♥~ รักกุบกิบ~ ♥ UPDATE!!! มีข่าวประกาศและแบบสอบถามค่า [06/01/15]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ♥~ รักกุบกิบ~ ♥ UPDATE!!! มีข่าวประกาศและแบบสอบถามค่า [06/01/15]  (อ่าน 84483 ครั้ง)

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
จีบเล้ยยยยยย พี่คีย์น่ารักขนาดนี้
ชอบรุกเด็กจัง เรียกพี่แล้วมันกริ๊บกริ๊วกิ๊วก๊าวกรุบกริบ  :hao5:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ดีแล้วที่คีย์เลือกเดินออกมา ถ้าไม่แยกไปนะโง่มากกกกกก
เจอจินแล้วก็ดีถึงปากร้ายไปหน่อยแต่ก็คอยดูแลดี
รีบๆ จีบคีย์นะจิน นิสัยดี น่ารัก เอาใจเก่ง หาไม่ได้นะแบบนี้

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
ชอบอ่า
อ่านแล้วหลงรักตัวละครทุกคนเลย
รอวันที่พี่คีย์จะโดนจิณจีบนะ

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
จีบโดยด่วน

hanachiko

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักจุงเบย <3 จินน่ารัก แอร๊ย

อยากกินไข่พะโล้ โปะ

  • บุคคลทั่วไป
ว้ายยยยย  !!   กรุบกริบ

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
kagehana : ขอบคุณคอมเม้นท์ทุกๆคนมากนะคะ  ตอนนี้กำลังพยายามประคองให้กุบกิบไปอีกสักพัก ตีมือตัวเองไม่ให้ลากเข้าดราม่า อิอิ


ขอให้สนุกกับการอ่านนะคะ









-4-












“ไอ้ถัง ไอ้จิน มึงว่า... พี่ไผ่ชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ” อิชย์ที่นั่งพาดตัวลงมาบนโต๊ะเอาคางเกยกับหลังมือตัวเองเอ่ยถามขึ้นมา


“แบบกูมั้งสัด ถามไมวะ” รฐกรดูดโอรีโอ้นมสดดังซร้วบ พร้อมคว้าหยิบเกี๊ยวทอดที่วางอยู่หน้านภัสรพีมากิน ก่อนจะตามมาด้วยคำขอแบบเนียนๆ “นี่ไรวะอาลัว ขอกินคำ”


“เกี๊ยวทอดไง กินไปเลย ไม่ต้องขอก็ได้”


“สัดถัง กูถามดีๆ จินอะ มึงรู้ปะ” ใบหน้าของอิชย์งอง้ำก่อนจะหันไปหาเพื่อนอีกคน


“ขาว นมโตๆ ตาโต แก้มป่อง หุ่นเอ็กซ์ ผมยาวด้วย.....” จิณณ์ว่าแล้วเปิดแก้วกวาดกาแฟปั่นลงคอ “สเปคกู...ของพี่ไผ่ไม่รู้”


“เฮ้อ...” อิชย์ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “ไร้ประโยชน์จริงๆพวกมึง”


คนที่นั่งเงียบเป็นคุณชายอะไรก็ได้พูดขึ้นมาเบาๆ “ถ้าโฟมอยากรู้ก็ถามพี่ไผ่เลยสิ”


“ถูกกกกกกกกกกกกกก” รฐกรเสริม “ไมไม่ถามเองวะ ทำงุบงิบๆถามคนอื่นทำไม มึงคิดว่าถามกู กูจะรู้สเปคพี่ไผ่เหรอวะ”


“ก็กูไม่กล้า ห่า” คนตัวเล็กยิ่งทำหน้าบอกบุญไม่รับ


“เม็ดโฟมชอบพี่ไผ่เหรอครับ” คิรากรที่นั่งเงียบๆมาตลอดเอ่ยถามเอาดื้อๆ


“อยากรู้เรื่องชาวบ้านอีกแล้ว” จิณณ์กัดเบาๆด้วยใบหน้าเฉยสนิท


“ก็... เดาเอา น่ะ” เขาตอบด้วยรอยยิ้มจางๆ “ใช่ไหมล่ะ เม็ดโฟม”


อิชย์ไม่ตอบรับ แต่ก้มหน้าซุกกับแขนและโต๊ะซ่อนสายตาตัวเองออกจากเพื่อนๆในโต๊ะ


“เป็นเชี่ยไรครับน้องเม็ดโฟม เอาหน้าซุกแขนอย่างงี้ อยากกินอัลโป้ก็บอก เดี๋ยวพี่ถังซื้อแจกได้ ไม่ต้องรอพี่ไผ่” มือหนาของรฐกรแปะลงบนแผ่นหลังของเพื่อนแล้วเลื่อนขึ้นไปขยี้หัวเหมือนลูบลูกหมาหงอย


“เหี้ยถัง กูไม่ใช่หมา” คนตัวเล็กใช้แขนข้างที่ว่างปัดมือเพื่อนออก


“คุยอะไรอยู่วะ” เจ้าของหัวข้อสนทนาที่เพิ่งมาถึงถามเบาๆก่อนจะหันไปสั่งน้ำแดงโซดาเหมือนทุกครั้ง พชรนั่งลงข้างๆอิชย์แล้วลูบหลังลูบไหล่เบาๆ “โดนถังแกล้งเหรอ หน้างอเชียว เดี๋ยวเราตีถังให้นะ”


“อือ แกล้ง”


“เม็ดโฟมอยากรู้ว่าพี่ไผ่ชอบผู้หญิงแบบไหนน่ะครับ” คนที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วยเป็นฝ่ายพูดขึ้นมา


“เหรอพี่คีย์...” พชรพึมพำรับคำแล้วก้มลงไปหาอิชย์ที่ดูเหมือนจะซุกตัวจนแทบจะม้วนไปในโต๊ะ “อยากรู้ไปทำไมล่ะโฟม”


“ก็... อยากรู้เฉยๆ...” เจ้าของชื่อและคำถามตอบเสียงเบา


“ตอบไปดิ ว่าน้องเม็ดโฟมชอบพี่ไผ่ เลิฟๆนะคะ ฮ่าๆๆๆ”


“สัดถัง คนจะคุยกัน หมาไม่เกี่ยว” พชรส่งสายตาดุใส่ แต่ดูไม่ค่อยเป็นผลนัก เพราะเจ้าตัวลอยหน้าลอยตา แกล้งทำเป็นกอดอ้อนจิณณ์ซบไหล่เอาหน้าไถแล้วเหล่มองอิชย์ยักคิ้วให้อย่างสะใจ


“ถังก็ ไปเกาะจินแบบนั้นเดี๋ยวก็มีคนเข้าใจผิดหรอก” นภัสรพีพูดขัดขึ้นมาบ้าง


“โห่อาลัว แมนๆอย่างกูใครจะเข้าใจผิดวะ ต้องอย่างไอ้โฟมนู่น”


“อ้าว ใครจะไปรู้” เจ้าของรอยยิ้มหวานตามชื่อพูดปัดไป


“กูง่วงละ จะกลับไปนอนแล้ว” อิชย์ลุกพรวดขึ้นก่อนจะหาวประกอบคำพูด


“พี่ไผ่ยังไม่ได้แดกน้ำเลย มึงรีบไปไหนวะ” จิณณ์บ่นลอยๆ แต่ก็มากพอที่จะทำให้อิชย์ที่ชักหน้าบูดนั่งลงทันที


“ขอโทษนะพี่ไผ่” เขาไม่ลืมที่จะหันไปยิ้มจางๆให้กับร่างสูงที่อยู่เคียงข้าง


พชรยิ้มจางๆบอกอีกฝ่ายว่าไม่เป็นไร และเมื่อน้ำแดงโซดามาถึงโต๊ะเขาก็ปักหลอดแล้วดูดอย่างกระหาย “เดี๋ยวไปกินข้าวด้วยกันนะพี่คีย์ วันนี้ไอ้ถังเป็นเจ้ามือเอง”


“เพื่อนคร้าบบบ ถามกูยัง”


“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวพี่เลี้ยงเองนะ เด็กๆยังไม่ต้องมาเลี้ยงพี่หรอก” คนที่อายุมากที่สุดรีบบอกปัดทันที


“หารกันเหมือนเดิมก็ได้ ไม่ต้องเลี้ยงหรอก เก็บเงินไว้ซื้อของในห้องดีกว่า ผมจะได้ไปอาศัยบ่อยๆ” จิณณ์สรุปให้ในที่สุด “จะกลับหอก่อนกิน หรือว่าจะกินเลยล่ะ กูอยากกินสุกี้กะทะร้อน”


“กลับหอก่อนได้ปะ กูอยากพักนิดนึง” อิชย์ตอบก่อนจะยกมือขึ้นบีบไหล่ตัวเองเบาๆ


“น้องโฟม” เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นจากข้างหลัง พชรหันกลับไปมอง เป็นชายหนุ่มสองสามคนในชุดเภสัช คนที่ตรงเข้ามาหายิ้มหวานให้อิชย์แล้ววางมือบนไหล่บีบเบาๆอย่างสนิทสนม


“ไม่ค่อยได้เจอกันเลย มาทานนมกับเพื่อนๆเหรอ” ชายหนุ่มผิวแทนตัดกับเสื้อกาวน์สั้นถามพร้อมรอยยิ้มสดใส


เจ้าของชื่อก้มมองมือที่จับไหล่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคนที่ยืนยิ้มกว้าง “สวัสดีครับ... พี่แพท”


วศินยิ้มรับ “ไม่ได้เจอตั้งแต่ไปออกค่าย สบายดีนะ แล้ว...เย็นนี้ไปไหนรึเปล่า ไปทานข้าวกับพี่มั้ย”


“ผมไปกับพวกนี้ครับพี่แพท” ที่อยากจะพูดต่อว่าเลิกชวนผมเถอะเป็นอันเก็บเงียบไปเพราะไม่อยากจะเสียมารยาทกับรุ่นพี่


“.....โฟม กลับห้องกัน” เป็นเสียงทุ้มต่ำของพชรที่พูดขึ้น พร้อมกับฉุดมืออิชย์ให้ลุก “จิน ถัง เดี๋ยวตอนเย็นเจอกัน กูปวดหัว จะอ้วก”


พูดจบก็คว้าข้อมือเดินออกไปทันที แต่ไม่วายยังมีเสียงตะโกนตามมา “ไว้เจอกันนะน้องโฟม เดี๋ยวพี่ไปหาที่คณะ”


พชรหักห้ามใจตัวเองไม่ให้หันไปมองขู่รุ่นพี่เจ้าปัญหา เขาดึงมืออิชย์เดินออกไปที่รถแล้วสตาร์ท หยิบหมวกกันน็อคให้ใส่แล้วขับออกไปทันที


รฐกรที่เห็นทุกอย่างอย่างงงๆ ได้แต่พึมพำเบาๆ


“.....เชี่ยพี่ไผ่ หวงเพื่อนยังกะหมา...”










 

 



“โทษทีนะ เจ็บแขนรึเปล่า” คนขี่พูดเบาๆแล้วหันไปดูคนนั่งซ้อนในขณะที่มอเตอร์ไซค์ติดไฟแดง


“ไม่เจ็บ... ขอบคุณนะพี่ไผ่” อิชย์ขยับวงแขนที่กอดเอวอีกฝ่ายไว้ให้แน่นขึ้นขณะแนบใบหน้าเข้ากับแผ่นหลังกว้าง


คนถูกกอดได้แต่นิ่ง ไม่รู้หรอกว่าอากาศข้างนอกกายกับอุณหภูมิในตัวอันไหนร้อนกว่ากัน เมื่อกี้...เขายอมเป็นคนไม่มีมารยาท ลากเม็ดโฟมออกมาจากกลุ่มเพื่อน เพราะไม่อยากให้ไอ้หมอนั่นแตะต้องตัว เขารู้แค่ว่าสมองสั่งให้ตัวลากเพื่อนรักออกมา โดยไม่สนใจว่าใครจะว่ายังไง


“เราไม่ชอบพี่แพท เห็นแล้วหงุดหงิด” หงุดหงิด...ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไรให้นั่นแหละ แค่มาโอบไหล่ จับหัวเพื่อนรักก็โคตรจะหงุดหงิดแล้ว


“อืม... โฟมก็ไม่ได้อะไรหรอก แต่ก็ขอบคุณนะ” เขาตอบกับแผ่นหลังที่แนบชิด


“โฟมโกรธเราที่ดึงตัวมามั้ย”


“ทำไมต้องโกรธล่ะ โฟมอยากอยู่กับพี่ไผ่มากกว่าพี่แพทอยู่แล้ว”


พชรยิ้มเมื่อได้คำตอบที่ต้องการ เขาออกตัวรถช้าๆ ขับพาคนที่ซ้อนนั่งกินลมเล่น เวลาที่ไม่เร่งร้อนเพราะเจ้าตัวจงใจจะให้มันหมุนช้าที่สุด...เพื่อจะได้อยู่กับคนที่ซ้อนไปนานๆ


“เพิ่งบ่ายสี่ จะแวะกินเค้กมั้ย”


“ก็ได้ แต่โฟมขี้เกียจไปที่คนเยอะๆ” อิชย์ตอบตามความจริง ไอ้เรื่องจะให้ไปไหนถ้าได้ไปกับพชรก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว


“งั้นกลับหอก่อน เดี๋ยวหกโมงครึ่งจะได้ออกมากิน” ชายหนุ่มหักรถเลี้ยวกลับไปที่หอ เขาให้คนซ้อนลงด้านหน้าแล้วเอาเข้าไปจอด พชรเดินออกมาพร้อมกับของตัวเองและอีกคนในมือ “ไปห้องโฟมมั้ย ขอนอนหน่อยนะ”


“อื้อ นอนกัน” เขายิ้มให้กับร่างสูงก่อนจะยื่นมือไปเพื่อรับของของตัวเองมา


“เดือนหน้า เอกเรามีจัดไปทัศนศึกษานอกสถานที่ รู้สึกว่าจะไปบ้านเกวียนที่ภูคา ว่าจะชวนพวกเราไปด้วยกัน โฟมไปมั้ย”


“อื้อ ไปสิ” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวานทันที เขาเอื้อมมือไปจับต้นแขนอีกฝ่ายไว้ขณะที่เดินขึ้นไปบนห้องด้วยกัน


“แล้ว.......” พชรเอ่ยขึ้นเบาๆเมื่อนั่งอยู่ในห้องเรียบร้อย โดยมีเจ้าของห้องนั่งพิงอยู่ข้างๆ เส้นผมกลิ่นหอมละมุนแตะอยู่ข้างแก้ม “ตอนที่นั่งคุยกัน...โฟมอยากรู้สเปคสาวที่เราชอบไปทำไมเหรอ”


“อยากรู้เฉยๆ ไม่มีอะไรหรอก” อิชย์ตอบเสียงเบาโดยไม่ยกศีรษะออกมาจากไหล่ของอีกคน


“แล้วสเปคโฟมเป็นแบบไหนเหรอ”


“โฟม... ชอบคนใจดี” เขาเหลือบมองคนที่ยอมให้พิงคล้ายกับจะรอฟังว่าพชรจะถามอะไรต่ออีก


“ใจดีอย่างเดียวเหรอ”


“ก็... เป็นผู้ใหญ่...” ดวงตาคู่สวยกระพริบมองขณะที่เอ่ยตอบ


“ชอบคนแก่กว่าเหรอ...อืม...” พชรพูดเบาๆแล้วเอียงหัวซบลงบนเส้นผมนุมนิ่มเหมือนขนแมว เขาหลับตาลง ทุกอย่างเงียบไปจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น...และลมหายใจของอีกฝ่ายแผ่วๆ


“ก็ไม่ขนาดนั้น แค่มีนิสัยเป็นผู้ใหญ่กว่า...” อิชย์เอ่ยต่อเบาๆโดยที่ไม่ละสายตาไปไหน


พชรสบตาก่อนจะโน้มตัวเข้าหา....


มือใหญ่ประคองใบหน้าเรียวพลางไล้ปลายนิ้วแผ่วเบา ริมฝีปากสีอ่อนเผยอค้างอย่างเชิญชวนให้ถลำลึกลงในรสหวานหวามที่อยากสัมผัส เขาแตะจุมพิตบางเบาบนริมฝีปากบางๆ ก่อนจะเม้มแน่นสลับคลายออกจนคนถูกจูบครางเสียงหวาน


“เรารักโฟมนะ......”


“พี่ไผ่...” ดวงตาคู่สวยช้อนมองอย่างออดอ้อนขณะที่ยกปลายนิ้วขึ้นแตะริมฝีปากล่างของอีกฝ่ายที่ผละออกไป “โฟมก็... เหมือนกัน”


พชรแทนคำตอบด้วยจูบหวานๆอีกครั้ง ชายหนุ่มดึงร่างที่เล็กกว่าเข้ามากอด ฝ่ามืออุ่นร้อนลูบไปตามแผ่นหนังเนียนใต้เสื้อนักศึกษา พชรแตะริมฝีปากอุ่นๆบนลำคอเรียว แล้วขบเม้มให้เกิดรอยสีชมพูเข้ม


“โฟม...เม็ดโฟม....” เสียงทุ้มครางชื่อเพื่อนรักแผ่วๆ


“อือ...พี่ไผ่...” เสียงครางหวานๆหลุดรอดออกมาจากริมฝีปากของอิชย์สลับกับเรียกชื่อร่างสูงที่กอดตัวเองเอาไว้ แขนสองข้างยกขึ้นโอบรอบลำคอหนาพลางหลับตาลงราวกับอยากจะดื่มด่ำกับรสสัมผัสนี้ให้เต็มที่


“พี่ไผ่....พี่ไผ่....”


พชรกระพริบตาถี่ มองสบตาคนที่อยู่ตรงหน้า เขากระแอมเบาๆแล้วถอยตัวออกมาห่างจากอิชย์


บ้าเอ๊ย...คิดเป็นตุเป็นตะเสียได้


...ไอ้บ้าไผ่...


“โฟม...เอ่อ...เราหิวน้ำ เอาให้หน่อยสิ” พชรแกล้งไอเบาๆ ซ่อนใบหน้าที่คาดว่าจะแดงก่ำไว้ใต้ฝ่ามือที่ยกขึ้นมาปิด...อยากจะเอาหัวมุดพื้นให้ได้ ทำไมถึงคิดไปได้ไกลขนาดนั้นวะ


“น้ำเหรอ ได้สิ” คนตัวเล็กลุกขึ้นเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบเอาขวดน้ำที่แช่ไว้ออกมา “โฟมมีเรื่องจะสารภาพ...ล่ะ”


“เรื่อง...อะไรเหรอ”


“พี่แพทน่ะ...” อิชย์หยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขาก่อนจะส่งขวดน้ำให้ “เขา...มาจีบ”


สัด!!!!


พชรสบถในใจทั้งที่พยายามตีสีหน้าเรียบเฉย รู้อยู่แล้วว่าไอ้รุ่นพี่เภสัชไม่ได้มาซื่อๆใสๆ แต่ก็ไม่ได้นึกว่าจะกล้ามาจีบเพื่อนรักของเขาแบบนี้


ที่สำคัญ...แม่งไปจีบตอนไหนวะ!!!


“แล้ว...โฟมชอบเขาเหรอ” ชายหนุ่มใช้ความพยายามอย่างมากที่จะถามให้ดูเนียนที่สุด


เจ้าของห้องส่ายศีรษะรัวๆ “ไม่ชอบ แต่พี่เขามาดี ถึงได้ลำบากใจนิดหน่อย”


“แล้ว..ถ้าเขาดีมากขึ้นเรื่อยๆ โฟมจะชอบหรือเปล่า”


“ไม่ชอบหรอก...” อิชย์ยิ้มกว้างให้


“ใจคอจะอยู่เป็นโสดหรือไง” พชรพูดหยอก แต่ในอกกลับรู้สึกพองฟูอย่างประหลาด


“พี่ไผ่ล่ะ” เขาไม่ตอบคำถามแต่เลือกที่จะถามกลับแทน


“ก็...ไม่รู้สิ จะอยู่เป็นเพื่อน จนกว่าเม็ดโฟมจะมีแฟนแล้วกัน.....”


เพราะขีดเส้นไว้ว่าเป็นแค่เพื่อน...และจะไม่รุกล้ำให้อีกฝ่ายต้องลำบากใจ


ความรัก...มันไม่ได้ง่ายเหมือนในจินตนาการ


พชรยิ้มนิดๆแล้วลูบหัวเพื่อนรักเบาๆ “มีแฟนเมื่อไหร่ต้องบอกเรานะ”


รอยยิ้มบนใบหน้าของอิชย์ดูหมองลงเล็กน้อย เพราะรู้ดีว่ามันคงไม่มีวันเกิดขึ้น “อื้ม...”


...ความรักที่ไม่อาจเป็นไปได้ตั้งแต่แรก


...ความรักที่มีให้กับผู้ชายที่เรียกว่าเพื่อน


 

 

 

 







To be continue...

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยย หลงเคลิบเคลิ้มไปกับจินตนาการของอิพี่ไผ่ง่ะ  >[]<  :hao7:



ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
เราก็นึกว่าพี่ไผ่จะมาแรงแซงโค้งซะแล้ว
ที่ไหนได้ คิดเองทั้งนั๊นนน
คู่นี้ปากแข็งทั้งคฝุ่เลยอ้ะ กลับไปลุ้นจินกะพี่คีย์ต่อดีกว่า ฮ่าๆ

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อื้มมมมมมมม คู่พี่ไผ่กับน้องโฟมมีแนวโน้มว่าจะรุ้เรื่องเร็วกว่าพี่คีย์กับจินนะ อิอิิ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1686
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
ต๊าย คู่นี้ต่างคนต่างไม่กล้าบอกกัน
แล้วเมื่อไหร่จะสมหวังกันล่ะจ๊ะ พี่ไผ่-โฟม

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
พี่ไผ่ดีจัง ชอบบบบ

 :กอด1:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ถ้าหากรักเน้ไม่บอกไม่พูดไม่กล่าวแล้วเค้าจะรู้ว่ารักรึเปล่า!!!!
อะโด้พี่ไผ่กล้าๆหน่อยสิ เดี๋ยวโดนคาบไปกินหรอกกกกกกก

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
พี่ไผ่พาคิดไปซะไกลเลย
นึกว่าจะสารภาพจริงๆ
ว่าแต่ต่างคนต่างรักกันแล้วทำไมไม่บอกกันล่ะเนี่ยยย
คิดมากกันไปใหญ่แล้วนะ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เราก็ว่ามันจะง่ายดายอะไรขนาดนี้ พี่ไผ่รุกไวกะทันหัน ที่แท้แค่ฝันกลางวันทั้งๆที่ลืมตาอยู่ :z3:
ต่างคนต่างขีดเส้นแบ่งความสัมพันธ์กันเอง ไม่รู้เมืี่อไหร่จะทำลายเส้นที่ว่าได้ซักที :mew6:

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1
kagehana : วันนี้มาดึก เลยมาแบบยาววววววว หวานนิดหน่อยพอกุบกิบหัวใจ อิจินเริ่มหวั่นไหวแล้ว...แต่พี่คีย์ล่ะ ฮือออออ เอาใจช่วยน้องเกรียนน้อยๆด้วยนะคะ








-5-









 

“อิ่มจัง...” คิรากรพูดขึ้นขณะเปิดประตูห้องของตัวเองออก


“อิ่มด้วย...ขี้เกียจกลับบ้าน” จิณณ์เดินไปเปิดไฟที่ผนัง ทำตัวตามสบายเหมือนบ้านตัวเอง นาฬิกาข้อมมือบอกเขาว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบหนึ่งทุ่มแล้ว....และถ้าเขาจะกลับบ้าน ก็ควรจะต้องกลับเสียที


เพียงแต่...จิณณ์ไม่นึกอยากกลับสักนิด


“นอนด้วยได้ป่ะ”


“ก็... ได้...” เขาเลิกคิ้วมองด้วยความแปลกใจ “เดี๋ยวพ่อกับแม่เป็นห่วงนะ”


“เขาไม่เป็นห่วงหรอก ผมไม่กลับสองสามวันยังไม่รู้เลยมั้ง” ถึงการพูดจะดูเหมือนไม่ใส่ใจ...แต่น้ำเสียงกลับเจือความน้อยใจเอาไว้นิดๆ


“อ้าว ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ พ่อกับแม่ที่ไหนจะไม่ห่วง ขนาดพี่ไปค้างบ้านอันคืนเดียวตอนแรกๆ พ่อพี่ยังโทรตามแทบตาย”


“ก็เพราะพวกเขาไม่ต้องการผมไง”


“ใครจะไม่ต้องการ... คิดมากน่า” เขาเอื้อมมือไปลูบศีรษะคนที่สูงกว่าหมายจะปลอบให้ไม่คิดมาก


จิณณ์นั่งลงที่โซฟามุมห้อง เขาลังเลที่จะพูดถึงเรื่องครอบครัว นอกจากกลุ่มเพื่อนที่สนิทแล้ว เขาก็ไม่เคยบอกใครถึงเรื่องที่บ้าน...กระทั่งผู้หญิงที่เคยคบกันก็ไม่เคย


“พี่คีย์...มานี่หน่อยดิ” คนที่นั่งอยู่ตรงโซฟากวักมือเรียก


“หือ...” เจ้าของชื่อเลิกคิ้วมองด้วยความประหลาดใจ แต่ขาก็ก้าวไปหาก่อนจะนั่งลงข้างๆบนโซฟาตัวยาวที่ชอบนอนเล่น


“คืนนี้นอนด้วยนะ...ไม่อยากกลับบ้าน”


“เอางั้นเหรอ...ได้สิ...” คิรากรตอบก่อนจะยกมือมาลูบศีรษะของจิณณ์อีกครั้ง “ไม่เป็นไรแน่นะ”


คนตัวสูงกว่าเบียดตัวเข้าหา...บางที แค่ไออุ่นจางๆจากคนข้างตัวในยามที่คิดมาก ก็พอจะบรรเทาความรู้สึกบางอย่างได้


“แม่ผม...กำลังมีน้อง.....” เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วๆ


“แล้ว...ไม่ดีเหรอ”


“น้อง....ลูกของผู้ชายคนใหม่ของแม่” พอหลุดไปได้หนึ่งคำ ความในใจก็พร่างพรูออกมา “ผมรู้ดีว่าไอ้การโดดเรียน มาสาย ไม่เข้าเรียน มันเหมือนการประชดแบบเด็กๆ แต่ตั้งแต่แม่มีเขากับน้อง ผมเหมือนคนไม่เหลือใคร มีตัวคนเดียวบนโลก....พี่คีย์รู้มั้ย ว่าคาบแรกที่ผมโดด เป็นคาบหลังจากที่แม่โทรศัพท์มาบอกว่ากำลังคบอยู่กับเพื่อนที่ทำงาน ผมไม่รู้จะทำยังไง ผมเลยโดดเดรียนคาบวิชาตอนม.ปลายไปร้องไห้ในห้องน้ำ แต่เจอไอ้ครูเวรหาว่าโดดมาดูดบุหรี่”


จิณณ์ทิ้งศีรษะลงบนโซฟาแล้วค่อยๆเอนเข้าไปหาคิรากรที่อยู่ชิดกัน


“จินไม่ชอบเพื่อนของแม่เหรอ...เขาเป็นคนไม่ดีใช่ไหม” เขาปล่อยให้อีกคนเอนกายเข้ามาพิงโดยไม่ขยับหนี สายตาที่มองอีกคนอ่อนโยนขึ้นกว่าที่เคย


จิณณ์ถอนหายใจเบาๆแล้วเอื้อมมือไปกอดเอวไว้เหมือนเด็กเล็กๆที่ต้องการความอบอุ่น


“ไม่หรอก เขาเป็นคนดี...เวลาผมโดนเรียกผู้ปกครอง เขาก็มากับแม่....แต่ผมไม่สนิทกับเขา ไม่รู้จะคุยอะไรไม่อยากคุย ไม่อยากรับรู้” ชายหนุ่มตัวโตที่กอดคิรากรอยู่พูดพึมพำ “ปัญหามันอยู่ที่ผม ไม่ใช่ที่เขาหรอก”


“ถ้าอยู่ด้วยบ่อยๆ เดี๋ยวก็สนิทได้ จินยังสนิทกับพี่เลย แป๊บเดียวเอง”


จิณณ์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ แล้วปรับสีหน้า ทิ้งหัวลงบนตักของชายหนุ่มรุ่นพี่ นัยน์ตาสีเข้มมองโครงหน้าได้รูปแล้วใช้ปลายนิ้วลากแผ่วๆ...จิณณ์แน่ใจว่าเขาไม่ได้รักคิรากร หรือมีความรู้สึกว่าชอบในเชิงนั้นแม้แต่น้อย แต่เพราะอยู่ด้วยแล้วสบายใจ..สงบใจได้ จึงเป็นเหตุผลที่เขาไม่รำคาญจนหนีไปหาที่อื่น


“ก็พี่คีย์เป็นแว่นแฮม...เป็นฮิวแมนเธอราพี”


เขายิ้มจางๆให้กับจิณณ์ ก่อนจะขยับมือมาลูบศีรษะที่ตัดผมจนสั้นเกรียนเบาๆ “แว่นแฮมเลยนะ แล้วเธอราพีอะไร พี่ก็เป็นแบบนี้”


“อยู่ด้วยแล้วสบายใจไง ชมนะเนี่ย....แถมยังหอมแอปเปิ้ล”


“ชอบแอปเปิ้ลเหรอ แบ่งโลชั่นพี่ไปใช้สิ” คิรากรยกมือตัวเองขึ้นมาดมแล้วหัวเราะออกมา


“ไม่อ่ะ ขี้เกียจทา อยู่กับพี่คีย์หอมกว่า”


“ก็เกินไป เดี๋ยวพี่ทาให้” เขาลูบศีรษะของจิณณ์อีกครั้ง


“ลูบหัวเป็นเด็กๆอยู่ได้”


“อ้าว โทษที” คิรากรยกมือออกมา “ไม่ลูบแล้ว...”


จิณณ์ฉวยข้อมือเรียวเอาไว้ แล้วยิ้มจางๆให้ “...ลูบก็ได้ แต่อย่าทำว่าผมเหมือนเด็ก”


“ก็เด็กกว่าพี่นี่...” คนอายุมากกว่าหัวเราะเบาๆให้กับเด็กตัวโต “ไปอาบน้ำไป...จะได้รู้สึกดีขึ้น”


คนที่นอนหนุนตักอยู่ยอมลุกไปแต่โดยดี เขาคว้าผ้าขนหนูที่วางพับอยู่พาดไหล่เดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะชะโงกออกมานิดๆ “พี่คีย์....ขอบคุณนะ”


เจ้าของชื่อยิ้มกว้างให้ก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดีของเจ้าตัว “ไม่เป็นไร ได้เสมอ”


 

 











ช่วงเวลาที่ใช้สายน้ำดับความร้อนใจผ่านไปอย่างเชื่องช้า จิณณ์ปล่อยให้ฝักบัวปล่อยน้ำไหลผ่านร่างกายพร้อมกับหลับตาลง กลิ่นของคิรากรอบอวลอยู่ในห้องน้ำจนเหมือนกับเจ้าตัวมายืนอยู่ด้วย คนอาบยิ้มนิดๆภายใต้ฝักบัวแล้วสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป


...บ้าเอ๊ย...


จิณณ์คว้าผ้าเช็ดตัวมาเช็ดแรงๆ ก่อนจะสวมเสื้อตัวเก่าเพราะไม่ได้เตรียมของมา เขาก้าวออกจากห้องน้ำแล้วเดินดุ่มๆไปยังอีกคนที่นั่งหันหลังให้ที่โซฟาตัวนุ่ม ใบหน้าแว่นแฮมจ้องทีวีใจจดใจจ่อจนเหมือนไม่สนใจใครบางคนที่ยืนอยู่สักนิด


“ดูอะไร...” จิณณ์ก้มตัวลงใกล้แล้วพูดข้างหู


คนที่นั่งอยู่สะดุ้งพร้อมกับมือที่ยกมาปิดหูด้วยความรวดเร็ว “ก็หนังที่ติดอยู่... ทำไมใส่เสื้อตัวเก่าล่ะ”


“ไม่ได้เอาของมา จะให้แก้ผ้านอนเหรอ” จิณณ์ยิ้มขำกับอาการตลกๆของคนตรงหน้า แล้วค่อยๆหย่อนตัวนั่งลงด้วยกัน


“งั้นออกไปซื้อกัน หรือจะใส่ของพี่ก็ได้นี่”


“คงใส่ได้มั้ง ตัวเท่านี้ผมใส่ก็ปริพอดี...ไม่เป็นไรหรอก ไม่อาบน้ำสามวันตอนไปออกค่ายกะไอ้ถังยังทำมาแล้วเลย”


“ไม่เอา เดี๋ยวพี่ออกไปซื้อให้” คิรากรยืนกราน คนอายุมากกว่าลุกขึ้น


จิณณ์บิดขี้เกียจแล้วคว้ากุญแจมาถือ “ไปก็ไป จะได้ซื้ออย่างอื่นมาฝากไว้ด้วย”


“อื้ม”


 

 







คิรากรเดินเข็นรถไปข้างหน้า โดยที่สายตาไล่มองไปตามป้ายของแต่ละส่วน “เสื้อผ้าผู้ชายอยู่ตรงไหนล่ะเนี่ย”


“ข้างหน้าโน่นไง” จิณณ์จับรถเข็นเข็นไปข้างหน้าแล้วไปหยุดยืนเลือกเสื้อยืดสีเข้ม


“ไหน พี่ช่วย” คนตัวเล็กกว่ารีบก้าวตามมา เขาเลือกเสื้อยืดสองสามตัวมาพาดไว้บนแขนของตัวเองก่อนจะเอื้อมมือไปแตะไหล่อีกคน


“นี่เป็นไง” เขาคลี่เสื้อยืดออกมาทาบไปกับไหล่กว้างแล้วถอยตัวออกมาสุดแขนเพื่อดูว่าเข้ากันไหม


“ก็โอเคล่ะมั้ง” จิณณ์พูดเรียบๆพลางจ้องหน้าคนที่ตั้งอกตั้งใจทาบเสื้อบนตัวเขา “นอกจากเหมือนเมีย...ยังเหมือนแม่ด้วย พี่คีย์นี่สุดยอดเลยว่ะ”


คิรากรขมวดคิ้วก่อนจะหยิบอีกตัวทาบบ้าง “ตัวนี้ล่ะ” ไม่ใช่ว่าไม่ได้ยินคำพูดชื่นชม แต่เป็นเพราะเขาทำไปด้วยความเคยชินกับการอยู่ร่วมกับใครอีกคน ตอนที่อนลชวนไปอยู่ด้วยกัน เขาก็ออกมาซื้อของด้วยกันแบบนี้


“ชอบไหม”


“ไม่ชอบสีอ่อนๆ เอาสีเข้มได้ป่ะ”


“เหรอ ใส่สีอ่อนพี่ว่าดีออก จะได้ดูสดใส พี่จะได้ยืมใส่ด้วย” คนที่จับเสื้อค้างไว้ยิ้มกว้างให้


จิณณ์มองแววตาที่สบกันแล้วก็ได้แต่พยักหน้า ตามใจไปทั้งที่ก็ไม่ได้ชอบอะไรนัก


หลังจากเลือกเสื้อผ้าเสร็จ ชายหนุ่มก็เลือกซื้อของใช้ส่วนตัวแล้วก็เข็นรถไปดูมุมของแห้ง จิณณ์มองอาหารสำเร็จรูปในตู้แช่แล้วทำท่าจะหยิบ “พี่คีย์เอาอะไร จะได้เก็บไว้เวฟกิน”


“ห หือ” เขาเงยหน้าขึ้นมาหา “เอาของสดเถอะ ดีต่อสุขภาพกว่า แต่ถ้าพวกไส้กรอกก็ได้นะ” ร่างบางไล่สายตาไปตามตัวเลือกที่มีมากมายจนชวนให้ปวดหัว


“อันอยากกินอะไรล่ะ” ไม่ถามเปล่า บนใบหน้ายังปรากฏรอยยิ้มหวาน


ชื่อที่หลุดออกมาทำให้คนยืนข้างๆนิ่งไปนิด จิณณ์คลี่ยิ้มอ่อนโยนที่นานๆจะเห็นสักทีแล้วตอบไปด้วยเสียงแผ่วเบา “พี่คีย์....ผมไม่ใช่อันนะ”


สิ่งที่รู้สึกตอนนี้....ไม่รู้ว่าทำไมจิณณ์ถึงได้สงสารคนตรงหน้าเหลือเกิน...คิรากรเป็นเหมือนแม่ของเขาในตอนก่อนจะมีคนรักใหม่ จะทำอะไร...จะอยู่ที่ไหนก็คิดถึงแต่พ่อ จิณณ์ในตอนเด็กคิดเอาไว้ว่าเขาจะไม่เป็นคนยึดติดกับอะไร


เพราะรู้...ว่ายึดไปก็มีแต่ตัวเองเจ็บ


“รักเขาแล้วหนีมาทำไม ทำไมไม่แย่งล่ะ”


“ขอโทษ” เขาทำได้เพียงส่งยิ้มให้จางๆ “บอกแล้วไง พี่รอเขาอยู่ปีนึง แต่เขาบอกว่าอีกฝ่ายไม่ได้ผิดอะไร ทำอะไรไม่ได้” คิรากรถอนหายใจออกมาอีกครั้งแล้วเงยหน้าถามคนอายุน้อยกว่าอีกที


“จินอยากกินอะไรล่ะ”


“เอาพวกสปาแช่ไว้ก็ได้ ผมเอาซอสไก่นะ”


“โอเค ไว้พี่จะทำให้กินแบบไม่แช่นะ” เขาเปิดตู้แช่แล้วหยิบเอาสปาเก็ตตีออกมาส่งให้อีกคนทีละแพค


จิณณ์เดินตามคนที่เข็นรถเข็นอยู่ แม้ท่าทางแสร้งปกติของคิรากรจะเก็บอาการได้ค่อนข้างดี แต่บางครั้ง...ความวูบไหวในแววตากลับบอกว่าคนตรงหน้าไม่ได้เข้มแข็งเหมือนที่เจ้าตัวพยายามทำเลย


“พี่คีย์...ไหวมั้ย”


“หือ ไหวอะไร”


“เรื่อง....แฟนเก่าพี่ มีอะไรคุยกับผมก็ได้นะ อย่าเก็บไว้คนเดียว”


คิรากรเพียงส่งยิ้มให้อย่างอ่อนโยน “มันไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นหรอก พี่รักเขามาก แต่ที่เขาให้พี่มันไม่พอ...จะว่ายังไงดี” เขาก้มหน้าลงราวกับกำลังใช้ความคิด


“ถ้าไม่ได้ทั้งหมด...พี่ก็ไม่เอา”


จิณณ์ยิ้มรับกับคำพูดมั่นคงของคิรากร ทั้งๆที่ในหัวใจกลับรู้สึกแปลกๆ....


...เป็นเหมือนกันสินะ....


“ผมด้วย...ถ้าไม่ได้ทั้งหมด สู้อย่ามีดีกว่า”


คนอายุมากกว่าหัวเราะออกมาเบาๆ “เป็นคน...โลภนะเนี่ย”


“พี่ก็เหมือนกันแหละวะ”


จิณณ์หัวเราะเบาๆ รถเข็นถูกเปลี่ยนมือเมื่อตอนไปถึงหน้าที่จ่ายตังค์ ของที่จะซื้อไม่ได้มาก แต่เป็นของของเขาเสียส่วนใหญ่ จิณณ์ล้วงหยิบกระเป๋าเงินออกมาในตอนที่แคชเชียร์กำลังคิดเงิน


“จิน ไม่ต้อง พี่จ่ายเอง” คิรากรที่เห็นอีกฝ่ายหยิบกระเป๋าออกมาก็รีบเข้าไปดึงแขนเอาไว้


“ของผมทั้งนั้น จะจ่ายทำไม”


“ก็มันเป็นของที่อยู่ห้องพี่ เสื้อนี่ห้ามจินเอากลับบ้าน พี่เอาไว้ที่ห้อง ให้จินยืม” เขายิ้มให้คนอายุน้อยกว่าที่ทำเสียงเข้มใส่


เถียงกูตลอด แถได้อีก....ถึงจะคิดใจในแต่สีหน้าของจิณณ์ก็แทบจะอธิบายทุกคำได้แล้ว “บ้าป่ะเนี่ย ใช้อะไรคิดวะแว่นแฮม เสื้อถือเป็นของส่วนตัว ต้องจ่ายเองดิ่”


“ไม่เอา พี่จะซื้อให้ เวลาจินไม่มา พี่จะได้เอาไว้ใส่ด้วย” เจ้าของห้องที่ให้พักพิงยังคงยืนกราน


“อย่ามาตลก” คนตัวสูงกว่าควักแบ็งค์ในกระเป๋ายื่นส่งให้แคชเชียร์


“ไม่ได้ตลก พูดจริงๆ ทางนี้ครับ” คิรากรยิ้มให้กับแคชเชียร์ก่อนจะเอื้อมไปยื่นเงินของตัวเองส่งให้


คนอายุมากกว่าจ่ายให้เสร็จสรรพ โดยที่จิณณ์ได้แต่ยืนทำหน้าบูดมองอย่างไม่ชอบใจ การที่ถูกอีกฝ่ายสปอยล์เหมือนเด็กๆทั้งที่ห่างกันไม่เท่าไหร่ทำให้จิณณ์เกิดอาการงอนเล็กน้อย


“คราวหลังไม่มาด้วยแล้ว.....”


“อ้าว ไม่มาด้วยแล้วพี่จะมากับใคร” คิรากรส่งถุงของทั้งหมดให้จิณณ์เป็นคนถือ “โกรธอะไร...”


“ช่างเหอะ....”


จิณณ์ฉวยถุงแล้วเดินออกมา...แต่ก็ไม่ลืมที่จะรอใครอีกคน


 







 

ประตูห้องน้ำถูกเปิดออกพร้อมกับเจ้าของห้องที่เดินออกมา มือข้างหนึ่งใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กขยี้เบาๆบนศีรษะที่เปียกชุ่มของตัวเอง คนตัวเล็กกว่าถือวิสาสะไปนั่งข้างๆจิณณ์ที่ดูโทรทัศน์อยู่ “เสร็จแล้ว หายโกรธหรือยัง”


จิณณ์ในชุดที่เพิ่งซื้อมาใหม่หันมอง “ไม่ได้โกรธ...แล้วทำไมไม่เช็ดผมดีๆ เดี๋ยวเป็นหวัดหรอก”


“นี่ไง เช็ดอยู่” คิรากรทำมือประกอบคำพูดที่ว่าเช็ดอยู่พร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ส่งให้


“เป่ามั้ย...เดี๋ยวผมเป่าให้”


“เอาสิ” เขาตอบรับอย่างรื่นเริงพลางลุกไปหยิบเอาไดร์เป่าผมออกมาจากลิ้นชักที่อยู่หน้าห้องน้ำ “ปลั๊กไปไม่ถึงหน้าทีวีอะ...”


จิณณ์ลุกเดินตามไปแล้วกดบ่าให้คิรากรนั่งลงหน้ากระจก มือใหญ่สางเส้นผมเปียกๆแล้วใช้ไดร์เป่าเบาๆสลับกับเอาผ้าขนหนูเช็ด


“สบายมั้ย ร้อนไปป่ะ”


“ไม่เลย สบายมาก ไม่มีคนเป่าผมให้นานแล้ว เหมือนกลับไปเป็นเด็กเลย” คิรากรทั้งยิ้มทั้งหัวเราะขณะที่สบตากับคนที่ยืนอยู่ด้านหลังผ่านเงาสะท้อนบนกระจก


“ก็มัวแต่ไปทำให้คนอื่น ไม่ดูแลตัวเอง สมน้ำหน้า” จิณณ์ยิ้มนิดๆเมื่อเห็นแววตาวาวๆสะท้อนในกระจก เขาหัวเราะต่ำๆแล้วสางผมที่เริ่มแห้งให้


“อยู่กับผม ผมดูแลเอง.....ไว้พี่มีแฟน ค่อยให้มันดูแลแล้วกัน”


“ยากจัง พี่ไม่ถนัดถูกดูแลซะด้วย” เขายังคงยิ้มและหัวเราะ แต่ว่าพวงแก้มเริ่มซับสีเข้มมาจนสังเกตได้


“ก็รีบชินไวๆดิ่....” จิณณ์มองในกระจก รุ่งพี่ตัวเล็กกำลังก้มหน้างุดซ่อนใบหน้า ชายหนุ่มยิ้มกว้างจนดวงตาเป็นประกาย “เขินเหรอ...เขินอ่ะดิ่”


“อย่าสิ” เขาร้องท้วงขึ้นมาพลางยกมือขึ้นมาปิดหน้า “เขินไม่ได้หรือไง”


“เพิ่งสังเกตว่าพี่น่ารักเหมือนกันนะเนี่ย” พูดแล้ว ปลายนิ้วสากก็ไล้ปลายคางอีกฝ่ายอย่างตั้งใจจะหยอกเล่น


“จิน...” คิรากรก้มหน้าเอียงไปอีกทางเมื่อถูกสัมผัสแบบนั้นโดยไม่รู้ว่ากำลังถูกหยอกเล่น


เจ้าของชื่อกดปลายคางลงบนกลุ่มผมหนานุ่มสีเข้มที่แห้งสนิท มือที่ลูบไล้เปลี่ยนเป็นโอบกอดเบาๆจากข้างหลัง “หอมแอปเปิ้ล...กินได้ป่ะ”


“อยากกินแอปเปิ้ลเหรอ...” เขาเงยหน้าขึ้นมอง


“กินพี่คีย์มั้ง” ชายหนุ่มวางไดร์เป่าผมแล้วจับแก้มคิรากรยืดออกอย่างหมั่นเขี้ยว


...อันตรายชิบหาย ท่องไว้ว่าเป็นแค่แว่นแฮม..แว่นแฮมๆๆๆๆ


“กินอะไร” คิรากรยิ้มเขินๆก่อนจะพูดกลั้วหัวเราะ “เดี๋ยวติดขึ้นมาแล้วจะมาว่าพี่”


คราวนี้เป็นจิณณ์ที่ชะงักไป เขาละมือออกเกาหัวตัวเอง สีหน้าปิดความเขินไว้ไม่มิด


“บ้าจริงกู” พึมพำเบาๆก่อนจะแอบถอนใจ....แม่ง อะไรนักหนาวะ ทำยังกะจะ..ชอบ...แว่นแฮมที่รักคนอื่นเนี่ยนะ ไม่มีทางหรอก


“ติดอะไรวะ” จิณณ์แสร้งทำเสียงเข้มกลบเกลื่อน


“ก็ คนเขาชอบพูดกันไม่ใช่เหรอ ว่าลองกับผู้ชายแล้วจะติดใจ” เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะหันมายิ้มขอบคุณ “ขอบใจนะ”


เจ้าของห้องไม่พูดเปล่า เขาขยับยืดตัวขึ้นแตะริมฝีปากเบาๆที่ข้างแก้มของจิณณ์ “ขอบใจมาก”


คนถูกหอมแก้มนิ่งชะงัก มองคิรากรด้วยอาการเหวอ


...เชี่ย...


...เชี่ยแล้ว...


...เชี่ยสุดๆ....


“กะ...แกล้งกันนี่หว่า” มือใหญ่ยกขึ้นจับแก้มข้างที่ถูกหอมพร้อมโวยลั่น


“อ้าว...ขอโทษนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ชอบใช่ไหม ขอโทษนะ” พอถูกโวยเข้า คิรากรถึงกับตกใจจนต้องรีบกล่าวขอโทษ


“ก็...ก็....เปล่า ไม่เป็นไร...ไม่ได้...” คนพูดเงียบเสียงลง ไม่ได้...ไม่ชอบ จะให้พูดไปอย่างงั้นมีหวังคิรากรคิดไปไกล แต่ถ้าไม่พูด...ก็คงคิดมากไปอีก


“เอ่อ....ไม่ชิน...ช่างเหอะ อย่าหอมบ่อยแล้วกัน เดี๋ยวติดใจ” จิณณ์พูดรัวเร็วแล้วเอาผ้าเช็ดผมเปียกๆโยนใส่ตะกร้า


“โอเค...ขอโทษนะที่ทำให้ตกใจ” คนอายุมากกว่ายิ้มให้อีกครั้ง “เดี๋ยวจะนอนเลยไหม” เขาหันเดินมาหยุดที่ประตูห้องนอน


จิณณ์พยักหน้า แล้วเดินตามเข้าไป เขาแอบเหลือบเห็นหนังสือต้นเหตุ...ที่คั่นรูปของอดีตคนรักของคิรากร หลบมุมอยู่ตรงที่วางข้างๆโต๊ะ เขาเดินมาที่เตียงแล้วหยิบเอาหมอนกับผ้าห่มผืนบาง ทำท่าจะเดินออกนอกห้อง


“อ้าว ไปไหนอะ” เจ้าของห้องรีบท้วงขึ้นขณะที่เดินไปหยิบเอาหนังสือที่วางอยู่บนเตียงสองสามเล่มออก


“ก็นอนข้างนอกไง”


“ไม่เอา นอนด้วยกัน เตียงกว้างจะตาย”


เป็นคนที่ยืนถือหมอน ทำหน้ายุ่งตัดบทอีกครั้ง “ขี้เกียจเบียด โซฟาก็นอนได้”


“ไม่เอา นอนด้วยกัน โซฟาไม่สบายนะ ไม่เบียดหรอก...” คิรากรไม่ยอมให้จิณณ์ได้ทำแบบนั้น แต่เขาก็นึกขึ้นได้ว่ามันอาจเป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น จึงเอ่ยถามต่อ


“หรือเพราะพี่ชอบผู้ชาย...ไม่สะดวกใจ...ใช่ไหม”


คนฟังหันมองหน้าทันที และพบว่าสีหน้าของอีกคนดูเศร้าขึ้นมานิดหน่อย...ถึงจะไม่ใช่กงการอะไรที่จะต้องถนอมน้ำใจ แต่เขาก็ไม่อยากให้คิรากรคิดมาก


“เปล่า...ก็...นอนก็ได้ ผมไม่ได้อะไร”


“งั้นพี่นอนข้างในเองนะ” ร่างบางยิ้มออกมาก่อนจะเลิกผ้าห่มขึ้นแล้วหันไปรอรับหมอนจากอีกคน


จิณณ์กระเถิบขึ้นนอน เตียงที่คิดว่าใหญ่ เมื่อนอนด้วยกันสองคนกลับพอดีจนน่าประหลาด เขาวางหมอนแล้วเอนตัวลงนอน เอามือเท้าคางจ้องใบหน้าคิรากร


“ม มองอะไรน่ะจิน” เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าครึ่งหนึ่งขณะทำเสียงเชิงต่อว่า


“อ้าว มองไม่ได้เหรอ อะไรกัน...ทีเมื่อกี้ยังหอมแก้มผมอยู่เลย”


มือของคิรากรยิ่งยกผ้าขึ้นปิดจนเหลือแค่ดวงตา “เขิน...”


จิณณ์อึ้งไปกับท่าทาง...ที่เรียกได้ว่าน่ารัก ของชายหนุ่มรุ่นพี่ตรงหน้า เขาก้มตัวลงต่ำเข้ามาช้าๆเอาใบหน้าซุกกับผ้าห่มที่คิรากรยกขึ้นปิด “เขินเหรอ...เขินอะไร...”


เจ้าของห้องยิ่งออกแรงดึงผ้าห่มให้ปิดจนหมดทั้งหน้า “เขินจินนั่นแหละ จะจ้องพี่ทำไม” เขาส่งเสียงอู้อี้ผ่านผ้าผืนหนา


เจ้าของชื่อหัวเราะขำกับท่าทางเขินเอาจริงเอาจัง จิณณ์นอนลงบนเตียงแล้วดึงผ้าห่มอีกครึ่งขึ้นมาห่ม


“ไม่จ้องก็ได้....”


“นอนนะ” คิรากรลดผ้าห่มลงก่อนจะหันมายิ้มให้ “กู๊ดไนท์”


“ฝันดี...พี่คีย์”


ใช้เวลาไม่นานนัก รอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของคิรากรก็ค่อยๆคลายออก ดวงตาปิดสนิทพร้อมกับลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอ ร่างกายที่ผ่อนคลายพลิกหันมาหาก่อนที่แขนจะเอื้อมไปคว้าเอวของร่างสูงเอาไว้แล้วขยับตัวเข้าหา


“เฮ้ย!!” คนที่กำลังเคลิ้มๆใกล้หลับสะดุ้งเฮือก เขามองตัวเจ้าปัญหาที่พาดท่อนแขนโอบกอดเขาไว้แล้วแตะที่ไหล่ เรียกให้ตื่น


“พี่คีย์....อย่ากอด...ตื่นสิ...”


คนที่หลับจนลึกไม่ยอมตื่นง่ายๆ เขาซุกตัวเบียดเข้าหาไออุ่นจากอีกฝ่าย ริมฝีปากยกยิ้มน้อยๆอย่างคนหลับฝันดีโดยไม่รู้ตัวว่ากำลังกอดใครอยู่


คนถูกกอดนอนนิ่ง แล้วอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าชีวิตถูกคุกคามจากแฮมสเตอร์ท่าทางเงียบหงิมแต่มือตุ๊กแก พอลองเอามือไปผลักกลับกลายเป็นติดหนึบยิ่งกว่าเดิม จิณณ์ถอนหายใจแล้วทำท่าจะขยับออก ร่างที่เบียดกลับยึดเอาไว้แน่น พึมพำเรียกชื่อคนรักเก่า...จนอดจะโมโหขึ้นมาไม่ได้


“ตื่นเลย...ผมไม่ใช่แฟนเก่าพี่ ไอ้พี่คีย์”


“ห...หือ...อะไรเหรอ....อัน” คนที่หลับไม่รู้เรื่องค่อยๆลืมตาขึ้นมาพร้อมกับน้ำเสียงงัวเงีย มือยกขึ้นขยี้ตาเบาๆแล้วมองหน้าคนที่ดูอารมณ์เสีย คิรากรกระพริบตาสองสามที


“...จิน.................” พอคิดได้ว่าอะไรเป็นอะไรเขาก็ถอยตัวออกมาจนชนกับผนัง “ขอโทษ....”


“จะเรียกคนอื่นก็ไม่ต้องมากอดเลย” จิณณ์พูดเสียงงัวเงีย แต่แววตาอ่อนโยนลงนิดหน่อย...ตอนที่เอื้อมมือไปดึงคิรากรออกมาจากผนัง


“นอนอย่างงี้ระวังโดนปล้ำไม่รู้ตัวนะ”


“ขอโทษ...ชินน่ะ...”


“หาแฟนใหม่ได้แล้วมั้ง” จิณณ์พูดยิ้มๆแล้วพลิกตัวลงนอน “ง่วง...นอนเหอะ พรุ่งนี้พี่เรียนเช้านี่...ใช่ป่ะ”


“อื้ม...ขอโทษนะ จะนอนดีๆแล้ว” คิรากรขยับตัวออกห่าง ซ้ำยังตะแคงตัวหันหลังให้อีกคนอย่างชัดเจน รู้สึกไม่ดีเล็กน้อยที่เผลอไปกอดอีกฝ่ายเข้า


พอร่างสูงลืมตาขึ้นมอง..ก็อดสงสารคนที่นอนหันหลังตัวเกร็งไม่ได้ มือใหญ่เอื้อมไปแตะที่ไหล่เบาๆแล้วลากให้พลิกกลับมาไว้ ท่อนแขนของจิณณ์วางพาดบนเอวแล้วรั้งจนใบหน้าเหรอหราซุกลงบนอก


“ให้ยืมคืนนึง....นอนได้แล้ว”


คิรากรรู้สึกดีที่ปิดไฟจนหมดแล้ว ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงได้เห็นใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเอง เขารู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเพราะการกระทำที่อ่อนโยนของคนอายุน้อยกว่าจนต้องรีบหลับตาลง


“กู๊ดไนท์....” คำกล่าวราตรีสวัสดิ์คราวนี้ฟังดูแผ่วเบาเสียจนเป็นเพียงเสียงกระซิบ


“ฝันดี”


จิณณ์ไม่รู้ตัวเองเลย....ว่าเส้นแบ่งของคำว่าอยากดูแล กับคำว่าตัดรำคาญ


...มันแคบ...นิดเดียว...

 
 
 
 
 
 





To be continued...

ออฟไลน์ rainiefonnie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 623
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-2

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
นั่นแน่ะ ทำเป็นเล่นไป ติดใจเข้าแล้วล่ะสิ ยอมรับมั้ยล่ะ

 :กอด1:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
จิณณ์รุกมะ เทคแคร์ดีงี้หายากนะ555555555555555555
เหมือนถ้างุงิงๆๆๆกันอีกสักหน่อยก็คงสปาร์คกันละ
บายอันไปอยู่ที่ชอบที่ชอบนะ

ออฟไลน์ KilluaZoaldyeck

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
กุบกิบไปจนจบ  อย่าดราม่านะ
 :mew3: :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
อะแน่ะ เดี๋ยวก็ติดใจจริงๆหรอกน้องจิน อิอิ

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
ลุ้นอ๊า พี่คีย์ไม่ต้องลืมอันก็ได้ แต่ไม่ต้องรู้สึกอะไรด้วยอีกแล้ว มารู้สึกกับจินดีกว่า น่ารักกว่าเยอะ :o8:
ความใกล้ชิดคงทำให้จิตใจหวั่นไหว ยังไงจินก็รีบตัดสินใจจีบพี่คีย์จริงๆจังๆซะทีนะ :impress2:

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
จิณระวังจะติดใจน้า อิอิ
ส่วนพี่คีย์ก็ลืมๆอันไปเหอะ
ผู้ชายโลเลแบบนั้นอย่าไปจำเลย
หาใหม่ดีกว่านะพี่

ออฟไลน์ aloney

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 743
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +45/-4
ตามมากุบกิบด้วยคนจ้าา

พี่คีย์น่ารักจัง

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
กุบกิบบบบบบ

กรี๊ดอ้ะ เขิลแทน
แต่นะ พี่คีย์ ลืมๆ อันไปเถอะ
เริ่มใหม่กะจินดีกว่าาา

ออฟไลน์ toshika

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 819
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
โอยยยยยยยยย

หลงรักเรื่องนี้เข้าให้แล้ว +เป็ดค่ะ

หลงรักพี่คีย์ ความใสซื่อนั่นอีกโอ๊ยยชอบมากๆๆ

จะรอติดตามนะคะ กุบกิบน่ารักเชียว  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

hanachiko

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
จินน่ารักมาก โอมมม ติดใจเร็วๆนะ  :mc4:

ออฟไลน์ kagehana

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1


kagehana : เลิฟตะลอนออนทัวร์ มาเที่ยวคราวนี้อาจจะมีอะไรคืบหน้าก็ได้นะคะ ฮิ กุบกิบหัวใจกันไปอีกสักพัก





-6-




 




“พี่เพิ่งเคยมาเที่ยวแบบนี้นะ” คิรากรหันมาพูดกับคนที่นั่งข้างๆบนรถทัวร์ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ตอนที่อยู่สหรัฐอเมริกานั้น ด้วยความที่เขาอยู่ในสังคมชั้นสูงของที่นั่น ทำให้ทุกการเดินทางมีแต่รถลิมูซีนหรือเครื่องบิน แม้กระทั่งเฮลิคอปเตอร์ พอได้มานั่งรถแบบนี้เลยทำให้รู้สึกตื่นเต้นไปอีกแบบ


“เด็กมหาลัยก็งี้แหละ ไว้คราวหน้าจะพานั่งรถไฟไปหัวหิน...” จิณณ์พูดเบาๆก่อนเร่งเสียงเพิ่มขึ้นเพราะมีเสียงแทรกจากท้ายรถ


“ประกาศๆ ในฐานะของเพื่อนประธานเอกภูมิศาสตร์ปีสอง ผม..นายรฐกรหรือรถถัง ขอประกาศต่อหน้าเพื่อนๆพี่น้องทุกท่านว่า.....” คนที่นั่งอยู่หลังรถแล้วใช้โทรโข่งพกพายืนพูดเงียบเสียงไป แล้วหันมองใบหน้าของทุกคนที่ตั้งใจฟัง  “ว่า.....”


“ว่าอะไรคะ พี่ถังขา” เสียงทุ้มห้าวที่ดัดแหลมของ ลัคกี้ พี่เชียร์ปีเดียวกันสังกัดกลุ่มเพื่อนสาวมหาวิทยาลัยถามมาจากอีกด้านของคันรถ


“ว่า....ยังโสดๆ อยู่ตรงนี้ ยังโสดๆ อยากมีรัก มาโหลดๆ......” รฐกรทำท่าแอ๊บแบ๊วเลียนแบบนักร้องสาววัยรุ่น เสียแต่เสียงที่ร้องกลับห้าวจนทำเอาทั้งคันรถฮาครืน


“เป็นเชี่ยไรของมึง ไอ้ถัง” จิณณ์ปาดน้ำตาที่เล็ดออกมาแล้วตะโกนถามเสียงสั่นเพราะกลั้นหัวเราะ


“กูโสดดดดดดด มึงคิดดูนะ คิดดูนะพ่อแม่พี่น้อง” รฐกรวางท่ากระแอมใส่โทรโข่ง “บ้านเกวียน อากาศหนาวๆ ทะเลดาว.....เสือกนั่งโสดดูคนเดียว เหงาชิบหาย ขอเสียงคนโสดหน่อย ใครโสดยกมือขึ้น.....โปรโมชั่นใหม่ สมัครเป็นแฟนตอนนี้ แถมข้าวสารฟรีถึงชาติหน้า”


พูดจบเจ้าตัวก็ยกขึ้นสุดแขน และรวมไปถึงใครๆอีกหลายคน


“น้องกี้โสดค่า โสดๆมาทางนี้”


“กูว่ากูเลิกโสดดีกว่าครับน้องกี้.......”


“เชี่ยถัง ไอ้ถังขี้” เป็นลัคกี้ที่ลุกขึ้นยืนเท้าเอว มองค้อนใส่


“ถังไม่ต้องมั่วเลยดีกว่า เป็นแฟนกับโฟมไม่ใช่เหรอ” เสียงใสๆตะโกนขึ้นมาจากด้านหลัง


“หา? อะไรนะ!” เจ้าของชื่อโฟมที่ถูกพาดพิงถึงกับลุกพรวดขึ้นมาหันไปหาต้นเสียง


“เหี้ยแล้ว!” คนถือโทรโข่งสบถใส่โทรโข่งแล้วหันกลับไปมองหญิงสาวหน้าใสที่มีลักยิ้ม...ยักยิ้มเจ้าเล่ห์แบบเหมือนรู้ทันคนทั้งโลก “นึกว่าใคร...จะอะไรกะกูนักหนาวะไอ้แจ๊ส”


“ไม่ได้อะไรเลย ก็พูดความจริง” แจ๊ส หรือจีรนันท์ยิ้มกว้างมากขึ้น “ไม่ใช่เหรอ”


“เอาอะไรมาพูดวะแจ๊ส กูกับถังเหมือนเป็นแฟนกันตรงไหน” อิชย์ขึ้นเสียงบ้าง เขาไม่ลืมที่จะเหลือบมองปฏิกิริยาของคนที่นั่งอยู่ข้างๆ


“ถูกกกกก” ลากเสียงยาวต่อด้วยประกาศลงโทรโข่ง “อ่ะ ใครโสดโปรดจีบไอ้แจ๊สด้วย นาวสาวจีรนันท์ เอกเกย์ศึกษา โทแต่งนิยาย ช่วยสอยจากคานที ไม่งั้นประชากรชายอย่างเราจะถูกคุกคาม ฮิ้วววววว”


“เรื่องของเรา เราอยู่คนเดียวได้ เขียนนิยายให้พวกแกได้กันยังสนุกกว่าเลย” จีรนันท์ไม่สะทกสะท้านต่อคำแซวเหล่านั้น ซ้ำยังยักไหล่อย่างไม่รู้สึกรู้สา


“ให้ผู้ชายได้กันกูไม่ว่า ให้กูได้ไอ้โฟมกูเคือง!”


“ทำไมอะ โฟมไม่ดีตรงไหน เราว่าออกจะเหมาะกัน ถังหล่อ โฟมตัวเล็กน่ารัก โคตรอุดมคติ” หญิงสาวไม่หยุดที่จะพร่ำพรรณนาต่อ แถมด้วยแววตาช่างฝัน


“ถูกค่ะเพื่อนสาวขา กี้เสียใจนี้สนึงที่ไม่ได้ถัง แต่ถ้าเป็นโฟมก็โอเค นางน่ารักกว่ากระเทยทั้งม.รวมกัน” พูดจบก็หัวเราะลั่นรถด้วยท่าทางเป็นต่อ เข้าข้างเพื่อนสาวตัวเล็กเต็มที่


“อีกี้! ไอ้แจ๊ส! หยุดเลย หยุดๆๆๆ สเปคพี่ถังต้องตัวเล็กน่ารัก อกอึ๋มขาวใส และที่สำคัญเป็นผู้หญิงโว้ย” รฐกรไม่ยอมแพ้...แม้อีกฝ่ายจะเป็นผู้หญิงเสียงแหลมพูดไม่หยุด กับกระเทยยักษ์เสียงห้าวก็ตาม


“กูก็ผู้หญิงค่ะอิถัง ทำไมต้องให้กูหยาบคายคะ” เศษกระดาษที่ถูกขยำถูกปามาทางทิศทางที่รฐกรยืนอยู่


“น่ารักกว่ากระเทยอะไรวะ กูผู้ชายอีกี้” อิชย์หันไปว้ากใส่ก่อนจะนั่งลงอย่างหัวเสีย


พชรที่นั่งนิ่งอยู่นานดึงอิชย์เข้ามาโอบ มือใหญ่ลูบหัวเบาๆ “หงุดหงิดทำไม  กี้กับแจ๊สแค่ล้อเล่น” คนที่เป็นประธานชั้นปีเอกภูมิศาสตร์ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่ามองแล้วยิ้มขำ


“ก็...” เขานึกหาคำที่จะมาเถียงไม่ออก อารมณ์ที่กำลังโมโหอยู่เมื่อครู่คล้ายกับถูกอ้อมกอดของร่างสูงละลายให้หายไป “อืม...รู้แล้ว...”


“พี่ไผ่อะ จะเล่นบทพระรองรอเสียบแทนพระเอกเหรอ” จีรนันท์ที่เห็นการกระทำของพชรถึงกับอดไม่ได้ที่จะส่งเสียงมาแซวอีกครา


“พระรองเชี่ยไร คนนั้นพระเอกตัวจริงของน้องเม็ดโฟมคร้าบบบ รู้ไว้ซะด้วย ไม่ใช่กูครับ ชะนีนมน้อย”


“พี่ไผ่เป็นพระเอกจะสนุกอะไร ต้องเป็นตัวร้ายสิ ในคราบคนดี เนอะกี้” หญิงสาวหันไปหาลูกคู่


“ถูกต้องค่ะเพื่อนน้องแจ๊ส น้องกี้ว่าพี่ไผ่เป็นตัวร้าย ที่เรื่องต่อไปต้องได้เป็นพระเอกคู่น้องกี้” ลัคกี้ทำท่าเคลิ้มแล้วส่งจูบลอยลมไปทางพชรที่กลั้นขำแทบไม่อยู่ “เรื่องหน้ากี้ต้องได้เป็นนางเอกนะคะเพื่อนน้องแจ๊ส”


“มึงจะเป็นกระเทยหรือจะเป็นสาววาย ระบุเพศด่วนครับคุณลักขี้”


“กรี๊ดดดด อีถังแตก อิถังรั่ว ลัคกี้ย่ะ ขี้เอาไว้ปาหน้าแกไป๊...ทำไม เป็นกระเทยชอบอ่านนิยายวายไม่ได้เหรอยะ เดี๋ยวนี้ตุ๊ดได้ตุ๊ดยังมีเลย แกจะเอาอะไรกับพวกชั้น โอ๊ย เพลียจะเถียง พี่จินขา พี่คีย์ขา ช่วยน้องกี้ด้วย” ลัคกี้ทำซวนเซไปซบเบาะตรงที่ทั้งสองคนนั่ง “พี่อาลัว มัวแต่นั่งยิ้มแดกแฟ้บเหรอยะ อิถังมันด่ากู ช่วยบ้างอะไรบ้าง”


“เราก็ไม่รู้จะช่วยอะไรนะ...” นภัสรพียิ้มให้ตามแบบฉบับของเจ้าตัว


“น้องลัคกี้ก็...ทำเลยสิครับ...ถังจะได้รู้ว่าเป็นยังไง” คิรากรตอบด้วยน้ำเสียงติดจะขำๆเล็กน้อย


“ว้ายยย พี่คีย์ พูดอะไรก็ไม่รู้” ลัคกี้คว้ามือหยิกหมับเข้าที่แก้ม ก่อนจะโดนมือดีตีเพี้ยะเข้าอย่างจัง


“อย่ายุ่ง...หดมือไปเลยกี้”


“ต๊าย หวงเหรอคะพี่จินขา กูแตะนิดแตะหน่อย ไม่สึกหรอหรอก มึงเป็นใครไม่ทราบคะ ตอบด่วน”


“ประกาศๆ กระเทยนั่งที่ ไม่งั้นกูถีบตกรถ” รฐกรเดินมาถึงที่แล้วตะโกนใส่โทรโข่ง ทำเอาคนที่ตั้งใจจะหยอกรุ่นพี่หันไปทุบดังอั่กพร้อมสวดอุทิศส่วนกุศลให้ทั้งบ้านอย่างครบครัน หลังจากที่ฟัดกันหนำใจ สาว(ที่เจ้าตัวว่าสวยที่สุดในคณะ) ก็เดินสะบัดก้นกลับไปนั่งที่เดิม


“หนวกหูป่ะ” จิณณ์โน้มตัวลงไปพูดใกล้ๆหูคนที่นั่งด้วยกัน


“ไม่หรอก” เขาหันมายิ้มให้ก่อนจะรีบขยับออกมาเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงใบหน้าที่อยู่ใกล้ชิด “ตลกดี...จินเถอะ หวงพี่เหรอ”


“เปล๊า....ถ้าชอบเดี๋ยวเรียกให้มันมาจับใหม่ก็ได้ เอามั้ย”


“ไม่เอา ไม่ได้ชอบให้ดึงหรอก” คิรากรยกมือขึ้นนวดแก้มของตัวเองเบาๆ


จิณณ์มองแฮมสเตอร์ใส่แว่นทำแก้มป่องนวดแก้มตัวเองแล้วยิ้มขำ มือที่ยื่นไปโดยไม่ตั้งใจแตะเบาๆ...โดยที่เจ้าของแทบไม่รู้ตัว


“ทำไมชอบดึงแก้มพี่นะ อันก็ชอบ” เจ้าตัวบ่นหน้ายุ่ง


มือที่จับอยู่ชะงัก...ก่อนจะค่อยๆดึงออกมา จิณณ์ยิ้มนิดๆแล้วเอนหัวพิงลงเบาะ....ไม่รู้ว่าทำไม พอฟังชื่อแฟนเก่าของคิรากร ดันรู้สึกแปลกๆทุกครั้ง


“ไหนว่าจะลืม......”


“ก็ลืม...พยายาม...ขอโทษนะ” หางเสียงของคิรากรอ่อนลง “อยู่ด้วยกันนาน...ยากนะ ที่จะไม่มีอะไรที่ชวนให้นึกถึง”


“งั้นเปลี่ยนเป็นคิดถึงผมแทนสิ”


คนอายุมากกว่ายิ้มกว้างให้ด้วยความรู้สึกอบอุ่นในหัวใจ “อยู่ด้วยกันแบบนี้ พี่จะคิดถึงได้ยังไง พูดไปนั่น เดี๋ยวก็โดนแซวหรอก หาแฟนไม่ได้นะ”


“หาแฟนไม่ได้ก็ให้พี่คีย์เลี้ยง” พูดจบก็ยิ้มกว้างแล้วเอนหัวซบเส้นผมหอมกรุ่นกลิ่นแอปเปิ้ล


คราวนี้คิรากรถึงกับหัวเราะออกมา “โอเค จะรับเลี้ยงไว้ก็ได้”


คนที่นอนซบอยู่หัวเราะเบาๆ อีกครั้ง แล้วพาลอดนึกไม่ได้....


...ถ้าถูกรับเลี้ยงจริงๆก็คงดี...


 

 







ช่วงเวลาที่มาถึงที่อุทยานแห่งชาติ ดอยภูคา เป็นตอนเช้าที่แสงแดดเจิดจ้า ทริปนี้ทุกคนที่มาด้วยจะได้พักในบ้านเกวียนเล็กๆที่เป็นที่พักของอุทยาน แม้ว่าความสะดวกสบายจะไม่เท่ารีสอร์ทแต่ก็เหมาะสมกับเหล่านักศึกษาที่พร้อมจะทิ้งชีวิตในมหาวิทยาลัยชั่วคราว มาเที่ยวเล่นในที่ๆไกลออกมาจากบ้าน


พชรลงไปประสานงานกับอาจารย์ประจำภาควิชาที่สำนักงานของอุทยาน ก่อนจะกลับขึ้นมาสะกิดคนที่นอนหลับเอนหัวซบเบาะให้ตื่นขึ้น


“โฟม..เม็ดโฟม ถึงแล้ว”


“อือ...” คนตัวเล็กงัวเงียยกมือขึ้นขยี้ตา อิชย์หาวออกมาก่อนจะขยับยืดเส้นยืดสายแล้วยืนขึ้น


“เอาของไปเก็บที่ห้องกันเนอะ”


“เดี๋ยวต้องไปรวมตัวกันที่ลานก่อน อาจารย์จะให้แบ่งห้องนอนกัน บ้านเกวียนนอนได้บ้านละสองคน แต่ห้องน้ำเป็นห้องน้ำรวมใกล้ๆ แยกชายหญิงนะ”


“ ถัง....ถัง.....แจ๊ส เรียกถังให้หน่อย” พชรสะกิดจีรนันท์ที่นั่งสะลึมสะลืออยู่เบาะถัดไป ส่วนอีกเบาะด้านหลังเป็นรฐกรนอนหลับให้ลัคกี้ที่แอบเนียนมานั่งด้วยซบหลับไปด้วยกัน “บอกถังให้โทรโข่งปลุกทุกคนหน่อย”


“พี่รถถังขา โทรโข่งปลุกทุกคนด้วยเสียงหล่อๆทีค่ะ” จีรนันท์ทำไปกระซิบเสียงหวานข้างหูคนที่นอนหลับลึกไม่มีท่าทีจะตื่น


“แล้วเรานอนห้องไหนกันอะ” อิชย์เงยหน้าถามคนที่ยืนมองดูความเรียบร้อยของทุกคนบนรถ


“เรานอนกับถัง ให้โฟมนอนกับอาลัวก็ได้ จินก็คงนอนกับพี่คีย์”


“อ้าว ทำไมล่ะ โฟมไม่ได้นอนกับพี่ไผ่เหรอ” เขาร้องท้วงทันทีที่ได้ยินการจับคู่นอนนั่น


“....ใช่” พชรพูดเบาๆ ในการเลือกที่นอนครั้งนี้ เขาเป็นฝ่ายไปขอให้นภัสรพีนอนกับคนตรงหน้าเอง ซึ่งเจ้าตัวก็พยักหน้าอย่างไม่เรื่องมาก ตามประสา...คุณชายอะไรก็ได้


“ทำไมอะ” ทั้งๆที่ตั้งใจมาทริปนี้ด้วยเพราะคิดว่าจะได้มาเที่ยวกับพชรและแอบทึกทักเอาเองเล็กๆว่ามาด้วยกันสองคน ดวงตากลมที่มองมาดูหม่นหมองลงกว่าที่เคย


“เราต้องตื่นเร็วตอนเช้า เดี๋ยวโฟมนอนไม่พอ ถังมันไม่ตื่นง่ายเหมือนโฟม” ที่พูดออกมาก็จริง...แต่เหตุผลหลักไม่ใช่อย่างนั้น


แค่เพียง....กลัวจะอดใจไม่ไหว


“...งี้โฟมไม่มาดีกว่า...” พอพูดจบ คนพูดก็รีบเก็บกระเป๋าขึ้นสะพายบนหลังแล้วเบี่ยงตัวออกมาจากที่นั่ง “ไปรอที่ลานนะ”


พชรมองตามพลางเม้มปากแน่น แต่ดูเหมือนเวลาจะไม่เหลือให้คนเศร้า เพราะรฐกรที่หลับเต็มตาตื่นด้วยอาการคึกสุดฤทธิ์


“อ้าวๆ กระเป๋าใครกระเป๋ามัน สิทธิเท่าเทียมกัน ไปรวมที่ลานหน้าบ้านเกวียนคร้าบบบบ ไอ้แจ๊ส สมุดไม่ต้องพกไปโว้ย กูไม่อยากเป็นวัตถุดิบผลิตนิยาย เฮียโจ้ เฮียต๋อง ตื่นคร้าบบ พี่แอ๋ม พี่กวาง พี่แป้ง คนสวยตื่นเร็ว เดี๋ยวน้องถังช่วยขนของ”


“จิน...ปะ ไปกันเถอะ” คิรากรขยับไหล่เรียกคนข้างๆให้ลุกขึ้นบ้าง


“อือ....ง่วง.....”


เขายิ้มให้อีกฝ่ายก่อนจะเอื้อมมือไปลูบหัว “เดี๋ยวถ้าถึงห้อง เก็บของเสร็จ ไม่มีกิจกรรมก็ค่อยนอนนะ”


จิณณ์ลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วใช้เวลาจูนตัวเองอยู่ประมาณเกือบนาที เขาวางหน้าผากลงบนไหล่ของคิรากรแล้วพึมพำเบาๆ “ง่วง....โคตร...”


“รู้แล้วว่าง่วง ลุกก่อนนะจิน เดี๋ยวค่อยนอนต่อ” คนอายุมากกว่ายังคงพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็นตามประสาเจ้าตัว


“อือ....” จิณณ์ค่อยๆลุกขึ้นยืนแล้วเอากระเป๋าตัวเองมาถือ แล้วดึงกระเป๋าอีกใบของคิรากรมาส่งให้ “บอกก่อน ใครทำอะไรทำไป ผมจะนอน”


“อื้ม รู้แล้ว พี่ก็อยู่กับเราน่ะแหละ จะไปไหน” เขารับกระเป๋าของตัวเองมาแล้วเดินออกมาจากที่นั่ง ก่อนจะยืนรอให้จิณณ์เป็นฝ่ายเดินนำลงจากรถ


สมาชิกทุกคนของทริปมารวมตัวกันที่ลานหน้าบ้านเกวียน อากาศสดชื่นของดอยภูคา จ.น่าน และกลิ่นหอมของต้นไม้ใบหญ้าตอนเช้าทำให้หลายๆคนที่ง่วงเหงาตื่นขึ้นทันที รฐกรส่งโทรโข่งต่อให้อาจารย์ประจำภาควิชาที่เป็นหัวหน้าทริป


“ตื่นได้แล้ว ต่อไปจะจัดห้องนอนกัน ครูจองบ้านเกวียนไว้สำหรับพวกเรา ส่วนใครจะนอนกับใครก็เลือกกันเอง แต่ต้องแยกชายหญิง...อ่ะ พชร จัดการต่อ”


ประธานเอกภูมิศาสตร์ของปีสองหยิบกระดาษขึ้นมาชู “มาลงชื่อได้ที่นี่ บ้านนึงสองคน จับคู่เอง”


“จิน...ลงชื่อด้วยกันป-”


“จิน กูนอนด้วย” อิชย์เดินเข้ามาหาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ปราศจากรอยยิ้มอย่างทุกที


“กูนอนกะพี่คีย์” คนถูกถามตอบทันที “มึงนอนกะพี่ไผ่ดิ่”


“พี่ไผ่ไม่นอนกับกู กูไม่อยากนอนกับอาลัว ไม่ได้เกลียดมึงนะ” เขาหันไปบอกเพื่อนตัวเล็กอีกคนที่ยังคงยิ้มได้ราวกับไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น


“อื้ม เรารู้ เราไงก็ได้”


จิณณ์มองที่อิชย์ แล้วมองไปที่อีกคนที่ยืนถือกระดาษมองมา... “แล้วจะให้พี่คีย์นอนกับใคร เขาเป็นบัดดี้กูนะ มึงนอนกะอาลัว ไม่ก็ไอ้ถังดิ่”


เขาขมวดคิ้วอย่างขัดใจ ก่อนจะหันไปตะโกนเรียก “ไอ้ถัง มึงนอนกับกูนะ”


“ว้ายยย พี่น้องแจ๊สขา ได้ยินมั้ยคะ ขอนอนด้วยกัน น้องเม็ดโฟมทำตัวไม่สมเป็นอุเคะที่ดีเลยนะคะลูก”


“ช่างหัวกูน่า ตกลงไหมไอ้ถัง” อิชย์ที่อารมณ์ชักเริ่มไม่ค่อยดีหันไปว้ากใส่คนแซวก่อนจะมองคู่กรณีตาขวาง


“ถัง..มึงนอนกับกู กูลงชื่อให้แล้ว อาลัวนอนกับโฟม จินนอนกับพี่คีย์” ตนที่ถือสิทธิ์อำนาจเด็ดขาดด้วยกระดาษหนึ่งใบเขียนไปพูดไปแล้วส่งให้รุ่นพี่อีกคนที่อยู่ใกล้ๆ พชรเดินมาที่อิชย์แล้วมองหน้านิ่ง


“โฟมอย่าดื้อ.....”


“ก็พี่ไผ่ไม่บอกโฟมก่อน ถ้าบอกก่อนก็ไม่มาแล้ว โฟมไม่ได้อยากนอนกับอาลัว”


“พี่ไผ่ก็นอนกับโฟมไปก็ได้ เรานอนกับถังได้เหมือนกัน” นภัสรพีหันไปพยักหน้ากับรฐกรเป็นการขอแรงสนับสนุน


“งั้นน้องโฟมนอนกับพี่ก็ได้” ชายหนุ่มผิวเข้มที่เดินตามมาเอ่ยขึ้น แม้วศินจะอยู่คนละคณะ แต่ในฐานะที่เป็นเพื่อนกับเลขาประธานรุ่น เลยได้สิทธิพิเศษมาเที่ยวทริปนี้ด้วย “จะได้ลงตัว...เนอะ”


อิชย์ถึงกับหันไปมองด้วยความตกใจ “พี่แพท...”


วศินยิ้มให้อิชย์ พร้อมกับดึงกระเป๋าของอีกฝ่ายมาถือให้ “ไปนะ”


คนตัวเล็กหยุดนิ่งไป เรื่องจะให้นอนห้องเดียวกับผู้ชายที่มาจีบไม่เคยอยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อย แม้จะไม่ใช่ผู้หญิง แต่เดี๋ยวนี้ อะไรๆก็ต้องระวังไว้ก่อน


ทั้งๆที่คิดอย่างนั้น แต่เขาก็เอ่ยตอบไป “อืม ก็ได้”


คนที่หันไปรับกุญแจจากเจ้าหน้าที่หันขวับ พชรโยนพวงลูกกุญแจให้รุ่นพี่ปีสี่ “พี่ก้อง แจกต่อที” มือใหญ่เอื้อมคว้ากุญแจมาหนึ่งดอก ส่วนอีกมือคว้าข้อมือของเพื่อนสนิท


“ถัง มึงนอนกับอาลัว”


คนพูดสรุปเปลี่ยนให้แบบฉับพลันพร้อมกับกึ่งจูงกึ่งลากอิชย์ให้เดินมาด้วยกัน ท่ามกลางเสียงโห่ฮ่เป่าปากไล่หลังมาจากพวกตัวแสบ...และเสียงกรี๊ดสองเสียงที่ประสานกัน


“พี่ไผ่?! ไปไหน” อิชย์ที่ไม่ทันตั้งตัวถึงกับตกใจที่จู่ๆก็โดนลากออกมาจากหมู่คนตรงนั้น


พชรหยุดยืนนิ่ง แล้วปล่อยข้อมือเรียวออก เขาถอนหายใจเพื่อสงบสติตัวเองช้าๆ....เพื่อจะพบว่าความรู้สึกหวงนั้นรุนแรงมากแต่ไหน


“เราไม่ให้โฟมนอนกับพี่แพท”


“...ก็โฟมไม่อยากนอนกับอาลัว.....” พอเห็นว่าอีกฝ่ายถอนหายใจออกมา เสียงที่แข็งกร้าวอยู่ในทีก็อ่อนลง “โฟมมากับพี่ไผ่...ทำไมต้องให้ไปอยู่กับคนอื่น...”


“ขอโทษ...อย่างอนนะ”


“ไม่ได้งอน...งอนนั่นผู้หญิง อันนี้เรียกน้อยใจ” อิชย์เงยหน้ามองอีกฝ่ายตรงๆก่อนจะถอนหายใจออกมาบ้าง “นอนห้องเดียวกันนะ”


พชรเม้มปากแน่น ในใจอยากจะตอบรับ...แต่อีกใจกลับบอกว่ากลัวจะห้ามใจตัวเองไม่ไหว..


“เราต้องดูแลคนอื่นๆ ต้องตื่นเช้า...อาจจะไปนอนที่บ้านพักรวมกับอาจารย์ โฟมจะได้นอนสบายๆด้วย...”


“...งั้นโฟมไปด้วย” คนตัวเล็กยังคงไม่ยอมแพ้


“นอนที่บ้านเกวียนดีกว่า...อย่าดื้อนะ”


“ไม่ได้ดื้อ ถ้านอนบ้านเกวียนคนเดียว เดี๋ยวพี่แพทก็มา” ถึงจะไม่รู้สาเหตุ แต่อิชย์ก็อ้างชื่อรุ่นพี่อีกคนขึ้นมาโดยหวังว่าร่างสูงที่ดูไม่ค่อยชอบวศินจะได้ยอมเขาสักที


“พูดถึงแต่พี่แพท โฟมชอบเขาเหรอ”


“เปล่า ไม่ได้ชอบ” เขารีบปฏิเสธเพราะไม่อยากให้เข้าใจผิดแบบนี้


“แล้วทำไมทำท่าเหมือนอยากนอนด้วยล่ะ”


“ก็พี่แพทอยาก พี่ไผ่ไม่อยาก”


“โฟมจะปั่นหัวเราเหรอ.....” พชรถอนหายใจยาวแล้วเปิดขึ้นไปบนบ้านเกวียน ชายหนุ่มนั่งลงที่ฟูกนอนที่วางเรียงกันแล้วปลดสัมภาระโยนใส่


“ปั่นหัวอะไร โฟมเปล่า” พอเห็นว่าร่างสูงทำท่าเหมือนรำคาญก็ใจเสียจนไม่กล้าเดินตามขึ้นไป


“โฟมมา ก็เพราะพี่ไผ่ชวนนะ” ใบหน้าหวานก้มลงมองพื้นหน้าบ้าน ทริปที่ตั้งใจว่าหากมาด้วยคงได้มีโอกาสทำอะไรด้วยกันแบบที่คู่รักทำ อย่างเช่นนอนห้องเดียวกัน ดูดาวด้วยกัน ดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน แต่ก็ดูจะไม่ได้เป็นตามนั้นเพราะพชรกำลังเข้าใจเขาผิดไปไกล คิดถึงตรงนี้ ก็รู้สึกได้ถึงขอบตาที่ร้อนผ่าว


“โฟม...จะปั่นหัวคนที่ชอบทำไม” น้ำเสียงของอิชย์สั่นเครือก่อนที่เจ้าตัวจะรีบยกมือขึ้นกดทับดวงตา ห้ามไม่ให้น้ำตาได้ไหลออกมาตามใจ


“โฟม...” เป็นพชรที่รีบกระโดดลงมาที่พื้นดิน “เป็นอะไร...ร้องไห้ทำไม”


อาการแบบนี้ของเพื่อนสนิทไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย พชรได้แต่คว้าตัวเข้ามากอดเอาไว้แล้วลูบหลังปลอบ...แต่ดูเหมือนยิ่งปลอบ ร่างในอ้อมกอดก็ยิ่งสะอื้นหนักขึ้น “ขอโทษ...เราผิดเอง ขอโทษ อย่าร้องนะ”


“ขอโทษ...” พอคิดหาคำมาพูดไม่ได้ อิชย์ก็ได้แต่เอ่ยขอโทษ


“ขอโทษทำไม เราไม่รู้ว่าโฟมจะคิดมาก.....เราแค่กลัว...ตัวเอง....”


“กลัวอะไร...” คนในอ้อมกอดเงยหน้าขึ้นมอง


“อยู่กับเรา...โฟมไม่เคยรู้เลยเหรอ” ท่อนแขนที่กอดแน่นขึ้นแทนความในใจที่ไม่กล้าเอ่ยปาก พชรได้แต่กอดเอาไว้...เพราะไม่กล้าพูดออกมา


“ไม่รู้ ก็พี่ไผ่ใจดี...แล้วโฟมเป็นผู้ชาย ไม่กล้าหรอก...” อิชย์ซ่อนใบหน้าเข้ากับแผ่นอกกว้างแล้วยกแขนขึ้นกอดอีกฝ่ายเอาไว้บ้าง


“ผู้ชายกับผู้ชาย..รักกันไม่ได้เหรอ”


คำถามเสียงทุ้มจบลงพร้อมรอยจูบบนริมฝีปากบางแผ่วเบา พชรถอยห่างมานิดหน่อย ก่อนจะแตะลงอีกครั้งด้วยความหนักหน่วงที่เพิ่มพูนขึ้น


คนที่ไม่ประสาได้แต่หลับตาลง ปล่อยให้ร่างสูงเป็นฝ่ายนำไป มือที่ยึดเสื้อเอาไว้จับแน่นขึ้น “อึก...”


ริมฝีปากนุ่มนิ่มเผยอขึ้นช้าๆ พชรขบเบาๆที่กลีบปากปางที่สีเข้มระเรื่อขึ้น ปลายลิ้นอุ่นร้อนแตะเบาๆลากไล้บนเรียวปาด ช่วงชิงลมหายใจของคนในอ้อมกอดทีละนิด อิชย์ในอ้อมแขนเอนซบราวกับหมดแรง หากแต่ยังตอบรับ...ไล่ตามการชักนำอย่างไม่ประสีประสา จวบจนเมื่อเสียงครางเครือหลุดออกมา พชรจึงผละออกแล้วสบตากับดวงตาคู่สวยที่เปิดเผยความในใจ


“เราชอบโฟม...ได้มั้ย....”


คนตัวเล็กได้แต่พยักหน้าตอบรวดเร็วโดยไม่ต้องคิดเสียด้วยซ้ำ “ได้...ได้สิ”


พชรจับมืออิชย์เอาไว้ ยิ้มให้อีกครั้ง.... “เมื่อกี้โฟมบอกว่าเรา..เป็นคนที่ชอบใช่มั้ย”


“อื้ม...” เขาพยักหน้าอีกครั้ง “ชอบ...มาตลอด...เพราะงั้น อย่าไล่โฟมไปนอนกับคนอื่นเลยนะ”


“โฟมไม่รู้หรอกว่าเราไล่ไปนอนกับคนอื่นเพราะอะไร...” พชรพูดเบาๆแล้วถอยตัวออกห่าง “แต่เอาเป็นว่าหายโกรธแล้วนะ”


คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาพร้อมกับใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ดีใจจัง...งั้น กลับไปบอกพวกนั้นก่อน ว่าจัดการได้เรียบร้อยแล้ว” อิชย์เอื้อมไปจับมืออีกฝ่ายเอาไว้ “จับได้ไหม”


“อืม....”


พชรไม่รู้ตัวว่าคำตอบรับของเขา...เต็มไปด้วยความสุขมากแค่ไหน


เพราะมือที่ถูกจับเอาไว้...มีความสุขมากกว่าเป็นร้อยล้านเท่า


 

 

 

 

 

 

 

 

 

To be continued..

 

ออฟไลน์ Nus@nT@R@

  • Life is Investment
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5589
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +456/-11
พี่ไผ่&โฟม ตกลงปลงใจกันแล้ว ฮิ้วววว

ออฟไลน์ sang som

  • เจ็บจิต!!
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1609
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-6
ได้กันไปแหละคู่นึง เหลืออีก2คู่อิอิ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด