เล่าเรื่องเพื่อนสนิทจากความทรงจำคับผม โดย Seventh Sin //
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เล่าเรื่องเพื่อนสนิทจากความทรงจำคับผม โดย Seventh Sin //  (อ่าน 27969 ครั้ง)

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามโพสต์ข้อความที่ไม่เหมาะสมและเกิดความขัดแย้ง
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn หรือคบหาพูดคุยกันในเล้า
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม



กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่

*** ขออนุญาตแก้ไขคำห้อยท้ายของชื่อเรื่อง เพื่อลดความรุงรังของหัวข้อ  แต่หากผู้แต่งมีเรื่องแจ้งเพิ่มเติม ก็สามารถแก้ไขชื่อเรื่องได้ตามปกติค่ะ
 ทิพย์โมบอร์ดนิยาย

Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2010 16:33:04 โดย THIP »

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

หวัดดีทุกคนนะคับ
กระทู้นี้สืบเนื่องมาจากกระทู้ถามถึงเพื่อนสนิทของคุณผู้ชายมีน้อย..ในบอร์ดนี่แหละคับ
ทีแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะเล่าอะไรมากมาย เพราะผมก้อยังรู้สึกว่า มันไม่ใช่เรื่องน่าสนใจมากนัก
ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น ไม่มีฉากโรแมนติก อีโรติก สรุปก้อคือ ไม่มีอะไรเลยคับ เหะๆ ^ ^
แต่ก้อยังมีคนสนใจ ผมก้อดีใจคับ
ลองคิดไปคิดมา ผมก้อรู้สึกว่า เล่าก้อดีเหมือนกัน
เพราะผมจะได้ถือโอกาสเรียบเรียงความทรงจำของผมไปในตัว ที่ยิ่งนานวันยิ่งจางลงไปเรื่อยๆ

ผมอาจจะเล่าเรื่องปัจจุบันของผมลงไปด้วย เพราะมันก้อมีเรื่องเกิดขึ้นระหว่างผมกับเพื่อนอยู่เหมือนกัน
ขอบคุณหลายๆคนที่ให้ความสนใจจนออกมาเป็นกระทู้นี้นะคับผม
อย่างไรก้อตาม จากวันเวลาที่ผ่านมาค่อนข้างจะนานแล้ว
ผมอาจจะสับสนเรื่องลำดับเหตุการณ์ และ วันเวลาที่แน่นอน
หรืออาจจะคำพูดที่พูดกัน บางทีผมจำได้เป๊ะๆ ราวกับพูดกันเมื่อวาน แต่บางทีผมก้อลืมๆไปแล้ว
ยังไงก้อขอรับรองว่า มันเป็นเรื่องจริงๆที่เกิดกับคนตัวเล็กๆอย่างผมนะคับ ^ ^
ไม่มีแต่งเติม ยกเว้นคำพูดบางคำ ที่ผมจำไม่ได้ชัดเจนว่าพูดว่าอะไรกันแน่...
ถ้าไม่สนุก น่าเบื่อ ยังไงก้อขออภัยนะค้าบ ...
งั้น เล่าเลยละกัน อืมมม....

ผมเรียนในโรงเรียนชายล้วนมีชื่อแห่งหนึ่งในจังหวัดหนึ่งทางภาคเหนือคับ ... อันที่จริงทุกโรงเรียนมันก้อต้องมีชื่อหมดนี่นา ... แต่ผมเห็นเค้าชอบเขียนข่าวแบบนี้กันอะคับ เอาบ้างๆ

เรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้น ในตอนที่ผมขึ้นชั้นป.5ใหม่ๆ อายุประมาณ 10 ขวบเห็นจะได้
เป็นเด็กวัยที่เพิ่งรับรู้การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยรุ่นเลยคับ ตอนนั้น ผมไม่รู้จักคำว่าเกย์หรอก รู้จักแต่กะเทยคับ ซึ่งผมเองก้อไม่เห็นว่าผมจะเหมือนพวกเค้าเหล่านั้นตรงไหน แล้วผมก้อไม่รู้สึกสนอกสนใจผู้ชายอย่างที่แก๊งค์กะเทยน้อยมักจะกรี๊ดกร๊าดเด็กผู้ชายน่ารักๆเวลาเดินผ่าน
ตอนนั้นผมยังคิดว่า ... มันบ้าป่าววะ ... อยู่เลย หารู้ไม่ว่าวันนึงจะได้เป็นคนแอบมองผู้ชายน่ารักๆซะเอง หะๆ ^ ^
ด้วยนิสัยไม่ยอมคนแต่เด็กๆ ผมจึงมีแววตาน่ากลัว พร้อมสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรเอาซะเลย คิดดูดิคับ เด็กบ้าอะไรตาขวางๆ ใครทำอะไรไม่ถูกใจผมจะเข้าไป "เคลียร์" ทันที ด้วยการจับโยนลงไปที่พื้น หรือไม่ก้อไล่เตะไล่ต่อยจนมันยอม อาจสงสัยว่า ทำไมพวกนั้นมันถึงยอมคนตัวเล็กๆอย่างผมกันนะ ทั้งๆที่สู้จริงๆ คนอื่นคงชนะได้ไม่ยาก
อันนี้ผมก้อยังสงสัยอยู่เลย ถ้าตอนนั้นมีคนลุกขึ้นมาหือกับผมจริงๆ ผมอาจจะไม่เป็นคนอย่างนี้ก้อได้นะ ^ ^
แต่นั่นมันก้อเรื่องในอดีตคับ ตอนนี้ผมเปลี่ยนไปเยอะ กิริยา มารยาทเรียบร้อย ยิ้มแย้มแจ่มใส ไม่เชื่อถามคนแถวนี้ดูได้ ^ ^
..........ว่าแต่จะถามใครดีอะ - -"

สักพักชื่อเสียงเรื่องความโมโหร้ายของผมเริ่มดัง กลับกลายเป็นกิจกรรมสนุกๆ ของเด็กคนอื่นที่จะมาแกล้งยั่วผมเล่นซะอย่างนั้น
สายตาของคนเหล่านั้น ผมคงเป็นคนน่ากลัว ที่ใครๆก้ออยากจะวิ่งหนี ผมเองมีตัวตนอยู่เหมือนเพื่อจะวิ่งไล่พวกคนเหล่านั้นเท่านั้นเอง
นานๆเข้า ผมก้อเริ่มชินที่ตัวเองจะต้องกลายเป็นปิศาจร้ายในสายตาเพื่อนๆ ซึ่งตอนนี้ก้อยังเป็นอยู่ในบางเวลาคับ เหอๆๆ
เล่นอะไรกับใครก็ไม่ค่อยได้ ผมยิ่งถือคติ ใครทำผมต้องเอาคืนมากกว่าเดิมร้อยเท่าอยู่อีกด้วย ... ก้อมันเด็กนี่นา

บ่ายวันหนึ่ง ผมวิ่งไล่พวกคนที่กำลังแหย่ผมอยู่บนระเบียงตึก ทุกคนวิ่งหนีหายลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว ผมเองก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยที่จะตาม
ในตอนนั้นเอง สายตาผมก็ไปสะดุดกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่กับพื้น หลังพิงระเบียงตึก มองมาที่ผมเช่นกัน ผมเดาในใจว่า เค้าก็คงเห็นผม ตอนที่กำลังวิ่งไล่คนอื่นๆอยู่ แล้วก็คงจะเหมือนกับหลายๆคนนั่นแหละ พอผมเดินเข้าไป เค้าจะต้องวิ่งออกไปจากตรงนั้นแน่
ผมยิ้มในใจ พลางเดินเข้าไปหา แต่ผิดคาดครับ เค้ายังนั่งอยู่ตรงนั้น มองผมที่เดินเข้ามาหาเค้าเรื่อยๆ
ผมยืนอยู่ตรงหน้า เค้านั่งอยู่ที่พื้น เราสองคนมองหน้ากันอยู่พักนึง ก่อนที่ผมจะพูด แน่นอนคับ เราไม่เคยคุยกันมาก่อน แม้แต่หน้าตา ผมเองก็ยังไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง คำพูดนั้นจึงเป็นคำพูดแรก ที่ผมพูดกับเค้าในชีวิต

" นายไม่วิ่งหนีเราเหรอ.... ? " ผมพูดกะเค้า ในใจมันสงสัยจริงๆนะ
" แล้วทำไมต้องหนี... " เค้าตอบ ด้วยสีหน้าเฉยเมยมากๆ
ผมจำได้ดี แม้แต่น้ำเสียง สีหน้า แววตา เพราะเป็นนาทีที่ผมได้สัมผัสกับคำว่า "เปิดใจ" เป็นครั้งแรกในชีวิต

คำตอบมันง่ายๆ แต่สำหรับผม คำพูดนั้นทำให้ผมนิ่งไป ความรู้สึกเหมือนกับว่า คนๆนั้นยอมรับผม และมองเห็นผม
ไม่ใช่อย่างที่คนอื่นมองเห็น
ผมนั่งลงข้างๆเด็กชายคนนั้น จำไม่ได้แล้วว่า เราได้คุยอะไรกันตลอดพักเที่ยงวันนั้น แต่เรากลายเป็นเพื่อนกันทันที
สมมุติว่าเค้าชื่อ พัท ก้อแล้วกันนะคับ อืมม
" พัท นายมาทำอะไรที่ตึกนี้อะ " ผมถามขึ้นมาด้วยความสงสัย เพราะตึกนี้ไม่น่าใช่ที่นั่งเล่น
" มาเข้าชมรมอะ... " ผมยังงง ชมรมที่อยู่บนตึกนี้มีชมรมเดียวนี่หว่า ก้อชมรมของผมไง ... เฮ้ยย
" อยู่ชมรม xxx ด้วยเหรอ ทำไมเราไม่เคยเห็นอะ " ผมไม่เคยเห็นมันจริงๆนะ ผมเข้ามาตั้งแต่อยู่ป.4 เป็นปีแล้วนะเนี่ย
" เออ คนเรา ... " มันตอบผมคับ สีหน้ากวนตีนๆ ผมพึ่งสังเกตว่า ถ้ามันยิ้ม หน้าตามันดูกวนส้นขึ้นมาเลยคับ
เวลาที่มันพูด จะติดนิสัยลากเสียงจนเป็นเอกลักษณ์ ผมยังจำได้ชัดเจนอยู่เลยคับ
นึกๆดูแล้วผมยังแปลกใจอยู่เลย ผมอยู่ชมรมที่มีการบังคับให้มาซ้อมทุกๆวัน ตอนเที่ยง เป็นเวลา 1 ปีแล้ว
แต่ผมไม่เคยเห็นมัน ไม่เคยได้ยินชื่อมันเลยด้วยซ้ำไป ผมไม่สนใจโลกภายนอกขนาดนั้นเชียว

" เฮ้ย เค้าเรียกไปซ้อมกันแล้ว ปะ ลุกๆ " ผมเรียกมัน หลังจากได้ยินเสียงดังออกมาจากห้องชมรม
" โดดเหอะ ปะ... " มันบอกผม ผมมองหน้ามัน แล้วพยักหน้า
เราสองคนนี่ช่างไม่ต้องพูดอะไรกันให้มันมากความมาตั้งแต่ตอนนั้นเลยจริงๆ ^ ^

สรุปบ่ายนั้น ผมกะมันเลยโดดซ้อม ไปนั่งคุยกัน อารมณ์เพิ่งได้เพื่อนใหม่ก้องี้อะคับ มีอะไรเล่าให้กันฟังมากมาย
จากนั้นเป็นต้นมา เราสองคนก็ตัวติดกันทันที เค้าอยู่ที่ไหน ผมก็อยู่ที่นั่น ผมอยู่ที่ไหน เค้าก็จะอยู่ที่นั่น
เราเจอกันทุกๆช่วงพักหลังเลิกเรียน ไม่ผมก้อพัทจะเดินไปหากันที่ห้องเรียนของอีกฝ่าย หากคนหนึ่งเลิกเรียนก่อน


โอย ... เมื่อยมือ ผมเพิ่งเคยพิมอะไรเยอะขนาดนี้นะเนี่ย วันนี้พอก่อนได้ปะคับ ?
จะพยายามรีบๆพิมให้จบไวๆก้อแล้วกันนะคับ
หวังว่าคนที่อยากรู้เรื่องของผมจะมีความสุขนะคับ ขอบคุณมากๆจริงๆ
ที่ทำให้ผมมีโอกาสทบทวนเรื่องราวทั้งหมดจริงๆซะที ^ ^
นี่แหละคับ ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก ยังกะการ์ตูนเลยเนอะ...
ป.ล. เจ็บฟันชิบ ไปหาหมอมาเมื่อวานแล้วหมอดึงยางรั้งเพิ่มอีก วันนี้ไม่อยากกินอะไรแล้วอะ T T

***************************************

มาปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาหลายวัน แต่ไม่ยอมทำสักที เอิ๊กๆ

 :bye2:


ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
มาให้กำลังใจด้วย
 :oni2: :oni2: :oni2:

My name M

  • บุคคลทั่วไป
 :m1:....ลุ้นรักเพื่อนสนิท 5555+  :m4:


myLoveIsYOu

  • บุคคลทั่วไป
มารอตอนต่อไปครับ  :oni2:

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
เข้ามาทักทายเรื่องใหม่ครับ

แต่ว่าจัดหน้าแปลกๆ เนอะ

three

  • บุคคลทั่วไป
จะดองไหมเนี้ย
 :a5: :a5: :a5:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

 :serius2: :serius2:

ไม่ดองนะน้องทรี
เรื่องนี้ไม่มีการดอง
เพราะเป็นเรื่องที่ได้รับมอบหมายมา แหะๆ

********************************

ความทรงจำในสมัยนั้นของผมที่ยังชัดเจนอยู่ เห็นจะมีก้อแต่เรื่องผมกับไอ้พัทเท่านั้นเองคับ
นอกนั้น ก้อจางหายไปตามกาลเวลา รู้สึกตัวอีกที ก้อเหลืออยู่แค่เรื่องเหล่านี้เท่านั้นเอง
อาจเป็นเพราะ ในวัยนั้น ชีวิตของผมมีอยู่แค่เท่าที่ผมกับไอ้พัทได้อยู่ด้วยกัน
เรื่องอื่นๆจึงไม่มีความสำคัญ ไม่แปลกที่มันจะจางหายไป...

วันนี้ ผมไปค้นหาสมุดเล่มหนึ่ง ที่ไอ้พัทเคยเขียนอะไรบางอย่างไว้ข้างใน ก่อนที่จะจากกัน
ข้อความสั้นๆ ความหมายเหมือนจะบอกว่า เราจะเจอกันอีกในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน
รูปถ่ายวันที่ไปโรงเรียนวันสุดท้าย มันยืนชู2นิ้ว พร้อมกับทำหน้าตาแบบที่ผมคุ้นเคย หน้ามึนๆอะคับ ^ ^
ทั้งผมทั้งมันในเวลานั้น ต่างก้อไม่รู้เลยจริงๆ...

หลังจากที่ผมกับไอ้พัทได้รู้จักกัน เราก้อสนิทกันอย่างรวดเร็วคับ
อาจเพราะในตอนนั้นเราทั้งสองคนต่างก้อไม่มีเพื่อนที่อยู่ด้วยกันตลอด พอเราได้เจอกัน
ประกอบกับการใช้ชีวิตที่คล้ายๆกัน แต่นิสัยต่างกัน ทำให้เราสนิทกันได้ไม่ยาก
ทั้งผมและมัน ไม่ใช่คนเรื่องมาก และด้วยนิสัยกล้าคิดกล้าทำอยู่แล้ว เราจึงไปไหนไปกัน อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา
จากที่ผมไม่เคยแม้จะได้ยินชื่อมันที่ห้องชมรม
ตอนนี้ พอว่างซ้อมทีไร เราจะเดินเข้าไปนั่งคุยกันทุกที บางทีก้อเอาหนังสือการ์ตูนไปอ่านด้วยกัน
หรือเบื่อๆ ก้อโดดซ้อมไปนั่งเล่นตรงซอกตึกที่เย็นๆสบายๆ คุยกันเล่นกันจนหมดเวลาพัก
ยิ่งเราสนิทกันมากขึ้น เราก้ออยู่ด้วยกันบ่อยขึ้น

จนวันหนึ่ง ไอ้ตั้มกับไอ้ซัน ซึ่งเป็นเพื่อนของไอ้พัทมาก่อน เดินเข้ามาหาผมกับไอ้พัทที่นั่งอยู่ด้วยกันตรงระเบียงตึก ที่เดิม
ผมเห็นไอ้สองคนนี้มานานแล้วคับ แต่ไม่อยากรู้จัก ไม่อยากจะคุยด้วยเท่าไหร่ เพราะมันเป็นเด็กนิสัยก้าวร้าวหน่อยๆ
แก่แดดเกินวัยอีกตะหาก ชอบเอาการ์ตูนลามกมาเผยแพร่ในห้องชมรมอยู่เรื่อยๆ
แล้วมันก้อยังเคยแกล้งผมด้วย แต่ลืมไปละคับ ว่ามันแกล้งยังไง รู้แต่ว่ามันกล้งผมได้แค่ทีเดียวเท่านั้นเอง หึๆ…
มันเดินเข้ามาคุยอะไรไม่รู้กับไอ้พัทคับ ผมก้อไม่ได้สนใจ จนกระทั่งได้ยินมันถาม...

“ มึงสองคนทำไมต้องอยู่ด้วยกันตลอด ฮะ.. ” ไอ้ซันมันถามขึ้นมาก่อนคับ...
“ มึงเป็นไรกันแน่ๆเลย 555 ” ไอ้ตั้มรีบเสริม... ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบอะไร ไม่ทันแม้แต่จะได้คิดคำตอบด้วยซ้ำ
ไอ้คู่หูรัก – ยม นี่มันก้อตะโกนเข้าไปในห้องชมรมแล้วคับ
“ไอ้พัทกับไอ้ซินเป็นผัวเมียกันแล้วนะเว้ย... 555 ”
ตามมาด้วยเสียงหัวเราะของคนที่อยู่ข้างในคับ ผมเหวอไปพักนึง
ยอมรับคับ ว่า อายมากๆๆๆๆ อายของโคตรอาย แบบว่า เฮ้ยย อะไรวะเนี่ย กูอยู่ของกูดีๆ
หันไปมองหน้าเพื่อนผม... มันก้อทำหน้าเหวอเหมือนกัน พอหันมาเห็นกัน เราก้อเลยหัวเราะออกมาทั้งคู่ ^ ^
จากนาทีนั้นเป็นต้นมา คนอื่นๆในชมรมมักจะมาคอยแหย่ผมกับไอ้พัทเรื่องนี้อยู่เสมอๆ
“แฟนมึงไปไหนวะ ... ” รุ่นพี่ประจำพาร์ทของผมถามผมในวันที่ไอ้พัทไม่มาเรียน
“ผัวมึงทิ้งเหรอ 555 ” ไอ้คู่หูนรกแตกนั่นพูด เวลาผมอยู่คนเดียว ... เอ่อ แล้วทำไมกูต้องเป็นเมียด้วยวะ
ผมไม่เข้าใจอะ... - -"
“เฮ้ย ๆ มาแล้วๆ” แล้วพอผมกับไอ้พัทเปิดประตูห้องชมรมเข้าไป เสียงเพลงแต่งงานก้อจะดังขึ้น...
มันน่านัก เดี๋ยวพ่อจะเล่นให้หุบปากไปหมดเลย... ผมคิดในใจ.. แต่พอหันไปมองหน้าไอ้พัททีไร
สีหน้ามึนๆ ของมันทำให้ผมคิดได้ทุกทีว่ามันก้อไม่เห็นจะเดือดร้อนเลยนี่นา ผมก้อไม่ควรจะเดือดร้อนสิ
แล้วทุกคนก้อจะแยกย้ายกันไปซ้อมอย่างสงบ... จบการล้อเลียนของวันนี้ไปอีกวัน
เฮ้อ.....

วันนี้เท่านี้ละกันนะค้าบ ผมพิมช้าถึงช้ามาก ต้องนั่งจิ้มเอาทีละตัว
ขอบคุณทุกคนนะคับ
ขอให้มีความสุขกันมากๆนะคับผม ^ ^

*****************************

 :oni1: :oni1: :oni1:



ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
กาลเวลา มันช่างสวยงามในความทรงจำ
 o7 o7 o7

มารับรองว่าเรื่องนี้ยอดเยี่ยม อ่านกันให้ได้นะขอรับ
 o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
อ่านแล้วคิดถึงสมัยเรียน

ที่รักของอิฉันจะเป็นไงบ้างแล้วน้อ  ป่านนี้

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

หวัดดีคับ ทุกๆคน
ก่อนอื่นเลยต้องขออภัยที่ล่าช้านะคับ
ผมเพิ่งได้กลับเข้าบ้านเมื่อกี้นี่เอง หลังจากที่ออกจากบ้านไปทันทีที่ลงตอนที่แล้วจบไป
ทำงานข้ามวันข้ามคืนเลยคับ นี่ยังไม่ได้นอนเลยอะ แงงง T T

ตอนที่ผมทำงานอยู่ ผมได้เจอเพื่อนสนิทคนปัจจุบันของผม ที่ไม่ได้เจอกันมานาน
ปิดเทอมก้องี้แหละคับ หันหน้าไปทางไหนก้อไม่เจอใครที่พอจะลากไปไหนมาไหนได้เลย กลับบ้านกลับช่องกันหมด
พอกลับมารวมตัวทำงานกันที ถึงจะได้เจอ

สำหรับใครที่พอจำได้ ก้อไอ้เพื่อนคนที่ผมเคยเล่าให้ฟังว่ามีปัญหากันก่อนหน้านี้แหละคับ
ผมเอง ก้อแก้ปัญหาโดยการถอยห่างออกมาจากมัน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเจอเรื่องอะไรให้ปวดหัวอีก
แต่ดูเหมือน โชคชะตามันชอบแกล้งผมอยู่เรื่องเลย
สุดท้าย ผมกับมันก้อได้มานั่งคุยกันเหมือนเดิมอีกจนได้ ทั้งๆที่ผมเคยคิดว่า ผมจะไม่คุยกับมันแบบนั้นอีกแล้ว
ดูเหมือนความพยายามทั้งหมดของผมแทบสูญเปล่าไปเลย เมื่อเจอหน้ามันยิ้มระรื่นมาแต่ไกล
เซงตัวเองจังเลยคับ - -….

เอาเหอะๆ เข้าเรื่องกันดีกว่าคับ
ผมกับไอ้พัทถูกล้อเลียนอยู่อย่างนั้นมาพักใหญ่ๆ แต่ผมไม่เคยที่จะชินซักทีเลยคับ
ทุกๆครั้งที่ไปห้องชมรม ก้อจะต้องโดนล้ออย่างน้อย1ครั้งแหละคับ โดยเฉพาะไอ้คู่หูนรกแตกอ้วนผอมนั่น
ดูจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ ผมคิดว่ามันคงแอบรู้สึกเหมือนกับว่าผมไปแยกไอ้พัทออกมาจากพวกนั้นมั้งคับ
เพราะไอ้พัทสนิทกับพวกมันมาก่อนนี่นา แต่ยังไงมันก้อไม่ใช่ความผิดผมอยู่ดี ถูกป่าวคับ
ผมถึงรำคาญพวกมันที่ตั้งหน้าตั้งตาแซวอยู่ได้แบบไม่เลือกที่

จนวันหนึ่ง เรื่องของผมกับไอ้พัทไปเข้าหูอาจารย์ประจำชมรมเข้าคับ
เพื่อนๆคับ ผมให้ทายว่า อาจารย์ที่ผมแสนจะเคารพรักจะว่ายังไง...
แทนที่อาจารย์จะต่อว่าไอ้พวกปากแมวนั่น แต่ไม่เลยคับ... ดันกลายเป็นเรื่องหนักข้อกว่าเดิมเข้าไปอีก
เมื่อตอนนั้น หนังเรื่อง”อันดากับฟ้าใส.”กำลังดัง อาจารย์แกก้อเล่นกับไอ้พวกนั้นทันที
“เออ เพิ่งรู้ว่าชมรมเรามีคู่รักด้วยเว้ย ให้ไอ้พัทเล่นเป็นอันดาก้อแล้วกัน ไอ้ซินก้อเล่นเป็นฟ้าใสนะ
เอ้า.. เดินออกมาข้างนอกหน่อยซิ ”
ว้ากกกกกกกกกก ผมโคตรๆๆๆๆอายเลยคับ อยากจะวิ่งทะลุกำแพงซะให้ได้ตอนนั้น
ทำไมๆอาจารย์เล่นกะผมแบบนี้เนี่ย ผมอายมากจนจำฝังใจไปเลยคับ ไอ้ชื่อเนี้ยเนี่ย...
ยิ่งเรียกผมไปยืนคู่กับไอ้อันดา เฮ้ยย! ไอ้พัท ผมยิ่งอยากให้ตัวเองระเหยกลายเป็นอากาศออกไปจากตรงนั้น
เสียงคนหัวเราะยิ่งดังไปทั้วห้องเลยคับ เมื่อได้เห็นอาการเขินอายของทั้งผมและไอ้พัท
สุดท้าย ผมกะไอ้พัทก้อจำใจต้องรับชื่อนั้นมาใช้อย่างเสียมิได้จากนั้นมาตลอดเลยคับ...
ก้อยังดีที่ล้อเล่นกันเฉพาะในชมรมนะ ถ้ามันเผยแพร่ออกไปมากๆ ผมคงมีวัยเด็กที่น่าเศร้ากว่านี้โดยแน่นอน T T

พอมานึกดูในตอนนี้
เมื่อชื่อของไอ้พัทถูกแทนด้วยอันดา ชื่อของผมถูกแทนด้วยฟ้าใส... มันสามารถมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเราได้มากทีเดียว
หากฝ่ายใดฝ่ายหนึงหมดความอดทนลง เรื่องของเราสองคนอาจจบลงเท่านั้นทันที
แต่เรื่องนี้ กลับไม่เคยทำให้เราแม้แต่จะคิดห่างจากกันสักเล็กน้อยเลย เราสองคนยังคงเหมือนเดิม
แม้จะถูกเรียกแทนด้วยชื่อบ้าๆบอๆที่ตอกย้ำเหมือนเอาป้ายแขวนคอว่าเป็นอะไรกันก้อตาม
ผมรู้สึกอยากขอบคุณมันมากๆ ขอบคุณที่ในตอนนั้นมันไม่ทิ้งผมไป
และยังคงสร้างความทรงจำที่มีค่าที่สุดความทรงจำนึงร่วมกับผมขึ้นมา ไม่ว่ามันจะยังจำได้หรือไม่ก้อตาม
ขอเพียงมันยังอยู่ในใจผม คนเดียวก้อได้ ผมก้อยังซาบซึ้งทุกครั้งที่นึกได้ ดีใจที่ช่วงนึงของชีวิต
ได้เคยมีเพื่อนแท้ ที่ผ่านการทดสอบแสนสำคัญมาด้วยกัน งือออ จะร้องไห้แล้วคับ ... T T เฮ้อ....

ผมกับไอ้พัท เริ่มเรียนรู้ที่จะวางเฉย ถึงแม้จะถูกล้อถูกเล่น
ระยะนึง มันก้อกลายเป็นเรื่องธรรมดาที่คนอื่นๆเห็นกันจนคุ้นตา และเคยชินกับมันจนไม่ได้แปลกแยกอีกต่อไป
เราสองคนถูกล้อกันน้อยลงจนได้คับ แต่ไอ้พัทยังคงถูกเรียกด้วยชื่ออันดา และผมก้อยังคงถูกเรียกว่าฟ้าใส....
จนวันสุดท้ายที่เราได้เจอกันเลยแหละ ...


โอย... ง่วงนอนมากมายคับ อยากหลับใจจะขาด
วันนี้พอก่อนะคับผม เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะรีบมาเล่าต่อให้ฟัง
ขอบคุณทุกๆคนมากๆนะคับ มีความสุขกันมากๆนะ ^ ^

********************************


ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
คิดเหมือนน้องทรี  :laugh: เห็นชื่อคนโพส เรื่องนี้มันจะดองปะเนี่ย  :m20: :m20: นิยายดองมันเป็นโลโก้แป๋มไปแล้ว  :pigha2: :pigha2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
555555555555
แป๋มเขาโพสจบไปหลายเรื่องแล้ว
เรื่องนี้คนเขียน เขียนจบแล้ว
ไม่ดองแน่นอน
 :a2:

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
555555555555
แป๋มเขาโพสจบไปหลายเรื่องแล้ว
เรื่องนี้คนเขียน เขียนจบแล้ว
ไม่ดองแน่นอน
 :a2:

ช่ายๆ พี่เรย์น่ารักที่สุดเลย :L1:
เค้าไม่ได้ดองน้า ก็คนเขียนไม่มาต่อให้นิ  o7

**************************************

ลงต่อเลยแล้วกัน ป้องกันการลืมลง เอิ๊กๆ


วันนี้ผมตื่นสายอะคับ ว่าจะไปทำบุญตอนเช้า เสร็จกัน....
ว่าจะทำเรื่องดีๆกะเค้าบ้าง ดันมีมารผจญซะงั้น
เพื่อนสนิทคนปัจจุบันของผมกลับบ้านไปแล้วคับ ก่อนไปมันยังฝากภาระให้ผมอีกนะ
ผมดีใจมากกว่าที่มันกลับบ้านไปซะ ผมจะได้ไม่ต้องเจอมัน เฮ้อ... ^ ^
ขอบคุณที่ติดตามนะคับ จะเล่าต่อละนะ

ไอ้พัทกับผมก้ออยู่กันมาอย่างนั้นเรื่อยๆคับ มันชอบชวนผมอ่านการ์ตูน เล่นอะไรๆไร้สาระกัน
เป็นสาเหตุที่ทำให้ผมติดเกมและการ์ตูนเล็กน้อยมาจนถึงบัดนี้คับ ดูดิ มันมีอิทธิพลต่อผมมากเลยนะเนี่ย
พักนั้นผมก้อมักจะเอาการ์ตูนไปนั่งอ่านกับมัน พอเริ่มง่วงๆก้อเอาหลังมาพิงกัน
บางทีก้อหลับไปในท่าพิลึกๆนั่นแหละคับ แล้วส่วนมากก้อมักจะเป็นไอ้พัทที่หลับ
ผมก้อแกล้งมันบ้างเล็กๆน้อยๆ โดยการดึงหลังตัวเองออกห่างจากหลังไอ้พัทคับ
มันก้อจะสะดุ้งตื่นพร้อมกับทำท่าเสียศูนย์ให้ผมหัวเราะเล่น สนุกดี ^ ^

ผมกับไอ้พัทอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา ยกเว้นเวลาเรียนคับ เพราะอยู่กันคนละห้อง
ดังนั้น พอเลิกพักทีไร ใครคนหนึ่งก้อจะเดินไปหาอีกคนหนึ่งที่ห้องคับ ขึ้นอยู่กับว่าใครเลิกก่อน
แล้วมันก้อมักจะเป็นห้องผมที่เลิกเรียนก่อนทุกที

เวลากลับบ้านก้อเหมือนกันคับ
ผมมักจะได้เดินไปรอมันอยู่หน้าห้อง เพื่อที่จะได้เดินลงมาจากตึกด้วยกันชั่วระยะเวลาสั้นๆก่อนที่มันจะกลับบ้าน
ไอ้พัทมันเป็นลูกคุณหนูคับ แม่มันมักจะมารอรับตอนโรงเรียนเลิกทันทีเสมอๆ ทำให้ผมต้องอยู่คนเดียวตอนเลิกเรียนบ่อยๆ
เพราะพ่อแม่ผมชอบมารับผมช้าคับ - -“ นึกแล้วก้อน้อยใจเล็กน้อย...

ครอบครัวมันดูอบอุ่นดีมากเลยคับ มันมีพี่สาวอยู่คนนึง ซึ่งมันก้อชอบเล่าถึงพี่สาวให้ฟังบ่อยๆ
จนผมกับพี่มันรู้จักกันทางอ้อมไปเลยคับ เพราะมันก้อเล่าเรื่องผมให้พี่มันฟังเหมือนกัน

อ้อ ใช่... อย่างนึงเกี่ยวกับไอ้พัทที่ผมจำได้ก้อคือ มันชอบเล่นเทนนิสคับ
ซึ่งครอบครัวมันก้อส่งเสริมซะดิบดี ดูดิ เล่นกีฬาไฮโซอีกเนอะ ส่วนผมดิคับ เล่นกีฬาไม่เอาไหนเลยซักอย่าง
หัวผมมันไปทางดนตรีซะมากกว่าคับ เล่นมาแต่เด็กเหมือนกันนะ
แต่ไอ้พัทนอกจากเทนนิสแล้ว ก้อไม่เอาอย่างอื่นเลยคับ เราสองคนจึงไม่มีการชวนกันไปเล่นกีฬากับคนหมู่มาก
ทำให้ยิ่งเหมือนโลกทั้งใบมีแค่ผมกับมันเข้าไปใหญ่เลย.... นี่แหละคับคงเป็นสาเหตุที่เราต้องอยู่กัน2คน

เล่าไปเล่ามานึกได้คับ ว่าไอ้พัทมันก้อเสน่ห์แรงเหมือนกันนะคับ
มีกะเทยสาวน้อยคนหนึ่ง แอบชอบมันอยู่ แต่แสดงออกอย่างมากมายคับ โดยการป่าวประกาศไปทั่วว่า ไอ้พัทเป็นผัวมัน
ซึ่งไอ้พัทเองสงสัยจะไม่เคยได้ยินคับ แต่ผมได้ยินแน่นอน
เพราะมีอยู่วันหนึ่ง กะเทยน้อยนางนั้นก้อเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับเพื่อนอีกคนสองคน
ตอนนั้นผมยังไม่เข้าใจคับ ว่ามันเกิดอะไรกันนะ ร้อยวันพันปีไม่รู้จักทักกัน วันนี้มีเรื่องจะคุยกับผม
แน่นอนคับ มันคิดว่าผมไปแย่งไอ้พัทไปจากมัน อ่าวเวรกรรม.... ผมอยู่ของผมดีๆ

“รู้จักพัทห้อง... ใช่มั้ย” กะเทยคนหนึ่งถามผมคับ

“อืมม ... ” ผมตอบแต่จำไม่ได้แล้วว่าทำหน้ายังไง

“แล้วรู้มั้ยว่าพัทอะเป็นผัวเรา ” เจ้าของความรักพูดขึ้นมาคับ ต่อด้วยเพื่อนอีกคน

“เธออะ แย่งผัวเพื่อนเรานะ... รู้รึป่าว” อ่าวเฮ้ย มันพูดงี้จริงๆเลยนะ แล้วกูจะไปรู้กับมึงเรอะ ถามผมงี้จะให้ผมตอบไงดีอะ กะเทยน้อยโรงเรียนผมนี่มันแก่แดดแบบสุดๆไปเลยแฮะ จะบ้าตาย ผมกลายเป็นมือที่สามโดยไม่รู้ตัว

“ไม่รู้...” ผมตอบออกไปคับ ไม่รู้จริงๆนิ แล้วก้อไม่ใช่เรื่องน่ารู้สำหรับผมด้วย แต่ในใจตอนนั้น ผมขำมากกว่าคับ ที่ไอ้พัทตกเป็นเป้าหมายของกะเทยน้อยคนนั้น ผมเองก้ออยากจะรู้ ว่าพวกนี้จะมาไม้ไหนกันแน่

“เธอสองคนเป็นอะไรกัน ” สักคนถามผมคับ

“ก้อเป็นเพื่อนกัน ... แล้วมีอะไร...” ผมตอบไปด้วยอารมณ์เฉยเมย แต่คงดูเหมือนมีอารมณ์มั้งคับ เพราะว่า...

“คือ... ถ้างั้นเรามีเรื่องจะขอร้อง...” อ่าวๆ ไหงทำหน้าหงอๆเหมือนจะร้องไห้งั้นอะ ผมงงคับ

“เราขอพัทไว้ได้มั้ย...” อานะ สุดท้ายก้อมาขอร้องผมซะงั้น ไอ้เราก้อนึกว่าจะมีอะไรหนุกๆทำ การมีท่าทางไม่เป็นมิตรของผมนี่มีประโยชน์จริงๆ

“อยากได้มันแล้วมาขอเราทำไม ไปขอไอ้พัทมันเองเดะ ” ผมขำในใจ

“คืออ...เราไม่กล้าเข้าไปคุยด้วยอะ ” กะเทยน้อยคนนั้นตอบ อ่าว.. แสดงว่ายังไม่เคยแม้แต่จะคุยกันเลยซักคำมั้งเนี่ย แล้วมาโมเมเอาว่าเป็นผัวเนี่ยนะ เฮ้อ....

“เราก้อคงช่วยไม่ได้แหละ ไปคุยกันเอาเองละกัน ” ผมพูดตัดไปคับ แล้วก้อเดินจากไป

อ่า... ถึงตอนนี้เพื่อนๆต้องคิดว่าผมหวงมันแน่ๆเลย มีคนมาขอแล้วไม่ยอมยกให้อย่างนี้
แน่นอนคับ ผมหวงมากๆ ก้อมันเป็นเพื่อนรักผมทั้งคนนี่นา อยากได้ก้อต้องชนะผมให้ได้ก่อน หึๆ
แต่จากนั้นมา ผมก้อไม่เคยเห็นกะเทยน้อยคนนั้นจะเข้ามาในชีวิตไอ้พัทซักที อย่างน้อยก้อตอนที่มันอยู่กับผม
เคยถามมัน มันก้อทำหน้ามึนๆเหมือนที่ชอบทำ แล้วก้อถามว่า ใครวะ ?
สงสัยจะตัดใจไปแล้วคับ... น่าเสียดายเนอะ ^ ^ หึๆๆ

ง่า ผมพิมตั้งนานได้แค่นี้เองอะคับ
เหงาๆ เซงๆ อยากไปไหนไกลๆสุดท้ายก้อได้แต่วนเวียนอยู่ในห้องตัวเอง เฮ้อ....
มีความสุขกันมากๆนะคับผม

*********************************



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-03-2008 22:30:41 โดย krappom »

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เวลาเลือกเรื่องมาโพสเลยต้องแน่ใจว่าจะจบแน่ๆค่อยเลือกมาดีที่สุด อิอิ
 :a4:

อาจารย์..สีฟ้า

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาให้กำลังใจป๋อมแป๋มที่น่ารัก  :L2: :L2: :L2: :L2:

อ่านแล้วก็นึกถึงความทรงจำของรักครั้งแรก   :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:


ชื่อพัท เหมือนกันด้วย.. :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12: :o12:



อาจารย์สีฟ้า    ณ  สวนส้ม

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

 o7 o7 (พี่เรย์แทงใจดำน้อง)

**********************

การที่คนเราไม่สามารถใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบันได้
มันก้อเท่ากับว่าเราได้ตายไปแล้วหละมั้งคับ
ผมเข้าใจดี เพราะช่วงนึง ผมเคยพาตัวเองหลงทางไปในอดีต จนลืมไปว่า ผมอยู่ที่ไหน
แม้กระทั่งลืมไปว่าตัวเองเป็นใคร และทำอะไรอยู่กันแน่
ช่วงชีวิตที่ไม่มีอนาคตใดๆ เหมือนกับเขาวงกตที่หาทางออกไม่เจอ
ความไม่แน่ชัดอยู่เคียงข้างผมตลอดเวลา
ขอบคุณเวลา และคนบางคน ที่ช่วยพาผมออกจากชีวิตที่เหมือนไม่มีอยู่ ให้กลับมารู้สึกตัวได้อีกครั้ง
อดีตเป็นสิ่งสำคัญ แต่ที่อยู่ของมัน ไม่ควรจะเป็นข้างหน้าของเรา ถูกมั้ยคับ
ตอนนี้ ผมก้ออยู่กับตอนนี้ พรุ่งนี้ ผมจะอยู่กับพรุ่งนี้
ไขว่คว้าหาความสุข เหมือนที่ทำอยู่เรื่อยมา ^ ^ …

เวลาผ่านไปช้าๆ สำหรับคนที่กำลังรอคอยอะไรบางอย่าง
ช่วงเวลาที่ผมอยู่กับไอ้พัท ก้อเช่นกัน เดินทางผ่านไปทีละเล็กละน้อย จนมันดูเหมือนยาวนานมากมาย
ทั้งๆที่ผมไม่ได้รอคอยอะไรอยู่เลย น่าแปลกนะคับ ว่ามั้ย…

ผมกับไอ้พัทยังคงเจอกันทุกวัน หัวเราะด้วยกันทุกวัน จนกระทั่งปิดเทอมช่วงเดือนตุลามาถึง
เราไม่ได้เจอกันพักนึง แต่ว่าก้อไม่นานนักคับ
เพราะชมรมของผมมีเข้าค่ายช่วงปิดเทอม 7 วัน เหมือนค่ายเก็บตัวซ้อมนักกีฬาอะไรทำนองนั้นแหละคับ
แต่ไม่ใช่ชมรมกีฬานะคับ เป็นชมรมดนตรีคับผม
เราจะซ้อมกันทุกๆวัน เช้า กลางวัน เย็น กินนอนที่โรงเรียน
บางทีก้อจะย้ายที่ไปนอนที่บ้านพักบนภูเขาคับ สักประมาณ3วัน บรรยากาศดีมากๆเลย
ผมมานอนที่นี่เป็นครั้งที่สองแล้วคับ แต่ว่า ครั้งนี้ต่างออกไปจากครั้งที่แล้ว
เพราะว่าผมรู้จักไอ้พัทแล้วนี่คับ ^ ^

วันเข้าค่ายมาถึง ผมนั่งอยู่ใต้ต้นไม้ต้นใหญ่ หลังจากเก็บข้าวของเสร็จเรียบร้อยแล้ว
ไอ้พัทยังไม่มาคับ ... ผมนั่งรอมันนานพอดู แอบคิดเล็กน้อยว่า ถ้ามันไม่มา ผมจะสนุกมั้ยเนี่ย
นั่งไปก้อคิดไป จนใกล้จะเลยเวลาที่เค้านัดรวมกันแล้ว ผมถึงเห็นไอ้พัท
รถของมันแล่นมาจอดใกล้กับอาคารชมรม ประตูเปิดออก ผมเห็นไอ้พัทแล้วคับ มันลงมาจากรถด้วยท่าทางแปลกๆ
แม่ไอ้พัทถือกะเป๋าลงมาให้ ผมมองมันที่เดินกะย่องกะแย่งเข้ามาหาผมด้วยขาที่มีผ้าพันแผลขนาดใหญ่แปะอยู่ที่เข่า
ดูจากขนาดแถบผ้าสีขาวที่พันอยู่รอบเข่ามันแล้ว ผมคิดว่าเรื่องใหญ่แน่เลย
ผมมองมันอย่างงงๆ เกิดอะไรขึ้นกะเข่ามันวะเนี่ย แล้วสภาพนี้มันยังมาเข้าค่ายอีกเรอะ
มันเดินมาถึงผมจนได้ ผมหวัดดีแม่มันแล้วถามมันทันทีคับ

“พัท ขาไปโดนอะไรมาอะ …”

“หกล้มอะดิ...” มันตอบผมยิ้มๆคับ ผมก้ออ้าว.... นึกว่าเป็นไรหนักๆ แค่หกล้มนี่นะ พันยังกะเจ็บหนัก

“แล้วไปทำยังไงให้ล้มอะ ” ผมถามมันต่อคับ

“ก้อวิ่งเล่นอยู่ แล้วทีนี้มันสะดุด ก้อเลยล้มไปโดนก้อนหิน ” มันตอบคับ

“แผลลึกป่าวอะ ” ผมถามเพราะเห็นว่าผ้ามันพันไว้อย่างน่ากลัวมาก ยังกะไปผ่าตัดมางั้นแหละ

“ลึกดิ เดี๋ยวเอาให้ดู...” ผมทำหน้าหวาดๆ นึกด่ามันในใจว่าหกล้มอีท่าไหนวะ เจ็บหนักขนาดนี้

“งั้นแม่ไปก่อนนะ ฝากซินดูพัทให้แม่ด้วยนะ ยากับอุปกรณ์ทำแผลอยู่ในกระเป๋าแล้วนะลูก เดี๋ยวแม่เอาไปไว้ให้ ”

แม่ไอ้พัทหิ้วกระเป๋าไปเก็บให้ไอ้พัทแล้วคับ ผมหวัดดีแล้วพาไอ้พัทเดินขึ้นตึกไปด้วยความยากลำบาก
ขามันงอไม่ได้คับ ผมเห็นแล้วใจนึงก้อสงสาร แต่ก้อขำท่าทางมันตอนจะขึ้นบันไดนี่แหละ

“555 ” ผมหัวเราะเบาๆแบบอั้นไม่อยู่จริงๆ

“หัวเราะอะไร.. เดี๋ยวโดนเตะ ” มันขู่ผมคับ ผมยิ่งอยากหัวเราะ อยากจะรู้นักว่ามันจะเตะยังไง

“เดี้ยงแล้วยังจะซ่านักนะ เอาดิ แน่จริงก้อเตะให้ได้ดิ ” ผมวิ่งขึ้นบันไดไปอยู่ตรงที่พักระหว่างชั้นคับ ยิ้มเยาะมัน1ที

“เออ... ได้...” มันพยายามจะขึ้นบันไดให้เร็วขึ้นคับ ผมหันหลังเตรียมวิ่งต่อละ

“โอ๊ยย... เจ็บ” มันร้องออกมาเบาๆคับ แต่ทำให้ผมต้องหันไปทันที เห็นมันทำหน้าเจ็บปวดอยู่ตรงบันไดนั่นเอง
เฮ่ย เป็นหนักจริงๆด้วยเว้ย ผมคิดในใจ รู้สึกผิดเล็กน้อยที่ไปแหย่มัน ผมจึงเดินกลับลงมาหามัน

“เป็นไรป่าวอะ ” ผมถามด้วยความเป็นห่วงจริงๆนะ แต่ทันใดนั้นเอง มันก้อยกขาข้างที่ไม่เจ็บขึ้นมาเตะผมเบาๆคับ ไอ้บ้า.... หลอกกันนี่หว่า

“555...” มันหัวเราะชอบใจ

“โอ๊ยย ไอ่เวรนี่...ตกลงแกล้งเจ็บหรือเจ็บจริง...” ผมพูดยิ้มๆ

“….เฮ้ยย เมื่อกี้เราเจ็บจริงๆไม่ได้แกล้งเจ็บ ” ผมรู้แล้วคับ ว่าไอ้พัทคงเจ็บจริง แต่อยากจะแกล้งมันต่อ ^ ^

“แล้วไง ...” ผมก้อมองหน้ามันคับ

“ช่วยหน่อยดิ...” มันมองหน้าผมคับ นี่นะหน้าตาคนที่จะขอร้องให้คนอื่นช่วย ดันทำหน้ามึนๆงี้อีก...เฮ้อ....

“เออๆ..ก้อด้ะ” ผมยอมมันจนได้คับ อย่างน้อยมันก้อเจ็บอยู่นี่นา... เอาเหอะ

ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ ผมกับไอ้พัทก้อขึ้นมาบนตึกจนได้ ตัวมันไม่หนักเลยคับ ผอมแห้งยังกะอะไรดี
ความจริงมันก้อตัวเท่าผมนี่เนอะ เหอะๆ แต่มันสูงกว่าผมนิดหน่อยเท่านั้นเอง...
ตกลงค่ายนั้น ผมจึงมีหน้าที่คอยดูแลมันไปโดยปริยายคับ ต้องคอยพยุงมันเวลาจะเดินขึ้นลงบันได
หรือทำอะไรๆที่มันลำบากให้ แน่นอนคับ ผมกะมันยิ่งดูเหมือนคู่สามีภรรยา
และผมกะไอ้พัท ก้อยังคงเป็นอันดากับฟ้าใส ให้เพื่อนๆได้ดูกันเล่นๆต่อไป - -" .........


วันนี้พอก่อนนะฮับ
เดี๋ยวต้องไปทำภารกิจลับเล็กน้อย บอกนิดนึงก้อได้คับ ว่าไม่ใช่เรื่องดีเลย
แต่ผมก้อต้องทำ ไม่งั้นผมคงต้องเสียใจไปมากกว่านี้แหงๆ
บางทีทางเลือกมันก้อไม่ได้มีอยู่มากมายเนอะ เฮ้อ...
ไปละคับ มีความสุขกันมากๆนะคับผม
ขอบคุณทุกคนมากๆเช่นกันค้าบ .... ^ ^

*************************

 :bye2:


ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
เวลาเลือกเรื่องมาโพสเลยต้องแน่ใจว่าจะจบแน่ๆค่อยเลือกมาดีที่สุด อิอิ
 :a4:

โดน  :laugh: เรย์ไมว่าน้องอย่างงั้น โอ๋ๆ ป๋อมแป๋ม พี่จะตามอ่านนะ เพราะเรื่องที่แป๋มเลือกมามีแต่หนุกๆทั้งนั้น  o13

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
555555555
เรื่องที่แป๋มเอามาโพสก็หนุกๆนะ
บางเรื่องแม้ว่าไม่จบ แต่ถ้าไม่ได้อ่านก็เสียดายมากๆ

มีอยู่หลายๆเรื่องเหมือนกัน แต่พอมันไม่จบ ก็ไม่ได้ขอมาโพส
ไม่ได้อ่านต่อด้วย

อยากจะบ้า
 :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ( = ___ = )

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 605
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-1
 :yeb:ขอบคุงคุณป๋อมแป๋มที่มาโพสเรื่องดีๆให้ได้อ่านฉะเหมอๆ
เอาไปเยย+1จ้า จุ๊บๆ

เราชอบคุณซินอ่ะ(เป็นการส่วนตัว---เอ่อคิดเอาเองว่าน่าจะเป็นคนเดียวกันอ่ะนะ)
เคยไปที่อ่านบอร์ดๆนึง คุณซินมักจะโพสอะไรดีๆและก็ตอบรีพลายน่ารักๆตลอด ชอบๆ :m1:

หุหุ ติดตามต่อไปจ้า




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 24-03-2008 12:17:16 โดย Solitarian »

ninaprake

  • บุคคลทั่วไป
โหยๆๆ เอาเรื่องของคุณซินมาลงใหม่ ดีคับๆ อยากอ่านเหมือนกัน เผื่อว่าจะมีอะไรอัพเดทด้วย  เรื่องนี้รู้สึกอ่านแล้วประทับใจกะเรื่องราวใสๆตอนเด็กๆของคุณซิน ถึงแม้ว่าจะขัดใจกะการตัดสินใจบางอย่าง อิอิ

เป็นกำลังใจให้ทุกคนและทุกการตัดสินใจคร้าบผม  o13

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23
ขอโทษที่ปล่อยเรื่องนี้ไว้นานมากมาย
ทั้งที่เรื่องเขาจบไปแล้ว แต่คนโพสก็ยังเอามาลงช้าอีกตามเคย
เพราะช่วงนี้คนโพสติดภารกิจเพื่อชาติ แหะๆ (แก้ตัวตลอดอ่ะกรู เอิ๊กๆ)

ลป.พี่เรย์จ๋า น้องขอโต๊ดดดด  :m13:

ลปป.ขอบคุณ Solitarian สำหรับ +1 บวกคืนให้เลยนะ  :o8:

********************************

เคยรักใครกันหรือเปล่าคับ ทุกๆคน
ก้อคงเคยสิเนอะ อย่างน้อยถ้ามีแฟน ก้อรักแฟน มีเพื่อน ก้อรักเพื่อน มีครอบครัว ก้อต้องรักครอบครัว
ผมเองก้อมีคนรักมากมายอยู่บนโลกใบนี้
ต่างคนที่ผมรัก ก้อต่างได้รับความหมายของคำว่ารักต่างกันไป รักแบบพี่น้อง รักแบบเพื่อน รักแบบเจ้าของ
ตัวผมที่ยังเด็กในตอนนั้น ไม่รู้จักความหมาย กับประเภทของความรักมากมายขนาดนั้นหรอกคับ
รู้อยู่อย่างเดียว ง่ายๆ ผมรักมัน แค่นั้นเอง...
รักแบบไหนก้อทุ่มเทให้ทั้งใจได้เหมือนกัน ถูกไม้คับ
เล่าต่อๆ ถึงไหนละ

และแล้ว เวลากลางคืนก้อมาถึง... เรานอนกันบนภูเขาคับ วันนี้ จากโรงเรียนผมเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก้อถึงละ
แต่กว่าจะถึง แดดก้ออ่อนเต็มทีแล้วคับ
อากาศเย็นๆ เพราะอยู่ในหน้าฝน ต้นไม้ครึ้มสวยงามเชียวคับ บ้านพักที่ผมนอนกันน่ะ
ผมจำได้ว่าเป็นบ้านไม้สีฟ้าๆ สร้างยกขึ้นมาจากผาเล็กๆ กว้างขวางพอควรเลยคับ
มีห้องโถงกว้างๆ ใช้เป็นทั้งห้องซ้อมและห้องนอนได้
คืนแรกหลังจากประชุม ซ้อม กันนิดหน่อยๆแล้ว เราก้อปูที่นอนลงบนพื้น
ที่นอนอันนึง นอนกันสองคน ซึ่งผมก้อนอนกะไอ้พัทนั่นแหละคับ
ก่อนนอน ก้อต้องจัดการกับแผลมันซะก่อน
ผมจัดการเปิดกระเป๋ามัน เอาอุปกรณ์กะยาทาแผลออกมากองคับ
แอบแปลกใจ ทำไมมันเยอะจังเลยอะ ดูยุ่งยากซะด้วย
มันนั่งลงบนที่นอนข้างผม แล้วยื่นขาให้ ผมยกขามันมาวางบนตักผม จะได้ทำง่ายๆคับ จากนั้นก้อเปิดผ้าพันแผลออก

“โหย... ” ผมอึ้งไปกับแผลมันคับ น่ากลัวจริงๆ แผลมันปากกว้างมากเลยคับ ลึกมากด้วย
ดูยังไงก้อไม่น่าหายได้ง่ายๆ ซึ่งพอมันหายดีก้อเป็นแผลเป็นเห็นชัดเจนเลยคับ

“ล้มยังไงวะ .. เป็นขนาดนี้ ” ผมบ่น กะให้มันได้ยิน

“ก้อล้มไปโดนหินอะ ” มันว่า ผมได้แต่ทำหน้าเหวอๆ

ความจริง ผมเคยเห็นแผลตัวเองนะ ตอนเด็กมากๆอะ จำได้ว่า โดนแก้วเสียบเข้าไปข้างๆเท้าอะคับ
แต่แม่บอกว่า ผมเป็นลมไปเลย - -“ ได้ยินแล้วก้อขำคับ คนอย่างผมเนี่ยนะ
ตอนนี้มีแผลเป็นอยู่คับ แต่ก้อยังไม่อยากเชื่ออยู่ดีแหละว่าผมจะเป็นลมเพราะเห็นเลือดตัวเอง
แต่ตอนนั้น ผมเห็นแผลไอ้พัทแล้วอยากจะเป็นลมมากกว่า ถึงแผลจะไม่สดเพราะล้มมาหลายวันแล้วก้อเหอะ
พอจินตนาการถึงความเจ็บปวดที่มันคงจะได้รับแล้ว ผมรู้สึกแย่ขึ้นมาเลย

“เป็นไรอะ...” มันถามผมคับ คงเห็นผมมองแผลมันด้วยตาแปลกๆ

“ไม่เจ็บเหรอ...” ผมถามแบบกลัวๆ ตอนนั้นเหมือนจะอยากร้องไห้ สงสารมันมากๆเลยอะคับ

“ก้อเจ็บนิดๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวก้อหาย ” มันพูด แต่ผมว่ามันควรเป็นคำพูดของผมสิ...

ผมมองหน้ามัน ไอ้พัทเข้มแข็งกว่าผมเยอะเลยคับ เห็นทำหน้ามึนๆอย่างนี้อะนะ เฮ้อ...
ผมจัดการล้างแผลให้มัน เอาแอลกอฮอล์ทารอบๆก่อนคับ แล้วใช้น้ำเกลือล้าง ยุ่งยากชะมัด
แล้วก้อต้องทายาที่เป็นน้ำๆอะคับ รอให้มันแห้งนิดๆแล้วก้อทายาอันที่เป็นครีมๆ
พอจะปิดแผลก้อต้องเอาตาข่ายอะไรก้อไม่รู้มาวางก่อน มันบอกว่าแผลจะได้ไม่ติดผ้าพันแผล
จากนั้นก้อเอาผ้าพันแผลมาวางหลายๆชั้นแล้วค่อยพันอีกที
โอย...ยุ่งยากจริงๆเนอะ ผมต้องทำแบบนี้ทุกคืนจนสุดค่ายเลยคับ
จากนั้นก้อได้เวลานอนซะที ผมกับไอ้พัทนั่งคุยกันบนที่นอนไปสักพัก อาจารย์ก้อมาปิดไฟคับ
ผมกะมันเลยต้องลงไปนอน แต่ก้อยังนอนหันหน้าเข้าหากัน คุยกันต่อ
จำไม่ได้แล้วอะคับ ว่าคุยกันเรื่องอะไรบ้าง มีเรื่องอนาคตว่า อยากเป็นไร อยากทำไรต่ออะไรทำนองนี้ด้วย
นานเท่าไหร่ก้อไม่รู้ พอรู้สึกตัวอีกทีรอบข้างเราก้อเงียบกันหมดแล้วคับ
ได้ยินเสียงแมลงร้องจากข้างนอก เสียงลมพัดใบไม้ไหว ชัดเจนเหมือนอยู่ข้างหู
เรายังคุยกันไปเงียบๆอีกหลายเรื่อง แต่ว่า.. มีเรื่องเดียวเท่านั้นที่ผมคุยกะมันแล้วจำได้แม่นยำ

“รู้จักโรงเรียน ..... ไม้” มันถามผมขึ้นมาคับ

“งืมม...” ผมพยักหน้าทั้งๆที่นอนหันเข้าหามัน โรงเรียนนีก้อดังพอดูคับ แต่โรงเรียนผมดังกว่า เหอๆ

“พ่อเราอยากให้เราไปสอบดู ”

“ก้อไปดิ สอบเล่นๆหริอสอบเอาจริงอะ ”

“ถ้าติดก้อไป.. ไปสอบด้วยกันนะ ” มันชวนผมคับ

“อืมๆ...” ผมตอบ ตอนนั้นยังไม่ตัดสินใจอะไรทั้งนั้นคับ

“เมื่อไหร่อะ...” ผมถาม

“ก้อต้องปีหน้าดิ...” เออ กูก้อรู้ว่าปีหน้า แหม่... เอาเหอะๆ ผมเริ่มง่วงแล้วคับ ฃักครึ่งหลับครึ่งตื่น

“งืม ....พัท ” ผมเรียกมัน

“หา...” มันตอบรับผม

“ง่วงแล้วอะ นอนเหอะ...” ผมบอก... มันไม่ว่าไงต่อคับ ผมก้อเลยหลับตาลง....

ในตอนนั้น คำพูดที่มันพูดกะผมเหมือนคุยกันทั่วไป ผมไม่ได้จดจำอะไรเป็นพิเศษ
แต่จิตสำนึกของผมกลับจำเรื่องโรงเรียนที่มันพูดขึ้นมาได้....

ในตอนนี้ นึกดูแล้วมันเหมือนเป็นสัญญาณที่บอกผมมาตั้งแต่ตอนนั้นแล้วหละมั้งคับ ว่าเรากำลังจะจากกัน
แต่ผมไม่รู้หรอก การจากกันสำหรับผมกะมันในตอนนั้นคงเหมือนจากกันตอนเลิกเรียน รุ่งขึ้นเราก้อเจอกันใหม่
ไม่มีอะไรต้องกังวล .... ยังไงเราก้อต้องเจอกันใหม่อยู่ดี ผมมั่นใจอย่างนั้น....
อย่างน้อยก้อในตอนนั้น...

ดึกเท่าไหร่แล้ว ผมไม่รู้ แต่ผมรู้สึกตัวขึ้นมาท่ามกลางความมืด
พอลืมตาขึ้นมาทางด้านไอ้พัท ผมก้อต้องตกใจแบบสุดๆเลยคับ
มีเงาคนนั่งกอดเข่าอยู่ข้างๆผม ....
ก่อนที่ผมจะตกใจมากพอที่จะร้อง ตาของผมก้อรับรู้ได้ก่อนว่า ไอ้เงานั่นคือไอ้พัทนั่นแหละ

“นั่งทำไรอะ... ” ผมถามงงๆ อารมณ์เพิ่งตื่น พร้อมๆกับยันตัวลุกขึ้น

“ป่าวอะ... นอนไม่หลับ” มันตอบผม ยิ้มๆ อืมมม นอนไม่หลับก้อนอนไม่หลับ เชื่อคับ

“งืมม งั้นเดี๋ยวนั่งคุยเป็นเพื่อน..” ผมลุกเรียบร้อย นั่งกอดเข่าแบบเดียวกะมัน กะคุยกะมันต่อ...

เราสองคนเลยนั่งคุยกันต่อในความมืดอย่างนั้นอีกสักพักคับ ก่อนที่มันจะล้มตัวนอน ผมเข้าใจว่ามันง่วงซะที
แล้วก้อลงนอน หลับตามมันไปอย่างรวดเร็ว….


เมื่อคืนถึงบ้านแล้วเพลียจัดคับ อาบน้ำแล้วว่าจะแอบหลับซักนิด เดี๋ยวค่อยตื่นตอนดึกๆ
ที่ไหนได้ ตื่นอีกทีเที่ยงตรงเลยคับ - -"
แถมด้วยอาการเวียนหัวอีก งือออ แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วคับ เหลือแค่เพลียๆนิดหน่อย
ความจริงไม่สบายนอนอยู่เฉยๆแบบไม่มีแรงนี่ก้อดีนะคับ
เห็นคุณค่าของสิ่งเล็กๆน้อยๆที่ปกติทำได้แล้วยามป่วยทำไม่ได้ขึ้นมาทันที
ร่างกายสัมพันธ์กับจิตใจ
เพราะฉะนั้นแล้ว ทำใจให้แข็งแรง หาเรื่องที่มีความสุขมากๆทำนะคับทุกๆคน
มีความสุขกันมากๆนะค้าบ...

*********************

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02-04-2008 06:34:57 โดย krappom »

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

เอาไปอีกตอน

*****************

วันนี้ ผมตื่นขึ้นมา ด้วยเสียงฝนที่สาดกระทบหน้าต่าง
ผมลืมตาเห็นภาพท้องฟ้าสีเทาๆ ล้อมกรอบด้วยบ้าน อาคารอื่นๆ จนเหลือพื้นที่ให้ผมเห็นเพียงนิดเดียว
เสียงน้ำๆไหลอยู่ข้างๆกำแพง ผมลืมตา แต่ยังไม่ลุกจากที่นอน
เป็นเช้าที่แสนสงบจริงๆ มีแต่เสียงสายฝนเบาๆ ปราศจากเสียงอื่นโดยสิ้นเชิง
ผมคิดถึงเรื่องที่ผมยังต้องทำ....
เราจะรู้ได้ไงคับ ว่าเราหมดความรักในของสิ่งหนึ่งลงแล้วจริงๆ
หรือว่าความจริงก้อคือ การที่เรามองไม่เห็นแม้เศษเสี้ยวความรักในของสิ่งนั้น มันเป็นเพราะเราเไม่เคยรักมันต่างหาก
เพียงแค่สนใจ หลงไปชั่วคราวเท่านั้นเองหรือ....
ว่าแต่...ทำไมผมต้องมาคิดเรื่องยุ่งยากในเช้าที่แสนสงบแบบนี้ด้วยนะ
เช้าๆแบบนี้ ความคิดผมไปไกลแบบกู่ไม่กลับจริงๆเลย ^ ^
เล่าต่อละดีกว่า ขอโทดนะคับที่เพ้อเจ้ออะไรก้อไม่รู้


ตอนเช้า...
หลังจากจัดการตัวเอง ทานข้าวแล้ว ก้อได้เวลาซ้อมคับ ทุกคนนั่งประจำที่ในห้อง ก่อนที่อาจารย์จะพูดอะไรๆ

“เมื่อคืน ทุกคนหลับสบายกันรึป่าว” อาจารย์ถามแบบอารมณ์ดีคับ ซึ่งทุกคนก้อตอบว่าดี

“แต่อาจารย์ว่า มีใครบางคนนอนหลับไม่สบายนะ ...” หืมมมม

“ใช่ไม้.. อันดา. ” เหอะๆ อาจารย์เนี่ย ... ตัวล้อเลียนตัวดีเลยคับ ตั้งฉายาให้ผมกะไอ้พัทกะมือมาแล้วยังเรียกไปตลอดอีก
แต่ว่ายังไงอะ ก้อเมื่อคืนมันก้อนอนข้างผมนี่นา นอนไม่หลับนิดหน่อยโดนประจานเลยรึ
ผมเข้าใจว่างั้นคับ เพราะปกติ อาจารย์แกก้อชอบหาเรื่องมาล้อนักเรียนเล่น แกล้งนักเรียนขำๆอยู่แล้ว

“เมื่อคืนทำอะไร...นั่งเห็นนั่งจ้องคนนอนข้างๆตอนดึกๆ ” หืออคนที่นอนข้างๆมันเหรอ แล้วลุกขึ้นมานั่งมองตอนดึกเนี่ยนะ ....
แต่ว่า... ผมกะมันนอนริมสุดแล้วนี่ งั้นก้อแสดงว่า.... ว้ากกกกกก ผมนี่นา.... เพื่อ.......
ไอ้พัทมันทำไรให้อาจารย์เห็นยังไงวะ ..... ผมตกใจสิ เข้าตัวผมจนได้ ว่าแล้ว.....
ทุกคนเริ่มฮือฮา หัวเราะกันใหญ่
ไอ้พัทมันก้อไม่ตอบคับ ก้มหน้า มันก้ออายเป็น เฮอะๆ

“คืออย่างนี้ ” อาจารย์เริ่มเล่า “เมื่อคืน อาจารย์เดินไปดูห้องนอนว่าเรียบร้อยดีรึป่าว ” เริ่มแฉแล้วคับ อาจารย์...

“แล้วก้อเห็นพัท นังอยู่บนเตียง ข้างๆซิน อาจารย์ก้อเลยถามว่าทำไมไม่นอน มันก้อไม่ตอบ”

“อาจารย์เลยเดินไปดูใกล้ ๆ ก้อเลยหายสงสัย ” อะไรๆ....อะไรเกิดขึ้นตอนผมนอนอะ อยากรู้ๆ

“อาจารย์เห็นซิน นอนแผ่อยู่กลางที่นอนเลย พัทมันก้อเลยไม่มีที่นอน มันเลยต้องนั่งดูคนนอนแทน ”

อ่า ขำคับ หัวเราะกันเข้าไป แล้วอาจารย์ก้อวาดภาพประกอบคำบรรยายคับ
ผมนอนอยู่กลางที่นอนจริงๆ ส่วนไอ้พัท เหอๆ ได้นั่งอยู่ขอบที่นอนเลยคับ ผมรู้สึกผิดสุดๆ อายก้ออาย
แล้วทำไมมึงไม่ปลุกกูล่าวววว เวรเอ๊ยยยยยย งืออออ อายอะ...... ดูดิหัวเราะกัน แซวกันเข้าไป

“อาจารย์ถามว่า ทำไมไม่ปลุก พัทมันก้อบอกว่า เดี๋ยวจะปลุกเอง อาจารย์เลยกลับมาก่อน ”

“ตกลงได้นอนรึปล่าว ฮะ พัท... หรือนั่งมองที่รักจนถึงเช้า....” อาจารย์ถามไอ้พัทคับ แต่มองมาทางผม
อยากจะวิ่งทะลุกำแพงออกไปข้างนอกเหมือนเอกซ์เมนภาคแรก....

แน่นอนคับ มันไม่ได้ปลุกผม เพราะผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเอง คาดว่าจะหลังจากที่อาจารย์กลับไปแล้ว
แต่นานเท่าไหร่ก้อไม่รู้.... กว่าผมจะตื่น มันจะได้นอนไม้เนี่ย แล้วนั่งมองผมมันมีอะไรน่าสนุกหรือไง
ได้แต่สงสัยอยู่ในใจ... แต่ผมก้อไม่เคยถามมันเลย ว่าในคืนนั้น ทำไมมันถึงไม่ปลุกผม
ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องน่าอายให้มานึกถึงคับ ในตอนนั้น... แต่ตอนนี้ ผมว่าผมน่าจะถามเนอะ...

ในค่าย ก้อไม่ค่อยมีเรื่องอะไรมากมายแล้วอะคับ
ส่วนมากตอนดึกๆ รุ่นพี่ก้อจะเริ่มเล่นอะไรทะลึ่งๆกัน ซึ่งผมไม่ค่อยอยากยุ่งด้วย
มีเปิดหนังเอกซ์ดูกันด้วยนะ แต่ผมไม่ไหวคับ ขอไปนอนดีกว่า
ไอ้พัทเองก้อยังอยู่ข้างผมตลอดคับ ไม่อยู่ได้ไง ไม่งั้นไม่มีใครดูแล 555
ถ้าถามว่า ผมกับไอ้พัทเคยทะเลาะกันไม้
ผมค่อนข้างมั่นใจว่า เราไม่เคยมีเรื่องทะลาะกัน ไม่เคยโกรธเคืองอะไรกันเลย
แต่ถ้าถามว่า ใครเคยทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียใจไม้
เคยคับ ... ครั้งเดียวเท่านัน้เอง และก้อเป็นผมที่ทำให้ไอ้พัทต้องร้องไห้....
เป็นเรื่องที่ผมรู้สึกผิดมาจนถึงวันนี้เลยคับ และผมก้อมักจะนึกภาพๆนี้ออกเสมอๆ ตลอดช่วงชีวิตที่ผ่านมา


วันนี้ตื่นมาแล้วอารมณ์ดีคับ ฝนตกๆ
เลยมาเล่าต่อตอนเช้า...
ไม่รู้ทำไม ผมชอบบรรยากาศครึ้มๆ ฝนปรอยๆแบบนี้จัง
ชอบมากกว่าวันที่อากาศสดใสซะอีก...
เดี๋ยวดึกๆมาเล่าต่อ ไปทานข้าวเช้าก่อนนะคร้าบบ
มีความสุขกันมากๆนะคับผม

**********************

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

และอีกตอน

***********************

ว่ากันว่า ยิ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเรามันกระตุ้นความรู้สึกเราในตอนนั้นมากเท่าไหร่
โอกาสที่เราจะจำมันได้ชัดเจน ลงลึกถึงรายละเอียด จะยิ่งมีมากขึ้นไปเท่านั้น
สิ่งที่อยากจำ เรากลับลืม สิ่งที่อยากลืม เรากลับจำ
เพราะสิ่งที่อยากลืมนั้น มันสร้างแรงกระทบต่อความรู้สึกของเราได้มากกว่านั่นเอง
ยิ่งแรงกระทบที่เป็นลบด้วยแล้ว ยิ่งย้ำเตือนให้เราจำ
แต่การที่มันจะกลายเป็นความผิดบาปในใจ หรือจะกลายเป็นบทเรียนนั้น
ขึ้นอยู่กับการมองโลก ทัศนคติ การวางตัวของความคิด ขึ้นอยู่กับตัวผู้ได้รับประสบการณ์นั้นเองเท่านั้นจริงๆ
ผมเองมีเรื่องราวมากมายที่กลายเป็นบทเรียน แต่หลายเรื่องราวยังเป็นความผิดบาปในใจ
ทั้งๆที่ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วเหมือนกันทั้งนั้น
ผมไม่อาจรับบางอย่างให้เป็นบทเรียนได้ซะที ทำไมกันน้า
ผมขอแค่ความเข้มแข็งอีกนิดเท่านั้นเอง....
เพ้อเจ้ออีกละคับ ต่อๆ


ก่อนที่ค่ายจะสิ้นสุดลง ชมรมของผมก้อมักจะมีการพากันไปเที่ยวคับ
คราวนี้เราไปว่ายน้ำกัน ขนกันไปยกชมรมเลยนั่นแหละคับ
ผมกะไอ้พัทก้อไปกะเค้าด้วย แต่แน่นอนคับ ผมคิดว่าไอ้พัทมันลงว่ายน้ำไม่ได้หรอก
ผมเองก้อกะจะไม่ลงอยู่เหมือนกัน ผมชอบเล่นน้ำนะคับ แต่ไม่ชอบเล่นอะไรกับคนจำนวนมากๆ
ดังนั้นผมจึงคิดไว้ว่าจะไปนั่งเป็นเพื่อนมันข้างๆสระ ดูคนอื่นเล่นเฉยๆ
แต่อยู่ๆตอนที่เค้ากำลังจะเตรียมตัวออกไปสระว่ายน้ำกัน ไอ้พัทมันคิดอะไรก้อไม่รู้คับ มันบอกกับผมว่า

" ซิน เราอยากว่ายน้ำอะ " อ่าว ไอ้นี่ แผลขนาดนั้นละยังจะลงน้ำอีก กลัวไม่เดี้ยงถาวรหรือไง

" หา... " ผมงงกะมันคับ เอาจริงเหรอ...

" แผลมันโดนน้ำได้เหรอ " ผมถาม

" ได้มั้ง ไม่รู้ดิ ตอนอาบน้ำก้อโดนไม่เห็นเป็นไรเลย " อ่าว แสดงว่ามันอาบน้ำแบบไม่สนใจแผลเลยอะดิ
ผมไม่รู้เลยคับ ว่าแผลมันโดนน้ำได้หรือไม่ได้ ตอนนั้นอะ เพิ่งรู้ด้วยว่า ทุกทีมันก้ออาบไปเลยแบบช่างแผลมัน
ก้อไม่ได้อาบด้วยกันนิคับ .... เหอะๆ
แต่ว่า น้ำในสระมันไม่ใช่น้ำทั่วไปนี่คับ เค้าต้องใส่คลอรีนลงไปเป็นธรรมดา ผมรู้เพราะเด็กๆผมว่ายน้ำบ่อยคับ

" น้ำในสระว่ายน้ำเนี่ยนะ มันไม่เหมือนกัน... " ผมบอกมัน กะให้มันเลิกเหอะ

" ไม่เห็นเป็นไรเลย เดี๋ยวเราเอาอุปกรณ์ทำแผลไปด้วย ขึ้นจากสระแล้วทำแผลเลยไง คงไม่เป็นไรหรอก "

" ......เอางั้นเหรอ..........." ผมก้อไม่อยากว่าไงคับ ถึงในใจจะรู้สึกไม่ค่อยอยากให้มันลงน้ำก้อเหอะ

ปกติก้อเป็นคนตามใจเพื่อนสนิทอยู่แล้วคับ คิดๆดูแล้ว ผมมีนิสัยนี้ตั้งแต่เด็กเลยนี่นา ไอ้นิสัยตามใจเพื่อนเนี่ย
ก้อเฉพาะกับคนที่สนิทหน่อยนะคับ แต่กับคนอื่น ผมเอาแต่ใจสุดๆไปเลยคับ ใครบางคนมักจะตัดพ้อผมบ่อยๆว่า....ใจร้ายจัง ...
แต่ผมไม่สนคับ นิสัยไม่ดีจังเลยเนอะ ผมเนี่ย...

สรุปว่า มันว่าไง ผมก้อว่าตามละกัน เอาใจมันหน่อย ยิ่งบาดเจ็บอยู่ด้วย แต่ในใจก้อไม่อยากให้มันลงอะคับ
ผมกะไอ้พัท จึงเข้าไปเก็บข้าวของกัน แต่ว่า... มันเอากางเกงว่ายน้ำมาด้วยทั้งๆที่ขามันเจ็บเนี่ยนะ
แสดงว่า มันคิดจะลงสระอยู่แล้วอะดิ ถึงได้เอามาด้วยเนี่ย แล้วแม่มันรู้ไม้น้า... เอาเหอะๆ ผมไม่อยากถามอะไรมันมากมายคับ
ได้แต่คิดเอาเองอยู่ในใจ แต่ไม่พูดอะไรออกมาตรงๆ นี่แหละ นิสัยเสียอีกอย่างของผม ก้อคิดมากนั่นแหละคับ...
แก้ไม่หายซะทีเลย

ไอ้พัทห่ออุปกรณ์ทำแผลของมันใส่ถุงพลาสติกคับ แล้วก้อใส่ไว้ในถุงผ้าอีกที ผมจำได้ด้วยแหละว่าสีชมพูออกม่วงๆ
อึ๋ยยย สีหวานเชียวนะมึง ก้อไม่รู้ทำไม ผมจำสีนั้นได้เต็มๆตาเลย แหะๆ
คงเพราะมันเกี่ยวกับเรื่องที่ผมกำลังจะทำให้ไอ้พัทต้องร้องไห้นั่นแหละคับ
รายละเอียดของเรื่องราวจึงฝังแน่นอยู่ในจิคใจ.... เหมือนกับเมื่อวาน
เราสองคนไปถึงสระว่ายน้ำ พร้อมๆกับเพื่อนๆจำนวนมากมาย แยกย้ายกันออกไปจัดการตัวเอง
ผมยังยืนอยู่กับไอ้พัท ถามถึงเรื่องที่มันจะลงน้ำ

" แน่ใจเหรอ ไม่เป็นไรแน่นะ... " ผมเป็นห่วงมันนะ

" ไม่เป็นไรหรอก คิดอะไรมากมาย... " มันเหมือนจะว่าผมแหละคับ
เฮ้อ... ผมก้อนะ แล้วแต่ละกัน ยืนๆอยู่สักพัก มันก้อส่งถุงข้าวของมันมาให้ผมถือคับ

" อะ ถือให้หน่อยดิ " ผมรับของจากมันมา แบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่อะคับ ในใจตอนนั้นผมแอบเซงๆนิดๆด้วย
เลยเกิดอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาแวบหนึ่ง ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ผมจึงเลือกทิ้งของที่ผมถืออยู่ในมือลงไปที่พื้น
สิ่งที่ผมถืออยู่ก้อคือข้าวของของไอ้พัทนั่นแหละคับ อารมณ์ผมกับการตัดสินใจมันเร็วมาก
ผมตั้งใจจะให้มันรับรู้ว่า ผมไม่พอใจเท่าไหร่ ที่มันทำเหมือนการที่ผมเป็นห่วงมัน ไม่ค่อยจะมีผลอะไรกับการตัดสินใจของมันเลย
งอนนิดๆนั่นแหละคับ แต่ผมไม่คิดเลยว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ

แทบจะทันทีที่ผมปล่อยมือ ถุงผ้าสีชมพูนั้นก้อกระทบกับพื้นเสียงดัง เพล้งงง...
อ่า มันเป็นผ้านี่นา ทำไมมันเพล้งอะ ผมนึกขึ้นมาได้คับ ว่ามันมีอุปกรณ์ทำแผลอยู่นี่นา งั้นที่เพล้งเมื่อกี้ก้อขวดแอลกอฮอล์อะดิ
แน่นอนคับ รอยเปียกค่อยๆซึมไล่ขึ้นมาตามเนื้อผ้า ผมแน่ใจทันทีเลยเพราะกลิ่นแอลกอฮอล์ชัดเจนกระทบจมูกผมจังๆ
ไอ้พัทยืนนิ่ง มองหน้าผม ผมก้อเช่นกัน ยืนนิ่ง แต่ผมไม่รู้ว่ามันคิดอะไรอยู่
ที่ผมรู้คือความคิดของผมเองเท่านั้น

ผมคิดถึงแค่ว่า เมื่อผมทิ้งของๆมัน มันจะหล่นใส่พื้นพอมีเสียงกระแทกกระทั้นให้มันรู้เฉยๆ ว่าผมงอน
มันจะหล่นใส่พื้นดัง ตุบ! ไม่ใช่เพล้ง และไอ้พัทจะมองมาทางผม พร้อมๆกับหัวเราะ
มันจะเก็บของๆมันขึ้นมาและแกล้งทำเป็นไม่พึ่งผมก้อได้... และในที่สุดผมก้อจะเข้าไปช่วยมันอยู่ดี เหมือนทุกทีที่เคยทำนั่นแหละ
แต่ทุกอย่างก้อผิดพลาดไป หลังจากที่มันมีเสียง เพล้ง! แทนที่เสียงที่มันควรจะเป็น
และทุกอย่างที่มันควรจะเป็นก้อกลับกลายเป็นสถาณการณ์ที่ผมกะไอ้พัทไม่เคยเจอต่อกันมาก่อน
เรายืนนิ่งมองหน้ากันยาวนานเท่าไหร่ไม่รู้ ไม่มีใครพูดอะไร
ก่อนที่ผมจะเอ่ยปากขอโทด เพราะความรู้สึกผิดมันก่อตัวเต็มหัวใจแล้ว
ไอ้พัทก้อน้ำตาไหลออกมา... มันร้องไห้คับ

ผมเห็นน้ำตามัน ไหลออกมาตั้งแต่หยดแรก และมากขึ้นๆ ภาพนั้นทำให้ผมเจ็บยิ่งขึ้นแบบสุดๆ
ความรู้สึกผิดในใจที่มันเต็มอยู่แล้ว ยิ่งขยายตัว คำว่าเจ็บที่หัวใจ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง ผมเพิ่งได้เข้าใจ
น้ำตาผมเริ่มไหล แข่งกับน้ำตาของมัน เรายืนมองหน้ากันไม่ได้แล้วคับเพราะในตอนนี้ต่างคนต่างหันหน้าหนีออกจากกัน
ผมไม่อยากจะให้มันเห็นผมร้องไห้เลยจริงๆ และก้อไม่อยากจะเห็นมันร้องไห้ด้วย ให้ตายเหอะ...
ใครช่วยพาผมออกไปจากตรงนี้ที... ผมคิดอย่างนี้จริงๆนะ ในตอนนั้น
สุดท้ายแล้ว ความจำของผมกลับขาดไปตรงช่วงที่เราร้องไห้กันแล้วนี่แหละคับ
จำไม่ได้ว่าทำไม หรือเพราะอะไรเราถึงหยุดร้องไห้กัน
แต่ภาพที่ผมเห็นถัดมาคือภาพของไอ้พัทกับผม เล่นกันอยู่ในสระน้ำ
สุดท้ายมันก้อลงน้ำไปอยู่ดีแหละคับ และผมก้อยังคงอยู่ข้างมัน ... เหมือนเดิม ...เหมือนกับที่ผ่านมา...

เรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น จากนั้นมา เหมือนกับไม่เคยเกิดขึ้นเลย เราสองคนไม่เคยพูดถึงมันเลยสักครั้ง..
และผมยังคงจำได้อีกว่า ผมยังไม่ได้พูดคำพูดที่ผมคิดไว้ ก่อนที่จะเห็นน้ำตาของมัน
ผมยังไม่ได้ขอโทดมันนั่นเอง...
ถ้าหากมันได้อ่านน่ะนะคับ ผมว่ามันคงรับรู้ความรู้สึกของผมทั้งหมดไปแล้ว รวมทั้งคำขอโทดที่ผมอยากจะบอกมันอยู่
คงมีแต่ผมที่จะไม่มีทางรับรู้ความรู้สึกในตอนนั้นของมันได้เลย ...


วันนี้ฝนตกตลอดวัน ใครหลายคนบอกว่ามันดูเศร้าๆ
แต่ผมชอบอากาศแบบนี้ เพราะมันทำให้ใจของผมสงบอย่างน่าประหลาด
วันนี้จิตตกเล็กน้อยตอนดึกๆคับ เกือบเล่าอะไรไม่ออกละ
นึกได้คับ ว่าเริ่มยืดเยื้อ ผมพิมช้าด้วย เดี๋ยวคนอ่านด่ายับ
เลยลุกขึ้นมาเล่าต่อ เล่าๆไปก้อยิ่งอยากร้องไห้ งือออ เศร้ากันมะคับ
แต่ผมนี่นิสัยไม่ดีจริงๆนั่นแหละเนอะ ตั้งแต่เด็กเล้ย ... เหะๆ
มีความสุขกันมากๆนะคับ ขอบคุณมากมายที่ติดตามนะค้าบ

**********************

 :bye2:


ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
อย่าลืมเอาหนุ่มๆแดนอาทิตย์อุทัยมาฝากหน่อยนะ

ชอบแบบนักว่ายน้ำอ่ะ
 :oni2: :oni2: :oni2:

Mono_Koro

  • บุคคลทั่วไป
น้องใหมอ่าคับ :m23:

ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยคนนะคับ

ออฟไลน์ krappom

  • 人は誰でもそれぞれに悩みを抱えて生きる
  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7395
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1182/-23

โหย พี่เรย์ น้องอัพไว้ในไฮไฟว์ตั้งหลายรูป

งั้นเอาไปแค่นี้ก่อนแล้วกัน

อันนี้พ่อค้าทั้งนั้นเลย กร๊ากกกกกกกก  :laugh:










ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
โอ่ว มายก๊อดมันยอดมาก
 o7 o7 o7

อยากไปอยู่ญี่ปุ่น
 :serius2: :serius2: :serius2:

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เนื่องจากฝากแป๋มมาโพสซะหลายตอน
ตอนนี้แป๋มคงจะยุ่งๆเนื่องจากไปเรียน
กระผมจะกลับมาโพสแทนนะครับ

********
เล่าต่อเลยนะคับ ถึงไหนแล้วอะ.. งืมมมม
เวลาที่เหลือในค่าย ก้อหมดไปกับการซ้อมและการทำกิจกรรมอย่างรวดเร็วเลยคับ
เผลอเดี๋ยวเดียว ก้อหมดค่ายลงไปแล้ว
หลังจากค่ายจบลง เว้นไปอีกแค่2 - 3 วัน ก้อได้เวลาเปิดเทอมเลย
ผมแทบจะไม่ได้พักอยู่เฉยๆ เล่นอะไรไร้สาระไปวันๆบ้างเลย อิจฉาเด็กคนอื่นๆเนอะ ...
แน่นอนคับ ผมกับไอ้พัท ก้อต้องจากกันช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพราะบ้านของเราสองคนไม่ใกล้กันเลยแม้แต่น้อยคับ
แทบจะข้ามจังหวัดเลยทีเดียว ถ้านับเอาจริงๆอะนะคับ
แต่พอเปิดเทอมวันแรก เราก้อเจอกันอยู่ดี... เหมือนไม่ได้จากกันเลยนั่นแหละคับ
นึกๆดูแล้ว เวลาที่ผมไม่ได้อยู่กับมันนานๆ เห็นจะมีแค่ตอนปิดเทอมใหญ่ก่อนเลื่อนชั้นเท่านั้นเอง
แต่ยังไง ในปิดเทอมมันก้อมีค่ายอยู่ดีแหละคับ แล้วเราก้อเจอกันเหมือนเดิมอยู่ดี
ทักทาย เล่น หัวเราะกัน ราวกับไม่เคยจะห่างกันไปไหน
เป็นอย่างนี้ตลอดมา...
ไม่เคยรู้เลยว่า วันนึงผมจะได้แยกจากกับมันนาน...ขนาดนี้
จากระยะเวลาที่เคยคิดเอาไว้ กลับเพิ่มมากขึ้นอีก ... จนกลายเป็นไม่มีกำหนดไปซะแล้วสิ...
หลังจากออกค่ายแล้ว ผมกะไอ้พัทก้อยังทำกิจกรรมชมรมเช่นเคยคับ
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ เราก้อยังอยู่ด้วยกันเรื่อยๆ
มีช่วงนึงตอนเย็นๆ ไอ้พัทจะกลับบ้านสายหน่อย เพราะพ่อแม่มันมีธุระคับ
ปกติเค้าจะมารอรับมัน ไอ้ลูกคุณหนู... ซึ่งต่างจากผม ถูกทิ้งจนเย็นอยู่บ่อยๆ
เราเลยเพิ่งมีโอกาสได้ไปเดินเล่นนอกโรงเรียนหลังเลิกเรียนด้วยกันคับ
ปกติแล้ว ถ้าผมอยู่คนเดียว ผมก้อจะไม่ออกไปเที่ยวเล่นนอกโรงเรียนหรอก ตอนนั้นผมเป็นเด็กนี่คับ
พ่อแม่ก้อต้องแอบกำชับเป็นธรรมดา กลัวลูกหายคับ ... ^ ^
ดังนั้น ที่เที่ยวข้างนอก จึงเหมือนเป็นแดนต้องห้ามของผมไป
แต่ช่วงนั้นที่เราได้อยู่เย็นด้วยกัน ผมก้อออกไปเที่ยวนอกโรงเรียนกะไอ้พัททุกวันเลย
เหมือนเปิดโลกใหม่อะไรทำนองนั้นเลยคับ
เราพากันเดินไปจนถึงโรงเรียนใกล้ๆ ไปร้านขายหนังสือ เที่ยวเล่นหาของกิน
เดินกันไปเรื่อยๆจนเบื่อ ไม่มีอะไรทำแล้วถึงกลับเข้ามาในโรงเรียน
หาที่นั่ง นั่งคุยกัน โดยมากก้อมักจะเป็นที่ๆนึงคับ
บนอาคารทรงยุโรปที่รูปทรงคล้ายๆหอคอย รอบๆจะมีขั้นบันไดยาวๆหลายๆขั้นเรียงกันรอบอาคาร
เราจะเดินขึ้นไปไปถึงชั้นบนสุด นั่งมองคนอื่นวิ่งเล่นกันบ้าง นั่งคุยกันไปเรื่อยๆ
เอาหนังสือที่เพิ่งซื้อออกมานั่งอ่าน รอจนพ่อแม่มารับกลับ...
และผมก้อมักจะได้กลับหลังไอ้พัทอยู่ทุกครั้งไป.... จึงเหลือผมนั่งอยู่คนเดียวบ่อยๆ
ผมจะนั่งเอนไปข้างหลัง เอามือทั้งของข้างยันตัวเองไว้ เป็นท่าประจำผมคับ ^ ^ และก้อมองอะไรไปเรื่อยเปื่อย
เหมือนคนเหม่อลอย...
แต่ผมไม่เคยรู้สึกเหงาเลยคับ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน... แต่ผมจำได้อย่างนั้น...
จากช่วงนั้นเป็นต้นมา ที่ตรงนั้นกลายเป็นที่ประจำของเราสองคน
ที่ๆเราไปกันแทบจะทุกวัน...
บ่ายวันหนึ่ง เราสองคนโดดซ้อมของชมรม แล้วก้อมานั่งอยู่เฉยๆที่ตรงนั้น
แต่ช่วงบ่าย แดดแรง เราจึงหลบเข้าไปในซอกมุมเล็กๆเหนือบันไดขึ้นไปอีก ทางข้างอาคาร
ผมเอามือสัมผัสกำแพงอิฐรอบๆ ความรู้สึกเย็นๆชื้นๆ เพราะช่วงนี้เป็นหน้าฝน
คนละอารมณ์กับเวลาอยู่กลางแดดแรงๆเลยคับ
ผมลงไปนั่งบนขั้นบันไดตรงเท้า กะไอ้พัท
แล้วเอนตัวพิงกำแพงเย็นๆ ไอ้พัทขยับมานั่งข้างๆผม
จำไม่ได้แล้วหละคับ ว่าเราคุยอะไรกันในเวลานั้น
แต่สักพักหนึ่ง ไอ้พัทก้อเอนตัวเข้ามาหาผมอย่างรวดเร็ว...
ก่อนที่จะทันคิดอะไรออก มันก้อเอาหัวของมันมาวางบนตักของผมแล้ว...
โดยไม่พูดอะไรเลยสักคำ... ไม่มีการขออนุญาติใดๆ ...
ผมนิ่งไป ไม่กล้าขยับตัว... ในใจเต้นแรงประหลาดๆ ผมไม่รู้เลยคับว่ามันคือความรู้สึกอะไร บอกไม่ถูกจริงๆ
แต่ผมยังจำความรู้สึก ณ วินาทีนั้นได้ดี...
ไอ้พัทเหยียดขาออก พร้อมกับหลับตาลง ยังคงไม่มีคำพูดใดๆ
ผมก้อยังคงไม่ขยับตัวใดๆเช่นกัน ถึงแม้จะรู้สึกได้ว่าร่างกายกำลังเกร็งอยู่ก้อตาม
เรียกได้ว่า ทำอะไรไม่ถูกก้อได้คับ อยู่ๆก้อมานอนตักผมนี่นา
แต่ความรู้สึกงงๆกับประหลาดใจ อยู่กับผมแค่เพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้นเอง
ครู่เดียว ผมก้อยิ้มอยู่ในใจ มองหน้ามันที่หลับตาเหมือนกับเด็กๆ ....
ขยับตัวให้ทั้งผมทั้งมันสบายขึ้น แล้ววางมือผมลงบนศรีษะมันอีกที ...
ผมปล่อยให้มันนอนตักผมอย่างนั้น... เราสองคนไม่ได้พูดอะไรกันอีก... จนมันหลับไป ....
และผม.. ก้อไม่ได้ขยับตัวอีกเลย ... เพราะกลัวมันจะตื่นขึ้นมา ...
สายตาผมมองไกลขึ้นไปข้างบน... แต่คิดอะไรอยู่ ผมจำไม่ได้แล้วหละคับ
ภาพที่ผมยังจำได้คือ ท้องฟ้าสีใสแบบฟ้าหลังฝน ความรู้สึกที่ผมจำได้คือ ผมอยากจะอยู่อย่างนั้นไปนานๆ...
เท่านั้นเอง ที่ผมจำได้ดี....
ถ้าถามผมว่า ความรู้สึกนั้น มันคืออะไร
ผมเองก้อไม่รู้เหมือนกันคับ รู้แต่ว่า ผมยังไม่เคยรู้สึกอย่างเลย ก่อนหน้านั้น
แต่หากมันจะเกิดขึ้นเพราะความรักแล้วหละก้อ ...
ผมรู้แต่ว่า ผมมีความรักที่บริสุทธิ์ใจให้กับมันคับ ...


วันนี้ฝนตกตลอดวันเช่นเคย
ดูแลสุขภาพให้ดีๆนะคับ แล้วก้ออย่าลืมดูแลคนที่คุณรัก ใส่ใจคนที่รักคุณ
มีความสุขมากๆนะคับผม
ป.ล. เวลาที่ถูกถามอะไรง่ายๆ แต่ดันถูกจังหวะนี่ มันก้อแทงใจเราได้เนอะ. ... เหอะๆ


...........


" ซิน "....
" หา "...
" จำเรื่องที่เคยคุยกันได้รึป่าว...."
" เรื่องอะไร.... "
" เราจะไปสอบเข้าโรงเรียน ... นะ "
" ............................"
" ไปด้วยกันนะ "

ในบ่ายวันหนึ่ง ซึ่งไม่มีอะไรแตกต่างจากวันอื่นๆ
บรรยากาศแบบเดิมๆ ที่ประจำที่เราคุ้นเคย...
ไอ้พัทถามผมถึงเรื่องที่เคยคุยกันไว้ นานมาแล้ว
ใช่คับ ในค่าย ตอนที่เรากำลังจะนอนหลับกัน...
เวลาที่เดินไม่หยุด พาผมข้ามช่วงต่างๆของชีวิตนักเรียนประถมไปอย่างรวดเร็ว
ฤดูฝนสิ้นสุดลงไปนานแล้วคับ หมุนเวียนเอาอากาศเย็นๆมาแทนที่
แล้วแสงแดดก้อละลายความเย็นหายไปอีกครั้ง...
เราสองคนยังคงอยู่ด้วยกันเช่นเคย อยู่ด้วยกัน ตลอดเวลาที่ผ่านไปนั้น
ตอนนี้ ใกล้จะถึงเวลาแล้วคับ...
มันต้องการคำตอบจริงๆแล้ว ว่าผมจะไปกับมันหรือไม่...
ผมเองก้อรู้ว่า มันจะถามผมในวันหนึ่ง ...
ผมจึงเตรียมคำตอบเอาไว้ให้มันเสมอมา...
ผมไม่รู้หรอกคับ ว่าทำไมไอ้พัทถึงต้องการจะย้ายโรงเรียน
แต่จะพูดให้ถูกก้อคือ เด็กๆเราจะไปรู้เรื่องหรือมีความเห็นใดๆกับเรื่องใหญ่ๆที่พ่อแม่วางแผนไว้ได้อย่างไร
ถูกไม้คับ ดังนั้นเมื่อผมถามว่า ทำไม
คำตอบที่ได้ทำให้ผมรู้ตัวว่าหมดสิทธิ์ที่จะรั้งเอาไว้อย่างแน่นอน
เว้นแต่ไอ้พัทจะสอบไม่ติดเอง ซึ่งผมแอบชั่วร้าย ภาวนาให้มันเป็นอย่างนั้นตั้งแต่นาทีนั้นเลยทีเดียว
แต่ผมเองก้อต้องเข้าใจ ... อนาคตของมันจะเกี่ยวอะไรกับผมล่ะ...
หลังจากที่มันถามผมในคืนนั้น ผมเองก้อลองคิดๆดู
เมื่อถึงเวลาใกล้ๆกับการรับสมัครสอบ ผมจึงถามพ่อแม่
คำตอบคือ ผมสามารถไปสอบได้คับ แต่ผมจะต้องอยู่โรงเรียนที่ผมอยู่นี้ต่อไป
นั่นคือ ต่อให้ผมสอบติด ผมก้อจะไม่ได้ย้ายโรงเรียนคับ ... เท่ากับไปสอบเล่นๆ
เพราะพ่อผมเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนที่ผมอยู่ และเห็นว่ามันดีที่สุดแล้ว สำหรับผม
ผมเองก้อเข้าใจ...
ส่วนตัวผมเองจริงๆแล้ว ก้อเห็นด้วยกับพ่อนะคับ โรงเรียนนี้ดีมากเลยทีเดียว
ผมจึงไม่ได้พยายามมากมายอะไรนักที่จะไปอยู่กับไอ้พัท...
หากว่าจะต้องจากกันจริงๆ ผมคิดถึงตอนที่เราจะได้เจอกันใหม่
เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เราห่างกันได้ไม่นาน ก้อเจอกันใหม่อย่างรวดเร็ว
ไม่เห็นมีอะไรน่ากังวล...
ตอนนั้นผมคิดอย่างนั้นจริงๆ...
" พัท... เรา...ไม่ไปสอบกะนายนะ... " ไม่ยากเลยคับ ที่จะพูดปฎิเสธ
มันเอง ก้อทำหน้าเหมือนจะรู้อยู่แล้วด้วยซ้ำไป ...
แต่ก้อยังคงถามผมว่า ทำไม....
" พ่อเราไม่อยากให้ย้ายอะ ..เราเองก้อไม่ค่อยอยากย้ายด้วย " ผมตอบตามจริง
" ก้อไปสอบเล่นๆก้อได้นี่ ไปเป็นเพื่อนหน่อยดิ "
" ไม่ได้หรอก โรงเรียนนี้คนก้ออยากเข้าเยอะอยู่ ถ้าเราสอบติดแล้วไม่ไป เราก้อไปแย่งที่เค้าอะดิ "
ผมจำคำของแม่มาพูดกะมัน แต่ความจริงถ้าผมจะไปสอบจริงๆแม่ก้อไม่ห้ามหรอกคับ
แต่ผมเห็นด้วยมากกว่า ผมไม่ได้อยากเข้านี่นา แล้วผมจะต้องไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนทำไม...
" ถ้าเราสอบติดอะ จะทำไง " มันถามผมคับ
" ก้อไปเรียนดิ จะให้ทำไงอะ " ผมถามย้อนมัน...
ไอ้พัทยิ้มคับ ....
ผมเองก้อยิ้ม ....
" งั้น... เราจะไปสอบนะ " มันบอกกับผมคับ คงอยากให้ผมรู้ว่า ถึงผมไม่ไป มันยังต้องไปอยู่ดี
" อืมม ไปดิ... " ผมเข้าใจคับ ... จึงไม่มีการต่อรองใดๆ ...
เราสองคนนั่งอยู่อีกสักพัก คุยกันเรื่องอื่นๆ
จนหมดเวลาพัก... เสียงกริ่งดังขึ้น เรียกนักเรียนให้เตรียมตัวไปเรียนคาบต่อไป
ผมลุกขึ้นยืนพร้อมๆกับไอ้พัท แต่ก่อนจะออกเดินไปด้วยกัน ไอ้พัทก้อพูดขึ้นมา
" เราสัญญานะ "
ผมหยุดเดิน หันกลับไปมองหน้าไอ้พัท...
" ถ้าเราสอบติด เราจะต้องไปเรียนที่นั่น แต่เราจะกลับมาหานายอีกครั้ง "
" เราจะกลับมาสอบเข้าโรงเรียนที่นายอยู่นี่อีกครั้ง เราจะเจอกันอีกแน่นอน... "
" เราสัญญา " มันย้ำคำสัญญานั้นด้วยตัวเอง
" สัญญาแล้วนะ... " ไม่รู้ทำไม ตอนนั้นผมถึงเกิดความรู้สึกอยากจะร้องไห้นิดๆ
แต่มันก้อไม่มากพอหรอกคับ ที่จะทำให้เสียงผมสั่น...
ผมจำคำสัญญาที่ผูกพันตัวมันไว้กับผมข้อนั้นได้ดี... จนวันนี้ มันยังคงดังก้องอยู่ในใจ
ความหมายของมันก้อคือ กำหนดระยะเวลา 3 ปีจากนั้นไป
เราอาจไม่เจอกันอีก จนกว่ามันจะกลับมาเข้า ม. 4 โรงเรียนที่ผมอยู่อีกครั้ง
3 ปี มันจะยาวนานแค่ไหนกัน ผมประมาณไม่ถูก
รู้แต่ว่า มันก้อจะผ่านไปอย่างรวดเร็ว แล้วเราก้อจะได้เจอกันใหม่ เหมือนตอนเปิดเทอม...
เหมือนทุกๆครั้งที่เราไม่เจอกันแค่เดี๋ยวเดียว
แล้วเราจะได้คุยกันใหม่อีกครั้ง เดินอยู่ข้างๆกันอีกครั้ง
แค่ผ่านช่วง 3 ปีนี้ไปให้ได้ก้อพอ....
แต่นั่นก้อยังอีกนาน ผมยังมีเวลาอยู่กะมันอีกเกือบทั้งปี มีเวลาเล่นสนุกกันอีกมากมายจริงๆ
ผมได้แต่หวังว่าเวลาจะไม่ผ่านไปเร็วนัก เหมือนที่ผ่านๆมา...


หงะ... ผมนึกถึงแล้วอยากจะร้องไห้นิดๆ
เรื่องนี้เหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เองคับ
สัญญามันยังชัดเจนอยู่ในหัวผมจริงๆ
อยากจะบอกว่าจากนี้ไป คงไม่มีอารมณ์ใสๆ โรแมนติกๆ อย่างที่อยากให้เป็นแล้วแหละคับ
เพราะมันเดินทางมาจนถึงปลายๆเรื่องแล้วคับ...
อดทนอ่านอีกนิด เดี๋ยวก้อจบแล้วคับผม ... ขอบคุณทุกๆคนนะคับ
มีความสุขกันมากๆนะ

..................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-04-2008 01:03:47 โดย b|ueBoYhUb »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด