สึกว่าปมเฮียแซนไม่เดินหน้าเท่าไหร่เลย ฮืออออ  :katai4:

มีแขกรับเชิญ 2 คู่มาด้วยตอนนี้ อิอิ ที่หนึ่งกับเจม...แบบว่าคิดถึง ขอให้พื้นที่หลายบรรทัด(?) นิดนึงเนอะ อีกคู่ก็...เอิ๊กๆๆๆ

เจอกันตอนหน้าค่ะ  :bye2:

ปล.ขอบคุณสำหรับคำเตือนเรื่องแก้ชื่อตอนค่ะ ลืมบ่อยเลยด้วย แฮ่
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 10 (30-08-13)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 30-08-2013 23:16:19
คิดถึงพี่หนึ่งกับเจมมากกกกกกกก
แต่คืออีพี่โป๊ะมาโผล่กี่เรื่องๆก็คือตัวปัญหา!!!!!!!
พี่นำรีบรู้ใจตัวเองเร็วๆ ชอบอ้ะพี่นำอบอุ่นทุกตอน ._.
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 10 (30-08-13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 30-08-2013 23:46:56
คิดถึงพี่หนึ่งกับหมาเจมมมม

กอดสองคนนั้นแรงๆเลยยย  :กอด1:

พี่นำอย่าเมินน้องมากนะ น้องน้อยใจแล้ววว  :mew6:

พี่โป๊ะจะพาเรื่องมาให้มั้ย(วะ)เนี่ยยยย  :hao4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 10 (30-08-13)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 18-09-2013 23:28:09
หายไปดลยยยยยยยยยยยยยยยยย รออยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 10 (30-08-13)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 19-09-2013 00:26:42
 :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 21-09-2013 17:35:10
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 11



เขาง่วงแล้วด้วย บอกพี่โป๊ะแล้วว่าอยากกลับบ้านแต่ก็ได้รับคำตอบเดิมๆ ว่า
“รออีกแป๊บดิไอ้ยุ่ง”

ยุ่งเป็นอะไรนะ? แอดเจคทีฟ? หรือเวิร์บ? หรืออะไร เป็นชื่อคนได้ด้วยหรอ?
ไม่เห็นจะความหมายดี แล้วธามก็ไม่ได้บีซี่มากมาย ธามไม่ยุ่งซะหน่อย! พี่โป๊ะบ้าแล้วแน่เลย

ธามถอนหายใจถี่ขึ้นกว่าเดิม นึกเซ็งที่ถูกขัดใจก็กรอกเหล้าเข้าปาก แก้วนี้ใครส่งมาอะไรยังไงก็ไม่รู้หรอก แต่มันวางอยู่ที่โต๊ะ แล้วโป๊ะก็ไม่ได้ห้ามอะไรด้วยนี่ คงไม่มีอะไรหรอกมั้ง
แต่ง่วงจริงๆ นะ

“ธาม” ใครเรียก?
เขาหันขวับไปมองแล้วก็สะดุ้งถดตัวหนี เพราะคนที่เรียกคือพี่แซน
“ซะ...แซน”

“กว่าจะเข้าถึงตัวได้ ลำบากดีเหมือนกัน”
“แต่ก็ดี พี่จะได้รู้ว่าธามมีค่ากับพี่แค่ไหน และมันก็มากพอที่จะทำให้ธามได้สำนึกซักทีว่าควรทำตัวยังไง”

“อะไร! พูดไม่รู้เรื่อง!” ธามตวาดใส่ เขาผลักอีกคนออกแล้วลุกหนีทันที พี่โป๊ะอยู่ไหนก็ไม่รู้ เดินหาไปเรื่อยๆ ก็คงดีกว่านั่งฟังแซนพูดไม่รู้เรื่อง

“ธาม!” เขาถูกกระชากตัวกลับอย่างรวดเร็ว แล้วก็ถูกลากออกจากไนต์คลับโดยที่ยังหาไม่เจอแม้แต่ชายเสื้อพี่โป๊ะ

-----------------

เที่ยงคืนกว่าแล้ว โป๊ะยังไม่รับโทรศัพท์เขาเลย ผู้นำยังคงอยู่ในชุดลำลองที่กลับมาเปลี่ยนที่บ้านเมื่อเย็นนี้ ทั้งที่เขาควรอาบน้ำเตรียมตัวนอนแล้ว
เขาพุ่งความสนใจไปที่โทรศัพท์อีกครั้ง หลังจากตัดใจจากมันครบ 5 ชั่วโมงตามคำแนะนำของไอ้ที่หนึ่ง แต่วินาทีนี้เขารู้ตัวแล้วว่าเขาไม่ห่วงธามไม่ได้จริงๆ

“ปิดเครื่อง หรือแบตหมด?” ผู้นำพึมพำและเริ่มอารมณ์เสียอีกรอบเพราะเขาติดต่อธามได้อีกคน แล้วใครจะให้คำตอบเขาได้ ใครจะพาธามมาคืนเขาล่ะ?
“ไปไหนของเขากันนะ ดึกดื่นป่านนี้ จะไม่หลับไม่นอนกันรึไง?”
“บ้านช่องมีก็ไม่กลับ”
“พี่นำควรตีธามมั้ยครับ?” เขางึมงำระหว่างเดินวนไปวนแถวๆ ประตูหน้าบ้าน ระหว่างนี้ก็เอาแต่ชะเง้อมองที่หน้ารั้วจนต้นคอรู้สึกเมื่อยล้า

รอเวลาจนมาถึงตีหนึ่งกว่า โทรศัพท์ในบ้านเขาก็ดังขึ้น ผู้นำรีบพุ่งไปรับสายทันที
“ธามรึเปล่า! นี่พี่นำเอง อยู่ไหนครับ”

“.........” เขาเดาผิด คนที่โทรมาไม่ใช่ธาม แต่เป็นอีกคน ที่อวดอ้างตัวว่าอยู่กับธาม ปลายสายบอกเขาว่า “ผมเอง สุพิสุทธิ์ ไม่มีอะไรมากหรอกครับคุณหมอ แค่จะโทรมาบอกข่าว”

ผู้นำขมวดคิ้วฉับ เขาตวัดตามองไปที่หน้าบ้านและเดินออกไปดูรอบๆ ทันที เขาไม่ชอบให้ใครมาเล่นตลกใส่แบบนี้

“คุณ...มีอะไร?”

“คืนนี้....”
“ธามจะนอนกับผม”



จบแล้ว บทสนทนาจบลงดื้อๆ
นี่มันอะไร? นายสุพิสุทธิ์อยู่กับธาม ธามจะนอนกับนายสุพิสุทธิ์
แล้วไอ้เหี้ยโป๊ะล่ะ ไอ้เลวมือโปรมันทำห่าเหวอะไรอยู่วะ!
ทำไมไม่ดูแลธาม!!

ผู้นำโทรหาเพื่อนอีกหน ครั้งนี้เหมือนมันรู้ ถึงได้รับสายและส่งเสียงมึนๆ ทักทาย

“งาย ไอ้หมอ”

“น้องผมล่ะ?” เขาถามอย่างใจเย็น เผื่อใจคิดในแง่ดีว่าที่ได้ยินจากยายสุพิสุทธิ์เมื่อครู่นี้ก็แค่นิทานหลอกให้หลงทางเท่านั้น

“อะไรวะ? อะไรนะ ไม่รู้เรื่องเลยไอ้หมอ เฮ้ย! โอม โอม รอก่อน”
“อะไรนะไอ้นำ” พูดกับเขาได้แล้วใช่มั้ย  หรือต้องหันไปใส่ใจหมาที่ไหนอีก? เพื่อนเวร!

“น้องกูอยู่ไหน มึงบอกจะพาธามเที่ยว จะดูแลเอง”
“เอาธามมาคืนกูเดี๋ยวนี้!”

“เอ้าเฮ้ย!”
“มึงไม่ได้มารับไปแล้วหรอ?”

“รับพ่อมึงสิโป๊ะ กูรออยู่ที่บ้าน” เขาเถียงอย่างอารมณ์เสียและเหวี่ยงรองเท้าใส่เดินในบ้านให้พ้นทาง ผู้นำคว้ากุญแจรถได้ก็พุ่งมาที่รถตัวเองทันที เขายังไม่ปล่อยให้โป๊ะหลีกหน้าหนีไปไหน เขาต้องเอามันมารับผิดชอบการทำธามหายครั้งนี้

“มึงอยู่ไหน มึงต้องไปตามหาธามกับกู!” สั่งเสร็จก็บึ่งรถไปยังที่หมาย เขาไม่รู้หรอกว่าธามอยู่ที่ไหน และอยู่กับนายสุพิสุทธิ์จริงรึเปล่า แต่ก็จะตามหา ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก็เริ่มจากไอ้คนที่มันอยู่กับธามคนสุดท้ายนั่นแหล่ะ ไอ้เหี้ยมือโปร!

พอถึงหน้าผับที่โป๊ะมันเที่ยวประจำ เขาก็เดินอาดๆ เข้าไปดึงมันออกมายังรถตัวเอง
“จะเริ่มจากไหน” เขาถามมันดื้อๆ หน้ามันก็งงไม่หายเหมือนกัน

“อะไรของมึงวะนำ น้องมึง มึงก็หาเองดิ”

“ส้นตีนโป๊ะ! มึงพาน้องกูเที่ยว พอหายไปมึงก็ต้องตามหามาคืนกู”

“ใครจะไปรู้ว่าไอ้ยุ่งมันหายตัวได้ มันอาจกลับบ้านไปหามึงอยู่ก็ได้ ตอนนี้อาจอยู่ระหว่างทาง”

“กูจะไม่เครียดเลยถ้าชีวิตธามปกติดี”
“แต่นี่มีไอ้ตัวเหี้ยที่ไหนไม่รู้ โทรมาบอกกูที่บ้าน ว่าน้องกูจะนอนกับมัน เป็นมึงมึงไม่เต้นหรอโป๊ะ!” พอได้ยินข้อเท็จจริงและเงื่อนไขเพิ่ม มือโปรก็เริ่มสร่างเมา มันสะบัดหัวแล้วกรอกตาครุ่นคิด แป๊บเดียวก็ถามเขาเสียงเหี่ยว

“น้องมึงชีวิตไม่ปลอดภัยอยู่หรอ อะไรวะ ไม่เห็นเล่าให้ฟัง”

“มันเรื่องส่วนตัวของธาม แต่ที่กูเล่าเพราะมึงทำให้ชีวิตธามยุ่งกว่าเดิม”

“เฮ้ย! โทษกูก็ไม่ถูก ตอนที่มึงมาฝากทำงาน มึงแค่บอกว่าอยากให้น้องมีสังคม ไหงมาเป็นกูผิดเต็มบานประตูขนาดนี้วะ”
“ถ้ามึงบอกกูทั้งหมดตั้งแต่แรก กูก็จะช่วยระวังให้ ไอ้ห่าหมอ!”

“ก็ถ้ามันเป็นเรื่องเล็กน้อยกูก็เล่าแล้วไง นี่กูก็เชื่อใจมึงไง คิดว่ามึงเชี่ยวพอตัว ดูแลน้องแทนกูได้อยู่แล้ว”
“ห่า! แล้วนี่จะไปเริ่มหากันจากที่ไหน บ้านไอ้ห่านั่นเลยดีมั้ย”

“มึงรู้จักบ้านไอ้เหี้ยที่อ้างว่าอยู่กับน้องมึงหรอ”

“สืบไว้เฉยๆ ไม่เคยไปหรอก”

“งั้นก็ไปดิ” มันยุส่ง หรือว่ามันตั้งใจช่วยกันแน่วะ ผู้นำหันมองเพื่อนที่ผื่นแดงเริ่มคลานขึ้นมาถึงสันกราม ไอ้ห่านี่แดกเหล้าถูกอีกแล้วสิ ผดแพ้ขึ้นซะขนาดนี้
“เออนำ”

“อะไร”

“เรียกกำลังเสริมมั้ยมึง  2 คนเพื่อนตาย แต่ไอ้หนึ่งมัน 9 ชีวิตนะ”

“ที่หนึ่งมันสิ้น 8 ชีวิตให้เจมไปแล้ว นี่มันเหลือชีวิตสุดท้าย มึงจะลากมันมาทำไม ดึกดื่นขนาดนี้”

“แล้วมึงมาลากกูไปเกี่ยวทำไมวะ ไอ้นำ”

“ก็มึงทำน้องกูหายไงไอ้เหี้ยมือโปร!” เขาต้องตอกย้ำความผิดมันอีกรอบ จากนั้นก็บึ่งรถไปยังบ้านนายสุพิสุทธิ์ ซึ่งเขาก็ไม่แน่ใจนักว่านายคนนั้นจะพาธามไปที่บ้าน

“เออนำ”

“อะไรอีก” พอในรถเงียบเข้าหน่อย มือโปรก็พยายามชวนเขาคุย ซี่งเขาก็สนใจบ้างไม่สนใจบ้าง นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เพื่อนชวนคุย และเขาคิดว่ามันน่าสนใจ

“ธามใช้โทรศัพท์อะไร”

“ไอโฟน”

“มึงลองหาน้องจากไอโฟนรึยัง”

“อะไรวะ?” ผู้นำหันหน้าที่เต็มไปด้วยความงงมามองเพื่อน

“Find My iPhone ไงมึง ไม่รู้จักหรอ”

“ไม่อ่ะ หาได้หรอวะ เออ มึงทำดิ หายังไง มึงหาเลย ตอนนี้เลย”

“ไอ้ห่าหมอ มึงต้องมีไอดีของน้องมันแล้วก็ต้องเคยแชร์ข้อมูลกันมาก่อนไรงี้”
“วู้ว! ไม่ได้เรื่อง แม่กูใช้จับโกหกกูประจำ”
“งั้นคงใช้ไม่ได้ มึงตามกลิ่นเหมือนเดิมละกัน ขับเร็วๆ ดิวะ”
“ให้กูขับมั้ย มึงใจเย็นไปป่าววะเนี่ย ไอ้ห่า นี่ใส่คอนแทคเลนส์ใช่มั้ย หรือมึงงมทางเอาวะเนี่ย เฮ้ย!”

“กูก็ไม่ได้อยากใจเย็น แต่ก็ไม่เคยมาบ้านแม่ง เกิดขับเลยซอยบ้านมันจะทำไง”

“ก็ยูเทิร์นไง เรื่องง่ายๆ นี่โง่จัง จอดๆๆ ห่า กูขับเอง มึงชี้เป้า!” ในที่สุด มันก็ช่วยทำสิ่งที่มันถนัดชิบหาย มือโปรขึ้นชื่อด้านมั่วไปเรื่อยที่สุด


แต่เสือกมาถึงจนได้
ผู้นำลงจอดรถมายืนที่หน้ารั้วบ้านหลังโต เขาไม่ได้กลัวขนาดมันหรอก ก็ใหญ่กว่าบ้านเขาไม่มาก แต่บ้านนี้แลดูจะบ้ายุโรป เสาโรมันถึงได้ทอดยาวคู่กันมายกหลังคาที่จอดรถไว้บนบ่า
เขาจะกดออด แต่ไอ้โป๊ะลงมาตีมือไว้ทัน

“จะทำไรวะ”  มันถามเขาด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

“ก็กดออด เรียกคนในบ้าน”

“ผี ผีเท่านั้นที่ออกมาหามึง แหกตาครับหมอ นี่ตีสามแล้วครับเพื่อน”
“มานี่ ปีนแม่งเลย” ไม่พูดเปล่า มันฉุดมือเขาให้ตามมันไปข้างรั้วสูงด้วย

“ไม่เอา! เกิดมันมีกล้องวงจรปิดล่ะห่า พ่อกูมีหน้ามีตาในสังคม กูก็มีลูกศิษย์เยอะแยะ ไม่ใช่มึงที่ไม่มีอะไรจะเสียนะเว้ย!”
“อีกอย่าง ธามอยู่ที่นี่รึเปล่าก็ไม่รู้”

“ห่าเอ้ย! ดั้นด้นมาหา เสือกจะมากดออดอย่างสง่างามแล้วถามคนสวนเขาว่าเจ้านายมันลักพาตัวน้องมึงมาที่นี่รึเปล่า  มึงบ้าหรอไอ้นำ”

“แล้ววิธีมึงดีนักรึไง”

“มึงนี่นะ! กูบอกแล้วว่าดิบๆ เถื่อนๆ บ้าง หัวใจมึงไม่วายตายหรอก อย่าให้กูต้องด่ามากกว่านี้”

“มึงด่ากูมาตลอดทางแล้วโป๊ะ เข้าหัวมึงบ้างมั้ย สั่งสอนกูเนี่ย” เขาบ่นใส่แล้วหยีตามองในโรงจอดรถ เหตุที่ต้องหยีตาก็เพราะเขาสายตาสั้น มองอะไรไกลๆ ไม่เห็น และตอนนี้ก็ไม่มีทั้งแว่นและคอนแทคเลนส์

“โป๊ะ หารถเป้าหมายที กูมองไม่ชัด”

“ทะเบียนไร”

“แป๊บนึง” เขาบอกพลางล้วงมือถือมาดูรูปรถนายสุพิสุทธิ์ที่นักสืบส่งมาให้เป็นข้อมูล
“วว 8998” เขาบอกทะเบียน กำลังจะบอกยี่ห้อและรุ่น โป๊ะก็สวนขึ้นซะก่อน

“เป็นงูก็กัดกูกับมึงตายห่าไปแล้วเนี่ย”
“คันแรกเลยเห็นรึเปล่า ตะแคงข้างท้าส้นตีนกูอยู่เลยว่ะ” ผู้นำเงยหน้าเพ่งมองรถแรกที่เพื่อนบอก เห็นทรงก็พอรู้ว่ารถสปอร์ตหรูแน่ๆ เขาพรูลมหายใจ คิดเข้าข้างตัวเองว่านายสุพิสุทธิ์น่าจะใช้รถคันเดิมๆ ในแต่ละวัน และการที่รถคันนี้จอดอยู่ที่บ้านนี้ ธามก็น่าจะอยู่ที่นี่ด้วยเหมือนกัน

แล้วเขาจะเอาตัวธามออกมาได้ยังไง?

“มึงมึง”

“อะไร?” เขามองเพื่อนที่สะกิดเรียกกันยิกๆ  พอหันไปเห็นสีหน้าเพื่อนที่ดูหวาดๆ เขาก็กวาดตามองรอบตัว

ชิบหายแล้ว หมามาเป็นหมู่ นี่มันนรกของไอ้โป๊ะชัดๆ

“นำ กูกลัวหมา พากูออกไปจากพวกแม่งที มึงดูตามันดิ ไอ้เหี้ย! มันจะฆ่ากู!!!”

จริงๆ แล้วหมาพวกนี้ไม่ได้ทำอะไรพวกเขาหรอก แต่เสียงโวยวายเหมือนจะตายของโป๊ะทำให้ผู้นำยอมคว้าไม้ใกล้มือมาตีๆ หวดๆ อากาศเพื่อไล่พวกมันไปให้พ้นทางชั่วคราว จากนั้นก็รีบดันเพื่อนขึ้นรถและขับออกไปให้พ้นบริเวณ เพราะหากพวกหมามันฮึดเห่าใส่ขึ้นมา การมาของพวกเขาคงไม่ใช่เรื่องลับๆ อีกต่อไป

ตี 4 กว่า พวกเขามานั่งร้านแม็คในปั๊มน้ำมัน
โป๊ะดูง่วงมากแล้ว ส่วนเขายังนั่งตาสว่าง คิดหาหนทางเอาตัวธามกลับมาอย่างละมุนกับทุกฝ่าย เขาไม่อยากโต้ตอบรุนแรงกับนายสุพิสุทธิ์ ดูเหมือนคนคนนั้นจะพุ่งเป้ามาที่เขา ไม่อย่างนั้นคงโทรไปแสดงชัยชนะกับพ่อเขาแทนไปแล้ว และถ้าพุ่งเป้าที่เขา นายพิสุทธิ์ที่เป็นพ่อ ก็คงไม่รู้เรื่องอะไรกับการกระทำของลูก....หรือว่าจะรู้?

เขาควรทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่โตไปเลยดีมั้ยนะ?

“คิดไรอยู่วะ”

“คิดเรื่องธาม” เขาตอบพลางหมุนแก้วกาแฟที่ทอนความร้อนไปหมดแล้ว กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นไม่มีให้จมูกได้สัมผัส

“มึงห่วงไอ้ยุ่งนั่นมากเลยนะ”

“ก็น้องกูนี่” ผู้นำบอกพลางขมวดคิ้วใส่ มีกับมือโปรเท่านั้นที่พูดภาษาหยาบกับเขาจนเขาต้องตอบด้วยภาษาระดับเดียวกัน คนอื่นรอบตัวล้วนยกความสุภาพขึ้นมาสนทนากับเขาเสมอ

“ไม่ใช่ซะหน่อย ห่า มึงไม่มีน้องนะไอ้หมอ มึงมันลูกคนเดียว เหมือนกู เหมือนไอ้หนึ่ง”

“ก็ธามไง น้องกู”

“แม่มึงบอกไว้หรอ” ไอ้ห่านี่ต้องโดนตบปากซักโหลนึง แม่ตายไปนานแล้ว ยังเสือกเอามาพูดถึง ผู้นำพ่นลมหายใจใส่ดังๆ ให้รู้ว่าเริ่มไม่สบอารมณ์ เพื่อนปากเสียถึงได้ยอมรู้ตัวว่าชักจะเยอะเกินไป มันส่งเสียงถอนหายใจดัง “เฮ้ออออออ”

“นำ เอาจริงๆ กูว่าไอ้ยุ่งมันไม่เป็นไรหรอก”
“อาจจะจริงอยากที่ไอ้ตัวห่านั่นโทรมาบอกมึงก็ได้ ธามมันอยากไปนอนบ้านนั้นล่ะมั้ง”
“แหมมึง ธามมันโตมากับบ้านนั้นไม่ใช่หรอ พ่อไอ้ห่านั่น ก็ลุงมัน มึงจะห่วงอะไรนัก”

คงไม่ห่วงหรอก ถ้าคนเป็นลุงไม่ได้ถูกสงสัยว่าจะเกี่ยวกับการตายของน้องสาวตัวเอง และเขาจะไม่ห่วงเลย ถ้านายสุพิสุทธิ์นั้นไม่ได้ป่วย และไม่เคยขอมีอะไรกับธาม

โอ้ย! ยิ่งคิดก็ยิ่งห่วง!
หรือจะไปฉุดกลับมาดี? บุกรุกบ้านนั้นเลยดีมั้ย?
หรือจะให้ตำรวจช่วย...คงไม่ได้ เดี๋ยวเรื่องราวจะใหญ่โต พ่อคงไม่ชอบใจเท่าไหร่ถ้าเขากระพือไฟทั้งที่มันเป็นแค่ไฟหัวไม้ขีด ทำอะไรไปก็เสียหายทั้ง 2 ฝ่าย หยิกเล็บก็เจ็บเนื้อ เฮ้ออออออออ

“เฮ้ออออ” ครานี้เป็นเขาเสียเองที่ถอนหายใจเสียงดัง มือโปรมองเขาอย่างเห็นใจ...ละมั้ง มันยื่นมือมาลูบหัวเขาเบาๆ ก่อนจะยีหนักๆ แล้วจับหัวโขกโต๊ะดังปึก....ก็เจ็บนะ แต่ก็ยังคิดวนเวียนเรื่องธามอยู่ดี
“เฮ้ออออออ” เขาคะแตงหน้าแนบโต๊ะแล้วถอนหายใจอีก มือโปรเลยลุกไปซื้อกาแฟมาให้เขาเพิ่มอีก 2 แก้ว

6 โมงกว่าแล้ว พวกเขายังอยู่ในร้านแม็คเหมือนเดิม เขารู้สึกเหนียวตัวพิกล แต่จะใกล้กลับบ้านไปอาบน้ำให้สบายตัวก็ทำไม่ได้ มือโปรออกไปสูบบุหรี่ตรงที่ที่ปั๊มอุตส่าห์จัดไว้ให้ แม้มันจะแก้ตัวว่าดูดนิดเดียว แต่กลิ่นที่เตะจมูกเขาก็เปลื้องผ้ามันได้หมดตัวแล้ว

“เอาไงต่อล่ะ จะให้กูมานั่งกลุ้มกับมึงเงียบๆ แบบนี้ไม่เอาด้วยหรอกนะเว้ย งานการกูก็มี”

“กูก็มี”

“งั้นกลับบ้าน ทำงาน  ใช้ชีวิต่อ ถ้าการห่วงคนคนนึงมันทำให้มึงเป๋ขนาดนี้ กูว่ามึงเลิกห่วงเถอะ”
“ห่า นั่งห่วงมัน แต่ก็ขยับทำอะไรไม่ได้สักอย่าง กูว่านะ ลุยๆ แม่งให้รู้เรื่องนั่นแหล่ะดีสุด นั่งคิดวนไปเวียนมา น่าเบื่อตายชัก”

“ถ้าลุยไปแล้วธามเป็นอันตรายล่ะ”

“ไอ้ธามมันไม่ได้ง่อย!”
“เด็กมันรู้ว่าอยู่ที่ไหนแล้วปลอดภัย อยู่กับใครแล้วมันมีความสุข”
“มึงก็เชื่อใจมันบ้าง เคยถามมันป่าววะว่าอยากใช้ชีวิตแบบไหน ที่ไหน”

“.............”

“กูรู้ว่ามึงมองน้องมันเป็นเด็ก แต่เด็กก็มีหลายระดับ”
“ดูอย่างไอ้เจมดิ กูว่ามันเด็กน้อยปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม แต่มันก็ช่วยไอ้หนึ่งคิดอะไรได้ตั้งหลายอย่าง”
“ธามเองก็เรียนจบแล้วไม่ใช่หรอวะ น้องมันไม่ได้ง่อยนะมึง”

“กูรู้ว่าธามมีความคิด แต่มันก็ยังเบี้ยวๆ อยู่”
“ที่ผ่านมา ธามไม่ได้มีความสุขนักหรอก”

“น้องมันบอกหรอ”
“หรือมึงไปแอบอ่านไดอารี่มัน”

“ไอ้ห่า! กูก็ต้องคุยกับน้องมาดิ ไม่งั้นจะมานั่งสรุปแบบนี้ได้ไง”
“เอาเป็นว่าธามไม่ชอบนายสุพิสุทธิ์มากๆ เพราะมันเคยทำไม่ดีกับธามไว้ แล้วมันก็เป็นคนที่ทำให้ธาม...แบบ....ไม่ค่อยโตนัก ภูมิต่ำน่ะ มึงเข้าใจภาษากูมั้ย”

“ภูมิแพ้หรอ”

“เหี้ยโป๊ะ!” เขาด่าโทษฐานที่มันทำให้เรื่องจริงจังกลายเป็นเรื่องตลกฝืดๆ

“โอเค โอเค กูขอโทษ”
“เอ้า! มึงว่ามา เอาไงต่อ”

“ไปบุกบ้านนั้นกันเถอะ!” ในที่สุด ผู้นำก็ตัดสินใจได้ เขาไม่ชอบอยู่กับอะไรคลุมเครือ ไม่ชอบอะไรค้างคา ไหนๆ ก็ปักใจแล้วว่าธามน่าจะอยู่ที่บ้านนั้น ก็ต้องไปหาที่บ้านนั้นนั่นแหล่ะ


พวกเขาย้อนกลับมาที่บ้านหลังใหญ่นั้นอีกหน พอได้รับแสงอาทิตย์ยามเช้าแต่งแต้มสีสันแล้ว เขายอมรับว่าเป็นบ้านที่ดูอบอุ่นหลังหนึ่งเลยทีเดียว

“กดออดอีกมั้ยพ่อคุณ”

“กดดิ มารยาทน่ะ เอาทาผิวซะบ้าง” เขาว่าเพื่อนด้วยรอยยิ้มที่มีอยู่เพียงนิด จากนั้นก็เดินไปหน้ารั้ว แต่คำพูดมือโปรที่ตามหลังกันลงมาเตะตัดขาเขาไว้เสียก่อน

“เฮ้ยนำ รถมันไม่อยู่แล้วว่ะ!”

-----------------

พี่นำไปไหน!
ธามรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นระเบิดด้าน อุตส่าห์รอเวลาถอดสลักมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้ จนกลับมาบ้านได้ด้วยไฟโกรธโหมกระพือท่วมตัว แต่กลับมาพบห้องว่างเปล่า หนีหัวกันใช่มั้ย!!

“นำ!”
“นำ! ออกมาเลยนะ ทำแบบนี้หมายความว่าไง”
“นำโกหกกันตลอดผ่านมาใช่นะ!!” โว้ย!! ภาษาไทยก็พูดให้ถูกยากจริง!
“จะดูแลธามไม่ใช่หรอ หนีไปหายหัว นำบ้า!!”


“เอะอะอะไรกันเจ้าธาม” ลุงหมอ! ธามหันขวับไปเจอเจ้าของเสียง เขาเบะหน้าใส่ทันที จากนั้นก็ระบายสิ่งอัดอั้นทั้งหมดที่ต้องพบเจอตลอดคืนให้ผู้เป็นลุงฟัง

“ลุงหมอ...นำให้ธามไปอยู่ที่อื่น นำบอกไปสบาย!”


สีหน้าของลุงหมอหลังจากฟังสิ่งที่ธามเล่าด้วยภาษไทยอ่อนแอบ้าง และภาษาอังกฤษแสลงหูลุงบ้าง น่าจะเป็นสีหน้าแห่งความเข้าใจล่ะมั้ง ธามเองก็ไม่รู้ว่าลุงหมอคิดเห็นยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ลุงก็ไม่ได้ว่าอะไรธามที่ทำเรื่องแบบนั้น แม้ว่าธามจะไม่ได้บอกไปว่า เพราะอะไรถึงต้องทำเรื่องแบบนั้น

“ธามเคยบอกแล้วว่าจะไปอยู่คนเดียวเอง ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
“นำก็ไม่ยอม บอกจะดูแลธามเอง แต่จนสุดแล้วนำก็ให้ธามไปสบาย”

“พี่เขาพูดแบบนั้นหรอธาม ได้ยินเองมั้ย”

“พี่แซนบอก แต่ก็คงจริง ถ้านำเป็นห่วงธามจริง นำต้องไม่ให้ธามไปกับแซนอยู่แล้ว”
“ธามเคยบอกแล้วว่า....”
“ว่าไม่ชอบ”

“ลุงว่ามันต้องมีอะไรเข้าใจผิดกันแน่ๆ”
“ธามก็...ใจเย็นก่อนนะ เรื่องที่คุณสุพิสุทธิ์เขาทำ ลุงจะคุยเอง ทำแบบนี้ไม่ถูก”

“ใช่มั้ย คิดใช่มั้ย? เหมือนกันนั่นแหล่ะ” ก็หวังว่าลุงหมอจะเข้าใจว่าธามหมายความว่า ลุงหมอก็คิดเหมือนกันใช่มั้ยว่าพี่แซนทำไม่ถูก และที่ธามทำก็ไม่ผิด

“อืม ไปอาบน้ำไปลูกไป เดี๋ยวจะให้ป้าจูเขาทำอะไรร้อนๆ ให้กิน ดูหน้าเราซีดๆ นะ”
“เขาไม่ได้ทำร้ายอะไรเราใช่มั้ย”

“...........” ธามส่ายหน้าปฏิเสธ เรื่องนี้ไม่อยากให้ลุงหมอรู้ ไม่สิ ไม่อยากให้ใครรู้ทั้งนั้น นอกจากนำ แต่ไม่รู้นำจะอยากรู้อยู่มั้ย เขากลับเข้าห้องพี่นำที่อยู่จนชินว่าเป็นห้องตัวเอง จัดการอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ ระหว่างยืนเปลือยในห้องน้ำก็ส่องกระจกดูร่องรอยที่เกิดขึ้นตามตัว

แต่ละรอยที่เห็น มันทำให้กำมือแน่นจนเล็บจิกฝ่ามือตัวเอง
รอยจูบพวกนี้ น่ารังเกียจที่สุด!

เขาลงแรงขัดถูตัวเองในอ่างอาบน้ำ ธามเทแชมพูอาบน้ำลงอ่างจนหมดขวดแล้วก็ขัดๆ ถูๆ ทั้งตัว เขาอยากให้ตัวเองสะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่เพียงแค่แปะมือลงบนรอยพวกนี้ ความรู้สึกสกปรกมันก็ตอกใจอยู่ทุกครั้ง เขาไม่มีวันสะอาดได้อีกแล้ว

กำลังยืนมองตัวเองอย่างขัดใจ เสียงโวยวายหน้าห้องน้ำก็ดังขึ้นอย่างน่าหนวกหู

“ธาม!”
“ธามอยู่ในนี้ใช่มั้ย? ออกมาเจอพี่นำเดี๋ยวนี้เลย”
“เดี๋ยวนี้ธาม”
“ธาม ธาม!!!”


“อะไร!” ธามเปิดประตูออกมาด้วยอารมณ์โมโหไม่แพ้กัน สีหน้าของพี่นำที่ธามเห็นทำให้ธามแปลกใจอย่างมาก
มันเป็นสีหน้าที่โกรธ แต่สายตาของนำไม่ได้มองธามด้วยความโกรธ ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ

“หายไปไหนมา พี่นำเป็นห่วงมากรู้มั้ยครับ” แค่ประโยคเดียว ทำให้หัวใจธามถึงได้อ่อนยวบลงอย่างง่ายดายแบบนี้นะ เขาถูกดึงตัวไปกอดไว้จนนาน เมื่อพอใจพี่นำแล้วเขาก็ถูกดันตัวออก

“เป็นอะไรมั้ยครับ นายสุพิสุทธิ์ทำอะไรธามรึเปล่า”
“เขาพาธามไปที่ไหน บอกพี่นำได้มั้ย? ธามครับ ธาม”
“ธาม”

“นำ....ห่วงกันอีกเหมือนเดิมหรอ”

“ทำไมถามแบบนั้น พี่นำต้องเป็นห่วงอยู่แล้ว มากด้วย” ตอบแล้วก็ดึงไปกอดอีก...อุ่นดีจัง อุ่นกว่าผ้าห่มปิกัสโซ่อีก
“แล้วได้ทานอะไรรึยัง หิวมั้ยครับ”
“พี่นำยังไม่ได้นอนเลย แต่ช่างมันเถอะ แค่ธามปลอดภัยก็พอ”

“ทำไมนำไม่ได้นอนล่ะ” ธามถามพลางจ้องตาโรยของอีกฝ่าย ปรือจริงๆ ด้วย

“ก็พี่นำตามหาธามเมื่อคืน ลากไอ้โป๊ะไปด้วย ไอ้ห่านี่ต้องถูกเตะหลายทีเลย ปล่อยให้ธามไปกับนายนั่นได้ยังไง”

“เล่าหน่อยสิ” ธามบอกพลางจ้องอีกฝ่ายเขม็ง...เขาอยากรู้ว่าพี่นำเป็นห่วงเขายังไงบ้าง

“แล้วธามล่ะครับ ถูกรังแกรึเปล่า”

“นำบอกก่อนสิ”

“โอเค แต่ออกจากห้องน้ำดีกว่าเนอะ” พี่นำพูดพลางหัวเราะ แล้วก็ดันตัวธามมานั่งบนเตียงก่อนจะลงข้างๆ กัน จากนั้นก็เล่าสิ่งที่ธามอยากรู้ให้ฟังจนหมด

คำบอกเล่าของพี่นำทำให้ธามนึกภาพออกเลยว่าบ้านหลังนั้นที่พี่นำเห็นเป็นบ้านแบบไหน ปั๊มตรงไหน เวลาที่ฟ้ามืดนั้นมืดแค่ไหน และเช้ามืดที่พี่นำว่า ทำให้รู้สึกอุ่นใจได้มากเพียงใด

เขายิ้มนิดๆ เมื่อพี่นำช้อนคางให้สบตากันแล้วก็ดึงธามไปหอมหน้าผาก

“พี่นำเป็นห่วงธามมากนะครับ แล้วธามล่ะ ไปยังไงมายังไงถึงได้กลับมาที่บ้านเราได้”
“เขาทำร้ายเอารึเปล่า”

“แซนพาธามไปจากผับที่พี่โป๊ะพาไป”
“ธามไม่อยากไป แต่ก็ลงจากรถไม่ได้ แซนขับเร็ว พาไปทะเลก่อน”
“พัทยา อ่านจากป้ายเอา”
“แป๊บเดียวก็พากลับไปที่บ้านนั้น บ้านที่นำไปนั่นแหล่ะ”
“แซนบอกว่าบอกนำแล้ว นำบอกว่าไปสบาย” ตอนนี้พี่นำขมวดคิ้วนิดๆ แปลว่าพีนำไม่ได้พูดแบบนั้นสินะ งั้นแซนก็โกหก
“ธามก็เลยโกรธ”

“โกรธนายสุพิสุทธิ์มากมั้ยครับ”

“โกรธนำนั่นแหล่ะ ทำไมให้ธามไป นำก็รู้ว่าธามไม่ชอบแซน ธามเกลียดแซน”
“นำก็รู้ว่าเขามองธามแบบไหน ธามรังเกียจ”

“ธาม พี่นำไม่ได้พูดอะไรแบบนั้นเลย พี่นำยังไม่ทันได้พูดอะไรเขาก็วางสายไป”
“รู้มั้ยว่าพี่อยู่ไม่เป็นสุขตอนที่เขาบอกว่าธามจะนอนกับเขา”
“พี่นำทนไม่ได้จนต้องไปตามหา”
“และถ้าพี่นำกล้ากว่านี้ คงบุกไปเอาตัวธามออกจากบ้านนั้นได้”
“พี่นำขอโทษ”

“ช่างมันเถอะ นำยังห่วงธาม แค่นี้ก็พอแล้ว” ธามบอกแล้วยิ้มให้ เขาดันตัวออกห่างแล้วลุกจะออกจากห้อง แต่นำดึงเอาแล้วกดให้นั่งบนเตียงเหมือนเดิม จากนั้นก็จับธามถอดเสื้อ

“เฮ้ย! นำทำอะไร ไม่เอา ปล่อย!”

“เขาทำอะไรธามรึเปล่า ยังไม่ได้บอกพี่นำเลย”

“นำอย่า นำ ปล่อยธามเถอะ”
“นำ!”

แล้วพี่นำก็ปล่อยตามที่ธามบอก แต่เสื้อธามก็ถูกถอดออกไปแล้วเหมือนกัน

“รอยอะไร?”
“เขาทำหรอ”

“.............”

“ตอบพี่นำสิครับ นี่รอยอะไร”

“เกาคัน”

“พี่นำไม่ได้โง่ แล้วก็ไม่ได้เพิ่งโตเป็นผู้ชาย นี่มันรอยจูบ”
“เขาทำใช่มั้ย? แล้วนายนั่นทำอะไรธามอีก”

“ธามไม่อยากพูดถึง”

“ต้องพูดครับธาม”
“พูดออกมา”

“ไม่อยากพูด!”
“ไม่พูด มันสกปรก ธามสกปรกหมดแล้ว!”

“แค่พูด แล้วจะสะอาดเหมือนเดิม”

แค่พูดเนี่ยนะ มันจะสะอาดได้ยังไง อาบน้ำเป็นชั่วโมงยังไม่สะอาดเลย!
นำโกหก

“ธามครับ บอกพี่นำเถอะนะ”
“บอกสิครับ”

“เขาจูบ”
“หมดนี่แหล่ะ กัดด้วย”
“ทั้งหมดเลย”
“ขยะแขยงทุกอย่าง”
“เกลียดมัน ธามเกลียดมัน! เกลียด เกลียด เกลียด!!!”

“โอเค เกลียด ธามเกลียดเขา เกลียดนายสุพิสุทธิ์”
“ธามไม่ได้เกลียดตัวเอง”
“โอเคนะ ตัวธามไม่เปื้อนเลย”

“..............”

“เข้าใจมั้ยครับ”

“แต่สกปรกไปแล้ว”

“ล้างเอา ล้างง่าย ล้างกี่หนก็ได้”
“พี่นำทำได้ ธามเองก็ทำได้”
“แต่ใจธามต้องไม่เปื้อนไปด้วย”
“เกลียดเขาแล้วก็จบ ก็พอ”
“ให้จบที่ความรู้สึกเกลียด เกลียดไปแล้ว เหตุการณ์นี้จบแล้ว”
“จากนี้ไป มันก็อีกเหตุการณ์หนึ่ง ไม่ต้องไปนึกถึงอีก”
“นะครับ”

“พูดง่ายนี่” ธามเถียงหน้างอ

“เชื่อพี่นำเถอะ”

“...........”

“เดี๋ยวพี่นำลบให้ ดีมั้ย? เชื่อพี่นำมั้ย”

“ลบได้หรอ” ธามถาม และทั้งที่ยังสงสัย เขาก็ยอมแผ่ตัวลงนอนตามแรงที่นำดันเบาๆ เมื่อนอนหงายมองเพดาแล้วธามถึงได้รู้ว่าพี่นำลบรอยพวกนี้ด้วยปากพี่นำเอง

จุดอุ่นๆ เกิดขึ้นตามหน้าท้อง หน้าอก ซอกคอ เมื่อถูกจับให้นอนคว่ำหน้า จุดอุ่นก็เกิดขึ้นทั่วแผ่นหลังและบั้นเอว

จูบจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพี่ชายเหมือนกัน
จูบของผู้ชายด้วยกัน
แต่เมื่ออีกฝ่ายคือพี่นำ ความรู้สึกรังเกียจ ขยะแขยงไม่ผุดมาแทงใจธามสักนิด
ตรงกันข้ามด้วย....

ความรู้สึกของธามตอนนี้ ตรงกันข้ามกับ “การรังเกียจ” โดยสิ้นเชิง



cut


แฮ่!! หายไปเรียน หายไปเตรียมสอบ หายไปสอบ ตอนนี้ได้ปิดเทอม (2 เสาร์-อาทิตย์เรียกปิดเทอมมั้ย?)
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ จะเร่งขมวดปม(มีด้วยหรอ) แล้วค่ะ

ติดตามกันต่อไปนะคะ ^p^
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: aiLime13 ที่ 21-09-2013 20:11:57
 :katai1:


เป็นห่วงน้องธามมมม ฮืออออออออ
ตอนหายไปใจหายใจคว่ำ นึกว่าจะไม่ได้กลับมาแล้ว โฮ

เกลียดอิพี่แซนนี่ด้วยอีกคน!! โฮ
สงสารน้องธาม โดนรังแกอีกแล้ว พี่นำลบเลยนะ! ลบออกไปให้หมด! ลบๆๆ
 :m31: :m31: :m31:

อยากให้พี่นำกับน้องธามเข้าใจความรู้สึกของตัวเองกันมากกว่านี้
เผื่อว่าอะไรๆ มันจะง่ายขึ้น เผื่อว่าจัคุยกันง่ายขึ้น แต่อีกใจก็หวั่นๆ กับน้องธาม
กลัวน้องกลัวพี่นำ T_____T แต่น้องคงไม่กลัวหรอกเนอะ ใช่มั๊ยคะ? ฮือออออ

พาสนี้ซีเรียสตอนน้องหายไป T__T
แต่ขอบคุณพี่โป๊ะที่มาเป็นตัวฮา คือทั้งลุ้นให้หาตัวน้อง ทั้งขำเวลาพี่โป๊ะกับพี่นำด่ากัน

หวังว่าตอนหน้า พี่นำจะลบรอยอิพี่แซนออกไปให้หมดนะ อย่าให้ใครมาทำอะไรน้องอีกนะ
น้องมีแต่พี่นำคนเดียวนะ โฮ T______T
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 21-09-2013 20:26:40
ไอ้เหี้ยโป๊ะ! ตัวละครตัวนี้เป็นตัวที่เราไม่ชอบมันตั้งแต่พี่หนึ่งกับเจม
บางทีก็ดูปัดความรับผิดชอบ บางทีก็กล้าบ้าบิ่นดี
แต่ตลกตอนที่ชอบแซะพี่นำ แต่อย่านะนี่เอฟซีพี่นำนะไอ้โป๊ะ

ตอนแรกก็แอบหวังว่าอย่าให้พี่นำเป็นคนดีแบบพาน้องไปอาบน้ำ
แต่สวรรค์ก็เป็นใจเค้าลบรอยเองเลยค่า เลอค่าสุด
พี่ชายน้องชายเค้าไม่ทำกันงี้นะผู้นามมมม
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 21-09-2013 21:09:18
พี่นำลบรอยให้น้องธาม ให้ลืมไปเลย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 21-09-2013 21:44:44
เกลียดพี่แซนจริงๆเลย สงสารธามจริงๆดีนะที่พี่นำลบรอยให้ :hao6:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 21-09-2013 22:07:48
โอ่ยยยยยย

ใจหายใจคว่ำหมดน้องธาม

 :katai1:

ขวัญเอ๊ยขวัญมานะลูกนะ
#ห้ะ?!

แต่ตรง"นำบอกให้ธามไปสบาย" ขำพรืดลืมเครียดเลย

มันใช่คำนี้หรอวะ  :z3:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 21-09-2013 22:25:56
ตามอ่านหลายตอน แต่เค้าว่าน้องธามกับพี่นำคืบหน้าไปเยอะแล้วล่ะค่ะ :o8:
โถๆ กอดปลอบธามก่อน โดนอิพี่โรคจิตจับจูบทั้งตัว พี่นำเลยต้องตามมาลบรอยให้ จะสร้างรอยใหม่ด้วยเลยไหมคะ :haun4:
อย่าปล่อยน้องไว้กับใครอีกนะพี่นำ ธามเกลียดแซนแต่ชอบอยู่กับพ่นำนะ ไม่งั้นนำแย่ ห่วยแตกนะ :jul3:
น้องธามน่ารักตรงภาษาไทยอ่อนแอนี่แหละ :laugh:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 21-09-2013 23:26:23
พี่นำต้องสร้างความทรงจำดี ๆ ให้น้องแทนเรื่องแย่ ๆ ที่เคยได้รับมา
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 22-09-2013 10:32:15
วิธีลบพี่นำนี่เอาใจไปเลย
อีตาแซนมันโรคจิตจริงๆ สงสารน้องมากเลยที่ถูกเอาตัวไป
แต่น้องธามก็เข้มแข็งมากเลยนะคะ
เป็นเด็กดีจริงๆ  นำต้องดูแลน้องให้ดีกว่านี้เข้าใจไหม เฮ้อ
รออ่านตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 26-09-2013 18:16:44
  ขวัญเอ๊ยขวัญมานะน้องธามน๊าาาาา  กลับมาสู่อ้อมอกพี่นำนะ
 :mew6:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 26-09-2013 20:48:56
น้องธามมม.!! น้องน่ารักมากกกก เป็นเด็กพูดไม่รู้เรื่องที่น่่ารักมากกกก
สงสารน้องสุดๆ โตมาแบบเบี้ยวๆ เลยนะเนี่ย มีครอบครัวมีพี่ชายที่มีปัญหาทางจิตอย่างแซน !!!
ละคือ .... ไอ้โป๊ะคน ..... เป็นตัวปัญหามากไปมั๊ย ดูไม่ทุกข์ร้อนไม่รู้สึกว่าตัวเองผิด -_- เพลียนะ
แต่ฉากลบรอยจูบ แบบว่าาาาา อรั๊งงงงงงง เขินนนนนนน
น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก
>//////<
คิดถึงพี่หนึ่งกับหมาเจมด้วย โผล่มาบ่อยๆนะ ฮิฮิ
ผู้นำเอาน้องธามไปฝากไว้กับพี่หนึ่งกับเจมเหอะ
อยู่กับโป๊ะละแบบ ไม่น่าไว้ใจ
น้องธามจะได้รู้จักไอ้'สิ'ด้วย กร๊ากกกกกกกกกก

ที่น้องธามเคยพูดว่าพี่นำมีน้องคนใหม่เนี่ย หมายถึงหมาเจมรึเปล่า ?? สงสัยๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: zeazaiz ที่ 27-09-2013 02:29:18
เห้ย นำยังไม่รู้ใใจตัวเองอีกเหรอ นี่มันเกินว่าพี่น้องนะเห้ย
ธามน่ารักน่าชังเหลือเกิน วิธีการพูดเอาแต่ใจกับพี่นำนี่เอาใจเจ๊ไปเต็มๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 27-09-2013 03:03:33
แซนด์แมร่งน่ากลัวหว่ะะะ -3-
ชอบเวลาธามพูดอ่ะ น่ารักดี 5555.

ติดตามๆๆ :3
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: KOWPOON ที่ 27-09-2013 08:31:43
 :mew2:  กอดพี่นำ  กอดน้องธาน   
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 12 (15-10-13)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 15-10-2013 23:05:14
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 12



ธามนี่แสบใช่ย่อย ครั้งก่อนที่นายสุพิสุทธิ์ลวนลามที่ไต้หวันก็แทงไป 1 แผล รอบนี้ถูกพาไปนอนเล่นเฉยๆ ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ ธามก็เอาโคมไฟฟาดหัวแล้วค่อยหาทางหนีออกมาตอนเช้าแล้ว

เขานั่งฟังรายละเอียดระหว่างตัวยุ่งเก็บของส่วนตัวในห้องเขามากองรวมกันไว้ที่เตียง สงสัยเหมือนกันว่าจะทำอะไร

“รู้สินะ แท็กซี่ก็งงธามด้วย ธามก็งงด้วย”
“ดีว่าโทรมาหาจู ให้จูบอกทาง จูนี่เก่งเดอะเบสท์เลย รู้หมดเลย กูเกิลแมพก็ไม่สู้”

อื้อ! พูดถึงแมพ ผู้นำลุกจากโต๊ะทำงานมาคว้าโทรศัพท์ธามไปถือไว้แล้วบอกเจตนา
“ธามครับ แชร์ไอ้ตัว find my iphone กับพี่นำหน่อยสิ”
“เวลาธามหายไป พี่จะได้ตามจากโทรศัพท์ได้”

“ธามไม่หายหรอก ธามจะระวังมากๆ แล้ว”
“เมื่อคืนนี้เผลอนิดเดียว อีกอย่าง นำก็จะไม่ให้ธามหายไปอีกนี่”

“ก็ใช่ แต่ก็กันไว้ดีกว่าแก้ ธามหายแล้วค่อยล้อมคอกมันไม่เวิร์ค”

“อะไร? คอกอะไร? ไม่รู้”

“เอาน่า ทำสิ ทำเลย ทำตอนนี้เลย” เขาคืนโทรศัพท์ให้ธามแล้วก็ยื่นโทรศัพท์ตัวเองให้ ผู้นำแหวกกองของส่วนตัวของธามออกแล้วนั่งเคียงลงบนเตียงด้วยกัน มองน้องกดนั่นนี่ไม่นานก็บอกไอดีตัวเองและพาสเวิร์ดของตัวเองให้น้องรู้ไว้ ไม่ลืมเมมของธามเอาไว้ในเครื่องตัวเองด้วย เขาโล่งใจนิดหน่อย ตอนนี้กำลังครุ่นคิดว่าจะใช้ชีวิตที่ต้องห่วงธามด้วย และห่างธามด้วยยังไงดี

เหตุที่ต้องห่างกัน ก็เพราะเขาอยากให้ธามได้โตด้วยตัวเองบ้าง
เขาควรดูแลน้องห่างๆ...อย่างน้อยก็ควรห่างกว่านี้ แต่ปัจจัยที่ชื่อว่านายสุพิสุทธิ์ก็ทำให้เขาไม่กล้าปล่อยมือ

“อื้อนำ”

“ครับ”

“ธามคิดดีแล้ว อยากขับรถ”
“เงินที่ป้าณาให้ไว้ พอซื้อรถให้ธามได้มั้ย คันเล็กๆ ก็ได้” เด็กยุ่งคนนี้ไม่เชื่อว่าตัวเองมีมรดกหลักร้อยล้านสินะ

“ขับรถ...เป็นหรอครับ”
“แล้วรู้ทางหรอ” เขาถามพลางใช้หัวธามเป็นที่วางมือ ผมนุ่มดีแฮะ

“ก็ต้องรู้ ควรรู้ด้วย ธามจะได้โตขึ้น นิดเดียวก็ดี”
“นำสอนทางด้วยนะ เอาทางไปทำงานกับโป๊ะก่อน”
“แล้วถ้าธามมีรถแล้ว ธามจะกลับมาหานำเอง ไม่ว่าอยู่ตรงไหน ธามก็จะกลับมา”
“นำรอรับได้นานมั้ย”
“หมายถึง....”

“พี่นำไม่รอหรอก ไปด้วยกันดีกว่า”
“เป็นห่วงน่ะ”
“เรื่องรถ เดี๋ยวพี่นำพาไปดูก็แล้วกันนะ วันนี้พักเถอะ” เขาบอกพลางโคลงหัวธามไปมา อดไม่ได้ที่ดึงตัวมาจนชิดแล้วหอมขมับเบาๆ เอาล่ะ เขายอมรับแล้วว่าความรู้สึกที่มีให้ธาม มันไม่ใช่แค่ฐานะน้องชาย

แต่ว่า เขามีสิทธิพัฒนามันแน่หรอ?
จริงอยู่ที่มันคือความรู้สึกเขา จะทำยังไงกับมันก็เรื่องของเขา แต่มันจะเป็นการเอาแต่ใจเกินไป และหากเขาเอาแต่ใจมากไป เขาก็คงไม่ต่างจากนายสุพิสุทธิ์นัก

“แล้วนี่รื้อของออกมาทำไมครับ” ผู้นำละความสับสนไว้และหันมาสนใจมือโกยต่อ

“กลับห้อง”
“จะไปอยู่บ้านนั้น”

“บ้านไหน!” เขาใจหายวาบ คำว่าบ้านนั้นของธามคือบ้านไหนกัน? อย่าบอกนะว่าบ้านนายสุพิสุทธิ์นั่น!

“บ้านที่เคยอยู่ไง บ้านเล็ก”
“อุตส่าห์จัด จะไปอยู่นานเลย เงียบดี”
“นี่ธามมีงานเพิ่มด้วย พี่โป๊ะให้ทำเยอะเลย”
“ขอยืมโน้ตบุ้คนำได้มั้ย”

โล่งใจ....แล้วมาทำเก็บของอะไรใหญ่โต ของส่วนตัวที่บ้านเล็กก็มีหมดแล้วทั้งนั้น ผู้นำพยักหน้ารับคำแล้วออกแรงช่วยเก็บของใส่กล่องที่ธามไปขุดมาจากไหนก็ไม่รู้ ช่วยกันอยู่ไม่นานธามก็แบกกล่องนึงกลับไปบ้านเล็ก ส่วนเขาก็ช่วยแบกอีกกล่องและตามไปติดๆ

ป้าจูโผล่มาดูอย่างตกใจ แต่พอรู้ว่าสองพี่น้องจะไปไหนกัน แกก็ยิ้มให้แล้วบอกให้ธามเกิดความอยากรู้อยากเห็นเพิ่มขึ้น

“ป้าทำปั้นสิบให้ คุณธามชอบทานมั้ยคะ”

“อะไรคือปั้นสิบ ปั้นสิบเอ็ด ปั้นสิบสองมีมั้ย? อ่อ หรือเป็นปั้นโหล”
“โห! ปั้นเป็นโหลเลย” เพ้อเจ้อที่สุดล่ะตัวยุ่ง!  ผู้นำหัวเราะพลางส่ายหน้าระอาความอ่อนแอทางภาษาแต่จินตนาการไร้ขอบเขตของธาม ป้าจูเองก็หัวเราะอย่างเอ็นดูเหมือนกัน

ถึงบ้านเล็กแล้วเขาก็กลายเป็นผู้ใช้แรงงานทันที ไม่รู้ธามฮึดอะไรนักหนา ถึงได้จับนั่นย้ายไปตรงนี้ เอาไอ้นี่ไปวางตรงนั้น แต่ผลสรุปแล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับสู่ที่ทางที่เคยวางอยู่ ด้วยการตัดสินใจของเขาเองทั้งหมด

ตัวยุ่งหน้าคว่ำ แต่ก็นิดหน่อยเท่านั้น พอแผ่หลังลงเตียงได้ก็ทำท่าจะหลับไปอีกรอบ ร้อนถึงเขาก็ไปกระตุกขาเรียกสติ

“ไม่หลับครับ เดี๋ยวคืนนี้ก็ไม่เป็นอันนอน”
“เหนื่อยก็ไปล้างหน้า แล้วไปทานของว่าง”

“ให้จูยกมาให้ทีสิ”
“ได้มั้ย”

“งั้นเดี๋ยวพี่นำไปเอาให้เอง”

“ได้หรอ? รอนะ” ตัวยุ่งจริงๆ เขาโยนขาธามไปหล่นบนเตียงคู่กับขาอีกข้าง จากนั้นก็เดินกลับบ้านใหญ่มาขอขนมปั้นสิบจากป้าจู แกก็ใจดียืนชี้ให้ดูว่าถาดไหนไส้ไก่ ถาดไหนไส้ปลา บอกตรงๆ ว่าเขาไม่เคยรู้เลยว่ารสชาติมันต่างกันยังไง แล้วตัวยุ่งจะรู้เรื่องมั้ยล่ะนั่น

กลับมาเจออีกที ธามก็ดื้อหลับไปแล้ว ท่านอนแปลกๆ กลับมาสู่ธามอีกหน ไอ้ท่าขดเป็นตัวหอยม้วนนี่เขาไม่รู้จะแก้ยังไงจริงๆ ผู้นำวางถาดขนมไว้ที่โต๊ะทำงานแสนโล่งของธาม โน้ตบุ้คเครื่องเดิมนอนนิ่งอยู่อย่างโดดเดี่ยว เขาคงต้องซื้อเครื่องใหม่ให้ถ้าเจ้าตัวจะใช้มันทำงานจริงจังแบบนี้

เขาจับเจ้าดื้อให้นอนคลายตัว ฝ่ายนี้รู้สึกตัวตื่นแล้วปรือตามองเขานิดเดียวก็หลับตาต่อ

“พี่นำบอกว่าอย่าหลับไงครับ”
“ธาม เดี๋ยวคืนนี้นอนไม่หลับนะ ลุกไปล้างหน้าเถอะครับ บ่าย 2 แล้วด้วย”

“ก็ง่วง ขอ 10 นาทีเพิ่มนะ”
“นะนำ” ไม่พูดเปล่า ธามดึงมือเขาที่วางแปะตรงแก้มธามข้างที่มีลักยิ้มไปปิดตาตัวเองไว้ เขาเลยต้องยืนโน้มมองคนหลับอยู่อย่างนั้น

ผู้นำอมยิ้ม ใจเขาเหมือนมีปีกเล็กเด้งออกมาแล้วกระพือบินเบาๆ
ท่าจะเป็นเอามากนะไอ้นำ เขาอดแซวตัวเองไม่ได้ ระหว่างยิ้มก็ลองดึงมือตัวเองออกมา รอยยิ้มเขากว้างขึ้นเมื่อพบว่าธามไม่ปล่อยมือเขา ซ้ำเด็กยุ่งยังยิ้มมุมปากอีกต่างหาก....บอกแล้วไงว่าธามแสบใช่เล่น

เขาแกล้งกระแอมแล้วพูดลอยๆ
“ยืนมองธามหลับนี่เมื่อยชะมัดเลย พี่นำก็อยากนอนเหมือนกัน”

เด็กยุ่งปล่อยมือเขาแล้วตะแคงตัวทันที พื้นที่บนเตียงที่เกิดขึ้นกะทันหันถูกเติมด้วยความเต็มใจของเขาเอง
ความสุข เท่านี้เองน่ะหรอ
คิดว่าต้องมีต้นทุนมากกว่านี้เสียอีก

เขาหลับตาลงทั้งที่ไม่ได้เหนื่อยนัก ยืดแขนไปวางทาบเอวเล็กๆ ด้วยความเคยชิน และขาเขาก็มีอีกขาวางไขว้ทับไว้เหมือนเคย

จะห้องนี้ หรือห้องไหน
บ้านนี้ หรือบ้านไหน
แค่ได้อยู่ข้างๆ ธามเท่านั้น
ต้นทุนความสุขของเขา มีเท่านี้เอง


-------------------

พี่โป๊ะตกใจใหญ่ที่รู้เรื่องธามแบบลึกขึ้นนิดเดียว พี่นำบอกว่าไม่ต้องบอกใครเขาหมดหรอก เรื่องของธามก็คือของธาม ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก
ธามก็เลยบอกนิดเดียว บอกแค่ว่าแซนกับลุงพิสุทธิ์ชื่ออะไร นามสกุลอะไร บอกแค่นั้นเอง
รีแอคของพี่โป๊ะมากมายจนธามต้องหันหน้าหนีก่อนเวลาที่สบตากัน พี่โป๊ะชอบเอามือทาบอกแล้วก็ก้มหัว แล้วก็พูดว่ามาเฟีย! มาเฟีย!
นี่มันไม่ใช่เรื่องที่ธามอยากสนใจหรอกนะ ลุงพิสุทธิ์กับแซนจะเป็นอะไรในประเทศนี้ ธามก็ไม่อยากสนใจ ไม่เกี่ยวกันอยู่แล้ว...แต่ว่า....มาเฟียในประเทศไทย น่ากลัวอันตรายรึเปล่านะ?

“โป๊ะ อยากถาม”

“ครับ! ถามเลยครับ ผมไม่กล้าขัดใจคุณหนูธามอยู่แล้ว” ธามถอนหายใจเมื่อพี่โป๊ะทำท่าโอเวอร์อีกเหมือนเคย เขาเกาหัวแกร่กๆ ครู่เดียวก็ถามตรงๆ

“มาเฟียไทย ฆ่าคนผิดมั้ย หรือว่าพวกเขาก็คือพระเจ้าเหมือนกัน ที่ไต้หวันก็มีมากเลย”

“อืมมมม” พี่โป๊ะขมวดคิ้วใส่ แล้วก็ค่อยยิ้มให้ บอกตามตรง พี่โป๊ะไม่เหมาะกับการยิ้มเลยในสายตาธาม มันดูจิ้งจอก

“ไอ้หนู ห่วงไอ้นำอ่ะดิ”

“ห่วงสิ ธามจะได้ปกป้องได้”
“จะให้นำหายไปอีกคนไม่ได้หรอกนะ”

“แล้วทำไมถึงคิดว่าไอ้นำมันจะหายไป”

“ก็”
“ก็....”  ก็ถ้าลุงพิสุทธิ์กับแซนฆ่าคนไม่ผิด พี่นำกับลุงพิสุทธิ์ก็เป็นอันตรายน่ะสิ เดี๋ยวก็เหมือนป้าวีณาอีก ความผิดธามอีกแล้ว ไม่ดีหรอก

“ก็อะไร?”

“ก็ธามไม่อยากให้นำเป็นอะไรไม่ดี”

“ธาม พี่ถามจริงๆ เถอะว่ะ” จู่ๆ พี่โป๊ะก็เสียงเครียด เขาดึงตัวธามไปนั่งบนโซฟาตัวโปรด โอบไหล่ไว้ด้วย ซึ่งมันทำให้ธามรู้สึกอึดอัดจนต้องเขี่ยแขนพี่โป๊ะออกไป

“อะไรล่ะ”

“จะทำยังไงต่อ อยู่แบบนี้ดีแล้วหรอวะ”
“ลุงธามเป็นมาเฟีย ใครๆ ก็รู้ ไม่มีใครอยากมีเรื่องด้วย”
“แล้วแค่ลูกชายเขามาพาตัวธามไป ไอ้นำก็เต้นไม่เป็นท่า เกิดเขาทำอะไรมากกว่านี้ล่ะ”
“บอกตรงๆ พี่เป็นห่วง ทั้งธาม ทั้งไอ้นำนั่นแหล่ะ”

“............” แล้วจะให้ธามทำยังไงหรอ? ธามทำอะไรได้

“ครั้งนี้ไม่มีอะไรรุนแรงก็ดี แต่ไอ้นำมันคงไม่ยอมปล่อยธามไว้ห่างตัวอีก”
“แล้วจะใช้ชีวิตกันยังไง ผูกขาติดกันไว้หรอวะ ทำยังกับไอ้หมอมันมีเวลานัก เท่านี้งานก็ยุ่งตายโหง”

“............”

“คิดไว้รึยังว่าจะทำอะไรต่อ”

“คิดมาตลอดนั่นแหล่ะ ถ้าแซนทำมากกว่านี้ ถ้านำเป็นอะไรนิดเดียว ธามจะปกป้องเอง”

“ยังไงล่ะไอ้ลูกหมา ปกป้องตัวเองยังไม่ได้” พี่โป๊ะว่าแล้วก็ผลักหัวธามเบาๆ

เขามีคำตอบอยู่แล้ว แผนนี้มันอยู่ในหัวมาแต่ไหนแต่ไร มันเป็นสิ่งเดียวที่ธามทำได้โดยไม่เดิอดร้อนใครเลย
ธามจะไปเอง หากการมีอยู่ของธามมันสร้างปัญหานัก ธามจะไปเอง

เขาหันมองหน้าพี่โป๊ะ แล้วก็ลุกหนีกลับไปยังโต๊ะทำงาน ธามหาข้อมูลตามที่พี่โป๊ะสั่ง แปลภาษาจีนกลางเป็นอังกฤษให้ จับตัวเลขใส่ตารางให้พี่โป๊ะย่อยข้อมูลได้


เย็นมากแล้วกว่านำจะมารับ หิวก็หิว แต่ก็ไม่อยากไปกินกับพี่แนน ถึงมันจะหอมๆ ก็เถอะ
ก็นำบอกว่า “เดี๋ยวไปกินข้าวกัน รอพี่นำแป๊บนึง” ธามก็ต้องรอ แป๊บนึงอีกแล้ว และอีกแล้วก็ต้องรอ

เกือบทุ่ม พี่นำถึงได้โทรเข้ามา ธามเลยปิดคอมพิวเตอร์แล้วสะพายกระเป๋าพาดลำตัวแล้ววิ่งลงไปหน้าบริษัททันที
ยามถามธามละเอียดว่ากลับยังไง กับใคร คนมารับอยู่ที่ไหน และไม่ยอมให้ธามเดินออกจากบริษัทด้วย เหตุผลคือ “คุณโปรสั่งไว้ ไม่ให้คุณออกไปกับคนแปลกหน้าเด็ดขาด ให้คนที่มารับมาโชว์หน้ากับผมด้วยครับ คุณโปรเอารูปไว้ให้ผมเทียบแล้ว”

ก็งงๆ เหมือนกัน แต่ธามก็ทำตามที่ยามบอก โทรบอกนำแป๊บเดียวนำก็เดินก้าวขายาวๆ มาหา วันนี้ไม่ใส่แว่นด้วย เนคไทด์หายไปแล้วด้วย เมื่อเช้ายังใส่อยู่ ธามจำได้

“ไงครับธาม”
“พี่ครับ ผมเอง เพื่อนไอ้โปร”

“อ้อ! คุณหมอนำนี่เอง ครับ ครับ เชิญครับ”

“โปรสั่งไว้หรอครับ”

“ครับ บอกว่าถ้าไม่ใช่คุณหมอนำ ห้ามให้คุณธามไปกับใครเด็ดขาด หัวเด็ดตีนขาดก็ห้าม”

“ขอบคุณนะครับ” ผู้นำเอ่ยขอบคุณก็คว้าตัวธามติดมือกลับไปที่รถทันที เขากังวล กลัวว่าธามจะหิวแล้วอารมณ์บูด แต่พอหันไปก้มมองหน้าจึงเห็นหน้าน้องไม่ได้อารมณ์เสียนัก

“หิวมั้ยครับ พอดีติดเคส มาช้าไปหน่อย”
“อยากกินอะไรเป็นพิเศษมั้ย”

“ไม่รู้สิ นำกินอะไรล่ะ แต่ธามก็ไม่ค่อยหิวมากหรอก พี่แนนให้กินขนมซัมติงเมื่อกลางวัน”

“กินสุกี้มั้ย พี่นำชอบอยู่เจ้านึง เจ้าดั้งเดิมเลย”

“กิน”

“ดีครับ” เขายิ้มให้เด็กว่าง่าย ผู้นำคว้ามือธามมาจับกุมไว้แล้วก็พาไปที่รถ ในซอยจอดรถข้างบริษัทโป๊ะมีรถซิ่งสวนออกมา เสียงดังกระหึ่มของเครื่องยนต์ทำให้เขาไหวตัวทันแล้วดึงตัวธามไว้ก่อน ดูเหมือนคนขับรถจะมีมารยาทอยู่บ้าง ถึงได้ชะลอเมื่อขับผ่านพวกเขา ผู้นำมองกระจกดำสนิท เขาไม่ได้ส่งสารทางสายตาเพราะไม่รู้ว่ามองส่วนไหนของใบหน้าคนขับอยู่ สุดท้าย รถคันนั้นก็ผ่านหน้าพวกเขาไป

“แต่งซะเสียของหมด ไม่รู้ว่าแนวไหนกัน” เขาส่ายหน้าเพราะไม่ถูกรสนิยมในสิ่งที่เห็น พวกแต่งรถ ต่อท่อ เติมเครื่องเสียงนี่ต้องคุยกับมือโปรคนเดียว อย่างเขา อย่างที่หนึ่ง ไม่เคยเข้าถึงแก่นจิตใจคนกลุ่มนี้

“พังค์ล่ะมั้ง แซนก็ชอบแต่งรถ เสียงดัง อับด้วย”

“หรอครับ” ไม่รู้จะขุ่นขึ้นมาทำไมตอนที่ได้ยินธามเอ่ยชื่อนายคนนั้นจากปาก แต่เขาก็ขุ่นไปแล้ว ผู้นำเป่าปากทอนอารมณ์ที่เริ่มปุดๆ ออกจากหัว แล้วก็พาธามไปที่รถ

มื้อนี้เขาพาน้องไปกินสุกี้ร้านโปรดตั้งแต่ยังเด็ก สูตรน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ไม่ทำให้ผิดหวัง ดูเหมือนธามก็จะชอบกินเหมือนกัน ซดเอาซดเอา วุ้นเส้นดีดแก้มจนเปรอะอยู่หลายที แต่ธามก็ไม่ใส่ใจ นี่น่ะหรอคนบอกว่าไม่ค่อยหิว

“นำอิ่มแล้วหรอ”

“ก็ อิ่มแล้วครับ ธามเอาอะไรอีกมั้ย”

“หมูนิ่ม กับบะหมี่เขียว”

“หมี่หยก”

“ก็สีเขียว อี๋เลย ไม่ถูกหรอ”

“ก็...ถูกก็ได้ เดี๋ยวพี่นำสั่งให้”

“ไชเท้าด้วยนะนำ ป้าณาเคยต้มให้กินแบบนี้ ทำอันนี้เองด้วย คล้ายๆ แบบนี้แหล่ะ ธามชอบ”

“.........” เขายิ้มพลางพยักหน้ารับฟัง สายตาผู้นำมองตามนิ้วผอมบางที่ชี้ไปที่ถ้วยน้ำจิ้มสีชมพูอมส้ม

“กลับจากโรงเรียนเดือนละครั้งถึงได้กิน อร่อย”

“ครับ”

“ถ้าอยู่ด้วยกันนานก็คงดี” หยุดเคี้ยวซะแล้ว เขาไม่คิดว่าการพามากินสุกี้จะทำให้ธามหวนคิดถึงคนที่จากไปไม่มีวันกลับ ผู้ใหญ่คนเดียวในชีวิต คนที่ฟูมฟักเลี้ยงดูธามมา ต้องคิดถึงมากเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

“คุณน้าวีณาไม่อยู่แล้ว อยู่กับพี่นำนานๆ แทนได้มั้ยครับ?”

“..............” ธามไม่ตอบเขา น้องชายตรงหน้าหลบสายตาแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินต่อไป


ผิดปกติซะแล้ว แต่ว่า มันเริ่มไม่ปกติเมื่อไหร่กันล่ะ?


-----------------

กว่า 4 ทุ่มพวกเขาก็ถึงบ้าน ผู้นำเดินมาส่งธามที่บ้านเล็ก ส่วนเขาจะกลับไปนอนบ้านใหญ่ของตัวเอง และธามเองก็ไม่งอแงอะไร แต่ยังไม่ทันก้าวขาออกห่าง โทรศัทพ์ธามก็ส่งเสียงร้องสั้นๆ

“อ๋อ อีเมลล์”
“พี่โป๊ะสั่งหรอ ทำไมดึกแล้ว”

“ดูสิครับ เผื่อด่วน” น้องทำตามที่เขาบอก ลักยิ้มโผล่ขึ้นกลางแก้มเมื่อธามเม้มปากขมวดคิ้วอ่านข้อความเงียบๆ
“ว่ายังไงครับ หรือเมลล์ขยะ”

“ไม่ๆ ไม่จังค์”
“อ่า อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยน่ะ  บอกไทม์ไลน์ที่ต้องส่งรายงานสุดท้าย”

“เมื่อไหร่ล่ะครับ”

“the end of next month” น้องบอกเขาแล้วก็หน้ามุ่ย เห็นแล้วอดสงสัยไม่ได้

“แล้ว...ธามได้เริ่มต้นทำรายงานรึยังล่ะครับ”
“อีกไม่นานเลยนี่”

“ยัง”

งานเข้า....เขาอยากสอนศัพท์แสลงคำนี้ให้ธามรู้จริงๆ
ผู้นำขำหน้ามุ่ยๆ ของน้องแล้วก็ขยี้หัว เขาจับบ่าเล็กให้หมุนเข้าหาบ้านแล้วดันหลังให้เดินเข้าไป หน้ามุ่ยหันมายิ้มดีใจเมื่อเขาพูดว่า “งั้นเดี๋ยวพี่นำช่วยคิด ดีมั้ยครับ”

อีกครั้งที่ผู้นำต้องสะดุดจังหวะก้าวเดินของตัวเอง เสียงรถยนต์หึ่มแว่วดังมาแต่ไกลและผ่านหน้าบ้านเขาไปอย่างรวดเร็ว จริงอยู่ที่ซอยบ้านเขาซ่อนอยู่ใจกลางเมือง มีทางเข้า-ออก เชื่อมไปสู่ถนนสำคัญของกรุงเทพหลายสาย แต่ก็ไม่ค่อยมีรถยนต์ไร้มารยาทแบบนี้ผ่านมาบ่อยนัก

เขาหันมองหน้าบ้านที่เงียบสงบลงเช่นเดิมแล้ว แต่ไม่นานก็ต้องขมวดคิ้วอีกครั้งเพราะได้ยินเสียงเดิมวนกลับมาอีกครั้ง และเมื่อผ่านหน้าบ้านเขาครั้งนี้ รถเจ้าของเสียงดังหนวกหูก็ชะลอเครื่องยนต์ และค่อยๆ ผ่านหน้าบ้านเขาไป

กระจกดำมืดสนิทจนกลืนกับสีรถเลื่อนลงช้าๆ ผู้นำยืนมองอยู่ที่บ้านประตูบ้านเล็กที่เฉียงเข้ามาด้านข้างรั้ว เขาเห็นใบหน้าคนนั่งในรถไม่ถนัดเลย แต่พฤติกรรมที่คนคนนั้นทำ กลับทำให้เขาคิดระแวงเต็มตัว

บ้านเขาคงไม่ปลอดภัย หากมีใครก็ไม่รู้ถ่ายรูปบ้านของเขาแบบนี้



Cut


แฮ่ :mew5: ขอโทษค่า หายไปนานมากเลย หวังว่าจะยังไม่ลืมพี่นำกับน้องธามกันนะคะ
ช่วยติดตามต่อไปจนจบด้วยนะคะ

อ้อ! อีกเรื่องที่อยากถาม คือ ถ้าเราจะรวมเล่ม "ที่หนึ่ง&เจม" จะมีใครสนใจมั้ยคะ ส่วนการทำเล่ม เราอาจทำของเราเองแหล่ะค่ะ 10 เล่มก็หรูแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 12 (15-10-13)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 16-10-2013 00:19:20
อะรายยยยยยยยยยยยพี่นำอุตส่าห์รู้ใจตัวเองแล้วนะ
แต่ก็ยังไม่ปิ๊งปั๊งกันสักที คงเพราะไอ้แซนอะไรนั้น
เบื่อมันอะ เขี่ยบทมันทิ้งมันเล๊วเลวทั้งพ่อทั้งลูกบาย
แต่ธามก็มีความคิดจะทิ้งพี่นำตลอดเลย โอ๋ๆขวัญเอยขวัญมาอยู่กับพี่นำอะดีสุดๆแล้ว
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 12 (15-10-13)
เริ่มหัวข้อโดย: malula ที่ 16-10-2013 01:07:32
ผู้ร้ายขยันเหลือเกิน เลยไม่ได้หวานกันซะที
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 12 (15-10-13)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 16-10-2013 07:21:59
อิพี่แซน อย่ามายุ่งกับธามของนำนะ ไปไกลๆ ชิ่วๆ :m31:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 12 (15-10-13)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 24-10-2013 12:26:58
 :z10: คนแต่งจ๋าาาาา อยากิอ่านต่อแล้วน้า
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 12 (15-10-13)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 24-10-2013 16:32:11
ศึกภายนอกว่าหนักหนา ศึกภายในใจหนักกว่าหลายเท่า  :z2:
+ 1 ให้เป็นกำลังใจครับ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 12 (15-10-13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 24-10-2013 17:58:36
อะไรกันอีกเนี่ยยยยย

 :katai1:

พี่โป๊ะทำน้องคิดมากอีก
น้องคิดจะหนีพี่นำอีกแล้ว  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 04-11-2013 20:51:15
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 13


ธาม
ธามครับ ธาม!

