▲TawanKanomkhing – be honest 3▲
วันนี้ก็ครบ 1 อาทิตย์ของการมาเยือนไร่ของพี่ตะวันแล้วครับ
ผมก็เลยต้องมานั่งจัดห้องรอต้อนรับหมอนั่นเข้ามาพักในไร่ด้วยกัน เมื่อกี้แม่พึ่งโทรไปหามา ก็ได้ความว่าหมอนั่นเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมเรียบร้อย อีกแป๊บเดียวก็จะมาถึงไร่แล้ว
ผมบอกเลยว่าแค่อาทิตย์เดียวที่ตามเป็นเด็กรับใช้พี่ตะวันมันทำให้ผมกันเขาสนิทขึ้นมาก! พี่เขานิสัยดีนะ เฮฮา และ กวนตีน!
แต่อีกอาทิตย์นึงผมจะเปิดเทอมแล้วนี่สิ เรื่องเศร้าระดับชาติ ฮืออออออออออออออออ
นั่งคร่ำครวญไปจัดห้องไปจนเสร็จ ก็เจอแขกวีไอพีเดินถือสัมภาระยิ้มหน้าบานมาเลยครับ
“ให้พี่นอนห้องนี้เหรอ?”
“อ่าหะ ทำไมอ่ะ?”
“ป่าวววววว จะบอกว่าสวยดีน่ะ!” พี่ตะวันเดินตีมึนเอาของเข้าไปวางในห้อง ก่อนจะเดินเอามือใหญ่ๆมาดันหลังผมให้ออกมาด้านนอก อะไรของพี่เขาวะ
“เรานอนห้องไหนล่ะ?”“โถ่! ผมก็นอนห้องข้างพี่น่ะแหละ ทำไมมมม กลัวได้นอนข้างห้องแม่หรือไง” ผมหยุดแล้วเปิดประตูห้องผมให้หมอนั่นดู แต่ใครจะรู้..
ว่าโดนหลอกเข้าเต็มเปา
ไอ้พี่ตะวันแม่งเดินเข้าห้องผมไปแล้วอ้ะ!!!!!!!!!!!!!
แม่งขึ้นไปนั่งบนเตียงแล้วอ่ะ!!!!!!!!!!!!!!“เชี่ยยยยยยยยยยย ออกมาเลยพี่!”
“พูดไม่เพราะเลยนะ ทำโทษ!”
แล้วพี่ตะวันแม่งก็ดึงผมลงไปบนเตียงแล้วจี้เอวผม อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ทำไมเล่นแบบนี้!
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ พี่.. พอแล้ว อึก ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โอ้ยยย ไอ้บ้า!”
“ทำโทษไง ทำโทษๆๆๆ เราชอบพูดไม่เพราะใส่พี่”
“โอ้ยยยย ฮื๊อออออ พอเหอะพี่” ผมแม่งดิ้นพล่านๆไปรอบเตียงแล้วพี่ตะวันก็ยังตามมาจี้เอวอยู่นั้นอ่ะ ถีบก็แล้ว ด่าก็แล้ว ตีก็แล้ว ไอ้ตากล้องถึก ไอ้บ้า ฮืออออออออออออออ
จี้กันไปจี้กันมา ดิ้นกันจนทั่วเตียง
อยู่ๆก็รู้สึกเหมือนโดนหอมแก้ม.
.
.
ทั้งผมทั้งพี่เขาต่างพากันเงียบ แล้วถอยห่างจากกัน
บรรยากาศโคตรน่าอึดอัด
“ขนมพี่ขอโทษ”
“อะ..เอ่อ ไม่เป็นไรๆ พี่ไม่ได้ตั้งใจใช่ไหมล่ะ”
“..พี่ตั้งใจ”เป็นคำตอบที่ทำผมอึ้ง พูดไม่ออก
แล้วก็มีแต่ความเงียบเข้ามาเป็นรอบที่สอง
ผมหายใจเข้าออกช้าๆ แล้วค่อยๆคิดทบทวนอะไรบางอย่างก่อนจะตอบออกไป
.
.
.
“มะ..ไม่เป็นไร ขิง..ขิง ไม่ได้รังเกียจ”หลังจากผ่านพ้นเหตุการณ์เมื่อวันนั้นไป..
ไอ้พี่ตะวันก็รุกจีบผมแบบเต็มกำลังมาก แสดงออกสุดฤทธิ์ แม้กระทั่งต่อหน้าแม่! แล้วแม่ก็ดันไม่ว่าไม่สงสัยอะไรอีกนะ อยากให้ลูกชายมีสามีจริงๆรึไงงงงงงงง T_T
แต่ถามว่ารังเกียจไหม รู้สึกแย่ไหม ก็ไม่จริงๆอ่ะแหละ
แต่อายมากกว่า งื้ออออออออออออออ
รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสาวน้อยยังไงไม่รู้
ผ่าง!แม่ง..แต่คิดแล้วก็เจ็บปวดนิดๆแฮะ ถึงจะเจอมาบ้างก็เหอะไอ้เพื่อนผู้ชายคบกัน เพื่อนผู้หญิงคบกัน เจอคนเพศเดียวกันรักกันมาก็เยอะ แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแปลก แล้วก็ไม่ได้รังเกียจ แต่แบบอยู่ดีๆให้มาเจอกันตัวเองก็ไม่ไหวม้างงงงงงงงงง!
ขอทำใจสักแปดปีแล้วกัน...............................
“ขนมไปเรียกพี่ตะวันมากินข้าวไป” แม่เดินถือจานเปล่ากับช้อนออกมาวางที่โต๊ะ หลังจากเอากับข้าวเยอะแยะมากมายสารพัด(อีกแล้ว)มาไว้บนโต๊ะก่อนหน้านี้
“อยู่ท้ายไร่ใช่ป่าวแม่?”
“อื้อ เห็นว่างั้นนะ ขนมก็ปั่นจักรยานไปแล้วกัน” ท้ายไร่เดินไปตั้ง 15นาทีกว่าจะถึงฮะ แต่ถ้าปั่นจักรยานไปก็เร็วขึ้นมาหน่อย
“โอเคๆ แล้วนี่จะรอพ่อไหมแม่?” พ่อผมลงกรุงเทพไปติดต่องานครับ มีบริษัททำน้ำผลไม้บลาๆมาติดต่อขอให้ไร่เราส่งองุ่นให้ทุกๆเดือนเพื่อนเอาไปทำน้ำผลไม้ เป็นลูกค้ารายใหญ่เลยแหละ! พ่อก็ลงไปได้ครึ่งเดือนแล้วมั้ง บอกว่าจะออกอีเวนท์เยี่ยมญาติทั่วกรุงไปด้วยทีเดียวเลย
“เมื่อกี้ก็โทรมาบอกว่าเข้าเมืองมาแล้ว อีกไม่นานก็คงถึงล่ะ พ่อคงกลับมาทันเรากินข้าว”
“อ่าห้ะ งั้นเดี๋ยวขิงมานะ”
ผมเดินออกมาข้างๆบ้านไปหาจักรยานคู่ใจ แต่..จักรยานผมแม่งไม่มีที่ซ้อนอ่ะดิ่ ผมเลยต้องเหลือบไปมองจักรยานแม่บ้านลายคิตตี้สีชมพูของแม่ ก่อนอจะถอนหายใจยาวๆ
ต้องปั่นคันนี้ไปรับไอ้พี่ตะวันใช่ไหม...............................?!
ผมต้องขึ้นคร่อมจักรยานแม่บ้านสีหวานแบบเลี่ยงไม่ได้ แล้วมุ่งหน้าไปยังท้ายไร่
พอไปถึงปั่นวนๆหาพี่ตะวันไม่นาน ก็เจอหมอนั่นนอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ เออ ตอนหลับนี่ตลกกว่าที่คิดนะ นึกว่าจะหลับแบบหล่อๆซะอีก นอนอ้าปาก แถมมือก็เลิกเสื้อตัวเองขึ้นจนเห็นพุง เอ้ย! หน้าท้องสวยๆอีก อั่กกกกกก จะเพอร์เฟคไปไหน!
แต่ยังไม่ทันจะได้แกล้งพี่ตะวันก็ชิงตื่นก่อนซะละ!
“แม่ให้มาตามไปกินข้าว มาเร็วๆ” ผมเอื้อมมือไปตบแปะๆที่เบาะด้านหลัง พี่ตะวันก็มองแบบ..
“ตัวเท่าลูกหมานี่จะเอาพี่ซ้อน ไหวเร้ออออออออออออ”
“กวนตีน! มาปั่นเองเลยมา”
พี่ตะวันจัดแจงเอากระเป๋ากล้องวางแหมะไว้ในตระกร้าจักรยานก่อนจะขึ้นประจำที่คนปั่น แล้วค่อยๆปั่นจักรยานกลับบ้าน
“โรแมนติกจังเนอะ~”
“อารมณ์ไหนของพี่วะ -*- ”
“อ้าว! ก็พี่ปั่นจักรยานให้ขนมซ้อน นี่ๆ เอามือมาเกาะเอวพี่ด้วยดิ่” อ่ะ จัดให้..
“โอ้ยยยย หยิกพี่ทำไมอ่า” กร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก พี่ตะวันหันมาเบะปากใส่หน่อยๆก่อนจะหันกลับไปแล้วไม่พูดอะไรเลย งอน?
“นี่ งอนขิงเหรอ พี่ตะวันนนนนน”
“…”
“พี่ตะวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน”
“…”
จักรยานมาหยุดกึ้กลงหน้าบ้าน แต่ผมยังไม่ลง ในเมื่อผมยังไม่ลงพี่ตะวันก็ลงไม่ได้ ผมนิ่งรอดูปฏิกิริยาพี่เขา แต่ก็มีแต่ความเงียบ อะไร หยิกแค่นี้งอนเรอะ
ผิวก็หนายังกะช้าง โถ่!
ตั้งแต่กินข้าวเสร็จพี่ตะวันก็เดินขึ้นห้องไปเลยฮะ หยุดคุยกับพ่อหน่อยเดียวแล้วก็ขอตัวขึ้นห้องเลย ไม่คุยกับผมสักคำ
“พ่อๆ ขิงไปนอนละนะ”
“ห๊า! ทำไมนอนไว เออๆ เอาน้ำเอาท่าเข้าไปให้พี่ตะวันเขาด้วยนะ” พ่อเงยหน้าขึ้นมาจากกองเอกสารมาพูดกับผมแปบเดียวก่อนจะก้มไปสนใจงานต่อ
ตาแก่บ้างานเอ้ย! พึ่งไปทำงานกลับมาก็ยังจะทำอีก!
แต่ด้วยความเป็นห่วงแหละฮะ ผมเลยไปหยิบน้ำเผื่อไอ้พี่ตะวัน แล้วก็หยิบน้ำองุ่นติดมือมาให้พ่อขวดนึง ก่อนจะเดินไปหาแม่ในครัว
“แม่ๆ ขิงไปนอนแล้วนะ ดูพ่อด้วยมัวแต่ทำงานไม่หยุดเลย”
“จริงเรอะ! แม่อุตส่าห์บอกให้พักแล้วแท้ๆ เออๆ ขนมก็ไปนอนไป”
“ครับ ฝันดีนะแม่” ผมเดินมาหยุดที่ห้องพี่ตะวันก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกๆเรียกกำลังใจหนึ่งที ไม่รู้ทำไม ตอนนี้รู้สึกว่าพี่เขาเริ่มมีอิทธิพลกับตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
ผมตัดสินไปเปิดประตูเข้าไปเลย ก็เจอพี่ตะวันนั่งเล่นโน้ตบุ้คอยู่ ..ไม่ดิ พี่เขาทำงานนี่หว่า ขมวดคิ้วยุ่ง หน้าเครียดมากเลยอ่ะ แถมยังใส่แว่นอีกต่างหาก
พึ่งเคยเห็นแหะ ดูดีชิบหาย!
แต่นี่มันไม่ใช่เวลามาพร่ำเพ้อนะเว่ย! จากที่ว่าจะเข้ามาคุยด้วย แต่เห็นพี่เขาทำงานอยู่แถมยังไม่หันมาสนใจผมสักนิด ผมว่าผมรีบเอาน้ำไปให้พี่เขาแล้วออกไปดีกว่าหว่ะ
ผมเดินเอาขวดน้ำไปวางก่อนจะถอยออกมากำลังจะเดินออกจากห้อง แต่ก็อยู่ฝ่ามือใหญ่ๆของพี่ตะวันกระชากกลับเข้าไปหา อ๊า กระแทกหน้าอกพี่เขาเต็มๆเลย!
“อ๊ะ เจ็บๆๆๆ”
เร็วกว่าที่จะรู้ตัว พี่ตะวันกดริมฝีปากลงมาแรงๆ แรงจนเจ็บ ก่อนจะผละออกมาฝังริมฝีปากที่แก้มผม ..ค้างไว้ ..แล้วย้ายมากดจูบซ้ำๆที่ริมฝีปากอีกรอบ แค่นี้มันก็ทำให้ผมแทบทรุด จนต้องเอื้อมมือไปกำเสื้อพี่เขาไว้แน่นๆ
“อื๊ออออ..”
ต่อให้ดันตัวหนีเท่าไหร่ พี่เขาก็จะตามมา แล้วกดจูบลงซ้ำๆ..
ไม่ได้อ่อนโยน.. ไม่ได้ร้อนแรง.. ไม่ได้มีการรุกล้ำอะไร..
แต่มันเป็นจูบแรกของผมที่สัมผัสได้ว่า ..พี่ตะวันต้องการจะบอกอะไรสักอย่าง
ตอนนี้พี่เขาเหมือนเด็กเอาแต่ใจ.. จนทำให้ผมโกรธไม่ลง บวกกับหัวใจผมที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนไปวิ่งมาเป็นระยะทางไกล แล้วมันก็ไม่ได้บอกว่ารังเกียจ
เพราะอะไร..?
หัวของผมถูกมือแค่ข้างเดียวของพี่ตะวันกดลงกับหน้าอกอุ่นๆของเขา ส่วนมืออีกข้างก็โอบเอวผมเอาไว้ ไม่งั้นผมก็ได้ทรุดลงไปแน่ๆ
“พี่เป็นอะไร?”
“…”
“..โกรธที่ขิงหยิกพี่เหรอ?” คำถามที่ถามออกไปผมรู้ว่าแม่งไม่ใช่แล้วแต่ก็ไม่มีคำถามอื่นที่ดีกว่านี้อ่ะนะ ถ้าคนเราโกรธเพราะโดนหยิกแล้วโดนทำโทษด้วยจูบเนี่ย ผมคงโดนจูบเป็นพันๆครั้งแล้ว
“นั่น..จูบแรกของขิงนะ”“…”
“นี่! พี่เป็นอะไรก็พูดสิ!”
“พี่ขอโทษนะ” พี่ตะวันกอดผมแน่นๆจนตัวแทบจะจมหายไปด้วยกัน แล้วดันผมออกจากอ้อมกอด จูงมือผมมาที่หน้าห้อง เปิดประตู แล้วดันผมออกไป..
.
.
.
:: ตะวัน ::
ไอ้ควายตะวันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!
ไปจูบน้องเขาทำไม!ผมช็อคค้างมากตอนที่น้องบอกผมว่านั่นคือจูบแรก!!
มันไม่ตลกนะกับการที่เราไปเอาจูบแรกของคนที่ชอบมากโดยที่เขาไม่ได้เต็มใจอ่ะ
ผมทิ้งตัวลงบนที่นอนแรงๆก่อนจะนอนเอามือก่ายหน้าผาก เฮ้อ..เกิดมา 26 ปี มีแฟนก็เคยมาเยอะ(มาก) แถมก็ไม่ได้อ่อนประสบการณ์เทือกนั้นเลยด้วย แต่น้องพึ่งจะ 16 อ่ะ ผมก็ไปสร้างรอยด่างพร้อยให้น้องเขาแล้วอ่ะ
“เฮ้ออออออออออออออออ..”
ผมไม่ได้โกรธที่น้องหยิกเลยนะ ใครโกรธเพราะเรื่องแค่นั้นก็บ้าแล้ว แต่ตอนนั้นมันมีความคิดที่แวบขึ้นมาว่า ‘มึงชอบน้องเขา แต่น้องเขาไม่ได้ชอบมึงนะตะวัน’ ผมเลยใช้เวลาตลอดเย็นนั่งคิดเรื่องพวกนี้ไง
น้องยังเด็กอ่ะ อนาคตน้องมันยังอีกไกลมาก จะให้มาคบกับลุงบ้างานคนนึง ที่ไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่งอะไร ถึงจะถ่ายรูปมีรายได้มากมายก็เหอะ แต่ผมเป็นผู้ชายไงครับ ถึงผมจะแอบไปคุยกับแม่น้องมาแล้วก็เหอะ ว่าจะว่าอะไรไหมถ้าผมจะจีบน้องเขา แม่น้องไม่ขัดเลยสักนิดเดียว แม่น้องบอกว่าไม่อยากให้น้องมีแฟนเป็นผู้หญิง แม่ไม่ชอบเด็กผู้หญิงสมัยนี้ แม่อยากได้ลูกเขย
เอากะเขาสิครับ!
แต่ตัวน้องเองก็ไม่ได้มีท่าทีจะชอบผู้ชาย ถึงเขาจะตัวเล็ก น่าดูแลน่าปกป้องมากๆก็เหอะ แต่นิสัยน้องมันก็ผู้ชายอ่ะครับ
ผมยังคิดถึงปากนิ่มๆของน้องเมื่อกี้ไม่หาย ตัวน้องที่ว่าเล็กๆแต่พอได้กอดก็เต็มไม้เต็มมือดีนะครับ ถ้าได้น้องมานอนกอดคงจะฝันดีน่าดู แต่ก็ได้แค่คิดละน้า ไปจูบเขา กอดเขา ไม่พูดกับเขา แถมยังไล่เขาออกจากห้องอีก คงโดนเกลียดแล้วหล่ะ
ก็อก ก็อก!
“ครับๆ” นี่ก็ดึกแล้ว ใครมาเคาะห้องเนี่ย แต่ผมขอคิดไว้ก่อนว่าน่าจะเป็นขนม ผมเลยรีบลุกจากเตียงไปเปิดประตูให้ไว
แม่น้อง..
“แม่มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
“ตะวันทะเลาะกับน้องเหรอลูก น้องลงไปนอนร้องไห้ข้างล่าง”
“...ขอโทษนะครับแม่” ผมพูดะไรไม่ออก ผมทำน้องร้องไห้.. ผมอยากจะขอโทษแม่น้องหลายๆรอบ ทั้งๆที่เคยไปพูดกับเขาไว้ซะดิบดีว่าจะไม่ทำให้ลูกชายของเขาเสียใจ
“แม่เคยบอกแล้วนา ว่าขนมมันออกจะดูเป็นเด็กเข้าใจยากสักหน่อย”
“…”
“มีอะไรต้องพูดกับน้องให้หมดเลยนะ เขาเป็นพวกที่ไม่ชอบอะไรที่มันไม่ชัดเจน ขนมมันก็เป็นเด็กอย่างนี้ ต่อให้ใครทำให้เขาเสียใจแค่ไหน ถ้าน้องไม่ได้รังเกียจคนๆนั้น น้องก็พร้อมที่จะฟังทุกๆอย่างเสมอนะ”
แม่น้องยิ้มให้ผมบางๆ คำพูดของแม่น้องบอกทุกอย่างผมไว้หมดแล้ว..
“ขอบคุณนะครับ ผมขอลงไปหาน้องได้ไหม?”
“เอ้า! ไปซี่! ไปง้อน้องซะ แต่ถ้าน้องโกรธเราแม่ก็ช่วยอะไรไม่ได้นะ”
“ขอบคุณจริงๆครับ” ท่านเอื้อมมือมากอดผมไว้เบาๆก่อนจะเดินไปทางห้องนอนของตัวเอง ผมยืนมองท่านจนท่านเข้าห้องนอนไป ถึงจะเดินลงมาข้างล่าง ก่อนจะเห็นน้องหลับอยู่บนโซฟา หน้าใสๆนั่นยังมีคราบน้ำตาเหลืออยู่เลย
แล้วนี่ผมควรปลุกน้องให้ตื่นมาคุยด้วยหรือพาเขาไปนอนก่อนดีล่ะ
อืม ผมนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้าน้อง ก่อนจะเช็ดคราบน้ำตาออกให้เบาๆ ไล้มือไปที่แก้มกลมๆ จมูก แล้วก็.. ปากของน้อง ปล่อยให้เวลามันผ่านไปช้าๆโดยที่ผมไม่อยากทำอะไร กลัวปลุกน้องขึ้นมาแล้วโดนชี้หน้าด่า ผมไม่อยากให้น้องเกลียด
“พึ่งเจอกันแค่สองอาทิตย์ทำไมเราทำให้พี่หลงได้ขนาดนี้นะ”
ผมนั่งลูบผมทรงเห็ดของน้องที่เขาภูมิใจนักภูมิใจหนาว่าตัดแล้วดูดีไปเรื่อยๆ ผมน้องนิ่มมาก ผมเคยถามว่าใช้แชมพูอะไร น้องตอบมาอย่างโคตรภูมิใจว่า
‘โคโดโมะ!’
เด็กน้อยจริงๆอ่ะ!
แล้วจู่ๆ มือน้องก็ค่อยเอื้อมมาจับมือผมที่วางแหมะอยู่บนหัวน้อง..
.
.
.
“อือออ พี่ตะวัน..”...................................................................
รู้สึกว่าแต่งเรื่องนี้ได้มึนๆดี
อีกไม่นานจะจบแล้วนะคะ (มั้ง)
หวังว่าจะชอบเหมือนเดิมนะค้าาาาาา
Amjeneee
04/01/13