ขอโทษที่หายไปไม่มาตามนัด
ติดธุระวุ่นวายกับหนังสือรีปริ้น จัดส่งให้ครบหมดแล้วนะคะ
ใครไม่ได้เมลล์แจ้งเลขพัสดุ หรือไม่ได้รับหนังสือ แจ้งรายละเอียดที่เมลล์ด่วนจร้าาาาแจ้งข่าว รายละเอียดหน้งสือพรต & รัน รีเทิร์น 'รักรั่วๆ..ของพรต&รัน'
ได้รายละเอียดมาแล้วนะคะ ตามนี้เลย
หนังสือมี 2 เล่มจบ ความหนา เล่มละ 250 หน้า
จัดทำบ็อกเซท แถมเสื้อยืดสกรีนลายสีดำคลาสสิคตามแบบข้างล่าง
ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างทำเสื้อ มีจำนวนจำกัด 200 ชุดเท่านั้น
ราคาพร้อมค่าจัดส่งพัสดุธรรมดา ไม่ลงทะเบียนเพราะน้ำหนักเกิน
ต่อชุดราคารวมเบ็ดเสร็จ 860 บาทค่ะ ย้ำมี 200 ชุดที่แถมเสื้อยืดฟรี
เปิดโอนจองวันที่ 25 มิ.ย. 56 นี้ คนอ่านที่สนใจรอเก็บบ็อกเซทชุดนี้ไว้
เข้ากับคอลเลกชั่นที่มีอยู่ หยอดกระปุกรอได้เลยนะคะปล.เรื่องนี้มีดราม่านะคะ ติดตามกันต่อไปแบบเสื้อยืดแถมฟรี สีขาว สกรีนลายไซส์มาตรฐานทุกตัวค่ะ
รักรั่วๆของ..พรต&รัน
Part 12
(Special Run) มีคนมาขอแจม ลูกสาวลูกค้าหวังดองไอ้รั่วคือรายแรก รายที่สองลูกน้องบริษัทฯ
ผมคงไม่ติดใจหากพวกเขาไม่มีความรู้สึกพิเศษกับพวกผมเกินคนรู้จักคุ้นเคยปกติ
เพ็ญแข..ผมขอร้องไอ้บอมย์ใช้เสน่ห์ป้อไม่ให้เกาะแกะไอ้รั่วสำเร็จ เธอชอบบริหารเสน่ห์
หากใครเห็นความสำคัญย่อมนึกสนุกเป็นธรรมดา
ไอ้รั่วแสดงเจตนาวางความสัมพันธ์เธอในฐานะเพื่อน เธอปฏิเสธแม่ไม่ได้จึงเล่นตามเกมผู้ใหญ่
มีโอกาสเจอหนุ่มหล่อไม่ด้อยฐานะการศึกษา ย่อมแสวงหาตัวเลือกอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด ไอ้บอมย์ไม่ลำบากกันเธอออกไป
ช่วยให้ผมไม่ต้องหงุดหงิดทนมองเธอออเซาะไอ้รั่วอย่างเคย..
แต่ดันมีไอ้หน้าขาวที่มากับเธอด้วย เนียนตีซี้สนิทสนมไอ้รั่วเกินความจำเป็นคนเพิ่งรู้จัก มีกระซิบคุยกับมันตลอด
ถึงผมจะเข้าใจนิสัยไอ้รั่วมันเข้าคนง่าย กรณีไอ้หน้าขาวกับเพื่อนตัวดำผิดวิสัยพอสมควร ผมแอบสังเกตเงียบๆ
ทำเป็นสนใจคุยกับไอ้โต๋ ซึ่งมีตะเกียงนัวเนียเพราะเมาสปาย 2 ขวด เข้าตำราโรงเรียนตะเกียง โดยไม่ต้องถามหาสาเหตุ
พลัสมาฉลองให้คุณคิม เธอออกปากขอแจมโต๊ะด้วยตัวเอง ผมปฏิเสธไม่ได้ คำนึงการรักษาน้ำใจไม่ให้กระทบงาน
ที่ต้องพึ่งพาเธอ แม้จะวางสีหน้าปกติอดหงุดหงิดไอ้หน้าขาวกับไอ้เตี้ยดำที่สุ่มหัวกระซิบไอ้รั่วไม่ยอมเลิก
ปล่อยผมอึดอัดสายตาหวานเยิ้มของพลัสซึ่งโฟกัสแค่ผมตามลำพัง ถึงไม่ออกปากก็อ่านทะลุความคิด
เล่นสื่อความหมายผ่านลูกตาบอกความรู้สึกให้ขนาดนี้..เฮ้อ!
“คุณพรต..ฉันขอคุยส่วนตัวหน่อยสิคะ สะดวกเชิญด้านนอกสักครู่” สาวคิมบอกไอ้รั่ว
สร้างความสงสัยพอสมควร มันยังมีสีหน้างง..ชี้นิ้วใส่ตัวเหมือนไม่แน่ใจคำพูดเธอเท่าไหร่
“คุณแหละ..รบกวนคุยกันหน่อย” เธอย้ำอีกครั้ง
“อ๋อ!..ครับ” มันขานตอบมึนๆ
“รัน..เดี๋ยวกูมา” หันบอกผม ทั้งที่ความจริงไม่จำเป็น..เพราะผมได้ยินเต็มสองหู
“อืม” ผมขานรับในคอพยักหน้าเสริม มันลุกเดินตามเธอไป อดมองตามแผ่นหลังกว้างนึกชมท่าเดินสมาร์ท
ดึงดูดนักเที่ยวเบียดตัวเข้าสีมัน พร้อมสายตาชื่นชมเห็นได้ชัด
หันมาสบตาไอ้โต๋..ไอ้หล่อเทพไหวไหล่ให้ สนใจจับตะเกียงซุกอก คงกลัวเลื้อยอ้อนไปทั่ว พอไอ้โต๋ลูบหัวลูบหลัง
กลับว่านอนสอนง่ายหลับเฉยเลย เอนซบมันอย่างสงบเสงี่ยม เป็นภาพที่น่าเอ็นดูไม่น้อยทีเดียว ไม่ติดว่าผมอยู่ในอารมณ์อึมครึม
แถมบรรยากาศชักกร่อย คงอมยิ้มท่านอนตะเกียงไปแล้ว
“พี่รันครับ..ชนแก้วครับ” ผมเลิกคิ้วตามความเคยชินหลังได้ยินเสียงนุ่มของพลัส ซึ่งนั่งจ้องผมไม่วางตาฝั่งตรงข้าม
ในมือมีแก้วถือรอไว้แล้ว สำคัญเรียกพี่สนิทปาก อาศัยผมอนุญาตเป็นการส่วนตัว..ให้เรียกนอกเวลางานตามที่เคยขอเอาไว้
“ครับ..” ยกแก้วชน แกล้งไม่ใส่ใจสีหน้าแววตาดีใจชัดที่ผมชนด้วย
“ขอชนด้วยสิครับ” เสียงปริศนา ก่อนแก้วจะยื่นตามมาขอชน เพื่อนไอ้หน้าขาวตัวดำล่ำเตี้ย ยิ้มกริ่มอย่างต้องการ
ผูกมิตร จำต้องหันไปชนด้วย ก่อนไอ้หน้าขาวจะแจมอีกคน กลายเป็นวนแก้วชนครบ รวมเพื่อนหญิงชายของพลัสที่มาด้วย
ไม่มีการแนะนำตัวหรือว่าแนะนำแล้ว แต่ผมไม่ใส่ใจ
ไอ้โต๋ต้องยกแก้วมันชนอย่างเสียไม่ได้ สาเหตุน้องผู้หญิงมากับพลัส ยื่นแก้วจ่อหน้ามัน บวกรอยยิ้มหวาน
อาการนี้แทบไม่ต้องเดา..สะดุดความหล่อมันเข้าจังๆ เธอไม่แคร์แม้มันมีแฟนซุกอกประกาศโจ่งแจ้งว่ามีเจ้าของด้วยซ้ำ
สถานที่อโคจรการส่อเจตนาถือเป็นเรื่องปกติของคนเที่ยว คิดว่าการทอดสัมพันธ์ให้ใคร ทางสายตากิริยาเป็นวัฒนธรรม
ที่สามารถทำได้โดยไม่ถือว่าผิดวิสัย เพราะอยู่ในสถานที่เฉพาะละมั้ง
ทั้งผมทั้งไอ้โต๋จึงไม่ตำหนิการกระทำพวกเขา เว้นแต่รักษาระยะห่างไม่ให้ดูน่าเกลียดเกินไป
แต่ต้องไม่ดูโอเว่อร์แอ๊คติ้งว่าเราท่ามาก
“ผม..พลครับ..ก้องครับ บลาๆๆ” เกิดการแนะนำตัวเป็นทางการหลังจิบของเหลวผสมแอลกอฮอลล์
เริ่มจากไอ้เตี้ยชื่อพล ส่วนไอ้หน้าขาวชื่อก้อง ตามด้วยเพื่อนของพลัส สาวน้อยทอดสะพานให้ไอ้โต๋ชื่อพลอย
ส่วนผู้ชายชื่อวันชัย ผมกับไอ้โต๋จำต้องแนะนำกลับตามมารยาท
“น่าทึ่งนะครับ คุณเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน” ไอ้ก้องหน้าขาวถือโอกาสตีซี้อย่างสุภาพ
ยกประเด็นที่ผมกับไอ้โต๋เป็นเพื่อนกันมาคุย
“นั่นสิ ผมอยากมีเพื่อนสนิทแบบนี้บ้างจัง” ไอ้ดำชื่อพลเสริม
“ผมขอเป็นไอดอล ตกลงไหมพลอย..วันชัย” น้องพลัสแย่งซีนเฉย
ชักแปลกพวกเขายิ้มให้กันแต่รอยยิ้มดูพิกล สองคนไอ้โต๋ได้แต่สบตาเงียบๆ
“บริษัทฯ ทำเกี่ยวกับอะไรครับ” ไอ้ก้องถาม ทั้งที่คำถามแรกผมยังไม่ได้ตอบ
“จิวเวลรี่ครับ” ผมใช้น้ำเสียงปกติ
“แบบของผู้ชายมีไหมครับ” ไอ้พลเสริมตาม
“มีครับ!..ทั้งบุรุษสตรี สนใจกันหรือครับ” ผมไม่ทันได้ตอบ พลัสชิงตัดหน้าเสียเอง ผมกลับยินดีปล่อยพวกเขา
ตามสะดวก ปากยิ้มให้กันแต่แววตาพวกเขาเหมือนท้าทายกันอยู่ ขี้เกียจใส่ใจ ผมกำลังอยากรู้คุณคิมเธอคุยธุระอะไรไอ้รั่ว
หายไปนานพอสมควรยังไม่กลับมาเลย
“ไม่ต้องห่วงน่า ไปกับผู้หญิงมึงกังวลอะไร” ไอ้โต๋เหมือนรู้ผมคิดอะไรอยู่
มันเปรยให้ได้ยินสองคน ผมไม่ตอบอาศัยสบตามันแทน
“กลับไหม น้องจะได้พักผ่อน” ชวนมันกลับ ส่งสายตาไปยังตะเกียงที่หลับพับคาอกมันแล้ว
พวกเพื่อนไม่ต้องพะวง พรุ่งนี้เช้ามีนัดเก้าโมงไปทำบุญถวายสังฆทานให้ไอ้แทค ต่อด้วยเลี้ยงพระ..
ไอ้รั่ววานพี่ณีเลขาเป็นธุระจัดเตรียมของให้แล้ว พวกผมมีหน้าที่เป็นเจ้าภาพเท่านั้น
“รอพวกมันกลับโต๊ะก่อน” ไอ้โต๋ตอบผม
“บอกโทนี่ไว้ไหม พวกมันหายไปในฝูงชน กว่าจะกลับมาคงอีกนาน” แม้พวกมันจะสูงใหญ่ไล่เลี่ยกัน
คลาคล่ำไปด้วยคนเต้นขี้เกียจเพ่งมองหา อีหรอบนี้พวกมันอาจมีไปต่อ แต่ละคนเพิ่งโคจรเจอกัน
ไอ้โต๋กับตะเกียงอยู่ได้พรุ่งนี้อีกวัน มะรืนต้องบินไปติดต่อธุรกิจ พวกที่เหลือยังอยู่ถึงวันมะรืน
แพลนที่ผมวางไว้โดยไอ้รั่วไม่รู้ บ่ายพรุ่งนี้เราไปพักโรงแรมไอ้บอมย์ที่หัวหิน สายอีกวันกลับกรุงเทพฯ
แวะส่งไอ้โต๋กับตะเกียงขึ้นเครื่อง จากนั้นพวกที่เหลือจะมารวมตัวบ้านผม นอนกันอีกคืนค่อยแยกย้ายกลับ
“รอไอ้พรตด้วยดิ” ไอ้หล่อมันนิ่ง ใจเย็นห่วงความรู้สึกผมชัด
“ไปนานว่ะ” ผมบอก มันยกยิ้มล้ออย่างรู้ทัน แต่ไม่ได้พูดอะไร
“หากจะแวะไปคงต้องรอสองอาทิตย์ อาทิตย์หน้าผมกับพี่รันไม่อยู่ เราไปจัดเคมเปญญี่ปุ่น”
เสียงพลัสพูดกับไอ้ก้อง ไอ้พล น้ำเสียงแฝงความนัยชอบกล ตรงประโยคที่บอกไปญี่ปุ่นกับผม
หันไปสังเกตสีหน้าคนพูด น้องทำเหมือนไม่มีอะไร แต่แอบยิ้มเหนือกว่าเห็นๆ
“อ๋อ..ไม่เป็นไรผมรอได้เสมอ ของดีต่อให้รอนานแค่ไหนก็ไม่เสียดาย โดยเฉพาะของมีคุณภาพด้วยแล้ว
ผมต้องได้สัมผัส” ไอ้พลตอบพลัส ยิ้มแปลกพอกัน ตกลงพวกเขากำลังเฉือนกันอยู่สิ สาเหตุอะไรทำไมกัดกันเฉย
“รับประกันคุณภาพทุกชิ้นครับ แต่ผมต้องบอกไว้ก่อน ของบางชิ้นมีคนจองไว้แล้ว อาจได้แค่ชื่นชม
ต่อให้ต้องการแค่ไหนผมคงยกให้ไม่ได้ หวังว่าถึงเวลาจะไม่มาต่อว่าผมทีหลังนะครับ” พลัสตอบกลับด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“หรือครับ แม้ว่าของชิ้นนั้นอาจเหมาะกับผมมากกว่าก็ไม่ยอมเหรอ” ไอ้พลยังคงย้อนเสียงเย็น
“เหมาะไม่เหมาะ ต้องทำความเข้าใจไว้ด้วยครับ จะได้ไม่ว่าผมกั๊กของไว้ไม่ยอมปล่อย” พลัสลุคนี้ทำผมอึ้ง
รู้สึกน้องฝีปากกล้าไม่เบา ไอ้โต๋มันทำนิ่ง พอผมสบตาเสือกไหวไหล่ตามเคย ประมาณบอกกลายๆ เรื่องนี้ตัวใครตัวมัน..แม่ง!
มันเองก็เนียนไม่ยอมสบตาสาวพลอย ทั้งที่เธอจ้องมันเยิ้มซะขนาดนั้น เป็นน้ำตาลมดคงไต่ยัวะเยี่ยะ ยิ่งมันนิ่งเธอยิ่งจ้อง
ไม่กะพริบ บ่งบอกชัดโดนความหล่อขั้นเทพมันสะกดจิตเรียบร้อย
“ผมรับรู้ไว้ ถ้าหากผมจับได้ว่าไม่มีใครจอง คุณหลอกผม คุณต้องโดนเล่นงาน ตกลงไหม”
ครานี้ไอ้ก้องคาดคั้นพลัสเสียเอง
“คึคึ! ต้องดูว่าคุณมีหลักฐานอะไรมาหักล้างผม ที่แน่ๆ ผมไม่หลอกคุณหรอก” พลัสหัวเราะปรายตามาทางผม
คู่สนทนาหันสบตากันยกยิ้มมุมปากคืนพลัส ผมชักแปลกสายตาพวกเขาพิกล..?
“ออร่าดูดเกย์แล้วมึง” ไอ้ห่าโต๋แม่งกระซิบกับผม กะแล้วเชียวไม่คิดว่ามันจะพูดตรงใจ
“ฉิบหาย” ผมสบถให้ได้ยินสองคน
“ไม่หายหรอก เดินมาโน้นแล้วมึง” ผมหันมองตามสายตามัน ไอ้รั่วเดินตรงมาที่โต๊ะ
“ไปนานนะมึง” ผมถาม
“นานเหรอ..” มันตอบไม่ยอมสบตาผมอีก
“พี่คิมล่ะครับ..พี่พรต” พลัสแทรกถามเสียก่อน ทำให้ผมไม่สามารถคุยกับมันต่อ
“มาแล้วนี่ ไปห้องน้ำหรือเปล่า” มันตอบผ่านๆ จังหวะไอ้ชัด ไอ้วิน ไอ้โทนี่ ไอ้กาน ไอ้ต้าร์ ไอ้หน่อง ไอ้บอมย์
กับเพ็ญแข และเพื่อนเธอพากันกลับโต๊ะ ทำให้คนเริ่มหนาแน่น
“ชนแก้ว..เอ้า” ไอ้ต้าร์เฮฮากว่าใคร คว้าแก้วเชิญชวนทั้งโต๊ะชน ทุกคนพร้อมใจยกแก้วชูตามมัน
“เมียกูบ่นหูชา..ฮะฮ่าๆ” ไอ้หน่องมันเปรย หลังกระดกแก้วจิบ
“บ่นเหี้ยไร” ไอ้กานถาม หลายคนที่ทำหน้าสงสัยพยักหน้าตามรอฟังคำตอบ ประเด็นที่ไอ้หน่องยกมาเป็นกระทู้
“เมียกูไม่ชอบให้กูแดกเหล้า ออกเที่ยว”
“มึงกลัวเมีย” ไอ้โทนี่หยอกบ้าง
“เปล่า..กูเกรงใจ” ไอ้หน่องแก้ตัวทันควัน
“เอางี้ดิ กูแนะวิธีที่ทำให้เมียมึงเลิกบ่นได้เอาไหม” ไอ้รั่วแทรกขัด สายตาทุกคนหันไปจ้องมันตาเดียว
“วิธีอะไรของมึงวะ” ไอ้หน่อง..สนใจจนออกนอกหน้า
“มึงพาขอทานไปเจอเมียดิ” หนักแล้ว ผมชักรู้สึกวิธีคงรั่วตามเคย
“เกี่ยวไรขอทาน..กูไม่เข้าใจ” อย่าว่าแต่ไอ้หน่องไม่เข้าใจ ทุกคนที่พากันฟัง พลอยงง? ไม่ต่างกัน
“ตะกี้กูอยู่นอกร้าน มีพี่ผู้ชายคนหนึ่งแกเจอขอทานขอตังค์” มันเล่า
[ขอทาน : พี่ขอเงิน30บาท ผมหิวข้าว]
[พี่ผู้ชาย : ไปกินเหล้ากับกู]
[ขอทาน : ผมไม่กินเหล้าครับ]
[พี่ผู้ชาย : งั้นไปเข้าบ่อนกับกูเป็นตัวนำโชค]
[ขอทาน : ผมไม่เล่นการพนันครับพี่]
[งั้นไปลงอ่างกับกู]
[ผมไม่เที่ยวผู้หญิงครับพี่]
[พี่ผู้ชาย : เมื่อกี้มึงขอกู 30 บาท งั้นมึงไปกับกูสักชั่วโมง กูจะพามึงกลับมาส่ง แถมเงิน 500 ตกลงไหม]
[พี่จะพาผมไปไหน]
[กูจะพามึงไปให้เมียกูดู ไอ้คนไม่ดื่มเหล้า เล่นการพนัน เที่ยวผู้หญิง
สารรูปมันเป็นแบบไหน เมียกูจะได้เลิกบ่นกูสักที???]
พอมันเล่าจบ เสียงหัวเราะดังลั่นทันที แต่ละคนหน้าดำหน้าแดงไปกับเรื่องเล่ารั่วๆ แม้แต่พวกไอ้ก้อง ไอ้พล
กลุ่มเพื่อนพลัส กระทั่งเพ็ญแข และคุณคิมที่มาทันฟัง ยังหัวเราะปากฉีกตัวสั่น บรรยากาศอึมครึมก่อนหน้าหายเป็นปลิดทิ้ง
แถมได้เสียงสนับสนุนจากไอ้กาน แนะให้ไอ้หน่องมันพาขอทานไปให้เมียดูอีกต่างหาก ไม่ว่าในเวลาไหน สุดท้ายคนคลี่คลาย
บรรยากาศทำให้เกิดเสียงหัวเราะ นำรอยยิ้มมาสู่ใบหน้าเพื่อนฝูงได้ดีที่สุด ไม่พ้นเป็นมันตามเคย ไอ้รั่ว!
ตะเกียงซึ่งหลับไปแล้ว งัวเงียตาปรือหวานมองมางง คงรู้สึกตัวเพราะอกไอ้โต๋ที่ซุก..กระเพื่อมไหวกับการหัวเราะ
ของไอ้หล่อมัน แม้คืนนี้จะอึดอัด สุดท้ายก็ได้เสียงหัวเราะก่อนกลับ สรุปพวกไอ้วิน พวกไอ้บอมย์ไปต่ออย่างที่คิด
แถมพ่วงเพ็ญแข ไอ้ก้องหน้าขาว ไอ้พลดำ พวกพลัสคุณคิม และเพื่อนชายหญิงยกขบวนหลังทุกคนลงความเห็นไปต่อ
มีเพียงผม ไอ้รั่ว ไอ้โต๋กับตะเกียง ที่ขอตัวเพราะตะเกียงไม่ไหว สำคัญผมต้องรับรองเพื่อน จึงไม่มีใครรั้งพวกเราไว้..
เบาใจไปเปราะ แม้สายตาละห้อยของพลัสจะมองผมไม่วางตา น่าแปลกผมกลับเห็นสายตาคุณคิมมองไอ้รั่วแปลกจากเดิม?
ติดตามความรั่วของพี่พรต พร้อมกับปัญหาที่คืบคลานเข้ามาแล้ว
ดูว่าพี่พรตจะผ่านอุปสรรคและแก้ไขปัญหาไปได้อย่างไรกัน
Luk.
