บทที่ 10
“ ม่าม๊า ม่าม๊า ”
“ ครับ ”
“ ปะป๊าอยู่ไหน เติ้ลอยากเจอ ” แล้วเจ้าตัวเล็กก็หลับไป หลังจากที่ทิ้งคำถามให้ผม โดยที่ผมเองก็คงไม่สามารถหาคำตอบให้ได้
“ ม่าม๊าจะเป็นทั้งม่าม๊าและปะป๊าเองนะครับ ” แล้วผมก็นอนหลับไปพร้อมกับกอดไตเติ้ลเอาไว้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------->
“ ไม่ไปต้องตาไม่ไป ” เช้านี้ก็รับอรุณด้วยเสียงเจื้อยแจ้วของต้องตาละครับ ก็วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของต้องตากับไตเติ้ลที่จะเริ่มเข้าไปเรียนอนุบาลแล้วละครับ ไตเติ้ลเองตอนนี้แต่งเนื้อแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว กำลังนั่งทานข้าวต้มอยู่ ส่วนต้องตาเองดูเหมือนจะดื้อเป็นพิเศษ เพราะวันนี้จะไม่ได้เล่นอยู่ที่บ้าน แถมยังไม่ยอมใส่ชุด แล้วยังวิ่งโร่ไปทั่วบ้านทีนี้ก็ลำบากพี่เมย์ละครับ วิ่งไล่จับไปทั่วบ้าน
“ ต้องตา หยุดนะ มาใส่ชุดเร็วๆ ” เห็นต้องตาเป็นเด็กสี่ขวบตัวเล็กๆ แบบนั้น แต่ไม่อยากบอกว่า วิ่งเร็วมาก พี่เมย์เองก็ทั้งวิ่งตาม ถือชุดตาม ผมกระเซิงหมด ไม่อยากบอกว่าเสียชื่ออดีตดาวหมด
“ ไม่เอา ไม่ใส่ ไม่สวย ”
“ เป็นเด็กเป็นเล็ก รู้จักสวยไม่สวยแล้วเหรอ มานี่เร็วๆ ”
“ กรี๊ดดด ไม่เอา ม๊าช่วยด้วย ” พอพี่เมย์เข้าใกล้ต้องตาได้ ต้องตาก็กรี๊ดเลยครับ แล้ววิ่งหน้าตั้งเข้ามาหาผม แล้วปีนมานั่งบนตัก
“ ม๊าช่วยด้วย ”
“ ช่วยอะไรครับ ทำไมไม่ใส่ชุดละครับ ”
“ ไม่เอาใส่แล้วไม่สวย ”
“ เหนื่อย ฉันชักสงสัยแล้ววะ ว่าใครอุ้มท้องมันตั้ง 9 เดือน ฉันหรือแกไอ้เนย์ ” พี่เมย์มายืนขนาบข้างแล้วเช็ดเหงื่อ แล้วยังมาถามคำถามปัญญาอ่อนอีก
“ ถามทำไมพี่ ”
“ ก็ดูสิ ติดแกยิ่งกว่าแม่แท้ๆ มันอีก ไม่เคยเชื่อฉันเลย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว แกกล่อมให้มันใส่ชุดอนุบาลหมีน้อยนี่ที ฉันจะไปอาบน้ำ ร้อนแต่เช้าเลย ”
“ เออๆ ครับ เดี๋ยวกล่อมเอง ”
“ วางบนโซฟานะ ” แล้วพี่เมย์แกก็วางชุดบนโซฟาแล้วเดินขึ้นไปอาบน้ำข้างบน
“ เอาละ ทีนี้ต้องตาจะใส่ชุดได้หรือยังครับ ” ต้องตาที่นั่งอยู่บนตักก็เงยหน้ามาทำตาใสใส่
“ ไม่ใส่น๊า ใส่แล้วไม่สวยเลย ”
“ สวยซิครับ ม๊ายังว่าสวยเลย ไตเติ้ลก็บอกว่าสวย.......จริงไหมครับไตเติ้ล ชุดพี่ต้องตาสวยมากๆ เลย ใช่ไหมครับ ”
“ อือๆๆ สวยๆ เติ้ลยังอยากใส่เลย ” เอ่อ....ผมควรจะคิดว่าไตเติ้ลคงกำลังช่วยผมกล่อมต้องตาอยู่นะ
“ เอ่อ..เห็นไหมครับ ไตเติ้ลยังบอกว่าสวยเลย ทีนี้ใส่ได้หรือยังเอ่ย ”
“ สวยจริงๆ นะ ” ผมไม่ควรถามไตเติ้ลอีกใช่ไหมครับ
“ ใช่ครับ ต้องตาใส่แล้วจะสวยมากๆ เลยละครับ ”
“ ชุดสวย ต้องตาจะใส่ชุดสวย ”
“ ครับ งั้นไปเปลี่ยนเลยดีกว่า เดี๋ยวม๊าจะช่วยใส่ให้นะ ”
หลังจากที่จับลิงใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว ก็พามานั่งทานข้าวต้ม ผมก็คอยดูพวกเด็กๆ อยู่แถวนั้นแหละครับ จนโทรศัพท์ผมแผดเสียงดังขึ้นมา
“ อือ ว่าไงไอ้ม่าน ”
“ วันนี้แกว่างไหม ”
“ ว่างๆ มีอะไรหรือเปล่า ”
“ พอดีคนมันไม่พอวะ แกมาช่วยจัดซุ้มรับน้องหน่อยสิ งานคณะนะเว้ย ”
“ เออๆ กี่โมงละ นี่อีกหน่อยกูก็จะไปส่งต้องตากับไตเติ้ลไปโรงเรียนแล้ว ”
“ เออ สักสี่โมงก็ได้ มาให้ได้นะ ”
“ เออๆ ไปๆ งั้นแค่นี้แหละ บาย ”
“ บาย ”
พอวางสายจากไอ้ม่านเสร็จ เด็กๆ ก็ทานข้าวต้มหมดชามแล้ว ต้องตาทานเร็วมากเลย แถมยังมีติดแก้มมาอีก ส่วนไตเติ้ลนั้นไม่ต้องห่วง เพราะรายนั้นค่อยๆ กินแบบละเมียดละไมมาก สักพักก็ได้ยินเสียงรถยนต์มาจอดอยู่หน้าบ้าน ไม่นานพี่วินก็มายืนอยู่หน้าประตูแล้ว
“ เอาละเด็กๆ พร้อมที่จะไปโรงเรียนกันหรือยังเอ่ย ” พี่วินเดินเข้ามาหาเด็กๆ ที่นั่งอยู่บนโซฟา ตาก็ดูการ์ตูนอยู่ วันนี้พี่วินมารับส่งเด็กๆ ไปโรงเรียน เพราะผมเองก็ขับรถไม่เป็น ส่วนพี่วัฒน์ก็ติดสัมนาที่ต่างจังหวัด แม่เองก็ไม่อยู่ พี่เมย์ก็ขับรถไม่แข็ง ส่วนพี่เวย์นอนอยู่หอเพื่อน
“ พร้อมค่า/ครับ ” พอเห็นว่าพี่วินมาก็พากันวิ่งลงจากโซฟาเข้าไปหาพี่วินใหญ่เลย
“ ฮ่าๆ ซนเหมือนลิงเลย พอแล้วครับเดี๋ยวล้ม ไหนไปเอากระเป๋ามาให้อาดูหน่อยสิ ”
เด็กๆ ก็วิ่งไปสะพายกกระเป๋ามาให้ดูกันใหญ่เลยครับ
“ นี่ไงของตาสวยๆ ”
“ ของเติ้ลก็สวย ”
“ ไม่เอา ของตาสวยกว่า ”
“ เติ้ลสวยกว่า ” มันชักจะยังไงๆ แล้วนะครับ
“ พอแล้วๆ ครับ สวยทั้งคู่นั่นแหละครับ พี่วินก็ไม่ห้ามเลย ยืนหัวเราะอยู่นั่นแหละ ”
“ อ้าว ก็พี่ไม่เคยมีลูกนี่ครับ แบบนี้สนุกดีออก ”
“ งั้นพี่ก็รีบหาแฟนสิครับ จะได้มีลูกเร็วๆ ”
“ อืม แล้วเราว่างหรือเปล่าละ ”
“ เอ่อ....ผมว่าเรารีบพาเด็กๆ ไปส่งโรงเรียนดีกว่าครับ ”
“ หึๆ ครับๆ ก็ได้ ปะเด็กๆ ไปขึ้นรถเร็ว ”
“ เย้ ไปโรงเรียน ” แล้วเด็กๆ ก็วิ่งตามพี่วินออกไป ผมเองก็เดินตามออกไปทีหลัง เด็กๆ นั่งกันข้างหลังหมดครับ ทีแรกผมก็กะว่าจะนั่งหน้า แต่ดูแล้วเด็กๆ คงซน ผมก็เลยไปนั่งคุมเด็กๆ ด้านหลังแทน
“ ใจร้ายจังน๊า ไม่ยอมมานั่งคู่กับพี่ ”
“ หึๆ ไตเติ้ล ต้องตา เห็นไหมครับ คนแก่ขี้น้อยใจ ”
“ เห็นคร้าบ อาวินแก่แล้ว ”
“ แก่แล้วหัวล้าน คิๆ ” แล้วต้องตากับไตเติ้ลก็พากันนั่งล้อพี่วินแก่ หัวล้าน ไปตลอดทางจนถึงโรงเรียนเลยละครับ
โรงเรียนอยู่ไม่ไกลจากบ้านเท่าไหร่ขี่รถมาประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้วครับ พอรถจอดได้สนิทก็พาเด็กๆ เดินเข้าไปข้างใน วันนี้ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะเป็นวันแรกของการเปิดเทอม ด้านหน้าก็มีทั้งครู พ่อแม่เด็กๆ เดินกันเต็มไปหมด เด็ก ๆบางคนก็ถึงกับร้องไห้งอแงออกมา ตอนที่พ่อกับแม่ตัวเอง ขึ้นรถกลับบ้านไปแล้ว เด็กบางคนก็ไม่สนใจใคร วิ่งเล่นอยู่สนามเด็กเล่นหน้าห้องเรียนนั่นแหละครับ ไตเติ้ลกับต้องตาเองก็ดูจะตื่นๆ อยู่เหมือนกัน คงไม่เคยเจอเด็กเยอะขนาดนี้มาก่อน
“ เอาละครับ อยู่โรงเรียนกับคุณครู ห้ามดื้อ ห้ามซน ห้ามงอแง ห้าแกล้งเพื่อนนะครับ เข้าใจไหมเด็กๆ ” ผมก็นั่งยองๆ อยู่ด้านหน้าเด็กๆ
“ ห้ามร้องไห้นะครับ อย่ากวนคุณครูเขาละ ” พี่วินเองก็บอกด้วย
“ ตาโตแล้ว ไม่ต้องบอกหรอก ” ต้องตาพูดออกมาทำเอาผู้ใหญ่อย่างเราอึ้งเลยละครับ
“ ฮ่าๆๆ ตัวแค่นี้บอกว่าโตแล้วเหรอครับ ” พี่วินก็นั่งถามต้องตา
“ ใช่ ตาโตแล้ว เดี๋ยวดูเติ้ลให้ม๊าเอง ” โอ้ เด็กสมัยนี้ มันโตเร็วจริงๆ ครับ
“ ดูน้องดีๆ ละ อย่าเที่ยวไปแกล้งเพื่อนๆ นะครับ ”
“ เติ้ลไม่ทำ แต่ตาทำ ”
“ ตาไม่ทำหรอก ”
“ ครับๆ ม๊าเชื่อแล้วครับ งั้นไปสวัสดีคุณครูก่อนเร็ว ”
หลังจากนั้นผมก็พาเด็กๆ ไปส่งเข้าห้อง แล้วหลังจากนั้นก้อยู่รอดูท่าทีเด็กๆ ก่อนประมาณชั่วโมงหนึ่ง ดูเหมือนว่าต้องตาจะเข้ากับเพื่อนใหม่ได้ดีทีเดียว แต่ติดตรงที่ชอบแกล้งเขามากกว่า ส่วนไตเติ้ลเองก็ตามต้องตาไปทุกที่เหมือนกัน ดูท่าว่าเด็กๆ จะปรับตัวได้เร็วกว่าที่คิดเสียอีก แล้วหลังจากนั้นผมก็ขอพี่วินลงรถ เพื่อที่จะขึ้น BTS ไปมหาวิทยาลัยเอง พอลงมาถึงหน้าคณะก็เกือบสิบโมงแล้ว
มาถึงบริเวณที่จะใช้จัดซุ้ม ก็มีเพื่อนๆ บางคนมาถึงกันแล้ว ดีหน่อยที่วันนี้แดดไม่แรงมากนัก แถมบริเวณนี้ก็มีต้นไม้สูงช่วยบังแดดไว้อีก เลยเย็นสบายหน่อย
“ ไอ้ม่านทำไมยังไม่มีใครมาถึงเลยวะ ไหนมึงบอกให้กูรีบมาไง ” ไอ้ม่านนั่งจิ้มไอโฟนอยู่สะดุ้งเลยครับ แล้วยังหันมายิ้มแหยๆ ให้ผมอีก
“ แฮ่ๆ พอดีเขาเลื่อนไปตอนห้าโมงนะ กูลืมโทรบอกมึง ” มาทำตาแป๋วใส่กูอีก สักทีดีไหมเนี่ย
“ ไอ้ม่าน ข้าวเช้ากูก็กินนิดเดียวเอง ไปเลยมึง ไปซื้อข้าวมาให้กูกินเลย ”
“ โหย ไรอะ มึงไม่กินเองนะ มาใช้กูได้ไงอะ ความผิดมึงชัดๆ ”
“ อย่าเถียงนะ ไปเลย กูหิวเร็ว ”
“ ไม่ไป ”
“ เหรอ ”
“ เออ ”
“ ถ้ามึงไม่ไป กูจะบอกพี่เวย์ว่ามึง.....”
“ เออๆ ไปก็ได้ ไม่ต้องพูดมากเลยนะ เดี๋ยวซื้อมาให้ เอาตังค์มาเลย เร็วๆ ”
“ ทีนี้ละเร็วจริงนะมึง ”
“ พูดมาก จะกินไม่กิน ”
“ ครับๆ ยอมแล้วครับ อะนี่ครับเงิน ”
แล้วไอ้ม่านมันก็กระชากเงินเดินสะบัดบ๊อบไปเลยครับ ผมก็นั่งชมนกชมไม้ไปเรื่อยละครับ พอนั่งไปสักพักก็รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำขึ้นมาซะอย่างนั้น ถัดไปสามสี่โต๊ะก็มีเพื่อนๆ นั่งจับกลุ่มซุบซิบดารากันอยู่ ไม่รู้ทำแล้วได้อะไร นั่งเมาท์มอยกันอยู่นั่นแหละ
“ เฮ้ย ลิน เราไปเข้าห้องน้ำแปปนะ บอกไอ้ม่านด้วยนะ ”
“ จร้า ” แล้วพวกเธอๆ ทั้งหลายก็หันกลับไปเมาท์กันต่อ
ตลอดทางที่เดินไปเข้าห้องน้ำ ผมก็เดินดูธรรมชาติรอบๆ ข้างไปด้วย ก็มีทั้งสวนพฤกษศาสตร์ บ่อน้ำ สวนหย่อม สวยๆ ทั้งนั้นเลย ไม่นานก็มาถึงห้องน้ำ จากนั้นก็จัดการธุระจนเสร็จสรรพแล้วออกมา มองไปเห็นร้านค้าอยู่แถวนั้นก็นึกไว้ว่า น่าจะซื้อไปฝากไอ้ม่านสักหน่อย เห็นแก่ที่มันเดินไปซื้อข้าวมาให้กิน แต่เดินมาได้ไม่นานก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“ เฮ้ยไอ้เนย์ เดี๋ยวก่อนนนนนน ”
ผมหันไปมองยังต้นเสียงซึ่งมันก็คือ ไอ้ม่าน มันก็วิ่งมาหาผมแบบว่าญาติใครเสียยังไงยังนั้นแหละ
“ มีอะไรวะ วิ่งมายังกับญาติใครเสีย ”
มันวิ่งมาก็มาหยุดพักหายใจอยู่ต่อหน้าผมแล้วละ และมันก็กำลังจะบอกผมทั้งๆ ที่มันจะหยุดหายใจไปแล้ว เฮ้ออ ไอ้ม่านนี่มันเป็นพวกตื่นตูมซะด้วยซิ ผมก็เลยต้องเบรกมันไว้ก่อน
“ หยุด อย่าเพิ่งพูด มึงพักหายใจก่อนแล้วมีอะไรค่อยบอกกูมา ”
มันก็เลยหยุดพักหายใจหายคอตามที่ผมบอกมัน แล้วพอผ่านไปสักพักพอผมเห็นว่ามันเป็นปกติดีแล้ว ที่นี้ก็เริ่มให้มันพูดแล้วคับ
“เอ้า มีไรว่ามา อย่าบอกนะว่าญาติมึงเสีย ”
โอ้โห มันเงยหน้ามามองจ้องเขม็งเลยครับทีนี้ กูกลัวนะเว้ย แล้วมันก็เอามือมันมาจับไหล่ผมไว้ทั้งสองข้าง แล้วสีหน้ามันบอกได้เลยว่า มันจริงจังมาก
“ นี่ไอ้เนย์ มึงฟังกูดีๆนะมึงต้องใจเย็นนะไอ้เนย์ ”
ผมเริ่มรู้สึกไม่ดีแล้วละซิกับสิ่งที่มันจะบอกผม
“ เอ่อ ม.. มีอะไร ม่าน ”
แล้วมันก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนที่จะผ่อนออกมา แล้วมันก็พูดในสิ่งที่ผมไม่อยากได้ยิน และไม่อยากให้มันเกิดขึ้นเลยในโลกใบนี้
“ ไอ้ พัต มันกำลังจะกลับมาแล้ว ”
อะไรนะผมฟังไม่ผิดใช่ไหม
“มึง...ไอ้ม่าน อย่ามาล้อกูเล่นนะ.......ไอ้ ไอ้พัตมันจะกลับมายังไง มัน มัน มันเรียนอยู่เมืองนอกไม่ใช่เหรอ ละ แล้วมันจะกลับมาได้ยังไง มันไม่เรียนแล้วหรอ ”
“ เฮ้ออออ...กูก็ไม่รู้เหมือนกัน กูเพิ่งรู้เมื่อกี้นี้เอง ไอ้พะแพงนะ มันบอกว่ารู้มาจากพี่พุต เมื่อวานนี้เองว่า ไอ้พัตมันจะกลับมา และก็ไม่ใช่แค่มา อาทิตย์สองอาทิตย์นะ แต่มัน....จะมาเรียนที่ไทยด้วย ”
พะแพงนี่ก็ บ้านมันอยู่ซอยเดียวกันกับบ้านไอ้พัตนั่นแหละครับ
“ อะไรนะไอ้ม่าน....มัน มันจะกลับมาเรียนที่ไทยเหรอ มึงอย่ามาล้อเล่นนะ ”
“ เปล่ากูพูดจริงเนย์ และมันจะกลับมาถึงวันอาทิตย์ หน้านี่ด้วย แล้วดูเหมือนว่ามันจะรู้เรื่อง ไตเติ้ลแล้วด้วย ”
ฮะ อาทิตย์หน้า งั้นก็เหลืออีกแค่
“ งั้นก็เหลือ อีกแค่ 5 วันเองนะสิ แล้ว มันรู้เรื่อง ไตเติ้ลได้ไง ม่าน ”
“ เออ นั่นแหละ กูไม่รู้เหมือนกันว่ามันรู้เรื่องไตเติ้ลได้ไงนะ แล้วที่นี้มึงจะเอายังไงละ ”
นั่นนะสิ แล้วผมจะเอายังไงเรื่องของไตเติ้ล ผมก็ไม่คิดว่ามันจะกลับมาหรอกนะ และผมก็ไม่เคยคิดที่จะบอกเรื่องของไตเติ้ล ให้มันรับรู้ด้วย เพราะผมเองก็มั่นใจว่าผมสามารถเลี้ยงดูไตเติ้ล ให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีได้ และผมเองก็ไม่คิดที่จะบอกเรื่องของ พัต กับไตเติ้ลเหมือนกัน เพราะผมเองก็ไม่อยากให้เขารับรู้ว่าเขามีพ่อเป็นคนยังไงเหมือนกัน ไตเติ้ลจะเป็นแค่ลูกของผมคนเดียว เท่านั้น
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------->
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------->
ในที่สุดก็มาถึงตอนปัจจุบันสักที เหนื่อยนะนี่

มาแบบสั้นๆ อีกแล้ว แต่ก็สัญญาว่า ตอนหน้า จะมาแบบยาว (กว่านี้อีกนิด) นะครับ
ยังไงคืนนี้ก็ขอให้มีความสุขทุกคนนะครับ ขอบคุณครับ บ๊ายบาย
