แอบมารัก ... ก็ไม่บอก 20/05/2015
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แอบมารัก ... ก็ไม่บอก 20/05/2015  (อ่าน 413173 ครั้ง)

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
หลังจากนั้นเราสองคนก็เดินมาที่สวนหย่อมข้างอาคาร ในเวลาหลังเลิกเรียนแบบนี้ ทำให้สถานที่แห่งนี้เงียบสงบยิ่งกว่าเดิม ผมนั่งลงที่ม้านั่งไม้ แล้วมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของรุ้งที่กำลังทอดมองภาพเบื้องหน้า


“ปอมีแฟนแล้วสินะ”


ประโยคเกริ่นนำของรุ้งทำให้สวนหย่อมที่ร่มรื่นและสงบเงียบนั้นแลดูน่ากลัวขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด ผมกลั้นลมหายใจของตัวเองเล็กน้อย ทั้งที่เตรียมใจมาแล้วว่าคงต้องได้ยินเรื่องนี้ด้วยแน่ แต่ผมก็ยังไม่อาจทำใจให้นิ่งและเป็นปกติได้


“อืม” ผมตอบรับ ก่อนจะมองดอกไม้และต้นไม้ที่ถูกดูแลเป็นอย่างดี ทั้งที่ในใจกำลังปั่นป่วนและลำบากใจอย่างที่สุด


“รุ้งรู้สึกแปลกยังไงก็ไม่รู้” รุ้งพูดขึ้น ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วหันมาทางผม “แปลกจังเลยนะที่สุดท้ายกลายเป็นแบบนี้ไปได้”


ผมนึกหาคำพูดไม่ออก ตอนนี้ทำได้เพียงสบดวงตากลมโตที่มองมาครู่หนึ่ง แล้วเบือนหน้าหนี


ผมไม่เข้าใจว่ารุ้งคิดอย่างไรกันแน่ที่มาพูดเรื่องนี้ แต่ผมพอจะเคาได้ว่าเธอคงตกใจ แล้วก็เสียใจล่ะมั้ง


ในเมื่อผู้ชายที่เธอชอบดันมาชอบผู้ชายด้วยกัน แถมผู้ชายคนนั้นก็ยังเป็นคนเดียวกับที่เคยจีบเธอมาก่อน ถ้าเป็นผมเองก็คงตกใจและสับสนมาก


“ขอโทษนะ”


ในเวลานี้คำพูดเดียวที่ผมนึกออกก็มีอยู่เท่านี้ ผมคงเป็นผู้ชายที่ใช้ไม่ได้จริงๆ นั่นแหละ


“ขอโทษทำไม” รุ้งพูดขึ้น พร้อมกับรอยยิ้มที่ระบายออกมา “แต่แน่ใจแล้วหรือว่าจะคบกับผู้ชายแบบนั้น”


ผมหันไปมองรุ้งที่มีสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาสวยสีดำนิ่งสงบ แต่ก็แฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่าง ผมได้แต่มองอย่างครุ่นคิด


“ทำไมเหรอ”


“รุ้งเป็นห่วงปอนะ” รุ้งหันมาบอก แล้วเบือนหน้ากลับไปทางเดิมด้วยรอยยิ้มที่ประดับตรงมุมปาก “ผู้ชายพรรค์นั้น...”


ผมก็ได้แต่มองใบหน้าหวานด้วยความสับสน พร้อมกับนึกตามคำพูดของเธอด้วยความแปลกใจ รุ้งถอนหายใจออกมา


“ดิวไม่ใช่คนดีอย่างที่เห็นหรอกนะ” รุ้งบอก แล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย


ผมไม่ได้ตอบอะไรไป ในเมื่อผมเองก็รู้ดีว่ามันไม่ได้เป็นคนดีนัก มันก็แค่ยิ้มเก่ง แล้วก็ใจดีกับผม...ก็เท่านั้น


“รุ้งรู้ว่ามาพูดแบบนี้ไม่ดี แต่รุ้งไม่อยากให้ปอหลงผิดแบบรุ้งอีกคน”


“หลงผิด?” ผมทวนคำอย่างสงสัย ตอนนี้ผมรู้เพียงอย่างเดียวว่าหลงมันเข้าไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มหรือท่าทางที่แสดงออกมา


มีคนเคยกล่าวเอาไว้ ความรัก...ทำให้คนตาบอด ผมเพิ่งจะเข้าใจตอนนี้นี่แหละครับ


หรือนั่นจะเป็นการหลงผิดด้วยหรือเปล่า...


“มีเพียงเหตุผลเดียว...ที่ทำให้ดิวเข้ามาตีสนิทกับรุ้ง” 'รุ้งพูดขึ้น พร้อมกับมองมาที่ผม “เขาก็แค่อยากทำให้แน่ใจว่า คนที่เขาต้องการจะไม่ตกไปเป็นของคนอื่น หึ...ปอรู้ใช่ไหมว่าคนๆ นั้นเป็นใคร”


ความเงียบทำงานขึ้นอีกครั้ง ผมได้แต่หลบตาอย่างคนที่จนต่อคำพูด เวลานี้รุ้งกำลังฟ้องว่าเธอถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสานความรักของผมกับดิว


ผมไม่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไร แต่ผมก็ทำได้แค่โทษไอ้ตัวดีอยู่ในใจ


ทำไมมันต้องทำอะไรแบบนี่ด้วย...


“เราไม่รู้หรอกนะว่ามันไปทำอะไรกับรุ้งไว้บ้าง  แต่เราก็ขอโทษแทนมันด้วยแล้วกัน” ผมพูดขึ้นเท่าที่ตัวเองจะนึกออก แน่นอนว่าผมต้องไปจัดการกับคนก่อเรื่องทีหลังแน่


“ปอคงชอบดิวมากเลยสินะ” รุ้งพูดขึ้นด้วยดวงตาที่สั่นไหว ก่อนเธอจะเบือนหน้าหนี “แต่ก็ช่างเถอะ! ตอนนี้รุ้งก็เหมือนคนที่ตาสว่างอีกครั้ง เป็นแบบนี้อาจจะดีแล้วก็ได้”


“รุ้ง...”


ผมเรียกชื่อของเธอแผ่วเบา ถึงรุ้งจะพูดมาแบบนั้น แต่ผมรู้ดีว่าเธอต้องเสียใจกับเรื่องนี้มากแน่ๆ แต่จะให้ผมคืนดิวให้ตอนนี้ ผมก็ทำไม่ได้หรอกครับ


“ตั้งแต่ที่รุ้งรู้ความจริง รุ้งก็คิดมาตลอด...” รุ้งบอก ก่อนใบหน้าหวานจะหันมามองผม พร้อมกับรอยยิ้มอ่อนจาง “ว่าหลงไปชอบคนที่หลอกคนอื่นด้วยรอยยิ้มแบบนั้นไปได้ยังไง”


คำพูดของรุ้งทำให้ผมมึนงงไปชั่วขณะ ก่อนจะนึกถึงใบหน้าหล่อเหลาที่มักแต้มด้วยรอยยิ้มชวนมองและท่าทางเอาใจใส่ที่ทำให้ผมคล้อยตาม


อีกด้านหนึ่งของความใจดีทีมีให้ผมนั้น แต่กลับเป็นความใจดำที่ทีให้ผู้หญิงอีกคน...


รอยยิ้มที่ทำร้ายคนอื่น…


ในชณะที่ผมกำลังจมปลักกับความคิดของตัวเอง อยู่ดีๆ ร่างของรุ้งก็พุ่งเข้ามาหาผมอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ก่อนที่วงแขนเรียวจะกอดคอของผมไว้ และทำให้ใบหน้าของเราสองคนประชิดกัน


ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ จังหวะของชีวิตเต้นเร็วและรุนแรง    


“รุ้ง...จะทำอะไรน่ะ!” ผมถามด้วยน้ำเสียงเบาหวิว  พร้อมกับรับรู้ได้ถึงสัมผัสทางกายที่ใกล้ชิดกันมากขึ้น นัยน์ตาหวานสบมองผม ก่อนทีริมฝีปากสีชมพูจะระบายยิ้มออกมา


“ไม่ต้องห่วงหรอก รุ้งแค่อยากจะเอาคืนบ้าง” รุ้งกระชิบบอก แล้วเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้มากยิ่งขึ้น


ผมผงะถอยหนีอย่างตกใจ เมื่อระยะห่างระหว่างเราลดน้อยลงอย่างน่าหวาดเสียว ทว่าแขนเรียวที่คล้องคอของผมเอาไว้เป็นเหมือนกำแพงที่กั้นไม่ให้ผมดิ้นหนี แล้วน้ำเสียงหวานก็ดังขึ้นอีกครั้ง


“มีคนกำลังมองอยู่น่ะ”


ผมได้แต่มองรุ้งอย่างตื่นตระหนกและร่างกายที่แข็งทื่อ สิ่งที่อยู่ภายในใจกำลังร้องห้าม ทว่าริมฝีปากกลับนิ่งสนิทด้วยความคิดที่ยังตีกันยุ่งเหยิง


เพียงไม่กี่วินาทีที่เรียวปากสีหวานเคลื่อนเข้ามาใกล้ พลันแรงปริศนาก็กระชากผมจากด้านหลัง และทำให้เหตุการณ์น่าหวาดเสียวต้องหยุดชะงัก


รุ้งปล่อยมือออกจากร่างของผม ก่อนจะจับปลายผมที่รัดไว้อย่างสงวนท่าที ผมไม่ได้นึกสนใจคนตรงหน้าอีก แต่หันกลับไปมองด้านหลังในทันที   


“ดิว...”



:: +++++++++++++++  ::



ผมสบตากับดิวที่จ้องใบหน้าของผมนิ่ง ก่อนจะเลื่อนไปมองหญิงสาวผู้ร่วมก่อเหคุ แล้วยิ้มออกมา ทว่ารอยยิ้มนั้นมันช่างดูน่ากลัวสิ้นดี


“ดิวมาทำอะไรแถวนี้เหรอ” รุ้งถามขึ้น แล้วยิ้มออกมาอย่างไม่ทุกข์ร้อน


“พอดีดิวมาตามแฟนน่ะ” ดิวตอบ ก่อนจะมองหน้าของผมที่ยังตั้งตัวไม่ติด “ไม่นึกว่าจะเจออยู่ที่นี่เลยนะ ไหนว่าลืมของที่ห้องไง”


“พอดีเจอรุ้งน่ะ แล้วแบบว่า...”
“ดิวให้มาเก็บของที่ลืมไว้ ไม่ได้หมายถึงคนที่ลืมไว้ด้วย”


ผมก็ได้แต่นิ่งอ้าปากค้าง เพราะพูดอะไรไม่ออก กลังจากที่ได้ยินคำพูดนั้น ผมรู้สึกได้ถึงลำคอที่ตีบตันขึ้นมากะทันหัน ทว่าช่วงนาทีดับจิตก็เกิดเพียงชั่วขณะเท่านั้น ก่อนความเงียบที่แสนกดดันจะถูกทำลาย


“คนที่ถูกลืม” รุ้งพูดขึ้น พร้อมกับลุกจากม้านั่ง นัยน์ตาหวานจ้องมองผู้มาใหม่ไม่ละสายตา “เย็นชาจังเลยนะดิว”


“ดิวก็แค่พูดความจริง” ดิวบอก ก่อนจะหันมามองผม “ทำหน้าเอ๋ออยู่ได้ กลับกันได้แล้ว” แล้วมันก็ฉุดผมให้ลุกขึ้น


ผมได้แต่อ้ำอึ้ง ก่อนจะลุกตามแรงดึงของอีกฝ่าย ในขณะที่ดิวกำลังพาผมออกจากสวนหย่อม เสียงของรุ้งก็ดังไล่จากด้านหลัง


“ปอ! ขอบใจสำหรับทุกอย่างในวันนี้นะ รวมถึงจูบเมื่อกี้นี้ด้วย”


งานเข้า...


ดิวหยุดชะงักในทันที ก่อนจะหันกลับไปมองรุ้ง ผมถอนหายใจอย่างนึกปลงชีวิตของตัวเอง

 
ทำไมรุ้งถึงพูดแบบนั้นเล่า!


ขณะที่ผมกำลังจะบอกความจริงถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ต่างให้กับตัวเอง ทว่าสียงของคนข้างตัวก็ดังขึ้นมาเสียก่อน ถึงแม้โทนเสียงจะนิ่งเรียบ แต่ผมก็รับรู้ได้ถึงแรงที่จับแขนของผมแน่นขึ้น


“หึ...ก็แค่จูบลา ดิวไม่ถือ”


เล่นออกอาการขนาดนี้ กูไม่เชื่อมึงหรอก..



TBC >>>>>>>>>>>>>>>



NOTE :::  :z13:



มาลงแล้วจ้า เย้ๆ
ขอสารภาพตามตรงว้า ตอนนี้แต่งขึ้น เพื่อกำจัดรุ้งโดยเฉพาะ ฮ่าๆ (หลังจากกำจีดพี่น็อตไปแล้ว อิอิ)
แล้วก็ให้มีงอนกันนิดหน่อยพอให้มีชีวิตชีวา เอิ๊กๆ


ตอนหน้าดิวก็จะเริ่มหางโผล่อีกเล็กน้อย ช่วยติดตามกันด้วยนะคะ
สามารถแนะนำและติชมได้เช่นเคย
ขอบคุณสำหรับการติดตามค่ะ

สำหรับผู้ที่สนใจหนังสือ ตอนนี้มีให้เปิดจองแล้วนะคะ ติดตามได้ที่หน้าแรกจ้า ^^
ช่วงนี้อากาศแปรปรวนมากๆ ก็รักษษสุขภาพกันด้วยนะคะ
รักและเป็นห่วงเสมอจ้า  :mew1:

(เริ่มติดเชื้อเน่าจะากดิว อิอิ)



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2013 23:05:39 โดย marionatte »

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
งั้นสรุปว่าดิวก็ชอบแมลงปอตั้งแต่แรกเลยสินะ
แมลงป๊อออออออออออทำไงอะเตงเค้าอยากได้แบบดิวบ้าง *___* 5555555555555555
ประโยคสุดท้ายนี่แบบจ้า ชอบคนแบบนี้มันดูมีเล่ห์5555555555555
บายรุ้ง เข้าใจรุ้งนะแต่ให้ทำไงได้ ดิวเป็นของแมลงปออออ~~~

ออฟไลน์ tpaibull

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ชะนีร้ายยยย เอาใจช่วยปอนะ

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
อ่านแล้วก็ไม่รู้สึกไม่ชอบรุ้งนะ เพราะดิวก็เหมือนไปหลอกรุ้งก่อนจริงๆ เพื่อกันท่าไม่ให้แมลงปอไปคบรุ้งอ่ะ
รุ้งก็ขอเอาคืนนิดๆ หน่อยๆ  o18

คิดว่าดิวคงทำไรเจ้าเล่ห์ไว้เยอะกว่าจะได้แมลงปอมาเนี่ย
กำลังหนุกเลย ไว้มาอัพเดทเร็วๆ นะ

ออฟไลน์ puppyluv

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2539
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2000/-20
รุ้งช่างเสี้ยมได้จังหวะ
แมลงปอก็ซื่อเิกิ๊น
จะโดนดิวจัดหนักรึเปล่าไม่รู้
แต่กดบวกและเป็ดรอ
เค้าไม่เอามาม่าได๋ปะ ขอน้ำตาลท่วมคอก็พอ 555
 :hao7:

Ella Killer

  • บุคคลทั่วไป
อยากเห็นดิวโหมดดาร์กบ้างอ่ะ  :hao7:

ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
ปอบอกความจริงกับดิว ดิวคงเชื่อใจปอมากกว่าคนอื่น ขอให้ไม่มีปัญหากันนะ

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
แจ้งข่าวดีจ้า  :mc4:

แวะมาแก้ไขราคาหนังสือจ้า เนื่องจากมีคนแอบมาบอกว่า...อยากให้ลดอีกนิด อิอิ

เพราะไม่ได้ทำขาย แต่สนองความต้องการ (แบบว่าหาคนแชร์ อิอิ) เลยขออนุญาตเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย
ขออภัยในความไม่สะดวกจ้า

ขอบคะณค่ะ


ปล. จะลงตอนหน้าอาทิตย์หน้าจ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17-10-2013 23:58:39 โดย marionatte »

ออฟไลน์ p_a_n

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 177
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
แหมะ!ดิวไม่ถือ. คนอ่านก็ไม่เชื่อจ้า555แมลงปอโดนแน่ๆเลย>.<

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
ตอนที่ 31




หลังจากเดินออกจากสถานที่เกิดเหตุเพีฟยงไม่กี่ก้าว ผมก็ได้แต่มองคนที่เดินมาด้วยกันไม่พูดไม่จา บรรยากาศที่เงียบอยู่แล้วก็ยิ่งเงียบกว่าที่เคย  ผมไม่อาจทนกับท่าทางนิ่งเฉยที่มันเป็นอยู่ตอนนี้ได้


“ดิว กูยังไม่ได้...”


“อย่าพิ่งพูดอะไร”


ผมมองใบหน้าที่เรียบนิ่งอย่างคนใจไม่ดีนัก ผมไม่อยากให้มันเข้าใจผิด และที่สำคัญผมเป็นเพียงผู้รับเคราะห์เท่านั้น


“แต่...”


“แมลงปอ... ดิวกำลังอารมณ์ไม่ดี”


เนื้อความที่ประกาศชัดเจน ทำให้ผมปิดปากสนิท ก่อนจะมองดิวที่เดินไปหยิบกระเป๋านักเรียนที่ฝากไว้กับยาม แล้วเดินนำออกไปก่อน



:: +++++++++++++++  ::



เมื่อไหร่มึงจะอารมณ์ดี...


ผมได้แต่คิดกับตัวเองพลางมองคนที่ขับรถไม่พูดอะไรสักคำ จากเดิมที่จะเปิดเพลงตอนขับรถเสมอ แต่เวลานี้กลับไร้ซึ่งสรรพเสียงใดๆ ผมมองวิวข้างทาง ทั้งที่นึกคิดแต่คนที่นั่งอยู่ด้วยกัน


“ดิว...”


ผมลองเรียกหยั่งเชิง และเป็นไปอย่างที่คิดไว้ เมื่อไม่มีสัญญาณตอบรับจากคู่สนทนา ผมหันไปมองเสี้ยวหน้าที่ยังคงมองไปที่ท้องถนนเบื้องหน้าไม่ละสายตา ใบหน้าที่มักสะท้อนถึงความสุขเสมอ บัดนี้กลับนิ่งเหมือนรูปปั้นที่ไร้ความรู้สึก


“ดิว...กูรู้ว่ามึงโกรธ แต่กูอยากอธิบาย” ผมพูดขึ้นอย่างไม่สนใจผลการตอบรับ “มันไม่มีอะไร เราแค่คุยกันเท่านั้น กูตั้งใจจะโทรไปบอกมึง แต่มือถือก็แบตหมด ถ้ามึงได้โทรหากู...ก็น่าจะรู้”


ผมดูท่าทีของมันเล็กน้อย ใบหน้าด้านข้างที่ไม่แสดงอาการอะไร ทำให้ผมรู้สึกแย่มากกว่าเดิม


“กูไม่คิดว่าจะนาน กูขอโทษแล้วกันที่ทำให้มึงไม่พอใจ”


ดิวยังคงนิ่งเฉย ผมก็ได้แต่ถอนหายใจพลางนึกหาวิธีแก้สถานการณ์อึกครั้ง ทว่าไม่นานเสียงของคนที่เอาแต่เงียบก็ดังขึ้น


“วันนี้จะไปกินข้าวเย็นด้วย”



:: +++++++++++++++  ::



นี่ผมกำลังอยู่กับนักแสดงมืออาชีพใช่ไหม...


ผมมองดิวที่กำลังหัวเราะ แล้วพูดหยอกกับแม่อย่างอารมณ์ดี ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไอ้ตัวดีเหมือนหุ่นยนต์ที่ปั้นหน้านิ่งไร้อารมณ์


“คราวหน้าแม่จะสอนทำต้มข่าไก่ก็แล้วกัน”


“ถ้างั้น...ดิวขอจองเวลาคุณแม่เลยนะครับ” ดิวบอกอย่างกระตือรือร้น


“จะมาเมื่อไหร่ก็ได้ แม่ก็อยู่บ้านทุกวันนั่นแหละ” แม่ตอบพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่


บทสนทนายังดำเนินต่อด้วยความชื่นมื่นและอบอุ่น ผมนั่งลูบพูห์ที่นอนอยู่บนตักพลางฟังดิวที่กำลังเล่าเรื่องอาหารต่างชาติที่ได้กินมา และจะเอามาฝากแม่คราวหน้า


ถึงตอนนี้จะดูอารมณ์ดีเหมือนปกติ แต่ก็ยังมีท่าทีมึนตึงกับผมอยู่ดี...


เมื่อการพูดคุยพอเป็นพิธีจบลง เราสองคนก็ขึ้นมาที่ห้องนอนของผมต่อ เพื่อจัดการกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ผมไม่อยากให้มันค้างคาจนกลายเป็นปมที่แก้ไม่ออก


ถึงมันไม่ยอมฟัง แต่ผมก็จะบังคับให้มันฟังนั่นแหละครับ


ผมมองดิวที่นั่งอยู่บนเตียง รอยยิ้มที่มักแต้มอยู่เสมอนั้นหายไปอย่างไร้วี่แวว ผมยืนพิงขอบโต๊ะหนังสือ แล้วมองคนที่อยู่ตงหน้าอย่างจริงจัง


“มึงหายโกรธหรือยัง”


“ไปเจอกันได้ยังไง”


ดิวไม่ได้ตอบ แต่ดันถามผมกลับมาแทน นัยน์ตาสีดำสนิทเลื่อนไปมองตุ๊กตาที่อยู่ใกล้ตัวอย่างไม่ค่อยสนใจผมเท่าไหร่นัก


เพราะมันกำลังโกรธ ผมจะให้อภัยกับท่าทีของมันก็แล้วกัน...

   
บังเอิญ” 


 หลังจากนั้นผมก็เริ่มเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดจนถึงตอนที่ผมเห็นมันมา ดิวไม่ได้พูดแทรกอะไร นอกจากเอาแต่เงียบ แล้วก็หยิบนู้นหยิบนี้มาดูเหมือนเด็กสมาธิสั้น


    “เรื่องที่เกิดขึ้นก็เป็นอย่างที่กูเล่า” ผมบอก แล้วถอนหายใจ ผมได้แต่หวังว่าความจริงที่เล่าให้มันฟัง จะทำให้คนชอบยิ้มอารมณ์ดีขึ้น


“ถ้าดิวไม่เข้าไปขวาง...ก็คงจะจูบกันสินะ” ดิวพูดขึ้นด้วยเสียงราบเรียบ


“มึงไม่เข้าใจหรือไงวะ! รุ้งต้องการให้มึงโมโหไง” ผมบอกอย่างคนไม่สบอารมณ์นัก ตอนนี้ผมก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า การเอาคืนที่รุ้งบอก รวมถึงผมด้วยหรือเปล่า


“แล้วถ้าดิวยืนมองเฉยๆ... แมลงปอก็คงยอมให้รุ้งจูบอยู่ดี” ดิวยังพูดต่อ ก่อนจะมองผมเล็กน้อย


“มึงอย่ามางี่เง่าไปหน่อยเลย ทำไมกูต้องไปทำแบบนั้นด้วย” ผมโต้กลับอย่างเริ่มนึกโมโห พอถึงเวลาจวนตัวจริงผมก็ต้องดันรุ้งให้ออกห่างอยู่แล้ว


ทำไมต้องทำมึนกับเรื่องแบบนี้ด้วยวะ!


“โอเค... ดิวจะพยายามเชื่อก็แล้วกัน”

ผมมองคนตรงหน้าที่เอาแต่นิ่งเฉย บางทีถ้ามันตะโกนใส่ผมบ้างอาจจะดีกว่า ผมจะได้โต้มันกลับไปเต็มที่และจะได้ไม่รู้สึกผิดเหมือนตอนนี้


“มึงไม่เชื่อกูหรือวะ”  ผมถามอย่างหงุดหงิด


“แต่รุ้งก็เป็นคนที่แมลงปอชอบ” 


“แต่มึงเป็นคนที่กูรัก!”

ให้ตายเถอะ!   


ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง ผมไม่สนใจอะไร นอกจากไอ้คนตรงหน้าที่หันมาสนใจผมอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดเรื่อง 


“แต่...”


“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น!” ผมพูดแทรกด้วยความโมโห


บทจะทำตัวยาก มันก็ไม่ยากธรรมดา แต่โคตรยากเลยครับ


ผมนึกขึ้นย่างหงุดหงิด ก่อนจะดึงคอเสื้อนักเรียนของคนงี่เง่าให้เข้ามาใกล้ พร้อมกับจ้องนัยน์ตาสีดำสดใสของมันนิ่ง


“มึงจะอะไรนักหนาวะดิว มึงก้รู้ว่ากูจูบมึงได้เค่คนเดียว!”


เมื่อจบประโยคนั้นผมก็ดึงคนตรงหน้าเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะแนบริมฝีปากของตัวเองลงบนกลีบปากนุ่มเพื่อยืนยันคำตอบ เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้นผมก็รู้สึกได้ถึงปลายลิ้นของดิวที่สอดเข้ามาในปากชองผม พร้อมกับจูบที่ร้อนแรงขึ้น


ผมคงจะเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้นอย่างเผลอไผล ถ้าเกิดไม่ได้รู้สึกถึงแผ่นหลังที่ระนาบไปกับเตียงนอนและฝ่ามืออุ่นร้อนที่กำลังลูบไล้เข้าไปใต้เสื้อนักเรียนของตัวเอง


“ดิว!” ผมร้องเสียงดัง ก่อนจะดันคนที่กำลังนัวเนียอยู่ให้ออกห่าง


แค่จะจูบธรรมดา มันกลายเป็นท่านี้ได้ยังไงวะ!


“หึม? ว่าไงครับ” ดิวตอบรับ พร้อมกับใบหน้าขาวที่ประดับด้วยรอยยิ้ม ทว่าไม่ทันที่ผมได้ตั้งตัว ไอ้ตัวดีก็ฉกจูบผมอีกหนึ่งที


“พอได้แล้ว” ผมบอก ก่อนจะเม้มริมฝีปากของตัวเองไว้ เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ  ผมก็เลิกคิ้วขึ้น “หายโกรธแล้วใช่ไหม”


“ดิวก็ไม่ได้โกรธอะไรนี่” คนตรงหน้าบอก แล้วกลับไปนั่งเหมือนเดิม 


“มึงไม่ได้โกรธ?” ผมทวนคำอย่างสงสัย เมื่อได้สบกับนัยน์ตาสีดำสว่าง ผมก็รู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง
โดนหลอก...


“นี่มึง!” ผมพูดขึ้นอย่างโมโห


“อะไรอีกล่ะครับ” ดิวตอบรับ แล้วลูบหัวของผม “ ตอนแรกดิวโกรธจริงนะ แต่หายตั้งแต่มาถึงบ้านแล้ว”


ไอ้ตอแหล!


ผมก็ได้แต่นึกด่าอีกฝ่ายอยู่ในใจ แล้วมองอย่างเอาเรื่อง พร้อมกับดิวที่ยิ้มรับท่าทีของผม


“ไม่เอาน่า...อารมณ์เสียบ่อยๆ  เดี๋ยวแก่เร็วนะ” ดิวว่า แล้วฉายยิ้มกว้างกว่าเดิม “ดิวยังไม่อยากมีแฟนหน้าแก่กว่าอายุจริง”


“ทั้งหมดก็เพราะมึงนั่นแหละ!”



:: +++++++++++++++  ::



ถึงแม้การสะสางเรื่องเมื่อตอนเย็นจะจบลงด้วยการที่ผมเอาหมอนฟาดคนเจ้าเล่ห์ที่หลอกให้ผมกังวล ทั้งที่มันหายโกรธไปตั้งนานแล้ว แถมยังพูดต่ออย่างคนอวดดีอีก


‘พอดีตอนนั้นลืมคิดไปหน่อย...ดิวทั้งหล่อทั้งรวยขนาดนี้ แมลงปอจะโง่ไปนอกใจได้ยังไงล่ะ จริงไหม’


ไอ้คนหลงตัวเอง!


หลังจากใช้กำลังระบายอารมณ์กับมันไปแล้ว ผมก็ต้องจัดการเรื่องของรุ้งที่มันไปสร้างเหตุเอาไว้ต่อ


ในเมื่อรู้มาขนาดนี้แล้ว จะให้ผมทำเป็นนิ่งเฉยต่อไม่ได้หรอกครับ และที่สำคัญรุ้งก็เป็นผู้หญิงที่ผมเคยชอบมาก่อน


ผมมองดิวที่กำลังหยิบกีตาร์ของผมมาเล่นอย่างคนอารมณ์ดี ซึ่งผิดกับท่าทีเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนลิบลับ 


กูจะจำเอาไว้ว่า...มึงเป็นพวกตีสองหน้า!


“มึงจะไม่ถามหน่อยหรือไง เรื่องที่กูกับรุ้งคุยกัน”


“ก็ไม่ได้อยากรู้”


มึงตัดบทจนกูต่อไม่ติดเลย...


“แต่กูอยากรู้” ผมบอก ก่อนจะมองคนที่กำลังจับคอร์ดกีตาร์อยู่ “มึงทำแบบนั้นกับรุ้งทำไมวะ”


“ทำอะไร”


“มึงเองก็รู้ดี ถ้ามึงไม่ได้ชอบก็อย่าไปทำแบบนั้นสิวะ”


ดิวเงยหน้าขึ้นมามองผมโดยไม่ได้พูดอะไร ผมมองใบหน้าที่ยังไม่แสดงอารมณ์ของมันอีกครั้ง แล้วถอนหายใจออกมา ก่อนสายตาของเราสองคนจะสบมองกัน


“แต่เขาเป็นคนที่แมลงปอชอบ”


“กูชอบ แล้วเกี่ยวอะไรด้วยวะ”


“ดิวไม่ชอบให้คนที่ตัวเองชอบไม่สนใจคนอื่น....จบไหม”


“แต่กูเห็นมึงร่าเริงดีนี่” ผมพูดขึ้นแบบไม่เต็มเสียงนัก แล้วนึกย้อนไปถึงภาพรอยยิ้มที่มันมักแสดงออกมาเสมอ


“ดิวแกล้งทำ...เห็นแบบนั้นใครจะไปมีความสุขกัน” 


คำตอบที่ตรงไปตรงมา ทำให้ผมต้องอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจออกมา ตอนนี้ผมเหมือนเพิ่งจะรู้จักตัวจริงของมันเป็นครั้งแรก


“แล้วเรื่องที่บอกจะจีบรุ้งล่ะ” 


“ดิวเคยบอกที่ไหน”  ดิวถามขึ้นด้วยน้ำเสียงสงสัย


“ก็วันนั้นไง” ผมบอก ก่อนจะมองคนที่ทำเป็นไม่รู้เรื่องอย่างหมั่นไส้ “ที่มึงบอกว่าจะแข่งกับกูน่ะ”


“ดิวไม่ได้หมายถึงแบบนั้น” ดิวตอบกลับ ก่อนจะวาดยิ้มที่มุมปาก “ถ้าอยากจีบรุ้งก็จีบไป แต่ดิวก็จะจีบแมลงปอเหมือนกัน แล้วเราสองคนก็แข่งกันว่าใครจะจีบติดก่อนอย่างที่ดิวบอก”


“กูไม่ไดคิดแบบนั้น”


“แต่ดิวหมายความว่าอยางนั้น”


ใครจะไปคิดแบบนั้นกัน มีแต่มึงนั่นแหละที่คิดได้!


“ถ้าเป็นแบบนั้นจริง...แล้วจะมาท้าแข่งทำไมวะ” ผมถามอย่างไม่เข้าใจคนตรงหน้าอย่างที่สุด


“ก็เรียกร้องความสนใจไงครับ”


ผมนั่งฟังคำสารภาพอย่างคนที่ไม่รู้ว่าควรจะโกรธดีหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ผมพูดไม่ออกเลยล่ะครับ


ทำไมมันถึงพูดเรื่องแบบนี้ได้คล่องเหลือเกินวะ...


“แล้ว...”


“แมลงปอ...เลิกสนใจเรื่องของรุ้งสักที ดิวขึ้เกียจตอบแล้ว” ดิวพูดจัดขึ้น แล้วถอนหายใจออกมา


“แต่ไม่ว่ายังไง มึงก็ไม่ควรไปทำแบบนั้น” ผมตอบกลับ ถึงมันจะบอกว่าชอบผมขนาดไหนก็ไม่ควรไปสร้างความหวังให้รุ้งแบบนั้น


“ดิวไม่ใช่คนดีอะไรและที่สำคัญก็ไม่ได้ใจกว้างด้วย “ ดิงบอก แล้วมองหน้าของผมอย่างจริงจัง “ เรื่องของความรัก... ดิวก็ไม่ยอมใครเหมือนกัน “


ผมมองคนตรงหน้าที่เข้ามาจับมือของผมเอาไว้ นัยน์ตาคู่สวยทอดมองอย่างอ่อนโยน ก่อนน้ำเสียงทุ้มจะดังขึ้นอีกครั้ง


“ คู่แข่งน่ะ...ไม่จำกัดเพศหรอกนะ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย”


“ดิว.,”    


“ไม่ว่าทุกอย่างที่เคยผ่านมาจะเป็นยังไง แต่ความจริงในตอนนี้ก็คือดิวรักแมลงปอ แล้วเราสองคนก็เป็นแฟนกัน มีแค่นี้เท่านั้นที่ดิวอยากให้จดจำไว้”


“มึงเริ่มเน่าใส่กูอีกแล้ว” ผมว่าแก้เขิน ทำอย่างไรก็คงจะไม่ชินกับคำพูดแบบนี้ของมัน


“เวลาเขินทีไร ทำไมจะต้องด่าดิวทุกที” ดิวถาม ก่อนจะยักคิ้วส่งให้แบบกวนๆ “หรือว่าไม่จริง”


ผมไม่ได้ตอบ แล้วทำหน้าบึ้งใส่แทน พร้อมกับเสียงหัวเราะของดิวที่ดังขึ้นอีกครั้ง


เรื่องน่าอายแบนั้น ใครจะไปยอมรับวะ!






CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
:: +++++++++++++++  ::



ผมเดินไปตามเส้นทางที่ปูไปด้วยอิฐสีแดงอย่างนึกแปลกใจ ภาพเบื้องหน้ามีเพียงต้นไม้และดอกไม้ที่ประดับอยู่ริมทาง แต่ไร้วี่แววสิ่งมีชีวิตอื่นใดอีก


ที่ไหนกัน…


ผมก้าวเดินไปตามเส้นทางอย่างไร้จุดหมาย โดยมีหมอกเบาบางไม่ต่างจากผืนม่านใสประดับอยู่กลางทาง


ภายใต้แสงอาทิตย์ที่สาดส่องและท้องฟ้าที่ไร้เมฆกว้างสุดจะคำนวณได้ ผมหันไปมองรอบตัวอีกครั้ง ทว่าพบแต่ความว่างเปล่า


ผมถอนหายใจอย่างนึกปลงชีวิต แต่ก็ยังไม่อาจหยุดฝีเท้าของตัวเองได้ ทั้งที่ไม่มีเป้าหมาย ทว่าจิตใต้สำนึกกลับสั่งให้ผมต้องเดินต่อไป


หลังจากที่อยู่กับความโดดเดี่ยวได้ไม่นาน ผมก็เดินมาพบกับบ้านหลังหนึ่ง ไม่รอช้าผมรีบรุดไปยังสถานที่แห่งนั้น ก่อนจะมองโดยรอบอย่างสงสัย


บ้านใครกัน…


ความเงียบที่พบไม่ต่างจากก่อนหน้านี้ทำให้ผมนึกลังเลใจ ถึงอย่างนั้นผมก็ตัดสินใจมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูไม้บานใหญ่ แล้วลองหมุนลูกบิดไปมาเบาๆ และพบว่ามันเปิดไม่ออก


ทว่าความคิดที่แสนสับสนจนน่าปวดหัวยังไม่หยุดลง และไม่ทันที่ผมจะได้คิดทบทวนซ้ำ มือของผมก็เคาะไปที่ประตูตรงหน้าโดยทันที


ก๊อกๆ


ผมถอนหายใจออกมา เมื่อคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก ทว่าในวินาทีที่กำลังจะถอดใจ บานประตูที่ปิดสนิทกลับแง้มออก และเมื่อปราการตรงหน้าเปิดกว้าง ผมก็ตาโตขึ้น เมื่อถูกจู่โจมอย่างไม่รู้ตัว


ในเสี้ยววินาทีที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นและตื่นตกใจ เสียงที่เปล่งออกมาคือชื่อของคนตรงหกน้าที่กำลังกระโจนใส่ผมอย่างรวดเร็ว


“ดิว!!!”



:: +++++++++++++++  ::



ผมลืมตาตื่นอย่างตกใจ พร้อมกับรับรู้ได้ถึงความเย็นจากเหงื่อที่ไหลซึมผ่านเส้นผม ก่อนจะอ้าปากค้าง เมื่อสายตาฉายภาพคนคุ้นตาที่เพิ่งได้เจอกันเมื่อครู่นี้ในระยะประชิด


“ดิว!”


“ฝันถึงกันด้วย น่ารักจังเลยนะ”


ผมขมวดคิ้วขึ้น แล้วขยี้หัวของตัวเอง ก่อนจะถอนหายใจออกมา เมื่อรู้ว่าเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เป็นเพียงความฝัน


“ทำไมทำสีหน้าแบบนั้นล่ะ” ดิวถามขึ้น ก่อนจะมองผมอย่างสงสัย


“ไม่มีอะไร...ว่าแต่มึงมาได้ยังไงวะ”


“ขับรถ แล้วก็เดินขึ้นมา”


“กูหมายถึงมาทำอะไรตั้งแต่เช้าต่างหาก” ผมบอกพลางมองนาฬิกาบนหัวเตียง แล้วพบว่าเวลาประมาณแปดโมงเช้า


“อยากให้แมลงปอเห็นความรักตั้งแต่ลืมตาตื่น”


“เน่าแต่เช้า” ผมว่า ก่อนจะยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย แล้วเอาหมอนปาใส่หน้าของมันกลบความเขินอายที่กำลังเล่นงานอยู่ ดิวรับเอาไว้ แล้วหัวเราะออกมา ใบหน้าหล่อเหลามองผมไม่ละสายตา


“เมื่อกี้ฝันถึงดิวด้วยใช่ไหม ฝันว่าอะไรเหรอ”


“ไม่มีอะไร”


“ดิวอยากรู้ บอกหน่อยนะ”


ดิวเข้ามาอ้อนผมอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มฉวยโอกาสด้วยการเช้ามากอดผมเอาไว้อย่างแนบเนียน


ผมทอดถอนใจ เมื่อนึกย้อนไปถึงความฝันที่เพิ่งประสบมา ความรู้สึกในตอนนั้นยังแจ่มชัด ถึงแม้จะหลุดพ้นจากห้วงนิทราที่แสนน่ากลัวมาแล้ว แต่ภาพติดตาในเสี้ยววินาทีกลับถูกบันทึกในความทรงจำราวกับเห็นมาเนิ่นนาน


ผมมองดิวที่กำลังมองมาอย่างรอคำตอบ ริมฝีปากได้รูปคลี่ยิ้มละมุน เมื่อเห็นแบบนี้แล้ว ผมก็ได้แต่ระบายยิ้มออกมา


จะให้บอกความจริงไปได้อย่างไรว่า คนตรงหน้าเพิ่งจะกลายสภาพเป็นซอมบี้ แล้วกระโดดเข้ามากัดผม ในเวลาเฃ้าที่สดใสแบบนี้ก็ควรจะมีแต่สิ่งที่ทำให้เกิดเสียงหัวเราะและรอยยิ้มเท่านั้น


“กูเห็นมึงเดินตกท่อก็เลยร้องออกมา” ผมพูดขึ้น ก่อนจะหัวเราะออกมาเมื่อเห็นสีหน้ามุ่ยของคนฟังที่แสร้งทำราวกับเด็กที่ถูกขัดใจ


“อะไรวะ” ดิวร้องขึ้น ก่อนจะยิ้มรับ “แล้วตกท่าสวยหรือเปล่า”


“พอได้อยู่”


ผมอมยิ้ม เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของคนตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนไอ้หน้ายิ้มจะเอาหมอนที่ผมปาไว้ออก แล้วเปลี่ยนมาจับมือของผมเอาไว้แทน พร้อมกับระยะห่างที่ลดลงในทุกวินาที


ในช่วงจังหวะที่สายตาของผมมองเห็นแต่ความมืดสีดำคู่หนึ่งที่กระจ่างชัด ลมหายใจที่สัมผัสได้ในตอนนี้ก็ทำให้ผมร้อนผ่าว 


แล้วผมก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างนึกแปลกใจ เมื่อไม่ได้รับสัมผัสนุ่มนวลอย่างที่คาดไว้ สีหน้ามึนงงของผม ทำให้คนชอบแกล้งหัวเราะขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับผมที่ถอนหายใจออกมาด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ


“ดิว!”


ใบหน้าขาวยังคงระบายด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนจนทำให้ผมหวั่นไหว ก่อนน้ำเสียงทุ้มที่ชินหู ทว่ายังมีผลต่อการทำงานของหัวใจจะดังขึ้น


“แมลงปอ...เราไปเดทกันนะ”



:: +++++++++++++++  ::



“สวัสดีครับคุณแม่”


ผมมองดิวที่ไหว้แม่ ก่อนจะเข้ามานั่งในรถยนต์สีดำที่คุ้นเคย สาเหตุที่มันมาหาผมแต่เช้า เพราะอยากชวนผมไปออกเดทแบบไม่บอกล่วงหน้า แม่ก็คงตกใจที่ลูกชายตื่นขึ้นมาไม่ทันไรก็ออกจากบ้านไปเที่ยวต่อเสียแล้ว


“ขับรถระวังด้วยนะลูก”


เมื่อรถยนต์เคลื่อนตัว ผมก็เปิดเพลงอย่างถือวิสาสะ ก่อนจะหันไปมองไอ้ตัวดีที่สวมแว่นกันแดด พร้อมกับความตื่นเต้นบางอย่างที่ก่อตัวขึ้น


เพราะเดทแรกที่มีแบบไม่รู้ตัวถูกทำลายไปอย่างสวยงามด้วยฝีมือของไอ้เพื่อนตัวแสบ ครั้งนี้ผมจึงอดรู้สึกประหม่าขึ้นมาไม่ได้ เมื่อรู้ว่าวันนี้เราสองคนจะมีวันพิเศษร่วมกัน


ถึงจะเคยดูตามโทรทัศน์มาบ้าง ทว่าความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้กลับแตกต่างจากที่เคยคิดไว้มากนัก


ผมมองวิวผ่านกระจกใส ทั้งที่เราไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังเป็นครั้งแรก แต่ยามนี้ผมกลับเหมือนคนสมาธิสั้นที่กำลังทำตัวไม่ถูก ผมระบายลมหายใจแผ่วเบา แล้วมองท่าทีสบายของคนขับที่ดูใจเย็นเหมือนทุกที


“แล้วจะไปที่ไหนวะ” ผมถามออกไป เมื่อเห็นว่าถนนเบื้องหน้าไม่ได้เข้าเมืองอย่างที่คิดไว้ เส้นทางหลวงที่ไม่คุ้นตา ทำให้ผมนึกสงสัยขึ้นมา ดิวหันมามองผมเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มที่มุมปาก


“ชลบุรี”


ผมพยักหน้า เมื่อได้รับคำตอบ จังหวัดที่ไม่ไกลจากกรุงเทพนัก และใช้เวลาในการเดินทางเพียงสองชั่วโมงก็น่าจะถึง ผมหันกลับไปมองทิวทัศน์ข้างหน้าต่างอีกครั้ง


ทะเล...


สถานที่แรกที่ผุดขึ้นมาในความคิด นอกจากจะเป็นสถานที่ผ่อนคลายแล้ว แถมยังขึ้นชื่อเรื่องความโรแมนติกอีกด้วย ดังนั้นจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่คู่รักส่วนใหญ่มาใช้เวลาร่วมกัน


ผมลอบมองเสี้ยวหน้าที่มองท้องถนนอย่างตั้งใจ ก่อนจะรู้สึกเขินขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ


ให้ตายเถอะ! ฃ่วงนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองชักจะเป็นสาวน้อยเข้าไปทุกที...


พวกเราแวะเข้าปั้มกันสองครั้ง เพื่อคลายอิริยาบถและทำธุระส่วนตัวกัน ผมนึกตลกตัวเองที่รู้สึกตื่นเต้นอยู่ทุกขณะ ภาพข้างทางที่แสนจะธรรมดาก็ดูน่ามองไปเสียหมด


ผมนึกขำกับตัวเองที่ทำตัวราวกับคนที่ไม่เคยไปเที่ยวทะเลมาก่อน ทว่าความรู้สึกก็ต้องสะดุดลง เมื่อรถเลี้ยวเข้าซอยหนึ่งกะทันหัน และถ้าผมตาไม่ฝาด ริมข้างทางมีป้ายขนาดใหญ่ติดเอาไว้


‘สวนสัตว์เปิดเขาเขียว’


มันหลงทาง หรือผมเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า…


“มึงจะไปไหน” ผมถามขึ้นพลางมองคนขับอย่างนึกฉงน


“แมลงปอไม่เห็นป้ายเหรอ” ดิวหันมาถาม แล้วยิ้มขึ้นมา


“เขาเขียว” ผมตอบ ก่อนจะกะพริบตา เพื่อปรับความคิดของตัวเอง


 “อืม... ดิวพามาเขาเขียว”


คำบอกที่ตอกย้ำนั้น ทำให้ผมต้องหันไปมองคนขับด้วยความแปลกใจ ผมนึกอยากรู้ขึ้นมาว่าจะมีใครพาแฟนมาออกเดทครั้งแรกที่สวนสัตว์บ้างหรือเปล่า แถมยังเป็นสวนสัตว์เปิดอีกต่างหาก


แต่...สวนสัตว์ก็สวนสัตว์วะ!



:: +++++++++++++++  ::



เพราะเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติใกล้เมืองกรุงได้รับความนิยมไม่น้อย กว่าที่พวกเราจะหาที่จอดรถได้ก็กินเวลาไปเกือบสิบนาที


ทันทีที่ลงจากรถ ไอ้ตัวดีในมาดเสื้อยืดกางเกงสามส่วนรองเท้าแตะก็มายืนเปล่งรัศมี ท่ามกลางแสงแดดร้อนและเหล่าเก้งกวางที่อยู่บริเวณนั้น ผมหรี่ตาลง ก่อนจะรับรู้ได้ถึงร่มเงาจากหมวกที่ถูกสวมลงมา


แดดร้อน” ดิวพูดขึ้น ใบหน้าชวนมองที่ประดับด้วยแว่นกันแดดยี่ห้อดังคลี่ยิ้มออกมา


ดิวกอดคอของผม ก่อนที่เราสองคนจะเริ่มตะลุยสวนสัตว์กัน ผมเบือนหน้าไปมองทางอื่น แต่ไม่อาจกลั้นรอยยิ้มที่แต้มที่ริมฝีปากได้


เอาน่า! สวนสัตว์มันก็โรแมนติกได้เหมือนกัน...







TBC ::::::::::::::::::::::::::::::::




 :z6:
NOTE :::




สวัสดีค่ะ
เอามาลงกว่าที่ตั้งใจไว้เล็กน้อยด้วยความเครียด ฮ่าๆ
มิ้นทำงานมา 7 วันแบบยังไม่ได้หยุดเลยจ้า โฮกกกกกกกก  :sad4: แถมยังฟาดโอไป 3 วันติด
มึนจ้า ต้องหาที่ระบาย กร๊ากกกกกก

พูดถึงเนื้อเรื่องแล้วชอบตอนนี้มากเลย รู้สึกมันมีความน่ารักงุงิแฝงอยู่ และเป็นตอนที่เริ่มเผยความรู้สึกของดิวด้วย ที่จริงจะตัดตอนออกเดทไปอีกตอน แต่รู้สึกมันน้อยไปเลยยัดมาใส่ให้เต็ม

หวังว่าจะหวานพอให้หายคิดถึงกันบ้าง อิอิ

ตอนหน้าเป็นตอนสุดท้ายแล้วค่ะ รับประกันความงุงิเช่นเคย
ช่วยติดตามกันด้วยนะคะ  :mew3:

สามารถแนะนำและติชมกันได้เหมือนเดิมจ้า
รวมถึงติดตามตอนที่รีไรท์ได้ที่เด็กดีนะคะ (ตอนนี้ลงไปแค่ 5 ตอน)

ขอบคุณที่ยังติดตามมาจนเกือบจะจบแล้วจ้า กิ๋วๆ

ปล. อยากแต่งตอนพิเศษที่ไม่เกี่ยวในเนื้อเรื่อง ครบรอบ 1 ปีที่มาลง มีใครอยากอ่านแมลงปอกับดิวโหมดไหนบ้างหรือเปล่าคะ
แนะนำเข้ามาได้ (จริงๆอยากแต่งแฟนตาซี แต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออก อิอิ)



Ella Killer

  • บุคคลทั่วไป
ดิวขี้แกล้งงงงงงงงงง

RGB.__

  • บุคคลทั่วไป
ดิวววว
โอ๊ยเขิน TvT

ออฟไลน์ patchylove

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1585
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-4
สวนสัตว์ก็สวีทได้ ??? แมงปอเชื่อใจดิวนะ คึคึ  :hao7:

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
โอ๊ยดิวนายเน่ามาก555 :hao7:

What_The_F

  • บุคคลทั่วไป
อ่านรวดเดียว 31 ตอน โอ๊ย 55555
ตอนหน้าก็จะจบแล้ว ขอหวานๆ เลยนะครับบบ

 :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
เขินดิวอะ
เขินตั้งแต่ต้นเรื่องยันจะจบเรื่อง5555555555555555

ออฟไลน์ tpaibull

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
อ่ะน่ะ สวนสัตว์ก็สวีทได้ ถ้าไปกับน้องดิว ไม่อยากกล่าวคำอำลาแมลงปอกะน้องดิวเลย คิดถึงมากๆ ไม่จบไม่ได้หรอคับ

ออฟไลน์ yuuri

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 144
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-2
สนุกมากเลยค่ะ จริงๆไม่ค่อยชอบเรื่องแนววัยมัธยมเท่าไหร่
แต่สำหรับเรื่องนี้ ชอบมากเลยจริงๆ
แมลงปอน่ารักมากดูซึนๆ แต่ดิวน่ารักกว่า 555
พระเอกไม่จำเป็นต้องเป็นคนดีมากแค่ดีกับคนที่ตัวเองรักก็พอ
รอติดตาม
รออ่านต่อนะคะ
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ :impress2:

ออฟไลน์ ladiiz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 26
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
เพิ่งอ่านจบ รวดเดียวเลย
ดิวแมลงปอ น่ารักมากกกกกกก
ดิวนี่น่าจะแอบร้ายใช่เล่นนะ 555555

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
จะมาต่อตอนสุดท้ายประมาณต้นเดือหน้านะคะ รวมถึงจะเริ่มลงตอนรีไรท์ที่นี่ด้วย
(ของเก่าเน่าเกิน แฺฮะๆ)

ขอบคุณที่ติดตามกันจ้า อิอิ

ออฟไลน์ tpaibull

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 100
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
รอนะ ยังไงก็รอ คิดถึงคร้าบบบบ

ออฟไลน์ IIMisssoMII

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2030
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-2
ดิวได้ทั้งงึ้นทั้งล่องอ่ะ ไม่ว่าจะงอนเค้า รึเค้างอนแล้วไปง้อ
เผด็จศึกสักที้เถอะ แล้วขอให้ครั้งแรก ดิวล่มปากอ่าว 555
เรารักแมลงปอ อิอิ

ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
ตอนที่ 32




บางทีผมอาจจะคิดไปเอง....


“แมลงปอช่วยดูให้หน่อยสิ ลิงที่ว่านี่มันอยู่ตรงไหน” ดิวหันมาบอกผม ก่อนจะไล่สายตามองกรงของสิ่งมีชีวิตใกล้เคียงกับสายพันธุ์มนุษย์


 “คงไม่มีแล้วมั้ง” ผมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย


“งั้นเหรอ...เสียดายว่ะ” ดิวพูดขึ้น ก่อนจะถอนหายใจออกมา


ผมก็ได้แต่นึกละเหี่ยใจกับท่าทีผิดหวังแบบนั้น เพียงไม่นานไอ้หน้ายิ้มก็ยิ้มขึ้นมาอย่างที่ควรจะเป็น

 
“งั้นเราไปดูค่างตรงนั้นดีกว่า”


สรุปมึงพากูมาเดท หรือมึงอยากมาเที่ยวสวนสัตว์กันแน่วะ....


เราสองคนเดินกันต่ออย่างไม่รีบร้อน และก็มีหลายครั้งที่ผมรับรู้ว่ามีคนกำลังมองมา แต่เพียงชั่วครู่สายตาเหล่านั้นก็หลบไป ส่วนสาเหตุคงหนีไม่พ้นไอ้คนที่ยืนยิ้มถ่ายรูปสัตว์อยู่นั่นแหละครับ


ผมก็ได้แต่มองกลับ แล้วจับแขนของดิวเอาไว้อย่างเป็นเจ้าของ ส่วนไอ้ตัวการก็เอาแต่สนใจสัตว์ไม่ยอมสนใจผม จนผมนึกหมั่นไส้มันขึ้นมา


สัตว์ป่าพวกนี้ มันดีกว่าสัตว์ประเสริฐอย่างกูตรงไหนวะ!


ผมก็ได้แต่บ่นอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกไปหรอกครับ พอเห็นใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยความสุขแบบนั้น ผมจะยอมลดค่าของตัวเองลง แล้วปล่อยให้ไอ้สัตว์พวกนี้เอาความสนใจที่ควรจะเป็นของผมไปก็ได้


“แมลงปอไปดูตรงโน้นกัน เขาว่าให้อาหารสัตว์ได้ด้วย” ดิวพูดขึ้นอย่างกระตือรือร้น ก่อนจะจับมือของผม แล้วออกเดินอีกครั้ง


“เหมือนเด็กเลยว่ะดิว” ผมพูดขึ้นอย่างอ่อนใจ แต่ก็จับมือของมันแน่น


ขึ้นเช่นเดียวกัน



:: +++++++++++++++  ::


เมื่อเราสองคนเดินไปถึงบริเวณที่ทางสวนสัตว์มีบริการให้ผู้เที่ยวชมให้อาหารสัตว์ได้  ดิวก็ไม่รอช้าที่จะเดินตรงไปที่ซุ้มขายอาหาร โดยทิ้งผมให้ยืนดูหน้ายีราฟที่เอาแต่มองหน้าของผมไม่ละสายตา


มองอะไรของมึงวะ...


เจ้ายีราฟตรงหน้าคงรู้ว่าอยู่กับผมคงไม่มีอะไรดีขึ้นมา มันเลยเดินไปหากลุ่มวัยรุ่นสาวที่กำลังตื่นเต้นอยู่แทน


ผมถอนหายใจออกมา ก่อนจะมองหาแฟนตัวเองที่หายไปได้สักพักแล้ว เพียงไม่นานสายตาก็ฉายภาพคนคุ้นเคยที่ยืนส่งยิ้มให้ยีราฟอยู่อีกด้าน


ไอ้บ้าเอ๊ย!


ผมนึกขำระคนอ่อนใจขึ้นมา แล้วเดินเข้าไปหาดิวที่ตั้งใจให้อาหารสัตว์ ก่อนนัยน์ตาคมจะเลื่อนมามองผม พร้อมกับริมฝีปากที่คลี่ยิ้มกว้าง


“น่ารักเนอะ...ว่าไหม” ดิวหันมาถามผม ก่อนจะหันไปมองยีราฟที่กำลังเคี้ยวถั่วฝักยาวอย่างเอร็ดอร่อย


“ตรงไหนวะ” ผมถามกลับ พร้อมกับยืนมองสัตว์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าอย่างพิจารณา


“หน้ามึนๆ คล้ายแฟนของดิวเลย” ดิวพูดขึ้น ก่อนจะหัวเราะออกมา


แฟนของดิว...


ผมขมวดคิ้วอย่างครุ่นคิด ก่อนจะเม้มริมฝีปากของตัวเอง แล้วชักสีหน้าใส่อย่างไม่พอใจ พร้อมกับมองเสี้ยวหน้าที่ยังประดับด้วยรอยยิ้มบาง


“ถ้างั้นมึงก็คบกับไอ้ยีราฟนี่ไปเลยแล้วกัน” ผมพูดประชดออกมา


“ก็อยากอยู่หรอก แต่ไม่กล้าจูบอ่ะ” ดิวตอบ แล้วหัวเราะขึ้นอีกครั้ง “ลิ้นสีม่วงด้วย ท่าทางกลิ่นจะแรงนะเนี่ย”


“ไอ้บ้า!”  ผมด่า แล้วถอนหายใจออกมา”ทำไมมึงไม่ไปหากูตรงนู้น”


“ตรงนั้นคนเยอะ” ดิวบอก พร้อมกับยื่นอาหารให้ยีราฟตรงหน้ากินต่อ ก่อนรอยยิ้มจะปรากฏขึ้น “ที่สำคัญดิวรู้ว่าแมลงปอต้องมาหาอยู่แล้ว”


“มึงหายไป กูก็ต้องตามหาอยู่แล้ว” ผมบ่นออกมาอย่างเหนื่อยใจ


ถ้าไม่มีมึง แล้วกูขะกลับบ้านยังไงวะ!


“ใช่ไหมล่ะ เพราะหัวใจเราสองคนเชื่อมถึงกันไง” ดิวตอบกลั้วหัวเราะ


“มึงช่วยอายที่จะพูดบ้างเถอะดิว”  ผมต่อว่าคนที่ยังหัวเราะไม่หยุด


มึงจะอารมณ์ดีเกินไปหรือเปล่า...


“อย่ามัวแต่ยืนเฉยสิ มาให้อาหารด้วยกัน” ดิวหันมาบอกผมอีกครั้ง เมื่อเห็นผมเอาแต่ยืนดูมันโดยไม่คิดจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย


แต่ไม่ทันที่ผมจะได้ทันทักท้วงอะไร ดิวก็คว้ามือของผมเอาไว้ แล้วหยิบถั่วฝักยาวมาใส่ไว้ในมือ ก่อนจะจับมือของผมยื่นไปตรงหน้ายีราฟที่กำลังยืนตาเยิ้มรออาหารอยู่ก่อนแล้ว


“แบบนี้ค่อยเหมือนมาเดทหน่อย” ดิวพูดขึ้น ก่อนจะหันมามองผม


มึงเพิ่งจะรู้ตัวเหรอ...



:: +++++++++++++++  ::


หลังจากนั้นเราสองคนก็ตระเวนเดินกันไปจนทั่ว จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนบ่ายแก่ๆ ผมกับดิวก็มาหยุดดูหมีที่อยู่ในบ่อ


“เหนื่อยเหมือนกันนะ” ผมบอก พร้อมกับยกมือเช็ดเหงื่อของตัวเอง แต่เมื่อหันไปมองคนข้างตัวก็พบว่าดิวกำลังตั้งใจถ่ายรูปหมีอยู่


เมื่อกี้มึงได้ฟังที่กูพูดไหม...


“ดิว” ผมเรียกสียงเข้ม



“อะไรครับ” ดิวตอบรับ ทว่าสายตายังคงมองภาพที่ถ่ายด้วยกล้องจากโทรศัพท์มือถือ


“มึงจะถ่ายสัตว์ทุกตัวในสวนสัตว์ แล้วเอาไปทำรายงานหรือไงวะ” ผมถามชึ้นอย่างเบื่อหน่าย ในเมื่อหลายชั่วโมงที่ผ่านมา มันไม่ได้ถ่ายรูปผมหรือตัวเองเลย เอาแต่ถ่ายรูปสัตว์นานาชนิดที่ผ่านสายตา


“แมลงปอพูดเหมือนอิจฉาพวกมันนะ” ดิวพูดขึ้น แล้วยกยิ้มให้


ถ้ากูอิจฉา แล้วมึงจะทำไมวะ...


ผมนึกขึ้นอย่างหงุดหงิด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป ก่อนสายตาจะมองตามหมีสีดำที่นอนไม่มีอะไรทำอย่างโดดเดี่ยว พร้อมกับดิวที่พูดขึ้นอีกครั้ง


“ดิวไม่เคยมาสวนสัตว์แบบนี้หรอก”


คำพูดเกริ่นนำที่ได้ยิน ทำให้ผมต้องหันไปมองเสี้ยวหน้าได้รูปที่กำลังมองตรงไปยังหมีที่อยู่เบื้องหน้า แล้วระบายยิ้มออกมา



ออฟไลน์ marionatte

  • Beginning is more difficult
  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 794
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +307/-5
“เมื่อก่อนคุณพ่อกับคุณแม่ไม่ค่อยว่าง เวลาเหงาก็หาของเล่น หรือไม่ก็เรียนอะไรให้ไม่ว่างเท่านั้น แต่ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนหรอก” ดิวพูดขึ้น แล้วถอนหายใจ “บางทีมีเงินแต่ไม่มีเวลาก็แย่เหมือนกันนะ”


“พูดได้น่าหมั่นไส้มาก”


แต่ผมก็ไม่ได้คิดอย่างที่พูดหรอกนะครับ ผมแค่อยากให้บรรยากาศสีเทาที่เป็นอยู่ตอนนี้จางหายไป


“มึงจะอ้างว่าที่พากูมาถึงนี่ เพราะไม่เคยมาใช่ไหม”


“นี่เป็นครั้งแรก” ดิวบอกด้วยรอยยิ้ม


ผมขยับมายืนใกล้กันมากขึ้น ก่อนจะเท้าแขนตรงหัวไหล่ของดิว แล้วมองใบหน้าด้านข้างที่ยังแต้มด้วยรอยยิ้มบาง


“แล้วเป็นยังไงบ้างล่ะ”


“วิเศษที่สุด” ดิวบอก ก่อนจะส่งยิ้มกว้าง เพื่อยืนยันคำตอบ



:: +++++++++++++++  ::



เพราะความร้อนที่แผดเผาและการเดินเที่ยวที่ทำให้ผมสูญเสียพลังงาน ในขณะที่ความเหนื่อยล้าเข้ามาในร่างกาย สายตาของผมก็ปะทะเข้ากับรถขายไอศกรีมที่อยู่ห่างออกไปเพียงเล็กน้อย


“ดิวไปซื้อไอติมกัน” ผมรีบบอก ก่อนจะเดินนำไปยังตำแหน่งที่หมายตาเอาไว้


เนื่องจากเป็นวันของครอบครัว ทำให้มีลูกค้ามากมายมาซื้อไอศกรีมกันอย่างล้นหลาม เมื่อผมไปถึงรถที่บรรจุความเย็นเอาไว้ก็เหลือไอศกรีมแค่เพียงสองแท่งราวกับจงใจ ผมจ่ายเงิน แล้วส่งไอศกรีมอีกแท่งให้ดิวที่ยืนอยู่ข้างกัน


ผมแกะไอศกรีมในมือได้เพียงครู่เดียว ร่างของเด็กผู้ชายคนหนึ่งก็วิ่งมาเกาะรถขายไอศกรีม ก่อนจะปีนขึ้น เพื่อชะโงกดูของหวงานที่แสนเย็นฉ่ำ


“ขอโทษนะหนู ตอนนี้ไอติมหมดแล้ว” ลุงคนขายรีบบอก พร้อมกับเด็กน้อยที่แสดงสีหน้าผิดหวัง


“เอาไว้ไปซื้อที่อื่นนะลูก” แม่ของเด็กคนนั้นพูดปลอบ ก่อนจะจูงลูกของเธอเดินออกไป ทว่าเด็กชายวัยประมาณหกขวบกลับร้องงอแง


“แต่ผมอยากจะกินตอนนี้!”


โอ้! ไอ้เด็กเอาแต่ใจ


ผมมองดูเหตุการณ์ที่อยู่ตรงหน้าพลางกัดไอศกรีมในมือของตัวเองไปด้วย ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น เมื่อเห็นเด็กชายจอมเอาแต่ใจได้รับไอศกรีมเหมือนกับผมไปอยู่ในมือ  ผมหันไปมองตามที่มาของเจ้าของไอศกรีมแท่งนั้น


“เอาของพี่ไปก็ได้ครับ” ดิวบอก แล้วย่อตัวลงให้อยู่ในระดับเดียวกัน


รักเด็กหรือมึง...


“ขอบคุณครับ” เด็กชายตอบพลางยิ้มกว้าง แม่ของเด็กคนนั้นก็แสดงสีหน้าเกรงใจออกมา


“ราคาเท่าไหร่ค่ะ” เธอถาม ก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเอง


“ไม่เป็นไรครับ ถือว่าผมซื้อให้” ดิวรีบบอก พร้อมกับส่งยิ้มประจำตัวไปให้อย่างเคย


กูเป็นคนซื้อให้ต่างหาก...


ผมมองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้า ก่อนจะถอนหายใจออกมา เพียงไม่นานคู่แม่ลูกก็เดินจากไป ผมกัดไอศกรีมของตัวเองอีกครั้ง แล้วเดินนำไอ้พ่อพระออกมาจากบริเวณนั้น


“อดเลยมึง” ผมพูดขึ้น ก่อนจะยิ้มออกมา “ใจดีจริงนะ”


“สงสารน้องเขาน่ะ” ดิวบอก แล้วหันมาส่งยิ้มให้ผม “ไม่รู้หรือไงว่าแฟนตัวเองเป็นคนมีน้ำใจ”


“มีน้ำใจแต่ตัวเองเดือดร้อน มันจะดีเหรอ” ผมถามพลางเลิกคิ้วมอง


“ดิวให้ด้วยใจครับ” ดิวพูดขึ้น ก่อนยักคิ้วกลับ “เท่ไหมล่ะ”


ผมเบ้หน้าใส่ พร้อมกับเสียงหัวเราะที่เกิดขึ้น ถึงจะพูดค่อนแคะดิวไปแบบนั้น แต่ผมก็รู้สึกดีที่มันเป็นคนแบบนี้


ผมมองท่าทีของคนไม่ทุกข์ร้อน ก่อนจะตัดสินใจยื่นไอศกรีมที่ถืออยู่ในมือไปตรงหน้าคนที่เดินด้วยกัน ดิวทำหน้าสงสัยกลับมา


“พอดีกูก็มีน้ำใจเหมือนกัน” ผมบอก แล้วอมยิ้มขึ้น “แล้วกูเท่ไหม”


“ไม่เท่...แต่น่ารัก” ดิวพูดขึ้น ก่อนจะจับมือชองผมที่ถือไอศกรีมเอาไว้  แล้วกัดไปหนึ่งคำ


ผมหัวเราะในคอด้วยความเคอะเขิน ก่อนที่เราสองคนจะเดินผลัดกันกินไอศกรีมแท่งเดียวกันด้วยเสียงหัวเราะ


เวลาผ่านไปโดยไม่มีใครคิดสนใจ แต่ทันทีที่ผมมองดูนาฬิกาของตัวเองก็ปรากฏว่าสี่โมงเย็นแล้ว


“เย็นขนาดนี้แล้วเหรอ” ผมเปรยขึ้น อย่างที่คนเคยกล่าวเอาไว้ เวลาที่มีความสุขมักผ่านไปเร็วเสมอ


“อืม...ผ่านไปเร็วเหมือนกันนะ” ดิวพูดขึ้นบ้างพลางมองนาฬิกาข้อมือของตัวเอง “คนก็เริ่มทยอยกลับกันแล้วด้วย”


“อืม” ผมตอบรับ แล้วมองภาพครอบครัวที่เริ่มเดินทางกลับ ก่อนจะหันไปมองคนที่มาด้วยกันอีกครั้ง “ถ้างั้นเราก็กลับกันได้แล้ว”


“จะรีบกลับไปไหนล่ะ” ดิวบอก ก่อนจะส่งยิ้มมาให้ เมื่อผมแสดงสีหน้าสงสัยออกมา “มาถึงฃลบุรีแล้วก็ต้องไปทะเลด้วยสิ”



:: +++++++++++++++  ::



ทะเล...


ผมมองท้องทะเลเบื้องหน้าที่กว้างสุดขอบฟ้า แล้วผ่อนลมหายใจอย่างอ้อยอิ่ง ก่อนจะสูดรับกลิ่นอายความเค็มและสายลมอ่อนที่พัดเข้ามาปะทะกับร่างกาย


หลังจากเดินทางออกมาจากสวนสัตว์เปิดเขาเขียว พวกเราก็ใช้เวลาอีกเล็กน้อย เพื่อมากินอาหารทะเลกันต่อ แน่นอนว่าดิวเป็นคนเลี้ยงอีกเช่นเคย และเมื่อเต็มอิ่มกับมื้อเย็นแสนอร่อย พวกเราก็มาเดินกินลมชมวิวอยู่ที่จุดจอดรถริมทะเลครับ


ผมเท้าแขนกับแมงกั้นถนน ก่อนจะสูดหายใจลึก ท้องฟ้ายามนี้กำลังถูกย้อมด้วยสีส้มแปลกตา แสงสว่างหนึ่งเดียวของโลกกำลังจมดิ่งลงสู่ทะเลเบื้องหน้า บรรยากาศที่เบาสบาย ทำให้ผมผ่อนคลายอย่างที่สุด


อยากหยุดเวลาไว้...   


มันคงเป็นความเห็นแก่ตัวที่มนุษย์คงไม่สามารถทำได้ ผมคงได้แต่เก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่กำลังเลยผ่านและจดจำไว้ในความทรงจำที่แสนพิเศษ


ผมยิ้มออกมาด้วยหัวใจที่พองโต ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าตัวเองจะมีช่วงเวลาที่แสนหวานแบบนี้ แถมยังเป็นผู้ชายที่เคยไม่ชอบหน้ากันอีก


“แมลงปอดูลิงนั่นสิ” ดิวหันมาบอก แล้วชี้ทิศทางให้ผมดู โดยไม่ลืมที่จะยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปอย่างขะมักเขม้น


เอ่อ…ดิวคงชอบสัตว์มากจริงๆ


ผมมองลิงที่กำลังปีนอยู่ตรงเสาไฟฟ้า เพียงไม่นานมันก็หอบหิ้วลูกของมันขึ้นไปบนยอดเขา โดยมีช่างภาพอย่างไอ้บ้าที่ยืนข้างผมตามติดอย่างสนใจ


“สุดยอด! ไมเคยเห็นแบบนี้มาก่อน” ดิวบอกด้วยความตื่นเต้น


ผมมีแฟนอายุเท่าไหร่วะ...


ผมคิดขึ้นมาอย่างอ่อนใจ ก่อนจะเลิกสนใจดิวที่เอาแต่สนใจลิง แล้วหันไปมองท้องทะเลเบื้องหน้าอีกครั้ง


 “พระอาทิตย์จะตกแล้ว” ผมพูดขึ้น พร้อมกับดิวที่หันมามองตาม


ถึงจะเคยนึกเสียดายที่ตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกันไม่ทัน แต่เวลานี้ผมกำลังได้ดูพระอาทิตย์ตกดินด้วยกันแทน


“ดีจังที่ได้มาดูด้วยกันแบบนี้” ดิวพูดขึ้น แล้วกอดคอของผมเอาไว้


ผมหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังส่งยิ้มมาให้ ก่อนที่ผมจะยิ้มกลับด้วยความรู้สึกอิ่มเอมอย่างที่สุด


เราสองคนยืนมองพระอาทิตย์ตกดิน ท่ามกลางสายลมเย็นที่ปะทะเข้ามาเป็นระยะ ท้องฟ้าที่เคยสดใสกลับมืดลงจนกลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม แต่ผมรู้ดีว่าอีกไม่นานมันจะสว่างสดใสเหมือนเดิมอย่างเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา


 ไม่ต่างจากความรักที่มีให้กัน ถึงแม้มันจะขรุขระไปบ้าง แต่สุดท้ายจะมีหนทางให้เริ่มใหม่เสมอ...


“วิวสวย น่าถ่ายรูปสุดๆ” ดิวพูดขึ้น ก่อนจะหันมายิ้มให้ผม


“แล้วทำไมไม่ถ่ายล่ะ” ผมถามกลับโดยไม่ได้หันไปมอง


“ถ่ายเยอะแล้ว...ขี้เกียจ” ดิวตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก


“แต่มึงไม่ได้ถ่ายรูปกูเลยสักรูป” ผมหันไปบอกเสียงนิ่ง


“รู้ได้ยังไง” ดิวถามกลับ ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้น พร้อมกับริมฝีปากที่ระบายยิ้มออกมา “ถ่ายเป็นสิบภาพแล้วเนี่ย อยากดูไหมล่ะ”


ผมอมยิ้มออกมา เมื่อได้ยินแบบนั้น ก่อนจะยื่นหน้าไปมองรูปแอบถ่ายที่เจ้าของเต็มใจนำเสนอ ภาพของผมหลากหลายอิริยาบถกำลังฉายออกมาเป็นอัลบั้ม


“ทำไมชอบแอบถ่ายจังว่ะ โรคจิตหรือไง” ผมถามขึ้นอย่างสงสัย


“คงงั้นล่ะมั้ง” ดิวตอบกลับ ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ


ความรักที่เบ่งบานได้ทุกครั้งที่เปิดใจให้กัน...


ความรักของเรา...





แอบมารัก...ก็ไม่บอก fin.






:heaven Note :::


สวัสดีค่ะ ในที่สุดก็มาลงตอนสุดท้ายแล้ว หวังว่าจะไม่นานเกินรอนะคะ

สำหรับตอนนี้ก็เป็นโมเมนต์เล็กๆ ที่คิดว่าหวานกำลังดี พอให้กรุ่มกริ่มหัวใจกัน
ที่จริงแล้วเป็นเนื้อเรื่องต่ออีกเล็หน้อยจากตอนที่แล้ว แต่ตัดมา เพราะมันยาวเกินไป
ส่วนเรื่องราวต่อจากนี้ รวมกึงเรื่องของดิว ของุบงิบไว้เป็นตอนพิเศษในเล่มนะคะ อิอิ
แต่มิ้นคิดว่าตอนจบนี้ก็ลงตัวในระดับนึงแล้วค่ะ คงจะไม่ค้างคากัน แฺฮะๆ

ตั้งแต่วันแรกที่ลงจนถึงตอนนี้ก็ราว 1 ปีพอดี
นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นที่นี่ที่แรก และดำเนินมาถึงจุดนี้ได้ เพราะกำลังใจและคำแนะนำที่มีให้กันเสมอมา
ขอบคุณมากจริงๆค่ะ

ขอบคุณที่ทำให้นักเขียนมือใหม่คนหนึ่งได้มีโอกาสสร้างความฝันเล็กๆ ที่อยากจะแต่งนิยายสักเรื่องเป็นของตัวเองให้ได้

หวังว่าเมื่ออ่านนิยายเรื่องนี้จบจะพบกับรอยยิ้มและความสุขนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ



ปล. 1 สำหรับผู้อ่านท่านใดสนใจหนังสือ สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่หน้าแรกค่ะ
ปล. 2 หลังจากนี้จะลงฉบับรีไรท์ (ถ้ามีเวลา) จนครบนะคะ
ปล. 3 มิ้นกำลังจะเริ่มเรื่องใหม่ ยังไงช่วยติดามกันด้วยนะคะ (โฮษณาล่วงหน้าสุดๆ)







ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
ตามอ่านมาตั้งแต่แรกยันจบ แบบรู้สึกปริมกับความรักของดิว *-*
ปกติไม่ค่อยอ่านแบบมัธยมคือถ้าไม่หนุกจริงๆจะไม่เลยยย
แต่เรื่องนี้เป็นข้อยกเว้น5555555555555
ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคะคุณมิ้น

ท้ายๆนี่แมลงปอน่ารักขึ้นเยอะอะ
ดิวก็เจอสิ่งที่มีค่ากว่าเงินละ... แมลงปอไงอิอิ

ออฟไลน์ Lunatan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 217
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
จบแล้ว ลุ้นเรื่องนี้มาตั้งแต่แรกๆเลย
ตอนจบน่ารักมากเลย ดิวเหมือนเด็กๆ ส่วนแมลงปอก็ทั้งรักทั้งเอ็นดูเนอะ555
นึกถึงตอนแรกนี่เกลียดสุดๆอคติสุดๆนะเนี่ย ได้เห็นพัฒนาการความรักมากๆเลยถ้าลองย้อนไปอ่านตอนแรกๆ

ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆนะคะ :กอด1:

ออฟไลน์ shijino

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
ขอบคุณค่ะ ชอบตอนท้ายๆ อ่านแล้วมีความสุขและก็ยิ้มตามไปด้วยจริงๆ  :L2:

Ella Killer

  • บุคคลทั่วไป
นี่มาเดท? ไม่ได้พาเด็กมาเที่ยวแน่นะแมลงปอ 5555555

ดิวเด็กน้อยยยยย  :man1:

ออฟไลน์ mur@s@ki

  • อยากรัก..แต่ใจไม่กล้า
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-5
จบได้น่ารักเหมือนที่เป็นมาตั้งแต่ต้น
ชีวิตเรียบง่าย สบายๆกับคนที่รัก
ดีใจกับทั้งสองคนด้วยนะ


 :กอด1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด