“มาบ่อยไหมครับ แต่บ้านอยู่แถวนี้คงมาบ่อยแน่เลย”ชวนคุยต่อส่งอาหารให้ผมอีก ไหนมึงบอกมีสี่ถุงไง แล้วอีกสอง อ้อ เลิกสงสัย แม่ง อยู่ในกระเป๋าสะพาย ใส่ยี่สิบหยิบมาซะคุ้มเลยนะมึง กะให้บุญคุ้มกะลาหัวถึงชาติหน้าเลยหรือไงวะ
“ก็บ่อยอยู่”ผมตอบแบบสวมรอย ถ้าบอกไม่ใช่คนที่นี่มันก็สงสัยอีก ผมไม่บาปโกหกเพราะป้องกันตัว ส่วนมันไม่บาปก็ได้เพราะทำบุญ ผมยกให้
“ผมไม่ได้อยู่แถวนี้หรอก ผ่านมาธุระก็เลยแวะพักผ่อนซะเลย”ตอบโดยที่กูไม่ได้ถาม หรืออยากรู้สักนิด ว่าแต่คุณนกไม่ลงมาสักที อย่าบอกว่าถูกคอกับเจ้าอาวาสเลยจะขอบวชกับท่านไปด้วย
“อืม”แต่ก็ตอบรับ ไม่อยากให้มันเสียน้ำใจที่เสือกบอก
“แต่ อันที่จริง ผมก็ไม่เชิงแวะพักผ่อนซะทีเดียวหรอก”พูดพร้อมเอามือเกาท้ายทอยเหมือนจะเขิน มองหน้าเหมือนจะบอกว่ากูเป็นสาเหตุของการแวะใช่ไหม ถ้าไม่หลงตัวเองเกินไป กูว่าใช่แน่เลย
“ผม เอ้อ เห็นคุณขี่มอไซด์ ต่างจากผู้หญิงคนอื่น มันดูเท่ห์มาก จนผมต้องตามมา แหะแหะ”พูดจบยิ้มเจื่อนๆ กูว่าแล้ว แต่ไม่คิดว่าเหตุผลมึงคือหลงไหลท่ากูคร่อมมอไซด์เนี่ยนะ
“เท่ห์จริงนะ ผมไม่ได้มองว่า ทุเรศหรืออุบาวท์อะไรเลย”มันโบกไม้โบกมือยืนยันคำพูด
“ใช่ ไม่ได้มอง แต่พูดออกมาตรงๆเลย แค่นี้ใช่ไหมที่จะบอก”ผมไม่ได้โกรธมันหรอก แต่หาทางชิ่ง ดีแล้วที่มันเข้าใจอย่างนี้ กูจะได้ไปพาพ่อลาสิกขาสักที นานเกินแล้ว คุณนก
“เอ้อ ขอโทษ ผมไม่ได้คิดอย่างที่พูดจริงๆ คุณ คุณ”มันเดินตามหลังมาติดๆ ก่อนจะมาดักหน้า
“ผมขอโทษ นะ คุยกันก่อน”มันทำเสียงอ้อน หน้าไม่ได้เหมือนเฮียสักนิด แต่ทำไมผมถึงคิดว่าถ้าเฮียทำแบบนี้คงน่ารักดี ถึงเฮียจะหน้าดุ โหดกับคนอื่น แต่เวลาพูดถึงลูกหรืออยู่กับผม เฮียจะอ่อนโยนมาก ผมคิดถึงเฮียเหลือเกิน
“อย่าร้องไห้เลย ผมไม่ได้ว่าจริงๆ ขอโทษครับ”เสียงทุ้มตรงหน้า ยิ่งทำให้ผมนึกถึง ก่อนจะนึกได้ว่าน้ำตาผมไหลออกมา ตั้งแต่ห่างเฮีย ผมร้องไห้ง่ายเหลือเกิน ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย ผมยกชายเสื้อขึ้นเช็ด มันคงนึกว่าผมดัดจริตแค่นี้ก็ร้องไห้ แต่ผมไม่บอกมันหรอก
“เวลาคุณยิ้มน่ารักกว่านะ”ไอ้สัด จะหยุดพูดได้หรือยัง กูเพิ่งฟังเฮียพูดเมื่อคืนเอง จะตอกย้ำกูไปถึงไหน เหี้ยเอ้ย
