๐๐Timeless รักข้ามภพ๐๐ Update เปิดจองรวมเล่ม P.33
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ๐๐Timeless รักข้ามภพ๐๐ Update เปิดจองรวมเล่ม P.33  (อ่าน 267983 ครั้ง)

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
“อย่าลืมล้างหัวด้วยนะเว้ย” โสภณกำชับขณะที่พิทกำลังเปิดประตูบ้าน พิทหันมายิ้มให้เขา โสภณยิ้มตอบกลับไม่มีคำพูดใดๆสำหรับเขาอีกแล้ว


พิทล้มตัวลงนอน ภาพของโสภณกับประภาคยังตราตรึงในใจของเขา เขาอยากมีความรู้สึกแบบนั้นบ้าง ถึงแม้ประภาคในชาตินี้จะเป็นตัวเขา แต่อย่างไรเสีย มันก็ไม่ใช่ตัวเขาอยู่ดี

“เฮ้อ” เขาถอนหายใจยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก เสียงฝนตกกระทบหลังคาบ้าน หนักบ้างเบาบ้างนั้นกล่อมให้พิทค่อยๆเคลิ้มจนหลับไปในที่สุด


๘ ธันวาคม ๒๔๘๔


เสียงหวีดร้องของบางอย่างดังขึ้นในกลางดึกของคืนนั้น เสียงที่ปลุกให้พิทสะดุ้งตื่น เขามองออกไปนอกหน้าต่างเห็นผู้คนกำลังวิ่งออกมาจากบ้าน ต่างพากันมองดูโลหะยักษ์ที่บินโฉบพร้อมทั้งส่งเสียงหวีดหวิวกลางท้องฟ้า

“ญี่ปุ่นบุก พวกญี่ปุ่นบุก” เสียงตะโกนอื้ออึ้งของชาวบ้านดังโหวกเหวก ฝนตกลงมาไม่ขาดสาย แต่พวกเขาเหล่านั้นก็พร้อมใจกันหอบข้าวหอบของวิ่งหนีกันอลม่าน

“ปังๆๆ” เสียงเคาะประตูดังขึ้น ยังไม่ทันทีที่พิทจะเปิดประตูออกมา ผู้เป็นพ่อของเขาก็ถลาเข้ามาในห้องเสียก่อน

“เก็บของให้ไว พวกญี่ปุ่นบุก” สีหน้าที่เรียบเฉยไม่อาจซ่อนไว้ซึ่งแววตาที่หวั่นเกรงของพ่อนั้น ทำให้พิทตระหนักในทันที่ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นจริงๆ

พิททำอะไรไม่ถูก เขามองซ้ายมองขวา ไม่รู้จะเก็บอะไรยังไง เพราะของที่อยู่ในห้องนี้ไม่มีชิ้นไหนที่พิทคุ้นเคยเลยสักชิ้น
สุดท้ายเขาตัดสินใจหยิบเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงวอร์มมาเปลี่ยนแล้ววิ่งลงไปข้างล่าง

“ประภาค” เป็นโสภณที่ปั่นจักรยานมาจอดหน้าบ้านก่อนจะวิ่งหน้าตื่นเข้ามา

“รีบไปที่กอง ครูฝึกเรียกรวมพล”

พิทกระโดดขึ้นจักรยานอย่างไม่กลัวตาย ความตายไม่ได้อยู่ในสมองเขาอีกต่อไป อาจเป็นเพราะเหตุการณ์ที่อลม่าน เสียงเครื่องบินและแสงไฟที่สาดลงมาทำให้เขารู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับภพนั้น

“ไหนนายบอกว่าญี่ปุ่นไม่มีวันบุกไทยไง” พิทถาม

“ก็ใครมันจะไปรู้เล่าว่าพวกนี้จะคิดคดทรยศ”

พิทจับเสื้อโสภณแน่น

 เขารู้สึกว่าอยู่หลังเด็กหนุ่มคนนี้แล้วปลอดภัย

“ถ้าเกิด เรา เอ่อ ถูกยิงขึ้นมา” พิทพูดขาดเป็นห้วงๆ “มันจะเจ็บมั๊ย” ก่อนจะก้มหน้ารอฟังคำตอบ

“ไม่รู้สิ คงเจ็บมั้ง” โสภณพูด ในขณะที่กำลังเร่งปั่นจักรยานฝ่าฝูงชนที่มุ่งหน้าหนีตาย

“มันจะเจ็บกว่าถูกมีดบาดมั๊ย”

“อย่าคิดแบบนั้นสิวะ เราจะไม่เป็นอะไร ได้ยินมั๊ย เราจะไม่เป็นไร”

พิทหยุดพูดทันที
เขาเอาหน้าแนบแผ่นหลังของโสภณ หลับตา และเตรียมพร้อมเพื่อเผชิญหน้าความจริง



“ทุกคนฟังให้ดี บัดนี้พวกญี่ปุ่นได้ขึ้นฝั่งแล้ว ทางการกำลังส่งทหารมาช่วยพวกเรา แต่ในขณะนี้ ที่นี่ยังมีแต่พวกเรา ซึ่งเป็นยุวชนทหารที่ได้รับการฝึกมาอย่างดี เราทุกคนก็เปรียบเสมือนทหารกล้า จิตวิญญาณที่จะปกป้องอธิปไตยของประเทศมีเต็มเปี่ยม เพราะนั้น เรา จะออกไปทำหน้าให้สมกับเป็นชายชาติทหาร  พวกเราจะตรึงกำลังต้านพวกญี่ปุ่นไว้ จนกว่าทางการจะส่งทหารมาช่วย”

พวกยุวชนทหารที่บัดนี้อยู่ในชุดทหารพร้อมอาวุธครบมือยืนเรียงแถวหน้ากระดานอย่างพร้อมเพรียง แต่ละคนล้วนมีแววตาที่มุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว ไม่มีใครเกรงกลัวต่อภัยที่จะมารุกรานแม้แต่คนเดียว

“เราจะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกจะไปสังเกตการณ์ที่ชายหาด อีกส่วน ตามผมมา เราจะไปตรึงกำลังพวกญี่ปุ่นที่สะพาน”

พิทกับโสภณถูกรวมให้อยู่ในกลุ่มที่ต้องไปกับครูฝึก พวกเขาขึ้นรถทหาร ก่อนที่รถจะแล่นออกไปท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำ ทั้งคู่มองหน้ากัน

บัดนี้พิทแยกไม่ออกแล้วว่าที่เค้ารู้สึกอยู่ตอนนี้คือตัวเองหรือว่าประภาคกันแน่
รถโยกไปโยกมาเพราะถนนที่ถูกน้ำฝนชะกร่อนมาทั้งคืน เท้าของพิทนั้นแช่ปริ่มอยู่ในรองเท้าที่มีน้ำท่วมขัง อีกทั้งเสื้อผ้าที่เปียกปอน แต่ความลำบากเล่านั้นไม่ได้บั่นทอนจิตใจที่ตอนนี้ฮึกเหิมด้วยความรักชาติ
เขาไม่รู้หรอกว่าเขาจะสู้ไปเพื่ออะไร รู้เพียงแต่ว่า ยุวชนทหารทั้งหมดรวมทั้งครูฝึกที่นั่งอยู่บนรถนั้น ต่างมีแววตาที่มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว พวกเขาอายุยังไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ แต่ความกล้าหาญนั้นเทียบไม่ได้กับที่พิทมีเลย

“เอาล่ะ เตรียมอาวุธให้พร้อม” ครูฝึกกระโดดลงจากรถ ก่อนจะกวักมือเรียกนักเรียนแต่ละคนลงมา

“ประภาค” พิทกระโดดลงเป็นคนสุดท้าย เขาถูกครูฝึกที่ใบหน้าคล้ายบรรณคว้าข้อมือไว้

“อยู่ใกล้กับครูไว้” พิทมองหน้าเขาอย่างประหลาดใจ  เขาไม่เข้าใจสิ่งที่ครูฝึกพูด

แต่ยังไม่ทันจะถาม ครูก็วิ่งไปรวมกับกลุ่มที่ตอนนี้หมอบอยู่ข้างถนน

พิทวิ่งตามมานอนท่าเตรียมใกล้ๆโสภณ ตอนนี้หัวใจเขาเต้นโครมคราม มือที่กำปืนอยู่นั้นเปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนและเหงื่อ
ไม่มีใครพูดอะไรกันเลย มีเพียงเสียงฝนที่ตอนนี้ซาลงจนมองเห็นฝั่งตรงข้ามที่เป็นสวนมะพร้าว

“เห็นอะไรไหวๆ ยิงได้เลย”เสียงครูฝึกกำชับ

“ปัง!!” สิ้นเสียงครู เสียงปืนก็ดังขึ้น เล่นเอาทั้งหมดตกอกตกใจ

“ใครยิง”

“ผมครับ”วินัยค่อยๆยกมือขึ้นอย่างเหนียมอาย

“ยิงทำซากอะไรวะ”

“ก็ ก็ครู บอกว่าเห็นอะไรไหวๆให้ยิงได้เลย”

“ปัดโธ่เว้ย ก็ดูเสียก่อนสิวะ นั่นมันตัวเหี้ย จะไปยิงมันหาพ่อมึงเหรอ”

เสียงนักเรียนคนอื่นหัวเราะกันคิกคักๆ คลายความตึงเครียดไปได้เปราะหนึ่ง

“อ้าวเฮ้ย หัวเราะอะไรกัน หน้าสิ่วหน้าขวาน นี่ไม่ใช่ชั่วโมงฝึกนะเว้ย ข้าศึกพร้อมจะยิงหัวพวกเธอทุกเมื่อหากไม่ระวังตัว”

คำนี้ของครูฝึกกระชากอารมณ์เหล่ายุวชนทหารทุกคนให้กลับมาสู่โลกของความเป็นจริง
ทั้งหมดตั้งท่าเตรียมพร้อม ปืนทุกกระบอกหันออกไปสู่ถนน

พิทเหลือบตามองโสภณ เช่นเดียวกับที่โสภณเลื่อนมามาจับมือเขา

“เราจะไม่เป็นไร...ใช่มั๊ย” โสภณถาม

“อืม เราจะไม่เป็นไร” พิทตอบอย่างมั่นใจในน้ำเสียง แต่ในใจเขากลับคิดตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
เหนือผิวน้ำนั้น ทะเลกำลังบ้าคลั่ง คลื่นนับร้อยม้วนเป็นเกลียว ฟาดเข้าหาชายฝั่งอย่างไม่ปราณี เรือที่จอดริมฝั่งถูกน้ำซัดเกยตื้นอยู่ริมหาด ในขณะที่ลึกลงไปใต้ท้องทะเล เสียงหัวเราะเย็นยะเยือกดังกึกก้องในท้องน้ำ
นางสีปางตาลเงยหน้าขึ้นมองเบื้องบน

บัดนี้ ถึงเวลาแล้ว ที่ความตั้งใจของนางจะเป็นผล แรงอธิษฐานของนางกำลังจะสัมฤทธิ์ผล นางนาคแสยะยิ้มอย่างพึงใจ ก่อนจะค่อยๆยืดร่างกายท่อนล่างเลื้อยยาวเป็นเกล็ดสีเขียวเข้มจนเกือบดำ ผ่านกองหินโสโครกและทะยานขึ้นสู่ท้องน้ำเบื้องบน
................................................................................................

“ปัง!!” เสียงปืนนัดแรกดังขึ้นจากฝั่งตรงข้าม เหล่านักเรียนต่างสะดุ้งโหยง ก่อนจะพากันสาดกระสุนเข้าใส่ฝั่งตรงข้ามอย่างไร้เป้าหมาย

“หยุดก่อน หยุด!!”

ทั้งหมดหยุด

“ให้เห็นเป้าหมายก่อนแล้วค่อยยิง มีสติหน่อยสิวะ”


ครูฝึกสั่งให้ทั้งหมดรุกเข้าไปใกล้ๆ จนในที่สุดเหล่ายุวชนทหารก็มาอยู่หน้าสวนมะพร้าว และก็เป็นครั้งแรกที่พิทเห็นทหารญี่ปุ่น

“นั่นไงทหาร” พิทตื่นเต้นทำท่าจะลุกขึ้นชี้ แต่ทหารญี่ปุ่นเล็งปืนมายังเขา

“ปัง!!” เสียงปืนดังลั่น พิททรุดลงกับพื้น
.
.
.
.
.
พร้อมกันนั้นร่างของทหารญี่ปุ่นฝั่งตรงข้ามก็ร่วงผล็อยลงกับพื้น

“ไม่ดูตาม้าตาเรือเดี๋ยวก็ได้ตายห่าหรอก” โสภณว่า พลางคว้าตัวพิทมาใกล้ๆ

พิทนั้นขณะนี้หน้าซีดเผือด

“ไหนบอกว่าชอบญี่ปุ่นไง” เขาถาม   โสภณส่งสายตาเชิงดุ

พิทเปลี่ยนเป็นขอบใจโสภณที่ช่วยชีวิตเขาอีกครั้ง เสียงปืนยังดังอยู่ในหัวเขารู้สึกว่าความตายได้แล่นผ่านเขาไปแค่ปลายผม

“คราวหน้าอย่าทะเล่อทะล่าลุกขึ้นแบบนั้นอีกหล่ะ เข้าใจมั๊ย”

พิทพยักหน้าอย่างว่าง่าย

ครูฝึกนำยุวชนทหารรุกล้ำเข้าไปอีก คราวนี้พวกเขาเห็นทหารญี่ปุ่นที่ขึ้นมาจากเรือมากขึ้น เสียงปืนดังถี่ขึ้น
เหล่ายุวชนแยกย้ายกันไปตามตำแหน่งที่ครูบอก นี่ไม่ใช่การแสดง นี่ไม่ใช่การฝึกซ้อม แต่นี่คือเรื่องจริง เรื่องที่พวกเขากำลังเดินอยู่บนถนนที่เรียกว่าความเป็นความตาย

“สองคนนั้นน่ะ ไปทางนู่น” ครูฝึกชี้ให้พิทกับโสภณแล่นอ้อมไปทางขวา แต่เขากลับต้องชะงัก

“ประภาคกลับมานี่” แต่ไม่ทันการณ์เสียแล้ว เขาเป็นคนสั่งให้พิทอยู่ใกล้เขา แต่ตอนนี้กลับสั่งให้ไปไกลๆ

ครูพยายามจะฝ่ากระสุนตามพิทไป แต่ไม่เป็นผล ทหารญี่ปุ่นส่งกำลังเสริมมามากขึ้นเรื่อยๆ เขาเฝ้ามองพิทคล้อยหลังเขาไปอย่างช้าๆจนเลือนหายไป





สายฝนที่ตกประปราย ไม่ระคายแม้แต่เส้นผมของนาง ทันทีที่นางเหยียบย่ำไปบนพื้นหญ้า พื้นหญ้าจะแห้งตาย ทันทีที่นางเดินผ่านดอกไม้ ดอกไม้จะเหี่ยวเฉา บัดนี้อำนาจแค้นของนางได้ฟื้นคืน ในขณะที่บารมีของพิทกำลังอ่อนแรง มันเป็นเช่นนี้มาทุกชาติภพ

นางเยื้องย่างอย่างช้าๆท่ามกลางห่ากระสุนปืน ความตายช่างหอมหวาน

“ช่วยข้าด้วย” เสียงกรีดร้องอย่างสิ้นหวังของศรีปางตาลในวันนั้นยังคงก้องอยู่ในหัว มาวันนี้เจ้าพราห์มอหังการณ์ผู้นั้น จะต้องเป็น
ฝ่ายที่ร้องขอชีวิต.....................จากนาง

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
นางมารมาแล้ววว  :ling3: :ling3:

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
มองทีแรกนึกว่าตาฝาด มองอีกทีเห้ยยย อัพแล้ววว ในที่สุดด :hao5:

ลุ้นมาก ศรีปางตาลจะมาทำอะไรเนี่ยย  :katai1:

มาต่อเร็วๆน้าาา :กอด1:

ออฟไลน์ verdaslyful

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :z2: :z2: อัพแล้วววววววววววววว

ออฟไลน์ bun

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-5
คนเขียนกลับมาแล้ว
ว่าแต่ถ้าพิทตายจะเกี่ยวกับปัจจุบันด้วยหรือเปล่า

ออฟไลน์ lazat.mchub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ตอบตามหัวข้อเลยนะ คือเกือบลืมไปแล้วจริงๆ 55555
แต่ยังติดตามอยู่นะจ๊ะะ

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
 :mew2:

มาต่อแล้วเย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ 

หายไปนานเลย

รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ vivalasvegus

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
ติดตามอยู่ค่ะ

ออฟไลน์ mnara

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
มาต่อแล้ว :hao7:
หายไปนานๆนี่คนอ่านก็ใจหายนะคะ
แต่ไม่ต้องเครียดเพราะยังไงก็จะติดตามต่อไปค่าาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
โสภณและประภาคถูกฝ่ายญี่ปุ่นต้อนจนพวกเขาหลุดออกมาไกลจากกลุ่ม เสียงปืนที่ดังเป็นระยะทำให้พิทเริ่มคุ้นชิน เขาไม่สะดุ้งอีกต่อไปหลังจากได้ยินเสียง

“ปัง ปัง ปัง!!” เสียงปืนดังรัว พวกเขาทรุดหลบหลังโคนต้นมะพร้าว

“แย่แล้วว่ะ เหมือนพวกมันจะล้อมเราไว้หมดแล้ว” โสภณชะโงกหน้าออกไปมองก่อนจะรีบหลบเข้ามาเพราะมีกระสุนกำลังพุ่งมาหาพวกเขา

“ปัง ปัง ปัง!!”

“จะทำยังไงต่อ เราไม่มีโอกาสตอบโต้เลย”พิทพูด เขากำปืนแน่น ตั้งท่าจะยิงหลายรอบแต่พวกญี่ปุ่นไม่ปล่อยโอกาสให้พวกเขา

“รู้งี้ฝึกเล่นเกมส์มาก็ดี”

“อะไรนะ”

“เปล่าๆ” พิทรีบแก้ตัว

ทั้งคู่เริ่มหายใจถี่ขึ้น เหงื่อก็ซึมเต็มหน้า ความกลัวเริ่มคืบคลานเข้ามาในความคิดของพิท
“ถูกยิงจะเจ็บมั๊ย”
“จะตายเลยหรือเปล่า”

มันเริ่มจะสิ้นหวัง เพราะไม่มีทางแม้แต่จะขยับตัว พิทเงยหน้าขึ้นมองฟ้า นึกถึงหน้าหลวงพ่อที่ส่งเขามาที่นี่ เชือกผูกข้อมือยังคงอยู่ขอเพียงแค่เขากระตุกมัน เขาก็จะกลับสู่ยุคปัจจุบันแล้ว มันจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่เขาอยากลอง แต่หากมันเป็นแบบนั้นจริงก็เท่ากับว่าพิทจะต้องทิ้งโสภณไว้ตรงนี้คนเดียว

พิทเลื่อนมือจากข้อมือตัวเองหวังจะจับมือโสภณ แต่เขากลับพบเพียงความว่างเปล่า โสภณไม่อยู่ตรงนี้

“เฮ้ย!” พิทร้องตกใจเมื่อเห็นโสภณถลาออกไปก่อนวิ่งหลบกระสุนที่ตอนนี้เบี่ยงความสนใจมาที่โสภณคนเดียว

“ไอ้เด็กโง่” พิทคำราม “เดี๋ยวก็ได้ตายกันพอดี”
เขาจะไม่รอความตายอยู่ตรงนี้อีกแล้ว พิทเลือกที่จะวิ่งตามโสภณไป

“กูจะไม่ปล่อยให้มึงต้องมาตายเพื่อกูอีกแล้ว” พิทพูด ก่อนจะเอี้ยวตัวยิงปืนสวนทหารญี่ปุ่น

“มึงทำบ้าอะไร” พิทกระโดดลงไปในเรือที่จอดแน่นิ่งอยู่ริมหาด โสภณนอนหอบอยู่ในนั้น

“จะตามมาทำซากอะไรวะ กูอุตส่าห์เบนความสนใจให้ ”

“ไหนบอกจะไม่ทิ้งกูไง”

“โอ้ย ไอ้ภาค กูรู้ว่ามึงรักกูมาก แต่ช่วยอยู่ห่างๆตอนที่กูอยากให้อยู่ห่างๆได้มั๊ย โธ่เว้ย อุตส่าห์เสี่ยงตาย.....”

“ปัง!!” พิทลุกขึ้นยืนก่อนจะลั่นไกปืนใส่หัวทหารญี่ปุ่นจนเลือดกระจุย เขากัดฟันกรอด

“เห็นมั๊ยหล่ะ ว่ากูก็ปกป้องมึงได้” พิทว่า

โสภณกระชากแขนให้เขานั่งลงก่อนจะกอดพิทไว้แน่น
“งั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” โสภณนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง  “เราจะปกป้องกันและกัน”

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
โสภณกระชากเชือกที่ผูกเรือไว้กับท่าจนมันหลุดออก เรือค่อยๆเคลื่อนตัวออกไปอย่างช้าๆ เขาทั้งคู่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน แต่อย่างน้อยการรอความตายอยู่ที่นี่มันดูจะสิ้นหวังมากกว่าการวัดดวง

“อย่างน้อยเราอาจเจอทหารยามชายฝั่ง” โสภณพูด

“หรือไม่ เราก็เจอเข้ากับทหารญี่ปุ่นทั้งแก๊งส์” พิทตั้งใจจะพูดแหย่ แต่ดูเหมือนเขาจะยิ่งทำให้บรรยากาศแย่ลง

“ปัง ปัง” เสียงปืนดังไล่หลังมาอีกระลอก ทหารญี่ปุ่นกรูกันออกมาจากสวนมะพร้าว ทั้งพิทและโสภณหมอบลงราบไปกับเรือ เสียงกระสุนผ่านหัวพวกเขาไป
ทหารญี่ปุ่นเหล่านั้นตามพวกเขามาอย่างไม่ลดละ อีกพวกกระโดดขึ้นเรือตามมาติดๆ

“ตูม!!!” แต่แล้วเสียงระเบิดตูมใหญ่ก็ดังขึ้นพิทยกหัวขึ้นมองก็เห็นสภาพเรือทหารญี่ปุ่นแตกกระจาย เขามองไปที่ฝั่งก็พบกับครู
ฝึกที่กำลังยืนมองมาที่เขาอยู่

“ขอบคุณนะครับ พี่บรรณ” เขากล่าวก่อนจะยกมือหมายจะบอกลา

“ปัง!” แต่ยังไม่ทันที่ครูฝึกจะยกตอบ สิ้นเสียงปังนั้น เขาก็ทรุดลงกับพื้น พิทอ้าปากหวอ เขาตกใจแทบสิ้นสติ

“พี่บรรณ” ก่อนที่พิทจะทำท่ากระโดดลงจากเรือ แต่โสภณคว้าเขาไว้ทัน

“จะทำอะไรของมึงน่ะ”

“ปล่อยกู กูจะไปหาพี่บรรณ”

“บรรณไหนวะ นี่มึงหยุดบ้าเสียทีได้มั๊ย” เขาใช้กำลังทั้งหมดฉุดร่างพิทที่ตอนนี้ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งให้ล้มลงก่อนที่จะถูกกระสุนของ
ทหารฝั่งตรงข้าม

“ปล่อยกู”

“ผั๊วะ!!” สุดท้ายเมื่อทนไม่ไหว โสภณจึงใช้หมัดลุ่นๆของเขาชกเข้าไปที่ใบหน้าของพิทอย่างแรงจนพิทแน่นิ่งไป

“มึง มึงชกกู”

“เออ จะได้หายบ้าสักที” โสภณนั่งลงหอบแฮกๆ

“แต่นั่น นั่นมัน.............”พิทตั้งใจจะหลุดพูดชื่อบรรณ แต่เขาก็ไม่พูดอะไรต่อจากนั้น

เขาหันหลังกลับไปมองร่างที่นอนก้มหน้าแน่นิ่งอยู่บนพื้นทราย ก่อนที่น้ำตาแห่งความสิ้นหวังหยดแรกจะร่วงหล่น
เรือที่ลอยเคว้งคว้างอย่างไร้จุดหมาย ก็ไม่ต่างอะไรกับความรู้สึกของพิทตอนนี้ มองไปเห็นชายฝั่ง แต่ก็กลับเข้าฝั่งไม่ได้
คลื่นลมก็สงบนิ่งจนไม่น่าไว้ใจ

เขามองออกไปในทะเลสุดสายตา ฉับพลันความรู้สึกกลัวบางอย่างอย่างบอกไม่ถูกก็เกิดขึ้นในใจ

“เป็นอะไร” โสภณสังเกตแววตานั้นออก

“ไม่รู้สิ จู่ๆก็รู้สึก............” พิทไม่กล้าพูดคำว่าตายออกไป แต่สายตาเขามันลอกแลกจนจับอารมณ์ได้
เมฆดำก้อนมหึมากำลังก่อเค้าอยู่ไม่ไกล ฟ้าแลบแปลบปลาบอยู่ในเมฆก้อนนั้น

“เรากลับเข้าฝั่งกันเถอะ” พิทว่า

“จะบ้าเหรอ กลับไปตอนนี้ก็ตายสิวะ”

“อยู่ตรงนี้ก็ตายเหมือนกัน” พิทตะเบ็งเสียง

โสภณทำหน้าไม่เข้าใจ
แต่สุดท้ายก็พอเดาได้ว่าพิทกำลังกลัวอะไร

“ผีบ้าตัวนั้นอีกแล้วเหรอ”

พิทไม่ตอบแต่เขาก้มหน้านิ่ง

“เมื่อไหร่จะเลิกกลัวบ้าบอเสียที” โสภณทนไม่ไหว

“ผีมันทำอะไรมึงไม่ได้ ผีก็เป็นแค่ผี สิ่งที่ทำร้ายมึงน่ะ คือตัวมึงเองต่างหาก”

“มึงไม่เข้าใจ” พิทเถียง

“ฟังนะ ไอ้ภาค มึงกำลังหลอกตัวเอง กำลังทำร้ายตัวเอง”
แววตาของโสภณดุดันขึ้นจนพิทแปลกใจ

“มึงไม่เจอแบบกูมึงไม่รู้หรอก” พิทว่า เขาพยายามจะหันหลังกลับ

“มึงไม่เจอแบบกูมึงก็ไม่รู้เหมือนกัน” โสภณกระชากแขนพิทอย่างแรงจนพิทตกใจ น้ำเสียงเปลี่ยนไปจนน่าสะพรึงกลัว

“มึงเป็นบ้าอะไร” พิทตวาดลั่น เขามองหน้าโสภณที่บัดนี้ดำคล้ำจนน่ากลัว

“เออ กูบ้า กูมันบ้า”

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
“งั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราจะปกป้องกันและกัน” ง่ะอ่านแล้วเขินนน :mew3:

เหยยยย บรรยากาศเริ่มเข้มข้น ผีจะมา แต่คนดันมาทะเลาะกัน :katai1:

มาต่อเร็วดีจัง มาต่ออีกเร็วๆน้าา :mew1:

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
พิทพยายามดึงแขนออก แต่ไม่เป็นผล

“กูมันบ้า มึงถึงทำแบบนี้กับกู” โสภณพร่าม

“หยุดนะเว้ย มึงเป็นอะไรของมึง หยุด”

โสภณกระชากแขนและพยายามจับอีกแขนของพิทไว้ ทั้งคู่ต่อสู้ขัดขืนกันไปมา

“เฮ้ย ปล่อยกู” พิทรวบรวมกำลังทั้งหมดผลักโสภณจนหงายท้อง เขาจ้องมองไปที่ร่างนั้นด้วยความหวาดกลัว

โสภณยันร่างตัวเองขึ้นมา บัดนี้ เขากลับกลายเป็นชายแปลกหน้าที่ดุร้ายไปแล้ว เขาคำรามในลำคอก่อนจะโผเขาหาพิท และจับคอพิทไว้ก่อนจะบีบอย่างแรง

พิทตกใจทำอะไรไม่ถูก เขาแน่นิ่งไปชั่วครู่ จนกระทั่งเริ่มหายใจไม่ออกสติจึงกลับมา

“โสภณ ปล่อยกู” พิททุรนทุราย ปัดป่ายมือไปมา ในครั้งแรกเขาคิดว่ามันคือการล้อเล่น แต่เมื่อตาของพิทเริ่มเหลือก เขาเริ่มหายใจไม่ออก พิทจึงแน่ใจแล้วว่านี่ไม่ใช่การล้อเล่น

“ปล่อย ปล่อย” พิทรวบรวมกำลังที่มือพยายามดิ้นรนจนสุดความสามารถ แต่ไม่เป็นผล
บัดนี้แววตาของโสภณกลับกลายเป็นความว่างเปล่า

เขาบีบคอพิทแรงขึ้นแรงขึ้น

“โสภณ” พิทมองเข้าไปที่ดวงตาของโสภณ เขาแน่ใจแล้วว่าคนที่ทับร่างเขาอยู่ตอนนี้ไม่ใช่โสภณแน่ๆ

“ศรีปางตาล” พิทเค้นเสียงพูด และทันทีนั้นเองรอยยิ้มแสยะก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เลื่อนลอยของโสภณ

“ข้ารอเวลานี้มานาน บัดนี้ ถึงเวลาแล้วที่เจ้าจะได้ลิ้มรสความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสเหมือนที่ข้าเคยได้รับ”
พิทเบิกตาโพรง แขนขาของเขาเริ่มเกร็งกระตุก

เขารวบรวมสติและพลังสุดท้ายเรียกชื่อคนที่เขาแทบจะไม่รู้จักเลย

“เวไตย ช่วยด้วย” เขาเรียก พร้อมๆกับมองลึกเข้าไปในดวงตาที่ดำมืดแต่ว่างเปล่าคู่นั้นอย่างสิ้นหวัง

พิทเริ่มไม่ได้ยินเสียงใดๆอีก ในหูของเขามีแต่เสียงหวีดหวิวเพราะอากาศที่อัดแน่น สายตาเริ่มพร่าเลือน
แขนขาเริ่มชา พิทพยายามยกมือขึ้นควานหาเชือกผูกข้อมือที่หลวงตาให้  แต่ยังไม่ทันจะเจอ เขาก็มองเห็นแสงสีทองเล็กเท่าปลายเข็มในดวงตาของโสภณ พิทจ้องมองลึกเข้าไป เขาภาวนาถึงคนที่ชื่อเวไตย มือก็พยายามควานหาเชือกเส้นนั้น
ก่อนที่ความหวังจะดับลง ก่อนที่พิทจะหมดลมหายใจ เขาก็ได้เห็นแสงสีทองเจิดจ้าขึ้นในดวงตา

“ท่านสวามิน” ชายหนุ่มที่คร่อมร่างและบีบคอพิทอยู่พูด เขาทำท่าเหมือนตกใจกับการกระทำของเขา
พิทได้กลิ่นอากาศอีกครั้งเขาสำลักความเจ็บปวดออกมาจนน้ำตาไหล ความทรมานเมื่อครู่บัดนี้หายไปเป็นปลิดทิ้ง

“ท่าน” โสภณมองมือ มองแขนตัวเอง เขาทำเหมือนมันไม่ใช่ร่างของเขา

แต่แล้วจู่ๆ มือข้างขวาของโสภณก็ดีดออกอย่างแรงก่อนจะพุ่งไปบีบคอพิทอีกครั้ง สีหน้าของโสภณสับสน แต่ชั่วอึดใจเดียวเขาก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น

“หยุดบัดเดี๋ยวนี้ ศรีปางตาล” เขาพูดก่อนจะคว้าข้อมือขวาของเขาเองไว้

“หยุดทำร้ายท่านสวามินเสียที”

“ข้าไม่หยุด ข้าจักไม่มีวันหยุดล้างผลาญชีวิตเจ้าพราห์มทุรยศผู้นี้ ข้าจักให้มันตายด้วยน้ำมือของคนที่มันรัก”

“ฝันไปเถิด นางผีบ้า หากข้า เวไตยผู้นี้ยังอยู่เจ้าจักไม่มีวันได้สมใจ”
ว่าแล้วโสภณก็กระชากมือข้างที่บีบคอพิทออก เขาเหมือนกำลังต่อสู้อยู่กับตัวเอง

เรือเริ่มโครงเครงไปมา พิทสำรอกเอาความทรมานออกมา ในขณะที่โสภณกำลังฉุดรั้งอยู่กับความชั่วร้ายที่สิงร่างนั้นอยู่
มือขวาที่พยายามคว้าคอของพิทกำลังต่อสู้อย่างหนัก พิทถอยกรูดมาอยู่หัวเรือ  ในขณะที่โสภณก็พยายามรั้งไว้อย่างสุดความสามารถ 

