Part 2: การตัดสินใจ
ร่างกายอ่อนล้า กระต่ายพยุงตัวขึ้นจากเตียงที่ยับเยินราวกับผ่านสงครามมา ร่างเล็กคลานลงจากเตียง พี่เสือทำความสะอาดร่างกายไว้ให้แล้ว แต่เขาก็ต้องเดินโซเซเข้าห้องน้ำ ชำระล้างร่างกายอีกครั้ง...
...เพราะถูกรักจนฟ้าสาง เสือจึงยอมหยุดแล้วไปมหาวิทยาลัย กระต่ายจึงต้องหยุดเรียนอีกครั้ง
ฝักบัวพ่นน้ำอุ่นออกมาให้ชวนสบายตัว กระต่ายต้องล้างข้างในอีกครั้ง ไม่ใช่เพราะคนรักปลดปล่อยแล้วทิ้งไป แต่เพราะที่ทิ้งไว้นั้นมากจนล้างออกไม่หมดในครั้งเดียว...
ของเหลวเหนียวหนืดไหลเยิ้มจากสะโพกตามแรงโน้มถ่วง ดวงตากลมล่องลอย... ปล่อยให้น้ำกามจำนวนมากที่คงค้างไหลทะลักจนท่วมต้นขาขาวเนียน
นี่คือประจักษ์พยานความรัก ความใคร่ของพี่ชาย หากเป็นผู้หญิงคงตั้งท้องภายในเวลาไม่นาน
เยอะ... จนล้น... จนบ้าคลั่ง...
ชั่วพริบตาหนึ่ง กระต่ายเผลอหลับฝันทั้งๆ ที่ยืนอยู่ใต้ฝักบัว...
น้ำรักเหนียวข้นกลายเป็นโคลนตม... ดึงรั้งสองขาจนขยับตัวไม่ได้ เสียงทุ้มคล้ายคำรามซ้ำไปมาดั่งคำสาป
'พี่เสือรักต่ายน้อย'
'พี่เสือรักต่ายน้อย'กระต่ายสวมเสื้อผ้าหลวมๆ ออกจากห้องน้ำ ส่วนล่างยังระคัดระคาย เขาได้แต่หวังว่ามันคงไม่ระบมจนนั่งไม่ได้หรือ บวมจนไม่อาจรองรับความรักของคนรักในตอนค่ำได้อีก
กาแฟบนโต๊ะเย็นชืด พี่ชายดื่มทิ้งไว้ กระต่ายหยิบขึ้นมาประคองด้วยสองมือ ลิ้นเล็กแอบจิบเบาๆ รสสัมผัสของกาแฟช่างขม... จนเผลอกัดลิ้นตัวเอง ร่างเล็กสะดุ้งเฮือก น้ำตาคลอเบ้า
เจ็บ...ดวงตากลมโตเหม่อลอยว่างเปล่า ความขมและเจ็บติดอยู่ปลายลิ้น แต่เหมือนเป็นสิ่งที่ย้ำเตือนให้ร่างกายไม่หลุดลอยไปไหน
สัมผัสหวานล้ำ... ยังแทรกอยู่ทุกอณูร่างกาย ทุกชิ้นส่วนในร่างราวกับได้ถูกโอบกอดไว้ตลอดเวลา... แม้คัดเคือง เจ็บระบม แต่ก็เจือความรัก ความใคร่ กระต่ายกอดตัวเองไว้ ให้ทุกสัมผัสฝังลึกลงในร่างกาย ให้เสียงทุ้มดังในหู ในสมอง... ในวิญญาณ
'พี่เสือรักต่ายน้อย'
'พี่เสือรักต่ายน้อย'ดวงตาคมสบตรง ความมั่นคงชวนให้อุ่นใจ กระต่ายจดจำไรหนวด ริมฝีปาก ใบหู เส้นผม หน้าผาก... ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นได้
คนคนหนึ่งต้องการอะไรมากไปกว่านี้ ?
มากไปกว่าคนคนหนึ่งที่รักไปจนตาย ?แต่แล้วในห้วงความคิดความแสนอบอุ่น หวานฉ่ำกลับมีเสียงกระเส่าน่าละอายของตัวเองแทรกสอด ไม่มีคำใดหลุดออกจากปากเขาเลย ในหูมีเพียงคำบอกรักซ้ำไปซ้ำมา
แม้ยามพยายามจะพูด แต่ร่างกายที่ถูกสั่งสอนให้เคยชินให้รองรับความใคร่ของบุรุษก็ทรยศ มันเรียกร้อง... ต้องการ... เสียงที่หลุดออกไป ไม่ได้เป็นไปมากกว่าเสียงครางหวานเพื่อเติมเต็มความปรารถนาของคนรัก...
เสียงเดียวที่ชัดเจนคือ...
'พี่เสือรักต่ายน้อย' ร่างกายสั่นสะท้าน... ความขมปร่าจากกาแฟแล่นตรงถึงสมองอีกครั้งพร้อมๆ กับความเจ็บปลายลิ้นและช่องทาง
กระต่ายไม่ได้พูดคำใดเลย... นอกจากฟัง... ทุกคำรัก ทุกคำสั่ง... อย่างแสนรักและภักดี
'กระต่ายอย่าลืมไปติว...'
'ครางเพราะๆ ให้พี่หน่อย'
'ห้ามไป!'
'มันเป็นใคร ?'
'อย่าไปไหน!'
'ปีหน้าไปเรียนด้วยกันนะ'
'เมียพี่...'
'ถ้ากระต่ายท้องได้... ก็ดีนะ'
'อย่าไปไหน! ห้ามไปไหนทั้งสิ้น! ต่ายน้อยต้องอยู่บ้าน เป็นเมียพี่!'ทุกคำ ทุกประโยควนเวียนกลับเข้ามาอีกครั้ง ร่างเล็กสั่นสะท้านไม่หยุด ดวงตาปิดแน่นราวกับจะหลีกหนีอะไรบางอย่าง
'พี่เสือรักต่ายน้อย'เสียงหวาน... ไม่ต่างจากขนมหวาน...
ร่างกายพึงพอใจ... หัวใจพองฟู... แต่ในสมอง... ส่วนลึกที่เขาละเลย... ตั้งใจจะละเลยกรีดร้องอย่างเงียบงัน
ฟันขาวขบเม้ม หยาดน้ำใสเอ่อท่วม ลมหายใจหอบกระชั้นค่อยๆ สงบลง แล้วหยัดกายลงจากเก้าอี้ เปิดแลปทอปสีขาวของตัวเอง
แม้มีหยาดน้ำอาบแก้ม แต่ดวงตากลับแวววาว มือค่อยๆ เลื่อนบนแผ่นสัมผัสช้าๆ เปิดไฟล์หนึ่งขึ้นมา
อกบางพองด้วยอากาศก่อนผ่อนลง...
ปลายนิ้วเรียวแตะลงแป้นพิมพ์อย่างหนักแน่น
'Backspace'ซองจดหมายยาวสีขาวส่งมาถึงบ้านของเด็กหญิงเมมฟิสในบ่ายวันหนึ่ง เธอเขย่งเท้าล้วงเอาจดหมายออกมาแล้วยื่นให้พี่ชาย
"พี่ซอรึเปล่า ?" เมื่ออยู่กันเพียงสองพี่น้อง เมมฟิสและไคโรสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ
พี่ชายถอดแว่นกันแดดออก ลงจากรถมอเตอร์ไซค์คันโตหยิบซองจดหมายมาดู น้องสาวเขย่งเท้ายื่นหน้ามาอ่านด้วย
"เอ๊ะ ?"
"หืม ?"
สองพี่น้องคนละสายเลือดและเผ่าพันธุ์อุทานพร้อมกัน ก่อนน้องสาวผิวดำมะเมื่อมด้วยเชื้อสายนิโกรเงยหน้ามองพี่ชายเชื้อสายอาหรับ
"เอาไงดี ?"
"เปิดอ่านดีไหม ?"
คิ้วคมขมวดมุ่น ก่อนส่ายหน้า "โทรเรียกเจ้าของเถอะ"
เมมฟิสถอนหายใจเหมือนผู้ใหญ่ เธอยื่นกระเป๋าสะพายให้พี่ชายถือแล้วหยิบโทรศัพท์กดเบอร์หาเจ้าของซองจดหมาย
"ฮัลโหล พี่ต่าย ?"
สองพี่น้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ตะโกนบอกคุณตาที่ทำสวนอยู่หน้าบ้านว่าจะออกไปหาเพื่อน แล้วกระโดดขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ บึ่งไปยังร้านกาแฟแห่งหนึ่ง
ใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมง สองพี่น้องก็มาถึงร้านกาแฟใกล้มหาวิทยาลัย ใกล้ๆ กันมีศูนย์ติวหลายแห่ง เมมฟิสกระโดดลงจากรถก่อน แล้ววิ่งปร๋อเข้าร้าน
คนที่นัดนั่งอยู่มุมในสุดของร้าน บนโต๊ะกระจกเบื้องหน้ามีกาแฟสีอ่อนวางอยู่ ร่างกายเล็กเหมือนเด็กประถมขยับออกมาจากโซฟา ดวงตากลม ใบหน้าเพรียวรูปไข่ แก้มกลมยุ้ย ริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มยิ่งทำให้ดูเหมือนตุ๊กตาของเด็กน้อย
"พี่ต่าย! ว้าววว" เมมฟิสร้องทักแล้วส่งเสียงดัง "แต่งตัวน่ารักจัง"
รุ่นพี่เจ้าของจดหมายอยู่ในชุดเอี๊ยมยีนส์ตัวเล็ก สวมทับเสื้อแขนยาวลายขวางสีหวาน เขาส่งยิ้มน้อยๆ ให้ "อืม พี่เสือเลือกให้น่ะ"
เหมือนเด็กหญิงคิดไปเองที่รอยยิ้มนั้นดูแปลก... เหมือนมีอะไรเปลี่ยนแปลงไป
"พี่ต่าย" ไคโรเดินตามมา "มีจดหมายมาส่งที่บ้านน่ะ"
"อืม" มือบางรับซองจดหมายมา แล้วพักไว้บนตัก สองพี่น้องเลิกคิ้ว
เมมฟิสมองแก้วกาแฟเย็นและใบหน้าหวาน อ่อนเยาว์สลับกัน "พี่ต่าย ? จดหมายจากสถาบันใช่ไหม ?"
"อืม ขอบคุณมากนะ พี่ไม่นึกว่าจะส่งมาเร็วขนาดนี้ เลยไม่ได้บอกไว้ก่อน"
ไคโรคว้าแก้วกาแฟเย็นที่เหลือเพียงครึ่งเดียวมาดื่มต่ออย่างไม่ใส่ใจมารยาท "....ไม่ยักรู้ว่าพี่ต่ายกินกาแฟ"
"เพิ่งหัดน่ะ" ร่างเล็กลูบจดหมายเล่นอย่างใจลอย "ปกติพี่เสือไม่อนุญาตให้กินหรอก"
"ก็พี่ต่ายเหมาะกับนมมากกว่านี่นา" เมมฟิสยิ้มแป้น "แล้วจดหมายนั่น..."
"ผมนึกว่าพี่ปฏิเสธไปแล้ว ไม่ไปสอบสัมภาษณ์" ไคโรโพล่งออกมา กระต่ายเพียงยิ้มรับ ดวงตามีทั้งความยินดีและขื่นขม
สองพี่น้องสัมผัสได้เพียงความรู้สึกสับสนเพียงผิวเผิน หัวใจร้อนแรงที่ค่อยๆ เต้นช้าลง ความคิดอันวุ่นวายในหัวคล้ายดั่งถูกแช่แข็ง เย็นเยียบ เจ็บปวด แต่ก็หาทางออกได้
สิ้นสุดสิ่งหนึ่ง... เพื่อเริ่มอีกสิ่งหนึ่ง
ทางออกไม่ใช่กำแพงตัน หากคือบานประตูสู่ถนนสายใหม่...
