บัดนี้หัวใจของศรีปางตาลรุ่มร้อนเหมือนอยู่ในกองเพลิงแห่งราคะ ถ้อยคำในสาร์นที่พราห์มสวามินส่งมาให้นั้นทำให้นางลืมคำสั่งห้ามของพระบิดาไปหมดสิ้น เมื่อได้รู้ว่าชายที่นายหลงรักก็มีใจให้นางด้วยเหมือนกันแล้วนั้น ยิ่งทำให้นางลืมกลัวทุกอย่างไปหมดสิ้น
“แก้มัดให้ข้าบัดเดี๋ยวนี้ มิเช่นนั้นข้าจะกัดลิ้นตาย” ศรีปางตาลทำท่าเอาจริง แต่โมราห์กลับสองจิตสองใจที่จะทำตามคำสั่ง
“ข้าบอกให้แก้มัดให้ข้า” สีตาของนางสว่างวาบขึ้นมา จนโมราห์ถึงกับทรุดลง นางไม่เคยเห็นพระนางของนางมีท่าทีเหี้ยมโหดแบบนี้ แววตาและใบหน้าของศรีปางตาลนั้นเหมือนถูกปิศาจเข้าสิง
โมราห์ค่อยๆคลานเข้าไปหา หลบตาศรีปางตาล พลางเอื้อมมือไปจับเชือกอาคม ทันทีที่โมราห์จับ เชือกนั้นก็ร้อนขึ้นเหมือนเหล็กกล้าที่ถูกไฟแผดเผาจนแดงฉาน มือของโมราห์นั้นไหม้ผองจนมีควันขึ้นมา แต่นางก็ต้องฝืนใจแก้มัดเชือกนั้น เพราะรู้ดีว่าบัดนี้ศรีปางตาลผู้เป็นนายเหนือหัว มิใช่ศรีปางตาลคนเดิมอีกต่อไปแล้ว
ทันทีที่เชือกอาคมนั้นหลุดออก ศรีปางตาลก็ลุกขึ้นเดินข้ามหัวนางกำนัลที่บัดนี้ นอนดีดดิ้นร้องโหยหวนทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด
ศรีปางตาลไม่แม้แต่จะปลายตามอง มีแต่เสียงร้องเรียก
“พระนาง พระนาง” อยู่เบื้องหลังเท่านั้น
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
ฟากพิทที่ยังคงร้อนอกร้อนใจไม่รู้จะทำอย่างไรกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นดี เขาพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆจนเข้ารูปเข้ารอยแล้ว แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าจะช่วยได้อย่างไร
เวลาใกล้เข้ามาทุกที เขารู้ว่านางนาคต้องขึ้นมาตามคำลวงของพราห์มแปลงนั่นแน่ๆ พิทพยายามส่งสารบางอย่างไปยังสวามิน แต่เปล่าประโยชน์ เขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเต้นเป็นเจ้าเข้าโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้เลยว่าเรื่องร้ายกำลังจะเกิดขึ้น
เมื่อทำอะไรไม่ได้ พิทจึงรีบเร่งฝีเท้าไปยังริมนทีในนิมิต เขาจำได้ดีว่ามันอยู่ไม่ไกลจากอาศรมมากนัก แต่ทันทีที่พิทไปถึงเขาก็พบเพียงแต่ความว่างเปล่า
พิทไม่ลดละความพยายาม เขายังคงนั่งรออยู่ และแล้ว ไม่นานนัก เขาก็เห็นความเคลื่อนไหวบางอย่างภายใต้ผืนน้ำอันเรียบนิ่ง ผืนน้ำที่ค่อยๆกระเพื่อม พร้อมทั้งเสียงพ่นลมหายใจฟู่ๆ
“พญานาค” พิทตื่นตะลึงอีกครั้ง เขายืนนิ่งมองนาคตนนั้นค่อยเลื้อยส่ายมายังริมฝั่งและกลายร่างเป็นศรีปางตาล หญิงสาวที่งดงามสมดั่งธิดาแห่งมหานที
ทันทีที่นางขึ้นฝั่ง เกล็ดมรกตที่เคยห่อหุ้มก็กลับกลายเป็นอาภรณ์สีปีกแมลงทับ หงอนสีแดงสลับทองก็กลายเป็นอัญมณีสร้อย ต่างหู ประทับร่าง
นางค่อยๆเยื่องย่างขึ้นจากน้ำ และมองหาอะไรบางอย่าง พิทเริ่มลนลาน เขาเคยเห็นภาพครุฑยุดนาคมาแล้ว เขาไม่อยากให้เกิดเช่นนี้อีก
“ต้องทำอะไรสักอย่าง คิดสิๆ” พิทเดินวนไปวนมาเหมือนหนูติดจั่น เขาเฝ้าแต่คิดว่าจะช่วยศรีปางตาลอย่างไร แต่ยิ่งคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งพบเจอแต่ความมืดมิด
“โธ่เว้ย แล้วจะให้ย้อนเวลามาทำบ้าอะไรวะ” ในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวก่นด่าเสียงดังลั่น ปากก็ร้องห้ามศรีปางตาลไม่ให้เดินขึ้นมา
“อย่ามา หยุดอยู่ตรงนั้น อย่ามา” แต่ไม่เป็นผล นางเดินผ่านร่างของเขาไปเหมือนอากาศ พิทพยายามจะจับมือนางแต่ไร้ประโยชน์
และแล้วสิ่งที่พิทกลัวมากที่สุดก็เกิดขึ้น การปรากฏกายของพราห์มสวามิน ที่มีแต่พิทเท่านั้นที่รู้ว่าเขาคือตัวปลอม แต่ตรงกันข้ามกับศรีปางตาล นางดีใจและร่ำไห้ด้วยความปิติ ก่อนจะถลาเข้าไปคุกเข่าต่อหน้าพราห์มนั่น มือทั้งสองข้างลูบเท้าเขาแล้วเอามา
สัมผัสหน้า
“ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน ท่านพราห์ม” พิทเห็นน้ำตาของนางไหลเปื้อนเท้าชายผู้นั้น นี่เป็นการลดเกียรติการเป็นเผ่านาคาเป็นอย่างมาก การที่ต้องก้มหัว คุกเข่าและลูบเท้ามนุษย์เช่นนี้
แต่ศรีปางตาลสละแล้วซึ่งศักดิ์ศรีทั้งปวง บัดนี้นางรักสวามินอย่างหมดใจ และในขณะเดียวกันก็หลงกลสิมันตาเข้าแล้วเช่นกัน
พิทมองภาพเหล่านั้น เขาเริ่มอยากจะทึ้งตัวเองออกเป็นชิ้นๆ เขารู้ดีทุกอย่างแต่กลับช่วยนางนาคไม่ได้ พิทเข้าใจและรู้ซึ้งแล้วว่าทำไมนางถึงอาฆาตพยาบาทเขาถึงเพียงนี้
ความรักและศรัทธาที่บริสุทธิ์นั่นถูกตอบแทนด้วยคำลวง มันเหมือนการควักเอาดวงตาและหัวใจนางออกมาพร้อมๆกันเลยทีเดียว
“โธ่ ศรีปางตาล” พิทเผลอหลั่งน้ำตากับภาพที่เห็น