ร้ายที่ 36ผมไม่คิดว่าจะมีการรวมตัวครั้งไหน ยิ่งใหญ่เท่าครั้งนี้ . .
แก๊งของเจ้านาย แก๊งของผม พี่ขุนและก็คนของพี่ขุน . .
ที่สำคัญ . . วันนี้ผมเพิ่งเจอพ่อของเจ้านายเป็นครั้งแรกด้วย ท่านตัวใหญ่มีพุงพลุ้ยและดูเหมือนจะเป็นคนที่มีความสุขมากในการใช้ชีวิต แต่วันนี้ท่านกลับดูไม่มีความสุขเอาเสียเลย
เราทุกคนที่อยู่ในห้องต่างก็เช่นกัน . .
“ไอ้กานต์ เอ็งควรทำอะไรสักอย่าง” คุณกิต กิตติเกษมเอ่ยกับลูกชาย ท้ายประโยคท่านมองมาที่ผม “. . และก็เอ็งด้วย ไม่งั้นข้าจะตัดจู๋เอ็ง”
ผมเชื่อว่าท่านกล้าทำจริงๆ ตอนนี้ผมไม่พูดอะไรออกไปทั้งนั้น ในหัวของผมมีแต่เรื่องเครียดๆแต่ก็พยายามตั้งสติอยู่ว่าใครจะเป็นคนจับเจ้านายไป
ผมมีชื่อไอ้เหมติดอยู่ในลิสต์อันดับที่หนึ่ง . . “วายุรึเปล่า” พี่ขุนหรือบอสที่บาร์ของผมหันไปถามฝาแฝดท่าทางเคร่งเครียด
“ผมก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ครับ แต่มันก็เจ็บหนักอยู่ไม่ใช่เหรอครับ” ธัญแสดงความเห็น
“เจ็บหนักก็สร้างเรื่องได้ มึงกับแฝดมึงไปทำให้แน่ใจ” ธีกับธัญพยักหน้าตามคำสั่งของพี่ขุน ที่ดูเหมือนจะเป็นแกนนำในการตามหาเจ้านายครั้งนี้
“กูไปด้วย” ไนท์ที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากผมอาสาขึ้นมาทันที
“มึงไม่ต้องไป” พี่ขุนปฏิเสธ
“มึงจะให้กูนั่งอยู่เฉยๆอย่างนี้อ่ะเหรอ ไม่เอาอ่ะ”
“มึงน่ะมีงานให้ทำแน่ๆ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”
ไอ้แอร์หันมาสบตากับผมราวกับงงว่าไอ้ไนท์กับพี่ขุนไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ หนำซ้ำยังใช้สรรพนามที่ตัวผมเองไม่ได้ใช้กับพี่ขุนอีกด้วย ไอ้ไนท์ดูฟึดฟัดขัดใจแต่ก็ฟังแต่โดยดี
แฝดสองคนออกไปแล้ว . . เหลือคนที่อยู่ในห้องประชุมบริษัทพ่อเจ้านายอีกเป็นโขยง
ผมกัดเล็บอย่างเคร่งเครียด ข้างๆผมเป็นไอ้แอร์ที่คอยเอามือมาแตะไหล่ผมอย่างปลอบประโลม ตอนนี้เรื่องเจ้านายผมยังอยู่ในทางตัน แต่ก็โล่งใจไปเปราะหนึ่งที่คุณย่าท่านโทรมาบอกว่าแด๊ดอาการสงบลงแล้ว
“มังกร” ไนท์กระซิบกับผม “มึงคิดว่าจะเป็นเหมรึเปล่า?”