“โอ้ยยยยยยยยยยยยยยย ผมขอโทษแล้วไง ไม่ได้ว่าจริงๆ”มันร้องออกมา เอามือกุมเป้า ที่ผมเผลอยกตีนเตะไปหลังด่ามันในความคิดเสร็จ เหี้ยแล้วกู เอาไงดีวะ หน้าแม่งเริ่มเขียวแล้วด้วย มีคนผ่านมาสามคนหันมามอง ยกมือปิดปากหัวเราะ
“เอ้อ มานั่งนี่ก่อน โทษที”ผมเลยต้องไปประคองมันมานั่ง พร้อมขอโทษแทนตีนที่ไวไปหน่อย เสือกพูดบลิ๊วกูอยู่ได้
“อูย ไม่เป็นไร”มันพูดตอบ แต่หน้าแหยเก ผมเกือบหัวเราะออกมา ไม่ใช่สมน้ำหน้า แต่ขำหน้ามัน
“เอาเป็นว่าหายกัน โอเคป่ะ”ผมพูดบอกมันที่เงยหน้ามามอง
“ครับ คุ้มมากกกก”มันรับคำแต่ลากเสียงเชิงประชด เรื่องของมึงไม่ใช่ลูกหนูกู
“ไปหาหมอไหมล่ะ จะพาไป”ผมเลยออกปากรับผิดชอบสักหน่อย ดูมันจะเจ็บมากเพราะไม่ได้ตั้งตัวทั้งคู่
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวก็หาย จุกๆเสียดๆนิดๆ”มันพูดยิ้มๆตามเดิม ผมเลยต้องนั่งเป็นเพื่อนมันก่อน หยุดพักไปลาสิกขาพ่อเอาไว้ก่อน แต่เรื่องเฮียพักไม่ได้คิดถึงและเป็นห่วงอยู่ตลอด
จะมีก็แต่เรื่องเดียว
ที่ผมลืม
คือ
อันตราย
ที่
เฮียเตือน
.
.
.
.
.
“ไอ้รัน มึงรู้หรือยัง ว่าไอ้เฮียถูกจับได้”เสียงวิ่งกระหืดกระหอบพร้อมเรียกชื่อเพื่อน ผมรีบซ่อนตัวตรงมุม
“อะไรนะ ไอ้เบียร์ มึงพูดว่าอะไร”คนที่ถูกเรียก ลุกพรวดก้าวไปหาถามเสียงร้อนรนไม่ต่างจากสีหน้า
“ดร. โดนจับ”ผมรำพึงกับตัวเอง ก่อนจะเงี่ยหูฟังต่อ
“ไอ้เฮียถูกจับได้ ไอ้โจ๊กบอกกูเมื่อเช้า”เบียร์พูดต่อ ยังหอบไม่หาย เดี๋ยวก็จุกหรอก ไม่พักก่อน รันถอยหลังลงไปนั่งเหมือนหมดแรง
“ไอ้เฮีย มึงอย่าเป็นอะไรนะโว้ย”พูดเสียงสั่นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ไปด้วย ทำไมมีแต่คนห่วง ดร. กรกฎ กันเหลือเกิน แม้แต่เบียร์ยังเป็นไปด้วย ดูจากที่ไม่ยอมเลือกผม เลือกที่จะอยู่ที่นี่ คงต้องมีเหตุอะไรมากกว่านั้นแน่นอน
“ไม่รู้ว่ะ เฮ้ย ไอ้เข้ม ไอ้เข้ม”เบียร์พูดเหมือนจะหมดแรงตาม ก่อนจะเรียกชื่อใครอีกคนเสียงดัง เข้ม มือปืนชื่อดังก่อนจะติดคุก เดินหน้าเข้มสมชื่อเข้ามา
“ไอ้เฮียเป็นไงบ้าง มึงรู้อะไรไหม”รันถลาเข้าไปจับเขย่าถามตัดหน้าเบียร์ที่ได้แต่อ้าปากค้าง ไอ้เข้มมองหน้าก่อนจะพูด
“รู้แค่ว่าถูกจับ แต่หลังจากนั้นไม่รู้ ไอ้ไป่ ไอ้ย้ง มันบอกว่า ไอ้เฮียให้พวกมันออกมาก่อน”ไอ้เข้มตอบ ก่อนจะมองคนตรงหน้าแววตาอ่อนโยน ขัดกับภาพลักษณ์ที่เห็น
“มันแกล้งไอ้เฮียหรือเปล่าวะ”เบียร์พูดออกมาเหมือนจะไม่พอใจใครบางคนในกลุ่มที่ไปด้วย
“มันจะเอาเวลาที่ไหนแกล้ง มึงก็พูดไป ไอ้ไป่ พี่เป้า ก็ไปด้วย มันไม่กล้าหรอก ถ้าทำอย่างนั้น นายเอาตาย”ไอ้เข้มส่ายหน้าออกความเห็นอย่างไม่เห็นด้วยกับคำพูดเบียร์
“กูว่างั้น มันไม่กล้าหรอก แล้วมึงรู้ไหมว่านายจะเอายังไงต่อ”รันเห็นด้วยกับไอ้เข้มที่เหมือนจะอมยิ้ม ไม่รู้มันถูกใจอะไร ก่อนจะถามอย่างอยากรู้
“ปรึกษากันอยู่ กูไม่ได้เข้าไป คงต้องรอพี่เป้ามาบอก มึงก็ไม่ต้องกังวลไปหรอก ไอ้เฮียมันตายยาก ยังไงมันก็อยากเจอเมียมันอยู่ มันตายไม่ได้หรอก”เหมือนจะพูดปลอบใจ แต่ทำไมรันตาเขียวใส่
“มึงประชดกูเหรอ มันลูกพี่กู ไอ้หนูเมียมัน ก็ดีกับกู”รันพูดใส่มือกระชากคอเสื้อคนตัวสูงกว่า เบียร์มองหน้าสองคนไปมา เดินมาหาพี่นี่เร็ว ไปอยู่ขัดคอเขาทำไม
“ประชดห่าอะไร กูพูดเรื่องจริง”ไอ้เข้มว่าแต่หน้ายิ้มๆยื่นไปพูดใกล้ จนรันปล่อยเสื้อถอยห่างแถบไม่ทัน
“เหี้ย ไปเลย”ด่าพร้อมไล่ ก่อนจะเดินหนี
“หมดประโยชน์ไล่กูเชียวนะมึง ฝากไว้ก่อนเถอะ”ไอ้เข้มพูดขู่ แต่ดูไม่จริงจัง ส่วนผมมองสองคนที่เดินไปจากตรงนั้นแล้ว ก่อนจะหลบวูบเมื่อไอ้เข้มเดินมาทางนี้ แล้วผมจะหลบมันทำไมวะ ในเมื่อตอนนี้ผมคือผู้ช่วยหมอ
.
.
.
.
ตกดึก ผมพักงานผู้ช่วย หันมายึดงานตะกายตึก คงไม่ต้องบอกมั้งครับว่าห้องใคร จนเกาะขอบหน้าต่างได้แล้วค่อยๆแงะ
“ไอ้รัน มึงไม่นอนกับกูเหรอ”เสียงเบียร์ดังแหวกอากาศทะลุหน้าต่าง อ้าว นึกว่าอยู่คนเดียว และไปท้วงรันมันทำไม พี่อยากคุยด้วย ขอให้รันปฏิเสธ สาธุ
“ไม่ดีกว่าว่ะ กูนอนดิ้น อยากคิดอะไรด้วย”เยส ในที่สุดรันก็ฟังคำขอผม
“นอนเถอะ ทำอย่างกับกูกับมึงไม่เคยนอนด้วยกัน คิดอะไร เรื่องไอ้เฮีย กูคิดเป็นเพื่อน เพราะกูก็ห่วงมันว่ะ ป่านนี้เป็นไงบ้างไม่รู้ ถ้าไอ้หนูยังอยู่ แม่ง คงร้องไห้ตาปูดแน่”มีน้ำใจไม่เคยเปลี่ยน แถมพาดพิงถึงคนที่อยู่เรือนหอเราด้วย ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าถ้ารู้เข้าสภาพอย่างที่เบียร์พูดนั่นแหละ แค่พากลับยังร้องไห้ซะตาบวมไปหมด กลับมาก็สั่งนักสั่งหนา อย่าจับเฮีย อย่าทำรุนแรงกับเฮีย ที่เตือนเพราะไม่อยากให้เจ็บตัว ไม่ค่อยจะหลงผัวเลย
“นั่นสิ ตอนนี้มันจะคิดถึงไอ้เฮียหรือเปล่าวะ หรืออยู่กับพ่อลืมไปแล้ว มึงว่ามันจะลืมไหม”รันถามเบียร์เสียงหงอย ดูท่าจะสนิทกันดีจริง นักโทษกับตัวประกัน
“ไม่หรอก ไอ้หนูมันไม่ใช่คนแบบนั้น และมันก็รักไอ้เฮียไม่น้อยไปกว่าไอ้เฮียรักมัน”เบียร์พูดอย่างรู้ดี ทีใจพี่เบียร์ไม่รู้บ้างล่ะว่าคิดยังไง รักเบียร์แค่ไหน ตามมาขนาดนี้แล้ว เชื่อใจพี่บ้างสิ
“ยังไง ก็ขอให้มันรอด หรือไม่ก็นายส่งคนไปช่วยมันด้วย”รันพูดต่ออย่างเอาใจช่วย
“มันต้องรอดอยู่แล้ว นายกำลังหาทางอยู่”เบียร์ตบไหล่เพื่อน ผมเห็นด้วยกับเบียร์ ดูแล้ว ดร. น่าจะสำคัญไม่งั้นหนูไม่อยู่รอดมาจนถึงมือพ่อหรอก และยังรับประกันเรื่องผมอีก
“มึงนอนเถอะ กูกลับห้องดีกว่า”รันพูดอย่างตัดสินว่าจะไม่นอน ลุกขึ้นจากเตียง เบียร์พี่หวังว่าคงไม่รั้งหรอกนะ พี่ขอ
“ตามใจ มีอะไรก็มาหากูแล้วกัน”เบียร์ตบไหล่เดินไปที่ประตู รันพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป เบียร์ปิดประตูตามหลัง พอหันมาเบิกตา
“ไอ้เหี้ยสิบ มึงเข้ามาได้ไงเนี่ย”เรียกผมเสียงดัง แต่ถ้าไม่เข้าข้างตัวเองไปนัก ผมเห็นประกายความดีใจทางสีหน้าและแววตาชั่วแวบ
“ปีนเข้ามา และเรียกพี่ซะ”ผมบอกก่อนจะตัดพ้อ เบียร์มองไปมา มองประตูที่กดล็อค
“เรื่องของกู แล้วมึงทำแบบนี้ทำไม เกิดใครเห็นเข้า”เบียร์พูดเสียงเบาลง แต่เน้นลอดไรฟัน
“คิดถึง ห่วงพี่เหรอ”ผมบอกยกยิ้มกว้าง
“ห่วงห่าอะไร กูห่วงตัวเองจะโดนเก็บมากกว่า มึงรีบไปซะก่อนที่จะมีใครมาเห็นเข้า”เบียร์พูดเสียงเรียบแต่หน้าแดง
“ไม่ไป จนกว่าจะคุยกันรู้เรื่อง ฟังพี่สักนิดสิ เบียร์”ผมเดินเข้าไปคว้าตัวเบียร์อย่างเร็ว ดึงเข้ามากอดอย่างคิดถึง ลมหายใจเป่ารดตรงต้นคอ หัวใจที่เต้นแรงไม่แพ้กัน อย่างน้อยเบียร์ก็ยังรักผมอยู่แน่นอน
“ปล่อย ปล่อยกู”พอรู้สึกตัวเบียร์ดิ้นรนออกจากแขน แต่ผมรัดแน่นก่อนจะลากไปที่เตียง ล้มตัวทั้งคู่ ผมพลิกเบียร์ไปอยู่ใต้ร่างอย่างเร็วพร้อมกดทับก่อนที่ตีนจะกระเด้งมาถีบออก
“อยู่เฉยๆก่อนได้ไหม พี่ไม่ทำอะไร เราคุยกันดีๆ”ผมพยายามประเลาะเบียร์ ถ้ายิ่งแรงใส่ เบียร์ก็จะยิ่งรั้น
“ไม่มีอะไรจะคุย ปล่อย”เบียร์ยังไม่ยอมฟัง ถึงตาใส่
“สัด สิบ กูบอกให้ปล่อย มึงอยากให้กูเรียกคนมาใช่ไหม”เห็นผมไม่ปล่อย ด่าและพูดใส่
“เอาสิ เรียกมาเลย หรือจะให้พี่เรียกก็ได้ ทำไมไม่ฟังกันบ้างวะ ห๊ะ”ผมเริ่มฉุนขาดเหมือนกัน ปล่อยและลุกพูดเสียงดัง
ผลัวะ
ตุบ
พลั่ก
“อุ๊บบบบบบบบบบบบ เบียร์กระโดดถีบพี่ทำไม”ผมถามเสียงจุกเสียด หน้าแนบกำแพง เมื่อโดนเต็มๆกลางหลัง
“มึงจะโวยวายเพื่อ”เบียร์ตามมาดึงคอเสื้อผมหันไปหา หน้าตาแตกตื่น
“ก็เบียร์พูดก่อนทำไมล่ะ ไม่ฟังพี่สักนิด อูยยย”พูดอย่างน้อยใจ ความจุกยังแน่นอยู่
“โว้ยยยยยยยยยยย แม่งงง”เบียร์ร้องเอามือยีหัวตัวเองที่มีผมขึ้นหรอมแหรม ดูน่ารักไปอีกแบบ ยังมีแก่ใจคิดอีกกู
“เอาไง จะเรียกหรือจะฟัง”ผมได้ทีพูดเสียงแข็งนิดๆ แต่ตาก็ระวังตีนด้วยเผื่อมาอีก
“บอกตามตรง ตอนนี้กูไม่อยากจะฟังอะไร เรื่องของกูกับมึง เก็บไว้ก่อน มีเรื่องที่ใหญ่กว่าอยู่”เบียร์พูดก่อนจะนั่งอีกฟากของเตียง
“ไม่มีเรื่องอะไรใหญ่ไปกว่าเรื่องเบียร์”ผมหันไปพูดกับเบียร์ที่มองแววตาอ่อนลง
“ใหญ่ มันใหญ่มาก เรื่องกูเอาไว้ทีหลัง”เบียร์พูดเสียงอ่อนลง
“มันเรื่องอะไรล่ะเบียร์ ทำไมเบียร์ต้องแหกคุกมากับเขา ทำไมถึงไม่กลับไปกับพี่ หรือถ้ามีอะไรบอกพี่ได้ไหม”ผมค่อยเขยิบเข้าไปใกล้ ตอนนี้เบียร์ดูจะสับสน
“กูบอกไม่ได้ อย่าถามกู”เบียร์ส่ายหน้าพูดพร้อมหลุบตา ผมดึงเข้ามากอด
“เบียร์ มีอะไรที่พี่ช่วยได้ไหม”ผมพูดพลางลูบหลังเบียร์อย่างปลอบโยน ก่อนจะพูดต่อเสียงเบา “อย่ามองว่าตอนนี้พี่เป็นตำรวจที่ซักผู้ต้องหา หรือล้วงความลับ ให้มองว่าเราเป็นคนรักกันได้ไหม”เบียร์เงยหน้ามองผม ก่อนจะกอดตอบ
“พี่ พี่สิบ ฮือออออออ”เบียร์เรียกผมเสียงเครือก่อนจะร้องไห้ออกมาเสียงเบา ผมดีใจเหลือเกินที่ได้ยินคำนี้อีกครั้ง นานเหลือเกินที่ไม่ได้ฟัง
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร ใจเย็น ปัญหามีทางแก้”ผมพูดต่อ พยายามไม่ดึงเรื่องเรามาคุย
“กู เบียร์ เอ้อ”เบียร์ตะกุกตะกัก
“ตามสบาย เบียร์อยากใช้คำไหนก็ใช้”ผมยกยิ้ม เช็ดน้ำตาให้อย่างเบามือ ไม่ว่าผ่านไปสักเท่าไหร่ ผู้ชายร่างโย่งตรงหน้าก็เหมือนเด็กตัวเล็กที่ต้องคอยปลอบเวลาใจเสีย
“ตอนนี้ เบียร์เป็นห่วงไอ้เฮีย มันเป็นลูกพี่ เป็นเพื่อน ที่ดีมาก ทั้งในและนอกคุก มันช่วยเหลือหลายครั้ง แต่ตอนนี้”เบียร์ตัดสินใจใช้ชื่อแทนตัว พูดถึง ดร. กรกฎ ที่ผมรู้สึกอิจฉาขึ้นมาทันทีที่เบียร์เป็นห่วงมากกว่าเรื่องตัวเอง
“ใครจับเขา”ผมถามเบียร์ที่เอามือลูบหน้า
“ไม่แน่ใจ รู้แต่เป็นคนใหญ่คนโตคนหนึ่ง รู้แค่นี้”เบียร์ส่ายหน้าพูดด้วยเสียงไม่มั่นใจเท่าไหร่นัก ส่วนนายทั้งสองของเบียร์จากประวัติเป็นลูกเจ้าสัวชื่อดัง ประกอบธุรกิจทั้งในและนอกประเทศ ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย ยกเว้นครั้งล่าสุดที่ถูกจับ ข้อหาร้ายแรงมาก เข้าข่ายเป็นอันตรายต่อชาติ ส่วน ดร. กรกฎ ถ้ายังอยู่ในคุกก็อีกหลายสิบปีกว่าจะได้ออก มีเบียร์กับรันที่ยังพอจะออกมาก่อนได้บ้าง เท่าที่ทราบ
“พี่ว่า เบียร์อย่าเพิ่งกังวลเลย เขาเป็นคนฉลาด และรอดมาได้หลายครั้ง นายเบียร์ก็กำลังหาทางช่วยเขาอยู่”ผมไม่รู้จะพูดยังไงเพราะไม่ทราบต้นสายปลายเหตุ ได้แต่ปลอบให้เบียร์คลายกังวล แต่ขณะที่กำลังจะพูดต่อ ประตูถูกเปิดเข้ามาอย่างแรง พร้อมบุคคลอีกสี่คนถือปืนจ่อมาทางเรา
ปัง
“ไอ้ทวน”เสียงที่ออกจากปากเบียร์ พร้อมหน้าที่ซีดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังลุกขึ้นเอาตัวกันผมไว้ แต่ผมดึงไปหลบข้างหลัง
“ไม่ต้องเกี่ยงกัน”คนที่เบียร์เรียกยกยิ้ม ก่อนจะพยักหน้า ให้ลูกน้องอีกสองคนเข้ามา ผมจะสู้ แต่เบียร์ส่ายหน้า
“อย่า”พูดเบา ก่อนจะถูกคุมตัว
“นายต้องการพบ”หัวหน้าพวกมันบอกก่อนจะถูกลากออกห้อง
.
.
.
.
.
“สวัสดี คุณตำรวจ”เสียงคนเป็นนายทักผมเนิบๆ แต่หน้าตาเย็นชา
“มาตามแฟนเหรอครับ”อีกคนยกยิ้มพูดเชิงล้อ
“นาย”เบียร์เรียกเสียงสั่น แม้แต่มือที่ผมกุมไว้ก็สั่นอย่างเห็นได้ชัด
“ไงล่ะ เขามาตามทำไมไม่กลับไปกับเขา หืม”นายหน้าเย็นชาถาม
“หรือ มึงแอบบอกให้มาจับพวกกู”อีกคนถามเสียงกระด้าง เดินมาใกล้
“ไม่เกี่ยวกับเบียร์ ผมเข้ามาเอง”ผมออกรับแทนเบียร์ที่ไม่แก้ตัวอะไรเลย
“อย่างนั้นเหรอ หึหึ”เขาเลิกคิ้ว ก่อนหน้าผมจะหัน
ผลั่วะ
ผลั่วะ
“พี่สิบ นาย อย่า ผมผิดเอง”เบียร์เรียกผมก่อนจะจับมือนายให้หยุด
ผลั่วะ
แต่เบียร์กับหงายหลัง ผมเข้าไปขวาง
“ถ้าคุณทำเขาอีก ผมจะฆ่าคุณ”ผมประคองเบียร์พูดใส่หน้าเขา
“จะฆ่าเหรอ งั้นตายก่อนดีกว่าไหม”เขาพูดพร้อมชักปืนเสียงดังกริ๊ก ผมกอดเบียร์ไว้แน่น
“พอได้แล้ว จะใช้เขาทำงาน ไม่รู้จักพูดดี”เสียงเนิบๆขัดเอาไว้พร้อมพูดบางอย่าง
“แต่มันทรยศเรา โทษคนทรยศ สมควรตาย”คนที่ชักปืนแสยะยิ้ม จ่อปืนใกล้กว่าเดิม แต่ผมไม่กลัวสักนิด เบียร์ก้มหน้าอย่างยอมรับชะตากรรม ผมไม่น่าทำให้เบียร์ต้องมาลำบากเลย พี่ขอโทษ เหมือนเบียร์จะรู้สิ่งที่ผมคิดในใจ ยกยิ้มให้ เป็นครั้งแรกตั้งแต่มีเรื่อง เบียร์ยิ้มให้ผม
“หูหนวกเหรอ คุณตำรวจเขาก็บอกว่าไม่เกี่ยวกับมัน เขาเข้ามาเอง”เขาเลิกคิ้วใส่อีกฝ่าย
“เชื่อคำพูดตำรวจตั้งแต่เมื่อไหร่”อีกฝ่ายก็ดูไม่ยอม หันไปเลิกคิ้วใส่บ้าง
“เพิ่งเชื่อ”เขาตอบหน้าตาเฉย เหมือนจะยั่วอีกฝ่าย ที่หรี่ตาใส่ หันมามองหน้าพวกผม
“เบียร์”เขาเรียกเบียร์ที่เงยหน้าทันที มุมปากมีรอยเลือดซึม
“ครับ นาย”เบียร์รับคำ ก่อนจะมองหน้าผมและคลานเข้าไปหาเขาที่พยักหน้า
“เบียร์ อึก”ผมดึงเบียร์เอาไว้ ก่อนจะตัวงอเมื่อโดนดึงออกจนหลังกระแทกพื้นอย่างแรง จะลุกขึ้นแต่โดนปืนจ่อ
“เขาเป็นอะไรกับเบียร์”ถามพลางเอามือลูบหน้า ก่อนจะบีบอย่างแรง ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเมื่อมือเรียวดูบอบบางบีบคางผู้ชายตัวใหญ่กว่าจนหน้าเบ้
“อึก”เบียร์ยังไม่ยอมพูด
“ไม่ตอบ ฉันฆ่าเขานะ”เขายื่นหน้าไปพูดใกล้ๆ
“ปล่อยเบียร์”ผมตะโกนบอก แต่เข้าไปไม่ได้เมื่อโดนกดไหล่กับพื้นโดยผู้ชายตัวโตสองคน
“เป้า เบาหน่อยเดี๋ยวกระดูกหัก”คนที่เอาปืนจ่อพูดขัดกับสีหน้าที่รื่นเริง
“ว่าไง”เขาถามพร้อมบีบอีก
“เป็นคนรัก”เบียร์พูดออกมา เขายกยิ้ม
“จริงเหรอ คุณตำรวจ”หันมาถามผม
“ใช่ ผมจะเอาเบียร์กลับ ปล่อยเขาไป”ผมยอมรับพูดใส่ ทั้งที่เสียเปรียบอยู่
“เอากลับไปได้ แต่มีข้อแลกเปลี่ยน”เขาปล่อยคางเบียร์ หันมาพูดกับผม
“.............”
“ว่ายังไงคุณตำรวจ”คนจ่อปืนถามผม โบกปืนไปมาตรงหน้า
“ผิดกฎหมายหรือเปล่า”ผมหลุดปากถามออกไป อย่างที่ไม่น่าถาม ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะ
“คุณตำรวจ เวลาอย่างนี้คุณยังห่วงหน้าที่อีกเหรอ แสดงว่าคุณไม่ห่วงมันเลยนี่หว่า ไหนบอกว่ารักไง”เขาพูดเสียงเยาะใส่ผมที่เม้มปาก ก่อนจะมองหน้าเขา
“ผมแค่ถาม แต่ไม่ได้บอกว่าจะไม่ทำ ผมห่วงคนที่ผมรัก แต่ผมจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่ให้ไปทำนอกจากผิดกฎหมายแล้วยังไม่ได้คนของผมคืน”ผมยื้อเพื่อต่อรองเขา ผมห่วงเบียร์กลัวว่าถ้ารับปากแต่จะไม่ได้เบียร์คืน มันจะสูญเปล่า
“ได้คืนแน่ ถ้าคุณทำงานสำเร็จ”เขาพูดกับผมก่อนจะมองเบียร์ และดึงมาใกล้อีก
“เขาจะอยู่ที่นี่จนกว่าคุณจะกลับมารับ แต่ถ้าคุณทำไม่สำเร็จ ผมจะส่งศพกลับไปให้ ดีไหม”เขายกยิ้ม แต่แววตาสีหน้าเย็นชาตามเดิม
“ว่ายังไง แฟร์ดีไหม”คนจ่อปืนถามบ้าง ยักคิ้วกวน
“ผมต้องทำอะไร”ในที่สุดผมก็ต้องทำตามทั้งที่ยังไม่รู้ว่ามันคืองานอะไร
“ไม่ยาก คุณอยากได้คนของคุณคืน ผมก็อยากได้คนของผม ไปเอามาแลกกัน”เขาพูดเชิงอ้อม แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าคืออะไร
“คนฉลาดอย่างคุณ ผมไม่ต้องแปลหรอกมั้งว่าหมายถึงอะไร ว่าไงล่ะ”เขาพูดเหมือนรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่
“ที่ไหน”ผมถามเขาอย่างที่ต้องทำ และคำตอบของเขาก็ทำเอาผมเบิ่งตาเล็กน้อย
.
.
.
.
นี่พวกเขาหมายความว่ายังไง ดร.ไปทำอะไรที่นั่น เกี่ยวอะไรกับคนมีสีที่ตำแหน่งใหญ่โต
“บ้านตำรวจก็ต้องให้ตำรวจเข้าไป แต่ผมจะให้คนของผมไปด้วย แล้วแต่คุณจะใช้วิธีไหน ถ้าคนของผมกลับมาอย่างมีชีวิต คนของคุณก็จะมีชีวิตเช่นกัน”เขาพูดต่อเอามือลูบคางเบียร์ไปมา
“กักบริเวณ ห้ามออกไปไหน จนกว่างานจะเสร็จ”เขาสั่งอีกครั้งก่อนเบียร์จะถูกนำตัวออกไป
“เบียร์ เบียร์”ผมเรียกเบียร์ ที่หันมายิ้มให้ พลางส่ายหน้าบอกว่า ไม่เป็นไร เบียร์ออกไปแล้ว
“ทวน ไป่ เป้า ย้ง ไปกับคุณตำรวจ จะเอาใครเพิ่มก็เลือกไป”เขาหันไปพูดกับคนของเขา ก่อนจะเดินหายเข้าไปข้างใน
“โชคดีนะคุณตำรวจ แต่ไม่น่ายากนะ บ้านคนคุ้นเคยไม่ใช่เหรอ หึหึ”คนที่จ่อปืนแสยะยิ้มพูดใส่ผมก่อนจะเดินหายไปเช่นกัน ทิ้งไว้แต่ผมกับลูกน้องที่เหลือ ผมจะต้องทำจริงเหรอ ทั้งที่ยังไม่รู้เลยว่าเบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นยังไง แต่ถ้าไม่ทำเบียร์ก็จะไม่มีชีวิตอยู่ เขาไม่ได้ขู่แน่นอน
ผมจะต้องทำยังไงดี ไม่มีวิธีไหนที่ดีกว่านี้แล้วเหรอ
********************************************************************************************************************
ปล. อ๊าคคคคคคคคคคคค อย่าเพิ่งตบคนเขียนที่มาช้าและยืดยื้อ อ่านน้องหนูกับพ่อนกคลายเคลียดกันก่อนเน้อ พักวอร์มร่างกายก่อนไปช่วยเฮียในตอนถัดไป ตอนหน้าเคลียร์แน่นอน อะไรๆก็เริ่มกระจ่างแล้วเน๊าะ ไม่เคลียดค่ะไม่เคลียด มาม่าไม่มี มีแต่ยำยำ ไวไว ไปเคลียร์งานแล้วจ้า ขอบคุณกันเช่นเคยค่ะที่เป็นกำลังติดตาม และโหวตให้ ขอบคุณมากนะคะ