[ 3 ]
“อะ...ไอ้ดรีม...” ไอ้ต้าร์ครางชื่อผมเสียงแผ่ว หน้ามันซีดเผือด
แฟนคนล่าสุดของไอ้ต้าร์มองผมก่อนจะยิ้มแปลกๆ แต่นั่นก็ไม่เท่ากับสายตาที่ไอ้ต้าร์มองมาที่ผม
“จริงเหรอวะดรีม...?” มันถามเสียงแห้ง
ผมขยับปากจะปฏิเสธ แต่ช้ากว่าไอ้หล่อข้างตัวที่ก้มลงมากระซิบข้างหู
“อยากจะเสียเงินแปดพันแล้วยังต้องจูบกระเทยเหรอ”
แม่ง!! ผมต้องเลือกใช่ไหม ระหว่างเสียเงินแปดพันและจูบกับกระเทย กับการที่ชื่อเสียงของผมต้องป่นปี้ว่าเป็นเกย์ มีแฟนเป็นผู้ชาย
“ต้าร์...คือกู...” ผมอ้ำๆอึ้งๆ ไม่กล้าเอ่ยออกไปซักที
สายตาที่ไอ้ต้าร์มองมาที่ผมมีแต่แววตัดพ้อ มันเดินมาตบบ่าผมเบาๆ
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูด กูเข้าใจแล้ว กูไปล่ะ...”
ดะ...เดี๋ยวสิ เข้าใจ มึงเข้าใจอะไรวะไอ้ต้าร์ ผมขยับจะเดินไปรั้งไอ้ต้าร์เอาไว้ แต่ก็เดินไปไม่ได้ เพราะถูกคนข้างตัวจับเอาไว้ ผมพยายามจะสะบัดมือออก แต่มือที่จับกลับบีบแน่นกว่าเดิม จนผมต้องหันกลับไปตวาดใส่
“พี่เต็ง...ปล่อยผม!!”นอกจากจะไม่ปล่อยแล้ว ไอ้พี่เต็งยังลากผมเดินเข้าร้านอาหารอีก ผมอยากจะสะบัดมือออกแล้วลงไปดิ้นเร่าๆ แต่ก็อายสายตาคนอื่นที่มองมา จนเดินเข้ามาข้างในร้านอาหาร แล้วถูกดันเข้าไปนั่งติดหน้าต่าง ไอ้พี่เต็งมันถึงยอมปล่อยมือจากผม เพราะมันรู้ว่าผมหนีไปไหนไม่ได้แน่ๆ ในเมื่อมันเล่นนั่งขวางทางเป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่
“เส้นใหญ่ราดหน้าทะเล ใส่แต่ก้านคะน้าหนึ่ง แล้วก็...ข้าวผัดมันกุ้งอีกหนึ่ง”
รอจนคนข้างตัวสั่งอาหารเสร็จ ผมก็หันมาเผชิญหน้ากับไอ้หล่อเต็มๆตา
“พี่เต็งแนะนำตัวแบบนั้นไปได้ยังไง”
“ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อยังไงพี่ก็จะไปงานเลี้ยงรุ่นในฐานะแฟนดรีมอยู่แล้ว”
“แต่พี่ไม่เห็นเหรอ...โธ่เว้ย!!” ผมสบถออกมาอย่างหัวเสีย
ผมยังจำสายตาของไอ้ต้าร์ที่มองผมได้ มันมองด้วยความตัดพ้อเหมือนผมทำอะไรผิดซักอย่าง ผมอยากจะปฏิเสธออกไปว่าไม่ใช่ แต่ทำไมตอนนั้นถึงขยับปากไม่ออก นี่ผมต้องเสียเพื่อนที่คบกันมาเกือบสิบปี แค่เพราะไอ้แฟนเช่าบ้าๆนี่เหรอ นี่มันเป็นเรื่องไร้สาระทั้งเพเลย
“ถ้ามันยอมรับในสิ่งที่ดรีมเลือกไม่ได้ ก็ไม่ต้องไปคบกับมัน”ผมอยากจะเถียงออกไปเต็มแก่ ว่าผมไม่ได้เป็นอย่างที่พี่เต็งเป็น แต่ก็พูดไม่ออก ได้แต่นิ่งเงียบ จนกระทั่งเส้นใหญ่ราดหน้าถูกยื่นมาตรงปาก แล้วคนที่ตักมาป้อนก็บอกหน้าตาเฉยว่า...
“เส้นใหญ่ราดหน้าทะเล ใส่แต่ก้านคะน้า ของโปรดของดรีมไม่ใช่เหรอ”
มะ...มันก็ใช่อยู่หรอก แต่ว่า...ไอ้พี่เต็งมันรู้ได้ยังไงหว่ะ ว่านี่เป็นอาหารจานโปรดของผม
“พะ...พี่รู้ได้ยังไง”
นอกจากจะไม่ตอบแล้วไอ้หล่อยังยื่นช้อนเข้ามาชิดปากผมอีก พอเห็นผมไม่ยอมอ้าปากแน่ๆ ไอ้หล่อเลยทำตาดุใส่ผม
“กินเข้าไปก่อนได้ไหมดรีม เดี๋ยวมันก็เย็นพอดี
เออ!! เห็นว่าสั่งของโปรดมาหรอกนะ ราดหน้าร้านนี้ก็อร่อยด้วย เส้นใหญ่ผัดหอมๆกับน้ำราดหน้าที่กลมกล่อม กุ้งเด้งดึ๋งๆ แล้วยังก้านคะน้ากรอบๆอีก อร่อยลืมโลกเลย...
.
.
‘กฎข้อที่สอง ทำให้ลูกค้าลืมไปว่ากำลังเช่า แล้วคิดว่าเราคือตัวจริง’“พี่เต็ง!! ฮึ้ยยย...เอามือออกจากไหล่ผมนะ”
ผมพยายามเบี่ยงตัวออกจากการเกาะกุมของไอ้หล่อตัวสูง ที่เดินกอดไหล่ผมให้ต้องตกเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้าง แต่ไอ้หล่อข้างตัวกลับตีหน้ามึน บอกผมหน้าตาเฉย
“อย่าลืมสิ ว่าเราสองคนเป็นแฟนกัน”
“แต่พี่...ผมอายนะ”
“เอาน่า เดี๋ยวก็ชิน”
ชินบ้าชินบออะไรล่ะ ไม่อยากชินด้วยเว้ย ให้ชินกับการมีแฟนเป็นผู้ชายเนี่ยนะ
“เอางี้ เรามาตกลงกัน ถ้าไม่อยากให้พี่กอดไหล่จะให้ทำอะไร จูงมือ โอบเอว อุ้ม...”
ผมรีบยกมือเบรกแทบไม่ทัน ไอ้พี่เต็งมันเอาสมองส่วนไหนคิดวะเนี่ย ถึงจะมาจูงมือ โอบเอวห่าเหวอะไรนี่ ถึงมึงไม่อาย แต่กูอายนะครับไอ้พี่เต็ง
“รอพี่อยู่นี่แป๊บนะ” จู่ๆไอ้คนข้างตัวก็หันมาบอกผม ก่อนจะเดินลิ่วไปตรงฟู้ดคอร์ท
ผมยืนงงอยู่สองนาที ไอ้หล่อก็วิ่งกลับมาพร้อมกับไอศกรีมในมือที่เป็น...
เฮ้ย!! รสไมโล รสโปรดของผมเลย
“เอ้า...เห็นแวบๆพอดี นึกว่าจะไม่มีรสนี้แล้ว โชคดีจริงๆ”
ผมไม่ได้ยื่นมือไปรับไอศกรีม แต่กลับจ้องหน้ามันเต็มตา แล้วถามออกมาช้าๆ
“พี่รู้เหรอว่าผมชอบกินรสไมโล”
มันไหวไหล่ช้าๆ ก่อนจะตอบออกมาหน้าตาเฉย
“เปล่า พี่ชอบกิน เลยคิดว่าดรีมน่าจะชอบด้วย”
ตรรกะไหนของมันวะ แต่ช่างมันเถอะ ไหนๆมันก็ซื้อมาแล้ว แถมยังเป็นรสโปรดของผมจริงๆด้วย ผมเลยยื่นมือไปรับมาอย่างเสียไม่ได้
ไอศกรีมรสไมโลนี่มันอร่อยจริงๆครับ กินเท่าไหร่ก็ไม่เบื่อเลย แต่ว่าหายากไปหน่อย ไม่เหมือนวอลล์ ที่หาได้ตามเซเว่น...ผมที่กำลังวาดลวดลายการกินไอศกรีมอย่างเอร็ดอร่อยถึงกับชะงัก เมื่อคนที่เดินอยู่ข้างๆยื่นปลายนิ้วมาแตะที่มุมปากผมเบาๆ
“กินยังไงให้เลอะเทอะหมด ค่อยๆกินก็ได้ ไม่มีใครแย่งหรอก”
อย่ามาพูดด้วยเสียงทุ้มๆ หน้าตาหล่อๆได้ไหม
“ขะ...ขอบคุณ”
แม่ง!! กูขอเอาคำขอบคุณคืนมาได้ไหม ถ้าเกิดไอ้พี่เต็งมันจะใช้ลิ้นเลียคราบไอศกรีมที่ติดอยู่ตรงปลายนิ้วตัวเอง แล้วหันมาบอกผมยิ้มๆว่า...
“อร่อยดีนะ...”.
.
เฮ้อ!!...ค่อยยังชั่ว ผมถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก กว่าจะผ่านเสาร์อาทิตย์สุขสันต์ กูก็แทบกลายพันธุ์เป็นเกย์ตามไอ้พี่เต็งไปแล้ว โชคดีที่วันนี้ยังไม่เจอกัน...
“เป็นอะไรของแกเนี่ยดรีม ถอนหายใจเฮือกๆเลยนะ เครียดเรื่องควิซเหรอ”
“เปล่า...” ผมตอบปฏิเสธไป
“เดี๋ยวไปกินข้าวที่โรงอาหารกันไหม หรือแกอยากกินที่อื่น”
“กินที่นี่แหล่ะ ขี้เกียจ”
ยัยส้มพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ผมเลยรวบกองหนังสือขึ้นมาถือ กำลังจะลุกขึ้นยืน เห็นส้มทำหน้าแปลกๆ ผมเลยหันกลับไปมอง ก่อนจะขมวดคิ้วนิดๆ
ร้อยวันพันปีไม่เห็นเคยโผล่มาคนเดียว วันนี้นึกยังไงไอ้ต้าร์มันถึงฉายเดี่ยววะ
“อ้าว...แฟนมึงล่ะ” ผมถามออกไปอย่างที่ใจคิด
“กูมีเรื่องจะคุยกับมึงสองคน” นอกจากมันจะตอบไม่ตรงคำถามแล้ว มันยังเดินมาจับข้อมือผมไว้อีกต่างหาก
“เรื่องอะไรวะ ขอกูกินข้าวก่อนได้ไหม หรือไม่มึงก็ไปนั่งกินกับกู”
“กูคิดดีแล้ว กูอยากคุยกับมึงตอนนี้ ฝากของๆดรีมหน่อยนะส้ม เดี๋ยวผมพาดรีมกลับมาส่ง”
ยัยส้มก็ช่างแสนดี รับของๆผมไปถือไว้ แล้วปล่อยให้ไอ้ต้าร์จูงผมเดินต้อยๆ
ทำไมวันนี้ไอ้ต้าร์มันแปลกๆวะ หรือแฟนมันขอเลิก หรือมันติดโปร หรือ...
“ดรีม...”
“ว่า...?”
ผมมองไปรอบๆ ไอ้ต้าร์พาผมมาข้างหลังอาคารเรียนที่ไม่ค่อยมีคน หรือว่าเรื่องที่มันจะคุยกับผมจะเป็นความลับระดับชาติ ห้ามใครแอบฟังวะ
“มึงเป็นแฟนกับไอ้คนเมื่อวานตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมกูไม่เห็นรู้เลย”
...มึงจะรู้ได้ยังไง ในเมื่อกูไม่ได้เป็นแฟนกับมัน...ผมได้แต่คิดในใจ ก่อนจะชั่งน้ำหนักความคิด จะบอกมันไปว่ายังไงดีวะ บอกความจริงไปว่าผมกับไอ้พี่เต็งไม่ได้เป็นแฟนกัน หรือจะตีหน้ามึนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียแปดพัน
“มันตอบยากขนาดนั้นเลยเหรอวะดรีม” ไอ้ต้าร์ถามผมกึ่งตัดพ้อ
“ฮะ...เฮ้ย...เปล่า...”
“ไหนมึงเคยบอกว่ารังเกียจพวกเกย์ไง”เดี๋ยวนะ!!...กูพูดตอนไหนวะ จำได้ว่าไม่เคยเหอะ มันเอาที่ไหนของมันมาพูดเนี่ย
ถึงที่ผ่านมาผมจะไม่เคยมีรสนิยมชอบผู้ชาย แต่สาบานได้ว่าผมไม่ได้รังเกียจพวกเกย์เลย
เพื่อนที่โรงเรียนก็เป็นเกย์กันหลายคน ผมจะรังเกียจพวกมันไปทำไมวะ
“กูไม่ได้รังเกียจเกย์ซะหน่อย”
“จริงเหรอ?...” มันถามเสียงแหบห้าว ค่อยๆดันจนหลังผมชิดกำแพง แล้วกักตัวผมเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน
“ไอ้ต้าร์...มึงจะทำอะไรวะ” ผมถามมันเสียงดุๆ
“กูก็แค่...อยากจะพิสูจน์ว่ามึงไม่ได้รังเกียจเกย์จริงๆ...”มันพูดพร้อมกับโน้มหน้าเข้ามาใกล้ๆ ผมได้แต่ขยับตัวไปมาอย่างอึดอัด ทำไมผมต้องตัวเล็กกว่ามันด้วยวะ ไอ้ห่าต้าร์แม่งก็เสือกหุ่นนักกีฬา กูจะผลักมันออกไปยังไงดีวะเนี่ย
“ไอ้ต้าร์ ถ้ามึงไม่ปล่อย กูถีบจริงๆนะเว้ย” ผมขู่มันเสียงแข็ง แต่มันก็เอาแต่กระตุกยิ้มร้ายๆ
“ถ้ากูจูบมึง มึงจะรังเกียจกูหรือเปล่าวะดรีม...”ผมตาเหลือกทันทีที่ฟังคำถามของมัน ไม่ทันได้ห้ามปรามอะไร หน้าหล่อๆของมันก็เคลื่อนเข้ามาใกล้ ก่อนจะค่อยๆประกบริมฝีปากลงมา
ไอ้เหี้ย!! มึงจูบกู!!TBCฮืออออ...พาน้องดรีมกลับมาส่งแล้วค่ะ ขอโทษที่หายไปนานเลย มาแบบสั้นๆตามเคย
น้องดรีมซวยแล่ววววว
เขียนเรื่องสั้นแบบไม่มีพล็อตนี่มันยากจริงๆ ไม่รู้จะจบยังไง
ขอบคุณที่ติดตาม ขอบคุณทุกคนที่ยังรอ *กราบ*
เจอกันตอนหน้านะคะ // ว่าแต่เมื่อไหร่จะจบเนี่ย ฮา....