♣Maybe...รักนี้อาจเป็นนาย♣
บทที่ 24
What the hell happened to you?
Special Matt & Ramin# part 1
[Matt talks]
หลายครั้งที่ผมเฝ้าถามตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมผมจะต้องทำแบบนี้ แต่ผมก็ไม่เคยหาคำตอบให้ตัวเองได้สักที ยิ่งพยายามยิ่งไม่รู้ ไม่ทำอะไรเลยก็ค้างคา ความซับซ้อนพวกนี้มันน่าโมโหจนผมอยากจะอาละวาดให้รู้แล้วรู้รอด
ผมทิ้งบุหรี่ที่เพิ่งสูบหมดมวนลงกับพื้นก่อนจะใช้ปลายเท้าขยี้มันแรงๆตามอารมณ์ในขณะนี้ บ้านสองชั้นขนาดกลางตรงหน้าเป็นบ้านของคนที่ทำให้ผมทะเลาะกับตัวเองบ่อยครั้ง มันน่าหงุดหงิดใช่ไหมล่ะ ทะเลาะกับคนอื่นยังหาที่ลงได้ แต่ทะเลาะกับตัวเอง ผมคงไม่โรคจิตถึงขนาดชกตัวเองหรอก แม้ว่าในบางครั้งจะอยากทำก็ตาม -_-;
ผมกดกริ่งที่หน้าบ้านของมินหลายต่อหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ยอมออกมา มันเป็นอะไรของมันอีกวะ เมื่อวันก่อนยังดีๆอยู่เลย ผมเตะเข้าที่ประตูรั้วบ้านมันอย่างแรงเพราะความโมโห แต่แม่งเอ้ย! เจ็บเชี่ยๆเลย!
“มึงจะกดกริ่งบ้านกูให้มันพังเลยไหม” มันยอมออกมาแล้วครับ หน้ามันยับได้อีก ทำไมมันเป็นคนแบบนี้วะ ถ้ามันน่ารักเหมือนเมื่อก่อนผมคงไม่รู้สึกอยากจะต่อยมันวันละหลายๆครั้งแบบนี้หรอก
และก่อนจะต่อยมัน ผมคงต่อยตัวเองอีกครั้งและอีกหลายๆครั้ง
ผมคิดว่าเป็นเพราะผม มันถึงได้เป็นแบบนี้ แต่ไม่ค่อยแน่ใจนัก ผมอยากรู้ทั้งหมดว่าสาเหตุที่มันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนแบบนี้มันเพราะอะไรกันแน่
“ก็มึงไม่ยอมมาเปิดประตูบ้านให้กู เปิดประตูบ้านเดี๋ยวนี้มิน!”
"กลับไป กูไม่อยากเห็นหน้ามึง" มันชอบกวนประสาท ตัวก็เท่ากลับลูกหมาแต่ชอบกวนตีนคนอื่นไปทั่ว พนันได้เลยว่ามันต้องเคยโดนยำตีนมาแล้วแน่ๆ เพราะขนาดผมยังรู้สึกอยากจะซัดมันเลยเวลาที่มันทำหน้ากวนประสาทใส่
"เปิดประตูให้กูเดี๋ยวนี้มิน หรือมึงจะให้กูปีนเข้าไปห๊ะ!!!" ความอดทนของผมใกล้จะหมดลงทุกที
คิ้วไอ้มินตีย่นอย่างเห็นได้ชัด แต่แทนที่มันจะเปิดประตูให้ผม มันกลับหันหลังเดินเข้าบ้านโดยไม่สนใจผมที่ยืนโวยวายให้ชาวบ้านเข้าด่าเลยสักนิด นี่ผมเป็นใครวะ ผมไม่เคยต้องง้อใครอย่างมันเลย แล้วมันเป็นใครวะกล้าหันหลังให้ผมแบบนี้!!!
เดี๋ยวมึงเจอกุแน่ เดี๋ยวก่อน!!!
ผมปีนเข้าไปในบ้านมันทันที มันคงคิดว่าผมไม่กล้าถึงได้ท้าทาย เดี๋ยวมันจะได้รู้ว่าคนอย่างผม อยากได้อะไรก็ต้องได้!
“มึง!!! เข้ามาทำไม!!” มันตกใจมากครับที่ผมเดินเข้ามาในบ้านมัน
“กูบอกแล้วไงว่าถ้ามึงไม่เปิดประตูให้กู กูจะปีนเข้ามา” ผมเดินย่างสามขุมไปหสมันที่ยืนจ้องหน้าผมด้วยแววตาเกลียดชัง และมันทำให้ผมหัวเสียที่มันมองผมแบบนั้น
“มึงรีบออกไปจากบ้านกู ก่อนที่กูจะแจ้งตำรวจ” มันผลักอกผมให้ถอยห่ายจากตัว แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้เช่นกัน ตัวมันเล็ก สู้แรงผมไมได้หรอก
“มึงคิดว่ากูกลัว หึหึ” ผมเดินเข้าประชิดตัวมันที่หลังติดผนังบ้าน ไม่สามารถถอยหลังไปได้ ใบหน้าเล็กๆที่ดูดีไม่แพ้ใครจ้องผมไม่วางตา สายตาของมันบอกให้รู้ว่าตอนนี้มันเกลีดผมมากขนาดนั้น ทำยังกับผมจะสนงั้นแหละ
“ออกไปจากบ้านกู ออกไปจากชีวิตกู!!!” ไอ้มินตวาดใส่หน้าผม ริมฝีปากมันเม้มแน่น แววตามันสั่นระริกด้วยความโกรธ
“กูไม่ออก ถ้ามึงไล่กูอีกครั้งเดี๋ยวกูจะปล้ำมึง”
“ไอ้..!!!”
“กูเตือนแล้วนะ แต่ถ้ามึงต้องการให้กูปล้ำมึง จะลองไล่ดูก็ได้” ผมพูดชิดริมฝีปากที่เม้มแน่นของมัน ชั่งใจอยู่สักพักก่อนจะแนบริมฝีปากของผมลงบนริมฝีปากของมัน สองมือของไอ้มินตัดตัวผมให้ออกห่างแทบจะทันที ดวงตาของมันเบิกกว้าง และแน่นอนว่ามันขัดขืน
“ปล่อย!” ผมโวยลั่น
“อย่าดื้อ” ผมพูดเสียงเข้มนิ่งๆ มันหยุดและผมก็จูบมันอีกครั้ง มันเม้มปากแน่นไม่ให้ผมลุกล้ำเข้าไปในปากมัน หึหึ ด็กชะมัด คิดว่าแค่นี้จะห้ามผมได้เหรอ
ผมเบียดจูบที่ริมปากของไอ้มิน มือข้างซ้ายรวบแขนทั้งสองข้างของมันไขว้ไว้ข้างหลัง ตัวผมดันแนบชิดกับมันทำให้มันดิ้นหนีผมไม่ได้ และมือข้างขวาของผมก็ลูบไล้ที่เอวมันช้าๆ ไล้นิ้ววนที่รอบสะดือผ่านเนื้อผ้าจนตัวมันสะดุ้ง หน้าท้องเกร็งขืนพร้อมกับริมฝีปากมันที่เผยอออก เมื่อมันเปิดทางผมก็ใช้ลิ้นตัวเองล้วงล้ำเข้าไปในปากมัน ไอ้มินครางอื้ออยู่ในคอ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ผมจูบมันอยู่เนิ่นนาน จนสัมผัสได้ถึงรสความเค็มแปร่งๆ เสียงสะอื้นเบาๆในลำคอคนที่ผมจูบทำให้ผมผละออก ไอ้มินกัดปากตัวเองแน่นเมื่อผมถอนจูบ มันหอบนิดๆ ท่าทางตอนนี้มันดูน่าสงสาร แต่จะโทษใคร โทษตัวมันนั่นแหละที่ยั่วโมโหผม ทั้งๆที่รู้ว่าถ้าดื้อกับผมแล้วมันจะต้องเป็นยังไงก็ยังจะทำ
“ปล่อย” มันพูด ผมเลยปล่อยตัวมันแต่โดยดี มันเดินหนีผมไม่นั่งที่โซฟา ผมเดินตามมันไป ไมได้ทิ้งตัวลงนั่ง เพียงแค่ยืนจ้องหน้ามันเท่านั้น ใบหน้าที่มีครามน้ำตาหลงเหลือไว้เป็นหลักฐานว่ามันร้องไห้หันหน้าหนีผมไปทางอื่น มันไม่ได้ร้องไห้ต่อ ผมรู้ว่าคนอย่างมันเข้มแข็งและไม่ร้องไห้ง่ายๆ
แต่ไม่กี่ครั้งต่อกี่ครั้งทีมันร้องไห้ให้คนอย่างผม แต่ไม่ว่ามันจะต้องร้องไห้ให้ผมอีกสักกี่ครั้ง ผมก็จะไม่หยุดจนกว่าผมจะหาคำตอบให้กับตัวเองให้ได้ คำตอบที่ว่าทำไมผมถึงรู้สึกหน่วงในอกเหมือนพี่หินก้อนใหญ่ยักษ์มาถ่วงไว้
มันเป็นความรู้สึกที่ติดค้างมานาน
นานจนทำให้คนๆหนึ่งเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้
ผมกับไอ้มินเงียบ ไม่มีใครพูดอะไร มันนั่งหันหน้าหนีผมเป้นเวลานานจนผมอดคิดไม่ได้ว่ามันจะหันคอกลับมาทางเดิมได้ไหม ไม่ใช่ว่าเส้นเอ็นยึดไปแล้วล่ะ
“มึงเป็นอะไร” แล้วผมก็ทิ้งตัวนั่งลงข้างๆมัน ยืนนานๆมันก็เมื่อยครับ
“เป็นคน” ดูครับ ดูความกวนตีนของมัน ผมพูดีด้วยมันก็กวน ผมถึงไม่เคยพูดดีๆกับมันได้เลยไง ผมไม่ชอบคนดื้อ ไม่ชอบเอามากๆ เวลาเห็นแล้วมันขัดหูขัดตา แต่สำหรับต้นหอม ต้องเว้นไว้หนึ่งคน เพราะรายนั้นดื้อก็จริง แต่ดื้อแบบน่ารัก เขาจะรู้ว่าตัวเองดื้อแบบไหนและจะทำให้ผมใจอ่อน ไม่ได้ดื้อรั้นหัวชนฝาและทำตัวแข็งแบบไอ้มิน
เรียกได้ว่าผมบอกขวามันไปซ้าย บอกซ้ายมันไปขวา หนักๆหน่อยมันก็เดินหันหลังให้ผมนั่นแหละ
“อย่ากวนกูได้ไหมมิน กูความอดทนต่ำมึงก็รู้” ผมบอกมันอย่างเหนื่อยใจ ตีกับมันบ่อยๆมันเหนื่อยนะครับ
“...” ผมนิ่ง ผมได้แต่ถอนหายใจ
“ถ้าเหนื่อยนักมึงก็กลับไปเลยไป” มันหันมามองผมตาขวาง นี่ผมทำอะไรขัดใจมันอีกเนี่ย เอาใจยากจริงแม่ง!
“กูบอกมึงว่าไง” ผมย้ำให้มันคิด
“แล้วมึงถอนหายใจทำไมเล่า” เอ้อ ดีเว้ย แค่ถอนหายใจกูก็ผิด
“เออ กูไม่ถอนหายใจแล้ว ทีนี้จะบอกได้ยังว่ามึงเป็นอะไร” ผมย้อนกลับมาเข้าเรื่องเดิม รู้สึกเหมือนตัวเองโดนดูดพลังงานไปหมดจนแทบไม่มีเรี่ยวแรง
“กูไม่ได้เป็นอะไร”
หลังจากมันบอกมาแบบนั้น คุณคิดว่าผมจะทำยังไง ผมไม่คิดว่าตัวเองจะได้คำตอบที่งี่เง่าแบบนี้หรอกนะ
“มึงเป็น อย่ากวน”
“กูไม่ได้กวน กูไม่ได้เป็นอะไร กูก็เป็นกู มึงต่างหากต้องการอะไร” มันจ้องหน้าผมนิ่งไม่ต่างกัน
“แต่ก่อนมึงไม่เป็นแบบนี้” มันว่าง่ายแบบนี้เยอะ
“เหอะ คนอย่างมังจะมารู้อะไร มึงคิดว่ามึงจักกูดีหรือไง”
“ก็พอตัว” ผมว่าผมไม่ได้หลงตัวเองนะ แต่ผมรู้ว่ามันเป็นคนแบบไหน
“มึงควรจะต้องรู้ไว้ว่ามึงคิดผิด นี่แหละกู” มันจิ้มนิ้วที่หน้าอกตัวเองแรงๆ
“มึงจะไม่บอกใช่ไหมว่ามึงเป็นอะไร”
“...”
“โอเค วันนี้กุจะกลับก่อน แต่อย่าคิดว่ากูจะหยุด ยังไงก็ก็ต้องได้คำตอบว่าทำไมมึงถึงเป็นแบบนี้ กูอยากรู้ว่าไอ้มินที่พูดง่ายใจดีคนนั้นหายไปไหน หวังว่ามึงจะหาคำตอบให้กูได้” ผมสั่งใส่หน้ามันทิ้งท้ายแล้วเดินออกมา
“เพราะมึงไง กูถึงเป็นแบบนี้”
---------
---------
วันนี้ผมมาสั่งต้นหอมไปฝรั่งเศส แอบอดเป็นห่วงไมได้ ถึงรู้ทั้งรู้ว่าไปอยู่กับพ่อแม่ แต่ผมก็ยังกังวล ถามดูกันตามความจริงแล้ว ผมต่างหากที่เลี้ยงต้นหอมมา ตอนกลางวันเขาก็อยู่กับผม เล่นกับผม ข้าวปลาก็เป็นผมที่หาให้กิน เวลาอยู่โรงเรียนผมก็คอยไปดูแลเขา เพราะเขาตัวเล็ก บางทีก็โดนแกล้ง ไม่ใช่ว่ารายนั้นจะยอมให้โดนแกล้งนะ แต่เพราะไม่ยอมนั่นแหละ ผมเลยต้องเข้าไปห้ามตลอด ก่อนนอนถ้าเขาไม่มานอนที่บ้านผม ผมก็จะไปนอนบ้านเขา จนผมรู้ว่าต้นหอมติดนมมากๆ เรื่องนี้ผมไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ต้นหอมรู้หรือเปล่า แต่เรื่องของต้นหอมผมรู้ทุกเรื่อง บางทีผมก็อดคิดไม่ได้ว่าตัวเองมีลูกหรือเปล่า
ผมอยากมีน้อง แต่เพราะไม่มี ผมเลยรักและห่วงต้นหอมมาก ทุกคนผมโอ๋เขาเกินไป แต่ผมกลับไม่คิดแบบนั้น ผมก็แค่คิดอยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุด อะไรที่ต้นหอมอยากได้ ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงผมก็จะหามาให้ตลอด อีกอย่างต้นหอมก็เป็นเด็กดี ไม่เกเร แล้วมันจะมีเหตุผลอะไรที่ผมจะไม่ใส่ใจเขากันล่ะ
ก่อนขึ้นเครื่องต้นหอมเดินเข้าไปกอดผมแน่น ถ้าผมไม่ติดงานผมคงจะบินตามไปด้วยอยู่หรอก แต่บางทีปล่อยให้เขาไปเจอโลกกว้างด้วยตัวเองก็คงดีไม่น้อย
บางทีการแกล้งไอ้เด็กดื้อนี่ก็เป็นเรื่องที่สนุกเหมือนกัน ยิ่งเวลาร้องไห้เนี่ย ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่
“เดินทางดีๆนะต้นหอม อย่าไปดื้อกับคุณพ่อคุณแม่นะ” ผมกอดตอบต้นหอมแน่น ผมคงต้องคิดถึงเขาแน่ๆ
“ครับ น้องไม่ดื้อหรอก” เสียงติดสั่นของต้นหอมทำให้ผมเป็นห่วงนิดๆ คงไม่ไปร้องไห้ที่นู่นหรอกนะ ยิ่งขี้เหงาอยู่ด้วย
“ดีมาก อย่าลืมหานางแบบสวยๆมาฝากพี่สักคนนะ” แมทหยอกเล่นไม่อยากให้เขาเศร้า
“หึหึ เดี๋ยวต้นหอมจะไปฟ้องพี่มิน” ผมเขกหัวต้นหอมก่อนจะชี้หน้าคาดโทษ แก่แดดนักนะ ผมไม่ได้คิดจะปิดบังหรอก แต่อะไรหลายๆอย่างมันยังไม่ลงตัว เลยยังไม่อยากบอก
ผมยืนมองต้นหอมเดินไปหาไอ้ปืน กอดกันที่บ้านนี่ไม่พอใช่ไหม จะต้องให้ผมบอกไหมว่าตั้งแต่ต้นหอมไปคบกันมัน ผมก็ถูกทิ้งบ่อยครั้ง มันชอบเอาน้องผมไปกกกอดที่คอนโด ผมเลยต้องอยู่บ้านคนเดียวในบ้างครั้ง ถึงจะรู้ว่าต้นหอมกับมันยังไม่ได้เกินเลยไปถึงขั้นนั้น ในจุดนี้ผมพอใจเล็กๆ แต่ถึงจะยังไม่มีอะไรกัน แต่ผมก็อารมณ์เสียทุกครั้งที่ต้นหอมกลับบ้านมาในสภาพที่ปากเจ่อคอแดง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามันคงจับต้นหอมฟัดไม่ยั้งแน่ๆ
ผมเกลียดมันก็ตรงนี้แหละ
คิดดูว่าผมเลี้ยงดูต้นหอมมาดีขนาดไหน ถึงจะปล่อยให้น้องพี่แฟน แต่ผมก็คุมทุกอย่างให้อยู่ในสายตา และต้นหอมก็ไม่เคยปล่อยตัวกับแฟนคนก่อนๆเหมือนเวลาอยู่กับไอ้ปืนด้วย
คิดแล้วแค้นครับ!
หลังจากต้นหอมเข้าไปในเกท ผมก็เดินล้วงกระเป๋ากางเกงไปที่รถไอ้ปืน ที่แรกผมจะขับของตัวเองมา แต่เข้าเด็กรักษ์โลกเขาห้ามผมไว้ ผมเลยต้องติดรถไอ้ปืนมาด้วย
“เดี๋ยวกูกลับแท็กซี่เอง มึงจะไปไหนก็ไปเถอะ” ผมหันไปบอกไอ้ปืน ผมไม่คิดจะให้มันไปส่งที่บ้านหรอกนะ มันคงตลกตายถ้าทำแบบนั้น
“ตามใจมึง” ผมบอกนิ่งๆก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ
“ต้นหอมไม่ชอบบุหรี่ น้องรู้หรือเปล่า” ผมถามมัน
“ไม่รู้สิ”
“ถ้าจะให้ดีมึงก็เลิกซะ” ผมสั่ง มันแค่กระตุกยิ้มมุมปาก
ผมกังวลจริงๆนะเรื่องไอ้ปืนกับต้นหอมเนี่ย มันเป็นคนที่เดาอารมณ์อยากมาก แถมยังดูยากอีกด้วย แทบมองไม่ออกเลยว่ามันคิดอะไรอยู่ แม้บางครั้งในแววตาของมันจะฟ้องก็เถอะว่ามันรักต้นหอม แต่ผมไม่รู้ว่ามันรักมากแค่ไหน รักมากพอที่จะไม่ทำให้คนที่ผมรักเจ็บไหม
“น้องกูไม่อยู่ ถ้ามึงนอกใจมัน กูฆ่ามึงแน่”
นี่เป็นเรื่องที่ผมกังวล หน้าตาแม่งดึงดูดทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
“ไม่ใช่เรื่องของมึงนิ เอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อนเถอะ” มันย้อนผมหน้าตาย หน้าแม่งนิ่งได้ใจจริงๆ บางทีผมคิดว่าแม่งเป็นรูปปั้น
“งั้นเรื่องของกูมึงก็อย่าเสือก บอกพี่ก้องด้วยว่าอย่ามายุ่งกับไอ้มิน”
“ไม่ว่ะ กูไม่ชอบยุ่งกับเรื่องของคนอื่น เว้นแต่ว่ามันจะมีผลประโยชน์กับกู” พูดจบมันก็กระโดนขึ้นรถแล้วขับออกไป ทิ้งให้ผมยืนหัวเสียอยู่คนเดียว เพราะแม่งกวนตีนอย่างนี้ไงผมถึงไม่ชอบหน้ามัน แต่ทำไงได้ ต้นหอมรักมันไปแล้วนี่ แถมยังรักมากเสียด้วย ผมจะไปห้ามได้ยังไง ถ้าผมสั่งห้ามต้นหอมไม่ให้คบกับไอ้ปืนอย่างใจนึกนะ เชื่อเถอะว่าผมคงโดนโกรธแบบงอสามเดือนก็คงไม่หาย =_=
เป็นแบบนี้คงไม่น่าอภิรมณ์แน่ๆ
ผมนั่งแท็กซี่กลับไปที่บ้านก่อนจะขับออกไปทำงาน ผมยังไม่ได้ทำอะไรเต็มตัวหรอกครับ แต่แค่เข้าไปศึกษางานมากกว่า บ้านผมทำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ กว่าจะเสร็จงานก็ปาเข้าไปทุ่มกว่าแล้ว
[ไอ้แมท มากินเหล้ากัน]
อีกแล้วเหรอวะ
“ที่ไหน เมื่อไหร่” แต่ผมก็ไม่ปฏิเสธครับ
[ที่เดิมเลยมึง สักสามทุ่มแล้วกัน คืนนี้พวกกูอาจจะไปต่อ] ไอ้ธาม เพื่อนสนิทในคณะของผม นอกจากไอ้ธามผมก็ยังมีเพื่อนอีกสี่คน คือ ไอ้ฟ้า ไอ้ไทม์ ไอ้จิวและไอ้หมอก
เหนื่อยขนาดนี้ผมไม่ได้มีอารมณ์อยากจะไปกินเหล้าหรอก แต่พอมันบอกว่า ‘ที่เดิม’ ผมก็ไม่ลังเลที่จะตอบตกลง เพราะร้านนั้นเป็นร้านที่ไอ้มินมันทำงานอยู่
คืนนี้แหละ มันเสร็จผมแน่!
“ได้ แล้วเจอกัน” ผมวางสายแล้วขับรถกลับบ้าน
ถ้าวันนี้ผมไม่ได้คำตอบจากมันล่ะก็ ผมปล้ำแม่ง!
--------------------------------------------------
ตอนนี้สั้นๆนะคะ เพราะยาวกว่านี้มันจะเป็นพาทที่น้องมินเล่าแล้ว คู่นี้ดุเดือดดีใช่ไหมล่ะ ฮ่าๆๆ 
ไม่แน่ใจว่าเคยบอกไปหรือยังว่าบ้านแมททำอะไร เพราะไม่มีเวลากลับไปเช็คของเก่าเลย เดี๋ยวต้องออกไปทำรายงานกับเพื่อนอีก ถ้าเคยบอกไปแล้วแล้วไม่ตรงกับตอนนี้ก็บอกด้วยนะคะ จะแก้ไขให้ ^^ 

เม้นด้วยนะที่รัก 
คิดถึงทุกคนเลย กอดๆ