สวัสดีค่ะ
วันนี้น้ำแข็งใสทำตามสัญญานะค่ะพาน้องใจมาให้ทุกท่านให้หายคิดถึงค่ะ
ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นเนื้อเรื่องจะเริ่มไม่ใสๆอย่างที่เคยคิดไว้แล้ว(มั้ง)นะค่ะ

แต่ยังไงก็อยากให้ทุกท่านช่วยติดตามไปให้ถึงตอนจบ(เมื่อไรยังไม่รู้

)
แต่ที่แน่ๆยังไงมันก็ต้องจบค่ะ
ช่วยกันเข็น ช่วยกันดันเจ้าลูกหมูกันด้วยนะค่ะ

ขอบคุฯงาม ณ จุดนี้ก่อนเลยค่ะ

บทที่ 21
[/size]
“ใจเอ๋ย...ป๊าไม่ว่างไปส่งนะวันนี้ พี่เวทย์ก็ไม่อยู่ เราไปเองได้ไหม?” ปาป๊าถามขึ้นหลังจากที่ร่างกลมเดินลงมาข้างล่าง เจ้าหนูขมวดคิ้วเล็กน้อย
“อ้าวเหรอครับ?” หันซ้ายหันขวาไม่เจอหน้ามารดาจึงถาม “แล้วหม่าม้าละครับ?”
“วันนี้แม่เขาเข้าสำนักพิมพ์น่ะ” นายประสิทธิ์ตอบ “วันนี้พ่อขอโทษทีนะ พ่อต้องไปทำธุระให้นายนะ” นายที่เจ้าตัวว่านั่นก็คือเจ้านายคนเก่าคนแก่คนเดิมนั่นเอง
“อ่า...งั้นป๊าไปทำธุระให้ลุงไตรเถอะครับ เดี๋ยวใจนั่งรถตู้ไปเองครับ” เจ้าลูกหมูรับคำเป็นมั่นเหมาะ ป๊าเลยหายห่วงแล้วบอกลาลูกชายก่อนไปทำงาน เจ้าหนูก็นั่งละเอียดนมหนึ่งแก้วก่อนจะตัดสินใจว่าจะไปหาอะไรกินที่มหาลัยแทน
หลังจากเรียบร้อยทุกอย่างเจ้าตัวกลมก็เดินข้ามมาอีกฝั่งตามความเคยชินเพราะว่าทุกเช้าต้องมาทักทายคนในบ้านใหญ่ก่อน ต่อให้ไม่มีใครอยู่อย่างน้อยก็สวัสดีป้าอุ่น พี่แตงไทยกับพี่จันทร์ก็ยังดี
ร่างกลมขาวเดินดุกๆเข้ามาในตัวบ้านเจอพี่ชายร่างสูงใหญ่กำลังนั่งจิบกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์อยู่จึงปรี่เข้าไปมักอย่างร่าเริง
“ดีคร้าบบบ พี่ราชัน” เสียงใสๆดังขึ้นทำให้เจ้าของชื่อเงยหน้ามามองแล้วส่งยิ้มให้ เจ้าหนูเดินหน้าบานเข้าไปหา
“ไงครับคนเก่ง จะไปเรียนแล้วหรือ?”
