วันนี้ยาวหน่อยดีไหม???
...
“เอาสิคับอีกสิบปีผมก็กลับมาเหมือนเดิม” พี่ต้องพูดมองแม่ผมด้วย
“แม่จะไม่ทำแบบนั้นใช่ไหม...เวนแล้ว” ผมพูดสถบกับตัวเองเบาๆตบท้ายเพราะอยู่ๆมันก็ปวดหัวแน่นแถวคอขึ้นมาดื้อๆ
“เต้ยเป็นไรปวดหัวรึเปล่า” พี่ต้องเห็นผมเป็นแบบนี้คงเดาออกอยู่ว่าเป็นไร
“อืม” ผมรับคำมือยังกุมหัวอยู่
ผมเริ่มมึนๆปวดหัวจำไม่ค่อยแต่เหมือนพี่เค้าจะอุ้มผมขึ้นห้องจังหวะที่จะวางผมผมรีบดึงเสื้อคนที่อุ้มผมมาไว้
“ไม่เอาอย่าไปไหนนะ” ผมโวยวายโดยลืมนึกว่าแม่จะอยู่รึเปล่า
“ไม่ได้ไปไหนหรอกอยู่นี่ไง” พี่ต้องวางผมลงเตียงแต่ยังนั่งกอดผมไว้อยู่
“อืม” ผมตอบเอาหน้าซบลงกับตัวคนที่กอดผมไว้
“ดีขึ้นรึยังหยุดร้องนะเดี๋ยวหายใจไม่ออก” มืออีกข้างเลื่อนมาลูบหัวผมไปด้วย
“อืม” ผมโคตรอายเลยทำไมต้องให้แม่เห็นผมสภาพแบบนี้ได้เหอๆ ผมหลับตาลงแต่ยังไม่ได้หลับแต่มันรู้สึกไม่อยากลืมตาเฉยๆ
“เต้ยเป็นแบบนี้บ่อยไหม” แม่ถามพี่ต้องคงเพราะนึกว่าผมหลับแล้ว
“เอ่อ...ปกติก็ไม่เป็นหรอกคับถ้าไม่มีเรื่องอะไร” พี่ต้องตอบเหลือมามองผมหน่อย ผมลืมตามานิดประมาณคุยไรตามสบายเลยไม่อยากรับฟังแล้วหลับตาเลยจะไม่ต้องมาต่อรองกัน
“แล้วต้องต้องให้ยาอะไรเต้ยรึเปล่า” แม่ผมถามต่อ
“ไม่หรอกคับอยู่ด้วยสักพักก็หายทำไมหรอคับ” มือพี่ต้องจิกลงเอวผมเบาๆแถมมีเสียงเบาๆลอยมาด้วย’จำไว้นะมึง’
“ตอนเด็กแม่เคยพาไปโรงบาลหมอเคยให้ยามาแล้วไม่หายเป็นแบบนี้อยู่เกือบครึ่งชม.
สงสัยแม่จะเข้าใจลูกตัวเองน้อยกว่าต้องแล้วมั้ง” แม่ผมพูดเสียงเศร้า...สักพักผมได้ยินเสียงประตูปิดเหมือนแม่เดินออกไปแล้ว
นี่เป็นอีกเหตุผลที่ผมไม่ชอบโรงพยาบาลทุกครั้งที่ผมป่วยก็เป็นแบบนี้ถูกพาไปโรงบาลแล้วพ่อแม่ก็หายไปเลย
จะมีแต่ป้าที่เป็นพี่เลี้ยงผมตอนเด็กดูพ่อแม่ผมไม่เคยมาเยี่ยมแม้แต่ตอนออกก็แค่ส่งเลขามาจ่ายตังเท่านั้น
“แม่เค้าเป็นห่วงมึงนะเว้ยจะไม่คุยกับแม่หน่อยหรอวะ” พี่ต้องเริ่มคลายกอดออกผมผละตัวออกล้มตัวลงนอนหัวซุกหมอน
“ไม่รู้จะพูดอะไร” ผมพูดรอดออกมาเสียงอู้อี้
“แม่กูอยู่ตั้งไกลจะคุยก็ไม่ได้คุยมึงมีแม่อยู่ใกล้ไม่ต้องบอกรักหรอกคุยกับเค้าบ้าง” คนพูดล้มตัวนอนข้างผมแล้วกอดผมไว้เหมือนเดิม
เป็นทำพูดที่ฟังดูเป็นคนเลวร้ายมากเวนผมเลยจะเข้าไปปิดปากซะหน่อยแต่ป้าแม่บ้านดันเปิดเข้ามาเหมือนตั้งใจขัดจังหวะ
“วันนี้คุณหนูกับคุณต้องค้างที่นี่ค่ะคุณแม่ไม่อยากให้ขับรถกับดึกๆ” ป้าพูดยิ้มแล้วดึงตัวผมออกมาอีก
“ป้า!อย่าเรียกแบบนั้นดิ” ...บอกกี่ครั้งแล้วอย่าเรียกคำอนาถแบบนั้น
“ลืมไปค่ะคุณเต้ย” ป้าแม่บ้านยังลากผมไปกองไว้ห้องข้างแทนอีก
เค้าลืมรึเปล่าว่าผมเป็นผู้ชายยังไงก็ไม่เห็นเป็นไรนิดหน่อยเองป้าเพราะป้ามากันตอนนี้ก็สายไปแล้ว555
ผมนอกกลิ้งๆเหมือนป้าบอกนี่เป็นห้องที่นี่แม่เอาไว้ให้ผมแต่ผมไม่เคยได้มาค้างกับแม่
แล้วมันดีรึเปล่าที่มีที่ไว้ให้อยู่...รู้สึกดีแต่ไม่สบายใจสักพักป้าแม่บ้านก็ลากผมไปอาบน้ำเอาข้าวต้มมาให้กิน
ถูกว่าอีกเมื่อไรจะกินเยอะขึ้นตามตัว...กินแบบพอเพียงผิดรึไงเสร็จก็อาบน้ำโดยป้าคุมตลอดไม่ได้เจอหน้าไอ้ต้องเลย
บ้านแม่นี้เองทำไมกันทางเก่งจังฟร่ะ...ว่าแล้วก็เดินไปอาบน้ำเล่นเห็นมีคอมอยู่ในห้องเล่นเน็ตหน่อยแล้วผมก็ว่างอีก
จนดึกแล้วมั้งแม่ผมก็เดินเข้ามาผมเลยลุกขึ้นมานั่งให้เห็นประมาณผมยังไม่หลับ
“คุยกันได้ไหมเต้ย” แม่ผมเป็นคนพูดก่อนแล้วมานั้งที่เก้าอี้ของโต๊ะคอมขณะที่ผมยังนั่งอยู่บนเตียงผมพยักหน้าแม่เลยพูดต่อ
“เต้ยชอบพี่เค้าหรอ” แม่ถามดูจริงจังดีถามแบบนี้เห็นผมหน้าหนาหรอคับ
“อืม” ผมตอบแต่ไม่ได้มองตาแม่เหอๆยังอายเป็นอยู่
“เต้ยรู้ใช่ไหมคนอื่นจะมองเต้ยยังไง” เสียงแม่เริ่มดูกังวล
“อืมคับ”
“แม่คงห้ามเต้ยไม่ได้เหมือนเดิมใช่ไหม”
“ขอโทษคับ”
“ฝันดีนะลูก” แม่ผมยิ้มๆแล้วเดินออกไป
“คับผม” ผมยังพูดไม่กี่คำเหมือนเดิมแต่อยู่คำพูดพี่ต้องก็ลอยแม่ถ้าลองพูดด้วยคงไม่ผิดหรอกมั้ง
“เอ่อ...แม่คับ” ผมเรียกแม่ก่อนจะเดินออกไป
“อะไรเต้ย”
“ฝันดีคับ” ผมพูดไม่ได้มองหน้าแม่หรอกทำตัวไม่ถูกเลยล้มตัวนอนก่อนแม่ผมคงยืนอึ้งสักพักก่อนปิดประตูเดินออกไป
“เวนกูพูดบ้าไรเนี่ยยยเพราะมึงคนเดียวไอ้บ้าพูดไรให้กูฟัง” ผมบ่นกับตัวเองพยายามจะนอนแต่ก็นอนไม่หลับสุดท้ายก็...เหอๆ
“นอนด้วยได้ไหม” พี่ต้องพูดแล้วเข้ามานอนข้างผม
“เมื่อกี้แม่มึงมาพูดกับกูด้วย” พี่ต้องเข้ามาขึ้นค่อมแล้วไซร้แถวคอผม...แต่ผมได้ยินประโยคเมื่อกี้แม่มาพูดด้วยใจเสียไปแล้ว
“อย่าเพิ่งทำหน้าอย่างนั้นแค่ถามเรื่องมึงเฉยๆ” พอเห็นผมหน้าเริ่มเสียพี่ต้องเลยพูดดักไว้ก่อนเลิกไซร้ผมเอาหน้าซบลงอกผมแทน
“อืมแล้ว?”...จะรู้ไหมไอ้พูดเฉยๆนะพูดห่าไรห่ะ!!!
“มีแม่ที่ดีนะรู้ไหม” พี่ต้องพูดเหมือนยิ้มด้วยถ้าบอกว่าดีก็ดีเอาเถอะ
“เต้ย...ไม่สนคนอื่นหรอกมี...คนเดียวพอแล้ว” ผมพูดเบาแล้วกอดอีกฝ่ายกลับ
“คร้าบคุณหนู” พี่ต้องพูดล้อแถมยังหัวเราะอีก
“อย่าเรียกกันแบบนี้สิวะ” ...อนาถจิงชีวิตเป็นคำเรียกที่เหมาะกับกูจนอยากจะร้องไห้
“พรุ่งนี้ไปคุยกับแม่เรื่องเราใหม่โอเคไหม” พูดไม่พอมือเริ่มล้วงเข้าเสื้อผม ผมกำลังจะห้ามแต่เหมือนมีคนมาช่วยชีวิตก่อน
“คุณต้องยังไม่นอนอีกหรอค่ะคุณเต้ยป้าก็ว่าไม่อยู่ที่ห้องมาอยู่นี่เอง” ป้าแม่บ้านถูกจังหวะได้อีก
“กำลังจะนอนคับ” พี่ต้องยิ้มมุมปากแล้วยังดึงมือที่ล้วงเสื้อผมออก
“คุณเต้ยป้าเอาน้ำมาให้ค่ะจะได้ไม่ต้องลุกไปกินดึกๆดื่นๆคุณต้องดึกแล้วไม่ไปนอนหรอค่ะ” ป้าแม่บ้านพูดแล้วยิ้มสังหาร
“งั้นพี่ไปก่อนนะ” พี่ต้องลุกจากเตียงไปแบบเสียดายแต่ช่วยไม่ได้นี่บ้านแม่กูไม่อยากทำอยู่แล้ว
“พรุ่งนี้เจอกันคับ” ผมดึงพี่เค้ามาหอมแก้มแค่อยากแกล้งป้าแม่บ้านเฉยๆ
ป้ามาวนเวียนในห้องเหมือนรอผมหลับมีคนเดินไปมาในห้องผมนอนไม่หลับหรอกเลยแกล้งหลับสองรอบของวัน
สักพักเหมือนป้าเดินมาเช็คผมวูปๆแล้วเดินออกไปผมเลยรอสักพักค่อยย่องออกจากห้อง
“เต้ย” พี่ต้องเหมือนตกใจที่เห็นผมมาหาถึงห้อง
“คือ...ผมนอนไม่หลับแค่นอนไม่ได้ทำไรได้ไหม” มาหาถึงถึงห้องเองนี่เหมือนฆ่าตัวเองเลยแหะเหอๆ
“กำลังรออยู่เลย” พี่ต้องดึงผมล้มลงเตียงขึ้นทับตัวผมไว้แถมยังเลียปากแบบมึงเสร็จแน่อีก
“ไหนบอกไม่ทำไงไม่งั้นเต้ยกลับห้องก็ได้ ” ผมมีไพ่ตายต้องงัดออกมาให้ให้หมด
“คร้าบคุณหนูเต้ยไม่ทำไรหรอกคร้าบบบ” ไอ้เวนทำเสียงล้อผมแล้วลงมากอดผมไว้หลวมๆปกติ
“เมื่อไรจะเลิกล้อกูแบบนี้ปล่อยเลยไอ้เวนนน” ...คำเรียกแบบนี้จะตามหลอกหลอนตูอรกนานไม่อนาถถถ
Ps. ...
