● เล่ห์รักฤดูร้อน ●
ยกที่ 27 – หลอกเด็ก
“...อา...ไม่ไหวแล้ว”
สามภพจ้องอีกฝ่ายตาเขียว เจ้าตัวทำท่ารวบช้อนส้อมนั่งลูบพุงสบายใจเฉิบอยู่ฝั่งตรงข้าม เห็นมาดกวนประสาทแล้วถึงกับมีความคิดอยากเตะตกเก้าอี้ขึ้นมาแวบหนึ่ง ช่างเป็นเด็กที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์ในการยั่วโมโหอะไรเช่นนี้
“กระเดือกลงไปให้หมดเลยไอ้เด็กเวร!”
“พี่ก็กินต่อเองดิ ผมต้องรักษาหุ่น” คิมหันต์โบกมือเนือย ๆ จัดการตักสารพัดสัตว์ทะเลให้เขาประหนึ่งจะเปิดฟาร์มเพาะเลี้ยงในจานตรงหน้า
“กินก็ไม่หมดแล้วสั่งมาซะเยอะแยะหาหอกอะไรเนี่ย!”
“แกล้งเฮียไง” ไอ้ตี๋เกรียนตอบหน้าระรื่น
สามภพระบายลมหายใจยาวเหยียด โคตรปวดหัวกับมันเลย!
“นี่เฮีย” คิมหันต์นั่งเท้าคางส่งรอยยิ้มกริ่ม มืออีกข้างเอื้อมมาเอาด้ามส้อมจิ้มแขนเขา “ไม่หมดห่อกลับได้ปะ ผมขอ”
เขาดึงส้อมจากมือเด็กหนุ่มกลับไปวางให้เรียบร้อย จ้องใบหน้าทะเล้นนั่นอยู่อีกครู่หนึ่ง ให้กวนประสาทอย่างไรก็อดตามใจไม่ได้จริง ๆ ตัวเขาเองก็เป็นน้องชายคนเล็กไม่เห็นจะมีท่าไม้ตายแบบนี้ไว้ใช้กับคนอื่น หรืออาจเป็นเพราะเขาไม่ค่อยร้องขออะไรจากใคร
และแน่นอน...เขาไม่เกรียนอย่างไอ้ติ่งเกาหลีหัวทองนี่
“ถ้าอยากกินอะไรก็สั่งเพิ่มใส่ห่อไปก็ได้”
แต่ก็ยอมจนได้สิน่า“โห..ใจพี่หล่อมาก”
“ให้มันจริงใจหน่อยไอ้น้อง”
“จับโกหกเก่งนี่นา” ว่าแล้วก็ตบมือแปะ ๆ ทำหน้าระรื่นเกินจำเป็นใส่เขาอีก
น่าเบิร์ดกะโหลกบรรลัยเลย!เย็นไว้สามภพ จีบเด็กเกรียนต้องใจเย็น ๆ เกรียนมาอย่าเกรียนตอบ “เอาละ อยากเพิ่มอะไร? เดี๋ยวได้สั่ง”
“ไม่ต้องสั่งใหม่หรอก เดี๋ยวพี่จะล้มละลายเพราะจ่ายค่าอาหาร” คิมหันต์ยิ้มร่า “พวกนี้เหลือเยอะแยะ ปูนิ่มผัดพริกไทยดำนั่นแทบไม่ได้กินเลย”
“เออ”
“ขอห่อใส่กลับไปฝากไอ้ปิ่นหน่อย ไอ้ยาจกนั่นมันอดอยากอะ”
“ปิ่น?”
“ปิ่นหยกไง”
“ไม่ต้อง!”“แล้วทำไมต้องดุด้วยวะ!?”
“พี่เลี้ยงเรา ไม่ได้เลี้ยงเพื่อนคนนั้น”
คิมหันต์กลอกตา เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ชัดเลย อย่างนี้ถ้าไม่ใช่หึงก็เรียกว่าใกล้เคียง ปัญหาอยู่ที่พวกเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน(และเขาไม่คิดว่าจะเป็นอะไรกัน)เสียหน่อย
“มากันสองคน" อีกฝ่ายยังตีหน้ายักษ์ใส่ "ไม่ต้องห่วงคนอื่นนักก็ได้”
เด็กหนุ่มยักคิ้ว “บังเอิญผมเป็นคนดีว่ะ” พูดจบก็กวักมือเรียกพนักงานให้ช่วยเอาอาหารจานที่แทบไม่ได้แตะไปใส่กล่องให้
พนักงานรับคำแล้วถือจานเดินออกไป ส่วนสามภพกระแทกลมหายใจออกเฮือกใหญ่ ส่ายหน้าหงุดหงิดใจแล้วลุกขึ้นจากโต๊ะ
“รอนี่ เดี๋ยวพี่ไปเข้าห้องน้ำ”
คิมหันต์พยักหน้าเสียมิได้ จะไปไหนก็ไปเถอะ ถ้าไม่ติดว่าทั้งกระเป๋าทั้งมือถือโดนยึดไว้หมดแล้วจะถือโอกาสหนีกลับบ้านให้รู้แล้วรู้รอด
.
.
.
.
มองออกไปกลางแจ้งนั้นแดดเริ่มแรงจัด ลมทะเลซึ่งพัดโกรกใบหน้าหอบเอาไอร้อนติดมาด้วยทำเอาเหนียวตัว คลื่นซัดเข้าฝั่งแตกเป็นฟองครั้งแล้วครั้งเล่าส่งเสียงครืนเบา ๆ สบายหู
เด็กหนุ่มนั่งเท้าคางมองการเคลื่อนไหวของท้องทะเลเพียงลำพัง ดูไปก็เพลินดี แต่พอจ้องอยู่นานเข้าก็เริ่มเบื่อ หันไปชะเง้อมองทางห้องน้ำ สามภพจะล้างไส้ล้างพุงนานอะไรนักหนา
“จัดหนักหรือไงวะ”
คิมหันต์พรมนิ้วลงบนโต๊ะ ฮัมเพลงฆ่าเวลา มืออีกข้างปั้นกระดาษทิชชูเปียกน้ำเป็นก้อนกลมวางไว้ตรงนั้นตรงนี้ เวลาผ่านไปกองก้อนกลม ๆ นั้นก็เริ่มเยอะขึ้น..เยอะขึ้น...สุดท้ายเล่นจนทิชชูหมดกล่องสามภพก็ยังไม่กลับ
เขาขมวดคิ้วมองทางห้องน้ำอีกครั้ง นี่นานเกินไปไหม? ตกส้วมตายหรือยัง? ไม่ใช่ว่าหนีกลับกรุงเทพคนเดียวแล้วนะ!?
"....."
เด็กหนุ่มเตรียมผุดลุกขึ้นตั้งใจว่าขอตามไปดูสักหน่อย แต่พนักงานยกถุงอาหารที่ฝากเอาใส่กล่องกลับมาที่โต๊ะก่อนเขาจะได้ย้ายก้นออกจากเก้าอี้
“ค่าอาหารครับ”
เขาพยักหน้า รับบิลมาดู ไล่สายตาตั้งแต่รายการแรกจนลำดับสุดท้าย จบด้วยตัวเลขระบุค่าเสียหายมื้อนี้ เห็นแล้วก็ให้กะพริบตาปริบ ๆ ด้วยความสำนึกนิดหน่อย
..สามพันกว่า กินล้างกินผลาญสุด ๆคิมหันต์วางมันไว้ที่เดิมบนถาด เงยขึ้นบอกพนักงานว่าให้รอสักครู่ คนจ่ายไปเข้าห้องน้ำ แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาถึงกับทำเขาอ้าปากค้าง
“คุณผู้ชายคนนั้นกลับไปแล้วครับ”เด็กหนุ่มหลุดเก๊ก ส่งเสียงอุทานลั่นร้าน
“ห๊ะ!!!?”“ก่อนออกจากร้านไปเขาเรียกให้มาคิดเงินกับคุณได้เลย”
“ห๊ะ!!!?” (อีกครั้งอย่างจิตหลุด)
"ครับ" พนักงานตอบแข็งขัน แถมยังพยักหน้ารับเลือดเย็น
“ด..เดี๋ยวนะ ผิดคนหรือเปล่า!?” คิมหันต์ละล่ำละลัก สามภพเล่นไม้นี้กับเขาได้อย่างไร เถียงกันหน่อยเดียวถึงกับกล้าทิ้งเขาไว้โดยไม่มีเงินหรือสมบัติติดตัวสักอย่างเนี่ยนะ “เมื่อกี้บอกว่าไปเข้าห้องน้ำนี่!”
“กลับไปแล้วจริง ๆ ครับ ไม่ผิดคนแน่” พนักงานหนุ่มยืนกราน “ผู้ชายตัวสูง ๆ ที่ใส่เสื้อแบบเดียวกับคุณแต่คนละสี”
บรรลัยแล้วไง ใช่สามภพจริงด้วย นี่เขาต้องอยู่ล้างจานชดใช้ริมทะเลแล้วขอทานหาเงินค่ารถกลับบ้านหรือเปล่า
“เดี๋ยวนะ ขอผมไปดูก่อนว่าเขายังอยู่ไหม”
ไม่รอจนตัวเองพูดจบ เด็กหนุ่มจ้ำอ้าวตามป้ายบอกทางไปห้องน้ำ เหงื่อตกด้วยสาเหตุที่ไม่ใช่แค่เรื่องอากาศร้อน ยังพยายามปลอบใจตัวเองว่าเฮียหมาบ้าอาจหลบอยู่ในนั้นรอระเบิดเสียงหัวเราะก๊ากใส่เขาตอนหลงเชื่อไปแล้วว่าโดนทิ้งจริง ๆ ก็ได้
ประตูห้องน้ำถูกไล่เปิดไปทีละบาน
ปัง!
ไม่มี
ปัง!
นี่ก็ไม่...
ปัง!ไม่มีวี่แววของสามภพแม้แต่น้อย!!ฉิบหายแล้ว! ฉิบหายตัวเบิ้ม ๆ!!นี่เอาจริงเรอะ!? หรือว่าวางแผนแก้แค้นไว้แต่แรกแล้วว่าตั้งใจหิ้วเขามาทิ้งทะเล!?
เด็กหนุ่มเหลือบมองนาฬิกาจากข้อมือพนักงานเสิร์ฟซึ่งเดินตามมาหยุดอยู่ข้างหลัง หน้าปัดบอกเวลาบ่ายโมงตรง หมดเวลาที่ตกลงกันไว้พอดี เลยทิ้งกันดื้อ ๆ พร้อมกับบิลเรียกเก็บเงินงั้นสิ!
“เอ่อ...แล้วก็ช่วยจ่ายค่าอาหารเถอะครับคุณลูกค้า”
คิมหันต์หน้าซีดเป็นไก่ต้ม หันไปยิ้มแหยใส่พนักงาน น่าลุ้นว่าหากบอกความจริงเรื่องเขาไม่มีเงินติดตัวสักบาทจะโดนแบบไหน ระหว่างจับโยนลงทะเล ส่งให้ตำรวจ หรือถูกเนรเทศไปล้างจานหลังร้าน(ซึ่งอาจต้องใช้เวลาสักครึ่งเดือนจึงพอจ่าย)
“เดี๋ยวนะครับ”
ไม่เอาน่า...สามภพไม่ทำอย่างนี้กับเขาหรอก ทั้งที่ตั้งแต่เมื่อวานก็ออกจะตามใจมาตลอดแท้ ๆ
“.....”
หรือนั่นแค่หลอกให้ตายใจวะ?เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นบนขมับ เมื่อความเครียดเริ่มไต่ระดับสูงกว่าระดับน้ำทะเลอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ที่ผ่านมาเขาก็ทำไว้ค่อนข้างแสบ ..เป็นไปได้ว่าสามภพจะเอาคืนด้วยการปล่อยเขาได้ใจพอจนกล้าสั่งอาหารปริมาณมหาศาลมากินทิ้งกินขว้าง จะได้เจ็บจี๊ดสุด ๆ ตอนโดนตลบหลังเช่นนี้?
ไม่มั้ง โหดไปเปล่าวะ เดี๋ยวพอเดินออกไปที่ลานจอดรถก็ต้องเจอมนุษย์หมาบ้าหน้าโฉดยืนยิ้มสะใจอยู่แน่ ๆ
เอาละ เย็นไว้ เป็นผู้ชายคิดบวก ไว้เจอหน้าที่รถปุ๊บจะพูดดี ๆ ด้วยว่าช่วยสมทบทุนค่าอาหารเด็กน้อยตาดำ ๆ สักมื้อเถอะ เขายังครองสติ ยึดมั่นปณิธานโลกสวยปลอบใจตัวเองมาได้ตลอดทางตั้งแต่เดินออกมาจากตัวร้าน โดยมีพนักงานคนเดิมตามมาติด ๆ
จนได้พบกับความว่างเปล่าในตำแหน่งซึ่งเคยเป็นที่จอดรถของสามภพนั่นเอง“..เอาจริงดิ”เหลือแต่เสียงพึมพำเบาหวิว ลอยปลิวไปกับใบไม้แห้งกรอบที่หล่นแปะลงมาวางอยู่กลางหัว
“ค่าอาหารล่ะครับคุณลูกค้า?”
พร้อมกับเสียงหลอกหลอนของพนักงานซึ่งปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด ไปมอบตัวกับตำรวจแล้วขอยืมโทรศัพท์เรียกเจ้ใหญ่มาจ่ายแทนได้ไหม และถ้ามีใครช่วยออกค่ารถกลับบ้านให้เขาด้วยน่าจะดีไม่น้อย
คิมหันต์ยกมือขึ้นเสยผมหนักใจ สามภพหนีไปแล้วจริง ๆ ให้ตายเถอะ ปิดท้ายเวลายี่สิบสี่ชั่วโมงจากการประมูลได้อย่างเจ็บแสบ ถึงว่าทำไมต้องพามาไกลถึงหัวหิน ไอ้เฮียเพี้ยน! นิสัย! กระเป๋ากับมือถือเขาก็ยึดไปด้วยอีกต่างหาก นี่มันเข้าข่ายลักทรัพย์ชัด ๆ
“ค่าอาหาร...”
พนักงานเสิร์ฟยังอ้าปากพล่ามต่อเหมือนถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้พูดได้แค่นี้ กดดันจริงเว้ย!
เด็กหนุ่มปาดเหงื่อบนขมับ หันกลับไปอ้อมแอ้มหน้าเจื่อน
“...คือ ผมมีอะไรจะบอกนิดหน่อย"
"ครับ"
".....พอดีว่า’เป๋าตังค์ผมโดนขโมย...”
เขาต่อให้ในใจว่าถึงกระเป๋าอยู่กับตัว เงินในนั้นก็ไม่พอจ่ายอยู่ดีนั่นแหละ
“..ทีนี้คือ...แบบว่า ผมมีลูกชายชื่อดุ๊กดิ๊กต้องเลี้ยงดูส่งเสีย...ตอนนี้ใกล้สามขวบ กำลังน่ารัก...”
“ไม่มีจ่ายหรือครับ?”
“..ก็ไม่เชิง แต่ว่าผมอาจพอชดใช้เป็นอย่างอื่นได้...”
“สรุปว่าไม่มีจ่ายใช่ไหมครับ?”
เหงื่อกาฬหลั่งริน จบสิ้นแล้วพ่อยอดชายนายคิมหันต์ “.......อ่า...ประมาณนั้น”
“ถ้าอย่างนั้นคงต้อง—”
“จำไว้เลยไอ้เฮียเพี้ยน!!” เด็กหนุ่มตะโกนแทรก เล่นเอาพนักงานสะดุ้ง แต่เขายังแหกปากต่ออย่างคนสติหลุด
“นิสัยนะ!! แม่งมาหลอกทำเป็นใจดี คนอุตส่าห์ไว้ใจ!!!”“นั่นไว้ใจแล้วหรือ?”
เสียงคุ้น? แต่ปากไปก่อนแล้ว “เอ้อเด้! เชี่ย!!!” “งั้นก็เลิกด่ากูว่าเชี่ยซะทีสิครับ”“!!?”“หรือน้องครีมว่าไง?”
“ไอ้เฮียเพี้ยน!!!!”เขาร้องลั่น หันกลับไปก็เจอตัวต้นเสียงยืนทำหน้ากวนประสาทอยู่ข้างหลัง รอยยิ้มน้อย ๆ ประดับอยู่บนมุมปาก พร้อมสายตาชอบอกชอบใจเป็นประกายวาววับยิงรัวเข้าใส่จนทำตัวไม่ถูก ทั้งโกรธทั้งอายบัดซบ!
“จ..จ่ายค่าอาหารเลย!” พูดอะไรไม่ออกเลยทวงไว้ก่อน
“จ่ายแล้วนี่” ชายหนุ่มยักไหล่
“จ่ายบ้าอะไร” เด็กหนุ่มแทบเต้น หันหลังตั้งใจจะชี้ตัวพยานปากสำคัญ “พนักงานทวงผมยิก ๆ ...อยู่...แล้—”
พนักงานหนุ่มเจ้าปัญหาไม่ได้ยืนอยู่ข้างหลังเขาแล้วซะงั้น!“ไปไหนวะเฮ่ย!!?”
สามภพหัวเราะลั่น “ทำไม? เขาบอกว่าพี่ยังไม่ได้จ่ายเงินหรือ?”
“ก็ใช่สิวะ!!”
“หลอกง่ายเหมือนกันนะเรา”
“ไอ้พี่ภพ!!”
“ครับน้องครีม?”
“ไอ้เชี่ยยย!!!”
“ปากมอม!”
“หมาบ้า!”
“ไอ้ตี๋เกรียน!”
“ไอ้เฮียเพี้ยน!”
“ไอ้เด็กเปรต!”
“ไอ้โรคจิ—!”
คิมหันต์พูดต่อไม่จบ คล้ายว่ามีควันพุ่งออกจากหูสองข้าง ดวงตาเขามองไม่เห็นอะไรนอกจากภาพมัว ๆ ของใบหน้าคนในระยะประชิด กว่าจะระลึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก็ตอนรู้สึกเจ็บหนึบที่ริมฝีปากล่าง...
เมื่อสามภพก้มลงมางับตรงนั้นไว้แล้วดึงเบา ๆ นั่นเอง“.....อะ...!”ที่น่าแค้นคือจากนั้นชายหนุ่มก็กลับไปยืนยักคิ้วเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนี่แหละ!
“..จ...จะเกินไปแล้วเว้ย!”“จะเอาอีกรอบหรือ?”
“อีกรอบป๊ะอะไรล่ะ!!”
และคราวนี้ไม่ใช่แค่ริมฝีปากล่าง แต่ถึงขั้นกดลงแนบสนิท..บดหนัก ๆ บนปากเขาพร้อมมือใหญ่ซึ่งช้อนอยู่ที่ท้ายทอยเล่นเอาหมดทางถอยหนี แช่อยู่นานจนเขาเริ่มรู้สึกตัวเองกำลังเข้าสู่ภาวะโอเวอร์ฮีท กว่าอีกฝ่ายจะยอมผละออกจากจูบ
“เด็กอะไรหนวกหูจริง ๆ”
แถมยังมีหน้ามาบ่นเขาอีกด้วย!!!!สามภพหมุนตัวออกเดิน เตรียมนำไปยังรถซึ่งย้ายไปจอดที่อื่นไกลจากตรงนี้เพราะตั้งใจแกล้งโดยเฉพาะ นึกว่าคิมหันต์จะตามมาแต่กลับไม่ได้ยินเสียงฝีเท้าข้างหลังสักนิด
“อ้าว?”
พอหันกลับไปมอง ก็พบว่าเด็กหนุ่มทรุดลงไปย่อตัวคุดคู้อยู่ที่พื้นเรียบร้อย
“จะกลับบ้านไหมเด็กน้อย!?” เขาถามกลั้วหัวเราะ “โดนกัดปากทีสองทีไปไม่เป็นเลยหรือ? ไหนว่าเคยจูบ”
ผลที่ได้คือคิมหันต์ก้มลงเอาหน้าซุกเข่า ไม่มีเสียงต่อล้อต่อเถียงหลุดลอดออกมาแม้สักนิด ผิวเนื้อตั้งแต่คอขึ้นไปนั้นมองเห็นแค่แถวใบหูสองข้าง
และแน่นอนว่ามันเป็นสีแดงจัดเลยทีเดียว...........................................................
...............................
.
.
.
.
“ชายนี่หรือลินคินพาร์ค?”
“ขอธรณีกรรแสง”
“งานศพแกหรือ”
“งานศพพี่ดิ!”
สามภพส่ายหน้า คุยกันดี ๆ มันจะตายหรือไงกัน “เขินแล้วอย่าปากหมานักไอ้น้อง”
“พี่แม่งร้ายกาจ” คิมหันต์ยังบ่นงุบงิบ ถอดรองเท้ายกขาขึ้นมานั่งขดบนเบาะ บนแก้มยังมีสีชมพูจาง ๆ แต้มอยู่พอให้คนมองขำออกมาได้ขณะเจ้าตัวพูดต่อ “เอากระเป๋าตังค์กับมือถือผมคืนมาเลย”
“ถึงบ้านแล้วจะคืน”
ชายหนุ่มตอบรับส่ง ๆ ตัดสินใจเปิดเพลงเกาหลีที่เขาฟังไม่รู้เรื่องเอาใจเด็กน้อยสักหน่อย ช่วยไม่ได้ คุยกันอยู่ดี ๆ มัวแต่ปิ่นหยก ๆ จนน่ารำคาญเลยหมั่นไส้อดแกล้งไม่ไหว เด็กเสิร์ฟนั่นก็เนียนเชียว ให้ทิปไปร้อยหนึ่งทำงานเกินหน้าที่ตีบทแตกกระจุย
“เดี๋ยววันหลังจะซื้อแผ่นแท้ อย่าลืมมาฟัง”
เขาพึมพำ เอื้อมมือไปลูบผมทองยุ่ง ๆ ของอีกฝ่าย ความจริงหัวยุ่งแบบวันนี้ทั้งวันดูเด็กกว่าตอนตั้งใจแต่งผมตั้งเยอะ
คิมหันต์หดคอหนี ผินหน้าออกไปทางกระจกหน้าต่างรถฝั่งตัวเอง “คนอะไรวะ..อารมณ์แปรปรวนเป็นสตรีวันแดงเดือด”
ถึงตอนนี้เขาก็ยังยืนยันว่ามันน่าจับถ่วงทะเลจริง ๆ!“ทำงอนไปได้” เผลอขยุ้มผมทอง ๆ เล่นเสียแล้ว นึกแล้วน่าตลกที่รู้สึกว่ายิ่งเกายิ่งเพลิน นุ่มนิ่มเหมือนกำลังเล่นกับหมา “ทีแกพูดถึงแต่ปิ่นหยก ๆ พี่ยังไม่ว่าอะไรสักคำ”
“เกี่ยวอะไรกับมันเล่า!”
“นั่นสิ ไม่เกี่ยวสักนิด..แล้วจะพูดถึงทำไมบ่อย ๆ”
คิมหันต์ปัดมืออีกฝ่ายออก หันไปจ้องสารถีที่ไม่ยอมเพ่งสมาธิกับการขับรถเท่าที่ควร มาทำเหมือนหึงตั้งแต่ตอนอยู่ที่ร้านก่อนจะดอดจากโต๊ะเพื่อหลอกให้เขาหัวหมุนแล้ว ค้างคาจนถึงกับต้องเอ่ยปากถาม
“พี่หึง?”
สามภพอึ้งไปนิดหน่อย ทำทีเป็นมองถนนหนทางตรงหน้า แต่ท้ายที่สุดก็ทนสายตาคาดคั้นไม่ไหวจนต้องยอมตอบ
“ใช่”
“พี่กำลังจะจีบผม?”
ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ทีมชาติเกาหลีเล่นเกมบุกมาเลยทีนี้
“.....”
“นี่จีบผมใช่ไหม?”
เขาถอนหายใจเฮือก ตอบกลับโดยไม่หันไปมองคนพูด เมื่อใดที่ระลึกตัวเองได้ในบางครั้งว่ากำลังทำอะไรอยู่ จิตใจส่วนที่ยังเคยชอบผู้หญิงก็เกิดกระดากขึ้นมานิดหน่อย
“..กว่าจะรู้ตัว”คิมหันต์ใจกระตุกวูบ งานเข้าแล้วไง เด็กหนุ่มกลั้นใจถามต่อ แม้อีกความคิดก็อยากสงบปากสงบคำจนกว่าจะถึงบ้านโดยสวัสดิภาพมากกว่า ทว่าให้กลับตัวตอนนี้คงช้าไปแล้ว
“พี่จ้องจะงาบผม?”
ชายหนุ่มเริ่มเหงื่อตก เหมือนบทสนทนาชักหลงประเด็น ถึงที่ผ่านมาอาจเผลอทำอะไรให้คิดอย่างนั้นบ้าง แต่ไอ้เด็กนี่เห็นเขาเป็นคนแบบไหนกัน
“ไม่เชิง”
“.....”
คิมหันต์นั่งหยุกหยิก ท่าทางไม่ค่อยพอใจคำตอบ
“มีอะไรอีกไหม?”
“มี”
“ว่า?”
“..พี่ชอบผมงั้นหรือ?”“......”
เขายิ้มมุมปาก พูดตรงจริง ๆ ไม่ได้มีจริตเอียงอายให้น่าเอ็นดูอย่างผู้หญิงที่เคยเจอเอาเสียเลย แต่อย่างว่า..คิมหันต์ไม่ใช่ผู้หญิง และหากทำตัวอย่างนั้นอาจดูพิลึกผิดคอนเซปต์เจ้าตัวไม่น้อย
“ปกติฉลาดนักนี่ คิดว่าไงล่ะ?”
“เรื่องชอบนั่นไม่แน่ใจ” คิมหันต์หรี่ตา ขยับตัวออกห่างโดยอัตโนมัติ “แต่ผมคิดว่าพี่เป็นเกย์”
สามภพเผลอสะดุ้ง ขณะที่เด็กหนุ่มยังพล่ามต่อ
“และพิจารณาหน่วยก้านแล้วคิดว่าน่าจะเป็นเกย์รุก แม้ผมหวังอยู่ลึก ๆ ว่าถ้าพี่คิดจีบผมอย่างน้อยผมก็อยากให้พี่เป็นรับมากกว่า”
“....หืม??”
อีกฝ่ายยักไหล่แล้วแจกแจงเพิ่ม “...แบบ...พอทำใจได้มากกว่า”
คิมหันต์เผลอนึกถึงคำสาปอาฆาตของเพื่อนรักหน้าเลือดขึ้นมาได้จังหวะอย่างน่าขนลุก และให้ตายเถอะ นอกจากขนลุกแล้ว พอพูดถึงตรงนี้หน้าก็เกิดจะร้อนวาบผิดเวล่ำเวลาขึ้นมาเลย
“คิดจะรุกพี่หรือไง?”
“ผมไม่คิดอะไรกับพี่ทั้งนั้น แต่แค่เผื่อไว้...” เด็กหนุ่มอ้อมแอ้ม ทำฟอร์มก้มลงไปกดเปลี่ยนเป็นเพลงถัดไป จะได้ไม่ต้องสบตาคู่สนทนาเป็นการชั่วคราว “…สำหรับกรณีตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน”
สามภพอดหัวเราะในลำคอไม่ได้ คิมหันต์พูดจริงจังประหนึ่งว่าเป็นวาระแห่งชาติที่ต้องยอมพลีชีพหากเข้าสู่ภาวะฉุกเฉิน ด้วยเงื่อนไขว่าอย่างไรก็จะไม่ยอมให้ตัวเองเป็นรับเด็ดขาด
“รู้ไหม พี่ชอบเวลาตัวเองเป็นฝ่ายชนะมากกว่า”
เด็กหนุ่มยักคิ้วข้างเดียว “เช่นกัน”
“อยากลองพนันดูไหมล่ะ?”
“พนันอะไร?”
คิมหันต์ช่างสงสัย หากเขาใช้ประโยชน์จากนิสัยนี้ของเจ้าตัวให้เอื้อต่อการได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอีกก็น่าจะเป็นเรื่องดี
“เรามาพนันกันว่า...” เขากระซิบ เบาเสียจนเด็กหนุ่มซึ่งนั่งอีกฝั่งเผลอโน้มตัวเข้ามาเกือบหน้าทิ่มอยู่แล้ว นัยน์ตาขี้เล่นเป็นประกายฉายแววสงสัยใคร่รู้อีกเช่นเคย ขณะที่หัวคิ้วขมวดมุ่นอยู่เล็กน้อยคล้ายกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ในหัว และเขาถูกใจเวลาคิมหันต์เป็นอย่างนี้เสียจริง
ดูล่อลวงง่ายกว่าปกติบอกไม่ถูก“ว่า..?"
อีกฝ่ายทวนคำเป็นเชิงเร่ง ท่าทางคงอยากรู้อยากเห็นใจจะขาด ถึงร้ายอย่างไรแต่ก็นิสัยเด็กแท้ ๆ
สามภพคลี่ยิ้มบาง รู้สึกอะไรเริ่มเข้าที่เข้าทางและอยู่ภายใต้การควบคุม
“พนันว่าพี่จะทำให้แกชอบพี่ได้ไหม”- หมดยกที่ 27 –
===============================
ปฏิบัติการจ้องงาบเด็กเพื่อชีวิตอมตะ(?)ยังดำเนินต่อไป (ฮา)
อนึ่ง รูปแถมรูปแรกของตอนที่แล้ว ที่ไซส์พระเอกนายเอกต่างกันเยอะเพราะวาดเพี้ยนเองค่ะ ฮาาาา วาดไปไม่ได้เช็ค พลาดไปแล้ว ความจริงไม่ได้ตัวต่างกันขนาดนั้นค่ะ แหะ ๆ
ขอบคุณคนอ่านผู้น่ารักค่าาาา >w< แอบหายไปนานกว่าปกตินิดนึงเพราะติดภารกิจแฮ่ก ๆ ตอนหน้าจะพยายามรีบมาต่อนะคะ

ของแถมรีพลายถัดไป เหมือนจะตกไปอยู่อีกหน้า พบกันใหม่ยกที่ 28 ค่ะ