ตื่นแล้ว ตื่นแล้วก็ได้
ธามนิ่วหน้าระหว่างผงกหัวขึ้นจากกองหนังสืออ้างอิงทั้งหลายที่หามาประกอบรายงาน ข้างๆ มือมีดินสอกดที่พี่นำให้ไว้ใช้นอนอยู่

“ธามครับ”

“ตื่นแล้วตื่นอีก” เขาขานรับแล้วยืดตัวบิดขี้เกียจ พี่ชายที่อยู่ในชุดพร้อมออกไปทำงานก้าวเข้ามาในห้องนอนแล้วยืนดอกมอง

“ไหวมั้ยครับ? ถ้าไม่ไหวก็ไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวโทรบอกมือโปรเอา มันเข้าใจอยู่แล้ว”

“ไม่ได้ วันนี้พี่โป๊ะประชุมบัดเจ็ท ต้องการข้อมูลจากธาม” นี่เสียงเขายานยืดขนาดนี้ได้ยังไง พี่นำฟังรู้เรื่องรึเปล่านะ?  ธามคิดพลางหรี่ตามองพี่ชายที่โค้งตัวมามองหน้า

“ขยันจังนะเรา”
“งั้นก็รีบตื่นครับ ลุกไปอาบน้ำ เดี๋ยวพี่นำไปส่ง”

“แล้วนำไม่สายหรอ ไม่อยากทำให้นำไปทำงานสายอีก” ธามนึกถึงเมื่อหลายวันก่อนที่รถติดมากๆ กว่าพี่นำจะไปส่งธามถึงบริษัทพี่โป๊ะก็เกือบสิบโมง แล้วระหว่างทางพีนำก็ถูกโทรตามตลอดเวลา ตอนนี้ธามยังรู้สึกผิดอยู่เลย

“ก็รีบสิครับ” พี่ชายสำทับด้วยน้ำเสียงใจดี ธามหาวตบท้ายอีกครั้งแล้วก็ลุกขึ้นเดินเกาพุงไปเข้าห้องน้ำ

“อื้อนำ”

“ครับ”

“อีก 2 อาทิตย์ต้องไปไต้หวัน ธามมีเงินพอจะซื้อทิ๊กเก็ตมั้ย ถ้าไม่พอจะขอเบิกเงินเดือนพี่โป๊ะ”

“บ้าหรอธาม ถึงไม่พอพี่ก็ออกให้”
“เดี๋ยวมาบอกรายละเอียดนะครับ พี่นำจัดการให้เอง ตอนนี้ไปอาบน้ำก่อน เช้านี้ป้าจูทำซุปไข่เจียวมาให้” ธามพยักหน้ารับแต่ยังไม่เดินไปไหน พอถูกจ้องมากๆ เข้า ธามก็โพล่งคำที่มันผุดขึ้นมาในหัวสมองบ่อยๆ ในช่วงนี้

“ขอบคุณนะนำ”

-----------------

“ไอ้บ้า ไอ้หน้าบานนนนนนน!” มือโปรพูดใส่หน้าเขาแล้วถือวิสาสะผลักหัวเขา จริงๆ ก็รู้สึกขุ่นอยู่เหมือนกันแต่ผู้นำไม่ได้โต้ตอบอะไร ก็เพราะว่าตอนนี้เขาไม่ว่าง เขายิ้มหน้าบานอยู่อย่างที่มือโปรพ่นใส่หน้าเมื่อครู่จริงๆ
“อะไรทำให้มึงหน้าบานได้ขนาดนี้วะ”

“ผมก็แค่ยิ้มปกติ” ผู้นำแก้ต่างให้ตัวเอง แต่ไม่ได้หุบยิ้มตัวเองลงเลย เขาถูกผลักหัวอีกครั้ง หนนี้เขายื่นขาไปเตะเพื่อนตัวดีที่ใต้โต๊ะเพื่อเอาคืน จากนั้นก็กางเมนูอาหารแล้วยิ้มให้ภาพอาหารดูน่าอร่อยราวกับมันชีวิต

“ไอ้นำ มึงเป็นอะไรเนี่ย ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่ได้ อีกนิดนึงบ้าแล้วนะเนี่ย”

“ฮื่อออ คุณจะมารู้ได้ยังไงว่าใครใกล้บ้า ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญกว่าคุณนะ”

“อีธ่อ อวดเรื่องเก่งกับคนบ้าเนี่ยนะไอ้หมอ”
“แล้วนี่เล่นบ้าอะไรวะ พาไอ้ธามมาส่ง แล้วก็ลากกูออกมากินข้าวเที่ยงเนี่ย”
“แล้วเมื่อไหร่น้องมึงจะเลิกมาทำงานสาย ถึงจะฝึกงานแต่ก็จ่ายเงินนะเว้ย! เด็กๆ คนอื่นมันจะว่ากูได้นะไอ้นำ”

“ขี้บ่นจังเลยโป๊ะ”
“อ่ะ สั่งข้าวเลย สั่งเลย”
“ผมเลี้ยงเอง”

“กร๊วกเถอะ อย่ามาทำเป็นใจใหญ่ เลี้ยงกูมันหน้าที่มึงอยู่แล้วไอ้หมอ”
“น้องๆ สั่งอาหารที”

พอมือโปรหันไปสนใจเมนูอาหารแล้ว ผู้นำก็ขยับแว่นมองเมนูบ้าง ตอนนี้เขากำลังจ้องน้ำพริกลงเรืออยู่ แต่ใบหน้าเขากลับยิ้มให้กับเหตุการณ์เมื่อสายที่เพิ่งผ่านมา

“ขอบคุณนะนำ” เด็กดื้อชื่อว่าธามพูดแล้วยิ้มอวดลักยิ้มก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป นั่นก็ปลื้มใจโดยไม่มีเหตุผลแล้ว แต่ตอนกินข้าว ตอนขับรถมาส่ง ธามทำตัวน่ารักถูกใจเขาจนอดลูบหัวเล่นไม่ได้ มือเจ้ากรรมมันก็ดันอยากรู้ว่าแก้มนุ่มเท่ากับผมนิ่มหรือเปล่า ก็เลยลูบดูเล่นๆ
ต้นเหตุเกิดตรงนี้แน่ๆ เลย
สาเหตุที่เขานั่งยิ้มเป็นบ้าเป็นหลังอยู่กับมือโปรที่ไม่เคยเข้าใจความสุนทรีย์ทางความรู้สึกก็คือ ธามเอียงแก้มมาซบมือเขาแล้วส่งยิ้มให้ ดวงตาหยีตี่ลงกว่าเดิมตอนที่ธามยิ้มลา
นั่นแหล่ะ ยิ้มที่น่ารักที่สุด

“เอ้าเฮ้ย! เพ้ออะไรอีกไอ้หมอ ไอ้บ้า!”

“ฮ่าๆๆๆ ก็มันน่ารัก” เขาตอบเท่านี้แล้วหัวเราะร่วน ทั้งหัวเราะตัวเองและหัวเราะมือโปรที่ทำหน้าบูด เนื่องจากกระจ่างอะไรสักอย่าง

“โอเค ไม่ยิ้มแล้วไม่ยิ้ม”
“เลือกได้แล้วหรอ? กินอะไรล่ะ”

“สั่งไปทุกน้ำพริกนั่นแหล่ะ กินแต่เป็ดแต่หมูที่บ้าน เบื่อชิบหาย”
“มึงเอาไร”

“กินที่คุณสั่งนั่นแหล่ะ”
“เออ เดี๋ยวมีเรื่องปรึกษา กินก่อน”

“โอเค ค่อยเหมือนมึงหน่อย เมื่อกี้แม่งหลอน อย่ายิ้มกับกูแบบนั้นอีกนะ!” มันทำท่ากอดตัวเองแบบคนขี้กลัวด้วย ผู้นำผงกหัวรับคำแล้วนั่งฟังมือโปรพูดนั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อย หลักๆ ก็ไม่พ้นเรื่องที่หนึ่ง เรื่องพีช ดูเหมือนมือโปรจะมีเรื่องกังวลเหมือนกัน แว่วๆ ว่าใกล้วันครบรอบวันจากไปของน้องแพรอีกครั้งแล้ว

พอเห็นว่าเพื่อนอิ่มหนำแล้วผู้นำก็เข้าเรื่อง แต่ดูเหมือนเรื่องที่เขาไหว้หวานมือโปรจะหนักหนามากสำหรับเพื่อน

“มึงว่าอะไรนะ?”

“ผมบอกว่า ฝากธามที”
“แม่คุณก็ทำธุรกิจที่ไต้หวันไม่ใช่หรอ? ไปเยี่ยมสิ ธามต้องกลับไต้หวันอีก 2 อาทิตย์ ไปพร้อมธามทีนะ”

“ไอ้หมอ....นี่อำกันเล่นรึเปล่าวะ?”

“เปล่า ขอร้องจริงๆ”

“มึงกำลังขอร้องให้กูไปไต้หวันกับน้องมึง ทั้งที่กูไม่มีธุระอะไรที่ไต้หวันเลยเนี่ยนะ”

“ใช่ โป๊ะเข้าใจถูกแล้ว”

“ยังมีหน้ามาตอบสุภาพ ห่า ไม่เอาหรอก!”

“โปร แล้วธามจะไปยังไง จะอยู่ยังไง ช่วยดูแลหน่อยได้มั้ย”
“หรือถ้าคุณมาตรวจคนไข้แทนผมได้ ก็มาทำงานแทนผม เดี๋ยวผมไปดูแลธามเอง”

“ปัญหาแม่งไม่ได้อยู่ที่ใครจะไปดูแลธาม”
“ปัญหาคือมึงไม่เคยเชื่อเลยว่าน้องมึงดูแลตัวเองได้”
“นี่มึงคิดว่าธามมันอายุเท่าไหร่ มันใส่บ๊อกเซอร์นะเว้ย ไม่ได้ห่อแพมเพิร์ส!”

“ก็มันอันตราย”
“คุณไม่เข้าใจหรอก” นี่เขาเริ่มงอนแล้วนะ ทั้งที่คิดว่าน่าจะพึ่งพามือโปรได้ แต่กลับปฏิเสธกันไม่ใยดี รู้แบบนี้ลองไปหาที่หนึ่งก่อนดีกว่า

“อันตรายยังไง ระบุ เกิน 5 ข้อจะรับไว้พิจารณา”

“โอเค ข้อแรก ที่นั่นไม่มีผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้มาดูแลธาม ถึงมีบ้านอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว แต่ปัจจัยแวดล้อมก็อันตรายอยู่ดี ข้อสองเราไม่รู้เลยว่าคนประเภทไหนรอธามอยู่ ข้อสาม ธามอาจมีเรื่องติดขัดระหว่างเดินทาง ข้อสี่ ธามเพลีย อยากให้พักผ่อนบนเครื่อง คุณก็ไปนั่งดูให้นอนสบายๆ หน่อย ข้อห้า....”

“ข้อห้าอะไร?”

“ผมเป็นห่วง”

“...........”

“ผมก็ไม่ได้อยากรบกวนใครนักหรอก แต่ธามเข้ากับคุณได้นี่”
“ได้มั้ยโปร”

“เฮ้ออออ”
“สองพี่น้องนี่แม่งวุ่นวายจัง วันก่อนผมถามเรื่องเกี่ยวกับมาเฟียพ่อลูกนั่น ธามมันก็ว่าถ้าพวกนั้นทำให้คุณอัตรายมันจะจัดการ แต่ก็ไม่ได้บอกว่าจะทำยังไง แล้วนี่คุณก็มาฝากฝังมันไว้กับผมอีก”
“ตรงๆ เลยนะไอ้หมอ ลางานแล้วไปดูแลด้วยตัวเอง”

“ลากันง่ายๆ ซะที่ไหน”

“ลาๆ ไปเถอะ เชื่อกูเถอะ”
“อ้อ ของหวานขอสั่งกล้วยบวชชีหิมะนะ กูอยากเห็นชีหนาว”

มุกอะไรก็ไม่รู้ เขาไม่เข้าใจหรอก ตอนนี้ผู้นำนั่งขมวดคิ้วเพราะมือโปรบอกชัดเจนว่าไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ถามใจเขา เขาก็อยากไปดูแลธามเองอยู่แล้ว แต่ไม่รู้จะลางานได้รึเปล่า เรื่องนี้คงต้องขอหมอปันก่อน แต่ตงิดว่าจะไม่อนุญาตแฮะ

-----------------

เย็นวันนี้ก็เหมือนกับเย็นวันอื่นๆ ที่พี่นำจะมารับ ต่างออกไปนิดหน่อยตรงทีวันนี้รอไม่นานมาก
อิมเมจดูแปลกๆ ไปจนธามอดชะงักแล้วหันไปจ้องนานๆ อีกรอบไม่ได้

“อะไรครับ” ดูเหมือนเจ้าตัวจะรู้ว่าธามมองแบบไม่ปกติ เขารีบก้มหน้ายู่ปากแล้วส่ายหัว
“ต้องมีอะไรสิ ธามมองพี่นำแปลกๆ”

“นำใส่เสื้อยืดออกมาข้างนอก ปกติไม่ใส่นี่”
“ตอนธามใส่นำยังว่าเลย”

“หือ? พี่นำไม่เคยว่านะครับ แต่วันนั้นธามใส่มาทำงาน มันไม่สมควร”

“งั้น...แปลว่าวันนี้นำไม่ได้ทำงานสิ ถึงได้ใส่” ธามถามที่หัวเดาเอาไว้เงียบๆ พี่ชายเขาพยักหน้าแล้วยิ้มให้ตาหยี

“ไปไหนมาหรอ” ธามถามต่อ มือก็เก็บของบนโต๊ะให้เข้าที่เข้าทาง ปิดคอมพิวเตอร์ และมองตามมือนำที่ยื่นมาช่วยหยิบโทรศัพท์กับสายชาร์ตและหูฟังบนโต๊ะใส่กระเป๋า

“ไปโรงพยาบาล”

“นำเป็นอะไร!!”

“โอ้ยๆ ใจเย็นครับธาม” พี่นำรีบตะปบไหล่ธามไว้เมื่อธามลุกขึ้นมาเขย่งจ้องหน้าใกล้ๆ
“ไม่ได้ป่วยครับ ไปหาหมอปันที่โรงพยาบาล”

“ลุงหมอเป็นหรอ”

“ไม่ใช่ พี่นำไปหาหมอปัน ไปขอลางาน จะไปส่งธามที่ไต้หวันแล้วอยู่ด้วย อืมมมม”
“รอบนี้ต้องอยู่ไต้หวันนานมั้ยครับ”

“ไม่ต้องไป นำจะไปทำไม มีอะไรทำที่นั่นหรอ”

“ก็ไปดูแลธามไง”

“ไม่ต้องไป ธามดูแลตัวธามได้ นั่นบ้านธามนะ”

“แล้วที่นี่ไม่ใช่บ้านธามรึไงครับ”
“อย่าพูดแบบนี้อีกนะ พี่นำไม่ชอบ”

“ต้องได้พูด ธามก็ไม่ชอบให้นำทำเหมือนธามเป็นเด็ก”
“ธามแค่ไปพบโปรเฟสเซอร์ แล้วก็ส่งรายงาน”

“แต่นายแซนก็เคยไปหาธามที่ไต้หวัน ถ้าเกิดครั้งนี้เขารู้ว่าธามจะกลับไป แล้วเขาไปทำร้ายธามที่นั่นล่ะ”

“แซนก็ไม่ต้องรู้สิ”
“แซนไม่รู้หรอก มีแค่ธามกับนำที่รู้ คนอื่นไม่รู้”

“...........”

เงียบ...แปลว่าที่ธามพูดน่ะถูกต้องแล้ว เขาดึงกระเป๋ามาสะพายไว้แล้วเดินนำหน้าพี่นำไปทันที รถนำก็จอดไว้ที่เดิมนั่นแหล่ะ

แต่เย็นนี้ไม่เหมือนเย็นวันอื่นอีกเรื่องแล้ว

“นำ” ธามเรียกหาพี่ชายเสียงแผ่ว สายตาเขาจับจ้องอยู่ที่สิ่งผิดปกติของรถ

“ครับ”

“รถนำใช่มั้ย”
“ทำไมยางอ่อนเหลว”

“อะไรอ่อนเหลวครับ หือ?” เสียงที่นำดังใกล้เข้ามา หัวไหล่ธามถูกจับไว้จากคนที่มายืนซ้อนหลัง ส่วนหน้าพี่นำยื่นมาใกล้ๆ แก้มธาม คงจับจ้องสิ่งเดียวกันอยู่แล้วแน่ๆ
“เฮ้ย! ยางแบน!!”

อ้อ ยางเป็นแบบนี้เรียกว่ายางแบน
แต่ว่านี่ไม่ใช่เวลามาเรียนรู้คำที่ธามนึกไม่ออกว่าต้องเรียกว่าอะไรเสียหน่อย
ธามเดินตามพี่นำที่รี่ไปนั่งก้มดูยางตัวเองแล้วก็เดินวนรอบรถเพื่อเช็คทั้ง 4 ล้อ

“4 ล้อเลยครับธาม”

“แล้วทำยังไง”

“อืมม เดี๋ยวพี่โทรตามศูนย์มาลากไปเปลี่ยนยาง”
“ส่วนธาม....”

“ทำไม”

“นั่งแท็กซี่กลับบ้านไปก่อน”
“ไม่ดีกว่า ให้โป๊ะไปส่ง”

“งั้นแท็กซี่”

“โธ่ธาม พี่นำเป็นห่วง”
“ให้พี่โป๊ะไปส่งนะครับ”

“ก็ได้ แต่นำบอกโป๊ะเองนะ แล้วห้ามโป๊ะเรียกธามว่าลูกแงอีก”

“ลูกแหง่ครับ”

“นั่นแหล่ะ” ธามหันหน้าหนีไปทำหน้าบูดใส่พระอาทิตย์สีส้มแก่ ยืนฟังพี่นำคุยโทรศัพท์ดูวุ่นวายไม่นาน พี่โป๊ะก็ตรงรี่มากอดคอแล้วขำใส่หน้า น่าโมโห!

“ไง ลูกแหง่ กลับบ้านกลับพี่โป๊ะนะลูกแหง่”
“แล้วอย่าก้าวเท้าถ้าพี่โป๊ะไม่อนุญาตนะครับ”
“ทรงตัวเดินคล่องรึยังครับ หรือจะให้พี่โป๊ะอุ้ม หือ หือ หือ”

“โป๊ะ!”
“เงียบปากแล้วพาธามไปส่ง อีก 2 ชั่วโมงผมคงถึงบ้าน”
“รู้ใช่มั้ยว่าถ้าผมถึงบ้านแล้วไม่เจอธาม จะเกิดอะไรขึ้น”

“คร้าบบบ คุณพี่นำของน้องลูกแหง่”

“ไอ้โป๊ะ! / โป๊ะ!!” ทั้งธามและพี่นำโก่งคอเรียกพี่โป๊ะเพื่อขู่ให้หยุดพูดเสียที ธามส่งสายตาสุดท้ายมองพี่นำยืนกลุ่มมองล้อรถตัวเองแล้วก็เดินตามพี่โป๊ะไปยังรถ

ดูเหมือนพี่โป๊ะจะเข้าใจธามมากขึ้นแล้ว พอขับมาสักระยะก็เลี้ยวเข้าปั๊มแล้วบอกกกับธามว่า

“กลับบ้านเองเป็นมั้ยไอ้ยุ่ง”

“เป็น”
“นั่งแท็กซี่ จำทางได้แล้ว”

“โอเค อืม หรือว่าพี่จะไปส่งให้ถึงบ้านตามที่ไอ้หมอมันบอกดีวะ”
“ไม่รู้มันบอกธามรึเปล่า แต่ว่าไอ้หมอมันสังเกตได้ว่ามันถูกขับรถตาม”
“ไม่รู้ว่าตามตั้งแต่เมื่อไหร่ เห็นว่าตามไปที่บ้านด้วย น่ากลัวเหมือนกันว่ะ”
“พี่ไปส่งให้ถึงบ้านดีกว่า เดี๋ยวมันเตะเอา”

“ไม่ต้อง ธามกลับเองได้”
“ไม่ได้มีคนตามธาม ตามนำนี่”
“เชื่อสิโป๊ะ แล้วคืนนี้โป๊ะมีนัดไม่ใช่หรอ? ธามได้ยินที่คุยโทรศัพท์”

“หืม ไอ้ยุ่งนี่มันยุ่งสมชื่อจริงๆ”
“อ่ะ งั้นเอาตังค์ไป เดี๋ยวพี่เรียกแท็กซี่ให้ จะได้จำทะเบียนไว้ด้วย”

“ดีล!” ธามยิ้มหน้าบานลงจากรถ อาการหิวนิดๆ ก็เลยเลือกเดินเลี้ยวเข้ามินิมาร์ท ออกมาพร้อมขนมปังและน้ำดื่มเล่นขวดหนึ่งก็พบว่าโป๊ะเรียกแท็กซี่ไว้รอแล้ว

พี่โป๊ะกวักมือเรียก ธามเลยรีบวิ่งไปหา ถึงปากประตูก็พุ่งเข้าไป และหันมายิ้มรับคำสั่งเสียสุดท้ายของพี่โป๊ะว่า

“ถึงบ้านแล้วโทรบอกด้วยนะธาม”

“อื้อ ไปสบายเถอะโป๊ะ” ธามตอบแล้วก็หันมองแท็กซี่เพื่อพยักหน้าสั่งให้ออกรถได้แล้ว


นั่งมาร่วม 20 นาที แต่รับโทรศัพท์นำแล้ว 3 รอบ รอบนี้ก็เลยต้องบอกให้รู้เรื่อง

“รู้แล้ว กำลังกลับ ไม่มีอะไรหรอกนำ”
“แค่นี้นะนำ ธามเบื่อเสียงนำแล้ว ไม่เอาพูดแล้วพูดอีก” วางเลย! ธามยื่นปากใส่โทรศัพท์ทียังไม่ดับแสงหน้าจอลง แต่แป๊บเดียวธามก็หัวเราะอยู่คนเดียว เพราะพี่นำส่งข้อความมาหา อ่านแล้วจุ๊จิ๊ยังไงก็ไม่รู้

ธามกลั้นยิ้มพลางมองข้างทาง เส้นทางคุ้นตาทำให้เขาปลอดภัยมากขึ้น จนในที่สุด แท็กซี่ก็จอดที่หน้ารั้ว ธามจ่ายเงินและให้คืนคนขับไป 20 บาท พูดขอบคุณตามที่พี่นำชอบให้ทำแล้วก็ลงจากรถมายืนยืดตัวที่หน้าบ้าน

กำลังจะผลักประตูก็ได้ยินเสีงรถยนต์เบรกกะทันหันไม่ห่างตัว เขาสะดุ้งแล้วหันมองจึงได้เห็นว่าหน้ารถจ่ออยู่ที่เอวเขานี่เอง

“ธาม!”
“มากับพี่!”

“แซน”
“ปล่อย แซน! ปล่อย ฟัคยู จะทำอะไรเนี่ย!!”

“ไปกับพี่เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นธามตายแน่”

ยังไม่ทันได้คิดอะไรให้ตัวเองได้เข้าใจ ธามก็ถูกอุ้มตัวลอยพาดอยู่บนบ่าใครสักคน เขาชกแผ่นหลังคนคนนั้นรัวๆ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้ถูกปล่อยตัวเลย ธามคิดหาทางเอาตัวรอดทางอื่น แต่แล้วก็หมดสิ้นหนทาง เพราะเงยหน้าที่แกว่งไกวไปหามองพื้นแล้วเห็นกระเป๋าตกอยู่หน้าบ้าน ในนั้นมีโทรศัพท์

โธ่เว้ย! แล้วแบบนี้จะทำยังไงเล่า!



cut

มาต่อแล้วค่ะ ใกล้แล้ว ใกล้แล้วค่าาา

 :hao3:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 04-11-2013 21:28:39
ม่ายยยยย
ไอ่แซนจะทำไรน้องธามมมมมม
อย่าเป็นไรนะ ฮือออออ อยากตบอิพี่โป๊ะจริงๆ
นำมาช่วยเร็ววววว
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: namngern ที่ 04-11-2013 22:00:53
เอาจริงปะคนแต่ง เราแม่งหมั่นไส้โป๊ะตั้งแต่เรื่องนู้นแล้ว
ปากเสีย  พึ่งพาอะไรก๋ไม่เห็นได้ซักอย่าง
ถามจริงนี่ครั้งที่สองแล้วนะที่โป๊ะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น
คือตัวเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าสถานการณ์มันเป็นยังไง แค่นี้ช่วยไม่ได้เลยหรอ
แบนมือโปร โคตรแบน เซ็งมาก
ทำตัวดีเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: Rukki ที่ 04-11-2013 22:38:47
กดไลค์ คห.160 เลยค่ะ
เซ็งโป๊ะมาก อะไรของแกวะ คือการโตแล้วดูแลตัวเองไดัแม่งไม่เหมือนกันถ้ามีคนจ้องจะทำร้ายนะ
นี่รอบสองแล้ว โป๊ะยังคิดไม่เป็น ขนาดรู้ด้วยนะว่ามีคนคอยตาม ประสาทททททท เพื่อนไว้ใจแท้ๆ ทำตัวแย่มากอ่ะ
ถ้าเราเป็นหมอนำ เพื่อนแบบนี้เลิกยุ่งกันซักพักเหอะ =____=
ละน้องจะเป็นอะไรไหม เสียใจมากอ่ะ สงสารผู้นำต้องวิ่งวุ่นตามหาน้อง ไอโฟนก็ดันหล่นอยู่หน้าบ้าน
นายแม่งแย่ที่สุดอ่ะโป๊ะ อยู่เรื่องไหนก็มีแต่ปัญหา นึกว่าจะปรับปรุงตัว ก็ยังไม่รู้สึกให้เกิดเรื่องอีกแล้ว โว๊ะะะะะะ!!!!
หมอนำ ,, เราจะแนะนำอีกรอบนะ ถ้าอยากให้น้องทำงาน ฝากพี่หนึ่งเหอะ!!!!!!

ส่วนรวมเล่มพี่หนึ่งกับหมาเจม สนใจมากค่าาาาา ขอตอนพิเศษเยอะๆนะคะ ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 04-11-2013 23:14:44
ไอ้เชี่ยโป๊ะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
เอ็งนี่มันพึ่งไม่ได้ ไอ้เพื่อนเวร ไอ้คนโอ้ยยยยยไม่รู้จะด่าไร
เกลียดมันตั้งแต่ตอนตั้งแง่กับเจมนี่มาทำให้ธามเป็นอันตราย
ขอให้พี่หนึ่งและพี่นำเลิกคบแม่งเลยได้มั้ย ถ้าไม่มีมันนี่ธามก็รอดจากไอ้แซนป้ะ
แม่งไอ้โป๊ะไอ้เชี่ย ไม่ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

แล้วนี่พี่นำจะไปช่วยอย่างไง แซนแม่งจิตขึ้นทุกวัน กรี๊ดเครียดแทนพี่นำ T_________T
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 05-11-2013 08:02:04
อ๊ายยยยยยยย น้องธามของเจ้ ไม่นะ พี่นำรีบมาช่วยด่วนๆเลย โป๊ะ น้อ โป๊ะ ไว้ใจไม่ได้ เลย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 05-11-2013 12:05:45
ไอ้แซนนี่แมร่งโรคจิตวะ วันๆไม่มีไรทำหรอตามชาวบ้านชาวช่องเค้าเนี้ย

ตัวเองเป็นคนเดียวไม่พอทำให้น้อง พัฒนาช้าอีก เพราะมัวแต่กลัวกังวลแก เนี้ยแหละ ไอบร้า
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 05-11-2013 12:39:22
อิพี่โป๊ะก็เกิดอยากจะตามใจน้องอะไรตอนนี้
บ้าปะะะะะะะ :katai1:
ธามก็ดื้อเกินไปนะ
สถานการณ์เป็นยังไง ทำไมไม่ยอมเข้าใจ
 :เฮ้อ:
แต่ขอให้ธามปลอดภัยกลับมานะ

สงสารพี่นำที่สุดอะ
พยายามปกป้องคนของเราทุกทาง แต่ก็ไม่ได้ผลเพราะไม่มีใครให้ความร่วมมือเลย

 :hao5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 05-11-2013 17:07:05
พี่โป๊ะหัวแตกแน่งานนี้ ปล่อยน้องกลับคนเดียวได้เรื่องเลย :serius2:
อิพี่แซนจะทำอะไรน้องห๊ะ :angry2:  แล้วพี่นำจะช่วยทันไหมเนี่ย โอ๊ยๆๆลุ้นมากๆ :serius2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: cheyp ที่ 05-11-2013 17:56:35
อ๊ากกกกกก ความผิดพี่โป๊ะเลย
ธามโดนไอ้พี่แซนพาตัวไปแล้วอ่ะ แงๆๆๆ
พี่นำรีบตามไปช่วยธามด่วนๆเลย (อย่าลืมกลับมาเล่นงานพี่โป๊ะด้วย โทดฐานที่ให้น้องกลับบ้านเองทั้งๆที่รู้ว่ามีอันตราย แง่งๆ)
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: Mookkun ที่ 05-11-2013 21:15:38
โอ้ยยยย รังควานจังวะไอบ้าแซม!!

เป็นไงล่ะน้องธามม ดื้อชิบ T_T
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 06-11-2013 12:08:06
คนเดียวโดนตลอดเลยธาม  :serius2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: PoofuGirl ที่ 03-12-2013 22:01:07
กรีดร้อง!! ขอโทษที่หายไปนานค่ะ ไม่ค่อยได้เข้าเล้าเป็ดเลย :katai1:
อีกอย่างเราตามอยู่ไม่กี่เรื่อง รวมทั้งหากระทู้ไม่เจอด้วย เก๊าขอโทษ  :z3:

น้องธามดื้อมากค่ะ อิพี่โป๊ะนี่ก็ไม่ไหว ผู้นำอุตส่าห์ไว้ใจ
อธิบายสถานการณ์เพิ่มเติมให้แล้ว แต่จบลงที่อีหรอบเดิม
หึหึ อิพี่โป๊ะนี่มันไว้ใจไม่ได้เลยนะคะ !!  :ruready
เปลี่ยนไปฝากงานกับเจมกับที่หนึ่งด่วนค่ะ

พี่แซนออกมาทีไรอ่านแล้วปวดท้องทุกที แง้ๆๆๆๆๆ
เป็นกำลังใจให้นะคะ ชอบเรื่องนี้
มาต่อไว ๆ นะก๊ะ

ปล. แอบสนใจ Hear Me รวมเล่มอยู่นะคะ >_<
ขึ้นอยู่กับงบประมาณด้วย รอฟังข่าวนะคะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (4-11-13)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 04-12-2013 02:15:39
 :katai5:ยังไม่มา
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 13 (11-12-13)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 11-12-2013 01:58:51

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 14


เพื่อนเขาแสนฉลาด แต่ไม่เฉลียวเอาเสียเลย ทั้งที่เขาบอกอะไรตั้งมาก แสดงความห่วงใยธามตลอดเวลา มือโปรก็ยังไม่ฉลาดรู้ว่าควรดูแลธามให้ดีมากกว่าปกติ
เขาถอนหายใจใส่หน้าเพื่อน ด่ามันไปก็เปล่าประโยชน์ สิ่งที่เขาควรเร่งทำในตอนนี้ก็คือ หาตัวธามให้เจอก่อน

เหตุการณ์ก่อนหน้าไม่ผิดคาดนัก เขารอช่างซ่อมรถไม่นานจนต้องรู้สึกหงุดหงิด แต่พอโทรหามือโปรแล้วกลับหงุดหงิดขึ้นมาจริงๆ จนได้ ไอ้ตัวดีสารภาพกับเขาว่าพอดีมีนัดด่วน เลยปล่อยให้ธามนั่งแท็กซี่เอง มันมีหน้ามาเอาดีเข้าตัวด้วยการบอกว่า ถ่ายรูปทะเบียนรถกับศูนย์แท็กซี่ข้างรถเอาไว้แล้ว
แล้วยังไงล่ะ? แล้วธามก็หายไปอีกรอบไง
ที่น่าเจ็บใจคือที่เกิดเหตุคือหน้าบ้านเขาเอง!

รู้ตัวเร็วก็เพราะว่าป้าจูที่อยู่แถวๆ รั้วพอดี ได้ยินเสียงรถเลยมาดู และเห็นว่าธามถูกอุ้มไป รถที่พาตัวธามไปแกก็อุตส่าห์จำรายละเอียดมาโทรมาบอกเขาให้มากที่สุด

และคำตอบของเรื่องราวก็อยู่ตรงหน้าเขาแล้วตอนนี้
บ้าน “นิมิตตกานนท์”
ผู้นำมองบ้านใหญ่โตด้วยแววตาขุ่น เขาไม่ใช่คนชอบมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร เป็นไปได้เขาจะหลีกเลี่ยงการขัดแย้งหรือปะทะอารมณ์ พ่อเขาสอนเสมอว่าคนเราจะไม่รู้ภาษาเมื่อมีอารมณ์มาบดบังการทำงานของเหตุผล
แต่ที่โอ่ล้อมตัวเขาตอนนี้ คืออารมณ์ล้วนๆ
นายสุพิสุทธิ์ นิมิตตกานนท์ ทำให้เขาโกรธ มันช่างเก่งจริงๆ

“เอาไงนำ” ที่หนึ่งแตะบ่าเขาเบาๆ ส่วนมือโปรเป็นกองหลัง คอยกันคนอีกคนเอาไว้ไม่ให้มายุ่งกับเรื่องนี้มากนัก

“ก็อย่างที่บอก ถ้าไม่ได้ตัวธามคืนมา ผมก็ไม่กลับ”
“ส่วนคุณ กับมือโปร แล้วก็เจม กลับไปก่อน” เขายืนยันคำตอบแล้วก็รัวนิ้วกดออดจนปลายนิ้วชี้แทบกลายเป็นสีซีดๆ เพราะเลือดเดินทางไม่ถึงปลายหลอด

“ใจเย็นสินำ แผนคืออะไร? เรียกพวกมันออกมาแล้วยังไงต่อ”
“ที่คุณทำอยู่ที่ถูกแจ้งตำรวจจับข้อหาบุกรุกได้เลยนะ”

“บุกรุกบ้าอะไร! มันขโมยน้องผม!”

“ก็น้องชายเขาเหมือนกันไม่ใช่หรอ? เท่าที่คุณบอกกว้างๆ บ้านนี้กับธามก็ญาติกันนี่”

“ญาติหรอ! ญาติบ้าอะไรทำร้ายธามครั้งแล้วครั้งเล่า”
“ธามจะไม่ปกติก็เพราะคนพวกนี้นั่นแหล่ะ”
“พ่อก็กดดันเพื่อมรดกบ้าๆ ลูกชายก็...” เขายั้งปากตัวเองไว้แล้วหันไปสบถใส่อากาศ จากนั้นก็ตั้งหน้าตั้งตากดออดอีกหลายๆ ครั้ง จนที่หนึ่งต้องปัดแขน และดันตัวเขาให้ห่างจากหน้าประตู

“ไอ้หนึ่ง!” เขาตวาดเพื่อนและผลักอกที่หนึ่งออก มือโปรคงคิดว่าเขากับที่หนึ่งจะทะเลาะกัน ถึงได้พุ่งออกจากรถมาพร้อมกับเจมแล้วจับเขาแยกจากกัน

“ปล่อย ปล่อยผมให้หมดนั่นแหล่ะ!”
“บอกให้ปล่อยไง!!” เขาตวาดดังกว่าเดิมและได้อิสรภาพคืน ทั้งที่หนึ่งและมือโปรมองหน้าเขานิ่ง มีเพียงเจมเท่านั้นที่กระพริบตาปริบแล้วเดินมาถามใหม่

“พี่นำ ใจเย็นๆ ก่อนสิครับ ค่อยๆ ช่วยกันคิดว่าจะเข้าไปพบธามได้ยังไง”
“เรากดออดรออยู่หน้าบ้านนี่ร่วมชั่วโมงแล้ว เจมคิดว่าเขาอาจจะไม่อยู่บ้าน”

“.........” เขาไม่ได้ตอบอะไร ผู้นำเพียงแค่ยิ้มชืดให้ และถอนหายใจ เขาจะทำยังไงดีนะ?

“เจมพอจะรู้จักตำรวจอยู่บ้าง ถ้าพี่นำ”

“ไม่เป็นไร จะเดือดร้อนเจมไปด้วยเปล่าๆ พี่จัดการเองได้”

“มึงจะปีนรั้วหรอ”

“เฮ้ยพี่นำ! ไม่ได้นะ”
“สูงอ่ะ แล้วแม่งก็มีแก้วแหลมๆ ปักด้วย เจ็บนะนั่น”
“อีกอย่าง ชัวร์แล้วหรอครับว่าธามอยู่ที่นี่”

นั่นสิ สรุปแล้วที่เขามายืนกดดันหน้ารั้วกัน 4 คนนี่เปล่าประโยชน์สินะ
นายสุพิสุทธิ์อาจจะไม่ได้พาธามกลับบ้านก็ได้
แต่ถ้าไม่กลับบ้าน แล้วจะพาไปไหนล่ะ?

“เฮ้ย! มีคนออกมาแล้ว”

คำบอกกล่าวของที่หนึ่งทำให้ผู้นำตั้งสติทันที พวกเขาถูกแสงจากรั้วทำร้ายทันทีที่มันสว่างจ้าผิดปกติ ครู่เดียวรั้วมหึมาก็เคลื่อนตัวออกจากกัน เบื้องหน้าเขาคือธามที่อยู่ในสภาพปกติดี แต่สีหน้าไม่สู้ดีนัก
คล้อยหลังไปเพียงนิด คือนายสุพิสุทธิ์ และนายพิสุทธิ์ผู้เป็นพ่อ
สีหน้าและแววตาช่างแห้งแล้งจนไม่อยากจะสบมอง

“ธาม!”
“นำ!” น้องเรียกหาเขาแล้วก็วิ่งมาหลบอยู่ด้านหลังเขาทันที ผู้นำสูดลมหายใจเพื่อให้ตัวใหญ่ขึ้นแล้วกร้าวใส่หน้าเจ้าของบ้างอย่างไม่คิดเกรง

“ทำแบบนี้มันเกินไป!”
“ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับธามอีก ผมไม่ปล่อยพวกคุณไว้แน่!”

“แกจะทำอะไร? จะมีปัญญาทำอะไรได้!” คนลูกตวาดเขากลับ และทำท่าเหมือนจะพุ่งหมัดใส่เขา แต่กลับถูกผู้เป็นพ่อรั้งไว้ด้วยการเรียกชื่อเพียงครั้งเดียว
“แซน!”

“ผมยอมพ่อทุกอย่างแล้วไง ขอแค่อย่างเดียวคือธาม”

“ชั้นให้แกได้เท่าที่บอก เด็กนั่นจะทำยังไงกับมันก็เรื่องของแก!”

นี่ตกลงอะไรกัน? แล้วเกี่ยวกับธามด้วยใช่มั้ย?
ผู้นำฟังแล้วคิดระแวง เขาอ้อมมือไปด้านหลังเพื่อให้แน่ใจว่าธามไม่ห่างจากเขาไปไหน เมื่อไม่มีใครพูดอะไรให้กระจ่างซักที ผู้นำก็กระชากเสียงถาม

“หมายความว่ายังไง พวกคุณพูดเรื่องอะไรกัน คิดเอาเปรียบธามอีกแล้วใช่มั้ย?!”

“อย่ามาพูดหมาๆ แล้วก็เลิกแส่ไม่เข้าเรื่องซักที”
“นี่มันเรื่องของครอบครัว แกมันคนนอก”
“ธาม พี่ว่าธามเลือกเป็นนะ คิดดูก็แล้วกันว่าจะอยู่แบบไหน”
“อยู่กับพี่ หรือมัน”

“ธามครับ ธามคิดได้อย่างอิสระเลยนะ ไม่ต้องสนใจใครทั้งนั้น ชีวิตธาม สิทธิ์ของธาม”

“...........”

“เรื่องที่ธามควรรู้ พี่ก็บอกไปแล้ว” หมอนี่ยังพูดต่ออีก ตอนนี้ผู้นำรู้สึกหงุดหงิดจนอยากซัดปากมันให้เบี้ยว จะได้เลิกยัดเรื่องไม่เป็นเรื่องใส่หัวธามเสียที

“หึหึ ธามก็รู้ว่าพี่พูดจริงทำจริง”
“ก็อย่างที่บอก ธามน่าจะเลือกเป็น”

“ธาม เขาขู่อะไรรึเปล่า”
“ธามครับ ธาม” ครั้งนี้เขาหมุนตัวกลับไปถามธามที่ยืนกัดปากตัวเองอยู่นิ่งๆ ผู้นำจับน้องชายที่ตาแข็งจ้องนายสุพิสุทธิ์ไม่กระพริบให้หันมามองเขาแล้วถามเสียงแผ่วเบา
“ธามครับ มีอะไรบอกพี่นำสิ บอกได้ทุกอย่าง พี่นำจะช่วยธามเอง”

“..............”

“ธามครับ”

จู่ๆ มือเรียวบางก็ยกขึ้นมาประกบทับมือเขา ธามค่อยๆ แกะมือเขาออกจนเขารู้สึกได้ว่ามือธามสั่นเบาๆ เป็นอะไรไปนะ

“เป็นอะไรครับ” เขาถามอย่างอ่อนโยน รอบตัวเขาไม่มีใครมายืนกดดันแล้ว พวกนิมิตตกานนท์กลับเข้าบ้านไปแล้ว ประตูรั้วใหญ่ยังเปิดอ้าอยู่ ด้านนอกมีที่หนึ่ง มือโปร และเจมรออยู่หน้ารถ 2 คัน

“นำ” เสียงอู้อี้จังเลย ถูกรังแกอะไรมารึเปล่า ผู้นำเกลี่ยตามองหน้าธามจนทั่ว เขาดึงดันจับหน้าธามไว้ในอุ้งมืออีกหน จากนั้นก็ดึงให้มาซุกที่หน้าอกแล้วลูบหลังปลอบใจ
“นำ”

“ครับ”

“ธามต้องกลับบ้าน”

“ได้ พี่นำจะพากลับเอง”

น้องไม่พูดอะไรต่อ เพียงแค่กอดซุกอยู่ที่อกเขา ถูหน้าไปมา ผู้นำรู้สึกได้ว่าหน้าอกเขาเปียกชื้น ธามคงร้องไห้แต่เขายังไม่ถามว่า ใครทำร้ายเอาจนต้องร้องไห้แบบนี้ ผู้นำเพียงแค่ลูบหัวเบาๆ แล้วเอียงหน้ากระซิบข้างหู

“กลับบ้านกันนะครับ”

เพื่อนคงรู้ว่าเขาไม่ต้องการอธิบายเรื่องราวตอนนี้ และธามเองก็ไม่อยากเจอหน้าใครตอนนี้เหมือนกัน มือโปรแยกไปกับที่หนึ่งและเจมทั้งที่ขามา มันมารถเขา เขาจึงพาธามกลับบ้านพร้อมกับเพื่อนร่วมทางที่ชื่อว่าเคว้งคว้าง

ระหว่างทาง ธามไม่พูดซักคำ จนถึงบ้านก็ไม่พูด เจอหน้าป้าจูก็ไม่ทักทั้งที่ป้าแกเป็นห่วงจนมายืนชะเง้อรอหน้ารั้ว หมอปุณไม่กลับบ้านอีกแล้ว เขาเลยไม่มีหัวข้อใหม่ชวนธามคุยนัก ทำได้ก็แค่มานอนที่บ้านเล็กเป็นเพื่อนเท่านั้น

“ง่วงรึยังครับ” 5 ทุ่มแล้ว แต่ปกติธามจะนอนราวตี 1 กว่าๆ เขามองหยั่งเชิงน้องชายที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จแล้วเดินมาหยุดที่ปลายเตียงมองหน้าเขา
“ง่วงก็นอนเลย โดดมา” ผู้นำชวนเล่น แต่ธามก็ไม่กระโดดขึ้นเตียงตามคำชวน ตัวยุ่งเดินเลาะขอบเตียงมานั่งใกล้ๆ แล้วเอนตัวพิงเขาไว้ แล้วก็เงียบ
“เป็นอะไรไปครับธาม หือ? ไม่สดใสเลย”
“มีอะไรเล่าให้พี่นำฟังรึเปล่า”

“นำ”

“ครับ”

“ธามเป็นคน หรือไม่เป็น”

“เป็นสิ เป็นคนเหมือนพี่นำนี่แหล่ะ อะไรครับเนี่ย?”

“คน ต้องมีพ่อแม่มี ธามไม่ใช่”

“ธามมีพ่อแม่ ท่านเสียไปแล้วก็จริง แต่ธามมีพ่อแม่”

“ลุงบอกว่าธามไม่ใช่”
“พ่อธามก็ไม่ใช่ พ่อธามปัญหา สร้างหนี ธามต้องใช้”
“หนี่มาก แต่จะไม่ติดคุกก็ยอมได้ ถ้าให้เงินป้าวีณา”
“ต่อไป ก็แซนจะดูแล”

“ทำแบบนั้นไม่ได้ครับ”
“ทำไม่ได้”
“พี่จะจัดการเอง จะส่งทนายไปคุยเอง เรื่องนี้มันควรจบไปนานแล้ว เรื่องมรดกของป้าวีณาต้องเป็นของธามตามกฎหมายเพราะธามเป็นลูกบุญธรรม หนังสือรับรองก็มี”
“อย่าไปเชื่อเขา”

“ไม่เชื่อ ไม่สนใจเขา”
“แต่ธามไม่อยากอยู่กับแซน”

“ก็ไม่ต้องอยู่ อยู่กับพี่นำไง อยู่ด้วยกันแบบนี้”

“ธาม.. อยู่ไม่ได้”

“ทำไมครับ”

“นำจะไม่ดีไปด้วย”

“อะไร พูดให้รู้เรื่องครับ”

“นอนเถอะ ง่วง” แล้วก็ปุบปับทิ้งตัวลงนอน ผู้นำหันมองคนที่คลุมโปงแล้วถอนหายใจ เมื่อไม่อยากพูดทั้งหมดเขาก็จะไม่เซ้าซี้ คงต้องหาทางรู้จากทางอืนที่ไม่ใช่จากปากธาม

เขาเอนตัวนอนและปิดไฟ พอได้ที่แล้วก็มีตัวยุ่งพลิกตัวมาหาและก่ายเขาเอาไว้ ธามสอดมือมาเกาะกอดแขนเขา กดหัวมาซุกไหล่และเกยแก้ม

“นำ”

“ครับ”

“ธามเกลียดรักได้มั้ย”

“.............”

“ทำไมธามเจ็บจนเท่านี้”

แล้วก็ร้องไห้พลางกอดเขาไว้แน่นเหมือนกลัวจะเขาหาย ผู้นำไม่ได้ถามอะไรต่อ เขาพลิกตัวไปโอบธามไว้แล้วลูบหลังแผ่วเบา เขาฝากความอุ่นติดริมฝีปากไว้ที่หน้าผากมนหลายครั้ง จูบแก้มซับหน้าตาก็หลายครั้ง

แต่เพียงครั้งเดียวที่เขาจูบ และธามหยุดร้องไห้ ก็คือการจุมพิตริมฝีปาก
วินาทีที่ผละห่างจากสัมผัสที่สุดโหยหา หัวใจเขากลัวเหลือเกินว่าธามจะหายไป


-----------------


กาลเวลาเดินทางรวดเร็วเสียจนเขาเตรียมตัวเตรียมใจไม่ทัน
วันพรุ่งนี้ ธามก็ต้องไปไต้หวัน เพื่อส่งรายงานและทำเรื่องขอจบการศึกษาแล้ว ตัวยุ่งไม่ค่อยว่างคุยกับเขาเลยตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะต้องรีบเติมเนื้อหารายงาน สัมภาษณ์เนื้อหาเพิ่มซึ่งก็ต้องขอบใจมือโปรมากที่ทำให้ธามทำรายงานได้ง่ายขึ้นมาก
กระเป๋าเสื้อผ้าใบเดิมถูกพูดถึงเมื่อ 2-3 วันก่อน เขาเสนอให้ธามใช้กระเป๋าเดินทางของเขาเพราะใบใหญ่และแข็งแรงกว่า แต่เจ้าตัวก็ยังยึดติดกับกระเป๋าใบเดิมที่มีสติ๊กเกอร์อะไรติดไว้มากมายเขาก็ดูไม่ถ้วนนัก
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายที่ธามจะได้เช็คความเรียบร้อย ทั้งเรื่องรายงาน และข้าวของส่วนตัว

“อันนี้ต้องเอาไปด้วยหรอครับธาม” ผู้นำทักขึ้นระหว่างช่วยเก็บของ แม้ว่าธามจะคอยปัดมือไม่ให้เขาหยิบจับอะไรทั้งสิ้นก็ตาม

“อือ”

“กลัวคิดถึงพี่นำล่ะสิ” เขาแกล้งแซว เพราะสิ่งที่ธามกำลังหยิบโยนใส่กระเป๋าคือรูปถ่ายของเขาและธามคู่กันเมื่อครั้งยังเด็ก ตัวเล็กๆ ขี่หลังเขาแล้วยิ้มอวดรอยบุ๋ม รองเท้าหลุดไป 1 ข้าง ซึ่งก็หลุดมาอยู่ในมือเขานั่นแหล่ะ

“อืม”

เขาชะงักไปนิดเมื่อธามยอมรับโดยง่ายว่าคิดถึงเขา พอหันมองเจ้าตัวก็พบว่ายังคงโยนของที่จะเอากลับไปด้วยลงกระเป๋าอย่างไม่คิดกลัวข้าวของจะเสียหาย

“เอาเสื้อผ้าไปหมดเลยหรอครับ”

“.........”

“ทำยังกับจะไม่กลับมาอีก”

“ธามขอน้ำหอมนำได้มั้ย? เอาขวดที่ใช้อยู่ มันหอมดีน่ะ”

“หือ? ได้สิ หยิบไปได้เลยครับ”

“ไม่คืนนะ”

“ได้ ได้ พี่นำไม่งกสักหน่อย เอาไปเถอะ อยากได้อะไรอีกมั้ย?”

“เอานำยัดใส่กระเป๋าได้มั้ย?”

“ฮ่าๆๆ ได้ สิ แต่ต้องเปลี่ยนกระเป๋านะ ใบนี้เล็กไป”

“ไม่เอาดีกว่า ทิ้งตรงที่นี่แหล่ะ”

“แน๊!” เขาแกล้งส่งเสียงแซว แต่ยอมรับเลยว่ารู้สึกโหวงๆ อย่างประหลาด เขากวาดตามองโดยรอบและหยุดที่พาสปอร์ตที่สีปกไม่ใช่พาสปอร์ตของไทย ตั๋วเครื่องบินที่เขาจัดการให้ทั้งเที่ยวไปเที่ยวกลับสอดอยู่ในเล่มพาสปอร์ต เขาดึงมันออกมาดูเพื่อความแน่ใจในเวลา “กลับบ้าน” ของธาม ซึ่งก็เป็นวันและเวลาเดิม
ธามไปไต้หวันแค่เดือนเดียว ทำไมเขาถึงรู้สึกโหวงใจแบบนี้นะ

“ยังขาดอะไรอีกมั้ยครับ”

“ไม่แล้ว”

“งั้นนอนเถอะ ปลุกตี 5 ก็แล้วกัน เครื่องขึ้นเจ็ดโมงสี่สิบห้า ไปถึงซักหกโมงครึ่งก็แล้วกัน”
“นอนเถอะครับ”

“Good night” ธามบอกแล้วทิ้งตัวลงนอน น้องหันมองเขาที่ยืนอยู่กลางห้อง จ้องอยู่นานจึงยอมหลับตาลงในที่สุด

“นำ” คนที่ควรหลับยังพูดต่ออีกนิด ไม่คิดเลยว่าประโยคสั้นๆ ของธาม จะทำให้เขานอนไม่หลับเสียเอง
“I’m gonna miss you”

-----------------

เหมือนจะไม่สบายเลย ธามรู้สึกตัวตื่นขึ้นเพราะอาการหนาวจนตัวสั่น เขาคว้าผ้าห่มมาซุกนอน แล้วเอียงหน้ามองพี่นำที่นอนตะแคงหันมาหา

จู่ๆ น้ำตาก็ไหล ทั้งที่ธามไม่ได้อยากร้องไห้เลยแม้แต่นิด
เขาขยับตัวควานหามือพี่นำ เพื่อเจอแล้วก็ดึงมาใช้รองแก้มตัวเอง ช่วยไม่ได้ที่น้ำตาจะหยดใส่มือพี่นำไปหยดสองหยด

“ฮึก....” เขากลั้นเสียงสะอื้นไว้แต่ก็กักมันไว้ไม่หมด ธามรีบเช็ดน้ำตาแล้วเช็ดมือพี่นำ พอแห้งทั้งแก้มตัวและมือพี่ชายแล้ว ธามจึงนอนซุกมือพี่นำอีกครั้ง

มันอบอุ่น จนธามไม่อยากจากไป
แต่ถ้าธามยังอยู่แบบนี้ เรื่องแย่ๆ ก็จะเกิดขึ้นอีกครั้งแล้วครั้งเล่า
เกิดกับธามก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเกิดกับจูอีก เกิดกับเผือก กับลุงหมอ หรือเกิดกับพี่นำ ธามทนไม่ได้
ธามอยู่ไม่ได้ ถ้าการอยู่ของธามต้องแลกด้วยความสุขที่คนอื่นเคยมี และสมควรจะมีต่อไป


“คิดเอาเองก็แล้วกัน แกไม่ได้เด็กอมมือ ที่ของแกไม่ใช่ที่นี่”
“จะเป็นกาฝากบ้านนั้นเขาไปถึงไหน ญาติรึก็ไม่ได้ เขาก็แค่คนที่ป้าแกเคยรัก แต่ป้าแกก็ตายแล้ว ยังจะหน้าด้านนับญาติกับเขาอีกหรอ!”
“หรือแกอยากให้ใครสักคนในบ้านตายให้แกดูก่อน”


“พี่บอกแล้วไงว่าแค่ชีวิตธาม พี่ดูแลได้”
“กลับไปไต้หวันซะ ธามจะได้ทุกอย่างที่ควรได้ พ่อกับพี่จะจัดสรรให้เอง”
“รับรองว่าไม่ต้องอดมื้อกินมื้อหรอก แล้วพี่แซนจะไปหาบ่อยๆ”
“เชื่อพี่แซนสิ”


ต่อหน้าพ่อตัวเองก็พูดแค่ดูแล แวะไปหา
ลับหลังก็ทำแบบเดิม ทำเรื่องสกปรกเหมือนเดิม!

“ขอพี่เถอะธาม พี่อยู่ไม่ได้ ธามเป็นของพี่เถอะนะ”
“พี่รักเรานะธาม ขอพี่กอด แค่กอดเท่านั้น”
“ธาม ได้โปรด ธาม ธาม”
“พี่รักธามนะ”


ธามแน่ใจว่า หากเขาไม่มือไวคว้ามีดพกในห้องแซนเองมาถือขู่ไว้ สิ่งที่เกิดขึ้นในห้องของแซนคงไม่ได้มีแค่การจูบจนผิวแดงเป้นจ้ำ และสัมผัสที่แสนรุนแรงจนเนื้อเขียว

“นำ ธามอยากมีทางเลือก”
“และถ้ามีทางเลือกจริงๆ ธามก็อยากได้เลือก”
“แต่นำรู้ใช่มั้ย เข้าใจสินะ”
“ธามไม่กล้าเลือก”
“จะมีความสุขได้ยังไง ถ้าคนอื่นต้องไม่มีความสุขแทน”
“พวกเขาไม่มีวันเลิกยุ่งกับธาม ไม่มีวันปล่อยธาม”
“ถึงลุงพิสุทธิจะได้เงิน แซนก็ไม่ปล่อยธาม”
“คงต้องตายห่างกันไป”
“ธามตาย กับแซนตาย อะไรง่ายกว่ากันหรอนำ”

พี่นำยังหลับสนิท เสียงลมหายใจแผ่วเบาทำให้ธามเศร้าลงกว่าเดิม
เขาลูบหน้าพี่ชายที่ไม่เคยลืมและไม่กล้าขอให้รออย่างบรรจงที่สุดเท่าที่มือเขาจะทำได้
พี่นำหน้ายาว ตอหนวดไม่ทำให้มือธามเจ็บเลย ตรงกันข้าม เขาอยากเอาหน้าผากถูไปมาเสียด้วยซ้ำ
ปากนำแห้งนิดหน่อย ปลายจมูกสวยจัง
เวลาใส่แว่น ตาพี่นำจะดูมีน้ำ เวลาไม่ใส่จะดีกว่า ธามชอบกว่า เพราะธามเห็นนัยน์ตาสีดำชัดดี
ผมก็นุ่ม พี่นำเพิ่งไปตัดมาเมื่อกี่วันก่อน จิกไม่ถนัดมือเท่าไหร่ จำได้ว่าพี่นำจะให้ธามตัดด้วย แต่ธามไม่ชอบให้ผมสั้นมากก็เลยดื้อไม่ไปด้วย

“นำจะคิดถึงกันสินะ ใช่มั้ย”
“นำ ต้องคิดถึงธามนะ”
“พี่นำ ช่วยคิดถึงธามด้วยนะครับ”

ลงท้าย เขาก็นอนร้องไห้อยู่คนเดียวเงียบๆ ธามลุกไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าให้สดชื่นขึ้น  นาฬิกาในห้องบอกเวลาตี 4 กว่าแล้ว อีกไม่นานพี่นำก็คงตื่นขึ้นมา จากนั้นก็จะปลุกธามให้ตื่น เพื่อให้อาบน้ำ แต่งตัว กินข้าวด้วยล่ะมั้ง แล้วก็พาไปส่งที่สนามบิน

อีกไม่กี่ชั่วโมง เราก็ต้องจากกันแล้วนะครับ พี่นำ


-----------------


ตี 5 จนได้
ผู้นำตื่นขึ้นเพราะเสียงมือถือปลุก เขารีบตื่นและกดปิดเสียงมันทันที เพราะไม่ต้องการให้เสียงแหลมๆ นี้รบกวนน้องชายเขา
ตัวยุ่งยังคงหลับ ท่านอนก็ยังขดเหมือนกุ้งอยู่ดี สงสัยเขาจะแก้ความกลัวที่ธามซุกซ่อนไว้ไม่ได้จริงๆ
เขาลูบแก้มธามเบาๆ มือพาลลูบไล้ไปทั่วหน้า และเสยผมที่เจ้าตัวไม่ยอมไปตัดด้วย เพื่อเผยหน้าผากกลมมน  ผู้นำโน้มตัวจูบหน้าผากธามพร้อมกับสูดลมหายใจจนลึก เขาทำแบบเดียวกันที่แก้มและขมับ
แต่ครานี้ ผู้นำไม่ได้จูบน้องชาย เขายั้งตัวเองเอาไว้ด้วยไม่รู้ว่าธามจะยินยอมรึเปล่า

“อือออ” เสียงยานคางดังจากคนหลับ ธามคงตื่นแล้ว ผู้นำดันตัวขึ้นนั่งแล้วเอื้อมมือเปิดไฟ แสงสว่างทำให้ธามหยีตาและยอมตื่นในที่สุด

“ตี 5 แล้วครับ ไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวพี่นำชงโกโก้ให้”

“อือ” วันนี้เจ้ายุ่งเป็นเด็กดี สงสัยจะอยากกลับไต้หวันมากแน่ๆ ถึงได้ไม่มีอาการอิดออดแบบนี้ คิดแล้วก็อดน้อยใจไม่ได้ จะมีทางไหนบ้างไหมที่ทำให้ธามเลือกจะอยู่ที่นี่ อยู่กับเขาตลอดไป

เสียงน้ำไหลจากฝักบัวแว่วมาให้ได้ยินแล้ว ผู้นำจึงลงไปชั้นล่างเพื่อชงโกโก้ให้น้อง เขาผิวปากอย่างอารมณ์ดีเพราะได้ทำสิ่งที่ทำให้หัวใจเขาพองลม

เพิ่งรู้เหมือนกันว่าการได้ดูแลธามเรื่องเล็กเรื่องน้อย จะทำให้เขามีความสุขได้มากขนาดนี้

เสียงวิ่งตึงตังจากบันได ผู้นำเดินมารอที่ปลายบันไดแล้วก็เหวอไปนิดๆ เพราะธามยังใส่เสื้อกล้ามและกางเกางยีนส์อยู่

“ไม่รีบแต่งตัวล่ะครับ”

“ที่นี่ร้อน ไปถึงที่ไต้หวันค่อยเอาเสื้อกันหนาวออกมาก็ได้ เดี๋ยวใส่แจ็กเก็ตไปสนามบิน”
“แล้วนำทำอะไร”

“ชงโกโก้ให้ไงครับ”

“นำไปอาบน้ำสิ จะต้องไปส่งธามสินะ”
“เดี๋ยวกินเอง จะกินให้หมดแก้ว”

“โอเค โอเค” วันนี้ทำตัวดีจังแฮะ ผู้นำวิ่งส่ายหัวขึ้นห้องอีกครั้ง เขาเข้าไปอาบน้ำตามปกติ แต่ต้องหลุดยิ้มเมื่อเห็นว่าเจ้าธามบีบยาสีฟันใส่แปรงไว้ให้ เตรียมเสื้อผ้าไว้ให้อีกต่างหาก
“น่ารักชะมัดเล้ยยยย”
“ทำยังไงดีครับ พี่นำไม่อยากให้ธามไปเลย” เขาพึมพำพลางถอนหายใจ และบ้วนคำพูดรั้งน้องชายพร้อมกับน้ำกลั้วคอ

ฟ้าสางจนได้ พระอาทิตย์คงสวยเสียจนธามอยากแช่ตามองมันนานๆ น้องแช่หน้าไว้ที่ข้างกระจก ส่วนเขาก็ขับรถมุ่งหน้าไปยังสนามบินโดยที่ไม่ได้ชวนคุยอะไร ผู้นำรู้ตัวดีว่ามีคำพูดเต็มหัวไปหมด แต่คำพูดทุกคำจะน่าฟังก็ต่อเมื่อคนฟังอยากฟัง และตอนนี้ดูเหมือนธามจะไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้น

คำว่า “ไม่ไปได้มั้ยครับ” จึงไม่มีสิทธิ์หลุดออกมาจากปากเขา

“อ้าว ไปไหน ทางเข้าไปทางนั้นไม่ใช่หรอ? แดทเวย์”

“ไปจอดรถครับ” เขาตอบแล้วเลี้ยวโค้งไปยังอาคารจอดรถ ธามถอนหายใจแล้วก้มหน้านิ่ง จนเมื่อเจอดรถเสร็จแล้ว ตัวดีจึงได้ยื่นมือมาจับมือเขาไว้

“ครับ?”

“อยู่ดีๆ นะ”

“พี่นำต้องเป็นคนพูดต่างหาก ธามดูแลตัวเองด้วยนะครับ”
“แล้วรีบติดต่อพี่นำเลยนะ ตอนที่ถึงแล้วน่ะ”
“นะครับ”

“.............”

“อา ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่นำโทรหา ดีมั้ย?”

“มีเบอร์หรอ”

“มีทุกอย่างแหล่ะครับ นักสืบให้มา ไหนจะเรื่องคดีคุณป้าวีณาอีก ที่อยู่ธามที่นั่นพี่นำก็มี”

“บางที ถ้านำหายตัวได้วุบวุบ ก็คงดีมาก”

“อยากให้ไปหามั้ย?”


พี่จะแวะไปหาบ่อยๆ


“..............” ธามไม่ตอบอะไร แต่ส่ายหน้าแทน เขามองหน้าพี่ชายคนนี้นิ่ง
ทำไมเขาถึงได้ไม่อยากปล่อยมือแบบนี้นะ
ไม่ดีเลย ไม่ดีจริงๆ
“นำ”

“หือ? ครับ” เมื่อพี่ชายหันมอง ธามก็ยกตัวไปหา เขาโยกตัวไปคร่อมพี่ชายไว้อย่างหมิ่นเหม่ 2 มือจับหน้าพี่นำไว้เพื่อมองให้ทั่ว

“เล่นอะไรครับเด็กดื้อ”
“ทำแบบนี้ไม่ดีนะ”

“ทำไมไม่ดี ยังไง”

“ธามกำลังทำให้พี่นำไม่อยากปล่อยธามไป”

“นำไม่ปล่อยได้มั้ย ไม่ได้สินะ”

“อยากให้ปล่อย หรือไม่ปล่อยล่ะครับ”

“อยากให้.....” เขากลื่นความต้องการลงคอ และบอกคำตอบในใจให้ริมฝีปากพี่นำได้รับรู้

การจูบคนอื่นต้องทำอะไรบ้างธามไม่รู้หรอก ธามแค่เอาปากไปแตะปากพี่นำเท่านั้น หลังจากนั้น พี่นำก็ทำให้ทุกอย่างอุ่นอวลจนธามไม่อยากถอยห่างไปไหนอีกเลย

“เกิดอะไรขึ้นกับน้องของพี่นำครับ”
“หือ?”
“ธามมีอะไรในใจใช่มั้ย? อยากบอกพี่นำมั้ยครับ” จากที่เป็นฝ่ายจับหน้านำไว้ ก็กลับไปฝ่ายถูกจับแก้มไว้แทน พี่นำมองด้วยสายตาค้นหา แต่ธามตอบอะไรไม่ได้

ธามเลือกแล้ว ธามก็ต้องทำอย่างที่ธามเลือก
ธามเลือกไม่บอก ไม่เล่า ไม่ขอความเห็นใจ ไม่ขอให้ปลอบใจอะไรทั้งนั้น ธามก็ต้องอยู่กับว้าเหว่ที่เลือกเองให้ได้

“ไปกันเถอะ” เขาเอ่ยชวนแล้วพลิกตัวมานั่งที่เบาะตามปกติ  เงียบอยู่ไม่นานพี่นำก็ดับเครื่องยนต์และลงไปยกกระเป๋าให้ แรงปิดกระโปรงหลังรถทำเอารถยนต์เขย่า ทำให้หนยดน้ำตาธามหยดลงมาอีกเม็ด

เขาทำเป็นขยี้หน้าตัวเองเพื่อกลบอาการเช็ดน้ำตา จากนั้นก็เดินตามพี่นำที่ลากกระเป๋าให้

ทั้งที่ยังเช้า แต่สนามบินประเทศไหนๆ ก็จอแจ ธามคว้ากระเป๋ามาถือไว้แทน ระหว่างที่พี่นำเอาตั๋วอิเล็กทรอนิคส์ไปที่เคาท์เตอร์เช็คอิน ไม่นานก็หันหน้ามาพยักเรียกเขา ธามจึงเดินเตะกระเป๋าไปหา

“เช็คอินเคาท์เตอร์นี้ครับ ทำเลยมั้ย”

“ยัง นั่งก่อนได้มั้ย นำรีบรึเปล่า”

“ไม่ครับ พี่จะรอส่งธามจนกว่าจะขึ้นเครื่อง”

ธามเดินเตะกระเป๋าที่หาที่นั่ง แม้จะจอแจแต่ก็ไม่มีใครสนใจใครนัก นำถึงได้ยืนแล้วจับหน้าธามกดไว้ที่หน้าท้องแบบนี้ และธามจึงได้เกาะเสื้อพี่นำไว้ไม่ปล่อยแบบนี้

อยู่นิ่งกันราว 10 นาที ธามก็ดันตัวเองและดึงให้พี่นำนั่งลงข้างๆ เขาเอนตัวไปพิงแล้วพูดสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะพูดออกมาเหมือนกัน

“ธามจะดูแลตัวเองดีๆ เลย นำอย่าห่วงนะ”

“ธามทั้งคน ไม่ห่วงได้ไง”
“ไม่ว่าธามจะดูแลตัวเองได้ดีแค่ไหน พี่นำก็ห่วงครับ”
“ให้พี่เป็นห่วงเถอะนะ”

“หน้าที่หรอ? เพราะเป็นพี่ชายหรอ”

“ส่วนเดียวครับ ส่วนนิดเดียวกัน”
“ที่อยากทำ ก็เพราะว่าตรงนี้อยากทำ” พี่นำตบอกตัวเองเบาๆ แล้วก็ยิ้มให้

ไม่อยากไปเลย ธามไม่อยากห่างจากนำเลย

“ได้เวลาแล้วมั้งครับ”
“รีบไปเถอะ เดี๋ยวพี่นำโทรหาตอนธามรอขึ้นเครื่อง”

“อือ”

“ธามครับ”

“อือ”

“สัญญานะ กลับมาหาพี่นำนะครับ สัญญา”
“ได้มั้ย”


ที่ไม่อยากจากไป ก็เพราะธามคงไม่ได้กลับมาน่ะสิ


-----------------


“สัญญานะ กลับมาหาพี่นำนะครับ สัญญา”
“ได้มั้ย”
 
พูดแล้วก็ใจแป้วเพราะธามไม่มีคำสัญญาให้ น้องเพียงแค่ลุกขึ้นไปเช็คอิน เมื่อธุระเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินกลับมาหาเขา เด็กชายธามที่ไม่ว่าวันไหนก็ตัวเล็กกว่าเขาย่อตัวคุกเข่าตรงหว่างเขา จิ้มหน้าผากมาที่อกเขาแล้วก็ร้องไห้

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับธามกันแน่
น้องเขาร้องไห้ทำไม ธามเป็นอะไร

เขาโอบน้องไว้หลวมๆ พลางลูบหลังปลอบใจ แต่แล้วก็ต้องดันตัวออกเพราะธามปลดกระดุมเสื้อเขาแล้วแนบแก้มเย็นกับอกเขา น้ำตาที่เปื้อนแก้มก็เปื้อนอกเขาไปด้วย

“ธามครับ”

“ไม่มีอะไร I just”
“just wanna feel you”

ผู้นำยิ้มให้ เขาพาธามลุกขึ้นแล้วจูงมือให้เดินมายังชั้นล่าง ห้องน้ำโล่งๆ ทำให้เขามองหน้าธามได้ถนัดตาขึ้น เมื่อเห็นว่าตาช้ำ หน้าเซียว เขาก็ยิ่งใจหาย แต่เขาก็ไม่ใจร้ายคาดคั้นให้น้องพูดสิ่งที่ไม่สมัครใจ

เมื่อสื่อสารกันด้วยคำพูดไม่ได้ คงต้องใช้ภาษากายแทน เขาดันตัวธามติดกำแพงแล้วช้อนหน้าจูบอย่างดูดดื่ม คำว่าพี่นำห่วง พี่นำคิดถึงแย่เลย พี่อยากไม่อยากให้ไป พี่นำอยากอยู่กับธาม อย่าไปจากพี่นำเลยนะครับ แค่เดือนเดียวพี่นำก็ไม่อยากให้ธามไป เขาไม่ได้พูดเลยสักคำ แต่คิดว่าธามน่าจะรู้ได้ เพราะจูบของเขามันเว้าวอนหัวใจธามเหลือเกิน

“ปากเจ่อหมดเลย พี่นำขอโทษนะ”

“ไม่เป็นไร”

“ทีนี้ สัญญากันได้รึยัง”
“กลับมาหาพี่นำนะ”

“นำอยู่ดีๆ นะ” เลี่ยงอีกจนได้ แบบนี้ต้องมีอะไรปิดบังเขาอยู่แน่ๆ ผู้นำยิ้มให้น้องมองแล้วก็ดึงมากอดซุกอีกครั้ง หอมแก้มเบาๆ แล้วก็ปล่อยให้จากไป

“แยกกันตรงนี้นะ นำกลับบ้านเถอะ”
“ถึงแล้วธามจะเมลบอก”
“ดูแลจู เผือก แล้วก็ลุงหมอดีมากนะ”
“ดูแลตัวนำดีๆ ด้วย”

“ครับ”

พอเขารับคำ ธามก็จะเดินจากไป แต่ผู้นำรั้งปลายนิ้วไว้เสียก่อน เขาโน้มตัวเอาแก้มไปแนบคนที่หันหลังให้กันได้ลงคอ ฝากคำกระซิบไว้ที่ข้างหู แล้วปล่อยให้ธามเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีกเลย


พี่นำรักธามนะครับ


.
.
.
.
.
.


พี่นำครับ ทำไมธามถึงได้เจ็บขนาดนี้





Cut



ขอโทษค่ะ สำนึกมากๆ เลยค่ะ ขอโทษที่มาต่อช้ามาก เรางานเยอะมากจริงๆ นี่ตอนต่อไปก็ไม่แน่ใจว่าจะสางงานและรายงานมาต่อฟิคเมื่อไหร่ ฮือออออ ขอโทษจริงๆ นะคะ  :ling3:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 14 (11-12-13)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 11-12-2013 08:43:56
น้องธามมมมมมมมมมมมมมม
โฮ่วววววววววววววววววววววว
พี่นำ พี่นำต้องตามน้องไปนะ ต้องช่วยน้องนะ ต้องเข้าใจน้องนะ T^T
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 14 (11-12-13)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 11-12-2013 12:21:42
 :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 14 (11-12-13)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 11-12-2013 15:02:17
 :mew1: :sad4: :o12:
เศร้าอ่ะ สงสารธาม สงสารพี่นำมากอ่ะ พี่นำบินตามไปเลย กลัวแซนทำร้ายน้องจัง
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 14 (11-12-13)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 11-12-2013 16:18:57
สงสารธามจัง ต้องตัดใจจากพี่นำ
ต้องกลับไปเจออะไรบ้างนะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 14 (11-12-13)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 11-12-2013 17:46:11
ร้องไห้เลย ต้องจากกันทั้งๆที่รักแบบนี้  เศร้ามาก  ไอ้คุณพี่แซนและพ่อก็แย่มาก  บังคับขู่เข็ญธามได้ลงคอ :monkeysad:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 14 (11-12-13)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 11-12-2013 19:35:25
โอ๊ยยยย

อ่านแล้วอึดอัดมากกกก
สงสารทุกคน  :katai1:

บางทีเราก็อยากให้พี่นำคาดคั้นอะไรน้องบ้างนะ
ไม่ใช่ถ้าธามไม่อยากบอก ก็จะไม่บังคับไรเงี้ย
ไม่รู้สิ
แล้วก็อยากให้ธามเชื่อใจพี่นำ แล้วก็เชื่อใจตัวเองบ้าง  :เฮ้อ:

มีความสุขซักทีเถอะธาม  :mew6:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 14 (11-12-13)
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 14-12-2013 16:00:54
อ่านแล้วอยากจะรัองไห้  อึดอัดมากๆๆๆๆ
ติดที่อ่านบนรถเม  ร้องไม่ได้  อึดอัดกว่าเดิมอีก
 :katai1:
เกลียดอิพี่แซน  เจอคนชื่อแซนแล้วอยากจะกระโดดข่วนหน้า
พี่นำต้องตามน้องไปนะ  พี่นำต้องไปช่วยธามนะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 21-12-2013 23:54:37
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 15.1


แบบนี้มันหนักกว่าเดิมชัดๆ
เขาทบทวนท่าทีของธามอยู่หลายวันจึงกล้าฟันธงว่าธามป่วยกว่าเดิมเสียอีก
อาการเก็บงำความคิด ความรู้สึก แม้จะไม่แปลกไปจากเดิม แต่ระดับความเข้มของอาการก็มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ทั้งที่เขาคิดว่าเขาเป็นคนที่ธามไว้ใจ และกล้าจะที่บอกเล่าความรู้สึกได้แล้วเสียอีก
พอสรุปผลออกมาเป็นแบบนี้แล้วอดน้อยใจไม่ได้จริงๆ
“เป็นไรวะ?”  ความเย็นจากแก้วอังลงตรงหลังมือเขา ผู้นำขยับมือหนีจากการรับหน้าที่ที่รองแก้วเหล้าของมือโปร เขาเหวี่ยงตามองเพื่อนก่อนตอบ

“ผมก็คิดอะไรของผมไปเรื่อย คุณนั่นแหล่ะเป็นอะไร? ทำไมถึงดื่ม”

“กูก็มีเรื่องกลุ้มบ้างสิวะ”

“คุณน่ะหรอเครียด โป๊ะเครียดเรื่องอะไรเนี่ย ให้ผมกับพี่หนึ่งช่วยมั้ย?”

“แล้วทำไมมึงช่วยกูไม่ได้ เอะอะอะไรก็พอร์ตร่วมกับไอ้หนึ่งมันตลอดนะพีช” มือโปรหันไปแขว่ะใส่พีชที่หวังดีผิดเวลาไปหน่อย  ผู้นำไม่ร่วมวงทับถมเพื่อนเพิ่ม เขายกแก้วเหล้าขึ้นดื่มแล้วถอนหายใจ จากนั้นก็ครุ่นคิดถึงวันสุดท้ายที่ธามอยู่กับเขา และการร่ำลาที่เขาค่อนข้างโหยหาครั้งนั้น

“มันต้องมีอะไรแน่ๆ” เขางึมงำความคิด แต่แล้วใจที่คิดถึงธามอยู่ก็กระเจิงไปหมดเพราะมือโปรชกหลังดังอั่กๆ
“โอ้ย!! กูเจ็บนะ!” หลุดจนได้ ก็ว่าจะไม่ใช้อารมณ์แล้วเชียว แล้วกระชากเสื้อเพื่อนแล้วดึงมันมาใกล้ๆก ก่อนจะถาม
“พวกคุณเล่นเหี้ยอะไรกันครับ กูไม่มีอารมณ์เล่นด้วย”

“ไม่ได้เล่นเว้ยนำ มึงดู ไอ้หมอ มึงดูไอ้โต๊ะนั้นดิ” มันกระซิบกระซาบแล้วชี้ไปยังมุมร้าน ผู้นำมองตามแล้วหันมาเหล่มันอีกครั้ง

“จะเอาผู้หญิงคนไหน มึงก็จัดการเองสิ กูไม่เกี่ยว”

“ไม่ใช่เว้ย! แล้วกูก็เลิกมั่วผู้หญิงแล้วด้วย”
“ที่กูให้มึงดูน่ะ ไอ้ตัวห่ากลางดงผู้หญิงนั่นต่างหาก”

“หือ?” นายแซน ผู้นำจ้องอีกฝ่ายเขม็ง เขาขอเปลี่ยนที่นั่งกับพีชเพื่อมองมันในมุมที่มันน่าจะไม่เห็นเขา
นายสุพิสุทธิ์จริงๆ ด้วย
ห้อมล้อมด้วยผู้หญิงแบบนั้น คงกำลังผ่อนคลายสุดๆ สินะ
เห็นแล้วเจ็บใจ ทำไมคนที่ทำให้ธามเป็นทุกข์ถึงกล้ามาเสวยสุขอยู่แบบนี้ มันน่าจะเตะให้ม้ามเคลื่อนที่สุด

“เอ้าเฮ้ย! เดี๋ยวไอ้แซนอะไรนั่นก็ท้องหรอก มึงก็จ้องมันซะ”

“จะให้ผมทำมากกว่าจ้องมันมั้ยล่ะ!” เขาสะบัดเสียงใส่มือโปร แต่ความขุ่นมัวยามเห็นหน้าหมอนี่ก็ไม่ได้คลายไปจากอารมณ์เขา ผู้นำขยับแว่นแล้วยกเหล้าขึ้นจิบอีกหลายอึก

ที่หนึ่งมาเสียที แต่วันนี้ไม่ยักกะหนีบเอาเจมมาด้วย แบบนี้ไม่เพลินเลย ผู้นำขยับเพิ่มพื้นที่ให้เพื่อนนั่งโซฟาแคบๆ ด้วยกัน ยินเสียงเพื่อนทักทายนิดหน่อยแต่เขาทำเพียงแค่พยักหน้าด้วยเท่านั้น

“ไอ้เจมล่ะ”

“ดีๆ หน่อย เรียกแฟนกูน่ะ”
“ไม่บังคับให้มึงไหว้ก็บุญแล้วนะโป๊ะ”
“น้องมันป่วย นอนพักอยู่บ้าน”

“แล้วมึงไม่พยาบาลหรอ? มานี่เดี๋ยวมันก็น้อยใจ”

“กูก็อยากให้น้อยใจว่ะ แต่รายนี้ไม่มี นี่แทบรำถวายตอนกูบอกว่าจะออกมาดื่มกับพวกมึง เจมชอบบอกว่ากูเป็นตังเม บางทีเจมก็รำคาญ กูน่าสงสารมั้ยวะ”

“ไม่ว่ะ กูว่าครั้งนี้เจมพูดถูก” แล้วโป๊ะก็ถูกที่หนึ่งสังหาร เขาฟังแล้วหัวเราะตามนิดหน่อย และคงผิดสังเกตมากๆ สำหรับที่หนึ่ง มันถึงได้ยื่นหน้ามาส่องตาเขา แล้วก็ถามซะตรงประเด็น

“เป็นอะไรนำ คิดถึงธามหรอ” นี่หน้าเขาอ่านออกง่ายขนาดนั้นเลยหรอ? เขาไม่เคยบอกใครเลยเรื่องความรู้สึกที่มีให้ธาม กับธามเองเขาก็ไม่ได้บอก เขาคิดว่าเขาอยู่กับมันได้ ไม่ต้องบอกให้ใครรู้เขาก็มีความสุขได้ เขาแค่อยากให้ธามมีความสุขเท่านั้นเอง

“เอ่อ...”

“อ้ำอึ้งทำไมวะ? มีอะไรที่บอกพวกผมไม่ได้หรอ?”
“ไม่เอาน่า เพื่อนกัน คุณก็รู้ว่าโป๊ะกับพีชมันขี้เสือก มีอะไรก็เล่าๆ มา ทำทานให้เพื่อน”

“กวนตีนแล้วไอ้หนึ่ง มึงนั่นแหล่ะตัวอยากรู้เลย ตัวคิดแผนมานั่งกินเหล้าวันนี้ก็มึงนะ อย่าคิดว่ากูรู้ไม่ทัน เจมป่วยแล้วไม่ฟุ้งฟิ้งกับมึงล่ะสิ น้องมันเตะมา เลยมีเวลามากับพวกกู”

“ห่า! รู้ใจกูเสมอเลย เป็นเมียหลวงกูมั้ย? ให้เจมเป็นเมียน้อยคอยบำเรอกูอย่างเดียว มึงก็หาเลี้ยงกูไปเรื่อยๆ” ที่หนึ่งเขินแล้วตลกดีชะมัด ผู้นำหัวเราะหลายหึก่อนจะสบตามองเพื่อน 3 คนที่คบกันมาตั้งแต่ประถม

“ว่าไงนำ บอกได้รึยังว่ามึงแบกดาวเคราะห์ไว้กี่ดวง”

“แค่โลกดวงเดียวเอง” แล้วที่หนึ่งก็เป็นคนแงะปากเขาสำเร็จ มือโปรกับพีชขยับนั่งเตรียมตังฟังเขาเต็มที่ เห็นแล้วอยากยื้อให้มันอึดอัดกันชะมัด

“เอ้าเร็วดิ!” นี่แหล่ะ มือโปรมันน่ารักตรงเก็บอะไรไม่อยู่สักอย่างนี่แลห่ะ เขาส่งเสียงเออออว่ารู้แล้ว จากนั้นก็เล่าเรื่องที่เขานึกสงสัยให้เพื่อนฟัง

ผลที่ได้ก็....

“น้องมันเกลียดมึงล่ะมั้งนำ มึงชอบบังคับมันนี่” โปร กูไม่เคยบังคับธามได้เลยสักอย่างครับ ที่ทำได้ก็แค่หาทางร่วมเท่านั้น

“ผมว่าธามต้องมีอะไรแน่ๆ คุณก็สืบสิ ถามจากเพื่อน จากญาติน้องธามดีมั้ย” พีช ขอบคุณนะที่ช่วย ก็ญาตินั่นแหล่ะที่ทำให้ธามเป็นแบบนี้

“นี่ธามไปกี่วีคแล้วนะนำ” ที่หนึ่งถามเข้าเป้ากว่าใครอีกตามเคย

“เดือนนึงแล้ว จัดการเรื่องเรียนไม่นานขนาดนี้หรอก”
“ผมเช็คคอร์สเรียนที่ยูธามแล้ว จบไปอาทิตย์นึงแล้ว แล้วคอร์สนี้ก็ไม่มีสอบด้วย ส่งรายงานก็จบ” 

“อืม...ห่วงใช่มั้ย?” ที่หนึ่งนี่ก็ถามอะไรแปลกๆ เขาพยักหน้ารับทันควัน จานกั้นก็เป็นฝ่ายนิ่งไป เมื่อเพื่อนสวนมาว่า

“ก็ไปตามสิไอ้หมอ!”

ผู้นำจ้องที่หนึ่งเขม็ง เขาขยับแว่นพลางกระพริบตาปรับความคิด ครู่เดียวก็กระดกเหล้าต่อ เมื่อเพื่อนถามว่าเขาจะเอายังไง เขาก็แค่ยิ้มให้แล้วบอกความจริงให้กระจ่าง

“มิกเซอร์ที่นี่แพง คุณจ่ายก็แล้วกันโป๊ะ”


-----------------


ผู้นำปิดประตูห้องพ่ออย่างเบามือ หมอปันยังไม่นอน แต่อยู่ในชุดเตรียมนอนแล้วเรียบร้อย พ่อเขาเป็นแบบนี้เสมอ เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่รู้สึกว่าตัวเองกำลังกวนเวลาทำงานของพ่อ เพราะพ่อใส่ชุดเตรียมนอนแล้วเรียบร้อย
หัวข้อที่คุยกันวันนี้เป็นเรื่องของธาม เขายอมรับว่ารู้สึกเกร็งเล็กๆ ตอนที่หมอปันถามว่า “พ่อให้นำเป็นธุระเรื่องธามแล้วไง ตัดสินใจเองไม่ได้หรอ”

ใจน่ะเต็มร้อย มั่นใจมาก แต่ปากขยับได้แค่ “ครับ”

หากหมอปันรู้ว่าเขาเป็นธุระเรื่องธามด้วยเหตุผลที่เริ่มเปลี่ยนไป ไม่ใช่แค่หน้าที่พี่ชายเหมือนที่พ่อฝากฝัง เขาจะโดนฟาดหัวกี่ทีกันนะ?

ผ่านไปด่านแรก จะว่าไป สำหรับเขาก็ไม่เหลือด่านอะไรแล้ว นอกเสียจากใจธาม



เช้านี้เขาตื่นสาย เพราะตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมาเขาเคลียร์คิวคนไข้ ทั้งคนไข้ประจำ และคนไข้ใหม่ๆ คิวบรรยายในมหาวิทยาลัยเขาไม่รับเพิ่มแล้ว งานวิชาการต่างๆ ก็ปฏิเสธไปหมด เพื่อให้ได้เวลาว่างที่ไม่มีงานเลยมาครึ่งเดือน
จะว่าเก่งก็ยอมรับว่าเก่ง แต่เวลาว่างที่ได้มา ก็ต้องแลกกับเวลาเพื่อนรวมงานคนที่ถูกล้ำเส้นไปคนละนิดละหน่อย เขาก็ไม่รู้ว่าหมอคนอื่นคิดกันยังไงกับการลางาน 2 อาทิตย์ของเขา ไหนจะตำแหน่งลูกชายเจ้าของโรงพยาบาลนี่เอง ก็คงจะเสียหายไม่น้อย
แต่ช่างเถอะ ในชีวิตนึง เขาจะรู้สึกโหยหาใครคนหนึ่งแบบสุดหัวใจกี่ครั้งกันเชียว เชื่อว่าคนนี้เป็นคนแรก และจะเป็นคนสุดท้าย

‘ธาม  นิมิตตกานนท์’

เขาเลือกไฟล์บินกลางดึกเพื่อที่จะไปถึงไต้หวันแต่เช้า จะได้มีเวลาตามหาธามนานหน่อย

ที่หนึ่งปาคำว่า “บ้า” ใส่หน้าเขาตอนที่เขาบอกเรื่องการเดินทางไปหาธามที่ไต้หวันคนเดียว มีแต่เจมที่เข้าใจเขาและอวยพรให้โชคดี แต่คิดอีกที เจมอาจจะพูดสิ่งที่เขาคาดหวังว่าเพื่อนจะพูดก็ได้
เพราะแผนเดินทางของเขามีแค่ “ไปถึงก็รู้เอง”

มือโปรค่อนข้างกังวล มันคงลืมไปแล้วว่าตอนไปเรียนโทที่เมืองนอกเมืองนา เขาก็ไปแบบนี้เหมือนกัน หมอปันส่งให้ไปตายเอาดาบหน้า เขาจึงค่อนข้างชินกับการหาทางออกเอาตอนที่เจอทางตัน ซึ่งเพื่อนคงไม่เข้าใจ และไม่ได้มองว่าเป็นวิธีการที่ดี โดยเฉพาะพวกสายบริหารอย่างมือโปร

แต่เขาไม่สนอะไรแล้ว อยู่อย่างมีแบบแผนก็ไม่เจอวิธีที่ถูกที่ควรเสียที จะต้องรอให้ธามเรียนรู้การใช้ชีวิตเอง รู้จักเลือก รู้สิทธิตัวเองว่าเลือกได้ เขาต้องรอถึงเมื่อไหร่
ซอกหลืบและเรื่องราวในใจของธามมีมากเสียจนผู้นำคิดว่า ใช้เวลาทั้งชีวิตเขาก็หาความจริงไม่ครบถ้วน
เพราะงั้นก็ต้องเดินทางไปตามหาตั้งแต่ตอนนี้แหล่ะ!

ป้าจูช่วยดูแลของใช้ส่วนตัวให้เขานิดหน่อย แต่ฝากขนมไทยๆ ไปให้ธามเสียครึ่งกระเป๋า ลุงเผือกเองก็มาด้อมๆ มองๆ ที่หน้าบ้าน พอเขาลากกระเป๋ามาก็โถมตัวมาช่วยแล้วก็ฝากให้ภารกิจเพิ่มให้เขาอีก 1 อย่าง

“คุณนำครับ”

“ครับ” เขาตอบรับคนขับรถอย่างสุภาพตามนิสัย ลุงเผือกครุ่นคิดนิดหน่อยก่อนจะอ้อมแอ้มบอก

“ฝากความคิดถึงถึงคุณธามด้วยนะครับ ไปนานจนผมสงสัยยายจูแก แกคิดถึงของแกมากจริงๆ”

“ครับ ไม่รู้เจ้าตัวเขาจะอยากกลับมามั้ย” เขาเปรยตามที่คิด และสิ่งที่ลุงเผือกพูดก็ทำให้เขาคิดหนักกว่าเดิมเท่าตัว

“ก็ถ้าคุณธามเขารักทางนี้ เขาก็ต้องกลับมาสิครับ”
“เธอรักพี่เธอจะตาย ผมว่าต้องกลับมาอยู่แล้ว”

ธามรักพี่ของธามจะตายงั้นหรอ? ลุงเผือกไปเอาความมั่นใจพวกนี้มาจากไหนกันนะ

ถึงสนามบินอย่างปลอดภัย ผู้นำก็โทรรายงานตัวกับพ่อ หมอปันดูไม่ห่วงเรื่องงานของเขานัก แต่ห่วงน้องมากกว่า พ่อกำชับเขาว่า “อย่าบังคับน้องนะนำ อยากอยู่ที่ไหนก็ให้เขาอยู่ เราแค่ต้องการแน่ใจว่าธามอยู่อย่างมีความสุข”

เขาก็ต้องการเท่าที่หมอปันต้องการนั่นแหล่ะ อาจจะมากกว่านิดหน่อยก็ตรงที่ เขาอยากเป็นผู้บันดาลความสุขให้ธาม

เพื่อนไม่ต้องคาดหวังว่าจะมีใครมาส่ง พวกนี้โผล่มาแต่เท็กซ์เท่านั้น เขาไม่ฮึดฮัดใส่ใครนอกจากไอ้ที่หนึ่ง เพราะตอนที่มันคลั่งจะเป็นจะตาย บ่นว่าจะขาดใจถ้าไม่ได้ไปหาเจมที่อังกฤษแล้วเดือดร้อนเขาต้องบรรทุกผู้ชายตัวโตแต่ไร้สมองคิดว่า “คิดถึงก็ไปหา” มาส่งที่สนามบิน

แต่สุดท้าย มันก็ไม่สำนึกบุญคุณและตอบแทน ตอนนี้ที่หนึ่งเป็นยิ่งกว่างูเห่าที่ไม่น่าเอ็นดูสำหรับเขาไปแล้ว

กำลังบ่นถึงในความคิด มันก็โทรมาส่งเสียง เขาดูเบอร์ที่หน้าจอโทรศัพท์ระหว่งยืนเคว้งอยู่คนเดียวในสนามบิน เบอร์เป็นของที่หนึ่ง แต่เสียงกลับเป็นของเจม

‘พี่นำครับ’
‘มานี่ พี่พูดกับเพื่อนพี่เอง เจม เจม เอามาสิ’
‘พี่นำไปไต้หวันหรอครับ เจมก็อยากไปเที่ยวไต้หวันเหมือนกัน นี่ถ้าบอกก่อน’
‘เจม หมาเจม พี่หนึ่งโกรธแล้วนะ’
‘โอ้ย สะดือ โอ้ยยย ไอ้เชี่ยพี่หนึ่ง’
‘โชคดีนะไอ้หมอ’

จบแล้ว คำอวยพรของเพื่อน

โป๊ะส่งมาบอกกันสั้นๆ ว่า ‘ที่นั่นมีอะไรน่าซื้อมาฝากก็เอาอันนั้น’
ส่วนพีช ที่เป็นความหวังเรื่องความเป็นคนมากที่สุดในกลุ่ม ส่งข้อความมาว่า ‘แฟนผมอยากได้ถั่วแดง’
หน้าผากเขามีคำว่า “ไปเที่ยวเล่น” แปะไว้รึไงนะ ไอ้พวกนี้!

ผู้นำส่ายหน้าน้อยๆ แต่ใบหน้าหมอจิตเวชกลับแต้มด้วยรอยยิ้มกรุ่นๆ เขาลากกระเป๋ามาที่เคาท์เตอร์เช็คอินแล้วก็จัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวเอง จนมานั่งรอที่หน้าเกทก่อนเวลาร่วมชั่วโมง



3 ชั่วโมงครึ่งที่เขาหลับอยู่บนเครื่อง มาตื่นอีกทีก็ตอนอยากเข้าห้องน้ำ พอจัดการธุระเสร็จก็ถึงพอดี เขาได้นั่งริมหน้าต่าง เก้าอี้โอ่อ่าของชั้นเฟิร์สคลาสไม่ทำให้เขาอยากอยู่กับมันต่อ เขาอยากเจอธามใจจะขาด

สนามบินเถาหยวนไม่แออัดเหมือนที่เขานึกหวั่น แต่ด่านตรวจคนขาเข้าก็มีคนเยอะพอสมควร นักท่องเที่ยวเอเชียด้วยกันดูเยอะกว่านักท่องเที่ยวตะวันตก มี่กรุ๊ปทัวร์จากประเทศไทยด้วยเหมือนกัน วัดจาการคุยกันเซ็งแซ่ด้วยภาษาที่เขารู้จักดี

พอได้กระเป๋ามาแล้ว ภารกิจเอาตัวรอดของเขาก็เกิดขึ้น ผู้นำคุ้ยกระเป๋าหาข้อมูลของธามที่เขาหามาเตรียมไว้ให้ตัวเอง ทั้งข้อมูลที่อยู่จากนักสืบ ข้อมูลการเรียน เบอร์ที่อยู่ เบอร์มหาวิทยาลัย อาจารย์ประจำคณะวิชา ก็ประเทศนี้ไม่ได้เล็กมาก เทียบขนาดแล้วก็เหมือนเอาเชียงใหม่กับอุบลราชธานีมารวมกัน เขาคงไม่ได้หาธามเจอง่ายๆ และข้อมูลของมหาวิทยาลัยก็เป็นสิ่งที่น่าจะเป็นจุดสตาร์ท

เอาล่ะ ตอนนี้เขามีเบอร์โทรศัพท์ที่ธามเคยใช้อยู่ตรงหน้า เขาต้องหาซื้อโทรศัพท์ที่ใช้กับที่นี่ได้เสียก่อน เขาก็ติดต่อตามประชาสัมพันธ์และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวทั่วไป เมื่อได้เครื่องพร้อมเบอร์และการเปิดใช้บริการแล้ว เขาก็ทดลองโทรหาธามทันที

“เหวย”

โอ๊ะ! เสียงธามจริงด้วย เขายิ้มปริ่มแล้วทักตอบ

“ธามครับ พี่นำเอง”

แล้วน้องก็เงียบไป แต่ยังไม่ได้วางสาย เขากำลังจะอ้าปากย้ำว่าเป็นใคร ธามก็ถามอีกครั้ง

“เหวย...หนี ห่าว”

“ครับ พี่นำเอง”

“นำ....”

“ใช่ พี่นำเอง ตอนนี้ที่นำอยู่ที่สนามบินเถาหยวน ธามมารับพี่นำได้มั้ย”

“นำจริงๆ หรอ”

“จริงสิครับ พี่นำมาหะ”

ตัดสายไปแล้ว เขาอึ้งเล็กน้อยด้วยไม่คิดว่าจะถูกตัดสัมพันธ์กันดื้อๆ แบบนี้ ทำใจอยู่ราว 2 นาที เขาก็โทรหาธามอีกคั้ง

แต่เขาติดต่อธามไม่ได้แล้ว ไม่ว่าจะตอนนี้ หรืออีก 4 ชั่วโมงถัดมา

น้อง...ไม่อยากเจอเขาแล้วจริงๆ หรอ?



-----------------



อยากจะตายบ้าที่สุดแล้ว
พี่นำจริงๆ หรอเนี่ย
พี่นำจริงๆ สิ ใช่มั้ย?


ธามนั่งกุมหัวใจตัวเองอยู่บนแท็กซี่ นี่เขารีบมาที่สนามบินเร็วที่สุดแล้ว แม้ว่าก่อนหน้านี้จะต้องรอให้อาหลูปิดร้านให้เรียบร้อยดีก่อนก็ตาม

แต่แม้จะรีบ เขาก็มาถึงสนามบินหลังจากที่รับโทรศัพท์จากพี่นำเกือบ 4 ชั่วโมง ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้าง

เขาไม่ได้ถามพี่นำว่าอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร มายังไง หรือมาเพื่ออะไร แต่รับโทรศัพท์แล้วได้ยินเสียงนำ หัวใจเขาก็เต้นรุนแรงเหมือนระเบิด

เมื่อจัดการจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ธามก็เดินดุ่มๆ เข้าสนามบินด้วยความตั้งใจแน่วแน่ว่าจะหาพี่นำให้เจอด้วยตาของเขาเอง

เดินวนอยู่ 3 รอบก็ไม่เจอเสียที เขาหยิบโทรศัพท์เตรียมโทรฯ หา แต่พลันเห็นผู้ชายสูงๆ ที่ร้านกาแฟเสียก่อน ธามหยุดยืนมองคนคนนั้นที่ถือแก้วกาแฟมานั่งที่โต๊ะ ข้างๆ เขามีกระเป๋าเดินทางและเสื้อโค้ทตัวหนาวางพาดอยู่ บนโต๊ะมีกาแฟหลายแก้วแล้วด้วย

พี่นำจริงๆ ด้วย
พี่นำของธามจริงๆ ด้วย
เขาไม่เคยพบใครแล้วอยากร้องไห้แบบนี้เลย ไม่เคยเลยจริงๆ


ธามเร่งฝีเท้าเดินไปหา เขาหยุดที่ผู้ชายสูงๆ ที่กำลังนั่งดมกาแฟระหว่างอ่านหนังสือเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและโรงแรมในประเทศไต้หวัน ธามเคาะโต๊ะ 2 ครั้ง แล้วรอคอยอีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองกัน

พี่นำจริงๆ ด้วย
ธามไม่รู้ว่าตัวเองน้ำตาไหลด้วยสาเหตุอะไรกันแน่
เขาพยายามเม้มปากตัวเองเพื่อกลั้นน้ำตา แต่มันก็ไหลลงอีกเม็ด อีกเม็ดจนได้
ผู้ชายที่นั่งดมกาแฟยื่นแขนยาวๆ มาเช็ดน้ำตาให้แล้วก็ดึงให้เขานั่งลงใกล้ๆ โอบเขาไว้แล้วพูดคำที่ทำให้กลั้นน้ำตาต่อไปไม่ไหว

“พี่นำคิดถึง ก็เลยมาหา ธามคิดถึงพี่นำบ้างมั้ย?”

ธามจะตอบได้ยังไง
ธามตอบไม่ได้ ตอบไม่ได้จริงๆ


เขาทำได้เพียงก้มหน้าวางหน้าผากไว้ที่แนวไหล่พี่นำและกลั้นน้ำตาไว้กับตัวให้มากที่สุดเท่าที่คนอ่อนแออย่างธามจะทำได้


‘จะต้องให้บ้านนั้นตายสักคนสองคนมั้ยธาม
แค่ยัยป้าคนนั้นเกือบตาย ไม่ทำให้คิดได้เลยหรอว่าชีวิตธามเป็นของพี่’



Cut



ฮูเล่ย์!! มาเร็วเป็นประวัติการณ์ แต่คนอ่านที่เห็นจุดทศนิยมแบบนี้ คงรู้แล้วใช่มั้ยค่ะว่าครึ่งตอน ฮี่ๆ เราก็ใช้มุกเดิมกับช่วงที่ลงเรื่องที่หนึ่ง-เจม ตลอด

ขออภัยในความสั้น
เจอตอนใหม่ ปีหน้านะคะ >,,,,,,,,,,,,,,<
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 22-12-2013 08:53:10
ว๊ากกกกกกกก สงสารธามอ่ะ เพราะโดนขู่ไว้นี่เอง
แต่ดีใจนะที่พี่นำคิดได้ว่าจะต้องไปหาน้องดูแลธามด้วยนะนำ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 22-12-2013 11:15:15
จริงๆควรจัดการไอ้คนที่ขู่นะแม่งไม่จบไม่สิ้นจริงๆ
ฮือออออออออออออพี่นำนี่สุดยอดพระเอกแห่งปีเลย ฉลาดแล้วยังสุขุม
สงสารธามจัง ไม่น่าเจอคนแบบไอ้เหี้ยแซนและคุณพ่อมหาปลัย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-12-2013 23:14:54
เจอกันแล้ว น้ำตาจะไหล อย่าแยกจากกันอีกเลย :hao5:
หลังปีใหม่เลยเหรอคะ ใจจะขาด :katai1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
เริ่มหัวข้อโดย: ReiSei ที่ 02-01-2014 23:56:46
จากที่โมโหโป๊ะอยู่กรุ่น ๆ
เจอประโยคสุดท้ายของแซนเข้าไป  อยากจะข่วนหน้ามันสักสิบรอบ  :katai1:  โหหห ไอ้นี่มันโคตรบ้า ส่งบำบัดด่วนนนนน 
สงสารน้อง  :m15:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.1 (21/12/13)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 03-01-2014 14:29:47
โอ้ยยย ไอ้ญาติบ้า นิสัยไม่ดีอยากได้เงินอยากได้น้องจนลืมคิดถึงจิตใจคนอื่นเลยหรอไงวะ ธามคิดถึงพี่นำจนจะแย่อยู่แล้วเห็นไหม
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 11-01-2014 02:54:23
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 15.2


ตอนแรกก็ตื่นเต้น ซึ้งด้วยนิดนึง แต่นำทำแบบนี้ ธามไม่สนุกด้วยหรอกนะ
ธามหันมองคนข้างๆ ที่นั่งกอดอกฮัมเพลงสบายใจ
ภายในรถยนต์คันเล็กของธาม มีพี่นำ มีกระเป๋าของพี่นำ และธามของพี่นำ ธามไม่ได้คิดไปเอง นี่พูดตามที่พี่นำพูดไว้ที่สนามบิน ก่อนจะบังคับเอาตัวมาให้ธามดูแลด้วยคำว่า
‘พี่มาให้เด็กในปกครองของพี่ได้ดูแล ก็ถ้าธามบอกว่าที่นี่คือบ้านธาม เจ้าบ้านก็ดูแลแขกด้วยนะครับ’

แล้วนำก็โยนกกระเป๋าไว้ข้างหลัง รถจะยุบเอานะ!
แล้วนำก็มานั่งอยู่ในรถ รอให้ธามหายงง รอให้ธามขึ้นมานั่งตรงคนขับ
พอได้ตามใจแล้ว นำก็สั่งอีก

‘พี่นำขออยู่ด้วยนะครับ’

นี่แหล่ะที่ทำให้หายตื่นเต้น แต่กลัวแทน
นำจะมาอยู่กับธามที่บ้านได้ยังไง ธามไม่ได้อยู่บ้านสักหน่อย
แล้วแบบนี้จะทำยังไงล่ะ?

“คิดอะไรครับ หน้ามุ่ยเชียว”

“หน้าธาม”

“รู้แล้วว่าหน้าหมาธาม แต่พี่นำเห็นแล้วว่าหน้ามุ่ย ไม่อยากให้พี่นำอยู่ด้วยหรอครับ? รังเกียจกันหรอ”

“ก็ใช่นำจะกลับมั้ย? กลับสินะ งั้นรังเกียจ”

“รังเกียจก็ไม่กลับ จนกว่าพี่นำจะได้สิ่งที่ต้องการ”

“แล้วนำต้องการอะไร?”

“ธาม”

“อะไร?”

“ธามไงครับ ที่พี่นำต้องการ”

ใจเต้นจนได้
ธามละสายตาจากหน้าพี่นำทั้งที่ยังไม่ได้มองให้พอใจนัก เขาตั้งอกตั้งใจขับรถและฝืนทนให้แก้มกระทบกับสายตาพี่นำแทนดวงตาตัวเอง แต่สุดท้ายธามก็เป็นฝ่ายทนไม่ไหว จนต้องหันไปถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจหน่อยๆ
“นำมองอะไรอยู่เรื่อยได้ ไม่มองสิ”

“พูดว่าอย่ามองต่างหาก ถ้าพูดให้พี่นำเข้าใจไม่ได้ ธามก็ไม่ได้สิ่งที่ธามต้องการหรอกครับ เด็กเอาแต่ใจ”

“ธามไม่ใช่!” พูดเองก็หลุดขำเอง เขาเคยใช้คำพูดปฏิเสธนี้ผิดความหมายอยู่หลายครั้ง แต่พี่นำก็เข้าใจมันทุกครั้ง ครั้งนี้แน่ใจว่าใช้ถูกแล้ว พี่นำคงเข้าใจได้เสียทีว่าธามไม่ใช่เด็กเอาแต่ใจ

“ธามเอาแต่ใจ เอาแต่ใจที่สุดก็ตอนที่ไม่ยอมกลับไปหาพี่ที่กรุงเทพนั่นแหล่ะ บอกได้มั้ยครับว่าทำไม”

“..............” ธามเรียนรู้มาแล้วว่าการเงียบคือสิ่งที่ดีที่สุดที่ธามจะทำได้ ทั้งมองเงียบๆ คิดเงียบๆ อยู่เงียบๆ รักเงียบๆ เหงาเงียบๆ ร้องไห้เงียบๆ

“ตอบสิครับ พี่นำถามนะ เด็กดีไม่ใช่หรอ หรือจะเป็นเด็กไม่ดี”

“ธามเป็นเด็กดีที่เลือกเป็นไม่ดี งงสินะ เหมาะสมแล้ว!” เขาอมลมงับปากแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อ

เถาหยวนอยู่ค่อนมาทางใต้ ส่วนไทเปบ้านธามอยู่ขึ้นไปทางเหนือ ราว 1 ชั่วโมงล่ะนะ แต่ถ้ารถไม่ติดก็คงไม่นานเท่านั้น แต่พอเริ่มเข้าเมืองก็เริ่มเห็นไฟท้ายสีแดงเป็นแถวยาว ธามถอนหายใจพร้อมผ่อนคันเร่งทั้งที่ขับอยู่ไม่เกินที่กฎหมายบังคับ เขาหันมองพี่นำที่มองวิวข้างทางไปเรื่อย พี่นำคงมีตาข้าง ถึงได้หันมาสบตาทันทีที่ธามหันมอง พี่นำยิ้มให้อย่างใจดีแต่ดวงตาพี่นำดูล้ามากเลย

“นำง่วงมั้ย นอนสิ”

“อีกไกลมั้ยครับ?”

“ไม่ไกลแล้วแต่ว่ารถติด นิดเดียวสิ คิดนะ หิวสินะ อยากกินอะไร”

“แล้วแต่ธามเลือกให้ครับ ธามต้องดูแลพี่นำสิ พี่เพิ่งมาที่นี่ครั้งแรกนะครับ”

“โอเค ธามจะดูแลนำเอง”
“งั้นนำพักไปก่อน”

วันนี้พี่นำเชื่อฟังธามดีมาก ถ้าพูดอะไรก็เชื่อแบบนี้คงดี ธามจะได้พูดทุกอย่างที่อยากพูดเพื่อให้พี่นำทำตามที่ธามคิดเอาไว้ แม้สุดท้ายแล้วจะอยู่ไกลกันมากๆ แต่มันก็คงดีสำหรับทุกคน

‘รักเงียบๆ ก็ได้’  ธามหวังว่าพี่นำจะเข้าใจความรู้สึกนี้

-----------------

ราวกับมือเย็นแล่นมาตีตัวเขา ผู้นำสะดุ้งเพราะรู้สึกหนาวยะเยือก เขาตื่นอย่างงัวเงียพลางมองรอบตัว เขายังอยู่ในรถของธาม กระจกด้านธามถูกเลื่อนลงมาจนหมดบาน มิน่า เขาถึงได้หนาวจนแทบจะสั่นเป็นโทรศัพท์ตอนปิดเสียง แล้วเจ้าตัวดีไปไหนซะแล้ว

ผู้นำลงจากรถ เขามองบรรยากาศที่ค่อนไปทางมืด แสงไฟที่ส้มไม่ต่างจากที่เมืองไทยทำหน้าที่ช่วยเหลือเขาให้มองเห็นอะไรต่อมิอะไรชัดตากว่าเดิม

“นำ! ตื่นแล้วหรอ ออกมาหนาวทำไม”
“มานี่สินำ นำมานี่” ปากก็เรียก กวักมือเรียกเขายิกๆ แต่นี่เขายังไม่ได้ขยับสักข้าง ระยะห่างระหว่างเขาและธามก็หดลง หดลงเรื่อยๆ เพราะธามเดินกึ่งวิ่งมาหาเขา

พอยืนให้ดูเต็มตา ถึงได้เห็นว่าธามดูแลตัวเองดีมาก อย่างน้อยเครื่องแต่งกายก็สมกับสภาพอากาศ ไม่เหมือนเขาที่มีสเวตเตอร์ตัวเดียวทับเสื้อยืดไว้ แถมไม่ติดกระดุมอีกต่างหาก

“จมูกแดงเลยนำ หนาวมากสินะ อ่ะ” เจ้าตัวดีใจดีกับเขาอีกครั้ง ผู้นำโค้งตัวนิดๆ เพื่อให้น้องคล้องผ้าพันคอให้เขาได้สะดวกขึ้น เมื่อแน่ใจว่าธามห่วงเขาจริงๆ ไม่ได้อยากรัดคอเขาให้ตาย ผู้นำก็ยิ้มพร้อมพูดขอบคุณ และฝ่ายที่จมูกแดงเป็นธามเสียเอง สงสัยจะ “หนาวมากสินะ” เหมือนกันล่ะมั้ง
“กินสเต็กก็แล้วกัน ร้านนี้เป็นบุฟเฟ่ต์ มีของกินอย่างอื่นด้วย เผื่อนำไม่อิ่ม มาสิ” ชวนเขา แต่การกระทำคือการลากเขานั่นแหล่ะ ผู้นำอมยิ้มน้อยๆ แล้วเดินตามแรงดึงไป กอดคอน้องเดินแป๊บเดียวก็ถึงหน้าร้านแล้ว ข้างใจไม่อึกทึกมาก แต่ก็ไม่ถึงกับไม่มีคน
“นำกินเนื้ออะไร หมู ไก่ วัว ปลา”
“เอาหมูก็แล้วกันนะ”
“&%)&^”
“อ่ะ นำไปหาอะไรกินก่อนมา ธามไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ ไปสิ” ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เกิดขึ้นตั้งแต่เขาก้าวเข้าร้านมาแค่ 2 ก้าว แล้วเจอกับพนักงาน และเขาก็ยืนขาตาย ก็ภาษาจีนกลาง จีนใต้ จีนเล็ก จีนใหญ่ จีนน้อย เขาหูไม่กระดิก มารู้ตัวอีกทีธามก็จัดการให้เสร็จสรรพแล้วใช้สายตาไล่ให้เขาไปหาอะไรกิน
“อายหรอ? โอเค ธามช่วย”

เมื่อพูดว่าช่วย น้องก็ช่วยจริงๆ อะไรที่เขาหยุดดูนาน ธามก็จะก้มหยิบจานในตู้ด้านล่างเคาท์เตอร์ที่ทางร้านจัดเตรียมไว้แล้วตักสิ่งที่เขามองทันที ใจดีบ้างก็จะบอกว่ามันคืออะไร ทำจากอะไร แต่ถ้าใจดีน้อยก็จะใช้ตะเกียบคีบมาจ่อที่ปาก พอเขาอ้าปากเพื่อจะบอกว่า “เดี๋ยวกลับไปนั่งทานที่โต๊ะดีกว่า” เขาก็จำต้องรีบๆ เคี้ยวสิ่งที่ธามยัดเข้าปาก

ตักของกินเล่นๆ กันไม่นาน สเต๊กจานหลักของเขาก็มา อาหารที่ค่อนข้างคุ้นตาคุ้นชื่อทำให้เขารู้สึกสบายตัวขึ้น ผู้นำถอดเสื้อคลุมแล้วก็ลงมือกินสเต๊ก ส่วนธามเอาแต่นั่งเล็มก้อนขนมปังโป่งๆ นิ่มๆ ที่ครอบปากแก้วทรงอวบเอาไว้

“นำลองนี่” สเต๊กพร่องลงนิดหน่อยธามก็ชวนคุย น้องหยิบช้อนของเขา เจาะลงตรงกลางก้อนขนมปังที่เขางงว่ามันจะฟูทำไม แล้วทำไมถึงมาทรงตัวอยู่บนปากแก้วเหมือนเล่นกายกรรมแบบนี้
ช้อนแรกที่น้องตักขึ้นมาอวดเขา ทำให้ผู้นำได้รู้ว่าสิ่งที่ธามนั่งกินมาตลอดก็คือซุปข้าวโพดนั่นเอง และมันอร่อยมาก

กว่าจะรู้ตัวว่าอิ่มมากจนแทบเดินไม่ไหว เขาก็กินอะไรต่อมิอะไรไปตั้งมาก ของหวานที่ปกติไม่ค่อยกินเขาก็ยอมกินเพราะธามนำเสนอเหลือเกินว่าอร่อยอย่างนั้น รสชาติดีอย่างนี้ แล้วเขาจะขัดใจอะไรได้

“นำอิ่มมั้ย” บางที ธามก็ควรจะสังเกตอาการเดินตัวตรงไม่ได้ของเขาแล้วอนุมานเอาได้ว่าเขาอิ่มมาก ผู้นำนิ่งคิด แต่กลับหันไปพยักหน้าให้คำตอบ พร้อมกับคำพูดย้ำความว่า “มากๆ   เลยครับ”

“ดีแล้ว มื้อแรกน่ะต้องกินให้อิ่ม”
“เดี๋ยวธามพาไปที่บ้านนะ แล้วนำก็นอนพักผ่อน”

“แล้วธามล่ะครับ พูดเหมือนจะไปไหนต่อ ให้พี่นำไปด้วยสิ”

“ธามไปทำงาน”

“..........” ทำงาน? น้องทำงานอะไร? ก็เรียนเพิ่งจบไม่ใช่หรอ? ดีไม่ดียังไม่ได้รับใบประกาศฯ เลย หรือว่าได้งานแล้วตั้งแต่ยังไม่จบดี แล้วงานอะไรกันนะ?

“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ” ดูเหมือนคิ้วเขาจะดีดดิ้นประกอบความคิดมากไป ธามถึงได้ถามกันตรงๆ แบบนี้ ผู้นำส่ายหน้าแทนคำตอบแล้วยิ้มให้

“ธามขายเสื้อผ้าน่ะ หุ้นกับเพื่อน”
“ในไนท์มาร์เก็ต ร้านดังนะ”
“ทำมาตั้งนานแล้ว” อ้ออ.. แบบนี้นี่เอง

แล้วธามหัวเราะอะไร?

เขาไม่ได้ถามถึงสาเหตุของอาการหัวเราะอวดลักยิ้มของน้อง ผู้นำเดินตามธามขึ้นไปที่รถ รอบนี้เขาใช้เวลามองข้างทาง และก็มีไกด์ธามคอยอธิบาย...ไม่สิ เรียกว่าอวด “บ้าน” ของตัวเองให้เขาได้รับรู้ว่าไต้หวันบ้านธามนั้น เป็นอยู่กันยังไงบ้าง

บ้านธาม... ไม่สิ บ้านคุณน้าวีณาใหญ่ใช่เล่นเลยนะ ดูภายนอกเหมือนตึก 5 ชั้นธรรมดา แต่พอเข้าไปด้านในแล้วถึงรู้ว่ามันโออ่ามากจนเกินว่าจะอยู่กัน 2 คนป้าหลาน  แล้วในช่วงที่ธามเรียนโรงเรียนประจำ คุณน้าก็อยู่คนเดียวน่ะสิ

“บ้านใหญ่นะครับ”

“อื้อ แต่อยู่จริงๆ แค่ชั้นเดียว ชั้นบน”
“ชั้น 2 ถึงชั้น 4 น่ะออฟฟิศของป้า”
“แต่ปิดแล้ว”

หดหู่จัง
เขาไม่รู้ว่าธามทำใจได้มากน้อนแค่ไหนเรื่องการจากไปของผู้ปกครองและญาติคนเดียวที่รักธาม

“แล้วทำยังไงต่อครับ”

“ลุงหมอเป็นทำธุระ หมายถึง เข้ามาจัดการ แล้วก็ขายต่อธุรกิจป้าไปแล้ว”
“ธามกลับมาถึงได้รู้ว่ามันโล่งไปหมดเลย”
“ธามว่าจะขายที่นี่ แล้วหาที่เล็กๆ อยู่”
“...คนเดียว...”

“จริงสิ หมอปันบอกว่าให้ทนายทางนี้จัดการเรื่องธุรกิจ แล้วก็มรดก เคลียร์เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยครับ”

“ดีแล้ว”
“เหลือก็แค่ที่นี่ ถ้าขายได้ ก็ไม่มีอะไรแล้ว”

“อยากขายหรอครับ” เขาถามพลางหันมองหน้าน้องชาย เด็กชายธามก็ยังเป็นเด็กชายธามสำหรับพี่นำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน พอจ้องหน้าก็จะหลบตา พอถามย้ำก็จะยอมพูดความจริง
“ธามอยากขายหรอครับ”

“บ้านธามนะ อยากขายไม่ได้ ได้ยังไง!”
“แต่จะทำยังไงอีกได้ล่ะ ธามทำอะไรไม่ได้เลย ทำไม่ได้เลย!”

“โอเค” เขาดึงตัวน้องมากอดไว้เมื่อเห็นว่าเริ่มมีอาการเครียดกะทันหัน ผู้นำลูบหัวที่ซุกอยู่ตรงหน้าอกอย่างแผ่วเบาพลางกวาดตามองโดยรอบพื้นที่

ชั้นนี้คือชั้นที่ 4 มันเป็นที่โล่ง มีร่องรอยของการกั้นห้อง วางของและเฟอร์นิเจอร์ติดฝาผนัง สายไฟบนเพดานมีห้อยรุงรังอยู่บ้าง แต่ก็ดูไม่น่ากลัว ไฟที่ให้แสงสว่างมีเพียงที่เดียว คือที่กลางห้อง

ชั้นนี้ก็เหมือนชั้น 2 และ 3 ที่พวกเขาเพิ่งเดินผ่านขึ้นมา
ตอนที่กลับบ้าน ธามต้องเดินผ่านพื้นที่ว่างเปล่าทุกวันรึเปล่านะ แล้วธามมองสิ่งที่กลายเป็นอดีตด้วยความรู้สึกเศร้าแค่ไหนกัน

“ธามมีพี่นำนะครับ ธามได้อยู่คนเดียวซะหน่อย พี่มาอยู่ด้วยแล้วไง”

“เดี๋ยวนำก็กลับ พูดเยอะ!”

“ต้องพูดว่า พูดมากต่างหากครับ”

“อื้อ! นำพูดมาก!” ว่าเขาเสร็จก็ชกหน้าอก แล้วลากเขาขึ้นไปยังชั้น 5
และทันทีที่เปิดประตูบ้านบานใหญ่เข้าไป ผู้นำก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นของสถานที่ที่ธามเรียกว่า “บ้าน”



“นำนอนห้องธามนะ ห้องป้าธามคลุมผ้าเอาไว้ ไม่อยากไปโดน” เขาคิดว่าเขาเข้าใจว่าธามอยากจะสื่อสารว่าอะไร แต่คำพูดดูเหมือนไม่สนใจใยดีเสียเท่าไหร่ เพราะภาษาไทยน้องไม่แน่น

“พี่นำนอนที่ไหนก็ได้”

“งั้นห้องน้ำสิ” ให้มันได้แบบนี้สิ ขนาดภาษาไม่ถูกต้องก็ยังหัวไวและปากไว เขาหัวเราะเศร้าแล้วแกล้งผลักหันธามเล่นเบาๆ รายนี้แกล้งเด้งตัวไป แล้วก็ดีดตัวกลับมาหามือเขาใหม่ เหมือนตุ๊กตาลุ้มลุก และ ‘น่ารัก’  เขาคิดถึงคำไหนไม่ได้เลยนอกจากคำนี้

“มาๆ ทางนี้ แล้วเทคแคร์นะ ธามคงกลับตอนเที่ยงคืน”

ตอนนี้ 3 ทุ่ม ไปแค่ 3 ชั่วโมงก็ยังจะไป เขาล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าเสื้อผ้าที่ธามขายนั้น มันเป็นแนวไหน

ผู้นำพยักหน้ารับลูกเดียว เขาต้องวางท่าทีว่าจะอยู่ในโอวาสเอาไว้ก่อน พอได้ความไว้ใจเพิ่มแล้ว ค่อยล้วงเอาสิ่งที่ธามเก็บงำไว้ก็ยังไม่สาย

-----------------

กว่าจะบอกให้อาหลูเข้าใจได้ว่าพี่ชายคนนี้ของเขานั้นได้มายังไง ก็ทำให้ขายเสื้อไม่ได้สักตัวในคืนนี้
ธามขับรถกลับบ้านด้วยสภาพที่เหนื่อยล้าเหมือนปกติ แต่หัวใจเขาไม่ปกติเอาเสียเลย

ที่นี่ ที่ไต้หวัน ที่บ้านธาม แต่ธามจะได้กลับไปเจอพี่นำ พี่นำที่ธามไม่เคยได้เจอ ไม่คิดว่าจะได้เจอ และไม่กล้าอยากเจอในเวลาที่ “ตัวธาม” อยู่ใน “ที่ของธาม” แบบนี้
คิดแล้วก็ต้องแอบยิ้ม ไม่รู้ป่านนี้พี่นำจะหลับรึยัง แล้วอากาศหนาวจะเปิดฮีตเตอร์เป็นมั้ย? ถ้าหิวน้ำจะกล้าเปิดกินมั้ย? คิดแล้วตื่นเต้นชะมัดเลย

เขาถอยรถเข้าที่จอดรถแสนโล่ง ก่อนหน้านี้ ตอนที่ป้ายังอยู่ ตอนที่มีหลายคนเข้าออกที่นี่เพื่อทำงานในออฟฟิศ ธามไม่ค่อยได้เอารถมาจอดไว้เท่าไหร่เพราะไม่อยากให้คนมีรถคนอื่นต้องเดือดร้อน เขาอาศัยขี่มอเตอร์ไซค์เอา แต่ที่นี่ไม่อันตรายเหมือนเมืองไทยหรอก

จอดเสร็จดึงรั้วปิดนิดหน่อยแล้วเดินลงบันไดที่ลาดสู่ชั้นใต้ดินแต่ที่นี่นับเป็นชั้นที่ 1 ซึ่งเมื่อก่อนนี้เป็นเสมือนหน้าร้าน มีสินค้าของบริษัทป้ามาวางโชว์ไว้ให้พวกซัพพลายเออร์ทั้งหลายมาเยี่ยมดู
แต่เวลานี้ มันเป็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่าเท่านั้น

เขารุดวิ่งขึ้นไปยังชั้น 5 กว่าจะแตะประตูได้ก็เล่นเอาขาล้าเลย เมื่อก่อนนี้ไม่รู้สึกเมื่อยเพราะใช้ลิฟท์ หรือถ้าเดินขึ้นก็ไม่เมื่อยอยู่ดีเพราะแวะทักทายคนนั้นคนนี้ไปตามประสาเด็กชายที่ใครๆ ก็รู้จัก

ธามไม่เคาะประตูส่งสัญญาณ เขาเปิดประตูเข้าไปแล้วมองหาพีนำทันที และก็เจอทันทีเหมือนกัน

“ยังไม่นอนหรอนำ”

“รอธามครับ”

ทำไมยิ้มก็ไม่รู้ สงสัยธามจะชอบที่มีคนอยู่รอ แต่ก็ใช่ว่าธามจะดีใจทุกครั้งที่มีคนมารอพบ อย่างน้อย ตอนที่เจอแซนอยู่ตรงหน้า สิ่งที่ธามรู้สึกมีแต่ความอึดอัดเสมอ

“ง่วงสินะ”

“ยังครับ ธามเหนื่อยมั้ย เกือบตี 1 แล้ว ควรพักผ่อนได้แล้วนะครับ”

“อ้อ อือ” เขารับคำ จากนั้นก็รี่ไปอาบน้ำทำความสะอาดตัว รู้สึกเหมือนกันว่าวันนี้ใช้เวลานานกว่าปกติ สงสัยกินเยอะไปเลยเหงื่อนออกมาก พอออกมา พี่นำก็ยังคงนั่งดูทีวีอยู่ที่โซฟา ตรงหน้ามีเอกสารอะไรสักอย่างซึ่งธามขี้เกียจชะโงกไปดู

“มานั่งนี่มา” แล้วทำไมต้องเชื่อด้วย แม้จะคิดค้าน แต่ขาธามกลับเดินพาตัวเองไปนั่งจุมปุ๊กอยู่ข้างๆ พี่นำ ซ้ำยังเอนตัวไปพิงไหล่พี่นำไว้อีกต่างหาก

“เหนื่อยมั้ยครับ”
“พี่นำมีเรื่องอยากคุยกับธามเยอะเลย แต่ธามคงเหนื่อยมาทั้งวัน เราคุยกันพรุ่งนี้ก็ได้เนอะ”

“อือ นำพูดมาก”
“นำนิ่งๆ” พอเขาบอกให้นิ่ง พี่นำก็นิ่งและไม่พูดอะไรอีก ธามหลับตาพลางถอนหายใจ เขาไถลหัวที่เคยเกยไหล่มานอนหนุนอยู่บนตักพี่นำ ก่อนจะลืมตาสบมองกับใบหน้าที่ก้มมองเขาอย่างสงสัย แต่ก็ยังมีรอยยิ้มให้เหมือนเดิม
“นานเท่าไหร่” เขาถาม แต่นึกได้ว่าพี่นำคงงง ก็เลยพูดเพิ่มทั้งที่ตาแทบปิดแล้ว
“นำอยู่กับธามได้นานเท่าไหร่”

“ตลอดไป ถ้าตอบแบบนี้เชื่อมั้ยครับ”

“ไม่เชื่อ” ธามบอกแล้วจ้องหน้าพี่นำนิ่ง มีบางอย่างผุดขึ้นในหัว และเมื่อมันผุดขึ้นมแล้วธามก็โพล่งพูดออกไปทันที
“แต่ขอให้อยู่กับธามตลอดไป ได้มั้ย”

“ได้ครับ” เขายิ้มเมื่อได้ยินคำตอบ ธามส่งมือขึ้นไปลูบแก้ม จับหน้าพี่นำ เขาจำครั้งสุดท้ายที่ลูบใบหน้านี้ได้ดี คืนที่เขากอดพี่นำไว้แล้วร้องไห้เพราะไม่อยากจากกัน ไม่อยากอยู่คนเดียวอย่างเคว้งคว้างอีก แต่ก็ไม่มีทางเลือกไหนที่ดีกับใครหลายๆ คน และทำร้ายแค่ธามคนเดียวเหมือนทางนี้อีกแล้ว คืนนั้นเศร้ากว่าคืนนี้มาก อย่างน้อยๆ คืนนี้พี่นำก็กำลังยิ้มให้

ธามยกตัวขึ้นเกยตักพี่นำ ซึ่งมันทำให้ธามรู้สึกอุ่นมาก

“ธามครับ”
“พี่นำมาทวงสัญญา”

“สัญญาอะไร”

“สัญญาว่าจะกลับไปหาพี่นำ”

“............”

“สัญญาได้รึเปล่า”

“ถ้าไม่ได้ล่ะ”

“งั้นพี่นำคงต้องอุ้มธามกลับเมืองไทย”
“เพราะพี่อยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีธาม”

ธามดีใจ ดีใจที่มีความสำคัญกับพี่นำ ดีใจที่ทำให้พี่นำอยู่ไม่ได้ ดีใจที่พี่นำอยากอยู่กับธาม
แต่เขาควรดีใจหรอ ถ้าดีใจ ถ้าอยู่กับพี่นำตลอดไป จะมีใครตายรึเปล่า?

ถ้านำตอบคำถามที่ลอยวนเวียนอยู่นี้ได้ ธามก็คงตอบได้เหมือนกัน ว่าจะอยู่กับนำตลอดไป


เขาไม่มีคำตอบให้พี่นำ ธามเม้มปาก หลบตา เขาคิดว่าพี่นำคงถอนหายใจเหมือนที่ชอบทำเวลาที่ธามขัดใจ แต่พี่นำกลับไม่ทำอย่างที่เขาคิดไว้

สิ่งที่พี่นำทำ เป็นสิ่งที่ธามไม่เคยคาดคิดไว้มาก่อนเลย

“จูบนะครับ”



CUT


สวัสดีปีใหม่ค่ะ!!!!!!
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
เริ่มหัวข้อโดย: maemix ที่ 11-01-2014 06:44:24
เขากำลังจุ๊บกัน ตัดจบได้
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 11-01-2014 06:48:56
ติดงอมแงมเลยยยย
สงสารน้องธามจริงๆ
ผ่านปัญหานี้ไปให้ได้น๊าา
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 11-01-2014 07:16:05
โฮ่ววววววว
สงสารน้องธามมมม
พี่นำคะ มาคราวนี้อย่าเสียเที่ยวเด็ดขาดนะคะ!!!
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 11-01-2014 07:46:33
พออยู่ด้วยกันก็น่ารักมุ้งมิ้งเลย  :o8:
แต่ธามครับ ไม่ต้องรักพี่นำเงียบๆแล้วก็ได้นะ ยังไงพี่นำก็สัญญาแล้วนะว่าจะอยู่กับธามตลอดไป :กอด1:
สู้ๆนะธาม อย่าไปยอมให้ไอ้พ่อลูกคู่นั้นมันเอาเปรียบธามนะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 11-01-2014 10:39:14
ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
มุ้งมิ้งมากอ่ะ ตอนนี้
จูบเลย จูบเลย กองเชียร์ลุ้นจนตัวโกร่งแล้ว :hao7:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
เริ่มหัวข้อโดย: sukie_moo ที่ 11-01-2014 16:10:05
โอ้ย!!! สงสารธาม  ไอ้บ้าแซน แม่งโรคจิต
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 12-01-2014 00:38:46
หงายตึง!!!!! จะจูบแล้วโอ้ยยยยยยยยย55555555555555
สวัสดีปีใหม่ค่าอิอิ
พี่นำทำไมรุกจัง ธามก็น่ารัก เลิกคิดมากได้แล้วววว
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 16(14/02/14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 14-02-2014 23:31:10
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 16



เขาไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดีกันแน่ ที่หัวใจเต้นไปกับคำพูดพี่นำคำนั้น

‘จูบนะครับ’ พี่นำพูดคำเดียว ธามก็หัวใจสั่นแทบบ้า เขาจำได้ว่าเงยหน้ามองพี่นำตาพอง พอพี่นำยื่นหน้ามาหาก็หลับตาแน่น สิ่งที่เกิดขึ้นถัดมาก็แค่
‘ที่พี่นำฝากไว้ พี่ธามเองก็ฝากไว้ คือจูบนะครับ’ แล้วพี่นำก็พูดอะไรก็ไม่รู้ ได้ยินแค่สัญญาๆ นี่แหล่ะ ที่ฟังไม่รู้เรื่องก็เพราะว่าพี่นำพูดยาวๆ วกไปวกมา แล้วอีกอย่าง...ธามอาย!

“อ่ะ อ้าว ไม่ทานล่ะครับ แค่นมอุ่นๆ ไม่อ้วนหรอก” ไม่ได้กลัวอ้วนซ้กนิด ธามยู่หน้าใส่แล้วก็หยิบแก้วนมขึ้นมาดื่มให้คนอุ่นให้ได้เห็น
“ดีมากครับ” พี่นำเอ่ยชม ซ้ำยังลูบหัวอีกต่างหาก ธามไม่ใช่ลูกหมานะ! แล้วทำไมธามต้องเอียงหัวไปซุกบ่าพี่นำแบบนี้ด้วย! ตัวธามเป็นอะไรเนี่ย!!
“อ้อนเอาอะไรครับ?”

“ไม่รู้”

“ดึกมากแล้ว ธามนอนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานกี่โมง ให้พี่นำช่วยปลุกมั้ย?”

“ตื่นเองได้ ธามตื่นเองเป็นตลอด”

“เป็นประจำต่างหาก”

“นำก็รู้เรื่องสิ!”  เขาขึ้นเสียงใส่แต่หัวกลับเอนต่ำลงจนกลายเป็นนอนตักอีกครั้งไปเสียได้ ธามไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆ

“ฮึ หมาธามดื้อ ไปแปรงฟันนะครับ”

“นำจะหลับก่อนสินะ” ธามถามดักคอ แต่คำตอบพร้อมรอยยิ้มของพี่นำก็ทำให้ธามเชื่อสนิทใจ

“ไม่ครับ พี่นำจะรอ”

-----------------

ธามว่าง่ายมาก ตอนแรกเขาคิดว่าธามจะดื้อกว่านี่ รู้สึกจะนิ่งๆ ไปตอนที่เขาพูดถึงเรื่องจูบ จะว่าไป ตอนที่พูดก็ใจเต้นแทบแย่ กลัวเหมือนกันว่าน้องจะได้ยินเสียงตึกตักในอก แต่ธามคงไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก นี่ก็คงง่วงแล้วงอแงตามประสา

เด็กก็คือเด็ก แม้จะอายุ 21 ปีแล้ว แต่หากมองจากจุดยืนของเขา มุมมองของเขา ธามก็คือเด็กชายตัวเล็กที่เขาปล่อยให้ห่างตาไม่ได้จริงๆ
และมันก็ช่วยไม่ได้ ที่เมื่อตาจดจ้อง สมองก็มีเรื่องธาม ใจ...ก็มีแต่ธาม

นี่เขา “รักเด็ก” เข้าแล้วจริงๆ หรอเนี่ย?

นั่งคิดอะไรเรื่อยเปือยไม่นาน โทรศัพท์เขาก็ดัง แม้จะโรมมิ่งไว้แต่เขาก็ไม่อยากติดต่อใครให้เปลืองค่าใช้จ่ายนัก เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมอง แล้วเปิดโน้ตบุ้คที่ปิดไปแล้วรอบหนึ่งก่อนธามจะกลับมาที่บ้านตึกนี้

ผู้นำได้ข้อความจากพ่อ เขาจึงเปิดเมลล์ตามคำสั่ง และก็ได้พบกับแผนการที่พ่อเขาเตรียมไว้ โดยที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าเป็นหนึ่งในตัวหมาก

“คิดไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย คุณหมอปัน” เขาเอ่ยแซวพ่อตัวเองและเริ่มอ่านไฟล์ในเมลล์ที่พ่อส่งมาให้ ดูหลวมๆ ครั้งแรกจนครบแล้วผู้นำถึงรู้ว่า หน้าที่ของเขาที่ไต้หวันคือ “รับมือกับนายสุพิสุทธิ์”

ในเมลที่เขาได้รับเป็นข้อมูลจากนักสืบ มีภาพวงจรปิดในซอยบ้าน หน้าบ้าน เขาเห็นรูปเบลอๆ ของรถยนต์ที่เขาเคยนึกสงสัยว่าเปิดกระจกมองบ้านเขาทำไม น่าตกใจที่ไม่ได้มีรถคันนั้นแค่คันเดียวที่แสดงพฤติกรรมน่าสงสัยหน้าบ้านเขา ดูจากภาพที่เห็น ก็ราวๆ 3 คัน

เป้าหมายคนพวกนั้นคือธาม
คนพ่ออาจจะต้องการชีวิต
แต่คนลูก ผู้นำมั่นใจว่าตรงกันข้าม อาจจะต้องการชีวิตธามเหมือนกัน แต่คนลูกไม่ได้ต้องการพรากลมหายใจ การควบคุมลมหายใจของธามต่างหากที่ชายชื่อสุพิสุทธิ์ต้องการ

ข้อมูลที่สำคัญที่สุดที่เขาได้รับก็คือ นายสุพิสุทธิ์เดินทางมาไต้หวันแล้ว เมื่อ 2 วันก่อน
เจ้านั่นมาถึงตัวธามรึยังนะ? มาก่อนเขาวันนึงด้วยซ้ำ แล้วถ้าธามพบเขาแล้ว ธามทำยังไง?

“อะไรตรงนั้นนำ”

“เฮ้ออ” ผู้นำถอนหายใจ เขาคิดว่าเขาควรปลงเรื่องภาษาไทยของธาม เขาละความสนใจจกโน้ตบุ้คเพื่อมองหน้า...เด็กที่มัดจุกน้ำพุที่กลางหัว และมีผ้าคาดตาคล้องไว้ที่คอ
“อะไรตรงนั้นครับธาม” ดูเหมือนน้องจะรู้ว่าอะไรที่เขาสงสัยคืออะไร เจ้าตัวดีขยี้จุกตัวเองพร้อมกับให้เหตุผล

“ธามไม่ชอบให้ผมปิดหน้าก็เลยมัดๆ ไว้ เวลาตื่นนะ ห้ามากเลย”

“ฮารึเปล่าครับ? ธามหมายถึงผมมันดูตลกใช่มั้ย”

“อื้อ” ตอบแบบไม่ใส่ใจเสร็จแล้วก็เดินมาจูงมือเขาเข้าห้องนอน

“นอนเตียงธามได้มั้ย บางๆ นะ หมายถึงมันไม่กว้างใหญ่ เยอะ ใหญ่ๆ อ่ะ นำรู้เรื่องมั้ย?”

“รู้ครับ พี่นำนอนได้ ธามนอนเถอะ พี่นำคิดว่าถ้าฟังภาษาไทยของธามมากกว่านี้ ต้องปวดหัวตายแน่เลย” พอว่าเข้าหน่อยก็เบ้หน้า เจ้าตัวดีผลักตัวเขาออกห่างแล้วก็ทิ้งตัวลงนอน แต่ก็เด้งขึ้นมาใหม่แล้วลากเขาไปนอนที่เตียง

“นอนได้แน่สินะ”

“ครับ นอนได้ ธามก็นอนได้แล้ว” เขากระตุกมือคนที่กอดอกมองเขานอนให้เทตัวลงนอนเคียงกัน และเพราะเตียงมันแคบนิดหน่อย เขาก็เลยต้องนอนเบียดๆ ธามเข้าไว้ แต่คิดในแง่ดี นอนแบบนี้อุ่นกว่านอนเตียงกว้างแล้วสุมผ้าห่มบ่มตัวตั้งเยอะ

เด็กดื้อตะแคงตัวหันมาหาเขา ลมหายใจเกร็งๆเป่ากระทบอก มันอุ่นกว่าลมจากฮีตเตอร์เสียอีก

“อึดอัดมั้ย?” ผู้นำถามเมื่อวาดมือพาดตัวธามไว้ เด็กดื้อสั่นหน้าแล้วก็ก่ายเขากลับ ให้มันได้แบบนี้สิ คงมองเขาเป็นหมอนข้างล่ะมั้ง เขากอดแน่นขึ้น ส่วนธามก็ซุกหน้าถูๆ ไปมากับอกเขา ไม่นานก็ดูผ่อนคลายแล้วก็หลับไปในที่สุด ก่อนจะหลับ ยังฝากคำถามไว้ให้เขาขบคิดอีกว่า “นำ เรากอดกันแบบอะไร?”

ใครจะไปรู้ ผู้นำเองก็ไม่เคยนอนกอดผู้ชายแล้วหลับ ทั้งชีวิตก็มีแต่น้องธามเท่านั้นแหล่ะที่พี่นำเคยแชร์เตียงตัว ตั้งแต่ตอนที่ธามยังเด็ก และตอนนี้ที่ธามคิดว่าธามโตแล้ว แต่ธามก็ยังเด็กอยู่ดี

เขาไม่คิดอะไรให้มากความ ผู้นำฝากจุมพิตบางๆ ไว้ที่หน้าผากและดมไรผมหอมๆ ก่อนจะหลับตาพร้อมกับมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นช้าๆ

-----------------

เช้าแล้ว....
อืม....
เช้าแล้ว!!!
ธามเด้งตัวขึ้นและตัวโคลงทันที เขากระโดดลงจากเตียงแล้วรีบวิ่งออกไปดูที่หน้าประตูห้องใหญ่ จ่อตากับรูเล็กๆ กลางประตูอยู่ร่วม 5 นาที เขาก็ถอนหายใจ

ไม่มีใคร...ดีจริงๆ
ธามอมยิ้มแล้วหันกลับไปยังห้องนอนที่เพิ่งวิ่งพรวดออกมา เขาสะดุ้งเพราะเจอกับพี่นำที่ยืนผมชี้โด่เด่มองมาทางเขาอย่างสงสัย

“มารอหนังสือพิมพ์หรอครับ?” พี่นำถาม ธามก็เลยพยักหน้าส่งๆ เขาหวั่นใจเหลือเกินว่าใครอีกคนจะโผล่มาในเวลาที่กำลัง...มีความสุข
“เช้านี้...” พี่นำพูดค้างไว้แล้วก็เดินไปที่ครัว จากนั้นก็ตะโกนถามธาม
“เราทานอะไรกันดีครับ?”

ธามอมยิ้ม เขาขยี้หัวตัวเองจนยุ่งกว่าเดิมแล้ววิ่งตามไปในครัวที่มีพี่นำยืนหันไปหันมา
“ธามทำให้ นำไปล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อสิ วันนี้อยากไปไหน ธามจะดูแลเอง”

“พูดเป็นเล่น เที่ยวหรอครับ?”

“ได้สิ ธามทำงานตอนกลางคืน”

“งานอะไร?”

“ถ้านำไม่เหนื่อยคืนนี้ ก็ไปกับธามสิ”

“โอเค” พี่ชายเขาพยักหน้ารับแล้วก็หายเข้าห้องน้ำไป หน้าที่เตรียมมื้อเช้าจึงเป็นของธามสมใจ

มื้อเช้าสุดเจ๋ง พี่นำเห็นปุ๊บต้องตาระเบิดวิ้งๆ แน่
มันคือแซนวิชไข่ดาวไม่สุกโรยหมูสับผัดซอส! ที่สำคัญ ไม่มีผักเลยด้วย!
เขากอดพองแก้มภูมิใจในมื้อเช้าหน้าตาดี ส่วนคนที่เขาตั้งใจทำมื้อเช้าให้กำลังนั่งจิบกาแฟดำกลิ่นเข้มข้นอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่หอบหิ้วมาด้วยจากประเทศไทย
ธามดันชามแซนวิชไปตรงหน้าพี่ชายใส่แว่น แต่ก็ได้รับแค่การ “มอง” เท่านั้น

“ไม่กินหรอ? นำไม่ชอบหรอ? ทำไมล่ะ งั้นกินอะไรดี? ทำเองเลยสินะ ได้เลยสิ โอเค!”

“ทานครับ แต่ขอพี่นำจิบกาแฟก่อน”
“น่าทานมากๆ เลย ขอบคุณมากครับธาม”

ทำไมต้องพูดเยอะแยะด้วย ถ้าบอกว่าทาน ก็คือกินสิ กินเลย กินตอนนี้ นี่ทำให้แล้วทำไมไม่กิน คงจะไม่ชอบจริงๆ นั่นแหล่ะ ถ้าไม่ชอบก็แค่พูดมา ธามไม่ว่าอะไรอยู่แล้ว ก็แค่เอาไปทิ้งเพราะกินเองทั้งหมดนี่ธามคงอ้วนท้องระเบิดตาย

“ไม่ต้องกินแล้ว! ไม่ให้” ธามบอกหน้าบึ้งแล้วก็ยึดจานคืน แต่พี่นำกลับยืดมือยาวๆ มาดึงจานไว้เสียก่นอ

“พี่บอกว่าจะทานไง โกรธเรื่องอะไรครับ”

“นำโกหก  นำไม่อยากกินล่ะสิ พูดมาเลย”

“ธามรู้ตัวมั้ยว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องการไว้ใจและเชื่อใจคนอื่น”
“ถ้าพี่นำบอกว่าจะทาน ก็คือทานครับ ไม่มีการโกหกเพื่อให้ธามสบายใจหรืออะไรทั้งสิ้น”
“แค่เชื่อคำที่พี่นำพูด มันยากหรอธาม”

“ไม่เชื่อใครทั้งนั้นแหล่ะ” ธามขมวดคิ้วใส่แล้วก็ดึงจานคืน แต่ครั้งนี้ทำสำเร็จ เขาใจเสียที่พี่นำไม่ยื้อแย่งหรืออธิบายอะไรเพิ่ม พี่ชายใส่แว่นคนนี้เพียงแค่ถอนหายใจและจิบกาแฟต่อเท่านั้น

อะไรกันเล่า!

“ก็แล้วธามต้องทำยังไง เชื่อมันทำกันง่ายหรอ ใครๆ ก็โกหกกันทั้งนั้น ธามไม่อยากเชื่อแล้ว”

“เริ่มจากเชื่อพี่นำ”
“เริ่มจากพี่นำคนเดียวก็ได้ ทั้งโลกนี้ธามไม่ต้องเชื่อใครถ้าไม่อยากเชื่อ เชื่อแค่พี่นำคนเดียวพอ”

“โลกใหญ่ นำแค่คนเดียว ง่ายออก ทำได้อยู่แล้ว แต่ว่า...”

“แต่อะไร?”

“แต่เชื่อนำแล้วได้อะไร คนอื่นก็เหมือนกัน เชื่อคนอื่นแล้วธามได้อะไร”

“ได้ใครสักคนที่สามารถเชื่อได้”
“หาเจอ 1 คนก็เพียงพอแล้วครับ”
“มานี่มา...พี่นำว่าเราต้องนิยามอะไรกันอีกเยอะเลย มานั่งข้างๆ พี่นำนี่”
“มาดูอะไรนี่”

“อะไร?” ธามถามอย่างสงสัย เขาเดินถือจานแซนวิชของโปรดไปหาพี่นำแล้วก็นั่งจุมปุ๊กอยู่ข้างๆ หน้าจอโน้ตบุ้คพี่นำคือรูปภาพมัวๆ แต่เห็นครั้งแรกก็รู้ว่าคือภาพหน้าบ้านลุงหมอ

“ตอนที่ธามอยู่ที่เมืองไทย มีคนตามธามตลอดเลย”
“เพราะแบบบนี้พี่ถึงไม่อยากให้ห่างตา ก็ไม่รู้ธามเข้าใจรึเปล่านะ แต่ถ้าเชื่อกันกว่านี้ หรือถ้าพี่ดูแลดีกว่านี้ ธามคงไม่ต้องไปเหยียบบ้านนั้นถึง 2 ครั้ง 2 คราหรอก”
“พี่นำขอโทษนะ”
“และที่พี่นำต้องตามมาถึงที่นี่ก็เพราะเป็นห่วง”
“ธามดูนี่” พูดจบก็เปิดรูปอื่นให้ดู มีรูปหน้าบริษัทที่โป๊ะด้วย รถคันเดียวกันนี่ตามติดธามไปทุกที่ ไม่สิ ไปจอดที่หน้าโรงพยาบาลลุงหมอ คลินิกลุงหมอด้วยอีกต่างหาก
“นายพิสุทธิ์กับลูกชายเขาไม่ใช่เล่นเลยนะครับ โป๊ะเคยพูดว่าพวกเขาเป็นมาเฟีย แต่พี่ไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ เป็นใครไม่สำคัญเท่าเจตนาอะไร”

“เจตนาคืออะไร?”

“เจตนาคือ ความตั้งใจจะทำอะไรน่ะครับ”
“ดูนะ รูปสุดท้าย เขาตามธามไปที่สนามบินด้วย”
“และเขา...นายสุพิสุทธิ์ก็มาที่ไต้หวันแล้วด้วย”
“กลัวมั้ยครับ”

“................”

“ธาม”

“ซะ...แซนหรอ”
“มาที่นี่หรอ”
“ก็ไหนบอกว่า....”

“ครับ? เขาบอกอะไรธามหรอ”

“...............”

“ธาม ป่านนี้แล้วธามยังไม่ไว้ใจพี่นำอีกหรอ บอกพี่นำไม่ได้หรอครับ”
“เจตนาของพี่คือปกป้องธามนะ พี่นำเป็นห่วงมากนะ”
“ธามครับ”

“....นำ บอกแล้วจะแย่เพิ่ม ธามจัดการได้”
“งั้นนำกลับไทยวันนี้เลย กลับเลย”
“กลับเลยนะ เดี๋ยวธามช่วยเก็บของ”

“ไม่ครับ!”
“พี่ไม่หนี ธามก็ไม่ต้องหนี”
“ธามไม่ได้ทำอะไรผิด พี่ก็ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย นายคนนั้นไม่มีสิทธิ์มารุกรานกันแบบนี้”
“ทำไมการที่เขาไต้หวัน ต้องทำให้พี่จากธามไปด้วย ไม่มีเหตุผล”

“ก็แซน...”

“เขาทำไมครับ”

“นำ นำไม่ต้องมาตายที่นี่หรอก นำกลับไปเถอะ อย่าเดือดร้อนเพราะเข้าใกล้ธามเลย”
“ธามเป็นตัวซวยนะ อยู่กับใคร คนนั้นก็ตาย ป้าเองก็....”

“พี่นำไม่กลัว”

“แต่ธามกลัว!”

“ฟังสินำ ธามกลัว ธามเสียใครไม่ได้แล้ว ธามต้องเสียใจอีกไม่ไหวแล้ว”
“ถ้าใครตายอีกจะทำยังไง”
“ให้ธามหายไปจะง่ายกว่า แค่หายไปคนเดียว ธามหายไปคนเดียว โลกใหญ่ ไม่รู้สึกอะไรหรอก”

“แต่พี่นำรู้สึก และพี่นำไม่ยอม”
“ถ้าพี่ยังอยู่ข้างๆ ธาม ใครก็ทำอะไรธามไม่ได้”

“แล้วนำอยู่กับธามได้นานกี่วันกันล่ะ”

“ตลอดไปไงครับ พี่นำสัญญาไว้แล้ว”

ตลอดไป เท่ากับกี่วัน กี่เดือน กี่ปี กี่สิบปี
ตลอดไปนานแค่ไหนกัน นานกว่าชีวิตแซนรึเปล่า ขอให้นานกว่าด้วยเถอะ
ธามกัดแซนวิชแล้วยัดใส่ปากพี่นำแทน เขาเดินไปหน้าประตูใหญ่อีกครั้งแล้วก็ส่องที่ตาแมว เขามองตาแมวด้วยความรู้สึกกลัวน้อยลงได้ไม่กี่วัน ก็ต้องกลัวมากขึ้นอีกแล้วหรอ? เขายังไม่ได้พักจากความกลัว ความกังวลจนใช้ชีวิตไม่เป็นสุขเลย

“นำ แซนมาแล้วหรอ”

“หมอปันบอกอย่างนั้นครับ”

“โอเค...โอเค” ธามเดินกลับเข้าครัวมาดื่มน้ำ เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บของใช้จำเป็น เสร็จแล้วก็บอกให้พี่นำพกแต่ของจำเป็นติดตัวไว้ เมื่อพีนำถามว่า “จะทำอะไรครับ บอกแล้วไงครับว่าพี่นำไม่หนี”

“ธามก็ไม่ได้หนี ไม่หนีแล้ว เบื่อ!”
“แต่ก็ใช่ว่าต้องอยู่รอนี่ ถ้าอยากเจอธามนัก แซนก็ต้องเหนื่อย เหนื่อยให้เท่ากับพี่ธามหนีจนเหนื่อยนั่นแหล่ะ”

แววตามุ่งมั่นดี น้ำเสียงหนักแน่น ไม่มีความลังเลเจือปน
ผู้นำมองน้องชายที่เด็กกว่า 10 ปีเดินวุ่นวายเก็บของจำเป็นใส่กระเป๋าจนดูวุ่นวาย
น่าแปลกที่เขายิ้มพึงใจกับการ “ตั้งหลัก” ของธาม

“แล้วธามจะพาพี่นำไปอยู่ที่ไหนครับ”

“บ้านธามเอง”

“หือ?”

“อื้อ ไม่ผิดหรอก นี่บ้านป้า แต่ธามจะพานำไปอยู่ที่บ้านธาม”

ไม่ยักรู้ว่าเด็กคนนี้มีแอสเซ็ทเป็นของตัวเอง
แบบนี้น่าสนุกดี ไม่รู้อะไรดลใจให้เขาคิดไปว่าพวกเรากำลัง “หนีตามกัน”


Cut


โซซอววววววเร่!
ขอโทษจริงๆ ค่ะ รอบนี้หายไปนานมากกก
ฮรืออออ ขอโทษจริงๆ
แอบหวังว่าจะมีผู้อ่านจำพี่นำกับน้องธามได้อยู่นะคะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-02-2014 00:14:45
บ้านน้องธามอยู่ไหนน้อ หวังว่าอิพี่แซนจะตามไม่เจอตลอดไปนะคะ :z1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
เริ่มหัวข้อโดย: raviiib❁ ที่ 20-02-2014 23:14:37
มารอค่าาาาาาาาาา
เกลียดอีแซมกรี้ดดดดดดดดดดดดดด
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 15.2(11/01/14)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-02-2014 04:25:32
สงสารธาม แซนนี่โรคจิตเกิ๊นนน
ขอให้มีทางออกดีๆ ด้วยเถอะธามเอ้ย
พี่นำดูแลน้องดีๆ นะ
ปล. ลืมเปลี่ยนวันที่หัวตอนอ่ะค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.1(19-03-14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 19-03-2014 00:38:26
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 17.1


เขาผิดเองที่คิดว่า “บ้านของธาม” จะเหมือนบ้านคนทั่วไป ที่ที่น้องพากเขามาซุกหัวนอนก็คือร้านของธามนั่นแหล่ะ เรียกว่าเป็นธุรกิจที่น่าสนใจก็ว่าได้ เพราะธามเปิดร้านขายเสื้อช่วงสายๆ และมีออเดอร์เข้ามาตลอด ทั้งลูกค้าในประเทศ และลูกค้าต่างประเทศ เขาไม่ได้สอบถามเรื่องธุรกิจอะไรมากนัก เพราะ “พาร์ทเนอร์” ของธามดูเหมือนจะหวงข้อมูลทางธุรกิจมาก
หรือคิดอีกที “อาหลู” น่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่หวงธามมากๆ มากกว่า
เช้าวันนี้เขาทดลองเดินห่างจากซอยร้านของธามไปไกลกว่าเมื่อวานเพื่อสำรวจดูว่าย่านการค้านี้มีชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง หากน้องเขาจะฝังตัวอยู่ที่นี่ จะมีเหตุผลที่สมควรที่เขาสามารถหาเจอกี่ข้อกัน?
“นำ นำจะไปไหนน่ะ ทางนั้นไม่มีอะไรแล้ว”

“หรอครับ? ก็เห็นว่ายังมีตึกอยู่”

“อืม เป็นบ้านคนแล้ว กลับเถอะ เดี๋ยวอาหลูรอ”

“ให้อาหลูรอบ้างไม่ได้หรอครับ” คำถามนี้เขาต้องการคำตอบจริงๆ หลายวันมานี้ทำให้เขารู้ว่า อาหลูคนนี้เหมือนกับอาชีพผู้เขียนบทและผู้กำกับมากๆ หมอนั่นกำกับธามแทบทุกอย่าง ลามมาถึงเขาด้วย ซึ่งมันค่อนข้างน่ารำคาญ และเขาก็ไม่เห็นเหตุผลที่ต้องทำตามสิ่งหมอนั่นต้องการให้ทำ

“ก็อาหลูยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย”

“อาหลูน่าจะทำอาหารกินเองได้”
“ธามพาพี่นำไปเดินให้รอบกว่านี้หน่อยสิ พี่นำเริ่มเบื่อๆ แล้วนะครับ”
“นะ ไปเที่ยวกันเถอะ”
“ไปกัน 2 คนนะครับ”

น้องนิ่งคิดครู๋เดียวก็พยักหน้า ผู้นำแอบยิ้ม นาทีนี้เองที่เขาได้รู้จักกับมุมเจ้าเล่ห์ของตัวเอง

--------------

ที่เที่ยวที่เด็กชายธามพาเขามาหาความเพลิดเพลินเป็นที่เที่ยวระดับเวิลด์คลาสมากๆ  ทั้งโลกนี้ หากใครมาถึงถิ่นประเทศไต้หวันจะต้องไปเที่ยวที่นี่กันทั้งนั้น มันคือตึก 101 ชั้น ซึ่งเขาคิดว่ามันน่าเบื่อ แต่เห็นว่าน้องภูมิใจนำเสนอมากๆ เขาก็เลยไม่พูดอะไร พวกเขาลงจากรถแท็กซี่ สภาพการแต่งตัวก็ไม่สมควรได้รับการตอบรับที่ดีจากคนรอบข้างมากนัก แต่หน้าตาพอจะถูไถได้บ้าง

“ขึ้นไปแป๊บนึงนะ แล้วก็ลงมาทานข้าวกันข้างล่าง แต่อย่ากินอะไรแพงนะ  ธามไม่ได้พกบัตรมา มีแต่แคช”

“ครับ” ผู้นำรับคำว่าอย่างง่าย เขาเงยหน้ามองตึกสูงแล้วอดดึงความทรงจำตอนไปยืนมองตึกคู่ที่มาเลเซียมาเทียบกันไม่ได้ ความรู้สึกที่ได้รับจากการมอง 2 ตึกก็ไม่ได้ต่างกันเลย แต่ครั้งนี้ดูจะมีอะไรให้จำมากกว่าเพราะคนที่มาด้วยกันนี่แหล่ะ

“ธามครับ” เขาเรียกเมื่ออีกฝ่ายเดินนำขึ้นบันไดเลื่อนไปฉิวๆ เด็กผอมคนนี้หันตัวมามองแล้วเลิกคิ้วใส่ ผู้นำไม่ได้พูดอะไร เขาแค่ยิ้มแล้วส่ายหน้าก่อนจะหันมองทางอื่น

ผอมจัง เขาอยากพูดคำนี้ แต่เดี๋ยวน้องจะหน้าบูดเพราะไม่พอใจคำวิจารณ์เสียเปล่าๆ

“นี่นำ”

“ครับ”

“อยู่มากๆ วัน ชอบอะไรบ้างไทเป”

“ถามทำไมครับ”

“just answer”

“ถ้าไม่รู้ว่าจะเอาคำตอบไปใช้ทำอะไร พี่นำก็ไม่ตอบ”

“อยากรู้อันเดียว”

“อยากรู้เท่านั้นต่างหาก พูดให้ถูกคือ แค่อยากรู้ครับ”

“ที่นี่ไทแป ไม่ต้องภาษาไทยด้วยซ้ำ ธามดีให้มากแล้ว”

“โอเค โอเค” ผู้นำยกมือยอมแพ้ เขาก้าวขึ้นมาบนขั้นบันไดที่เสมอกัน และเมื่อก้าวพ้นบันไดเลื่อนทั้งคู่แล้ว ผู้นำก็ถามย้ำอีกครั้ง
“แล้วอยากรู้ทำไมว่าพี่นำชอบอะไรในไต้หวันบ้าง”

“ถ้าชอบเยอะ นำก็อยู่ที่นี่เลย ด้วยกับธาม”

“แต่บ้านพี่นำคือประเทศไทยนี่ครับ บ้านธามก็ด้วย”

“no. mine is here.”

“ดื้อ เมื่อกี้จะถือว่าไม่ได้ยิน ไปเที่ยวกันต่อดีกว่า ไปทางไหนต่อครับ เราต้องขึ้นไปชั้นสูงสุดใช่มั้ย? พี่นำว่าขึ้นลิฟท์ดีกว่าครับ”
“โอ๊ะ นี่ไง ป้ายบอกไว้ เดินวนขึ้นบันไดเลื่อนพอดีหมดแรง”
“มาทางนี้เถอะธาม”

เด็กดื้อทำหน้าหงุดหงิดใส่เขา แต่ก็เดินตามแรงจูง เขารู้ว่าธามกำลังคิดอะไร เปรียบไปก็เหมือนต้นไม้เมืองร้อนที่ได้โผล่มาหายใจเหนือดินครั้งแรกที่ประเทศสุดหนาวในหน้าร้อนพอดี แน่นอนว่าต้นไม้ย่อมดีใจและคิดว่าเจอที่อยู่ที่ควรแล้ว
แต่ความจริงแล้วก็อยู่ได้แค่ช่วงเดียว เหมาะกันก็แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เมื่อเวลาผ่านไป ประเทศหนาวนั้นจะกลายเป็นสุสานต้นไม้ต้นน้อยนั้นในที่สุด ดินที่เคยโอบอุ้มรากไว้จะกลายเป็นผืนดินที่ตรึงรากต้นไม้ไว้ให้ยืนต้นตาย
ธามอยู่ที่นี่ไม่ได้ โดยเฉพาะอยู่คนเดียว

ติ๊ง
เสียงลิฟต์ดึงผู้นำออกจากความคิด เขาเดินนำออกไปรอธามหน้าลิฟต์เพราะน้องตัวบางและโดนเบียดไปยืนในสุด แหล่งนักท่องเที่ยวแห่งนี้ทำให้พวกเขาไม่ดูแปลกแยก ซ้ำธามก็ยังใช้นิสัยเดิมคือขโมยฟังไกด์ แต่รอบนี้ซาวน์แทร็คเป็นภาษาไทยที่เขาคุ้นหูเป็นอย่างดี

“ตามเขาไปก็ได้มั้ย”

“ครับ ตามก็ตาม”
“ธามเดินให้ทันพี่ เดี๋ยวก็โดนเบียดหลง”

“ที่นี่บ้านธาม ไม่หายหรอก”

“ประเทศไทยต่างหากบ้านธาม”

“ไทเป”

“ไม่รู้ ไม่ได้ยิน” เขายียวนแล้วเร่งฝีเท้าตามกลุ่มนักท่องเที่ยวภาษาคุ้นหูไป เขาแอบยิ้มเมื่อธามรีบวิ่งมาขยำเสื้อด้านหลังเขาไว้แล้วเดินตามติดตลอดเวลา

ขึ้นมาด้านบนก็ชมวิวโดยรอบ พวกเขาใช้เวลาสุนทรีย์กันไม่นานก็ชักชวนกันลงมากินข้าวด้านล่างที่เป็นส่วนของห้างสรรพสินค้า ธามเป็นคนเลือกร้านแล้วก็จัดการสั่งอาหารให้เขา โดยรวมแล้วดูอร่อยดี แต่พอน้องแนะนำเขาก็ไม่แตะจานนั้นเลย
“เนื้อกวาง”

--------------

หน้าพี่นำตลกดี ทั้งที่เป็นเนื้อไก่ แต่พอบอกว่าเป็นเนื้อกวาง พี่นำก็ไม่กล้ากินอะไรเลย อยู่กับพี่นำที่นี่มันสนุกตรงนี้แหล่ะ ตรงที่ธามรู้มากกว่าพี่นำ ที่นี่ธามดูแลพี่นำได้หมดเลย

“ยิ้มอะไรครับ? หรือว่าแกล้งอะไรพี่ หือ?” รู้ทันอีกแล้ว เซ็งจริงๆ ธามอมลมจนแก้มกลม เขาส่ายหน้านิดๆ แล้วก็กินข้าวต่อ พอรู้สึกใกล้อิ่มแล้วอาหารจานโม้ไม่พร่องไปเสียที ธามก็ตัดสินใจบอกพี่ชาย

“นำ”

“ครับ”

“จริงๆ คือเนื้อไก่น่ะ chicken จริงๆ”
“ไม่กวางหรอก”

“นั่นไง” พี่นำจิ้มจมูกเขาจนบี้แล้วก็บีบแก้มต่อ ธามคลำแก้มตัวเองป้อย แสดงสีหน้าเจ็บปวด พี่นำเลยคลึงแก้มเบาๆ แล้วก็ทดลองกินอาหารจานโม้ เคี้ยวหยับๆ กรอกตาไปมาแล้วก็ยิ้มแก้มตุ่ยก่อนจะยกนิ้วโป้งให้

“อร่อยใช่มั้ย? ไก่ผัดซีอิ๊วดำๆ ใส่ลูกบางอย่างธามไม่รู้ ป้าณาสั่งให้แม่บ้านทำบ่อยๆ”

“ครับ อร่อยดี”

“งั้นก็อยู่ที่นี่สิ ธามจะหาให้กินทุกวัน”

“บ้านเราอยู่ที่ไทยครับ”
“เราอยู่ที่นี่กันไม่กี่วันก็กลับแล้ว”

“นำ! พูดอยู่ได้ว่ากลับ บ้านธามคือที่นี่ ธามจะอยู่ไทเป ดีมากสุดแล้ว”

“อยู่ที่ไหนก็ไม่ดีทั้งนั้นตราบใดที่ธามป้องกันตัวจากอันตรายไม่ได้”
“ตอนนี้ก็ต้องโอเคอยู่แล้วเพราะอยู่กับพี่นำ กับเพื่อน”
“แต่ถ้านายสุพิสุทธิ์มา ธามจะทำยังไง หนีหรอ? หนีได้ทุกครั้งมั้ยครับ”
“หนีแล้วทำยังไงต่อ หนีได้นานแค่ไหน”
“ที่เราทำอยู่ตอนนี้ก็คือการหนี”
“ธามคิดว่าเขาไม่มีทางหาเจอ แต่ถ้าเขาเจอล่ะ ถ้าพี่กลับไปแล้วแล้วเขาเจอธามล่ะครับ”
“ใครจะช่วย”

“ธามทำได้”

“ยังไงครับ”

“ธามรู้ว่าจะซื้ออาวุธได้ที่ไหน เท่านี้พอใช่มั้ย”

“ไม่พอครับ และเป็นความคิดที่ไม่ได้เรื่อง คิดสั้นๆ”
“มีปืนหรืออาวุธแล้วยังไง เขาทำอันตรายมาก็ยิงเขา ทำร้ายเขา เดี๋ยวเขาก็รักษาหาย หรือจะยิงให้นายนั่นตาย ธามก็ติดคุก ติดอยู่กับบ่วงบาปในใจ ชีวิตจะเป็นยังไงต่อดี หือ?”

“.................”

“ธามยังห่างไกลจากคำว่าเข้มแข็งเยอะมาก ทั้งตัว ทั้งใจ”
“กลับไปให้พี่นำดูแลเถอะนะครับ”

“กลับไม่ได้”
“นำไม่รู้เรื่องหรอก ถ้าจะแย่ ธามแย่เองดีแล้ว”

“เด็กโง่”
“จะให้พี่ปล่อยคนที่พี่รักถูกรังแกอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทั้งตัว ทั้งความรู้สึก พี่นำอยากดูแลเอง”
“ขออนุญาตได้มั้ยครับ”

รอบตัวจอแจ แต่ธามได้ยินพี่นำพูดชัดเจน ใครต่อไปใครเดินผ่านหน้าผ่านหลังจนมัวตา แต่ธามมองเห็นตัวเองในแววตาพี่นำชัดเจน และธามเชื่อพี่นำทุกคำ  แต่ธามเห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่ได้

“แต่ว่า”

“ปัญหาคืออะไรครับ บอกพี่นำมาตรงๆ ได้มั้ย?”

ธามถอนหายใจ เขาดื่มนำหลังจากรวบช้อน ใช้ทิชชู่ซับปากไม่นานก็พยักหน้าตัดสินใจ

“แซนบอกว่าจะฆ่าทุกคนแน่ๆ ถ้าธามยังอยู่ที่ไทย กับจู ก็ฝีมือแซน”

พี่นำนิ่งไปแป๊บเดียวก็เคลื่อนมือมากุมมือธามไว้ จากนั้นก็เลื่อนมือนั้นมาลูบหัวและลูบแก้ม

“เขาขู่อะไรอีกมั้ยครับ”

“แซนไม่คู”

“ขู่ครับ”

“อือ อือ แซนไม่ขู่ แซนทำแน่ ดูจูสิ”

“โอเค เขาทำแน่ แล้วเขาบอกว่าจะทำอะไรอีกมั้ยครับ”

“นำเอง เขาก็จะทำ ถ้าธาม....”

“ถ้าธามทำไม”

“ถ้าธาม...รักนำ”

“แล้วสำหรับธาม พี่นำอยู่ในอันตรายมั้ยครับ”

“อืม”

“แสดงว่ารักพี่”

“...........”

“ใช่มั้ย?”

“ธามไม่ได้พูดอะไรเลย”

“ก็ได้ พี่นำขี้ตู่เก่งอยู่แล้ว”
“ขอบคุณที่บอกนะครับ อย่างน้อยพี่นำก็ได้รู้ว่าเขาไม่คิดจะทำอันตรายธาม”
“แค่อยากครอบครองเท่านั้น ซึ่งพี่จะทำลายฝันเขาเอง”

อะไรของพี่นำกันล่ะเนี่ย?
ธามขมวดคิ้วนิดๆ แล้วก็สะดุ้งขึ้นมาเอง เขาโก่งตัวไปเกาะไหล่พี่นำซึ่งนั่งตรงกันข้ามแล้วย้ำ

“ธามไม่ได้พูดอะไรเลยนะเรื่องรักนำ”
“ธามไม่ใช่”

“ครับ พี่นำคิดเองได้อยู่แล้ว”

“ไม่ใช่นะนำ ไม่ใช่”
“ไม่ใช่ we’re brother”
“นำ! นำหัวเราะมั้ย ไม่เอา ธามไม่ใช่!”

“ครับ พี่นำบอกแล้วไงว่าพี่นำคิดเอาเอง”

“นามมมมมมมม” ธามงอแงอยู่ครู่หนึ่งก็กระแทกตัวนั่งลงตามเดิม ดูจากสีหน้าพี่นำก็รู้ว่าพี่นำรู้แล้ว ไม่ใช่ ไม่ใช่ พี่นำรู้ผิดๆ ธามไม่ได้รัก...ธามไม่ได้พูดออกมาก็เท่ากับว่าธามไม่ได้รัก....
ใช่มั้ย?

พี่นำขี้โกง!

“อิ่มรึยังครับ ป่านนี้อาหลูของธามชะเง้อรอคอยาวแล้ว”
“รู้มัยว่าคนคอยาว คนไทยเรียกว่าอะไร?”

“.............” ธามขมวดคิ้วพลางส่ายหน้า เขาครุ่นคิดและเดาไปว่า
“ห่านสินะ”

“ไม่ใช่ครับ คอยาวเป็นเปรตต่างหาก”

“เป็ด? เป็ดคอสั้นกว่าห่านอีก”
“ห่านสิ”

“เปรตครับ เปรต ลากเสียงยาวๆ เลย”

“เป็ด”

“ดื้อ!” พี่นำย่นจมูกใส่แล้วก็เรียกพนักงานเช็คบิล ธามเคยตัวนั่งสบายๆ อยู่ครู่เดียวก็รู้ตัวว่าควรเป็นคนจ่ายค่าอาหาร แต่พี่นำก็จัดการเรียบร้อยไปแล้ว

เฮ้อ... แล้วอยู่ใกล้ๆ พี่นำแบบนี้ ธามจะโตได้ยังไงกัน


เดินพ้นสถานีรถไฟมาไม่ไกลนักธามก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ จริงๆ แล้วย่านไนท์มาร์เก็ตนี้จะเงียบเหงามากในเวลากลางวัน ในเมื่อชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นตลาดกลางคืน แต่ตอนบ่ายต้นๆ แบบนี้ เจ้าของร้านค้าต่างๆ มักเริ่มออกมาใช้ชีวิต บ้างก็ข้าวกลางวันกิน บ้างก็เตรียมของ จัดพื้นที่ด้านหน้าเพื่อรอนักท่องเที่ยวที่จะเริ่มทยอยมากันตั้งแต่หัวค่ำ

แต่ไนท์มาร์เก็ตในบ่ายวันนี้เงียบปิดปกติ เงียบเหมือนมีแขกที่พวกเจ้าของร้านไม่อยากต้อนรับมาเดินเตร่สร้างความไม่สบายใจ

“ธาม!” เสียงเรียกมาจากร้านที่รู้จักกันดี ธามหันมองและถอยห่างเพราะคนที่เรียกเขามีสีหน้าตื่นๆ เขาถามด้วยภาษาจีนท้องถิ่นว่าหายไปไหนมา จากนั้นก็เล่าเรื่องตามลำดับเหตุการณ์และบอกว่าเป็นห่วงเขากับอาหลูมากจริงๆ

ตัวธามน่ะไม่น่าเป็นห่วงหรอก แต่อาหลูไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลยสักนิด!

“ไปกันเถอะนำ”

“หือ? เกิดอะไรขึ้นหรอครับ”

“แซนเจอเราแล้ว”

“อ้อ...ดีเลยครับ พี่นำก็อยากเจอเขาเหมือนกัน” พี่นำตอบด้วยเสียงหนักแน่น พี่ชายคนนี้คว้ามือธามไปกุมไว้แล้วเดินนำกลับไปที่ร้าน ธามไม่รู้ว่าพี่นำหนักหัวใจบ้างรึเปล่า แต่ธามรู้สึกหนักมาก หนักจริงๆ
ธามไม่อยากเจอแซนเลย แลกกับอะไรก็ยอม



Tbc 17.2



ขออภัยในการมาต่อช้า และเนื้อเรื่องหมอนำกับน้องธามไม่คืบหน้าสักเท่าใด ซาจะรีบขมวดค่ะ T^T  :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 16(14/02/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 12-04-2014 10:36:06
ตามมาจากเรื่องพี่หนึ่งค่ะ
พึ่งอ่านไปได้ห้าตอน
สารภาพ ปลื้มน้องธามค่ะ 55
น้องน่ารักมาก  :-[   ชอบที่น้องไม่ค่อยรู้ภาษาไทยค่ะ
เด็กคนนี้เวลาพูดไทยทีล่ะน่ารักก
พี่นำก็น่ารักค่ะชอบที่ดูแลน้อง
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 16(14/02/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 13-04-2014 10:46:02
อ่านตามจนถึงตอนล่าสุดแล้วค่ะ
ควรเครียดไหมพี่แซนเป็นโรคจิตแบบนี้  แต่ไม่ค่ะ
ความน่ารักของน้องธามเอาไปเต็มเปา 
น้องน่ารักเกินไปแล้วววววววววววววววววววว   :ling1: :ling1: :ling1: :ling1: :ling1:  *จะอาววว
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 16(14/02/14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 13-04-2014 14:01:40
คิดถึงธามจังเลยค่ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 16(14/02/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 13-04-2014 14:22:31
เมื่อไหร่จะมาต่อ :sad4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 15-04-2014 00:32:45

Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 17.2



แล้วแซนก็ทำสิ่งที่ธามรังเกียจอีกจนได้
เขาแทบวิ่งไปหาเพื่อนที่นั่งตาช้ำม่วงอยู่ที่กลางร้าน ร้านเสื้อของเขาถูกรื้อรวกๆ จนข้าวของกระจัดกระจาย ธามถูกฉุดไว้และก็ถูกบังไว้อีกจนได้

“นำหยุดยุ่ง”

“ยังไงก็ต้องยุ่ง นายคนนี้มันจะเกินขอบเขตมากไปแล้ว”
“การระรานหรือรังแกคนอื่นที่อ่อนกำลังหรืออ่อนปัญญากว่า มันไม่เรียกว่าเป็นลูกผู้ชายหรอกธาม”
“ธามพูดภาษายังค่อยจะรู้เรื่อง ธามจะไปพูดให้นายนี่เข้าใจอะไรได้ อยู่เฉยๆเลย”

“แต่นี่เรื่องธาม”

“ธามกับพี่ก็เรื่องเดียวกัน”
“บอกให้อยู่เฉยๆ ไงครับ” พี่นำเอียงหน้ามาดุแล้วดันตัวธามไปติดประตูร้าน ส่วนตัวเองเดินอาดไปกลางวงคนแปลกหน้าที่ห้อมล้อมอาหาลูอยู่ ส่วนแซนยืนกอดอกมองธามอยู่ด้านในสุดของร้าน

“มาแล้วหรอธาม”

“มีอะไรก็คุยกับผม น้องไม่มีเรื่องอะไรต้องเจรจากับคุณอีก”
“แล้วก็ปล่อยเพื่อนธามซะด้วย ทำแบบนี้ผิดกฎหมายนะครับ”

“อย่ามาสู่รู้ได้มั้ยไอ้หมอ”
“ลื้อจะเป็นอีกศพไปด้วยเปล่าๆ อยากตายที่บ้านเกิดหรือที่นี่ล่ะ หือ!”

“............” ผู้นำพยายามสะกดความไม่พอใจเอาไว้ เขาเรียนมาแล้ว เขาเข้าใจว่าตรรกะของคนป่วยแบบนี้เป็นอย่างไร เขาไม่ควรเต้นตาม
“คุณสุพิสุทธิ์”
“สิ่งที่คุณทำมันผิด และไม่มีใครยอมรับหรอกครับ”
“หยุดรังแก หยุดคุกคามธามเสีย ต่างคนต่างก็มีชีวิต มีตัวตน คุณจะมาข่มเหงกันแบบนี้ไม่ได้ ธามมีสิทธิ์จะใช้ชีวิตของธาม”
“นี่ยังไม่นับข้อหากักขัง หน่วงเหนี่ยวผู้อื่นอีก”
“ดูเหมือนคุณจะทำร้ายเพื่อนของธามด้วย”

“โว้ยยย! หยุดพล่ามซะทีเถอะไอ้หมอ มึงไม่เกี่ยวเหี้ยอะไรเลย!”

“ผมเกี่ยวครับ ผมเป็นพี่ชายธาม”

“ไอ้เหี้ย!!”
“มึงไม่ใช่ มึงไม่ใช่!! กูนี่ กูคนเดียวที่เป็นพี่ชายมัน กูเท่านั้นที่ดูแลมันได้ มึงไม่เข้าใจมึงอย่าเสือก!”
“อย่ามาเสือกเรื่องของกูกับน้องกู!”

“ธามก็เป็นน้องชายผมเหมือนกัน และผมไม่เคยทำให้ธามรู้สึกหวาดหวั่นจนต้องดิ้นรนหนีทุกทาง”
“และผมก็ไม่เคยตามทำร้ายทุกคนที่อยู่รอบตัวธาม เพื่อสร้างเงื่อนไขมาขู่ธามแบบที่คุณทำ”

“กูไม่ได้ทำอะไรผิด! ได้ยินมั้ยว่ากูไม่ผิด”
“กูทำได้ กูเป็นพี่ กูหวังดีทั้งนั้น”
“ธามมันจะไปรู้อะไร”

“แล้วคุณรู้อะไรที่ธามไม่รู้ล่ะครับ” ผู้นำธามสวนไปทันที นายสุพิสุทธิ์ชะงักไป เขาหยุดโก่งคอตะคอกเสียงดัง ผู้ชายคนนี้เดินอาดๆ มาเผชิญหน้ากับเขาจนหน้าผากประชิดกัน

“อย่าเรียกว่ารู้เลย กูกำหนดได้ต่างหาก กูจะให้อยู่ หรือจะให้มันตายๆไปซะก็ได้”
“ธาม เป็น ของ กู!”

“ไม่ใช่ครับ” ผู้นำตอบเสียงนิ่ง เขาก้าวถอยห่าง และก้มมองสิ่งที่จ่ออยู่กลางอกเขา

ปืน

“ธาม ก็คือ ธาม”
“ชีวิตธาม ธามเป็นเจ้าของ ธามเป็นคนเลือก ธามเป็นคนอยู่กับผลของการกระทำที่ธามเลือก”
“คุณ ไม่มีสิทธิ์”

กริ๊ก

ผู้นำยังยืนนิ่งแม้หูได้ยินเสียงเบาๆ แต่ชัดเจน เขามองนัยน์ตานายสุพิสุทธิ์อย่างไม่หวาดกลัว คิดเพียงว่าคนตรงหน้าน่าสงสารจริงๆ ทำไมคนถึงเป็นพ่อไม่คิดจะให้ลูกชายได้รับการรักษาอย่างจริงจังนะ

“หยุดนะแซน อย่ายุ่งกับนำนะ” ธามเดินมาดึงพี่นำออกห่างจากแซน เขาโมโหจนอยากทุ่มของหนักทุกอย่างที่หาเจอใส่หัวแซน เผื่อจะหายไปจากโลกนี้เสียที

เมื่อดึงตัวพี่นำออก ธามถึงเห็นปืน และมันก็จ่อมาทางหน้าอกธามทันที

“ทำไมจะยุ่งไม่ได้ ถ้าพี่อยากให้มันตาย มันก็ต้องตาย”
“และคนที่ผิด คนที่ทำให้พี่ต้องทำแบบนี้ ก็คือธาม”

“ไม่ใช่ครับ เขาเลือกทำเอง ธามไม่เกี่ยว” พี่นำพูดแก้ต่างให้ในขณะที่ธามคิดถึงหน้าจูขึ้นมาทันที เขาหันมองพี่นำอย่างลังเล แต่สายตาพี่นำก็ไม่เคยแสดงความไม่มั่นใจ

“แต่...”

“เขาผิด เพราะเขาเลือกทำผิด”
“เขายึดติดกับธามเกินไป ก็เพราะเขาอ่อนแอเอง เขาป่วย”

“กูไม่ได้ป่วย!”

ปัง!

เสียงปืนดังตัดสติทุกอย่าง ธามค้อมตัวก้มหัวหลบเสียง เขาหายใจถี่กระชั้นและลุกขึ้นยืนมองแซน และพี่นำ
ยังไม่มีใครเป็นอะไร และธามจะปล่อยให้ใครเป็นอะไรไม่ได้อีก
อาหลูที่ดูเหมือนจะเจ็บหนักตั้งหัวขึ้นมองธามอย่างโงนเงน เพื่อนธามยังถูกมัดติดเก้าอี้ไว้ มีคนคุมอยู่ 3 คน ข้างๆ แซนก็มีอีก 2 คน และธามล่ะ มีแค่ธามกับพี่นำเท่านั้นเอง

แล้วจะสู้อะไรเขาได้

“ว่าไงธาม”
“ชีวิตธามเป็นของใคร”

“ธามครับ เชื่อพี่นำสิ”

“ธาม ตอบสิ”

“ธาม...” เขาพูดเสียงสั่น ธามมองอาหลูที่มองธามแน่วแน่ อาหลูยิ้มให้ด้วย เขาหันมองพี่นำ พี่นำก็ยิ้มให้และหันไปตีหน้ายักษ์ใส่แซนแทน

ธามอยากเลือก ธามเบื่อกับเรื่องแบบนี้เต็มทน
ชีวิตเป็นของธามใช่มั้ย? ธามเลือกได้ใช่รึเปล่า

“ธามไม่ใช่ของของแซน”
“ไม่เคยใช่ ไม่มีวันเป็น”
“เลิกยุ่งกับธามได้แล้ว!”


ปัง!!!

ธามยืนตะลึง เขากลั้นลมหายใจอย่างลืมตัวและเริ่มระลึกรู้ ธามก็ก้มมองตัวเองเป็นอย่างแรก
แซนไมได้ยิงธาม แล้วแซนยิงใคร?
เขาหันมองพี่นำทันที ใบหน้านิ่งเรียบมองเขาและค่อยๆ ล้มลง พี่นำกุมท้องตัวเองที่มีเลือดแดงฉานแผ่กินพื้นที่เสื้อมากขึ้นเรื่อยๆ
“นำ!”
“พี่นำ!!!”

“หยุดจะธาม ถ้าไปหามันอีก แกตายแน่!”

“ตายเลย เอาเลย!!” สุดท้ายธามก็ระเบิดอารมณ์ออกมาจนได้ เขาจะไม่กลัวอีกแล้ว หากความกลัวทำให้พี่นำต้องเจ็บแบบนี้ ธามก็จะไม่กลัวอะไรอีก แม้แต่แซนก็เถอะ!
“ยิงเลย ยิงเลยสิ หมดเลย ให้หมดเลย”
“ทำสิ ทำเร็วๆ ถ้าแซนไม่ทำ แซนนั่นแหล่ะจะตาย!” ไม่พูดเปล่า ธามชกอีกฝ่ายจนหน้าหัน ปืนเล็กหลุดจากมือแซน และก็โชคดีที่ธามพุ่งไปตะครุบมันไว้ได้

เขารู้ว่าต้องซื้อปืนที่ไหนแต่ธามไม่รู้หรอกว่าปืนนี่มันยิงกันยังไง เขาเพิ่งจับมันครั้งแรกด้วยซ้ำ

“ธาม! เอาปืนพี่คืนมา ธาม เร็วสิ”

“ไม่!”
“กลัวสินะ กลัวถูกแล้ว”
“แซนต้องกลัว คนที่ไม่มีอะไรคือแซน คนที่อ่อนแอคือแซน คนที่ถูกรังแกคือแซน”
“แซนโดดเดี่ยว แซนไม่มีใครรัก”
“แซนต่างหากที่ตายไปแล้วทุกอย่างต้องดีขึ้น”

“หยุดนะไอ้ธาม!”

“ไม่ ธามไม่ใช่ ไม่หยุด”
“แซนบ้า แซนเป็นบ้า”
“ถ้าพี่นำเจ็บ ธามจะฆ่าแซนเอง ธามจะฆ่าให้หมดทุกคน จะทำแบบที่แซนทำ แซนจะได้รู้!!”

“กูต้องรู้อะไร! มึงนั่นแหล่ะต้องรู้ไว้ไอ้ธาม มึงไม่มีสิทธิ์ทำอะไรกู กูเป็นคนกำหนด กู กู กู!!!”

ปัง!! ธามตัดสินใจยิงปืนมั่วๆ แต่ปลายกระบอกหันไปทางแซนและพรรคพวก เขาหลับตาหลบเสียง เมื่อเห็นทุกคนชะงักก็ก้าวมาหาพี่นำทันที มือพี่นำยังกุมท้องตัวเองอยู่ และเลือดแดงเข้มก็ยังซึมกินเสื้อมากขึ้นเรื่อยๆ

“นำ!”

“ธามครับ ส่งปืนให้พี่นำ แล้วโทรเรียกรถพยาบาลให้พี่นำที”

“อื้อ!” เขารับพยักหน้ารับและส่งปืนให้ทัน ธามโทรศัพท์และหันกลับมามองแซนที่ยืนนิ่งมองธามอึ้งๆ ธามยังคงนั่งอยู่ข้างๆ พี่นำ แต่สายตาธามจับจ้องอยู่ที่แซน เมื่อปลายสายรับ ธามก็พูดด้วยภาษาไต้หวัน ในที่นี้ คงมีแต่พวกนักเลงกับอาหลูเท่านั้นที่เข้าใจได้ว่าธามโทรแจ้งตำรวจ
เมื่อพวกนั้นเข้าใจสถานการณ์ มันก็ทิ้งแซนไปทันที ธามโทรศัพท์เรียกรถพยาบาลเป็นลำดับถัดมา เขายังจ้องแซนไม่วางตา เมื่อจัดการเรียบร้อยแล้วก็ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับพี่ชายที่ธามขยะแขยงเต็มที

“ถ้าจะหนีก็ต้องไปตอนนี้ ถ้าตำรวจมา แซนจะต้องติดคุก”

“กูไม่กลัว!”

โดยไม่ทันได้ตั้งตัว ธามก็ถูกล็อคคอไว้ มีดสั้นถูกหยิบมาจี้คอธามไว้ ส่วนลมหายใจจากแซนประกบอยู่ข้างๆ ซอกคอ
“มาก็ดี จับกูไปเลย ให้กูนอนในคุกที่นี่ ไม่ต้องกลับไปแบกรับอะไรอีก”
“พี่ตายได้ธาม พี่ตายได้”
“แต่ต้องแน่ใจว่าธามตายแล้วเท่านั้น”
“ถ้าพี่ตายก่อน ใครจะดูแลธาม”
“เด็กขี้หนาว เราเป็นเด็กขี้หนาว ถ้าพี่ไม่กอดไว้ธามจะหลับได้ยังไง”
“น้องธาม น้องธามไม่ต้องกลัวนะ”

“แซน!”
“แซนปล่อย แซน ธามเจ็บ!” ธามบอกตามที่รู้สึก ตอนนี้ปลายมีดสะกิดผิวที่คอจนได้เลือดแล้ว

“เจ็บหรอ”
“พี่ก็เจ็บเหมือนกัน น้องธามหนีพี่ทำไม ไม่รักพี่แซนแล้วหรอ ไม่อยากอ้อนพี่แซนแล้วหรอ”
“พี่จะไม่ให้พ่อตีธามอีก พี่จะรับผิดเอง พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ”

“แซน แซนพูดไม่รู้เรื่อง ปล่อยธาม ปล่อย!”

“พี่ปล่อยไม่ได้หรอก”
“ปล่อยก็หนีอีก”
“อย่างธามจะทำอะไรได้ น้องธามไม่รู้หรอกว่าข้างนอกมันน่ากลัว”
“เชื่อพี่สิ เชื่อสิ เชื่อ เชื่อ!!”
“ธามต้องเชื่อพี่ ต้องเชื่อพี่!”

“ไม่!! ปล่อย บอกให้ปล่อยไง!!”

“มึง! ไอ้ธาม”
“มึงหนีกู มึงทิ้งกู มึงมันเหี้ย มึงทิ้งกู ทิ้งกูไว้คนเดียว ทิ้งกู”
“ฮึ่ก...ฮือออออออออออออ ทิ้งกู”

ธามสะบัดตัวหนีและหันมองแซนที่มีท่าทางแปลกๆ เขาจับคอตัวเองและเจอความเหนียวหนืดและกลิ่นเลือดตัวเองทันที ธามแบมือแดงฉานเพื่อดูให้แน่ชัด เขามองหน้าแซนที่หลุกหลิกแปลกๆ

“แซน เอามีดให้ธาม”
“เอามืดมาให้ธามสิ”

“ไม่ มึงจะเอามาฆ่ากู”
“มึงรู้แล้วใช่มั้ย รู้แล้วก็หนีไป พี่ช่วยอะไรไม่ได้ พี่เสียใจ”
“พ่อไม่ปล่อยไว้แน่”
“พี่ขอโทษ พี่จะช่วยธามยังไงดี พี่ขอโทษ”

“แซน...เอามีดมา แซนไม่อยากเจ็บหรอก ส่งมาให้ธาม”
“ธามจะทิ้งให้เอง”

“โกหกล่ะสิ มึงรักมัน ชอบมันมากกว่ากู”
“มันสั่งให้ทำอะไรกูล่ะ มันอยากให้กูเจ็บ ไอ้หมอนั่นมันอยากให้กูเจ็บ มันขโมยน้องกู ไอ้หมอมันขโมยน้องกู”
“มันนั่นแหล่ะต้องตาย!” จู่ๆ แซนก็พุ่งไปหาพี่นำที่แทบจะนอนกองไปกับพื้น ธามรีบเอาเข้าขวางแล้วก็ถูกกระแทกล้มลงทันที
.
.
.

“....ธาม....” เขาลืมตาอีกครั้ง เขานอนราบกับพื้น พื้นค่อยๆ ลื่นขึ้น กลิ่นเลือดคละคลุ้งไปทั่วจมูก ธามไม่ชอบกลิ่นนี้เลย

“ธาม!!!” พี่นำเรียก ดีจังที่พี่นำไม่เป็นอะไร เขาดันตัวเองให้นอนหงาย รู้สึกเจ็บไปทั่วทั้งอก คงล้มแรงแน่ๆ เลย
“ธามได้ยินพี่มั้ย ธาม ธาม”

“นำ”

“ธาม ธาม อดทนก่อนนะ เดี๋ยวรถพยาบาลก็มา”

“นำเจ็บมั้ย อย่าเจ็บนะ”

“เด็กโง่ พี่นำไม่เจ็บแล้ว พี่นำไม่เป็นไรแล้ว ธามครับ”
“ธาม ธาม ธาม!!!”
.
.
.
.
.
.
พี่นำ .... ธามเจ็บไปทั่วทั้งหน้าอกจริงๆ




TBC...


ฝากให้ติดตามกันจนจบด้วยค่ะ เข้าสู่ระยะสุดท้ายกันแล้ว >,<



หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 15-04-2014 00:59:34
 :sad4: ม่ายยยยยยย ธามมมมอย่าเป็นอะไรนะ :katai1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 15-04-2014 01:20:56
โอ้ยยยย ค้าง สงสารธาม :hao5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 15-04-2014 06:55:06
มีแต่เลือด....เลือดเต็มไปหมดเลย อร๊าย กลัวเลือด :ling3:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 15-04-2014 12:24:21
โอ้ยย ลุ้นๆ อย่านานเป็นเดือนน่ะค้า
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: apass ที่ 17-04-2014 12:05:36
เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ  อ่านรวดเดียวจบเลย

ชอบพี่นำ กับธามมากๆ

อยากอ่านอีกค่ะ

 :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 17-04-2014 12:39:28
อยากจะประสาท แค่คนบ้าๆคนเดียวทำให้เรื่องราวใหญ่โต พ่อก็เห็นแต่สมบัติลูกก็อยากได้ ในสิ่งที่เค้าไม่อยากจะให้ มีแต่กลิ่นคาวเลือด

น้องน่าสงสาร
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 17-04-2014 15:20:47
สงสารธามจัง
อยากให้กรรมตามสนองให้สาสมกับความเลวของพ่อลูกคู่นี้
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: TrebleBass ที่ 17-04-2014 20:54:35
 :katai1:  รู้สึกจี๊ด ๆ ๆ ๆ ในใจกะพี่แซนจริง ๆ 
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Chi~Tao ♥ ที่ 19-04-2014 12:56:24
ไอ้แซน!!!!!!  แกทำอะไรลงไป  ไอ้บ้า! ไอ้นิสัยเสีย! พ่อแกก็นิสัยเสีย! ปล่อยลูกโตมาแบบนี้ได้ไงวะ?!
แกทำธามเจ็บ! แกทำพี่นำเจ็บ! ไอ้คนนิสัยไม่ดี  ฮึ่ยยยยยยย!!
ถ้าธามกับพี่นำเป็นอะไรนะ   แกตายแน่  ไอ้บ้าแซน!!
 :m31:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: janepepo ที่ 19-04-2014 18:17:42
 
:a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5: :a5:


 :katai1: พอแล้วๆเลือดเยอะแล้ว
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 20-04-2014 00:23:01
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 18

เดือดร้อนหมอปันอีกจนได้
ผู้นำยกมือไหว้พ่อตัวเองที่ยกมือขึ้นลูบหัวเขาอย่างเข้าอกเข้าใจ เขาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในไทเป มีทนายจากไทย ทนายที่ไทเป และพ่อเขามาดูอาการเป็นกลุ่มแรกหลังจากที่เขาฟื้นจากอาการถูกยิง

“ธามล่ะครับพ่อ”

“เจ้าธามเจ็บเยอะเลย แผลลึก แต่ก็ไม่โดนปอด คงต้องใช้เวลารักษาตัวนานหน่อย แต่ก็เดินทางได้”

“พ่อจะพาธามไปไหนหรอครับ”

“พากลับบ้าน” พ่อเขาบอกแล้วลูบหัวเขาอีกครั้ง ผู้นำขมวดคิ้วแล้วพยุงตัวลุกขึ้นนั่ง เขาพักอยู่ในห้องพิเศษเดี่ยวของโรงพยาบาล ธามเองก็เหมือนกัน

“พ่อครับ นำไปเยี่ยมน้องได้มั้ย”

“นำเดินไหวรึเปล่าล่ะ หรือจะนั่งรถเข็น”

“น่าจะเดินได้น่ะครับ ใช้ไม้ค้ำเอาก็คงไหว”

“อือ งั้น นำกินมื้อเช้า กินยาแล้วพักสักหน่อย เดี๋ยวพ่อมาเรียกอีกที”
“พ่อต้องให้ทนายเค้าทำเรื่องให้มันแล้วเสร็จกันเสียที ทีนี้จะได้จับคนเข้าคุกได้แบบวางใจ”

“นายสุพิสุทธิ์หรอครับ แล้วนี่เขาอยู่ไหน”
“แล้วเพื่อนธามล่ะครับ ให้การอะไรที่เป็นประโยชน์รึเปล่า”

“เพื่อนเจ้าธามรอบคอบพอตัว พอถึงโรงพยาบาลเขาก็แจ้งความไว้ทันทีเลย ทั้งเรื่องที่เขาถูกกังขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย เรื่องนายสุพิสุทธิ์มีอาวุธ และคลุ้มคลั่ง แจ้งเผื่อนำด้วยนะ เขาบอกไว้ว่านำถูกลูกหลง ส่วนธามก็เป็นผู้เสียหาย เด็กคนนั้นเพิ่งกลับไปตอนที่หมอยืนยันว่านำกับธามไม่เป็นอันตราย”

“อาหลูครับ เขาชื่ออาหลู”
“พ่อครับ เราจะช่วยอะไรธามได้อีกบ้าง นำไม่ไว้ใจเลย ถ้านายสุพิสุทธิ์ไม่ได้รับการรักษาให้หาย ก็ต้องกักขังเขาไว้ตลอดชีวิต เขาไม่ปล่อยให้ธามมีชีวิตปกติหรอก”

“พ่อรู้ ถึงได้อยากรีบพากลับไทยไง สู้กันที่นั่น เรามีเปอร์เซ็นต์ชนะมากกว่า”
“นี่ได้ข่าวว่านายพิสุทธิ์ก็บินมาแล้วเหมือนกัน คงอยากพาลูกชายหนี แต่ไม่ทันแล้ว เรื่องถึงตำรวจแล้ว นี่พ่อก็ให้ทนายของเรากับของป้าเขามาคุยกันว่าเราจะจัดการเรื่องมรดกธาม และเรื่องฟ้องร้องทางนั้นได้ยังไงบ้าง”
“ทีนี่เอง เราคงจัดการเขาได้ในคดีทำร้ายร่างกายถึง 3 คน”
“แต่พ่ออยากกลับไปฟ้องร้องทางนั้นที่ไทยมากกว่า”

“ครับ” ผู้นำรับคำเห็นด้วย เขาหย่อนพิงหมอนเมื่อนางพยาบาลเข้ามาดูแลเขาตามเวลา พ่อเขาออกจากห้องไปแล้ว คงไปจัดการธุระที่รออยู่มากมาย ส่วนเขาก็ต้องเผชิญกับภาษาจีนไต้หวันที่ไม่เคยคุ้นหู เพราะพยาบาลพ่นไฟใส่เขาด้วยภาษาถิ่นของเธอล้วนๆ

กว่าจะเข้าใจกันได้ว่าเขาฟังเธอพูดไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่คำเดียว ท้องเขาก็ส่งเสียงโครกคราก เธอหัวเราะนิดดหน่อยก็สื่อสารกับเขาด้วยภาษาอังกฤษ นั่นเปิดโอกาสให้เขาได้บอกกับเธอไว้ก่อนว่า อีกครึ่งชั่วโมง เขาจะออกไปเยี่ยมน้องชายที่รักษาตัวอยู่อีกห้องหนึ่ง ช่วยอำนวยความสะดวกให้เขาด้วย

พ่อกลับมาหาเขาอีกครั้งแล้วก็จากไปพร้อมกับทิ้งนามบัตรโรงแรมที่หมอปันเลือกใช้บริการ เขาสอบถามหมายเลขห้องธามไว้จากพ่อ เมื่อร่างกายรู้สึกโอเคมากขึ้นแล้วเขาก็กดเรียกพยาบาล และเธอก็มาพร้อมกับรถข็น ครั้นจะบ่ายเบี่ยงเขาก็คิดว่ามันยุ่งยากเกินไป จึงรับรถเข็นพร้อมผู้เข็นที่เธอจัดหามาให้แล้วก็พาตัวเองไปยังห้องที่ธามพักอยู่ทันที


ห้องธามอยู่คนละทิศกับห้องเขา วิวตรงหน้าต่างเป็นภูเขาเตี้ยๆ สีเขียวชอุ่มของมันคงทำให้ธามสดชื่นได้
ผู้นำอยู่กับน้องในห้องเพียงลำพังตามที่ต้องการ เขาดันล้อพาอตัวเองมาอยู่ที่ข้างเตียงธาม
สีหน้าน้องดูซีดๆ ภายใต้เสื้อผู้ป่วย เขาเห็นผ้าพันแผลโผล่ขึ้นมา ผู้นำนึกถึงคำของหมอปันที่ว่าแผลน้องลึก เขานึกทวนภาพวันเกิดเหตุ แม้จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เขาก็จำได้ทุกวินาที

ธามพาตัวเองมาขวางหน้านายสุพิสุทธิ์ที่หันปลายมีดมาเพื่อแทงเขา แม้น้องจะตั้งใจแย่งมีด หรือตั้งใจขัดขานายสุพิสุทธิ์ แต่ผลก็ออกมาว่า น้องธามถูกแทงแทนเขาอยู่ดี
เขาเชื่อว่านายสุพิสุทธิ์ไม่มีเจตนาทำให้ธามเจ็บหนักแบบนี้ แต่เขาก็ทำมันลงไปแล้ว น้ำเสียงนายสุพิสุทธิ์ที่สาดความเกลียดชัง เคียดแค้นใส่เขา เขาจำได้ดี และเขารู้ว่าทำไมนายสุพิสุทธิ์ถึงได้คลั่งแบบนั้น

สุพิสุทธิ์กลัวการสูญเสียของสำคัญ
ของสิ่งนั้นคือธาม
แต่การกลัวสูญเสีย จนเลยเถิดมาเป็นความคิดทำลายทิ้ง เขายอมให้มันเกิดขึ้นอีกครั้งไม่ได้ และจะไม่ปล่อยให้อารมณ์หม่นดำแบบนั้นเกาะใจใครอีก เขาไม่ได้หวังดีกับนายสุพิสุทธิ์นักหนา เขาห่วงว่าน้องธามจะไม่หลุดบ่วงอารมณ์แย่ๆ เสียทีต่างหาก

“ธามครับ” ผู้นำจับมือน้องมาแนบแก้มตัวเองไว้  เหงื่ออออกมือธามค่อนข้างมากทั้งที่อุณหภูมิในห้องนี้น่าจะสบายตัวธาม แต่เย็นไปนิดหน่อยสำหรับเขา
คิดว่ายาแก้ปวดคงใกล้หมดฤทธิ์แล้วแน่ๆ
“น้องธาม เป็นเด็กดีของพี่นำ อยู่ข้างๆ พี่นำตลอดไปได้มั้ยครับ”
“พี่นำจะดูแลให้ดีกว่านี้นะ”
“แต่ว่า พี่ก็ไม่รู้อยู่ดีว่าธามอยากได้อะไร ชอบอะไร อยากให้พี่ทำอะไรให้ธามบ้าง”
“เพราะฉะนั้น ธามต้องคอยอยู่กับพี่ เพื่อบอกพี่ว่าธามต้องการอะไร นะครับ”
“อยู่กับพี่นำนะ”
เขาจูบหลังมือสีซีดเบาๆ และใช้หลังมือนั้นแนบแก้มตัวเองไว้อีกครั้ง ธามคงนอนหลับอยู่เช่นเดิม ผู้นำจึงทำได้เพียงนั่งมองน้องนอนหลับไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้เบื่อ

ราวเกือบเที่ยง ประตูห้องธามก็ถูกเปิดออก พยาบาลและหมอเข้ามาพร้อมกับใครอีก 2 คน

ทั้งพ่อ ทั้งลูก
จะมาทำร้ายอะไรน้องเขาอีกหรือ?
ผู้นำลุกขึ้นยืนทั้งที่ยังเจ็บแผลที่ถูกยิงเฉียดเอว เขาเอาตัวเองบังธามไว้จากคนพวกนี้ และมองอย่างไม่เป็นมิตร

“อ้าว!  นี่ไม่ใช่ห้องหมอไม่ใช่หรอ? มาทำอะไร”

“มาเฝ้าครับ แล้วพวกคุณมาทำอะไร”
“คุณน่ะ” ผู้นำพยักหน้าให้รู้ว่าเขาพูดกับคนลูก
“ไม่ถูกจับหรอครับ”

“หึ! ใครจะทำอะไรได้ มีแต่พวกกระจอก เงินนิดหน่อยก็ดิ้นหลุด”

“แล้วก็เลยมายืนหัวเราะอารมณ์ดีอยู่แบบนี้สินะครับ”
“ที่แทงธามไป ไม่ทำให้รู้สึกเศร้าหรือสลดลงเลยสินะ”
“จิตใจคุณมันมืดดำไปหมด”
“จากนี้ไป กรุณาอย่าแทนตัวเองกับธาม ด้วยคำว่า พี่ อีกนะครับ”

“ไอ้หมอ! มึงหยุดยุ่งเรื่องของกูได้แล้ว”
“ไม่งั้นมึงตายจริงๆ แน่”

“ทำได้ก็เชิญเลยครับ ตาคุณน่าจะยังเห็นตรงความเป็นจริงว่าผมไม่ได้พิการ” เขาตอบโต้และมองนายสุพิสุทธิ์ตาวาว คนเป็นพ่อวาดแขนกันลูกให้ขยับไปทางด้านหลัง ผู้นำจึงจ้องหน้านายพิสุทธิ์แทนลูกชาย
“คุณก็เหมือนกัน เป็นผู้ใหญ่ซะเปล่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น คุณน่าจะลงโทษหรือสั่งสอนสิ่งที่ถูกต้องกับลูกบ้างนะครับ”
“ทำแบบนี้ก็เท่ากับยิ่งทำร้าย หรือว่าคุณไม่เคยรู้เลยว่าลูกชายคุณจิตป่วย!”

“หุบปากไปเลย!”
“คนที่ใกล้บ้า ก็คือไอ้ธามนั่นต่างหาก!”
“แซนไม่ได้ป่วยอะไรทั้งนั้น”

น่าเพลียใจจริงๆ
ผู้นำถอนใจแล้วสาวเท้าเข้าหา ทั้งที่เขาเดินกะเผลกเพราะเจ็บแผล แต่ 2 พ่อลูกกลับถอยห่างออกไปอย่างขี้ขลาด

“จะป่วยหรือไม่ป่วย ไม่ใช่หน้าที่วินิจฉัยของคุณหรอกครับ”
“สิ้งที่คุณทำได้คือรักษาเขา ก่อนที่ตรรกะเขาจะสวนทางกับความเป็นจริงมากไปกว่านี้”
“และสิ่งเดียวที่ผมจะยุ่งเกี่ยวกับพวกคุณก็คือปกป้องธาม”
“อย่าให้ผมเห็นคุณ หรือคนที่เกี่ยวข้องกับคุณมารุ่มร่ามวุ่นวายกับธามอีก”
“ปืนมันหาง่ายนะครับ หรือไม่จริง แซน”

“อย่ามาเรียกชื่ออั๊ว!!”
“ไปไกลๆ เลยไอ้หมอ”
“พ่อครับ พ่อเห็นแล้วใช่มั้ยว่าพวกมันต่างหากที่รุมแซน”
“ปืนมันลั่น แล้วมันก็ซวยที่ยืนตรงนั้น”
“ธามก็เหมือนกัน น้องมันพุ่งมาหามีดเอง”

“ไอ้!!!” เขาเกือบหลุดคำหยาบเสียแล้ว ผู้นำขบกรามกำมือแน่น เขามองนายสุพิสุทธิ์อย่างดูแคลน จากนั้นจึงหันมองธามและกลับมามอง 2 พ่อลูกอีกครั้ง
“ก็ดี คุณสร้างเองนะ มาตรฐานปืนลั่นและพุ่งหามีดน่ะ”
“ดีครับ ผมจะเรียนรู้ไว้” เขาผลักอกคนเป็นพ่อที่สะดุ้งโหยงราวกับเขาเอาปืนจ่ออก ส่วนลูกชายมองเขาอย่างอาฆาต แต่แค่นั้นทำอะไรผู้นำไม่ได้อยู่แล้ว
“จะที่นี่ หรือที่ไทย ธามจะต้องมีความสุข”
“หน้าไหนอยากลองขวางทาง ก็ลองดู” เขาปิดประตูใส่หน้าพ่อลูกแล้วพรูลมหายใจคลายความโมโห ผู้นำเดินกลับมานั่งข้างเตียง เขาลูบผมธามอย่างอ่อนโยน และครั้งนี้น้องก็ลืมตาตื่นขึ้นมา

“อ้าว ตื่นเลย พี่นำทำให้ตื่นหรอครับ ขอโทษนะ”
“แล้วเจ็บแผลหรือปวดหัวมั้ยครับ แต่คงหิวไม่ได้นะ ธามยังต้องงดอาหารอยู่”
“ธามล้มแรงมาก หัวฟาดพื้นดังลั่นจนพี่นำตกใจ แต่ตกใจที่ถูกแทงมากกว่า”
“คนเก่ง เจ็บตรงไหนบอกพี่นำสิ”

“นำ ขอบคุณนะ”

ผู้นำยิ้มให้ เขาจับมือธามมาลูบเบาๆ น้องพยายามหันมองเขาแต่ดูเหมือนจะทำได้ยาก เขาจึงลุกขึ้นยืนเพื่อให้ธามไม่ได้เขยื้อนตัว รอยลักยิ้มบนแก้มอวดตาเขาในที่สุด น้องธามยิ้มได้แล้ว

“นำเจ็บสินะ ธามไม่ดีเลย”

“ธามไม่ได้ทำอะไรผิดเลยครับ นายแซนนั่นต่างหากที่เป็นต้นเหตุของทุกอย่าง”
“แต่พี่นำสัญญา พี่นำจะจัดการเอง พี่นำจะปกป้องธามเอง”

“ธามก็อยากปกป้องนำ ธามจะเก่งกว่านี้ เพื่อนำ”

“คนเก่งของพี่นำ แค่อยู่ข้างๆ พี่ ให้พี่ได้ดูแลธามก็พอครับ” เขาดึงมือน้องขึ้นมาจูบ แต่ก็ชะงักไปชั่วครู่เพราะไม่แน่ใจว่าธามรังเกรียจความรู้สึกของ “พี่ชาย” อยู่รึเปล่า
“เอ่อ...พี่นำขอ”

“ธามน่ะ คิดว่าต้องตายแน่ๆ เลย”
“เจ็บที่สุด แต่ก็ไม่อยากตาย”
“ธามเคยคิดว่าตายไปแบบป้าก็คงดี ไม่มีหนีใครอีก”
“แต่ว่านำ ตอนที่คิดว่าต้องตาย ธามกลัวมาก มากๆ”
“ธามอยากจับมือนำอีก อยากพานำไปกินข้าวร้านอร่อย พานำไปเที่ยวด้วย อยากอยู่กับนำ”
“อยากอยู่นานมากๆ”


“ครับ เราจะอยู่ด้วยกัน อยู่ใกล้ๆ กันตลอดไป”

“นำจะไม่...ไม่หายไปใช่มั้ย”

“ไม่หายครับ ไม่มีใครทำให้พี่หายไปจากชีวิตธามได้ เว้นแต่ตัวธามเอง”

“ธามอยากอยู่กับพี่นำครับ”
“อยากอยู่ด้วยที่สุด”


น้องชายเขาน้ำตาไหล แต่ก็ไม่มีมือเช็ดน้ำตาตัวเอง เพราะเขากุมไว้มือหนึ่ง อีกมือหนึ่งให้น้ำเกลือ ซ้ำยังถูกมัดไว้กับขอบเตียงอีกต่างหาก ผู้นำส่งยิ้มให้พร้อมกับเช็ดน้ำตาที่ไหลเป็นเส้นเล็กๆ ลงข้างแก้ม ธามมองหน้าเขานิ่งจนเขานึกสงสัยแต่ก็ปล่อยให้มองไปเรื่อยๆ

“นำ”

“ครับ”

“รู้จักรักมั้ย ไม่ใช่พี่น้องน่ะ”

“............”

“ธามรู้ ธามมี”

“............”

“ไม่รู้ว่าจะมีต่อไปได้รึเปล่า”

“ธามรักใครหรอครับ” ใช่พี่นำรึเปล่าครับ เขาเก็บคำถามที่ 2 ไว้ในใจเพราะไม่อยากถามจี้ให้นำอึดอัด อีกอย่าง หากไม่ได้รักเขาขึ้นมา น้องจะถอยห่างจากพี่ชายคนนี้ซะเปล่าๆ ส่วนความรู้สึกเขา ที่ทั้งห่วง ทั้งหวง ทั้งอยากถนอมไว้ แต่บางอารมณ์ก็หมั่นเขี้ยวเสียจนอยากกอดแรงๆ เขาจัดการมันได้หากมันสร้างปัญหาให้กับธาม
“หือ? รักใครครับ”

“รักนำ...ได้ใช่มั้ย”
“ธามพูดถูกสินะ”


ราวกับโลกหยุดหมุนและมีเพียงเขาเท่านั้นที่เคลื่อนไหวอยู่ ผู้นำค่อยๆ คลี่ยิ้มแล้วโน้มตัวลงจูบหน้าผากธามเบาๆ เขาดึงมือน้องมาแตะหัวใจเขาเพื่อให้ธามรู้ว่าหัวใจเขาเต้นแรงแค่ไหน
เมื่อผละตัวออกห่าง เขาจึงเห็นธามหน้าแดงหูแดงไปหมด น่ารักกว่าเดิมเป็นล้านๆ เท่า ทำตัวน่ารักแบบนี้เป็นตั้งแต่ไหร่ เขาอยากห้ามธามให้หยุดทำตัวน่ารักเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็เสียดาย เขาอยากเห็นความน่ารักอีกเยอะๆ

“พูดถูกที่สุดตั้งแต่ธามพูดภาษาไทยเลยครับ”
“ขอบคุณที่รักพี่นำนะ พี่นำก็รักธาม และเราก็ไม่ใช่พี่น้องกันด้วย”

“แต่ลุงหมอ”

“หมอปันเข้าใจเราอยู่แล้ว”
“ทีนี้ เด็กดีของพี่นำก็ต้องทำตัวดี ทานยา นอนพัก แล้วเราจะกลับบ้านกัน นะครับ”

“อื้อ” ว่าง่ายจนอดไม่ไหว ต้องหอมแก้มไปอีกรอบ ธามดันเขาออกห่างแล้วก็ขมวดคิ้วใส่พลางขมุบขมิบปากพูดอะไรบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจ ช่างเถอะ วันนี้เขาอารมณ์ดีมากๆ แล้ว ไม่มีอะไรกวนใจเขาได้อีก

“นำจะไปไหน”

“พี่นำต้องกลับห้อง มียาต้องทานเหมือนกัน”
“อืมมม พี่ว่าเราย้ายมาอยู่ห้องเดียวกันดีมั้ย เดี๋ยวบอกพยาบาลดีกว่าเนอะ”

“เราทำได้หรอนำ”

“พี่นำทำได้อยู่แล้ว” เขายิ้มให้อีกครั้งและเข็นตัวเองกลับห้องอย่างเอมใจ

ความรัก
อิทธิพลมีมากขนาดไหนเขาไม่เคยรู้เลย ที่ได้รับอิทธิพลอยู่ตอนนี้ก็คิดว่ายังอยู่ในระดับเสี้ยวเดียวเท่านั้น



หมอปันทำหน้าตลกๆ ตอนที่เขาบอกว่าจะย้ายมาพักรักษาตัวอยู่ห้องเดียวกับธาม พ่อเขาไม่ได้ว่าอะไร แต่แอบกำชับเขาลับหลังธามว่า “น้องยังเจ็บนะนำ และถ้าไม่จริงจังก็อย่า ยังไงๆ พ่อก็ห่วงธามไม่น้อยไปกว่านำ ถึงจะเป็นลูกพ่อ ก็ใช่ว่าจะทำร้ายน้องมันได้นะ”

เขาเดาว่าพ่อมองออกว่าเขาและธามมองกันด้วยความรู้สึกไหน และก็เชื่อว่าหมอปันเข้าใจโลกนี้ได้ดี แต่พ่อเขาไว้ใจเขาน้อยไปรึเปล่า เขาจะทำร้ายธามได้ยังไงกัน

จนมาวันนี้หมอปันก็ยังทำหน้าตลกๆ อยู่ดี เวลาที่เข้ามาเยี่ยมแล้วเห็นธามหัวเราะเริงร่าฟังเรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง

“เจ้านำ” คงมองหลานรักพอแล้วถึงได้เรียกหาลูกชาย

“ครับ”

“พ่อจองตั๋วเครื่องบินไว้แล้วนะ เห็นหมอเขาว่าเจ้าธามออกจากโรงพยาบาลได้พรุ่งนี้แล้วก็เลยรีบจัดการเลย”

“อ่อ ดีเลยครับ นำก็อยากกลับไทยเต็มที แล้วเรื่องเอ่ออออ เรื่อง”

“คดีที่แจ้งความไว้น่ะหรอ”
“หลุดไปแล้ว ก็โดนแค่ทำร้ายร่างกายโดยเจตนา เสียค่าปรับแล้วก็ปล่อยไป”
“ท่าทาง เพื่อนธามจะโมโหใหญ่ แต่ลุงฟังเขาไม่รู้เรื่อง ไม่รู้บ่นอะไร”

“อาหลูคงอยากจับแซนเข้าคุก แต่ก็ช่างเถอะ ธามจะเก่งกว่าเดิมแล้ว แซนห้ามทำนำอีก ลุงหมอด้วย ธามจะดูเก่งเอง”

“อา...ลุงก็ฟังธามไม่ค่อยรู้เรื่องเหมือนกัน”
“แล้วพรุ่งนี้ ออกจากโรงพยาบาลแล้ว ไปลาป้าเขาให้เรียบร้อย แล้วไปอยู่กับลุง กับพี่นำ ดีมั้ย”

“อื้อ ขอบคุณครับ” พูดชัดแจ๋วแล้วด้วย ผู้นำยิ้มระหว่างมองพ่อและธามคุยกันเรื่องจิปาถะ  เขาเดินไปหยิบน้ำผลไม้ในตู้เย็นให้พ่อดื่ม และเมื่อพ่อจัดการให้ธามนอนนิ่ง พูดเรื่องนั้นนี้ให้ฟังจนหลับไปอีกครั้ง เขาก็ถามหมอปันตรงๆ ทันที

“เรื่องคดี เราทำอะไรไม่ได้เลยหรอครับพ่อ”

“อื้อ คงต้องปล่อย แต่พ่อขอบันทึกกล้องวงจรปิดที่ร้านเจ้าธามแล้วก็บริเวณใกล้เคียงไว้แล้ว ถึงไทยเมื่อไหร่ พอจะใช้เป็นหลักฐานฟ้องร้อง ถึงเอามันเข้าคุกเข้าตารางไม่ได้ ก็ได้หมายคุ้มครองสิทธิธาม พ่อจะไม่ให้มันเข้าใกล้ธามอีก เท่านี้น่าจะช่วยได้”
“นำเองก็...ดูแลน้องดีๆ”
“นี่แน่ใจแล้วใช่มั้ย เรื่องความรู้สึก”

“ครับ”

“นำเอ้ย แน่ใจนะว่าไม่ใช่ทำตามหน้าที่”
“พ่อรู้ว่านำเป็นยังไง นำทุ่มเทกับสิ่งที่ต้องทำเสมอ ไม่ว่าจะหน้าที่เล็กน้อยแค่ไหนนำก็ทุ่มเทไปซะหมด”
“เรื่องความรู้สึกตัวเอง พ่อไม่อยากให้ละเลยหรอกนะ ถ้าจะใกล้ชิดกับน้องมันเพราะสงสารที่เด็กมันไม่มีใคร พ่อไม่เห็นด้วย”

“นำก็รู้จักตัวเองดีเหมือนกันครับ”
“นำแน่ใจว่มันคือความรัก”

หมอปันพยักหน้ายอมรับ พ่อเขาจับไหล่เขาไว้พลางบีบไม่แน่นมากแล้วก็ยิ้มให้ในที่สุด ใครต่อใครชอบพูดว่ายิ้มเขาทำให้สบายใจ แต่ยิ้มของหมอปันมีอานุภาพมากกว่าเขาหลายเท่าตัว

“อื้อนี่นำ เมื่อคืนพ่อไปเดินๆ เล่น คนขายหมากที่นี่น่าสนใจดีนะ”

“แฮ่ม! พ่อครับ อย่าคิดว่านำไม่รู้นะว่าคนขายหมากที่นี่เป็นยังไง” หมอปันหัวเราะลั่นแล้วก็จากไปพร้อมกับคำอ้างว่า “ขอไปพักสมองซะหน่อย นี่เพิ่งเจอเครื่องมือน่าสนใจ หมอที่นี่ก็คุยเก่งหน้าดู”

--------------
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 20-04-2014 00:36:16
ธามไม่ค่อยกังวลเรื่องแซนแล้ว ไม่ใช่ว่าชินหรือเชื่อว่าตัวเองจัดการได้ แต่เป็นเพราะพี่นำไม่เคยห่างจากธามเลยต่างหาก
ทั้งที่บนเครื่องบินนี่ก็ปลอดภัยดีแล้ว พี่นำก็ยังไม่ห่างไหน ซ้ำยังหลับแล้วเอียงหัวมาพิงหัวธามอีกต่างหาก

“เมื่อยนะ”

“ผลักพี่เขาไปก็ได้ธาม ฝืนคอไว้แบบนั้นพาลจะปวดหัว” ลุงหมอที่ได้ยินธามบ่นหันมาบอกแล้วก็อ่านหนังสือบนเครื่องบินต่อไป ธามเหล่มองหัวพี่นำ กำลังคิดว่าจะผลักหัวพี่นำไปทางอื่น ก็มีคำห้ามเสียก่อน

“จะใจร้ายกับพี่นำหรอธาม”

“เปล่า ธามจะจัดทรงผม” เขาอ้างแล้วก็แปะๆ ผมนำเบาๆ แล้วก็นั่งเกร็งหัวตัวเองต่อไป แต่สุดท้ายพี่นำก็ตื่นเต็มตาแล้วลุกไปเข้าห้องน้ำ

ธามมองตามจนสุดตาแล้วหันมองลุงหมอ มองวิวนอกหน้าต่าง และมองคนอื่นๆ รอบตัวในชั้นเฟิร์สคลาส
จนตอนนี้ธามก็ไม่อยากเชื่อว่านี่คือความจริง ไม่อยากเชื่อว่าธามสามารถใช้ชีวิตแบบไม่ต้องหนีแซนได้ อยู่ข้างๆ พี่นำได้ คุยกับลุงหมอได้ตามปกติ ธามไม่เคยคิดเลยว่าธามจะมีสิทธิ์มีความสุขอยู่แบบนี้

นี่คงเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายแล้วในชีวิต

“เหม่ออะไรครับ”

“หืม? คิดคิด”

“คิดอะไร บอกพี่นำได้มั้ย”

“ไม่เอา” ธามตอบแล้วเอนตัวพิงไปทางหน้าต่าง พี่นำไม่ว่าอะไรมากมาย เพียงแค่จับหัวธามโคลงไปมาเท่านั้น

“นำ เมื่อไหร่ถึงไทยหรอ”

“ก็ อีกราวชั่วโมงนึงครับ หิวหรอ หรือว่าเจ็บแผล”

“ไม่ไม่ แค่อยากรู้”
“แล้ว...ให้ธามอยู่ไหนล่ะ”

“ธามอยากอยู่ที่ไหนล่ะครับ”

“อยากอยู่บ้านป้า” เขาตอบแล้วหันมองพี่นำเพื่อดูว่าจะค้านมั้ย แต่พี่คนนี้แค่ยิ้มให้แล้วก็พยักหน้าตอบตกลง

“นี่ธาม”

“หือ?”

“ขอพี่นำอยู่ด้วยคนนะครับ”
“อยู่ที่บ้านเล็กกับธาม”

“อือ” เขาพยักหน้าแล้วตอบเบาๆ ธามอมยิ้มเมื่อพี่นำสอดมือมาจับมือธามไว้แล้วเกลี่ยนิ้วเบา คำกระซิบข้างหูทำให้ธามกัดปากตัวเองจนเลือดแทบไหล พี่นำกระซิบว่า

“ขอนอนกอดธามนะครับ”

ความรัก ความรักนี่ทำให้อายจริงๆ นะ


ถึงแล้ว ประเทศไทย
เอาเข้าจริงๆ ธามก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองได้กลับบ้าน ที่รู้สึกมากที่สุดก็คือรู้สึกว่าจะได้เริ่มต้นใหม่
เขาสูดอากาศยามค่ำคืนเข้าไปเต็มปอดแล้วก็ไอแค่กๆ ออกมา ลืมตามองรอบตัวแล้วจึงรู้ว่าโง่มากที่มายืนสูดอากาศที่ริมทางแบบนี้

“ธามครับ มารอลุงเผือกตรงนี้ ลุงแกวนรถมาอยู่ เร็วครับ”

“อื้อ” เขาหันไปรับปาก กำลังจะเดินไปหาพี่นำก็มีอันต้องตัวเซเพราะถูกกอดกระแทกจากด้านหลัง ใจเขาหายวูบ ธามรีบสะบัดตัวจนหลุดแล้ววิ่งไปหาพี่นำทันที

“โป๊ะ! อย่าเล่นแบบนี้สิ!”

โธ่เอ้ย! ที่แท้ก็พี่โป๊ะนีเอง
ธามลูบแขนตัวเองที่ขนตั้งชันไปหมด วินาทีนี้เองที่ทำให้เขาได้รู้ว่าความกลัวยังไม่เคยละจากเขาไปไหน มันนอนหลับรอการตื่นอยู่ต่างหาก

“มายังไงเนี่ย นี่มารอรับผมหรอ หรือว่ามาธุระอื่น”

“มารับคุณมึงนั่นแหล่ะไอ้หมอ”
“ฟังเรื่องจากลุงหมอแล้วแทบคลั่ง ไอ้ห่านั่นแม่งหน้าฆ่าจริงๆ”
“ลุงหมอครับ” พี่โป๊ะหันไปหาลุงหมอที่ยินชะเง้อรอรถที่บ้านมารับ
“ให้โปรช่วยอะไรบอกเลยนะครับ เรื่องตำรวจโปรชวยได้อยู่แล้ว”  ธามหันมองลุงหมอเพราะอยากรู้ว่าจะเชื่อพี่โป๊ะมั้ย และที่ทำให้ธามแปลกใจก็คือ ลุงหมอฝากพี่โป๊ะช่วยดูแลพี่นำกับธามด้วยอีกแรง

“มาคนเดียวหรอโปร”

“มากับที่หนึ่ง แต่ไล่มันกลับไปแล้ว เห็นว่าคุณหญิงคลอด”

“อืม ขอบใจมากนะ”
“แล้วไงนัดกันอีกที ค่อยคุยว่าจะขอให้ช่วยอะไรบ้าง นั่น..ลุงเผือกมาแล้ว”

“อ้อ...อืมๆ มีไรก็บอกนะไอ้หมอ”
“ธามมันก็น้องผมคนนึงเหมือนกัน ผมเองก็ไม่ดูแลให้ดีในวันที่ยังดูแลได้ นี่มาขอรับธามเข้าทำงานต่อ จะอนุมัติมั้ย”

“คงต้องถามธามเอาเอง” พี่นำตอบพี่โป๊ะ ธามเลยตกเป็นเป้าสายตา เขายักไหล่แล้วเดินไปยืนคู่กับลุงหมอที่ขยับถือกระเป๋าเดินทางของตัวเองเพื่อรอเอาขึ้นรถ

พี่นำกับพี่โป๊ะคุยอะไรกันเงียบๆ ครู่เดียวก็แยกจากกัน และเมื่อพี่นำขึ้นรถมาแล้ว ธามก็ได้สัมผัสกับความรู้สึกของ “การกลับบ้าน” อย่างแท้จริง ด้วยคำทักทายและรอยยิ้มที่ลุงเผือกหยิบยื่นให้

“กลับบ้านเรากันเถอะครับคุณธาม ยายจูน่ะคิดถึงจนนอนร้องไห้เลย”


--------------


ผู้นำซับน้ำบนใบหน้าและเส้นผม เขายืนมองตัวเองในกระจกห้องน้ำแล้วถอนใจ
เขาเคยมีแฟนนะ เมื่อนานมาแล้ว นี่ไม่ใช่คืนแรกที่จะอยู่ใกล้ชิดกับคนที่เป็น “คนรัก”
แต่เขารู้สึกว่าคืนนี้เขาประหม่าด้วยหลายเหตุผล
ประการแรก น้องยังเด็กอยู่เลย จะประสาเรื่องที่เขา...คิด รึเปล่าก็ไม่รู้ กลัวจะบอบ กลัวจะช้ำ กลัวไปเสียทุกอย่างจนยอมทำมากที่สุดแค่มอง
ประการที่สอง เขาไม่เคยมีอะไรกับ “ผู้ชาย” เลยกลัวว่าถ้ารุกล้ำธามมากๆ น้องจะไม่ชอบ
ประการที่สาม กลัวหยุดตัวเองไม่ได้ แล้วกลายเป็นยัดเยียดความรู้สึกให้ธาม

เฮ้ออออ...ความรักนี่ทำให้รู้สึกยุ่งยากใจเสียจริง



ก๊อก ก๊อก

“นำ” เสียงน้องเคาะประตูทำเอาเขาสะดุ้ง ผู้นำหันซ้ายขวาหาเสื้อนอนใส่ แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง เพราะเขาไม่ได้หยิบเสื้อผ้าเข้ามาด้วย
ทางออกสุดท้ายก็คือ ต้องพันผ้าเช็ดตัวผืนเดียวออกไปเผชิญหน้ากับธาม ที่อายุเพิ่งจะ 21 ปี เป็นน้องเขาร่วม 10 ปี และมีกลิ่นกาย รูปร่าง หน้าตา แววตา และรอยยิ้ม เป็นที่ปรารถนาของเขา
“นำมองอะไร?” มองธามไงครับ อยากตอบแบบนี้ใจจะขาด แต่มันดูเฒ่าไปรึเปล่านะ โอย!! เขาตื่นเต้น

“เอ่อธาม!”

“พี่นำ ต้องทำงาน ธามนอนก่อนเลย”

“............”

“กลัวหรอครับ งั้นพี่นำเอ่อ นั่งอ่านหนังสือรอธามกลับก่อนก็ได้”
“นอนสิครับ เพลียไม่ใช่หรอ”

“นำ....” เรียกเบาๆ แต่ใจเขาก็สั่นอยู่ดี แล้วทำไมธามไม่มองหน้า ทำไมมองท่อนล่าง

“หืม?”

“แผลใหญ่กว่าธามอีก” โธ่เอ้ย ที่แท้ก็จ้องแผลเขานี่เอง ผู้นำก้มมองแผลที่ปลายเอวตัวเอง เขาไม่สนใจมันนัก แต่ธามกลับเดินมาหาและเกลี่ยนิ้ววนไปวนมา...น้องจะรู้มั้ยว่าอันตรายกับตัวเองมากที่ทำแบบนี้

“เอ่อ...ธามนอนเถอะ พักเยอะๆ”

“แผลธามเล็กกว่าอีก”
“ดูสิ” ถอดเสื้อทำไม!!!! ผู้นำใจเต้นไม่เป็นส่ำ เขาหันไปทางอื่นอัตโนมัติ แต่ธามกลับใช้มือบีบปลายคางบังคับให้เขาก้มมองหน้าอกตัวเอง
“นำไม่ชอบสินะ แต่ธามก็เป็นแผลไปแล้ว”

“คิดอะไรไม่เข้าท่าเลยธาม แค่แผล พี่นำจะไม่ชอบได้ยังไงครับ นี่ไง พี่นำก็มีแผลเหมือนกัน มันทำให้ธามรังเกียจพี่รึเปล่า”

“ไม่”

“พี่นำก็ไม่รังเกียจธามครับ”
“เชื่อพี่นำสิ นอนพักก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาจัดการชีวิต ดีมั้ย”

“ได้”
“แล้วนำจะไม่ใส่เสื้อผ้าหรอ ร้อนสินะ ธามก็ร้อนเหมือนกัน”

“อ่า...ใส่ครับ พี่นำไม่ร้อน เดี๋ยวปรับแอร์ให้นะ ธามนอนเลย นอนสิครับ นอน” เขาพยายามให้น้องนอนและภาวนาให้เพลียจนกลับไปเสียเร็วๆ เขาจะได้มีเวลาฝึกใจให้อดกลั้น และคิดหารูปแบบความสัมพันธ์ที่จะไม่ทำให้ธามต้องอึดอัดหรือรู้สึกไม่ดี

“นำ”

“ห๊ะ! หือ? อะไรครับ จะเอาอะไร”

“จะนอนแล้ว”

“ดีครับ นอนเลย นอนหลับไปเลย”

“แต่นำบอกบนเครื่อง”
“...ว่าจะกอดธาม...”


“................”

“ไม่กอดหรอ”


อา...ธาม นิมิตตกานนท์
ช่างเป็นเด็กวัย 21 ปีที่ทำให้เขาใจกระเจิงจริงๆ



Tbc...


มาแล้วค่ะ!!
รอบนี้ให้รอไม่นาน แล้วก็มีตั้ง 2 โพสแน่ะ!!
จังหวะของเรื่องดูช้าลงนิดนึงเนอะ เย็นไป เย็นไป

สำหรับตอนหน้า อาจต้องขอให้รอกันนานหน่อย ขออภัยล่วงหน้าเลยค่ะ  :call:
สืบเนื่องจาก เราสอบวันที่ 10-11 เดือนหน้า ก็ต้องใช้เวลาทำรายงาน และทบทวนด้วย
้แต่ถ้ามีเวลา อาจจะแวะมาแปะเป็นทศนิยมไว้ก่อน ฮ่าๆๆๆ

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Donaldye ที่ 20-04-2014 01:14:14
น้องธามน่ารักกกกก :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 20-04-2014 02:06:35
ผู้นำเอ้ย ต้องทำใจน่ะธามน่ะอายุ 21 แล้วแต่ก็เหมือน 15 ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 20-04-2014 02:19:26
อ๊ายยยยย ในที่สุดก็บอกรักกันจนได้นะ ลุ้นแทบแย่
พี่นำขาาา ใจเย็นๆนะ น้องธามยังเด็กอยู่ ถนอมน้องหน่อย
รอตอนต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 20-04-2014 03:09:17
พี่นำตบะจะแตกแล้วนะนั่น555555555555
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 20-04-2014 06:18:14
ยินดีต้อนรับกลับสู่บ้านนะธาม :man1:
แต่ธามจะทำพี่นำใจแตกแล้วนะเนี่ย :haun4:
แล้วพี่นำคะ  21 นี่ก็ไม่เด็กแล้วนี่ บรรลุนิติภาวะแล้ว ทำเลย (ทำอะไร?  :haun4:)
กดบวกเป็นกำลังใจ แล้วก็รอตอนต่อไปค่ะ :katai2-1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 20-04-2014 09:15:35
 เด็กมันยั่วเนอะพี่นำ
 :laugh:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: minibusez ที่ 20-04-2014 15:28:03
หึหึ ก็ในเมื่อน้องธามอยากให้พี่นำ "กอด"
งั้นพี่นำก็กอดเลยสิครับ
 :hao7:
เพิ่งเข้ามาอ่าน ชอบจังเลย พี่นำดูเป็นผู้นำดีจัง
เป็นกำลังใจให้คนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Solar cell ที่ 20-04-2014 15:58:41
พี่นำคิดเยอะไปป่ะ สู้ธามก็ไม่ได้คิดยังไงก็พูดยังงั้น รู้สึกอย่างงัยก็แสดงออกมาตรง ๆ
ชอบน้องธามอ่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 20-04-2014 19:14:12
ไม่ได้เข้าเล้าก็หลายวัน
พี่นำน้องธามอัพแล้วววววววววววววว
*ยังไม่ได้อ่านเลยย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 20-04-2014 19:48:09
พี่นำประหม่า เหมือนสาวไร้เดียงสาเพิ่งจะเข้าหอครั้งแรกเลยสินะ 555
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: janepepo ที่ 20-04-2014 19:54:12



:o8:   พอรู้ตัวว่ารักก็เขิลเลยนะพี่นำ ><
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 20-04-2014 21:10:04
ง่าาาาาา น้องธามมมมมมม ><
สงสารพี่นำ กร๊ากกกกกก
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: konnarak ที่ 21-04-2014 07:57:55
555555 กอดเลยนำกอดเลย. หอมเลยวนำหอมเลย 5555
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-04-2014 19:35:21
กร๊ากกกกกกกกก
สงสารพี่นำอ่าาาา
น้องธามทำไมยั่วนักละลูก :hao6:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Infinity 888 ที่ 22-04-2014 12:29:05
มาตามอ่านด้วยคนนะ

ไม่ชอบแซนกับพ่อมากๆเลย แซนโรคจิต พ่อแซนก็ห่วงแต่เงิน

น้องธามน่ารักโตมาท่ามกลางคนแบบนี้ ยังรู้จักห่วงคนอื่น

พี่นำอบอุ่น เป็นผู้ใหญ่และเข้าใจธามดีจัง

ลุ้นตอนต่อไปเมื่อพี่นำเจอน้องยั่วแบบไม่ตั้งใจ จะทำยังไงน้าาาา :z1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 22-04-2014 16:10:32
ผู้นำจะตบะแตกมั้ยเนี้ย ธามจะรู้ตัวมั้ยเนี้ยว่ากำลังยั่วอยู่อะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 23-04-2014 18:26:38
กลับมาอ่านอีกครั้ง ก็ยังไปไม่ถึงไหน  :z2:
+1 ให้เป็นกำลังใจนะครับ  :mew1:
ปล. พี่นำจะอดทนได้แค่ไหน ก็น้องเล่นซะขนาดนี้  :hao6:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: panjanthima ที่ 24-04-2014 15:44:38
เพิ่งเข้ามาอ่านค่ะ สนุกมากเลยค่ะ ผู้นำดูอบอุ่นจังเลย ถ้ามีชายแบบนี้ยกให้ธามค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: RinNam ที่ 29-04-2014 11:43:21
พี่นำกะน้องธามน่ารักมากกก

ขอสมัครเป็นFCเลยย

ปล.แอบสงสารแซน ถ้าได้รับการบำบัดแต่เด็กอาการคงไม่หนัดขนาดนี้
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: donutnoi ที่ 03-05-2014 09:21:49
ตามมาจากเรื่องที่หนึ่ง  :3123: เรื่องนี้ก็อบอุ่น รอตอนต่อไปนะคะ   :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 19(12/05/14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 12-05-2014 00:57:04
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 19


นำแปลกเปลี่ยนไป
ไม่เหมือนแบบเดิม ธามรู้สึกได้
ธามมองโพสอิทบนหมอนแล้วถอนหายใจ
เขากลับมาเมืองไทยเดือนกว่าๆ แล้ว ได้งานทำแล้ว ที่บริษัทพี่โป๊ะนั่นแหล่ะ  พี่นำบอกว่าอยู่กับพี่โป๊ะ พี่นำก็หายห่วง แต่ถ้านำไม่ห่วงแล้วนำหายไปด้วยแบบนี้ ธามไม่ทำงานกับพี่โป๊ะคงดีกว่า อย่างน้อยก็คงได้เจอนำบ้าง อย่างน้อยๆ นำก็ยังเป็นห่วงธามอยู่บ้าน

ธามขยำโพสอิทแล้วปาทิ้ง แต่แล้วก็วิ่งจากเตียงไปเก็บมันเพื่อคลี่ออก และวางลงในลิ้นชักทับโพสอิทอันก่อนๆ ที่เรียงทับกันไว้
เขามองมันนิ่งๆ อยู่ครู่หนึ่งก็สะดุ้งมองที่หน้าประตู

“จู”

“ตื่นแล้วหรอคะ ป้ากำลังจะมาปลุก ไปค่ะ อาบน้ำอาบท่า ไปทำงาน”
“ตาเผือกมันเตรียมรถให้แล้ว”

“ธามไปเองได้ ทุกวันก็ไปเอง”

“คุณนำเธอทราบแล้วนะคะว่าคุณธามไม่ให้ตาเผือกไปส่งที่บริษัท”
“ให้แกไปส่งเถอะนะคะ คุณนำเธอเป็นห่วง”

“ห่วงก็ให้นำไปส่งเองสิ ใช้เผือกทำไม เผือกทำงานเยอะแยะ” ธามก็พูดไปอย่างนั้นแหล่ะ เพราะทุกวันนี้ธามก็ไม่รู้เหมือนกันว่างานของลุงเผือกมีอะไรนอกเหนือจากทำตามที่ลุงหมอกับพี่นำสั่งรึเปล่า ธามเดินหน้ามุ่ยเข้าห้องน้ำโดยไม่สนใจป้าจูที่จะอ้าปากพูดอะไรเพิ่ม เขาอาบน้ำเร็วๆ และแต่งตัวตามที่อยากจะแต่ง เพราะพี่โป๊ะบอกแล้วว่าไม่ถือ แค่อย่าแก้ผ้ามาก็พอ แม้ว่าถ้าพี่นำเห็นชุดที่ธามใส่แล้วจะเป็นลมก็เถอะ

“อ้าวจู มีอะไรอีกหรอ”

“เอ่ออออ”

“อะไรล่ะ”

“คุณนำรอทานข้าวอยู่ข้างล่างค่ะ”

“หือ?” ธามตาเหลือกทันที เขารี่ไปที่ลิ้นชักที่โต๊ะโคมไฟ โพสอิทแผ่นสุดท้ายที่เขาเพิ่งวางเก็บลงไปถูกหยิบขึ้นมาจ้อง
“ธามอ่านไม่ออก!” นี่แหล่ะอีกปัญหาของธามที่พี่นำไม่เคยใยดี นำเขียนภาษาอังกฤษบ้าง ภาษาที่น่าจะเป็นภาษาไทยบ้าง ซึ่งธามไม่รู้ว่ามันหมายความว่ายังไง
“จู นี่อ่านว่าอะไร” เขายื่นกระดาษให้ป้าจูดู แกตะแคงหน้านิดหน่อยแล้วก็หัวเราะคิกคักพลางมองหน้าธาม
“อะไร?”

“คุณนำเขียนว่าพี่รอทานมื้อเช้ากับธามนะครับ ค่ะ”

“อะไร ธามไม่ใช่!” ธามหมายถึงธามไม่รู้นั่นแหล่ะ เขารีบยี่หัวตัวเองให้แห้งหมาดมากขึ้นแล้วก็วิ่งตัวกระเซิงลงไปห้องครัวทันที

“นำ” ธามเรียกเสียงดังแล้วหยุดปลายเท้าที่หน้าประตู พี่นำหันมองแล้วก็ยิ้มให้ จากนั้นก็หันไปตักข้าวต่อ เดาจากกลิ่นแล้วน่าจะเป็นข้าวต้ม
“นำไม่ไปทำงานหรอวันนี้”

“คำว่าพี่ก็ไม่มี หางเสียงก็ไม่ใช้”
“แต่กับโป๊ะ กับที่หนึ่ง กับพีช ธามพูดกับพวกเขาดีมาก ทำไมเว้นพี่นำล่ะ”  ก็นำพิเศษไง ธามไม่ได้ตอบหรอก แค่อมลมให้แก้มป่องแล้วก็กระโดดไปนั่งเก้าอี้ที่นำยืนจับขอบพนักอยู่ เขาเงยหน้ามองนำแล้วก็ยิ้มให้ แล้วก็ลงมือกินมื้อเช้าโดยไม่รอให้อีกฝ่ายนั่งเรียบร้อยดีด้วยซ้ำ

“กาแฟเลยนะคะคุณนำ” ป้าจูถามเอาใจนำก่อนธามอีกแล้ว แต่วันนี้พี่นำส่ายหน้าปฏิเสธ แล้วก็บอกว่า เดี๋ยวค่อยไปหาซื้อที่ออฟฟิศธาม วันนี้นำจะไปส่งธาม
บอกนำดีมั้ยว่าธามดีใจมาก แต่ไม่เอาดีกว่า อาจไม่สำคัญก็ได้ ธามยังรู้เลย นำก็คงรู้เหมือนกันนั่นแหล่ะ

ธามรีบกินข้าวเพื่อให้ทันกับพี่นำที่วางช้อนแล้ว พี่นำหันมาบอกให้ธามกินข้าวเช้าให้หมด ให้กินเยอะๆ นำคงไม่รู้ว่าไปถึงออฟฟิศแล้วธามต้องได้กินข้าวเหนียวหมูปิ้งของพี่แนนอีกตั้งหลายไม้ ขืนอิ่มจากที่บ้าน พี่แนนก็เสียใจใหญ่น่ะสิ
ยังไม่ทันได้เล่าอะไรมาก พี่นำก็รับโทรศัพท์แล้วลุกออกจากโต๊ะอาหารไป ธามยอมรับว่าสงสัย แต่ในเมื่อพี่นำไม่ได้พูดอะไร มันก็คงไม่เกี่ยวกับธาม แม้จะสังหรณ์อยู่ลึกๆ ว่ามันเกี่ยวเต็มๆ ก็เถอะ

แป๊บเดียวก็กลับเข้ามา ธามดื่มนมหมดพอดี
พี่นำโอบไหล่ธามเพื่อพาไปที่รถ บอกตามตรงว่าธามไม่ชินเท่าไหร่ มันค่อนข้างเขินเวลาที่ใกล้ชิดกัน
จริงๆ แล้วธามไม่ใช่คนชอบเขิน เรื่องสกินชิพมันก็เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ว่าจะกับเพื่อนที่เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็เถอะ แต่นำนั่นแหล่ะที่ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่

คืนแรกที่กลับไทย ทั้งที่บนเครื่องนำบอกว่าขอนอนกอดธาม แต่นำนั่นแหล่ะที่ถอยห่างออกไปแล้วก็นอนแยกห้องกัน เหตุผลที่ให้ธามก็ไม่เก็ตเท่าไหร่ แต่นำกลับพูดไปก็หน้าแดงไป
-พี่อยากให้เกียรติธาม เรารักกันแบบค่อยเป็นค่อยไปดีกว่านะครับ-
ก็ไหนว่ารักธาม แล้วให้เกลียดทำไมกันเล่า ค่อยเป็นค่อยไปคืออะไรก็ไม่เก็ท หมายถึงไปไหนเบาๆ รึเปล่า
อยากจะถามขาดใจ แต่นำเอาแต่หน้าแดงแล้วก็หนีไปนอนอีกห้อง แล้วจะให้ธามถามใครล่ะ?

“ธามครับ เดี๋ยวช่วงเย็นๆ พี่นำนัดอาจารย์มาสอนภาษาไทยให้นะ”
“จะได้อ่านออก เขียนได้”
“เรื่องพูดนี่เดี๋ยวพี่นำสอนเองว่าธามต้องพูดยังไง อย่างแรกเลย ธามต้องเรียกพี่นำว่าพี่”

“นำ” ธามดื้อใส่แล้วก็ขึ้นรถปิดประตูทันที ทำไมกันเล่า ก็นำพิเศษไง จะเป็นพี่ชายเหมือนพี่โป๊ะ พี่ที่หนึ่งหรือพี่พีชทำไมกัน นำไม่ได้เรื่องเลย

“เด็กดื้อ อารมณ์เสียอะไร ทำไมทำหน้าแบบนี้ หือ?”

“ไม่ใช่”

“จะงอนยังพูดไม่รู้เรื่อง”

“ธามใช่ รู้ต่างหาก”

“ธามพูดไม่รู้เรื่อง อ่านไทยไม่ออก เขียนไทยไม่ได้ ทำอะไรเป็นมั่งครับ หือ?”

“จะทำก็ทำได้หมด”

“โอเค งั้นเรียนเพิ่มตอนเย็นนะ”
“เหนื่อยมั้ยครับ อดทนหน่อยนะ ช่วงแรกๆ อาจยากหน่อย แต่ชาวต่างชาติเขาก็เรียนภาษาไทยกันเยอะแยะ 3 เดือนก็พอไปวัดได้”

“วัดอะไร? ไปทำไม”

“นี่แหล่ะปัญหา ธามไม่รู้สุภาษิต หรือคำเปรียบเปรยอะไรเลย แล้วจะรู้ความหมายของพี่นำได้ยังไง”
“เรื่องโพสอิทที่พี่นำเขียนให้ทุกวัน ไม่อยากรู้หรอครับว่าพี่นำเขียนอะไร”

“ถามจูก็ได้”

“แล้วถ้าพี่นำเขียนคำว่ารักล่ะ ต้องให้ป้าจูอ่านให้ด้วยหรอครับ”
“มันควรเป็นคำที่ธามเห็นคนแรก คนเดียว และเข้าใจได้ด้วยตัวเองไม่ใช่หรอ?”


พูดทำไม เขินหมด
เขาแกล้งขมวดคิ้วกัดปาก แต่พอทำให้แก้มมีลักยิ้มขึ้นมา นำก็ส่งนิ้วมาจิ้มลักยิ้มอย่างหมั่นเขี้ยว และสุดท้ายธามก็ยิ้มออกมาอยู่ดี แม้จะนิดเดียวก็เถอะ

“เรียนนะครับ”

“ธามก็ต้องทำแบบที่นำบอกอยู่แล้ว” เคยขัดอะไรได้ด้วยหรอ เรื่องเดียวที่ขัดใจนำได้ก็เรื่องแต่งตัวนี่แหล่ะ นำเห็นทีไรก็เอาแต่ส่ายหน้าแล้วก็ไล่ไปเปลี่ยน แต่นี่ตัวธามนะ ธามจะใส่ชุดอะไรก็เรื่องของธาม

วันนี้รถไม่ติดมาก และพี่นำก็มาพาอีกทางที่ธามไม่เคยใช้มาก่อน ข้างทางมีต้นไม้เล็กๆ ให้มองด้วย เพลินตาดีเหมือนกัน ในรถพี่นำเปิดเพลงสากล ธามก็เลยฟังเพลินหู แม้ว่าบางเพลงธามจะขมวดคิ้วด้วยความไม่รู้จัก แต่พี่นำกลับร้องตามอย่างคล่องปากก็ตาม

“แล้วทำงานเป็นไงบ้างครับ  โอเคมั้ย?”

“อื้อ ดี”

“หางเสียง”

“ดีนะ”

“ธาม”

“ดีครับ”

“เก่งมาก เด็กดีของพี่นำ”
“งั้นตั้งใจทำงานนะครับ เย็นนี้พี่นำมารับ จะพาไปพบครูสอนภาษาไทย เซอร์ไพรส์แน่ๆ”

“ใครหรอ”

“บอกก็ไม่เซอร์ไพรส์สิ”

“ธามไม่ชอบเซอร์ไพรส์”

“ถึงแล้วครับ ตั้งใจทำงานนะ”  เห็นมั้ยล่ะว่าธามไม่เคยขัดใจอะไรนำได้เลย แค่ขอรู้ก่อนว่าเซอร์ไพรส์คืออะไรยังทำไม่ได้เลย แบบนี้เบื่อ

ธามลงจากรถที่เคลื่อนออกไปอย่างเชื่องช้า เขาหันหน้าเข้าออฟฟิศแล้วก็เดินคอตกเข้าไปด้านใน พี่แนนทำให้ธามหายเบื่อ พอธามบอกว่าจะมีครูภาษาไทยส่วนตัว พี่นำเป็นคนหามาให้ พี่แนนก็บ่นว่าคุณหมอนำใจร้าย ทำไมไม่มองพี่แนนเป็นตัวเลือกบ้าง ... ไม่อยากเฉลยเลยว่าถ้าพี่แนนเป็นตัวเลือก ธามจะไม่เลือกข้อพี่แนนเด็ดขาด

ตอนสายยังไม่มีงาน และพี่โป๊ะก็ยังไม่เข้ามาที่ออฟฟิศ เที่ยงกว่าพี่โป๊ะถึงจะเข้ามาพร้อมกับสั่งงาน และธามก็ใช้เวลาแค่บ่ายโมงถึงห้าโมงเย็นในการทำงานให้กับพี่โป๊ะ และก็ได้กลับบ้าน

พี่นำเป็นตรงเวลา บอกว่าจะมารับก็มารอรับตามเวลาที่ธามจะได้เลิกงาน แต่วันนี้โป๊ะบอกว่างานเข้า ธามยังกลับไม่ได้ ซึ่งธามก็ไม่รู้ว่าจริงรึเปล่าแต่พี่นำไม่เชื่อแล้วก็พาธามขึ้นรถไปทันที  บางทีธามก็รู้สึกว่าพี่โป๊ะน่าสงสาร เพราะไม่ว่าจะพูดอะไร คนรอบข้างมักจะบอกว่า “ไม่จริงอ่ะ!” ตลอดเลย

และธามก็ได้พบกับครูสอนภาษาไทยส่วนตัวจนได้
“พี่เจม” ธามเรียกชื่อคนตรงหน้าที่ยังดูสดใสไม่เปลี่ยน แต่สีหน้าพี่เจมที่มองมาดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย สงสัยป่วย

“หวัดดีธาม”
“พี่ไม่รู้จะสอนได้ดีแค่ไหนนะ แต่จะพยายามก็แล้วกัน”
“พี่นำครับ เจมว่าลองหาคนอื่นที่เก่งๆ เผื่อไว้ก็ดีนะครับ เจมไม่มั่นใจเลย”

“พี่เชื่อว่าเจมทำได้ ฝากด้วยนะครับ”  แล้วนำก็หายไปจากร้านกาแฟในห้างที่พาธามมาปล่อยไว้ พี่เจมมองหน้าแล้วก็ยิ้มให้ จากนั้นก็เริ่มสอนด้วยการถามธามว่า “มีแรงบันดาลใจที่ทำให้อยากเรียนภาษาไทยมั้ยธาม”

“มีครับ”
“ธามอยากอ่านคำว่ารักได้”


พี่เจมยิ้มเขินๆ ไม่รู้เขินอะไรนักหนา แต่ว่าพี่เจมก็ตั้งหน้าตั้งตาสอนธามใหญ่เลย บอกดีมั้ยนะว่า ก-ฮ ธามรู้จักแล้ว หาๆ ในอินเตอร์เน็ตแล้วก็ศึกษาเอาก่อนนอนนั่นแหล่ะ


--------------


กว่าจะจัดตารางชีวิตได้ใหม่ก็เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน
ผู้นำเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อพบว่าที่หนึ่งที่นัดกันไว้ไม่ได้มาคนเดียว

“มาด้วยหรอโป๊ะ”

“อือดิ”

“ก็ไหนว่างานเข้า” เขาถามทวนเหตุผลที่เพื่อนชื่อมือโปรเคยใช้เป็นข้ออ้างรั้งธามไม่ให้กลับบ้าน รายนี้ยิ้มกวนตีนเขานิดๆ แต่ก็ยอมรับแต่โดยดี

“กั๊กมึงไปงั้นแหล่ะ” มันน่าตบหัวจริงๆ ผู้นำส่ายหัวใส่แล้วก็หันมาสนใจที่หนึ่งแทน

“ผมมีเรื่องปรึกษาคุณนิดหน่อยน่ะ”

“เรื่องไรหมอ พูดดีๆ นะ เอาให้สมเหตุสมผลกับการที่ต้องโทรหาเจมแล้วให้เจมมาเจอคุณที่นี่ด้วย”

“โธ่ที่หนึ่ง! เลิกหึงไม่เข้าเรื่องเข้าราวซักที ทำตัวแบบนี้กลัวเจมไม่รำคาญหรอ”

“ปากเสียนะไอ้หมอ”

“โอเค โอเค ปรึกษาเลยดีกว่า แต่พวกคุณห้ามล้อนะ”

“อือ” ดูหน้าก็รู้ว่า อือ ของพวกมันไม่น่าเชื่อถือหรอก ที่หนึ่งเจ้าเล่ห์มาแต่ไหนแต่ไร ส่วนมือโปรก็ขี้แกล้ง ถ้าไม่มีเขาถ่วงสติไว้ 2 คนนี้ก็ร่วมมือกับแกล้งพีชจนจิตตกไปไหนต่อไปแน่ๆ

“จริงๆ ก็เรื่องไม่ใหญ่โตอะไรหรอก”
“ผม....อยากรู้”
“ว่า....”

“ว่า.....” หน้าพวกเพื่อนลุ้นจนเขากลั้นขำไม่อยู่ แต่พอนึกถึงปัญหาตัวเองแล้วเขาก็หุบยิ้มแทบไม่ทัน

“ว่า....คุณจัดการกับความรักยังไง”

“ห๊ะ?”

“โดยเฉพาะรักเด็ก”

“ห๊ะ?”

“โดยเฉพาะ เด็กที่ว่า เคยเป็นพี่เป็นน้องกัน”
“แต่ไม่ใช่พี่น้องจริงๆ หรอกนะ คือ...”

“คือ...?”

“คือผมไม่รู้จะเข้าใกล้ธามยังไง ให้น้องไม่ตกใจ”
“...น่ะ”


“เท่านี้?” ที่หนึ่งเป็นคนทวนคำ พอเขาพยักหน้า เพื่อนตัวดีก็ตะปบเบ้าตาตัวเองแล้วก็ก้มหน้าซูกหัวเข่า ท่าทางมันจะกวนส้นตีนกันเกินไปแล้วไอ้ที่หนึ่ง

“หมอนำ มึงโง่หรือโง่วะ”

“หือ?” เขางงกับคำถามที่หนึ่งนิดๆ แต่ก็ยอมอดทนฟังเพื่อนต่อไป เพราะเขาไม่รู้จะปรึกษาเรื่องนี้กับใครแล้วจริงๆ

“หมอเอ้ยย”
“ตกลงมึงกับธามเป็นอะไรกันครับ”

“เป็น...คนรัก”

“แล้วมึงมึนอะไรหมอ”
“ถ้ามึงรัก มึงก็ทำเท่าที่มึงรัก”
“กลัวอะไรนักหนา”

“แหมไอ้หนึ่ง ปากดีนะมึง” มือโปรเป็นคนพูดสวนขึ้นมา ซึ่งมันก็เป็นคำที่เขาคิดอยู่พอดี
“มึงน่ะ โคตรกลัวเจมมันเลิกรักมึงเลย หมอนำมันก็คงกังวลประเด็นเดียวกัน ใช่มั้ยไอ้หมอ มึงไม่รู้ว่าต้องทำยังไง ต้องแสดงออกว่ารักแค่ไหน ธามมันถึงจะรู้สึกดีกับความรักของมึงใช่รึเปล่า”

“เฮ้ย! โป๊ะทำไมรู้”

“กูฉลาดไงครับเพื่อน” มันตอบเท่านี้แล้วก็งัดตัวที่หนึ่งที่ขำจนตัวสั่นให้เงยหน้ามองเขาอีกรอบ
“ไอ้หนึ่ง มึงก็แนะนำหมอมันหน่อย”
“อย่าให้เรื่องนี้ถึงมือเซียนอย่างกูเลยว่ะ คดีกระจอก” อยากตบปากมันมาก แต่ยั้งไว้ก่อน ตอนนี้เขาอยากรู้ว่าที่หนึ่งจะมี่คำแนะนำแบบไหนมาให้

ผู้นำลุ้นอยู่นาน กว่าที่หนึ่งจะยอมเผยเคล็ดลับกระชับสัมพันธ์เด็กดื้ออย่างธาม ก็ทำเอาเขาตาค้างเพราะฟาดกาแฟร้อนไปแล้ว 3 แล้ว ระหว่างที่รอมันเฉลย ก็คุยเรื่องนั้นนี้กันไปเรื่อยๆ 1 ในหัวข้อถกเถียงมีความเป็นไปของนายสุพิสุทธิ์ที่เพื่อนเขาสนอกสนใจอย่างมาก

“เอาล่ะหมอนำ ผมจะบอกเคล็ดลับมัดใจแฟนเด็กให้นะ”
“แม้เจมจะเด็กกว่าผมไม่ถึง 5 ปี แต่ความคิดความอ่านเจมก็เด็กกว่าผมมาก”
“วิธีกำราบก็ไม่ยาก”

งั้นหรือ? ดีจริง  กังวลอยู่ว่าจะยากเกินไป

“คุณก็แค่ พูดตรงๆ พูดให้เข้าใจ ไม่ต้องอ้อมค้อม ไม่ต้องคิดว่าแทนว่าสื่อแบบนี้แล้วธามจะเข้าใจ”
“ธามไม่เข้าใจหรอก ถึงคุณรักมากอยากให้มีความสุข แต่คุณทำแค่ชงโกโก้ให้ดื่ม มันก็ไม่ตรงประเด็น”
“เพราะงั้น แค่พูดยืนยันความรู้สึกคุณ และทำให้มันตรงกับที่คุณรู้สึก ก็เท่านั้นแหล่ะครับ”

“งั้น...” ผู้นำคิดคำถามเพิ่มขึ้นได้กะทันหัน เขาหันมองซ้ายขวา เมื่อเห็นว่าร้านกาแฟนี้ไม่มีใครสนใจพวกเขาก็กระซิบถามเพิ่ม
“งั้นถ้าผมอยาก...จูบบ้างกอดบ้าง แบบนี้ต้องยืนยันประมาณไหน”

“เล้าโลมเลย” ที่หนึ่งบอก

“เฮ้ย! ธามเด็กนะ” เขาค้านทันใจเลย ใจเริ่มคิดว่าการปรึกษาเพื่อนเป็นเรื่องที่ตัดสินใจผิด

“กูว่าไอ้ธามมันรู้จักเซ็กส์ว่ะ” ครั้งนี้มือโปรเป็นคนเสริมขึ้น ผู้นำขมวดคิ้วใส่เพื่อนเพื่อขอคำอธิบาย
“ก็กูใช้งานมันอยู่ ทำงานด้วยกัน พาไปเลี้ยงข้าว พาไปเจอลูกค้าเยอะแยะ เรื่องในวงเหล้าแม่งก็เรื่องอย่างว่าทั้งนั้น ในออฟฟิศเองที่มันสนิทด้วยก็ไอ้แนน รายนั้นบ้ารัก มึงคิดว่าธามมันจะไม่รู้จักเรื่องพวกนี้เลยหรอ ไม่ว่าจะเรื่องความรู้สึก หรือเรื่องทางกายภาพ”

เขาไม่ได้คิดว่าน้องไม่รู้จัก ทั้งความรักและการมีเซ็กส์
ปัญหาของเขาคือ เขาควรทำแค่ไหน เพื่อให้น้องรู้สึกดีทั้งกับความรักและกับเซ็กส์
ธามถูกกดดันจากความรู้สึกรักที่นายสุพิสุทธิ์ยัดเยียดให้
แล้วความรู้สึกที่เขาอยากมอบให้ น้องจะมองมันเหมือนที่มองความรู้สึกนายสุพิสุทธิ์รึเปล่า

ผู้นำยอมรับเลยว่ากังวลมาก
มากจนไม่กล้าแตะตัวธามในยามวิกาลเลย
เพราะแบบนี้แหล่ะถึงต้องแยกห้องนอน ตอนเช้าเข้าไปก็แค่มอง และเขียนโพสอิทแปะไว้ข้างหมอนในวันที่ต้องเข้ารพ.แต่เช้า

“นำ” ที่หนึ่งเรียกเขาด้วยเสียงซีเรียส เขาหวังว่าเพื่อนจะให้คำตอบดีๆ ได้
“ที่คุณควรทำที่สุดนะ ก็คือการบอกธาม ในสิ่งที่คุณคิด และต้องการ” ทำยากยิ่งกว่าอะไร เขากลัวธามไม่เข้าใจน่ะสิ ภาษาไทยก็อ่อนด้วยแทบทุกทักษะ นี่เรื่องพูดเริ่มรู้เรื่องขึ้นมากแล้ว ต้องขอบใจคุณแนนจริงๆ

“โอเค ผมจะพยายามสื่อสารความคิด ความรู้สึกกับธามมากขึ้น”
“ทีนี้มาอีกเรื่อง เรื่องนี้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย เพราะมีเงินมาเกี่ยวข้อง”

“ที่หนึ่ง คุณพอจะรับงานผมไว้ได้มั้ย หมอปันให้ผมดูแลเรื่องศูนย์จิตเวชที่เป็นส่วนหนึ่งของรพ.ผมทุกสาขา”
“แต่จะเริ่มก่อนที่สาขาในกรุงเทพ อยากให้คุณคุม”

“อืม เอาสิ เดี๋ยวผมบอกป๋าเองว่าเคสพิเศษ คุณมีอะไรให้บ้าง”

“มีแค่แบบในหัว”

“อืม งั้นเดี๋ยวผมส่งสถาปิกไปหาก่อนก็แล้วกัน”

“โอเค” เขาจบเรื่องนี้โดยง่าย ทำให้มือโปรที่เพิ่งสั่งกาแฟเพิ่มอ้าปากค้าง ผู้นำหัวเราะนิดหน่อยแต่ก็ผายมือเชิญชวนเพื่อนมีความสุขกับกาแฟแก้วที่ 4

พอได้เวลา เขาก็เดินขึ้นไปยังชั้น 2 เพื่อรับธามตามเวลาที่บอกไว้ก่อนแล้ว ดูเหมือน 2 คนจะสอนจะเรียนกันสนุก เพราะสีหน้าธามดูอารมณ์ดี และตอนที่เดินเข้าใกล้ เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะด้วย

“สนุกมั้ยครับธาม”

“สนุกมากเลยนำ”
“พี่เจมน่ารัก ตลกดี ธามชอบ”
“พรุ่งนี้ได้เรียนอีกมั้ยนำ”

เขาก็เกรงใจที่หนึ่งอยู่หรอกนะ แต่ว่า เขาก็อยากให้ธามได้อยู่ใกล้ๆ คนที่ทำให้รู้สึกสนุกหรือมีความสุขได้ และเจมก็เป็นบุคคลแรกๆ ที่เขานึกถึง

“ถามเจมสิครับ ไม่รู้อาจารย์ว่างรึเปล่า”

“อ๋ออ ได้ๆ มาเจอได้อยู่แล้ว จริงๆ พี่มาสอนให้ทุกวันก็ได้นะ แต่ถ้าวันไหนติดงานมืดมาก พี่จะโทรบอกก่อน ธามเอาเบอร์มาสิ เดี่ยวเรานัดกันเองก็ได้ ไม่ต้องผ่านพี่นำหรอก”

“ได้หรอครับ ได้หรอนำ ธามมาเจอพี่เจมเองได้มั้ย”

“ได้ครับ ถ้าไม่รบกวนเจมนะ”

“อื้อๆ” ไอ้ท่าสั่นขาอย่างตื่นเต้นนี่คืออะไร? ธามกี่ขวบแล้วเนี่ย เฮ้ออออ เขาลูบหัวธามอย่างเอ็นดู แล้วก็ก้มลงคว้ามือเพื่อพาเดินลงมาชั้นล่าง และพอเจมที่เดินตามมาเห็นคนที่รออยู่ชั้นล่างของร้านก็สร้างโอกาสให้ตัวเองทันที

“พี่หนึ่ง เจมมาสอนภาษาไทยให้ธามนะ เดี๋ยวนัดเวลากันเอง แต่จะมาร้านนี้แหล่ะ สะดวกทั้งคู่”
“แล้วเจมไม่เหนื่อยหรอ เซตเป็น 3 วันต่อสัปดาห์ดีมั้ย? เรียนทุกวันธามรับไหวหรอ”
“ไหวดิ ธามมีแรงบันดาลใจดีมากกก รับรอง เดือนเดียวก็รู้เรื่อง”
“สอนเก่งขนาดนั้นเชียว เจมหลงตัวเองรึเปล่า”
“เปล่าเลย ธามขอเรียนกับเจมเองต่างหาก”
“นะพี่หนึ่งนะ”
“วันไหนพี่หนึ่งเสร็จงานเร็วก็มารับเจมร้านนี้ก็ได้ แต่วันไหนเลิกดึกเจมก็กลับคอนโดเอง โคตรใกล้”
“โอเค โอเค หิวรึยังครับ กินอะไรดี ไม่เอาส้มตำร้านนั้นนะ พี่ว่าเผ็ด”
“งั้นไปร้านนั้นแหล่ะ พี่หนึ่งไม่กิน เจมกินเอง”
“นะ...คนเรา...พวกคุณ...ผมกลับก่อนนะ พรุ่งนี้เจอกันนะธาม”

“อื้อ ครับพี่หนึ่ง” กับที่หนึ่งก็พูดเพราะ กับโป๊ะก็เรียกพี่ทุกคำ ช่างเป็นเด็กดีของทุกคนแต่ดื้อกับเขาคนเดียวจริงๆ
ผู้นำหันมาลาโป๊ะที่เช็คเวลาถี่ผิดดปกติ รายนี้พยักหน้าลาส่งๆ แล้วก็รี่ออกจากร้านไป เห็นแล้วอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมถึงได้รีบขึ้นมากะทันหันแบบนี้

“หิวมั้ยครับธาม”

“หิว”

“อยากกินอะไร? หรือจะกลับไปกินที่บ้าน”

“นี่ๆ ข้าวมันไก่ทอด พี่แนนเคยซื้อมาให้กิน อร่อยนะ มีร้านมั้ย”

“อา...แถวนี้น่าจะมี เดินหาก็แล้วกัน ไม่มีก็ในซอยบ้าน ดีมั้ยครับ”

“อื้อ” รับคำแล้วก็จับมือเขาไว้พลางยิ้ม ลักยิ้มเล็กๆ อวดตัวเรียกมือเขาได้ฉับไวจนยั้งไม่ทัน สุดท้ายก็ยืนจับแก้มน้องอยู่ในร้านกาแฟ เฮ้อออ ทำไมเขาถึงหักห้ามใจไม่ได้เลยนะ


กว่าจะกลับถึงบ้านกันแล้วก็เกือบ 5 ทุ่มแล้ว เพราะธามดูตื่นเต้นกับตลาดเล็กๆ หน้าปากซอยสุขุมวิท ร้านรวงตั้งมากที่น่าแวะกินมื้อเย็น ทั้งอาหารจีน อาหารญี่ปุ่น และอาการเกาหลี แต่ธามกลับจ้องหาแต่ร้านข้าวมันไก่ ดีกว่ามันมีมาเปิดที่หน้าเซเว่นปากซอยหนึ่งของถนนสุขุมวิทที่ห่างอาคารที่เขาใช้เป็นที่นัดหมายเรียนภาษาไทยของธามไม่มากนัก
ฟาดไป 2 ชามก็ทำท่าลูบท้อง พัฒนาการเรื่องเรอนี่เขาไม่ได้สอน ไม่เคยทำให้เห็น ธามคงเห็นมาจากโป๊ะจึงได้เรออึกเล็กๆ แล้วก็ลูบท้องตัวเองตอกย้ำความอิ่ม

ระหว่างทางมีของมาขายข้างทาง ซึ่งธามก็สนใจเดินแวะนั่งลงดู พวกเครื่องประดับที่จะหยิบมาจ้องจนแทบชิดตา พอเขาถามว่าอยากได้หรอ ธามก็จะส่ายหน้าและเฉลยว่า เอาไว้เป็นไอเดียให้อาหลูทำขาย...ตอบแบบนี้ทุกรอบด้วย ดูเหมือนอาหลูนี่จะต้องถูกตรวจสอบประวัติลึกเสียหน่อยแล้ว

“ธามครับ อาบน้ำก่อนเลย เหม็นเหงื่อตัวเองนะนั่น เร็วครับ” เขาเร่งเมื่อมาส่งที่ห้องแล้วเห็นท่ากระโดดขึ้นแผ่บนเตียงคาตา ผู้นำส่ายหน้าใส่เด็กผู้ไม่รู้จักฟัง เขาเดินมากอดอกมองที่ปลายเตียงแล้วกำกับสำทับ
“อาบน้ำก่อน เร็วครับ”

“ก็ธามง่วงแล้ว”

“ง่วงแล้วก็ไปอาบน้ำสิครับ จะได้นอนเลย สบายตัวกว่าด้วย”
“เร็วสิธาม อย่านอนแบบนี้ หมักหมมไม่ดีนะ ไม่สดชื่น ถ้าเป็นสิวจะทนได้หรอ เหงือสะสมบนตัวก็เกิดสิวได้ทั้งตัว จะใส่เสื้อกล้ามคว้านลึกเห็นถึงแอ่งสะดือแล้วบนแขนบนหน้าอกมีสิว ไม่อายคนจ้องสะดือหรอธาม”

“นามมมมมมมมมมมมมม ฟังเหนื่อยแล้ว”
“อาบเลย อาบสิ ไม่ฟังแล้ว”
“นำมาอาบด้วย!”

ดีดตัวผึงขึ้นมาเถียงเขาเสร็จก็ลากตัวเขาเข้าห้องน้ำ ขอย้ำว่าน้องลาก ก็คือลากจริงๆ เพราะว่าเขาฝืนไว้สุดแรง

“ธาม! เล่นอะไรครับ”
“ธามปล่อยพี่นำก่อน”
“อาบน้ำเองสิ โตแล้วนะ”

“ไม่เอา นำพูดเยอะ ฟังไม่รู้เหนื่อยจบแล้วเนี่ย”
“นำก็เหงื่อเหมือนกัน อาบน้ำเลย”
“ถ้านำไม่อาบ ธามก็ไม่ต้องอาบ”
“เลือก!”

ร้ายกาจแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ผู้นำฝืนแขนตัวเองไว้สุดแรง เขากระตุกคืนนิดเดียวธามก็เซถอยหลังกลับมา เด็กดื้อหันมองเขาปากคว่ำ

“นำแกล้ง นำไม่อาบ ธามก็ไม่อาบ ทำไมทำไม่ได้ ทำไม”

“เพราะพี่นำจะกลับไปอาบน้ำเองที่ห้องพี่นำ ธามก็อาบเองสิ”
“พี่จะรออยู่ในห้องนี้จนกว่าธามจะอาบน้ำ อย่ามักง่าย”

“มักง่ายไม่ดีไง ง่ายไง ง่าย นำรู้สินะ นำ นำ นำ”

ป่วนแล้วแบบนี้ แสดงว่าง่วงแล้วก็หงุดหงิดที่ไม่ได้นอนตามที่อยาก แต่เขาไม่ยอมหรอก เสียอนามัย!

“ไปอาบน้ำครับ”

“ใจร้าย!”
“ไม่รักธามเลย!”

ทิ้งคำให้เขาอึ้งแล้วก็เข้าห้องน้ำไปเสียฉิบ ผู้นำถอนหายใจแล้วยืนเกาหัวตัวเองอย่างกลุ้มใจ การมีแฟนเด็กนี่ได้ยินมาบ่อยว่าดูแลยาก โดยเฉพาะดูแลอารมณ์ และยิ่งเป็นเด็กผู้ชายด้วยแล้ว สำหรับเขา เขาคิดว่าดูแลยากกว่าเด็กผู้หญิงเสียอีก

ทำไมความเหมือนทางเพศไม่ช่วงลดความต่างจากวัยบ้างนะ เขาจะได้เข้าใจธามมากกว่านี้
และนี่เขายังไม่รู้เลยว่างอนอะไร
แล้วยังไงล่ะ ก็เป็นแฟนกันแล้ว แฟนงอน แม้ว่าเขาจะคิดว่ามันค่อนข้างไม่สมเหตุสมผล ไม่มีที่มาที่ไปนัก แต่ก็จะง้อ

“ธามครับ ธาม”
“โกรธพี่หรอ”
“อย่าโกรธพี่นำนะ พี่เสียใจนะ ดีกันนะครับ”

“โตแล้วสินะ!” แน่ะ เถียง เขาหัวเราะแล้วเคาะประตูง้อต่อ แป๊บเดียวเด็กหน้ามุ่ยก็เปิดประตูออกมาแล้วเท้าเอว อวดผิวขาวใต้ร่มผ้ากับผ้าเช็ดตัวพันเอว

“ยังไงดี ทำยังไงให้ธามหายโกรธดีครับ?” เขาถามต่อแล้วยิ้มให้ เด็กคนนี้กอดอกวางสีหน้าครุ่นคิด แล้วก็เฉลยคำตอบที่ทำเอาเขาใจวูบ

“อาบน้ำให้ธามสิ”
“ถ้าอยากให้หอม คลีนสะอาด นำก็อาบให้สิ”

นี่ธามเข้าใจรึเปล่าว่าที่เขาเลี่ยงบรรยากาศกระอักกระอ่วนเพราะอะไร รู้ตัวหรือเปล่ากำลังได้รับการถนอมปกป้องจากเขา
อยากให้เขา....ตบะแตกนักรึไง พูดจาเปิดโอกาสกันแบบนี้

“ไม่ได้สินะ ก็ได้!”

“ได้ครับ” ผู้นำรีบตอบแล้วใช้มือยันประตูไว้ทันที เขาจ้องหน้าธามที่มองเขาอย่างท้าทาย

หมอหนุ่มคิดทบทวนอีกแง่มุมและพบว่า มันจะผิดตรงไหนถ้าเขาจะตบะแตกปล้ำแฟนตัวเองขึ้นมา อีกอยาง แฟนเด็กคนนี้ก็ช่างยั่วเสียเหลือเกิน

“พี่จะอาบน้ำให้ธามเองครับ” เขากระตุกยิ้มมุมปาก และเด็กดื้อก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อเขาอาบน้ำให้ มันจะไม่ได้มีแค่ฟองสบู่เท่านั้นที่เป็นผลผลิตของการเสียดสีกันของวัตถุที่แสนอ่อนนุ่ม


Tbc


มาต่อแล้วค่าาาา ฉลองสอบเสร็จ >,<
แต่ว่า รายงานยังไม่ได้เริ่มเลย อีก 10 วันเอง เพราะฉะนั้น จะหายไปทำรายการโกยคะแนนก่อนนะคะ
ฝากหมอนำกับน้องธามไว้ในอ้อมใจด้วยค่ะ

จริงๆ เรื่องนี้เนื้อหาเหมือนเครียด(?) แต่ก็เป็นอีกแง่มุมหนึ่งของความรัก
แค่เพียงอ่านแล้วรู้สึกชอบ คล้อยตามและเห็นความน่ารักคนแข็งๆ ซ่อนเล่ห์อย่างหมอนำ และเด็กดื้อพูดไม่รู้เรื่องแบบธาม เราก็ดีใจแล้วค่ะ

แล้วเจอกันใหม่ค่ะ   :bye2: :bye2: :bye2:

ปล. ดูเหมือนจำนวนตอนจะเยอะกว่าเรื่องที่หนึ่งเจม แต่จำนวนหน้าน้อยกว่ามากเลย เพราะว่าเราโกงตอนนั่นเอง เหอะๆๆ ขออภัยที่แต่ละตอนมันค่อนข้างสั้นนะคะ


หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 19(12/05/14)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 12-05-2014 04:31:08
หายไปนานเลยคิดถึง
อ่านตอนนี้แล้วสงสารผู้นำจริงๆอยู่กับเด็กไม่ประสายั่วโดยไม่รู้ตัว อย่างนี้หมอนำจะทนไหวหรือ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 19(12/05/14)
เริ่มหัวข้อโดย: toshika ที่ 12-05-2014 06:12:42
 :z1: :z1: นำจะรอดจากเหตุการณ์ในห้องน้ำหรือไม่ รอติดตามนะ55555555 เด็กก็ช่างยั่วจริงๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 19(12/05/14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 12-05-2014 06:22:54
คือลุ้นนานมากว่าเมื่อไกร่พี่นำจะตบะแตกซะที :haun4:
ก็ธามน่ารักขนาดนี้ พี่ไม่ต้องอดใจหรอกค่า :laugh:
ธามน่ารักจริงๆนะ มีแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาไทยดีมากๆ ขอให้เข้าใจเร็วๆนะจ๊ะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 19(12/05/14)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 12-05-2014 06:39:04
น้องธามน่ารักอะ
พี่นำอดทนไปนะ  55555
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 19(12/05/14)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 12-05-2014 06:39:13
พี่นำอย่ากลัวสิคะ ไม่แสดงออกเดี๋ยวน้องคิดมากนะ
รอตอนหน้าว่าพี่นำจะกล้าไหม 555555
ชอบน้องธามตอนพูดไม่รู้เรื่องที่สุดดดด น่าร้ากกกก
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 19(12/05/14)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 12-05-2014 13:21:31
 :hao7: กรี้ดดดดดดดน้องธามยั่วพี่นำแบบนี้มีรึพี่นำจะไม่จัดให้ เด็กน้อยเอ้ยไม่รู้ไรซะแล้วแอบฮาพี่พี่นำตอนไปปรึกษาปัญหาหัวใจกะเพื่อนๆอ่ะ น่ารักดี รอตอนหน้านะคะ อยากรู้จังน้องธามจะรอดมั้ย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 19(12/05/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 12-05-2014 15:08:57
มาต่อไวๆ นะคะ รออ่านอยู่จ้า
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 19(12/05/14)
เริ่มหัวข้อโดย: nutty ที่ 13-05-2014 02:03:58
หวานขึ้นเรื่อยๆนะคู่นี้
รอดูพี่นำตบะแตก
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 19(12/05/14)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 13-05-2014 18:26:16
ฮืออออออออ
อยากฟัดเด็กพูดไม่รู้เรื่อง
ทำไมน่ารักแบบนี้
 :katai1:

ตอนหน้ามีอะไรๆแน่เลยยย  :hao6:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 20(26/05/14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 26-05-2014 00:31:46
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 20


กลายเป็นว่าเขาผิด
น้องโกรธเขายกใหญ่ทั้งที่ตัวเองเป็นคนบอกให้เขาอาบน้ำเองแท้ๆ
ธามไม่ใช่เด็กแล้วนี่นา เขาจะไปรู้ได้อย่างไรว่า “อาบน้ำให้หน่อย” ของธาม กับสิ่งที่เขาเข้าใจ มันจะไปไกลกันแบบนี้

เจ้าตัวดีนั่งหันหลังให้เขาอยู่บนเตียง เสื้อผ้าก็ไม่ยอมใส่ ห่อตัวเองไว้ด้วยชุดคลุมอาบน้ำ เรียกทีก็จะหันมาชกแขนเขาที แต่เขาไม่เจ็บมากมายก็เลยหัวเราะ กลายเป็นน้องคิดว่าเขาเยาะหยัน ก็โกรธหนักกว่าเดิมอีก

“ธามครับ ก็บอกเองว่าให้พี่นำอาบน้ำให้”

“ธามบอกให้อาบน้ำเพราะธามขี้เกียจอาบ ธามจะนอน ธามเหนื่อย”
“ธามไม่ใช่ อาบน้ำเป็นเซ็กส์ยังไง นำมั่ว”

ถ้าพี่นำมั่วจริงๆ เราไม่มานั่งเคลียร์กันดีๆ แบบนี้หรอกครับ แม้จะอยากเถียงใจจะขาด แต่ “มั่ว” ของน้อง กับมั่วของเขา ก็คนละความหมายอยู่ดี

“แล้วพี่ไม่มีสิทธิ์ทำแบบนั้นกับธามหรอ?”
“เรารักกันนี่ครับ”

“นำพูดอาบน้ำ”

“โธ่ธาม!”
“คนคบกัน รักกัน เวลาอยู่กัน 2 คนแล้วชวนอาบน้ำ ชวนทาแป้ง ทาครีม มันหมายถึงทำเรื่องนั้นแหล่ะครับ”

“ก็ธามไม่ใช่ไง”

“ไม่รู้ก็รู้ไว้วันนี้แหล่ะครับ”
“ไปแต่งตัวสิ ชีเปลือย”

“หือ?” นั่นไง งงแล้วน่ารักชะมัด ผู้นำฉวยจังหวะที่เด็กแสบงุนงง เขาดึงแขนธามให้เอนหลังมาหาแล้วก็พลิกตัวไปนอนคร่อมน้องเอาไว้ เด็กดิ้นไม่ครนาแรงเขาอยู่แล้ว ปล่อยให้ดิ้นปัดไปปัดมาก็เหนื่อยเอง พอเหนื่อยแล้วหูธามจะเปิด ฟังเขารู้เรื่องมากขึ้น

“ถ้าไม่แต่งตัว พี่จะทำอีก”

“นำอย่าคู!”

“ไม่ขู่ครับ”
“ครั้งแรกมันยากหน่อย เพราะพี่นำกะแรงไม่ถูก ธามตัวผอมนิดเดียว แต่ครั้งนี้ พี่นำรู้จักธามหมดแล้ว”
“ไม่เจ็บแล้ว”

“โกหก!”
“มันเจ็บสุดมากเลย” หน้าแดงด้วย หน้าเบะๆ เหมือนจะร้องไห้ เห็นแล้วก็ใจอ่อนยวบยาบ ผู้นำยิ้มให้แล้วคลายแรง เขานอนแผ่หลาลงข้างธามแต่ยังวางแขนคร่อมตัวธามเอาไว้

“เมื่อกี้ในห้องน้ำ ธามได้ยินมั้ย”

“อะไรเล่า!”

“เสียงหัวใจพี่”

“...........”

“บอกว่ารักธาม”

เงียบสนิท ผู้นำตะแคงตัวกระดกหัวมองเด็กดื้อที่เงียบลงจนผิดสังเกต รายนี้นอนหน้าแดงกอดอกตัวเองแน่นหนา แต่ขากลับก่ายทับขาเขาเอาไว้

“ได้ยินมั้ยครับ”

“เพิ่งได้ยินเมื่อเนี่ยเนี่ย”  แล้วไอ้อาการชี้ๆ นิ้วหมายถึงอะไรนะ? คงหมายถึงเมื่อกี้ที่เพิ่งผ่านไปสดๆ ร้อนๆ
“ก็มันอายอยู่”
“ไม่บอกนี่ว่าใจจะบอกแบบนั้น”

“แต่พี่นำได้ยินนะครับ”

“อะไรอีกเล่า!”

“ที่ธามบอกว่ารักพี่”
“บอกเบาๆ แต่พี่ก็ได้ยิน จะไม่มีวันลืมเลยด้วย ถึงจะไม่ยอมพูดให้พี่ฟังอีก พี่ก็จำได้ จำไปจนตายเลย”

“นำบ้า” ด่าเสียน่าเอ็นดู ผู้นำดึงตัวน้องให้ตะแคงหา ยึกยักอยู่แป๊บเดียวก็ยอมนอนเกยตัวเขาไว้ เขาโอบหลังเล็กๆ นั้นไว้แล้วลูบไปมา

“พี่นำก็บ้ากับธามคนเดียวนั่นแหล่ะ”
“แต่เมื่อกี้พี่ยัง...ไม่รู้จักธามเท่าที่อยากรู้เลย”
“ศึกษาเพิ่มอีกนิดได้มั้ย”

“นามมมมมมมมมมมมมม” งอแงใหญ่โต แต่สุดท้ายก็ต้องเป็นน้องธามของพี่นำอยู่ดี


-----------------


พี่โป๊ะแม่งเหี้ย!
คำนี้พี่เจมสอน บอกว่าเอาไว้ด่าเวลาโดนพี่โป๊ะทำให้โกรธหรือรำคาญ แต่ธามยังไม่เคยตะโกนออกไปแบบนั้นหรอกนะ แต่ตอนนี้กำลังจะตะโกนแล้ว คิดอยู่ว่าตะโกนไปดีมั้ย คนอื่นก็อยู่กันเยอะด้วย ถึงจะอยู่นอกห้องทำงานพี่โป๊ะ แต่ถ้าธามตะโกนไป คนอื่นต้องได้ยินเหมือนกัน พี่โป๊ะอาจจะไม่พอใจ

“พี่ขำว่ะธาม ตกลงไอ้หมอมันเพิ่งได้อแอ้มธามหรอ? ตั้งแต่ที่กลับมาจากไต้หวันอ่ะนะ นี่มันรอห่าอะไรเป็นเดือนเดือน รอธามหมดเมนหรอวะ ฮ่าๆๆๆ”

โกรธแล้ว พี่โป๊ะว่านำทำไม ว่าไม่ได้ ธามว่าคนเดียวได้ นำแฟนธามนะ โป๊ะไม่ใช่เสียหน่อย โกรธมากด้วย!!

“แล้วเป็นไง ชอบป่ะ? แอ๋ๆๆๆ ถึงป่ะเนี่ย”
“ไม่พอใจบอกเฮียได้นะ เดี๋ยวเฮียพาไอ้หมอมันไปฝึกเอง รับรอง กลับมานี่เร่าร้อนเผาผลาญธามละลาย”
“เอาป่าว ให้พี่ช่วยมั้ย เอาป่าววววว”

“เหี้ย...”

“หือ? อะไรนะ?”

“พี่โป๊ะแม่งเหี้ย!!” ธามต่อว่าสุดเสียงแล้วก็เดินอมลมออกจากห้องทำงานโป๊ะทันที งานที่ต้องทำวันนี้ก็ยังไม่ได้รับบรีฟ แต่ธามไม่อยากคุยกับโป๊ะแล้ว โป๊ะว่านำ โป๊ะแย่ นิสัยไม่ดี พี่นำของธามดีทุกอย่าง ถึงไม่ดีธามก็จะว่าเอง โป๊ะเหี้ยทำไม

เขายืนหายใจอกพองอยู่ครู่เดียวพี่แนนก็เดินมาลูบหลังแล้วถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ธามไม่ปริปากบอกสักคำ ธามแค่ชี้ไปที่ประตูห้องโป๊ะแล็วก็งัดนิ้วกลางชูขนานกับสันจมูกพี่แนน
หวังว่าพี่แนนจะเข้าใจพี่ธามกำลังบอกใบ้
วันนี้ทั้งวันธามก็หนีไม่พ้นถูกเรียกเข้าห้องพี่โป๊ะ เพื่อไปฟังเสียงพี่โป๊ะหัวเราะหลังจากที่พูดอะไรเพ้อเจ้อจนธามฟังไม่รู้เรื่อง จนถึงเย็นที่พี่นำโทรมาหาเพื่อบอกให้รอที่บริษัท จะมารับแล้วพาไปหาพี่เจม โป๊ะถึงได้ยอมเงียบหลังจากที่ธามเล่าเรื่องอารมณ์เสียเพราะพี่โป๊ะให้ฟัง และพี่นำขอคุยกับพี่โป๊ะนิดหน่อย
“เอาไปเลย โทรศัพท์ธาม พี่ไม่ยุ่งก็ได้วะ”
“แม่งแหย่นิดแหย่หน่อยทำขู่ กูไม่กลัวหรอกเว้ย! ไอ้หมอ” บางทีธามก็งงเหมือนกันว่าพี่โป๊ะพูดกับใคร พี่นำก็ไม่ได้อยู่แถวนี้ซะหน่อย

“น้องธามขา กลับรึยังเอ่ย ไปเดินเล่นกับพี่แนนมั้ย พี่จะไปกินเบียร์”

“รอนำ เดี๋ยวนำมารับครับ”

“ต๊ายยยยยยยยย พี่รอส่งน้องธามก่อนดีกว่า เบียร์นี่หมักต่ออีกนิดได้อยู่แล้วเนอะ” แล้วพี่แนนก็ป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ โต๊ะทำงานธามอย่างที่พูดจริงๆ ราว 6 โมงกว่าพี่นำก็มาถึง วันนี้พี่นำไม่ใส่สูท ไม่ใส่เสื้อเชิ้ตด้วย ใส่แค่เสื้อโปโลกับกางเกงยีนส์ แว่นก็ไม่ใส่ ผมก็ไม่เซตให้เรียบร้อย แต่ลุคนี้ก็ดี มองแล้วรีแล็กซ์

“ต๊ายยยยยยยยย พี่หิว”

“หือ?”

“อยากกินนายแพทย์หนุ่มที่สุด” เลียขอบปากด้วย พี่แนนคงหิวมากจริงๆ

“เก็บของรึยังครับธาม ไปกันเลยมั้ย? หิวมั้ยครับ แวะทานอะไรก่อนไปเรียนกับเจมก็ได้นะ ที่หนึ่งโทรมาบอกพี่ว่าเจมถึงช้าหน่อย" ธามขมวดคิ้วเช็คความหิวของตัวเองแล้วก็พยักหน้าตกลง

“เอ่อ! พี่หมอนำคะ จะไปทานมื้อเย็นหรอคะ แนนแนะนำร้านแถวนี้ให้ดีมั้ยคะ จะได้ไม่เสียเวลาเดินทาง”

“ได้หรอครับ ขอบคุณมากครับ”
“ธามอยากทานอะไรครับ”

“อะไรก็...”

“สุกี้เลยค่ะ เด็ดมากกกกกกก”
“น้ำจิ้มแซ่บ!” จนป่านนี้ธามก็ไม่เข้าใจว่าพี่แนนจะแลบลิ้นออกมาทำไมนักหนา

มาถึงร้านที่พี่แนนแนะนำแล้ว และพี่แนนก็อยู่ทานสุกี้ด้วยกัน เธอบอกว่าขอนัดเพื่อนมาทานด้วยกันด้วยได้มั้ย ซึ่งพี่นำก็มองหน้าธามและยกหน้าที่ตัดสินใจให้ธาม ธามก็เลยพยักหน้าอนุญาต เพิ่งรู้เหมือนกันว่าตัดสินใจผิด

“น้องธาม น้องธามเคยอยู่ที่ไต้หวันหรอคะ ที่นั่นเป็นยังไงคะ ศิวิไลมากแค่ไหน”
“น่ารักแบบนี้ มีแฟนแล้วล่ะสิ”
“แล้วนี่มาอยู่ที่นี่ถาวรเลย ไม่คิดถึงบ้านหรอคะ?” เพื่อนพี่แนนมาแค่ 2 คน แต่กลับสามารถพูดได้เหมือนปากผู้หญิง 10 ปาก ธามเคยถูกห้อมล้อมด้วยเพื่อนผู้หญิงที่มหาวิทยาลัย แต่ไม่เห็นมีใครพูดเก่งเท่าพี่สาว 3 คนนี้เลย

“เอ่อ....สนุกครับ”

“ที่ไหนน่าเที่ยวบ้างคะ? พี่ดูในเวบทัวร์ก็มีแต่วัด วัด วัด พี่อยากไปเที่ยวที่แบบ ถึงไต้หวันจริงๆ มีแนะนำมั้ยเนี่ย?”
“จริงๆ ให้น้องธามพาทัวร์ก็คงดี สนใจมั้ยคะ?”

“คุณจุ๋มรับอะไรเพิ่มอีกครับ ขอโทษที ผมต้องขอเช็คบิลแล้ว เรามีนัดต่อกันน่ะครับ” จู่ๆ พี่นำก็พูดแทรกขึ้นมาแล้วก็จัดแจงรินน้ำเปล่าให้ธามดื่มเพิ่ม และยื่นกระดาษทิชชู่สำหรับเช็ดปากมาให้

“อุ้ยหรอคะ พี่หมอมีนัด หรือว่าน้องธามมีค่ะ”

“ธามครับ แต่ว่าผมต้องไปส่ง”

“ที่ไหนหรอคะ”

“ครูภาษาไทยเขาจะนัดมาอีกที แต่คงไม่พ้นแถวที่ทำงานเขาน่ะครับ”
“อิ่มกันแล้วใช่มั้ยครับ งั้นผมเช็คบิลเลยนะครับ”
“ธามครับ ไปรอที่พี่รถก่อนนะครับ นี่กุญเจ”
“คุณแนน ร้านนี้ขนมหวานอร่อย สั่งกลับบ้านก็ได้นะครับ”
“แล้วเดี๋ยวคุณจุ๋มไปส่งคุณแนนใช่มั้ยครับ ผมจะได้หมดห่วง กลางค่ำกลางคืน ผู้หญิงเดินทางลำบาก”
“แล้วคุณตาลขับรถมาใช่มั้ยครับ ระวังตัวด้วยนะครับ กลับกันดีๆ นะครับ”
“ผมขอตัว”

ธามยังไม่ทันได้เดินไปไหน พี่นำก็จัดการทุกอย่างเรียบร้อย  พอพี่นำหันมาเห็นธามยังยืนนิ่งอยู่ก็ขมวดคิ้วใส่แล้วกอดคอพาธามเดินออกจากร้านทันที

นี่มันอะไรกัน? งงเหมือนกันนะ

“ชอบหรอครับ” จู่ๆ พี่นำก็ถามขึ้น พี่นำยังไม่ได้ขับรถ เพียงแค่สตาร์ทไว้และเปิดแอร์ให้ธามคลายจากอาการร้อนจนต้องบ่นออกมา

“อะไร? สุกี้หรอ? ชอบนะ อร่อย”

“พี่นำหมายถึง...”
“อืม ช่างเถอะ พี่พาลเองแหล่ะ”
“เจมนัดที่ร้านใหม่ รถคงติดนิดหน่อย วันนี้อาจเรียนได้นิดเดียว ระหว่างทางธามทบทวนที่เจมเคยสอนไปก่อนนะครับ”

“อืม” ก็ยังงงอยู่ดี ดูนำไม่พอใจอะไรบางอย่างแต่ไม่อยากพูดออกมา แล้วธามถามได้มั้ยนะ
“นำ”เขาเรียกเบาๆ แล้วรออีกฝ่ายตอบรับ ซึ่งก็กินเวลานานจนรู้สึกอึดอัด

“ครับ”

“ธามเขียนชื่อตัวเองเป็นแล้ว” เขาโกหกออกไป ใจธามอยากถามว่านำเป็นอะไรรึเปล่า ไม่พอใจใครอยู่หรอ? ใช่ธามมั้ย แต่ก็ไม่กล้า กลัวคำตอบของนำ

“เก่งจังครับ แต่ต้องเก่งให้มากกว่านี้”
“อ่านออกรึยังครับ”

“นิดเดียว” แล้วนำก็ยิ้มให้อีกครั้ง ธามผ่อนลมหายใจเบาๆ แล้วก็นั่งบิดมือตัวเองตลอดทาง

ธามก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นไร อาการอึดอัดไปทั้งตัวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพิ่งเป็นตอนที่ไม่รู้ว่าพี่นำเป็นอะไร ทำไมถึงดูอารมณ์ไม่ดีนี่แหล่ะ

ทบทวนหนังสือหัดอ่านที่พี่เจมหามาให้ได้ไม่กี่หน้า พี่นำก็มาพามาถึงร้านที่พี่เจมนัดไว้ วันนี้เปลี่ยนที่เรียนนิดหน่อย เป็นร้านขายไวน์โดยเฉพาะ สถานที่ติวอยู่ชั้น 2 ของร้าน ซึ่งบรรยากาศดีมาก เงียบมากด้วย

“เดี๋ยวเจมคงมา ทบทวนรอเจมก่อนนะครับ เดี๋ยวพี่นำ....จะดูไวน์ให้หมอปันหน่อย”

“อื้อ” ธามรับคำแล้วก็เดินเหวี่ยงหนังสือไปมาสำรวจรอบชั้น 2 ดึกป่านนี้แล้วคงไม่มีลูกค้าเข้ามาแล้ว แต่ถึงจะมี ธามก็เชื่อมั่นว่าการเดินเตร่ไปทั่วของเขาจะไม่รบกวนใคร เพราะเคาท์เตอร์ก็อยู้ดานล่าง ไวน์ก็อยู่ข้างล่าง ส่วนที่อยู่ชั้น 2 นี้ก็มีแต่ชุดโซฟารับรอง และตู้เก็บของเก่าๆ เท่านั้น

“ธาม!” เสียงพี่เจมไม่ผิดแน่ ธามโยนหนังสือลงโซฟาแล้วก็เดินมารอที่ปลายบันได วันนี้พี่เจมหน้าตาเหนื่อยๆ แต่ก็ยังยิ้มให้ธามอยู่ดี
“รอนานมั้ย โทษนะ พี่งานโคตรยุ่งเลย”
“วันนี้อยากรู้เรื่องอะไร จะได้เล่าถูก”

วันนี้ธามอยากรู้อะไรงั้นหรอ? ถ้าธามอยากรู้เรื่องที่ไม่เกี่ยวกับการเรียนภาษาไทย พี่เจมจะตอบได้มั้ย
“พี่เจม ถามอย่างอื่นได้มั้ย”

“อืม ถามอะไร เศรษฐกิจหรอ การเมือง หุ้น การลงทุน ดอกเบี้ย หวย?”

“ถามเรื่องพี่นำ” สงสัยสิ่งที่ธามอยากรู้ พี่เจมก็คงช่วยไม่ได้ เพราะพอถามเสร็จ พี่เจมก็ขมวดคิ้วใส่ทันที เขาเม้มปากอวดลักยิ้มมาอ้อนคนมองอยู่ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจเอ่ยถาม

“พี่เจมคิดว่า พี่นำจะไม่พอใจธามรึเปล่า”

“หือ?”

“ก็พอขึ้นรถมา ก็ไม่ค่อยพูด ตอนกินข้าวก็ กินอยู่อยู่นะ ก็อิ่ม”
“จริงๆ ธามก็ไม่อิ่มมาก แต่ไม่กินแล้วก็ได้”
“นำรีบมากเลย แต่ก็แชรถอยู่ตั้งนาน ไม่พูดอะไรกับธามด้วย”
“นำทำแบบนี้ คือไม่พอใจธามใช่มั้ย?”

พี่เจมไม่ตอบอะไร แต่วิ่งลงไปข้างล่าง ไม่นานก็กลับขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม แล้วก็ชวนธามคุยเรื่องรอบตัวไปเรื่อยๆ ภาษาไทยที่ธามได้เรียนในวันนี้ คือคำว่า หวง ห่วง ห้วง

-----------------

เขาไม่คิดมาก่อนว่าต้องมานั่งปรึกษาเพื่อนในประเด็นนี้
เขาเป็นจิตแพทย์ เขารู้จักกลไกลทางจิต รู้จักกระบวนการทางความคิดที่กลั่นคำสั่งมาทำให้ร่างกายเกิดการกระทำ เกิดอารมณ์ และความต้องการต่างๆ แต่ทำไมเขาไม่เท่าทันตัวเองเอาเสียเลย ... โดยเฉพาะเรื่องความรัก

อาการขำเบาๆ แต่ตลกใหญ่โตมากของที่หนึ่งทำให้ผู้นำไม่พอใจ เขาใช้ขายันเพื่อนคนเอียงล้มไปบนโซฟา พอมันงัดตัวเองลุกขึ้นมาได้ก็หัวเราะเขาต่ออีก

“คุณขำมากหรอ?”

“โธ่ นำ ก็มันขำนี่หว่า”
“เรื่องแค่นี้ต้องกลุ้มด้วยหรอ? คุณนี่ไม่โตขึ้นเลยจริงๆ พอเป็นเรื่องที่ชอบจริงๆ รักจริงๆ อยากได้จริงๆ คุณก็ยังเป็นโรคไม่กล้าแตะต้องเหมือนเดิม ตลกจะตาย”

“มันไม่ขำเลยที่หนึ่ง แล้วไอ้ที่พูดที่พล่ามมาเมื่อกี้ก็ไม่จัดเป็นโรคด้วย”
“เป็นเหตุผลหนึ่งที่ใครทั่วไปก็สามารถหยิบมาตัดสินการกระทำตัวเอง ใครๆ ก็คิดทั้งนั้น”

“ไม่นะ ผมไม่คิด”
“ถ้าผมรักผมชอบ ผมอยากได้ ผมก็คว้ามา”
“ไม่เห็นคิดอะไรให้วุ่นวายเหมือนคุณเลย”

“คุณไม่เคยผิดหวังก็พูดได้สิ” เขาผลักหัวเพื่อนส่งๆ แล้วก็ทิ้งตัวนั่งลงใกล้ๆ
“พูดจริงๆ เลยนะ”
“ผมเองก็ไม่รู้ว่าควรมั้ย ที่จะรักกับธามแบบนี้”
“บางที สิ่งที่ธามรู้สึก อาจไม่ใช่ความรักที่ผมกำลังทำความรู้จักอยู่ก็ได้”
“มันแปลกนักหรอที่ผมจะกังวลเรื่องธาม”
“น้องเดือดร้อนมา บ้านผมช่วยเอาไว้”
“การดูแลเขา พยายามเข้าใจเขา ซ่อมโลกให้เขา ก็ไม่ได้หมายความว่ารัก”

“มันหมายความว่ารักนำ”
“แค่เรื่องที่ไต้หวัน คุณก็ควรจะรู้ใจตัวเองได้แล้ว คุณตายแทนธามได้เลยไม่ใช่หรอ?”

“ก็ใช่”
“แต่”

“แล้วกังวลอะไรวะ”

“ผมไม่อยากเอาบุญคุณ หรือเรื่องที่บ้านผมช่วยธามไว้ รับดูแลธาม มาขีดความรู้สึกของธาม”
“ที่ธามรู้สึกอาจไม่ใช่รัก แต่ชินกับการที่ผมดูแลอยู่ทุกอย่าง ใกล้ชิด เข้าใจ จนคิดว่ารักผม น้องอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้”

“วุ!” สุดท้ายที่หนึ่งก็อุดหูใส่เขาอีกตามเคย เขาคงย้ำคิดย้ำทำเกินไป แต่มันช่วยไม่ได้ พอเป็นเรื่องของธามแล้ว เขารู้สึกว่าเขาควบคุมอะไรไม่ได้เลย เหตุการณ์เมื่อครู่ที่ร้านสุกี้พิสูจน์ได้ดี

เขาหึง
ทั้งที่ไม่เคยหึงใครมาก่อน
แค่คุณแนน คุณจุ๋ม คุณตาล ชวนธามคุยไม่ขาดปาก สายตาพวกเธอตอนที่มองแก้มน้องของเขา มันน่าหวงน้อยอยู่ซะเมื่อไหร่
ทำไมต้องสนใจธามนัก ไม่ชอบใจเลยจริงๆ
แล้วเขาก็พาลใส่น้อง พาลสร้างความอึดอัดขึ้นมารอบตัวทั้งที่ธามไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
ทำไมเขาถึงได้นิสัยแย่นัก เวลามีความรัก ทั้งที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน

“นี่หนึ่ง”

“อืม ไรอีกวะ” มันตอบทั้งที่ไม่เงยหน้าจากนิตยสาร เสียงพลิกกระดาษถี่ๆ ทำให้ผู้นำรู้ได้ว่าเพื่อนไม่ได้สนใจบทความองุ่นหมักตรงหน้าสักเท่าไหร่

“ผมหึงธามด้วยแหล่ะ”
“มันแย่มากมั้ย ความรักไม่ควรมีการหึงหวง ถ้าหึงก็คือระแวง”

“ไอ้หมอ”
“อยากหึงก็หึงดิวะ ก็คุณรักของคุณนี่”
“บทเรียนง่ายๆ เลยนะ ถ้าคุณมีความสุขจากการเอาแต่ใจเล็กๆ น้อยๆ กับธาม มันแปลว่าคุณรัก และอยากให้ธามรักคุณมากๆ เหมือนกัน”
“เรียกร้องความสนใจไง หมาแมวที่ไหนก็ทำ เพราะงั้นหมอทำก็ไม่ผิดหรอก”
“เข้าใจนะ”

“เออ เข้าใจก็ได้” เขาตอบรับและคว้านิตยสารมาอ่านบ้าง บทความภาษาอังกฤษพวกนี้ไม่ดึงดูดใจเท่ารูปที่เขาเปิดมาเจอพอดี
“หนึ่ง”

“อืม”

“โป๊ะมีไร่องุ่นด้วยหรอ?”

“หืม? หรอ? เมื่อไหร่วะ” แล้วเพื่อนก็ทิ้งนิตยาสารในมือตัวเองแล้วมาสุมหัวอ่านบทความเกี่ยวกับเพื่อนรักอีกคน ในอีกมุมที่พวกเขาไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกัน


ยังไม่สี่ทุ่ม ธามกับเจมก็เดินหัวเราะกันลงมา
ธามดูอารมณ์ดีมาก ซึ่งเขาก็ดีใจไปด้วย เพราะเกรงอยู่เหมือนกันว่าที่เผลอพาลไม่พูดด้วยในรถจะทำให้ธามอึดอัด พอเห็นหน้าเขาธามก็พุ่งมาหาพร้อมกับบอกเบาๆ

“หิวอีกแล้ว เรากินอะไรก่อนค่อยเข้าบ้านได้นะ”

“ได้ครับ” เขาตอบแล้วลูบหัว รู้สึกอยากหอมหน้าผาก แต่ไอ้เพื่อนมันจ้องเขม็งมา หมอนำก็เลยจับแก้มเบาๆ เท่านั้น
“วันนี้เรียนอะไร”

“อ๋อ พี่เจมสอนว่าหวง ห่วง ฮวง”

“อ้อ แล้วแยกออกมั้ยครับ แบบไหนต้องพูดหวง แบบไหนห่วง”

“ออกสิ ธามรู้น่า”
“ถ้าธามล้ม นำวิ่งมาหาช่วย คือห่วง”
“แต่ถ้าธามล้ม พี่เจมมาช่วย นำหวง”
“ของของธาม คนอื่นมาหยิบ ธามหวง”
“ของของนำ ธามหยิบ นำไม่หวง เพราะนำห่วง”
“ฮ่า ตลกมั้ยนำ”

น่ารักชิบหายแล้วครับ
เฮ้อออออออออออ
ทำไมธามถึงน่ารักแบบนี้นะ
ผู้นำอมยิ้มมองธามทบทวนสิ่งที่ได้เรียนมา เขาหัวเราะเมื่อน้องถามว่าตลกมั้ย สีหน้าธามยิ่งสว่างขึ้นเมื่อเขาหัวเราะคลอไปด้วย
บรรยากาศแบบนี้ ถ้าให้ที่หนึ่งนิยาม มันจะนิยามว่าอะไรนะ? ใช่รักรึเปล่า
มันมองทะลุมั้ยว่าเขารักธามมาก แล้วพอจะมองออกมั้ยว่าธามก็รักเขาเหมือนกัน หรือมันเห็นเป็นอื่นอย่างที่เขายังกังวลอยู่ลึกๆ

“อื้อ มีอีกคำด้วยนำ”
“หึง หึ่ง อา...หึง”

“ครับ”

“หึงนะ แปลว่ารักมาก อย่ารักใครนอกจากธาม”
“ถูกมั้ย”

ถูกชิบหายครับ
หมอหนุ่มคอตก เขาแพ้ราบคาบ หมดสภาพ ไม่มีอะไรไปต่อกรกับเด็กดื้อคนนี้เลยจริงๆ

“แล้วนำหึงมั้ย”

“หึงครับ” เขาตอบสั้นๆ แล้วบีบแก้มธามอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยลาเจมและแอบด่าที่หนึ่งแบบไร้เสียง เพราะมันทำหน้าเลี่ยนล้อเลียนเขา

การขับรถพาธามกลับบ้านรอบนี้ ต่างจากเมื่อหัวค่ำมาก
ในรถเขามีแต่เสียงธาม ทั้งเสียงพูด เสียงหัวเราะ มือบางๆ ออกท่าทางประกอบการเล่าเรื่องจนบางครั้งมันก็มาชนแอร์บ้าง วิทยุบ้าง แม้จะเจ็บมือจนต้องสะบัดไล่ริ้วความเจ็บไป แต่ธามก็ยังไม่หยุดพูด ไม่ว่าจะด้วยปาก หรือด้วยมือ
แต่สิ่งที่สื่อมาถึงเขาได้ง่ายที่สุด ชัดเจนที่สุด ถูกต้องที่สุด ก็คือแววตา

ธามมีความสุขมากเลย....แววตาคู่ใสบอกเขาแบบนั้น
พี่นำก็มีความสุขครับ....ไม่รู้ว่าธามจะเข้าใจแววตาเขามั้ย


-----------------


เอกสารบนโต๊ะทำงานพี่นำหนากว่าเมื่อวันก่อนอีก
พี่นำคงงานยุ่งจริงๆ ธามไม่ควรกวน
แต่ธามไม่อยากนอนคนเดียวนี่นา

“เอาอะไรครับ?”

“นอนด้วย”

“นอนจริงๆ หรือนอนยังไงก็ตามใจพี่นำ หือ?”

“ตามใจนำสิ”

“ทำไมน่ารักแบบนี้ หือ?”
“ธามห้ามน่ารักแบบนี้กับใครนะครับ”
“จะเที่ยงคืนแล้ว อ่านหนังสือพอแล้วก็นอนครับ เดี๋ยวพี่นำเคลียร์งานอีกนิดนึง”

“อื้อนำ วันนี้นำไม่ได้ไปทำงานหรอ?”

“รู้ได้ยังไง”  นั่นไง ธามเดาถูกจริงด้วย ธามรู้ได้ยังไงน่ะหรอ?

“ก็นำไม่ได้ใช่เสื้อเชิ้ตนี่ ไม่ใส่แว่นด้วย”

“อ้อ ดีครับ ช่างสังเกต”
“พี่นำไม่ได้ไปทำงาน แต่ก็ไม่ได้หยุดงานหรอกนะ”
“วันนี้พีนำไปเคสพิเศษมาครับ รักษานอกสถานที่”

“ใครหรอ? อ๋อ ธามขอโทษ ลืมไปว่าเรื่องงาน ไม่ควรก่าย”

“ก้าวก่ายครับ พูดให้ครบ”
“จริงๆ พี่ก็คิดอยู่ว่าจะบอกธามดีมั้ย จะว่าไม่เกี่ยวกับธามก็ไม่ใช่หรอก แต่ว่าก็ไม่ได้เกี่ยวกับธามตรงๆ”

“งงนะ”

“โอเค เอาแบบไม่งงก็คือ”
“พี่มีคนไข้พิเศษ ที่อยากรักษา”
“เขาป่วยแต่ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย”
“ถ้าพี่รักษา หรือช่วยเขาได้ คนที่พี่รัก จะหมดอันตรายสักที”

“อะไร เอาใหม่ได้มั้ย”

“คนเก่งของพี่นำ นอนไปก่อนนะครับ” สุดท้ายก็โดนไล่ให้ไปนอนก่อนเหมือนเคย นำแย่
“เดี๋ยวพี่อ่านเคสเขาจบแล้ว จะไปนอนด้วย”
“แบบตามใจพี่นำ นะครับ”

“แม่งเหี้ย”

“เฮ้ย!”
“ด่าพี่นำทำไม ใครสอนให้พูดคำนี้ครับธาม”

“พี่เจมบอก”
“พี่เจมสอนว่า ถ้ารำคาญใจแต่พูดอะไรมากไม่ได้ ก็ให้บ่นว่าแม่งเหี้ย”

โอยยยยยยยยย
เจม!
ผู้นำลูบอกตัวเองกลบอาการตกใจ เขาปัดปากธามเพื่อให้คำหยาบไม่มาเกาะติดปากเด็กดื้อของเขาแล้วก็จับบ่าไว้แน่นเพื่อใส่ชุดความคิดลงไปใหม่

“พูดไม่ได้ครับ”
“ห้ามเลยธาม”
“ห้ามพูดคำว่าเหี้ยกับใครเด็ดขาด”
“มันเป็นคำด่า บางคนเขาก็สบถกันแบบนี้ พี่นำก็ใช้ แต่ว่า แต่!”
“แต่พี่นำรู้ว่าใช้กับใครได้และไม่ได้ เพราะพี่นำเข้าใจอารมณ์ตัวเองเวลาที่สื่อสาร ว่าสัมพันธ์กับความหมายของคำแค่ไหน”
“แต่ธามยังไม่รู้ และถ้าธามติดปากพูด คนอื่นที่เขาไม่รู้จักธามจริงๆ เขาก็โกรธเอา บางทีอาจโดนชกเลยก็ได้”
“รับปากนะครับ ไม่พูดอีก”

“ได้ แต่กับพี่โป๊ะ ธามจะพูด”
“นำว่าพี่โป๊ะให้ธามรึยัง พี่โป๊ะจะพานำไปฝึกด้วย”
“ฝึกอะไร ฝึกทำแบบนั้นหรอ กับคนอื่นหรอ”
“ไม่เอา ธามไม่ให้ ธามหวง นำเป็นของธามนะ”
“ฝึกกันเองสินะ”

“ครับ ไม่ไปฝึกกับใครหรอก” รับปากแบบนี้ค่อยโอเคหน่อย ธามหยุดอาการรบเร้าแล้วก็เอนตัวลงนอน เขานอนคว่ำและตีขาไปมอง ระหว่างหันมองพี่นำนั่งลงที่โต๊ะทำงาน

พี่นำเซ็กซี่จัง
ขาก็ยาว นิ้วก็ยาว
รูปคาง ปาก จมูก คิ้ว ธามชอบทุกอย่างเลย
บอกดีมั้ย บอกได้รึเปล่า
นำคงรู้อยู่แล้วเพราะส่องกระจกเห็นตัวเองทุกวัน
อยากเป็นตาของนำบ้าง จะได้มองเห็นหน้านำทุกเวลาที่อยากเห็น
ต้องมีความสุขมากแน่เลย

“นำ”
“พี่นำ”

“ครับ”

“ธามอยากมองนำ”
“ใกล้ๆ”
“ได้มั้ย”

“พี่นำเคยสอนแล้ว เวลาอยากอ้อนขออะไร ต้องทำยังไงครับ”

ธามอมยิ้มแล้วลุกพรวดจากเตียงไปแทรกตัวนั่งตัก เขาใช้ฝ่ามือยันหน้าอกพี่นำไว้และเอนตัวออกห่างนิดหน่อยเพื่อมองหน้าพี่นำชัดๆ
ชอบที่สุดเลย ใบหน้าของนำ แววตาของนำ

“จูบพี่ทีสิ”

“..........”

“สิครับ” ธามกัดปากข่มความเขิน เขายังจำจูบเมื่อคืนได้ มันเร่าร้อนและปลุกเร้าธามได้ในเวลาอันรวดเร็ว ถ้าตอนนี้จูบอีก....ธามจะต้องกวนเวลาทำงานของพี่นำยาวเลยนะ
“งั้นไปนอนเลยครับ”

เขาขมวดคิ้วใส่แล้วใช้ฝ่ามือเสยผมพี่นำขึ้น ธามยกตัวขึ้นเพียงนิดเพื่อจูบหน้าผากพี่นำ และไล่ลงมาที่เปลือกตา ปลายจมูกและริมฝีปาก แม้จะวนเวียนรับลิ้นอยู่นาน แต่ธามก็จูบไล่ต่ำลงมาที่คาง ลำคอ และหน้าอก

ร่างกายพี่นำ ก็รอธามอยู่เหมือนกัน


ธามสะดุ้งขึ้นกลางดึก ทั้งห้องเงียบสงบจนเขาได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นตึงตัง
เขาฝันร้าย แต่จำไม่ได้ว่าฝันอะไร แต่มันเลวร้ายสุดๆ
มือเขายังสั่นไม่หายเลย
ธามหันมองคนที่นอนอยู่ข้างๆ พี่นำหลับสนิท เสื้อนอนที่ติดกระดุมผิดเม็ดเผยให้เห็นรอยแดงทั่วหน้าอกที่ธามทำไว้ เขาลูบฝ่ามือไปทั่วหน้าอกนั้นแล้วก้มลงแนบแก้มเพื่อขอคำปลอบโยนสำหรับฝันร้าย

ธามลุกจากเตียงเพื่อไปล้างหน้าในห้องน้ำ เขาเปิดไฟทั่วห้องแม้ว่าจะกลัวรบกวนพี่นำ แต่ธามไม่ชอบที่มืดจริงๆ
เมือสงบใจได้ ก็เดินมาที่เตียงอีกครั้ง แต่แฟ้มที่เปิดอ้าอยู่บนโต๊ะทำงานโบกเรียกสายตาธามเอาไว้
เขาเดินไปนั่งจ้องเอกสารนั้น ธามอ่านภาษาไทยไม่เก่ง ที่เรียนกับพี่เจมกับหาฝึกเองทางอินเตอร์เน็ตก็ทำให้รู้มากขึ้นไม่มากนัก
แต่ว่า เขาประสมตัวอักษรและสระเป็น ผันวรรณยุกต์ได้บ้าง แต่ต้องไม่ใช่คำที่มีหน้าตาแปลกๆ
และคำที่เขากำลังทดลองผสมตัวอักษรและสระอยู่นั้น
อ่านได้ว่า สุ-พิ-สุด-ทิ  นิ-มิด-กา-นน

ชื่อของแซน นามสกุลที่เหมือนธาม

คนไข้พิเศษของพี่นำ ก็คือแซน....
ทำไมหัวใจธามยิ่งเต้นถี่และดังโครมๆ แบบนี้
ธามกลัวอะไรอยู่รึเปล่านะ
อะไรที่ทำให้ธามกลัวได้ขนาดนี้



Tbc



สวัสดีค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 20 (26-05-14)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 26-05-2014 20:20:18
นีี่สรุปคือเรีียบร้อยกันแล้วใช่ไหม
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 20 (26-05-14)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 26-05-2014 23:11:47
 :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 20 (26-05-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Sillyfoolstupid ที่ 26-05-2014 23:31:02
แฮ่ะ ซุ่มอ่านมานาน ลุ้นจน...ยิ่งฉากบู๊นี่ เกร็งเลย
ชอบเจมเป็นครูภาษาไทย ยกตัวอย่างประโยคได้ดี
อยากไปนั่งเรียนเป็นเพื่อนธามจังน้า พี่นำกับพี่หนึ่งจะอนุญาตมั้ยน้อ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 20 (26-05-14)
เริ่มหัวข้อโดย: urmein ที่ 29-05-2014 15:45:40
น้องธามกลัวอะไรค๊าาาา
มีลางสังหรณ์อะไรรึป่าววว
ไม่น้าาาาา ไม่อยากเครียดแล้วววว
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 20 (26-05-14)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 29-05-2014 18:10:02
ธามน่ารักจังเลยยยยยยย
 :กอด1:

ไม่เอาแล้วนะ ไม่อยากให้อะไรมาทำร้ายความรู้สึกของธามแล้วนะ
ให้เขารักกันดีๆเถอะ :o12:

ปล. "พี่โป๊ะแม่งเหี้ย" คือขำก๊ากเลย เจมสอนดีมาก  :laugh:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 20 (26-05-14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-05-2014 18:18:11
ตลกธามอ่ะ ที่หนึ่งกับเจมนี่สอนแต่อะไรดีๆให้น้องตลอด :laugh:
แต่ธามจะกลัวอะไรครับ อยู่กับพี่นำ ไม่ต้องกลัวนะ โอ๋ๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 20 (26-05-14)
เริ่มหัวข้อโดย: mutoo ที่ 29-05-2014 22:33:06
“มันเจ็บสุดมากเลย”  มันแปลว่าเจ็บมากๆๆๆๆๆเลยใช่ป่ะลูก ธาม 55555
ด่าโป๊ะได้ถูกใจแม่ยกจุงเบย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 20 (26-05-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Fish129 ที่ 11-06-2014 17:10:25
ตามมาอ่าน พี่นำ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 20 (26-05-14)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 29-06-2014 21:06:34
คิดถึงเด็กพูดไม่รู้เรื่องจังงงง
 :katai5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 21 (29-06-14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 29-06-2014 21:32:45
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 21




หยุดเสาร์-อาทิตย์ทั้งที พี่นำก็ไม่เคยได้หยุดพักเลย
หรือว่าที่ออกจากบ้านไปทุกวีคเอนนี่คือการไปพักผ่อนของพี่นำ ธามก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เขาตื่นแล้วมองรอบห้องอย่างเคยตัว ความเงียบที่แทรกผ่านเสียงเครื่องปรับอากาศมมาเป็นบางครั้งกำลังทำหน้าที่กล่อมให้ธามหลับลงไปอีกหน แต่เขาฝืนตาไว้

“นำ” ทั้งที่รู้ว่าพี่นำน่าจะไม่อยู่บ้าน แต่ธามก็ยังเรียก เมื่อไม่มีใครตอบธามก็พลิกตัวกลิ้งลงจากเตียงแล้วล้างหน้าแปรงฟัน เขาคิดว่าเช้านี้จะฝากท้องที่ครัวจูเพราะพ่อครัวที่ทำอาหารถูกปากธามทุกอย่างไม่อยู่ทำหน้าที่

“จูๆๆๆๆๆ” แกล้งเรียกให้ดูน่าตกใจนิดหน่อย จูก็วิ่งเร็วๆ มาหา จับตัวธามได้ก็ลูบแขนลูบแก้มจนวุ่นวายแล้วก็ถามเสียงแบบวอรี่นิดหน่อย

“เป็นอะไรรึเปล่าคะคุณธามของป้า”
“โถ ดูสิ  ตัวก็เท่านี้ต้องมาเจอเรื่องอะไรวุ่นวายไปหมด” แล้วก็พูดอะไรอีกยืดยาวที่ธามไม่สนใจฟัง เพราะเรื่องที่จูพูด เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่ไต้หวัน แล้วก็ผ่านมาแล้วตั้ง 5 เดือน
แผลเป็นที่เคยชัดเจน กำลังจางหาย
ธามเชื่อว่ามันจะกลืนไปกับผิวเดิมได้ในสักวัน

“จู หิว มีอะไรกินได้มั้ย”

“มีค่ะ ป้าทำต้มตำลึงไว้ ทานได้มั้ยคะ กลัวจะเหม็นเขียว ถ้าไม่ได้เดี๋ยวป้าต้มซุปให้ใหม่”

“กินสิ ไปสิ กินที่ไหน”
“นี่อะไรหรอ” ธามถามเมื่อสังเกตเห็นของในมือป้าจู ดูแล้วน่าจะเป็นลิสต์อะไรสักอย่าง

“ของคุณหมอปันค่ะ”
“แกจดรายการอาหารของสัปดาห์หน้าไว้ให้ ป้าจะได้เลือกซื้อถูก”
“นี่ว่าจะไปซุปเปอร์สโตร์บ่ายๆ คุณธามไปด้วยมั้ยคะ”

“ไม่ ธามมีมูฟวี่ใหม่จนสูงเลย ดูไม่ทันตาม” สงสัยธามจะพูดอะไรงงๆ ป้าจูถึงได้ทำหน้าสงสัยแล้วก็หัวเราะอยู่คนเดียว เขาไม่อยากยืนคุยตรงนี้แล้วแม้ว่าร่มไม้จากต้นไม้ใหญ่ๆ จะให้ความชุ่มชื่นดีก็ตาม
“มาเถอะ กินสิ”

“ค่ะ ค่ะ ค่า” ป้าจูขานรับแล้วก็เดินนำธามไปที่ห้องครัว เหตุที่ต้องถามว่าวันนี้กินที่ไหน ก็เพราะว่าหากมาที่บ้านใหญ่ ถ้าไม่กินข้าวที่ห้องอาหารใหญ่ ก็กินที่ห้องครัว หรือไม่ก็กินที่ห้องทำงานลุงหมอ แล้วแต่ว่าใครจะอยู่กินข้าวกับธามบ้าง

คำตอบคือห้องครัวที่มีกลิ่นหอมๆ จากดอกไม้ด้านนอก ถามหลายรอบก็จำไม่ได้สักทีว่าต้นไม้นี้เรียกว่าต้นอะไร

“ต้มตำลึงค่ะ นี่ป้าต้มแบบใส่ใบลงไปเลย ถ้าเป็นคุณนำทาน จะชอบให้ทำเป็นน้ำซุปไว้ พอจะทานก็ค่อยใส่ใบตำลึงไป ปิดฝาไว้ 5 นาที เธอว่ากำลังดี ไม่นิ่มไป”

“จู นำไม่ใช่ผู้หญิง เธอไม่ได้ ผิดนะ” ถึงธามจะเพิ่งเรียนภาษาไทยมา 3 เดือนกว่าๆ แต่ธามก็รู้ จูมั่ว

“แหมคุณธาม ก็ป้าติดปากนี่คะ อีกอย่างคุณนำเธอก็เป็นเจ้านาย ใครๆ เขาก็เรียกเธอแบบนี้แหล่ะค่ะ”

“จูพูดผิด ธามเรียนมาแล้ว”
“เธอคือผู้หญิง”

“ค่ะ ค่ะ ป้าขอโทษ”
“นั่งสิคะ เดี๋ยวป้าตักข้าวตักแกงให้” เห็นว่าชอบธามหรอกนะ ธามจะไม่บังคับให้พูดภาษาไทยให้ถูกต้องก็ได้

เขานั่งตามที่ป้าจูบอก ระหว่างรอก็มองของกินอื่นๆ บนโต๊ะที่วางอยู่ระรานตา
ขนมครกรู้จักแล้ว หมูปิ๊ง ข้าวเหนียง ซอยล์มิลค์ โอ๊ะ ข้าวมันไก่
“จู!”
“ธามกินนี่ได้มั้ย”

ป้าจูหันมอง พอเห็นเป้าหมายธามก็ยิ้มให้แล้วแกะใส่จานให้อย่างตามใจ เขาชิมต้มตำลึมครั้งแรกก็รับรู้ได้ถึงความอร่อย มื้อเช้านี้จบลงพร้อมกับพุงธามที่ป่องเต็มที่

บอกป้าจูไว้ว่าจะดูมูฟวี่ ธามก็ทำตามที่พูด เขาเดินตามจู ดูจูทำงานบ้านที่แสนวุ่นวายจนโดนไล่ให้ “ไปเล่น” ก็เลยตามใจจู เดินกลับมาบ้านเล็กของตัวเอง

โซฟาตัวนี้พี่นำเลือกมาเอง มันใหญ่โต แล้วก็ดึงออกมาเป็นเตียงได้ด้วย ธามเลยนอนดูมูฟวี่ โดยมีขนมจากป้าจูที่วางบริการไว้ใกล้ๆ
สุดท้าย ธามก็ทนอาการง่วงอีกรอบของตัวเองไม่ไหว จนต้องยอมหลับทั้งที่ตื่นมายังไม่ถึง 6 ชั่วโมง


พี่นำกลับมาตอนสี่โมงเย็น
ธามถูกดุที่นอนตัวเบี้ยว อยากจะเถียงว่าธามไม่ใช่ไม้บรรทัดซะหน่อย จะให้นอนตรงๆ ได้ยังไง แต่ตอนนี้อยู่ใกล้มือพี่นำมากเกินไป เดี๋ยวโดนตี แต่ทั้งที่ดุธาม พี่นำก็เป็นคนที่ดึงตัวธามให้ลุกขึ้นนั่งดีๆ แล้วก็นวดแขนนวดขา แถมยังเอาหน้ามาใกล้ๆ แล้วก็แหกตาธามอีกต่างหาก นี่พี่นำเล่นอะไร

“อื้อ! นำเล่นบ้า”

“แค่ดูว่าโอเคมั้ย”
“หลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ นี่ทานไปกี่มื้อ ครบมั้ย? ธามไม่อ้วนขึ้นเลย พี่บอกให้กินเยอะๆ ไง” ตอบไม่รู้เลยว่าอะไรก่อน ธามขมวดคิ้วใส่แล้วลุกบิดขี้เกียจ เขาเหล่มองนำนิดเดียวก็คิดอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้ ธามทิ้งตัวลงนั่งตักพี่นำแล้วก็เหนี่ยวคอไว้ เอาหน้าถูๆ กับหน้าอกแล้วก็อ้อน

“พีนำ”

“จะเอาอะไรครับ เรียกพี่นำซะด้วย”

“อยากไปเที่ยว”

“เที่ยวไหนดี”

“ทะเลไง พี่เจมบอกว่าทะเลเมืองไทยสวย”
“ไปนะ อยากไป ธามจะไปทะเล”
“พรุ่งนี้ได้เลยนะ!”

“เอาแต่ใจใหญ่แล้วนะครับ พรุ่งนี้พี่นำมีงาน”

“มีทุกงานวันเลย”
“บ้าหรอ! วันนี้ลุงหมอยังอยู่บ้านเลย นำบ้างาน!”

“เฮ้อ เคยบอกแล้วไงครับว่าเคสด่วน” พูดจบก็จ้องหน้า เวลาพูดเรื่องเคสด่วนทีไร ธามต้องเข้าใจพี่นำทันทีว่าเลี่ยงไม่ได้ ยังไงเคสด่วนก็ต้องมาก่อน สำคัญมากรึไง ไอ้เคสด่วน!
“หน้ามุ่ย”
“ไปเอาน้ำเย็นๆ ให้พี่นำดื่มหน่อยสิ”
“แล้วนี่ดูหนังหรอ เรื่องอะไรครับ ดูต่อมั้ย”
“ไปเรียนภาษาไทยกับพี่นำดีกว่า เอามั้ย”

เรียนภาษาไทยกับพี่นำ แปลว่ามีเซ็กส์แหล่ะ เคยบอกพี่เจมไปแล้ว พี่เจมบอกว่า “โห รหัสลับทำพี่อยากบ้าตาย” แต่ธามว่าก็ธรรมดานะ ตอนแรกธามก็ตั้งใจเรียน พีนำก็ตั้งใจสอนหรอก แต่พอเริ่มหน้าชิดกัน มันก็เลิกเรียนเลิกสอนทันที

“อยากมีเซ็กส์กับธามหรอ”

“เดี๋ยวตีตาย”
“ถ้าธามไม่ยั่วพี่ พี่สอนหมดไปแปดเล่มแล้วครับ”
“น้ำล่ะครับน้องธาม”

“ก็ได้” เขายินยอมและเดินไปหยิบขวดน้ำแช่เย็นมาส่งให้ พี่นำคลายเนคไทด์แล้วนั่งเลือกแผ่นมูฟวี่ พอเลือกได้ก็เปิดดูโดยมีธามนั่งกับเบาะโซฟาที่ดึงยาวออกไปแล้วเอนหัวพิงขาพี่นำไว้

“ธาม ทำไมอยากไปทะเลครับ”

“ธามอยากไปเที่ยวกับนำบ้าง”
“พี่ๆ ที่ออฟฟิศไปเที่ยวกัน ถ่ายรูปมาให้ธามดู”

“เด็กขี้อิจฉา”

“เด็กขี้ไม่อิจฉา เด็กอยากไปเที่ยวบ้าง แค่นั้น”

“โอเค” พี่นำหัวเราะต่อท้ายแล้วก็ให้การบ้าน
“พี่จะไปทะเลพรุ่งนี้ แต่ว่าธามชวนคนอื่นไปด้วยกันนะ อยากให้ใครไปบ้าง โทรไปชวนเลย”

อยากให้ใครไปบ้างหรอ? นับง่ายมากเลย

“พี่เจม พี่หนึ่ง พี่โปร แค่นี้”

“เพื่อนน้อยจังครับ”

“เพื่อนไม่มีเลย มีแต่พี่ อ้อนำ!”
“คิดได้รึยัง ให้อาหลูอยู่ที่ไหน ที่จะมาเยี่ยมธามเดือนหน้า”

“โรงแรมไงครับ เดี๋ยวพี่นำหาให้เอง ไม่ต้องห่วง”
“ตอนนี้ธามก็โทรถามพวกที่ธามอยากให้ไปด้วยกันนะ แล้วมาบอกพี่ว่าใครจะไปกับเราบ้าง นะครับ”

“อื้อ” เขารับคำแล้วล้วงกางเกงกระเป๋าพี่นำเพื่อหาโทรศัพท์ แต่แล้วก็ชักมือออกแล้วมองหน้าพี่นำอย่างตกใจ

“โดนหรอ?”

“ครับ อยากให้ตื่นหรอ”

“ไม่ คืนนี้ค่อยตื่นดีกว่า” เขาหัวเราะเมื่อพี่นำชูมะเหงกใส่ ธามปล่อยให้พี่นำดูมูฟวี่เรื่องที่ธามดูจบแล้ว ส่วนตัวเขาก็ไล่โทรชวนทุกคนที่ชอบอยู่ด้วยให้ไปทะเลด้วยกันวันพรุ่งนี้ แต่โชคร้ายชะมัด ทุกคนตอบเหมือนกันคือ “พูดให้รู้เรื่องก่อนแล้วค่อยมานัดเดทพี่” อะไรกันเล่า!

-----------------

ธามยังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองยังป่วย
อาการนอนร้องไห้เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นในวันที่น้องเดินถือแฟ้มเคสคนไข้ของเขามาหา เด็กคนนี้เปิดชี้ให้เขาดูชื่อที่เจ้าตัวอ่านออกเสียงว่า สุ พิ สุด ทิ นิ มิด กา นน แล้วถามเขาว่า “แซนใช่ถูกมั้ย ยุ่งอะไร นำทำอะไร”

เขาบอกแค่ว่า คนคนนี้คือเคสพิเศษที่เขาต้องดูแลด้วยตัวเอง ไม่ได้บอกไปตรงๆ ว่าคนนี้คือนายแซน แต่คิดว่าธามคงรู้
ผู้นำเลือกจะบอกเท่าที่ถาม เพราะเขาอยากรู้ว่าธามจะกล้าถามเขาแค่ไหน และน้องก็ไม่ถามอะไรอีกเลย ดูเหมือนจะลืมเรื่องนายแซนไปเลยด้วยซ้ำ จนอีกวันถัดมา เขาตื่นขึ้นกลางดึกและเห็นว่าธามยังเป็นเด็กที่นอนร้องไห้เหมือนเดิม

ไม่มากนักที่น้องจะละเมอออกมาเป็นคำ คืนไหนละเมอ คืนนั้นจะน้ำตาจะไหลมาก มีอาการสะอื้น แต่ธามไม่เคยได้สติหรือตื่นระหว่างที่หลับแล้วร้องไห้เลยสักครั้งเดียว

กลไกทางจิตของธามแข็งแกร่งเกินไป หรืออ่อนแอเกินไปจนเลือกใช้วิธีชะลอความเจ็บปวด เป็นแบบไหนกันแน่

การได้เจอ และได้รักษานายสุพิสุทธิ์ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
เขาทำทุกวิถีทางเพื่อกระตุ้นให้คุณลุงหมอที่เคยรักษานายแซน ไปเกลี้ยกล่อมนายพิสุทธิ์ให้ส่งลูกชายมารับการรักษาให้ถูกต้อง
วันแรกที่ได้เจอเขาในฐานะ “หมอคนใหม่” นายแซนด่าเขาสาดเสียเทเสีย แช่งพ่อแช่งทวดเขาจนผู้นำอดหวั่นไม่ได้ว่าทวดบนสวรรค์คงตัดเขาออกจากสายเลือดแล้วแน่ๆ  โทษฐานหาเรื่องให้คนมาด่าบรรพบุรุษ
แต่เมื่อคุยกันในฐานะหมอและคนไข้ นายแซนก็ไม่ใช่คนเลวโดยสันดาน นายแซนก็แค่คนป่วยที่ไม่ยอมรับว่าตัวเองป่วย กรรมก็ตกกับธามอยู่วันยังค่ำ

“มึงเอาน้องกูไปซ่อนไว้ที่ไหน”
“เด็กนั่นมันอกตัญญู เลี้ยงไม่เชื่อง วันนึงมันก็ทิ้งมึงไป เหมือนที่ทิ้งกู”
“หมอ ธามสบายดีมั้ย ผมอยากเจอธาม”

แรกๆ เขาก็ไม่แยกไม่ค่อยออกว่านิสัยไหนคือของจริง นิสัยช่วงไหนคือป่วย แต่พอได้มอง ได้สังเกต และได้รับฟังคำสบถโดยไม่เก็บมาเป็นอารมณ์ และไม่เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวในความสัมพันธ์ด้วย ผู้นำเชื่อว่านายแซนรักธามจริงๆ รักมากเสียด้วย

ความรักนี่อันตรายจริงๆ
เขายังอดคิดไม่ได้เลยว่าหากเขารักธามมมาก จนหลงทำผิดวิธีไปเหมือนนายแซน เขาจะมีสภาพเป็นยังไง

ผู้นำถอดแว่นเพราะรู้สึกล้าตา เขาวางปากกาเมื่อจดบันทึกอาการของนายแซนเสร็จ เรื่องที่นายแซนพูดออกมาระหว่างรับการรักษาเมื่อกลางวันถูกอัดเสียงไว้ และเขาก็เพิ่งฟังถ้อยคำนั้นเพื่อถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือ

เขาจับจ้องประโยคต่างๆ แล้วก็ขีดเขียนอาการทางการแพทย์แทรกลงไป จะได้จัดยาบรรเทาอาการให้ถูกก่อน เรื่องของต่อมฮอร์โมนนี่ละเลยไม่ได้เพราะอยู่ภายใน ตามองไม่เห็น ส่วนอาการที่เจ้าตัวแสดงออก ก็มีเทปบันทึกการรักษาเก็บไว้ที่ศูนย์จิตเวทเรียบร้อย
ไฟล์ที่บันทึกอาการของนายแซนระหว่างรับการรักษากับเขาถูกเปิดขึ้นในคอมพิวเตอร์ส่วนตัว ผู้นำเฝ้ามองสีหน้า สายตา อาการเกร็งมือ ท่านั่ง เขามองทุกๆ อย่าง มองเพื่อทำความเข้าใจ เพื่อจะได้เข้าถึงจิตใจนายแซนได้
หากเข้าถึงได้ เขาอยากบอกว่าตัวสำนึกที่ซ่อนอยู่ในจิตใจดำมืดว่า พอเถอะ ยอมรับเสียทีว่าความรักนี้ทำร้ายธามอยู่ แค่หยุดธามก็จะมีความสุขแล้ว แต่ดูเหมือนนายแซนจะยังไม่เข้าใจความรักในแง่มุมของการปล่อย เขาเข้าใจแค่ด้านของการได้มาเท่านั้น
ดูอาการเคสพิเศษจบก็เข้านอน ผู้นำไม่ปิดคอมพิวเตอร์เพราะคิดว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่น เขาอยากดูอาการนายแซนอีกรอบในไฟล์เดิม และอยากย้อนดูไฟล์ของครั้งก่อนหน้าในช่วงที่เสมองกำลังปลอดโปร่ง เผื่อจะคิดอะไรได้มากขึ้น

หมอหนุ่มปิดไฟ และเอนตัวลงนอนข้างๆ เด็กหนุ่มที่นอนขดตัวอยู่ตามถนัด เขาดึงแขนดันตัวให้เด็กคนนี้นอนยืดตัวสบายๆ และโอบกอดไว้หลวมๆ ก่อนจะปิดเปลือกตาตัวเองลงเพื่อพักจากวันที่เหนื่อยล้า

-----------------


ฮือออ
ปล่อยธาม
ปล่อยธามเถอะนะ
ธามไม่อยากอยู่ตรงนี้ ธามอยากหาแม่ ฮือออออออออออ

เสียงฮือดังแว่ววนในหัวแม้ว่าเขาจะตื่นแล้วก็ตาม ธามหายใจถี่กระชั้นพลางขมวดคิ้วเพ่งมองเพดานสีขาวผ่านความมืด เขารู้สึกเหนียวหน้าจึงใช้มือปาดแก้มตัวเอง ความเหนียวที่คิดว่าเป็นเหงื่อกลับหนืดน้อยกว่าที่คิด มันลื่นแก้มไปหมด เขาผุดลุกขึ้นนั่งและเช็ดแก้มตัวเองอีกหน ถึงได้รู้ตัวว่ากำลังร้องไห้

แล้วเขาร้องไห้ทำไม....
นั่นสิ ธามร้องไห้ทำไม?

“เป็นอะไรครับธาม” พี่นำตื่นจนได้ ทั้งที่พี่นำนอนดึกมาก กลับต้องมาตื่นกลางดึกเพราะธาม เขาส่ายหน้าแล้วก็มุดหัวลงหมอนหวังจะนอนต่อ แต่กลับถูกงัดตัวขึ้นมานั่ง หมอนำยืดตัวเปิดไฟและเอียงหน้าจ้องเขา
“ร้องไห้ทำไมครับ”

“ธามไม่รู้” เขาตอบแล้วทิ่มหน้าลงหมอนอีกรอบ แต่พี่นำก็งัดกลับขึ้นมาอีกที

“ไม่ลองนึกดูหรอครับว่าตัวธามร้องไห้ทำไม มีเรื่องอะไรที่ทำให้ต้องร้องไห้”

เรื่องที่ทำให้ต้องร้องไห้หรอ?
เต็มไปหมดเลย แต่ไม่เคยร้องไห้แบบนี้เลย แบบทื่ตื่นมาแล้วถึงได้รู้ตัวว่าร้องไห้
เขาสั่นหน้าแล้วก็นอนอีกรอบ ครั้งนี้พี่นำไม่ดึงตัวธามขึ้นมาใหม่ แต่กลับนอนอยู่ข้างๆ พี่นำตะแคงตัวมองหน้าธาม มือก็ลูบแก้มเบาๆ

“เล่าให้พี่ฟังบ้างสิ”

“เล่าอะไร?”

“เล่าเท่าที่อยากเล่า เท่าที่นึกออก นะครับ”

“อืม” ธามพยักหน้ารับ เขาหลับตา อมยิ้มเมื่อพี่นำลูบแก้มเบาๆ กำลังจะเคลิ้มหลับไปอีกรอบ เสียงร้องไห้มันก็แว่ววนเข้ามา
ฮือออ ธามอยากหาแม่ แม่ธามไปไหน
แม่ ฮือออออออออ ปล่อยธาม แซนปล่อยธาม ปล่อยธาม
ธามไม่อยากอยู่ที่นี่ ธามจะหาแม่ ฮือออออ ปล่อยธาม แซนปล่อย ฮือ


“ปล่อย!” เขาลืมตาผึงทันที หัวใจธามเต้นตึงตังไปหมด เขาจ้องหน้าพี่นำเขม็ง พี่นำก็มองเขาตาไม่กระพริบ

“ธาม เป็นอะไรครับ”

“แม่...ธามจะหาแม่ ธามไม่อยากอยู่ที่นี่ แต่แซนไม่ปล่อย”

“ฝันหรอครับ”

“ไม่รู้สิ” ธามไม่รู้จริงๆ ว่ามันคือความฝัน หรือความจริงที่เคยเกิดขึ้น แต่ธามอัดอึดไปหมดทั้งที่ตรงนี้ไม่มีแซนมาจับมารั้ง และธามก็ใจหวิว เหมือนใจจะบินจากอกไปหาแม่
“นำ หัวใจหายเลย เหมือนจะหายไป”
“แซนใจร้าย ร้ายที่สุด ธามเกลียด!”

“โอเค หยุดที่เกลียดนายแซนก็พอครับ”
“พักไว้ แล้วรับรู้ใหม่ ว่าทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว ไม่มีใครทำให้ธามอัดอัดได้ ถ้าธามไม่ยอม”
“นะครับ”
“นอนนะเด็กดีของพี่นำ”

“อื้อ” นอนก็นอน ธามหลับตา แต่ก็กลัวจะฝันอีกเลยลืมตามองพี่นำอีกครั้ง รอยยิ้มอบอุ่น ตาที่หยีลงระหว่างยิ้มทำให้ธามยิ้มตาม ลักยิ้มบนแก้มถูกห่มทับด้วยมือพี่นำอีกหน แค่นี้ธามก็ไม่กลัวอะไรแล้ว ไม่กลัวอะไรแล้วจริง


ฮือออออออออ
แซนปล่อย
ธามจะหาแม่ ปล่อยธาม
ธามหนาว อย่าทำแบบนี้ แซนอย่าทำแบบนี้
เอาปากออกไป เอามืออกไป ไอ้แซนบ้า ธามเกลียดแซน เกลียด เกลียด!!




Cut




ก่อนอื่นเลย

ขอโทษมากๆ เลยค่ะ  :mew2: :mew2:
ตอนนี้มาต่อช้ามาก แล้วก็สั้นมากด้วย
เหตุผล...แม้จะเป็นข้ออ้างของคนทำผิด แต่เราก็มีเหตุผลน้าาา
คืองานยุ่ง แล้วก็ เรื่องพิเศษที่ทำอยู่ด้วย
ตอนต่อไป จะพยายามรักษาเวลา ไม่หายไปนานเกินไปอีก
แล้วก็ เราจะเครียดแล้วนะคะ พี่หมอนำ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 21 (29-06-14)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 29-06-2014 22:10:17
ถึงจะสั้นแต่ก็ทำให้ลมหายใจสะดุดได้เหมือนกัน สงสารแต่ละคนที่จมอยู่ในห้วงทุกข์
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 21 (29-06-14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 29-06-2014 22:30:05
ยังเครียดกว่านี้ได้อีกเหรอคะ :katai1:
สงสารธามอ่ะ ต้องอยู่กับความทรงจำอันโหดร้ายไปอีกนานแค่ไหน :ling1:
พี่นำช่วยน้องด้วยนะคะ :serius2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 21 (29-06-14)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 29-06-2014 23:08:15
เครียดกันอีกแล้ว  :katai1:
พี่นำดูแลน้องดีๆนะ  :hao5:

ปล.คำว่า "ข้าวเหนียง" อันนี้คือตั้งใจให้ธามพูดไม่ชัดหรือคนเขียนพิมพ์ผิดเอ่ย  อ่านแล้วขำเลยเพราะเผลอนึกไปถึงน้องชายวัย3ขวบของเราก็เรียกข้าวเหนียวว่าข้าวเหนียงเหมือนกัน  :laugh:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 21 (29-06-14)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 29-06-2014 23:42:53
หายไปนานจริงๆ
เเต่ดีเเล้วที่มาต่อ
เป็นกำลังให้คนเขียนเเละน้องธามต่อไป
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 21 (29-06-14)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 30-06-2014 11:22:56
สงสารธามจัง
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 21 (29-06-14)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 30-06-2014 19:04:53
สงสารธามอะ น้องกะลังน่ารักสดใสแล้วอะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 21 (29-06-14)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 01-07-2014 17:15:23
แค่ได้เห็นชื่อ ธามก็เก็บเอามาฝัน และเป็นฝันร้ายเสียด้วย
หมอนำ คงต้องรีบรักษานายแซนให้หายไว ๆ เสียแล้ว มิฉะนั้น ฝันร้ายก็คงวนเวียนอยู่กับธาม ไม่จบ
+1 ให้กับความหื่นของทั้งสอง  :haun4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 21 (29-06-14)
เริ่มหัวข้อโดย: remymatin ที่ 11-07-2014 21:52:10
คิดถึงธามจังเลยค่ะ
มาต่อเร็วๆนะคะ พลีสสสสสสสส

 :mew2: :mew1:
หัวข้อ: The Existence : ตอนที่ 22 (20-07-14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 18-07-2014 16:16:34
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------


ตอนที่ 22



“ที่คุณเล่ามาทั้งหมด แน่ใจนะครับว่ามันเกิดขึ้นจริง”
“ไม่ใช่จินตนาการที่คุณสร้างมาหลอกตัวเอง เพื่อให้คลายจากความรู้สึกผิดต่อน้องชายแค่ชั่วครู่ชั่วยาม”
เสียงพูดของเขาดังก้องอยู่ในหูฟังที่เสียบต่อจากโทรศัพท์อีกทอดหนึ่ง ผู้นำขมวดคิ้วระหว่างจรดปลายนิ้วบนคอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกเหตุการณ์ที่เขาเองก็เพิ่งได้รับรู้ทุกถ้อยทุกคำ

“จริงสิ”
“ผมจะจำเรื่องราวนั้นผิดพลาดไปได้ยังไง ในเมื่อมันทำให้ผมต้องแยกจากธาม ทั้งที่ผมไม่เคยต้องการแบบนั้นเลย”
“ผมรักน้อง ธามเป็นน้องของผม ธามไม่มีใคร ธามมีแต่ผม”
“น้าวีณานั่นแหล่ะที่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง”
“น้าต้องการแยกเราออกจากกัน!”

“คืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นบ้าง”
“คืนที่คุณหนีออกจากบ้าน แล้วพาธามไปด้วย”

“ผมไม่ได้หนีออกจากบ้าน”
“ผมพาธามไปในที่ปลอดภัยต่างหาก”

“แล้วทำไมธามถึงไม่ปลอดภัย”

“พ่อไม่ชอบหรอกที่ผมไม่ได้ที่หนึ่ง”
“กีฬาก็ไม่ได้เหรียญทอง ไม่ได้เป็นประธานรุ่น”
“พ่อบอกไว้แล้วด้วยว่าถ้ารอบนี้ทำให้ผิดหวัง โดนหนักแน่”
“น้องก็จะอันตรายไปด้วย”
“น้าก็จะพาน้องไปอยู่ที่อื่น พ่อก็ไม่คิดห้ามอยู่แล้ว”
“ถ้าไม่รีบพาไปอยู่ที่ปลอดภัยคืนนั้น จะหนีคืนไหน!”

“แล้วคุณพาธามไปที่ไหน”

“มันต้องมีที่ของเรา ที่ผมอยู่กับน้องได้”
“ผมจะดูแลเอง ธามมีหมอน มีผ้าห่ม ธามไม่หนาวหรอก”

“แล้วถ้าธามหิวล่ะ”

“ธามไม่หิวหรอก ธามชอบนอนหลับสบายๆ”

“แล้วยังไงต่อ”

“พ่อตามมาจนเจอ”
“และน้าก็พาธามไป”
“พาน้องไปจากผม พาน้องไปลำบาก”
“อยู่ที่นี่ยังขอไปเจอได้ แต่จู่ๆ น้าก็พาไปไต้หวัน”
“ผู้หญิงคนนั้นไม่อยากให้น้องรักผม อยากให้น้องเกลียดผม”
“ผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงคนนั้น!!!”


ผ้นำกดปุ่มหยุดชั่วคราว เขากุมขมับตัวเองพลางดิ้วนิ้วมือจนเกิดเสียงดังกร่อบแกรบ เขาดึงหูฟังออกจากหูและหันมองบุคคลที่ 3 ซึ่งถูกเอ่ยถึงในบทสนทานที่เขากำลังนั่งฟังอยู่ตลอดเวลา ธามนอนขดตัวอยู่เช่นเดิม
หลังจากเมื่ออาทิตย์ที่แล้วผิดหวังเรื่องไปเที่ยวทะเล ตัวดีก็งอนใส่เขาด้วยการไม่พูดด้วยแต่ยังทำทุกอย่างด้วยกันเหมือนเดิม แต่ทนอยู่ได้ 2 วันก็ต้องทำลายป้อมปราการของตัวเอง เพราะถูกมือโปรแกล้งหลอกให้ซดน้ำปลาร้า เขายังจำได้ว่าธามโทรมาฟ้อง แล้วก็บ้วนน้ำลายผุยๆ ให้เขาฟังทางโทรศัพท์
น้องถามว่าเขาจะจัดการยังไงกับมือโปร เขาก็เลยปดเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้นไปก่อนว่า “พี่จะต่อยมัน 10 หมัดให้นะ” แต่ลงท้ายแล้ว ตอนที่เขาเจอกับมือโปรในตอนเย็นระหว่างอาทิตย์ เขาก็จิบไวน์คุยกับเพื่อนเหมือนเดิม และต่างฝ่ายต่างก็โม้ธามว่า มือโปรถูกเขาต่อยเรียบร้อยแล้ว
สุดสัปดาห์นี้กำลังจะผ่านพ้นไปโดยที่เสาร์-อาทิตย์ เขาใช้เวลาอยู่กับธาม ส่วนตกกลางคืน เขาให้เวลากับความทรงจำของนายแซน ซึ่งน่าจะเป็นต้นปมของจิตใจ และส่งผลมาสู่ปมเล็กๆ ในใจธามอีกทอดหนึ่ง

นาฬิกาตรงมุมล่างขวาของโน้ตบุ้คบอกเวลา 3 นาฬิกาแล้ว ผู้นำ บันทึกเวลาของไฟล์เสียงที่นั่งฟังอยู่เป็นตัวเลขสุดท้าย เซฟไฟล์และพับหน้าจอ อาการหาวหวอดส่งเขาเดินขึ้นเตียงอย่างนุ่มนวล


-----------------

อ้าว นำนอนแล้วหรอ?
ธามปรือตามองพี่นำที่เดินหาวมานอนบนเตียง เขาขยับนิดเดียวเพื่อรับกอดหลวมๆ พยายามจะหลับลงอีกครั้งแต่ความฝันที่เขาเพิ่งหลีกหนีจากมันมากลับขวางทางไว้ ธามเห็นพี่นำทำงานอยู่หน้าโน้ตบุ้ตอยู่ครู่หนึ่งแล้ว และตั้งใจจะลุกไปคุยเล่นด้วย เพราะไหนๆ เขาก็หลับไม่ลง แต่ท่าทางพี่นำจะง่วงมากแล้วจริงๆ วัดจากการหลับไปทันทีที่ล้มตัวนอน
สุดท้ายธามก็ข่มตาหลับไม่ลง เขาไม่รู้แน่ชัดว่าทำไมถึงกลัวจะฝันอีกรอบนัก เขาลุกขึ้นหลังจากดันมือพี่นำออกจากเอว แล้วก็ไปเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา กลับออกมาก็งัดโน้ตบุ้คพี่นำเพื่อเล่นเกมส์ไปตามเรื่องตามราว
ดูเหมือนพี่นำจะทำงานค้างไว้ เพราะมีโปรแกรมก่อนหน้าที่ย่อหน้าจอลงมาเท่านั้น ธามหันมองเจ้าของเครื่องและตัดสินใจเปิดงานพี่นำขึ้นอ่าน
เขาอ่านภาษาไทยไม่ค่อยเก่ง ต้องนั่งสะกดอะไรยืดยาวกว่าจะได้แต่ละคำ ดีว่าเป็นตัวพิมพ์ รูปแบบาตรงตัวอยู่แล้ว ไม่ใช่กอเอ๋ยกอไก่ไปเหมือนเหมือนเลขศูนย์เหมือนลายมือพี่โป๊ะ
“อะไรเนี่ย”
“ยาวเลื้อยเลย” ความยาวของข้อความทำให้ธามทิ้งความพยายามเอาดื้อๆ เขาลากเมาท์แพดผ่านๆ เพื่อดึงข้อความให้ผ่านตาไปเรื่อยๆ จนมาถึงบรรทัดสุดท้าย

อันนี้น่าจะเป็นเวลา เวลาอะไรล่ะ?
เขาขมวดคิ้วแล้วกดเมนูขึ้นหาไฟล์ล่าสุดที่พี่นำเพิ่งเรียกใช้ เจอไฟล์เสียงก็จิ้มแล้วก็จ่อหูฟังใส่หู

เสียงที่ได้ยินอยู่น่าจะเป็นเสียงพี่นำ อีกคนนี่ก็เสียงคุ้นๆ
คุยอะไรกัน? ฟังตั้งแต่ต้นน่าจะรู้เรื่องกว่าล่ะมั้ง และพี่นำก็คงไม่ว่าอะไร เพราะพี่นำไม่รู้
ธามเลื่อนแถบไปต้นทางแล้วกดเพลย์ จากนั้นก็ตั้งใจฟังไฟล์เสียงที่เพิ่งเคยพบเจอเป็นครั้งแรก ตั้งใจว่ามันน่าจะเป็นเรื่องน่าเบื่อ และฟังไม่รู้เรื่องที่ช่วยกล่อมเขาได้ ไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่ทำให้เขานอนไม่หลับกว่าเดิม

พี่นำ คุยอยู่กับ แซน
เรื่องของธาม....
มีคืนนั้น....คืนไหนกัน?
แซนหนีออกจากบ้าน พาธามไปด้วย .... เกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน?
น้าวีณา...คงหมายถึงป้าวีณาของธามนั่นแหล่ะ
พ่อ...พ่อของแซนก็คือลุงพิสุทธิ์
ธามไปอยู่ที่อื่น และแซนไม่พอใจ แซนต้องการอยู่กับธามเหมือนเดิม
แล้วธามก็ไปไต้หวัน เรื่องหลังจากนั้นธามจำได้หมดแหล่ะ ทุกสิ่งที่แซนเคยทำไว้กับธาม ธามจำได้หมด ไม่คิดว่าแซนจะจำได้ละเอียดแบบนี้ และไม่คิดว่าแซนจะจำได้ในคนละมิติกับธาม
ทำไมแซนเรียกมันว่าความรัก แต่ธามเรียกมันว่าความรำคาญ
แซนบอกว่าหวังดี แต่ธามอึดอัด
แซนพูดว่าธามดื้อเอง ไม่ฟังเอง ก็ต้องถูกทำโทษ สมแล้ว แต่ธามแค่พูดสิ่งที่ธามรู้สึกและปฏิเสธสิ่งที่ธามไม่ต้องการ มันผิดมากนักหรอ?
แล้วแซนมีความชอบธรรมอะไรมาทำโทษธาม เพราะทำตัวไม่ถูกใจแซนกันล่ะ
นี่แหล่ะที่ธามเกลียด และนี่ก็คงเป็นเหตุผลที่ทำให้แซน

ข่มขืน

ธามขมวดคิ้วไม่เข้าใจเมื่อมีคำว่า ข่มขืนในจินตนาการเข้ามาเกี่ยวข้อง
แบบนี้ เท่ากับแซนทำ หรือไม่ได้ทำกันแน่
หงุดหงิดชะมัด!


“ทำอะไรครับ” เสียงทักถามมมาพร้อมกับฝ่ามือเย็นที่วางลงตรงบ่าทำเขาสะดุ้งสุดตัว หูฟังข้างหนึ่งอยู่ในมือพี่นำที่โน้มหน้ามาหา ธามมองหน้าเจ้าของเครื่องและหันมองหลักฐานบนหน้าจอ เขากัดปากครุ่นคิดและก็ตัดสินใจถามตรงๆ

“แล้วนำทำอะไร”
“เสียงนี่คือเสียงนำ ธามรู้ คุยกับใคร คุยเรื่องธามใช่สินะ”
“คุยกับแซนสินะ”

“ครับ” อาการยอมรับตรงๆ ทำให้ธามอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาคิดว่ามันควรเป็นความลับที่เขาไม่ควรมาเจอเข้า นำควรจะตกใจและพยายามปิดบังความจริงนี้ให้ห่างจากเขาไปเสีย
ธามคิดว่าพี่นำจะปกป้องธามเสียอีก

“พี่นำรักษานายสุพิสุทธิ์อยู่ครับ”
“เราเจอกันสัปดาห์ละ 2 วัน ซึ่งก็ได้เรื่องบ้าง ไม่ได้เรื่องบ้าง”
“ตอนนี้เขายอมทานยาปรับฮอร์โมนและระงับประสาท เขายังป่วยไม่มากและยังหาสาเหตุได้เจอว่าเป็นอะไร เราก็ต้องช่วย”

“เราหรอ?”

“ครับ พี่นำช่วย ธามก็ต้องช่วย”

“ธามเนี่ยนี่! ช่วยแซนไม่หรอก!”

“ใจเย็นสิธาม”
“ถ้าธามช่วยเขา ธามก็จะหายจากโรคหวาดระแวงแบบนี้”
“ลองดูก่อนได้มั้ยครับ”

ธามเกาหัวแกร่กๆ เขายังงงอยู่มากและไม่เข้าใจว่าธามจะไปช่วยอะไรแซนได้ ธามไม่ใช่หมอเหมือนพี่นำเสียหน่อย และอีกความคิดก็คือ ธามจำเป็นต้องช่วยแซนด้วยหรอ? ไม่ต้องเสียหน่อย!

“เอาเถอะ ถ้าอยากทำความเข้าใจมากขึ้น เราก็มาคุยกันตอนเช้าอีกทีนะครับ”
“ธามกลับไปนอนเถอะ”

“ไม่เอา ธามไม่อยากฝัน”

“ฝันอะไรครับ?” พี่นำโน้มหน้ามาหาใกล้กว่าเดิม คอเสื้อนอนโยนตัวออกจากอก ทำให้ธามมองเห็นหน้าท้องราบเรียบแต่แข็งแกร่งได้ชัดตา

“ฝันร้าย” ธามตอบและยกตาขึ้นมองหน้าพี่นำเหมือนเดิม

“จำได้มั้ยครับ” ตะล่อมถามกันอีกแล้วแน่ๆ ธามเม้มปากส่งให้ลักยิ้มอวดตัว มือพี่นำทักทายลักยิ้มบุ๋มยามดึกแล้วก็หิ้วตัวธามไปนอนที่เตียง
“จำได้มั้ย หือ?”

“ไม่ได้” จำได้ก็ไม่เล่าหรอก ก็มันฝันร้าย ไม่ควรไปตอกย้ำให้จำได้มากกว่าเดิมไม่ใช่รึไง
“นำกล่อมนะ ธามอยากหลับแล้ว”

“ครับ”
“หลับตานะเด็กดีของพี่นำ”

ตอนเด็กๆ ก็กล่อมธามแบบนี้แหล่ะ
หลับตานะเด็กดีของพี่นำ
จะว่าไปก็น่าแปลก ธามจำพี่นำได้ดี จำได้มาตลอด แต่กับแซน จำได้แค่ว่าเป็นพี่ชายน่ารำคาญ ชอบบังคับธาม ซ้ำยังชอบใช้ความรุนแรงทั้งร่างกาย ทั้งคำพูดเพื่อทำให้ธามรู้สึกแย่ แต่กลับย้ำกันเสมอว่าไม่มีใครดูแลธามได้ดีกว่าพี่แซนอีกแล้ว นอกเหนือจากนั้น ธามจำแซนไม่ได้เลย ช่วงเวลาที่อยู่ในเมืองไทย ธามจำได้แค่พี่นำเท่านั้นจริงๆ 

“นี่นำ”

“ครับ”

“ทำไมธามจำแซนไม่ค่อยได้เลย ตอนเด็ก”
“มีแค่นำที่ธามจำได้ ธามมาอยู่บ้านนี้ตอน 3-4 ขวบใช่สินะ”
“ก่อนหน้านั้นอยู่กับแซนใช่จริงมั้ย”
“ทำไมจำไม่ได้เลย”

-----------------

ก็ธามลบเขาออกไป
ธามผลักไสพี่ชายที่รักธามเหลือเกินออกไปจากชีวิต แม้ว่าเขาจะรักผิดทางไปหน่อยแต่มันก็คือความรัก
ธามจำไม่ได้ก็เพราะธามไม่อยากจำ
และเหตุที่ทำให้ธามไม่จดจำเขาเอาไว้ ก็เพราะคืนนั้นนั่นแหล่ะ

นายสุพิสุทธิ์วัยใกล้เคียงกับตัวผู้นำ เท่ากับห่างกันร่วม 10 ปี
น้องชาย 3 ขวบกว่าๆ กำลังน่าเอ็นดู เป็นทั้งวัตถุ (object) ที่เขายึดไว้เพื่อแสดงอำนาจ หรือแสดงความเป็นเจ้าของ และเป็นวัตถุที่เขาฝากความอ่อนแอเอาไว้
เด็กชายวัย 14 ปี การศึกษาก็ราวๆ ม.ต้น เป็นช่วงวัยที่กำลังสร้างบุคลิกส่วนตัวขึ้นมา
จากการพูดคุยกัน เขาพอจะรับรู้ได้ว่านายสุพิสุทธิ์เก็บกดเพราะผู้เป็นพ่อตั้งความคาดหวังไว้มาก
เขาเครียดสะสม แต่ระบายออกไม่ได้เลยไม่ว่าทางใด
หนีไปเล่นกีฬา พ่อก็ตามมาตั้งความหวัง ดนตรีก็ห้ามว่าไร้สาระ เล่นกับน้อง ดูแลน้องก็ว่าเสียเวลาเปล่า
ขณะที่เขาแสดงความเป็นผู้นำเมื่ออยู่กับน้องชาย พ่อเขากลับชี้หน้าน้องชายว่าเป็นจุดอ่อนในชีวิตเขา
ในคืนที่ตัดสินใจหนีไปอยู่ในโลกที่เขาคิดว่ามันจะปลอดภัยกับพี่น้องคู่นี้ นายสุพิสุทธิ์ไม่ได้บอกแผนว่าเขาในวัย 14 นั้นวาดแผนไว้อย่างไร แต่แผนนั้นพังไม่เป็นท่าเพราะผู้ใหญ่ตามมาเจอ
พ่อนายสุพิสุทธิ์อาละวาดใหญ่โต และให้แยกเขาออกจากน้องชายที่แทบจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา
ไม่มีใครเห็นน้ำตาเขาเว้นน้องชาย ไม่มีใครได้รับรอยยิ้มอ่อนโยนของเขาเว้นก็แต่น้องชาย ไม่มีใครได้รับสัมผัสอ่อนโยนจากเขา เพราะมีไว้เพื่อน้องชายเท่านั้น
เด็กชายวัน 14 มีอารมณ์ทางเพศกับน้องชาย หากผู้นำฟังด้วยอารมณ์ เขาคงพุ่งไปตบปากนายคนนี้จนเบี้ยวบูด แต่เขาอยู่ในฐานะแพทย์ กำลังให้การรักษา เขาจึงทำได้แค่เวทนาอดีตที่บิดเบี้ยวของนายสุพิสุทธิ์เท่านั้น
คืนก่อนที่คุณน้าวีณาจะแยกเขาออกจากธาม เด็กชายสุพิสุทธิ์อยู่กับน้องชายเป็นค่ำคืนสุดท้าย เขาฝากรอยรักที่เพิ่งผลิกลีบแรกไว้ที่น้องชายที่ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร
ในห้องมืดที่น้องชายหลับใหล เขาปลดปล่อยวัยเด็กไร้เดียงสาให้ระเหิดไปกับอากาศและก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ และฝังปลายทางรักของเขาไว้ในใจ ปกปิดให้แน่นเพื่อไม่ให้ใครรู้ จะได้ไม่มีใครมาแยกน้องชายไปจากเขาได้อีก
“พี่จะไปรับธามกลับมาเอง  พี่แซนจะปกป้องธามเอง” เด็กวัย 14 ไม่เคยรู้เลยว่า อีกเพียงเกือบ 20 ปีถัดมา เขาจะกลายเป็นคนที่อันตรายกับน้องชายที่เขารักมากที่สุด


วันนี้ผู้นำมีนัดกับนายสุพิสุทธิ์ตามปกติ แต่มันอาจจะเป็นรักษาที่ไม่ปกติ หากเขาพาวัตถุอ้างอิงไปให้นายสุพิสุทธิ์ได้คลายปมในใจเสียที แม้อาการทางฮอร์โมน ทางอารมณ์จะไม่หายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ได้รับการอภัยและไขความจริงของทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว เขาเชื่อว่าความเกรี้ยวกราด โมโหร้าย และระบายอารมณ์ผิดทางจะค่อยๆ ทุเลาลง และบุคลิกภาพของนายสุพิสุทธิ์จะเที่ยงตรงได้ในที่สุด
เจ้าตัวดีตื่นทีหลังเขาและรีบเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำเมื่อเขาเร่งให้ลงมาทานมื้อเช้าด้วยกัน
เช้านี้มีอาหารมื้อเช้าง่ายๆ จากฝีมือเขา และไม่ต้องห่วงว่าป้าจูจะทำมาให้เก้อ เพราะเขาบอกไว้ตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ทันทีที่หยิบขนมปังปิ้ง 2 รอบวางบนจาน เจ้าตัวดีก็วิ่งคาบเสื้อลงมา ส่วนมือยังสาละวนกับการติดกตะขอกางเกงส์ยีน ซึ่งจนป่านนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าธามใส่กางเกงไม่เป็นหรือไง ทำไมไอ้กางเกงบ๊อกเซอร์ตัวในยังสลอนหน้าออกมาได้อีก ให้ตายเถอะ!
“ใส่เสื้อผ้าดีๆ ก่อน”
“อย่ามาล่อตาครับ”

“ตาไหน ตาผัวยายหรอ” กวนตีนขึ้นนะครับเด็กดี ตัวดีลอยหน้าลอยตาใส่เขาเมื่อดึงเสื้อพ้นหัวเปียกหมาดๆ เรียบร้อย ผู้นำอดไม่ไหว จึงมือไวคว้าคางมนให้ยืดหน้ามาหา และจูบลึกๆ จนหนำใจ เสียง “อื้อ!” บอกให้รู้ว่าขัดใจ แต่ธามก็ไม่ได้บ่นอะไรออกมา

“นมจืดครับ อย่าลืม”
“พี่นำใส่ผักไปนิดเดียว อย่าเขี่ยออก”
“ธาม ห้ามนะ”
“กินผักเดี๋ยวนี้เลย”
“ไม่งั้นไม่จูบแล้วนะ”

“ง้อที่ไหน แวร์ แวร์” เถียงก็ไม่ถูก ถูลู่ถูกังจนสีข้างถลอก ผู้นำขำนิดๆ แล้วก็ยีหัวเจ้าตัวดีเล่น และสุดท้ายก็จิ้มผักยัดใส่ปากได้สำเร็จ เขากินมื้อเช้าตรงหน้าระหว่างที่ธามดื่มนมอีกแก้ว เขาดื่มกาแฟรวดเดียวหมด แต่ยังไม่วายหาวหวอดอยู่ดี

“ง่วงหรอนำ แล้วธามถามได้มั้ย”

“หืม ได้ครับ ถามอะไร?”

“ทำไมธามจำแซนตอนเด็กๆ ไม่ได้เลย”

ผู้นำไม่ตอบคำถาม เขาเก็บจานที่กินเสร็จเรียบร้อยแล้วลงอ่างและใช้เวลาล้างอยู่ไม่นานนัก น้องยังคงยืนเท้าโต๊ะกินข้าวรอคำตอบ
ผู้นำถอนหายใจเบาๆ และยิ้มให้ เขายื่นมือไปข้างหน้า รอมือธามมาวางประกบ ซึ่งรอไม่นานก็สมใจ เขากำมือที่เล็กกว่าเอาไว้แล้วจูบหน้าน้องที่เดินเข้ามาหาจนชิด

“ธามก็แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้นเอง”
“ไปกับพี่นำมั้ยวันนี้”
“ไปเจอนายสุพิสุทธิ์ เราจะได้จบเรื่องนี้กันเสียที”
“ธามของพี่นำจะเลิกนอนเป็นกุ้ง แล้วก็เลิกหวาดกลัวคนที่ไม่สามารถทำอะไรธามได้เลยเสียที”

หน้าน้องงงๆ แต่ก็พยักหน้าตกลงจะไปกับเขา ผู้นำโทรบอกมือโปร โทรหาพยาบาลเพื่อสั่งความให้โทรฯกำชับคนไข้ที่ชื่อว่าสุพิสุทธิ์ว่า “อย่าลืมมารับการรักษาให้ตรงเวลา”


tbc...


มาต่อแล้วค่ะ รอบนี้ไม่เกิน 1 เดือน ฮู่ววว ค่อนข้างดีใจ
ตอนหน้าก็เป็นบทสรุปแล้วค่ะ  ไม่รู้เรารู้สึกไปเองรึเปล่าว่าเรื่องมันเครียดๆ แฮ่ๆ

ตอนแต่งก็ไม่เครียดนะ แต่พอจะแต่งตอนต่อไปแล้วไล่ๆ อ่านเพื่อรื้อฟิลลิ่ง (ขออนุญาตทับศัพท์) ก็ดันเจอแต่ตอนเครียด เลยสำนึกขึ้นมาได้ว่า เราทำคนอ่านเครียดไปด้วยแน่เลย
แต่ยืนยันว่าพี่นำกับน้องธามเค้าน่ารักกุ๊กกิ๊กกันมากนะ พี่ว่าไง น้องว่างั้น น้องอยากได้อะไร พี่จัดให้ตามนั้นเลย ฮ่าาาา

เจอกันตอนจบค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 22 (20-07-14)
เริ่มหัวข้อโดย: AeRoMoZa ที่ 21-07-2014 20:52:39
แปะ

เดี๋ยวมาอ่านนะคะ ไม่ได้อ่านนานมากเลย แฮ่
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 22 (20-07-14)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 21-07-2014 21:27:40
พ่อแซนทำให้แซนเป็นงี้นี่เอง
โอ้ยยพี่นำ เอะอะก็จูบ เขินนนนนนน
จะหวานก็ตอนไม่มีเรื่องแซนเนี่ยละะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 22 (20-07-14)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 21-07-2014 22:20:49
ว้าววววว ใกล้จะรู้เรื่องราวระหว่างนายแซนกับธามซักที มาต่ออีกนะคะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 22 (20-07-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Fluckiiz78 ที่ 21-07-2014 23:54:27
ใกล้จะรู้ความจริงเเล้วววว

รอ รอ สู้ๆๆนะค่ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 22 (20-07-14)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 22-07-2014 00:47:15
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 22 (20-07-14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 22-07-2014 06:23:02
ตอนที่พี่นำกับน้องธามอยู่ด้วยกัน ก็น่ากุ๊งกิ๊งๆดีอยู่หรอก :o8:
แต่พอพูดถึงอิพี่แซน เครียดขึ้นมาทันที :katai1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 22 (20-07-14)
เริ่มหัวข้อโดย: wan ที่ 22-07-2014 16:35:57
ความลับที่รอวันเปิด พร้อมสะสางปมคาใจ :เฮ้อ:
+1 ให้เป็นกำลังใจครับ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 23 (14-08-14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 14-08-2014 00:00:53
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 23



สารภาพเลยว่าธามตื่นเต้นมาก ถึงขนาดเก็บมือตัวเองไม่ได้ ต้องชี้นั่นนี่ไปเรื่อยเปื่อยแล้วถามพี่นำตลอดเวลานี่ทางนี้ไปไหน ป้ายนี้พาไปไหน เผื่อว่าธามต้องกลับคนเดียว ธามจะได้ไม่หลง
“ธามครับ เดินดีๆ”

“นี่ไม่ดีที่ไหน”
“นำๆ แล้วถ้าตรงไปทางนั้นล่ะ มีซบมั้ย บอดี้อ่ะ บอดี้”

“ศพครับ”
“แล้วที่นี่ก็เป็นศูนย์ผู้ช่วยจิตเพทย์ด้วย ไม่มีศพหรอกครับ ไม่เคยมีใครตายที่นี่เลย”

“เอ๊าะ! หมายถึงโรงพยาบาลคนบ้าหรอ”

“ก็คิดกันแบบนี้” พี่นำบ่นใส่ แต่น้ำเสียงไม่ดุ ธามก็เลยยิ้มสู่ เขาถูกพามาที่ห้องทำงานพี่นำ ในห้องกว้างๆ ที่มีเตียงนอนดูน่าสบาย มีชุดโซฟา มีห้องเล็กๆ ซ่อนอยู่หลังประตูที่แทบจะกลืนไปกับผนัง นั่นแหล่ะห้องทำงานของพี่นำ

“เข้าไปนั่งเล่นด้านในนะครับ เดี๋ยวพี่คุยกับพยาบาลแป๊บนึง”

“อื้อ” ธามรับคำและเดินไปเลื่อนประตู แต่ก็เลื่อนไม่ออก เขาทดลองเดินถอยหลังเผื่อว่าประตูจะติดเซ็นเซอร์เอาไว้แล้วอ่านค่าความร้อนใบตัวเขาไม่ออก แต่มันก็ยังไม่เปิดให้เขาเสียที ธามเลยจนปัญญา สุดท้ายก็ต้องพึ่งพาพีนำทุกเรื่อง

“นำ”

“กดข้างๆ ประตูสิครับธาม เห็นมั้ย ปุ่มกดเล็กๆ ไง”

“อ้อ”
“เล็กสินะ” เขาไม่ได้ยียวน ธามแค่อยากบอกพี่นำว่าปุ่มนี้มันเล็กเกินจะมองเห็นเท่านั้นเอง ทำไมต้องเดินวกเข้าห้องมาแล้วกดให้ แล้วก็ดันตัวเขาไปนั่งที่โซฟาเดี่ยวด้วย ไม่พอรึไง ทำไมต้องกางแขนคร่อมธามไว้ด้วยเล่า ไม่ได้อยากหนีไปไหนเสียหน่อย

“กลัวมั้ยครับ” ธามมีอะไรต้องกลัวด้วยหรอ? ธามก็แค่มาเจอแซนเท่านั้นเอง พี่นำก็อยู่ด้วยไม่ใช่หรอ? พี่นำเคยพูดไว้ว่าจะปกป้องธาม ธามไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้วนอกจาก...กลัวว่านำจะไม่ทำตามที่พูด

“ธามต้องกลัวอะไรด้วยหรอ?”
“มีอะไรหรอ”


“พี่คิดว่าธามไม่อยากเจอนายแซน กลัวว่าธามจะกลัวจนตัวสั่นหรือช็อกไป”
“เจอเขาได้แน่นะครับ”

“นำบอกจะปกป้องธามนี่ ธามไม่กลัวอะไรแล้ว”

“เก่งจริง” เก่งจริงของพี่นำ หมายความเท่ากับ จูบนะ สินะ นำนี่ไม่รู้จักอายเลย

“จูบบ่อย ปากช้ำ”

“ช้ำยังไงก็จะจูบ”
“รอในห้องก่อนนะครับ เดี๋ยวให้คนเอาน้ำมาให้ดื่มนะ”

“อื้อ” ธามรับคำ เขายกหัวเข่าขึ้นกอดแล้วเอนตัวพิงโซฟาแสนนุ่ม เสียงเครื่องปรับอากาศทำงานอยู่เงียบๆ กล่อมธามได้ดีอีกแล้ว ไม่นานก็มีคนเดินเข้าห้องมา พอเจอธามก็ยิ้มให้ แล้วก็มองหน้าธามอยู่นานจนธามต้องขมวดคิ้วใส่

“อะไรครับ”

“น้องคุณหมอน่ารักจังนะคะ”
“รับนมหรือโกโก้เพิ่มมั้ยคะ” เด็กไปสินะ ธามโตแล้วด้วย! เขาเชิดหน้าขึ้นนิดเดียวแล้วก็บอกความต้องการ
“กาแฟครับ”

“พี่เอาโกโก้ให้นะคะ” กาแฟกับโกโก้ เหมือนกันก็แค่ตัวซีที่ขึ้นต้นไม่ใช่หรอ? แค่นี้แยกไม่ออกรึไง ธามหันหน้าอิงโซฟาแล้วก็เลิกสนใจคนในห้อง ไม่นานเธอก็ออกไป

ดูเหมือนพี่นำจะธุระเยอะ ป่านนี้แล้วก็ยังไม่กลับเข้ามาในห้อง ถ้าธามเดาเวลาไม่ผิด พี่นำหายไปร่วมครึ่งชั่วโมงแล้ว นี่ธามรอจนจะหลับแล้วนะ

ครืดดดดดดดดด
เสียงประตูค่อยๆ เลื่อนเปิดทำให้ธามกระพริบตาถี่ๆ ไล่ความง่วง วิวนอกหน้าต่างบนชั้น 5 ของอาคารหมดหน้าที่ในการสบตากับธามแล้ว เขาพลิกตัวหันมาทางประตู

ผู้ชายคนหนึ่งคืนตระหง่านอยู่ เขาก้าวพ้นประตูมาไม่มาก แต่ก็มีระยะพอจะทำให้ประตูอัตโนมัติเลื่อนปิดตัวเอง ในห้องนี้มีเพียงธาม และผู้ชายคนนี้เท่านั้น

“แซน”

- - - - - - - - - - -

แซนเดินไปรอบห้อง แล้ววนกลับมาหยุดที่หน้าโซฟา ธามยังคงนั่งอยู่ท่าเดิม หันเพียงแค่หน้ามองตามจังหวะการเดินช้าๆ ของแซนเท่านั้น

“จะไม่ทักพี่บ้างหรอธาม”

“แซน สบายดีสินะ” อยากให้ทักก็ทัก แค่นี้ไม่เห็นตายเลย เดี๋ยวนำก็มา

“ไม่เลย ไม่สบายเอามากๆ”
“เพราะธาม”

ธามเกี่ยวอะไรด้วย เราไม่เกี่ยวกันแล้ว... ธามได้แต่โต้ตอบอยู่ในใจ

“เพราะรักธาม พี่ถึงเป็นแบบนี้”

“งั้นก็เลิกรักไปสิ ธามไม่ได้สนใจความรักของแซนอยู่แล้ว บอกไปตลอด”

“และเพราะต้องเลิกรัก พี่ถึงไม่สบายหนักกว่าเดิม”
“มันยากนะธาม การต้องปล่อยใครสักคนไป มันยากมากจริงๆ”

“...............”  ธามไม่พูดอะไร เพราะไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ธามไม่อยากคุยอะไรกับแซนอีก เหตุการณ์ที่ไต้หวัน ภาพแซนที่ขาดสติเหมือนคนบ้ายังฝังหัวธามอยู่ ธามไม่อยากตกอยู่ในเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง

“ตอบพี่ได้มั้ย ทำไมถึงเป็นไอ้หมอนำ ทำไมเป็นพี่ไม่ได้”
“ทั้งที่เราผูกพันกันแล้ว ธามเป็นของพี่มาตลอด จนธามกลับมาที่ไทย มาเจอมัน”
“ทำไมถึงทรยศความรักของพี่”

“ธามไม่เคยรับความรักแซน! ไม่เคย”

“ธามรับไปแล้ว กี่ครั้ง กี่คืน ต้องให้พี่ทบทวนหรอธาม”

“ไม่จริง!”

“จริง ธามแค่งอนพี่เพราะพี่ทำแรง ก็เลยประชดพี่ด้วยวิธีนี้ ด้วยการหนีมาอยู่กับไอ้หมอนำ”

“ไม่จริง”

“จริง จำไว้ในธาม ไม่ว่าใครจะรักธามมากแค่ไหน หรือธามจะรักใครสุดหัวใจ”
“เจ้าของธาม ก็คือพี่”

“ไม่จริง!!!”
“ไม่จริง ไม่จริง”
“แซนหยุดพูด หยุดๆๆ ไม่อยากฟัง ไม่อยากฟังแล้ว แซนทุเรศ บ้า! แซนโกหก!!”

“จริง เพราะแบบนี้ไง พี่ถึงปล่อยธามไปไม่ได้หรอก”
“เราต้องรักกันไปจนตาย”

“ไม่จริง!!!”


“หยุดนะคุณสุพิสุทธิ์!” เสียงพี่นำดังกร้าวขึ้นขวางอารมณ์โมโหที่ปะทุกรุ่นขึ้นในใจธาม เขารีบเดินมาหาและเกาะเอวพี่นำไว้ ฝ่ายนี้หันมองเขาอย่างกังวลพลางสำรวจไปทั่วตัว
“ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยธาม เขาทำร้ายรึเปล่า”

“ไม่ทำ”
“แซนแค่พูดบ้า”
“ไม่อยากฟัง กลับกันเถอะ ปล่อยแซนบ้าไป”

“กูไม่ได้บ้า!!!” เสียงตวาดทำให้หัวใจธามกระตุก เขาเหล่มองแซนที่ยืนชิดหน้าต่างกระจกใสบ้างกว้าง แซนมีอาการหอบ  หลุกหลิกอย่างเป็นได้ชัด
“หมอ ผมพยายามแล้ว มันไม่ใช่ผม”
“หมอ ต้องพาธามหนีไป พ่อคงไม่ปล่อยไว้ เงินตั้งเยอะแยะ”
“หมอ ช่วยธามด้วยนะ”

“..............” ธามได้แต่ขมวดคิ้วมองแซนที่เพ้อเจ้อไม่หยุด ใจนึกหงุดหงิดที่แซนทำบ้าบอใส่ แต่พี่นำกลับโอบไหล่ธามและบีบหัวไหล่ไว้แน่น

“ช่วยเขาเถอะธาม”

“จะช่วยยังไง ธามไม่อยากยุ่งกับแซนแล้ว”

“อย่างน้อยเขาก็เป็นพี่ชายธาม เป็นญาติกัน แล้วเขาก็รักธามจริงๆ”

“...............” แล้วธามต้องฝืนใจทำเพราะเหตุผลที่พี่นำยกมาด้วยหรอ เขาไม่เข้าใจพี่นำเลย ธามขมวดคิ้วใส่หมอคนเก่งและถอยออกห่าง เมื่อไม่เข้าใจ ธามก็ไม่จำเป็นต้องทำ เหตุผลเพียงเท่านั้นมันไม่เทียบกับความขยะแขยงที่ธามรู้สึกกับแซน กับลุงพิสุทธิ์ไม่ได้แม้แต่นิด

“ธามครับ”

“ไม่”
“นำอยากช่วยก็ช่วยไป นำคือหมอ ช่วยแซนคือหน้าที่ธาม แต่ธามไม่มีเหตุผลอะไรต้องช่วยแซน”

“ธาม พี่ขอโทษ พี่ขอโทษจริง ๆ เมื่อกี้ไม่ใช่พี่นะ ไม่ใช่พี่เลย”

“...............” อะไรอีกล่ะคราวนี้ เขางงหนักกว่าเดิมเมื่อจู่ๆ แซนก็พูดขอโทษด้วยสีหน้ารู้สึกผิดเหลือเกิน ธามยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและมองแซนก้าวสั้นๆ และช้าๆ มาประชิดตัว มือแซนสั่น แต่ก็ยังพยายามเอื้อมมาคว้ามือธามไปจับไว้ พลางยกมือของเราขึ้นแนบแก้มและหลับตา

“เฮ้ย!!” ยังไม่ทันที่ธามจะตั้งสติได้ พี่นำก็งัดตัวแซนออกและผลักลงกับพื้น มือธามคว้างอยู่กลางอากาศ หลังมือมีเลือดออกมาซิบเพราะถูกเล็บแซนขูดเอา ซ้ำยังมีรอยกัดอีกด้วย

นี่มันอะไรกัน

“คุณสุพิสุทธิ์ ผมเตือนแล้วว่าคุณไม่มีสิทธิ์แตะต้องธาม ถ้าธามไม่อนุญาต”
“ถ้าธามไม่อยากฟัง คุณก็ไม่มีสิทธิ์ยัดเยียดจินตนาการของคุณใส่หัวธาม”

“พี่ขอโทษ”
“ธาม ธาม” แซนดูไม่ได้เลย เหมือนคนบ้าไม่มีสติแล้วตอนนี้

“เขามี 2 บุคลิกน่ะ” พี่นำพูดพลางดึงมือธามไปลูบแผลถูกเล็บข่วน
“เป็นหนึ่งในอาการ สิ่งที่รู้สึกกับธามเขารู้ว่าผิด แต่ก็ห้ามตัวเองไม่ได้ กลายเป็นอีกคน อีกนิสัย เวลาที่เขาขาดสติและยอมแพ้ต่อความต้องการของตัวเอง เขาจะเป็นอีกคนที่ทำอะไรไร้เหตุผล เพียงเพื่อให้ธามเป็นของเขา”

“.................”

“ที่ห้องนี้มีกล้องวงจรปิด พี่จะให้เขาดู เพื่อให้ยอมรับตัวเองเสียทีว่าเวลาเขาขาดสติ ธามจะเป็นเหยื่อเสมอ”
“ถ้าเขารักธามจริงอย่างที่ปากว่า เขาจะต้องยอมไม่พบธามอีกจนกว่าจะหาย”
“และคนที่จะบอกได้ว่าเขาหายป่วย หรือยังไม่หาย ก็คือพี่นำ”

“แล้วทำไมไม่บอกธามก่อน”

“ก็พี่กลัวธามจะกลัวเขา กลัวธามอ่อนแอ”

“นำอยู่กับธาม ธามไม่อ่อนแอหรอก บอกไปตลอด”

“ครับ คนเก่ง”
“งั้นเรารอให้เขาคืนสติก่อนนะ แล้วค่อยเจรจา”
“พี่อยากให้เรื่องลงเอยด้วยดี”
“ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นญาติธาม เป็นพี่ชาย”
“อย่าตัดเขาออกจากชีวิตอย่างสิ้นเชิงเลยนะครับ”

“สิ้นเชิงคืออะไร”

“.............” พี่นำไม่ตอบ แต่อมยิ้มขำนิดหนึ่ง ก่อนจะเดินไปประคองแซนที่ยังนอนกองกับพื้น เรียกชื่อธามซ้ำไปซ้ำมา ทั้งที่ธามก็ยืนอยู่ตรงหน้าแต่แซนดูเหมือนจะมองไม่เห็นธามเลย

หัวใจธามรู้สึกเพลียๆ แบบนี้สินะที่เรียกว่าสงสาร ถ้าตัดเรื่องเป็นญาติกันเลยต้องช่วย และแซนรักธามจริงๆ เลยควรช่วยออกไป ความสงสารนี่แหล่ะที่จะทำให้ธามยอมช่วยแซนได้

“ธาม...สงสารนะ”

“ครับ พี่นำก็สงสาร ถึงได้อยากให้ธามช่วย”
“เราควรทำสิ่งที่เราทำได้ให้ดีที่สุด แต่เขาจะดีขึ้นรึเปล่า จะเข้าใจปัญหาและยอมแก้ไขรึเปล่า มันอยู่ที่ตัวเขาแล้ว”

“อื้อ” เขารับคำพี่นำที่พยุงแซนมานั่งเหม่อซึมบนโซฟาแทน ธามขอออกไปรอด้านนอกห้องทำงานเพราะกลัวว่าแซนจะบ้าบอขึ้นมาอีก ปล่อยให้พี่นำอยู่กับแซนเพียงลำพัง แต่พี่นำบอกว่า เมื่อแซนพร้อมรับรู้เรื่องตัวเองเมื่อไหร่ ธามต้องกลับเข้าห้องอีกครั้ง

มื้อเที่ยงนี้ธามได้กินราดหน้าที่ผู้หญิงคนเดิมนำขึ้นมาให้ กลิ่นหอมฉุยทำให้ธามยิ้มแก้มบุ๋มขอบคุณเธอ และได้รับสายตาเยิ้มๆ กลับมา

กินไปไม่กี่คำพี่นำก็เดินออกมาจากห้องทำงาน หมอนำถอดแว่นถอดไว้ในกระเป๋าเสื้อแล้วนั่งลงโอบเอวธามไว้

“กินหรอ? หิวสินะ”

“ฮ่าๆๆ ตลกไม่เลิกจริงๆ ธาม” ไม่พูดเปล่า พี่นำจับคางธามแล้วเขย่าไปมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยอ้อน
“หิวมากเลยครับ ป้อนหน่อยได้มั้ย”

“อ้าปากสิ”
“กว้างสิ หมูใหญ่”

“อ้า......” พี่นำน่ารักที่สุดเลย ธามอมยิ้มพลางตักราดหน้าป้อน พี่นำเคี้ยวไม่นานก็ดื่มน้ำเปล่าตาม

“เอาอีกสินะ”

“ธามกินเลย พี่ให้เขาซื้อข้าวผัดมาไว้ให้ อีกเดี๋ยวก็ได้กินแล้ว” ธามพยักหน้าเข้าใจแล้วก็กินราดหน้าของตัวเองต่อ รอกันอยู่ไม่นานพี่นำก็ได้ข้าวผัดตามต้องการ และก็เผื่อแผ่มาป้อนธามให้กินไปด้วยกัน
“กินอีกครับ ผอมจนหัวโต ตัวเล็กนิดเดียว”

“บอดี้เฟิร์มสิ ใช่มั้ย”

“ไม่เฟิร์มหรอกแบบนี้ เขาเรียกก๋องแก๋ง”

“อะไรหรอ ไม่รู้จัก”

“แปลว่าน่ารักน่ะครับ” นำบ้า เยิ่นยอตลอด ธามกลอกตาไม่รู้ไม่ชี้แต่ก็งับช้อนพูนดัวยข้าวผัดทุกครั้งที่มันจ่อปาก

แต่กินกันยังไม่ทันอิ่มดี แซนก็โผล่ออกมาจากห้อง ดูจากสีหน้าแล้วน่าจะเป็นแซนที่พูดรู้เรื่อง เพราะพอแซนเห็นหน้าธาม ก็ส่งสายตาหลากอารมณ์ทันที จริงๆ ธามก็อยากบอกเหมือนกันว่าธามไม่เข้าใจหรอกว่าสายตาสื่อถึงอะไรบ้าง

“ตื่นแล้วหรอครับ”

“ธาม”    ธามหันสบตาเมื่อถูกเรียก แซนไม่ตอลคำทักทายของนำ แต่กลับจ้องหน้าธามเขม็ง สบตาแล้วก็อดรู้สึกหวาดๆ ไม่ได้
“พี่ขอโทษนะ”
“พี่...ไม่ได้กินยาอีกเพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้ป่วย...มาก”

“ผมมีภาพวงจรปิด คุณจะดูมั้ยว่าคุณทำยังไงเวลาที่อยู่กับธามแค่ 2 คน”

แซนดูลังเล บางทีแซนอาจจะรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาก็ได้ ไม่ว่าจะทำเรื่องดีหรือเรื่องไม่ดี ที่ว่า 2 บุคลิกอะไรนั่น แซนอาจจะเอาไว้ปัดความผิดของตัวเอง

“เอาสิ ผมจะดู” ทั้งที่พี่นำยังกินไม่อิ่มดี แต่ก็รวบช้อน ปิดฝาครอบสีใส และดื่มน้ำ จากนั้นก็เดินนำแซนกลับไปในห้องทำงานอีกครั้ง

“มาสิครับ ธาม”

“อื้อ” เขารับคำแล้วรวบช้อนบ้าง ธามดื่มน้ำล้างปากแล้วเดินเข้าห้องตามที่ถูกเรียก เขารู้สึกใจสั่นๆ แปลกๆ


เสียงและภาพไม่ชัดนัก แต่ก็มองออกว่าเป็นธามกับแซน เสียงที่ได้ยินก็สร้างความเข้าใจได้ว่าในห้องเมื่อช่วงสายของวันนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ผู้นำขมวดคิ้วใส่แซนเมื่อได้ยินสิ่งที่แซนพูด และลูบหลังธามเบาๆ ตลอดเวลา
จนในจอ มีพี่นำเข้ามาในห้อง การดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วจึงได้หยุดลง

“คุณหยุดตัวเองไม่ได้หรอ ไหนว่าเข้าใจแล้วว่าผิดชอบชั่วดีคืออะไร”
“ผมคิดว่าคุณจะยับยั้งอารมณ์ได้ดีกว่านี้”

“ขอโทษนะธาม”

“เอ่อ..ไม่เป็นไร” ธามไม่รู้จะพูดอะไร ตอนนี้รู้สึกเห็นใจแซนจริงๆ ธามไม่รู้ว่ามันยากขนาดไหน แต่ดูเหมือนมันจะยากเกินไปสำหรับแซน

“ความรัก คุณเอามาอ้างไม่ได้ ใช่ว่าแค่รัก แล้วคุณจะทำอะไรกับธามก็ได้นะครับ”
“จำตอนเด็กไม่ได้หรอ เพราะความรู้สึกเกินควบคุมของคุณ ทำให้ธามป่วยเป็นปอมบวม แล้วก็ผวาอยู่เป็นเดือนๆ”
“เห็นมั้ยว่าคุณร้ายอะไรธามไว้บ้าง”
“สาเหตุที่ทำให้คุณไม่สามารถเข้าใกล้ธามได้อีก ก็คืออารมณ์ของคุณเอง”
“ถ้าคิดอยากจะหายจากอาการขัดแย้งในตัวเองตอนนี้ คุณก็ต้องยอมรับก่อนว่าสิ่งที่คุณเคยทำ หรือที่ทำอยู่ มันผิด”
“ผิดโดยที่ไม่มีข้อแม้ใดๆเลย”

“ผมรู้” เสียงแซนแหบพร่า ก้มหน้าตลอดเวลา เห็นแล้วยิ่งหดหู่

“เอ่อแซน”

“หือ?” ธามชะงักไปนิดเมื่อแซนตอบรับในทันที เขาบี้ปลายนิ้วลงกับเล็บตัวเองก่อนพูด

“ธามไม่โกรธแล้วนะ เพราะแซนป่วย”
“แต่ธามคง...ช่วยรักแซนไม่ได้”

ครั้งนี้ ธามมั่นใจว่าธามเข้าใจสายตาของแซนแล้ว มันเศร้าลงมากเมื่อได้ยินคำที่ธามพูด แซนยิ้มรับแล้วก็ก้มหน้า ก่อนจะพูดเพิ่ม ซึ่งทำเอาพี่นำถอนหายใจและบีบไหล่ธามแน่น

“หมอช่วยจัดยาให้ผมอย่างต่อเนื่องด้วย ผมจะมาพบตามนัด แต่จะไม่เจอธามอีก”
“และจะบอกพ่อ ว่าผมป่วยเอง”
“จะให้พ่อเลิกทำร้ายหรือโทษน้องเสียที”
“ผมแย่เองที่เข้มแข็งเท่าที่พ่ออยากให้เป็นไม่ได้”
“พี่แซนไปก่อนนะธาม”

“..............”

“พี่...ขอกอดธามเป็นครั้งสุดท้ายได้รึเปล่า”
“กอดลา”

ธามหันมองพี่นำที่หันมองอย่างชั่งใจ  สุดท้ายพี่นำก็พยักหน้า ธามจึงเดินไปหาอ้อมแขนของแซนที่ธามปฏิเสธมาตลอด

แซนกอดแน่นครู่หนึ่งและเปลี่ยนเป็นกอดหลวมๆ มือแซนลูบหัวธามเบาๆ  เป็นสัมผัสที่อ่อนโยนไม่ต่างจากที่พี่นำเคยมอบให้

“พี่ดีใจที่ธามเป็นเด็กดีของน้าวีณา แล้วก็หลานที่ดีของลุงหมอของธาม”
“พี่จะพยายามเป็นพี่ชายที่ดีของธามให้ได้”
“คงเลิกรักธามไม่ได้ง่ายๆ แต่พี่จะเป็นพี่ชายที่กอดน้องธามได้อย่างบริสุทธิ์ใจอีกครั้ง นะ”

“อื้อ” ธามยิ้มให้และกอดแซนกลับ


พี่แซน พี่แซน
จู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงเด็กผู้ชายร้องเรียกหาพี่แซน เห็นภาพตัวเองวิ่งในสวนหน้าบ้าน ผมปลิวตามแรงลม ตัวธามในวัยเด็กเอื้อมคว้าไปข้างหน้าที่มีพี่ชายวิ่งถอยหลังยื่นมือรอน้องชายอยู่เหมือนกัน

พี่แซน พี่แซน
ธามไม่ต้องรีบ พี่แซนรออยู่ตรงนี้ ระวังล้มนะ
โอ๋ ไม่ร้องนะ พี่แซนเป่าให้ เพี้ยงหาย
ขี่หลังพี่กลับบ้านก็แล้วกัน


“คิดถึงจัง พี่แซน” เขาพูดลอยๆ เมื่อแซนเดินเศร้าและผิดหวังในตัวเองออกไปจากห้องแล้ว ธามกระพริบตาไล่น้ำตาแล้วหันมองพี่นำที่ยังคงยืนอยู่ใกล้ๆ
“ธามคิดถึงพี่แซน”

“ครับ พี่แซนเขาก็คิดถึงธาม อีกเดี๋ยวเขาก็กลับมา” พี่นำกอดธามไว้แล้วเช็ดน้ำตาให้ด้วยเสื้อตัวเอง พวกเขานั่งเงียบๆ อยู่บนโซฟา ธามจ้องมองแก้วน้ำที่เหลือน้ำอยู่ไม่มาก ส่วนพี่นำนั่งมองประตูห้องทำงานตัวเองอยู่เงียบๆ

“เบื่อมั้ย ไปเที่ยวแถวนี้ก็ได้ มีห้างอยู่ไม่ไกลนัก เดี๋ยวเย็นๆ พี่ไปรับ”

“ไม่ ธามไม่อยากอยู่คนเดียว”

“งั้นเดี๋ยวพี่ยกโน้ตบุ้คมาให้เล่นเพลินๆ นะ”
“อีกราวชั่วโมง พี่จะมีนัด ดูแลตัวเองก่อนนะครับ”

“อื้อ” เขารับคำแล้วยิ้มให้ ธามผ่อนลมหายใจเบาๆ เมื่อได้โน้ตบุ้คสมใจ ธามก็ออนไลน์ในโปรแกรมแชทที่ชอบใช้คุยกับอาหลูทันที

ข้อความถูกส่งไปตั้งมาก แต่ดูเหมือนอาหลูจะไม่ได้อ่านเลยสักอัน แบบนี้ก็เป็นการระบายออกที่เปล่าประโยชน์น่ะสิ
จะบอกนำทุกเรื่องก็คงไม่ไหว รกหัวนำเปล่าๆ  ธามคงต้องขจัดความหม่นสมองด้วยตัวเอง
เขาเลือกเล่นเกมส์ แต่ก็เบื่อในไม่กี่วินาทีถัดมา และในที่สุดธามก็ลองเข้าเวบไซต์บริษัทที่ตัวเองก็เป็นในหนึ่งผู้ถือหุ้น ด้วยวิธีการรับมรดกจากป้าวีณา

บริษัทนี้เป็นบริษัทรับจ้างผลิตโออีเอ็มของแผงควบคุมด้วยวงจรไฟฟ้า เขาดูแผนผังบอร์ดบริหาร รายชื่อผู้ถือหุ้น ไม่มีข้อมูลของธามเลย แต่ชื่อของป้าวีณายังอยู่

ในบอร์ดบริหารลำดับรองลงมา มีรุปของแซนติดไว้ด้วย สุพิสุทธิ์ นิมิตกานนท์ กรรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ
ธามไม่รู้ว่ากว่าแซนจะได้ขึ้นมาสู่ระดับผู้บริหาร แซนต้องใช้ความพยายามแค่ไหน จริงๆ แล้วธามไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแซนเลยในช่วงที่ห่างกัน รู้เพียงว่าแซนทำตัวน่ารำคาญ ชอบบังคับ และชอบสัมผัสธามแบบแปลกๆ ซึ่งธามไม่ชอบ

แม้จะบอกครั้งแล้วครั้งเล่า แซนก็ยังทำให้ธามรำคาญเหมือนเดิม สุดท้ายก็กลายเป็นเกลียดแซน ไม่อยากเจอ ไม่อยากพบ ยิ่งกับลุงพิสุทธิ์ที่แวะมาหาป้าวีณาแบบนับครั้งได้ ธามยิ่งไม่ชอบ เพราะลุงชอบทำเหมือนรู้จักธามดีนักหนา ชอบพูดถึงพ่อกับแม่ธามแบบแย่ๆ แม้ธามจะจำไม่ได้ว่าพ่อกับแม่หน้าตาเป็นแบบไหน นิสัยเป็นยังไง แต่ธามก็รู้ว่าเป็นลูก ต้องรักและปกป้องพ่อแม่ตัวเอง

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ธามกลายเป็นคนไม่มีบ้าน หรือมีบ้านก็กลับไปไม่ได้ จนตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้แน่ชัด แต่จะให้หาสาเหตุและแก้ไข ธามไม่คิดทำ

เรื่องมันล่วงเลยมาจนป่านนี้แล้ว ธามพบเจอใครมากมาย ธามมีชีวิตของธาม และธามก็ใช้ชีวิตของธาม
แล้วชีวิตธามก็มีความสุขมากขึ้น เมื่อมีพี่นำอยู่ข้างๆ

“คุณหมอ คนไข้ที่นัดมาแล้วค่ะ” พยาบาลเลขาหน้าห้องโผล่มาบอก ไม่นานพี่นำก็เดินออกมาจากห้องทำงานส่วนตัว เขาส่งยิ้มให้ธามนิดนึงแล้วก็เดินไปรับคนไข้ถึงหน้าห้อง

ผู้หญิงคนนี้สวยจัง
แต่ธามไม่ชอบเท่าไหร่ เพราะเธอจับมือพี่นำของธามไว้ระหว่างเดิน ทางก็ไม่ไกล สว่างจ้า ไม่หลงอยู่แล้ว จับมือทำไมกันเล่า

เมื่อไม่พอใจ แต่ระบายออกไม่ได้ ธามก็ส่งภาษาไปถึงอาหลู คิดเสียว่าไม่เกิน 24 ชั่วโมงอาหลูก็ต้องอ่านข้อความและตอบกลับมา


ห้าโมงเย็นกว่าๆ พี่นำก็เสร็จงาน หมอนำเอาหน้าเพลียๆ มาซุกแก้มธามแล้วส่งเสียงหอมดังฟอด แล้วบอกว่าชื่นใจ อันนี้ต้องใช้กับน้ำดื่มไม่ใช่หรอ

“หิวมั้ย”

“อื้อ”

“กินอะไรดีครับ”

“ไปกินข้าวที่บ้านกันเถอะ ธามไม่อยากไปไหน”
“เบื่อแล้วง่วง”

“น้อยใจดีมั้ย นั่งรอพี่นำทำงานแป๊บเดียวก็เบื่อแล้ว เด็กหนอเด็ก”

“ไม่เด็กนะ กลับสิ”
“วันนี้มือนำแย่ ไม่จับแล้ว!”

“โกรธหรืองอนอะไรครับ”

“........................” ทำไมนำไม่รู้สาเหตุ ต้องรู้สิ ก็นำรู้ทุกเรื่องนี่ ธามไม่บอกหรอก ให้ตายก็ไม่บอก

“หืม? บอกพี่นำหน่อยสิ นะครับ นะ”

“นำจับมือผู้หญิง ต่อหน้าธามเลย”
“นี่แฟนกันนะ”
“หลากใจ”

“หลายใจครับ พูดให้ถูก”

“หลากหลายใจ!”

“ไปกันใหญ่ โอเค กลับบ้านเนอะ เดี๋ยวแก้ตัวบนรถ”

“คนจัญไร”

“เฮ้ยยยยยยยยยย!”
“พี่นำทำผิดขนาดนั้นเลยหรอธาม ด่ากันเสียหายเลย”

“พี่เจมสอนแล้ว คนดีต้องแก้ไข คนจัญไรแก้ตัว!”  พี่นำกุมขมับแล้วนวดๆ พร้อมกับส่งเสียงหัวเราะ ตกลงธามพูดน่าปวดหัวหรือน่าขำกันแน่ งงแล้วด้วย

แต่ยังไม่ทันได้บอกความผิดเพิ่ม พี่นำก็กอดคอธามแล้วพาเดินออกจากห้อง ลงลิฟท์เพื่อไปที่รถตามที่พี่นำบอกแผนไว้แต่แรก
พี่นำขี้โกง โจร! ทำให้งงแล้วก็โอบแก้ตัว จัญไรที่สุด!


- - - - - - - - - - -


ชีวิตธามเหมือนจะปกติดี แม้เขาจะยังไม่วางใจจนต้องคอยตั้งนาฬิกาปลุกตัวเองให้ตื่นกลางดึกเพื่อเฝ้ามองอาการของน้อง แต่โดยรวมแล้วก็แทบไม่มีอาการผวาตื่น หรือนอนร้องไห้อีก จะมีละเมอบ้างแต่ผู้นำไม่คิดว่ามันเกิดจากสาเหตุเดิมอย่างนายแซน เพราะธามละเมอว่า ‘อื้อ นำ ไม่ไหวแล้ว’ ซึ่งเขาจะสรุปเอาว่าธามกำลังฝันถึงตอนที่เขาบังคับให้อ่านหนังสือภาษาไทยจนสมองเหนื่อยล้า

หากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ผู้นำเชื่อว่าธามจะกลับมาสดใดได้โดยไม่มีตุ่มตอร้ายซุกอยู่ในหัวใจอีก เขาคิดว่าอีกไม่นาน ธามก็จะกล้าใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น เห็นคุณค่าของลมหายใจตัวเอง เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองและภาคภูมิใจกับทุกการกระทำของตัวเอง

มันคงจะเกิดขึ้นจริงดังที่เขาหวังไว้ หากแต่ถูกขัดขวางโดยพาดหัวข่าวหนังสือพิมพ์หัวสีที่เขาไม่ชอบอ่านนักแต่ป้าจูติดตามเป็นเรื่องย่อนิยายในเล่มนี้อยู่ รูปหน้า 1 และพาดหัวตัวใหญ่ แจ้งข่าวแก่เขาว่า นายสุพิสุทธิ์ ฆ่าตัวตาย

ผู้นำวางแก้วกาแฟแม้ว่าขอบแก้วและริมฝีปากเขายังไม่สัมผัสกันตามที่ตั้งใจ เขาถอนหายใจเสียงดังแล้วกุมขมับทันที

“เป็นอะไรเจ้านำ”

“พ่อครับ นายสุพิสุทธิ์เขา”

“หือ? เขามาวุ่นวายอะไรกับเจ้านำอีก เรามีหมายคุ้มครองอยู่ไม่ใช่หรอ จัดการให้ได้สินำ”

“ไม่ใช่ครับพ่อ เขาคงมาวุ่นวายกับธามไม่ได้แล้ว”

“อะไรของนำ พูดให้รู้เรื่อง”

“นายสุพิสุทธิ์ฆ่าตัวตาย”

ตุบ!
ราวกับการทำผิดพลาดโดยไม่เจตนาเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้นำแทบไม่อยากหันไปมองว่าเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่เกิดจากอะไร เขาภาวนาให้ไม่ใช่อย่างที่กังวล

“ใครฆ่าตัวตายหรอนำ” แต่คำภาวนาของเขาก็ไม่ได้รับการสนใจ ผู้นำเป่าปากปรับสีหน้าก่อนหันไปหาเจ้าตัวดี วันนี้ธามแต่งตัวสดใส ผมก็เพิ่งตัดมาใหม่เมื่อวานนี้ด้วยเหตุผลว่า วันนี้มีนัดกับอาหลูที่จะมาเยี่ยมที่เมืองไทย เลยอยากหล่อกว่าเพื่อนซะหน่อย

“เอ่อออออ”

“บอกน้องไปสิ ปิดไปก็เท่านั้น ยังไงก็ต้องรู้อยู่ดี”
“ธามโตแล้ว”

เขาไม่มั่นใจเลยว่าน้องจะเผชิญกับความจริงเรื่องนี้ได้ เขาหวั่นว่าธามจะโทษตัวเอง กลัวจะจมตัวเองไปกับความรู้สึกอ้างว้าง ผิดหวังในตัวเอง

“ใครหรอนำ”
“อ่านเองก็ได้ ธามอ่านออกเยอะเลย”
“ไหนหรอครับลุงหมอ ใครหรอ”

พ่อเขาไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ดันหนังสือพิมพ์ไปตรงหน้าธาม  เขาเห็นธามเกลี่ยตายตาโดยทั่ว คิ้วสีดำบางขมวดนิดๆ เพื่อเพ่งหาคำตอบที่ต้องการ

ธามไล่มือไปตามตัวหนังสือใหญ่บ้างเล็กบ้าง แต่แล้วก็หยุดกึกตรงรูปประกอบข่าว น้องยกหนังสือพิมพ์ขึ้นมาเพ่งจนชิดตา พึมพำอยู่ไม่นานก็วางมันลงแผ่กับพื้นโต๊ะอาหาร

“ซะ...แซนหรอ”
“ใช่แซนหรอ”
“จริงหรอ”

เขาและพ่อไม่ได้พูดอะไร หมอปันถอนหายใจเบาๆ และพยักหน้าให้คำตอบ ธามหันมองเขาบ้าง ทำให้ผู้นำเห็นเต็มตาว่าสีหน้าธามยามกลั้นน้ำยาไว้น่าสงสารแค่ไหน

“นำ”
“ทำไมแซนตายหรอ”
“ทำไม ธามอ่านไม่รู้หมด นำอ่านสิ มีอีกมั้ย นำอ่านให้ที อ่านสิ”

“เขาฆ่าตัวตายครับ”
“ในข่าวยังไม่ได้บอกสาเหตุ มีแต่การสันนิษฐานของตำรวจหลังจากฟังพยานและตรวจสอบปัจจัยแวดล้อม”

“ฆ่าตัวตาย  หรอ” ธามทวนคำแล้วก็หันหลังเดินออกจากห้องอาหารทันที ผู้นำรีบลุกตามไปและคว้าแขนธามไว้ได้ทันที่บันไดหน้าบ้านใหญ่ น้องไม่ได้หันมามองเขา แต่ขออนุญาตเขาเสียงแผ่วว่า “ขออยู่คนเดียวได้สินะ”

หรือว่าสุดท้าย ความพยายามทั้งหมดของเขาจะสูญเปล่า...ธามไม่ได้เข้มแข็งขึ้นเลย....
ธามยังเปราะบาง รับสิ่งเร้าใดๆ ไม่ได้ ไร้แรงจูงใจ ไร้ความต้องการ เป็นอย่างนั้นหรอ?
ที่เขาเฝ้ารักเฝ้าห่วง คอยสอนและคอยแทรกความคิด ไม่มีความรู้สึกไหนเข้าถึงธามได้เลย มันเป็นอย่างนั้นรึไง?

เขาปล่อยให้น้องได้อยู่คนเดียวสมใจ
ตอนนี้ผู้นำทำได้เพียงมองธามวิ่งกลับไปซ่อนตัวอยู่ในโลกใบเล็กแสนเปราะบาง เด็กที่ต้องการความช่วยเหลือกำลังจะกลายเป็นเด็กที่ยื่นมือมาปัดทุกความหวังดีออกไปให้ห่างอีกครั้งจริงๆ น่ะหรอ?

เขาอยากให้ความกังวลของเขาเป็นเพียงความคิดบิดเบี้ยวของเขาเอง อยากให้เขาคิดมากเกินไป
ผู้นำอยากนอนหลับอีกหน และตื่นอีกครั้งเพื่อเจอกับธามที่นอนกอดหนุนหน้าอกเขาอยู่ หวังไปว่าเจ้าตัวดีที่ตื่นอยู่แล้วผงกหัวมองเขาแล้วพูดคำที่ออกเสียงภาษาไทยชัดเจนว่า “อรุณสวัสดิ์นำ”

เช้าที่แสนสดชื่นแบบนั้น จะไม่มีอีกต่อไปแล้วจริงๆหรอน้องธาม

Tbc


แฮ่! ชิชะยังไม่จบสินะ

สำหรับนักอ่านที่อ่านเรื่องแรกของเรา "พี่หนึ่งน้องเจม" นั้น อีกเดี๋ยวก็คงมีข่าวดี

่ส่วนข่าวดีของพี่นำน้องธาม อีกไม่นานจะมาต่อตอนจบของเรื่องนี้แน่นอนค่ะ @_@
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 23 (20-08-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Fluckiiz78 ที่ 14-08-2014 20:36:38
ไม่หรอกพี่หมอนำ เราคิดว่าธามเข้มแข็ง ขึ้นมากเเล้ววว  :mew2:


ยังๆๆ ธามต้องกลับมาสดใส ใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไป เเบบที่พี่หมอนำหวังไว้เเน่นอน

ยังไงก็อย่าลืมตอนจบนะค่ะ เรารออ่านอยู่น้าาา สนุกมากๆๆเลยเรื่องนี้  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 23 (20-08-14)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 14-08-2014 21:04:18
หน่วงทั้งนำและธามเลย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 23 (20-08-14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 14-08-2014 21:43:31
เราหัวเราะขำกับพี่นำคนจัญไรมาก นุ้งเจมสอนอะไรนุ้งธามเนี่ย :laugh:
แต่กลับอึ้งไปเลยที่แซนฆ่าตัวตาย :a5:
สงสารแซนอ่ะ คนที่ฆ่าตัวตายเขาคงสิ้นหวังมากๆ น้องธามจะรู้สึกยังไงบ้าง น่าเป็นห่วงจัง :katai1:
ความพยายามของพี่นำต้องไม่สูญเปล่า น้องธามต้องเข้มแข็งกว่าที่คิดแน่ๆ แต่ให้เวลาน้องหน่อยนะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 14-08-2014 23:50:14
กำลังขำๆที่เจมสอนธามไป
เจอข่าวแซนตาย ธามต้องโทษตัวเองอีกแน่ๆ
โอ้ยยยยยยยยยยยยเมื่อไหร่จะผ่านพ้นอุปสรรค
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 15-08-2014 10:57:54
สงสารธาม คงคิดว่าเป็นเพราะธามแน่เลยช่ายป่ะเนี้ย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
เริ่มหัวข้อโดย: EoBen ที่ 15-08-2014 13:01:52
โธ่แซนไม่น่าเลยยย

ทำไมไม่อดทนละฮึ หายแล้วก็กลับมาหาน้องได้แล้ว

ถึงจะไม่ใช่ในรูปแบบคนรักแบบที่แซนต้องการ แต่น้องก็ไม่เกลียดแซนแล้วนะ


หรือว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
เริ่มหัวข้อโดย: aiyuki ที่ 15-08-2014 19:12:52
ขำ คนจัญไร ของน้องธามจริงๆ เด็กน้อยเอ๋ยยย สงสารธามนะ เพิ่งจะมีวันสดใสไม่ทันไร แซนก็มาฆ่าตัวตายซะแล้ว น้องคงโทษตัวเองอีก เห้อออ  สงสาร
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
เริ่มหัวข้อโดย: ammchun ที่ 16-08-2014 00:52:56
สนุกมากเลยค่ะ เอ็นดูน้องจริงๆ น่ารักน่าสงสารมาก พี่นำนี่อบอุ่นสุดๆไปเลย รอตอนต่อไปค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 03-09-2014 20:29:33
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 24

 

ไม่ทานข้าวเลยค่ะ
เอาแต่นอนอยู่บนเตียง แต่ป้าดูของอันตรายให้แล้วนะคะ เก็บออกมาเรียบเลยค่ะ
คุณนำไม่เข้าไปดูอาการหน่อยหรอคะ
ป้าจู แม่บ้านเก่าแก่ถามเขาทุกวัน แต่ผู้นำเพียงแค่ส่ายหน้าเป็นคำตอบ เขาไม่ได้แวะมานอนกับธาม ไม่ได้ใช้อยู่ชีวิตอยู่ที่บ้านเล็กแห่งนี้เกือบอาทิตย์แล้ว
เหตุผลสำหรับบอกคนอื่น อาทิ หมอปัน ป้าจู ลุงเผือก รวมไปถึงมือโปรที่ถามถึงธามอยู่ทุกวันก็คือ น้องขออยู่กับตัวเองสักพัก เขาไม่อยากให้ใครรบกวน
แต่เหตุผลจริงๆ ที่ทำให้ผู้นำตัดสินใจไม่พาตัวเองเข้าไปกวนเส้นขอบที่ธามขีดไว้ก็คือ เขากลัวว่าแม้แต่ตัวเขาเอง ธามก็ไม่อนุญาตให้เข้าใกล้

“คุณนำคะ วันนี้ก็ไม่ทานค่ะ แต่ยืนเหม่ออยู่ตรงหน้าต่าง”

“ครับ” เขารับคำและมองถาดอาหารที่ป้าจูยกกลับมาเก็บ ตอนนี้ก็สายมากแล้ว อีก 2 ชั่วโมงธามก็จะหมดโอกาสดูแลร่างกายตัวเองด้วยการกินข้าวเช้า

“คุณนำคะ”

“ครับ”

“ไปดูเธอหน่อยเถอะค่ะ ป้าสงสาร”
“ไม่พูดไม่จา ตอนเด็กที่คุณวีณาแกพามาใหม่ๆ คุณธามเธอก็เป็นแบบนี้แหล่ะค่ะ”
“เงียบเชียบ ไม่พูดไม่จา ตางี้เศร้าจนป้าเศร้าตาม”

“ครับ นำจำได้” เขาตอบป้าแม่บ้านเก่าแก่ที่เลี้ยงดูเขามาแต่เด็ก และมีโอกาสได้ดูแลธามอยู่ช่วงหนึ่ง

“จำได้มั้ยคะว่าคุณนำไปชวนเธอเล่น ตื๊ออยู่ตั้งหลายวันกว่าจะยอมเรียกชื่อพี่นำ”
“แต่พอเรียกเท่านั้นแหล่ะ ไปไหนก็จะไปกับพี่นำพี่นำ”
“น่าเอ็นดูที่สุดเลยนะคะ คุณธามเนี่ย”

“ครับ นำจำได้” เขาตอบคำซ้ำๆ แต่ก็ไม่ได้ก้าวเดินเพื่อลดระยะห่างระหว่างเขาและธามตามที่ป้าแกหวัง

เขาไม่ได้ใจร้าย
หัวใจเขาก็เจ็บเหมือนกันที่ธามเอาแต่เสียใจ เอาแต่ทำตัวหดหู่อยู่แบบนี้
แต่ที่เจ็บกว่านั้นก็คือ “พี่นำ” คนนี้ ไม่สามารถเป็นหลักยึดเหนี่ยวความคิดให้ธามได้เลย หากธามนึกถึงเขามากกว่านี้อีกนิด ธามก็จะมีความสุขได้เหมือนเดิม
ผู้นำอดคิดไม่ได้ว่าน้องไม่ได้รักเขาเหมือนที่เขารักและเป็นห่วงอยู่ทุกวินาที ไม่มองเขาเป็นที่พึ่ง คิดแล้วอดน้อยใจไม่ได้จริงๆ

“คุณนำคะ ไปดูเธอหน่อยเถอะค่ะ ป้าล่ะเป็นห่วงเหลือเกิน”
“พูดอะไรไปเธอก็ทำเหมือนไม่ได้ยิน แค่หันมองหน้าป้า จะกระตุกปากยิ้มสักนิดยังไม่มีเลย โถ นี่คงเศร้ามากแน่ๆ นั่นก็พี่ชายคุณธามทั้งคนนี่คะ”

“ครับ ครับ นำรู้แล้ว เดี๋ยวนำดูแลเอง ป้าจูไปเถอะครับ”

“ค่ะ ค่ะ” พอเห็นเขาแข็งขันในการไปดูธามมากขึ้น ป้าจูก็กลับไปทำงานของตัวเองต่อ ผู้นำถอนหายใจและถอดความกลัวจะเสียใจที่ธามไม่เห็นคุณค่าออกจากใจ เขาเดินขึ้นบันไดหินจนไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องธาม

จำได้ว่าตอนที่พาไปซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ ของตกแต่งห้องธามดูมืดมิด อับ ปกปิดโลก ธามแต่งห้องเหมือนหลุมหลบภัย แต่เขาก็แก้แบบ ตัดนั่นเติมนี่จนมันกลายเป็นห้องนอนคนปกติ และธามก็นอนในห้องนี้ได้โดยไม่บ่นอะไร ไม่รู้ว่าไอ้ห้องหลุมหลบภัยจะกลับมาอวดตัวกับเขาอีกไหม

ก๊อก ก๊อก
“ธามครับ พี่นำเองนะ”
“ธาม พี่นำเข้าไปนะครับ” เขาบอกและบิดลูกบิด น้องไม่ได้ล๊อคประตู ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีมากๆ ผู้นำหยุดปลายเท้าอยู่ที่หน้าประตูห้องเท่านั้น เขายืนมองธามที่ยืนหันหลังพิงกระจกบานใหญ่ และสบตาเขาอยู่ไม่หลบไปไหน

“ตื่นแล้ว ทำไมไม่ทานเข้าล่ะครับ ป้าจูบอกว่าธามไม่ทานข้าวเลย”
“กลัวจะไม่ป่วยหรอ”

“...............”

“ธาม อยากเล่าอะไรให้พี่นำฟังมั้ย”

“ธามอยากหาหมอ”
“ธามคิดว่าธามจะเป็นบ้า”
อะไรกันล่ะทีนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยยอมรับว่าตัวเองป่วยเป็นโรคหวาดระแวง และเอนๆไปทางโรคซึมเศร้าด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้กลับบอกว่าตัวเองใกล้บ้า

“ไม่บ้าหรอกครับ ธามจะบ้าได้ยังไง”

“ก็ธาม ธามไม่อยากทำอะไรเลย”
“ธามอยากรู้ว่าทำไมแซนถึงทำแบบนั้น แต่แซนตอบอะไรไม่ได้แล้ว”
“นี่นะ ลองหลับดูเผื่อจะได้เจอแซนบ้าง รู้ใช่มั้ยนำ สัญญาณน่ะ โกส สปิริท วอทเอเวอร์ยูคอล”

คงหมายถึงวิญญาณล่ะมั้ง ผู้นำพยักหน้า ธามพองตาใส่แล้วพุ่งมาจับแขนเขาไว้ทันที

“นำทำได้มั้ย ให้ธามเจอแซนได้มั้ย”

“อยากเจอเขาทำไมครับ”

“ธามอยากถาม แซนตายเพราะธามรึเปล่า ธามเกี่ยวมั้ย แซนไม่ต้องตายก็ได้ ธามไม่มีอะไรเลย ธามตายง่ายกว่า”
“ไม่มีใครเป็นอะไรเพิ่มถ้าธามตาย”

“แล้วพี่นำล่ะครับ”
“ถ้าเป็นธามที่ตายไป หรือเป็นธามที่ตัดสินใจจากทุกคนไปแบบนั้น พี่นำจะอยู่ยังไง”

“พี่นำเสียใจเป็นนะครับ พี่นำร้องไห้ได้เหมือนกัน ทำไมไม่คิดแบบนี้บ้าง”
“เขาตายไปแล้ว ประโยชน์อะไรจะไปนึกถึงอีก ชีวิตธามต้องเดินไปข้างหน้าต่างหาก” สารภาพเลยว่าที่พ่นพูดไปนั่นเขาเห็นเต็มตาว่าธามดูช็อคแต่เขาก็ยังไม่หยุดพูด คงเป็นความรู้สึกน้อยใจ หึง หวง ไม่อยากให้ธามให้ความสำคัญกับใคร หรืออะไร มากกว่าเขา

“แต่ธามอยากรู้”

“ถ้าไม่รู้แล้วจะมีชีวิตไม่ได้เลยหรอธาม”
“ธามจะอยากรู้ไปทำไม ถ้าธามเป็นสาเหตุจริงๆ ธามแก้ไขอะไรได้หรอครับ”
“ปล่อยเขาไปได้แล้ว”
“อย่าให้พี่ต้องพูดเป็นครั้งที่ 2”

“ทำไมนำพูดครั้งที่ 2 ไม่ได้” ธามผละออกห่างจากเขา ซึ่งผู้นำก็ไม่ได้ขืนดึงตัวกลับมา เขามองน้องถอยหลังไปนั่งบนเตียง อารมณ์ของเขาตอนนี้ขุ่นมาก จากที่สงสารธามและน้อยใจธาม ดูเหมือนความน้อยใจมันจะพุ่งสูงกว่าใจฝั่งที่สงสารเสียแล้ว เขาไม่ชอบที่ตัวเองที่เป็นแบบนี้เลย

“เพราะถ้าพี่ต้องพูดครั้งที่ 2 นั่นแปลว่า พี่จะไม่พูดเรื่องนี้กับธามอีก”
“พี่ไม่พูดกับเด็กไม่รู้จักฟัง”

“ขู่สินะ”
“นำต้องช่วยธามไม่ใช่หรอ นำต้องช่วยกันหาคำตอบสิว่าแซนทำแบบนั้นทำไม”

“ไม่”
“มันเรื่องของเขา ปัญหาของเขา และวิธีแก้ปัญหาของเขาทั้งนั้น นายสุพิสุทธิ์ไม่เกี่ยวอะไรกับพี่”

“แต่นำเป็นหมอที่รักษาแซนอยู่นี่นะ”

“วันสุดท้ายที่เขามาหาพี่ ธามก็อยู่ เขาขอยา พี่ก็จัดให้ พี่บอกอาการเขา บอกวิธีคิด วิธีรักษาตัวให้หายจากโรค ซ้ำยังพี่ยังพารางวัลที่เขาจะได้รับไปให้เห็นต่อหน้า พี่ทำทุกอย่างที่ควรทำแล้วครับ แต่เขาเลือกทางนั้น เขาเลือกเอง”

“แล้วถ้ามีใครบังคับแซนล่ะ”
“แซนไม่ฆ่าตัวตายหรอก แซนไม่ชอบเจ็บ”

“รู้จักกันดีสินะ”

“ก็พี่ชายธามนี่”

เจ็บจี๊ดๆ มันเป็นแบบนี้นี่เอง
ยิ่งพูดเขาก็ยิ่งรู้สึกตัวเล็กลง นี่เขามีค่าน้อยกว่านายสุพิสุทธิ์หรอ ควรหาวิธีติดต่อกับวิญญาณดีมั้ย จะได้บอกข่าวดี เผื่อนายคนนั้นจะไปสู่สุขคติ

“แล้วรู้จักพี่บ้างรึเปล่า”
“หือ? ธามรู้จักพี่บ้างมั้ย”
“ทำไมพี่ต้องมายืนพูดเรื่องนี้อีก”
“พี่ชายตาย พี่เข้าใจว่าต้องเสียใจเป็นธรรมดา แต่ต้องเสียใจขนาดไม่กินข้าว ไม่พูดกับใคร ไม่ออกจากบ้านเลยหรอครับ”

“นำอยากให้ธามออกจากบ้านหรอ”

“ธามพูดไม่รู้เรื่อง”

“ก็นำพูดยาวๆ ธามไม่รู้เรื่อง”
“นำเป็นอะไร”

“พี่นำหึง”
“เลิกแสดงท่าทางว่าจะเป็นจะตายกับนายสุพิสุทธิ์สักที พี่รู้ว่าธามเสียใจ แต่เสียใจพอแล้ว”
“ถ้าทำไม่ได้ ถ้ายังจะเป็นจะตายอยากรู้สาเหตุอีก ก็ไปหาคำตอบเอาเอง”

“ไล่หรอ” อ่อนใจจริงๆ ใจอ่อนแล้วด้วยเหมือนกัน ผู้นำถอนหายใจ เขาเดินไปหาธามที่นั่งยกเข่าตัวเองมากอดไว้แล้วเอียงตัวลงนอน ก้อนกลมๆ ลี้หน้าไปซุกที่นอนเพื่อหนีมือเขาที่กำลังเอื้อมไปจับแก้ม

“อยากอยู่ไกลๆ พี่นำรึเปล่าล่ะ”

ส่ายหัว หรือถูหน้าเล่นกันแน่ มองไม่ค่อยออกเท่าไหร่

“ธาม ลุกขึ้น อาบน้ำแต่งตัว แล้วทานข้าวได้แล้ว”
“ไม่กินอะไรเลยแบบนี้อยู่ไม่ได้หรอกครับ”

“ธามดื่มน้ำ” ก็ยังจะเถียง สุดท้ายเขาก็จนปัญญา ผู้นำทิ้งความรู้สึกตัวเองไปก่อนและนั่งลงข้างๆ เขาลูบไหล่ธามไม่นานตัวดีก็พลิกมานอนหนุนตักกอดเอวเขาไว้

“นำหึงอะไร หึงคืออะไรนะ”
“ธามแค่ไม่เข้าใจ อยากรู้ว่าทำไมแซนต้องฆ่าตัวตาย”
“ถ้าเป็นเพราะธามจริงๆ ถ้าแซนตายเพราะธาม ธามจะทำอะไรได้บ้าง”

“ทำบุญครับ แต่เขาจะได้รับรึเปล่าเราไม่มีทางรู้หรอกธาม”
“พี่นำจะเข้าใจเอาว่า ที่ธามกำลังเป็นอยู่นี่ เพราะธามกลัวตัวเองจะมีความผิด ธามถึงพยายามหาคำตอบมาอธิบายการฆ่าตัวตายของเขา”
“แต่ธามฟังพี่นำนะ จะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับธาม มันก็เป็นการตัดสินใจของเขาเองทั้งนั้น”
“หลักฐานเชิงประจักษ์ก็ยืนยันแล้วว่าเขาฆ่าตัวตายจริงๆ เขาเจตนาตาย”
“เขาทำพินัยกรรมยกหุ้นให้ธาม ยกบ้าน ยกรถให้ธาม”
“ถ้าถามพี่ว่าเขาทำแบบนั้นทำไม พี่ก็เชื่อว่าเขาทำเพราะเขารู้สึกผิดกับธาม และเขาอยู่กับความผิดที่เคยทำกับธามแบบนั้นไม่ไหว เขาถึงชดเชยและตายจาก มันเป็นมรดกที่ราคาแพงมาก ส่วนเขาจะตั้งใจฝากแมสเสจถึงธามว่ายังไง พี่ไม่อยากสนใจ และพี่ก็ไม่อยากให้ธามสน”

“ธามไม่สน แต่ธาม ไม่อยากเป็นต้นเหตุให้แซนตาย”

“ดีครับ คิดแบบนี้ดีแล้ว ส่วนที่คิดต่อไปว่า ธามจะตายแทนง่ายกว่า นั่นหยุดคิดได้เลย พี่สั่ง”
“ความสัมพันธ์ของมนุษย์ทุกคน มีต้นกำเนิดและมีจุดจบ เราไม่ได้ผูกโยงกันด้วยด้ายสีแดงหรือบุญกรรมแต่ชาติปางไหน ถ้าธามอยากให้มันจบ ธามก็จบมันได้ด้วยตัวเอง หรือถ้าธามอยากเริ่ม ก็เริ่มได้ด้วยตัวเอง”
“ธามเลือกได้ ทุกคนเลือกได้หมด ทั้งรักใคร เกลียดใคร จำใคร ลืมใคร เราจงใจทำกันทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าเรายอมรับกับตัวเองได้รึเปล่าว่าจงใจเกลียด จงใจลืม ตั้งใจเอาเปรียบ”
“ใครๆ ก็อยากเป็นคนดีครับ แต่เวลาทำเลวไปแล้ว คนส่วนมากก็จะหาเหตุผลให้การกระทำของตัวเองดูสมเหตุสมผล ทำแล้วไม่ผิด ไม่เลว ทำบ่อยๆ เข้า หลักคิดและคำจำกัดความของความดีก็เอนเอียงเข้าหาความต้องการส่วนตน”
“อย่างพี่แซนของธาม เขารู้ว่าเขาเลว เขายอมรับกับตัวเองได้ในที่สุดแล้วที่ทำไปทั้งหมดก็เพราะรักธาม ใคร่ธาม ปรารถนาธาม เขาอ้างความเป็นพี่มาลดทอนความรู้สึกผิดชอบชั่วดี อ้างว่าทำเพราะห่วง จนในที่สุดก็อ้างความเจ็บป่วยของตัวเอง และเขาก็ถึงจุดที่ตระหนักรู้ว่าที่ผ่านมา เขาคิดบิดเบี้ยวไปมาก เขารู้สึกผิด เขามองหน้าใครบนโลกนี้ไม่ได้แล้ว แม้แต่พ่อตัวเอง แม้แต่ธาม เขาถึงขอจากไป”
“สิ่งที่ธามทำได้ในวันนี้ ก็คือใช้ชีวิตของธามซะ”
“ไม่ต้องผูกความรู้สึกกับเขา ไม่ต้องหาเหตุผลของการกระทำเขามากำหนดทิศทางการกระทำของธามเอง”
“พี่มองไม่เห็นประโยชน์อะไรจากการหาคำตอบที่ธามสงสัย”
“จริงๆ แล้วแค่พี่นำพูดว่าธามไม่ผิด ไม่เกี่ยวกับธามหรอกครับ ธามก็คงสบายใจขึ้น แต่พี่ไม่พูด เพราะพี่ไม่ได้คิดแบบนั้น”
“พี่เองก็ไม่รู้ว่าก่อนตายเขาคิดอะไร และทำไมถึงคิดสั้นแบบนั้น แต่สิ่งที่พี่นำทำได้ ก็คือดูแลธาม ให้ธามก้าวเดินต่อไปได้ อย่างมีความสุขที่สุด”

“...................” ตัวดีเงยหน้ามองเขาแต่ยังนอนคาตักเขาอยู่ ดวงตากลมดำขลับแต่เศร้าสนิทสบมองตาเขา เรามองกันเนิ่นนานกว่าธามก็ตะแคงหน้าหนีไปแต่ก็ยังนอนหนุนตักเขาอยู่ดี

“ธาม...เข้าใจแล้ว”
“เดี๋ยวจะกินข้าวย้อนหลัง ธามขอโทษ”
“แต่ตอนนี้กอดธามหน่อยได้มั้ย”

ขี้อ้อน เสียงสั่นแบบนี้ฟังดูก็รู้ว่าอยากร้องไห้
ผู้นำไม่รู้ว่าที่พูดไปยาวๆ นั่นธามทำความเข้าใจทันมั้ย แต่คิดว่าคงจะงงๆ เพราะเขาพูดรัวเร็วตามอารมณ์ตัวเอง แต่ก็ช่างมันเถอะ ไม่เข้าใจทั้งหมดก็ไม่เป็นไร แค่เข้าใจเมนไอเดียให้ได้ก็พอ

พี่นำรักและอยากให้ธามมีความสุข เท่านี้แหล่ะที่เขาพยายามบอกอยู่ตลอดเวลา

เขาดึงตัวธามขึ้นมานั่งคร่อมตัก ลูกนกจากไต้หวันซุกหน้าลงกับซอกคอเขา ผู้นำรู้สึกถึงน้ำอุ่นๆ จึงเดาว่าน้องร้องไห้
ไม่ร้องก็แปลก ธามคงตกใจที่จู่ๆ พี่ชายที่ทำท่าว่าจะกลับมาเป็นพี่ชายจริงๆ ก็มาฆ่าตัวตายหนี ไฟดวงสว่างๆ ที่มองหามานานมากและกำลังเดินเข้าใกล้เรื่อยๆ กลับดับวูบลง
วูบแรกก็คงอยากร้องแหกปากหาคนช่วย แต่กลับฉุกคิดได้ว่า หรือตัวเองจะเป็นสาเหตุให้ไฟดับ แล้วจะมีคนอื่นตกใจเหมือนตัวเองมั้ย กลัวไปสารพัด สุดท้ายก็จมตัวเองอยู่เงียบๆ อยู่กับความคิดที่วนเวียนไปมาอยู่กับปัญหาเดิมๆ

แต่พี่นำเปิดประตูเข้ามาแล้ว ธามเห็นมั้ย?
แสงอาจริบหรี่เพราะพี่นำไม่ได้เปิดไฟให้ธามเดินมาจ้องจมอยู่กับความสว่างเท่านั้น
พี่นำเปิดโลก เปิดฟ้า เปิดผ้าคลุมหัว
โลกนี้มีอะไรมากมายรอธามอยู่ แค่เปิดตา เปิดใจ กล้าเลือก กล้ามีความสุข
ธามแค่ต้องกล้าเท่านั้นเอง

แต่ตอนนี้พี่นำคิดว่าธามกล้าเกินไปนะครับ

“อะไรครับ”

“จูบหน่อยไม่ได้สินะ” ช่างบังคับเสียด้วย ผู้นำบี้ปากช่างพูดเล่นแล้วก็จูบตามที่อีกฝ่ายเรียกร้อง เขาระบายความรักลงบนกระดาษสีขาวที่มีจุดประสีน้ำตาลจางๆ กระจายอยู่โดยทั่ว

สีที่เขาเลือกแต่งแต้มกระดาษขาวกระดำกระด่าง ก็คือน้ำใสๆ ที่ไม่มีสีอะไรทั้งนั้น จุดประน้ำตาลเหล่านั้นยังคงอยู่ แต่เขาทำความสะอาดให้แล้ว

ธามเข้าใจความรักของพี่นำใช่มั้ยครับ?


-----------------

 

กว่าพี่นำจะพามางานศพแซน ก็วันก่อนเผาแล้ว พี่นำบอกว่าไม่รู้ว่าลุงพิสุทธิ์จะมีปฏิกิริยากับธามแบบไหน เลยไม่อยากให้ธามต้องมารองรับอารมณ์พ่อที่เพิ่งเสียลูกชายคนเดียวไป กลัวเขาจะโทษธาม และกลัวธามเชื่อเขาแล้วเฝ้าโทษตัวเอง

นำไม่รู้หรอก ธามเก่งขึ้นแล้ว เก่งขึ้นก็เพราะนำนั่นแหล่ะ
ลุงพิสุทธิ์ว่าอะไรธามก็ไม่สนทั้งนั้น พี่โป๊ะสอนไว้แล้วว่าถ้าโดนว่าให้ตอบกลับไปว่า “พ่อมึงสิ”

“ธาม ทางนี้ ถอดรองเท้าด้วยนะครับ” เขาหันตามเสียงเรียก ผู้คนมากมายอยู่ในห้องโถงวัด ธามลืมไปแล้วว่าเรียกว่าอะไรทั้งที่พี่นำเพิ่งบอกไปเมื่อกี้นี่เอง

“ดอกเดียวนะธาม” ไหนล่ะดอกไม้ ดึงเอาจากแจกันหรอ? ธามขมวดคิ้วเพราะไม่รู้เรื่อง แต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งยื่นธูปมาตรงหน้า กลิ่นควันลอยเข้าจมูกจนธามต้องจามออกมา

“ฮัดชิ้ว! ขอบคุณครับ” เขาก้มหน้าขอบคุณ รับสิ่งที่ถูกหยิบยื่นมาให้แล้วมองพี่นำ ธามก้มไหว้ตามที่พี่นำทำ แล้วก็ยื่นธูปพี่นำไปปักๆ รวมกับอันอื่น
 
“ทักลุงพิสุทธิ์รึยังครับธาม”

“..............” ธามชะงักไปเมื่อถูกถาม เขามองตามสายตาพี่นำถึงได้รู้ว่าคนที่ยื่นธูปให้ก็คือลุงพิสุทธิ์ ธามยกมือไหว้แล้วก็นิ่งเงียบ

“จริงๆ จะพามาตั้งแต่วันแรกๆ แล้วครับ”
“แต่...”

“ช่างเถอะ มาก็ดีแล้ว จะได้ให้มันจบๆไป”
“เดี๋ยวสวดเสร็จแล้วมาพบหน่อยนะ แซนฝากของไว้ให้”
“พรุ่งนี้วันเผา วันถัดไปลอยเถ้ากระดูก”
“ช่วยพาธามมาร่วมพิธีด้วย”

“ครับ” พี่นำรับคำ แล้วก็พาธามไปนั่งที่เก้าอี้ที่จัดเรียงไว้หลายแถว

“นำ”

“ครับ”

“ลุงพิสุทธิ์ให้ไปเจอทำไมหรอ”
“คงอยากให้ธามยกหุ้นคืนสินะ ใช่มั้ย เอาไปเถอะ ธามไม่เอา”

“พี่นำก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไรหรอก พี่จะอยู่ด้วย”

“อื้อ”

“ตอนนี้นั่งนิ่งๆ อย่ากระดิกขาครับ ไม่สุภาพ”
“พนมมือไว้ แต่ถ้าเมื่อยก็นั่งกุมมือตัวเองไว้ ไม่นานหรอก”

“โอเค” เขารับคำแล้วส่งยิ้มให้พี่นำมั่นใจว่าเรื่องง่ายๆ แค่นี้ธามทำได้ แต่ผ่านไปแค่ 5 นาที ธามก็เมื่อยจนต้องแอบยืดขา บิดตัว และก็ถูกพี่นำส่งสายตามาดุ ธามเลยต้องทนนั่งนิ่งต่ออีก 3 นาที แล้วก็บิดตัวแก้เมื่อยใหม่แม้ว่าจะถูกมองอีกหลายดุก็ตาม



เกือบ 2 ทุ่มแล้ว คนมาร่วมงานเริ่มไม่มีแล้ว ธามยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิม พี่นำออกไปโทรศัพท์ ส่วนลุงพิสุทธิ์ยังคงยืนรับไหว้คนมาร่วมงานอยู่ ธามคิดว่าอีกครู่เดียวก็คงต้องคุยกัน

เขาหันมองรูปพี่แซนที่ตั้งอยู่ตรงหัวมุม ธามไม่รู้ว่าทำไมถึงใช้รูปนี้ รูปที่แซนยิ้มนี้ไม่ควรมาเป็นตัวแทนของแซนที่ไม่อยู่ในโลกนี้อีกแล้วเลยจริงๆ
เจ็บมั้ย ทำไมถึงทำแบบนี้ แซนคิดอะไรอยู่ อยากเล่าให้ใครฟังมั้ย มันมืดมัวไปหมดใช่มั้ยแซน ไม่รู้จะออกทางไหน หันหลังกลับก็ไม่เจอทางเข้า
ไม่รู้ว่ามาถึงจุดที่มืดสนิทแบบนี้ได้ยังไง รู้เพียงว่ารอบกายไม่มีใครเลยจริงๆ
มันหนาวๆ กอดตัวเองทีก็ร้องไห้ที เป็นแบบนี้รึเปล่า
ตอนที่ธามเคว้งเพราะป้าจากไป ธามก็เป็นแบบนี้แหล่ะ
มือที่ช่วยธามไว้ ก็คือมือของลุงหมอ ถ้าลุงหมอไม่ติดต่อมา ธามคิดว่าธามก็คงมีจุดจบไม่ต่างจากแซนนัก

“ธาม” เขาสะดุ้งและผละสายตาจากรูปพี่แซนไปตามเสียงเรียก ลุงพิสุทธิ์ยืนเอามือไขว้หลัง ลุงมองหน้าธาม แล้วก็มองรูปพี่แซนสลับกัน ดูเหมือนลุงจะอยากร้องไห้ ถึงได้ก้มหน้าและนวดสันจมูกตัวเอง

“จะพูดเรื่องอะไร ครับ”

“แซนเขามีของไว้ให้ ควรรับไป อย่าให้เสียความตั้งใจแซน”

“ครับ” เขารับคำและยืนรอของที่ว่า แต่ธามยืนนิ่งอยู่นานมากกว่าลุงพิสุทธิ์จะขยับตัว ชายสูงวัยคนนี้ขยับเดินเข้ามาหาธามช้าๆ แม้ธามจะหวาดหวั่นอยู่บ้างแต่ธามก็ไม่คิดหนี

ธามจะไม่ให้แซนเสียความตั้งใจ


สิ่งที่พี่แซนฝากไว้ให้ ก็คือกอดอุ่นๆ หนักๆ และคำว่า “ขอโทษ”


ไม่เป็นไรแซน ได้ยินมั้ยแซน ไม่เป็นไร ธามไม่โกรธหรอก ก็เราเป็นพี่น้องกัน

“เรื่องหุ้นที่แซนเซ็นยกไว้ให้ เดียวจะให้ทนายจัดการก็แล้วกัน”
“เท่านี้แหล่ะ”  ลุงพิสุทธิ์ที่ตาแดงก่ำบอกกับธาม และผละออกไปทันที แต่ธามรีบคว้ามือไว้แล้วบอกความตั้งใจ

“ธามรับไว้ไม่ได้หรอก มันไม่ใช่ของธาม”
“ลุง....ดูแลต่อไปเถอะ”
“ธามไม่มีอะไรเกี่ยวกับพี่แซน ธามไม่เอาอะไรทั้งนั้น”
“ธามให้อภัยหมดเลย”
“มันจบแล้ว แซนกับธาม ไม่ติดค้างอะไรแล้ว”
“ลุง ก็ด้วย”

“แต่แซนตั้งใจไว้แล้ว”

“ธามไม่เอาแล้ว”
“ปล่อยธามเถอะครับ”


ธามคิดว่าลุงพิสุทธิ์น่าจะเข้าใจได้ ข้อผูกมัดเรื่องเงิน สมบัติ หุ้นในบริษัท และความรู้สึกต่างๆ ควรจบสิ้นลงเมื่อแซนจากไป
กับลุงเอง ธามก็ไม่เคยเกี่ยวด้วยแต่ต้นแล้ว ลุงเองก็ไม่อยากเกี่ยวกับธามเหมือนกันไม่ใช่หรอ


“แต่เราเหลือกันเท่านี้”

“ไม่เป็นไร ธามมีพี่นำแล้ว ธามอยู่ได้”
“ลุงเทคแคร์ตัวเองด้วย” ใจร้ายรึเปล่านะ ทำไมลุงพิสุทธิ์มองธามแปลกๆ

“ไม่เข้าใจหรอ”
“ธามเป็นนิมิตกานนท์คนเดียวที่เหลืออยู่ เป็นทายาท”

“..............”

“ไม่ว่ายังไง ธามก็เป็นนิมิตกานนท์”

“นิมิตกานนท์คืออะไรครับ”
“แค่นามสกุลไม่ใช่หรอ”
“ขอโทษที ธามก็แค่ธาม”
“ไม่ต้องมีนามสกุล ธามก็อยู่ได้”
“แล้วถ้าไม่มีนามสกุล คือไม่มีเงินของป้าวีณาด้วย ธามจะคืนให้ลุงหมดเลย”

“เจ้าธาม” เขาถอนหายใจ ทำไมอะไรๆ มันถึงได้วุ่นวายแบบนี้ ธามเป็นแค่ธามไม่ได้หรอ เขาชักสีหน้าใส่แต่กลับถูกดึงความสนใจไว้โดยพี่นำที่กำลังพุ่งมาหา

“มีอะไรรึเปล่าธาม”
“คุณพิสุทธิ์ ถ้ายังไงให้ทนายคุยกันก็ได้ครับ ธามยังเด็ก”

“ไม่ ไม่” ธามรีบพูดแทรกแล้วบอกความตั้งใจตัวเองก่อนที่พี่นำจะมาปกป้องเหมือนธามเป็นนกบินไม่เป็นเหมือนที่ผ่านมา
“ธามรู้เรื่องแล้ว บอกแล้วว่าไม่เอาที่แซนยกให้”
“ไม่เป็นนิมิตกานนท์ก็ได้ เงินป้าก็จะคืนให้หมด”
“ธามจะเป็นแค่ธาม”

พี่นำมองธามอึ้งๆ แต่แป๊บเดียวก็ยิ้มและพยักหน้ายอมรับ ลุงพิสุทธิ์ถอนหายใจแล้วยอมพยักหน้าเข้าใจ

“ไม่รับอะไรก็ไม่เป็นไร แต่ธามก็คือนิมิตกานนท์อยู่ดี”
“คงมีการเปลี่ยนโครงสร้างบริหารเล็กน้อย แต่จะดูแลในส่วนที่ธามถือหุ้นที่รับมาจากวีณาก็แล้วกัน”
“อาจจะขายหุ้นส่วนธามไปให้ผู้ถือหุ้นอื่นๆ มีมาขอซื้อไว้เหมือนกัน ลุงจะจัดการตามสมควรก็แล้วกัน”

“งั้นก็...ขอบคุณครับ” พี่นำพูดแทนให้แล้วยกมือไหว้ ธามก็เลยทำตาม ในที่สุดก็ได้กลับบ้านเสียที แต่ว่า คืนนี้กลับไม่สิ้นลงง่ายๆ เมื่อพี่นำบอกว่า “อาหลูของธามมาถึงไทยแล้วนะ พี่ติดต่อโรงแรมให้แล้ว รถโรงแรมไปรับ จะไปเจอเลย หรือจะเจอพรุ่งนี้ครับ”

“เจอเลย!”

“..........” พี่นำไม่ได้ขัดใจ และขับรถเงียบๆ พาธามไปยังโรงแรมที่อาหลูพักอยู่  แต่ธามก็รู้สึกได้ว่าภายใต้ความเงียบนี้ พี่นำมีบางอย่างซ่อนอยู่


-----------------


หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 23 14-08-14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 03-09-2014 20:30:07
รักเด็กพูดไม่รู้ฟังมันเป็นแบบนี้นี่เอง
ผู้นำเองก็ไม่ได้อยากงี่เง่า และเขาก็รู้เท่าทันตัวเองดีว่าเขากำลังอยากงี่เง่าเต็มแก่
เขาปล่อยธามลงที่หน้าโรงแรมย่านลุมพินี คิดแล้วก็หงุดหงิดตัวเองจนต้องมานั่งดื่มไวน์อยู่ในเลาจน์โรงแรม รอเวลารับธามกลับบ้านด้วยกัน ซึ่งเขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าธามจะกลับบ้านกับเขารึเปล่า เพราะตอนที่ลงจากรถเขาไปแล้ววิ่งไปหาอาหลูที่พุ่งออกมาหาที่หน้าโรงแรมพอดี ท่าทางช่างระรื่นเสียจนเขาหึงขึ้นมาจนได้

“ฮัลโหลโปร ว่างมั้ย ออกมาดื่มกัน”
“ผมหรอ มารอธาม”
“โน่นนนน เจอคนไต้หวันก็ลืมผมแล้วมั้ง” อดฟ้องเพื่อนไม่ได้แฮะ มือโปรหัวเราะมาทางโทรศัพท์ นี่ถ้ามันอยู่ใกล้มือก็คงมีต่อยซัก 2-3 ที แต่นี่อยู่แกร่วอยู่คนเดียว ชกลมก็กลัวพนักงานหาว่าบ้า
“สรุปออกมาได้มั้ย ธามคงยาวเลย เผลอๆ ก็ไม่กลับบ้าน”
“มาดื่มเป็นเพื่อนหน่อย”
“ไม่อยากกวนที่หนึ่ง มันเหนื่อย”
“มึงก็เหนื่อยแหล่ะผมรู้ แต่ผมก็กวนคุณไง ออกมา เร็วๆ!” ผู้นำวางสาย เขาถอนหายใจและขอไวน์เพิ่ม นั่งจิบอยู่คนเดียวร่วมครึ่งชั่วโมง มือโปรก็โผล่หน้ามาด้วยสภาพ....
“คุณ...โอเครึเปล่าวะโปร?”

“ไม่โอเค กูโดนหลอกกกก แหกตากูร่วมปี ไอ้เหี้ย!” สัตว์ใหญ่สายพันธ์เลื้อยคลานเอนตัวตรงหน้าเขาพอดี ผู้นำขำในลำคอ นึกสงสัยเหมือนกันว่าหน้าไหนกล้ามาหลอกมือโปรได้ แล้วนี่ไม่โดนเตะตายตาตีนไปแล้วหรอ เพื่อนเขาคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความโหดมาก แต่ช่างหัวปัญหาของมือโปรก่อน ตอนนี้เพื่อนต้องมาฟังเขาปรับทุกข์

“เอาไร สั่งดิ”
“คุณจ่ายนะ วันนี้ผมเซ็งกว่า”

“แหมๆ ไอ้หมอ หัวหมอเกินไปนะมึง มึงกลุ้มเองแดกเหล้าแดกไวน์เองก็จ่ายเองสิครับ” มันว่าเขาแต่ก็สั่งเครื่องดื่มให้ตัวเองตามที่เขาบอก ผู้นำรอให้เพื่อนได้ลิ้มแอลกอฮอลล์รสที่ชอบก่อนค่อยเกริ่น

“อาหลูมาไทย ธามก็เลยไม่สนใจผม”
“น้อยใจว่ะ หึงด้วย งี่เง่าเกินไปมั้ยวะ”

“มากว่ะ!”

“แต่ผมก็มีสิทธิ์งี่เง่ากับธามใช่มั้ย”

“ไม่ควรนะมึง”
“น้องมันเด็ก โคตรเด็ก แล้วนั่นก็ญาติเทียมไม่ใช่หรอ ที่มึงเคยบอกอ่ะว่าเขารักกันเหมือนพี่ชายน้องชาย”

“แต่ผมก็พี่ชาย ผมได้ธามแล้วด้วย ไอ้นั่นมันจะเป็นพี่ชายแบบที่ผมเป็นมั้ยวะ”

“พูดงี้มึงวอนไอ้ธามถีบปากมากไอ้หมอ”
“มึงต้องสนว่าธามรักใคร ไม่ใช่ใครรักธาม”
“และธามรักมึงไม่ใช่หรอ ควายยยยยยยยย”

“ก็ผมหึงนี่นา”
“ดื่มๆ” เขาไม่บ่นอะไรต่อ ใจคิดว่าผู้นำลำเอียงเข้าข้างธามเพราะธามทำงานได้ ใช้คล่องปาก พูดคุยเรื่องอื่นอยู่นานพอควรกว่าธามจะโทรหาเขา เพื่อบอกว่า “ธามค้างกับอาหลูนะ มีเรื่องคุยกันเยอะเลย”

บอกแล้วไงว่ารักเด็กพูดไม่รู้ฟังมันเจ็บปวด

กลายเป็นว่าธามติดอาหลูหนึบหนับ ถึงขั้นค้างอยู่กับอาหลูเป็นอาทิตย์ ไต้หวันพันธ์แท้นั่นก็เหลือเกิน เขาเคยส่งสัญญาณแล้วว่าเขาไม่โอเค โคตรของโคตรไม่โอเคที่ธามไปค้างกับมันเป็นอาทิตย์ แต่ก็ไม่เสือกกลับไต้หวันไปเสียที หรือไอ้นั่นมันจะมาอยู่ไทยถาวร ถ้าเป็นแบบนั้นเขาจะพาธามไปอยู่ขั้วโลกเหนือ เอาให้มันงมหาไม่เจอเลย!

ผู้นำหงุดหงิดเหมือนทุกๆ เช้าที่ผ่านมารอบอาทิตย์ ป้าจูเข้าหน้าเขาไม่ติด ซึ่งป้าคงประหลาดใจไม่น้อย เพราะตั้งแต่จำความได้ เขาไม่เคยอารมณ์เสียแล้วฟาดงวงฟาดงากับใครเลย เขาถูกสอนให้รู้เท่าทันอารมณ์และกลไกป้องกันทางจิตของตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ใช้อารมณ์นำสติตัวเอง กับเคสธามนี่เขาคุมตัวเองไม่อยู่จริงๆ

“คุณนำจะไม่ทานมื้อเช้าจริงๆ หรอคะ ป้าทำของโปรดคุณด้วยนะคะ”

“ไม่ครับ”

“แล้ววันนี้คุณธามกลับมานอนบ้านมั้ยคะ”

“นำไม่รู้หรอก ช่างเขาเถอะ เด็กเอาแต่ใจ ไม่คิดถึงใจคนอื่น”

“โถ อย่าว่าน้องสิคะ ก็คุณนำว่าอยู่กับเพื่อนจากไต้หวัน เธอคงคิดถึงของเธอแหล่ะค่ะ”

“ป้าจูครับ ขลุกกันอยู่เป็นอาทิตย์มันเกินคิดถึงแล้วมั้ย?”
“อย่าพูดเรื่องนี้กับนำอีก ถ้าป้าอยากรู้ว่าเด็กโปรดของป้าจะกลับบ้านเมื่อไหร่ก็ถามกันเองเถอะครับ”
“นำไม่ยุ่ง” เขาทำแก้มป่องๆ ด้วย โอยยย สติเขาหายไปไหนหมด อีคิวที่เคยมีมันถูกใครทำลายไปนะ

สุดท้ายก็ทนหงุดหงิดตัวเองไม่ไหว ผู้นำตัดสินใจโทรหาธามเพื่อถามคำตอบเรื่องกลับบ้าน และถามเรื่องอาหลูว่าเมื่อไหร่จะกลับไต้หวันไปเสียที

คำตอบที่ได้มันน่าหงุดหงิดจนเขาอยากตบหน้าตัวเองที่เสร่อโทรหาถาม น้องตอบเขาว่า

“นำ ธามว่าธามจะกลับไต้หวันพร้อมอาหลู”
“นำคิดดีใช่มั้ย”
“มีเรื่องเรียนคุยกับนำด้วย ธามอยากเรียนต่อ ธามอย...”


ไม่ฟังแล้ว ไม่สนแล้ว ผู้นำรู้สึกเหมือนเห็นควันพุ่งออกจากจมูกตัวเอง เขาเดือดดาลจริงๆ
เขาหึงมากๆ อยากทำอะไรสักอย่างเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของลูกนกไต้หวันตัวนี้มากๆ แต่เขาทำอะไรไม่ได้ ความเป็นพี่ชายที่ดีมันค้ำคอ

เขาอยากให้ธามใช้ชีวิต กล้าคิด กล้าตัดสินใจ น้องก็ทำแล้ว กล้ามากด้วยที่คิดจะไปอยู่ไกลตาเขาแบบนี้
เรื่องนี้ธามไม่ผิดเลยสักนิด เขาผิดเองที่หึง ผิดเองที่ไม่อยากห่าง ผิดเองที่อยากครอบครองธามไว้แต่เพียงผู้เดียวในโลก

นี่เขากำลังจะกลายเป็นนายสุพิสุทธิ์ช่างบังคับอย่างนั้นหรือ?
โอยยยยย เขาควรทำยังไงกับความคิดฟุ้งซ่านของตัวเองดี!!!




Tbc...


ตอนหน้า ความน่ารักของหมอนำกับน้องธามก็จบ(?) แล้วค่ะ

สัญญาาาาาาาาาาาาาาาาาาา  :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-09-2014 21:11:29
ปวดกระโหลกกับธามมาก ไม่เข้าใจอะไรซักอย่าง
สงสารนำจริงๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 03-09-2014 21:28:35
โถๆ พี่นำ น่าสงสารจริง :man1:
น้องยังเด็ก เข้าใจน้องหน่อยนะ แต่ตอนหน้าจบ ฮืออออ :hao5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Fluckiiz78 ที่ 03-09-2014 21:43:30
พี่หมอนำ ผู้น่าสงสาร

ธาม แกช่วยเข้าใจอะไรหน่อยได้ไหมมมม ว่าพี่ เค้า หึง หวง ห่วง มากเเต่ไหนนนนนนนน

พี่นำจะทำไงต่อไปเนี่ยยย น้องจะกลับไตหวันอ่ะ อยากรู้ๆๆ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 03-09-2014 22:06:48
โถน้องธาม ฟังพี่หมอด้วยสิ พี่หมอหึงใหญ่แล้วนะ
ส่วนคุณหมอคะ ธามยังเด็กน้า ไม่ค่อยเข้าใจภาษาไทยเท่าไรด้วย พยายามอธิบายหน่อยสิคะ
เฮ้ออออ ไม่รู้จะสงสารใครดีเลย เอาเป็นว่า เอาใจช่วยทั้งสองคนให้กลับมาเข้าใจกันเร็วๆนะ
ไหนๆตอนหน้าก็เป็นตอนจบแล้ว ขอแบบหวานๆหน่อยนะคะ อิ อิ
ปล.ควรมีตอนพิเศษนะคะ ขอแนะนำ อิชั้นจะรอนะ :bye2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 04-09-2014 12:20:44
ไม่ใช่พี่หมอยังหึงเลยอ่ะ555555555555
เฮ่อแอบสงสารแซน
ถ้าไม่คิดสั้นกลับตัวเป็นคนดีก็คงจะดี
ธามเอ้ยยยยยยยย เรียนที่ไทยก็ได้ม้างงง
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 04-09-2014 12:43:28
เวรกรรม  เฮ้อ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: DexTunG ที่ 04-09-2014 13:10:04
 :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: ka[ze]na ที่ 06-09-2014 14:44:43
งานเข้า!!!!! :katai1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ 27-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 20-09-2014 23:46:01
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 25


เมื่อความรู้สึกรักเกิดขึ้นแล้ว การหายไปของมันมักเกิดขึ้นยากกว่าเสมอ
เขาไม่ค่อยเชื่อตรรกะนี้เท่าไหร่เพราะเขาเชื่อในความสามารถในการควบคุมความรู้สึกตัวเอง เขาเรียนด้านจิตวิทยา เขาเป็นหมอโดยตรงด้านนี้ ดูแลผู้ป่วยมานักต่อนัก แต่วันนี้เพิ่งรู้ซึ้งถึงศักยภาพตัวเองว่า...เขาควบคุมความรู้สึกรักไม่ได้เลย

หากมันเป็นปัจจัยหลัก เป็นแกนโลก เป็นนิวเคลียสของจักรวาลแล้วล่ะก็...เขาก็คงเป็นเพียงธุลีในอวกาศเวิ้งว้างที่ไม่สามารถดิ้นหลุดจากแรงดึงดูดของมันได้

เขาแพ้หมดท่าจริงๆ

ผู้นำยืนกอดอกครุ่นคิดอยู่ที่หน้าประตูห้องนอนที่เปิดกว้างของธาม เขาไม่ก้าวล่วงเข้าไปแม้ว่าที่ที่ลึกกว่านี้ ใกล้กันกว่านี้ เขาก็ฝากร่องรอยไว้แล้วก็ตาม

“นำ ธามไม่เอานี่ไปนะ ที่ไต้หวันก็มี”

เขาไม่ตอบคำพูดลอยๆ นั้น ผู้นำทำเพียงแค่เก็บอาการไม่พอใจของตัวเองไว้เงียบๆ
เขาโตแล้ว เป็นผู้ใหญ่มาร่วม 10 ปีแล้ว เรื่องแค่นี้เขาควรเข้าใจ ธามเลือกไปเรียนต่อที่ประเทศไต้หวันเพราะมีข้อได้เปรียบได้ภาษาและหลักสูตรที่แข็งแรงกว่าระบบการศึกษาของประเทศไทย ธามไปใช้ชีวิต ไปเรียนรู้โลก ไปพัฒนาตัวเอง เหตุผลทุกอย่างดูดีไปเสียหมด แล้วเขาจะใช้เหตุผลที่ว่า “พี่ไม่อยากให้ไป” มาหักล้างเหตุผลหน้าตาหล่อเหลาพวกนั้นได้อย่างไร เขาทำไม่ลง

“นำไปหาบ่อยๆได้ไม่ใช่มั้ย”
“อื่อออ ได้ใช่มั้ย พูดถูกแล้วนะ”
“นำ นำ นำ!”

“ครับ” ผู้นำตอบรับเมื่อสติเริ่มกลับมารวมศูนย์อยู่ที่คนในห้อง เขาก้าวเข้ามาในห้องและเลือกหย่อนตัวเองที่โซฟาข้างเตียงแทน ธามนั่งท่าเดิมอยู่บนเตียง สายตามองเขาอย่างสงสัย สุดท้ายก็อดรนทนไม่ไหว ต้องถามที่มาของอาการ “ห่างเหิน” ของเขาจนได้

“นำเป็นอะไร ธามทำอันไหนที่ไม่ชอบสินะ ขอโทษหายเลยมั้ย”  เฮ้อออ ก็น่าแบบนี้เขาจะโกรธนานได้ยังไง ผู้นำยอมยิ้มแล้วส่ายหน้ายิ้มให้ เขาแกว่งสายตามองกระเป๋าเดินทางใบโตที่ธามสาละวนกับมันมาตั้งแต่เมื่อวาน

“รักไต้หวันมากเลยนะครับ” นี่ไม่ใช่การประชด แต่เป็นความพยายามเข้าใจในสิ่งที่ธามเลือกทำ หนุ่มรุ่นๆ ที่กอบกำหัวใจเขาไว้ทั้งดวงเพียงแค่ยิ้มอวดลักยิ้มแล้วตอบให้เขาชื่นใจชะมัด แน่นอนว่าความรู้สึกชื่นใจนี่เขาประชด ธามตอบยาวๆ ว่า “อื้มมมมม”

น่าตีที่สุด
ผู้นำยักไหล่พลางขยับมานั่งบนเตียงด้วย เขามองของในกระเป๋าเดินทาง หยิบนั่นนี่ดูบ้างแต่ก็คืนทุกสิ่งลงกระเป๋าเหมือนเดิม เว้นแต่กรอบรูปที่ธามรีบแย่งคืนเมื่อเห็นเขาถือมันไว้เหนียวหนึบ

“อันนี้ต้องมากับธาม”

“รูปเรานี่ครับ”

“เดี๋ยวจะคิดถึงไง อันนี้ต้องไปกับธาม”

“คิดถึงใครครับ อดีตหรอ?”

“คิดถึงนำไง” ไม่คิดว่าจะตอบตรงได้ขนาดนี้ ผู้นำอมยิ้ม เขาดึงกรอบรูปมาแนบอกแล้วถามอ้อนเพิ่ม

“รักพี่นำมากมั้ยครับ”

“มากสิ”

“มากแค่ไหน”

“อื่ออ มากไง”

“รักมากจนไม่ไปไต้หวันได้รึเปล่า”

“ไม่ได้” จบปึง! เขาเป่าปากแสดงอาการแง่งอน แต่ก็ยังนั่งบนเตียงธามเหมือนเดิม เด็กดื้อคนนี้หัวเราะเขาแผ่วเบาแต่ก็หยิบเสื้อผ้าใส่กระเป๋าต่ออย่างไม่จักเหน็ดเหนื่อย ไร้ซึ่งอาการอ้อยอิ่ง มุ่งมั่นเสียใจเขาอดรู้สึกไม่ได้ว่าสิ่งที่ธามรักมากกว่าเขา ก็คือการเป็นอิสระจากเขานั่นเอง

หรือว่าที่ที่หนึ่งกับมือโปรพูดจะเป็นเรื่องจริง
เด็ก...เบื่อง่าย
ที่หนึ่งกับเจม ห่างกัน 5 ปี เขายังได้ยินมันบ่นอยู่บ่อยๆ ว่าเจมเด็กเกินไป ไม่รู้จักโต มองโลกคนละมุมคนละองศากับมัน
มือโปรนี่ไม่ต้องพูดถึง แฟนแต่ละคนของเจ้านี่ไม่เคยใส่ยูนิฟอร์มอื่นนอกเหนือเครื่องแบบนักศึกษาทั้งที่อายุอานามมันก็เลข 3 ขึ้นต้นแล้ว
ธามกับเขา ห่างกันร่วม 10 ปี จะให้เข้าใจโลกมุมเดียวกัน รู้สึกต่อเรื่องเรื่องหนึ่งเหมือนกันย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
แต่ว่า .... เขาพยายามเข้าใจธามมาตลอด ตอนนี้เริ่มอยากทวงถามบ้างเหมือนกันว่าธามไม่เข้าใจพี่นำบ้างหรอ?


-กูว่านะ ปล้ำอีก ปล้ำให้ช้ำไปเลย เอาให้อยู่หมัดจะไม่ได้หนีมึงไปไง- การกระทำนี้ก็โหดไปนะมือโปร เขาทำไม่ลงหรอก จะเอ่ยรั้งด้วยวาจายังไม่กล้าเลย
-ผมว่าคุณพูดตรงๆ ดีกว่า- แผนนี้น่าสนนะที่หนึ่ง แต่ขอใส่ในวงเล็บว่าถ้าธามฟังเรื่องตรงๆ ของเขารู้เรื่องล่ะก็
แล้วเขาควรทำอย่างไรต่อไปดีในวินาทีที่คนที่เขารักกำลังเก็บกระเป๋าเพื่อโผบินไปอยู่ในที่ที่ไกลกัน ทั้งยังจัดกระเป๋าด้วยสีหน้าแช่มชื่นอีกต่างหาก

“อื้อนำ”

“ครับ”

“จะไปหาธามเมื่อไหร่ ไปเร็วๆ นะ”

“อยากให้พี่นำไปหาหรอครับ?” เปิดช่องแล้วใช่มั้ยเด็กน้อย ผู้นำพยายามหุบรอยยิ้มของตัวเอง แต่ไอ้มุมปากมันไม่ค่อยอยู่ใต้อาณัติเขาสักเท่าไหร่เลย

“อื้อ”

“งั้นก็ไม่ต้องไปสิครับ จะได้อยู่ใกล้กันตลอด”

“จะไป” จบปึง! มุมปากเขาควบคุมได้ดีกะทันหัน มันตกวูบแทบชิดคางเหมือนที่ใจเขาวูบไปอยู่ตาตุ่ม คงหมดหนทางต่อรองอะไรแล้วล่ะมั้ง

บางทีเขาอาจจะเรียกร้องมากเกินไปก็ได้
ความรักที่แท้จริงไม่ควรมีความหวงมาเจือปน
หากเขารักธามจริง ก็ต้องปล่อยธามไป ห่างกันไกลก็ใช่ว่าต้องเลิกกันเสียเมื่อไหร่ เขาควรมองโลกในแง่นี้สินะ เขานี่มันโลกสวยจริงๆ

โอเค เขาเข้าใจก็ได้

“พี่ช่วยนะครับ” ผู้นำช่วยธามจัดเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า เขาเดินไปกวาดหนังสือที่น้องซื้อไว้มากองบนเตียง เมื่อถามธามว่าจะเอาไปด้วยไหม น้องก็พยักหน้า เขาจึงเดินไปหากล่องใส่เพื่อให้ของแต่ละอย่างอยู่รวมกันเป็นหมวดหมู่มากขึ้น

-----------------

อาหลูพูดไว้ไม่ผิดเลย
นำไม่ได้รักธาม หรือแม้จะรัก ก็ไม่ได้มากพอจะทำทุกอย่างเพื่อให้เราได้อยู่ใกล้กัน
นี่ไง นำช่วยจัดกระเป๋าเดินทางด้วย
ธามถอนหายใจระหว่างมองพี่นำเดินออกจากห้องไปหากล่องมาใส่หนังสือให้ เขาขมวดคิ้วขัดใจ เมื่อหาที่ระบายออกไม่ได้ ธามก็โทรหาอาหลูทันที

“ธามเอง นำไม่รักธามเหมือนที่ยูบอกเลย” เขาขึ้นต้นประโยคอย่างตรงประเด็น ธามลุกจากเตียงรกๆ ไปยังระเบียงห้องและระบายทุกอย่างให้อาหลูฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ

เมื่อได้ระบายความรู้สึกธามก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่พอหันมาเจอพี่นำยืนจ้องอยู่หน้าห้องก็เลยต้องสนใจพี่นำก่อน แม้ว่าปลายสายอย่างอาหลูจะกำลังรอฟังเรื่องตลกที่ธามเล่าค้างไว้ก็ตาม

“นำ อะไรอีกหรอ”

“ไม่มีครับ”

ปัง!

ก็ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ แล้วปิดประตูเสียงดังใส่ธามทำไม

“ยู” เขาเรียกอาหลูเสียงเศร้า ปลายสายหยุดเสียงหัวเราะไว้ทันที อาหลูถามเขาด้วยภาษาจีนไต้หวันว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ธามพูดอพูดอะไรไม่ออกเลย นอกจากคำว่า “นำไม่อยากให้ไออยู่ที่นี่ ไอร้องไห้ได้รึเปล่า นี่อกหักใช่มั้ย”


-----------------

แทนที่จะได้ดูแลธามครั้งสุดท้าย พรุ่งนี้เช้าก็บินแล้วแต่เขากลับมานั่งกินเหล้าอยู่กับมือโปร เพื่อนถามเขาว่าจัดการปัญหาความรักได้รึยัง ตอบยังไงให้ไม่ดูงี่เง่าดี เขายังไม่ได้ลงมือแก้ปัญหาเลย รู้แค่ว่าต้นเหตุของปัญหาก็คือตัวเขาเอง

ผู้นำลองทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น ธามโตมาแบบหนึ่ง ธามมีช่วงเวลาที่เขาไม่ได้มีส่วนร่วม น้องเองก็มีช่วงเวลาที่เข้าไม่ถึงความรู้สึกของเขาเหมือนกัน

มันก็เหมือนกับคนรักกันทุกคู่
ไม่มีคนรักกันคู่ไหนเข้าใจกันมาตั้งแต่เกิด ไม่มีคู่ไหนที่ไม่มีช่องว่างระหว่างกลาง ทุกคนต่างมีเลิร์นนิ่งเคิร์ฟของชีวิตตัวเองทั้งนั้น ทำไมเขาถึงรับไม่ได้ รู้สึกไม่พอใจ และหึงหวงธามมากขนาดนี้ นี่เขากำลังป่วยรึเปล่า มันต้องมีทางแก้ปัญหาสิ เขาต้องคิดให้ออกว่าจะประคับประคองความสัมพันธ์ที่เข้าใจกันและกันเบี่ยงๆ แบบนี้ได้ยังไง

“คิดอะไรอยู่ไอ้หมอ”

“หรือว่าผมรักธามมากไป หรือว่าธามรักผมน้อยไป”
“จะทำยังไงให้เราเจอตรงกลางหรอโปร”

“อะไรวะ ฟังไม่รู้เรื่อง มึงเมาป่าวเนี่ย”

“กึ่มๆ” ผู้นำยอมรับแล้วลูบแก้มตัวเองที่รู้สึกร้อนวาบๆ

“มึงยังไม่ได้เคลียร์กับธามอีกหรอวะ? กูงงว่ะ พวกมึงโกรธกันเรื่องอะไร?”

นั่นสิ เขากับธามโกรธกันหรอ? ไม่น่าจะใช่ ใกล้เคียงที่สุดคงเป็น เขาไม่พอใจที่ธามให้ความสนิทสนมกับนายอาหลูนั่นจนเกินไป
แล้วอะไรที่เป็นมาตรวัดความใกล้ชิดเกินไป มาตรวัดนั่นก็คือเขาเอง
สรุปแล้วปัญหามันอยู่ที่เขาสินะ แต่จะให้เขาทำยังไงล่ะ ก็คนมันหึงนี่นา

“เอางี้นำ กูรู้ว่ามึงเก่ง มึงรักษาคนป่วยทางจิตมามาก แต่ตอนนี้มึงเลิกวิเคระห์ตัวเองด้วยปูมหลังห่าเหวนั่นเหอะว่ะ กลไกห่าเหวไรที่มึงพูดบ่อยๆ นั่นก็ด้วย ทิ้งๆ มันไปก่อน แล้วตอบกูแบบไม่ต้องฉุกคิดเลยนะ ภายใน 3 วินาที”

“อือๆ” เขาเออออตามนายมือโปร ด้วยหวังว่ามันจะมีวิธีหาคำตอบได้ดีกว่าวิธีเขา

“โอเค เริ่ม”
“แบงก์ 500 ใหม่สีอะไร ตอบ!”

“ม่วงสิสัด กี่รุ่นๆ ก็สีนี้อยู่แล้ว เล่นห่าอะไรเนี่ยโป๊ะ!” โธ่เอ้ย! คิดว่าจะช่วยอะไรได้ เขาผลักหน้าเพื่อนจนหงาย แต่มันก็เด้งกลับมาสู้ตากัน

“ทดสอบไงหมอ รอบนี้เอาจริงๆ แล้ว”
“ชอบอะไรในร่างกายธามมากที่สุด”

“หู”

“ธามน่ารักที่สุดเมื่อ”

“ยิ้ม”

“น่าฟัดที่สุดตอนที่”

“เพิ่งตื่น”

“น่าเตะที่สุดตอนที่”

“อยู่กับไอ้หลู”

“บิงโก!”
“มึงหึงไง แล้วมึงก็ทำห่าอะไรไอ้ตัวหึงนี่ไม่ได้ มึงก็หงุดหงิด แต่จะให้มึงบอกกับธามตรงๆ ว่ามึงหึงมึงทำไม่ได้ มันเสียฟอร์มหมอนำที่ต้องรู้จักควบคุมอะไรไปทุกความรู้สึก”
“ใช่มั้ย”

“อืมม น่าจะใช่”

“ไม่น่าจะหรอกไอ้หมอ มึงมันขี้หึง”
“แค่บอกน้องมันว่ารักมันชิบหาย ห่างจากมันจะต่ายห่า อยู่ไม่ได้ หายใจไม่สะดวก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ถึงหลับก็คงฝันว่ามันไปเสวยสุขกับไอ้หมาไต้หวันตัวนั้น พูดเท่านี้เองมึง”

“แต่มันดูไร้ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ แล้วก็ดูปล่อยอารมณ์เหนือเหตุผลนะโปร”
“น้องไปเรียน มันไม่มีอะไรเสียหาย”

“ควายยยยยย งั้นก็หึงอยู่ในซอกหลืบจักรวาลอยู่อย่างนี้หล่ะ กูไปแล้ว!”

“เดี๋ยวโป๊ะ!” ผู้นำรีบเหนี่ยวแขนเพื่อนไว้ก่อนจะถูกตีจาก
“กูทำได้หรอวะ”

“แล้วมึงเป็นมนุษย์รึเปล่านำ มึงไม่มีสัญชาตญาณดิบหรอวะ ความเถื่อน ฮอร์โมนที่พลุ้งพล่านเกิดกับมึงไม่ได้รึไง มึงคิดว่ามึงบวชอยู่หรอควายยยยยยยยยย!”

ก็จริง
ถ้าอย่างนั้น...เขาก็ควรเดินไปเคาะประตูห้องธามแล้วบอกว่า พี่หึง ก็คงจะไม่ผิดสินะ
เอาวะ ถ้ามันเป็นหนทางสุดท้าย...อีกทั้งวิธีการก็แสนง่าย พูด 2 คำเอง
พี่...หึง

-----------------

ตี 2 กว่าแล้ว ธามคงหลับไปแล้ว
ปลุกขึ้นมาฟัง 2 คำนั้นจะโดนเตะมั้ย รายนี้ยิ่งไม่ชอบให้กวนตอนที่หลับสนิทไปแล้วเสียด้วย
ผู้นำยืนลูบหน้าตัวเองอยู่หน้าห้องนอนน้องชายที่เขารักเกินจะปล่อยให้ห่างตัวห่างใจ เขารู้ตัวว่ากึ่มเหล้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ถึงกับสติหลุด ผู้นำรัวหลังมือกับประตูอีกชุดก็แว่วได้ยินเสียงกุกกักจากข้างใน
ธามเปิดประตูมาหาด้วยสีหน้างัวเงีย พอเห็นว่าเป็นเขา น้องก็พ่นลมหายใจใส่และเดินกลับเตียง

“เดี๋ยวธาม” เขารั้งแขนธามไว้แล้วดึงกลับมาที่หน้าประตูเหมือนเดิม พวกเขายืนพิงประตูอยู่คนละฟาก กอดอกแน่นและยืนไขว้ขาเหมือนกัน ต่างกันที่ธามอยู่ในชุดนอน กลิ่นแป้ง ส่วนเขาอยู่ในชุดที่มีรองเท้าหุ้มข้ออยู่ยังไม่ได้ถอด และกลิ่นเหล้า

“เหมาหรอ”

“เมาครับ พูดให้ถูก”

“คงไม่เหมา รู้ด้วยว่าพูดผิด” พูดแล้วก็ยิ้มให้ น้องยื่นจมูกมาดมหน้าเขาฟุดฟิด ผู้นำจึงฉวยจูบจาบจ้วง เชื้อเชิญให้ปากเล็กนิ่มยอมคลอเคลียด้วยอยู่นาน

“นำดื่มทำไม” เป็นคำถามปลายเปิดใช่มั้ยนะ? เขากัดริมฝีปากพลางก้มหน้า กลิ่นเหล้ายังอยู่แต่จางไปมากแล้ว เขาจะถือเอาความเมาเป็นที่ตั้งและฉวยโอกาสทำสิ่งที่ตอนสติไม่โดนน้ำเหล้าหล่อเลี้ยงไว้คงไม่ทำ

“พี่...ไม่ชอบใจนิดหน่อย”
“ก็ไม่นิดหน่อยหรอกครับ”
“จริงๆแล้ว...พี่หึง” 

ตัวดีกระพริบตาปริบๆ และยิ้มให้เขาส่งท้ายก่อนเดินกลับไปนอนที่เตียง อดคิดไม่ได้ว่าเมื่อกี้ธามแค่ละเมอ ผู้นำเดินตามไปยืนข้างเตียง เขาดึงมือธามมาจับไว้แล้วเอ่ยย้ำ

“หึงนะครับ”

“แล้วธามต้องทำยังไง”

“ทำให้พี่นำเลิกหึงได้มั้ยครับ”

“ทำยังไงล่ะ” ทั้งที่ยังนอนอยู่แต่น้ำเสียงกลับอ้อนจนเขาเข่าอ่อน ผู้นำนั่งลงบนเตียงพลางยิ้มบางๆ เขาปล่อยมือคนบนเตียงลงแล้ววางมือตัวเองประกบแก้ม 2 ฟากไว้ ธามอมยิ้มแต่รอบบนี้ไม่เห็นลักยิ้มเพราะมือเขาบังไว้

“ธาม อย่าให้อาหลูเขาเข้าใกล้ ได้มั้ยครับ”

“หืมมม” ค้านใหญ่ ผู้นำยังคงวางมือประกบแก้มธามไว้แบบนั้นระหว่างร้องขอเพิ่ม

“นะครับ พี่นำหึงจริงๆ  นอกจากพี่แล้ว ไม่อยากผู้ชายคนไหนอยู่ใกล้ธามอีก”
“ได้มั้ยครับ”

“ลุงเผือกล่ะ”

“โธ่! ธาม”

“นำหึงอาหลูหรอ?”
“โน โน! หลูกำลังจะแต่งงานแล้วจะไปอยู่ที่อเมริกา”

“ห๊ะ!” ผู้นำเข้าใจคำว่าสร่างเมากะทันหันก็ตอนนี้ เขาดึงมือตัวเองคืนมาแล้วดึงตัวธามให้ลุกขึ้นมานั่งคุยกันดีๆ ตัวยุ่งทำหน้างงๆ ท่าทางซีเรียสมากเสียด้วย

“นำหึงที่อาหลูจะแต่งงานหรอ”
“ธามจำที่พี่เจมเคยสอนได้นะ ธามรู้ว่าหึงคืออะไร”
“นำหึงอาหลูไม่ได้นะ นำรักอาหลูหรอ”

“ธามครับ ไปกันใหญ่แล้ว”
“พี่นำหึงธามต่างหาก”

“หึงทำไม ธามไม่ได้มีคนอื่นรักเลย”
“ธามรักนำไง”

สุดท้ายก็โดนเด็กสอน ผู้นำไม่พูดอะไรต่อ เขาขอให้ธามโทรหาอาหลูให้ที แต่เขาจะคุยเอง เมื่อได้คุยกับปลายสายโดยตรง เขาก็ถูกต่อว่าชุดใหญ่ กล่าวหาว่าไม่รักธามจริง ดูแลไม่ดี ทิ้งๆ ขว้างๆ ไม่จริงใจสารพัด แต่พอคุยกันแบบใจเย็นและรู้ว่าอาหลูกำลังจะแต่งงานแล้ว ผู้นำคิดว่าเขาคุยกับอาหลูรู้เรื่องแล้ว

“โอเค เอาเป็นว่าพี่ไม่หึงธามกับอาหลูแล้ว แต่เรื่องไปเรียนต่อ ยังไงก็จะไปหรอครับ”
“เรียนที่นี่ก็ได้ ภาคภาษาอังกฤษก็มี”

“ยูที่ไทเปดีกว่าที่ไทยแลนด์นะ” หยามหยันกันเกินไปนะครับ ถ้าจะเลือกยูด้วยระดับความน่าเชื่อถือด้านวิชาการ ก็ควรไปเรียนต่อที่ฝั่งตะวันตกไปเลย ไม่ใช่เอเชียด้วยกันแบบนี้ ผู้นำคิดว่าเหตุผลนี้ฟังไม่ขึ้น แต่ธามก็ไม่มีเหตุผลอื่นให้

“อยากอยู่ไกลจากพี่นำหรอ”

“จริงๆแล้วก็ ใช่นะ”
“ธามอยากโตกว่านี้ ดูแลตัวเองได้ ดูแลนำได้ด้วย”
“อยู่ที่ไทย นำก็ดูแลอยู่แบบนี้ ธามไม่ชอบทั้งหมดหรอกกนะ”

“แต่พี่หึงนี่ครับ”
“กลัวใครมาชอบ”

“คนชอบธามเยอะ สาวๆ ก็มี”
“แต่ธามรักนำคนเดียว ไม่สำคัญสินะ”

“สำคัญครับ สำคัญ” สกิลการสอนภาษาไทยของเจมคงดีเกินไปแล้ว เด็กคนนี้พูดจายอกย้อนเก่งแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ผู้นำดึงหน้าเด็กช่างย้อนมาจูบหน้าผากเบาๆ

“ถ้ายังไงก็จะไปอยู่ห่างจากพี่นำ”
“เราก็ต้องมาตั้งกฎร่วมกันหน่อยแล้วครับธาม”
“เดี๋ยวพี่นำไปอาบน้ำก่อนนะ เหนียวตัว แล้วมาตั้งกฎกัน”

“ธามอาบให้”
“นะ”

รู้ทั้งรู้ว่าอาบน้ำให้หมายถึงอะไร แต่ก็เอ่ยออกมาเอง ผู้นำยิ้มมุมปากพลางถอดเสื้อเตรียมตัวอาบน้ำ ตัวดีก็นั่งจ้องไม่วางตา เขาเลยถามให้รู้สึกอายเสียบ้าง

“ไหนๆ ก็ต้องอาบน้ำ ธามทำให้พี่นำเหนียวตัวกว่านี้หน่อยได้มั้ย”

“แน่นอนสิ” ตอบไม่คิดเลยมั้งแบบนี้ เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ แล้วโถมตัวใส่ธามจนน้องหงายหลังลงเตียงอีกหน



ธามของพี่นำโตขึ้นมากแล้วใช่มั้ยครับ
น้องธามดูแลตัวเองได้แน่นอนใช่มั้ย
ทั้งตัว ทั้งใจ ธามดูแลเองได้แน่นอนใช่มั้ยครับ




-----------------


ร่วมปีที่ใกล้ชิดกันทำให้เขารู้สึกตัวเอียงโหวงยามยืนอยู่คนเดียวในสนามบินโอ่อ่า ผู้นำยกมือเช็ดปลายจมูกตัวเองเบาๆ แล้วหันหลังกลับ เขายืนมองธามจนลับตาไปแล้วเมื่อ 30 นาทีที่แล้ว แต่ก็ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม จนกล้ามเนื้อขาเริ่มเมื่อยถึงได้ยอมย้ายตัวเอง แต่เขายังไม่ออกจากสนามบินแห่งนี้ ผู้นำเลือกนั่งเสียเวลาที่ร้านกาแฟก่อนเพื่อความแน่ใจ

เขาอยากแน่ใจว่าธามไปแล้วจริงๆ เอาให้ชัวร์เลยก็อยากรอจนกว่าเครื่องจะถึงสนามบินเถาหยวนที่ประเทศไต้หวัน แต่กลัวโดนพ่อด่าว่าประสาท เอาเป็นว่า ขอรอให้แน่ใจว่าเครื่องขึ้นอย่างปลอดภัยก็แล้ว

เขานึกย้อนถึงวันแรกที่ได้เจอกับน้องธามของพี่นำอีกครั้ง ภาพแรกที่พบกันไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไหร่ เพราะเด็กคนนี้ตาแข็ง หน้างอ ช่างเถียง ไม่ยอมพูดภาษาไทย แต่เมื่อมีหมวกใบใหม่ต้องสวม หมวกของผู้ดูแลธาม เขากลับรักเด็กคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น

แต่ทั้งที่รักแล้ว ทั้งที่รักกัน กลับต้องห่างกันอีกครั้ง ราวกับว่าเบื้องบนตัดสายพานของขวัญไว้เท่านี้ แต่โทษนะ เขาไม่เชื่ออะไรก็ตามที่พิสูจน์ไม่ได้เสียเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น เขาจะสร้างสายพานของเขาเอง

จิบกาแฟหมดแก้วแล้ว ผู้นำมองนาฬิกาและเดินออกมาดูบอร์ดไฟล์ท ไปแล้วจริงๆ สินะ เขายิ้มให้กำลังใจตัวเองเพื่อก้าวต่อไป

ถึงไม่ได้อยู่ใกล้กัน ความรักของเขาก็ยังเหนียวแน่น เขาเชื่อแบบนั้น



เช้าวันแรกที่ตื่นมาแล้วไม่มีธาม ยอมรับเลยว่าเหงา แต่เมลล์แรกที่ส่งเสียงแจ้งเตือนก็คือคนที่ทำให้เขาเหงานั่นแหล่ะ ผู้นำเปิดเมลล์อ่านแล้วยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตัวดีเมลล์มาบอกว่าถึงอย่างปลอดภัยแล้วแต่มาพักที่โรงแรมก่อน จากนี้ต่อไปก็จะไปยื่นเอกสารสมัครเรียนเอง หาคอนโดเอง เรื่องเงินไม่ต้องห่วง ธามรวยมาก

ฮ่าๆๆๆ มันตลกตรงนี้นี่แหล่ะ โอเค โอเคครับ พี่นำเชื่อว่าธามรวยมาก

มีรูปส่งมาด้วย แต่เป็นรูปเท้าระหว่างก้าวเดิน ให้มันได้แบบนี้สิธาม

เมลล์ยามเช้าทำให้เขาอารมณ์ดี จนเลยเถิดมากินเมื้อเที่ยงกับมือโปร ซึงมันก็เก่งกล้าพอจะนัดที่หนึ่งที่งานรัดตัวมากินข้าวด้วยกัน พิเศษตรงที่ มื้อนี้ที่หนึ่งฉายเดี่ยว ผู้นำอดสงสัยไม่ได้ว่าที่หนึ่งมันจะเดินตรงๆ เป็นรึเปล่า เมื่อคนที่เคยเดินข้างๆ กันไม่อยู่เป็นเงา แต่มันก็เดินท่าปกติ เขาคงคิดถึงธามมากไปจริงๆ

“ยิ้มอะไรวะไอ้หมอ” มือโปรถามขึ้นเมื่อเห็นเขาเงียบผิดปกติ ผู้นำยิ้มพลางสายหน้าปฏิเสธ แต่มือโปรก็ปากมากพอจะโพล่งเรื่องน่าอายฟ้องที่หนึ่ง

“อย่ากลบเกลื่อนเลย แล้วเมื่อคืนนี้ยังไงกัน คุยกันรู้เรื่องรึยังเรื่องที่หึงจนไม่อยากให้ธามมันไปเรียนต่อ”
“แล้วนี่น้องมันไปแล้วจริงๆ หรอวะ มึงโหวงๆ มั้ย”

“อื้อ ไปแล้ว”
“เรื่องหึงก็เคลียร์แล้ว กับอาหลูไม่มีอะไร เขากำลังจะแต่งงานแล้วไปอยู่อเมริกาด้วยซ้ำ ก็เลยมาลาธามที่นี่เพราะคิดว่าธามจะไม่กลับไปไต้หวันอีก”
“แต่ผมก็เรียนรู้เพิ่มนะ ว่าถ้าหึงก็แค่พูดอออกไป แล้วก็แก้ปัญหา”
“อ้ำอึ้งแล้วอึดอัด ผมกับธามเลยไม่ได้ลากันลึกซึ้งเลย”
“แต่ธามส่งเมลล์มาหาแล้วหล่ะ”

“อื้อ ผมว่าจะบอกเลย รักทางไกลมันไม่น่ากลัวหรอก คุณแค่ต้องหูตาไว แล้วก็ต้องแน่ใจว่ารอบตัวธามไม่มีใครเป็นภัยจริงๆ นอกนั้นก็วางใจได้”
“อีกอย่าง ที่นั่นก็บ้านธาม อย่างน้อยธามก็สื่อสารด้วยภาษานั้นมามากกว่า 10 ปี”
“อย่าห่วงเลยนำ ให้น้องไปเรียนรู้โลกตามเส้นทางที่เขาเลือกเถอะ”

“พูดเข้าท่า”
“ตอนเจมห่างไป คุณก็เป๋ไปร่วมเดือน ผมจำได้นะ” เขาย้อนที่หนึ่งกลับ มันเลยแย่งกุ้งที่เขากำลังจ่อช้อนไว้ไปต่อหน้าต่อตา มือโปรหัวเราะชอบใจที่เห็นเขากันเอง แต่แล้วมันก็หน้าบึ้งเมื่อเจอใครบางคน

“ผมไปก่อนนะ ไว้ค่อยคุยกันนะไอ้หมอ ไอ้หนึ่ง”

“อะไรวะ เออๆๆ” ที่หนึ่งเป็นคนอนุญาตเพราะผู้นำกำลังมองตามสายตามือโปรอยู่ เขารู้สึกตะหงิดๆ กับท่าทางของมือโปร แต่เวลานี้ กินข้าวสำคัญที่สุด

“แล้วจะไปหาธามเมื่อไหร่” เขาคงปิดอะไรเพื่อนคนนี้ไม่ได้จริงๆ ผู้นำละสายตาจากใครก็ไม่รู้กลับมามมองหน้าเพื่อนที่อมยิ้มรู้ทัน

“ก็...”

“คืนนี้?”

“อื้อ”

“โธ่เอ้ยยยยยยยยยยย!”
“ทำเป็นแอคคูล เข้าใจโลก คุณโคตรคลั่งรักมากกว่าผมอีกนะผู้นำ”

“ก็ผมรักของผมนี่”
“จะอยากอยู่ด้วยกันใกล้ๆ ก็ไม่แปลกหรอก”

“ไปอยู่กี่วัน”

“อาทิตย์นึง”

“คุณมีเวลาว่างขนาดนั้นหรอ เฮ้ย! บอกเคล็ดลับเคลียร์งานหน่อย”

“ก็สารพัดจะแลกมานั่นแหล่ะ แต่ที่ศูนย์เพิ่งมีหมอใหม่มา 2 คน วางใจได้ เลยหยุดได้”

“ไปทำอะไรตั้งอาทิตย์นึง”

ผู้นำเหล่มองคนถาม เขายักไหล่แล้วกวักมือเรียกหูเพื่อนมาฟังคำตอบใกล้ๆ


“ไปรักธาม”


หากสิ่งเดียวที่ผมทำได้ คือการรักษาไว้ซึ่งความรู้สึกเปราะบางของเขา…
ผมก็จะรักเขาให้มากที่สุด ยาวนานที่สุด จริงใจที่สุด เพื่อปกป้องหัวใจเปราะบางดวงนั้นไว้ตลอดกาล



The End


จบแล้วค่ะ
ขอบคุณมากสำหรับผู้ติดตามอ่านทุกท่าน
เรื่องนี้เหมือนเรื่องเงียบๆ เลยนะคะ เราอ่านทวนเองเรายังรู้สึกว่าเสียงภายนอกไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ปัจจัยแวดล้อมมีน้อยมาก ส่วนมากจะเป็นเสียงความคิดของพี่นำของน้องธาม ตอนแรกก็กลัวว่าจะเบื่อฟิคชั่นเงียบๆ แบบนี้กัน เอาเข้าจริงๆ ตอนนี้ก็รู้สึกกลัวว่าคนอ่านจะเบื่ออยู่แหล่ะค่ะ แต่เราก็ดั้นด้นเขียนออกมาจนจบตามที่ตั้งใจแล้ว ก็หวังว่าจะส่งต่อความคิดความรู้สึกของมุมความรักพี่นำและน้องธามได้ถึงผู้ติดตามทุกท่านนะคะ

ขอบคุณอีกครั้งค่า

เรื่องต่อไป (จะมีใครอยากอ่านอีกมั้ยเนี่ย)
แอบคิดไว้ว่าถึงเวลาของพี่โป๊ะแล้ว แต่ที่ผ่านมา 2 เรื่องเฮียเรทติ้งไม่ดีเลย ฮ่าๆๆ แต่ในหัวเรา (ซึ่งคงไม่มีใครเห็น) พี่โป๊ะตลกมากเลยนะคะ ถ้ามีคนอยากอ่านสัก 1-2 คน เราจะเขียนมุมของพี่โป๊ะออกมาบ้าง รับรองว่าต้องชอบเฮียแกไม่มากก็ไม่มี เอ้ย ไม่มากก็น้อยค่ะ

ขอบคุณอีกครั้งนะคะ ^_____________^
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: เจ้าหญิงขี้ลืม ที่ 21-09-2014 00:18:59
จบแล้วเหรอ สนุกมากๆ
รอเรื่องพี่โป๊ะนะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: quiicheh. ที่ 21-09-2014 00:38:49
จบแล้ว ภาษาไทยธามพัฒนามาก5555
ใครหนอคือผู้โชคร้ายของพี่โป๊ะ5555555
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: DoubleBass ที่ 21-09-2014 01:28:10
เราชอบนะคะ เป็นเรื่องราวที่ดีเลยค่ะ เป็นกำลังใจให้สำหรับเรื่องต่อไปน้า

ขอลงชื่ออยากอ่านเรื่องของพี่โป๊ะ 1 เสียงจ้า
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: BeeRY ที่ 21-09-2014 06:39:26
พี่นำขี้เก๊ก  :hao7:
รีบเรียนให้จบ รีบกลับมาอยู่ด้วยกันนะธาม :กอด1:
ลงชื่อรออ่านเรื่องเฮียโป๊ะค่ะ :impress2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-09-2014 07:21:13
อ๊ายยย จบแล้วหรออออ
ขอตอนพิเศษได้มั้ยคะ
พลีสสส
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: patchylove ที่ 21-09-2014 08:01:37
ผู้นำ ต้องย้ายไปอยู่กับธามแล้วแหละ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-09-2014 09:36:58
จบแล้ว แต่ทำไมเรายังรู้สึกหน่วงๆ สงสารแซนอยู่เลย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 21-09-2014 10:23:44
เราชอบนะค่ะอ่านแล้วสนุกดี

แต่เราได้มาเริ่มอ่านตอนใกล้จบ

ในส่วนของโป๊ะก็น่าติดตามเพระ

พี่แกดูกวนๆดีแต่อยากรู้ว่าใคร

จะมาปราบความเกรียนของพี่โป๊ะกัน

รอๆคร้าพาร์ทพี่โป๊ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Sillyfoolstupid ที่ 21-09-2014 16:27:46
แอบอ่านอยู่เงียบๆ จนจบ

แล้วจะตามไปเงียบที่เรื่องที่พี่โป๊ะด้วย ฮ่าๆๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 21-09-2014 17:56:46
 :pig4: :pig4: :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: paladin.kn ที่ 21-09-2014 18:07:15
อ่านแล้วรู้สึกว่าชีวิตเรานี่ขี้หมูขี้หมาไปเลย

ถ้าต้องเจอสภาวะแบบน้อง

ดีที่น้องมีพี่นำคอยเป็นที่พึ่งให้

แต่ยังรู้สึกหน่วงใจกับเรื่องแซน

สงสารแซนอ่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 21-09-2014 18:51:05
อิอิน่ารักอะ ทั้งพี่นำกับธามเลย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 21-09-2014 19:11:51
ติดตามตลอดแหละค่ะ ตั้งแต่คู่ที่หนึ่งกับเจมแล้วและก็หวังจะอ่านคู่ของคุณโป๊ะด้วยเช่นกัน ไม่ได้อ่านมาสองตอนเห็นอีกจบล่ะ ขอบคุณสำหรับเรื่องสฯุกๆเรื่องนี้จ้า
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: iforgive ที่ 21-09-2014 19:31:03
ไม่คิดจะรวมเล่มบ้างหรือคะ ชอบจัง ทั้งที่หนึ่ง ทั้งผู้นำเลย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 21-09-2014 20:36:42
เรื่องต่อไปเป็นโป๊ะสินะ 55555555
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Fluckiiz78 ที่ 22-09-2014 00:49:42
จบเเล้ว สนุกมากๆๆเลย
เขียนดีมากเลยๆๆเลยค่ะ

 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: BitterSweet~ ที่ 24-09-2014 02:20:01
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆ ค่ะ
อ่านแล้วก็รู้สึกสงสารทั้งธามและแซน
กว่าจะผ่านเรื่องราวต่างๆ มาได้
ต้องแลกกับอะไรหลายอย่าง
ตอนที่แซนฆ่าตัวตาย..
เราใจหายอ่ะ  :mew6:

รออ่านเรื่องพี่โป๊ะนะคะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: mm03 ที่ 30-09-2014 16:08:10
เปิดเจออีกที
จบแล้ว พี่นำกับหมาธามน่ารักมากๆ >,<
อ่านไปก็ลุ้นไป
ขำพี่นำที่มัวแต่คิดเป็นขั้นเป็นตอน จนต้องปรึกษาเพื่อนๆ ฮ่าๆ
ส่วนน้องธามน่ารักที่สุด โดยเฉพาะภาษาไทยแบบตัวเอง

รอมือโปรต่อนะคะ <3
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: ไอ้หัวแห้ว ที่ 01-10-2014 01:53:56
จบแล้ว

อยากอ่านตอนพิเศษ

 :hao7:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: pummy09 ที่ 14-10-2014 17:38:28
จบแล้ว เย่ๆๆๆๆๆ สนุกมากค่ะ
ตอนแรกอ่านๆๆ มา แอบกลัวจะต้องซดมาม่ากันแสบเลย 5555+

น้องธามน่ารักมาก ยิ่งน่ารักขึ้นตรงภาษาไทยไม่แข็งแรงอีกนี่ล่ะค่ะ ฮ่าาาาาา
ชอบค่ะ เข้าใจหามุก หาประเด็นให้ มันน่ารักดี  :-[

เรื่องต่อไปพี่โป๊ะเหรอคะ รอๆๆนะคะ อยากอ่านค่ะ พี่โป๊ะเรียกเรตติ้งได้มากมายเลย

ขอบคุณมากนะคะ ที่เขียนเรื่องน่ารักๆๆๆ ให้ได้อ่านกัน  :pig4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: มะเขือม่วง ที่ 14-10-2014 19:59:56
ธามน่าร๊ากกกกกกกกกก   :m1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Ysolip ที่ 18-10-2014 07:46:36
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:   ชอบเรื่องนี้ค่ะ
รู้สึกอยากให้มีต่อไปอีกนิดหน่อยคือความรู้สึกของตัวเองยังอยากอ่านต่อแม้เรื่องทั้งหมดจะจบลงด้วยดี
สงสารแซนนะคะไม่ชอบการจากลาอะไรแบบนี้เลย แต่มันจบก็คือจบค่ะ
พี่นำน้องธามน่ารักมากจนที่คิดว่าเนื้อเรื่องจะออกมาเครียดนี่ไม่เลยค่ะคิดถึงเวลาสองคนหวานกันอย่างเดียว
เรื่องนี้จบแล้วจะรออ่านตอนของพี่โป๊ะนะคะชอบฮีอยู่ไม่มากก็น้อยค่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 18-10-2014 12:22:58
ชอบเรื่องแบบนี้มากๆเลย ติดตามผลงานค่ะ อ่านตั้งแต่เรื่องเจมแล้ว ชอบมาก เรื่องนี้ก็ชอบ เป็นกำลังใจให้นะคะ (มีเรื่องอื่นอีกไหมน้อออ อยากให้มีแฟนเพจหรือทวิตเตอร์จัง -3-)
 :katai5: :ling1: :ling1: :hao5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Kanya97 ที่ 18-10-2014 14:15:53
ถ้าเขียนเรื่องมือโปรเราก็จะตามอ่านแน่นอนค่ะ (อยากให้มีเพจหรืออะไรสักอย่างจริงๆ นะ) เราจะรู้ได้ยังไงว่าเขียนเรื่องใหม่ต่อ ลงตอนใหม่เพิ่ม เราไม่ค่อยได้มานั่งติดตามเองอะ TT_TT  :ling1: :ling1: :ling1:
ถ้าแต่งมือโปรต่อจริงๆ เราอยากอ่านมากนะ ทวิตมาบอกเราได้มั้ย 55555 ขอมากไปมั้ยน้ออ  :katai1: :katai1: :katai1: :mew6: :mew6: :mew6:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: M_April ที่ 16-11-2014 22:05:23
อ่านที่เดียวจบ

น้องธามน่ารักมาก พี่นำอบอุ่นจริงๆ

เรื่องมือโปรขอแบบฮาๆ บางดีกว่านะ   :pigha2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: am_am ที่ 18-11-2014 17:32:09
น่ารักมากเลย อยากอ่านตอนพิเศษจัง
ลงชื่อรออ่านพี่โป๊ะด้วยคนจร้าาาาา  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: kautumn ที่ 18-12-2014 16:33:54
ตามมาจาก Hear me กำลังจะลงมืออ่านความรักของพี่นำ ต่อ น่าจะมีพี่หนึ่ง คะรึนะ กับ น้องเจม ตามมาใช่มิค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: real port ที่ 19-12-2014 07:21:48
พี่นำอบอุ่นสมกับเป็นหมอ หมาธามทั้งน่ารักและน่าสงสาร
ชีวิตที่ผ่านมาลำบากจริงๆ :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: mukmaoY ที่ 20-12-2014 01:51:36
น่ารัก ธามน่ารัก
แต่ทำไมไม่ค่อยรู้สึกถึงพลังแห่งรักจากธามเท่าของพี่นำเลย
แทนที่วัยรุ่นจะคลั่งรัก กลับเป็นตาลุงเสียแทน   :ling2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: cinpetals ที่ 22-12-2014 20:08:45
เราชอบแนวนี้นะ
ผช.อบอุ่นๆอย่างพี่นำ
มีเด็กดื้อๆพูดไม่ชัดมาให้ดูแล
ตลกเวลาธามพูด
แอบหน่วงที่สุดท้ายก้ไกลกัน
แต่แป๊บเดียวเดี๋ยวธามก้เรียนจบแล้ว เนอะ :L2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: litlittledragon ที่ 23-12-2014 21:19:04
สงสารครอบครัวธามจริงๆ ...
ขำพี่นำกับอาหลูจริงๆ ถ้าไม่ใช่ว่าอาหลูจะแต่งงาน จะบอกว่าน่าคู่กับโป๊ะมาก เพราะคงสร้างความป่วนให้พี่นำอย่างมากเลย ยิ่งถ้าแทคทีมกับละก็...
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: aoihimeko ที่ 25-12-2014 08:55:14
เรื่องนี้เราต้องครองสติในการอ่านอย่างยิ่ง

แต่เราก็ผ่านมันไปได้ เย้ๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Ningg.Destiny ที่ 26-12-2014 05:07:53
ในที่สุดเรื่องก็จบลงด้วยดี
อ่านบรรทัดสุดท้ายของตอนจบแล้วยิ้มออกเลย
พี่หมอนำคนหลงแฟน 5555555
น้องธามน่ารักมาก ภาษาไทยจากปากน้องคือฮา
ตอนน้องพูดคำว่ามานี่สะดุ้งตามพี่หมอเลย ฮ่าาาา
เป็นอีกเรื่องที่ลุ้นระทึก และประทับใจ ^^
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Nbear ที่ 29-12-2014 23:24:19
THANK YOU :)
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: BoJuNg ที่ 30-12-2014 12:43:51
ชอบแนวนี้มากกก

พระเอกอบอุ่น พ่อคุณทูนหัวของเดี๊ยน  ฮี่ๆ :L2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 25-01-2015 01:50:37
ตามมาจากเรื่องเฮียหนึ่งและน้องเจม อ่านแล้วชอบน่ะ แต่บทสรุปดูจะง่ายๆ ไปนิดนึงน่ะ และเรื่องนี้มันเหมือนจะอยู่แต่ในความคิดของธามซะส่วนใหญ่ ถ้าได้พาทั้งสองคนออกไปอยู่ในสภาพแวดล้อมภายนอกมากขึ้นเราว่าเรื่องราวน่าจะน่าสนใจมากขึ้นน่ะ
คนเขียน ๆ เกี่ยวกับความรู้สึกและอารมณ์เหงาได้ดีมาก ๆ เลยน่ะ ระหว่างสองเรื่องนี้เราชอบเรื่องเจมมากกว่าน่ะ เพราะเรื่องนั้นมีเรื่องภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทำให้อ่านแล้วได้อารมณ์หลากหลายและหลายมุมมองดีน่ะ ส่วนเรื่องนี้เราชอบช่วงต้นกับช่วงกลางแต่พอมาช่วงปลายเหมือนเรื่องมันจะดูแป๊ก ๆ ไปหน่อยน่ะ แต่โดยรวมก้อโอเคเลยจ้ะ
อยากอ่านเรื่องของโปรเหมือนกัน เพราะพี่แกกวน ๆ ดีน่ะ อยากรู้ว่าคู่ของแกจะเป็นแบบไหน ตอนแรกแอบฟินอาหลูไว้น่ะ เผื่อจะเป็นคู่กับแกน่ะ  :hao6:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 29-01-2015 23:28:58
หนูอ่านจบอีกเรื่องแล้วข่าาาา

โถๆๆๆ คุณพี่นำมาดเท่ของหนู พอเจอความรักเข้าไปจริงๆ นี่ถึงกับเป๋ไปมากๆๆ 5555 (แอบสะใจ เรื่องที่แล้วท่าเยอะค่ะ)

พี่โป๊ะนี่แบบเรื่องที่แล้วอย่างไม่ชอบเลย แต่เรื่องนี้ทำตัวมีประโยชน์ดีมาก 5555

น้องเจมที่มาแจมยังน่ารักสุดติ่งกระดิ่งแมว คือสงสัยว่าพี่นำใช้ส่วนไหนคิดเลือกน้องเจมมาเป็นครูสอนภาษาไทย แต่ก็ต้องยอมรับค่ะว่าคุณครูจำเป็นคนนี้สอนได้เด็ดทีเดียว เช่นว่า พี่โปรแม่งเหี้ย หรือว่าจัญไร น้องเจมน่าร๊ากกกก (ขำอยู่นานมากกว่าจะอ่านต่อได้)

เอาจริงๆ ตอนแรกปวดหัวกับภาษาของธามมาก แต่พออ่านไปอ่านมา อ่านเรื่อยๆ คือมันเป็นเสน่ห์ที่น่ารักของน้องเลย น้องน่ารักค่ะ น้องดูซนๆ แต่สดใสไม่เท่าน้องเจมส์ มีปมทางจิตวัยเด็กเหมือนกัน แต่คนละเรื่อง ซึ่งยอมรับเลยว่าเรื่องที่ธามเจอมันก็หนักมากๆ

ถ้าให้จำกัดความเรื่องนี้ด้วยสี หนูให้สีเทาค่ะ มันไม่เครียด แต่มันจะรู้สึกหม่นๆ แต่ชอบเวลาที่เราได้ไล่ตามหาปมที่เป็นต้นเหตุของความหม่นๆ นี้นะคะ

ขอบคุณมากค่าาาา ♡
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: sunakai ที่ 06-02-2015 19:57:19
วิ่งตามมาจากเรื่องของที่หนึ่งกับน้องเจม

หลังจากที่อ่านจบพบว่า...เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เกิดอาการ

 :mew1: อ๊อยยยย อิชั้นหลงเด็กดีของพี่นำจังเลย

ชอบวลี "ธามไม่ใช่!!" .... โอ๋ยๆๆ น่ารัก ทูนหัวของป้า!! มากินหนมบ้านป้ามั้ยลูก

นึกไม่ออกเลยว่าถ้าน้องธามไม่ไปเรียนต่อ ครูภาษาไทยส่วนตัวเค้าจะสอนคำอะไรให้น้องอีก

แค่คิดก็ฮาน้ำหมากกระจายเชี่ยนหมากกระเด็นแล้ว คึคึคึ

สำหรับเรื่องนี้ อยากจะก็อปปี้คำพูดมาจากเรื่องแรกว่า "รวมเล่มเถิดจะเกิดผล"

รอนะคะ ^^

ปล. กรอกใบสมัครเป็นแฟนคลับของคุณ kajidrid แล้วต้องเอาไปยื่นที่ไหนคะ  :L2:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: -west- ที่ 04-03-2015 02:23:17
ธามด่าทีไร หลุดขำออกมาทุกทีเลยค่ะ ยอมจริงๆ
สนุกมาก
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Bear Company ที่ 08-03-2015 00:10:25
เรื่องเหมือนจะหน่วงนะ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่ซ่อนอยู่ ที่สำคัญหลงรักเด็กพูดไม่รู้เรื่อง  :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Tsubamae ที่ 09-03-2015 23:49:21
หลงรักธาม น้องน่ารักอ่ะ เข้าใจพี่นำอยากให้น้องอยุ่ใกล้ๆตลอดเวลา
อยากอ่านเรื่องของโป๊ะค่ะ อยากให้คนๆนี้มีความรักจะได้เข้าใจความ
ลำบากของเพื่อนๆ 555 เชื่อว่าที่หนึ่งกับพี่นำต้องรอเวลานี้เช่นกัน โฮะๆ
พี่โป๊ะแกล้งคนอื่นไว้เยอะ ถึงคราวตัวเองบ้างล่ะ หัวเราะทีหลังดังกว่านะคระ
ครึครึ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: bew_yunjae ที่ 15-03-2015 12:51:36
อ่านจบแล้ว ชอบน้องธามมากกก
ฮาอ่ะ พูดภาษาไทยได้เพี้ยนแล้วฮาแบบน่ารักมากกก
ดีใจที่พี่นำคู่กะน้องธาม น่ารักจริงๆ
อ่านมาสองเรื่อง ทำไมต้องมีปมให้นายเอกเราโดนกระทำชำเราทั้งสองเลย
เรื่องพี่โป๊ะ กะน้องวินจะไม่โดนทำร้ายแบบนั้นใช่มั้ยคะ สงสารอ่ะ
สงสารสุดคงเป็นเจมนะ เพราะอีกฝ่ายคือเพื่อน มันแย่ยิ่งกว่าอีก
เอ้อออ จบเรื่องเครียด ฮ่าๆๆๆ
แต่ชอบน้องธามจริงๆน่ารักมากๆเลย
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 25 (ตอนจบ - 20-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: envylover ที่ 25-04-2015 18:52:35
ตามไล่อ่าน สนุกมากเลยค่า ออกดราม่า แต่ตัวละครน่ารักเหมือนเคยเลย รออ่านเรื่องพี่โป๊ะต่อค่ะ
หัวข้อ: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) Intro (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 05-05-2015 00:38:36
The Extension : ผู้นำ & ธาม ( The Existence Ep.2)
---------------------------
Intro




“ธามครับ”
“ธาม
“ธาม!”  จะเสียงดังทำไมกันเล่า! นำโวยไว ธามหันไปเหล่มองแล้วก็บุ้ยปากใส่ เขาไม่สนใจคนไม่นิสัยไม่ดีหรอก
“ธาม ยังพูดไม่รู้เรื่องเลย แล้วนั่นจะออกไปไหน ธาม ธาม”

“ไปอยากจะไป!” พูดเท่านี้ก็คงรู้เรื่อง ถึงธามพูดไม่รู้เรื่อง นำฟังแล้วก็ต้องรู้เรื่องสิ!

“น้องธาม”
“หมาธาม”
“มาพูดกับพี่นำให้รู้เรื่อง”
“ธาม! แล้วนั่นมันรองเท้าใส่อยู่ในบ้านนะครับ ธาม”
“กลับมา!” สั่งหรอ? ไม่ทำสั่งหรอกเว้ย! ธามโกรธนำมากสุดแล้วนะ!

เด็กหนุ่มหันไปมองคนที่ไว้ใจมากที่สุดในโลกอย่างตัดพ้อ เขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เรื่องนี้ควรหยุดเพียงเท่านี้ ถ้าธามหาความเข้าใจจากพี่นำไม่ได้ บ้านนี้ก็ไม่สมควรจะเป็นที่ที่ธามจะใช้ชีวิตอยู่อีกต่อไป! ธามจะไปอยากจะไป

เขาวิ่งหนีไปโบกแท็กซี่ ซึ่งก็ต้องลำบากวิ่งอยู่ครู่หนึ่งจึงจะมีแท็กซี่จอดรับ ทันทีที่มุดเข้ารถได้ ธามก็ปิดประตูและบอกจุดหมายปลายทางอย่างมั่นอกมั่นใจ

“อยากจะไปหาพี่เจมครับ”  ทั้งที่ก็บอกความต้องการตรงๆ แล้ว ทำไมไดรเวอร์ทำหน้างงใส่ อ้อ! ธามสะดุ้งตาโต จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาคุ้ยกระเป๋าสตางค์ หยิบนามบัตรพี่เจมมาส่งให้กับคนขับทันที

“ไปนี่แหละครับ!”


-----------------


เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ธามคิดว่าตัวเองเป็นพายุกลับชาติมาเกิดรึไง!
ผู้นำเดินดอกอกพลางบ่นเป็นหมีอดกินน้ำผึ้ง เขาถอนหายใจหลายต่อหลายครั้งเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ของตนเอง และเมื่อแน่ใจว่าสงบลงแล้ว เขาก็โทรหาเพื่อนสนิททันที

“ที่หนึ่ง ผมเอง”
“ติดต่อเจมให้หน่อยสิ บอกว่าธามอาจจะไปนะ  ฝากดูแลก่อนนะ ผมมีประชุมวิชาการ”
“มันไม่ใช่เรื่องผมไม่มีเวลา แต่มันเป็นเรื่องก็เพราะว่าธามไม่ยอมเข้าใจต่างหาก”
“ด่าผมคนเดียวได้ไง ธามก็ไม่รู้จักโตจริงๆ นี่!”  เขาตัดสายเมื่อเพื่อนโวยกลับมาว่า “ก็คุณเลือกแฟนเด็กเองนี่!” ที่ต้องตัดสายก็เพราะว่าหมดคำเถียง...เขาเลือกรักธามเองนี่นา แล้วทำไมธามไม่เข้าใจบ้างว่าพี่นำเลือกแล้ว ทำไมถึงต้องหึงอะไรไร้สาระอยู่ทุกวี่วัน!


ตกบ่าย เขาได้รับโทรศัพท์จากเจม ฟังจากน้ำเสียงเจมแล้ว เชื่อว่าธามคงไม่ได้ทำให้เจมลำบากลำบนอะไรนัก ที่หนึ่งก็ห่วงแฟน หวงแฟนเวอร์

“ขอบคุณที่ดูแลธามให้นะครับเจม”
“พี่ขอคุยกับธามหน่อยได้มั้ยครับ” ครั้งก่อนๆ ที่ทะเลาะกัน  พอธามเริ่มใจเย็นและยอมฟัง ‘คนจัญไร’ คนนี้แล้ว น้องก็ยอมให้เขาไปรับกลับบ้าน แต่ครั้งนี้ท่าทางจะหนักข้อ

“ขอโทษครับพี่นำ ธามไม่อยากคุย...เอ่อ กับใครก็ไม่อยากคุยเลย” เมื่อคำตอบออกมาเป็นแบบนี้  การเป็นคนจัญไรที่พูดข้อแก้ตัวไปเรื่อยๆ คงไม่ได้ผลเสียแล้ว ผู้นำยิ้มแม้ว่าจะสนทนากับเจมผ่านโทรศัพท์ เขาเอ่ยขอบคุณก่อนตัดสาย จากนั้นก็เก็บเอกสารออกจากห้องประชุม แม้ว่าอีก 5 นาที การประชุมรอบบ่ายจะเริ่มขึ้นและเขาก็เป็นผู้พูดหลักๆ แต่ใครจะสนการประชุมในหัวข้อจิตวิทยาการสื่อสารกับวัยรุ่น มากไปกว่าการสื่อสารกับแฟนเด็กที่แม้แต่นักจิตวิทยาเองก็สื่อสารด้วยไม่รู้เรื่อง

“เอ่อ....คุณหมอนำ จะไปไหนคะ การประชุมจะ....เริ่ม....” เธอค้างสีหน้าเมื่อสบตากับเขา อา...สีหน้าเขาคงจริงจังมาก และโมโหมากแน่ๆ แต่ก็ช่วยไม่ได้ ตอนนี้เขาคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้ว ธามจะดื้อเกินไปแล้ว!

ปัญหานี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่เลย
สิ่งเร้าที่ทำให้ธามไม่พอใจก็สิ่งเร้าเดิมทั้งนั้น
ผู้หญิงสวยๆ คนที่เขาพูดจาดีด้วย คนที่เขาดูแล คนที่เขาใส่ใจ
ก็นั่นคนไข้ คนมารับคำปรึกษา มันเป็นเรื่องของวิชาชีพ
คนที่เขาพูดดีด้วย ดูแล เอาใจใส่ เป็นห่วงเป็นใยโดยสันชาตญาณก็มีอยู่แค่คนเดียว

ชื่อ ธาม นิมิตตกานนท์

ทำไมหมาธามถึงไม่เข้าใจกันบ้าง!

Cut

ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
เรามันบ้าที่สุด!

อธิบายหน่อย เราก็อ่านกฎระเบียบไม่แตกฉานเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเป็นเรื่องเดียวกัน แต่เป็นภาค 2 / ภาคต่อ ก็น่าจะลงต่อกันไปเลยได้ ไม่ต้องตั้ง topic ใหม่ใช่มั้ยคะ?
อย่างที่บอกไว้เมื่อกี้ ว่าเป็นภาค 2 ไม่ใช่ตอนพิเศษแต่อย่างใด เพราะฉะนั้นก็รบกวนติดตามกันด้วยนะคะ หวังว่าจะยังไม่ลืมหมอนำกับน้องธามกัน
กลับมารอบนี้ จะหวานฉ่ำเต็มที่ ให้สมกับอารมณ์รักล้นของพี่หมอเชียวค่ะ

หัวข้อ: Re: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: hobazaki ที่ 05-05-2015 00:51:48
 :katai1:กรี๊ดดดดด น้องธามคิดถึงงง ยังพูดไทยไม่เก่งเหมือนเดิมเลยลูก 555555 จะรอตอนต่อไปนะคะ ดูสิพี่นำจะดูแลเด็กดื้อยังไง  :z13:
หัวข้อ: Re: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: saruwatari_guy ที่ 05-05-2015 01:04:28
อะโห แจ็คพ็อต ดีนะ ที่เปิดเข้ามาดู ร เลยคร้าบบบบคิดถึงหมาเจมด้วย
หัวข้อ: Re: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: stickyyrice ที่ 05-05-2015 01:39:35
มาตามจ้าาาา ชอบมากเรื่องนี้ หลงน้องธามสุดๆ คนอะไรพูดไทยหลงได้น่ารักสุดๆ. #TheExistenceBL
+1เป็นกำลังใจ พร้อมบวกเป็ด กอดดด.
หัวข้อ: Re: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: sunakai ที่ 05-05-2015 10:27:01
กี๊สสสส กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งเช่นกัน

ไม่คิดว่าจะลงเร็วขนาดนี้ กลับมาคราวนี้ดูทรงแล้วคุณหมอนำจะปวดหัวหนัก

เห็นทีต้องรีบทำให้น้องน้อยเข้าใจเร็วๆ ไม่งั้นอาจโดนพ่อ...เอ้ย! แฟนเจมงับหัวเอาได้

มีแฟนเด็กก็แบบนี้ล่ะนะ พี่หมอสู้ๆ น๊าาาา  :z2:
หัวข้อ: Re: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) Intro (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: milkteabeige ที่ 05-05-2015 10:54:02

“อยากจะไปหาพี่เจมครับ”  ทั้งที่ก็บอกความต้องการตรงๆ แล้ว ทำไมไดรเวอร์ทำหน้างงใส่ อ้อ! ธามสะดุ้งตาโต จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาคุ้ยกระเป๋าสตางค์ หยิบนามบัตรพี่เจมมาส่งให้กับคนขับทันที

“ไปนี่แหละครับ!”



ชอบตอนนี้ที่สุด น้องธามน่ารัก และน่าขำมาก
มีแฟนเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกายนะคะพี่หมอนำ

ขอหวานหยดๆ ค่ะ ขอให้น้องเจมมาแจมเยอะๆๆ
หัวข้อ: Re: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: mm03 ที่ 05-05-2015 14:00:03
เป็นกำลังใจให้พี่หมอนำสื่อสารกับแฟนเด็กให้เข้าใจนะคะ
สู้ๆ ค่ะพี่นำ
อิอิ
หัวข้อ: Re: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: kiyomaro ที่ 05-05-2015 18:07:44
รอ ร๊อ รอ ติดตามจ้าาา
หัวข้อ: Re: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: kawisara ที่ 09-05-2015 19:10:07
สนุกมากเลย น้องธามน่ารัก

พี่นำก็อบอุ่นแถมหล่ เป็นคุณหมอใจดี

คุณพ่อ หมอปันก็สุดยอดเก่งและใจดี

สุดท้าย สงสารพี่แซนจัง อุตส่าห์ คิดว่าพี่แซนจะได้กับพี่โป๊ะ แต่กลายเป็นพี่แซนตายอะ
หัวข้อ: Re: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: EverGreen™ ที่ 09-05-2015 23:22:33
โอ่ยยยยยยยย
หมาธามน่ารักอีกละ
ไอ้เด็กพูดไม่รู้เรื่องงงง  :laugh:
พี่นำหัวปั่นกว่าเดิมแน่ๆคราวนี้
หัวข้อ: Re: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: pigarea ที่ 10-05-2015 09:49:54
เราว่าขึ้นหัวใหม่เถอะค่ะ มันน่าจะดีกว่า
หัวข้อ: Re: The Extension : ผู้นำ & ธาม (The Existence Ep.2) (05/05/15)
เริ่มหัวข้อโดย: kajidrid ที่ 10-05-2015 23:38:01
ขออนุญาตลงเรื่องนี้ ที่ทอปปิคใหม่เลยนะคะ

ผู้นำ - ธาม ภาค 2 (http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=46790.msg3054597#msg3054597)
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: wookyu ที่ 10-06-2015 18:56:27
อ่านรวดเดียวจบเลย ยิ่งอ่านยิ่งชอบหมอนำ น้องธามก็นะ ไปอยู่ไกลพี่หมอทำไม
ขอบคุณมากนะคะสำหรับนิยายดีๆน่ารักๆแบบนี้
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: brookzaa ที่ 11-07-2015 19:35:18
สารถาพเลยว่าอ่านมาจนจนจบ หาอารมณ์มุ้งมิ้งไม่ได้เลย คือขมงวดคิ้วเป็นปมตลอดเรื่องเลย แบบเครียสอ่ะ สรุปว่ามาอ่านเอาบันเทิงคลายเครียดหรือมาเพิ่มความเครียดไม่รุ หวังว่าภาคสองจะมุ้งมิ้งไม่เครียดละนะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: มะปรางเปรี้ยว ที่ 01-08-2015 00:58:15
ขอบคุณนะคะสำหรับนิยายดีๆ  :กอด1: :pig4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: BoJuNg ที่ 02-08-2015 16:11:01
จะมีภาค 2 ไหมอ่าาาา :ling1:

ธามน่ารัก   ชอบคนที่มีปัญหาด้านภาษาอ่ะ  น่ารักน่าเอ็นดูมากๆ

 :กอด1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Forever_ever ที่ 24-08-2015 08:15:13
รอภาค. 2 เลยค่ะ น้องธามน่าจะน่ารักได้มากกว่านี้อีกเยอะเลย
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: M.J. ที่ 27-08-2015 13:48:23
หวานๆขมๆดีนะคะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Sye.B ที่ 29-08-2015 23:36:33
รอภาคสองนะคะ ชอบเรื่องนี้จังเลยค่ะ อ่านแล้วอยากได้พี่นำเป็นผู้ปกครอง สัญญาเลยว่าจะไม่ดื้อไม่ซน อีกอย่างเราอยากรู้อยากเห็นเรื่องมือโปรด้วยค่ะ ถ้านางกินเด็กอีกคนแก๊งค์นี้ก็เป็นอมตะกันหมดเลยค่ะคุณขาาาา~
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: NoteZapZa ที่ 04-10-2015 01:02:08
มีแฟนเด็กก็ต้องทำใจค่ะหมอนำ นี้อ่านรวดเดียวจะต่อภาค 2 แล้ว  หลงเด็กหมอนำ 555
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Raccoooon ที่ 02-01-2016 00:43:32
เพิ่งขุดเจอเรื่องนี้แงงงง
อ่านรวดเดียวจบ ข้ามปีเลยค่ะ555555555
ชอบภาษามาก บรรยายเก่งมาก
เป็นเรื่องแรกด้วยที่อ่านไทยแล้วต้องแปลไทยอีกที 555 เพราะภาษาน้องธามตลกมากกกก
เป็นร้อนครั้งที่เจอประโยคของธามแล้วต้องร้อง ห้ะ อยู่ในหัว5555

เรื่องนี้เป็นอะไรที่อุ่นมากสำหรับเรา เคลิ้มตามง่ายมาก
ธามยิ้มเราก็นิ้ม ธามกำลังตกอยู่ในอันตรายเราก็ห่วง รีบอ่านตอนต่อไปทันที555
ตอนธามรักพี่นำเราก็มีความสุขที่เห็นธามมีความสุข
อะไรจะขนาดนี้555555

สนุกมากค่ะ ขอบคุณที่เขียนเรื่องราวดีๆออกมา เพิ่งได้อ่านเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก
แล้วจะไปตามอ่านของคนอื่นๆด้วยนะคะ > <
 :L1: :L1: :L1: :pig4: :pig4: :L1: :L1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 17-01-2016 10:26:38
พี่นำกับน้องธาม ยังคุยกันไม่เข้าใจเหมือนเดิม  :m20: :m20:

:pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: LadySaiKim ที่ 19-01-2016 13:20:03
 :hao6: :hao6: :hao6: :hao6: :katai3: :katai3: :katai3: :katai3:
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Cloudnine ที่ 15-03-2016 22:51:00
น้องธามน่ารักมากๆ ชอบเวลาพูดเพี้ยนๆผิดๆ ตลกดี
พี่หมอนำก็ดีแสนดี
สงสารแซน เพราะรักมากเกินไป เลยทำให้เป็นแบบนี้  :katai1:
ตลกโป๊ะด้วยอีกคน ดูไม่ค่อยได้เรื่อง แต่เป็นตัวเพิ่มสีสันของเรื่อง :laugh:
รอติดตามภาค2นะคะ :o8:
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 17-03-2016 07:42:37
คือตอนแรกไม่เข้าใจธามจะไปไต้หวันทำไม ทำไมไม่อยู่กับผู้นำที่ไทยเรื่องจะได้จบแบบแฮปปี้ แต่พอรู้ว่ามีภาคต่อก็เข้าใจละ อืม

 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: yokibear ที่ 18-03-2016 00:47:21
หมอต้องเข้าใจนะ มีแฟนเด็กก็เงี้ย555555555
ธามน่ารักมากเลย น่าจับแก้มฟัดจริงๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: GAZESL ที่ 20-03-2016 16:18:46
น้องธามน่าเอ็นดู๊วววว :man1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.1(19-03-14)
เริ่มหัวข้อโดย: elfeleves ที่ 22-03-2016 16:27:54
Existence : ผู้นำ & ธาม

-----------------

ตอนที่ 17.1


“เด็กโง่”
“จะให้พี่ปล่อยคนที่พี่รักถูกรังแกอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทั้งตัว ทั้งความรู้สึก พี่นำอยากดูแลเอง”
“ขออนุญาตได้มั้ยครับ”


เออ คุณพี่ค่ะ จำได้ว่าตอนอยู่เมืองไทย น้องก็หนีเอาตัวรอดมาเอง ไม่ใช่เหรอค่ะ
สิ่งที่คุณพี่ทำก็แค่ เดินกระวนกระวาย อยู่หน้าประตูรั้ว รอน้องหนีออกมาเอง

สงสัยคุณพี่นำ จะไม่เคยฟังเพลง 1 วินาทีก็ช้าไป
ช้าไปแค่วิ บางที่พี่แซนอาจจะข่มขืนน้องไปแล้ว หรือ ช้าไปแค่วิ น้องอาจกลายเป็นฆาตกร แทงพี่แซนตาย

เป็นพ่อเป็นแม่ ใครจะกล้าไปฝากชีวิตลูกไว้กับคุณพี่
รู้ว่า การวู่ว่ามเป็นสิ่งไม่ดี รู้ว่าคุณพี่นำ เป็นคนใจเย็น มีเหตุผล ไม่ชอบการทะเลาวิวาท แต่แบบนี้มันเย็นเกินไปไหมค่ะ
รอได้จนข้ามคืน (ไม่รอธรรมดา มีการกินกาแฟรออีกต่างหาก สบายใจเกิ้นนนน)
กรณีพี่นำที่แสดงออก นี่ไม่ใช่การใจเย็น มีเหตุผลแล้วค่ะ มันเหมือนการนิ่งนอนใจ ไม่ทำอะไรสั่งอย่าง รู้ว่าน้องอาจอยู่ข้างใน เห็นรถที่ต้องสงสัยอยู่ กลับไปนั่งร้านกาแฟ จนรถที่เป็นความหวังในการตามหา ยังขับออกไปได้ ถ้าตอนนั้นเค้าเอาศพน้องยัดใส่รถไปทิ้ง พี่นำก็ยังคงไม่รู้เรื่องด้วยซ้ำ

การฆ่าคนมันใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีหนะค่ะ แค่เสียบหรือยิงปังเดียว ไม่เกินนาทีก็ตายแล้ว
ขอโทษด้วยหนะ ใส่อารมณ์มากไปหน่อย แต่ขัดใจคุณพี่นำเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: gakuen ที่ 22-03-2016 20:31:54
ปัก  :katai4: :katai5:
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: NUBTANG ที่ 08-04-2016 23:03:57
ตอนแรกคิดว่าแซนจะหายเสียอีก แต่จบแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน

ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีๆครับ
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: KKKwanGGG ที่ 09-10-2016 17:47:39
อ่านแล้วอบอุ่นมาก ๆ ธามน่ารัก ผู้นำอบอุ่นมาก แซนน่าสงสาร

ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Faiia ที่ 21-10-2016 20:41:55
เพิ่งเคยอ่าน สนุกมากๆเลยค่ะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Nayagirl86 ที่ 06-05-2017 23:53:29
ธามน่ารัก ถึงจะงงก็เถอะว่าที่ไปเรียนต่อแต่ลองใจหรืออย่างไปจริงๆ
จะติดตามภาค 2 ต่อค่ะ

สงสารแซน คนจบชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายนี่ต้องทุกข์มากแน่ๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: koikoi ที่ 09-05-2017 20:35:13
อึดอัด
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: FeaRes ที่ 26-09-2017 17:04:36
พี่นำกับธามน่ารักกกกก ชอบมากเลยค่ะ
สงสารแซม เราก็ชอบนางนิดๆนะ
ขอบคุณที่แต่งนะคะ!
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Chichi Yuki ที่ 27-10-2017 23:09:50
แล้วสรุปคดีของน้าณีคือยังไงคะ?
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: fayri1718 ที่ 07-01-2018 20:33:39
อยากอ่านคู่ของโปร ชื่อเรื่องอะไรคะ หรือว่าไม่ได้แต่งคะ อันนี้ถามดูนะคะ ชอบตั้งแต่เรื่องของที่หนึ่ง แล้วก็ตามต่อมาเรื่อยๆค่ะ ชอบพี่แต่งค่ะ ภาษาดี 5555555555
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: van16 ที่ 27-02-2018 11:31:37
เอ็นดูน้องธาม ภาษาไทยน้องน่ารักมาก  :laugh:
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: duckka ที่ 27-05-2018 15:54:41
ไม่รู้จะสงสารใครดี อยู่กันแบบไม่เข้าใจ
เหนื่อยแทนหมอนำ
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: sailom_orn ที่ 30-05-2018 10:55:50
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.1 (17/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-09-2018 02:28:21
กรี๊ดดด ว่าแล้วต้องเป็นแซน ฮือ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 8.2 (29/06/13)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-09-2018 02:43:32
ดูๆ ไปแซนก็น่าสงสารนะ อาจดูน่าสงสารมากกว่าธาม

แล้วที่เป็นหนักแบบนี้ก็เพราะพ่อไม่ยอมให้รักษา หรือพาไปรักษา

 :เฮ้อ: หวังว่าคงไม่มีม่าน้ำตาแตกนะคะ  :monkeysad:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 11 (21-09-13)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-09-2018 03:44:32
 :serius2: นำ! เอาแบบนี้เลยดิ  :ling1:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 17.2(15/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-09-2018 05:06:44
คงไม่โทษแซนละ โทษคนพ่อแทน คงห่วงแต่หน้าตาหรือยังไง

ถึงไม่ยอมพาลูกไปรักษา คงว่าและกดดันแซนมากแน่ๆ

ถึงได้เก็บกดและเป็นแบบนี้ เห้อ สงสารอะ
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 18(20/04/14)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-09-2018 05:25:54
สำหรับแซนนี่คือจะเรียกพ่อแม่รังแกฉันได้ไหมอะ  :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 23 (20-08-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-09-2018 06:06:51
โอ้ยยย งานน้ำตามา  :sad4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ตอนที่ 24 (03-09-14)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-09-2018 06:17:23
คือแบบตอนนี้อ่านไปซับน้ำตาไป  :sad4:
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Noname_memi ที่ 29-09-2018 06:24:15
ขอบคุณค่ะ :o12: ไม่ชอบความรู้สึกตอนที่อ่านตอนจบเลย
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Hyukrose ที่ 29-09-2018 18:03:12
พล็อตเรื่องและการดำเนินเรื่องดีอยู่นะคะ น้องธามน่ารัก เอ็นดูการใช้ภาษาไทยผิดๆถูกของน้อง เราเพิ่งเคยอ่านนิยายของไรท์เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก บางทีเราก็ไม่เข้าใจการใช้ภาษาของไรท์ บางทีไรท์ก็บรรยายแบบเรียงคำพูดไม่ถูกเหมือนน้องธามเลย เราต้องอ่านทวนหรือไม่ก็ปล่อยผ่านเพราะเหนื่อยจะตีความ หรือเราอาจจะไม่คุ้นสำนวนการเขียนแบบนี้นะ55
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Emmaline ที่ 01-10-2018 19:43:59
อ่านจบแล้ว สนุกมากๆค่ะ ตอนแซนตายก็ใจหายเหมือนกัน ขอให้ธามและพี่นำรักและเข้าใจกันมากๆ
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: skies ที่ 17-10-2018 00:49:33
ตอนแรกเดาว่าน้องน่าจะแกล้งไปไต้หวัน แต่จริง ๆ คือลองใจพี่เฉย ๆ ไม่ได้ขึ้นเครื่องไรงี้ แต่ไม่ใช่ ฮา
หัวข้อ: Re: The Existence : ผู้นำ & ธาม (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: allmysecret ที่ 23-10-2018 10:42:39
นิยายนี้มีเสน่ห์ตรงนายเอกพูดไม่รู้เรื่องและพระเอกมีเหตุผล มีระเบียบวินัย  ฮ่าๆๆๆๆๆๆ 
แต่แอบขัดใจตรงที่พระเอกไม่เป็นแบบพระเอกนิยายเรื่องอื่นๆนีสิ  ชอบค่ะ  เขียนออกมาเก่งมาก  อินเยอะเลย