“อุกอาจแบบนี้ . . อาจไม่ใช่ใครอื่น”
“ไม่ต้องคิดมากอะไรแล้ว ไปบุกกัน” ไนท์ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ไอ้แอร์ดึงลงให้มันนั่งแทบไม่ทัน
“กูไม่เคยรู้รังของวิหคดำ” ผมพูดออกไปตามจริง
“มีคนเดียวที่รู้ . . แต่เขาไม่อยู่แล้ว . .”“พี่แมทรู้” ไนท์กับแอร์ตกตะลึง
“ก็ก่อนที่จะเกิดเรื่องบ้าๆนั่นขึ้น แมทหมกมุ่นอยู่กับวิหคดำมาก . .” ผมพยายามนึกย้อนไปถึงความเก่าความหลัง “มันเคยบอกกูหลายครั้ง ว่าไอ้เชี่ยเหมมันเป็นตัวอันตราย มันถึงต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับตัวไอ้เหม”
“. . .”
“หลังจากที่แมทเสีย วิหคดำก็เงียบไป ก็เลยไม่รู้รังของมันจริงๆ”
“งั้นจัดการเลย” ไนท์พูด เดินไปหาพี่ขุนแล้วพูดอย่างเครียดๆให้ฟัง พี่ขุนพยักหน้าและก็สั่งลูกน้องสองสามคนให้ออกไปตามหาที่กบดานของแก๊งนี้ . .
“เอาจริงๆนะไอ้มังกร” แอร์หันมาหาผม “ไอ้เชี่ยไนท์มันไปสนิทกับพี่ขุนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ"
ผมส่ายหน้าอย่างปลงๆ เอามือนวดขมับของตัวเอง
“แปลกๆดีแฮะ”
แอร์รำพึง . . เก็บความสงสัยเอาไว้อยู่ในใจ . . สักพักหนึ่งมันก็ตกใจลุกขึ้นยืน เมื่อมีใครคนหนึ่งเดินเข้ามาหาผม
พ่อของเจ้านาย . . ท่านทิ้งตัวนั่งลงแทนที่ไอ้แอร์
“ได้ยินข่าวแล้ว เอาใจช่วยอยู่นะ” คุณกิตเอามือตบหลังผมเบาๆ “ที่จริงเรื่องตรงนี้ให้พวกข้าจัดการเองก็ได้ เอ็งกลับไปเฝ้าคุณพ่อของเอ็งเถอะนะ”
“ผมขอให้ได้ตัวเจ้านายกลับมาก่อน ผมถึงจะกลับไปหาท่านครับ” ผมมีศรัทธาที่ว่าพ่อของผมคงไม่เป็นอะไรแน่ๆ
“เลือกยากอยู่ใช่ไหม คนรักก็หาย พ่อก็ไม่สบาย” ผมอึ้งเพราะตกตะลึงที่พ่อของเจ้านายรู้เรื่องของผมกับเขา “ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอก ทุกอย่างของไอ้ก้าวข้ารู้หมดอยู่แล้ว”
“. . .”
“ความสุขของข้า คือการที่ได้เห็นลูกๆของข้ามีความสุข . .” คุณกิตพูด สายตามองไปยังพี่ขุนที่กำลังโต้เถียงกันกับไอ้ไนท์อย่างเอาจริงเอาจัง “ลูกข้าจะเป็นเกย์ทั้งคู่จริงๆน่ะเหรอ”
“เอ่อ เรื่องนั้น . .”
“เจ้านายข้าอาจยอมได้ . . แต่เจ้าขุน . . เห็นทีต้องคุยกันหน่อย . .”ผมเกร็งแขนจนเมื่อย ร่างกายของผมปวดแปลบไปหมด ผมขยับไม่ได้เลย
ผมจะถือซะว่าเป็นโชคดีของผมที่ไอ้เหมมันยังไม่คิดจะทำอะไรผม มันเดินไปเดินมา บางครั้งก็ถือขนมติดไม้ติดมือมาด้วยเพื่อป้อนผม แต่ผมหันหน้าหนี ผมไม่มีแก่ใจจะกินอะไรทั้งนั้น ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องการคืออิสระ อิสระจากเชือกนี่ และอิสระจากไอ้เหมบ้าโรคจิตคนนี้
“ปล่อยกูไปเถอะนะ กูสัญญาว่าถ้ามึงปล่อยกู กูจะไม่เอาเรื่องอะไร” ผมพยายามหว่านล้อมด้วยวิธีต่างๆนาๆ แต่สุดท้ายแล้วคำตอบ . .
“กูไม่ปล่อยมึงหรอก” . . ก็ลงท้ายแบบนี้เช่นเดิม
“มึงทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรวะ มันไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าเป็นเพราะความรัก”
“นี่มันไม่ใช่ความรักแล้ว”
ตึง!!! เหมส่งเสียงดังด้วยอะไรสักอย่างก่อนที่จะโผเข้ามาคร่อมร่างของผมเอาไว้ ผมพยายามลืมตาเพื่อสบสายตากับมัน มันช่างทำได้ยากเหลือเกินกับการที่จะต้องแสดงออกว่าเราไม่ได้กลัวอะไรทั้งๆที่เรากลัว . . ดวงตาของผมสั่นระริก
“อย่าทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย! นานแค่ไหนแล้วที่กูมองมึงมาตั้งนาน!”
“…”
“รู้ไหมกูเจอมึงครั้งแรกที่ไหน”
ผมจะไปรู้ได้ยังไง . .
“ที่โรงเรียนกวดวิชา”
“ฮะ” . .
มันผละออกจากร่างของผม ก่อนที่จะนั่งลงบนเตียงข้างๆร่างที่นอนขยับไม่ได้ของผม
“ตอนมึงอยู่มอหก”
“ไม่จริงอ่ะ” สี่ปีที่แล้วเนี่ยนะ ?
“จริงสิ!” เหมร้องเถียง “กูเห็นมึง กูจำทุกชุดที่มึงใส่ได้ กูจำได้ทุกอย่าง!”
“แล้วยังไงวะ”
“แล้วยังไงงั้นเหรอ กูมองมึงมาสี่ปี แล้วมึงยังจะคิดว่านั่นไม่ใช่ความรักอีกเหรอ”
ป่วยการที่จะเถียงกับมัน ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอา พลางเอาสายตาตัวเองจับจ้องไปที่อื่น
“เลิกทำแบบนั้นกับกูซักที!!!” เหมระเบิดขึ้นมาอีกครั้ง คราวนี้มันทิ้งตัวนั่งลงบนตัวของผม แถวๆไอ้นั่นของผมด้วย อะไรของมัน!!!!
ชิ้ง! ผมเห็นใบมีด . . ให้ตาย นั่นใบมีด!!!! มันจะเอามาทำอะไรผม!!!!
“กลัวแล้วสินะ”
เหมเอามีดนั่นมาวนมาเวียนรอบๆใบหน้าของผม เท่านั้นยังไม่พอ มันยังก้มหน้ามาใกล้ๆผมอีก ผมพยายามเบี่ยงตัวเองหลบทุกอย่างที่มันทำอย่างที่สุด แต่หลบยังไงก็หลบไม่พ้น จมูกของมันให้ตายยังไงก็ต้องมาชนกับใบหน้าของผมอยู่ดี ผมทำอะไรมันไม่ได้เลย
“หอมว่ะ ใช้รองพื้นของอะไร”
อะไรของมึงวะ?!!! ผมไม่ตอบอะไรมันหรอก . .
ไอ้เหมยังคงฟุดๆฟิดๆแถวใบหน้าของผมไม่เลิก ผมขยับหลบมันไม่ค่อยได้ เพราะว่ามันใช้มีดจ่อคอหอยของผมตลอดเวลา ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่ามันจะไม่แทงคอผม ผมไม่สามารถรู้ถึงอารมณ์และการจัดการอารมณ์ของไอ้เหมมันได้เลย
มีดที่ขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ เหมือนใบหน้าของมันที่ยังคลอเคลียใบหน้าของผมไม่ห่าง เป็นอะไรที่สุดจะทน ผมโกรธตัวเองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผมไม่สามารถทำอะไรได้เลย . .
เอ๊ะ . . ถึงแม้มือกับขาของผมจะขยับไม่ได้ แต่ปากผมขยับได้นี่
“เดี๋ยวก่อน” ผมพูดกับมัน พยายามขยับปากให้น้อยที่สุด ไม่งั้นปากผมอาจจะโดนปากของมัน
“อะไร น้ำเสียงออดอ้อนใช้ได้นี่”
ออดอ้อนเหี้ยไรล่ะ . . “อย่า อย่าเพิ่ง”
“อย่าเพิ่งเหรอ” เหมยิ้มที่มุมปาก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นคนหน้าตาดีแต่ยิ้มแบบนี้มันดูโคตรสยอง “ทำไมล่ะ ตอนนี้เลยไม่ได้เหรอ”
น้ำเสียงมันเหมือนคนอารมณ์สุกงอมเต็มที่ ผมหลับตาปี๋อยากจะร้องไห้ออกมาซะให้รู้แล้วรู้รอด
“ตอนนี้เลยดีกว่า”
เชี่ยยยยยยยยย!!! เหี้ยไรของมัน ผมเห็นมันปลดกระดุมเสื้อตัวเองทีละเม็ดๆ ผมจึงต้องดิ้นทุรนทุรายเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวก
“ยิ่งดิ้นยิ่งไม่รอดนะ”
“เชี่ยแม่ง ปล่อยกูไปเถอะ” ผมร้องเหมือนร้องขอชีวิต
“ทำเหมือนคนไม่เคย” เหมกระชากเสียง ผมทำหน้าตื่นๆใส่มัน “เอ๊ะ หรือมึงไม่เคยกับไอ้มังกรวะ?”
ผมกลืนน้ำลาย พยายามดิ้น ไม่สนใจคำพูดของมัน
“เฮ้ย จริงเหรอวะ มึงไม่เคยกับไอ้มังกรเหรอเนี่ย ฮ่าๆๆๆ” มันทั้งประหลาดใจทั้งมีความสุขไปพร้อมๆกัน “ดี งั้นควรรีบจัดการใหญ่เลย กูอยากเป็นคนแรกของมึง”
ยิ่งพูดแบบนั้นผมก็ยิ่งดิ้น ไอ้เชือกบ้านี่ก็ไม่รู้จะทำงานดีไปไหน ผมจะไม่รอดเงื้อมมือของไอ้เลวนี่อยู่แล้วนะ . .
ตอนนี้ผมคิดถึงทุกคนที่อยู่ในชีวิตผม คิดถึงพ่อ คิดถึงพี่ขุน คิดถึงเพื่อน และที่สำคัญ ผมคิดถึงไอ้มังกร . . ผมอาจจะรอดหรือผมอาจจะไม่รอด ผมก็ไม่อาจทราบได้ แต่ตอนนี้ผมคิดถึงพวกเขาเหล่านั้นชะมัด ลึกๆแล้วผมยังมีความหวังให้พวกเขาโผล่มาช่วยผมทัน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องที่ยากนักก็เถอะ
มังกร มึงต้องมาช่วยกูให้ได้นะ . .
“เชือกบ้านี่ . . เกะกะเนอะ” เหมค่อยๆขยับไปแกะเชือกที่ขาของผมออก ได้การละ อย่างน้อยขาก็ใช้การได้ พอมันแกะได้ปุ๊บขาผมก็ทำงานทันทีด้วยการดิ้นพล่านทั้งเตะทั้งถีบเพื่อหวังที่จะทำร้ายมัน แต่ถึงจะโดนมันไป ผมก็หนีมันไม่ได้อยู่ดี เพราะแขนผมยังถูกพันธนาการเอาไว้ . .
“ฤทธิ์เยอะว่ะแม่ง” มันใช้ทั้งตัวของมันนั่งทำขาของผม . . ผมกลืนน้ำลายอย่างหวาดกลัว ตอนนี้ผมอยู่ในสภาพที่ขยับไม่ได้อีกครั้ง
ผมจะเสร็จมันจริงๆน่ะเหรอ . .
ตอนนี้ไอ้เหมกำลังสนุกอยู่กับการแกะเข็มขัดของผม ซึ่งทำได้ไม่ยากเพราะทุกอย่างอยู่ในมือของมัน ผมจะบ้าตาย ทำไมผมทำอะไรมันไม่ได้เลย ทำไม . .
“นิ่งๆนะ”
“ไม่โว้ยยย!! ปล่อย ไอ้เชี่ย!!!” ผมพยายามสู้จนเฮือกจนท้าย
“อยู่นิ่งๆ!!!”
มันตวาด ถึงแม้จะทำให้ผมหยุดพูดแต่ก็ไม่ทำให้ผมหยุดขยับได้ มันบังคับจนถอดเข็มขัดของผมได้สำเร็จ และตอนนั้นมันกำลังจะปลดตะขอกางเกงของผม
เกิดมาไม่เคยโดนอะไรแบบนี้ ไม่เคยโดนอะไรจริงๆ . .
“รู้แล้วใช่มั้ยว่ากำลังจะโดนอะไร” เสียงซิปที่ถูกรูดลงของผมเหมือนมีดที่กรีดผนังห้องหัวใจผมยังไงยังงั้น “ถ้าไม่อยากเจ็บมาก ก็อยู่นิ่งๆ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกูเองนะ”
“ไม่มีทาง!!!!”
“แม่ง ฤทธิ์เยอะจริงโว้ย ไอ้สัด!!!”
ไม่น่าเชื่อว่ามันจะใช้กลเม็ดเหมือนพวกผู้ร้ายที่ใช้กับนางเอกในละคร มันทุบท้องของผม แต่โทษที . . ซิกแพ็คผมมีมากพอและตรงนั้นผมก็เกร็งไว้ได้ทันพอดี
“โห ฟิตวะ แข็งโป๊กเลย”
ดูมันใช้คำ . . “พอ เลิกทำ เปลี่ยนความคิดเดี๋ยวนี้นะโว้ย แล้วมึงกับกูมาตัดสินกันตัวต่อตัว!!!”
“เสียใจ . . กูไม่ได้ต้องการชนะมึงในรูปแบบนั้น”
ปั้ก!
ผมทุบเข้าอย่างจังที่กล่องดวงใจของผม ผมอ้าปากด้วยความเจ็บปวด . . ไอ้เชี่ยนี่ จิตใจมันทำด้วยอะไร มันไม่รู้รึไงว่ามันเจ็บแค่ไหน . .
“ได้มึงไงคือชัยชนะของกู”ตอนนี้ผมกำลังตัวงอ และถูกถอดกางเกงยีนส์ออกไปอย่างช่วยไม่ได้ บ็อกเซอร์คาลวินไคลน์ของผมอยู่ในคลองสายตาของมัน มันเหลือบมองอย่างสบายอกสบายใจ
“นั่นขาหรืออะไร มึงเป็นพวกไม่มีขนขาเหรอ”
มันจับผมพลิกคว่ำ!!! . . เฮ้ย ไม่นะ ไม่นะโว้ย!!!!
“ร้องได้นะ ยิ่งดังยิ่งดี” พ่อ TT ช่วยนายด้วย มังกร . . ช่วยกูด้วย พี่ขุน ธี ธัญ แอร์ ไนท์ ใครก็ได้ ช่วยกูด้วย TT
พรืด . .
เสียงซิปของไอ้เหมที่ถูกรูดลง . . และต่อมาก็เป็นเสียงกางเกงบ็อกเซอร์ของผมที่ถูกถอดทิ้งไป . . ปัง!!!!!!!!!!!!!!!
พี่ขุนทุบโต๊ะเสียงดังตอนที่ฝาแฝดกลับมาและบอกว่าเจ้านายไม่ได้อยู่กับไอ้วายุ
ผมกำหมัดแน่น นี่มันช้าเกินไปแล้ว . . ตอนนี้ไม่รู้ว่าเจ้านายจะเป็นยังไงบ้าง . . ผมไม่อยากนั่งอยู่เฉยๆแบบนี้นะ . .
“คุณกานต์ ได้ตัวเธอมาแล้วครับ”
เสียงคนของพี่ขุนดังขึ้นในเวลาต่อมา . . ทุกคนที่กำลังเคร่งเครียดหันไปมองผู้ที่มาใหม่ ผมขมวดคิ้วเมื่อเจอลินที่พยายามขัดขืนคนของพี่ขุน
ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่ . .
“เรื่องที่ภูเก็ตผมไม่คิดที่จะเอาเรื่องคุณเพราะถือว่าเจ้านายเองก็มีส่วนทำให้พี่ชายของคุณตาย ผมคิดว่าน้องชายผมได้ชดใช้ไปแล้ว . .”
ว่าไงนะ . . ผมลุกขึ้นยืนทันที ไอ้ไนท์สบตาผมแล้วหลุบตาลงต่ำ
ฝีมือของลินเหรอ?“แต่ครั้งนี้เห็นทีจะให้อภัยคุณไม่ได้ บอกผมมาตรงๆ อย่าให้ผมต้องใช้กำลัง”
ลินทำหน้าบึ้งและสะบัดหน้าหนี . . ผมกำหมัดแน่น มือของผมทั้งสั้นทั้งควบคุมตัวเองไม่ได้ ผมย่างก้าวไปหาลิน ยับยั้งใจตัวเองอย่างหนักไม่ให้เข้าไปทำร้ายเธอ
“ลิน . . บอกผมมา . .”
“ไม่มีทาง”
“ทำไมนิสัยของลินกับแมทถึงต่างกันคนละขั้วแบบนี้ล่ะ”
ลินผลักผมอย่างโกรธจัด . . เธอร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“ใช่สิ ลินมันไม่ดีนี่! ใครๆก็หนีไปหาเจ้านายกันหมด ทั้งพี่ชายของลิน และก็มังกรที่ลินรักมากที่สุด! ลินมันไม่ดีตรงไหน ทำไมต้องทำกับลินแบบนี้ด้วย ทำไมต้องแกล้งลินแบบนี้!!!!”“ลินยังกลับตัวทันนะ”
“ไม่ทันแล้วล่ะ” ลินยิ้มออกมาในรูปแบบที่ผมไม่เคยเห็น
“ป่านนี้เจ้านายคงจะโดนลูกน้องของเหมรุมข่มขืนเป็นสิบๆคนแล้ว”“ว่าไงนะ” พี่ขุนแทบก้าวข้ามโต๊ะมาจัดการกับเธอ โดยที่มีลูกน้องหิ้วปีกเอาไว้ . .
ผมตกตะลึงเมื่อได้ยินเรื่องนั้นจากปากของเธอ
“ลิน . .” ผมคลายหมัด และก็กำหมัดแน่นอีกครั้งอย่างสะกดอารมณ์ของตัวเอง “ . . คุณร่วมมือกับไอ้เหมงั้นเหรอ”
“ก็ใช่น่ะสิ”
ทุกคนในห้องมองไปที่เธอด้วยสายตาแบบเดียวกัน . . สมเพชและหมดแล้วซึ่งความไว้เนื้อเชื่อใจ ไนท์กับแอร์ที่คอยดูแลเธอมาตลอดในฐานะน้องสาวของแมทถึงกับหันหน้าหนีอย่างรับไม่ได้
ผมก็เช่นกัน . .
“เหมเป็นคนฆ่าแมท” ผมพูดแล้วหลุบตาต่ำ
“หึ ไม่จริงอ่ะ . . พี่แมทตายเพราะแก๊งกระจอกงอกง่อย”
“…” ไม่มีใครพูดอะไรโต้ตอบเธอ ทุกคนหันหน้าหนีให้เธอกันหมด
“ดะ เดี๋ยวนะ เรื่องจริงเหรอ มันเป็นเรื่องจริงเหรอ” ลินตัวสั่นมือสั่นน้ำตาไหลพราก
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด”เธอโผเข้ามาเกาะแขนผม . . ราวกับต้องการให้ผมปลอบประโลมเธอ ผมเบี่ยงตัวหนี รู้สึกผิดที่ต้องผิดสัญญากับไอ้แมทที่ฝากฝังให้ผมดูแลน้องสาวของมันให้ . .
“บอกผมมา ว่าเจ้านายอยู่ที่ไหน”
“ลิน คือ ลินไม่รู้ ลินไม่รู้จริงๆนะ ลินแค่จับเจ้านายขึ้นรถ แล้วพวกของเหมก็มาสานต่อ ลินไม่รู้ ลินไม่รู้จริงๆ”“…”
“มังกร มังกรอย่าโกรธลินนะ ลินผิดไปแล้ว ลินผิดไปแล้วจริงๆ”ผมแกะมือของเธอออก สูดลมหายใจลึกๆเข้าไปในปอด
“ขอให้เราอย่าได้พบกันอีกนะ” “มังกร มึงจะไปไหน กูไปด้วย!!!”
“มังกร ไปไหนวะ”
คนในห้องส่งเสียงกันระงมตอนที่ผมเดินออกมา แต่ผมไม่ได้ยิน ผมกำลังรีบไปสถานที่แห่งหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าจะมีเบาะแสอะไรบางอย่าง
รถของไนท์จอดเข้าที่ใต้คอนโดของเจ้านาย ผมวิ่งตึงตังผ่านยามผ่านแม่บ้านหน้าเดิมๆโดยพยายามรีบเร่งที่สุดเท่าที่ชีวิตผมจะเร็วได้ เพื่อที่จะไปห้องของแมท
ห้องที่ยังคงสภาพ . . แม้ว่าเจ้าของจะไม่ได้อยู่แล้ว
ผมเปิดประตูเข้าไป ลมเย็นๆพัดกระทบใบหน้าของผมราวกับต้องการต้อนรับ ทั้งๆที่ประตูและก็หน้าต่างปิดเอาไว้หมด
ผมเดินผ่านเศษแก้วที่ผมเคยทำแตก มองซ้ายมองขวาพยายามนึกว่าแมทมันเอาข้อมูลของเหมไปไว้ไหน ผมเดินวนไปมาไปที่โต๊ะทำงานของไอ้เหมที่ยังคงมีชีทเรียนของมันกองอยู่
ผมรื้อค้นอย่างเร่งด่วน แปลกที่ข้อมูลโรคจิตในรูปแบบต่างๆที่ปริ๊นออกมาจากคอมพิวเตอร์ผ่านเข้าตาผมเป็นจำนวนมาก ดูเหมือนว่าแมทจะจริงจังกับเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ เพราะมีร่องรอยของการไฮไลท์เต็มไปหมด
แต่ให้ตายยังไงผมก็หาที่อยู่ของเหมไม่เจอ ผมทรุดตัวนั่งลงอย่างจนตรอก . . ตรงไหนวะ เหมมันจะจับเจ้านายไปไว้ไหน . .
แมท ถ้ามึงรู้ว่ากูอยู่ตรงนี้มึงก็ต้องช่วยกูนะ เจ้านายกำลังตกอยู่ในอันตราย มึงไม่อยากให้เจ้านายต้องเจ็บเพราะเงื้อมมือของไอ้เหมใช่มั้ย มึงต้องช่วยกูนะ . . ผมคิดภาวนาในใจอย่างคนไร้ซึ่งหนทาง ทว่าจู่ๆก็มีกระดาษใบหนึ่งลอยผ่านหน้าผมไปราวกับมีลมปริศนามาพัด ทั้งๆที่ในห้องนี้ปิดทึบ . .
ผมเห็นแผนที่ . .
จะใช่หรือไม่ใช่ แต่นี่ก็เป็นที่พึ่งสุดท้ายของผม มันอยู่ห่างไกลจากกรุงเทพพอสมควร
แมท . . ขอบใจมากนะเว้ย ผมกดโทรศัพท์ของใครไม่รู้ที่ผมหยิบติดมือมาโทรหาพี่ขุน . .ดังแค่หนึ่งครั้งพี่ขุนก็รับ
“ใครวะ!!!!” ดูจากการรับโทรศัพท์ก็รู้แล้วว่าพี่ขุนกำลังเครียดถึงขีดสุด
“น้องเขยของพี่ครับ . . ผมรู้ที่อยู่ไอ้เหมแล้ว”