- 9 -
(part2)
ไอ้โทลากผมมาที่ห้องเก็บของสำหรับภาควิชา มันเป็นห้องที่ผมเวียนเข้าออกบ่อยๆเพราะถูกใช้แรงงานเยี่ยงทาส(เว่อร์) อุปกรณ์ต่างๆวางระเกะระกะ ไม่มีใครคิดที่จะจัดมันให้เป็นระเบียบ ซึ่งตอนนี้ทุกคนออกไปอยู่ที่บูธ ทางผ่านห้องเก็บของก็นานๆทีจะมีคนเดินมา บริเวณนี้จึงมีแค่ผมกับมันเพียงลำพัง เลิกคิดที่จะร้องขอให้คนอื่นช่วยได้เลย
ไอ้โทมันโยนผมจนตัวผมไปกระแทกกับแผ่นไม้ที่ตั้งอยู่
“อึก!”
“ไอ้เด็กนั่นเป็นใคร!?” แค่ตะคอกถามเฉยๆคงไม่สะใจมัน มือหนาบีบคางผมพร้อมกับสายตาคาดคั้น แรงกดที่ปลายนิ้วทำให้ผมพูดลำบาก
“ละ..แล้ว กะ เกี่ยวเหี้ยไร..กะกับมึง!”
“เกี่ยวสิ เกี่ยวมากๆเลยด้วย” มันตอบ “เผื่อมึงจะลืม...งั้นกูช่วยรื้อฟื้นความทรงจำสักหน่อยดีมั้ย?”
มันแทรกตัวเข้ามาหว่างขา จงใจเบียดเพื่อปลุกเร้าแก่นกลางลำตัว มือทั้งสองข้างของผมถูกมันรวบไว้เหนือหัวด้วยมือเดียว ส่วนมืออีกข้างมันกำลังปลดช่วงล่าง ซึ่งไม่นานนักทั้งเข็มขัด บ๊อกเซอร์ กางเกงสแล๊คที่ผมใส่มาถูกต้องตามระเบียบทั้งหมดก็กองอยู่ที่ปลายเท้า
“ปล่อยกู!!!” ผมพยายามดิ้น แต่ก็ไร้ผล ทั้งตัวของผมถูกกดทับด้วยร่างสูงของคนตรงหน้า ส่วนอ่อนไหวที่สุดกำลังถูกครอบครองและปั่นป่วนจนแทบทนไม่ไหว
เมื่อไหร่มันจะเลิกทำแบบนี้กับผมสักที...
“หืม? แค่รูดขึ้นลงไม่กี่ทีเองนะ..” มันมองหน้าผมแล้วยิ้มเยาะ
“ปละ..ปล่อย...อา...” ไม่ ไม่ใช่ นั่นไม่ใช่เสียงผม เสียงที่เล็ดลอดออกไปอย่างควบคุมไม่อยู่
ทั้งเนื้อทั้งตัวผมกำลังสั่น ผมคงล้มไปแล้วหากไม่มีขายาวๆของมันคอยช่วงพยุงผมไว้ มือถูกปล่อยให้เป็นอิสระตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ที่รู้ตอนนี้คือผมกำลังเกาะไหล่มัน ทั้งผลักทั้งยื้อให้เวลาเดียวกัน
“พอ...สักที....”
“หืม แน่ใจเหรอ? กูว่ามึงไม่ได้อยากพูดแบบนี้หรอกนะ” ท่าทีมันเปลี่ยนจากตอนที่ลากผมมายังห้องนี้ มันกำลังสนุก สนุกที่ได้เห็นผมเป็นแบบนี้
“อะ...”
“กูชอบฟังเสียงมึงครางมากกว่า...ร้องดังๆเลยสิ ให้คนอื่นเค้าได้ยิน บางทีเค้าอาจจะมาช่วยมึงก็ได้นะ หึหึ” ผมไม่รู้ว่าเสียงตัวเองดังแค่ไหน คนข้างนอกจะได้ยินมั้ย ผมได้แต่ภาวนาขออย่าให้ใครผ่านเดินมาแถวนี้
ส่วนอ่อนไหวถูกเร่งเร้าถี่และหนักหน่วง ผมกัดปาก มันจะไม่ได้ยินเสียงอะไรจากผมทั้งนั้น ให้ตายยังไงผมก็จะไม่ส่งเสียงน่าเกลียดนั่นออกไปอีก
“ปากเลือดออกแล้ว”
คล้ายกับจะเป็นประโยคบอกเล่า แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ เพราะมันก้มลงมาจูบผม ผมปิดปากแน่น กัดริมฝีปากไว้ไม่ให้คนตรงหน้ารุกรานเข้ามาได้
“อะ..อื้อออ!!” แต่ผมก็ต้องยอมแพ้ในเมื่อเบื้องล่างยังถูกกอบกุมอยู่แบบนี้ ผมเผลอร้องเพียงนิดเดียวเท่านั้นลิ้นร้อนก็ชอนไชเข้ามาอย่างรวดเร็ว ผมเบิกตากว้าง เห็นใบหน้าหล่อเหลาในระยะประชิด
ขอร้อง...อย่าทำให้กูต้องเกลียดมึงไปมากกว่านี้เลย...พอสักที...หยุดได้แล้ว
ในใจผมกำลังร่ำไห้ ผมร้องขอมันได้เพียงแค่นี้...
น่าตลกที่พอผมพูดความจริงมันไม่เชื่อ แต่พอผมพูดแดกดันประชดกลับไปมันกลับเชื่อสนิทใจ ซ้ำร้ายยังคอยตอกย้ำผมในสิ่งที่ผมไม่ได้เป็น
ริมฝีปากของมันผละออกไปเพียงชั่วครู่ก่อนจะประกบเข้ามาใหม่ คราวนี้ไม่ได้จู่โจมรุนแรง แต่กลับพลิ้วไหวจนผมคล้อยตามโดยไม่รู้ตัว มือหนาเคลื่อนมายึดท้ายทอยผม ผมต้องรับจูบมันไปจนกว่ามันจะพอใจ
ความร้อนระอุในห้องกำลังทวีสูงขึ้น หยาดเหงื่อซึมออกมาตามไรผมของมัน มันถอนจูบออกไปแล้วจ้องตาผม แต่ผมกลับเบี่ยงหน้า หลบสายตาที่กำลังส่อประกายความรู้สึกบางอย่างออกมา
คนตรงหน้าใช้มือข้างที่ว่างจับแก้มผม เช็ดเหงื่อที่หน้าผาก ลามไปถึงปาดหยาดน้ำใสๆที่หางตาของผม
“กู...” มันค้างคำพูดไว้แค่นั้น ผมไม่รู้ว่ามันต้องการจะบอกอะไร แต่ไม่ว่ามันจะพูดอะไรก็ตามผมจะทำเหมือนกับว่าเป็นเพียงสายลมที่พัดผ่านไป
เหมือนกับที่ผ่านๆมา...
ผมเลิกต่อต้าน ปล่อยตัวไปตามอารมณ์ที่มันปลุกเร้า ยังไงนี่มันก็เป็นแค่เพียงร่างกาย จิตใจผมถูกทำลายไปตั้งแต่วันนั้น...วันที่มันข่มขืนผมแล้ว
แก่นกายผมพองโตอย่างน่ากลัว ผมก้มมองลงไป มือหนายังเร่งเร้าจังหวะจนผมแทบทนไม่ไหว
สันดานดิบของผู้ชาย...ปลุกเร้าง่าย อ่อนไหวง่าย จบลงง่ายๆ...
“ทำ...ทำให้กูบ้างสิ”
และไม่เคยพอ...
เสียงร้องขอเมื่อครู่ทำให้ผมฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้
ผมดันร่างสูงออกเบาๆ ค่อยๆเอามือเคลื่อนไปยังตำแหน่งกลางลำตัวของมัน ปลดเข็มขัดและกางเกงของมันอย่างช้าๆ โอบอุ้มสิ่งที่กำลังนูนเป่งอย่างน่ากลัว ผมทำให้มันเหมือนกับที่มันทำให้ผม โน้มตัวให้ผิวหนังสัมผัสแนบชิดขณะที่มือของเราทั้งคู่ก็ยังปรนเปรอให้อีกฝ่าย
“รูปนั่นใครเป็นคนส่งมา?” ผมกระซิบถามแผ่วเบา ใช้ลมหายใจเกลี่ยไปตามซอกคอ
“มะ..ไม่รู้ ส่งมาทางแชทเฟส”
“เฟสสร้างใหม่เหรอ?” ผมประคับประคองสติไว้อย่างยากลำบาก แต่ผมจะหลุดไม่ได้ ผมต้องถามในสิ่งที่อยากรู้ให้ได้ก่อน
“ใช่ พอส่งเสร็จก็ลบเฟสทิ้งเลย” มันตอบพร้อมกับเอาปากมาถูไถใกล้ๆแก้มก่อนจะประกบปากผมอีกครั้ง ผมจูบตอบ หยอกเย้ามันในปากเล็กน้อยก่อนจะพูดเสียงอู้อี้ว่า
“ขอรูปนั่นทั้งหมดได้มั้ย?”
“อื้ออ” ไม่รู้ว่า ‘อื้ออ’ มันหมายถึงจะส่งให้ผมหรือขัดใจที่ผมถอนริมฝีปากออกมากันแน่
“ส่งให้ในเฟสนะ” แต่ผมถือว่ามันตอบว่าได้ละกัน
แต่จู่ๆมันก็หยุดลากลิ้นร้อนไปตามลำคอและลาดไหล่
“จะเอารูปไปทำไม” มันถามเสียงแข็ง ดวงตาเราสบกันอีกครั้ง
ผมต้องได้รูปพวกนั้น...ไม่มีวิธีไหนที่จะดีไปกว่านี้อีกแล้ว มันไม่ยอมฟังอะไรผมทั้งนั้น แต่ถ้าผมทำให้มันพอใจได้ บางทีมันอาจจะยอมส่งรูปให้
แล้วจะตอบมันยังไง...บอกมันไปตรงๆว่าจะเอาไปสืบหาคนที่มันทำเรื่องเหี้ยๆแบบนี้กับผม..มันคงจะเชื่อหรอก..
ระหว่างที่ผมกำลังคิด มันก็พูดแทรกขึ้นมา
“ขายขาด”
“ห๊ะ!?”
“ตัวมึง...ขายขาด...ให้กู” มันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังจนผมอึ้ง “ไม่ต้องไปขายให้ใครอีก อยากได้เท่าไหร่บอกกู กูให้มึงทุกอย่าง...”
จนป่านนี้แล้ว...มันก็ยังคิดว่าผมเป็นเด็กขายน้ำอยู่ใช่มั้ย?...เหอะๆๆๆ
ก็ดี ลองขายจริงๆดูสักครั้งเป็นไง ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิต...การกระทำที่กำลังทำอยู่ตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับพวกขายตัวข้างทาง ที่ยอมและมีอารมณ์ง่ายๆกับใครก็ได้อยู่แล้ว
“ตกลง...อ๊า...”
สิ้นคำตัวผมก็กระตุกอย่างแรง ความเสียบวาบในช่องท้องแปรเปลี่ยนเป็นสายธารขาวขุ่นพุ่งออกมาจนเปรอะเปื้อนไปหมด แต่มัน...คนที่ผมกำลังอุ้มน้องชายมันอยู่ ยังไม่เสร็จ...
ผมรีบๆรูดรั้งแก่นกายของมันเพื่อให้มันถึงฝั่งฝันแบบผม แต่ดูท่าอะไรๆจะไม่ง่ายอย่างที่ผมคิด
“ขอใช้บริการเลยแล้วกัน...” มันพลิกตัวผมให้หันหลัง ความกลัวแล่นปราดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
ตัวผมกำลังสั่นอย่างหนักเมื่อนึกไปถึงคืนนั้น...เจ็บปวดรวดร้าวขนาดไหนผมรู้ดี
“มะ..ไม่...”
“มึงตกลงแล้ว” มันบอกผมผ่านริมใบหู “อีกอย่าง...มึงคิดว่ากูลืมเรื่องมึงกับไอ้เด็กนั่นใช่มั้ย?”
ผมเริ่มดิ้น หอบหายใจหนัก ขัดขืนมือหนาที่ยึดสะโพกผมไว้แน่น แก่นกายของมันที่ผมใช้มือสัมผัสเพื่อปรนเปรอให้มันเมื่อครู่กำลังเสียดสีกับบั้นท้าย ร่างกายผมกำลังหวาดกลัว
ขยะแขยง คลื่นไส้ ผะอืดผะอม
“ขอ..ขอร้อง...ยะ...อย่า...”
“เด็กเหี้ยนั่นเป็นใคร!” มันถามพร้อมทั้งจับขาผมแยกออกกว้าง จับมือผมดันผนังห้องเก็บของ ผมก้มหน้ารับชะตากรรม ไม่ตอบคำถามของมัน หมดแรงที่จะต่อต้าน ฝืนไปก็มีแต่จะเจ็บตัวเอง...
“กูถามก็ตอบสิวะ!! มึงเป็นของกู ต่อไปนี้มึงห้ามร่านไม่ว่าจะเด็กหรือจะแก่ลงโลง มึงก็ห้าม!! เข้าใจมั้ย? ห๊ะ!?”
“อึก! ฮือ..” ในที่สุดผมก็กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ บอกตัวเองให้เข้มแข็ง แต่พอมาเจอสถานการณ์แบบนี้เข้าจริงๆผมก็อ่อนแอ
“เหี้ยเอ๊ย!! ร้องทำไมวะ!?” มันตวาด ผมพยายามเก็บเสียง กลั้นน้ำตา แต่หยดน้ำที่ไหลออกมาเรื่อยๆนั้นกลับทำให้มันโมโหยิ่งกว่าเดิม
หยดแล้วหยดเล่า จากดวงตากระทบสู่พื้นเป็นวงกว้าง
“ยะ...อย่าทำ...อย่าทำ..อย่าทำผมเลย...ขอร้อง”
ไม่ไหวแล้ว...ผมทนไม่ไหวแล้ว ผมกลัว อย่าทำผมเลย...
ผมทรุดตัวลงนั่งกับพื้นเมื่อมันปล่อยตัวผมให้เป็นอิสระ สองมือยกขึ้นมาประกบกันโดยอัตโนมัติ ทำอย่างที่คุณป้าเคยสอนว่าหากจะขออะไรให้ยกมือไหว้...
“โธ่ว้อย!!! แม่งงง!!!!!!!!!!” คนที่ผมกำลังอ้อนวอนปัดมือผมทิ้งอย่างแรง ก่อนจะหันไปเตะแผ่นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ ผมไม่รู้ว่ามันทำหน้ายังไง โมโหร้ายแค่ไหน สิ่งที่ผมทำได้เพียงตอนนี้ก็คือก้มหน้าแล้วกอดตัวเอง
ผมได้ยินเสียงกุกกัก มันคงกำลังแต่งตัว...สักพักก็ได้ยินเสียงฝีเท้าและประตูที่ปิดตัวลงเป็นลำดับถัดมา
ภายในห้องมีเพียงแค่เสียงสะอื้นของผมกับร่างกายที่อ่อนแรง
Next Chapter >> - 10 - (part1)Talk
23:57
ไม่เกินว้อยยยยยยยยยยยยยยยยยยย 555555555555555555555+
ปล.ฟ๊ากกกกยู เน็ตทรู ติดๆดับๆ อัพนิยายไม่ได้ซะที