● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ● เล่ห์รักฤดูร้อน ● ตอนพิเศษวันสงกรานต์ (หน้า 151) 13/04/59  (อ่าน 1142538 ครั้ง)

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
2  รันนี่ dark เกิ๊นนน ตอนนี้เลยหมองหม่น ไม่ฮาเลย เหอะๆ

PoofuGirl

  • บุคคลทั่วไป
สรัญกับรัญชน์ (เขียนถูกไหมหว่า ?) ดาร์คมาก  :serius2:
อิหนูรัญชน์นี่ยั่ว (?) มาเสียตัวแบบมึน ๆ สินะ แบบเอ๊ะ! เสียตัวแล้ว
เพิ่งรู้สึกว่ากลัว จะหนีก็ไม่ทันแล้วอยู่บนเตียงแล้ว  :hao5:
แอบสงสารนิดหน่อย แต่สรัญจัดไปค่ะ !! FC กลัวคุณน้องเขา
มาสร้างความร้าวฉานให้เฮียเพี้ยนกับนุ้งครีมอยู่

จะว่าไปทั้งสรัญและรัญชน์ต่างก็มีปมหรือเปล่า ??
รู้สึกสรัญที่ปกติจะเป็นคนเฮฮาอะไรอยู่ตลอดเวลา พอฉากนี้
กลับดาร์คได้มืดมากมีปมอะไรในใจ มาไขข้อข้องใจด่วน
ส่วนน้องรัญชน์น้องหน้าตาน่ารักนะ แต่แบบบุคลิกจืดจางมาก
ฮีก็ปมเยอะ รักเฮียเพี้ยน ชอบเฮียเพี้ยน แต่ไม่เคยอยู่ในความทรงจำ
ขนาดเป็นเพื่อนร่วมห้องกันมาเฮียยังจำไม่ได้เลย -_-'
อาจจะเพราะไม่เคยคิดจะพยายามมาก่อนก็เลยต้องเป็นแบบนี้
ถ้าตอนนี้จะมาฮึดอะไรมันก็ไม่ขึ้นแล้วอ่ะค่ะ

ชอบตอนที่สองพี่น้องกอดกันกลมแล้วร้องไห้
ตี๋น้อยกับเจ๊ใหญ่ อ่านแล้วรู้สึกอบอุ่นมากอ่ะ
เราได้กลิ่นมาม่าโชยมาเบา ๆ  :ruready
ดีใจที่มาม่าไม่มาก TT^TT อ่านแล้วแบบเฮียเพี้ยน
ต้องสู้นะคะ นุ้งครีมก็มีเกริ่น ๆ สร้างถนนปูให้เฮียแล้ว
ท่าทางมาม่าบ้านนี้จะกินเป็นลัง โดยเฉพาะป๊า
ท่าจะแรงอยู่... ดูลูกชายสิยังเกรียนได้ขนาดนั้น
ป๊าตี๋คิมกิมจิคงไม่มึนแบบป๊าของเจ้าลูกเจี๊ยบหรอก

ถ้าตี๋น้อยเราทำผมสีน้ำตาลแล้ว น่ารักซะขนาดนี้
ตอนเปิดเทอมรับน้องจะมีคนมารุมจีบไหมน๊า!!
เฮียเพี้ยนต้องวิ่งโร่ไปเป็นไม้กันหมาแล้ว
  :really2:

ออฟไลน์ Dark_Noah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 838
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-3
สงสารพี่รัญชน์จัง  :hao5:
แอบโมโหสรัญขึ้นมาหน่อยๆ แล้ว  :katai1:

ออฟไลน์ CarToonMiZa

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6338
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +820/-41

ออฟไลน์ mystery Y

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +585/-12
นำ้ตาคลอ...ผิดหวังยังไงไม่รู้กับคู่สองรัญ ทุกคนเหมือนมีอะไรในใจ อึดอัดกันไปหมด เฮ้อ~

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
พี่น้อง รักกันให้มากๆนะ


 :กอด1:

ออฟไลน์ Mengjie_JJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2

ออฟไลน์ YOSHIKUNI RUN

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 288
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1

ออฟไลน์ watcharet

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 663
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +42/-2
แล้วถ้ารู้ความจริงที่น้องชายดันชอบผุชายซะเอง เจ้ใหญ่จะรู้สึกอย่างไรกัน???

ออฟไลน์ toou

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1051
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-3
ขอให้ผ่านไปได้ด้วยดีน๊าาาาาาาาาาา 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
บรรยากาศชวนเครียดมากกกก :katai1:
แต่การ์ตูนน่ารักมากกกก :o8:

AnimajuS

  • บุคคลทั่วไป
ชอบการ์ตูนอ่ะ ฟินนน :hao7:

ออฟไลน์ narunarutoboyz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 595
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +108/-2
โอ๊ยๆๆๆๆๆๆ  :z3: :z3: :z3: :z3:
ว่าเเล้วไอ้คู่ 2 รัญ มันต้องดราม่า ทำม๊ายยยยยยยยยยยยยยย  :ling1:
เค้าสงสารรัญชน์อ่ะ เรนนี่ใจร้ายยยยยยยย โฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮฮ  :o12:
ไอ้สรัญบ้า ไม่คิดเลยว่าแกจะเลวเเบบนี้ ถึงทุกอย่างที่เกิดจะมาจากการสมยอม แต่แกมันคนฉวยโอกาสไปป่ะ? 
ฮึ่ยยยยยยยย !!  :m16: เดี๋ยวเถอะ !! หลงรักเค้าไปแล้วจะรู้สึก ชิ :a14:

มาถึงเรื่องของน้องคิม เฮ้ออออออออออออ
นี่ก็ได้กลิ่นมาม่าตุตุเเล้วอ่า อ่านเเล้วน้ำตาจะไหล ตอนพูดถึงพี่ชายคนโต รู้เลยว่ามันสะเทือนใจทุกคนมากจริงๆ
จะพยายามคิดว่าดราม่าจะไม่รุนเเรง เพราะเมื่อเกิดความสูญเสีย ส่วนใหญ่คนเรามักจะไม่ทำให้เกิดอีก
แต่จะวิธีไหนนั่นก็อีกเรื่อง ขอให้เป็นไปในทางที่ดีก็เเล้วกันนะ สู้ๆน๊าาาาาาาตี๋น้อย  :กอด1:



เป็นกำลังใจให้เรนนี่เช่นเคยจ้าาาาาาาา  :L2:

ออฟไลน์ ReiiHarem

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 886
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
น้ำตาซึมเลยอ่า เค้าคิดถึงน้องชายเหมือนกัน

ออฟไลน์ mizzmizz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 475
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1

ออฟไลน์ Ningg.Destiny

  • `` เหนียงจื่อ ♥
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 231
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
    • twitter
อ่านไปน้ำตาหยดไป..
ตอนสองพี่น้องพูดเรื่องเฮียร้องตามเลย
กดดันแทนน้องครีมจริงๆ เฮ้อออออ~~


หวังว่าป๊าจะเข้าใจสักวันนึง


อ่อ ! ตอนที่แล้วน้องครีมกับพี่ภพน่ารักมาก
อบอุ่น เขินตามเลย >_________< /////
ตอนแรกอ่านชื่อตอนนึกว่าพี่ภพจะได้ชิมครีม
แต่สุดท้ายก็อดตามเคย 555555555


น้องครีมยั่วบ่อยๆ #มันจะดีนะ อิอิ


ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ boboaje

  • ไม่ชอบหวาน ชอบครบรส
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4
 ได้กลิ่นดราม่าอ่ะ น่ากลัว :ling3:

ออฟไลน์ carmel

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 164
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อ่านอาทิตย์กับปิ่นหยก
พอมาเจอคู่นี้ ตัวบิดเป็นเกลียว ชอบมากๆๆๆๆๆ
ขอบคุณนะคะ

ออฟไลน์ RAINYDAY

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1247/-5
    • FB page
● เล่ห์รักฤดูร้อน ●

ยกที่ 43 – ดูแล




   
         สรัญนั่งกระดิกเท้าอยู่หน้าโทรทัศน์ เปลี่ยนช่องไปมาจนวนกลับที่เดิมและไม่พบสิ่งใดดึงดูดเขาได้สักอย่าง มีแต่รายการน่าเบื่อ พูดจาด้วยเนื้อหาซ้ำซาก ไม่ว่าจะแม่สาวทรงโตหุ่นเนื้อนมไข่ผู้เป็นพิธีกร (แน่ละ...เธอสวย แต่ไม่ใช่แนวเขา) หรือต่อให้เป็นหนุ่มในโฆษณาเครื่องออกกำลังกายซึ่งเขารู้สึกว่าไม่เห็นจะหน้าตาดีไปกว่าตัวเองเท่าไร ก็ไม่ช่วยให้คงสมาธิกับภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอได้มากนัก


         ชายหนุ่มอ้าปากหาวออกมาหวอดใหญ่ บางทีเขาควรกลับไปนอนต่อ ซุกตัวอยู่บนเตียงอุ่นกับผ้าปูที่นอนขมุกขมัว หลังจากตื่นขึ้นขึ้นมาด้วยเสียงเรียกร้องของทางเดินอาหาร ปลุกให้ต้องสะโหลสะเหลออกมาหาอะไรให้มันย่อยไปเป็นพลังงานบ้าง พอข้าวต้มอย่างง่ายที่มีอะไรก็จับใส่หม้อหายเข้าท้องไปทั้งชาม หนังตาก็เริ่มตก นึกไปถึงอีกคนที่ยังอยู่ร่วมห้องแต่เงียบเชียบประหนึ่งไม่มีตัวตน ทั้งที่เขาอุตส่าห์ทำเผื่อไว้ให้อีกชาม แต่ป่านนี้คงเย็นชืดหมดแล้ว
 


         เขาเหลือบมองนาฬิกา ใกล้เที่ยงวันแต่ยังไม่เห็นวี่แววว่ารัญชน์จะเดินออกจากห้องนอน



         เมื่อปิดโทรทัศน์ รอบตัวก็นิ่งสนิทราวกับมีเขาเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตหนึ่งเดียวผู้นั่งเบื่อในพื้นที่ซึ่งเวลาหยุดทำงาน ชายหนุ่มถึงกับเลิกคิ้วเล็กน้อยด้วยความประหลาดใจเมื่อนึกถึงช่วงเวลาที่ไม่สมเหตุสมผล อีกฝ่ายดูไม่น่าเป็นพวกตื่นสายตะวันโด่งเลย



         ความเบื่อหน่ายเรื้อรังถ่วงขาเขาให้จมจ่อมอยู่ตรงนั้นอีกครู่ใหญ่ เหม่อมองแสงแดดแยงเข้ามาผ่านมู่ลี่พลาสติก เกิดเป็นเส้นสายสีส้มทาบทับลงบนพื้นห้อง เขาไล่สายตาตามมันไปช้า ๆ  และเลื่อนไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องนอนแคบ ๆ ซึ่งใช้เป็นสถานที่ร่วมรักกับคนแปลกหน้าหลายคนในความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืน และครั้งนี้ก็เรียกว่าไม่ต่างกันนัก เว้นแต่คู่นอนคนล่าสุดดูจะทำให้เขาอารมณ์เสียนิดหน่อย ตรงที่เอ่ยชื่อคนอื่นออกมาตอนกำลังจะเข้าด้ายเข้าเข็มนี่ละ



         แถมไอ้เจ้าของชื่อนั้นดันเป็นเพื่อนเขานี่สิ



         สรัญกลอกตา นึกสงสัยว่าสามภพมีดีอะไรนักหนานอกจากหุ่นล่ำซึ่งเขาก็มีไม่ต่าง ดูจะเสน่ห์แรงเหลือเกิน โดยเฉพาะกับพวกตัวเล็กตัวน้อยน่าเอ็นดูอย่างที่เขาชอบ ยอมหลีกให้ไปแล้วคนหนึ่งกับคิมหันต์ที่เจ้าตัวดูจะหวงเสียออกนอกหน้า แต่นี่ล่าสุดพอมีเด็กใหม่ก็ยังอุตส่าห์พูดถึงชื่อไอ้เพื่อนเวรให้ได้ยินอีก


   

         และเขาก็ไม่ใช่คนใจดีพอจะยกให้บ่อย ๆ เสียด้วย




         ชายหนุ่มลุกขึ้นบิดขี้เกียจ เดินลากเท้าไปตามเส้นแสงสีส้มบนพื้นกระทั่งหยุดอยู่หน้าประตูห้องนอน เกิดตะขิดตะขวงใจจะเปิดเข้าไปตามปกติขึ้นมาเสียดื้อ ๆ  ราวกับนี่ไม่ใช่ห้องเดิมของเขาที่เคยใช้มาแรมปี




         หลังจากหยุดคิดอย่างไร้สาระอยู่ครู่ใหญ่ จึงจรดข้อนิ้วลงบนบานประตู เคาะเบา ๆ สองสามครั้งก่อนจะเปิดเข้าไป




         ร่างของรัญชน์ยังนอนนิ่งสงบอยู่บนเตียง ท่อนบนที่โผล่พ้นผ้าห่มเปลือยเปล่า กองเสื้อผ้าระเกะระกะข้างเตียงบอกให้รู้ว่าท่อนล่างใต้ผืนผ้าซึ่งคลุมไว้ก็คงไม่ต่าง แผ่นอกชายหนุ่มรุ่นพี่ขยับขึ้นลงเป็นจังหวะ เมื่อเดินเข้าใกล้จึงเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มหลับพริ้ม แพขนตาดำยาวซึ่งปกติซ่อนอยู่หลังเลนส์แว่นทาบลงบนผิวซีดเซียว และเมื่อคืนนี้เขาก็มัวแต่หน้ามืดตามัวด้วยตัณหาของวัยหนุ่ม มัวเมาเกินกว่าจะมานั่งเชยชมริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่อที่จนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ชิมรส


         สรัญย่อตัวลงนั่งบนขอบเตียง นิ่งงันอยู่อย่างนั้นอีกครู่ใหญ่ จะว่าไปแล้ว รูปลักษณ์ของชายหนุ่มตรงหน้าเป็นอย่างที่เขาชื่นชอบจะให้มีในตัวคู่ขาเกือบทุกประการ ตัวเล็ก ๆ (แม้หากดูจากขนาดร่างกายเขา คนส่วนใหญ่ก็มักกลายเป็นมนุษย์ตัวเล็กเมื่อมายืนเทียบไปเสียหมด) หน้าตาน่ารักแต่ยังดูเป็นผู้ชาย ไม่ถึงกับออกสาว และหากนิสัยน่าเอ็นดูตามหน้าตาก็มักจะพิจารณาเป็นพิเศษ



         แต่หนุ่มรุ่นพี่ตรงหน้า ดูเหมือนว่านิสัยไม่เป็นอย่างนั้นเอาเสียเลยนี่สิ



         “น่ารักซะเปล่า” เขาพึมพำ โคลงศีรษะน้อย ๆ พร้อมรอยยิ้มบางเบา “ทำตัวเป็นตุ๊กตาไร้ชีวิต”



         ทั้งที่เขาพูดออกขนาดนี้ แต่อีกฝ่ายกลับยังไม่มีวี่แววแม้แต่จะขยับตัวสักนิด



         “พี่รัน?”



         ไร้สุ้มเสียงหรือการเคลื่อนไหวใดตอบสนอง



         “พี่?”



         สรัญส่งเสียงดังขึ้นอีกหน่อย ก้มลงไปใกล้ใบหน้านิ่งสงบของคนบนเตียง มองชัด ๆ จึงเห็นว่าขอบตาดูช้ำแดงอย่างน่าสงสาร จนต้องมานึกทบทวนเหตุการณ์เมื่อคืนว่าเขารุนแรงเกินไปหรือเปล่า ดูเหมือนจะเป็นครั้งแรกของอีกฝ่ายจริง ๆ  แต่เขาก็ทำไปเพียงครั้งเดียวเท่านั้น เมื่อเห็นว่าเจ้าตัวเอ่ยชื่อคนอื่นออกมาก็หมดอารมณ์เกินกว่าจะสานต่อให้ยืดยาวนัก



         “รัน?”



         เขาลองเรียกชื่ออีกครั้ง คราวนี้ก้มลงไปเอ่ยอยู่ข้างใบหู ให้ความรู้สึกประหลาดเมื่อพูดมันออกมาโดยไม่มีคำว่าพี่นำหน้า ราวกับเขากำลังเรียกชื่อตัวเองกับความว่างเปล่า มีเพียงตัวเขาท่ามกลางความอลหม่านอันไร้สุ้มเสียง ในห้องทึบซึ่งเส้นสายสีส้มจากแสงแดดภายนอกส่องเข้ามาไม่ถึง



         “ไม่หิวรึไง?”



         รัญชน์นิ่งเหลือเกิน จนชั่วขณะหนึ่งเขาเกิดนึกสงสัยอย่างบ้า ๆ ขึ้นมาว่ายังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า


   
         เขาเอามืออังเหนือปลายจมูกอีกฝ่าย อุ่นใจได้บ้างว่ายังมีลมหายใจผ่านเข้าออก แต่ไอร้อนที่ปะทะหลังมือนั้นกลับสูงเกินกว่าปกติอย่างน่าสงสัย



         “รัน?”



         ไร้การตอบสนองเช่นเคย แม้เป็นสิ่งที่คาดไว้อยู่แล้ว ก็ยังอดเป็นห่วงอยู่ลึก ๆ ไม่ได้



         “ไม่สบายหรือเปล่า?”



         ชายหนุ่มทาบมือลงไปบนหน้าผากหนุ่มรุ่นพี่ รับรู้ถึงอุณหภูมิกายร้อนผ่าวผ่านผิวหนังซึ่งสัมผัสกันอยู่ เมื่อลากฝ่ามือแผ่วเบาลงมาถึงพวงแก้มซีดเซียว อีกฝ่ายก็เพียงแต่ระบายลมหายใจผ่านริมฝีปากแห้งผากออกมาเฮือกหนึ่ง จากนั้นก็นิ่งไปโดยไม่ทันรู้ตัวถึงการมีอยู่ของเขาตรงนี้ พาลนึกไปถึงความรักครั้งแรก กับผู้ชายคนเดียวที่ไม่เคยมีเขาอยู่ในสายตา เสมือนหนึ่งกลายเป็นบุคคลคนไร้ตัวตน ก่อนจะมาเป็นสรัญที่เตร็ดเตร่เปลี่ยนคู่ไปเรื่อยเปื่อยเช่นที่เป็นอยู่ปัจจุบัน ไม่เคยจริงจริงจังกับใครอีกนับแต่นั้น


         ผ้าห่มซึ่งคลุมร่างอีกฝ่ายถูกดึงออกช้า ๆ  ผิวขาวละเอียดปรากฏแก่สายตาทีละส่วน ตั้งแต่แผ่นอก เอว หน้าท้อง รอยแต้มแดงช้ำกระจายอยู่ทั่วจนเขายังประหลาดใจตัวเองว่าทำไว้เยอะขนาดนี้เชียวหรือ คราบเปรอะเปื้อนและร่องรอยจากกิจกามเมื่อคืนยังเหลือค้างอยู่บนร่างกายเปลือยเปล่า อีกฝ่ายยังไม่ได้ทำความสะอาดเนื้อตัวเลยตั้งแต่ตอนนั้นกระทั่งบัดนี้


         เขามองสำรวจเนื้อตัวคนตรงหน้า เล้าโลมทั้งร่างด้วยสายตาอันเต็มไปด้วยความหลงใหล พวกตัวเล็ก ๆ น่ากอดรัดให้แหลกคามืออย่างนี้ดึงดูดสายตาเขาเสมอ อดไม่ได้จะลากฝ่ามือผ่านผิวเนียนตั้งแต่อกจนถึงช่วงท้องอย่างเผลอไผล นั่นทำให้ตระหนักขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายกำลังมีไข้ และเขาควรทำอะไรสักอย่างมากกว่าจะมานั่งลวนลามคนหลับเช่นนี้


         ชายหนุ่มลุกไปก้ม ๆ เงย ๆ รื้อลิ้นชักที่โต๊ะข้างเตียง จำได้เลือนรางว่าเคยมียาลดไข้เก็บไว้ คุ้ยดูจึงพบว่าอยู่ส่วนในสุดของลิ้นชัก อยู่ตรงนั้นมานานจนไม่รู้ว่าหมดอายุแล้วหรือยัง สภาพไม่เก่านักน่าจะพอไหวอยู่ เดินออกไปหยิบน้ำเปล่ามาแก้วหนึ่งแล้วจึงกลับมาย่อตัวลงนั่งที่เดิม


         “รัน” 


         เขาเขย่าตัวชายหนุ่มร่างเล็กเบา ๆ  ไม่รู้ด้วยเหตุอันใดจึงทำให้ละคำนำหน้าว่าพี่ เรียกแต่ชื่อของคนที่อายุมากกว่าได้เต็มปากเต็มคำเช่นนี้ 


         “กินยาก่อน”




         เงียบจนเหมือนกำลังคุยกับตุ๊กตา




         “นี่..กินยา แล้วจะนอนหรือไงก็เอา”




         สรัญหยิบเม็ดยาใส่ปากอีกฝ่าย พาราเซตามอลเม็ดโตหลุดเข้าไปอยู่ในปาก แต่รู้ได้ว่ายังไม่ถูกกลืนลงคอด้วยอีกฝ่ายยังไม่รู้สึกตัว พอประคองศีรษะและลำตัวท่อนบนขึ้นมาในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเพื่อจะป้อนน้ำตามก็หกเลอะเทอะไปหมด



         “ไม่ขมหรือ?”



         เขาก้มหน้าลงไปกระซิบ โอบรัดอ้อมแขนตัวเองแน่นขึ้นอีกหน่อยด้วยอดใจไม่ไหว ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งรู้สึกอยากกอดให้จมหายไปในอก ช่างน่าทะนุถนอมพอกับน่ารำคาญที่อีกฝ่ายไม่ตอบสนองอะไรสักอย่าง



         “ไม่กลืนยาแล้วมันจะออกฤทธิ์ได้ยังไง”



         ชายหนุ่มกอดร่างร้อนผ่าวของอีกฝ่ายไว้แน่น มันเป็นพฤติกรรมของคนฉวยโอกาส เขารู้ดี แต่นั่นไม่ทำให้เปลี่ยนแปลงผลลัพธ์อะไร ต่อให้คนในอ้อมแขนจะยินยอมหรือไม่ รู้ตัวหรือไม่ได้สติ เอ่ยชื่อใครออกมาตอนอยู่ในห้วงอารมณ์หวามไหวอย่างถึงที่สุด แต่เขาไม่คิดปล่อยตุ๊กตาชิ้นงามนี้ให้ไปอยู่ในมือคนอื่น ไม่ว่าจะต้องพันธนาการไว้ด้วยความรักหรือความเกลียดชังก็ตาม



         สรัญยกแก้วน้ำขึ้นกระดก อมไว้ในปาก ก้มลงเพื่อประทับจุมพิตหนัก ๆ บนริมฝีปากอีกฝ่าย บังคับให้ดื่มน้ำด้วยวิธีงี่เง่าแต่พอหวังผลได้บ้าง





         ‘เราไม่ควรจูบกัน’





         เขาจำที่รัญชน์บอกเมื่อคืนได้ทุกพยางค์





         ‘เราไม่ได้รักกัน’





         ชายหนุ่มเกร็งแขน บังคับให้อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นรับ น้ำหกเลอะเทอะอีกแล้ว แต่ไม่มีเม็ดยาเหลือค้างอยู่ในปาก มีก็แต่เสียงสำลักออกมาสองสามครั้ง จากนั้นก็เงียบไป






         “งั้นก็รีบรักซะสิ”







         เขาพึมพำ แม้รู้ดีว่าทำเช่นนั้นได้ไม่ง่าย เหมือนกับที่ตัวเองก็ยังรักใครไม่ได้จริงจังจนวันนี้






         "...ภพ..."






         สรัญขมวดคิ้ว สุ้มเสียงแหบแห้งที่ได้ยินจากปากอีกฝ่ายเป็นคำแรกในวันใหม่กลับชวนให้รู้สึกแย่อย่างไรบอกไม่ถูก






         แล้วตัวตนของเขาเล่า? อยู่ที่ไหนแล้ว?







         ชายหนุ่มนั่งเหม่ออีกครู่หนึ่ง นึกสงสัยว่าเขาใช้ชีวิตโดยแกล้งทำเป็นหลงลืมความรู้สึกโดดเดี่ยวที่ว่ามานานเท่าไรแล้ว และมันจะดำเนินไปเช่นนี้จนถึงเมื่อไรกัน






         เขาโคลงศีรษะ แค่นหัวเราะออกมาแล้วถอนหายใจยาว ประคองอีกฝ่ายเบามือให้นอนในท่าที่สบายบนเตียง ส่วนตัวเองลุกไปหากะละมังและผ้าสักผืน สำหรับเช็ดตัวให้ชายหนุ่มรุ่นพี่ผู้สั่นคลอนความเชื่อมั่นเขาได้โดยไม่ต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง






-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-





         “เตรียมของไปเรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”  วัสสานะถามซ้ำอย่างย้ำคิดย้ำทำ

         “น่า ๆ เรียบร้อยแล้ว”

         “ชุดนักศึกษา?”

         “ครบ”

         “ตำรา เครื่องเขียน เอกสาร”

         “หมดแล้ว ๆ”

         “กางเกงใน?” แม้แต่สิสิรก็ยังทำหน้านิ่งถามอะไรอย่างนั้นกับเขาด้วย “เดี๋ยวต้องไปซื้อแบบกระดาษใช้นะ”

         “ก็ต้องเตรียมเซ่” เขาเริ่มโวย

         “ถุงยาง?”

         “เจ้ใหญ่!?” คิมหันต์ทำตาเหลือก “ผมไปเรียนนะไม่ได้ไปร่อน”

         หญิงสาวยักไหล่ หัวเราะเสียงใส “เตือนไว้ไง ป้องกันก่อน โตเแล้วหล่อใช้ได้ เดี๋ยวมีสาวมาล่อลวง”

         “หรือไม่ก็หนุ่ม” สิสิรพูดติดตลก แต่สีหน้ายังนิ่งเช่นเดิม (น้อยคนนักจะรู้ว่าเธอกำลังเล่นมุก) ไม่รู้ว่าแฝงนัยสำคัญอะไรหรือเปล่า เล่นเอาบรรยากาศอึมครึมห้อมล้อมสามพี่น้องครู่ใหญ่ อยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออกจนคิมหันต์เป็นฝ่ายร้องครวญขึ้นก่อน


         “เจ้สิบ้าไปแล้ว!”


         นั่นเรียกเสียงหัวเราะแห้ง ๆ จากพี่สาวคนโตออกมาหนึ่งเฮือก เธอนึกสงสัยว่าสิสิรรู้หรือสงสัยอะไรอย่างที่ตัวเองข้องใจบ้างหรือเปล่า แม้ยังไม่ได้คุยกันจริงจังสักที แต่ดูเหมือนน้องสาวก็คงรู้เรื่องพฤติกรรมประหลาด และการปรากฏตัวซ้ำ ๆ ของสามภพทั้งตัวจริงและในบทสนทนาของคิมหันต์อย่างห่างไกลจากความบังเอิญ แม้ช่วงหลังมานี้อาจไม่ค่อยได้เห็นหน้าเท่าไร แต่เธอยังรู้สึกว่าได้ยินน้องชายเอ่ยถึงเสมอยามเผลอตัว นึกถึงครั้งใดก็อดกังวลขึ้นมาไม่ได้เสียทุกที


         ระหว่างนั้น เด็กหนุ่มผู้เป็นเป้าหมายทางความคิดของวัสสานะก็กำลังกลอกตา บ่นหงุงหงิงต่ออีกนิดหน่อย แต่ไม่มีพี่สาวคนไหนสนใจฟัง

   

         สามชีวิตพร้อมกับสัมภาระซึ่งถูกยัดไว้ท้ายรถเตรียมเดินทางออกจากบ้านในเวลาสาย คิมหันต์ต้องยอมรับว่าใจหายเอาการทีเดียว แม้จะไปร่อนที่อื่นอย่างไรแต่ปกติก็ห่างบ้านไม่นานนัก หลังกอดลาดุ๊กดิ๊กลูกรักที่ส่งเสียงงี้ด ๆ เหมือนรู้ว่าเจ้าของจะไม่อยู่ ฟัดกันอีกครู่ใหญ่จนโดนพี่สาวทักเรื่องทำตาแดง ๆ  เด็กหนุ่มก็รีบกลับไปปั้นสีหน้าเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

         “เป็นอะไรไปเด็กน้อย ยังไม่ทันได้ห่างบ้านเลย” สิสิรแซวน้องชาย ดันหลังเขาเบา ๆ ให้ไปล้างมือแล้วขึ้นรถ “อยู่ใกล้แค่นี้ จะกลับบ้านทุกอาทิตย์ยังได้ ขี้คร้านอยู่ ๆ ไปจะไม่อยากกลับ”

         “ผมไม่ได้อะไรสักหน่อยนี่” เขาเถียง ก้มหน้างุด ๆ ไปปิดประตูรั้วโดยมีเธอเดินตามหลังรอไปขึ้นรถพร้อมกัน สิสิรมักไม่พูดแสดงความเป็นห่วงน้องชายอย่างพี่สาวคนโตเท่าไรนัก แต่การกระทำก็บอกชัดเจนอยู่แล้วว่าเธอเป็นห่วงเขา

         “จ้ะ ๆ” หญิงสาวพยักหน้า มองเขาโบกมือลาหมารักอย่างอาลัยอาวรณ์ ท่าทางจะอยู่นานจนต้องกระตุ้นด้วยการโอบหลังแล้วดันเบา ๆ อีกครั้ง “ไปได้แล้วอาตี๋”


         ท้องฟ้ากลางเดือนพฤษภาคมอึมครึมตั้งแต่เช้า ความชื้นสัมพัทธ์สูงและอากาศร้อนอบอ้าว เมฆทะมึนลอยต่ำอยู่ไกล ๆ เป็นสัญญาณว่าฝนเริ่มตั้งเค้า พาลจะทำให้หดหู่อย่างเลี่ยงไม่ได้แม้ในขณะกำลังปั้นหน้ายิ้มแฉ่ง จากบ้านที่ราชบุรียังไม่ใจหายเท่านี้ ไม่ยักรู้ว่าเขาติดพี่และบ้านสีขาวสองชั้นที่มีหมาโกลเด้นรีทรีฟเวอร์สุดรักคอยแย่งขนมเอาการทีเดียว


         “นิมโบสตราตัส..”  เขาพึมพำ ทักทายด้วยชื่อเมฆซึ่งเห็นอยู่ไกลลิบบนผืนฟ้าเวิ้งว้าง ลืมฟังเพลงเกาหลีจากแผ่นที่พี่สาวอุตส่าห์รื้อมาเปิดเอาใจ


         “เพ้อเจ้อ” 


         สิสิรช่วยตอบ ทำลายอารมณ์ครึ้มเหมือนในมิวสิควิดีโอหมดสิ้น ส่งบิสกิตให้เขาถุงหนึ่ง อาจหวังว่าจะช่วยสงบปากและหยุดความคิดฟุ้งซ่านของน้องชาย แต่คิมหันต์มองมันเพียงแวบเดียวแล้วปฏิเสธ เพราะขนมพวกนี้จะทำให้คิดถึงหมารักจนเกินไป



         ใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึงหอพักของมหาวิทยาลัย ยังไม่ทันได้หลับบนรถเลยด้วยซ้ำ พวกเขาช่วยกันขนของลงมากองเงียบ ๆ  ติดต่อกับผู้ดูแลหอพักเพื่อขอรับกุญแจ เซ็นชื่อเข้าพักและวางเงินมัดจำ

   
         คิมหันต์กวาดสายตาจากในรายชื่อบนหน้ากระดาษที่ถูกเปิดส่งมาให้ รูมเมทของเขาซึ่งควรจะมีสี่คนนั้น ตอนนี้มีลายเซ็นอันแสดงว่าได้เข้าพักแล้วก่อนหน้านี้หนึ่งคน เด็กหนุ่มสะดุดกับชื่อและนามสกุลตั้งแต่แวบแรกที่เห็น



         ‘ธนธร นวกังสดาล’



          แม้จะไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่เขาเคยได้ยินและเห็นหน้าเจ้าของชื่อนี้มาก่อน ลูกชายเจ้าของร้านถ่ายรูป อดีตเพื่อนร่วมห้องบ๊วยของอาทิตย์ช่วงสองปีแรกของมัธยมปลายที่มักถือกล้อง DSLR ติดตัวไปไหนมาไหนด้วยเกือบตลอดเวลา


         “บอมบ์”


         “หืม?” วัสสานะเลิกคิ้วเมื่อเห็นเขาชะงัก


         “เพื่อนที่โรงเรียนอะ” เด็กหนุ่มขยายความแล้วชี้ให้ดู “อยู่คนละห้อง แต่นี่มีชื่อเป็นรูมเมทด้วย บังเอิญจนตกใจเลย”


         “อ้อ”  เธอพยักหน้า รู้ว่าเขามีเพื่อนก็เบาใจลงได้นิดหน่อย  “สนิทกันไหม?”


         “เฉย ๆ”


         “เป็นคนยังไง?”


         “ก็ดี”


         เขาพึมพำ เซ็นชื่อตัวเองในบรรทัดถัดมา จากนั้นส่งสมุดคืนให้เจ้าหน้าที่


         พวกเขาใช้เวลาอีกพักใหญ่กว่าจะขนของเสร็จ บนห้องไม่มีใครอยู่ บอมบ์ผู้มีชื่อเป็นหนึ่งในรูมเมทอาจจะออกไปข้างนอก บรรยากาศโดยรวมไม่ถึงกับเศร้ามากมาย อันที่จริงก็ไม่ได้เรียกว่าไกลบ้านนัก แต่ต้องยอมรับว่าค่อนข้างเหงาอยู่ลึก ๆ บ้างนิดหน่อย


         เขาโบกมือให้พี่สาวทั้งสอง ตั้งใจจะทำตัวเป็นปกติ แต่กลับโดนพวกเธอทักว่าอย่าทำหน้าแหยไปเสียได้


         “ผมเปล่าสักหน่อย” เด็กหนุ่มยืนกราน


         จนเมื่อพี่ ๆ จะหันหลังกลับ จึงได้ถลาเข้าไปกอดหมับอย่างเด็กขี้อ้อน


         “กลับดี ๆ นะเจ้”


         สิสิรหัวเราะเบา ๆ บ่นอะไรคล้ายว่าจะเป็น “ไอ้ลูกแหง่”  ส่วนวัสสานะเอื้อมมือมาลูบผมเขาอ่อนโยน พร้อมกำชับให้ตั้งใจเรียน ป๊ากับม้าก็เชียร์อยู่ที่บ้าน



         เขายืนส่งจนรถของพี่สาวหายลับไปจากสายตา ครู่หนึ่งจึงก้มลงมองโทรศัพท์มือถือ สามภพส่งข้อความแชตมาว่าหากถึงหอแล้วให้โทรบอก แต่ให้ทำตามจริง ๆ ก็ออกจะดูว่านอนสอนง่ายจนน่าหงุดหงิดตัวเองไปสักหน่อย แม้ไม่ปฏิเสธว่าอยากเจอหลังจากที่ไม่ได้เห็นหน้าหลายวัน ทว่ากลับตัดสินใจจะรอไปก่อนอีกสักพักค่อยบอก


         เขากำลังเตรียมเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าอยู่พอดี ตอนที่มันสั่นอยู่ในมือ



         ‘หมาบ้า’



         คิมหันต์ลอบยิ้มออกมาน้อย ๆ กับชื่อที่ตัวเองบันทึกเอาไว้ เห็นทีไรก็ขำทุกครั้ง นี่ช่างโทรมาได้จังหวะเหลือเกิน ทำอย่างกับซุ่มดูอยู่ที่ไหนสักแห่งอย่างนั้นละ


         เด็กหนุ่มระบายลมหายใจยาว กระแอมหนึ่งครั้งอย่างวางฟอร์ม ก่อนจะกดรับสายแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู


         “ไง เฮียเพี้ยน”

   
         “ข้างหลัง” 


         แล้วตามด้วยเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ


         เขาสะดุ้ง เพราะเสียงนั้นดังทั้งจากในสายและข้างนอก รีบหันขวับไปมองตามทิศทางที่อีกฝ่ายกล่าวอ้าง แล้วก็พบเจ้าของเสียงกำลังยืนกอดอก ยักยิ้มโชว์ฟันเขี้ยวอย่างน่าหมั่นไส้ ท่าทางบอกชัดว่าคงยืนอยู่นานแล้วไม่ใช่ว่าเขาคิดไปเอง เป็นอันว่าเห็นท่าทางกระแอมก่อนรับสายของเขาจนทำหน้าบานแฉ่งอยู่เช่นนี้ พอสบตากันก็รีบออกปากทวงทันที

         “พี่บอกถึงแล้วให้โทรมาไม่ใช่หรือ?”

         “ก็กำลังจะโทรไง” เขาแถไปเรื่อย

         “กำลังเก็บมือถือเข้ากระเป๋าชัด ๆ”

         เห็นอีกแน่ะ!

         “ให้เวลาทำใจกันนิดนึงดิ”

         สามภพส่ายหน้าอ่อนใจ เดินตรงเข้ามาหาพร้อมรอยยิ้ม ดูดีผิดภาพลักษณ์เฮียหมาบ้าขี้หงุดหงิดอย่างเดิมไปไกลโข “ต้องทำใจอะไรเยอะแยะ ไม่ได้ขอแต่งงานเสียหน่อย”

         “เฮียเพี้ยนแม่ง—”

         “ไปอยู่คอนโดพี่ไหม?”

         เขายังโอดครวญไม่ทันจบด้วยซ้ำ คำถามเดิมมาอีกแล้ว เป็นลูกอีช่างตื๊ออะไรอย่างนี้

         “อย่างที่เคยเห็น ห้องยังว่าง เตียงยังกว้างพอสำหรับลูกหมาอีกสักตัว”

         ชายหนุ่มพูดต่อลอย ๆ ระหว่างเอามือดันหลังเขาเบา ๆ  พาเดินเตร็ดเตร่ห่างออกไปจากหอพัก พร้อมกับชี้ชวนให้ดูอาคารสถานที่ในบริเวณใกล้เคียงไปด้วย ตรงนั้นคาเฟทีเรีย ถัดไปเป็นร้านเบเกอร์รี่ อีกฝั่งมีร้านสะดวกซื้อ ออกจากประตูอีกด้านขายอาหารญี่ปุ่น นั่นนู่นนี่แล้วก็วกกลับมาเรื่องเดิมอีกรอบ

         “ถึงเขาจะห้ามเลี้ยงสัตว์ แต่ไอ้ตัวตาตี่ ๆ แบบนี้คงไม่เป็นไร”

         ว่าจบก็หัวเราะชอบใจในลำคอ ปล่อยอีกฝ่ายทำหน้ายุ่งอย่างไม่รู้จะเริ่มเถียงเรื่องไหนก่อน เลยยกประเด็นหลักมาโวยสักเรื่อง

         “พวกเจ้เพิ่งมาส่งผมที่นี่แหม็บ ๆ  จะให้ไปอยู่ที่ไหนกันเล่า!?”

         “จะให้ไปอยู่คอนโดนี่ไง” สามภพตอบหน้าตาย

         “ไม่เอาละ” เด็กหนุ่มพึมพำ ทำหน้าซื่อตาใสอย่างจงใจยียวน “เดี๋ยวที่บ้านเป็นห่วง”

         “หวงหรือ?”

         “หวงสิ”

         คนฟังหัวเราะ ยกมือขยี้ผมอีกฝ่ายเบา ๆ  ยอมรับการตัดสินใจอย่างเสียมิได้ 

         “เอาเถอะ อยู่หอในก็ได้ แล้วจะมาหาบ่อย ๆ”

         คิมหันต์มองเขาตาแป๋วอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็คล้ายจะรู้สึกตัวว่าจ้องนานเกินไปแล้วจึงหันไปก้มหน้างุด เตะก้อนกรวดไปมา บ่นงึมงำพร้อมกับเดินเข้ามาเบียด เผลอแผล็บเดียวก็เอามือเกาะเอวอย่างถือวิสาสะ


         “ทำไมช่วงนี้ใจดีวะ”


         เขายิ้มบางเบา มีแต่คำตอบน้ำเน่าอยู่ในหัวจึงเลือกจะเงียบมากกว่า ปล่อยให้อีกฝ่ายเจื้อยแจ้วต่อ


         “อย่างถ้าค้างบางวัน...อะไรงี้ได้ไหม?”


         “หืม?”


         “อย่างเช่นวันที่จะให้ติวหนังสือ”


         “อ้อ”

   
         ชายหนุ่มเลิกคิ้ว รอฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไรอีกหรือเปล่า และคิมหันต์ก็เอ่ยปากต่อจริง ๆ หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งคล้ายจะใช้เวลาทำใจ





         “หรือวันที่คิดถึงเป็นพิเศษ”





         แล้วใบหูเด็กหนุ่มก็เปลี่ยนเป็นสีแดงแจ๋




         ให้ตายเถอะ ไอ้เด็กนี่มันน่าฟัดจนเขาแทบคลั่งตายได้อยู่แล้ว นึกไม่ออกเลยว่าจะเก็บอาการไม่ให้ฉีกยิ้มออกมาเหมือนคนบ้าต่อหน้าสาธารณชนได้อย่างไร



         “แล้ววันนี้ล่ะ?” เขาเกริ่น พยายามสงบจิตสงบใจและบอกตัวเองว่าอย่าไปหวังอะไรมากนักกับคิมหันต์ ไอ้ตัวแสบนี่ทำเขาค้าง (ในหลาย ๆ ความหมาย) มากี่ครั้งกี่หนกันแล้ว เผลอดิ้นตามเมื่อไรเป็นอันเสียท่าเด็กอยู่เรื่อย “คิดว่าไง”



         “..ก็..”



          คิมหันต์อ้อมแอ้ม กระซิบเบาหวิวจนเกือบกลืนหายไปกับเสียงมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งฉิวผ่านไปพอดี




         “...คิดถึง..”

   


         เขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นลูกโป่งใบยักษ์ กำลังพองลมจนแทบปริแตก ใจเต้นตูมตามราวกับจะกระโดดออกมานอกอก ลุ้นจนต้องกลั้นใจตอนที่เอ่ยปากถามต่อ



         “เป็นพิเศษ?”

   
   
         “..ถ้าห้องว่างพอสำหรับคนหล่อ ๆ อีกสักคน..” คิมหันต์ว่าพลางเกาแก้มสีระเรื่อไปด้วย “..ก็อาจจะพิเศษนิดหน่อย” 


   
         พูดเสร็จก็ยักไหล่ ทำเก๊กกลบเกลื่อนอาการขัดเขิน แต่ผลลัพธ์กลับยิ่งเงอะงะจนมือไม้ดูเกะกะไปหมด ทั้งน่ารักและน่าแกล้งอย่างท้าทายความอดทนกันถึงที่สุด



         “เมื่อกี้พี่บอกว่าว่างสำหรับลูกหมาตาตี่ ๆ ต่างหาก”  เขาแย้ง เอ็นดูอีกฝ่ายตอนกระฟัดกระเฟียดพอกับตอนทำตัวน่ารัก แม้ในหัวเห็นภาพตัวเองอุ้มไอ้ตัวแสบกลับไปนอนกกถึงไหนต่อไหนแล้ว “ไม่ได้บอกว่ามีที่สำหรับคนหล่ออีกคนเสียหน่อย”

   


         “งั้นก็หาหมามาเลี้ยงไป!”




         อีกฝ่ายแยกเขี้ยวแง่ง ๆ  แต่แล้วก็จบลงอย่างรวดเร็วเมื่อเขาดึงแขนเจ้าตัวเข้ามาใกล้ เอาตัวบังให้เข้าไปหลบอยู่ในซอกตึก แขนสองข้างกักคิมหันต์ไว้ระหว่างผนังและร่างของเขา ก่อนจะก้มลงไปสบตาในระยะประชิด แตะนิ้วชี้ลงบนปลายจมูกเด็กหนุ่มแผ่วเบาพร้อมกับส่งเสียงกระซิบแหบพร่า




         “จะเลี้ยงคนนี้”




         เขาคลี่ยิ้มละมุน ขณะที่อีกฝ่ายทำสีหน้าตระหนกอย่างน่ารัก อ้าปากค้างแต่ไม่มีเสียงอะไรออกมาจนกระทั่งเขาพูดต่อ




         “จะดูแลอย่างดี”




         “..เฮียเพี้ยน”





         “ยอมให้เลี้ยงได้ไหมครับ?”


   


- หมดยกที่ 43 -






-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-




มาต่อแล้วค่าาา แอบแทรกสองคู่ในตอนเดียวราวครึ่ง ๆ ได้ พูดถึงสองรันเยอะหน่อย อย่าเพิ่งหน่วงกันน้า~ //ห้ามได้ด้วยเหรอ? (ฮา)
คิมหันต์ใจก็ไปเยอะแล้วเหอะ เฮียเพี้ยนเตรียมไปสู่ขอได้เลย 5555
ปล. บอมบ์เคยออกราว ๆ สองครั้งในเรื่อง 'รัก...ติดดิน' ค่ะ เป็นเพื่อนอาทิตย์สมัยเรียนห้องบ๊วยที่เคยถ่ายรูปคู่(?)อาทิตย์กับปิ่นหยกเอาไว้ได้ ไม่รู้จะคุ้น ๆ บ้างหรือเปล่า

ตอนนี้แอบงดของแถมก่อนนะคะ มีแค่รูปเดียว รอรวม ๆ กันก่อน แต่ดูก่อนได้ที่เพจเช่นเคยค่ะ ^^

ขอบคุณคนอ่านผู้น่ารัก *กอดฟัดดด*  :กอด1: :L2: :pig4:

พบกันใหม่ยกหน้าค่ะ :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-06-2013 23:01:41 โดย RAINYDAY »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
อร้ายยยยย เรนนี่กลับมาแล้ววว 555 :กอด1:

  “หรือวันที่คิดถึงเป็นพิเศษ”  โอ้ยยย ประโยคนี้ว่าเขินแล้ว :m1:

         “ยอมให้เลี้ยงได้ไหมครับ?” ประโยคต่อไปทำให้สลบไปพร้อมกับความฟิน :m3:

น่ารักจริงๆอ่ะคู่นี้ ไม่รู้ตอนดราม่าจะเลือดสาดขนาดไหน555 :m13:

มาต่อเร็วๆน้าาาา :จุ๊บๆ:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-06-2013 22:26:57 โดย Theomen »

ออฟไลน์ pilar

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-14
อะไร้!!
สั้นไปนะคะ!!!
ขอยาวๆ >w<!!!

ออฟไลน์ leeyaoi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 57
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 ถ้าจะหวานกับแบบเน๊!!!!!!!!!!

 ฟิน" ยอมให้เลี้ยงได้ไหมครับ " กับ "คิดถึงเป็นพิเศษ " จนจะเป็นลมแว๊ววววว


 วิบัติเพื่อความฟิน >////<

 ว

 

benzxzxnb

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าถามว่าจำบอมส์ได้มั้ย

ตอบเลยว่าไม่ด้ายยยยยยย


แต่ยังไงก็คงไม่ก่อปัญหาในกับภพคิมนะ  :mew2:

ออฟไลน์ Infinity 888

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2026
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +157/-7
ชูป้ายไฟ เลี้ยงเลย เลี้ยงเลย

คิมน่ารัก น่าเลี้ยงมาก คิดถึง :o8: เฮียภพเกือบทนไม่ได้เลยทีเดียว


ออฟไลน์ em1979

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 464
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-1
เก็บกระเป๋าไปคอนโดเฮียเลย ด่วนๆ

ออฟไลน์ KilGharRah

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 856
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +169/-0
โอ๊ยยยยย เฮียมันน่ารักจริงอะไรจริง หยอดได้เป็นหยอด  :katai2-1:
น้องครีมก็"คิดถึงเป็นพิเศษ"บ่อยๆน๊าาาา

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7
เฮียเพี้ยนน่ารักเกิ๊นนน

 :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ Mengjie_JJ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 221
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
น่ารักกกกก

อยากจับคิมมาฟัดให้ตัวเหลว

อร๊ายย

 :ling1:

ออฟไลน์ nn~~NN

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1232
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +295/-1
เป็นตอนที่แบ่งสีเทากับชมพูได้ชัดเจนมาก!  :ling1:
หน่วงนะคะคู่บน ยังไงลวนลามเสร็จก็ปฐมพยาบาลคนป่วยมั่งไรมั่งน้อ ไม่ใช่ให้นอนเป็นผักอยู่อย่างนั้น
คนไม่มีตัวตนสองคน ซักวันคงเห็นตัวตนของกันและกันน้อ...

ส่วนน้องคิม....พี่ก็อยากจะกรี๊ดไปสามบ้านแปดบ้าน อะไรจะอ้อนขนาดนั้น
คือไม่ต้องมาขอเป็นฟงเป็นแฟนแล้ว ข้ามช็อตแล้วแบบนี้ ขอแต่งเลยเห้ออออ  :hao7:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด