รักรั่วๆของ..พรต&รัน
Part 24
(Special Run) “อ่ะ! ใส่ในกางเกงใน” ผมยื่นสัญญาณติดตามตัวให้ไอ้รั่ว เสื้อตัวที่มันติดแทนกระดุมไม่มั่นใจว่าจะชัวร์ ผมเชื่อลางสังหรณ์ตัวเอง
เรากำลังเช็ดผมให้แห้ง หลังขึ้นจากการแช่น้ำร้อน เหลือเวลายี่สิบนาทีทันถมเถที่จะเตรียมตัวไปทานมื้อเช้าร่วมกับเจ้าบ้าน
“กูมีติดเสื้อแล้ว” มันรับไปพลิกดูงงๆ แย้งผมมาอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด
“กูรู้..ให้ชัวร์ติดกางเกงในอีกเม็ด” ผมย้ำพร้อมจ้องตายืนยัน
“โห! งี้กูไม่ปวดไข่เหรอวะ เผลอนั่งทับคงทรมานน่าดู” หลุดขำพรืด..คิดมุกตลกให้ขำจนได้
“ถ้ามึงโง่ไม่มีวิธีจัดการก็ทนทรมานหน่อย เหน็บติดขอบกางเกงในมันจะยากอะไรนักหนา”
อดเหน็บจนได้ รู้ว่ามันแค่อ้างเฉยๆ
“ว่าแต่มึงเอามาให้กูแล้วมีใช้เหรอ แบบนี้กูตามตัวมึงยังไง เกิดอะไรขึ้นกูจะหามึงได้ที่ไหนหืม”
ดีใจครับที่มันห่วง แต่สถานการตอนนี้ผมคิดว่าตัวเองคงไม่มีปัญหาเท่าไหร่ ห่วงมันมากกว่า
“กูจะไปไหน เป็นเหาฉลามตามมึงแจแบบนี้” พูดให้มันสบายใจ
“อ้าว! พูดเองนะเป็นเหาฉลามกู แล้วเอามาให้ทำไม ตัวก็ติดกันอยู่”
“เรื่องมากน่าพรต..บอกก็ทำตามได้ไหม กูไม่มีเหตุผล แค่ต้องการความสบายใจ ทำเพื่อกูได้ไหมหืม”
ตัดบทซ้า..ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง แค่ต้องการป้องกันให้รัดกุมเอาไว้ก่อน
“เออทำดุ ว่าแต่แต่งตัวยังไง คงไม่ใช่ให้ใส่ยูกาตะไปทานข้าวนะมึง” มันเปลี่ยนหัวข้อสนทนา
“ก็ไม่แน่..ถ้าเขาต้อนรับตามวัฒนธรรมดั้งเดิมเราก็ต้องใส่..ทำไมมึงมีปัญหาเหรอ”
“บอกตรงกูไม่ค่อยมั่นใจ ดูมันโล่งโจ้งยังไงไม่รู้ เกิดพลาดไข่โผล่คงอุจาดตาพิลึก
กูกลัวโซไดจะตกใจในความใหญ่มากกว่า” ผมหัวเราะไหล่สั่นกับความคิดรั่วๆ บ้าๆ ของมันอีกระลอก
“ไอ้ตกใจคงไม่ โซไดไม่ใช่เกย์เท่าที่กูสังเกต สำคัญูกูกลัวสาวรับใช้จะหัวใจวายมากกว่า
ถ้ามึงเผลอให้ไข่โผล่ กูสงสัยมันจะโผล่ยังไง ในเมื่อมึงใส่กางเกงในกับบ็อกเซอร์ นอกเสียจากมึงเจตนาไม่ใส่อะไร
นี่อย่าบอกว่ามึงจะโชว์” คราวนี้เป็นผมเสียงขุ่นเองครับ หลังนึกว่ามันพิเรนทร์อาจจะใส่ยูกาตะโดยไม่สวมชั้นใน
“คึคึ! หวงเหรอที่รัก โด่! ล้อเล่นหน่อยออกอาการเชียว ที่แท้ก็หวงไข่กูนี่หว่า ฮะฮ่าๆๆ”
ดันหัวเราะงอหาย เห็นมันอารมณ์สดใสพลอยสบายใจไปด้วย ไม่ว่ามันจะเข้าใจแบบไหนก็ช่าง
ยอมรับผมหวงแหละ ใครใช้ให้มันเป็นวรพรต..คนรักของผม?
เรากลับมาถึงห้องพัก ต่างแยกไปเตรียมตัว ไม่แปลกใจมียูกาตะตัวใหม่สีดำปักลายซากุระด้านหลัง
สวยงามแขวนไว้ให้เรียบร้อย ชุดนี้เนื้อผ้าและรายละเอียดดูพิเศษกว่าชุดที่ใส่ไปแช่น้ำร้อน
น่าจะเป็นชุดออกงานเป็นทางการอย่างเห็นได้ชัด ไม่ให้เสียเวลาผลัดเปลี่ยนโดยไม่ต้องถามสาเหตุ
เรียบร้อยเลื่อนประตูเปิดเดินไปห้องไอ้รั่ว คนรับใช้เจ้าประจำซาซิจังนั่งคุกเข่ารอก่อนแล้ว
พอเธอเห็นผมรีบสำรวมกิริยาค้อมหัวให้ตามเคย ขยันทำความเคารพกันจริง ผมได้แต่ยิ้มให้ ยังไม่ทันเคาะเรียก
ไอ้รั่วเหมือนนกรู้เลื่อนประตูเปิดออกมาพอดี
“อ้าว! มาแล้วเหรอ” มันทักผม ก่อนหันไปพยักหน้ายิ้มรับการค้อมหัวคำนับจากซาซิจัง
จากนั้นเธอลุกยืนผายมือเชิญพวกเรา เป็นอันเข้าใจตรงกันว่าให้ตามเธอไป ท่าเดินซอยเท้าของเธอเงียบกริบ
ปล่อยผมสองคนเดินตามเว้นระยะพอประมาณ ไอ้รั่วแอบตลกซอยเท้าล้อเลียนเธอด้วย ผมเลยมะเหงกใส่หน้าผาก
หยุดความทะลึ่งมันไปที ไม่เจ็บสักหน่อย..ไม่ได้ทำแรงดันคลำหน้าผากป้อยๆ อ้อนผมซะงั้น
“เขกกูไม” มีหน้าถาม
“มึงไปล้อเลียนเขาทำไม”
“กูอยากรู้ว่าเดินลำบากไหม แค่ลองดู..ไม่ได้เจตนาล้อเลียนเหอะ” เสือกแถแก้ตัวอีก
“จะอะไรก็ช่าง เกิดคนในบ้านเขาเห็นจะว่าเราไม่มีมารยาทนะพรต” เตือนด้วยความหวังดี
เราไม่รู้ว่ามีกล้องวงจรปิดหรือใครอยู่ตรงไหนคอยสอดส่องพฤติกรรมหรือไม่ สำรวมไว้ก่อนดีที่สุด
“ทางบ้านไม่เน้นเรื่องมารยาท สนใจแค่คุณธรรมเป็นหลัก” มันดันย้อนได้น่าถีบสุดๆ
เสือกยกกระแสมาแรงของรายการโชว์รายการหนึ่ง ที่ผู้ร่วมแข่งขันนำเอามาพูดย้อนผมได้หน้าตาย
“เดี๋ยวมึงได้มีสมองเท่าต้นตำรับเขาหรอก” ตำหนิพร้อมกับทำตาดุเป็นการปราม
ดันทำหน้าตาเหรอหรากวนผมเฉย
“รัน..มึงว่าสาวญี่ปุ่นกระดูกคอใหญ่ไหม” มันชวนคุย ระหว่างที่เดินตามซาซิจัง ซึ่งนำหน้าเรากว่าสองก้าว
เดินมาได้สักพักผ่านสวนที่ตกแต่งไว้อย่างสวยงาม กระทั่งออกมายังบึงกว้างมีเก๋งญี่ปุ่นอยู่กลางบึง
น้ำใสแจ๋วเลี้ยงปลาหลายชนิด ว่ายตามกันเป็นฝูง มองไปในเก๋งเห็นชายหญิงสองคนฝ่ายชายสวมยูกาตะ
ส่วนผู้หญิงมวยผมใส่กิโมโน นั่งพื้นกลางเก๋งพร้อมตั่งสำหรับวางอาหารอยู่ด้านหน้า แวดล้อมด้วยคนรับใช้สาวอีกสามนาง
ยังไม่แน่ใจว่าเป็นใคร ให้เดาผู้ชายคือโซได ส่วนผู้หญิงคงเป็นคนรักเพราะรู้มาว่าโซไดยังไม่แต่งงาน
“ถึงแล้วสงบปากสงบคำบ้างพรต” ผมปรามมันอีกครั้ง เรากำลังเดินข้ามสะพานทอดยาวตรงไปยังเก๋งกลางบึง
“เรื่องจริงนี่หว่า เดี๋ยวมึงดูเจอพวกเราต้องพากันคำนับ เจอกี่ครั้งในรอบวันคำนับได้ตลอด
แบบนี้กระดูกคอไม่ใหญ่กล้ามเนื้อไม่แข็งแรงคงประหลาดม้าง..บริหารคอเป็นว่าเล่น ถ้าเกิดมีเรื่องกับคนญี่ปุ่น
อย่าคิดบีบคอเป็นอันขาด หาจุดอ่อนส่วนอื่นแทน เราอาจกลายเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำได้ง่ายๆ จำคำพูดกูไว้นะมึง”
ผมกลั้นขำแทบตายคิดได้นะ..รั่วตลอดศก ผมยังนึกไม่ถึงว่ามันจะเฉลยเป็นเรื่องนี้ แม่ง..ต้นคอแข็งบีบไม่ตาย..ห่า!
“โอนิชิวะ..ไฮ” เป็นโซไดจริงๆ คำนับและทักทายพวกผมทันที
“โอนิชิวะ..โซได” พวกเราทักทายตอบ บรรดาสาวๆ ที่คอยรับใช้ต่างค้อมหัวคำนับตาม
ผมต้องรีบกลั้นขำอย่างเอาเป็นเอาตาย ดันนึกถึงคำพูดไอ้รั่วก่อนหน้า เกือบทำผมหลุดหัวเราะจนเสียภาพพจน์..
พวกผมถึงกับอึ้งตาเหลือก เมื่อผู้หญิงที่แต่งกิโมโนนั่งข้างกายโซไดเธอเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้มหวาน...
“คุณคิม..” ไอ้รั่วครางชื่อเธออย่างลืมตัว ผมเองก็อึ้งไม่ต่างกัน
“คูมิโกะคู่หมั้นผมครับ เราจะแต่งงานกันเดือนหน้า คิดแล้วพวกคุณต้องแปลกใจ..เซอร์ไพรส์ใช่ไหม?”
โซไดผายมือเชิญเรานั่ง พร้อมกับชี้แจงไปด้วย ผมกับไอ้รั่วคุกเข่าลงนั่งฝั่งตรงข้าม ชำเลืองคุณคิมเธอยิ้มหวานประดับใบหน้า
ที่ผ่านการแต่งมาอย่างสวยงาม เข้ากับกิโมโนสีแดงเพลิงปักลวดลายนกน้ำสีขาวสองตัว ขลับผิวเธอให้ผุดผาดเพิ่มขึ้นไปอีก
“สวัสดีค่ะ..คุณพรต..คุณรัน” เธอทักทายปกติ เน้นภาษาไทยชัดถ้อยชัดคำ วางกิริยาได้นิ่งมาก
“ครับ..ผมแปลกใจ ยินดีด้วยจริงๆ” ไอ้รั่วบอก มันรักษามารยาทใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร
เพื่อให้โซไดฟังออกด้วย ตั้งแต่เข้ามาโซไดเขาใช้ภาษาอังกฤษพูดกับพวกผม มีคำทักทายตอนแรกเท่านั้นที่พูดญี่ปุ่น
ยกเว้นคุณคิมเธอเจตนาพูดภาษาไทยแต่แรก
“ขอบคุณครับ มื้อนี้ถือเป็นการต้อนรับจากผม เชิญทานอาหารญี่ปุ่น ผมให้พ่อครัวเอกทำสุดฝีมือ”
โซไดหน้าตาหล่อสมวัยสามสิบปลายๆ ผิวพรรณสะอาดสะอ้านอย่างคนมีชาติตระกูล ชี้ให้ดูอาหารหลากรายการ
ทั้งซาบะ ปลาดิบแซลมอน ข้าวปั้นห่อสาหร่าย ฯลฯ เยอะแยะเต็มไปหมด
ผมกับไอ้รั่วสบตากัน ก่อนยิ้มให้เจ้าภาพรักษามารยาทแขกเยือนที่ดี หุบปากเก็บความขุ่นใจเรื่องที่พัก
และคำถามคาใจไว้ก่อน ลงมือทานมื้อเช้ากับเจ้าบ้าน โดยหยิบเรื่องเคมเปญเป็นหัวข้อพูดคุยแทน
ไอ้รั่วสอบถามความเรียบร้อย ด้านระบบดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งโซไดยืนยันหนักแน่นเพราะเขาเป็นเจ้าภาพที่นี่
รับผิดชอบจัดหาสถานที่และดูแลประสานงานทั้งหมด ทีมงานของเรามีหน้าที่กำกับให้เป็นไปตามคอนเซ็บเท่านั้น
“หลังมื้ออาหาร ผมขอพาพวกคุณชมสวน จิบน้ำชาในแบบการชงของญี่ปุ่น รับรองพวกคุณต้องติดใจ
จากนั้นค่อยพักผ่อน บ่ายโมงผมจะให้จุงเบนำพวกคุณไปที่จัดงานเพื่อเช็คความเรียบร้อย พรุ่งนี้เปิดเป็นทางการ
แขกวีไอพีและเจ้าหน้าที่รัฐบาลผมเชิญด้วยตัวเอง” โซไดชี้แจงกำหนดการให้พวกผมฟัง ขณะทานกันไปด้วย
ตลอดการพูดคุยคุณคิมไม่ได้แทรก วางตัวเป็นสาวญี่ปุ่นให้ผู้ชายเป็นช้างเท้าหน้ารับรองแขกอย่างสงบเสงี่ยม
ผมพยายามสังเกตแววตาเธอกลับไม่เจอพิรุธ แม้ในขณะที่ช้อนมองไอ้รั่วก็ไม่เห็นสัญญาณอะไร จะว่าเธอตัดใจได้ก็ไม่น่าเป็นไปได้
เหตุการณ์ที่มันปฏิเสธเธอยังไม่ถึงอาทิตย์ นอกเสียจากเธอเชี่ยวเหนือเมฆ..ถึงวางตัวเนียนได้ขนาดนี้
“ขอบคุณที่เป็นธุระครับ การประมูลสินค้ามะรืนนี้ราบรื่นนะครับ” ไอ้รั่วยังคงรับบทเจรจา
โดยที่ผมไม่คิดแย่งซีนมันเช่นกัน
“ตะเกียงชุดเล็กคนจองแล้ว 4 ตามที่ตั้งราคาขาย ส่วนที่เหลือวันเปิดงานคงขายได้หมดไม่น่ามีปัญหา
เพราะมีคนสนใจจากการที่โปรโมทไปล่วงหน้าไม่น้อย เขาขอได้ชมสินค้าในงาน ก็คงตัดสินใจซื้อวันนั้นเลย
ส่วนยูกาตะกับกิโมโนปักดิ้นทอง ตระกูลรามุชิเจ้าของธุรกิจบันเทิงในโตเกียวจองแล้ว สำหรับสินค้าชิ้นเอกในรายการ
ผมขอซื้อเก็บเอาไว้เอง”
“ห๊ะ!..โทษทีครับ ไม่คิดว่าคุณจะซื้อ” ไอ้รั่วตาโตหลังฟังคำพูดโซได ผมยังประหลาดใจจนหัวคิ้วกระตุก
ตะเกียงชิ้นใหญ่มูลค่ากว่า 80 ล้าน ไม่คิดว่าโซไดจะขอซื้อ โดยความเป็นจริงเขาคือคู่ค้าของเรา
กำไรที่ได้จากการจัดเคมเปญครั้งนี้แบ่งเปอร์เซ็นต์ให้เขา 20% ตามข้อตกลง
“นึกอยู่เหมือนกันคุณต้องแปลกใจ ผมเพิ่งตัดสินใจก่อนหน้านี้ 2 วัน หลังคูมิโกะเดินทางกลับจากประเทศไทย
และบอกผมว่าผลงานทั้งหมด ว่าที่ภรรยาผมเป็นคนเพ้นท์ด้วยตัวเอง ผมพลอยได้ไอเดียที่จะใช้ตะเกียงฝังเพชรเป็นสินสอด
วันแต่งงานของเราที่จะมาถึงเดือนหน้า ขอเชิญพวกคุณมาร่วมงานล่วงหน้า ส่วนการ์ดอย่างเป็นทางการผมจะส่งตามหลังนะครับ”
ผมกับไอ้รั่วสบตากันอีกครั้งกับสิ่งที่ได้ยิน มองหน้าคุณคิมเธอได้แต่ยิ้มรับเป็นปกติ มีค้อมศีรษะให้ด้วย
ถือว่าประสบความสำเร็จงดงาม สินค้าขายเกลี้ยงทั้งที่ยังไม่เปิดตัวด้วยซ้ำ แต่ในความดีใจผมกับรู้สึกแปลกๆ
ไม่สบายใจยังไงบอกไม่ถูก
“รบกวนถามหน่อยสิครับ ทำไมถึงยกเลิกที่พักของผม” ไอ้รั่วไม่รอพลาดโอกาส ยิงคำถามคาใจประเดิมเลย
“ก่อนอื่นผมต้องขออภัยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ความจริงผมผิดแต่ต้น ไม่ละเอียดทั้งที่เป็นเจ้าบ้าน
ยอมให้พวกคุณไปพักโรงแรม พอมีคำแนะนำจากคูมิโกะว่าคนไทยรับรองคนคุ้นเคยอย่างเป็นกันเอง
ผมจึงถือโอกาสยกเลิกการจองโรงแรมของคุณสองคน โดยเลือกให้มาพักบ้านผมแทน
เรื่องความปลอดภัยและการดูแลอำนวยความสะดวกผมสบายใจกว่ามาก ต้องขออภัยที่ไม่ได้แจ้งล่วงหน้า
ส่วนหนึ่งอยากให้คุณเซอร์ไพรส์” ท่าค้อมศีรษะขออภัยของโซได ล้วนแสดงอย่างจริงใจไม่มีซ่อนเร้นให้พิรุธ
ผมกับไอ้รั่วต้องรีบคำนับตอบทันควัน
“ไม่เป็นไรครับ ผมถามเพราะสงสัย ถ้ามีเหตุผลผมก็ยินดีอยู่แล้ว เป็นผมเสียอีกที่เกรงใจ
กลัวมาเป็นภาระวุ่นวายให้คุณแทน” ไอ้รั่วออกตัวได้ดีทีเดียว ทั้งที่ผมกับมันรู้สึกอึดอัดไม่ต่างกัน
“ผมดีใจที่คุณพรตชอบ แล้วคุณรันล่ะครับ ตั้งแต่มายังไม่คุยสักคำ รู้สึกเป็นยังไงกับบรรยากาศของญี่ปุ่นบ้างครับ”
เขาหันมาถามผม พร้อมสายตารอฟังคำตอบของคุณคิมเธอด้วย
“ขอบคุณครับ ผมประทับใจมาก ที่ได้รับเกียรติมาพักบ้านคุณ ผมเดาไม่ผิด คุณคงไม่เปิดบ้านต้อนรับใครบ่อยนัก”
ผมพูดแบบนักขาย มีหยอดปิดท้ายประโยคเล็กน้อย
“ถูกของคุณ ผมไม่เคยเปิดบ้านต้อนรับใครเท่าไหร่ ที่จริงไม่ใช่อะไรหรอกครับ
บ้านหลังนี้น้องสาวผมเธอรักและหวงมาก ตอนเธอยังมีชีวิตอยู่ ก็แทบไม่พาใครมายกเว้น..คูมิโกะ”
ผมกับไอ้รั่วหันไปมองคุณคิมพร้อมกันแบบไม่ได้นัด
“ผมเสียใจเรื่องน้องสาวคุณโซไดด้วย จะเสียมารยาทไหมถ้าผมจะถามเรื่องส่วนตัวเล็กน้อย”
ผมรับหน้าที่ซักเอง เรื่องข่าวการเสียชีวิตของน้องสาวโซไดเป็นข่าวใหญ่พอสมควร แต่เธอเสียด้วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ไม่ได้ถูกฆาตกรรม โซไดจึงเป็นทายาทคนเดียวของตระกูลที่ดูแลธุรกิจทั้งหมดแทนพ่อกับแม่
ซึ่งวางมือเก็บตัวเพราะผลกระทบจากความเสียใจยอมรับการเสียลูกสาวคนเล็กไม่ได้
“เชิญครับ สงสัยอะไรสอบถามผมได้” โซไดเปิดไฟเขียว
“คุณกับคุณคิม..ผมหมายถึงคูมิโกะคบหากันมาก่อนตกลงแต่งงานครั้งนี้นานหรือยังครับ”
ผมยิงประเด็นที่ไม่สมควรถามเลยสักนิด นาทีนี้ขอเสียมารยาท อาศัยเอาคำพูดไอ้รั่วมาใช้ ‘ทางบ้านไม่เน้นเรื่องมารยาท
แค่คุณธรรมเป็นหลัก’ เพิ่งด่ามันไปหยกๆ สุดท้ายผมล่อซะเอง แอบเห็นมันมุมปากกระตุก เหมือนข่มอารมณ์กลั้นขำผมอยู่
“คูมิโกะเป็นเพื่อนรักยูริจังน้องสาวผม ทั้งสองเรียนที่เดียวกัน คณะเดียวกันตั้งแต่มัธยมปลายจนจบมหา’ลัย
ผมกับคูมิโกะรู้จักกันมานาน ต้องบอกว่าผมปิ๊งเธอตั้งแต่แรกพบ แต่เธอใจแข็งไม่ยอมรับรักผม ลงทุนเทียวจีบเธอมานาน
เธอบ่ายเบี่ยงผมมาตลอด กระทั่งก่อนเดินทางไปไทย เธอบอกกับผมไว้ กลับไปบ้านเกิดครั้งนี้หากเธอกลับมาจะมีคำตอบให้ผม
แล้วความหวังของผมก็ประสบความสำเร็จ เธอกลับมาพร้อมการตอบรับเป็นว่าที่ภรรยาผม ซึ่งรอมาสิบกว่าปี”
ผมกับไอ้รั่วสบตากัน แต่คุณคิมเธอนั่งหน้าแดงก่ำไม่ยอมสบตาใคร เหมือนกำลังอายเพราะเรื่องที่เราพูดถึงเกี่ยวกับเธอล้วนๆ
“ผมยินดีด้วยอีกครั้ง ที่คุณสองคนสมหวังลงเอยด้วยดี” ไอ้รั่วมันชิงพูดขึ้นก่อน ผมจึงได้แต่พยักหน้ายิ้มตาม
คุณคิมไม่ยอมเงยหน้าสบตามัน เธอยังคงก้มหน้าใช้วิธีค้อมศีรษะแทนการขอบคุณ ส่วนโซไดยิ้มปากฉีกจนจะถึงหูรอมร่อ
ขานี้แทบไม่ต้องเดาว่ารักสาวเจ้าเต็มรักเข้าเห็นๆ
จากนั้นการสนทนาก็เปลี่ยนเป็นหัวข้อทั่วไป ไอ้รั่วไม่ลืมถามเรื่องเล่นสกีหลังจบงาน ซึ่งเราเหลือเวลาพักต่ออีก 2 วัน
โซไดรับปากเป็นธุระพาไปด้วยตัวเอง เลือกภูเขาฟูจิอย่างที่แพลนเริ่มแรก ตั้งใจไปเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกด้วย หนทางสะดวก
เพราะโซไดมีบ้านพักตากอากาศของญาติ จึงไม่ลำบาก ถึงแม้โตเกียวไปที่นั่นเดินทางไม่ไกลสักเท่าไหร่
แต่ไปค้างคืนดูสะดวกกว่า..เราจึงนัดหมายตกลงกันตามนี้....?
“มึงว่า..เขาตัดใจจากกูได้หรือยังวะ” ไอ้รั่วถาม ผมกับมันพักผ่อนส่วนตัวห้องผม มันมานอนตีพุงแผ่อยู่นี่
หลังชมสวนจิบน้ำชาตามโปรแกรมต้อนรับของโซได เสร็จแล้วเราถึงได้กลับมาพักตอน 11 โมง
รอบ่ายโมงตรงจุงเบจะมารับไปดูหน้างาน
“แล้วมึงคิดว่าไง” ผมไม่ตอบ ย้อนถามมันแทน
“กูเหรอ..คงตัดใจได้แหละ ที่แท้เธอก็มีเป้าหมายโซไดรออยู่แล้ว ส่วนที่ตามราวีกูแค่ไปลบอดีตมากกว่า”
มันเปรยแกมเหน็บ ทำให้หางคิ้วผมกระตุก
“มึงไม่พอใจที่เธอตัดใจจากมึงเหรอ..พรต” น้ำเสียงเย็นชาไปหน่อย
“เห้ย! คิดไปไหนมึงวะ ที่กูพูดหมายถึงเธอมีคนที่พร้อมรออยู่แล้ว จะมาทำให้กูปวดหัวทำไมต่างหาก
กูดีใจเสียอีก..เห็นเธอได้คนดีมีความสุข อย่างน้อยไม่ต้องเป็นกู ซึ่งเป็นไปไม่ได้ หวังว่าเธอคงรู้จักกับรักแท้ได้สักที
ดูโซไดรักเธอมาก อดทนรอมาขนาดนี้..ไม่ธรรมดาจริงๆ” ผมเห็นด้วยกับมันเรื่องที่โซไดรักคุณคิม
เพียงแต่มีบางอย่างผมไม่กล้าปักใจ..
“เรื่องโซไดรักเธอเป็นเรื่องจริง แต่เรื่องที่เธอตัดใจจากมึง กูขอให้มึงระวังตัวไว้หน่อย ผู้หญิงเป็นอะไรที่อ่านยาก
สำคัญอย่าใกล้เธอเป็นดีที่สุด ถ้าเลี่ยงไม่ได้อย่าอยู่ตามลำพัง รับปากกูพรต” ผมกำชับหนักแน่น
“เออ..กูรู้น่า ไม่ยอมให้ถูกบีบคอตายด้วยน้ำมือสมุนของโซไดหรอก คอกูไม่ได้กล้ามเนื้อแข็งแรงแบบคนญี่ปุ่น
กูนึกได้อย่าง..ถ้ามึงเกิดมีเรื่องกับคนญี่ปุ่น เน้นเตะผ่าหมากเลยดีกว่า ไม่ต้องงมหาจุดอ่อนให้เสียเวลา นั่นแหละทีเดียวจอด”
ผมหัวเราะลั่น ไปๆ มาๆ มันก็สามารถทำผมขำจนได้ ทั้งที่คุยเรื่องเครียดอยู่ดีดี ช่วยให้อารมณ์สดใสไม่ขุ่นมัว
ถึงแม้ผมจะเตือนตัวเองว่าเรื่องนี้วางใจอะไรไม่ได้ คงได้แต่คอยระวัง เพราะผมก็ไม่รู้ว่าลึกๆ
แล้วมีอะไรซ่อนอยู่หรือเปล่า ยากจะมีหลักฐานมายืนยัน...?
Miss U ถามว่าเหลืออีกกี่ตอน
เหลืออีก 6 ตอน จบแล้วนะคะ
ส่วนตอนพิเศษในเล่ม 10 ตอน
กินพื้นที่เล่ม 2 ไปกว่า 70% ของหนังสือ
ราคาชุดนี้รวมบ็อกเซท พร้อมค่าจัดส่งลงทะเบียน 860 บาท
แถมฟรีเสื้อยืดตามตัวอย่างที่โพสให้ดูฟรีไซส์ จำนวนจำกัด 200 ตัวค่ะ
เปิดโอนวันที่ 25 ปลายเดือนนี้ตามกำหนดการ ปิดโอนหนังสือพร้อมส่งทันทีจร้าาาาา
ขอบคุณมากนะคะ ที่สอบถามกันมา
Luk.
