ทั้งคู่นอนหันหลังให้กัน ใจหนึ่งพิทก็อยากจะปรับความเข้าใจ แต่อีกใจปล่อยไว้แบบนี้ก็คงจะดีกว่า
พิทผล็อยหลับไปตอนไหนไม่รู้ แต่เขาตื่นอีกทีเมื่อได้ยินเสียงคนเดินไปเดินมาที่นอกเรือน พิทลืมตาขึ้นและพบว่ายังมืดอยู่ และคนที่ยืนอยู่หน้าเรือนก็คือศรีเมือง
“ทำไมตื่นเช้าจังวะ จะรีบไปไหน” เขายีตางัวเงีย
“จากนี่ไปหัวเมืองภูนาครอีกไกล คงต้องใช้เพลาสักสองวัน หากมิออกแต่ย่ำรุ่ง จักถึงช้า” ศรีเมืองดูเคร่งขรึมขึ้น
พิทลุกขึ้นล้างหน้าล้างตา ก่อนจะแต่งตัวและออกมายืนพร้อมเขา
ศรีเมืองเร่งฝีเท้าเดินนำออกไป พิทเดินตามหลังไปอย่างเงียบๆ
ระหว่างทางศรีเมืองนิ่งเงียบไปตลอด จนพิทก็รู้สึกอึดอัด เขาจึงเร่งฝีเท้ามาเดินข้างๆศรีเมือง
“นายโกรธชั้นเหรอ”
เขาไม่ตอบ
“ขอโทษนะที่ทำให้รู้สึกไม่ดี ชั้นผิดเองแหละ ที่ไม่...........”
“เจ้าไม่ผิดดอก” ศรีเมืองแทรกขึ้นมา “ที่ข้าเงียบไปเพราะข้ากำลังทำใจ เจ้าพูดถูกทุกอย่าง ข้าเข้าใจ เพราะฉะนั้นข้าจึงพยายามไม่ผูกพันกับเจ้ามาก หากวันหนึ่งเจ้าจากไปจริงๆ ข้าจักได้มิต้องเสียน้ำตา”
พิทกลืนน้ำลายลงคอ กี่หนแล้วที่เขาต้องทำร้ายความรู้สึกของชายผู้นี้
“แต่นายไม่คิดว่าเราควรจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้คุ้มค่าที่สุดเหรอ” พิทถาม
“มันจักมีประโยชน์อันใด ในเมื่อเจ้าจักต้องไปอยู่ดี”
“นายไม่อยากเก็บชั้นไว้ในความทรงจำเลยเหรอ” น้ำเสียงของพิทดูเหงาหงอยลงไป เขาใจหายเมื่อคิดว่า อีกไม่นานจะต้องกลับ
ภพของตนเองแล้วละทิ้งชายที่แสนดีผู้นี้ไว้เบื้องหลัง
ศรีเมืองก็ดูเหมือนจะเงียบไป เขาเดินก้มหน้า
“พักที่นี่ได้มั้ย ชั้นเหนื่อย” ทั้งคู่หลบพักอยู่ใต้ต้นไทรใหญ่เมื่อเห็นว่าเย็นย่ำมากแล้ว เขาอาสาไปหาน้ำดื่มมาให้ศรีเมือง
“ดื่มน้ำก่อนสิ” เขายื่นน้ำให้ศรีเมืองก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“แล้วนายจะทำยังไงต่อไป” พิทถาม
เขาได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่
“เฮ้อ ไม่รู้สิ ข้ายังไม่ได้คิด แค่เรื่องของเจ้าก็เต็มหัวข้าไปหมดแล้ว” ศรีเมืองพูดติดตลก
“ขอโทษนะที่โผล่มาทำให้นายวุ่นวาย ยุ่งยาก”
“ไม่ดอก ข้าห่วงเจ้าเสียมากกว่า หากเรื่องที่เจ้าพูดเป็นเรื่องจริง นางนาคตนนั้นไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่”
“ข้าไม่กลัวแล้ว ข้ามีคาถาอาลัมพายน์”
“อย่าชะล่าใจไป เจ้าลืมเสียแล้วหรือว่าที่หมองูตายไปน่ะ ยังไม่ได้พิสูจน์ว่าคาถานั่นได้ผลหรือไม่”
“โห นายอ่ะ จะให้กำลังใจกันก็ไม่ได้”
“ไม่มีข้าแล้ว เจ้าก็หมั่นฝึกฝนท่องคาถา อย่าเที่ยวไปกอดกับใครโดยที่ยังไม่รู้จักเขา อย่าเที่ยวเอาดาบมาจิ้มตัวเอง ฝึกต่อสู้ไว้
ป้องกันตัวเองบ้างแล้วก็.....”
พิทเอานิ้วมาแตะริมฝีปากศรีเมือง บรรยากาศที่ดวงอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้านั้นยิ่งทำให้ภายในหัวใจว้าเหว่ กลิ่นหอมของดอกประตู่ลอยมาตามลม หวนให้พิทคิดถึงที่ที่เขาจากมา
“ชั้นรู้ว่านายเป็นห่วง” พิทยิ้ม “แต่ไม่ต้องห่วงหรอก ที่นั่นมีนายอีกคนคอยดูแลชั้นอยู่”