จนในที่สุด

“ตูม!!!” ร่างของโสภณก็กระเด็นตกลงไปในทะเล นั่นเป็นความตั้งใจของเขาที่จะพาวิญญาณร้ายให้ห่างจากพิท ร่างนั้นจมดิ่งลงสู่ทะเล

“เวไตย” พิทถลาร้องตะโกนอย่างสุดเสียง

แต่บัดนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของโสภณ

น้ำทะเลแน่นิ่งเมื่อครู่ บัดนี้กลับมีฝนประปราย เมฆทะมึนเคลื่อนตัวมาอยู่เหนือเขา อีกไม่นาน ฝนคงจะเทลงมา แล้วเขาจะอยู่อย่างไรในสภาพกลางทะเลเช่นนี้

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
ลากนางมารลงไปด้วยเลยยยย  :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
 :mew3:

เรื่องราวกำลังเข้มข้นเลย

รอตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Lemon_Tea

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1641
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +71/-2
งือ ยังไงล่ะเนี่ย

ออฟไลน์ lazat.mchub

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
ค้างง กำลังเข้มข้นเชียว เดาต่อไม่ถูกเลยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

ออฟไลน์ ~ณิมมานรฎี~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1070
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-2
โคตรตื่นเต้นนนนนนนนนนนนน   o22
นั่งอ่านตอนกลางคืน อย่างน่ากลัวอ่ะ แต่ชอบบบบบบบบบบบบบบ ลุ้นตัวเกร็งกันเลยทีเดียววว  :katai4:

ออฟไลน์ Chichi Yuki

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1584
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +94/-3
นึกว่าเบลอแล้วตาฝาด
ที่ไหนได้คือเรื่องจริง
ในที่สุดคนเขียนก็มาต่อ
แต่ก็ยังค้างอยู่ดี
อยากรู้จังว่าพิทจะกลับโลกปัจจุบันทันหรือเปล่า
มารอตอนต่อไปค่าาาาาา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ `ลoงสิจ๊ะ™

  • รักคือรัก จะให้หักห้ามใจนั้นยาก
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 310
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ขอเอา ลิงค์ นิยายเรื่องนี้ไปเผยแพร่ในเว็บเด็กดีนะคะ

Forgive Me

  • บุคคลทั่วไป
ชอบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ (พึ่งมาอ่าน 555+)

ออฟไลน์ mentholss

  • "เหตุผล" หรือ "ข้ออ้าง"
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1278
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-1
ยิ่งอ่านยิ่งลุ้นยิ่งตื่นเต้น(ยิ่งค้าง)
คนแต่งจ๋ามาต่ออีกไวๆน้า อย่าปล่อยให้รอนาน

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
ความเงียบที่วังเวงและการไม่รู้เป็นตายร้ายดีของโสภณกำลังจะทำให้พิทเป็นบ้า เขาก้มลงมองในน้ำที่เย็นเฉียบนั้น แต่กลับไม่พบอะไร

พิทเริ่มกุมขมับตัวเอง ความสิ้นหวังถาโถมเข้าใส่ เขาเพิ่งเห็นบรรณตายไปต่อหน้าต่อตาเมื่อครู่ มาตอนนี้ก็เป็นโสภณอีก เขาจะทำอย่างไรดี

ทันใดนั้นเองจากความเงียบที่ลอยแน่นิ่ง มีเพียงสายฝนเปาะแปะเท่านั้นที่เคลื่อนไหว บัดนี้ท้องน้ำกลับมีมากกว่าแรงกระเพื่อมจากสายฝน

แรงนั้นค่อยๆขยายวงกว้างขึ้นๆ พิทรีบถลาก้มดู เรือค่อยๆโครงเครง ฟองอากาศเริ่มผุดขึ้นมาจากใต้น้ำ
และทันใดนั้น

“ซู่ว์!!!!!” ราวกับม่านน้ำตก สายน้ำก็พุ่งขึ้นเป็นทางยาว พร้อมกับเสียงหวีดร้องจนเหมือนจะฉีกท้องทะเลออกเป็นเสี่ยงๆ

เรือของพิทโคลงเคลงอย่างแรงจนเขาล้มลงกับท้องเรือ และในวินาทีนั้น เขาก็เห็นวัตถุบางอย่าง เป็นลำยาวถูกเหวี่ยงขึ้นไปบนท้องฟ้า

“นาค” เขาพูด สิ้นเสียงตูมของร่างพญานาคที่หล่นกระทบพื้นน้ำ เสียงซู่อีกเสียงก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องของพญาปักษาที่น่าเกรงขาม

ร่างของพญาครุฑถลาขึ้นมาจากน้ำอย่างรวดเร็ว ทันทีที่มันขึ้นมาเหนือน้ำ ปีกทั้งคู่ก็สยายออกจนบังดวงจันทร์ทั้งดวงมิด มันสะบัดปีดอย่างแรงจนผืนน้ำเบื้องล่างกระเพื่อม ก่อนจะพุ่งเข้าไปใช้กรงเล็บหมายจะจิกร่างพญานาคที่เลื้อยคุดคู่ แต่นาคตนนั้นกลับไม่ยอม มันเลื้อยหลบก่อนจะแว้งกัดเข้าที่ขาเหนือกรงเล็บจนพญาครุฑส่งเสียงคำรามร้องลั่น

พิทเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น เขาตื่นตระหนกจนขวัญหนีดีฝ่อ มือควานหาไม้พายก่อนจะรีบจำอ้าวพายกลับเข้าฝั่งอย่างทุลักทุเล
เสียงครุฑกับนาคสู้กันดังสนั่นหวั่นไหว พิทรีบพายเรือเข้าฝั่งอย่างไม่คิดชีวิต จะทหารญี่ปุ่นหรือกองทัพรัสเซียเขาก็ไม่กลัวอีกต่อไป ลองใครมาเจอแบบนี้ ก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเหมือนเขาทั้งนั้น

อีกไม่ไกลจะถึงฝั่ง พิทไม่หันหลังกลับไปมองเสียงอึกทึกกลางทะเลนั่น เขาตั้งหน้าตั้งตาจ้ำไม่คิดชีวิต

“ตูม!!” แต่ก่อนที่พิทจะถึงฝั่ง เสียงอะไรบางอย่างหล่นกระแทกพื้นก็ดังสนั่นหวั่น ท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักนั้น พิทเพ่งมองดูก็เห็นร่างครุฑที่ถูกเหวี่ยงลงไปนอนนิ่งกับพื้น แล้วร่างที่ใหญ่โตนั้นก็ค่อยๆเลือนหายไป

“โสภณ” เมื่อเขารีบพายจนถึงฝั่ง ก็พบเข้ากับร่างของโสภณที่มีเลือดอาบเต็มตัวพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มเขียวคล้ำเหมือนคนโดนพิษ

พิทพยายามลากเขาเข้ามาในฝั่ง แต่ไม่ทันการณ์นางนาคศรีปางตาลก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเขาพร้อมทั้งใช้เท้าเหยียบไปที่หน้าอกโสภณ

“ไม่มีใครสามารถห้ามข้ามิให้เอาชีวิตมันได้ดอก” นางกระทืบหน้าอกโสภณอย่างแรงจนร่างของเขากระเด้งขึ้นพร้อมทั้งเลือดไหลเป็นทางยาว

“แม้แต่พญาครุฑตนนี้”

ว่าแล้วศรีปางตาลก็ตรงดิ่งเข้ามาหาพิท เขาสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะทำใจเตรียมรับชะตากรรม

“เอาเลย หากชีวิตข้าจักทำให้ใจเจ้าเป็นสุข ข้าก็ยินดีพลีให้ ขอเพียงอย่างเดียว ข้าขอให้เจ้าละไว้ซึ่งชีวิตชายผู้นั้น ได้หรือไม่” พิทสับสนในตัวตนของตัวเอง ในสมองของเขาเหมือนกำลังมีคนสองคนกำลังทุ่มเถียงกันอยู่ ชายผู้สุขุมนั้นบอกให้พิทใจเย็น เพราะเขามีแผนการบางอย่าง ในขณะที่ชายอีกคนในร่างพิทกำลังสับสนและตื่นกลัว

ศรีปางตาลปรายตาไปมองร่างที่หมดสติแน่นิ่ง

“ชีวิตครุฑหนุ่มตนนี้หาได้มีความหมายอันใดกับข้าไม่ เจ้าต่างหาก เจ้าพราห์มสามานย์” ว่าแล้วนางก็พุ่งตัวเข้าใส่พิทอย่างเร็ว ก่อนจะค่อยๆยืดร่างของตนเองให้ยาวเป็นลำสีเขี้ยวคล้ำ

พิทสัมผัสได้ถึงผิวหนังที่เย็นชืดน่าขยะแขยง ลมหายใจที่เหม็นคาวราวกับซากปลาเน่า เขากำลังถูกพันธนาการด้วยท่อนเนื้อที่น่าเกลียดนี้ มันค่อยๆบีบเกร็งลำตัวจนพิทรู้สึกได้ถึงเสียงของกระดูกที่ดังกรอบแกรบ

เขาร่ำร้องดิ้นรนเพื่อจะหนี แต่พิทอีกคนกลับบอกให้เขาอยู่นิ่งๆและใจเย็นๆ

ท่อนบนของนางนาคศรีปางตาลบัดนี้ได้กลายเป็นพญานาคที่อ้าปากกรีดร้องอย่างสาแก่ใจ มันสะบัดหัวไปมาพร้อมทั้งหดลำตัวแน่นขึ้นอีก

พิทเริ่มหายใจไม่ออก ร่างกายเริ่มชาไปหมดทั้งตัว แต่ก่อนที่เขาจะหมดสติไป มือที่ยังมีความรู้สึกนั้น ได้จังหวะในขณะที่นางนาคผ่อนคลายลมหายใจ เขาล้วงเข้าไปหยิบมีดพกอันเล็กสำหรับทหาร ก่อนจะหันปลายแหลมและแทงเข้าไปที่ลำตัวของนาคตนนั้น

ทันทีที่ปลายคมมีดเสียดแทงเข้าไปในร่าง นางนาคศรีปางตาลก็กรีดร้องดังลั่น ก่อนจะสะบัดคลายร่างที่บีดรัดพิทไว้ พิทได้จังหวะรีบผละหนีจากนางนาคตนนั้น
เขาถลาเข้าหาร่างของโสภณ กอดร่างไว้แน่น ก่อนจะหลับตานึกถึงหน้าหลวงพ่อ
แล้วเขาก็กระตุกเชือกผูกข้อมือนั้น.........................
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-06-2013 22:14:53 โดย เซ็งเป็ด »

ออฟไลน์ เซ็งเป็ด

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 596
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +602/-2
เสียงกรีดร้องของนางนาคค่อยๆแผ่วเบาลง จนในที่สุดเขาก็เหมือนหลุดออกมาจากมิตินั้น ความเงียบที่ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจ ความเงียบที่ทำให้เขาไม่มีตัวตน ความเงียบนั้นปกคลุมไปทั่วบริเวณ พิทเหมือนยืนอยู่บนยอดเขาสูงเสียดฟ้าอย่างโดดเดี่ยว ความมืดนั้นทำให้เขาไม่แน่ใจว่าแท้ที่จริงตอนนี้เขาหลับตาหรือลืมตาอยู่กันแน่

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายหนุ่ม เขารู้สึกสงบอย่างบอกไม่ถูก เหมือนกับเขากำลังล่องลอยไปในทะเลแห่งนิพพาน ไม่ทุกข์ไม่สุข ไม่มีกิเลศ ความอยาก ไม่มีความเจ็บความป่วย นี่เขาตายแล้วจริงๆหรือนี่
ยังไม่ทันที่พิทจะหาคำตอบให้กับตัวเอง จู่ๆ เสียงวืดและอาการเสียวท้องอย่างแรงเหมือนตกจากที่สูงก็เกิดขึ้น พิทเกร็งตัวพร้อมกลั้นหายใจด้วยความตกใจกลัว

และแล้วทุกอย่างก็หยุดนิ่ง

“เป๊ง ๆ ๆ” เสียงโลหะบางอย่างกระทบกันอยู่ข้างๆเขา อีกทั้งเสียงโห่ร้อง เสียงกีบของสัตว์ใหญ่บดขยี้พื้นดิน จากนั้นเขาก็ได้กลิ่นไหม้ รู้สึกถึงไอร้อน และ..................

“ท่านขุน ท่านขุนขอรับ” เสียงเรียกชื่อใครคนหนึ่งดังขึ้น สติเขาเริ่มกลับคืนมา

“หลบไปก่อนขอรับ”

พิทกระพริบตาถี่ๆ  เขางุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ภาพเบื้องหน้าค่อยๆชัดเจนขึ้น และภาพเหล่านั้นนั่นเองที่ทำให้พิทถึงกับทรุด

“เฮ้ย!!เชี่ย เอ้ย” เขาถึงกับอุทานออกมา “มาโผล่แม่งที่ไหนอีกวะ”

พิทมองไปรอบๆ และเขาก็พบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางผู้คนที่กำลังสู้รบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ตัวเขาเองก็อยู่ในชุดนักรบที่หนักอึ้งไปด้วยเหล็กและหนังสัตว์ที่กลิ่นสาปคละคลุ้ง ในมือของเขากำมีดยาวไว้แน่น

พิททิ้งมีดนั้นทันทีที่เขาเห็นเลือด เขาหงายมือทั้งสองข้างขึ้นมาช้าๆและก็พบว่ามือทั้งสองนั้นก็แดงฉานไปด้วยเลือดเช่นกัน

“กูฝันถึงเรื่องบางระจันอยู่หรือไง” พิทมองซ้ายมองขวา ศพผู้คนนอนเกลื่อนกลาด ความกลัวเริ่มครอบงำ เขาทำอะไรลงไป เหมือนกับตอนนี้ตัวเองยิ่งถลำลึกลงไปในหลุมที่มืดมิด

“อ๊ากซ์!!” ระหว่างที่เขายืนงุนงงอยู่นั้น ก็มีทหารโพกหัวคนหนึ่งไม่พูดพร่ามทำเพลง วิ่งชูดาบถลาเข้าหาพิท เขาตกใจแทบสิ้นสติ

“เฮียๆ ฟังก่อนๆ นี่นี่ถ่ายละครอยู่ใช่มั้ย” พิทโบกมือโบ้ยไปมา ทหารผู้นั้นหยุดกึก ก่อนจะมองเขาอย่างงงๆ

“เฮ้อ เฮีย ถามหน่อยสิ ที่นี่ที่ไหน ใช่กองถ่ายกันตนาป่าว หรือว่ากาญจนบุรี หรือที่ไหน”

คำถามเหล่านี้ยิ่งทำให้ทหารผู้นั้นงงหนักเข้าไปอีก

“แล้วนี่พวกนี้คือ stand in ใช่มั้ย” พิทยิงคำถามแต่ไม่ได้ซึ่งคำตอบ เขาจึงตัดสินใจเดินเข้าไปหาทหารคนนั้นใกล้ๆ

“นี่ เป็นคนไทยหรือเปล่า หรือเป็นพม่า ถึงฟังภาษาไทยไม่ออก” เขายกมือขึ้น แต่แล้วจู่ๆทหารโพกหัวที่ยืนนิ่งเหมือนต้องมนต์คน

นั้นก็กลับยกดาบขึ้นก่อนจะแยกเขี้ยวคำรามพุ่งเข้าใส่พิทจนเขาไม่ทันตั้งตัว

“เหี้ย โดนหมาบ้ากัดมารึไงวะ” เขาหันหลังทำท่าจะวิ่งหนีแต่กลับมีศพทหารนอนขวางอยู่ โชคยังดีที่ทหารอีกคนวิ่งเข้ามาขวางและรับดาบนั้นไว้ทัน พิทเห็นเป็นจังหวะจึงหนีออกมาจากสมรภูมินั้น

เขารู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว ไม่ใช่กองถ่าย ไม่ใช่ฝัน ภาพที่เห็นทั้งหมดคือเรื่องจริง แล้วนี่เขาอยู่ที่ไหน

“หลวงพ่อ หลวงพ่อ พาผมกลับไปที หลวงพ่อ” พิทพร่ำภาวนาอยู่ในใจ แต่ไร้ผลเขายังคงเดินย่ำอยู่ท่ามกลางคนเจ็บและคนตาย ความสิ้นหวังมันช่างโหดร้าย ชีวิตเขาเหมือนจะเลวร้ายลงเรื่อยๆเรื่อยๆ

“โสภณ” แต่แล้วจู่ๆเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่าเขาได้ดึงโสภณมาด้วย เพราะฉะนั้นเป็นไปได้ที่โสภณจะต้องอยู่ที่นี่ด้วย

เขาเริ่มมองหาโสภณในเหล่าทหารที่กำลังสู้รบ โดยไม่ลืมที่จะกำบังตัวเอง เพราะพิทยังไม่รู้เลยว่าตัวเองอยู่ฝั่งไหนกันแน่







“ทิว” และแล้วเขาก็เจอชายคนที่เขาตามหา พิทน้ำตารื้อขึ้นมาด้วยความดีใจ เขารู้ว่าชายที่ใส่ชุดเกราะเหล็ก โพกหัวนั้นอาจไม่ใช่
ทิว หรือโสภณ แต่ไม่ว่าชาตินี้ เวลานี้เขาจะเป็นใคร ชายคนนั้นคือคนที่เขาคุ้นเคยและหวังดีกับพิทมากที่สุด

“ทิว” พิทตะโกนร้องลั่น ก่อนจะวิ่งถลาเข้าไปหาชายผู้ที่อยู่บนหลังม้านั่นอย่างดีใจสุดขีด

“ทิว” เสียงตะโกนนั้นดังฝ่าฝูงทหารที่กำลังสู้รบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงดาบ เสียงม้า เสียงโอดครวญนั้น ไม่สามารถกั้นขวางเสียงของพิทได้

ชายผู้อยู่บนหลังม้าหยุด หันมามองที่พิท ดูเหมือนเขาจะชะงักกไปเล็กน้อย

พิทวิ่งหลบฝูงทหารเข้าไปประจันหน้ากับเขา จังหวะเดียวกันที่ชายผู้นั้นควบม้าพุ่งมาหาพิท

“หยุด!!!” เขายืนจังก้าขวางหน้าม้าจนม้าตกใจยกขาดีดขึ้นฟ้า

“ทิว เอ่อ โสภณ เอ่อ ............”เขาไม่แน่ใจว่าชายตรงหน้านั้นคือใคร

“ช่วยเราด้วย ที่นี่ที่ไหน” พิทละล่ำละลักถาม แต่ชายบนหลังม้านั้นมองเขาดูสีหน้าฉงนบนแปลกใจ

“เราไงจำเราไม่ได้เหรอ พิทไงเว้ย พิทอ่ะ”

ออฟไลน์ SenzaAmore

  • Where troubles melt like lemon drops....
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 713
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +79/-0
โอ้ยยย แค่จะย้อนกลับปัจจุบัน ทำไมมันยากขนาดนี้น้าาา :katai1:

มาต่อเร็วๆน้าา :กอด1:

ออฟไลน์ Naenprin

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +203/-1
 :mew3:

เรื่องราวย้อนอดีตเยอะจัง

เมื่อไหร่จะมาชาติปัจจุบันน่าาาาาาาาาาาาาา



ออฟไลน์ VICcy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 39
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ตามอ่านทันแล้นนนนนนนนนนนนน
ว่าแต่เมื่อไหร่พิทจะกลับชาติปัจจุบันได้เนี่ย

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
มาโผล่ที่ไหนอีกหละเนี่ย

พิทน่าสงสาร สู้ๆ

ออฟไลน์ nunnan

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2275
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-6
ไปโพล่อีกที่แล้ววว  :mew4:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด