ขอโทษษษษษษ!!!วุ่นวายทำห้องน้ำอ่ะ ชักโครกแตก..ฮะฮ่าๆๆๆ
เหลืออีก 4 ตอนจบแล้วนะคนอ่านที่น่ารัก
ยังคงเป็นพาร์ทบอลลูนอยู่เด้อปล.หนังสือเหลือ 40 กว่าชุด คนเขียนจะไม่เปิดจองเพิ่มแล้วอ่ะ
คือมันวุ่นวายเหนื่อยด้วยอ่ะ หมดแล้วหมดเลยแล้วกันนะคะ
สำหรับใครที่อยากได้บ็อกเซทกับของแถมเก็บไว้ก็ติดต่อมาที่เมลล์luxilove_19690 แอท hotmail ดอท comMy..Love
Part 62
[Special Balloon]50%“บอลเลิกเรียนเป็นเพื่อนพัชรซื้อของนะคะ” สาวสวยลูกนายทหารใหญ่กับคุณหญิงตราตั้ง คนที่เคยขอเบอร์ผมตอนงานหมั้นพี่โจ๊กพี่หนกที่ลานจอด
แล้วผมให้เบอร์ไอ้วิทย์ไป เธอโทรไปจนรู้ว่าผมเจตนาให้เบอร์ไอ้วิทย์แถมให้ชื่อหลอกอีก
หนีไม่พ้นดันมาเจอที่เตรียมอุดมเป็นรุ่นพี่ม.6 ดวงผมกับสาวรุ่นพี่มักมีมาประจำ
หนักสุดดันเป็นหลานผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการเสียด้วยสิ..เฮ้อ!
“ผมไม่ว่าง ต้องไปรับแฟน” ปฏิเสธตั้งแต่เปิดเรียนมาแล้ว ไอ้วิทย์มันก็หน้าเสียที่โดนผู้หญิงตัดไม่ตรี
แถมให้มันรับผิดชอบติดต่อผมให้อีก ผู้หญิงเดี๋ยวนี้แรงกันจริงๆ
“งั้นเหรอ..เลือกเอาระหว่างแฟนกับเรียนอย่างสงบ บอลเข้าปีแรก น้องใหม่ม.4 สายวิทย์ ไม่กี่วันรุ่นพี่รับน้อง
พัชรกับเพื่อนเป็นคณะกรรมการนักเรียน อย่าลืมสิ...” เธอยิ้มสวย ในรอยยิ้มมีความท้าทายชัดเจน
สำหรับผมไม่เคยเกรงกลัวคำขู่ใคร โดยเฉพาะวิธีการบังคับยิ่งเกลียดเข้าไส้
“ถามจริงพัชร ทำแบบนี้ต้องการอะไร พัชรรู้แล้วว่าผมมีแฟน ผมรักเขามาก หากหวังอะไรจากผมพัชรจะไม่ได้สิ่งนั้นแน่”
ผมเป็นคนชอบพูดตรงๆไม่ชอบอ้อมค้อม ไอ้วิทย์ ไอ้เอก ไอ้หนุ่ยยืนอยู่ข้างๆพากันจ้องเธอด้วย
ขณะที่พัชรกับเพื่อนๆ ยิ้มเย็นอย่างอารมณ์ดี
“บอลทำพัชรหน้าแตก สวรรค์มีตาเลือกสอบเข้าที่นี่ โชคดีที่พัชรไม่ได้บอกวิทย์ ฟังจากเสียงพัชรก็รู้แล้วไม่ใช่บอล
อาศัยคุยด้วยแค่อยากรู้ข้อมูลบางอย่าง เมื่อเข้ามาเป็นรุ่นน้อง บอลควรทำตัวดีๆว่าง่ายๆ ระบบรุ่นพี่รุ่นน้องของเตรียมฯ
มีวัฒนธรรมยาวนาน ไปศึกษาดูให้ดี ปีนเกลียวมากๆ จะโดนบอยคอร์ดแล้วบอลจะอยู่ไม่ได้” ผู้หญิงบทจะร้ายน่ากลัวใช่เล่น
“ไอ้บอล..กูว่ามึงใจเย็นลองยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนกับเธอแล้วกัน กูไม่ได้กลัวนะแค่ไม่อยากให้เรามีเรื่องตั้งแต่ต้นเทอมวะ”
ไอ้เอกกระซิบบอกข้างหู
“แล้วพัชรจะเอายังไง” ลองทำตามคำแนะนำมันดู
“ยืมเป็นแฟนสักอาทิตย์ จากนั้นจะคืนอิสรภาพให้ทางใครทางมัน เว้นเสียแต่บอลไม่อยากได้อิสรภาพคืน”
แววตาเจ้าเล่ห์ของผู้หญิงลองทำขึ้นมาดูร้ายกว่าผู้ชายมากครับ
“อาทิตย์หนึ่งเชียว ขอสามวันได้ไหม” ต่อรองเหมือนของซื้อของขายเลยตอนนี้ ไอ้เรื่องกลัวคำขู่ผมไม่เท่าไหร่
หวงเพื่อนในกลุ่มจะเดือดร้อนไปด้วยนี่สิ อิทธิพลของพัชรไม่ใช่เล่นสำหรับที่นี่
“ไม่ได้..หนึ่งอาทิตย์ก็ต้องหนึ่งอาทิตย์ หรือกลัวใจตัวเองขึ้นมาล่ะ” หลงตัวเองก็เท่านั้น
ต่อให้สวยหยาดฟ้ามาดินไม่สามารถกระตุ้นความรู้สึกผมได้หรอก เทียบกับบูแค่นึกถึงหน้าใสตากลมโต
ท่าทางมึนๆอึนๆเผลอยิ้มโดยไม่รู้ตัวแล้ว กับผู้หญิงแบบนี้ต่อให้แก้ผ้ายั่ว ยังไม่มีอารมณ์อย่างว่าเลย
“รักษาคำพูดด้วย หลังจากนี้ห้ามวุ่นวายกับผมอีก” ตัดบท แค่อาทิตย์เดียวคงไม่มากไป แป๊บๆก็ผ่านไปแล้ว
“ให้พัชรได้แก้หน้าควงนายแบบอินเตอร์สุดฮอตสักอาทิตย์ ขอเป็นฝ่ายเขี่ยทิ้ง เท่านี้พัชรก็โอเคแล้ว”
นี่สินะที่ผู้หญิงเขาฮิตติดเทรนด์กัน ขอแค่ได้ควงยั่วคนให้อิจฉาเล่น กลายเป็นผู้ชายคือตัวตลก
“บอล..มึงเอาแน่เหรอวะ” ไอ้หนุ่ยสีหน้ามันไม่สู้ดี
“มึงคิดว่ากูควรทำไง นอกจากให้มันจบๆไป” มันเงียบ
นอกจากวิธีนี้แต่ละคนยังนึกไม่ออก ว่าผมควรทำยังไงเมื่อเลี่ยงไม่ได้
“เย็นนี้เจอกัน พัชรจะรอ” เธอยิ้มอย่างมีความสุขก่อนหันหลังเดินนำบริวารหกคนยิ้มพราวอย่างผู้ชนะ ตามกันออกไป
“หนุ่ย วิทย์ เอกกูขอร้องเรื่องนี้อย่าให้รู้ถึงหูบู” หันไปกำชับเพื่อนๆ พวกมันพยักหน้าเข้าใจ
ใครจะว่าผมโง่ที่ยอมผู้หญิงก็ช่างเถอะครับ
ที่จริงไม่ว่าจะหญิงหรือชายผมไม่เคยคิดยอมใคร ประเด็นอยู่ตรงพวกเพื่อนพลอยเดือดร้อนไปด้วย
หากพัชรใช้อิทธิพลในฐานะรุ่นพี่เป็นตัวสร้างสถานการณ์กดดัน เราต้องรับน้องอีกไม่กี่วัน
ผมไม่อยากให้เพื่อนๆต้องอับอายขายหน้าด้วยอะไรก็แล้วแต่ หนักสุดอาจโดนเธอเล่นงานแรงๆ
ซึ่งคาดเดาไม่ได้ ฟังจากประวัตินักเรียนที่เป็นปรปักษ์กับพัชรไม่มีใครเรียนที่นี่ได้เลย ต้องหนีลาออกกันหมด
คงเพราะบารมีพ่อแม่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการที่เป็นญาติผู้ใหญ่ของเธออีก
“ทำไมไม่ลองปรึกษาพวกพี่แบมวะ” ไอ้วิทย์มันเสนอ
“ปรึกษาหรือนำเรื่องลำบากใจไปให้ มึงก็รู้ช่วงนี้พวกพี่เขาวุ่นวายรับน้อง ปรับตัวเรื่องเรียนสารพัดต้องจัดการ
เรื่องแบบนี้อย่าให้รกสมองเขาเลยวะมันยังไงไม่รู้ เรียนคนละที่พวกพี่เขาทำอะไรได้ มีทางเดียวคือให้ไอ้บอลฝืนใจสักอาทิตย์
ยัยพัชรบอกแค่ยืมควงนี่หว่า ไม่ได้ขอให้มันนอนด้วยเสียเมื่อไหร่” ไอ้เอกแย้งเองหมด เหตุผลของมันไม่ต่างที่ผมคิดเท่าไหร่
ไม่อยากนำปัญหาไปให้พวกพี่เขามากกว่า บางเรื่องจบได้ควรจบ ลองดูก่อนจะยืดเยื้อหรือไม่ ถ้าจบด้วยดีผมยอมจบ
ถ้ายอมขนาดนี้แล้วยังไม่จบ ถึงตอนนั้นจะว่าผมร้ายไม่ได้ คนเรามีลิมิตเรื่องความอดทนทุกคน
“หนุ่ย..เย็นนี้มึงเอารถกูไปมหา’ลัย ให้บูขับกลับบ้านบอกกูติดงานก็แล้วกัน” ผมส่งกุญแจรถสปอร์ตให้ไอ้หนุ่ยมันรับไป
“อ้าว!..แล้วมึงใช้รถที่ไหนรับยัยพัชร” ไอ้เอกถาม
“ให้กูไปเป็นเพื่อน ไม่ได้แปลว่าต้องนั่งรถกู อยากไปก็รถเธอสิวะ ถ้าไม่มีก็แท็กซี่..รถกูสงวนให้เมียคนเดียว”
พูดตามความรู้สึก รถคันนี้เป็นชื่อบู ไม่มีทางที่ผมจะยอมให้ผู้หญิงหรือใครเสนอหน้านั่งคู่ ส่วนเพื่อนๆที่ได้นั่งเพราะคือเพื่อน
เช่นไอ้หนุ่ยติดรถผมไปหาพี่เขมทุกเย็นที่คณะฯตอนผมไปรับบู จากนี้คงยกรถให้บูใช้ ยอมขึ้นแท็กซี่มาเรียนสักอาทิตย์
“มึงแม่งสุดยอดวะ หวังว่าพี่บูคงไม่ระแวงนะ กูไม่อยากนึกภาพเลยจริงๆ ทางที่ดีมึงโทรบอกล่วงหน้าหน่อยว่าติดธุระ
ถ้าพี่เขาถามพวกกูจะได้ช่วยแก้ตัวให้” คิดไว้แล้วจะโทรบอกบู
“พวกมึงอย่าหลุดปากก็แล้วกัน” ผมย้ำพวกมัน ขืนให้บูรู้เรื่องจะไม่จบ สู้ไม่ต้องให้รู้ดีที่สุดไม่อยากให้บูเป็นกังวล
“อืมพวกกูรู้น่า ที่มึงยอมเพราะห่วงพวกกูจะลำบาก ลงทุนขนาดนี้ถ้าไม่จบไม่ต้องห่วงพวกกูแล้ว ยังไงกอดคอกันลุย
อยู่ได้ก็อยู่..อยู่ไม่ได้ย้ายแม่งกลับไปเรียนที่เก่า เชื่อสิโรงเรียนเก่าพร้อมอ้าแขนรับพวกเราอยู่แล้ว
แต่ย้ายกลางเทอมมันไม่ได้นี่สิ ต้องรอให้หมดเทอมก่อน” ไอ้วิทย์มันพูดขึ้น พวกเราเลยกอดคอกันเดิน
ถึงตอนนี้ไม่มีทางเลือก ยอมไปก่อนแต่ถ้ามากก็ต้องชน อย่างที่มันพูด..อยู่ได้ก็อยู่ไม่ได้จริงคงต้องย้าย
“ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน” ผมสรุป
“ขึ้นเรียนเถอะ” ไอ้เอกตบบ่าแปะๆ
“อืม..มึงสองคนเมื่อไหร่จะเปิดตัวสักที” ไอ้หนุ่ยหันไปยิ้มล้อไอ้วิทย์กับไอ้เอก ผมได้แต่กลั้นขำ
เป็นเรื่องตลกในกลุ่มที่ไอ้สองคนนี่เปลี่ยนหญิงเป็นว่าเล่น ไม่ลงเอยกับใครสักที พอมันเหงาก็ติดกันสองคน
ผมกับไอ้หนุ่ยเชียร์ให้มันเอากันเอง เราทั้งคู่ต้องไปหาแฟนเลิกเรียนจึงไม่ค่อยมีเวลารวมกลุ่มเหมือนแต่ก่อน
กังวลมันสองคนจะเหงา
“ไอ้เหี้ย..ต่อให้กูเป็นเกย์กูจะไม่..” ไอ้เอกพูดไม่ทันจบ โดนไอ้วิทย์เอามือปิดปากทันควัน
“มึงห้ามพูดเด็ดขาด สิ่งที่มึงพูดออกมาจะกลายเป็นตรงข้ามทันที กูไม่อยากได้มึงเป็นเมีย..ปากหมาฉิบหาย”
ไอ้วิทย์ชิงพูดเสียเอง ผมสองคนไอ้หนุ่ยได้แต่หัวเราะตาม
“สัด..ห้ามกูพูด มึงล่อซะจบประโยค กูไม่ซวยเหรอไอ้เหี้ยวิทย์ถ้ามึงบอกสิ่งที่พูดจะเป็นตรงข้าม” ไอ้เอกโวยใหญ่
“เออ..กูลืม แต่ยังไงมึงก็เป็นเมียกูนิ ถ้ามันจะเป็นจริงกูคงยอม ดูไอ้บอลกับไอ้หนุ่ยมันยังไม่เดือดร้อน..ฮะฮ่าๆๆ”
ไอ้วิทย์หัวเราะร่าก่อนเผ่นหนีให้ไว เพราะไอ้เอกวิ่งไล่เตะมันเอาเป็นเอาตาย
“มึงดูมันสองคน ไม่พ้นฟิชเจอริ่งกันชัวร์” ไอ้หนุ่ยสรุปล่วงหน้า
“รอดูไป พวกมันไม่รู้ตัว..ติดกันยังกับตังเม ห่างเรื่องสาวๆพักใหญ่มันยังไม่เข้าใจตัวเอง ของแบบนี้ต้องใช้เวลา”
ผมคิดไม่ต่างไอ้หนุ่ย สายตาไอ้เอกมักแสดงออกไม่พอใจเวลาไอ้วิทย์ป้อสาว ไอ้วิทย์ไม่สบอารมณ์
ตอนไอ้เอกมีสาวเข้ามาคุยด้วย พวกมันไม่รู้ตัวกันเลยมั้ง
“บูครับ” โทรหาบู รู้ว่าบูรอเข้าเรียนเลยแอบหลบออกมาโทรก่อน
“ครับ..บอลมีอะไรเหรอ” เสียงใสๆดังให้ได้ยิน แค่นี้ก็มีกำลังใจ
“บอลไม่ได้ไปรับสักอาทิตย์นะ ฝากรถให้ไอ้หนุ่ยขับไปให้แล้ว บูขับกลับเองนะครับ บอลติดงาน
จบงานแล้วถึงว่างไปรับส่งเหมือนปกติ”
“เหรอ..แล้วบอลเอารถที่ไหนใช้ บูนั่งแท็กซี่ได้” น่ารักจริง เพราะบูห่วงผมไม่เคยเปลี่ยน แบบนี้จะให้มองใครได้
“ไม่ต้องครับ บูขับรถแหละดีแล้ว บอลนั่งแท็กซี่สะดวกกว่า ได้ไม่เหนื่อยขับรถด้วย ไม่แน่ใจเรื่องเวลาเลิกมันไม่ตายตัว
เผื่อเหนื่อยจะได้พักให้แท็กซี่ขับ” ผมอ้าง ในใจแอบขอโทษบูที่ต้องโกหก ทำเพื่อความสบายใจ
“เอางั้นเหรอ ถ้างั้นเช้าๆบูมาส่งบอล เย็นบอลค่อยนั่งแท็กซี่ดีไหม หรือจะให้บูขับไปรับก็ได้นะ” ยังห่วงผมไม่เลิก
“ไม่ต้องยุ่งยากหรอก บูต้องทำกิจกรรมกีฬาเฟรชชี่ไม่ใช่หรือครับ บอลยกรถให้บูเอาไปใช้จะได้สะดวก” ผมตัดจบ
“อืม..เลิกสองสามทุ่มแหละ ช่วงนี้ทั้งรับน้องทั้งเฟรชชี่วุ่นวายอ่ะ แถมเรียนก็ยังต้องปรับตัวอีก”
เสียงบ่นเนือยๆ ทำเอายิ้มตามยามนึกถึงใบหน้าน่ารักกำลังขมวดคิ้วยุ่ง ลูกตากลมโตแสดงอารมณ์ตามคำพูด
“แต่บูเลือกแล้วนี่ครับ สักพักคงเข้าที่เข้าทางเองแหละ”
“อืม..พี่โชคก็พูดแบบนี้” ชื่อนี้ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่สบายใจฟัง ถึงตอนนี้ไม่มีทางเลือก
มีแต่พี่โชคที่เป็นหูเป็นตาให้ ถึงจะรู้ว่าลึกๆพี่เขาคิดกับบูยังไง ตราบใดที่ยังยืนในจุดพอดีไม่ล้ำเส้นผมก็ไม่ว่าอะไร
“อืม..แค่นี้นะครับ บอลต้องขึ้นเรียนแล้ว”
“ครับ..ตั้งใจเรียนนะ..บู..?” แล้วก็เงียบ ไม่ยอมพูดให้จบ
“บูอะไร พูดให้จบสิ” ผมเร่งอดยิ้มไม่ได้ ลุ้นจะยอมพูดหรือเปล่า
“บู..รักบอลนะ” เสียงเบาเชียว หน้าคงแดงแปร๊ดไปแล้ว อยู่ใกล้ๆคงอดที่จะจูบปากสีสดที่ขมุมขมิบบอกรักผมไม่ได้แน่ๆ
“ครับ..บอลก็รักบู ดูแลตัวเองให้ดี” ผมย้ำ
“อืม..บอลก็ดูแลตัวเอง ห้ามใครมาจีบ” ทีงี้เสียงดังฟังชัด ผมกลับรู้สึกวูบแปลกๆ
“บู..ไม่ว่ายังไงต้องเชื่อใจบอลนะ..ไว้ใจบอลสัญญาได้ไหมครับ” อดไม่ได้ใจสั่งให้พูดล้วนๆ
“หืม..พูดแปลกๆ” ไม่รับปากดันถามผมอีก
“สัญญาก่อนสิ บูต้องไว้ใจบอลสัญญาได้ไหม”
“อืม..สัญญา..บอลก็ต้องไว้ใจบูเหมือนกันนะ” น่ารักชะมัด
“บอลไว้ใจบูครับ..ดูแลตัวเองด้วย” รอจนบูวางสาย ค่อยเดินอมยิ้มกลับเข้าห้องเรียน
“แม่งยิ้มได้แล้ว มึงยิ้มแบบนี้พวกกูค่อยสบายใจหน่อย” ไอ้วิทย์มันแซว หลังผมกลับมานั่งที่
“มึงอิจฉามันก็หาตัวจริงสักทีสิวะ เผื่อมึงจะยิ้มอย่างมันได้บ้าง” ไอ้เอกแขวะทันที มันกลายเป็นคู่กัดไปแล้วครับ
“เหรอ..รอมึงหาให้ได้ก่อนกลัวมึงเหงา ขืนกูมีตัวจริงมึงคบใครทีนี่ ไอ้หนุ่ยกับไอ้บอล
เลิกเรียนก็ต้องไปหาแฟนกันทั้งนั้น” ไอ้วิทย์ตอกกลับอย่างเจ้าเล่ห์ ยกความดีเข้าตัวเฉย
“นี่มึงว่ากูตัวถ่วงมึงเหรอไอ้ห่าวิทย์” ไอ้เอกตาเขียวใส่แล้ว
“นายวรวิทย์กับนายเอกพล เธอสองคนจะเรียนหรือจะคุยกันห๊ะ!” อาจารย์ตะโกนอยู่หน้าห้อง
ไอ้ตัวดีหุบปากหน้าเจื่อนไปทั้งคู่ ผมกับไอ้หนุ่ยกลั้นหัวเราะไปตามระเบียบ ตลกพวกมันจริงเชียว...?
ขอบคุณที่ตามอ่านกันนะคะ มีคนอ่านหลายคนเห็นชื่อเรื่องแล้วบอกไม่น่าสนใจ
เข้าใจว่าเราจับตุ๊ดกับทอมมาเป็นแฟนกัน เพราะต้องการความแปลก
หรือม้นเป็นความจริงหว่า??
? เราควรเอาตุ๊ดซ่ากับทอมแสบออกไหม?
ไหนใครมีความเห็นช่วยชี้แนะหน่อย คิดว่ายังไงกันบ้างอ่ะ
Luk.
ปล.ไม่มีใครเม้นท์ความรู้สึกเอาโปสการ์ดสักเท่าไหร่เลย ไม่ชอบกันเหรอ
มีคนเม้นท์น้อยมากอ่ะ คนเขียนให้จริงน๊าาาา...ส่วนคนที่เม้นท์มาแล้ว
เลือกเก็บไว้อยู่ รอคนอื่นๆ ดูจำนวนแล้วถ้ามีไม่เยอะ คงได้กันหมดแหละ
สงสัยกระทู้เราเรื่องนี้มันไม่โดนจริงเปล่าหว่าาาา???? คนถึงบอกความรู้สึกไม่ออก