“ครับ...เดี๋ยวใจนั่งรถตู้ไปครับ” เจ้าหนูตอบแต่เหมือนว่าพี่ใหญ่จะไม่ค่อยพอใจกับคำตอบเท่าไรนักเพราะพอน้องพูดจบเจ้าตัวก็ทำหน้านิ่ว
“อ้าว...อาประสิทธิ์ไม่ได้ไปส่งหรือ?” ชายหนุ่มถามเพราะเขานึกว่าบิดาของน้องชายจะไปส่งเพราะจอมเวทย์ไม่ว่างในเช้านี้
“ป๊ามีงานด่วนนะครับ เลยออกไปแล้ว” เจ้าหนูตอบก่อนรีบเสริมเพราะหน้าหล่อคมของพี่ชายดูไม่สบอารมณ์ “เดี๋ยวใจนั่งรถตู้ไปได้ครับ สบายมาก ถึงหน้ามอเลยครับ” ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าพี่ใหญ่ไม่ชอบให้นั่งรถตู้ เจ้าตัวบอกว่าบางครั้งรถพวกนี้ขับเร็วและอันตรายเพราะว่าคนขับจะได้รีบวิ่งไปกลับไวๆเพื่อเพิ่มรอบจำนวนการวิ่งให้ได้มากขึ้น บางครั้งก็เป็นรถตู้เถื่อนที่ไม่ได้จดทะเบียนอีก
จอมใจเริ่มใจเสีย หน้าเสียเมื่อเห็นพี่ราชันเงียบไปก่อนจะยิ้มกว้างกับประโยคถัดไป
“งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งครับ” แต่เจ้าหนูกลับทำหน้ามุ่ยอีกครั้ง
“แล้วพี่ราชันไม่ต้องไปทำงานหรือครับ?” เขาไปไม่อยากทำให้พี่ชายเสียงานการเท่าไร แม้ว่าจะเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทแต่ว่ามันจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้คนอื่นๆแล้วเขาจะว่าเอาได้
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่โทรบอกพ่อก่อนนะ” พูดจบมือใหญ่ก็หยิบโทรศัพท์มากดออก รออยู่พักหนึ่งก็อีกฝ่ายก็กดรับแล้วเจ้าตัวก็กรอกเสียงลงไป “พ่อครับ..นี่ผมนะ...เดี๋ยวผมเข้างานช้าหน่อยนะครับ...ครับ...ผมจะไปส่งน้องครับ...ครับๆ...สวัสดีครับ” พูดจบก็วางสายแล้วหันมาลูบผมสลวยเบาๆ “เรียบร้อยแล้วครับ”
“แล้วลุงไตรไม่ว่าหรือครับ?”
เสียงทุ้มหัวเราะเบาๆ ใครจะว่าอะไรในเมื่อคุณจอมไตรยังฝากมาบอกว่าพาน้องไปส่งให้ถึงที่มหาลัย “ไม่หรอกครับ ลุงไตรรักเราจะตาย เจ้าตัวยุ่ง” ขยี้ผมซะเลยนี่ เจ้าหนูก็หัวเราะคิกคักๆ
เจ้าหนูสบายไปหลายตลบเพราะไม่ต้องนั่งรถไปเรียนเองแถมมีสารถีสุดหล่อสุดเลิฟมาส่งอีกต่างหากแหนะ เมื่อรถยนต์คันสวยแล่นมาถึงหนาตึกคณะ เจ้าลูกหมูก็ลงจากรถ แถมยังมีการลากร่างสูงใหญ่ลงมาด้วยด้วยเหตุผลว่า
“เลี้ยงข้าวเช้าหน่อยครับ” ว่าแล้วก็ยิ้มแหะให้ พี่ชายส่ายหน้าปลงก่อนดุนหลังเจ้าลูกหมูให้ออกเดินนำไปที่โรงอาหาร
ภาพร่างสูงใหญ่ในชุดสูทที่แตกต่างจากชาวบ้านชาวช่อง ดับรัศมีของเด็กนักศึกษาเสียจนมืดมน สาวๆก็มองเหลียวหลังกันคอแทบเคล็ด จอมใจทำหน้ามุ่ยเล็กจนร่างสูงถาม “เป็นอะไรครับ?”
“ก็นะ...ใจไม่ค่อยชอบเวลามีคนมองนะครับ เดินกับพี่เวทย์ก็โดนมอง พอมาเดินกับพี่ราชันยังจะโดนมองอีก เฮ้อ...มีพี่ชายหล่อทำไงได้ละเนี่ย” พูดเหมือนปลงตกแต่หากเจ้าหนูไม่รู้หรอกว่ากริยาแบบนี้ทำเอารอยยิ้มกว้างของพี่ชายผุดขึ้นมาเอ็นดู
น้องน้อยของเขานี่ช่างน่ารักน่ากอดเสียจริง เจ้าตัวกลมทำอะไรพูดอะไรเขาก็ว่ามันน่าเอ็นดูไปหมด
ทั้งสองคนไปยืนแถวอยู่ร้านขาวข้าว น้องสั่งอย่างหนึ่ง พี่ชายสั่งอีกอย่างหนึ่ง มือใหญ่ถือจานข้าวทั้งสองจานออกมาหาที่นั่ง ตอนที่กำลังจะกินข้างเสียงคุ้นหูก็ดังขึ้นด้านข้าง
“อ้าว...พี่ราชัน?” จอมเวทย์ที่อยู่ในชุดช็อปสำน้ำเงินเข้มยืนทำหน้างงงวยอยู่ ก็...ใครจะไปคิดว่าพี่ชายนักธุรกิจจะมานั่งกินข้าวในโรงอาหารมหาลัยน่ะสิ
“อ้าว...ว่าไง” พี่ใหญ่ทักบ้าง น้องชายคนที่สี่ทรุดตัวนั่งข้างเจ้าลูกหมู พลางแย่งช้อนกินข้าวของน้องมาหน้าตาเฉยก่อนตักข้าวคำโตเข้าปาก จนเจ้าหนูร้องแหวใส่
“อึ้ย...พี่เวทย์อย่ามาแย่งเขากินสิ นิสัย...” หน้ากลมเบ้บูด แย่งช้อนคืนมา
“โหย...แค่นี้งกไปได้”
“อย่าแย่งน้องเวทย์...จะกินก็ไปซื้อใหม่” จอมราชันทนไม่ได้ที่น้องน้อยโดนแกล้ง มือใหญ่วางเงินหนึ่งร้อยบาทบนโต๊ะ เจ้าน้องชายสุดกวนก็ยักคิ้วก่อนจะคว้าเงินไป
หลังจากทั้งสามคนอิ่มหนำสำราญพี่ใหญ่ก็เดินกลับไปส่งน้องที่หน้าคณะ ส่วนจอมเวทย์ขอแยกตัวไปคณะตัวเองบ้าง
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
ร่างสูงของจอมเวทย์เดินลูบพุงของตัวเองอย่างสบายอารมณ์ เงินก็ไม่เสียแถมยังกินข้าวฟรีอีกแหนะ...อย่างนี้มันเรียกว่า...อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ
ชายหนุ่มเดินฮัมเพลงสบายใจเฉิบมาถึงหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวขาไปไหนไกลกว่านั้น ก็ได้เสียงยีวนกวน
ประสาทดังขึ้นมาด้านหลัง
“อ้าว...คุณจอมขมังเวทย์” เรียกแบบนี้มีอยู่คนเดียวเท่านั้น ไอ้ตี๋เยาวราชเฮงซวย!!!!
“มึงมีธุระอะไร?” จอมเวทย์ทำหน้าบูดบึ้ง ส่วนอีกฝ่ายยังคงยิ้มอารมณ์ดีมาให้อย่างไม่ทุกข์ร้อน
...ก็นะ...
...คนอะไร ยั่วขึ้นง่ายเหลือเกิน...
...แถมตอนโมโหน่ารักชะมัด เหมือนแมวยักษ์ขนฟูฟ่อง...
“เปล่าครับ แค่ทักทายเฉยๆ” คนหน้าตี๋ยังคงยิ้มละไม ทำเอาร่างสูงชักคันตีนตงิดๆ พยายามระงับอารมณ์ให้ไม่พุ่งไปบีบคอมันตายคามือ
...แม่ง!!!ยิ้มกวนตีนอยู่ได้...
“แม่ง ไม่มีธุระอะไร วันหลังก็อย่าเรียก เสียเวลาทำมาหากินหมด” บ่นเสียงหงุดหงิด แล้วเจ้าตัวทำท่าจะเดินหันหลังกับไปทาง
เก่า หากไม่มีมือใหญ่แข็งแรงฉุดเอาไว้เสียก่อน
“เฮ้ย!!!” จอมเวทย์ร้องเสียงหลง พยายามดึงมือออก แต่ต้องยอมรับกันอย่างไม่อายเลยว่าไอ้ตี๋ภัทรนี่มันแรงควายได้ใจมาก ทั้งที่ตัวก็ไม่ห่างกันมาก เฮ้อ...ยอมรับก็ได้ว่ามันทั้งตัวใหญ่กว่า สูงกว่า แรงก็เยอะกว่า
...แม่ง!!!...
...เขาว่าตัวเขานี่สูงใหญ่มากแล้วนะ...
...เจอไอ้เวรภัทรเข้าไป แม่งกูเป็นมดตะนอยเลย...
“อย่าเพิ่งไปสิครับ”
“อะไรของมึงอีกหา...ไอ้ยักษ์” เขาบ่น
คนร่างสูงใหญ่กว่าก้มหน้าลงมาคนที่เตี้ยกว่านิดหน่อย “ผมหิว...”
คนฟังทำหน้างงใส่ “หิวแล้วมึงไม่ไปหาอะไรกินวะ ไอ้ควาย” เขาก็ไม่เข้าใจ ในเมื่อหิวแล้วทำไมไม่ไปหาอะไรกิน มาบอกเขาทำไม?
“ก็ผมไม่ได้หิวข้าวหนิ” คราวนี้คนฟังยิ่งทำหน้างง
“งั้นแล้วมึงหิวอะไรละวะ? แม่ง ไอ้นี่ท่าจะประสาท” จอมเวทย์ทำหน้าหงุดหงิด ก็ไอ้ยักษ์นี่มันกวนตีนจริงๆ หิวแล้วข้าวเขิ้วไม่กิน
แล้วมึงจะกินอะไร???
“ผมหิว...” ภัทรพูดก่อนจะนิ่งไป “ช่างเถอะ”
“อ้าว...”
“คุณไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อยละกัน” คราวนี้ตี๋เยาวราชชวนหน้าตาเฉยไม่ได้นำพาเลยว่าคนถูกชวนทำหน้าแบบไหน
“อะไรวะ กูไม่ไปโว้ยยยย!!!”
“เฮ้ คุณๆ ไม่ต้องเสียงดังขนาดนั้นก็ได้ ผมไม่ได้ชวนไปเสียตัว” จอมเวทย์สะอึก “อีกอย่างคนมองใหญ่แล้วคุณ ไม่อายหรือครับ?” น้ำเสียงล้อเลียนทำให้นัยน์คมสวยกวาดมองรอบๆ แล้วก็เป็นจริงอย่างที่อีกฝ่ายเมื่อมีนักศึกษาที่เดินผ่านไปมามองมาที่พวกเขาอย่างสนใจใคร่รู้
...แม่งเอย...
...ซวยสนิท...
“มึงก็ปล่อยกูสิ” จอมเวทย์ลดเดซิเบลลงมา
“เอาน่าคุณ ไปกินข้าวเป็นเพื่อนผมหน่อย แค่นี้คุณกลัวอะไร?” ยักคิ้วเข็ม หรี่ตาตี่ๆให้อย่างท้าทาย เพราะเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ยอมให้มาหยามหน้า แถมยุขึ้นสุดๆ
“ใครกลัวมึง กูกลัวแต่ว่ามึงนะสิจะไม่กล้าไปกับคนที่หล่อกว่าอย่างกู” พูดมาได้ๆ
ภัทรหลุดยิ้มเล็กๆ แต่ไม่กล้ากลัวเราะออกมาดังๆกลัวอีกฝ่ายงอนหนักกว่าเก่า พาลจะไม่ไปด้วย
“งั้นเดินนำไปเลยคุณจอมเวทย์” ผายมือให้ร่างเล็กกว่าเดินก่อน แล้วเจ้าตัวค่อยเดินตามไป
จอมเวทย์ที่เดินนำหน้าไปชักเริ่มไม่ค่อยเข้าใจแล้ว่าทำไมตัวเองต้องมาเป็นเพื่อนไอ้บ้านี่ด้วยนะ
...แม่ง! งงตัวเองชิบหาย!!!...
จอมเวทย์เดินจ้ำๆนำหน้าอีกฝ่ายโดยไม่ได้สนใจเลยว่าอีกคนจะเดินตามมาด้วยหรือเปล่า มารู้อีกทีก็ตอนที่เกือบจะถึงหน้าโรงอาหาร เพราะว่าอีกฝ่ายวางอะไรไม่รู้บนหัวเจ้าตัว
“เฮ้ย...แม่งอะไรวะ” ปากว่า แต่มือก็เอื้อมไปแตะๆสิ่งของบนหัว สิ่งที่สัมผัสถูกคือถุงพลาสติกที่มีไอร้อนๆแผ่ออกมาก พอภัทรเอาถุงลง ชายหนุ่มก็เห็นว่ามันเป็นถุงพลาสติกที่บรรจุกล้วยทอดอยู่เต็มถุง
“กินไหม?” คนถือถามพลางยื่นถุงไปให้
จอมเวทย์ชั่งใจนิดหน่อย เขาไม่ได้อยากจะกินของไอ้หมอนี่เท่าไรแต่หากความน่าอร่อยของกล้วยทอดที่ริมข้างทางรถไฟของมหาลัยเป็นอะไรที่เขาชอบมาก กินมาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว สุดท้ายความอยากก็ชนะเมื่อเขาตัดสินใจหยิบออกมาเข้าปากชิ้นหนึ่ง เคี้ยวตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อย ทำเอาคนซื้อแอบอมยิ้ม เมื่อเห็นว่าคนขี้วีนรับน้ำใจเขาด้วย ไม่เสียแรงที่แวะซื้อให้
สงสัยเขาต้องไปขอบคุณรุ่นน้องตัวกลมที่อุตส่าห์บอกความลับของพี่ชายให้
เขาจำได้ว่าตอนเดินอยู่มหาลัยเขาเจอน้องจอมใจกำลังเดินฝ่าแดดอยู่ในมหาลัยเข้าเลยเดินไปทักทายตามประสาคนรู้จักกัน น้อง
บอกว่ากำลังจะเดินออกไปซื้ออะไรกินที่ริมทางรถไฟ เขาเลยอาสาเดินไปเป็นเพื่อน พอไปถึงเจ้าหนูก็ซื้อกล้วยทอดนี่แหละ เขาก็ไม่ได้อะไร แต่ก็แอบแปลกใจว่าทำไมต้องซื้อสองถุงด้วยทั้งที่กินคนเดียว เขาเลยอดถามไม่ได้
“ซื้อทำไมตั้งสองถุงครับ” เขาถาม
“อ้อ...ถุงหนึ่งใจจะกินเองครับ แต่อีกถุงซื้อไปฝากพี่เวทย์” เจ้าหนูยิ้ม
“พี่เวทย์?...จอมเวทย์นะหรือ?” ตอนนั้นเขาอดแปลกใจไม่ได้
“ครับ” เจ้าตัวพยักหน้า “พี่เวทย์นะ...ชอบกินกล้วยทอดมากที่สุดเลยครับ ต่อให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมครับ อารมณ์ไม่ดีนะ ถ้า
ได้กินกล้วยทอดละหายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ” พูดเสร็จเจ้าหนูก็ขอบคุณเขาที่เดินมาเป็นเพื่อนแล้วขอตัวกลับไปที่ตึกเรียน ส่วนเขายังคงยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าร้านกล้วยทอดนั่นไม่ไปไหน
...จอมเวทย์คนนั้นชอบกินกล้วยทอด?... เขาคิดไปยิ้มไปจนคนที่เดินถือกล้วยทอดกินคนเดียวอย่างเพลินใจเคี้ยวหนุบหนับหันมามอง
“มึงจะกินไหม?” เจ้าตัวยื่นถุงมาให้
เขายิ้มแอบอยากบอกว่า เขาเป็นคนซื้อมานะ “กินสิ” หยิบขึ้นมากินชิ้นหนึ่ง จอมเวทย์ทำหน้าพอใจ
“ร้านนี้กล้วยนิ่ม อร่อยโคตร” ยิ้มจนแก้มบุ๋ม ท่าทางจะชอบจริงๆ
เฮ้อ...วันนี้ดูท่าจะสดใสกว่าทุกวัน
...ไม่อยากให้กล้วยทอดถุงนี้หมดเลยจริงๆ...
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ด้านพี่ใหญ่ของบ้านหลังจากทำภารกิจระดับชาติโดยการส่งน้องน้อยที่มหาลัยเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวก็ขับรถมาที่ทำงานตามความเคยชิน
ร่างสูงใหญ่ของท่านรองประธานหนุ่มสุดหล่อสะกดสายตาเหล่าพนักงานคนอื่นๆได้ไม่บากโดยเฉพาะผู้หญิง แต่ยังไม่มีใครสามารถครอบครองใจของหนุ่มโสดวัยสามสิบสองปีผู้นี้ได้เสียที จนออกมีข่าวลือมากมายต่างๆนานา แต่เจ้าตัวหาได้สนใจไม่ยังคงทำหน้าที่ของตนอย่างดีเยี่ยม ทั้งบริหารงาน บริหารเงิน
ด้วยความที่ว่ามีเพื่อนสนิทอยู่เพียงสองคนในที่ทำงานเท่านั้นคือ...ชินกฤตกับจักรภพ ทำให้ใครต่อใครแอบเอาไปคิดกันเองว่าพวกเขาสามคนจะดองกันเอง
...หึ...
...รอไอ้ชินมีผัวก่อนเถอะ...
ท่านรองหนุ่มขึ้นลิฟท์มาให้ส่วนของห้องทำงานตัวเองที่อยู่ชั้นที่สามสิบของอาคาร หน้าห้องมีโต๊ะของคุณเลขามีอายุหน่อย ทำงานกับเขามาหลายปี
“มาแล้วหรือค่ะ” ทักทายเจ้านายอย่างเคยชิน
“ครับ ผมขอกาแฟร้อนแก้วหนึ่งครับ” พูดเสร็จก็เดินเข้าห้องทำงานของตัวเอง
นั่งตรวจเอกสารได้เพียงครู่เดียว เสียงโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น เขารู้ทันที่ว่าเป็นคนใกล้ตัวเพราะคนที่รู้เบอร์สายตรงของห้องทำงานเขานอกจากบิดาแล้วก็มีเพื่อนสนิทสองคน เลขาและคนที่บ้านเท่านั้น แต่ว่าครอบครัวเขารู้ดีและไม่กวนเขาทำงานอย่างแน่นอน ส่วนมากจะโทรเข้ามือถือเขามากกว่า เขาเดาว่าไม่เป็นบิดาก็เพื่อน
“สวัสดีครับ...พ่อหรือครับ...ครับ ได้ครับ...เดี๋ยวผมขึ้นไปหาครับ” อย่างที่เขาเดาบิดาเขาโทรมาหา เรียกให้ไปพบที่ห้องทำงานของท่านตอนนี้
ร่างสูงใหญ่ขึ้นมาอีกเพียงสามชั้นก็ถึงห้องท่านประธานใหญ่ ด้านข้างเป็นห้องของเลขาสารพัดนึกอย่างคุณอาประสิทธ์ ปาป๊าของเจ้าลูกหมู
มือใหญ่เคาะประตูห้อง พอด้านในอนุญาต ชายหนุ่มก็เปิดประตูเข้าไป
หากแต่...
ร่างสูงใหญ่ก็ต้องแข็งค้างราวกับโลกหยุดนิ่งไปเสียอย่างนั้น!!!
...ทำไม!!!!...
...ทำไมกัน!!!!...
...ทำไมเธอคนนั้นถึงมาอยู่ที่นี่ได้!!!...
TBC
โอ๊ะโอ้...ใครมากันละเนี่ย

ฮะๆๆ ใครทายถูกบ้างค่ะ (คำถามง่อยเสียจริง

)
เอาเป็นเป็นใครตอนหน้าก็รู้ค่า หุๆ
ส่วนใครพี่ยก แม่ยก ป้ายก น้องใจ ตอนนี้น้องออกมาทำตัวนุ้งนิ้งๆให้เห็นกันพอหอมปากหอมคอ
วันนี้มีแถมคู่อาตี๋เยาวราชกะพี่เวทย์ด้วยค่ะ ใครเป็นแม่ยกคู่นี้ยกมือขึ้น

ส่วนตัวแล้วน้ำแข็งใสชอบคู่นี้มากเลยค่ะ แต่งไปขำไปค่ะ (ง่ายๆ แต่งเองบ้าเองค่ะ)
ขอบคุนที่ติดตามค่ะ เจอกันตอนหน้าค่ะ