ทุกอย่างรอบตัวพิทเงียบลง เขามองหน้าชายบนหลังม้านั้นอย่างหวาดหวั่น พักหนึ่งรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าชายผู้นั้น พิทโล่งใจ แต่แวบนึงเขาก็รู้สึกเสียวสันหลังกับรอยยิ้มประหลาดนั้น
“อ๊ากซ์” ไม่พูดพล่ามทำเพลงชายคนนั้นเงื้อดาบขึ้นมาก่อนจะพุ่งเข้าใส่พิทอย่างเร็ว พิทตกใจแทบสิ้นสติ เขากระโดดหลบจนล้มลงไปนอนกองกับพื้น เงยหน้ามาอีกทีชายที่เขาคิดว่าเป็นทิวนั้นก็หันหลังม้ากลับมาก่อนจะพุ่งตรงมาหาเขา
“เฮ้ย ทิว นี่เราเอง เราไง พิทๆ” เขาโบกมือไปมา ความตกใจและไม่เข้าใจนั้นทำให้เขาก้าวขาไม่ออก ชายผู้นั้นจะฆ่าเขาแน่เหรอ คนที่หวังดีกับเขาที่สุดคนนั้น จะฆ่าเขาได้จริงๆเหรอ
“อ๊ากซ์” ไม่มีปาฏิหาริย์ใดๆเกิดขึ้นชายคนนั้นควบม้าใกล้เข้ามา ก่อนจะเงื้อดาบและฟันฉับลงมายังร่างของพิทที่ยืนแน่นิ่งน้ำตานองหน้า
“เปล้งงงงง!!” เสียงโลหะกระทบกันดังสนั่นหวั่นไหว พิทหลับตานิ่งกลั้นหายใจ เพื่อรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่น่าแปลกที่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย หรือว่า มันจะเจ็บจนชาไร้ซึ่งความรู้สึก
“ผากอง หลบไป” แต่แล้วพิทก็รู้สึกถึงมือใครคนหนึ่ง กระชากแขนของเขาจนร่างกระเด็นกลิ้งลงไปกลับพื้น
พิทลืมตาขึ้นมา เห็นชายแต่งกายคล้ายกับเขารับดาบนั้นไว้ก่อนใช้มืออีกข้างกระชากชายบนหลังม้านั้นตกลงมา
“เสียสติไปแล้วรึไง”ชายคนนั้นหันมาตวาดพิท
แต่ทันทีที่เขาหันมาพิทถึงกับอ้าปากค้าง
“พี่บรรณ” พิทนิ่งไปครู่ใหญ่ พยายามเรียบเรียงความยุ่งเหยิงที่เกิดขึ้นในหัว
“โอ้ย กูปวดหัว เหี้ยๆๆๆๆๆๆๆๆ” พิทขยี้หัวตัวเองไปมาราวกับบ้าไปแล้วจริงๆ ตัวละครจะเยอะไปไหน ใครเป็นคนคิดเรื่องราวชีวิตของเขาแบบนี้
"”บ้าไปแล้ว ต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
ระหว่างนั้นเองที่พิทกำลังคุ้มคลั่งเสียสติอยู่ ชายทั้งคู่ก็กำลังประดาบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงดาบดังสนั่นหวั่นไหว ฝุ่นที่ฟุ้งตลบอบอวลนั้นไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
“ฉับ” และแล้วชายบนหลังม้าก็ถูกนักรบอีกคนฟันเข้าที่แขนขวาจนล้มลง พิทเห็นทุกอย่างและตกใจกับภาพที่เกิดขึ้น เสียงหายใจรัวถี่นั้นเป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงเต้นของหัวใจ
ชายที่มีใบหน้าคล้ายพี่บรรณนั้นยืนคร่อมร่างของอีกคนไว้ เขากัดฟันกรอด ปลายดาบที่มั่นคงจี้ไว้ที่คอหอยทหารอีกคนนั้น ทำให้รู้ได้ว่าเขาจะสังหารนักรบคนนั้นเป็นแน่
ดาบยาวถูกเงื้อขึ้นจนสุดแขน พร้อมกับแววตาที่ดุดัน
ผีห่าซาตานตัวไหนเข้าสิงพิท เขาไม่ทันคิดอะไรทั้งสิ้น ถลาเข้าไปขวางร่างที่นอนนิ่งนั้นไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะยกมือห้าม
“พี่บรรณอย่า” พิทคิดแค่เพียงว่าเขาจะต้องปกป้องชายผู้นี้เท่านั้น
ดาบที่กำลังจะฟันลงมานั้นหยุดกึก พร้อมกับแววตาไม่เข้าใจ
“เจ้าจักห้ามข้าไว้ทำไม รึเจ้าคิดจักเป็นกบฏ”
“ไม่รู้เว้ย กบฏบ้ากบฏบออะไรผมไม่รู้ แต่พี่จะฆ่าเขาไม่ได้”
“ขุนผากอง” ชายผู้นั้นกัดฟันกรอด เส้นเลือดในตาปูดโบนด้วยความโกรธ
“เลือดทหารในกายเจ้าหายไปไหนหมด ไยถึงได้อ่อนแอเยี่ยงอิสตรีเช่นนี้” เขาเอื้อมมืออีกข้างหมายจะกระชากร่างของพิทออก
“หลบไป กระไรเสียข้าก็จักตัดหัวอ้ายศรีเมือง ทหารทุรยศคนนี้ให้จงได้” ยังไม่ทันที่พิทจะถูกกระชากแขน จู่ๆชายที่ล้มลงก็ลุกขึ้นมาพร้อมทั้งใช้มือรัดคอพิทเอาไว้ก่อนจะเอาดาบจี้ที่คอหอย
“ชิบหาย!!” พิทคำรามในลำคอเบาๆ
“หลบไป หลบไปให้หมด” เขาลุกขึ้นยืน เลือดสีแดงฉานไหลผ่านลงมายังหน้าอกของพิท
เขาถอยไปเรื่อยๆ ท่ามกลางสายตาที่อาฆาตแค้นของทหารที่ใบหน้าคล้ายบรรณ ทหารคนอื่นก็หลีกทางให้ พิทไม่รู้ว่าคำว่า ขุนผากองซึ่งเป็นชื่อเขานั้น จะสำคัญแค่ไหน แต่ก็คงสำคัญมากพอที่จะทำให้ไม่มีใครกล้าเข้ามาขวางการจับตัวประกันในครั้งนี้
ชายผู้นั้นถอยร่นมาเรื่อยๆ ก่อนควานหาม้าคู่ใจและสั่งให้พิทขึ้นมาแล้วเขาขึ้นตาม
พิทอยู่บนหลังม้านั้นอย่างไม่เข้าใจ งุนงงกับเหตุการณ์ไปหมด มันเกิดขึ้นเร็วมาก จนพิทไม่สามารถจำรายละเอียดใดๆได้เลย
“ไป!!” เขากระตุกม้าด้วยขา ม้าตนนั้นก็พุ่งตัววิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว และในที่สุดก็หายลับเข้าป่าไป