สวัสดีค่า
วันนี้เอาตอนสุดท้ายมาลงให้ค่า
รู้สึกใจหายเหมือนกันที่น้องใจและพี่ๆจบแล้ว
น้ำแข็งใสผูกพันกับเรื่องนี้มากเลยค่ะ เคยแต่อ่านนิยายคนอื่นแต่ไม่เคยคิดว่าตัวเอง
จะเขียนของตัวเองจบเหมือนกัน (แม้จะทุลักทุเลไปหน่อย)
ขอบคุณทุกคอมเม้น ทุกบวกเป็ด ทุกคำติชมที่ทำให้น้องใจจบอย่างสวยงาม
ก็ขอให้สนุกกับตอนจบสุดท้ายนะค่า
ปล. จากกันเรื่องนี้แต่เรายังต้องได้เจอกกันอีกแน่นอนค่า
ปล. เรื่องต่อไปจะกลับไปปั่นเปาเปาน้อยกับท่านอ๋องต่อค่า ใครเป็นแฟนคลับน้องเปาน้อยติดตามกันได้นะค่ะ
ปล. หลังจากเปาเปาน้อยแล้ว ถึงคราวพี่จอมเวทย์ออกโรงประชันกับ...(คนที่คุณรู้ว่าใคร) แล้วค่า
บทที่ 27
หลังจากเรื่องราววันนั้นก็ผ่านไปหลายวันแล้ว พวกของเสี่ยยุทธรวมถึงพลอยถูกจับตัวดำเนินคดีหมด ครอบครัวเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ช่วงสองสามวันแรก จอมใจค่อยๆจำเรื่องเมื่อตอนเด็กได้มากขึ้นด้วยตัวเอง เจ้าตัวจึงเริ่มระวังตัวเองเป็นพิเศษ
หลังจากนี้ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้าง แต่ขอให้อย่าให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกก็แล้วกัน
เมื่อผ่านไปสักพักเรื่องทั้งหมดดูเหมือนจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
และแล้วในที่สุดครอบครัวกลับมาสงบอีกครั้ง
เช้าวันอาทิตย์
“เย้ๆ...จบซะทีปีหนึ่งที่เหนื่อยแสนสาหัส” เจ้าหนูกระโดดโลดเต้นรอบบ้าน นี่ขนาดจบแค่ปีหนึ่งยังดีใจมากกว่าจอมเวทย์ พี่ชายคนที่สี่ที่จะกลายเป็นบัณฑิตในอีกหลายเดือนข้างหน้านี้เสียอีก
“แหม...ดีใจเหลือเกินนะแค่จบปีหนึ่ง”จอมเวทย์อดแขวะไม่ได้ จอมพลที่รู้เรื่องราวต่างๆถึงกับรีบกลับบ้านทันทีที่งานเสร็จ อดไม่ได้ที่จะปรามน้องชายเบาๆ
“อย่าว่าน้อง” เจ้าหนูเลยรีบแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ก่อนจะรีบหนีหมอนใบใหญ่ที่ลอยมาไปหาพี่ทัพดีกว่า
“พี่ทัพ...พี่เวทย์แกล้งใจ” ได้ทีอ้อนใหญ่ จอมทัพแม้หน้ายังนิ่งแต่หากสังเกตดีๆที่มุมปากมีรอยยิ้มผุดขึ้นมาน้อยๆ
เสียงหัวเราะ เสียงพูดคุย เสียงเฮฮาทำให้บ้านอบอุ่นขึ้นมาทันตา
อยากให้บ้านยังคงเป็นบ้านที่อบอุ่นแบบนี้ตลอดไป
“ทำไรอยู่ครับ?” เสียงทุ้มดังที่ข้างหูพร้อมกับอ้อมกอดแข็งแรงกระชับจากด้านหลัง
“ดูดาวครับ” เจ้าหนูตอบ
“ไหน...มีดาวอะไรให้ดูบ้าง” แม้จะอยู่ในกรุงเทพฯแต่บางครั้งฟ้าเป็นใจคนเมืองกรุงเห็นดาวดวงน้อยเป็นครั้งคราวให้สุขใจ
“นู่นไงครับ” เจ้าหนูชี้ๆไปบนฟ้า
“ไหนๆ ไม่เห็นมีเลย” ร่างสูงแกล้ง
“นั่นไง เอ๊ๆๆ...พี่ราชันไม่เห็นหรือไงน่ะ” เจ้าหนูงอแง ทั้งที่มันเห็นชัดๆ
“หึๆ...ครับๆๆ” เสียงหัวเราะข้างหูทำเอาสยิวเล็กๆ แล้วก็รู้ว่าตัวเองโดนแกล้งอีกแล้ว จึงกระแง้วๆเหมือนเด็ก เลยโดนหอมแก้มไปอีกสองที “เข้าห้องเถอะ อากาศเย็นลงแล้ว” จอมราชันเป็นห่วงจึงเอ่ยปากซึ่งเจ้าหนูก็ทำตามอย่างง่ายดาย
ร่างต่างไซด์เดินเข้ามาด้านในของห้อง เจ้าหนูล้มตัวลงนอนแหมะกลางเตียงซึ่งเจ้าของห้องได้แต่ส่ายหน้า
“เจ้าลูกหมูเอ๋ย...” เขาทั้งเลี้ยงทั้งขุนมาอย่างดีจนน่ารักน่าฟัดขนาดนี้
“คิกๆๆ” แถมมีการยิ้มให้ใจละลายอีกนะ คนมองเลยขอนอนข้างๆด้วยคน เจ้าหนูรีบขยับเข้ามากอดหมับ เอาหน้าถูไถไปมากับอกแกร่ง พี่ใหญ่ก็ไม่ใข่พระอิฐพระปูนจึงเริ่มมีปฏิกิริยาเล็กๆ แต่ต้องยอมอดทนเพราะคิดเสมอว่าน้องยังเด็กๆๆ
...ท่องไว้...
...น้องยังเด็ก...
จึงได้แต่กระชับอ้อมกอดให้แน่น แต่ท่าทางอีกฝ่ายจะไม่ได้รู้เรื่องเลยยังคงถูไถต่อไป
...ถูๆมากเดี๋ยวของขึ้นพอดี...
ร่างสูงจึงดึงร่างกลมขึ้นมาไว้ด้านบนแล้วกอดแน่น
“หวา...” เจ้าหนูที่โดนเปลี่ยนท่ากะทันหันร้อง
นัยน์ตาสองคู่ที่ปะกัน เหมือนโดนดูดเข้าไป พี่ใหญ่ๆค่อยกดท้ายทอยทุยเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ก่อนจะกดริมฝีปากลงบนปากน้อง
จูบกันจนลืมหายใจแล้วค่อยผละออก ลามมาที่ต้นคอนุ่มพร้อมขบเบาๆ
“อื้อ...พี่...จ๋า...” น้องห้ามแต่เสียงที่ออกมานี่กระตุ้นอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ร่างสูงถึงกับหน้ามืดตามัว ไล้ลิ้นอุ่นไปตามลำคอขาว มือร้อนแกะกระดุมชุดนอนออกพลางกัดลงบนหัวไหล่กลมมน ฝ่ายน้องก็พยายามถอยหนีแต่ติดที่อ้อมแขนแกร่งทีกักตัวไว้ไม่ให้ไปไหน พร้อมกับริมฝีปากที่ลามไปที่แผงอกนุ่ม เม็ดสีชมพูสองเม็ดดูน่ารัก มือใหญ่ใช้เล็บสะกิดเบาๆ จอมใจที่ตาพร่า สมองขาวโพลนถึงกับแอ่นอกอย่างลืมตัว
“อะ...อะ...” ร่างกลมบิดอย่างเสียวซ่านเมื่อลิ้นร้อนตวัดโฉบเข้าที่ยอด มันแข็งตัวชูชันขึ้นมาอย่างเร็ว นัยน์ตาคมจ้องมองน้องที่ตัวแดงอย่างรักใคร่
“น่ารัก...น่ารักไปหมด” มือใหญ่ลดลงไปคลึงสะโพกกลมนิ่ม “ตรงไหนก็น่ารัก”
“อื้อ...พี่รา...ราชันอย่าครับ” น้องสะดุ้งเมื่อมือใหญ่บีบก้น แล้วขยำอีก
จอมใจที่ไม่เคยสัมผัสเรื่องแบบนี้ถึงกับตัวสั่น ทำตัวไม่ถูก ทั้งกลัวเจ็บ กลัวนู่นนี่นั่น จนสุดท้ายความรู้ทั้งหมดถูกกลั่นออกมาในรูปแบบน้ำตา
“ฮึก...” เสียงสะอื้นทำเอาร่างสูงรู้สึกตัว ภาพที่เห็นคือน้องกับหน้าตาแดงก่ำ ตัวที่สั่นเป็นลูกนก ทำเอาอยากจะตีตัวเอง
“โอ้...อย่าร้องนะครับ พี่ขอโทษ ไม่ทำแล้วครับ” พี่ใหญ่ตระกองกอดร่างนุ่มนิ่ม โยกเบาๆเป็นการปลอบ นึกด่าตัวเองในใจที่ปล่อยให้ด้านมืดครอบงำจิตใจมากไป
“ฮึก...ใจ...กลัว...” น้องร้อง
คนฟังใจอ่อนยวบ เขารู้ดีว่าน้องไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้ “ไม่ต้องกลัวนะครับ พี่ไม่ทำแล้วครับ” จุมพิตเบาๆที่กระหม่อมเป็นการปลอบขวัญ
“ใจขอ...โทษ...ฮึก...” ยิ่งน้องขอโทษ เขายิ่งรู้สึกผิดที่ไม่ยอมหักห้ามใจ
“ไม่เป็นไรครับ พี่ผิดเองที่ห้ามใจไม่ได้ ไม่ต้องห่วงครับ พี่จะรอจนกว่าเราจะเรียนจบ” มือใหญ่ลูบผมสลวยเบาๆ
...เขาจะรอวันที่น้องพร้อม พร้อมที่จะเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์...ทั้งตัวและ...หัวใจ
น้องน้อยได้แต่จุ๊บปลายคางสากเป็นการขอบคุณที่รอ พี่ใหญ่กลัดกระดุมน้องให้เข้าที่ก่อนะจะกระชับอ้อมกอดพร้อมกับลูบแผ่นหลังนวลเป็นการกล่อมน้องนอน
ผ่านไปเพียงครู่เดียวน้องตาปรือใกล้หลับเต็มที
จอมราชันจึงเข้าไปกระซิบข้างหู “รู้ไหมครับ...ทำไมใจถึงชื่อจอมใจ”
“อืม...ไม่รู้ครับ...” เจ้าหนูที่ตาปรือเต็มทีจะมีแก่ใจเอ่ยตอบพี่สุดที่รัก
“งั้นพี่จะบอกให้ฟังครับ...” หอมเบาๆที่แก้มใส “ชื่อจอมใจ...หมายถึง...เป็นดวงใจของครอบครัวครับ”
พอน้องได้ยินคำตอบก็ยิ้มเล็กๆแล้วเข้าสู้นิทรา แต่หากร่างสูงระซิบแผ่วเบาอีกครั้ง
“จอมใจหมายถึงดวงใจของคนทั้งบ้าน...และ...ยังเป็นดวงใจของพี่...จอมใจของจอมราชันคนนี้ทั้งเมื่อก่อน...ตอนนี้...จากนี้...และตลอดไปครับ”
...จอมใจ...
...ผู้ซึ่งเป็นดั่งดวงใจ...
...ของ...
...จอมราชัน...
...จอมใจจอมราชัน...
END.
[/b][/i]จบแล้วค่า
ขอบคุณที่ติดตามค่า