โดยผู้เดินทางคือกระต่ายคนเดิม รอยยิ้มเดิม ร่างกายเดิม ความรักเดิม... แต่เส้นทางเปลี่ยนแปลงไปแล้ว
ร่างขาวหลับตาลงช้าๆ ผ่อนลมหายใจลง เขามองเห็นทางสองสาย... สายหนึ่งเดินเพียงลำพัง เปล่าเปลี่ยว... แต่เข้มแข็ง อีกทางหนึ่งอบอุ่น แต่อ่อนแอ
เมื่อดวงตาคู่นั้นลืมขึ้น มือบางฉีกซองจดหมายออก กวาดสายตาอ่านจดหมายแล้วยื่นให้สองพี่น้อง "พี่ไปสอบสัมภาษณ์มาแล้ว"
"อ๊ะ ไปคนเดียวเหรอ ?"
คนตรงหน้าผงกศีรษะ "ได้ทุนเรียนหนึ่งปี ฝึกงานโดยไม่ได้รับค่าจ้างอีกหนึ่งปี พร้อมที่พักและค่าใช้จ่ายประจำวัน" ไคโรอ่านเนื้อความเสียงดัง พลางมองหน้าขาว
"...ไหนบอกว่าจะไม่ไปสัมภาษณ์เพราะไม่อยากแยกจากพี่เสือ..."
"อืม..." เจ้าของเสียงหวานรับจดหมายกลับมาแล้วยิ้มตอบ "ก็เงื่อนไขดีออกนี่นา เมก็บอกเอง"
"อื้อ มันก็ใช่่ แต่นั่นปารีสนะ! ปารีสน่ะเป็นเมืองที่อยู่ยากสุดๆ! แล้วพี่ต่ายจะอยู่ได้เหรอ ? นี่... ไคเคยไปอยู่นี่ ?"
"สองสามเดือนน่ะ ตอนแรกไปเยี่ยมซอ แล้วเลยไปเที่ยว..."
"ติดผู้หญิงหรอก" น้องสาวทำเสียงขึ้นจมูกอย่างหมั่นไส้ "นั่ง Channel tube ไปหาเมกับแกรนด์มาแป๊บเดียวก็ไม่ไป..."
"เออน่ะ แต่ปารีสน่ะอยู่ยากสุดๆ เลยนะพี่ต่าย มิจฉาชีพเยอะมาก ขี้หมาก็โคตรเยอะ"
"นั่นสิ เมเคยไปเที่ยวนะ ลำบากมากๆ ป้ายก็เป็นภาษาฝรั่งเศสหมด ไม่มีใครพูดอังกฤษเลย"
"ยิ่งระบบราชการนี่... ยิ่งห่วยแตก"
"ฮื่อ... เมดีใจจะตายที่แม่ส่งไปอยู่ลอนดอน ไม่ใช่ปารีส"
กระต่ายรับฟังสองพี่น้องด้วยรอยยิ้ม "พี่อ่านมาบ้างแล้วล่ะ พอรู้ว่าตัวเองต้องเจอกับอะไรบ้าง"
"แล้ว.... จะไปจริงๆ เหรอ ?"
จดหมายถูกพับใส่ซองเรียบร้อย เมื่อเงยหน้าขึ้น สองพี่น้องมองเห็นความเข้มแข็ง ความเชื่อมั่นเต็มดวงตากลม "พี่รู้... ปารีสอยู่ยาก มิจฉาชีพเยอะ ผู้คนไม่เป็นมิตร... แต่โอกาสดีๆ แบบนี้หายากมาก ขอบใจมากนะ"
เมมฟิสทำท่าจะพูดอะไรอีก แต่กลับถอนหายใจ "เมคิดมาตลอดว่าพี่ต่ายไม่เหมาะกับเมืองอย่างปารีสหรือนิวยอร์กหรอก... อันตรายเกินไป ผู้คนไม่เป็นมิตรเกินไป... พี่ต่ายทำไมไม่ลองไปเมืองอยู่ง่ายกว่าอย่างลอนดอนหรือสิงคโปร์..."
"ใช่ มีศูนย์ลอนดอนด้วยนี่ ?" ไคโรพูด
"มี... แต่ในทุนระบุแค่ศูนย์ใหญ่ที่ปารีสเท่านั้น... พี่กะว่าจะไปเรียนภาษาก่อนสามเดือนน่ะ เลยต้องไปก่อนเปิดภาคสามเดือน"
"เอ๊ะ... ก่อนสามเดือน! งั้นก็ต้องเดินทางตั้งแต่..."
"สามเดือนหน้า" คำตอบเรียบร้อย "พี่ยังไม่ได้บอกพ่อแม่... แต่ช่วงสามเดือนแรกคงต้องขอให้พ่อแม่ส่งเรียนก่อน"
กระต่ายอธิบายให้สองพี่น้องฟังถึงเรื่องวีซา ที่พักและศูนย์สอนภาษาที่ติดต่อไว้แล้ว เมมฟิสและไคโรได้แต่กระพริบตาปริบๆ
"ทั้งหมดนี้พี่ต่ายติดต่อเองหมดเลย ?"
กระต่ายพยักหน้า แม้รอยยิ้มจะบางเบา แต่ดวงตาที่เปี่ยมด้วยความเชื่อมั่นนั้นทำให้ความกังวลของรุ่นน้องทั้งสองเจือจางลงบ้าง
"แล้ว... บอกพี่เสือหรือยัง ?"
รอยยิ้มบนใบหน้าค่อยๆ หายไป ริมฝีปากขบกันแน่น "ยังเลย"
"ไปสามเดือนหน้า... มันกะทันหันไปนะ ขนาดพวกเรายังคิดแบบนั้นเลย..."
"ฮื่อ... พี่ก็คิดแบบนั้น แต่เวลาผ่าตัดอะไรซักอย่าง ก็ต้องรีบทำให้เร็วใช่ไหมล่ะ"
"ผ่าตัด ?"
"ฮื่อ... ผ่าตัดเอาความคิดน่ารังเกียจของตัวเองออกไปน่ะ" กระต่ายเก็บจดหมายใส่เป้ แล้วมองนาฬิกา "พี่เสือใกล้มารับแล้วล่ะ พี่ไปก่อนนะ ขอบคุณทั้งคู่มาก"
สองพี่น้องมองร่างเล็กที่เดินไปจ่ายเงินแล้วหันกลับมายิ้มบางๆ ให้... จนร่างเล็กลับหายไปจากสายตา
"เปลี่ยนไปนะ" เมมฟิสพูดเบาๆ ไคโรพยักหน้า
"เมื่อก่อนพี่ต่ายไม่กล้าเข้าร้านกาแฟคนเดียวด้วยซ้ำ ไม่กล้ายืนรอข้างถนนคนเดียว... ไม่กล้าทำอะไรที่เสือมันห้ามซักอย่าง"
"เห็นว่าเมื่อก่อนไปเที่ยวสิงคโปร์กัน... พี่เสือทำทุกอย่างให้หมดเลย"
เด็กหนุ่มถอนหายใจเบาๆ ใจหายไม่น้อย... แต่เขารู้ดี กระต่ายเปลี่ยนไปแล้ว... แม้ยังอ่อนเยาว์ ไร้เดียงสา แต่ภายในที่อ่อนไหว กลับแกร่งกล้าแม้ถูกซุกซ่อนในรูปลักษณ์แสนอ่อนแอ
"ถ้าเป็นตอนนี้... พี่ว่า... ต้องไปได้ดีแน่ๆ"
ดวงตาคู่นั้น... เข้มแข็ง เชื่อมัน มีความฝันและความอดทนบรรจุเต็มเปี่ยม ไม่ต่างจากสายตาของพี่สาวคนโต... ลักซอร์เลยแม้แต่น้อย...
ผู้ที่มีความฝัน และอดทน ไคโรและเมมฟิสเชื่อว่าย่อมอยู่รอดและประสบความสำเร็จ